The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวทางการจัดกิจกรรมแนะแนว ม.4 - ม.6-ผสาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สุนีรัตน์ ชูช่วย, 2021-11-13 05:21:41

แนวทางการจัดกิจกรรมแนะแนว ม.4 - ม.6-ผสาน

แนวทางการจัดกิจกรรมแนะแนว ม.4 - ม.6-ผสาน

ก็จะส่งผลให้เยาวชนในบ้านเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่ดีน้ันไปจนอาจก่อปัญหาท้ังสุขภาพกายและสุขภาพจิต 393
ขน้ึ มาได้ในภายหลงั

4. กำรใช้โทรศพั ท์เคล่อื นท่ี

โทรศัพท์เคล่ือนที่ หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ส้ัน ๆ ว่า มือถือ จากท่ีมีใช้เฉพาะกลุ่ม ก็กลายเป็นส่ิงที่
สามารถซื้อได้ทุกคน จากตัวเครื่องที่ใหญ่เทอะทะก็กลายมาเป็นเครื่องขนาดเล็กกะทัดรัด หรือจากท่ีมีการใช้
เพียงแค่รับสาย - โทรออก ก็เพ่ิมความสามารถไปอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ถ่ายรูป ฟังเพลง หรือแม้แต่เล่น
อินเทอร์เน็ต และด้วยการพัฒนาต่อเน่ืองเร่ือย ๆ นี้เอง ทาให้มันกลายเป็นส่ิงล่อตาล่อใจของเยาวชน
ใหเ้ ยาวชนพยายามไขว่คว้ามาเปน็ เจา้ ของ โดยไมท่ ราบถึงอันตรายที่กาลังจะตามมา ซงึ่ ผลวิจยั จากฮารว์ าร์ดที่
ได้รับทุนจากบริษัทมือถือสรุปผลออกมาแล้วว่า การใช้โทรศัพท์มือถือส่งผลให้เซลล์มนุษย์เปล่ียนแปลง และ
อาจก่อให้เกิดมะเร็งหรือเนื้องอกในสมองได้ และสาหรับเด็กวัยต่ากว่า 16 ปี ที่กะโหลกศีรษะไม่หนาพอ
ต้านทานแรงกระทบจากคล่ืนแม่เหล็กท่ีปล่อยออกมาจากมือถือ ถ้าใช้มือถือบ่อยครั้งก็จะมีผลกระทบทาง
สมองได้ในอัตราส่วนที่เพิ่มข้ึน นอกจากน้ี การใช้โทรศัพท์มือถืออย่างไม่ระวังก็จะส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุหรือ
การโดนลกั ทรัพย์ได้

5. กำรเดินทำงบนทอ้ งถนน

เยาวชนเกินกว่าครงึ่ หน่ึงของท้ังประเทศ เดินทางโดยลาพังด้วยรถโดยสารประจาทางหรือไม่บาง
คนก็ต้องเคยใช้บริการบ้างเป็นคร้ังคราว แต่ความปลอดภัยในการใช้รถโดยสารประจาทางนั้นแทบจะเรียกได้
ว่า เข้าข้ันวิกฤต การขับรถและการจอดรถที่อันตราย อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุกับเยาวชนได้ โดยเฉพาะ
รถโดยสารประจาทาง และรถโดยสารที่ดัดแปลงมาจากรถกระบะ โดยการเสริมหลังคาลงไปก็ไม่ปลอดภัย
อยา่ งมากทจ่ี ะให้เด็กขึ้นไปนั่ง เพราะไม่มีประตูกัน้ และคนขับก็ไม่สามารถเห็นผโู้ ดยสารได้ อกี ท้ังการขา้ มถนน
โดยไม่ใชส้ ะพานลอยหรือทางมา้ ลาย กม็ ผี ลให้เกิดอุบัตเิ หตไุ ด้เช่นกัน

6. กำรรับประทำนอำหำร

ตอนเย็นหลังเลิกเรียน จะสังเกตเห็นร้านค้าต่าง ๆ มาตั้งร้านขายสินค้าให้เด็ก ๆ และเยาวชนอยู่
ด้านหน้าโรงเรียน โดยหนีไม่พ้นพวกของเล่นและอาหารรับประทานง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลูกชิ้นปิ้ง น้าปั่น
ไก่ทอด ขนมกรุบกรอบ ฯลฯ ซ่ึงตั้งล่อตาล่อใจให้เด็กได้เข้าไปซ้ือหามา แต่ก็มีพ่อค้าแม่ขายบางคนที่มักง่าย
ขาดจติ สานกึ เอาสง่ิ ทเี่ ปน็ อันตรายมาขายให้กบั เด็ก โดยไม่คานึงถึงอนั ตรายทต่ี ามมา สว่ นรปู แบบของอาหาร
ก็มีการใส่สีหรือสารต่าง ๆ เพ่ือเพิ่มปริมาณการผลิตและลดต้นทุนสินค้า ซ่ึงมักจะเป็นสารพิษหรือไม่ก็ส่ิงไม่มี

ประโยชน์ต่อร่างกายของเด็ก เช่น สารบอแร็กซ์ในลูกช้ิน มีฤทธิ์ทาให้ลูกช้ินเด้งน่ารับประทาน นิยมใส่ใน 394
อาหารประเภทฮอทดอก หมูบด หรือการใส่ขัณฑสกรในผลไม้ดอง ที่จะทาให้ผลไม้น้ันมีรสชาติหวาน กรอบ
เป็นต้น

7. กำรใชอ้ นิ เตอรเ์ น็ต/เกมส์ออนไลน์

เมื่ออินเทอร์เน็ตเร่ิมเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตของคนทุกคน โดยเฉพาะกับเยาวชนที่ถือกาเนิดมา
พร้อมกับโลกสมัยใหม่ มันได้เข้าไปแทรกซึมในทุกที่ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน โรงพยาบาล ร้านค้า รวมไปถึง
หน่วยงานสาคัญต่าง ๆ ประโยชน์ของมันมีมากมายมหาศาล หน่ึงในน้ันคือ การย่อโลกให้เล็กลง จากที่เคย
ติดต่อกับคนอีกซีกโลกหน่ึงด้วยการโทรศัพท์ ซึ่งแม้ในปัจจุบันก็เป็นส่ิงที่เสียค่าใช้จ่ายสูง แต่โลกอินเทอร์เน็ต
ทาให้มันเป็นเร่ืองง่ายแล้วเสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก เช่น ระบบการแชต หรือส่ง e-mail เป็นต้น แต่ถึงแม้มันจะ
เป็นสิ่งที่ดีเลิศอย่างไร ก็ยังมีด้านไม่ดีที่เป็นอันตรายตอ่ เด็ก โดยเฉพาะกับเด็กที่มีปัญหา และขาดการยับย้ังชงั่
ใจ ระบบแชตที่เป็นส่ิงท่ีสร้างมาเพื่อการติดต่อสื่อสารกัน กลับกลายนามาใช้ในทางท่ีผิด เนื่องจากบางครั้งคู่
สนทนาไม่ได้รู้จักหรือเห็นหน้ากัน จึงทาให้ง่ายต่อการพูดคุย อย่างเช่นการพูดคุยในเร่ืองเพศท่ีไม่เหมาะสม
หลอกล่อ นัดเท่ียวหรือชักชวนให้อีกฝ่ายไปยังสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งถ้าเด็กคนใดหลงเช่ือก็จะไปตามนัด จนบางที
อาจได้รับอันตรายกลับมา และต่อมาก็เป็นเกม จากที่เคยอยู่บนเคร่ืองเล่นเกมราคาแพง โดยมีเด็กไม่ก่ีคน
ที่มีสิทธิเป็นเจ้าของ กลายมาเป็นเกมออนไลน์ท่ีเล่นกันได้บนโลกอินเตอร์เน็ตในราคาตามร้านเน็ตทั่วไป
ราว 10-20 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ไม่มากเลยสาหรับเด็กในยุคน้ี ประจวบกับตัวเกมที่มุ่งให้เก็บค่าต่างๆ
เพ่ือพัฒนาคว ามสา มาร ถ ขอ งตัว ล ะ ครใน เก มน้ัน ๆ ทาให้กลายเป็นสิ่งจูงใจ ให้ อยา ก เ ล่ น
เพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ซ่ึงเมื่อเด็กเล่นมากจนเกินไปก็จะส่งผลเสียต่อสุขภาพและพฤติกรรมของเด็กได้

