The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1.คู่มือวิชานครศรีธรรมราชศึกษา สำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

1.คู่มือวิชานครศรีธรรมราชศึกษา สำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช

1.คู่มือวิชานครศรีธรรมราชศึกษา สำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช

26

2. การแกไ้ ขปญั หาน้ำทว่ มในพ้ืนท่ีทำกนิ ของราษฎร ควรดำเนินการ ดังนี้
2.1 ขุดคลองระบายน้ำฉุกเฉินพร้อมก่อสร้างอาคารควบคุมปากคลอง เพ่ือระบายน้ำจากแม่น้ำ

ปากพนังออกทะเลท่บี ริเวณหนา้ ประตรู ะบายน้ำปากพนงั กรณเี กดิ อุทกภัย
2.2 ขุดขยายคลองทา่ พญาพร้อมก่อสร้างประตรู ะบายนำ้ ริมทะเล เพ่อื ระบายน้ำออกอีกทางหน่งึ
2.3 ขุดลอกคลองบ้านกลาง คลองปากพนัง คลองหน้าโกฎิ พร้อมก่อสร้างประตูระบายน้ำ

เสือรอ้ ง(ก่อสร้างบรเิ วณบ้านเสือหึง) และประตรู ะบายนำ้ หน้าโกฎิ เพ่ือระบายน้ำลงทะเลใหเ้ รว็ ขน้ึ
2.4 ขุดคลองระบายน้ำชะอวด-แพรกเมือง พร้อมก่อสร้างประตูระบายน้ำ เพ่ือช่วยระบายน้ำ

ออกจากพน้ื ทโี่ ครงการฯ ลงสู่ทะเล กรณีเกดิ อทุ กภยั ตามความเหมาะสม
3. กำหนดแนวเขตให้ชัดเจนและเหมาะสม เพ่ือแยกพื้นท่ีน้ำจืดและพ้ืนที่น้ำเค็มออกจากกัน

ให้แน่นอน โดยกำหนดให้ทิศตะวันออกของคลองปากพนัง(คลองหัวไทร) เป็นพื้นที่น้ำเค็ม โดยมอบให้
กรมประมงก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ จัดระบบชลประทานน้ำเค็ม ท้ังน้ี ให้ กรมชลประทาน กรมประมง ตลอดจน
ผูเ้ ก่ียวขอ้ งรว่ มกนั พจิ ารณาหาแนวเขตใหเ้ หมาะสมทสี่ ดุ

4. พื้นที่ทางทิศตะวันตกของลุ่มน้ำปากพนังเป็นเทือกเขาสูง ให้พิจารณาวางโครงการและก่อสร้าง
อ่างเก็บน้ำหรือฝายทดน้ำ เพื่อช่วยเหลือพ้ืนท่ีการเกษตรเพ่ือการอุปโภคบริโภค และช่วยบรรเทาอุทกภัย
ในพ้ืนทตี่ อนล่าง

การดำเนินงานโครงการ
กรมชลประทานได้สนองพระราชดำริ ดำเนินการพัฒนาพื้นท่ีลุ่มน้ำปากพนังด้วยการศึกษา
ความเหมาะสมและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม เม่ือเดือนกันยายน 2536 ส้ินสุด 3 พฤศจิกายน 2538
คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบและอนุมัติให้เปิดโครงการได้เมื่อวันท่ี 7 พฤศจิกายน 2538 กรมชลประทานได้
กำหนดแผนการดำเนินงานระหว่างปี 2538 - 2547 ใช้งบประมาณ 15,800 ล้านบาทประกอบด้วย
งานก่อสร้างด้านชลประทาน งานติดตามแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และงานพัฒนาการเกษตรในพื้นที่
ลมุ่ นำ้ ปากพนัง

ท่ตี ั้งโครงการ
ปากพนัง จงั หวัดนครศรธี รรมราช
ระยะเวลาก่อสร้าง
13 ปี (ปี 2538 - 2550)
งบประมาณทง้ั โครงการ
13,379,600 ล้านบาท

ลักษณะโครงการ

27

ในส่วนแผนงานก่อสร้างด้านชลประทานซ่ึงกรมชลประทานเป็นผู้ดำเนินการ ประกอบด้วย
งานก่อสร้างประตรู ะบายน้ำปากพนังและอาคารประกอบ งานก่อสร้างระบบระบายน้ำ งานก่อสร้างคันแบ่งเขตน้ำ
จืด-น้ำเคม็ งานก่อสรา้ งระบบสง่ น้ำ มีรายละเอียดลกั ษณะโครงการ ดังนี้

งานก่อสร้างประตรู ะบายนำ้ อทุ กวภิ าชประสทิ ธ(ิ ปากพนงั ) และอาคารประกอบ
ประตูระบายน้ำอทุ กวิภาชประสิทธิ เป็นประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม สร้างที่บ้านบางป้ี ตำบลหลู ่อง อำเภอ
ปากพนัง จังหวดั นครศรีธรรมราช เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก มีช่องระบายน้ำรวม 10 ช่อง ประกอบด้วยบาน
ป ร ะ ตู เดี่ ย ว สู ง 9.0 เม ต ร ก ว้ า ง 20.0 เม ต ร จ ำ น ว น 6 ช่ อ ง บ า น ร ะ บ า ย คู่ ค ว า ม สู งบ า น บ น
3.5 เมตร ความสูงบานล่าง 5.50 เมตร กว้าง 20.0 เมตร จำนวน 4 บาน สามารถระบายน้ำได้ 1,426 ลูกบาศก์
เมตรต่อวินาที เพื่อป้องกันน้ำเค็มรุกล้ำพ้ืนท่ีเกษตรกรรมและเก็บน้ำจืดไว้ในแม่น้ำปากพนังและคลองสาขา
เพ่อื การเกษตรและรกั ษาระดบั นำ้ ในแมน่ ำ้ ปากพนังใหเ้ หนอื ชน้ั สารไพไรท์เพอ่ื ป้องกนั นำ้ เปรี้ยว
ประตรู ะบายน้ำปากพนงั ส่วนประกอบของประตูระบายนำ้ ได้แก่

ประตรู ะบายน้ำ
บันไดปลาและทางปลาลอด ซึ่งอยู่ท้ังสองข้างของอาคารประตูระบายนำ้ สำหรับใหว้ งจรชีวติ ของสัตว์
นำ้ เปน็ ไปอย่างธรรมชาติ
ประตเู รอื สัญจร กวา้ ง 6.0 เมตร สำหรับใหเ้ รือและพาหนะทางน้ำต่าง ๆ ผ่านไปมาได้
ทำนบดนิ ปดิ กนั้ ลำน้ำเดมิ ยาว 222 เมตร
ระบบโทรมาตรอัตโนมัติ จำนวน 31 แห่ง สำหรับตรวจวัดสถานการณ์ของน้ำในแม่น้ำปากพนังและ
ลำนำ้ สาขา ซ่ึงจะใชเ้ ปน็ ข้อมลู ในการจัดสรรการใช้นำ้ และบรรเทาอุทกภยั
งานกอ่ สรา้ งระบบระบายน้ำ
ทำหน้าท่ีระบายน้ำและป้องกันน้ำเค็ม โดยก่อสร้างคลองระบายน้ำเพ่ิมเติมพร้อมประตูระบายน้ำ
3 แห่ง และขุดลอกขยายคลองเดิมพร้อมก่อสร้างประตูระบายน้ำ 1 แห่ง รวม 4 แหง่ ประกอบด้วย
คลองชะอวด-แพรกเมือง ขนาดก้นคลองกวา้ ง 150 เมตร ลึก 5 เมตร ยาวประมาณ 27 กิโลเมตร พร้อม
ก่อสร้างประตูระบายน้ำ สามารถระบายน้ำได้ 540 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และคันกันทรายยาว
300เมตร
คลองปากพนัง (หน้าโกฎิ) ขนาดก้นคลองกว้าง 100 เมตร ลึก 3.5 เมตร ยาวประมาณ 7.5 กิโลเมตร
พร้อมกอ่ สรา้ งประตูระบายนำ้ คลองปากพนัง(เสือหึง) สามารถระบายน้ำได้ 350 ลูกบาศก์เมตรตอ่ วนิ าที
คลองบางโด-ท่าพญา ขนาดก้นคลองกว้าง 20 เมตร ลึก 3 เมตร ยาวประมาณ 16 กิโลเมตร พร้อม
ก่อสรา้ งประตรู ะบายน้ำ สามารถระบายน้ำได้ 130 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
คลองระบายน้ำฉุกเฉิน ขนาดก้นคลองกว้าง 56 เมตร ลึก 3.5 เมตรยาวประมาณ 5 กิโลเมตร พร้อม
ก่อสร้างประตูระบายนำ้ สามารถระบายน้ำได้ 210 ลกู บาศก์เมตรตอ่ วนิ าที

งานก่อสรา้ งคนั แบ่งเขตนำ้ จดื - น้ำเค็ม

28

เพื่อแบ่งพืน้ ทใ่ี ช้ประโยชนจ์ ากการพัฒนาให้ชดั เจน ยั่งยืน และประหยัด จึงใชแ้ นวถนนเดิมของ รพช.เป็น
ส่วนใหญ่ ห่างจากชายทะเลประมาณ 3 - 5 กิโลเมตร ทางด้านทิศตะวันออกเลียบถนนชายฝ่ังทะเล และด้านทิศ
ตะวันออก เฉียงเหนื อของอ่าวปากพ นัง เป็นระยะทางยาวประมาณ 91.5 กิโลเมตร ส่วนอาคาร
บังคับน้ำ ตามแนวคันก้ันน้ำ จำนวน 23 แห่ง ดำเนินการโดยกรมชลประทาน โดยคันแบ่งดังกล่าว ผู้ว่าราชการ
จงั หวดั นครศรีธรรมราช ไดป้ ระกาศใช้เปน็ กฎหมายเมอ่ื วันท่ี 12 เมษายน 2542

งานก่อสรา้ งระบบสง่ น้ำ
ปรับปรุงระบบชลประทานของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนัง รวมพื้นที่ 480,000 ไร่ แบ่งเป็น
ระบบส่งน้ำแบบสูบน้ำด้วยเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กของเกษตรกรเองในพื้นท่ี 439,100 ไร่ และระบบ
สง่ นำ้ ดว้ ยเครอื่ งสูบน้ำขนาดใหญใ่ นเขตพืน้ ท่ีโครงการ รวม 2 แห่ง โดยกรมชลประทาน 40,900 ไร่
ก่อสร้างระบบชลประทานท้ายฝายไม้เสียบส่วนขยาย โดยก่อสร้างคลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำขยาย
ตอ่ จากระบบชลประทานฝายไม้เสยี บเดิมทมี่ ี 35,000 ไร่ อกี จำนวน 24,000 ไร่ รวมเปน็ 59,000 ไร่
ประโยชนข์ องโครงการ
1. ป้องกนั การรกุ ล้ำของน้ำเคม็ เขา้ ไปทำลายพ้ืนที่การเกษตร
2. เก็บกักน้ำจืดไว้ในลำน้ำปากพนังและลำน้ำสาขา ประมาณ 70 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อ
การอุปโภคบริโภคและการเพาะปลูกบริเวณสองฝั่งลำน้ำ ประมาณ 521,500 ไร่ในฤดูฝน และประมาณ
240,000 ไร่ในฤดแู ลง้
3. คลองระบายน้ำช่วยลดพืน้ ที่ทีเ่ คยเกดิ อุทกภัย เน่อื งจากสามารถระบายน้ำลงสทู่ ะเลไดส้ ะดวกและ
รวดเร็วขน้ึ
4. ขจัดปัญหาระหว่างเกษตรกรนากุ้งและเกษตรกรนาข้าว เน่ืองจากมีการแบ่งเขตของการใช้พ้ืนที่
อยา่ งชดั เจน
5. ลดปัญหาการอพยพย้ายถนิ่ ฐานไปทำกนิ ในถน่ิ อ่นื
6. แม่น้ำปากพนงั และลำน้ำสาขาจะกลายเปน็ แหลง่ เพาะเลยี้ งและขยายพนั ธส์ุ ัตว์นำ้ จดื ได้เป็นอย่างดี
7. เพิ่มพูนผลผลิตการเกษตรหลากหลายและครบวงจรทั้งทางด้ านการเพาะปลูก การประมง
ปศสุ ตั ว์ ฯลฯ ตลอดจนการพฒั นาอุตสาหกรรม
8. ยกระดับมาตรฐานการครองชพี และความเปน็ อย่ขู องราษฎร
9. ฟืน้ ฟูสภาพนิเวศวิทยาให้กลับคนื สูด่ ุลยภาพ
10. ลดปญั หาการเกิดนำ้ เปร้ยี วและดนิ เปร้ียว

ทมี่ า : http://web.rid.go.th/lproject/const/project/completed%20project/pakpanang/pakpanang.html

1

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 14
ปญั หาในจงั หวดั นครศรธี รรมราช

สาระสำคญั
การศกึ ษาเรยี นรู้เก่ียวกับปัญหาที่เกดิ ข้ึนในจังหวดั นครศรีธรรมราช และรู้วิธแี ก้ปัญหา และ

ปฏิบัติตนไม่ให้เป็นต้นเหตุของปัญหา จะส่งผลให้จังหวัดนครศรีธรรมราชดำรงอยู่อย่าง
สงบสุข

ตวั ช้วี ดั

1. ระบุปญั หาขยะมูลฝอยในจังหวัดนครศรธี รรมราช
2. อธิบายและยกตวั อย่างแนวทางการลดปริมาณขยะมลู ฝอย
3. ระบปุ ัญหาการจราจรในจังหวัดนครศรีธรรมราช
4. ระบปุ ัญหายาเสพติดในจงั หวดั นครศรีธรรมราช
5. ระบุปญั หาการลักขโมยและการพนันจงั หวดั นครศรีธรรมราช
6. ระบุปัญหาทางดา้ นเศรษฐกจิ ในจงั หวัดนครศรีธรรมราช
7. อธิบายและยกตวั อยา่ งการมีจิตสาธารณะ

ขอบขา่ ยเนื้อหา
เรอื่ งท่ี 1 ปัญหาขยะมูลฝอยในจงั หวดั นครศรีธรรมราช
เรือ่ งท่ี 2 แนวทางการลดปรมิ าณขยะมูลฝอย
2.1 ระดับครวั เรือนการจัดการขยะโดยอาศัยหลกั 5R
2.2 ระดบั ชมุ ชน
2.3 กระบวนการสง่ เสริมใหป้ ระชาชนใชส้ นิ ค้าท่เี ป็นมติ ร
กับสงิ่ แวดลอ้ ม
เรื่องที่ 3 ปัญหาการจราจรในจังหวัดนครศรธี รรมราช
3.1 บริบททั่วไปในจงั หวัดนครศรธี รรมราช
3.2 แนวทางการแกไ้ ขปัญหาจราจร
เร่อื งท่ี 4 ปัญหายาเสพติดในจังหวดั นครศรธี รรมราช
4.1 สถานการณ์ยาเสพติดของจงั หวดั นครศรีธรรมราช
4.2 ยาเสพตดิ ทีค่ วรระวัง

2

เร่ืองที่ 5 ปญั หาการลักขโมยและการพนนั จงั หวัดนครศรีธรรมราช
5.1 พฤติกรรม สาเหตุ และการปอ้ งกันการลกั ขโมย
5.2 การเล่นการพนนั และขอ้ เสนอแนะการปอ้ งกนั การเลน่ การพนัน

เรอื่ งท่ี 6 ปัญหาทางด้านเศรษฐกจิ ในจงั หวดั นครศรีธรรมราช
6.1 ความเก่ยี วข้องของเศรษฐกิจกับครอบครวั
6.2 ความเกี่ยวขอ้ งของเศรษฐกจิ กบั ชุมชน
6.3 ปญั หาสำคญั ดา้ นเศรษฐกจิ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
6.4 แนวทางการแก้ปัญหา

เรื่องที่ 7 การมีจติ สาธารณะ
7.1 ความหมายของจติ สาธารณะ
7.2 แนวทางการสรา้ งจติ สาธารณะ

เวลาทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา 19 ช่ัวโมง

สอื่ การเรยี นรู้
1. ชุดวิชานครศรีธรรมราชศึกษา รหสั รายวิชา สค3300168
2. สมุดบนั ทึกกิจกรรมการเรียนรปู้ ระกอบชุดวิชานครศรธี รรมราชศึกษา
รหสั รายวชิ า สค3300168
3. สือ่ เสรมิ การเรยี นรู้อืน่ ๆ

3

เรื่องที่ 1 ปญั หาขยะมลู ฝอยในจงั หวดั นครศรีธรรมราช

จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัด ที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวด้านคิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน
และแหล่งท่องเท่ียวทางธรรมชาติ ซ่ึงสร้างรายได้ให้จังหวัดนับหมื่นล้านบาทต่อปี แต่ปัจจุบันจังหวัด
นครศรธี รรมราช กำลงั ประสบปัญหาเรื่องขยะมูลฝอย ซึ่งควรได้รบั การแก้ไขโดยเรง่ ด่วน เพื่อไม่ใหส้ ง่ ผลกระทบ
ต่อการท่องเท่ียวของจังหวัดนครศรีธรรมราช ในอนาคตสถานการณ์ด้านขยะในปี พ.ศ.2559 จังหวัด
นครศรีธรรมราช มอี งค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (อปท.) ทม่ี ีการให้บริการจัดเก็บขยะ จำนวน 177 แห่ง คิดเป็น
ร้อยละ 63.6 จาก อปท. ทั้งหมด 184 แห่ง ในจำนวนน้ีมี 34 แห่ง ที่มีสถานท่ีกำจัดขยะแต่มี อปท.
เพี ยง 7 แห่ ง ที่ มีการกำจัดขยะ ถูกห ลักสุขาภิ บ าล สำห รับ สถาน การณ์ ป ริมาณ ขยะท่ี เกิดข้ึน
ในปี 2559 พบว่ามจี ำนวน 368,388 ตนั (สำนักงานสถติ ิ จังหวัดนครศรธี รรมราช : 2559)

ปรมิ าณขยะท่เี กิดข้ึนในจังหวัดนครศรีธรรมราช ตงั้ แตป่ ี 2556 - 2559

4

5

ท่มี า : สำนกั งานทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ มจังหวดั นครศรธี รรมราช จดั ทำโดย : สำนกั งานสถติ ิจังหวดั นครศรีธรรมราช

เร่ืองที่ 2 แนวทางการลดปรมิ าณขยะมลู ฝอย

แนวทางการแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยในจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการป้องกันและควบคุม
การเพ่ิมขึ้นของปริมาณขยะ ท่ีสำคัญต้องอาศัยขบวนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันโดยทั่วไปแล้ว
หน่วยงาน ประชาชน องคก์ รและชุมชน สามารถลดปรมิ าณขยะท่จี ะเกดิ ขนึ้ ได้ โดยใช้หลกั การ ดังนี้

2.1 ระดบั ครัวเรอื นการจัดการขยะโดยอาศยั หลกั 5R

2.1.1 ลดการใช้ (Reduce)
1) ลดการขนขยะเข้าบ้านไม่ว่าจะเป็นถุงพลาสติก ถุงกระดาษ กระดาษห่อของ โฟม หรือ

หนังสอื พิมพ์ เปน็ ต้น
2) ใช้ผลิตภัณฑ์ชนิดเติม เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาปรับผ้านุ่ม เครื่องสำอาง สบู่เหลว ถ่าน

ชนิดชาร์จได้ น้ำยารีดผ้า น้ำยาทำความสะอาด ฯลฯ
3) ลดปริมาณขยะมูลฝอยอันตรายในบ้าน หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีภายในบ้าน เช่น

ยากำจัดแมลง หรือน้ำยาทำความสะอาดต่าง ๆ ควรจะหันไปใช้วิธีการทางธรรมชาติ อาทิ ใช้เปลือกส้มแห้ง
นำมาเผาไล่ยุงหรอื ใช้ผลมะนาวเพ่อื ดบั กลนิ่ ภายในหอ้ งนำ้

4) พยายามหลีกเลี่ยงการใช้โฟมและพลาสติกซึ่งกำจัดยาก โดยใช้ถุงผ้าหรือตะกร้า
ในการจบั จ่ายซอ้ื ของ ใช้ป่ินโตใสอ่ าหาร

2.1.2 ใช้ซำ้ Reuse
1) นำส่ิงของที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ เช่น ถุงพลาสติกที่ไม่เปื้อนก็ให้เก็บไว้ใช้ใส่ของ

อกี ครงั้ หนึง่ หรือใชเ้ ปน็ ถุงขยะในบ้าน
2) นำสิ่งของมาดัดแปลงให้ใช้ประโยชน์ได้อีก เช่น การนำยางรถยนต์มาทำเก้าอ้ี

ขวดพลาสตกิ ก็สามารถนำมาดดั แปลงเปน็ ท่ใี สข่ อง แจกนั การนำเศษผ้ามาทำเปลนอน เปน็ ต้น
3) การใช้กระดาษท้งั สองหน้า

2.1.3 การรีไซเคิล Recycle
การแปรสภาพและหมุนเวียนนำกลับมาใช้ได้ใหม่ โดยนำไปผ่านกระบวนการผลิตใหม่

อีกคร้ัง เป็นการนำวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น กระดาษแก้ว พลาสติก เหล็ก อลูมิเนียม มาแปรรูป

6
โดยกรรมวิธีต่าง ๆ นอกจากจะเป็นการลดปริมาณขยะมูลฝอยแล้ว ยังเป็นการลดการใช้พลังงานและ
ลดมลพิษท่เี กดิ กบั สิ่งแวดลอ้ ม ซ่งึ เราสามารถทำได้โดย

