The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวทางการจัดกิจกรรมแนะแนว ม.4 - ม.6-ผสาน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สุนีรัตน์ ชูช่วย, 2021-11-13 05:21:41

แนวทางการจัดกิจกรรมแนะแนว ม.4 - ม.6-ผสาน

แนวทางการจัดกิจกรรมแนะแนว ม.4 - ม.6-ผสาน

แผนกำรจดั กิจกรรมแนะแนวที่ 3

หน่วยกำรจดั กจิ กรรม อำชีพ ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 4-6

เรอ่ื ง อำชีพของฉนั จำนวน 5 ช่ัวโมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สำระสำคญั

การมีเป้าหมายอาชีพ และการศึกษาข้อมูลแนวโน้มความต้องการอาชพี ในอนาคตรวมถงึ

คุณลกั ษณะของบคุ คลทต่ี ลาดแรงงานต้องการ เปน็ แนวทางในการพัฒนานักเรยี น เพ่ือเตรียมตวั เขา้ สโู่ ลก

ของงานอาชีพ

2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ดำ้ นอำชพี
ขอ้ 1 การเรียนรูเ้ กย่ี วกบั อาชีพ

3. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 194
3.1 บอกอาชีพท่ีเหมาะสมกับตนเองไดอ้ ยา่ งมเี หตุผล
3.2 ระบุแนวโนม้ ตลาดแรงงานในอนาคต
3.3 อธบิ ายวธิ ีการพัฒนาตนเองที่สอดคลอ้ งกบั อาชีพทสี่ นใจได้
3.4 อธิบายคณุ สมบัติของบคุ คลที่ตลาดแรงงานตอ้ งการในศตวรรษท่ี 21 ได้

4. สำระกำรเรยี นรู้
ข้อมูลอาชีพท่ีสอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการอาชีพในตลาดแรงงาน คุณลักษณะของบุคคล

ท่ีตลาดแรงงานต้องการ และขัน้ การพัฒนาตนเองท่ีสอดคล้องกบั อาชพี อยา่ งเหมาะสม

5. ช้ินงำน / ภำระงำน (ถำ้ มี)
5.1 ใบงาน เร่อื ง คุณลักษณะของบุคคลท่ตี ลาดแรงงานต้องการ
5.2 ใบงาน เร่อื ง แบบสารวจคุณลกั ษณะอาชพี ของฉนั
5.3 ใบงาน เรือ่ ง อาชีพในดวงใจ
5.4 ใบงาน เรอื่ ง แนวทางในการพัฒนาตนเองสอู่ าชีพ

6. วธิ กี ำรจัดกิจกรรม
ชว่ั โมงที่ 1

6.1 สนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับข้อมูลประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และแจกใบความรู้เร่ืองประชาคม
เศรษฐกจิ อาเซยี น (ASEAN Economic Community)

6.2 แบ่งกลุ่มนักเรียน กลุ่มละ 5 - 6 คน ร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประชาคมเศรษฐกิจ 195
อาเซยี น ดังน้ี

- การจดั ตั้งประชาคมเศรษฐกจิ อาเซยี น
- เด็กไทยจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรเพื่อเตรียมความพร้อมในการประกอบอาชีพ
- จงึ จะสามารถแข่งขนั ในตลาดแรงงานของประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียนได้
6.3 ส่งตัวแทนแสดงความคิดเหน็ ทเี่ ปน็ มตขิ องกล่มุ นาเสนอหน้าช้นั เรยี น
6.4 นักเรียนสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้จากกิจกรรมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และคุณสมบัติพ้ืนฐาน
ของบคุ คลทีป่ ระชาคมเศรษฐกิจอาเซยี นต้องการ
ชว่ั โมงที่ 2
6.5 เช่ือมโยงความรู้ข้อมูลประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จากช่ัวโมงท่ีผ่านมา อาเซียนเป็นกรอบความ
ร่วมมือทางเศรษฐกิจที่มีความใกล้ชิดกับประเทศไทยมากที่สุด และจัดเป็นตลาดท่ีสาคัญของประเทศไทยตลาด
หนึ่ง ด้วยจานวนประชากรกว่า 580 ล้านคน ปัจจุบันอาเซียนให้ความสาคัญกับการจัดต้ังประชาคมเศรษฐกิจ
อาเซียน ภายในปี 2558 โดยเร่งรัดการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจภายในอาเซียนให้มีการเคลื่อนย้ายสินค้า
บรกิ ารการลงทุน แรงงานฝมี อื อย่างเสรี และการเคลอ่ื นย้ายเงินทนุ ทเ่ี สรมี ากขึน้
6.6 แบ่งกลุ่มนักเรียนนักเรียนกลุ่มละ 5 – 6 คน ครูแจกใบงานเรื่อง คุณลักษณะของบุคคล
ทต่ี ลาดแรงงานตอ้ งการ
6.7 ส่งตัวแทนกลุ่มนาเสนอการจัดตั้งบริษัท/กิจการท่ีกลุ่มสนใจ บอกจานวนตาแหน่งงานท่ีต้องการ
และ ระบุคุณสมบัตขิ องบุคคลทีต่ อ้ งการหนา้ ชั้นเรียน
6.8 นกั เรยี นสรปุ ส่ิงท่ไี ด้เรียนรู้จากกจิ กรรมคุณลักษณะของบุคคลท่ตี ลาดแรงงานต้องการ
ชั่วโมงที่ 3
6.9 นักเรยี นสนทนาทบทวนคุณลกั ษณะของอาชีพท่ีตลาดแรงงานต้องการในปัจจุบนั
6.10 แจกใบงานเรื่อง แบบสารวจคุณลักษณะอาชีพของฉัน ให้นักเรียนทุกคน และช้ีแจงการทาใบงาน
ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนซักถาม ก่อนลงมอื ปฏบิ ตั ิ
6.11 เม่ือนักเรียนทาใบงานเสร็จ ให้นาคะแนนของกลุ่มสาขาอาชีพที่ได้จากการสารวจมาจัดอันดับ
และบนั ทึกคุณลกั ษณะอาชีพและอาชีพทนี่ ักเรียนอยากเป็นลงในใบงาน
6.12 สุ่มถามนักเรยี น คณุ ลักษณะอาชพี ของนักเรยี นสอดคลอ้ งกบั ความต้องการของตลาดแรงงานหรอื ไม่
6.13 นักเรียนสรุปส่ิงทีไ่ ดเ้ รยี นร้จู ากกจิ กรรมคณุ ลกั ษณะอาชีพของฉนั
ชั่วโมงที่ 4
6.14 นักเรียนช่วยกันสรุปกิจกรรมที่ผ่านมาจากใบงาน แบบสารวจคุณลักษณะอาชีพของฉันเพ่ือวางแผน
พฒั นาคณุ ลักษณะของนกั เรยี นแต่ละคนตามความต้องการของตลาดแรงงาน เพ่ือเตรยี มตวั เขา้ สอู่ าชีพ
6.15 นกั เรยี นทาใบงาน อาชีพในดวงใจ
6.16 เม่ือนักเรียนทาใบงานเสร็จ สุ่มนักเรียน 5 - 6 คน มานาเสนอผลงานจากใบงาน อาชีพในดวงใจ
ใหเ้ พือ่ น ๆ ฟงั และใหโ้ อกาสเพ่ือนๆไดซ้ กั ถาม

6.17 ครใู ห้แนวคิดเกย่ี วกับการเลือกอาชีพทเี่ หมาะสมกบั ตนเอง
ชั่วโมงท่ี 5

6.18 นกั เรยี นทาใบงานเร่อื ง แนวทางการพัฒนาตนเองสอู่ าชีพ
6.19 นักเรยี นทาใบงานเสรจ็ ให้ตวั แทนนกั เรยี นนาเสนอผลงานจากใบงาน
6.20 นักเรียนสรปุ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้จากกจิ กรรม

7. สื่อ / อุปกรณ์
7.1 ใบความรู้เรื่อง ประชาคมเศรษฐกิจอาเซยี น (ASEAN Economic Community)
7.2 ใบงานเรื่อง คณุ ลกั ษณะของบุคคลทต่ี ลาดแรงงานต้องการ
7.3 ใบงานเร่อื ง แบบสารวจคุณลกั ษณะอาชพี ของฉัน
7.4 ใบงานเร่ือง อาชีพในดวงใจ
7.5 ใบงานเรอ่ื ง แนวทางการพฒั นาตนเองส่อู าชีพ

8. กำรประเมินผล

8.1 วิธีการประเมนิ

8.1.1 สังเกตการปฏิบัติกจิ กรรม

8.1.2 ตรวจใบงาน

8.2 เครอ่ื งมือ 196

8.2.1 แบบสังเกตการปฏบิ ัติกิจกรรม

8.2.2 แบบตรวจผลงานใบงาน

8.3 เกณฑ์การประเมิน

8.3.1 สังเกตการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม

เกณฑ์ ตวั บง่ ช้ี

ผา่ น มีความตัง้ ใจร่วมกิจกรรม ใหค้ วามร่วมมอื การแสดงความคดิ เห็น และส่งงาน

ตามกาหนด

ไม่ผา่ น ไม่ใหค้ วามร่วมมือ หรือ ขาดสิ่งใดสิง่ หนึง่

8.3.2 ตรวจใบงาน

ระดับคุณภาพ ตัวบง่ ช้ี

ผ่าน บอกอาชพี ทส่ี นใจและสอดคล้องกับคณุ ลักษณะของตน และสามารถวางแผนเข้า

สอู่ าชพี ท่ตี นสนใจได้

ไม่ผา่ น ไม่สามารถบอกอาชีพท่สี นใจและสอดคล้องกับคุณลกั ษณะของตน และไม่

สามารถวางแผนเข้าสู่อาชีพท่ีตนสนใจได้

ใบควำมรู้
เรอื่ ง ประชำคมเศรษฐกิจอำเซยี น
(ASEAN Economic Community)

ควำมเปน็ มำ 197
อาเซียน หรือสมาคมประชาชาติแห่งเอเซีย ตะวันออกเฉียงใต้ เป็นองค์กรที่ก่อต้ังขึ้นตามปฏิญญา

กรุงเทพฯ เมอ่ื วนั ที่ 8 สงิ หาคม 2510 มีประเทศสมาชิกรวม 10 ประเทศ คอื ไทย มาเลเซยี อินโดนีเซยี ฟิลิปปนิ ส์
สงิ คโ์ ปร์ บรู ไน ดารสุ ซาลาม กัมพูชา ลาว พมา่ เวยี ดนาม
วัตถุประสงค์ของกำรก่อต้ัง

ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ ASEAN Economic Community เป็นการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจของ
ประเทศสมาชิกอาเซียน โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมอาเซียให้เป็นตลาดและฐานผลิตร่วมกัน มีการเคล่ือนย้าย
สินค้า บริการ และการลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินทุนอย่างเสรี ภายในปี พ.ศ.2558 (ค.ศ.2015) และได้กาหนด
ยทุ ธศาสตร์สาคัญ 4 ดา้ นหลกั คือ

1) การเป็นตลาดเดียวและฐานการผลิตร่วมกัน ให้มีการเคล่ือนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงาน
ฝีมือและเงนิ ทุนอย่างเสรี

2) การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของอาเซียนโดยส่งเสริมกรอบนโยบายด้าน
เศรษฐกิจที่สาคัญ เช่น กรอบนโยบายการแข่งขันของอาเซียน สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา นโยบายภาษี
และการพัฒนาโครงสร้างพ้นื ฐาน (การขนส่งและเทคโนโลยสี ารสนเทศ) เปน็ ต้น

3) การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค เพ่ือลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศสมาชิก โดยการ
สนับสนุนการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และส่งเสริมโครงการต่าง ๆ ภายใต้กรอบการริเร่ิมการ
รวมกล่มุ ของอาเซียน เป็นตน้

4) การบูรณาการการเข้ากับเศรษฐกิจโลก เน้นการปรับประสานนโยบายเศรษฐกิจของอาเซียน
ท่มี ีต่อประเทศภายนอกภมู ภิ าค เชน่ การจดั ทาเขตการค้าเสรี และการสร้างเครือขา่ ยด้านการผลิตและจาหน่าย

ผลกระทบจำกกำรเปดิ เสรีทำงกำรค้ำตอ่ ตลำดแรงงำนไทย
ประเทศสมาชิกอาเซียนได้รวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ โดยมีเป้าหมายเพ่ือจัดต้ังเป็น

ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียน ที่มเี ป้าหมายส่งเสรมิ อาเซียนให้เป็นตลาดเดียวและฐานการผลติ
ร่วมกัน ให้มีการเคล่ือนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินทุนอย่างเสรี
ภายใน ปี พ.ศ.2558 (ค.ศ.2015)

การจดั ตงั้ ประชาคมเศรษฐกจิ อาเซียนในปี ค.ศ.2015 จะทาให้เศรษฐกิจในภูมภิ าคมคี วามเขม้ แขง็ เพราะประชาคม
เศรษฐกิจอาเซียนจะเป็นแหลง่ การลงทุนที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดันท่ี 3 โดยเป็นรองจากจีน และอินเดีย เท่าน้ัน
ประเทศไทยในฐานะสมาชิกของอาเซียนได้รับประโยชน์จากการค้ากับประเทศสมาชกิ อาเซียนเพ่มิ สูงขึน้ โดยจาก หน่ึงลา้ น
ล้านบาทในปี ค.ศ.2000 เป็น สองล้านล้านบาทในปี ค.ศ.2009 การจัดต้ังประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จะช่วยเสริมสรา้ ง
ความเขม้ แขง็ ให้กบั ตลาดแรงงานไทยและสร้างโอกาสการมงี านทาแกแ่ รงงานไทยมากข้ึน
กำรเคลอื่ นยำ้ ยแรงงำนเสรเี ฉพำะแรงงำนฝีมือเท่ำนนั้ เร่มิ ต้นที่ 7 อำชพี

