The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โยคสังครหเปรตพลีวิธี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โยคสังครหเปรตพลีวิธี

โยคสังครหเปรตพลีวิธี

Keywords: โยคสังครหเปรตพลีวิธี

瑜伽集要施食儀軌
โยคสงั ครหเปรตพลีวธิ ี

~1~

Nationnal Library of Thailand Catologing in Publication Data
ข้อมลู ทางบรรณานกุ รม ของสาํ นกั หอสมดุ แหง่ ชาติ
ชื่อผ้แู ปลและเรียบเรียง (นามแฝง) : 菩提金剛 โพธิพฤกษ์ โพธิวชั ระ ;
ชื่อหนงั สอื : 瑜伽集要施食儀軌 โยคสงั ครหเปรตพลวี ธิ ี –
กรุงเทพ ฯ : Tripurity Books, 2561. April 2018
จํานวนหน้า 360 หน้า
หมวด 290 ศาสนาพทุ ธ (มหายาน และ วชั รยาน)
ISBN : 978-616-468-237-5

 Creative Commons License This work is licensed under a
Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International
License.

 เป็ นธรรมทาน ไมส่ งวนลิขสิทธ์ิ แต่ ห้ามแก้ไข ดดั แปลง ตดั ทอน ต่อเติม และ ห้ามนําไปใช้
เพอื่ การเร่ียไร ห้ามนําไปใช้เพ่อื การขอรับบริจาค ห้ามนําไปใช้เพอ่ื การแลกเปล่ยี นใด และ
ห้ามนําไปใช้เพอื่ การพาณิชย์ ทงั้ โดยตรงและโดยอ้อม

 อํานวยการผลติ โดย Mahapadma ; เวบ็ ไซต์ : www.mahapadma.org
 พมิ พค์ รัง้ ท่ี 1 ปกออ่ น (พมิ พ์ขาวดํา) จํานวน 50 เลม่ : เมษายน พ.ศ. 2561 (April 2018)
 จดั พิมพ์โดย : Tripurity Books ; เว็บไซต์ : www.Tripurity.com

ติดตอ่ https://www.facebook.com/tripurity และ [email protected]
 ออกแบบปก และ พิสจู น์อกั ษร : เมฆา วลาหก
 พมิ พ์ท่ี : บริษัท จรัลสนิทวงศ์การพิมพ์ จํากดั

โทรศพั ท์ : 0-2809-2281-3 ; Fax. 0-2809-2284
 ผ้ชู ว่ ยส่ือส่ิงพิมพ์ : Fast-book ; เวบ็ ไซต์ : www.fast-books.com
 คําแนะนําในการพมิ พ์ : ขนาด A5 (148 x 210 mm)

~2~

~3~

~4~

本師釋迦牟尼佛 शाक्यमनु ि พระศากยมนุ ีพทุ ธเจ้า

~5~

~6~

蓮池祩宏 พระอาจารย์จหู ง

~7~

~8~

บานแผนก

緣起 。。。。。。。。。。。。。。。。。。13
คาํ ชีแ้ จงในการพมิ พ์ฉบบั นี ้。。。。。。。。。。。19
อกั ษรรัญชนา ๒๐ ตวั 。。。。。。。。。。。。。27
มณฑล 。。。。。。。。。。。。。。。31 – 33
อธิบายนยั แหง่ มณฑล 。。。。。。。。。。。。35
ปารมติ า (บารมี) ทงั้ ๑๐ บนฝ่ ามอื 。。。。。。。。59
คาํ นําฉบบั ภาษาจีน 。。。。。。。。。。。。。61
คาํ นําฉบบั ภาษาไทย 。。。。。。。。。。。。65
ประเพณีทงิ ้ กระจาด 。。。。。。。。。。。。81
โยคสงั ครหเปรตพลมี ณฑลพิธี 。。。。。。。。。89
ประวตั พิ ระอาจารย์จหู ง 。。。。。。。。。。。353

~9~

~ 10 ~

ขอหนังสอื เล่มน้ี ตอบแทนพระคณุ บิดรและมารดา แหง่ ข้าพเจ้า

๏ ข้าพเจ้าขอตงั้ จิตอทุ ศิ ผล บญุ กศุ ลนีแ้ ผ่ไปให้ไพศาล
ถึงบดิ ามารดาครูอาจารย์ ทงั้ ลกู หลานญาติมติ รสนิทกนั
คนเคยรักเคยชงั แตค่ รัง้ ไหน ขอให้มีสว่ นได้ในกศุ ลผลของฉัน
ทงั้ เจ้ากรรมนายเวรและเทวนั ขอให้ทา่ นได้กศุ ลผลนีเ้ทอญ ๚ะ๛

๏ โอมฺ สะรวะ กศุ ะละ-มลู านิ ปราณิน ทหุ ยามิ สะรวะ กุศะละ-มลู ะ ประ-
ปญั จะ ธะรมะตา สวะ-ภาวะ สธิ ยะ อรฆะ นะตะเย ๚ะ๛