1) คัดแยกขยะไซเคิลแตล่ ะประเภท ไดแ้ ก่ แก้ว กระดาษ พลาสติก โลหะ อโลหะ
2) นำไปขาย / บรจิ าค / นำเข้าธนาคารขยะ / กจิ กรรมขยะแลกไข่
3) ขยะเหลา่ นีก้ ็จะเขา้ สู่กระบวนการรีไซเคิล
2.1.4 การซอ่ มแซม Repair เป็นการซ่อมแซมแกไ้ ขสิ่งของต่าง ๆ ให้สามารถใช้งานตอ่ ได้
2.1.5 การหลีกเลย่ี งการใช้ Reject การหลกี เลย่ี งการใช้สิ่งท่ีก่อใหเ้ กดิ มลพษิ

ที่มา : https://www.§oo§le.com/search?tbm=isch&q=การลดภาวะโลกรอ้ น+4+R&chips=q:nาร+ลด+ภาวะ+โลก+ร้อน+4+r,online

2.2 ระดับชมุ ชน

1) การจัดทำโครงการหรือประสานให้มีการดำเนินโครงการท่ีเน้นการลดและใช้ประโยชน์จาก
ขยะในชุมชน และแหล่งกำเนิด ซึ่งจะลดภาระการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน

7

โดยโครงการดังกล่าว ได้แก่ การจัดต้ังธนาคารขยะหรือวัสดุเหลือใช้ การหมักทำปุ๋ย การหมักปุยน้ำชีวภาพ
ตลาดนดั ขยะรีไซเคลิ ขยะแลกไข่ ผ้าปา่ รีไซเคิล สหกรณ์สินคา้ รีไซเคลิ การบริจาคสง่ิ ของท่ีไม่ใช้แล้ว เปน็ ตน้

2) ให้รางวัลตอบแทน ใบประกาศเกียรติคุณ หรือส่งเสรมิ การขายแกร่ ้านค้าหรือผู้ประกอบการที่
สามารถลดบรรจุภัณฑฟ์ ุ่มเฟือย เช่น ร้านคา้ ทีม่ ีการกกั เก็บ หรือจำหนา่ ยสินคา้ ท่มี บี รรจุภณั ฑ์ห่อหุ้มน้อย

3) ส่งเสริมให้ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอปุ โภคบรโิ ภค เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือรา้ นค้าปลีกส่งอำนวย
ความสะดวกให้กับผู้บริโภค ในการคัดแยกและส่งคืนบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ห่อหุ้มสินค้า โดยจัดให้มีภาชนะรองรับท่ี
เหมาะสมและเปิดโอกาสให้ผบู้ ริโภคแยกบรรจภุ ัณฑอ์ อกจากสินคา้ ณ จุดขายหรือจดุ บรกิ าร

2.3 กระบวนการส่งเสริมใหป้ ระชาชนใช้สินค้าท่ีเปน็ มิตรกบั สง่ิ แวดลอ้ ม

1) ให้ความรู้ ความเข้าใจในเร่ืองส่ิงแวดล้อมศึกษาเพื่อการพัฒนาท่ียั่งยืน ด้านการจัดการขยะ น้ำ
เสยี มลพิษทางอากาศ

2) สร้างความตระหนักถึงการร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในสถานศึกษาและชุมชน โดยการออก
สำรวจ สิ่งแวดลอ้ มในสถานศึกษาและชมุ ชน

3) ส่งเสรมิ และสนับสนุนการผลิต การใชท้ ่ีเป็นมติ รกับส่ิงแวดล้อม และสินค้าชุมชนตวั อย่างการ
นำขยะมลู ฝอยมาสรา้ งมูลคา่ และสร้างประโยชน์

8

ทมี่ า : โครงการ Zero Waste หนว่ ยสิง่ แวดลอ้ มศึกษาเพ่ือการพฒั นาท่ียั่งยืน สพป.นศ.3

เร่อื งที่ 3 ปญั หาการจราจรในจงั หวดั นครศรีธรรมราช

ปัญหาทางด้านการจราจร ในพ้ืนท่ีจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นปัญหาระดับต้นๆ ท่ีต้องมี
การแก้ไขและพัฒนาอย่างเร่งด่วน เพ่ือเป็นการพัฒนาพ้ืนท่ีให้จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเมืองแห่ง
การทอ่ งเที่ยวสำหรบั ชาวไทยและชาวตา่ งชาตติ อ่ ไป

3.1 บริบททัว่ ไปในจงั หวดั นครศรธี รรมราช

นครศรีธรรมราช เป็นดินแดนแห่งพุทธภูมิ แหล่งรวมอารยธรรมโบราณสถานโบราณวัตถุ
แหล่งท่องเท่ียวมากมาย ปัจจุบันนครศรีธรรมราชได้รับการพัฒนาให้เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว และ
เป็นเมืองท่ีมีนักท่องเที่ยว จากท่ัวประเทศรวมถึงต่างประเทศเดินทางเข้ามามากยิ่งข้ึน นครศรีธรรมราช
จึงเกิดปัญหาท่ีเหมือนๆกับทุกหัวเมืองท่ีเป็นเมืองหลวงของภูมิภาค น่ันคือ “รถติด” ในชั่วโมงเร่งด่วน หรือ
ท่ีเรียกว่าเป็นเมืองที่มีปัญหาเรื่องการจราจร และไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ท้ังจากหน่วยงานของรัฐและ
จากภาคการเมืองนครศรีธรรมราช มีถนนสายหลักในตัวเมือง คือ ถนนราชดำเนิน ถนนพัฒนาการคูขวาง
ถนนกะโรม ถนนเฉลิมพระเกียรติ ถนนเลียบรางรถไฟ (สายใหม่) ถนนศรีธรรมโศก+ศรีปราชญ์
ถนนศรีธรรมราช ถนนยมราช รวมถึงถนนสายย่อยตามซอยต่าง ๆ นครศรีธรรมราช มีแหล่งท่องเท่ียว
มีสถาบันการศึกษา มีศูนย์การค้า มีอาหารที่ถูกและอร่อย แต่มีบ่อยคร้ังรถยนต์ท่ีเข้ามาแล้วไม่มีที่จอด สุดท้าย

9

ผู้ท่ีต้องการเข้ามาในพื้นที่เพ่ือซื้อสินค้า บริโภคอาหาร ก็คงจะเปลี่ยนใจหันไปยังบริเวณอื่นที่ไม่มีปัญหา
การจราจรและมีท่ีจอดรถสะดวก จึงเห็นได้ว่าย่ิงปัญหาการจราจรเพ่ิมมากข้ึนเท่าใด ก็จะส่งผลกระทบต่อ
ภาพลักษณ์จังหวัด การบริหารจัดการต้องเร่งทำอย่างทันท่วงที ไม่มีเวลาท่ีจะรอแล้ว จังหวัดนครศรีธรรมราช
เทศบาลนครนครศรีธรรมราช สำนักงานขนส่งจังหวัดนครศรีธรรมราช ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เก่ียวข้องต้อง
ระดมสมองท้ังเร่ืองการจัดหาท่ีจอดรถ การจัดทำแผนจราจรปริมาณรถที่มากข้ึน การจัดระเบียบสถานีขนส่ง
ผ้โู ดยสาร รถสาธารณะ รถตู้ ฯลฯ

สถานการณ์ปัจจบุ นั
จังหวัดนครศรีธรรมราช ประสบปัญหาด้านการคมนาคมและขนส่งในเขตเทศบาลและบริเวณ
โดยรอบเมืองนครศรีธรรมราช ด้วยเหตุเมืองนครศรีธรรมราชเป็นเมืองเก่า ไม่สามารถปรับปรุงหรือขยายถนน
เพ่ือรองรับการคมนาคมและขนส่ง ทำให้มีสภาพการจราจรหนาแน่น ประกอบกับถนนราชดำเนินและ
ถนนพัฒนาการคูขวางซ่ึงอยู่ทางด้านทิศตะวันตกและทิศตะวนั ออกของตัวเมือง มบี ้านพักอาศัย โรงแรม อาคาร
ร้านค้าและสถานประกอบการจำนวนมาก ทำให้โครงการคมนาคมและขนส่งในเขตเทศบาลเมือง
นครศรธี รรมราช ไมเ่ พียงพอตอ่ ปริมาณจราจรและ ในอนาคตจะทวีความรนุ แรงมากขึน้

3.2 แนวทางการแก้ไขปญั หาจราจร

กรมทางหลวงชนบทเร่งแก้ไขปญั หาจราจร ดังนี้
1) สำรวจออกแบบถนนเฉลิมพระเกียรติ รองรับการจราจรในเขตเมืองนครศรีธรรมราช

เชื่อมการเดินทางสู่สนามบินนครศรีธรรมราช ได้พิจารณาเห็นว่าแนวถนนเฉลิมพระเกียรติมีความเหมาะสม
ที่จะก่อสร้างและขยายให้เป็นแนวถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก หรือถนนเล่ียงเมืองด้านทิศตะวันออก
เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดในตัวเมือง รองรับการเจริญเติบโตของเมือง เช่ือมถนนสายหลักและสายรอง
ให้ประชาชนเดินทางได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย รวมทั้งสามารถเดินทางไปยังสนามบินนครศรีธรรมราช
ได้โดยไม่ผ่านตวั เมอื งอีกดว้ ย

2) โครงการสำรวจออกแบบถนนเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
จุดเริ่มต้นโครงการบริเวณสามแยกทางห ลวงหมายเลข 401 (บ้านศาลาบางปู) แนวถนนไปทาง
ทิศตะวันออก เลี้ยวขวาไปทางทิศใต้ผ่านคลองท่าแพ ถนนลาดยางสายบ้านท่าแพ - ตลาดพฤหัส ถนนลาดยาง
สายบ่อโพธ์ิ ถนนลาดยางสายบ้านท่าวัง ถนนลาดยางสายท่านคร คลองท่าซัก คลองหน้าเมือง คลองป่าเหล้า
คลองสวนหลวง จนบรรจบกบั ทางหลวงแผ่นดนิ หมายเลข 4013 ระยะทางโดยประมาณ 20.270 กิโลเมตร

3) โครงการซ่อมแซมถนนชลประทานสายไสม่วง - บางเตย และก่อสร้างถนนเช่ือมสาย
ปากพนัง การซ่อมแซมถนนชลประทานสายบ้านไสม่วง - บ้านบางเตย พ้ืนท่ีตำบลช้างซ้าย อำเภอ
พระพรหม และตำบลท่าเรือ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ระยะทาง 8.8 กิโลเมตร เชื่อมต่อกับถนนสาย 408
(นครฯ - สงขลา) กับสาย 403 (นครฯ - ทุ่งสง) เพ่ือใช้เป็นทางเลี่ยงเมืองช่ัวคราว เริ่มดำเนินการ
ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2562 และก่อสร้างถนนสายบ้านบางเตย - ชุมชนสุขสมบูรณ์ (ซอยท่าเรือ 5) เช่ือมต่อ
ถนนสาย 4013 (นครฯ -ปากพนัง) กับถนนชลประทานเพื่อไปบรรจบกับถนนสาย 408 โดยเฉพาะการซ่อม

10

สร้างถนนชลประท านไสม่วง - บ้านบางเตย เป็นถนนแอสฟั ลดิกคอนกรีต ขนาดผิวท างกว้าง
6.00 เมตร ไหลท่ างกว้างข้างละ 1.50 เมตร รวมระยะทาง 3.620 กโิ ลเมตร

4) เร่งพัฒนาโครงการคมนาคมทั้งสายหลักและสายรอง เพ่ิมประสิทธิภาพทางหลวงและขยาย
เป็น 4 ช่องจราจร 4 เส้นทาง การแก้ไขปัญหาการจัดระบบการจราจรทางบก และการเชื่อมโยงโครงการ
คมนาคม เส้นทางสายหลัก -สายรอง ในพื้นท่ีจังหวัดนครศรีธรรมราช การแก้ ไขปัญ หาจุดตัด
จดุ เส่ยี งในเสน้ ทางสำคัญ และการขยายทา่ อากาศยานนครศรีธรรมราช

ปัจจุบันจังหวัดนครศรีธรรมราชกำลังมีการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเท่ียว จึง
จำเป็นต้องมีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมท้ังถนนสายห ลักและสายรอง การจัดระบบจราจร เช่น
การก่อสร้างถนนเลียบชายฝั่งทะเลเช่ือมขนอม - สิชล การก่อสร้างถนนวงแหวน การขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร
การก่อสร้างถนนเพ่ือการป่ันจักรยาน การใช้ระบบขนส่งสาธารณะประจำทางทางสนามบิน - ตัวเมือง
นครศรีธรรมราช รวมทั้งการควบคุมความเร็วในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชเพ่ือลดอุบัติเหตุ
การพัฒนาและขยายสนามบินนครศรีธรรมราช เป็นต้น โครงการเพ่ิมประสิทธิภาพถนนหมายเลข 41
ชว่ งร่อนพบิ ูลย์ - ไม้เสียบ เปน็ ชว่ ง ๆ 28.8 กโิ ลเมตร

โครงการขยายถนนจาก 2 ช่อง เป็น 4 ช่องจราจร ถนนหมายเลข 4015 สายบ้านตาล - บ้านส้อง
ดอนบ้านตาล - อำเภอลานสกา ระยะทาง 11 กิโลเมตร

โครงการขยายถนนจาก 2 ช่อง เป็น 4 ช่องจราจร ถนนหมายเลข 4019 สายอำเภอทุ่งใหญ่ -อำเภอ
ชา้ งกลาง ระยะทาง 15 กโิ ลเมตร

โครงการขยายถนนจาก 2 ช่อง เปน็ 4 ชอ่ งจราจรถนนหมายเลข 4013 สายนาพรุ - จังทูน ระยะทาง
7.1 กิโลเมตร

การจราจรในจังหวดั นครศรธี รรมราช

รถตดิ พ้ืนท่ลี มุ่ มีน้ำท่วมเม่ือมีฝนตก

คนขาดวินัยจราจร ไม่ขา้ มทางมา้ ลาย ขยายถนน 4 ชอ่ งทาง

11

เรอื่ งท่ี 4 ปญั หายาเสพติดในจังหวดั นครศรธี รรมราช

ปัญหายาเสพตดิ เป็นปัญหาความม่นั คงปลอดภัยของมนษุ ยชาติ และยาเสพตดิ เปน็ ตัวการทีส่ ำคัญ ใน
การบ่อนทำลายกำลังทรัพยากรบุคคลของชาติ ความรุนแรงของสถานการณ์ยาเสพติดเป็นตัวแปร
ที่สำคัญ ให้มีการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล
และหนว่ ยงานที่เก่ยี วขอ้ ง ทกุ รัฐบาลทีผ่ ่านมาให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหายาเพสติดในระดับท่ีสูงมาก โดย
การกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายสาธารณะที่เก่ียวข้องกับการ
ควบคมุ พฤติกรรมของบุคคล เพอ่ื ประโยชน์ตอ่ สงั คมส่วนรวม

ในอนาคตปัญหายาเสพติด จะทวีความรุนแรง ความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ประชาชนได้คาดหวัง
ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดในการควบคุม ปราบปราม และแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพเพ่ือจะได้มี
ความรสู้ กึ มน่ั คงปลอดภยั ในการดำรงชีวิต

4.1 สถานการณย์ าเสพติดของจังหวดั นครศรีธรรมราช

4.1.1. สถานการณ์ดา้ นการผลติ /การปลูกพืชยาเสพติด
พืชกระท่อม ยังคงเป็นพืชเสพติดท่ีมีการลักลอบปลูกเป็นจำนวนมาก กระจายอยู่เกือบทุก

พ้ืนท่ี แม้จะมีนโยบายในการตัดโค่นทำลายอย่างต่อเน่ือง และบางส่วนยังคงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ การ
นำมาใช้ในพื้นท่ี โดยส่วนมากมักเป็นในกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ใช้แรงงานภาคเกษตรโดยเชื่อว่า
เป็นสมุนไพร มีสรรพคุณทางการรักษาโรค และกลุ่มผู้ใช้แรงงานนิยมใช้โดยเช่ือว่าจะสามารถทำงานได้
มากขึ้น และปัญหาที่พบมากในปัจจุบัน คือ การนำพชื กระท่อมไปแปรรูป และนำไปเป็นส่วนผสมของเครอื่ งดื่ม
4 x100 ซึ่งในขณะนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายในกลุ่มเด็กและเยาวชน จากผลการดำเนินการข่าวและการจับกุมท่ี
ผ่านมา ทำให้มีการลักลอบนำพืชกระท่อมมาจากพ้ืนที่ภาคใต้ตอนล่างมาจำหน่ายให้แก่กลุ่มลูกค้าในพ้ืนที่มาก
ยงิ่ ขึน้

กัญชา ไม่พบการปลูกเป็นแปลงใหญ่ ที่ผ่านมาพบเพียงการปลูกแซมเพียงเล็กน้อยใน
สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน และสวนผลไม้ เพ่ือไว้เสพเอง กัญชาที่ใช้ส่วนใหญ่จะนำเข้ามาจากพื้นท่ี
ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื

4.1.2. สถานการณก์ ารนำเขา้ และการสง่ ออกยาเสพตดิ
1) การนำเข้า เน่ืองจากไม่มีพื้นท่ีติดชายแดน จึงไม่ปรากฏข่าวสารการนำเข้ายาเสพติด

เขา้ มาในพืน้ ท่ี

12

2) การส่งออก ไมพ่ บการส่งออกยาเสพติดในพ้นื ท่ี
4.1.3 สถานการณด์ ้านการคา้ /การจับกมุ คดียาเสพติด

1) สถานการณด์ า้ นการค้า
สถานการณ์ด้านการค้ายาเสพติดพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า พ้ืนท่ีท่ีเป็นปัญหาด้าน
การค้า อยู่ในระดับที่ต้องให้ความสำคัญ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอทุ่งสง อำเภอสิชล อ ำเภอ
ปากพนัง และอำเภอท่าศาลา โดยพบว่าชนิดยาเสพติดหลักที่มีการค้าในพ้ืนที่ ได้แก่ พืชกระท่อม ยาบ้า ไอซ์
และกัญชา ตามลำดับ โดยกลุ่มเครือข่ายการค้าท่ีเกี่ยวข้องในพื้นที่ส่วนมากเป็นรายกลาง และรายย่อย ท่ีมี
ความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงเครือข่ายระหว่างพ้ืนท่ีจังหวัดใกล้เคียง เช่น จังหวัดสุราษฏร์ธานี ภูเก็ต
กรุงเทพมหานคร และภาคใตต้ อนล่าง ในการจัดหาและลำเลียงยาเสพติดเข้ามาสู่พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยมีแนวโน้มการค้าและการแพร่ระบาดของยาบ้าเพิม่ ข้ึน
- กลุ่มนักค้ารายกลาง ซ่ึงประกอบธุรกิจอื่น ๆ บังหน้า และมีความเช่ื อมโยงธุรกิจ
ผดิ กฎหมายอน่ื ๆ เชน่ หวยใตด้ ิน การพนนั แรงงานต่างดา้ ว และของหนีภาษี เป็นตน้

- กลุ่มนักค้ารายย่อย ซึ่งพบว่ามีการกระจายตัวอยู่ในหลายพ้ืนที่ และกระจุกตัวอยู่ในพื้นท่ีเมือง
โดยในกลุ่มน้ีรับยาเสพติดมาจากนักค้ารายกลาง และทำหน้าที่ในการกระจายยาเสพติดไปยังกลุ่มลูกค้า
ซึ่งเป็นผู้เสพในแต่ละพื้นท่ี โดยเฉพาะพ้ืนที่อำเภอเมือง อำเภอทุ่งสง อำเภอปากพนัง อำเภอร่อนพิบูลย์ และ
อำเภอท่าศาลา พื้นที่ที่มีการจับกุมการกระทำความผิดเก่ียวกับยาเสพติดสูงสุด จะอยู่ในพื้นท่ีอำเภอเมือง
นครศรีธรรมราช อำเภอทุ่งสง อำเภอท่าศาลา อำเภอชะอวด และอำเภอทุ่งใหญ่ เป็นการจับกุมในข้อหา
ครอบครองสงู ทีส่ ดุ รองลงมาคือขอ้ หาเสพ และขอ้ หาครอบครองเพือ่ จำหน่าย ตามลำดับ

2) สถานการณด์ ้านการจบั กมุ
ส ถิ ติ ผ ล ก า ร จั บ กุ ม ค ดี ที่ มี ก า ร ก ร ะ ท ำ ค ว า ม ผิ ด เกี่ ย ว เ นื่ อ ง กั บ ย า เส พ ติ ด ใน พื้ น ท่ี จั ง ห วั ด
นครศรีธรรมราช มีแนวโน้มการจับกมุ เพิ่มขนึ้ เลก็ นอ้ ยในปงี บประมาณ 2561
ราคายาเสพตดิ ชนิดสำคญั ๆ ในพืน้ ทจี่ งั หวดั นครศรธี รรมราช

ยาบา้ เมด็ ละ 80 - 200 บาท
กญั ชาแหง้ กโิ ลกรมั ละ 15,000 - 18,000 บาทหอ่ ละ 100 - 500 บาท
ยาไอซ์ ตกั ละ 300 - 500 บาท จีละ 1,500- 2,500 บาท ขีดละ 110,000 บาท
พชื กระท่อม ใบละ 2 - 5 บาท กำละ 100 บาท (20-30 ใบ)
4.1.4 สถานการณด์ า้ นแพรร่ ะบาดยาเสพตดิ
สถานการณ์ปัญหายาเสพติดพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัญหาการค้าและการแพร่ระบาดเป็น
ปญั หาหลัก เม่อื เปรยี บเทียบกบั สถานการณ์ปัญหายาเสพติดกับพ้ืนทจ่ี ังหวัดใกล้เคียงในเขตพื้นท่ภี าคใตต้ อนบน