198

ปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียนได้จัดทาข้อตกลงยอมรับร่วมกัน (MRAs) ใน 7 สาขาด้วยกันคือ วิศวกรรม
พยาบาล สถาปัตยกรรม การสารวจ แพทย์ ทันตแพทย์ และนักบัญชี ส่วนสาขาอื่น ๆ ยังอยู่ระหว่างพิจารณา ซ่ึงส่งผล
กระทบต่อตลาดแรงงานไทยคือ จากัดอยู่ในกลุ่มแรงงานฝีมือ ฉะนั้น ตลาดแรงงานไทยจึงได้รับผลกระทบไม่มากนัก
โดยด้านบวกคือ ตลาดแรงงานใหญ่ขึ้น ทาให้แรงงานไทยมีโอกาสได้งานทามากขึ้น ส่วนด้านลบคือ มีการแข่งขันโดย
แรงงานจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนมากขึ้น ท้ังน้ี ผลกระทบดังกลา่ วจะเป็นด้านบวก หรือด้านลบมากกว่านั้นขึน้ อยู่
กบั ความพรอ้ มของแรงงานในแตล่ ะประเทศ และยังมีเวลาทจ่ี ะเตรียมความพร้อมของแรงงานไทยในการพฒั นาทกั ษะฝีมอื
เพือ่ เขา้ สตู่ ลาดแรงงานในภมู ิภาคอาเซยี น

ดังน้ันจึงเป็นโอกาสสาคัญท่ีประเทศไทยจะต้องเร่งพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถในด้านการส่งออก
โดยเฉพาะในสาขาท่ไี ทยมคี วามพรอ้ มและมีขดี ความสามารถในการแขง่ ขนั สงู เช่น สาขาผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภณั ฑ์ยาน
ยนต์ ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ยาง สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ผลิตภัณฑ์เกษตร ผลิตภัณฑป์ ระมง
โลจิสติกส์ รวมถึงสาขาบริการ อาทิสาขาการท่องเท่ียว สาขาการบิน การบริการสาขาสุขภาพ และสาขาเทคโนโลยี
สารสนเทศ เป็นตน้

ผลกำรวิจัยชน้ี ักเรยี น นกั ศึกษำ ซงึ่ เปน็ เยำวชนของไทย ยังไม่ทรำบเก่ียวกบั กำรเคลื่อนย้ำยแรงงำนเสรี 199
จากการสารวจของกรมการจัดหางาน โดยกองวิจัยตลาดแรงงาน เรื่อง ความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการ

เคล่ือนย้ายแรงงานเสรีในประชาคมอาเซียน : ศึกษาเฉพาะกรณีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ในกรุงเทพมหานคร จานวน 736 คน ผลปรากฏว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ หรือ ร้อยละ 99.46 ยังไม่ทราบเร่ือง
การเคลื่อนย้ายแรงงานเสรใี นประชาคมอาเซยี น มเี พียงร้อยละ 0.54 เทา่ นนั้ ทมี่ ีความรู้ ความเข้าใจ ดังนน้ั ทุกภาค
ส่วนที่เกี่ยวข้องควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ในเรื่องน้ีให้มากขึ้น เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเข้าสู่
ตลาดแรงงานเสรี ซึ่งจะมีการแข่งขันกันมากขึ้น และในขณะเดียวกันก็เป็นการขยายตลาดสาหรับแรงงานไทย
เพ่มิ มากข้ึนด้วย

นกั เรียน นกั ศกึ ษำ ควรเตรยี มตวั อย่ำงไรบ้ำง
นักเรียน นักศึกษา จึงควรท่ีจะเตรียมควำมพร้อมในด้ำนต่ำง ๆ เช่น ภำษำอังกฤษ สำหรับใช้ในกำร

สื่อสำร และกำรทำงำน รวมท้ัง ความรู้ด้านวิชาการในแขนงต่าง ๆ และสาหรับสาขาวิชาหลัก ที่ได้มีการจัดทา
ข้อตกลงยอมรับร่วมกันแล้ว 7 สาขา คือ วิศวกรรม พยาบาล สถาปัตยกรรม การสารวจ แพทย์ ทันตแพทย์ และ
นักบัญชี เป็นสาขาท่ีจาเป็นต้องมีพื้นฐานด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์มาก่อน ส่วน
สาขาอาชีพอื่น ๆ ยงั อย่รู ะหว่างการพิจารณา

ดังนัน้ นักเรียน นกั ศึกษา ควรใหค้ วามสนใจ และวางพน้ื ฐานของตนเองให้ดี
มีความพร้อม ท่ีจะหางานทา ภายหลังสาเร็จการศึกษาแล้ว เพราะไม่เพียงแต่ทางาน
ในประเทศเท่านนั้ หากยังสามารถทางานในต่างประเทศได้อกี ด้วย

อ้ำงองิ : กองวจิ ยั ตลำดแรงงำน ฝ่ำยวเิ ครำะหต์ ลำดแรงงำน. เงือ่ นไขเกี่ยวกับกำรเคลื่อนยำ้ ยแรงงำนเสรี ในประชำคมอำเซยี น, กรุงเทพฯ :
กรมกำรจดั หำงำน กระทรวงแรงงำน, 2553

ชอ่ื -สกลุ นกั เรยี น………….………............................................................…………..………....

ใบงำน เร่ือง คณุ สมบตั ขิ อ
ภำรกจิ ของกลมุ่  ใหช้ ่วยกันตง้ั บรษิ ทั /กจิ การที่กลมุ่ สนใจ บอกจานวนตาแหน่งงาน ระบคุ ณุ สม

ตั้งบรษิ ัท/กิจการ.

ตาแหนง่ ...................................... ตาแหน่ง......................................

จานวน...............คน จานวน...............คน

คณุ สมบัติ ของบุคคล คณุ สมบัติ ของบุคคล

.............................................................. .............................................................

.............................................................. .............................................................

.............................................................. .............................................................

............ ............

.............................................................. .............................................................

ตาแหนง่ ...................................... .... ตาแหนง่ ......................................

จานวน...............คน จานวน...............คน

คุณสมบัติ ของบคุ คล คุณสมบัติ ของบคุ คล

............................................................... .............................................................

............................................................... .............................................................

............................................................... .............................................................

............ ...........

............................................................... .............................................................

... สมาชิกกลมุ่ 1……………………………………………….….เลขท่ี........... 2……………………………………………..เลขท.ี่ ......... 3…

4……………………….......…………………….เลขท.่ี ....... 5………………………………...……….….เลขที่........ 6

.........…..ช้นั ......................................เลขท่ี........................................................

องบคุ คลทต่ี ลำดแรงงำนตอ้ งกำร
มบตั ขิ องบคุ คลท่ีต้องการ เชน่ วฒุ กิ ารศึกษา เพศ อายุ ประสบการณ์ ความสามารถพเิ ศษเป็นต้น

...................................................................

ตาแหน่ง...................................... ตาแหน่ง...................................... 200
จานวน...............คน จานวน...............คน
คุณสมบตั ิ ของบคุ คล คุณสมบตั ิ ของบคุ คล

... ............................................................... .............................................................
... ............................................................... .............................................................
... ............................................................... .............................................................
............
............ .............................................................
... ............................................................... ....ตาแหนง่ ......................................

..... ตาแหนง่ ...................................... จานวน...............คน
จานวน...............คน คุณสมบตั ิ ของบคุ คล
..............................................................
คณุ สมบตั ิ ของบคุ คล.......... ..............................................................
... .................................................................. ..............................................................
... ..................................................................
... .................................................................. ...........
..............................................................
............
... .................................................................. ..
………………….…..…. ………………………..….เลขที่........

6…………………........………………………….เลขท.ี่ .......

แบบสำรวจคณุ ลักษณะอำชีพของฉนั

ชอ่ื -สกุลนกั เรียน...............................................................................................ช้นั ..........เลขที่...........

ข้อมลู ประกอบการพจิ ารณาคณุ ลักษณะอาชีพ จาแนกตาม ISCED (International Standard
Classification of education) เปน็ ๑๐ กลมุ่ สาขาวิชา
ตอนท่ี 1  ให้นักเรยี นพจิ ารณาวา่ นักเรียน มีคุณลิกษณะอำชพี สิ่งตอ่ ไปนีม้ าก นอ้ ยเพียงใด

ข้อที่ ขอ้ ควำม มำก มำก ปำน นอ้ ย น้อย คะแนน
ท่ีสุด (4) กลำง ท่สี ดุ รวม
1 มีความสามารถถา่ ยทอดความรู้ให้แกเ่ ยาวชนหรือบุคคลได้ (5) (3) (2) (1)
2 ชอบดแู ล แนะนาใหเ้ พื่อน หรือ คนใกลช้ ดิ มีคุณธรรม
3 ชอบให้บรกิ ารข้อมลู ทางการศึกษาแกบ่ คุ คลทว่ั ไป 201
4 ชอบศกึ ษาค้นคว้าเรือ่ งราวตา่ งๆ ของมนุษยต์ งั้ แต่อดีตจนถึง

ปจั จุบัน
5 มีความสามารถวเิ คราะห์ วจิ ยั เหตกุ ารณ์ในอดตี และปจั จบุ ัน

ได้
6 ชอบรวบรวมข้อมูล เหตุการณ์ทางประวตั ิศาสตร์
7 มคี วามสามารถและถนัดทางศลิ ปะ
8 มีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ รักอสิ ระ
9 รกั ความสวยงามและธรรมชาติ
10 ซ่ือสัตย์ รักษาความยุตธิ รรม
11 มคี วามสามารถจดจาระเบียบ กฎหมาย ข้อบังคับตา่ งๆ ได้
12 มลี กั ษณะเปน็ ผนู้ า บุคลกิ ภาพดี
13 มคี วามสนใจศึกษาชีวติ มนุษย์ สังคม ทรพั ยากร และ

สิง่ แวดล้อม
14 ชอบช่วยเหลือสังคม กล้าแสดงความคิดเหน็
15 มมี นษุ ย์สัมพันธด์ ี มีจติ ใจโอบออ้ มอารี
16 มคี วามละเอยี ด รอบคอบ สุขุม
17 สนใจข่าวสารและเศรษฐกิจ
18 มคี วามสามารถทางคณติ ศาสตร์ และสถิติ

ขอ้ ที่ ขอ้ ควำม มำก มำก ปำน นอ้ ย นอ้ ย คะแนน
ทสี่ ดุ (4) กลำง ที่สดุ รวม
19 มคี วามสามารถใช้ เขยี น ภาษาไทย และภาษาตา่ งประเทศ (5) (3) (2) (1)
20 มีทักษะในการส่อื สารท้ังภาษาไทย และภาษาต่างประเทศ
21 มมี นุษยสมั พนั ธ์ทด่ี ี ชอบสมาคม 202
22 รกั และสนใจความเป็นอยู่ท่ีดีของมนษุ ย์ในเรื่องปัจจยั สี่
23 มศี ลิ ปะในการปรงุ อาหารได้อรอ่ ย และน่ารบั ประทาน
24 ชอบออกแบบเส้ือผ้าการแต่งกาย
25 ชอบคน้ คว้าทดลอง ชอบเรียนวิชาวทิ ยาศาสตร์
26 ช่างสังเกต ละเอียด รอบคอบ
27 ใฝ่หาความรกู้ ับวิทยาการใหม่ ๆ เสมอ
28 มีความสามารถทางคณติ ศาสตร์และวิทยาศาสตร์
29 ชอบใช้เหตุผลมากกวา่ การจนิ ตนาการ
30 มีความสามารถในการดแู ล เอาใจใส่ สง่ เสริมใหบ้ คุ คลมี

สุขภาพดี
31 มีความสามารถทางคณิตศาสตร์โดยเฉพาะฟิสกิ ส์ มีทักษะ

ทางมติ สิ มั พนั ธ์
32 ชอบทางานท่ีเป็นรปู ธรรมมากกว่านามธรรม
33 มคี วามสามารถงานก่อสร้าง ซ่อมแซมส่ิงก่อสรา้ ง อุปกรณ์

ตา่ ง ๆ ได้
34 มคี วามสามารถและมีพ้นื ฐานศิลปะ มีความคดิ รเิ ร่ิม
35 มีความคดิ ในลักษณะทเี่ ป็นตรรกศาสตร์ การคิดหาเหตุผล
36 มีความสามารถในการออกแบบสร้างอาคารสถานที่
37 รักธรรมชาติ ชอบทางานใช้กาลงั ทางานกลางแจง้ ได้
38 ชอบการผจญภัย ไม่พถิ ีพิถนั ในการใช้ชวี ิตมากนัก
39 ชอบงานด้านการเกษตรกรรม เลี้ยงสัตว์ ประมง
40 มคี วามเป็นผู้นา อดทน เสยี สละ
41 สนใจเอาใจใสค่ วามเปล่ียนแปลงรอบตวั
42 มีความต้องการชว่ ยเหลือผู้อ่นื ใหม้ ีความสขุ

คะแนนคุณลกั ษณะอำชีพ ท่ีได้อบั ดบั 1 กลมุ่ สำขำอำชพี .....................................

บันทึกคุณลักษณะอำชพี ของฉัน

คณุ ลกั ษณะอำชพี ของฉนั อำชีพที่ฉนั อยำกเป็น

คะแนนคุณลกั ษณะอำชพี ท่ีไดอ้ บั ดบั 2 กลุ่มสำขำอำชีพ.....................................

