382
ทา่ นตอ้ งผ่านได้แล้ว ทีนี้เขามาเล่า อัฐิทา่ นกลายเป็นพระธาตุแลว้ เราเช่ือทันทีเลย ก็เป็นเวลา
๑๔ ปี เราพดู ด้วยความเทดิ ทนู น่กี ็องคห์ น่ึง
แล้วองค์ไหนบ้างนะ ลูกศิษยห์ ลวงปูม่ ่ัน เอา้ ! นับไปเลย ตงั้ แตท่ า่ นอาจารยแ์ หวน
ท่านอาจารย์ขาว หลวงป่พู รหม หลวงปตู่ อ้ื หลวงปู่ค�ำดี หลวงปู่ฝ้ัน บอกเลยไมเ่ ปน็ อ่ืนวา่ งัน้
ก็บอกแล้วนวี่ ่าเป็นพระธาตุแลว้ จะว่ายังไงอกี ทา่ นจวน ทา่ นสงิ ห์ทอง ท่านหล้า หลวงพ่อบัว
หนองแซง อยา่ งนอ้ ยได้ ๑๐ องค์แลว้ ท่อี ัฐกิ ลายเปน็ พระธาตุ
อัฐิจะกลายเป็นพระธาตุนั้น ท่านก็มีต�ำราบอกไว้เรียบร้อยแล้ว คืออัฐิของผู้จะเป็น
พระธาตไุ ด้ คอื กระดกู เรานี่ อฐั ินีท่ จี่ ะกลายเป็นพระธาตุไดน้ น้ั เปน็ อฐั ขิ องพระอรหันต์เท่านั้น
ฟงั ซิ องค์อน่ื เปน็ ไมไ่ ด้ เทา่ นน้ั ฟังซิ ตดั ขาดไว้เลย”
วงกรรมฐานสายทา่ นพระอาจารย์มัน่ มีการตรวจสอบคณุ ธรรมกนั ครูบาอาจารย์เทศน์ดังน้ี
“หลวงป่มู ่ัน ทา่ นรจู้ รงิ เรอื่ งหลวงปูข่ าวได้อย่างไร ? ฉะนน้ั หลวงปู่ขาวกบั หลวงปู่มน่ั
ทา่ นคยุ กนั ทา่ นตอ้ งมีความรู้จรงิ แล้วท่านเจา้ คุณจูม ธรรมเจดยี ์ ทา่ นให้หลวงปขู่ าวคุยกบั
หลวงตา ให้หลวงปขู่ าวคุยกับหลวงปู่ฝ้ัน
คือเราจะบอกว่า ในวงกรรมฐานของเรามกี ารตรวจสอบกันไง ถา้ มีการตรวจสอบกัน ผ้ทู ี่
ตรวจสอบกนั แล้ว มันเป็นความจรงิ อนั เดยี วกนั มันจะออกนอกลู่นอกทางไปไดอ้ ยา่ งไร ? เราถงึ วา่
เรามคี วามมน่ั ใจตรงนไ้ี ง เรามีความมั่นใจว่า สังคมกรรมฐานเรา หลวงตาใช้คำ� ว่า “ครอบครัว
กรรมฐาน” ครอบครวั กรรมฐานเขาจะรกู้ ่อนว่าของใครมจี ริงหรอื ไม่จริง เพราะว่าเขาคยุ กนั ด้วย
สจั ธรรม คุยกนั ดว้ ยธรรมะในหวั ใจ เขาตรวจสอบกัน เขารูก้ นั
ฉะนน้ั สง่ิ ทว่ี า่ ครูบาอาจารย์ของเรานะ เวลาท่านฌาปนกจิ ออกมาเปน็ พระธาตุๆ หลวงตา
บอกพระธาตมุ ันเปน็ ปลายเหตุ ปลายเหตุ หมายถงึ ว่า จติ น้ีมันฟอกร่างกายนั้น พระอรหันตใ์ ชจ้ ิต
ฟอกร่างกายนัน้ จิตของพระอรหันตอ์ ยูใ่ นร่างกายนน้ั ด�ำรงธาตขุ นั ธม์ า มนั ฟอกมาตลอด เหน็ ไหม
เวลาไปเผาแลว้ ออกมาเป็นพระธาตุ มนั เปน็ เรอื่ งผล มันเป็นเร่ืองวตั ถุ แต่ความจริง ถา้ จิตมนั ไม่เปน็
พระอรหันต์ จิตมันไม่ฟอก มันจะเป็นอย่างนัน้ ไหม ? มันไม่เปน็ อย่างนั้นหรอก แต่เราก็ไปดวู า่
พระธาตุๆ พระธาตมุ นั เปน็ การยนื ยนั กันว่าใช่ แตก่ ว่าที่จะเป็นพระธาตุ ในวงครอบครัวกรรมฐาน
เขาจะร้กู ันแลว้ วา่ ใครเปน็ หรือใครไม่เป็น ใครเป็นได้มากไดน้ อ้ ยแค่ไหน ?
ฉะน้นั ส่ิงที่วา่ เราเดนิ ตามหลวงปู่ม่ัน คำ� ว่า เราเดินตามหลวงป่มู นั่ เพราะหลวงปมู่ น่ั มกี าร
ตรวจสอบกัน ไมใ่ ชว่ า่ ผ้ใู ดผหู้ น่ึงทำ� ไดอ้ งคเ์ ดยี ว ทำ� ได้เหมอื นกัน ตอนแรกท่านรับไมเ่ กนิ ๑๘ องค์
ท่ี ๑๐๐ กวา่ ไร่ ไม่เกิน ๑๘ องค์ แลว้ ทา่ นบอกเลยไม่รับ เพราะว่ามนั มีครบู าอาจารยอ์ ยโู่ ดยทัว่ ไป
ทนี ค้ี รบู าอาจารย์เป็นพระอรหนั ต์ทงั้ หมด เพราะอะไร ? เพราะว่าทา่ นตรวจสอบกนั เอง อยา่ งเช่น
383
หลวงตาทา่ นไดค้ ุยกับหลวงปู่ขาว โดยเจ้าคุณจูม ธรรมเจดีย์ หลวงตาท่านได้ปรกึ ษา ไดค้ ุยกบั
หลวงปู่ฝนั้ นีม่ ันรู้กันหมดวา่ ท่ไี หน สงั คมมนั มีแต่พระอรหันต์ท่มี น่ั ใจและไวใ้ จกันได้
หลวงตาทา่ นพดู บ่อย ท่านจะพูดถงึ หลวงปูฝ่ ้ัน ท่านบอก หลวงปูฝ่ ้ันนมุ่ นวลมาก ทา่ นเอง
นมุ่ นวลไมไ่ ด้อย่างหลวงปฝู่ ัน้ น่นี สิ ยั นสิ ยั ของขนั ธ์ หลวงตาจะชมหลวงปูฝ่ ้ันประจ�ำ ว่าหลวงปู่ฝ้ัน
ท่านจะนิม่ นวล พดู จา โอ๋ย ! ร่มเยน็ มาก น่นี สิ ัยของขนั ธ์ พระอรหนั ตเ์ หมือนกัน แตน่ ิสัย
ไม่เหมอื นกนั นสิ ยั ของขนั ธ์ แต่ธรรมพระอรหนั ตอ์ นั เดียวกนั แต่นสิ ัยของขันธ์ นิสัยของหลวงตา
ไปอีกอย่างหนง่ึ นสิ ยั ของครูบาอาจารยเ์ ราเป็นอกี อยา่ งหนงึ่ นสิ ัยของขันธแ์ กย้ าก แก้ยาก อันน้ีก็
เป็นอ�ำนาจวาสนาของผูท้ ส่ี ร้างมา”
ทีม่ าการสรา้ งเจดยี ์พพิ ิธภัณฑ์
องคห์ ลวงตาพระมหาบัว เทศน์ไว้ดังนี้
“นี่พูดถงึ เรอื่ งท่านอาจารยฝ์ ้นั มีหลายเรอ่ื งนะ ท่านเกยี่ วกับเรา รูส้ ึกวา่ ทา่ นเมตตาอย่มู าก
เหมอื นกันกับเรา แปลกอยู่ ทา่ นเมตตามากอย่เู หมอื นกนั อะไรๆ ถ้าเราเข้าไป โล่งไปเลย มอี ะไร
ขดั ขอ้ งๆ เก่ยี วกับเจดียท์ ่าน โถ ! ของง่ายเมื่อไร มีแตเ่ ขาโคง้ ๆ ใหญๆ่ มาชนกนั เราเปน็ กนั ชนล่ะซิ
ทนี พี้ ูดถงึ เรือ่ งเรมิ่ สรา้ งเจดยี น์ ี้ พอขึ้นปั๊บ ก็ขึน้ เราเลย เอาเปน็ หัวหน้า โอ๋ย ! ไม่เอา
เราแกแ่ ลว้ เราลำ� บากลำ� บนพอแล้ว ทำ� ของพอ่ แม่ครูจารยม์ า เราได้ทำ� ดว้ ยความสมคั รใจ อุตสา่ ห์
พยายามเพราะไม่ใหญ่โตนกั อันนีม้ นั ใหญ่โต ค�ำนวณถงึ ๑๒ ลา้ น ไม่เอา ไปหาองคใ์ หม่ ปัดเลย
เงียบไป ประชุมปรึกษาเอาองคน์ ้นั เปน็ หัวหนา้ เอาองคน์ ีเ้ ปน็ หัวหน้า เป็นองค์ไหนก็ทะเลาะกนั
อยนู่ ัน้ ๆ ทางประชมุ ประชุมเรื่อยนะ ประชมุ การท�ำเจดียน์ ี้ ประชุมก็ลม้ เหลวๆ มาเร่อื ย วาระ
สุดท้ายที่ท่านสวุ จั น์ไปนี่เรียกว่า สิน้ ท่าแล้ว เอาครูบาอาจารย์องคไ์ หน นับแตท่ า่ นสุวจั น์ ตลอดไป
เลยจนถงึ ทา่ นวัน องคไ์ หนตอ่ องค์ไหนหลายองค์นะที่จะเอามานี้ เถียงกนั ไมล่ งรอยกัน ต้งั แต่
ทา่ นสุวจั นก์ ย็ งั ถูกเถียง คงมอี บุ ายที่จะเอาเรานน่ั แหละทา่ องคน์ ้นั ก็ไม่เหมาะ องคน์ ้ีก็ไม่เหมาะ
ไปหาองค์ไหนก็ไม่เหมาะ คงจะเถียงกนั เพ่อื จะเอาตวั เราก็ไดน้ น่ี ะ มนั หาอบุ ายก็ไดค้ นเรา ใช่ไหม
ทำ� ทา่ ไม่ลงรอยกันเฉยๆ จะเอาเราให้ได้ ความหมายว่างน้ั
ทา่ นสุวัจน์ก็เปน็ หัวหน้าอยู่นน้ั หัวหนา้ ใหญ่ มันก็น่าจะขน้ึ ไดแ้ ล้ว นี้กลบั ไม่ลงกนั อกี แหละ
องค์น้นั ไม่ลง องคน์ ไ้ี มล่ ง ทางประชุม ประชมุ เรอื่ ย คร้งั สดุ ทา้ ยนีม้ าประชมุ ๕ คน ไม่ไดเ้ รอื่ ง
อะไรเลย ตกลงเลกิ ทำ� ยังไงกันอย่างน้ี มนั สดุ มนั สน้ิ แล้ว เอาละ่ นะ หมดแลว้ นะ ทนี ปี้ ระมวลแล้วก็
เหน็ แต่ทา่ นอาจารย์มหาบวั องคเ์ ดียว นี่น่ะ เพราะฉะน้นั เราถึงจบั ได้เลยว่า พวกนมี้ นั จบั กลุ่มกัน
มนั จะเอาเรา ประชุมองคไ์ หนกไ็ มล่ งๆ ทะเลาะกันตลอด คราวนกี้ ็ทางผู้วา่ ผกู้ ำ� กับ ทา่ นสวุ ัจน์
มาพรอ้ มกันหมดเลย ทางสกลนครมาหมด มาบอกแบบสดุ ๆ สิ้นๆ บอกหมดทกุ เหตุผล เราฟังแลว้
384
กเ็ ห็นใจ จะท�ำยงั ไง แตเ่ รอ่ื งที่เขารวมหวั กนั จะเอาเรา เรากพ็ อรู้ได้ แตย่ งั ไงมนั กผ็ า่ นมาแล้วๆ เราก็
คดิ อย่างนั้น นเี่ ขากม็ ามุ่งต่อเราทำ� ไง ตกลงเราก็เลยได้รบั ...
น่ีละ่ เร่อื งของทา่ นอาจารยฝ์ น้ั ท่านพดู ถึงเร่อื งใด โอย๊ ! น่าฟงั บรรดาครบู าอาจารย์น้ี
ท่านอาจารย์ฝั้นน่ีน่าเคารพ น่ารัก น่ากราบไหว้บูชาทกุ อย่าง เรารกั ทา่ นนะ ไมเ่ พียงแตค่ วาม
เคารพเลือ่ มใส ยงั รกั ท่านอีก โอย๊ ! หายากนะ”
ส�ำหรับ หลวงป่สู วุ ัจน์ สวุ โจ ท่านถงึ ที่สุดแห่งธรรม ในระหวา่ งปี พ.ศ. ๒๕๑๕ – ๒๕๒๔ ที่
วดั ถ้�ำศรีแก้ว ตำ� บลสรา้ งคอ้ อำ� เภอกดุ บาก จงั หวดั สกลนคร ดว้ ยอิรยิ าบถเดนิ ขณะเดนิ กลับกฏุ ิ
ท่านเลา่ ว่า “ค�ำเทศน์ของหลวงป่ฝู ้ันและหลวงตามหาบวั เปน็ หวั ใจอนั ส�ำคัญทีน่ �ำทา่ นไปสู่
อดุ มธรรม” และทา่ นได้รับการยกย่องจากองค์หลวงตาพระมหาบัว ว่าเปน็ “เพชรน�้ำหนึง่ ”
ท่านไดถ้ วายการดแู ลอปุ ฏั ฐากหลวงปฝู่ ้ันอยา่ งใกลช้ ิด จวบจนหลวงปฝู่ ้นั มรณภาพ เมอื่ วนั ที่ ๔
มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๐ และมีงานพระราชทานเพลงิ ศพหลวงปูฝ่ ้นั เม่อื วันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ.
