The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ronnachai Joothong, 2023-03-14 03:31:51

รัฐศาสตร์เบื้องต้น

57 Public Administration Kanyawan 2203101

เครื่องมือทางจิตวิทยาที่ส าคัญ คือ การโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda)การโฆษณาชวนเชื่อ หมายถึงความพยายามที่จงใจของ บ ุ คคลหร ื อกล ่ ุ มบ ุ คคลทต ี ่ ้ องการเปลย ี ่ นทรรศนะ ความร ้ ู ส ึ กน ึ กคด ิ ของ กล ่ ุ มอน ื ่ ๆ ทน ี ่ าไปส ่ ู การกระทา ตามแนวทางทก ี ่ า หนดไว ้โดยการใช ้ สัญลักษณ์ต่าง ๆ องค์ประกอบของการโฆษณาชวนเชื่อ ที่ส าคัญมี 4 ประการ คือ 1 ต ้ องม ี ตว ั ผ ้ ู โฆษณา 2 ต้องมีสัญลักษณ์ 3 ต้องมีสื่อ 4 ต้องมีกลุ่มบุคคล หรือกลุ่มเป้ าหมาย


เป้ าหมายของการโฆษณาชวนเชื่อ การโฆษณาชวนเชื่อจะต้องมีการก าหนดเป้ าหมาย ทั้งนี้เพื่อจะ ได ้ กา หนดวธ ิี การและเทคน ิ คทจ ี ่ ะน ามาใช ้ให ้ บรรล ุ เป้ าหมาย วิธีการและเทคนิคของการโฆษณาชวนเชื่อ วิธีการและเทคนิคของการโฆษณาชวนเชื่อ เป็ นศาสตร์ หรือศิลปะของ การโฆษณาชวนเชื่อ มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ศิลปะของการโฆษณาและ การขาย และเหมือนกับนักโฆษณาและนักขาย ดังนั้น วิธีการและ เทคนิคการโฆษณาชวนเชื่อ คือ วิธีการเสนอเนื้อหา เทคนิคการ เรียกร้องความสนใจ วิธีการที่ให้ได้มาซึ่งการตอบสนองและวิธีที่จะให้ ได้มาซึ่งการยอมรับ


3. เครื่องมือทางเศรษฐกิจ (Economic Instrument) ปั จจ ุ บ ั นเศรษฐกจ ิได ้ เข ้ ามาม ี บทบาทส าคญ ั ในการด าเน ิ นความส ั มพน ั ธ ์ ระหว ่ าง ประเทศเป็ นอย่างมาก ประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจดี ย่อมจะสามารถมี อิทธิพลเหนือประเทศอื่นได้ และใช้สถานะทางเศรษฐกิจเป็ นเครื่องมือในการ ด าเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เคร ื ่ องม ื อทางเศรษฐกจ ิ ทร ี ่ ั ฐอาจน ามาใช ้ เพอ ื ่ ให ้ บรรล ุ เป้ าหมายทางด ้ าน ต่างประเทศ อาจแบ่งออกได้ เป็ น 3ลักษณะ คือ 1 การค้าระหว่างประเทศ (Foreign Trade) 2 การให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศ (Foreign Aids) 3 การลงท ุ นจากต ่ างชาต ิ(Foreign Envestment)


4. เครื่องมือทางการทหาร (Military Intrument) เครื่องมือทางการทหารเป็ นเครื่องมือที่ส าคัญและจ าเป็ น เครื่องมือ หนึ่ง ในการด าเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยทั่วไปเวลาใช้มักใช้หลัง เคร ื ่ องม ื ออน ื ่ ๆ ใช ้ เพอ ื ่ การแสดงพลง ั อา นาจใช ้ เพอ ื ่ การสร ้ างความร ุ นแรง เป็ นเคร ื ่ องม ื อทส ี ่ ่ งเสร ิ มการท ู ต ให ้ประสบผลส าเร ็ จ


