เกณฑก์ ารให้คะแนนแบบฝึ กหดั
เกณฑก์ ารให้ เกณฑท์ กี่ าหนด 5 4 ระดบั คะแนน 2 1
คะแนน ทำตำมเกณฑ์ ทำตำมเกณฑ์ 3 ทำตำมเกณฑท์ ่ี ทำตำมเกณฑ์
1 คำตอบถกู ตอ้ ง ท่กี ำหนดทง้ั 6 ท่กี ำหนดทง้ั 4- กำหนดทงั้ 1 ท่กี ำหนดทง้ั 0
แบบฝึกหดั 2 แสดงวธิ กี ำรคำนวณ ขอ้ 5 ขอ้ ทำตำมเกณฑท์ ่ี ขอ้ ขอ้
กำหนดทง้ั 2-3
ได้ ขอ้
3 แทนคำ่ สมกำรได้
4 กำหนดสตู ร/สมกำรได้
ถกู ตอ้ ง
5 วเิ ครำะหแ์ ละกำหนด
ตวั แปรได้
6 ไมไ่ ดส้ ำมำรถแสดงวิธี
ทำและคำตอบผดิ
เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภำพ
15 – 20 ดมี ำก
11 – 15 ดี
6 – 10 พอใช้
0 – 5 ปรบั ปรุง
นักเรยี นไดร้ ะดบั คณุ ภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถอื ว่า ผา่ น
ใบงาน Diagram
การวิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาเร่ืองมมุ วิกฤตและการสะทอ้ นกลบั หมด
โจทยป์ ญั หา
ส่งิ ที่โจทยก์ ำหนด
ส่งิ ทีโ่ จทยถ์ าม
สูตรการคำนวณ วธิ ที ำ
แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Diagram
คำชแ้ี จง : ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนกั เรียน ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในช่องรายการประเมิน
กำหนด
ความ สรปุ ผล
ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกลุ ความถกู ต้อง ครอบคลุม สอดคลอ้ ง ตรงตอ่ เวลา ความ การ
ของผรู้ ับการประเมนิ ของเนือ้ หา เนอ้ื หา และ 4 สะอาด รวม ประเมนิ
เรยี บรอ้ ย 20 ผา่ น/ไม่
4 4 เช่อื มโยงของ คะแนน ผ่าน
เนอ้ื หา 4
4
4321 43214 32 1 4321 4321
ประเมิน ลงช่ือ .................................................... ผู้
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นกั เรยี นไดร้ ะดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขึน้ ไปถอื ว่า ผา่ น
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram
เกณฑ์การ ระดับการประเมิน
ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
รปู แบบ - มีหัวขอ้ ที่ชดั เจน - มหี ัวขอ้ ท่ชี ดั เจน - มีหัวข้อท่ีชดั เจน - มีหัวข้อที่ชัดเจน
- เขยี นอย่ใู นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ
- ใช้คำสำคญั ตรงประเด็น - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น
- ใช้สัญลกั ษณ์หรือภาพ - ใช้สัญลกั ษณห์ รอื ภาพ
ส่อื ความหมาย สอื่ ความหมาย
- ใช้สีสันท่ัวแผน่
เนื้อหา - เนอื้ หาครบถว้ นตาม - เน้ือหาถูกต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ
สาระทกี่ ำหนด 100% ที่กำหนด 80-99% ทีก่ ำหนด 60-79% ท่ีกำหนดต่ำกวา่ 59%
- เขยี นถกู ต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลัก
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ กว่า 59%
- ลำดบั หวั ข้อเนื้อหา - ลำดบั หวั ข้อเน้ือหา - มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรปุ ไม่
ชดั เจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตสุ มผลตำ่ กวา่
- มีการสรุปได้อย่าง - มกี ารสรุปได้อยา่ ง 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟังชดั - พดู ชัดเจนเสียงดังฟงั ชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระต่ำกวา่
- บคุ ลกิ ภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม 59%
มน่ั ใจ - ความพร้อมในการ - บุคลกิ ภาพเหมาะสม
- มกี ารใช้สื่อประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ
ความ - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใชส้ ีสนั สวยงาม - ใช้สีสันสวยงามและมี - ใช้สสี นั สวยงามหรือ
สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เปน็ ไปตามเกณฑ์อย่าง
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ใดอย่างหนึ่ง
- ความเป็นระเบียบอ่าน
ง่าย
การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 33
ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ทัศนอุปกรณ์ หน่วยย่อยท่ี 3
เรอื่ ง ทัศนอุปกรณ์
วนั ทีท่ ำการสอน เวลา 2 ชั่วโมง
1. สาระสำคัญ ผสู้ อน นายศกั ด์ิระวี กนั ทะวงค์
ทศั นอุปกรณ์ประกอบดว้ ย
2. ผลการเรียนรู้
1. แว่นขยาย
2. เครอ่ื งฉายภาพนิง่ 11. ทดลองและเขียนรังสีของแสงเพ่ือแสดงภาพที่เกิดจากเลนสบ์ าง
3. กล้องถา่ ยรปู หาตำแหน่ง ขนาด ชนิดของภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างระยะ
4. กลอ้ งจลุ ทรรศน์ วัตถุ ระยะภาพและความยาวโฟกัส คำนวณปริมาณต่าง ๆ ท่ี
5. กลอ้ งโทรทรรศน์ เกี่ยวข้อง
3. สาระการเรียนรู้ 4. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
ทัศนอุปกรณ์ 1. ใบ OPV เรอื่ ง ทัศนอุปกรณ์
2. ใบงาน Pisa เร่อื ง ทัศนอุปกรณ์
5. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน 6. เครอ่ื งมือการสอนคิด
- ความสามารถในการส่ือสาร - OPV
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กิจกรรมการเรยี นรู้
7. ขัน้ ของกจิ กรรม 8. สอ่ื 9. วธิ ีการวดั ผล
Do Now (3 นาที) - ใ บ OPV เ ร่ื อ ง - ประเมนิ ใบ OPV เรอื่ ง
บอกประโยชน์ของแสงมาคนละ 1 อย่าง (หา้ มซ้ำ) ทศั นอุปกรณ์ ทศั นอปุ กรณ์
Purpose (2 นาที) - ใบความรู้ เรื่องทัศน - ประเมินจากใบงาน Pisa
เราจะเรียนเรื่อง ทัศนอุปกรณ์ เพื่อนักเรียนสามารถ อธิบาย อปุ กรณ์ เรอ่ื ง ทัศนอปุ กรณ์
วิเคราะห์ เก่ียวกับ ทัศนอุปกรณ์ ความสว่าง และการถนอมสายตา - ใบงาน Pisa เรื่อง
ได้ ทศั นอปุ กรณ์
Work mode (110 นาที) - ค ลิ ป วี ดี โอ เร่ื อ ง
1. นักเรียนดคู ลิปวดี โี อ เรื่อง ทศั นอุปกรณ์ (10 นาท)ี เรื่องทัศนอุปกรณ์
2. นกั เรยี นศึกษาขอ้ มูลเก่ยี วกับทัศนอปุ กรณ์ โดยศกึ ษาจากใบ https://www.yout