๒๕๒๑ หลวงปสู่ วุ ัจนท์ ่านกส็ นองงานใหญน่ ้ีจนส�ำเร็จลุลว่ ง
การสร้างเจดยี ์พิพธิ ภณั ฑ์พระอาจารย์ฝนั้ อาจาโร เพื่อให้ส�ำเรจ็ ลุลว่ ง หลวงปสู่ ุวจั น์ท่าน
กราบนิมนตอ์ งค์หลวงตาพระมหาบัวมาเปน็ องค์ประธานกรรมการ นอกจากนี้ท่านยงั ได้เรยี บเรียง
อาจารมหาเถระประวตั ิ ลงในหนังสอื อาจาราภวิ าท ซ่ึงเป็นหนงั สือทรี่ ะลึกแจกในงานบรรจอุ ฐั แิ ละ
เปดิ เจดยี ์พิพิธภัณฑ์ ทท่ี างวดั จดั ขึ้นเมอ่ื วนั ท่ี ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๕ นบั ได้ว่า หลวงปู่สุวจั น์
ทา่ นได้ท�ำการสนองคณุ ครูบาอาจารยท์ ที่ า่ นเคารพสกั การะไดอ้ ยา่ งเรยี บร้อย สมบรู ณ์ และงดงาม
อย่างยิ่ง สมกบั เปน็ ศิษยต์ ้น หรอื มอื ขวา ของหลวงปู่ฝนั้
เจดีย์พิพิธภณั ฑ์หลวงปฝู่ ั้น
เจดียพ์ ิพธิ ภัณฑห์ ลวงปฝู่ ้นั อาจาโร สรา้ งข้นึ ตามหลกั “ถูปารหบคุ คล” พระอรหนั ต์
ควรค่าแก่การก่อการสร้างเจดีย์ สร้างบริเวณที่พระราชทานเพลิงศพของหลวงปู่ฝั้น ซ่ึงตั้งอยู่ใน
สวนปา่ ภายในวดั ป่าอุดมสมพร โดยเรมิ่ ก่อสรา้ งเมอ่ื ปลายปี พ.ศ. ๒๕๒๓ ในงานวางศลิ ามงคล
เจดยี พ์ ิพธิ ภณั ฑ์หลวงปฝู่ ้ัน เมอื่ วันท่ี ๒๒ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๒๓ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัว
พรอ้ มด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ สมเดจ็ พระเทพรตั นราชสุดาฯ เสด็จพระราช–
ด�ำเนินทรงวางศิลามงคล
เจดยี ์พพิ ธิ ภัณฑส์ ร้างแลว้ เสร็จในปี พ.ศ. ๒๕๒๕ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั พร้อมดว้ ย
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชด�ำเนินทรงบรรจุอัฐิและทรงเปิดเจดีย์
พิพิธภณั ฑพ์ ระอาจารยฝ์ ัน้ อาจาโร ท่จี ัดขน้ึ เมอ่ื วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๕
385
เจดยี ์พพิ ธิ ภัณฑ์แหง่ น้ีมีความสงู ๒๗.๙ เมตร มีลกั ษณะเปน็ เจดียป์ ลายแหลม ฐานกลม
ขึน้ รูปดว้ ยกลีบบัวหุ้มฐาน ๓ ช้นั คลา้ ยคลึงกบั อาคารทีม่ ีความสูงประมาณ ๕ ช้ัน ลักษณะเด่นของ
อาคาร คอื ฐานดา้ นลา่ งและชน้ั ตา่ งๆ ขององค์เจดีย์ ออกแบบคลา้ ยกลีบบวั คว�่ำหันออกด้านนอก
ประดับรอบอาคาร ภายในกลีบบัวของฐานดา้ นลา่ งเป็นภาพดินเผา แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวตั ิ
หลวงปูฝ่ ัน้ จำ� นวน ๕๖ ภาพ โดยภาพลำ� ดบั ชีวประวตั ใิ นลกั ษณะเวยี นตามเขม็ นาฬกิ า
ภายในเจดีย์พิพิธภัณฑ์ มีตู้จัดแสดงติดต้ังกับผนังรายล้อมรูปปั้นหลวงปู่ฝั้นในอิริยาบถนั่ง
ถือไม้เท้าขนาดเท่าองค์จริง ในตู้จัดแสดงประวัติหลวงปู่ฝั้นและประวัติการสร้างเจดีย์พิพิธภัณฑ์
หนังสือธรรมะ เคร่อื งอฐั บริขาร เครอ่ื งธดุ งค์ เครอ่ื งใชอ้ น่ื ๆ และเครือ่ งใช้ในขณะอาพาธของทา่ น
ซึ่งเป็นไปตามทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว รัชกาลท่ี ๙ มีพระราชประสงค์ “ใหเ้ ครือ่ งอัฐบรขิ าร
พระอาจารยฝ์ น้ั รวมอยทู่ เี่ ดยี วจะเปน็ เรอ่ื งอนั ด”ี นอกจากนภ้ี ายในตหู้ นา้ รปู หลอ่ เหมอื นหลวงปฝู่ น้ั
ยังแสดงอัฐิซ่ึงแปรสภาพเป็นพระธาตุให้พุทธบริษัทได้กราบสักการบูชา ส�ำหรับทางเข้าด้านหน้า
ปกู ระเบ้อื งทอดยาวจากสะพานท่ีทอดผ่านบ่อขดุ จนถึงเจดีย์พพิ ธิ ภณั ฑ์
พระมหากรณุ าธิคณุ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู วั ภูมพิ ลอดลุ ยเดช และ สมเดจ็ พระนางเจ้าสริ ิกติ ิ์ พระบรม–
ราชินีนาถ ทรงตรากตร�ำพระวรกายบ�ำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ เพื่อประโยชน์สุขของ
อาณาประชาราษฎร์ท่ัวทั้งแผน่ ดินไทยอันกวา้ งใหญ่ อยา่ งทรงไมเ่ ห็นแกเ่ หน็ดเหนอื่ ย
เมื่อคร้ังทรงงานอยู่ทางภาคอีสาน นับตั้งแต่ได้กราบนมัสการพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
ในครงั้ แรก เมอื่ ทรงฟังธรรม สนทนาธรรมกับพระอาจารยฝ์ ้นั แล้ว ท�ำใหล้ น้ เกล้าฯ ทง้ั สองพระองค์
เกิดความเคารพเล่ือมใสศรัทธาในธรรมะ และในปฏิปทาพระธุดงคกรรมฐานของพระอาจารย์ฝั้น
เป็นอันมาก ท้ังทรงสนพระทัยในการปฏิบัติธรรมกรรมฐาน จากน้ันทรงแสดงพระราชศรัทธา
ปสาทคุณต่อพระอาจารย์ฝั้นด้วยประการต่างๆ ตามโอกาสและวาระ ดังเช่น เสด็จทรงกราบ
นมัสการเย่ียม สนทนาและฟังธรรมท่ีวัดป่าอุดมสมพร วัดบวรนิเวศวิหาร ทรงกราบอาราธนา–
นิมนต์พระอาจารย์ฝั้นเข้าพระราชวังเพ่ือถวายธรรมะ เสด็จถวายกฐินพระราชทานที่วัดป่าอุดม–
สมพรดว้ ยพระองคเ์ อง
เมือ่ คราวพระอาจารยฝ์ ้ันอาพาธหนักคร้ังสดุ ทา้ ย ทรงเปน็ หว่ งเป็นใยในอาการ และทรง
พระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ตั้งแต่ต้น จวบจนถึงวันมรณภาพ
ทรงพระราชอุตสาหะเสด็จพระราชทานอาบน้�ำศพถึงท่ีวัด ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ บ�ำเพ็ญ
พระราชกุศล ๗ วัน พระราชทานหบี ทองทึบประกอบศพ พรอ้ มพวงมาลาวางหน้าหบี ศพ และ
พระราชทานเกียรติเป็นพิเศษหลายประการ โปรดเกล้าฯ ให้งดใช้พระราชประเพณีที่ห้ามผู้อ่ืน
386
อาบน�้ำศพหลังจากรับพระราชทานน้�ำหลวงแล้ว เพ่ือให้ผู้ที่ไปถึงทีหลังมีโอกาสถวายคารวะและ
สรงน�้ำศพพระอาจารย์ฝั้นเป็นคร้ังสุดท้าย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด
สกลนคร รับผิดชอบการจัดงานศพโดยตลอด ทั้งยังเสด็จพระราชทานเพลิงศพ โดยมิได้ทรง
ปรารมภ์ถึงความยากแค้นกันดารของสถานท่ี อีกทั้งพระราชทานค�ำแนะน�ำในการรวบรวบอัฐิ
ท่านพระอาจารย์ไว้ในท่ีเดียวกัน ตลอดการเสด็จเปิดโรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร อย่าง
เป็นทางการ และเสดจ็ เปิดเจดีย์พิพธิ ภณั ฑพ์ ระอาจารยฝ์ ัน้ อาจาโร
พระมหากรณุ าธคิ ุณของทงั้ สองพระองคท์ แี่ สดงต่อพระอาจารย์ฝัน้ ผู้เป็นพระอาจารย์น้นั
มมี ากมายสดุ ท่ีจะคณนา บรรดาศิษยานศุ ิษย์ ตลอดเครอื ญาติของพระอาจารย์ฝ้ัน ต่างจงึ มีความ
ส�ำนึกและซาบซ้งึ ในพระมหากรณุ าธิคณุ ท่สี ดุ เปน็ ลน้ พน้ สุดท่จี ะพรรณนา จะขอจดจ�ำไว้ในใจตราบ
นจิ นริ นั ดร และจะขอด�ำเนนิ ตาม ประพฤตติ ามรอยแหง่ พระบาทของทงั้ สองพระองคท์ ท่ี รงอปุ ถมั ภ์
อปุ ฏั ฐากครูบาอาจารยอ์ ยา่ งดีเลศิ ทีท่ รงเข้าวัดปฏิบัติธรรมตามนัยแหง่ พระอาจารยฝ์ ้ัน ทที่ รงคอย
ค�้ำจุนอุปถัมภ์และทรงเป็นหลักชัยส�ำคัญของพระพุทธศาสนา จนประเทศชาติและปวงพสกนิกร
ชาวไทยอบอนุ่ ร่มเย็นผาสกุ ภายใตร้ ม่ เงาแหง่ ธรรมในบวรพระพทุ ธศาสนา ด้วยเกลา้ ดว้ ยกระหม่อม
ขอเดชะ
387
ภาค ๒๑ ครบู าอาจารย์
องค์หลวงตาพระมหาบวั าณสมฺปนฺโน เทศนถ์ งึ หลวงปู่ฝั้น
• วดั อย่ภู ายในใจ (๗ ธ.ค. ๒๕๑๘)
ขอให้พากันน�ำธรรมน้ีไปปฏิบัติรักษาตน อยู่สถานท่ีใด ไปสถานท่ีใด จงทราบเสมอว่า
ความผดิ ถกู ชัว่ ดี นั้นอยกู่ ับเรา การละวางในส่ิงท่ีควรละวาง และการสง่ เสริมส่งิ ท่ีควรสง่ เสรมิ
กอ็ ยู่ท่ตี วั ของเรา ไปไหนให้มีวัด อย่าใหป้ ราศจากวดั อยา่ งท่านอาจารย์ฝ้ันท่านเคยว่า “วัดท่ีน่นั
วดั ท่นี ี่ วัดอยภู่ ายในใจ” ท่านพดู ถูก ให้มีวดั อยู่ภายในจติ ใจเสมอ คือ “วตั รปฏิบตั ”ิ มีสติ ปัญญา
ศรัทธา ความเพียร ใคร่ครวญดูเหตุดูผลอยู่เสมอ เวลานัง่ รถไปกภ็ าวนาไปเรอ่ื ยๆ ใครจะวา่ บา้ ว่าบอ
กต็ าม ข้อส�ำคญั ผ้รู ับผดิ ชอบเราน้คี ือ เราเอง อย่าเปน็ บ้าไปกบั เขาก็แลว้ กัน ถ้าเราไมเ่ ป็นบา้ เสีย
อย่างเดียว คนเป็นรอ้ ยๆ คนจะมาตเิ ตียน หรอื กล่าวตู่ว่า เราเปน็ บ้าเป็นบอ คนรอ้ ยๆ คนน้ันนะ่
มันเป็นบา้ กนั ท้งั น้นั แหละ เราไม่เป็นบา้ เสียคนเดียวเรากส็ บาย
• หลักใหญ่วงกรรมฐาน (๒๐ พ.ค. ๒๕๒๘)
ไดพ้ ูดถงึ เร่อื งหมู่เพื่อน กห็ วังท่านสงิ หท์ ององค์หน่ึงท่ีจะเป็นผูน้ �ำของหม่คู ณะ การแนะน�ำ
สง่ั สอนจะถกู ต้องแมน่ ยำ� ในการประพฤติปฏบิ ัติ และข้อวัตรปฏบิ ัตขิ องท่านก็เก่งด้วยนะ ท่านก็ดี
น่ียังจะมีท่ีไหนเวลาน้ี ผู้ท่ีอยู่นั่นก็แก่เฒ่าไปเสียมากๆ อย่างนี้เอาหลักเอาเกณฑ์ไม่ได้นี่ จะพึ่ง
หลวงปู่ค�ำดีก็ไปเสียแล้ว แน่ะ ท่านก็แก่อยู่แล้ว หลวงปู่ขาวก็ไปเสีย น่ันเป็นหลักใหญ่ท่ีสุดล่ะ
หลวงปฝู่ ้ันกไ็ ปเสีย นีล่ ะ่ หลักใหญ่จรงิ ๆ
ท่านเหล่านี้สอนไม่ผิด สอนธรรมปฏิบัติต้ังแต่ต้นจนสุดยอด หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ค�ำดี
หลวงปู่ขาว สอนไมผ่ ดิ ถกู ต้องร้อยเปอรเ์ ซ็นตๆ์ นี่ทา่ นก็ไปเสียจะท�ำไง อย่างหลวงปแู่ หวนเวลานี้
ใช้งานอะไรไมไ่ ดแ้ ลว้ เครอ่ื งมอื ทา่ น คือ ขนั ธข์ องท่าน กม็ แี ตน่ อนสูดลมหายใจเทา่ นัน้ จะพึ่งท่าน
ด้วยอุบายนั้น อุบายนี้ เหมือนแต่ก่อน ก็พ่ึงไม่ได้แล้วเวลาน้ีจะท�ำไง หมู่เพื่อนจึงควรตั้งอกต้ังใจ
อย่าต่ืนเต้นกับโลกกับสงสาร มีเรื่องเกิดกับตายเท่านั้นล่ะ ไม่มีอะไรมากยิ่งกว่าน้ี ให้ดูเอาเถอะ
เจรญิ มาเทา่ ไรกเ็ จรญิ เถอะ
• ทพี่ ึ่งเป็นพึ่งตาย (๑๙ ก.ค. ๒๕๒๘)
ครอู าจารยท์ เี่ ปน็ ทเี่ คารพนับถือ ฝากเปน็ ฝากตายในอรรถในธรรมไดอ้ ยา่ งแทจ้ ริงกร็ ว่ งโรย
ไปๆ ดงั ท่ที ราบทร่ี ู้กนั อยู่ ซง่ึ ลว้ นแต่เป็นองคส์ �ำคัญๆ ในระยะ ๓ – ๔ ปี ๕ ปีมานี้ มีแต่ปที ีร่ ว่ งโรย
แห่งธรรมชาตทิ อี่ ศั จรรย์ คอื ครูคืออาจารย์ทรี่ ้จู รงิ เหน็ จริงตามหลกั ธรรมดงั พระพุทธเจา้ ทรงสอนไว้
388
และแบบเดียวกันกับพระสาวกท้ังหลายแต่คร้ังพุทธกาล คือท่านผู้ที่รู้จริงเห็นจริงจริงๆ อย่าง
หลวงปฝู่ น้ั หลวงปู่ขาว หลวงปู่ค�ำดี หลวงปู่แหวน เหลา่ นล้ี ว้ นแล้วแตเ่ พชรน้�ำหนึง่ ๆ ทั้งนน้ั
ถ้าครั้งพุทธกาล กเ็ รยี กอยา่ งธรรมดาๆ สบายๆ ตามความร้คู วามเหน็ ของคนทีม่ คี วาม
หนกั แนน่ ในธรรมอยแู่ ลว้ ไดย้ นิ ไดฟ้ งั กไ็ มแ่ สลงใจเหมอื นคนทมี่ แี ตก่ เิ ลสเตม็ หวั ใจ วา่ พระอรหนั ต์ นนั่
ทกุ วนั นพ้ี ูดอยา่ งน้นั ไม่ได้ ขา้ ศกึ ของศาสนธรรมหรือของธรรมนี้มมี าก แม้แต่ผูป้ ระพฤติปฏบิ ตั ธิ รรม
เสียเอง และในวงผู้นับถือพุทธศาสนาเสียเอง ก็เป็นข้าศึกต่อค�ำพูดนี้ได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้น
ท่ีพระพุทธเจ้าทรงบัญญัติเรื่องอุตริมนุสธรรมไว้นั้น จึงเป็นความชอบธรรมอย่างย่ิง สมกบั พระองค์
เป็นจอมศาสดา ทรงทราบเร่อื งอดตี อนาคตไดเ้ ปน็ อยา่ งดี
ครูอาจารยท์ ี่ล่วงไปเหลา่ นี้ ลว้ นแล้วแตเ่ ปน็ ผทู้ รงอรรถทรงธรรมทางภาคปฏิบตั ิ เปน็ ผไู้ ด้
เสวยผลแห่งการปฏิบัติของตนอย่างแท้จริง ดังพระพุทธเจ้าและสาวกท้ังหลายท่านเป็นมา ไม่ได้
ทรงไวแ้ ตเ่ พยี งความจดความจ�ำช่ือเสยี งของกเิ ลสตัณหาอาสวะของอรรถ ของธรรม ของมรรคผล
นิพพานเท่าน้ัน แตซ่ าบซึง้ ถึงจิตถงึ ใจ สงิ่ ทค่ี วรถอดถอน ถอดถอนออกได้โดยส้นิ เชิง สง่ิ ท่คี วร
บ�ำเพ็ญก็บ�ำเพญ็ ได้สมบรู ณบ์ ริบูรณ์เต็มที่ เชน่ อรหตั บคุ คล องค์ท่านเป็นพระอรหันตไ์ ดโ้ ดยสมบูรณ์
ครูบาอาจารยท์ ง้ั หลายท่านรู้ทา่ นเหน็ ไดอ้ ย่างนัน้ จริงๆ
เพราะฉะน้ัน การแนะน�ำสั่งสอนบรรดาลูกศิษย์ ท่านจึงไม่สะทกสะท้าน ท่านจึงไม่มี
ข้อเคลือบแคลงสงสัยอันเป็นความไม่แน่ใจในตนแม้นิดหนึ่ง แต่ท่านจะสั่งสอนด้วยความเมตตา
สงสารล้วนๆ ซ่งึ เปน็ หลกั ใหญ่ของใจ ไมม่ วี ิตกวจิ ารณก์ ลัวจะส่งั สอนบรรดาลกู ศิษย์ลูกหาท้ังหลาย
ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย เพราะความรู้ไม่เพียงพอ อย่างนี้ไม่มีในท่านผู้ทรงอรรถทรงธรรมสมบูรณ์
บรบิ ูรณ์เต็มท่ีแลว้ ดงั ครูบาอาจารย์ทง้ั หลายทีไ่ ด้ยกมาเมื่อสักครนู่ ี้เป็นส�ำคญั
• ทา่ นมหาบวั ดุเหรอ (๓ ก.พ. ๒๕๔๘)
วัดป่าบ้านตาดน้ีแต่ก่อนเด็ดเด่ียว เด็ดขาดทุกอย่าง เคลื่อนไปไม่ได้เลย ดุอยากให้ดีซี
ตบนัน้ ตนี ้เี รื่อยเลย เสยี งก็ล่นั ไปท่ัวประเทศไทย เขาบอกว่า อยู๋ ! หลวงตาบัวนีด้ มุ าก ไม่อยากไป
เขาไม่อยากไปวดั ป่าบา้ นตาด เขาว่าหลวงตาบวั ดุมากๆ เฉพาะอย่างยง่ิ ยน่ เอาใกล้ๆ นีแ่ หละ หมู
ภรรยาของคุณชายปั๋ม เขาไปหาท่านอาจารย์ฝั้น เขาไม่ค่อยมาหาน่ี เรานี้ก็ไม่เคยสนใจกับใคร
มีแตเ่ คร่งครัดในการปฏิบตั ธิ รรมวินัยกบั พระ เพราะไม่คอ่ ยมีแขกคน มีแตพ่ ระทงั้ น้นั การปฏิบตั ิ
ทกุ สิ่งทกุ อยา่ งเข้มงวดกวดขนั เสยี งมนั ลั่นไปวา่ หลวงตาบวั นด้ี ุ
พอดีหมูไปวัดอุดมสมพร ท่านอาจารย์ฝั้นท่านเลยถาม น่ีเห็นมาแต่วัดอุดมสมพรบ่อยๆ
แลว้ วัดปา่ บ้านตาด ท่านมหาบัว ไดไ้ ปไหม ท่านดุ วา่ งั้นนะ ทา่ นดุ เลยไม่กล้าไป เหอๆ ข้นึ เลย
ท่านเอาใหญ่นะ ท่านไม่เคยใช้กิริยาอย่างนั้น รู้สึกจะกระเทือนใจท่านอยู่นะ เพราะนิสัยท่าน
389
นมุ่ ตลอด แตว่ ันน้นั ทา่ นข้ึน หือๆ ขน้ึ เลยทีเดียว ท่านมหาบัวดุเหรอๆ ไปนะๆ จเี้ ข้าเลย หือ ! ทำ� ไม
เปน็ อย่างนี้ ไปนะ จี้ตลอด หลงั จากน้ันก็พอดที ่านอาจารยฝ์ น้ั ทา่ นลว่ งในระยะนน้ั จากนั้นแกกม็ า
ที่นี่ ท่านอาจารย์ฝั้นท่านพูดหลายแง่หลายมุมนะเกี่ยวกับเรื่องท่ีดุหมูคราวน้ัน ท่านสรุปมา หือ !
