The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

1.คู่มือวิชานครศรีธรรมราชศึกษา สำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

1.คู่มือวิชานครศรีธรรมราชศึกษา สำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช

1.คู่มือวิชานครศรีธรรมราชศึกษา สำนักงาน กศน.จังหวัดนครศรีธรรมราช

70

2.11 เคร่ืองมอื หิน

สมัยก่อนประวัติศาสตร์ อายุราว 2,000-3,000 ปี ราษฎรขุดพบท่ีตำบลสระแก้ว อำเภอท่าศาลา
จังหวัดนครศรธี รรมราช

2.12 เครือ่ งปน้ั ดนิ เผาศรวี ิชัยและตามพรลิงค์

ภาคใต้ของไทยและหมู่เกาะของประเทศอินโดนีเซียปัจจุบัน แต่เดิมแบ่งเป็นรัฐเล็ก ๆ ท่ีแยกเป็น
อิสระแก่กัน ต่างก็พยายามมีอำนาจเหนือกันโดยส่งทูตไปให้จีนรับรองฐานะรัฐของตน กับเพ่ือค้าขาย
ขณะเดียวกันก็ติดต่อค้าขายกับอินเดีย ตะวันออกกลาง และเลยไปถึงโรมันด้วย ดินแดนแถบน้ีมีความเจริญมา
ต้ังแตพ่ ุทธศตวรรษที่ 6 เป็นต้นมา และมาเจริญมากจนสามารถรวมเปน็ รฐั ศรวี ิชยั ในพุทธศตวรรษที่ 13 จากน้ัน
รฐั ตามพรลิงคก์ ็มีอำนาจเหนอื คาบสมุทรมลายใู นช่วงพทุ ธศตวรรษที่ 18

หม้อดนิ เผา ศิลปะศรีวชิ ัยพทุ ธศตวรรษที่ 13-15 คนทีดินเผา ศิลปะศรวี ิชัยพทุ ธศตวรรษที่ 13-15
จัดแสดงทพี่ ิพิธภัณฑสถานแหง่ ชาตนิ ครศรีธรรมราช จดั แสดงท่ีพิพธิ ภณั ฑสถานแห่งชาตนิ ครศรีธรรมราช

ลักษณะเคร่อื งปั้นดินเผาศรีวชิ ยั
เครื่องป้ันดินเผาพ้ืนเมือง ที่พบในภาคใต้ มีอายุราวพุทธศตวรรษท่ี 13-18 กรมศิลปากรได้ขุดค้น
แหล่งเตาเผาท่ีสำคัญ เมื่อ พ.ศ.2521 ที่บริเวณคลองปะโอ บ้านปะโอ ตำบลม่วงงาม และที่ตำบลวัดขนุน
อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งพบว่า มีแหล่งเตาเผาหลายแห่ง คือ เตาหม้อ 1 เตาหม้อ 2 เตาหม้อ 3 เตา
โคกหม้อ และเตาโคกไฟ นอกจากน้ียังพบเคร่ืองปั้นดินเผาแบบอื่น ๆ ในแถบสทิงพระ แต่ไม่พบเตาเผา อาจ
เป็นไปได้ว่าน่าจะใช้วิธีเผากลางแจ้ง ด้วยเป็นภาชนะเนื้อดินเผาธรรมดาที่ไม่ต้องการความร้อนสูงนัก
เครื่องป้ันดินเผาจากบ้านปะโอ มีผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ คือ คนที (หม้อน้ำ) และหม้อมีเชิง ผลิตภัณฑ์
จากเตาเผาน้ีได้ส่งไปขายในเมืองสำคัญต่าง ๆ ในภาคใต้ของไทย โดยพบท่ีอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี ท่ี
อำเภอเมอื ง จงั หวดั นครศรีธรรมราช ทีอ่ ำเภอเขาชยั สน จังหวดั พัทลงุ

71

ลักษณะของเครื่องปั้นดินเผาศรีวิชัย แบ่งตามลักษณะเน้ือดินปั้นออกเป็น 2 ชนิด คือ ชนิดหนึ่งเป็น
ภาชนะท่ีมีเนื้อดินเผาหยาบหนา มีสีแดง สีเทา และสีเหลือง มีการตกแต่งภาชนะด้วยเทคนิคต่าง ๆ เช่น การ
ปั้นติด การขูดขีด การขุด การกด และการเขียนสี เคร่ืองป้ันดินเผาชนิดน้ีจะเป็นภาชนะที่ใช้สอย
ในชีวิตประจำวัน เช่น หม้อ จาน ชาม พาน และคนที ส่วนอีกชนิดหน่ึง เป็นภาชนะที่มีเนื้อดินปั้นขาวบาง
ละเอียดสวยงาม ที่พบมากคือ คนที หม้อมีเชิงและหม้อก้นกลม คนทีน้ันรูปกลม คอกว้างสูง ปากมีขอบ
ผายกว้าง พวยยาวตรงเฉียงขึ้น รอบคอส่วนล่างหรือไหล่มีเส้นนูนรอบ เชิงที่ก้นหม้อมีท้ังเชิงเตี้ยและเชิงสูง ท่ี
ปลายเชิงผายกว้างขอบเชิงเป็นเส้นนูน บางใบ คอคอด เล็กสูงขอบปากผายกว้าง ปากพวยคนทีมีท้ังเรียบและ
ตกแต่งเป็นเหล่ียม มีเดือยโดยรอบ และบางใบรอบไหล่มีการตกแต่งด้วยเส้นสีแดง 2-3 เส้น บางที
มีแถวรอยจุดอยู่ระหว่างแนวเส้นสีแดง ซึ่งภาชนะชนิดน้ีนับว่า เป็นเอกลักษณ์พิเศษของเครื่องป้ันดินเผา
ศรีวิชัย ภาชนะเหล่านี้พบมากที่บริเวณวัดสวนหลวง (ร้าง) ตำบลศาลามีชัย อำเภอเมือง จังหวัด
นครศรีธรรมราช ปัจจุบันอยู่ตรงข้ามพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช และที่อำเภอสทิงพระ จังหวัด
สงขลา

2.13 เคร่ืองถมเมอื งนคร

เครื่องถมเมืองนคร “เครื่องถม” ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2493 ให้นิยาม
คำว่า “ถม” ไว้ว่า “วิธีทำภาชนะ โดยลงยาตะก่ัวทับหรือถมรอยเป็นลวดลายต่าง ๆ เรียกภาชนะชนิดน้ันว่า
เครื่องถม” เคร่ืองถมเมืองนคร เป็นหัตถกรรมชั้นเลิศของคนไทย ถือกำเนิดขึ้นในสมัยอาณาจักรตามพรลิงค์
ตั้งแต่โบราณ

ถมนคร ชื่อนี้เป็นท่ีรู้จักและนับเป็นหนึ่งในบรรดาศิลปาชีพช้ันสูงท่ีมีมาต้ังแต่คร้ังอยุธยา ยังไม่เป็นท่ี
ยุ ติ ว่ า หั ต ถ ศิ ล ป ะก า รท ำ เค รื่อ งถม ขอ งป ร ะ เท ศ ไท ย แ ล ะข อ งเมื อ งน ค ร ศ รี ธ ร ร ม ร าช น้ั น เริ่ ม ต้ั งแ ต่ เม่ื อ ใด
แต่ในประวัติศาสตร์โลกนั้น ปัจจุบันนี้ได้พบเครื่องถมที่เก่าแก่ท่ีสุดในยุคโรมัน 2 ข้ึน เป็นภาพทหารโรมันและ
หีบเคร่ืองสำอางสตรี อายุระหว่าง 210 ปีก่อนพุทธกาล ถึงราว พ.ศ.1019 ทำให้สันนิษฐานว่าถมนครน้ีอาจจะ
รบั มาจากโรมัน ผา่ นทางอนิ เดียหรือกรกี หรือเปอร์เซยี เมื่อประมาณ 800 ปีกอ่ น ในขณะที่บางท่านกลับเหน็ ว่า
ถมนครน้ีน่าจะเกิดท่ีน่ี เพราะบางหลักฐานทางกรีกก็กล่าวว่ารับศิลปะน้ีจากตะวันออกเช่นกันสำหรับ
ประวัติศาสตร์ไทยน้ัน เครื่องถมนับเป็นหน่ึงในเคร่ืองราชูปโภคต้ังแต่คร้ังสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ และที่
สำคัญ คือ เม่ือคร้ังสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ส่งคณะราชทูตไทยไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้าหลุยส์ท่ี 14 ณ
ประเทศฝรั่งเศสน้ัน พระราชสาส์นถูกบรรจุม้วนไว้ในหีบถมตะทองพร้อมกับราชบรรณาการถมทองด้วย พร้อม
กันนั้นในการเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปา ณ กรุงวาติกัน ของคณ ะราชทูตกรุงสยามครั้งน้ัน
ราชบรรณาการก็คือกางเขนพร้อมราชสาสน์ในหีบถมตะทอง บนพานถมตะทอง และเครื่องถมทั้งหลาย
ในคร้ังน้ัน สมเด็จพระนารายณ์ ทรงโปรดรับส่ังให้เจ้าเมืองนครศรีธรรมราช จัดหาช่างถมที่มีฝีมือเข้าไปทำ ณ
กรุงศรอี ยุธยา ระหว่าง พ.ศ.2199 – 2231จึงทำใหห้ ลายฝา่ ยสรุปว่าถมนครนน้ั รบั มาจากฝร่ังชาตโิ ปรตเุ กสทเี่ ข้า
มาต้ังหลกั แหลง่ ทำมาหากินในนครศรธี รรมราช ตั้งแต่ปี พ.ศ.2061

72

คร้ังรัตนโกสินทร์น้ันเคร่ืองถมนับเป็นของสูง เป็นสมบั ติของผู้สูงศักดิ์โดยช่างเป็นชาวนคร
แม้ที่อพยพไปต้ังบ้านช่างถมท่ีกรุงเทพฯ แต่คุณภาพก็ยังสู้ถมเมืองนครไม่ได้ สมัยสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
นภาลัย ซ่ึงมีการฟ้ืนฟูศิลปวัฒนธรรมและหัตถกรรมน้ัน เครื่องถมนครก็รุ่งเรืองมาก ถึงรัชกาลที่ 3
เครอื่ งราชูปโภค ทั้งหลายล้วนแต่เป็นเครื่องถม ได้แก่ พระแท่นที่เสดจ็ ออกขุนนางกับพระเสลย่ี ง ในรัชกาลท่ี 4
มีพระที่น่ังภัทรบิฐและพนักเรือพระที่น่ั งกราบด้วยถม ครั้นรัชกาลที่ 5 เม่ือสร้างพระท่ีนั่งพุดตาน
กาญจนสิงหาสน์ ประดิษฐานไว้ในท้องพระโรงกลางภายใต้นพปฎลมหาเศวตฉัตร และยังมีพระท่ีนั่งถมทอง
ขนาดใหญ่ทีเ่ จา้ พระยานครให้ช่างทำขึน้ เพอ่ื ทลู เกล้าถวายอีกด้วย

นอกจากเป็นเคร่ืองราชูปโภคแล้ว เครื่องถมนครยังนบั เป็นราชบรรณาการ กล่าวคือ เป็นของขวัญช้ิน
สำคญั ของพระเจา้ อยู่หวั เสมอมา เช่น คร้ังพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานเครื่องถม ถวาย
แด่สมเด็จพระราชินีวิคตอเรียแห่งอังกฤษ และจนถึงบัดนี้ยังต้ังแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์พระราชวังบัคก้ิงแฮม,
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 9 ทรงพระราชทานเคร่ืองถมแด่สมเด็จพระราชินีอสิซาเบ็ธท่ี 2
แห่งอังกฤษ, แด่ประธานาธิบดีไอเซนฮาวแห่งสหรัฐอเมริกา เฉพาะอย่างยิ่งทรงเลือกหีบบุหร่ีถมทองและ
ตลับแป้งถมทองแก่แพทย์และนางพยาบาลทั้ง 4 ที่ร่วมกันถวายการประสูติและอภิบาลพระองค์ท่าน ณ
เมอื งบอลตนั

เคร่อื งถมเมืองนคร

เครอ่ื งถมมีอยู่ 3 แบบ คือ ถมเงนิ (หรือถมดำ) ถมทอง และถมตะทอง

2.13.1 ถมเงิน หรือท่ีนิยมเรียกกันว่า ถมดำ ลักษณะเป็นเนื้อถม ท่ีถมลงไปบนพ้ืนตาม

ร่องลาย เป็นสีดำมัน ซ่ึงเน้ือถมจะขับลวดลายให้เด่นงดงามอยู่บนพ้ืนสีเงิน เป็นถมท่ีเก่าแ ก่ท่ีสุดตาม
ความนิยม ถมที่ดีต้องมีสีดำสนิท ไม่มี “ตามด” (ตามด คือ จุดขาวบนสีดำ) ถมเป็นกรรมวิธีในการผสมของ
โลหะสามอย่างเขา้ ด้วยกัน คือ เงิน ตะก่ัว และทองแดง นำมาป่นจนเป็นผงละเอียดเพ่ือโรยลงบนพ้ืนแผ่นเงินที่
ขูดร่อง หรือตอกเป็นลวดลายไว้แล้ว การที่จะให้ผงถมเกาะแน่นอยู่ที่การเหยียบพื้น (การแกะหรือ
ตอกร่องลงบนเน้ือเงินท่ีเป็นพ้ืนของลายท่ีตอก) ถ้าเหยียบพ้ืนให้มีรอยขรุขระมากเท่าใด ผงถมก็เกาะได้มาก
เท่านั้น

73

2.13.2 ถมทอง ก็คือถมดำนั่นเอง แต่แตกต่างท่ีลวดลาย คือ ลายสีเงินได้เปลี่ยนเป็นสีทอง ช่าง

ถมจะเปียกหรือละลายทองคำให้เหลวเป็นน้ำ โดยใส่ทองแท่งลงในปรอท ปรอทจะละลายทองแท่ง
ให้เป็นน้ำ ช่างถมจะชุบน้ำทองผสมปรอทด้วยพู่กันเขียนทบั ลงบนลวดลายสีเงิน การเขียนน้ำทองละลายปรอท
น้ี จะต้องใชค้ วามประณีตเป็นอยา่ งมาก ต้องเขยี นทับลงบนเส้นเงนิ เท่าน้นั เมือ่ เขยี นเสร็จแลว้ จะใช้ความร้อนไล่
ปรอทออกจากทอง ทองก็จะติดแน่นอยู่บนพื้นท่ีเขียนน้ำทองน้ัน ถมทองมีความงามตรงท่ีเป็น
สที อง ลวดลายกระจา่ งเด่นชัด ทองที่ทาทับกจ็ ะมคี วามคงทนนบั ร้อยปี

2.13.3 ถมตะทอง เป็นศัพท์ของช่างถม หมายถึง วธิ ีการระบายทองดำละลายปรอทหรือแต้ม

ทองเป็นแห่งๆ เฉพาะที่ มใิ ช่ระบายจนเต็มเนื้อทอ่ี ยา่ งเดียวกับการทำถมทอง โดยเอาทองคำแทๆ้ ใส่ลงในปรอท
ทองละลายอยู่ในน้ำปรอท เมื่อเอาน้ำปรอทท่ีมีทองคำละลายปนอยู่ไปแต้มตามแห่งท่ีต้องการ
ให้เป็นสีทองน้ัน ในข้ันแรกปรอทจะยังคงอยู่ เม่ือไล่ด้วยความร้อนปรอทจะหนี ทองก็จะติดแน่นอยู่
บนตำแหน่งหรือลายที่แต้มทองนั้น การแต้มทองหรือระบายทองในท่ีบางแห่งของถมดำเป็นการเน้นจุดเด่น
หรือต้องการแสดงอวดภาพหรือลายเด่นๆ ฉะนั้น เคร่ืองถมตะทองจึงเป็นของที่หายากกว่าถมเงินหรือ
ถมทอง ในสมัยกรงุ ศรอี ยธุ ยามคี วามนิยมในถมตะทองมากกวา่ ถมทอง

ช่างถมในกรุงเทพฯ ท้ังที่บ้านพานถมและท่ีได้รับบรรดาศักด์ิถึงช้ันขุนปราณีตถมกิจ
ขุนประดิษฐถมการน้ัน ไม่สืบทอดถึงปัจจุบัน แต่ทางนครน้ันพระรัตนธัชมุนีศรีธรรมราช (ม่วง รัตนธัชโช) หรือ
เจ้าคุณวัดท่าโพธ์ิ ได้จัดต้ังโรงเรียนสอนวิชาช่างถมขึ้นในวัด จนพัฒนาเป็นวิทยาลัยศิลปหัตถกรรม
นครศรีธรรมราชในปัจจบุ ัน ทำให้ยังมเี ครื่องถมนครผลิตอยู่ถงึ ปัจจบุ ัน ทั้งถมทองและถมเงิน เฉพาะอย่างย่ิงเมื่อ
ปี พ.ศ.2530 นายเห้ง โสภาพงศ์ ช่างถมชาวนครศรีธรรมราชก็ได้รับการเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ
สาขาทัศนศิลป์ (เครื่องถม)

เคร่ืองถมนครปัจจุบัน เน่ืองจากทองและเงินมีราคาสูงขึ้น ประกอบกับการทำต้องอาศัยเวลาและ
ฝีมือช้ันสูงจึงมีราคาสูง สามารถหาซื้อได้ท่ัวไปโดยขึ้นเล็ก ๆ เช่น ล็อคเก็ต สายสร้อย หัวนโม
มขี ายตามร้านสินค้าท่ีระลึก ในขณะท่ีเครื่องถมชิ้นใหญ่ ต้ังแต่หีบถม ตลับถม ขันถม ถาดถม กรอบรูปถม ฯลฯ
ซ่ึงมีราคาต้ังแต่พันบาท หม่ืนบาท ถึงแสนบาท สามารถหาซ้ือได้ท่ีร้านจำหน่ายผลงานวิทยาลัยศิลปหัตถกรรม

74

นครศรีธรรมราช ข้างวัดบูรณาราม, ร้านสุพจน์ ผู้ผลิตเครื่องถมส่งสำนักพระราชวังและสำนักนายกรัฐมนตรี
เพ่อื เป็นของขวญั ระดบั ชาติ และร้านทองรปู พรรณแทบทกุ ร้าน

2.14 สายสรอ้ ยสามกษตั ริย์

เป็นหัตถศิลป์เอกลักษณ์ของเมืองนครอีกอย่างหนึ่ง สามารถสืบเร่ืองราวได้ว่า เริ่มจากช่างทอง
ช่างเงิน จากเมืองไทรบุรี ท่ีถูกกองทัพเจ้าพระยานครศรีธรรมราชยกไปตีและกวาดต้อนมาหลายครั้ง
หลายหนในช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยชาวไทยมุสลิมเหล่านี้รวมกลุ่มตั้งหลักแหล่งอยู่ที่บริเวณท่าช้าง
หลังสนามหน้าเมือง ซ่ึงต่อมาวัดท่าช้างอารามหลวงร้างลง จึงได้สร้างมัสยิดซอลาฮุดดีนขึ้นแทน และบริเวณ
ตลาดแขก โดยยังคงประกอบหัตถศิลป์ เคร่ืองทองเงินสืบมา ไม่เพียงแต่สายสร้อยสามกษัตริย์
อันประกอบด้วย เงิน ทอง นาค และช่างชาวนคร ได้ประยุกต์และผลิตเครื่องประดับเงินออกมามากมาย
ท้ังสายสร้อยประดับพลอยประกอบชุดไทยพระราชนิยม สายสร้อยที่มีตุ้มห้อยน่ารักหลายรูปแบบ ท้ังรูปหัวใจ
รูปตะกร้อ รูปตรานโม กระทั่งที่ประดับด้วยเพชรหน้าท่ัง ลูกประคำ กำไลต่าง ๆ กำไลและต่างหู
ก็เป็นงานท่ีพัฒนารูปแบบทันสมัย เช่น เลข ซ่ึงเป็นที่นิยมอย่างมากน้ัน ช่างเงินเมืองนคร ก็สามารถสลัก
ออกมาหลายลวดลาย หาซื้อได้ทั่วท้ังเมืองนคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนถนนท่าช้าง หลังสนามหน้าเมือง
ซ่ึงเป็นแหล่งผลิตตั้งเดมิ มาจนถึงปัจจบุ ัน

ปจั จุบันเน่ืองจากทองและเงนิ มีราคาสูงขึ้น ประกอบกับการทำต้องอาศัยเวลาและฝีเมือช้นั สูง เครื่อง
ถมนครไม่ค่อยพัฒนารูปแบบและลวดลาย นิยมทำแบบต้ังเดิม มีตั้งแต่ภาชนะ เครื่องประดับชิ้นเล็ก เช่น ช้อน
แห วน กำไล เข็มกลัดติดเสื้อ ไป จนถึงช้ินใหญ่ เช่น พ านขัน โตก ถาด เม่ือเที ยบกับเครื่องถม
ท่ีผลิตจากกรุงเทพฯ ทำกระเป๋าถือผู้หญิง รูปทรงต่าง ๆ ไปออกแบบร่วมกับวัสดุอย่างอื่นบ้าง เช่น กระเป๋า
ย่านลิเภา หรือตกแต่งกับวัสดุอย่างอ่ืนก็ได้ เช่น หวาย ก็ได้มีการพัฒนา มีการประกวดแข่งขันกันเป็นท่ี
นา่ ภาคภูมิใจ เกิดการพฒั นารูปแบบ แตเ่ คร่ืองถมนครคงเอกลกั ษณข์ องตนเองไวอ้ ย่างดีเยีย่ ม

