The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนรายวิชา ฟิสิกส์ 4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jirapinya051041, 2022-12-14 20:22:24

แผนรายวิชา ฟิสิกส์ 4

แผนรายวิชา ฟิสิกส์ 4

แบบประเมนิ ผลงานใบงาน KWL

คำชี้แจง : ใหผ้ ูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี น ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในช่องรายการประเมินกำหนด

ลำดับที่ ชอ่ื -สกุล การแสดงความ ครอบคลุม ผลสำเร็จ ตรงตอ่ เวลา ความสะอาด รวม สรุปผล
ของผู้รบั การประเมนิ คดิ เหน็ ถกู ต้อง เน้อื หา ของงาน 4321 เรียบรอ้ ย 20 การ
คะแนน ประเมนิ
ชดั เจน 4321 4321 4321 ผา่ น/ไม่
ผา่ น
4321

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ให้ 1 คะแนน
14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

นกั เรียนไดร้ ะดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถอื ว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน KWL

เกณฑ์การ ระดบั การประเมิน
ประเมิน
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
ความ - แสดงความคดิ เห็นใน
คดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคดิ เห็นใน
ชอ่ ง K ได้ นอ้ ยกวา่ 7
ชอ่ ง K ได้ 10 ข้อ ชอ่ ง K ได้ 9-10 ข้อ ช่อง K ได้ 7-8 ข้อ ขอ้
- แสดงความคิดเหน็ ใน
คำถามข้นึ ไป คำถาม คำถาม ชอ่ ง W ได้ น้อยกวา่ 7
ขอ้
- แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน
ช่อง L ได้ นอ้ ยกวา่ 7
ช่อง W ได้ 10 ขอ้ ช่อง W ได้ 9-10 ขอ้ ชอ่ ง W ได้ 7-8 ข้อ ขอ้

คำถามขึน้ ไป คำถาม คำถาม

- แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคิดเหน็ ใน

ชอ่ ง L ได้ 10 ข้อ ชอ่ ง L ได้ 9-10 ข้อ ช่อง L ได้ 7-8 ข้อ

คำถามขึ้นไป คำถาม คำถาม

เน้ือหา - เนอ้ื หาครบถว้ นตาม - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เน้อื หาถกู ต้องตามสาระ

สาระทีก่ ำหนด 100% ทกี่ ำหนด 80-99% ทกี่ ำหนด 60-79% ทก่ี ำหนดต่ำวา่ 59%

- เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขยี นถกู ต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลกั

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำวา่ 59%

- ลำดบั หวั ขอ้ เนือ้ หา - ลำดับหัวข้อเนอื้ หา - มีการสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ไม่

ชัดเจน ชัดเจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตสุ มผลต่ำวา่

- มกี ารสรุปได้อย่าง - มีการสรุปได้อย่าง 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสียงดงั ฟังชัด - พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้

- ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระตำ่ วา่ 59%

- บคุ ลกิ ภาพดีและมีความ - บคุ ลิกภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

ม่นั ใจ - ความพรอ้ มในการ

- มกี ารใช้สอื่ ประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน

นำเสนอ

- ความพร้อมในการ

นำเสนอ


ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมี - ใชส้ ีสนั สวยงามหรอื
สวยงาม - มีความสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑอ์ ย่าง
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มีความคดิ สรา้ งสรรค์ ใดอยา่ งหนึง่
การตรงต่อ - ความเป็นระเบียบอา่ น
เวลา ง่าย ส่งผลงานครบถว้ น แต่ชา้ ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ ้า ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้า
ส่งผลงานครบถ้วน ตรง กว่าเวลาท่กี ำหนด 5 กวา่ เวลาที่กำหนด 10 กวา่ เวลาท่กี ำหนด 15
ตามเวลาทีก่ ำหนด นาที นาที นาที


แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5

ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ เสียงและการไดย้ ิน หนว่ ยยอ่ ยที่ 1
เรื่อง การแทรกสอดของคล่นื เสยี ง
วนั ท่ที ำการสอน เวลา 2 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นายศกั ดริ์ ะวี กันทะวงค์

1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรยี นรู้
การแทรกสอดของเสียง เป็นปรากฏการณ์ทีเ่ กดิ จากคลื่นเสยี งที่มาจากแหล่ง 3. อธิบายสมบัติของคลื่นเสียง ได้ แก่การ
กำเนิดเสียงต้งั แต่ 2แหลง่ ข้ึนไปรวมกัน จึงเกดิ การแทรกสอดแบบเสรมิ กนั และ
หักลา้ งกนั ทำให้เกิดเสียงดัง และ เสยี งค่อย สะท้อน การหักเห การแทรกสอด การ
เล้ียวเบน รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ี
เกยี่ วข้อง

4. สาระการเรียนรู้ 5. ชิ้นงาน/ภาระงาน
การแทรกสอดของคล่ืนเสยี ง 1. ใบงาน Cause and Effect เรอื่ ง การ

แทรกสอดของคลน่ื เสียง
2. ใบงานโจทย์ปัญหาเรอ่ื ง การแทรกสอดของ

คล่ืนเสียง

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 6. เครอื่ งมือการสอนคิด

- ความสามารถในการส่ือสาร - Cause and Effect

- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรียนรู้

7. ขนั้ ของกิจกรรม 8. ส่อื 9. วิธีการวัดผล

Do Now (3 นาท)ี - ใบ ความ รู้ เร่ืองการ - ประเมนิ ใบงาน
Cause and Effect
บอกอาหารหวานที่นกั เรยี นชอบมาคนละ 1 อย่าง (ห้ามซำ้ ) แทรกสอด ของค ล่ืน เร่อื ง สมบัตขิ องคลน่ื
เสยี ง
Purpose (2 นาท)ี เสียง
- ประเมนิ ใบงาน โจทย์
เราจะเรยี นเรอ่ื ง สมบตั ิของคลน่ื เสียง เพ่ือนกั เรยี นสามารถอธบิ าย ส่ิงท่เี ก่ียวกับ - ใบงานโจทย์ปํญหาเร่ือง ปญั หาเร่ืองการแทรก
สอดของคลื่นเสียง
การแทรกสอดของคลื่นเสียง การแทรกสอดของเสียง

Work mode (110 นาท)ี - ใบ งา น Cause and

1. นักเรยี นตอบคำถาม “หากมนษุ ยต์ อ้ งอยู่ติดกบั ถนนใหญท่ ่ีมรี ถสญั จรไปมา Effect เร่ืองการแทรก

เกอื บตลอดทั้งวนั จะได้รบั ผลกระทบอย่างบา้ ง” (10 นาที) สอดของคลน่ื เสยี ง

2. นักเรียนศึกษาความรู้ โดยศึกษาจากใบความรู้ เรื่อง การแทรกสอดของคล่ืน - บทเรยี นออนไลน์
เสยี ง (พอเพียง3: การมีภมู ิคมุ้ กนั ทด่ี ีในตวั ) (10 นาที)

3. นกั เรยี นฟังครูอธิบายเพ่ิมเตมิ เร่ืองการแทรกสอดของคลนื่ เสยี ง (15 นาที)

4. นักเรยี นวเิ คราะหเ์ กีย่ วกับผลกระทบของการแทรกสอดของคล่ืนเสยี ง โดย

ทำใบงาน Cause and Effect เรอ่ื ง “จะเป็นอยา่ งไรถ้าบา้ นนักเรียนตดิ กับ

ถนนซุปเปอร์ไฮเวย”์ (คิด1 : คิดวเิ คราะห์) (สมรรถนะ2) (25 นาที)


5. นกั เรียน(ตัวแทนโดยการสุ่ม)นำเสนอผลการศึกษาหนา้ ชนั้ เรยี นและร่วมกัน
โตแ้ ย้งเพอื่ หาข้อสรปุ ของหัวข้อทศ่ี ึกษา (คดิ 3 : คิดวพิ ากษ์) (สมรรถนะ3)
(10 นาที)

6. นกั เรยี นทำใบงาน แกโ้ จทย์ปญั หาเรื่อง การแทรกสอดของคลน่ื เสยี ง
(30นาที)

7. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปความรู้ ( 10 นาที )
Reflective Thinking (5 นาท)ี

8. 1 ส่งิ ทน่ี ักเรยี นสงสยั (2 นาที)

9. ข้อสอบ มช (2539) จำนวน 1 ข้อ (3 นาที)

Reflective Thinking
ขอ้ สอบ มช (2539)

