The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โยคสังครหเปรตพลีวิธี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โยคสังครหเปรตพลีวิธี

โยคสังครหเปรตพลีวิธี

Keywords: โยคสังครหเปรตพลีวิธี

ต่อมา กระทา ปาปฉินน331มทุ รา

(อษั ฏปารมิตาผสานกนั กษานตแิ ละปรณิธาน ยน่ื ขนึ ้ มาดจุ เข็ม แล้ววา่
มนตร์ดงั น)ี ้

๏ โอมฺ วชั รปาณี วิสโผฏะยะ สะรวะ อปายะ พันธนานิ ประ-
โมกษะยะ สะรวะ อปายะ-คติภยะหฺ สะรวะ สัตตวาน สะรวะ ตะถา
คะตะ วชั ระ-สะมะยะ หมู ฺ ตรา ฏะ ๚ะ๛332

331 摧罪 ปาปฉินนะ ทําลายบาป

332 唵。斡資囉(二合)巴尼月斯普(二合)吒耶。薩哩斡(二合)阿
巴耶。班塔拏尼。不囉(二合)穆恰耶。薩哩斡(二合)阿巴耶。
葛諦毗藥(二合)。薩哩斡(二合)。薩埵喃。薩哩斡(二合)答塔葛

達。斡資囉(二合)。三麻耶。吽。怛囉吒。 (บางแห่งออกวา่ “โอมฺ
วชั รปาณี วิสโผฏะยะ สะรวะ อปายะ พนั ธนานิ ประ-โมกษะยะ สะรวะ อปายะ-คตภิ
ยะหฺ สะรวะ สตั ตวานํ สะรวะ ตะถาคะตะ วชั ระ-สะมะยะ หมู ฺ ตระฏ”)

~ 251 ~

(เมอ่ื สวดมนตร์แลกระทํามทุ รา พงึ มนสกิ ารวา่ นวิ ้ ทีย่ ่นื ขนึ ้ มา นวิ ้ ซ้ายมี
อกั ษร ตรา นวิ ้ ขวามอี กั ษร ฏะ อกั ษรทงั้ ๒ นี ้ทอแสงสที อง มนสกิ ารกายตน
วา่ คือ พระอวโลกเิ ตศวรกายเขียว ทกุ ครัง้ ท่สี วด ๑ จบ นวิ ้ กลางทงั้ ๒ สน่ั ถู
ไปมา เสร็จแล้วปรบมอื ให้เกิดเสยี ง มนสกิ ารวา่ บาปกรรมดจุ ภเู ขา
กระเบือ้ ง แตกทําลายลง แลบาปกรรมทงั้ นนั้ ดงั เช่นควนั ไฟ ที่มนสกิ ารไว้ใน
เบอื ้ งต้น ก็กระจายหายไป ฉะนนั้

~ 252 ~

ปจุ ฉา : บาปกรรมไร้รูปลกั ษณ์ แล้วจะทาํ ลายได้เชน่ ไร ?
วิสชั นา : ก็เพราะไร้ลกั ษณ์ จงึ สามารถทาํ ลายได้ มาตรวา่ มอี ยเู่ ทยี่ งแท้
แนน่ อน แล้วจกั ทาํ ลายได้เชน่ ไร

จากนนั้ ผ้ชู ว่ ยกลา่ วดงั นี)้

~ 253 ~

~ 254 ~

นยิ ตกรรม333 มิอาจแปร
(แต่) ดว้ ย ศมาธิ อธษิ ฐาน
อาวรณธรรมทงั้ หลาย อันมิรู้ต้น
ล้วนภนิ นะ ไปโดยพลัน

333 定業 นิยตกรรม กรรมอนั มีกําหนด ท่ีต้องสง่ ผล ไมอ่ าจแก้ไขได้

~ 255 ~

ตอ่ มา กระทา ภินนนิยตกรรม334มทุ รา

(สองหตั ถ์ กระทาํ วชั ราญชล3ิ 35 วีรยะและพละ งอข้อท่ีสอง ธยานและ
ปรัชญา กดทงั้ ๒ ปารมติ าไว้ แล้วกลา่ วปริกรรม336มนตร์ ดงั น)ี ้

๏ โอมฺ วชั ระ กะรมะ วโิ ศธะยะ สะรวะ อาวะระณานิ พุทธะ สตั เย
นะ สะมะยะ หูมฺ ๚ะ๛337

334 破定業 ภินนนิยตกรรม ทําลายนิยตกรรม
335 金剛掌 วชั ราญชลิ (วชั ระ + อญั ชล)ิ คล้ายการประนมหตั ถ์
336 淨業 ปริกรรม บริกรรม การยงั บาปกรรมให้พิศทุ ธิ์

337 唵。斡資囉(二合)葛哩麻(二合)。月束塔耶。薩哩斡(二合)。阿
咓囉拏你。菩塔薩底曳(二合)納。三麻耶吽。

~ 256 ~

(เมอ่ื สวดมนตร์ แลกระทาํ มทุ รา พงึ มนสกิ ารวา่ ท่ีดวงหทยั จนั ทรจกั ร
บงั เกดิ อกั ขะ หรีหฺ สเี ขียว ทอแสงประภาส สอ่ งไปยงั เปรต ฯลฯ ทงั้ หลาย
บาปกรรมอนั ใด ทพ่ี ระตถาคตมาอบุ ตั แิ ล้ว ไมส่ ามารถกระทาํ กษมาปรติ