1

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 12
แหลง่ ท่องเทยี่ วในจังหวัดนครศรธี รรมราช

สาระสำคัญ
นครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดซ่ึงเคยเจริญรุ่งเรืองทางศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และประเพณี

มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ภูเขา ป่าไม้ ชายทะเล และวิถีชีวิตของ
ผู้คนท่ีสืบทอดกันมาอย่างงดงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจศึกษาและเรียนรู้แก่ชาวนครและ
จังหวดั อ่นื ๆ

ตัวช้วี ดั

1. อธบิ ายคำขวญั ส่งเสริมการทอ่ งเทีย่ วประจำจงั หวัดนครศรีธรรมราช
2. อธิบายและยกตัวอยา่ งคำขวญั ส่งเสริมการทอ่ งเที่ยวประจำอำเภอ

ในจังหวัดนครศรธี รรมราช
3. อธิบายและยกตัวอย่างประเภทแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนครศรีธรรมราช
4. อธบิ ายและสาธิตการปฏิบัตติ นเป็นนักทอ่ งเท่ียวทด่ี ี
5. อธิบายและสาธติ การเปน็ มคั คุเทศกท์ ี่ดี
6. อธบิ ายและยกตัวอยา่ งการอนุรกั ษ์สถานท่ที อ่ งเทย่ี ว
7. เลอื กกลยุทธก์ ารพัฒนาการท่องเท่ยี ว
8. ระบุหน่วยงานที่เก่ียวข้องกบั การพัฒนาการทอ่ งเทีย่ ว

ขอบขา่ ยเนอ้ื หา
เรือ่ งที่ 1 คำขวัญสง่ เสริมการท่องเทีย่ วประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช
เรือ่ งท่ี 2 คำขวัญสง่ เสรมิ การทอ่ งเทย่ี วประจำอำเภอในจังหวัดนครศรีธรรมราช
เรอ่ื งที่ 3 ประเภทแหล่งท่องเท่ียวในจังหวัดนครศรธี รรมราช
3.1 แหลง่ ทอ่ งเทีย่ วภเู ขาและน้ำตก
3.1.1 ยอดเขารามโรม
3.1.2 ทะเลหมอกเขาเหล้ียม
3.1.3 น้ำตกพรหมโลก
3.1.4 น้ำตกกรงุ ชิง
3.1.5 น้ำตกกะโรม

2

3.1.6 พุทธสถานถำ้ ตลอด
3.1.7 ถ้ำหงส์
3.1.8 น้ำพรุ ้อน
3.2 แหล่งท่องเที่ยวสถานทีส่ ำคญั ในจังหวัดนครศรีธรรมราช
3.2.1 อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
3.2.2 อำเภอลานสกา
3.2.3 อำเภอชา้ งกลาง
3.2.4 อำเภอปากพนัง
3.2.5 อำเภอพรหมคีรี
3.2.6 อำเภอทา่ ศาลา
3.2.7 อำเภอทงุ่ สง
3.2.8 อำเภอทงุ่ ใหญ่
3.2.9 อำเภอรอ่ นพิบูลย์
3.2.10 อำเภอสชิ ล
3.2.11 อำเภอเฉลมิ พระเกียรติ
3.2.12 อำเภอเชียรใหญ่
3.3 แหล่งทอ่ งเทย่ี วกลุ่มชายทะเล ชายหาด
3.3.1 เขาพลายดำ
3.3.2 อทุ ยานแห่งชาติหาดขนอม- หมูเ่ กาะทะเลใต้
3.3.3 แหลมตะลมุ พกุ
3.4 แหล่งท่องเท่ียวกลุ่มความเชอ่ื คติชนวิทยา
3.4.1 ศาลหลวงพอ่ ไทร อำเภอเชียรใหญ่
3.4.2 พระพุทธสิหงค์ ณ เชิงเขามหาชยั

อำเภอเมอื งนครศรธี รรมราช
3.4.3 จตุคามรามเทพ วดั พระมหาธาตุวรมหาวหิ าร
3.5 แหลง่ ท่องเทีย่ วกลุ่มชมุ ชนเข้มแขง็
3.5.1 บ้านครี วี ง
3.5.2 วสิ าหกจิ ชุมชนกลุ่มอนุรักษป์ า่ ชายเลนบา้ นแหลมโฮมสเตย์
3.5.3 ชมุ ชนบา้ นไม้เรียง

3

3.5.4 กลมุ่ ผ้าทอเนินธัมมัง
3.5.5 ผลิตภัณฑ์จากกระจดู อำเภอชะอวด
3.5.6 ประตูระบายน้ำอุทกวภิ าชประสิทธ์ิ
เรอ่ื งท่ี 4 การปฏิบัติตนเป็นนกั ท่องเทย่ี วท่ีดี
เรอ่ื งท่ี 5 การเปน็ มัคคุเทศกท์ ด่ี ี
เรอื่ งท่ี 6 การอนรุ กั ษส์ ถานทที่ ่องเทยี่ ว
เรื่องที่ 7 กลยทุ ธก์ ารพฒั นาการท่องเทีย่ ว
เรือ่ งท่ี 8 หนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้องกับการพฒั นาการทอ่ งเท่ียว

เวลาที่ใชใ้ นการศกึ ษา 17 ชว่ั โมง

ส่ือการเรยี นรู้
1. ชุดวิชานครศรธี รรมราชศึกษา รหัสรายวชิ า สค3300168
2. สมดุ บันทึกกิจกรรมการเรยี นรู้ประกอบชดุ วิชานครศรีธรรมราชศกึ ษา
รหสั รายวชิ า สค3300168
3. ส่อื เสริมการเรยี นรู้อ่ืน ๆ

4

คำขวญั ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช

เราชาวนครฯ อยูเ่ มืองพระ
มั่นอยใู่ นสัจจะศลี ธรรม
กอปรกรรมดี มมี านะพากเพยี ร
ไมเ่ บยี ดเบยี นทำอันตรายผใู้ ด

จากคำขวัญประจำเมือง จะเห็นได้ว่าชาวจงั หวัดนครศรธี รรมราช เปน็ ผู้ยึดม่นั สัจจะ มศี ีลธรรม
ทำความดีขยันหม่นั เพยี ร ไมเ่ บียดเบยี นผใู้ ด เพื่อเป็นการปลกู นิสัยดงั กล่าวใหเ้ กดิ ขึน้ กับชาวนครศรีธรรมราช จงึ
จำเป็นตอ้ งให้ศกึ ษาเรยี นรูต้ ัง้ แต่เยาว์วัย

เรื่องท่ี 1 คำขวัญส่งเสริมการทอ่ งเที่ยวประจำจงั หวัดนครศรธี รรมราช

จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดท่ีมีแหล่งประวัติศาสตร์ ร่องรอยอารยธรรม มีธรรมชาติ ภูเขา
ป่าไม้ ชายทะเล ท่ีสมบูรณ์และสวยงาม จึงเป็นที่มาของคำขวัญส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำจังหวัด
นครศรีธรรมราช เพ่อื เปน็ การประชาสมั พนั ธแ์ ละส่งเสริมการทอ่ งเทย่ี วของจังหวดั นครศรธี รรมราช ดงั น้ี

เมืองประวัตศิ าสตร์ พระธาตุทองคำ
ชืน่ ฉำ่ ธรรมชาติ แร่ธาตุอุดม
เครือ่ งถม สามกษตั ริย์
มากวดั มาศิลป์ ครบสน้ิ กงุ้ ปู

5

คำขวัญสง่ เสริมการทอ่ งเท่ียวประจำจงั หวัดนครศรีธรรมราช

เรอื่ งที่ 2 คำขวัญสง่ เสรมิ การท่องเทีย่ วประจำอำเภอในจังหวัดนครศรีธรรมราช

จงั หวดั นครศรธี รรมราชประกอบดว้ ย 23 อำเภอ โดยแต่ละอำเภอมีคำขวญั สง่ เสรมิ การท่องเท่ยี ว
ประจำอำเภอดังน้ี

คำขวัญส่งเสริมการท่องเท่ียวประจำอำเภอในจังหวัดนครศรธี รรมราช

อำเภอขนอม

ขนอมพร้อมมลู เทิดทลู คณุ ธรรม ถำ้ สวย รวยชายหาด น้ำตกหินลาด
พระธาตุปะการงั ป่าเขาทะเล คือเสน่หข์ องขนอม

อำเภอจฬุ าภรณ์

สามจงั ลอื เล่อื ง นามเมืองเจา้ ฟา้ ศลิ าซ่องคอย อร่อยค่วั กลิ้ง

อำเภอฉวาง
เมอื งคนดี ม่ังมยี างพารา แข่งเรอื วันออกพรรษา ศนู ย์การค้าตลาดจนั ดี

สนกุ ดีงานปีใหม่ ก้าวไกลการศึกษา

อำเภอเฉลมิ พระเกียรติ

6

โรงเรียนสมเดจ็ ย่า มาลัยดอกมะลิ เกจหิ ลวงปีสงั ข์ ศลิ ปินดังแหง่ ชาติ
ราชพฤกษส์ ญั ลักษณ์ พชื ผักไรน่ าสวนผสม

อำเภอชา้ งกลาง

ตำนานเมอื งคล้องช้าง นํา้ ยางพนั ธุ์ดี มากมีผลไม้ พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธ์
อำเภอเชยี รใหญ่

เมืองใหญ่ลุ่มนา้ํ เกษตรกรรมกา้ วหนา้ พทุ ธศาสนาเลิศลาํ้
วัฒนธรรมรุง่ เรอื ง ลอื เลื่องศิลปิน เมอื งศลิ ปาชีพ
อำเภอชะอวด

เมอื งตน้ นา้ํ อิฐแผน่ งาม กงุ้ ก้ามกราม กระจูดสวย ห้วยนํ้าใส

อำเภอถ้ำพรรณรา

พระไสยาสนล์ ํ้าคา่ ตระการตากัลยาณมิตร ผลผลิตยางพารา
อนุรกั ษป์ ่าชื่นฉ่าํ ข้นึ ถาํ้ เป็นประเพณี สายตาปีชลเขต

อำเภอทงุ่ ใหญ่

ถ่ินยางพนั ธ์ดุ ี เจดยี ์ศรวี ิชยั เพลนิ ไพรนางนอน
จฬุ าภรณพ์ ฒั นา ป่าสองทะเลศรี ธรณียิปซั่ม

อำเภอทุ่งสง

7

ถ้ำตลอดงามตระการ อทุ ยานน้ําตกโยง โรงงานมากมี
สถานีชมุ ทาง ศนู ย์กลางราชการ ทรงประทานพระคูเ่ มือง ลือเล่ืองแมก่ วนอมิ

อำเภอทา่ ศาลา

โมคลานตง้ั ก่อน ทรัพยากรมากหลาย หาดทรายยาวรี
หมอ้ ดบี า้ นยงิ มง่ิ เมืองมหาลยั นาํ้ ใสปลาสด งดงามน้ําใจ

อำเภอนบพิตำ

นํา้ ตกกรงุ ชิง ต้นประสวยยง่ิ เดน่ จรงิ คลองกลาย
แร่ธาตปุ า่ ไม้ ค่ายลกู เสอื จงั หวัดเมอื งประวติ ิโบราณ

อำเภอนาบอน

น้ําตกคลองจัง ยางดงั พันธุ์ดี พ้นื ที่อดุ ม ชมงานปิดกรดี

อำเภอบางขัน
พระพทุ ธลลี าศนู ยร์ วมใจ พ่อท่านไข่วาจาสิทธ์ิ ดุจเนรมติ เขานางนอน
บ่อน้ํารอ้ นมชี อื่ เสียง ทวิ ทัศน์ชอ่ งเหรียงงามตา เสนห่ ห์ านํา้ ตกโตน

อำเภอปากพนัง

รงั นกเลือ่ งช่ือ รํ่าลือขนมลา โอชาไขป่ ลากระบอก
ส่งออกส้มโอทับทิมสยาม ลือนามไหว้พระลาก นยิ มมากแข่งเรอื เพรียว

อำเภอพิปูน

8

พระใหญบ่ นภูผา เจ้าฟา้ ปรานี ครี ีล้อมข้าง สองอา่ งพักผอ่ น
นาํ้ รอ้ นหลายบอ่ มากพอนา้ํ ตก ชยู กคนดี ตาปแี ดนเกิด
อำเภอพระพรหม

ผ้ายกบประดิษฐ์ ผลิตจกั สาน พ้นื บา้ นขา้ วหลาม งดงามมหาวิทยาลยั มะนาวไข่พันธุด์ ี
อำเภอพรหมครี ี

เมอื งผลไมด้ ก น้ำตกสะอาด ธรรมชาตลิ ้ำคา่ หลากภมู ิปัญญาชาวบา้ น สืบสานวัฒนธรรม
อำเภอรอ่ นพิบูลย์

อดุ มสินแรเ่ มืองแม่เศรษฐี ผลไมพ้ ันธ์ุดี มีปศสุ ตั ว์ เกจหิ ลวงพ่อ
ใบพ้อสานพัด ดุกย่างรสวดั ทิวทัศน์รามโรม
อำเภอลานสกา

เมืองมังคุดหวาน หมบู่ า้ นพฒั นา ถ้ําผาสวยงาม น้ําตกกระโรมตระหง่าน สืบตำนานอู่ขา้ วอนู่ า้ํ

อำเภอสชิ ล
เมืองโบราณ ถ้ำพสิ ดาร ธารสะอาด หาดหนิ งาม น้ำตกสวย รวยทรพั ยากร

อำเภอหัวไทร
เมอื งนากงุ้ ทงุ่ นาขา้ ว จ้าวทะเล เสนห่ ห์ าดทราย มากมายศิลปิน

9

เรอื่ งท่ี 3 ประเภทแหล่งท่องเที่ยวในจงั หวัดนครศรีธรรมราช

จังหวดั นครศรีธรรมราชเป็นจังหวดั ทีเ่ ต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ร่องรอยอารยธรรม มีธรรมชาติ ภูเขา
ป่าไม้ ชายทะเล ที่สมบูรณ์และสวยงาม จึงเป็นท่ีมาของแหล่งท่องเท่ียวที่ มีความล้ำค่าท้ังทะเล ภูเขา น้ำตก
ความงดงามทางด้านศิลปวัฒนธรรม และวิถีชาวบ้าน จึงเป็นท่ีมาของประเภทการท่องเที่ยวในจังหวัด
นครศรีธรรมราชดังนี้

3.1 แหล่งท่องเทยี่ วภูเขาและน้ำตก
3.1.1 ยอดเขารามโรม

10

ยอดเขารามโรม
เขารามโรม เป็นยอดเขาที่สูงจากระดับน้ําทะเล ประมาณ 986 เมตร มีเทือกเขาที่สลับ ซับซ้อน
ทำให้มีวิวทิวทัศน์ท่ีสวยงามสามารถมองเห็นได้ 360 องศา มีสภาพเป็นป่าดงดิบท่ีสมบูรณ์ มาก
มีเฟิร์นล้านปี มหาสะดำและดอกไม้นานาพันธุ์ สัตว์ป่านานาชนิดเต็มไปท่ัวพื้นท่ี เป็นจุดชมทิวทัศน์บน
ยอดเขาสูง โดยสูงจากระดับน้ําทะเล ประมาณ 966 เมตร และมีถนนพื้นแข็งถาวรที่รถยนต์เข้าถึงได้สะดวก
เขารามโรมเป็นภเู ขาทตี่ ง้ั อยู่ในอำเภอรอ่ นพบิ ูลย์
จุดท่ีน่าสนใจ เป็นจุดชมทิวทัศน์บนยอดเขาสูง สามารถมองเห็นทะเลหมอกพระอาทิตย์ขึ้น
ในยามเช้าและที่สำคัญเป็นยอดเขาท่ีสามารถมองเห็นชายทะเลแหลมตะสุมพุกไปถึงอำเภอเชียรใหญ่ อำเภอ
รอ่ นพบิ ลู ย์ อำเภอพระพรหม อำเภอทงุ่ สง และยอดเขาเหมนไดอ้ ยา่ งเด่นชัด
สิ่งอำนวยความสะดวก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บ้านพักรับรอง ลานกางเต็นท์ สุขา
ปา้ ยช้ที าง เข้าถงึ สญั ญาณโทรศพั ท์ สญั ญาณอินเตอร์เนต็
การเดินทาง เดินทางโดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ผ่านอำเภอร่อนพิบูลย์ โดยทางหลวง
หมายเลข 403 ส่วนทางข้นึ เขารามโรม จะต้องเข้าผ่านไปทางตลาดสดร่อนพิบูลย์ แลว้ เลี้ยวขวาเข้าไปทาง บา้ น
สวนจันทน์จนถึงสี่แยกบ้านเถลิง แล้วเล้ียวซ้ายจะสังเกตป้ายทางขึ้นเขารามโรมอีก 9 กิโลเมตร
เป็นถนนคอนกรีตจนถึง เขารามโรม ซ่ึงจะสังเกตเห็นเสาอากาศส่งของสถานีโทรทัศน์อยู่ด้านบน
ส่วนความสูงของเขารามโรมอยู่ท่ีประมาณ 986 เมตรจากระดับนํ้าทะเล อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 19 - 26 องศา
เซลเซียส ตลอดท้ังปี อากาศหนาวที่สดุ อยู่ประมาณ เดือนธันวาคมถึงเดือนกมุ ภาพันธ์
ขอ้ มลู การตดิ ต่อ ท่อี ยู่ หมู่ 3 ตำบลหินตก อำเภอรอ่ นพิบูลย์ จงั หวัดนครศรีธรรมราช 80130
เบอรต์ ดิ ต่อ075-354967/088-7854895 เว็บไซต์http://park.dnp.go.th/visitor/scenicshow.php?id=598

3.1.2 ทะเลหมอกเขาเหลยี้ ม

11

ทะเลหมอกเขาเหลี้ยม เป็นสถานที่

ท่องเท่ียว ที่เกิดจากกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

ทะเล หมอกเขาเหลี้ยมเป็นกลุ่มเยาวชนท่ีมีใจรัก

สำนึกรักบ้านเกิด จึงได้มีการรวมกลุ่มเพื่ออนุรักษ์

หวงแหนชุมชนของตนเอง และต้องการให้คนคน

อื่นได้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ ของตำบลกรุงชิง

โดยร่วมกับสมาชิกจัดกิจกรรมนำนักท่องเที่ยว

ชมทะเลหมอกในยามเข้า บริการขนม จิบกาแฟ ทะเลหมอกเขาเหลยี้ ม
เคล้าสายหมอกอันสดช่นื ยามเข้า ทา่ มกลางอากาศ

ท่เี ย็นสบาย ต้งั อย่ทู ่ีอำเภอนบพิตำ

จุดท่ีน่าสนใจ ทะเลหมอกเขาเหลี้ยม

เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่เต็มไปด้วยพันธ์ุไม้ที่

หายาก ทั้งสัตว์ป่านานาชนดิ จุดเด่นของทะเลหมอก

เขาเหล้ียม คือ เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อีกท้ัง

ส า ม า ร ถ ช ม พ ร ะ อ า ทิ ต ย์ ข้ึ น แ ล ะ ลั บ ข อ บ ฟ้ า ด้ ว ย

ทัศนียภาพท่ีสวยงามเป็นยอดเขาแหลม (เหลี้ยม

ภาษาถ่ินใต้) มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 492 เมตร สามารถชมทัศนียภาพได้รอบถึง 270 องศา และสามารถ

ชมทะเลหมอกไดต้ ลอดทั้งปี

สิ่งอำนวยความสะดวก บ้านพักรับรอง โฮมสเตย์ สุขา มัคคุเทศก์ท้องถ่ิน ป้ายส่ือความหมาย

ปา้ ยชี้ทางเขา้ ถึง

กิจกรรมการท่องเท่ียว ท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์/นิเวศท่องเท่ียวธรรมชาติและสัตว์ป่าและดูนก

การเดนิ ทาง สามารถเดินทางไดท้ ง้ั จกั รยาน มอเตอรไ์ ซค์ รถยนต์ และ เดนิ เท้า

ข้อมูลการติดต่อ หมู่ 2 ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช 80160

เบอรโ์ ทรศพั ทต์ ดิ ต่อ 075-752600 เว็บไซต http://www.krungching.go.th/index.php

3.1.3 นำ้ ตกพรหมโลก

นํ้าตกพรหมโลก ตั้งอยู่ภายในหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ที่ ชล.1 (น้ําตก

พรหมโลก) เป็นหนว่ ยฯ ท่ี 1 ของอุทยานแหง่ ชาตเิ ขาหลวง เริม่ ก่อตงั้ เมื่อปี พ.ศ. 2519 และเปิดให้นกั ทอ่ งเที่ยว

เข้าชมอย่างเป็นทางการเม่ือปี พ.ศ.2526 อยู่ในท้องที่หมู่ท่ี 5 ตำบลพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี จังหวัด

นครศรธี รรมราช ประวตั ิความเป็นมาของชือ่ “น้ำตกพรหมโลก”