ความรู้ เร่ือง ทศั นอุปกรณ์ (พอเพยี ง 3 การมภี ูมิคมุ้ กนั ที่ดี) ube.com/watch?v
(20 นาที) =m2gYQTr0jT8
3. นักเรยี นฟังครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ เรื่อง ทศั นอปุ กรณ์ (15 นาท)ี
4. นกั เรียนวเิ คราะหแ์ ละอธิบายผลกระทบเก่ียวกับทัศน
อุปกรณ์หากไมม่ ที ัศนอุปกรณ์ในโลกใบน้ี ท่ีมีต่อใครบ้าง
โดยทำใบงาน OPV เรือ่ ง ทศั นอปุ กรณ์ (คิด1 : คดิ
วิเคราะห์)(สมรรถนะ2)(20 นาท)ี
5. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทน ออกมานำเสนอ ใบงาน OPV
หนา้ ชนั้ เรียน (สมรรถนะ3)(10 นาที)
6. นักเรียนทำใบงาน Pisa เรื่อง ทศั นอุปกรณ์ (10 นาที)
7. นักเรียนและครรู ่วมกันสรปุ ความรู้ (10 นาที)
Reflective Thinking(5 นาท)ี
1. จากการเรียนคาบนี้ นกั เรียนไดค้ วามรอู้ ะไรบ้าง
(2 นาที)
2. แนวข้อสอบ O-NET ฟสิ กิ ส(์ 2550)จำนวน 1 ข้อ (3 นาที)
ข้อสอบจาก (O-NET ฟิสกิ ส์2550)
ใบความรู้
เร่ือง ทัศนอปุ กรณ์
ใบงาน 0PV เรือ่ งทศั นอุปกรณ์
หากไม่มที ศั นอปุ กรณ์ในโลกใบน้ี จะเกิดผลกระทบตอ่ ใครบา้ ง
และกระทบอย่างไร
ใครบา้ งท่เี ก่ียวขอ้ ง
คนท่เี ก่ียวขอ้ งคดิ อย่างไร
แบบประเมนิ ใบงาน OPV
คำชแี้ จง : ให้ผูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมนิ คะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตาม
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน OPV
สาเหตุและ
ลำดับที่ ชอื่ -สกุล ผลกระทบมี เน้อื หา นำเสนอ ความ ตรงต่อเวลา รวม สรุปผลการ
ของผู้รับการ ความ สวยงาม 20 คะแนน ประเมนิ ผ่าน/ไม่
(4คะแนน) (4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมนิ สอดคล้อง (4คะแนน) ผ่าน
กนั
(4คะแนน)
ลงช่ือ ....................................................ผู้ประเมนิ
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรงุ
นักเรยี นไดร้ ะดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ขน้ึ ไปถือว่า ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมินใบงาน OPV
เกณฑก์ าร ระดบั การประเมิน
ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
การแสดง - แสดงความคดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็ - แสดงความคิดเหน็ - - แสดงความคิดเหน็
ความ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/
คดิ เห็น เหตุการได้ 10 ข้อขึ้นไป เหตุการได้ 8-9 ข้อ เหตกุ ารได้ 6-7 ขอ้ เหตุการได้ น้อยกว่า 6
- ระบุบคุ คลท่ีได้รับ - ระบุบคุ คลที่ไดร้ บั ระบุบุคคลทีไ่ ด้รบั ข้อ
ผลกระทบจากปัญหา/ ผลกระทบจากปัญหา/ ผลกระทบจากปญั หา/
เหตกุ ารณ์ไดค้ รบถว้ น เหตุการณ์ได้บางสว่ น เหตุการณ์ได้น้อย
การแสดง - แสดงความคิดเห็น - แสดงความคดิ เหน็ - แสดงความคดิ เห็น - - แสดงความคิดเหน็
ความ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/
คิดเห็น เหตุการฌ์ได้ 10 ข้อข้นึ เหตุการณ์ได้ 8-9 ข้อ เหตกุ ารณ์ได้ 6-7 ข้อ เหตุการณ์ได้ นอ้ ยกวา่
ไป 6 ข้อ
เน้อื หา - เน้อื หาครบถว้ นตาม - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เนื้อหาถกู ต้องตามสาระ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ
สาระทีก่ ำหนด 100% ท่ีกำหนด 80-99% ทก่ี ำหนด 60-79% ท่ีกำหนดต่ำว่า 59%
- เขียนถูกต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลกั - เขียนถกู ต้องตามหลัก
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาต่ำวา่ 59%
- ลำดับหวั ขอ้ เน้ือหา - ลำดับหัวขอ้ เนื้อหา - มีการสรุปได้อยา่ ง - มกี ารสรุปไม่
ชัดเจน ชดั เจน สมเหตุสมผล 60-79% สมเหตสุ มผลต่ำว่า
- มกี ารสรุปได้อย่าง - มีการสรปุ ได้อย่าง 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตสุ มผล 80-99%
การนำเสนอ - พดู ชัดเจนเสียงดงั ฟงั ชัด - พูดชัดเจนเสยี งดังฟังชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระตำ่ วา่ 59%
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บุคลิกภาพเหมาะสม - บุคลิกภาพเหมาะสม
มนั่ ใจ - ความพรอ้ มในการ
- มีการใช้สอ่ื ประกอบการ นำเสนอไดบ้ างส่วน
นำเสนอ
- ความพร้อมในการ
นำเสนอ
ความ - ใช้สสี ันสวยงาม - ใช้สีสันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงามและมี - ใช้สีสันสวยงามหรือ
สวยงาม - มีความสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑอ์ ย่าง
- มีความคิดสรา้ งสรรค์ - มีความคิดสรา้ งสรรค์ ใดอย่างหน่ึง
- ความเป็นระเบียบอา่ น
ง่าย
ใบงาน เรื่อง ทศั นอุปกรณ์ (ตามแนวPISA)
อา่ นถอ้ ยความตอ่ ไปน้แี ลว้ ตอบคำถาม
คำถามที่ 1 (ขอ้ ละ2 คะแนน) ใช่ ไม่ใช่
พจิ ารณาขอ้ ความขา้ งตน้ ตอ่ ปนี้
ขอ้ ความใดเป็นจริง ให้เขยี นเครือ่ งหมาย X ในช่อง “ใช่”
ขอ้ ความใดไมเ่ ปน็ จริง ให้เขียนเครอ่ื งหมาย X ในช่อง “ไม่ใช่”
ข้อที่ ข้อความ
1 แวน่ ขยายทำจากเลนสน์ ูน
2 ไดอะแฟรมคืออปุ กรณ์ในกล้องถา่ ยรูป
3 หากปริมาณแสงมีมาก ตอ้ งปรับความเรว็ ซัตเตอรป์ ิดเปิดอย่าง
ช้าๆ
4 ไดอะแฟรมช่วยในเรอื่ งความคมชดั
(สมรรถนะ : การระบปุ ัญหาเชิงวทิ ยาศาสตร)์
คำถามที่ 2 (1 คะแนน)
ปริซมึ ชว่ ยในเรือ่ งใดของกลอ้ งโทรทรรศน์
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………...…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………..
(สมรรถนะ : ระบปุ ระเดน็ ทางวทิ ยาศาสตร)์
คำถามที่ 3 (1 คะแนน)
กำลงั ขยายของกล้องโทรทรรศน์สามารถหาไดจ้ ากอะไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………...…………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………..
