The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๒๕๖๔

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kajone661, 2021-05-18 11:19:19

หลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

หลักสูตรสถานศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๒๕๖๔

รมไทยอยา่ งเห็นคณุ ค่าและนามาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิตจริง

พุทธพสิ ยั (K) ทำอะไร จิตพิสัย(A) สมรรถนะ

สรปุ ความ ทกั ษะพสิ ัย(P) ใชเ้ หตุผล  การสื่อสาร
(๒) ปฏิบัติได้เอง (๕)  การคดิ
 การแก้ปญั หา
(๔)  การใชท้ ักษะชีวิต
 การใชเ้ ทคโนโลยี

แยกแยะ ปฏิบตั ไิ ด้เอง ใชเ้ หตุผล  การสื่อสาร
(๔) (๔) (๕)
 การคดิ
 การแกป้ ญั หา
 การใชท้ กั ษะชีวิต

 การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หนา้ ๑๙๗

ตวั ชว้ี ัด รู้อะไร( K )
(สำระกำรเรยี นรูแ้ กนกลำง)
ท๕.๑ม.๒/๓ อธิบายคุณคา่ ของ
วรรณคดแี ละวรรณกรรมทอ่ี า่ น อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดแี ละ
วรรณกรรมท่ีอ่าน

ท๕.๑ม.๒/๔ สรปุ ความรู้และขอ้ คิด สรปุ ความรแู้ ละขอ้ คิดจากการอ่านไป
จากการอ่านไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิตจรงิ ประยุกต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ

ท๕.๑ม.๒/๕ท่องจาบทอาขยานตามที่ ท่องจาบทอาขยานตามท่กี าหนดและ

กาหนดและบทรอ้ ยกรองทมี่ ีคุณคา่ ตาม บทรอ้ ยกรองทมี่ คี ุณค่าตามความสนใจ

ความสนใจ หลกั ปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพยี งและ

กำรอนรุ ักษ์พันธ์พุ ืชในสถำนศึกษำ

-รักษป์ า่

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศึกษข้นั พ้นื ฐ

พทุ ธพิสัย(K) ทำอะไร จิตพิสยั (A) สมรรถนะ
ใชเ้ หตผุ ล
อธบิ าย ตคี า่ ทักษะพสิ ัย(P)  การส่อื สาร
(๕) ปฏิบัติได้เอง (๕)  การคดิ
 การแกป้ ญั หา
(๔) นามาใช้  การใชท้ ักษะชีวติ
(๓)  การใช้เทคโนโลยี
สรปุ ความ บอก ปฏบิ ัติไดเ้ อง
(๔) นามาใช้  การสื่อสาร
เหตผุ ล (๓)  การคิด
(๔)  การแกป้ ญั หา
 การใช้ทกั ษะชีวติ
จา อ่าน เรียบเรยี ง ปฏิบตั ิไดเ้ อง  การใช้เทคโนโลยี
(๒) (๔)
 การสื่อสาร
 การคดิ
 การแกป้ ญั หา
 การใช้ทักษะชวี ติ
 การใชเ้ ทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๑๙๘

ช้ันมัธยมศกึ ษำปที ี่ ๓

สำระที่ ๑ กำรอำ่ น
มำตรฐำน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพื่อนาไปใชต้ ดั ส

ตวั ชี้วดั ร้อู ะไร( K )
(สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง)

ท๑.๑ม.๓/๑อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อย

และบทรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ งและ กรองไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสมกบั เรอื่ งที่

เหมาะสมกับเรอ่ื งท่ีอา่ น อ่าน

หลักปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพยี งและ

กำรอนรุ ักษพ์ ันธ์ุพชื ในสถำนศึกษำ

-บ้านเหด็ หอม

-พอเพียง แคเ่ พยี งพอ

ท๑.๑ม.๓/๒ระบคุ วามแตกตา่ งของคา ระบุความแตกต่างของคาทม่ี ี

ที่มคี วามหมายโดยตรงและความหมาย ความหมายโดยตรงและความหมาย

โดยนยั โดยนยั

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ทุ ธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษข้นั พนื้ ฐ

สนิ ใจ แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชวี ิต และมีนิสัยรกั การอา่ น

พทุ ธพสิ ยั (K) ทำอะไร จิตพสิ ยั (A) สมรรถนะ

อ่าน บรรยาย ทกั ษะพสิ ยั (P) จัดลาดับอา่ น  การสอ่ื สาร
เรยี บเรียง (๔)  การคิด
กระฉับกระเฉง  การแก้ปญั หา
(๒) คลอ่ ง  การใชท้ ักษะชวี ิต
(๕)  การใช้เทคโนโลยี

ระบุ ความแตกต่าง กระฉับกระเฉง จาแนก  การสอ่ื สาร

(๔) คล่อง (๔)  การคิด
(๕)  การแกป้ ญั หา
 การใช้ทกั ษะชีวติ

 การใชเ้ ทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หน้า ๑๙๙

ตัวชี้วัด รอู้ ะไร( K )
ท๑.๑ม.๓/๓ระบุใจความสาคญั และ (สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง)
รายละเอียดของข้อมูลท่สี นบั สนนุ จาก
เรอ่ื งที่อ่าน ระบใุ จความสาคัญและรายละเอยี ดของ
ข้อมลู ทสี่ นับสนุนจากเรือ่ งทอ่ี ่าน
ท๑.๑ม.๓/๔อ่านเรอ่ื งต่าง ๆ แลว้ เขยี น หลกั ปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพยี งและ
กรอบแนวคิด ผังความคิด บนั ทกึ ย่อ กำรอนุรักษ์พันธ์พุ ชื ในสถำนศึกษำ
ความและรายงาน -ก่อกองทราย

ท๑.๑ม.๓/๕วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ และ อ่านเร่อื งต่าง ๆ แลว้ เขียนกรอบ
ประเมนิ เรือ่ งทอ่ี ่านโดยใช้กลวิธีการ แนวคดิ ผงั ความคิด บนั ทกึ ย่อความ
เปรยี บเทยี บเพอ่ื ใหผ้ ้อู า่ นเข้าใจได้ดขี นึ้ และรายงาน
หลักปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียงและ
กำรอนุรกั ษพ์ ันธพ์ุ ชื ในสถำนศึกษำ
-ประวตั ิบคุ คลสาคญั

วเิ คราะห์ วิจารณ์ และประเมนิ เรอื่ งท่ี
อ่านโดยใช้กลวธิ กี ารเปรียบเทียบ
เพอ่ื ใหผ้ อู้ ่านเขา้ ใจไดด้ ีขน้ึ
กำรเรียนรเู้ ชิงรกุ (Active Learning)
-วิเคราะห์ วิจารณ์ และประเมนิ เรือ่ ง

ท๑.๑ม.๓/๖ประเมินความถูกต้องของ ประเมนิ ความถกู ต้องของข้อมลู ทใ่ี ช้
ข้อมลู ท่ใี ช้สนบั สนุนในเรอื่ งทอี่ า่ น สนบั สนนุ ในเร่ืองท่อี ่าน

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษข้นั พ้นื ฐ

พุทธพสิ ัย(K) ทำอะไร จติ พสิ ยั (A) สมรรถนะ
สรปุ ความ ทักษะพิสัย(P) ใชเ้ หตผุ ล
เชอ่ื มโยง กระฉบั กระเฉง  การส่อื สาร
ความสมั พันธ์ (๕)  การคิด
คล่อง  การแกป้ ญั หา
(๓) (๕) ใช้เหตผุ ล  การใช้ทกั ษะชวี ิต
(๕)  การใชเ้ ทคโนโลยี
อ่าน เขียน ลง กระฉับกระเฉง  การสื่อสาร
ความเหน็ คลอ่ ง ใชเ้ หตุผล  การคิด
(๕) (๕)  การแกป้ ัญหา
 การใชท้ ักษะชวี ิต
แยกแยะ ตีค่า กระฉบั กระเฉง ใช้เหตผุ ล  การใชเ้ ทคโนโลยี
วจิ ารณ์ คล่อง (๕)
(๕) (๕)  การสอื่ สาร
 การคิด
ตคี า่ ลงความเห็น กระฉบั กระเฉง  การแก้ปญั หา
(๕) คล่อง  การใชท้ กั ษะชวี ติ
 การใช้เทคโนโลยี
(๕)
 การสอ่ื สาร
 การคิด
 การแกป้ ญั หา
 การใช้ทกั ษะชีวติ
 การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๐๐

ตวั ชว้ี ัด รอู้ ะไร( K )
(สำระกำรเรยี นร้แู กนกลำง)

ท๑.๑ม.๓/๗วิจารณค์ วามสมเหตุสมผล วิจารณค์ วามสมเหตสุ มผล การลาดบั

การลาดบั ความ และความเป็นไปได้ ความ และความเปน็ ไปได้ของเรอ่ื ง

ของเรอ่ื ง กำรเรียนรู้เชงิ รุก (Active Learning)

-วิจารณ์ความสมเหตสุ มผล การลาดบั

ความ

ท๑.๑ม.๓/๘วเิ คราะห์เพื่อแสดงความ วิเคราะหเ์ พอื่ แสดงความคดิ เหน็ โตแ้ ย้ง

คดิ เหน็ โตแ้ ย้งเกยี่ วกบั เรอื่ งท่อี า่ น เก่ียวกบั เร่ืองที่อา่ น

ท๑.๑ม.๓/๙ตีความและประเมนิ คณุ ค่า ตีความและประเมินคุณค่าแนวคดิ ทีไ่ ด้

แนวคดิ ท่ไี ด้จากงานเขยี นอยา่ ง จากงานเขียนอย่างหลากหลาย เพอื่

หลากหลาย เพอ่ื นาไปใชแ้ กป้ ญั หาใน นาไปใชแ้ กป้ ญั หาในชีวติ

ชีวิต หลักปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพยี งและ

กำรอนรุ กั ษพ์ ันธุ์พชื ในสถำนศึกษำ

-ความสุขของกะทิ

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยทุ ธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษขั้นพ้นื ฐ

พทุ ธพิสัย(K) ทำอะไร จิตพิสัย(A) สมรรถนะ
ใช้เหตุผล
วจิ ารณ์ ทกั ษะพสิ ัย(P)  การสื่อสาร
(๕) (๕)  การคดิ
กระฉับกระเฉง  การแกป้ ัญหา
คล่อง ใชเ้ หตุผล  การใช้ทักษะชวี ิต
(๕) (๕)  การใชเ้ ทคโนโลยี
 การสื่อสาร
แยกแยะ ลง กระฉบั กระเฉง ใช้เหตผุ ล  การคิด
(๕)  การแก้ปญั หา
ความเห็น คลอ่ ง  การใชท้ กั ษะชีวิต
(๕) (๕)  การใชเ้ ทคโนโลยี

ตีคา่ ลงความเหน็ กระฉับกระเฉง  การสอื่ สาร
(๕) คลอ่ ง  การคดิ
(๕)  การแกป้ ญั หา
 การใช้ทักษะชวี ติ
 การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๐๑

ตัวช้วี ดั ร้อู ะไร( K )
ท๑.๑ม.๓/๑๐มีมารยาทในการอา่ น (สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง)

มมี ารยาทในการอ่าน

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษขน้ั พน้ื ฐ

พุทธพิสัย(K) ทำอะไร จิตพสิ ยั (A) สมรรถนะ

อธิบาย บอก ทกั ษะพสิ ัย(P) ใช้เหตุผล  การสอื่ สาร
เหตผุ ล กระฉับกระเฉง (๕)  การคิด
(๔)  การแกป้ ญั หา
คลอ่ ง  การใชท้ ักษะชีวิต
(๕)  การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๐๒