เครื่องมือในการด าเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ได้แก่เครื่องมือ ทางการท ู ต เคร ื ่ องม ื อทางจต ิ วท ิ ยา เคร ื ่ องม ื อทางเศรษฐกจ ิ และเคร ื ่ องม ื อ ทางการทหารล ้ วนแต ่ ม ี ค ่ าใช ้ จ ่ ายต ่ างกน ั โดยเปร ี ยบเทย ี บเคร ื ่ องม ื อทางการท ู ต จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างน้อย อัตราความเสี่ยงก็มีน้อยและมีประสิทธิภาพ พอสมควร ส ่ วนเคร ื ่ องม ื อทางการทหารม ี ความเส ี ่ ยงส ู ง ค ่ าใช ้ จ ่ ายกค ็่ อนข ้ างส ู ง และอาจมีประสิทธิภาพในระยะสั้น ๆ ส่วนเครื่องมือทางเศรษฐกิจต้องเสีย ค ่ าใช ้ จ ่ ายค ่ อนข ้ างส ู ง ม ี ความเส ี ่ ยงไม ่ ส ู งน ั กและจะได ้ ผลค ่ อนข ้ างช ้ า ในขณะ เครื่องมือทางจิตวิทยา หรือการโฆษณาชวนเชื่อ มักมีค่าใช้จ่ายและความเสี่ยง ค่อนข้างต ่า แต่ไม่ค่อยมีความแน่นอนในประสิทธิภาพ อีกต้องใช้เวลานานกว่า จะร ้ ู ผลอย ่ างไรกม ็ ีประเทศต ่ าง ๆอาจเลอ ื กใช ้ เคร ื ่ องม ื อต ่ าง ๆเหล ่ าน ี ้ ตามความ เหมาะสม


องค์การระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ จึงเป็ นทางออกของรัฐ ที่ใช้เพื่อจัดระเบียบความสัมพันธ์หรือการปฏิบัติต่อ กัน กล่าวอีกอย่างหนึ่ง คือ การวางกฎเกณฑ์ส าหรับใช้ ปฏิบัติต่อกัน หรือด าเนินการร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาที่ เกิดขึ้น นอกจากนี้องค์การระหว่างประเทศ ยังใช้เป็ น เวทีกลางส าหรับรัฐต่าง ๆ มาร่วมตกลงประสาน ผลประโยชน์และเป็ นกลไกส าหรับระงับข้อพิพาท ระหว่างรัฐ รักษาความมั่นคงปลอดภัยและจรรโลง สันติภาพที่ถาวรในโลก


1. ความหมายขององค์การระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ หมายถึง รัฐอธิปไตยตั้งแต่สอง รัฐขึ้นไป รวมกันจัดตั้งขึ้น เพื่อเป็ นกลไกอย่างหนึ่งในการด าเนิน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และการทหาร 2. ความส าคัญขององค์การระหว่างประเทศ ความส าคัญในการจัดตั้งองค์การระหว่างประเทศ คือ การ ทร ี ่ ั ฐต ่ างๆ ม ่ ุ งแสวงหาส ั นต ิ ภาพและความมน ั ่ คงร ่ วมกน ั ได ้ ตระหนักถึงความจ าเป็ นที่จะต้องตั้งองค์กรขึ้น เพื่อเป็ นเครื่องมือ ในการด าเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ


3. จ ุ ดม ่ ุ งหมายขององค ์ การระหว ่ างประเทศ 3.1 การรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ 3.2. การส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ ระหว่างรัฐ การจัดตั้งองค์การระหว่างประเทศ เพื่อวางหลักเกณฑ์ใน ความส ั มพน ั ธ ์ ระหว ่ างประเทศ กล ่ าวได ้ อย ่ างกว ้ างๆว ่ าจ ุ ดม ่ ุ งหมายท ี ่ พยายามจะลดความข ั ดแย ้ งระหว ่ างประเทศให ้ได ้ มากทส ี ่ ุ ด และ สน ั บสน ุ นความร ่ วมม ื อระหว ่ างร ั ฐต ่ างๆให ้ได ้ มากทส ี ่ ุ ด ในการทร ี ่ ั ฐ มาด าเนินความสัมพันธ์ระหว่างกัน


