การกระจดั
ตวั อยา่ ง
300
500
ฝรงั เศส
00 เมตร อิตาลี
00 เมตร
ชวนคดิ
-ถา้ ขบั รถจากจุดเรมิ ตน้ ไปยงั โรงเร
เส้นทาง ตามภาพ จงหาระยะทางแล
800เมตร สวนสนกุ
10
500 เมตร
รยี นโดยผ่านสวนสนกุ ไปตาม
ละการกระจัดของภาพนี
00 เมตร
300 เมตร
โรงเรยี น
ระยะทางและการกร
เปนปรมิ าณทแี ตกต
การกระจัด - - ตอ้ งบอกขนาดแล
ซึงจะเปนปรมิ
ระยะทาง - - บอกไดเ้ พียงขนาด
ไม่ตอ้ งบอกทศิ ทาง ซึงเ
กระจดั
ตา่ งกนั
ละทศิ ทางของการกระจัดเสมอ
มาณเวกเตอร์
ดของวตั ถไุ ดเ้ พียงอยา่ งเดยี ว
เปนปรมิ าณสเกลาร์
ปรมิ าณเวกเตอรแ์ ละ
ปรมิ าณสเกลาร์ - - เปนปรมิ าณ
ตารางเมตร มีมวล 50 กโิ ลก
ปรมิ าณเวกเตอร-์ - เปนปรมิ าณ
ออกแรง 50 นวิ ตน้ ไปทางขวา
40 เมตรไ
ะ ปรมิ าณสเกลาร์ ?
ณทบี อกเฉพาะขนาด เช่น พืนที 4
กรมั หรอื ระยะทาง 300เมตร
ณทบี อกทงั ขนาดและทศิ ทาง เช่น
ตาํ แหนง่ ของวตั ถหุ า่ งจากเสาธง
ไปทางทศิ ใต้
เรอื งที 2 อ
ควา
อตั ราเรว็ และ
ามเรว็
ในชวี ติ ประจําวนั เราจ
อตั ราเรว็ จะ
จะคดิ วา่ ความเรว็ และ
ะเหมอื นกนั
ความเรว็ และอตั รา
อัตราเรว็ - ระยะทางทวี ตั ถเุ ค
ซึงเปนปรมิ า
ความเรว็ - การเปลียนตาํ แหนง่ ขอ
ตาํ แหนง่ สุดทา้ ยโดยไม่สนใจเส้นทา
ซึงความเรว็ จะเปน
าเรว็ ตา่ งกนั ?
คลือนทใี นหนงึ หนว่ ยเวลา
าณสเกลาร์
องวตั ถจุ ากตาํ แหนง่ เรมิ ตน้ ไปยงั
างการเคลือนที ในหนงึ หนว่ ยเวลา
นปรมิ าณเวกเตอร์
อตั ราเรว็ ระยะทางทวี ัตถเุ คลือน
ในชีวิตประจําวนั
เช่น การขบั รถจากบ้าน
500 เมตร ใช
นทใี นหนงึ หนว่ ยเวลา ซึงเปนปรมิ าณสเกลาร์
นจะพบวัตถเุ คลือนทดี ว้ ยอัตราเรว็ ทไี ม่สมาเสมอ
านไปโรงเรยี น เรยี กวา่ อัตราเรว็ เฉลีย (Vเฉลีย )
ชเ้ วลา 50 วนิ าที
อตั ราเรว็ ระยะทางทวี ัตถเุ คลือน
สตู ร ในชีวติ ประจําวัน
เช่น การขบั รถจากบ้าน
500 เมตร ใช
นทใี นหนงึ หนว่ ยเวลา ซึงเปนปรมิ าณสเกลาร์
นจะพบวัตถเุ คลือนทดี ว้ ยอัตราเรว็ ทไี ม่สมาเสมอ
านไปโรงเรยี น เรยี กวา่ อัตราเรว็ เฉลีย (Vเฉลีย )
ชเ้ วลา 50 วนิ าที
อตั ราเรว็ สตู
ตวั อยา่ ง สธุ ิดาเดนิ จากบา้ น
มรี ะยะทางดงั รูป
75 เมตร
ตร
นไปยงั โรงเรยี นโดยใชเ้ วลา 20 วนิ าที
ป สธุ ิดาจะมรอตั ราเรว็ เฉลยี เทา่ ใด
ร
25 เมตร
อตั ราเรว็ สตู
ตวั อยา่ ง สธุ ิดาเดนิ จากบา้ น
มรี ะยะทางดงั รูป
75 เมตร
อตั ราเรว็ เฉลยี (Vเฉลีย ) = 100
20
อตั ราเรว็ เฉลยี (V เฉลีย) = 5 M/S
ตร
นไปยงั โรงเรยี นโดยใชเ้ วลา 20 วนิ าที
ป สธุ ิดาจะมรอตั ราเรว็ เฉลยี เทา่ ใด
ร
25 เมตร
ความ
ามเรว็
ความเรว็ การเปลีย
เรมิ ตน้ ไป
เส้นทาง
ซึงความ
หาไดจ้ ากการกระจัดทงั หมดตอ่ เวล
การเคลือนที
ยนตาํ แหนง่ ของวตั ถจุ ากตาํ แหนง่
