The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ronnachai Joothong, 2023-03-14 03:31:51

รัฐศาสตร์เบื้องต้น

57 Public Administration Kanyawan 2203101

K.Kanyawan Kamnedsin Lecturer “Political Science Master Deegree” Public Administration Program Faculty Humanities and Social Sciences Bansomdejchaopraya Rachabhat University


1. เข้าเรียนสาย 3 ครั้ง เช็คเป็ นขาด 1 ครั้ง (80 % ของเวลาเรียน) 2. เข้าเรียนสายเกิน 30 นาที ถือเป็ นขาดเรียน (ยกเว้นเหตุสุดวิสัย ) 3. โทรศัพท์ใช้ระบบสั่นเท่านั้น 4. ห้ามใช้โน๊ตบุ๊ค และโทรศัพท์ มือถือระหว่างการบรรยาย 5. แต่งกายถ ู กต ้ องตามระเบ ี ยบมหาวท ิ ยาล ั ย ถ ื อเป็ นขาดเร ี ยน 6. ขาดเรียนต้องส่งใบลาทุกครั้ง 7. ขาดสอบโดยไม่จ าเป็ นเกรด E กรณีเดียวเท่านั้น เจ็บป่ วยต้องมี ใบรับรองแพทย์ (พิจารณาเป็ นราย ๆ )


How toscore ! - คะแนนเก็บระหว่างภาคเรียน 60 คะแนน เข้าเรียน +พฤติกรรมในชั้นเรียน 20 คะแนน รายงาน + รายงานหน้าชั้นเรียน 20 คะแนน ทดสอบกลางภาค 20 คะแนน - คะแนนสอบปลายภาค 40 คะแนน


บทเรียนในวิชานี้ บทที่ 1.ลักษณะทั่วไปของวิชารัฐศาสตร์ บทที่ 2.แนวความคิดทางการเมือง บทที่ 3.รัฐ บทที่ 4.อ านาจอธิปไตย บทที่ 5.สถาบันทางการเมือง บทที่ 6.กระบวนการทางการเมือง บทที่ 7.ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน บทที่ 8.การมีส่วนร่วมทางการเมือง บทที่ 9.ลัทธิและอุดมการณ์ทางการเมือง บทที่ 10.ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ


มน ุ ษย ์ไม ่ สามารถดา รงชี วต ิ อย ่ ู ได ้ เพย ี งลา พง ั บนโลก ใบนี้ได้ เพราะมนุษย์เป็ นสัตว์สังคมและเป็ นสัตว์ การเมือง (We can not live alone.) การเมืองเกิดจากความเป็ นจริงที่ว่า ความจ าเป็ น ต่างๆ ของมนุษย์มีจ ากัดในขณะที่ความต้องการ ของมนุษย์มีอย่างไม่จ ากัด การเมืองจึงเกิดขึ้นมา เพื่อที่จะเป็ นกฎเกณฑ์ในการแบ่งสรรความจ าเป็ น ต่างๆ เหล่านี้


ประโยชน์ในการศึกษาวิชารัฐศาสตร์ ประโยชน ์ในแง ่ ขององค ์ ความร ้ ู ท ่ จ ี ะใช ้ในการ ประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับการเมือง การปกครอง ทั้งใน ระดับส่วนกลางและส่วนท้องถิ่น แต่สิ่งที่มีความส าคัญโดยตรงและเป็ นเป้ าหมายหลักใน การเรียนรัฐศาสตร์ คือ ต้องการให้บัณฑิตที่จบมากลายเป็ นพลเมืองของ ระบอบประชาธ ิปไตย ร ้ ู จ ั กใช ้ ส ิ ทธ ิ เคารพหน ้ าท ่ ี เคารพกฎหมายและความเท่าเทียม มีส่วนร่วมทางการ เม ื อง ม ี ภม ู ร ิ้ ู และภม ู ธ ิ รรมและเป็ นหน ่ ึ งในแรง สร้างสรรค์ประชาธิปไตย”


รัฐศาสตร์ (POLITICAL SCIENCE) เป็ นศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องรัฐ รัฐศาสตรเป็ นศาสตร์ที่เกี่ยวกับการเมือง (POLITICS) หรือ อ านาจ รัฐศาสตร์ เป็ นศาสตร์ที่ว่าด้วยรัฐบาล หรือการปกครอง(GOVERNMENT) ด ั งน ั ้ น จ ึ งสร ุ ปได ้ ว ่ า ร ั ฐศาสตร ์ คอ ื ศาสตร ์ แห ่ งร ั ฐ


