The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมระเบียบคำสั่งกรมที่ดิน ประจำปี 2555 (ส่วนที่ 2) (ปี 2555)

กองแผนงาน

Keywords: ด้านทั่วไป

(สาํ เนา)

แนวนโยบายธนาคารแหงประเทศไทย
เรือ่ ง การปรบั ปรงุ โครงสรา งลูกหนีท้ ่ีประสบอุทกภัย

_____________________

๑. เหตุผลในการออกแนวนโยบาย
สบื เน่อื งจากภาวะอุทกภยั ท่เี กิดขึน้ ในป ๒๕๕๔ มีความรนุ แรงและสง ผลกระทบตอ

ลกู หนเ้ี ปน วงกวา ง ซ่ึงสถาบันการเงิน บรษิ ัทที่ประกอบธรุ กจิ บัตรเครดิตท่ีมิใชส ถาบนั การเงิน และ
บรษิ ทั ท่ีประกอบธรุ กจิ สนิ เช่ือสวนบคุ คลภายใตก ารกํากับท่มี ใิ ชสถาบนั การเงิน ไดมแี นวทางท่ี
ชว ยฟน ฟูกิจการใหแกล กู หนเี้ ปนอยางดี และคณะรัฐมนตรไี ดม ีมตเิ มอ่ื วันท่ี ๒๖ มิถนุ ายน ๒๕๕๕
เหน็ ชอบมาตรการทางภาษอี ากรและคา ธรรมเนยี มเพอ่ื สนบั สนนุ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหนแ้ี กล กู หน้ี
ที่ประสบอทุ กภัย นนั้

ธนาคารแหงประเทศไทยจงึ ออกแนวนโยบายฉบับน้ี เพอื่ กําหนดหลักเกณฑก าร
ปรบั ปรุงโครงสรา งหนี้ลกู หนีท้ ี่ประสบอทุ กภยั ป ๒๕๕๔ และกําหนดนยิ ามของลกู หนที้ ่ปี ระสบ
อทุ กภัยตาม มาตรการทางภาษอี ากรและคาธรรมเนยี มตามมติคณะรฐั มนตรี ทงั้ น้ี เนือ่ งจาก
สาเหตขุ องการประสบปญ หาของลกู หนน้ี น้ั เปน การเผชญิ เหตกุ ารณส ดุ วสิ ยั ทไ่ี มส ามารถควบคมุ ได
ธนาคารแหงประเทศไทยจึงไดกําหนดหลักเกณฑใหสอดคลองและเหมาะสมตอสถานการณที่
เกิดข้นึ ซึง่ ยงั คงหลักการทีส่ ําคญั เชน เดียวกบั หลกั เกณฑก ารปรับปรงุ โครงสรางหนที้ บี่ ังคับใชอ ยู
ในปจจบุ ัน ทมี่ เี จตนารมณเ พือ่ มงุ เนน การแกไ ขหนีใ้ หเจา หน้ีมีโอกาสไดร บั ชาํ ระเงินคนื และหนีน้ น้ั
ยังคงสามารถกอใหเ กดิ ประโยชนส งู สุดตอทัง้ เจาหนแี้ ละลูกหนเี้ อง ทง้ั น้ี การปรับปรงุ โครงสรา งหนี้
ตอ งไมเ ปน การกระทําเพอื่ หลกี เล่ียงการจัดชัน้ การกันเงินสาํ รอง และการระงบั รบั รรู ายไดดอกเบ้ยี
คางรับ

๒. ขอบเขตการบังคับใช
แนวนโยบายฉบับน้ีใชกับสถาบันการเงินตามกฎหมายวาดวยธุรกิจสถาบันการเงิน

ทุกแหง บริษทั ทป่ี ระกอบธรุ กจิ บตั รเครดิตทีม่ ิใชส ถาบันการเงนิ ตามกฎหมายวาดว ยธุรกิจสถาบัน
การเงินทุกแหง และบรษิ ัททปี่ ระกอบธรุ กิจสนิ เชอ่ื สว นบคุ คลภายใตก ารกํากบั ที่มใิ ชสถาบนั การ
เงนิ ตามกฎหมายวาดวยธุรกจิ สถาบนั การเงนิ ทกุ แหง

๓. หลักเกณฑท เ่ี กย่ี วของ
๓.๑ แนวนโยบายธนาคารแหงประเทศไทย เรื่อง แนวนโยบายการปรับปรุง

โครงสรา งหนี้ ลงวันที่ ๓ สงิ หาคม ๒๕๕๑
๓.๒ หนังสือเวียนที่ ธปท. ฝนส. (๒๓) ว. ๑๕๖๔/๒๕๕๔ เรอ่ื ง การซักซอมความ

เขา ใจมาตรการการใหความชว ยเหลือลกู หนี้ทไี่ ดร บั ผลกระทบจากอุทกภัย ลงวันท่ี ๑๙ ตุลาคม
๒๕๕๔

๖๙๔

๔. เน้ือหา
๔.๑ ในแนวนโยบายฉบับน้ี
“ลกู หนท้ี ป่ี ระสบอุทกภยั ” หมายความวา ลูกหนี้ท่ีไดร บั ความเสยี หายโดยทาง

ตรงหรอื ทางออมจากอทุ กภัย
“ลกู หน้ที ีไ่ ดรับความเสยี หายโดยทางตรงจากอทุ กภัย” หมายความวา ลกู หนที้ ี่

ไดรับผลกระทบจากอุทกภยั ทีเ่ กดิ ข้นึ ในป ๒๕๕๔ ทม่ี ภี ูมลิ ําเนา ทอี่ ยอู าศัย สถานทที่ ํางาน สถาน
ท่ีประกอบอาชพี หรอื สถานประกอบธรุ กจิ หรอื การคา ของตน อยูในเขตพ้นื ทีท่ ีม่ กี ารประกาศเปน
พ้ืนที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังเก่ียวกับเงินทดรองราชการเพื่อ
ชวยเหลือผูประสบภัยพิบตั ิกรณฉี กุ เฉิน

“ลกู หน้ีทีไ่ ดร บั ความเสียหายโดยทางออ มจากอทุ กภยั ” หมายความวา ลกู หนี้
ท่ีไดร บั ผลกระทบจากอทุ กภัยทีเ่ กดิ ขน้ึ ในป ๒๕๕๔ ท่ีมียอดการสั่งซอ้ื หรือมยี อดขาย ซึง่ มคี วาม
สมั พนั ธเก่ียวเนื่องกันในทกุ ทอดกบั บคุ คล นติ ิบคุ คล หรอื กิจการ ทีอ่ ยูในเขตพน้ื ท่ีทีม่ ีการประกาศ
เปนพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังเกี่ยวกับเงินทดรองราชการ
เพือ่ ชว ยเหลือผูประสบภยั พิบัติกรณีฉกุ เฉนิ ไมนอยกวารอยละ ๒๕ ของยอดรวมการส่ังซ้ือ หรอื
ยอดรวมการขายของลูกหนท้ี ่ีไดร บั ผลกระทบโดยทางออ มนนั้

“ผปู ระกอบธรุ กจิ ท่มี ิใชส ถาบนั การเงนิ ” หมายความวา บรษิ ัททปี่ ระกอบธุรกจิ
บัตรเครดิตที่มิใชสถาบันการเงนิ ตามกฎหมายวา ดว ยธุรกิจสถาบนั การเงิน และบริษทั ท่ีประกอบ
ธุรกิจสินเช่ือสวนบุคคลภายใตการกํากับท่ีมิใชสถาบันการเงินตามกฎหมายวาดวยธุรกิจสถาบัน
การเงิน

๔.๒ หลักเกณฑ
๔.๒.๑ วตั ถุประสงค
การปรับปรงุ โครงสรางหนี้ลูกหนี้ทีป่ ระสบอุทกภยั ซ่งึ ประสบปญ หา

การชาํ ระหน้ี อันเนอื่ งมาจากไดรบั ผลกระทบจากอทุ กภยั ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในป ๒๕๕๔ เปนการดาํ เนนิ การ
แกไขหนี้เพ่ือใหสถาบันการเงินและผูประกอบธุรกิจที่มิใชสถาบันการเงินมีโอกาสไดรับชําระหนี้
คืนสูงสดุ หรอื เพ่อื ใหเกดิ ประโยชนสูงสุดในการดําเนินกิจการตอไปทง้ั ของลกู หน้ี และสถาบันการ
เงนิ หรือผปู ระกอบธรุ กจิ ท่มี ใิ ชส ถาบันการเงนิ แลว แตกรณี ทัง้ นี้ สถาบันการเงนิ และผปู ระกอบ
ธุรกิจท่ีมิใชสถาบันการเงินจะตองระมัดระวังมิใหการปรับปรุงโครงสรางหนี้มีลักษณะเปนการ
หลกี เล่ียงการจดั ช้ันลกู หน้แี ละการกันเงินสาํ รอง หรือหลีกเลยี่ งหลักเกณฑก ารระงบั รบั รูด อกเบี้ย
คา งรับเปน รายได โดยหลักเกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรางหน้นี ้ีใชสาํ หรับการปรบั ปรงุ โครงสรา งหนี้
กับลกู หนี้ทป่ี ระสบอุทกภัยป ๒๕๕๔ ซ่งึ คณะรัฐมนตรีไดม มี ตเิ ห็นชอบมาตรการทางภาษอี ากร
และคาธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของลูกหน้ีที่ไดรับความเสียหายโดย
ทางตรงหรือทางออ มจากอทุ กภยั แลวเมอ่ื วนั ที่ ๒๙ มถิ ุนายน ๒๕๕๕

๖๙๕

๔.๒.๒ หลักเกณฑก ารปรับปรงุ โครงสรา งลกู หนี้ทปี่ ระสบอุทกภยั
ใหสถาบันการเงินปฏิบัติเก่ียวกับการกําหนดนโยบายและมาตรการ

ในการปรับปรุงโครงสรางหนี้ ขน้ั ตอนการปฏิบัติงานและการจัดทาํ เอกสารประกอบ วิธปี ฏบิ ัติ
ทางบัญชี การคาํ นวณสว นสญู เสยี ในการปรบั ปรงุ โครงสรางหนี้ การรับรูรายได และขอ กําหนด
อนื่ ๆ โดยถอื ปฏิบัตติ ามหลักเกณฑเ กี่ยวกบั การปรบั ปรุงโครงสรางหนที้ ี่ธนาคารแหงประเทศไทย
ประกาศกําหนด๑ และใหสถาบันการเงินและผูประกอบธุรกิจท่ีมิใชสถาบันการเงินปฏิบัติตาม
หนังสือเวียนที่ ธปท. ฝนส. (๒๓) ว. ๑๕๖๔/๒๕๕๔ เรื่อง การซกั ซอมความเขา ใจมาตรการการ
ใหค วามชวยเหลือลกู หน้ที ไ่ี ดรบั ผลกระทบจากอุทกภัย ลงวนั ที่ ๑๙ ตลุ าคม ๒๕๕๔ และทแี่ กไ ข
เพิ่มเตมิ รวมทั้งใหส ถาบนั การเงิน หรอื ผปู ระกอบธุรกิจท่ีมิใชส ถาบันการเงินถอื ปฏบิ ตั ิ ดังน้ี

