The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนรายวิชา ฟิสิกส์ 4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jirapinya051041, 2022-12-14 20:22:24

แผนรายวิชา ฟิสิกส์ 4

แผนรายวิชา ฟิสิกส์ 4

อยากรู้อะไรบา้ ง เก่ียวกับภาพทเี่ กดิ จากกระจกเงาราบ(5 นาที)

5. นักเรียนดคู ลปิ วดี โี อ เร่ือง ภาพที่เกิดจากกระจกเงาราบ
(10 นาที)

6. นักเรียนและครรู ่วมกันอภิปรายความรู้ท่ีได้จากคลปิ วดี ีโอ
(10 นาที)

7. นกั เรียนฟงั ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ เรอื่ ง ภาพที่เกดิ จากกระจกเงาราบ
(15นาท)ี

8. นักเรยี นสืบค้นข้อมูลเก่ียวกับภาพทเี่ กดิ จากกระจกเงาราบ โดย
ศึกษาจากใบความรู้ เรอ่ื ง ภาพทีเ่ กิดจากกระจกเงาราบ (พอเพียง
3 การมภี มู คิ มุ้ กันทีด่ )ี (30 นาท)ี

9. นักเรียนตอบคำถาม “นกั เรยี นไดร้ ู้อะไรบ้าง เกยี่ วกับภาพที่เกดิ
จากกระจกเงาราบ” ลงในช่อง L (10 นาท)ี

10. นกั เรียนและครอู ภปิ รายรว่ มกนั บนกระดาน ในหัวขอ้ นักเรียนไดร้ ู้
อะไรบ้าง เก่ยี วกบั ภาพท่ีเกิดจากกระจกเงาราบ
(คดิ 3 คดิ วพิ ากย)์ (สมรรถนะ3) (5 นาท)ี

11. นกั เรียนและครู รว่ มกันสรุปความรู้ (5 นาที)
Reflective Thinking (5 นาท)ี

1. 3 สิ่งทน่ี ักเรยี นไดร้ ับ (2 นาที)
2. แบบทดสอบ (จาก www.pec9.com) จำนวน 1 ขอ้ (3 นาที)

แบบทดสอบ (จาก www.pec9.com)


ใบความรู้
เรอื่ ง ภาพท่เี กดิ จากกระจกเงาราบ

fd

การทเ่ี รามองเห็นภาพตา่ งๆได้ เกิดจากแสงจากวตั ถุสะท้อนมาเขา้ ตาเรา ดังนัน้ เม่ือเราเห็นภาพ
จากกระจกเงา ก็แสดงวา่ มีแสงสะท้อนภาพจากกระจกเงามาเขา้ ตา
ภาพท่ีเกิดจาก กระจกเงาราบ (Plane Mirrors)


การท่ีจะแสดงให้เห็นการเกิดภาพจากกระจก เร่ิมจากเขียนทางเดินแสง(รังสี) ออกจากวัตถุ ซ่ึง
ปกติจะกระจายออกไปทุกทิศทุกทาง ไปตกกระทบกับผิวของกระจกเงาราบ ตรงจุดท่ีตกกระทบให้เขียน
เส้นปกติข้ึนมาได้มุมตกกระทบ ( i ) แล้วลากเส้นรังสีสะท้อนให้มุมสะท้อน ( r ) เท่ากับมุมตกกระทบ ให้
ต่อแนวรังสีสะท้อนไปด้านหลังกระจก ทุกเส้นจะไปพบกันท่ีจุดหนึ่ง ซ่ึงเป็นตำแหน่งการเกิดภาพ จะได้
ระยะวัตถุ(ระยะจากวัตถุไปยังกระจก ) และระยะภาพ(ระยะภาพไปยังกระจก) มีค่าเท่ากัน เน่ืองจากการ
เกิดภาพแบบน้ีเม่ือเอาฉากหรือจอไปรับจะไม่ปรากฏภาพบนฉากรับน้ัน ภาพแบบนี้เรียกว่าภาพเสมือน
(อาจพิจารณาภาพเสมอื นจากการท่ีรังสีสะท้อนไม่ได้พบกนั ทต่ี ำแหน่งเกิดภาพจริงๆ)

ฐานวัตถุอยู่ที่ P เกดิ ฐานภาพหลังกระจกที่ P’ และถา้ หัววตั ถอุ ยทู่ ่ี Q จะเกดิ หัวภาพท่ี Q’


รปู แสดงการมองเหน็ ภาพ

จากรงั สีสะท้อนเข้าสตู่ า

สรุปการเกิดภาพจากกระจกเงาราบ

1. เมือ่ วตั ถุอยู่หน้ากระจก จะเกิดภาพเสมือน ( virtual image )อยดู่ า้ นหลังกระจก ภาพหัวตั้ง
เหมอื นกับวัตถุ

2. ระยะวัตถุ เทา่ กับ ระยะภาพ
3. ความสูงของวัตถุ เท่ากับความสูงของภาพ ทำให้คา่ กำลงั ขยายของภาพ เท่ากับ 1 เท่า
4. ภาพท่เี กิดจะกลบั ขวาเป็นซา้ ย กลับซ้ายเปน็ ขวา เม่ือเทียบกับวัตถุ

กระจกราบ ทำดว้ ยแผน่ แกว้ หรือวสั ดุโปร่งใสเรียบ ด้านหนึ่งจะเคลือบดว้ ยสารมันวาว เชน่ ปรอท การ
เกดิ ภาพมีหลักวา่ ภาพจะเกดิ การรงั สสี ะท้อนหรอื รังสีหักเหไปตัดกัน แบ่งเปน็ 2 ชนิด

ภาพจริง : ภาพทีเ่ กอดจากรงั สสี ะท้อนหรือรังสหี ักเหตัดกนั จรงิ

ภาพเสมอื น : ภาพท่เี กิดจากรงั สีสะท้อนหรือรังสีหักเหตดั กันไม่จริง

ถ้าพิจารณาแสงจากวัตถุเป็นรังสี จะมีรังสีของแสงจำนวนมากมายจากวัตถุตก กระทบผิวของ
กระจกเงาราบ ทำให้สามารถแสดงท่ีมาของภาพในกระจกเงาราบได้ ด้วยการใช้ กฎการสะท้อน ของ
แสงเขียนรังสีตกกระทบ รังสีสะท้อนและเส้นแนวฉากจากน้ันต่อแนวรังสี สะท้อนไปทางด้านหลังของ
กระจกเงาราบ จากสมบัติเชิงเรขาคณิตของแสง อาจแสดงได้ว่ารังสี สะท้อนเหล่านี้ เสมือนออกมาจากจุด
จุดหนึ่ง ซ่งึ กค็ อื ตำแหนง่ ภาพของวตั ถุนน่ั เอง

ดังรปู ก. ระยะท่ีวัตถุอยู่ห่างจากผิวกระจกเรยี กว่า ระยะวตั ถุ ระยะท่ีภาพอยู่ห่างจากผิวกระจก
เรียกว่า ระยะภ าพ ตามรูป ก และ ข จุด P' เป็นภ าพ ของ P โดยมี PA เป็ นระยะ
วตั ถุ และ P'A เป็นระยะภาพ


ทีม่ า- หนังสือฟิสิกส์ ชน้ั ม.5 เล่ม2
ก.วัตถุท่ีมีลกั ษณะเปน็ จุด ภาพก็เป็นจุด ข.วัตถุทมี่ ีขนาด ภาพก็มขี นาด

สำหรับวตั ถุทีม่ ขี นาดจะประกอบดว้ ยจุดหลายๆจดุ ดงั นน้ั ภาพของจดุ เหลา่ น้ีจงึ รวมกนั เป็นภาพของวัตถุ
ซงึ่ อาจหาได้โดยการเขยี นรงั สีตา่ งๆโดยใชว้ ิธีของรปู ก. และไดภ้ าพดัง แสดงในรปู ข.

รปู 2.1.1 การมองเหน็ ภาพในกระจกเงาราบ

รูป 2.1.2 แสดงการหาระยะภาพ P เป็นวัตถุท่ี ทม่ี า- หนังสือฟสิ กิ ส์ ชัน้ ม.5 เลม่ 2
เป็นจุด ถ้า PB เป็นรังสีจากวัตถุที่ตกกระทบ รปู 2.1.2การเขยี นรงั สขี องแสงเพือ่ หาตำแหน่ง และขนาด
กระจกเงาราบ และ BQ เป็นรังสีสะท้อน ต่อ
QB ไปตัดส่วนต่อของ PA ที่จุด P' ตามรูป
2.1.2 ก. P' เปน็ ภาพของ P

ของวตั ถุที่เกดิ จากกรจกเงาราบ


สรปุ ไดว้ า่ ระยะวตั ถเุ ทา่ กับระยะภาพเสมอ

ในรูป 14.8 ข ถ้าวัตถุ PQ มีลักษณะเป็นเส้นตรง และ ยาว y จากข้างบนภาพของจุด P และ Q จะอยู่ที่
จุด P' และ Q' ดังนั้น P' Q' เป็นภาพของ PQ และมีความยาม y' เพราะ PA = AP' และ QB =
BQ' จากเรขาคณติ จะไดว้ ่า

PQ = P' Q'

หรอื

y = y'