บันทึกคุณลักษณะอำชพี ของฉนั

คุณลักษณะอำชพี ของฉนั อำชพี ที่ฉนั อยำกเปน็

203

สรปุ ผลกำรสำรวจตนเองคุณลักษณะอำชพี ของฉนั

กลุ่มสำขำอำชพี อำชพี เมื่อสำเรจ็ กำรศกึ ษำ คุณลักษณะ คะแนน คำ่ ระดับ
อำชพี รวม เฉลยี่ * คุณภำพ
1. กลุ่มสาขาวชิ า ครู อาจารย์ นักบริหารการศึกษา นักวิชาการ ขอ้
สังคมศาสตรแ์ ละ ศึกษา นักแนะแนว เจ้าหน้าท่ีฝึกอบรม 1-3 204
การฝกึ หดั ครู เจา้ หนา้ ท่ีโสตทัศนศึกษา บรรณารกั ษ์ นักดนตรี
นักสันทนาการ นักจิตวิทยา นักโภชนาการ 4-6
2. กลุม่ สาขาวชิ า ฯลฯ
มนษุ ย์ศาสตร์ ครู อาจารย์ นักวชิ าการศึกษา นักภาษาศาสตร์ 7-9
ศาสนา และ นกั ประพันธ์ มคั คเุ ทศก์ ล่าม บรรณาธกิ าร 10 - 12
เทววทิ ยา นักโบราณคดี บรรณารักษ์ เลขานุการ
3. กลมุ่ สาขาวชิ า ประชาสมั พันธ์ เจา้ หนา้ ทว่ี ิเทศสมั พนั ธ์ ฯลฯ 13 - 15
วิจติ รศลิ ปแ์ ละ ช่างศิลป์ ชา่ งภาพ นกั แตง่ เพลง นักปฏมิ ากร
ประยุกต์ศลิ ป์ จิตรกร มัณฑนากร นักออกแบบ เจ้าหน้าที่
4. กลมุ่ สาขาวชิ า โสตทศั นศกึ ษา นักวชิ าการ ฯลฯ
นติ ศิ าสตร์
ทนายความ นิติกร ตารวจ นักการเมือง
5. กลุ่มสาขาวิชา เจ้าหน้าที่สรรพกร ผู้พิพากษา อัยการ
สงั คมศาสตร์ เจ้าหน้าที่สินเชื่อ เจ้าหน้าท่ีเร่งรัดหนี้สิน
5.1 สาขาวิชา เจ้าหนา้ ท่แี รงงานสัมพันธ์ เจ้าหนา้ ที่ท่ีดิน
สังคมศาสตร์ และ ทปี่ รกึ ษากฎหมาย ฯลฯ
พฤติกรรมศาสตร์ นักสังคมสงเคราะห์ นักสังคมวิทยาและ
มานุษยวิทยา นักจิตวิทยา นักวิเคราะห์
นโยบายและแผน เจ้าหน้าท่ีฝึกอบรม
มัคคุเทศก์ ผู้ส่ือข่าว นักบริหารงานบุคคล
เจ้าหน้าท่ีประช าสัม พันธ์ เจ้าหน้า ท่ี
ฝ่ายปกครอง ปลัดอาเภอ ฯลฯ

กลุม่ สำขำอำชีพ อำชพี เมื่อสำเร็จกำรศึกษำ คณุ ลกั ษณะ คะแนน คำ่ ระดับ
อำชพี รวม เฉลยี่ * คุณภำพ
ขอ้
5.2 สาขาการ นักธุรกิจ นายธนาคาร นักวิจัย ตลาด ผู้ขาย 16 - 18

บรหิ ารพาณิชยการ ประกัน พนักงานขาย เจ้าหน้าท่ีวัสดุ 19 - 21
22 - 24
และบรหิ ารธรุ กจิ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน 25 - 27

เจ้าหน้าที่การเงิน เจ้าหน้าท่ีการคลัง 28 - 30

สรรพากร สมุห์บัญชี พนักงานคุมสต๊อก 31 - 33
34 - 36
สินคา้ โปรแกรมเมอร์ ฯลฯ 37 - 39

5.3 สาขาวชิ า นักประชาสัมพันธ์ นักข่าว นักหนังสือพิมพ์

สอ่ื สารมวลชนและ นักการเมือง นักจัดรายการวิทยุโทรทัศน์
การเอกสาร
พธิ กี ร ผู้ผลติ ภาพยนตร์ ฯลฯ

5.4 สาขาวชิ า นกั โภชนาการ นกั ออกแบบเครอ่ื งแต่งกาย

คหกรรมศาสตร์ ฯลฯ

6.กลมุ่ สาขาวชิ า นักวิทยาศาสตร์ นกั เคมปี ฏบิ ัติ นกั ฟิสิกส์ นกั

วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ นักอุตุนิยมวิทยา เจ้าหน้าที่ 205

ธรรมชาติ คอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าท่ีวิทยาศาสตร์

กำรแพทย์ นกั นเิ วศวิทยำ นักวิเครำะหว์ ิจยั ฯลฯ

7.กลุ่มสาขาวิชา แพทย์ สัตวแพทย์ พยาบาล เภสัชกร
แพทยศาสตร์และ เจ้าหน้าท่ีวิทยาศาสตร์การแพทย์ เจ้าหน้าท่ี
วชิ าทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับ รังสีเทคนิค นักกายภาพบาบัด นักจิตเวช
สุขภาพอนามัย เจา้ หนา้ ท่ีสาธารณสขุ ฯลฯ

8. กลมุ่ สาขาวชิ า วศิ วกร ผู้ควบคุมการก่อสร้าง โฟร์แมน

วิศวกรรมศาสตร์ ช่างเขียนแบบ ชา่ งเทคนคิ

8.1 วศิ กรรมศาสตร์

8.2สถาปัตยกรรม สถาปนกิ นักออกแบบ

ศาสตร์และผังเมือง

9.กลุ่มสาขาวิชา เกษตรกร นักวิชาการเกษตร เจ้าหน้าท่ีป่าไม้

เกษตรศาสตร์ วน นักการประมง เจ้าหนา้ ทีเ่ กษตรและสหกรณ์ นกั

จัดสวน นกั ปศสุ ตั ว์ เจา้ ของฟารม์ พืช

ศาสตร์ และการ หรือสัตว์ ฯลฯ 40 - 42
ประมง
10.กลุ่มสาขาวิชา นักกีฬา นกั สงั คมสงเคราะห์ พฒั นากร
อ่ืนๆ ได้แก่ อาชญา
วทิ ยา สวสั ดกิ าร
สังคม

สรปุ ผลกำรสำรวจ (*ค่ำเฉล่ีย = คะแนนรวม หำรดว้ ย 3)
กำรตรวจคะแนน มำกทสี่ ดุ = 5, มำก = 4, ปำนกลำง = 3, น้อย = 2, น้อยที่สดุ = 1

กำรแปลควำมระดับคุณภำพ

ระดับคุณภาพตามจุดหมายของหลกั สูตร จดั ระดับเป็น 5 ระดับ โดยใชช้ ว่ งคะแนนเฉลี่ย ดงั นี้

ระดับคุณภำพ ช่วงคะแนนเฉลี่ย

มากท่ีสดุ 4.21 - 5.00

มาก 3.41 - 4.20

ปานกลาง 2.61 - 3.40 206

น้อย 1.81 - 2.60

นอ้ ยท่ีสดุ 1.00 -1.80

ใบงำน
เร่ือง อำชีพในดวงใจ

ชือ่ -สกลุ นกั เรียน………….…………………..………............…..ชน้ั .............เลขที่...........................
คำชีแ้ จง  ใหน้ ักเรยี นเลอื กอาชีพในดวงใจพรอ้ มบอกเหตผุ ลในการเลือกอาชีพ และกรอกลงในตาราง

ที่ อาชพี ในดวงใจ เหตุผลในการเลือกอาชีพ หมายเหตุ

207

ใบงำน
เรื่อง แนวทำงในกำรพัฒนำตนเองสู่อำชีพ

ชอ่ื -สกุลนักเรยี น………….…………………..………............…..ชน้ั .............เลขท.่ี ..........................
คำชี้แจง  ให้นักเรียนสืบค้นวิธกี ารพัฒนาตนเองสู่อาชพี ในดวงใจ และบนั ทึกลงในแบท่ีกาหนดให้

อาชพี ในดวงใจ วธิ กี ารพัฒนาตนเองสู่อาชพี แหลง่ ขอ้ มูล

208

แผนกำรจัดกจิ กรรมแนะแนวที่ 4

หน่วยกำรจดั กจิ กรรม อำชีพ ช้นั มธั ยมศึกษำปีที่ 4 - 6

เรือ่ ง อำยุน้อยรอ้ ยลำ้ น จำนวน 3 ช่ัวโมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สำระสำคญั

การเลือกประกอบอาชีพท่ีชอบ มีความสนใจ มีความถนัด และมีปัจจัยที่เอื้อให้ประสบความสาเร็จ

การท่ีนักเรียนได้ลองปฏิบัติอาชีพนั้นจริงๆ จะก่อให้เกิดการเรียนรู้ รู้จักขั้นตอนปัญหาจนเกิดการตระหนักรู้ตนเอง

วา่ มคี วามเหมาะสมกบั อาชพี ทตี่ นเองเลือกไดด้ เี พียงไร ซึง่ จะนาไปสกู่ ารประกอบอาชพี อยา่ งมีความสขุ

2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ด้ำนอำชพี
ข้อ 3 มีทักษะการตัดสนิ ใจเพื่อวางแผนการศกึ ษาเพ่ือการมีงานทาเต็มตามศักยภาพ

3. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 209
3.1 พจิ ารณาเลือกโครงงานอาชพี ทีต่ นเองสนใจ
3.2 เขยี นโครงงานการฝึกปฏบิ ัติงานอาชีพ
3.3 ฝกึ ปฏบิ ตั ิงานตามโครงงานอาชีพ

4. สำระกำรเรยี นรู้
การเลอื กประกอบอาชพี ที่ชอบ มีความสนใจ ความถนดั และมปี จั จัยที่เอือ้ ใหป้ ระสบความสาเรจ็

5. ชนิ้ งำน / ภำระงำน
5.1 ใบความรู้ เรอ่ื ง การเขยี นโครงงานอาชพี
5.2 ใบงาน เรือ่ ง การเขยี นโครงงานอาชีพ
5.3 ใบงาน เรอ่ื ง ฉนั ทาได้

6. วิธีกำรจดั กจิ กรรม
ช่ัวโมงท่ี 1
6.1 นาสนทนาเกี่ยวกับอาชีพต่างๆ เช่นข้าราชการ พนักงานบริษัท แม่ค้า ร้านซ่อมต่าง ๆ โดยกระตุ้น

ใหน้ กั เรยี นเหน็ ความสาคัญของการเลือกประกอบอาชีพในอนาคต และถามถึงเปา้ หมายในอนาคตวา่ นักเรยี นอยาก
ประกอบอาชีพอะไร พรอ้ มทงั้ เหตุผล โดยครพู ยายามใหน้ ักเรยี นนกึ ถงึ อาชีพอสิ ระดว้ ย

6.2 ให้นักเรียนค้นคว้าความรู้ เรอื่ ง ข้อมูลอาชีพ โดยศกึ ษาจากสอ่ื ออนไลน์ แล้วร่วมกนั อภปิ รายถงึ 210
เร่ืองประเภทของอาชีพ
ชวั่ โมงที่ 2

6.3 ครแู จ้งให้นักเรียนทราบถึงการเตรยี มตัวเข้าสโู่ ลกงานอาชพี ซ่ึงควรมีท้งั การทดลองฝึกงาน และ
การฝึกปฏบิ ัตจิ รงิ แล้วให้นกั เรยี นเขา้ กลมุ่ ท่จี ะปฏบิ ตั ิงานอาชีพ กลมุ่ ละ 7-8 คน ตามความสมคั รใจ

6.4 นกั เรียนศกึ ษาใบความรู้ เรือ่ ง การเขียนโครงงานอาชพี พรอ้ มตัวอย่างการเขยี น
6.5 แต่ละกลมุ่ เขยี นโครงงานอาชพี ตามทกี่ ลุ่มสนใจ
6.6 ตัวแทนแตล่ ะกลุ่มนาเสนอโครงงานอาชพี โดยครูให้ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม
ชั่วโมงที่ 3
6.7 นักเรยี นวเิ คราะห์ข้อมูลเพอื่ วางแผนทาโครงงานอาชพี โดยใช้ใบงาน เรอ่ื ง ฉันทาได้
6.8 ปรับปรงุ โครงงานอาชีพตามผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากใบงาน เร่อื ง ฉนั ทาได้
6.9 ครูใหข้ อ้ เสนอแนะในการเตรยี มการปฏิบัตฝิ กึ อาชพี พร้อมนัดหมายนักเรียนฝกึ ปฏิบัติอาชีพและแจ้ง
ใหจ้ ัดทาผลงานกลุม่ ลงในใบงาน เรอ่ื ง ฉันทาได้ เพื่อนาเสนอต่อไป
6.10 ให้ตวั แทนกลุ่มนาเสนอผลการฝึกปฏิบตั ิอาชพี ตามประเด็นในใบงาน เรอื่ ง ฉนั ทาได้
6.11 ครูให้กาลังใจและชืน่ ชมนกั เรียนในการปฏบิ ัติกจิ กรรมคร้งั นี้ และร่วมกนั สรปุ ประสบการณท์ ี่ได้จาก
การทาโครงงานอาชีพ

7. สอ่ื / อปุ กรณ์
7.1 ใบความรู้ เรื่อง การเขยี นโครงงานอาชพี
7.2 ใบงาน เร่ือง การเขียนโครงงานอาชีพ
7.3 ใบงาน เรื่อง ฉันทาได้

8. กำรประเมนิ ผล
8.1 วิธีการประเมนิ
8.1.1 ตรวจใบงาน
8.1.2 บนั ทกึ ระดบั คณุ ภาพการปฏิบัติงาน
8.2 เคร่ืองมือ
แบบบันทึกระดบั คุณภาพการปฏิบัติงาน