ชาวบ้านเชื่อว่า น้ําตกพรหมโลกมีสภาพท่ีสูงชัน ประกอบกับมีต้นไม้และพรรณไม้ขนาดใหญ่

ขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ชาวบ้านสมัยก่อนเช่ือกันว่าสถานท่ี บริเวณนี้เป็นสถานท่ีมีสิ่งศักด์ิสิทธ์ิมาสิงสถิต ณ

สถานท่ีแห่งนี้ โดยเฉพาะเทพชั้นพรหมท้ังโลกได้มาสิงสถิตบนช้ันนํ้าตกจึงได้ตั้งช่ือ “น้ำตกพรหมโลก”

12

มาจนถึงทุกวันนี้ กิจกรรมที่สามารถทำได้จะเป็นรูปแบบวันเดียวกลับ เช่น เล่นน้ำตก ปิกนิก เดินศึกษา
ธรรมชาติ เป็นตน้

สิ่งท่ีน่าสนใจ น้ำตกพรหมโลกถือเป็นน้ำตกที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่โดดเด่น
แห่งหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวคือ เมื่อ วันท่ี 15 มีนาคม พ.ศ.2502 พระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชรชั กาลท่ี 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตพระบรมราชินนี าถ ได้เสรจ็ ประพาส
และได้จารึกพระปรมาภิ ไธยย่อ ภปร และ สก ท่ีหน้าผาช้ันนํ้าตก ช้ันที่ 1 หนานบ่อน้ําวน และ
เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2546 สมเด็จพระเจ้าพน่ี างเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครินทร์
ได้เสร็จประพาสน้ำตกพรหมโลก น้ำตกพรหมโลกเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ท่ีสวยงาม มีชั้นน้ําตกประมาณ 50 ช้ัน
เปิดบริการให้เขา้ ชมได้เพยี ง 4 ช้นั คอื หนานจงั บอ่ น้ำวน หนานจงั ไม้ปกั หนานจงั หวั บวั และหนานจังอา้ ยแล

ส่ิงอำนวยความสะดวก สุขา ร้านอาหาร ศูนย์บริการนักท่องเท่ียว ป้ายสื่อความหมาย
ปา้ ยชี้ทางเขา้ และจอดรถไดป้ ระมาณ 50 คัน

การเดินทาง ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4016 ผ่านนครศรีธรรมราช - พรหมคีรี ถึงกิโลเมตร
ที่ 20 เจอทางแยกเล้ียวซ้ายเข้าทางหลวง 4132 จากหน้าท่ีว่าการอำเภอพรหมโลก ใช้ระยะทางประมาณ
5 กิโลเมตร

ข้อมูลการติดต่อ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ท่ี ชล.1 (น้ำตกพรหมโลก) ตำบลพรหมโลก
อำเภอพรหมคีรี นครศรธี รรมราช เบอร์โทร 075-300494

3.1.4 น้ำตกกรงุ ชิง

นํ้าตกกรุงชิง “กรุงชิง” เป็นช่ือสถานท่ี
แห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช เช่ือกันว่าเคยเป็น
ชุมชนมาแต่สมัยโบราณ และเป็นพื้นที่ท่ีมีประวัติ
การต่อสู้อันเกิดจากความขัดแย้งในด้านความคิดใน
การปกครอง พ้ืนท่ีผืนป่ากรุงชิง ถูกครอบครองโดย
พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2517
ต่อมาฝ่ายรัฐบาลสามารถยึดพื้นที่ได้ ทำให้พรรค
คอมมิวนิสต์ท่ีกรุงชิงแตก ในปี พ.ศ.2524 คำว่า “ชิง”
เป็นชื่อของต้นชิง ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ในตระกูลปาล์ม
ชนิดหน่ึงที่มีมากในเขตนี้ป่ากรุงชิง อยู่ในท้องท่ีตำบล
ก รุ ง ชิ ง อ ำ เภ อ น บ พิ ต ำ ห่ า ง จ า ก ตั ว เมื อ ง
นครศรีธรรมราชไปตามทางหลวงหมายเลข 4016 แล้ว
เข้าทางหลวงหมายเลข 4186 จนถึงบ้าน หัวยพาน
จึงเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4188 (ห้วยพาน - กรุงชิง) รวมระยะทางประมาณ 62 กิโลเมตร
จะพบทางแยกซ้ายมือเข้าสู่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ชล. 3 (น้ำตกกรุงชิง) เข้าไปอีก 8 กิโลเมตร สภาพ

13

พ้ืนที่ของกรุงชิงเป็นพ้ืนที่ราบสูงและมีภูเขาล้อมรอบ ซ่ึงชาวบ้านเรียกกันว่า “อ่าวกรุงชิง” น้ำตก
กรุงชิงเป็นนํ้าตกขนาดใหญ่ เกิดจากคลองกรุงชิง ซึ่งไหลตัดผ่าน หุบผาหินแกรนิต ลดระดับตามความ
ลาดเอียงของภูเขาก่อเกิดเป็นช้ันน้ำตกอันงดงาม น้ำตกกรุงชิงเปิดให้เที่ ยวชม จำนวน 7 ช้ัน
คือ หนานมัดแพ หนานฝนแสนห่า ซ่ึงเป็นชั้นที่งดงามที่สุด ซึ่งต้องเดินไปเป็นระยะทางประมาณ
4 กโิ ลเมตร หนานปลิว หนานจน หนานโจน หนานต้นตอ และหนานจงั เรือบนิ นอกจากการเที่ยวชมนํา้ ตกและ
ศึกษาประวัติศาสตร์แล้ว น้ำตกกรุงชิงยังมีแหล่งธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพท่ีสวยงาม
มเี สน้ ทางเดนิ ปา่ ศึกษาธรรมชาติ เขา้ ค่ายอนรุ ักษธ์ รรมชาติ ศึกษาพรรณไม้ และชมนกอกี ดว้ ย

สิ่งที่น่าสนใจ มีช้ันน้ำตกท่ีสวยงามโดยเฉพาะหนานฝนแสนห่า พิมพ์ลงในธนบัตรฉบับละ 1,000
บาท ฉบับวันที่ 30 มิถุนายน 2535 เป็นช้ันนาํ้ ตกท่ีสวยท่สี ุดของนำ้ ตกกรุงชิง มเี สน้ ทางศกึ ษาธรรมชาติ สำหรับ
เรียนรรู้ ะบบนเิ วศและความหลากหลายทางธรรมชาติ

สิง่ อำนวยความสะดวก บา้ นพักรบั รอง อุทยานแห่งชาติน้ำตกกรุงชงิ มบี ้านพกั รับรอง ทั้งหมด 7
หลังแต่ละหลังมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แต่ราคาท่ีพักไม่เหมือนกัน ร้านสวัสดิการ อาคารบริการนักท่องเที่ยว
ศ าล ารับ ป ระ ท าน อ าห าร ล าน จ อ ด รถ จ อ ด รถ ได้ ถึ ง 25 - 50 คั น ห้ อ งสุ ข า ล าน ก างเต็ น ท์
ป้ายส่อื ความหมาย ห้องน้ำสำหรบั คนพิการ

กจิ กรรมการทอ่ งเทยี่ ว ท่องเท่ยี วเชิงอนุรักษ์/นิเวศ ดนู กทอ่ งเท่ียวธรรมชาติและสตั วป์ า่
การเดินทาง จากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปตามทางหลวงหมายเลข 4016 ผ่านสถาบัน
ราชภัฏพรหมคีรี บ้านนาเหรง บ้านห้วยพาน ระยะทางประมาณ 62 กิโลเมตร มีทางแยกเป็นทางลูกรัง
ไปหนว่ ยพิทักษ์ป่ากรุงชงิ ประมาณ 8 กิโลเมตร การข้ึนสู่บริเวณนาํ้ ตกกรุงชงิ ต้องเดินทางดว้ ยเทา้ บริเวณนํ้าตก
ปกคลุมไปด้วยป่าดิบหนาทึบ ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไปสู่น้ําตกกรุงชิงประมาณ
1 ชว่ั โมง 30 นาที
ข้อมูลการติดตอ่ น้ําตกกรงุ ชงิ ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพติ ำ จ.นครศรธี รรมราช 80160
เบอร์ติดตอ่ 075-460463 อีเมล [email protected]

3.1.5 น้ำตกกะโรม

น้ําตกกะโรม เป็นแหลง่ ท่องเทยี่ วทาง
ธรรมชาตทิ ่ีสวยงาม ตั้งอยทู่ ่ีทำการอุทยานแหง่ ชาติ
เขาหลวง กอ่ ตั้งเมอ่ื พ.ศ. 2517 อยใู่ นทอ้ งทีห่ ม่ทู ี่ 4
ตำบลเขาแก้ว อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรธี รรมราช
ช่ือ “น้ำตกกะโรม” นี้ คาดวา่ มาจาก ชื่อของภูเขาที่
ชาวบา้ นในทอ้ งท่ีเรียก “เขาโหรม” และลำคลองที่
ไหลมาจากน้ำตกกะโรม กเ็ รียกว่า “คลองโหรม”

ต่อมาเรียกเพ้ียนเป็น “กะโรม” และใช้ช่ือว่า “น้ําตก กะโรม” มาจนถึงทุกวันน้ี แต่ชาวบ้านใน
พน้ื ทก่ี ็ยงั คงเรียกลำคลองว่า “คลองโหรม” เปน็ แหล่งท่องเท่ียวทางธรรมชาติทส่ี วยงามอีกแหง่ หน่ึงของอุทยาน

14

แห่งชาติเขาหลวง มีชน้ั นํ้าตกท้ังหมด 19 ชน้ั เปิดบรกิ ารใหท้ อ่ งเที่ยวชมความหลากหลายของธรรมชาติเพื่อการ
พักผ่อนหย่อนใจและรื่นรมย์เพียง 4 ชั้น ได้แก่ ช้ัน 4 หนานนํ้าราง ชั้น 5 หนานผึ้ง ช้ัน 6 หนานเตย และช้ัน 7
ห น า น ด า ด ฟ้ า ซ่ึ ง เป็ น ช้ั น ที่ ส ว ย ง า ม ที่ สุ ด แ ล เห็ น ส า ย น้ํ า พ รั่ ง พ รู ล ง จ า ก ห น้ า ผ า สู ง แ ล ะ
ลาดชัน 45 องศา ลดหล่นั ลงมาตามโขดหนิ กว้างจนถึงแอ่งน้ำใหญ่เบ้ืองล่าง สายนาํ้ จะไหลแยกเปน็ 2 สาย ชว่ ง
หนา้ ฝนสายนํ้าจะไหลหลากแผ่เต็มหนา้ ผานา่ ชมมาก

ปี พ.ศ. 2450 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระเจ้าน้องยาเธอ
กรมหมื่นดำรงราชานุภาพ พร้อมด้วยลูกยาเธอ 4 พระองค์ ได้เสด็จทอดพระเนตรน้ำตกกะโรมโดยประทับช้าง
เปน็ พาหนะ แต่ไมไ่ ด้สลักพระปรมาภิไธยยอ่ ไว้เปน็ หลกั ฐาน

ปี พ.ศ. 2458 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าภาณุรังสีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วร
เดช ได้เสด็จประพาสน้ําตกกะโรม โดยประทับช้างเป็นพาหนะ และสลักริมหน้าผานํ้าตกช้ัน 7
หนานดาดฟ้าเปน็ รูปพระอาทิตยแ์ ผ่รัศมี

ปี พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี 6 ได้เสร็จโดยรถยนต์
พระที่นั่งพร้อมข้าราชบริพาร เสร็จประทับทอดพระเนตรน้ําตกกะโรม และทรงจาริกพระปรมาภิไธยย่อ วปร
2460 ไว้ที่หน้าผาน้ําตกช้ัน 7 หนานดาดฟ้า และได้ทรงนำความงามของน้ําตกน้ีไปเป็นฉากในบทละครเรื่อง
หลวงจำเนยี รเดินทาง ในพระราชนพิ นธ์

สิง่ ทน่ี า่ สนใจ
1. มชี นั้ นํา้ ตกท่สี วยงามเหมาะแก่การเล่นน้าํ เท่ียวชม พกั ผ่อน และชมทัศนียภาพ
2. มเี ส้นทางศึกษาธรรมชาติ สำหรับเรยี นรรู้ ะบบนิเวศและความหลากหลายทางธรรมชาติ
3. มีสิ่งอำนวยความสะดวก เชน่ ร้านค้าสวสั ดิการ ฯลฯ
การเดินทาง เดินทางสะดวก โดยเดินทางจากตัวเมืองนครศรีธรรมราชใช้เส้นทางหลวง จังหวัด
หมายเลข 4016 ไป 9 กิโลเมตร แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4015 อีก 20 กิโลเมตร ขวามือ
มปี ้ายบอกทางเข้าสทู่ ่ที ำการอุทยานแห่งชาตเิ ขาหลวงและน้ําตกกะโรม เข้ามาอีกประมาณ 1 กโิ ลเมตรถึงน้าํ ตก
ส่ิงอำนวยความสะดวก สุขา ร้านอาหาร ศูนย์บริการนักท่องเท่ียว ป้ายส่ือความหมาย
ป้ายชที้ างเข้าถงึ ทางลาด ห้องนาํ้ สำหรบั คนพิการ และจอดรถไดป้ ระมาณ 80 คนั
กิจกรรมการท่องเท่ียว ท่องเที่ยวเชิงผจญภัย
เดินป่า ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ / ท่องเท่ียวเชิงนิเวศธรรมชาติ
และสตั วป์ ่า
ข้อมูลการติดต่อ 248 ถนนลานสกา-นครศรีฯ
ทางหลวงหมายเลข 4015 หมู่ 4 ถนนลาน
สกา-นครศรฯ ต.เขาแกว อ.ลานสกา จ.นครศรธรรมราช
80230 เบอรต์ ดิ ต่อ 075-300494

3.1.6 พทุ ธสถานถ้ำตลอด

15

ถํา้ ตลอด เป็นสถานทที่ อ่ งเทีย่ วเก่าแก่ห่างจากท่วี ่าการอำเภอทุง่ สง 500 เมตร ไปทางโรงพยาบาล

ท่งุ สง เป็นถ้ําขนาดเลก็ ในภูเขาท่ี มีชื่อเรียกว่า เขาชยั ชุมพล โดยตัวถ้าํ สามารถเดินทะลุเขาชยั ชุมพลกันได้ จึงได้

ช่อื ว่า ถํ้าตลอด ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ และบริเวณใกล้เคยี งกนั น้นั ยังมีพระพุทธรูปปาง

ต่ า ง ๆ อี ก นั บ สิ บ รู ป

ล้ ว น แ ล้ ว แ ต่ เ ป็ น ศิ ล ป ะ เ ก่ า แ ก่ ที่ ยั ง มี ส ภ า พ ส ม บู ร ณ์ แ ล ะ

บนผนังถ้ํายังมีจิตรกรรมฝาผนังที่แสดงถึงเร่ืองราวเก่ียวกับพุทธประวัติ อันเป็นผลงานของอาจารย์ แนบ ทิชิน

พ ง ศ์

จิ ต ร ก ร มี ช่ื อ เ สี ย ง ช า ว น ค ร ศ รี ธ ร ร ม ร า ช บ ร ร ย า ก า ศ ภ า ย ใ น ถํ้ า

ยังมคี วามเย็นสบายเหมาะสำหรบั การพกั ผ่อนหยอ่ นใจ และแสวงบญุ เปน็ อย่างยงิ่

สิ่งท่ีน่าสนใจ เป็นถํ้าที่สามารถเดินทะลุได้ เม่ือเข้าไปภายในถ้ําจะรู้สึกเย็น ภายในถํ้า

มีพระพุทธรูปปูนปั้นปางไสยาสน์สวยงาม 1 องค์ ความยาว 11 เมตร หันเศียรไปทางทิศใต้ตามส่วนลึกของถํ้า

พระบาท หันไปทางปากถํ้า ท้ังยังมีพระพุทธรูปเท่าองค์จริงประดิษฐานเรียงรายไปกับผนังถํ้าทางด้านทิศ

ตะวนั ตกจนสดุ ถ้ํา

ผนังถํ้าท้ังสองดา้ นเป็นภาพจติ รกรรมฝาผนัง ฝมี ือของครูแนบ ทิชนิ พงศ์ ผ้มู ีผลงานดีเดน่ ทางด้าน

วัฒนธรรมสาขาจิตรกรรม ประจำปี 2534 ตรงกลางปากทางเข้าถาํ้ มีสิงโตแกะสลักจากหินขนาดใหญ่ดูโดดเด่น

สวยงาม ด้านข้างปากถ้ำมีพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดต่าง ๆ และเจดีย์ ฯลฯ บริเวณภายนอกถ้ํามีพระพุทธรูป

เหมือนอันเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนภาคใต้ ได้แก่ พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธ์ิ วัดธาตุน้อย หลวงปูคลิ้ง

วดั ถลุงทอง พอ่ ทา่ นซังวัดววั หลุง หลวงปูทวดวัดข้างไห้ และหลวงปเู ขียว วัดหรงบน ประดษิ ฐานอยูท่ ั่วบริเวณ

สิ่งอำนวยความสะดวก สุขา ศูนย์บริการนักท่องเท่ียว ป้ายส่ือความหมาย ป้ายชี้ทาง เข้าถึงท่ี

จอดรถมีประมาณ 20 คัน ปจั จบุ ัน เปดิ ทุกวันทำการในชว่ งเวลา 08.30 - 16.30 น.

การเดินทาง จากตัวเมืองนครศรีธรรมราชใช้ทางหลวงหมายเลข 403 ประมาณ 25 กิโลเมตร

จนถึงแยกสวนผัก เล้ียวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 41 มาประมาณ 40 กิโลเมตร แล้วให้เปล่ียนมาใช้

เส้นทาง 4019 ประมาณ 20 กิโลเมตร จนถึงอำเภอทุ่งใหญ่ และจากอำเภอทุ่งใหญ่ใช้เส้นทาง 4110

เป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงตัวถํ้าตลอด หรือเดินทางไปอำเภอทุ่งสง ถํ้าตลอดอยู่ห่างจากที่ว่า

การอำเภอทงุ่ สง 500 เมตร เลีย้ วซา้ ยทางไปโรงพยาบาลทุง่ สง

ข้อมลู การตดิ ต่อ ตำบลปากแพรก อำเภอทงุ่ สง จงั หวัดนครศรีธรรมราช 80110

เบอร์ตดิ ต่อ 075-411342-3 เว็บไซต์ http://vwvw.tungsong.com/

3.1.7 ถำ้ หงส์

16

17

ถ้ําหงส์ เป็นถํ้าขนาดกลาง ปากถ้ําค่อนข้างเล็กขนาดคนลอดได้ทีละคนต้องใช้ความระมัดระวังใน
การลงไต่ลงไปในถํ้า ภายในถ้ํามีธารน้ําไหลผ่านตลอดแนวถ้ํา ก่อไหลลงใต้ดินไปสู่ลำธารภายนอก ภายในถ้ํามี
หนิ งอกหนิ ย้อยรปู ร่างต่าง ๆ กัน และมีลักษณะพเิ ศษท่ีพบเห็นได้ไม่มากนัก คือ ภายในถํ้ามีน้ําตกท่ีไหลผ่านหิน
สามชั้น การเที่ยวชมภายในถํ้าจะต้องเดินท่องน้ําตลอด สามารถเดินทะลุออกไปอีกด้านหนึ่งได้ ความยาว
ประมาณ 300 เมตร

ถ้าํ หงส์ ต้ังอยู่ท่ี บ้านพิตำ หมู่ท่ี 3 ตำบลกรุงชงิ อำเภอนบพติ ำ จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นถ้ำที่
ประกอบไปด้วยหินงอกหินย้อยแปลกตามากมาย ถ้ําแห่งนี้ค้นพบเมื่อ พ.ศ.2537 ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ
เขานน ภายในถา้ํ มีธารน้ําไหลผ่านตลอดแนวถา้ํ ก่อนไหลลงใต้ดินไปสู่ลำธารภายนอก มีหินงอก หินย้อยรูปร่าง
แปลกตามากมาย และมีลักษณะพิเศษคือ มีน้ําตกภายในถ้ํามากกว่า 5 ช้ัน การเดินชมถํ้าจะต้องเดินลุยน้ําไป
ตามลำนํ้าระยะทางประมาณ 300 เมตร และในถํ้ามีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นถํ้าท่ีเหมาะหรับ
สำหรับการศึกษาการกำเนิดของหนิ ได้เป็นอยา่ งดี ส่วนในฤดฝู นจะมีน้ําหลาก จึงไม่เหมาะแก่การท่องเทย่ี ว ทมี่ า
ของการเรียกชอ่ื ถ้ําหงส์ เนอื่ งมาจากตำนานท่เี ลา่ กนั วา่ มนี ายพรานเขา้ ปา่ ไปล่าสัตว์และพบหงส์อยู่ภายในถา้ํ

จุดท่ีน่าสนใจ เป็นถ้ำที่มีลำธารนํ้าไหลผ่าน ภายในถ้ํามีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตามากมาย
และมีลักษณ ะพิเศษคือ มีนํ้าตกภายในถํ้ามากกว่า 5 ช้ัน การเดินชมถํ้าจะต้องเดินลุยนํ้าไปตาม
ลำนํ้าระยะทางประมาณ 300 เมตร ในฤดูฝนจะมีน้ําหลากจึงไม่เหมาะแก่การท่องเท่ียว และในถ้ํามีค้างคาว
อาศยั อยเู่ ป็นจำนวนมาก เปน็ ถา้ํ ท่ีเหมาะสำหรับการศึกษาการกำเนิดของหนิ ไดเ้ ป็นอย่างดี