ท้ังหมดน้ีคือ ช่องทางอันตรายของเด็กในยคุ นี้ แต่ส่ิงเหล่าน้ีก็เปน็ เพียงบางส่วนเท่านน้ั ในขณะที่โลก
กาลังหมุนไปเรื่อย ๆ สิ่งท่ีเป็นอันตรายต่าง ๆ ก็มีการพัฒนามากข้ึนไปด้วย บางคร้ังอันตรายก็มีการแตกแยก
ย่อยความเป็นอันตรายออกไปอีก หรือความอันตราย ก็เป็นช่องทางให้เกิดความอันตรายใหม่ ๆ
ซึ่ ง ผู้ ใ ห ญ่ แ ล ะ ผู้ ป ก ค ร อ ง ทั้ ง ห ล า ย จ า เ ป็ น ที่ จ ะ ต้ อ ง ม อ ง ใ ห้ อ อ ก แ ล ะ รู้ เ ท่ า ทั น ถึ ง ปั ญ ห า ที่ ท า ใ ห้
เกิดอันตราย เพ่ือให้เยาวช นไทย อยู่ในสังคมท่ีปลอดภัยและมีภูมิคุ้มกันท่ีดีและแข็งแรง

อา้ งอิง : เวปไซด์มลู นิธิเด็ก Foundation For Children นายนรรัชต์ ฝนั เชียร www.ffc.or.th

ใบงำน 395
เรื่อง ภัยจำกสงั คมออนไลน์

ให้นกั เรยี นสืบคน้ จากอนิ เทอร์เนต็ สถานการณภ์ ัยคุกคามในปัจจบุ ัน กลมุ่ ละ 1 สถานการณ์

1.สถานการณ์ ...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............

2. ปจั จัยที่เปน็ สาเหตุทีท่ าใหเ้ กดิ ภัยคุกคาม
.......................................................................................................... ...............................
.........................................................................................................................................
............................................................................................................................. ............

3. แนวทางการป้องกันและแกไ้ ข
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................
.........................................................................................................................................

แผนกำรจดั กจิ กรรมแนะแนวที่ 14

หนว่ ยกำรจดั กิจกรรม ส่วนตวั และสงั คม ช้ันมธั ยมศึกษำปีที่ 4 - 6

เรอื่ ง ชุมชนของเรำ จำนวน 2 ชว่ั โมง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สำระสำคญั

การสร้างความตระหนัก และมีส่วนร่วมดูแล ช่วยเหลือ แก้ปัญหาในโรงเรียน ชุมชน และสังคม

ตามศักยภาพเป็นการดูแลปลูกฝังและส่งเสริมให้นักเรียนมีจิตสาธารณะอันเป็นคุณลักษณะสาคัญในการอยู่

ร่วมกันในสงั คม

2.สมรรถนะกำรแนะแนว : ด้ำนส่วนตัวและสงั คม
ข้อ 4 ปรบั ตวั และดารงชีวิตอยใู่ นสงั คมได้อย่างมีความสุข

3. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
3.1 วิเคราะหส์ ภาพปญั หาภายในโรงเรียน ชุมชน และสงั คม
3.2 สรปุ แนวทางในการแกป้ ญั หาและพัฒนาภายในโรงเรียน ชุมชน และสังคม

4.สำระกำรเรยี นรู้ 396
สภาพปญั หาของโรงเรยี น ชุมชนและสังคม และแนวทางการพัฒนาโรงเรียน ชมุ ชน และสงั คม

เพอ่ื ใหอ้ ยู่ร่วมกันอย่างมคี วามสขุ

5. ช้นิ งำน / ภำระงำน (ถ้ำม)ี
5.1 ใบงาน เรอ่ื ง โรงเรียนของเรา
5.2 ใบงาน เรื่อง โครงการร่วมใจแก้ไขปัญหาชมุ ชน

6. วิธีกำรจดั กิจกรรม
ช่ัวโมงท่ี 1
6.1 ครนู าสนทนาเก่ียวกับปัญหาที่เกิดขึน้ ในสงั คม และติดภาพข่าวเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ ทเ่ี กดิ ขนึ้

ในสงั คม (เช่น ภาพแหล่งเสื่อมโทรม สถานบนั เทิง ขยะ/นา้ เนา่ เสีย ภาวะฝนุ่ ละออง ฯลฯ)
6.2 ครแู บ่งกลมุ่ นกั เรียนกล่มุ ละ 6-8 คน ใหช้ ว่ ยกันระดมสมอง ในประเดน็ ตอ่ ไปน้ี
6.2.1 ในโรงเรยี นของเรา มปี ัญหาอะไรบ้างท่ีเกดิ ข้นึ และยงั ไม่ไดร้ บั การแกไ้ ข
6.2.2 ปัญหาเหลา่ น้ี สง่ ผลกระทบต่อตวั นกั เรียน และบคุ ลากรในโรงเรียนอยา่ งไรบา้ ง
6.2.3 นักเรยี นจะมสี ่วนร่วมในการแก้ปญั หาอยา่ งไร สรุปลงในใบงาน โรงเรียนของเรา

6.3 นักเรียนนาเสนอประเด็นปัญหา ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปปัญหาและแนวทางการแก้ปัญหา 397
ภายในโรงเรียน ซึ่งหากทุกคน ทุกฝ่ายต่างตระหนักในการมีส่วนร่วมในการป้องกัน แก้ไข และแบ่งเบาภาระ
เหล่าน้ันร่วมกัน จิตสานึกในการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อส่วนรวมจะเกิดขึ้นได้ ต้องเร่ิมต้นจากการรับผิดชอบ
ตอ่ ตนเอง และสงั คมรอบข้าง ตอ้ งมคี วามรกั ความเขา้ ใจ และเสียสละช่วยกนั ปอ้ งกนั และแกไ้ ข ปัญหาเหลา่ น้ัน
ก็จะลดลงและแก้ไขได้

ชัว่ โมงท่ี 2
6.4 ครูและนักเรยี นร่วมกันทบทวนส่งิ ท่ีไดเ้ รยี นรใู้ นชว่ั โมงที่ผ่านมา
6.5 ครูเช่ือมโยงการเรียนรู้เร่ืองสภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาในโรงเรียนไปสู่การตระหนักถึง
สภาพปัญหาที่เกิดข้ึนในชุมชน ซึ่งพวกเราทุกคนจะต้องมีสว่ นรว่ มแรงรว่ มใจท่ีจะใส่ใจดูแล และเสยี สละในการ
แกป้ ัญหา ไมค่ ิดถงึ แต่ประโยชนส์ ่วนตนแต่การท่ีผู้คนในชุมชนมีจิตใจท่ีดีงาม รู้จักการแบง่ ปัน เอ้อื เฟ้อื ช่วยเหลอื
กนั ไม่เหน็ แกต่ ัว กจ็ ะทาใหส้ งั คมนนั้ งดงามนา่ อยู่ และชวนใหน้ ักเรียนคดิ วธิ กี ารชว่ ยกนั จัดการกับปญั หาในชมุ ชนของ
ตนเองตามที่มีความสามารถปฏิบัติได้จริงโดยการช่วยกันระดมสมองคิดโครงการร่วมใจแก้ไขปัญหาชุมชน
6.6 ครูแจกใบความรู้ การเขียนโครงการ ใหน้ ักเรียนศกึ ษา และครูอธบิ ายเพิม่ เตมิ พร้อม
นาเสนอตวั อย่างโครงการ
6.7 ใหน้ ักเรียนแบง่ กลุ่ม ๆ ละ 10 -12 คน ชว่ ยกนั เขยี นโครงการรว่ มใจแก้ไขปัญหาชุมชน
6.8 ครพู จิ ารณาและกลนั่ กรองโครงการของนกั เรยี น พรอ้ มท้งั ให้ข้อเสนอแนะเพ่ือใหโ้ ครงการน้นั
สามารถลงสกู่ ารปฏิบตั ิได้
6.9 กาหนดเวลาใหน้ กั เรียนนาโครงการลงสู่การปฏิบัติจรงิ ในชมุ ชน แลว้ ใหน้ ักเรยี นนาเสนอผลการ
ปฏบิ ตั งิ าน

