13. สำรวจส่ิงอ่นื ภำยนอกมหำวิทยำลัย 144
ไม่จาเป็นท่ตี ้องรูแ้ ค่ภายในมหาวิทยาลยั สง่ิ ภายนอกท่ีล้อมรอบอย่ดู ้านนอกก็น่ามีความสาคัญควรแก่การรู้
การเหน็ ของพวกคุณ รา้ นถ่ายเอกสาร รา้ นถา่ ยรปู รา้ นเครอ่ื งเขียน ร้านขายยา รา้ นอาหาร รา้ นทากุญแจ หรอื รา้ น
ซ่อมรองเท้า ไปรษณีย์ (หรือการสื่อสารฯ) ศูนย์การค้า ร้านทาผม ร้านตัดผม ฯลฯ สถานท่ีต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนมี
ความจาเปน็
14. รตู้ ัวและเตือนตนถงึ สถำนทไ่ี มค่ วรไป หรือทีท่ ี่มอี ันตรำย
ในยุคปัจจุบันท่ีมียาบ้าระบาด รวมท้ังโรคเอดส์ การปล้นจ้ี และการข่มขืน การทาร้ายร่างกาย ฯลฯ
เพราะเกิดจากอาชญากร การระลึกถึงอันตราย เตือนตนด้วยตน ทั้งไม่อยู่ในความประมาท ย่อมเป็นหนทาง
หลีกเล่ียงภยันตรายได้ส่วนหน่ึง แต่กระน้ันก็ยังไม่อาจกล่าวได้ว่าปลอดภัยได้ท้ังหมด การไปในบางสถานท่ี
จาเป็นต้องมีคนไปเปน็ เพือ่ น และบอกกลา่ วใหญ้ าติพ่นี ้องทราบ ยิง่ การเดนิ ทางไปพกั แรมนอกบ้าน พกพาโทรศัพท์
ท่ีจะติดต่อได้ง่ายเม่ือฉุกเฉิน (แต่ต้องระวังเหมือนกันว่าโทรศัพท์มือถืออาจเป็นชนวนให้คนร้ายอยากได้เสียอีก)
หมายเลขโทรศัพท์ ที่จาเป็นต้องใช้เมื่อเกิดปัญหาหรืออันตราย รวมท้ังการแต่งกายที่ไม่ล่อแหลม
หรือมเี ครือ่ งประดบั ทีม่ ีราคาอาจเปน็ เครื่องลอ่ ใจผรู้ า้ ย
15. ศึกษำกำรให้ควำมช่วยเหลือดำ้ นทนุ กำรศกึ ษำของมหำวทิ ยำลยั
ในยามที่มีความจาเป็นหรือเกิดเหตุการณ์ท่ีไม่คาดคิด พ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่สามารถส่งเสียค่าเล่าเรียน
ให้ได้อย่างเคย เมื่อจาเป็นก็สามารถช่วยเหลือตัวเอง หรืออย่างน้อยก็ทราบหนทางท่ีจะผ่อนหนักเป็นเบาได้ และ
บางทีการช่วยเหลือนั้นอาจมีกาหนดเวลาให้ยื่นแสดงความจานง และอาจต้องรอคอยอีกระยะเวลาหนึ่ง
ใช่ว่าจะอยากได้เม่ือไรก็เหมือนไปถอนเงินจากธนาคารในการขอทุนหรือกู้ยืมเงินจากมหาวิทยาลัยหรือสถาบัน
การเงินเพื่อการศึกษาดังกล่าว ควรจะได้ศึกษาถึงเงื่อนไขหรือข้อตกลงให้ชัดแจ้ง ก่อนตัดสินใจกระทานิติกรรม
สัญญาน้นั
16. วำงแผนกำรเงินตลอดภำคกำรศึกษำ
วางแผนการใช้เงินที่มีอยู่หรือได้รับจากพ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ใช้เงินเกินตัว ควรประหยัดทุกเมื่อ ทุกโอกาสเมื่อ
เปิดบัญชีธนาคารแล้วต้องหมั่นตรวจตรายอดเงินคงเหลือ และหากจาเป็นต้องใช้เงินเพิ่มต้องแจ้ง
พ่อแม่/ผู้ปกครองทราบล่วงหน้า บัตรเครดิตควรใช้เมื่อจาเป็น และต้องระวังยอดค้างที่เกินกาหนดชาระ
ที่ธนาคารจะคิดดอกเบี้ยในอัตรา (แพง) พิเศษ อย่างหน่ึงท่ีไม่ควรมองข้ามคือ การสารองเงินไว้ใช้จ่ายฉุกเฉิน
โดยเฉพาะพวกคุณท่ีไม่ได้พักอยู่กับพ่อแม่ และหากจาเป็นต้องใช้เงินเพ่ิมจากภาวะปกติ อาทิ การซ้ือคอมพิวเตอร์
ก็ควรทาแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า พร้อมแจ้งให้ท่านทราบก่อน เพื่อไม่ให้ท่านต้องกังวล จนอาจต้องเร่งรีบไปกู้ยืม
เงินผู้อื่นมาให้ และอีกประการหนึ่งคือการขอเงินในลักษณะดังกล่าวไม่ควรขอเผื่อไว้ ควรเป็นหน้าที่ของพวกคุณ
ทจี่ ะต้องตรวจสอบให้รู้ยอดเงนิ ท่แี นน่ อนด้วย
17. วำงแผนกำรใช้จ่ำยเงนิ เปน็ รำยเดือน 145
เพ่ือให้การใช้จ่ายเงินของพวกคุณเป็นไปอย่างถูกต้อง ควรทาบัญชีตั้งค่าใช้จ่ายประจาเดือน และสารวจ
การใชจ้ ่ายจรงิ ทอ่ี าจไม่เหมาะสมหรืออาจจ่ายเกิน อย่าคิดวา่ เปน็ เรื่องเล็กน้อย เพราะแตล่ ะยอดทจี่ ่ายเกนิ จะสะสม
เรื่อย ๆ เข้าจนเปน็ เงนิ ก้อนใหญ่อย่างไมน่ า่ เช่ือ
18. วำงแผนเร่อื งที่พัก หรือพำหนะทีจ่ ะใชใ้ นกำรเดินทำงไปกลับมหำวิทยำลัย
พวกคุณจาเป็นต้องเปรียบเทียบสิ่งที่ปฏิบัติในแต่ละช่วงเวลา ค่าท่ีพัก (หากไม่ได้พักอาศัยกับพ่อแม่)
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเรียน ฯลฯ ส่ิงเหล่านี้สามารถจะเลือกทาในส่ิงที่ดีกว่า ประหยัดกว่า หากรู้จักนาส่ิงที่
ผา่ นมาในอดีตมาเปรียบเทยี บ และวางแผนลว่ งหนา้ สาหรับอนาคต
19. สำรวจช่องทำงฝึกงำนใหต้ รงกับเปำ้ หมำย
เมื่อเรียนไประยะหนึ่ง พวกคุณก็ควรคิดถึงช่องทางการฝึกงาน ฝึกทีไหนดี ฝึกเม่ือไร เม่ือฝึกท่ีนั่นแล้ว
มีโอกาสทางานท่ีน่ันตอนเรียนจบหรือไม่ ต้องสร้างสัมพันธภาพกับท่ีนั่นอย่างไร จึงจะได้ท้ังคะแนน และโอกาส
ในอนาคต
20. จดั เวลำใหเ้ หมำะ ทง้ั เรียนและเล่น
อย่างท่ีร้กู นั ดีอยู่แล้วว่า ถ้าเอาแตเ่ รียนไม่มเี ล่นก็คงไม่ใช่ชวี ติ ที่มีความสุขนักในมหาวิทยาลยั และถ้าเอาแต่
เล่นไม่มีเรียนก็ไม่ทราบเหมือนกนั ว่า จะเข้ามาเรียนมหาวิทยาลยั เพ่ือประโยชน์อันใด ของทั้งสองอย่างควรมีส่วนท่ี
พอเหมาะพอเจาะ อาจไม่เป็นคร่ึงต่อคร่ึง แต่จะเป็นเท่าใดก็คงข้ึนอยู่กับแต่ละบุคคลว่าสามารถจดั การให้ลงตัวท่ดี ี
ท่เี หมาะกบั ชวี ิตทง้ั ในวนั นี้ และวนั หนา้ ได้
21. วำงแผนถงึ ชีวติ ขำ้ งหนำ้ เม่อื เรียนจบ
ไม่ถอื ว่าเปน็ การเห่อเกินไปถ้าจะวางแผนล่วงหน้าถึงอาชีพการงาน วา่ จะทาอะไร หน้าที่อะไรถึงจะเหมาะกับ
ตัวเอง และถ้าจะเป็นเช่นนั้นได้ ในวันนี้ขณะน้ีเราจะต้องเรียนอะไร มีชีวิตเพื่อการเรียนรู้แบบไหน คบเพื่อน และ
เข้าสมาคมกับใคร บุคลิกภาพจาเป็นไหม ท้ังหมดเหล่านี้คือ การเตรียมความพร้อมเข้าสู่โลกแห่งการทางาน
โลกแหง่ อาชพี ท่ีรอทุกคนเท่ากัน แต่ขึน้ อยู่กบั ว่า ใครทมี่ คี วามพร้อมก่อน กจ็ ะไดร้ ับโอกาสดี ๆ กอ่ นเสมอ
ตวั อยำ่ งกำรวำงแผนก่อนใช้ชวี ติ ในรั้วมหำวิทยำลัย
146
แบบประเมนิ ผลงานผูเ้ รียนรายบคุ คล
(แฟม้ สะสมผลงาน PORTFOLIO)
ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษำตอนปลำย (ม.4 – ม.6)
(สำหรับนักเรยี นประเมนิ ตนเอง)
ช่อื - นามสกลุ ........................................................................... ชน้ั ………………… เลขที่ ................