8.3 เกณฑ์การประเมนิ
เกณฑ์ ตัวบง่ ช้ี

ผา่ น เขยี นโครงงานอาชพี ได้ บอกวิธีแก้ปัญหาได้
ไมผ่ า่ น ไมท่ าสิ่งใดสง่ิ หนง่ึ ใน 2 ข้อ

211

ใบควำมรู้ 212
เรอื่ ง กำรเขยี นโครงงำนอำชีพ

เมื่อตัดสินใจว่าเลือกอาชีพใดแล้วควรสารวจทรัพยากรท่ีมีในท้องถิ่น เงินทุน และประสานงาน
ผเู้ กี่ยวขอ้ งในเรื่องตา่ งๆแล้วนาข้อมลู ทไ่ี ดม้ าเขียนโครงงานตามหวั ขอ้ ตา่ งๆดังตอ่ ไปน้ี
ข้นั ตอนกำรเขียนโครงงำน

1. ชือ่ โครงงาน (ระบชุ ือ่ โครงงานใหช้ ัดเจนวา่ ทาอะไร)
2. ผูด้ าเนินโครงงาน (ให้เขยี นชื่อ- สกุลผรู้ ับผดิ ชอบทกุ คน)
3. หลักการและเหตุผล (ใหเ้ หตผุ ลวา่ โครงงานนด้ี อี ยา่ งไร ทาไมถึงต้องทาโครงงานนี)้
4. วตั ถุประสงค์ (ใหร้ ะบุวา่ เมื่อปฏบิ ัตติ ามโครงงานนแี้ ลว้ จะได้อะไรบ้าง)
5. เปา้ หมาย (ใหร้ ะบุวา่ เป็นด้านปริมาณกับคณุ ภาพ)
6. ระยะเวลาดาเนินงานโครงงาน (ใหร้ ะบุการดาเนนิ งานตั้งแตต่ น้ จนจบ)
7. สถานท่ี (ใหร้ ะบุสถานที่ ที่จะดาเนนิ งานตามข้นั ตอน)
8. งบประมาณ (ให้ระบบจานวนเงินท่ีลงทุน ทม่ี า รายละเอียดของงบประมาณ ค่าใชจ้ า่ ย รายรับ
ตลอดจนข้อตกลงเร่ืองเงนิ )
9. ข้นั ตอนการดาเนนิ งาน
10. ปญั หาและแนวทางการแกไ้ ข
11. ผลที่คาดวา่ จะได้รบั

ใบงำน
เร่อื ง กำรเขียนโครงงำนปฏิบตั ิอำชีพ

กลุ่มท…ี่ ………………………………………………………………..…………….หอ้ ง……………..…………… 213
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเขยี นโครงงานตามแบบฟอรม์ ที่กาหนด

1. ช่ือโครงงำน …………………………………………………………………………………………
2. ชือ่ ผดู้ ำเนนิ โครงงำน
1. ช่ือ ……………………………………………………………………………….. ประธานกลุ่ม
2. ชื่อ ……………………………………………………………………………….. รองประธานกลุม่
3. ชื่อ ……………………………………………………………………………….. สมาชกิ
4. ชื่อ ……………………………………………………………………………….. สมาชกิ
5. ชอ่ื ……………………………………………………………………………….. สมาชกิ
6. ชอ่ื ……………………………………………………………………………….. สมาชกิ
7. ชอื่ ……………………………………………………………………………….. เลขานกุ าร
3. หลักกำรและเหตุผล
……………………………………………………………………………………………………………………………..…………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………….................……..……………………
4. วตั ถุประสงค์
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………..................……….……
5. เปำ้ หมำย
……………………………………………………………………………………………………………………………………....….……………………
………………………………………………………………………………………………………...............................................................
6. ระยะเวลำดำเนินโครงงำน
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………..................……………….
7. สถำนท่ี
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………..................…………….

8. งบประมำณ
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………..…………………………………………................…………….

9. ขน้ั ตอนกำรดำเนนิ งำน
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
…………………………………………………………………………………………..…………………………………………................………….

10. ปัญหำและแนวทำงแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………….…………..................………….

11. ผลท่ีคำดว่ำจะได้รับ
…………………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………..................……………….………….

ลงชอื่ ผู้เสนอโครงงำน ....................................................................

214

ใบงำน
เร่ือง ฉนั ทำได้

กลมุ่ ท…่ี ………………………………………………………………………..…….หอ้ ง…………………………

คำสง่ั ใหน้ กั เรยี นตอบประเด็นคาถามต่อไปน้ี
1. โครงงานการปฏิบตั งิ านอาชีพของกลุ่มนักเรียนคือ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………….......................
2. ในการปฏบิ ัติงานอาชพี สิง่ ท่ีนักเรียนพบปัญหาและมีแนวทางแกไ้ ขอย่างไร
ปญั หำ แนวทำงกำรแกไ้ ข

ด้านวางแผน

ดา้ นบคุ ลากร 215
ดา้ นการดาเนนิ การ

3. ประโยชนท์ ่ีนักเรียนไดร้ ับจากการฝกึ ปฏิบตั อิ าชีพจริง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

4. นักเรยี นนาไปประยุกต์ในชีวติ ประจาวันอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………

แผนกำรจดั กจิ กรรมแนะแนวท่ี 5

หน่วยกำรจดั กจิ กรรม อำชีพ ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีที่ 4 - 6

เรอ่ื ง คนแบบไหนจะได้งำนในศตวรรษที่ 21 จำนวน 1 ช่ัวโมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สำระสำคญั

การรู้จักโลกของงานอาชีพในศตวรรษท่ี 21 เป็นการเตรียมตัวของนักเรียนในการเข้าสู่โลกของอาชีพ

ในอนาคต ผู้ท่ีเตรียมตัวดี รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกก็จะเป็นผู้ที่ประสบความสาเร็จในชีวิต

เป็นการรู้จักตลาดแรงงานในปัจจุบัน เพ่ือให้นักเรียนได้รู้ถึงคุณสมบัติที่ตลาดแรงงานต้องการ อีกทั้ง

ยังเป็นการลดปญั หาการวา่ งงานของนกั เรียนท่ีจบการศึกษาไป

2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ด้ำนอำชพี
ขอ้ 3 มีทักษะการตดั สนิ ใจเพ่ือวางแผนการศึกษาเพื่อการมีงานทาเต็มตามศักยภาพ

3. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
บอกคุณสมบัติของบคุ คลท่ีตลาดแรงงานต้องการในศตวรรษที่ 21

216

4. สำระกำรเรียนรู้
การเปลย่ี นแปลงโลกของงานในศตวรรษท่ี 21

5. ชนิ้ งำน / ภำระงำน
5.1 ใบงานเร่ือง คุณสมบัติของอาชพี ท่ีฉันอยากเป็น
5.2 ใบความรู้ เรื่อง การเปล่ยี นแปลงของโลกอาชพี

6. วิธีกำรจัดกิจกรรม
6.1 นาเขา้ สบู่ ทเรยี นโดยการตัง้ คาถามเร่อื งอาชีพทน่ี กั เรียนอยากเป็น
6.2 ครูอธิบายถึงข้อมลู ด้านอาชพี ในศตวรรษท่ี 21
6.3. ครเู ปดิ วีดทิ ศั นเ์ กย่ี วกบั อาชีพที่ตลาดแรงงานต้องการในอนาคต
6.4 ให้นกั เรยี นทาใบงานโดยการบอกคณุ สมบตั ใิ นอาชีพท่ีตนเองอยากจะเป็นในอนาคต
6.5 ใหน้ กั เรยี นออกมานาเสนอใบงานทลี ะคน

6.6 ให้นักเรียนวิเคราะห์ว่าอาชีพที่ตนเองเลือกสอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงของโลกในศตวรรษ 217
ท่ี 21 หรือไมอ่ ย่างไร โดยพจิ ารณาจากใบความรู้ การเปล่ียนแปลงของโลกอาชพี

6.7 ใหน้ กั เรียนไดซ้ กั ถามและแสดงความคิดเหน็

7. สื่อ / อุปกรณ์
- ใบงานเรื่อง คณุ สมบตั ขิ องอาชีพที่ฉันอยากเป็น
- ใบความรู้ เรือ่ ง การเปลี่ยนแปลงของโลกอาชีพ
- คลปิ ที่ใชเ้ ปิด https://youtu.be/j61SNJLMkbI
https://youtu.be/TfOpuRDQbYU

8. กำรประเมนิ ผล
8.1 วธิ ีการประเมนิ
8.1.1 สงั เกตพฤติกรรมการเข้าร่วมกจิ กรรมของนกั เรียน
8.1.2 ประเมนิ จากใบงานของนกั เรยี น
8.1.3 ประเมนิ จากการนาเสนอของนกั เรียน
8.2 เครอ่ื งมือ
8.2.1 ใบงานเรอ่ื ง คุณสมบัตขิ องอาชพี ทฉ่ี ันอยากเป็น
8.2.2 แบบประเมนิ กิจกรรม
8.3 เกณฑ์การประเมนิ

เกณฑ์ ขอ้ บง่ ช้ี
ผ่าน ทาใบงานสง่ บอกเหตผุ ลได้ บอกข้อแก้ไขได้
ไม่ผ่าน ไม่ทาสิง่ ใดสง่ิ หนึ่งใน 3 ข้อ

ใบงำน 218
เรอ่ื ง คุณสมบัติของอำชีพท่ฉี นั อยำกเปน็
ชือ่ -นำมสกุล...................................................................................................ระดบั ชนั้ ...................

คำช้ีแจง้ : ใหน้ กั เรียนตอบคาถามดังตอ่ ไปนี้
1. อาชพี ท่ฉี ันอยากเป็น...........................................................................................................................
2. คณุ สมบัติอาชพี ที่ฉนั อยากเปน็ ...........................................................................................................

- นักเรยี นคิดว่าอาชพี ท่ีตนอยากจะเปน็ น้ันเปน็ ท่ตี ้องการของโลกในศตวรรษที่ 21 หรอื ไม่ ถ้าไมใ่ ชน่ กั เรยี นจะมี
วิธกี ารแก้ไขปัญหาอยา่ งไร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………..............................................................……………………

ใบควำมรู้ 219
เรือ่ ง กำรเปล่ยี นแปลงของโลกอำชีพ

เว็บไซต์หางานอันดับ 1 จ๊อบ ดีบี (ประเทศไทย) เปิดรายงาน 10 ทักษะที่ตลาดแรงงานต้องการ
ในปี 2020 ต้องทันโลก ทันเหตุการณ์ หลังพบขณะนี้ ไทยยังขาดแรงงานที่มีทักษะพิเศษด้านไอที เทคโนโลยี
มากทสี่ ุด

การใช้เทคโนโลยี เป็นหน่ึงในทักษะท่ีตลาดแรงงานต้องการมากที่สุดเห็นได้จากข้อความประกาศ
รับสมัครพนักงานของบริษัทต่างๆ ในเว็บไซต์หางาน จะเน้นคุณสมบัติด้านน้ีเป็นหลัก เนื่องด้วยเทคโนโลยี
ถูกนามาใชใ้ นบริษทั เพ่ือชว่ ยใหก้ ารทางาน คลอ่ งตวั และมปี ระสิทธิภาพมากขึ้น

ข้อมูลจากบริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย จากัด ระบุ 10 ทักษะท่ีตลาดแรงงานต้องการ
ในปี 2020 อันดับแรก คือ ต้องเป็นคนทันโลก ทันเหตุการณ์ พนักงานทุกอาชีพต้องอัพเดทข้อมูลข่าวสาร
เพ่ือให้ทันการเปลี่ยนแปลง สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ต่องาน มีทักษะด้านภาษา
มีการส่ือสารและการจัดการข้อมูลที่ดี หากมีความสามารถที่หลากหลาย รู้จักพัฒนาตนเอง สามารถปรับตัว
ให้เข้ากับการเปล่ียนแปลงที่จะเกิดขึ้น แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ และมีความคิดสร้างสรรค์ เพ่ือช่วยต่อยอด
การทางาน จะยิง่ สร้างความได้เปรยี บและโอกาสในการทางาน

กรรมการผู้จัดการ จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย ระบุว่า แม้พนักงานจะมี 10 ทักษะข้างต้น แต่หัวใจสาคัญที่
ตลาดแรงงาน ต้องการมากท่ีสุด คือ สายงานที่ตลาดต้องการ ซึ่งมี 10 สายงาน อาทิ วิศวกรรม , งานไอที ,
งานบัญชี , งานขาย , งานธุรการ , งานธนาคาร , งานการตลาด - PR , งานขนส่ง , บริการเฉพาะทาง และงานส่ือ
โฆษณา โดยจานวนคนท่ีเรียนไม่ตรงกับสายงานมีมากกว่าความต้องการของตลาด จึงทาให้หางานทาได้ยาก
โดยทกั ษะ 5 ด้าน คือ ทันโลกทนั เหตกุ ารณ์ , ใชเ้ ทคโนโลยเี ปน็ , ทกั ษะด้านภาษา , การจัดการขอ้ มูล และความคิด
รเิ ริ่มสร้างสรรค์ เปน็ ทักษะทส่ี อดรบั กับยคุ Thailand 4.0 และ Globalization ในขณะน้ี

จ๊อบส์ ดีบี ยังเปิดโครงสร้างแรงงานไทย เดือนเมษายนท่ีผ่านมา พบว่า คนที่ทางานในประเทศ
มีจานวน 37.89 ล้านคนและมีคนว่างงาน 4.73 แสนคน ในจานวนน้ี 2.6 แสนคน เป็นคนที่ไม่เคยทางาน
มาก่อน โดยร้อยละ 55 ของคนที่ไม่เคยทางานและเป็นนักศึกษาจบใหม่ เพราะอาจท่ีไม่ตรงกับความต้องการ
ของตลาดแรงงาน เพ่ือให้เกิดความเข้าใจ และเข้าถึงบริบทที่เรียน รวมทั้งผู้เรียนเองจะต้องติดตามเทรนด์
ของตลาดแรงงานดว้ ย เพอื่ เขา้ ถงึ โอกาสในการทางาน