~ 257 ~

เทศนา338ได้ พงึ มนสกิ ารวา่ เกิดความบริสทุ ธิ์ ดงั ไมเ่ คยลว่ งมากอ่ น
มนสกิ ารวา่ เปรต ฯลฯ ทงั้ หลาย กบั พระตถาคตเจ้าทงั้ หลาย มีจิตร
เหมือนกนั โดยไมม่ คี วามแตกตา่ ง นคี ้ อื การทาํ ลายบาปกรรมแล อนั ธรรมนี ้
คือ การทาํ ลายชเญณาวรณ์339 ศกึ ษาชนพงึ แจ้งดงั ฉะนี ้จากนนั้ ผ้ชู ว่ ย

กลา่ วดงั น)ี ้

338 懺悔 กษมาปรติเทศนา คอื การรับผดิ ขอขมา และขออดโทษ ในบาปกรรม
ทงั้ หลาย ที่ตนได้กระทําไว้
339 所知障 ชเญณาวรณะ ชเญณาวรณ์ คอื ความรู้อนั เป็นเครื่องปิ ดกนั้ ความยึด
มนั่ ในความรู้ ฯลฯ

~ 258 ~

สภาวะแหง่ บาป เดมิ ว่างเปล่า ล้วนเกิดจากใจ
ใจ มาตรว่าทาลายแล้ว บาปยอ่ มสลาย
จิตรทาลาย บาปดับ ทงั้ สองศนู ย์
น้คี ือ การกษมาปรติเทศนา ท่ีแท้จริง340

ตอ่ มา กระทา กษมาปรติเทศนาภินนปาป341มทุ รา

(สองหตั ถ์ กระทําวชั รพนั ธะ ปารมิตาทงั้ ๖ ประสานกนั ภายนอก วรี ยะและ
พละ งอข้อทีส่ อง ธยานแลปรัชญา กดทงั้ สองปารมติ านนั้ ไว้)

๏ โอมฺ สะรวะ ปาปะ วสิ โผฏะ ทะหะนะ วัชรายะ สวาหา ๚ะ๛342

340 คาถา ๔ บาทนี ้คอื นยั ท่ีแท้ แหง่ การกษมาปรติเทศนา ชนผ้แู จ้งในอรรถทงั้ นี ้
บาปกรรมทงั้ ปวง ยอ่ มปราศไป โดยไม่ต้องทํากิจใด
341 懺悔滅罪 กษมาปรติเทศนาภินนปาป การขมากรรมทําลายบาป

342 唵。薩哩斡(二合)巴鉢。月斯普(二合)吒。怛賀納。斡資囉 (二

合)。耶。莎訶。 (บางแหง่ แสดงไว้วา่ “โอมฺ สะรวะ ปาปะ ทะหะนะ วิสโผฏะ วชั
รายะ สวาหา”)

~ 259 ~

(เม่ือสวดมนตร์ แลกระทาํ มทุ รา พงึ มนสกิ ารวา่ นวิ ้ ท่ีงอทงั้ ๒ ข้าง มีอกั ขระ
หรีหฺ สขี าว ทอแสงสกุ ใส ดจุ ดวงตะวนั ยงั ให้มลทนิ แหง่ บาป อนั มสี ณั ฐาน
ดาํ ดจุ นาํ ้ หมกึ ไหลออกจากเบอื ้ งบาท แหง่ สรรพชีวติ ทงั้ หลาย ไหลลงสู่
วชั ระตาลสถาน343 ฉะนนั้

343 金剛際 วชั ระตาลสถาน วชั ระบาดาล อยใู่ ต้ตาํ่ สดุ ชองจกั รวาล บางแหง่
เรียกวา่ 金剛地狱 นรกวชั ระ บ้างก็แสดงวา่ คอื อวิจิ (อเวจี) มหานรก

~ 260 ~

ปจุ ฉา : ก็ในเบอื ้ งต้น ได้ทําลายบาปกรรม สนิ ้ ไปแล้ว แล้วใยจึงกลบั มา
กระทํากษมาปรตเิ ทศนาอกี ?
วสิ ชั นา : กอ่ นหน้านคี ้ อื นยั แหง่ กษมาปรตเิ ทศนา แตบ่ ดั นคี ้ อื กิจแหง่
กษมาปรตเิ ทศนา (ดงั นแี ้ ล้ว) นยั และกิจ ยอ่ มพ้นจากอาวรณ์ จึงไมถ่ ือวา่
ซํา้ ซ้อน
ปจุ ฉา : ก็แลเหตใุ ด จึงต้องมนสกิ ารวา่ บาปกรรมมสี ณั ฐานดํา ดจุ นํา้
หมกึ ?
วสิ ขั นา : บาปกรรมเป็ นกรรมดาํ จึงให้มนสกิ ารดจุ หมกึ และเพราะเพือ่ ให้มี
การไหลลงเป็ นลกั ษณะ จึงได้ให้มนสกิ ารวา่ เป็ นนาํ ้ ฉะนนั้ )

~ 261 ~

อันปวงพทุ ธบุตร เม่อื กระทากษมาปรติเทศนาแลว้
บาปกรรมนับร้อยกัลป์ ล้วนปราศโดยฉบั พลัน
ดจุ เพลิงผลาญหญา้ แห้ง วนิ าศส้นิ มิหลงเหลอื

ด่ังหยาดอทุ กอันไหลเย็น จกั ระงบั ความกระหาย
ประพรมอภิเษกปรยาย ยงั ใหส้ งบและบนั เทิง

~ 262 ~

(ตอ่ ไปนี ้สวดนามพระตถาคตทงั้ ๗ และกระทาํ มทุ รา)

ตอ่ มา กระทา พระสุรูปตถาคต344 อมฤตทาน345มุทรา

(บ้างก็ออกนามวา่ “ศีตทานมทุ รา”346 ย่นื หตั ถ์ออกไปด้านหน้า ดดี พละ
และปรัชญาปารมติ า แลกลา่ วอมฤตทานมนตร์ ดงั น)ี ้

