The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โยคสังครหเปรตพลีวิธี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

โยคสังครหเปรตพลีวิธี

โยคสังครหเปรตพลีวิธี

Keywords: โยคสังครหเปรตพลีวิธี

อุบลมาลย์ คอ่ ย ๆ เลก็ ลง เทา่ กายตน

(คาถาทงั้ ๘ บาทนี ้นยั หนง่ึ คือ การขยายเป็ นท่สี ดุ ดงั ทเี่ วยลอู วีป่ า273
อธิบายไว้วา่ จากเดมิ ขยายออกไป แล้วสรุปกลบั มาทีเ่ ดมิ ทงั้ นลี ้ ้วนไมเ่ ป็ น
สอง วชั ราจารย์ได้แสดงไว้วา่ “ปล่อยไปแลว้ ไม่กลบั คือปถุ ชุ น เก็บกลบั แลว้
ไม่ปล่อยคือพระสาวก (ไม่ใช่มหายาน) มีเก็บมีปล่อยคือรหสั ยยาน ไม่ตอ้ ง
เก็บไม่ตอ้ งปล่อย ชื่อว่าไม่มีอปรปัญจะ คือมูลตนั ตระอนั ยิ่ง” คาํ วา่ “เก็บ” นี ้

ชนไมแ่ จ้ง มกั ข้ามไป ศกึ ษาชนจงึ ไมพ่ งึ มองข้ามไป ฉะนี)้

จากน้ัน กระทา อวโลกิเตศวรมุทรา
อธิษฐาน ส่สี ถาน สาธยายมนตร์

(คาถา ๒ บาทนี ้ผ้บู ําเพ็ญโยคะ ขอแรงอธิษฐาน จากพระพทุ ธปรชั ญา
สว่ นมนตร์และมทุ รานนั้ มดี งั ทจี่ ะแสดง ตอ่ ไปน)ี ้

273 准魯餘巴 เวยลอู ว่ปี า

~ 201 ~

กายตนนนั้ ก็เสมอด้วย พระอวโลกิเตศวร

(แตไ่ รมา ก็คอื อวโลกิเตศวร274 บดั นดี ้ ้วยเกรงวา่ จะหลงใหลตามวตั ถุ (จงึ
เตอื นสต)ิ ให้กลบั มา มนสกิ ารกายตน จึงได้กลา่ วดงั นี ้

ปจุ ฉา : จําเดิมมนสกิ ารพีชอกั ขระ สาํ เร็จเป็ นพระอวโลกิเตศวร แล้วใยบดั นี ้
จึงกลา่ วดงั นี ้?

วิสชั นา : แตไ่ รมา มเิ คยหา่ งจากพทุ ธิ275 บดั นปี ้ ระจกั ษ์ และเข้าสศู่ มาธิ
ด้วยตนเอง ดจุ สธุ นพง่ึ จะไปประสบพระมญั ชศุ รี ฉะนนั้ ทมี่ นสกิ ารพระอว
โลกิเตศวร ในก่อนหน้านี ้คือ การปรารถนาเหตุ คือ ชื่อวา่ เหตทุ า่ มกลางผล
เมื่ออธิษฐานมนตร์แล้ว คอื ผลทา่ มกลางเหตุ แล

ปจุ ฉา : เมื่อเข้าสมู่ ณฑลพิธี พงึ เกิดอวโลกิเตศวรมานะ276 บดั นีก้ ็พงึ เกิด
ซํา้ แลเข้าสศู่ มาธิ แล้วจะไมม่ ากเกินไปฤๅ ?

274 สรรพชีวิตตา่ งมโี พธิจิตร ซง่ึ ก็คอื พทุ ธภาวะ ด้วยเหตนุ ีส้ รรพชีวิตทงั้ หลายก็คอื
พระอวโลกิเตศวร
275 覺 พทุ ธิ สภาวะแห่งความต่นื รู้
276 觀音慢 อวโลกิเตศวรมานะ คอื การถือตน วา่ เป็นพระอวโลกิเตศวร ไมใ่ ชก่ าร
ถือตนวา่ ยิ่งใหญ่ หากแตเ่ กิดจิตรกล้าหาญ ที่จะถือเป็นธรุ ะ อนั จกั โปรดสรรพชีวติ

~ 202 ~

วิสชั นา : ไมเ่ ลย ก่อนหน้านี ้คอื ปรู วศมาธิ คือ สมั ยกั ตวนยิ าม สมั ยกั ตว
กาย ดจุ ชนผ้เู ป็ นคฤหสั ถ์ ศมาธิทเี่ ข้าในภายหลงั นี ้ดจุ การไปเป็ นขนุ นางรับ
ราชการ แท้จริงแล้ว คอื สงิ่ เดยี วกนั แตแ่ สดงในมมุ ท่ีตา่ งกนั อปุ มาดง่ั การ
อยรู่ าชสาํ นกั แล้วสวมชดุ ขนุ นาง เมอ่ื ถือศลี กเ็ ปลย่ี นมาใสช่ ดุ ประพฤติ
ธรรม จึงได้แสดงวา่ ปรู วศมาธิสขี าว ยงั มีศมาธิอนั มีสที อง ทงั้ ยงั มสี อี น่ื อกี
อยทู่ แี่ ตล่ ะธรรม พงึ พจิ ารณ์ตามนยั ดงั ฉะน)ี ้

ขอมหานศุ งั ศะ แหง่ ธยานปารมิตา นี้
อุทิศแก่ สรรพชีวติ ทั้งธรรมธาตุ
ให้ได้รบั อนันตรประภาส แหง่ ประจมิ ทศิ
สาเร็จตาม มหาปรณธิ าน แหง่ พระสมนั ตภทั ร

(กระทําพระอวโลกิเตศวรมทุ รา สองมือประสานกนั สองนวิ ้ ชนกนั สณั ฐาน
ดงั กลบี บวั สองนวิ ้ โป้ งตดิ กนั เมือ่ กาลท่ีสวดมนตร์นี ้อธิษฐานทงั้ ๔ สถาน
คือจกั รทงั้ ๔ ในร่างกาย ได้แก่ ๑. สหสรารจกั ร (กระหมอ่ ม) ๒. วศิ ทุ ธจกั ร

(คอ) ๓. อนาหตจกั ร (หวั ใจ) ๔. สวาธิษฐานจกั ร (สะดอื ))

~ 203 ~

๏ โอมฺ วชั ระ ธะรมะ หรหี ฺ ๚ะ๛277

(เมอื่ กระทาํ มทุ รานี ้ ให้อธิษฐาน ๔ สถาน เมื่อแตะไปทใ่ี ด ให้สวดมนตร์ ๑
จบ เกิดเป็ นอกั ขระ โอมฺ เม่อื แตะลงที่กระหมอ่ ม เกิดเป็ นอกั ขระ โอมฺ และ
อกั ขระ ตรามฺ เมอื่ แตะลงท่ีปาก (คอ) เกดิ เป็ นอกั ขระ โอมฺ และ อกั ขระ หมู ฺ
เมื่อแตะลงไปที่หวั ใจ เกดิ เป็ นอกั ขระ โอมฺ และ อกั ขระ อาหฺ เมอ่ื แตะลงท่ี