ท่านมหาบัวดเุ หรอๆ หาได้ไหมคนดแุ บบนี้ พระดุแบบน้ีหาไดไ้ หมๆ ไปนะ อู๊ย ! เอาใหญเ่ ลย
โอย๊ ! ท�ำไมมาพูดอยา่ งนี้ เหมอื นกบั ว่าสะดุดใจทา่ นมากว่าเราดุ ท่านถึงเอาใหญ่ ไปนะ ไม่ไปไม่ได้
หลวงปสู่ วุ ัจน์ สวุ โจ เทศน์ถงึ หลวงป่ฝู ั้น
• ครบู าอาจารยผ์ ูป้ ระพฤตปิ ฏิบตั มิ ีอายุยืน
เมอื่ เป็นเชน่ น้ีแลว้ เราก็รูอ้ ยแู่ ล้วอนั นม้ี นั กเ็ ป็นธรรมดา ถา้ กำ� ลังสติ กำ� ลงั เพียรของเราดี
ชนะส่ิงเหลา่ นน้ั ไดข้ าด จติ มนั ไปเกีย่ วข้องในขากบั สัมผัสทีเ่ ราน่ัง มนั รูส้ กึ พอนั่งไปสกั หน่อย ผทู้ ีห่ ัด
ใหมๆ่ ท่จี ะอย่ไู ด้นาน จติ คอ่ ยเคลิ้ม ค่อยสงบวิเวก อนั ท่ีปวดนนั้ กลายเปน็ ชา ออกจากหลงั จาก
ชาแลว้ มนั ก็เบาๆๆ มนั คลายแล้วก็มนั หาย เหมอื นกบั เราน่ังไม่ติด เพราะตัวของเราเบา เลือดลม
มันก็เดินได้ คนมีสมาธิ คนมีกายเบา คนมีจิตเบา เพราะฉะน้ันความดันเลือดสามารถดันได้
หมนุ เวียนเล้ียงหัวใจไปตามลำ� ดบั ไมข่ ัดข้อง ไม่เหน็ อาจารยอ์ งค์ไหนน่ังสมาธินานๆ แล้วกเ็ ลอื ด
หมุนเวียนไมไ่ ด้ ไปเล้ยี งหัวใจไมไ่ ด้ เป็นโรคหัวใจฉิบหายวายป่วงตายไปหมด ไม่เห็นมี
ครูบาอาจารย์ผู้ประพฤติปฏิบัติ ที่ยังมีอายุยืน บางองค์ก็มีอายุยืนกว่าบางคนด้วยซ�้ำไป
เหมอื นกบั หลวงปแู่ หวนกบั ... ทา่ นกน็ ง่ั ภาวนาอยใู่ นปา่ ในเขาทรมานอดทน หลวงปขู่ าว หลวงปฝู่ น้ั
หลวงปู่เทสก์ ดูอ่านประวัติแต่ละองค์ๆ ไม่เห็นท่านมีโรคมีภัย อายุส้ันพาลตาย เพราะโรคภัย
เหลา่ น้นั กวา่ คนธรรมดาท่ีเขาทะนุบำ� รุง ท่เี ขากลัวกัน ท่านเช่อื กรรม เชือ่ ผลของกรรม
ถ้ากรรมและผลของกรรมที่เรากระท�ำไว้ในอดีตอ�ำนวยผลมาในปัจจุบัน ประกอบปัจจุบัน
ด้วย ถึงคราวแล้วจะเกิดเป็นลูกเศรษฐีท่ีมั่งคั่งสมบูรณ์บริบูรณ์เท่าไหร่ก็ตาม แม้จะเป็นหมอเอง
เถอะ บางคนกอ็ ายุสนั้
• การท�ำสมาธิก�ำหนดกายเหมอื นกบั เสาหนิ
ความต้งั ม่ัน ถา้ หากว่าเราบรกิ รรมพุทโธ หรอื กไ็ ม่พทุ โธมันก็ ไม่หานิมติ จิตตง้ั ไมไ่ ด้ ทกุ ลม
หายใจเข้าออก มันกเ็ ข้าออกๆ มันต้งั ไม่ได้ เพราะฉะนัน้ เราต้องตั้งสติก�ำหนดกายของเราทง้ั หมด
คล้ายกับวา่ แบบหลวงปู่ฝั้นท่านวา่ เปรียบเหมือนหินยาว เสาหนิ ยาวสศ่ี อก ฝังแตส่ องศอก
ยังเหลือสองศอก ลมมาจากทิศไหนๆ กไ็ มส่ ะเทือน จะแรงขนาดไหนก็ไมส่ ะเทอื นไมห่ วัน่ ไหว
ทีนีถ้ า้ เราต้องการจติ ตัง้ ม่ัน เราก�ำหนดกาย กายมันไมไ่ ด้คิด ให้นง่ั มนั ก็น่งั อยู่ มันไมค่ ดิ อะไร
แลว้ ก�ำหนดกายเหมอื นกับเสาหนิ จติ ของเราก็เหมือนกับอยู่ในเสาหนิ แล้วสติก็กำ� หนดรกั ษาใหม้ ่ัน
390
อยใู่ นท่ีนั่น เพอ่ื ใหไ้ ด้นมิ ติ ก่อน นมิ ิตกต็ ้ังใหม้ ันม่นั คือ สมาธินแี่ รกๆ นต่ี ้องอาศัยนมิ ติ อาศยั ภาพ
แตภ่ าพมันเป็นธรรม มนั เป็นกศุ ลธรรม เป็นเครือ่ งหมาย เพราะฉะน้ันบางแหง่ จงึ ต้งั กสณิ สขี าวบา้ ง
เอาปฐวีกสิณบา้ ง เปน็ นำ้� บ้าง เอาไฟบ้าง เอาสตี า่ งๆ บา้ ง เพ่อื ให้ไดน้ ิมติ ได้ภาพ ให้มันนิง่
ส่งิ เหลา่ น้ันลว้ นแต่มันเปน็ ภาพ เป็นนิมิตได้
• อุบายการสอน หลวงปสู่ วุ จั น์ทา่ นถือคติหลวงป่ฝู ัน้
พระอาจารย์ทา่ นหนงึ่ ซ่งึ เป็นลูกศษิ ยข์ องหลวงปสู่ ุวัจน์ เล่าถึงอบุ ายการสอนของหลวงปใู่ ห้
ฟงั ว่า เวลาหลวงปู่ฝกึ มนั ประทบั ใจ จำ� ไม่ลืมนะ ทา่ นถอื คตหิ ลวงปู่ฝน้ั ที่วา่ “เห็นดกี ใ็ ห้พาท�ำ”
หลวงปู่สุวัจน์ ท่านไมพ่ ูดมาก แต่เอาการกระท�ำมาสอนเรา ใหเ้ ราคิดเอา ฝึกใช้ปัญญา
เราเอง ทำ� ให้เราจ�ำไม่ลมื ทา่ นฝึกเราให้มคี วามละเอยี ดลออ หลวงปทู่ า่ นลำ้� ลกึ ท่านค่อยๆ สอน
เพื่อให้เราค่อยๆ รู้ เพราะถ้าบอกเร็ว เราจะไม่รับ ท่านจึงต้องใช้กุศโลบายล่อให้ตกหลุมพราง
นกั ปราชญท์ ่านมีกุศโลบายอยา่ งน้ี เพราะตรงเกินไปก็ไม่ได้ ทา่ นฉลาดและนุ่มนวล เช่นอย่างว่า
เราไปท�ำอะไรผิดมา ท่านวา่ “ทุกขจ์ ากการท�ำผิดมนั ก็มากพอแรงอยู่แลว้ จะไปซำ�้ เติมอะไร
มันอีก” ค�ำพดู นท้ี ำ� ให้เราซึง้ ใจมาก เราจึงกลา้ เข้าหน้าทา่ น
หลวงปูจ่ ันทา ถาวโร โปรดเปรต ๓ ตน
“ทา่ นอาจารย์ (หลวงปู่จันทา) พวกดฉิ ันพ้นบาปกรรมจากกำ� เนดิ เปน็ เปรตแล้ว เพราะวา่
ท่านมาโปรด หนอนเจาะของลบั น้ันตายหมดแลว้ เพราะอ�ำนาจของพระไตรสรณคมน์ และ ศีล ๕
สังหารลา้ งบาปเคราะห์เขญ็ เวรรา้ ยไดห้ มด และอ�ำนาจทีไ่ ปอนโุ มทนากุศลกับญาติท้งั หลายทอ่ี ุทิศ
ให้ และท่านอาจารย์อุทิศให้ นัน่ แหละ กพ็ น้ ทกุ ข์ จากกำ� เนิดเปน็ เปรตได้ รวมทัง้ ทีพ่ วกข้าพเจา้
ทงั้ หลายได้นอ้ มเอาพระไตรสรณคมน์และศีล ๕ ไหวพ้ ระสวดมนต์ ภาวนาเดนิ จงกรม อยา่ งทที่ ่าน
สอนนั่นแหละ บาปทั้งหลายก็หมดไปสิ้นไป ไม่เหลือเศษอยู่ได้ เมื่อก่อนนี้ก็มีพระมาจ�ำพรรษา
อยู่ทน่ี เ่ี ปน็ รอ้ ยๆ กไ็ มม่ ใี ครโปรดได้ ไปหาแลว้ กเ็ ฉย ผลสดุ ทา้ ยเขยา่ ตน้ ไม้ถาม ก็วิง่ หนขี นึ้ กฏุ ไิ ปเลย
บางทกี ็หนั กลับมาด่าวา่ และขว้างปาใส่อีก แตส่ �ำหรับท่านอาจารยม์ าหาแล้ว กค็ ยุ กนั รูเ้ รือ่ งและ
โปรดสงเคราะห์ช่วยเหลอื ได้ ตอ่ แตน่ ี้ไป พวกดฉิ ันทั้ง ๓ จะขอลาไปเกดิ ยังเมืองมนุษย์”
อาตมาจงึ วา่ “พวกพระเหล่านั้นเขาไม่ใช่ญาติของโยม และก็ไมเ่ คยมีอปุ การคณุ ตอ่ กนั มา
อกี ทง้ั จติ ของเขาก็ไม่สงบลงสู่ภพเดยี วกนั มนั ก็ไม่เหน็ กันหรอก แต่อาตมากบั พวกท่านเป็นญาตกิ ัน
มาหลายภพหลายชาติแลว้ กรรมเกา่ จงึ บันดาลใหม้ าโปรดนะ และถ้าจะไปเกดิ ยงั เมอื งมนษุ ย์ ก็
ขอใหไ้ ปเกดิ ที่ จ.สกลนคร โน่น เพราะมีพระกรรมฐานมาก มี หลวงปฝู่ ั้น อาจาโร หลวงป่กู งมา
จริ ปุญโฺ และอีกหลายองค์ หรอื ไมก่ ็ไปท่ี จ.อดุ รธานี กม็ พี ระกรรมฐานมากเช่นกัน ขอให้ภาวนา
391
พทุ โธ ธมั โม สังโฆ ไปนะ อย่าได้ประมาท อ�ำนาจของพทุ โธ ธัมโม สงั โฆ จะพาไปเกดิ ในตระกูล
ของนักปราชญ์ จะได้แนะน�ำพร�่ำสอนแต่ในทางที่ดี ไปเกิดเป็นมนุษย์แล้วขอให้เข็ดหลาบ และ
จดจ�ำผลของความชว่ั ชา้ ลามกที่ทำ� ใหม้ าเกดิ เปน็ เปรตนไ้ี วใ้ หด้ ี อย่าดอ้ื อย่าดา้ น อย่าลว่ งประเวณี
เล่นชู้นอกใจผัวอกี นะ”
เขาก็วา่ “เขด็ แล้ว กลัวแล้ว จะไม่ทำ� อกี ตอ่ ไป” จากนนั้ ก็กราบลาแล้วออกเดินทางไป
ท่านพระอาจารยส์ งบ มนสฺสนโฺ ต เทศนถ์ งึ หลวงปู่ฝนั้
• ของจริงมันมี (๒๓ ธ.ค. ๒๕๕๑)
หลวงปมู่ ัน่ เหาะในปา่ เหาะมาจาก... หลวงปู่แหวน กบั หลวงป่ขู าว เล่าไว้ หลวงปมู่ น่ั
อยู่ท่ถี ำ�้ เชยี งดาว แล้วให้หลวงปู่แหวนกบั หลวงปูข่ าวลงมาเอาน้�ำ สมยั กอ่ นโบราณเราใช้ไมก้ ระบอก
มาตักน�ำ้ ขนึ้ บนเขา หลวงปูม่ ัน่ ให้ลงมา พอลงมาปับ๊ หลวงปแู่ หวนหนั หน้าข้ึนไป หลวงปขู่ าวนะ่
หลวงปู่มั่นเหาะลงมาเลย
อันน้ีหลวงปู่ขาวเล่าให้ฟัง เล่าให้หลวงตาฟัง หลวงตาไม่เขียนลงในประวัติ เพราะว่า
ในประวัตหิ ลวงปูม่ ั่น เขยี นมากเกนิ ไปแล้ว คนเขาจะแบบวา่ ความเพ่อื จะใหเ้ ขาไดป้ ระโยชน์ เขาก็
อาจจะเป็นโทษกับเขาไง เยอะมากท่ีไม่เอามาลง แต่เพราะหลวงปู่ม่ันท่านสร้างบุญญาธิการมา
เยอะ แลว้ อยา่ งครูบาอาจารย์ อยา่ งเชน่ หลวงปู่ชอบอยา่ งน้ี หลวงป่ฝู ั้น ท่านทำ� ได้เยอะ ทำ� ได้
เยอะ แตพ่ วกน้ไี ม่เคยมาโอ้อวดเลย ท�ำเอาเอาไวเ้ พอ่ื ใหล้ ูกศษิ ยล์ ูกหาว่า “ของจริงมันมี”
• หลงตัวเองว่าเป็นพระอรหนั ต์ (๑๑ เม.ย. ๒๕๕๒)
นีพ่ ุทธะ พทุ ธะนยี้ งั ไมเ่ หน็ นะ ถ้าพทุ ธะเหน็ นะ ยกอีกแลว้ หลวงปบู่ วั หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่
ค�ำดี ติดได้อยา่ งไร พระอนาคา พระอนาคา พอเปน็ พระอนาคา ตัวเองเป็นพระอนาคา กห็ ลง
ตัวเองวา่ เปน็ พระอรหันต์ ตวั ธาตุรู้ พลงั งานมนั เปน็ ตัวมันเอง ยงั ไม่เห็นธาตุรู้ ยังไม่เห็น ถา้ เหน็
ไมต่ ดิ ตัวน้ตี วั จิตเดิมแท้ ตวั พลงั งานนะ ไมใ่ ช่ขันธ์ ไม่ใชค่ วามคดิ แล้วนะ เปน็ พลังงาน ไม่เจอ
ไม่เจอ พอไม่เจอ หลวงตาทา่ นไปแก้ เห็นไหม
เพราะหลวงตาท่านไปแก้ หลวงปู่ฝน้ั นะ “พุทโธสว่างไสว พทุ โธผอ่ งใส นัน้ นะ่ มนั คอื ตวั
อวิชชา” ความผอ่ งใสนะ ความผ่องใส พลงั งานเห็นไหม ตัวพลงั งาน คอื ตวั อวิชชา แลว้ ตัวอวชิ ชา
ถ้ามันจะรู้ ดูสิ เวลาหลวงปูบ่ ัว หลวงตาทา่ นไปแก้หลวงปู่บัว บอกวา่ “ให้วา่ มา วา่ มาทีละขนั้ ๆ วา่
ต่อไปซิ” “จบแล้ว” แล้วเราเข้าใจ “จบแล้ว” เห็นไหม ท่านต้องถามอีกนะ ทุกคนก็ว่าเป็น