๏ นะโม สรุ ปุ ายะ ตะถาคะตายะ ตทั ยะถา โอมฺ สุรุ สุรุ ประสุรุ
ประสุรุ สวาหา ๚ะ๛347

344 妙色身如來 พระสรุ ูปตถาคต, พระสรุ ูปกายตถาคต
345 施甘露 อมฤตทาน การให้อมฤตเป็นทาน
346 施清凉印 ศตี ทานมทุ รา มทุ ราอนั ประทานความช่มุ ชืน้ และร่มเย็น

347 那謨蘇嚕癹耶。答塔葛達耶。怛牒塔。唵。酥嚕酥嚕。鉢

囉(二合)酥嚕。鉢囉(二合)酥嚕。莎訶。 (บางแหง่ แสดงวา่ “นะโม สรุ ุปายะ
ตะถาคะตายะ ตทั ยะถา โอมฺ สรุ สรุ ประสรุ ประสรุ สวาหา”)

~ 263 ~

(เม่อื สวดมนตร์ แลกระทาํ มทุ รา พงึ มนสกิ ารวา่ ที่หตั ถ์ซ้าย บนปรณิธาน
เกิดอขั ระ วํ สขี าว มีนาํ ้ อมฤต สเี งินยวง ไหลออกมา นเี ้กิดแตป่ รัชญา มือ
ขวาแตะขนึ ้ มา แล้วดดี ออกไปในอากาศ มนสกิ ารวา่ ปวง เทวะ มนษุ ย์
เปรต ฯลฯ ตา่ งสมั ผสั ด้วยนาํ ้ อมฤตนนั้ ก็พลนั มีรูปกาย ลกั ษณะสมบรู ณ์
งดงาม เพลงิ อนั กล้าทงั้ หลาย ล้วนปลาสนาการไป ตา่ งพ้นแล้ว จากความ
หิวกระหาย เข้าถงึ ความชมุ่ ฉํ่าร่มเย็นโดยทวั่ กนั ทําลายแล้วซงึ่ จิตตาภิ

นิเวศายาวรณ์348)

348 心執障 จิตตาภินิเวศายาวรณ์ จิตตาภินิเวศายาวรณะ เคร่ืองกนั้ อนั เกิดจาก
ความยึดมนั่ แหง่ จิตร

~ 264 ~

อนั บาปกรรมทั้งหลาย ที่เกดิ จากมัตสระ349เปน็ ตน้

349 慳貪 มตั สระ มจั ฉริยะ คอื ความหวงแหนตระหนี่ มี ๕ ประการ ได้แก่ ๑.
อาวาสมจั ฉริยะ หวงที่อย่อู าศยั ๒. กลุ มจั ฉริยะ หวงสกลุ คือ การหวงในสกลุ ผู้
อปุ ัฏฐาก หรือเป็นผ้มู มี านะ ถือในสกลุ แหง่ ตน ไมเ่ กี่ยวขอั งด้วยสกลุ อื่น ๓. ลาภ
มจั ฉริยะ หวงในทรัพย์ ลาภสกั การะ (ทานมจั ฉริยะ) ฯลฯ ๔. วณั ณมจั ฉริยะ หวงใน

~ 265 ~

ท่ีเธอทงั้ หลาย กระทามา เป็นอนนั ตกลั ป์
อันบาปทัง้ นนั้ ได้ปดิ ศอ เอาไว้
จงเปดิ ออก ดว้ ยเดช แหง่ มนตร์นี้

ตอ่ มา กระทา อคุ ฆาฏยาติกณั ฐ350มุทรา
๏ โอมฺ นะโม ภะคะวะเต วิปุละ-คาตรายะ ตะถาคะตายะ ๚ะ๛351

คําสรรเสริญ คาํ ชม ในผิวพรรณ วรรณะ ฯลฯ ๕. ธมั มมจั ฉริยะ หวงแหนในธรรม
ความรู้ ฯลฯ
350 開咽喉 อคุ ฆาฏยาตกิ ณั ฐ์ เปิ ดคอ (ปกตแิ ล้ว เปรตจะมีปากเท่ารูเขม็ หรือ มี
คอปาก ที่ปิ ดเอาไว้ ทําให้กินอะไรไมไ่ ด้)

351 唵。那謨癹葛咓諦。月補辣葛得囉(二合)耶。答塔葛達耶。
~ 266 ~

(เมอื่ สวดมนตร์ แลกระทาํ มทุ รา พงึ มนสกิ ารวา่ บนหตั ถ์ซ้ายมนี ีลบุ ล352
บนบวั นนั้ มอี กั ขระ อาหฺ สขี าว และมอี ทุ กไหลออกมา เย็นชื่นใจเป็ นท่ยี ิ่ง
แลใช้มอื ขวาแตะนาํ ้ นนั้ แล้วดีดออกไปในอากาศ มนสกิ ารวา่ เปรตทงั้ นนั้
ปากและศอเปิ ดออก เยน็ ฉํ่าช่มุ ชนื ้ ไร้การตดิ ขดั

352 青色蓮花 นีลบุ ล บวั สีเขยี ว

~ 267 ~

ปจุ ฉา : ก่อนหน้านมี ้ นสกิ าร อกั ขระ หรีหฺ แล้วใยกาลนี ้กลบั มามนสกิ าร
อกั ขระ อาหฺ เลา่ ?
วิลชั นา : อนั อกั ขระ อาหฺ นี ้คอื พชี แหง่ วจนะ353 จงึ ได้อาศยั นยั แหง่ ตรีมลู
ตนั ตระ354 แล้วใช้ ฉะนนั้ )