13

พบว่า คงมีความรุนแรงทั้งการค้าการแพร่ระบาด โดยปัจจัยท่ีส่งผลต่อการขยายตัวของปัญหาการค้าและการ
แพร่ระบาด ของยาเสพติดในพนื้ ท่ี ไดแ้ ก่

1) ยังมีการผลิต และการค้าภายนอกประเทศ ซึ่งไม่สามารถควบคุมได้ และที่ผ่านมา
การประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านยังไม่ได้ผลมากเท่าท่ีควร และมียาเสพติดจากประเทศเพ่ือนบ้าน
ที่พร้อมจะลำเลียงผ่านพื้นท่ีชายแดนเข้ามาจำนวนมาก ทั้งการสัญจรไปมาของประชากรระหว่าง
สองประเทศ และช่องทางธรรมชาติจำนวนหลายช่องทางในพ้ืนท่ี เส้นทางการลำเลียงโดยเฉพาะทางบก
โดยรถยนต์ รถไฟ ยังไม่สามารถสกัดกนั้ ไดอ้ ยา่ งเต็มที่

2) ยังคงมีผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดรายเก่าหลงเหลืออยู่ และยังไม่ได้เชา้ สู่ระบบการบัดรักษา ซึ่ง
สว่ นมากยังคงมีบทบาทด้านการคา้ ในพน้ื ที่

3) ปัญหาผู้พ้นโทษหรือผ่านการบำบัดฯ กลับมาเก่ียวข้องกับยาเสพติด ค้าและเสพฯ
ต้องเฝ้าระวงั ผพู้ ้นโทษหรอื พักการลงโทษ ท่พี ักอาศัยในหมบู่ ้านและชุมชน

4) ปญั หาสังคมอ่ืน ๆ เช่น สถานบันเทิง รา้ นเกมส์ ร้านอินเตอร์เนต็ บ้านเช่า/หอพัก สถานที่
สาธารณะ ที่เป็นแหล่งม่ัวสุม ส่ือลามก แก๊งมอเตอร์ไซด์ และร้านค้าแอบแฝงจำหน่ายยาเสพติด
ในพื้นที่ ยังคงเป็นปัจจัยเส่ียงท่ีทำให้เด็กและเยาวชนในพ้ืนที่เขาไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และยังไม่ได้รับการ
กวดขนั ดแู ลอยา่ งจริงจังมากเท่าท่ีควร โดยเฉพาะสถานประกอบการทผ่ี ิดกฎหมาย

5) กลุ่มผู้เสพยังคงมีความต้องการในการใช้ยาและมีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะในกลุ่มของวัยรุ่น
และกลุ่มที่ประกอบอาชีพรับจ้าง และมีประวัติเกี่ยวข้องกับอาชญากรรม เช่น ค้าอาวุธสงคราม
ยาเสพติด ซึ่งกลุ่มเหล่านี้ มักจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นแก๊ง กลุ่มคนเหล่านี้มักจะมีพฤติกรรมเลียนแบบ
แข่งขันกันสร้างชื่อเสียงให้กลุ่มแก๊งของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมสมาชิกในกลุ่ม การสะสมอาวุธและ
อาวุธสงคราม การหารายได้จากการขายยาเสพติด การสร้างพ้ืนที่อิทธิพลโดยรอบชุมชนที่อาศัยอยู่ และพื้นที่
ใกล้เคียง ชอบเผยแพร่ภาพกิจกรรมในกลุ่มผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การโชว์ภาพอาวุธ
ยาเสพตดิ รถยนต์ ของสะสมท่เี ปน็ สิง่ ผิดกฎหมาย

4.1.5 แนวโนม้ สถานการณแ์ ละการเฝ้าระวงั
1) พบการแพร่ระบาดของยาบ้าสูงขึ้นในพื้นท่ีจงั หวัดนครศรีธรรมราช เป็นชนิดยาเสพติดท่ีมี

การจับกุมสูงที่สุดทุกเดือนในช่วงปีงบประมาณ 2561 และพืชกระท่อมยังเป็นยาเสพติดที่มีการ
แพรร่ ะบาดและมกี ารจับกมุ สูงในหลายพ้ืนที่

2) ชนิดของยาเสพติดท่ีต้องเฝ้าระวังในพ้ืนท่ีจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แก่ ยาบ้า และ
พืชกระทอ่ ม

14

3) ราคายาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าแนวโน้มราคาลดลงมากในหลายพ้ืนท่ีในชว่ งปีงบประมาณ 2561
4) กลุ่มเด็กและเยาวชนเป็นกลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังปัญหาเป็นพิเศษ พบว่าเด็กและเยาวชน
ในพ้ืนที่เข้ามาเก่ียวข้องกับยาเสพติดเพ่ิมมากข้ึน โดยพบว่าผู้ค้า/ผู้เสพที่เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา มีอายุ
น้อยลง และมีพฤตกิ รรมความเส่ียงท่ีจะเก่ยี วข้องกับยาเสพติดเพ่ิมมากขึน้
5) ยังคงพบการกระทำความผิดโดยการลักลอบขายยาเสพติดโดยส่งทางไปรษณีย์และบรษิ ัท
ขนส่งเอกชน การลกั ลอบขนยาเสพติดผ่านทางรถโดยสาร รถทัวร์ และรถไฟ
6) พบว่าผู้ค้า/ผู้เสพ ท่ีเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษามีอายุน้อยลง และมีพฤติกรรมความเส่ียง ท่ี
จะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเพ่ิมมากข้ึน เนอื่ งจากในพน้ื ท่ีมีแหล่งมั่วสมุ และปัจจัยเส่ียง เช่น สถานบันเทิง บา้ นเช่า
หอพัก ร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต และพื้นที่เสี่ยงบริเวณพื้นที่ลานกีฬา และสวนสาธารณะ เป็นต้น ซึ่ง
ขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานในพ้ืนท่ีเข้ามาดำเนินการกวดขันอย่างจริงจัง ประกอบกับอุปสรรคซ่ึงส่งผลต่อการ
ป ฏิ บั ติ งาน ข อ งเจ้ าห น้ าท่ี คื อ พ ระราช บั ญ ญั ติ คุ้ ม ค รอ งเด็ ก แล ะเยาวช น ต ล อ ด จน ข้ อจำกั ด
การบังคับใช้กฎหมายลงโทษเด็กและเยาวชน ส่งผลให้เกิดความยุ่งยากต่อการดำเนินการของเจ้าหน้าท่ีในการ
สืบสวนจับกุม ซึ่งจุดน้ีเองเป็นช่องทางให้กลุ่มผู้ค้า ในพ้ืนท่ีใช้เด็กและเยาวชนเป็นเคร่ืองมือในการกระทำ
ความผดิ โดยการเป็นผคู้ า้ แทน หรอื เดก็ เดินยา

7) เครือข่ายการค้ายาเสพติดในพ้ืนที่ มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มการสร้างฐานอำนาจ และมัก
เป็นกลุ่มที่มีเงินทุนในพื้นที่ซึ่งประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดใหญ่บังหน้า และมีการว่าจ้างทีมงานทาง
ด้านกฎหมาย คอยให้การช่วยเหลือ ตลอดจนรบกวนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ เช่น ร้องเรียนเจ้าหน้าที่
ผปู้ ฏิบตั ิงานในพน้ื ที่ อย่างต่อเนื่อง ส่งผลใหเ้ จ้าหนา้ ท่ีขาดขวญั และกำลงั ใจในการทำงาน

8) หน่วยงานในพื้นที่โดยส่วนใหญ่ ปฏิบัติหน้าท่ีตามภารกิจของตนเอง และยังขาด
การบูรณาการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาในพน้ื ที่

9) ในช่วงทผ่ี ่านมา พบว่า การจบั กมุ ผกู้ ระทำความผดิ เก่ียวข้องกบั ยาเสพตดิ ในพ้ืนท่ี ผูก้ ระทำ
ผิดจะ มีอาวุธปื น ทั้งอาวุธปื นส้ัน ปืนยาว วัตถุระเบิด และอาวุธสงครามร้ายแรงเพ่ือใช้ในการ
ตอบโตเ้ จา้ หน้าทใี่ นกรณที ม่ี ี การเขา้ จบั กุม และมเี หตปุ ะทะ

10) ในปัจจุบันพบว่าผู้กระทำผิดนิยมใช้เทคโนโลยีการส่ือสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ต มาใช้
ในการสนับสนุนการกระทำความผิด เช่น Facebook Line What Sapp และการใช้ VDO Call เช่น Tango
โดยใช้ซมิ การด์ แบบไมล่ งทะเบียน เพือ่ การหลีกเลีย่ งการตดิ ตามจากเจ้าหน้าท่ี

11) ค่านิยมและความเชื่อที่ผิด ๆ ของผู้ปกครองท่ีคิดว่าพืชกระท่อมเป็นยาเสพติดที่
ไม่ร้ายแรง ยังลักลอบปลูกพืชกระท่อมไว้เพื่อเสพ และขายบางส่วน ไม่ห้ามปรามบุตรหลานท่ีใช้และ
เสพกระท่อม

4.2 ยาเสพตดิ ทีค่ วรระวงั

15

1) ยาบ้า จะมีอาการ
- ใจสน่ั หวั ใจเต้นเรว็
- สมองเสอ่ื ม
- ประสาทหลอนวาดระแวง
- เสยี สติ เปน็ บ้า
- ทำรา้ ยตนเองและผอู้ ื่น

2) ยาไอซ์ จะมีอาการ
- หงดุ หงิด อารมณร์ นุ แรง ก้าวร้าว
- หวาดระแวง กลัวคนทำรา้ ย
- รมิ ปากแห้ง รา่ งกายทรดุ โทรม
- ผิวเสยี มบี าดแผลตามร่างกาย
- โรคในชอ่ งปาก ฟนั ผุ ฟนั ดำ

3) สารระเหย จะมีอาการ
- สมองเสื่อม
- สญู เสียความทรงจำ
- การรับรบู้ กพร่อง
- สญู เสยี การดมกลนิ่
- พดู ไมช่ ดั มือส่ัน แขนขาส่นั

4) กัญชา จะมีอาการ
- หแู วว่ ความคดิ สบั สน
- ฟันสึกหรอ
- เวยี นศีรษะ
- ท้องผกู
- เส่อื มสมรรถภาพทางเพศ

5) กระท่อม พชื กระท่อมเป็นต้นไม้พ้นื ถน่ิ ท่ี
สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในหลายพ้ืนที่ของประเทศไทย
หมอแผนโบราณใช้เป็นพืชสมุนไพร โดยเฉพาะใน
ภาคใต้นั้นพบว่า คนใต้มีวิถีชีวิตที่เกี่ยวพันกับพืช
ก ร ะ ท ่อ ม ม า น า น
ทั้งการใชเ้ ปน็ สมนุ ไพรรกั ษาโรค เคีย้ วใบกระท่อมเพอื่ ให้
ตนื่ ตวั ในการทำการเกษตร รวมไปถึงการใช้ในพธิ กี รรม

16

ทางวัฒนธรรม ก่อนท่ีจะมีการประกาศให้พืชกระท่อมเป็นยาเสพติดเม่ือ 70 กว่าปีก่อน ทำให้ความผูกพัน
กับพืชกระท่อมในหลายพ้ืนท่ีของภาคใต้เริ่มจางหายไป ปัจจุบันพืชกระท่อมเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปจาก
สื่อต่าง ๆ เมื่อเริ่มกลายเป็นประเด็นปัญหาเชิงสังคมในช่วงสิบกว่าปีท่ีผ่านมา หลังการประกาศนโยบาย
“สงครามยาเสพติด” เม่ือปี 2546 การเผยแพร่ข่าวการจับกุมพืชกระท่อมและน้ำตม้ ใบกระทอ่ มเพ่ิมมากขึ้น ทั้ง
จับกุมผู้ขายใบกระท่อมสด ผู้ขายน้ำต้มใบกระท่อม โดยเฉพาะการจับกุมผู้นำน้ำต้มกระท่อมผสม
สารชนิดอื่น เช่น ส่ีคูณร้อย (น้ำกระท่อมต้ม ผสมน้ำอัดลม ยากันยุง และยาแก้ไอ) โดยข้อมูลจาก
คณะกรรมการบริหารเครือข่ายองค์กรวิชาการสารเสพติดประมาณการว่า ในปี 2554 มีผู้ใช้ใบกระท่อม
ในประเทศไทยประมาณ 1.23 ล้านคน

ชุมชนปลอดภัย ตอ้ งเริ่มดว้ ยความเชือ่ มนั่ 4 ประการ
1. ปัญหายาเสพติดไม่สามารถปราบปรามอย่างเดียวต้องควบคู่ทั้งการป้องกัน เฝ้าระวัง

บำบัดรกั ษา
2. ต้องแก้ปัญหาหลายด้าน จึงไมส่ ามารถแก้ไขปญั หายาเสพติดได้โดยลำพงั ทุกภาคส่วนต้อง

ช่วยกนั
3. คนในหมบู่ ้าน/ชมุ ชนดว้ ยกนั เองจะรู้ปัญหาดีท่สี ุด
4. หม่บู า้ น/ชมุ ชนตอ้ งเร่มิ ดว้ ยตนเองกอ่ น

กฎหมายเกย่ี วกับกัญชา
กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 เช่นเดียวกับพืชกระท่อม พืชฝิ่น ในกัญชามีสารเสพติด
ช่ือเตตราไฮโดรแคนนาบินอล หรือ THC
สาร THC มีฤทธิ์ต่อสมอง ควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมของผู้เสพทำให้มีอาการคล้าย
เมาเหล้า เม่ือเสพปรมิ าณมากขนึ้ ทำให้ความคิดอา่ นช้า สับสนและประสาทหลอน สูบบุหรี่ยัดไส้กัญชา เพียง 4
มวน เท่ากบั สูบบุหร่ีธรรมดา 20 มวน/ซอง

ผลิต โทษทางอาญา ปรับสงู สุด 1,500,500บาท
นำเข้า จำคุกสงู สุด 15 ปี
สง่ ออก
คจรอำหบนค่ารยอง จำคกุ สูงสุด 5 ปี ปรบั สูงสุด 100,00 บาท
เสพ จำคกุ สูงสุด 1 ปี ปรบั สงู สุด 20,000 บาท

กัญชา สามารถขออนญุ าต
1. ผลิต (ปลูก) 2. นำเข้า 3. ส่งออก 4. จำหน่าย 5. ครอบครอง เพื่อการวิจัยและพัฒนาองค์
ความรู้ได้ โดยขออนุญาต จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ

17

พ.ศ. 2522 ประกอบกับกฎกระทรวงการขออนุญาตฯ ยาเสพติดให้โทษประเภท 4 และประเภท 5
พ.ศ. 2559 การเสพ กฎหมายห้ามเด็ดขาดไม่ว่าเพ่ือทางการแพทย์หรือไม่ก็ตาม ดังนั้น รัฐบาล กระทรวง
สาธารณสุข สำนักงาน ป.ป.ส. และนักวิชาการ ตั้งคณะทำงานภายใต้คำส่ังกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเร่งหา
แนวทางใชก้ ัญชาทางการแพทย์

แนวทางการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หายาเสพติดจังหวดั นครศรีธรรมราช
จังห วัดน ครศรีธรรมราช โดยผู้ว่าราช การจังห วัดน ครศรีธรรม ราช ผู้อำน วยการ
ศนู ย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวดั นครศรีธรรมราช ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหา
ยาเสพติดในจังหวัดนครศรธี รรมราช โดยได้สั่งการให้ทกุ หนว่ ยงานบูรณาการร่วมกัน เพอ่ื ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ภายใต้กรอบแนวทางของแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหายา
เสพติด ซ่งึ สามารถสรปุ ได้ดังน้ี
1. การดำเนินงานและแก้ไขปัญหาเสพติด ด้านการป้องกันยาเสพติด ประกอบด้วย
ยุทธศาสตร์ที่ 1 การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ยุทธศาสตร์ที่ 6 การสร้าง
สภาพแวดล้อมเพื่อป้องกันปัญหายาเสพติด และยทุ ธศาสตร์ท่ี 7 การมีส่วนรว่ มภาคประชาชน โดยมีเป้าหมาย
ส ร้ างภู มิ คุ้ ม กั น แ ล ะ ป้ อ งกั น ย าเส พ ติ ด ให้ กั บ เด็ ก แ ล ะ เย าว ช น ท้ั งใน แ ล ะ น อ ก ส ถ า น ศึ ก ษ า
กลุ่มผู้ใช้แรงงาน และประชาชนโดยทั่วไป โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด
นครศรีธรรมราช ได้ดำเนินกจิ กรรมโครงการ ดงั นี้

1.1 การสร้างภูมิคุ้มกันเด็กและเยาวชนในสถานศึกษาการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่เด็กและ
เยาวชนที่กำลังเรียนและศึกษาในสถานศึกษาท้ังระบบตั้งแต่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนท่ีมีการสอน
ในระดับอนุบาล ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาและขยายโอกาส ระดบั อาชวี ศกึ ษา ระดับมหาวิทยาลัย ทงั้ ในส่วนที่
เป็นของภาครัฐบาลและเอกชน รวมไปถึงสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม และสถานศึกษา
ในสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ด้วยโครงการ/กิจกรรมการสร้างภูมิคุ้มกันเด็กและเยาวชน
ในสถานศกึ ษา ดงั ตอ่ ไปนี้

1) กิจกรรมด้านพัฒนาการทางร่างกาย ทางด้านสังคม/การเรียนรู้ และกิจกรรมพัฒนา
ทกั ษะ สมองในเดก็ ปฐมวยั

2) กิจกรรมสำรวจพ้ืนท่ีเสี่ยงรอบสถานศึกษา และกิจกรรมด้านภัยยาเสพติดของ
สภานักเรียนจัดกจิ กรรมลกู เสือตา้ นภัยยาเสพติด

3) จัดอบรมลูกเสือต้านภัยยาเสพติด เพื่อเป็นแกนนำในการเฝ้าระวังป้องกันยาเสพติด
ในสถานศึกษา

4) จดั กิจกรรมวยั ใสใจเขม้ แข็ง ค่ายทกั ษะชีวิตพชิ ิตภยั ในวัยเรยี นส่งเสริมทักษะการเรียนรู้

18

5) โครงการทักษะชีวติ “ปญั หาหยดุ ยั้งด้วยพลงั เดก็ และเยาวชน”
6) โครงการ To be number one ในสถานศึกษา
7) กำหนดมาตรการตรวจค้นนักเรียน นักศึกษา ก่อนเข้าเรียนทุกวัน รวมถึงการตรวจ
เยยี่ มนักศึกษาในหอพกั /บ้านเช่า
8) จัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้การป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติดให้แก่นักเรียน
นกั ศกึ ษา ระดับปวช. และมัธยมศกึ ษาตอนตน้
9) กจิ กรรมส่งเสรมิ กฬี าและนนั ทนาการ
1.2 การสร้างภูมิคุ้มกันเด็กและเยาวชนนอกสถานศึกษาหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องได้ดำเนินการ
สร้างภูมิคมุ้ กันให้แก่เดก็ และเยาวชนนอกสถานศกึ ษาที่ขาดโอกาสไดร้ ับการเรียนการสอนในสถานศึกษา รวมถึง
สร้างภูมิคุ้มกันเด็กและเยาวชนในสังกัดหน่วยงาน กศน. ด้วยโครงการ/กิจกรรมการสร้างภูมิคุ้มกันเด็กและ
เยาวชนนอกสถานศกึ ษา ดังต่อไปน้ี
1) กจิ กรรม จดั โครงการอบรมเยาวชนอาสารกั ษาดินแดนตา้ นภยั ยาเสพติด (ย.อส.)
2) จัดโครงการคา่ ยอาสายวุ กาชาดและลูกเสือ
3) กิจกรรมอบรมลูกเสือวิสามัญเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตและสร้างความตระหนัก ค่านิยม
หลัก 12 ประการของคนไทย
4) กจิ กรรมการแขง่ ขันกีฬา กรฑี า นกั เรียน ประชาชน ต้านยาเสพติด
1.3 การดำเนินการป้องกันยาเสพติดในสถานประกอบกิจการได้ดำเนินการป้องกันยาเสพติด ใน
สถานประกอบกิจการ ในพ้ืนที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ความสำคัญกับเจ้าของสถานประกอบกิจการ
พนักงานและลูกจ้าง กลุ่มผู้ใช้แรงงาน รวมถงึ แรงงานต่างด้าวท่ีเข้ามาทำงานในพื้นที่โดยมีเป้าหมายดำเนินการ
กับสถานประกอบกิจการในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วยโครงการ/ กิจกรรมการป้องกัน
ยาเสพตดิ ในสถานประกอบกจิ การ ดังต่อไปน้ี
1) กิจกรรมส่งเสริมและรณรงค์ให้ความรู้เพื่อป้องกันยาเสพติด ในสถานประกอบการ ท่ีมี
ลูกจา้ งตัง้ แต่ 10 คนข้นึ ไป
2) สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดในสถานประกอบการท่ีลูกจ้างตํ่ากว่า 10 คนลงมา
โดยสำนักงานแรงงานจังหวัดนครศรีธรรมราช ร่วมกับแกนนำอาสาสมัครแรงงานระดับอำเภอ ดำเนินการ
ลงพื้นที่พบสถานประกอบ การเพ่ือขอความร่วมมือและประชาสัมพันธ์การเข้าร่วมโครงการป้องกันและแก้ไข
ปญั หายาเสพตดิ ในสถานประกอบ การท่ีมลี ูกจ้างต่ํากวา่ 10 คน
3) การดำเนินโครงการโรงงานสีขาว ได้ดำเนินการส่งเสริมให้สถานประกอบการ
เขา้ ร่วมโครงการโรงงานสีขาว เพือ่ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบการการ
1.4 แก้ไขปญั หาหมู่บา้ น/ชุมชน และเสรมิ สร้างความเข้มแขง็ ได้ดำเนินการสง่ เสริมให้หม่บู า้ น/
ชุม ช น มี ส่วน ร่วม ใน ก ารแก้ ไขปั ญ ห ายาเส พ ติ ด ใน ห มู่ บ้ าน /ชุ ม ช น และพั ฒ น าศั กยภ าพ ขอ ง
หมู่บ้าน/ชุมชน สู่ความเข้มแข็งสามารถป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน/ชุมชน ได้อย่าง