ทีม่ า https://www.voicetv.co.th/read/493132

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้กิจกรรมแนะแนวที่ 6

หนว่ ยกำรจดั กจิ กรรม อำชีพ ชน้ั มัธยมศึกษำปที ี่ 4-6

เรือ่ ง พัฒนำตน พัฒนำชำติ จำนวน 4 ช่ัวโมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สำระสำคญั

คุณลักษณะส่วนตนเป็นปัจจัยสาคัญท่ีมีผลต่อการดาเนินชีวิตการทางานและการสร้างประโยชน์

ให้สังคมและประเทศชาติ นักเรียนควรพัฒนาคุณลักษณะส่วนตนที่เหมาะสม เพ่ือการดารงชีวิตอย่างมีความสุข

ประสบความสาเร็จ และเปน็ ประโยชน์

2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ดำ้ นอำชพี
ขอ้ 1 การเรยี นรู้เก่ยี วกับอาชีพ

3. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 220
3.1 อธิบายคุณลักษณะความสามารถและทักษะทจ่ี าเป็นในการทางานได้
3.2 อธบิ ายคณุ ลักษณะทจี่ าเป็นในการประกอบอาชีพ
3.3 สามารถทางานรว่ มกับผู้อื่นได้

4. สำระกำรเรยี นรู้
4.1 คณุ ลกั ษณะท่ีจาเป็นต่อการครองตน การดาเนินชีวิต การทางานอยา่ งเป็นสขุ และเปน็ ประโยชน์
4.2 การวางแผนพัฒนาตนเพอื่ เขา้ สโู่ ลกของงานและการดาเนนิ ชีวิตทีเ่ ป็นสุขและเปน็ ประโยชน์

5. ชิน้ งำน/ภำระงำน
5.1 ใบงาน เร่อื ง ข้อคิดจากเกมส์สรา้ งตกึ
5.3 ใบงาน เรอื่ งคิดสรรคส์ รา้ ง
5.4 ใบความรู้ เร่ืองบุคคลท่ปี ระสบความสาเรจ็
5.5 ใบงาน เรอื่ ง สู่ความสาเร็จ
5.6 ใบงาน เรอ่ื งชวี ติ ทเี่ ป็นประโยชนแ์ ละเปน็ สขุ
5.7 ใบงาน เร่อื ง เพื่อชวี ติ ทีเ่ ปน็ ประโยชน์และเปน็ สุข

6. วิธีกำรจดั กจิ กรรม 221
ชัว่ โมงที่ 1
6.1 ครูให้นักเรียนเล่นเกมสร้างตึก เพ่ือฝึกทักษะการทางานเป็นทีม พัฒนาความคิดสร้างสรรค์
ฝึกการยอมรับความคิดเหน็ ของผูอ้ ื่น (ครูไมต่ อ้ งแจง้ ให้นักเรยี นทราบถึงจุดประสงค์)
6.2 ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กลมุ่ 10 – 15 คน ตามความเหมาะสม
6.3 ครูแจกแผ่นฟวิ เจอร์บอร์ดขนาด 18 X18 นิ้วหลากสหี รือสเี ดยี วก็ได้ ใหก้ ลุ่มละ 15 แผ่น
6.4 ครูอธิบายกตกิ า
- ใหแ้ ต่ละกลุ่มใช้ฟวิ เจอร์บอร์ดสร้างตึกให้มีความสูงอย่างน้อย 1.50 เมตร โดยไมใ่ ห้ล้ม และ
ไมม่ อี ุปกรณใ์ ดๆ ช่วย
- ใชเ้ วลา 10 นาที
6.5 ครูใหน้ ักเรียนอภิปรายผล และทาใบงาน เรือ่ ง ขอ้ คิดจากเกมสร้างตกึ
6.6 กลุ่มนาเสนอ และนักเรียนร่วมกันสรุปข้อคิดท่ีได้จากการทางาน ด้านคุณลักษณะ

ความสามารถ และทกั ษะท่จี าเปน็
6.7 ครูเชื่อมโยงให้เห็นคุณลักษณะที่สาคัญในการทางาน และทักษะท่ีจาเป็น(ตั้งเป้าหมาย

คดิ แกป้ ญั หา การสือ่ สาร การรับฟงั ความคิดเห็น ความคิดสรา้ งสรรค์ฯลฯ)
6.8 ให้นักเรียนอ่านใบความรู้ เรือ่ ง 6 ทกั ษะหลกั ท่ีนายจ้างต้องการเสมอ
ชั่วโมงที่ 2
6.9 ทบทวนสงิ่ ทเ่ี รยี นรชู้ ่วั โมงทีแ่ ลว้
6.10 ใหน้ ักเรยี นทาใบงาน เรือ่ ง คดิ สรรค์สรา้ ง
6.11 ครูสุ่มถามคาตอบ นักเรียนท่ีแก้ปัญหาได้สาเร็จ โดยครูชี้ให้เห็นความสาคัญของการคิด

นอกกรอบ ฝึกคิดแง่มุมใหม่ๆ คิดให้กว้าง จะเป็นการฝึกฝนความคิดสร้างสรรค์ ซ่ึงเป็นความสามารถในการคิดระดับสูง
และเปน็ ประโยชน์ต่อความก้าวหน้าในการทางานในอนาคต

6.12 ให้นักเรียนฝึกการคิดสร้างสรรค์ โดยทากิจกรรมผูกเร่ืองจากกลุ่มคา แบ่งนักเรียน
เป็นกลุ่ม 5 - 6 คน ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันผูกเร่ืองโดยใช้ช่ือเพลงลูกทุ่ง (หรือเพลงไทยสากล หรือช่ือภาพยนตร์
หรอื ช่ือละคร หรอื คาทขี่ ึ้นต้นด้วยตัวสะกดตวั เดียว) มาร้อยเรยี ง แล้วขดี คาทกี่ าหนดไวเ้ ปน็ เงื่อนไข

6.13 ให้กลุ่มนาเสนอเรื่องท่ีผูก ครูให้ข้อเสนอแนะ(เร่ืองท่ีแต่งควรได้ใจความ /ไพเราะ
/สนุกสนาน)

6.14 ให้นักเรียนสรุปส่ิงท่ีเรียนรู้ ครูช้ีให้เห็นความสาคัญของการฝึกคิดในแง่มุมใหม่ๆ
จะช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ และเสนอแนะให้นักเรียนนาไปฝึกฝนด้วยตนเอง หากฝึกบ่อยๆ
กจ็ ะสามารถคดิ หาคา ประโยค เรอ่ื งราวที่แปลกใหม่ น่าสนใจ ยง่ิ ขนึ้

ชว่ั โมงท่ี 3 222
6.15 ทบทวนสิง่ ทีเ่ รียนรจู้ ากชัว่ โมงกอ่ นๆ
6.16 ครูสนทนาว่านักเรียนได้เรียนคุณลักษณะและทักษะที่จาเป็นต่อการทางานในอนาคต
และการดารงชีวิตในสังคมตอ่ ไป นอกจากน้ยี งั มคี ุณลกั ษณะอ่นื ๆ ท่ีจะช่วยสง่ เสริมใหค้ นประสบความสาเรจ็ ในชวี ติ
6.17 ให้นกั เรียนอ่านใบความรู้ เรอ่ื งบุคคลท่ปี ระสบความสาเรจ็
6.18 ใหน้ ักเรียนทาใบงาน เรอ่ื ง สู่ความสาเร็จ
6.19 สมุ่ ถามนกั เรยี นตามประเด็นในใบงาน
6.20 ใหน้ ักเรยี นสรปุ ขอ้ คิดทีไ่ ด้
ช่ัวโมงที่ 4
6.21 ให้นกั เรยี นทบทวนกจิ กรรมและสิง่ ทเ่ี รียนรจู้ ากชั่วโมงทแี่ ล้ว
6.22 ครูและนักเรียนสนทนาเร่ืองคุณลักษณะท่ีจาเป็นในการประกอบอาชีพ และการใช้ชีวิต
อย่างเป็นประโยชน์ ให้นักเรียนดูสื่อวีดิทัศน์ บุคคลตัวอย่างที่ทางานและใช้ชีวิตอย่างเป็นประโยชน์ได้แก่
ดร. กฤษณา เภสัชกรท่ีผลิตยาต้านโรคเอดสใ์ ห้แก่ชาวแอฟริกัน และได้รับรางวัลแมกไซไซ หมอเขียวที่ช่วยรักษา
คนโดยไม่หวงั ผลประโยชต์ อบแทน และหมอเดนิ เท้าทไ่ี ปช่วยรักษาชาวบ้านอยา่ งใกลช้ ิด
6.23 ให้นกั เรียนทาใบงาน เร่ือง ชวี ิตทเ่ี ปน็ สขุ และเป็นประโยชน์และเปน็ สุข
6.24 ครูสุ่มถามนกั เรียนใหน้ กั เรยี นรว่ มกันสรปุ
6.25 ใหน้ ักเรียนศกึ ษาใบความรู้ เรื่อง คุณลกั ษณะของคนไทยท่ีพึงประสงค์
6.26 ให้นกั เรียนทาใบงาน เรอ่ื ง เพื่อชีวติ ท่เี ปน็ สุขและเปน็ ประโยชน์
6.27 ส่มุ ถามคาตอบ และให้นักเรยี นชว่ ยกันสรุป
6.28 ให้กาลังใจนกั เรียน

7. สือ่ /อปุ กรณ์
7.1 แผ่นฟวิ เจอร์บอร์ด
7.2 ใบงาน เร่ืองข้อคิดจากเกมสรา้ งตึก
7.3 ใบความรู้ เรื่อง 6 ทักษะหลกั ทนี่ ายจา้ งต้องการเสมอ
7.4 ใบงาน เรือ่ ง ข้อคิดท่ไี ด้จากเกมสรา้ งตึก
7.5 ใบงาน เรือ่ งคิดสรรค์สรา้ ง
7.6 ใบความรู้ เรื่องบุคคลท่ปี ระสบความสาเรจ็
7.7 ใบงาน เรอ่ื ง สู่ความสาเร็จ
7.8 สอื่ คลิป ดร.กฤษณา หมอเขยี ว และหมอเดินเทา้

7.9 ใบงาน เรอ่ื งชวี ติ ทีเ่ ปน็ ประโยชน์และเป็นสุข 223
7.10. ใบความรู้ เร่อื งคุณลักษณะของคนไทยท่ีพึงประสงค์
7.11 ใบงาน เร่อื งเพ่ือชีวิตท่ีเป็นประโยชน์และเปน็ สุข
7.12 ใบความรสู้ าหรับครู เรื่องความคดิ สรา้ งสรรค์

8. กำรประเมนิ ผล
8.1 วิธกี ำรประเมนิ
8.1.1. สังเกตการปฏบิ ัติกจิ กรรม
8.1.2. ตรวจใบงาน
8.2 เคร่อื งมอื
8.2.1 แบบสงั เกตสังเกตการปฏิบัติกจิ กรรม
8.2.1 แบบตรวจผลงานใบงาน
8.3 เกณฑ์การประเมิน
8.3.1 สงั เกตการปฏบิ ัติกิจกรรม
เกณฑ์ ขอ้ ควำมบง่ ช้ี
ผ่าน มีความต้ังใจร่วมกิจกรรม ให้ความร่วมมือกับกลุ่ม ในการอภิปราย แสดง
ความคิดเห็น และการส่งงานตามกาหนด
ไมผ่ ่าน ไมใ่ ห้ความรว่ มมือกับกลุม่ หรอื ขาดสง่ิ ใดส่งิ หนงึ่
8.3.2 ตรวจใบงาน
เกณฑ์ ข้อควำมบ่งชี้
ผ่าน สามารถวางแผนพัฒนาตน เพ่ือชีวิตที่เป็นประโยชน์และเป็นสุข
ไดอ้ ย่างนอ้ ย 3 ขอ้
ไม่ผ่าน ไมส่ ามารถวางแผนพัฒนาตน เพ่ือชวี ิตทเี่ ปน็ ประโยชน์และเป็นสขุ ได้ถึง 3 ขอ้

ใบงำน 224
เรอื่ ง ข้อคิดจำกเกมสร้ำงตกึ

หลังจากที่นักเรยี นเล่นเกมนแ้ี ลว้ ให้ตอบคาถามต่อไปน้ี
1.กล่มุ นักเรยี นได้ลาดับท่.ี ..........................................................................................................................................

ปจั จัยทช่ี ่วยให้งานสาเร็จไดแ้ ก่
............................................................................................................. ......................................................................
...................................................................................................................................................................................

สิง่ ท่คี วรแกไ้ ขปรบั ปรุงในการทางาน ได้แก่
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................. ......................................................................
2. ทกั ษะ/คณุ ลักษณะ/ความสามารถท่จี าเปน็ ในการทางานชิน้ นใ้ี ห้สาเรจ็ ได้แก่
............................................................................................................. ......................................................................
............................................................................................................. ......................................................................
3. จากทกั ษะ/คุณลักษณะ/ความสามารถ ในข้อ 2

จุดแข็งของนักเรยี น(นกั เรียนมคี ณุ ลกั ษณะเหลา่ นั้นมากพอ) ไดแ้ ก่
............................................................................................................. .....................................................................
............................................................................................................. .....................................................................

ส่งิ ท่นี กั เรียนตอ้ งพัฒนา (นักเรียนมคี ุณลักษณะเหล่านั้นยงั ไม่พอ) ไดแ้ ก่
............................................................................................................. .....................................................................
..................................................................................................................................................................................