4. บทบาทขององค์การระหว่างประเทศ 4.1 บทบาททางด้านการเมือง โดยทั่วไปหลักการส าคัญขององค์การระหว่างประเทศ คือ การ แสวงหาสันติภาพและความมั่นคงแก่มวลสมาชิก 4.2. บทบาททางด้านเศรษฐกิจ บทบาททางด้านเศรษฐกิจ เป็ นบทบาทที่ช่วยแก้ไขปัญหา เศรษฐกิจ และมุ่งพัฒนาส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 4.3 บทบาททางด้านสังคม บทบาททางด้านสังคมเป็ นบทบาทที่มุ่งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ทาง สังคม อันเนื่องมาจากความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรมและ เทคโนโลยี


จะเห็นได้ว่า บทบาทขององค์การระหว่างประเทศเป็ น บทบาทที่ส าคัญโดยเฉพาะทางด้านการเมือง คือเป็ นการระงับข้อ พิพาทโดยสันติวิธี การรักษาความมั่นคงร่วมกัน การควบคุม และ ลดอาวุธ การส่งเสริมหลักการก าหนดตนเอง และการก่อให้เกิด บ ู รณาการทางการเม ื อง ทางด ้ านเศรษฐก ิ จ ค ื อ การส ่ งเสร ิ ม พัฒนาด้านเศรษฐกิจ และการส่งเสริมความร่วมมือทางด้าน เศรษฐก ิ จทง ั ้ในระดบ ัโลกและภม ู ิ ภาค ส ่ วนทางด ้ านส ั งคม ค ื อการ วางมาตรฐานการประพฤติบางประการภายในประเทศ การวาง ระเบียบกฎเกณฑ์ในการติดต่อระหว่างประเทศ และการให้ บริหารระหว่างประเทศ


5. ประเภทขององค์การระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศในฐานะเป็ นองค์การระหว่างประเทศ สามารถแยก ออกได้เป็ น 2 ระดับ คือ 5.1 องค์การระหว่างประเทศสากล (Universal Organization) 5.2 องค ์ การระหว่างประเทศส่วนภ ู มภ ิ าค (Regional Organization) องค์การระหว่างประเทศสากล เป็ นองค์การที่ประเทศส่วนใหญ่ใน โลกเป็ นสมาชิก มีบทบาทและขอบข่ายกว้างขวางที่เกี่ยวกับความมั่นคง ปลอดภัย และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง ส่วนองค ์ การระหว่างประเทศส่วนภ ู มภ ิ าค ประเทศส่วนใหญ่ในแต่ ละภ ู มภ ิ าคเป็ นสมาชก ิ จะม ี บทบาทและขอบข่ายเฉพาะในแต่ละส่วน ภ ู มภ ิ าคในด ้ านเศรษฐกจ ิ ส ั งคม และการเม ื อง เช่นเด ี ยวก ั น


6. ลักษณะขององค์การระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศจัดแบ่งออกได้เป็ น 2 ลักษณะ คือ 6.1 ยึดถือตามบทบาทหน้าที่ในการปฏิบัติงาน 6.2 ยด ึ ตามพ ื น ้ ท่ท ี างภม ู ิ ศาสตร ์ 7.องค์การระหว่างประเทศด้านสังคม องค์การระหว่างประเทศด้านสังคม หมายถึง หน่วยงานที่ มีบทบาทและหน้าที่ในการแก้ปัญหาระหว่างประเทศ ด้าน สังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม ก่อให้เกิดความ เจริญก้าวหน้าทางสังคมของประชาชาติทั้งปวง