สำระที่ ๒ กำรเขยี น
มำตรฐำน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสอ่ื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ แ

คน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ

ตัวชี้วดั รู้อะไร( K )
(สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง)

ท๒.๑ม.๓/๑คัดลายมือตัวบรรจงคร่ึง คัดลายมอื ตวั บรรจงครงึ่ บรรทดั ตาม

บรรทดั ตามรูปแบบการเขยี นอักษรไทย รปู แบบการเขยี นอักษรไทย

กำรเรียนรเู้ ชงิ รุก (Active Learning)

-วิเคราะห์หลักการการคัดลายมอื

ท๒.๑ม.๓/๒เขยี นข้อความโดยใช้ เขยี นข้อความโดยใชถ้ อ้ ยคาได้ถกู ต้อง
ถอ้ ยคาไดถ้ ูกตอ้ งตามระดบั ภาษา ตามระดับภาษา
หลักปรชั ญำเศรษฐกจิ พอเพียงและ
ท๒.๑ม.๓/๓เขียนชีวประวตั ิหรือ
อตั ชีวประวัติโดยเลา่ เหตกุ ารณ์ กำรอนรุ ักษพ์ ันธ์ุพชื ในสถำนศึกษำ
ขอ้ คดิ เห็น และทศั นคตใิ นเรื่องต่างๆ -พระบรมราชโชวาท
-คาขวัญเรอ่ื งกลว้ ย

เขยี นชีวประวตั ิหรอื อตั ชวี ประวัติโดย
เล่าเหตกุ ารณ์ ข้อคดิ เห็น และทศั นคติ
ในเรือ่ งต่างๆ

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศกึ ษขนั้ พน้ื ฐ

และเขียนเรอื่ งราวในรปู แบบต่างๆ เขียนรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงาน

พุทธพสิ ยั (K) ทำอะไร จติ พิสยั (A) สมรรถนะ
ใช้เหตุผล
คดั เขียน เรียบ ทกั ษะพิสยั (P)  การส่ือสาร
เรยี ง วางหลักการ กระฉบั กระเฉง (๕)  การคดิ
 การแกป้ ญั หา
(๖) คลอ่ ง ใชเ้ หตผุ ล  การใช้ทกั ษะชีวติ
(๕) (๕)  การใช้เทคโนโลยี

เขียน วางหลักการ กระฉับกระเฉง ใชเ้ หตุผล  การสื่อสาร
(๖) คลอ่ ง (๕)  การคิด
(๕)  การแกป้ ญั หา
 การใชท้ กั ษะชวี ติ
เขียนบอก ลง กระฉับกระเฉง  การใชเ้ ทคโนโลยี
ความเหน็ คล่อง
(๕)  การสอ่ื สาร
(๕)  การคดิ
 การแก้ปัญหา
 การใช้ทักษะชวี ิต
 การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๐๓

ตวั ช้วี ัด รอู้ ะไร( K )
ท๒.๑ม.๓/๔เขียนย่อความ (สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง)

เขยี นยอ่ ความ

ท๒.๑ม.๓/๕ เขียนจดหมายกจิ ธรุ ะ เขยี นจดหมายกิจธรุ ะ

ท๒.๑ม.๓/๖ เขียนอธบิ ายช้แี จง แสดง เขียนอธบิ ายชีแ้ จง แสดงความคิดเห็น
ความคิดเหน็ และโต้แย้งอย่างมเี หตผุ ล และโต้แยง้ อยา่ งมีเหตผุ ล

ท๒.๑ม.๓/๗เขยี นวเิ คราะห์วิจารณ์ เขียนวิเคราะห์วจิ ารณ์ และแสดง
และแสดงความรู้ ความคดิ เห็น หรือ ความรู้ ความคดิ เห็น หรอื โต้แยง้ ใน
โต้แยง้ ในเรอ่ื งตา่ ง ๆ เร่ืองตา่ ง ๆ

หลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพยี งและ
กำรอนุรักษพ์ ันธพุ์ ืชในสถำนศึกษำ
-รักษ์ปา่

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยทุ ธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศึกษขั้นพน้ื ฐ

พทุ ธพิสยั (K) ทำอะไร จติ พิสยั (A) สมรรถนะ
ใช้เหตุผล
สรปุ ความ ทกั ษะพิสยั (P)  การสือ่ สาร
(๒) กระฉบั กระเฉง (๕)  การคดิ
 การแกป้ ญั หา
คล่อง ใชเ้ หตุผล  การใช้ทักษะชวี ิต
(๕) (๕)  การใชเ้ ทคโนโลยี

เขียนเรียบเรียง กระฉบั กระเฉง ใช้เหตผุ ล  การสอ่ื สาร
(๕)  การคิด
เขยี นโครงร่าง คลอ่ ง  การแกป้ ัญหา
(๔) (๕) ใชเ้ หตุผล  การใช้ทกั ษะชีวติ
(๕)  การใช้เทคโนโลยี
เขียน บอกเหตผุ ล กระฉบั กระเฉง
 การส่อื สาร
ลงความเหน็ คล่อง  การคิด
(๕) (๕)  การแก้ปัญหา
 การใช้ทักษะชีวิต
เขยี น แยกแยะ กระฉับกระเฉง  การใชเ้ ทคโนโลยี
วิจารณ์ วาง คลอ่ ง
หลักการ (๕)  การสอื่ สาร
 การคดิ
(๖)  การแก้ปญั หา
 การใช้ทักษะชีวิต
 การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๐๔

ตวั ช้ีวัด ร้อู ะไร( K )
(สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง)

ท๒.๑ม.๓/๘กรอกแบบสมคั รงานพรอ้ ม กรอกแบบสมคั รงานพรอ้ มเขียน

เขยี นบรรยายเก่ียวกบั ความร้แู ละ บรรยายเก่ียวกบั ความรูแ้ ละทกั ษะของ

ทกั ษะของตนเองทเี่ หมาะสมกบั งาน ตนเองทเี่ หมาะสมกบั งาน

ท๒.๑ม.๓/๙เขียนรายงานการศึกษา เขียนรายงานการศึกษาคน้ คว้าและ

คน้ คว้าและโครงงาน โครงงาน

ท๒.๑ม.๓/๑๐ มีมารยาทในการเขียน มีมารยาทในการเขยี น

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศึกษขัน้ พน้ื ฐ

พทุ ธพสิ ยั (K) ทำอะไร จิตพสิ ัย(A) สมรรถนะ
ใช้เหตุผล
ระบุ เรียบเรยี ง ทักษะพิสัย(P)  การสือ่ สาร
วางหลกั การ กระฉับกระเฉง (๕)  การคิด
 การแกป้ ัญหา
(๖) คลอ่ ง ใช้เหตผุ ล  การใชท้ ักษะชีวิต
(๕) (๕)  การใชเ้ ทคโนโลยี

รวบรวม กระฉบั กระเฉง ใช้เหตผุ ล  การส่ือสาร
(๕)  การคิด
เขียนโครงรา่ ง คลอ่ ง  การแกป้ ญั หา
วางหลักการ (๕)  การใชท้ ักษะชีวิต
 การใชเ้ ทคโนโลยี
(๖)
 การสอื่ สาร
อธบิ าย วาง กระฉบั กระเฉง  การคิด
 การแก้ปญั หา
หลกั การ คลอ่ ง  การใชท้ ักษะชีวติ
(๖) (๕)  การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๐๕

สำระท่ี ๓ กำรฟงั กำรดู และกำรพดู
มำตรฐำน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงควา
สร้างสรรค์

ตวั ชี้วัด ร้อู ะไร( K )
(สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง)
ท๓.๑ม.๓/๑แสดงความคิดเห็นและ
ประเมนิ เรื่องจากการฟงั และ การดู แสดงความคดิ เห็นและประเมินเรอื่ ง
จากการฟงั และ การดู

ท๓.๑ม.๓/๒วิเคราะห์และวิจารณ์เร่ือง วเิ คราะหแ์ ละวิจารณ์เรอื่ งท่ฟี งั และดู
ที่ฟังและดเู พ่อื นาขอ้ คิดมาประยุกตใ์ ช้ เพื่อนาข้อคิดมาประยกุ ต์ใชใ้ นการ

ในการดาเนนิ ชีวติ ดาเนินชีวิต
กำรเรยี นรู้เชงิ รกุ (Active Learning)
-วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์เรื่องท่ฟี งั และดู

เพื่อนาขอ้ คดิ

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศึกษข้นั พนื้ ฐ

ามรู้ ความคดิ และความรสู้ กึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมวี จิ ารณญาณและ

พทุ ธพสิ ยั (K) ทำอะไร จติ พสิ ัย(A) สมรรถนะ
ทกั ษะพสิ ัย(P) ใช้เหตผุ ล
ตคี า่ ลงความเหน็  การสื่อสาร
(๕) กระฉบั กระเฉง (๕)  การคดิ
คล่อง  การแกป้ ญั หา
(๕) ใชเ้ หตผุ ล  การใช้ทกั ษะชีวติ
(๕)  การใชเ้ ทคโนโลยี
แยกแยะ วจิ ารณ์ กระฉบั กระเฉง
(๕) คล่อง (๕)  การสอ่ื สาร
 การคิด
 การแกป้ ญั หา
 การใชท้ กั ษะชีวิต
 การใชเ้ ทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๐๖

ตวั ชว้ี ดั ร้อู ะไร( K )
(สำระกำรเรียนร้แู กนกลำง)
ท๓.๑ม.๓/๔พูดในโอกาสต่าง ๆได้ตรง
ตามวตั ถุประสงค์ พดู ในโอกาสต่าง ๆได้ตรงตาม
วตั ถุประสงค์
กำรใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ัล
- การพูดตอ่ หนา้ สาธารณชน

ท๓.๑ม.๓/๕พดู โน้มน้าวโดยนาเสนอ พูดโน้มน้าวโดยนาเสนอหลกั ฐาน
หลักฐานตามลาดบั เนอื้ หาอย่างมี
เหตผุ ลและนา่ เชื่อถือ ตามลาดบั เนอ้ื หาอยา่ งมเี หตผุ ลและ
น่าเชอ่ื ถือ
ท๓.๑ม.๓/๖มมี ารยาทในการฟงั การดู หลักปรชั ญำเศรษฐกิจพอเพียงและ
และการพูด กำรอนรุ ักษพ์ ันธพ์ุ ชื ในสถำนศึกษำ
-การพูดประโยชนเ์ ร่อื งกล้วย

มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพูด

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยทุ ธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษขั้นพ้นื ฐ

พทุ ธพสิ ยั (K) ทำอะไร จติ พิสยั (A) สมรรถนะ
ใช้เหตผุ ล
พูด อธิบายจดั ทักษะพิสัย(P)  การส่ือสาร
ประเภทโอกาส กระฉบั กระเฉง (๕)  การคิด
 การแกป้ ญั หา
(๔) คล่อง ใช้เหตผุ ล  การใชท้ กั ษะชีวิต
(๕) (๕)  การใช้เทคโนโลยี