ประเดน็ ทป่ี ระเมนิ ผปู้ ระเมนิ
ตนเอง ครผู ู้สอน
1. ลักษณะเชิงกายภาพของผลงาน 43214321
2. เอกสารภายใน
3. หลักฐานสนับสนนุ
รวม 147
รวมคะแนน
ค่าเฉลี่ย
เกณฑ์กำรตดั สินคณุ ภำพ (ช่วงคะแนน ระดับคุณภำพ)
11 – 12 คะแนน หมายถึง ดมี าก
9 – 10 คะแนน หมายถึง ดี
7 – 8 คะแนน หมายถึง พอใช้
5 – 6 คะแนน หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ
เกณฑก์ ำรผำ่ น ตง้ั แตร่ ะดบั คุณภาพพอใชข้ ้นึ ไป (ตั้งแต่ 8 คะแนนขึน้ ไป)
สรุป ผ่าน ไม่ผ่าน
เกณฑก์ ำรประเมนิ ผลงำนผูเ้ รยี นรำยบคุ คล(แฟ้มสะสมผลงำน portfolio)
ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษำตอนปลำย (ม.4 – ม.6) (สำหรับนกั เรยี นประเมินตนเอง)
รำยกำรประเมิน ระดบั คุณภำพ
4 (ดีมำก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
ลักษณะเชงิ กำยภำพของผลงำน 1. สะอาด สะดวกต่อการ สะดวกตอ่ การ ไม่สะดวกต่อ
การใชง้ าน และ
2. ชดั เจน ใช้งาน แตม่ ีข้อ ใช้งาน แตม่ ขี ้อ มีขอ้ บกพร่อง
อนื่ ๆ ด้วย
3. สวยงาม บกพร่องประเดน็ บกพร่อง
จดั เรียงไม่เปน็
4. มคี วามคดิ ใดประเด็นหนึง่ ไมเ่ กนิ สอง ระเบยี บ อา่ น
เข้าใจยากหรือ
สรา้ งสรรค์ เกีย่ วกบั ความ ประเด็น เขียนไมช่ ดั เจน
มสี ะกดผดิ
5. สะดวกต่อการใช้ ชดั เจน สวยงาม / ได้สาระตรง
ประเด็น
ความคิด แต่ไม่มี
การสะท้อน
สร้างสรรค์ และ พัฒนาการ
หลกั ฐาน
สะอาด ไมส่ มบรู ณ์
ขาดความ
เอกสำรภำยใน 1. จัดเรยี งเปน็ จดั เรยี งเปน็ จดั เรยี งไม่เปน็ น่าเช่ือถือ
เกอื บทง้ั หมด
ระเบียบ ระเบียบ ระเบียบ อา่ น 148
2. อา่ นเข้าใจง่าย อา่ นเขา้ ใจง่าย เขา้ ใจยากหรือ
3. เขยี นชดั เจน เขียนไมช่ ัดเจน เขียนไมช่ ัดเจน
ไม่มสี ะกดผดิ มีสะกดผดิ แต่ได้ มสี ะกดผดิ
4. ไดส้ าระ สาระตรงประเดน็ แตไ่ ด้สาระตรง
ตรงประเดน็ และสะท้อน ประเด็น และ
5. สะท้อน พัฒนาการ สะทอ้ น
พัฒนาการ พัฒนาการ
หลักฐำนสนบั สนนุ 1. สมบรู ณ์ สมบูรณ์ครบถ้วน สมบูรณ์
ครบถ้วน ทกุ งาน ครบถ้วน
2. มคี วามถกู ตอ้ ง มคี วามถูกต้อง ทุกงาน
3. เชอ่ื ถอื ไดเ้ ปน็ แต่มหี ลกั ฐาน มีความถูกตอ้ ง
ส่วนใหญ่ บางส่วนทีข่ าด แต่มีหลกั ฐาน
ความน่าเชอ่ื ถือ สว่ นใหญ่
ที่ขาดความ
น่าเชื่อถือ
แผนกำรจัดกิจกรรมแนะแนวท่ี 11
หนว่ ยกำรจดั กจิ กรรม กำรศกึ ษำ ชนั้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 4 - 6
เรอ่ื ง เป้ำหมำยกำรศึกษำ จำนวน 2 ช่ัวโมง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สำระสำคญั
เป้าหมายทางการเรยี นทีช่ ัดเจน จะชว่ ยให้นกั เรยี นสามารถวางแผนการศกึ ษาต่อและเตรียมความพร้อม
สาหรบั การดาเนนิ การใหบ้ รรลุเป้าหมาย
2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ด้ำนกำรศึกษำ
ขอ้ 4 พัฒนาตนเองด้านการเรยี นไดเ้ ต็มตามศักยภาพ
3. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 149
3.1 ระบุความสามารถดา้ นการเรียนของตนเอง
3.2 วเิ คราะหเ์ ป้าหมายการศึกษาของตนเอง
3.3 อธบิ ายขนั้ ตอนการพฒั นาด้านการเรียนให้สอดคล้องกับเป้าหมายของตนเอง
4. สำระกำรเรยี นรู้
4.1 ความสามารถดา้ นการเรียนของตนเอง
4.2 เป้าหมายการศึกษาของตนเอง
4.3 วธิ ีการพัฒนาด้านการเรยี นใหส้ อดคล้องกับเป้าหมายของตนเอง
5. ช้ินงำน / ภำระงำน
5.1 ใบงาน เรื่อง ความสามารถดา้ นการเรยี น
5.2 ใบงาน เรือ่ ง เป้าหมายการเรยี นของฉัน
6.วิธกี ำรจดั กจิ กรรม
ชวั่ โมงท่ี 1
6.1 ครูชวนนักเรียนสนทนาเกี่ยวกับเรื่องการเลือกส่ิงของที่มีค่ามีความจาเป็นและเหมาะสมสาหรับตัว
เรามากที่สุด ให้นกั เรยี นช่วยกนั ตอบ
6.2 ครูซักถามผลการเรียนในภาคเรียนท่ีผ่านของนักเรียนแต่ละคนว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วให้นักเรียน
กรอกข้อมูลผลการเรียนของตนเองตามใบงานท่ี 1 เรื่อง ความสามารถด้านการเรียนของฉัน และบอกจุดเด่น
จุดท่ีควรพัฒนาของตนเอง แล้วสุ่มนักเรียน 2 - 3 คน เล่าให้เพื่อนฟังถึงผลการเรียน ของตนเองพร้อมบอก 150
เปา้ หมายในการเรยี นของตนเอง
6.3 ครูและนักเรยี นร่วมกันสรุปสิง่ ที่ไดเ้ รยี นรูจ้ ากกจิ กรรมแลว้ นัดหมายกจิ กรรมในชว่ั โมงต่อไป
ช่วั โมงท่ี 2
6.4 ครูและนักเรียนทบทวนบทเรียนท่ีผ่านมาและให้นักเรียนศึกษาใบความรู้เร่ือง การพัฒนาตน
ใหม้ ีคณุ สมบัตขิ องคนทปี่ ระสบความสาเรจ็
6.5 แจกใบงานที่ 2 เร่ือง เป้าหมายการเรียนของฉัน ให้นักเรียนวางแผนและปฏิบัตกิ ิจกรรมโดยกาหนด
เปา้ หมายการเรยี นในอนาคตของตนเองและเสนอวธิ ีการพฒั นาด้านการเรียนใหส้ อดคล้องกบั เปา้ หมายของตนเอง
6.6 ให้นักเรียนนาผลงานเป็นรายบุคคล หลังนาเสนอให้ติดผลงานไว้ป้ายนิเทศในช้ันเรียนเพ่ือให้ครู
และเพ่อื นๆแลกเปลยี่ นเรียนร้เู ปา้ หมายดา้ นการเรยี นของเพอ่ื นๆ
6.7 ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปสงิ่ ทไ่ี ดเ้ รียนรู้
7. สอ่ื /อุปกรณ์
7.1 ใบความ รูเ้ รือ่ ง การพฒั นาตนเองให้มีคุณสมบัติของคนที่ประสบความสาเรจ็
7.2 ใบงาน เรื่อง ความสามารถด้านการเรียนของฉนั
7.3 ใบงาน เรอ่ื ง เป้าหมายการเรียนของฉนั
8. กำรวดั และประเมินผล
8.1 วิธีกำรวดั และประเมนิ ผล
8.1.1 สังเกตความสนใจในการฟัง การตอบคาถาม และการร่วมอภิปรายแสดงความคดิ เห็น
8.1.2 ตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน และความเรยี บร้อยของใบงาน
8.2 เคร่ืองมอื
8.2.1 แบบสังเกตความสนใจ
8.2.2 แบบตรวจใบงาน
8.3 เกณฑ์กำรประเมนิ
8.3.1 สงั เกตการปฏิบตั ิกิจกรรม
เกณฑ์ ตวั บง่ ชี้
ผา่ น มคี วามสนใจในการฟงั การตอบคาถาม การรว่ มอภปิ รายแสดงความคิดเหน็
ไมผ่ า่ น ขาดสง่ิ ใดสิ่งหนง่ึ
8.3.2 ตรวจใบงาน
เกณฑ์ ตัวบง่ ชี้
ผ่าน ทาใบงานถกู ต้อง ครบถว้ น และส่งงานตามกาหนด
ไม่ผา่ น ขาดสง่ิ ใดสง่ิ หนงึ่
ใบควำมรู้ 151
เร่อื ง กำรพัฒนำตนเองใหม้ ีคุณสมบตั ิของคนทป่ี ระสบควำมสำเร็จ
ให้ควำมสำคัญกับกำรเรียนเป็นอันดับแรก นักเรียนที่ประสบความสาเร็จในการเรียนจะให้ความสาคัญ
กับการเรียนเป็นอันดับแรก ถึงแม้การมีเวลาอยู่กับเพื่อน ครอบครัว ทากิจกรรมนอกหลักสูตร และแม้แต่
การมีเวลาผ่อนคลายเป็นสิ่งสาคัญ แต่เราก็ควรมีเวลาให้กับการเรียนเสมอ การให้ความสาคัญกับการเรียนไม่ได้
หมายถึงหา้ มตนเองไม่ให้ทาอะไรเลยนอกจากเรียน แต่หมายถงึ ใหเ้ ราพึงระลึกไว้วา่ การเรียนนนั้ สาคญั ที่สุด
ตรงต่อเวลำ รู้จักเผื่อเวลาและหาวิธีมาให้ทันเวลา ในความเป็นจริงแล้วเราควรมาถึงก่อนเวลาเล็กน้อย
เราจะได้มีเวลาหาที่น่ัง ทาสมาธิ และพร้อมท่ีจะเรียนเม่ือไปถึง ไม่ว่าจะมีสอบหรือนัดติวกับเพื่อน เราจะต้อง
ไปให้ทนั เวลา ถ้าอยากประสบความความสาเรจ็ ในการเรยี น
มีควำมซ่ือสัตย์ ความซ่ือสัตย์น้ีหมายถึงเราควรทาการบ้านด้วยความสามารถของตนเอง อย่าลอกใคร และ
อย่าทาอะไรที่เป็นการทุจริตทุกอย่าง การโกงไม่ช่วยให้เราประสบความสาเร็จได้ และถ้าเราเลือกใช้วิธีลัดนี้แค่
ครั้งเดียวก็อาจทาให้เราประสบปัญหามากมายในคราวหน้า การโกงข้อสอบไม่มีประโยชน์ การทาคะแนนสอบ
ออกมาได้ไม่ดีเพราะไม่ได้เตรียมตัวยงั ดีกวา่ สอบไดค้ ะแนนดีเพราะทุจรติ ในการสอบ
จดจ่อกับกำรทำภำรกิจต่ำงๆ นักเรียนที่เป็นความสาเร็จในการเรียนจะสามารถจดจ่อกับภารกิจท่ีอยู่
ตรงหน้าได้ดี ถ้าเราต้องอ่านหนังสือประวัติศาสตร์หนึ่งบทเป็นระยะเวลาหน่ึงช่ัวโมง เราจะต้องต้ังใจอ่าน
โดยไม่ปล่อยให้จิตใจวอกแวก ถ้าเราต้องการพัก ให้พักแค่ระยะเวลาส้นั ๆ 10 นาที อย่าพักนานเกินไป ไม่อย่างนนั้
จะกลายเป็นพักหนึ่งช่ัวโมงแต่อ่านหนังสือแค่ 10 นาที เราสามารถฝึกตนเองให้จดจ่อกับการ ทาภารกิจต่าง ๆ
เป็นระยะเวลานานได้ ถึงแม้จะรู้สึกว่าตนเองไม่สามารถจดจ่อกับการทาภารกิจหนึ่งได้นานเกิน 15 นาที ก็ตาม
พยายามฝึกจิตใจให้จดจอ่ กบั การทาภารกิจใดภารกจิ หน่ึงโดยเพ่ิมเวลามากข้นึ เรื่อยๆ
อย่ำเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่น บุคคลแต่ละคนต่างก็ประสบความสาเร็จในแบบของตนเอง คนที่ประสบ
ความสาเร็จจะไม่มัวมานั่งเปรียบเทียบตนเองกับพ่ีน้อง เพื่อนบ้าน หรือเพื่อน เพราะคนคนน้ันรู้ว่าท้ายท่ีสุดแล้ว
ทุกคนต่างกส็ ามารถประสบความสาเรจ็ ในแบบฉบับของตนเองได้ ถ้าเราเอาแตเ่ ปรียบเทยี บตนเองกบั ผ้อู ่นื
พฒั นำตนเองอยำ่ งค่อยเปน็ ค่อยไป ถ้าอยากประสบความสาเรจ็ ในการเรียน เราก็ไม่ควรหวงั วา่ ผลการเรียน
จะดีข้ึนแบบก้าวกระโดดจาก "C" ไป "A" แต่เราควรพยายามปรับปรุงผลการเรียนให้ดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
หวังว่าผลการเรียนวิชาหนึ่งจะเป็น "C+" แล้วจากน้ันก็ "B-" พยายามปรับปรุงผลการเรียนให้ดีขึ้นเร่ือยๆ
ต้งั เปา้ หมายที่เปน็ ไปได้และเราจะไมผ่ ิดหวัง
มีควำมกระตอื รอื รน้ อยำกเรียนรู้ การประสบความสาเรจ็ ในการเรียนไมใ่ ช่แค่ต้องเรียนใหไ้ ด้ "A" ทกุ วิชาแตเ่ พียงอย่าง
เดียว เราตอ้ งมคี วามสนใจเนื้อหาท่เี รยี นด้วยและความรักการเรียนรู้จะช่วยใหเ้ ราเรียนได้ดขี ้ึน เราไม่สามารถที่จะสนใจและ
ชอบเรียนรู้ไปทุกเร่ืองตั้งแต่การสังเคราะห์ ด้วยแสงไปจนถึงสมการเชิงเส้นได้ แต่เราสามารถพยายาม
หาส่วนที่ตนเองชอบในแต่ละวิชาได้ การค้นพบบางสิ่งที่เราชอบจะช่วยให้เรายังคงต้ังใจและสนุกกับการเรียนได้
ทมี่ า : https://th.wikihow.com
ใบงำน
เรือ่ ง ควำมสำมำรถด้ำนกำรเรยี นของฉัน
ชือ่ ………………………………………นำมสกลุ ...........................................ชน้ั ม……/..........เลขท.่ี ..........