19

มีประสิทธิภาพ โดยส่งเสริมให้หมู่บ้าน/ชุมชน ดำเนินกิจกรรมที่เก่ียวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหา
ยาเสพติด ได้แก่ การประชุมประชาคมเพ่ือค้นหาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด ในหมู่บ้าน/ชุมชน การนำผู้เสพ/ผู้ติดยา
เสพติด เข้ารับการบำบัดรักษา ฟ้ืนฟูในรูปแบบที่เหมาะสม รวมถึงการติดตามผู้ผ่านการบำบัดรักษา พื้นฟูท่ีอยู่
อาศัยในหมู่บา้ น/ ชุมชน การสำรวจผู้คา้ ยาเสพติดและผู้มีพฤตกิ ารณ์ต้องสงสยั การปิดลอ้ มตรวจค้น การจบั กุม
คดยี าเสพติดในพ้ืนท่ีหมู่บา้ น/ชุมชนในด้านการป้องกนั ปัญหายาเสพตดิ ในพน้ื ที่ ได้ดำเนินการส่งเสริม สนบั สนุน
การรณรงค์ ประชาสัมพันธ์เก่ียวกับยาเสพติดในพ้ืนที่ การจัดกิจกรรมป้องกันเยาวชนกลุ่มเสี่ยง การอบรม/
พัฒนาแกนนำกลไก ปฏิบัติงานในหมู่บ้าน/ชุมชนการจัดกิจกรรมขับเคลื่อนงานในหมู่บ้าน/ชุมชน กองทุนแม่ของ
แผ่นดิน การพัฒนาสู่การเป็นศูนย์การเรียนรู้บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง การดำเนินกิจกรรม TO BE
NUMBER ONE ในหมู่บ้าน/ชุมชน รวมถึงการดำเนนิ การ 9 ข้ันตอน ตามแผนประชารัฐรว่ มใจ ปลอดภัยยาเสพ
ตดิ

1.5 การจัดระเบียบสังคมได้ดำเนินการบูรณาการชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมพ้ืนที่แหล่ง
ม่ัวสุม เพ่ือตรวจสอบสถานบริการ สถานบันเทิง หอพัก ร้านเกมส์ ร้านอินเตอร์เน็ต โดยสั่งการให้
ชุดปฏิบัติการจัดระเบียบสังคมทงั้ ในระดับจังหวดั และอำเภอ ทุกอำเภอดำเนินการอย่างจริงจงั เพ่ือควบคุมไม่ให้
มีการทำผิดกฎหมาย ต้ังแต่การสำรวจพ้ืนที่เสี่ยง และตรวจสอบการออกใบอนุญาตสถานประกอบการหรือ
สถานบรกิ าร และบังคับใชก้ ฎหมายอยา่ งเคร่งครดั

2. การดำเนินงานและแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้านการจับกุม ปราบปรามยาเสพติด
ศนู ยอ์ ำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจงั หวดั นครศรีธรรมราชได้ประสานความร่วมมือกับหนว่ ยงาน
ที่เก่ียวข้องท้ังฝ่ายปกครองและตำรวจในการปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง เพ่ือปราบปรามผู้กระทำผิด ให้
ได้รบั โทษตามกฎหมาย โดยมีการดำเนนิ การ ดงั นี้

2.1 สอดสอ่ งดูแลและจับกมุ ผูก้ ระทำความผดิ อยา่ งต่อเนื่องและจริงจัง
2.2 การขับเคล่ือนแผนยุทธการ “นครปลอดภัยตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช”
ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สนธิกำลังฝ่ายทหารและฝ่ายปกครองดำเนินการขับเคล่ือนแผนยุทธการ
“นครปลอดภยั ตำรวจภธู รจงั หวดั นครศรีธรรมราช” ด้วยการกำหนดใหท้ ุกสถานใี นพนื้ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช
โดยบูรณาการกำลงั ระหวา่ งตำรวจ ทหารและฝา่ ยปกครอง ปฏิบตั ิการปิดล้อมตรวจคน้ เป้าหมายยาเสพติดและ
ส่งิ ผิดกฎหมายอย่างน้อยเดอื นละ 2 ครั้ง
2.3 การแก้ไขปัญหาการจำหนา่ ยยาน้ำแก้ไอ เน่ืองจากจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพ้นื ที่การ
แพร่ระบาดของพืชกระท่อมซ่ึงเป็นพืชเสพติดที่เด็กและเยาวชนนิยมเสพกันในกลุ่ม และยาน้ำแก้ไอได้ใช้เป็น
ส่วนผสมของน้ำต้มพืชกระท่อม ส่งผลให้ต้องเร่งดำเนินการ แก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง และ
ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการดำเนินการโดยเฉพาะร้านขายยา ในพื้นที่การดำเนินการแก้ไข
ปัญหาการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการอย่างต่อเน่ืองตั้งแต่ปีงบประมาณ
พ.ศ.2560

20

3. การดำเนินงานและแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้านการบำบัดฟ้ืนฟู รักษาผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด
จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินการบำบัดฟ้ืนฟูผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
โดยมรี ายละเอียด ดังนี้

3.1 การบำบัดรักษาในระบบสมัครใจ โดยการบำบัดในสถานพยาบาล และค่าย “ศูนย์
ปรับเปล่ียนพฤติกรรม” จังหวัดนครศรีธรรมราช สถานที่ดำเนินโครงการกองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัด
นครศรีธรรมราช ที่ 1 อำเภอเมอื งนครศรีธรรมราช

3.2 การบำบัดรักษาในระบบบังคบั บำบดั ซึง่ กระทำใน 2 แบบ คือ แบบควบคุมตวั และ แบบ
ไมค่ วบคมุ ตัว

3.3 การบำบัดรักษาในระบบต้องโทษ ได้แก่ เรือนจำกลางนครศรีธรรมราช เรือนจำอำเภอ
ท่งุ สง เรือนจำอำเภอปากพนัง และสถานพนิ ิจฯ

3.4 การสร้างและพัฒนาระบบรองรับการคืนคนดีให้สังคม (การติดตาม ดูแล ช่วยเหลือ) การ
ติดตาม ดแู ล ชว่ ยเหลอื ผูผ้ า่ นการบำบดั ภาพรวมในระบบ บสต.

3.5 การช่วยเหลือผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูเพ่ือคืนคนดีสู่สังคมโดยสำนักงาน ป.ป.ส. ภาค 8 ได้
ดำเนินการให้ความช่วยเหลือมอบเงินทุนประกอบอาชีพเพ่ือเป็นต้นทุนในการประกอบใช้เลี้ยงดูตนเอง และ
ครอบครัว แก่ผู้ท่ีต้องการความชว่ ยเหลือของจังหวดั นครศรธี รรมราช รายละไมเ่ กนิ 2 หมนื่ บาท

4. แจง้ เบาะแสยาเสพตดิ 1336
ชอ่ งทางการแจง้ เบาะแส

1) สายดว่ น 1386 โทรฟรี 24 ชม.
2) หนงั สือร้องเรยี น ถึง ป.ป.ส. สว่ นกลาง/ภมู ิภาค
3) แจ้งด้วยตนเองที่ ป.ป.ส.สว่ นกลาง/ภมู ิภาค
4) Websiteป.ป.ส. http://1386.oneb.go.th
ดำเนนิ การอย่างไรต่อเร่อื งรอ้ งเรยี น
1) รบั เรอ่ื งร้องเรยี นจากประชาชนทแ่ี จ้งเบาะแส
2) รวบรวมข้อมูล ตรวจสอบ และทำการคัดแยกกลุ่มผู้ถูกร้องเรยี น
3) สง่ ขอ้ มูล เรือ่ งรอ้ งเรยี นผ่านระบบฐานข้อมูล
4) เจ้าหน้าทีล่ งพ้ืนท่ี ดำเนินการอยา่ งเรง่ ดว่ น
ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ผู้กระทำผิดทีค่ วรแจ้งตอ่ เจ้าหน้าท่ี
1) ช่ือ-นามสกลุ /ชื่อเล่น/ฉายา
2) รูปพรรณสณั ฐาน เชน่ สงู ตำ่ ดำ ขาว อว้ น ผอม
3) ท่ีอยู่ เช่น หมูบ่ ้าน ตำบล อำเภอ จงั หวดั และสภาพแวดลอ้ ม
4) อาชพี
5) ยานพาหนะท่ใี ช/้ ทะเบยี น

21

6) พฤตกิ รรมการกระทำความผิด
7) ตัวยาทเ่ี ก่ยี วข้อง
8) พนื้ ทีเ่ กดิ เหตุ
การป้องกนั ยาเสพติดในสถานศึกษา
1. สรา้ งภูมคิ ุ้มกัน
ปฐมวัย พัฒนาทักษะสมอง เพ่ือวางรากฐานภูมิคุ้มกันระยะยาวด้วยความรู้เพื่อการบริหาร
จัดการชีวิต (Brain Executive Functions : EF) ให้เด็กรู้จักยับยั้งช่ังใจ ย้ังคิด ไตร่ตรอง ควบคุมอารมณ์
ยืดหยุน่ ปรับตวั
ประถม-มัธยม-อาชีวะ เสริมสร้างทักษะชีวิตให้ความรู้ควบคู่ คุณธรรมส่งเสริมกิจกรรม
เชงิ สรา้ งสรรค์ กิจกรรมกลุ่มเพอ่ื น เครอื ขา่ ยเยาวชน การเสริมสรา้ งความภาคภูมิใจในตนเอง
อุดมศึกษา เสริมสร้างทักษะสังคม การมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ส่งเสริมกิจกรรม
จติ อาสา สรา้ งพลงั การมสี ว่ นร่วม
2. คน้ หา สำรวจ การสงั เกต คัดกรอง โดยใช้ระบบดแู ลช่วยเหลอื นกั เรยี น

3. รักษากลุ่มเส่ียง ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มเสี่ยงการให้คำปรึกษา ติดตาม เย่ียมบ้าน
กลุ่มใช้ยาเสพติด ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างครู ผู้ปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ปรับความคิด
ปรับพฤติกรรม บำบัด ในรปู แบบท่เี หมาะสม สรา้ งคา่ นยิ มใหม่ สถานศกึ ษาเปิดโอกาสให้เดก็ เรียนตอ่ ตามปกติ

4. เฝ้าระวังสอดส่อง เป็นหูเป็นตา ร่วมมือกันระหว่างครู นักเรียน ผู้ปกครอง ชุมชน หน่วยงานท่ี
เกี่ยวขอ้ ง

5. บริหารจัดการการพัฒนาบุคลากร คณะทำงานที่เกี่ยวข้องการจัดทำแผนงาน งบประมาณ
การขบั เคล่ือนคณะกรรมการ

เรื่องท่ี 5 ปญั หาการลักขโมยและการพนนั จงั หวดั นครศรีธรรมราช

เด็กและเยาวชน คือ อนาคตของชาติ ท่ีควรได้รับการปกป้อง การป้องกัน ดูแล ให้เติบโตและ
เป็นผู้ใหญ่ท่ีมีคุณภาพ แต่ในขณะปัจจุบันสังคมและบ้านเมืองมีกลุ่มเด็กและเยาวชนท่ีมีพฤติกรรม
การกระทำความผิดเป็นจำนวนมาก นับวันย่ิงมีความรุนแรงเพ่ิมมากข้ึนเรื่อย ๆ และมีความซับซ้อน
ขยายเป็นวงกว้าง ซึ่งผลจากการกระทำของเด็กและเยาวชนกลุ่มน้ี นอกจากจะสร้างความเดือดร้อน
ความสะเทือนใจแก่ บิดา มารดา และญาติพี่น้อง ของตัวเด็กและเยาวชนเองแล้วน้ัน ยังส่งผลไปถึง
เหยื่อของการกระทำความผิด รวมตลอดถึง บิดา มารดา ของเหย่ือเอง ในปัจจุบันจากการกระทำความผิดของ

22

เด็กและเยาวชนมีลักษณ ะหลายรูปแบบ ไม่ ใช่แค่ความผิดทางศีลธรรมเท่านั้น แต่ได้รวมไปถึง
การกระทำความผิดทางกฎหมายของบ้านเมือง จากการท่ีเด็กและเยาวชนเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะที่แตกต่างจาก
ผใู้ หญ่ทางด้านอารมณ์ พฤติกรรมการเรยี นรู้ และความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ซ่ึงส่ิงเหล่าน้ีอาจจะเป็นสาเหตุท่ีทำให้
เกิดการกระทำความผิด ดังนั้นสถาบันครอบครัว จึงเป็นสถาบันที่มีความสำคัญ ซึ่งประเทศไทยแต่เดิม
มีลักษณะอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ สามารถดูแล อบรมส่ังสอน เด็กและเยาวชนให้เป็นคนดีได้ แต่เม่ือสภาพ
สังคมปัจจุบันเปล่ียนแปลงไป สภาพครอบครัวจึงแยกออกมาเป็นครอบครัวเดี่ยวบิดามารดาไม่มีเวลา
ในการเลี้ยงดูอบรมส่ังสอน การพัฒนาทางด้านจิตใจ ท่ีจะทำให้เป็นคนดีมีศีลธรรม ด้วยเหตุผลเหล่าน้ีจึงเป็น
โอกาสท่ีจะทำให้เกิดการชักจูงไปกระทำความผิดในส่ิงที่ไม่ถูกต้องมากขึ้นและทวีความรุนแรงมากยิ่งข้ึน
ปัญหาการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนแนวการจัดการเรียนรู้ ปัญหาการลักขโมยและการพนันเหล่านี้
จะส่งผลต่อสังคมส่วนรวม ทำให้เด็กและเยาวชนไม่สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีคุณค่า
ต่อประเทศชาติได้ เพ่ือมิให้เกิดปัญหามากกว่าเดิม จึงต้องมีการป้องกันและพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มี
การพัฒนาในทางท่ีดีย่ิงข้ึน ดังน้ันผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษาพฤติกรรมการกระทำความผิด กรณีศึกษาเด็กและ
เยาวชนที่มารายงานตัวต่อศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดสงขลา ซึ่งในการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษา
ในระหว่าง วันท่ี 27 กรกฎาคม – 14 พฤศจิกายนพ.ศ.2558 และผู้วิจัยเห็นว่าผลจากการศึกษาอาจจะช่วย
บำบัดฟ้ืนฟู ได้ตรงตามสาเหตุอาจจะเป็น ผลให้เด็กและเยาวชนท่ีกระทำความผิดเหล่าน้ีเป็นพลเมืองดีและไม่
ห ว น ก ลั บ ไ ป ก ร ะ ท ำ ค ว า ม ผิ ด ซ้ ำ อี ก แ น ะ น ำ แ ห ล่ ง ศึ ก ษ า ค้ น ค ว้ า เ พ่ิ ม เ ติ ม
http://vvvvw.hu.ac.th/conference/conference2016/

5.1 พฤตกิ รรม สาเหตุ และการปอ้ งกันการลักขโมย

เมื่อลูกมีพฤติกรรมการลักขโมย พ่อแม่ส่วนใหญ่จะเกิดความทุกข์อย่างใหญ่หลวง เน่ืองจาก
เกรงว่าต่อไปเด็กจะมีพฤติกรรมผิด ๆ ไปจนโต หรือกังวลว่าอนาคตลูกอาจกลายเป็นโจรขโมยได้ พ่อแม่หลาย
ท่านแก้ปัญหาโดยใช้อารมณ์โกรธหรือความรุนแรง ทำให้ไม่สามารถช่วยลูกได้อย่างเหมาะสมพฤติกรรม
“ขโมย” ใช้เรียกในเด็กอายุตั้งแต่ 6 ขวบ ที่หยิบส่ิงของของผู้อ่ืนโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากวัยน้ีเป็นวัยที่
เข้าใจเร่ืองสิทธิและสมบัติส่วนตัวได้เต็มท่ีแล้ว และรู้ว่าการลักขโมยเป็นสิ่งผิดตามระดับพัฒนาการ เด็กอายุ
น้อยกว่า 3 ขวบ ยังไม่เข้าใจเก่ียวกับสิทธิส่วนบุคคลหรือสมบัติส่วนตัว ไม่เข้าใจเรื่องของเรา ของเขา พ่อแม่
ควรจะพยายามสอนตั้งแต่ภายในขวบปีแรก ๆ ว่า นี่ของพี่ น่ันของพ่อ นี่ของหนู เม่ือถึงวัย 3 ขวบ เด็กเริ่มเข้าใจ
เรื่องความเป็นเจ้าของบ้าง แต่ยังต้องเรียนรู้ถึงความถูกผิดว่าส่ิงใดควรทำและไม่ควรทำอย่างต่อเนื่อง ต้องมี
การพฒั นาจรยิ ธรรม และความประพฤตทิ ่ดี ีงามจากการเล้ียงดูอบรมของพอ่ แม่ด้วยความรักและความเข้าใจ

สาเหตกุ ารลกั ขโมยของเดก็

23

1. ขาดความตระหนักถึงสิทธิส่วนตัวของตนเองและผู้อ่ืน พบได้ในสังคมแออัดที่ไม่มี
การแบ่งแยกสัดส่วนชัดเจน ไม่มีความเป็นส่วนตัว ใช้สิ่งของปะปนกัน ต้องแก่งแย่งสิ่งของกันหรืออาจพบใน
ครอบครวั ทกุ ระดบั ทไ่ี มม่ ีการสอนถงึ สทิ ธิส่วนตัวของตนเองและผู้อ่ืนอยา่ งเหมาะสม

2. การควบคุมตัวเองตํ่า อาจขโมยทั้งท่ีตนเองไม่ขาดแคลนแต่มีความอยากได้สูงมากจนไม่ทัน
ไตร่ตรอง

3. คึกคะนอง แสดงความกล้าให้เพ่ือน ๆ ดู ต้องการเป็นคนเด่นดัง มักพบในวัยรุ่นที่ไม่มี
ความมนั่ ใจในตนเอง แตต่ อ้ งการการยอมรบั จากเพอื่ น ๆ

4. ต้องการส่ิงของเพื่อมาเอาใจหรือติดสินบนเพ่ือน ๆ เพื่อให้เพื่อน ๆ ยอมรับ มักพบในเด็กท่ี
ทกั ษะทางสังคมและการสร้างสัมพันธภาพกบั คนรอบข้างไม่ดี

5. ความกลวั เดก็ อาจโดนขู่หรือบงั คบั จากคนท่ีมีอำนาจเหนอื กวา่
6. ความอิจฉา อยากมอี ยา่ งเพือ่ น ๆ
7. ความโกรธ ต้องการแก้แค้นพ่อแม่ พบในครอบครัวที่ละเลยไม่ใส่ใจความรู้สึกของเด็ก หรือ
ครอบครัวที่ควบคุมเด็กมากเกินไป ทำให้เด็กต้องการตอบสนองความรู้สึกอยากได้ของตัวเอง และเพ่ือ
แกแ้ คน้ ให้พอ่ แมร่ สู้ ึกเดอื ดร้อนบา้ ง
8. ปัญหาทางอารมณ์ มกั พบในเดก็ ท่ีขาดความรักความสนในจากผู้เลี้ยงดู เดก็ ท่ีเหงาไม่มคี วามสุข
ขาดความไวว้ างใจบคุ คลอืน่ ไมส่ ามารถสรา้ งสมั พนั ธภาพอยา่ งใกล้ชิดกับบคุ คลอน่ื ได้

การป้องกันและแกไ้ ข
1. พ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่เด็ก เช่น ไม่หยิบส่ิงของของผู้อ่ืนโดยไม่ขออนุญาตจากเจ้าของ
ถงึ แม้จะเป็นคนในครอบครัวกนั ก็ตาม
2. ปลูกฝังแนวคิดเร่ืองสิทธิส่วนตัวและสิทธิของผู้อื่นตั้งแต่วัยก่อนอนุบาล ให้เด็กมีท่ีเก็บของ
สว่ นตัว ให้เดก็ นำของไปคนื หากหยิบมาโดยไมไ่ ด้ขออนญุ าตจากเจา้ ของ
3. ค้นหาสาเหตแุ ละแกไ้ ขอย่างเหมาะสม

- ขาดความมั่นใจ : หาข้อดีของเด็กและส่งเสริม แก้ไขจุดท่ีเด็กบกพร่อง เช่น สอนทักษะทาง
สงั คม การสร้างสมั พนั ธภาพกับเพือ่ น ๆ และบคุ คลรอบขา้ ง

- ปัญหาขาดความรัก : ยอมรับในตัวเด็กและความรู้สึกเด็ก สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับเด็ก
เพ่ือใหเ้ ดก็ เกดิ ความไว้วางใจ

4. การจดั การเมอื่ เด็กลักขโมย
- สืบค้นและหาหลักฐานให้แน่ชัดว่าเด็กขโมยจริง ไม่ซักถามหรือตำหนิเกินกว่าเหตุ จนเด็ก