(๑) กําหนดนโยบาย วิธปี ฏบิ ัติในการปรบั ปรงุ โครงสรางหน้ีลูกหนที้ ี่
ประสบอุทกภัย และการพจิ ารณาลกู หนี้ที่ประสบอุทกภัยไวอ ยา งชัดเจนเปน ลายลกั ษณอกั ษร

(๒) ตรวจสอบวาลูกหน้ีไดรับความเสียหายจากอุทกภัยท่ีเกิดขึ้นในป
๒๕๕๔ อยา งแทจ รงิ โดยตอ งสามารถพสิ จู นห รอื เชอ่ื มโยงผลกระทบทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั ลกู หน้ี ดงั กลา วได
และอยูในเขตพ้ืนท่ีท่ีมีการประกาศเปนพ้ืนท่ีประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวง
การคลังเกีย่ วกับเงนิ ทดรองราชการเพือ่ ชว ยเหลือผูป ระสบภยั พิบตั กิ รณีฉุกเฉนิ

(๓) จัดเก็บนโยบาย รวมถึงเอกสารหรือหลักฐานท่ีเกี่ยวของไว
ทสี่ ถาบนั การเงินหรือผูป ระกอบธุรกิจทม่ี ใิ ชสถาบนั การเงิน แลว แตกรณี เพ่อื ท่ธี นาคารแหง
ประเทศไทยและหนว ยงานอืน่ ของทางการสามารถตรวจสอบได

๔.๒.๓ การตรวจสอบของผูตรวจการสถาบนั การเงิน
ในกรณีท่ีผูตรวจสอบของธนาคารแหงประเทศไทยเห็นวาการปรับปรุง

โครงสรา งหนี้สําหรับลกู หน้รี ายใด มไิ ดมกี ารปฏบิ ัติตามหลักเกณฑการปรับปรงุ โครงสรา งหน้ตี าม
แนวนโยบายฉบับน้ี หรอื อาจมเี จตนาเพอื่ หลีกเลีย่ งหลกั เกณฑอ ืน่ ๆ ที่ธนาคารแหง ประเทศไทย
กาํ หนด ผตู รวจสอบของธนาคารแหง ประเทศไทยอาจพจิ ารณาสั่งการใหเ ปลี่ยนสถานการจัดช้ัน
ลกู หน้ีรายนัน้ และใหกันเงินสาํ รองใหเ พียงพอ หรือส่ังใหร ะงับการรบั รรู ายได รวมทั้งใหยกเลกิ การ
บันทกึ รายการดอกเบี้ยคางรับท่ีบันทึกบัญชีไปแลว ดวยก็ได

__________________________

๑ ปจ จบุ นั ใหอ า งองิ ตามแนวนโยบายธนาคารแหง ประเทศไทย เรอื่ ง แนวนโยบายการปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี
ลงวนั ที่ ๓ สงิ หาคม ๒๕๕๑

ฝนสว๙๐–คส๒๒๔๐๑–๒๕๕๕๐๘๑๕

๖๙๖

สิง่ ทส่ี ง มาดวย ๒
๖๙๗

(สําเนา)

ท่ี มท ๐๕๑๕.๒/ว ๒๙๒๕๖
ถงึ จังหวัดทกุ จังหวัด

ตามหนงั สือกรมที่ดนิ ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๑๕๐๑๕ ลงวนั ท่ี ๒ มิถนุ ายน ๒๕๕๔
และ ดว นทสี่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๒๖๙๐๘ ลงวนั ท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๔ สงฮารด ดสิ กต ดิ ตง้ั
ภายนอก (External Hard Disk) ซง่ึ จัดเก็บขอมูลทะเบยี นการครอบครองทีด่ ินท่ีเกบ็ รกั ษาอยูทาง
สวนกลาง ใหส ํานกั งานทด่ี นิ จังหวัดทุกจังหวดั เพ่อื ใชใ นการตรวจสอบ ส.ค.๑ ทร่ี าษฎรนํามายื่น
คําขอออกหนงั สอื แสดงสิทธใิ นทดี่ ิน และซอ มความเขา ใจเกย่ี วกับแนวทางปฏบิ ตั กิ รณกี ารขอ
ตรวจสอบทะเบียนการครอบครองที่ดินไปกรมท่ดี นิ นนั้

กรมทด่ี ินพิจารณาแลว เน่อื งจากยงั มีสํานักงานที่ดนิ บางแหงสงเรอื่ งขอตรวจ
สอบทะเบียนการครอบครองทีด่ ินไปยังกรมทีด่ นิ อกี ดังน้ัน เพอื่ ความสะดวก รวดเรว็ และลด
ข้นั ตอนในการปฏิบตั งิ าน หากสํานักงานทด่ี ินตอ งตรวจสอบ ส.ค.๑ ซงึ่ ผขู อนํามาเปน หลักฐาน
ประกอบการย่ืนคําขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ขอใหจังหวัดดําเนินการตามนัยหนังสือ
กรมที่ดิน ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๑๕๐๑๕ ลงวนั ที่ ๒ มถิ นุ ายน ๒๕๕๔ ขอ ๔ โดยไมตองสง เรอื่ งขอ
ตรวจสอบไปยงั กรมทีด่ ิน ยกเวน กรณกี ารดาํ เนนิ การตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ดว นทีส่ ดุ
ท่ี มท ๐๖๑๙/ว ๒๘๓๖ ลงวันท่ี ๑๑ ธันวาคม ๒๕๓๕ และหนังสอื กรมทดี่ ิน ดวนทีส่ ุด ที่ มท
๐๕๑๖.๒(๑)/ว ๑๔๗๘๙ ลงวนั ท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ใหถ อื ปฏิบัตเิ ชนเดิม

กรมทีด่ ิน
๑๖ ตลุ าคม ๒๕๕๕

สํานกั มาตรฐานการทะเบียนทีด่ นิ
สว นกาํ หนดสิทธใิ นท่ีดนิ และควบคมุ ทะเบียนท่ีดนิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๗๕ – ๗
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๘

๖๙๘

ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๙๙๑๒ (สาํ เนา)
กรมทีด่ นิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๕

เร่ือง การรับคาํ ขอรงั วดั สอบเขต แบงแยก และรวมโฉนดท่ีดนิ
เรยี น ผวู า ราชการจงั หวัดทกุ จังหวดั

ดวยสํานักงานท่ดี นิ จงั หวัดและสํานกั งานท่ดี ินจงั หวดั สาขาบางแหง ดําเนินการ
รบั คําขอรงั วัดสอบเขต แบงแยก และรวมโฉนดที่ดนิ โดยมอบหมายใหฝ ายรังวัดเปน พนักงาน
เจาหนาที่ผูรับคําขอ แตในการดาํ เนนิ การรบั คําขอรังวัดของพนกั งานเจา หนา ทดี่ งั กลาว ปรากฏ
วา มีการหลกี เล่ยี งไมป ฏิบตั ิ ใหเปนไปตามระเบียบ คาํ สั่ง และกฎหมาย เชน มกี ารรังวัดแบง แยก
ทด่ี นิ ท่ีมลี กั ษณะเปน การหลกี เลี่ยงกฎหมายการจัดสรรทด่ี ิน หรือการรวมโฉนดท่ดี นิ ที่มรี ายการ
ภาระผกู พันกบั โฉนดทด่ี ินทีไ่ มมรี ายการภาระผกู พนั เขา ดว ยกนั เม่อื ฝา ยรังวัดดําเนนิ การรับคําขอ
และรังวัดเสรจ็ แลวไดส ง เร่ืองใหฝายทะเบียนเพ่ือดาํ เนนิ การ เมือ่ ฝายทะเบยี นตรวจสอบเรอื่ งราว
การรับคําขอและการรังวัดดังกลาวแลว ไมเ ปน ไปตามระเบยี บ คาํ ส่งั และกฎหมาย ทําให
ไมส ามารถดาํ เนนิ การตอ ไปได มผี ลใหผขู อไดร ับความเดือดรอนเสียหาย รวมทัง้ เกดิ ขอ ขดั แยง
ระหวา งเจาหนา ทีฝ่ ายทะเบียนกบั ฝายรังวัด ทําใหเสยี หายตอภาพลักษณของกรมท่ีดนิ

ดังนั้น เพอื่ ใหก ารดําเนินการรับคาํ ขอเกย่ี วกับการรังวดั ท่ดี นิ เปน ไปตามระเบยี บ
คําสัง่ กฎหมาย และปองกนั มิใหเ กิดปญหากรณีดงั กลาวขึน้ อกี จึงหามสํานักงานทด่ี ินทกุ แหง
มอบหมายใหฝา ยรงั วดั เปน ผูรับคําขอรงั วดั และใหฝายทะเบียนเปนผูรบั คําขอรังวัดทุกกรณี

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจงใหเจาหนาท่ีท่ีดินทราบและถือปฏิบัติโดย
เครงครดั ตอไป

ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงชอื่ ) บุญเชดิ คดิ เห็น
(นายบญุ เชิด คิดเหน็ )
อธบิ ดีกรมท่ดี นิ

สํานักมาตรฐานการทะเบียนทีด่ นิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๕๙ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๖๙๙

ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๑๑๑๓ (สําเนา)
กรมท่ดี ิน
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทุงสองหอง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๕

เรื่อง ระเบยี บกรมท่ดี ิน วาดว ยการมอบอํานาจใหท าํ การจดทะเบียนสทิ ธิและนติ กิ รรมหรือ
กจิ การอื่นเกย่ี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๕

เรียน ผูว า ราชการจงั หวดั ทกุ จงั หวัด

ส่งิ ทสี่ ง มาดว ย ระเบียบกรมทดี่ ิน วาดว ยการมอบอํานาจใหท าํ การจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม
หรอื กิจการอนื่ เกย่ี วกบั อสงั หาริมทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๕