ปยงั ตาํ แหนง่ สุดทา้ ย โดยไม่สนใจ
งการเคลือนที ในหนงึ หนว่ ยเวลา
มเรว็ จะเปน (ปรมิ าณเวกเตอร)์
ลาทใี ช้ใน
การกระจัด
เวลา
ความเรว็
ชายคนหนงึ ขบั รถไปยงั โรงนาใชเ้ วลาทงั
เขาจะมคี วามเรว็ เฉลยี เทา่ ใด
500 เม
300 เมตร
การกระจัด
เวลา
งหมด 50 วนิ าที ระยะทางดงั ภาพ
มตร
300 เมตร
ความเรว็
ใชเ้ วลา50 วนิ าที = 55000= 10 M
500 เม
300 เมตร
การกระจัด
เวลา
M/S
มตร
300 เมตร
อตั ราเรว็ เฉลยี (Vเฉลีย ) = 800+550
300
อตั ราเรว็ เฉลยี (Vเฉลีย) = 4.5 M/S
= 600 = 600
60(5) 300
= 2 M/S
จบแลว้
ลว้ ครบั ..
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4
รายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนที่ 1/2564
เวลา 1 ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ 4 เรือ่ ง การเคลอ่ื นท่ี เร่อื ง แรงในชวี ติ ประจาวนั (แรงลพั ธ)์
วันที่ 2กนั ยายน2564
และแรง
โรงเรียน เทศบาลวัดหนองผา ผสู้ อน นายอานนท์ นุ่มพรม
1.มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1.2 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชวี ติ ประจาวัน ผลของแรงทก่ี ระทาต่อวตั ถุลักษณะการ
เคลอื่ นท่ีแบบตา่ ง ๆ ของวัตถุ รวมทั้ง นาความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
ตวั ช้ีวดั
ว 2.2 ม.2/1 พยากรณ์การเคลื่อนที่ของวัตถุที่เป็นผลของ แรงลัพธ์ท่ีเกิดจากแรงหลายแรงท่ีกระทา
ตอ่ วตั ถุในแนวเดยี วกนั จากหลกั ฐานเชิงประจักษ์
ว 2.2 ม.2/2 เขียนแผนภาพแสดงแรงและแรงลัพธ์ท่ีเกิดจากแรงหลายแรงที่กระทาต่อวัตถุในแนว
เดียวกนั
2.จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้ (K)
1.นกั เรยี นสามารถอธิบายแรงลพั ธ์ต่าง ๆที่เกิดขึน้ กบั วตั ถเุ ดียวกันได้
ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P)
1.นกั เรยี นสามารถเขียนแผนภาพแสดงแรงและแรงลพั ธท์ ่เี กดิ ขึ้นกบั วัตถเุ ดียวกนั ได้
ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
1. นักเรยี นมีความใฝเ่ รยี นรแู้ ละรับผดิ ชอบตอ่ หน้าที่
3. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
แรง (Force) หมายถึง ส่ิงที่สามารถทาให้วัตถุเปล่ียนสภาพการเคล่ือนที่ได้ เช่น ทาให้วัตถุท่ีอยู่น่ิง
เคลอ่ื นที่ วตั ถทุ เ่ี คลื่อนท่ีอยู่เคล่อื นที่เร็วหรอื ชา้ ลง ทาใหว้ ัตถุเปลยี่ นทศิ ทาง รวมทัง้ ทาใหว้ ัตถเุ ปล่ียนรูปรา่ งหรือ
ขนาดได้ ปริมาณทางฟิสิกส์ มี 2 ชนิด คือ ปริมาณเวกเตอร์ (vector quality) หมายถึง ปริมาณท่ีมีทั้งขนาด
และทิศทาง
แรงลพั ธ์ คอื
เมอื่ วัตถถุ ูกแรงกระทาพรอ้ ม ๆ กนั มากกว่าหนึ่งแรงขน้ึ ไป ผลของแรงกระทาทัง้ หมดจะสง่ ผลเสมอื น