~ 11 ~

~ 12 ~

緣起

此書吾譯而釋之,特答父母生育恩,
幾年恩怨難解分,既恩亦怨吾苦人。
迴向兄妹兩手足,跟母鑼鼓唱和行,
視吾為僕踩踏盡,天旋地轉跟吾拼。
迴向六親諸眷屬,各世各代祖先族,
還有冤親和債主,放下怨仇自得福。
迴向先賢大德人,一切眾人諸有恩,
迴向師長祖師等,迴向龍天護法神。
迴向所有諸教徒,仙道僧尼未脫俗,
買賣信仰執三毒,重名重利真糊塗;
輕慢祖師之教義,三業本來行不一,
擅說偽詐諸法理,內心修行卻如戲;
好教他人不明己,自作好人心未必,

~ 13 ~

批評好鬥抬高己,貪著觀寺諸法器。
迴向歷代富貴冑,得意忘本造諸仇,
耗費資源行淫欲,傷天害理對人欺。
迴向武士好戰爭,為名為利造人災,
對人對己有傷害,死後地獄墮火埃。
迴向知識書呆子,舞文弄墨喜吟詩,
花言巧語不爛舌,繁華之夢不可得。
迴向猛烈勇男女,世假義氣憂愁死,
青史留名永不在,幾年過後無人知。
迴向數術醫玄學,太極河洛星地穴,
五行陰陽及煉丹,相術符錄算不完;
浪說是為握天機,能造人福也救己,
往往落在各名利,此乃術人之歪理。
迴向商人做買賣,靠眾人財得利快,
有的生意只過活,也有富有可敵國;

~ 14 ~

賺錢賺錢賺人錢,賺多自喜可人嫌,
生敗家子討債怨,死成惡鬼在黃泉。
迴向上下職權官,善惡兩面難免端,
一失足成千古恨,官棺無奈實在亂。
迴向勞工一生苦,為人之下常惱怒,
身勞心累厭倦度,苦盡甘來則獲福。
迴向難產諸母子,平安無礙順生來,
若得產難或墮胎,願生極樂得依賴。
迴向諸苦三惡道,有佛指導而受度,
遠離八難三塗災,福慧雙全生蓮海。
迴向附佛諸外道,智慧開發莫再迷,
邪見非法不可取,皈依正法勝義諦。
迴向緣覺及聲聞,迴小向大莫再笨,
發廣大願三菩提,乃諸如来之法喜。
迴向一切諸有情,十方三世法界盡,

~ 15 ~

所有意到意不到,享福受苦皆接領;
得生淨土彌陀剎,不落一個佛來引,
蒙恩諸佛大悲心,一切眾生成佛盡。
迴向各國一切人,風調雨順無災害,
五穀豐登發大財,福壽康寧而自在。
迴向六道諸眾生,正知正見悟法義,
不要生為糊塗地,死後又作糊塗厲;
上之自往生西方,下之飄魂落茫茫,
願諸眾生淨土聚,莫再施場而相遇。
吾今情義兩盡絕,放下萬緣求往生,
世俗之間吾不爭,宗教方面吾也扔。

菩提金剛敬提
01/08/2018

~ 16 ~

~ 17 ~

~ 18 ~

คาช้ีแจงในการพิมพฉ์ บบั น้ี

ในการพมิ พ์ฉบบั นี ้ใช้ 《瑜伽集要施食儀軌》(CBETA X1080)
ในสมยั หมงิ เป็ นต้นฉบบั ในการแปล เรียบเรียง และจดั พิมพ์ โดยรูป
ภาพประกอบในหน้า 211 และ 212 นนั้ นํามาจาก《瑜伽燄口註集纂
要儀軌》(CBETA X1084) ในสมยั ราชวงศ์ชงิ

ในหน้า 95 – 104 ได้เพม่ิ มหากรุณาธารณี ในหน้า 158 – 164 ได้เพิม่ รูป
และพระนาม ของพระพทุ ธเจ้าทงั้ ๓๕ พระองค์ สว่ นในหน้า 165 – 166 ได้
เพ่ิม พระปรัชญาปารมติ าหฤทยั สตู ร ในหน้า 283 – 284 ได้เพม่ิ รูป
ประกอบและพระนามของพระอมฤตราชตถาคต และในหน้า 324 ได้เพม่ิ
สขุ าวดวี ยหู ธารณี ซง่ึ ต้นฉบบั ภาษาจีนเดมิ ได้ออกนาม แตไ่ มไ่ ด้ระบุ
รายละเอยี ดไว้

ในการแปลพระสตู ร คาถา ธารณี ฯลฯ เพ่ือความเป็ นมาตรฐาน ก็จะใช้
สาํ เนียงจีนกลางเป็ นหลกั ท่ปี ระเทศจีน สาํ เนยี งจีนกลาง ถกู ใช้เป็นภาษา
ราชาการอยา่ งน้อยที่สดุ ก็ตงั้ แตส่ มยั หมิง (ในความจริงอาจกอ่ นหน้านนั้ )
แตก่ ารแปลพระสตู รพทุ ธศาสนาสภู่ าษาจีน เริ่มมมี าตงั้ แตส่ มยั ฮนั่ (หรือ

