The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พุทธวจน ภพภูมิ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ืทีมงานกรุธรรม, 2022-02-20 16:50:05

พุทธวจน ภพภูมิ

พุทธวจน ภพภูมิ

Keywords: พุทธวจน ภพภูมิ

เปดิ ธรรมที่ถูกปดิ : ภพภูมิ

พราหมณ ์ !   แมข้ อ้ นก้ี เ็ ปน็ เหตุ เปน็ ปจั จยั เครอื่ ง
ทำ�ให้มนุษย์ทุกวันนี้หมดไป ปรากฏว่ามีน้อย แม้บ้านก็
ไม่เป็นบ้าน แม้นิคมก็ไม่เป็นนิคม แม้นครก็ไม่เป็นนคร
แมช้ นบทก็ไม่เปน็ ชนบท.

พราหมณ์ !   อีกประการหนึ่ง ทุกวันน้ี มนุษย์
ก�ำ หนดั แลว้ ดว้ ยความก�ำ หนดั ผดิ ธรรม ถกู ความโลภอยา่ ง
แรงกล้าครอบงำ�  ประกอบด้วยมิจฉาธรรม  เมื่อมนุษย์
เหล่าน้ัน กำ�หนัดแล้วด้วยความกำ�หนัดผิดธรรม ถูก
ความโลภอยา่ งแรงกลา้ ครอบง�ำ ประกอบดว้ ยมจิ ฉาธรรม
ฝนก็ไม่ตกต้องตามฤดูกาล ฉะนั้น จึงเกิดทุพภิกขภัย
ข้าวกล้าเสียหาย เป็นเพลี้ย ไม่ให้ผล เพราะเหตุน้ัน
มนุษยจ์ งึ ลม้ ตายเสยี เป็นอนั มาก.

พราหมณ ์ !   แมข้ อ้ นก้ี เ็ ปน็ เหตุ เปน็ ปจั จยั เครอ่ื ง
ทำ�ให้มนุษย์ทุกวันนี้หมดไป ปรากฏว่ามีน้อย แม้บ้านก็
ไม่เป็นบ้าน แม้นิคมก็ไม่เป็นนิคม แม้นครก็ไม่เป็นนคร
แม้ชนบทก็ไมเ่ ป็นชนบท.

225

พทุ ธวจน - หมวดธรรม

พราหมณ์ !   อีกประการหนึ่ง ทุกวันน้ี มนุษย์
ก�ำ หนดั แลว้ ดว้ ยความก�ำ หนดั ผดิ ธรรม ถกู ความโลภอยา่ ง
แรงกล้าครอบงำ� ประกอบด้วยมิจฉาธรรม เม่ือมนุษย์
เหล่านั้น กำ�หนัดแล้วด้วยความกำ�หนัดผิดธรรม ถูก
ความโลภอยา่ งแรงกลา้ ครอบง�ำ ประกอบดว้ ยมจิ ฉาธรรม
พวกยกั ษไ์ ด้ปลอ่ ยอมนษุ ยท์ ่ีรา้ ยกาจลงไว้ เพราะฉะนนั้
มนษุ ยจ์ ึงล้มตายเสียเปน็ อนั มาก.

พราหมณ ์ !   แมข้ อ้ นกี้ เ็ ปน็ เหตุ เปน็ ปจั จยั เครอื่ ง
ทำ�ให้มนุษย์ทุกวันนี้หมดไป ปรากฏว่ามีน้อย แม้บ้านก็
ไม่เป็นบ้าน แม้นิคมก็ไม่เป็นนิคม แม้นครก็ไม่เป็นนคร
แม้ชนบทก็ไมเ่ ป็นชนบท.

226

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถ่ี ูกปิด : ภพภูมิ

เครอื่ งผกู พนั สตั ว์ 62

-บาลี มหา. ท.ี ๑๐/๓๑๐/๒๕๕.

ขา้ แตพ่ ระองคผ์ นู้ ริ ทกุ ข ์ !   อะไรเปน็ เครอ่ื งผกู พนั เทวดา
มนษุ ย์ อสรู นาค คนธรรพท์ ง้ั หลาย อนั มอี ยเู่ ปน็ หมๆู่ (ซง่ึ แตล่ ะหม)ู่
ปรารถนาอยวู่ า่ เราจกั เปน็ คนไมม่ เี วร ไมม่ อี าชญา ไมม่ ขี า้ ศกึ ไมม่ ี
การเบยี ดเบยี นแกก่ นั และกนั แตแ่ ลว้ กไ็ มส่ ามารถจกั เปน็ ผอู้ ยอู่ ยา่ ง
ผไู้ มม่ เี วร ไมม่ อี าชญา ไมม่ ขี า้ ศกึ ไมม่ เี บยี ดเบยี นแกก่ นั และกนั เลา่
พระเจา้ ข้า ?

จอมเทพ !   ความอจิ ฉา (อสิ สา) และความตระหน่ี
(มัจฉริยะ) น่ันแล เป็นเครื่องผูกพันเทวดา มนุษย์ อสูร
นาค คนธรรพ์ทั้งหลาย อันมีอยู่เป็นหมู่ๆ (ซ่ึงแต่ละหมู่)
ปรารถนาอยวู่ า่ เราจกั เปน็ คนไมม่ เี วร ไมม่ อี าชญา ไมม่ ขี า้ ศกึ
ไม่มีการเบียดเบียนแก่กันและกัน  แต่แล้วก็ไม่สามารถ
จักเป็นผู้อยู่อย่างผู้ไม่มีเวร ไม่มีอาชญา ไม่มีข้าศึก ไม่มี
การเบยี ดเบียนแก่กันและกันได.้

ขา้ แตพ่ ระองคผ์ นู้ ริ ทกุ ข ์ !   กค็ วามอจิ ฉาและความตระหน่ี
น้นั มีอะไรเปน็ ตน้ เหตุ (นทิ าน) มอี ะไรเป็นเครอ่ื งกอ่ ข้ึน (สมทุ ยั )
มอี ะไรเปน็ เครอ่ื งท�ำ ใหเ้ กดิ (ชาตกิ ะ) มอี ะไรเปน็ แดนเกดิ (ปภวะ) ?

227

พุทธวจน - หมวดธรรม

เมอ่ื อะไรมอี ยู่ ความอจิ ฉาและความตระหนจ่ี งึ ม ี? เมอ่ื อะไรไมม่ อี ยู่
ความอจิ ฉาและความตระหน่จี ึงไมม่ ี พระเจ้าขา้  !  

จอมเทพ !   ความอิจฉาและความตระหนี่นั้น
มสี ง่ิ อนั เปน็ ทร่ี กั และสงิ่ อนั ไมเ่ ปน็ ทรี่ กั (ปยิ าปปฺ ยิ ) นน่ั แล
เปน็ ตน้ เหตุ … เมอื่ สงิ่ เปน็ ทรี่ กั และสงิ่ ไมเ่ ปน็ ทร่ี กั ไมม่ อี ยู่
ความอจิ ฉาและความตระหนี่ก็ไมม่ .ี

ข้าแต่พระองค์ผู้นิรทุกข์ !   ก็ส่ิงเป็นท่ีรักและส่ิงไม่เป็น
ทร่ี กั นน้ั เลา่ มอี ะไรเปน็ ตน้ เหตุ … ? เมอื่ อะไรมอี ยู่ สง่ิ เปน็ ที่รักและ
สิ่งไม่เป็นที่รักจึงมี ? เมื่ออะไรไม่มีอยู่ สิ่งเป็นที่รักและสงิ่ ไมเ่ ปน็
ท่ีรักจึงไมม่ พี ระเจา้ ข้า ! 

จอมเทพ !   ส่ิงเป็นท่ีรักและส่ิงไม่เป็นท่ีรักน้ัน
มฉี ันทะ (ความพอใจ) เปน็ ต้นเหตุ … เมอื่ ฉันทะ ไมม่ ีอยู่
ส่งิ เปน็ ทรี่ กั และสิ่งไมเ่ ป็นทรี่ กั กไ็ มม่ ี.

228

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทีถ่ กู ปดิ : ภพภูมิ

เหตุทสี่ ตั ว์บางพวกกลัวตาย 63
บางพวกไมก่ ลัวตาย

-บาลี จตุกกฺ . อ.ํ ๒๑/๒๓๕/๑๘๔.

พราหมณ ์ !   สตั วผ์ มู้ คี วามตายเปน็ ธรรมดา ยอ่ ม
กลัวถึงความสะดุ้งต่อความตาย มีอยู่  สัตว์ผู้มีความตาย
เปน็ ธรรมดา ไมก่ ลัว ไม่ถึงความสะดุง้ ต่อความตาย มีอย.ู่

พราหมณ์ !   ก็สัตว์ผู้มีความตายเป็นธรรมดา
ยอ่ มกลวั ยอ่ มถงึ ความสะดงุ้ ตอ่ ความตาย เปน็ อยา่ งไรเลา่  ?

(๑) บคุ คลบางคนในโลกน้ี เปน็ ผยู้ งั ไมป่ ราศจาก
ความก�ำ หนดั ยงั ไมป่ ราศจากความพอใจ ยงั ไมป่ ราศจาก
ความรกั ยงั ไมป่ ราศจากความกระหาย ยงั ไมป่ ราศจาก
ความเรา่ รอ้ น ยงั ไมป่ ราศจากความทะยานอยากในกาม
ท้งั หลาย มโี รคหนกั อยา่ งใดอยา่ งหน่ึงถกู ตอ้ งเขา เมื่อเขา
มโี รคหนกั อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ถกู ตอ้ งแลว้ ยอ่ มมคี วามปรวิ ติ ก
อยา่ งนวี้ ่า กามอนั เป็นท่รี ักจกั ละเราไปเสยี ละหนอ และ
เราก็จะต้องละกามอันเป็นท่ีรักไป  เขาย่อมเศร้าโศก
ระทมใจ ครำ่�ครวญ ทบุ อกร่ำ�ไห้ ถึงความหลงใหล.

229

พุทธวจน - หมวดธรรม

พราหมณ ์!  บคุ คลนแ้ี ล ผมู้ คี วามตายเปน็ ธรรมดา
ยอ่ มกลัว ย่อมถงึ ความสะดุ้งตอ่ ความตาย.

(๒) บคุ คลบางคนในโลกน้ี เปน็ ผยู้ งั ไมป่ ราศจาก
ความก�ำ หนดั ยงั ไมป่ ราศจากความพอใจ ยงั ไมป่ ราศจาก
ความรกั ยงั ไมป่ ราศจากความกระหาย ยงั ไมป่ ราศจาก
ความเรา่ รอ้ น ยงั ไมป่ ราศจากความทะยานอยากในกาย
มโี รคหนกั อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ ถกู ตอ้ งเขา เมอื่ เขามโี รคหนกั
อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ถกู ตอ้ งแลว้ ยอ่ มมคี วามปรวิ ติ กอยา่ งนว้ี า่
กายอนั เปน็ ทร่ี กั จกั ละเราไปละหนอ และเรากจ็ กั ละกาย
อนั เปน็ ท่ีรักไป เขาย่อมเศร้าโศก… .

พราหมณ์ !   แม้บุคคลนี้แล  ผู้มีความตายเป็น
ธรรมดา ย่อมกลัว ยอ่ มถึงความสะดุ้งต่อความตาย.

