The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนรายวิชา ฟิสิกส์ 4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jirapinya051041, 2022-12-14 20:22:24

แผนรายวิชา ฟิสิกส์ 4

แผนรายวิชา ฟิสิกส์ 4

ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมี - ใชส้ สี นั สวยงามหรอื
สวยงาม - มีความสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑอ์ ย่าง
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มีความคดิ สรา้ งสรรค์ ใดอยา่ งหนึง่
การตรงต่อ - ความเป็นระเบียบอา่ น
เวลา ง่าย ส่งผลงานครบถว้ น แต่ชา้ ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ ้า ส่งผลงานครบถ้วน แตช่ ้า
ส่งผลงานครบถ้วน ตรง กว่าเวลาท่กี ำหนด 5 กวา่ เวลาที่กำหนด 10 กว่าเวลาท่กี ำหนด 15
ตามเวลาทีก่ ำหนด นาที นาที นาที


แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 22

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ แสงเชิงฟสิ ิกส์ หนว่ ยย่อยที่ 2
เร่ือง การแทรกสอดของแสง
วนั ท่ีทำการสอน เวลา 2 ช่ัวโมง

ผู้สอน นายศักดร์ิ ะวี กนั ทะวงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้

การแทรกสอดของคล่ืน(Interference) 7.ทดลองและอธิบายสมบัติการแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่และ
เม่ือมีคลื่นต่อเน่ืองจากแหล่งกำเนิดคลื่นสองแหล่งที่มีความถี่ เกรตตงิ ทดลองและอธิบาย

เท่ากันและเฟสตรงกันเคล่ือนท่ีมาพบกัน จะเกิดการซ้อนทับระหว่าง 4. ช้ินงาน/ภาระงาน
คลื่นต่อเน่ืองสองขบวนนั้น ปรากฎการณ์เช่นน้ีเรียกว่า การแทรกสอด
ของคลน่ื (Interference) 1. ใบงาน Diagram การวเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา การแทรก
สอดของแสง
3. สาระการเรยี นรู้
การแทรกสอดของแสง 2. ใบงาน เรอ่ื ง การแทรกสอดของแสง

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 6. เครอื่ งมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการสื่อสาร - Diagram
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กิจกรรมการเรียนรู้

7. ขั้นของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วธิ ีการวดั ผล
ประเมินใบงาน
Do Now (3 นาที) - ใบงาน Diagram การ - Diagram เรอื่ ง การ
บอกโทษของแสงมาคนละ 1 ข้อ (หา้ มซำ้ ) วิเคราะหโ์ จทยป์ ญั หา การ แทรกสอดของแสง
ประเมิน ใบงาน เร่ือง
Purpose (2 นาที) แทรกสอดของแสง การแทรกสอดของ
แสง
เราจะเรียนเรอื่ ง การแทรกสอดของแสง เพอื่ นักเรียนอธิบาย และ - ใบ ค ว าม รู้ เร่ือ ง ก า ร -
คำนวณสิง่ ทเี่ ก่ยี วกับ แสงเชงิ เรขาคณติ ได้ แทรกสอดของแสง

Work mode (110 นาที) - ค ลิ ป วีดี โอ เรื่อง ก าร

1. นกั เรยี นดคู ลปิ วดี โี อ เรอ่ื ง การแทรกสอดของแสง (20 นาที) แทรกสอดของแสง

2. นักเรียนและครูรว่ มกันอภปิ รายหาข้อสรปุ จากคลปิ วดี โี อ เรอื่ ง https://www.youtube

การแทรกสอดของแสง (คิด3 : คดิ พิพากษ)์ (10 นาท)ี .com/watch?v=Ab7rK

3. นักเรียนศกึ ษาใบความร้เู ร่อื ง การแทรกสอดของแสง ysC8c4

(พอเพียง3 การมีภมู ิค้มุ กนั ทดี่ ใี นตวั )(10 นาที)

4. นักเรียนฟังครูอธิบายเพ่ิมเติมเรื่อง การแทรกสอดของแสง

(15 นาท)ี


5. นกั เรยี นสบื ค้นขอ้ มูลเก่ยี วกบั หาโจทย์ปัญหาเร่อื งการแทรกสอดของ
แสง โดยศกึ ษาจากอนิ เตอร์เน็ต เร่อื ง การแทรกสอดของแสง และ
วิเคราะหโ์ จทย์ปญั หาในรูปแบบแผนผงั ลงในใบงาน Diagram เรอ่ื ง
การวิเคราะหโ์ จทยป์ ญั หา การแทรกสอดของแสง (คิด 9 : คิดเชิง
มโนทศั น)์ (สมรรถนะ2)(20 นาที)

6. นักเรียน(โดยสมุ่ ตวั แทน)ออกมานำเสนอผลงานหน้าชัน้ เรยี น
(สมรรถนะ3) (15 นาที)

7. นกั เรียนวเิ คราะหโ์ จทย์และแก้โจทย์ปญั หา ในใบงาน เร่ือง การ
แทรกสอดของแสง (15 นาท)ี

8. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ (5 นาที)
Reflective Thinking (5 นาที)
1. จากการเรยี นวันน้ี นกั เรยี นไดร้ บั ความรู้อะไรบา้ ง (2 นาท)ี
2. ข้อสอบ O-Net ปี 52 จำนวน 1 ข้อ(3 นาที)

ขอ้ สอบ O-Net ปี 52


ใบความรู้
เรื่อง การแทรกสอดของแสง


ใบงาน Diagram
การวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาเรอ่ื งการแทรกสอดของคล่นื
โจทย์ปญั หา

สิง่ ทีโ่ จทยก์ ำหนด

ส่งิ ท่โี จทย์ถาม

สตู รการคำนวณ วธิ ีทำ


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Diagram

คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรียน ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในชอ่ งรายการประเมนิ กำหนด

ความ สรปุ ผล

ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกุล ความถกู ต้อง ครอบคลมุ สอดคลอ้ งและ ตรงตอ่ เวลา ความสะอาด รวม การ
ของผู้รบั การประเมิน ของเนอ้ื หา เน้ือหา เชื่อมโยงของ 4 เรียบร้อย 20 ประเมิน
คะแนน ผา่ น/ไม่
4 4 เนือ้ หา 4
4 ผา่ น

4321 43214 32 14321 4321

ลงชื่อ .................................................... ผูป้ ระเมนิ
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

นักเรียนได้ระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ขน้ึ ไปถือว่า ผ่าน


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram

เกณฑก์ าร ระดับการประเมิน

ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )

รปู แบบ - มีหัวข้อทีช่ ัดเจน - มหี ัวขอ้ ท่ชี ดั เจน - มีหัวขอ้ ท่ีชดั เจน - มีหัวขอ้ ที่ชัดเจน

- เขียนอย่ใู นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ

- ใช้คำสำคัญตรงประเด็น - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น

- ใช้สัญลกั ษณ์หรือภาพ - ใช้สัญลกั ษณห์ รอื ภาพ

สื่อความหมาย สอื่ ความหมาย

- ใช้สสี ันท่ัวแผน่

เนอ้ื หา - เนอ้ื หาครบถว้ นตาม - เน้ือหาถูกต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ

สาระท่ีกำหนด 100% ที่กำหนด 80-99% ทีก่ ำหนด 60-79% ท่ีกำหนดต่ำกวา่ 59%

- เขียนถูกต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขียนถกู ต้องตามหลัก

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำกว่า 59%

- ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหา - ลำดบั หวั ข้อเน้ือหา - มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรปุ ไม่

ชดั เจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตุสมผลตำ่ กวา่

- มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรุปได้อยา่ ง 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟังชดั - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระต่ำกวา่

- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บุคลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม 59%

มน่ั ใจ - ความพร้อมในการ - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

- มีการใช้ส่ือประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน

นำเสนอ

- ความพรอ้ มในการ

นำเสนอ

ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สีสนั สวยงามและมี - ใช้สสี นั สวยงามหรือ

สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เปน็ ไปตามเกณฑ์อย่าง

- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ใดอย่างหนึ่ง

- ความเปน็ ระเบียบอ่าน

ง่าย


การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที


ใบงาน เร่ือง การแทรกสอดของแสง

1. ช่องแคบค่มู รี ะยะหา่ งระหว่างชอ่ ง 0.1 มิลลิเมตร เม่ือฉายแสงความยาวคลืน่ 400 นาโนเมตรผ่านช่องแคบ
คปู่ รากฏวา่ แถบสวา่ งลาดบั ท่สี องบนฉากท่ีหา่ งออกไป 250 เซนตเิ มตร จะอย่หู ่างจากแนวกลางเทา่ ไร