~ 19 ~

กอ่ นหน้านนั้ ) บางพระสตู ร ต้นฉบบั ทีเ่ ป็ นสนั สกฤต ได้หายสาบสญู ไปแล้ว
หรือแม้แตพ่ ระสตู รท่แี ปลเป็ นภาษาจีน ก็หายไปบางสว่ นเช่นกนั และการท่ี
จะแปลจากภาษาจีน กลบั ไปเป็ นภาษาสนั สกฤต บางสว่ นทาํ ได้ แต่
บางสว่ นก็ทาํ ไมไ่ ด้ และแม้กระทาํ ได้ ก็ไมม่ ใี ครยนื ยนั ได้วา่ สง่ิ ท่ที าํ นนั้
ถกู ต้อง ในแงก่ ารศกึ ษา จงึ มีการสอบทานระหวา่ ง พระไตรปิ ฏกจีนเอง ทงั้
สมยั หมิง ชิง และพระไตรปิ ฏกเกาหลี ญี่ป่ นุ ทิเบต ฯลฯ

พทุ ธศาสนามหายานและวชั รยาน หลอมรวมกบั สงั คมและวฒั นธรรมจีน
คําศพั ท์ภาษาจีนในชีวติ ประจําวนั หลายคํามาจากพทุ ธศาสนา แม้แต่
ศาสนาเตา๋ และหรู (ขงจื่อ) ก็ยงั ต้องยมื คาํ ไปใช้ ทงั้ อรรถกถาหลายเลม่ ก็
เขียนขนึ ้ ในแผน่ ดนิ จีน จงึ อาจกลา่ วได้วา่ เป็ นพทุ ธศาสนามหายานแบบจีน
อาจจะไมจ่ ําเป็ นต้องเหมือนกบั ทท่ี เิ บต หรือของเดิมที่มาแตอ่ ินเดยี ๑๐๐%
แตอ่ ยา่ งใด

การแปลจะสตู รอนิ เดียสภู่ าษาจีน มี ๒ วธิ ี คือ ๑.音譯 แปลโดยพยญั ชนะ
หรือ แปลทบั เสยี ง และ ๒. 意譯 แปลโดยอรรถ คอื แปลโดยความหมาย
พดู แล้วก็อาจจะงงได้ ขอยกตวั อยา่ งคําวา่ 北俱盧洲 แปลวา่ อตุ รกรุ ุทวปี
(อตุ ตรกรุ ุทวปี ) โดย คาํ นี ้แบง่ ออกเป็ น ๓ สว่ น

~ 20 ~

๑. อตุ ร หรือ อดุ ร แปลวา่ ทศิ เหนือ จึงแปลเป็ นคาํ วา่ 北 ทีแ่ ปลวา่
ทศิ เหนอื นเี ้ป็ นการแปลแบบ แปลโดยอรรถ

๒. กรุ ุ แปลทบั เสยี ง เป็ น สาํ เนยี งจีนกลางวา่ 俱盧 จวหี ้ ลู (เข้าใจ
เองวา่ ตอนทแ่ี ปลคาํ นี ้ไมไ่ ด้ใช้สาํ เนยี งจีนกลาง เพราะถ้าใช้สาํ เนยี ง
อื่น เช่น ฮกเกีย้ น จะออกใกล้เคยี งคาํ วา่ กรุ ุ มากกวา่ น)ี ้

๓. ทวปี รูปศพั ท์คอื ทวิ + อาป แปลวา่ สถานท่ี ๆ มนี าํ ้ กระนาบ ๒
ข้าง หรือก็คือมนี าํ ้ ล้อมรอบ จงึ แปลโดยอรรถวา่ 洲

意譯 音譯 意譯

แปลโดยอรรถ แปลทบั เสยี ง แปลโดยอรรถ

北 俱盧 洲

อตุ ร กรุ ุ ทวปี

~ 21 ~

นอกจากนี ้อกั ษรจีนบางตวั ถกู คดิ ขนึ ้ เมือ่ พทธศาสนาเข้ามาสจู่ ีน เชน่ คํา
วา่ 魔 ทม่ี าจากคาํ เตม็ วา่ 魔羅 โดยได้จากการแปลทบั เสยี งวา่ “มา-ระ” ท่ี
แปลวา่ “มาร” เป็ นต้น

อกั ษรทจี่ ีน ทใ่ี ช้ในการแปลมนตร์ธารณีในภาษาจีน จะใช้การแปลแบบทบั
เสยี ง กลา่ วคือ ใช้อกั ษรจีนเลยี นเสยี งสนั สกฤต แตไ่ มม่ ีความหมายในเชิง
ภาษาจีน บรู พาจารย์ทา่ นใช้การเติมอกั ษร 口 ด้วยจะสอื่ วา่ เป็ นเพียงสทั
อกั ษร1เทา่ นนั้