1. (มช 39) ชายคนหนึง่ ไดย้ ินเสยี งที่ชัดเจนความถ่ีหนง่ึ ซ่งึ เขาเชือ่ วา่ ตอ้ งมีความถ่ีอยู่ ในช่วง500 – 1000
Hz เสยี งนมี้ ากจากแหล่ง แหล่งกำเนดิ 2 แหลง่ ทใ่ี ห้ความถ่ีเทา่ กนั ชายคนน้ีพบวา่ เสยี งจะดงั ทสี่ ดุ ณ. จุด
ทีอ่ ยู่ห่างจากแหลง่ กำเนดิ ทง้ั สองเท่ากัน เพื่อทจี่ ะหาคา่ ความถนี่ ้ีเขาจึงเดินต่อไปจากบริเวณทีเ่ สียงดังทีส่ ุด
และเขาพบวา่ เสียงจะเบาท่สี ดุ เมื่อระยะทางจากแหล่งกำเนิด ทั้งสองต่างกนั เปน็ 0.2 เมตร จงหาความถี่
ของเสียง (ในหนว่ ยเฮริ ตซ์)ทีป่ ล่อยออกมาจากต้นกำเนิด (กำหนด อณุ หภูมิของอากาศเป็น 15oC)
1. 650Hz
2. 750Hz
3. 850Hz
4. 950Hz


ใบความรู้
เร่ือง การแทรสอดของคลื่นเสยี ง

3. การแทรกสอด
การแทรกสอดของเสียงเกิดจากแหล่งกาเนิดเสียงอาพนั ธ์ 2 แหลง่ คลื่นเสียงจากสองแหลง่ แผเ่ ขา้ ซอ้ นทบั

กนั เกิดปฏิบพั (เสียงดงั ) และบพั (เสียงเบา) ลากแนวปฏิบพั และบพั ไดต้ ามรูป



สมการการแทรกสอด แหลง่ กาเนิดอาพนั ธ์ส่งคล่ืนเสียงเฟสตรงกนั
เม่ือจุดสงั เกต P อยบู่ นแนวแทรกสอดปฏิบพั (เสียงดงั ) และจุด Q อยบู่ นแนวแทรกสอดบพั (เสียงเบา)


รูปแสดงการเกิดแนวการแทรกสอดจากแหล่งกาเนิดคล่ืนอาพนั ธ์


โจทยป์ ัญหาเร่ือง การแทรกสอดของคลื่นเสียง
1. จากรปู S1 และ S2 เป็นลำโพง 2 ตัว วางห่างกนั 3 เมตร ใหค้ ลนื่ ขนาดเดยี วกนั และมีเฟสตรงกนั ถ้า P

เป็นตำแหนง่ เสียงดังครัง้ ที่สอง หา่ งจากแนวกลางในทศิ ทำมมุ 30oคล่ืนท่ีแผ่มคี วามยาวก่ีเมตร

2. A และ B เป็นลำโพง 2 ตวั วางห่างกัน 2 เมตร ในทีโ่ ลง่ P เปน็ ผู้ฟังหา่ งจาก A 4 เมตรและห่างจาก B 3
เมตร เสียงความถ่ีต่ำสดุ ที่คล่ืนหกั ลา้ งกนั ทำใหไ้ ด้ยนิ เสยี งเบาที่สดุ เป็นเท่าไร(กำหนด ความเร็วเสยี ง = 340
m/s)


3. S1 และ S2 เป็นลำโพง 2 ตัว ใหเ้ สยี งทีม่ เี ฟสเดียวกนั ความถี่เท่ากนั จดุ A และจดุ B เป็นจุดท่ีมเี สียงเบา
ทสี่ ดุ ระหวา่ ง A และ B มคี วามเขม้ เสียงมากที่สดุ เพียงจุดเดียว จงหาความถ่ีของลำโพงทั้งสอง ถา้ X มคี า่ 5
เมตร ให้อัตราเร็วเสียง 330 m/s และ S1 , S2 อย่หู ่างกนั 2 เมตร

4. S1 และ S2 เป็นแหลง่ กำเนดิ อาพันธท์ ีใ่ ห้คล่ืนเฟสตรงกัน มคี วามถ่ี 20 Hz วางอยหู่ า่ งกนั 40 เซนตเิ มตร จดุ
A และ จดุ B เป็นตำแหน่งปฏิบพั และระหวา่ งจดุ A และ B จะมีตำแหนง่ ปฏิบัพิอีก 7 ตำแหนง่ จงหาค่า
ความเร็วของคลื่นทีส่ ง่ ออกมา


เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึ กหดั

เกณฑก์ ารให้ เกณฑท์ ก่ี าหนด 54 ระดบั คะแนน 2 1
คะแนน ทำตำมเกณฑ์ ทำตำมเกณฑ์ 3 ทำตำมเกณฑท์ ่ี ทำตำมเกณฑ์
1 คำตอบถกู ตอ้ ง ท่กี ำหนดทง้ั 6 ท่กี ำหนดทงั้ 4- กำหนดทงั้ 1 ท่กี ำหนดทง้ั 0
แบบฝึกหดั 2 แสดงวธิ กี ำรคำนวณ ขอ้ 5 ขอ้ ทำตำมเกณฑท์ ่ี ขอ้ ขอ้
กำหนดทง้ั 2-3
ได้ ขอ้
3 แทนคำ่ สมกำรได้
4 กำหนดสตู ร/สมกำรได้

ถกู ตอ้ ง
5 วเิ ครำะหแ์ ละกำหนด

ตวั แปรได้
6 ไม่ไดส้ ำมำรถแสดงวิธี

ทำและคำตอบผดิ

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

15-20 ดีมาก

10-14 ดี

6-9 พอใช้

0-5 ปรับปรุง

นักเรยี นได้ระดับคุณภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถือวา่ ผ่าน


แบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect

คำช้แี จง : ให้ผ้สู อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น โดยการประเมนิ คะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนด
ตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Cause and Effect

ลำดับท่ี ชื่อ-สกุล การแสดง เน้อื หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ รวม สรุปผลการ
ของผรู้ ับการ ความ สวยงาม เวลา 20 คะแนน ประเมนิ ผา่ น/ไม่
คดิ เหน็ (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมนิ (4คะแนน) (4คะแนน) ผา่ น

ลงชอ่ื ....................................................ผปู้ ระเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

นกั เรียนไดร้ ะดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect

เกณฑก์ าร 4 (ดีมาก) ระดับการประเมิน 1 (ปรับปรุง)
ประเมนิ - แสดงความคดิ เหน็ 3 (ดี) 2 (พอใช้) - - แสดงความคิดเหน็
การแสดง - แสดงความคดิ เห็น - แสดงความคิดเห็น
ความ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/
คิดเห็น เหตกุ ารฌไ์ ด้ 10 ข้อขน้ึ เหตุการณ์ได้ 8-9 ข้อ เหตกุ ารณ์ได้ 6-7 ข้อ เหตกุ ารณ์ได้ นอ้ ยกวา่
ไป 6 ข้อ

เน้ือหา - เน้อื หาครบถว้ นตาม - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระ - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระ - เนื้อหาถูกต้องตามสาระ

สาระที่กำหนด 100% ทก่ี ำหนด 80-99% ที่กำหนด 60-79% ทีก่ ำหนดตำ่ ว่า 59%

- เขียนถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขียนถกู ต้องตามหลัก

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ วา่ 59%

- ลำดับหวั ข้อเนอ้ื หา - ลำดบั หัวข้อเนื้อหา - มีการสรุปได้อย่าง - มกี ารสรุปไม่

ชัดเจน ชัดเจน สมเหตุสมผล 60-79% สมเหตสุ มผลต่ำว่า

- มกี ารสรุปได้อยา่ ง - มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง 59%

สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - พูดชดั เจนเสยี งดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระตำ่ วา่ 59%

- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลิกภาพเหมาะสม

มัน่ ใจ - ความพรอ้ มในการ

- มกี ารใชส้ อ่ื ประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน

นำเสนอ

- ความพรอ้ มในการ

นำเสนอ

ความ - ใช้สีสนั สวยงาม - ใช้สีสนั สวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงามและมี - ใชส้ ีสนั สวยงามหรือ

สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เปน็ ไปตามเกณฑ์อย่าง

- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคดิ สร้างสรรค์ ใดอยา่ งหน่ึง