พดู บอกเหตผุ ล กระฉับกระเฉง ใชเ้ หตผุ ล  การส่อื สาร
(๔) (๕)  การคดิ
คลอ่ ง  การแก้ปัญหา
(๕)  การใชท้ กั ษะชีวติ
 การใช้เทคโนโลยี
อธบิ าย วาง กระฉับกระเฉง
 การสื่อสาร
หลักการ คลอ่ ง  การคดิ
(๖) (๕)  การแกป้ ญั หา
 การใช้ทักษะชวี ติ
 การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๐๗

สำระที่ ๔ หลักกำรใช้ภำษำไทย
มำตรฐำน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลีย่ นแป

เป็นสมบตั ิของชาติ

ตวั ช้วี ดั รอู้ ะไร( K )
(สำระกำรเรียนรู้แกนกลำง)
ท๔.๑ม.๓/๑จาแนกและใช้คา
ภาษาตา่ งประเทศท่ใี ชใ้ นภาษาไทย จาแนกและใชค้ าภาษาตา่ งประเทศท่ใี ช้
ในภาษาไทย

ท๔.๑ม.๓/๒วิเคราะหโ์ ครงสรา้ ง วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคซบั ซ้อน
ประโยคซับซ้อน กำรเรียนร้เู ชงิ รกุ (Active Learning)
-วิเคราะหโ์ ครงสรา้ งประโยคซบั ซอ้ น

ท๔.๑ม.๓/๓วเิ คราะหร์ ะดบั ภาษา วิเคราะหร์ ะดับภาษา
หลักปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียงและ
กำรอนรุ กั ษ์พันธพุ์ ืชในสถำนศึกษำ

-ธรรมชาติบา้ นเรา

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยทุ ธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศึกษขั้นพ้นื ฐ

ปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้

พทุ ธพสิ ัย(K) ทำอะไร จติ พิสัย(A) สมรรถนะ
แยกแยะ ใช้เหตุผล
(๔) ทักษะพสิ ยั (P)  การสอ่ื สาร
กระฉับกระเฉง (๕)  การคดิ
 การแกป้ ญั หา
คล่อง ใชเ้ หตผุ ล  การใช้ทักษะชวี ติ
(๕) (๕)  การใช้เทคโนโลยี

แยกแยะ กระฉับกระเฉง ใชเ้ หตุผล  การสอ่ื สาร
(๔) คลอ่ ง (๕)  การคิด
(๕)  การแกป้ ญั หา
 การใช้ทกั ษะชีวติ
แยกแยะ กระฉับกระเฉง  การใชเ้ ทคโนโลยี
(๔) คลอ่ ง
(๕)  การสอ่ื สาร
 การคิด
 การแกป้ ญั หา
 การใช้ทกั ษะชีวิต
 การใชเ้ ทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๐๘

ตวั ชว้ี ัด รู้อะไร( K )
(สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง)
ท๔.๑ม.๓/๔ใชค้ าทับศพั ทแ์ ละศพั ท์
บัญญตั ิ ใชค้ าทับศัพทแ์ ละศพั ทบ์ ัญญัติ

ท๔.๑ม.๓/๕อธิบายความหมายคาศัพท์ อธบิ ายความหมายคาศพั ท์ทางวิชาการ

ทางวิชาการและวิชาชีพ และวิชาชีพ

ท๔.๑ม.๓/๖แตง่ บทรอ้ ยกรอง แต่งบทร้อยกรอง

หลักปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพยี งและ
กำรอนุรกั ษ์พันธ์ุพชื ในสถำนศึกษำ
-รามเกยี รติ์ รอ้ ยแก้วประกอบคากลอน

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศกึ ษขั้นพน้ื ฐ

พุทธพสิ ยั (K) ทำอะไร จิตพิสัย(A) สมรรถนะ
ใชเ้ หตุผล
อธบิ าย เขยี น ทักษะพสิ ยั (P)  การส่ือสาร
รวบรวมศพั ท์ กระฉับกระเฉง (๕)  การคิด
 การแก้ปญั หา
(๖) คลอ่ ง ใช้เหตผุ ล  การใชท้ กั ษะชวี ติ
(๕) (๕)  การใช้เทคโนโลยี

อธิบาย แปล กระฉับกระเฉง ใชเ้ หตผุ ล  การสื่อสาร
(๕)  การคดิ
ความหมาย คลอ่ ง  การแก้ปัญหา
รวบรวมคาศพั ท์ (๕)  การใช้ทักษะชีวติ
 การใช้เทคโนโลยี
(๖)
 การสือ่ สาร
เขยี นโครงร่าง แตง่ กระฉับกระเฉง  การคดิ
 การแก้ปญั หา
สรา้ ง คลอ่ ง  การใช้ทกั ษะชีวิต
(๕) (๕)  การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๐๙

สำระที่ ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม
มำตรฐำน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคดิ เหน็ วจิ ารณว์ รรณคดีและวรรณกรร

ตวั ชว้ี ัด รอู้ ะไร( K )
(สำระกำรเรียนรแู้ กนกลำง)

ท๕.๑ม.๓/๑สรุปเนอื้ หาวรรณคดีและ สรปุ เน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรม

วรรณกรรมท้องถ่ินในระดับทย่ี ากยงิ่ ข้นึ ท้องถิ่นในระดบั ทยี่ ากยงิ่ ข้นึ

หลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียงและ

กำรอนุรักษพ์ ันธ์ุพืชในสถำนศึกษำ

-ลอยกระทง

--ร่ายยาวพระเวสันดร

ท๕.๑ม.๓/๒วิเคราะห์วถิ ีไทยและ วเิ คราะห์วิถไี ทยและคุณค่าจาก

คุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมที่ วรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอา่ น

อ่าน หลกั ปรัชญำเศรษฐกจิ พอเพียงและ

กำรอนุรักษพ์ ันธุ์พชื ในสถำนศึกษำ

-ม้ากา้ นกล้วย

ท๕.๑ม.๓/๓สรปุ ความรูแ้ ละข้อคิดจาก สรปุ ความรู้และข้อคิดจากการอา่ นเพือ่

การอา่ นเพ่อื นาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิต นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริง
จริง

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศึกษขน้ั พืน้ ฐ

รมไทยอย่างเหน็ คณุ ค่าและนามาประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จริง

พุทธพสิ ยั (K) ทำอะไร จติ พสิ ยั (A) สมรรถนะ

สรปุ ความ ลง ทกั ษะพสิ ัย(P) ใช้เหตผุ ล  การสอื่ สาร
ความเห็น กระฉับกระเฉง (๕)  การคดิ
 การแกป้ ญั หา
(๕) คลอ่ ง  การใชท้ กั ษะชีวติ
(๕)  การใชเ้ ทคโนโลยี

แยกแยะ ตคี ่า กระฉับกระเฉง ใช้เหตุผล  การสื่อสาร
(๕) คล่อง (๕)  การคดิ
 การแก้ปญั หา
(๕)  การใชท้ กั ษะชีวติ
 การใชเ้ ทคโนโลยี
สรปุ รวบรวม กระฉบั กระเฉง ใช้เหตผุ ล
(๕)  การสื่อสาร
ส่วนย่อยๆ คลอ่ ง  การคิด
(๖) (๕)  การแก้ปัญหา
 การใช้ทักษะชวี ติ
 การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๑๐

ตวั ชี้วดั ร้อู ะไร( K )
(สำระกำรเรยี นรแู้ กนกลำง)
ท๕.๑ม.๓/๔ท่องจาและบอกคณุ ค่าบท
อาขยานตามท่ีกาหนด และบทร้อย ทอ่ งจาและบอกคณุ ค่าบทอาขยาน
กรองท่มี คี ุณคา่ ตามความสนใจและ ตามที่กาหนด และบทรอ้ ยกรองท่ีมี
นาไปใช้อา้ งองิ คณุ คา่ ตามความสนใจและนาไปใช้
อา้ งองิ

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษข้นั พนื้ ฐ

พุทธพิสยั (K) ทำอะไร จิตพสิ ัย(A) สมรรถนะ

จา อา่ น บอก ทักษะพสิ ยั (P) ใช้เหตผุ ล  การส่อื สาร
(๒) กระฉับกระเฉง (๕)  การคิด
 การแก้ปญั หา
คล่อง  การใชท้ ักษะชีวติ
(๕)  การใช้เทคโนโลยี

ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๑๑

คำอธิบำยรำยวิชำ

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ทุ ธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๑๒

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

รหัสวชิ ำ ท๑๑๑๐๑ รำยวิชำภำษำไทย กลมุ่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย
ช้นั ประถมศกึ ษำปีที่ ๑ เวลำ ๒๐๐ ชว่ั โมง

อา่ นออกเสียงคา คาคล้องจองและข้อความสั้นๆทป่ี ระกอบดว้ ยคาพ้ืนฐานไม่น้อยกว่า 600 คาและบอก
ความหมายของคาและขอ้ ความทีอ่ ่าน ตอบคาถาม เลา่ เรื่องยอ่ และคาดคะเนเหตกุ ารณ์จากเรอื่ งทอ่ี ่านอา่ นหนงั สือ

ตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและนาเสนอเรอ่ื งท่ีอ่าน บอกความหมายของเครือ่ งหมายหรือสัญลักษณ์ท่ีมักพบ
เห็นในชวี ติ ประจาวนั และมมี ารยาทในการอา่ น

เขียนสื่อสารด้วยคาและประโยคง่าย ๆ คัดลายมือด้วยตัวบรรจงเต็มบรรทัด ตามรูปแบบการเขียนตัว

อกั ษรไทย และมีมารยาทในการเขียน
ฟงั และปฏิบตั ิตามคาแนะนาคาสงั่ ง่ายๆตอบคาถามผู้แสดงความคดิ เห็นและแสดงความรู้สกึ จากเรอ่ื งที่ฟัง

และดู ทั้งที่เปน็ ความรู้และความบันเทงิ พดู สื่อสารไดต้ ามวตั ถุประสงค์ และมีมารยาทในการฟัง การดูและการพดู

บอกและเขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย เขยี นสะกดคาและบอกความหมายของคา เรียบ
เรียงคาเป็นประโยคและต่อคาคลอ้ งจองงา่ ยๆ

บอกข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือการฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสาหรับเด็ก และท่องจาบท

อาขยานและบทร้อยกรองตามที่กาหนดและตามความสนใจ
เพ่อื ให้มีความรู้ความเข้าใจในหลักภาษาไทย มที ักษะในการใช้ภาษาเพื่อการสอ่ื สาร ใฝเ่ รยี นรู้ รกั การอา่ น

มีความรับผิดชอบ มุ่งม่ันในการทางานและมีวินัยในตนเอง รักความเป็นไทย ดารงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของชาติไทย

ภาคภูมใิ จในทอ้ งถน่ิ สามารถนาความร้ไู ปใชใ้ นการเรียนรูแ้ ละชวี ิตประจาวัน
ทงั้ นี้ได้ผสมผสานการเรียนรู้บูรณาการแบบครบวงจรในประเด็น หลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งและ

การเรียนรู้บูรณาการอนุรักษ์พันธ์ุพืชในสถานศึกษา การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การเรียนรู้บูรณาการ

การใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ลั เข้ามามีสว่ นร่วมในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้โดยเน้นผูเ้ รียนเป็นสาคญั

มำตรฐำน/ตวั ช้ีวดั
ท ๑.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ ,ป.๑/๕, ป.๑/๖ ,ป.๑/๗, ป.๑/๘
ท ๒.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓

ท ๓.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔ , ป.๑/๕
ท ๔.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒, ป.๑/๓, ป.๑/๔
ท ๕.๑ ป.๑/๑, ป.๑/๒