277 唵(引)。斡資囉(二合)。塔囉麻(二合) 紇哩。
~ 204 ~

สะดอื เกิดเป็ นอกั ขระ โอมฺ และ อกั ขระ หรีหฺ นคี ้ ือการอธิษฐานสรีระแหง่
ตน มารทงั้ หลาย ยอ่ มมิอาจทําร้ายได้ อยา่ งไรก็ตาม การอธิษฐานทงั้ นี ้มี ๒

ปรยาย บดั นไี ้ ด้แสดงไว้พยี งปรยายต้นเทา่ นนั้ )

~ 205 ~

มาตรชนปรารถจกั แจ้งใน ปวงพระตถาคตในไตรยอวธวะ
พึงมนสกิ ารธรรมธาตสุ ภาวะ ทง้ั หมดล้วนเกดิ จากใจ278

ต่อมา กระทา ทลายนรกมุทรา

(สองหตั ถ์ กระทาํ วชั รมษุ ฏิ (นวิ ้ ) ทานและปรัชญา เกี่ยวกนั วีรยะและ
พละ ยนั กนั ไว้ แล้วสวดมนตร์เปิดนรก ๓ จบ สวดแตล่ ะจบ ให้แยกหตั ถ์ทงั้

๒ ออกจากกนั ๑ ครัง้ ดงั น)ี ้

๏ นะมะหฺ อัษฏาสิตีน สมั ยกั สมั พทุ ธะ โกฏนี โอมฺ ชญานาวะภาสิ
ทิริ ทิริ หูมฺ ๚ะ๛279

278「若人欲了知,三世一切佛。應觀法界性,一切唯心造。」

คาถา ๔ บาทนี ้เป็นคาถาของ 覺林菩薩 พระพทุ ธวนั โพธิสตั ว์ ที่มีมาในอวตงั สก
สตู ร ทงั้ ยงั ถือเป็นคาถาเปิ ดนรกด้วย เป็นการเตอื นสตสิ รรพชีวิตวา่ สรรพส่ิงคอื มายา
ล้วนเกิดจากใจ พทุ ธะ มาร วิทยา อวิทยา บญุ บาป สวรรค์ นรก ล้วนคอื สิ่งท่ีไมม่ จี ริง
เมอ่ื สตั ว์นนั้ ได้ฟัง พลนั เกิดสติ แจ้งวา่ นรกนนั้ ไมม่ ีจริง ทรุ คตแิ ละทกุ ขเวทนาทงั้ นนั้
ยอ่ มปราศไป

~ 206 ~

(พงึ มนสกิ ารวา่ กายแหง่ ตน คือพระอวโลกิเตศวรสแี ดง ๑ พตั ร์ ๒ มอื บน
ลนิ ้ , หวั ใจ และมทุ รา ๓ สถาน เกดิ อกั ขระ หรีหฺ สแี ดง ทอแสงสกาว ดจุ แสง
เมอื่ แรกขนึ ้ ของดวงตะวนั สาดสอ่ งไปยงั นรกภมู ิ ยงั ให้นริ ยะทงั้ นนั้ ทําลาย
โดยสนิ ้

279 那麻阿瑟吒(二合)。瑟吒(二合)攝諦喃。三藐三勃塔。俱胝喃。

唵(引)。撮(引)辣(引)納。嚩婆細。提哩提哩吽。 มนตร์นีเ้ ป็ นมนตร์
แหง่ ชญานาวภาส (แสงแห่งชญาน) ในพระตถาคตเจ้า ทงั้ ๘๘ โกฏิ

~ 207 ~

ปจุ ฉา : สถานหนงึ่ ก็จกั ทําลายได้แล้ว ใยต้องกระทําถงึ ๓ สถาน ?

วิสชั นา : เพราะนรกนนั้ เกิดจากบาปกรรมทงั้ ไตรทวาร จงึ ต้องใช้แสงทงั้ ๓
ทาํ ลาย ฉะนนั้

ปจุ ฉา : ก็แลถ้าบาปกรรมอ่ืน จะทาํ ลายได้เช่นไร ?

วิสชั นา : บาปทงั้ หลายนนั้ ล้วนมสี มฏุ ฐานจากใจ เมอื่ แสงแหง่ ปรัชญาสอ่ ง
แล้ว สรรพชีวติ นนั้ ยอ่ มไมม่ ี280 แล้วจกั มีนรกได้ไฉน ด้วยมีจติ รอนั หลง จงึ
สาํ คญั ผดิ 281 แล้วกระทําบาปกรรม เมือ่ เหตถุ ึงท่สี ดุ ยอ่ มเกิดวบิ าก สาํ คญั
ผดิ วา่ มีนรก ต้องรับทกุ ขเวทนา อนั การทาํ ลายนรกนี ้คอื การทาํ ลาย
ความเห็นผดิ ทรี่ ับทกุ ขเวทนา อปุ มาดง่ั การหลบั ฝันไปวา่ ถกู เสอื สหี ์ขบกดั
พบโจรภยั ราชภยั รับทกุ ขเวทนา นานาประการ ตอ่ เม่อื ตน่ื ขนึ ้ จะมีสงิ่ ไรฤๅ
ก็หาไม่ บดั นกี ้ ารมนสกิ ารนรกทงั้ นี ้ก็เฉกกนั การสอ่ ง (ด้วยชญาน) ทงั้ นี ้ไม่
มี (นรกใด) ท่ีจะไมท่ าํ ลาย

ปจุ ฉา : วา่ ถ้าแตไ่ รมา นรกทงั้ หลาย ล้วนไมม่ จี ริง แล้วจะทําลาย (นรก)
เพ่อื ช่วย (สรรพชีวติ ทงั้ หลาย) ไปเพ่ืออะไร ?

280 บทวา่ “เมอื่ แสงแหง่ ปรัชญาสอ่ งแล้ว สรรพชีวิตนนั้ ยอ่ มไมม่ ี” ความคือ ปรัชญา
ดจุ ดงั แสงอนั ทําลายความมืด เมื่อปรัญชาแจ้งในตตั วธรรมแล้ว ย่อมประจกั ษ์ชดั วา่
สรรพส่งิ ทงั้ หลาย ไมม่ จี ริง
281 妄, 妄見 มถิ ยาทะรศนะ มจิ ฉาทิฐิ สําคญั ผิด เชน่ ยดึ ในสิ่งที่ไมม่ ี วา่ มีจริง

~ 208 ~

วสิ ชั นา : บดั นเี ้ราผ้มู ชี ญาน ประจกั ษ์แล้ว ยอ่ มพ้นจากทกุ ข์ แตส่ ตั ว์อืน่ ที่
ไมม่ ชี ญาน จะไมท่ กุ ข์ได้ไฉน ก็แลดงั ที่ ปรู ณพทุ ธสตู ร282 ได้แสดงไว้วา่
“ยามฝันนนั้ ไม่มีส่ิงใด ทีไ่ ม่มี พอตืน่ มา ทกุ สิ่งก็พลนั ไร้” บดั นจี ้ งึ ได้ทาํ ลาย
ทกุ ข์ อนั วา่ งเปลา่ แหง่ นรก อนั บาปกรรม ยงั ให้เกดิ นรก เม่อื แจ้งวา่ ไมม่ ี
บดั นขี ้ ้า ฯ อาศยั ชญานประภาสภาวะ แจ้งในเหตุ (นรก) จงึ ทาํ ลายลง ก็แล
๑. ธยาน ๒. มทุ รา ๓. ธารณี ๔. มนสกิ าร ๕. ชญานาวภาส อนั ปัจจยั ทงั้ ๕
นี ้จงึ สามารถทาํ ลายนรกลงได้แล
บดั นศี ้ กึ ษาชน ในโลกนี ้ตลอดจนอาจารย์จาํ นวนมาก มเี พียงแตก่ ารสน่ั
ระฆงั แลพิธีการอนั วนุ่ วาย ชะรอย จะผิดตอ่ เจตนาแหง่ ทายกอยา่ งมากมาย
ฉะนนั้ )