สิ่งอำนวยความสะดวก ศูนย์บริการนักท่องเท่ียว มัคคุเทศก์ท้องถิ่น ร้านอาหาร สุขา
ป้ายช้ีทางเขา้ ถึง

การเดินทาง การเดินทางเข้ามาเย่ียมชม “ถํ้าหงส์” สามารถใช้ทางหลวงสาย “ห้วยพาน - ปาก
ลง” (ทางหลวงหมายเลข 4186) เมื่อถึง 4 แยกห้วยพาน (ทางแยกไปนํ้าตกกรุงชิง)ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอก
ทาง เข้าไปยังถ้ําอีกประมาณ 9 กโิ ลเมตร

อุปกรณ์ทีต่ ้องเตรียม เส้อื ผา้ รองเท้าทีพ่ รอ้ มลยุ นํา้ ไฟฉายสว่ นตัว กล้องถ่ายภาพควรใช้ อุปกรณ์
กนั นํ้าให้เรียบร้อยเพราะต้องลุยนํา้ ไปตลอด

ข้อมูลการติดต่อ หมู่ที่ 3 ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ จังหวัดนครศรีธรรมราช 80210 เบอร์
ตดิ ต่อ 075 - 466108

3.1.8 น้ำพุร้อน

18

อุทยานบ่อนํ้าร้อน อำเภอบางขัน ซึ่งน้ำพุร้อนแหล่งน้ีมีอุณหภูมิท่ีผิวดินประมาณ 55 องศา
เซลเซียส น้ําพุร้อนอุทยานบ่อนํ้าร้อน คืออีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ ยวที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของวัดอุทยาน
บ่อนํ้าร้อน หมู่ที่ 6 ตำบลจังหิน อำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันถือว่าเป็นจุดหมายปลายทาง
ด้านการท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ บ่อนํ้าพุร้อน ที่มีความพร้อมพัฒนาและมีศักยภาพในการต้อนรับนักท่องเท่ียว
และมีสงิ่ อำนวยความสะดวก พ้ืนฐานประกอบกับอยู่ใกลเ้ สน้ ทางคมนาคมสายหลัก

สิ่งอำนวยความสะดวก ป้ายส่ือความหมาย ป้ายช้ีทางเข้าถึง บ่อแช่/อาบนํ้ารวม 9 บ่อ
ห้องสขุ า 6 ห้อง แยกชายและหญงิ รา้ นอาหาร/เครอ่ื งด่ืม 1 รา้ น บริการนวดแผนโบราณ ศาลาเอนกประสงค์ 2
หลัง ทจ่ี อดรถรถยนต์ 80 คนั และจอดรถโดยสารไมป่ ระจำทางปรบั อากาศ 50 ที่นั่ง ได้ 10 คัน

ข้อมูลการติดต่อ ท่ีอยู่ หมู่ 6 ตำบลจังหิน อำเภอบางขัน จ.นครศรีธรรมราช 80360 เบอร์
โทรศพั ทต์ ดิ ต่อ 08-1477-5296 อีเมล [email protected]

3.2 แหล่งท่องเที่ยวสถานท่สี ำคัญในจงั หวัดนครศรธี รรมราช

จังหวัดนครศรีธรรมราช ในแต่ละอำเภอมีแหล่งท่องเท่ียวสถานที่สำคัญทางด้านประวัติศาสตร์
ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี มีความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ภูเขา ป่าไม้ ชายทะเล และวิถีชีวิตของผู้คนที่
สืบทอดกันมาอย่างงดงาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจศึกษาและเรียนรู้แก่ชาวนครศรีธรรมราชและจังหวัด
อืน่ ๆ ดงั นี้

3.2.1 อำเภอเมอื งนครศรธี รรมราช

3.2.1.1 วดั พระมหาธาตุวรมหาวหิ าร

วดั พระมหาธาตุวรมหาวหิ าร เปน็ ปูชนียสถานท่ีสำคัญท่ีสุดแห่งหน่ึง ท่เี ปรียบดงั ศูนย์รวมจิตใจ
ของพุทธศาสนิกชนของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชและชาวใต้ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารน้ัน
เปน็ พระอารามหลวงช้นั เอก ชัน้ วรมหาวหิ าร เดิมช่อื วัดพระบรมธาตุ เป็นปูชนียสถานที่สำคัญทีส่ ุดแห่งหน่ึงของ
ภาคใต้และประเทศไทยท่ีมีหัวใจสำคัญ คือ องค์พระบรมธาตุเจดีย์ท่ีมีส่วนยอดเจดีย์เป็นทองคำซ่ึง
พระบรมธาตุองค์น้ี สร้างขึ้นมาเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุหรือพระเชี้ยวแก้ว
เบื้องซ้าย) อันเป็นที่สักการะบูชาของชาวเมืองนครฯ ตามตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช กล่าวว่า
เจ้าชายธนกุมารและพระนางเหมชาลา เป็นผู้นำเสด็จพระบรมธาตุมาประดิษฐาน ณ หาดทรายแก้วและสร้าง

19

เจดีย์องค์เล็ก ๆเป็นที่หมายไว้ต่อมาในปีมหาศักราช 1098(พ.ศ.1719) พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช
ทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชข้ึน พร้อมก่อสร้างเจดีย์องค์ใหม่ เป็นเจดีย์ทรงลงกา สูง 55.78 เมตร
(กรมศิลปากรบูรณะปลียอดทองคำเมื่อ พ.ศ.2538) จากฐานบัวควํ่าบัวหงายถึงปลียอดสูง 6.80 เมตร
ใช้ทองคำเน้อื สบิ หุม้ โดยรอบ ภายในวดั พระมหาธาตๆุ มีวหิ ารที่มีความสำคญั ประดษิ ฐานอยหู่ ลายหลัง

สิ่งทน่ี ่าสนใจ พระบรมธาตุเจดีย์ องค์พระมหาธาตุประกอบดว้ ยทองรูปประพรรณ และของมี
ค่ามากมาย ซ่ึงสิ่งมีค่าเหล่านี้พุทธศาสนิกชนนำมาถวายแด่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพ่ือให้ตนได้พบกับ
นิพพาน มีพิธีปฏิบัติอย่างหน่ึงต่อองค์พระธาตุ คือ ในวันมาฆบูชาแห่ผ้าข้ึนธาตุ เช่ือกันว่าหากใครได้นำผ้าข้ึน
ธาตุ จะขอพรได้เป็นจริงดงั หวงั และยังมีโบราณสถานท่ีสำคญั เช่น

- วิหารพระมหาภิเนษกรมน์ (วิหารพระทรงม้า) เป็นวิหารหลักใช้สำหรับเป็น ทางขึ้นไป
ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพ่ือเป็นการสักการะบูชาองค์พระมหาธาตุเจดีย์ วัดเป็นประตูข้ึนไปสู่
การเคารพ สักการะ ส่งิ ศักดส์ิ ทิ ธ์ิสงู สุด คอื พระทันตธาตขุ องพระพุทธเจ้า

- วหิ ารเซียน ปรบั ปรงุ เปน็ พพิ ธิ ภัณฑ์เครื่องพทุ ธบูชา เรยี กวา่ “ศรีธรรมราชพพิ ิธภัณฑ์”
- วิหารสามจอม ประดิษฐานพระพุทธรูปทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ชื่อว่า “พระศรีธรรมาโศก
ราช” ด้านหลังวหิ ารเป็นซุ้มประตูสามช่องตรงซ้มุ ประตูมีภาพปั้นพุทธประวตั ิเจา้ ชายสิทธัตถะทรงตัดเมาฬี เพ่ือ
ออกบรรพชา
- วิหารโพธลังกา เป็นสถาปัตยกรรมตามคตินิยมของลังกา มีการปลูกต้นโพธ์ิโดยนำหน่อต้น
พระศรีมหาโพธ์ิ จากประเทศศรีลังกามาปลูกไว้ตรงกลางวิหาร เพ่ือแสดงสัญลักษณ์การตรัสรู้ของ
พระสัมมาสัมพทุ ธเจ้า
- วิหารคต เป็นสถาปัตยกรรมท่ีล้อมรอบองค์พระบรมธาตุเอาไว้หรือเรียกกันอีกช่ือว่า
พระระเบียง เป็นองค์ประกอบที่มีความสำคัญสืบเน่ืองมาจากตำแหน่งของอาคารในผังพระระเบียง (ท่ีได้รับ
อทิ ธพิ ลจากสถาปัตยกรรมเขมร) นอกจากน้ียังมีปริศนาธรรมใหค้ ้นหา และสิ่งศักด์ิสิทธิ์อีกมากมาย และภายใน
วัดมีแหล่ง จำหนา่ ยสินคา้ ทร่ี ะลึกขนึ้ ชื่อของเมืองนคร เช่น เครอ่ื งเงิน เครอื่ งถม ตวั หนังตะลงุ เป็นต้น
ส่ิงอำนวยความสะดวก ปา้ ยส่อื ความหมาย ปา้ ยชที้ างเข้าถึงและสุขา
การเดินทาง
1. การเดินทางโดนรถยนตส์ ่วนตัวจากเส้นทางสาย 401 ถึงตวั เมืองนครศรีธรรมราช ไปท่ีถนน
ราชดำเนนิ เมื่อถงึ ตำบลในเมือง วดั พระมหาธาตวุ รมหาวหิ ารเดน่ ตระหง่านอยูด่ ้านขวามอื
2. การเดินทางโดยรถสาธารณะจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช สามารถนั่งรถโดยสาร
สายสนามกฬี า - หัวถนน (รถมาสด้า) คา่ โดยสารประมาณ 10 บาท ไปลงหน้าวัดพระธาตุ หรอื จะนง่ั รถมอเตอร์
ไซตร์ บั จ้าง ประมาณ (20 - 50 บาท ข้ึนอยูก่ บั ระยะทาง)
ข้อมูลการติดต่อ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช นครศรีธรรมราช 80000
โทรศัพท:์ 075-343411

20

21

3.2.1.2 ศาลหลกั เมืองนครศรีธรรมราช
ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช อันเป็นที่ประดิษฐานหลักเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช
สร้างข้ึนตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสร้างสิ่งท่ีสำคัญทางประวัติศาสตร์ ประกอบด้วย คณะกรรมการ
ห ล าย ฝ่ าย ท้ั งภ าค รัฐ พ่ อ ค้ า ป ระ ช าช น ใน ที่ ดิ น ข อ งราช พั ส ดุ บ ริเว ณ ทิ ศ เห นื อ ข อ งส น าม
หน้าเมือง มีเน้ือท่ีประมาณ 2 ไร่อาคารหลัก ประกอบไปด้วยอาคาร 5 หลัง หลังกลางเป็นท่ีประดิษฐานหลัก
เมือง ลกั ษณะของการออกแบบมศี ลิ ปะคลา้ ยศลิ ปะศรีวิชัย วางศิลาฤกษ์เมือ่ วันท่ี 4 สิงหาคม 2532 สว่ นอาคาร
เล็ก 4 หลัง ถือเป็นบริวารูประจำ ทิศทั้ง 4 เรียกว่า ศาลจตุโลกเทพ ประกอบด้วย พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง
พระพรหมเมือง และ พระบันดาลเมือง วางศิลาฤกษ์เม่ือวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2535 เสรจ็ สมบูรณ์ในปี พ.ศ.
2542 ผู้ อ อ ก แ บ บ อ า ค า ร ศ า ล ห ลั ก เมื อ ง คื อ ยุ ท ธ น า โม ร า กุ ล อ ง ค์ เส า ห ลั ก เมื อ ง ท ำ ด้ ว ย
ไมต้ ะเคียนทองที่ได้มาจากภูเขายอดเหลืองอันเป็น
ภูเขาลูกหน่ึงในทิวเขานครศรีธรรมราช ส่วนบน
ของเสาเปน็ รูปจตคุ ามรามเทพ (สีพ่ ักตร์)
จดุ ทน่ี ่าสนใจ
อ ง ค์ เส า ห ลั ก เมื อ ง ท ำ ด้ ว ย ไม้
ตะเคียนทองท่ีได้มาจากภูเขายอดเหลือง อันเป็น
ภูเขาลูกหนึ่งในทิวเขานครศรีธรรมราช ในท้องท่ี
ต ำ บ ล ก ร ะ ห ร อ อ ำ เภ อ น บ พิ ต ำ จั งห วั ด
นครศรีธรรมราช ขนาดความสูง 2.94 เมตร เส้นรอบวง 0.95 เมตร ลวดลายที่แกะสลัก ตั้งแต่ฐาน ซึ่งเป็น
วงรอบเก้าชั้น มี 9 ลาย ส่วนบนของเสาเป็นรูปจตุคามรามเทพ (ส่ีพักตร์) หรือเทวดารักษาเมือง เหนือสุดเป็น
เปลวเพลงอยู่บนยอดพระเกตุ คือ ยอดชัยหลักเมือง รูปแบบการแกะสลัก จินตนาการจากความเชื่อในพุทธ
ศาสนาฝา่ ยมหายาน ซง่ึ เคยมอี ทิ ธิพลทางศลิ ปกรรม ในภาคใต้และนครศรธี รรมราชแต่คร้งั โบราณ
สิง่ อำนวยความสะดวก ป้ายส่ือความหมาย ป้ายชท้ี างเขา้ ถงึ และสุขา
การเดินทาง
1. เดินทางโดยรถยนต์ออกจากศาลากลางให้เลี้ยวซ้าย ไปตามถนน ราชดำเนินประมาณ 1.3
กโิ ลเมตร จะเจอสี่แยกไฟแดง (วงเวียน)ใหเ้ ล้ียวซา้ ยไป 200 เมตร ศาลหลกั เมืองจะอยทู่ างดา้ นขวามอื
2. เดินทางโดยรถสองแถว/สามล้อ ขึ้นรถหน้าศาลากลางจังหวัด ไปตามถนน ราชดำเนิน
ประมาณ 1.3 กิโลเมตร จะเจอส่ีแยกไฟแดง (วงเวียน) ให้ลงรถ แล้วเดินเลี้ยวซ้ายไป 200 เมตร ศาลหลกั เมือง
จะอย่ทู างด้านขวามอื
ข้อมูลการติดต่อ ถนนหน้าเมือง ต.คลัง อ.เมืองนครศรีธรรมราช จ.นครศรีธรรมราช 80000
เบอรต์ ิดต่อ 075-356458

22

3.2.1.3 กำแพงเมืองเกา่ นครศรธี รรมราช

ภาพอดตี เมืองคอนกำแพงเมือคอน รัชกาลที่ 5 ทรงถ่ายเมื่อ 3 ก.ค. 2448 ภาพจากคณุ สารทั (นกิ ) ชะลอสันติสกลุ
สำนกั ศิลปากร ท่ี 14 เมืองคอน ข้อมลู จากหนงั สือ เรื่องจดั ราชการเมืองนครศรีธรรมราช ลว.7 มค.รศ.115
ของเสนาบดกี ระทรวงมหาดไทย มอบโดยอาจารยส์ มชาย เปลย่ี วจติ ร วิทยาลยั ศลิ ปหัตถกรรมนครศรธี รรมราช

กำแพงเมืองเกา่ นครศรีธรรมราช เป็นสถานที่ท่องเท่ยี วทางประวัติศาสตร์ท่ีสำคัญของ จังหวัด
นครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ริมคลองหน้าเมือง ถนนมุมป้อม อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ของตำนานเมืองนครศรีธรรมราช กำแพงเมืองนั้นสร้างขึ้นตั้งแต่สมัย
พระเจ้าศรีธรรมโศกราช กษัตริย์ผู้ปกครองเมืองนครในอดีต โดยพระองค์ได้สร้างเมืองข้ึนท่ีหาดทรายแก้ว
จากนั้นพระองค์ก็ได้สรา้ งกำแพงเมือง ซ่ึงเปน็ กำแพงดนิ ทล่ี อ้ มรอบดว้ ยคู

เนื่องจากกำแพงเมืองท่ีพระเจ้าศรีธรรมโศกราช สร้างข้ึนนั้นเป็นกำแพงดิน จึงได้มี
การ บูรณะกำแพงเมืองในส่วนต่าง ๆ หลายคร้ัง แต่ยังคงรกั ษาแนวกำแพงเดิมเอาไว้ สมัยที่มีการบรู ณะกำแพง

23

เมืองคือ ในสมัยสมเด็จพระราเมศวรแห่งกรุงศรีอยุธยา ปีพุทธศักราช 1950 ไดซ้ ่อมกำแพงเป็นแบบปกั เสาพูน
ดิน ปีพุทธศักราช 2100 เป็นช่วงที่มีการติดต่อค้าขายกับชาวโปรตุเกส ได้มีการคัดแปลงกำแพง โดยการก่ออิฐ
ให้มีความแข็งแรง เพ่ือให้เป็นป้อมปราการในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ปีพุทธศักราช 2230 นับได้ว่า
เป็นการบูรณะกำแพงเมืองนครศรีธรรมราชคร้งั ทสี่ ำคัญทส่ี ุด โดยช่างวิศวกรและสถาปนกิ ชาวฝรัง่ เศส ได้
สร้างกำแพงเมืองตามแบบชาโต (Chateau) และกำแพงเมืองนครศรีธรรมราช ที่เห็นกันอยู่ในทุกวันน้ีเป็น
กำแพงเมอื งท่ีสรา้ งขึ้นในสมัยพระนารายณม์ หาราช

กำแพงเมืองนครศรธี รรมราช มีลักษณะเป็นรูปสี่เหล่ียมผืนผา้ สามารถวดั ความสูงถึงยอดเสมา
ได้ 15 ศอก เชิงเทินมีความหนา 22 ศอก ริมเชงิ เทนิ มีความสูง 2 ศอก ความลึกของกำแพงมคี วามลกึ ถึง 8 ศอก
มีป้อมปราการทั้งหมด 10 ป้อม มีคูลอ้ มรอบสันนิษฐานวา่ มีการบูรณะกำแพงเมืองส่วนต่าง ๆ กนั มาหลายคร้ัง
ทุ ก ค รั้งค งพ ย าย าม รัก ษ าแ น ว ก ำแ พ งเดิ ม ไว้ ก ำแ พ งเมื อ งน ค รศ รีธ รรม ราช ต้ั งอ ยู่ ริม ค ล อ ง
หนา้ เมอื ง ถนนมมุ ปอ้ ม อำเภอเมือง จงั หวัดนครศรธี รรมราช

จุดท่ีน่าสนใจ กำแพงดิน แสดงถึงความเก่าแก่ ความแข็งแกร่ง ความเจริญรุ่งเรืองท่ีเคย
ปกป้องเมืองนครศรีธรรมราชจากข้าศึก เป็นโบราณสถานท่ีสำคัญของจังหวัด เป็นเคร่ืองแสดงถึง
ความเจริญรุ่งเรืองและประวัติศาสตร์อันยาวนาน ปัจจุบันได้รับการบูรณะใหม่ให้แข็งแรงและสวยงาม
เพอ่ื พฒั นาเปน็ อกี 1 สถานท่ี ท่องเทย่ี วทางประวตั ศิ าสตร์อนั ทรงคุณค่า

การเดินทาง สามารถเดินทางโดยรถยนต์ รถจักรยนต์ รถจักรยาน และเดินเท้า ถนน
มุมปอ้ ม อำเภอเมอื งจังหวัดนครศรธี รรมราช กำแพงเมอื งนครศรีธรรมราชตัง้ อยู่รมิ คลองหน้าเมือง

ข้อมูลการติดต่อ บริเวณสวนศรีธรรมโศกราช และฝังตรงข้าม ถนนถนนราชดำเนิน ตำบลใน
เมือง อำเภ อเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช เบอร์ติดต่อ 075-356458 เว็บไซต์
http://www.fad12.go.th อเี มล [email protected]

3.2.1.4 หอพระอศิ วร
หอพระอิศวร สันนิษฐาน
ว่าสร้างในสมัยอยุธยา แต่ของเดิมชำรุด
ไปหมดแล้ว อาคารที่ปรากฏทุกวันน้ีเป็น
อาคารท่ีกรมศิลปากร บูรณะข้ึนใหม่ เม่ือ
พ.ศ. 2509 ทางด้านเหนือของหอพระอิศวร
เป็นวัดเสมาเมือง ทางด้านใต้เป็นเสาชิงช้า
ซ่ึ งส ร้างขึ้ น ให ม่ แ ท น ข อ งเก่ าซึ่ งใช้ ใน
พิธียัมปวายและตรีปวาย ของพราหมณ์เมือง
นครศรีธรรมราช โดยจำลองแบบมาจาก
เสาชิงช้าในกรุงเทพฯ แต่มีขนาดเล็กกว่า และเพิ่งเลิกไปเมื่อ พ.ศ.2468 เดิมหอพระอิศวรเป็นที่ประดิษฐาน
เทวรูปพระอิศวรหลายองค์ เป็นปางหรือภาคต่าง ๆ กัน ซึ่งเป็นเทพสูงสุดตามความเช่ือของพราหมณ์ลัทธิไศว