(๓) บคุ คลบางคนในโลกน้ี เปน็ ผไู้ มไ่ ดท้ �ำ ความดไี ว้
ไม่ได้ทำ�กุศลไว้ ไม่ได้ทำ�ความป้องกันความกลัวไว้ ท�ำ
แตบ่ าป ท�ำ แตก่ รรมทห่ี ยาบชา้ ท�ำ แตก่ รรมทเ่ี ศรา้ หมอง มี
โรคหนักอย่างใดอย่างหน่ึงถูกต้องเขา เม่ือเขามีโรคหนัก
อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ถกู ตอ้ งแลว้ ยอ่ มมคี วามปรวิ ติ กอยา่ งนว้ี า่
เราไมไ่ ดท้ �ำ ความดไี ว้ ไมไ่ ดท้ �ำ กศุ ลไว้ ไมไ่ ดท้ �ำ ความปอ้ งกนั

230

เปิดธรรมท่ีถกู ปดิ : ภพภมู ิ

ความกลวั ไว้ ท�ำ แตบ่ าป ท�ำ แตก่ รรมทห่ี ยาบชา้ ท�ำ แตก่ รรม
ท่ีเศร้าหมอง คติของคนไม่ได้ทำ�ความดี ไม่ได้ทำ�กุศล
ไมไ่ ดท้ �ำ ความปอ้ งกนั ความกลวั ท�ำ แตบ่ าป ท�ำ แตก่ รรม
ที่หยาบช้า ทำ�แต่กรรมที่เศร้าหมองมีประมาณเทา่ ใด
เราละไปแลว้ ยอ่ มไปสคู่ ตนิ น้ั เขายอ่ มเศรา้ โศก… .

พราหมณ์ !   แม้บุคคลนี้แล ผู้มีความตายเป็น
ธรรมดา ยอ่ มกลัว ย่อมถงึ ความสะดงุ้ ตอ่ ความตาย.

(๔) บุคคลบางคนในโลกน้ี เป็นผู้มีความสงสัย
เคลอื บแคลง ไมถ่ งึ ความตกลงใจในพระสทั ธรรม มโี รค
หนักอย่างใดอย่างหนึ่งถูกต้องเขา เมื่อเขามีโรคหนัก
อย่างใดอยา่ งหนึ่งถูกต้องแลว้ ยอ่ มมคี วามปริวติ กอยา่ งนี้
ว่า เรามีความสงสัยเคลือบแคลง ไม่ถึงความตกลงใจ
ในพระสัทธรรม เขายอ่ มเศรา้ โศก… .

พราหมณ์ !   แม้บุคคลน้ีแล  ผู้มีความตายเป็น
ธรรมดา ย่อมกลัว ย่อมถึงความสะดุ้งตอ่ ความตาย.

พราหมณ์ !   บุคคล ๔ จำ�พวกนี้ มีความตาย
เปน็ ธรรมดา ยอ่ มกลวั ย่อมถงึ ความสะด้งุ ตอ่ ความตาย.

พราหมณ ์ !   บคุ คลมคี วามตายเปน็ ธรรมดา ยอ่ ม
ไม่กลวั ไมถ่ งึ ความสะดุ้งต่อความตาย เป็นอย่างไรเลา่  ?

231

พุทธวจน - หมวดธรรม

(๑) บุคคลบางคนในโลกนี้  เป็นผู้ปราศจาก
ความก�ำ หนดั ปราศจากความพอใจ ปราศจากความรกั
ปราศจากความกระหาย  ปราศจากความเร่าร้อน
ปราศจากความทะยานอยากในกามทง้ั หลาย มโี รคหนกั
อย่างใดอย่างหน่ึงถูกต้องเขา เมื่อเขามีโรคหนักอย่างใด
อย่างหน่ึงถูกต้องแล้ว ย่อมไม่มีความปริวิตกอย่างนี้ว่า
กามทั้งหลายอันเป็นท่ีรักจักละเราไปเสียละหนอ และ
เราก็จักละกามอันเป็นท่ีรักไป เขาย่อมไม่เศร้าโศก ไม่
ระทมใจ ไมค่ ร�ำ่ ครวญ ไมท่ บุ อกร�ำ่ ไห้ ไมถ่ งึ ความหลงใหล.

พราหมณ์ !   บุคคลน้ีแล  ผู้มีความตายเป็น
ธรรมดา ยอ่ มไมก่ ลัว ไมถ่ งึ ความสะด้งุ ต่อความตาย.

(๒) บุคคลบางคนในโลกนี้  เป็นผู้ปราศจาก
ความก�ำ หนดั ปราศจากความพอใจ ปราศจากความรกั
ปราศจากความกระหาย  ปราศจากความเร่าร้อน
ปราศจากความทะยานอยากในกาย มโี รคหนกั อยา่ งหนง่ึ
ถกู ตอ้ งเขา เมอ่ื เขามโี รคหนกั อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ถกู ตอ้ งแลว้
ย่อมไม่มีปรวิ ติ กอยา่ งนีว้ ่า กายอันเปน็ ทรี่ ักจกั ละเราไป
ละหนอ และเราก็จักละกายอันเป็นที่รักนี้ไป เขาย่อม
ไม่เศร้าโศก… .

232

เปดิ ธรรมท่ีถูกปิด : ภพภมู ิ

พราหมณ์ !   บุคคลแม้นี้แล  มีความตายเป็น
ธรรมดา ย่อมไมก่ ลัว ยอ่ มไม่ถึงความสะดุ้งตอ่ ความตาย.

(๓) บคุ คลบางคนในโลกน้ี เปน็ ผไู้ มไ่ ดก้ ระท�ำ บาป
ไม่ได้ทำ�กรรมที่หยาบช้า ไม่ได้ทำ�กรรมที่เศร้าหมอง
เป็นผู้ทำ�ความดีไว้ ทำ�กุศลไว้ ทำ�กรรมเครื่องป้องกัน
ความกลวั ไว้ มโี รคหนกั อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ถกู ตอ้ งเขา เมอื่
เขามีโรคหนักอย่างใดอย่างหนึ่งถูกต้องแล้ว ย่อมมีความ
ปริวิตก อย่างนี้ว่า เราไม่ได้ทำ�กรรมอันเป็นบาป ไม่ได้
ทำ�กรรมหยาบช้า  ไม่ได้ทำ�กรรมที่เศร้าหมอง  เป็นผู้
ทำ�กรรมดีไว้ ทำ�กุศลไว้ ทำ�กรรมเคร่ืองป้องกันความ
กลัวไว้ คติของบุคคลผู้ไม่ได้ทำ�บาปไว้ ไม่ได้ทำ�กรรม
หยาบช้า ไม่ได้ทำ�กรรมท่ีเศร้าหมอง ทำ�กรรมดีไว้ ทำ�
กศุ ลไว้ ท�ำ กรรมเครอื่ งปอ้ งกนั ความกลวั ไวเ้ พยี งใด เรา
ละไปแล้วจกั ไปสู่คตินั้น เขายอ่ มไม่เศร้าโศก… .

พราหมณ์ !   แม้บุคคลนั้นแลมีความตายเป็น
ธรรมดา ย่อมไม่กลวั ยอ่ มไม่ถงึ ความสะดุง้ ต่อความตาย.

(๔) บคุ คลบางคนในโลกน้ี เปน็ ผไู้ มม่ คี วามสงสยั
ไมม่ คี วามเคลอื บแคลงถงึ ความตกลงใจในพระสทั ธรรม

233

พทุ ธวจน - หมวดธรรม

มโี รคหนกั อยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ถกู ตอ้ งเขา เมอื่ เขามโี รคหนกั
อยา่ งใดอย่างหน่ึงถกู ตอ้ งแลว้ ย่อมมคี วามปริวติ กอยา่ งนี้
วา่ เราไมม่ คี วามสงสยั ไมม่ คี วามเคลอื บแคลงถงึ ความ
ตกลงใจในพระสทั ธรรม เขายอ่ มไมเ่ ศรา้ โศก ไม่ระทมใจ
ไม่คร่ำ�ครวญ ไม่ทบุ อกร่ำ�ไห้ ไมถ่ ึงความหลงใหล.

พราหมณ์ !   แม้บุคคลนี้แล  มีความตายเป็น
ธรรมดา ย่อมไมก่ ลวั ยอ่ มไมถ่ ึงความสะดงุ้ ตอ่ ความตาย.

พราหมณ์ !   บุคคล ๔ จำ�พวกน้ีแล มีความตาย
เปน็ ธรรมดา ยอ่ มไมก่ ลวั ยอ่ มไมถ่ งึ ความสะดงุ้ ตอ่ ความตาย.

234

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถี่ ูกปิด : ภพภมู ิ

โอกาสในการเกดิ เปน็ มนษุ ย์นัน้ ยาก 64

-บาลี มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๖๘/๑๗๔๔.

ภิกษุทั้งหลาย !   ถ้าสมมติว่า มหาปฐพีอันใหญ่
หลวงน้ี มนี �้ำ ท่วมถึงเปน็ อนั เดยี วกนั ทั้งหมด บรุ ุษคนหนง่ึ
ทง้ิ แอก ซง่ึ มรี เู จาะไดเ้ พยี งรเู ดยี ว ลงไปในน�ำ้ นน้ั ลมตะวนั ออก
พัดให้ลอยไปทางทิศตะวันตก ลมตะวันตกพัดให้ลอยไป
ทางทิศตะวันออก ลมทิศเหนือพัดให้ลอยไปทางทิศใต้
ลมทศิ ใตพ้ ดั ใหล้ อยไปทางทศิ เหนอื อยดู่ งั น้ี ในน�ำ้ นน้ั มเี ตา่
ตวั หนง่ึ ตาบอด ลว่ งไปรอ้ ยๆ ปี มนั จะผดุ ขน้ึ มาครง้ั หนง่ึ ๆ.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   เธอทง้ั หลาย จะส�ำ คญั ความขอ้ น้ี
วา่ อยา่ งไร จะเปน็ ไปไดไ้ หม ทเ่ี ตา่ ตาบอด รอ้ ยปจี งึ จะผดุ ขน้ึ
สักครั้งหนึ่ง  จะพึงย่ืนคอเข้าไปในรูซ่ึงมีอยู่เพียงรูเดียว
ในแอกน้ัน ?

ข้อนี้ยากที่จะเป็นไปได้ พระเจ้าข้า !   ท่ีเต่าตาบอดนั้น
รอ้ ยปผี ดุ ขน้ึ เพยี งครง้ั เดยี ว จะพงึ ยน่ื คอเขา้ ไปในรซู ง่ึ มอี ยเู่ พยี งรเู ดยี ว
ในแอกน้ัน.

235

พทุ ธวจน - หมวดธรรม

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   ยากทจ่ี ะเปน็ ไปได้ ฉนั เดยี วกนั ท่ี
ใครๆ จะพงึ ไดค้ วามเปน็ มนษุ ย์ ยากทจ่ี ะเปน็ ไปไดฉ้ นั เดยี วกนั
ทต่ี ถาคตผอู้ รหนั ตสมั มาสมั พทุ ธะ จะเกดิ ขน้ึ ในโลก ยากท่ี
จะเปน็ ไปได้ ฉนั เดยี วกนั ทธ่ี รรมวนิ ยั อนั ตถาคตประกาศแลว้
จะรุ่งเรอื งไปท่วั โลก.

ภิกษุทั้งหลาย !   แต่ว่า บัดน้ี ความเป็นมนุษย์
ก็ได้แล้ว ตถาคตผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะก็บังเกิดข้ึน
ในโลกแล้ว  และธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้ว
ก็รุง่ เรอื งไปท่วั โลกแล้ว.

ภิกษทุ ัง้ หลาย !   เพราะเหตุนน้ั ในกรณนี ี้ 
พวกเธอพึงกระทำ�โยคกรรม เพอ่ื ใหร้ ู้วา่  
นี้ ทุกข์
น้ี เหตุให้เกิดทกุ ข์
นี้ ความดับแห่งทุกข์
นี้ หนทางใหถ้ งึ ความดับแห่งทุกข์ ดงั น้ี เถิด.