David Easton “รัฐศาสตร์เป็ นศาสตร์ที่ว่าด้วย การเล ื อกสรรส่ิ งท่ด ีีให ้ คนในส ั งคมได ้ อย ่ ู กน ิ ใช ้ อย ่ างม ี ค ุ ณภาพ” รัฐศาสตร์ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า Political Science เป็ นการศึกษาถึงเรื่องราวทางการเมือง อานนท์ อาภาภิรม (2545 : 1) ได้ให้ความหมายของค า ว่า รัฐศาสตร์ ไว้ว่า รัฐศาสตร์เป็ นศาสตร์ที่ว่าด้วยรัฐ ซึ่งถือว่า เป็ นสาขาหนึ่งของสังคมศาสตร์ที่กล่าวถึงทฤษณีการจัดตั้ง องค์การรัฐบาลและการด าเนินงานของรัฐ


จร ูญ ส ุ ภาพ (2514 : 3) ได้ให้ความหมายของค าว่า รัฐศาสตร์ ไว้ว่า รัฐศาสตร์เป็ นศาสตร์ที่ว่าด้วยรัฐ ซึ่งจัดว่าเป็ น สาขาหนึ่งของวิชาสังคมศาสตร์ที่กล่าวถึงทฤษฎีการจัดองค์การ การเมืองการปกครอง รัฐบาล และวิธีด าเนินการต่าง ๆ ของรัฐ ฮาโรลด์ ดี. ลาสเวลล์ (Harold D. Lasswell 1958) อ ้ างถง ึในม ู ฆอร ี ย ี หนะ (2534 : 2) ได้ให้ความหมาย ของค าว่า รัฐศาสตร์ ไว้ว่า รัฐศาสตร์เป็ นศาสตร์ที่ศึกษาเรื่อง ของการเม ื อง เพ่ื อด ู ว ่ า ใครได ้ อะไร เม่ื อใด และอย ่ างไร โดยคา ว ่ า ใคร ได ้ แก ่ ผ ้ ู น าทางการเม ื อง พรรคการเม ื อง กล ่ ุ ม ผลประโยชน ์ ตลอดจนผ ้ ู ม ี ส ิ ทธ ์ ิ เล ื อกต ั ง ้ ซ่ึ งต ่ างเข ้ าไปม ี ส ่ วนร ่ วม ในกระบวนการทางการเมือง สรุปได้ว่า รัฐศาสตร์เป็ นการศึกษาในเรื่องการเมือง การ ปกครอง กิจกรรมทางการเมืองและการจัดสรรสิ่งที่มีคุณค่าให้แก่ สังคม science ในที่นี่หมายถึง ศาสตร์หรือวิชาการ


ค ำว่ำ รัฐศาสตร์กับ การเมือง มักใช้แทนกันได้ แต่ก็ มีข้อแตกต่ำงที่ส ำคัญคือ รัฐศาสตร์ (Political Science) เป็ นเรื่องที่หนักไปในทำงวิทยำกำรหรือศำสตร์ที่มีกำร จัดระบบหมวดหมู่อย่ำงชัดเจน(อ ำนำจสูงสุดของรัฐ) การเมือง (Politic) มีลักษณะหนักไปในเชิงกำรกระท ำหรือเป็ นกิจกรรม (อ ำนำจทำงกำรเมืองของรัฐ)


การเมือง (Politics) มาจากรากศัพท์ในภาษากรีกว่า โพลิส (Polis) ซึ่งหมายถึง รัฐ หรือนครรัฐ (City State) หรืออีกนัยหนึ่ง การเมืองก็ คือกิจกรรมเกี่ยวกับการที่คนจ านวนหนึ่งมาร่วมกันเป็ นประเทศหรือ รัฐ ****การเมืองหมายถึง การแสวงหาผลประโยชน์ หรือ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ การแข่งขันกันเพื่อการแสวงหาอ านาจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมทั้งคม *****