รวม ๒๒ ตัวชว้ี ดั

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๑๓

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

ท๑๒๑๐๑ รำยวิชำ ภำษำไทย กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้ภำษำไทย
ช้ันประถมศึกษำปที ่ี ๒ เวลำ ๒๐๐ ชั่วโมง

ศกึ ษาการอ่านออกเสยี งและบอกความหมายของคา คาคลอ้ งจอง ข้อความ บทรอ้ ยกรองง่าย ๆ ตัวการนั ต์ คา
ท่ีมี รร พยัญชนะและสระไมอ่ อกเสยี ง คาพอ้ ง คาพิเศษอื่น ๆอ่านจบั ใจความ นทิ านหรือเร่ืองเก่ียวกับท้องถ่ิน เร่ืองเล่าส้นั ๆ บท
เพลงและบทร้อยกรองข่าวและเหตกุ ารณ์ในชีวิตประจาวันในท้องถน่ิ และชุมชน อ่านหนังสอื ตามความสนใจอา่ นข้อเขยี นเชงิ อธิบาย
ปฏิบัติตามคาส่ังหรือข้อแนะ ประกาศ ป้ายโฆษณา และคาขวัญอา่ นขอ้ มูลจากแผนภาพ แผนที่ และแผนภูมิ มารยาทในการอ่าน
การคัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดตามรูปแบบการเขียน ตัวอักษรไทย เขียนบรรยายลักษณะของ คน สัตว์ ส่ิงของ สถานที่
บันทึกประจาวัน จดหมายลาครู เรื่องตามจินตนาการจากคา ภาพ และหัวข้อที่กาหนดมารยาทในการเขียน การจบั ใจความและพูด
แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกจากเรอื่ งท่ีฟังและดทู ้ังทเี่ ป็นความรู้และความบันเทิง เช่น เรื่องเล่าและสารคดีสาหรับเด็ก นทิ าน
การ์ตูน เร่ืองขบขนั รายการสาหรับเด็ก ข่าวและเหตุการณใ์ นชีวติ ประจาวัน เพลง พดู สอ่ื สารในชวี ิตประจาวนั เชน่ แนะนาตนเอง
แนะนาสถานทใี่ นโรงเรยี นและในชมุ ชน แนะนาเชิญชวนรกั ษาความสะอาดของรา่ งกาย การเล่าประสบการณใ์ นชีวติ ประจาวัน พูด
ขอร้อง พูดทักทายกล่าวขอบคุณและขอโทษ พูดปฏเิ สธ พูดซักถาม มารยาท ในการฟงั การพูด การดูสะกดคา แจกลูก อ่านเป็น
คา มาตราตัวสะกดทีต่ รงตามมาตราและไมต่ รงตามมาตรา ผันอักษรกลาง อกั ษรสูง และอักษรต่า คาที่มีพยญั ชนะควบกล้า คา
ที่มีอักษรนา คาท่ีประวิสรรชนีย์และคาท่ีไม่ ประวิสรรชนีย์ คาท่ีมี ฤ ฤๅ คาทีใ่ ช้ บัน บรร คาท่ีใช้ รร คาที่มตี ัวการันต์ ความหมาย
ของคา ชนิดของคา ได้แก่ คานาม คาสรรพนาม คากริยา ใชพ้ จนานุกรม แต่งประโยค เพ่ือการสื่อสาร ได้แก่ ประโยคบอกเล่า
ประโยคปฏเิ สธ ประโยคคาถาม ประโยคขอร้อง ประโยคคาส่งั คาคล้องจอง คาขวัญ ภาษาไทยมาตรฐาน ภาษาถนิ่ ระบุขอ้ คิด
จากการอ่านวรรณคดี วรรณกรรมและเพลงพ้ืนบ้าน นิทานหรือเรือ่ งในท้องถิ่น เร่ืองส้ันงา่ ย ๆ ปริศนา คาทาย บทรอ้ ยกรอง เพลง
พน้ื บ้าน เพลงกล่อมเด็ก วรรณกรรมและวรรณคดีในบทเรยี นและตามความสนใจ โดยยึดตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
และ นาการอนุรักษพ์ ันธ์ุพืชในสถานศกึ ษามาบูรณาการและท้ังยังมีการทากิจกรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning และการใช้
เทคโนโลยีดิจทิ ลั มาบูรณาการ

โดยใช้ทักษะกระบวนการปฏิบัติในการอ่าน การเขียน การฟัง การดู การพูด และการใช้ภาษาไทย เพื่อให้นักเรียนมี
มารยาทในด้านการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู และการพดู มคี วามซ่ือสตั ย์สุจรติ ตอ่ หน้าท่ขี องตนเอง มีระเบียบวนิ ัยในการเรียน
การปฏิบัติงาน เป็นผู้ที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทางาน รักและภูมิใจ ในความเป็นไทยอนุรักษ์ภาษาไทยและ
ตัวเลขไทย สืบสานวัฒนธรรมไทยให้คงอยตู่ ลอดไป และมเี จตนคติทด่ี ตี ่อวชิ าภาษาไทย

มำตรฐำน/ตวั ช้วี ดั
ท ๑.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ,ป.๒/๕, ป.๒/๖ ,ป.๒/๗, ป.๒/๘
ท ๒.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓ , ป.๒/๔
ท ๓.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ,ป.๒/๕, ป.๒/๖ ,ป.๒/๗
ท ๔.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓, ป.๒/๔ ,ป.๒/๕
ท ๕.๑ ป.๒/๑, ป.๒/๒, ป.๒/๓
รวม ๒๗ ตัวชว้ี ัด

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๑๔

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

ท๑๓๑๐๑ รำยวชิ ำ ภำษำไทย กลุม่ สำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย
ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๓ เวลำ ๒๐๐ ช่วั โมง

ศกึ ษาวเิ คราะห์การบอกความหมายของคา คาคล้องจอง ข้อความ บทร้อยกรองงา่ ยๆ เร่ืองที่อา่ น

หนังสอื ท่ีสนใจ ข้อเขียน คาสงั่ คาแนะนา และขอ้ มลู จากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมิ
คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยายลักษณะคน สัตว์ ส่ิงของ สถานท่ี เขียนบันทึกประจาวัน เขียน
จดหมายลาครู เขียนเรอ่ื งตามจนิ ตนาการจาแนกเรอ่ื งทฟ่ี งั และดู เรอื่ งในชีวติ ประจาวัน

การใช้พจนานุกรม แตง่ ประโยค คาคลอ้ งจอง คาขวญั ภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถ่ิน วรรณกรรม
วรรณคดี เพลงพน้ื บ้าน เพลงกล่อมเดก็ ทอ่ งจาบทอาขยาน บทรอ้ ยกรองโดยใชท้ ักษะกระบวนการอา่ น เขียน
ฟัง ดู พูด คาดคะเน และท่องจา โดยยึดตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ นาการอนุรักษ์พันธุ์พืชใน

สถานศึกษาทัง้ ยังมีการทากจิ กรรมการเรยี นร้แู บบ Active Learning และการใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัลมาบรู ณาการ
เพอื่ ให้นักเรยี นมีมารยาทในด้านการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด มีความซ่ือสัตย์สุจริต ต่อ

หน้าที่ของตนเอง มีระเบียบวินัยในการเรียน การปฏิบัติงาน เป็นผู้ท่ีใฝ่เรียนใฝ่รู้อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการ

ทางาน รักและภูมิใจในความเป็นไทยอนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สืบสานวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ตลอดไป
และมเี จตนคติทด่ี ีต่อวชิ าภาษาไทย

มำตรฐำน/ตวั ชวี้ ดั
ท ๑.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ,ป.๓/๕, ป.๓/๖ ,ป.๓/๗, ป.๓/๘ , ป.๓/๙

ท ๒.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ,ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๓.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ,ป.๓/๕, ป.๓/๖
ท ๔.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔ ,ป.๓/๕, ป.๓/๖

ท ๕.๑ ป.๓/๑, ป.๓/๒, ป.๓/๓, ป.๓/๔
รวม ๓๑ ตัวชี้วดั

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยทุ ธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๑๕

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

ท๑๔๑๐๑ รำยวชิ ำภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนรูภ้ ำษำไทย
ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี ๔ เวลำ ๑๖๐ ชว่ั โมง

อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อธิบายความหมายของคา ประโยคและสานวนจากเรื่อง ที่
อ่าน อ่านเรือ่ งสน้ั ต้ังคาถามจากเร่ืองทอ่ี ่าน แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเหน็ จากเร่ืองท่ีอ่าน คาดคะเนเหตกุ ารณ์จาก
เร่อื ง บอกเหตผุ ลประกอบ สรุปความรแู้ ละความคิดเหน็ จากเรือ่ งท่อี ่าน อา่ นหนงั สือที่มคี ณุ ค่าตามความสนใจอย่าง
สม่าเสมอและแสดงความคดิ เห็นจากเร่ืองท่อี ่าน มีนสิ ัยรกั การอา่ น และมีมารยาทในการอ่าน

คัดลายมือตัวบรรจงเต็มบรรทัดและคร่ึงบรรทัด เขียนส่ือสารโดยใช้คาได้ถูกต้องชัดเจนและเหมาะสม
เขยี นแผนภาพโครงเรื่องและแผนทคี่ วามคดิ เพ่ือใชพ้ ัฒนางานเขียน เขยี นย่อความจากเรื่องส้ัน ๆ เขยี นจดหมายถงึ
เพ่ือนและบิดามารดา เขียนบันทึกและเขียนรายงานจากการศึกษาค้นคว้า เขียนเร่ือง ตามจินตนาการ และมี
มารยาทในการเขยี น

จาแนกขอ้ เท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากเรอื่ งท่ีฟังและดู พูดสรปุ ความจากการฟงั และการดู พูดแสดงความรู้
และความรู้สึกจากเร่ืองที่ฟังและดู ต้ังคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู รายงานเรื่องหรื อ
ประเด็นทศี่ กึ ษาคน้ คว้าจากการฟงั การดู และการสนทนา มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู

สะกดคาและบอกความหมายในบริบทต่าง ๆ ระบชุ นิดและหน้าท่ีของคาในประโยค ใช้พจนานุกรมคน้ หา
ความหมายของคา แต่งประโยคได้ถูกต้องตามหลักภาษา แต่งบทร้อยกรองและคาขวัญ บอกความหมายขอ ง
สานวน เปรียบเทียบภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถิ่นได้ ระบขุ ้อคิดจากนิทานพื้นบา้ นและนิทานคตธิ รรม อธบิ าย
ขอ้ คิดจากการอ่านเพื่อนาไปใช้ในชวี ติ จรงิ ร้องเพลงพ้นื บา้ น ท่องจาบทอาขยานตามทีก่ าหนด และบทรอ้ ยกรองทม่ี ี
คุณค่าตามความสนใจ โดยใชท้ ักษะกระบวนการฟัง การพูด การอา่ น การเขียน และการคิดวิเคราะห์ โดยยึด
ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และ นาการอนรุ ักษ์พนั ธุ์พืชในสถานศึกษามาบูรณาการ

เพือ่ ใหน้ ักเรียนมีมารยาทในดา้ นการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพดู มคี วามซื่อสัตย์สจุ ริตต่อ
หน้าท่ีของตนเอง มีระเบียบวินัยในการเรียน การปฏิบัติงาน เป็นผู้ท่ีใฝ่เรียนใฝ่รู้อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการ
ทางาน รักและภูมิใจในความเป็นไทยอนุรักษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สืบสานวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ตลอดไป
และมเี จตนคติท่ีดีตอ่ วิชาภาษาไทย