- ความเปน็ ระเบยี บอ่าน

ง่าย


การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที


ใบงาน Cause and Effect

จะเป็นอยา่ งไรถ้าบ้านนักเร


t เรือ่ ง การแทรกสอดของคล่ืนเสียง

รียนตดิ กับถนนซปุ เปอร์ไฮเวย์

dki


แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 6

ช่อื หนว่ ยการเรียนรู้ เสยี งและการไดย้ นิ หน่วยยอ่ ยที่ 1
เร่ือง การเลีย้ วเบนของคลน่ื เสียง
วันทท่ี ำการสอน เวลา 2 ช่ัวโมง

ผ้สู อน นายศักดร์ิ ะวี กันทะวงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรียนรู้
การเลย้ี วเบนของเสียง มกั จะเกดิ พรอ้ มกับการสะท้อนของเสยี ง เสยี งทเ่ี ลี้ยวเบน 3. อธิบายสมบัติของคลื่นเสียง ได้แก่การ
จะไดย้ ินคอ่ ยกวา่ เดิม เพราะพลงั งานของเสียงลดลง
สะท้อน การหักเห การแทรกสอด การ
เล้ียวเบน รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่
เกย่ี วขอ้ ง

4. สาระการเรียนรู้ 5. ช้ินงาน/ภาระงาน
การเลย้ี วเบนของคลื่นเสียง 1. ใบงาน PMI เรอ่ื ง การเล้ยี วเบนของคลืน่

เสียง
2. ใบงานโจทยป์ ัญหาเร่ือง การการเลี้ยวเบน

ของคลืน่ เสียง

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 6. เคร่อื งมือการสอนคิด

- ความสามารถในการสื่อสาร - PMI

- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้

7. ข้ันของกิจกรรม 8. ส่อื 9. วธิ กี ารวัดผล

Do Now (3 นาท)ี - ใบ ความ รู้ เร่ืองการ - ประเมนิ ใบงาน PMI
เรื่องการเลี้ยวเบนของ
บอกงานอดเิ รกท่นี ักเรียนชอบมาคนละ 1 อยา่ ง (ห้ามซำ้ ) เลย้ี วเบนของคล่ืนเสยี ง คลืน่ เสยี ง

Purpose (2 นาท)ี - ใบงานโจทย์ปญั หาเรือ่ ง - ประเมินใบงาน โจทย์
ปัญหาเร่ืองการเลี้ยว
เราจะเรยี นเรอื่ ง สมบตั ิของคลน่ื เสียง เพ่อื นักเรยี นสามารถอธบิ าย สง่ิ ทีเ่ กี่ยวกบั การเลีย้ งเบนของเสยี ง เบนของคลื่นเสยี ง

การเลยี้ งเบนของคลน่ื เสยี ง - ใบงาน PMI เรื่องการ

Work mode (110 นาท)ี เลย้ี วเบนของคลื่นเสยี ง

1. นกั เรยี นดูคลปิ วิดโี อเรือ่ งการเลยี้ วเบนของคล่นื เสยี ง (10 นาท)ี - ดูคลิปวิดีโอเร่ืองการ

2. นักเรียนฟังครูอธบิ าย เรือ่ ง การเลย้ี วเบนของเสยี ง ( 15 นาที ) เลี้ยวเบนของคลื่นเสียง

3. นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรุปจากการดูคลิปวดโี อเรอ่ื งการเลี้ยวเบนของคล่ืน https://youtu.be/v6
เสยี ง (5 นาที ) bofjTrm2g

4. นกั เรียนร่วมกนั ทำกจิ กรรมกลมุ่ ๆละ 4 คนโดยวเิ คราะห์ข้อดี ขอ้ เสยี - บทเรียนออนไลน์

ข้อเสนอแนะ ในใบงานPMI เร่อื ง การเลย้ี วเบนของคลน่ื เสียง ( คิด 1 : คิด

วิเคราะห์ )(สมรรถนะ4)(พอเพียง 7 สงั คม ) (30 นาท)ี

5. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ นำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียน ( คิด 3 : คดิ วิพากษ)์


(สมรรถนะ3)(พอเพียง 7 สงั คม )(10 นาที)

6. นกั เรยี นทำใบงาน แก้โจทยป์ ัญหาเรอ่ื ง การเล้ียวเบนของคลน่ื เสียง
(30นาที)

7. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ความร(ู้ 10 นาที )
Reflective Thinking (5 นาท)ี

1. จากการเรียนในวันนี้นกั เรยี นไดร้ บั ความรเู้ กย่ี วกบั เรอื่ งการเลยี้ วเบนของ
คลืน่ เสยี ง อย่างไรบา้ ง (2 นาที)

2. ข้อสอบ มช (2540) จำนวน 1 ข้อ (3 นาที)

Reflective Thinking
ขอ้ สอบ มช (2540)

1. (มช 40) ถ้าอัตราเร็วของเสยี งในอากาศขณะหนึ่งเทา่ กับ 340 เมตร/วินาที เสยี งแตรรถยนตม์ ีความถ่ี170
เฮริ ตซ์ ก่อนทรี่ ถยนตจ์ ะออกจากซอยคนขับรถบบี แตรรถยนต์เพ่อื ให้สญั ญาณทำใหค้ นซ่ึงยืนอยบู่ นทางเท้า
ณ มมุ ตกึ ปากซอยไดย้ ินเสียงสัญญาณแตรไดช้ ัดเจนจงประมาณขนาดความกว้างของซอย
1. 1 เมตร
2. 2 เมตร
3. 1 เมตร
4. 1 เมตร


ใบความรู้
เรือ่ ง การเลี้ยวเบนของคล่นื เสียง

4. การเลยี้ วเบนของเสียง
เสียงเป็นคลื่นจึงแสดงสมบตั ิการเล้ียวเบน การเล้ียวเบนของเสียงคือปรากฏการณ์ที่เสียงออ้ มสิ่งกีดขวาง

หรือลอดผา่ นช่องเปิ ดเด่ียวเล้ียวเบนผา่ นแยกบนทอ้ งถนน หรือผา่ นช่องหนา้ ตา่ ง ช่องประตู เสียงจะเล้ียวเบนไดด้ ี
เมื่อความกวา้ งของช่องเปิ ดเท่ากบั ความยาวคลื่นเสียงน้นั ดงั น้นั ในชีวิตประจาวนั พบวา่ เสียงท่ีมีความถี่ต่า(ความ
ยาวคลื่นมาก) จะเล้ียวเบนผา่ นช่องเปิ ดตา่ งๆไดด้ ีกวา่ เสียงความถี่สูง(ความยาวคลื่นนอ้ ย)

จากรูป คนสามารถไดย้ นิ เสียงจากวิทยไุ ด้ แมว้ า่ จะมีมุมหอ้ งบงั เสียงไวเ้ พราะวา่ เสียงสามารถเล้ียวเบนได้

ในกรณีที่มีขบวนวงโยทวาธิตผา่ นไปตามทอ้ งถนน พบวา่ เสียงกลอง(หนา้ คล่ืนสีแดง)ซ่ึงมีความถี่ต่าแต่
ความยาวคล่ืนยาว จะเล้ียวเบนไดด้ ีกวา่ เสียงจาก เคร่ืองเป่ า(หนา้ คล่ืนสีน้าเงิน) ซ่ึงมีความถี่เสียงสูง เน่ืองจากการ
เล้ียวเบนดีช่องกวา้ งตอ้ งเทา่ กบั หรือใกลเ้ คยี งความยาวคลื่นเสียง


รูปการเล้ียวเบนคลื่นผา่ นช่องเด่ียว

การเล้ียวเบนผา่ นช่องเปิ ดเด่ียว บางกรณีหลงั จากเล้ียวเบนแลว้ ไปเกิดการแทรกสอดกนั อีก เกิดแนวบพั และปฏิ
บพั คานวณการแทรกสอดกรณีน้ีไดจ้ ากสมการ


โจทยป์ ญั หาเรื่อง การเลี้ยวเบนของคลืน่ เสยี ง
1. คลน่ื เสยี งหนงึ่ ผา่ นเขา้ ทางชอ่ งหน้าต่างกวา้ ง 0.8 เมตร และสงู 1.2 เมตร ในแนวตั้งฉาก ผู้ฟังท่ีอยขู่ ้างหนา้

ต่างจะได้ยนิ เสยี งชัดเจน ถ้าขณะน้ันอุณหภมู ิของอากาศ 38oC จงหาความถี่ของเสยี งนี้ ( กำหนดใหเ้ กิด
การเลยี้ วเบนในแนวราบ )