ดกู ร พุทธบุตร บดั นไี้ ดส้ าธยายมนตร์และกระทามทุ รา เพ่ือใหค้ อของเธอ
เปิดออก ไรก้ ารติดขัด และพน้ จากทุกข์ทั้งปวง ดูกร พุทธบุตรท้ังหลาย
บัดนเ้ี ราจักสรรเสริญ พระนามอันเปน็ มงคล แหง่ พระตถาคตเจ้า อันจัก
ยังใหเ้ ธอทัง้ หลาย พน้ จากไตรอบายและอัษฏากษณะ มีปกติเปน็ พทุ ธบุตร
แห่งพระตถาคตเจา้ อันพสิ ทุ ธ์ิ ดังน้ี

353 語種 พชี แหง่ วจนะ เพราะเวลาออกเสียง คาํ วา่ “อาหฺ” จะออกเสียงนี ้จาก
ลาํ คอ จึงได้ใช้พชี อกั ขระนี ้ในการเปิ ดลาํ คอเปรตทงั้ หลาย
354 三本續, 三字總持真言 ตรีมลู ตนั ตระ คือ ๓ อกั ขระ อนั เป็นพนื ้ ฐานแหง่
มนตร์ทงั้ หลาย ได้แก่ ๑. “โอมฺ” คือ ความพิสทุ ธิ์แห่งกาย ๒. “อา” (อาหฺ) ความ
พิสทุ ธิ์แห่งวาจา ๓. “หมู ฺ” ความพสิ ทุ ธิ์แหง่ จิตร

~ 268 ~

ขอถวายความนอบนอ้ มแด่ พระรัตนตรตถาคต355

355 寶勝如來 พระรัตนตรตถาคต (บางแหง่ ออกพระนามวา่ “พระรัตนศิขนิ
ตถาคต” หรือ “พระรตั นเกตตุ ถาคต”)

~ 269 ~

(สองหตั ถ์ กระทาํ วชั ราญชลิ ปารมติ าทงั้ ๖ ประสานกนั วีรยะและพละ ยน่ื
มาชนกนั ธยานและปรัชญา ตงั้ ขนึ ้ สรรพชีวติ ทงั้ หลาย กลา่ วพระนามโดย

พร้อมเพรียงกนั )

~ 270 ~

๏ นะโม รัตนะ ตรายะ ตะถาคะตายะ ๚ะ๛356

(สวดนามพระตถาคต และกระทาํ มทุ รานี ้ตนยอ่ มไมห่ า่ งจาก พระอวโลกิเต
ศวร แล)

ดกู ร ปวงพทุ ธบุตร มาตรสดับพระนามแห่งพระรัตนตรตถาคต ย่อมจกั
ยงั ให้ทกุ ข์จากเพลิงแหง่ บาปกรรม แหง่ เธอทง้ั หลาย สน้ิ ไป

356 那謨囉怛納(二合)怛囉耶。答塔葛達耶。
~ 271 ~

ขอถวายความนอบนอ้ มแด่ พระวิคตตรณตถาคต357

(หตั ถ์ขวา ไว้ที่อกตงั้ ขนึ ้ กษานตแิ ละธยาน แตะกนั น้อมฝ่ ามอื ลง หตั ถ์ขวา
รับหตั ถ์บน)

357 離怖畏如來 พระวิคตตรณตถาคต บางแหง่ ออกนามวา่ “พระอภยชกร
(อภะยะชกะระ) ตถาคต”)

~ 272 ~

๏ นะโม วิคะตะ ตะระณายะ ตะถาคะตายะ ๚ะ๛358

ดูกร พทุ ธบตุ ร มาตรไดส้ ดบั พระนามแห่งพระวิคตตรณตถาคต ย่อมยงั ให้
เธอทง้ั หลาย มปี กตสิ งบสขุ พ้นจากความหวาดกลวั วศิ ทุ ธแ์ิ ละบันเทิง

358 那謨微葛怛得囉(二合)納耶。答塔葛達耶。
~ 273 ~

ขอถวายความนอบนอ้ มแด่ พระวิปุลคาตรตถาคต359

359 廣博身如來 พระวิปลุ คาตรตถาคต (บางแห่งแสดงวา่ นีเ้ป็นอกี พระนามของ
พระไวโรจนตถาคต กลา่ วคือ เป็นพระองค์เดยี วกนั )

~ 274 ~

(หตั ถ์ซ้าย งอนวิ ้ เข้า พละและปรชั ญา ดีดกนั ทไ่ี หล่ หตั ถ์ขวา กระทําวชั
ราญชลิ วรี ยะและธยาน ดดี กนั ทอ่ี ก)

๏ นะโม ภะคะวะเต วิปลุ ะ-คาตรายะ ตะถาคะตายะ ๚ะ๛360

360 那謨癹葛咓諦。月補辣葛得囉(二合)耶。答塔達耶。
~ 275 ~

ดูกร ปวงพทุ ธบุตร มาตรสดบั พระนามแหง่ พระวิปลุ คาตรตถาคต ยอ่ มจัก
ยงั ใหเ้ ธอทงั้ หลาย ทีม่ ปี ากดังรเู ข็ม มีเพลิงแหง่ กรรมเผาผลาญนน้ั ย่อมสงบ
ระงับ มีความร่มเย็นปลอดโปรง่ ท่ดี ืม่ และบริโภค ล้วนแล้วคืออมฤตรส