ใบควำมรู้ 225
เร่อื ง 6 ทักษะหลักท่ีนำยจำ้ งตอ้ งกำรเสมอ

6 ทกั ษะตอ่ ไปนี้ คือคณุ สมบัตทิ ี่เป็นสง่ิ จาเป็นและสาคญั มากสาหรบั การทางาน ได้แก่
1. มคี วามสามารถในการสอ่ื สารได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

1. 2. มคี วามสามารถในการทางานเปน็ ทีม
2. 3. มคี วามสามารถในการแก้ปญั หา
3. 4. มีความสามารถในการคิดริเร่มิ
4. 5. มคี วามสามารถในการบริหารจัดการ
5. 6. มคี วามสามารถในการปรับตัว

ลองมาสารวจตวั เองกนั ว่า คณุ มีคุณสมบัติท้ัง 6 ข้อนี้แล้วหรอื ยงั

ผู้ท่ีเป็นนักสื่อสำรท่ีดี ไม่ใช่แค่พูดเก่งอย่างเดียว ต้องมีทักษะในการฟังด้วย ต้องฟังอย่างตั้งใจเสียก่อน
จงึ จะโต้ตอบได้อย่างถูกต้อง
ผู้ที่ทำงำนเป็นทีมได้ดี มักจะเป็นคนยืดหยุ่นและประนีประนอม จึงสามารถเข้ากับคนได้ทุกประเภท เปิดกว้าง
สาหรับความคิดเห็นของผู้อื่น และมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้อื่นอยู่เสมอ อีกท้ังยังเป็นคนซื่อสัตย์ จริงใจ
ไม่เอาเปรียบผู้อ่ืน ยึดม่ันและทาตามคาสัญญาที่รับปากไว้ ทาให้ผู้อ่ืนไว้วางใจ ในขณะเดียวกันก็ไว้ใจ
ผู้อื่นด้วย ผู้ท่ีเป็นนักแก้ปัญหำตัวยง จะมองเห็นปัญหาก่อนที่มันจะกลายเป็นเร่ืองใหญ่ ท้ังยังรู้จักมองด้วย
มุมมองท่ีแตกต่าง จึงสามารถเห็นและจัดการกับปัญหาได้ก่อนผู้อ่ืน คนที่มีคุณสมบัติเช่นน้ีไม่กลัวที่จะเผชิญหน้า
กับปัญหา จึงไม่เคยคิดปัดปัญหาไปให้ผู้อ่ืน เม่ือเกิดความผิดพลาดข้ึนก็เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง และ
พยายามทางหนทางใหม่ ๆ ในการแก้ปญั หาอย่างไมย่ ่อท้อ
ผู้ท่ีมีควำมคิดริเร่ิม คนท่ีมีคุณสมบัติเช่นนี้มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นผู้นา เพราะรู้ตัวเองว่าต้องทาอะไรโดยไม่ต้องมี
ใครบอกให้ทา ชอบท่ีจะคิดสร้างสรรค์ ชอบทดลอง ปรารถนาท่ีจะเรียนรู้ส่ิงใหม่ ๆ ไม่เพียงเฉพาะกับตัวเอง
เทา่ น้ัน แต่ยังเป็นตวั ตั้งตวั ตีให้ผู้อื่นทาในสิง่ ใหม่ ๆ เชน่ กัน
ผ้ทู ม่ี ที กั ษะในกำรบรหิ ำรจดั กำร สามารถวางแผน งานและจัดลาดบั ความสาคัญของสงิ่ ต่าง ๆ ได้ดี รวู้ า่ อะไรควร
ทาก่อน อะไรควรทาทีหลัง มีความสามารถในการทางานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน และสามารถทางานเสร็จ
ตรงเวลา อกี ทงั้ ยงั มคี วามสามารถในการประสานงานกับผู้อน่ื ได้ดี
ผู้ท่ีสำมำรถปรับตัวเข้ำกับสถำนกำรณ์และบุคคลได้ดี เป็น คนเรียนรู้เร็ว ไม่ยึดติดกับตัวเอง พร้อมเปิดรับ
ความคิดใหม่ ๆ เสมอ จงึ ไมก่ ลัวท่จี ะลองทาสงิ่ ทแี่ ตกตา่ ง และสามารถจัดการกบั ความเปลย่ี นแปลงไดด้ ี

ใบงำน
เรือ่ ง คดิ สรรค์สร้ำง
ชื่อ..............................................นำมสกุล.......................................................ช้นั ม………/..........เลขที่...........

1. ให้ลากเส้นตรงผ่านวงกลมทุกวง โดยใช้เสน้ ไมเ่ กนิ 4 เส้น

2. 3+3 = ? 226

3. มรี ูปสีเ่ หล่ียมจตุรัสกี่รปู

ใบควำมรู้ 227
เร่อื ง บุคคลที่ประสบควำมสำเรจ็

วิกรม กรมดิษฐ์
ผู้ก่อต้ังและประธานบริหารบริษัท อมตะคอร์ปอเรชัน จากัด (มหาชน) เจ้าของโครงการนิคม

อุตสาหกรรมอมตะนคร พร้อมทั้งมีบริษัทในเครืออมตะอีกหลายแห่งรวมถึงที่อยู่ในเวียดนามด้วย เขาพลิกผันตัวเอง
จากครอบครัวท่ีทาอาชีพค้าขายในจังหวัดกาญจนบุรีมาสู่เจ้าของอาณาจักรนิคมอุตสาหกรรม ขณะท่ีเรียนช้ันประถม 1
ก็เริม่ ทาการค้าขายแล้ว เป็นการขายถ่ัวคัว่ ทเ่ี ขาทาเร่ือยมาจนถึงประถม 3 ต่อมาก็ไปรับขนมปัง และลูกอมมาขายควบคู่
ไปด้วยเลย ซึ่งวิกรมนั้นมีความฝันที่อยากจะมีกิจการเป็นของตัวเองตั้งแต่เด็กและด้วยความท่ีเขาต้องควบคุมคนงานมา
ตั้งแต่เด็กๆจึงทาให้รู้จักการวางตัวให้น่าเช่ือถือเพื่อจะได้สามารถควบคุมคนหมู่มากได้กระทั่งได้รับทุนการศึกษา
ในระดับปริญญาตรี จากรัฐบาลไต้หวัน เขาก็เร่ิมทาธุรกิจแบบจริงจังมากขึ้นด้วยการนาเข้าอะไหล่วิทยุ, โทรทัศน์
และเครื่องสูบน้า จากประเทศไต้หวันเข้ามาขายในไทย และก็ได้นาสินค้าจาพวก เครื่องหนัง, ทองรูปพรรณ และ
เมลด็ พนั ธตุ์ า่ งๆ กลับไปขายในไต้หวนั จนสร้างรายได้ให้เขาเปน็ กอบเปน็ กา เหตผุ ลท่ีวกิ รม ต้องดิน้ รนทามาค้าขาย
แบบน้ีก็เพราะเขามีปัญหากับพ่อ ทาให้พ่อไม่ส่งเสีย จึงต้องพยายามหาทางส่งเสียตัวเอง และในที่สุดเขาก็เรียนจบ
ปริญญาตรีจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน สิ่งที่วิกรมได้เรียนรู้มาตั้งแต่เด็กน้ัน ช่วยหล่อ
หลอมจนมาถงึ วันท่ีเขาเปดิ บรษิ ัทของตัวเอง จากบรษิ ทั สง่ ออกสินค้าระหวา่ งประเทศ, ธรุ กิจคา้ สง่ อาหารอย่างทูน่า,
ผลิตอาหารกระป๋องส่งขายต่างประเทศ จนมาถึงโรงงานผลิตอาหารที่เป็นจุดเร่ิมต้นของธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม
จนมาเป็น บริษัทอมตะ คอร์ปอเรชัน จากัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาและจัดการด้านนิคมอุตสาหกรรม
หรือเรียกง่ายๆ ก็คือเป็นการเปิดพ้ืนท่ีให้ผู้ท่ีสนใจเช่าทาเป็นโรงงานอุตสาหกรรม โดยในนิคมอุตสาหกรร ม
จะมีส่ิงอานวยความสะดวกท่ี อาทิ บ้านพัก หรือ อพาร์ทเมนต์ และสิ่งอุปโภคบริโภคต่างๆ ซ่ึงบริษัทอมตะ
มีนิคมอุตสาหกรรมหลักๆ 3 แห่ง คือ อมตะนคร จังหวัดชลบุรี, อมตะซิต้ี จังหวัดระยอง และอมตะซิต้ี เบียนหัว
ท่อี ย่ใู นประเทศเวียดนาม

ตนั ภำสกรนที (ตนั โออชิ ิ)

เขาเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน เร่ิมต้นสร้างทุกอย่างจากจุดที่เรียกว่า...ศูนย์ เขาเร่ิมต้นจากการ
เป็นพนักงานขายของ แบกของ กินเงินเดือนไม่ถึงพันบาท สู่การบริหารงานธุรกิจระดับพันล้านในเครือโออิชิกรุ๊ป
ไม่ว่าจะเป็น สตูดิโอถ่ายภาพแต่งงาน, โออิชิ, โออิชิ กรีนที, ฯลฯ โดยกลยุทธ์ทางธุรกิจของเขาไม่ได้มีปริญญา
ด้านการตลาดจากสถาบันใดมาการันตี แต่เขาเป็นนักธุรกิจท่ีเป็นท้ังนักคิด นักถาม นักวางแผน นักการตลาด
ทีป่ ระสบความสาเร็จในถนนสายธุรกจิ ได้อย่างไม่เป็นรองใครจากพนักงานกินเงินเดือนไม่กี่ร้อย จนมีอาณาจักรภายใต้
แบรนด์โออิชิ สู่ความเป็นมหาชน ตัน ภาสกรนที บอกว่า...จุดเร่ิมต้นของเขาคือจุดที่ใครๆก็เร่ิมต้นได้ “พอเรียน

จบมศ.3 อายุ 17 ปี ผมตัดสินใจออกมาทางานเลย ผมเป็นคนเรียนหนังสือไม่เก่ง และมีจิตใจอยากเป็นนักธุรกิจ 228
ตอนเด็กๆ เห็นคนทางานแล้วอยากไปทา เวลาปิดเทอมผมจะไปทางานช่วยเสิร์ฟบะหม่ี ไปช่วยเขาลวกบะหม่ี
ไปขายเฉาก๊วย เล้ียงไก่ยังเคยเลย มีญาติของเพื่อนเขาเลี้ยงไก่ เราก็ขอไปดูไปช่วย ชอบทางาน
มีความสุข ในการทางาน ไม่เคยคิดว่าเหนื่อย ทาได้เร่ือย ๆ ในวัย 17 ปี ก็ค่อนข้างคิดต่างจากวัยรุ่นท่ัวไป
แล้ว ซ่ึงวัยเท่านี้ส่วนใหญ่กาลังเท่ียวเล่น ผมเป็นคนรูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย เรียนไม่เก่ง ถ้าผมยังทาตัวเที่ยวเล่น
วันนี้ผมก็แย่สิ ส่ิงเดียวที่ผมมีคือต้องต้ังใจทางานให้ดีกว่าคนอ่ืน...ตอนผมอายุ 17 ปี ผมรู้สึกว่าสู้เพื่อน
ไม่ได้ แพ้เพ่ือนเด็ดขาดเลย ผมบอกเพ่ือนว่า ผมไม่เรียนแล้ว ผมจะออกไปทาธุรกิจ ก 10 ปีข้างหน้า
ผมจะมาพบเพื่อน ๆ ใหม่ 10 ปียังไม่สาย เหมือนหนังจีนไหม ดูหนังมากไปหน่อย แต่เป็นอย่างน้ันจริง ๆ
พออีก 10 ปี ผมกลับไปหาเพ่ือน ๆ ท่ีสนิทกัน เพ่ือนท่ีผมรู้สึกว่าตอนนั้นเราสู้เขาไม่ได้เราเป็นบ๊วยอยู่คนเดียว
กลับไปก็ยังสู้เขาไม่ได้อยู่นะบางคนเขามีธุรกิจใหญ่กว่าผม แต่ว่าผมดีกว่าเดิมเยอะ วันที่ผมกลับไป ผมไม่ใช่
ท่ีหน่ึงแต่ผมไม่ได้บ๊วยแล้ว ผมมีธุรกิจเป็นของตัวเอง แต่อย่างน้อยถ้าวันน้ันผมไม่สู้ ผมไม่มีวันนี้”

“โปรช้ำง” หรือ ธงชัย ใจดี
นาทีนี้น้อยคนนักท่ีจะไม่รู้จัก “โปรช้าง” หรือ ธงชัย ใจดี นักกอล์ฟเบอร์หนึ่งขวัญใจชาวไทย

หนุ่มใหญ่ ผิวเข้ม ชอบยิ้มให้เห็นฟันขาว เขาเป็นหนึ่งในนักกอล์ฟมืออาชีพ และคนไทยคนแรกที่มีโอกาสเข้าไป
แข่งขันในรายการเอเชีย่ นทวั ร์ และพจี ีเอยโู รเป้ียนทวั ร์ รวมทงั้ เดินสายโชวว์ งสวงิ ในกอล์ฟรายการใหญ่ๆ ระดบั โลก
“ โ ป ร ช้ า ง ” มี ภู มิ ล า เ น า อ ยู่ ท่ี จั ง ห วั ด ล พ บุ รี เ ข า เ ริ่ ม เ ล่ น กี ฬ า ก อ ล์ ฟ ม า ตั้ ง แ ต่ อ า ยุ 16 ปี แ ต่ เ พิ่ ง
เทิรน์ โปรขน้ึ เป็นมืออาชีพในวัยประมาณ 30 ปี ปัจจบุ นั ธงชยั ก้าวขึ้นเป็นนักกอล์ฟมือวางอันดบั 86 ของโลก ธงชยั
มีรายได้ไม่ต่ากว่าปีละ 7-8 ล้านบาท ตลอดระยะเวลาการเล่นกอล์ฟมืออาชีพนี้ เขาสามารถสะสมเงินรางวัล และ
เงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์รายการต่างๆ รวมมูลค่าประมาณ 100 กว่าล้านบาท “ธงชัย เป็นตัวอย่างนักกอล์ฟ
มืออาชีพที่มีความมุ่งม่ัน และมีความพยายามสูง เขาใส่ใจในการเรียนรู้ และพัฒนาตัวเองตลอดเวลา นับว่า ธงชัย
หรือ โปรช้าง เป็นนักกอล์ฟอาชีพที่สร้างผลงานได้ดี จากการเข้าแข่งขันกอล์ฟรายการต่างๆ ทั้งในประเทศ
และต่างประเทศ จนได้รางวัลนักกอล์ฟหมายเลขหนงึ่ ของเอเชยี ก่อนข้ึนแทน่ เป็นนักกอล์ฟ 100 ล้านในวันนี้ ธงชยั
เริ่มต้นเรียนรู้กอล์ฟในฐานะเด็กเก็บลูกขอบสนาม เทดดี้ เร่ิมใช้ไม้กอล์ฟอันแรกด้วยการประดิษฐ์เองจากไม้ไผ่
และเมื่อมีโอกาสเล่นกอล์ฟจริง เขาจึงมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง เพื่อปูทางสู่นักกอล์ฟมืออาชีพได้สาเร็จ
แต่เขาก็รจู้ กั วางตวั และไม่หลงระเริงในความกา้ วหน้าใสใ่ จขยนั ฝึกซอ้ มอย่างสม่าเสมอ

ใบงำน 229
เรอ่ื ง สคู่ วำมสำเร็จ
ชื่อ..............................................นำมสกลุ ........................................................ช้นั ม………/..........เลขที่...........

