51. 波夜 bhaya ภะยะ
摩那 mana มะนะ79
สวาหา
52. 娑婆訶 svāhā สทิ ธายะ
53. 悉陀夜 siddhāya สวาหา
54. 娑婆訶 svāhā มะหา
55. 摩訶 mahā สทิ ธายะ
siddhāya สวาหา
悉陀夜 สทิ ธะ
svāhā โยเค80
56. 娑婆訶 siddha ศวะรายะ
57. 悉陀 yoge สวาหา
นะระ
喻藝 śvarāya กนิ ทิ
svāhā สวาหา
58. 室皤囉耶 nara มาระ
59. 娑婆訶 kindi ณะระ81
60. 那囉
svāhā
謹墀 māra
ṇara
61. 娑婆訶
62. 摩囉
那囉
79 บางฉบบั ออกวา่ payamana “ปะยะมะนะ”
80 บางฉบบั ออกวา่ siddhāyoge “สทิ ธาโยเค”
81 บางฉบบั ออกวา่ maranara “มะระนะระ”
~ 101 ~
63. 娑婆訶 svāhā สวาหา
64. 悉囉 śira ศริ ะ
siṃha สมิ ฺหะ
僧阿 มุขายะ
mukhāya สวาหา
穆佉耶 svāhā สะรวะ
65. 娑婆訶 sarva มะหา
66. 娑婆 mahā อะ
a สทิ ธายะ
摩訶 siddhāya สวาหา
阿 จกั ระ
悉陀夜 svāhā อะ
Cakra สทิ ธายะ
67. 娑婆訶 สวาหา
68. 者吉囉 a ปทั มะ
siddhāya กสั ตายะ
阿 svāhā
悉陀夜 Padma สวาหา
69. 娑婆訶 นะระ
70. 波陀摩 kastāya
svāhā
羯悉哆夜 Nara
71. 娑婆訶
72. 那囉
~ 102 ~
謹墀 kindi กินทิ
皤伽囉 vagalāya วะคะลายะ82
สวาหา
73. 娑婆訶 svāhā มะวะริ
74. 摩婆利 mavari ศงั กะรายะ
勝羯囉夜 śaṅkarāya สวาหา
75. 娑婆訶 svāhā นะโม
76. 南無 namo รัตนะ-
ตรายายะ
喝囉怛那 ratna- นะมะ
哆囉夜耶 trayāya อารยา83
77. 南無 Nama วะโลกเิ ต
阿唎 āryā ศวะรายะ
สวาหา
78. 婆嚧吉帝 valokite โอมฺ
79. 爍皤囉夜 śvarāya สิธยันตุ
80. 娑婆訶 svāhā มันตรา
81. 唵 oṃ
悉殿都 sidhyantu
曼哆囉 mantra
82 บางฉบบั ออกวา่ nara kindi vagarāya “นะระ กินทิ วะคะรายะ”
83 บางฉบบั ออกวา่ namo āryā “นะโม อารยา”
~ 103 ~
鉢默耶 padāya ปะทายะ84
82. 娑婆訶 svāhā สวาหา
ขอนอบน้อมแด่ พระอมฤตราชโพธสิ ตั วม์ หาสตั ว์
ธรรมธาตวุ ศิ ุทธิมนตร์
(เมื่อยามทีส่ วดมนตร์นี ้ให้มนสกิ ารวา่ ยอดนาภี มอี กั ขระ ลํ รํ ทงั้ สอง
ยงั ให้เกิดความบริสทุ ธ์ิ บญุ และปรัชญา บริบรู ณ์พร้อม)
84 บางฉบบั ออกวา่ oṃ siddhyantu mantra padāya “โอมฺ สิทธยนั ตุ มนั ตรา
ปะทายะ”
~ 104 ~
๏ โอมฺ ล โอมฺ ร สวาหา ๚ะ๛85
นาฑีพิสุทธิมนตร์
(เมื่อยามท่สี วดมนตร์นี ้ ให้ใช้นวิ ้ นางแตะนาํ ้ หอม แล้วดดี ไปในอากาศ แล้ว
ถลู งบนฝ่ ามอื มนสกิ ารวา่ ทงั้ นอกและในมณฑลพธิ ี บงั เกดิ ความบริสทุ ธ์ิ)
๏ โอมฺ อโมฆะ ชะละ วมิ ะเล สรุ ุ สุรุ สวาหา ๚ะ๛86
85 唵囕。唵藍。莎訶。oṃ laṃ oṃ raṃ svāhā
~ 105 ~
มนตร์อธิษฐานขา้ ว
(เมื่อยามทส่ี วดมนตร์นี ้มือแตะข้าว ๓ ครัง้ มนสกิ ารวา่ มีแสงทอสวา่ ง
ออกมา เกิดเป็ นเมฆแหง่ ทอง เงิน แก้วมณี)
๏ โอมฺ วชั ระ ภมู ิ อา หูมฺ ๚ะ๛87
มนตร์อธิษฐาน วชั ระและระฆงั
(เมื่อยามท่สี วดนี ้เอามอื หยบิ ข้าว โปรยไปบน วชั ระและระฆงั มนสกิ ารวา่
สาํ เร็จเป็ นพชี ปรัชญา)
๏ โอมฺ วชั ระ สตั ตะ อา หมู ฺ ๚ะ๛88
86 唵。啞穆葛拶囉。彌麻迎。蘇嚕蘇嚕莎訶。oṃ amogha jala
vimale sru sru svāhā บางแหง่ ออกวา่ “โอมฺ อโมฆะ ชะละ วิมะเล สรุ สรุ สวาหา”
87 唵。斡資囉。 彌啞吽。oṃ vajra bhumi ā hūṃ
~ 106 ~
๏ โอมฺ วชั ระ ฆณั ฏา อา หมู ฺ ๚ะ๛89
คาถาปัจจยาการ
(ภาวนาแล้วเขยา่ วชั ระและระฆงั )
๏ โอมฺ เย ธะรมา เหต-ุ ประภวา เหตงุ ฺ เตษ ตะถาคะโต หัย อวะทัต
เตษ จ โย นิโรธะ เอว วาที มหาศระมะณะ สวาหา ๚ะ๛90
88 唵。斡資囉。薩答啞吽。oṃ vajra satta ā hūṃ (บางแห่งออกวา่
“โอมฺ วชั ระ สตั ตวะ อา หมู ฺ” oṃ vajra sattva ā hūṃ) มนตร์บทนี ้อธิษฐานวชั ระ
และยงั เป็นหวั ใจธารณี ของพระวชั รสตั ว์
89 唵。斡資囉。看吒啞吽。oṃ vajra ghaṇṭā ā hūṃ มนตร์บทนี ้
อธิษฐานระฆงั และยงั เป็นหวั ใจธารณีของ 金剛鈴菩薩 พระวชั รฆณั ฏาโพธิสตั ว์
(บ้างก็ออกนามวา่ vajrāveśa “วชั ราเวศ”) ซง่ึ เป็นพระมหาสตั ว์ที่ทรงระฆงั ประทบั
อยหู่ นอดุ ร แหง่ วชั รธาตมุ ณฑล โดยถือเป็น ๑ ใน ๔ สงั ครหะโพธิสตั ว์ และเป็น ๑ ใน
๓๗ พระองค์ ที่ประทบั อย่ใู นวชั รธาตมุ ณฑล
90 唵。耶答兒麻(二合)兮都。不囉巴斡兮。敦的山。答塔葛答歇
斡怛的山。拶約尼嚕怛耶邦叭諦。麻曷釋囉(二合)麻納耶。莎訶。
oṃ ye dharmā hetu-prabhavā hetuṃ teṣāṃ tathāgato hy avadat,
teṣāṃ ca yo nirodha evaṃ vādī mahāśramaṇa svāhā คาถานี ้เป็ นคาถา
~ 107 ~
(วางระฆงั บนโต๊ะ แล้วใช้มือขวา หยบิ เมลด็ ข้าว แล้วกลา่ วดงั นี)้
ข้า ฯ แต่สรรพชวี ิต ทว่ั ทง้ั ธรรมธาตุ สบื แตน่ ีไ้ ป ตราบจนเขา้ ถึงโพธิ
ตงั้ ปรณิธานถอื พระวัชราจารย์91 และพระรัตนตรยั วา่ เป็นศรณะ
มนตร์แห่ง พระวชั ราจารยแ์ ละพระรัตนตรัย
๏ นะโม ครุ ุ ภะยะ92 นะโม พทุ ธายะ93นะโม ธะรมายะ94นะโม
สังฆายะ95โอมฺ ริ ริ หะ หะ หูมฺ หมู ฺ ผัฏ96 โอมฺ ศรี มะหากาละ
หะ หะ หมู ฺ หมู ฺ ผัฏ สวาหา97 โอมฺ อา หูม9ฺ 8 ๚ะ๛