~ 276 ~

ขอถวายความนอบนอ้ มแด่ พระสุรูปตถาคต361

361 妙色身如來 พระสรุ ูปตถาคต (บางแหง่ ออกนามวา่ “พระสรุ ูปกายตถาคต”
ทงั้ ยงั กลา่ ววา่ นีเ้ป็นอกี พระนามของพระอกั โษภยตถาคต กลา่ วคอื เป็นพระองค์
เดียวกนั )

~ 277 ~

(หตั ถ์ขวา ตงั้ ตรงระดบั อก วรี ยะและธยานแตะกนั หตั ถ์ซ้ายงอ และคลาย
ออก ฝ่ ามือน้อมลง)

~ 278 ~

๏ นะโม สุรปู ายะ ตะถาคะตายะ ๚ะ๛362
ดูกร ปวงพุทธบตุ ร มาตรสดับพระนามแหง่ พระสรุ ปู ตถาคต ย่อมจักยงั ให้
เธอทั้งหลาย ไมต่ อ้ งอปั ลักษณ์ มีอินทรียบ์ ริบูรณ์ วเิ ศษาลังการ เป็นเอกท้งั
ในสวรรค์และมนุษยโลก

362 那謨蘇嚕八耶。答塔葛達耶。
~ 279 ~

ขอถวายความนอบนอ้ มแด่ พระพหุรัตนตถาคต363

363 多寶如來 พระพหรุ ัตนตถาคต (บางแห่งออกนามวา่ “พระประภตู รตั น
ตถาคต”)

~ 280 ~

(สองหตั ถ์หนั เข้าหากนั คล้ายประนมมอื มสี ณั ฐานคล้ายดอกอบุ ล)

๏ นะโม พะหุ รัตนายะ ตะถาคะตายะ ๚ะ๛364

364 那謨波虎囉怛納(二合)耶。答塔葛達耶。
~ 281 ~

ดูกร ปวงพทุ ธบตุ ร มาตรสดับพระนามแหง่ พระพหุรัตนตถาคต ย่อมจกั
ยงั ใหเ้ ธอท้ังหลาย ทรัพย์สินบริบูรณ์ สมดังมโนรถ มเี สพมิรูส้ ิน้

(ในต้นฉบบั ภาษาจีนเดิมนนั้ ไมม่ ปี รากฏพระนามและมทุ รา แหง่ “พระ
อมฤตราชตถาคต”365 แตใ่ นบดั นี ้มปี รากฏเป็ นท่ีแพร่หลาย จงึ นํามาลง

ร่วมไว้ ดงั นี)้ 366

365 มผี ้สู นั นิษฐาน โดยอาศยั 「往生咒」สขุ าวดีวยหู ธารณี วา่ 「甘露王如
來」 “พระอมฤตราชตถาคต” นี ้ อาจจะเป็นพระองค์เดียวกนั กบั 「阿彌陀如來」
”พระอมติ าภตถาคต”
366 อนั นามแหง่ พระตถาคตทงั้ ๗ นี ้(ยกเว้น “พระอมฤตราชตถาคต”) ปรากฏมา
ใน 瑜伽集要救阿難陀羅尼焰口軌儀經 แปลสภู่ าษาจีนในสมยั ถงั โดย
พระอโมฆวชั ระ (ค.ศ. ๗๐๕ – ๗๗๔)

~ 282 ~

ขอถวายความนอบนอ้ มแด่ พระอมฤตราชตถาคต367

367 甘露王如來 พระอมฤตราชตถาคต

~ 283 ~

๏ นะโม อมฤเต ราชายะ ตะถาคะตายะ ๚ะ๛368

ดูกร ปวงพุทธบุตร มาตรสดับพระนามแห่งพระอมฤตราชตถาคต ย่อมจกั
ยังให้เธอท้ังหลาย เย็นกายช่นื ใจ มปี กตสิ งบและบนั เทิง

368 那謨阿彌利諦。喝囉闍也。答塔葛達耶。
~ 284 ~

ขอถวายความนอบนอ้ มแด่ พระอมิตาภตถาคต369

369 阿彌陀如來 พระอมติ าภตถาคต

~ 285 ~

(หตั ถ์ขวาทบั ซ้าย ธยานและปรัชญา ชนกนั )

๏ นะโม อมิตาภายะ ตะถาคะตายะ ๚ะ๛370

370 那謨阿彌怛婆耶。答塔葛達耶。
~ 286 ~

ดกู ร ปวงพุทธบตุ ร มาตรสดับพระนามแห่งพระอมติ าภตถาคต ยอ่ มจกั
ยงั ใหเ้ ธอทัง้ หลาย ไปอุบัติ ณ. สขุ าวดีโลกธาตุ เป็นปทั มสมภพ เขา้ ถึงอวิ
นวิ รตนียภูมิ371

371 不退地 อวินิวรตนียภมู ิ คอื การเข้าถึงโพธิมรรคเป็นมน่ั คง จะไมห่ วนสไู่ ตร
อบาย ตลอดจน ไมค่ นื สศู่ ราวกยานและปรัตเยกยานอกี แล้ว

~ 287 ~

ขอถวายความนอบนอ้ มแด่ พระโลกวสี ตีรณเตเชศวรประภาตถาคต

~ 288 ~

(หตั ถ์ขวา งอควํ่าลง กษานติและธยาน ดดี กนั หตั ถ์ซ้าย หายขนึ ้ ดชั นที งั้ ห้า
คลายออก แล้วสวดมนตร์น)ี ้