7.1 สา น ั กงานใหญ่ผ ้ ู ล ี ภ ้ ั ยแห่งสหประชาชาต ิ(UNHCR) 7.2. องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization :ILO) 7.3 องค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) 7.4 องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization : FAO) 7.5 องค์กรศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nation Educational Scientific and Cultural Organization : UNECO)


8. องค์การระหว่างประเทศด้านเศรษฐกิจ ในศตวรรษท่ผ ี่ านมาได ้ ก ้ าวเข ้ าส ่ ู ย ุ คโลกาภว ิั ฒน ์ เก ิ ดความ เจริญอย่างรวดเร็ว ทางด้านเทคโนโลยีและการสื่อสาร ส่งผล ให้การแข่งขันในด้านการค้าระหว่างประเทศ มีความรุนแรง มากขึ้น องค์การระหว่างประเทศทางด้านเศรษฐกิจของสังคม โลก ดแ ู ลให ้ประเทศสมาชิ กปฏ ิ บ ั ตต ิ ามกตก ิ าของส ั งคมโลก ผลักดันให้ใช้นโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยม ส่งเสริมเอกชนให้มี บทบาททางเศรษฐกิจ


8.1. องค์การค้าโลก (World Trade Organization : WTO) หล ั กการดา เน ิ นงานขององค ์ การค ้ าโลก ค ื อ การทา หน ้ าท่ี ด ู แล การค้าสินค้า ครอบคลุมถึงการค้าบริการ สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา และมาตรการการลงทุนที่เกี่ยวกับการค้า โดยพยายามลดอุปสรรค และมาตรการในการกีดกันทางการค้า 8.2. กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความ ช่วยเหลือประเทศสมาชิก เมื่อประเทศสมาชิกประสบปัญหาทาง เศรษฐกจ ิ อย่างร ุ นแรง ถง ึ ข ั น ้ ต ้ องขอความช่วยเหล ื อ ประเทศผ ้ ู ก ้ ู จะต้องท าความตกลงเกี่ยวกับแผนการปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ


8.3 ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (The Asian Development Bank : ADB) ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย มีบทบาทในการ ช่วยเหลือและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของ ประเทศสมาชิ กในแถบภม ู ิ ภาคเอเชี ยและตะว ั นออกไกล ในการพ ั ฒนาสาธารณ ู ปโภคข ั น ้ พ ื น ้ ฐาน 8.4 สหภาพยุโรป (European Union : EU) สหภาพยุโรปเป็ นการรวมกลุ่มของประเทศในยุโรป เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในยุโรป มีการใช้เงินสกุล เดียวกันของประเทศส่วนใหญ่


8.5 สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (The Association of Southeast Asian Nations : ASEAN) สมาคมอาเซียนเป็ นสมาคมของประเทศในเอเชีย ตะวันออกเฉียงใต้ จัดตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ ของประเทศในเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ 8.6 องค ์ การของประเทศผ ้ ู ส ่ งน า ้ ม ั นเป็ นส ิ นค ้ าออก (Organization of Petroleum Exporting Countries : OPEC ) องค์การโอเปก เป็ นกลุ่มประเทศที่ปกป้ องพิทักษ์ ผลประโยชน์ของประเทศสมาชิก รักษาราคาน ้ามันให้มีเสถียรภาพ และมีรายได้อย่างสม ่าเสมอส าหรับประเทศที่ผลิตน ้ามัน