ที่พระอสั สชิแสดงแกพ่ ระสารีบตุ ร (เม่ือครงั้ เป็นท่ีอปุ ตสิ สะปริพพาชก) ดงั มีพระบาลี
ดงั นี ้“เย ธมฺมา เหตปุ ปฺ ภวา เตสํ เหตํุ ตถาคโต อาห เตสํฺจ โย นิโรโธ เอวํ วาที มหา
สมโณติ” และแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “ธรรมเหลา่ ใดเกิดแตเ่ หตุ พระตถาคตเจ้าทรง
แสดงเหตแุ ละความดบั แหง่ ธรรมเหลา่ นนั้ คํากลา่ วของพระมหาสมณะ มเี พียงนี”้
91 คาํ วา่ 上師 ตรงกบั วา่ “ครุ ุ (ครู)” โดยมกี ารแปลด้วยกนั ๓ ประการ คือ ๑. ครุ ุ
๒. วชั ราจารย์ ๓. วชั รธราจารย์ โดยท่ีในหนงั สือเลม่ นี ้จะแปลวา่ “วชั ราจารย์”
~ 108 ~
(ใช้มอื หยบิ ข้าว โปรยไปในอากาศ มนสกิ ารวา่ ข้าวท่ีร่วงลงมา คือ ดอกไม้
และเครื่องหอม ดจุ เมฆบชู า แล้วกลา่ วดงั น)ี ้
โปรยปราย บุปผา สรา้ งรตั นมณฑล
บังเกดิ เป็น พทุ ธเกษตร อนั ตระหง่าน
จิตรสัมผสั อากาศธาตุ อันเพียงน้อย
มรรคประจกั ษ์ ภูตตถตาธรรมธาตุ อนั ไพศาล
92 捺謨孤嚕(二合)毗耶(二合) namo guru bhaya, namo guru bhaye นะ
โม ครุ ุ ภะเย (คําวา่ “ภยะ” หรือ “ภเย” แปลวา่ ภยั อนั ตราย, ความหวาดกลวั , ความ
เคารพ ในที่นีห้ มายถึง ความเคารพต่อครูอาจารย์)
93 捺謨勃塔耶 namo buddhāya
94 捺謨達而麻耶 namo dharmāya
95 捺謨桑渴耶 namo saṃghāya
96 唵哩哩哈哈吽吽癹怛 oṃ ri ri ha ha hūṃ hūṃ phaṭ
97 唵失哩麻哈歌羅哈哈吽吽癹怛莎訶 oṃ śri mahākāla ha ha hūṃ
hūṃ phaṭ svāhā
98 唵啞吽 oṃ ā hūṃ
~ 109 ~
ลกั ษณะงดงาม เมตตากรุณา ดจุ บรู ณจนั ทร์
นิรมาณกาย ทะยาน ดัน้ เมฆหมอก
ปรากฏ ท่ามกลาง มวลควนั ธปู
หมน่ื ลักษณ์ มากมาย ดจุ สาครมทุ รา99
พระศากยตถาคต เป็นประจักษใ์ นกุศลา (วา่ ตามพร้อมกนั )
พระอวโลกิเตศวรโพธสิ ัตว์ คอยบรริ ักษา (วา่ ตามพร้อมกนั )
พระอานนท์เถระ ถา่ ยทอดพระศาสนา (วา่ ตามพร้อมกนั )
(สนั่ ระฆงั แล้วสวด สวภาวะคาถา)
อปุ ายสวภาวะ ดุจกาย อันไม่สามารถ แตกทาลาย
99 萬象森羅海印含 ”หมนื่ ลกั ษณ์ มากมาย ดจุ สาครมทุ รา” ความหมายคอื
พระตถาคตและพระโพธิสตั ว์ทงั้ หลาย มีจํานวนและเข้าถงึ พระสทั ธรรมมากมาย
เป็นอเนกอนนั ต์ ดจุ ท้องมหาสมทุ ร ซงึ่ มิอาจคะเนได้
~ 110 ~
วชั ระ (ก)็ ไมส่ ามารถ แตกทาลายได้ (เชน่ กนั ) พระมหาสัตว1์ 00 101
ลกั ษณะ วเิ ศษ เกินส่ิงใด
ยังใหก้ ิจท้ังหลาย ในกาลนี้ ลว้ นสาเร็จ
พระปรัชญา สภาวะ คัมภรี ภาพ
สาแดงประกาศ อุตตรธรรมจกั รโฆษ
ยงั ให้ (สัตว)์ ทตี่ ายไปแล้ว เกิดอปุ ายกาย
ขอใหก้ ิจทง้ั หลาย ในกาลนี้ ล้วนสาเรจ็
100 大勇識 พระมหาสตั ว์
101 ตามนยั แหง่ สมั ทรรศนะ (ธรรมอนั เปิ ดเผย) นนั้ บทวา่ 方便自性不壞體
金剛不壞大勇識 “อปุ ายสวภาวะ ดจุ กาย อนั ไมส่ ามารถ แตกทําลาย วชั ระ (ก็)
ไมส่ ามารถ แตกทําลายได้ (เชน่ กนั ) พระมหาสตั ว์” มีความหมายวา่ “สวภาวะ หรือ
สภาวะ อนั ได้แก่ ตถาคตครรภ์, ภตู ตถตา, อาลยวิชญา ฯลฯ เป็นสงิ่ ท่ีพ้นจากกาละ
และเทศะ เป็นอสงั ขตธรรม ไมเ่ กิด ไมด่ บั ไม่มี ไมไ่ ร้ ไมม่ า ไมไ่ ป จงึ ไมอ่ าจทําลาย
หรือ ไมม่ ีสงิ่ ใด มาทําลายได้ เฉกเดียวกบั วชั ระ ที่ไมม่ ีสง่ิ ได มาทําลายได้” สว่ นนยั
แหง่ คหุ ยธรรม (ธรรมอนั ลบั ) นนั้ มคี วามหมายถงึ 金刚萨埵, 金剛勇識 พระ
วชั รสตั ว์
~ 111 ~
(ศทุ ธภมู คิ าถา)102
ปฐพี ท้งั หลาย ทกุ ซอกมุม
กระเบ้ืองหิน ทรายกรวด ท้ังหลายนนั้
(กลับกลายเปน็ ) แผน่ พืน้ แก้วมณี ราบเรยี บ ดจุ ฝา่ มอื
อ่อนนมุ่ คมั ภีรภาพ ขอเชิญมาสถติ
ดุจ สุขาวดเี กษตร อันอลังการ
ประดบั ประดา ดว้ ยวิเศษรัตน์
วโนทยาน อโนดาต ไม่ขาดตก
อาศัย มหาธรรมโฆษ ขอให้บริบูรณ์
จากนอก โลกธาตุ มาปรากฏ
สาเรจ็ แล้ว ด้วย สปั ตรตั น์103
102 淨地偈 ศทุ ธภมู คิ าถา คอื คาถา หรือ โศลก หรือ บทสวด ชําระแผน่ ดนิ
~ 112 ~
อนันตประภาส สาดทอแสง
ขอปวง พระพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ มาสถิต
วาทยมนตร์104
๏ โอมฺ วชั ระ คณั ฏิเย ระนะ ระนะ ประระนะ ประระนะ สประระ
นะ สประระนะ สะรวะ พุทธะ กเษตระ ประ-จะลติ ะ มะหาปรัชญา
ปาระมติ า นะทะ สวะ-ภะเว สะรวะ ธะรมะ หฤทะยะ สโทสะนะ
กะเร หูมฺ หมู ฺ ผฏั สวาหา ๚ะ๛105
103 七寶 สปั ตรตั น์ คอื แก้ว ๗ ประการ ซงึ่ แตล่ ะคมั ภีร์ จะแสดงไว้ตา่ งกนั จึงขอ
ข้ามไป
104 音樂呪 วาทยมนตร์
105 唵。斡資囉。看支夷(二合)。囉納囉納。不囉(二合)囉納。不
囉(二合)囉納。三不囉(二合)囉納。三不囉(二合)囉納。薩哩斡(二合)。
孛塔赤的囉(二合)。不囉拶哩答。麻曷不囉(二合)。 尼牙(二合)巴囉。
蔑答那達速巴微。薩哩斡(二合)。塔哩麻(二合)。紇哩(二合)達耶。
傘多沙納。葛哩。吽吽。癹吒莎訶。oṃ vajra ghaṇṭiye rana
rana prarana prarana saṃ-prarana saṃ-prarana sarva buddha