24

นิกาย แต่เดิมใกล้ ๆ กับเสาชิงช้า มีโบสถ์พราหมณ์อยู่หลังหน่ึง แต่ปัจจุบันผุพังลงจนไม่เหลือซากแล้ว ภายใน

บริเวณโบสถ์เป็นแหล่งที่พบช้ินส่วนเทวรูปท่ีหล่อด้วยสำริดอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 18 - 25 หลายองค์

ด้วยกนั อาทิ พระพิฆเนศวร พระศิวะ นาฏราช พระอุมา และรปู หงส์ นับว่าเกา่ แกม่ ีคา่ ย่งิ นัก ซึ่งตอ่ มาได้ยา้ ยมา

ไว้ในหอพระอิศวรช่ัวคราว และจากนั้นทางพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเกรงว่าจะสูญหายไป จึงได้ย้ายมาเก็บ

รักษาไวใ้ นห้องจดั แสดงของทางพิพธิ ภณั ฑโ์ ดยหล่อรูปจำลองไว้แทนทีใ่ นหอพระอิศวร

สิ่งท่ีน่าสนใจ เปน็ โบราณสถานในศาสนาฮนิ ดู เป็นที่ประดษิ ฐานศวิ ลึงค์ ซ่งึ ถือเปน็ สัญลักษณ์

ของพระอิศวรและฐานโยนิ รวมท้ังเทวรูปสำริดอกี หลายองศ์ อาทิ เทวรูปศิวนาฏราช พระอุมาและพระพิฆเนศ

ซึง่ จำลองจากองศจ์ รงิ ท่ีเกบ็ รกั ษาไวท้ ่ี พิพิธภัณฑสถานแหง่ ชาตินครศรธี รรมราช

การเดินทาง จากทางหลวงหมายเลข 401 ถึงตัวเมืองนครศรีธรรมราชไปตามถนน

ราชดำเนินผ่านสนามหน้าเมือง หอพระอิศวรอยู่ตรงข้ามหอพระนารายณ์ พาหนะประจำทางมีรถสองแถวสาย

หัวถนน - สนามกีฬา วง่ิ ผา่ นหอพระอศิ วร คา่ บรกิ ารท่านละ 10 บาท

ข้อมูลการติดต่อ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80130 เบอร์ติดต่อ

075-356458 เวบ็ ไซต์ http://www.finearts.go.th/fad14/ อเี มล [email protected]

3.2.5.5 หอพระนารายณ์

หอพระนารายณ์ ตั้งอยู่

ถนนราชดำเนินตรงข้ามหอพระอิศวรเป็น

โบราณสถานในศาสนาพราหมณ์ ลัทธิ

ไวษณพนิกาย ซึ่งนับถือพระนารายณ์เป็น

เท พ สู งสุ ด มี เท ว รู ป พ ร ะ น าร า ย ณ์

ประดิษฐานอยู่อาคารหอพระนารายณ์

เดิมไม่สามารถสืบทราบรูปแบบได้แล้ว

ส่ิงที่พบภายในหอพระนารายณ์ ได้แก่

เทวรูปพระนารายณ์สลักจากหินทราย หอพระนารายณ์ สี

เทาทรงหมวกรูปกระบอกปลายสอบ และพระหัตถ์ขวาทรงสังข์ มีอายุราวพุทธศตวรรษ ท่ี 10 - 11 นับเป็น

เทวรูปท่ีเก่าแก่ท่ีสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ

นครศรีธรรมราช

ส่ิงที่น่าสนใจ โบราณสถานในศาสนาพราหมณ์ และเทวรูปพระนารายณ์สลักจากหินทรายสี

เทา ที่ตั้งแสดงอยู่ในหอพระนารายณ์ขณะน้ี คือ เทวรูปพระนารายณ์จำลองจาก องค์จริงท่ีพบในแหล่ง

โบราณคดแี ถบอำเภอสิชล

การเดินทาง โดยสารรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน ผ่านถนนราชดำเนิน ตำบล

ในเมอื ง อำเภอเมอื งนครศรีธรรมราช

25

ข้อมูลการติดต่อ ถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จงั หวัดนครศรีธรรมราช 80130

เบอรต์ ิดตอ่ 075-356458/075-324479 เว็บไซต์ http://www.finearts.go.th/fad14/

อเี มล [email protected]

3.2.2 อำเภอลานสกา

วงั โบราณ ลานสกา

จากตำนานพระเจ้าศรีธรรมโศกราชของ จังหวัด

นครศรีธรรมราช ของวัดมหาธาตุวรมหาวิหารว่า ประมาณ

ปี 1700 - 1800เมืองนครศรีธรรมราช มีกษัตริย์สามพี่น้อง

พระเชษฐา ทรงพระนามว่า “พระเจ้าศรีธรรมโศกราช”

องค์รองชื่อ “จันทรภาณุ” องค์สุดท้ายนามว่า “พงษาสุระ”

ทุกพระองค์ครองราชย์จะทรงพระนามว่าพระเจ้าศรี ธรรมโศกราช ทั้งหมดในช่วงนี้ได้สร้างความ

เจริญให้กับอาณาจักรเป็นอย่างมากทั้งโดยได้ครอบครองเมืองท้ังหลายตลอดแหลมมลายู เรียกว่าเมืองสิบสอง

นักษัตร ถือรูปดอกบัว เป็นสัญลักษณ์ประจำเมือง นอกจากน้ีพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ได้บูรณะพระบรมธาตุ

น ค ร ศ รี ธ ร ร ม ร า ช

ซึง่ แบบเดมิ เปน็ แบบศรีวชิ ัย ให้เป็นแบบลังกา โดยก่อครอบเจดยี ์เดิม เม่อื สน้ิ สมัยกษัตริยป์ กครอง ต่อมาในสมัย

พ่อขุนรามคำแหงได้มีการสร้างระเบียงรอบองค์พระบรมธาตุ ทำกำแพงรอบทั้งส่ีด้าน สร้างวิหาร

ติดกับองค์เจดีย์ใหญ่ และสร้างพระพุทธรูปขึ้นแทนองค์พระเจ้าศรีธรรมโศกราชเพ่ีอประดิษฐานไว้ ใน

วิหารสามจอม และเรียกกันต่อมาว่า วิหารพระเจ้าศรีธรรมโศกราช ในสมัยพระเจ้าศรีธรรมโศกราชได้เกิดโรค

ห่าระบาด หลายครั้งพระองค์ต้องอพยพประชากรหนีโรคภัยออกจากเมืองหลายครั้ง ตามหลักฐาน

ได้ปรากฏว่าหนีมาท่ีลานสกา และสถานที่ประทับก็คือ วังโบราณแห่งนี้ โดยพระองค์ได้คิดวิธีแก้ไข้ห่า

โดยเอาปรอทมาหุงขัดยาทำเป็นหัวนโม หว่านทั่วเมอื งเพี่อขจัดโรคห่าให้หมดไป เม่ือหมดจากโรคห่า พระองค์

จึงเสด็จป ระทับ ที่ เมืองน ครศรีธรรมราช เป็ นการถาวร สถานท่ี ตรงน้ั นจึงเกิ ดเป็น วัดขึ้น ชื่อว่า

วดั นำ้ รอบ แต่ตอ่ มาไดย้ า้ ยวัดมาที่สถานทใ่ี หม่ เนือ่ งจากสถานที่เก่ากับแคบ แต่ต่อมาในปี 2510 ได้บรู ณะข้นึ มา

ใหม่ได้มีการนำพระพุทธรูปจำลององค์พระเจ้าศรีธรรมโศกราช มาประดิษฐานที่นี่ด้วยในปี 2514

เพ่ีอเตือนใจว่าที่นี่เคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าศรีธรรมโศกราชมาแต่คร้ังก่อน ต่อมาในปี 2518 ท่ีนี่ได้เกิด

อุทกภัย พระพุทธรูปองค์นี้ได้สญู หายไป ต่อจากน้ันชาวบ้านได้กล่าวขานกันว่า องค์พระได้มาเขา้ ฝนั บอกว่า จม

อยู่ในน้ำนานแล้ว ให้ช่วยเอาข้ึนมาด้วย ชาวบ้านก็ช่วยกันขุดแต่ไม่สามารถหาเจอ จนกระทั่งในปี 2546 ได้ทำ

การขุดค้นอีกครั้งและได้ทำการบวงสรวงเทพยดาและส่ิงศักด์ิสิทธิ์ทำให้ได้ค้นพบ ช้ินส่วนองค์พร

ะในคราวนั้นและในเดือน กรกฎาคม 2546 ได้มีการค้นพบแท่นประทับของพระเจ้าศรีธรรมโศกราช

โดยกลา่ วกนั ว่า การคน้ พบน้นั มาจากการเขา้ ฝนั และเป็นที่สกั การบชู าของชาวพุทธทว่ั โลกมาจนถงึ ปจั จุบนั น้ี

ส่ิงท่นี า่ สนใจ โบสถเ์ กา่ เปน็ วังโบราณทีป่ ระทับพระเจา้ ศรีธรรมโศกราช และพอ่ ท่านวิน

26

การเดินทาง โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์และรถจักรยาน จากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ใช้
เส้นทางหมายเลข 4019 ประมาณ 18 กิโลเมตร จะเข้าสู่อำเภอลานสกา หรือหากเดินทางจากตัวเมืองนครไป
ยัง อำเภอลานสกาก็ใช้เส้นทางถนนสายลานสกา – ไมห้ ลา

ข้อมูลการติดต่อ ตำบลลานสกา อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช 80230 เบอร์ติดต่อ
075-391160 เวบ็ ไซต์ http://www.lansaka.go.th/index.php

3.2.3 อำเภอชา้ งกลาง

วดั ธาตนุ ้อย
วัดธาตุน้อย หรือ วัดพระธาตุน้อย
ต้ังอยู่ในเขตตำบลหลักช้าง อำเภอช้างกลาง
จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งขึ้นโดยความประสงค์
ของพ่อท่านคล้าย (พระครูพิศิษฐ์อรรถการ)
พระเกจิอาจารย์ท่ีชาวใต้เสื่อมใสศรัทธาอย่างสูงย่ิง
รูปหนึ่ง ซึ่งศิษยานุศิษย์และประชาชนท่ีเคารพ
นับ ถือ ศรัท ธา พ่ อท่ าน คล้ายได้ เชื่อถือถึง
ความศกั ดิ์สิทธ์ิของวาจา พูดอยา่ งไรเปน็ อย่างนน้ั ท่านมักจะให้พรกับทุกคน ขอให้เปน็ สขุ เปน็ สขุ พอ่ ท่านคลา้ ย
วาจาสิทธ์ิ ได้ช่ือว่าเป็นเทวดาเมืองคอน เทพเจ้าแห่งแดนใต้ ชาวเมืองคอนเสื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างย่ิง โดย
ประดิษฐานพระเจดีย์ พระสารีริกธาตุและสรีระสังขาร พ่อท่านคล้ายในโลงแก้ว ประดิษฐานอยู่ในองค์พระ
เจดยี ์ ณ สถานทน่ี ้ี จึงเปน็ เจดีย์อนสุ รณ์สถานพอ่ ท่านคล้าย อกี ด้วย
สิ่งท่ีน่าสนใจ เป็นที่ตั้งของเจดีย์พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ พระเกจิอาจารย์ที่ชาวใต้เสื่อมใสศรัทธา
อ ย่ า ง สู ง ยิ่ ง รู ป ห น่ึ ง ท่ี น่ี มี ชื่ อ เสี ย ง ใ น เรื่ อ ง ค ว า ม ศั ก ด์ิ สิ ท ธิ์ ภ า ย ใน วั ด มี เจ ดี ย์ สี ข า ว ตั้ ง เด่ น อ ยู่ ก ล า ง วั ด

27

ด้านในเป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์พระสารีริกธาตุและสรีระสังขารพ่อท่านคล้ายซ่ึงมีสภาพ แข็งด่ังหินและ
มีพระนอนองค์ใหญ่ ท่ีสวยงาม อีกแห่งหน่งึ ของภาคใต้

การเดินทาง โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์และรถจักรยาน จากอำเภอเมือง เส้นทางหมายเลข
4195 สู่อำเภอช้างกลาง พอเจอแยกช้างกลางเลี้ยวซ้าย ว่ิงตรงไปเร่ือย ๆ อีกราว 50 กิโลเมตร
จนพบสะพานพ่อท่านคลา้ ย จากนัน้ ลงสะพานก็เลีย้ วซ้ายเข้าวดั

ข้อมูลสามารถติดต่อ เลขท่ี 281 หมู่ท่ี 1 ตำบลหลักข้าง อำเภอข้างกลาง จังหวัด
นครศรธี รรมราช 80250 เบอรโ์ ทร 075-486779

3.2.4 อำเภอปากพนัง

3.2.4.1 วัดหรงบน
วัดหรงบน คำน้ีเป็นท่ีสงสัยกันมากว่า หมายความว่าอย่างไร บางคนว่าเป็นชื่อต้นไม้ หรือ
เพี้ยนมาจากคำว่า หงษ์ เนื่องจากวดั บริเวณแถบนท้ี ุกวัดจะมรี ่องรอยเสาหงษ์ เปน็ ชากเสาไม้ใหเ้ หน็ อยู่หลายวัด
เม่ือมีการสำรวจวัดปี 2497 นับเป็นคร้ังแรกของการบันทึกอาจมีการบันทึกผิดจะเพี้ยนเพราะสำเนียงพูดหรือ
การเขียนหนังสือไม่เก่งของคนสมัยโน้น ก็พอคิดได้ว่าชื่อหรงบน คำว่า หรง อาจเพ้ียนมาจาก คำว่า หงษ์
เป็นได้ ส่วนคำว่า บน เนื่องจากใกล้ ๆ วัดหรงบน ประมาณห้าร้อยเมตรยังมีวัดอีกวัดหน่ึงชื่อวัดกลาง (วัดคง
คาวดี) ถัดไปอีกประมาณหนึ่งกิโลเมตรครึ่งก็มีอีกวัดชื่อวัดล่าง (วัดหงษ์แก้ว) เมื่อดูชื่อวัดทั้งสามวัดแล้ววัดหร
งบนชาวบ้านก็เรียก วัดบน อยู่เป็นประจำ จึงเป็น วดั บน วัดกลาง วัดล่าง ลำดับบนล่างน้ัน ชาวบ้านนับเอาลำ
คลองสายหน่ึงทีไ่ หลผา่ นวัดท้ังสาม วดั หรงบนอยู่บนสุด วดั กลาง (คงคาวดี) อยูก่ ลาง วัดหงสแ์ ก้ว อยลู่ ่างสุด
วัดหรงบนมีบันทึกไว้ในหนังสือประวัติวัดจังหวัดนครศรีธรรมราชว่าต้ังเมื่อ พ.ศ.2114
ยงั ไมม่ ีวิสุงคามสมี า มคี ำบอกเล่าตอ่ ๆ กันมาว่าได้ย้ายมาจากวดั สระหนองหอย (เปน็ ท่ีรกร้างมแี ต่ซากอฐิ เก่า ๆ
ให้เหน็ ) มาตงั้ ใหม่เปน็ วัดหรงบน ไม่ปรากฏลำดับเจ้าอาวาส มีแต่คำบอกเล่าว่า ในอดีตมีพระเถระเปน็ สมภารผู้
ตั้งวัดและได้เก็บอัฐิใส่ไว้ในพระประธานท่ีศาลาการเปรียญ 3 องค์ ช่ือว่า สมภารทองปาน สมภารทองหอม
สมภารทองห่อ จนมาถึงอาจารย์เอียด (พ่อท่านเอียด) อาจารย์ของหลวงปู่เขียว อินทมุนี ซ่ึงหลังพ่อท่านเอียด
มรณะ ชาวบ้านก็ได้นิมนต์ให้หลวงปู่เขียวมาเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อไปจนหลวงปู่เขียวมรณะ วดั หรงบนก็ว่างเว้น
เจ้าอาวาสอยู่หลายปี ชาวบ้านจึงได้นิมนต์อาจารย์สมนึก ฉันทธัมโม มาครองวัดเป็นเจ้าอาวาสเมื่อ พ.ศ.2537
สืบต่อมาจนถึงปจั จบุ นั นี้

28

สิ่งท่ีน่าสนใจ หลวงปู่เขียว อินทมุณี พระผู้มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์และวาจาสิทธิ์ สรีระเผา
ไมไ่ หมแ้ ม้ กระทง่ั จีวร เสน้ เกศา เล็บมอื เล็บเท้า เนอ้ื หนงั

การเดินทาง โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์จากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ทางหลวง
หมายเลข 408 ถึงส่ีแยกบ่อล้อ เข้าถนนหมายเลข 4094 ระยะทาง 53 กิโลเมตร ระยะทางประมาณ 53
กิโลเมตร ถึงทางแยกเล้ียวซ้ายมุ่งไปตำบลไสหมาก เส้นทาง นศ.4057 วัดหรงบนอยทู่ างขวามอื

ข้อมูลการติดต่อ วัดหรงบน เลขท่ี 56 หมู่ 3 ตำบลบางตะพง อำเภอปากพนัง จังหวัด
นครศรีธรรมราช 80140 เบอร์ติดต่อ 075-
470995

3.2.4.2 พระตำหนักประทับ
แรมปากพนัง

พ ระตำห นั กป ระทั บ แรม
การสร้างบ้านให้พ่อซึ่งดำเนินการโดยความ
ร่วมมือของชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชและ
ชาวไทยท่ัวประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้
เป็ น พ ร ะ ต ำ ห นั ก ท ร ง ง า น ถ ว า ย แ ด่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในคราวเสด็จ
และทรงงานในจงั หวัดนครศรีธรรมราช ภายใน
พระตำหนักประกอบไปด้วย กลุ่มอาคารพระตำหนักฯ มีลักษณะสถาปัตยกรรมภาคใต้ ต้ังอยู่ในพื้นท่ีโครงการ
พัฒนาพื้นที่ลุ่มนํ้า ปากพนังอันเน่ืองมาจากพระราชดำริ ในอดีตอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชและ
ในเขตพ้ืนที่ลมุ่ นาํ้ ปากพนัง “พรคุ วนเครง็ ” ประสบกบั ปญั หาเดือดร้อน จากความเสื่อมโทรมของทรัพยากรและ
ส่ิงแวดล้อม อย่างหนัก ท้ังอุทกภัยการขาดแคลนน้ําจืด ปัญหาดินเปรี้ยว ปัญหานํ้าเค็มรุกลํ้าพื้นท่ีเกษตร
ผลผลิตตกตํ่า ซึ่งก่อให้เกิดความทุกข์ยากแร้นแค้น ส่งผลถึงการอพยพแรงงาน และการโยกย้ายถ่ินฐาน จาก
ดินแดนซึ่งเคยเป็น “อู่ข้าวอู่นํ้า” มีความอุดมสมบูรณ์ท้ังพ้ืนที่นาและในแม่น้ํากลับกลายเป็นพ้ืนที่ท่ีมีความ
ยากจนมากทสี่ ดุ ของประเทศ

ส่งิ ทนี่ า่ สนใจ พระตำหนกั ประทบั แรมปากพนงั หรือ พระตำหนักประทบั แรมเฉลิมพระเกียรติ
อำเภอปากพนัง ตั้งอยู่ท่ี ตำบลหูล่อง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นพระตำหนักแห่งแรกและ
แ ห่ ง เ ดี ย ว ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ ที่ ก่ อ ส ร้ า ง ขึ้ น จ า ก ค ว า ม ร่ ว ม แ ร ง ร่ ว ม ใ จ ข อ ง ป ร ะ ช า ช น
ชาวไทย เพื่อทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยความจงรักภักดีและสำนึกใน
พระมหากรุณาธิคณุ อันลน้ พ้นทีพ่ ระองค์ทา่ นทรงเมตตาต่อเหล่าพสกนิกรชาวปากพนงั เป็นทีย่ ิ่ง

สงิ่ อำนวยความสะดวก สขุ า ศนู ย์บริการนักท่องเท่ียว ปา้ ยช้ีทางเข้าถงึ และท่จี อดรถ 50 คัน
การเดินทาง จากอำเภอเมืองไปยังอำเภอปากพนังระยะทางประมาณ 35 กิโลเมตร
ใช้เส้นทาง 4013 เล้ียวขวาบริเวณสามแยก ไปยังอำเภอปากพนังฝังตะวันออก ถึงส่ีแยกเล้ียวขวาอีกคร้ัง

29

เดินทางต่ออีกประมาณ 2 กิโลเมตร ถึงหัวงาน โครงการพัฒนาพ้ืนที่ลุ่มแม่น้ําปากพนัง อันเนื่องมาจาก
พระราชดำริ และหากจะเดินทางไปยังอำเภอปากพนังฝังตะวันออกใช้เส้นทาง 4013 จากอำเภอเมือง
เลยี้ วขวาบรเิ วณสามแยก ผา่ นส่แี ยก และข้ามสะพานขา้ มแมน่ ํ้าปากพนัง ไปยังอำเภอปากพนงั ฝ่ังตะวันออก

ข้อมูลการติดต่อ ตำบลหูล่อง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80140
เบอรต์ ิดต่อ 075-416138