8.7 ความตกลงทางการค้าอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement : NATA) ความตกลงทางการค้าอเมริกาเหนือ มีวัตถุประสงค์การ ร่วมมือทางเศรษฐกิจ ด้วยการก าจัดภาษีศุลกากรที่เป็ นอุปสรรคทาง การค้า ส่งเสริมให้มีการแข่งขันที่เป็ นธรรมและคุ้มครองทรัพย์สินทาง ปัญญา 8.8 ความร่วมม ื อทางเศรษฐกจ ิในภม ู ิ ภาคเอเชี ย-แปซิฟิ ก (Asia Pacific Economic Cooperation : APEC) ความร่วมม ื อทางเศรษฐกจ ิในภ ู มภ ิ าคเอเชี ย – แปซิฟิ ก มี ว ั ตถ ุ ประสงค ์ ค ื อ สน ั บสน ุ นการขยายต ั วทางเศรษฐกจ ิในภ ู มภ ิ าค เอเชีย – แปซิฟิ ก และของโลก พัฒนาและส่งเสริมระบบการค้าพหุ ภาคี บนรากฐานการค้าเสรี


8.9 การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้า และการพัฒนา (United Nations Conferences on Trade and Development : UNCTAD) อังค์ถัด เป็ นองค์การระหว่างประเทศภายใต้กรอบของ องค์การสหประชาชาติ เกิดขึ้นจากความพยายามและความ ร่วมมือของกลุ่มประเทศก าลังพัฒนา ซึ่งรวมกันเรียกว่ากลุ่ม 77 (G 77) องค์การอังค์ถัดเป็ นการรวมกลุ่มของประเทศก าลัง พัฒนา เพื่อเรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาแล้วร่วมมือแก้ไข ปัญหาอุปสรรค เกี่ยวกับการค้า การพัฒนาของประเทศก าลัง พัฒนา


9. องค์การระหว่างประเทศด้านการเมือง เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง ได้มีการประชุม สันติภาพขึ้น ณ ประราชวังแวร์ซายส์ ในปี ค.ศ. 1918 ตก ลงจัดตั้งองค์การสันนิบาตชาติ และแก้ไขข้อขัดแย้งโดย สันติวิธี 9.1 องค์การสหประชาชาติ (The United Nations) องค์การสหประชาชาติก่อตั้งขึ้นมา ด้วย เจตนารมณ์ที่จะขจัดภัยพิบัติอันเกิดจากสงคราม ประกัน สิทธิมนุษยชน ตลอดจนส่งเสริมความก้าวหน้าทาง เศรษฐกิจและสังคมของมนุษยชาติ


9.2 องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Orainzation : NATO) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ เป็ น องค์การพันธมิตรทางทหารระหว่างสหรัฐอเมริกา และ ประเทศต่าง ๆ ในยุโรป องค์การนาโต เป็ นองค์การร่วมป้ องกันทางทหาร เพื่อต้านการรุกรานจากภัยคอมมิวนิสต์ของยุโรป ยึด หลักแห่งการร่วมป้ องกันตนเอง และระงับข้อพิพาทโดย สันติวิธี


บทสรุป สังคมระหว่างประเทศ ประกอบไปด้วยรัฐ อธ ิปไตยเป็ นอ ั นมาก ซ ่ ง ึ ต ่ างถ ื อว ่ าตนเป็ นผ ้ ู ม ี อา นาจ ส ู งส ุ ด สามารถตด ั ส ิ นใจกระทา การได ้ ท ุ กอย ่ าง ตาม อ าเภอใจ ปราศจากการควบคุม ทั่งนี้เนื่องจากไม่มี สถาบันใดที่มีอ านาจเหนือกว่ารัฐ และรัฐอธิปไตยต่าง ๆ เหล่านั้นถือก าเนิดขึ้นในลักษณะที่แตกต่างกัน มี ผลประโยชน ์ไม ่ เท ่ าเทย ี มก ั น ทา ให ้ ร ั ฐต ่ าง ๆ ต ้ องต ่ อส ่ ู ดิ้นรนแข่งขันกันทุกวิถีทาง ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ส ั งคม และการเม ื อง เพ ่ อ ื การดา รงอย ่ ู ท ่ ด ี ต ี ามท ่ ร ีั ฐ ต้องการ