kṣetra pra-calita maha prajña pāramitā nada sva-bhave sarva
dharma hṛdaya saṃ-tosana kare hūṃ hūṃ phaṭ svāhā
~ 113 ~
(วางระฆงั ลงบนโต๊ะ ใช้นวิ ้ นางข้างขวา แตะนาํ ้ หอม แล้วดดี ลงไปที่ก้น
บาตรมณฑล แล้วภาวนาวา่ )
๏ โอมฺ วชั ระ มา เม อา หมู ฺ ๚ะ๛106 (ดีด ๓ ครัง้ )
(จากนนั้ ใช้ ใช้นวิ ้ นางข้างขวา แตะนาํ ้ หอม แล้วแตะลาก บนมณฑล วนขวา
๑ รอบ เป็ นการแสดงถงึ ความบริบรู ณ์)
๏ โอมฺ วชั รานตุ ตะระ อา หูมฺ ๚ะ๛107
(สวดมนตร์นี ้๑ จบ กระทาํ เป็ นวงกลม ๑ รอบ อธิษฐาน (มนสกิ าร) วา่
ข้าวทอแสง เมือ่ ยามทใี่ ช้ ดจุ เครื่องแก้วจินดามณี)
106 唵。斡資囉(二合)麻明啞吽。oṃ vajra mā me ā hūṃ
107 唵。斡資囉(二合)。烏怛葛啞吽。oṃ vajrānuttara ā hūṃ
~ 114 ~
๏ โอมฺ วัชระ ภมู ิ อา หมู ฺ ๚ะ๛
(เม่ือเวลาทสี่ วด มือขวาแตข่ ้าว ๓ ครัง้ แล้วโปรยไปบนก้นบาตรมณฑล ดจุ
ละลองฝนในอากาศ)
กาแพงจกั รวาล กาแพงจกั วาล
๏ โอมฺ วชั ระ ฤเข อา หูมฺ ๚ะ๛108
108 唵。斡資囉(二合)。哩契啞吽。oṃ vajra ṛkhe ā hūṃ, oṃ vajra
ṛkkhe ā hūṃ, oṃ vajra rkkhe ā hūṃ, oṃ vajra rikhe ā hūṃ
~ 115 ~
วชั รภูมิ109 วชิ ัยวัชระปฐพี มีอกั ขระ “หูมฺ” รกั ษาอยู่
(จากนนั้ วางเรียงเมลด็ ข้าว โดยเริ่มแตจ่ ดุ ศนู ย์กลาง อนั ได้แก่ เขาพระ
สเุ มรุ)
109 金剛地 วชั รภมู ิ ผืนปฐพวี ชั ระ คือ ผืนแผน่ ดิน ท่ีรองรบั จกั รวาล กอปรชึน้ จาก
สวุ รรณจกั ร อาโปจกั ร และ วาโยจกั ร
~ 116 ~
๏ จา-ห-เมรวุ ิ-นะมะห1ฺ 10 (เขาพระสเุ มรุใหญ่)
โอม-ฺ ห-สกษะมะ-เมรุวิ-นะมะห1ฺ 11 (เขาพระสเุ มรุน้อย)
โอม-ฺ ย-ปรู วะวเิ ทหะยะ-นะมะห1ฺ 12 (ปรู ววเิ ทหทวปี )
110 戰唅彌囉微捺麻 บางแหง่ ออกวา่ 唵唅彌囉微捺麻 “โอมฺ-หํ-เมรุวิ-นะ
มะหฺ”
111 唵唅斯克徹(二合)麻彌囉微捺麻
~ 117 ~
โอม-ฺ ย-เทหะยะ-นะมะห1ฺ 13 (เทหทวีป)
โอม-ฺ ย-วเิ ทหะยะ-นะมะหฺ114 (วเิ ทหทวีป)
โอม-ฺ ล-ชมั พทู วปี ะยะ-นะมะหฺ115 (ชมพทู วปี )
โอม-ฺ ล-ศะกะยะ-นะมะหฺ116 (ศกทวีป)
โอม-ฺ ล-อุตตระมันตรีนียะ-นะมะหฺ117 (อตุ ตรมนั ตรีนีทวีป)
โอม-ฺ ร-อะปะระโคทานยี ะ-นะมะหฺ118 (อปรโคทานี)
โอม-ฺ ร-จามะระยะ-นะมะห1ฺ 19 (จามรทวปี )
โอม-ฺ ร-วะระจามะระยะ-นะมะหฺ120 (วรจามรทวีป)
112 唵岩晡兒斡(二合)微的葛耶捺麻
113 唵岩的葛耶捺麻
114 唵岩微的葛耶捺麻
115 唵[卄/覽]咱晡的癹耶捺麻
116 唵[卄/覽]沙茶耶捺麻
117 唵[卄/覽]烏答囉曼的哩(二合)尼耶捺麻
118 唵藍啞咓囉孤答(二合)尼耶捺麻
119 唵藍拶(二合)麻囉耶捺麻
~ 118 ~
โอม-ฺ ว-อตุ ตะระกุรนุ ี-นะมะหฺ121 (อตุ ตรกรุ ุทวีป)
โอม-ฺ ว-กรุ ุวิ-นะมะหฺ122 (กรุ ุทวปี )
โอม-ฺ ว-คะวระยะ-นะมะหฺ123 (ควรทวีป)
โอม-ฺ อ-คะชะรัตนะยะ-นะมะหฺ124 (คชรัตนะ)
โอม-ฺ ล-ปุรษุ ะตะ-รัตนะยะ-นะมะห1ฺ 25 (บรุ ุษรัตนะ)
โอม-ฺ ล-วาช-ี รตั นะยะ-นะมะห1ฺ 26 (วาชีรัตนะ)127
โอม-ฺ ว-สตรี-รัตนะยะ-นะมะห1ฺ 28 (สตรีรัตนะ)
โอม-ฺ อ-คะฏะคะ-รตั นะยะ-นะมะห1ฺ 29 (คฏครัตนะ)
120 唵藍斡囉拶(二合)麻囉耶捺麻
121 唵錽烏答囉孤囉尼捺麻
122 唵錽孤囉微捺麻
123 唵錽葛囉斡(二合)耶捺麻
124 唵巖葛拶囉的捺(二合)耶捺麻
125 唵囕 嚕沙哳囉的捺(二合)耶捺麻
126 唵囕斡節囉的捺(二合)耶捺麻
127 ควรจะเป็น “โอมฺ-รํ-วาชี-รัตนะยะ-นะมะหฺ”
128 唵錽斯的哩(二合)囉的捺(二合)耶捺麻
~ 119 ~
โอม-ฺ ล-จกั ระ-รตั นะยะ-นะมะหฺ130 (จกั รรัตนะ)
โอม-ฺ ร-มณ-ิ รัตนะยะ-นะมะหฺ131 (มณีรัตนะ)
โอม-ฺ ว-มหา-นธิ ะนะยะ-นะมะหฺ132 (มหานิธนรัตนะ)
โอม-ฺ อา-สุรยิ ะยะ-นะมะหฺ133 (พระอาทิตย์)
โอม-ฺ ร-จนั ทระยะ-นะมะหฺ134 (พระจนั ทร์)
โอม-ฺ อา-หมู ฺ-นะมะหฺ135 (ประภตู รัตนะฉตั ร)136
โอม-ฺ สะรวะ-รตั นี-ภะเย-นะมะหฺ137 (วิชยั เกต)ุ
129 唵巖葛吒葛(二合)囉的捺(二合)耶捺麻
130 唵囕吒吃囉(二合)囉的捺(二合)耶捺麻
131 唵㘕麻尼囉的捺(二合)耶捺麻
132 唵錽麻曷聶塔捺耶捺麻
133 唵啞斯哩(二合)牙耶捺麻
134 唵㘕昝的囉耶捺麻
135 唵啞吽捺麻
136 บางแห่งออกวา่ “พหรุ ัตนฉตั ร”
137 唵薩哩斡(二合)囉的尼(二合)毗藥(二合)捺麻
~ 120 ~
โอมฺ ศรี มะตเร วชั ระ ครุ ชุ ะละ นะกะมะลายะ สะมาคะตา นะอา
วะภะ สะฑะกรายะ หมู ฺ นะมะห1ฺ 38 ๚ะ๛
(เมอื่ ยามทีภ่ าวนาคาถานี ้ให้โปรยข้าวและดอกไม้ ลงบนมณฑล แล้วซดั ไป
ในอากาศ มนสกิ ารวา่ ข้าวทงั้ นนั้ สาํ เร็จเป็ น รัตนราชวงั สวนอทุ ยาน และ
สระอโนดาต พร้อมทงั้ ราชวตั ร ฉตั ร ธง ภษู ิตาภรณ์ เคร่ืองประดบั แก้วมณี
ล้วนแล้วอลงั การ ดจุ ฝนโบกขรพรรษ สบื เน่ืองไมข่ าดสาย บชู าครูอาจารย์
พระรัตนตรัย แล้วกําข้าวและดอกไม้ สาดไปในอากาศ แล้วพดู วา่ )
เคร่ืองบชู าท้งั หลายที่มี ของมนุษยแ์ ละเทวดา
๏ โอมฺ สะรวะ ตะถาคะตะ รัตนะ มะหามณั ฑละ ปชู ามิ โฆษะมัน
ตระ สประนะ สะมะยะ อา หูมฺ ๚ะ๛139
138 唵。室哩(二合)麻忒(二合)。斡資囉。孤嚕拶囉。捺葛麻
辢耶。三貌克答。捺啞斡癹。薩拏葛囉(二合)耶。吽。捺麻。