236

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมท่ีถูกปดิ : ภพภมู ิ

ความเปน็ ไปไดย้ าก 65

-บาลี มหาวาร. ส.ํ ๑๙/๕๗๖/๑๗๙๒-๙๓.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   เธอทง้ั หลายจะส�ำ คญั ความขอ้ น้ี
ว่าอย่างไร ฝุ่นนิดหน่ึงท่ีเราช้อนข้ึนด้วยปลายเล็บน้ี กับ
มหาปฐพนี น้ั ขา้ งไหนจะมากกวา่ กนั  ?

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   มหาปฐพีนั่นแหละเป็นดิน
ที่มากกว่า  ฝุ่นนิดหนึ่งเท่าที่ทรงช้อนข้ึนด้วยปลายพระนขาน้ี
เป็นของมีประมาณน้อย ฝุ่นน้ัน เม่ือนำ�เข้าไปเทียบกับมหาปฐพี
ยอ่ มไมถ่ งึ ซง่ึ การค�ำ นวณได้ เปรยี บเทยี บได้ ไมเ่ ขา้ ถงึ แมซ้ ง่ึ สว่ นเสย้ี ว.

ภิกษุทั้งหลาย !   อุปมาน้ีฉันใด อุปไมยก็ฉันนั้น
สัตว์ที่จุติจากมนุษย์ไปแล้ว จะกลับไปเกิดในหมู่มนุษย์
มนี อ้ ย โดยทแ่ี ท้ สตั วท์ จี่ ตุ จิ ากมนษุ ยไ์ ปแลว้ กลบั ไปเกดิ
ในนรก กำ�เนดิ เดรจั ฉาน เปรตวิสยั มีมากกวา่ โดยแท.้

ขอ้ นัน้ เพราะเหตไุ รเลา่  ?

ภกิ ษุทง้ั หลาย !  
ข้อน้ันเพราะความท่ีสัตว์เหล่านั้นไม่เห็นอริยสัจท้ังส่ี.

237

พุทธวจน - หมวดธรรม

อรยิ สัจสี่ อย่างไรเลา่  ? สีอ่ ยา่ งคอื   
อรยิ สจั คอื ทุกข์
อริยสัจคือเหตุใหเ้ กิดขนึ้ แหง่ ทุกข์
อริยสจั คอื ความดับไมเ่ หลอื แหง่ ทุกข์
อรยิ สัจคือทางด�ำ เนนิ ใหถ้ งึ ความดับไมเ่ หลือแหง่ ทุกข.์

ภกิ ษุท้ังหลาย !   เพราะเหตนุ ้ัน ในเรอื่ งน้ี
เธอพงึ ประกอบโยคกรรมอนั เปน็ เครอ่ื งกระท�ำ ใหร้ วู้ า่   
ทกุ ข์ เปน็ อยา่ งน้ี
เหตเุ กดิ ขน้ึ แหง่ ทกุ ข์ เปน็ อยา่ งน้ี
ความดบั ไมเ่ หลอื แหง่ ทกุ ข์ เปน็ อยา่ งน้ี
ทางด�ำ เนนิ ใหถ้ งึ ความดบั ไมเ่ หลอื แหง่ ทกุ ข์ เปน็ อยา่ งน้ี ดงั น.้ี

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   เธอทง้ั หลายจะส�ำ คญั ความขอ้ น้ี
ว่าอย่างไร ฝุ่นนิดหน่ึงท่ีเราช้อนข้ึนด้วยปลายเล็บน้ี กับ
มหาปฐพนี น้ั ขา้ งไหนจะมากกวา่ กนั  ?

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   มหาปฐพีน่ันแหละเป็นดิน
ท่ีมากกว่า  ฝุ่นนิดหนึ่งเท่าที่ทรงช้อนขึ้นด้วยปลายพระนขานี้
เป็นของมีประมาณน้อย ฝุ่นนั้น เม่ือนำ�เข้าไปเทียบกับมหาปฐพี
ยอ่ มไมถ่ งึ ซง่ึ การค�ำ นวณได้ เปรยี บเทยี บได้ ไมเ่ ขา้ ถงึ แมซ้ ง่ึ สว่ นเสย้ี ว.

238

เปิดธรรมทถี่ ูกปิด : ภพภมู ิ

ภิกษุทั้งหลาย !   อุปมาน้ีฉันใด อุปไมยก็ฉันน้ัน
สตั วท์ จ่ี ตุ จิ ากมนษุ ยไ์ ปแลว้ จะกลบั ไปเกดิ ในหมเู่ ทวดา มนี อ้ ย
โดยทแ่ี ท้ สตั วท์ จี่ ตุ จิ ากมนษุ ยไ์ ปแลว้ กลบั ไปเกดิ ในนรก
ก�ำ เนดิ เดรัจฉาน เปรตวิสยั มีมากกวา่ โดยแท้.

ขอ้ นนั้ เพราะเหตไุ รเล่า ?
ภิกษุทัง้ หลาย !  
ข้อน้ันเพราะความท่ีสัตว์เหล่านั้นไม่เห็นอริยสัจทั้งสี่.
อริยสจั ส่ี อยา่ งไรเล่า ? ส่อี ยา่ งคือ  
อรยิ สัจคือทุกข์
อรยิ สจั คือเหตุใหเ้ กิดขึน้ แหง่ ทกุ ข์
อริยสจั คอื ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
อรยิ สจั คือทางดำ�เนนิ ให้ถงึ ความดับไมเ่ หลอื แหง่ ทุกข.์
ภกิ ษุท้ังหลาย !   เพราะเหตนุ น้ั ในเรอ่ื งน้ี
เธอพงึ ประกอบโยคกรรมอนั เปน็ เครอ่ื งกระท�ำ ใหร้ วู้ า่   
ทกุ ข์ เปน็ อยา่ งน้ี
เหตเุ กดิ ขน้ึ แหง่ ทกุ ข์ เปน็ อยา่ งน้ี
ความดบั ไมเ่ หลอื แหง่ ทกุ ข์ เปน็ อยา่ งน้ี
ทางด�ำ เนนิ ใหถ้ งึ ความดบั ไมเ่ หลอื แหง่ ทกุ ข์ เปน็ อยา่ งน้ี ดงั น.้ี

239



เทวดา



พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ีถกู ปิด : ภพภูมิ

ขอ้ ดขี องเทวดาเทยี บกบั มนษุ ย์ 66

-บาลี สตฺตก. อ.ํ ๒๓/๔๐๘/๒๒๕.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   เทวดาชน้ั ดาวดงึ ส์ ประเสรฐิ กวา่
พวกมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปและพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป
ด้วยฐานะ ๓ ประการ.

๓ ประการ อย่างไรเล่า ? คือ 
(๑) อายุทพิ ย์
(๒) วรรณะทพิ ย์
(๓) สุขทิพย์

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   เทวดาชน้ั ดาวดงึ ส์ ประเสรฐิ กวา่
พวกมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปและพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป
ดว้ ยฐานะ ๓ ประการนแ้ี ล.

243

พุทธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทีถ่ ูกปดิ : ภพภมู ิ

ผลแห่งความประพฤติเรยี บร้อย 67

-บาลี ม.ู ม. ๑๒/๕๑๗/๔๘๓.

ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ !   อะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้
สตั วบ์ างพวกในโลกน้ี เขา้ ถงึ อบาย ทคุ ติ วนิ บิ าต และนรก ภายหลงั
แต่การตาย เพราะการท�ำ ลายแหง่ กาย ?

ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ !   อะไรเป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้
สัตว์บางพวกในโลกน้ี เข้าถงึ สุคติโลกสวรรค์ ภายหลงั แตก่ ารตาย
เพราะการทำ�ลายแห่งกาย ?

พราหมณ์และคหบดี !   สัตว์บางพวกในโลกนี้
เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต และนรก1 ภายหลังแต่
การตาย  เพราะการท�ำ ลายแหง่ กาย  เพราะเหตปุ ระพฤติ
ไมเ่ รยี บรอ้ ย คอื ไมป่ ระพฤติธรรม.

พราหมณ์และคหบดี !   สัตว์บางพวกในโลกน้ี
เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ภายหลังแต่การตาย เพราะการ
ทำ�ลายแห่งกาย  เพราะเหตุประพฤติเรียบร้อย  คือ
ประพฤติธรรม.

พวกขา้ พระองคไ์ มท่ ราบเนอ้ื ความอยา่ งพสิ ดารแหง่ ธรรม
ทพ่ี ระโคดมตรสั โดยยอ่ มไิ ดท้ รงจ�ำ แนกความใหพ้ สิ ดาร ขอพระโคดม
ผเู้ จรญิ โปรดแสดงธรรมแกพ่ วกขา้ พระองค์ โดยอาการทพ่ี วกขา้ พระองค์
จะพงึ รเู้ นอ้ื ความอยา่ งพสิ ดารแหง่ ธรรมทพ่ี ระโคดมผเู้ จรญิ ตรสั โดยยอ่
มไิ ดท้ รงจ�ำ แนกความใหพ้ สิ ดารเถดิ .

1.อบาย ทคุ ติ วนิ ิตบาต นรก = ภพท่ีต่ำ� กว่ามนษุ ย.์  

244

เปิดธรรมทีถ่ กู ปดิ : ภพภมู ิ

พราหมณแ์ ละคหบด ี !   ถา้ เชน่ นน้ั พวกทา่ นจงฟงั
จงทำ�ไว้ในใจใหด้ ี เราจกั กล่าว.

พราหมณแ์ ละคหบด ี!  ความประพฤตไิ มเ่ รยี บรอ้ ย
คอื ความไมป่ ระพฤตธิ รรมทางกายมี ๓ อยา่ ง ทางวาจามี
๔ อย่าง ทางใจมี ๓ อยา่ ง.

พราหมณแ์ ละคหบด ี!  ความประพฤตเิ รยี บรอ้ ย คอื
ความประพฤตธิ รรมทางกายมี ๓ อยา่ ง ทางวาจามี ๔ อยา่ ง
ทางใจมี ๓ อย่าง.

(รายละเอียดอกุศลกรรมบท ๑๐ และกุศลกรรมบท ๑๐
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในหน้า ๔๒-๔๖ และ ๑๖๐-๑๖๔ ของ
หนังสือเลม่ น้ี)

พราหมณ์และคหบดี !   ถ้าบุคคลผู้ประพฤติ
เรยี บรอ้ ย คือ ประพฤติธรรม พงึ หวงั ว่า 

“โอหนอ !   ภายหลังแต่การตาย  เพราะการ
ท�ำ ลายแหง่ กาย เราพงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ กษตั รยิ ์
มหาศาลเถดิ ”

ขอ้ นเี้ ป็นฐานะท่ีจะมไี ด้
คอื ภายหลงั แตก่ ารตาย เพราะการท�ำ ลายแหง่ กาย
บคุ คลนน้ั พงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแห่งกษตั ริยม์ หาศาล.