๏ นะโม โลกะวสี ตีรณะเตเชศวะระ-ประภายะ ตะถาคะตายะ ๚ะ๛372

372 那謨盧迦委斯諦。(二合)呤捺(二合)弟唧說囉。不囉(二合)
癹耶。答塔葛達耶。

~ 289 ~

ดกู ร ปวงพุทธบุตร มาตรสดับพระนามแห่งพระโลกวสี ตีรณเตเชศวรประภา
ตถาคต ย่อมจกั ยังใหเ้ ธอทง้ั หลาย เข้าถงึ อนศุ ังศะ (อานิสงส์) ทง้ั ๕
ประการ ไดแ้ ก่ ๑. เป็นเอกในโลกยี ะ ๒. เข้าถงึ โพธสิ ัตวกาย มอี ลงั การอัน
วเิ ศษ ๓. มเี ดชานุภาพอปั ระไมย เหนือกวา่ เดียรถีย์ เทพ มาร ทงั้ ปวง ดุจ
สุริโยภาสทสี่ อ่ งโลกา ดังมหาสมุทราอนั ยงิ่ ใหญ่ เป็นมหากศุ ลอนั ยิง่ ๔.
เขา้ ถึงความเป็นมเหศวร373 สมดงั มโนรถ ดุจวิหคท่ีบินไปในอากาศ ไร้ซง่ึ
อุปสรรคใด ๕. เขา้ ถงึ มหาทฤฒยปรัชญาประภาส374 กายและจติ รสกุ สว่าง
ดุจแก้ววิฑรู ย์

ดกู ร ปวงพทุ ธบตุ ร อนั พระตถาคตทง้ั ๗ น้ี อาศยั ปรณธิ านพละ โปรด
สรรพชีวติ ปราศจากกเิ ลสโดยสมุจเฉท พน้ จากไตรอบาย มปี กตเิ ปน็ สขุ
กล่าวรฤกพระนามเพยี งหน่ึงครง้ั จักยงั ให้สหสรสรรพชีวิต พน้ จากทกุ ข์
เขา้ ถงึ อนุตตรมรรค (กลา่ ว ๓ ครงั้ )

373 大自在 มเหศวร อีศวระ อิศวร อิสระ ความเป็นใหญ่อนั ย่ิง พ้นจากอาวรณะ
แห่งกาละ เทศะ ฯลฯ
374 大堅固智慧光明 มหาทฤฒยปรชั ญาประภาส ปัญญาอนั เรืองรองและแขง็
กล้าเป็ นที่ย่ิง

~ 290 ~

ต่อไป ขอใหเ้ ธอท้งั หลาย ถือพระรัตนตรัย วา่ เป็นศรณะ

๏ พทุ ธ ศะระณ คจั ฉามิ ธะรมม ศะระณ คจั ฉามิ สงั ฆ ศะระณ คจั ฉามิ ๚ะ๛
เขา้ ถงึ พระพทุ ธเจ้า ว่าเป็นศรณะแลว้ ย่อมพน้ จากนรกภมู ิ โดยสมจุ เฉท
เขา้ ถงึ พระธรรมเจ้า ว่าเป็นศรณะแลว้ ย่อมพน้ จากเปรตภูมิ โดยสมจุ เฉท
เข้าถึงพระสงั ฆเจ้า วา่ เปน็ ศรณะแล้ว ยอ่ มพ้นจากตริ จั ฉานภูมิ โดยสมุจเฉท

ดูกร ปวงพุทธบุตร การเข้าถึง พุทธศรณะ ธรรมศรณะ สงั ฆศรณะ การ
เข้าถงึ พระรตั นตรยั วา่ เปน็ ศรณะดังน้ี ย่อมมีธรรมสมตา375คอยบริรกั ษ์
พน้ จากมถิ ยาทรรศนะ ดังนแี้ ลว้ จงึ ควรประสันนาภวิ าท376

ต่อมา กระทา พระรัตนตรัย มุทรา

375 法堅 ธรรมสมตา
376 至心禮 ประสนั นาภิวาท การกราบไหว้ ด้วยจิตรเล่ือมใสอนั ย่ิง

~ 291 ~

(หตั ถ์ซ้าย กระทาํ มษุ ฏิลกั ษณะ วรี ยะยน่ื ขนึ ้ ทร่ี ะดบั อก หตั ถ์ขวา งอพละ
ปารมติ า จิตรมนสกิ าร มนตร์ดงั นี)้

๏ โอมฺ ภูหฺ ข ๚ะ๛377

377 唵婆(重呼)龕。

~ 292 ~

นะโมพุทธายะ นะโมธรรมมายะ นะโมสงั ฆายะ บดั น้ี ข้า ฯ ขอ
ตั้งปรณิธาน ไมป่ รารถนาใน มนุษยสมบัติและสวรรคสมบตั ิ ไมป่ รารถนา
ใน ศราวกและปรตั เยกะ ตลอดจน ไม่ปรารถนาใน สมมตุ ิยาน378

อนั พระโพธสิ ตั วท์ ง้ั หลาย พงึ ถอื เอาอุตตรยาน ตงั้ ปรณิธานโพธจิ ิตร ขอให้
ปวงสรรพชวี ิต ต่างร่วมกนั เข้าถึงอนตุ ตรอภสิ ัมโพธิ ในกาลบัดนี้

บัดนี้ ขา้ ฯ ตั้ง พทุ ธิจิตร
หา่ งไกล จากปวง สภาวะลกั ษณ์

ขนั ธ์ และอายตนะ ทงั้ หลาย
ส่ิง ท่สี ามารถ ยึดถือเอา
สรรพธรรม ทั้งหลาย ล้วนอนาตมนั