2. เม่ือฉายแสงความยาวคลื่น 500 นาโนเมตร ลงบนสลิตคู่ ซ่ึงมีระยะห่างระหว่างสลิตคู่เป็ น 100
ไมโครเมตร อยากทราบว่าจดุ ท่เี กดิ การแทรกสอดแบบเสรมิ กนั จุดท่ี 3 จะเบนไปจากการฉายแสงมมุ เท่าใด

3. ช่องแคบสองช่องห่างกนั 0.4 มิลลิเมตรวางห่างจากฉาก 1 เมตร เม่ือฉายแสงซ่งึ มีความยาวคลื่น 400 นา
โนเมตรในแนวตั้งฉากกับช่องแคบทั้งสอง ก. ระยะห่างของแถบมืดแรกจากแนวกลาง ข. ระยะห่าง
แถบสว่างแรกจากแนวกลางบนฉาก ค. ระยะห่างของแถบมืดท่ี 1 กับแถบมืดท่ี 2 ง. ระยะห่างของ
แถบสว่างท่ี 2 กบั แถบสว่างท่ี 4 บนฉาก


4. ช่องแคบค่มู รี ะยะห่างระหว่างช่อง 0.2 มิลลิเมตร เม่ือฉายแสงความยาวคลื่น 500 นาโนเมตรผ่านช่องแคบ
ค่ปู รากฏวา่ แถบสวา่ งลาดบั ท่สี องบนฉากท่ีห่างออกไป 80 เซนติเมตร จะอยหู่ า่ งจากแนวกลางเท่าไร

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนแบบฝึ กหัด

เกณฑก์ ารให้ เกณฑท์ ก่ี าหนด 54 ระดบั คะแนน 2 1
คะแนน ทาตามเกณฑ์ ทาตามเกณฑ์ 3 ทาตามเกณฑท์ ่ี ทาตามเกณฑ์
1 คาตอบถกู ตอ้ ง ท่กี าหนดทง้ั 6 ท่กี าหนดทงั้ 4- กาหนดทง้ั 1 ท่กี าหนดทง้ั 0
แบบฝึกหดั 2 แสดงวธิ ีการคานวณ ขอ้ 5 ขอ้ ทาตามเกณฑท์ ่ี ขอ้ ขอ้
กาหนดทงั้ 2-3
ได้ ขอ้
3 แทนคา่ สมการได้
4 กาหนดสตู ร/สมการได้

ถกู ตอ้ ง
5 วิเคราะหแ์ ละกาหนด

ตวั แปรได้
6 ไม่ไดส้ ามารถแสดงวิธี

ทาและคาตอบผดิ

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

15 – 20 ดีมาก

11 – 15 ดี

6 – 10 พอใช้

0 – 5 ปรบั ปรุง

นักเรียนไดร้ ะดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน


แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 23

ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ แสงเชงิ ฟิสิกส์ หนว่ ยย่อยท่ี 2
เร่ือง การเลย้ี วเบนของแสง
วันท่ที ำการสอน เวลา 2 ชัว่ โมง

ผ้สู อน นายศักดิ์ระวี กนั ทะวงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้

การเลยี้ วเบนของแสงจะเกดิ ข้ึนเมอ่ื คลื่นแสงเจอส่ิงกีดขวาง ซึ่งส่งผล 8.สมบัติการเล้ียวเบนและการแทรกสอดของแสง
ใหค้ ล่ืนแสงบิดเบีย้ วเน่อื งจากคลื่นแสงจำเปน็ ตอ้ งแผ่ขยายผ่านช่องว่างออกไป ผ่านสลิตเด่ียว รวมทั้งคำนวณปริมาณต่าง ๆ ที่
ในกรณีของเลนส์ถา่ ยภาพนน้ั การบิดเบย้ี วของคล่ืนแสงจะเกิดขึ้นเมอ่ื แสงเดิน เกีย่ วข้อง
ทางผา่ นรูรบั แสงของเลนส์

3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้ินงาน/ภาระงาน

การเลีย้ วเบนของแสง 1. ใบงาน Diagram เร่อื ง การวิเคราะห์โจทยป์ ญั หา
การเลย้ี วเบนของแสง

2. ใบงาน เรือ่ ง การแทรกสอดของแสง

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 6. เครื่องมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการสื่อสาร - Diagram
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรียนรู้

7. ขัน้ ของกิจกรรม 8. ส่อื 9. วธิ ีการ
วดั ผล
Do Now (3 นาที) - ใบความรู้ เรื่อง
- ประเมินใบงาน
บอกช่ือสถานทีท่ ่องเทย่ี วโดดเดน่ ของจงั หวดั เชียงราย การเลี้ยวเบนของ
Diagram เรือ่ ง การ
Purpose (2 นาที) แสง วิเคราะหโ์ จทย์
ปญั หาการเลย้ี วเบน
เราจะเรียนเรอื่ ง การเล้ยี วเบนของแสง เพ่อื นักเรียน อธบิ าย และ - ใบงาน Diagram ของแสง
- ใบงาน เรอ่ื ง การ
คำนวณสงิ่ ทีเ่ ก่ยี วกับแสงเชงิ ฟิสกิ ส์ เล้ียวเบนของแสงท่ีสลติ เด่ยี วได้ เร่ือง การวเิ คราะห์ เลย้ี วเบนของแสง
Work mode (110 นาที) โจทยป์ ัญหาการ
เลยี้ วเบนของแสง
1. นกั เรียนดูคลปิ วีดโี อ เรื่อง การเลี้ยวเบนของแสง (15 นาที) - ใบงาน เรือ่ ง การ
2. นักเรียนและครรู ่วมกันอภิปรายหาข้อสรปุ จากคลปิ วีดโี อ เรอ่ื ง การเลี้ยวเบนของ เล้ียวเบนของแสง

แสง (คดิ 3 : คดิ พพิ ากษ์)(10 นาท)ี - คลิปวีดีโอ เร่ือง
3. นกั เรียนศึกษาใบความรูเ้ ร่ือง การเล้ียวเบนของแสง (พอเพียง3 การมภี มู ิคมุ้ กนั ท่ี การเล้ียวเบนของ

ดีในตวั )(10 นาที)


4. นักเรยี นฟงั ครูอธบิ ายเพิ่มเติมเรื่อง การเล้ยี วเบนของแสง (15 นาที) แสง
5. นักเรียนสบื คน้ ข้อมูลเก่ียวกบั หาโจทยป์ ัญหาเรื่องการเลย้ี วเบนของแสง โดยศกึ ษา https://www.yo

จากอินเตอร์เนต็ เร่อื ง การเลย้ี วเบนของแสง และวิเคราะห์โจทยป์ ญั หาในรูปแบบ utube.com/wa
แผนผัง ลงในใบงาน Diagram เร่อื ง การวเิ คราะหโ์ จทยป์ ัญหา การเลีย้ วเบนของ tch?v=YmCCD
แสง (คดิ 9 : คิดเชิงมโนทัศน)์ (สมรรถนะ2)(20 นาท)ี vPKfUU
6. นกั เรยี น(โดยสมุ่ ตวั แทน)ออกมานำเสนอผลงานหน้าชัน้ เรยี น (สมรรถนะ3)
(15 นาที)
7. นกั เรียนวเิ คราะหโ์ จทย์และแก้โจทยป์ ัญหา ในใบงาน เรื่อง การเลย้ี วเบนของแสง
(15 นาที)
8. นักเรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ (10 นาที)

Reflective Thinking (5 นาที)
1. จากการเรยี นในวนั นี้นักเรียนไดร้ บั ความรู้อะไรบ้าง (2 นาที)
2. ขอ้ สอบจาก (www.pec9.com)จำนวน 1 ข้อ (3 นาท)ี

ข้อสอบจาก (www.pec9.com)


ใบความรู้
เร่อื ง การเลีย้ วเบนของแสง

การเลีย้ วเบน เกรตตงิ
การเลยี้ วเบนของแสง
ในปี พ.ศ. 2203 กรมิ ัลดิ (Francesco Maria Grimaldi) เปน็ คนแรกท่ีเห็นสมบตั กิ ารเล้ียวเบนของแสง โดย
ทดลองให้แสงผ่านสลิตแคบ (คอื ความยาวคลื่นมากกวา่ ความกว้างของสลติ มาก) จะเกิดปรากฏการณ์การ
เลี้ยวเบน ทกุ ๆ จดุ บนชอ่ งเด่ยี วจะทำหน้าทเ่ี ปน็ แหล่งกำเนิดแสงใหม่ ตามหลักของฮอยเกน แสงจาก
แหลง่ กำเนิดแสงใหม่จะเกดิ การซ้อนทบั กันบนฉาก มีผลให้แถบสวา่ งกลางมีขนาดกว้างกวา่ สลติ นอกจากนีถ้ ัด
จากแถบสวา่ งกลางออกไปทั้งสองขา้ งยังมีแถบสว่างและแถบมดื สลับกันไป ดังรูป