7.ส่ือ/อุปกรณ์
7.1 ภาพกรณตี ัวอย่างปญั หาในชมุ ชน เชน่ แหล่งเส่อื มโทรม สถานบันเทงิ ขยะ/นา้ เน่าเสีย

ภาวะฝนุ่ ละออง ฯลฯ
7.2 ใบงาน เร่ือง โรงเรยี นของเรา
7.3 ใบงาน เรอ่ื ง โครงการร่วมใจแกไ้ ขปัญหาชมุ ชน
7.4 ใบความรู้ เรื่อง การเขียนโครงการ

8. กำรวัดและประเมนิ ผล
8.1 วธิ กี ำรวดั และประเมนิ ผล

8.1.1 สังเกตความสนใจในการฟัง การตอบคาถาม และการร่วมอภปิ รายแสดงความคิดเห็น
8.1.2 ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครบถ้วน และความเรยี บรอ้ ยของใบงาน

8.2 เครือ่ งมือ
-

8.3 เกณฑ์กำรประเมิน
8.3.1 สงั เกตการปฏบิ ัติกิจกรรม

เกณฑ์ ตัวบ่งชี้
ผ่าน มคี วามสนใจในการฟัง การตอบคาถาม การรว่ มอภิปรายแสดงความคดิ เห็น
ไมผ่ ่าน ขาดส่งิ ใดสง่ิ หนึ่ง

8.3.2 ตรวจใบงาน
เกณฑ์ ตวั บ่งช้ี
ผา่ น ทาใบงานถูกต้อง ครบถ้วน และส่งงานตามกาหนด
ไม่ผา่ น ขาดสง่ิ ใดส่ิงหนงึ่

398

ใบงำน 399
เรอื่ ง โรงเรยี นของเรำ

ใหน้ กั เรยี นรว่ มกันระดมสมองเก่ียวกับโรงเรียนของเรา ในประเด็นต่อไปนี้

1. ในโรงเรียนของเรา มีปัญหาอะไรบ้างทเ่ี กดิ ขึ้นและยงั ไมไ่ ดร้ บั การแกไ้ ข
.........................................................................................................................................
......................................................................................................................... ................
......................................................................................................................... ...............
......................................................................................................................... ................

2. ปัญหาเหลา่ น้ี สง่ ผลกระทบต่อตัวนกั เรยี น และบคุ ลากรในโรงเรียนอย่างไรบา้ ง
........................................................................................... ..............................................
........................................................................................... ..............................................
........................................................................................... ..............................................
…………………………………………………………………………………………………………...................
3. นักเรยี นจะมีสว่ นร่วมในการแก้ปญั หาอย่างไร

. .........................................................................................................................................
........................................................................................... .............................................
........................................................................................................................................
........................................................................................... .............................................

ใบควำมรู้ 400
เร่อื ง กำรเขียนโครงกำร

องคป์ ระกอบพื้นฐานในโครงการแตล่ ะโครงการ ควรจะมีดังน้ี
1. ชือ่ โครงกำร ตั้งช่ือให้เหมาะสม มคี วามหมายชดั เจน และน่าสนใจส่ือถึงเนอื้ หาทตี่ อ้ งการทา
2. หลักกำรและเหตุผล ชี้แจงรายละเอียดของปัญหา และความจาเป็นที่จะต้องแก้ไข ตลอดจนช้ีแจง

ถงึ ประโยชนท์ จ่ี ะไดร้ บั จากการดาเนนิ งานตามโครงการ
3. วัตถุประสงค์ เป็นการบอกให้ทราบวา่ การดาเนินงานตามโครงการน้ันมีความต้องการให้เกิดอะไร

ควรระบไุ ว้เปน็ วัตถปุ ระสงค์ท่ชี ดั เจน ปฏิบัตไิ ด้ วดั และประเมินผลได้ ควรเขยี นเป็นข้อๆ ประมาณ 1-3 ขอ้
4. เป้ำหมำย การระบุเป้าหมาย ระบุเป็นประเภทลักษณะและปริมาณ ในรูปตัวเลข ให้สอดคล้องกับ

วัตถุประสงค์ และความสามารถในการทางานของผู้รับผิดชอบโครงการ
5. ผู้รับผิดชอบโครงกำร เป็นการระบุเพ่ือให้ทราบว่าหน่วยงานใดเป็นเจ้าของหรือรับผิดชอบ

โครงการ โครงการย่อยๆ บางโครงการระบเุ ปน็ ช่ือบคุ คลผรู้ บั ผดิ ชอบเปน็ รายโครงการได้
6. ระยะเวลำกำรดำเนินงำนโครงกำร คือระยะเวลาต้ังแต่เร่ิมต้นโครงการจนเสร็จส้ินโครงการ

ปัจจบุ ันนยิ มระบุ วัน เดือน ปี ทเ่ี ริ่มต้นและเสรจ็ สน้ิ
7. งบประมำณ เป็นประมาณการค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นของโครงการ ซึ่งควรจาแนกรายการค่าใช้จ่ายได้

อย่างชัดเจน การระบุยอดงบประมาณ ควรระบแุ หลง่ ทีม่ าของงบประมาณด้วย
8. วิธีดำเนินงำน ให้ระบุกิจกรรมที่ต้องทา งบประมาณของแต่ละกิจกรรม และระยะเวลาในการ

ปฏิบัติกิจกรรม
9. ผลท่คี ำดว่ำจะได้รับ เม่อื โครงการนั้นเสร็จส้นิ แลว้ จะเกิดผลอยา่ งไรบ้าง มปี ระโยชน์อะไรบา้ ง และ

จะเกิดขน้ึ กบั ใคร สามารถเขียนทง้ั ผลประโยชน์โดยตรง และผลประโยชนใ์ นดา้ นผลกระทบของโครงการดว้ ยได้
10. กำรประเมินผล บอกแนวทางการติดตามประเมินผล ควรทาอย่างไร ในระยะเวลาใด และใช้

วิธีการอย่างไรจึงเหมาะสม ซ่ึงผลของการประเมินสามารถนามาพิจารณาประกอบการดาเนินการ เตรียม
โครงการทีค่ ลา้ ยคลงึ หรอื เก่ยี วข้องในเวลาตอ่ ไป

ใบงำน

เร่ือง โครงกำรรว่ มใจแกไ้ ขปญั หำชุมชน

1. ชอ่ื โครงกำร

……………………………………………………………………………………………………………………………….......................

2. หลกั กำรและเหตุผล

……………………………………………………………………………………………………………………………………………….....

………….……………………………………………………………………………………………..............................................

3. วัตถุประสงค์

1 ……………………………………………………………………………………………………………………………………

2 ……………………………………………………………………………………………………………………………………

4. เป้ำหมำย

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….…….

………………………………………………………………………………………………………………………….…………….…………

5. ผรู้ ับผดิ ชอบ

……………………………………………………………………………………………………………………………………….………….

………………………………………………………………………………………………………………........................................

6. ระยะเวลำ

…………………………………………………………………………………………………………………...........................………. 401

7. งบประมำณ

………………………………………………………………………………………………………………………………………............