2. ถา้ อัตราเรว็ ของเสยี งในอากาศขณะหน่งึ เทา่ กบั 340 เมตร/วนิ าที เสียงแตรรถยนต์มีความถ่ี170 เฮิรตซ์
ก่อนที่รถยนต์จะออกจากซอยคนขบั รถบีบแตรรถยนตเ์ พ่ือใหส้ ญั ญาณทำให้คนซ่งึ ยนื อยู่บนทางเทา้ ณ มมุ
ตกึ ปากซอยได้ยินเสยี งสญั ญาณแตรได้ชดั เจนจงประมาณขนาดความกว้างของซอย


3. ถา้ อัตราเร็วของเสียงในอากาศขณะหนึ่งเท่ากับ 340 เมตร/วินาที เสยี งแตรรถยนตม์ ีความถ่ี 68 เฮิรตซ์
ก่อนทร่ี ถยนตจ์ ะออกจากซอยคนขบั รถบบี แตรรถยนต์เพ่ือให้สญั ญาณทำให้คนซึง่ ยนื อยบู่ นทางเทา้ ณ มุม
ตึกปากซอยได้ยินเสยี งสญั ญาณแตรได้ชดั เจนจงประมาณขนาดความกวา้ งของซอย

4. คลื่นเสียงหนึง่ ผา่ นเขา้ ทางช่องหน้าต่างกวา้ ง 0.8 เมตร ในแนวตง้ั ฉาก ผฟู้ ังที่อยู่ขา้ งหนา้ ตา่ งจะไดย้ นิ เสยี ง
ชัดเจน ถ้าขณะนนั้ อุณหภมู ิของอากาศ 25o C จงหาความถขี่ องเสยี งนี้


เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึ กหดั

เกณฑก์ ารให้ เกณฑท์ ก่ี าหนด 54 ระดบั คะแนน 2 1
คะแนน ทำตำมเกณฑ์ ทำตำมเกณฑ์ 3 ทำตำมเกณฑท์ ่ี ทำตำมเกณฑ์
1 คำตอบถกู ตอ้ ง ท่กี ำหนดทง้ั 6 ท่กี ำหนดทงั้ 4- กำหนดทงั้ 1 ท่กี ำหนดทง้ั 0
แบบฝึกหดั 2 แสดงวธิ กี ำรคำนวณ ขอ้ 5 ขอ้ ทำตำมเกณฑท์ ่ี ขอ้ ขอ้
กำหนดทง้ั 2-3
ได้ ขอ้
3 แทนคำ่ สมกำรได้
4 กำหนดสตู ร/สมกำรได้

ถกู ตอ้ ง
5 วเิ ครำะหแ์ ละกำหนด

ตวั แปรได้
6 ไม่ไดส้ ำมำรถแสดงวิธี

ทำและคำตอบผดิ

เกณฑ์การตดั สนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ

15-20 ดีมาก

10-14 ดี

6-9 พอใช้

0-5 ปรับปรุง

นักเรยี นได้ระดับคุณภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถือวา่ ผ่าน


ใบงาน PMI เรื่อง การเลีย้ วเบนของคลื่นเสยี ง

ขอ้ ดี (P) ข้อเสยี (M) ข้อเสนอแนะ (I)


แบบประเมินใบงาน PMI

คำชี้แจง : ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนด
ตามตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน PMI

ลำดับ ชอื่ -สกลุ การแสดงความ เนือ้ หา นำเสนอ ความสวยงาม ตรงตอ่ เวลา รวม สรปุ ผลการ
ท่ี ของผู้รับการประเมนิ คดิ เห็น 20 คะแนน ประเมิน ผา่ น/
( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน ) ( 4 คะแนน )
( 4 คะแนน ) ไมผ่ ่าน

ลงชื่อ ....................................................ผ้ปู ระเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ตำ่ กวา่ 10 ปรับปรงุ

นกั เรยี นไดร้ ะดบั คุณภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน


ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน PMI

เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมิน
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
ความ - แสดงความคดิ เห็นในช่อง
คดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน
P ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ข้อ
ช่อง P ได้ 10 ขอ้ ข้นึ ไป ช่อง P ได้ 9-10 ข้อ ช่อง P ได้ 7-8 ข้อ - แสดงความคิดเห็นในช่อง

- แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคดิ เห็นใน M ได้ นอ้ ยกวา่ 7 ข้อ
- แสดงความคิดเห็นในช่อง
ชอ่ ง Mได้ 10 ข้อขนึ้ ไป ช่อง M ได้ 9-10 ข้อ ช่อง M ได้ 7-8 ข้อ
I ได้ นอ้ ยกว่า 7 ข้อ
- แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน

ชอ่ ง I ได้ 10 ขอ้ ข้นึ ไป ช่อง I ได้ 9-10 ข้อ ช่อง I ได้ 7-8 ขอ้

เน้อื หา - เน้อื หาครบถว้ นตาม - เนื้อหาถูกต้องตามสาระ - เนื้อหาถกู ต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระ
สาระท่กี ำหนด 100% ทีก่ ำหนด 80-99% ทกี่ ำหนด 60-79% ที่กำหนดตำ่ กวา่ 59%
การนำเสนอ - เขียนถกู ต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลกั - เขยี นถกู ต้องตามหลกั
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำกวา่ 59%
ความ - ลำดบั หวั ข้อเน้ือหา - ลำดบั หัวข้อเน้ือหา - มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง - มีการสรปุ ไม่
สวยงาม ชดั เจน ชัดเจน สมเหตุสมผล 60-79% สมเหตสุ มผลตำ่ กว่า
- มกี ารสรุปได้อยา่ ง - มกี ารสรปุ ได้อย่าง 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99% - การพดู เหมาะสม
- พูดชัดเจนเสียงดังฟังชดั - พูดชัดเจนเสียงดงั ฟังชดั - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง ตามอักขระ60-79% - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม ตามอักขระต่ำว่า 59%
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บุคลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม
มน่ั ใจ - ความพรอ้ มในการ - ใชส้ ีสนั สวยงามและมี
- มกี ารใช้สอื่ ประกอบการ นำเสนอไดบ้ างสว่ น ความสะอาด - ใชส้ ีสนั สวยงามหรอื
นำเสนอ เปน็ ไปตามเกณฑ์อย่างใด
- ความพร้อมในการ - ใช้สสี นั สวยงาม อย่างหนง่ึ
นำเสนอ - มคี วามสะอาด
- ใช้สีสันสวยงาม - มีความคดิ สร้างสรรค์
- มคี วามสะอาด
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์
- ความเปน็ ระเบยี บอ่าน
ง่าย


การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กว่าเวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที


แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ เสยี งและการได้ยนิ หนว่ ยยอ่ ยที่ 2
เรอ่ื ง อตั ราเรว็ ของเสียง
วันท่ที ำการสอน เวลา 2 ชัว่ โมง

ผู้สอน นายศักดิร์ ะวี กนั ทะวงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้
อัตราเร็วของเสียง คือ ระยะทางที่เสียงเดินทางไปในตัวกลาง 2. อธิบายการกระจัดของอนุภาคกับคลื่นความดัน
ใดๆ ได้ในหนึ่งหน่วยเวลา โดยทั่วไปเสียงเดินทางในอากาศที่มี
อณุ หภูมิ 25°C ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเร็วของเสียงในอากาศท่ี
ข้นึ กับอณุ หภมู ใิ นหน่วยองศาเซลเซียส

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
อตั ราเรว็ ของเสยี ง
1. ใบงาน Diagram เร่อื ง อตั ราเรว็ ของเสียง
2. ใบงาน เรอ่ื ง อตั ราเร็วของเสยี ง

5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 6. เครือ่ งมือการสอนคดิ

- ความสามารถในการส่ือสาร - Diagram

- ความสามารถในการคดิ

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรียนรู้

7. ขนั้ ของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วิธกี ารวดั ผล

Do Now (3 นาที) - ใบความรู้ เรื่อง อัตราเร็ว - ประเมินใบงาน Diagram
บอกความหมายของเพลงท่ีได้ยนิ ของเสียง เรอื่ ง อัตราเร็วของเสียง
ประเมนิ ใบงาน เรื่อง
Purpose (2 นาที) - ใบงาน เรื่อง อัตราเร็วของ - อัตราเรว็ ของเสยี ง
เราจะเรียนเร่อื ง อัตราเรว็ ของเสียง เพ่อื นักเรยี นสามารถ เสยี ง