จากการทดลองเร่ืองการเลี้ยวเบนของแสง สามารถอธิบายไดด้ งั น้ี เมื่อใช้แสงความยาวคล่ืนเดียวจาก
หลอดไฟสอ่ งผ่านสลิตเดี่ยว โดยใหห้ ลอดไฟอย่หู า่ งจากสลิตเป็นระยะทางท่ีไกลมากเมอ่ื เทียบกบั ความกวา้ ง
ของสลิต เราจึงอาจประมาณได้ว่า คลื่นแสงทมี่ าตกกระทบสลติ นนั้ เป็นคลนื่ ระนาบ และโดยใช้หลกั การของ
ฮอยเกนสท์ ี่ถือวา่ ทุก ๆ จดุ บนสลิตจะทำหนา้ ท่เี สมือนแหล่งกำเนดิ คลน่ื อาพันธ์ใหม่และคลืน่ จากแหล่งกำเนดิ
เหล่านเ้ี มอ่ื พบกนั จะแทรกสอดแบบทำลาย ( แถบมืด ) หรือเสริม ( แถบสวา่ ง ) โดยแถบสว่างกลางจะกวา้ ง
และสวา่ งมากท่ีสดุ อนึ่งถ้าความกว้างของสลิตเพิ่ม ความกว้างของแถบสวา่ งกลางจะแคบลง แต่ถา้ ความ
กว้างของ
สลิตแคบลง ความกวา้ งของแถบกลางก็จะเพ่มิ ขึ้น


การเกดิ แถบมดื แถบสวา่ ง ณ ตำแหนง่ ตา่ ง ๆ บนฉาก สามารถอธบิ ายไดด้ งั ต่อไปน้ี


ใบงาน Diagram
การวเิ คราะหโ์ จทย์ปญั หาเรอ่ื งการเล้ียวเบนของคลื่น
โจทย์ปญั หา

สง่ิ ทีโ่ จทย์กำหนด

ส่งิ ที่โจทยถ์ าม

สูตรการคำนวณ วธิ ที ำ


แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Diagram

คำชีแ้ จง : ให้ผูส้ อนประเมินผลงานใบงานนกั เรียน ให้ทำเครื่องหมาย✓ลงในช่องรายการประเมินกำหนด

ความ สรุปผล

ลำดับที่ ชอ่ื -สกุล ความถูกตอ้ ง ครอบคลมุ สอดคล้อง ตรงต่อเวลา ความสะอาด รวม การ
ของผู้รับการประเมิน ของเนือ้ หา เน้อื หา และเชอ่ื มโยง 4 เรียบรอ้ ย 20 ประเมิน
ของเนือ้ หา คะแนน ผ่าน/ไม่
4 4 4
4 ผ่าน

4321 43214 32 1 4321 4321

ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง

นกั เรียนไดร้ ะดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ขึ้นไปถอื วา่ ผ่าน


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram

เกณฑก์ าร ระดับการประเมิน

ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )

รปู แบบ - มีหัวข้อทชี่ ัดเจน - มหี ัวขอ้ ท่ชี ัดเจน - มีหัวข้อท่ีชดั เจน - มีหัวข้อที่ชัดเจน

- เขียนอย่ใู นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ

- ใช้คำสำคัญตรงประเด็น - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น

- ใช้สัญลกั ษณ์หรือภาพ - ใช้สัญลกั ษณ์หรอื ภาพ

สื่อความหมาย สอื่ ความหมาย

- ใช้สสี ันทัว่ แผน่

เนอ้ื หา - เนอ้ื หาครบถว้ นตาม - เน้ือหาถูกต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ

สาระท่ีกำหนด 100% ที่กำหนด 80-99% ทีก่ ำหนด 60-79% ท่ีกำหนดต่ำกวา่ 59%

- เขียนถูกต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลัก

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ กว่า 59%

- ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหา - ลำดบั หวั ข้อเน้ือหา - มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรปุ ไม่

ชดั เจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตสุ มผลตำ่ กวา่

- มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรุปได้อยา่ ง 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟังชดั - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระต่ำกวา่

- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม 59%

มน่ั ใจ - ความพร้อมในการ - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

- มีการใช้ส่ือประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน

นำเสนอ

- ความพร้อมในการ

นำเสนอ

ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมี - ใช้สสี นั สวยงามหรือ

สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เปน็ ไปตามเกณฑ์อย่าง

- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคดิ สร้างสรรค์ ใดอย่างหนึ่ง

- ความเปน็ ระเบียบอ่าน

ง่าย


การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที


ใบงาน เร่อื ง การแทรกสอดของแสง

1. แสงความยาวคลื่น 680 นาโนเมตร ผ่านสลิตเด่ียวกว้าง 0.76 มิลลิเมตร ไปปรากฏเป็นลวดลายการ
เลี้ยวเบนแบบบนฉาก อยากทราบว่าจะต้องวางฉากทางด้านหลังสลิตห่างจากสลิตเดี่ยวกี่เซนติเมตร
จงึ จะทำให้แถบมืดแถบแรกบนฉากหา่ งจากจุดก่งึ กลางของแถบสว่างกลางเปน็ ระยะ 4 มลิ ลิเมตร

2. แสงเลเซอรค์ วามยาวคลื่น 600 นาโนเมตร ฉายผ่านสลิตเด่ียว แล้วปรากฏว่าภาพของสลิตท่ีระยะ 6
เมตร เป็นแถบสว่างหลายแถบ ระยะระหว่างจุดมดื ที่สุด 2 ข้างของแถบสว่างที่กว้างที่สุดเป็น 3 ซม.
สลิตนัน้ กว้างเทา่ ไร (หน่วยเป็นไมโครเมตร)

3. ให้แสงที่มีความยาวคล่ืน 500 นาโนเมตร ผ่านสลิตคู่ในแนวต้ังฉากเกิดลวดลายแทรกสอดบนฉากท่ี
อยู่ห่างจากสลิต 1.5 เมตร วัดระยะระหว่างกึ่งกลางของแถบสว่าง 2 แถบท่ีถัดกันได้ 5 มิลลิเมตร
สลิตคู่นม้ี รี ะยะห่างระหวา่ งชอ่ งสลติ เท่าใดในหน่วยมลิ ลิเมตร


4. เม่ือใช้แสงทม่ี ีความยาวคลื่น เมตร ตกตั้งฉากกับสลิตคู่ เกิดภาพการแทรกสอดบนฉาก

ท่ีอยู่ห่างออกไป 1.2 เมตร ถ้าระยะห่างระหว่างสลิตคู่เท่ากับ 0.1 มิลลิเมตร แถบสว่าง 2 แถบท่ี

ตดิ กันอยู่หา่ งกันก่มี ลิ ลิเมตร

เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึ กหดั

เกณฑก์ ารให้ เกณฑท์ กี่ าหนด 5 4 ระดับคะแนน 2 1
คะแนน ทำตำมเกณฑ์ ทำตำมเกณฑ์ 3 ทำตำมเกณฑท์ ่ี ทำตำมเกณฑ์
1 คำตอบถกู ตอ้ ง ท่กี ำหนดทง้ั 6 ท่กี ำหนดทง้ั 4- กำหนดทง้ั 1 ท่กี ำหนดทง้ั 0
แบบฝึกหดั 2 แสดงวธิ ีกำรคำนวณ ขอ้ 5 ขอ้ ทำตำมเกณฑท์ ่ี ขอ้ ขอ้
กำหนดทงั้ 2-3
ได้ ขอ้
3 แทนคำ่ สมกำรได้
4 กำหนดสตู ร/สมกำรได้

ถกู ตอ้ ง
5 วิเครำะหแ์ ละกำหนด

ตวั แปรได้
6 ไมไ่ ดส้ ำมำรถแสดงวิธี

ทำและคำตอบผิด

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

15 – 20 ดีมำก

11 – 15 ดี

6 – 10 พอใช้

0 – 5 ปรบั ปรุง

นกั เรยี นได้ระดับคณุ ภาพท่ี พอใช้ ขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น


แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 24

ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ แสงเชิงฟิสกิ ส์ หน่วยย่อยที่ 2
เรื่อง สลิตเดีย่ ว สลิตคู่
วันท่ีทำการสอน เวลา 2 ชั่วโมง

ผสู้ อน นายศกั ด์ิระวี กันทะวงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้
สลิตคคู่ อื ชอ่ งเล็ก ๆ 2 ช่อง ทำหน้าที่เปน็ แหลง่ กำเนดิ
7.ทดลองและอธิบายสมบัติการแทรกสอดของแสง
แสงอาพันธ์ เมือ่ มีคล่นื แสงจากแหล่งกำเนดิ แสงส่องผา่ น ผา่ นสลิตคแู่ ละเกรตตงิ ทดลองและอธบิ าย

3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
สลติ เด่ียว สลิตคู่ 1. ใบงาน KWL เรือ่ ง สลิตเดี่ยว สลติ คู่

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 6. เคร่อื งมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการส่ือสาร - KWL
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี กจิ กรรมการเรียนรู้

7. ขน้ั ของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วิธกี าร
วัดผล
Do Now (3 นาท)ี - ใบความรู้ เรื่องส -
ลติ เดยี่ ว สลติ คู่ ประเมนิ ใบงาน
เขียนชือ่ ธาตุกมั กนั ตรังสมี าคนละ 2 ธาตุ ลงในสมดุ ใ บ ง า น KWL KWL เรื่อง สลิต
เร่ือ งส ลิ ต เดี่ ย ว เดี่ยว สลติ คู่
Purpose (2 นาท)ี - สลิตคู่
เราจะเรียนเร่อื ง สลติ เดย่ี ว สลิตคู่ เพ่อื นกั เรียนสามารถ อธิบาย และ คลปิ วีดีโอ เร่อื ง
สลิตเด่ยี ว สลติ คู่
คำนวณสง่ิ ทเ่ี กีย่ วกบั แสงเชงิ ฟิสกิ ส์ การแทรกสอด เลย้ี วเบนของแสงที่สลติ เด่ยี ว https://www.y
outube.com/w
สลติ คู่ เกรตตงิ ได้ - atch?v=B_vWJ9
Work mode (110 นาท)ี 1dQ_I&t=19s

1. นกั เรียนทำกิจกรรม KWL เรื่อง สลิตเด่ียว สลติ คโู่ ดยตอบคำถาม “นกั

เรยี นรู้อะไรเกี่ยวกบั สลติ เดี่ยว สลติ คู่” ลงในชอ่ ง K (10 นาที)

2. นักเรียนและครอู ภปิ รายรว่ มกันบนกระดาน ในหัวข้อ นกั เรียนรู้

อะไรบ้างเกย่ี วกับสลติ เดย่ี ว สลติ คู่(5 นาท)ี

3. นกั เรียนตอบคำถาม “นกั เรียนอยากรอู้ ะไรบ้าง เก่ียวกบั สลิตเดีย่ ว สลติ

คู่” ลงในชอ่ ง W (5 นาที)

4. นักเรียนและครอู ภิปรายรว่ มกนั บนกระดาน ในหัวข้อ นกั เรยี นอยากรู้

อะไรบา้ ง เกี่ยวกับสลติ เดยี่ ว สลติ คู่(5 นาท)ี

5. นกั เรียนดคู ลิปวีดโี อ เร่อื ง สลติ เดยี่ ว สลติ คู่ (15 นาที)

6. นกั เรียนศึกษาใบความรู้ เรอ่ื ง สลติ เดีย่ ว สลติ คู่ (พอเพียง3 การมี


ภูมิคมุ้ กนั ที่ดใี นตวั ) (25 นาที)
7. นกั เรยี นฟังครอู ธิบายเพิม่ เตมิ เรอื่ ง สลิตเดีย่ ว สลติ ค(ู่ 15 นาท)ี
8. นกั เรยี นตอบคำถาม “นักเรยี นไดร้ อู้ ะไรบา้ ง เกย่ี วกบั สลติ เดี่ยว สลติ คู่

” ลงในชอ่ ง L (10 นาท)ี
9. นกั เรียนและครอู ภิปรายรว่ มกันบนกระดาน ในหวั ขอ้ นักเรยี นไดร้ ู้

อะไรบา้ ง เกีย่ วกบั สลติ เดย่ี ว สลิตคู่(คดิ 3 คิดวิพากย)์ (สมรรถนะ3)
(10 นาที)
10. นกั เรียนและครู รว่ มกันสรุปความรู้ (10 นาที)

Reflective Thinking (5 นาที)
1. บอกส่ิงทไ่ี ดเ้ รียนรใู้ นคาบนค้ี นละ 1 สง่ิ (2 นาที)
2. ขอ้ สอบ En’ปี 42 จำนวน 1 ข้อ (3 นาท)ี

ขอ้ สอบ En’ปี 42


ใบความรู้
เร่ือง สลิตเด่ยี ว สลิตคู่

การแทรกสอดของแสง (Interference)
การ แทรกสอดของแสง (Interference) เกิดไดต้ ่อเม่ือคลนื่ แสง 2 ขบวนเคล่อื นที่มาพบ

กนั จะเกดิ การรวมตวั กันและแทรกสอดกนั เกิดเปน็ แถบมืดและแถบสว่างบนฉาก โดย
แหลง่ กำเนิดแสงจะตอ้ งเป็นแหล่งกำเนิดอาพนั ธ์ (Coherent Source) คอื เปน็ แหลง่ กำเนดิ ทใ่ี ห้
คลื่นแสงความถ่ีเดียวกัน และความยาวคลื่นเท่ากนั นักวทิ ยาศาสตร์ที่ประสบความสำเร็จในการ
ทดลองเพอื่ ทดสอบทฤษฎี คือ โทมสั ยัง นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ

โทมัส ยงั (Thomas Young - 14 มิถนุ ายน พ.ศ. 2316 – 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2372)
เป็นนักวทิ ยาศาสตรแ์ ละแพทย์ ชาวอังกฤษ

การทดลองเรอ่ื งการแทรกสอดของแสง ทำไดโ้ ดย ใหแ้ สงผา่ นชอ่ งแคบ (Slit) So แลว้
เลีย้ วเบนตกกระทบช่องแคบคู่ S1 , S2 ซ่ึงทำหนา้ ท่ีเปน็ เสมือนแหลง่ กำเนิดอาพนั ธ์ เมื่อแสง


เคล่อื นทผี่ า่ น S1 , S2 เดนิ ทางไปพบกนั จะทำใหเ้ กดิ การแทรกสอดกนั ในลักษณะท้งั เสรมิ และ
หกั ล้างกัน โดยปรากฎภาพการแทรกสอดบนฉากเหน็ เปน็ แถบสวา่ งแถบมืด ดังรปู

เกรตตงิ (Grating)
เกรตตงิ คือ อปุ กรณ์ ที่ใช้ในการตรวจสอบสเปรคของแสงและหาความยาวคล่ืนแสง

โดยอาศยั คุณสมบัติการแทรกสอดของคล่ืน ลักษณะของเกรตติง จะเปน็ แผน่ วสั ดุบางท่ถี ูกแบ่ง
ออกเปน็ ชอ่ งขนานซ่งึ อยู่ชิดกันมาก โดยท่ัวไปใน 1 เซนติเมตร แบง่ ออกเปน็ 10,000 ช่อง ซึ่ง
จำนวนช่องของเกรตตงิ อาจมี 100 ถงึ 10,000 ชอ่ ง/cm ในการทดลอง ถ้าเราให้แสงจากดวง
อาทิตยห์ รอื แสงขาวจากหลอดไฟส่องผ่านเกรตตงิ เราจะเหน็ สเปรคตรมั ของแสงอาทติ ยห์ รือแสง
ขาวออกเปน็ 7 สี โดยเกรตติงถูกพฒั นามาจากสลิตคดู่ ้วยการเพิ่มจำนวนช่วงทง้ั สองใหม้ ากขึน้ มี
ผลทำให้ระยะห่างระหว่างชอ่ งอยใู่ กลก้ ันมากข้ึนทำใหก้ ารเล้ียวเบนของแสงมาก ข้ึน