(สมรรถนะ : ระบปุ ระเดน็ ทางวิทยาศาสตร์
เกณฑ์การใหค้ ะแนน / แนวคำตอบ
คำถามท1่ี (2 คะแนน) ข้อความ ใช่ ไม่ใช่
ขอ้ ท่ี X
X X
1 แวน่ ขยายทำจากเลนส์นูน X
2 ไดอะแฟรมคืออุปกรณ์ในกล้องถา่ ยรปู
3 หากปริมาณแสงมมี าก ตอ้ งปรับความเรว็ ซตั เตอรป์ ิดเปิดอยา่ ง
ช้าๆ
4 ไดอะแฟรมชว่ ยในเร่ืองความคมชัด
คะแนนเต็ม 2 คะแนน คะแนนเตม็ 1 คะแนน ไมม่ คี ะแนน
ตอบถูกท้ัง 4 ข้อ : ใช่ ใช่ ไม่ใช่ ตอบถูก 3 ข้อ ตอบถูก 2-0 ข้อ
ไมใ่ ช่
คำถามท่ี 2 (1 คะแนน)
1 คะแนน 0 คะแนน
ลดความเร็วของกลอ้ ง ตอบผิด/ไมไ่ ดต้ อบคำตอบใดๆ
คำถามท่ี 2 (1 คะแนน)
1 คะแนน 0 คะแนน
ตอบผดิ /ไมไ่ ดต้ อบคำตอบใดๆ
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
4 ดีมาก
3 ดี
2 พอใช้
0-1 ปรับปรุง
นกั เรยี นไดร้ ะดบั คุณภาพ พอใช้ ข้นึ ไปถือวา่ ผา่ น
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 34
ช่อื หน่วยการเรียนรู้ ทศั นอุปกรณ์ หน่วยย่อยท่ี 3
เรอื่ ง ความสว่าง เวลา 2 ช่ัวโมง
วนั ท่ที ำการสอน ผู้สอน นายศักดร์ิ ะวี กันทะวงค์
1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรียนรู้
ความสว่าง 15. สังเกตและอธิบายการมองเห็นแสงสี สีของวัตถุ การ
ผสมสารสี การผสมแสงสี รวมท้ังอธิบายสาเหตุของการ
พลงั งานแสงท่ที ำใหเ้ กดิ ความสว่างบนพืน้ ทท่ี ่ีรับแสง ถา้ พจิ ารณาพื้นที่ใดๆ บอดสี ความสว่าง และการถนอมสายตาได้
ทรี่ ับแสง ความสวา่ งบนพนื้ ที่
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
ความสวา่ ง 1. ใบงาน Cause and Effect เรอ่ื ง ความสวา่ ง
2. ใบงาน เรื่อง ความสว่าง
3. ใบงาน Pisa เรอื่ ง ความสวา่ ง
5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 6. เครอ่ื งมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการส่ือสาร - Cause and Effect
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ข้นั ของกิจกรรม 8. สื่อ 9. วธิ ีการวัดผล
ประเมินใบงาน
Do Now (3 นาท)ี - ใบความรู้ เรื่องความ - Cause and Effect
เรอ่ื ง ความสวา่ ง
บอกประโยชน์ของเทยี นไขมาคนละ 1 ข้อ (หา้ มซ้ำ) สวา่ ง
ประเมินจากใบงาน
Purpose (2 นาท)ี - ใบงาน Cause and Pisa เร่ือง ความ
สว่าง
เราจะเรียนเร่ือง ความสว่าง เพ่ือนักเรียนสามารถ อธิบาย และคำนวณเก่ียวกับ Effect เรอ่ื ง ความ ประเมนิ จากใบงาน
ทศั นอุปกรณ์ ความสวา่ ง และการถนอมสายตา ได้ สว่าง - เรอื่ ง ความสวา่ ง
Work mode (110 นาท)ี
1. นักเรียนดคู ลิปวีดโี อ เรอ่ื ง ความสว่าง (5 นาที) - ใบ งาน Pisa เร่ือ ง
2. นักเรียนศึกษาความรู้ โดยศึกษาจากใบความรู้ เรื่อง ความสว่าง (พอเพียง3: ความสว่าง -
การมีภมู ิคุ้มกนั ทีด่ ใี นตัว) (15 นาท)ี - คลปิ วีดีโอ เรอ่ื ง
3. นกั เรียนฟังครอู ธบิ ายเพ่ิมเตมิ เร่อื ง ความสวา่ ง (15นาท)ี เคล่อื นที่ของคลื่น
4. นกั เรียนวิเคราะหเ์ กีย่ วกับผลกระทบ”จะเปน็ อยา่ งไรหากมนุษยไ์ มร่ บั แสง เสียง
https://www.yout
สว่างจากดวงอาทิตย์” โดยทำใบงาน Cause and Effect เรอ่ื ง ความสว่าง
(คิด1 : คิดวิเคราะห์)(สมรรถนะ2) (30 นาที) ube.com/watch?
5. นักเรียน(ตัวแทนโดยการสุม่ )นำเสนอผลการศกึ ษาหน้าชนั้ เรยี นและรว่ มกัน v=e3Hqyj4Q_Tg
โต้แย้งเพ่ือหาข้อสรปุ ของหัวข้อที่ศกึ ษา (คดิ 3 : คิดวิพากษ)์ (สมรรถนะ3)
(15 นาที)
6. นกั เรียนทำใบงาน Pisa เร่ือง ความสว่าง(20นาที)
7. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรปุ เช่ือมโยงความคิดเกยี่ วกบั ความสว่าง( 10 นาที )
Reflective Thinking (5 นาท)ี
1. หากต้องการเพม่ิ ข้อมลู นักเรยี นอยากเพิ่มอะไร (2 นาที)
2. ข้อสอบ En 37จำนวน 1 ขอ้ (3 นาที)
ขอ้ สอบ En 37
1. (En 37) พลงั งานแสงเท่ากบั 1,000 ลูเมน เม่ือใช้ไประยะหนึ่งประสิทธิภาพของหลอดในการใหพ้ ลงั งานแสงเหลือเพยี ง
80% ถ้าต้องการฉายภาพให้มีความสวา่ งเฉล่ียบนจอ250 ลักซ์ ภาพทีฉ่ ายจะมีขนาดใหญ่มากท่ีสดุ ได้กี่ตารางเมตร
1. 2.8
2. 3.2
3. 3.6
4. 4.0
ใบความรเู้ รอื่ ง ความสว่าง
1. อัตราการให้พลังงานแสงของแหลง่ กำเนดิ แสง
แสงเป็นพลังงานรูปหนึ่ง และทำให้เกดิ ความสวา่ งบนพืน้ ท่ีที่แสงตกกระทบ วัตถทุ ี่ผลิตแสงไดด้ ้วยตัวเอง เรยี กว่า แหล่งกำเนดิ
แสง เชน่ ดวงอาทติ ย์ เทียนไข และหลอดไฟฟ้า และปริมาณพลงั งานแสงที่ส่องออกมาจากแหลง่ กำเนิดแสงใดๆ ตอ่ หนง่ึ หน่วย
เวลา เรยี กวา่ อตั ราการให้พลังงานแสงของแหล่งกำเนิดแสง มีหน่วยเป็น ลเู มน(lumen ; lm)
2. คา่ ความสวา่ ง
พลงั งานแสงทท่ี ำใหเ้ กิดความสว่างบนพน้ื ที่ทรี่ ับแสง ถ้าพิจารณาพน้ื ที่ใดๆ ที่รับแสง ความสว่างบนพ้ืนที่น้นั หาได้จาก
F เปน็ อัตราพลงั งานแสงท่ตี กบนพ้ืน มีหน่วยเป็นลเู มน (lumen : lm)
A เป็น พนื้ ทีร่ ับแสง มีหน่วยเป็นตารางเมตร m 2
E เปน็ ความสว่าง มีหนว่ ยเปน็ ลักซ์ (lux ; lx)
การตอบสนองของนยั น์ตาต่อความเข้มของแสง
เนอ่ื งจากนยั น์ตาเป็นอวยั วะที่มีความไวต่อแสงมาก สามารถรบั ร้ไู ด้เม่ือมีแสงสว่างเพยี งเลก็ นอ้ ย เช่น แสงจากดวงดาวท่อี ยูไ่ กลใน
คืนเดือนมดื จนถงึ แสงสวา่ งท่มี ีปริมาณมาก ทง้ั น้เี น่ืองจากเรตินาจะมเี ซลลร์ ับแสง 2 ชนดิ คอื
1. เซลล์รปู แท่ง(Rod Cell) ทำหน้าท่ีรับแสงสวา่ ง ( สลัว) ทไี่ วมาก สามารถมองเหน็ ภาพขาวดำ เซลล์ รูปแท่งจะไวเฉพาะต่อ
แสงทีม่ ีความเข้มน้อย โดยจะไม่สามารถจำแนกสีของแสงน้ันได้
2. เซลลร์ ูปกรวย(Cone Cell) จะไวเฉพาะต่อแสงทีม่ ีความเขม้ สูงถัดจากความไวของเซลลร์ ปู แทง่ และสามารถจำแนกแสงแต่
ละสีได้ด้วย เซลลร์ ูปกรวยมี 3 ชนิด แตล่ ะชนิดจะมคี วามไวต่อแสงสปี ฐมภูมิต่างกัน ชนิดทหี่ นึ่งมีความไวสงู สุดต่อแสงสีน้ำเงิน
ชนิดทสี่ องมคี วามไวสงู สุดต่อแสงสเี ขยี ว และชนดิ ที่สามมีความไวสงู สุดตอ่ แสงสีแดง เม่ือมแี สงสีต่างๆ ผา่ นเข้าตามากระทบเรติ
นา เซลล์รบั แสงรูปกรวยจะถูกกระตุ้น และสัญญาณกระตุ้นนี้จะถูกส่งผา่ นประสาทตาไปยังสมอง เพ่ือแปรความหมายออกมา
เปน็ ความรู้สึกเหน็ เป็นสีของแสงนน้ั ๆ
ความเขม้ ของแสงตอ่ นัยนต์ ามนุษย์
ดวงตาของมนษุ ย์สามารถรบั แสงท่มี คี วามเขม้ น้อยมากๆ เชน่ แสงริบหร่ีในห้องมืด ๆ ไปจึงถึงแสงสวา่ งจ้าของแสงแดดตอนเทยี่ ง
วนั ซึ่งมคี วามเข้มแสงมากกว่าถงึ 10 เท่า นอกจากนีด้ วงตายงั สามารถปรบั ให้มองเห็นได้แมต้ ัวอกั ษรทเี่ ป็นตัวพมิ พเ์ ล็กๆ สามารถ
บอกรปู รา่ งและทรวดทรงทีแ่ ตกต่างกนั ในที่ที่มีความเข้มของแสงแตกตา่ งกันมากๆได้ โดยการปรบั ของรูม่านตา ดงั ภาพ