สภาพของวิชารัฐศาสตร์ วท ิ ยาการของโลกปั จจ ุ บ ั นแบ ่ งสภาพของวช ิ าร ั ฐศาสตร ์ ออกออกเป็ น 3 สาขา 1. วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural Science) วท ิ ยาศาสตร ์ ธรรมชาต ิ คอ ื ความร ้ ู ทไี ่ ด ้ ร ั บจากการศ ึ กษา ธรรมชาติและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ โดยการใช้วิธีการ ทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้แก่การตั้งสมมติฐาน การวางแผน รวบรวมข ้ อม ู ล การวเ ิ คราะห ์ ข ้ อม ู ล การทา รายงาน และการ ทดสอบ 2. สังคมศาสตร์ (Social Science) ส ั งคมศาสตร ์ คอ ื ความร ้ ู ทเ ี ่ กย ี ่ วกบ ั ส ั งคมมน ุ ษย ์ ทอ ี ่ ย ่ ู ร่วมกันในสังคม 3. มน ุ ษยศาสตร ์(Humanities) มน ุ ษยศาสตร ์ คอ ื ความร ้ ู ทก ี ่ ล ่ าวถง ึ ค ุ ณค ่ าและผลงาน ของมน ุ ษย ์


การศึกษารัฐศาสตร์ ก็คือการศึกษาวิชาการเมือง โดยใช้ศาสตร์หรือวิชาการเข้ามาวิเคราะห์ การศึกษาวิชารัฐศาสตร์เป็ นการศ ึ กษากล ่ ุ มหน ึ ่ ง ของสาขาวิชาสังคมศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎี องค ์ การร ั ฐบาลแนวปฏ ิ บ ั ต ิ ของร ั ฐ ปั จจ ุ บ ั นจะ เน้นที่การศึกษาระบบการเมือง


1. ทฤษฎีการเมืองและประวัติความคิดทางการเมือง (Political and History of Political Though)ม ุ ่ งศ ึ กษาเก ี ่ ยวกบ ั หลก ั การ ทฤษฎีบท แนวคิดทางรัฐศาสตร์ 2. สถาบันทางการเมือง (Political Institutions) ม ุ ่ งศ ึ กษาน ิ ยามระบบองคป์ ระกอบและอา นาจของสถาบน ั ทาง การเม ื อง ซ ่ ึ งรวมถ ึ งนโยบายการจด ั ต ้ ง ั และโครงสร ้ างของการ ปกครองของร ั ฐ การปกครองทอ ้ งถ ิ ่ น และการปกครอง เปรียบเทียบ 16


3. กฎหมายสาธารณะ (Public laws) ศ ึ กษาถ ึ งรากฐานของร ั ฐรวมท ้ ง ัปั ญหาการแบ ่ งแยกอา นาจ คน ้ ควา ้ ความสัมพันธ์ของกฎหมายสูงสุดของรัฐ 4.พรรคการเม ื อง กล ่ ุ มอท ิ ธ ิ พลและประชามต ิ(Political Parties, Pressure Groups and Public Opinion) ศ ึ กษาถ ึ งบทบาทและจ ุ ดประสงคข ์ องการจด ั ต ้ ง ั ตลอดจนผลของ พรรคการเม ื อง กล ุ ่ มอ ิ ทธ ิ พลและประชามต ิ 17


5.รัฐประศาสนศาสตร์ (public administration) การศ ึ กษาถ ึ งการจด ั กา ลง ั คน เง ิ น และวส ั ด ุ ในอน ั ท ี ่ จะปฏ ิ บต ัิใหเ ้ป็ นไปตาม เจตจ านงของการปกครองของรัฐ 6.ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ(international relations) ศ ึ กษาถ ึ งดา ้ นนโยบาย หลก ั การและว ิ ธ ี การในความสม ั พน ั ธ ์ ระหวา ่ งร ั ฐ ขอ ้ ม ู ลต ่ างๆเหล ่ าน ้ ี ม ี บทบาทสา คญ ั ในการกา หนดบทบาทของแต ่ ละร ั ฐใน เวท ี การเม ื องระหวา ่ งประเทศ 18


1. แนวปรัชญา ปรัชญาการเมือง โดยเฉพาะการศึกษาในยุคกรีกโบราณและ ยุโรปยุคกลาง ส่วนการศึกษาในช่วงปลาย ค.ศ. 1900 นักปรัชญา เรียกว่า ทฤษฎีการเมือง ซึ่งในยุคกรีกโบราณ (Ancient Greeks) มีนักปรัชญาที่น่าสนใจคือ โสเครติส เพลโต และ อริสโตเติล ยุคต่อมาหลังจากยุคศาสนาเสื่อมอ านาจเกิดนักปรัชญา ที่น่าสนใจคือ มาเคียเวลลี (Niccolo Machiavelli) เกี่ยวกับศิลปะของอ านาจ 19