กฎหมายระหว่างประเทศ ความหมาย กฎหมายระหว่างประเทศ คือ บรรดากฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ซึ่ง นานาประเทศต่างยินยอมปฏิบัติในความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันซึ่งรวมตลอดซึ่ง กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ (1) กฏเกณฑ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับหน้าที่ของสถาบันหรืองค์กรระหว่าง ประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างองค์กรและสถาบันระหว่างประเทศนั้น ๆ กับ รัฐหรือเอกชน (2) กฎเกณฑ์ต่าง ๆ อันเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของเอกชน หรือ สถาบันใด ๆ ที่มีฐานะไม่เท่ารัฐ ในกรณีที่เกี่ยวข้องกับกิจการระหว่างประเทศ ท ี่มาของกฎหมายระหว่างประเทศ ที่มาของกฎหมายระหว่างประเทศ มาจากจารีตประเพณี สัญญา หรือ สนธิสัญญา ค าพิพากษาของอนุญาโตตุลาการ หรือ ศาลยุติธรรมและ ผลงานของนักนิติศาสตร์ 373


ความแตกต่างระหว่างกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายในประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศแตกต่างจากกฎหมายในประเทศ สรุป ได้ดังนี้ 1. กฎหมายในประเทศมาจาก จารีตประเพณี และการนิติ บัญญัติภายในประเทศ ส่วนกฎหมายระหว่างประเทศมาจากจารีต ประเพณีและสัญญาระหว่างรัฐ 2. กฎหมายในประเทศ ผ ้ ู ท่ี อย ่ ู ใต ้ บ ั งค ั บ ได ้ แก ่ บ ุ คคลธรรมดา และน ิ ตบ ิ ุ คคล ส ่ วนกฎหมายระหว ่ างประเทศน ั น ้ ผ ้ ู อย ่ ู ใต ้ บ ั งค ั บค ื อ ร ั ฐและ องค์กรระหว่างประเทศ และ 3. สาระส าคัญของกฎหมายในประเทศ คือ อ านาจอธิปไตย เหนือพลเมือง แต่กฎหมายระหว่างประเทศสาระส าคัญ คือ ข้อตกลง ระหว่างรัฐ 374


ลักษณะส าคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศมีลักษณะส าคัญ ดังนี้ 1. ไม่มีองค์กรที่บัญญัติกฎหมายอย่างเป็ นทางการ มี แต่ขนบธรรมเนียม ประเพณี และข้อตกลงในสังคม 2. ไม ่ ม ี ต ารวจหร ื อศาลท ่ ี จะลงโทษผ ้ ู กระท าผ ิ ดหร ื อ ตัดสินข้อพิพาท 3. มักจัดตั้งกลุ่มเพื่อท าหน้าที่ในการป้ องกันตนเอง จากการคุกคามของชนกลุ่มอื่น 4. ขาดความศ ั กด ์ ิ ส ิ ทธ ์ ิ และปราศจากมาตรการบ ั งค ั บ อันแข็งขัน 375


ความศ ั กดส ิ ์ ิ ทธ ิ ์ ของกฎหมายระหว ่ างประเทศ ความศ ั กด ์ ส ิิ ทธ ์ ิ ของกฎหมายระหว ่ างประเทศ ม ี ด ั งน ี ้ 1. จุดอ่อนของกฎหมายระหว่างประเทศ คือ การไม่มีความ ศ ั กด ์ ส ิิ ทธ ์ ิ และการขาดมาตรการบ ั งค ั บ 2. อาจไม่มีแนวทางปฏิบัติด้านความร่วมมือในเรื่อง การค้า การ ทต ู และการคมนาคม เป็ นต ้ น การพิจารณาของกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายระหว่างประเทศอาจพิจารณา ได้ 2 ประเด็น คือ 1. กฎหมายว่าด้วยการค้าและการพาณิชย์ระหว่างประเทศ โดยมี กฎ ระเบียบขององค์การการค้าโลกเป็ นตัวก าหนด 2. กฎหมายเกี่ยวกับสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ 376


Click to View FlipBook Version