อธิบาย และคำนวณสิ่งทเ่ี กย่ี วกับ อตั ราเรว็ ของเสยี งได้ - ใ บ ง า น Diagram เ ร ื ่ อง
Work mode (110 นาที) อตั ราเรว็ ของเสยี ง

1. นักเรียนตอบคำถาม “ระหว่างอัตราเร็วของคลื่นเสียงและคล่ืน

แสงอย่างไหนมอี ัตราเร็วมากกว่ากัน” (พอเพยี ง 2 ความมเี หตุผล)

(5 นาท)ี

2. นักเรียนฟังครอู ธบิ าย เรอื่ งอัตราเร็วของเสียง (15 นาท)ี

3. นักเรียนศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเร็วของเสียง โดยศึกษาจากใบ

ความรู้ เรื่อง อตั ราเรว็ ของเสยี ง และสรปุ ความรใู้ นรูปแบบแผนผงั ลง

ในใบงาน Diagram เรอื่ งอัตราเร็วของเสยี ง (คิด 9 : คดิ เชิงมโนทัศน์)

(พอเพยี ง 3: การมภี ูมคิ ุ้มกันทีด่ ใี นตัว)( (30 นาที)


4. นักเรียน(ตัวแทนโดยการสุ่ม)ออกมานำเสนอผลงาน ใบงาน
Diagram เรื่อง อัตราเร็วของเสียง หน้าชั้นเรียน (สมรรถนะ3)
(20 นาท)ี

5. นกั เรยี นแก้โจทย์ปญั หา โดยทำใบงาน เร่ือง อตั ราเร็วของเสียง
โดยศึกษาใบความรู้ เรื่อง อัตราเร็วของเสียง ประกอบ
(สมรรถนะ2)(30 นาท)ี
6.นักเรียนและครู รว่ มกันสรุปความรู้ เร่ือง อตั ราเรว็ ของเสียง
(10 นาท)ี
Reflective Thinking (5 นาที)
1. 3 สิง่ ทนี่ กั เรยี นได้รับวนั น้ี (2 นาท)ี
2. ข้อสอบ O-NET ปี 2552 จำนวน 1 ขอ้ (3 นาที)

ข้อสอบ O-NET ปี 2552
ข้อใดตอ่ ไปน้ีท่ีมผี ลทาใหอ้ ตั ราเร็วของคล่ืนเสยี งในอากาศเปลย่ี นแปลงได้
1. ลดความถี่
2. เพิม่ ความยาวคล่นื
3. เพิม่ แอมพลิจูด
4. ลดอณุ หภูมิ


ใบความรู้เร่ืองอตั ราเรว็ ของคล่ืนเสียง

อัตราเร็วของเสียง คือ ระยะทางที่เสียงเดินทางไปในตัวกลางใดๆ ได้ในหนึ่งหน่วยเวลา
โดยทั่วไปเสียงเดินทางในอากาศที่มีอุณหภูมิ 25°C (= 298 K) ได้ประมาณ 346 เมตร/วินาที และใน
อากาศที่ อุณหภูมิ 20°C ได้ประมาณ 343 เมตร/วินาที อัตราเร็วที่เสียงเดินทางได้นั้นอาจมีค่ามากข้นึ
หรือ นอ้ ยลงข้นึ อยู่กับอุณหภูมิของตวั กลางเป็นหลัก และอาจไดร้ ับอิทธิพลจากความชนื้ บ้างเล็กน้อย แต่ไม่
ขึน้ กบั ความดันอากาศ

เนื่องจากการเดินทางของเสียงอาศัยการสั่นของโมเลกุลของตัวกลาง ดังนั้นเสียงจะเดินทางได้เร็ว
ขึ้นหากตัวกลางมีความหนาแน่นมาก ทำให้เสียงเดินทางได้เร็วในของแข็ง แต่เดินทางไม่ได้ในอวกาศ
เพราะอวกาศเปน็ สญุ ญากาศจึงไม่มีโมเลกลุ ของตวั กลางอยู่

เสียงเป็นคลืน่ ท่ีตอ้ งอาศยั ตวั กลางในการเคลื่อนที่ ดังน้ันอตั ราเร็วของเสยี งในตวั กลางแตล่ ะชนดิ
จะไมเ่ ทา่ กนั ข้นึ อยู่กบั ความหนาแนน่ ของตวั กลาง ดังแสดงในตารางที่ 1

ตารางที่ 1 แสดงอัตราเร็วของเสียงในตวั กลางต่างๆ ท่ีอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซยี ส

ตัวกลาง อัตราเร็ว (เมตร/วินาที)

แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ ( 0 ํC) 258
อากาศ ( 15 ํC) 346
แกส๊ ไฮโดรเจน 1,339
น้ำ 1,498
น้ำทะเล 1,531
แก้ว 4,540
อะลูมิเนยี ม 5,000
เหลก็ 5,200

ในตวั กลางชนดิ หนง่ึ ๆ อตั ราเรว็ ของเสียงขน้ึ อยกู่ บั อณุ หภมู ิดว้ ย

ช่วงเวลาท่เี สียงเคลื่อนทจ่ี ากแหลง่ กำเนดิ เสียงผา่ นอากาศมาถงึ หผู ้ฟู งั ข้นึ กบั ระยะทางระหวา่ ง
ตน้ กำเนดิ เสียงกับผ้รู บั ฟัง ถ้าระยะห่างมาก เสียงต้องใชช้ ่วงเวลานานกว่าจะไดย้ ินเสยี ง แตถ่ ้าระยะใกล้
เสยี งใช้ชว่ งเวลาสน้ั กวา่ เมื่อนักฟิสิกส์ศกึ ษาอตั ราเร็วของเสียงในอากาศ เขาได้พบวา่ อัตราเร็วของเสยี ง
ในอากาศมีความสมั พันธ์กบั อุณหภมู ิของอากาศโดยประมาณตามสมการ


Vt = 331 + 0.6 t

เมือ่ Vt เป็นอัตราเร็วของเสียงในอากาศที่อุณหภูมิ t ใดๆ และมีหน่วยเป็นเมตรต่อ
วินาที t เป็นอุณหภมู ขิ องอากาศ มีหนว่ ยเปน็ องศาเซลเซยี ส

จงหาอัตราเรว็ ของเสยี งในอากาศทีอ่ ุณหภูมิ 25 องศาเซลเซยี ส และ 30 องศาเซลเซยี ส

วิธีทำ จากสมการ Vt = 331 + 0.6t
V25 = 331 + (0.6 x 25) m/s

= 346 m/s

V30 = 331 + (0.6 x 30) m/s
= 349 m/s

ตอบ อัตราเรว็ ของเสยี งในอากาศที่อุณหภูมิ 25 และ 30 องศาเซลเซียส เท่ากบั 346

และ 349 เมตรตอ่ วนิ าที ตามลำดับ

การหาอตั ราเรว็ ของคล่ืนเสียงในลักษณะตา่ งๆ

1. เนือ่ งจากเสียงเปน็ คลนื่ ดังน้นั การหาอตั ราเร็วของเสียงจึงเหมอื นคลื่น คือ

V = fλ หรือ V = λ

T

λ คอื ความยาวคลืน่ (m)
f คือ ความถี่คลืน่ เสียง (Hz)
T คือ การเคลื่อนที่ของเสียง (s)
V คอื อัตราเร็วของคลนื่ เสียง (m/s)


2. เนอ่ื งจากเสยี งเคลอื่ นทีเ่ ป็นเสน้ ตรง ดงั นัน้

V=s

t

s คือ ระยะทางท่ีคลืน่ เสียงเคลือ่ นท่ีได้ (m)
t คอื เวลาท่คี ลื่นเสยี งใชใ้ นการเคล่อื นท่ี (s)
V คอื อตั ราเร็วของคล่นื เสียง (m/s)

3. อตั ราเรว็ ของเสียงในตัวกลางต่างๆ
3.1 อตั ราเรว็ ของเสยี งในของแข็ง

V = √

เมอ่ื Y คอื มอดูลัสความยืดหยุ่นของวัตถุ (N/m2)
 คอื ความหนาแน่นของวัตถุ (kg/m3)
V คือ อัตราเรว็ ของคลนื่ เสียงในของแข็ง (m/s)