ยุคแนวคิดสัญญำประชำคมเกิดผู้น ำเสนอแนวคิดคือ โธมัส ฮอบส์ (Thomas Hobbes) จอห์น ล็อค (John Locke) และฌอง ชำคส์ รุสโซ (Jean Jacques Rousseau) และ ยังมีอีกหลำยท่ำนในเวลำต่อมำเช่น มองเตสดิเออ (Montesquieu) เฮเกล (Hegal) เบนธึม (Jeremy Bentham) มิลล์ (John Stuart Mill) และข้อเสนอของ คำร์ล มำร์กส์ (Karl Marx) 20


การศ ึ กษาร ั ฐศาสตร ์ในแนวปร ั ชญาตามเน ้ ื อหาและ วธ ิี การดง ั กล ่ าวปรัชญาการเมือง เป็ นแนวทางเก่าแก่ การศ ึ กษาธรรมชาต ิ ของระบบการเมอ ื งท ี ่ ดท ีี ่ ส ุ ด เน ื อ ้ หา จ ึ งอย ่ ู ในลก ั ษณะของความควรหร ื อไม ่ ควร อะไรด ี อะไรเลว โดยน าเอาจริยธรรมหรือศีลธรรมเข้ามา ก าหนด จึงเป็ นประโยชน์ในแง่ที่เป็ นการสร้างรากฐาน ทางทฤษฎใี ห ้ แก ่ การศ ึ กษาร ั ฐศาสตร ์ในปั จจ ุ บ ั น โดยท ี ่ การศึกษารัฐศาสตร์ในแนวปรัชญานั้นได้มีส่วนช่วย อย่างส าคัญ ในการก าหนดเค้าโครงของเนื้อหาสาระที่ เป็ นหัวใจส าคัญ หรือองค์ประกอบส าคัญของวิชา รัฐศาสตร์ 21


2. แนวสถาบันและโครงสร้าง การศึกษารัฐศาสตร์แนวสถาบันและโครงสร้างให้ความสนใจทั้งใน ส่วนที่เป็ นสถาบันทางการเมืองการปกครอง เน้นในเชิงพฤติกรรม เชิงเปรียบเทียบและเชิงพัฒนา โดยที่ได้รับอิทธิพลทางความคิด เกี่ยวกับระเบียบวิธีจากวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และชีววิทยา เนื้อหาเกี่ยวกับสถาบันทางการเมือง ในฐานะที่เป็ นส่วนประกอบ หรือระบบย่อยของระบบการเมือง ทั้งที่เป็ นสถาบันที่เป็ น ทางการและไม่เป็ นทางการ สถาบันของรัฐและประชาชน 22


3. แนวระบบและวัฒนธรรมทางการเมือง การศึกษารัฐศาสตร์แนวระบบและวัฒนธรรมทางการเมืองมี เนื้อหาส าคัญเกี่ยวกับลักษณะร่วมที่เหมือนหรือคล้ายคลึงกันของ ระบบการเมือง ขั้นตอนและการท างานของระบบการเมือง การ ดา รงอย ่ ู ของระบบการเม ื อง และความแตกต ่ างของระบบ การเมือง


ปัจจัยส าคัญที่มีส่วนก าหนดความแตกต่างของระบบการเมือง คือ วัฒนธรรมทางการเมือง โดยเฉพาะวัฒนธรรมทางการเมือง ของมวลชน และวัฒนธรรมทางการเมืองของชนชั้นน า ทั้งนี้ เนื่องจากวัฒนธรรมทางการเมืองนั้น เป็ นตัวก าหนดแบบแผน พฤติกรรมทางการเมือง ทั้งพฤติกรรมของประชาชนทั่วไป พฤตก ิ รรมทางการเม ื องของผ ้ ู ปกครองและองค ์ กรอา นาจหร ื อ สถาบันทางการเมืองในระบบการเมือง