ดวยกรมท่ีดินไดออกระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการมอบอํานาจใหทําการ
จดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรมหรอื กจิ การอ่นื เกี่ยวกบั อสังหารมิ ทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยไดยกเลกิ
ระเบยี บกรมทีด่ ิน วา ดว ยการมอบอาํ นาจใหทําการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมหรอื กจิ การอ่นื
เกย่ี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ย พ.ศ. ๒๕๔๗ และไดป รบั ปรงุ แนวทางปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การมอบอาํ นาจใหม
เพ่อื ใหเหมาะสมกับสถานการณท ีเ่ ปลยี่ นแปลงไปในปจจุบัน รายละเอยี ดปรากฏตามระเบยี บ
กรมทดี่ นิ วาดว ยการมอบอาํ นาจใหท าํ การจดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรมหรือกิจการอน่ื เกย่ี วกับ
อสังหารมิ ทรัพย พ.ศ. ๒๕๕๕ ท่ีสง มาพรอ มน้ี

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจงใหพนักงานเจาหนาท่ีทราบและถือเปน
แนวทางปฏิบัติพรอมท้ังนําระเบียบกรมท่ีดินดังกลาวไปเพ่ิมเติมในหนังสือรวมระเบียบ คําสั่ง
เกีย่ วกบั การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม ประเภทกอ ภาระผูกพัน และอืน่ ๆ เพื่อใหส ามารถใช
อางองิ ไดอ ยา งสะดวก รวดเรว็ และถกู ตอ งตอไป

ขอแสดงความนับถือ

(ลงชือ่ ) บญุ เชิด คดิ เหน็
(นายบญุ เชิด คดิ เห็น)
อธบิ ดกี รมที่ดนิ

สาํ นักมาตรฐานการทะเบียนที่ดนิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๕๙, ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๕
โทรสาร. ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๗๐๐

(สําเนา)

ระเบียบกรมทด่ี ิน
วา ดว ยการมอบอํานาจใหท ําการจดทะเบียนสิทธิ
และนติ ิกรรมหรือกิจการอ่ืนเกี่ยวกบั อสังหารมิ ทรพั ย

____พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕____

โดยที่เปน การสมควรรวบรวม ปรบั ปรงุ แกไขหลกั เกณฑและแนวทางปฏบิ ัติเก่ียวกับ
การมอบอํานาจใหทําการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหรือกิจการอ่ืนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย
ใหเ หมาะสมกับสถานการณทีเ่ ปลีย่ นแปลงไปในปจจบุ ัน และสามารถแกไ ขขอ ขดั ของเกี่ยวกับ
การมอบอํานาจใหถูกตอง ตลอดจนเพ่ือใหพนักงานเจาหนาที่สามารถปฏิบัติงานไดสะดวก
รวดเร็ว มีประสิทธภิ าพ เปนไปตามกฎหมายและเปนมาตรฐานเดยี วกนั

อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แหง พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บบริหารราชการ
แผนดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึง่ แกไ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารราชการแผน ดิน (ฉบบั
ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกบั ขอ ๒ (๑) (๔) และขอ ๑๙ (๑) แหงกฎกระทรวงแบง สวนราชการ
กรมท่ีดิน กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ๒๕๕๓ ออกตามความในพระราชบัญญตั ิระเบียบบรหิ าร
ราชการแผน ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ อธบิ ดกี รมท่ดี นิ จึงวางระเบยี บไวด งั น้ี

ขอ ๑ ระเบียบนเ้ี รยี กวา “ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการมอบอาํ นาจใหท ําการ
จดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรมหรือกิจการอ่ืนเกย่ี วกบั อสังหาริมทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๕”

ขอ ๒ ระเบียบน้ีใหใชบ งั คับต้งั แตบดั นี้เปน ตนไป
ขอ ๓ ใหยกเลกิ
(๑) ระเบยี บกรมทด่ี นิ วา ดว ยการมอบอาํ นาจใหท าํ การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม
หรือกิจการอนื่ เกี่ยวกับอสังหาริมทรพั ย พ.ศ. ๒๕๔๗
(๒) หนังสือกรมทด่ี นิ ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๑๓๙๔๒ ลงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๗
(๓) หนงั สือกรมที่ดนิ ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว๙๑๒๙ ลงวันท่ี ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๕
บรรดาระเบยี บ ขอกาํ หนด หรอื คาํ สง่ั อน่ื ใดท่ีกําหนดไวแลว ในระเบียบน้หี รือซึ่งขดั
หรือแยงกบั ระเบียบนี้ ใหใชร ะเบยี บนแ้ี ทน
ขอ ๔ ใหผูอํานวยการสํานักมาตรฐานการทะเบียนท่ีดินเปนผูรักษาการตาม
ระเบียบน้ี

๗๐๑

หมวด ๑
หนังสือมอบอาํ นาจ

ขอ ๕ หนังสือมอบอํานาจใหทําการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหรือกิจการอื่น
เกีย่ วกับกับอสงั หารมิ ทรัพย ใหใ ชแบบพมิ พห นังสือมอบอํานาจของกรมทด่ี ิน หรือหนังสือท่ีมี
ขอความชดั เจนเพียงพอใหทราบวา เปนการมอบอํานาจใหผ ูใดทําอะไร เพียงใด เกีย่ วกับท่ีดนิ
แปลงใด หรืออสงั หารมิ ทรัพยอ ยา งใด ท้งั นใ้ี หอยใู นดลุ ยพินิจของพนักงานเจา หนา ท่ใี นการ
พิจารณาวา หนังสอื มอบอํานาจดังกลาวมคี วามชัดเจนพอหรือไม

ขอ ๖ หนงั สอื มอบอํานาจควรมพี ยานอยางนอ ย ๑ คน ถาผมู อบอํานาจพิมพ
ลายนิ้วมอื ตอ งมพี ยานลงลายมือชอ่ื รับรองไวดว ย ๒ คน พยานทร่ี ับรองตอ งลงลายมอื ชอ่ื เทานั้น
จะพิมพลายนิว้ มือไมได การเปน พยานใหร ะบุช่อื –ชอื่ สกลุ ของพยานใหชดั เจนท่ีอา นออกกํากับไว
เพื่อการตรวจสอบดว ย

การพมิ พล ายนิ้วมอื ของผมู อบอาํ นาจใหใ ชนิว้ หัวแมม อื ซาย ถา มีความจาํ เปนทจ่ี ะ
ตองใชนิว้ หัวแมมอื ขวาหรอื นิ้วมอื อื่นใหระบไุ วเพราะเหตใุ ด โดยใหฝ า ยผูมอบอาํ นาจบันทึกความ
จําเปนไวในหนงั สอื มอบอาํ นาจดว ย

ขอ ๗ การขูดลบ ตก เตมิ หรอื การแกไ ขเปล่ยี นแปลงในสิ่งซ่ึงเปนสาระสําคัญ
ของหนงั สือมอบอาํ นาจ เชน เปล่ยี นแปลงเคร่ืองหมายของท่ีดินจนเปน เหตุใหเปลย่ี นไปเปน
คนละแปลง หรอื เปล่ยี นประเภทการขอจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม เชน จํานองเปนขายหรอื
ขายฝาก เปนตน หนงั สือมอบอาํ นาจนน้ั ยอมไมส มบูรณ เวนแตผูท าํ หนงั สอื มอบอํานาจจะไดล ง
ลายมือชื่อกํากบั ไวทุกแหง ทีม่ กี ารแกไ ขเปล่ียนแปลง

ในกรณีทป่ี รากฏวา การกรอกขอความในหนงั สือมอบอาํ นาจมคี วามแตกตา งกนั
เกี่ยวกับลายมอื และใชนํ้าหมึกตางสีกนั หรอื เปน ตัวพิมพบาง ตวั เขียนบา ง ใหพนักงานเจาหนา ที่
ใชดุลยพินิจท่ีจะไมรับทําใหไดจนกวาคูกรณีจะไดแสดงหลักฐานวาเปนขอความตรงตามความ
ประสงคของผมู อบอาํ นาจ และใหบ นั ทึกคาํ รับรองของคูกรณีในการทจ่ี ะรบั ผิดชอบกนั เองไวเ ปน
หลกั ฐานดวย

ขอ ๘ หนงั สอื มอบอาํ นาจที่ทําในตา งประเทศ ควรใหส ถานทตู สถานกงสุล
โนตารพี ับลคิ (Notary Public) หรอื บคุ คลซ่งึ กฎหมายแหง ทอ งถ่นิ ระบุใหเ ปน ผมู อี าํ นาจเปน พยาน
ในเอกสารเปนผูรับรองในกรณีท่ีไมมีผูรับรองดังกลาวขางตนใหอยูในดุลยพินิจของพนักงาน
เจา หนา ทที่ ีจ่ ะเชื่อถอื ไดเ พียงใด

กรณที ผ่ี รู บั มอบอาํ นาจอา งวา ประเทศหรอื เมอื งทผ่ี มู อบอาํ นาจมถี น่ิ ทอ่ี ยไู มม สี ถานทตู
สถานกงสลุ หรอื โนตารีพับลิค (Notary Public) หรือมีแตอยูหางไกลไมสะดวก หรือถาจะตอง
ดําเนินการใหมีการรับรองจะตองเสียคาใชจายมากทําใหผูมอบอํานาจไดรับความเดือดรอน
ใหพนักงานเจาหนาที่ดําเนนิ การสอบสวนหรอื พิสูจนโดยวธิ อี น่ื หรอื ใหผ ูรบั มอบอาํ นาจและคกู รณี

๗๐๒

อีกฝายหนึ่งบันทึกรับรองความเสียหายอันจะพึงเกิดจากการดําเนินการตามหนังสือมอบอํานาจ
เพือ่ ประกอบการพิจารณาวาหนังสือมอบอาํ นาจนน้ั เช่อื ถือไดหรือไมเพยี งใด

กรณีทพ่ี ิจารณาแลวเห็นวา หนงั สือมอบอํานาจนน้ั ไมนา เชอ่ื ถือ ใหเจา พนักงานทด่ี นิ
กรงุ เทพมหานคร เจาพนกั งานท่ีดินกรุงเทพมหานครสาขา เจา พนกั งานที่ดินจังหวดั เจา พนกั งาน
ท่ดี ินจังหวัดสาขา เจา พนกั งานท่ีดนิ หวั หนาสว นแยก หรอื ผรู กั ษาราชการแทน หรอื รักษาการใน
ตาํ แหนงดังกลาว แลว แตก รณี เปน ผูม อี ํานาจปฏเิ สธไมรบั ดําเนินการตามหนังสือมอบอาํ นาจน้นั

หมวด ๒
การตรวจหนงั สือมอบอาํ นาจ

ขอ ๙ การตรวจหนังสือมอบอํานาจใหอยูในความควบคุมรับผิดชอบของพนักงาน
เจาหนา ทผ่ี ูด าํ เนินการเรื่องนัน้