เกดิ จากแรง ๆ เดยี ว ซง่ึ เป็นผลจากการรวมกันของแรงทกุ แรง เราเรียกแรงทเ่ี กิดจากการรวมแรงหลาย ๆ แรง
นี้ว่า แรงลพั ธ์
1. หากมี 2 แรงผลักวัตถุไปตามพ้ืนราบในทิศทางเดียวกัน แรงทั้งสองแรงจะรวมเข้าด้วยกันเป็นแรง
ลัพธ์ทท่ี าใหว้ ัตถุเคล่ือนที่
2. หากแรง 2 แรง ผลักวัตถุไปตามพื้นราบในทิศทางตรงข้ามกัน หากแรงด้านใดมีมากกว่า วัตถุจะ
เคล่อื นท่ไี ปตามทิศทางของแรงนน้ั
3. หากมีแรง 2 แรงผลักวัตถุไปตามพ้ืนราบในทิศทางตรงกันข้าม และแรงทั้งสองแรงมีขนาดเท่ากัน
วัตถุจะไมเ่ คลื่อนท่ี
ถ้าแรงลัพธ์ที่กระทาต่อวัตถุ ทาให้วัตถุเปล่ียนแปลงสภาพการเคลื่อนที่ แรงลัพธ์ท่ีเกิดข้ึนนั้นไม่เป็น
ศูนย์ แต่ถ้าแรงท่ีกระทาต่อวัตถุนั้นไม่ ทาให้วตั ถุเปล่ียนแปลงสภาพการเคลือ่ นท่ี แรงลัพธ์ท่ีเกิดข้ึนจะมีค่าเป็น
ศนู ย์
4. สาระการเรียนรู้
1. แรง
2. แรงลัพธ์
5. สมรรถนะของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
- ทักษะการแก้ปญั หา
6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. มคี วามสนใจใฝร่ ู้
2. มวี นิ ัย
7. ข้ันตอนการจัดการเรียนรู้
ใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้แบบ 5 Es
1. ข้ันสร้างความสนใจ (Engagement)
1.1 ทบทวนเนอ้ื หาเรื่องการเคล่อื นทเี่ พ่อื นาเข้าส่เู รอื่ งแรงท่ีกระทาต่อวัตถุ
1.1 ครสู ร้างความสนใจโดยการยกตวั อย่างกจิ กรรมท่ีมีแรงเขา้ มาเกย่ี วข้องกับชีวติ ประจาวนั
2. ข้นั สารวจและคน้ หา (Exploration)
2.1 ครอู ธบิ ายรปู ตแบบท่แี รงลัพธก์ ระทาต่อวตั ถุในรปู แบบตา่ ง ๆ
2.2 ครูยกตัวอย่างแรงลัพธ์ที่กระทาต่อวัตถุในชีวิตประจาวันและให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย
แรงนัน้ ๆ
3. การอภิปรายและลงข้อสรุป (Explanation)
3.1 ครอู ธบิ ายเร่ืองการรวมแรงในระนาบและการพยากรณก์ ารเคลือ่ นท่ี
4. ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)
4.1 ครูขยายความรู้ให้นักเรียนโดยให้นักเรียนตอบคาถามร่วมกับครูในคาบเรียน โดยใช้แบบ
คาถามเรือ่ ง การรวมแรงในระนาบและการพยากรณก์ ารเคลื่อนท่ี
4.2 ครูขยายความรู้ให้นักเรียนโดยให้นักเรียนทา ใบงานท่ี 2 การรวมแรงในระนาบและการ
พยากรณ์การเคลือ่ นท่ี
5. ขนั้ ประเมนิ ผล (Evaluation)
5.1 ประเมินความรู้และทักษะด้วยการให้นักเรียนทาใบงานท่ี 2 เร่ืองการรวมแรงในระนาบ
และการพยากรณ์การเคลอ่ื นท่ี
5.2 ประเมนิ ผลพฤตกิ รรมดว้ ยการสังเกตุจาการภาระงานของนกั เรียน
8.ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
1. หนังสอื เรยี นวชิ าวิทยาศาสตรเ์ ล่ม 1 ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2
2. PowerPoint เร่ือง แรงลพั ธ์