4. แนวทางพฤติกรรมศาสตร์ การศึกษาทางพฤติกรรมศาสตร์ของรัฐศาสตร์ ได้ใช้วิธีการศึกษาที่ ตรงตามวิธีศึกษาทางศาสตร์ (Scientific Method) อย่างแท้จริงหรือ เรียกว่าการศึกษารัฐศาสตร์เชิงพฤติกรรมนิยม (Behavioralism) คือ มี ลักษณะเป็ นการศึกษาเชิงวิเคราะห์ และการศึกษาเชิงประจักษ์ไปพร้อม ๆกน ั การศ ึ กษาร ั ฐศาสตร ์ เช ิ งพฤต ิ กรรมน ี จ ้ ะต ้ องน าเอาความร ้ ู เกย ี ่ วกบ ั พฤต ิ กรรมทางการเม ื องของมน ุ ษย ์ จากสาขาวช ิ าต ่ างๆเข ้ ามาร ่ วมด ้ วย


วช ิ าร ั ฐศาสตร ์ เป็ นวช ิ าทจ ี ่ ด ั รวมอย ่ ู ในส ั งคมศาสตร ์ เป็ น การศึกษาที่เกี่ยวกับรัฐซึ่งเป็ นที่รวมของประชาชน ประชาชนกับรัฐ ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ เป็ นการศึกษาถึงลักษณะหลักเกณฑ์ และวธ ิี การปกครองของมน ุ ษย ์ ฉะน ้ ั น การศ ึ กษาวช ิ าร ั ฐศาสตร ์ จง ึ ต ้ องอาศ ั ยความร ้ ู ของสาขาวช ิ าการอน ื ่ ประกอบด ้ วย ส าหร ั บ การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง วิชารัฐศาสตร์กับวิชาการอื่นดังนี้


ความสัมพันธ์ระหว่างวิชารัฐศาสตร์กับสาขาวิชาอื่น 1. ความสัมพันธ์ระหว่างวิชารัฐศาสตร์กับวิชาประวัติศาสตร์ - ประวต ั ศ ิ าสตร ์ให ้ หลก ั ฐานเกย ี ่ วกบ ั เหต ุ การณ ์ ต ่ างๆในอดต ี ทา ให ้ น ั ก รัฐศาสตร์เข้าใจแนวทางปรากฏการณ์ของรัฐ - ประวต ั ศ ิ าสตร ์ให ้ ข ้ อม ู ลเกย ี ่ วกบ ั สภาพของร ั ฐในอดต ี - ข ้ อม ู ลในอดต ี ทา ให ้ น ั กร ั ฐศาสตร ์ สามารถใช ้ เป็ นฐานในการวเ ิ คราะห ์ แนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


วิชาเศรษฐศาสตร์ต้องศึกษาเรื่องการผลิต การใช้ ทรัพยากร และการบริโภค ดังนั้นจึงเกี่ยวข้องกับประชาชน และการปกครอง นักปกครองจึงน าเอาวิชาเศรษฐศาสตร์ มาก าหนดนโยบายทางการเมือง เพราะเรื่องของเศรษฐกิจ จะเกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง ทุกคนต้องด ารงชีวิต มี การใช้จ่ายและแบ่งปันผลผลิต ดังนั้นจึงต้องมีการน า หลักเกณฑ์และข้อเท็จจริงทางเศรษฐกิจมาก าหนดนโยบาย หรือการกระท าทางการเมืองและการปกครอง


“ภม ู ศ ิ าสตร ์” เป็ นวิชาที่กล่าวถึงความส าคัญของรัฐ เชิ งภม ู ศ ิ าสตร ์ ท ่ ม ีี ผลกระทบต ่ อการเม ื องการปกครอง ของประเทศน ั น ้ ๆ โดยสภาพทางภม ู ศ ิ าสตร ์ สภาพทาง ภม ู ศ ิ าสตร ์ ม ี ความสา ค ั ญต ่ อการปกครองและการดา เน ิ น นโยบายทั้งภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งการที่จะ เข้าใจปัญหาการเมืองของรัฐใด จ าเป็ นต้องศึกษาสภาพ ภม ู ศ ิ าสตร ์ ของร ั ฐน ั น ้ ๆ ด ้ วย


“สังคมวิทยา” เป็ นวิชาที่ศึกษาถึงสังคมหรือ ปัญหาต่าง ๆ ของสังคม “มานุษยวิทยา” เป็ นแขนงวิชาหนึ่งที่สัมพันธ์ กับสังคมวิทยาศึกษาเกี่ยวกับตัวมนุษย์และวิชา รัฐศาสตร์ต้องอาศัยเนื้อหาของวิชาดังกล่าว เพราะรัฐต้องเกี่ยวข้องกับสังคม ชุมชน และ มนุษย์