139唵。薩哩斡(二合)。答塔葛達囉的捺。麻曷曼答囉(二合)。
布拶彌渴薩謨的囉(二合)。斯癹囉納。三麻耶啞吽。
~ 121 ~
(มนตร์กระทามุทรา)
๏ โอมฺ สะรวะ ตะถาคะตะ สะปะรวิ าระ (อาละกะมนั ทา) ประเตจะยะ สวา
หา ๚ะ๛140
(เปลยี่ นมา กระทาํ ปัทมมทุ รา และ ภาวนาเบญจบชู า)
140 唵。薩哩斡 (二合)。答塔葛達。薩叭哩咓囉 (啞哩干巴丹)。巴
囉 (二合) 諦拶耶。莎訶。
~ 122 ~
๏ โอมฺ สะรวะ ตะถาคะตะ สะปะรวิ าระ141
โอมฺ วชั ระ ปษุ ปะ อา หูมฺ142 (ถวายดอกไม้ สแี ดง)
141 唵。薩哩斡(二合)。答塔曷達。薩叭哩咓囉。
~ 123 ~
โอมฺ วชั ระ ธปู ะ อา หูม1ฺ 43 (ถวายธูป สเี หลอื ง)
โอมฺ วชั ระ อาโลกะ อา หูม1ฺ 44 (ถวายเทียนหรือประทปี สแี ดงสด)
โอมฺ วชั ระ คันธะ อา หมู 1ฺ 45 (ถวายเคร่ืองหอม, นํา้ หอม, นํา้ มนั หอม สี
ขาว)
โอมฺ วชั ระ ไนเวทะ อา หูมฺ146 (ถวายผลไม้ สีแดงเหลือง)
โอมฺ สะรวะ สัปตะ ปชู ามิ โฆษะมนั ตระ สประนะ สะมะยะ อา
หมู ฺ147 ๚ะ๛ (ถวายดนตรี สเี ขียว)148
142 唵。斡資囉。不思必啞吽。
143 唵。斡資囉。度必啞吽。
144 唵。斡資囉。啞嚕吉啞吽。
145 唵。斡資囉。干的啞吽。
146 唵。斡資囉。你微的啞吽。 (บางแห่งออกวา่ “โอมฺ วชั ระ ไนเวทะยะ
อา หมู ฺ”)
147 唵。斡資囉(二合)。捨不答布拶彌葛薩謨的囉(二合)斯癹囉納
三麻耶啞吽。 (บางแห่งออกวา่ “โอมฺ สะรวะ สงั คีตะ ปชู ามิ โฆษะมนั ตระ สํประ
นะ สะมะยะ อา หมู ฺ”)
148 มนตร์บทนี ้แสดงวา่ “สปั ตะ ปชู ามิ” คอื การถวายเคร่ืองสกั การะ ๗ ประการ
แตใ่ นที่นี ้มกี ารบชู าเพียง ๕ ประการ ซง่ึ ในวชั รยาน ได้มีการแสดงถงึ 七供, 七支
~ 124 ~
วาทยมนตร์
๏ โอมฺ วชั ระ คัณฏเิ ย ระนะ ระนะ ประระนะ ประระนะ สประระ
นะ สประระนะ สะรวะ พุทธะ กเษตระ ประ-จะลิตะ มะหาปรชั ญา
ปาระมติ า นะทะ สวะ-ภะเว สะรวะ ธะรมะ หฤทะยะ สโทสะนะ
กะเร หูมฺ หูมฺ หะ หะ อา ข สวาหา ๚ะ๛149
供 “สปั ตบชู า” คือ เครื่องบชู า ๗ ประการไว้ โดยเพิ่มจากเบญจบชู าอีก ๒ คอื ๑. นํา้
ล้างพระพกั ตร์ และ ๒. นํา้ ล้างพระบาท โดยมนสกิ ารวา่ นํา้ นี ้มมี ากมาย ดจุ
มหาสมทุ ร สว่ นการถวายดนตรีนนั้ ในตอนท้ายของมนตร์บทนี ้ได้ออกวา่ “โฆษมนั
ตระ” (โฆษมนตร์) คอื การสง่ เสยี งมนตร์บชู า ถือเป็นการถวายดนตรีไปในตวั อยแู่ ล้ว
จงึ ไมม่ กี ารจดั ดนตรี ถวายเป็นพเิ ศษแตอ่ ย่างใด ดงั นีแ้ ล้ว ฉบบั ภาษาจีน จึงมกี าร
สบั สน ในคาํ วา่ “สปั ตะ” วา่ มีความหมายถงึ “ดนตรี” อยา่ งไรก็ตาม บางแหง่ ให้
ความเหน็ วา่ คําวา่ 捨不答 นี ้(บางแหง่ ออกเป็นคาํ ลดรูปวา่ 夏打) หมายถงึ คําวา่
“สงั คีตะ (สงั คีต)” ที่แปลวา่ “ดนตรี” ไมใ่ ชค่ าํ วา่ “สปั ตะ” ท่ีแปลวา่ “เจ็ด” แตอ่ ยา่ งใด;
“สปั ตบชู า” นี ้แฝงไว้ด้วยนยั แหง่ “พระสมนั ตภทั รโพธิสตั ว์ทศจรรยา” โดยทอนจาก
๑๐ เหลือ ๗ ได้แก่ ๑. น้อมอภิวาทพระตถาคตทงั้ หลาย ๒. บชู าพระตถาคตทงั้ หลาย
๓. กษมา (ขอขมา) ในบาปกรรมทงั้ หลาย ๔. อนโุ มทนาในกศุ ลทงั้ หลาย ๕. เชิญ
พระตถาคตทงั้ หลาย ให้หมนุ พระธรรมจกั ร (แสดงธรรม ประกาศพระศาสนา โปรด
สรรพชีวิต) ๖. เชิญพระตถาคตทงั้ หลาย ให้ประทบั อยใู่ นโลก เพือ่ อปุ การะสรรพชีวิต
โดยไมเ่ ข้าส่ปู รินิรวาณ ๗. ปรีนามะ (ปัตติทาน) ปวงกศุ ล ให้สรรพชีวติ ทงั้ หลาย
149 唵。斡資囉(二合)。看支夷。囉納(二合)囉納(二合)。不囉
(二合)囉納。不囉(二合)囉納。三不囉(二合)囉納。三不囉(二合)
~ 125 ~
(เม่อื สวดมนตร์จนจะจบ มอื ถือระฆงั วชั ระ สน่ั บนมณฑล ๑ รอบ แล้ววาง
ระฆงั บนโต๊ะ แล้วอธิษฐานรัตนะ มอื ซ้ายถือดอกไม้ มือขวาร่วมกระทําเมาลี
มทุ รา ขบั ไลม่ ารออกไป จากนนั้ ทา่ มกลางศนู ยตา บงั เกิดจนั ทรจกั รสภาวะ
มนสกิ าร อกั ขระ ตรามฺ สเี หลอื ง ทอแสงออกมา อปุ การะสรรพชวี ติ แล้ว
แสงนนั้ คืนสอู่ กั ขระ ตรามฺ บดั นนั้ อกั ขระ ตรามฺ เปลยี่ นเป็ น พระรัตน
สมั ภวะตถาคต แลกระทาํ มทุ ราไว้เฉกกนั บงั เกดิ เป็ นรัตนะ เพื่อจะใช้งาน)
囉納。薩哩斡。(二合)孛塔赤的囉(二合)。不囉拶哩答。麻曷
不囉(二合)。尼牙(二合)巴囉。蔑答那達速巴微。薩哩斡(二合)。
塔哩麻(二合)。紇哩(二合)達耶。傘多沙納。葛哩。吽吽。和
和。啞龕莎訶。
~ 126 ~
รัตนมนตร์
(เม่อื ยามทีส่ วดมนตร์นี ้มนสกิ ารวา่ ภายในรัตนะนนั้ บงั เกิดเป็ นเทวจินดา
มณี อนั ประมาณมไิ ด้ แล้วยงั ไปเพอื่ การสกั การะบชู า)
~ 127 ~
๏ โอมฺ สะมะระ สะมะระ วมิ านะ สกั การะ มะหาจักระ หมู ฺ ๚ะ๛150
มนตร์โปรยขา้ วและดอกไม้
๏ โอมฺ สัปตะ รัตนะ หูมฺ ๚ะ๛151
150 唵。斯嘛囉(二合)。斯嘛囉(二合)。密嘛曩。斯葛囉。摩
訶拶葛囉吽。บางแห่งแสดงวา่ นีค้ อื 迴向輪陀羅尼 “สกั การมหาจกั ร
ธารณี” ดงั นี ้“โอมฺ สะมะระ สะมะระ วิมานะ สะระ สกั การะ มะหาจกั ระ วะ หมู ฺ”
โดยปรากฏมาแตพ่ ระไตรปิ ฏกมหายาน《大正藏》 เลม่ ท่ี ๑๙ หน้า ๕๒๙
อานิสงส์แหง่ ธารณีนี ้เมื่อสวดสาธยาย ย่อมจกั บงั เกิด รตั นวหิ าร มหาจกั ร วชั รปฐพี