3.2 อัตราเรว็ ของเสยี งในกา๊ ซ

V = √

เมอ่ื B คือ มอดูลัสความยืดหยุ่นของวัตถุ (N/m2)
 คอื ความหนาแนน่ ของก๊าซ (kg/m3)
V คอื อตั ราเร็วของคลื่นเสียงในกา๊ ซ (m/s)

ในขณะท่คี ล่ืนเสียงเคลือ่ นที่ผ่านก๊าซจะทำให้กา๊ ซมีการอัดและมีการขยายตวั อยา่ งรวดเร็วจนถอื ได้
วา่ ไมม่ กี ารรบั หรอื สูญเสียพลงั งานความร้อน ไดค้ วามสมั พันธ์ว่า

⍴v คอื คา่ คงตัว....................................................(1)


เม่อื คือ คา่ คงตวั สำหรบั กา๊ ซชนิดหนงึ่
จากความหมายของมอดูลสั ความยดื หยุ่นของก๊าซ (B) มคี ่าเป็น

B = p ......................................................... (2)

นั่นคอื อัตราเร็วของเสียงในก๊าซ V = √ ⍴p ............................ (3)

จากการศึกษาสมบตั ิของกา๊ ซอดุ มคติ พบวา่

Pv = nRT

เมื่อ n คอื จำนวนโมลของกา๊ ซ ถา้ m เปน็ มวลของก๊าซทัง้ หมดใน n โมล และ M เป็น

มวลของก๊าซ 1 โมล จงึ ได้ว่า

n =m
M

ดงั น้นั Pv = m RT
M

P = mRT
vM

P = ⍴RT …………………………………. (4)
M

จากสมการ (3) และ (4) จะไดว้ ่า

V = √ ⍴⍴MRT

ดงั นน้ั
V = √ RT ………………………… (5)

M

เมอื่ R คอื ค่านิจของก๊าซ มีค่า 8.31 J/mol.K
T คือ อุณหภมู ิในหน่วยองศาสมั บรู ณ์ (K)
M คือ มวลของก๊าซใน 1 โมล
คือ ค่าคงตวั สำหรับก๊าซหน่ึง
V คือ อตั ราเร็วของคลืน่ เสียงในก๊าซ (m/s)

3.3 อัตราเรว็ ของเสยี งในอากาศ (ในอากาศอัตราเร็วของเสยี งข้นึ อยู่กับอุณหภูมิ) โดย

V ∝ √T จะได้ว่า 2 = √ 12
1


แต่เราสามารถวเิ คราะหใ์ นหน่วยองศาเซลเซยี ส โดยอาศัยการประมาณค่า
พบว่า อัตราเร็วของเสียงในอากาศ
ที่อณุ หภมู ิ 0๐ C เสียงจะมีอตั ราเร็วประมาณ 331 m/s
ถ้าอุณหภูมเิ พ่ิมขึ้น 1๐ C อัตราเรว็ เสยี งจะเพมิ่ ขน้ึ 0.6 m/s

จะไดว้ า่ V = 331 + 0.6t

แต่ถ้าอณุ หภูมขิ องอากาศมีคา่ ตง้ั แต่ 45๐ C ขึ้นไป ต้องใชส้ มการเดิม คือ

V ∝ √T จะไดว้ ่า 2 = √ 21
1


ใบงานเรอื่ ง อัตราเร็วของเสยี ง

1. ณ อณุ หภูมิ 35oC อัตราเร็วเสียงในอากาศจะมากกวา่ ณ อุณหภมู ิ 30oC อยู่กเี่ มตรต่อวินาที

2. ขณะเรือขุดเจาะน้ำมนั เกิดระเบิดกลางมหาสมุทร เรือลาดตระเวนลาํ หนึง่ สามารถตรวจรับ
สัญญาณคล่นื เสียงจากใต้ท้องเรือได้กอ่ นท่จี ะได้ยนิ เสยี งที่มาทางอากาศถงึ 20 วินาที เรือ
ลาดตระเวนลาํ นี้อย่หู ่างจากที่เกดิ เหตกุ ่ีกโิ ลเมตรถ้าความเร็วเสียงในนา้ํ ทะเลมีคา 1531 m/s และ
ความเรว็ เสยี งในอากาศขณะน้นั มีคา 346 m/s

3. ความเรว็ ของเสยี งในอากาศที่อณุ หภมู ิ 30 องศาเซลเซยี ส จะช้าหรือเร็วกว่าความเรว็ เสียงท่ี
อณุ หภมู ิ 20 องศาเซลเซียสอยู่เทา่ ใด (กำหนดให้ความเรว็ เสียงที่ 0 องศาเซลเซียสเปน็ 331 เมตร
ตอ่ วินาที)


4. ในการหาความสูงของหน้าผาแห่งหน่งึ โดยปล่อยก้อนหนิ ลงไปกระทบพื้นลา่ ง จับเวลาจากการเริ่ม
ปล่อยก้อนหินจนกระท่งั ไดย้ ินเสยี งหินกระทบพนื้ เป็นเวลา 4 วินาที จงหาความสูงของหน้าผาน้ี
เม่ืออณุ หภมู ขิ ณะนน้ั เปน็ 30 องศาเซลเซียส

เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึ กหัด

เกณฑก์ ารให้ เกณฑท์ ก่ี าหนด 54 ระดับคะแนน 2 1
คะแนน ทำตำมเกณฑ์ ทำตำมเกณฑ์ 3 ทำตำมเกณฑท์ ่ี ทำตำมเกณฑ์
1 คำตอบถกู ตอ้ ง ท่กี ำหนดทง้ั 6 ท่กี ำหนดทงั้ 4- กำหนดทงั้ 1 ท่กี ำหนดทง้ั 0
แบบฝึกหดั 2 แสดงวธิ กี ำรคำนวณ ขอ้ 5 ขอ้ ทำตำมเกณฑท์ ่ี ขอ้ ขอ้
กำหนดทงั้ 2-3
ได้ ขอ้
3 แทนคำ่ สมกำรได้
4 กำหนดสตู ร/สมกำรได้

ถกู ตอ้ ง
5 วเิ ครำะหแ์ ละกำหนด

ตวั แปรได้
6 ไมไ่ ดส้ ำมำรถแสดงวิธี

ทำและคำตอบผดิ

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

15 – 20 ดมี ำก

11 – 15 ดี

6 – 10 พอใช้

0 – 5 ปรบั ปรุง

นกั เรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถอื วา่ ผา่ น


แบบประเมินผลงานใบงาน Diagram

คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในช่องรายการประเมิน
กำหนด

ความ สรุปผล

ลำดบั ที่ ชอ่ื -สกุล ความถูกต้อง ครอบคลมุ สอดคลอ้ ง ตรงตอ่ เวลา ความ การ
ของผรู้ บั การประเมิน ของเน้อื หา เนอ้ื หา และ 4 สะอาด รวม ประเมนิ
เรียบร้อย 20 ผา่ น/ไม่
44 เช่ือมโยง คะแนน ผ่าน
ของเนอื้ หา 4

4

4321 43214 32 14321 4321

ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

นักเรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ข้นึ ไปถอื ว่า ผา่ น


ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Diagram

เกณฑก์ าร ระดับการประเมิน

ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )

รปู แบบ - มีหัวข้อทชี่ ัดเจน - มหี ัวขอ้ ท่ชี ดั เจน - มีหัวข้อท่ีชดั เจน - มีหัวข้อที่ชัดเจน

- เขียนอย่ใู นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ

- ใช้คำสำคัญตรงประเด็น - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น

- ใช้สัญลกั ษณ์หรือภาพ - ใช้สัญลกั ษณห์ รอื ภาพ

สื่อความหมาย สอื่ ความหมาย

- ใช้สสี ันทว่ั แผน่

เนอ้ื หา - เนอ้ื หาครบถว้ นตาม - เน้ือหาถูกต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ

สาระท่ีกำหนด 100% ที่กำหนด 80-99% ทีก่ ำหนด 60-79% ท่ีกำหนดต่ำกวา่ 59%

- เขียนถูกต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลัก

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ กว่า 59%

- ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหา - ลำดบั หวั ข้อเน้ือหา - มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรปุ ไม่

ชดั เจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตสุ มผลตำ่ กวา่

- มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรุปได้อยา่ ง 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟังชดั - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระต่ำกวา่

- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม 59%

มน่ั ใจ - ความพร้อมในการ - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

- มีการใช้สื่อประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน

นำเสนอ

- ความพร้อมในการ

นำเสนอ

ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมี - ใช้สสี นั สวยงามหรือ

สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เปน็ ไปตามเกณฑ์อย่าง

- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ - มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ใดอย่างหนึ่ง

- ความเปน็ ระเบียบอ่าน

ง่าย


การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที


ใบกจิ กรรม Diagram เรอื่ ง อตั ราเรว็ ของเสยี ง

คำชี้แจง ให้นกั เรยี นเขยี น Diagram เก่ียวกบั การรับรู้และการตอบสนอง


แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8

ชอ่ื หนว่ ยการเรียนรู้ เสยี งและการได้ยนิ หน่วยย่อยที่ 1
เร่ือง การเคลือ่ นที่ของคลน่ื เสยี ง
วันท่ที ำการสอน เวลา 2 ชว่ั โมง

ผสู้ อน นายศกั ดริ์ ะวี กันทะวงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรียนรู้
การเคลอื่ นทข่ี องคลน่ื เสียง 3. อธิบายสมบัติของคล่ืนเสียง ได้แก่การ

ขณะทเี่ สียงผ่านอากาศโมเลกลุ ของอากาศจะเกิดการสนั่ ทำให้เกดิ เป็น สะท้อน การหักเห การแทรกสอด การ
ช่วงอดั (compression) และชว่ งขยาย (rarefaction) เล้ียวเบน รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ี
เก่ียวขอ้ ง

4. สาระการเรียนรู้ 5. ช้นิ งาน/ภาระงาน
การเคลื่อนที่ของคลน่ื เสียง 1. ใบงาน KWL เร่ือง การเคล่ือนทขี่ องคล่ืน

เสยี ง

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 6. เครื่องมือการสอนคิด

- ความสามารถในการสื่อสาร - KWL

- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้

7. ขั้นของกิจกรรม 8. สื่อ 9. วิธกี ารวัดผล
- ประเมินใบงาน KWL
Do Now (3 นาท)ี - ใบ ความ รู้ เรื่องการ
เรือ่ ง การเคลอื่ นที่
บอกส่งิ ทน่ี กั เรยี นเห็นในภาพมาคนละ 1 อยา่ ง (หา้ มซ้ำ) เคลอื่ นทข่ี องคล่ืนเสยี ง ของคลน่ื เสียง

- ใบงาน KWL เร่ืองการ

เคล่ือนทข่ี องคลน่ื เสียง

- บทเรียนออนไลน์

Purpose (2 นาท)ี

เราจะเรยี นเรือ่ ง สมบตั ิของคลน่ื เสยี ง เพอื่ นกั เรยี นสามารถอธิบาย สิ่งทเ่ี กี่ยวกบั

การเคลื่อนที่ของคลื่นเสยี ง

Work mode (110 นาท)ี

1. นักเรียนตอบคำถาม “คลนื่ เสยี งมลี ักษณะอยา่ งไร” (5 นาที)

2. นักเรยี นทำกิจกรรม KWL เรือ่ ง สมบตั ิของคลนื่ เสียง โดยตอบคำถาม “นกั เรยี นรู้

อะไรเกยี่ วกับสมบัตขิ องคลน่ื เสียงบา้ ง” ลงในช่อง K (10 นาที)

3. นักเรียนและครูอภปิ รายร่วมกนั บนกระดาน ในหัวขอ้ นักเรยี นรู้อะไรบ้างเกยี่ วกับ

สมบตั ิของคลื่นเสยี ง (5 นาท)ี

4. นกั เรียนตอบคำถาม “นกั เรียนรอู้ ะไรเกี่ยวกบั การเคลอื่ นที่ของคลืน่ เสียงบ้าง” ลง


ในช่อง W (10 นาที)
5. นักเรยี นและครูอภิปรายรว่ มกันบนกระดาน ในหวั ขอ้ นักเรยี นอยากรูอ้ ะไรบ้าง

เกีย่ วกับ การเคลื่อนทข่ี องคล่นื เสยี ง (10 นาที)

6. นกั เรยี นสืบค้นข้อมลู เก่ียวกบั การเคล่ือนท่ีของคล่นื เสยี ง โดยศกึ ษาจากใบความรู้
เร่ือง การเคลอื่ นทข่ี องคลนื่ เสยี ง (พอเพยี ง 3 การมีภูมิคุ้มกันทดี่ )ี (30 นาที)

7. นักเรยี นฟังครอู ธิบายเพิม่ เตมิ เร่ือง การเคล่ือนทข่ี องคลนื่ เสยี ง (15นาที)
8. นกั เรียนตอบคำถาม “นักเรียนไดร้ ้อู ะไรบ้าง เกย่ี วกบั การเคลอื นทข่ี องคล่นื เสียง

” ลงในชอ่ ง L (10 นาที)
9. นักเรียนและครูอภปิ รายร่วมกันบนกระดาน ในหัวข้อ นกั เรยี นไดร้ ู้อะไรบา้ ง

เกยี่ วกับการเคลอื่ นทขี่ องคล่นื เสียง (คดิ 3 คดิ วิพากย์)(สมรรถนะ3) (10 นาท)ี
10. นกั เรียนและครู รว่ มกันสรปุ ความรู้ (10 นาที)
Reflective Thinking (5 นาท)ี

1. จากการเรยี นในวันนีน้ กั เรียนไดร้ ับความรู้เก่ียวกบั เรื่องเคล่ือนท่ขี องคลนื่
เสียง อยา่ งไรบ้าง (2 นาที)

2. ข้อสอบ มช (2531) จำนวน 1 ขอ้ (3 นาที)

Reflective Thinking

ขอ้ สอบ มช (2531)

1. (มช 31) ตวั กลางทค่ี ลื่นเสยี งผา่ น 3 ชนดิ คือ นำ้ ทะเล น้ำบรสิ ทุ ธิ์ และ ปรอท ณ อณุ หภมู ิ
เดยี วกนั ขอ้ ใดเรยี งลำดับความสามารถในการถ่ายทอดคลืน่ เสียงจากดที ี่สดุ ไปหาเลวท่สี ุด
1. นำ้ บริสุทธิ์ ปรอท นำ้ ทะเล
2. น้ำทะเล นำ้ บริสทุ ธิ์ ปรอท
3. ปรอท นำ้ ทะเล น้ำบรสิ ทุ ธิ์
4. น้ำทะเล ปรอท น้ำบรสิ ทุ ธ์ิ


ใบความรู้

เรื่อง การเคลอื่ นทข่ี องคลื่นเสยี ง

เสียงเกิดจากการสั่นของวัตถุต้นกำเนิด คือ เมื่อเราให้งานหรือพลังงานแก่วัตถุต้นกำเนิดเสียง พลังงานของการสั่นจะ
ถ่ายโอนให้กับโมเลกุลของตัวกลางที่อยู่รอบๆ ทำให้โมเลกุลของตัวกลางสั่น แล้วถ่ายโอนพลังงานให้กับโมเลกุลถัดไป มีผลให้
คลื่นเสียงแผ่กระจายออกไปโดยรอบแหล่งกำเนิดโดยโมเลกุลของตัวกลางไม่ได้เคลื่อนท่ีไปพร้อมกับคลื่นเสียง หลังจากเสียง
เคล่ือนท่ีผ่านไปแล้วโมเลกุลของตัวกลางแต่ละตำแหน่งยังคงอยู่ท่ีเดิม นั่นคือ คล่ืนเสียงเคลื่อนที่ผ่านโมเลกุลของตัวกลางจะ
เคล่อื นทแ่ี บบซิมเปลิ ฮาร์โมนิกในแนวเดียวกับทก่ี ารเคลอ่ื นที่ของเสียง ดังนั้นเสียงจึงเปน็ คลืน่ ตามยาว

เม่อื พจิ ารณาการเคลื่อนท่ีของเสียงในอากาศ ขณะท่ีเสยี งผ่านอากาศโมเลกลุ ของอากาศจะเกิดการส่ันทำให้เกดิ เป็น
ชว่ งอดั (compression) และชว่ งขยาย (rarefaction)


ขณะท่คี ลน่ื เสียงเคลื่อนท่ผี ่านตัวกลางทำให้อนุภาคของตัวกลางเคล่ือนท่ีเกดิ การอดั (Compressions) และการ
ขยาย (Rarefaction) ที่เปล่ียนไปจากสภาวะปกติ


ความรู้ KWL

เรอ่ื ง ................................................................ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี..........