“จิตวิทยา” เป็ นวิชาที่ศึกษาถึงอารมณ์และ จต ิใจของคน เพ ่ อ ื เป็ นข ้ อม ู ลในการจ ู งใจให ้ ประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่เป็ นประโยชน์ ซึ่งวิชานี้ จะเป็ นประโยชน์ในการช่วยให้เกิดความเข้าใจ ท ่ ถ ี ู กต ้ องเก ่ ี ยวก ั บพฤตก ิ รรมของคน เพ ่ อ ืใช ้ เป็ น แนวทางในการก าหนดนโยบายการเมืองที่ เหมาะสมต่อไป


6. ความสัมพันธ์ระหว่างวิชารัฐศาสตร์กับปรัชญาและ จริยศาสตร์ รัฐศาสตร์กับปรัชญาและจริยศาสตร์ เป็ นศาสตร์ ทว ี ่ ่ าด ้ วยเหต ุ ผลและความถ ู กต ้ อง เช ่ น หลก ั เสร ี ภาพ เสมอภาค ความย ุ ตธ ิ รรม ศ ี ลธรรม และค ุ ณธรรม เป็ น ต้น


“นิติศาสตร์” เป็ นวช ิ าทว ี ่ ่ าด ้ วยกฎเกณฑ ์ ข ้ อบ ั งคบ ั ทช ี ่ ่ วยให ้ มน ุ ษย ์ อย ่ ู ร ่ วมกน ัในส ั งคมอย ่ างม ี ระเบย ี บ ซ ึ ่ งถอ ื ว ่ ากฎหมายเป็ นปั จจย ั หน ึ ่ งทท ี ่ า ให ้ประเทศคงอย ่ ู ได ้ อย ่ างม ั ่ นคง กฎหมายจง ึ เป็ น เครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมให้การเมืองและรัฐด าเนินได้โดย ปราศจากอ ุ ปสรรค ดง ั น ้ ั นจง ึ ต ้ องม ี กฎหมายเพอ ื ่ ใช ้ บ ั งคบ ัในร ั ฐ เสมอ


8. รัฐศาสตร์กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รัฐศาสตร์กับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีความสัมพันธ์กันมาก เพราะประเทศที่มีความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็จะมีความเจริญทางเศรษฐกิจ และจะหาทางส่งเสริมการ คด ิ ค ้ นอาว ุ ธและส ิ ่ งประดษ ิ ฐ ์ใหม ่ ๆ ความเจร ิ ญทางวท ิ ยาศาสตร ์ และเทคโนโลย ี ทา ให ้ เกด ิ อา นาจทางการเม ื อง นอกจากน ี ม ้ ่ ุ งใช ้ ความร ้ ู ทางวท ิ ยาศาสตร ์ และเทคโนโลย ีในการปร ั บปร ุ งส ่ งเสร ิ ม เกษตรกรรมและอ ุ ตสาหกรรมของประเทศ ทา ให ้ประชาชนอย ่ ู ดีกินดี


*** สร ุ ป ร ั ฐศาสตร ์ หมายถง ึ ศาสตร ์ ทเ ี ่ กย ี ่ วข ้ องกบ ั การเม ื อง หรือศาสตร์ที่ว่าด้วยรัฐ ซึ่งจัดเป็ นสาขาหนึ่งของสังคมศาสตร์ที่ กล่าวถึงทฤษฎี การจัดองค์การทางการเมือง การปกครอง รัฐบาลและวิธีด าเนินการต่าง ๆ ของประเทศ ซึ่งมีความหมาย ตรงกับการเมืองหรือการปกครองและสามารถใช้แทนกันได้ เพราะการเมืองหมายถึงการแข่งขันกันเพื่อหรือการแสวงหา อ านาจ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสังคมทั้งสังคม ***


แนวคิดทางการเมือง (Political concept or Political Thoughts) หรือแนวความคิด ตรงกับความหมายใน ภาษาอังกฤษว่า Concept คือ ความคิดความเข้าใจในเรื่อง การเมอ ื งของบ ุ คคลหน ึ ่ ง หร ื อหลายคน ทแ ี ่ สดงออกมาเพอ ื ่ ท าความเข้าใจว่าสิ่งๆ นั้นคืออะไร และควรเป็ นไปอย่างไร