พระอรหนั ต์
392
• การภาวนาเป็นงานละเอยี ด (๔ พ.ค. ๒๕๕๒)
การประพฤติปฏิบตั ิ หรอื การภาวนานี้คือ เราจะมาช�ำระลา้ งใหม้ นั สะอาด ถ้าไม่มีศรัทธา
ไม่มีความเชือ่ ไมม่ ีความม่นั คง โธ่ ! อยา่ งเชน่ ถา้ เราทำ� งานกนั พออาบเหงอ่ื ต่างนำ้� นี้เราก็ทุกขแ์ ล้ว
แลว้ เวลานั่ง เห็นไหม หลวงปฝู่ ้ันทา่ นพดู เองวา่ “งานทส่ี บายๆ คอื หายใจเข้าและหายใจออกก็
พุทโธๆ” เวลาอาบเหงอ่ื ตา่ งน�้ำกบ็ อกวา่ ลำ� บาก แต่เวลานง่ั น่ิงๆ มันก็ไม่ยอมท�ำ แล้วมนั กท็ �ำไมไ่ ด้
ดว้ ยนะ ไอง้ านอันละเอียดแบบนี้ เหน็ ไหม เขาจะบอกวา่ “พระบวชมาแล้วก็ไม่ท�ำงาน พระบวช
มาแล้วเปน็ ลกู ตมุ้ สงั คม พระนีเ้ อาเปรียบสังคม พระไมท่ �ำอะไรเลย” เขาไมร่ ู้หรอกว่า พระนีก้ ว่าจะ
เอาใจของตัวเองไว้ไดม้ ันยากแค่ไหน
• แกจ้ ิต (๑๗ พ.ค. ๒๕๕๒)
หลวงปู่ฝั้น นิพพานสวา่ งไสว “พุทโธสว่างไสว พุทโธผ่องใส” หลวงตาบอกผ่องใส คือ
อวิชชาไง ในธรรมะชุดเตรียมพรอ้ ม ผ่องใส คอื อวชิ ชา ความสวา่ งไสวเปน็ อุปกิเลสทั้งหมด ไอน้ ี่
นพิ พานเห็นไหม “พทุ โธผอ่ งใส พุทโธสวา่ งไสว” นกี่ ต็ ดิ อนั หนึง่
การติดนไ่ี ม่ใชว่ า่ ไมเ่ หมอื นสวะลอยไปในนำ�้ ลอยแลว้ กไ็ ปติด ไม่ใช่ การติดนี่ มันติดด้วย
ทฐิ มิ านะของตัว ติดโดยความเห็นผิดของตัว ตดิ โดยความเขา้ ใจผดิ ตดิ โดยกิเลสมารเข้ามา
หลอก โอ้ ! ไม่ใชไ่ ปบนถนนแลว้ มคี นเอาทอ่ นไม้มาฝาก มาติด ไมใ่ ช่หรอก มนั เห็นชดั ๆ วา่ ท่อนไม้
มนั ขวางอยู่ มันกผ็ า่ นได้ แต่ติดน่ี โอโ้ ฮ ! หลวงป่มู ่ันถึงพูดไวว้ า่
“หมู่คณะใหป้ ฏบิ ตั ิมา ผู้เฒา่ จะแกว้ ่ะ ถา้ ตดิ ถ้าภาวนามานะ แกจ้ ิต มนั แกย้ ากนะ
คนไม่รูแ้ ก้ไม่ได้นะ ผู้เฒา่ จะแกใ้ ห้ ภาวนามา เวลาผูเ้ ฒา่ ยังมชี วี ติ อยู่ ใหร้ บี ภาวนามา ผู้เฒา่
ตายแล้ว จะไม่มใี ครแกน้ ะ”
ไมใ่ ช่ไปศกึ ษาตำ� รามาแล้วถอื ไม้เรยี วมาเลย คอยจะมาแก้ ใครมาก็จะฟาดก้นๆ ไม่มที าง
มันไม่เป็นอย่างน้ันหรอก มันต้องเหมือนหมอนี่ เป็นโรคอะไร ? โรคท่ีเหมือนกันเป็นต่างกัน
เป็นเพราะเหตผุ ลอ่ืน เปน็ เพราะเชอ้ื โรคมาจากที่อื่น แกอ้ ยา่ งไร ? เชอื้ โรคนีไ้ ปติดเชอื้ มาจากไหน
ไม่ได้ตดิ เชื้อนเี่ ป็นขนึ้ มาดว้ ยตัวเองเปน็ อย่างไร ? น่แี ก้จิต
• ครูบาอาจารย์สรา้ งพนั ธกุ รรมทางจิตดีหมด (๑๘ พ.ค. ๒๕๕๒)
เราเกิดมาพบครบู าอาจารย์ บุญกศุ ลของเรามหาศาลเลย แลว้ ตอ่ ไปมนั จะเรียวแหลมไป
มนั ไมใ่ ช่เรยี วแหลมท่นี ่ีนะ มันเรยี วแหลมท่หี ลวงปู่มัน่ ทา่ นพูดของทา่ นเองว่า ทา่ นปรารถนาเป็น
พระโพธิสัตว์ หลวงปู่ม่ันท่านต้องมีต้นทุนของท่านมา ท่านต้องสร้างพันธุกรรมทางจิตของท่าน
ตอ้ งดมี ากมา
393
หลวงปู่ฝัน้ ครูบาอาจารย์พันธุกรรมทางจติ มันดีมาหมด แล้วเวลามาเกิดมาในปจั จุบนั
เวลาเขาพูดว่า ท�ำไมครูบาอาจารย์เราเกิดเป็นลูกชาวนา ไปเกิดบ้านนอกคอกนา ถ้าเกิดเป็น
ลูกเศรษฐมี ันก็ไม่ไดบ้ วชสิ ตอ้ งเกดิ เป็นลูกชาวนา เพราะชาวนาเขาสนใจในเรือ่ งศาสนา มันมโี อกาส
ไดบ้ วชไง แล้วบวชขนึ้ มามนั ปูพ้ืนฐาน แต่เขามองแต่ความทุกข์ยาก ยากจนในชาติปัจจุบัน
เขาไมม่ องว่าพันธกุ รรมทีจ่ ติ ทมี่ ันสรา้ งมา วา่ หลวงปฝู่ ั้น หลวงปู่ม่ันท่านสรา้ งมา ทา่ นเป็น
จกั รพรรดิ เป็นมหาอ�ำมาตย์ ท่านเป็นมาเยอะ คนไม่เห็น คนไม่รู้ ถ้าไมม่ ีตรงนนั้ ไม่มอี ะไร จิตใจ
ไม่เป็นอย่างนี้ หลวงปู่มัน่ กับ หลวงปเู่ สาร์
หลวงปูเ่ สารด์ ผู ู้อุปัฏฐากสิ ราชนิกลุ ทงั้ นั้นเลยนะหลวงปูเ่ สาร์ ดูสิ เจา้ คณุ อุบาลีฯ เหน็ ไหม
ใครอุปัฏฐาก ราชนิกุลทั้งนั้น พวกในวังทั้งน้ันเลย แล้วถ้าไม่มีบารมี เขาจะเคารพนับถือไหม
แลว้ เราบางทีมนั กส็ ะท้อนใจอันหนึ่งว่า มนั กจ็ ะจางไปๆ แตม่ นั จะจางไปเรื่อยๆ นะ
• จะอยทู่ ไ่ี หน กใ็ หอ้ ยกู่ บั พทุ โธ (๒๘ ก.ค. ๒๕๕๒)
หลวงปู่ฝั้นกับครูบาอาจารย์เราบอกนะ ฟังแล้วสะเทือนใจนะ หลวงปู่ฝั้นบอกเลยนะว่า
“พวกเรานมี่ ีลมหายใจ แตส่ ูดลมหายใจท้ิงเปล่าๆ” ลมหายใจนที้ างการแพทย์ถอื วา่ เปน็ อาหาร
ละเอียดนะ ออกซิเจนอากาศบริสุทธิ์ เราหายใจเข้าไปเพ่ือเล้ียงสมอง สมองขาดอากาศไม่ได้
๕ นาทีสมองตายเลย อาหารละเอียดมันจ�ำเป็นอยแู่ ลว้ ใชไ่ หม ทนี ้ีเราหายใจ หลวงปฝู่ นั้ บอกเลยนะ
“หายใจท้งิ เปล่าๆ” ลมหายใจมันให้ชวี ิตเราแล้ว ถ้าเรามสี ตกิ ับลมหายใจนี่ อานาปานสตเิ กิดแล้ว
หลวงปู่ฝ้นั บอกเลย “จะอยูท่ ไ่ี หน ก็ใหอ้ ยู่กบั พุทโธ” ลมหายใจนี่ พทุ โธ พุทโธอยู่ตรงนี้
ทำ� ดๆี ท�ำชดั ๆ นะ เดยี๋ วจะ โอ้โฮ ! เวลามนั เป็น มนั เป็นอย่างนีจ้ ริงๆ เวลาจติ มนั ลงนะ มนั เปน็
ความมหศั จรรย์ นไ่ี งพระพุทธเจ้าสอนไง ความสุขทีห่ าไดใ้ นกายเรานี้ ความสุขหาไดใ้ นจติ เราน้ี
แต่โลกนะ ต้องไปทศั นาจร ต้องไปท่องเท่ยี ว เงนิ ก็เสีย เหนื่อยก็เหน่ือย ทกุ ขก์ ท็ ุกข์ ไปท�ำไมกนั
ก็ไม่รู้ หาเงนิ มาโปะกไ็ ม่พอ ความสขุ หาไดท้ ่ีหวั ใจน้ี แล้วกำ� หนดลมน่ี ความมหัศจรรย์มันจะเกดิ
แต่ที่ท�ำกันไม่ไดเ้ พราะอ่อนแอ ท�ำกนั ไมไ่ ดเ้ พราะอ�ำนาจวาสนาเราดอ้ ย อ�ำนาจมนั ดอ้ ยเพราะอะไร
เขาเรียกทางโลกวา่ “สุกเอาเผากิน” มันไมจ่ รงิ จัง
• พระอรหันต์ก็มาจากปุถชุ น (๒๘ ส.ค. ๒๕๕๓)
มันเหมอื นกับรอ่ งน้�ำ คือ รอ่ งนำ�้ น่ีมนั จะลกึ ไปเรือ่ ยๆ นสิ ยั ใจคอของเรา อะไรทเ่ี ราจะแก้ไข
นเ่ี ราต้องฝืน เราต้องฝนื เรา ตอ้ งดดั แปลงของเรา เราจะเปน็ คนดี เราจะท�ำคุณงามความดี ความดี
ของเรามนั รออย่ขู า้ งหนา้ แล้วถา้ ผลมนั ท�ำได้ มนั ก็ต้องเขา้ ผลนั้น พอเข้าผลนนั้ แล้ว มันก็จะผา่ นไป
394
เราจะบอกว่า อาการอยา่ งนี้ ครูบาอาจารยท์ า่ นเป็นมาทงั้ น้ันแหละ ดหู ลวงป่เู สาร์ หลวงปมู่ ่นั
หลวงปขู่ าว หลวงปูฝ่ ้ัน หรือหลวงตา นพี่ ระอรหนั ตท์ ้ังนั้นนะ
แล้วพระอรหนั ตน์ ีม้ าจากไหน ก็มาจากปถุ ุชนเรานี่แหละ มาจากผทู้ ี่ทุกข์ๆ ยากๆ อยา่ งเราน่ี
แหละ มาจากไอ้พวกท่ีนั่งหลับนี่แหละ ไอ้พวกนั่งสัปหงกโงกง่วงนี่ แต่สุดท้ายแล้วท่านท�ำจน
เป็นพระอรหันตไ์ ดน้ ะ มาจากไอ้คนน่ังหลบั นีแ่ หละ ไม่ได้มาจากคนเกง่ หรอก เพราะถ้าเก่งแล้ว
พระพุทธเจ้าไม่สอนพระอรหันต์หรอก พระพุทธเจ้าสอนไอ้พวกกิเลสหนาๆ อย่างเราน่ีแหละ
แล้วเราจะดดั แปลงเราเอง เราจะแกไ้ ขเราเอง
• อรยิ สจั มหี นึ่งเดียว (๔ ก.ย. ๒๕๕๓)
ผู้ท่ีปฏิบัติกับผู้ท่ีปฏิบัติรู้เหมือนกัน ! รู้เหมือนกัน การรู้เหมือนกัน เห็นไหม ในวงของ
กรรมฐานของเรานี้ ในวงกรรมฐานท่ีมีหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่นเป็นหัวหน้า เป็นอาจารย์ใหญ่
แล้วเวลาครูบาอาจารย์ของเราปฏิบัติมา เห็นไหม หลวงตาท่านเล่าประจ�ำ แล้วหลวงตาท่าน
อย่กู บั หลวงปู่ม่นั มา ทา่ นอุปัฏฐากหลวงปูม่ ่ันมา
หลวงปู่พรหมไปหาหลวงปู่ม่ัน หลวงปู่ขาวไปหาหลวงปู่ม่ัน ครูบาอาจารย์เราไปหา
หลวงปู่มั่น หลวงปู่ฝั้นไปหาหลวงปู่ม่ัน ลูกศิษย์ของหลวงปู่ม่ันทุกองค์ที่ไปหาหลวงปู่มั่น ไปพูด
ถึงธรรมะกันนี้ หลวงตาท่านน่ังฟังมาหมดเลย ท่านถึงได้เก็บประสบการณ์ของท่านมหาศาลเลย
แล้วทา่ นมกี ารศึกษาว่าทา่ นเปน็ มหาดว้ ย ฉะนั้น เวลา “ธมฺมสากจฺฉา เอตมฺมงฺคลมุตฺตม”ํ คอื เวลา
พูดธรรมะกันน้ี มนั จะลงร่องเดียวกนั หมด “เพราะอริยสัจมหี น่ึงเดียว”
• หลวงปฝู่ น้ั ก�ำหนดจติ ตรงท้อง ท�ำใหผ้ ายลม (๒๗ พ.ย. ๒๕๕๓)
สมยั หมออวย หมออวยอปุ ัฏฐากหลวงปู่ฝนั้ หลวงปูฝ่ ัน้ นอนอยู่นี่ หมออวยบอกเลยบอกว่า
ใหห้ ลวงปฝู่ น้ั กำ� หนดลม กำ� หนดจิตมาอยู่ทท่ี ้อง กำ� หนดตรงน้ี เพราะลมมันแนน่ พอหลวงปูฝ่ น้ั
กำ� หนด... กำ� หนดมาแล้วแบบวา่ ผายลมเลยละ่ พับ่ ! พ่ับ ! ออกเลย เหน็ ไหม หมออวยเป็น
คนอุปฏั ฐากหลวงปู่ฝน้ั อยู่ หลวงปฝู่ ัน้ นอนปว่ ยอยู่
นท้ี างการแพทย์เห็นไหม มนั รอู้ ย่วู า่ ตรงน้เี สอื่ มสภาพอยา่ งไร แต่ทางการแพทย์มนั สุดวิสัย
บอกให้หลวงปู่ฝั้นก�ำหนดจิต หมอเป็นคนแนะน�ำ แล้วหลวงปู่ฝั้นเป็นคนท�ำ ท�ำกับตัวท่านเอง
หมออวยเป็นคนแนะน�ำนะว่า ให้ก�ำหนดจิตมาอยู่ที่กระบังลมน่ีตรงน้ี ก�ำหนดจิตมาที่ตรงน้ีเลย
กำ� หนดจิตมาท่ตี รงนีเ้ ลย แลว้ หลวงปฝู่ ้ันกท็ ำ� ตาม... ท�ำตาม พอทำ� ตามแลว้ ท่านก็ผายลม พบั่ !