การมองเห็นวัตถุ
การมองเหน็ วัตถุ เกดิ จากการที่แสงไปตกกระทบส่ิงต่างๆ แลว้ เกดิ การสะท้อนเขา้ สู่ตาเรา และผา่ นเขา้ มาในลูกตา ไปทำใหเ้ กดิ
ภาพบนจอ (Retina) ทอ่ี ยู่ด้านหลงั ของลูก ขอ้ มลู ของวตั ถุทมี่ องเห็นจะสง่ ขน้ึ ไปสู่สมองตามเสน้ ประสาท (optic nerve) สมองจะ
แปลขอ้ มลู เปน็ ภาพของวัตถุน้ัน
แบบประเมินใบงาน Cause and Effect
คำชีแ้ จง : ใหผ้ ูส้ อนประเมนิ ผลงานใบงานนักเรียน โดยการประเมินคะแนนลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนดตามตารางแนบ
ทา้ ยแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
ลำดบั ที่ ชอ่ื -สกุล การแสดง เนอื้ หา นำเสนอ ความ ตรงตอ่ เวลา รวม สรุปผลการ
ของผรู้ ับการ ความคิดเห็น (4คะแนน) สวยงาม 20 คะแนน ประเมนิ ผ่าน/ไม่
(4คะแนน) (4คะแนน)
ประเมิน (4คะแนน) ผา่ น
ลงช่ือ ....................................................ผูป้ ระเมิน
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง
นกั เรียนไดร้ ะดบั คณุ ภาพท่ี พอใช้ ขึน้ ไปถือวา่ ผา่ น
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Cause and Effect
เกณฑก์ าร 4 (ดีมาก) ระดับการประเมิน 1 (ปรับปรุง)
ประเมนิ - แสดงความคดิ เหน็ 3 (ดี) 2 (พอใช้) - - แสดงความคิดเหน็
การแสดง - แสดงความคดิ เห็น - แสดงความคิดเหน็
ความ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/ ผลกระทบของปัญหา/
คิดเห็น เหตกุ ารฌไ์ ด้ 10 ข้อขน้ึ เหตุการณ์ได้ 8-9 ข้อ เหตกุ ารณ์ได้ 6-7 ข้อ เหตกุ ารณ์ได้ นอ้ ยกวา่
ไป 6 ข้อ
เน้ือหา - เน้อื หาครบถว้ นตาม - เนือ้ หาถกู ต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เนื้อหาถูกต้องตามสาระ
สาระที่กำหนด 100% ทก่ี ำหนด 80-99% ท่ีกำหนด 60-79% ทีก่ ำหนดตำ่ ว่า 59%
- เขียนถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขียนถกู ต้องตามหลัก - เขียนถกู ต้องตามหลัก
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ วา่ 59%
- ลำดับหวั ข้อเนอ้ื หา - ลำดบั หัวข้อเนื้อหา - มีการสรุปได้อย่าง - มกี ารสรุปไม่
ชัดเจน ชัดเจน สมเหตุสมผล 60-79% สมเหตสุ มผลต่ำว่า
- มกี ารสรุปได้อยา่ ง - มกี ารสรปุ ได้อยา่ ง 59%
สมเหตสุ มผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
การนำเสนอ - พูดชดั เจนเสยี งดงั ฟังชดั - พูดชดั เจนเสยี งดังฟังชัด - การพูดเหมาะสม - สามารถพูดนำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระตำ่ วา่ 59%
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บคุ ลกิ ภาพดี - บุคลกิ ภาพเหมาะสม - บคุ ลิกภาพเหมาะสม
มัน่ ใจ - ความพรอ้ มในการ
- มกี ารใชส้ อ่ื ประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน
นำเสนอ
- ความพรอ้ มในการ
นำเสนอ
ความ - ใช้สีสนั สวยงาม - ใช้สีสนั สวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงามและมี - ใชส้ ีสนั สวยงามหรือ
สวยงาม - มคี วามสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เปน็ ไปตามเกณฑ์อย่าง
- มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ - มคี วามคดิ สร้างสรรค์ ใดอยา่ งหน่ึง
- ความเปน็ ระเบยี บอ่าน
ง่าย
การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที
ใบงานเร่อื ง ความสวา่ ง (ตามแนวPISA) คำถาม
อ่านถอ้ ยความต่อไปน้ีแล้วตอบคำถาม (2
ที่ 1
คะแนน)
ขอ้ ใดไม่ใชส่ ารเคมีประกอบอย่ใู นไส้เทียน
1. เกลือแอมโมเนยี
2. กรดบอริก
3. เกลือฟอสเฟต
4. คลอรนี
ขอ้ คำตอบ
คำตอบ
(สมรรถนะ : การอธบิ ายปรากฎการเชงิ วิทยาศาสตร์
คำถามที่ 2 (2 คะแนน)
สนี ำ้ ตาลในเปลวเทียนบ่งบอกถึงอุณหภูมกิ อี่ งศา
1. 400
2. 800
3. 1000
4. 1400
ข้อ
(สมรรถนะ : การอธิบายปรากฎการเชงิ วทิ ยาศาสตร์)
คำถามท่ี 1 (2 คะแนน) เกณฑ์การใหค้ ะแนน / แนวคำตอบ
คำถามท่ี 2 (2 คะแนน) ข้อ คำตอบ
4 คลอรนี
ขอ้ คำตอบ
3 1000
เกณฑ์การใหค้ ะแนน
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ
4 ดีมาก
3 ดี
2 พอใช้
0-1 ปรบั ปรงุ
นกั เรียนได้ระดบั คุณภาพ พอใช้ ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน
ใบงาน Cause and
จะเปน็ อยา่ งไรหากมนุษย์ไ
dki
d Effect เรือ่ ง ความสวา่ ง
ไม่รบั แสงสวา่ งจากดวงอาทิตย์
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 35
ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ ทศั นอุปกรณ์ หน่วยยอ่ ยท่ี 3
เรอื่ ง การถนอมสายตา เวลา 2 ช่วั โมง
วนั ทท่ี ำการสอน ผูส้ อน นายศกั ด์ิระวี กันทะวงค์
1. สาระสำคญั 2. ผลการเรยี นรู้
การดูวัตถุที่มีความสว่างมาก เช่นดวงอาทิตย์ แสงจาก 15.สังเกตและอธิบายการมองเห็นแสงสี สีของวัตถุ การผสม
สารสี การผสมแสงสี รวมทั้งอธิบายสาเหตุของการบอดสี
การเช่ือมโลหะ จะต้องไม่มองส่ิงเหล่าน้ีโดยตรงเพราะความเข้มแสง ความสว่าง และการถนอมสายตาได้
มากจนทำให้เกิดอันตรายรา้ ยแรงตอ่ ตาได้ หรือมองวตั ถทุ ีแ่ สงสว่างไม่
มากเกินไปแต่มองต่อเน่ืองเป็นเวลานานก็สามารถเกิดอันตรายต่อ
สายตาได้เชน่ กัน
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิน้ งาน/ภาระงาน
การถนอมสายตา 1. ใบงาน Diagram เร่ือง การถนอมสายตา
2. ใบงาน Pisa เร่ือง การถนอมสายตา
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 6. เครอ่ื งมือการสอนคดิ
- ความสามารถในการสื่อสาร - Diagram
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
กิจกรรมการเรยี นรู้
7. ขนั้ ของกิจกรรม 8. สื่อ 9. วธิ กี ารวัดผล
Do Now (3 นาท)ี - ใบงาน Diagram เร่ือง - ป ระเมินใบ งาน Diagram
บอกวธิ กี ารพักสายตามาคนละ 1 ขอ้
การถนอมสายตา เรอ่ื งการถนอมสายตา
Purpose (2 นาท)ี
เราจะเรียนเรื่อง การถนอมสายตา เพ่ือนักเรียนสามารถ วิเคราะห์ - ใบความรู้ เร่ืองการ - ประเมินจากใบงาน Pisa
อธบิ ายเก่ยี วกบั ทศั นอุปกรณ์ ความสว่าง และการถนอมสายตา ได้ ถนอมสายตา เรื่อง การถนอมสายตา
Work mode (110 นาท)ี
1. นักเรียนดูคลปิ วดี ีโอเร่ืองการถนอมสายตา (15 นาท)ี - ใบ งา น Pisa เรื่ อ ง
2. นกั เรียนฟังครูอธบิ ายเพิ่มเตมิ เรือ่ ง การถนอมสายตา (15 นาท)ี การถนอมสายตา
3. นักเรียนสืบคน้ ขอ้ มลู เกย่ี วกับการถนอมสายตา โดยศกึ ษาจากใบ
- คลปิ วดี ีโอ เรอ่ื ง เรอ่ื ง
ความรู้ เร่อื ง การถนอมสายตา และสรุปความรู้ในรปู แบบแผนผัง การถนอมสายตา
ลงในใบงาน Diagram เรื่องการถนอมสายตา(คดิ 9 : คิดเชิงมโน
ทศั น์) (30 นาท)ี https://www.