แนวความคิดทางการเมือง political concept ส่งผลให้เกิด เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้มากกว่าที่เราคิด บางเรื่อง ทา ให ้ เกด ิ ความข ั ดแย ้ ง น า ไปส ่ ู สงครามและ การส ูญเส ี ย เพราะว ่ าความคด ิ ทางการเม ื องจะม ี อิทธิพลเหนือจิตใจมนุษย์ อาจท า ให้เกลียดชัง หรือเชื่อฟังอย่างลุ่มหลง


ความคิด (Idea) คือ มโนภาพที่เรามีต่อปรากฏการณ์ ใดๆ หรือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง มี 2 ลักษณะ คือ 1.ความคิดค านึง (Thought) คือ ความคิด ใคร่ครวญเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง 2.แนวความคิด หรือ มโนทัศน์ (Concept) คือ การ สร้างภาพเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งเป็ น ร ู ปธรรมหร ื อนามธรรมก ็ได ้ และอาจจะม ี อย ่ ู ในโลกแห ่ ง ความเป็ นจริง หรือในโลกแห่งจินตนาการก็ได้


แนวความคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับการเมือง สมัยกรีก การศึกษาในยุคนี้ มีการศึกษาทั้งด้าน ปรัชญาและวิทยาศาสตร์ จะเน้นความส าคัญของ ศีลธรรมจรรยา มุ่งเสาะหาสิ่งที่ดีที่สุดมาให้รัฐ (การศึกษารัฐศาสตร์ในแนวอุดมคติ) นักรัฐศาสตร์ หรือปราชญ์คนส าคัญในสมัยกรีกนี้ได้แก่ โสเคร ติส เพลโตและอริสโตเติล


ย ุ คกร ี กเราหมายถึงวิถีชีวิตทางการเมืองใน สมย ั กร ี กโบราณ ซ ่ ึ งเป็ นระยะเวลากวา ่ สองพน ั ปี ท ี ่ ผา ่ น มาแลว ้ โดยในท ี ่ น ้ ี เราจะพด ู ถ ึ งแนวค ิ ดของนก ั ค ิ ดทาง การเมือง 3คนคือ โซเกรติส เพลโต และอริสโตเติล ก ่ อนท ี ่ เราจะทา ความเขา ้ใจถ ึ งแนวความค ิ ดของ 3คนน ้ ี จะแสดงให้เห็นถึงสภาพทางสังคมและสถาบันทาง การเม ื องของกร ี กโบราณ ซ ่ ึ งเร ี ยกวา ่ city-state หรือ นครรัฐ


นครรัฐกรีก คือระบบการปกครองที่แต่ละ นครรัฐ มีอ า นาจอธิปไตยเป็ นของตัวเองรัฐบาลมี อ านาจที่จะด า เนินนโยบายทั้งภายในและภายนอก ประเทศได ้ แต ่ ละนครร ั ฐเข ้ ามารวมอย ่ ู ด ้ วยกน ัใน ลักษณะที่ต่างฝ่ ายต่างมีอ านาจอธิปไตยเป็ นของ ตัวเองสภาพทางสังคมของกรีกมีลักษณะที่เป็ นชน ชั้น ซึ่งแบ่งออกได้เป็ น 3 ประเภทคือ 1. ทาส (slave) เป็ นชนช ้ ั นตา ่ ส ุ ดของส ั งคม 2. คนต่างด้าว (metics) 3.พลเมือง (citizen)


แนวคด ิ ทางการเม ื องของย ุ คกร ี ก ส าหรับในเรื่องแนวความคิดทางการเมืองในยุคกรีก น ้ ี จะขอยกบ ุ คคลซ ่ ึ งม ี ความสา คญ ั ในทางความค ิ ด ทางการเมืองมา 3คน คือโสเครติส เพลโต และ อริสโตเติล Socrates เป็ นชาวนครรัฐเอเธนส์ (Athens) และ โสเครตีสได้รับการยกย่องว่าเป็ น “บิดาแห่ง ปรัชญา”