พั่บ ! นคี่ รบู าอาจารยท์ ่านท�ำของท่าน
395
• ผลเวรกรรม (๕ ธ.ค. ๒๕๕๓)
เวรกรรมเป็นความเสมอภาค ใครท�ำดีได้ดี ท�ำช่ัวได้ชั่ว ใครสร้างเวรกรรมอย่างใดมา
มนั จะไดผ้ ลเวรกรรมอย่างน้นั ถา้ บางคนนัง่ สมาธินะ มีอาจารย์บางองคน์ ัง่ สมาธนิ ่เี ลอื้ ยเปน็ งเู ลยนะ
โยกไปโยกมา แตจ่ ติ สงบได้ ! จิตนีส้ งบไดน้ ะ จติ น้สี งบได้ อาการส่วนอาการ จติ นส้ี งบได้ แต่
น้อยคนท่จี ะเป็น นอ้ ยคนมาก เพราะคนทีพ่ ดู อย่างนี้คือ หลวงปฝู่ ั้น หลวงปู่ฝน้ั บอกมพี ระองค์หน่ึง
นั่งนี่คลอนไปคลอนมา ท่านบอก น่ันละ่ จติ สงบนะ น่นั จติ สงบนะ..น่นั ล่ะ มนั เป็นอาการขา้ งนอก
แต่จิตมันสงบได้ แตม่ นั กเ็ ป็นเฉพาะคนไง
• การภาวนาของพระอรหันตท์ ุกองค์จะไมเ่ หมอื นกัน (๑๓ พ.ย. ๒๕๕๔)
หลวงปคู่ �ำดี หลวงปูช่ อบ หลวงปฝู่ นั้ ทา่ นพจิ ารณามนั แตกตา่ งกัน พอมนั แตกต่างกนั
มันเหมอื นกบั องค์สมเดจ็ พระสมั มาสัมพทุ ธเจ้า เหน็ ไหม พระอรหนั ต์ ๘๐ องค์ เอตทคั คะ ๘๐
อย่าง นีจ่ ริตนิสัยมันแตกต่างกัน การภาวนาของพระอรหันต์ทกุ องค์จะไมเ่ หมอื นกนั วทิ ยานพิ นธ์
ไม่ซ้อนกัน ประวัติการปฏบิ ตั ิจะไมเ่ หมือนกัน พิจารณากายเหมอื นกนั อยา่ งเช่น หลวงปคู่ ำ� ดี ท่าน
พจิ ารณากายเหมอื นกนั กบั หลวงปู่เจีย๊ ะ พิจารณากายเหมือนกัน แต่ไมเ่ หมือนกนั มนั ไมเ่ หมอื นกัน
อยทู่ คี่ วามหนา ความหยาบ ความละเอยี ดของใจไง กิเลสมันมีหยาบหรอื หนา
การพิจารณากายนี่ พิจารณากายในแง่มุมใด ? การพิจารณากายในทัศนคติอย่างใด ?
พิจารณากายเหมือนกัน ดูสิอย่างเช่น พระพิจารณาเส้นผม เวลาพิจารณาเส้นผมนะ เส้นผม
มันขยายออก เส้นผมนี่เหมือนท่อนซุง คิดว่าเส้นผมเหมือนท่อนซุง ในเส้นผมนั้นมันดูดอาหาร
อย่างไร ? มนั อยขู่ องมันอย่างไร ?
น่ที �ำไมจติ มนั ขยายได้ จิตมนั พจิ ารณาของมนั ได้ มันพิจารณาได้ น่ีแงม่ ุมของการปฏิบตั ิ
เราจะบอกว่า มันไม่เหมือนกันหรอก ถ้าเหมือนกันมันเป็นสัญญา ถ้าเหมือนกันมันเป็นสัญญา
ฉะน้นั เพียงแตห่ ลวงปู่ม่นั ท่านบอก เหมอื นเรา เหมอื นเรา คอื โดยผลไง โดยผล มันไม่ใชเ่ หมอื น
เราโดยกอ็ ปป้ไี ง ถ้าเหมือนเราโดยผลมนั เหมอื นกนั อนั นีเ้ หมือนกันโดยอริยสจั มอี ันเดยี วเหมือนกนั
ฉะนัน้ มนั ถึงไมเ่ หมือนกนั
• อปั ปนาสมาธิ (๑๙ ม.ค. ๒๕๕๖)
คำ� วา่ อปั ปนาสมาธิ ถ้าคนมีอ�ำนาจวาสนา เขาท�ำเปน็ ปกตนิ ะ คนท่ีมีอ�ำนาจวาสนา เขาท�ำ
ได้ปกตเิ ลย นีห่ ลวงปชู่ อบ หลวงปู่ฝน้ั เรอ่ื งน้ีสบายมาก เพราะทา่ นมคี วามช�ำนาญทางน้ี น่ีจะรู้วาระ
รู้สิ่งต่างๆ แปลกประหลาดมหัศจรรย์ ท่านรู้ของท่าน แต่รู้ในใจของท่านแล้ว ท่านเก็บไว้ในใจ
396
ของท่าน เพราะท่านรวู้ า่ ใจทเ่ี ป็นอย่างนี้ มนั หาได้ยาก แล้วจะเอาความรู้อยา่ งนี้มาบอกให้ทุกคน
ตอ้ งรเู้ หมอื นเรา มันไม่มีหรอก
ฉะนนั้ ท่านรขู้ องท่าน ทา่ นรู้ ท่านถงึ ไมพ่ ดู เลยนะ ท่านรู้ ทา่ นไมค่ ่อยพดู หรอก ถา้ เปน็ คราว
จำ� เป็นทา่ นจะบอกว่า ไอน้ น่ั เป็นอย่างนั้น ไอ้นั่นเปน็ อยา่ งนั้น แตท่ า่ นไมพ่ ูดออกมาหรอก ถ้าพูด
ออกมาแล้วนะ ไอค้ นก็อปปี้มนั มีเยอะ ไอค้ นก็อปป้ีมันจะไปใช้กนิ ฉะน้ัน อัปปนาสมาธิ ถ้ามนั ทำ� ได้
ก็สาธุ ถ้าทำ� ไม่ได้ เรากเ็ กบ็ ของเราไว้ เราก็ปฏบิ ตั ิของเราไป น่พี ดู ถงึ อปั ปนาสมาธินะ
• นรก – สวรรค์มี (๓ ม.ี ค. ๒๕๕๖)
นี่ถา้ พูดถงึ มชั ฌมิ าปฏิปทา เวลาบคุ ลากรในศาสนาเสอื่ มทรามก็อ้างองิ กนั เร่อื งพาไปทัวร์
สวรรค์ ทัวรน์ รก ทัวรน์ ิพพาน พากันไป นนั้ บุคลากรทม่ี ันเสือ่ มทราม แต่ถ้าคนที่ไมเ่ ชอื่ ปฏเิ สธ
ไปเลย นรก – สวรรค์ไม่มี สรรพสง่ิ ไมม่ ี อะไรกไ็ ม่มี แตห่ ลวงปู่มั่น หลวงป่เู สาร์ หลวงปู่ฝัน้ ครบู า–
อาจารยข์ องเรา ทา่ นไดส้ มั ผสั เร่ืองน้ี หลวงปชู่ อบ
มนั มี แต่มแี ล้ว เขาไมเ่ อามาโอ้ เอามาอวด มีนเ่ี วลาเราเขา้ ไปเหน็ แล้ว ให้สำ� รอก ใหเ้ หน็
แล้วมันสลดสังเวช ถ้ามันสงั เวชแลว้ มันกเ็ ปน็ ประโยชน์ แล้วเวลาเอามายนื ยัน นศ่ี าสดา ผ้ใู ด
เห็นธรรม ผูน้ ั้นเหน็ ตถาคต องคส์ มเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ ก็เหน็ แบบนัน้ เวลาครูบาอาจารย์
ทา่ นเหน็ แบบนน้ั ก็คอยเตือนไง อย่าทำ� นะ บาป อย่าท�ำนะ ถา้ ท�ำแลว้ มันจะได้ผลอยา่ งนนั้ ๆๆ นะ
บญุ น่คี วรทำ� บญุ นี่ควรทำ� ทำ� บุญแล้ว มนั จะได้ประโยชนอ์ ยา่ งนั้นๆๆ นะ
• ธุดงค์เพอื่ (๑ ธ.ค. ๒๕๕๖)
ถา้ ธุดงค์เพ่ือกำ� จัดกเิ ลสนะ เขาไปในปา่ ในเขา เขาไม่เดนิ หรอกบนถนนหนทาง เวน้ ไวแ้ ต่
มือใหมห่ ดั ขับ มันก็ลองดูก่อน เดินไปตามทางรถไฟ เดนิ ทางรถไฟตัง้ แตก่ รงุ เทพฯ ไปถงึ ภาคใต้
เดินตามทางรถไฟไป มีกพ็ กั ตามข้างทางกันไป เพื่อใหฝ้ ึกหัด แตพ่ อมนั จะเอาจริงเอาจงั เขาเขา้ ปา่
แลว้ เพราะเขา้ ป่าไปมันมที ี่สงบวเิ วก มนั มที ส่ี งบวเิ วก แลว้ มนั เปน็ การวดั คา่ ของใจ วา่ ใจเรามี
อ�ำนาจวาสนาแคไ่ หน
ถ้ามีอ�ำนาจวาสนานะ ครูบาอาจารย์ของเราสมัยหลวงปู่มั่น หลวงปู่สีทาๆ ท่ีอยู่กับ
หลวงปมู่ นั่ ไง เดนิ จงกรมอยู่ เหน็ เอะ๊ ! มนั มอี ะไรแปลกๆ อยขู่ า้ งทาง พอหนั ไป อฮู้ ู ! เสอื ตวั ใหญม่ าก
เสือตวั ใหญๆ่ เสอื ตวั ท่ผี ดิ ธรรมชาตขิ องเสือ ส่วนใหญแ่ ลว้ เป็นเสือเทพ มนั จะมีเสอื จากเทพ เสอื จาก
สงิ่ ทีพ่ วกเทพบันดาลให้มาเปน็ อบุ าย มาเปน็ การเสริมบารมี นี่ถ้าอยูใ่ นป่าในเขา มนั จะมีอย่างน้ี
หลวงป่ฝู น้ั ท่านไปเจอท่ีไหน มแี ตเ่ สือนอนอยู่เต็มไปหมดเลย ไปเจออยา่ งนน้ั ไอพ้ วกเราไมต่ อ้ ง
เสือหรอก แค่มนั เสยี งคำ� ราม เราก็ขนหวั ตงั้ แลว้ ขนหัวตง้ั ก็เพื่ออะไรล่ะ ?
397
นีไ่ ง เขาธดุ งค์เพ่อื ส่งิ นไ้ี ง ธดุ งคเ์ พือ่ ให้หัวใจของเราไดส้ มั ผัส ได้กระทบสงิ่ ต่างๆ เพอ่ื หา
ประสบการณ์ หาประสบการณ์นะ เพราะเราธุดงคเ์ พือ่ ช�ำระล้างกเิ ลส ธุดงคเ์ พื่อใหห้ วั ใจเขม้ แขง็
ธุดงคเ์ พอ่ื ให้พระเป็นศากยบุตรพุทธชโิ นรส ใหเ้ ขม้ แข็ง แมแ้ ต่ไม่มใี ครเลย เรากอ็ ยู่ได้ พระที่
ธดุ งคๆ์ มานะ เคยธุดงคผ์ ่านอปุ สรรคต่างๆ มา พอมาอยู่วดั อยูว่ า มันอยูส่ ะดวก อยู่สบาย อูย๋ !