378 權乘 สมมตุ ิยาน คือ ยานหรือคําสอน อนั เสมอื น หมายเอา คาํ สอนใด ๆ ใน
บวรพทุ ธศาสนา ที่ยงั ไมเ่ ข้าถงึ สตั ยเอกพทุ ธยาน ล้วนคือ สมมตุ ยิ าน แม้แตพ่ ระ
โพธิสตั ว์ ท่ียงั ไมเ่ ป็นที่พระมหาสตั ว์ ก็ถือวา่ เป็นสมมตุ ิยาน ตราบเมื่อเข้าถงึ ทศภมู ิ
โพธิสตั ว์ ถึงพร้อมด้วย มหาอินทรีย์, มหาปรัชญา ฯลฯ จึงจะถือวา่ พ้นจากสมมตุ ิ
ยาน

~ 293 ~

สมตา ดจุ อากาศธาตุ
จติ รเดมิ แต่ไร ไมเ่ คยเกดิ
ศูนยสวภาวะ บริบูรณ์ ศานติ
ดุจพระตถาคต โพธิสัตว์ ทัง้ หลาย
ตง้ั ปรณธิ าน มหาโพธจิ ติ ร
บัดนี้ ข้า ฯ กต็ ้ังปรณธิ าน เฉกกนั
จงึ ได้ กระทา ประสันนาภวิ าท

ต่อมา ขอใหเ้ ธอท้ังหลาย ตั้งปรณธิ านโพธิจติ ร ตงั้ ใจสดบั ดังน้ี

แมน้ วา่ มกี งจกั รเพลิง เผาผลาญท่ียอดเกศแห่งเธอ
ก็ไมพ่ งึ เพราะทกุ ขน์ ี้ ละท้งิ โพธจิ ิตร

ต่อไป กระทา ต้งั โพธิจิตรมทุ รา

~ 294 ~

(สองมือประนม เว้นตรงกลางไว้ สณั ฐานดจุ ดอกบวั วางไว้บนหฤทยั )

๏ โอมฺ โพธจิ ิตต อตุ -ปาทะยามิ ๚ะ๛379

379 唵補提即答沒怛巴達野彌。
~ 295 ~

(เมื่อสวดมนตร์ แลกระทํามทุ รา พงึ มนสกิ ารวา่ จติ ร พระตถาคต และสรรพ
ชีวติ ทงั้ ๓ ประการนี ้ล้วนไมต่ า่ งกนั เพียงชวั่ ลดั นวิ ้ มอื ก็หลอมรวมลงเป็ น

มหาจนั ทรจกั ร อนั โอฬาร ดจุ พระจนั ทร์วนั เพญ็ ในฤดศู ารท อนั ไร้เมฆ
ฉะนนั้ เยน็ กระจ่าง สะอาด สดใส เป็ นหนงึ่ เดียวกนั กบั อากาศธาตุ
ทา่ มกลางจนั ทรจกั รนนั้ เกิดอกั ษร อาหฺ สที อง (เบาบาง) ดจุ ปลายขนสตั ว์
เหมอื นมี เหมือนไมม่ ี กใ็ นขณะนนั้ ไมค่ วรเพม่ิ ความรู้380 เบอื ้ งบนนนั้ ไมม่ ี
พทุ ธะให้ตรัสรู้ เบอื ้ งลา่ งนนั้ ไมม่ สี รรพชีวิตให้ต้องโปรด ทา่ มกลางนนั้ ไร้
ธรรมทต่ี ้องบาํ เพ็ญ กเิ ลส โพธิ เกิด ตาย นริ วาณ ตา่ งพิสทุ ธ์ิสนิ ้ ทงั้ นีส้ าํ คญั
มาก ต้องมนสกิ ารให้ดี อยา่ งได้ยดึ วา่ มี เทพ เปรต ฯลฯ381 แล้วกระทาํ การ
อปุ การะ อนั ผ้บู าํ เพ็ญโยคะ พงึ แจ้งดงั ฉะนี ้จากนนั้ ประธานกลา่ วนาํ ทกุ คน

กลา่ วตาม ๓ ครงั้ ดงั น)ี ้

380 不得加於了知 ไมค่ วรเพ่ิมความรู้ คือ ไมพ่ งึ มีความรู้อนั เกิดจากแบง่ แยก
และวิปรยาย อนั เกิดจากความยดึ มนั่ วา่ มีตวั ตน
381 การยดึ วา่ มี สตั ว์ บคุ คล ตวั ตน ฯลฯ แล้วกระทํากิจใด ๆ ยอ่ มไมใ่ ชพ่ ทุ ธศาสนา
มหายาน และยิ่งหากยึดวา่ มตี วั ตน แล้วกระทําพธิ ีโยคเปรตพลีนี ้การณ์ทงั้ นนั้ ย่อม
ไมใ่ ช่ปารมิตา และจกั สญู เปลา่ ด้วย

~ 296 ~

บัดนใ้ี หเ้ ธอทั้งหลาย ต้ังปรณิธานโพธจิ ิตร อันปวงพทุ ธบุตรทั้งหลาย พงึ
แจ้งวา่ โพธิจิตรนน้ั เกดิ จากมหากรุณาจติ ร เป็นเหตแุ หง่ การตรัสรูอ้ นั ชอบ
แล้ว มูลชญาน สามารถทาลาย อวิทยา กเิ ลส และบาปกรรม ท้ังหลาย ไม่
มอี ะไรแปดเปอื้ น หรอื ทาลายได้ บัดนี้ เธอทัง้ หลาย พงึ สมาทานสมยศลี 382