………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

8. วธิ ดี ำเนนิ งำน

กจิ กรรม งบประมำณ ระยะเวลำ

9. ผลทคี่ ำดว่ำจะไดร้ ับ
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…………..
……………………………………………………………………………………………………………..........................................
10. กำรประเมินผล
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….……

แผนกำรจดั กจิ กรรมแนะแนวท่ี 15

หนว่ ยกำรจัดกิจกรรม ส่วนตวั และสงั คม ช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ 4 - 6

เร่อื ง หลักปรชั ญำของเศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 2 ชวั่ โมง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สำระสำคัญ

หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 9 ทรงมี

พระราชดารัสชี้แนะแนวทางการดาเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมานานกว่า 30 ปี ซึ่งเป็นแนวทางท่ี

ปวงชนชาวไทยควรนามาปรับใช้ในชีวิตประจาวัน

2.สมรรถนะกำรแนะแนว : ด้ำนส่วนตวั และสงั คม
ข้อ 4 ปรับตวั และดารงชวี ติ อยู่ในสงั คมได้อย่างมคี วามสุข

3. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
3.1 ตระหนกั ในความสาคญั ของหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
3.2 ประยกุ ตห์ ลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งในชีวิตประจาวันได้

4. สำระกำรเรียนรู้ 402
หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

5. ชิน้ งำน / ภำระงำน (ถ้ำมี)
ใบงาน เรือ่ ง ปัญหาชวี ติ

6. วิธีกำรจดั กจิ กรรม
ชั่วโมงท่ี 1
6.1 นาเข้าสู้บทเรียนโดยให้นักเรียนดูภาพหรือวีดิทัศน์พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จ

พระเจ้าอยหู่ วั รชั กาลที่ 9 แล้วสนทนากับนักเรียนว่าพระองค์ทา่ นทาอะไร ที่ไหน และไดป้ ระโยชน์อย่างไร
6.2 นักเรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9

เรื่อง พอกินพอใช้ แล้วแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองที่อ่าน ครูเช่ือมโยงคาสาคัญในใบความรู้ เช่น ประหยัด
ระมัดระวัง ความพอกิจพอใจ เพื่อใหเ้ หน็ ว่าเปน็ ประโยชน์ในการพฒั นาตนอย่างไร

6.3 นักเรียนศึกษาใบความรู้ เร่ือง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ครูและนักเรียนช่วยกันวิเคราะห์
เน้ือหาให้เขา้ ใจชัดเจน แลว้ ใหน้ ักเรยี นอภิปรายในประเด็นคาถามต่อไปน้ี

- เศรษฐกิจพอเพียงหมายถงึ อะไร 403
- ถ้านักเรยี นมีความพอประมาณในการใช้จา่ ยจะเป็นอยา่ งไร
- ความรู้เกี่ยวกับปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงจะเกิดผลดีต่อตนเองและครอบครัวอย่างไร
- นักเรียนจะนาแนวคดิ ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้ในชวี ติ ประจาวันอยา่ งไร
6.4 ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความหมายและความสาคญั ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
ช่วั โมงท่ี 2
6.5 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันทบทวนสงิ่ ทไี่ ด้เรียนรูใ้ นชัว่ โมงท่ผี ่านมา
6.6 แบง่ กล่มุ นกั เรียนเปน็ กลมุ่ ละ 10 คน ให้ศึกษาใบความรทู้ ่.ี 3 ซงึ่ เปน็ ข่าวจากหนงั สือพิมพ์ และร่วมกนั
วิเคราะห์ในประเดน็ ต่อไปนี้
1) จากขา่ วอะไรคือปัญหา
2) ปัญหาเกิดจากสาเหตใุ ด
3) เกิดผลกระทบต่อสังคมอย่างไร
4) แนวทางในการแกป้ ัญหานี้จะทาอย่างไร
5) นักเรียนจะใช้หลักการจากแนวคิดของเศรษฐกิจพอเพียงอย่างไรในการแก้ไขปัญหาน้ี
ให้นักเรียนวิเคราะห์เกี่ยวกับความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกันที่ดี ความรู้และคุณธรรม
แลว้ บันทึกลงในใบงาน
6.7 ตัวแทนกลมุ่ นาเสนอผลงาน
6.8 นักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปสงิ่ ทไ่ี ดจ้ ากกจิ กรรม

7. สอ่ื /อปุ กรณ์
7.1 รปู ภาพหรือวีดิทศั น์พระราชกรณียกจิ ของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ ัว รชั กาลที่ 9
7.2 ใบความรู้ เร่อื ง พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รชั กาลที่ 9
7.3 ใบความรู้ เรื่อง หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
7.4 ใบความรู้ เรอ่ื ง กรณศี ึกษา : ปัญหาชวี ิต
7.4 ใบงาน เร่อื ง ปญั หาชีวติ

8. กำรวัดและประเมินผล
8.1 วธิ กี ำรวดั และประเมินผล
8.1.1 สังเกตความสนใจในการฟงั การตอบคาถาม และการร่วมอภิปรายแสดงความคดิ เหน็
8.1.2 ตรวจสอบความถูกต้อง ครบถว้ น และความเรยี บร้อยของใบงาน
8.2 เครอื่ งมอื
-

8.3 เกณฑ์กำรประเมนิ
8.3.1 สงั เกตการปฏิบตั ิกิจกรรม

เกณฑ์ ตวั บง่ ชี้
ผา่ น มคี วามสนใจในการฟัง การตอบคาถาม การรว่ มอภปิ รายแสดงความคดิ เห็น
ไมผ่ ่าน ขาดสิง่ ใดสิ่งหนึ่ง

8.3.2 ตรวจใบงาน
เกณฑ์ ตวั บ่งช้ี
ผา่ น ทาใบงานถกู ต้อง ครบถว้ น และสง่ งานตามกาหนด
ไมผ่ า่ น ขาดส่ิงใดสงิ่ หน่ึง

404

ใบควำมรู้ 405
พระบรมรำโชวำทของพระบำทสมเด็จพระเจ้ำอยหู่ ัว รชั กำลที่ 9

ควำมพอกนิ พอใช้

คำชแี้ จง : ให้นักเรียนศึกษาใบความรู้ และแสดงความคิดเห็น

ในการพฒั นาประเทศน้ันจาเป็นตอ้ งทาตามลาดับขั้น เริ่มดว้ ยการสร้าง
พืน้ ฐานคอื ความมีกินมีใช้ของประชาชนก่อนดว้ ยวธิ กี ารที่ประหยัดระมัดระวงั แต่
ถูกตอ้ งตามหลักวชิ า เม่ือพืน้ ฐานเกิดข้นึ มั่นคงพอควรแลว้ การช่วยเหลือสนับสนนุ
ประชาชนในการประกอบอาชพี และตั้งตัวให้มคี วามพอกินพอใช้กอ่ นอืน่ เปน็ พื้นฐาน
น้ัน เปน็ สิ่งสาคญั อย่างย่งิ ยวดเพราะผมู้ ีอาชพี และฐานะเพียงพอทีจ่ ะพ่ึงตนเอง ย่อม
สามารถสร้างความเจรญิ ก้าวหนา้ ระดบั ที่สูงข้ึนไปได้โดยแนน่ อน

สว่ นการถอื หลักทจี่ ะสง่ เสริมความเจรญิ ใหค้ อ่ ยเปน็ ไปตามลาดับด้วยความ
รอบคอบระมัดระวังและประหยัดนั้น ก็เพอื่ ปอ้ งกันความผดิ พลาดล้มเหลว

(พระบรมราโชวาทในพธิ พี ระราชทานปริญญาบตั รของ
มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ : 19 กรกฎาคม 2517)

จากหนงั สือ ประมวลคาในพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั รชั กาลท่ี 9
ตง้ั แตพ่ ุทธศกั ราช 2493–2546 ทเี่ ก่ียวข้องกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง สานักงานคณะกรรมการ
การพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ : มกราคม 2549