ฯลฯ เพอ่ื บชู าพระตถาคตทงั้ หลาย
151 唵。薩不答(二)(引)囉的捺吽。
~ 128 ~
มนตร์ขบั มาร
(กะทาํ วชั รมษุ ฏ1ิ 52 ที่ทรวงอก แล้วเอาหลงั มอื ชนกนั ยื่นนวิ ้ นางเหยียดตรง
ชีข้ นึ ้ มนสกิ ารวา่ มเี ปลวเพลงิ พวยพงุ่ ออกมา ขบั ไลม่ ารไปจนสนิ ้ )
152 金剛拳 วชั รมษุ ฏิ คือ การกําหมดั วชั ระ วิธีการคือ เอาปลายนิว้ โป้ ง แตะท่ีโคน
นิว้ นาง แล้วกํามือ โดยให้นิว้ ทงั้ ๔ คลมุ นิว้ โป้ งไว้ วชั รมษุ ฏินี ้มคี ณุ ในการขบั ไลส่ ง่ิ ชวั่
ร้าย เช่น มาร ฯลฯ โดยเป็นมทุ รา ของพระวชั รมษุ ฏิโพธิสตั ว์
~ 129 ~
๏ โอมฺ สะรวะ อมฤตะ กณุ ฑะลิ คะนะคะนะ หูมฺ หูมฺ ผฏั ๚ะ๛153
(ทาํ มือประสานกนั นวิ ้ ชีท้ งั้ ๒ ชีข้ นึ ้ วางมอื ระดบั อก ขยบั ไปมาดจุ พดั
มนสกิ ารวา่ มีเปลวเพลงิ พวยพงุ่ ออกมา เพ่อื ขบั ไลม่ าร)
153 唵。斡資囉(二合)。啞彌哩達。昆吒唎。曷納曷納。吽吽。
癹吒。
~ 130 ~
๏ โอมฺ วชั ระ ยกั ษะ หมู ฺ ๚ะ๛154
(สองมอื ผสานกนั ๑๐ นวิ ้ ชีข้ นึ ้ วางมือระดบั อก มนสกิ ารวา่ มีวชั รอคั นิพวย
พงุ่ ออกมา เพ่อื ขบั มาร)
154 唵。斡資囉(二合)。牙恰吽。
~ 131 ~
๏ โอมฺ วชั ระ จาระ อาจาระ หานะ ตะหา ปญั จะมะถา ปัญจะ
ระณะ หมู ฺ ผัฏ ๚ะ๛155
สัตยศูนยตมทุ รา
(สองมือผสานกนั เข้าสธู่ ยานพละปรัชญา สองนวิ ้ ชยี ้ ืดตรงขนึ ้ แล้วสวดดงั นี)้
155 唵。斡資囉(二合)。佐辢啞捺辢。曷捺答曷。巴拶麼塔。
班拶羅納。吽。癹吒。
~ 132 ~
๏ โอมฺ ศูนยะ สะรวะ ธะรมะ สวะภาวะ ศนู ยตา ๚ะ๛156
ทา่ มกลางศนู ยตสวภาวะ มนสกิ ารวา่ มี อกั ขระ ภรูมฺ
156 唵。莎癹斡。順牙(二合)。薩哩斡(二合)。答哩麻。(二合)
莎癹斡。順牙(二合)達。
~ 133 ~
๏ โอมฺ ภรมู ฺ ภรูมฺ ภรูมฺ อา อา อา หมู ฺ หูมฺ หมู ฺ ๚ะ๛157
กแ็ ลบังเกิดเป็น โลกธาตทุ ัง้ ทศทิศ มณฑลวิเศษท้ังหลาย คอื อาละกะ158
ถึงพรอ้ มดว้ ยมาละ, ธปู , ประทีป, คันธะ, สงั คีต พสิ ทุ ธ์ิ สดใส ไร้ขอ้ ตดิ ขดั
ดั่งพระสมันตภทั รนริ มิตให้เกดิ ขน้ึ เพือ่ กระทาสักการะ แผไ่ ปทวั่ นภากาศ
แนน่ ไปทัง้ ธรรมธาตุ ทัว่ เขตแหง่ สงั สาร มมิ ขี าดสาย
๏ โอมฺ สะรวะ ตะถาคะตะ สะปะรวิ าระ ประเตจะยะ สวาหา ๚ะ๛
(เปลย่ี นกลบั มากระทาํ ปัทมมทุ รา แล้วสวดเบญจบชู า)
157 隆(二合) 隆(二合) 隆(二合)啞啞啞吽吽吽。(另一本曰:
隆(二合) 隆(二合) 隆(二合)啞啞啞吽吽 隆(二合)吽。อีกฉบบั ออกวา่
“โอมฺ ภรูมฺ ภรูมฺ ภรูมฺ อา อา อา หมู ฺ หมู ฺ ภรูมฺ หมู ฺ”)
158 อาละกะ อาลกมนั ทา เป็นราชธานีแห่งเทพเจ้าทงั้ หลาย
~ 134 ~
๏ โอมฺ สะรวะ ตะถาคะตะ สะปะรวิ าระ
โอมฺ วชั ระ ปษุ ปะ อา หูมฺ (ถวายดอกไม้ สีแดง)
โอมฺ วชั ระ ธูปะ อา หูมฺ (ถวายธูป สีเหลอื ง)
โอมฺ วชั ระ อาโลกะ อา หูมฺ (ถวายเทยี นหรือประทปี สีแดงสด)
~ 135 ~
โอมฺ วชั ระ คันธะ อา หมู ฺ (ถวายเคร่ืองหอม, นํา้ หอม, นํา้ มนั หอม สีขาว)
โอมฺ วชั ระ ไนเวทะ อา หมู ฺ (ถวายผลไม้ สีแดงเหลือง)
โอมฺ สะรวะ สปั ตะ ปชู ามิ โฆษะมนั ตระ สประนะ สะมะยะ อา หูมฺ
๚ะ๛ (ถวายดนตรี สเี ขียว)
วาทยมนตร์
๏ โอมฺ วชั ระ คัณฏเิ ย ระนะ ระนะ ประระนะ ประระนะ สประระ
นะ สประระนะ สะรวะ พทุ ธะ กเษตระ ประ-จะลติ ะ มะหาปรัชญา
ปาระมิตา นะทะ สวะ-ภะเว สะรวะ ธะรมะ หฤทะยะ สโทสะนะ
กะเร หูมฺ หมู ฺ หะ หะ อา ข สวาหา ๚ะ๛
คาถาปัจจยาการ
๏ โอมฺ เย ธะรมา เหต-ุ ประภวา เหตุงฺ เตษ ตะถาคะโต หยั อวะทัต
เตษ จ โย นิโรธะ เอว วาที มหาศระมะณะ สวาหา ๚ะ๛
~ 136 ~
๏ โอมฺ อา หมู ฺ ๚ะ๛ (สวด ๓ จบ และสาดข้าวดอกไม้ แล้วถือระฆงั สวดดงั นี)้
มณั ฑละคาถา
มนสิการ สัตยะยังใหเ้ กดิ มณฑล อนั โอฬารวิศุทธิ์
จตรุ ทวีป บริบรู ณ์ไปดว้ ย รัตนะอัประไมย
ล้วนคือ ยอดมณี พเิ ศษไซร้
นอ้ มบชู า พระวชั ราจารยแ์ ละพระรตั นตรัย ขอจงมาสถิต
มณั ฑลมนตร์
๏ โอมฺ สะรวะ ตะถาคะตะ รตั นะ มะหามัณฑละ ปชู ามิ โฆษะมนั
ตระ สประนะ สะมะยะ อา หมู ฺ ๚ะ๛
~ 137 ~
รตั นบรรพต รัตนสาคร รตั นอาสน์ อนั พิเศษ
เทวาภรณ์ เกยูร159 ตน้ กัลปพฤกษ์160
สระอโนดาต161 บุปผา, มาลา, ธปู , ประทปี , คนั ธะ อันวเิ ศษ
แผ่ไปทว่ั ธรรมธาตุ เต็มไปทั้งอากาศธาตุ
มกุ มณีสภาวะ กว้างขวาง ท้งั มหาสาคร
เป็นเอกอุ ในบรรดา สปั ตรัตน์
159 瓔珞 เกยรู สร้อยคอ กรองคอ
160 如意樹 ต้นกลั ปพฤกษ์ ต้นไม้สารพดั นกึ เชื่อกนั วา่ ต้นกลั ปพฤกษ์ อย่ใู น
สวรรค์ (ดาวดงึ ส์) ทงั้ ยงั มปี รากฏในอตุ ตรกรุ ุทวีป หากผ้ใู ดปรารถนาสิ่งใด กส็ ามารถ
ไปนึกเอา จากต้นไม้นีไ้ ด้
161 寶池 อโนตตฺต อโนดาต แปลวา่ สระท่ีไมถ่ กู แสงสอ่ งให้ร้อน เป็น ๑ ใน ๗ สระ
ในป่ าหิมพานต์ ได้แก่ ๑. สระอโนดาต ๒. สระกณั ณมณุ ฑะ ๓. สระรถการะ ๔.