Socrates มุ่ง -แสวงหาความร ้ ู ทถ ี ่ ู กต ้ องทเ ี ่ ป็ นความร ้ ู สากล - ใช้วิธี Dialectic ต ้ ั งคา ถามให ้ ผ ้ ู อน ื ่ ตอบ เม ื ่ ออก ีฝ่ ายหน ึ ่ ง ตอบ ก็ตั้งค าถามโต้แย้ง จนอีกฝ่ ายหนึ่งจนแต้ม โดยจะต้องใช้ เหต ุ ผลและหลก ั ทางตรรกวท ิ ยา - ความจร ิ ง ความร ้ ู ความย ุ ต ิ ธรรม - ไม่เชื่อในความเท่าเทียมกันของคน - ผ ้ ู ปกครองทด ี ่ ี ควรต ้ องมค ี วามร ้ ู และสต ิปั ญญา


- เขาไม่เห็นด้วยกับการปกครองแบบ ประชาธิปไตยของกรีก เนื่องจาก 1.การใช ้ เส ี ยงข ้ างมากเป็ นส ิ ่ งทไี ่ ม ่ ถ ู กต ้ อง เพราะ คนส่วนใหญ่ไม่มีเวลา และไม่มีความฉลาด - เขาไม่เห็นด้วยกับการปกครองแบบ ประชาธิปไตยของกรีก เนื่องจาก


2.ผ ้ ู น าทางการเม ื องจะมาจากการเล ื อกตง ั ้ สน ั บสน ุ นของคนส ่ วนใหญ ่ ทา ให ้ได ้ ผ ้ ู ปกครองท ่ไี ม ่ ม ี ความร ้ ู แต ่ เป็ นผ ้ ู ปกครองท ่ไี ด ้ ร ั บความน ิ ยมจาก เสียงส่วนใหญ่จากประชาชน - การยึดปรัชญาที่อาศัย “ค ุ ณธรรม ค ื อ ความร ้ ู ” (Virtue is Knowledge) เป็ นฐานกัด กร่อนข้ออ้างของระบอบประชาธิปไตยในเรื่องการ มีวิธีการปกครองที่มีประสิทธิภาพ และความ ยุติธรรม ท าให้เสรีภาพในการอภิปรายหมดคุณค่า


- วิจารณ์เสรีภาพของชาวเอเธนส์ด้วยความขมขื่น - สิ่งที่นักการเมืองผลิต คือ ขยะ - วิธี Dialectic ท าให้คนส่วนหนึ่งเกิดความร าคาญ เพราะ Socrates โต ้ แย ้ งและสอนให ้ คนสงส ั ยในท ุ กส ิ ่ ง ข้อกล่าวหาว่า Socrates สร้างเทพเจ้าองค์ใหม่ ข ้ อหาบ ่ อนทา ลายและมอมเมาเยาวชน ถ ู กคณะล ู กข ุ นตด ั ส ิ น ให้ดื่มยาพิษ Hemlock สิ้นชีวิต


- ไม ่ มใี ครร ้ ู เกย ี ่ วกบ ั ช ี วต ิ ส ่ วนตว ั ของSocrates ส่วนมาก จะร ้ ู มาจากคา บอกเล ่ าของ Plato และการตีความของนัก คด ิในย ุ คต ่ อๆ มา - ถึงแม้ว่า Socrates จะไม่เห็นด้วยกับระบอบ ประชาธิปไตยแบบกรีก แต่เขาก็เคารพในกฎหมายของรัฐ


Plato เป็ นล ู กศ ิ ษย ์ ของSocrates Plato และ ได้รับการยกย่องว่าเป็ นบิดาของวิชาทฤษฎีการเมือง - ความร ้ ู ทแ ี ่ ท ้ จร ิ ง คอ ื ค ุ ณธรรมและเหต ุ ผล -ไม่เชื่อในเรื่องของความเท่าเทียมกัน เพราะคนเรามี ความสามารถและความถนัดแตกต่างกัน


- เขียนหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อ The Republic (อ ุ ตมร ั ฐ) เสนอ ร ู ปแบบการปกครองของร ั ฐทด ี ่ เ ี ลศ ิในอ ุ ดมคต ิ แบ ่ งคน ออกเป็ น 3 ชนชั้น ตามความสามารถ โดยใช้การศึกษาเป็ น ตัวจ าแนก ได้แก่ 1. ชนชั้นต ่า – ชาวนา ช่าง พ่อค้า 2. ชนชั้นกลาง – น ั กรบ ทหาร ป้ องกน ั นครร ั ฐจากศ ั ตร ู 3. ชนช ้ ั นส ู ง – เป็ นผ ้ ู ปกครอง ม ี เหต ุ ผลและสตปิั ญญา ส ู งส ุ ด


Click to View FlipBook Version