ใบควำมรู้
เรื่อง หลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียง

คำช้ีแจง : ให้นกั เรียนศึกษาใบความรู้ แล้วตอบคาถาม

เศรษฐกิจพอเพียง 406

“เศรษฐกิจพอเพียง” เปน็ ปรชั ญาทีพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัว รชั กาลที่ 9
ทรงมีพระเจ้าอยหู่ วั ทรงมีพระราชดารสั ชแ้ี นะแนวทาง การดาเนินชีวิตแก่พสกนิกร ชาวไทย โดย
ตลอดนานกวา่ 30 ปี ต้ังแตก่ ่อนกเกิดวกิ ฤตการณ์ทางเศรษฐกจิ และเมอ่ื ภายหลังได้ทรงเน้นย้า
แนวทางแก้ไขเพื่อใหร้ อดพน้ และสามารถดารงอยู่ได้อย่างมั่นคงและยง่ั ยนื ภายใตก้ ระแสโลกาภวิ ฒั น์
และความเปล่ยี นแปลงตา่ งๆ
ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
– แนวคิดหลกั

เป็นปรชั ญาทชี่ แ้ี นะแนวการดารงอยแู่ ละปฏบิ ตั ิตนของประชาชนในทกุ ระดบั ตั้งแต่ระดบั
ครอบครัว ระดับชมุ ชนจนถึงระดับรัฐทงั้ ในการพัฒนาและบริหารประเทศใหด้ าเนินไปในทางสายกลาง
โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกิจเพ่อื ให้ก้าวทนั ต่อโลกยคุ โลกาภวิ ตั น์

– เป้าหมาย
ม่งุ ใหเ้ กดิ ความสมดุลพรอ้ มรับต่อการเปลีย่ นแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางท้ังทาง

เศรษฐกิจ สังคม สง่ิ แวดล้อม และวฒั นธรรม จากโลกภายนอกไดเ้ ปน็ อย่างดี
– หลกั การ
ความพอเพียง หมายถงึ ความพอประมาณความมเี หตผุ ล การสร้างภูมคิ ุ้มกนั ทดี่ ีในตัว

พอสมควรต่อการมีผลกระทบใดๆ อันเกิดจากการเปลีย่ นแปลงทั้งภายนอก และภายใน

– เง่อื นไขพนื้ ฐำน 407
– จะตอ้ งอาศัยความรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั อย่างย่งิ ในการนา

วชิ าการตา่ งๆ มาใช้ในการวางแผนและการดาเนินการทกุ ขั้นตอน
– การเสริมสรา้ งจิตใจของคนในชาติโดยเฉพาะเจ้าหน้าท่ีของรฐั นักทฤษฎี

และนักธุรกิจในทกุ ระดบั ใหส้ านึกคุณธรรม ความซื่อสัตย์ สุจรติ และใหม้ คี วามรอบรู้
ทเี่ หมาะสม ดาเนินชวี ิตดว้ ยความอดทน ความเพียร และมีสตปิ ญั ญาและความรอบคอบ
– นิยำมของควำมพอเพียง

ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่
เบียดเบียนตนเองและผ้อู ืน่ เชน่ การผลิต และการบรโิ ภคทีอ่ ยใู่ นระดบั พอประมาณ

ความมีเหตุผลหมายถึง การตัดสินใจเก่ียวกับความพอเพียงน้ัน จะต้องเป็นไปอย่างมี
เหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยท่ีเก่ียวข้องตลอดจนคานึงถึงพอที่คาดว่าจะเกิดจากการกระทา
นน้ั ๆ อย่างรอบคอบ

– เงอ่ื นไขเพ่ือให้เกดิ ควำมพอเพียง
การตัดสินใจในการดาเนินกิจกรรมตา่ งๆใหพ้ อเพยี งต้องอาศัยทง้ั ความรู้และ

คุณธรรมพน้ื ฐาน
เง่ือนไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบร้เู กยี่ วกบั วชิ าการตางๆ ทเ่ี กย่ี วข้อง

อย่างรอบดา้ นด้วยความรอบคอบท่ีจะนาความรู้เหลา่ นน้ั มาพิจารณาให้เชือ่ มโยงกัน เพื่อ
ประกอบการวางแผนและความระมดั ระวงั ในขึน้ ปฏบิ ัติ

เงือ่ นไขคณุ ธรรม ทีจ่ ะต้องเสรมิ สรา้ งประกอบดว้ ยมคี วามตระหนกั ในคุณธรรม เชน่
มีความซ่ือสัตยส์ ุจรติ ความอดทนความเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนินชีวิต

ทีม่ ำ : สานกั งานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ,หนงั สอื เศรษฐกิจพอเพยี งคอื อะไร

2549.

ใบควำมรู้
กรณีศกึ ษำ: ปัญหำชีวิต

ลูกค้ำปำของ ด่ำหยำบใส่แม่ค้ำร้ำนอำหำรตำมสั่ง 408

ป้าแหม่ม กล่าวว่า เรื่องเกิดขึ้นเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา
มีลูกค้าผู้หญิงคนหนึ่ง เข้ามาสั่งผัดซีอิ๊ว 1 กล่อง ระหว่างที่ทาผัดซีอิ๊วให้ ผู้หญิงคนนี้ก็พูดขึ้นมาว่า
"ให้น้อยจัง ใส่เส้นอีก" ตนจึงตอบไปว่า ไม่น้อยหรอก เพราะยังไม่ได้ใส่ผัก ใส่หมู ใส่ไข่ แล้วตนก็ไม่ได้พูด
อะไรต่อ

ท้ังนี้ พอผัดเสร็จ ลูกค้าก็วางเงินให้ โดยไม่ได้วางดีๆ แล้วก็บอกตนว่า ขายของแบบน้ี ปิดร้าน
ไปเลย ตอนน้ันตนมีอารมณ์ จึงโต้ตอบ แบบผู้หญิงทะเลาะกัน จากน้ันลูกค้าผู้หญิงก็ออกจากร้านไป ตนก็นึก
ว่าจะจบ แต่เขากลับไปพาแฟนมา แล้วก็เกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏในคลิป และท่ีเห็นตนเขว้ียงมีด ตนไม่ได้
ตั้งใจ แต่ตกใจ เพราะผู้ชายตัวใหญ่

ขณะที่ ผู้หญิงเสื้อดาทเี่ ป็นลูกค้า เปิดใจผ่านรายการทุบโต๊ะข่าวว่า แม่ค้าเหมือน
ไม่อยากขายเรา เราอยากจะรู้ว่าเท่าไร ถามก็ไม่ตอบ เราก็ไม่พอใจเพราะผัดซีอิ๊วเส้นน้อย ให้แบบน่าเกลียด
มาก ดูมันน้อย เราก็ซื้อของกินทุกวัน ร้านอื่นไม่เป็นแบบนี้ เราเอาเงินวางไว้ตรงพริก เราตั้งใจว่าจะไม่ส่งให้
เขาก็วางเงิน 60 บาทวางให้เรา เราก็ไปถามว่ายังไงมีอะไร แม่ค้าก็สับเขียงขู่ อยากฝากถึงอีกฝ่ายว่า ถ้ากลัว
ก็อย่าทาแบบนี้กับใคร

ขณะที่ แฟนหนุ่มของผู้หญิงเส้ือดา กล่าวว่า ฟังผมก่อน แม่ค้าพูดไม่ดีเลย ก่อนหน้าผมพูดดี
แล้ว แต่เขาพูดไม่ดีเหมือนกัน ทาไมถึงด่าผมแบบน้ี เขาก็บอกว่าอยากจะด่า สังคมกล่าวหาว่าผมก็เป็น
อันธพาล ถ้าเขาไม่สับมีดสับเขียงขู่ ผมถามธรรมดา เขาก็หยิบมีดสับเขียง แล้วจะเอายังไง
ถ้าไม่พอใจขาย คืนเงินมา จะได้จบ เขาก็บอกว่าไม่คืนแล้วยังไง ไม่คืนผมก็เขวี้ยงก่อน แค่ผมต่อยก็เละแล้ว
ผมไม่ได้ทาอะไร มีเรื่องแล้วก็แล้วก็ไป ก็ไม่ต้องซื้อกันแค่นั้น ผมไม่ใช่อันธพาล