3.2.4.3 เกาะกระ
เกาะกระ เป็นหมู่เกาะเดียวในพ้ืนที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์
ในฝังทะเลอ่าวไทย เป็นแหล่งท่องเท่ียวกลางทะเลท่ียังมีความอุดมสมบรูณ์มากที่สุดในทะเลอ่าวไทย ถือว่าเป็น
แหล่งท่องเที่ยวท่ียังบริสุทธ์ิมาก มีระบบนิเวศที่สมบูรณ์ มีหาดทรายยาวประมาณ 150 เมตร
มีแนวปะการังครอบคลุมพ้ืนท่ีกว่า 400 ไร่ และยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดของอ่าวไทย โดยพบปะการัง
แปรงลา้ งขวดหลายชนิด

นับว่าเป็นเกาะท่ีสวยงามคงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรใต้ท้องทะเลอ่าวไทยที่หาชม
ได้ยาก เหมาะแก่การเที่ยวชมของผู้ท่ีรักในการดำน้ำหรือผู้ท่ีชอบพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติ
ที่เงียบสงบ เกาะกระ ประกอบด้วย 3 เกาะ และเกาะบริวารอีก 2 เกาะ คือ เกาะกลางและเกา ะเล็ก
และเกาะขนาดเล็กอีก 1 เกาะ ที่ชาวบ้านเรียกว่า “กองหิน” ซ่ึงเกาะมีพื้นท่ีขนาดใหญ่ที่สุด พื้นที่เกือบทั้งหมด
เป็นภูเขาสูงมีแนวหาดทรายสั้น ๆ อยู่ทางทิศตะวันตก ท้ังน้ีเกาะกระ ยังเป็นแหล่งวางไข่ของเต่าทะเลอีก
หลายชนดิ เช่น เตาตนุ เตา่ มะเฟอื ง เต่ากระ เต่าหญา้ เตา่ หัวคอ้ น

สิ่งท่ีน่าสนใจ “หอยบุษราคัม” หอยชนิดใหม่ของโลกพบท่ีเกาะกระ จังหวัดนครศรีธรรมราช
ไดร้ ับพระราชทานช่อื จากสมเด็จพระเทพรตั นราชสุดาฯ สยามบรมสยามบรมราชกมุ ารี ว่า “หอยบุษราคัม”

การเดินทาง การเดินทางไปยังหมู่เกาะกระสามารถลงเรือได้ 3 จุด ภายในจังหวัด
นครศรีธรรมราช จุดแรกคือ จากปากนํ้าขนอม อำเภอขนอม ระยะทางประมาณ 79 ไมล์ทะเล จุดที่ 2
จากแหลมตะลุมพุกระยะทางประมาณ 29 ไมล์ทะเล และจุดที่ 3 จากอำเภอหัวไทรมีระยะทางประมาณ 53
ไมล์ทะเล

30

ข้อมูลการติดต่อ สำนักงานการท่องเท่ียวและกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช โทรศัพท์/แฟกซ์
075-378046 Email : [email protected]

3.2.5 อำเภอพรหมครี ี

3.2.5.1 วดั เขาขุนพนม

ตามประวัติเชื่อกันว่า เขาขุนพนม เคยเป็นท่ีประทับของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ภายหลังจากสนิ้ รัชกาลของพระองค์ มีผ้สู ันนิษฐานวา่ พระเจ้าตากสินทรงมิได้ถูกประหารชีวิตอยา่ งท่พี งศาวดาร
กล่าวอ้าง แต่ได้ทรงสับเปล่ียนพระองค์กับพระญาติหรือทหารคนสนิท แล้วเสด็จมายังนครศรีธรรมราช มีการ
เตรียมการโดยมีการสร้างป้อมปราการ ทำเชิงเทิน ป้อมวงกลม ตามชะง่อนผาเพ่ือให้พระเจ้าตากสินได้ประทับ
เม่ื อ ท ร ง ผ น ว ช เ จ ริ ญ วิ ปั ส ส น า ก ร ร ม ฐ า น ณ วั ด เ ข า ขุ น พ น ม จ น เส ด็ จ ส ว ร ร ค ต
แต่บางกระแสกล่าวว่าเขาขุนพนม สร้างโดยพระยาตรังภูมาภิบาลเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช สำหรับพัก
ตากอากาศที่เขาขุนพนม จึงมีการสร้างป้อมปราการคอยป้องกันอย่างแน่นหนา ความสำคัญต่อชุมชนชาวเขา
ขุนพนมมีความเช่ือเรื่องพระเจ้าตากสินมหาราช เสด็จหนีมาประทับที่เขาขุนพนม จึงได้ร่วมมือกันสร้างพระ
ตำหนักสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช บริเวณชะง่อนหินเชิงเขาซ่ึงเป็นบริเวณ ท่ีเชื่อว่าพระองค์ประทับขณะ
ผนวชอยู่ ประชาชนท่ียังระลึกถึงวีรกรรมและความกล้าหาญในการกู้เอกราชชาติไทยในสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา
คร้ังท่ี 2 ได้ร่วมกันสร้างพระบรมสาทิสลักษณ์ ทั้งในเพศบรรพชิต และชุดฉลองพระองค์นักรบ แล้วอัญเชิญ
ม า ไว้ ใน ศ า ล ให้ ผู้ ค น ที่ ศ รั ท ธ า ได้ ม า ก ร า บ ไห ว้ ปั จ จุ บั น จึ ง มี ป ร ะ ช า ช น จ า ก ทั่ ว ส า ร ทิ ศ ม า
เขาขุนพนมอยเู่ สมอ เพอ่ื ตามรอยพระเจ้าตากสินมหาราช ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเขาขนุ พนมมีลักษณะเป็น
ภูเขาหินปูนลูกโดดเตี้ย ๆ มีต้นไม้ปกคลุมอยู่อย่างหนาแน่น บนภูเขามีถํ้าหินปูน ที่มีโพรงหินงอก
หินย้อย ลักษณะของภูเขาวางตัวอยู่ในแถบ เหนือ - ใต้ มีความยาวประมาณ 750 เมตร กว้างตามแนว
ทางทิศตะวันออก - ตะวันตก ประมาณ 500 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 43 เมตร
ส่วนยอดเขาสูงจากระดับน้ําทะเลปานกลาง ประมาณ 165 เมตร ทางทิศใต้ของภูเขาเป็นทางลาดชัน
ทางทิศเหนือเป็นไหล่เขา ทางทิศตะวันตกเป็นสวนมังคุดและสวนยางพารา ทางทิศตะวันตกเป็นโรงเรียนและ

31

วัดเขาขุนพนม เขาขุนพนมมีจุดเด่นอยู่ที่ วัดเขาขุนพนม ซ่ึงต้ังอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ของ
เขาขุนพนม ประวัติการก่อสร้างไม่ปรากฏ แต่หลักฐานประเภทโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ สามารถ
บ่งไดว้ า่ วดั เขาขุนพนมน่าจะสรา้ งข้ึนในตงั้ แตค่ รงั้ กรุงศรอี ยธุ ยาเปน็ ราชธานี

สิง่ ทน่ี ่าสนใจ
- มีความสำคัญทางด้านโบราณคดีและประวัติศาสตร์ เน่ืองจากมีถํ้าท่ีมีกำแพงก่ออิฐถือปูน
และใบเสมา เหมือนกำแพงสมยั โบราณ
- ผนังของวดั ดา้ นหนา้ เป็นลวดลายปนู ปั้นประดับด้วยเคร่ืองลายครามของจีน
- ในบริเวณถา้ํ มพี ระพุทธรปู 30 องคแ์ ละพระพุทธบาทสำรดิ
- คนทอ้ งถน่ิ วา่ เชื่อว่า เปน็ ท่ีประทับของพระเจ้าตากสินขณะทรงผนวช
สิ่งอำนวยความสะดวก สขุ า ปา้ ยสือ่ ความหมาย ปา้ ยช้ีทางเขา้ ถงึ
การเดินทาง โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 4016 ที่จะเดินทางจาก
อำเภอเมืองนครศรีธรรมราชมุ่งหน้าไปอำเภอนบพิตำ ผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมรา ช
จนมาถึงอำเภอพรหมคีรี (ระยะทางประมาณ 23 กิโลเมตร) เมื่อถึงสี่แยกพรหมคีรี ให้เล้ียวขวาขับรถ
ตามป้ายบอกทางไปอกี ประมาณ 3 กิโลเมตร
ขอ้ มลู การตดิ ต่อ ตำบลบา้ นเกาะ อำเภอพรหมคีรี จงั หวดั นครศรธี รรมราช 80320
เบอร์ติดตอ่ 075-344714/075-357800 เวบ็ ไซต์ http://nrt.onab.go.th/index.php
3.2.5.2 พระตำหนักเมอื งนคร

พระตำหนักเมืองนครได้เร่ิมสร้างมาต้ังแต่ 17 สิงหาคม 2537 ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี
นายสัมพันธ์ ทองสมัคร ได้มอบท่ีดินให้กับทางราชการ และได้ร่วมกับกรมอาชีวศึกษาดำเนินการก่อสร้างพระ
ตำหนักท่ีประทับน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถ ในมหามงคลวโรกาสทรงครองสิรริ าชสมบติ ครบ 50 ปี และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในมหามงค ลสมัยทรงเจริญ พระชันษาได้
40 พรรษา

32

ทั้งนี้เพื่อเป็นที่ประทับในระหว่างเสด็จ พระราชดำเนินทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
ในพ้ืนที่จงั หวดั นครศรธี รรมราชและจงั หวัดใกลเ้ คียง โดยต้ังอยู่ในสวนผลไมเ้ ก่าแก่ของตระกลู ทองสมัคร ผสู้ ร้าง
เรือน รับ รองถวายใน น าม ของช าวเมืองน ครศรีธ รรม ราช พ ระบ าท สมเด็จพ ระเจ้าอยู่หั วท รง
โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเปิดพระตำหนัก
แทนพระองค์เมอื่ วันที่ 17 สิงหาคม 2541

สิ่งท่ีน่าสนใจ วัดสวนแบบผสม ผลไม้หลากหลายชนิด ศาลเจ็ดเกลอ แวดล้อมด้วยชุมชน
ชาวสวน

ส่ิงอำนวยความสะดวก สุขา มัคคเุ ทศกท์ อ้ งถน่ิ ป้ายส่อื ความหมาย ปา้ ยช้ีทางเข้าถงึ
การเดินทาง โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน จากตัวเมืองนครศรีธรรมราชไป
ทางอำเภอพรหมคีรีตามทางหลวงหมายเลข 4016 ผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ที่ว่าการอำเภอ
พรหมคีรี เมื่อเจอสี่แยกไฟแดงให้เล้ียวขวา (ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปวัดเขาขุนพนม) หรือ เมื่อเจอ
สแ่ี ยกไฟแดงให้ตรงไป ขา้ มสะพานแลว้ เล้ยี วขวาไปตามถนนตากสินอนสุ รณ์
ข้อมูลการติดต่อ หมู่ 3 ตำบลบ้านเกาะ อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช 80320
เบอร์ตดิ ตอ่ 075-396300 เว็บไซต์ http://www.bankoh-utt.go.th/index.php?p=1

3.2.6 อำเภอทา่ ศาลา

3.2.6.1 โบราณสถานวดั โมคลาน
โบราณสถานวัดโมคลาน ลักษณะเป็นเทวสถานโบราณของศาสนาฮินดูในลัทธิไศวนิกาย
มีอายุประมาณพุทธศตวรรษท่ี 12 - 14 ต่อมาถูกท้ิงร้างไป มีการค้นพบร่องรอยหลักฐานทางโบราณคดี ได้แก่
เนินซากโบราณ สถาน โบราณ วัตถุจำพวกหลักหิน สระนํ้าโบราณ เป็นส่วนของสถาปัตยกรรม
มาแต่เดิม เช่น ฐานโยนิ เศษภาชนะดินเผาฯลฯ แสดงให้เห็นว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นชุมชนโบราณเก่าแก่ท่ีมี
มาก่อนการตงั้ ถน่ิ ฐานของเมอื งนครศรธี รรมราช

33

โบราณสถานแห่งน้ีค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2477 สภาพทั่วไปในขณะน้ันยังเป็นป่าทึบ
ต่อมาปี พ.ศ.2511 โครงการสำรวจทางโบราณคดีไทย - อังกฤษ นำโดยศาสตราจารย์ ลูฟส์ (H.H.E.Loofs)
ได้เข้าสำรวจพบเสาหินเป็นจำนวนมาก ถูกนำมาปักไว้เป็นระยะห่ างเท่า ๆ กัน หลักหินแนวแรก
กับแนวสุดท้ายวัดจากทิศเหนือสุดถึงใต้สุดอยู่ห่างกันประมาณ 46 เมตร (บ้างก็ว่าในการค้นพบครั้งแรกเม่ือปี
พ.ศ.477 แนวหลักหินอยู่ห่างกันประมาณ 400 เมตร) โดยหลักหินแนวนอกสุดถูกทำลายลงจากการบุกรุก
จับจองท่ีดินทำกินของชาวบ้านบริเวณนี้ ปัจจุบันถูกร้ือถอนหมดแล้ว) ร่องรอยหลักฐานอื่น ๆ ท่ีพบก่อน
การขุดแต่งบูรณะโดยกรมศิลปากร มีสภาพเป็นเนินดินปนอิฐขนาดประมาณ 60 x 90 เมตร ทางด้าน
ทิศตะวันออกของเนินโบราณสถาน มีร่องรอยสระน้ำขนาดใหญ่ 1 สระลักษณะเป็นสถูปสี่เหล่ียมผืนผ้า ทอด
ยาวขนานไปกับแนวโบราณสถาน ปัจจุบันต้ืนเขินเกือบไม่เห็นร่องรอย โบราณสถานวัดโมคลาน
ได้ถูกทง้ิ ร้างไปจนกระท่ังเมอ่ื พ.ศ.2480 จึงได้มีพระภิกษุเข้ามาสร้างเป็นสำนักสงฆ์ ต่อมาจึงยกฐานะเป็นวัดดัง
ทกุ วนั นี้

นอกจากหลักฐานทางโบราณคดีแล้วยังมีกระทู้คำกลอนท่ีบอกเล่ากันมาปากต่ อปาก
หลายชั่วอายุคนว่า “ตั้งดินตั้งฟ้าต้ังหญ้าเข็ดมอน โมคลานต้ังก่อนเมืองคอนต้ังหลัง” เป็นการสะท้อนให้เห็นถึง
ความเชือ่ ของคนทอ้ งถน่ิ วา่ สถานทีแ่ หง่ น้ี มีความเก่าแก่กวา่ การตั้งเมอื งนครศรธี รรมราช

ส่ิงที่น่าสนใจ เดิมบริเวณน้ีเป็นศาสนสถานของพราหมณ์ลัทธิไศวนิกาย หลักฐานที่พบ ได้แก่
มีพระพุทธรูปประทับยืน ปางประทานธรรม (ปางวิตรรกะ) ศิลปะผสมผสานระหว่างอิทธิพลมอญ (ทวารวดี)
และเขมร กำหนดอายรุ าวกลางพุทธศตวรรษที่ 18 - กลางพุทธศตวรรษที่ 19 อกี องคเ์ ป็นพระพุทธรูปทรงเทริด
ป า ง ม า ร วิ ชั ย อิ ท ธิ พ ล ศิ ล ป ะ เข ม ร แ ล ะ ท้ อ ง ถ่ิ น อ า ยุ ป ร ะ ม า ณ พุ ท ธ ศ ต ว ร ร ษ ท่ี 1 8
พระพวยสำริด ปางประทานอภัย ศิลปะอยุธยาตอนปลาย ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วิหารโพธิ์ลังกา ด้านหน้า
วิหารเซียน วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร และแนวเสาหินแกะสลักกรอบประตูอาคาร ธรณีประตู ขึ้นส่วนโยนี
และศิวลงึ ค์ สระนํ้าโบราณ แทน่ ตั้งเทวรปู

การเดินทาง โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เดินทางโดยทางหลวงหมายเลข 401 สาย
นครศรี ๆ - ท่าศาลา ประมาณกิโลเมตรที่ 95 ถึงส่ีแยกบ้านหน้าทับเล้ียวซ้ายสู่สี่แยกอนามัย ระยะทาง
3 กิโลเมตร ถึงสี่แยกวัดโหนด - พรหมคีรี ตรงไประยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงชุมชนโบราณ
โมคลานอยทู่ างซ้ายมือ

ข้อมูลการติดต่อ หมู่ 12 บ้านโมคลาน ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช 80160
เบอร์ตดิ ต่อ 075-356458 เว็บไซต์ http://www.saophao.go.th/index.php

3.2.6.2 โบราณสถานตมุ ปงั
คนท่ัวไปเรียกสถานท่ี แห่งน้ีว่า วัดตุมปัง (ร้าง) ซ่ึงสมัยก่อนการขุดค้น โดย กรมศิลปากร
อย่างเป็นทางการ ได้มีการสันนิษฐานว่า สถานท่ีแห่งน้ีน่าจะเป็นเทวสถาน เนื่องจากมีการพบช้ินส่วนของรูป
เคารพ ท่อนล่าง และได้มีการสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระวิษณุ ซึ่งชาวบ้านเล่าว่า สมัยก่อนได้ มีการ

34

ขุดพบเทวรูปดังกล่าวและยกข้ึนหลังช้างออกจากป่า แต่เกิดพลัดตกลงมาทำให้เทวรูป แยกเป็น 2 ท่อน
ชาวบ้านเกบ็ เฉพาะทอ่ นบนขน้ึ ไป

ต่อมาในปี พ.ศ. 2545 กรม
ศิลปากร ร่วมกับมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
มีหน่วยปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างสำนักงาน
โบราณคดี และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 11
นครศรีธรรมราช ร่วมกับโครงการอาศรม
วั ฒ น ธ ร ร ม ใน ก า ร ด ำเนิ น ก า ร ชุ ด แ ต่ ง/
ชุดค้นโบราณ สถานตุมปัง เพื่อศึกษาทาง
โบราณคดี รายละเอียดทางกายภาพของแหล่ง
ขอบเขตที่แท้จริงของโบราณสถาน รวมถึงการ
อนุรักษ์โบราณสถาน ภายหลังการขุดแต่ง ทั้งนี้
ผลจากการขุดแต่ง ทำให้พบเศียรพระพุทธรูป
ส่วนของท่อนลำตัวตั้งแต่คอลงมาถึงบั้นเอว และ
ท่อนกร (ซ้าย) ต้ังแต่แขนถึงมือ เม่ือนำช้ินนส่วนทั้ง 3 ช้ิน ที่ได้ขุดพบไปประกอบเข้ากับส่วนท่อนล่างของ
รูปเคารพที่เคยพบก่อนหน้าน้ี ทำให้ทราบว่าเป็นรูปเคารพองค์เดียวกัน และเมื่อทำการประกอบช้ินส่วน
ตา่ ง ๆ เข้าดว้ ยกันแล้ว สันนิษฐานว่าเป็นพระโพธิสตั ว์อวโลกิเตศวร ดังนนั้ ขอ้ สันนษิ ฐานเดิมเก่ียวกับรูปเคารพ
จากโบราณ สถานตุมปัง ซ่ึงเคยพบเฉพาะช้ินส่วนท่อนล่างแล้วสันนิษฐานว่า เป็นพระวิษณุ นั้น
อาจมีการเปล่ียนแปลง โดยผลการสรุปที่แน่นอนนั้น ทางกรมศิลปากรและโครงการอาศรมวัฒนธรรมจะ
นำเสนอให้ทราบต่อไป

ส่ิงท่ีน่าสนใจ รูปแบบศิลปะ ภายหลังการขุดแต่งพบรากฐานของอาคารก่ออิฐจำนวนหลาย
หลัง โดยอาคารที่เห็นในภ าพเป็นอาคารในผังสี่เหล่ียมผืนผ้า ท่ีมีท้องส่ีเหล่ียมจัตุรัสขนาดเล็ก
อยู่ตรงกลาง โดยรอบอาคารูปรากฏหลุมเสา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอาคารดังกล่าวอาจมีหลังคาเป็นเคร่ืองไม้
อันทำให้นึกถึงอาคารหลังคาลาดในศิลปะอินเดียใต้และลังกา ประติมานวิทยามีการค้นพบท่อนล่างของ
ประติมากรรมประทับยืนท่ีน่ี โดยยังคงเป็นที่สงสัยกันอยู่ว่าประติมากรรมดังกล่าวอาจหมายถึงพระวิษณุหรือ
พระโพธิสัตว์กันแน่ จึงยังไม่แน่ชัดว่าโบรารณสถานดังกล่าว อาจหมายถึงเทวาลัยในลัทธินิกายไวษณวะนิกาย
หรือ พุ ทธสถานในพุ ทธศาสนามหายานปัจจุบัน ข้อสันนิษฐานได้เปล่ียนเป็นศาสนาสถานใน
พทุ ธศาสนานกิ ายมหายาน

สง่ิ อำนวยความสะดวก สุขา ปา้ ยสอื่ ความหมาย ป้ายชีท้ างเข้าถึง
การเดินทาง เดินทางโดยรถยนต์ จากตัว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ไปตามทางหลวง
หมายเลข 401 เสน้ ทางสู่ อำเภอท่าศาลา ก่อนถึงตัวอำเภอทา่ ศาลา ประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบเสน้ ทางเขา้ ไป

35

ยัง มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ (ตั้งอยู่ทางซ้ายมือ) เลี้ยวเข้าไปตามถนน ภายในมหาวิทยาลัย มุ่งหน้าไปสู่ถนน
วลัยตมุ ปัง ซึง่ เป็นถนนเสน้ เดียวกบั ทีต่ ง้ั โรงผลติ นํา้ ประปาของมหาวิทยาลยั