ชอ่ื ..................................................สกุล..........................................ชนั้ ...............เลขท่.ี ....................

คำชี้แจง นักเรียนบันทกึ ความรู้ทไ่ี ด้ ลงในตารางต่อไปน้ีพรอ้ มทงั้ เขียนสรุปความ ลงในบรรทดั ท่ีว่างข้างลา่ งของแบบบนั ทึก

K(นักเรียนรอู้ ะไร) W(นกั เรียนต้องการรอู้ ะไร) L(นักเรียนไดเ้ รียนรู้อะไร)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………...…………………………………………………………………………………………………………
……………………...……………………………………………………………………………………………………………………………….


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน KWL

คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี น ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในช่องรายการประเมินกำหนด

ลำดับที่ ชอ่ื -สกุล การแสดงความ ครอบคลุม ผลสำเร็จ ตรงตอ่ เวลา ความสะอาด รวม สรุปผล
ของผ้รู บั การประเมนิ คดิ เหน็ ถกู ต้อง เน้อื หา ของงาน 4321 เรียบรอ้ ย 20 การ
คะแนน ประเมนิ
ชดั เจน 4321 4321 4321 ผา่ น/ไม่
ผา่ น
4321

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่ำเสมอ
ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ให้ 1 คะแนน
14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

นกั เรียนไดร้ ะดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถอื ว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน KWL

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
ความ - แสดงความคิดเหน็ ใน
คดิ เห็น - แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคิดเห็นใน
ชอ่ ง K ได้ นอ้ ยกว่า 7
ชอ่ ง K ได้ 10 ข้อ ช่อง K ได้ 9-10 ข้อ ช่อง K ได้ 7-8 ข้อ ขอ้
- แสดงความคดิ เหน็ ใน
คำถามขน้ึ ไป คำถาม คำถาม ชอ่ ง W ได้ น้อยกวา่ 7
ข้อ
- แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน
ชอ่ ง L ได้ นอ้ ยกวา่ 7
ชอ่ ง W ได้ 10 ขอ้ ชอ่ ง W ได้ 9-10 ข้อ ช่อง W ได้ 7-8 ข้อ ข้อ

คำถามขึ้นไป คำถาม คำถาม

- แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน

ชอ่ ง L ได้ 10 ข้อ ช่อง L ได้ 9-10 ข้อ ช่อง L ได้ 7-8 ข้อ

คำถามขนึ้ ไป คำถาม คำถาม

เนื้อหา - เน้อื หาครบถ้วนตาม - เนื้อหาถกู ต้องตามสาระ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ - เนือ้ หาถูกต้องตามสาระ

สาระท่ีกำหนด 100% ทกี่ ำหนด 80-99% ท่ีกำหนด 60-79% ทกี่ ำหนดต่ำว่า 59%

- เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขยี นถูกต้องตามหลกั

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ ว่า 59%

- ลำดบั หวั ข้อเนือ้ หา - ลำดับหวั ข้อเน้ือหา - มีการสรุปได้อยา่ ง - มีการสรุปไม่

ชัดเจน ชดั เจน สมเหตุสมผล 60-79% สมเหตุสมผลต่ำวา่

- มีการสรุปได้อยา่ ง - มีการสรุปได้อย่าง 59%

สมเหตสุ มผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชัด - พดู ชดั เจนเสียงดังฟงั ชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระต่ำวา่ 59%

- บุคลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลิกภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

มั่นใจ - ความพร้อมในการ

- มีการใช้สอ่ื ประกอบการ นำเสนอได้บางสว่ น

นำเสนอ

- ความพร้อมในการ

นำเสนอ

ความ - ใช้สีสันสวยงาม - ใช้สีสันสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมี - ใชส้ ีสันสวยงามหรือ

สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑอ์ ย่าง

- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - มีความคดิ สร้างสรรค์ ใดอยา่ งหน่งึ


การตรงต่อ - ความเป็นระเบยี บอา่ น สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ชา้ สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้า สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ง่าย กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 5 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 10 กวา่ เวลาทีก่ ำหนด 15
สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง นาที นาที นาที
ตามเวลาท่ีกำหนด


แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9

ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ เสียงและการได้ยิน หน่วยย่อยที่ 2
เรอ่ื ง ความเขม้ เสยี ง
วนั ทที่ ำการสอน เวลา 2 ชว่ั โมง

ผู้สอน นายศักด์ิระวี กนั ทะวงค์

1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรียนรู้
ความเข้มเสียง
4.อธิบายความเข้มเสียง ระดับเสียง องค์ประกอบ
เสียงเกดิ จากการสน่ั ของวตั ถุทเ่ี ปน็ แหล่งกำเนดิ เสียงและในการ ของการได้ยิน คุณภาพเสียง และมลพิษทางเสียง
ทำให้วตั ถุสน่ั จำเปน็ ตอ้ งใชพ้ ลังงาน ถา้ พลงั งานทใี่ ช้มีค่ามากจะทำให้ รวมทงั้ คำนวณปริมาณต่าง ๆ ทเ่ี ก่ียวข้อง
แอมพลจิ ดู ของการสัน่ มีคา่ มาก เสยี งที่ไดย้ นิ จะดงั มาก และถา้ พลังงานท่ี
ใชม้ คี า่ น้อย แอมพลิจูดของการสัน่ จะมีค่าน้อยไปด้วย

2. สาระการเรียนรู้ 3. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
ความเข้มเสยี ง 1. ใบงาน เรอื่ ง ความเข้มเสยี ง
2. ใบงาน Cause and Effect เร่อื ง “จะเปน็ อยา่ งไรถา้ มี

การสร้างสนามบินใกล้กับชมุ ชนทนี่ ักเรียนอาศัยอยู่”
3. ใบงาน Pisa เร่อื ง ความเข้มเสยี ง

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 6. เครอ่ื งมือการสอนคิด

- ความสามารถในการส่ือสาร - Cause and Effect

- ความสามารถในการคดิ

- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7. ขนั้ ของกิจกรรม 8. สอ่ื 9. วธิ กี ารวัดผล

Do Now (3 นาท)ี - ใบงาน เรอ่ื ง ความเขม้ เสยี ง - ประเมินจากใบงาน เร่ือง
ความเข้มเสียง
บอกอาหารหวานทน่ี กั เรยี นชอบมาคนละ 1 อย่าง - ใบงาน Cause and Effect ประเมินใบงาน Cause
and Effect เรื่อ ง “จ ะ
Purpose (2 นาท)ี เร่ือง “จะเป็นอย่างไรถ้ามี - เป็นอย่างไรถ้ามกี ารสร้าง
สนามบินใกล้กับชุมชนท่ี
เราจะเรยี นเรือ่ ง ความเข้มเสียง เพือ่ นักเรียนสามารถ อธบิ าย และ การสร้างสนามบินใกล้กับ นกั เรยี นอาศยั อยู่”
ประเมินจากใบงาน Pisa
คำนวณสง่ิ ที่เกีย่ วกับ ความเข้มเสยี ง ระดับความเข้มเสียงได้ ชมุ ชนท่นี กั เรียนอาศัยอย”ู่ เรอ่ื ง ความเข้มเสยี ง

Work mode (110 นาท)ี - ใบความรู้เรื่อง ความเข้ม

1. นักเรยี นตอบคำถาม “หากมนุษยต์ ้องอยสู่ ถานที่ ที่มรี ะดับเสยี งทสี่ ูง เสยี ง

มาก มนุษยจ์ ะไดร้ ับผลกระทบอะไรบา้ ง” (10 นาที) - ใบงาน Pisa เร่ือง ความ -

2. นกั เรียนศกึ ษาความรู้ โดยศึกษาจากใบความรู้ เรอ่ื ง ความเข้มเสยี ง เขม้ เสยี ง
(พอเพยี ง3: การมภี มู ิค้มุ กนั ทด่ี ใี นตวั ) (10 นาท)ี

3. นกั เรยี นฟงั ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ เรือ่ งความเขม้ เสียง (15 นาที)

4. นกั เรียนวเิ คราะหเ์ กย่ี วกบั ผลกระทบของความเขม้ เสยี งโดยทำใบ

งาน Cause and Effect เรือ่ ง “จะเปน็ อยา่ งไรถ้ามกี ารสรา้ ง

สนามบินใกล้กับชุมชนทีน่ กั เรียนอาศยั อยู่” (คิด1 : คิดวเิ คราะห์)


Click to View FlipBook Version