youtube.com
/watch?v=JOL
Yk5mjXvA
4. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทนออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น
(สมรรถนะ3)(20 นาท)ี
5. นกั เรียนทำใบงาน Pisa เรอ่ื ง การถนอมสายตา(20นาที)
6. นักเรียนและครู ร่วมกนั สรุปความรู้ เรื่อง การถนอมสายตา(10นาท)ี
Reflective Thinking (5 นาท)ี
1. บอกความรูท้ น่ี ักเรยี นได้รับ คนละ1 ข้อ (2 นาท)ี
2. ขอ้ สอบ En 41 จำนวน 1 ข้อ (3 นาที)
Reflective Thinking
1. (En 41) เครอื่ งฉายภาพยนตร์เคร่ืองหนึ่งให้ความสว่าง เฉล่ียบนจอ 500 ลกั ซ์ เมอ่ื ฉายท่รี ะยะห่างจากจอ 10
เมตร ถ้าเลอ่ื นเคร่ืองฉายไปเป็น 1.5 เท่าของระยะเดิม ความสว่างบนจอจะเป็นเทา่ ใด
1. 200 lx
2. 220 lx
3. 250 lx
4. 280 lx
ใบความรู้
เร่อื ง การถนอมสายตา
การถนอมสายตา
ตาเปน็ อวัยวะที่มีความไวต่อแสง การมองในบรเิ วณท่ีแสงมีความเข้มมากกับบริเวณที่มีความเข้มแสงนอ้ ย อาจทำ
ใหเ้ กดิ อันตรายตอ่ ตา หรอื ทำให้สายตาเสียได้
การดูวัตถุท่ีมีความสว่างมาก เช่นดวงอาทิตย์ แสงจากการเชื่อมโลหะ จะต้องไม่มองสิ่งเหล่านี้โดยตรงเพราะ
ความเข้มแสงมากจนทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อตาได้ หรือมองวัตถุที่แสงสว่างไม่มากเกินไปแต่มองต่อเนื่องเป็น
เวลานานก็สามารถเกิดอันตรายต่อสายตาได้เช่นกัน การป้องกันไม่ให้แสงที่มีความเข้มมากเข้าสู่ตาโดยตรงเป็นวิธี
ปอ้ งกันดวงตาจากวัตถุทีส่ วา่ งมากๆ
การดูวัตถุท่ีมีความสว่างน้อย การดูวัตถุที่มีความสว่างน้อยก็จะทำให้เกิดความเสียหายต่อสายตาได้เน่ืองจาก
จะต้องเพ่งสายตาเปน็ เวลานาน เชน่ การอ่านหนังสอื ในที่ที่มีแสงน้อยๆ จะทำกล้ามเน้ือตาเส่ือมเร็วกว่าปกติ ดังน้ันจึง
ตอ้ งอ่านหนังสอื ในบริเวณที่มแี สงสว่างเพยี งพอ เชน่ มกี ารกำหนดความสวา่ งสำหรับห้องเรียนไว้ 300-700 Lux เป็น
ตน้
ข้อแนะนำสำหรบั การถนอมสายตา
1) อา่ น หนังสือในทีท่ ี่มีแสงสวา่ งเพียงพอ และถือหนังสอื ห่างจากดวงตาประมาณ 1 ฟุต ไมค่ วรอ่านหนังสอื
เปน็ เวลาตดิ ตอ่ กันนาน ๆ ควรพักสายตาประมาณ 30-45 นาที เมอื่ รสู้ กึ ปวดเมื่อยตา
2) ดูโทรทัศน์ในท่ที ม่ี ีแสงสว่างเพยี งพอ และควรนงั่ ห่างจากจอโทรทัศนป์ ระมาณ 5 เทา่ ของขนาดโทรทศั น์
3) ไม่ควรจอ้ งมองพระอาทิตย์เป็นเวลานานๆ
4) ควรสวมแว่นตาทุกครั้งท่ีต้องออกไปสมั ผัสกบั แสงแดด หรือขับขร่ี ถยนต์
5) หลีกเลย่ี งการมองหรือจอ้ งคล่ืนแมเ่ หลก็ จากเคร่ืองใช้ไฟฟา้ เชน่ เตาไมโครเวฟ เครอ่ื งถา่ ยเอกสาร ฯลฯ
6) เวลาท่เี ศษผงเขา้ ตา ห้ามขย้ีตาเดด็ ขาด แต่ใหค้ ุณลา้ งตาดว้ ยนา้ สะอาดหรือหยอดน้ายาล้างตาแทน
7) ทุกครง้ั ทลี่ งเลน่ น้าในสระว่ายนา้ ควรสวมใส่แว่นตาว่ายน้าทกุ ครั้ง เพ่ือป้องกันคลอรนี หรอื เศษผงเข้าตา
8) ควรระมัดระวังการละเล่นหรือทากจิ กรรมต่าง ๆ ทีจ่ ะก่อให้เกิดอนั ตรายต่อดวงตา
9) เมือ่ รสู้ ึกปวดเมื่อยตา ไม่ควรกดนวดดวงตา หรือกรอกดวงตาไปมา แต่ควรหลบั ตาประมาณ 20 ถึง 30
นาที
10) ไม่ควรใช้ผ้าเชด็ หนา้ แว่นตา ยาหยอดตา รว่ มกบั ผู้อื่น
11) ควรปดิ ไฟนอน เพื่อเป็นการพกั สายตา
12) ในกรณีที่สารเคมเี ขา้ ตา ควรล้างตาด้วยน้าสะอาด แล้วไปพบจกั ษุแพทยโ์ ดยดว่ น
13) ควรไปตรวจวัดสายตาเป็นประจา อยา่ งนอ้ ยปลี ะคร้ัง
ใบกจิ กรรม Diagram เรอื่ ง ...............................................