ขอ้ มูลการติดต่อ โบราณสถานตุมปัง ตัง้ อยู่ในเขตมหาวิทยาลยั วลัยลักษณ์ หมู่ที่ 6 ตำบลไทย
บรุ ี อำเภอท่าศาลา จงั หวดั นครศรีธรรมราช 80160 เบอรต์ ดิ ต่อ 075-356458

3.2.7 อำเภอทงุ่ สง

วดั กา้ งปลา
มีความอยู่ว่า เมื่อสมัย 800 ปีก่อน
มีเจ้าหญิงจากเมืองจีนพระองค์หน่ึง หลบหนี
ราชภัยจากมองโกล พร้อมด้วยพระภิกษุนิกาย
มหายาน เดินทางนำทรัพย์สินมาช่วยสร้าง
พระบรมธาตุเมืองนคร แต่ปรากฏว่า เรือสำเภา
ของท่านเข้าคุ้งน้ำวนท่ีคลองเภาลาย ทำให้
เรือแตก เจ้าหญิงผู้นั้นติดเกาะกลางคลอง ชื่อว่า
เกาะก้างปลา เพราะมีต้นก้างปลาขึ้นชุกชุม
เจ้าหญิงชาวจีนและคณะได้สร้างพระพิมพ์และ
พระลากข้ึนสำหรับให้สักการบูชา ทำให้เป็นท่ี
นับถือของชาวบ้านเป็นอย่างมาก วัดก้างปลา
ได้ ส ร้างขึ้ น ใน ส มั ย ช่ วงก รุงรัต น โก สิ น ท ร์
โดยตาหม่ืนแก้ว ตาหม่ืนจงั สองขุนนางของพระยานครฯ ท่ีถูกสง่ มาให้เก็บภาษีที่ท้องที่ทงุ่ สง (ในสมยั น้ัน) ท่าน
ท้ังสองเห็นพระแม่แก่ ซ่ึงเป็นรูปแทนของเจ้าหญิงจากจีนที่มาสร้างรูปพระลากไว้ พร้อมกับพระอันดับบริวาร
(พระศรีนวล พระนวลระหงส์ พ่อท่านภิญโญ พ่อท่านสาคร) จึงป่าวประกาศให้ชาวบ้านมาร่วมกันสร้างวัด
ก้างปลาข้ึน เพื่อเป็นท่ีประดษิ ฐานถาวรของพระแมแ่ ก่ และเป็นศาสนสถานประจำทอ้ งถิ่น
สำหรับวิหารของพระแม่แก่ (หลวงพ่อแก่) สร้างข้ึนในสมัยของ พระครูวิฑิต ธรรมโสภณ
(พระมหาเลียบ ฐติ ธมโม) ได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดกา้ งปลา ต้ังแต่ปี พ.ศ.2505 และไดเ้ คลื่อนยา้ ยรูปพระแก่ ท่าน
ได้เจ็บป่วยลงโดยหาสาเหตุไม่ได้ แม่ไปหาหมอท่ีไหนก็ไม่พบสาเหตุของอาการป่วย ท่านคิดข้ึนมาไดว้ ่าน่าจะมา
จากการเคล่ือนย้ายรูปพระแก่เป็นแน่ จึงได้บนบานศาลกล่าวข้ึน ท่านก็หายจากอาพาธ และได้ย้ายรูปพระแก่
มาไว้ทีเ่ ดิม และได้วดั สรา้ งวิหารขนึ้ มาใหม่ โดยประดษิ ฐานรูปพระแม่แกไ่ ว้ภายใน
สง่ิ อำนวยความสะดวก สุขา ปา้ ยส่ือความหมาย ปา้ ยชท้ี างเขา้ ถึง ทจี่ อดรถ ประมาณ 30 คนั
การเดินทาง จากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยสารรถยนต์ รถจักยานยนต์ ถนนราชดำเนิน ถึงสี่
แยกหัวถนน เลยี้ วขวาทางหลวงหมายเลข 403 สอู่ ำเภอทงุ่ สง ระยะทาง 69 กโิ ลเมตร

36
ข้อมูลการติดต่อ ตำบลท่ีวงั อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช 80110 เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ 075-
538344 เว็บไซต์ http://tiwang.go.th/

3.2.8 อำเภอทงุ่ ใหญ่

3.2.8.1 วัดอาตาปคี รี ีเขต - วัดถ้ําเพดาน (ถาํ้ เพดานนาคราชธาราทอง)

วัดอาตาปคี รี ีเขต - วัดถํา้ เพดาน (ถาํ้ เพดานนาคราชธาราทอง)

เม่ือปี พ.ศ.2518 ได้มีพระธุดงค์มาปักกลดเพื่อปฏิบัติภาวนา เพราะเห็นเป็นท่ีเงียบสงบ
มีแม่น้ำไหลผ่าน มีหุบเขาเพิงถ้าํ สำหรบั หลบฝนและเจรญิ สมาธิภาวนา นำโดยพระอาจารยเ์ จริญ กุลวฒั โตและ
พระกรรมฐานอีกหลายรูป จากท่ีท่านและหมู่คณะได้ประพฤติธรรมตามกิจของสงฆ์จนได้รับความ
เล่ือมใสศรัทธาจากชาวบ้านอย่างมากมาย ท่ านได้ปั้นพระพุทธรูปปางไสยาสน์ด้วยฝีมือท่านเอง
จากความเสื่อมใสของชาวบ้าน จึงได้นิมนต์ท่านอยู่ต่อและชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างกุฏิเพื่อความสะดวก
แก่พระสงฆ์สามเณร จากสภาพที่วัดมีภูเขาก้ันเป็นเขตแดนระหว่างจังหวัดกระบ่ีกับจังหวัดนครศรีธรรมราช
และมแี ม่น้ําไหลผ่าน เช่ือกันว่าแมน่ ํ้าสายน้ีจะไหลลงสู่แม่น้ำตาปี และภายในถา้ํ ดา้ นบนจะเปรยี บเหมือนเพดาน
ห้อง ท่านเลยต้ังช่ือวัดว่า “อาตาปีคีรีเขต ถ้ําเพดาน” หรืออีกนัยหนึ่งก็หมายถึง “หุบเขาแห่ง
ความเพียร” แต่ชาวบ้านจะรู้จักและเรียก ติดปากว่า “ถ้ำเพดาน” กันส่วนใหญ่ ในปี พ.ศ.2522
อาจารย์เจริญ ท่านได้จากถ้ําเพดานเพ่ือจารกิ ออกเผยแผ่ศาสนาต่อไป ยังความโศกเศร้าเสียใจกับชาวบ้านเป็น
อย่างยิ่ง ท่ีไม่สามารถนิมนต์ท่านให้อยู่ต่อได้ ยังคงเหลือแต่หลวงตาวิชาญ ท่านก็ได้อยู่เผยแผ่ศาสนา แทนพระ

37

อาจารย์เจ ริญ ม าห ลายปี ต่ อม าห ลวงตาวิช าญ ก็ได้ อาพ าธแ ละม รณ ภ าพ ยั งค วาม โศก เศ ร้า
แก่พุทธศาสนิกชนอีกคร้ัง หลังจากน้ันก็มีครูบาอาจารย์หลายรุ่นผลัดเปลี่ยนเข้ามาเผยแผ่ธรรมมะ
และซ่อมแซมบำรุงสถานที่ ทั้งอบรมจิตใจและพัฒนาสถานที่ในช่วงระยะท่ีมีพระสายวิปัสสนากรรมฐาน
ได้ผลัดเปลี่ยนเข้ามาประพฤติปฏิบัติธรรม เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจหลายครงั้ ที่พระกรรมฐานหลายรูปได้มีนิมิตเห็น
พญ านาค ตลอดจนผู้ที่มาปฏิบัติธรรมก็มีฝัน มีนิมิตถึงเทพพญ านาคที่อารักขาถ้ําเพดานแห่งน้ี
เหมือนจะบ่งบอกว่าสถานท่ีน้ีเป็นที่อยู่ของเทพพญานาค ที่คอยช่วยเหลือพุทธศาสนามาแต่สมัยพุทธกาล
ด้วยเหตุถ้ําเพดานมีแม่น้ำสีทองไหลลอดผ่านพ้ืนถํ้า และมีเพดานถ้ําที่ราบเรียบสวยงาม ด้วยเหตุน้ี
พระครูวินัยธรเสริม มารชิโต รักษาการเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันจึงให้ชื่อใหม่ท่ีสอดคล้องและเป็นสิริมงคล
กับสถานที่วา่ “ถ้ำเพดาน”

สิ่งท่ีน่าสนใจ เป็นศาสนสถานที่มีเพดานเป็นถํ้า ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดถ้ําเพดาน หรือ
เรียกชื่อเต็มว่า ถํ้าเพดานนาคราชธาราทอง เป็นถ้ําหินปูนในเทือกเขานางนอน มีหินงอกหินย้อย ยังคงสภาพ
เดิมของธรรมชาติ มีสภาพร่มรืน่ น่าพกั ผ่อน และฝึกสมาธิ

สง่ิ อำนวยความสะดวก สุขา ปา้ ยสอื่ ความหมาย ที่จอดรถประมาณ 40 คัน
การเดินทาง จากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชโดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ถนนหมายเลข
4015 ถึงโรงพยาบาลพ่อท่านคล้าย เลี้ยวซ้ายถนหมายเลข 4019 สู่อำเภอนาบอน เล้ียวซ้ายถนนหมายเลข
4014 ไปตำบลกรุงหยัน (ระยะทาง 11.5 กิโลเมตร) เล้ียวขวาถนนหมายเลข 4110 (ร ะยะทาง
9.1 กิโลเมตร)
ข้อมูลการติดต่อ ตำบลกรุงหยัน อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช หมู่ 7
ต.กรุงหยัน อ.ท่งุ ใหญ่ จงั หวัดนครศรธี รรมราช 80240 เบอร์โทรศพั ทต์ ิดตอ่ 081-9709719
3.2.8.2 วัดประดิษฐาราม (วัดไสหรา้ )
ชาวบ้านเรียกท่านว่า “พ่อท่านนวล” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ที่เพียบพร้อม
ด้วยจริยวัตรอันงดงาม และเป็นพระบริสุทธิ์สงฆ์ที่ยึดหลักพระธรรมวินัยตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่าง
เครง่ ครัด ปฏิบัตกิ จิ ของสงฆ์ เป็นกิจวัตรอยา่ งสมํ่าเสมอ ไมเ่ ว้นแม้ยามเจบ็ ไข้ได้ปว่ ย จนเป็นที่เลือ่ งลอื และเป็นที่
เคารพศรัทธาเล่ือมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดนปักษใต้เป็นอันมาก พ่อท่านนวล มีนามเดิมว่า นวล เจรญิ รูป
เกิดเมื่อวันท่ี 13 กรกฎาคม พ.ศ.2465 ณ บ้านไสหร้าหมู่ 4 ตำบลทุ่งสัง (หมู่ 1 ต.บางรูป ในปัจจุบัน) อำเภอ
ทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช โยมบิดา-โยมมารดาชื่อนายเกลื่อน และนิ่ม เจริญรูป มีพ่ีน้องร่วมบิดามารดา
เดยี วกันทั้งหมด 2 คน และมพี นี่ ้องรว่ มบิดาแต่ต่างมารดา อกี 4 คน “หลวงพ่อนวล ปรสิ ุทโธ” มรณภาพ เมอ่ื ปี
พ.ศ.2548 สิริอายุ 83 พรรษา 63 ดำรงตำแหนง่ เจ้าอาวาส วัดประดิษฐาราม (วดั ไสหรา้ )
บ้านไสหร้า ตำบลบางรูป อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้ชาวอำเภอทุ่งใหญ่
จังหวัดนครศรีธรรมราช ต่างมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างย่ิงที่มีพ่อท่านนวล เป็นเนื้อนาบุญของชาวเมืองอย่าง
แท้จริง ด้านวัตถุมงคล พ่อท่านนวลได้จัดสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลไว้หลายรุ่นด้วยกัน อาทิวัตถุมงคลรุ่นล่าสุด
สร้างปี 2552 ผ่านพิธีปลุกเสกสมบูรณ์ พร้อมเปิดให้บูชา กำลังได้รับความนิยมในหมู่ลูกศิษย์

38

รูปเหมือนพ่อท่านนวล ขนาดบูชาเน้ือโลหะหน้าตัก 5 น้ิว รูปหล่อลอยองค์เบ้าทุบ และเหรียญพ่อท่านนวล
เจริญโภคทรัพย์ เป็นต้น ชีวิตปฐมวัยและการศึกษาเบ้ืองต้นของ พ่อท่านนวล ปริสุทโธ วัดไสหร้า
ชีวิตในวัยเด็ก พ่อท่านนวลเป็นคนชอบสนุกสนาน แต่ขี้อาย มีความประพฤติเรียบร้อย สมถะ มีความคิดริเริ่ม
สร้างสรรค์ เป็นที่รักของครอบครัวและเพื่อนฝูง เม่ืออายุได้ 7 ขวบ ได้เข้าเรียนหนังสือท่ีโรงเรียน
วัดมะเฟือง ตำบลนากะชะ อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช จนจบช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 เม่ือปี
พ.ศ.2479

วัดประดษิ ฐาราม (วัดไสหรา้ )

ส่ิงที่น่าสนใจ พ่อท่านนวล หรือ หลวงพ่อนวล ปริสทุ โธ ท่านเป็นพระในพระธรรมวินัย อย่าง
เคร่งครัด ปฏบิ ัติกิจของสงฆ์อย่างสม่ําเสมอ ไม่เวน้ แม้แต่ในยามเจบ็ ไข้ได้ปว่ ย จนเป็นท่ีเคารพนับถอื ศรัทธาและ
เล่ืองลือไปท่ัวภาคใต้ โดยเฉพาะในเขต จังหวัดนครศรีธรรมราช และพัฒนาชุมชนในด้านต่าง ๆ มากมาย
รวมถึงการจัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อให้ศิษยานุศิษย์นำไปบูชาอย่างกว้างขวาง นับเป็นพระเกจิอาจารย์ท่ีได้รับการ
ยอมรับในการปลุกเสก จตคุ ามรามเทพ ท่ผี ู้คนจากท่ัวสารทศิ ในเมืองไทยเดินทางมากราบไหว้กันอยเู่ ป็นประจำ
อย่างไมข่ าดสาย

ส่ิงท่อี ำนวยความสะดวก สุขา ป้ายสื่อความหมาย ปา้ ยบอกทาง ทจ่ี อดรถประมาณ 40 คนั
การเดินทาง จากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชโดยรถยนต์รถจักรยานยนต์ ถนนหมายเลข
4016 ถึงเลี้ยวซ้าย สามแยกบ้านตาล ถนนหมายเลข 4015 ถึงวัดธาตุน้อยสู่ถนนหมายเลข 4195 ถึง
ป้อมยามตำรวจ อำเภอทุ่งใหญ่เล้ียวขวาสู่ถนนหมาย AH2 เลยี้ วซ้ายสู่ถนนเกษมสุข และเล้ียวขวาสู่ถนน 4110
ระยะทางประมาณ 80.1 กโิ ลเมตร
ข้อมูลการติดต่อ ตำบลบางรูป อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช 80240
เบอรโ์ ทรศัพทต์ ดิ ต่อ 075-344714/075-357800

3.2.9 อำเภอร่อนพบิ ลู ย์

วัดรอ่ นนา (พระแม่เศรษฐี)

39

ความศกั ดิ์สิทธิ์ของแม่เศรษฐี ทำให้เกิดประเพณีอันย่ิงใหญ่ เลา่ ขานสืบทอดกันมา เม่ือครั้งโบราณ
ในงานบญุ ประเพณีลากพระ พระแม่เศรษฐีถือเปน็ พระลากที่ขนึ้ ชอ่ื เป็นการลากพระบกทย่ี งั ไม่ใชล้ ้อเล่ือน ยงั ใช้
แรงมหาชนท่ีเอาศรัทธามาเป็นที่ต้ัง ในวันแรม 1 ค่ําของทุกปี ประเพณีลากพระถือเป็นบุญประเพณีท่ียิ่งใหญ่
ของชาวร่อนพิบลู ย์ มีการลากพระจากทุกวดั มารวมกันท่ีอำเภอ โดยเอาพระแม่เศรษฐเี ปน็ ประธาน ตลอด 2 วัน
1 คืน จะได้ยินเสียงปะทัดดังไม่ขาดสาย สาธุชนขอพรพระแม่ได้ทุกเร่ือง แม้แต่ขอบุตร การเจ็บไข้ได้ป่วย ขอ
หวย ขอพร เพ่อื ความอยเู่ ยน็ เปน็ สขุ ความศกั ด์ิสทิ ธิ์ ของพระแมด่ ังไปทั่วทุกสารทิศ

สิ่งท่ีน่าสนใจ วัดร่อนนา เป็นวัดเก่าแก่โบราณ มาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีหลักฐานสำคัญที่แสดงให้
เห็นว่าวัดร่อนนาเป็นวัดท่ีเจริญรุ่งเรืองมาก่อน คือพระพุทธรูปอุ้มบาตรรูปางพระร่วงเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของ
ชาวร่อนพิบูลย์ และมีองคพ์ ระแม่เศรษฐีอายุประมาณ 700 - 800 ปี มีตำนานการสร้างที่น่าสนใจมาก ท่ีคนใน
ชมุ ชนและคนต่างจังหวัดมีความศรัทธา เสื่อมใส ขอพรพระแม่ให้ได้สมหวงั ดงั ใจ เพื่อความเป็นสุขและสิริมงคล
ใหก้ บั ตนเอง

สิง่ อำนวยความสะดวก สุขา ป้ายสอื่ ความหมาย ป้ายช้ที างเข้าถงึ และที่จอดรถ 100 คัน
การเดนิ ทาง จากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยรถยนต์ รถจกั รยานยนต์ รถจกั รยาน ถนนราช
ดำเนินถึงส่ีแยกหัวถนนเลี้ยวขวาสู่ถนนหมายเลข 403 ถึงส่ีแยกไฟแดงอำเภอร่อนพิบูลย์ เลี้ยวขวา
สู่ถนน 4018 ประมาณ เกือบ 2 กิโล ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่หมู่บ้านร่อนนา ขับตรงมาจนสุดทางจะพบกับ
วดั ตง้ั อยู่
ข้อมูลการติดต่อ หมู่ 2 ตำบลร่อนพิบูลย์ อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช 80130
เบอรโ์ ทรศัพทต์ ิดตอ่ 075 - 441967 เวบ็ ไซต์ http://vwvw.ronpibooncity.go.th/home

3.2.10 อำเภอสิชล

วัดเจดยี ์หรือวัดไอ้ไข่
วดั เจดีย์หรือวัดไอ้ไข่ ต้ังอยู่ที่ หมู่ 7 ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เคยเป็นวัด
ร้าง ที่เช่ือกันว่าสร้างมาเป็นเวลานับ 1000 ปี มีเพียงเจดีย์โบราณเก่ารกร้างอยู่ตรงบริเวณท่ีกำลัง
สร้างโบสถ์ในปัจจุบัน จนเม่ือประมาณ พ.ศ.2500 มีการบูรณะวัดเจดียข์ ึ้นมาใหม่ มีพระเข้ามาอยู่ประจำ เป็นท่ี
ปฏิบัติศาสนกิจของชาวบ้านใกล้เคียงและเป็นที่ประดิษฐานของ “พ่อท่าน” พระพุทธรูปเก่าแก่
ท่ีอยู่มาต้งั แตย่ ังเป็นวดั ร้าง

วดั เจดยี ์หรอื วดั ไอไ้ ข่

40

ไอ้ไข่วดั เจดยี ์ หรือ ตาไข่วัดเจดีย์ คอื รูปไม้แกะสลักของเดก็ ชายอายุประมาณ 9 - 10 ขวบ ตัง้ อยู่
ในศาลาในวัดเจดีย์ เชื่อกันว่าเป็นวิญญาณศักด์ิสิทธิ์ท่ีสถิตอยู่ ณ วัดแห่งนี้ เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้าน
ต้งั แตใ่ นละแวกใกล้วัดไปจนถึงตา่ งจังหวัดในแถบภาคใต้ จากศรัทธาทเ่ี ช่ือกันวา่ “ขอไข่ไหว้รับ” โดยเฉพาะโชค
ลาภ และการค้าขาย ในวัดเจดีย์จึงเต็มไปด้วยสิ่งของที่ผู้เส่ือมใสศรัทธาเอามาแก้บน เช่น รูปไก่ชน ชุดทหาร
หนังสติ๊ก ของเลน่ ตา่ ง ๆ เป็นตน้ ส่วนบริเวณท่ใี ห้จุดประทัดก็มีเศษประทัดกองสูงเป็นเนนิ เขายอ่ ม ๆ บง่ บอกถึง
แรงศรทั ธาทม่ี ีต่อไอ้ไข่ และแสดงถึงผลสมั ฤทธจิ์ ากผู้ท่ีมาขอแล้วไดร้ ับจากไอไ้ ข่ ทุกวนั ผู้คนต่างหล่งั ไหลไปขอพร
จากไอ้ไข่ เราจะไม่ได้ยินเสียงโฆษณาชักชวนให้ทำบุญทุกคนท่ีมาเพราะความเสื่อมใสอย่างแท้จริง ทุกวันเสียง
ประทัดจะดังข้ึนตลอดเวลา ส่วนในวันอังคารและวันเสาร์ก็จะมีกลองยาวแก้บนมาแสดงให้ไอ้ไข่ดูโดยประมาณ
สบิ รอบต่อวัน