ขอ ๑๐ การตรวจหนังสือมอบอํานาจ ใหพิจารณาโดยละเอียดรอบคอบในเร่ือง
ดงั ตอไปนี้

(๑) ตรวจเลขเครือ่ งหมายทีด่ นิ หรืออสงั หารมิ ทรัพยอ ยา งอ่ืนท่ปี รากฏในหนงั สือ
มอบอาํ นาจวา ตรงกับเครื่องหมายทีด่ ิน หรอื อสังหาริมทรัพยอ ยางอื่นท่ีจะขอทาํ ธุรกรรมนน้ั หรือไม

(๒) ตรวจสอบช่อื ชื่อสกลุ อายุ ชือ่ บดิ า ช่อื มารดาของผมู อบอํานาจและ
บัตรประจําตัวหรือสําเนาภาพถายบัตรประจําตัวท่ีผูมอบอํานาจรับรองความถูกตองวาตรงกับ
หลกั ฐานเดิมหรือไม

สําเนาภาพถายบัตรประจําตัวของผูมอบอํานาจตองมีความชัดเจน กรณีมีขอพิรุธ
อ่นื ๆ ใหพ นักเจา หนาทท่ี ําการตรวจสอบและสอบสวนตามอาํ นาจหนา ที่ เพ่ือใหไดข อเทจ็ จรงิ เปน
ที่นาเชื่อถอื กอนดําเนินการใหผ ูข อ

(๓) ตรวจอํานาจในการมอบอํานาจใหทํากิจการใดเปนไปโดยชอบดวยกฎหมาย
หรือไม ทัง้ น้ตี องพิจารณาโดยเครง ครัดตามอกั ษร เวนแตใ นกรณที ่ีผมู อบอํานาจขอทํานิตกิ รรม
เพื่อจะไดมาซง่ึ สทิ ธิอันใดอนั หนึ่ง หรอื เพื่อใหห ลุดพนจากหนาท่ีอนั ใดอันหน่ึง แมจะมีขอความไม
ชัดแจงบางก็อาจพิจารณาดําเนินการใหไดซึ่งแลวแตดุลยพินิจของพนักงานเจาหนาที่เปนรายๆ
ไป เชน ผูม อบอํานาจเปน ฝา ยทรี่ บั ใหโ ดยเสนห าไมม ภี าระผกู พนั หรือเปน ฝายไถถ อนจาํ นองหรอื
ไถถ อนจากการขายฝาก เปนตน

ในการมอบอาํ นาจใหทําการรังวดั แบงแยก ถา หนังสือมอบอาํ นาจระบใุ หผ ูรบั มอบ
อํานาจมอี ํานาจทาํ การ “แบง แยก” โดยมิไดระบวุ า แบง แยกในประเภทใด เชน แบง ขายหรอื
แบงหักที่สาธารณประโยชนห ากผูรับมอบอํานาจขอแบง แยกทด่ี นิ ในประเภทอื่นทม่ี ใิ ชแบง แยกใน
นามเดิมแลว พนกั งานเจาหนา ทไ่ี มค วรรบั ดําเนนิ การให เวน แตใ นหนังสอื แสดงสิทธใิ นท่ีดนิ มี
ช่อื เจา ของหลายคน ซง่ึ อาจแปลความวา “แบงแยก” หมายถึง แบงกรรมสทิ ธิ์รวมได แตตอ งมี
ขอความอ่นื ขยายความใหเหน็ วา เปนการแบง แยกออกจากกนั ระหวา งเจาของรวม

๗๐๓

ในกรณีท่ีตัวแทนไดรับมอบอํานาจใหทํานิติกรรมอยางหน่ึงอยางใดในนามของ
ตวั การทํากบั ตนเองในนามของตนเอง หรอื ในฐานเปน ตวั แทนของบุคคลภายนอกตามประมวล
กฎหมายแพง และพาณิชย มาตรา ๘๐๕ เม่อื ปรากฏหลักฐานคาํ ยนิ ยอมของตัวการเปนหนงั สือใน
หนงั สอื มอบอาํ นาจนน้ั เองหรอื ในเอกสารอื่น จงึ ดาํ เนินการใหได

การระบุขอความดงั กลาว ผมู อบอํานาจอาจระบุขอความแตกตา งไปซ่ึงขอความ
อาจไมต รงตามตัวบทกฎหมาย แตถาอา นแลว สามารถเขา ใจไดว า ผูมอบอาํ นาจไดรหู รือควรรวู า
ผรู บั มอบอํานาจจะตองทาํ ในสองฐานะคือฐานะตวั แทน และในฐานะตนเองดวย ก็ยอ มเปนการ
เพียงพอ

(๔) ตรวจสอบลายมือชื่อของผูมอบอํานาจ โดยทีเ่ จา หนา ทผี่ ูตรวจสอบลายมอื ชอื่
มิใชผชู ํานาญการพิเศษโดยเฉพาะ การตรวจสอบจึงตอ งใชความระมัดระวงั อยางวิญูชนจะ
พึงกระทําได ถาไมแนใจหรอื มีเหตอุ ันควรสงสัยแลว กร็ ับดําเนินการใหไ มได โดยใหพนกั งาน
เจา หนา ที่ชแี้ จงเหตผุ ลใหค กู รณที ราบวา ลายมอื ชือ่ นั้นผิดเพ้ียนกันอยา งใด หรอื สงสัยประการใด
เมื่อคูกรณีหาหลกั ฐานมาแสดงจนเปน ทนี่ า เชอ่ื ถือไดจ ึงรบั ดําเนนิ การใหไ ด แตถ าเปนกรณีที่ไมม ี
ลายมือชื่อในสารบบท่ีจะตรวจสอบกันไดก็ใหแจงใหคูกรณีทราบและใหบันทึกความรับผิดกันเอง
ของคกู รณีไวเปนหลักฐาน แลวดําเนินการตอ ไปได การตรวจสอบลายมอื ช่อื ของผูมอบอํานาจซึ่ง
อาจเปน ลายมอื ชอ่ื หรอื ลายพมิ พน ว้ิ มอื กไ็ ดน น้ั ใหต รวจสอบกบั ของเดมิ วา พอทจ่ี ะเชอ่ื ถอื ไดห รอื ไม

ในกรณีของเดิมพิมพลายนิ้วมือไวแตตามหนังสือมอบอํานาจเปนลายมือช่ือหรือ
ของเดมิ เปน ลายมอื ชอ่ื แตต ามหนงั สอื มอบอาํ นาจเปน พมิ พล ายนว้ิ มอื ใหพ นกั งานเจา หนา ทช่ี แ้ี จง
ใหคูก รณที ราบ และใหไ ปลงลายมือช่ือหรือพมิ พนว้ิ มอื เพื่อนาํ มาตรวจสอบใหม แตถาไมอาจ
ทําได กใ็ หพ นักงานเจา หนาทบี่ ันทึกเหตุผลไวว า เปน เพราะเหตุใด เม่ือคกู รณียืนยนั ใหทาํ กต็ อ ง
ใหพยานทเ่ี ช่ือถือไดร บั รอง พรอ มทงั้ บนั ทกึ คูก รณีอกี ฝายหนงึ่ ใหร ับรองดวย

เม่อื ตรวจแลวใหเ จาหนา ท่ีผตู รวจบนั ทึกไวใ นหนังสอื มอบอาํ นาจนนั้ วา “ตรวจแลว
ใชไ ด” หรอื “ตรวจแลว ใชไ มได” เพราะเหตุใด แลวลงลายมอื ชื่อและ วนั เดือน ป กาํ กับไว

ขอ ๑๑ เมื่อเจาหนาท่ไี ดต รวจและใหความเห็นแลว ใหนําเรอ่ื งพรอมกับสารบบ
เสนอใหพนักงานเจาหนาที่ผูมีอํานาจสั่งการทําการตรวจสอบและส่ังการเกี่ยวกับหนังสือมอบ
อาํ นาจอกี ครั้งหน่ึงเม่อื เห็นวา ใชไ ดแ ลวใหบ นั ทึกสง่ั การวา “ดาํ เนินการได” แลว ใหด าํ เนนิ การ
ตอ ไป

กรณีท่ีพนักงานเจาหนาท่ีผูมีอํานาจสั่งการ ตรวจหนังสือมอบอํานาจแลวเห็นวา
ใชไมไดเพราะเหตุใดก็ตาม ใหพนักงานเจาหนาที่ที่ผูมีอํานาจสั่งการปฏิเสธไมรับดําเนินการ
โดยบันทึกส่ังการพรอมดวยเหตุผลในหนังสือมอบอํานาจนั้นแลวแจงใหผูรับมอบอํานาจทราบ
และใหเ ก็บหนงั สอื มอบอํานาจไวในสารบบท่ีดิน

๗๐๔

การปฏิเสธไมร ับดาํ เนินการตามหนังสอื มอบอาํ นาจเปน คาํ สัง่ ทางปกครอง การทํา
คาํ ส่งั และการแจง คําส่ังใหถ อื ปฏบิ ตั ิตามกฎหมายวาดว ยวธิ ปี ฏิบตั ิราชการทางปกครอง

ขอ ๑๒ ใหหัวหนาฝายทะเบียนหรือผูรักษาการในตําแหนงเปนผูมีอํานาจสั่งการ
เกี่ยวกับหนังสือมอบอํานาจ ยกเวนการสั่งการเกี่ยวกับหนังสือมอบอํานาจที่เปนการโอนทาง
ทะเบยี นซ่ึงมที นุ ทรพั ยเกนิ กวาทุนทรพั ยข องหวั หนา ฝา ยทะเบียน ทั้งน้ี ตามคําส่งั ทีก่ รมท่ีดิน
กําหนด ใหเจาพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร เจาพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครสาขา
เจา พนกั งานทีด่ นิ จังหวัด เจาพนกั งานท่ดี ินจังหวัดสาขา เจาพนกั งานท่ีดินหัวหนา สวนแยก หรือ
ผูร กั ษาราชการแทน หรอื รักษาการในตาํ แหนง ดงั กลา วแลว แตก รณี เปน ผมู ีอํานาจส่ังการหนงั สอื
มอบอาํ นาจน้นั