282 圓覺經, 円覚経, 大方廣圓覺修多羅了義經, 大方広円覚修多

羅了義経 Mahāvaipulya pūrṇabuddhasūtra prassanārtha sūtra มหา
ไวปลุ ยปรู ณพทุ ธสตู รปรสั สนารถสตู ร, ปรู ณพทุ ธสตู ร

~ 209 ~

~ 210 ~

~ 211 ~

ดว้ ยเดชแหง่ มทุ ราและมนตร์ นี้
ทาลายซ่ึง ประตแู หง่ นรก ทัง้ หลาย
เปดิ ออกดว้ ย มทุ ราและมนตรน์ ้ี ในทนั ใด

~ 212 ~

ขออัญเชญิ พระกษิติครรภโพธิสตั ว์

~ 213 ~

(ยกดอกไม้อญั เชิญ ทกุ คนขานรบั แล้ว ประธานยกกระถางสคุ นธ์อญั เชิญ)

ขอสารวมจติ รเปน็ หนึ่ง ถวายความนอบน้อม พระผู้ตงั้ ปรณธิ านว่า จะ
โปรดสรรพชีวติ ให้ส้นิ จงึ ค่อยจกั ตรัสรู้อนุตตรสัมโพธญิ าณ นรกภมู ิไมว่ ่าง
จะไม่เข้าถึงอภสิ ัมพทุ ธะ มหาอารยะกษติ ิครรภโพธสิ ัตว์มหาสตั ว์ เมตตา
สรรพชีวติ ขอใหม้ าสถติ ยังธรรมสงั คตี ิ ในกาลบดั นี้

(ทกุ คนถือดอกไม้เชิญ ประธานวางกระถางธปู ถวายจตรุ จกั รมทุ ราทงั้ ๔

สถาน สวด “ชะหฺ หมู ฺ ว โหหฺ”283 กระทาํ มทุ รา สวดมนตร์ ถวายเบญจ

บชู า อา่ นโองการโปรดบรรพชนและเปรตทงั้ หลาย)

ขอสารวมจิตรเปน็ หน่งึ ขออญั เชิญ บรรพกษัตริย์ บรรพเสนามาตย์ ผู้
พานักในปราสาทราชวัง แลอยู่ในขนุ เขาลาธารอยา่ งโดดเด่ียว เรือรบจาก
ตะวันตก ราชศักดิ์ (ท่ีแยกไป) นบั พันปี รวมเป็นหน่งึ 284 ราชยานไปอดุ ร

283 ดเู ชิงอรรถข้อ 255
284 บทวา่ 西來戰艦。千年王氣俄收。 “เรือรบจากตะวนั ตก ราชศกั ดิ์ (ที่
แยกไป) นบั พนั ปี รวมเป็นหนงึ่ ” หมายเอา ในสมยั ราชวงศ์จิน้ ตะวนั ตก ในสมยั พระ

~ 214 ~

เสยี งรา่ รองจากเบญจนคร ไมข่ าดสาย285 (อูฮ2ู 86) นกร้องเดือนดอก

เถา287ร่วง เลอื ดยอ้ มกง่ิ ไมส้ ุดคับแค้น อันราชะทา้ วพระยาแตบ่ ุราณทั้งน้ี

และปวงวิชญาทั้งหลาย ด้วยเดชะพระรตั นตรยั และอานาจแหง่ มนตร์
ขอใหม้ าชมุ นมุ ณ. ธรรมสังคีตนิ ้ี288

(ทกุ คน รับอมฤตอนั ไร้ขอบเขต แหง่ ธรรมสงั คตี )ิ

เจ้า 晉武帝 จิน้ อตู่ ี ้รชั สมยั 咸寧 เสียนหนิงปี ท่ี ๕ (ค.ศ. ๒๗๙) หลงั จากยดึ แคว้น
สู่ (จ๊กก๊ก) ทางตะวนั ตกได้แล้ว กร็ บั สงั่ ให้ตอ่ เรือรบ จากแคว้นสู่ กรีฑาทพั ๖ สาย จน
ทําลายแคว้นอู๋ (งอ่ ก๊ก) เป็นการรวบแผน่ ดนิ (อาํ นาจ) ท่ีเคยแตกเป็น ๓ ก๊ก รวมเป็น
๑ เดียว ได้สําเร็จ
285 บทวา่ 北去鑾輿。五國冤聲未斷。 “ราชยานไปอดุ ร เสยี งรํ่ารองจาก
เบญจนคร ไม่ขาดสาย” หมายเอา สหพนั ธรัฐเบญจนคร ท่ีอยตู่ รงปากอา่ ว
Уссурийский залив อซุ รี (ปัจจบุ นั อยใู่ นเขตประเทศรัสเซยี ) ที่นําโดย หวนั เหย
วยี นอากตุ า๋ ซง่ึ ตอ่ มาได้สถาปนาราชวงศ์จิน กรีฑาทพั ลงใต้ ทําลายราชวงศ์ซง่ ได้
สาํ เร็จ
286 ดเู ชิงอรรถข้อ 245
287 桃花 ดอกเถา ดอกท้อ
288 มคี นสนั นิษฐานวา่ บท 《焰口召請文》 เชิญเปรตทงั้ นี ้ประพนั ธ์โดย 蘇
軾 ซตู งพอ (ค.ศ. ๑๐๓๗ – ๑๑๐๑) ซง่ึ เป็นไปไมไ่ ด้ เพราะเนือ้ หาในบทนี ้คือ
เหตกุ ารณ์ในรัชสมยั จิง้ คงั (ค.ศ. ๑๑๒๕ – ๑๑๒๗) เกิดขนึ ้ หลงั จาก ซูตงพอเสยี ชีวติ
ไปแล้ว ๒๕ ปี

~ 215 ~

ขอสารวมจิตรเปน็ หนึ่ง ขออัญเชญิ แม่ทพั พระยา ท้ังหลาย ศักดินานบั
หมน่ื พัน ทาการปกปอ้ งขอบขัณฑ์ นอนคา่ ยตากน้าคา้ ง เหนอ่ื ยเปลา่ สรา้ ง
ผลงาน ลมโชยหมาป่าคล้อย เหนอื่ ยเปล่ากับความหวังของราชะท่ีจากไป
(อฮู ู) ขนุ ทัพม้าศกึ บัดนอ้ี ยู่หนไหน ดอกไม้หญา้ รา้ งพาลคะนึง อนั วิชญา
ทหารหาญศกึ ทัง้ หลายนี้