ส่ิงท่ีน่าสนใจ วัดเจดีย์ เป็นวัดที่มีช่ือเสียงของอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีชื่อเสียง
โด่งดังเก่ียวกับ “ไอ้ไข่” เด็กวัดท่ี หายตัวไป อย่างไร้ร่องรอย ผู้ที่มาเยือนวัดเจดีย์ มักบน บาน
ขานกล่าวกับ “ไอ้ไข่” ขอให้ตัวเองสมปรารถนาในส่ิงหน่ึงส่ิงใด ซึ่งส่วนใหญ่เช่ือว่า “ไอ้ไข่” สามารถ
ดลบันดาลให้เป็นอย่างใจนึก มีผู้คนเส่ือมใสศรัทธามากมาย และมักได้ตามท่ีบนบานไว้ จึงได้นำของแก้บนมา
ถวาย ซึ่งของแก้บนที่นิยมกันมาก คือ รูปปื น ไก่ชน เนื่องจากไอ้ไข่สมัยท่ียังมีชีวิตช่ืนชอบไก่ชน
เปน็ ชวี ิตจติ ใจ

ส่ิงอำนวยความสะดวก สุขา ป้ายสื่อความหมาย ป้ายช้ีทางเข้าถึง ร้านอาหาร ร้านค้าของเซ่น
ไหวแ้ ละเครื่องบูชา และท่ีจอดรถ 100 คัน

การเดินทาง
- วิธีที่ 1 เดินทางโดยรถยนต์ จากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ใช้เส้นทางนครศรีธรรมราช -
สุราษฏร์ธานี ขับตรงสู่อำเภอสิชล ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร วัดเจดีย์ทางด้านซ้ายมือ โดยเลี้ยวซ้ายเข้า
ไปประมาณ 6 กิโลเมตร ขับตามเส้นทางที่มีรูปป้ันไก่ชน จนไปเจอสามแยกและป้ายวัดเจดีย์ เล้ียวซ้ายไปอีก
500 เมตรก็จะพบวดั เจดียอ์ ย่ทู างดา้ นขวามือ
- วิธีที่ 2 เดินทางโดย รถตู้ ข้ึนรถตู้ที่ บขส. อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รถนครศรี ฯ-สิชล
ให้บริการต้ังแต่ 05.00 - 17.00 น. ค่าใช้จ่าย : รถตู้ ราคา 60 บาท (ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมี
การเปล่ียนแปลงได้ ขึน้ อยู่กบั ปจั จัยต่าง ๆ และสภาวะเศรษฐกิจ)
สิ่งควรรู้ ของที่ไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ชอบขนมเปียะ น้ําแดง ชุดทหาร/ตำรวจ ไก่ปูนป้ัน หนังสต๊ิกและ
ประทัด การบูชาไอ้ไข่วัดเจดีย์ ธูป 3 ดอก บูชาบนได้ไหวร้ ับ แต่เมื่อสำเรจ็ ให้แกบ้ นด้วยของท่ีนำมาบน และจุด
ธูปเพยี ง 1 ดอกเทา่ นน้ั

41

ข้อมูลการติดต่อ หมู่ 7 ตำบลฉลอง อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช โทรศัพท์/แฟกซ์ 075-
378046 และ Email : [email protected]

3.2.11 อำเภอเฉลมิ พระเกยี รติ

วดั ดอนตรอ
หลวงปู่สังข์เป็นพระรูปหนึ่งที่มีพรรษาสูงสุดรูปหนึ่งของเมืองนคร อายุ 98 ปี มากด้วยคุณงาม
ความดีจนเป็นท่ีเคารพนับถือของทุกคนทุกฐานะ ท่านได้นำบุตรหลานของชาวบ้านทั่วไปเข้าสู่ความร่มเย็น
ภายใต้ผ้ากาสาวพัสตร์ นับหมื่นคน ในฐานะพระอุปัชฌาย์ให้การอบรมส่ังสอนอุบาสก อุบาสิกา ให้ยึดม่ันใน
หลักธรรมของพระพุทธศาสนา ในการดำรงชีวิตนับแสนคน ทั้งน้ีท่านได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็น
พระครูเรวัตศีลคุณ พระครูช้ันโท ในปี พ.ศ.2526 และพระครูชั้นเอกในวันท่ี 5 ธันวาคม พ.ศ.2539 ได้รับการ
ยกย่องและตั้งฉายาว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำปากพนัง” ปัจจุบันมีศิษยานุศิษย์และผู้ เล่ือมใสศรัทธา
รวมท้ังนักท่องเท่ียวชาวมาเลเซีย/ สิงคโปร์ เดินทางหล่งั ไหลมาสักการะมขิ าดสาย อน่ึงในช่วงสงกรานต์ของทุก
ปี ทางวัดไดจ้ ดั ให้มีประเพณีสรงน้ำ รปู เหมือนพ่อท่านสังข์เปน็ งานประจำปี

วัดดอนตรอ

ส่ิงที่น่าสนใจ หลวงปูสังข์เป็นพระรูปหน่ึงที่มีพรรษาสูงสุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช อายุ 98
ปี รวมพรรษา ถึง 81 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสมานานถึง 55 ปี มีบุญวาสนาอายุยืนยาวถึง 4 แผ่นดิน และวัด
ดอนตรอ เปน็ 1 ใน 32 วัด ในจงั หวดั นครศรีธรรมราชท่มี ี “อมตะสังขาร” ให้ผ้คู นได้มากราบสกั การะ

สง่ิ อำนวยความสะดวก สุขา ป้ายสื่อความหมาย ป้ายชท้ี างเขา้ ถงึ และทีจ่ อดรถ 50 คนั
การเดินทาง จากอำเภอเมอื งนครศรีธรรมราช โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถจกั รยาน ถนน
ราชดำเนินถึงส่ีแยกไฟแดงหัวถนน ตรงไปสู่ถนนหมายเลข 408 ระยะทางประมาณ 28.1 กิโลเมตร เลี้ยวซ้าย
ซอย 4013 วดั ดอนตรอ อยู่ด้านขวามอื
ข้อมูลการติดต่อ วัดดอนตรอ หมู่ 4 ถนนนคร-หัวไทร ตำบลดอนตรอ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
จงั หวดั นครศรีธรรมราช 80190 เบอร์โทรศัพทต์ ดิ ตอ่ 075-344714/075-357800

3.2.12 อำเภอเชียรใหญ่

แมเ่ จา้ อยหู่ ัว

42

แม่เจ้าอยู่หัวคือ พระนางเลือดขาวแห่งเมืองนครศรีธรรมราช มีเร่ืองราวสรุปย่อได้ว่า เป็นบุตรี
คหบดี มีอาชีพค้าขาย ณ ชุมชนสุดชายหาดทรายแก้วนครศรีธรรมราช (สันทรายเชียรใหญ่) บิดาเป็น
ชาวพัทลุง เช้ือสายลังกา (คุลา) มารดาเป็นชาวบ้านเก่าหรือบ้านฆ็อง (บริเวณท่ีต้ังวัดแม่เจ้าอยูห่ ัวปจั จุบัน) เกิด
เม่ือประมาณ พ.ศ.1745 ไม่ปรากฏพระนามเดิมนอกจากบางกระแสเรียกชื่อว่า “กังหรี” มีพ่ี 2 คน
คอื ทวดชโี ป (มีรูปป้ันทีว่ ัดพงั ยอม ตำบลสวนหลวง อำเภอเฉลิมพระเกยี รติ) และพ่อท่านขรวั (มีรูปปั้นท่ีวัดบ่อ
ล้อ ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่) พระนางเลือดขาวเป็นคนงามด้วยเบญจกัลยาณี คือ ผมงาม เน้ือ
งาม ฟันงาม ผิวงาม และวัยงาม มีนิสยั โอบอ้อมอารี เสือ่ มใสในพระพุทธศาสนา เป็นท่ีรกั ของบุคคลโดยทวั่ ไป มี
เลือดสีขาวแต่กำเนิดจนเป็นท่ีรับรู้ เมื่อคราวช่วยงานในหมู่บ้าน ทำหน้าท่ีเจียนหมากพลูจนกรรไกรหนีบน้ิวมี
เลือดไหลออกมาปรากฏเป็นสีขาวต่อหน้าผู้คนท่ีมารว่ มงาน จนรํา่ ลือถึงพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชที่ 5 หรอื พระ
เจ้าสีหราชแห่งนครศรีธรรมราช (ตามพรลิงค์) ณ เมืองพระเวียง จนคราวศึกเมืองทะรังหรือเมืองกันตังแข็งข้อ
หลังชนะศึกชนช้าง (ที่บ้านทุ่งชนในเขตอำเภอทุ่งสงปัจจุบัน) ระหว่างพักแรมกลางทางกลับ พระเจ้าศรีธรรมา
โศกราชทรงพระสุบิน เห็นสตรมี ีลกั ษณะงดงามตาม เบญจกัลยาณี มีใจกุศล เปน็ คูบ่ ุญบารมี พำนักอยูท่ างทศิ ใต้
ตามเส้นทางหาดทรายแก้ว และมีเลือดสีขาว จึงเม่ือเข้าเมืองนครศรีธรรมราช นมสั การพระบรมธาตุ แล้วจึงจัด
ขบวนเสด็จออกค้นหาจนถึงสำนักพ่อท่านขรัว ได้พบพระนางเลือดขาวที่มารับเสด็จ โดยขณะทอผ้าถวายได้ทำ
ตรน (อปุ กรณ์ที่ทำจากไม้ไผ่มคี วามคมมาก) บาดน้ิวเลอื ดออกเป็นสีขาว จงึ ขอพระนางไปเป็นพระนางเมอื ง เม่ือ
เสด็จกลบั แล้วจึงให้พราหมณ์ปุโรหติ จดั ขบวนหลวงสู่ขอรบั เขา้ วงั ปรนนิบัติรบั ใช้ด้วยความจงรกั ภักดี ทำนุบำรุง
พระพุทธศาสนา ทำคุณประโยชน์ให้บ้านเมืองมากมาย เป็นท่ีรักของไพร่ฟ้า แต่ถูกกล่ันแกล้งกล่าวหาต่าง ๆ
นานาจากพระสนมอ่ืน พระนางเลือดขาวได้รับสถาปนาเป็นแม่เจ้าอยู่หัวหรือพระนางเลือดขาวอัครมเหสี จน
เป็นท่ีเรียกโดยทั่วไปว่า พระนางเลือดขาวแม่เจ้าอยู่หัว หรือแม่เจ้าอยู่หัวพระนางเลือดขาว พระนางเลือดขาว
ได้ขอต่อพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชว่า หากส้ินพระชนม์ลงขอให้นำศพกลับบ้านเกิด ต่อมาข่าว
ความเดือดร้อนท่ีพระนางถูกกล่ันแกล้งทราบถึงพ่อท่านขรัว พ่อท่านขรัวได้เดินทางมาขอบิณฑบาตรับ
แมเ่ จา้ อยู่หัวกลับบ้านเดมิ และทรงอนุญาตพร้อมท้งั ให้สรา้ งวงั ขึ้น ณ ริมฝังแมน่ ํ้าปากพนัง (บ้านในวัง ตำบลแม่
เจา้ อยู่หัวปจั จบุ ัน) แต่การสร้างลา่ ชา้ เพราะพระเจ้าศรีธรรมาโศกราชทรงประวงิ เวลาไว้ไม่อยากให้พระนางกลับ
บ้ าน เดิ ม จ น ก ระทั่ งค ราว เส ด็ จ ไป ป ฏิ บั ติ พ ระ ราช ก รณี ย กิ จ แ ท น พ ระเจ้ าศ รีธรรม าโศ ก ราช
ทเ่ี มืองทะรัง (ตรัง) ได้สิ้นพระชนม์ระหว่างทางขณะประทับแรมด้วยกลด (บ้านควนกรด อำเภอทุ่งสง ปัจจุบัน)
ใน ปี พ .ศ .1 8 1 4 พ ร ะ ศ พ ถู ก อั ญ เชิ ญ ก ลั บ สู่ เมื อ ง น ค ร ศ รี ธ ร ร ม ร า ช (เมื อ งพ ร ะ เวี ย ง ) ต้ั ง
ณ วัดท้าวโคตร แล้วจัดขบวนทางน้ําตามลำคลองท่าเรือ ออกทะเลปากนคร เข้าแม่นํ้าปากพนัง
(ปากพระนาง) มาข้นึ ฝั่งที่บ้านหน้าโกศ จนถึงสำนักพ่อท่านขรัว (บรเิ วณวัดบ่อล้อปัจจุบนั ) ถวายพระเพลิงแล้ว
นำพระอัฐิและพระองั คารประดิษฐานในมณฑปสูง 12 วา มีเจดยี ์บริวารโดยรอบ ณ วดั แมเ่ จ้าอยหู่ ัว

43

ส่ิงท่ีน่าสนใจ สร้างข้ึนเพ่ือเป็นอนุสรณ์รำลึกถึงพระมเหสีเอกของพระเจ้าศรีธรรมโศกราชที่ 5
แม่เจ้าอยู่หัวหรือพระนางเลือดขาวแห่งเมืองนคร พระนางเลือดขาวทรงสร้างและปฏิสังขรณ์วัดต่าง ๆ
ไว้มากมาย ท้ังในเมืองนครศรีธรรมราช (ตามพรลิงค์) และเมืองใกล้เคียง สร้างวัดแม่เจ้าอยู่หัวเป็นวัดแรกเมื่อ
ประมาณ พ.ศ.1775 (พระชนมายุ 30 พรรษา) ประมาณปี พ.ศ.1790 ได้ปฏิบัติพระราชกรณียกิจ
แทนพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เสด็จไปเกาะลังกาเพ่ือรับพระพุทธสิหิงค์มายังนครศรีธรรมราช และ
ปี พ.ศ.1799 ได้เสด็จยังเมืองสุโขทัย เพ่ือวัดระเบียบสงฆ์ฝ่ายฆราวาสประทับอยู่นาน 5 ปี จึงเสด็จกลับ
นครศรธี รรมราช

สิง่ อำนวยความสะดวก สุขา ปา้ ยสอื่ ความหมาย ป้ายช้ที างเขา้ ถึง และท่ีจอดรถ 30 คัน
การเดินทาง จากอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช โดยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถจักรยาน
ถนนราชดำเนินถึงส่ีแยกไฟแดงหัวถนน ตรงไปสู่ถนนหมายเลข 408 ระยะทางประมาณ 42.4 กิโลเมตร เลี้ยว
ขวา ถนนหมายเลข 4151 ระยะทาง 2.2 กิโลเมตร วดั แมเ่ จ้าอยหู่ ัวอย่ดู า้ นขวามือ
ข้อมูลการติดต่อ ตำบลแม่เจ้าอยู่หัว อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช 80190 เบอร์
โทรศัพทต์ ดิ ตอ่ 095-8312467 เวบ็ ไซต์ http://www.maechaoyuhou.go.th/index.php

3.3 แหล่งท่องเที่ยวกลุม่ ชายทะเล ชายหาด

แหล่งท่องเที่ยวกล่มุ ชายทะเล ชายหาดเป็นแหล่งท่องเที่ยวของอำเภอท่ีตดิ กับชายทะเลและชายหาด
ในแตล่ ะอำเภอดังตอ่ ไปน้ี

3.3.1 เขาพลายดำ

44

เขาพลายดำ แหล่งท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์แห่งทะเลใต้ เป็นเขาท่ีมีลักษณะเป็นภูเขาที่ติดทะเลตรง
แนวรอยต่อเขตอำเภ อขนอมและอำเภ อสิชล อยู่ห่างจากตัวเมือง นครศรีธรรมราช ประมาณ
86 กิโลเมตร เป็นทะเลท่ีมีธรรมชาติท่ีแสนสงบและมีจุดชมวิวเขาพลายดำท่ีสามารถเห็นอ่าวท้องยางได้
ในมมุ กวา้ ง และยังเปน็ แหล่งอนุรกั ษ์ถิน่ ท่อี ยู่อาศัยของสตั ว์ ต่าง ๆ อาทิ นกและผีเสอื้

เขาพลายดำ

สิ่งท่ีน่าสนใจ มีอ่าวท้องยาง มีภูเขาล้อมรอบ 3 จุด คือ เขาหลัง เขาหลวง และเขากลาง
มีหาดหนิ งามรางทัดท่เี ต็มไปด้วยโขดหนิ รูปรา่ งต่าง ๆ

สิ่งอำนวยความสะดวก บ้านพักรับรอง โฮมสเตย์ สุขา ร้านอาหาร ท่ีจอดรถ 200 คัน
ป้ายส่ือความหมาย

การเดินทาง
- วิธีที่ 1 : เดินทางโดยรถยนต์ จากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ใช้เส้นทางนครศรีธรรมราช -
สุราษฏร์ธานี ขับตรงสู่อำเภอสิชล ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร เมื่อถึงส่ีแยกไฟแดงสิชลให้ขับตรงไป
ประมาณ 3 กิโลเมตรแล้วกลับรถมาประมาณ 500 เมตร เล้ียวซ้ายเข้าสู่เส้นทางไปเขาพลายดำ
13 กโิ ลเมตร ทางเข้า ขาพลายดำจะอยู่ทางดา้ นขวามือ
- วิธีท่ี 2 : เดินทางโดย รถตู้ ขึ้นรถตู้ท่ี บขส. อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รถนครศรีๆ-สิชล
ให้บริการต้ังแต่ 05.00 - 17.00 น. ค่าใช้จ่าย ราคารถตู้ 60 บาท (ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมีการเปล่ียนแปลงได้
ขึน้ อยูก่ ับปัจจัยต่าง ๆ และสภาวะเศรษฐกจิ )
ข้อมูลการติดต่อ ตำบลทุ่งใส อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช 80340 เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
075-356253 เว็บไซต์ http://www.nakhonsi.go.th/home และ อเี มล [email protected]

3.3.2 อทุ ยานแห่งชาตหิ าดขนอม- หมู่เกาะทะเลใต้

อุทยานแห่งชาติหาดขนอม- หมู่เกาะทะเลใต้ เป็นชายหาดที่มีช่ือเสียงของนครศรีธรรมราช โดด
เด่นด้วยหาดทรายท่ียื่นยาวออกไปในทะเลคู่กับทิวสน มีหาดทรายยาวกับทิวมะพร้าว และมีชาดหาดท่ีมี
ชื่อเสียงของนครศรีธรรมราช มีอ่าวต่าง ๆ หลายอ่าว เช่น อ่าวท้องหยี อ่าวท้องยาง อ่าวคอเขา
อ่าวหน้าด่าน อ่าวแขวงเภา อ่าวท้องชิง อ่าวในเพลา ซ่ึงมีชายหาดที่มีทรายขาวสะอาด น้ําทะเลใส

45
เหมาะสำหรับการเล่นนํ้าทะเล นอกจากนี้ยังมีส่ิงที่โดดเด่นคือ โลมาสีชมพูที่พบได้ง่าย ณ หาดขนอม รวมถึง
เกาะนุย้ นอก เกาะแห่งตำนานหลวงปทู วดเหยียบนํา้ ทะเลจดื

สิ่งท่นี า่ สนใจ มีชาดหาดท่มี ีชื่อเสยี งของนครศรีธรรมราช ดังนี้
1) หาดคอเขา (หาดปิติ) อยู่ทางตอนเหนือสุดของอ่าวขนอม ติดกับเขาคอเขา เป็นหาด ที่

ชาวท้องถ่ินนิยมไปพักผอ่ น ชายหาดจะต่อจากหาดหินงาม เน้ือทรายละเอียดมาก น้ําไม่ลึกมาก เล่นน้ำได้ ไม่มี
อันตรายอะไร บริเวณโดยรอบได้รับการพัฒนาส่ิงอำนวยความสะดวกด้านท่ีพักและร้านอาหารสำหรับบริการ
นักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตามปัจจุบันบางส่วนถูกจัดเป็นท่าเทียบเรือนํ้าลึกใช้ขนถ่ายแร่ของเอกชน และเป็นที่ต้ัง
ของศาลกรมหลวงชุมพร

หาดคอเขา/หาดปติ ิ

2) หาดใน เพลา เป็นหาดท่ีมีช่ือเสียงคู่เมืองนครมานาน และเป็นจุดที่เด่น ท่ีสุด
ในการทอ่ งเทีย่ วลักษณะหาด เป็นแนวยาวโค้งขนานกบั แนวภเู ขาที่ตอนปลายยื่นไปในทะเล ทัศนียภาพโดยรอบ
มีความเป็นธรรมชาติที่งดงาม หาดทรายขาวสะอาด ละเอียดเนียนนุ่ม สลับกับหาดหินและโขดหินเป็นช่วง ๆ
น้ําทะเลใสสะอาดสีคราม ในอ่าวกว้างเหมาะสำหรับเล่นน้ำ บริเวณหาดจะมีท่ีพัก ร้านอาหารให้บริการแก่
นักท่องเทย่ี ว

หาดในเพลา


Click to View FlipBook Version