คำชี้แจง ให้ระบวุ ิชาท่เี รยี นในชัน้ ม........... ตามโครงสรา้ งหลักสตู รของโรงเรยี น
รายวชิ าทเี่ รียนในชนั้ ม....... ภาคเรียนที่........
รายวิชาพ้ืนฐาน
ที่ รหสั วชิ า ชื่อวชิ า ครผู สู้ อน หนว่ ยกิต เกรด เกรดท่ีได้
รายวชิ าเพ่ิมเตมิ เปา้ หมาย
1
2 152
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
ท่ี รหสั วิชา ชอื่ วชิ า ครผู สู้ อน หนว่ ยกติ เกรด เกรดทไี่ ด้
เป้าหมาย
1
2
3
4
กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
ท่ี ช่ือกจิ กรรม ครผู สู้ อน ผลเปา้ หมาย ผลทีไ่ ด้
1 กิจกรรมแนะแนว
2 กจิ กรรมนกั เรยี น
3 กิจกรรมชมุ นมุ
4 กจิ กรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์
เกรดเฉลี่ยภาคเรยี นท่ี …… ท่ีตัง้ เปา้ หมายไว้ คือ…………………………เกรดเฉล่ียทีไ่ ดจ้ ริง
จคุดอื เ…ด…่น…ขอ…ง…ฉ.นั .……คอื……………………..………………ใบ…ง…ำน…ท…ี่ 2……เร…ื่อง……เป…้ำห…ม…ำย…ก…ำร…เร…ียน…ข…อ…งฉ…ัน……………………………………………
จุดท่คี วรพัฒชอ่ืน…าข…อ…ง…ฉนั……ค…ือ…………………………………………น…ำ…มส…ก…ลุ .…...…....…...…...…....…...…...…....…...…...…....…...…..ช…ั้น…ม……………/.…....…...…..เ…ลข…ท….่ี ..…...…...…..…….....
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
….
ใบงำน
เรื่อง เป้ำหมำยกำรเรียนของฉัน
คำช้ีแจง ให้นักเรียนระบุเป้าหมายการเรียนต่อของตนเอง และอธิบายข้ันตอนการพัฒนาด้านการเรียน
ให้สอดคล้องกับเป้าหมายของตนเองได้อย่างไร และเขียนสรุปลงในใบงานตามประเด็นที่กาหนดให้
1. เป้ำหมำยกำรเรียนของฉัน คือ 153
24.153.......................................................................................................ค............ณ...................ะ.........../............ส............า............ข..................า............ว............ิช............า........................................................................................................................................................................................14325... ..........................................................................................ส...............ถ..........า..........บ...............ัน..........ก..........า..........ร..........ศ...............ึก..........ษ...............า.........................................................................................................
2. นกั เรยี นอธิบำยขั้นตอนกำรพฒั นำด้ำนกำรเรยี นให้สอดคล้องกับเป้ำหมำยของตนเองได้
อย่ำงไร
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
……………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………...…………………………………………………………………………………………………
แผนกำรจัดกิจกรรมแนะแนวท่ี 12
หน่วยกำรจัดกิจกรรม กำรศกึ ษำ ชัน้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 4 - 6
เรอื่ ง กำรคิดอยำ่ งมีวจิ ำรณญำณ จำนวน 1 ชั่วโมง
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สำระสำคญั
การคิดอย่างมีวิจารณญาณ “critical thinking” เป็นการรู้จักใช้ความคิดพิจารณาวิเคราะห์สังเคราะห์
และประเมินผลในเน้ือหาหรือเหตุการณ์ท่ีเป็นปัญหาหรือข้อขัดแย้งโดยอาศัยความรู้ ความคิด และประสบการณ์
ของตนเพอื่ นาไปสกู่ ารตดั สินในการปฏบิ ตั ิด้วยความเหมาะสมอนั สอดคล้องกับหลกั การ และเหตผุ ล
2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ดำ้ นกำรศึกษำ
ขอ้ 4 พัฒนาตนเองด้านการเรยี นได้เต็มตามศักยภาพ
3. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้
3.1 อธบิ ายทักษะการคดิ รูปแบบต่าง ๆได้
3.2 ประยุกตใ์ ช้ทักษะการคิดไดอ้ ย่างเหมาะสม
4. สำระกำรเรียนรู้
4.1 ทักษะการคิดรปู แบบต่าง ๆ
4.2 ทกั ษะการคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ
5. ช้นิ งำน/ภำระงำน 154
5.1 วเิ คราะหบ์ ทเพลง รกั กันไวเ้ ถดิ
5.2 ใบงาน เร่อื ง วิเคราะห์บทเพลงรักกนั ไวเ้ ถิด
6. วธิ ีกำรจัดกิจกรรม
6.1 ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกันนาเสนอสถานการณ์สภาพปัญหาของวัยรุน่ ในปจั จุบนั มีปัญหาอะไรบา้ ง
6.2 ครเู ปดิ วดิ ีโอ เพลงรกั กันไว้เถดิ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั รอ้ งเพลง
6.3 แบง่ กลุ่มนักเรียน แล้วแจกใบงาน เรอ่ื ง บทเพลงรักกันไว้เถิด แลว้ ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกนั
วเิ คราะห์แล้วสรุปผลการอภิปรายกลมุ่ ลงในใบงาน
6.4 ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนนาเสนอหน้าชน้ั เรยี น ครซู ักถามถึงขัน้ ตอนและกระบวนการคิดของแตล่ ะกลุ่ม
6.5 ครูและนักเรยี นช่วยกนั สรปุ ขน้ั ตอนการคิดอย่างมีวิจารณญาณและสรปุ กิจกรรมเพิ่มเติมตามใบสรปุ
ความรู้สาหรับครู เร่ือง การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
7. สอื่ /อปุ กรณ์
7.1 บทเพลง รกั กันไว้เถดิ
7.2 วิดโี อ เพลง รกั กันไว้เถดิ
7.3 ใบงาน เรือ่ ง วิเคราะห์บทเพลงรกั กันไว้เถิด
7.4 ใบความรสู้ าหรบั ครู เรื่อง การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ
8. กำรวดั และประเมนิ ผล 155
8.1 วิธกี ำรวัดและประเมนิ ผล
8.1.1 สงั เกตความสนใจในการฟัง การตอบคาถาม และการรว่ มอภปิ รายแสดงความคิดเหน็
8.1.2 ตรวจสอบความถูกต้อง ครบถว้ น และความเรียบร้อยของใบงาน
8.2 เครอื่ งมอื
-
8.3 เกณฑ์กำรประเมนิ
8.3.1 สังเกตการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
เกณฑ์ ตวั บง่ ช้ี
ผา่ น มีความสนใจในการฟงั การตอบคาถาม การรว่ มอภปิ รายแสดงความคดิ เห็น
ไมผ่ า่ น ขาดส่งิ ใดสง่ิ หนง่ึ
8.3.2 ตรวจใบงาน
เกณฑ์ ตัวบง่ ช้ี
ผ่าน ทาใบงานถูกต้อง ครบถว้ น และส่งงานตามกาหนด
ไมผ่ า่ น ขาดสิง่ ใดส่ิงหนึ่ง
บทเพลง รักกนั ไว้เถิด นคร ถนอมทรพั ย์
รักกนั ไวเ้ ถดิ เราเกิดรว่ มแดนไทย 156
จะเกิดภาคไหนกไ็ ทยด้วยกนั
เชอ้ื สายประเพณไี มม่ กี ัดกน้ั
เกิดใต้ธงไทยนั้นปวงชนทกุ คนคือไทย
ทอ้ งถ่ินแหลมทอง เหมอื นทอ้ งของแม่
เกดิ ถ่ินเดยี วกันแท้เหมือนแม่เดยี วกันใชไ่ หม
ยามฉนั มองตาคณุ อบอุ่นดวงใจเห็นสายเลอื ดไทย
ในสายตาบอกสายสมั พันธ์ (ซ้า)
รกั กันไวเ้ ถิด เราเกดิ ร่วมแดนไทย
จะเกดิ ภาคไหนกไ็ ทยด้วยกัน
เชื้อสายประเพณไี ม่มีกัดก้นั
เกดิ ใตธ้ งไทยนั้นปวงชนทุกคนคือไทย
ทะเลแสนงาม ในนา้ มปี ลา
พืชพนั ธเ์ุ กลือ่ นตาตามไรน่ ารวงทองไสว
สินทรพั ยม์ ีเกลอื่ นกล่น
บรรพชนให้ไว้เราลกู หลานไทยจงร่วมใจรักษาใหม้ ่ัน (ซ้า)
รกั กันไว้เถิด เราเกดิ รว่ มแดนไทย
จะเกดิ ภาคไหนกไ็ ทยดว้ ยกัน
เชือ้ สายประเพณไี มม่ ีกดั กั้น
เกิดใต้ธงไทยนนั้ ปวงชนทกุ คนคือไทย
รกั กันไวเ้ ถิด รกั กันไวเ้ ถดิ รกั กันไวเ้ ถดิ
แหลมทองโสภาด้วยบารมี
ปกเกล้าเราไทยนร้ี ม่ เยน็ เปน็ ศรผี ่องใส
ใครคิดบงั อาจหมิ่นถ่ินทององคไ์ ธ้
เราพรอ้ มพลใี จปอ้ งหม่ไู ทยและองคร์ าชนั ย์ (ซา้ )
รักกันไวเ้ ถิด เราเกดิ รว่ มแดนไทย
จะเกดิ ภาคไหนก็ไทยด้วยกัน
เชื้อสายประเพณีไม่มกี ัดก้นั
เกดิ ใต้ธงไทยนน้ั ปวงชนทุกคนคอื ไทย
จะเกิดชาติไหนกไ็ ทยดว้ ยกนั
เช้ือสายประเพณไี ม่มกี ัดก้นั
เกดิ ใตธ้ งไทยนน้ั ปวงชนทุกคนคือไทย
ใบงำน 157
เรือ่ ง วเิ ครำะหบ์ ทเพลงรักกันไว้เถดิ
ชื่อกลุ่ม……………………………………….
รายชือ่ สมาชกิ
กลมุ่ ………………………………………………………………………………………………………………………………................