มำตรฐำนและตัวช้ีวัด
ท ๑.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๒.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗, ป.๔/๘
ท ๓.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖
ท ๔.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔, ป.๔/๕, ป.๔/๖, ป.๔/๗
ท ๕.๑ ป.๔/๑, ป.๔/๒, ป.๔/๓, ป.๔/๔
รวม ๓๓ ตัวชี้วดั

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ทุ ธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๑๖

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

ท๑๕๑๐๑ รำยวชิ ำ ภำษำไทย กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย
ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๕ เวลำ ๑๖๐ ชัว่ โมง

ฝึกอ่านบทร้อยแก้วและบทร้อยกรอง อ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ อ่านงานเขียนเชิงอธิบายคาสั่ง ข้อแนะนา อ่าน
หนังสือตามความสนใจอย่างสม่าเสมอและแสดงความคิดเห็นจากเร่ืองที่อ่าน เห็นคุณค่าของเรื่องท่ีอ่าน เหน็ คุณคา่ ของการอ่าน มี
มารยาทในการอ่าน และมีนิสยั รักการอา่ น

ฝึกคัดลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั และครง่ึ บรรทดั เขยี นสื่อสารโดยใช้คาไดเ้ หมาะสม เขียนแผนภาพ โครงเรือ่ ง เขยี นย่อ
ความจากเรอ่ื งทีอ่ ่าน เขยี นจดหมาย เขียนแสดงความร้สู ึกและความคิดเห็น กรอกแบบรายการต่าง ๆ เขียนเร่อื งตามจินตนาการ มี
มารยาทในการเขียน รกั การเขียนและนาการเขียนไปใชใ้ ห้เป็นประโยชน์ ในชีวติ ประจาวนั

ฝกึ พูดแสดงความรู้ ความคดิ เหน็ ความรสู้ ึกจากเรื่องทฟ่ี ังและดู ตั้งคาถามและตอบคาถามเชิงเหตุผลจากเรอื่ งทฟ่ี ังและดู
วิเคราะห์เรื่องที่ฟังและดูในชีวิตประจาวันอย่างมีเหตุผล รายงานเร่ืองราวต่าง ๆ โดยเน้นน้าเสียง ถ้อยคา ความต่อเนื่องและ
สาระสาคัญของเรื่อง มคี วามชน่ื ชมต่อภาษาไทย มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพดู

ฝึกเขียนคา ประโยค และข้อความให้ถูกต้องตามหลกั เกณฑ์ทางภาษา การเขียนประโยค การใช้คาตามหน้าที่ในประโยค
การเปรียบเทียบภาษาไทยกับภาษาถ่ิน การใชค้ าราชาศพั ท์ คาท่ีมาจากภาษา ต่างประเทศ การแต่งบทร้อยกรอง การใชส้ านวนคา
พังเพยและสุภาษติ นาหลกั ภาษาไทยไปพฒั นาความรู้ ดารงชีวิตและอยูร่ ่วมกันในสงั คม ใช้ภาษาทเี่ หมาะสม สือ่ ความหมายได้อยา่ ง
ถกู ต้องชดั เจน โดยยึดตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และ อนรุ กั ษ์พันธ์ุพืชในสถานศึกษามาบรู ณาการ
อภิปราย สรุปข้อคิด คุณค่าท่ีไดจ้ ากการอ่านวรรณกรรม ฝึกท่องบทอาขยานตามที่กาหนดและบทร้อยกรองตามความสนใจ เห็น
คณุ ค่าและเกดิ ความภาคภูมใิ จในภาษาซึง่ เปน็ เอกลักษณข์ องชาติ โดยใช้ทักษะกระบวนการฟัง การพูด การอ่าน การเขียน และ
การคิดวิเคราะห์

เพอื่ ใหน้ ักเรียนมีมารยาทในดา้ นการอ่าน การเขยี น การฟงั การดู และการพูด มีความซอ่ื สัตยส์ ุจริต ต่อหน้าทีข่ องตนเอง มี
ระเบียบวนิ ัยในการเรียน การปฏิบัติงาน เป็นผู้ที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่ันในการทางาน รักและภูมิใจในความเป็นไทย
อนรุ ักษภ์ าษาไทยและตวั เลขไทย สืบสานวัฒนธรรมไทยให้คงอยตู่ ลอดไป และมีเจตนคติท่ีดีตอ่ วิชาภาษาไทย

มำตรฐำนและตวั ชวี้ ัด
ท ๑.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘
ท ๒.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗, ป.๕/๘
ท ๓.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖
ท ๔.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔, ป.๕/๕, ป.๕/๖, ป.๕/๗
ท ๕.๑ ป.๕/๑, ป.๕/๒, ป.๕/๓, ป.๕/๔
รวม ๓๓ ตวั ชวี้ ดั

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๑๗

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

ท๑๖๑๐๑ รำยวชิ ำ ภำษำไทย กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำไทย
ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ี่ ๖ เวลำ ๑๖๐ ช่วั โมง

อา่ นออกเสียงบทร้อยแก้วและบทรอ้ ยกรองเป็นทานองเสนาะไดถ้ กู ตอ้ ง อ่านคายาก กลุ่มคา คาบรรยาย คาพรรณนา คา

เปรียบเทียบ อธิบายความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัยของคา ประโยค ข้อความ สานวนโวหารจากเร่ืองที่อ่าน เข้าใจ

คาแนะนาคาอธิบายในคู่มอื ต่าง ๆ แยกแยะข้อคิดเห็นและข้อเท็จจริงจับใจความสาคัญของเรื่องท่ีอ่านและนาความรูค้ วามคิดเห็น

จากเรื่องที่อา่ นไปตัดสินใจแก้ปัญหาในการดาเนนิ ชวี ิต อ่านหนังสือประเภทตา่ ง ๆ มีมารยาทและมีนิสยั รกั การอ่านและเห็นคุณค่า

สิ่งที่อ่าน อ่านนิทาน ตานาน เรื่องสั้น บทความ บทร้อยกรองและบทละครเพื่อวิเคราะห์ เข้าใจและเห็นคุณค่าวรรณคดีและ

วรรณกรรมท่ีอ่าน เลา่ นิทานพ้ืนบ้าน ร้องเพลงพ้ืนบ้านของท้องถิ่น นาข้อคิดเห็นจากเร่ืองที่อ่านไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตจริง และ

ท่องจาบทอาขยานตาม ที่กาหนดได้

มที ักษะการคัดลายมือตังบรรจงเต็มบรรทัดและครึง่ บรรทัด เขียนสะกดคา แต่งประโยคและเขียนข้อความ ตลอดจน

เขียนสอื่ สารโดยใช้ถอ้ ยคาชดั เจนเหมาะสม ใชแ้ ผนภาพโครงเร่ืองและแผนภาพความคิด เพื่อพัฒนา งานเขียน เขยี นเรียงความ

ยอ่ ความ จดหมายสว่ นตวั เขียนรายงาน บันทกึ การกรอกแบบรายการต่าง ๆ เขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเหน็ เขียนเร่อื ง

ตามจินตนาการอย่างสร้างสรรคแ์ ละมมี ารยาทในการเขียน โดยยดึ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยนาการอนุรกั ษพ์ ันธุ์

พชื ในสถานศึกษามาบรู ณาการ ท้งั ยงั มกี ารทากจิ กรรมการเรียนรู้แบบ Active Learning และการใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั มาบรู ณาการ

พดู แสดงความรู้ ความคิดเก่ียวกับเรื่องที่ฟังและดู เล่าเร่ืองย่อหรือสรปุ จากเรื่องทฟ่ี ังและดู ต้ังคาถาม ตอบคาถามจาก

เรื่องทีฟ่ ังและดู รวมทั้งประเมนิ ความน่าเช่ือถือจากการฟังและดูโฆษณาอย่างมีเหตุผล พูดตามลาดบั ข้ันตอนเร่อื งต่าง ๆ

อย่างชดั เจน พูดรายงานหรือประเด็นคน้ ควา้ จากการฟัง การดู การสนทนา และพูดโน้นน้าวไดอ้ ย่างมีเหตุผล รวมทั้งมีมารยาทใน

การฟัง การดูและการพดู

สะกดคาและเข้าใจความหมายของคา ใช้คามลู คาประสม คาซ้า คาซอ้ น คาสมาส คาสนธิ ใช้คานาม คา

สรรพนาม คากริยา คาวิเศษณ์ คาบุพบท คาอทุ าน คาสันธาน สานวน คาพังเพย และสุภาษติ รู้และเข้าใจชนิดและหน้าที่

ของคาในประโยค ชนิดของประโยค คาภาษาถ่ินและคาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้คาราชาศัพท์และคาสุภาพ ภาษาพูด

ภาษาเขียนได้อย่างเหมาะสมกับบุคคลและสถานการณ์ การพูดรายงาน พูดแสดงความรู้สึก พูดอภิปราย โต้วาที เล่านิทาน

ตานานพื้นบา้ นและสรปุ ข้อคดิ เขียนบนั ทึกข้อมูลความรู้จากการคน้ คว้า แตง่ บทรอ้ ยกรองประเภท กลอนสภุ าพและกาพย์ยานี ๑๑

โดยใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์และเขียนส่ือความ การอ่านออกเสยี ง อา่ นในใจ การเขียนและการ คัดลายมือ การ

ฟัง การดู และการพูด เพื่อให้นักเรียนมีมารยาทในด้านการอ่าน การเขียน การฟัง การดู และการพูด มีความซ่ือสัตย์สุจริตต่อ

หน้าทขี่ องตนเอง มีระเบียบวินัยในการเรยี น การปฏิบัติงาน เป็นผูท้ ี่ใฝ่เรียนใฝ่รู้อยู่อย่างพอเพียง มุ่งม่นั ในการทางาน รกั และภูมิใจ

ในความเป็นไทยอนรุ กั ษ์ภาษาไทยและตัวเลขไทย สบื สานวัฒนธรรมไทยใหค้ งอยูต่ ลอดไป และมเี จตนคตทิ ่ดี ตี อ่ วิชาภาษาไทย

รหสั ตัวช้ีวดั
ท ๑.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙

ท ๒.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖, ป.๖/๗, ป.๖/๘, ป.๖/๙
ท ๓.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๔.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔, ป.๖/๕, ป.๖/๖
ท ๕.๑ ป.๖/๑, ป.๖/๒, ป.๖/๓, ป.๖/๔

รวมทงั้ หมด ๓๔ ตวั ช้ีวดั

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๑๘

คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ

ท๑๑๑๐๑ รำยวิชำ ภำษำไทย กล่มุ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย
ชัน้ มัธยมศึกษำปีที่ ๑ เวลำ 12๐ ชั่วโมง

ศกึ ษาการอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วประเภทบรรยายและบทร้อยกรองเปน็ ทานองเสนาะได้อย่างถูกตอ้ ง

อา่ นจบั ใจความ วิเคราะห์รายละเอียดคุณค่าที่ได้รับจากการอ่าน งานเขียนประเภทต่าง ๆ และมีมารยาทในการ
อ่าน

พูดสรปุ ความสาคญั พูดเล่าเร่อื ง พดู แสดงความคิดเหน็ พดู ประเมนิ ความน่าเชอ่ื ถอื พูดรายงานจากส่ิงทไ่ี ด้