ภาพตวั อย่างของแผ่นเกรตติง

แสง ความยาวคล่ืนเดียวตกกระทบเกรตตงิ แสงบางส่วนจะเบนออกจากแนวไปปรากฏ
บนฉากเปน็ แถบสว่างเลก็ ๆ แถบสวา่ งน้ีเกิดจากการแทรกสอดของแสงจากช่องอ่ืนๆทุกชอ่ งท่ี
เสมอื นเป็นแหลง่ กำเนดิ แสงอาพนั ธ์ การหาตำแหน่งของแถบสว่างใหถ้ ือว่าฉากอยไู่ กลจากเกรต
ติงมาก จนแสงจากช่องแตล่ ะชอ่ งของเกรตตงิ ที่เคลนื่ ท่ีไปทฉี่ ากสามารถประมาณได้ว่า เป็นแสง
ขนาน

เม่ือ มแี สงความถ่ีเดยี ว ความยาวคล่ืน λ ผ่านเกรตติงในแนวต้งั ฉากดังรปู จะเกดิ การ
เลยี้ วเบนและแทรกสอดเชน่ เดียวกับกรณีสลิตคู่ (ช่องแคบคู่)


ภาพแสดงการเลย้ี วเบนของแสงผา่ นเกรตตงิ

การเล้ยี วเบนของแสงผ่านเกรตติง

ถ้าเกรตติงมีระยะหา่ งระหวา่ งช่องเท่ากบั d ท่ตี ำแหน่ง P เปน็ ตำแหน่งบนแถบสว่าง
ระยะทางจากช่องแต่ละชอ่ งของเกรตตงิ ถงึ จดุ P จะไม่เทา่ กนั ชอ่ งแต่ละชอ่ งจะเป็นเสมือน
แหล่งกำเนิดแสงอาพนั ธ์ ท่ีทำให้คลื่นแสงผา่ นออกมามีเฟสตรงกัน การหาตำแหนง่ ของแถบมดื
และแถบสว่างใช้หลักการเดียวกันกบั การแทรกสอดของสลิต คู่ จึงไดว้ ่า

ตำแหน่งแถบสว่างใดๆ (A) บนฉาก (แนวกลางเป็นแนวปฏบิ พั A0)

d sinθ = nλ
d x/L = nλ

เมื่อ n = 0, 1, 2, 3, ....


ตำแหน่งแถบมดื ใดๆ (N) บนฉาก
d sinθ = (n-1/2)λ
d x/L = (n-1/2)λ
เมือ่ n = 1, 2, 3, ....

x แทนเปน็ ระยะจากแถบสวา่ งตรงกลางถงึ จุด P
L แทนระยะหา่ งจากเกรตตงิ ถึงฉากรบั
λ แทนความยาวของคล่ืนแสง
d แทนระยะห่างระหว่างชอ่ งของเกรตติง
การหาระยะระหวา่ งชอ่ งของเกรตตงิ (d) เราสามารถหาระยะระหว่างช่องของเกรตตงิ ไดโ้ ดยใช้
การเทียบอัตราส่วน
เม่ือให้ N แทนจำนวนชอ่ งของเกรตติงใน 1 m.
d แทนระยะหา่ งระหวา่ งชอ่ งของเกรตตงิ

ประโยชนข์ องเกรตติง

1. ใชแ้ ยกแสงสตี ่างๆ ท่ีเคลอื่ นที่รวมกนั เช่น การหาสเปกตรัมของแสงขาว
2. ใชห้ าความยาวคลืน่ ของแสงสตี า่ งๆ โดยแสงสตี า่ งๆ จะมคี วามยาวคล่ืนแตกต่างกนั ทำ
ใหเ้ กิดการเลย้ี วเบนเม่ือผ่านเกรตตงิ ได้แตกต่างกนั โดยแสงสีม่วงเลยี้ วเบนไดน้ ้อยทส่ี ดุ
สว่ นแสงสีแดงมีความยาวคลืน่ มากทสี่ ดุ จะเลยี้ วเบนไดม้ ากทีส่ ุด


ความรู้ KWL

เรอ่ื ง ................................................................ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท.ี่ .........

ช่ือ..................................................สกลุ ..........................................ช้ัน...............เลขท่ี.....................

คำช้ีแจง นกั เรยี นบนั ทกึ ความรูท้ ี่ได้ ลงในตารางตอ่ ไปนี้พรอ้ มทงั้ เขยี นสรุปความ ลงในบรรทดั ทว่ี ่าง
ขา้ งลา่ งของแบบบนั ทกึ

K(นักเรียนรู้อะไร) W(นกั เรียนต้องการร้อู ะไร) L(นักเรียนไดเ้ รยี นรอู้ ะไร)

…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………...
………………………………………………………………………………………………………………………………...


แบบประเมินผลงานใบงาน KWL

คำชแี้ จง : ให้ผู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน ให้ทำเครื่องหมาย✓ลงในช่องรายการประเมนิ กำหนด

การแสดง สรุปผล

ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกลุ ความคดิ เห็น ครอบคลุม ผลสำเรจ็ ตรงตอ่ เวลา ความสะอาด รวม การ
ของผ้รู ับการประเมิน ถกู ตอ้ ง เนื้อหา ของงาน เรยี บร้อย 20 ประเมิน

ชัดเจน คะแนน ผ่าน/ไม่
4321 4321 432 14321 4321
ผ่าน

ประเมนิ ลงชอ่ื .................................................... ผู้
................/................/................

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมำ่ เสมอ
ปฏิบัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั ให้ 4 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครง้ั ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมนอ้ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน 18 - 20 ดมี าก
ให้ 1 คะแนน
14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรุง

นกั เรียนได้ระดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ขึ้นไปถอื ว่า ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน KWL

เกณฑ์การ ระดบั การประเมนิ
ประเมิน
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
ความ - แสดงความคดิ เห็นใน
คดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน - แสดงความคดิ เห็นใน
ชอ่ ง K ได้ นอ้ ยกวา่ 7
ชอ่ ง K ได้ 10 ข้อ ชอ่ ง K ได้ 9-10 ข้อ ช่อง K ได้ 7-8 ข้อ ขอ้
- แสดงความคิดเหน็ ใน
คำถามข้นึ ไป คำถาม คำถาม ชอ่ ง W ได้ น้อยกวา่ 7
ขอ้
- แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคดิ เหน็ ใน - แสดงความคดิ เห็นใน
ชอ่ ง L ได้ นอ้ ยกวา่ 7
ช่อง W ได้ 10 ขอ้ ช่อง W ได้ 9-10 ขอ้ ชอ่ ง W ได้ 7-8 ข้อ ขอ้

คำถามขึน้ ไป คำถาม คำถาม

- แสดงความคิดเหน็ ใน - แสดงความคิดเห็นใน - แสดงความคิดเหน็ ใน

ชอ่ ง L ได้ 10 ข้อ ช่อง L ได้ 9-10 ข้อ ช่อง L ได้ 7-8 ข้อ

คำถามขึ้นไป คำถาม คำถาม

เน้ือหา - เนอ้ื หาครบถว้ นตาม - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระ
การนำเสนอ สาระทีก่ ำหนด 100% ท่ีกำหนด 80-99% ทกี่ ำหนด 60-79% ทก่ี ำหนดต่ำวา่ 59%
- เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขยี นถกู ต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลกั
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำวา่ 59%
- ลำดบั หวั ขอ้ เนื้อหา - ลำดับหวั ข้อเนอื้ หา - มกี ารสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ไม่
ชดั เจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตสุ มผลต่ำวา่
- มกี ารสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ได้อย่าง 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99% - การพดู เหมาะสม
- พูดชัดเจนเสียงดังฟังชัด - พดู ชัดเจนเสยี งดงั ฟงั ชดั - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง ตามอักขระ60-79% - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% - บุคลิกภาพเหมาะสม ตามอักขระตำ่ วา่ 59%
- บคุ ลกิ ภาพดีและมีความ - บุคลิกภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
มัน่ ใจ - ความพรอ้ มในการ
- มกี ารใชส้ อื่ ประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน
นำเสนอ
- ความพร้อมในการ
นำเสนอ


ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงามและมี - ใชส้ สี ันสวยงามหรือ
สวยงาม - มีความสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑ์อย่าง
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มีความคิดสรา้ งสรรค์ ใดอยา่ งหน่ึง
การตรงต่อ - ความเป็นระเบียบอา่ น
เวลา ง่าย ส่งผลงานครบถว้ น แต่ชา้ ส่งผลงานครบถว้ น แตช่ ้า ส่งผลงานครบถ้วน แต่ชา้
ส่งผลงานครบถ้วน ตรง กว่าเวลาท่กี ำหนด 5 กวา่ เวลาที่กำหนด 10 กว่าเวลาท่กี ำหนด 15
ตามเวลาทีก่ ำหนด นาที นาที นาที


แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 25

ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ แสงเชิงฟสิ ิกส์ หน่วยย่อยที่ 2
เรอ่ื ง เกรตตง้ิ
วันท่ที ำการสอน เวลา 2 ชวั่ โมง

ผูส้ อน นายศกั ด์ิระวี กนั ทะวงค์

1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรยี นรู้
เกรตติง คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบสเปรคของ
7.ทดลองและอธิบายสมบัติการแทรกสอดของแสงผ่านสลิตคู่
แสงและหาความยาวคล่ืนแสง โดยอาศัย คุณสมบัติการแทรก และเกรตติง ทดลองและอธบิ าย
สอดของคล่ืนลักษณะของเกรตติง จะเป็นแผ่นวัสดุบางท่ีถูก
แบ่งออกเป็นช่องขนานซ่ึงอยู่ชิดกันมาก โดยทั่วไปใน 1 4. ช้ินงาน/ภาระงาน
เซนติเมตร แบง่ ออกเปน็ 10,000 ชอ่ ง ในการทดลอง ใบงาน Mind Mapping เร่ือง เกรตตง้ิ

3. สาระการเรยี นรู้
เกรตต้งิ

5. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 6. เครื่องมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการสื่อสาร - Mind Mapping
- ความสามารถในการคดิ
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรยี นรู้

7. ขั้นของกิจกรรม 8. สอ่ื 9. วธิ ีการวดั ผล

Do Now (3 นาที) - ใ บ ง า น Mind - ป ระเมิ น ใบ งาน Mind

บอกอาชพี ทีน่ ักเรียนอยากเปน็ Mapping เ ร่ื อ ง Mapping เร่อื ง เกรตต้ิง

Purpose (2 นาที) เกรตตง้ิ

เราจะเรียนเร่อื ง เกรตติ้งเพื่อนักเรียนสามารถ อธิบาย และ - คลิปวีดีโอ เรอื่ ง

คำนวณสิ่งที่เก่ียวกับแสงเชิงฟิสิกส์ การแทรกสอด เลย้ี วเบนของแสง เกรตต้ิง

ทส่ี ลติ เดี่ยว สลิตคู่ เกรตติง ได้ https://www.yout

Work mode (110 นาที) ube.com/watch?v

1. นกั เรียนดูคลปิ วีดโี อ เรื่อง เกรตติ้ง(15 นาท)ี =TEh2OuqBPF8

2. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายหาขอ้ สรุปจากคลปิ วีดโี อ เรอื่ ง

เกรตตงิ้ (คดิ 3 : คดิ พพิ ากษ์)(15 นาที)

3. นกั เรยี นฟงั ครูอธิบายเพมิ่ เติมเร่ือง เกรตติง้ (15 นาที)

4. นกั เรยี นสืบค้นข้อมลู เกี่ยวกับเกรตต้ิง โดยศกึ ษาจาก อนิ เทอร์เนต็

เรอื่ ง เกรตตงิ้ และสรุปความรู้ในรปู แบบผงั มโนทัศน์ลงในใบงาน

Mind mapping เรือ่ ง เกรตต้ิง (พอเพยี ง 3 ภูมิค้มุ กัน)(30 นาที)


5. นักเรยี น(ตัวแทนโดยการสุ่ม)ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น
และอภปิ รายผลงานรว่ มกนั (คิด 3 : คิดวิพากย)์ (สมรรถนะ3)
(20 นาที)

6. นกั เรียนและครูร่วมกันสรุปความรู้ (15 นาที)
Reflective Thinking (5 นาที)

1. จากการเรียนวนั น้ี นกั เรยี นได้รบั ความรู้อะไรบา้ ง (2 นา
2. ขอ้ สอบ En’ปี 31 จำนวน 1 ข้อ(3 นาที)

ข้อสอบ En’ปี 31


ใบงาน Mi
เรือ่ ง

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสรปุ ความรูเ้ รอ่ื ง


ind Mapping
เกรตติ้ง

เกรตต้งิ ในรูปแบบของ Mind Mapping


แบบประเมินใบงาน Mind mapping

คำช้ีแจง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในช่องรายการประเมินกำหนดตาม
ตารางแนบทา้ ยแบบประเมินใบงาน Mind mapping

ลำดับท่ี ชอื่ -สกุล รูปแบบ เนอื้ หา นำเสนอ ความ ตรงต่อเวลา รวม สรุปผลการ
ของผู้รับการ 432143214 3 2 1 สวยงาม 20 คะแนน ประเมนิ ผา่ น/ไม่

ประเมิน 43214321 ผ่าน

ลงช่ือ ....................................................ผปู้ ระเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ

นักเรียนไดร้ ะดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ข้นึ ไปถอื วา่ ผา่ น


ตารางแนบทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Mind mapping

เกณฑก์ าร ระดบั การประเมนิ

ประเมนิ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)

รูปแบบ - เขียนความคดิ รวบยอด - เขียนความคดิ รวบยอด - เขยี นความคดิ รวบยอด - เขยี นความคดิ รวบยอด

หลกั ไว้ตรงกลาง หลกั ไว้ตรงกลาง หลักไว้ตรงกลาง หลักไวต้ รงกลาง

- มกี ิ่งแกว้ ก่งิ ก้อย และ - มีก่ิงแก้ว ก่ิงก้อย และ - มกี ง่ิ แกว้ กง่ิ ก้อย และ - มกี ่ิงแก้ว ขาดกิง่ ก้อย

กิง่ ย่อยตามลำดบั กงิ่ ย่อยตามลำดบั กิ่งยอ่ ยตามลำดบั แต่ขาดก่งิ ย่อย

- ตัวหนงั สืออยู่บนเส้น - ตัวหนงั สอื อยู่บนเสน้ - ใชส้ สี ันทัว่ แผ่น - ใชส้ สี นั ไม่ทั่วแผ่น

- ใช้คำสำคัญตรงประเด็น - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็

- ใชส้ ัญลักษณห์ รือภาพ - ใชส้ สี นั ทัว่ แผ่น

สอ่ื ความหมาย

- ใชส้ ีสนั ท่ัวแผน่

เนื้อหา - เนื้อหาครบถ้วนตาม - เนื้อหาถกู ต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เน้อื หาถกู ต้องตามสาระ

สาระทก่ี ำหนด 100% ท่ีกำหนด 80-99% ท่ีกำหนด 60-79% ที่กำหนดตำ่ ว่า 59%

- เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขียนถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถกู ต้องตามหลัก - เขยี นถกู ต้องตามหลกั

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ กว่า 59%

- ลำดบั หัวขอ้ เนือ้ หา - ลำดับหวั ข้อเนื้อหา - มกี ารสรุปได้อยา่ ง - มีการสรุปไม่

ชดั เจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตุสมผลต่ำกวา่

- มกี ารสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง 59%

สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชดั เจนเสียงดงั ฟงั ชดั - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระต่ำกวา่

- บุคลิกภาพดีและมคี วาม - บุคลิกภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม 59%

มนั่ ใจ - ความพรอ้ มในการ - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

- มกี ารใช้ส่ือประกอบการ นำเสนอไดบ้ างส่วน

นำเสนอ

- ความพรอ้ มในการ

นำเสนอ

ความ - ใชส้ สี ันสวยงาม - ใช้สสี ันสวยงาม - ใชส้ ีสนั สวยงามและมี - ใช้สสี ันสวยงามหรอื

สวยงาม - มีความสะอาด - มคี วามสะอาด ความสะอาด เปน็ ไปตามเกณฑอ์ ย่าง

- มคี วามคิดสร้างสรรค์ - มีความคดิ สรา้ งสรรค์ ใดอย่างหน่ึง


การตรงต่อ - ความเป็นระเบยี บอา่ น สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ชา้ สง่ ผลงานครบถ้วน แต่ช้า สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ง่าย กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 5 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 10 กวา่ เวลาทีก่ ำหนด 15
สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง นาที นาที นาที
ตามเวลาท่ีกำหนด


แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 26

ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ ทัศนอปุ กรณ์ หนว่ ยยอ่ ยที่ 3
เรือ่ ง การสะท้อนของแสง
วนั ทท่ี ำการสอน เวลา 2 ชั่วโมง