กลัว เพราะจะนำไปสู่การพดู ปดของเดก็ เพ่ือหลกี เล่ยี งการลงโทษ
- บอกใหเ้ ด็กรับร้วู ่าการขโมยเป็นสิ่งผดิ ไม่เปน็ ทย่ี อมรับของครอบครวั และสงั คม
- ยืนยันอย่างหนักแนน่ ใหเ้ ด็กชดใชห้ รอื นำสิง่ ของทข่ี โมยไปคนื ทนั ทที่ ราบ

24

- พ่อแม่ควรไปเป็นเพ่ือนเด็กในการคืนสิ่งของเพ่ือให้แน่ใจว่าเด็กนำไปคืนจริงหรือเพ่ือช่วย
อธิบายให้เจ้าของร้านค้าหรือเจ้าของสิง่ ของเขา้ ใจว่าเด็กหยิบของไปโดยไม่ไดช้ ำระเงินหรือไม่ได้ขออนญุ าตและ
ต้องการนำส่ิงของมาคืน ช่วยไม่ให้เด็กเกิดความอับอายเกินไป และให้เด็กได้เห็นแบบอย่างการพูดและ
แก้ปัญหาของพ่อแม่

- ไม่ควรประจานเด็กในท่ีชุมชนหรือหน้าชั้นเรียน เพ่ือให้เด็กได้มีโอกาสและเกิดกำลังใจใน
การปรบั ปรุงตวั ใหม่

- หลีกเล่ียงการบ่น วิจารณ์ หรือตราหน้าว่าอนาคตเด็กจะเป็นขโมยหรือไม่สามารถปรับปรุง
ตัวเองได้ เน่อื งจากทำให้เด็กเกิดความโกรธแคน้ มากข้ึน หรือหมดกำลงั ใจในการปรับเปล่ียนพฤตกิ รรม

5. หากแก้ไขเบอ้ื งตน้ แล้วเดก็ ยังมีปญั หาลักขโมยบ่อย ๆ ควรปรกึ ษาจติ แพทย์
แนะนำแหล่งศกึ ษาคน้ คว้าเพิม่ เติม พญ.ปราณี เมอื งนอ้ ย สถาบันสุขภาพเด็กแหง่ ชาตมิ หาราชินี

http://mcpswis.mcp.ac.th/html_ed u/cgi-bin/mcp/main_php/print_informed.php?id_count_inform=18006

5.2 การเล่นการพนนั และข้อเสนอแนะการปอ้ งกันการเลน่ การพนนั

การพนัน (อังกฤษ:gambling) หมายถึง การเล่นชนิดหน่ึงเพื่อเอาเงินหรือสิ่งอ่ืนใดด้วยการ
เสี่ยงโชค โดยการทำนายหรือคาดเดาผลที่เกิดข้ึนในอนาคต การพนันอาจแบ่งได้หลายอย่าง เช่น การพนันใน
การแข่งขันตัวอยา่ งเช่น เกมไพ่ เกมลูกเต๋า การพนนั โดยการทำนายผลท่ีคาดว่าเกิดข้ึนในอนาคต เช่น การแทง
บอล การแทงม้าและการพนันท่ีไม่มีการแข่งขันโดยข้ึนกับความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ ท่ีเกิด
เชน่ หวย

สังคมไทยมีความสัมพันธ์กับการพนันมาเป็นเวลานาน โดยการพนันเป็นส่วนหน่ึ งของ
ความบนั เทิง รวมถึงการละเล่นของสังคมไทยเป็นเวลานาน เช่น มีการกำหนดให้การพนันเป็นส่ิงที่ถูกต้องตาม
กฎหมายขึ้นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมารัฐบาลปิดโรงหวยด้วยสาเหตุ ดังนี้ (แหล่งที่มา
https://th.wikipedia.org/wiki)

1. การพนนั มผี ลกระทบต่อสังคมสงู
2. ประชาชนมคี วามหมกมนุ่
3. ไม่ทำมาหากนิ

25

4. หมดเน้อื หมดตวั
5. อาชญากรรมมากข้ึน
สังคมไทยมองว่า คนเล่นการพนันไม่ใช่คนเลว ถ้าเล่นเพื่อความสนุกสนาน สร้างความสัมพันธ์ใน
ชุมชน หรือ เล่นเพื่อเส่ียงโชค แต่กลุ่มที่เป็นปัญหาคือ “นักพนัน” เป็นคนไม่ดี เป็นคนท่ีหมกมุ่นหรือใช้เวลา
ส่วนใหญ่เพ่ือการเล่นพนัน แสวงหาท่ีจะเล่นพนันตลอดเวลา ทุกรูปแบบ ซึ่งในแต่ละชุมชนจะมีกลุ่มท่ีเป็น
ปัญหาหรือเรียกว่า “นักพนัน” ไม่กี่คน เม่ือการเล่นพนันไม่ใช่ปัญหาจึงไม่ใช่เร่ืองแปลกที่คนไทยเกือบ 77%
เคยเล่นการพนันมาแล้ว โดยผู้ที่มีอายุต่ำสุดในการเล่นพนันครั้งแรกมีอายุเพียง 7 ปี และสถานที่เล่น
การพนันคร้ังแรก ๆ มักอยู่ในบ้าน ละแวกบ้าน หรือในโรงเรยี น
คนเล่นพนันบางคนค่อย ๆ พัฒนาการเล่นจากวงเล็กไปเล่นวงที่ใหญ่ข้ึน ๆ และมีโอกาสกลายเป็น
“นักพนัน” ในที่สุด อาจารย์ผาสุก พงษ์ไพจิตร และคณะ ได้ทำการสำรวจและให้ข้อมูลในหนังสืออุตสาหกรรมการ
พนนั พบว่า ปี 2539 - 2541 ธุรกจิ การพนันผิดกฎหมายสงู สุด 3 อันดบั แรก คือ
1.1 หวยใตด้ ิน
1.2 บอ่ นเถอ่ื น
1.3 พนันฟุตบอลการพนันเหลา่ น้ีทำเงนิ ใหก้ บั ผู้ให้บริการการพนันสูงถึง 138,000-277,000 ล้าน
บาทต่อปี
อีก 1 รอบนักษัตรต่อมา สถาบันวิจัยสังคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการ สำรวจสถานการณ์
การพนันซ้ำอีกรอบ พบว่า ปี 2553 หวยใต้ดินยังครองแชมป์อันดับหน่ึงของการพนันไทยควบคู่กับสลาก
กินแบ่งรัฐบาล โดยมีการพนันในบ่อนและการพนันฟุตบอลติดอันดับตามมา และประมาณการจำนวนเงิน
ที่สะพดั ในอุตสาหกรรมการพนันตลอดทงั้ ปีสงู ถึง 357,275 ล้านบาท
5.2.1 หวยใต้ดนิ และสลากกนิ แบง่ รัฐบาล
เป็นการพนันที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ปี 2553 มีจำนวนคนเล่นหวยใต้ดินและสลากกินแบ่ง
สูงพอ ๆ กัน คือ เกือบ 20 ล้านคน มีเงินหมุนเวียนรวมกันตลอดท้ังปีสูงถึง 178,827 ล้านบาท หวยใต้ดิน
ที่มีจำนวนผู้เล่นมากท่ีสุด และมีวงเงินเล่นพนันสูงสุดผูกติดกับการออกรางวัลสลากกินแบ่งเดือนละ 2 ครั้ง
ส่วนหวยอ่ืน ๆ เช่น หวยหุ้น หวยปิงปอง จับย่ีกี่ หวยต่างประเทศ ท้ังประเทศลาว กัมพูชา มาเลเซีย สิงคโปร์
ฯลฯ เป็ น การเล่น ใน กลุ่มเฉพ าะ สลาก กินแบ่ งก็ได้รับความนิ ยมไม่น้ อย ปั จจุบั นสลากกินแบ่ ง
มียอดพิมพ์จำหน่ายงวดละ 68 ล้านฉบับ เป็นสลากกินแบ่งรัฐบาล เอากำไรเข้าคลัง 50 ล้านฉบับ และสลาก
การกศุ ล เอาเงินไปให้องค์กรสาธารณะตามที่ปรากฏบนหน้าสลาก 18 ล้านฉบบั
ปัญหาใหญ่ตอนนี้คือ การขายสลากเกินราคา จาก 80 บาท ขายกันจริง ๆ 100 - 120 บาทต่อ
ฉบับ ส่วนต่าง อีก 25 - 50% นั้น รัตพงษ์ สอนสุภาพ และศรัณย์ ธิติลักษณ์ ทำวิจัยเรื่องน้ีพบว่า
เกิดจากโครงสร้างการกระจายสลาก ที่มีลักษณะกระจุก ทำให้เกิดการผูกขาดและมีการปั่นราคา
ล่าสดุ เกดิ กรณปี ัญหาแชร์ลกู โซส่ ลากกนิ แบง่

26

5.2.2 พนันทายผลการแข่งขันฟตุ บอล
เป็นการพนันที่เติบโตรวดเร็วมากในช่วง 4 - 5 ปี มาน้ี เฟื่องฟูข้ึนตามการพัฒนาเทคโนโลยี
สารสนเทศ ปี 2553 มีจำนวนคนเล่นพนันบอลสูงกว่าล้านคน มีเงินหมุนเวียนตลอดปีสูงถึง 38,005
ล้านบาท กระแสการเล่นพนันบอลที่กระจายสู่สังคมวัยรุ่น ทำให้นักศึกษาท่ีแม่โจ้ รัฐชาติ พรรษาและคณะ
ทำการศึกษาเร่ืองพนันฟุตบอลรอบร้ัวมหาวิทยาลัย เม่ือปี 2553 พบว่า นักศึกษาท่ีเล่นพนันบอลมากสุดคือ
ช้ันปี 3 และนักศึกษาส่วนใหญ่คิดว่า นักศึกษาที่เล่นพนันบอลส่วนใหญ่สามารถรับผิดชอบผลการเรียน ได้
มเี พียงบางกลมุ่ ที่ได้รบั ผลกระทบ เพราะเล่นการพนันเกินรายได้ทำให้มีปัญหาหนี้สิน ต้องนำเวลามาหาเงนิ ใชห้ น้ี
พนัน และบางรายมีปัญหาถูกทวงหนี้แบบนอกระบบ การขยายตัวของการพนันในรั้วมหาวิทยาลัย จะทำให้
นักศึกษากลุ่มหลังมัวเมากับการเล่นพนัน ใช้เวลาและความคิดกับการพินิจพิจารณาว่าจะเล่นทีมไหน
รอลุ้นผลการแข่งขันจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เกิดความเครียดและความเสื่อมถอยทางสุขภาพจิต สุขภาพกาย
แต่อะไรทำให้นักศกึ ษากลุ่มหลังก้าวเข้าสู่วังวนแห่งปัญหา รฐั ชาติและคณะมิไดก้ ล่าวถึง ดังนั้น การหาทางแก้ไข
จึงยงั ไมป่ รากฏ

ผใู้ หญ่คดิ อย่างไรกบั การพนนั ฟุตบอล
ผู้นำชุมชนคิดถึงผลกระทบ และกังวลว่า ในไม่ช้าจำนวนผู้เล่นพนันบอลจะแซงหน้าคนเล่นหวย
เน่อื งจากมปี จั จยั สนบั สนนุ หลายประการ เช่น

1) การเล่นพนันบอลมีลักษณะแอบแฝงกับการกีฬา ทำให้ผู้เล่นรู้สึกไม่ถูกเพ่งเล็ง สามารถ
อ้างว่าสนใจกีฬามากกว่าเล่นการพนัน การพนันเป็นเพียงผลพลอยได้ เป็นส่วนเสริมและที่สำคัญการพนันที่
แทรกมากับกีฬายังถอื เปน็ การเล่นพนนั อีกระดบั หนึง่ ที่ “ดูเท”่ ไม่ไดเ้ ล่นเอารวยเหมือนการพนนั ชนดิ อนื่ ๆ

2) การเล่นพนันบอลทำได้ง่าย โพยบอลกระจายไปทั่ว ส่ือนำเสนอเน้ือหาสนับสนุน กระตุ้น
ให้รู้สกึ ว่าเลน่ พนันฟุตบอลเป็นเรื่องธรรมดา

3) ในหลายจังหวัด เย็นวันศุกร์และเสาร์ ท้องถนนจะมีบรรยากาศแบบวัยรุ่น ตามร้านขาย
อาหาร ร้านเหลา้ เล็ก ๆ จะต้ังทีวถี า่ ยทอดสดฟุตบอล วยั รุ่นมาน่ังกินดื่ม เล่นพนันและเชียรบ์ อลและเหตุผลส่วน
บุคคลของนักศึกษาท่ีเลน่ พนันบอล คอื

- ความตอ้ งการรายได้ เพื่อใหก้ ารใชช้ วี ิตมีความสุขสบายมากขึน้
- อิทธิพลของสื่อ โดยเฉพาะหนังสือวิเคราะห์เกมฟุตบอลและหนังสือพิมพ์กีฬา เช่น
สปอร์ตพลู ก้อรส์ ปอร์ตแมน
- อทิ ธิพลจากสงิ่ แวดล้อมด้านที่พกั อาศัย
- อิทธิพลจากกลมุ่ เพือ่ น
ขอ้ เสนอแนะและการปอ้ งกันการพนัน
การใจจดใจจ่ออยู่กับการพนันเป็นเวลานานมีโอกาสทำให้ใจหงุดหงิด ก้าวร้าว ถูกกระตุ้น
ทางอารมณ์เพียงเล็กน้อยก็ทนไม่ได้ นอกจากน้ีทำให้เสียเวลา เสียสมาธิในการเรียนการทำงาน อีกทั้ง

27

สัมพันธภาพในครอบครัวก็ด้อยลงไป ท่ีน่ากลัวที่สุดคือการเป็นหน้ีสิน ต้องหาเงินมาใช้ เม่ือไม่มีก็ถูกขู่ทำร้าย
บางรายถงึ แกช่ ีวติ กม็ ี สำหรับคำแนะนำ 7 แนวทางในการป้องกนั เพ่อื ไม่ให้ติดการพนัน มีดังนี้

1) สถาบันครอบครัว ถือว่ามีความสำคัญที่สุดในการสร้างเกราะป้องกันให้เยาวชน การดูแลเอา
ใจใส่อย่างใกล้ชิดคงไม่เพียงพอ ถ้าไม่แสดงให้บุตรหลานเห็นว่าการเล่นก ารพนันเป็นตัวนำพา
ความหายนะมาสู่ครอบครัว ดังนั้น ท่าทีของพ่อแม่ผู้ปกครองถือว่าเป็นเร่ืองสำคัญท่ีต้องแสดงให้เห็นว่า
เอาจริง อย่าทำแค่เพียงขู่ หรือปลง หรือเซ็ง และก็ปล่อยให้ผ่านไป เพราะน่ันจะเป็นตัวแสดงให้เห็นว่า
พอ่ แม่หรอื ผู้ปกครองจรงิ จงั ดว้ ย

2) การเอาจริงไม่จำเป็นต้องอาศัยความเกรี้ยวกราด ความรุนแรง ก้าวร้าวก็ได้ วิธีการที่
นุ่มนวลในการค่อย ๆ ทำความเข้าใจ มีความอดทนในการแก้ปัญหาของบุตรหลานที่เกิดขึ้น จะเป็นสิ่งที่
ทำให้บุตรหลานท่ีมีปัญหาเหล่าน้ัน ยังคงอยู่ในสายตาของครอบครวั ได้ดีกว่าใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาจน
เตลิดไป

3) ร่วมกันช่วยคิดช่วยแก้ปัญหา เม่ือบุตรหลานเกิดปัญหาจากการเล่นพนัน ถ้าแก้ไม่ได้หรือคิด
ไม่ออก ให้พยายามปรึกษาหน่วยงานภาครัฐท่ีสามารถให้คำปรึกษาได้ เช่น หน่วยงานทางด้านการดูแล
สุขภาพจิต หน่วยงานของสถานศึกษา เป็นตน้

4) สนับสนุนให้มีการดึงผู้ติดการพนันออกไปสู่กิจกรรมที่สร้างสรรค์ เช่น การออกกำลังกาย
การสร้างกิจกรรมท่ีส่งเสริมสัมพันธภาพอันดีให้กับคนในครอบครัว ลดการตำหนิติเตียน แต่หันมาชื่นชม
เมอ่ื บุตรหลานที่ตดิ การพนนั เหลา่ น้ันสามารถทำสงิ่ ท่ดี ี ๆ และสรา้ งสรรค์ให้เกิดข้ึนได้

5) สังคมและครอบครัวต้องร่วมมือกันสร้างค่านิยมใหม่ เช่น ค่านิยมของการพอเพียง
การไม่คิดรวยทางลัด เพราะมีโอกาสจะประสบความสำเร็จได้น้อยกว่าการมีความขยันหม่ันเพียรอย่างแท้จริง
ไม่ให้ความสำคัญกับคนท่ีดูเหมือนจะเป็นแบบอย่างของเยาวชนแต่ทำตัวไม่ดี ค่านิยมการสนใจกีฬา
โดยไม่ต้องมกี ารพนันเข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงรว่ มกนั รณรงคต์ ่อต้านการเล่นการพนนั ฟุตบอลอย่างสมำ่ เสมอ

6) ผู้ที่ติดการพนันฝึกเอาชนะใจของตนเองให้ได้บ่อยครั้งและช่ืนชมตัวเองทุกครั้งท่ีทำ
สง่ิ เหลา่ นี้ได้

7) เม่ือทำทุกวิถีทางไม่ได้แล้ว อีกหนทางหน่ึงที่พอจะช่วยบรรเทาได้ก็คือการมาปรกึ ษาบุคลากร
ทางด้านสุขภาพจิต มีหลายรายท่ีได้รับการรักษา เช่น รบั ประทานยา การทำจิตบำบัด หาสาเหตุต้นตอของการ
ลุ่ ม ห ล งก ารติ ด ให้ ได้ ก็ ช่ ว ย ล ด ค ว าม รุน แ รงข อ งก ารติ ด พ นั น บ อ ล ล งได้ พ อ ส ม ค ว ร แ น ะ น ำ
แหลง่ ศกึ ษาค้นควา้ เพมิ่ เติมhttp://www.smartteen.net/main/index.php?

28

วิธีการรักษาโรคติดการพนนั ฟุตบอล
โรคติดการพนัน สามารถบำบัดรักษาได้ด้วยการทำพฤติกรรมบำบัด และการรักษาด้วยยา
ซง่ึ ตอ้ งอยู่ในการดแู ลของจิตแพทย์ และผ้ปู ่วยที่เป็นโรคติดการพนันเป็นบุคคลทตี่ ้องการกำลังใจจากบุคคลรอบ
ข้างเป็นอย่างมาก เพ่ือช่วยสนับสนุนการรักษาดังกล่าว การป้องกันไม่ให้เป็นโรคติดการพนัน โดยเฉพาะอย่างย่ิง
การพนันฟตุ บอล มดี งั ตอ่ ไปน้ี
1) ตระหนักว่าฟุตบอลเป็นกีฬา กล่าวคือ ดูฟุตบอลด้วยความรู้สึกและความคิดว่า เป็นกีฬาที่ให้
ความสนุกสน าน และควรหาโอกาสเล่นฟุ ตบ อลจริง ๆ ด้วย โดยเฉพ าะเยาวชน จะได้รู้สึกถึง
ความสนุกสนานเพลิดเพลิน จากการเล่นฟุตบอลจริง ๆ และพยายามจะเอาชนะจากการเล่นเกมส์จริงแทน
การรู้สึกสนุกจากการชมและอยากเอาชนะด้วยการพนันบอล และควรใช้ทักษะในการปฏิเสธพร้อมท้ัง
เดนิ หนีออกจากสถานการณเ์ มื่อถูกผู้อน่ื ชกั ชวนให้เลน่ พนัน
2) อยใู่ นสง่ิ แวดลอ้ มที่ดี ควรอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มท่ีไมย่ ั่วยตุ ่อการเลน่ พนันฟุตบอล และหลีกเลี่ยง
สมาคมกับผทู้ เ่ี ล่นการพนนั ฟตุ บอล
3) ไม่ทดลองเล่น การทดลองเล่นการพนันไม่ว่าจะได้หรือเสีย ก็จะมีส่วนกระตุ้นให้สารส่ือ
ประสาทโดปามีนหลั่ง อาจทำให้รู้สึกสนุกอิ่มเอมขณะเล่น แต่ในขณะเดียวกันอาจรู้สึกตึงเครียดและ
อยากเพมิ่ ปรมิ าณการเลน่ มากยง่ิ ขน้ึ และอาจจะทำให้ติดการพนันมากขนึ้ ได้
4) หลีกเล่ียงจากส่ิงยั่วยุต่าง ๆ ท่ีจะทำให้รู้สึกอยากจะเล่นการพนัน กล่าวคือ การศึกษาบท
วเิ คราะห์ วิธีการ ประสบการณ์ เปรียบเทียบทีมตา่ ง ๆ อาจมีส่วนดีบ้างในการศึกษาเกมส์กีฬา แต่ผลกระทบทำ
ให้เห็นแนวโน้มความน่าจะเป็นของการแพ้ชนะ จึงอาจย่ัวยุให้อยากเล่นการพนัน ย่ิงอยู่ในส่ิงแวดล้อมที่เล่น
การพนนั ด้วย ย่ิงเสย่ี งตอ่ การอยากลองเล่น เม่ือทดลองเล่นแลว้ ชนะได้เงนิ ก็ยง่ิ ไดใ้ จอยากเลน่ มากย่งิ ข้ึน รวมถึง
การทำนายผลแพช้ นะจากสื่อต่าง ๆ ก็มสี ว่ นยวั่ ยใุ หเ้ กดิ การเล่นการพนันฟตุ บอลได้เช่นกนั