245

พุทธวจน - หมวดธรรม

ขอ้ น้นั เพราะเหตไุ รเล่า ?
เพราะวา่ บคุ คลนนั้ เปน็ ผปู้ ระพฤตเิ รยี บรอ้ ย คอื
เปน็ ผู้ประพฤตธิ รรมอย่างนนั้ แล.
พราหมณ์และคหบดี !   ถ้าบุคคลผู้ประพฤติ
เรียบร้อย คือ ประพฤติธรรม พึงหวังว่า 
“โอหนอ !   ภายหลังแต่การตาย  เพราะการ
ทำ�ลายแห่งกาย เราพึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่ง
พราหมณ์มหาศาล … คหบดีมหาศาล … เทวดาเหล่า
จาตมุ หาราชกิ า … เทวดาเหลา่ ดาวดงึ ส์ … เทวดาเหลา่ ยามา
… เทวดาเหล่าดสุ ติ … เทวดาเหลา่ นิมมานรดี … เทวดา
เหลา่ ปรนมิ มติ วสวตั ตี … เทวดาทนี่ บั เนอ่ื งในหมพู่ รหม …
เทวดาเหลา่ อาภา … เทวดาเหลา่ ปรติ ตาภา … เทวดาเหลา่
อัปปมาณาภา … เทวดาเหล่าอาภัสสรา … เทวดาเหล่า
ปริตตสุภา … เทวดาเหล่าอัปมาณสุภา … เทวดาเหล่า
สภุ กณิ หกะ … เทวดาเหลา่ เวหปั ผละ … เทวดาเหลา่ อวหิ า …
เทวดาเหลา่ อตปั ปา … เทวดาเหลา่ สทุ สั สา … เทวดาเหลา่
สทุ สั สี … เทวดาเหลา่ อกนฏิ ฐะ … เทวดาผเู้ ขา้ ถงึ อากาสา-
นญั จายตนภพ … เทวดาผู้เขา้ ถงึ วิญญาณญั จายตนภพ …
เทวดาผเู้ ขา้ ถงึ อากญิ จญั ญายตนภพ … เทวดาผเู้ ขา้ ถงึ เนว-
สัญญานาสัญญายตนภพ … .

246

เปดิ ธรรมที่ถูกปิด : ภพภมู ิ

พราหมณ์และคหบดี !   ถ้าบุคคลผู้ประพฤติ
เรยี บรอ้ ย คือ ประพฤติธรรม พึงหวงั ว่า 

“เราพึงทำ�ให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ
อนั หาอาสวะมไิ ด้ เพราะความสน้ิ ไปแหง่ อาสวะทง้ั หลาย
ด้วยปัญญาอันยงิ่ เองในปจั จุบัน เข้าถงึ แล้วแลอยูเ่ ถิด”

ขอ้ นเ้ี ปน็ ฐานะทีจ่ ะมีได้
บคุ คลนน้ั พงึ ท�ำ ใหแ้ จง้ ซง่ึ เจโตวมิ ตุ ติ ปญั ญาวมิ ตุ ติ
อันหาอาสวะมิได้ เพราะความส้ินไปแห่งอาสวะท้ังหลาย
ด้วยปัญญาอันย่ิงเองในปจั จุบนั เขา้ ถงึ แลว้ แลอย.ู่
ข้อนั้นเพราะเหตไุ รเลา่  ?
เพราะวา่ บคุ คลนนั้ เปน็ ผปู้ ระพฤตเิ รยี บรอ้ ย คอื
เป็นผปู้ ระพฤติธรรมอย่างน้ีแล.

247

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมทถ่ี กู ปิด : ภพภูมิ

ผลจากการวางจติ เมือ่ ใหท้ าน 68

-บาลี สตตฺ ก. อํ. ๒๓/๖๐/๔๙.

ข้าแต่พระองคผ์ เู้ จริญ !   อะไรหนอ เป็นเหตุ เป็นปจั จัย
เครอ่ื งใหท้ านเชน่ นน้ั นน่ั แล ทบ่ี คุ คลบางคนในโลกน้ี ใหแ้ ลว้ มผี ลมาก
ไมม่ อี านสิ งสม์ าก ? อะไรหนอ เปน็ เหตุ เปน็ ปจั จยั เครอ่ื งใหท้ านเชน่ นน้ั
นน่ั แล ทบ่ี คุ คลบางคนในโลกนี้ ใหแ้ ลว้ มผี ลมาก มอี านสิ งสม์ าก ?

สารีบุตร !   บุคคลบางคนในโลกน้ี ให้ทานโดย
มคี วามหวงั ผล ใหท้ านโดยมจี ติ ผกู พนั ในผล ใหท้ านโดย
มงุ่ การสง่ั สม (บญุ ) ใหท้ านโดยคดิ วา่ “เราตายไปจกั ได้
เสวยผลของทานนี้” เขาจึงให้ทาน คือ ข้าว น้ำ� ผ้า ยาน
ดอกไม้ ของหอม เคร่ืองลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย และ
เครือ่ งตามประทปี แก่สมณะหรอื พราหมณ์ … เขาใหท้ าน
นั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่ง
เทวดาเหลา่ จาตมุ หาราชกิ า เขาส้ินกรรม สน้ิ ฤทธิ์ สนิ้ ยศ
หมดความเปน็ ใหญแ่ ลว้ ยงั เปน็ ผกู้ ลบั มา คอื มาสคู่ วามเปน็
อย่างน้.ี

สารีบุตร !   บุคคลบางคนในโลกน้ี ให้ทานโดย
ไมม่ คี วามหวงั ผล ใหท้ านโดยไมม่ จี ติ ผกู พนั ในผล ใหท้ าน
โดยไมม่ งุ่ การสง่ั สม (บญุ ) ใหท้ านโดยไมค่ ดิ วา่ “เราตายไป

248

เปดิ ธรรมท่ถี กู ปดิ : ภพภูมิ

จักได้เสวยผลของทานน้ี”  แต่เขาให้ทานด้วยคิดว่า
“การให้ทานเป็นการดี” เขาจึงให้ทาน คือ ข้าว น้ำ� …
แกส่ มณะหรอื พราหมณ์ … เขาใหท้ านนนั้ แลว้ เมอ่ื ตายไป
ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาเหล่าดาวดึงส์
เขาส้ินกรรม ส้ินฤทธิ์ ส้ินยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว
ยงั เปน็ ผู้กลบั มา คือ มาส่คู วามเปน็ อย่างนี.้

สารีบุตร !   บุคคลบางคนในโลกน้ี ให้ทานโดย
ไม่มีความหวังผล … ไมไ่ ดใ้ ห้ทานด้วยคิดว่า “การให้
ทานเป็นการดี” แต่ให้ทานด้วยคิดว่าบิดามารดา ปู่ย่า
ตายาย เคยให้เคยทำ�มา เรากไ็ มค่ วรทำ�ใหเ้ สียประเพณี
เขาใหท้ าน คือ ขา้ ว น�้ำ … แก่สมณะหรอื พราหมณ์ … เขา
ให้ทานนั้นแล้ว เมื่อตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย
แห่งเทวดาเหล่ายามา เขาส้นิ กรรม สน้ิ ฤทธ์ิ สิน้ ยศ หมด
ความเป็นใหญ่แล้ว ยังเป็นผู้กลับมา คือ มาสู่ความเป็น
อย่างนี.้

สารีบุตร !   บุคคลบางคนในโลกน้ี ให้ทานโดย
ไมม่ คี วามหวงั ผล … ไมไ่ ดใ้ หท้ านดว้ ยคดิ วา่ บดิ ามารดา
ปู่ย่า ตายาย เคยให้เคยทำ�มา เราก็ไม่ควรทำ�ให้เสีย
ประเพณี แตใ่ หท้ านดว้ ยคดิ วา่ เราหุงหากนิ สมณะหรือ

249

พุทธวจน - หมวดธรรม

พราหมณ์เหลา่ นี้ ไม่หุงหากิน เราหุงหากินได้ จะไม่ให้
ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้ไม่หุงหา ไม่สมควร เขา
ใหท้ าน คอื ขา้ ว น้�ำ … แก่สมณะหรอื พราหมณ์ … เขาให้
ทานนนั้ แลว้ เมอื่ ตายไป ยอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่
เทวดาเหล่าดุสติ เขาส้นิ กรรม ส้นิ ฤทธ์ิ สิน้ ยศ หมดความ
เปน็ ใหญแ่ ลว้ ยงั เปน็ ผกู้ ลบั มา คอื มาสคู่ วามเปน็ อยา่ งน.้ี

สารีบุตร !   บุคคลบางคนในโลกนี้ ให้ทานโดย
ไมม่ คี วามหวงั ผล … ไมไ่ ดใ้ หท้ านดว้ ยคดิ วา่ เราหงุ หากนิ ได้
สมณะหรอื พราหมณเ์ หลา่ นหี้ งุ หากนิ ไมไ่ ด้ เราหงุ หากนิ ได้
จะไม่ให้ทานแก่สมณะหรือพราหมณ์ผู้หุงหากินไม่ได้
ไม่สมควร แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เราจักเป็นผู้จ�ำแนก
แจกทาน เหมอื นฤาษแี ตค่ รง้ั กอ่ น คอื อฏั ฐกฤาษี วามก
ฤาษี วามเทวฤาษี เวสสามติ รฤาษี ยมทคั คฤิ าษี องั ครี สฤาษี
ภารทวาชฤาษี วาเสฏฐฤาษี กัสสปฤาษี และภคุฤาษี บูชา
มหายญั เขาใหท้ าน คอื ขา้ ว นำ�้ … แกส่ มณะหรอื พราหมณ์
… เขาให้ทานน้ันแล้ว เม่ือตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็น
สหายแห่งเทวดาเหล่านิมมานรดี เขาสิ้นกรรม สิ้นฤทธ์ิ
สน้ิ ยศ หมดความเปน็ ใหญแ่ ลว้ ยงั เปน็ ผกู้ ลบั มา คอื มาสู่
ความเป็นอยา่ งน้ี.

สารีบุตร !   บุคคลบางคนในโลกน้ี ให้ทานโดย
ไมม่ คี วามหวงั ผล … ไมไ่ ดใ้ ห้ทานด้วยคดิ ว่า เราจักเป็น

250

เปดิ ธรรมท่ีถูกปดิ : ภพภูมิ

ผู้จ�ำแนกแจกทาน  เหมือนอย่างฤาษีแต่ครั้งก่อน  คือ
อัฏฐกฤาษี … ภคุฤาษี แต่ให้ทานด้วยคิดว่า เม่ือเราให้
ทานอยา่ งน้ี จติ จะเลอื่ มใส เกดิ ความปลมื้ ใจและโสมนสั
เขาใหท้ าน คือ ขา้ ว น�้ำ … แก่สมณะหรือพราหมณ์ … เขา
ให้ทานนั้นแล้ว เม่ือตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย
แห่งเทวดาเหล่าปรนิมมิตวสวัสดี เขาส้ินกรรม สิ้นฤทธิ์
สน้ิ ยศ หมดความเปน็ ใหญแ่ ลว้ ยงั เปน็ ผกู้ ลบั มา คอื มาสู่
ความเป็นอยา่ งนี้.

สารีบุตร !   บุคคลบางคนในโลกน้ี ให้ทานโดย
ไมม่ คี วามหวงั ผล … ไมไ่ ดใ้ หท้ านดว้ ยคดิ วา่ เมอ่ื เราให้
ทานอยา่ งน้ี จติ จะเลอื่ มใส เกดิ ความปลมื้ ใจและโสมนสั
แตใ่ หท้ านเปน็ เครอ่ื งปรงุ แตง่ จติ เขาใหท้ าน คอื ขา้ ว น�ำ้ …
แกส่ มณะหรอื พราหมณ์ … เขาใหท้ านนน้ั แลว้ เมอื่ ตายไป
ยอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ เทวดาเหลา่ พรหมกายกิ า
เขาสิ้นกรรม ส้ินฤทธิ์ ส้ินยศ หมดความเป็นใหญ่แล้ว
เป็นผ้ไู มต่ อ้ งกลบั มา คือ ไม่มาสู่ความเปน็ อยา่ งน้.ี

สารีบุตร !   น้ีแลเป็นเหตุ  เป็นปัจจัยให้ทาน
เช่นนั้นท่ีบุคคลบางคนในโลกนี้ให้แล้ว มีผลมาก ไม่มี
อานิสงส์มาก  และเป็นเหตุ  เป็นปัจจัยเช่นนั้นท่ีบุคคล
บางคนในโลกน้ใี หแ้ ลว้ มผี ลมาก มีอานิสงสม์ าก.