มันพร้อมไปหมด มันเหมือนโรงแรม ๕ ดาวเลย มีทุกอยา่ งพรอ้ ม บรกิ ารเสรจ็ แต่ไปอยใู่ นป่าไมม่ ี
อะไรเลย ไมม่ สี ิง่ ใดเลย แล้วเราต้องหาเอง เราตอ้ งดำ� รงชวี ติ อยู่ได้ เราดำ� รงชวี ติ อย่างน้ันอยู่ได้
เพอ่ื ให้เหน็ ว่าแม้แตม่ นษุ ย์ แม้แต่มนษุ ย์บวชเป็นพระ ออกมาธดุ งค์เพ่อื ด�ำรงชวี ติ ชีวิตอยา่ งน้ีมนั อยู่
ได้แล้ว เราจะไปต้องการสง่ิ ใด เหน็ ไหม
• ธรรมะทางเดยี วกัน (๑๕ ธ.ค. ๒๕๕๖)
ถ้าความเหน็ ภายในมนั เหมือนกนั มันเหมือนกัน มันเปน็ ทางเดียวกัน นธี่ รรมะทางเดยี วกนั
ถ้าทางเดียวกันมันก็ถูกต้อง ฉะน้ัน หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ท่านปฏิบัติของท่านสมความ
ปรารถนาของทา่ นแล้ว ทา่ นถึงได้วางข้อวัตรไว้ เชน่ กำ� หนดพทุ โธ ปัญญาอบรมสมาธิ อานาปานสติ
ท�ำความสงบของใจเข้ามา ถ้าใจสงบแล้ว ถ้าออกฝึกหัดใช้ปัญญา ถ้าปัญญามันก้าวเดินไป
ถ้ามันเป็นก้าวเดินไป มันสำ� รอก มันคายกิเลสออกเปน็ ชั้นเปน็ ตอนเข้าไป
ฉะนนั้ เวลาหลวงปฝู่ นั้ หลวงปูข่ าว หลวงปูแ่ หวน เวลาทา่ นไปหาหลวงปู่มน่ั เวลาท่านมี
ปญั หาในใจของทา่ น หลวงปูม่ น่ั ท่านแกใ้ หๆ้ พอแก้ให้ขึน้ มา พอมนั มปี ัญญาขน้ึ มา มนั เหมือนกัน
มนั ทนั กนั ไง เราจะบอกว่า มนั ทันกนั ทวี่ า่ ตามความชอบของตน เป็นกลมุ่ เป็นกอ้ นตามความชอบ
ใครมคี วามชอบใจอยา่ งนัน้ กเ็ สนอแนวทางการปฏิบัติอยา่ งนัน้ แล้วเราปฏิบตั ิตามกลุม่ ตามก้อน
อยา่ งนน้ั เรากเ็ ช่อื ตามกนั ไป แตค่ วามจรงิ จากข้างใน ความจริงข้างในมนั อนั เดยี วกันหรอื เปลา่
แต่ถา้ เปน็ หลวงปูเ่ สาร์ หลวงปู่มั่น เป็นครบู าอาจารยเ์ รามันเป็นอันเดียวกนั
• ครูบาอาจารยเ์ ราไม่โฆษณา (๒๓ ก.ย. ๒๕๕๗)
ค�ำวา่ พระอรหันตๆ์ พระอรหนั ตต์ ้องสร้างบญุ ญาธกิ ารมาขนาดไหน ในพระไตรปิฎกวา่
แสนกัป องค์สมเดจ็ พระสัมมาสมั พุทธเจ้า ๔ อสงไขย ๘ อสงไขย ๑๖ อสงไขย พระอรหันตน์ ี่
ตอ้ งแสนกัป อำ� นาจวาสนาบารมีถึงจะท�ำที่สุดแหง่ ทุกขไ์ ด้ เวลาทา่ นสร้างอำ� นาจวาสนาบารมมี า
ขนาดน้ัน ท่านประพฤติปฏิบัติขึ้นมามันต้องมีคติธรรม ถ้าเป็นความจริงนะ เป็นครูบาอาจารย์
ทีเ่ ปน็ ธรรมจริงๆ
398
แต่ถา้ ครบู าอาจารย์ท่ีไม่เป็นธรรมจรงิ ๆ เห็นไหม พวกกาฝาก มนั เข้าไปอยู่กับครูบาอาจารย์
แล้วอ้างอิง คนน้ันก็เป็นพระท่ีหลวงปู่มั่นยกย่องสรรเสริญ องค์นั้นก็เป็นหลวงปู่มั่นเชิดชูบูชา
องค์นัน้ ก็เปน็ หลวงปมู่ ั่นเป็นผูท้ ่เี ห็นคุณธรรม น่ไี ปอาศยั เปน็ กาฝาก แลว้ กอ็ อกมาอ้างองิ ไง
แตห่ ลวงปฝู่ ้นั หลวงปู่แหวน หลวงปู่ค�ำดี หลวงปูช่ อบ หลวงตา หลวงปเู่ จย๊ี ะ ท่าน
ไมเ่ คยโฆษณาว่า ทา่ นเปน็ ศิษย์หลวงปู่มนั่ เลย ครบู าอาจารย์เหลา่ นไ้ี มเ่ คยโฆษณา ไมเ่ คยเอาสง่ิ นัน้
มาเป็นประโยชน์เลย แต่เวลาท่านพดู ของท่าน เพราะทา่ นเคารพบชู าของท่าน ดูสิ เหมอื นกับ
ลูกคิดถึงพอ่ ลกู คิดถงึ พ่อ เหน็ ไหม พ่อเลยี้ งดูมาขนาดน้ี พ่อแมด่ ูแลมาขนาดนี้ มนั ท�ำไมไม่คดิ ถึง
พ่อแม่ของมัน ถ้าคิดถึงพ่อแม่นี่ เราพูดถึงคุณงามความดีของพ่อแม่ของเรา แต่เราไม่ได้เอามา
โฆษณาหากนิ เราไม่ใชเ่ อามาโฆษณา เพื่อความลาภสักการะ เพอื่ คนใหน้ ับหนา้ ถือตา ไมใ่ ช่เปน็
อยา่ งนัน้ แตถ่ า้ ครูบาอาจารย์ทา่ นพดู แบบเชงิ ยกย่องสรรเสริญ มันเปน็ การแบบวา่ คนกตัญญู
กตเวทีรู้คุณคน
• ล่วงพ้นทุกขด์ ้วยความเพียร (๑๔ ก.พ. ๒๕๕๘)
หลวงปฝู่ ัน้ ทา่ นกส็ อนให้มผี ู้รู้ ผู้ตน่ื ผูเ้ บิกบาน ใหม้ ีสติ มปี ญั ญา ใครจะมาหลอกเราได้
หลวงปู่ฝนั้ ท่านพูดประจ�ำ ครูบาอาจารยเ์ รา ถา้ เปน็ สายพระปา่ นะ ทา่ นให้ขยนั ทา่ นให้หม่ันเพยี ร
เพราะอะไร ? เพราะวา่ คนเราจะลว่ งพน้ ทกุ ขด์ ว้ ยความเพียร พระยังตอ้ งขยนั หมนั่ เพยี รเลย พระ
ยังตอ้ งเขา้ ทางจงกรมเลย พระตอ้ งนั่งสมาธภิ าวนา พระต้องหม่ันใชป้ ญั ญา ถา้ มนั ไมใ่ ชป้ ัญญา
ปัญญาไมฝ่ กึ ข้นึ มา สมาธิแกก้ ิเลสไมไ่ ด้ แต่สมาธเิ ป็นที่สงบระงับขึ้นมาแล้ว มนั เกดิ ปญั ญาขน้ึ มา
พอเกิดปัญญาขนึ้ มา เรามปี ญั ญา เราทำ� อะไรกส็ �ำเรจ็ ถ้ามีปญั ญานะ เวน้ ไว้แต่มันมกี รรม กรรมทม่ี ัน
หนกั หน่วง กรรมท่มี ันทำ� ให้ผดิ พลาด อันน้นั กอ็ กี เรือ่ งหนง่ึ
• ทางฆราวาสคับแคบ ทางสมณะกวา้ งขวาง (๑๗ พ.ค. ๒๕๕๘)
การศึกษา เขาศกึ ษามาไว้ให้ปฏิบตั ิ เวลาเรียนจบแลว้ ท�ำอะไรต่อ ทางวิชาการเขาคดิ เลยนะ
เวลาพระน่จี บแล้ว เรียนจบ ๙ ประโยค ฉะนัน้ พอเรยี นจบ ๙ ประโยคแลว้ เรยี นธรรมะจบแลว้
พอเรยี นธรรมะจบแลว้ ตอนนี้กด็ ำ� รงชวี ิตเป็นพระ ก็ได้สมณศักดิ์ ได้ตำ� แหนง่ หน้าทีก่ ารงานข้ึนไป
แล้วทางธรรมละ่ ? ทางธรรมท่ปี ฏบิ ัตลิ ะ่ ? แต่เวลาพระกรรมฐานเรา เหน็ ไหม หลวงป่ฝู ัน้ ครูบา–
อาจารย์ท่านบอกเลย การเรียนปริยัติของพวกเรา เวลาบวชกับอุปัชฌาย์ เกศา โลมา นขา
ทันตา ตโจ น่ีกรรมฐาน ๕ อุปัชฌาย์ใหก้ รรมฐาน ๕ อย่แู ลว้ พอไดก้ รรมฐาน นเี่ ราเรยี นปรยิ ตั ิ
จบแล้ว ต่อไปน้ีมนั กอ็ ยู่ที่ว่าเราจะปฏบิ ัตไิ ด้หรือไมไ่ ด้ ถ้าเราปฏิบัติได้ เราท�ำของเรา
399
นีถ่ ้าทางมันกว้างขวาง มันกว้างขวางอย่างนไ้ี ง พอกว้างขวางแล้ว เขา้ ทางจงกรมสิ นงั่ สมาธิ
ภาวนา เขา้ ป่าเขา้ เขาไปสิ ปฏิบตั ิไปสิ รกุ ขมูล อยรู่ กุ ขมลู เหน็ ไหม ดสู ิเวลาฤดกู าลของเขา เวลานก
มันทำ� รงั มนั ฟกั ไขข่ องมนั มนั กกไขข่ องมนั มนั สรา้ งครอบครัวใหม่ของมนั มนั ดแู ลลกู มัน พอลกู
มนั โตแล้ว มนั ไลล่ ูกมันไปนะ ตอ้ งหากินเอง ตอ้ งหากนิ เอง ต้องโตแลว้ ไป ไอน้ ี่กเ็ หมอื นกนั เวลา
ทางฆราวาสทางคับแคบ สมณะเปน็ ทางท่กี ว้างขวาง แลว้ สมณะเอาจรงิ หรือเปล่า สมณะท่ีทาง
กว้างขวางได้สนใจทางปฏบิ ัติของตวั ไหม ?
• ส�ำคญั ทุกวนั (๑ มิ.ย. ๒๕๕๘)
วันส�ำคัญทางพุทธศาสนา เราท�ำเพอื่ บุญ เพ่อื กุศลนะ ถา้ บญุ กศุ ลท�ำเพอ่ื เรา ท�ำเพ่อื เรา แต่
เวลาหลวงป่ฝู ้ันท่านบอก ส�ำคญั ทุกวนั พระกรรมฐานเราส�ำคัญทกุ วนั เวลาคนเจบ็ ไข้ไดป้ ว่ ยนะ
คนเจ็บไขไ้ ด้ปว่ ยทุกวนิ าทมี ีคา่ หมด หายใจเขา้ แลว้ ไมห่ ายใจออกกต็ าย เราจะรอแตว่ นั สำ� คญั ทาง
พทุ ธศาสนาแล้ว เราค่อยขวนขวายมาท�ำบญุ กศุ ลกนั ใช่ไหม เราต้องมีวันส�ำคัญเท่าน้ัน เราถึงท�ำ
คุณงามความดีใชไ่ หม ถา้ มันไมใ่ ช่วันส�ำคญั เราจะไมท่ �ำส่ิงใดเลยหรอื พระกรรมฐานเราถึงบอกวา่
มันส�ำคัญทุกวัน ส�ำคัญทุกวัน ไม่มีวันไหนไม่ส�ำคัญเลย เพราะส�ำคัญทุกวัน ลมหายใจเข้า
ลมหายใจออกก็สำ� คัญ ถา้ ลมหายใจสำ� คญั ความสำ� คัญอนั นั้น มันจะทำ� ใหเ้ ราสำ� นกึ ได้ พอสำ� นึกได้
ทำ� ความดตี ่อเน่อื งไป
• ขี้พระอรหันตค์ นน�ำไปบชู า (๑๔ ส.ค. ๒๕๕๘)
แต่ถ้าใจเรามีค่านะ ดูสิ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเวลาหัวใจที่มีค่า เห็นไหม
สรรพส่งิ ในโลกนมี้ ีค่าหมดเลย ครบู าอาจารย์ของเรานะ หลวงปฝู่ ้ันเนยี่ เวลาทา่ นถา่ ยอจุ จาระ
พวกโยมอุปัฏฐากเขาขอให้เก็บอุจจาระนั้นไว้ให้เขานะ ขี้ของคนมันเหม็น แต่ข้ีของพระอรหันต์
มันหอม มคี นเขาขอให้เก็บไว้ เขาจะเอาไปบูชา
• เจอื จานกนั (๘ พ.ย. ๒๕๕๘)
ถ้าความจริงขึ้นมา ดูสิ เวลาในธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ลาภที่เกิด
ในกฐนิ น้ัน ในสงั ฆกรรมนน้ั ต้องแบง่ และเจอื จานกนั ในสงฆช์ ุมชนนัน้ เราอยกู่ บั หลวงปฝู่ ้นั ท่านท�ำ
กท็ �ำอยา่ งนั้น แต่เวลามาอยู่กบั หลวงตา หลวงตาท่านบอกว่า ถงึ จะไม่ใชภ่ กิ ษจุ ำ� พรรษาดว้ ยกนั
แต่ถา้ ผา้ มันเกิดขึน้ ทา่ นก็เจอื จานเหมือนกนั เพราะเราไปกฐนิ ท่บี า้ นตาด เราไดม้ าประจ�ำ ท่านให้
มาตลอด
400
ภาค ๒๒ ปกริ ณกธรรม
ทา่ นแตกฉานท้ังดา้ นปรยิ ัตแิ ละปฏบิ ตั ิ
การพฒั นาทางจติ ใจ คอื การเทศน์ “พระอภธิ รรมสงั คิณมี าติกา” เปน็ พระธรรมเทศนา
กัณฑใ์ หญ่ เปน็ งานประพนั ธ์ของท่านพระอาจารย์ตง้ั แต่สมัยทา่ นยงั หนุ่ม และทา่ นได้เขียนไวด้ ้วย
“อกั ษรธรรม” เป็นลายมอื ท่านเองงดงามมาก พระธรรมเทศนากัณฑ์นที้ า่ นผู้รู้ชมเชยว่าแตง่ ไดด้ ี
ยอดเย่ยี ม คอื ทงั้ ไพเราะและกะทดั รดั ถงึ แม้จะเปน็ เทศนท์ ยี่ ดื ยาว แตก่ ็เห็นสมควรน�ำมาพิมพไ์ ว้
ทัง้ หมดเพ่อื เปน็ หลักฐานว่า ท่านพระอาจารย์ฝน้ั นัน้ ท่านแตกฉานท้ังดา้ นปรยิ ัติและด้านปฏิบัติ
ท่านมีความสามารถไม่เพียงแต่แสดงธรรมะป่าให้เป็นที่ซาบซึ้งอย่างเดียว แม้การเทศน์
แบบอย่างฉบับท่านก็สามารถเรียบเรียงได้อย่างวิจิตรพิสดารเหมือนกัน ท่านพระอาจารย์ฝั้นนั้น
ท่านมีความสามารถในการสอนคนท้ังหลายอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้านที่หย่อนการศึกษาหรือ
นักเรยี นนอกทก่ี ำ� ลงั เฟอื่ งวิชา ท่านกส็ อนให้เกิดความสนใจในธรรมะไดท้ งั้ นั้น
พระธรรมเทศนาเร่อื งพระอภธิ รรมสงั คิณมี าติกาของท่านพระอาจารย์ ไดเ้ คยมีผแู้ ปลเป็น
ภาษาไทยและพิมพ์เป็นหนังสือเล่มมาแล้ว ปรากฏว่ามีความผิดพลาดหลายแห่ง พระอาจารย์
สุวจั น์ สวุ โจ กับ อาจารย์สุพล นา่ ชม จงึ ไดช้ ว่ ยกนั ปรับปรุงตน้ ฉบบั ข้ึนใหม่
ไปวัด คอื วัดใจ คือวตั รปฏิบตั ิ
ครบู าอาจารย์ เทศนไ์ วด้ งั นี้
“วัตร คอื ข้อวัตรปฏิบตั ิ วัตร คือ พระท่ีมีขอ้ วตั รปฏบิ ตั ิ กจิ ของสงฆ์ ๑๐ อยา่ ง กวาดลาน
เจดีย์ ดูแลตา่ งๆ คอื กิจของสงฆ์ เราเขา้ มาวดั เรากต็ อ้ งเข้ามาวดั กข็ ้อวัตรไง หลวงปู่ฝ้นั น่ะบอก
“เขา้ วดั คือวัดใจ คอื วตั รปฏิบัติ ไมใ่ ชว่ ดั .. วตั ถุ วัตรปฏบิ ตั ิ” ถา้ เราเขา้ วดั ปฏบิ ัติน่ะ สง่ิ น้ันน่ะ
มันได้วัดใจเรา มนั ได้ชำ� ระลา้ งเรา
วัตรปฏิบัตินะ เครื่องด�ำเนินไง วัตรปฏิบัติจะเข้าให้ถึงเรื่องของใจได้ กิริยาเหมือนกัน
เหน็ ไหม วัตรปฏิบัตขิ องพระนี่ มนั เป็นเร่อื งปกติน่แี หละ แต่ถา้ คนท�ำ มันกเ็ หมือนกับความพอใจ
หัวใจมันยอมรับ พอหัวใจมนั ยอมรับ มนั ทำ� ได้ ถ้าหวั ใจไม่ยอมรบั มนั ก็ดูเปน็ ของเลก็ น้อย
ความเป็นของเล็กน้อย หลวงปู่ฝั้นบอกไว้ว่า “ผงฝุ่นมันเข้าตาแล้ว มันเคืองตา ไม่มี
ท่อนซุงท่อนไหนไปเข้าตาคนหรอก” เราเหน็ แตข่ องเล็กน้อยๆ แลว้ เรามองขา้ มไปๆ นี่วัตรปฏบิ ตั ิ
วดั ไมร่ ้างไง เห็นไหม ธุดงค์ ๑๓
401
ธดุ งค์ ๑๓ จะถงึ ๑๓ ข้อ วัตร ๑๔ อาจริยวตั ร อาคันตุกวตั ร เห็นไหม วัตรของพระที่จะ
เครอ่ื งอย่อู าศยั เขาถงึ บอกว่า “ถา้ พระมวี ัตรปฏิบตั ิ นีว่ ดั ไม่ร้าง คนไมร่ า้ ง” คนมกี ติกาไง ถ้าคน
ไมม่ ีกตกิ า คนเอาความสะดวกเอาความมักงา่ ยไป มนั ไปไดเ้ ร่อื ย
ฉะนนั้ ถ้าทำ� แลว้ มนั กเ็ ป็นความยุ่งยากขนึ้ มา ความยุง่ ยากมันไมพ่ อใจ มันอยากมกั ง่ายไง
ฉะนัน้ ถึงวา่ มันล�ำบากหน่อยต้องยอมรบั มันเปน็ วัตรปฏิบตั ิ ขอ้ ปฏิบตั ิแสดงออกถงึ ใจ ใจมันจะ
ยอมรับ ไมย่ อมรบั นเี่ คร่อื งด�ำเนนิ ไง ปฏิปทาของพระธดุ งคกรรมฐาน
ปฏปิ ทา คือ เครื่องดำ� เนินเข้าไป ปฏิปทาเครือ่ งเข้า ถ้าเราไปทำ� ลายปฏิปทาซะหมดนะ
ถนนหนทาง มันจะเข้าไปไม่ได้ มาน่ีอาศัยหนทางเข้ามา ถ้าไม่มหี นทางเขา้ มา เราจะเขา้ ไปถงึ ใจ
ไดอ้ ยา่ งไร ? การจะเข้าไปถึงใจ การจะช�ำระกิเลส กิเลสมันอย่ทู ใี่ จ เห็นไหม วา่ ศาสนาน่ีมันเขา้ ได้
ด้วยเรื่องที่มันละเอียดอ่อนมาก ถ้าไม่มีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาตรัสรู้ เป็นไปไม่ได้
เลย เปน็ ไปไม่ได้เลย แตใ่ นเมอ่ื เราไมถ่ งึ กบั ว่าขนาดนัน้ เราหวังในมรรคผล หวงั ในเคร่ืองดำ� เนิน
แนวทางของเรายงั มอี ยู่ เราก็ต้องปฏิบัตติ ามนนั้ น่ีวตั รปฏบิ ตั ิ
หลวงตาทา่ นพดู ประจำ� “ใครจะเขา้ มาวัดนะ เข้ียวเล็บมนั ต้องถอดไวท้ ่ปี ระตู อย่าเอาเข้า
มาดว้ ย ศักด์ิศรดี งี ามทงิ้ ไวท้ ี่นัน่ มนุษยเ์ หมอื นกัน มนุษยเ์ หมอื นมนษุ ย์ มนษุ ยต์ ้องมศี กั ดศ์ิ รีดงี าม
ความเป็นมนุษย์เทา่ กัน” เห็นไหม นม่ี ันวดั ใจ มันถอดศักดศ์ิ รี ศกั ยภาพของตัวไว้ทีป่ ระตู แลว้ เข้า
มาปฏิบตั ิธรรมดว้ ยความเสมอภาค ความเสมอภาคนนั้ น่เี ข้าวัด !