ขอสารวมจติ รเปน็ หน่งึ ขออัญเชิญ ลกู หลานขนุ นางเศรษฐมี สี กลุ ทั้งหลาย
สอบเข้ารับราชการ หมายจะรับใช้เจา้ นาย ข้ึนเหนอื ลงใต้ จากบา้ นเกิดเมอื ง
นอน ไปสุดหลา้ ฟา้ เขียว ไปตายเอาต่างถิ่น (อฮู )ู ขนุ นางไหลไปตามสายนา้
วิชญาล่องลอย จากเมอื งมนษุ ย์ อนั วิชญา ขุนนางอามาตย์ ท้ังหลายนี้

ขอสารวมจติ รเป็นหนงึ่ ขออญั เชญิ ปวงสานกั ศกึ ษาชน ทงั้ หลาย สอบได้
เป็นบัณฑิต เข้าส่สู ภาแสดงวาทะ ตะเกยี งห่ิงห้อยสน้ิ แล้ว289 ความเหน่ือย
ยากตอ้ งศูนย์เปลา่ ฝนหมึกจนทะลุ ถอื ตวั หลายสิบปี ต้องลาบาก (อฮู )ู เพือ่

289 เลา่ กนั วา่ คนยากจนในสมยั กอ่ น ไมม่ ีเงินซือ้ นํา้ มนั ตอนกลางคืน ต้องอา่ น
หนงั สอื โดยอาศยั แสงจากหิ่งห้อย (ออกจะเหลอื เชื่อไปหนอ่ ย)

~ 216 ~

ช่ือเสยี งท่ีเปน็ อักษรเพยี งไม่กี่ตวั แผน่ ดินกลบบทความ อันวิชญา หนอน
หนังสอื ท้งั หลายน้ี

ขอสารวมจิตรเปน็ หนง่ึ ขออญั เชิญ อนั ปวงพน้ ธลุ ผี ู้เป็นยอด บรรพชิตจารกิ
ไป รักษาปารศิ ุทธเิ บญจศลี ประพฤตพิ รหมจรรย์ ภิกษุ ภกิ ษุณี (แม่ชี)
ทั้งหลาย ไผเ่ ขยี วดอกไมเ้ หลอื ง290 เพอ้ เจ้ออธิบายรหัสยยาน291 โงเ่ ขลา
อับปญั ญา แต่กลบั พยายามแสดงทุกขศนู ยตกถา (อฮู ู) ลมเยน็ พดั เข้า
หน้าตา่ งในยามสาม ธยานจอมปลอมในกลางดกึ อนั พุทธิวชิ ญา สวมผ้า
กาษายะ ศากยบุตร ท้ังหลายน้ี

290 翠竹黄花 “ไผเ่ ขียวดอกไม้เหลอื ง” มีความหมายวา่ สรรพสง่ิ ล้วนคือความ
ปรากฏแห่งธรรม แตค่ นไมเ่ ข้าใจ กลบั แสวงหาธรรมจากสิ่งภายนอก มกี ารจาริก
ธรรมเป็นต้น ทงั้ ท่ีธรรม เป็นส่ิงที่มี อย่ใู นสงิ่ ทงั้ หลายอย่แู ล้ว ในสมยั ซง่ 慧海禪師
พระอาจารย์ห้ยุ ไห่ แสดงไว้วา่ “ชนผหู้ ลงใหล ไม่แจ้งว่า ธรรมกายไร้รูป อาศยั วตั ถุ
กาเนิดลกั ษณ์ ไผเ่ ขียวทง้ั หลาย ไม่มีตน้ ใด ทีไ่ ม่ใช่ธรรมกาย ดอกไมเ้ หลืองทง้ั หลาย
ไม่มีดอกใด ทีไ่ ม่ใช่ปรัชญา ดอกไมเ้ หลืองคือปรัชญา เพราะไร้ใจ ไผ่เขียวคือ
ธรรมกาย เพราะเป็นแค่ตน้ ไมใ้ บหญ้า ฉะนน้ั ”
291 เตือนใจผ้แู ปลเอง และเตือนใจบคุ คลทงั้ หลายด้วย

~ 217 ~

ขอสารวมจิตรเป็นหนงึ่ ขออัญเชิญ อาคันตกุ ะหมวกเหลอื ง บริโภคอายุ
วฒั นโอสถ มาช้านาน อยใู่ นคหู าบาเพญ็ ธรรม เบ้ืองหนา้ ผาล่ังเหยว้ียน292
ฝึกฝนจิตร นวบาเพญ็ ตรีบปุ ผา293 สวรรคย์ งั ไม่ขานนาม มหาภูตรูป
อนจิ จา อบายภูมิอยากเปลี่ยนแปร พศิ ดูนา้ ค้างรว่ งเตาโอสถเยน็ ลมพดั ยะ
เยือกหนาวดอกไม้โรย อนั วชิ ญา นกั พรตนานไกล ท้ังหลายนี้

ขอสารวมจิตรเป็นหนึง่ ขออญั เชญิ ผ้รู อนแรมท่องไป คา้ ขายทั้งเหนอื ใต้
หาทรัพยท์ างไกล นับหมืน่ โยชน์ สะสมทรพั ย์สนิ ลมและนา้ ค้างยากคะเน
เดนิ ทางยากลาบาก ไปตายในต่างแดน (อฮู ู) วชิ ญาหนอุดรคลอ้ ยเมฆมา
วชิ ญาหนบูรพาตามน้าไป อันวิชญา อาคนั ตุกะพเนจร ทั้งหลายนี้

292 閬苑洲 ผาลงั่ เหยวีย้ น, ลง่ั เหยวยี ้ นทวปี อย่ตู รงหน้าผา ท่ีภเู ขาคนุ หลนุ เช่ือ
กนั วา่ เป็นที่ประทบั ของเจ้าแม่ 西王母 ซหี วางหมู่
293 三花九煉 นวบาํ เพญ็ ตรีบปุ ผา คอื การบาํ เพญ็ ๙ ประการ เพ่ือให้เข้าถึงตรี
บปุ ผา ได้แก่ ๑. 人花 มนษุ ยบปุ ผา คือ การเปลี่ยนอสจุ ิให้กลายเป็นปราณ ๒. 地
花 ปฤถิวีบปุ ผา คอื การยงั ปราณให้กลายเป็ นวชิ ญา ๓. 天花 เทวบปุ ผา คอื การ
ยงั วิชญาหวนคนื สู่ 虚 ศนู ยตา (เตา๋ )

~ 218 ~

ขอสารวมจิตรเป็นหน่งึ ขออัญเชิญ ขนุ ดาบนักรบ โรมรนั ประจญั บาน เงา
แห่งธงแดง ชงิ ความเปน็ ใหญ่ ถอื ดาบระยบั ผลาญศัตรู ระฆงั ทองลัน่
สญั ญาณรบ เม่อื นนั้ บาดเนอ้ื ทะลไุ ส้ แพช้ นะจึงจะหยดุ เนื้อเลือดเนืองนอง
ไปท่วั ทศิ (อฮู ู) ทะเลทรายเวงิ้ วา้ งผีรา่ ร้อง กระดกู ขาวโพลนโพลนไรค้ น
เกบ็ อนั วิชญา ทหารทรี่ บตาย ทั้งหลายนี้