สระฉทั ทนั ตะ ๕. สระกณุ าละ ๖. สระมณั ฑากินี ๗. สระสีหปั ปปาตะ; รอบสระ
อโนดาต มีเขารายล้อมอยู่ ๕ เขา ได้แก่ ยอดเขาสทุ สั สนะ ยอดเขาจิตตะ ยอดเขา
กาฬะ ยอดเขาคนั ธมาทน์ และยอดเขาไกรลาส ซง่ึ เขาทงั้ ๕ มีลกั ษณะโค้งง้มุ เหมอื น
ปากกา ปิ ดด้านบนสระอโนดาตไว้ ไมใ่ ห้โดนแสงเดอื นและแสงตะวนั สระอโนดาตจงึ
ไมโ่ ดนแสงสอ่ งให้ร้อน สระอโนดาตนี ้เป็นที่สรงนํา้ แห่ง พระพทุ ธเจ้า พระปัจเจกพทุ ธ
เจ้า พระอรหนั ต์ทงั้ หลาย รวมถงึ ผ้วู ิเศษ เชน่ ฤๅษี วทิ ยาธร ยกั ษ์ นาค เทวดา เป็นต้น
นอกจากนี ้ยงั เป็นสระนํา้ ท่ีอยใู่ นสขุ าวดีโลกธาตดุ ้วย
~ 138 ~
ถวายปวงวเิ ศษมณี อนั มากมาย ดจุ เมฆา
บัดนี้ ข้า ฯ กราบกราน ขอสกั การ
ท่ามกลาง อษั ฏกฏู 162 เมรุราชฦๅ
จตรุ มหาทวีป ปวงลักษณะ
สรุ ยิ ัน จันทรา โคจรล้อม
สุวรรณ หิรญั แลรัตนะ
มุสาระคะลวะ163 และแกว้ วิฑูรย์
มกุ โลหติ 164และอญั มณี ทัง้ หลาย
ถวายตอ่ เบอ้ื งหนา้ พระวชั ราจารย์ และวรรัตนตรัย
162 八峯 อษั ฏกฏู คอื ขนุ เขาทงั้ ๘ ท่ีล้อมรอบเขาสเิ นรุ ซงึ่ ก็คือ อษั ฏรตั นะ แก้ว ๘
ประการ ของพระเจ้าจกั รพรรดิ
163 麻薩葛斡, 硨磲, 硨磲石 Musāra-galva Tridacna Stone มสุ าระ
คะลวะ เป็นเคร่ืองประดบั ที่ได้จากหอยมอื เสอื
164 赤珠 Rohita-mukta โรหิต-มกุ ตะ มกุ สีแดงชนิดหนง่ึ มคี า่ และหายากมาก
(ไมใ่ ช่ปะการงั )
~ 139 ~
ขอทรงพระเมตตา กรุณา โปรดรับ
๏ โอมฺ สะรวะ ตะถาคะตะ รัตนะ มะหามัณฑละ ปชู ามิ โฆษะมนั
ตระ สประนะ สะมะยะ อา หูมฺ ๚ะ๛
บัดนี้ ข้า ฯ กระทาการ ตามอนุศาสน์ สร้างมณฑล
มปี ระมาณเทา่ กับอากาศธาตุ มีวัชรเป็นแผน่ พืน้ ปฤถิวี
ทุกอักขระมนตร์ ลว้ นเกิดจากจติ ร
สเิ นรุ ตะวนั จันทรา ทวีปท้ังส่ี
ภูษติ าภรณ์ ฉัตร นักฟอ้ น ดุริยางค์ ธวัช ดจุ เมฆา
รัตนอาสน์ อนั งาม ประภาคาร และวมิ าน
สระโบกขรณี วโนทยาน บุปผาท่มี ีชอ่ื บานสะพร่ัง
ถวายสักการ พระวัชราจารย์ พระรตั นตรยั และเทพธรรมบาล
ขอทรงพระเมตตา กรณุ ารับ บังเกิดปรมุทติ า
~ 140 ~
ขจดั หมมู่ าร และอุปสรรคท้ังหลาย รวบรวมบุญญา ก่อใหเ้ กดิ ศานติ
ยังให้ทายก (ทายิกา) สมดงั ใจ ในสงิ่ ทีห่ มาย
และเกดิ ศุภมงคล ใน (ปัจจุบนั และ) อนาคต มิรู้สิ้น
๏ โอมฺ สะรวะ ตะถาคะตะ รัตนะ มะหามณั ฑละ ปชู ามิ โฆษะมนั
ตระ สประนะ สะมะยะ อา หูมฺ ๚ะ๛
(วางระฆงั ลงบนโตะ มอื ขวา ถือข้าวและดอกไม้ ภาวนาดงั นี)้
ขอพระวัชราจารย์ และพระรัตนตรยั ท่ีอยู่ท่ามกลางพทุ ธสมาคมน้ี เมตตา
กรณุ าสงเคราะห์ ทายก (และทายกิ า) ในกาลนี้ บญุ และชญาน อลงั การ
โลกียะและโลกตุ ตระ ลว้ นแต่ศุภมงคล สมปรารถนา และปวงสรรพชีวติ
ท่ัวทงั้ ธรรมธาตุ ตา่ งสาเร็จอนตุ ตรสัมมาสัมโพธิ โดยเรว็ พลนั
๏ นะโม คุรุ ภะยะ
นะโม พทุ ธายะ
~ 141 ~
นะโม ธะรมายะ
นะโม สังฆายะ ๚ะ๛
๏ โอมฺ อา หูมฺ ๚ะ๛ (สวดครบ ๓ จบ จงึ ซดั ดอกไม้และข้าว จากนนั้
เอาไม้165เคาะลงบนโต๊ะ แล้ววา่ ดงั นี)้
สรรเสริญพระไตรศรณคมน์
พระพุทธรตั น์ พระธรรมรัตน์ พระสงั ฆรัตน์
ปกแผ่ไปทศทศิ
(มาตรว่า) เคารพขอพร
ย่อมต้องประสิทธิ
165 ไม้นีค้ ือ 醒木, 驚堂木, 界方 (ดภู าพประกอบหน้า 53) เป็นไม้รูปทรง
ส่เี หลยี่ ม มอี กั ษรสทิ ธมั บนไม้ ใช้เคาะลงบนโต๊ะ เพอ่ื ให้เกิดความสงบ ดจุ ผ้พู พิ ากษา
ทางโลก ใช้ค้อนไม้ ทบุ ลงบนโต๊ะ เพ่อื ให้เกิดเสยี ง เวลาขนึ ้ ศาล ฉะนนั้
~ 142 ~
บดั นี้จักเริม่ พธิ เี ปรตพลี พึงถอื พระรตั นตรัยว่าเป็นศรณะก่อน ขอพรใหธ้ รร
มาจาร166บริบรู ณ์ ยังใหป้ ระสิทธิทุกประการ ทุกคนเมตตากรุณา ขานรบั
พรอ้ มกัน
ศรัทธาอภวิ าทพระพทุ ธเจา้ ดว้ ยจิตรอนั ยิ่ง พระผเู้ คารพแห่งทวิบาท167
ไตรโพธบิ รบิ ูรณ์168 ถงึ พรอ้ มด้วยคณุ ทัง้ หลาย เปน็ สารถีฝกึ บุรุษบคุ คลที่
166 法事 ธรรมาจาร คอื อาจาระแห่งธรรม (กิจ หรือ ข้อประพฤติ แหง่ ธรรม) อนั
ได้แก่ พิธีโยคเปรตพลี นี ้
167 兩足尊 พระผ้เู คารพแหง่ ทวิบาท คําวา่ 兩足 “ทวบิ าท” หมายเอา สตั ว์ ๒
เท้า คอื มนษุ ย์และเทวดา ใน 《妙法蓮華經玄贊》 สทั ธรรมปณุ ฑรีกสตู รรหสั
ยานโุ มทิตะ แสดงไว้วา่ “ในบรรดา ๓ จําพวกนนั้ มนษุ ย์เป็นเอก ท่ีจกั สามารถศกึ ษา
และประพฤติธรรมได้” นยั นีจ้ ึงหมายถงึ “สตั ถา เทวะมะนสุ สานงั ” คือ "ทรงเป็น
ครูผ้สู อนของเทวดา และมนษุ ย์ทงั้ หลาย" อน่งึ “ทวบิ าท” นี ้ยงั หมายเอา ทวบิ ริบรู ณ์
คอื ความสมบรู ณ์พร้อม ในโลกิยะกศุ ล (บญุ ) และโลกตุ ตระกศุ ล (ชญาน) พระ
ตถาคตทรงเพียบพร้อมและเป็นเอก จงึ ทรงเป็นอีศวร ท่องไปในธรรมธาตุ เพือ่ โปรด
สรรพชีวิตได้; ใน 《法華嘉祥疏》 สทั ธรรมปณุ ฑรีกกศุ ลศรีวิภาษา แสดงไว้วา่
“บทวา่ ทวิบาท นนั้ คือ ศีลและศมาธิ ๑, สมมตุ ิและปรมารถ ๑, บญุ และชญาน ๑
และ ปริยตั แิ ละปฏิบตั ิ ๑”
168 บทวา่ 三覺圓 “ไตรโพธิบริบรู ณ์” ความคอื พระตถาคตทรงถึงพร้อมด้วย 三