หลวงปูฝ่ ัน้ บอกไปวดั ไปวานะ่ เรามาวดั เหน็ ไหม เรามาวดั เราไดม้ กี ตกิ า ได้การบงั คับ
ความเคยชินของเรา พอบังคับความเคยชิน อยู่บา้ นมนั มแี ตก่ ิเลสมนั ครอบงำ� มาวดั เอาวัตรมา
กรองหัวใจของเรา พอเขา้ มาวัดแลว้ ไดฟ้ งั ธรรม ไดฟ้ งั ธรรม มาวัดมันส�ำคัญตรงนี้ ส�ำคญั ตรงวา่
ไดฟ้ ังธรรม เวลาหลวงปูฝ่ ้ันทา่ นบอก ไปวดั เพอ่ื วัดใจของเรา ข้อวตั รปฏบิ ตั ิ วดั เขามีกติกาของเขา
เราเข้าไปในท่ขี องผทู้ รงศีล วดั เปน็ อาราม เป็นทีอ่ ยู่ของผู้ทีไ่ ม่มีอาราม ผไู้ มม่ บี ้านไมม่ ีเรือน เขากอ็ ยู่
จ�ำศีลของเขาในวดั ของเขา วดั เปน็ ท่ีอยทู่ รงศลี ของเขา เราเขา้ ไป เราก็ตอ้ งเคารพสถานท่ขี องเขา
เราไปวัดไปวากันน่ีวดั ใจ หลวงปูฝ่ นั้ บอกไปวดั ไปวัดใจ วดั คือ ข้อวตั รปฏิบัติ แต่โดย
ประเพณวี ฒั นธรรม วดั ก็มโี บสถ์ มีวหิ าร โบสถ์วหิ ารกป็ นู นะ่ ถา้ ปนู ท่บี ้านเรากม็ ี สรา้ งบ้านก็ใชป้ ูน
ใชอ้ ฐิ เหมือนกัน เวลาไปวัดไปวากม็ ีอิฐหนิ ปูนนน่ั ละ่ นี่วัดแบบโลกๆ ไง แต่ถา้ วัดนะ วัดใจเรา เราน่ี
จะวัดใจไหม เขาไปอยูท่ ีข่ องผ้ทู รงศีล ผทู้ รงศีลเขาตอ้ งสงบระงับ เขาสงบระงบั เพอ่ื กายวิเวก
จิตวิเวก อุปธิวิเวก คือ จติ วิเวกแท้จรงิ
เขาไปวดั เขาก็ไปเพือ่ ขดั เกลากิเลส คำ� วา่ “ขัดเกลา” มันคอื อะไร คำ� ว่า “ขัดเกลา”
ธดุ งควตั ร คอื เครอื่ งขดั เกลากเิ ลส ธุดงควัตร ธุดงค์ ๑๓ มันเป็นเคร่ืองมือ มันเป็นการช�ำระล้าง
402
กเิ ลส แล้วอย่ใู นที่วา่ ง อย่ใู นเรอื นวา่ ง มันเปน็ ธุดงควัตรไหม อย่ใู นเรอื นวา่ ง รา้ น อยใู่ นเรือนว่าง
เปดิ แล้วโลง่ ไปหมดเลย อยู่ในอพั โภกาสิกงั คะ วัดมนั เปน็ อยา่ งน้ี วดั มนั เปน็ ท่ขี ดั เกลากเิ ลส ถา้ ไป
วัดแล้ว มนั ไปสง่ เสริมกเิ ลสไง ไปวัดแลว้ ทำ� อะไรสิง่ ใดกต็ อ้ งเชิดหนา้ ชตู ากนั ไป ไปไหนแล้วก็ต้องมี
ไอ้อย่างนน้ั มนั ไปเพ่อื เสรมิ กเิ ลส ถ้าเสริมกเิ ลสเรา ไปวัดไมใ่ ชไ่ ปเสรมิ กเิ ลสนี่ ไปวัด เพือ่ ไปช�ำระ
ลา้ งกิเลส
ทา่ นสอนศีล ๕
ครบู าอาจารย์เทศนไ์ ว้ดังนี้
“อันน้ศี ลี ขอ้ ๕ ศีลขอ้ ๕ เน่ยี เปน็ ศลี ขอ้ ๕ หลวงปูฝ่ ัน้ พดู ถูกต้องท่ีสดุ ศีล ๕ คือ หัว ๑
แขน ๒ ขา ๒ ศีล ๕ คือคุณสมบัตขิ องมนุษย์ไง หลวงปฝู่ นั้ พดู นะ ซึ้งมากเลย ศีล ๕ คอื ศรี ษะ ๑
แขน ๒ ขา้ ง และขาอีก ๒ ข้าง นคี้ อื ศลี ๕ คอื ศีล ๕ จำ� เป็นแก่มนษุ ย์ไง เพราะมนุษยต์ ้องมี
แขน ๒ ข้าง ขา ๒ ข้าง และศีรษะ ๑ นค้ี ือศีล ๕ ศลี ๕ ของหลวงปฝู่ น้ั อมื สะใจมาก เพราะฉะนน้ั
ข้อไหนส�ำคัญทสี่ ุด ข้อไหน มันเป็นท่ีนสิ ยั อย่างเช่นเรา เป็นคนหวั ราน้�ำ เมาหวั ราน�้ำ เราก็บอกวา่
เหล้าส�ำคัญที่สุด อนั นีข้ อศีลไดท้ กุ ขอ้ ยกเว้นไว้ข้อหนงึ่ ขอ้ เมาสุรา ขอเมาเห็นไหม ถ้าข้อไหนสำ� คญั
ทส่ี ุด มนั กส็ งวนไวไ้ ง แต่ถา้ ไม่สำ� คญั ทีส่ ดุ มนั ก็ไม่รักษา ศีล ๕ ถงึ ส�ำคัญทีส่ ดุ เอาศีล ๕ เลย
ทัง้ ๆ ท่ีศลี ๕ มนั เป็นเรือ่ งสามญั ส�ำนึกของมนุษยเ์ ลย เวลาหลวงปฝู่ ้ันท่านสอน ศีล ๕ คอื
อะไร ศรี ษะ ๑ แขน ๒ เท้า ๒ นศี่ ีล ๕ ศลี ๕ คือมนษุ ย์นแ่ี หละ แล้วถ้ามนุษยม์ ันลมื ศรี ษะของมัน
มนษุ ย์มันลืมแขนซา้ ย แขนขวา เท้าซา้ ย เท้าขวา มนษุ ยม์ ันเป็นมนษุ ยไ์ ปได้ไหม ? มนษุ ย์คนใด
ขาดแขนไปขา้ งหนึ่ง ขาดขาไปขา้ งหน่ึง เขาก็คนพิการ แตเ่ วลาศีล เวลาศีล เหน็ ไหม รับศีลก็
บอกวา่ รบั ๔ ขอ้ สรุ าเมระยะฯ ขอไวก้ อ่ น มันจะตัดหวั ทิ้งไง มนั จะมีแขน ๒ แขน แลว้ ขา ๒ ขา
หัวไม่เอา เวลาหัวมนั จะเอา แต่เวลารับศีลนี่รับ ๔ ขอ้ มนั จะเอาแขน ๒ ข้าง เอาขา ๒ ข้างพอ
หัวไม่ตอ้ ง หวั ตดั ท้งิ ไป
กรณอี ย่างนี้ หลวงป่ฝู น้ั ท่านพูด เพราะมีคนไปถามหลวงปูฝ่ ัน้ ทา่ นมาก บอกว่า เขาอยาก
ถือศีล แต่เขากง็ ดการดื่มไม่ได้ เพราะตอ้ งการเข้าสังคม หลวงปูฝ่ น้ั ทา่ นบอกวา่ ดเู ราสิ เพราะ
หลวงปฝู่ ้ัน ศีลท่านบรสิ ทุ ธ์นิ ะ ท่านเปน็ พระอรหนั ต์ “ดูเราสิ เราไมด่ ่มื ท�ำไมสงั คมเราน่คี นเยอะ
ไปหมดเลย” เราอ้างกนั วา่ เพือ่ สังคม เพ่ือสังคมไง แต่เพ่ือสงั คมมันก็เป็นเร่อื งหนึ่ง
เราบวชใหมๆ่ สมยั หลวงปูฝ่ น้ั ผทู้ ล่ี ูกศิษยข์ องทา่ นนะ ไมด่ หู นงั ดูละคร ศีล ๘ บริสทุ ธิ์ เวลา
เรานง่ั คุยกันอยู่น่ี ทว่ี ดั อดุ มสมพร เวลาวัดข้างเคียงเขามีมหรสพ มหี นงั กัน นงั่ คุยกนั ขำ� ๆ เห็นเขา
ไปแล้วมนั ขำ� ๆ ขำ� ๆ เพราะอะไร ข�ำๆ เพราะวา่ เขามอี ุดมการณ ์ เขามีอดุ มคตขิ องเขา เขาไมต่ ืน่ เตน้
ไปกบั มหรสพสมโภช
403
สิ่งนั้นน่ะ อบายมุขมันก็พาไปสู่อบายภูมิ เราปฏิเสธกันนะ เราไม่อยากตกนรกอเวจี
เราอยากจะไปทดี่ ีๆ ท้งั นัน้ น่ะ อบายมขุ มันก็พาเราไปสอู่ บายภูมิ แล้วทุกคนเวลาถือศลี ๕ กบ็ อกวา่
จะปดิ อบายภูมิ จะไมล่ งต�่ำๆ แตอ่ บายมขุ น่ันล่ะ มันจะพาไปสู่อบายภมู ิ แล้วถ้าอบายมุข เราเหน็
อยา่ งนน้ั นไี่ ง คนทีม่ สี ตปิ ญั ญาเขาพดู กันแลว้ เขาขำ� ๆ นะ เพราะอะไร เพราะคนมันมอี ุดมคติ
เดียวกนั คยุ กันมันนา่ ชน่ื ใจ
เรานง่ั ฟงั อย่นู ะ เราบวชใหม่ๆ เราไปน่ังฟังอยู่ อู้ฮู ! แม้แต่ฆราวาสเขา เขายังมีอดุ มการณ์
มอี ดุ มการณ์ เพราะอะไรล่ะ เพราะหลวงปฝู่ ั้นทา่ นสอนน่ะ ท่านสอนของท่าน ทา่ นมีความสุข
ของทา่ น แล้วทา่ นทำ� ตัวท่านใหม้ ีความสขุ จรงิ ๆ เพราะหลวงปฝู่ นั้ ทา่ นรม่ เย็นนะ “พุทโธผอ่ งใส
พทุ โธสวา่ งไสว” แค่ฟังแคน่ ี้ ปลื้มเพราะอะไร เพราะมันไมม่ ีใครพดู ไง
ท่านมีเมตตาของทา่ น ท่านมีเมตตา ทา่ นคุ้มครองดูแลเรา ถา้ คุ้มครองดแู ลเรา ทา่ นแผ่
เมตตาคมุ้ ครองดแู ลเรา ในปัจจบุ ันน้ที ่านกย็ ังค้มุ ครองดแู ลเราอยไู่ ง...
ฉะนั้น เวลาเราฟังเทศน์ เช่น เมื่อก่อนเราฟังเองนะ เราเข้าใจ พอหมู่คณะพูดกันว่า
ในหลวงฟงั เทศน์ของหลวงปู่ฝนั้ แล้วชอบมากเลย หลวงปูฝ่ ัน้ เทศนน์ มิ่ นวลมาก เหน็ ไหม “พุทโธ...
พทุ โธสวา่ งไสว” แล้วเราไปอยทู่ นี่ นั่ แมแ้ ตพ่ วกเชียงใหมม่ า พวกอะไรมา พอได้ยินเสียงท่าน
เทา่ นนั้ มนั เย็นนะ มันช่นื ใจ ไม่ตอ้ งไปเอาเน้อื ความหรอก เอาแค่น�้ำเสยี งนี่ โอ้โฮ ! ชนื่ ใจมากนะ
หลวงปู่ฝ้นั นีน่ ะ พดู ออกมา โอ้โฮ ! คนนจี่ ะชื่นใจหมดเลย “พุทโธสว่างไสว... พุทโธผอ่ งใส...”
พูดช้ามาก แต่พดู เอื้อน คนฟังแล้วมันจะช่ืนใจ”
ส่วนความศรทั ธาของชาวบา้ นท่ีมีตอ่ หลวงปู่ฝนั้ และพระศษิ ย์ ครบู าอาจารยเ์ ทศนไ์ ว้ดังนี้
“หลวงปู่ฝัน้ ท่านอยู่ที่พรรณานคิ ม เวลาหน้าหนาว ทา่ นจะออกบิณฑบาตนะ บ้านบะทอง
อยหู่ ลงั วัด เรากไ็ ปบิณฑบาตท่นี ่ัน เขาจะเอาฟางนี่เรยี งเปน็ แถบไปเลย แต่เช้าขน้ึ มาจะมคี นเอาฟาง
มาวางเป็นทางไปก่อน เพราะมันหน้าหนาว เวลาท่านเดินไป เขาจะจุดไฟไล่ไป นี่เขาเอาบุญ
ขนาดนน้ั นะ แม้แต่อากาศหนาว เขายังใหค้ วามอบอุ่นกับพระทีอ่ อกไปบณิ ฑบาตเลย แลว้ ถา้ ปฏบิ ตั ิ
ไมด่ ีจะเปน็ อยา่ งนน้ั ไหม ?”
บาตรเหลก็ ของหลวงปู่ฝ้ัน
บาตรเหล็กใบจริงของ “หลวงปู่ฝน้ั อาจาโร” ซง่ึ แสดงอยู่ในเจดียพ์ พิ ิธภณั ฑ์พระอาจารย์
ฝั้น อาจาโร มขี นาดท่ีใหญย่ ่ิงกวา่ บาตรพระท่วั ๆ ไปท่ีพบเหน็ กนั ในปจั จุบนั ถอื เป็นตวั อยา่ งทีเ่ หน็
ได้ชดั เจนถึงบาตรของพระธดุ งคกรรมฐาน ดังท่อี งคห์ ลวงตาพระมหาบวั เทศน์ไว้ดงั นี้
404
“พระกรรมฐานไปไหน จึงไมม่ หี ว่ งหนา้ หว่ งหลงั มแี ต่บรขิ าร ๘ เท่านั้น ส่งิ ทเ่ี ลยบริขาร ๘
ไปกค็ อื กาน�้ำ พวกมุ้ง พวกกลด ขนาดน้นั ก็เอาไปได้สบายๆ ไม่เหน็ มีอะไร ไปอยู่ทีไ่ หนก็สบาย
ถ้าว่าจะไป ก็จับของเหล่าน้ันมาใส่บาตร บรรจุในบาตรปั๊บ เต็มบาตร พอดีสะพายบาตร
เพราะฉะน้ัน พระกรรมฐานจึงมีบาตรใหญ่กว่าปกติอยู่บ้าง บางคนเขาไม่เข้าใจ...ว่า เอ๊ะ !