คำชแ้ี จง จากการอ่านเร่อื งราวของบุคคลตัวอยา่ งทปี่ ระสบความสาเร็จ นกั เรยี นคิดวา่ แตล่ ะคนมีคุณลกั ษณะ/
คุณสมบตั ิอะไรบ้างท่ีชว่ ยใหเ้ ขาประสบความสาเรจ็ ในชีวิต
1. คณุ วกิ รม

……………………………………………………………………………...........………………………………………………………
……………………………………….…………………………………………..……………………........……………………………
………………………………………….………………………………………..………………………........…………………………
……………………………………………………………………………………………………………...........………………………
2. คณุ ตัน
……………………………………………………………………………………..………………………...........……………………
………………………………………………………………………………………..………………………………...........…………
………………………………………………………………………………………..…………………………………...........………
………………………………………………………………………………………..…………………………………........…………
3. โปรชา้ ง
…………………………………………………………………………………..…………………………………….......……………
…………………………………………………………………………………………………………………..….........…….………
……………………………………………………………………………………………………………………........……….………
…………………………………………………………………………………………………….…………………………........……

ใบงำน 230
เรื่อง ชีวติ ทเี่ ป็นสขุ และเปน็ ประโยชน์
ช่อื ..............................................นำมสกลุ .......................................................ช้ัน ม………/..........เลขที่...........

จำกกำรดคู ลปิ เรอ่ื ง ดร. กฤษณำ และหมอเขียว
1. ความร้สู กึ ของนกั เรียนทมี่ ตี ่อ ดร. กฤษณา

…………………………………………………………………………………………………………………………………………............……
ความร้สู ึกของนักเรียนทีม่ ตี อ่ หมอเขยี ว
………………………………………………………………………………………………………………………..….…….........………………
ความรู้สึกของนักเรยี นที่มตี อ่ หมอเดินเท้า
………………………………………………………………………………………………………………………….………............…………
2. ผทู้ ีไ่ ดร้ ับประโยชนจ์ ากงานของดร. กฤษณามีใครบา้ ง
……………………………………………………………………………………………………………………….……….……….........………
………………………………………………………………………………………………………………………….…….….........……………
ผทู้ ไี่ ด้รบั ประโยชน์จากงานของหมอเขียวมใี ครบ้าง
……………………………………………………………………………………………………………………………..………….........………
…………………………………………………………………………………………………………………………………..….........…………
ผูท้ ไ่ี ด้รบั ประโยชน์ จากงานของหมอเดินเท้ามีใครบ้าง
…………………………………………………………………………………………………………………………..……..……..........………
…………………………………………………………………………………………………………………………………..…............………

ใบควำมรู้
เรอ่ื ง คุณลักษณะของคนไทยทพ่ี ึงประสงค์

ภำพสงั คมไทยในสองทศวรรษหน้ำ

1. ภาพอนาคตด้านเศรษฐกิจ ประกอบด้วย

การแข่งขันทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศทวีความรุนแรงย่ิงข้ึน ภาคบริการขยายตัวในระดับสูงภาคอุตสาหกรรม

ปรับสู่การใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงมากขึ้น เกิดการว่างงานในกลุ่มแรงงานไร้ฝีมือจนถึงผู้บริหารระดับกลาง

ความเหล่อื มลา้ ระหวา่ งเมือง กับชนบทขยายตัวเพ่มิ ข้นึ

2. ภาพอนาคตดา้ นสังคม ไดแ้ ก่

สังคมท่ีมีความเป็นเมืองและเป็นสากลมากข้ึน สังคมท่ีการคอรัปชั่นกระทาได้ยากข้ึน สังคมท่ีตระหนักเรื่องสิทธิ

มนษุ ยชนมากข้ึน สังคมที่ให้ความสาคญั ด้านสิ่งแวดลอ้ มมากขึน้ สงั คมทม่ี ุ่งสกู่ ารเรียนรู้มากขึ้น

3. ภาพอนาคตดา้ นการเมือง กลา่ วคือ

การเมืองไทยอย่ใู ต้อิทธพิ ลการจดั ระเบยี บโลกใหม่ดา้ นการค้า การเมอื งท่ีเปน็ ประชาธปิ ไตยสูงขน้ึ การเมืองท่ีโปร่งใสมากขึ้น

ภำพสงั คมไทยทพ่ี งึ ประสงค์ในสองทศวรรษหน้ำ

1.สังคมทมี่ ีประสทิ ธิภาพ หมายถึง สงั คมทส่ี ามารถสรา้ งประโยชน์สูงสุดไดจ้ ากสิง่ ท่มี อี ยูใ่ นสงั คม ทงั้ จากคน ระบบ

และสภาพแวดล้อม โดยให้มีการสูญเสียทรัพยากรในระบบให้น้อยท่ีสุด โดยสังคมท่ีมีประสิทธิภาพนั้น ประกอบด้วย 2 231

องค์ประกอบ คอื คนในสังคมทม่ี ปี ระสิทธิภาพ และระบบในสงั คมท่ีมปี ระสิทธภิ าพ

2.สงั คมทม่ี คี วามรูเ้ ป็นฐานมีปญั ญาเปน็ แกนการพฒั นา 3. สงั คมที่มีเอกภาพในความหลากหลาย

4. สังคมทีใ่ ห้ความสาคัญตอ่ สง่ิ แวดล้อม 5. สงั คมที่ภูมใิ จในความเป็นไทย

6. สังคมที่เน้นชุมชนวถิ ี 7. สงั คมทม่ี ีคุณธรรมจริยธรรม

คุณลกั ษณะของคนไทยทพ่ี ึงประสงค์ สรปุ ไดด้ ังน้ี

1. มิติด้ำนร่ำงกำย คอื ผทู้ ่ีมสี ขุ ภาพร่างกายสมบูรณ์แขง็ แรง มีการพัฒนาการในด้านร่างกายและสติปัญญา

อย่างสมบูรณต์ ามเกณฑ์ในแตล่ ะช่วงวัย

2. มติ ิด้ำนจิตใจ คือ ผทู้ ่ีรจู้ ักและเข้าใจตนเอง เขา้ ใจความรสู้ ึกของผู้อืน่ เขา้ ใจสถานการณ์การเปลี่ยนแปลง

และสภาพแวดลอ้ มตา่ งๆ รอบตัวได้เปน็ อยา่ งดี

3. มิติด้ำนควำมรู้ คือ เป็นผู้ที่สามารถรู้ลึกในแก่นสาระของวิชา สามารถรู้รอบตัวในเชิงสหวิทยาการ

และเปน็ ผ้ทู สี่ ามารถรไู้ ด้ไกลโดยสามารถคาดการณเ์ กี่ยวกับอนาคตทจ่ี ะมาถึงได้

4. มิติด้ำนทักษะควำมสำมำรถ คือ ผู้ท่ีมีทักษะในด้านการคิด ทักษะการสื่อสาร ทักษะภาษาต่างประเทศ

ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทักษะทางสังคม ทักษะการอาชพี ทกั ษะทางสุนทรียะ และทกั ษะการจดั การที่ดี

(ท่ีมา : เอกสารชดุ โครงการวิถกี ารเรียนรขู้ องคนไทย ลาดบั ท่ี 2 สานักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ)

ใบงำน 232
เร่ือง เพอื่ ชีวิตที่เปน็ สุขและเป็นประโยชน์
ชื่อ..............................................นำมสกุล........................................................ชั้น ม………/..........เลขท.ี่ ..........

1. จากการทากิจกรรมตา่ งๆในชั่วโมงทผ่ี า่ นมาใหน้ กั เรยี นสรุปวา่ คณุ ลักษณะทจ่ี ะชว่ ยให้การดารงชวี ติ ไดอ้ ยา่ ง
เป็นสุขและเป็นประโยชนใ์ นอนาคตมีอะไรบา้ ง
...................................................................................................................................................................
......................................................................................................... ..........................................................

2. จากคุณสมบัติตาม ข้อ 1 นกั เรยี นมีจดุ แขง็ (เออื้ ต่อการพัฒนาตนเอง ให้สามารถดารงชวี ติ อยอู่ ยา่ งเป็น
สขุ และเปน็ ประโยชน)์ อะไรบ้าง
.......................................................................................................... .........................................................
................................................................................................. ..................................................................
.......................................................................................................... .........................................................

3. จากคุณสมบัตติ าม ขอ้ 1 นักเรยี นมีจุดทต่ี ้องพฒั นา(ไม่เอื้อต่อการพฒั นาตนเอง ใหส้ ามารถดารงชวี ิต
อยู่อยา่ งเป็นสุขและเป็นประโยชน์) อะไรบ้าง

......................................................................................................... .........................................................
.......................................................................................... ........................................................................
......................................................................................................... .........................................................
4. การวางแผนพฒั นาตนเอง
(1)............................................................................................................................................................
(2)............................................................................................................................................................
(3)............................................................................................................................................................
(4)............................................................................................................................................................
(5)............................................................................................................................................................

เฉลย ใบงำน คิดสรรคส์ รำ้ ง
1.

233

2. ถา้ ตอบ 6 ให้พยายามคิดหาคาตอบอ่ืนๆที่หลากหลาย เชน่ นกั สองตัว จมกู เปน็ ต้น กระต้นให้นักเรยี น
พยายามมองใหไ้ ดภ้ าพท่หี ลากหลาย

3. 34 รูป

ควำมรู้เพ่ิมเติมสำหรับครู 234

ควำมคดิ สร้ำงสรรค์

ความคิดสร้างสรรค์ นับเป็นความสามารถที่สาคัญอย่างหน่ึงที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกคน ซ่ึงมีคุณภาพมากกว่า
ความสามารถด้านอื่นๆ และเป็นปัจจัยที่จาเป็นย่ิงในการส่งเสริมความเจริญก้าวหน้าของประเทศชาติ ประเทศใด
ก็ตามที่ประชาชนมีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าใช้จิตนาการในการสร้างสรรค์ผลงานท่ีแปลกใหม่ สามารถ
แสวงหาพัฒนาและดึงศักยภาพเชิงสร้างสรรค์ของประเทศชาติออกมาใช้ให้เกิด ประโยชน์ได้มากเท่าใด
กย็ ง่ิ มโี อกาสพฒั นาและเจริญก้าวหน้าไดม้ ากเท่าน้ัน

ความคิดสร้างสรรค์ เป็นลักษณะความคิดท่ีแปลกใหม่ซึ่งอาจเกิดจากการคิดปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจาก ความคิดเดิม
ให้เป็นความคิดที่แปลกใหม่และแตกต่างจากความคิดเดิม ความคิดสร้างสรรค์เป็นกระบวนการทางสมองท่ีคิด
ในลักษณะอเนกนัยอันนาไปสู่การ คิดค้นสิ่งแปลกใหม่ด้วยการคิดดัดแปลง ปรุงแต่งจากความคิดเดิมผสมผสานกันเกิด
สิ่งใหม่ ซ่ึงรวมท้ังการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่างๆ เป็นความสามารถในการมองเห็นความสัมพันธ์ของส่ิงต่างๆ และก่อให้
เกิดความคิดใหม่ต่อเน่ืองกันไป เป็นความคิดท่ีหลากหลาย คิดได้กว้างไกล หลายแง่หลายมุม เน้นท้ังปริมาณ
และคุณภาพ และเป็นความคิดท่ีเป็นประโยชน์และมีคุณค่าองค์ประกอบท่ีมีอิทธิพลต่อความคิดสร้างสรรค์

1. มคี วามคิดริเริ่ม หมายถงึ มคี วามคดิ ท่แี ปลกใหม่ ไมซ่ า้ กับใคร และแตกต่างจากความคิดธรรมดา
2. มีความคิดคล่องแคล่ว หมายถึง ปริมาณความคิดท่ีไม่ซ้ากันในเรื่องเดียวกันในด้านต่างๆ
เช่น การเลือกใชถ้ ้อยคา การเช่ือมโยงความสมั พันธ์ เป็นต้น
3. มีความยืดหยุ่น หมายถึง ประเภทหรือแบบของการคิด ที่อาจนาเสนอเร่ืองราวเดียวกันในรูปแบบต่างๆ
ท่ีไม่ตายตัวหรือความสามารถในการดัดแปลงความรู้หรือประสบการณ์ที่มีอยู่ในเร่ืองต่างๆนามาเขียนเพ่ือเป็น
ประโยชน์ต่อผ้อู ่นื
4. มีความคิดละเอียดลออ หมายถึง ความคิดในรายละเอียดของเรื่องต่างๆ คิดอย่างมีข้ันตอน สามารถอธิบาย
ใหเ้ หน็ ภาพไดอ้ ยา่ งชดั เจน สามารถจดั แต่งความคิดหลกั ให้นา่ สนใจยิ่งขึน้