382 三昧耶戒 สมยศีล คือ ศีลท่ีอาศยั โพธิจิตร ๓ ประการ เป็นพนื ้ ฐาน ใน 《大
乘起信論》 “มหายานศรัทโธตปาทศาสตร์” ที่ประพนั ธ์โดย 馬鳴菩薩 พระอศั ว
โฆษ ได้แสดงไว้ ได้แก่ ๑. 直心 เอกจิตร คือ จิตรอนั ซื่อตรงเป็นหนึง่ เดยี ว พ้นจาก
ศาฐยะ สามารถท่ีจะบําเพญ็ พระสทั ธรรม ๒. 深心 คมั ภีรจิตร คือ การเล่ือมใสใน
ความคมั ภีรภาพแหง่ พระสทั ธรรม จึงยินดที ่ีจะบําเพญ็ โดยมิเบอ่ื หนา่ ย ๓. 大悲心
มหากรุณาจิตร คือ ความสงสารในสรรพชีวติ ที่ต้องทนทกุ ข์ จึงมปี กตสิ ขุ ยินดีที่จะ

~ 297 ~

เธอรบั พุทธศีลแล้ว ก็เท่ากับเขา้ สพู่ ทุ ธฐานะ
ดุจมหาตรสั รู้แล้ว คือปวงพุทธที่แทจ้ ริง

บาํ เพญ็ ธรรม; ใน 《廣釋菩提心論》 “ภาวนากรรม” โดย 蓮花戒 พระกมล
ศลี (ค.ศ. ๗๔๐ – ๗๙๕) ได้อธิบายถงึ โพธิจิตร ๓ ประการไว้ ดงั นี ้๑. 行願菩提
心 ประณิธิโพธิจิตร (จรยปรณิธานโพธิจิตร) คือ คอื การบําเพญ็ ธรรมนานาประการ
เพอื่ การตรสั รู้ และโปรดสรรพชีวิต ตามปรณิธานที่ได้ตงั้ ไว้ อนั จิตรนี ้มแี ตใ่ นพระ
โพธิสตั ว์มหาบรุ ุษ ไมม่ ใี นเดียรถีย์ พระสาวก และพระปัจเจกพทุ ธเจ้า ๒. 勝義菩
提心 ปรมารถโพธิจิตร พระโพธิสตั ว์แจ้งวา่ สรรพธรรมไร้ซง่ึ สวภาวะ อนั การ
ปรารถนาในพระโพธิญาณนนั้ มีการสละ 世間之妄心 โลกียมิถยาจิตร คอื จิตรท่ี
สําคญั ผิดในโลกียะ (เชน่ เหน็ วา่ เที่ยงแท้, เห็นวา่ เป็นสขุ , เห็นวา่ มตี วั ตน ฯลฯ) เป็น
ประถม มีการสละ 唯蘊無我心 ศราวกสกนั ธปตอิ นาตมนั จิตร คอื จิตรท่ีสาํ คญั
(ตามนยั แห่งเถรวาท) วา่ สรรพธรรมทงั้ หลาย ไมม่ ีตวั ตน เกิดจากการที่ ปัจจยั ขนั ธ์
ฯลฯ ประชมุ กนั ยงั ให้เกิดขนึ ้ เป็นมธั ยม ทงั้ มีการสละ 遣他緣大乘心, 不從他
緣大乘心 อปรปรัตยยมหายานจิตร คือ จิตรท่ีสําคญั วา่ สรรพธรรมทงั้ หลาย เกิด
แตป่ ัจจยั อืน่ มาประชมุ กนั เป็นปริโยสาน (อนาตมนั ตามนยั แหง่ เถรวาทกบั มหายาน
นนั้ ตา่ งกนั เถรวาทถือวา่ ไร้ตวั ตน เพราะเกิดจากปัจจยั ที่มาประชมุ กนั แตม่ หายาน
แสดงไว้วา่ ไร้ทงั้ ตวั ตน ไร้ทงั้ ปัจจยั มหากรุณาและโพธิจิตรท่ีแท้ ไมม่ ปี ัจจยั ยงั ให้
เกิดขนึ ้ ส่งิ นีค้ ือ 真空 สตั ยศนู ยตา คือ ศนู ยตาที่แท้ สว่ นสญุ ตาของเถรวาท เกิดแต่
เหตปุ ัจจยั ด้วยยงั มีเหตปุ ัจจยั จงึ ไมใ่ ช่ความวา่ งที่แท้จริง)

~ 298 ~

ต่อมา กระทา สมยมทุ รา

(กระทาํ วชั ระพนั ธะ ปารมติ าทงั้ ๖ ประสานกนั กษานติปรณิธาน ยน่ื
ออกมา แล้วกลา่ วมนตร์ ดงั น)ี ้

๏ โอมฺ สะมะยะ สตั ตวะ ว ๚ะ๛383

383 唵(引)。三摩耶。薩埵錽。
~ 299 ~

(เมอ่ื สวดมนตร์ แลกระทํามทุ รา พงึ มนสกิ ารวา่ ตรงกลางมทุ รา เกิดเป็ น
อกั ขระ วํ สขี าว ทอแสงสกาว สอ่ งไปยงั สรรพชีวติ ทงั้ หลาย แลเมอื่ ได้รับ
แสงแล้ว สรรพชีวติ ทงั้ นนั้ ตา่ งบริบรู ณ์ ถึงพร้อมด้วยศีลปารมิตาแหง่ พระ
ตถาคตเจ้าทงั้ หลาย ทว่ั ทงั้ ในไตรยอวธวะ อนั กศุ ลทว่ั ทงั้ ธรรมธาตุ พงึ
มนสกิ ารดงั แสงสวา่ ง อภเิ ษกสรรพชีวิตทงั้ นนั้ แลสรรพชีวติ ทงั้ นนั้ ตา่ งมี
กายดจุ พระสมนั ตภทั ร ประทบั บนมหาจนั ทรจกั ร สบื ทอดพทุ ธกิจ เป็ นท่ี

พทุ ธทายาท)

~ 300 ~


Click to View FlipBook Version