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มบทเพลงรักกนั ไวเ้ ถิด แลว้ ตอบคาถาม
1. จากบทเพลงรักกันไว้เถิด สรุปวา่ ประเทศไทยเป็นประเทศทีม่ คี วามอดุ มสมบรู ณ์ จริงหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………............................……
2.จากบทเพลงรักกันไว้เถดิ ผู้แต่งมีวตั ถุประสงค์อย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………..........................……………………………
3. “รกั กันไว้เถดิ เราเกดิ รว่ มแดนไทย จะเกดิ ภาคไหนกไ็ ทยด้วยกนั เช้ือสายประเพณไี ม่มีกัดกัน้ เกดิ ใต้ธงไทย
นน้ั ปวงชนทุกคนคือไทย” จากขอ้ ความข้างตน้ สรปุ ไดว้ ่าอย่างไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………..……........................………………………………
4. “ใครคิดบงั อาจหมิ่นถนิ่ ทององค์ไธ้ เราพร้อมพลีใจ ปอ้ งหม่ไู ทยและองคร์ าชันย์”
จากขอ้ ความน้ี แสดงว่า
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
5. นักเรียนเห็นด้วยหรือไมว่ ่าประเทศใดทปี่ ระชาชนไมม่ ีความสามัคคี ประเทศน้นั ไม่สามารถพฒั นา
ใหม้ ีความเจรญิ กา้ วหน้าได้เพราะเหตุใด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………..........................……………………………
ใบควำมรู้สำหรบั ครู
เรือ่ ง กำรคิดอย่ำงมีวจิ ำรณญำณ
158
https://coggle.it/diagram/Wo5-
mYZpVgABC6fq/t/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0
%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%A3%
E0%B8%93%E0%B8%8D%E0%B8%B2%E0%B8%93-critical-thinking%E2%80%9D
แผนกำรจดั กิจกรรมแนะแนวที่ 13
หน่วยกำรจดั กจิ กรรม กำรศึกษำ ชั้นมธั ยมศกึ ษำปีท่ี 4 - 6
เรอ่ื ง กำรคิดอยำ่ งสรำ้ งสรรค์ จำนวน 2 ชั่วโมง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สำระสำคัญ
ความคิดสร้างสรรค์ หรือ Creative thinking คือ ความสามารถในการผลิตส่ิงที่เป็นต้นแบบ แตกต่าง
และเหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ ตั้งแต่ระดับบุคคลคือ การใช้ความสามารถในการแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน
ของตัวเองในแบบที่แตกต่างไปจากเดิม ซึ่งนาไปสู่การสร้างสรรค์ในสังคมคือ ความสามารถในการผลิตต้นแบบ
ทไ่ี มเ่ หมอื นคนอื่น ผลิตสงิ่ ของใหม่ งานศิลปะชิ้นใหม่ หรอื คิดโครงการใหมๆ่ ในสงั คม
2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ดำ้ นกำรศกึ ษำ
ขอ้ 4 พัฒนาตนเองด้านการเรยี นไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ
3. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 159
3.1 บอกความสาคัญของความคิดสรา้ งสรรค์
3.2 ฝกึ ทกั ษะการคิดสร้างสรรค์
4. สำระกำรเรยี นรู้
4.1 ความสาคัญของความคดิ สร้างสรรค์
4.2 การฝึกทักษะการคิดสร้างสรรค์
5. ชนิ้ งำน / ภำระงำน
5.1 ใบงานเร่อื ง ภาพปริศนา
5.2 ชน้ิ งานกลุ่มและรายบุคคล
6. วิธีกำรจดั กิจกรรม
ช่ัวโมงที่ 1
6.1 ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันทบทวนการจัดกจิ กรรมท่ผี ่านมา
6.2 ให้นกั เรียนดูรปู ภาพแล้วถามว่าจากภาพดงั กลา่ วนกั เรยี นเห็นอะไรบ้างให้นกั เรียนช่วยกันตอบ
6.3 แบ่งกลุ่มนักเรียนกลุ่มละ 5 - 7 คน ให้นักเรียนตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาจับสลากรูปภาพแล้วให้
นักเรียนพจิ ารณาหาคาตอบจากรูปภาพ พรอ้ มส่งตวั แทนนาเสนอผลงานของกลุ่ม
6.4 ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ กิจกรรม
ชั่วโมงท่ี 2 160
6.5 ครแู ละนกั เรียนร่วมกันทบทวนการจดั กจิ กรรมทผ่ี ่านมา
6.6 ใหต้ ัวแทนนักเรียนกลุม่ เดมิ ออกมารับอุปกรณ์เพื่อสรา้ งสรรคช์ ิ้นงาน กล่มุ ละ 1 ชนิ้
แล้วสง่ ตวั แทนนาเสนอผลงาน
6.7 ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรปุ กจิ กรรม
6.8 ครูมอบหมายงานใหน้ กั เรียนทุกคนไปออกแบบผลงานความคิดสรา้ งสรรค์คนละ 1 ชิ้น และนาสง่ ใน
ชั่วโมงตอ่ ไป
7.สอ่ื /อุปกรณ์
7.1 ตัวอยา่ งภาพปริศนา
7.2 ใบงานเรอื่ ง ภาพปรศิ นา
7.3 ใบความรู้สาหรับครู
8. กำรวดั และประเมินผล
8.1 วธิ ีกำรวัดและประเมินผล
8.1.1 สงั เกตความสนใจในการฟงั การตอบคาถาม และการรว่ มอภปิ รายแสดงความคิดเหน็
8.1.2 ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครบถ้วน และความเรยี บรอ้ ยของใบงาน
8.2 เคร่อื งมอื
-
8.3 เกณฑ์กำรประเมนิ
8.3.1 สังเกตการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม
เกณฑ์ ตัวบง่ ชี้
ผ่าน มีความสนใจในการฟัง การตอบคาถาม การร่วมอภิปรายแสดงความคิดเห็น
ไม่ผ่าน ขาดสิง่ ใดสงิ่ หนึ่ง
8.3.2 ตรวจใบงาน
เกณฑ์ ตัวบง่ ช้ี
ผา่ น ทาใบงานถูกต้อง ครบถ้วน และส่งงานตามกาหนด
ไมผ่ ่าน ขาดสง่ิ ใดสง่ิ หน่งึ
ตวั อย่ำงภำพปริศนำ
161
ท่มี า : http://pyschologynet.blogspot.com/2011/07/5-6.html
ใบควำมรสู้ ำหรบั ครู 162
แนวคำตอบจำกภำพ
จากภาพ คาถามทีม่ ักจะพบเสมอคือ “ภาพทเ่ี ห็นเปน็ แจกัน หรอื เป็นบางสว่ นของใบหน้าคนสองคน “ สาหรบั
คนที่จิตใจมคี วามยดื หย่นุ จะเหน็ ได้ท้ังสองแบบ แต่จุดประสงคข์ องการฝึกนีก้ ็คือพยายามมองให้เหน็ ภาพในรูปแบบ
ต่างๆ ท่ีเป็นไปได้ให้ได้มากที่สุด มองจากจุดท่ีแตกต่าง มองในมุมที่แตกต่างตามต้องการ แล้วลองตรวจสอบ
กับรายช่ือด้านล่าง ซึ่งบางรายการอาจจะดูเหมือนไกลจากความจริง แต่ขอให้จาไว้ว่าความคิด คือการใช้
จนิ ตนาการได้อย่างไมม่ ีขอบเขต
คาตอบ :
1. ท่ังตีเหล็ก
2. เสาสะพานลอยบนทางหลวง
3. แก้วแชมเปญ
4. มา้ นงั่ สาหรับเล่นเปยี โน
5. ตกึ สูงทีย่ อดตึกมภี ตั ตาคารหมนุ
6. เครอ่ื งจบั เวลาเปน็ นาที
7. ใบพัด
8. ตวั หมากรุกสากล “ ปราสาท “ ( เดินเหมอื น “ เรือ “ ของหมากรุกไทย )
9. พานใสผ่ ลไม้
10. อ่างอาบน้าสาหรับนก
11. แหวนยางสาหรับร้อยสายไฟฟ้าผ่านโลหะ
12. ถว้ ยสาหรับใสเ่ หล้าอง่นุ ในงานพธิ ที างศาสนาคริสต์
13. ช่องที่เป็นรกู ุญแจทปี่ ระตู
14. แม่พมิ พ์สาหรับการอัดขึ้นรูป
15. แม่แรงยกของดว้ ยการขันสกรู
16. หัวลูกศรกาลงั จะเขา้ ไปในวัตถุ
17. รถยนต์พอนทิแอค ( ปอนเต๊ยี ก – Pontiac ) สองคนั หันหนา้ รถเข้าหากัน
18. ผู้หญิงสองคนนั่งหนั หลังพงิ กันและจับห่อของทวี่ างอยบู่ นหัว
ความคิดสรา้ งสรรค์ แบ่งออกเป็น 3 ด้านดว้ ยกัน คอื
1. ความคิดสร้างสรรค์ทางด้านศิลปะ (Artistic Creativity) เช่น การเขียนหนังสือ การระบายสี หรือการแต่งเพลง
ซ่ึงล้วนแต่เป็นการริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้นมา เราคงเคยฟังเพลงที่ไปลอกทานองมาจากเพลงต่างประเทศ
ความรู้สึกที่ไดม้ นั ยอ่ มแตกตา่ งจากการแต่งเพลงใหม่ๆ ข้นึ มาเอง
2. ความคิดสร้างสรรค์ทางด้านการค้นพบ (Creativity of Discover) เช่น การที่อาร์คิมิดีสกระโดดออกมาจาก
สระนา้ แล้วร้องตะโกนว่า “ยูเรกา” เปน็ การพัฒนาความคดิ ในการค้นพบส่งิ ประดิษฐ์หรือผลิตภณั ฑ์ใหม่ ๆ
3. ความคิดสร้างสรรค์ทางอารมณ์ขัน (Creativity of Humour) ซึ่งนับได้ว่าเป็นสิ่งท่ีพิเศษ เพราะการ
มีอารมณ์ขันน้ันเป็นการมองโลกในมุมมองท่ีต่างออกไป และเป็นสิ่งจาเป็นในการสร้างความคิดสร้างสรรค์
ให้เกดิ ขึน้
163
ใบงำน
ภำพปริศนำ
ชื่อกลุ่ม…………………………………………………………………………………………………………
สมาชิกกลุ่ม………………………………………………………………………………………..…………
…………………………………………………………………………………………………………………….
คำชแี้ จง ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ พจิ ารณาภาพตามที่จับสลากได้และช่วยกันพจิ ารณารูปภาพแลว้ ส่งตัวแทน
นาเสนอ
164
ภำพที่ 1
ทม่ี า : http://alake-somchai.blogspot.com/2010/12/
ภาพที่ 2 165
ท่ีมา : http://alake-somchai.blogspot.com/2010/12/
ภาพท่ี 3
ที่มา : https://quiz.postjung.com/9988.html
ภาพที่ 4 166
ที่มา : lifestyle.campus-star.com/scoop/58339.html
ภาพท่ี 5
ทม่ี า : http://maltjamb.blogspot.com/2011/01/blog-post.html
ภาพท่ี 6 167
ที่มา : http://thai.cri.cn/247/2011/09/05/63s189803.htm