ฟงั หรือดู มีมารยาทในการฟังและการดู มีความรคู้ วามเข้าใจอธิบายลักษณะของเสียงในภาษาไทย การสรา้ งคาใน
ภาษาไทยวิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของคาในประโยค ความแตกต่างของภาษาพูดและภาษาเขียน สรุปเน้ือหา
วรรณกรรมและวรรณคดีทอี่ า่ น โดยใชก้ ระบวนการทางภาษากระบวนการความรคู้ วามเข้าใจ กระบวนการคดิ อย่าง

มวี ิจารณญาณกระบวนการกลมุ่ กระบวนการปฏิบตั ิ เพอื่ ให้ผเู้ รียนเกิดความรู้ ความเขา้ ใจสามารถใชภ้ าษาไทยใน
การส่ือสารได้อย่างถูกต้อง และมีการสอดแทรกหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงโดยนาการอนุรกั ษ์พนั ธุ์พืชใน
สถานศึกษามาบูรณาการ ทัง้ ยังมีการทากจิ กรรมการเรยี นรู้แบบ Active Learning และการใช้เทคโนโลยดี จิ ิทลั มา

บรู ณาการ
เพอื่ ให้ผู้เรียนเห็นคณุ ค่าของภาษาไทย มีความใฝเ่ รยี นใฝ่รู้ ซอ่ื สัตย์ มคี วามรับผิดชอบมคี วามมงุ่ มน่ั ในการ

ทางาน มีความพอเพยี งและรกั ความเปน็ ไทย

รหัสตวั ช้วี ดั
ท ๑.๑ ม. ๑/๑, ม. ๑/๒, ม. ๑/๓, ม. ๑/๔, ม. ๑/๕, ม. 1/6, ม. 1/7, ม. 1/8, ม. 1/9

ท 3.1 ม. 1/1, ม. 1/2, ม. 1/3, ม. 1/4, ม. 1/5, ม. 1/6
ท 4.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3, ม.1/4
ท5.1 ม.1/1, ท 1.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9

ท 2.1 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/6, ม.1/7, ม.1/8, ม.1/9
ท 3.1 ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6
ท 4.1 ม.1/4, ม.1/5, ม.1/

รวม 42 ตวั ชีว้ ัด

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๑๙

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

ท 23๑๐๑ รำยวชิ ำ ภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรียนร้ภู ำษำไทย
ชนั้ มัธยมศึกษำปีที่ ๒ เวลำ 120 ชัว่ โมง

อา่ นออกเสียงร้อยแก้วประเภทบทความทั่วไป บทความปกิณกะ อ่านบทร้อยกรอง เช่นกลอนบทละคร
กลอนเสภา กาพย์ยานี ๑๑ กาพย์ฉบัง ๑๖ และโคลงส่ีสุภาพได้ถูกต้องเหมาะสมอ่านจับใจความจากสื่อต่าง ๆ
เช่น วรรณคดีในบทเรียน ข่าวและเหตุการณ์สาคัญ ระบุความแตกต่างของคาท่ีมีความหมายโดยตรงและ
ความหมายโดยนัย อา่ นบทความ บันเทิงคดี ระบใุ จความสาคัญรายละเอียดของข้อมูลที่สนับสนุน อ่านสารคดี
สารคดีเชิงประวตั ิ ตานาน เขียนกรอบแนวคิด ผังความคิด วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินเร่ืองท่ีอ่านโดยวธิ ีการ
เปรยี บเทียบ คัดลายมือตัวบรรจงครง่ึ บรรทดั เขียนข้อความตามสถานการณ์และโอกาสต่าง ๆ เช่นคาอวยพร คา
ขวญั คาคม โฆษณา คติพจน์ สุนทรพจน์ เขียนอัตชีวประวัติหรือชีวประวัติ โดยเล่าเหตุการณ์ ข้อคิดเห็นและ
ทศั นคติในเร่ืองต่างๆ เขียนย่อความจากส่ือตา่ งๆ เช่นนิทาน ประวตั ิ ตานาน สารคดีทางวิชาการ พระราชดารัส
พระบรมราโชวาทจดหมายราชการ เขียนจดหมายกิจธุระเช่นจดหมายเชญิ วทิ ยากร จดหมายขอความอนุเคราะห์
จดหมายแสดงความขอบคณุ โดยยึดตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงและนาความร้เู ร่อื งสวนพฤกษศาสตร์มา
นาบูรณาการ

พูดแสดงความคิดเห็นและประเมินเรื่องจากการฟังและการดู พูดวิเคราะห์วิจารณ์จากเรื่องท่ีฟังและดู
พูดรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าเกยี่ วกบั ภูมปิ ัญญาทอ้ งถนิ่
ศกึ ษาเนื้อหาวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมท้องถิ่นเก่ียวกับศาสนา ประเพณี พิธีกรรม สุภาษิตคาสอน
เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ และบันเทิงคดี วิเคราะห์วิถีไทยและคุณค่าจากวรรณคดีและวรรณกรรมโดยยึดตาม
หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งและนาความรูเ้ รื่องสวนพฤกษศาสตร์มานาบรู ณาการและมกี ารจัดการเรียนการ
สอนในรูปแบบ Active Learning มกี ารเรียนร้บู ูรณาการการใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ัล

ใช้กระบวนการทางภาษา กระบวนการความรู้ความเข้าใจ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสรา้ งความ
ตระหนัก กระบวนการกลมุ่ กระบวนการคิดอย่างมวี ิจารณญาณ กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพ่ือให้เกิด
ความรู้ ความเข้าใจ มีประสทิ ธภิ าพ สามารถนาไปปฏบิ ัตใิ ช้ในชวี ิตประจาวัน

รหสั ตวั ช้วี ัด
ท 1.1 ม.3/1, ท 1.1ม. 3/2 ,ท1.1 ม. 3/3 , ท1.1 ม. 3/4, ท1.1ม. 3/5
ท 2.1 ม.3/1 ,ท 2.1 ม. 3/2 , ท 2.1 ม. 3/3 , ท 2.1 ม. 3/4, ท 2.1 ม. 3/5
ท 3.1 ม.3/1, ท 3.1 ม. 3/2 ,ท 3.1 ม. 3/3
ท 4.1 ม.3 /1,ท4.1 ม. 3/2 ,ท4.1 ม. 3 /6
ท 5.1 ม. 3/1,ท5.1 ม. 3/2,
รวมทงั้ หมด 18 ตัวชวี้ ัด

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๒๐

คำอธบิ ำยรำยวิชำ

ท 23๑๐2 รำยวชิ ำ ภำษำไทย กลุ่มสำระกำรเรยี นรภู้ ำษำไทย
ชนั้ มัธยมศึกษำปที ี่ 3 เวลำ 120 ช่วั โมง

อ่านงานเขียนเชงิ สร้างสรรค์ เน้ือหาจากบทเรยี นในกลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทยและกลมุ่ สาระการเรยี นรู้
อน่ื ประเมนิ ความถกู ต้อง วจิ ารณ์ความสมเหตสุ มผล การลาดบั ความ และความเป็นไปได้ วเิ คราะห์เพื่อแสดงความ
คดิ เห็นโต้แยง้ เกี่ยวกับเรื่องทอี่ า่ น อา่ นตีความและประเมินคุณค่า แนวคิดทีไ่ ด้จากงานเขียนอย่างหลากหลาย เพ่ือ
นาไปใช้ในการแกป้ ัญหาในชีวิต มารยาทในการอ่าน

เขียนอธิบายช้ีแจงแสดงความคิดเห็นและโต้แย้งในเรื่องต่าง ๆ เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และแสดงความรู้
ความคดิ เหน็ หรือโตแ้ ย้งจากสอ่ื ตา่ ง ๆ เช่นบทโฆษณา บทความทางวิชาการ การกรอกแบบสมคั รงาน เขยี นรายงาน
จากการศกึ ษาคน้ คว้า เขยี นรายงานโครงงาน มารยาทในการเขียน

ฝึกพูดในโอกาสต่าง ๆ เช่น พูดโต้วาที พูดอภปิ ราย พูดยอวาที ได้ตรงตามวตั ถุประสงค์ พูดโนม้ น้าวอย่าง
มเี หตุผลและนา่ เชอ่ื ถือ มารยาทในการฟงั การดแู ละการพดู

สรุปความร้แู ละขอ้ คิดจากการอ่านวรรณคดี วรรณกรรมและวรรณกรรมทอ้ งถิ่นเพ่ือนาไปประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตจริง ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยานตามท่ีกาหนด และบทร้อยกรองท่ีมีคุณคา่ ตามความสนใจและนาไปใช้
อา้ งอิงมมี ารยาทในการเขยี นโดยยดึ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและนาความรเู้ รอื่ งสวนพฤกษศาสตรม์ า
นาบูรณาการและมีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning มีการเรียนรู้บูรณาการการใช้
เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั

ใช้กระบวนการทางภาษากระบวนการความรู้ความเข้าใจ กระบวนการปฏิบัติ กระบวนการสร้าง
ความตระหนกั กระบวนการกลุ่ม กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ กระบวนการสร้างความคิดรวบยอด เพ่ือให้
เกิดความรู้ ความเข้าใจ มปี ระสิทธภิ าพ สามารถนาไปปฏิบตั ใิ ช้ในชีวติ ประจาวนั

เพ่ือให้มีความรกั ชาติ ศาสน์กษตั ริย์ ซอื่ สัตยส์ ุจริต มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ อย่อู ยา่ งพอเพียง มุ่งมน่ั ในการทางาน
รักความเป็นไทยและมจี ิตสาธารณะ

รหสั ตวั ชว้ี ัด
ท1.1 ม. 3/6, ท 1.1 ม.3/7, ท1.1 ม.3/8, ท1.1 ม.3/9, ท1.1 ม.3/10
ท2.1 ม.3/6, ท2.1 ม.3/7, ท 2.1 ม.3/8, ท 2.1 ม.3/9, ท2.1 ม.3/10
ท3.1 ม.3/4 , ท3.1 ม.3/5 , ท3.1 ม.3/6
ท4.1 ม.3/3, ท4.1 ม.3 /4, ท4.1 ม.3 /5
ท5.1 ม.3/3, ท5.1 ม.3/4
รวมทงั้ หมด 18 ตัวช้ีวัด

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยทุ ธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๒๑

โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ
กลุม่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย

หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยทุ ธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๒๒

โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ

รหสั ท๑๑๑๐๑ กลมุ่ สำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย
ช้ันประถมศึกษำปีที่ ๑
เวลำ ๒๐๐ ชวั่ โมง

ภำคเรียนที่ ๑

หนว่ ย ชอื่ หนว่ ย มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ จำนวน นำ้ หนกั
กำร กำรเรยี นรู้ เรียนรู้ เวลำ คะแนน

เรียนรทู้ ี่ และตัวช้วี ัด (ช่วั โมง)