251

พุทธวจน - หมวดธรรม

252

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ีถูกปิด : ภพภมู ิ

ผลของการตอ้ นรบั บรรพชติ 69
ดว้ ยวิธีทีต่ ่างกนั

-บาลี สตฺตก. อํ. ๒๓/๔๐๓/๒๒๓.

ภกิ ษทุ งั้ หลาย !   กใ็ นราตรนี ้ี เมอื่ ปฐมยามลว่ งไป
แลว้ เทวดาเปน็ อันมากมผี วิ พรรณงดงาม ยงั วิหารเชตวนั
ทัง้ ส้นิ ให้สว่างไสว เขา้ มาหาเราถงึ ทอ่ี ยู่ ไหวเ้ ราแล้วยนื อยู่
ณ ทคี่ วรส่วนขา้ งหน่งึ ครน้ั แล้วไดก้ ล่าวกะเราวา่  

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   บรรพชิตทั้งหลาย
เขา้ มายงั เรอื นของขา้ พระองคท์ งั้ หลายเมอ่ื เปน็ มนษุ ยอ์ ยู่
ในกาลกอ่ น ขา้ พระองคเ์ หลา่ น้นั ลกุ รับ แตไ่ มก่ ราบไหว้
ข้าพระองค์เหล่าน้ัน มีการงานยังไม่บริบูรณ์ มีความ
กินแหนงใจ มีความเดือดร้อนตามในภายหลัง เข้าถึง
หมเู่ ทวดาชั้นเลว”.

ภิกษุท้ังหลาย !   เทวดาอีกพวกหน่ึงเป็นอันมาก
เขา้ มาหาเราแลว้ ไดก้ ล่าวว่า 

“ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ จรญิ  !  บรรพชติ ทง้ั หลายเขา้ มายงั
เรอื นของขา้ พระองคท์ ง้ั หลายเมอ่ื เปน็ มนษุ ยอ์ ยใู่ นกาลกอ่ น
ข้าพระองค์เหล่าน้นั ลุกรับ กราบไหว้ แต่ไม่ให้อาสนะ
ขา้ พระองคเ์ หลา่ นน้ั มกี ารงานไมบ่ รบิ รู ณ์ มคี วามกนิ แหนงใจ
มคี วามเดอื ดรอ้ นตามในภายหลงั เขา้ ถงึ หมเู่ ทวดาชน้ั เลว”.

253

พุทธวจน - หมวดธรรม

“…ข้าพระองค์เหล่านั้น ลุกรับ กราบไหว้และ
ใหอ้ าสนะ แตไ่ มแ่ บง่ ปนั ของใหต้ ามสามารถ ตามก�ำ ลงั …”.

“…ขา้ พระองคเ์ หลา่ นน้ั ลกุ รบั กราบไหว้ ใหอ้ าสนะ
และแบง่ ปนั ของใหต้ ามสามารถ ตามก�ำ ลงั แตไ่ มเ่ ขา้ ไป
นงั่ ใกล้เพ่ือฟงั ธรรม …”.

“…ขา้ พระองคเ์ หลา่ นน้ั ลกุ รบั กราบไหว้ ใหอ้ าสนะ
แบง่ ปนั ของใหต้ ามสามารถ ตามก�ำ ลงั และเขา้ ไปน่งั ใกล้
เพือ่ ฟังธรรม แต่ไมเ่ งี่ยโสตลงฟังธรรม …”.

“…ขา้ พระองคเ์ หลา่ นน้ั ลกุ รบั กราบไหว้ ใหอ้ าสนะ
แบ่งปันของให้ตามสามารถ ตามกำ�ลัง เขา้ ไปนง่ั ใกลเ้ พื่อ
ฟังธรรม และเงี่ยโสตลงฟังธรรม แต่ฟังแล้วไม่ทรงจำ�
ธรรมไว้ …”.

“…ขา้ พระองคเ์ หลา่ นน้ั ลกุ รบั กราบไหว้ ใหอ้ าสนะ
แบ่งปันของให้ตามสามารถ ตามกำ�ลัง เข้าไปน่ังใกล้เพ่ือ
ฟังธรรม เงี่ยโสตลงฟังธรรม และฟังแล้วทรงจำ�ธรรม
ไว้ แต่ไมพ่ จิ ารณาเนือ้ ความแหง่ ธรรมท่ที รงจำ�ไว้ …”.

“…ขา้ พระองคเ์ หลา่ นน้ั ลกุ รบั กราบไหว้ ใหอ้ าสนะ
แบ่งปันของให้ตามสามารถ ตามกำ�ลัง เข้าไปนั่งใกล้เพอ่ื
ฟงั ธรรม เงี่ยโสตลงฟังธรรม ฟังแล้วทรงจำ�ธรรมไว้ และ
พจิ ารณาเนอ้ื ความแหง่ ธรรมทท่ี รงจ�ำ ไว ้ แตไ่ มร่ ทู้ ว่ั ถงึ อรรถ
ไม่ร้ทู ่วั ถึงธรรม  และไม่ได้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม

254

เปิดธรรมทถี่ ูกปิด : ภพภมู ิ

ขา้ พระองคเ์ หลา่ นน้ั มกี ารงานไมบ่ รบิ รู ณ์ มคี วามกนิ แหนงใจ
มคี วามเดอื ดรอ้ นตามในภายหลงั เขา้ ถงึ หมเู่ ทวดาชน้ั เลว”.

ภิกษุทั้งหลาย !   เทวดาอีกพวกหนึ่งเป็นอันมาก
เข้ามาหาเราแล้วไดก้ ล่าววา่  

“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   บรรพชิตทั้งหลาย
เข้ามายังเรือนของข้าพระองค์ท้ังหลายเมื่อยังเป็นมนุษย์
ในกาลกอ่ น ขา้ พระองคเ์ หลา่ นน้ั ลกุ รบั กราบไหว้ ใหอ้ าสนะ
แบง่ ปนั สงิ่ ของใหต้ ามสามารถ ตามก�ำ ลงั เขา้ ไปนง่ั ใกล้
เพอ่ื ฟงั ธรรม  เงย่ี โสตลงฟงั ธรรม  ฟงั แลว้ ทรงจ�ำ ธรรมไว้
พจิ ารณาเนอ้ื ความแหง่ ธรรมทท่ี รงจ�ำ ไว้ และรทู้ ว่ั ถงึ อรรถ
รทู้ ว่ั ถงึ ธรรม แลว้ ปฏบิ ตั ธิ รรมสมควรแกธ่ รรม ขา้ พระองค์
เหลา่ นน้ั มกี ารงานบรบิ ูรณ์ ไมม่ ีความกินแหนงใจ ไม่มี
ความเดือดร้อนตามในภายหลัง  เข้าถึงหมู่เทวดาชั้น
ประณตี ”.

ภกิ ษุทัง้ หลาย !  
น่ัน โคนไม้ท้ังหลาย  นั่น เรือนว่างทงั้ หลาย
พวกเธอท้งั หลาย จงเพยี รเผากเิ ลส
อย่าไดป้ ระมาท
อยา่ ได้เป็นผู้ทีต่ ้องรอ้ นใจในภายหลงั
เหมอื นเทวดาพวกตน้ ๆ เหลา่ น้นั .

255

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมท่ถี กู ปิด : ภพภูมิ

เหตสุ �ำเร็จความปรารถนา 70

-บาลี อปุ ร.ิ ม. ๑๔/๒๑๗/๓๑๘.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !  
เราจักแสดงเหตุสำ�เร็จความปรารถนาแก่เธอ
ท้ังหลาย  พวกเธอจงฟังเหตุสำ�เร็จความปรารถนานั้น
จงท�ำ ในใจให้ดี เราจกั กล่าว.

ภิกษุท้ังหลาย !   ภิกษุในธรรมวินัยน้ี  เป็นผู้
ประกอบด้วยศรัทธา ศีล สุตตะ จาคะ ปัญญา เธอมี
ความปรารถนาอย่างนี้ว่า “โอหนอ !  เราเม่ือตายไปแล้ว
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งกษัตริย์มหาศาลเถิด” ดังนี้
ก็มี … ว่า “โอหนอ !  เราเมื่อตายไปแล้ว พึงเข้าถึงความ
เป็นสหายแห่งพราหมณ์มหาศาลเถิด” ดังนี้ก็มี … ว่า
“โอหนอ !  เราเมื่อตายไปแล้ว พึงเข้าถึงความเป็นสหาย
แห่งคหบดีมหาศาลเถิด”  ดังน้ีก็มี  เธอจึงตั้งจิตน้ัน
อธษิ ฐานจติ นน้ั เจรญิ จติ นน้ั ความปรารถนาและวหิ าร-
ธรรมเหล่าน้ัน อันเธอเจริญแล้วอย่างนี้ ทำ�ให้มากแล้ว
อยา่ งนี้ ย่อมเป็นไปเพอ่ื ความส�ำ เรจ็ ในภาวะนั้นๆ.

256

เปิดธรรมทถ่ี ูกปดิ : ภพภมู ิ

ภิกษุทั้งหลาย !   ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้
ประกอบดว้ ยศรทั ธา ศลี สตุ ตะ จาคะ ปญั ญา เธอไดฟ้ งั มาวา่
เทวดาชน้ั จาตมุ หาราชกิ า มอี ายยุ นื มวี รรณะ มากดว้ ยความสขุ
เธอมคี วามปรารถนาอยา่ งนว้ี า่ “โอหนอ ! เราเมอ่ื ตายไปแลว้
พงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ เทวดาชน้ั จาตมุ หาราชกิ าเถดิ ”
เธอจงึ ตง้ั จติ นน้ั อธษิ ฐานจติ นน้ั เจรญิ จติ นน้ั ความปรารถนา
และวหิ ารธรรมเหลา่ นน้ั อนั เธอเจรญิ แลว้ อยา่ งน้ี ท�ำ ใหม้ าก
แลว้ อยา่ งน้ี ยอ่ มเปน็ ไปเพอ่ื ความส�ำ เรจ็ ในภาวะนน้ั ๆ.

ภิกษุทั้งหลาย !   ประการอ่ืนยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้
ประกอบดว้ ยศรทั ธา ศลี สตุ ตะ จาคะ ปญั ญา เธอไดฟ้ งั มาวา่
เทวดาชน้ั ดาวดงึ ส์ … เทวดาชน้ั ยามา … เทวดาชน้ั ดสุ ติ …
เทวดาชน้ั นมิ มานรดี … เทวดาชน้ั ปรนมิ มติ วสวสั ดี มอี ายยุ นื
มวี รรณะ มากดว้ ยความสขุ เธอมคี วามปรารถนาอยา่ งนว้ี า่
“โอหนอ !  เราเม่ือตายไปแล้ว พึงเข้าถึงความเป็นสหาย
แห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัสดีเถิด”  เธอจึงต้ังจิตนั้น
อธษิ ฐานจติ นน้ั เจรญิ จติ นน้ั ความปรารถนาและวหิ ารธรรม
เหล่านั้น อันเธอเจริญแล้วอย่างนี้ ทำ�ให้มากแล้วอย่างน้ี
ย่อมเป็นไปเพื่อความส�ำ เร็จในภาวะน้ันๆ.

257

พุทธวจน - หมวดธรรม

ภิกษุท้ังหลาย !   ประการอ่ืนยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้
ประกอบดว้ ยศรทั ธา ศลี สตุ ตะ จาคะ ปญั ญา เธอไดฟ้ งั มาวา่
สหัสสพรหม มอี ายยุ ืน มีวรรณะ มากด้วยความสขุ .