จะเหน็ ได้ว่าสำหรับการเกิดภาพในกระจกเงาราบความยาวของภาพเทา่ กบั ความยาวของวตั ถุเสมอ


การศึกษาภาพของวัตถุท่เี กิดในกระจกเงาราบที่ผ่านมาเป็นกรณที ว่ี ัตถุมขี นาดเล็กกวา่ กระจกเงา
ราบ ถ้าวตั ถมุ ีขนาดใหญ่กว่ากระจกเงาราบ เราก็สามารถเขยี นรังสโี ดยใชก้ ฎการสะท้อนแสงเพื่อแสดง
การเกดิ ภาพในกระจกเงาราบได้เช่นกนั

สำหรับวัตถทุ ่มี รี ปู ทรงเช่นกล่องหรอื เก้าอี้ ซ่ึงประกอบด้วยจดุ จำนวนมาก ดงั น้ัน เมือ่ วตั ถุ อยู่
หนา้ กระจกเงาราบ เพราะภาพของจดุ แต่ละจดุ ทเ่ี กิดข้นึ จะมีระยะภาพเทา่ กับระยะวตั ถุ ทำ
ให้ องคป์ ระกอบอ่ืนๆของวัตถุที่ปรากฏเป็นภาพกจ็ ะมีขนาดเทา่ กันด้วย จึงทำไห้สรปุ ได้ว่า ขนาดของ
ภาพท่ไี ด้จากการวางวตั ถไุ ว้หน้าผวิ สะท้อนราบใดๆจะเท่ากบั ขนาดของวตั ถเุ สมอ ภาพของวัตถุใน
กระจกเงาราบนัน้ เป็นภาพท่ีเกดิ จากรงั สีสะท้อนมาเข้าตาจงึ ทำไหด้ เู สมือนวา่ รังสีเหล่านัน้ มาจากภาพ
อยู่หลังกระจก และ ถา้ เรานำฉากไปวาง ณ ตำแหน่งท่เี ห็นภาพนัน้ ก็จะไม่มภี าพใดๆปรากฏบนฉาก ภาพ
ทีเ่ กิดขึ้นในลักษณะเชน่ นี้ เรยี กว่า ภาพเสมอื น

สตู ร การเกดิ ภาพในกระจกเงาราบ

คอื ความสูงของภาพ
O คือ ความสูงของวตั ถุ
V , คือ ระยะภาพ
U , S คอื ระยะวัตถุ
เมอื่ หมนุ กระจกเงาระนาบเป็นมมุ มุมบา่ ยเบนจะเปลยี่ นไปจากเดิม 2

ถ้าตอ้ งการเหน็ ภาพของตนเองในกระจกเต็มตัว จะใชก้ ระจกสูงเพียง ของความสูงของตนเอง
สูตร การคำนวณหาจำนวนภาพ เมื่อกระจกทำมุม ใด ๆ ต่อกนั

จำนวนภาพ ( n ) =


ความรู้ KWL

เรอ่ื ง ................................................................ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท.่ี .........

ช่ือ..................................................สกลุ ..........................................ช้นั ...............เลขที่.....................

คำชแี้ จง นักเรียนบนั ทกึ ความรู้ที่ได้ ลงในตารางต่อไปนี้พรอ้ มทั้งเขียนสรุปความ ลงในบรรทัดทวี่ า่ ง
ข้างล่างของแบบบันทึก

K(นกั เรียนรอู้ ะไร) W(นกั เรียนตอ้ งการรอู้ ะไร) L(นกั เรยี นไดเ้ รยี นรอู้ ะไร)

……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………
………………………...…………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน KWL

คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรยี น ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในชอ่ งรายการประเมิน
กำหนด

ลำดับที่ ชอ่ื -สกุล การแสดง ครอบคลมุ ผลสำเรจ็ ตรงต่อเวลา ความ สรุปผล
ของผู้รบั การประเมนิ ความคดิ เหน็ เนือ้ หา ของงาน สะอาด รวม การ
เรียบรอ้ ย 20 ประเมนิ
ถกู ต้อง คะแนน ผา่ น/ไม่
ชดั เจน

4321 4321 432 14321 4321 ผ่าน

ประเมิน ลงชื่อ .................................................... ผู้
................/................/................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมนอ้ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ให้ 1 คะแนน
14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

นักเรียนได้ระดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขน้ึ ไปถือวา่ ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน KWL

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
ความ - แสดงความคดิ เห็นใน
คดิ เหน็ - แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคดิ เห็นใน
ชอ่ ง K ได้ นอ้ ยกวา่ 7
ช่อง K ได้ 10 ข้อ ชอ่ ง K ได้ 9-10 ข้อ ช่อง K ได้ 7-8 ข้อ ขอ้
- แสดงความคิดเหน็ ใน
คำถามข้นึ ไป คำถาม คำถาม ชอ่ ง W ได้ น้อยกวา่ 7
ขอ้
- แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน
ชอ่ ง L ได้ นอ้ ยกวา่ 7
ชอ่ ง W ได้ 10 ขอ้ ช่อง W ได้ 9-10 ขอ้ ชอ่ ง W ได้ 7-8 ข้อ ขอ้

คำถามข้ึนไป คำถาม คำถาม

- แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคิดเหน็ ใน

ช่อง L ได้ 10 ข้อ ช่อง L ได้ 9-10 ข้อ ช่อง L ได้ 7-8 ข้อ

คำถามขึ้นไป คำถาม คำถาม

เน้ือหา - เน้ือหาครบถ้วนตาม - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระ
การนำเสนอ สาระท่กี ำหนด 100% ท่ีกำหนด 80-99% ทกี่ ำหนด 60-79% ทก่ี ำหนดต่ำวา่ 59%
- เขียนถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถกู ต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลกั
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำวา่ 59%
- ลำดับหวั ขอ้ เน้ือหา - ลำดับหวั ข้อเนอื้ หา - มีการสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ไม่
ชัดเจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตสุ มผลต่ำวา่
- มกี ารสรปุ ได้อย่าง - มีการสรปุ ได้อย่าง 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99% - การพดู เหมาะสม
- พดู ชัดเจนเสยี งดังฟังชัด - พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง ตามอักขระ60-79% - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% - บุคลิกภาพเหมาะสม ตามอักขระตำ่ วา่ 59%
- บคุ ลกิ ภาพดีและมีความ - บุคลิกภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
มน่ั ใจ - ความพรอ้ มในการ
- มกี ารใช้สื่อประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ


ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมี - ใชส้ สี นั สวยงามหรอื
สวยงาม - มีความสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑอ์ ย่าง
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มีความคดิ สรา้ งสรรค์ ใดอยา่ งหนึง่
- ความเป็นระเบียบอา่ น
ง่าย

การตรงต่อ ส่งผลงานครบถ้วน ตรง ส่งผลงานครบถว้ น แต่ชา้ ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ ้า ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้า
เวลา ตามเวลาทีก่ ำหนด กว่าเวลาท่กี ำหนด 5 กวา่ เวลาที่กำหนด 10 กว่าเวลาท่กี ำหนด 15
นาที นาที นาที


แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 28

ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ ทัศนอุปกรณ์ หนว่ ยย่อยที่ 3
เรอ่ื ง ภาพทเี่ กิดจากกระจกเงาทรงกลม
วนั ท่ที ำการสอน เวลา 2 ชัว่ โมง

ผ้สู อน นายศักดิร์ ะวี กนั ทะวงค์

1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรียนรู้
กระจกเงาโคง้ ทรงกลมเปน็ ส่วนหนึง่ ของผิวโค้งทรงกลม ถา้ ใชผ้ ิว 10.อธบิ ายการนำความรู้เรอื่ งการสะท้อนของแสงจากกระจกเงาราบ
โคง้ เวา้ ของกระจกเปน็ ผวิ สะท้อนแสง เรยี กว่า กระจกเว้า และถ้าใชผ้ ิว และกระจกเงาทรงกลมไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน
โค้งนนู ของกระจกเปน็ ผิวสะทอ้ นแสง เรียกวา่ กระจกนูน

3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้ินงาน/ภาระงาน
ภาพท่เี กดิ จากกระจกเงาทรงกลม 1. ใบงาน Diagram เรอื่ ง การวเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หา ภาพท่ี

เกิดจากกระจกเงาทรงกลม

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน 6. เครือ่ งมือการสอนคิด

- ความสามารถในการสื่อสาร - Diagram

- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7. ขน้ั ของกิจกรรม 8. ส่ือ 9. วธิ ีการวดั ผล
- ป ร ะ เ มิ น จ า ก ใ บ ง า น
Do Now (3 นาท)ี - ใบความรู้เร่ือง ภาพที่เกิด
Diagram เ รื่ อ ง ก า ร
บอกชอ่ื ดอกไมท้ ่ีนักเรียนช่นื ชอบพร้อมทั้งเหตผุ ล จากกระจกเงาทรงกลม วิเคราะห์โจทย์ปัญหา ภาพ
ที่ เ กิ ด จ า ก ก ร ะ จ ก เง า ท ร ง
Purpose (2 นาท)ี - ใบงานเรื่อง ภาพที่เกิดจาก กลม