สมยั กอ่ นเวลาจะพมิ พ์ จะแกะแมพ่ ิมพ์ด้วยไม้หรือเหลก็ ในการพิมพ์ ซงึ่ จะ
แกะยงั ไงก็ได้ แตก่ ารพิมพใ์ นปัจจบุ นั นนั้ บางอกั ษรไมร่ องรับ หรือแม้แต่
อกั ษรสทิ ธมั 2ก็ยากแล้ว ด้วยเหตนุ ี ้จึงมีการประดษิ ฐ์วธิ ีการพมิ พ์ เพอ่ื สอ่ื

1 擬聲字, 擬聲詞 Onomatopoeia สทั อกั ษร คือ อกั ษรที่ใช้ในการเลยี นเสียง
โดยไมม่ ีความหมาย
2 梵字, 梵書字, 悉曇字 อกั ษรสิทธมั เป็นช่ืออกั ษรแบบหนงึ่ ของอนิ เดยี ตอน
เหนือ ท่ีนยิ มใช้เขียนภาษาสนั สกฤต มที ่ีมาจากอกั ษรพราหมี โดยผา่ นการพฒั นา
จากอกั ษรคปุ ตะ ซง่ึ ก่อให้เกิดเป็นอกั ษรเทวนาครีในเวลาตอ่ มา และเกิดเป็นอกั ษร
อนื่ ๆ จํานวนมากในเอเชีย เช่น อกั ษรทิเบต เป็นต้น อยา่ งไรกต็ าม คําวา่ 梵書字

~ 22 ~

ความหมาย เชน่ [口*紇] แทนตวั โดยในการพมิ พ์ครัง้ นี ้จะแก้
เป็ น 紇 ซงึ่ ทงั้ ๒ ตวั นี ้ออกเสยี งเหมอื นกนั

ภาษาจีนไมม่ ีคาํ ควบกลาํ ้ เพือ่ ให้รองรับการออกเสยี งคําควบกลาํ ้ ในภาษา
สนั สกฤต บรู พาจารย์จงึ กําหนดรูปแบบวา่ (二合) ท่ีแปลวา่ “ทงั้ ๒ อกั ษร3
รวมกนั ” ซงึ่ พอเวลาผา่ นไป ก็ยงั คงเขยี นไว้ แตก่ ารออกเสยี งเวลาสวดมนตร์
บางแหง่ ก็ไมไ่ ด้เน้นการควบเสยี งมากนกั อนง่ึ ภาษาจีนกลาง มี ๔ เสยี ง
วรรณยกุ ต์ แตใ่ นการออกเสยี งธารณีแบบจีน มกั จะใช้เสยี งสามญั เป็ นหลกั

ในหนงั สอื เลม่ นี ้และอกั ษรสนั สกฤตโบราณ ในหนงั สือเล่มนี ้ไมใ่ ช่อกั ษรสิทธมั
หากแตเ่ ป็น อกั ษร 蘭札文 รญั ชนา (กตู ิลา, ลนั ต์ซา) ซงึ่ เป็นอกั ษรที่พฒั นามาจาก
อกั ษรพราหมี เมื่อราว พ.ศ. ๑๖๐๐ ใช้เขยี นภาษาสนั สกฤต ในอินเดยี และเนปาล
นอกจากนี ้ยงั มกี ารใช้อกั ษรนีใ้ นหมชู่ าวพทุ ธในจีน มองโกเลยี ทิเบต และญ่ีป่ นุ
อกั ษรชนิดนี ้นอกจากใช้เชียนภาษาสนั สกฤตแล้ว ยงั ใช้เขียนภาษาภาษาเนวารี
(เป็นภาษาหลกั ภาษาหนึ่งของเนปาล อยใู่ นตระกลู ทิเบต-พมา่ ) อกี ด้วย
3 บางคาํ นนั้ มีลกั ษณะคล้ายคํา ที่ไม่มปี ระวิสรรชนีย์ ในภาษาไทย คือ คาํ ท่ีประสม
สระอะ เวลาอา่ นออกเสียงคําท่ีไมป่ ระวิสรรชนีย์ จะอา่ นออกเสียง อะ กึ่งเสียง เช่น
ขนนุ ฉลาม ถลํา เมลด็ สารพดั สมยั ถนน ตลก ตลงิ ทนาย ทยอย สกดั สงบ สไบ
ขโมย ฯลฯ

~ 23 ~

ในท่ีนขี ้ องยกตวั อยา่ ง การควบเสยี ง ๒ คํา จากภาพประกอบหน้า 27 ดงั นี ้

เสียงสันกฤต อักษรจนี เสียงจนี กลาง เสียงจนี กลาง
แบบไม่ควบ แบบควบเสียง
bhrūṃ
怛囉 เสียง พรุ ง
(ภรูมฺ)
พ-ู รง
Trā
ตารา (ตะรา) ตรา
(ตรา)