ผู้สอน นายศกั ดิร์ ะวี กนั ทะวงค์

1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้
การสะท้อนของแสงทำใหเ้ กิดมมุ ตกกระทบคอื มมุ ทแี่ สงตกกระทบทำกบั เส้น 9.ทดลองและอธิบายการสะท้อนของแสงที่ผิววัตถุ
ต้งั ฉากกบั กระจก และมุมสะท้อนคอื มมุ ทแี่ สงสะท้อนทำกบั เสน้ ต้ังฉากกบั ตามกฎการสะท้อน เขียนรังสีของแสงและคำนวณ
กระจก ตำแหน่งและขนาดภาพของวัตถุเมื่อแสงตกกระทบ
กระจกเงาราบและกระจกเงา ทรงกลม

3. สาระการเรียนรู้ 4. ช้นิ งาน/ภาระงาน
การสะทอ้ นของแสง 1. ใบงาน CAF เรอ่ื ง การสะท้อนของแสง

5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 6. เคร่อื งมือการสอนคิด

- ความสามารถในการส่ือสาร - CAF

- ความสามารถในการคิด

- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

กจิ กรรมการเรยี นรู้

7. ขั้นของกิจกรรม 8. สือ่ 9. วธิ กี ารวัดผล
- ประเมนิ ใบงาน
Do Now (3 นาท)ี - ใบความรู้ เรื่องการ
CAF เรอ่ื ง การ
บอกประโยชนข์ องไม้แขวนผา้ มาคนละ 2 อยา่ ง (ห้ามซำ้ ) สะทอ้ นของแสง สะท้อนของแสง

Purpose (2 นาท)ี - ใบ งาน CAF เร่ือ ง

เราจะเรียนเร่ือง การสะท้อนของแสง เพ่ือนักเรียนสามารถ อธิบาย และคำนวณ การสะท้อนของแสง

สิ่งท่ีเกี่ยวกับ กฎการสะท้อน การสะท้อนท่ีกระจก การเกิดภาพแบ บต่างๆ - คลิปวีดีโอ เรื่อง การ

ความสมั พันธ์ระหวา่ งระยะวตั ถุ ระยะภาพ ความยาวโฟกัส กำลงั ขยายได้ ส ะ ท้ อ น ข อ ง แ ส ง

Work mode (110 นาท)ี https://www.yout

1. นักเรียนศึกษาคลิปวดี ีโอ เรื่อง การสะท้อนของแสง จากคลปิ วีดีโอ (พอเพียง ube.com/watch?v

3 : การมภี มู ิคมุ้ กนั ทดี่ ี) (10 นาท)ี =F2FT3xe5VX0

2. นักเรียนศกึ ษาขอ้ มลู เกี่ยวกับการสะท้อนของแสง โดยศกึ ษาจากใบความรู้

เรอ่ื ง การสะทอ้ นของแสง (พอเพียง3 การมีภมู คิ มุ้ กนั ทด่ี ีในตัว) (30 นาที)

3. นักเรยี นวิเคราะหผ์ ลท่ีเกดิ จากการใช้การสะทอ้ นของแสงท่ีมีประโยชน์ตอ่

ชวี ิตประจำวัน แลว้ ทำลงใบงาน CAF ในเรอื่ ง การสะทอ้ นของแสง (คดิ 1 :

คิดวเิ คราะห)์ (สมรรถนะ2) (40 นาท)ี

4. นกั เรียน(โดยสมุ่ ตัวแทน)นำเสนอผลงานหน้าชน้ั เรยี น(สมรรถนะ3)

(20 นาท)ี


5. นกั เรียนและครรู ว่ มกันสรปุ ความรู้ (10 นาท)ี

Reflective Thinking (5 นาท)ี
1. บอกหนึ่งสง่ิ ที่นกั เรยี นได้เรยี นรู้จากการเรยี นคาบนี้ (2 นาท)ี
2. ข้อสอบ O-NET (2551) จำนวน 1 ข้อ (3 นาที)

ขอ้ สอบ O-NET (2551)
การสะท้อนกลับหมดจะสามารถเกิดข้นึ เมอ่ื แสงเดนิ ทางตามข้อใด

1. จากนำ้ ไปแก้ว
2. จากแกว้ ไปนำ้
3. จากอากาศไปนำ้
4. จากอากาศไปแกว้


ใบความรู้
เร่อื ง การสะทอ้ นของแสง

การสะทอ้ น (Reflection)

รปู ท่ี 1 การสะท้อนของแสงเม่อื ตกกระทบผวิ สะท้อนราบ
การสะท้อนของแสงทำใหเ้ กดิ มมุ ตกกระทบคือมมุ ทแี่ สงตกกระทบทำกับเส้นต้ังฉากกบั กระจก และมมุ
สะทอ้ นคือมุมที่แสงสะท้อนทำกับเสน้ ตง้ั ฉากกับกระจก
กฎของการสะท้อนกลา่ ววา่ “เมอ่ื เกดิ การสะท้อนแสงทุกคร้ังมมุ ตกกระทบเท่ากับมุมสะท้อนเสมอ”
กระจกราบ (Plane Mirrors)
เมื่อวตั ถุอยูห่ นา้ กระจก วตั ถุจะสะท้อนลำแสงออกมานบั ลา้ นเสน้ มายงั กระจก แต่ขอเขียนลำแสงตวั แทนมา
สัก 4 เส้น เม่อื เกิดการสะทอ้ นแสงท่ีกระจกมุมตกกระทบเท่ากบั มุมสะท้อน ทำใหเ้ กดิ ลำแสงเสมือนตัดกนั จนเกิด
ภาพเสมอื นท่ีหลังกระจก ภาพเสมือนที่หลงั กระจกจะมีขนาดเทา่ กับวตั ถุและกลบั ซ้ายเป็นขวา

a. b.
รปู a. การเกิดภาพในกระจกเงาราบ


b. การเกดิ ภาพสะท้อนจำนวนมากเม่ือต้งั กระจกสองอันหันเขา้ หากนั
การสะท้อนบนพ้ืนผวิ ขรขุ ระ (Diffuse Reflection)เมื่อแสงสะทอ้ นทผี่ วิ ขรขุ ระ แสงจะสะทอ้ นออกไปหลาย
ทิศทาง

a.

b.
รูป a. การสะท้อนคล่ืนวทิ ยบุ นจารรับสญั ญาณดาวเทียมเป็นการสะท้อนบนผวิ ขรขุ ระ

b. แผนภาพการสะท้อนบนผิวขรุขระ

พน้ื ผิวถนนทแ่ี หง้ อยูม่ ีการสะท้อนแสงบนพื้นผวิ ขรขุ ระจึงมีแสงสะท้อนมายงั ตาเรา แตเ่ มื่อถนนนองไปด้วย
น้ำ ผวิ น้ำทำใหเ้ กิดการสะท้อนบนผิวเรยี บทำให้แสงจากรถสะท้อนไปด้านหนา้ รถอยา่ งเดียวมเี พียงแสงส่วนน้อยที่
สะท้อนเข้าตาเราทำใหเ้ รามองพนื้ ถนนหลงั ฝนตกไมช่ ัดเจน

เมอื่ แสงเดินทางจากตัวกลางหน่งึ ตกกระทบกับผวิ ของอกี ตัวกลางหน่ึง แสงจะเกดิ การสะท้อนขน้ึ กลบั มาใน
ตวั กลางเดมิ โดยแสงทส่ี ะท้อนออกมาจะเปลยี่ นแปลงตามพื้นผิว โดยถ้าพื้นผวิ เรียบแสงสะท้อนจะเป็นระเบียบ แต่
ถ้าผิวขรขุ ระ แสงสะท้อนจะกระจัดกระจายไมเ่ ป็นระเบยี บ


เปรยี บเทียบการสะท้อนบนผิวเรียบและผวิ ขรุขระ
กฎการสะท้อนของแสง (Law of Reflection)
มมุ ตกกระทบคือมมุ ทรี่ ังสีตกกระทบ (Incident ray) ทำกับเสน้ ปกติ (Normal)ของผวิ สะทอ้ น และ มุม
สะท้อน (Reflected ray) คือมุมทีร่ งั สสี ะทอ้ นทำกบั เสน้ ปกติ

การสะท้อนของแสงท่มี รี ะเบียบจะได้
1. มมุ ตกกระทบมคี ่าเท่ากบั มุมสะท้อน
2. รังสตี กกระทบ รงั สีสะท้อนและเส้นปกติ จะอยู่ในระนาบเดียวกนั


ใบงาน

จะเป็นอย่างไรถา้ เรานำเทคโนโลยกี ารขยายพนั ธุ์พชื มาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน

ตวั ชว่ ยในการคิดมี 18 หัวข้อ

1.การเงนิ และธุรกจิ 7.สันทนาการ 13.ความต้องการพ้ืนฐาน
2.การขนส่ง 8.การเมืองการปกครอง 14.การป้องกัน
3.ความสมั พนั ธ์ทางสังคม 9.จริยธรรมและศาสนา 15.เศรษฐกิจ
4.สิง่ แวดล้อม 10.ศิลปะและสุนทรยี ภาพ 16.กฏหมายและความยุตธิ รรม
5.การศกึ ษา 11.สขุ ภาพ 17.การสื่อสาร
6.เทคโนโลยี 12.สุขภาพจติ 18.อ่นื ๆ

สรุปผล

.........................................................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................................................................