พระกรรมฐานนีว่ า่ เป็นผูม้ กั นอ้ ยสนั โดษ ทำ� ไมจงึ ต้องมบี าตรใหญน่ ักหนา เขาไม่เขา้ ใจความหมาย
ของพระกรรมฐานวา่ ทำ� บาตรใหญเ่ พ่อื ที่จะได้อาหารมากๆ มาฉัน
ความจริงบาตรใหญ่น้ันใช้แทนกระเป๋าเดินทาง ถ้าบาตรลูกเล็กๆ ใส่สังฆาฏิตัวเดียวมันก็
หมดแล้ว ทีนข้ี องนน้ั จะเอาใสท่ ไี่ หน ไม่มีทใี่ ส่ เมือ่ บาตรใหญม่ งุ้ ก็ลงทน่ี ่นั สังฆาฏกิ ็ลงท่นี ่ัน แนะ่
โคมไฟกเ็ อาลงท่ีนนั่ พอดี เทียนไข ไม้ขดี ไฟท่ีมีติดตัวไปบ้างก็เอาลงทนี่ ั่น สะพายพอดีเลย หนกั ก็
พอดี ไมห่ นกั มาก กลดก็แบกเสีย บาตรก็สะพายเสีย ยา่ มเล็กใส่ทางบา่ ขา้ งหนึ่งแล้วไปธุดงค–
กรรมฐานได้อยา่ งคลอ่ งตวั และทส่ี �ำคญั เวลาออกธดุ งคกรรมฐาน แล้วเกดิ ฝนตกของทเี่ ก็บรักษาไว้
ในบาตรใบใหญก่ จ็ ะไม่เปียกด้วย”
การรักษาบาตร ตามพระวนิ ัยบญั ญตั ไิ วล้ ะเอียดมาก ครบู าอาจารย์ เทศน์วา่
“ดบู าตรสิ บาตรนีถ่ ้าไมถ่ ึง ๒ น้วิ เขาไม่ให้เปล่ยี นนะ บาตรน่ไี มท่ ะลถุ งึ ๒ น้วิ ไม่ให้เปลีย่ น
นค่ี รบู าอาจารย์ทใ่ี ช้นะ นเี่ ราอยู่กบั ครบู าอาจารย์มา หลวงปู่ฝ้นั บาตรของทา่ นไม่ไหใ้ ครแตะเลย
หลวงปฝู่ นั้ นำ้� เม่อื ก่อนมันลำ� บากใช่ไหม เขากม็ โี อง่ นำ้� ไว้ รองไว้ แล้วเวลาพระก็จะมี
กระบอกไม้ไผ่ เขาเรียกว่า ธมกรก กดลงไป แล้วเอามาใส่ในกานำ�้ มาตม้ นำ้� เอามาใส่กานำ�้ เพ่อื ฉัน
ใช่ไหม ทีน้ถี ้าพวกโยมไม่เปน็ เอาแกว้ น้�ำลงไปตกั แกว้ น้�ำ เราดม่ื น�้ำ ริมฝปี ากเราโดนแกว้ น�้ำนนั้
พอลงไปตัก หนง่ึ อามิสของเราลงไป หลวงป่ฝู นั้ สง่ั เททิ้งหมดเลย แล้วทำ� ใหม่ มันเป็นอามสิ
อยา่ งบาตรเราล้าง เราเช็ดกันไป ขอบบาตรทุกอยา่ งจะใหม้ นั สะอาด ถ้าพอมันโดนความรอ้ น
ไขมันออกมา ไขมันสะสม นี่สันนธิ ิ เปน็ อาบัตินสิ สคั คิยปาจิตตีย์ เวลาเชด็ บาตรล้างบาตร ถา้ มนั
เป็นไขมันเคลือบไว้ พอมันโดนความรอ้ น ไขมนั จะออกมา ไขมนั นั้นสะสมไวข้ า้ มคนื พอสะสมไว้
ขา้ มคืน อาหารนัน้ ไปเลอะไขมันนน้ั เปน็ สนั นิธิ คอื วา่ ของเก็บไวแ้ รมคืน มันเป็นอามิส มันเปอื้ น
ภกิ ษุฉัน เปน็ นิสสคั คิยปาจติ ตยี ์ มันฝึกสติ การเกบ็ การล้างนะ มนั อยูท่ ี่ครบู าอาจารย์จะชีน้ �ำ
เราอยูส่ ายหลวงป่ฝู ้ันมาก่อน อยู่กบั หลวงปู่จวน ไปหลวงปขู่ าว หลวงปแู่ หวน เรากด็ ู
หลวงปูแ่ หวนทางเชียงใหม่ เราไปอย่กู บั ท่านนะ เช็ดบาตรเสรจ็ นะ ทนี ีท้ างเหนือมันหนาว เขาจะ
ต้มน้�ำไว้หม้อหน่ึง หม้อสแตนเลส พอเช็ดบาตรล้างบาตรเสร็จต้องเอาน�้ำร้อนใส่บาตร ทาง
เชียงใหม่ น่ีวธิ ที วี่ ดั หลวงปูแ่ หวน แลว้ มาท่วี ัดหลวงป่ฝู ั้น ของหลวงปู่ฝนั้ ใช่ไหม บาตรท่านต้องให้
คนอุปฏั ฐากเฉพาะคนทถ่ี อื แล้วถา้ ไมใ่ ชอ่ งคน์ ัน้ ไปจบั นะ นพี่ ระเลา่ ใหฟ้ ังนะ เวลาทา่ นคยุ กับโยม
405
ท่านจะมองที่บาตรตาเขยี วปดั้ เลย คอื ว่าเมอ่ื ก่อนมนั ไม่มีสแตนเลส มันเปน็ บาตรเผา ถา้ มนั กะเทาะ
ปบ๊ั ไอท้ ่เี คลือบไวม้ นั จะร่อนทันที สนิมมันจะเกิด ท่านจะให้เฉพาะคนจบั ถา้ เป็นคนอ่นื มาตอ้ งฝกึ
ให้เปน็ กอ่ น
แลว้ เรอ่ื งอย่างนี้ เดยี๋ วนีส้ แตนเลสมนั มีมากขน้ึ มา ตอนนพี้ ระกห็ มนุ กลบั หมนุ กลับไปใช้
บาตรเหลก็ อกี พอบาตรเหลก็ เวลาธดุ งคไ์ ป เวลาถือ ท�ำไมมนั มีซบบาตรแล้ว มนั ยังมถี ุงบาตร
แลว้ เวลาไป เราจะเอามุ้งบาตรล้อมมัน เพราะมนั กระทบไง เวลาขน้ึ รถไปกระทบ หรอื บาตรมนั
กระทบกันมนั จะแตก โอ๋ย ! การรักษาบาตรนะ ต้งั แต่หลวงปมู่ น่ั ลงมานะ คือว่า เหมือนกับพ่อเนอื้
เหมือนกบั ปู่ ย่า ตา ยาย ท่ีช�ำนาญมาก แลว้ พวกเราเรมิ่ รนุ่ ลูก ร่นุ หลานชักเร่ิม ของทีไ่ ด้มางา่ ย
มันไม่เห็นคุณคา่ ของที่ไดม้ ายาก”
หลวงปูฝ่ ัน้ เมตตาเดก็ ๆ มากเปน็ พเิ ศษ
คณุ หมออวย เกตุสงิ ห์ บนั ทกึ ไว้ดงั น้ี
“กับเดก็ ๆ ทา่ นอาจารย์มคี วามเมตตามากเป็นพิเศษเสมอ เพราะฉะน้นั คนจึงชอบพาลูก
หรือหลานไปกราบทา่ นแลว้ ขอใหเ้ ป่าหรือลบู หัว ทา่ นกย็ อมท�ำให้โดยไมบ่ ิดพลิ้ว ถ้าไปกราบเวลา
ฉันทา่ นมักจะแถมขนมใหด้ ว้ ย ถ้าเป็นเดก็ โตหนอ่ ยก็ใชใ้ หท้ �ำธุระต่างๆ เป็นการชกั น�ำเด็กให้คุน้ กับ
พระ ทผ่ี ู้เขียนและคนอน่ื ๆ น่าเอน็ ดูเปน็ พิเศษ ก็คอื การท่ที ่านสอนใหเ้ ดก็ ฝกึ สมาธิ พอ่ แมบ่ างคน
ท่ีมลี กู วา่ ยาก ชอบพาไปกราบทา่ น ใหช้ ว่ ยดดั นสิ ยั ท่านมกั จะเรมิ่ ด้วยการให้ทอ่ งพทุ โธ พอเห็น
ความด้ือค่อยน้อยลงก็สอนใหน้ ั่งภาวนา ทหี ลงั เด็กนนั้ มาอีก ท่านกเ็ รยี กไปนง่ั ใหด้ ู บางทีกใ็ ห้นง่ั
ในระหว่างท่ที ่านฉัน
บางครั้งมเี ด็กเล็กๆ ขนาดหกเจด็ ขวบสองสามคนนง่ั เข้าสมาธอิ ยตู่ รงหน้าท่าน ทา่ นฉันเสร็จ
ก็ให้เลิก และมักจะรางวัลด้วยการให้อาหารก้นบาตร ซ่ึงลูกศิษย์นิยมว่า หากใครกินแล้วจะมี
สติปัญญาเฉียบแหลม ผู้เขียนเคยสนทนากับมารดาของเด็กบางคน เขายืนยันว่าวิธีปราบด้ือของ
ทา่ นอาจารย์นัน้ นอกจากท�ำให้เด็กเรียบรอ้ ยแล้วยังทำ� ใหเ้ รียนหนังสือเกง่ ขน้ึ อีกด้วย
ครง้ั หนงึ่ มเี ดก็ หญงิ ผหู้ นง่ึ อายปุ ระมาณสบิ ขวบ เปน็ ลกู ของศษิ ยผ์ หู้ นงึ่ มศี รทั ธาขอบวชเปน็ ชี
เพ่ือปฏิบัตธิ รรมกบั ทา่ นในระหวา่ งโรงเรยี นปดิ ทา่ นกจ็ ัดการบวชใหแ้ ละเรียกว่าแม่ชเี จยี๊ บ ซึง่ เป็น
ชือ่ ท่ีเหมาะสมกบั หน้าตาและรูปรา่ งของแมช่ ีนอ้ ยนั้น อยู่มาแม่ชีเจี๊ยบรอ้ งไห้ ท่านถามว่าร้องท�ำไม
แม่ชีวา่ คดิ ถงึ คณุ แม่ ทา่ นถามว่า ท�ำไมตอ้ งคิดถงึ แม่ชวี ่าเพราะอย่บู ้านคุณแมเ่ คยให้กินนมทุกๆ วนั
ทา่ นปลอบวา่ ไม่ต้องรอ้ งไห้ อย่กู ับหลวงปู่ หลวงปกู่ ม็ นี มใหก้ ิน แมช่ นี ้อยนกึ สงสยั วา่ ท่านพูดเลน่
แต่ไม่ทันไดถ้ าม ท่านก็ขยบั จีวรเปิดให้มองเหน็ “เต้า” ของทา่ น แมช่ ีนอ้ ยจึงรู้แนว่ ่า ท่านไม่ได้พดู
หลอก ทา่ นมีจริงๆ และทา่ นแกล้งเปดิ ให้เห็นโดยไมต่ อ้ งถาม เพ่อื จะใหค้ ลายความคิดถึงมารดา
406
แมช่ ีนอ้ ยน�ำเรอ่ื งนี้ไปเล่าใหภ้ รรยาผ้เู ขียนฟงั เพื่อจะใหช้ ้ีแจงวา่ ทำ� ไมหลวงปูจ่ งึ มี “เตา้ ” เหมอื น
ผู้หญงิ ภรรยาผเู้ ขยี นจึงได้ทราบถงึ ความเมตตาของท่านทแ่ี สดงแกแ่ ม่ชีนอ้ ยนน้ั อกี คนหนึ่ง”
ต�ำรายาของหลวงปู่
ทา่ นพระอาจารยฝ์ น้ั อาจาโร นอกจากจะเป็นทเ่ี ลือ่ งลอื ในด้านคณุ ธรรม ยังไดช้ อ่ื วา่ มี
ยารกั ษาโรคที่ศกั ดส์ิ ทิ ธอิ์ ยูห่ ลายขนาน และมคี นไปขอต�ำราหรือขอยาของท่านอยเู่ สมอๆ ในเรือ่ งน้ี
พงึ สงั เกตว่า ท่านไม่ไดท้ ำ� ตวั เปน็ หมอรักษาโรค ท่านไม่เคยประกาศว่า ทา่ นรบั รกั ษาโรค หรอื มยี าดี
เปน็ แตว่ า่ มีใครมาขอ ท่านก็ให้ ถา้ ไมข่ อ ทา่ นกเ็ ฉยๆ เหน็ ว่าในใจของทา่ นก็คือความเมตตากรณุ า
ต้องการช่วยคนใหพ้ ้นทกุ ข์เท่าน้ัน
การท่ีท่านมีช่ือเสียงในด้านน้ีขึ้นมาก็เพราะเหตุการณ์บังคับ แต่ไม่ว่าใครจะมาขอยาหรือ
ขอให้ช่วยทุกข์ร้อนเรื่องอ่ืนใดก็ตาม ท่านจะต้องให้ภาวนา “พุทโธ” ด้วยเสมอ และให้ถือศีล
ตามฐานะ ข้อน้ีแสดงวา่ ทา่ นอาศยั การสงเคราะห์เหลา่ นเี้ พ่ือเผยแผธ่ รรมะของพระพทุ ธเจ้า ไมต่ ้อง
สงสยั ว่า ความเช่อื มัน่ ในความศักดสิ์ ทิ ธิ์ส่วนตวั ของท่านพระอาจารยท์ ่ีผูศ้ รทั ธามีอยู่ต่อท่าน เป็น
ปัจจัยส�ำคัญมากในผลดีท่ีเกิดข้ึน ดังนั้น แม้แต่ไม้จ้ิมฟันของท่าน ก็มีผู้ขอเอาไปและใช้ได้ผล
จนเรยี กกันว่า “ไมห้ มอ” ดงั ที่ได้กล่าวมาแลว้ ในตอนก่อน
เมื่อหลวงปู่ฝั้นถึงแก่มรณภาพแล้ว คุณหมออวยได้รับสมุดจดต�ำรายาของหลวงปู่มาจาก
หลวงปสู่ ุวจั น์ สวุ โจ เลม่ หนงึ่ และหลวงป่สู วุ ัจน์ บอกวา่ “ยังมเี ลม่ สีน�้ำเงนิ อกี แต่หาไม่พบ”
ในเล่มทไี่ ดม้ ามบี ันทึกตวั เขียนหมกึ ทัง้ เล่ม แต่เห็นไดว้ า่ ไม่ใช่ลายมือพระอาจารย์ เปน็ หลาย
คนเขียน เขา้ ใจว่าทา่ นคงบอกใหพ้ ระหรือเณรจดไว้ บางขนานอา่ นไม่ค่อยออก เพราะลบเลอื นดว้ ย
ความช้ืน ได้คัดเลือกมาตีพิมพ์ไว้บางส่วน เพื่อเป็นที่ระลึกถึงความสามารถและความสนใจของ
ท่านพระอาจารย์ ยงั มียาทที่ ่านใชเ้ สมอๆ อีกบางอยา่ ง เชน่ ยาส้มและนำ�้ มนั ผ้งึ กลัน่ ซงึ่ ทา่ นเช่อื ถอื
ในความศกั ดสิ์ ทิ ธ์ิมาก กับสมุนไพรบางชนิดทท่ี ่านเอ่ยถงึ บ่อยๆ พวกน้ีไมม่ ใี นสมุดท่ีผรู้ วบรวมได้มา
อาจจะอยู่ในอกี เลม่ หนึ่งทห่ี ายไป
คุณหมออวย ไดร้ วบรวมตำ� รายาของหลวงป่ฝู ัน้ ไวถ้ งึ ๕๐ ขนาน และสรปุ ถึงการใช้ยาดงั นี้
“หวังวา่ ต�ำรายาเหล่านีจ้ ะให้ประโยชนแ์ กผ่ ้นู �ำเอาไปใช้ เชน่ เดียวกับผทู้ ่เี คยได้รับจากทา่ น ถา้ หาก
เวลาใชจ้ ะนกึ อธิษฐานถึงท่านดว้ ยกน็ ่าจะได้ผลดียิ่งขนึ้ ”