ขอสารวมจิตรเปน็ หนึง่ ขออญั เชญิ นอนหลับมาสบิ เดอื น จะคลอดในสาม
วนั สามภี รรยาสมคั รสมาน หวังว่าจะได้ลูกชาย สง่ เสียงประสาน จะดรี า้ ยก็
แค่เพลาน้ี หยกกระเบอื้ งยังไม่ชดั 294 ทั้งแมล่ กู กลบั สกู่ ลางคืนอัน
ยาวนาน295 (อฮู ู) ดอกไมก้ าลังจะบาน กลับต้องพายฝุ น ดุจจันทรก์ ระจ่าง
ถูกเมฆบัง อนั วชิ ญา มารดาและทารก (ที่ตาย) ท้ังหลายน้ี

294 คนจีนสมยั กอ่ น เมอื่ ให้กําเนิดบตุ รแล้ว จะเสยี่ งทายโดยให้หยกกบั กระเบือ้ งแก่
เดก็ และก็หวงั วา่ เดก็ จะหยิบหยกมาเลน่ ด้วยเป็นนิมติ วา่ ตอ่ ไปภาคหน้า ชีวิตจะดี
งาม มีคณุ คา่ เช่นเดียวกบั หยก; บทวา่ 璋瓦未分 “หยกกระเบอื ้ งยงั ไมช่ ดั ” ความ
คอื ยงั ไมท่ นั ได้เสย่ี งทาย คอื เดก็ ยงั ไมท่ นั จะได้เกิด
295 บทวา่ 母子皆歸長夜 “ทงั้ แมล่ กู กลบั สกู่ ลางคืน อนั ยาวนาน” ความคอื
ตายทงั้ แมล่ กู จากการคลอดบตุ ร

~ 219 ~

ขอสารวมจติ รเป็นหน่งึ ขออญั เชญิ ชนเผ่าน้อยใหญ่ บา้ ใบบ้ อดหนวก
กรรมาชีพใช้แรงงาน ความแคน้ ริษยาทารา้ ยร่างกายตน ปรามาสพระ
รัตนตรยั บาปกรรม (มากมาย) ดุจเมล็ดทรายในมหาคงคาวารี อกตญั ํู
บดิ ามารดา ความชัว่ ทว่ มทบั จักรวาล (อฮู )ู ราตรียาวนานวนั ใดแจ้ง ปรภพ
มืดมดิ มองไมเ่ หน็ อนั ทรุ วิชญา ทงั้ หลายน้ี

ขอสารวมจิตรเปน็ หนึ่ง ขออญั เชิญ สาวงามชาววงั สตรีสกลุ สูง ทาเล็บ
แต่งหนา้ อยา่ งงามงด อาพันทะเล296อบภษู า เมฆหยุดฝนพัก คืนสู่สาว
สรรค์ จันทราราบปุ ผาโรย โศกาทา่ มา๋ เหว่ย297 (อูฮู) ความรน่ื เรงิ ในกาล
ก่อนไมพ่ านพบ กระดกู ขาวโพลนบนหญ้าหนาว อันวชิ ญา นารสี งู ศกั ดิ์
ทง้ั หลายน้ี

296 龍麝, 龍涎 อาํ พนั ทะเล หรือ อาํ พนั ขปี ้ ลา หรือ อําพนั ทอง หรือ ขวี ้ าฬ
(องั กฤษ: Ambergris, AMBRA GRISEA, Ambre gris, หมายถึง "อําพนั สเี ทา")
เป็นสารประกอบอินทรีย์ชนิดหน่งึ ทีม่ ลี กั ษณะคล้ายกบั อําพนั เป็นสงิ่ ที่ได้มาจาก
ทะเลและมหาสมทุ ร โดยเป็นผลิตผลจากสตั ว์ทะเลขนาดใหญ่ คือ วาฬ ชนิด วาฬ
สเปิ ร์ม มีลกั ษณะเดน่ คือ มกี ลนิ่ หอม
297 馬嵬驛 ท่ามา๋ เหวย่ สถานท่ีสาํ เร็จโทษหยางก้ยุ เฟย อย่ใู กล้เมอื งซีอาน
ประเทศจีน กลอนท่อนนี ้กลา่ วถงึ สตรีสกลุ สงู โดยมีหยางก้ยุ เฟยเป็นสญั ลกั ษณ์

~ 220 ~

ขอสารวมจิตรเป็นหนึ่ง ขออญั เชญิ ขอทานอดอยาก ต้องราชทญั ฑ์ข่อื คา
พบอคั นิแลอทุ กให้บาดเจ็บ เข้ียวงาทารา้ ยใหส้ น้ิ ชพี ทุกข์ทรมานกินยาพษิ
พันปผี นั ผา่ น ความแคน้ หนักแนน่ ฟ้าฟาดผาทลาย กมั ปนาทหวาดไหว
(อฮู ู) อสั ดงวสนั ตส์ กุณหนาว ลมศารทโพยพัดใบไม้ปลวิ อันวชิ ญา บาดเจ็บ
ตายรา้ ย298 ทง้ั หลายนี้

ขอสารวมจติ รเปน็ หนง่ึ ขออญั เชิญ ทัง้ หกภมู ิ299ธรรมธาตุ เปรตทั้ง ๑๐
ประเภท300 พระมขุ าคนีวาลเปรต301ปกครอง มคี ณามากมาย ดจุ เมลด็

298 橫死 ตายร้าย ตายโหง
299 六道 ๖ ภมู ิ ได้แก่ สวรรค์ มนษุ ย์ อสรู เปรต เดรัจฉาน นรก
300 ในอวตงั สกสตู ร ได้แสดงถงึ 十類孤魂 เปรตไว้ทงั้ ๑๐ ประเภท ได้แก่ ๑. โลภ
ในวตั ถุ ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรมแล้วไปเกิดเป็น 怪鬼 ๒. มกั มากในกาม ตลอดจนมี
จิตรพนั ผกู ในรูปอนั งามทงั้ หลาย ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรมแล้วไปเกิดเป็น 魃鬼 ๓. มี
โมหะครอบงํา มกั หลอกลวงผ้อู ื่น ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรมแล้วไปเกิดเป็น 魅鬼 ๔.
เป็นผ้มู กั โกรธ ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรมแล้วไปเกิดเป็น 蠱毒鬼 (บางแห่งแสดงวา่
คนท่ีวางยาพษิ ฆา่ คน ใช้ยาสงั่ ทําร้ายคนอืน่ ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรมแล้วจะไปเกิด
เป็น 蠱毒鬼 นี)้ ๕. มจี ิตรเคยี ดแค้น ผกู เวร ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรมแล้วไปเกิดเป็น
癘鬼 (มกี ารลกั ลน่ั ระหวา่ ง คําวา่ 「癘鬼」 และ 「厲鬼」 มที งั้ เหน็ วา่ เป็นคาํ
เดยี วกนั และคนละคํากนั แตโ่ ดยสรุปคือ ทงั้ ๒ คํานี ้มีนยั ที่ตรงกนั คอื เป็นเปรตหรือ
ผีชนิดหน่งึ ทีท่ ําร้ายคน) ๖. มกั เป็นผ้กู ระด้าง มีมานะ ถือตน ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรม

~ 221 ~

ทราย อาศัยตามสมุ ทมุ พุ่มไม้ ฝงู เปรตทั้งหลาย ทตี่ ายก่อน ทั้งตายหลัง
อันวิชญา ญาตมิ ติ ร ทงั้ หลายนี ้

(เผากระดาษผไี มม่ ีญาติ)

การกล่าวอญั เชญิ ในเบ้ืองต้น ได้มาประชุมกันสนิ้ แลว้ ขอทุกท่านเมตตา
กรุณา ทอดอาลัย

บรรพกาลปวงกษตั รยิ ์ ราชนิกุล พระยา เสนามาตย์ วงศ์วานอิสริยศักด์ิ แล
ชาววัง สนมกานลั ความฝนั อนั วจิ ิตรสน้ิ แลว้ ขอจงมารับอมฤตรส

แล้วไปเกิดเป็น 餓鬼 ๗. ใสไ่ คล้ผ้อู นื่ ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรมแล้วไปเกิดเป็น 魘鬼
๘. เป็นผ้มู มี ิถยาทรรศน์ อวดดี อวดฉลาด ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรมแล้วไปเกิดเป็น
魍魎鬼 ๙. ทําร้ายคนอ่นื ด้วยวธิ ีนานาประการ มกี ารกระทํา มนตร์กฤตยา เป็นต้น
ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรมแล้วไปเกิดเป็ น 役使鬼 ๑๐. เป็นคนแบง่ พรรคแบง่ พวก
เหน็ แกพ่ วกพ้อง กระทําลาํ เอียง ตายไปตกนรก สนิ ้ กรรมแล้วไปเกิดเป็น 傳送鬼
301 面燃大士 พระมขุ าคนีวาลเปรต

~ 222 ~

~ 223 ~

ขุนนางราชภักดิ์ โดยรอบขอบขันฑ์ ปกครองปวงนิกร ยังไม่สมประสงค์ ก็
เสอ่ื มความโปรดปราน ขบั สูช่ ายขอบ เปน็ วชิ ญารอ่ นเร่ ขอจงมารบั อมฤตรส

~ 224 ~

~ 225 ~

แม่ทพั ราชบุรษุ ปกครองสามทพั ยุทธรณรงค์ เภรีก้องท่วั หล้า รบไปทั้ง
เหนือใต้ ตายในสนามรบ สละชีพเพือ่ ชาติ ขอจงมารับอมฤตรส

~ 226 ~

~ 227 ~

เรียนร้ตู ารับบรุ าณ บทความอนั งดงาม อดทนศึกษา อุดมการณใ์ น
กระทอ่ ม โชคชะตาไมด่ ี สอบไมต่ ดิ ราชการ อันวิชญา ทง้ั หลายน้ี ขอจงมา
รับอมฤตรส

~ 228 ~

~ 229 ~

สละทางโลกแตเ่ ยาวว์ ัย เขา้ ส่ศู นู ยตมขุ 302 แสวงมรรคหาอาจารย์ เพ่ือหลดุ
พน้ เกิดตาย วสันต์ไปเหมันตม์ า ยงั ไม่แจง้ อนจิ จา (มิอาจ) ย้อนเวลา ขอ
จงมารับอมฤตรส

302 空門 ศนู ยตมขุ หมายถึง พระศาสนา; บทวา่ 入空門內 “เข้าสศู่ นู ยตมขุ ”
หมายถึง การออกบวช

~ 230 ~

~ 231 ~

ปกั ษาภรณป์ ีตมาลา303 แต่นอ้ ยตงั้ ปรณิธานบาเพ็ญสัตยะ304 ปรงุ โอสถา
ยพุ ฒั นะ305 บาเพ็ญนิวรตติธรรม306 ประพฤติทุกรกิริยา มุ่งมาดในเท
วสถานะ อย่าได้ยึดมนั่ ถือม่นั ขอจงมารับอมฤตรส

303 羽服 ปักษาภรณ์ (เสอื ้ ขนนก) 黃冠 ปี ตมาลา (หมวกเหลอื ง) หมายถงึ หมวก
และเสอื ้ ผ้าของ นกั พรตในศาสนาเตา๋ ; บทวา่ 羽服 “ปักษาภรณ์” (เสอื ้ ขนนก)
หมายถงึ ชดุ นกั พรต เป็นคาํ แสดงถึงเทวภษู ิตาภรณ์ คอื เสอื ้ ผ้าของปวงเทวยดุ า ท่ีมี
ความบางเบาดจุ ขนนก ดงั ที่ 《上清寶文》อตุ ตรวิศทุ ธิเทวารตั นบท แสดงไว้วา่
「仙人有五色羽衣」 “ทวยเทพมีเบญวรรณปักษาภรณ์”
304 真 สตั ยธรรม บรมธรรมในศาสนาเต๋า
305 การปรุงยาอายวุ ฒั นะ ในศาสนาเตา๋ เชื่อวา่ บริโภคแล้ว จกั สามารถรักษาสรรพ
โรค กลบั คืนเป็นหน่มุ สาว เป็นอมตะ ไมป่ ่ วย ไมแ่ ก่ ไมต่ าย ถือเป็น 外丹 ยา
อายวุ ฒั นะภายนอก คือ ต้องกินจากภายนอกเข้าไป ไมไ่ ด้บําเพญ็ เอง
306 การบาํ เพญ็ ธรรม โดยการเดนิ ลมปราณ ในศาสนาเตา๋ เพอื่ การทวนกระแสวฏั
จกั ร กลบั คนื เป็นหน่มุ สาว เป็นอมตะ ไมป่ ่ วย ไมแ่ ก่ ไมต่ าย ถือเป็น 内丹 ยา
อายวุ ฒั นะภายใน คือ ต้องบาํ เพญ็ เอง ไมต่ ้องกินเข้าไปร่างกาย หรือไมต่ ้องอาศยั
ปัจจยั จากภายนอก

~ 232 ~

~ 233 ~

กตญั ํตุ บุคคล บุรุษผูห้ า้ วหาญ สตรีทเ่ี ด็ดเด่ยี ว เหน็ ความตายคือสามัญ
ตายเพื่อศกั ดศิ์ รีอดุ มการณ์ กลา่ วขานนบั พนั ปี อนั ภกั ดว์ิ ิชญา ทั้งหลายน้ี
ขอจงมารบั อมฤตรส

~ 234 ~

~ 235 ~

อันนางชีทงั้ หลายเลา่ ดารงตนในสพุ รรณสถาน ไร้บุพเพ ฯ ในโลกยิ ะ ไม่
แปดเปื้อนทางโลก ยังไม่ทันหลดุ พ้น ก็วางวาย ไหลไปตามสงสาร อัน
พศิ ุทธิ์วชิ ญา ทง้ั หลายน้ี ขอจงมารับอมฤตรส

~ 236 ~

~ 237 ~

ชโยตษิ 307ภมู ินัย308 ไวทย309ไภษัชย310ทวิอรรถ311 เกาตุกะ312
ครหาวฤตะ313 พยากรณด์ ีรา้ ย ก็ยากจะพ้นตอ่ อนจิ จะ ขอจงสละศาฐย
ธรรม314 คนื สสู่ ัตยธรรม315 มารับอมฤตรส