ในการพมิ พ์ 瑜伽集要施食儀軌 โยคสงั ครหเปรตพลวี ิธี ครงั้ นี ้ในตอน
แรก วา่ จะพิมพ์ต้นฉบบจีน รวมกนั ไปด้วย แตม่ นั ก็จะลกั ลนั่ สบั สนเกินไป

~ 24 ~

จงึ จะพมิ พ์แตฉ่ บบั ภาษาไทยเทา่ นนั้ และในการพมิ พค์ รัง้ นี ้ในสว่ นของ
อกั ษรจีน จะใช้อกั ษรจีนตวั เตม็ 4

ด้วยความเคารพ
Mahapadma.org
๗ มกราคม ๒๕๖๑

4 繁体中文 Traditional Chinese characters อกั ษรจีนตวั เตม็ หรือ จีน
ดงั้ เดิม

~ 25 ~

~ 26 ~

อกั ษรรัญชนา ๒๐ ตวั 5

5 ภาพนีเ้รียงพมิ พ์ขนึ ้ ใหม่ ตามต้นฉบบั เดิม ซงึ่ จากภาพ อกั ษรจีน 藍 และ 覽 น่าจะ
สลบั กนั

~ 27 ~

อนั โยคธรรมปรยาย ล้วนมาแตก่ ารมนสกิ ารพชี อกั ขร6 รัญชนา เกิดฤทธิ
แปลเปลยี่ นพ้นประมาณ อปุ การะปวงสตั ว์โดยทว่ั ตวั หนงั สอื ในเบอื ้ งต้น ทงั้
๒๐ ตวั นี ้โยคีพงึ มนสกิ ารให้เป็ นวสี7 จงึ จกั สามารถขนึ ้ มณฑล กระทําพิธี
ได้ โครงสร้างอกั ษร เกิดแตธ่ รรมถตา จะผิดแตเ่ พียงน้อยก็มไิ ด้ เมอื่ สอบ
ทานกนั แล้ว ไมส่ ้ตู รงกนั ทงั้ หมด (เพราะ) ชนภายหลงั คดั ลอกสบื กนั มา
วปิ ลาสไปเป็ นอนั มาก บดั นอี ้ าศยั สอบทาน กบั พระปิ ฏกมงั กร8 ก่อนหน้า
นี ้มี ๓ บรรทดั รวม ๑๕ อกั ขระ ตอ่ มาเปลย่ี นแปลง ๕ อกั ขระ บรรทดั
สดุ ท้าย ยงั มคิ ลายกงั ขา ขอผ้ปู รีชา แตกฉานในธรรมสาคร ได้แก้ไข ให้
ถกู ต้อง ก็จกั ดมี าก ... (จงึ ชีแ้ จงมาเพอื่ ทราบ) ศกึ ษาชนพงึ แจ้ง ดงั ฉะนี ้

6 字種, 種子字 พชี อกั ษร พชี อกั ขระ คือ อกั ษรท่ีแทนด้วยพระพทุ ธเจ้าและพระ
โพธิสตั ว์ ในประเทศจีน ดงั้ เดมิ จะใช้อกั ษรสทิ ธมั , อกั ษรรญั ชนา สว่ นในทิเบต จะมี
การใช้อกั ษรทิเบตด้วย ในการมนสกิ ารภาวนาด้วย
7 วสี คอื ความชํานาญแคล่วคลอ่ ง
8 龍藏經 ปิ ฏกมงั กร คอื พระไตรปิ ฏกฉบบั 甘珠爾 བཀའ་འགྱུར “กนั จเู ออ๋ ร์”
(รวบรวมพระสตู รไว้) ของทิเบต โดยจะคกู่ นั กบั ฉบบั 丹珠爾 བསྟན་འགྱུར “ตนั จู
เออ๋ ร์ (รวบรวมศาสตร์, อรรถกถา ฯลฯ)

~ 28 ~

~ 29 ~

~ 30 ~

~ 31 ~

~ 32 ~

~ 33 ~

~ 34 ~

อธิบายนยั แห่งมณฑล

นยั แหง่ โยคสงั ครหเปรตพลพี ิธีนี ้เป็ นนยั แหง่ โยคกรรม9 แหง่ อนตุ ตรยาน
อนั จําต้องโปรดสรรพชีวติ แตเ่ ดมิ มีพธิ ีกรรมท่ีเรียบงา่ ย ไมซ่ บั ซ้อนใหญ่โต
ดงั ทพ่ี บในทกุ วนั นี ้ ทงั้ ไมม่ กี ารใช้โภคะจํานวนมาก ในการประกอบพธิ ี
อยา่ งไรกต็ าม ท่ีทาํ ในปัจจบุ นั นี ้ก็ไมถ่ ือวา่ ผดิ เพราะของที่ผา่ นการกระทาํ
พิธี ก็ได้นําไปบริจาค ให้คนยากจนอนาถา ถือเป็ นทานมยั บญุ กิริยาวสั ดุ
ประการหนงึ่