ขอ ๑๓ การปฏิเสธการดาํ เนนิ การตามหนงั สือมอบอํานาจ ใหพนักงานเจา หนา ที่
แจงผูรบั มอบอาํ นาจทราบ โดยใหบันทกึ ไวดานหลงั หนงั สือมอบอาํ นาจหรือทอี่ นื่ ตามที่เห็นสมควร
แลวแตกรณีพรอมท้ังแจงสิทธิการอุทธรณตามกฎหมายวาดวยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
แลวใหผ รู ับมอบอาํ นาจหรือผูขอลงลายมอื ชือ่ ไวเ ปน หลกั ฐานตามตัวอยางทายระเบียบนี้ กรณี
ผูรับมอบอํานาจปฏิเสธการลงลายมือชื่อใหพนักงานเจาหนาที่บันทึกไวโดยมีเจาหนาท่ีลงช่ือเปน
พยาน ๒ คน และใหมีหนงั สอื แจง ไปยงั ผมู อบอาํ นาจเพอ่ื ใชสทิ ธิอทุ ธรณต ามกฎหมายวา ดวยวิธี
ปฏิบตั ิราชการทางปกครอง

หมวด ๓
การสอบสวนคกู รณแี ละการดําเนินการเก่ียวกับหนงั สือมอบอํานาจ

ขอ ๑๔ เพื่อปองกันการทุจริตเกี่ยวกับหนังสือมอบอํานาจ ใหคูกรณีอีกฝายหนึ่ง
บนั ทกึ รบั รองความเสยี หายอนั พงึ เกดิ จากการทาํ นติ กิ รรม ในเรอ่ื งรจู กั เจา ของทด่ี นิ และทต่ี ง้ั ของทด่ี นิ
หากมีกรณีสงสัยเก่ียวดวยตัวคูกรณีประการใด ใหนําเสนอเจาพนักงานท่ีดินกรุงเทพมหานคร
เจาพนกั งานที่ดินกรุงเทพมหานครสาขา เจา พนักงานที่ดินจงั หวัด เจาพนกั งานท่ีดินจงั หวัดสาขา
เจา พนกั งานท่ีดนิ หวั หนาสวนแยก หรอื ผูรักษาราชการแทน หรอื รกั ษาการในตําแหนงดังกลาว
แลว แตกรณี เพอื่ ส่งั การเสยี กอ น

ขอ ๑๕ ในกรณีท่ีมีเหตุอันควรสงสัยวา ผูมอบอํานาจจะยังคงมีชีวิติอยูหรือไม
และมีสติสัมปชัญญะสมบูรณหรือไม ใหพนักงานเจาหนาที่สอบสวนคูกรณีหรือเรียกบุคคลซ่ึง
เกีย่ วขอ งมาใหถ อ ยคํา หรือสง เอกสารหลกั ฐานที่เกี่ยวของตามความจําเปนตามมาตรา ๗๔ แหง
ประมวลกฎหมายทีด่ นิ ไดใ หอาํ นาจไว ท้ังน้ใี หบนั ทกึ การสอบสวนไวเ ปนหลักฐาน

ขอ ๑๖ การทําหนังสือสัญญา บันทึก คําขอ ใหใ สชือ่ ผูรบั มอบอํานาจตอ ทายช่ือ
ผูม อบอํานาจไวใ นวงเลบ็ ดวย การลงลายมือช่ือผรู บั มอบอาํ นาจใหบรรยายวา “แทนตามหนังสอื
มอบอํานาจ ลงวนั ที.่ ....เดือน......พ.ศ. .....”

๗๐๕

ขอ ๑๗ ใหเก็บหนงั สอื มอบอํานาจไวใ นสารบบ แตถาเรอ่ื งใดมีเหตผุ ลเปน พิเศษวา
ถาจะเก็บไวในสารบบจะไมปลอดภัยแลว จะแยกเก็บไวตางหากในที่ปลอดภัยก็ทําไดโดย
หมายเหตใุ หท ราบในสารบบและทาํ บญั ชีควบคมุ ไวเปนหลักฐาน

การมอบอาํ นาจเก่ยี วกบั ท่ีดนิ รวมหลายแปลง ใหเกบ็ หนงั สือมอบอาํ นาจในสารบบ
ทดี่ ินแปลงใดแปลงหนงึ่ และหมายเหตุไวในสารบบทดี่ ินแปลงอ่นื ๆ วาหนังสือมอบอํานาจเกบ็ ไว
ในสารบบท่ีดินแปลงหนาสํารวจใดตาํ บลใด เพ่ือใหค นหาไดง า ย

หมวด ๔
ขอปฏบิ ัติสาํ หรับพนกั งานเจา หนา ท่ี

ขอ ๑๘ หามขาราชการในสังกัดกรมที่ดินรับมอบอํานาจทําธุรกิจเกี่ยวกับ
อสงั หาริมทรพั ยไ มวา กรณใี ด เวนแตจะไดรับอนญุ าตจากผูบังคับบญั ชาเสยี กอน

ขอ ๑๙ หามพนักงานเจาหนาท่ีออกไปทําการรับรองเก่ียวกับลายมือชื่อในหนังสือ
มอบอํานาจนอกสถานที่ทาํ การไมวากรณใี ด เวน แตจะไดร บั อนุญาตจากผูบงั คับบญั ชาเสียกอ น

ขอ ๒๐ หามเจาหนาทีร่ บั จดั ทําหนงั สือมอบอํานาจใหผขู อ หากประชาชนมปี ญ หา
เกี่ยวกบั การกรอกขอความในแบบพมิ พหนังสือมอบอํานาจท่ีกรมท่ีดินพมิ พข น้ึ เจา หนาทีก่ ็ชอบที่
จะใหค ําแนะนําได

ขอ ๒๑ กรณีมีผูมาขอใหระงับการดําเนินการตามหนังสือมอบอํานาจที่ตนไดลงชื่อ
มอบอํานาจไวใหผูน้ันย่ืนคํารองตอพนักงานเจาหนาท่ีและใหพนักงานเจาหนาท่ีส่ังในคํารองวา
ไมอาจดําเนินการใหได และแจงใหผ รู องติดตอ บอกเลกิ การมอบอาํ นาจไปยังผรู ับมอบอาํ นาจ
และดําเนินการเพื่อใหไดมาซึ่งหนังสือมอบอํานาจเองพนักงานเจาหนาท่ีไมอาจจะรับคํารองไว
พจิ ารณาได โดยใหบ นั ทึกผยู ่ืนคาํ รองรบั ทราบไวเ ปน หลกั ฐานในคํารองและใหเกบ็ คาํ รองไวใ น
แฟมงานสารบรรณตามปกตไิ มตอ งเกบ็ รวมไวใ นสารบบทด่ี นิ

ในกรณีที่มีผูแจงเปนหนังสือมายังพนักงานเจาหนาท่ีขอใหระงับการดําเนินการตาม
หนงั สอื มอบอํานาจ ใหพนกั งานเจาหนาท่ีมหี นงั สอื แจงใหผ นู ั้นทราบโดยอนุโลมตามขอ ความ
ในวรรคหนงึ่ พรอ มสง หนังสือที่ขอใหระงบั การดําเนินการตามหนังสือมอบอาํ นาจคืน โดยสง ทาง
ไปรษณียลงทะเบียนตอบรบั ภายในวนั นนั้ หรือวนั รุงขน้ึ เปนอยา งชา

หมวด ๕
การเรยี กเกบ็ คาธรรมเนียมและการปด อากรแสตมป

ขอ ๒๒ ใหเรียกเกบ็ คาธรรมเนยี มคา มอบอาํ นาจตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง ซ่ึง
ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใ ชประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ โดยถอื ปฏบิ ัติดงั น้ี

๗๐๖

(๑) เรื่องแบง กรรมสทิ ธ์ิรวม แบง ขาย หรือแบงอยางอ่ืน จะแบง เปน กีแ่ ปลงกต็ าม
ถือเปนเรือ่ งเดียวกัน

เรอ่ื งรวมโฉนดทดี่ ิน จะนําโฉนดทีด่ นิ กี่แปลงมารวมกนั กเ็ ปน เร่ืองท่ีดินหลายแปลง
รวมเขา เปนแปลงเดียวกัน จงึ เปน เรื่องเดียวกนั ถาขอรวมโฉนดทดี่ นิ หลายแหง เขา ดว ยกัน แตล ะ
แหงก็เปนเรอ่ื งหนึง่ ๆ

เรอ่ื งขอจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมประเภทเดยี ว จะเปนที่ดินกี่แปลงกถ็ อื เปนเร่ือง
เดยี ว เชน ขายท่ดี นิ รวม ๕ แปลง ตามสญั ญาฉบบั เดยี วกนั ถอื เปน เรื่องเดยี ว

(๒) บุคคลหลายคนมอบอํานาจมาทําการ เปนเร่ืองของบุคคลที่มอบอํานาจมา
ทําการแตละบุคคลเปนคนละเร่ือง ไมวาจะมอบอํานาจในหนังสือมอบอํานาจในหนังสือมอบ
อํานาจฉบับเดียวกันหรอื หลายฉบับ เพราะเปน กจิ ธุระของแตล ะบคุ คล

กรณีผูจัดการมรดกหลายคนมอบอํานาจมาทําการจดทะเบียนประเภทใดประเภท
หนงึ่ ถอื วาเปน เรือ่ งของผจู ดั การมรดกท่มี อบมาทําการแตละบคุ คลเปนคนละเรอ่ื ง ไมว า จะมอบ
อาํ นาจในหนังสอื มอบอาํ นาจฉบบั เดยี วกนั หรอื หลายฉบบั ใหเ รยี กเก็บคาธรรมเนียมคามอบ
อาํ นาจเปนรายบคุ คลทีม่ อบอํานาจ

ผูจ ดั การธนาคารสาขาผรู ับมอบอาํ นาจจากธนาคารสาํ นกั งานใหญ มอบอาํ นาจชว ง
ใหเ จาหนา ทข่ี องธนาคารสาขา มาจดทะเบยี นรบั จํานองทดี่ นิ จึงเปน การรบั จํานองแทนธนาคาร
สาํ นกั งานใหญ การเรยี กเก็บคา ธรรมเนียมคามอบอาํ นาจใหเ รยี กเกบ็ เปน เร่ืองเดยี ว

(๓) ผูไถถอนมาจดทะเบียนไถถอนฝายเดียว โดยมีหลักฐานเปน หนงั สือจากผรู บั
จํานองวาไดมกี ารชําระหน้แี ลว มาแสดง แมผูไถถอนจะมหี นังสอื มอบอํานาจของธนาคารแนบ
มาพรอ มทั้งเร่ืองราวการจดทะเบียนไถถ อน กรณเี ชน น้ีไมม ีการรับมอบอาํ นาจทจี่ ะเรยี กเกบ็ คา
ธรรมเนียมคา มอบอาํ นาจ

(๔) การมอบอํานาจใหรับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เขาลักษณะเปนการมอบ
อาํ นาจใหร บั สิ่งของแทนไมตอ งเรยี กเก็บคา ธรรมเนียม