เราจะเรียนเรื่อง ภาพทเ่ี กดิ จากกระจกเงาทรงกลม เพื่ออธิบาย และ กระจกเงาทรงกลม

คำนวณส่ิงทเี่ ก่ยี วกบั กฎการสะทอ้ น การสะท้อนท่ีกระจก การเกิดภาพ - ใบงาน Diagram เรือ่ ง การ

แบบต่างๆ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างระยะวตั ถุ ระยะภาพ ความยาวโฟกัส วิเคราะห์โจทย์ปัญหา ภาพ

กำลงั ขยายได้ ที่เกิดจากกระจกเงาทรง

Work mode (110 นาท)ี กลม

1. นกั เรยี นดูคลิปวีดโี อ เรื่อง ภาพท่ีเกิดจากกระจกเงาทรงกลม(10 - คลปิ วีดีโอ เรอ่ื ง ภาพทเี่ กดิ
นาที) จากกระจกเงาทรงกลมจาก
https://www.youtube.c
2. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปความรทู้ ี่ไดจ้ ากคลิปวดี ีโอ (10 นาที)

3. นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับภาพท่ีเกิดจากกระจกเงาทรงกลม โดย om/watch?v=rLzklUmA

ศกึ ษาจากใบความรู้ เรอื่ ง ภาพทเ่ี กิดจากกระจกเงาทรงกลม(พอเพยี ง BC8

3 การมีภูมิคุ้มกันท่ดี ใี นตวั ) (20นาที)

4. นักเรียนฟังครูอธบิ ายเพมิ เตมิ เร่ือง ภาพทีเ่ กดิ จากกระจกเงาทรงกลม

(15 นาที)


5. นกั เรียนสืบค้นขอ้ มลู เกี่ยวกบั หาโจทยป์ ัญหาเร่ืองภาพท่ีเกิดจาก
กระจกเงาทรงกลมโดยศกึ ษาจากอนิ เตอร์เนต็ เรอื่ ง ภาพท่ีเกิดจาก
กระจกเงาทรงกลม และวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาในรูปแบบแผนผัง ลง
ในใบงาน Diagram เร่อื ง การวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา ภาพทเ่ี กดิ จาก
กระจกเงาทรงกลม (คดิ 9 : คดิ เชงิ มโนทศั น์)(สมรรถนะ2)(พอเพยี ง3
การมีภมู ิคุ้มกนั ท่ีดีในตัว) (30 นาที)

6. นกั เรียน(โดยสมุ่ ตัวแทน)ออกมานำเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี น
(สมรรถนะ3) (15 นาที)

7. นักเรียนและครู ร่วมกันสรปุ ความรู้ (10 นาท)ี
Reflective Thinking (5 นาท)ี
1. 3 สิ่งทนี่ กั เรยี นไดร้ บั (2 นาที)
2. แบบทดสอบ En 43/2 จำนวน 1 ข้อ (3 นาที)

1. (En 43/2) นำวตั ถมุ าวางด้านของกระจกเว้าทมี่ รี ัศมีความโค้ง 35.0 เซนติเมตร โดยวางห่างจาก
กระจกเป็นระยะทที่ ำให้เกิดภาพจรงิ ขนาดใหญเ่ ป็น 2.5 เท่าของวัตถุ อยากทราบวา่ วตั ถุหา่ งจาก
กระจกเปน็ ระยะเทา่ ไร
1. 10.5 cm
2. 12.25 cm
3. 21.0 cm
4. 24.5 cm


ใบความรู้
เรื่อง ภาพที่เกดิ จากกระจกเงาทรงกลม

กระจกเงาทรงกลม หรือกระจกโค้ง จะแบ่งได้เป็น 2 ชนิดย่อย ได้แก่ กระจกโคง้ เว้า และกระจก
โค้งนนู กระจกแต่ละ แบบจะมีจดุ ต่างๆ ซึง่ ต้องรูจ้ ักเป็นพ้ืนฐานดังรูป


จากรปู จุด C เรียกจุดศูนย์กลางความโค้ง
จดุ O เรยี กจดุ ใจกลางบนผิวโคง้
เสน้ ตรง CO เรียกเส้นแกนมุขสําคัญ
ระยะ CO เรยี กรัศมคี วามโค้ง ( R )

ถ้าเราให้รังสีของแสงขนานกับเส้นแกนมุขสําคัญ มาตกกระทบกระจกเว้า จะพบว่ารังสีสะท้อน
ของรังสี ขนานเหล่านี้จะไปตัดกันท่ีจุดกึ่งกลางระหว่างจุด C กับ จุด O เสมอ จุดตัดน้ีเรียกจุดโฟกัส ( F )
แ ล ะ ร ะ ย ะ ห่ า ง จ า ก จุ ด O ถึ ง จุ ด F เ รี ย ก ค ว า ม ย า ว โ ฟ กั ส ( f )

แต่กระจกนูนจะเป็นกระจกกระจายแสง กล่าวคือ เม่ือรังสีของแสงขนานกับเส้นแกนมุขสําคัญ
ไปตกกระทบกระจกนูน รังสีสะท้อนจะกระจายออกจากกัน ดังรูป แต่ถ้าต่อแนวรังสีสะท้อนย้อนไป
ด้านหลังกระจก จะพบว่าเส้นสมมุติเหล่าน้ัน จะไปตัดกนท่ีจุดกึ่งกลางระ หว่างจุด ่ C กับจุด O ด้านหลัง
กระจก จุดตัดน้ีเรียกจุดโฟกัส ( F ) และระยะห่างจากจุด O ถึง จุด F เรียกความยาวโฟกัส ( f ) แต่ เป็น
จดุ โฟกสั และความยาวโฟกัสเสมอื นเทา่ น้นั

ซึง่ สําคัญ f = 2 R เสมอ


การเกิดภาพโดยกระจกนนู
ภาพทีเ่ กิดจากกระจกนนู จะเป็นภาพเสมือน หวั ตงั้ ขนาดภาพเลก็ กว่าขนาดวตั ถุอย่หู ลังกระจกและระยะ
ภาพส้นั กวา่ ระยะวตั ถุเสมอ


ใบงใาบนงDานiagDriaamgram
การวเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาเร่อื ง บตี สแ์ ละคล่นื นิ่งของเสยี ง

โจทยป์ ญั หา

ส่งิ ที่โจทย์กำหนด

สง่ิ ทีโ่ จทยถ์ าม

สูตรการคำนวณ


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Diagram

คำชแ้ี จง : ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในช่องรายการประเมิน
กำหนด

ความ สรปุ ผล

ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกลุ ความถกู ต้อง ครอบคลุม สอดคลอ้ ง ตรงตอ่ เวลา ความ การ
ของผรู้ ับการประเมนิ ของเนือ้ หา เนอ้ื หา และ 4 สะอาด รวม ประเมนิ
เรยี บรอ้ ย 20 ผา่ น/ไม่
4 4 เช่อื มโยงของ คะแนน ผ่าน
เนอ้ื หา 4

4

4321 43214 32 1 4321 4321

ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

นกั เรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถอื ว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram

เกณฑก์ าร ระดับการประเมิน
ประเมิน
รปู แบบ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
- มีหัวข้อทชี่ ัดเจน - มีหัวข้อที่ชัดเจน
เนอ้ื หา - เขียนอย่ใู นกรอบ - มหี ัวขอ้ ท่ชี ดั เจน - มีหัวข้อท่ีชดั เจน - เขยี นอยู่ในกรอบ
- ใช้คำสำคัญตรงประเด็น
การนำเสนอ - ใช้สัญลกั ษณ์หรือภาพ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ
ท่ีกำหนดต่ำกวา่ 59%
ความ สื่อความหมาย - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น - เขียนถูกต้องตามหลัก
สวยงาม - ใช้สสี ันทัว่ แผน่ ภาษาตำ่ กว่า 59%
- เนอ้ื หาครบถว้ นตาม - ใช้สัญลกั ษณห์ รอื ภาพ - มกี ารสรปุ ไม่
สาระท่ีกำหนด 100% สมเหตสุ มผลตำ่ กวา่
- เขียนถูกต้องตามหลกั สอื่ ความหมาย 59%
ภาษา 100%
- ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหา - เน้ือหาถูกต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระ - สามารถพดู นำเสนอได้
ชดั เจน - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง
- มีการสรปุ ได้อย่าง ที่กำหนด 80-99% ทีก่ ำหนด 60-79% ตามอักขระต่ำกวา่
สมเหตุสมผล 100% 59%
- พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟังชดั - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง
ตามอักขระ100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% - ใช้สสี นั สวยงามหรือ
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ เปน็ ไปตามเกณฑ์อย่าง
มน่ั ใจ - ลำดบั หวั ข้อเน้ือหา - มีการสรุปได้อย่าง ใดอย่างหนึ่ง
- มีการใช้ส่ือประกอบการ
นำเสนอ ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79%
- ความพร้อมในการ
นำเสนอ - มกี ารสรุปได้อยา่ ง
- ใชส้ สี ันสวยงาม
- มคี วามสะอาด สมเหตุสมผล 80-99%
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์
- ความเปน็ ระเบียบอ่าน - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม
ง่าย
- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79%

- บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม

- ความพร้อมในการ

นำเสนอได้บางส่วน

- ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมี
- มีความสะอาด ความสะอาด
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์


การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที


แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 29

ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ทศั นอปุ กรณ์ หน่วยยอ่ ยท่ี 3
เรื่อง เลนสบ์ าง
วันที่ทำการสอน เวลา 2 ชวั่ โมง

ผูส้ อน นายศักดิ์ระวี กันทะวงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรียนรู้
เลนส์ คือ ตัวกลางโปร่งใสทมี่ ผี วิ หนา้ เป็นผิวโค้ง ผวิ โค้งของเลนส์อาจจะมี 13.ทดลองและเขียนรังสีของแสงเพ่ือแสดงภาพท่ี
รูปรา่ งเป็นพ้ืนผวิ โคง้ ทรงกลม ทรงกระบอก หรือ พาราโบลากไ็ ด้ เลนสแ์ บบง่าย เกิดจากเลนส์บาง หาตำแหน่ง ขนาด ชนิดของภาพ
สดุ เปน็ เลนส์บางที่มผี ิวโคง้ ทรงกลม โดยสว่ นหนาสดุ ของเลนส์จะมีค่านอ้ ยเม่ือ และความสัมพันธ์ระหวา่ งระยะวัตถุ ระยะภาพและ
เทียบกับรัศมคี วามโค้ง เลนส์แบง่ ออกเปน็ 2 ชนดิ คือ เลนสน์ นู (Convex lens ) ความยาวโฟกัส คำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง
กบั เลนสเ์ วา้ (Concave lens )

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
เลนสบ์ าง -ใบงาน KWL เรือ่ ง เลนส์บาง

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน 6. เคร่ืองมือการสอนคดิ

- ความสามารถในการสื่อสาร - KWL

- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้

7. ขน้ั ของกิจกรรม 8. ส่อื 9. วธิ ีการวัดผล

Do Now (3 นาท)ี - ใบความรู้ เรื่องเลนส์ - ประเมินใบงาน

บอกประโยชนข์ องไม้แขวนผา้ มาคนละ 2 อย่าง (หา้ มซ้ำ) บาง KWL เรอื่ งเลนส์

Purpose (2 นาท)ี - ใบ งาน KWL เรื่อง บาง

เราจะเรยี นเรอ่ื ง เลนสบ์ าง เพอื่ นกั เรยี นสามารถ อธิบาย และคำนวณสงิ่ ที่ เลนสบ์ าง

เกี่ยวกับกระจก เลนส์ เลนสน์ นู เลนสเ์ วา้ สตู รชา่ งทำเลนส์ สตู รความสัมพนั ธ์ - คลิปวีดีโอ เร่ือง เลนส์

ระหวา่ งระยะวัตถุ ระยะภาพ ความยาวโฟกสั แสงและการมองเห็นได้ บาง

Work mode (110 นาท)ี https://www.youtub

1. นักเรยี นทำกจิ กรรม KWL เร่ือง เลนส์บาง โดยตอบคำถาม “นักเรยี นรู้ e.com/watch?v=PVIt

อะไรเกย่ี วกับเลนส์บาง ” ลงในช่อง K (10 นาท)ี 0mqAasI

2. นักเรียนและครูอภปิ รายรว่ มกนั บนกระดาน ในหัวข้อ นกั เรยี นรู้อะไรบ้าง

เกย่ี วกบั เลนสบ์ าง (5 นาท)ี

3. นักเรียนตอบคำถาม “นกั เรียนอยากรู้อะไรบา้ ง เกย่ี วกบั เลนสบ์ าง ” ลงใน

ช่อง W (5 นาที)

4. นักเรยี นและครอู ภปิ รายร่วมกันบนกระดาน ในหวั ข้อ นักเรียนอยากรู้

อะไรบา้ ง เกีย่ วกับเลนสบ์ าง (10 นาท)ี

5. นกั เรยี นดคู ลิปวดี โี อ เรอื่ ง เลนส์บาง (5 นาที)


6. นักเรยี นศกึ ษาขอ้ มลู เกย่ี วกับเลนสบ์ าง โดยศกึ ษาจากใบความรู้ เรอ่ื ง
เลนส์บาง (พอเพยี ง 3 การมภี มู ิคุ้มกันท่ดี ี) (30 นาท)ี

7. พรอ้ มฟังครูอธบิ ายเพิมเติมเรอ่ื งเลนส์บาง (15 นาที)
8. นกั เรียนตอบคำถาม “นักเรยี นไดร้ ้อู ะไรบ้าง เกี่ยวกบั เลนส์บาง ” ลงใน

ช่อง L (10 นาที)
9. นกั เรียนและครูอภิปรายรว่ มกนั บนกระดาน ในหวั ข้อ นกั เรยี นไดร้ ้อู ะไรบา้ ง

เกีย่ วกบั เลนสบ์ าง (คดิ 3 คิดวพิ ากย์)(สมรรถนะ3) (10 นาท)ี
10. นกั เรียนและครู ร่วมกันสรุปความรู้ เรอื่ ง เลนส์บาง(10 นาท)ี
Reflective Thinking (5 นาที)
1. จากการเรยี นในวันนี้นกั เรยี นไดร้ ับความรู้อะไรบา้ ง (2 นาที)
2. ข้อสอบ ขอ้ สอบ (มช 35) จำนวน 1 ข้อ (3 นาที)

Reflective Thinking

1. (มช 35) วัตถุสงู 4 เซนตเิ มตร วางหน้าเลนสน์ นู เป็น ระยะ 12 เซนตเิ มตร ไดภ้ าพจริงหา่ งจากเลนส์
24 เซนตเิ มตร จงหาความสูงของภาพและความยาวโฟกสั ของเลนส์เปน็ เซนตเิ มตร
1. 2 , 8
2. 8 , 2
3. 2 , 2
4. 8 , 8


ใบความรู้
เรือ่ ง เลนสบ์ าง

ภาพทีเ่ กิดจากเลนส์
เลนส์ คือ ตัวกลางโปร่งใสท่ีมีผิวหน้าเป็นผิวโค้ง ผิวโค้งของเลนส์อาจจะมีรูปร่างเป็นพื้นผิวโค้งทรงกลม
ทรงกระบอก หรือ พาราโบลาก็ได้ เลนส์แบบง่ายสุดเปน็ เลนส์บางท่ีมีผิวโค้งทรงกลม โดยสว่ นหนาสุดของเลนส์จะมี
ค่าน้อยเม่ือเทยี บกับรัศมีความโค้ง เลนส์แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ เลนส์นูน(Convex lens ) กบั เลนส์เว้า (Concave
lens )
เลนสน์ ูน
เลนสน์ นู คือ เลนสท์ ่มี ีตรงกลางหนากว่าตรงขอบเสมอ เม่อื ผ่านลำแสงขนานเขา้ หาเลนส์จะทำใหร้ ังสตี บี เขา้ หา
กนั และไปตดั กันจรงิ ที่จดุ โฟกัสจริง ( Real focus )

ภาพเเสดงเลนสน์ นู รูปเเบบตา่ งๆ
เลนส์เวา้

เลนสเ์ วา้ คอื เลนสท์ ม่ี ีตรงกลางบางกว่าตรงขอบเสมอ เมื่อผ่านลำแสงขนานเข้าหาเลนสจ์ ะทำใหร้ งั สถี ่างออก
จากกนั และ ถ้าต่อแนวรงั สี จะพบว่ารงั สีจะไปตัดกันที่จุดโฟกัสเสมือน ( Virtual focus )

ภาพเเสดงเลนส์เวา้ รูปเเบบตา่ งๆ


การหักเหของแสงผา่ นเลนส์
การหาลกั ษณะของภาพและตำแหนง่ ของภาพท่ีเกดิ จากการหักเหของแสงผา่ นเลนส์ โดยการวาดรังสี ซึ่งมี

ขน้ั ตอนการเขยี นรงั สีของแสง ตกกระทบและรังสี หกั เหของแสง ดงั นี้
ก. รงั สีเสน้ ทห่ี นง่ึ ใหล้ ากรังสขี องแสงจากวัตถขุ นานกบั แกนมขุ สำคัญไปตกกระทบเลนสต์ อ่ มาลากรังสหี ัก

เหของแสงจากเลนสจ์ ะผา่ นที่จดุ โฟกัส ซึ่งอยดู่ ้านหลังเลนส์
ข. รงั สีเส้นท่ีสอง ใหล้ ากรังสีของแสงจากวตั ถุไปตกกระทบท่จี ดุ กึ่งกลางเลนส์ตอ่ มาลากรงั สหี กั เหของแสง

จากเลนส์ต่อจากจุดกึง่ กลางเลนส์ออกไป
ค. รังสีเส้นทสี่ าม ใหล้ ากรังสขี องแสงจากวัตถผุ ่านจดุ โฟกสั ไปตกกระทบเลนส์ตอ่ มาลากรังสหี กั เหของแสง

จากเลนส์ออกไปดา้ นหลังเลนส์ โดยขนาน กับแกนมุขสำคัญ รังสีท้งั สามจะไปตดั กนั ท่ดี า้ นหลังของเลนส์ทีต่ ำแหน่ง
หน่ึงซ่งึ ตำแหน่งน้ันคือตำแหน่งของภาพ ทเ่ี กิดขน้ึ ดังรปู