ลักษณะของบคุ คลทีม่ ีควำมคดิ สร้ำงสรรค์
มคี วามสามารถในการคิดพลิกแพลงแกป้ ัญหาต่างๆ ให้ลุลว่ งดว้ ยดี
ไมช่ อบทาตามอย่างผู้อ่ืนโดยไม่มีเหตุผล
มจี ิตใจจดจอ่ และผกู พนั กับงานและความอดทนอย่างทรหด
เปน็ ผู้ไม่ยอมเลกิ ลม้ อะไรงา่ ย หรือเป็นนกั สทู้ ่ดี ี
มคี วามคดิ คานึงหรือจนิ ตนาการสูง
มลี กั ษณะความเป็นผู้นา

มลี กั ษณะขีเ้ ล่น รน่ื เรงิ
ชอบรบั ประสบการณใ์ หม่ๆ
นบั ถือตนเองและเชือ่ มั่นในตนเองสูง
มคี วามคดิ อสิ ระและยืดหยุน่
ยอมรับและสนใจสิ่งแปลกๆ
มีความซบั ซ้อนในการรบั รู้
กล้าหาญกล้าเผชญิ ความจริง
ไม่ค่อยเครง่ ครัดกับระเบยี บแบบแผน
ไม่ยึดมนั่ (Dogmatism) ในส่ิงใดสงิ่ หนึง่ จนเกนิ ไปชอบทางานเพื่อความสุขและความพอใจของตนเอง
มอี ารมณข์ ัน

( ที่มำ รศ. ดร. อำรี พนั ธ์มณี. ควำมคดิ สร้ำงสรรค.์ ปรทิ ศั นจ์ ิตวทิ ยำ มหำวทิ ยำลัยเกษมบณั ฑติ ปีที่ 1 ฉบบั ท่ี 1 มนี ำคม
พ.ศ. 2547. และ http://e-learning.aru.ac.th/tsh3/e_new/lesson2.html )

235

แผนกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนร้ทู ี่ 7

หนว่ ยกำรจัดกิจกรรม อำชีพ ชนั้ มัธยมศกึ ษำปีท่ี 4 - 6

เร่ือง แสงสว่ำงที่ปลำยอุโมงค์ จำนวน 1 ชัว่ โมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สำระสำคญั

เมื่อจบช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนจะต้องมีการตัดสินใจคร้ังสาคัญในชีวิตว่าจะเรียนต่อ หรือประกอบอาชีพ

โดยพจิ ารณาขอ้ มลู ของตนเองอยา่ งรอบด้านอกี คร้ัง เพ่อื การตัดสินใจที่ถูกตอ้ ง เหมาะสมกบั ตนเอง

2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ดำ้ นอำชพี
ข้อ 1 การเรียนร้เู ก่ียวกับอาชีพ

3. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้
สรุปแนวทางสอู่ าชีพทตี่ ้องการเหมาะสมกบั ข้อมูลของตน

4. สำระกำรเรียนรู้ 236
การตัดสินใจทจ่ี ะเลือกเรยี นหรอื เลอื กประกอบอาชพี

5. ชน้ิ งำน / ภำระงำน
5.1 ใบงาน เรือ่ ง ต้องตัดสินใจ
5.2 ใบงาน เร่ือง เส้นทางท่ีต้องเลือก

6. วธิ กี ำรจัดกจิ กรรม
6.1 ทบทวนการเลือกอาชพี ของนักเรียนในช้ันปที ี่ผ่านมา โดยใหน้ กั เรียนระบุชื่ออาชีพ หรอื กลุ่มอาชีพท่ี

เลือกไว้ในใบงาน เรื่อง ตอ้ งตัดสินใจ ตอนท่ี 1
6.2 ใหน้ กั เรียนวิเคราะหเ์ ส้นทางสูอ่ าชพี ท่เี ลือก โดยการศึกษาจากแหล่งเรียนรตู้ ่างแล้วเขียนเสน้ ทางนั้นลง

ในใบงาน เร่ือง ตัดสนิ ใจ ตอนที่ 2
6.3 ทบทวนการวเิ คราะหเ์ ส้นทางสูอ่ าชพี ในใบงานเรือ่ ง ต้องตัดสินใจ ตอนท่ี 2
6.4 ใหน้ ักเรียนแตล่ ะคน นาเสนอเพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้ซง่ึ กันและกันหากนักเรียนเห็นว่า เส้นทางท่ีเพื่อน

นาเสนอไม่ตรงกบั ความคดิ เห็นของตนเองก็ให้เตมิ เสน้ ทางน้ันเพิม่ ในใบงานของตน

6.5 ทบทวนการวิเคราะห์เสน้ ทางสู่อาชีพของนักเรียนเพื่อแน่ใจวา่ นักเรียนทกุ คนมเี ส้นทางสู่อาชพี ทีเ่ ลอื ก 237
ไวแ้ ลว้

6.6 ให้นักเรียนแต่ละคนวิเคราะห์ข้อมูลในการเข้าสู่อาชีพแต่ละเส้นทาง ได้แก่ การศึกษาระยะเวลา
ค่าใช้จ่ายบันทึกในใบงาน เร่ือง เส้นทางที่ต้องเลือก ความเป็นไปได้ของตนเอง ตอนท่ี 1 แล้วสรุปแนวทางท่ี
เหมาะสม/ มีความเป็นไปได้สาหรบั ตนเองในใบงาน เร่ือง เส้นทางท่ีตอ้ งเลอื ก ตอนท่ี 2

7. สือ่ /อุปกรณ์
7.1 ใบงาน เรือ่ ง ต้องตัดสนิ ใจ
7.2 ใบงาน เรือ่ ง เสน้ ทางทต่ี ้องเลือก

8. กำรประเมนิ
8.1 วธิ กี ารประเมนิ
ตรวจใบงาน
8.2 เครื่องมือประเมิน
ผลจากการทาจากใบงาน
8.3 เกณฑก์ ารประเมิน

เกณฑ์ ตัวบ่งชีค้ ณุ ภำพ
ผา่ น ทาใบงานส่งระบุอาชพี ที่ตัดสินใจเลือกได้วเิ คราะห์แนวทางการเข้าสู่อาชีพได้
ไมผ่ ่าน ไม่ทาส่งิ ใดสง่ิ หนงึ่ ใน 3 ข้อ

ใบงำน 238
เรือ่ ง ต้องตดั สนิ ใจ

ชอ่ื ....................................................................................ชั้น....................... .........................
คำชแี้ จง ให้นกั เรียนระบอุ าชีพท่ีนกั เรียนตัดสินใจทจ่ี ะทาลงในตอนที่ 1 แลว้ ระบเุ สน้ ทางสอู่ าชีพในตอนที่ 2
ตอนที่ 1
อาชีพทีต่ ัดสินใจเลอื กคือ

............................................................................................................. .......................................................................

............................................................................................................. .......................................................................

............................................................................................................. .......................................................................

..................................................................................................... ...............................................................................

............................................................................................................. ......................................................................

ตอนท่ี 2
เสน้ ทางสอู่ าชพี
....................................................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................................

................................................................................................................... .................................................................

ใบงำน
เรื่อง เสน้ ทำงท่ีต้องเลือก

ชอ่ื ..............................................................................................ชั้น............. ...................................

ตอนท่ี 1 ให้นักเรียนวเิ คราะหข์ อ้ มลู ในการเข้าสู่อาชีพแตล่ ะเสน้ ทาง

เสน้ ทำงท่ี กำรศกึ ษำ ระยะเวลำ คำ่ ใชจ้ ำ่ ย ควำมเปน็ ไปได้
ของตน

239

ตอนที่ 2
สรปุ แนวทางสู่อาชพี ทีเ่ หมาะสมกับตนเอง คือ
............................................................................................................. .......................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................. .......................................................................
............................................................................................................. .......................................................................

แผนกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้ที่ 8

หน่วยกำรจดั กิจกรรม อำชีพ ชั้นมธั ยมศึกษำปีท่ี 4 - 6

เรื่อง เสน้ ทำงชวี ิตลิขติ เอง จำนวน 2 ช่ัวโมง

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

1. สำระสำคญั

การวางแผนชีวิตให้กับตัวเองด้านการศึกษา อาชีพ โดยพิจารณาความเหมาะสม จากบุคลิกภาพ

และความสามารถของตน และปฏิบัติตามทว่ี างแผนไว้ชว่ ยให้บรรลุความสาเร็จในชีวติ ได้มากขน้ึ

2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ด้ำนอำชพี

ขอ้ 1 การเรียนรเู้ ก่ียวกบั อาชีพ

3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้

3.1 ระบุสาขาวชิ าในสถาบนั ทเ่ี ลือกใหส้ อดคลอ้ งกบั อาชีพทสี่ นใจ

3.2 บอกแผนชีวิตของตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3.3 อธบิ ายวธิ ีปฏิบัติเพอ่ื ให้บรรลุเป้าหมายตามแผนชวี ิตท่ีตนวางไว้

4. สำระกำรเรียนรู้ 240
การวางแผนเลือกทางเดินชวี ิต

5. ช้นิ งำน / ภำระงำน
ใบงานแบบบนั ทกึ แผนชวี ิต

6. วิธีกำรจัดกจิ กรรม
ชว่ั โมงที่ 1
6.1 เล่าเร่ืองเกี่ยวกับผู้วางแผนชีวิตและผู้ไม่วางแผนชีวิต ซึ่งได้รับค วามสาเร็จไม่เท่าเทียมกัน

โดยอาจยกตัวอย่างจากนักเรียนรุ่นพี่โดยที่ไม่ต้องเอ่ยช่ือ หรือจากดาราที่เป็นข่าวซึ่งมีทั้งท่ีประสบความสาเร็จใน
ชีวติ และดาราท่ตี กอบั

6.2 นักเรียนช่วยกันอภิปรายสาเหตุที่ทาให้ผู้ท่ีวางแผนชีวิตและผู้ไม่วางแผนชีวิตประสบความสาเร็จ
ไมเ่ ทา่ เทียมกนั

6.3 แบ่งนักเรียนออกเปน็ 3 กลมุ่ ชีแ้ จงการทากจิ กรรมเหมอื นกนั ทุกกลุ่ม

6.4 ให้นกั เรียนเขยี นบันทึกแผนชีวิตในอนาคตของตน ตามแบบบนั ทึกที่แนบ แล้วอภิปรายเหตุผลร่วมกัน

ชวั่ โมงที่ 2 241
6.5 นักเรียนศึกษาอาชีพที่สัมพันธ์กับบุคลิกภาพและความสามารถ และคณะที่ควรเลือกเรียน

จากสื่อออนไลน์ แล้วอภิปรายร่วมกันแล้วย้อนกลับไปวิเคราะห์แผนชีวิตที่วางไว้ ปรับปรุงแก้ไขหรือคงเดิมแล้วแต่
ดลุ ยพินจิ ของนกั เรียน

6.6 อภปิ รายวิธีปฏบิ ัตเิ พ่ือเปา้ สูเ่ ปา้ หมายของแต่ละคน
6.7 แต่ละกลุ่มนาเสนอจากการแลกเปล่ียนเรียนรู้กับเพื่อน ขออาสาสมัครท่ีจะนาเสนอแนวคิดของตนเอง
ตามใบงานและเปิดโอกาสให้สมาชกิ ได้อภปิ รายในสิ่งทเี่ พอ่ื นสมาชกิ แสดงความคิดเหน็
6.8 นักเรียนบนั ทึกส่งิ ทไ่ี ดจ้ ากการอภิปราย และกลบั ไปคดิ หาเหตผุ ลเพ่มิ เตมิ
6.9 นักเรียนนาแผนชีวิตของตนไปให้ผู้ปกครองอ่าน และให้ผู้ปกครองแสดงความคิดเห็นเพ่ือนามา
พิจารณาประกอบขอ้ มูลอนื่ ๆต่อไป

7. สือ่ /อปุ กรณ์
7.1 ใบงาน แบบบันทึกแผนชีวิต
7.2 ขอ้ มลู อาชพี จากส่ือออนไลน์

8. กำรประเมิน
8.1 วิธกี ำรประเมนิ
ตรวจแบบบนั ทกึ แผนชวี ิต
8.2 เครื่องมอื ประเมิน
ใบงาน แบบบันทึกแผนชวี ติ
8.3 เกณฑก์ ำรประเมิน

เกณฑ์ ตัวบง่ ชีค้ ุณภำพ
ผา่ น ทาใบงานส่ง เขียนแผนชวี ติ ได้ ตอบได้ครบถว้ น
ไม่ผ่าน ไมท่ าส่งิ ใดสิ่งหนึง่ ใน 3 ข้อ

ใบงำน 242
เร่ือง บันทึกแผนชีวติ
ชือ่ ……………………………………………………….………….………………………..ชน้ั ………………………………

1. นักเรยี นมีการเตรยี มความพร้อมอย่างไรในการศึกษาต่อ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………..........................………………………………
2. ชอ่ื สถานศกึ ษาท่สี นใจจะศึกษาต่อ เพราะอะไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………..........................……………………………
3. ถา้ นักเรียน ไม่ไดเ้ รียนอย่างท่วี างแผนไว้ นกั เรยี นจะมีการวางแผนในการเรียนต่อไปอย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………..........................………


Click to View FlipBook Version