คำชี้แจง ให้นกั เรียนเขียน Diagram เก่ยี วกับการรบั รู้และการตอบสนอง
แบบประเมนิ ผลงานใบงาน Diagram
คำชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนประเมินผลงานใบงานนักเรียน ใหท้ ำเครื่องหมาย✓ลงในชอ่ งรายการประเมินกำหนด
ความ สรปุ ผล
ลำดบั ท่ี ชอ่ื -สกลุ ความถกู ต้อง ครอบคลมุ สอดคลอ้ งและ ตรงตอ่ เวลา ความสะอาด รวม การ
ของผู้รบั การประเมิน ของเนอ้ื หา เน้ือหา เชื่อมโยงของ 4 เรียบร้อย 20 ประเมิน
คะแนน ผา่ น/ไม่
4 4 เนือ้ หา 4
4 ผา่ น
432143214 32 14321 4321
ลงชื่อ .................................................... ผูป้ ระเมนิ
................/................/................
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
18 - 20 ดมี าก
14 - 17 ดี
10 - 13 พอใช้
ต่ากวา่ 10 ปรบั ปรุง
นักเรียนได้ระดับคณุ ภาพที่ พอใช้ ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่าน
ตารางแนบท้ายแบบประเมนิ ใบงาน Diagram
เกณฑก์ าร ระดับการประเมิน
ประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรงุ )
รปู แบบ - มีหัวข้อทชี่ ัดเจน - มหี ัวขอ้ ท่ชี ดั เจน - มีหัวขอ้ ท่ีชดั เจน - มีหัวข้อที่ชัดเจน
- เขียนอย่ใู นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ - เขยี นอยใู่ นกรอบ - เขยี นอยู่ในกรอบ
- ใช้คำสำคัญตรงประเด็น - ใช้คำสำคญั ตรงประเดน็ - ใชค้ ำสำคัญตรงประเด็น
- ใช้สญั ลกั ษณ์หรือภาพ - ใช้สัญลกั ษณห์ รอื ภาพ
สื่อความหมาย สื่อความหมาย
- ใช้สสี ันทว่ั แผน่
เนอ้ื หา - เนอ้ื หาครบถว้ นตาม - เน้ือหาถูกต้องตามสาระ - เนอ้ื หาถกู ต้องตามสาระ - เน้อื หาถูกต้องตามสาระ
สาระท่ีกำหนด 100% ทกี่ ำหนด 80-99% ทีก่ ำหนด 60-79% ท่ีกำหนดตำ่ กวา่ 59%
- เขยี นถูกต้องตามหลกั - เขยี นถูกต้องตามหลัก - เขียนถูกต้องตามหลกั - เขียนถูกต้องตามหลัก
ภาษา 100% ภาษา 80-99% ภาษา 60-79% ภาษาตำ่ กว่า 59%
- ลำดับหวั ขอ้ เนื้อหา - ลำดบั หวั ข้อเน้ือหา - มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรปุ ไม่
ชดั เจน ชดั เจน สมเหตสุ มผล 60-79% สมเหตสุ มผลตำ่ กวา่
- มีการสรปุ ได้อย่าง - มกี ารสรุปได้อยา่ ง 59%
สมเหตุสมผล 100% สมเหตุสมผล 80-99%
การนำเสนอ - พูดชัดเจนเสยี งดงั ฟังชดั - พดู ชัดเจนเสียงดังฟังชัด - การพดู เหมาะสม - สามารถพดู นำเสนอได้
- ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง - ใช้ภาษาทางการถูกต้อง - ใชภ้ าษาทางการถูกต้อง
ตามอักขระ100% ตามอักขระ80-99% ตามอักขระ60-79% ตามอักขระต่ำกวา่
- บคุ ลิกภาพดแี ละมีความ - บุคลกิ ภาพดี - บคุ ลกิ ภาพเหมาะสม 59%
มน่ั ใจ - ความพร้อมในการ - บุคลิกภาพเหมาะสม
- มีการใช้สื่อประกอบการ นำเสนอได้บางส่วน
นำเสนอ
- ความพร้อมในการ
นำเสนอ
ความ - ใช้สสี ันสวยงาม - ใชส้ สี นั สวยงาม - ใช้สีสนั สวยงามและมี - ใช้สสี นั สวยงามหรือ
สวยงาม - มีความสะอาด - มีความสะอาด ความสะอาด เป็นไปตามเกณฑ์อย่าง
- มีความคดิ สรา้ งสรรค์ - มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ใดอย่างหนึ่ง
- ความเปน็ ระเบียบอ่าน
ง่าย
การตรงต่อ สง่ ผลงานครบถ้วน ตรง สง่ ผลงานครบถว้ น แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถ้วน แตช่ า้ สง่ ผลงานครบถว้ น แต่ชา้
เวลา ตามเวลาทก่ี ำหนด กว่าเวลาทกี่ ำหนด 5 กวา่ เวลาทก่ี ำหนด 10 กว่าเวลาทกี่ ำหนด 15
นาที นาที นาที
ใบงานเร่อื ง การถนอมสายตา (ตามแนวPISA)(แผนท่ี 29)
อา่ นถ้อยความต่อไปนี้แลว้ ตอบคำถาม
7 วธิ ถี นอมสายตา เพื่อชาวไอทที ใี่ ชง้ านคอมพิวเตอร์ โน้ตบ๊คุ แทบ็ เลต็
สมาร์ทโฟนทกุ วันนี้เราแทบจะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่วา่ จะทำงานอะไร กจ็ ะต้องเกี่ยวขอ้ งกับคอมพิวเตอร์ด้วย
เสมอ ทั้งการทำงาน การเรียน การพักผ่อน เช่น เล่นเกม ดูภาพยนตร์ และยิ่งในสมัยน้ีก็มีอุปกรณ์สมาร์ทโฟน หรือ
แท็บเลทเข้ามาอีก ทำให้สาตาของเราต้องเพ่งหน้าจออยู่แทบจะตลอดเวลา นานวันเข้าก็เริ่มที่จะเกิดปัญหาทางด้าน
สายตา เช่น อาการปวดตา ตามัว ตาแห้ง สายตาล้า สายตาสั้น หรือผลข้างเคียงอื่นๆ เช่น อาการปวดหัว ปวดหลัง
เมือ่ ยคอ จากสถิตพิ บว่าผใู้ ชค้ อมพวิ เตอร์มากกว่า 2 ช่วั โมงตอ่ วนั ประสบกับปญั หาเหล่าน้ี
ถ้าหากคุณเป็นอีกคนหน่งึ ที่ต้องใชค้ อมพิวเตอร์ 2 ช่วั โมงต่อวนั หรือมากกวา่ นนั้ หรอื ไม่ก็เรม่ิ มีอาการอยา่ งทีบ่ อกบ้าง
แล้ว กค็ วรทจี่ ะปฏบิ ัติตามคำแนะนำดงั ต่อไปนี้ เพราะในเมื่อการจะให้ใช้เวลากับคอมฯ น้อยลง คงเปน็ เร่ืองยาก ดงั นั้น
สง่ิ ทเ่ี ราทำไดค้ ือ การชะลอการทำร้ายสายตาใหช้ า้ ลง ทำให้สายตาเรารู้สึกสบายมากข้ึน เมอ่ื จ้องหน้าจอ และท่สี ำคัญ
วธิ ีท้ังหมดนง้ี ่ายตอ่ การปฏบิ ัติตามครับ
1. กะพรบิ ตาให้ถ่ีขึน้