9. ช้ินงาน / ภาระงาน
1. ใบงานที่ 2 เรื่อง การรวมแรงในระนาบและการพยากรณ์การเคล่ือนที่
10. การวัดและประเมินผล
1. กรอบการวดั และประเมินผล แต่ละจุดประสงคก์ ารเรยี นร้นู าเสนอประเด็นทท่ี าการวัด และ
ประเมินผล วิธกี ารวดั และเครอ่ื งมือวัด ดังตาราง
ตาราง : แสดงกรอบการวัดและประเมินผล
จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี ารวดั ผล เครอ่ื งมอื เกณฑ์การผา่ น
ดา้ นความรู้ (K) จุดประสงค์
-นกั เรยี นสามารถอธิบายแรงลพั ธ์ต่าง ๆที่ - นกั เรยี นทาใบงาน - ใบงานท่ี 2 การ ผา่ นจดุ ประสงคร์ อ้ ยละ
เกดิ ขนึ้ กับวตั ถุเดยี วกันได้ 70 ขน้ึ ไป
ที่ 2 การรวมแรงใน รวมแรงในระนาบ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P) ผ่านจดุ ประสงคร์ อ้ ยละ
- นกั เรยี นสามารถเขยี นแผนภาพแสดงแรง ระนาบและการ และการพยากรณ์ 70 ขึน้ ไป
และแรงลัพธ์ทเี่ กิดขึ้นกับวัตถุเดียวกันได้
พยากรณ์การ การเคลื่อนที่
เคลอ่ื นที่
- นกั เรยี นทาใบงาน - ใบงานที่ 2 การ
ท่ี 2 การรวมแรงใน รวมแรงในระนาบ
ระนาบและการ และการพยากรณ์
พยากรณ์การ การเคลื่อนที่
เคลือ่ นท่ี
คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ (A) สังเกตพฤตกิ รรม แบบสังเกต ระดับ 2 จาก 4ระดับ
- นกั เรยี นมคี วามใฝเ่ รยี นรแู้ ละรบั ผดิ ชอบ และจากการสง่ งาน พฤติกรรม (Rubric Scaring)
ต่อหน้าที่
ตรงตอ่ เวลา
2. เกณฑ์การให้คะแนนเกณฑร์ ูบริคส์ (Rubric Score) ให้คะแนนเปน็ รายข้อของเกณฑร์ บู รคิ ส์ ทสี่ ร้างข้นึ
สาหรับการประเมิน (Analytical Rubric Score)
ตาราง : แสดงเกณฑ์การให้คะแนนเกณฑร์ บู รคิ ส์
ประเดน็ ระดับคณุ ภาพ
การประเมิน 4 3 21
(ดมี าก) (ด)ี (ปานกลาง) (ค่อนข้างนอ้ ย)
ด้านความรู้ (K)
- นกั เรยี นสามารถอธบิ ายการใชก้ ลอ้ ง
จุลทรรศนไ์ ด้ ร้อยละ 70 ขน้ึ ไป
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- นกั เรยี นสามารถใชก้ ลอ้ งจลุ ทรรศน์ รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป
ในการศกึ ษาวัตถไุ ด้อย่างถูกต้อง
คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ (A)
- นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมใฝเ่ รยี นรู้ มคี วาม - มีความตัง้ ใจทางาน ีมีผลการเรยี นรตู้ าม ีมีผลการเรียนรู้ ีมีผลการเรยี นรู้
ตาม คาอธิบาย
มุง่ มน่ั ในการทางาน - มคี วามเพยี รพยายาม คาอธิบายเปน็ ราย ตาม คาอธิบาย เปน็ รายข้อ ดงั ท่ี
กาหนด ระดับดี
- ความรบั ผิดชอบงาน ข้อดงั ท่ีกาหนด เปน็ ราย ขอ้ ดังท่ี มากขอ้ ใดๆ
นอ้ ยกวา่ 2 ข้อ
ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย ระดับดมี ากข้อใดๆ กาหนด ระดับดี