แสดงการหักเหของแสงเม่ือผ่านเลนสน์ นู

แสดงการหักเหของแสงเมื่อผ่านเลนส์เวา้
ภาพทเี่ กดิ จากการวางวตั ถุ ณ ตำแหนง่ ตา่ ง ๆ ของเลนส์นูน
1. ถา้ วัตถอุ ยู่ทีต่ ำแหนง่ ท่ีไกลมากหรือระยะอนนั ต์ จะได้ภาพจริงมีขนาดเป็นจุดอยู่ท่จี ดุ โฟกัส


2. ถ้าวตั ถอุ ยู่ห่างมากกว่าจดุ ศูนย์กลางความโคง้ แต่ไม่ถงึ ระยะอนนั ต์ จะเกดิ ภาพจรงิ หวั กลบั ขนาดเลก็ กว่าวัตถุ อยู่
ระหวา่ งจุด F และ ซง่ึ อยู่คนละดา้ นกับวตั ถุ

3. ถา้ วัตถุอย่ทู ่ีจุด C จะเกดิ ภาพจรงิ หวั กลับทต่ี ำแหน่ง ขนาดเท่ากับวัตถุ และอยูค่ นละด้านกลบั วัตถุ

4. ถา้ วตั ถุอยรู่ ะหวา่ งจดุ C และจดุ F จะเกิดภาพจริงหัวกลบั ขนาดขยายอยู่นอกจดุ ซ่ึงอยูค่ นละดา้ นกบั วัตถุ

5. ถ้าวตั ถอุ ยทู่ จ่ี ุด F จะทำใหเ้ กิดภาพท่รี ะยะอนนั ต์ เพราะรังสแี สงที่ออกมาจะเป็นรังสีแสงขนาน

6. ถา้ วตั ถุอยู่ระหว่างจุด F กับจดุ O จะพบวา่ รงั สีรังสที ่ีผา่ นเลนส์มกี ารเบนออก และเมื่อเราตอ่ แนวรงั สที ี่หักเหผา่ น
เลนส์ จะพบว่าเกิดภาพเสมือนขนาดขยาย หวั ตง้ั อยู่ด้านเดียวกบั วัตถุ


ภาพที่เกิดจากการวางวัตถุ ณ ตำแหน่งต่าง ๆ ของเลนส์เวา้
- ถา้ วัตถอุ ยู่ระหว่างจุด F กบั จดุ Cหรือจดุ F กับจดุ O จะเกิดภาพเสมือน หัวต้ัง ขนาดเลก็ กวา่ วัตถุทร่ี ะยะ
ระหว่าง F กบั C หน้าเลนส์

การหาตำแหนง่ ภาพที่เกิดจากเลนส์

โดยท่ี f คอื ความยาวโฟกสั f เป็นบวก เม่ือเป็นเลนส์นูน
s คอื ระยะวัตถุ f เป็นลบ เม่อื เป็นเลนส์เว้า
s' คือระยะภาพ s เป็นบวก สำหรับวัตถุจรงิ (ซ่ึงอยูห่ น้าเลนส์)
s เป็นลบ สำหรบั วตั ถเุ สมอื น (ซ่ึงอยู่หลังเลนส)์
s' เปน็ บวก สำหรบั ภาพจริง (ซึง่ อยูห่ น้าเลนส)์
s' เป็นลบ สำหรบั ภาพเสมือน (ซงึ่ อย่หู ลงั เลนส)์

กำลังขยาย (Magnification)
กำลงั ขยายของเลนส์ หาได้จาก


ความรู้ KWL

เร่ือง ................................................................ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่..........

ชื่อ..................................................สกลุ ..........................................ชัน้ ...............เลขที่.....................

คำช้ีแจง นักเรยี นบนั ทกึ ความรทู้ ีไ่ ด้ ลงในตารางต่อไปนี้พร้อมทัง้ เขียนสรปุ ความ ลงในบรรทดั ทีว่ า่ งข้างล่างของแบบบันทึก

K(นกั เรยี นรู้อะไร) W(นักเรียนต้องการรอู้ ะไร) L(นักเรยี นไดเ้ รียนรอู้ ะไร)

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………...…………………………………………………………………………………………………………
……………………...……………………………………………………………………………………………………………………………….


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน KWL

คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี น ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในช่องรายการประเมินกำหนด

ลำดับที่ ชอ่ื -สกลุ การแสดงความ ครอบคลุม ผลสำเร็จ ตรงตอ่ เวลา ความสะอาด รวม สรุปผล
ของผ้รู บั การประเมิน คดิ เหน็ ถกู ต้อง เนื้อหา ของงาน 4321 เรียบรอ้ ย 20 การ
คะแนน ประเมนิ
ชดั เจน 4321 4321 4321 ผา่ น/ไม่
ผา่ น
4321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมิน
................/................/................

เกณฑ์การให้คะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ
ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยคร้ัง ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั้ ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยคร้ัง ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ให้ 1 คะแนน
14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

นกั เรียนได้ระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ขึ้นไปถอื ว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน KWL

เกณฑ์การ ระดับการประเมนิ
ประเมนิ
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
ความ - แสดงความคิดเหน็ ใน
คิดเหน็ - แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคิดเห็นใน
ชอ่ ง K ได้ นอ้ ยกว่า 7
ชอ่ ง K ได้ 10 ข้อ ช่อง K ได้ 9-10 ข้อ ช่อง K ได้ 7-8 ข้อ ขอ้
- แสดงความคดิ เหน็ ใน
คำถามขน้ึ ไป คำถาม คำถาม ชอ่ ง W ได้ น้อยกวา่ 7
ข้อ
- แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน
ชอ่ ง L ได้ นอ้ ยกวา่ 7
ชอ่ ง W ได้ 10 ขอ้ ชอ่ ง W ได้ 9-10 ขอ้ ชอ่ ง W ได้ 7-8 ข้อ ข้อ

คำถามขึ้นไป คำถาม คำถาม

- แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน

ชอ่ ง L ได้ 10 ข้อ ช่อง L ได้ 9-10 ข้อ ชอ่ ง L ได้ 7-8 ข้อ

คำถามขนึ้ ไป คำถาม คำถาม

เนื้อหา - เนือ้ หาครบถ้วนตาม - เนื้อหาถกู ต้องตามสาระ - เนอื้ หาถูกต้องตามสาระ - เนือ้ หาถูกต้องตามสาระ

สาระท่ีกำหนด 100% ทกี่ ำหนด 80-99% ท่ีกำหนด 60-79% ทกี่ ำหนดต่ำว่า 59%

- เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขยี นถูกต้องตามหลกั

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ ว่า 59%

- ลำดบั หวั ข้อเนือ้ หา - ลำดับหวั ข้อเน้ือหา - มีการสรุปได้อย่าง - มีการสรุปไม่

ชัดเจน ชดั เจน สมเหตุสมผล 60-79% สมเหตุสมผลต่ำวา่

- มกี ารสรุปได้อยา่ ง - มีการสรุปได้อย่าง 59%

สมเหตสุ มผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟงั ชัด - พดู ชดั เจนเสียงดังฟงั ชดั - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระต่ำวา่ 59%

- บคุ ลกิ ภาพดแี ละมคี วาม - บคุ ลิกภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

มั่นใจ - ความพร้อมในการ

- มีการใช้สือ่ ประกอบการ นำเสนอได้บางสว่ น

นำเสนอ

- ความพรอ้ มในการ

นำเสนอ

ความ - ใชส้ ีสนั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมี - ใชส้ ีสันสวยงามหรือ

สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑอ์ ย่าง

- มีความคดิ สรา้ งสรรค์ - มีความคดิ สร้างสรรค์ ใดอยา่ งหน่งึ


การตรงต่อ - ความเป็นระเบยี บอา่ น สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ชา้ สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้า สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ง่าย กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 5 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 10 กวา่ เวลาทีก่ ำหนด 15
สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง นาที นาที นาที
ตามเวลาท่ีกำหนด


แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 30

ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ ทศั นอุปกรณ์ หน่วยย่อยท่ี 3
เรื่อง กฎการหกั เหของสเนลล์
วันทท่ี ำการสอน เวลา 2 ชัว่ โมง

ผสู้ อน นายศักดร์ิ ะวี กันทะวงค์

1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรยี นรู้
ถ้าแสงเดินทางผ่านตัวกลางทท่ี บึ กวา่ ทิศทางจะเบนเข้าหาเสน้ ปกติ 13.ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดรรชนีหักเห มุมตก
กระทบ และมุมหกั เห รวมทงั้ อธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่างความลึก
ถา้ เปน็ มุมท่ี แสงตกกระทบ ทำมมุ กับเส้นปกติ และ เป็นมุมที่ จริงและความลึกปรากฏ มุมวิกฤตและการสะท้อนกลับหมดของ
แสงหักเหจากเสน้ ปกติ การเดินทางของแสงจะเป็นไปตามกฎของส แสง และคำนวณปรมิ าณต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้อง
เนลล์ ( Snell's law)

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
กฎการหักเหของสเนลล์ 1. ใบงาน Diagram เร่ือง การวิเคราะห์โจทยป์ ญั หา กฎการ