ตามนยั แหง่ บรุ าณ นอกจากวชั ระและระฆงั ท่เี ป็ นของอนั พเิ ศษแล้ว
อปุ กรณ์ในการทาํ พิธี ก็คอื สงิ่ ของทว่ั ไป เชน่ บาตรพระ อนั เป็ นอฐั บริขาร
ข้าว ดอกไม้ เคร่ืองหอม ฯลฯ ซง่ึ เป็ นของที่ ทายก ทายกิ า นํามาถวาย

9 โยคกรรม คอื กิจแหง่ ผ้ปู ระพฤตธิ รรม และอยา่ ได้หมายเอาว่า เป็นนยั แห่งโยคา
จาร มาธยมกะ ฯลฯ ทรรศนะทงั้ นี ้ผดิ พลาดมานาน พทุ ธศาสนา เป็นหนึ่งเดียว ไมม่ ี
สอง อนั สาํ นกั ตา่ ง ๆ คือ นยั แหง่ การถา่ ยทอด ไมใ่ ชก่ ารแบง่ พวก หรือ ทรรศนะท่ี
ตา่ งกนั ชนที่แทงตลอด ในพระสทั ธรรมนยั จะพบวา่ ธรรมทงั้ หลายเป็นเอก ไมม่ สี ว่ น
ใดท่ีขดั กนั

~ 35 ~

วธิ ีการทาํ พิธี ก็จะควา่ํ บาตรขนึ ้ ใช้ก้นบาตรจําลองมณฑลพธิ ี ตามนยั แหง่
สกลจกั รวาล ใจกลางก้นบาตร คอื เขาสเิ นรุราชบรรพต แวดล้อมด้วย ตะวนั
จนั ทรา สปั ตรัตนะ คือ แก้ว ๗ ประการ แหง่ พระเจ้าจกั รพรรดิ ซง่ึ ตามนยั
อนตุ ตรยาน จะเพมิ่ ขนึ ้ มาอกี ๑ คอื มหานธิ นรัตนะ (ขมุ ทรัพย์แก้ว) รวมเป็ น
๘ ทศิ ดงั นี ้

อษั ฏรัตนะ หรือ แก้ว ๘ ประการ ของพระเจ้าจกั รพรรดิ ได้แก่
๑. 輪寶 จกั รรัตนะ (จกั รแก้ว)
๒. 象寶 คชรัตนะ (ช้างแก้ว)10
๓. 馬寶 วาชีรตั นะ (ม้าแก้ว)11

๔. 如意寶 มณีรัตนะ (มณีแก้ว หรือ แก้วจินดามณี)
๕. 女寶 สตรีรัตนะ (นางแก้ว)12
๖. 主藏寶 บรุ ุษรัตนะ (ขนุ คลงั แก้ว)13

10 บ้างออกนามวา่ “หตั ถีรัตนะ” ฯลฯ
11 บ้างออกนามวา่ “อสั สรรัตนะ” ฯลฯ
12 บ้างออกนามวา่ “อิตถีรัตนะ” ฯลฯ

~ 36 ~

๗. 將軍寶 คฏครัตนะ (ขนุ พล หรือ แมท่ พั แก้ว)14

๘. 寶藏瓶 มหานธิ นรัตนะ15 (ขมุ ทรัพย์แก้ว)

ชนั้ ถดั ออกมาเป็ นเทอื กเขาสตั ตบริภณั ฑ์คีรี16 และวงถดั ออกมา คอื มหา
ทวปี ทงั้ ๔ ได้แก่

๑. 南贍部洲 ชมพทู วีป อยหู่ นทกั ษิณ (ทศิ ใต้)

๒. 西牛賀洲 อปรโคทานที วปี 17 อยหู่ นปัจฉิม (ทศิ ตะวนั ตก)

13 บ้างออกนามวา่ “คหบดรี ัตนะ” ฯลฯ
14 บ้างออกนามวา่ “ปรินายกรัตนะ” ฯลฯ
15 มหานิธนรตั นะ, มหานิธิรตั นะ
16 สตั ตบริภณั ฑ์คีรี เป็นชื่อภเู ขาในตํานานพทุ ธศาสนา เช่ือวา่ ตงั้ อยกู่ ลางป่ าหิม
พานต์ มีเทือกเขา ๗ เทือก ประกอบด้วย ๑. เทือกเขายคุ นธร ๒. เทือกเขาอิสนิ ธร ๓.
เทือกเขากรวิก ๔. เทือกเขาสทุ สั ๕. เทือกเขาเนมินธร ๖. เทือกเขาวนิ ตกะ ๗.
เทือกเขาอสั กรรณ แตล่ ะเทือกเขาจะเรียงเป็นชนั้ ๆ ล้อมรอบเขาพระสเุ มรุ และจะมี
แมน่ ํา้ สีทนั ดร อกี เจ็ดสาย คน่ั เทือกเขาแตล่ ะเทือกไว้ ซง่ึ ในการประกอบพธิ ีนี ้จะข้าม
คอื ละเว้น สตั ตบริภณั ฑ์คีรีนีไ้ ป ในขณะที่ มกี ารอธิบายวา่ สปั ตรัตนะ (แก้ว ๗
ประการ) แหง่ พระเจ้าจกั รพรรดินี ้กค็ ือ เทือกเขาสตั ตบริภณั ฑ์ครี ี นนั่ เอง
17 เถรวาทออกนาม Aparagodānī “อปรโคทานี” วา่ “อมรโคยาน”