ขอ ๒๓ หนังสือมอบอํานาจตองปดอากรแสตมปใหครบถวนตามประมวลรัษฎากร
ดงั น้ี

(๑) มอบอาํ นาจใหบ คุ คลเดียวหรอื หลายคนกระทําการครัง้ เดยี ว ปดอากรแสตมป
๑๐ บาท

(๒) มอบอํานาจใหบุคคลเดียวหรือหลายคนรวมกันกระทําการมากกวาคร้ังเดียว
ปด อากรแสตมป ๓๐ บาท

(๓) มอบอาํ นาจใหก ระทําการมากกวา ครงั้ เดียว โดยใหบ ุคคลหลายคนตา งคนตา ง
กระทํากจิ การแยกกนั ได คดิ ตามรายตัวบุคคลที่รบั มอบอํานาจ ปดอากรแสตมปค นละ ๓๐ บาท

๗๐๗

(๔) ถา ผมู อบอาํ นาจมีหลายคน แตม ไิ ดเปนผมู อี าํ นาจรว มกันแลวมอบอํานาจใน
ตราสารฉบบั เดยี วกนั ตองคดิ ตามรายตวั บคุ คล ผมู อบอาํ นาจคนหนึ่งเปนหนึง่ เรื่องตาม (๑) (๒)
และ (๓) แลว แตกรณี

(๕) สญั ญาตัวแทนมอบอํานาจเฉพาะการ ปดอากรแสตมป ๑๐ บาท มอบอาํ นาจ
ทัว่ ไปปด อากรแสตมป ๓๐ บาท

(๖) การมอบอํานาจใหรับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินแทนตลอดจนใหถอยคําตางๆ
ตอเจาหนาที่เฉพาะการมอบอํานาจใหรับหนังสือแสดดงสิทธิในท่ีดินแทนเขาลักษณะเปนการ
มอบอาํ นาจใหรบั สง่ิ ของแทนไมต อ งปดอากรแสตมป สวนการมอบอํานาจใหถอยคําตา งๆ ตอ
พนักงานเจาหนาที่เขาลักษณะเปนการมอบอํานาจใหบุคคลคนเดียวหรือหลายคนกระทําการคร้ัง
เดียว ปด อากรแสตมป ๑๐ บาท

ประกาศ ณ วันที่ ๒ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงชอ่ื ) บญุ เชิด คดิ เห็น
(นายบญุ เชดิ คิดเห็น)
อธบิ ดีกรมทดี่ นิ

๗๐๘

(ตวั อยา งหนงั สือมอบอํานาจ) (ท.ด. ๒๑)

หนังสือมอบอาํ นาจ

ท่ดี ิน
ระวาง......................................................................................ตาํ บล.......................................................................................
เลขท่ดี ิน..............................หนา สํารวจ....................................อําเภอ......................................................................................
โฉนทีด่ นิ เลขที.่ ........................................................................จังหวัด......................................................................................
เรื่อง........................................................................................................................................................................................

เขียนท่.ี ............................................................
วันท่ี.............เดือน................................พทุ ธศกั ราช.............
โดยหนังสือฉบบั นีข้ าพเจา .....................................................................................................................................
เลขประจาํ ตวั ประชาชน ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ อายุ......................ป เช้อื ชาต.ิ .................................
สญั ชาต.ิ ............................บดิ าช่ือ..............................................................มารดาชอ่ื ...............................................................
บา นเลขท่.ี .........................หมทู ่ี...................ตรอก/ซอย...................................................ถนน.................................................
ตําบล......................................อาํ เภอ.........................................จงั หวดั .....................................โทรศัพท.................................
ไดม อบให. ..............................................................................................................................................................................
เลขประจาํ ตัวประชาชน ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ อาย.ุ .....................ป เชือ้ ชาต.ิ .................................
สญั ชาต.ิ ............................บิดาชื่อ..............................................................มารดาช่ือ...............................................................
บานเลขท่ี..........................หมทู ่.ี ..................ตรอก/ซอย...................................................ถนน.................................................
ตําบล......................................อําเภอ.........................................จังหวดั .....................................โทรศพั ท. ................................
เปนผมู ีอาํ นาจจดั การ..............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................แทนขา พเจา จนเสรจ็ การ
เพื่อเปน หลักฐานขาพเจาได ลงลายมือชือ่ /พมิ พลายน้ิวมอื ไวเปน สําคัญตอ หนา พยานแลว

............................................ ผูมอบอาํ นาจ
()

ขาพเจาขอรับรองวา เปน ลายมอื ชือ่ /ลายพมิ พนวิ้ มือ อันแทจริงของผูม อบอาํ นาจและผมู อบอํานาจไดลงลายมือชื่อ/
พมิ พล ายนว้ิ มือ ตอ หนา ขาพเจา
............................................ พยาน
หมายเหตุ กรณีท่ผี รู บั มอบอํานาจเปน คสู ัญญาหรือ ()
เปนตวั แทนของคูส ัญญาใหระบขุ อความดงั ตอไปนด้ี ว ย ............................................ พยาน
“และยินยอมใหผ รู บั มอบอาํ นาจเขาทาํ การแทนในนาม ()
ตนเองและ/หรือเปนตัวแทนของอีกฝายหนงึ่ ดวย”

หมายเหตุ การลงลายมือชอ่ื หรือพิมพลายน้ิวมือ ถา ใชอ ยางใด ใหขีดฆาขอ ความท่ไี มใ ชออก ในกรณีพมิ พลายนิ้วมอื
ใหใ ชพ ิมพล ายนิว้ แมม ือซาย

โปรดอานคําเตือนดา นหลงั

๗๐๙

คําเตอื น

เพ่ือรกั ษาประโยชนของเจาของท่ีดนิ และผทู ่เี กีย่ วขอ ง

๑. ใหก รอกเครอื่ งหมายหนงั สอื สาํ คญั สําหรับทดี่ ินหรอื อสังหาริมทรัพยอยา งอน่ื เชน ตึก บานเรอื น โรง ใหชัดเจน
๒. ใหร ะบเุ ร่ืองและอาํ นาจจัดการใหชดั เจนวา มอบอํานาจใหทาํ อะไร เชน ซ้ือ ขาย จํานอง ฯลฯ ถามเี งือ่ นไขพิเศษ

เพ่ิมเตมิ ก็ใหระบไุ วดว ย
๓. อยา กรอกขอ ความใหต างลายมอื และใชนาํ้ หมกึ ตางสกี ัน ถา ใชพ มิ พด ดี กต็ อ งเปนเคร่ืองเดยี วกัน
๔. ถา มีรอยขดู ลบ ตกเติม แกไ ข หรือขดี ฆา ใหระบุวา ขดี ฆา ตกเตมิ ก่คี าํ และผูมอบอาํ นาจลงลายมือช่ือกํากับไวท ุกแหง
๕. อยา ลงลายมือชอ่ื ผูมอบอํานาจกอ นกรอกขอ ความโดยครบถวนและถูกตอ งตามความประสงคแ ลว
๖. ใหม ีพยานอยา งนอย ๑ คน ถา ผูมอบอาํ นาจพมิ พล ายน้วิ มือตองมพี ยาน ๒ คน พยานตองเซน็ ชื่อ จะพิมพลายน้ิวมือไมได
๗. หนังสือมอบอํานาจทําในตางประเทศ ควรใหสถานทตู หรือสถานกงสลุ หรือโนตารีพบั ลคิ (Notary Public) รับรองดวย

ตัวอยางบันทกึ แจง คําสัง่ ผูร ับมอบอํานาจ/ผขู อ
(กรณไี มส ามารถดาํ เนินการตามหนงั สอื มอบอาํ นาจได)

วัน...............เดอื น...........................พ.ศ. ..................
ขาพเจา..................................................................................................................ผูรับมอบอํานาจ/ผูขอ
ไดยื่นคําขอ.........................................โฉนดท่ีดนิ เลขท่ี......................หนาสํารวจ......................ตาํ บล................................
อําเภอ......................จงั หวดั ......................โดยใชหนังสือมอบอํานาจดําเนนิ การ พนักงานเจา หนา ทไี่ ดแ จง ใหข าพเจาทราบวา
ไมอ าจดําเนินการใหไ ด เนื่องจาก..................................................(ระบุเหตุผลทีไ่ มอ นุญาต เชน กรอกขอความไมค รบถวน/
ไมไดก รอกขอความ/อนื่ ๆ).................................................และไดมีคาํ ส่ังไมรบั ดาํ เนนิ การตามหนังสือมอบอาํ นาจแลว โดยท่ี
คําสง่ั น้เี ปน คาํ สั่งทางปกครองอันอาจอุทธรณได หากขาพเจาประสงคจะอทุ ธรณ หรอื โตแ ยงคาํ สง่ั น้ี ตอ งยืน่ อุทธรณหรอื โตแยง
คาํ สัง่ นี้ตอ พนกั งานเจาหนาที่ผูท าํ คาํ ส่ังนี้ภายใน ๑๕ วัน นับแตวันทไี่ ดร ับแจงคาํ สั่งนต้ี ามนยั มาตรา ๔๔ แหงพระราชบญั ญัติ
วธิ ปี ฏิบตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ในกรณมี ีการอุทธรณห ากครบกาํ หนดระยะเวลาในการพจิ ารณาของผมู อี าํ นาจ
พิจารณาอุทธรณตามนยั มาตรา ๔๕ แหงพระราชบญั ญัติวิธีปฏบิ ัตริ าชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประกอบกับกฎกระทรวง
ฉบบั ที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๔๐) ออกตามความในพระราชบญั ญัติดังกลา วแลว ไมว าจะมีคาํ วินจิ ฉยั ของผูมีอาํ นาจพิจารณาอุทธรณ
หรือไมก็ตาม ขา พเจาสามารถทีจ่ ะยื่นคําฟองเปนหนงั สือตอ ศาลปกครองหรอื สง คําฟอ งทางไปรษณยี ล งทะเบียนไปยงั ศาล
ปกครองภายในระยะเวลา ๙๐ วัน นบั แตว นั ที่รหู รอื ควรรถู ึงเหตุแหง การฟอ งคดนี ้นั ตามมาตรา ๔๙ แหง พระราชบญั ญตั จิ ดั ตั้ง
ศาลปกครองและวธิ พี ิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
ขาพเจา รบั ทราบแลว จงึ ลงลายมอื ชอ่ื ไวเ ปน หลักฐาน

ลงชื่อ .................................................ผรู ับมอบอํานาจ
( .................................................)

ลงช่ือ .................................................ผขู อ
( .................................................)

ลงชือ่ .................................................ผูบ นั ทึก
( .................................................)

ลงชือ่ .................................................พยาน
( .................................................)

ลงชอื่ .................................................พยาน
( .................................................)