หกั เหของสเนลล์

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 6. เครือ่ งมือการสอนคดิ

- ความสามารถในการส่ือสาร - Diagram

- ความสามารถในการคดิ

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7. ขั้นของกิจกรรม 8. ส่อื 9. วธิ ีการวัดผล
- ป ร ะ เ มิ น จ า ก ใ บ ง า น
Do Now (3 นาท)ี - ใบความรู้เรื่อง กฎการหัก
Diagram เรื่อง กฎการหัก
บอกชอ่ื ดอกไมท้ นี่ กั เรียนชื่นชอบพร้อมทัง้ เหตผุ ล เหของสเนลล์ เหของสเนลล์

Purpose (2 นาท)ี - ใบงาน Diagram เรอ่ื ง การ

เราจะเรยี นเรื่อง ภาพทีเ่ กิดจากกระจกเงาทรงกลม เพื่ออธิบาย และ วเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หา กฎ

คำนวณสง่ิ ทเี่ ก่ียวกบั กฎการสะทอ้ น การสะท้อนที่กระจก การเกิดภาพ การหักเหของสเนลล์

แบบต่างๆ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างระยะวตั ถุ ระยะภาพ ความยาวโฟกสั - คลปิ วีดโี อ เร่อื ง กฎการ
กำลังขยายได้ หกั เหของสเนลล์
Work mode (110 นาท)ี

1. นักเรียนดูคลิปวีดโี อ เร่ือง กฎการหกั เหของสเนลล์(10 นาที)

2. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากคลิปวีดโี อ (10 นาที)

3. นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับกฎการหักเหของสเนลล์โดยศึกษาจาก

ใบความรู้ เรื่อง กฎการหกั เหของสเนลล์(พอเพียง3 การมีภูมคิ ุ้มกันท่ี

ดีในตัว) (20นาที)

4. นักเรียนฟังครูอธบิ ายเพมิ เตมิ เร่ือง กฎการหักเหของสเนลล์(15 นาที)


5. นักเรียนสืบคน้ ขอ้ มลู เก่ียวกับหาโจทยป์ ัญหาเรื่องกฎการหกั เหของส
เนลลโ์ ดยศึกษาจากอินเตอรเ์ น็ต เร่อื ง กฎการหกั เหของสเนลล์และ
วเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หาในรูปแบบแผนผงั ลงในใบงาน Diagram เร่ือง
การวเิ คราะห์โจทย์ปัญหา กฎการหักเหของสเนลล์(พอเพียง3 การมี
ภมู ิคุ้มกนั ทดี่ ีในตัว) (คดิ 9 : คดิ เชงิ มโนทศั น)์ (สมรรถนะ2)(30 นาที)

6. นักเรยี น(โดยสมุ่ ตวั แทน)ออกมานำเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี น
(สมรรถนะ3) (15 นาที)

7. นักเรยี นและครู รว่ มกันสรุปความรู้ (10 นาที)
Reflective Thinking (5 นาท)ี
1. 3 สิ่งท่ีนักเรยี นไดร้ ับ (2 นาที)
2. แบบทดสอบ มช 32 จำนวน 1 ข้อ (3 นาที)

1. (มช 32) เมื่อแสงจากตวั กลางชนดิ หน่งึ เขา้ สูต่ ัวกลางอกี ชนดิ หน่ึงปรมิ าณอะไรของแสงจะไมเ่ ปล่ยี น
1. ทิศทาง
2. ความเร็ว
3. ความถ่ี
4. ความยาวช่วงคล่นื


ใบความรู้
เร่ือง กฏการหักเหของสเนลล์

ถ้าแสงเดินทางผา่ นตัวกลางทท่ี บึ กว่าทศิ ทางจะเบนเขา้ หาเสน้ ปกติ ถ้า เปน็ มมุ ที่ แสงตก
กระทบ ทำมุมกับเส้นปกติ และ เปน็ มมุ ท่ีแสงหกั เหจากเสน้ ปกติ การเดินทางของแสงจะเปน็ ไปตามกฎ

ของสเนลล์ ( Snell's law) ดงั น้ี หรอื

เมอ่ื หมายถงึ ดรรชนีหกั เหของแสงในตวั กลางที่2เมื่อเทยี บกับดรรชนีหกั เหของแสงในตวั กลาง

ท1ี่ (หมายถึงแสงเดนิ ทางจาก ตัวกลางที่1ไปยังตวั กลางท่ี2 ) หรืออาจเขยี นได้เปน็
พิสจู น์กฎการหักเห

จากรปู ในชว่ งเวลา รังสี 1 เคลื่อนท่จี าก A ไป
B และรงั สี 2 เคลื่อนทจ่ี าก A' ไป C ซง่ึ ระยะAB

เท่ากบั จากรปู เราจะไดว้ ่า
และระยะAC'คือ

จาก2สมการจะได้

แตเ่ รารวู้ า่ และ

ดงั นั้น ซึ่งคือ กฎการหักเห นั่นเอง

สังเกตวา่ มุมตกกระทบ มุมสะท้อน และมุมหักเห จะวัดจากเสน้ แนวฉาก มากกว่าทีจ่ ะวัด
จากผวิ ของมันเอง ท้ังนี้เพราะในวตั ถุ 3 มิติ มุมท่ีรงั สีทำกับผิวมีได้หลายคา่
ลองดู การสะท้อนและหักเหของแสง ในตัวกลางคู่ต่างๆ


ใบงใาบนงDานiagDriaamgram
การวเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหาเรือ่ ง กฏก25หกั เหของสเนลล์

โจทยป์ ญั หา

สิง่ ที่โจทย์กำหนด

สิง่ ทีโ่ จทยถ์ าม

สตู รการคำนวณ


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Diagram

คำชแ้ี จง : ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในช่องรายการประเมิน
กำหนด

ความ สรปุ ผล

ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกลุ ความถกู ต้อง ครอบคลุม สอดคลอ้ ง ตรงตอ่ เวลา ความ การ
ของผรู้ ับการประเมนิ ของเนือ้ หา เนอ้ื หา และ 4 สะอาด รวม ประเมนิ
เรยี บรอ้ ย 20 ผา่ น/ไม่
4 4 เช่อื มโยงของ คะแนน ผ่าน
เนอ้ื หา 4

4

4321 43214 32 1 4321 4321

ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

นกั เรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถอื ว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram

เกณฑก์ าร ระดับการประเมิน
ประเมิน
รปู แบบ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
- มีหัวข้อทชี่ ัดเจน - มีหัวข้อที่ชัดเจน
เนอ้ื หา - เขียนอย่ใู นกรอบ - มหี ัวขอ้ ท่ชี ดั เจน - มีหัวข้อท่ีชดั เจน - เขยี นอยู่ในกรอบ
- ใช้คำสำคัญตรงประเด็น
การนำเสนอ - ใช้สัญลกั ษณ์หรือภาพ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ
ท่ีกำหนดต่ำกวา่ 59%
ความ สื่อความหมาย - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น - เขียนถูกต้องตามหลัก
สวยงาม - ใช้สสี ันทัว่ แผน่ ภาษาตำ่ กว่า 59%
- เนอ้ื หาครบถว้ นตาม - ใช้สัญลกั ษณห์ รอื ภาพ - มกี ารสรปุ ไม่
สาระทกี่ ำหนด 100% สมเหตสุ มผลตำ่ กวา่
- เขียนถูกต้องตามหลกั สอื่ ความหมาย 59%
ภาษา 100%
- ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหา - เน้ือหาถูกต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถูกต้องตามสาระ - สามารถพดู นำเสนอได้
ชดั เจน - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง
- มีการสรปุ ได้อย่าง ที่กำหนด 80-99% ทีก่ ำหนด 60-79% ตามอักขระต่ำกวา่
สมเหตุสมผล 100% 59%
- พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟังชดั - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง
ตามอักขระ100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% - ใช้สสี นั สวยงามหรือ
- บคุ ลิกภาพดีและมีความ เปน็ ไปตามเกณฑ์อย่าง
มน่ั ใจ - ลำดบั หวั ข้อเน้ือหา - มีการสรุปได้อย่าง ใดอย่างหนึ่ง
- มีการใช้ส่ือประกอบการ
นำเสนอ ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79%
- ความพร้อมในการ
นำเสนอ - มกี ารสรุปได้อย่าง
- ใชส้ สี ันสวยงาม
- มคี วามสะอาด สมเหตุสมผล 80-99%
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์
- ความเปน็ ระเบียบอ่าน - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม
ง่าย
- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79%

- บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม

- ความพร้อมในการ

นำเสนอได้บางสว่ น

- ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมี
- มีความสะอาด ความสะอาด
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์


การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที


แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 31

ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ทศั นอุปกรณ์ หน่วยย่อยท่ี 3

เรอ่ื ง ความลึกจริง ความลึกปรากฏ เวลา 2 ชั่วโมง
วันที่ทำการสอน ผสู้ อน นายศักดิ์ระวี กนั ทะวงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้
เป็นปรากฏการณ์ท่ีผู้สังเกต มองดูวัตถุซ่ึงอยูในตัวกลางท่ีต่างจากตา 13.ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดรรชนีหักเห มุม
ของผู้สังเกต แล้วทำให้มองเห็นภาพท่ีปรากฏอยู่คนละตำแหน่งกับวัตถุ ตกกระทบ และมุมหักเห รวมทัง้ อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่าง
จริง ซึ่งเกดิ จากการหกั เหของแสง ความลึกจริงและความลึกปรากฏ มุมวิกฤตและการสะท้อน
กลับหมดของแสง และคำนวณปริมาณตา่ ง ๆ ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้ 4. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
ความลึกจรงิ ความลกึ ปรากฏ 1. ใบงาน Diagram เรอ่ื ง ความลกึ จรงิ ความลึกปรากฏ
2. ใบงาน เรือ่ ง ความลกึ จรงิ ความลกึ ปรากฏ

5. สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น 6. เคร่ืองมือการสอนคิด

- ความสามารถในการสื่อสาร - Diagram

- ความสามารถในการคดิ

- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7. ขน้ั ของกิจกรรม 8. สื่อ 9. วิธีการวัดผล

Do Now (3 นาท)ี - ใบ ง า น Diagram เร่ื อ ง - ป ระเมินใบ งาน Diagram

บอกสิง่ ทใ่ี ช้ทำความสะอาดทีน่ กั เรียนรจู้ กั มาคนล่ะ 1 ข้อ ห้ามซ้ำกนั ความลึกจริง ความลึก เร่ืองความลึกจริง ความลึก

ปรากฏ ปรากฏ

Purpose (2 นาท)ี - ใบงาน เรื่อง ความลึกจริง - ประเมินใบงาน เร่ือง ความ

เราจะเรยี นเร่ือง ความลกึ จรงิ ความลกึ ปรากฏ เพอ่ื นกั เรยี นสามารถ ความลกึ ปรากฏ ลึกจริง ความลึกปรากฏ

อธิบาย และคำนวณสิ่งทเี่ ก่ียวกับ ลกึ จรงิ ลกึ ปรากฏได้ - คลิปวีดีโอ เร่ือง เรื่องความ

Work mode (110 นาท)ี ลึกจริง ความลึกปรากฏ

1. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มทำกิจกรรม โดยศึกษาจากคลิปวดี ีโอ เรื่องความ https://www.yo
ลึกจริง ความลกึ ปรากฏ (พอเพยี ง3 การมีภูมิคุ้มกนั ทดี่ ีในตัว)(20 utube.com/watc
นาที) h?v=mfDFVHkI1p

2. นักเรยี นและครชู ว่ ยกันอภปิ รายสงิ่ ท่ีได้จากการทำกจิ กรรมเร่ืองความ U

ลกึ จริง ความลกึ ปรากฏ (10 นาท)ี

3. นกั เรยี นฟงั ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ เร่อื ง ความลึกจรงิ ความลึกปรากฏ

(15 นาท)ี


4. นักเรียนสืบคน้ ข้อมลู เกีย่ วกบั ความลกึ จรงิ ความลกึ ปรากฏโดย
ศกึ ษา จากอนิ เตอรเ์ นต็ เร่อื ง ความลกึ จริง ความลึกปรากฏและ
สรุปความรู้ในรปู แบบแผนผัง ลงในใบงาน Diagram เรือ่ งความลึก
จรงิ ความลึกปรากฏ(คิด 9 : คดิ เชิงมโนทศั น)์ (20 นาท)ี

5. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรียน และอภปิ รายผลงาน
รว่ มกัน (คิด 3 : คดิ วพิ ากย์)(สมรรถนะ3) (10 นาท)ี

6. นักเรยี นวเิ คราะหโ์ จทย์และแกโ้ จทย์ปัญหา ในใบงาน เร่ือง ความลกึ
จรงิ ความลึกปรากฏ(20 นาท)ี

7. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรู้ (15 นาที)
Reflective Thinking (5 นาที)

1. 2 ส่ิงทน่ี กั เรยี นสงสยั จากการเรียนคาบนี้ (2 นาท)ี

2. ขอ้ สอบ (มช 38) จำนวน 1 ขอ้ (3 นาที)

Reflective Thinking

ขอ้ สอบ (มช 38)

1. (มช 38) เราจะมองเห็นวัตถุท่ีอยู่ในน้ำที่มีความลึกจริงเป็น 4 เมตร (ดัชนหี กั เหของน้ำ = 4/3)
1. 4
2. 3
3. 2.67
4. 2


ใบกจิ กรรม Diagram เรอื่ ง ...............................................

คำชี้แจง ให้นกั เรียนเขียน Diagram เก่ยี วกับการรบั รู้และการตอบสนอง


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Diagram

คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรียน ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนด

ความ สรปุ ผล

ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกลุ ความถกู ต้อง ครอบคลมุ สอดคลอ้ งและ ตรงตอ่ เวลา ความสะอาด รวม การ
ของผู้รบั การประเมนิ ของเนอ้ื หา เน้ือหา เช่ือมโยงของ 4 เรียบรอ้ ย 20 ประเมิน
คะแนน ผา่ น/ไม่
4 4 เนือ้ หา 4
4 ผา่ น

432143214 32 14321 4321

ลงชื่อ .................................................... ผูป้ ระเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

นักเรียนได้ระดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram

เกณฑก์ าร ระดับการประเมิน

ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )

รปู แบบ - มีหัวข้อทชี่ ัดเจน - มหี ัวขอ้ ท่ีชดั เจน - มีหัวข้อท่ีชดั เจน - มีหัวข้อที่ชัดเจน

- เขียนอย่ใู นกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ

- ใช้คำสำคัญตรงประเด็น - ใช้คำสำคัญตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น

- ใช้สัญลกั ษณ์หรือภาพ - ใช้สัญลักษณห์ รอื ภาพ

สื่อความหมาย สอื่ ความหมาย

- ใช้สสี นั ทว่ั แผน่

เน้ือหา - เนอ้ื หาครบถว้ นตาม - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ

สาระท่ีกำหนด 100% ที่กำหนด 80-99% ทีก่ ำหนด 60-79% ท่ีกำหนดต่ำกวา่ 59%

- เขียนถูกต้องตามหลกั - เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลัก

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ กว่า 59%

- ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหา - ลำดบั หวั ขอ้ เน้ือหา - มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรปุ ไม่

ชดั เจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตสุ มผลตำ่ กวา่

- มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรุปได้อยา่ ง 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสยี งดังฟงั ชัด - พดู ชดั เจนเสียงดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระต่ำกวา่

- บคุ ลิกภาพดแี ละมคี วาม - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม 59%

มน่ั ใจ - ความพร้อมในการ - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

- มีการใช้สื่อประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน

นำเสนอ

- ความพร้อมในการ

นำเสนอ

ความ - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมี - ใช้สสี นั สวยงามหรือ

สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เปน็ ไปตามเกณฑ์อย่าง

- มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ - มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ ใดอย่างหนึ่ง

- ความเปน็ ระเบียบอ่าน

ง่าย


การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กวา่ เวลาท่ีกำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที


ใบงาน เร่ือง ความลกึ จริง ความลกึ ปรากฏ

1. (มช 31) นกตัวหนง่ึ บินอยใู่ นอากาศสูงจากผิวนำ้ 3 เมตร คนทีด่ ำอยูใ่ ต้นำ้ และมองดูนกตวั น้ใี นแนวเสน้ ปกติ
จะมองเห็นนกไกลหรอื ใกลก้ ว่าความจริงเท่าใด ในหน่วยของเมตรกำหนด n ของน้ำ = 4/3

2. มองผา่ นกล้องจุลทรรศน์เห็นจุดเลก็ ๆ บนโต๊ะชัดเจน แต่เมอ่ื นำแผ่นวตั ถุใสหนา1.00 cm มาวางทบั จดุ
ดังกล่าว ต้องปรบั เล่ือนกล้องใหห้ ่างโต๊ะจากตำแหน่งเดมิ ไปเปน็ ระยะ 0.40 cm โดยท่ีโฟกสั ของกล้อง
จุลทรรศนย์ งั คงเดิม ดัชนหี กั เหของแผ่นวตั ถุนเี้ ป็นเทา่ ใด

3. ปลาอยกู่ ้นสระน้ำลกึ 10 เมตร ถ้ามองดปู ลาเอียงเป็นมมุ 45o กบั ผวิ นำ้ จะมองเห็นปลาอยลู่ ึกจากผิวน้ำเท่าไร
กำหนดดรรชนีหักเหของนำ้ 4/3

4. (มข.52) ปลาอยู่ในนำ้ ลกึ ท่รี ะดบั ความลกึ 1 เมตร ผูส้ ังเกตมองปลาไปในแนวด่งิ จะเหน็ ปลาอยลู่ กึ จาก ผิวนำ้ เท่าไร
(กำหนดใหด้ รรชนีหักเหของอากาศเท่ากับ 1 และดรรชนหี ักเหของนำ้ เทา่ กับ 4/3)


เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึ กหัด

เกณฑก์ ารให้ เกณฑท์ กี่ าหนด 54 ระดบั คะแนน 2 1
คะแนน ทำตำมเกณฑ์ ทำตำมเกณฑ์ 3 ทำตำมเกณฑท์ ่ี ทำตำมเกณฑ์
1 คำตอบถกู ตอ้ ง ท่กี ำหนดทงั้ 6 ท่กี ำหนดทง้ั 4- กำหนดทง้ั 1 ท่กี ำหนดทงั้ 0
แบบฝึกหดั 2 แสดงวธิ ีกำรคำนวณ ขอ้ 5 ขอ้ ทำตำมเกณฑท์ ่ี ขอ้ ขอ้
กำหนดทง้ั 2-3
ได้ ขอ้
3 แทนคำ่ สมกำรได้
4 กำหนดสตู ร/สมกำรได้