๑ เตรยี มความ ท ๑.๑ ป๑/๑ - อกั ษรไทย คัดลายมอื อ่านและเขยี น ๑๘ ๖

พร้อม ท ๑.๑ ป๑/๒ พยัญชนะ สระ และเลขไทย ๑-๕

ท ๑.๑ ป๑/๓ - การประสมคาและอา่ นสะกดคาสระอา สระ

ท ๑.๑ ป๑/๔ อี สระอู

ท ๑.๑ ป๑/๕ กำรใช้เทคโนโลยีดจิ ิทัล

ท ๑.๑ ป๑/๖ - ฝึกเขียนพยัญชนะและสระดว้ ย

ท ๑.๑ ป๑/๗ Application

ท ๔.๑ ป๑/๑

ท ๔.๑ ป๑/๒

ท ๕.๑ ป๑/๑

ท ๕.๑ ป๑/๒

๒ ใบบวั ใบโบก ท ๑.๑ ป๑/๑ - อ่านและเขียนพยัญชนะ สระและเลขไทย ๑๗ ๕
๖-๑๐
ท ๑.๑ ป๑/๒
- การประสมคาและอา่ นสะกดคาสระอือ สระ
ท ๑.๑ ป๑/๓ แอ สระอะ สระอิ

ท ๑.๑ ป๑/๔ - การฟังคาส่งั ตา่ งๆ

ท ๑.๑ ป๑/๕ - สญั ลักษณต์ า่ งๆท่ใี ช้ใน
ชีวติ ประจาวนั
ท ๑.๑ ป๑/๖
- เพลงกลอ่ มเด็ก
ท ๑.๑ ป๑/๗

ท ๑.๑ ป๑/๘

ท ๒.๑ ป๑/๑

ท ๒.๑ ป๑/๒

ท ๒.๑ ป๑/๓

ท ๓.๑ ป๑/๑

ท ๓.๑ ป๑/๒

ท ๓.๑ ป๑/๓

ท ๓.๑ ป๑/๔

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๒๓

หนว่ ย ชอ่ื หนว่ ย มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ จำนวน น้ำหนกั
กำร กำรเรียนรู้ เรียนรู้ เวลำ คะแนน
เรียนร้ทู ี่
๓ ภูผา และตวั ชวี้ ัด (ชั่วโมง)

๔ เพ่อื นกัน ท ๓.๑ ป๑/๕ - อ่านและเขยี นพยญั ชนะ สระ ๑๖ ๖

ท ๔.๑ ป๑/๑ ประสมคาและอ่านสะกดคา สระเอ สระอุ
ท ๔.๑ ป๑/๒ สระโอ สระอา
- การพดู ในโอกาสต่าง ๆ และมารยาทในการ
ท ๑.๑ ป๑/๑
พูด
ท ๑.๑ ป๑/๒ - เพลงรอ้ งเล่น
ท ๑.๑ ป๑/๓ หลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงและกำร
ท ๑.๑ ป๑/๔
อนุรกั ษพ์ ันธ์พุ ชื ในสถำนศกึ ษำ
ท ๑.๑ ป๑/๕ - มดขยันกบั จกั จ่นั เสยี งใส
ท ๑.๑ ป๑/๖
ท ๑.๑ ป๑/๗ - การประสมคาและอ่านสะกดคา สระไอ ๑๖ ๖
สระใอ สระเอา สระอัว
ท ๑.๑ ป๑/๘
ท ๒.๑ ป๑/๑ - การพดู แสดงความคิดเหน็ มารยาท
ท ๒.๑ ป๑/๒ ในการฟงั และดู
- เพลงรอ้ งเลน่
ท ๒.๑ ป๑/๓
ท ๓.๑ ป๑/๑ หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพียงและกำร
ท ๓.๑ ป๑/๒ อนุรักษ์พันธพ์ุ ชื ในสถำนศกึ ษำ
- ฝ้ายเกบ็ ออม
ท ๓.๑ ป๑/๓
ท ๓.๑ ป๑/๔
ท ๓.๑ ป๑/๕

ท ๔.๑ ป๑/๑
ท ๔.๑ ป๑/๒
ท ๕.๑ ป๑/๑

ท ๕.๑ ป๑/๒

ท ๑.๑ ป๑/๑
ท ๑.๑ ป๑/๒

ท ๑.๑ ป๑/๓
ท ๑.๑ ป๑/๔
ท ๑.๑ ป๑/๕

ท ๑.๑ ป๑/๖
ท ๑.๑ ป๑/๗
ท ๑.๑ ป๑/๘

หลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ทุ ธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๒๔

หน่วย ชอ่ื หน่วย มำตรฐำนกำร สำระสำคญั จำนวน น้ำหนัก
กำร กำรเรยี นรู้ เรียนรู้ เวลำ คะแนน
เรียนร้ทู ่ี กำรเรยี นรเู้ ชงิ รกุ (Active Learning)
ตามหา และตวั ชว้ี ดั - วิเคราะหค์ าศัพทจ์ ากภาพ (ชว่ั โมง)

ท ๒.๑ ป๑/๑ - อา่ นและเขยี นพยญั ชนะ ๑๖ ๖
- อ่านและเขยี นสระ
ท ๒.๑ ป๑/๒ - การผันวรรณยกุ ต์
ท ๒.๑ ป๑/๓ - การพูดเล่าเร่ือง
ท ๓.๑ ป๑/๑ - เพลงรอ้ งเลน่
หลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งและกำร
ท ๓.๑ ป๑/๒ อนรุ ักษ์พันธ์ุพืชในสถำนศึกษำ
ท ๓.๑ ป๑/๓ - ตน้ ไม้เพือ่ นรัก
ท ๓.๑ ป๑/๔
กำรเรียนรเู้ ชงิ รกุ (Active Learning)
ท ๓.๑ ป๑/๕ - เลา่ นทิ านจากภาพ
ท ๔.๑ ป๑/๑
ท ๔.๑ ป๑/๒

ท ๔.๑ ป๑/๓
ท ๕.๑ ป๑/๑
ท ๕.๑ ป๑/๒

ท ๑.๑ ป๑/๑
ท ๑.๑ ป๑/๒
ท ๑.๑ ป๑/๓

ท ๑.๑ ป๑/๔
ท ๑.๑ ป๑/๕
ท ๑.๑ ป๑/๖

ท ๑.๑ ป๑/๗
ท ๑.๑ ป๑/๘
ท ๒.๑ ป๑/๑

ท ๒.๑ ป๑/๒
ท ๒.๑ ป๑/๓
ท ๓.๑ ป๑/๑

ท ๓.๑ ป๑/๒
ท ๓.๑ ป๑/๔
ท ๓.๑ ป๑/๕

ท ๔.๑ ป๑/๑
ท ๔.๑ ป๑/๒
ท ๔.๑ ป๑/๓

หลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๒๕

หน่วย ชอื่ หน่วย มำตรฐำนกำร สำระสำคญั จำนวน นำ้ หนกั
กำร กำรเรียนรู้ เรยี นรู้ เวลำ คะแนน
เรยี นรู้ที่ (ชัว่ โมง)
ไปโรงเรียน และตวั ช้ีวัด ๑๖ ๖

ท ๕.๑ ป๑/๑ ๙๙ ๓๕
๑ ๑๕
ท ๕.๑ ป๑/๒ ๑๐๐ ๕๐

ท ๑.๑ ป๑/๑ - อ่านและเขยี นพยัญชนะ สระ
ท ๑.๑ ป๑/๒ และวรรณยุกต์

ท ๑.๑ ป๑/๓ - มาตราตัวสะกดแมก่ ง และกก
ท ๑.๑ ป๑/๔ - วรรณกรรมเรอ่ื งของเธอของฉัน
ท ๑.๑ ป๑/๕ - การตัง้ คาถามและตอบคาถาม

ท ๑.๑ ป๑/๖ หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี งและกำร
ท ๑.๑ ป๑/๗ อนรุ กั ษพ์ ันธพ์ุ ชื ในสถำนศกึ ษำ
ท ๑.๑ ป๑/๘ - กล้วย อ้อย (อาหารของช้าง จากหนว่ ยที่ ๖

ท ๒.๑ ป๑/๑ ไปโรงเรียน)
ท ๒.๑ ป๑/๒
ท ๒.๑ ป๑/๓

ท ๓.๑ ป๑/๒
ท ๓.๑ ป๑/๔
ท ๓.๑ ป๑/๕

ท ๔.๑ ป๑/๑
ท ๔.๑ ป๑/๒

ระหวำ่ งเรยี น

สอบปลำยภำค

รวมปลำยภำค

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ทุ ธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๒๖

โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ

รหัส ท๑๑๑๐๑ กล่มุ สำระกำรเรยี นร้ภู ำษำไทย
ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๑
เวลำ ๒๐๐ ชัว่ โมง

ภำคเรียนท่ี ๒

หนว่ ย ชือ่ หนว่ ยกำร มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ จำนวน น้ำหนัก

กำร เรยี นรู้ เรยี นรู้ เวลำ คะแนน

เรยี นรู้ท่ี ตัวช้วี ดั (ช่วั โมง)

๗ เพื่อนรกั เพอื่ น ท ๑.๑ ป๑/๑ - พยญั ชนะ สระอึ สระโอะ สระอวั ะ และ ๑๘ ๖

เล่น ท ๑.๑ ป๑/๒ สระเอียะ

ท ๑.๑ ป๑/๓ - วรรณกรรมเรอ่ื ง ฝนตกแดดออก

ท ๑.๑ ป๑/๔ - การเลา่ เรื่องย่อจากเรื่องทอ่ี ่าน

ท ๑.๑ ป๑/๕ - ซาลาเปาอาต/ี๋ อกั ษรกลาง / การผันเสียง

ท ๑.๑ ป๑/๖ อักษรกลาง

ท ๑.๑ ป๑/๗ - มาตรา ก กา

ท ๑.๑ ป๑/๘

ท ๒.๑ ป๑/๑

ท ๒.๑ ป๑/๒

ท ๒.๑ ป๑/๓

ท ๔.๑ ป๑/๑

ท ๔.๑ ป๑/๒

ท ๔.๑ ป๑/๓

ท ๔.๑ ป๑/๔

ท ๕.๑ ป๑/๑

ท ๕.๑ ป๑/๒

๘ พูดเพราะ ท ๑.๑ ป๑/๑ - มาตราตวั สะกด แม่กง แม่กม ๑๗ ๖

ท ๑.๑ ป๑/๒ - วรรณกรรมเรอื่ ง รกั เมืองไทย
- การคาดคะเนเรือ่ งราวและ
ท ๑.๑ ป๑/๓
เหตกุ ารณ์
ท ๑.๑ ป๑/๔
- ตาป๋ี เป่าป่ี / อักษรสงู และการผันอักษรสูง
ท ๑.๑ ป๑/๕ หลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี งและกำร
อนรุ กั ษพ์ ันธุ์พชื ในสถำนศกึ ษำ
ท ๑.๑ ป๑/๖
- ความลับของบัวหลวงทเ่ี ราไมเ่ คยรู้
ท ๑.๑ ป๑/๗

ท ๑.๑ ป๑/๘

ท ๒.๑ ป๑/๑

หลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๒๗

หน่วย ชอ่ื หน่วยกำร มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ จำนวน นำ้ หนัก
กำร เรยี นรู้ เรยี นรู้ เวลำ คะแนน
เรยี นรู้ท่ี เกอื บไป
ตัวช้วี ัด (ชัว่ โมง) ๖
๙ เพ่ือนรใู้ จ
ท ๒.๑ ป๑/๒ - มาตราตวั สะกด แม่กน แมก่ บ ๑๖ ๖
๑๐ - วรรณกรรมเรอ่ื ง ตั้งเอย๋ ตงั้ ไข่
ท ๒.๑ ป๑/๓
ท ๔.๑ ป๑/๑ - บทอาขยาน
ท ๔.๑ ป๑/๒ - เตา่ กดั มือ / อักษร
หลักปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งและกำร
ท ๔.๑ ป๑/๓
ท ๔.๑ ป๑/๔ อนรุ ักษพ์ ันธุ์พืชในสถำนศกึ ษำ
ท ๕.๑ ป๑/๑ - ต้นไม้เพ่อื นรัก