ภาพที่ 7
ที่มา : http://maltjamb.blogspot.com/2011/01/blog-post.html
ภาพท่ี 8
ท่มี า : ภาพปรศิ นาลวงตา&tbm=isch&source=iu&ictx=1&fir=-lGU-
168
ภาพท่ี 9
ทมี่ า : ภาพปรศิ นาลวงตา&tbm=isch&source=iu&ictx=1&fir=-lGU-
ภาพท่ี 10 169
ท่มี า : http://thai.cri.cn/247/2011/09/05/63s189803.htm
แนวคำตอบ
ภำพปรศิ นำ แนวคำตอบ
อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน
อยู่ในดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน
อยู่ในดุลยพินิจของครผู ู้สอน 170
อยใู่ นดุลยพินจิ ของครูผู้สอน
คนแก่หรือกีต้าร์
อยใู่ นดุลยพินิจของครผู สู้ อน
อยใู่ นดลุ ยพินิจของครผู สู้ อน
อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน
อย่ใู นดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน
อยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน
แผนกำรจัดกจิ กรรมแนะแนว
ด้ำนอำชีพ 171
แผนกำรจดั กจิ กรรมแนะแนวท่ี 1
หนว่ ยกำรจดั กจิ กรรม อำชีพ ช้ันมธั ยมศึกษำปที ี่ 4-6
เรื่อง อำชีพท่ีเหมำะกับฉนั จำนวน 2 ช่ัวโมง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สำระสำคัญ
การประกอบอาชีพมิได้เปน็ เพียงการหารายได้เพื่อเลี้ยงชวี ติ แต่อาชีพยังเปน็ การสะท้อนวิถีชีวิตของบุคคล
ดังน้ัน การประกอบอาชีพที่สอดคล้องกับคุณลักษณะของตนย่อมทาให้บุคคลมีความสุขในการทางาน มีแรงจูงใจ
ในการพฒั นาตนและพัฒนางานใหก้ ้าวหนา้ ตอ่ ไป
2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ดำ้ นอำชพี
ขอ้ 1 การเรียนรเู้ ก่ยี วกบั อาชีพ
3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้
3.1 สารวจความสนใจในอาชีพของตนเองได้
3.2 บอกอาชพี ท่ีเหมาะสมกับตนเองไดอ้ ย่างมีเหตุผล
4. สำระกำรเรียนรู้ 172
ข้อมูลอาชพี ท่สี นใจและสอดคลอ้ งกับความสนใจของตน
5. ชน้ิ งำน / ภำระงำน (ถำ้ มี)
5.1 ใบงาน เร่ือง แบบสารวจความสนใจในอาชพี (VIESA) ชดุ ที่ 1
5.2 ใบงาน เรอื่ ง แบบสารวจความสนใจในอาชีพ (VIESA) ชดุ ท่ี 2
5.3 ใบงาน เรอ่ื ง แบบสรุปข้อมลู จากการทาแบบสารวจ VIESA
6. วิธีกำรจดั กิจกรรม
ชั่วโมงท่ี 1
6.1 สนทนากับนักเรียน เรื่องความสนใจในอาชีพ ว่านักเรียนมีความสนใจในลักษณะงานอาชีพ (JOB)
ประเภทใด และงานอาชีพน้ันต้องการบุคคลลักษณะใด งานอาชีพน้ันมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับข้อมูล ความคิด
วัตถุ หรือคน รวมทั้งความสนใจของตนเองต่ออาชีพ เพ่ือใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนแนวทางการศึกษาต่อ
และเลอื กอาชพี ของนกั เรยี นต่อไป
6.2 แจก ใบงานเรื่อง แบบสารวจความสนใจในอาชีพ (VIESA) ชุดที่ 1 ให้นักเรียนทาโดยครูช้ีแจง
การทาแบบสารวจ และเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามก่อนลงมอื ปฏบิ ัติ
6.3 เมื่อนักเรียนทาแบบสารวจเสร็จ ครูแจก ใบความรู้เร่ือง รายชื่อกลุ่มงานอาชีพ และอธิบายการ 173
ตรวจให้คะแนน และการแปลผล จากนั้นให้นักเรยี นนาผลที่ได้มาใส่ในใบงานเร่อื งแผนทโ่ี ลกงานอาชีพ (World-of-
Work-Map) และศกึ ษารายชื่อกลมุ่ งานอาชพี
6.4 ให้นักเรียนเขียนความสนใจในอาชพี ของตนว่าอยกู่ ลมุ่ งานใดและบอกรายละเอียดของงานอาชีพนัน้
6.5 นักเรียนสรุปว่า การค้นหาความสนใจในอาชีพ ควรจะใช้เคร่ืองมือในการสารวจความสนใจมากกว่า
1 ฉบับ ดงั นนั้ ในช่ัวโมงตอ่ ไปครูจะให้นักเรยี นทาใบงาน เรือ่ งแบบสารวจความสนใจในอาชีพ (VIESA) ชุดที่ 2
ชว่ั โมงท่ี 2
6.6 สนทนากับนักเรียนเพื่อทบทวนกิจกรรมในช่ัวโมงที่ผ่านมาถึงข้อมูลความสนใจในอาชีพของตนจาก
แบบสารวจความสนใจในอาชีพ (VIESA) ชุดท่ี 1 ไปแล้ว ช่ัวโมงน้ีจะให้นักเรียนทาแบบสารวจความสนใจในอาชีพ
(VIESA) ชุดที่ 2 แจก ใบงานเรื่อง แบบสารวจความสนใจในอาชีพ (VIESA) ชุดท่ี 2 (ฉบับแปลผลรหัสอาชีพของ
Holland ) ใหน้ กั เรียนทกุ คนและชีแ้ จงการทาแบบสารวจเปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามและลงมือปฏิบัติ
6.7 นักเรียนทาแบบสารวจเสร็จ แจก ใบความรู้เรื่อง ตารางแสดงหมวดความสนใจ 6 หมวด และ
แจกใบความรู้เรื่อง บุคลิกภาพของบุคคล และอธิบายการตรวจให้คะแนน การแปลผลโดยใช้รหัสอาชีพของ
John L. Holland
6.8 ใหน้ ักเรยี นเขียนรหัสอาชีพ หมวดความสนใจที่ไดค้ ะแนนสูงสดุ อยใู่ นเขตงานบคุ ลิกภาพ และอาชีพที่สนใจ
6.9 แจกใบงานเร่ือง แบบสรุปข้อมูลจากการทาแบบสารวจ VIESA และช้ีแจงวิธีการทาใบงาน
ครูเปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนซกั ถามก่อนลงมือปฏิบัติ
6.10 นักเรียนนาใบงานที่เร่ือง แบบสรุปข้อมูลจากการทาแบบสารวจ VIESA มารายงานหน้าชั้นเรียน
เป็นรายบุคคล
6.11 นกั เรยี นสรุปสง่ิ ที่ได้เรยี นรู้ถงึ อาชพี ท่สี นใจและสอดคลอ้ งกับคุณลักษณะของตน
7. สอ่ื / อุปกรณ์
7.1 ใบความรู้ เร่อื ง รายช่อื กลุม่ งานอาชีพ
7.2 ใบความรู้ เร่ือง ตารางแสดงหมวดความสนใจ 6 หมวด
7.3 ใบความรู้ เรื่อง บคุ ลกิ ภาพของบุคคล
7.4 ใบงาน เร่อื ง แบบสารวจความสนใจในอาชีพ (VIESA)ชุดท่ี 1
7.5 ใบงาน เรอ่ื ง แบบสารวจความสนใจในอาชพี (VIESA) ชุดที่ 2
7.6 ใบงาน เร่อื ง แบบสรุปข้อมลู จากการทาแบบสารวจ VIESA
8. กำรประเมินผล
8.1 วิธีกำรประเมนิ
8.1.1 สังเกตการปฏบิ ัติกิจกรรม
8.1.2 ตรวจใบงาน
8.2 เครื่องมือ 174
8.2.1 แบบสงั เกตการปฏิบตั ิกิจกรรม
8.2.2 ใบงาน
8.3 เกณฑก์ ารประเมิน
8.3.1 แบบสงั เกตการปฏิบัติกิจกรรม
เกณฑ์ ตวั บ่งช้ี
ผ่าน มีความต้งั ใจรว่ มกจิ กรรม ให้ความรว่ มมือการแสดงความคิดเห็น และส่งงาน
ตามกาหนด
ไมผ่ า่ น ไม่ใหค้ วามรว่ มมือ หรอื ขาดสิ่งใดสิ่งหนง่ึ
8.3.2 ตรวจใบงาน
เกณฑ์ ตัวบง่ ช้ี
ผา่ น บอกอาชพี ทีส่ นใจและสอดคล้องกบั คณุ ลักษณะของตน และสามารถวางแผน
เขา้ สู่อาชีพทต่ี นสนใจได้
ไม่ผา่ น ไมส่ ามารถบอกอาชีพท่ีสนใจและสอดคล้องกับคุณลักษณะของตน และไม่
สามารถวางแผนเขา้ สู่อาชีพที่ตนสนใจได้
ใบงำน เรือ่ ง แบบสำรวจควำมสนใจในอำชพี (VIESA) ชุดท่ี 1
ชื่อ-สกลุ นกั เรยี น………….…………………..……………...............…..……..ชนั้ .............เลขท.่ี ......................
VIESA ( )
(?) ( )
:-
-
-
() /
? ...... - ? ......
? ......
? ...... ? ......
? ......
? ...... ? ......
? ......
? ...... ? ......
? ......
? ...... ? ......
? ......
? ...... ? ......
? .......
? ...... ? ......
? ......
? ...... ? ......
? ...... ? ......
? ......
? ...... ? ......
? ......
? ...... ? ......
? ......
? ...... ? ......
? ......
? ...... ? .......
? ......
? ...... , ? ......
? ......
? ...... ? ......
? ......
A ? ...... B
-
? ...... 175
-
? ...... -
? ...... D
? ...... - /
? ......
? ......
? ......
? ......
? ......
? ......
? ......
? ......
? ...... -
? ......
? ...... ,
C
1. " ( )" 1 =[ A + 15 ] - 4 =
2. =[ C + 15 ] - =
B
D
ใบงำน
เรอ่ื ง แผนทีโ่ ลกงำนอำชีพ
176
สรุปควำมสนใจในอำชพี ของนักเรียน
หมวดงำนท่ี กลุ่มงำนอำชีพ รำยละเอยี ดงำนอำชีพ เขตงำน
วธิ แี ปลผล 177
แผนท่ีโลกงานอาชีพจะแสดงโดยรูปวงกลม ที่แบ่งไว้เป็นอาณาเขตเท่าๆกันเรียกว่า เขตงาน (Region)
จานวน12 เขตงาน แต่ละเขตงานจะประกอบดว้ ยกลุ่มงานอาชีพตา่ งๆ ซึง่ แสดงไวด้ ว้ ยจดุ ต่าง ๆ ซึง่ แสดงไว้ด้วยจุด
ขนาดใหญ่ (จุดขนาดเล็กหรือไข่ปลาน้ัน มีไว้เพ่ือช่วยในการหาจุดตัดเท่าน้ัน) และนักเรียนสามารถดูรายละเอียด
งานอาชีพต่างๆที่อยู่ในกลุ่มงานน้ันๆได้จากรายช่ือกลุ่มงานอาชีพ ซึ่งประกอบด้วย 6 หมวดงานอาชีพ และ
แบ่งย่อยงานออกเป็นกลุ่มงานต่างๆรวมทั้งสิ้น 23 กลุ่มงาน ในการแปลผลน้ัน จะใช้จุดตัดบนแผนที่โลกงาน
อาชีพเปน็ เคร่ืองบ่งบอกถึงเขตงานแหง่ ความสนใจในอาชพี ซงึ่ จุดตัดน้นั จะเกิดข้ึนได้ 3 กรณี คอื
1.จุดตดั อย่ใู นเขตงาน
ดังน้ันเขตงานนั้นและเขตงานในแต่ละด้าน (รวม3 เขตงาน) จะเป็นตัวกาหนดเขตงานแห่งความสนใจใน