~ 37 ~

๓. 東勝神洲 ปรู ววเิ ทหทวปี 18 อยหู่ นบรู พา (ทิศตะวนั ออก)
๔. 北俱盧洲 อตุ ตรกรุ ุทวีป อยหู่ นอดุ ร (ทิศเหนือ)

และยงั มีอนทุ วปี อีก ๘ 19 ทีอ่ อกนาม ดงั ตอ่ ไปนี ้

ทางหนหรดี (ทศิ ตะวนั ตกเฉียงใต้) ได้แก่
๑. 最勝洲 อตุ ตรมนั ตรีนีทวีป20
๒. 小拂洲 จามรทวปี

ทางหนพายพั (ทิศตะวนั ตกเฉียงเหนอื ) ได้แก่

18 บางแหง่ ออกนามวา่ “บพุ พวเิ ทหทวปี ” วา่ “ปพุ พวิเทหทวีป”, “บรุ พวิเทหทวปี ”,
“บรู พวิเทหทวีป” ฯลฯ
19 อนทุ วปี ทงั้ ๘ นี ้คมั ภีร์ฝ่ ายเถรวาท ไมไ่ ด้แสดงไว้ แตป่ รากฏทงั้ ใน มหายานและ
วชั รยาน
20 อตุ ตรมนั ตรีนีทวีป, อตุ ตรมนตรีทวปี บางแหง่ ออกนามวา่ Viśeṣavatī “วิเศษา
วด”ี

~ 38 ~

๓. 妙拂洲 วรจามรทวีป21
๔. 小行洲 กรุ ุทวปี

ทางหนอีสาน (ทศิ ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ) ได้แก่
๕. 勝道行洲 ควรทวีป
๖. 小勝神洲 เทหทวปี

ทางหนอาคเนย์ (ทศิ ตะวนั ออกเฉยี งใต้) ได้แก่
๗. 勝勝神洲 วิเทหทวปี
๘. 諂勝洲 ศกทวปี 22

และทนี่ อกออกไปคือ กําแพงจกั รวาล23 ตามภาพดงั นี ้

21 ในปัจจบุ นั พระครุ ุปัทมสมั ภวะ ได้พํานกั และแสดงธรรม อย่ทู ี่วรจามรทวีปนี ้
22 Shakdvipa, Shakadvipa ศกทวปี ; ในวิษณปุ รุ าณะ กลา่ ววา่ เป็ นเกาะกลาง
ทะเล อยทู่ างใต้ของศริ ะสาคร ขณะท่ีบางแหง่ อธิบายวา่ เป็นอีกช่ือของชมพทู วปี

~ 39 ~

อนั ใจกลางจกั รวาลนนั้ อนตุ ตรยานแสดงวา่ คอื เขาพระสเุ มรุน้อยและเขา
พระสเุ มรุใหญ่ อนั พระสเุ มรุน้อยนนั้ ก็คือ เขาพระสเุ มรุในทางเถรวาท ที่

23 กําแพงจกั รวาลนนั้ ภาษาจีนแบง่ ออกเป็น ๒ คือ 輪圍山 และ 鐵圍山 แตใ่ น
ภาษาสนั สกฤตนนั้ หมายเอากําแพงจกั รวาลเหมือนกนั

~ 40 ~

ยอดเขาจะมีพระอาทติ ย์และพระจนั ทร์ โคจรล้อมรอบ ยอดเขาเป็นท่สี วรรค์
ทีม่ เี ทพทงั้ ๓๓ องค์ปกครอง มที ้าวสกั กรินทราธิบดเี ป็ นประธาน ด้วยมอี ติ
เทพทงั้ ๓๓ องค์ สวรรค์นจี ้ งึ ได้นามวา่ “ตรัยตรึงส์”24 หรือ “ดาวดงึ ส”์ ใน
ภาษาไทย

24 บาลีออกวา่ “เตตฺตสึ ”