ท ๕.๑ ป๑/๒ - คาท่ีประสม สระอะ สระอา สระอิ สระอี ๑๖
สระอึ สระอือ มีตัวสะกด
ท ๑.๑ ป๑/๑
ท ๑.๑ ป๑/๒ - มาตราตวั สะกด แมเ่ กย แมเ่ กอว
- วรรณกรรมเรอื่ ง แมวเหมียว
ท ๑.๑ ป๑/๓ - การเลอื กหนงั สือ
ท ๑.๑ ป๑/๔
ท ๑.๑ ป๑/๕ หลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพยี งและกำร
อนรุ กั ษพ์ ันธ์ุพชื ในสถำนศกึ ษำ
ท ๑.๑ ป๑/๖ - ดินโปง่ (อ่านคลอ่ ง รอ้ งเลน่ จากหนว่ ยท่ี
ท ๑.๑ ป๑/๗
ท ๑.๑ ป๑/๘

ท ๒.๑ ป๑/๑
ท ๒.๑ ป๑/๒
ท ๒.๑ ป๑/๓

ท ๔.๑ ป๑/๑
ท ๔.๑ ป๑/๒
ท ๔.๑ ป๑/๓

ท ๔.๑ ป๑/๔

ท ๑.๑ ป๑/๑
ท ๑.๑ ป๑/๒

ท ๑.๑ ป๑/๓
ท ๑.๑ ป๑/๔
ท ๑.๑ ป๑/๕

ท ๑.๑ ป๑/๖
ท ๑.๑ ป๑/๗
ท ๑.๑ ป๑/๘

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนติยทุ ธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สตู รแกนกลาการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๒๘

หน่วย ชอ่ื หน่วยกำร มำตรฐำนกำร สำระสำคญั จำนวน น้ำหนกั
กำร เรยี นรู้ เรยี นรู้ ๑๐ เพือ่ นรูใ้ จ) เวลำ คะแนน
เรยี นรู้ท่ี
ช้างนอ้ ยนา่ รัก ตัวช้ีวดั (ชัว่ โมง) ๖
๑๑
ท ๒.๑ ป๑/๑ - คาทป่ี ระสม สระเอะ สระเอ สระแอ ๑๖

ท ๒.๑ ป๑/๒ สระโอะ สระออ สระเอยี สระเออื สระ
ท ๒.๑ ป๑/๓ เออ สระอัว มตี ัวสะกด
ท ๔.๑ ป๑/๑ - คาท่ีมีอกั ษรนา

ท ๔.๑ ป๑/๒ - ประโยคและการแตง่ ประโยค
ท ๔.๑ ป๑/๓ - คาคล้องจอง
ท ๔.๑ ป๑/๔ - การเขยี นเร่ืองจากภาพ

ท ๕.๑ ป๑/๑ - นิทานอีสป
ท ๕.๑ ป๑/๒ หลกั ปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงและกำร
อนุรักษพ์ ันธุพ์ ืชในสถำนศึกษำ
ท ๑.๑ ป๑/๑
- เร่ืองกล้วย..กลว้ ย
ท ๑.๑ ป๑/๒ กำรเรียนรูเ้ ชิงรุก(Active Learning)
ท ๑.๑ ป๑/๓ - จิ๊กซอว์ เรยี งคาใหเ้ ป็นประโยค
ท ๑.๑ ป๑/๔

ท ๑.๑ ป๑/๕
ท ๑.๑ ป๑/๖
ท ๑.๑ ป๑/๗

ท ๑.๑ ป๑/๘
ท ๒.๑ ป๑/๑
ท ๒.๑ ป๑/๒

ท ๒.๑ ป๑/๓
ท ๓.๑ ป๑/๑
ท ๓.๑ ป๑/๒

ท ๓.๑ ป๑/๓
ท ๓.๑ ป๑/๔
ท ๓.๑ ป๑/๕

ท ๔.๑ ป๑/๑
ท ๔.๑ ป๑/๒
ท ๔.๑ ป๑/๓

ท ๔.๑ ป๑/๔
ท ๕.๑ ป๑/๑
ท ๕.๑ ป๑/๒

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๒๙

หนว่ ย ช่ือหน่วยกำร มำตรฐำนกำร สำระสำคัญ จำนวน น้ำหนกั
กำร เรยี นรู้ เวลำ คะแนน
เรียนรู้ที่ เรียนรู้ (ช่ัวโมง)
วันสงกรานต์
๑๒ ตัวช้ีวัด ๑๖

ท ๑.๑ ป๑/๑ - คาทต่ี วั สะกดไม่ตรงตามมาตรา

ท ๑.๑ ป๑/๒ - คาควบกลา้

ท ๑.๑ ป๑/๓ - ประโยคและการแตง่

ท ๑.๑ ป๑/๔ ประโยค

ท ๑.๑ ป๑/๕ - คาคลอ้ งจอง

ท ๑.๑ ป๑/๖ - การเขียนเร่อื งจากภาพ

ท ๑.๑ ป๑/๗ - นิทานอสี ป

ท ๑.๑ ป๑/๘ กำรใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ัล

ท ๒.๑ ป๑/๑ - บันทึกวิดโี อการเล่านทิ านผ่านสอ่ื

ท ๒.๑ ป๑/๒ อิเลก็ ทรอนกิ ส์

ท ๒.๑ ป๑/๓

ท ๓.๑ ป๑/๑

ท ๓.๑ ป๑/๒

ท ๓.๑ ป๑/๓

ท ๓.๑ ป๑/๔

ท ๓.๑ ป๑/๕

ท ๔.๑ ป๑/๑

ท ๔.๑ ป๑/๒

ท ๔.๑ ป๑/๓

ท ๔.๑ ป๑/๔

ท ๕.๑ ป๑/๑

ท ๕.๑ ป๑/๒

ระหวำ่ งเรียน ๙๙ ๓๕

สอบปลำยภำค ๑ ๑๕
๑๐๐ ๕๐
รวมปลำยภำค

หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ทุ ธ) พทุ ธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๓๐

โครงสรำ้ งรำยวชิ ำ

รหัสวิชำ ท ๑๒๑๐๑ กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้ภำษำไทย
ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๒
หน่วยกำร ช่ือหนว่ ยกำร เวลำเรยี น ๒๐๐ ช่วั โมง
เรียนรทู้ ่ี เรยี นรู้
ภำคเรียนท่ี ๑
๑ นา้ ใส
มำตรฐำนกำร จำนวน
๒ ใจหาย เรียนรู้
สำระสำคัญ เวลำ นำ้ หนกั คะแนน
และตัวช้ีวดั
ท ๑.๑ ป.๒/๑ (ช่ัวโมง)
ท ๑.๑ ป.๒/๒
ท ๑.๑ ป.๒/๔ - รจู้ กั คานาเร่ือง ๑๖ ๕
ท ๑.๑ ป.๒/๕
ท ๑.๑ ป.๒/๗ - การอา่ นออกเสียง
ท ๑.๑ ป.๒/๘
ท ๔.๑ ป.๒/๑ - การอ่านคิดวิเคราะห์
ท ๔.๑ ป.๒/๒
ท ๔.๑ ป.๒/๑ - คาจากเรอื่ ง

ท ๑.๑ ป.๒/๑ - การอา่ นและสงั เกตคา
ท ๑.๑ ป.๒/๒
ท ๑.๑ ป.๒/๔ - อกั ษร ๓ หมู่ (๑)
ท ๑.๑ ป.๒/๕
ท ๑.๑ ป.๒/๖ - อกั ษร ๓ หมู่ (๒)
ท ๔.๑ ป.๒/๑
ท ๔.๑ ป.๒/๒ - อ่านคลอ่ งรอ้ งเล่น
ท ๕.๑ ป.๒/๑
- ชวนคิด ชวนทา

- การอา่ นบทดอกสรอ้ ย

- การอ่านออกเสียงในบทเรียน

หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ

พอเพียงและกำรอนุรักษ์พันธุพ์ ืช

ในสถำนศึกษำ

- เด็กกบั ต้นไม้

- นิทานขนมแม่เอ๊ย (ขนมกลว้ ย)

- ร้จู ักคานาเรื่อง ๑๖ ๖

- การอา่ นออกเสียง

- การอา่ นคิดวิเคราะห์

- คาจากเรื่อง

- สระเอียะ สระเอีย

- การอ่านและสงั เกตคา

- คาในแมก่ ง กม กน

- อา่ นคล่อง ร้องเลน่

- ชวนคดิ ชวนทา

หลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนตยิ ุทธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ หน้า ๒๓๑

หนว่ ยกำร ชื่อหนว่ ยกำร มำตรฐำนกำร จำนวน
เรียนรทู้ ่ี เรียนรู้ เรยี นรู้
สำระสำคัญ เวลำ น้ำหนักคะแนน
๓ ครวั ปา่ และตวั ชีว้ ดั
๔ กลัวทาไม (ช่ัวโมง)
ท ๑.๑ ป.๒/๔
ท ๑.๑ ป.๒/๕ - คาคล้องจอง
ท ๑.๑ ป.๒/๖
ท ๒.๑ ป.๒/๒ - การอา่ นบทรอ้ ยกรอง
ท ๓.๑ ป.๒/๒
ท ๓.๑ ป.๒/๓ หลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ
ท ๑.๑ ป.๒/๑
ท ๑.๑ ป.๒/๒ พอเพยี งและกำรอนุรกั ษ์พันธ์พุ ืช
ท ๑.๑ ป.๒/๓
ท ๑.๑ ป.๒/๔ ในสถำนศกึ ษำ
ท ๑.๑ ป.๒/๕
ท ๑.๑ ป.๒/๖ - ชดุ เติบโตตามรอยพอ่ : คิดแบบใน
ท ๓.๑ ป.๒/๔
ท ๓.๑ ป.๒/๕ หลวง
ท ๔.๑ ป.๒/๑
ท ๔.๑ ป.๒/๒ - กาดา (กลอนดอกสร้อยสุภาษิต
ท ๕.๑ ป.๒/๑
จาก วรรณคดีลานาบทท่ี ๑)

- คายากจากบทเรยี น ๑๖ ๖

- สระเออื

- การอ่านและสงั เกตคา

- คาแตง่ ประโยค

- อ่านคล่อง ร้องเล่น

- ชวนคิด ชวนทา

- ร้จู ักคานาเรอ่ื ง ๑๗ ๖

- การอา่ นออกเสียง

- การอ่านคดิ วิเคราะห์

- คายากจากบทเรียน

- สระอึ สระออื

- การอ่านและสงั เกตคา

- คาแต่งประโยค

- อา่ นคล่อง รอ้ งเลน่

- ชวนคดิ ชวนทา

หลกั ปรัชญำของเศรษฐกจิ

พอเพยี งและกำรอนรุ ักษพ์ ันธุ์พืช

ในสถำนศกึ ษำ

- ออมสินหนดู ี

- นกขมน้ิ เหลอื งออ่ น (กลอน

ดอกสรอ้ ยสภุ าษติ จาก วรรณคดลี า

นาบทที่ ๑)

หลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนเทศบาล ๑ (ขจรเนติยุทธ) พุทธศักราช ๒๕๖๔ ตามหลกั สูตรแกนกลาการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ หนา้ ๒๓๒


Click to View FlipBook Version