ภิกษุท้งั หลาย !   สหัสสพรหมย่อมน้อมจิตแผ่ไป
ตลอดโลกธาตุพันหน่ึงอยู่ แม้สัตว์ทั้งหลายที่เกิดแล้วใน
สหสั สพรหมนน้ั กน็ อ้ มจติ แผไ่ ปอยไู่ ด้ เปรยี บเหมอื นบรุ ษุ
มนี ยั นต์ าดี วางมะขามปอ้ มผลหนง่ึ ในมอื แลว้ พจิ ารณาดไู ด้
ฉนั ใด.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !  สหสั สพรหมกฉ็ นั นน้ั เหมอื นกนั แล
ยอ่ มนอ้ มจติ แผไ่ ปตลอดโลกธาตพุ นั หนง่ึ อยู่ แมส้ ตั วท์ ง้ั หลาย
ทีเ่ กิดแลว้ ในสหสั สพรหมนนั้ กน็ อ้ มจิตแผไ่ ปอยู่ได้ เธอมี
ความปรารถนาอย่างนี้ว่า “โอหนอ !  เราเม่ือตายไปแล้ว
พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งสหัสสพรหมเถิด”  เธอจึง
ตง้ั จติ นนั้ อธษิ ฐานจติ นนั้ เจรญิ จติ นน้ั ความปรารถนาและ
วหิ ารธรรมเหลา่ นน้ั อนั เธอเจรญิ แลว้ อยา่ งน้ี ท�ำ ใหม้ ากแลว้
อยา่ งนี้ ย่อมเปน็ ไปเพ่อื ความสำ�เรจ็ ในภาวะนั้นๆ.

ภิกษุท้ังหลาย !   ประการอ่ืนยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้
ประกอบดว้ ยศรทั ธา ศลี สตุ ตะ จาคะ ปญั ญา เธอไดฟ้ งั มาวา่

258

เปิดธรรมท่ีถกู ปิด : ภพภมู ิ

ทวสิ หสั สพรหม … ตสิ หสั สพรหม … จตสุ หสั สพรหม …
ปญั จสหสั สพรหม มอี ายยุ นื มวี รรณะ มากดว้ ยความสขุ .

ภิกษุทั้งหลาย !   ปัญจสหัสสพรหมย่อมน้อมจิต
แผ่ไปตลอดโลกธาตุห้าพันอยู่ แม้สัตว์ทั้งหลายท่ีเกิดแล้ว
ในปัญจสหัสสพรหมนั้น ก็น้อมจิตแผ่ไปอยู่ได้ เปรียบ
เหมอื นบรุ ษุ มนี ยั นต์ าดี วางผลมะขามปอ้ ม ๕ ผลในมอื แลว้
พิจารณาดูได้ ฉันใด.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   ปญั จสหสั สพรหมกฉ็ นั นน้ั เหมอื น
กนั แล ยอ่ มนอ้ มจติ แผไ่ ปสโู่ ลกธาตหุ า้ พนั อยู่ แมส้ ตั วท์ ง้ั หลาย
ทเี่ กดิ แลว้ ในปญั จสหสั สพรหม กน็ อ้ มจติ แผไ่ ปอยไู่ ด้ เธอ
มคี วามปรารถนาอยา่ งนวี้ า่ “โอหนอ !  เราเมอ่ื ตายไปแลว้
พึงเขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ ปัญจสหัสสพรหมเถิด” เธอ
จงึ ต้งั จิตนั้น อธิษฐานจติ น้ัน เจรญิ จิตนน้ั ความปรารถนา
และวหิ ารธรรมเหลา่ นน้ั อนั เธอเจรญิ แลว้ อยา่ งน้ี ท�ำ ใหม้ าก
แลว้ อยา่ งนี้ ย่อมเป็นไป เพอื่ ความสำ�เร็จในภาวะนนั้ ๆ.

ภิกษุทั้งหลาย !   ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้
ประกอบดว้ ยศรทั ธา ศลี สตุ ตะ จาคะ ปญั ญา เธอไดฟ้ งั มาวา่
ทสสหสั สพรหม มอี ายยุ ืน มวี รรณะ มากดว้ ยความสขุ .

259

พุทธวจน - หมวดธรรม

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   ทสสหสั สพรหมยอ่ มนอ้ มจติ แผ่
ไปตลอดโลกธาตุหม่ืนหนึ่งอยู่ แม้สัตว์ท้ังหลายท่ีเกิดแล้ว
ในทสสหสั สพรหมนน้ั กน็ อ้ มจติ แผไ่ ปอยไู่ ด้ เปรยี บเหมอื น
แกว้ ไพฑรู ย์ งามโชตชิ ว่ ง แปดเหลย่ี มอนั เขาเจยี ระไนดแี ลว้
วางไว้บนผ้ากัมพลเหลือง  ย่อมส่องแสงเรือง  ไพโรจน์
ฉนั ใด.

ภิกษทุ ง้ั หลาย !   ทสสหสั สพรหมกฉ็ นั นน้ั เหมอื น
กันแล  ย่อมน้อมจิตแผ่ไปตลอดโลกธาตุหมื่นหน่ึงอยู่
แมส้ ตั วท์ งั้ หลายทเี่ กดิ แลว้ ในทสสหสั สพรหมนนั้ กน็ อ้ มจติ
แผไ่ ปอยไู่ ด้ เธอมคี วามปรารถนาอยา่ งนว้ี า่ “โอหนอ !  เรา
เมื่อตายไปแล้ว พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งทสสหัสส-
พรหมเถิด” เธอจึงตงั้ จิตน้นั อธษิ ฐานจติ นัน้ เจริญจติ น้ัน
ความปรารถนาและวิหารธรรมเหล่าน้ัน อันเธอเจริญแล้ว
อยา่ งน้ี ท�ำ ใหม้ ากแลว้ อยา่ งน้ี ยอ่ มเปน็ ไปเพอ่ื ความส�ำ เรจ็
ในภาวะน้นั ๆ.

ภิกษุทั้งหลาย !   ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้
ประกอบดว้ ย ศรทั ธา ศลี สตุ ตะ จาคะ ปญั ญา เธอได้ฟงั
ว่าสตสหสั สพรหม มีอายุยนื มีวรรณะ มากดว้ ยความสุข. 

260

เปิดธรรมทถ่ี ูกปดิ : ภพภูมิ

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   สตสหสั สพรหมยอ่ มนอ้ มจติ แผ่
ไปตลอดโลกธาตุแสนหนึ่งอยู่ แม้สัตว์ท้ังหลายที่เกิดแล้ว
ในสตสหสั สพรหมนน้ั กน็ อ้ มจติ แผไ่ ปอยไู่ ด้ เปรยี บเหมอื น
แท่งทองชมพูนุท ที่เขาหลอมด้วยความชำ�นาญดี ในเบ้า
ของชา่ งทองผูฉ้ ลาดแลว้ วางไว้บนผา้ กมั พลสเี หลือง ย่อม
สอ่ งแสงเรอื งไพโรจน์ ฉนั ใด.

ภิกษุท้งั หลาย !   สตสหัสสพรหมก็ฉันน้นั เหมือน
กันแล ย่อมน้อมจิตแผ่ไปตลอดโลกธาตุแสนหนึ่งอยู่
แมส้ ตั วท์ งั้ หลายทเ่ี กดิ แลว้ ในสตสหสั สพรหมนน้ั กน็ อ้ มจติ
แผ่ไปอยู่ได้ เธอมีความปรารถนาอย่างนี้ “โอหนอ !  เรา
เม่ือตายไปแล้ว พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งสตสหัสส
พรหมเถิด” เธอจงึ ตง้ั จติ นน้ั อธษิ ฐานจติ นน้ั เจรญิ จติ นน้ั
ความปรารถนาและวิหารธรรมเหล่าน้ัน อันเธอเจริญแล้ว
อยา่ งนี้ ท�ำ ใหม้ ากแลว้ อยา่ งน้ี ยอ่ มเปน็ ไปเพอ่ื ความส�ำ เรจ็
ในภาวะนัน้ ๆ.

ภิกษุทั้งหลาย !   ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้
ประกอบดว้ ยศรทั ธา ศลี สตุ ตะ จาคะ ปญั ญา เธอไดฟ้ งั มาวา่
เทวดาชั้นอาภา … เทวดาช้ันปริตตาภา … เทวดาชั้น

261

พุทธวจน - หมวดธรรม

อัปปมาณาภา … เทวดาช้นั อาภัสสรา … เทวดาชัน้ สภุ า…
เทวดาชน้ั ปรติ ตสภุ า… เทวดาชน้ั อปั ปมาณสภุ า … เทวดาชน้ั
สุภกณิ หา … เทวดาชน้ั เวหปั ปผลา … เทวดาชัน้ อวิหา …
เทวดาชน้ั อตปั ปา … เทวดาชน้ั สทุ สั สา … เทวดาชน้ั สทุ สั สี
… เทวดาชน้ั อกนฏิ ฐา มอี ายยุ นื มวี รรณะ มากดว้ ยความสขุ
เธอมคี วามปรารถนาอยา่ งนว้ี า่ “โอหนอ ! เราเมอ่ื ตายไปแลว้
พงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ เทวดาชน้ั อกนฏิ ฐาเถดิ ” เธอ
จงึ ต้งั จิตน้นั อธษิ ฐานจิตน้นั เจริญจิตนนั้ ความปรารถนา
และวหิ ารธรรมเหลา่ นน้ั อนั เธอเจรญิ แลว้ อยา่ งน้ี ท�ำ ใหม้ าก
แลว้ อยา่ งนี้ ย่อมเปน็ ไปเพือ่ ความสำ�เรจ็ ในภาวะนั้นๆ.

ภิกษุท้ังหลาย !   ประการอื่นยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้
ประกอบดว้ ยศรทั ธา ศลี สตุ ตะ จาคะ ปญั ญา เธอไดฟ้ งั มา
วา่ เทวดาผเู้ ขา้ ถงึ อากาสานญั จายตนภพ … เทวดาผเู้ ขา้ ถงึ
วญิ ญาณญั จายตนภพ … เทวดาผเู้ ขา้ ถงึ อากญิ จญั ญายตนภพ
… เทวดาผู้เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนภพ มีอายุยืน
ด�ำ รงอยนู่ าน มากดว้ ยความสขุ เธอมคี วามปรารถนาอยา่ งน้ี
ว่า “โอหนอ !   เราเมื่อตายไปแล้ว พึงเข้าถึงความเป็น

262

เปิดธรรมทีถ่ ูกปดิ : ภพภูมิ

สหายแหง่ เทวดาผเู้ ขา้ ถงึ เนวสญั ญานาสญั ญายตนภพเถดิ ”
เธอจงึ ตง้ั จติ นน้ั อธษิ ฐานจติ นน้ั เจรญิ จติ นน้ั ความปรารถนา
และวหิ ารธรรมเหลา่ นน้ั อนั เธอเจรญิ แลว้ อยา่ งน้ี ท�ำ ใหม้ าก
แลว้ อยา่ งน้ี ย่อมเปน็ ไปเพ่ือความส�ำ เรจ็ ในภาวะนั้นๆ.