อาชีพ เช่น นักเรียนได้จุดในเขตงาน 6 ดังนั้นเขตงาน 5-6-7 จะเป็นเขตงานแห่งความสนใจในอาชีพน้ันคือ
กลมุ่ งานแหง่ ความสนใจในอาชีพท่ีนักเรยี นควรพิจารณา เพือ่ ใช้เปน็ แนวทางในการเลอื กงานอาชีพในอนาคตต่อไป
2. จดุ ตัดอยบู่ นเสน้ แบ่งเขตงาน
เขตงานท่ีอยู่แต่ละด้านของเส้นแบ่งเขตงานนั้น จะเป็นเขตงานแห่งความสนใจในอาชีพ ซ่ึงในกรณีนี้มี
2 เขตงานเทา่ น้ัน
3.จุดตัดทอี่ ยใู่ นเขต
แสดงว่าความสนใจในอาชีพของผู้รับการสารวจไม่มีความชัดเจน ซ่ึงอาจเกิดข้ึนได้ถ้ามีการตอบ หรือ
มากเกินไป ซงึ่ อาจจะแกไ้ ดโ้ ดยการย้อนกลบั ไปทแี่ บบสารวจอกี คร้งั เพอื่ ตรวจและปรบั เปลี่ยนคาตอบ (ถ้าตอ้ งการ)
แล้วรวมคะแนนอีกครั้ง หากยังได้ผลเช่นเดิม ควรใช้แบบสารวจ VIESA ฉบับแปลผลด้วยคะแนนความสนใจหก
หมวด (six UNIACT scores) เพอ่ื ชว่ ยในการแปลผล
ใบควำมรู้
เร่อื ง รำยช่ือกลุ่มงำนอำชีพ
หมวดท1่ี : การดาเนินงานธรุ กจิ ( Business Contact Cluster)
กลุม่ งานอาชพี รายละเอียดงานอาชีพ เขตงาน
2
A การตลาดและการขาย (Marketing and Sales)
3
คนขายของในร้าน,คนส่งของ(เช่น นม หนงั สือพิมพ)์ ,ตวั แทนทอ่ งเทีย่ ว,คนขายของ
ท่ตี อ้ งการพบลูกคา้ (เช่นตัวแทน อสังหารมิ ทรัพยห์ รอื ขายประกัน,ตวั แทนขาย
หลกั ทรพั ย์,คนขายผลิตผลทางการเกษตร,คนขายอุปกรณส์ านักงานหรืออปุ กรณ์
ทางการแพทย์)
B การวางแผนและจัดการ (Management and Planning)
ผจู้ ดั การร้านค้า ,โรงแรมหรือท่ีพัก ,รา้ นอาหารและธุรกิจการเกษตร ,ผู้ดูแล
สานักงาน,ตัวแทนติดต่อซื้อขาย, ผู้จัดการธุรกิจขนาดใหญ่ , ผจู้ ดั การสถาน
พกั ผอ่ น/ตากอากาศ ,ผูบ้ ริหารสถติ ทิ างการแพทย์,นกั วางแผนพฒั นาชนบท
หมวดท่ี 2 :-การปฏิบตั งิ านธรุ กจิ (Business Operation cluster )
กลมุ่ งานอาชีพ รายละเอียดงานอาชีพ เขตงาน
3
C การติดต่อสอื่ สารและเก็บบันทึก(Record and Communications ) 178
4
เจา้ หนา้ ท่สี านักงาน,หอ้ งสมดุ ,โรงแรมหรอื ไปรษณีย์,ประชาสัมพนั ธ์เลขานุการด้าน 4
5
ต่างๆ (เช่น ทางการแพทย์หรือทางกฎหมาย)ผ้จู ดคาให้การในศาล,ผูจ้ ัดเกบ็ ข้อมลู
ทางการแพทย์
D งานธุรกิจทางเงิน(Financial Transactions)
นกั บัญชี สมหุ บ์ ญั ชี,พนักงานคดิ เงินสนิ คา้ ,พนักงานรบั และจา่ ยเงิน,ตวั แทนขายตวั๋ ,
ผูร้ บั ทาประกันภัย,นกั วิเคราะหท์ างการเงิน
E งานจัดเกบ็ และจดั สง่ (Storage and Dispatching)
พนกั งานรับสง่ พสั ดุภณั ฑ์,คนขบั รถรบั จ้างและผู้จดั สง่ ทางอากาศตัวแทนขนส่ง
สนิ ค้า,ผจู้ ดั การจราจรทางอากาศ
F งานทใี่ ช้เคร่ืองมือทางธรุ กจิ หรือคอมพิวเตอร์(Business Machine or Computer
Operation)ผูใ้ ชค้ อมพิวเตอร์เพอ่ื งานสานักงาน,ผู้ใช้เคร่ืองมือทางสานักงาน,
พนักงานพิมพ์ดีด,พนักงานเก็บข้อมลู ทางสถติ ิ
หมวดงานท่ี 3 :-งานเทคโนโลยี (Technical Cluster)
กลุม่ งานอาชีพ รายละเอยี ดงานอาชีพ เขตงาน
6
G งานขับยานพาหนะและซ่อมบารุง ( Vehicle Operation and repair) 6
6
คนขบั รถ (รถโดยสาร,รถบรรทุก,รถรบั จา้ ง,รถยกป่นั จ่นั ),ช่างเครอ่ื ง(รถ
6
เคร่อื งบนิ ), คนขับเรือหรอื พาณิชย์นาวี,นักบนิ 6
6
H งานก่อสร้างและซ่อมบารงุ (Construction and Maintenance)
ชา่ งไม,้ ช่างไฟ,ช่างทาสี,ช่างปนู ,ช่างงานแผน่ โลหะ,คนขบั รถยกและรถลาก,ผู้คมุ
การก่อสร้าง
I งานเกษตรกรรมและทรัพยากรธรรมชาติ ( Agriculture and Natural
Resources)
เกษตรกรรม,ปา่ ไม,้ คนเล้ยี งสัตว์,นกั จดั สวน,นักวชิ าการเกษตร,คนเพาะชาตน้ ไม้,
คนขายของร้านขายสตั วเ์ ล้ยี ง
J งานหตั ถกรรม (Crafts and Related Services)
คนทาอาหาร,คนทาขนม,คนซ่อมรองเทา้ ,คนตั้งเสียงเครื่องดนตรี,ชา่ งตดั เย็บ
เส้ือผา้ ,คนเจยี ระไนพลอย
K งานซ่อมเครื่องใชไ้ ฟฟ้า/สานกั งาน (Home/Business Equipment Repair)
ชา่ งซอ่ มทุกชนดิ (โทรทัศน์, เครอ่ื งใช้ตา่ งๆ ,พมิ พ์ดีด, โทรศัพท์, 179
เครื่องปรับอากาศ, เครือ่ งถ่ายเอกสาร)
L งานที่ใช้เครื่องมืออุตสาหกรรมและซ่อมบารงุ
(Industrial Equipment Operation and Repair)
ช่างเคร่ือง, ช่างพิมพ์ ,ช่างเย็บเส้ือผา้ โดยใชเ้ คร่ืองจักรโรงงาน ,ชา่ งเช่ือม ,ช่าง
ซอ่ มเครอื่ งจักร ,ชา่ งทา/เคลือบสีผลิตภณั ฑ์, ผใู้ ช้แรงงานและผ้คู มุ เครือ่ งจักรใน
โรงงานหรอื เหมอื งแรต่ ่างๆ ,พนักงานดับเพลิง
หมวดงานท่ี 4 :- งานวิทยาศาสตร์ (Science Cluster)
กลุม่ งานอาชพี รายละเอยี ดงานอาชีพ เขตงาน
7
N ผูช้ านาญการแพทยแ์ ละเทคโนโลยี (Medical Specialties and
8
Technologies)
9
ทนั ตแพทย์ ,เทคนคิ การแพทย์,จักษุแพทย์,เจา้ หนา้ ท่ีฉายแสง,นักวทิ ยาศาสตร์ 10
การแพทย์,
ผูเ้ ชยี่ วชาญทางการแพทยห์ รือแพทยเ์ ฉพาะทาง,เภสชั กร,สตั วแพทย์
M วศิ วกรรมและเทคโนโลยปี ระยกุ ต์
(Engineering and Other Applied Technologies)
วิศวกรทุกสาขา,ผู้ปฏิบตั งิ านในห้องทดลองดา้ นเคมแี ละชีววทิ ยา, นกั โปรแกรม
คอมพวิ เตอร์,ชา่ งเทคนิคคอมพวิ เตอร์,ชา่ งเขยี นแบ, นักสารวจ,นกั เทคโนโลยี
อาหาร
O วทิ ยาศาสตรธ์ รรมชาตแิ ละคณติ ศาสตร์
(Natural Science and Mathematics )
นักเคม,ี นักชีววิทยา,นกั ภมู ศิ าสตร์ ,นกั ธรณวี ทิ ยา,นกั วจิ ยั พชื พรรณ, นัก
คณิตศาสตร์,นักฟสิ ิกส์
P งานสังคมวิทยา ( Social Sciences) 180
นกั วิเคราะห์การตลาด,นกั มานษุ ยวทิ ยา,นกั เศรษฐศาสตร์ ,
นักรฐั ศาสตร์ ,นักจิตวิทยา, นักสงั คมวทิ ยา
หมวดงานที่ 5 : งานศิลปะ
กลมุ่ งานอาชีพ รายละเอียดงานอาชีพ เขตงาน
10
Q ศลิ ปะประยุกต์ (ทศั นศลิ ป์)(Applied Arts Visual)
10
คนจัดดอกไม้หรือจดั แสดงสนิ ค้า นกั ออกแบบโฆษณา นกั ออกแบบเสอ้ื ผา้ ชา่ ง
11
ถา่ ยภาพ นกั ออกแบบตกแต่งภายในอาคาร สถาปนกิ
R ศลิ ปะสร้างสรรคแ์ ละการแสดง ( Creative / Performing Arts)
นักแสดงทุกประเภท ,นักเต้นรา ,นักดนตรี ,นักร้อง ,นกั เขียน ,ครูศิลปะหรอื ครู
ดนตรี
S ศลิ ปะประยุกต์ (เขียนและพดู ) (Applied Arts Written and Spoken)
นกั พากย์ ,นกั จดั รายการ, ผใู้ หค้ วามชว่ ยเหลือดา้ นกฎหมาย ,ผ้ผู ลติ งานโฆษณา ,
นกั แปลหรือลา่ ม, นักข่าว ,งานประชาสัมพนั ธ์ ,นกั กฎหมาย, บรรณารกั ษ์ ,
นักเขียนบทความวิชาการ
หมวดงานท่ี 6 :-งานบรกิ ารสงั คม ( Social Science Cluster )
กลมุ่ งานอาชีพ รายละเอียดงานอาชีพ เขตงาน
12
T งานบริการสาธารณสขุ ( General Health Care) 1
ผชู้ ่วยทนั ตแพทย์ ,พยาบาล, นกั กายภาพบาบัด ,นักโภชนาการ แพทย์ทั่วไป ,นกั 1
2
บาบดั ทางการทตู
U งานบรกิ ารทางการศึกษา (Education and Related Services)
ครอู นบุ าล, โคชนักกีฬา ,อาจารยร์ ะดบั อุดมศึกษา , ผูใ้ ห้คาปรึกษาหรือครูแนะ
แนว ,
ครูปะถมและมัธยมศึกษา , ครกู ารศกึ ษาพิเศษ
หมายเหตุ:-ถ้าทา่ นเลอื กเป็นครรู ะดับอดุ มศึกษา ให้พิจารณาวตั ถปุ ระสงค์ท่าน
ต้องการสอน ( เลือกกลมุ่ อาชีพนั้น ) หรือต้องการทางานในสายวชิ าการน้ันๆ
เชน่ เคมี ชวี วิทยา หรอื คณติ ศาสตร์ ( ใหพ้ ิจารณาการกลุ่มงานท่ี O หรือ P ก่อน )
V งานบรกิ ารของรฐั ( Social and Government Services )
ตารวจ, ผ้ตู รวจการดา้ นอาหาร ,สุขภาพหรอื ความปลอดภัย , นกั สงั คมเด็ก ,นัก
ฟนื้ ฟูสมรรถภาพ ( ทางกายและจติ ),นักสงั คมสงเคราะห์
W งานบริการบุคคลและลูกคา้ (Personal/Customer Services)
พนักงานห่อของ ,พนักงานบนเครือ่ งบิน ( สจ๊อต แอร์โฮสเตส ), 181
คนเสริ ์ฟอาหาร, ชา่ งเสริมสวย ,ชา่ งตดั /ทาผม ,คนทาความสะอาดและรับใช้
กรณีพิเศษ : ถ้าเลือกรับราชการ ทางานเอกชน หรือ ทหาร ให้เจาะจงลักษณะอาชีพ ท่ีนักเรียนต้องการทาใน
ขณะท่ีนักเรียนประกอบอาชีพน้ันๆ ด้วย เช่น เป็นพยาบาลทหาร เป็นเลขานุการ ทางานเอกชน หรือรับราชการ
เปน็ วศิ วกร เป็นต้น
ใบงำน
เรอื่ ง แบบสำรวจควำมสนใจในอำชพี (VIESA) ชุดที่ 2
___________________________________________________________________________
ชื่อ-สกุลนกั เรียน………….…………………..………............…..ชน้ั ม…….. /..............เลขที่.......................