ที่มา : https://www.thairath.co.th/content/1514838

ใบงำน 409
เรอ่ื ง ปัญหำชีวิต

คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นในกลุ่มศึกษากรณีศกึ ษาท่ีกาหนดใหแ้ ล้วแบ่งหน้าท่ีกันรว่ มอภปิ ราย
และความคดิ เห็น

ประธาน.................................................................เลขา.......................................................................................
สมาชิก
............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................
1. ปัญหคอื .....................................................................................................................................................
2. สาเหตุทท่ี าใหเ้ กิดปญั หาคือ
..........................................................................................................................................................................
3. ผลกระทบของปัญหาต่อสังคมคือ
...........................................................................................................................................................................
4. แนวทางในการแก้ปญั หา
............................................................................................. .................................................................................
..............................................................................................................................................................................
5. นักเรยี นนาแนวคิดปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการไปใชใ้ นการแกป้ ัญหาดงั นี้

5.1 ความพอประมาณ.......................................................................................................................
............................................................................................................ .................................................
5.2 ความมเี หตผุ ล
............................................................................................................. .................................................................
........................................................................................................................................................
5.3 การมภี ูมคิ ุ้มกันที่ดี
..................................................................................................... .........................................................................
........................................................................................................................................................
5.4 ความรแู้ ละคุณธรรม
..............................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

บรรณำนกุ รม 410

กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2559). หลกั สูตรแกนกลำงกำรศกึ ษำขน้ั พ้ืนฐำน พุทธศกั รำช 2560.
กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พช์ ุมนุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย.

กาญจนา นาคปจั ฉมิ สกุล. (2559). กจิ กรรมแนะแนว 5 . นนทบรุ ี : เอมพนั ธ์ จากดั .
กานธนิกา ชุณหะวตั , รดี พรอ้ มพรชัย และอาภา อินพลับ. (2560). 8 อำชีพเสรีสู่ประตอู ำเซยี น.

กรุงเทพมหานคร : สานักพิมพซ์ เี อ็ด.
การจัดการความเครียดในวยั รุ่น. https://www.youtube.com/watch?v=FbcCvSuAnLw. สบื คน้

ออนไลน์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562.
การจดั การกับอารมณ์และความเครียด. http://computer16928.blogspot.com/2011/11/blog-post.html.

สบื ค้นออนไลน์เม่ือวนั ที่ 21 กมุ ภาพันธ์ 2562.
กองวิจัยตลาดแรงงาน ฝา่ ยวิเคราะห์ตลาดแรงงาน. (2553). เงอื่ นไขเกย่ี วกับกำรเคลือ่ นย้ำยแรงงำนเสรใี น

ประชำคมอำเซยี น. กรงุ เทพมหานคร : กรมการจดั หางาน กระทรวงแรงงาน.
กรมสขุ ภาพจิต กรพทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2547). คู่มอื กำรจัดกจิ กรรมฝึกคิดแก้ปญั หำ พัฒนำ EQ สำหรบั ศนู ย์

เพอ่ื นใจวยั รุ่น. กรงุ เทพมหานคร : โรงพมิ พช์ มุ นมุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย.
ความเครยี ด. https://www.youtube.com/watch?v=Vkt4xdjtdaE&t=19s. สืบคน้ ออนไลน์เม่ือวนั ที่

21 กมุ ภาพนั ธ์ 2562.
คนประสบความสาเร็จมคี ณุ สมบัตพิ ิเศษเรือ่ งอะไรบา้ ง. https://www.entraining.net/library.php. สืบค้น

ออนไลน์เม่อื วันท่ี 21 กมุ ภาพันธ์ 2562.
ฉันทนชิ อัศวนนท.์ (2541). พัฒนำบุคลกิ ภำพ. กรุงเทพมหานคร : สานกั พิมพ์ศูนย์ส่งเสรมิ วชิ าการ.
ฉันมีความสขุ เล็กๆ ในใจฉนั . https://www.youtube.com/watch?v=SGviROEgTDI. สืบคน้ ออนไลน์

เมือ่ วันท่ี 21 กมุ ภาพนั ธ์ 2562.
ดังดอกไมบ้ าน. https://www.youtube.com/watch?v=dhFt7eURm78. สบื คน้ ออนไลน์เมือ่ วนั ที่

21 กมุ ภาพันธ์ 2562.
ดังตฤณ – พาเดินจงกรม. https://www.youtube.com/watch?v=Pw27GHpzkw4. สืบค้นออนไลน์

เม่ือวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562.
ธีระ ชัยยุทธยรรยง. (2548). กิจกรรมแนะแนว ม.6 ชว่ งชัน้ ท่ี 4. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจริญทศั น์.
ธีระวัฒน์ ชัยยุทธยรรยง. (2551). กิจกรรมแนะแนว ม.5 ช่วงช้นั ท่ี 4. กรุงเทพมหานคร : อักษรเจรญิ ทศั น.์
นรรชั ต์ ฝันวิเชยี ร. มูลนิธิเดก็ . https://www.ffc.or.th. สบื ค้นออนไลน์21 กุมภาพันธ์ 2562.
นรินทร์ จุลทรพั ย.์ (2558). กำรแนะแนวอำชีพ. กรุงเทพมหานคร : สานักพมิ พจ์ ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
7 นสิ ัยทีท่ าให้คณุ เกง่ ในการควบคุมอารมณ์. https://www.nuttaputch.com/7-habbits-of-highly-iei-

people/. สบื ค้นออนไลน์เมอ่ื วันที่ 21 กุมภาพนั ธ์ 2562.
บญุ ร่วม เทียมจันทร์. (2561). ยทุ ธศำสตร์แห่งชำติ 20 ปี. กรงุ เทพมหานคร : เดอะลองกรปุ๊ จากัด.

ปรทิ ศั น์ มีชยั . (2560). นับ 1 ถงึ 10 รวยจำกตลำดนดั . กรงุ เทพมหานคร : สานกั พิมพ์ซเี อด็ . 411
ฝึกหายใจคลายเครยี ด. https://www.youtube.com/watch?v=j2nB3nGfFMk&t=45s. สืบค้นออนไลน์

เม่อื วนั ท่ี 21 กมุ ภาพันธ์ 2562.
เพ่ือนทแ่ี สนดีของทุกคน YC. http://guidance.obec.go.th/?p=1073. สืบค้นออนไลน์เม่ือวนั ที่ 21

กมุ ภาพนั ธ์ 2562.
พรรณี เกษกมล. (2551). กจิ กรรมแนะแนว ม.6 สมบูรณแ์ บบ. กรุงเทพมหานคร : วัฒนาพานชิ จากดั .
โยคะภาวนา. https://www.youtube.com/watch?v=KMGH-cgUHXY. สบื ค้นออนไลน์เม่อื วันท่ี

21 กุมภาพนั ธ์ 2562.
รัญจวน คาวชริ พิทักษ์ และคณะ. (2555). กำรแนะแนวในระดบั มัธยมศกึ ษำ. นนทบุรี : สานักพมิ พ์

มหาวทิ ยาลัยสุโขทัยธรรมาธริ าช.
วยั รนุ่ รูจ้ ักตนเอง | OKMD BBL. https://www.youtube.com/watch?v=JZSHTvsD44M. สืบคน้ ออนไลน์

เมอื่ วันที่ 21 กมุ ภาพันธ์ 2562.
ลมหายใจแห่งความสุข. https://www.youtube.com/watch?v=hGUGqLy46l0. สืบค้นออนไลน์เม่ือวันท่ี