ภิกษุท้ังหลาย !   ประการอ่ืนยังมีอีก ภิกษุเป็นผู้
ประกอบดว้ ย ศรัทธา ศีล สตุ ตะ จาคะ ปญั ญา เธอมีความ
ปรารถนาอย่างน้ีว่า “โอหนอ !  เราพึงเข้าถึงเจโตวิมุตติ
ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะความส้ินไปแห่ง
อาสวะทง้ั หลาย ดว้ ยปญั ญาอนั ยงิ่ เองในปจั จบุ นั เขา้ ถงึ แลว้
แลอยู่”  เธอจึงเข้าถึงเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหา
อาสวะมไิ ด้ เพราะความสน้ิ ไปแหง่ อาสวะทง้ั หลาย ดว้ ยปญั ญา
อันยง่ิ เองในปัจจุบัน เข้าถึงแล้วแลอย.ู่

ภกิ ษุท้ังหลาย !   ภกิ ษนุ ้ี ยอ่ มไมเ่ กดิ ในทไ่ี หนๆ.


263

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทถี่ กู ปดิ : ภพภูมิ

เหตุเกิดข้ึนแห่งทาน ๘ ประการ 71

-บาลี สตตฺ ก. อํ. ๒๓/๒๔๓/๑๒๕.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !  เหตเุ กดิ ขน้ึ แหง่ ทาน ๘ ประการน.้ี
๘ ประการ อย่างไรเลา่  ?
ภิกษทุ ัง้ หลาย !   บุคคลบางคนในโลกน้ี ใหท้ าน
คอื ขา้ ว น�้ำ ผา้ ยาน ดอกไม้ ของหอม เครอื่ งลบู ไล้ ทน่ี อน
ทอี่ ยอู่ าศยั และเครอื่ งตามประทปี แกส่ มณะหรอื พราหมณ์
เขาให้ส่ิงใด ย่อมหวังสิ่งนั้น เขาเห็นกษัตริย์มหาศาล
พราหมณม์ หาศาล หรอื คหบดมี หาศาล ผเู้ อบิ อม่ิ พรง่ั พรอ้ ม
ถกู บ�ำ เรออยดู่ ว้ ยกามคณุ ๕ เขาจงึ มคี วามปรารถนาอยา่ งน้ี
วา่ “โอหนอ !  เมอ่ื ตายไป ขอเราพงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหาย
แห่งกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคหบดี
มหาศาล” เขาต้ังจิตน้ัน อธิษฐานจิตนั้น เจริญจิตนั้น
จติ ของเขานกึ นอ้ มไปในทางเลว ไมเ่ จรญิ ยงิ่ ขน้ึ ภายหลงั
แต่การตาย เพราะการทำ�ลายแห่งกาย เขาย่อมเข้าถึง
ความเปน็ สหายแหง่ กษตั รยิ ม์ หาศาล พราหมณม์ หาศาล
หรอื คหบดมี หาศาล แตข่ อ้ นน้ั เรากลา่ ววา่ เปน็ ของผมู้ ศี ลี
ไม่ใช่ของผู้ทศุ ีล.
ภิกษุทั้งหลาย !   ความปรารถนาแห่งใจของ
บคุ คลผู้มีศีล ยอ่ มสำ�เรจ็ ได้ เพราะจิตบรสิ ุทธิ์.

264

เปดิ ธรรมทีถ่ ูกปดิ : ภพภมู ิ

ภิกษุท้ังหลาย !   ส่วนบุคคลบางคนในโลกน้ี
ยอ่ มให้ทาน คอื ขา้ ว นำ�้ … เคร่ืองตามประทปี แกส่ มณะ
หรอื พราหมณ์ เขาใหส้ ง่ิ ใด ยอ่ มหวงั สง่ิ นน้ั เขาไดฟ้ งั มาวา่
เทวดาชน้ั จาตมุ หาราชกิ า มอี ายยุ นื มวี รรณะ มากดว้ ยความสขุ
เขาจงึ มคี วามปรารถนาอยา่ งนว้ี า่ “โอหนอ !  เมอื่ ตายไป
ขอเราพงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ เทวดาชน้ั จาตมุ หาราชกิ า”
เขาตั้งจิตน้ัน อธิษฐานจิตน้ัน เจริญจิตนั้น จิตของเขา
นกึ นอ้ มไปในทางทเ่ี ลว ไมเ่ จรญิ ยง่ิ ขน้ึ ภายหลงั แตก่ ารตาย
เพราะการท�ำ ลายแหง่ กาย เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหาย
แหง่ เทวดาชน้ั จาตมุ หาราชกิ า แตข่ อ้ นน้ั เรากลา่ ววา่ เปน็
ของผูม้ ีศีล ไม่ใช่ของผทู้ ศุ ีล.

ภิกษุท้ังหลาย !   ความปรารถนาแห่งใจของ
บคุ คลผูม้ ศี ีล ย่อมส�ำ เรจ็ ได้ เพราะจิตบริสทุ ธิ์.

ภิกษุท้ังหลาย !   ส่วนบุคคลบางคนในโลกน้ี
ยอ่ มใหท้ าน คือ ขา้ ว น�้ำ … เครอ่ื งตามประทีปแก่สมณะ
หรอื พราหมณ์ เขาใหส้ ง่ิ ใด ยอ่ มหวงั สง่ิ นน้ั เขาไดฟ้ งั มาวา่
เทวดาชน้ั ดาวดงึ ส์ … เทวดาชน้ั ยามา … เทวดาชน้ั ดสุ ติ …
เทวดาชน้ั นมิ มานรดี … เทวดาชน้ั ปรนมิ มติ วสวตั ตี มอี ายยุ นื
มวี รรณะ มากดว้ ยความสขุ เขาจงึ มคี วามปรารถนาอยา่ งน้ี
วา่ “โอหนอ ! เมอ่ื ตายไป ขอเราพงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่
เทวดาชน้ั ปรนมิ มติ วสวตั ต”ี เขาตงั้ จติ นนั้ อธษิ ฐานจติ นน้ั

265

พุทธวจน - หมวดธรรม

เจรญิ จติ นน้ั จติ ของเขานกึ นอ้ มไปในทางทเ่ี ลว ไมเ่ จรญิ
ยง่ิ ขน้ึ ภายหลงั แตก่ ารตาย เพราะการท�ำ ลายแหง่ กาย เขายอ่ ม
เข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัตตี
แต่ข้อนนั้ เรากล่าวว่าเปน็ ของผู้มศี ลี ไมใ่ ชข่ องผทู้ ศุ ลี .

ภิกษุท้ังหลาย !   ความปรารถนาแห่งใจของ
บุคคลผู้มศี ลี ย่อมสำ�เร็จได้ เพราะจิตบริสทุ ธ.ิ์

ภิกษุทั้งหลาย !   ส่วนบุคคลบางคนในโลกน้ี
ยอ่ มใหท้ าน คอื ข้าว นำ�้ … เครื่องตามประทีปแกส่ มณะ
หรอื พราหมณ์ เขาใหส้ ง่ิ ใด ยอ่ มหวงั สง่ิ นน้ั เขาไดฟ้ งั มาวา่
เทวดาชน้ั พรหมกายกิ า มอี ายยุ นื มวี รรณะ มากดว้ ยความสขุ
เขาจงึ มคี วามปรารถนาอยา่ งนว้ี า่ “โอหนอ !  เมอ่ื ตายไป
ขอเราพงึ เขา้ ถงึ ความเปน็ สหายแหง่ เทวดาชน้ั พรหมกายกิ า”
เขาตั้งจิตน้ัน อธิษฐานจิตน้ัน เจริญจิตนั้น จิตของเขา
นกึ นอ้ มไปในทางทเ่ี ลว ไมเ่ จรญิ ยง่ิ ขน้ึ ภายหลงั แตก่ ารตาย
เพราะการท�ำ ลายแหง่ กาย เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความเปน็ สหาย
แห่งเทวดาชั้นพรหมกายิกา แต่ข้อน้ันเรากล่าวว่าเป็น
ของผมู้ ศี ลี ไมใ่ ชข่ องผูท้ ศุ ลี .

ภิกษุทั้งหลาย !   ความปรารถนาแห่งใจของ
บคุ คลผูม้ ศี ีล ยอ่ มสำ�เรจ็ ได้ เพราะจิตปราศจากราคะ.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !  เหตเุ กดิ ขน้ึ แหง่ ทาน ๘ ประการนแ้ี ล.

266

พุทธวจน - หมวดธรรม เปิดธรรมทีถ่ กู ปดิ : ภพภูมิ

สดั ส่วนของทาน ศีล ภาวนา 72

-บาลี สตตฺ ก. อํ. ๒๓/๒๔๕/๑๒๖.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   บญุ กิริยาวัตถุ ๓ ประการนี้
๓ ประการ อย่างไรเลา่  ? คอื
(๑) บญุ กิรยิ าวัตถสุ ำ�เร็จด้วยทาน
(๒) บญุ กริ ยิ าวตั ถสุ �ำ เร็จด้วยศลี
(๓) บญุ กิริยาวตั ถสุ �ำ เรจ็ ด้วยภาวนา

ภกิ ษทุ งั้ หลาย !   บคุ คลบางคนในโลกน้ี ท�ำ บญุ -
กิริยาวัตถุท่ีสำ�เร็จด้วยทานนิดหน่อย ทำ�บุญกิริยาวัตถุ
ท่ีสำ�เร็จด้วยศีลนิดหน่อย ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุท่ีสำ�เร็จ
ด้วยภาวนาเลย เม่ือตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็น
ผู้มสี ่วนชั่วในมนษุ ย์.

ภกิ ษทุ งั้ หลาย !   บคุ คลบางคนในโลกนี้ ท�ำ บญุ -
กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี �ำ เรจ็ ดว้ ยทานพอประมาณ ท�ำ บญุ กริ ยิ าวตั ถุ
ทส่ี �ำ เรจ็ ดว้ ยศลี พอประมาณ ไมเ่ จรญิ บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี �ำ เรจ็
ด้วยภาวนาเลย เม่ือตายไป เขาย่อมเข้าถึงความเป็น
ผ้มู สี ่วนดใี นมนุษย์.

267

พุทธวจน - หมวดธรรม

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   บคุ คลบางคนในโลกน้ี ท�ำ บญุ -
กิริยาวัตถุที่สำ�เร็จด้วยทานมีประมาณย่ิง ทำ�บุญกิริยา-
วัตถทุ ส่ี �ำ เร็จดว้ ยศลี มีประมาณยิ่ง ไมเ่ จรญิ บุญกิรยิ าวัตถุ
ที่สำ�เร็จด้วยภาวนาเลย  เม่ือตายไป  เขาย่อมเข้าถึง
ความเปน็ สหายแหง่ เทวดาเหล่าจาตุมหาราชกิ า.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !  มหาราชทง้ั ๔ นน้ั เพราะท�ำ บญุ -
กิริยาวัตถุท่ีสำ�เร็จด้วยทานเป็นอดิเรก ทำ�บุญกิริยาวัตถทุ ่ี
สำ�เร็จด้วยศีลเป็นอดิเรก  ย่อมก้าวล่วงพวกเทวดาเหล่า
จาตุมหาราชิกาโดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ อายุทิพย์
วรรณทิพย์ สุขทิพย์ ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์
เสียงทพิ ย์ กลนิ่ ทิพย์ รสทพิ ย์ โผฏฐพั พทพิ ย์.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   บคุ คลบางคนในโลกนี้ ท�ำ บญุ -
กิริยาวัตถุที่สำ�เร็จด้วยทานมีประมาณยิ่ง ทำ�บุญกิริยา
วัตถทุ สี่ ำ�เรจ็ ด้วยศลี มปี ระมาณยงิ่ ไม่เจริญบญุ กิริยาวัตถุ
ทสี่ �ำ เรจ็ ดว้ ยภาวนาเลย เมอ่ื ตายไป เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความ
เปน็ สหายแหง่ เทวดาเหลา่ ดาวดงึ ส.์

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   ทา้ วสกั กะจอมเทพในดาวดงึ สน์ น้ั
กระท�ำ บญุ กริ ิยาวตั ถทุ ่ีสำ�เรจ็ ด้วยทานเป็นอดิเรก ทำ�บุญ-
กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี �ำ เรจ็ ดว้ ยศลี เปน็ อดเิ รก ยอ่ มกา้ วลว่ งพวกเทวดา

268

เปิดธรรมท่ีถกู ปิด : ภพภมู ิ

เหล่าดาวดึงส์โดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ อายุทิพย์
วรรณทิพย์ สุขทิพย์ ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์
เสยี งทพิ ย์ กลนิ่ ทพิ ย์ รสทพิ ย์ โผฏฐัพพทพิ ย์.