~ 41 ~

เขาพระสเุ มรุใหญ่ คอื สวรรค์ตงั้ แตช่ นั้ ยามาขนึ ้ ไป แสงอาทติ ยแ์ ละจนั ทร์
จะสอ่ งไปไมถ่ ึง แตย่ งั สกุ ใสสอ่ งสวา่ ง ด้วยรศั มจี ากกายแหง่ เทพทงั้ หลาย
เขาพระสเุ มรุใหญ่นี ้กอปรไปด้วยสวรรค์ ตงั้ แตช่ นั้ ยามาจนถงึ ชนั้ ปัญจ
สทุ ธาวาสเป็ น25ทส่ี ดุ

ปฏมิ ากรรม “เขาพระสเุ มรุ”
หน้าพระตาํ หนกั ยงเหอ พระราชวงั ต้องห้าม กรุงปักก่ิง ประเทศจนี
25 五淨居天, 五不還天 ปัญจสทุ ธาวาส หรือ สทุ ธาวาสภมู ิ เป็นชนั้ ท่ีเหลา่ พระ
พรหมในชนั้ นี ้ต้องเป็นพระพรหม อริยบคุ คล ในพทุ ธศาสนา ระดบั อนาคามี เท่านนั้

~ 42 ~

เหนือเขาพระสเุ มรุใหญ่ไปแล้ว เป็ นเขตของพระมหาโพธิสตั ว์และ
พระพทุ ธเจ้า โดยมพี ระเบญจธยานพิ ทุ ธแหง่ วชั รธาตเุ ป็ นประธาน ได้แก่

~ 43 ~

๑. 毗盧遮那佛 พระไวโรจนพุทธเจ้า อนั เป็ นพระตถาคตแหง่
ธรรมธาตสุ วภาวชญาน26 พระฉวีสขี าว ดาํ รงอยศู่ นู ย์กลาง27

26 法界體性智 ธรรมธาตสุ วภาวชญาน (ธมั ธาตสุ ภาวญาณ) ความรู้โดยรอบ
อนั แจ้งในสภาวะแห่งธรรมธาตทุ งั้ ปวง

~ 44 ~

๒. 阿閦佛 พระอกั โษภยพทุ ธเจ้า อนั เป็ นพระตถาคตแหง่
อาทรศชญาน28 พระฉวีสคี ราม29 ดาํ รงอยหู่ นบรู พา30

27 บางแห่งแสดงวา่ พระไวโรจนพทุ ธเจ้าทรงนิรมาณกาย ออกมาเป็นอกี ๔ พระ
ตถาคตท่ีเหลอื (บ้างออกนามวา่ “大日如來”)
28 大圓鏡智 อาทรศชญาน (อาทสั สนญาณ) ความรู้โดยรอบ อนั แทงตลอดใน
สรรพส่ิงทงั้ หลาย

~ 45 ~

๓. 阿彌陀佛 พระอมติ าภพทุ ธเจ้า อนั เป็ นพระตถาคตแหง่
ปรตยเวกษณาชณาน31 พระฉวีสแี ดง ดาํ รงอยหู่ นประจมิ

29 สคี ราม คือ สี (ของท้อง) ฟ้ า หรือ สีนํา้ เงิน
30 บ้างออกนามวา่ “不動佛”
31 妙觀察智 ปรตยเวกษณาชณาน ความรู้โดยรอบ ความจําแนกแหง่ ลกั ษณะ
ทงั้ หลาย

~ 46 ~

๔. 寶生佛 พระรัตนสมั ภวพุทธเจ้า อนั เป็ นพระตถาคตแหง่ สม
ตาชญาน32 พระฉวีสเี หลอื ง ดาํ รงอยหู่ นทกั ษิณ

32 平等性智 สมตาชญาน (สมตาญาณ) ความรู้โดยรอบ อนั แจ้งในความเป็น
เช่นนนั้ เองแห่งสรรพสงิ่ ทงั้ หลาย

~ 47 ~

๕. 不空成就佛 พระอโมฆสิทธิพุทธเจ้า อนั เป็ นพระตถาคต
แหง่ กฤตยานสุ ถานชณาน33 พระฉวีสนี ลี 34 35 ดาํ รงอยหู่ นอดุ ร

33 成所作智 กฤตยานสุ ถานชณาน (กตานสุ ถานญาณ) ความรู้โดยรอบ อนั แจ้ง
ในความสําเร็จแหง่ สถานะทงั้ หลาย

~ 48 ~

จากนนั้ แล้ว เหนือพระธยานติ ถาคตขนึ ้ ไป ถือเป็ นจดุ สงู สดุ ของจกั รวาล อนั
เป็ นท่ีประทบั ของพระอาทิพทุ ธเจ้า36

34 นีล สเี ขียวเข้ม
35 เร่ืองสีพระฉวีของพระอกั โษภยพทุ ธเจ้าและพระอโมฆสทิ ธิพทุ ธเจ้า บางแหง่
แสดงไว้สลบั กนั
36 “พระอาทิพทุ ธเจ้า” มอี ีกนามวา่ “พระสมนั ตภทั รตถาคต”

~ 49 ~

~ 50 ~


Click to View FlipBook Version