อาการตาแห้งเกิดจากการทเ่ี รากะพริบตาน้อยลง เนอื่ งจากมีสมาธขิ ณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ อัตราการ
กะพริบตาจะลดลงจาก 20 - 22 ครัง้ ต่อนาที เหลือเพยี ง 6 - 8 คร้งั ตอ่ นาที จงึ ควรทจี่ ะกะพริบตาใหถ้ ข่ี ้นึ หรืออาจใช้
นำ้ ตาเทียมหยอดตาเพ่อื ช่วยเพิ่มความช่มุ ชื้น
2. จดั วางตำแหนง่ คอมพิวเตอรใ์ หเ้ หมาะสม
ควรจดั ใหม้ ีระยะห่างระหวา่ งจอภาพกับตัวเราประมาณ 50-70 ซม. จัดระดบั จอภาพจากจุดศูนยก์ ลางของ
จอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว ไม่ควรใหจ้ อภาพอยสู่ งู หรือตำ่ เกินไป
3. ปรับความสวา่ งของห้อง
จัดใหบ้ ริเวณหนา้ ตา่ งอยู่ทางดา้ นขา้ งของจอคอมพิวเตอร์ เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหนา้ จอ และควรปดิ ไฟบาง
ดวงทรี่ บกวนการทำงานเพราะปญั หาส่วนใหญ่เกิดจากความสวา่ งท่มี ากเกินไป ถา้ มีแสงจา้ จากหน้าต่างควรใชม้ ูลี่เพ่ือ
ปรบั แสงใหผ้ า่ นไดเ้ พยี งบางส่วน และไม่เข้าตาโดยตรง หลกี เลยี่ งการใชเ้ ฟอร์นเิ จอรท์ มี่ ีพื้นผวิ สะท้อน เช่น โต๊ะสขี าว
ควรใช้วสั ดุท่ีมีผวิ ดา้ นท่ีสะท้อนแสงไม่มากจะดีกว่า
4. แก้ปัญหาเร่อื ง “ขนาด”
ความละเอยี ดของหน้าจอ หรือ screen resolution เป็นสิ่งที่ทำให้หน้าจอมีขนาดแตกตา่ ง ย่ิงความละเอียด
มากข้นึ เท่าไหร่ ขนาดของภาพกจ็ ะเลก็ ลง ดังนน้ั จึงควรปรบั คา่ ความละเอยี ดให้พอดกี ับขนาดของหนา้ จอ ไม่ควรเลก็
หรอื ใหญเ่ กนิ ไป เพราะจะทำให้ขนาดของภาพและตัวหนังสือผดิ เพย้ี นไปจากความจริง
เวลาพมิ พ์งานควรเลือกใชข้ นาดของตัวอกั ษรท่ีใหญ่พอ และปรบั ความเข้มของตวั อักษรใหม้ ากขน้ึ ซ่ึงขนาดตัวอกั ษร
และความเข้มที่เหมาะสมจะสังเกตได้จากการท่เี รายังสามารถอา่ นตัวอักษรไดใ้ นระยะห่างเปน็ 3 เทา่ ของระยะที่น่ัง
ทำงาน หรอื เลือกใชจ้ อคอมพิวเตอรช์ นิด LCD (จอแบน) ซ่ึงจะชว่ ยถนอมสายตาได้ดีกว่าจอคอมพิวเตอร์แบบเกา่
(CRT)
แน่นอนวา่ คนใชค้ อมฯ ก็ต้องใชอ้ ินเทอร์เนต็ และก็ตอ้ งใช้ Web Browser ดว้ ยเช่นกนั การขยายบราวเซอร์ให้ใหญ่ขึ้น
สามารถชว่ ยให้ตวั หนงั สือมีความงา่ ยต่อการอา่ นสำหรับ Windows สามารถขยายไดโ้ ดยกด Ctrl และ + ในขณะที่
Mac สามารถกด Command และ + เพ่ือขยายขนาดหน้าจอ Browser ใหใ้ หญ่ขึน้ ได้
และในส่วนตัวอกั ษรในโปรแกรมมอ่ืนๆ สำหรบั Windows จะมีออฟชน่ั ปรบั ขนาดตวั อักษร ในส่วนของ Screen
Resolution และเลือกไปท่ี Make text and other items larger or smaller หรือเราอาจใช้โปรแกรม Magnifier
ใน Windows เพอ่ื ขยายจดุ ท่ีเมาสเ์ ราวางไว้ ทำใหต้ วั หนงั สือบริเวณน้ันใหญ่ขึน้ เสมอื นเอาแวน่ ขยายมาวาง สำหรับผทู้ ่ี
ใช้ Mac สามารถใชโ้ ปรแกรม Zoom แทนไดเ้ ชน่ กัน
5. เลือกใชแ้ วน่ ตาทีเ่ หมาะสมกับการใชค้ อมพิวเตอร์
ปจั จุบนั มีแวน่ ตาทผ่ี ลติ มาเพื่อกรองแสงจากหนา้ จอโดยเฉพาะ เลนสแ์ ว่นเคลือบด้วยวสั ดุที่สามารถป้องกนั รังสี
จากหนา้ จอได้ดี และสามารถนำมาตดั เป็นแว่นสายตาสำหรับคนสายตาสน้ั -ยาว ดังนนั้ หากตอ้ งใช้เวลาอย่หู น้าจอคอม
เป็นเวลานาน ควรเลอื กใชแ้ ว่นประเภทน้ี และใชเ้ ลนสส์ เี ขียวอ่อนทีจ่ ะชว่ ยให้รสู้ ึกสบายตา ภายใต้แสงจากหลอดไฟฟ้า
ฟลอู อเรสเซนต์ และเพ่ือลดแสงสะทอ้ นจากจอภาพ
6. พกั สายตา
ทุกๆ ชัว่ โมงควรเปลีย่ นอริ ิยาบถ หรอื ลุกขึน้ ยดื เส้นยืดสายบา้ ง โดยละสายตาจากหน้าจอ แล้วมองออกไปใน
ระยะไกล สกั 10 - 20 วินาที แลว้ กลบั มามองในระยะใกล้ ทำสลับกันไปหลายๆ ครง้ั จะช่วยใหค้ ลายสายตาจากความ
เมื่อยลา้ ได้ดี เพ่ือพักสายตาและป้องกนั อาการปวดเม่ือยจากการใชค้ อมพิวเตอร์เป็นเวลานานหรอื ลองใช้วธิ วี ธิ ีบรหิ าร
กล้ามเนอื้ ตาแบบง่ายๆ ดังน้ี
1. กลอกตาข้นึ -ลงช้าๆ 6 ครง้ั โดยเหลือบตาขน้ึ สูงสุดและลงต่ำสุด ในระหวา่ งการบรหิ ารอย่างเกร็งลกู ตา
2. กลอกตาไปข้างขวาและซ้ายสลบั กนั โดยกลอกตาไปให้ขวาสดุ และซา้ ยสุด ทำซำ้ 2-3 ครงั้
3. ชนู ว้ิ ขึ้นมาใหอ้ ยูใ่ นระดับสายตา ห่างจากสายตาประมาณ 8 น้ิว แลว้ จ้องมองไปท่รี ะยะไกลๆ ประมาณ
10 ฟตุ สลับกับใช้ตามองระยะใกลท้ ี่นิ้วมือใช้เวลามองแต่ละท่ปี ระมาณ 2-3 วินาที ทำสลบั ไปมาเช่นนป้ี ระมาณ 10
ครั้ง แล้วหยุดพัก 1 วนิ าที ทำประมาณ 2-3 รอบ
4. กลอกตาเป็นวงกลมชา้ ๆ โดยเร่ิมกลอกตาตามเขม็ นาฬิกาก่อน แล้วกลอกตาทวนเขม็ นาฬิกา ทำประมาณ
10 ครงั้ แลว้ หยดุ พัก 1 วนิ าที ทำประมาณ 2-3 รอบ
7. ออกไปขา้ งนอกบ้าง
การอุดออู้ ย่ทู ี่เดิมเป็นเวลานานๆ ทำใหส้ ายตาเราชินกบั ระดับแสงเดิมๆ และร้สู ึกตงึ เครยี ดอย่างไมร่ ูต้ วั
ดังนนั้ เราควรละจากหน้าคอมสกั พกั แล้วลกุ ออกไปเดนิ ข้างนอก กลางแจง้ ได้ยิ่งดี เพราะจะทำให้สายตาไดส้ ัมผัสกบั
ระดบั แสงที่แตกต่างจากในหอ้ ง ทำให้สมองและสายตาได้ผอ่ นคลายความเมอ่ื ยตึง โดยอาจออกไปดืม่ น้ำ หาขนมทาน
สกั 15 นาที แล้วกลบั มาผจญภยั กบั งานตอ่ จะทำให้รู้สึกมีพลังขึ้นอยา่ งเหน็ ไดช้ ดั