(ฉบบั แปลผลรหัสอาชีพของ Holland)
คาชี้แจง ขอให้พิจารณาความสนใจทท่ี า่ นมีต่อกิจกรรมต่อไปนี้ โดยไม่ต้องคานึงถงึ ความสามารถ หรอื ทักษะใด ๆ
ตัดสินใจทันทีที่ทา่ นอ่านแตล่ ะกจิ กรรมจบแลว้ ทาเครื่องหมายเพือ่ แสดงวา่ ท่านชอบ(ช) เฉย ๆ/ไม่แน่ใจ (?) หรือ ไม่
ชอบ (ม)
หมวด R หมวด I
……….1. แกะสลักตวั อักษร-ลวดลายบนถว้ ย/ ….……1. เรียนรวู้ ธิ ีใช้กลอ้ งจุลทรรศน์
โลร่ างวัล
……….2. ขดั เหลยี่ มเลนส์เพ่ือใช้ประกอบแว่น …….…2. ศึกษาวิชาชวี วิทยา
……….3. กรอบรูป ……….3. ศกึ ษาผลของวติ ามินทมี ีตอ่ สตั ว์
……….4. ใช้เครื่องตดั หญ้า ……….4. อา่ นเร่ืองราวการค้นพบทางวทิ ยาศาสตร์
……….5. ขบั รถยนต์โดยสาร ……….5. ศกึ ษาวิชาเคมี
……….6. เตมิ น้ามนั ในป๊ัม ……….6. ทางานในหอ้ งทดลองวิทยาศาสตร์ 182
……….7. บรรจสุ นิ คา้ ลงหีบหอ่ ในร้านขายของ ……….7. ศึกษาโรคพืชชนิดต่าง ๆ
……….8. ซ่อมรองเท้า ……….8. วดั ปรมิ าณสารเคมใี นหลอดทดลอง
……….9. ทาเครอื่ งเรือน ……….9. ใชก้ ลอ้ งจุลทรรศนห์ รืออุปกรณก์ ารทดลองอน่ื ๆ
……...10. ตอก-ยา้ หมุดบนแผ่นโลหะหรอื หนงั ……...10. ศกึ ษาการทางานของสมอง
………11. เขยี นแบบเครอ่ื งกล ………11. ตรวจหาต้นกาเนิดของหิน
………12. อา่ นมเิ ตอร์ไฟฟ้า, น้าประปา ………12. เย่ียมชมพพิ ิธภัณฑว์ ิทยาศาสตร์
………13. ตดั แต่งต้นไม้ภายหลงั พายสุ งบ ………13. ศึกษากาเนดิ ของดวงดาวตา่ ง ๆ
………14. ซอ่ มของเล่น ………14. คิดคน้ สารอาหารทดแทนชนิดใหม่
………15. ดแู ลระวังไฟป่า ………15. อา่ นเรือ่ งกาเนิดของโลกและจักรวาล
หมวด A หมวด S
……….1. วาดการ์ตนู ….……1. ชว่ ยประนปี ระนอมความขัดแย้งระหวา่ ง
เพ่ือน
……….2. วาดภาพประกอบเรื่องราวในนิตยสาร …….…2. สอนนกั เรยี นระดับมธั ยมศกึ ษา
……….3. ร่างและวาดภาพ ……….3. อธิบายสิทธิ-หน้าทที่ างกฎหมายแก่
ประชาชน
……….4. เขียนเรอ่ื งส้นั ……….4. ให้ความช่วยเหลือ- คาปรกึ ษาทางดา้ นจติ ใจ
……….5. เป็นศิลปินอสิ ระ ……….5. ใหค้ าแนะนาด้านกฎหมายแก่ผยู้ ากไร้
……….6. เขยี นบทวจิ ารณ์ละครหรือการแสดงต่าง ๆ ……….6. ชว่ ยเพ่อื นแก้ไขปัญหาด้านต่าง ๆ
……….7. เล่นดนตรีประจาวงของโรงเรยี น ……….7. มสี ว่ นรว่ มในการอภิปรายกลุม่ ย่อย
……….8. ถา่ ยภาพแบบสร้างสรรค์ ……….8. ชว่ ยผอู้ นื่ ในการตัดสนิ ใจท่สี าคญั
……….9. แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ ……….9. ใหค้ าปรึกษาแกผ่ ้ตู ิดยาเสพตดิ
……...10. ออกแบบรูปหล่อโลหะ ……...10. สอนสงั คมวิทยาในระดบั อดุ มศึกษา
………11. เขียนบทภาพยนตร์ ………11. ทางานใหก้ ับองค์กรค้มุ ครองผ้บู ริโภค
………12. เลอื กเพลงเพ่ือเปดิ ในรายการวทิ ยุ ………12. ชว่ ยชวี ติ ผปู้ ระสบภยั
………13. เล่นดนตรใี นวงดุรยิ างค์ ………13. ปฐมพยาบาลผ้บู าดเจ็บ
………14. อา่ นวิธีการเขยี นของนกั เรยี นร่วมสมยั ………14. สอนงานอดเิ รกแก่บุคคลทว่ั ไป 183
………15. แตง่ เพลงหรือเรยี บเรียงดนตรี ………15. ช่วยเหลือคนในภาวะฉุกเฉิน
หมวด E หมวด C 184
……….1. คัดเลอื กบคุ คลเขา้ ทางาน ….……1. ทาบญั ชีรายรับ-รายจา่ ย
……….2. ใชโ้ ทรศพั ทต์ ดิ ต่อธุรกจิ …….…2. ทารายการสินค้าในร้านขายของ
……….3. ดาเนนิ กจิ การดา้ นโรงเรยี นหรือที่พัก ……….3. ประเมินคา่ สง่ ของตามใบส่งั สินค้า
……….4. ขายอุปกรณ์เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ ……….4. คิดภาษเี งินได้
……….5. เดนิ ทางตดิ ต่อธรุ กิจ ……….5. คานวณดอกเบยี้ เงนิ กู้
……….6. วางแผนงานเพอ่ื บุคคลอืน่ ……….6. เก็บบนั ทกึ บญั ชีค่าใช้จา่ ย
……….7. รณรงคห์ าเสยี งเลอื กต้งั ……….7. ทาบัญชคี ่าจา้ ง-เงนิ เดือน
……….8. คิดหาวธิ ีการขายแบบใหม่ ……….8. ตรวจหาขอ้ ผดิ พลาดในบัญชกี ารเงนิ
……….9. เป็นผนู้ ากลุ่มหรือชมรม ……….9. แยก, นบั และจดั เก็บพสั ดุ
……...10. จัดการธุรกจิ ขนาดเลก็ ……...10. จัดระบบบญั ชี
………11. สมั ภาษณ์เจรจากับกลุ่มคนงานทีเ่ สนอ ………11. จัดทางบประมาณรายจา่ ยสาหรับกลมุ่ หรือ
ข้อเรียกร้องต่าง ๆ ชมรม
………12. ประชาสมั พันธ์การเปดิ ศูนย์การค้าแหง่ ………12. ใชค้ อมพวิ เตอร์
ใหม่
………13. ยุติความและตกลงเรอ่ื งเงินประกนั ………13. จดั ทางบประมาณรายจ่ายสาหรบั กลุ่มหรอื
ระหวา่ งคู่กรณี ชมรม
………14. แสดงความเป็นผนู้ าในธุรกิจหรอื งาน ………14. ตรวจความถูกต้องของรายงาน
ตา่ ง ๆ
………15. ทางานในสภาตาบล ………15. นับและแยกประเภทเงนิ
หมวดความสนใจท่ีไดค้ ะแนนสูงสดุ …………………………………………………………………..
อยใู่ นเขตงาน…………………………………………………………………………………………..
บคุ ลิกภาพ……………………………………………………………………………………………..
อาชีพทส่ี นใจ…………………………………………………………………………………………..
กระดำษคำตอบแบบสำรวจ VIESA
ฉบบั แปลผลโดยใช้รหัสอำชีพของฮอลแลนด์
ช่อื -สกุล………………………………………………..………………ชน้ั ……………เลขท…่ี ……..
หมวด R หมวด I หมวด A หมวด S หมวด E หมวด C
ช?ม ช?ม ช? ม ช?ม ช?ม ช?ม
111111
222222
333333
444444
555555
666666
777777
888888
999999
10 10 10 10 10 10
11 11 11 11 11 11
12 12 12 12 12 12 185
13 13 13 13 13 13
14 14 14 14 14 14
15 15 15 15 15 15
คะแนนรวมหมวด R I A S E C
รหัสอาชพี คือ สูงอันดบั 2 สงู อนั ดับ 3
สูงอันดับ 1
ใบควำมรู้
เร่ือง ตำรำงแสดงหมวดควำมสนใจ 6 หมวด
_____________________________________________________________________________
หมวดความสนใจ เขตงานแห่งความสนใจ ลกั ษณะของบุคคล (บคุ ลิกภาพ) 186
1. งานชา่ งและเทคนิค 6 และ 7 ชอบท่ีจะใช้ ซ่อมหรือออกแบบ
8 และ 9 เครื่องมอื อปุ กรณ์ ปลูกพชื ผักหรอื เลย้ี ง
(Technical) 10 และ 11 สตั ว์เพื่อการคา้
ศกึ ษาหาความรู้ทางหลกั การและความ
2. งานวิทยาศาสตร์ 12 และ 1 จรงิ ทางวิทยาศาสตร์โดยการอา่ น ถูก
(Science) อภิปรายหรือการศึกษาวจิ ัย
2 และ 3 แสดงความคดิ เหน็ และความรู้สกึ ผ่าน
3. ศิลปะ 4 และ 5 การวาด การออกแบบ การเขียนบท
(Art) เพลงหรือบทละคร ชม พิพิธภณั ฑ์
ศิลปะ คอนเสิร์ต ละคร อา่ นนวนยิ าย
4. งานบริการสงั คม กวี
(Social Service) ช่วยเหลือหรือใหบ้ รกิ ารแก่บคุ คลอ่นื
โดยการสอน ให้คาปรึกษาหรืองาน
5. การดาเนนิ งานธรุ กิจ สงั คมสงเคราะห์ เรยี นรเู้ กีย่ วกบั
(Business Contact) เร่อื งราวและปัญหาของสังคม
แสดงความเปน็ ผู้นา กระตนุ้
6. การปฏบิ ัตงิ านธรุ กิจ ชกั ชวนบุคคลอ่นื ใหเ้ ข้าเข้าร่วมธรุ กิจ
(Business) หรอื การค้า
ทางานตามขัน้ ตอน เกบ็ รกั ษาขอ้ มูล
ต่าง ๆให้มคี วามถกู ตอ้ งและเป็น
ระเบียบอยู่เสมอ
ใบควำมรู้
เรื่อง บุคลิกภำพของบุคคล
________________________________________________________________
ข้อมลู ตรงกบั ลักษณะความสนใจในอาชีพของ Holland เรียงตามลาดบั ดังน้ี
Realistic, Investigative, Artistic, Social, Enterprising, Conventional
บุคลิกภาพของบุคคล แบ่งออกไดเ้ ปน็ 6 กลุ่ม ดังนี้
กลุ่มท่ี 1 บุคลิกภาพแบบจริงจงั ไม่คดิ ฝนั นิยมความจริง และส่ิงทีเ่ ปน็ รูปธรรม (REALISTIC)
ลักษณะบุคลิกภาพ ชอบกิจกรรมที่ต้องใช้พละกาลัง ชอบทางานกลางแจ้ง รักธรรมชาติ ชอบทางานเก่ียวกับ
เคร่อื งจักรกล มลี ักษณะเปน็ ชาย มคี วามอดทน มีความบากบ่นั ขาดทกั ษะในการสร้างสมั พันธภาพทางสงั คม
อาชีพท่ีสอดคล้องกับบุคลิกภาพ วิศวกร ช่างเทคนิค นักบิน ประมง ป่าไม้ เกษตรกร สัตวแพทย์
นักกายภาพบาบัด ผู้ฝึกกีฬา ครูสอนพลศึกษา ช่างฝีมือ ช่างเคร่ืองยนต์ ช่างเจียระไน ช่า งเชื่อม ช่างทอ
ช่างปกั ชา่ งก่อสรา้ ง ช่างซ่อม ทหารบก ทหารเรอื ทหารอากาศ ฯลฯ
กลมุ่ ที่ 2 บคุ ลกิ ภาพแบบใช้เชาวน์ปัญญา ความคิด และการแสวงหาความรู้ (Investigative) 187
ลักษณะบุคลิกภาพ ชอบคิด สังเกต วิเคราะห์ สังเคราะห์ วิจารณ์อย่างมีเหตุผล ชอบแก้ปัญหา
ชอบใฝ่หาความรู้ ชอบทางานท่ีสลับซับซ้อน มีความเชื่อมั่นในตนเอง มีความเห็นที่รุนแรง มีความบากบั่น อุทิศ
เวลาให้กับงาน เกบ็ ตวั ไม่ตดิ ประเพณีนยิ ม ไม่ชอบเอาอย่างใคร
อาชีพที่สอดคล้องกับบุคลิกภาพ แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ เภสัชกร นักวิทยาศาสตร์การแพทย์
นักวิทยาศาสตร์ นักรังสีเทคนิค นักคณิตศาสตร์ นักวิเคราะห์ระบบคอมพิวเตอร์ นักเคมี นักฟิสิกส์ นักเขียน
เศรษฐศาสตร์ นกั เขียนรายงานวชิ าการ นักโบราณคดี ฯลฯ
กลุม่ ท่ี 3 บุคลิกภาพแบบมีศิลปะ (ARTISTIC)
ลักษณะบุคลิกภาพ รักอิสระ ความงาม มีสุนทรีย์ มีศิลปะ มีความคิดสร้างสรรค์ มีจินตนาการ
ชอบใชช้ ีวิตตามลาพงั ไม่ชอบใหใ้ ครมาควบคุม ชอบแสดงออกถึงลักษณะเฉพาะของตวั เอง ไมช่ อบงานทม่ี รี ะเบียบ
แบบแผน ไม่ชอบเลียนแบบ
อาชพี ที่สอดคล้องกบั บุคลกิ ภาพ สถาปนกิ มัณฑนากร จติ รกร ประตมิ ากร นกั เขยี นการ์ตูน นกั ออกแบบ
นักถ่ายภาพ นางแบบ ศิลปิน นักดนตรี นักประพันธ์ นักแสดง ครูสอนศิลปะ นักหนังสือพิมพ์ นักประชาสัมพันธ์
นกั แต่งเพลง ครสู อนดนตรี เตน้ รา ละคร ฯลฯ
กลุ่มท่ี 4 บุคลกิ ภาพทีช่ อบสมาคม สงั คมกบั ผ้อู น่ื สนใจสงั คม (SOCIAL)
ลักษณะบคุ ลกิ ภาพ ชอบตดิ ต่อกับผอู้ ืน่ ชอบเข้าสังคม ชอบแสดงตวั ร่าเรงิ ชอบชว่ ยเหลือหรอื บริการผูอ้ ่ืน
สนใจปญั หาสงั คม มีทักษะทางภาษา มคี วามรับผดิ ชอบ รบั รู้ความร้สู กึ ผอู้ ืน่ ได้เรว็ มลี ักษณะ เปน็ ผู้หญิง
อาชีพที่สอดคล้องกับบุคลกิ ภาพ นักสงั คมสงเคราะห์ นักจติ วทิ ยา นกั แนะแนว ครู – อาจารย์ นกั ปกครอง
พยาบาล เจ้าหน้าท่ีฝ่ายบุคคล ผู้จัดการโรงแรม นักจัดรายการ นักประวัติศาสตร์ พัฒนากร บรรณารักษ์ พนักงาน
ตอ้ นรบั ตารวจ พ่อบา้ น แมบ่ า้ น ชา่ งเสรมิ สวย ฯลฯ
กลุ่มท่ี 5 บุคลิกภาพแบบกล้าคิดกล้าทา ชอบการวางแผน ชอบค้าขาย สนใจกิจกรรมทางด้านธุรกิจ
หรือการเมอื ง (Enterprising)
ลักษณะบุคลิกภาพ มีลักษณะเป็นผู้นา มีความคิดริเร่ิม มีความเช่ือม่ันในตนเอง กล้าโต้แย้ง ชอบเสี่ยง
หรือผจญภัย มีความเป็นอิสระ สนใจในอานาจ มีทักษะทางเจรจา ชักชวนให้ผู้อื่นคล้อยตามชอบการสมาคม
มีความกา้ วรา้ ว ทะเยอทะยาน
อาชีพที่สอดคล้องกับบุคลิกภาพ นักธุรกิจ นายธนาคาร พ่อค้า นักการเมือง นายหน้า พิธีกร โฆษกวิทยุ
ผู้พพิ ากษา ทนายความ นกั จดั รายการ พนกั งานขาย ผู้บรหิ าร ฯลฯ
กลุ่มท่ี 6 บคุ ลิกภาพแบบมีระเบียบแบบแผน (CONVENTIONAL) 188
ลักษณะบุคลิกภาพ เจ้าระเบียบ ละเอียดรอบคอบ รักษาระเบียบประเพณี มีความรับผิดชอบ
ไม่ยืดหยุ่น ชอบทาตามระเบียบแบบแผน เป็นผู้ตามท่ีดี ชอบพ่ึงพาผู้อ่ืน ชอบกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม การจัด
หมวดหมู่ ตวั เลขและขอ้ มลู
อาชีพที่สอดคล้องกับบุคลิกภาพ นักบัญชี สมุห์บัญชี เจ้าหน้าท่ีการเงิน การธนาคาร ผู้ตรวจสอบบัญชี
เจ้าหน้าท่ีงบประมาณ พนักงานสินเชื่อ นักวิเคราะห์การเงิน เลขานุการ เสมียน เจ้าหน้าที่ธุรการ
ยาม พนักงานเก็บเงิน พนักงานควบคมุ เครอ่ื งพิมพ์ พนักงานพิมพด์ ดี ฯลฯ
ใบงำน
เรื่อง แบบสรุปขอ้ มูลจำกกำรทำแบบสำรวจ VIESA
_____________________________________________________________________________
ช่อื -สกุลนกั เรยี น………….………….……………..….......………..ช้ัน ม…………/...............เลขที่.............................