วิธีการปอ้ งกนั และแนวทางการพนันจงึ เปน็ ส่งิ ทค่ี วรหลีกเล่ยี งโดยมีคำแนะนำดังน้ี
1) ไม่เล่นการพนัน

- ไมป่ ลกู ฝงั การเล่นการพนันตง้ั แตเ่ ด็ก
- พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู เปน็ แบบอย่างทด่ี แี ละชี้แนะอันตราย/โทษของการเลน่ การพนัน
- ทำจิตใจใหเ้ ขม้ แข็ง ม่งุ ปฏิบัติหน้าท่ีการงาน
2) ไมค่ บบคุ คลท่ีเลน่ การพนนั
- ร้จู ักปฏเิ สธเม่อื ถูกชักชวนใหเ้ ล่นการพนนั
3) ไมส่ นับสนุน และตอ่ ต้านการเลน่ การพนันทุกชนดิ
- สร้างกระแสและใชม้ าตรการทางสังคม ในการต่อต้านบุคคลหรอื กลุม่ บุคคลท่เี ล่นการพนนั

29
- ร่วมมือกับเจ้าหน้าท่ีของรัฐในการชี้เบาะแส หรือใช้มาตรการทางกฎหมายต่อต้าน
การเล่นการพนนั
4) ส่งเสรมิ ให้เด็กเยาวชนและบุคคลในครอบครวั มคี วามรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ครอบครัวและสังคม
- ครอบครัวควรส่งเสริมปลูกฝังคา่ นิยมในเรื่องของคุณธรรม ความซ่ือสัตย์สจุ ริตพอใจในความ
เปน็ อยอู่ ย่างพอเพียง ไมโ่ ลภ
5) ทำกิจกรรมทเ่ี ป็นความสขุ สนกุ สนานและสรา้ งสรรคภ์ ายในครอบครัว
- หากิจกรรมทำร่วมกัน หรือใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สร้างความสุข สนุกสนาน และ
สร้างสรรค์ ภายในครอบครัว แทนการเล่นการพนัน เช่น เล่นกีฬา อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย เป็นต้น แนะนำ
แหลง่ ศึกษาค้นคว้าเพ่มิ เติม

https://sites.§๐๐§๒.com/site/payhasukhphaphcit/home/withi-kar-raksa-rokh- tid-kar-phnan

เร่อื งท่ี 6 ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจในจังหวัดนครศรธี รรมราช

โดยทั่วไปเศรษฐกิจของจังหวัดนครศรีธรรมราช ข้ึนอยู่กับผลผลิตทางด้านการเกษตร การอุตสาหกรรม
การทำเหมืองแร่ และการค้า อาชีพหลัก คือ การทำสวนยางพารา ทำนา ทำไร่ ทำสวนผลไม้ การประมง และ
การเลี้ยงสัตว์ การเกษตร จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพ้ืนท่ีเพ่ือการเกษตร 3.06 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 49.23
ของพืน้ ทีท่ ง้ั หมด พชื เศรษฐกิจทสี่ ำคญั ไดแ้ ก่ ยางพารา ข้าว ไมผ้ ล ปาล์มนำ้ มัน

30

การท่องเที่ยว จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นเมืองประวัติศาสตร์ มีแหล่งท่องเท่ียวธรรมชาติ
เชิงอนุรักษ์ และสถานท่ีสำคัญทางประวัติศาสตร์ โบราณ สถาน โบ ราณ วัตถุ และสถานท่ีสำคัญ
ทางพระพุทธศาสนา

การทำเหมืองแร่ จังหวัดนครศรีธรรมราช มีเหมืองแร่ท้ังสิ้น 53 เหมือง แร่ท่ีสำคัญ ได้แก่ ยิปซั่ม
หินปูน (สำหรับอุตสาหกรรมซีเมนต์ และอุตสาหกรรมก่อสร้าง) โดโลไมต์ แบไรต์ เฟลด์สปาร์
ดินอุตสาหกรรม (ซีเมนต์) เศรษฐกิจจึงมีความสำคัญต่อครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ เพราะเป็น
เร่ืองของการทำมาหากินของมนุษย์ เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทองไว้ใช้จ่าย เพ่ือแลกเปล่ียนกับปัจจัยต่าง ๆ
ท่ีมีความสำคัญ ต่อการดำเนินชีวิต บุคคลท่ีมีรายได้เพียงพอจากการประกอบอาชีพ ไม่มีหน้ีสิ น
มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจทำให้สามารถเลี้ยงดูตนเอง ตลอดจนครอบครัวได้ เม่ือทุกครอบครัวมี
ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ชุมชนและสังคมก็มีความมั่นคงตามมา ส่งผลถึงความม่ันคงทางเศรษฐกิจของประเทศ
ในท่ีสุด เศรษฐกิจจึงเป็นเคร่ืองมือในการจัดความเป็นอยู่ของคนในประเทศ ดงั น้ัน ในการศึกษาภาวะเศรษฐกิจของ
ค รอ บ ค รัว แ ล ะชุ ม ช น จึ งค ว รมี ค ว าม รู้ค ว าม เข้ าใจ เก่ี ย ว กั บ ค ว าม ห ม าย ข อ งเศ รษ ฐ กิ จ แ ล ะ
ความเกี่ยวข้องของเศรษฐกิจกับครอบครัวและชุมชน ลักษณะของระบบเศรษฐกิจไทย และสภาพการมีงานทำของ
คนไทย

เศรษฐกจิ จึงเป็นเร่ืองเกีย่ วกับการผลิต การจำหน่ายจ่ายแจก การบริโภคสินค้าและบริการของบุคคล
ซ่ึงเป็นผู้บริโภคทั้งในระดับปัจเจกบุคคล ครอบครัว ชุมชน และประเทศ ภายใต้ทรัพยากรต่าง ๆ ที่มีอยู่อย่าง
จำกัด

ความเก่ียวข้องของเศรษฐกิจกับครอบครวั และชุมชน ในชีวิตประจำวันของคนทุกคน มีส่วนเก่ียวข้อง
กบั กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ การบริโภค การผลิต และการซ้ือขายแลกเปล่ียน โดยบุคคลที่ดำเนิน
กิจกรรมทางเศรษฐกิจ เรียกว่า หน่วยเศรษฐกิจ ประกอบด้วย ผู้บริโภค ผู้ผลิต และเจ้าของปัจจัยการผลิต

31

ซ่ึงหน่วยเศรษฐกิจ ต่าง ๆ ไม่สามารถแบ่งแยกจากกันได้เด็ดขาด ทั้งนี้เพราะผู้บริโภคสามารถเป็นผู้ผลิตสินค้า
หรือบริการต่าง ๆ หรือเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตได้ คือ เป็นเจ้าของท่ีดิน แรงงาน ทุน ขณะเดียวกันผู้ผลิต
สินค้าและบริการ หรือเจ้าของปัจจัยทางการผลิตก็เป็นผู้บริโภคสินค้าและบริการเช่นกัน ครอบครัวและชุมชน
จงึ ตา่ งก็มีบทบาทเปน็ ทัง้ ผผู้ ลติ ผบู้ ริโภค และเจ้าของปัจจัยทางการผลิต

6.1 ความเกยี่ วข้องของเศรษฐกิจกบั ครอบครวั

ความเก่ยี วข้องของเศรษฐกจิ กบั ครอบครวั โดยทั่วไปครอบครัวมคี วามสัมพนั ธ์กบั เศรษฐกจิ ใน
3 ลักษณะ คือ

1) การเป็นผู้ผลิต ครอบครัวเป็นหน่วยการผลิตที่สำคัญ โดยพ่อแม่เป็นผู้ประกอบอาชีพเพื่อให้
ได้เงินมาใช้จ่ายในครอบครัวและเลี้ยงดูสมาชิก ในอดีตพ่อเป็นผู้มีหน้าท่ีหลักในการทำงานเพ่ือหาเล้ียง
ครอบครัว แต่ปัจจุบันทั้งพ่อและแม่ในครอบครัวส่วนใหญ่ มีหน้าที่ร่วมกันในการทำงานหาเงินมา
เลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัว นอกจากครอบครัวจะมีรายได้จากการประกอบอาชีพภายนอกครอบครัวแล้ว
บางครอบครัวยังเป็นหน่วยการผลิตเอง คือ สามารถผลิตสินค้าหรือบริการเพื่อขายให้กับคนอื่น ๆ ภายนอก
ครอบครวั และมีรายได้จากการขายสนิ ค้าและบริการนน้ั ๆ เพ่อื นำมาใช้จ่ายในครอบครัว

2) การเป็นผู้บริโภค ครอบครัวเป็นผู้บริโภคเพราะเป็นผู้ใช้สินค้าและบริการต่าง ๆ เพื่อ
ตอบสนองความต้องการของตน ท้ังสินค้าและบริการท่ีมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต สินค้าและบริการเพื่อ
อำนวยความสะดวกแก่ชีวิต หรือแม้กระท่ังสินค้าและบริการที่เป็นความฟุ่มเฟือย ผู้ผลิตสินค้าและบริการ
จึงผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ ข้ึน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และครอบครัวก็จะพยายาม
หารายไดเ้ พื่อมาใช้จ่ายสำหรับการซื้อสินค้าและบริการที่ตอ้ งการ

3) การเป็นเจ้าของปัจจัยผู้ผลิต ครอบครัวเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต ได้แก่ ที่ดิน แรงงาน ทุน
และความสามารถในการประกอบการ ซ่ึงสามารถนำปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ท่ีมีอยู่ไปให้ผู้ผลิตหรือหน่วยธุรกิจ
เพ่ือผลิตเป็นสินค้าและบริการ โดยได้รับค่าตอบแทนในรูปของ ค่าเช่า ค่าจ้าง กำไรหรือดอกเบี้ย ครอบครัวใดเป็น
เจ้าของปัจจัยการผลิตมาก ย่อมมีโอกาสทางเศรษฐกิจดีกว่าหรือมีความมั่งคั่งกว่าครอบครัวท่ีมีปัจจัยการผลิตน้อย
หรอื ขาดแคลนปัจจยั การผลิต

6.2 ความเกีย่ วขอ้ งของเศรษฐกจิ กบั ชุมชน

ความเก่ียวข้องของเศรษฐกิจกับชุมชนเป็นการรวมตัวกันของกลุ่มคนท่ีมาอยู่ร่วมกันในพ้ืนที่ใกล้เคียง
หรือเป็นอาณาเขตพ้ืนท่ีที่มีคนมาอยู่ร่วมกัน ซ่ึงอาจมีความคล้ายคลึงกันอย่างใดอย่างหน่ึง เช่น เชื้อชาติวัฒนธรรม
ศาสนา อาชีพ และวิถีชีวิต คนในชุมชนมีผลประโยชน์ร่วมกันท้ังด้านความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินสังคมและ
เศรษฐกิจโดยชุมชนมคี วามสมั พนั ธก์ บั เศรษฐกิจใน 3 ลกั ษณะ เชน่ เดียวครอบครวั คอื

1) การเป็นผู้ผลิต คนในชุมชนสามารถรวมตัวกันเพ่ือผลิตสินค้าและบริการต่าง ๆ เพ่ือใช้บริโภค
ภายในชุมชน หรือถ้ามีจำนวนมากเกินความต้องการหรือมีกำลังในการผลิตมากก็สามารถนำไปขายให้กับคนท่ี
อยู่ภายนอกชุมชน ซ่ึงถือเป็นการพัฒนาท้องถิ่นของตน ทำให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งตนเองได้เพราะ
สามารถสรา้ งงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้ใหก้ บั คนในชมุ ชน

32

2) การเป็นผู้บรโิ ภค ชุมชนเปน็ แหล่งท่ีมีการบริโภคสินค้าและบริการจำนวนมากและสินคา้ และ
บริการ มักมีความหลากหลายตามความต้องการและความจำเป็นในชีวิตของคนในชุมชน ชุมชนใด
ที่คนมีกำลังทรัพย์ในการช้ือสินค้าและบริการมาก มักเป็นชุมชนที่มีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดี คนในชุมชน
มีความม่ันคงทางเศรษฐกจิ

3) การเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิต คนในชุมชนเป็นเจ้าของปัจจัยการผลิตไม่เท่าเทียมกัน
บางครอบครัว ครอบครองปัจจัยการผลิตมาก ขณะที่บางครอบครัวครอบครองปัจจัยการผลิตน้อย ซ่ึงมีผลต่อ
การนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ เช่น ชุมชนที่มีพื้นที่ทางการเกษตรมากก็สามารถปลูกพืชได้
จำนวนมาก ทำให้เกษตรกรมีรายได้มาก แต่ถ้าคนในชุมชนไม่มีท่ีดินทำกิน ก็จะประกอบอาชีพด้วย
ความยากลำบาก ตอ้ งไปเช่าทีด่ ินของคนอื่นทำมาหากนิ เปน็ ต้น

6.3 ปัญหาสำคัญด้านเศรษฐกิจในจงั หวดั นครศรีธรรมราช

ปัญหาสำคัญด้านเศรษฐกิจในจังหวัดนครศรีธรรมราช จากแผนพัฒนาจังหวัดพบปัญหา
ด้านเศรษฐกิจในจงั หวัดนครศรธี รรมราช ดังน้ี

1) ราษฎรส่วนใหญ่ทำอาชีพเกษตรเชิงเดี่ยว รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ยามราคาผลผลิตตกต่ำ
ทำใหเ้ กดิ ภาวะหนีส้ นิ ในครวั เรือน

2) ราษฎรไมม่ อี าชีพเสรมิ และราษฎรขาดองค์ความรใู้ หม่ ๆ ท่จี ะนำมาส่งเสรมิ และพัฒนาอาชพี
3) แหล่งท่องเที่ยวไม่ได้รับการพัฒนาที่สามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้แก่คนในชุมชนและ
ขาดการประชาสัมพนั ธ์
4) ปญั หาภยั พิบัติจากธรรมชาติ ได้แก่ น้ำท่วม น้ำแลง้ ดินโคลนถลม่ ลมพายุ ฯลฯ
5) ปญั หาราษฎรขาดทอี่ ยูอ่ าศัย
6) การขาดพืน้ ท่ีเอกสารสิทธิในทดี่ นิ ทำกนิ
7) ปญั หาการขาดวัตถุดบิ ป้อนการผลิตสินค้าในชุมชน
8) ขาดการรวมกลมุ่ ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน
9) ขาดการสนบั สนุนจากรฐั อย่างครบวงจร
10) ปญั หาขาดแคลนแหล่งกักเก็บน้ำเพ่ือการอุปโภค บริโภค และการเกษตร
11) ปัญหาถนนเสน้ ทางคมนาคมไม่สะดวก
12) ปัญหาการรวมกลุ่มในเชิงการผลิต และการกำหนดราคาในการขายผลผลิต การผลิตภาค
การเกษตร ไม่สามารถพึ่งตนเองได้
13) ปญั หาการวา่ งงานของคนในชมุ ชน
จากปัญหาด้านเศรษฐกจิ ขา้ งต้นสรปุ ได้ ดงั น้ี
ปัญหาเศรษฐกิจของครอบครัว ซ่ึงได้แก่ ความยากจน การมีหน้ีสิน และการว่างงานเป็นปัญหาที่
เก่ียวข้องกับรายรับ-รายจ่าย ที่ทำให้ครอบครัวมีความเดือดร้อนปัญหาดังกล่าว มีผลกระทบต่อชีวิตครอบครัว

33

คือ การไม่สามารถพ่ึงพาตนเองได้ทางเศรษฐกิจ ปัญหาสัมพันธภาพในครอบครัว สุขภาพกายและสุขภาพจิต
เส่อื มโทรม ความไมป่ ลอดภยั ในชวี ิตและทรัพย์สินและการขาดโอกาสทางสังคมและเศรษฐกิจ

ปัญหาเศรษฐกิจของครอบครัวจึงส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัว ท้ังด้านความเป็นอยู่
ความปลอดภัยและความสัมพันธ์ในครอบครัว ครอบครัวที่มีปัญหาเศรษฐกิจจึงมักขาดความสุขและ
ขาดคุณภาพชวี ติ

ปัญหาเศรษฐกิจของชุมชน ได้แก่ ปัญหาความไม่สมดุลของภาคเศรษฐกิจ ปัญหาความยากจน และ
ปญั หาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ เป็นปัญหาท่ีเป็นผลมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
ปัญหาเหล่านี้มีผลกระทบต่อชีวิตของคนในชุมชน คือ การอพยพย้ายถิ่น การทำลายทรัพยากรธรรมชาติ การ
ไมไ่ ด้รับความเปน็ ธรรม ทางสังคม การเปลี่ยนแปลงของวถิ ชี วี ิตของคนในชุมชน และการเปล่ยี นผูถ้ ือครองทดี่ ิน

ปัญหาเศรษฐกิจของครอบครัวจึงส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัว ท้ังในด้านความเป็นอยู่
ความปลอดภัยปัญหาเศรษฐกิจของชุมชนและผลกระทบท่ีเกิดขนึ้ ทำให้คนในชุมชนมีชวี ิตท่ีเปลี่ยนแปลงไปจาก
ในอดีต ทั้งการดำรงชีวิต การทำงาน ความเจริญต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนในภาคเศรษฐกิจน้ีไม่ได้มีเฉพาะผลดี
ต่อชมุ ชนเท่านัน้ หากยงั มีผลเสียต่อคนในชมุ ชนโดยรวม

6.4 แนวทางการแก้ปญั หา

1) ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาที่ชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตของบุคคล
ทุกระดับ โดยให้ใช้ทางสายกลางในการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะเร่ืองเศรษฐกิจประกอบด้วยคุณลักษณะ
3 ประการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี โดยมีเงื่อนไข 2 ประการ คือ
ความรู้และคุณธรรม ซ่ึงการใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจะเป็นแนวทางในการจัดการเศรษฐกิจของ
ครอบครัวและชมุ ชนได้

2) แนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของครอบครัวที่ทุกครอบครัวสามารถจัดการได้ด้วย
ตนเอง คือ การปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายของครอบครัว และการจัดทำบัญชีครัวเรือน ซึ่งครอบครัวควรนำ
ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง มาเปน็ แนวคิดหลกั ในการดำเนนิ การ

3) แนวทางการแก้ไขบัญหาเศรษฐกิจของชุมชน จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากคน
ในชุมชนน้ัน ๆ รวมท้ังได้รับการช่วยเหลือและสนับสนุนจากภาครัฐเพราะเป็นเรื่องของคนส่วนรวม
ซึ่งการช่วยเหลือจากภาครัฐ จะเป็นการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนเพื่อการประกอบอาชีพ
ผ่านการดำเนินการต่าง ๆ ไดแ้ ก่ กลมุ่ ออมทรพั ย์ เพ่ือการผลิต วสิ าหกิจชมุ ชน และกองทนุ ตา่ ง ๆ

แนวทางปฏบิ ตั ิ
1. ปรับพฤติกรรมการใชจ้ า่ ยในครอบครวั
2. ทำบัญชรี บั - จา่ ยแบบเศรษฐกิจพอเพยี งและเพมิ่ การออม
3. ลดรายจา่ ยโดยปลูกผกั สวนครวั รัว้ กินได้ เลี้ยงสตั วต์ ามวิถีชุมชน

34

เดือน รายการ บญั ชีรับ - จา่ ยประจำปี หมายเหตุ
มกราคม รายรบั รายจา่ ย คงเหลือ รายจา่ ยทีไมจ่ ำเป็น
กุมภาพันธ์
มีนาคม
เมษายน
พฤษภาคม
มถิ ุนายน
กรกฎาคม
สิงหาคม
กนั ยายน
ตลุ าคม
พฤศจิกายน
ธันวาคม

รวม

เร่อื งที่ 7 การมจี ิตสาธารณะ

การสร้างให้ประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีจิตสำนึกเพ่ือส่วนรวม มีความตระหนักและ
คำนึงถึงการมีส่วนร่วม และ มีความรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเองและพร้อมท่ีจะเสียสละประโยชน์ ส่วน
ตนเพ่อื รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม

7.1 ความหมายของจติ สาธารณะ

การปลูกฝังจิตใจให้บุคคลมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เป็นการสร้างคุณธรรมจริยธรรมซึ่ง
เป็นเรื่องท่ีเกิดจากภายใน “จิตสาธารณะ” เป็นส่ิงหน่ึงที่มีความสำคัญในการปลูกจิตสำนึกให้คนรู้จักเสียสละ

35

ร่วมแรงร่วมใจ มีความร่วมมือในการทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม ช่วยลดปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม ช่วยกันพัฒนา
คุณภาพชีวิต เพื่อเป็นหลกั การในการดำเนนิ ชวี ิต ชว่ ยแก้ปัญหาและสรา้ งสรรค์ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ขุ แก่สงั คม

การมีจิตสาธารณะ คือ การมีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม มีความตระหนักรู้และคำนึงถึงสังคมส่วนรวม
มีความ รับผิดชอบต่อตัวเองในการกระทำใด ๆ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบเสียหายต่อส่วนรวม และพร้อมท่ีจะ
เสยี สละประโยชน์ สว่ นตนเพอื่ รักษาผลประโยชน์ของสว่ นรวม

จติ สาธารณะเพอ่ื สว่ นรวม
จิตสำนกึ เพ่ือส่วนรวมน้ันสามารถกระทำได้โดยมีแนวทางเป็น 2 ลักษณะ ดังน้ี

1) โดยการกระทำตนเอง ต้องมีความรับผิดชอบต่อตนเอง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและ
เกิดความเสยี หายต่อสว่ นรวม จติ สาธารณะเพ่อื ส่วนรวมคือตอ้ งมคี วามรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม

2) มีบทบาทต่อสังคมในการรักษาประโยชน์ของส่วนรวม เพื่อแก้ปัญหา สร้างสรรค์สังคม ซึ่งถือว่า
เป็นความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองและสังคม การช่วยกันเก็บขยะ วธิ ีหน่ึงแสดงถึงการมจี ิตสาธารณะส่วนรวม

ปัญหาการขาดจิตสำนกึ เช่น
1) ปัญหายาเสพติด ซึ่งเกิดจากความเห็นแก่ตัวของผู้ขาย ไม่นึกถึงปัญหาที่เกิดข้ึนต่อไปกับสังคม

ผขู้ าดจติ สำนึกคา้ ยาเสพติดถกู ตำรวจจบั ดำเนนิ คดี
2) ปัญหามลพษิ ตา่ ง ๆ ท่ีเกิดจากความไม่รบั ผดิ ชอบ ขาดจติ สำนกึ เช่น
- การปล่อยน้ำเสยี ออกจากโรงงาน โดยไมผ่ า่ นการบำบดั
- การจอดรถยนต์โดยไม่คับเครือ่ งยนต์ ทำใหเ้ กิดควันพิษโดยเฉพาะในเมืองใหญ่
- ทรัพยากรปา่ ไม้ถูกทำลาย
- ปญั หาเด็กถกู ทอดทิง้
- การใช้ทางเท้าสาธารณะเพ่อื ประโยชน์ส่วนตัว โดยไม่คำนงึ ถงึ ส่วนรวม
- การทิ้งขยะลงแมน่ ้ำลำคลอง
- การฉีดสารเร่งเน้ือแดงในสัตว์เล้ียง โดยเฉพาะสุกร ซ่ึงมีผลต่อโรคภัยไข้เจ็บในมนุษย์ เช่น

โรคมะเร็ง
จติ สาธารณะจงึ เป็นสง่ิ สำคัญในสงั คม เยาวชนตอ้ งใหค้ วามสำคญั และตระหนกั ในส่ิงน้ี
ความรับผิดชอบต่อตนเอง จิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อตนเอง นับว่าเป็นพื้นฐานต่อ

ความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม ตัวอย่าง ความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ดงั นี้
1. ตง้ั ใจศึกษาเล่าเรียนหาความรู้
2. รู้จักการออกกำลังกายเพือ่ สุขภาพใหแ้ ข็งแรงสมบรูณ์
3. มีความประหยัดรูจ้ ักความพอดี
4. ประพฤตติ วั ให้เหมาะสม ละเว้นการกระทำทีก่ อ่ ใหเ้ กิดความเสื่อมเสีย
5. ทำงานทร่ี บั มอบหมายใหส้ ำเรจ็
6. มคี วามรบั ผิดชอบ ตรงเวลา สามารถพึง่ พาตนเองได้

36

ค ว าม รั บ ผิ ด ช อ บ ต่ อ สั งค ม เป็ น ก ารช่ ว ย เห ลื อ สั งค ม ไม่ ท ำให้ ผู้ อื่ น ห รื อ สั งค ม เดื อ ด ร้ อ น ได้ รั บ
ความเสยี หาย เชน่

1. มีความรับผิดชอบต่อครอบครัว เช่น เชือ่ ฟงั พ่อแม่ ชว่ ยเหลอื งานบ้าน ไมท่ ำใหพ้ ่อแมเ่ สยี ใจ
2. มคี วามรับผดิ ชอบต่อโรงเรียน ครอู าจารย์ เช่น ต้ังใจเล่าเรยี น เช่ือพิงคำส่ังสอนของครูอาจารย์
ปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บวินยั ของโรงเรียน ช่วยรกั ษาทรัพย์สมบัตขิ องโรงเรยี น
3. มีความรับผดิ ชอบตอ่ บุคคลอ่ืน เช่น ใหค้ วามช่วยเหลือ ให้คำแนะนำไม่เอาเปรียบ เคารพสิทธิ
ซง่ึ กนั และกนั
4. มีความรับผิดชอบในฐานะพลเมือง เช่น ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคม ปฏิบัติตามกฎหมาย
รกั ษาสมบัตขิ องสว่ นรวม ให้ความร่วมมือตอ่ สงั คมในฐานะพลเมอื งดี ใหค้ วามชว่ ยเหลอื

7.2 แนวทางการสร้างจติ สาธารณะ

การสร้างจิตสาธารณะ เป็นความรับผิดชอบในตนเองแม้ว่าจะได้รับการอบรมสั่งสอน ถ้าใจตนเอง
ไม่ยอมรับ จิตสาธารณะก็ไม่เกิด ฉะนั้นคำว่า “ตนเป็นท่ีพึ่งแห่งตน” จึงมีความสำคัญส่วนหนึ่งในการสร้าง
จติ สาธารณะ ถ้าตนเองไม่เห็นความสำคัญแล้วคงไม่มีใครบังคบั ได้

นอกจากใจของตนเองแล้ว แนวทางที่สำคัญในการจิตสาธารณะยังมีอีกหลายประการ ถ้าปฏิบัติได้ก็
จะเปน็ ประโยชนต์ ่อตนเองและสังคม ดงั นี้

1) สรา้ งวินัยในตนเอง ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตย รู้ถึงขอบเขตของสิทธิ
เสรภี าพ หนา้ ท่ี ความรบั ผดิ ชอบ ต่อตนเองและสังคม

2) ให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม ตระหนักเสมอว่าตนเอง คือส่วนหนึ่งของสังคมต้องมี
ความรบั ผดิ ชอบในการรกั ษาสงิ่ แวดล้อม ซึง่ เป็นเรื่องของส่วนรวม ท้งิ ตอ่ ประเทศชาติและโลกใบนี้

3) ตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบที่เกิดข้ึนกับสังคม ให้ถือว่าเป็นปัญหาของตนเอง เช่นกัน
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องช่วยกันแก้ไข เช่น ช่วยกันดำเนินการให้โรงงานอุตสาหกรรม สร้างบ่อพักน้ำก่อนปล่อย
ลงสูแ่ หล่งน้ำสาธารณะ

4) ยึดหลักธรรมในการดำเนินชีวิต เพราะหลักธรรมหรือคำสั่งสอนในทุกศาสนาที่นับถือสอนให้
คนทำความดีทั้งส้ิน ถา้ ปฏบิ ัติได้จะทำให้ตนเองมีความสุข นอกจากน้ียงั ก่อให้เกิดประโยชน์ตอ่ สังคมดว้ ย ทำให้
เราสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข ตัวอย่างหลักธรรมทางศาสนาท่ีเก่ียวข้องกับตนเอง พระพุทธศาสนา

37

หลักคำสอน ในการช่วยเหลือหรือพ่ึงพาตนเอง ที่พุทธศาสนิกชนได้ยินจากพุทธสุภาษิตอยู่เสมอ คือ อัตตาหิ
อัตตโนนาโถ หรือ ตนเป็นที่พ่ึงแห่งตน คริสต์ศาสนาหลักคำสอนในศาสนาคริสต์ คือ ต้องรู้จักช่วยเหลือตนเอง
ก่อนแล้วพระเจ้าจะช่วยท่าน ศาสนาอิสลาม หลักคำสอนจะคล้ายกับคริสต์ศาสนา คือ ให้รู้จักช่วยตนเองและ
รจู้ กั เปลยี่ นแปลงตนเองไปในทางท่ดี เี สียก่อนแล้วพระเจ้าจะชว่ ยทา่ น

จติ สาธารณะเพ่อื สว่ นรวม
จิตสาธารณะเพอื่ สว่ นรวม สามารถกระทำได้ 2 ทาง คอื

1. โดยการรบั ผิดชอบต่อตนเอง หมายถงึ รบั ผดิ ชอบการกระทำของตนเอง ไมใ่ หเ้ กดิ ผลกระทบ
2. โดยการรับผิดชอบตอ่ สังคม หมายถึง การเข้าไปมบี ทบาทในการรกั ษาประโยชน์ แกป้ ัญหา
ความรับผิดชอบ คือ ความมุ่งหมาย การยอมรับการกระทำนั้น และพยายามปรับปรุงการปฏิบัติ
หน้าท่ีให้ดีย่ิงขึ้น คนท่ีมีความรับผิดชอบต้องเป็นคนรู้จักหน้าที่และปฏิบัติตนให้มีประสิทธิภาพอย่าง
เต็มกำลังความสามารถ เช่น ความรับผิดชอบต่อตนเอง คือ ไม่กระทำชั่ว ไม่ทำให้ตนเองและบุคคลอ่ืน หรือ
สงั คมเดอื ดรอ้ น เชน่
1. ออกกำลงั กายเพื่อรกั ษาสขุ ภาพให้แขง็ แรง
2. ต้งั ใจเลา่ เรียน หมั่นใฝ่หาความรู้
3. ประพฤตติ นให้เหมาะสม ละเวน้ ความช่วั
4. มมี นษุ ย์สมั พันธท์ ี่ดี รูจ้ ักปรับตัวให้เข้ากับผอู้ ื่น
5. มคี วามประหยดั
6. ทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมายใหส้ ำเร็จ
7. มีความรบั ผดิ ชอบ ตรงตอ่ เวลา พ่ึงตนเองได้
ความรับผิดชอบต่อสังคม คอื การชว่ ยเหลือสังคม ไมท่ ำให้ผอู้ ่ืนหรอื สังคมไดร้ บั ความเสียหาย เชน่

1. ความรับผิดชอบต่อหนา้ ที่พลเมอื ง ไดแ้ ก่
1) ปฏิบัติตามกฎหมาย
2) รกั ษาทรพั ย์สมบัตขิ องสังคม
3) ชว่ ยเหลือผูอ้ นื่
4) มีความร่วมมอื กับคนอ่ืน

2. ความรับผดิ ชอบตอ่ ครอบครัว ได้แก่
1) เคารพเชื่อฟังพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง
2) ช่วยเหลืองานบา้ น
3) รักษาชื่อเสยี งของครอบครวั

3. ความรับผิดชอบตอ่ โรงเรยี น ครู อาจารย์ ไดแ้ ก่
1) ตั้งใจเล่าเรยี น

38

2) เชื่อฟงั คำส่ังสอนของ ครู อาจารย์
3) ปฏบิ ัติตามระเบยี บโรงเรยี น
4) รักษาทรัพยส์ มบตั ิของโรงเรยี น
4. ความรับผดิ ชอบตอ่ เพอ่ื น ไดแ้ ก่
1) ชว่ ยตกั เตอื นแนะนำเมอื่ เพือ่ นทำผิด
2) ไมเ่ อาเปรยี บเพอ่ื น ช่วยเหลอื เพือ่ นอยา่ งเหมาะสม
3) ไมท่ ะเลาะกัน ใหอ้ ภยั เม่อื เพอ่ื นทำผดิ
4) เคารพสทิ ธิซงึ่ กันและกนั
การพฒั นาจิตสาธารณะ
จิตสาธารณะเป็นส่ิงที่เกิดจากการฝึกอบรมต้ังแต่วัยเด็กและจะพัฒนาไปเรื่อย ๆ จนถึงวัยรุ่น และ
จนกระท่ังเป็นผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่จึงต้องเข้าใจธรรมชาติของเดก็ คอยแนะนำส่งเสริมในสิง่ ท่ีถูกทีค่ วร คอยชแี้ นะ และ
ปลูกฝังจิตสาธารณะให้แก่เด็ก นอกจากนี้เด็กยังต้องมีระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบตามธรรมชาติ
อันเกิดขึ้นได้เอง อีกทั้งเด็กยังมีการเรียนรู้ด้านวินัยจากวัฒนธรรมโดยอาศัยการสั่งสอนฝึกฝน จากบุคคล
ส่ิงแวดล้อม ซ่ึงเป็นกฎธรรมชาติของการอยู่ร่วมกันในสังคม การมีกิจกรรมและใช้ส่ิงของร่วมกันในสังคม
การพัฒนาจิตสาธารณะให้แก่เด็กในการใช้ส่ิงของร่วมกัน ดูแลทรัพย์สมบัติส่วนรวม และมีน้ำใจแบ่งปันสิ่งของ
ให้แก่กันและกัน จะเห็นได้ว่าการพัฒนาจิตสาธารณะเป็นส่ิงสำคัญ ซึ่งต้องปลูกฝังหรือเสริมสร้างไว้ต้ังแต่ในวัย
เด็ก เพื่อให้ เขาได้รับประสบ การณ์ ที่เพียงพอเป็นพื้นฐานท่ี สามารถนำไปพัฒ นาตนเอง โดยใน
การปลูกฝังนั้น ควรให้เด็กได้มีความรู้ความเข้าใจ ตระหนักถึงความสำคัญของจิตสาธารณะ รวมท้ังมี
การฝึกฝนให้เด็กได้ปฏิบัติจริง เพ่ือให้เด็กเกิดการกระทำท่ีเก่ียวกับการพัฒนาจิตสาธารณะอย่างแท้จริง
จนเกิดเป็นลักษณะนิสัย และควรทำให้เหมาะสมกับวัย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมตามวัย และ
เกิดการพัฒนาตามลำดับ ซ่ึงในการฝึกอบรม ปลูกฝัง หรือพัฒนาจติ สาธารณะให้แก่เด็กน้ัน ควรมีครูหรอื ผู้ใหญ่
คอยดแู ลชี้แนะแนวทางท่ีถกู ตอ้ ง เดก็ จะไดย้ ึดเป็นแนวทางปฏิบัตทิ ีถ่ กู ตอ้ งเหมาะสม
สถาบนั ทมี่ ีสว่ นรว่ มในการพัฒนาจติ สาธารณะ
แนวทางในการเสริมสร้างจิตสาธารณะของคนในสังคม จะต้องเกิดข้ึนได้จากการคลุกคลีอยู่กับ
ความถูกต้อง การปลูกฝัง อบรม การฝึกปฏิบัติ การได้เห็นตัวอย่างท่ีชวนให้ประทับใจปัจจัยเหล่านี้จะค่อย ๆ
โน้มน้าวใจของบุคคล ให้เกิดจิตสำนึกท่ีถูกต้องและการสร้างจิตสาธารณะให้เกิดขึ้น จำต้องอาศัยสถาบัน
ทางสังคมหลายสว่ นเข้ามาร่วมมอื กนั อาทิ
1. สถาบันการศึกษา การศึกษาเป็นรากฐานของการพัฒนาเป็นส่ิงที่ปฏิเสธกันไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นการ
พัฒนาในรูปแบบใด จำต้องเร่ิมต้นด้วยการศึกษาจนมีการศึกษามากพอแก่สถานะแห่งตน ที่จะสามารถ
ปฏิบัติงานหรือดำเนินชีวิตไปสู่ทิศทางที่ประสงค์การกำหนดเป้าหมายของการศึกษาให้ถูกต้องโดยธรรมชาติ
เพื่อนำไปสู่การพัฒนาท่ีแท้จริง จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่มีผู้มีอำนาจในการบริหารการศึกษาพึงพิจารณาให้
ลึกซึ้ง ให้ถ่องแท้ ให้รอบคอบ ให้ถูกต้องด้วยทัศนะที่กว้างไกล โดยมีจุดหมายรวบยอดว่า ต้องจัดการศึกษา

39

เพ่ือพัฒนาคนให้มีจิตสำนึกเป็นมนุษย์ท่ีเต็มที่ การจัดการศึกษาควรมุ่งเน้นที่การสร้างจิตสำนึกภายใน คือ
การพัฒนาจิตสำนึกภายใน คือ การพัฒนาจิตใจ ที่เป็นรากฐานของความเป็นมนุษย์ไม่ควรเน้นที่การพัฒนาเพื่อ
ความสำเรจ็ ในวิชาชีพท่ีปราศจากพ้ืนฐานทางจริยธรรม เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมให้บุคคลออกไปประกอบ
วิชาชีพด้วยจิตสำนึกผิดพลาด แล้วก็ไปสร้างระบบการทำงานท่ีผิด มีการเอาเปรียบผู้อ่ืน กอบโกย ความหลง
ตัวเอง ความมัวเมาวนเวียนแต่ในวังวนวัตถุ ทอ่ี าจก่อใหเ้ กิดการประหัตประหารกนั ในทุกวงการ

การให้การศึกษาแก่เยาวชน ควรหยุดสร้างจิตสำนึกที่นิยมในวัตถุ แต่เน้นการสร้างจิตสำนึกในทาง
จริยธรรมให้หนักแน่นเข้มแข็งย่ิงขึ้นทุกระดับการศึกษา ต้ังแต่อนุบาลศึกษาจนถึงอุดมศึกษา เพ่ือให้เป็นจิต
ท่ีสามารถช่วยสร้างระบบถูกต้อง เพ่ือการดำรงอยู่ของสังคมโดยธรรม โดยเฉพาะการดำรงเน้นการฝึกอบรมให้
รู้จักทำหน้าที่อย่างดีที่สุด พอมีในทุกหน้าท่ี ในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์ด้วยความสำนึกว่า ทุกหน้าท่ี
มีคุณคา่ และความสำคัญเท่าเทยี มกัน

2. สถาบันศาสนา สถาบันทางศาสนาต้องเป็นผู้นำในการสร้างจิตสาธารณะให้เกิดข้ึน ต้องนำ
ประชาชน กลับไปสคู่ ำสอนของพระพุทธองค์ ทีท่ รงเนน้ ใหเ้ หน็ แก่ประโยชนส์ ุขของสงั คมเปน็ ใหญ่ ไมบ่ รโิ ภคเกิน
ความจำเป็น หรือ เพราะความอยาก มีความสันโดษ พอใจที่จะมีกินมีอยู่ มีใช้เท่าท่ี - จำเป็น รู้จัก
เอื้อเพื่อเผ่ือแผ่เจือจานแก่ผู้อ่ืน มีความเมตตาอาทรต่อกัน เห็นแก่ผู้อ่ืนเสมือนเห็นแก่ตนเอง รู้จักหน้าท่ี ปฏิบัติ
หน้าทใี่ ห้ถกู ต้อง

สถาบันทางศาสนาจึงมีความสำคัญอย่างย่ิง เพราะเป็นสถาบันที่ได้รับการเคารพบูชาแต่โบราณ
จวบจนปัจจุบัน เป็นสถาบันท่ีมีอิทธิพลอย่างสูงต่อจิตใจของประชาชน เพราะต่างได้ยึดถือสถาบันน้ีเป็น
ท่ีพ่ึงทางใจมาอย่างเน่ินนาน ฉะนั้นสถาบันทางศาสนาจึงอยู่ในฐานะที่จะช่วยสร้างสรรค์และพัฒนาจิตใจ
ของคนในสังคม ให้หนั เขา้ หาความถูกตอ้ งตามทำนองคลองธรรม และวธิ ีการพฒั นาจิตสำนึกให้เกิดข้นึ ได้อยา่ งดี
ที่สุด คือ การสอนตัวเอง หมายถึง การที่ผู้อยู่ในสถาบันองค์การทางศาสนาพึงต้องประพฤติปฏิบัติตนให้เป็น
ตวั อย่างแก่คนในสังคมในด้านการชว่ ยเหลอื ส่วนรวม

3. สถาบันครอบครัว ความอบอุ่นของสถาบันครอบครัวมีความสำคัญเป็นอันดับแรก เพราะเป็น
จุดเริ่มต้นท่ีช่วยให้เด็กเกิดจิตสำนึก เห็นความสำคัญของส่วนรวม ความใกล้ชิดระหว่างพ่อแม่กับลูกจึงเป็น
สิ่งจำเป็นอย่างย่ิงในการเลี้ยงอบรมลูก เพราะความใกล้ชิดจะเป็นส่ือท่ีทำให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน และ
กลายเปน็ เกดิ ความเห็นใจ ซ่งึ กันและกนั

สถาบันครอบครัวจึงเป็นพื้นฐานของสังคม ถ้าครอบครัวมีแต่ความคลอนแคลน สังคมก็พลอย
คลอนแคลนไปด้วย และเด็กที่เติบโตจากครอบครัวที่คลอนแคลนจะมจี ิตสำนึกท่ีคลาดเคลื่อน การสอนและการ
อบรมของสถาบันครอบครัว ควรดำเนินการให้สอดคล้องประสานไปในจุดหมายเดียวกันกับการสอน
การอบรมของสถาบันการศึกษาและสถาบันทางศาสนา เพื่อปูพ้ืนฐานหรือฝังรากให้เด็กมีจิตสำนึกที่เป็น
สัมมาทิฐเิ สยี ตงั้ แต่ยังเดก็ เพ่อื ทเี่ ด็กจะไดเ้ ปน็ กำลังในการสร้างสรรค์สงั คมทมี่ ีความร่มเย็นเป็นสุข

4. สื่อมวลชน สื่อมวลชนเป็นสถาบนั ทท่ี รงอิทธิพลอย่างยงิ่ ในการกระจายความคิดความรู้ หรอื สิง่ ใด
สิ่งหน่ึงสู่การรับรู้ของประชาชน ความร่วมมือจากส่ือมวลชนจะช่วยสร้างความเข้าใจ ช่วยสร้างจิตสำนึก

40

ท่ีถูกต้องให้แก่คนในสังคม เน่ืองจากส่ือมวลชนนั้น มีบทบาทและอิทธิพลอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างการรับรู้
ท่จี ะสั่งสมกลายเปน็ จิตสำนึกของคนในสงั คม