วาณิชาท้ังปวง ศลิ ปินทงั้ หลาย ค้าขายเพ่ือหาทรัพย์ รอนแรมไปต่างแดน
ส้นิ ชีพในตา่ งถิน่ ความฝนั พเนจร ขอจงมารับอมฤตรส

307 天文 ชโยติษะ ดาราศาสตร์
308 地理 ภมู นิ ยั นยั แห่งแผน่ ดิน 风水 เฟิงสยุ่ (ฮวงจ้ยุ )
309 醫 ไวทยะ การแพทย์
310 藥 ไภษชั ยะ เภสชั
311 陰陽類 ทวอิ รรถ คอื อนิ (หยิน) และ หยาง
312卜卦占龜, 占卜, 占卦 เกาตกุ ะ การเสยี่ งทาย การทํานายโดยใช้วธิ ีเสยี่ ง
ทาย
313 風鑑并星士, 星占法 ครหาวฤตะ การทํานายโดยใช้การโคจรของดวงดาว
314 偽 ศาฐยธรรม สาเถยยธรรม ธรรมอนั มมี ายา ธรรมอนั จอมปลอม ไมจ่ ริง
315 真 สตั ยธรรม สจั ธรรม ได้แก่ พทุ ธธรรม

~ 238 ~

~ 239 ~

ละเมดิ อาชญา ต้องราชทณั ฑจ์ าตรวน สน้ิ ชวี ะเพราะทรพั ย์ ปวงเจ้ากรรม
นายเวร ภัยร้ายทุรโรค เหน็บหนาวอดตาย จงรีบพน้ จากปรโลก มารับ
อมฤตรส

ม้าเหยียบ รถชน กาแพงทับ กายแหลกเหลว ผีกระทา อศนีบาต เชือดคอ
แขวนคอตาย จมนา้ ไฟคลอก ขอดวงวิชญา ทัง้ หลายนี้ จงมารับอมฤตรส

เกดิ โตมาต้อยต่า อยใู่ นปรตั ยนั ตชนบท316 ตรากตราทางาน เป็นข้าทาส
รบั ใช้ บ้า ใบ้ บอด หนวก พกิ าร อนาถา ขอดวงวิชญา ทั้งหลายนี้ จงมา
รบั อมฤตรส

316 ปรัตยนั ตชนบท ปัจจนั ตชนบท (ตรงข้ามกบั คาํ วา่ “มชั ฌิมประเทศ”) คาํ นี ้
แปลวา่ สถานที่ชนบทธรุ กนั ดาร ห่างไกลความเจริญ แตอ่ กี ความหมาย คือ สถานท่ี
หรือสิง่ แวดล้อม เชน่ ประเทศ, สงั คม, ครอบครวั ฯลฯ ท่ีไมม่ หี รือไมน่ บั ถือ
พระพทุ ธศาสนา

~ 240 ~

~ 241 ~

ทรลักษณ์อกตญั ํตู ่อผมู่ ีพระคณุ โกรธแค้นต่อสิง่ ทง้ั หลาย ปรามาสพระ
รตั นตรัย เผาทาลายศาสนาวัตถุ317 มมี ิถยาทรรศน์318 อกศุ ลวิบากเปน็
มหันต์ อนั วิชญาทศากศุ ลธรรมบถ ทง้ั หลายน้ี จงมารบั อมฤตรส

เปิดมหาทานปรยาย โปรดปวงเปรตทั้งหลาย บรรพชนในอดตี เจ้าเวร
เบญจโคตร319 ไตรอบาย อัษฏากษณะ320 ชว่ ยเหลอื โดยเสมอภาค ด้วย
เดชแห่งพทุ ธประภา ขอจงมารับอมฤตรส

317 ศาสนาวตั ถุ ได้แก่ ศาสนสถาน พระพทุ ธรูป คมั ภีร์ เคร่ืองใช้ ฯลฯ
318 邪見 มิถยาทรรศน์ มิจฉาทิฐิ ความเห็นผิด เช่น เหน็ วา่ บญุ บาปไมม่ ี ทําดี
ไมไ่ ด้ดี ทําชว่ั ไมไ่ ด้ชว่ั ฯลฯ
319 五姓冤家 เจ้าเวรเบญจโคตร คือ สง่ิ ๕ จําพวก ที่จะทํายงั ทรพั ย์และชีวติ แห่ง
ชนทงั้ หลาย ต้องวบิ ตั ิไป ได้แก่ ๑. ราชภยั (ภยั จากอาชญาแผน่ ดนิ , ภยั จาก
ผ้ปู กครองและผ้มู อี ํานาจในบ้านเมอื ง, ภยั การเมือง) ๒. โจรภยั (ภยั จากโจรผ้รู ้าย
หรือ ภยั จากนกั เลงและผ้มู ีอิทธิพล มีการ ปล้น, ขโมย เป็นต้น) ๓. อคั นิภยั (ภยั อนั
เกิดแตเ่ พลิง เชน่ ไฟไหม้) ๔. วารีภยั (ภยั อนั เกิดแตน่ ํา้ เชน่ นํา้ ทว่ ม) ๕. บตุ รภยั (ภยั
จากลกู และหลาน ตลอดจนญาติมติ ร อนั ชวั่ )
320 ใน วิมลกีรตนิ ิรเทศสตู ร ได้แสดงถึง 八難 อษั ฏากษณะ (อฐั าขณะ แปลวา่
ชว่ งเวลาท่ีไมเ่ หมาะสม ทงั้ ๘) คือ ความยากลาํ บาก ๘ ประการ อนั จะยงั ให้ไมไ่ ด้
พานพบ พระพทุ ธศาสนา ได้แก่ ๑. ตกนรก ๒. เกิดเป็นเปรต ๓. เกิดเป็นเดรจั ฉาน ๔.
เกิดในอตุ รกรุ ุทวีป (บนั เทิงเกินไป เกิดประมาทจิตร) ๕. เกิดในเทวโลก (มอี ายยุ ืน

~ 242 ~

พระอมติ าภตถาคต มพี ระปรณธิ านอปั ระมาณ แจ้ง (ในสตั ว์ อนั ) ลมุ่ หลง
มีปกตลิ อ่ งลอย อยใู่ นทุกขสาคร ยื่นพระหตั ถม์ าคอยรับ ข้ึนเมตตานาวา
บรรทกุ สรรพชวี ติ สู่ปัทมินี321

ขอนอบนอ้ มแด่พระปัทมินตี ถาคตโพธสิ ัตว์322 (๓ จบ)

ดว้ ยเดชะมหากรุณาพละแหง่ พระตถาคต ข้า ฯ ขออญั เชญิ ปวงสตั ว์
ตลอดจนเปรตไรญ้ าติ ในท่ีรกร้างทั้งหลาย ทั้งในอิธโลก323 และ
ปรโลก324 มอิ าจขัดพทุ ธอาญา มาประชุมกนั ในสถาน ณ. ทีน่ ้ี