- มีความอดทนอดกลนั้ จานวน 3 ข้อ มากข้อใดๆ
จานวน 2 ขอ้
ใบกจิ กรรมที่ 2
การรวมแรงในระนาบและการพยากรณก์ ารเคลอ่ื นที่
คาชแี้ จง : จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ใี ห้ถกู ต้อง
1.แรงลพั ธ์ มก่ี แี่ บบ อะไรบา้ ง จงอธบิ าย
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
2. จากรูปแรงทก่ี ระทาตอ่ วตั ถนุ ม้ี คี ่าเทา่ ใดและมที ศิ ทางอย่างไร
2.1 2.2
……………………………………………………… ………………………………………………………
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
2.3 2.4
……………………………………………………… ………………………………………………………
…………………………………………………….. ……………………………………………………..
4.จากภาพจงหาแรงลัพธข์ องแรงท้ัง 3 ในรปู ภาพน้ี
3 cm.
2 cm.
4 cm.
แบบสังเกตคณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ (A)
เลข ่ีทชื่อ – สกลุ ผลการประเมนิ
ีมความ ัรบผิดชอบงานท่ีไ ้ด ัรบ
และอดทนอด ้กัน
ผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็นราย
้ขอดังที่กาหนด ระดับดีมาก ้ขอใด ๆ
จานวน 3 ้ขอ
ีมีผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ จานวน 2 ้ขอ
ีมีผลการเรียนรู้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ ้นอยกว่า 2 ้ขอ
4 3 2 1
/
1 เด็กชายมงคล ศรีพล / / /
2 เด็กชายธรรศ ชรินรตั น์ / / /
3 เด็กชายพัสกร กุดแก้ว / /
4 เด็กชายสทิ ธชิ ัย โตไพรศรี / / /
5 เดก็ ชายอโณทัย ไทยธรรม / /
6 เดก็ ชายสทิ ธพิ งษ์ มะตนั /
7 เดก็ ชายมนตธ์ ชั ไชยเสนา /
8 เด็กชายทักษณิ ธญั ญะเจรญิ
9 เดก็ ชายกติ ตธิ ัช อนิ สา /
10 เดก็ ชายกิตติพันธ์ คงคณะ /
11 เดก็ ชายไชยา ดอนงัน /
12 เด็กชายธนกฤต สารคาม
13 เดก็ ชายธนิวตั น์ นาสา
14 เด็กชายวุฒภิ ทั ร เชอ้ื นพคณุ
15 เด็กหญงิ จีระวรรณ ศรอี นิ ทร์ภิรมย์
16 เดก็ หญงิ ญาณทัศน์ ถมยา
17 เดก็ หญงิ มยุรี อุตรแปลง
18 เด็กหญิงณิชมนต์ แก้วเปยี
19 เดก็ หญิงวีระภัทรา อตุ ใจ
แบบสังเกตคณุ ลักษณะทพ่ี งึ ประสงค์ (A)
เลข ่ีท ชื่อ – สกุล ผลการประเมนิ
ีมความ ัรบผิดชอบงานท่ีไ ้ด ัรบ
และอดทนอด ้กัน
ผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็นราย
้ขอดัง ี่ทกาหนด ระดับดีมาก ้ขอใด ๆ
จานวน 3 ้ขอ
ีมีผลการเ ีรยน ูร้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ จานวน 2 ้ขอ
ีมีผลการเรียนรู้ตาม คาอ ิธบายเป็น
ราย ้ขอดัง ่ีทกาหนด ระดับดีมาก
้ขอใด ๆ ้นอยกว่า 2 ้ขอ
4 3 2 1
/
20 เด็กชายพชั รพงศ์ ชุ่มวเิ ศษ /
21 เดก็ หญิงสุพิชญา เพ็งถา /
22 เด็กหญิงปิยะภรณ์ อยูอ่ อ่ ง /
23 เดก็ หญิงนริศา บุญป้ัน /
24 เด็กหญิงปรีญาภรณ์ สขุ เกษม /
25 เด็กหญิงรัตนาวดี จาปาดะ /
26 เดก็ หญิงนธติ า สมี า /