ถกู ตอ้ ง
5 วิเครำะหแ์ ละกำหนด

ตวั แปรได้
6 ไม่ไดส้ ำมำรถแสดงวิธี

ทำและคำตอบผิด

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

15 – 20 ดีมำก

11 – 15 ดี

6 – 10 พอใช้

0 – 5 ปรบั ปรุง

นักเรยี นไดร้ ะดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ขึ้นไปถือว่า ผา่ น


แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 32

ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ ทัศนอปุ กรณ์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี 3

เรื่อง มุมวิกฤตและการสะท้อนกลบั หมด เวลา 2 ช่ัวโมง
วนั ทีท่ ำการสอน ผู้สอน นายศักดิร์ ะวี กันทะวงค์

1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรยี นรู้
13.ทดลองและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างดรรชนีหักเห มุมตก
มุมวิกฤต (θc) คือ มุมตกกระทบที่ทำให้มุมหักเหเป็น 90 องศา กระทบ และมุมหักเห รวมทัง้ อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหวา่ งความลึก
รงั สหี กั เหจะขนานกับรอยตอ่ ของตวั กลาง การเกดิ มมุ วิกฤตนน้ั คลน่ื จริงและความลึกปรากฏ มุมวิกฤตและการสะท้อนกลับหมดของ
ตอ้ งเดินทางจากตวั กลางที่มีอตั ราเร็วนอ้ ยไปยงั ตัวกลางท่ีมีอัตราเรว็ มาก แสง และคำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่เี ก่ียวข้อง

การสะท้อนกลบั หมด คือ การท่ีมมุ ตกกระทบทำมุมเกนิ มมุ
วกิ ฤต ทำให้ไมม่ ีคล่ืนผา่ นตวั กลางท่ี 2 เลย ทำให้เกิดการสะทอ้ นกลบั
หมด จะเปน็ ไปตามหลกั ของการสะท้อน

3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
มมุ วกิ ฤตและการสะท้อนกลบั หมด 1. ใบงาน เรอื่ ง มมุ วกิ ฤตและการสะท้อนกลับหมด
2. ใบงาน Diagram เรอื่ ง การวเิ คราะหโ์ จทยป์ ญั หา มุมวิกฤต

และการสะท้อนกลับหมด

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 6. เคร่อื งมือการสอนคดิ

- ความสามารถในการส่ือสาร - Diagram

- ความสามารถในการคดิ

- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้

7. ข้ันของกิจกรรม 8. สอ่ื 9. วิธีการวดั ผล

Do Now (3 นาท)ี - ใบความรู้เร่ือง มุมวิกฤต - ประเมินจากใบงาน เรื่อง

บอกชื่อหนงั สอื ทีน่ กั เรยี นชอบอา่ นเป็นประจำ และการสะท้อนกลับหมด มุมวิกฤตและการสะท้อน

Purpose (2 นาท)ี กลับหมด

เราจะเรยี นเรอื่ ง มุมวกิ ฤตและการสะท้อนกลับหมด เพื่อใหน้ กั เรียน - ใบงานเร่ือง ภาพที่มุมวิกฤต

สามารถอธิบาย และคำนวณส่ิงที่เก่ยี วกบั มมุ วกิ ฤตและการ สะท้อน และการสะท้อนกลับหมด - ประเมินใบงาน Diagram
กลับหมดของแสงได้ เร่ือง การวิเคราะห์โจทย์

Work mode (110 นาท)ี - คลิปวีดีโอ เรื่อง มุมวิกฤต ปัญหา มุมวิกฤตและการ
1. นักเรียนดูคลิปวีดโี อ เรอ่ื ง มุมวกิ ฤตและการสะทอ้ นกลับหมด(10 และการสะท้อนกลับหมด สะท้อนกลบั หมด
จาก
นาที) https://www.youtube.c
2. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรทู้ ีไ่ ดจ้ ากคลปิ วดี โี อ (10 นาที) om/watch?v=vl22PYQG
3. นักเรียนศกึ ษาข้อมลู จากใบความรเู้ รื่อง มุมวกิ ฤตและการสะทอ้ น iI8

กลับหมด(พอเพียง3 การมภี มู ิคมุ้ กนั ทดี่ ใี นตวั )(15 นาที)


4. นักเรียนฟงั ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ เร่ือง มุมวิกฤตและการสะท้อนกลับ - ใบงาน Diagram เรื่อง การ

หมด (15 นาที) วิเคราะห์โจทย์ปัญหา มุม

วิกฤตและการสะท้อนกลับ

5. นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับหาโจทย์ปัญหาเร่ืองมุมวิกฤตและการ หมด

สะท้อนกลับหมด โดยศึกษาจากอินเตอร์เน็ต เรื่อง มุมวิกฤตและ

การสะท้อนกลับหมด และวิเคราะห์โจทย์ปัญหาในรูปแบบแผนผัง

ลงในใบงาน Diagram เรื่อง การวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหา มมุ วิกฤตและ

การสะท้อนกลับหมด (คิด 9 : คิดเชิงมโนทัศน์)(สมรรถนะ2)

(20 นาที)

6. นักเรียน(โดยสมุ่ ตัวแทน)ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น

(สมรรถนะ3) (15 นาที)

7. นักเรยี นแก้โจทย์ปัญหา โดยทำใบงานเรือ่ ง มุมวิกฤตและการสะท้อน

กลบั หมด แสดงวธิ ที ำอย่างละเอยี ด (คิด5: คิดแก้ปัญหา)(20 นาที)

8. นักเรยี นและครู รว่ มกนั สรปุ ความรู้ (5 นาที)

Reflective Thinking (5 นาท)ี

1. บอกความร้ทู ีน่ ักเรยี นไดร้ บั คนละ1 ข้อ (2 นาที)

2. แบบทดสอบ En 37 จำนวน 1 ข้อ (3 นาที)

1. (En 37) มุมวกิ ฤติ (C) ของแสงที่เดินทางจากแกว้ ซึ่งมี ค่าดรรชนหี กั เห 1.5 ไปยงั นำ้ ซ่งึ มคี ่า
ดรรชนีหกั เห 1.3 มีค่าเทา่ กบั เทา่ ใด

1. Sin−1(0.65)
2. Sin−1(0.76)
3. Sin−1(0.87)
4. Sin−1(0.92)


ใบความรู้
เร่อื ง มุมวิกฤตและการสะทอ้ นกลบั หมด

มมุ วกิ ฤตและการสะท้อนกลับหมด
มุมวิกฤต (θc) คือ มุมตกกระทบท่ีทำให้มุมหักเหเป็น 90 องศา รังสีหักเหจะขนานกับรอยต่อ

ของตัวกลาง การเกิดมุมวิกฤตน้ัน คลื่นต้องเดินทางจากตัวกลางท่ีมีอัตราเร็วน้อยไปยังตัวกลางที่มี
อัตราเรว็ มาก

จากกฎของสเนลล์

จะได้ว่า Sin θc =
การสะทอ้ นกลับหมด

คอื การท่ีมุมตกกระทบทำมุมเกนิ มุมวกิ ฤต ทำใหไ้ ม่มีคลืน่ ผ่านตัวกลางท่ี 2 เลย ทำใหเ้ กิดการ
สะท้อนกลบั หมด จะเป็นไปตามหลักของการสะท้อน


ใบงาน เรื่อง มุมวกิ ฤตและการสะท้อนกลับหมด

คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นแก้โจทย์ปญั หา ใบงานเรอ่ื ง มมุ วกิ ฤตและการสะท้อนกลับหมด แสดงวธิ ีทำอย่าง
ละเอียด

1. มุมวิกฤตสิ ำหรบั สารโปรง่ ใสชนดิ หน่ึงในอากาศ มีค่าเท่ากับ 45 องศา ความเรว็ แสงในสารโปรง่ ใส
นีม้ ีคา่ เท่าใด

2. มุมวิกฤตติ ่อแสงในของเหลวชนดิ หนึ่งมีคา่ เทา่ กบั 60 องศา ความยาวคลื่นของแสงน้นั ใน
ของเหลวจะเป็น กี่เท่าของความยาวคล่นื ในอากาศ

3. แสงเคล่ือนที่จากใต้น้ำ (ดชั นีหักเห = n1) ตกกระทบทผี่ วิ รอยต่อกับอากาศ(ดชั นีหกั เห = 1) ดว้ ย
มุมวิกฤติ ถา้ เผอญิ มนี ำ้ มนั (ดัชนีหักเห = n2) ลอยมาอย่เู หนอื ผิวน้ำพอดี มมุ หกั เหของแสงน้ีใน
น้ำมนั เปน็ เท่าใด

4. ถา้ มุมตกกระทบในของเหลวชนิดหน่ึงเทา่ กบั มุมวกิ ฤติ มุมของหักเหของแสงจะเปน็ เท่าไร


Click to View FlipBook Version