การจัดการศึกษาเพื่อความเป็นพลเมือง จึงเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นท่ีจะช่วยให้คนในสังคมมี
จิตสาธารณะ ที่จะนำไปสู่การก่อตัวของประชาสังคม การจัดการศึกษาเพ่ือความเป็นพลเมืองนี้ มิได้ หมายถึง
กระบวนการจัดการเรียนการสอนในห้องเรยี นสำหรับประชากรวัยเรยี น หรอื การจัดการศึกษาแบบเป็นทางการ
ในรูปแบบอ่ืน ๆ แต่ยังหมายถึงกระบวนการเสริมสร้างการเรีย นรู้ทางตรงอย่างไม่เป็นทางการ
ในชีวิตประจำจัน ซ่ึงจำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสถาบัน และกระบวนการทางสังคมท่ีหลากหลายและ
ตอ่ เนอ่ื งทงั้ ในส่วนของสถาบนั การศึกษา สถาบนั ครอบครวั องคก์ ารเอกชน และองค์กรประชาสงั คม ฯลฯ

การจัดกจิ กรรมจติ สาธารณะในสถานศึกษา
หลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธคักราช 2551 ซึ่งเร่ิมใช้ในทุกโรงเรียน ในปีการศึกษา 2553
ตามหลักสูตร นอกจากการเรียนรู้ใน 8 กลุ่มสาระ แล้วในส่วนของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนก็ถือเป็นสิ่งสำคัญย่ิง
ซง่ึ หลกั สูตร ได้จำแนกกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นเป็น 3 ลักษณะ คือ 1) กจิ กรรมแนะแนว 2) กิจกรรมนักเรยี นและ
3) กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ซ่ึงเป็นหน้าที่ของสถานศึกษาทุกแห่งจะต้องเน้นการสร้างเยาวชน
ที่มีความสมดุล ลูกศิษย์ต้อง “เป็นคนเก่ง เป็นคนดี มีคุณลักษณะและมีสมรรถนะตามท่ีหลักสูตรกำหนด”
การให้นักเรียนทำกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นความมุ่งหวังที่จะสร้าง “จิตสาธารณะ” และ
คุณลักษณะแฝงอื่น ๆ อีกมากมาย ผ่านกิจกรรมน้ีในการสร้างจิตสาธารณะ คงมีหลายแนวทาง “สถานศึกษา
จะตอ้ งคิดกิจกรรม ที่มีความเป็นไปได้ง่าย และ สะดวกในการปฏิบัติ แต่ให้ผลด”ี ต่อไปนี้อาจเป็นเพียงตัวอย่าง
สว่ นหนงึ่ เพือ่ การสร้างจิตสาธารณะแก่นกั เรียน

1. ส่งเสริมให้เด็กมีความสามารถในการดูแลรักษาบ้าน และรับผิดชอบงานบ้าน ถือเป็นงาน
สาธารณะท่ีใกล้ตัวท่ีสดุ โดยมีพฤตกิ รรมท่ีเป็นรปู ธรรม เช่น ตื่นนอนแต่เช้า กวาดบ้าน-ถูบ้าน จัดระเบียบ/กวาด
บริเวณบ้าน

2. ส่งเสริมให้เด็กร่วมรับผิดชอบในการดูแลรักษาซอย/หมู่บ้านท่ีอยู่อาศัย โดยมีพฤติกรรมท่ีเป็น
รูปธรรม เช่น ปลูกต้นไม้ (ไม้ดอก ไม้ประดับ) หน้าบ้านพร้อมดูแลรักษา กวาด/ทำความสะอาดถนนหรือที่
สาธารณะรอบบ้าน ในรัศมี 5 เมตร เป็นกรรมการฝ่ายเยาวชนเพื่อการดูแลรักษาซอย/หมู่บ้านที่อยู่อาศัย เป็น
ต้น (หากสถานศึกษากำหนดคุณสมบัติของเยาวชนทเ่ี ป็นรปู ธรรม ดงั ตัวอยา่ งข้างตน้ พร้อมผลกั ดนั หรือส่งเสริม
ให้เกิดคุณลักษณะต่าง ๆ เหล่าน้ันอย่างจริงจัง ท่านเชื่อหรือไม่ว่า “ชุมชนจะเป็นแหล่งท่ีน่าอยู่ในชั่วพริบตา”
อกี ท้งั เยาวชนจะเกดิ คุณลักษณะ อื่น ๆ ตามมา เชน่ ความเสียสละเพื่อส่วนรวม ทักษะการจดั การ ฯลฯ)

3. จัดกิจกรรมเพื่อช้ีนำทิศทางการพัฒนาหรือแก้ปัญหาให้แก่ชุมชน อาทิ ในช่วงฤดูกาลของการ
เสียภาษีเงินได้ประจำปี ครูคณิตศาสตร์มอบหมายให้นักเรียนสอบถามเงินได้ของพ่อแม่และนำใบคำนวณภาษี
(ภ.ง.ด.91) มาคำนวณที่โรงเรียนแล้วมอบหมายให้นักเรียนนำกลับไปบ้านเพ่ือหารือกับคุณพ่อ – คุณแม่
เพ่ือชำระภาษีต่อไป ครูวิทยาศาสตร์/ครูสังคมศึกษาให้นักเรียนร่วมปฏิบัติการรณรงค์ การลดการใช้พลังงาน

41

ไฟฟ้าในบ้าน ครูสุขศึกษาร่วมกับชุมนุมสุขภาพในโรงเรียนจัดทำจดหมายเตือนหรือปฏิบัติ กิจกรรมรณรงค์
ทำลายแหล่งยงุ ลายเพื่อปอ้ งกันโรคไข้เลอื ดออก โรคหวดั สายพนั ธุใหม่ หรอื โรคอ่นื ๆ เปน็ ต้น

4. การปฏิบัติการเช่นนี้ เสมือน “การใช้ชุมชนที่เป็นท่ีต้ังของสถานศึกษา เป็นห้องปฏิบัติ
การทดลองประสบการณ์ชีวิต ต่าง ๆ แก่ผู้เรียน” ท้ังนี้เช่ือว่า หากนักเรียนมองเห็นแนวทางการพัฒนาชุมชนที่
เป็นรูปธรรม 1 ชุมชน นักเรียน เหล่าน้ันจะสามารถนำประสบการณ์ไปประยุกต์ใช้ในชุมชนท่ีอยู่อาศัยของ
ตนเองได้ในอนาคต อีกท้ัง โรงเรียนเองก็จะเป็นที่รักใคร่เป็นที่พอใจของชุมชนที่เป็นที่ต้ังของโรงเรียน
เป็นโรงเรียนของชุมชนอย่างแท้จริง (อน่ึงชุมชน อาจให้การสนับสนุนงบประมาณเพื่อการทำกิจกรรม
สาธารณประโยชน์ในส่วนน)้ี

5. ประสานงานกับผู้ปกครอง หรือเครือข่ายผู้ปกครอง ให้ร่วมกันวางแผนเพ่ือทำกิจกรรม
สาธารณประโยชน์ ร่วมกนั เป็นวงศ์ตระกูล โดยวางแผนเป็นรายปี พร้อมแจ้งแผนงานให้โรงเรียนทราบตั้งแต่ต้น
ปี การกระทำเช่นน้ีนอกจากจะเป็นการแบ่งเบาภาระของโรงเรียนในการส่งเสริมให้นักเรียนจัดทำ กิจกรรม
สาธารณประโยชน์แล้ว ยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว และส่งเสริมให้ครอบครัวไทย
“มจี ิตสาธารณะไปในตวั ด้วย”

แนวทางการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีจิตสาธารณะคงทำได้หลายแนวทาง ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงตัวอย่าง
กิจกรรมส่วนหนึ่งเท่านั้น ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะทำกันอย่างจริงจังเพียงใด เราเห็นคุณค่าของเรื่องนี้
มากน้อยเพียงใด ถ้าทุกคนคิดว่าจิตสาธารณะเป็นเรื่องสำคัญระดับประเทศ เป็น 1 คุณลักษณะท่ีจะช่วยให้
สังคมอยู่รอดได้ ถ้าคิดเช่นน้ี เราลองมาช่วยกันโดยการร่วมแรงร่วมใจ ร่วมมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย นอกจาก
หลักสูตรจะประสบความสำเร็จแล้ว ประเทศไทยก็คงประสบความสำเร็จไปด้วยอย่างแน่นอน
(สุพกั ตร์ พบิ ลู ย์ http://www.thaievaluator.coin)

บรรณานกุ รม

สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครศรีธรรมราช. (2562). แนวการจัดการเรียนรู้หลักสูตรนครศรีธรรมราชศึกษา.
นครศรธี รรมราช: หจก.โรงพิมพป์ ระยูรการพิมพ์.

ทางหลวงแผ่นดนิ . ค้นเม่ือ 25 เมษายน 2563, จาก https://1th.me/jJYyW
แผนทจ่ี ังหวดั นครศรีธรรมราช. ค้นเมื่อ 25 เมษายน 2563, จาก http://www.oceansmile.com/S/

Nakhonsitammarat/Nakhon1.htm
สำนกั งานจงั หวัดนครศรธี รรมราช. แหล่งน้ำธรรมชาติ. ค้นเมื่อ 13 พฤษภาคม 2563, จาก

http://www.nakhonsithammarat.go.th/river.php
สืบคน้ จาก https://www.goog[e.com การท่องเทีย่ วแหง่ ประเทศไทย. Amazing ไทยเท:่ ผลิตภณั ฑ์กระจูด.
[ออนไลน]ิ .
คำชวญั ประจำเมืองนครศรธี รรมราช. สบื ค้นจาก
https://www.facebook.com/498433440174373/photos/ คำขวญั ประจำเมืองนครศรีธรรมราชพิงบท
เพลง-httpsyoutub/2214077915276575 โครงการอนั เน่ืองมาจากพระราชดำริ. โครงการศนู ย์ศลิ ปะชพี
เนนิ รมั มัง. [ออนไลนิ]. สบื คน้ จาก https://www.qsds.go.th/project/viewpro.php
_. ถํา้ หงสน์ าํ้ ตกใตก้ ิภพ มหัศจรรย์ถ้าํ สวยนครศรๆี . [ออนไลนิ]. สืบค้นจาก
https://www.nakhononUne.com
. สถานทีเ่ ท่ยี วแหล่งโบราณคดเี กาะกระ. [ออนไลนิ]. สืบค้นจากhttps://www.nakhononUne.com
ไปดว้ ยกันดอทคอม. ท่องเทย่ี วพุทธสถานถ้ําตลอด. [ออนไลน]์ . สบื คน้ จาก https://www.paiduaykan.com

. นำตกกรุงชิง. [ออนไลนิ]. สืบค้นจาก https://www.paiduaykan.com
. บา้ นครี วี ง. [ออนไลนิ]. สบื ค้นจาก https://www.paiduaykan.com/
.วดั ธาตุนอ้ ย. [ออนไลน]ิ . สบื คน้ จาก https://vvvvw.paiduaykan.com
. วัดพระมหาธาตุนครศรธี รรมราช. [ออนไลน]ิ . สืบค้นจาก https://vvvvw.paiduaykan.com
. แหลมตะลมุ พุก. [ออนไลนิ]. สบื คน้ จาก https://www.paiduaykan.com
. อทุ ยานแหง่ ชาติหาดชนอม - หม่เู กาะทะเลใต้. [ออนไลนิ]. สบื ค้นจาก
มหาวทิ ยาลยั ราซภัฏนครศรธี รรมราช. พิธพี ทุ ธากิเษก “พระพุทธสิหงิ ค์”. [ออนไลนิ]. สืบค้นจาก
https://biwtyty.b[ogspot.con
สืบคน้ จาก https://vvvvw.seub.or.th/bloging เมอื งคอนดอทคอม. ภาพแปะฟา้ - ย้อนรอยกำแพง - รมิ
กำแพง - คเู มอื งลกิ อร์ยุค พ.ศ.2230 ตอน 2/2. [ออนไลน]์ . สบื ค้นจาก http://www.§otonakhon.coin รอง
ศาสตราจารยป์ ระกายรัตน์ ภัทรธติ .ิ (2562). ชีวติ ครอบครัวและชุมชนกบั เศรษฐกิจ. [ออนไลน]์
สบื ค้นจาก https://www.goog[e.coin
รักบา้ นเกดิ ดอทคอม. ทีเ่ ท่ียวเชาพลายดำ. [ออนไลน]์ . สบื ค้นจาก https://www.rakbankerd.com
. ท่เี ทย่ี วศาลหลกั เมอื ง. [ออนไลน]์ . สืบคน้ จาก https://www.rakbankerd.com

. วัดเจดีย์(วดั ไอ้ใช)่ . [ออนไลน์]. สืบคน้ จาก https://www.rakbankerd.com
สบื คน้ จาก http://www.nakhonsithammarat.go.th/web_52/r[ig.php เม่ือ 23 พฤษภาคม 2562สนเทศ
น่ารู้. วัดพระมหาธาต.ุ [ออนไลน]่ . สืบคน้ จาก https://wwwAib.ru.ac.th/
สำนักงานการท่องเทีย่ วนครศรธี รรมราช. แผนพัฒนาจังหวดั นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2561-2564. [ออนไลน่].
สบื คน้ จาก https://nakhonsi.mots.go.th/
สบื ค้นจาก https://www.goog[e.com
สบื คน้ จาก https://www.goo§[e.com/search?q=เศรษฐกิจในจังหวัดนครศรีธรรมราช สำนักงานอุทยาน
แหง่ ชาติ. อทุ ยานแห่งชาติชนอม - หมูเ่ กาะทะเลใต้. [ออนไลน]์ . สืบค้นจาก http://park.dnp.go.th/
(นครศรีธรรมราช). [ออนไลน]์ . สบื ค้นจาก www.nakhonsithammarat.go.th/roya[project/index.php
เมื่อ 19 พฤษภาคม 2562
ท่องเท่ยี ว ธรรมะภาคใต้โบราณสถานตมุ ปง็ . [ออนไลน]ิ . สบื ค้นจาก https://www.siamsouth.com
Thailand Tourism Direction. กำแพงเมืองเกา. [ออนไลน]ิ . สบื คน้ จาก http://www.archae.su.ac.th/

. เขาพลายดำ. [ออนไลนิ]. สืบค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. เขารามโรม. [ออนไลนิ]. สบื ค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. ชุมชนบา้ นไม้เรียง. [ออนไลน]ิ . สืบคน้ จาก https://thai.tourismthailand.org
. ถา้ํ หงสน์ ครศรธี รรมราช. [ออนไลน]ิ . สืบค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. ทะเลหมอกเขาเหสยื ม. [ออนไลนิ]. สบื ค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. เทย่ี ววดั ธาตุน้อย. [ออนไลนิ]. สบื คน้ จาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. นํ้าตกกระโรมอทุ ยานเขาหลวง. [ออนไลน]ิ . สืบคน้ จากhttps://thailandtourismdirectory.go.th/
. นำตกกรงุ ชงิ . [ออนไลนิ]. สืบคน้ จาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. นา้ํ ตกพรหมโลกอุทยานเขาหลวง.[ออนไลน]ิ .สืบคน้ จากhttps://thailandtourismdirectory.go.th/
. บ้านคีรวี ง. [ออนไลนิ]. สืบค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. บา้ นแหลมโฮมสเตย์. [ออนไลน]ิ . สบื ค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. โบราณสถานวัดโมคลาน. [ออนไลน]ิ . สบื ค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. ประตรู ะบายนา้ํ อุทกวิภาชประสทิ ธิ [ออนไลนิ] สืบคน้ จ
kdhttps://thailandtourismdirectory.go.th/
. พระดำหนักพระประทบั แรมปากพนัง. [ออนไลนิ]. สืบคน้ จาก https://thai.tourismthailand.org/
. พระดำหนกั เมอื งนคร. [ออนไลนิ]. สบื ค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. พทุ ธสิหงิ ค.์ [ออนไลน]ิ . สบื ค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. วังโบราณลานสกา. [ออนไลน]ิ . สืบค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. วดั ก้างปลา. [ออนไลน]ิ . สืบค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th
. วัดเขาชุนพนม. [ออนไลนิ]. สืบค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/

. วดั ดอนตรอ. [ออนไลนิ]. สืบค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. วัดประตษิ ฐาราม. [ออนไลนิ]. สบื คน้ จาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. วัดแม่เจ้าอย่หู ัว. [ออนไลนิ]. สืบค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. วดั ร่อนนา (พระแม่เศรษฐ)ี . [ออนไลนิ]. สืบค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th
. วัดหรงบน.[ออ'น[ล'น]. สืบค้นจาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. วดั อาตาปคี ีรเี ขต-วดั กำเพดาน. [ออนไลน]ิ . สบื คน้ https://www.thailandtourismdirectory.go.th
. ศาลหลวงพ่อไทร.[ออนไลน]ิ . สบื คน้ จาก https://thailandtourismdirectory.go.th/
. ศาลหลักเมอื ง. [ออนไลน]์ . สบื ค้นจาก https://thailandtourismdirectory.§o.th/
. หอพระนารายณ์. [ออนไ,ล,น]. สบื ค้นจาก https://thai[andtourismdirectory.go.th/
. หอพระอศิ วร. [ออนไ,ล,น]. สืบค้นจาก https://thai[andtourismdirectory.go.th/
. องค์จตคุ ามรามเทพ. [ออนไลน์]. สบื ค้นจาก https://thai[andtourismdirectory.go.th/
. อทุ ยานน้ําพุร้อนตามธรรมชาต.ิ [ออนา,ล,น] สบื ค้นจาdhttps://thai[andtourismdirectory.go.th/
Tourism of Wor[d.
. หนว่ ยงานทีเ่ กยี่ วกับการท่องเท่ียว. [ออนา,ล,น]. สืบคน้ จาก https://thai. tourismthai[and.org/

ที่ปรึกษา คณะผ้จู ดั ทำ
1.นางเกษร ธานรี ตั น์
2.นางวิไลวรรณ ดาราพงศ์ ผอู้ ำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวดั นครศรธี รรมราช
3.ดร.ร่งุ อรณุ ไสยโสภณ รองอำนวยการสำนกั งาน กศน.จังหวัดนครศรธี รรมราช
ผู้อำนวยการกลมุ่ พัฒนาการศึกษานอกระบบและ
คณะทำงาน การศกึ ษาตามอธั ยาศยั
1.นางกลั ยา สุทนิ
2.นางสุจนิ ต์ ศรีวิสทุ ธิ์ อำนวยการ กศน.อำเภอท่าศาลา
3.นางอารยี ์ เปยี ศรี
4.นางพักตรา อินทรโม อำนวยการ กศน อำเภอลานสกา
5.นางสาวอภริ มย์ มนสั
6.นางสาวทิพรตั น์ สัมฤทธริ์ นิ ทร์ อำนวยการ กศน อำเภอฉวาง
7.นางเกศสดุ า ขาวล้วน
8.นายเฉลมิ ขาวลว้ น อำนวยการ กศน อำเภอพรหมคีรี
9.นางลดั ดา ลือชา
10.นายจิรายุ เวชศาสตร์ อำนวยการ กศน.อำเภอขนอม
11.นายธนาวฒุ ิ กะดังงา
12.นางสาวธติ ิมา สุวรรณ ครูชำนาญการ
13.นางสิริพร พูลสวสั ด์ิ
14.นายอภิชาติ ขาวทอง ครชู ำนาญการ
15.นางสาวจนั ทิมา เชยกาญจน์
16นางสาวปภสั สรก์ ลุ ชูชว่ ย ครชู ำนาญการ
17.นางปารชิ าติ แก้วประสิทธิ์
18.นางสาวจงดี ปิเลย่ี น ครูชำนาญการ
19.นางอรวรรณ์ แกว้ เกิด
20.นายอนุชา นลิ วานิช นักวชิ าการศกึ ษาปฏบิ ัตกิ าร
21.นางจรรยา จูเจย้
22.นางสาวอนงค์ หนูด้วง ครู
23.นายเสกสรรค์ แกว้ มณี
ครู

ครู

บรรณารกั ษ์ปฏิบัตกิ าร

ครู กศน.ตำบล

ครูกศน.ตำบล .

ครกู ศน.ตำบล

ครู กศน.ตำบล

ครกู ศน.ตำบล

ครกู ศน.ตำบล

ครูอาสาสมัคร

นักวิชาการศกึ ษา

นักวิชาการศกึ ษา

24.นายไกรสรณ์ คลอดทองเพชร นักวชิ าการศึกษา

25.นางณัฐรนิ ยี ์ รามแกว้ นักวิชาการศึกษา

ผรู้ ับผิดชอบโครงการ นักวิชาการศึกษาปฏิบตั ิการ
นายจริ ายุ เวชศาสตร์
ครชู ำนาญการ .
ผพู้ ิมพต์ น้ ฉบับ ครูชำนาญการ
1.นางสาวทพิ รตั น์ สัมฤทธริ์ นิ ทร์ ครูชำนาญการ
2.นางเกศสดุ า ขาวล้วน ครชู ำนาญการ
3.นายเฉลิม ขาวลว้ น ครู
4.นางลัดดา ลอื ชา ครู
5.นายธนาวุฒิ กะดงั งา ครู
6.นางสาวธิตมิ า สุวรรณ บรรณารักษ์ปฏิบัติการ
7.นางสิริพร พูลสวสั ดิ์ ครู กศน.ตำบล
8.นายอภชิ าติ ขาวทอง ครูกศน.ตำบล
9.นางสาวจันทมิ า เชยกาญจน์ ครกู ศน.ตำบล
10.นางสาวปภสั สร์กุล ชูช่วย ครู กศน.ตำบล
11.นางปาริชาติ แกว้ ประสิทธิ์ ครกู ศน.ตำบล
12.นางสาวจงดี ปิเลยี่ น ครกู ศน.ตำบล
13.นางอรวรรณ์ แกว้ เกิด ครูอาสาสมคั ร
14.นายอนุชา นลิ วานิช
15.นางจรรยา จูเจย้ นกั วิชาการศกึ ษา

ผอู้ อกแบบปก
นายไกรสรณ์ คลอดทองเพชร


Click to View FlipBook Version