27 เดก็ หญิงชญาดา ววิ ฒั นว์ านิชกลุ /
28 เดก็ หญิงธญั ลักษณ์ วงษ์โสภา /
29 เดก็ หญิงอนิตดา โล่ทอง /
30 เด็กหญิงสทุ ธกิ านต์ สิทธิชยากลุ
ผลการประเมนิ
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดมี าก จานวน 4 คน คิดเปน็ ร้อยละ 13.33
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ดี จานวน 10 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 33.33
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั ปานกลาง จานวน 16 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 53.33
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ในระดบั คอ่ นขา้ งนอ้ ย จานวน 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0
แบบบันทกึ การประเมินด้านความรู้ (K) และ ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
เลข ่ีทช่ือ – สกุล ผลการประเมนิ
ร้อยละ 70 ้ึขนไป
ตากว่าร้อยละ 70 ขึ้นไป
1 เด็กชายมงคล ศรีพล / ผา่ น ไม่ผา่ น
2 เดก็ ชายธรรศ ชรินรัตน์ / //
3 เดก็ ชายพสั กร กุดแกว้ / //
4 เด็กชายสิทธิชัย โตไพรศรี / //
5 เด็กชายอโณทัย ไทยธรรม / //
6 เดก็ ชายสทิ ธพิ งษ์ มะตัน //
7 เด็กชายมนต์ธัช ไชยเสนา //
8 เดก็ ชายทกั ษิณ ธญั ญะเจรญิ //
9 เดก็ ชายกิตติธัช อนิ สา //
10 เด็กชายกติ ตพิ ันธ์ คงคณะ //
11 เดก็ ชายไชยา ดอนงนั //
12 เดก็ ชายธนกฤต สารคาม //
13 เดก็ ชายธนิวตั น์ นาสา //
14 เดก็ ชายวฒุ ภิ ทั ร เชื้อนพคุณ //
15 เด็กหญงิ จรี ะวรรณ ศรีอนิ ทรภ์ ริ มย์ //
16 เดก็ หญิงญาณทัศน์ ถมยา
17 เดก็ หญิงมยรุ ี อตุ รแปลง /
18 เดก็ หญิงณิชมนต์ แก้วเปีย /
19 เด็กหญงิ วีระภทั รา อตุ ใจ /
/
/
แบบบันทกึ การประเมินดา้ นความรู้ (K) และ ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
เลข ี่ทช่ือ – สกุล ผลการประเมนิ
ร้อยละ 70 ข้ึนไป
ตากว่าร้อยละ 70
20 เดก็ ชายพัชรพงศ์ ชมุ่ วิเศษ / ผา่ น ไม่ผา่ น
21 เดก็ หญงิ สพุ ิชญา เพง็ ถา / //
22 เดก็ หญงิ ปิยะภรณ์ อยู่ออ่ ง /
23 เดก็ หญิงนรศิ า บุญป้นั / /
24 เดก็ หญิงปรญี าภรณ์ สขุ เกษม / /
25 เด็กหญิงรัตนาวดี จาปาดะ /
26 เดก็ หญงิ นธติ า สมี า / /
27 เดก็ หญิงชญาดา ววิ ฒั น์วานชิ กุล / /
28 เด็กหญิงธญั ลักษณ์ วงษโ์ สภา / //
29 เดก็ หญิงอนติ ดา โล่ทอง
30 เดก็ หญงิ สุทธกิ านต์ สิทธชิ ยากลุ //
ผลการประเมนิ
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ร้อยละ 70 ข้นึ ไป จานวน 13 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 43.33
นกั เรยี นมผี ลการประเมนิ ตากว่าร้อยละ 70 ขึ้น จานวน 17 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 56.66