1. การเปรยี บเทียบข้อมูลจากแบบสารวจ VIESA
แบบสารวจ VIESA ชดุ ที่ 1 แบบสารวจ VIESA ชุดท่ี 2
อาชพี ทส่ี นใจ อาชีพท่ีสนใจ
สมั พนั ธก์ ับกลุ่มงาน บุคลกิ ภาพ
กลมุ่ งานอาชพี หมวดความสนใจ
ศกึ ษาต่อคณะ/สาขาวชิ า ศึกษาตอ่ คณะ/สาขาวชิ า
สรุป อาชพี ทสี่ นใจของนักเรียนคอื ……………………………………………………………………
ถ้านกั เรียนต้องการจะเขา้ สอู่ าชพี น้นี กั เรียนจะต้องเข้าศึกษาต่อใน คณะ/สาขาวชิ าใดบา้ ง
คณะ/สาขาวิชา สถาบันการศึกษา
1.
2. 189
3.
4.
แผนกำรจดั กจิ กรรมแนะแนวท่ี 2
หน่วยกำรจดั กจิ กรรม อำชีพ ชัน้ มธั ยมศึกษำปที ่ี 4-6
เรอื่ ง ควำมเหมำะสมของอำชีพสบู่ คุ คล จำนวน 5 ช่ัวโมง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. สำระสำคัญ
การศกึ ษาข้อมลู คุณสมบัติของบุคคลทีจ่ ะเขา้ ส่ตู ลาดแรงงานในกลุ่มประเทศอาเซียนและอาชพี ในระบบ
เศรษฐกจิ ยคุ ใหม่ที่ถกู ต้อง เป็นจริงและหลากหลาย เป็นองค์ประกอบสาคัญที่จะช่วยใหน้ กั เรียน ไดม้ ีความพร้อมใน
ทุกดา้ นเพอ่ื การตัดสนิ ใจและวางแผนไปสเู่ ป้าหมายได้อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
2. สมรรถนะกำรแนะแนว : ดำ้ นอำชีพ
ขอ้ 1 การเรยี นรู้เกย่ี วกบั อาชีพ
3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 190
3.1 ระบอุ าชีพในกลุ่มอาเซียนได้
3.2 สืบค้นเกี่ยวกับคุณสมบัติของบุคคลท่ีตลาดแรงงานในกลุ่มประเทศอาเซียนและระบบเศรษฐกิจ
ยุคใหม่ได้
3.3 สามารถนาเสนอนิทรรศการผลการสืบคน้ ข้อมูลได้
3.4 อธิบายวิธีการพัฒนาตนให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในกลุ่ม
ประเทศอาเซียนและระบบเศรษฐกิจยุคใหม่
4. สำระกำรเรยี นรู้
ขอ้ มลู อาชีพในกลมุ่ อาเซยี น
5. ช้นิ งำน / ภำระงำน (ถ้ำมี)
5.1 ใบงานเรื่อง เตรยี มตวั ส่ตู ลาดแรงงาน
5.2 การสบื ค้นข้อมูลจากแหลง่ ต่าง ๆ
5.3 นิทรรศการผลการสืบคน้ ขอ้ มลู
6. วิธีกำรจัดกจิ กรรม
ช่วั โมงท่ี 1
6.1 สนทนากับนักเรยี น เรอ่ื ง ตลาดแรงงานในกลุม่ ประเทศอาเซยี นและระบบเศรษฐกจิ ยุคใหม่
และดูสอ่ื วดี ิทศั นเ์ ก่ยี วกับการพัฒนาระบบการจัดการตลาดแรงงานท่ีทนั สมยั
6.2 ครูและนักเรียนร่วมกันอภปิ รายเก่ียวกับทิศทางและความต้องการของตลาดแรงงานในกลุ่มประเทศ
อาเซียนและระบบเศรษฐกจิ ยุคใหม่
6.3 นักเรียนสืบค้นเก่ียวกับคุณสมบัติของบุคคลท่ีตลาดแรงงานในกลุ่มประเทศอาเซียนและระบบ
เศรษฐกจิ ยุคใหม่ต้องการ พร้อมบอกแหลง่ ขอ้ มลู ในการสืบคน้ (ทาเปน็ การบา้ น)
ชว่ั โมงท่ี 2
6.4 สุ่มนักเรยี น 5-6 คนออกมานาเสนอผลการสืบคน้ ใหเ้ พอื่ น ๆ ไดท้ ราบ
6.5 สอบถามนักเรียนในห้องเรียนว่ามีใครได้ข้อมูลท่ีแตกต่างจากเพื่อนท่ีนาเสนอให้ออกมานาเสนอ
เพ่มิ เตมิ
6.6 สรปุ ความรู้เพ่ิมเติม และใหน้ ักเรียนนาผลงานของตนเองไปเรียบเรียงใหมใ่ ห้สมบูรณ์ ตกแตง่ รูปแบบ
ใหน้ ่าอ่าน และนามาจัดปา้ ยนิทรรศการเผยแพร่ความรู้ใหแ้ กเ่ พื่อน ๆ ไดศ้ ึกษา
ช่วั โมงท่ี 3 191
6.7 สนทนากับนักเรียนเก่ียวกับเนื้อหาในชั่วโมงที่ผ่านมาเพื่อทบทวนความรู้เกี่ยวกับคุณสมบัติ
ของบุคคลท่ีตลาดแรงงานในกลมุ่ ประเทศอาเซียนและระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ต้องการ
6.8 นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ๆละ 5 - 6 คน เลอื กประธานและเลขานุการกล่มุ
6.9 ตวั แทนกล่มุ รบั ใบงาน เรอ่ื ง เตรยี มตวั สู่ตลาดแรงงาน
6.10 ให้นักเรียนอภิปรายในกลุ่มเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาตนให้ได้ประสิทธิภาพตามที่ตลาดแรงงาน
ในกลมุ่ ประเทศอาเซียนและระบบเศรษฐกจิ ยุคใหม่ตอ้ งการ
ชว่ั โมงท่ี 4
6.11 สนทนากบั นักเรียนเกี่ยวกับการปฏบิ ัตงิ านตามใบงานในช่ัวโมงท่ผี า่ นมา
6.12 ตัวแทนแต่ละกลุ่มนาเสนอผลการอภิปราย
6.13 นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ วิจารณ์วิธีการพัฒนาตนตามท่ีแต่ละกลุ่มนาเสนอเพ่ือหาข้อปฏิบัติ
ทีเ่ ปน็ ไปไดแ้ ละเหมาะสม
ชว่ั โมงท่ี 5
6.14 ครูและนักเรียนทบทวนข้อสรุปเก่ียวกับวิธีการพัฒนาตนให้ได้ประสิทธิภาพตามที่ตลาดแรงงานใน
กลุ่มประเทศอาเซียนและระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ต้องการ
6.15 ใหน้ กั เรียนทุกกลุ่มนาข้อสรุปที่ได้มาจัดพิมพเ์ ป็นแผ่นพบั เพ่ือเผยแพรใ่ ห้กบั เพื่อนนักเรียนทั้งในและ
นอกโรงเรยี นได้
7. สือ่ / อปุ กรณ์
7.1 วดิ ทิ ัศนเ์ กีย่ วกบั การพัฒนาระบบการจดั การตลาดแรงงานท่ีทันสมยั
7.2 ใบงานเรือ่ ง เตรียมตวั สูต่ ลาดแรงงาน
7.3 มมุ อาเซยี นศึกษาในโรงเรยี น
7.4 เวป็ ไซด์ที่เก่ยี วกบั งานอาชีพ
8. กำรประเมนิ ผล 192
8.1 วธิ ีการประเมนิ
8.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ิกิจกรรม
8.1.2 ตรวจใบงาน
8.2 เครือ่ งมือ
8.2.1 แบบสังเกตการปฏิบตั ิกจิ กรรม
8.2.2 แบบตรวจใบงาน
8.3 เกณฑ์การประเมิน
8.2.1 สังเกตการปฏิบตั กิ จิ กรรม
เกณฑ์ ตัวบง่ ชี้
ผา่ น มคี วามตัง้ ใจร่วมกจิ กรรม ใหค้ วามรว่ มมอื การแสดงความคดิ เห็น และส่งงาน
ตามกาหนด
ไมผ่ ่าน ไม่ใหค้ วามรว่ มมือ หรอื ขาดส่ิงใดสิ่งหนงึ่
8.2.2 ตรวจใบงาน
เกณฑ์ ตวั บ่งช้ี
ผา่ น บอกอาชพี ทส่ี นใจและสอดคล้องกับคณุ ลักษณะของตน และสามารถวางแผนเข้า
สอู่ าชีพท่ีตนสนใจได้
ไม่ผ่าน ไม่สามารถบอกอาชพี ท่ีสนใจและสอดคลอ้ งกับคุณลกั ษณะของตน และไม่
สามารถวางแผนเข้าสู่อาชพี ท่ีตนสนใจได้
ใบงำน
เรือ่ ง กำรเตรียมตัวส่ตู ลำดแรงงำน
สมาชิกกลมุ่ 1. ......................................................... 4. ..........................................................................
2. ......................................................... 5. .........................................................................
3. .......................................................... 6. .........................................................................
คำช้ีแจง : ให้นกั เรยี นอภิปรายเกี่ยวกบั วธิ ีการพฒั นาตนใหไ้ ดป้ ระสิทธภิ าพตามทตี่ ลาดแรงงานในกล่มุ ประเทศ 193
อาเซียนและระบบเศรษฐกิจยุคใหมต่ ้องการ และบนั ทึกผลการอภิปรายลงในแบบบันทึก
ประเดน็ อภปิ รำย
1. ความต้องการของตลาดแรงงานในกลุม่ ประเทศอาเซียนและอาชีพในระบบเศรษฐกจิ ยุคใหม่
......................................................................................................................................................................
...................................................................................................... ................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
...................................................................................................... ................................................................
......................................................................................................................................................................
2. คุณสมบตั ิของบุคคลทต่ี ลาดแรงงานในกลมุ่ ประเทศอาเซยี นและอาชพี ในระบบเศรษฐกิจยุคใหมต่ อ้ งการ
...................................................................................................... ................................................................
...................................................................................................... ................................................................
............................................................................................. .........................................................................
...................................................................................................... ................................................................
......................................................................................................................................................................
............................................................................................. ........................................................................
3. วิธกี ารพัฒนาตนเพื่อเข้าสตู่ ลาดแรงงานในกลุ่มประเทศอาเซยี นและอาชีพในระบบเศรษฐกิจยุคใหม่
...................................................................................................... ................................................................
.......................................................................................... ............................................................................
...................................................................................................... ................................................................
......................................................................................................................................................................
...................................................................................................... ................................................................
...................................................................................... ................................................................................