ภกิ ษทุ งั้ หลาย !   บคุ คลบางคนในโลกน้ี ท�ำ บญุ -
กิริยาวัตถุท่ีสำ�เร็จด้วยทานมีประมาณยิ่ง ทำ�บุญกิริยา
วตั ถุท่ีส�ำ เรจ็ ดว้ ยศีลมีประมาณยง่ิ ไมเ่ จรญิ บญุ กริ ยิ าวตั ถุ
ทสี่ �ำ เรจ็ ดว้ ยภาวนาเลย เมอ่ื ตายไป เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความ
เป็นสหายแหง่ เทวดาเหล่ายามา.

ภิกษุท้ังหลาย !   ท้าวสยามเทพบุตรในยามาน้นั
ท�ำ บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี �ำ เรจ็ ดว้ ยทานเปน็ อดเิ รก ท�ำ บญุ กริ ยิ าวตั ถุ
ทส่ี �ำ เรจ็ ดว้ ยศลี เปน็ อดเิ รก ยอ่ มกา้ วลว่ งพวกเทวดาเหลา่ ยามา
โดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ อายุทพิ ย์ วรรณทิพย์ สขุ ทิพย์
ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์
รสทิพย์ โผฏฐัพพทิพย์.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   บคุ คลบางคนในโลกนี้ ท�ำ บญุ -
กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี �ำ เรจ็ ดว้ ยทานมปี ระมาณยง่ิ ท�ำ บญุ กริ ยิ าวตั ถุ
ท่ีสำ�เร็จด้วยศีลมีประมาณยิ่ง ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุท่ี
สำ�เร็จด้วยภาวนาเลย เมื่อตายไป เขายอ่ มเข้าถึงความ
เป็นสหายแหง่ เทวดาเหล่าดสุ ิต.

269

พทุ ธวจน - หมวดธรรม

ภิกษุท้ังหลาย !   ทา้ วสนั ดสุ ติ เทพบตุ รในดสุ ติ นน้ั
ท�ำ บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี �ำ เรจ็ ดว้ ยทานเปน็ อดเิ รก ท�ำ บญุ กริ ยิ าวตั ถุ
ทส่ี �ำ เรจ็ ดว้ ยศลี เปน็ อดเิ รก ยอ่ มกา้ วลว่ งพวกเทวดาเหลา่ ดสุ ติ
โดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ อายุทพิ ย์ วรรณทิพย์ สขุ ทิพย์
ยศทิพย์ อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กล่ินทิพย์
รสทิพย์ โผฏฐัพพทิพย์.

ภกิ ษทุ ง้ั หลาย !   บคุ คลบางคนในโลกนี้ ท�ำ บญุ -
กิริยาวัตถุที่สำ�เร็จด้วยทานมีประมาณย่ิง ทำ�บุญกิริยา
วัตถทุ ่ีสำ�เรจ็ ด้วยศลี มีประมาณยิ่ง ไมเ่ จริญบญุ กริ ิยาวตั ถุ
ทสี่ �ำ เรจ็ ดว้ ยภาวนาเลย เมอ่ื ตายไป เขายอ่ มเขา้ ถงึ ความ
เป็นสหายแห่งเทวดาเหล่านมิ มานรดี.

ภิกษุทั้งหลาย !   ท้าวสุนิมมิตเทพบุตรใน
นมิ มานรดนี น้ั ท�ำ บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี �ำ เรจ็ ดว้ ยทานเปน็ อดเิ รก
ทำ�บุญกิริยาวัตถุท่ีสำ�เร็จด้วยศีลเป็นอดิเรก ย่อมก้าวล่วง
พวกเทวดาเหล่านิมมานรดีโดยฐานะ ๑๐ ประการ คือ
อายทุ พิ ย์วรรณทพิ ย์สขุ ทพิ ย์ยศทพิ ย์อธปิ ไตยทพิ ย์รปู ทพิ ย์
เสียงทพิ ย์ กลน่ิ ทพิ ย์ รสทิพย์ โผฏฐพั พทิพย์.

270

เปดิ ธรรมท่ถี กู ปดิ : ภพภูมิ

ภกิ ษทุ งั้ หลาย !   บคุ คลบางคนในโลกน้ี ท�ำ บญุ -
กริ ยิ าวตั ถทุ ส่ี �ำ เรจ็ ดว้ ยทานมปี ระมาณยง่ิ ท�ำ บญุ กริ ยิ าวตั ถุ
ท่ีสำ�เร็จด้วยศีลมีประมาณย่ิง ไม่เจริญบุญกิริยาวัตถุที่
สำ�เร็จด้วยภาวนาเลย เมื่อตายไป เขายอ่ มเข้าถึงความ
เป็นสหายแหง่ เทวดาเหล่าปรนมิ มิตวสวตั ต.ี

ภิกษุท้ังหลาย !   ท้าวปรนิมมิตวสวัตตีเทพบุตร
ในปรนมิ มติ วสวตั ตีนน้ั ท�ำ บญุ กริ ยิ าวตั ถทุ ่สี ำ�เรจ็ ด้วยทาน
เป็นอดิเรก ทำ�บุญกิริยาวัตถุท่ีสำ�เร็จด้วยศีลเป็นอดิเรก
ย่อมก้าวล่วงพวกเทวดาเหล่าปรนิมมิตวสวัตตีโดยฐานะ
๑๐ ประการ คือ อายุทิพย์ วรรณทิพย์ สุขทิพย์ ยศทิพย์
อธิปไตยทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กล่ินทิพย์ รสทิพย์
โผฏฐัพพทิพย์.

ภกิ ษทุ ้ังหลาย !   นี้แล บญุ กิรยิ าวัตถุ ๓ ประการ.

271

พุทธวจน - หมวดธรรม

272

พทุ ธวจน - หมวดธรรม เปดิ ธรรมที่ถกู ปดิ : ภพภูมิ

ความแตกตา่ งของผใู้ ห้กับผไู้ มใ่ ห้ 73

-บาลี ปญฺจก. อ.ํ ๒๒/๓๔/๓๑.

ข้าแตพ่ ระองคผ์ ู้เจรญิ  !   ขอประทานพระวโรกาส สาวก
ของพระผู้มีพระภาค ๒ คน มีศรัทธา มีศีล มีปัญญาเท่าๆกัน
คนหนง่ึ เปน็ ผใู้ ห้ คนหนงึ่ เปน็ ผไู้ มใ่ ห้ คนทง้ั สองนน้ั เมอ่ื ตายไปแลว้
พงึ เขา้ ถงึ สคุ ตโิ ลกสวรรค์ แตค่ นทง้ั สองนน้ั ทง้ั ทเ่ี ปน็ เทวดาเหมอื นกนั
จกั มีความพิเศษแตกตา่ งกันหรอื  ?

สมุ นา !  คนทง้ั สองนน้ั จกั มคี วามพเิ ศษแตกตา่ งกนั
คือ ผู้ให้ท่ีเป็นเทวดา ย่อมข่มเทวดาผู้ไม่ให้ด้วยเหตุ
๕ ประการ คอื อายุ วรรณะ สขุ ยศ และอธปิ ไตยทเ่ี ปน็ ทพิ ย.์

สมุ นา !   ผใู้ หท้ เ่ี ปน็ เทวดา ยอ่ มขม่ เทวดาผไู้ มใ่ ห้
ด้วยเหตุ ๕ ประการน.ี้

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   ก็ถ้าเทวดาท้ังสองน้ันจุติจาก
เทวโลกน้ันแล้ว มาสู่ความเป็นมนุษย์ แต่คนท้ังสองน้ัน ท้ังท่ีเป็น
มนษุ ยเ์ หมือนกัน พงึ มีความพิเศษแตกต่างกนั หรือ ?

สมุ นา !  คนทง้ั สองนน้ั พงึ มคี วามพเิ ศษแตกตา่ งกนั
คือ ผู้ให้ท่ีเป็นมนุษย์ ย่อมข่มมนุษย์ผู้ไม่ให้ด้วยเหตุ
๕ ประการ คอื อายุ วรรณะ สขุ ยศ และอธปิ ไตยทเ่ี ปน็
ของมนษุ ย.์

สมุ นา !   ผใู้ หท้ เ่ี ปน็ มนษุ ย์ ยอ่ มขม่ มนษุ ยผ์ ไู้ มใ่ ห้
ด้วยเหตุ ๕ ประการน.้ี

273

พุทธวจน - หมวดธรรม

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !   ก็ถ้าคนท้ังสองน้ันออกบวช
แต่คนท้ังสองนั้น ทั้งที่เป็นบรรพชิตเหมือนกัน พึงมีความพิเศษ
แตกตา่ งกันหรอื  ?

สมุ นา !  คนทง้ั สองนน้ั พงึ มคี วามพเิ ศษแตกตา่ งกนั
คือ ผใู้ หท้ ่ีเปน็ บรรพชติ ยอ่ มขม่ บรรพชติ ผู้ไม่ใหด้ ้วยเหตุ
๕ ประการ คือ 

(๑) เธอใช้สอยจีวร  ส่วนมากเพราะถูกเขา
ออ้ นวอนท่ีไม่ถกู ใครอ้อนวอนใหใ้ ชส้ อยนน้ั เปน็ ส่วนน้อย

(๒) เธอฉันบิณฑบาต  ส่วนมากเพราะถูกเขา
ออ้ นวอน ที่ไมถ่ กู ใครออ้ นวอนใหฉ้ ันน้นั เปน็ ส่วนนอ้ ย

(๓) เธอใช้สอยเสนาสนะ  ส่วนมากเพราะถูกเขา
อ้อนวอน ท่ไี มถ่ กู ใครอ้อนวอนให้ใช้สอยนนั้ เป็นสว่ นน้อย

(๔) เธอบริโภคยากับเคร่ืองใช้ในการรักษาโรค
ส่วนมากเพราะถูกเขาอ้อนวอน ท่ีไม่ถูกใครอ้อนวอนให้
บรโิ ภคนน้ั เปน็ สว่ นนอ้ ย

(๕) เมื่ออยู่ร่วมกับเพื่อนพรหมจรรย์เหล่าใด
เพอ่ื นพรหมจรรยเ์ หลา่ นน้ั กป็ ระพฤตติ อ่ เธอดว้ ยกายกรรม
วจีกรรม มโนกรรม เปน็ ทพ่ี อใจเปน็ สว่ นมาก ไมเ่ ปน็ ทพ่ี อใจ
เปน็ สว่ นนอ้ ย ย่อมนำ�ส่ิงเป็นท่ีพอใจมาเป็นส่วนมาก ย่อม
น�ำ สงิ่ ไม่เปน็ ทพ่ี อใจมาเปน็ ส่วนนอ้ ย

สมุ นา !   ผูใ้ ห้ท่เี ปน็ บรรพชติ ย่อมขม่ บรรพชิต
ผ้ไู มใ่ ห้ด้วยเหตุ ๕ ประการน.ี้

274


Click to View FlipBook Version