21 กมุ ภาพนั ธ์ 2562.
ศูนย์แนะแนวประจาสานกั งานเขตพนื้ ท่ีมัธยมศกึ ษา เขต 2. (2560). หลักสตู รกิจกรรมแนะแนว ตำมหลักสูตร

แกนกลำงกำรศึกษำข้นั พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ฉบบั ปรับปรุงปี พ.ศ.2560. กรุงเทพมหานคร :
โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา ๒ ในพระราชปู ถมั ภฯ์
ศนู ย์แนะแนวประจาสานกั งานเขตพื้นท่ีมธั ยมศกึ ษา เขต 2. (2560). แผนกำรจดั กิจกรรมแนะแนว
ตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศึกษำข้นั พื้นฐำน พุทธศักรำช 2551 ชน้ั มัธยมศกึ ษำตอนปลำย
(ม.4 – ม.6) ฉบบั ปรับปรุงปี พ.ศ.2560. กรงุ เทพมหานคร : โรงเรยี นสตรวี ทิ ยา ๒ ในพระราชูปถัมภฯ์
สงครามอารมณ์. https://www.youtube.com/watch?v=NBvysuewIOs. สืบค้นออนไลน์
เม่อื วนั ท่ี 21 กมุ ภาพนั ธ์ 2562.
สามารถ มีศรี , ปราณี คงวฒั นะ และอารี การฬภักดี. (2546). มำรยำทและกำรสมำคม.
กรุงเทพมหานคร : หา้ งหุ้นส่วนจากัดแสงจนั ทร์การพิมพ์
สานักงานคณะกรรมการการพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาต.ิ (2549). ประมวลคำในพระบรมรำโชวำท
พระบำทสมเดจ็ พระเจ้ำอยูห่ ัว รัชกำล 9 ตัง้ แต่พุทธศกั รำช 2493 – 2549. กรุงเทพมหานคร :
สานักงานคณะกรรมการพฒั นาการเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ.
สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2560). แผนกำรศกึ ษำแหง่ ชำติ พ.ศ.2560 – 2579.
กรงุ เทพมหานคร : บริษัทพรกิ หวานกราฟฟิค จากดั .
สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา สานักงานคณะกรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน. (2555). แนวกำรจัด
กจิ กรรมแนะแนวตำมหลักสตู รแกนกลำงกำรศกึ ษำข้ันพน้ื ฐำน พทุ ธศักรำช 2551.
กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพช์ ุมนุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย.

สานักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา สานกั งานคณะกรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน. (2551). แนวทำงกำร
ทกั ษะชีวติ . กรงุ เทพมหานคร : โรงพิมพช์ มุ นุมสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย.

หนังสัน้ ทกั ษะกาจัดความเครียด. https://www.youtube.com/watch?v=qOBYM1JxsGU. สบื คน้
ออนไลนเ์ มอื่ วันท่ี 21 กมุ ภาพนั ธ์ 2562.

อัจฉรา นวจนิ ดา. (2542). ศลิ ปะกำรดำเนินชีวติ . กรงุ เทพมหานคร : เทก็ ซ์ แอนเจอร์นลั พับลิเคชน่ั .
อมรรัตน์ ศรสี ุรนิ ทร์. (2559). เขียนอนำคตคณุ เอง. กรงุ เทพมหานคร : สานักพมิ พ์ซีเอด็ .

412

คณะทำงำน

แผนพฒั นำกำรแนะแนวและแนวทำงกำรจดั กิจกรรมแนะแนวระดับกำรศึกษำขัน้ พ้ืนฐำน
ตำมแผนยุทธศำสตร์ชำติ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580)

******************************************

ท่ีปรึกษำ วิชยานวุ ัติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน
รัตนวจิ ิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน
1. นายอานาจ ชิตยวงษ์ ข้าราชการบานาญ
2. นายพรี ะ ยอดเพชร ขา้ ราชการบานาญ
3. นายสเุ ทพ งามบรรจง ข้าราชการบานาญ
4. นายบญุ รกั ษ์ อภนิ ันทาภรณ์ ข้าราชการบานาญ
5. นางสกุ ัญญา
6. นางสาวนิจสดุ า

คณะทำงำน ใจแก้ว ขา้ ราชการบานาญ
อุสาหะ
1. นางสาววิไลวรรณ ชสู กุล ข้าราชการบานาญ
2. นายวีระ สมานมติ ร
3. นางเนาวรัตน์ มหาวรรณ ขา้ ราชการบานาญ
4. นางสาวพัชนีพร คเชนทรเ์ ดชา
5. นางสาวณัฐกานต์ มแี กว้ เจรญิ ขา้ ราชการบานาญ
6. นางธญั สมร ศรเี หรา
7. นายอนุชา ณ พิกลุ ข้าราชการบานาญ 413
8. นายสนุ ทร ถงุ แกว้ ข้าราชการบานาญ
9. นายประภาส บุญมาโฮม
10. นางสาวพัชรี นวชวี นิ มยั หัวหนา้ ฝ่ายการตลาด วทิ ยาลยั เทคโนโลยสี ยาม
11. นายเจษฎา มะรตั น์
12. นายนววชิ ศรีสงั ข์ อาจารยป์ ระจาฝ่ายการตลาด วิทยาลยั เทคโนโลยสี ยาม
13. วา่ ท่รี อ้ ยโทพรี ะพันธ์ ชินภกั ดี
14. นายวีระศกั ดิ์ อาจจุฬา อาจารย์คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั เชียงราย
15. นางพรพมิ ล พนมพร
16. นางจวงจนั ทน์ กุลบุตรดี อาจารย์มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั บุรรี มั ย์
17. นางสาวรตนพร พิพฒั นเ์ สถียรกลุ
18. นางกันธอร สีลาดเลา อาจารย์มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั นครปฐม
19. นายศิรโิ ชค ปลื้มอารมณ์
20. นายปฐมสุข สิงห์สวุ รรณ อาจารย์มหาวทิ ยาลยั ราชภฎั นครปฐม
21. นายบัญชา ฐาวริ ตั น์
22. นางสายชล ผู้อานวยการกลุ่มนโยบายและแผน สพป.หนองบวั ลาภู เขต 1
23. นายจริ กร
ผอู้ านวยการกลมุ่ นเิ ทศติดตามและประเมนิ ผล สพม.เขต 2

ผู้อานวยการกลุม่ นโยบายและแผน สพม.เขต 20

ผ้อู านวยการโรงเรยี นเสนสริ อิ นุสรณ์ สพป.บรุ รี มั ย์ เขต 1

ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดดอนยอ สพป.นครนายก

ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดเขาวนาพทุ ธาราม สพป.ชลบรุ ี เขต 2