แบบประเมนิ ใบงาน CAF

คำชแ้ี จง : ใหผ้ ู้สอนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรยี น โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตามตารางแนบ
ทา้ ยแบบประเมินใบงาน CAF

ลำดับท่ี ช่อื -สกุล การแสดง เนือ้ หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ เวลา รวม สรุปผลการ
ของผรู้ ับการ ความ สวยงาม 20 คะแนน ประเมนิ ผา่ น/ไม่
คดิ เห็น (4คะแนน) (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมิน (4คะแนน) ผา่ น

ลงชอ่ื ....................................................ผู้ประเมิน
................/................/................

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ

18 - 20 ดมี าก

14 - 17 ดี

10 - 13 พอใช้

ต่ากว่า 10 ปรบั ปรงุ

นกั เรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขนึ้ ไปถอื วา่ ผา่ น


ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน CAF

เกณฑ์การ ระดบั การประเมิน
ประเมิน
การแสดง 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
ความ - - แสดงความคิดเห็น
คิดเหน็ - แสดงความคดิ เหน็ - แสดงความคดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็
ผลกระทบของปัญหา/
การแสดง ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ เหตกุ ารได้ น้อยกวา่ 6
ความ ขอ้
คดิ เห็น เหตกุ ารได้ 10 ขอ้ ขึน้ ไป เหตุการได้ 8-9 ข้อ เหตุการได้ 6-7 ขอ้
- - แสดงความคดิ เหน็
- ระบสุ งิ่ ทีไ่ ด้รับ - ระบสุ ิง่ ท่ีได้รบั -ระบสุ งิ่ ทไี่ ด้รับผลกระทบ ผลกระทบของปัญหา/
เหตุการณ์ได้ นอ้ ยกวา่
ผลกระทบจากปญั หา/ ผลกระทบจากปญั หา/ จากปัญหา/เหตกุ ารณ์ 6 ขอ้

เหตุการณ์ได้ครบถ้วน เหตกุ ารณ์ 80-99% 60-79%

- แสดงความคดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็ - แสดงความคดิ เหน็

ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/

เหตกุ ารฌไ์ ด้ 10 ข้อขน้ึ เหตกุ ารณ์ได้ 8-9 ข้อ เหตกุ ารณ์ได้ 6-7 ข้อ

ไป

เนอ้ื หา - เน้ือหาครบถ้วนตาม - เน้อื หาถกู ต้องตามสาระ - เนอื้ หาถูกต้องตามสาระ - เน้ือหาถกู ต้องตามสาระ

สาระท่ีกำหนด 100% ทก่ี ำหนด 80-99% ทก่ี ำหนด 60-79% ท่กี ำหนดต่ำวา่ 59%

- เขียนถูกต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขียนถกู ต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลัก

ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำว่า 59%

- ลำดบั หัวขอ้ เนือ้ หา - ลำดบั หวั ขอ้ เน้ือหา - มีการสรุปได้อย่าง - มีการสรุปไม่

ชัดเจน ชดั เจน สมเหตุสมผล 60-79% สมเหตสุ มผลตำ่ ว่า

- มกี ารสรปุ ได้อย่าง - มีการสรปุ ได้อย่าง 59%

สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%

การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสียงดังฟังชัด - พดู ชัดเจนเสียงดงั ฟังชดั - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้

- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง

ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระตำ่ วา่ 59%

- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม - บุคลกิ ภาพเหมาะสม

ม่นั ใจ - ความพรอ้ มในการ

- มีการใช้สอ่ื ประกอบการ นำเสนอได้บางสว่ น

นำเสนอ

- ความพร้อมในการ

นำเสนอ


ความ - ใช้สสี ันสวยงาม - ใชส้ ีสันสวยงาม - ใชส้ ีสนั สวยงามและมี - ใช้สีสนั สวยงามหรือ
สวยงาม - มีความสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑ์อย่าง
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - มีความคิดสรา้ งสรรค์ ใดอยา่ งหนึ่ง
- ความเป็นระเบียบอา่ น
ง่าย


แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 27

ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ ทัศนอุปกรณ์ หน่วยยอ่ ยท่ี 3
เรอื่ ง ภาพทีเ่ กิดจากกระจกเงาราบ
วนั ทที่ ำการสอน เวลา 2 ช่วั โมง

ผู้สอน นายศักดร์ิ ะวี กนั ทะวงค์

1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรียนรู้
กระจกราบ ทำด้วยแผน่ แกว้ หรือวสั ดโุ ปร่งใสเรียบ ด้านหนึ่งจะ
9.ทดลองและอธิบายการสะท้อนของแสงที่ผิววัตถุตามกฎ
เคลอื บด้วยสารมันวาว เชน่ ปรอท การเกิดภาพมีหลกั ว่า ภาพจะเกดิ การสะท้อน เขียนรังสีของแสงและคำนวณตำแหน่งและ
การรังสสี ะท้อนหรือรงั สหี กั เหไปตดั กัน แบ่งเป็น 2 ชนิด ขนาดภาพของวัตถุเมื่อแสงตกกระทบกระจกเงาราบและ
ภาพจริง : ภาพที่เกอดจากรังสสี ะทอ้ นหรอื รังสีหกั เหตดั กันจริง กระจกเงา ทรงกลม
ภาพเสมือน : ภาพท่เี กิดจากรงั สสี ะทอ้ นหรอื รังสหี ักเหตดั กันไม่จริง

3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
ภาพที่เกิดจากกระจกเงาราบ 1. ใบงาน KWL เร่ือง ภาพท่ีเกิดจากกระจกเงาราบ

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 6. เครอื่ งมือการสอนคิด

- ความสามารถในการส่ือสาร - KWL

- ความสามารถในการคดิ

- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

กิจกรรมการเรียนรู้

7. ข้นั ของกจิ กรรม 8. ส่อื 9. วิธกี ารวัดผล
- ประเมินจากใบงาน KWL
Do Now (3 นาท)ี - ใบความรู้เร่ือง ภาพท่ีเกิด
เร่ือง ภาพท่ีเกิดจากกระจก
บอกช่ือดอกไม้ทีน่ กั เรยี นช่ืนชอบพรอ้ มท้ังเหตผุ ล จากกระจกเงาราบ เงาราบ

Purpose (2 นาท)ี - ใบงาน KWL เร่ือง ภาพท่ี

เราจะเรียนเรอ่ื ง ภาพทีเ่ กิดจากกระจกเงาราบ เพอ่ื สำรวจอธิบาย เกดิ จากกระจกเงาราบ

และคำนวณส่ิงทเ่ี กย่ี วกับ กฎการสะทอ้ น การสะท้อนทกี่ ระจก การเกิด - คลิปวีดีโอ เร่ือง ภาพท่ีเกิด

ภาพแบบตา่ งๆ ความสมั พันธร์ ะหวา่ งระยะวตั ถุ ระยะภาพ ความยาว จากกระจกเงาราบ จาก

โฟกสั กำลงั ขยายได้ https://www.youtube.c

Work mode (110 นาท)ี om/watch?v=4m6mlX

1. นักเรียนทำกจิ กรรม KWL เร่อื ง ภาพท่ีเกดิ จากกระจกเงาราบ HjHJk

โดยตอบคำถาม “นกั เรยี นรูอ้ ะไรเกยี่ วกับเรอ่ื งภาพทเ่ี กิดจาก

กระจกเงาราบ ” ลงในชอ่ ง K (10 นาที)

2. นักเรียนและครอู ภิปรายร่วมกันบนกระดาน ในหัวขอ้ นักเรยี นรู้

อะไรบ้างเกย่ี วกบั ภาพทเี่ กิดจากกระจกเงาราบ (5 นาท)ี

3. นักเรียนตอบคำถาม “นกั เรียนอยากรู้อะไรบ้าง เก่ียวกับภาพที่

เกิดจากกระจกเงาราบ” ลงในชอ่ ง W (5 นาที)

4. นกั เรียนและครูอภิปรายร่วมกนั บนกระดาน ในหวั ข้อ นักเรยี น


Click to View FlipBook Version