覺 โพธิ (ความตื่นรู้) ทงั้ ๓ ได้แก่ ๑. สาวกโพธิ คือ โพธิแห่งพระอรหนั ต์หรือศราวก
~ 143 ~
ควรฝึก169 (โอมฺ อา หมู )ฺ เปน็ พระบดิ า ผทู้ รงกรณุ าแหง่ ปถุ ุชนและอารยะ
(ทัง้ หลาย)170 จากสตั ยโลกธาตุ171 มาสัมพันธ์ ณ.ที่นี้ พระเมตตาแผไ่ ป
ทั่ว ครอบคลมุ ไตรยอวธวะ172 ท้ังทศทศิ กัมปนาทธรรมโฆษ บันลือธรรม
เภรี173 สาแดงอภปิ ราย สมมตุ แิ ละปรมารถศาสน์174 (โอมฺ อา หมู ฺ)
ยาน ๒. โพธิสตั วโพธิ คอื โพธิแห่งพระโพธิสตั ว์ และ ๓. สมั มาสมั โพธิ คอื โพธิแห่ง
พระสมั มาสมั พทุ ธเจ้า
169 天人調御師 ปรุ ิสทมั สารถิ เป็นสารถีฝึกบรุ ุษบคุ คลที่ควรฝึก; ในปรัชญาปาร
มิตาศาสตร์ ได้แสดงไว้วา่ “บทวา่ ปรุ ุษะทมั ยะสาระถิ พระตถาคตอาศยั พระมหา
กรุณาและมหาปรัชญา (เพื่อโปรดสรรพชีวิต) บางครงั้ ทรงใช้วจีอนั ไพเราะ บางครงั้
ทรงใช้กถาอนั ดดุ นั บ้างก็สลบั กนั ทงั้ นีก้ เ็ พอื่ การฝึก (ม้าคอื บรุ ุษ) ไมใ่ ห้ออกจาก
หนทางคอื มรรค ฉะนนั้
170 บทวา่ 凡聖大慈父 “เป็นพระบดิ าผ้ทู รงกรุณาแหง่ ปถุ ชุ นและอารยะ
(ทงั้ หลาย)” ความคอื พระตถาคตทรงเป็นสยมั ภู ตรัสรู้ธรรมเป็นเอก ไมม่ ีใครยิ่งกวา่
ปวงปถุ ชุ นและพระอารยะทงั้ หลาย ตา่ งเป็นศิษย์ในพระองค์ ดงั นีแ้ ล้วพระองค์จึงเป็น
ที่ธรรมบิดร แหง่ สรรพชีวติ ทงั้ หลาย
171 真界 สตั ยโลกธาตุ หมายเอา สตั ยธรรม พระตถาคตมาแตส่ ตั ยธรรม สมู่ ายา
แห่งสงั สารจกั ร เพ่ือโปรดสรรพชีวติ
172 三際時, 三世 ไตรยอวธวะ ตรีกาล คือ อดีต ปรัตยบุ นั อนาคต คอื เป็ นอกา
ลโิ ก พ้นจากข้อจํากดั แหง่ กาลเวลา
173 บทวา่ 震法雷。鳴法鼓。 “กมั ปนาทธรรมโฆษ บนั ลอื ธรรมเภรี” คือ การ
ลน่ั กลองสายฟ้ ากมั ปนาท ยงั ให้สรรพชีวติ ตน่ื ขนึ ้ จากความหลบั ใหล แห่งอวทิ ยา
~ 144 ~
เปดิ ทางแห่งอปุ ายะ มาตรเข้าถึงวา่ เปน็ ศรณะ ยอ่ มจะระงับทกุ ข์ แห่งนรก
ภูมิ
ศรัทธาอภวิ าทพระธรรมเจา้ ด้วยจิตรอันยิ่ง เป็นท่ีเคารพแลว้ ของพระผ้พู น้
จากราคะ175 เปน็ คลงั แกว้ ขมุ สมบัติ176 รวบรวมมาจากประจิม
ประเทศ177 (โอมฺ อา หูมฺ) แปลและถ่ายทอดสู่แดนบรู พา178 บรู พาจารย์
เผยแผ่ ปวงบัณฑิตวเิ คราะห์ เกิดเป็นตาราอธบิ าย แยกตรียาน เบญจา
นศุ าสนี กาหนดเบญจนิกาย179 ภูตผียาเกรง นาคและเทพอารกั ษ์ ชท้ี าง
174 บทวา่ 權實教 “สมมตุ แิ ละปรมารถศาสน์” คอื พระศาสนาตามนยั แห่งสมมตุ ิ
สจั และปรมตั ถสจั
175 離欲 วริ าคะ พระผ้พู ้นจากราคะ คือ พระพทุ ธเจ้า พระโพธิสตั ว์ และพระอารย
สาวกทงั้ หลาย
176 寶藏收。玉函貯。 บทวา่ “เป็นคลงั แก้ว ขมุ สมบตั ิ” คือนยั แห่งศพั ท์วา่
“ปิ ฏก” เพราะเป็นที่เก็บแหง่ อริยทรพั ย์ทงั้ หลาย
177 西域 ประจิมประเทศ คือ ดนิ แดนทางทิศตะวนั ตก อนั ได้แกบ่ ริเวณประเทศ
อินเดยี ฯลฯ (ไมไ่ ด้หมายถงึ เมอื ง 西域 ซอี วี ้ที่อยทู่ างตะวนั ตกของจีน ในสมยั
โบราณ)
178 東土 แดนบรู พา หมายถึง บริเวณประเทศจีนในปัจจบุ นั
179 五教, 五宗 เบญจนิกาย ได้แก่ 天台 เทียนไถ, 華嚴 ฮวา๋ เอ๋ียน (อวตงั ส
กะ), 法相 ฝ่ าเซ่ียง (ธรรมลกั ษณ์), 三論 ซนั ลนุ่ (ตรีศาสตร์), และ 律 ลว่ี (วินยั )
~ 145 ~
แห่งดวงจันทร์180 (โอมฺ อา หูม)ฺ คอื อมฤตท่รี ะงับความเร่ารอ้ น มาตร
เขา้ ถงึ ว่าเปน็ ศรณะ ย่อมจะระงับทกุ ข์ แหง่ เปรตภมู ิ
ศรทั ธาอภิวาทพระสงั ฆเจ้า ดว้ ยจิตรอันยงิ่ พระผเู้ ป็นท่เี คารพท่ามกลางชน
ท้ังหลาย เบญจคณุ าจารย์181 ษัฑสามคร1ี 82 มีการอปุ การสรรพชีวติ เป็น
180 มคี วามปรากฏมาใน 《指月录》 จนั ทรนิทรรศน์ลิขิต วา่ มแี มช่ ี นามวา่ 無
盡藏 “อกั ษยครรภ์” (ชื่อนีเ้ป็นปริศนาธรรม) กลา่ วกบั 六祖惠能 พระษัฑปรินายก
แหง่ นิกายธยาน พระอาจารย์ห้ยุ เหนิง วา่ “ตวั ทา่ นอา่ นหนงั สือไมอ่ อก แล้วจะอธิบาย
ธรรมได้เชน่ ไร” พระอาจารย์ห้งุ เหนิงตอบวา่ “พระธรรม ไมไ่ ด้เกี่ยวข้องอะไรกบั
ตวั หนงั สือ อปุ มาดง่ั การชีด้ วงจนั ทร์บนท้องฟ้ า ตวั หนงั สอื คือนิว้ มือ อนั ท่ีชีไ้ ปที่ดวง
จนั ทร์ ตวั หนงั สือในพระไตรปิ ฏก คือสอ่ื ท่ีจะให้เข้าถงึ ธรรม แตจ่ ะเป็นพระธรรมกห็ า
ไม่ ดงั เชน่ นิว้ มือ ท่ีไมใ่ ชด่ วงจนั ทร์ ฉะนนั้ ”
181 ใน 《三藏法數》 “ตรีปิ ฏกธรรมคณา” แสดงไว้วา่ 五德師 ”เบญจคณุ า
จารย์” คือ อาจารย์ท่ีทรงไว้ซงึ่ คณุ ธรรม ๕ ประการ ได้แก่ ๑. นอบน้อมออ่ นโยน ๒. มี
การเผยแพร่ธรรมโปรดสตั ว์ไมข่ าดชว่ ง ๓. มกี ารรกั ษาศีลเป็นที่ปรากฏ ๔. สามารถ
ทําลายกิเลสและความทกุ ข์ทงั้ หลาย ๕. เป็นผ้ไู มห่ นั หลงั ให้ดวงตะวนั ความคือ มอี า
จาระ ที่ไมห่ นั หลงั คอื ไมข่ ดั แย้งตอ่ พระผ้มู พี ระภาคและพระสทั ธรรม
182 六和侶 ษัฑสามครี, ฉสามคั คี บรรพชิตในพระศาสนาของพระศาสดา กอปร
ด้วยสามคั คีธรรม ๖ ประการ ได้แก่ ๑. สมทิฐิ คอื จิตรมีสมั มาทิฐิ เช่นเดียวกนั ๒.