ผู้อานวยการโรงเรยี นบ้านหว้ ยกา้ ง”รัฐประชาสงเคราะห์” สพป.เชียงราย เขต 4

ผู้อานวยการโรงเรยี นเมอื งยาง “ครุ รุ าษฎรอ์ ุทศิ ” สพป.นครราชสีมา เขต 7

ผอู้ านวยการโรงเรยี นวัดขนอนบ้านกรด สพป.พระนครศรอี ยธุ ยา เขต 2

ผู้อานวยการโรงเรยี นเทศบาลบ้านศรฐี าน เทศบาลนครขอนแก่น

รองผู้อานวยการโรงเรยี นบุญเหลอื วิทยานุสรณ์ สพม.เขต 31

24. นายกฤศ วงค์เรอื ง รองผูอ้ านวยการโรงเรยี นแม่จนั วิทยาคม สพม.เขต 36
25. นางชเนตตี ชนชอบธรรม
26. นางสาวปลิดา พันธ์วนั ศึกษานเิ ทศก์ สพป.ตรัง เขต 1
27. นายจรี ฐั ตกิ ลุ ดอนวิจารณ์ขจร
28. นางสาวศริ ิวฒั นาพร พริ้งเพราะ ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป.บุรรี มั ย์ เขต 1
29. นางธนวรรณพร สงั ขพ์ ิชัย
30. นางสาวจารุนนั ต์ หมอู่ าพันธ์ ศกึ ษานเิ ทศก์ สพม.เขต 25
31. นางดรุณจติ มว่ งมงคล
32. นางพัชรา แยม้ สาราญ ศึกษานิเทศก์ สพม.เขต 32
33. นางกชวมิ ล ไชยะโสดา
34. นางพวงพร นิลนิยม ศกึ ษานิเทศก์ สพม.เขต 9
35. นางอภิศญารศั มิ์ ประราศี
36. นางรดวี นั ต์ ป่นิ แก้วเกียรต์ิ ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป.กาแพงเพชร เขต 1
37. นางยนิ ดี คงทน
38. นางเพญ็ ประภา ซุยกระเดือ่ ง ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป.ระยอง เขต 1
39. นางเพญ็ ศรี ทองนพเก้า
40. นายสุทธิสันต์ ลาโพงเหนือ ศึกษานเิ ทศก์ ศึกษาธกิ ารจังหวัดเพชรบรุ ี
41. นางสทุ ิศา จารเุ ดชา
42. นางสาวนยิ ม อยรู่ มั ย์ ศกึ ษานิเทศก์ สพป.พษิ ณโุ ลก เขต 1
43. นางธัญยธรณ์ ธารงกุลไพบลู ย์
44. นางสาวอุทมุ พร เมอื งใจ ศกึ ษานเิ ทศก์ สพป.เชยี งราย เขต 1
45. นางรชั ฎาพร ศักดิ์เศรณี
46. นายศกั ดนิ าณนั พ์ อัครเสนากลุ ศกึ ษานิเทศก์ สพม.เขต 27
47. นางเครือวัลย์ พนมหิรัญ
48. นายอภเิ ชษฐ์ จันทนา ศึกษานิเทศก์ สพป.ปทมุ ธานี เขต 1
49. นางพัชรนิ ทร์ รตั นวงษ์
50. นางรชั นี เต็มแก้ว ศกึ ษานเิ ทศก์ สพม.เขต 12
51. นางจริญญา ปยิ ะมิตร
52. นางกาญจนา บัวคา ครู โรงเรียนขอนแก่นวิทยายน 2 (สมาน สเุ มโธ) สพม.เขต 25
53. นางวิไลลักษณ์ ชูสกลุ
54. นางเพลนิ พศิ ศรีสวุ รรณ ครู โรงเรยี นบ้านซบั สนุน่ สพป.สระบุรี เขต 2
55. นางพัชรินทร์ กองสนิ แกว้
56. นางกรรณานุช มูลคา ครู โรงเรียนบ้านโป่งแดง สพป.เชยี งราย เขต 2
57. นายภัทรวีร์ คณุ โท
58. นางกาญจนา โทขนั ธ์ ครู โรงเรียนบ้านยาวี-ห้วยโปง่ สพป.เพชรบรู ณ์ เขต 1
59. นางสาวสวติ ตา ปัจจยั
60. นางจริ าพรรณ เพยี นอก ครู โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 55 จงั หวัดตาก 414
ครู โรงเรียนโสตศึกษา สพป.นครปฐม

ครู โรงเรยี นสอนคนตาบอดภาคเหนอื ในพระบรมราชินปู ถัมภ์ จังหวดั เชยี งใหม่

ครู โรงเรยี นสนั ทรายหลวง สพป.เชียงใหม่ เขต 2

ครู โรงเรยี นสตรวี ิทยา 2 สพม.เขต 2

ครู โรงเรยี นนครขอนแกน่ สพม.เขต 25

ครู โรงเรียนทงุ่ โพธ์ิทะเลพิทยา สพม.เขต 41

ครู โรงเรียนวัดจนั ทร์ตะวนั ออก สพป.พษิ ณโุ ลก เขต 1

ครู โรงเรียนชมุ ชนวัดไทรน้อย สพป.นนทบรุ ี เขต 2

ครู โรงเรยี นชุมชน 8 ราษฎร์อทุ ศิ พทิ ยา สพป.พิษณุโลก เขต 3

ครู โรงเรียนนารรี ตั น์ จงั หวดั แพร่ สพม.เขต 37

ครู โรงเรยี นแก่นนครวิทยาลยั สพม.เขต 25

ครู โรงเรียนสรรพวิทยาคม สพม.เขต 38

ครู โรงเรยี นศรีฐานกระจายศึกษา สพม.เขต 28

ครู โรงเรียนนวมนิ ทราชทู ศิ พายัพ สพม.เขต 34

ครู โรงเรยี นเบตง “วรี ะราษฎร์ประสาน” สพม.เขต 15

ครู โรงเรียนศลิ าทองพทิ ยาสรรค์ สพม.เขต 28

ครู โรงเรียนสองห้องพทิ ยาคม สพม.เขต 32

ครู โรงเรยี นบุญเหลอื วทิ ยานสุ รณ์ สพม.เขต 31

61. นางทวีสิน กฤษสวุ รรณ์ ครู โรงเรยี นบญุ เหลือวทิ ยานสุ รณ์ สพม.เขต 31
62. นางสาวภณิชชา อุดมเลศิ ปรชี า ครู โรงเรยี นชลราษฎรอารงุ สพม.เขต 18
63. นางสาวรุ่งทิพย์ เสาสงู ครู โรงเรียนสริ ินธร สพม.เขต 33
64. นางจรัสพักตร์ ชพู พิ ฒั น์ นกั วชิ าการศกึ ษา สพป.นครปฐม เขต 1
65. นางลักษณา ตง้ั จรูญชยั นักวิชาการศกึ ษา สพป.นครราชสมี า เขต 1
66. นางอบุ ล วงศ์ทับแกว้ นักวชิ าการศกึ ษา สพม.เขต 9
67. นางอุไรวรรณ อินทะสะ นักวชิ าการศึกษา สพม.เขต 6
68. นางสาวลดา เยน็ ใจ นักวิชาการศึกษา สานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ
69. นายสามารถ รตั นสาคร นักวิชาการศกึ ษา สานกั บริหารงานการศกึ ษาพเิ ศษ
70. นางเกษศริ นิ ทร์ สุวรรณสนุ ทร ผอู้ านวยการกลมุ่ พัฒนาระบบการแนะแนว
สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
71. นางสาวเปรมวดี ศรธี นพล สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา 415
โชตดิ ี สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
72. นางสาวชลุ กี ร เนตรมณสี ุข สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
ตั้งหลักชัย สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
73. นางสาวสุรยี ์ วัลย์มาลี สานกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
คงช่วยชาติ สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
74. นางศรินทร กนั ธา สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
มาระวงค์ สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
75. นางสาวบุญกณั ฐพนั ธ์ ศรีทร สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
76. นางสาวสุภาพร
77. นางสาววภิ าวรรณ์ ผู้อานวยการกลุม่ พัฒนาระบบการแนะแนว
78. นายวงศกร สานกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
79. นายจิตตกร สานกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
สานักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
คณะบรรณำธิกำร สุวรรณสนุ ทร สานกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
สานกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
1. นางเกษศริ ินทร์
ผอู้ านวยการกลุม่ พฒั นาระบบการแนะแนว
2. นางสาวเปรมวดี ศรีธนพล สานักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
3. นางสาวสภุ าพร คงช่วยชาติ ครู โรงเรยี นศรีฐานกระจายศึกษา สพม.เขต 28
4. นางสาววภิ าวรรณ์ กนั ธา
5. นายวงศกร มาระวงค์

ออกแบบปกและรูปเล่ม สุวรรณสุนทร

1. นางเกษศริ นิ ทร์

2. นางพชั รินทร์ กองสนิ แก้ว


Click to View FlipBook Version