ยาวเกินไป เกิดประมาทจิตร) ๖. เกิดมา บ้า ใบ้ บอด หนวก (อเหตกุ จิตร ยงั ให้ไม่
สามารถแจ้งในพระสทั ธรรม) ๗. เกิดมาฉลาด มีความรู้ (ทางโลก) มากเกินไป แม้จะ
พบพทุ ธศาสนา แตก่ ็ไมเ่ ล่อื มใสศรัทธา ๘. เกิดมาในชว่ งพทุ ธนั ดร คอื กาลท่ีวา่ งเว้น
จากพระศาสนา (ช่วงเวลาที่ศาสนาของพระพทุ ธเจ้าพระองค์หนึ่ง สญู สนิ ้ แล้ว และ
พระพทุ ธเจ้าพระองค์ใหม่ ยงั ไมม่ าอบุ ตั ิ)
321 蓮池, 蓮池會 ปัทมินี สระบวั หรือ ที่ประชมุ แหง่ ดอกบวั อนั ได้แก่ สขุ าวดี
โลกธาตุ
322 ขอถวายความนอบน้อมแด่ พระตถาคตและพระโพธิสตั ว์ ผ้ปู ระชมุ อยใู่ นสระ
แห่งดอกปญุ ฑรีก

~ 243 ~

ตอ่ มา กระทา เปรตากรษณมทุ รา325

(มือซ้ายกระทําอภยั มนสกิ าร ยน่ื มอื ขวาไปเบอื ้ งหน้า ตงั้ ขนึ ้ จตรุ ปารมิตา
งอเลก็ น้อย วรี ยปารมติ า งอเป็ นตะขอ แล้ววา่ มนตร์ดงั นี)้

๏ โอมฺ ชินะ ชกิ ะ เอ หเย หิ สวาหา ๚ะ๛326

323 陽 อธิ โลก โลกนี ้
324 冥 ปรโลก โลกอืน่
325 召請餓鬼 เปรตากรษณะ (เปรตะอากรษณะ) เชิญเปรต
326 มนตร์เชิญเปรต 唵。即納即葛。移希曳(二合)歇莎訶。oṃ jina
jika e hye hi svāhā (บางแห่งแสดงวา่ “โอมฺ ชินะ ชิก เอ หเย หิ สวาหา” oṃ jina
jik e hye hi svāhā)

~ 244 ~

(เมื่อสวดมนตร์ แลกระทาํ มทุ รา พงึ มนสกิ ารวา่ มทุ ราหตั ถ์เบอื ้ งซ้าย บงั เกิด
มีอกั ขระ หรีหฺ สขี าว ทอแสงประภาส เรียกเปรตมาทมี่ ณฑลพธิ ี เมือ่ มาถึง

แล้ว (เปรต ฯลฯ ทงั้ นนั้ ) กระทําทกั ษิณาวรรต แดพ่ ระตถาคต ๓ รอบ
จากนนั้ กระทําการอภวิ าทพระตถาคต แล้วไปรออยดู่ ้านนอก ทีม่ ณฑลพธิ ีมี
ประตู ทงั้ ๔ ทิศ หนบรู พาถึงหนทกั ษิณ คอื ประตขู องสตั ว์นรก หนทกั ษิณถงึ
หนหรดีคอื ประตขู องเปรต หนหรดีถึงหนประจมิ คอื ประตขู องตริ ัจฉาน จาก
หนประจิมถึงหนพายพั คอื ประตขู องมนษุ ย์ จากหนพายพั ถึงหนอดุ ร คือ

~ 245 ~

ประตขู องอสรู จากหนอดุ รถงึ หนบรู พา คือประตขู องเทวะ พงึ ดงั นี ้แล้วสงบ
อยู่ แล้วกลา่ ว อาศวาสนา327 ดงั นี)้

เม่อื เชญิ มาแลว้ มารวมดจุ เมฆา ด้วยกรณุ าจติ ร สรรเสรญิ ปลอบประโลม
ยังใหเ้ กดิ ปรมทุ ิตา ปรารถนาในพระสทั ธรรม (ประธานกลา่ วดงั นี)้

327 安慰 อาศวาสนา การปลอบใจ การปลอบประโลม

~ 246 ~

ปวงพทุ ธบุตรท่ีมาดว้ ยดแี ลว้ เพราะไดส้ ร้างกศุ ลปัจจยั ไว้
บัดนี้กศุ ลสงั คตี ิ อยา่ ไดก้ งั วลกลัว
สารวมจิตรรับพระธรรม ไม่พ้นจากกาลนี้
ศลี โภชนะท้ังหลายนี้ จักยงั ให้พน้ ทกุ ข์โดยพลนั

ดูกร ปวงพุทธบุตร เม่อื มาถงึ มณฑลพิธแี ลว้
อกศุ ลวบิ ากทง้ั หลาย จงเข้ามาสู่วัชรมษุ ฏิ

ต่อมา กระทา ปาปากรษณ328มุทรา

(สองหตั ถ์กระทําวชั รพนั ธะ329 กษานตแิ ละปรณิธาน ยืดขนึ ้ มา วรี ยะและ
พละ เกี่ยวกนั แล้วกลา่ ว ปาปากรษณมนตร์ ดงั น)ี ้

328 召罪 ปาปากรษณะ (ปาปะอากรษณะ) เรียกบาปมา
329 金剛縛 วชั รพนั ธะ คอื การกําประสานมอื ทงั้ ๒ โดยให้นิว้ สบั หวา่ งกนั และกนั

~ 247 ~

๏ โอมฺ สะรวะ ปาปะ อากะรษะณะ วิโศธะนะ วัชรสัตตวะ สะมะยะ
หูมฺ ชะหฺ ๚ะ๛330

330 唵。薩哩斡(二合)巴鉢。羯哩(二合)沙拏(二合)。月戌駄納。斡

資囉(二合)薩埵。薩麻耶。吽。拶。 (บางแหง่ ออกวา่ “โอมฺ ปาปะ อา
กะรษะณะ วิโศธะนะ วชั รสตั ตวะ สะมะยะ หมู ฺ ชยา”)

~ 248 ~

(เมือ่ สวดมนตร์ แลกระทาํ มทุ รา พงึ มนสกิ ารวา่ เหนือสองนวิ ้ ทย่ี ดื ตรงขนึ ้ มา
มอี กั ขระ หรีหฺ สขี าว ทอแสงเข้าไปสกู่ าย ยงั ให้บาปทงั้ หลายออกมา มี
สณั ฐาน ดงั หมอกควนั มารวมกนั ฉะนนั้
ปจุ ฉา : บาปนนั้ ไมม่ ีกายจริง (ไมม่ ีรูปลกั ษณ์) แล้วใย จึงแสดงวา่ ดจุ
หมอกควนั ประดจุ มกี ายจริงเลา่ ?
วสิ ชั นา : อนั บาปนนั้ แม้นไมม่ ีรูปลกั ษณ์ แตส่ ามารถอดั เตม็ แผน่ ฟ้ าทวั่
แผน่ ดนิ ปิ ดตาและบงั ใจ ยงั ให้ ไมส่ ามารถมองเห็น พิศทุ ธิเกษตรแหง่ พระ
ตถาคต บดั นจี ้ งึ สมมตุ ลิ กั ษณะแหง่ ควนั มาแทนบาป เพ่อื ประโยชน์ในการ
เรียกออกมาได้จริง ฉะนนั้ )

~ 249 ~

ทาลายบาปกรรมทั้งปวง ดุจกัลปท์ ท่ี าลายดว้ ยไฟ

มาตรว่ายงั หลงเหลือ วชั ระทาลายเป็นธุลี

~ 250 ~


Click to View FlipBook Version