สมศีล คือ กายมศี ีลาจารวตั ร ตามธรรมวนิ ยั ท่ีพระศาสดาประกาศไว้ เป็นหน่งึ
เดียวกนั ๓. สมจรรยา คอื มคี วามประพฤติอนั ดีแล้ว เสมอกนั ๔. กายคารวตา คือ มี
กาย (กริยา) อนั เคารพ ในหมสู่ งฆ์ อปุ าธยายะ และบคุ คลทงั้ หลาย ๔. วจีคารวตา
คือ มีวจีสจุ ริต ไพเราะ นอบน้อม ไมโ่ ต้แย้ง และไมท่ ะเลาะกบั ใคร ๖. มนสั คารวตา
~ 146 ~
กจิ (โอมฺ อา หมู )ฺ เผยแผพ่ ระธรรมเป็นธุระ หลบลี้จากโลกยี ะ มีปกติสขุ
นัง่ อย่ใู นท่ีสงบศานติ ปกคลมุ กายด้วยผ้านามะตะ183 เป็นผู้ภกิ ขาจารแค่พอ
ประทงั ชีวิต บาตรสยบมังกร คทาขักกระ184ปราบพยคั ฆ์ ธรรมประทีป
สาดส่อง (โอมฺ อา หูมฺ) สบื แตป่ รู วาจารย์ มาตรเขา้ ถึงวา่ เปน็ ศรณะ
ยอ่ มจะระงบั ทกุ ข์ แหง่ ตริ ัจฉานภูมิ
คอื มีจิตรไมโ่ อ้อวด โอหงั ถือตน แตก่ ลบั นอบน้อม ตอ่ บคุ คล สรรพสงิ่ และสรรพ
ชีวติ ทงั้ หลาย ด้วยสรรพชีวติ มีโพธิจิตร ดงั นีแ้ ล้ว สรรพชีวิตก็คือพทุ ธะ การเคารพใน
สรรพชีวิต อนั ได้แก่ ทกุ คน ทกุ สตั ว์ ทกุ ชีวิต กค็ อื การเคารพในพระตถาคตเจ้า
ทงั้ หลาย
183 納衣, 衲衣, 毳衣 ผ้านามะตะ เป็นผ้าที่ทําจากขนสตั ว์ เช่น ขนแกะ การ
คลองผ้าดงั นี ้มคี ณุ ๑๐ ประการ คือ ๑. มคี ณุ เหมอื นผ้าสงั การ คอื ผ้าท่ีเขาทิง้ ข้าง
ทาง, ผ้าที่กวาดทิง้ , ผ้าที่ทงิ ้ ข้างแมน่ ํา้ ลาํ คลอง, ผ้าที่มอดแมลงกดั ขาด ฯลฯ (บาง
แห่งแสดงไว้วา่ ผ้าสงั การ หมายถงึ ผ้า ๕ ประการคอื ๑. ผ้าท่ีไฟไหม้ ๒. ผ้าที่ไหลไป
ตามนํา้ ๓. ผ้าท่ีหนกู ดั ๔. ผ้าที่ววั กดั ๕. ผ้าท่ีแมน่ มทิง้ ) ๒. เป็นผ้มู กั น้อย ๓. เป็นผู้
นงั่ เป็นสขุ ๔. เป็นผ้นู อนเป็นสขุ (นง่ั นอนเป็นสขุ เพราะไมใ่ ชผ่ ้าดมี ีราคา จึงไมต่ ้อง
ระวงั ) ๕. ด้วยเป็นผ้าเกา่ จงึ ซกั ง่าย ๖. ย้อมง่าย ๗. มอดแมลงกินน้อย ๘.ขาดหรือ
ทําลายยาก (ด้วยเป็นผ้าหยาบ และย้อมนํา้ ฝาดแล้ว จึงมคี วามคงทน) ๙. ไมต่ ้องหา
ผ้ามาเพ่มิ ๑๐. เป็นผ้ไู มเ่ ส่ือมแล้วจากอารยมรรค
184 錫杖 คทาขกั กระ ไม้เท้าท่ีพระกษิตครรภ์ และท่ีบรรพชิตจีน ถือเวลาเดนิ ทาง
และทําพธิ ี ฯลฯ
~ 147 ~
(จากนนั้ กลา่ วตอ่ ดงั น)ี ้
ขอนอบน้อมแด่ พระสคุ ันธเมฆปฎลโพธสิ ัตว์มหาสตั ว์185
ทกุ คนตงั้ มหาปรณธิ าน
เข้าถึงพระวัชราจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ว่าเป็นศรณะ
บัดนี้ ข้า ฯ ขอตั้งปรณธิ าน ไมข่ อในมนุษยสมบตั ิ ไมข่ อในสวรรค์สมบตั ิ
ไมป่ รารถนาเพ่อื ตนเอง ไม่หวงั เพือ่ พระ (อรหนั ต)์ สาวก และ พระปัจเจก
แลย่ิงไมใ่ ชเ่ พื่อฐานะแหง่ พระโพธสิ ตั ว์ หากแตเ่ พอื่ อนตุ ตรยานเท่าน้ัน ตง้ั
จติ รปรณธิ านในโพธจิ ิตร ขอปวงสรรพชีวติ ทว่ั ท้ังธรรมธาตุ ร่วมเขา้ ถึง
อนุตตรสมั มาสมั โพธิญาณ
กระทา มหาจกั รวิทยราช มุทรา
อธิษฐาน ใหป้ รมิ ณฑล พสิ ทุ ธิส์ ทิ ธ์ิ
185 ขอนอบน้อม ตอ่ ปวงพระโพธิสตั ว์มหาสตั ว์ ที่อยภู่ ายใต้ มวลแห่งควนั ธปู
(เครื่องหอม) นี ้
~ 148 ~
บัดน้ี ขา้ ฯ อาศยั อนุศาสน์ รหัสยมนตร์
ขอใหก้ ารณ์ ทง้ั หลาย ล้วนสาเร็จ
สวด มหาจกั รวิทยราชมทุ รา ๗ จบ
(อนั มทุ ราและธารณีนี ้ในอมฤตกณุ ฑลโิ พธิสตั วชาปวิธี แสดงไว้วา่ สองมอื
ประสานกนั นวิ ้ ชีต้ งั้ ตรง นวิ ้ กลางก็ตงั้ ตรง แล้วงอมาเกีย่ ว นวี ้ ชีข้ ้อท่หี นงึ่
เมอ่ื กระทาํ มทุ รา พงึ สาํ รวมจิตร แล้ววา่ ดงั น)ี ้
๏ นะมสั ตริยะ ธปิกานามฺ สะรวะ ตะถาคะตานามฺ โอมฺ วริ ะจิ วิระ
จิ มะหาจกั ระ วชั รี วชั รี สะตะ สะตะ สาระเต สาระเต ตระยี ตระยี
วิธะมะณิ สภ ชะนะนิ ตระมะนิ เต สทิ ธา ครยิ ะ ตรามฺ อ186 สิทธิ
ธปิ สวาหา ๚ะ๛187
186 บทวา่ “อํ” บางแห่งออกวา่ “งํ”
187 捺麻斯得哩(三合)野。脫夷(二合)葛喃。薩哩斡(二合)。怛
塔葛達喃。唵。微囉積。 微囉積。麻曷拶葛囉(二合)。斡資
哩(二合)。斡資哩(二合)。薩怛薩怛。薩囉諦。薩囉諦。得囉
~ 149 ~
(二合)夷。得囉(二合)夷。微駄麻尼。三攀拶納禰。得囉(二合)
麻禰的。席塔訖哩(二合)。得蘭(二合)顏席提。脫夷(二合)莎訶。
บางแหง่ กลา่ ววา่ มนตร์บทนี ้คอื 大輪金剛陀羅尼 มหาจกั รวชั รธารณี
โดยถือเป็ นอภเิ ษกธารณี ในพระตถาคตเจ้าทงั้ หลาย ดงั นี ้“นมสั ตริยะ ธวิ
กานามฺ สะรวะ ตะถาคะตานามฺ โอมฺ วิระจิ วริ ะจิ มะหาจกั ระ วชั รี สะตะ สะ
ตะ สาระเต สาระเต ตระยี ตระยี วธิ ะมะณิ สภํ ญั ชะนิ ตระมะติ สทิ ธา อคั เร
ตรามฺ สวาหา” (และบางฉบบั ก็ออกวา่ “นะมสั ตริยะ ทวกิ านามฺ ตะถาคะ
ตานามฺ โอมฺ วริ ะจิ วิระจิ มะหาจกั ระ วชั รี สะตะ สะตะ สาระเต สาระเต
ตระยี ตระยี วธิ ะมะณิ สภํ ะชะนิ ตระมะติ สทิ ธา คริยะ ตรามฺ สวาหา”)
~ 150 ~