และสุดท้าย เราควรตรวจสขุ ภาพตาปีละ 1 คร้ัง เพ่ือวัดความดนั ตา ตรวจเชก็ จอประสาทตาและความผิดปกติของ
สายตาเป็นประจำ เพราะโรคตาบางอย่างจะไม่แสดงอาการจนกว่าจะถงึ ขั้นรุนแรงแล้ว หากตรวจพบโรคตาตั้งแต่
เนนิ่ ๆ จะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที เพ่ือชว่ ยปอ้ งกันการสญู เสยี สายตา จะไดร้ ักษาดวงตาคู่นใ้ี ห้อยู่กับเรานานเทา่
นาน
คำถามที่ 1 (1 คะแนน)
ขอ้ ใดคอื การกระทำทีม่ ีผลกระทบตอ่ สายตา
1. ปิดไฟแล้วเลน่ โทรศพั ท์มือถอื ในท่ีมืด
2. หลับตาเมอ่ื รูส้ กึ แสบตา
3. กรอกตาขึ้นลงช้าๆ
4. จดั ใหบ้ รเิ วณหนา้ ตา่ งอย่ทู างด้านขา้ งของจอคอมพิวเตอร์ เพ่อื ลดแสงตกสะทอ้ นบนหน้าจอ
ขอ้ คำตอบ
(สมรรถนะ : การระบุปัญหาเชิงวทิ ยาศาสตร)์ คำตอบ
คำถามที่ 2 (1 คะแนน)
ข้อใดไมใ่ ชว่ ธิ ีการพกั สายตา
1. กลอกตาขน้ึ -ลงช้าๆ
2. กลอกตาไปขา้ งขวาและซา้ ยสลับกนั
3. กลอกตาเป็นวงกลมชา้ ๆ
4. ลมื ตาในน้ำ
ขอ้
(สมรรถนะ : การอธิบายปรากฎการเชงิ วทิ ยาศาสตร์)
เกณฑ์การใหค้ ะแนน / แนวคำตอบ
คำถามท่1ี (1 คะแนน)
ขอ้ คำตอบ
1 ปิดไฟแล้วเลน่ โทรศัพท์มอื ถือในที่มืด
คำถามท่ี 2 (1 คะแนน) คำตอบ
ข้อ ลมื ตาในน้ำ
4
เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
2 ดี
1 พอใช้
0 ปรบั ปรงุ
นักเรียนไดร้ ะดับคุณภาพ พอใช้ ข้ึนไปถือว่า ผา่ น
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 36
ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ ทศั นอุปกรณ์ หนว่ ยยอ่ ยที่ 3
เรอ่ื ง ตาและการมองเหน็ เวลา 2 ชั่วโมง
วนั ทท่ี ำการสอน ผู้สอน นายศักด์ิระวี กันทะวงค์
1. สาระสำคัญ 2. ผลการเรียนรู้
การมองเหน็ วตั ถุ เกิดจากการทีแ่ สงไปตกกระทบส่งิ ตา่ งๆ แล้วเกิดการสะท้อน 15.สังเกตและอธิบายการมองเห็นแสงสี สีของวัตถุ
เขา้ สู่ตาเรา และผา่ นเข้ามาในลูกตา ไปทำใหเ้ กิดภาพบนจอ (Retina) ที่อยู่ การผสมสารสี การผสมแสงสี รวมทั้งอธิบายสาเหตุ
ด้านหลังของลูก ข้อมลู ของวตั ถทุ ่ีมองเหน็ จะส่งข้ึนไปสูส่ มองตามเส้นประสาท ของการบอดสี ความสว่าง และการถนอมสายตาได้
(optic nerve) สมองจะแปลข้อมลู เป็นภาพของวตั ถนุ ้ัน
3. สาระการเรยี นรู้ 4. ชิ้นงาน/ภาระงาน
ตาและการมองเห็น 1. ใบงาน KWL เร่ือง ตาและการมองเห็น
2. ใบงาน Pisa เร่ือง การสะทอ้ นของแสง
5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น 6. เครือ่ งมือการสอนคิด
- ความสามารถในการส่ือสาร - KWL
- ความสามารถในการคิด
- ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
กจิ กรรมการเรียนรู้
7. ข้นั ของกจิ กรรม 8. สอื่ 9. วิธกี ารวัดผล
Do Now (3 นาท)ี - ใบ ความรู้ เรื่องต า - ประเมินใบงาน
KWL เร่อื ตา
บอกชื่อเพลงสากลท่นี กั เรียนชน่ื ชอบ และการมองเหน็ และการ
มองเห็น
Purpose (2 นาท)ี - ใบงาน KWL เร่ืองตา
- ประเมนิ จากใบ
เราจะเรยี นเรื่อง ตาและการมองเห็น เพ่ือนักเรยี น อธิบาย เกยี่ วกบั ความสว่าง และการมองเห็น งาน Pisa เรอ่ื ง
การสะทอ้ นของ
และการถนอมสายตา ได้ - ใบ งา น Pisa เร่ื อ ง แสง
Work mode (110 นาท)ี การสะท้อนของแสง
1. นักเรยี นทำกจิ กรรม KWL เร่อื ง ตาและการมองเหน็ โดยตอบคำถาม “นกั - คลิปวีดีโอ เรื่อง ตา
เรียนรูอ้ ะไรเกย่ี วกับตาและการมองเห็น” ลงในชอ่ ง K (10 นาท)ี แ ล ะ ก า ร ม อ ง เ ห็ น
2. นกั เรยี นและครอู ภิปรายร่วมกนั บนกระดาน ในหวั ขอ้ นักเรยี นรอู้ ะไรบ้าง https://www.youtub
เกีย่ วกบั ตาและการมองเหน็ (5 นาที) e.com/watch?v=1E
3. นักเรยี นตอบคำถาม “นกั เรยี นอยากรู้อะไรบ้าง เกย่ี วกบั ตาและการมองเหน็ ” WewhqN7gY
ลงในช่อง W (5 นาที)
4. นกั เรียนและครอู ภปิ รายรว่ มกนั บนกระดาน ในหัวขอ้ นักเรยี นอยากรู้
อะไรบา้ ง เกยี่ วกบั ตาและการมองเหน็ (5 นาที)
5. นกั เรียนดูคลปิ วีดโี อ เรื่อง เลนส์บาง (15 นาที)
6. นักเรียนศกึ ษาใบความรู้ เรือ่ ง ตาและการมองเหน็ (พอเพยี ง3 การมี
ภูมคิ ุม้ กันท่ดี ใี นตวั ) (15 นาที)
7. นักเรยี นฟงั ครูอธิบายเพิม่ เตมิ เรือ่ ง ตาและการมองเห็น (15 นาที)
8. นักเรียนวเิ คราะห์ข้อมลู เกยี่ วกับการสะทอ้ นของแสงเพ่ือทำใบงาน Pisa เรื่อง
การสะท้อนของแสง (สมรรถนะ2) (10 นาที)
9. นักเรียนตอบคำถาม “นกั เรียนไดร้ อู้ ะไรบ้าง เก่ียวกบั ตาและการมองเหน็ ”
ลงในช่อง L (10 นาที)
10. นักเรียนและครูอภิปรายร่วมกันบนกระดาน ในหวั ขอ้ นักเรยี นไดร้ ้อู ะไรบา้ ง
เกย่ี วกับตาและการมองเห็น(คดิ 3 คดิ วิพากย)์ (สมรรถนะ3) (10 นาที)
11. นกั เรยี นและครู รว่ มกันสรุปความรู้ (10 นาท)ี
Reflective Thinking (5 นาท)ี
1. จากการเรียนในวันนน้ี ักเรียนไดร้ ับความรู้อะไรบา้ ง (2 นาที)
2. ขอ้ สอบจาก (www.pec9.com)จำนวน 1 ขอ้ (3 นาท)ี
ขอ้ สอบจาก (www.pec9.com)
ใบความรู้
เรอ่ื ง ตาและการมองเหน็