๗๑๐

ดวนทีส่ ดุ (สาํ เนา)
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๒๗๐๖
กรมทด่ี นิ
ศูนยราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

เรอ่ื ง การลดหยอ นคาธรรมเนยี มและยกเวนภาษีอากรกรณีปรับปรงุ โครงสรางหนี้

เรียน ผวู า ราชการจงั หวดั ทกุ จังหวัด

อา งถึง หนงั สือกรมท่ดี ิน ดวนทีส่ ุด ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๘๑๑๔ ลงวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๕

ส่ิงทสี่ งมาดวย ๑. สําเนาพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวน
รษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕

๒. สําเนาประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธกี าร และ
เงื่อนไข กรณหี นที้ ตี่ อ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหนี้ตามหลักเกณฑการ
ปรบั ปรุงโครงสรา งหนีข้ องสถาบันการเงนิ ท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนด ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕

๓. สาํ เนาประกาศอธิบดกี รมสรรพากร เรือ่ ง กําหนดหลักเกณฑ วธิ ีการ และ
เง่อื นไข การยกเวน ภาษเี งินได ภาษธี รุ กิจเฉพาะ และอากรแสตมป สาํ หรบั
จํานวนเงนิ ที่ไดรบั จากการโอนอสงั หาริมทรพั ยของลูกหนขี้ องสถาบันการเงนิ
ทีน่ ํามาจาํ นองเปนประกันหน้ขี องเจาหนที้ ี่เปน สถาบนั การเงนิ
ใหแกผูอน่ื ซึ่งมใิ ชเจา หนีท้ เี่ ปน สถาบนั การเงนิ เพอื่ นําไปชําระหน้ีทคี่ า งชาํ ระ
แกเ จา หนที้ ่เี ปนสถาบนั การเงิน ซึง่ ดาํ เนินการปรับปรุงโครงสรางหนต้ี าม
หลกั เกณฑก ารปรับปรงุ โครงสรางหนีข้ องสถาบันการเงินที่ธนาคารแหง
ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕

ตามหนงั สือที่อา งถึง กรมทดี่ นิ ไดแ จงมตคิ ณะรฐั มนตรีท่ใี หข ยายระยะเวลาการ
ลดหยอนคาธรรมเนียมการโอนและการจํานองอสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายที่ดินและ
หองชดุ ตามกฎหมาย วา ดวยอาคารชดุ ในกรณขี องการปรับปรุงโครงสรางหนอ้ี อกไปจนถงึ วันท่ี
๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ โดยกระทรวงมหาดไทยไดออกประกาศหลักเกณฑการลดหยอน
คาธรรมเนียมตามมตคิ ณะรัฐมนตรดี ังกลาวเมื่อวนั ท่ี ๒๐ กนั ยายน ๒๕๕๕ มีผลใชบังคับต้งั แต
วนั ท่ี ๒๘ กนั ยายน ๒๕๕๕ จนถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๕๕

๗๑๑

แตเน่ืองจากพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร
เก่ียวกับการปรับปรุงโครงสรางหน้ีและประกาศอธิบดีกรมสรรพากรท่ีกําหนดแบบหนังสือรับรอง
หน้ีที่ตองดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กําหนดตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร
เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินและเจาหน้ีอื่น และหนังสือรับรองการ
โอนอสังหาริมทรัพยของลูกหนี้ของสถาบันการเงินใหแกผูอื่นซึ่งมิใชเจาหนี้ที่เปนสถาบันการเงิน
เพื่อนําเงินที่ไดจากการโอนอสังหาริมทรัพยไปชําระหนี้แกเจาหนี้ที่เปนสถาบันการเงนิ เพ่อื ขอรบั
สทิ ธิประโยชนทางภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาตามที่กลา วขา งตน ซึง่ เปน หลักฐานท่ีผูขอ
จดทะเบยี นจะตอ งนํามาแสดงเพอ่ื ขอรบั การลดหยอ นคา ธรรมเนียม ยงั ไมใ ชบังคบั พนักงาน
เจาหนาที่จึงตองเรียกเก็บคาธรรมเนียมและภาษีอากรในอัตราปกติไปกอน และเมื่อพระราช
กฤษฎีกาฯ ดังกลาวมีผลใชบังคับแลว กรมท่ีดินจะไดแจงแนวทางปฏิบัติในการลดหยอน
คาธรรมเนียมและยกเวน ภาษอี ากร รวมถงึ ทางปฏบิ ตั ใิ นการคืนเงนิ คา ธรรมเนยี มกรณีปรบั ปรุง
โครงสรา งหน้ี มาเพอ่ื ทราบและถอื ปฏิบตั ิ นั้น

บัดนี้ ไดมพี ระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร วาดวยการ
ยกเวนรัษฎากร (ฉบับท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ ซ่งึ ตามมาตรา ๖ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ กาํ หนด
ใหย กเวนภาษเี งนิ ไดห กั ณ ทีจ่ า ย ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป ใหแกล ูกหน้ีของสถาบัน
การเงนิ และสถาบนั การเงนิ ลกู หนีข้ องเจา หนอ้ี น่ื และเจาหนอ้ี ่นื สาํ หรบั เงนิ ไดท่ีไดร ับจากการ
โอนอสงั หาริมทรัพย (รวมถงึ หองชดุ ) อันเนือ่ งมาจากการดําเนนิ การปรับปรุงโครงสรางหนีต้ าม
หลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กําหนด และเฉพาะสําหรับการโอนอสงั หาริมทรพั ยทไ่ี ดกระทําในระหวางวนั ท่ี ๑ มกราคม
๒๕๕๕ ถงึ วนั ที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๕๕ โดยหลักเกณฑ วิธกี าร และเงื่อนไขการยกเวน ภาษีอากร
เปนไปตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากรท่สี งมาดว ย ๒. และ ๓. กรมทีด่ นิ จงึ แจง แนวทางปฏิบัติ
เกีย่ วกบั การลดหยอ นคา ธรรมเนียมตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ และการยกเวน ภาษอี ากร
ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ มาเพอ่ื ทราบและถอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี

๑. การจดทะเบียนที่อยูในขายไดรับลดหยอนคาธรรมเนียมและยกเวนภาษี
อากรการโอนและลดหยอนคา ธรรมเนียมการจาํ นอง ไดแก

๑.๑ ลูกหนข้ี องสถาบันการเงินโอนอสังหารมิ ทรพั ยห รอื หอ งชุด เพ่อื ชําระหนี้
ใหแกเจาหนีส้ ถาบันการเงนิ หรอื ลูกหนขี้ องเจาหนอ้ี น่ื โอนอสังหาริมทรพั ยหรือหองชุด เพอ่ื ชําระ
หน้ีใหแกเจาหน้ีอื่นหรือผูจํานองโอนอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดใหแกเจาหน้ีสถาบันการเงินหรือ
เจาหน้อี ่ืนซง่ึ เปนผรู ับจาํ นองเพื่อชําระหนจี้ าํ นอง ใหจดทะเบยี นในประเภท “โอนชาํ ระหนี้” หรอื
“โอนชําระหนจี้ าํ นอง” แลวแตก รณี และวงเล็บตอ ทา ยชอื่ ประเภทวา “(รับโอนจากลูกหนี้)” หรือ
“(รับโอนจากผจู าํ นอง)

๗๑๒

๑.๒ กรณสี ถาบนั การเงนิ หรอื เจา หนอ้ี น่ื โอนอสงั หารมิ ทรพั ยห รอื หอ งชดุ ทร่ี บั โอน
มาตาม ๑.๑ ใหแกล ูกหนี้ (หรือผูจ าํ นองหรอื ผคู าํ้ ประกัน) หากขอ เท็จจริงเปนการขายคืนใหกบั
ผทู โี่ อนมากใ็ หจดทะเบียนประเภท “ขาย” และวงเลบ็ ตอ ทายชื่อประเภทวา “โอนคนื แกลกู หนี้”
หรอื “โอนคืนแกผ จู าํ นอง” แตห ากรบั โอนจากผูจ ํานองแลว ขายใหแกลูกหน้ี หรอื รบั โอนจาก
ลูกหนแ้ี ลว ขายใหแ กผูจาํ นอง ใหจ ดทะเบยี นประเภท “ขาย” และวงเลบ็ ตอทายชอื่ ประเภทวา
“โอนใหแ กลกู หนี”้ หรอื “โอนใหแ กผูจ าํ นอง”

๑.๓ กรณีลูกหนี้ของสถาบันการเงินโอนอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดที่
จดทะเบยี นจาํ นองเปน ประกนั หนไ้ี วก บั สถาบนั การเงนิ ใหแ กผ อู น่ื ซง่ึ มใิ ชเ จา หนท้ี เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ
เพอ่ื นาํ เงนิ ทไ่ี ดจ ากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยห รอื หอ งชดุ นน้ั ไปชาํ ระหนแ้ี กเ จา หนท้ี เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ
ใหจดทะเบยี นประเภท “ขาย” และวงเล็บตอทา ยช่ือประเภทวา “โอนใหผอู นื่ เพอื่ ชําระหนีส้ ถาบัน
การเงิน”

การจดทะเบียนโอนตาม ๑.๑ และ ๑.๒ ไดร ับลดหยอ นคา ธรรมเนยี มและ
ยกเวน ภาษอี ากรท้งั จาํ นวน สว นการจดทะเบียนโอนตาม ๑.๓ ไดรบั ลดหยอ นคา ธรรมเนยี ม
สําหรับจํานวนเงินทีน่ ําไปชาํ ระหน้ีใหแกเจา หนที้ เี่ ปนสถาบนั การเงนิ และเรียกเกบ็ ในอัตราปกติ
สําหรับราคาประเมินทนุ ทรพั ยสว นทเ่ี กนิ จาํ นวนเงนิ ทน่ี าํ ไปชาํ ระหน้ีดงั กลา ว ในสวนของการ
ยกเวน ภาษีอากร ยกเวน ใหเฉพาะสวนทีไ่ มเ กินกวาหนที้ ค่ี างชาํ ระอยูก ับสถาบนั การเงิน หรอื มี
ภาระผูกพนั ตามสญั ญาประกันหนี้กับสถาบนั การเงิน ตามความทป่ี รากฏในแบบหนังสือรับรอง
การโอนอสังหาริมทรพั ยข องลูกหนฯี้ ทา ยประกาศอธิบดีกรมสรรพากรทีส่ งมาดว ย ๓.

๑.๔ การจดทะเบียนจํานองอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดระหวางลูกหน้ีของ
สถาบนั การเงินกบั เจาหนีท้ เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ หรือระหวางลูกหนี้ของเจา หนีอ้ ื่นกบั เจาหนี้อ่นื ตาม
นยั ขอ ๒ (๓) ของประกาศกระทรวงมหาดไทยท่สี งมาตามหนังสือทอี่ า งถึง หมายความรวมถงึ
การจดทะเบียนข้นึ เงนิ จากจํานองดวย โดยในการจดทะเบียนใหใ ชช ่ือประเภทการจดทะเบยี นวา
“จาํ นอง” หรอื “ขึน้ เงินจากจํานอง” แลวแตกรณีโดยวงเลบ็ ตอ ทา ยชื่อประเภทวา “(เรยี กจาํ นอง
อสงั หารมิ ทรัพย (หรือหองชุด) เพิ่มจากลกู หน)ี้ ” และไดรับลดหยอนคาธรรมเนยี มจากจํานวนเงนิ
จํานองทงั้ จาํ นวน

๒. การจดทะเบียนโอนและจํานองอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดท่ีจะไดรับลด
หยอนคา ธรรมเนียมและยกเวนภาษีอากรกรณีปรับปรงุ โครงสรางหน้ี นอกจากเอกสารหลักฐาน
ทีผ่ ขู อจดทะเบียนตองนาํ มาแสดงตามปกตแิ ลว ผขู อจดทะเบียนตองสง มอบหนังสือรับรองหนีท้ ี่
ตอ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี ตามหลกั เกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหนข้ี องสถาบนั การเงนิ
ที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกาํ หนดตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕
ซึ่งตองมีขอความอยางนอ ยตามแบบทแี่ นบทายประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากรท่ีสงมาดวย ๒. และ
ถา เปนการโอนตาม ๑.๓ นอกจากหนังสือรบั รองหนีฯ้ ที่ตองสง มอบใหแ ลว ผูขอจดทะเบยี นยงั ตอง

๗๑๓

สงมอบหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพยของลูกหน้ีใหแกผูอื่นซึ่งมิใชเจาหนี้ที่เปนสถาบัน
การเงนิ เพอ่ื นําเงนิ ท่ีไดจากการโอนอสังหาริมทรัพยไ ปชําระหน้ีแกเจา หนท้ี ่เี ปนสถาบันการเงินเพือ่
ขอรับสิทธปิ ระโยชนท างภาษีอากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งตอ ง
มีขอความอยางนอยตามแบบที่แนบทายประกาศอธิบดีกรมสรรพากรที่สงมาดวย ๓. ใหแก
เจาพนกั งานทดี่ ินขณะจดทะเบียนดว ย

๓. เพ่ือใหทราบวาการจดทะเบียนโอนและจํานองขางตนไดรับลดหยอนคา
ธรรมเนียมและยกเวน ภาษีอากรเพราะเหตุใด ในการจดทะเบยี นจึงใหพ นักงานเจา หนา ทรี่ ะบุ
ขอ ความลงในคําขอจดทะเบยี นฯ หนงั สือสัญญา บนั ทกึ ขอตกลง ตลอดจนใบเสร็จรับเงนิ ดว ย
ขอความวา “ยกเวน ภาษีอากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ และลดหยอน
คาธรรมเนียมตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕” สวนในการ
จดทะเบียนจาํ นองใหระบุในเอกสารดงั กลา ววา “ลดหยอนคาธรรมเนยี มตามประกาศกระทรวง
มหาดไทย ลงวนั ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕”

๔. กรณผี ขู อจดทะเบียนขอคืนคา ธรรมเนียมและภาษีอากรทเ่ี สียไป เน่อื งจาก
ขณะจดทะเบยี นยังไมมกี ารบังคับใชพ ระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ หรือบังคับ
ใชพระราชกฤษฎกี าฯ ดังกลาวแลว แตผ ูขอจดทะเบยี นมไิ ดแ จง ตอพนกั งานเจาหนา ที่วาเปน การ
ขอจดทะเบยี นอนั เนอ่ื งมาจากการปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี หรอื ผูขอมิไดส งมอบหนงั สอื รับรองหนี้ฯ
และหนงั สือรับรองการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยของลูกหน้ีฯ ซง่ึ ออกตามความในพระราชกฤษฎีกาฯ
(ฉบบั ท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ ใหแกพ นกั งานเจา หนาท่ีขณะจดทะเบยี นเปน เหตใุ หผ ขู อจดทะเบียน
เสียคาธรรมเนยี มและภาษอี ากรในอตั ราปกติ หากขอเทจ็ จริงภายหลงั ปรากฏวา การจดทะเบียน
โอนและจํานองน้ัน เปน การปรบั ปรุงโครงสรา งหนี้ตามหลกั เกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนขี้ อง
ธนาคารแหงประเทศไทย และเปน การจดทะเบียนที่อยใู นหลักเกณฑตามขอ ๑.๑, ๑.๒, ๑.๓
หรือ ๑.๔ ประกอบกับผขู อจดทะเบียนมีหลักฐานหนงั สือรบั รองหนี้ฯ หนังสือรับรองการโอน
อสงั หารมิ ทรพั ยข องลกู หนฯ้ี มาแสดงเพอ่ื ขอคนื คา ธรรมเนยี มในสว นทพ่ี นกั งานเจา หนา ทเ่ี รยี กเกบ็
ไวเกินกวา รอยละ ๐.๐๑ หากพนักงานเจา หนา ที่พจิ ารณาแลว เห็นวา กรณที จ่ี ดทะเบยี นไปอยูใน
หลกั เกณฑไ ดร บั ลดหยอนคาธรรมเนยี มและยกเวนภาษีอากร กช็ อบทีจ่ ะดาํ เนนิ การเพ่อื ใหม กี าร
คืนคาธรรมเนียมในสว นที่พนกั งานเจา หนาที่เรียกเก็บไวเกินได โดยการถอนคืนคา ธรรมเนียมที่
ไดมีการนําสงเปนรายไดใหแกองคกรปกครองสวนทองถิ่นแลว ในทางปฏิบัติตองสงเรื่องขอคืน
คาธรรมเนียมนั้นใหองคกรปกครองสวนทองถิ่นเจาของเงินรายไดเพื่อถอนคืนคาธรรมเนียมใหแก
ผูขอจดทะเบียน โดยดําเนินการตามกฎหมายและระเบียบขององคกรปกครองสวนทองถ่ิน
ในสวนที่เกี่ยวของ และเพื่อใหทราบวาเหตุใดจึงมีการคืนคาธรรมเนียม กอนดําเนินการคืน
คา ธรรมเนยี มใหพ นกั งานเจา หนา ทเ่ี พม่ิ เตมิ ชอ่ื ประเภทการจดทะเบยี นในหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ
ทงั้ ฉบบั สํานกั งานที่ดนิ และฉบับเจาของท่ีดิน ตลอดจนเอกสารทีเ่ ก่ียวของใหเปน ไปตามขอ ๑.๑,

๗๑๔

๑.๒, ๑.๓ และ ๑.๔ นอกจากนใ้ี นคําขอจดทะเบยี นฯ หนงั สือสัญญา บนั ทึกขอ ตกลง ตลอดจน
ใบเสร็จรบั เงนิ ใหร ะบขุ อ ความการยกเวน ภาษอี ากรและลดหยอนคาธรรมเนียมตามความในขอ ๓
แลวแตกรณีดวย สําหรับการขอคืนภาษีอากรที่เสียไป ใหพนักงานเจาหนาที่แนะนําผูขอ
จดทะเบยี นนาํ เอกสารหลกั ฐานไปยน่ื ขอคนื ภาษอี ากรทก่ี รมสรรพากรหรอื สรรพากรพน้ื ทท่ี ผ่ี ขู อคนื
มภี มู ลิ าํ เนาอยู หรอื ติดตอสอบถามไปท่ีศูนยขอมลู กรมสรรพากร โทรศัพทห มายเลข ๑๑๖๑

อน่ึง การปฏิบัติตามแนวทางดังกลาวขางตนเปนไปตามหนังสือกรมท่ีดิน
ดว นทสี่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๔๔๘๒ ลงวนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๔

จึงเรยี นมาเพื่อโปรดทราบ และแจง ใหเ จา หนา ท่ที ี่ดนิ ทราบและถอื ปฏิบตั ิตอ ไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชื่อ) บุญเชิด คิดเหน็

(นายบญุ เชดิ คดิ เห็น)
อธบิ ดีกรมท่ีดิน

สาํ นกั มาตรฐานการทะเบียนที่ดนิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๗๑๕

สงิ่ ท่สี งมาดว ย ๑

(สําเนา)

พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
วา ดวยการยกเวนรษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๔๗)

___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___

ภมู ิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เปน ปท่ี ๖๗ ในรชั กาลปจจุบนั

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา

โดยทีเ่ ปนการสมควรยกเวนภาษีเงนิ ได ภาษมี ลู คา เพมิ่ ภาษธี ุรกจิ เฉพาะ และอากร
แสตมป บางกรณี

อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนญู แหงราชอาณาจักรไทย และ
มาตรา ๓ (๑) แหง ประมวลรัษฎากร ซึ่งแกไ ขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพมิ่ เติมประมวล
รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อนั เปน กฎหมายท่มี บี ทบัญญตั ิบางประการเกี่ยวกับการ
จํากดั สทิ ธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่งึ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของ
รัฐธรรมนญู แหง ราชอาณาจกั รไทย บญั ญตั ใิ หก ระทําไดโ ดยอาศัยอํานาจตามบทบญั ญตั แิ หง
กฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎกี าขึน้ ไว ดงั ตอไปน้ี

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรียกวา “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รัษฎากรวาดวยการยกเวน รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษา เปน ตน ไป

มาตรา ๓ พระราชกฤษฎกี านใ้ี หใ ชบ งั คบั กบั หนท้ี ต่ี อ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี
ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนด ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขทีอ่ ธิบดีประกาศกําหนด

มาตรา ๔ ในพระราชกฤษฎกี าน้ี
“สถาบนั การเงิน” หมายความวา
(๑) สถาบนั การเงนิ ของรฐั ทมี่ กี ฎหมายเฉพาะจัดตัง้ ขึ้น
(๒) สถาบันการเงนิ ตามกฎหมายวา ดวยธุรกจิ สถาบนั การเงิน
(๓) บรรษัทบรหิ ารสินทรัพยไทยตามกฎหมายวา ดว ยบรรษทั บริหารสนิ ทรัพยไ ทย
(๔) บรษิ ัทบรหิ ารสินทรัพยต ามกฎหมายวาดวยบริษัทบริหารสนิ ทรพั ย
(๕) นติ ิบุคคลอ่ืนที่อธิบดีประกาศกาํ หนดโดยอนุมตั ริ ฐั มนตรี

๗๑๖

“เจา หนอี้ ่ืน” หมายความวา เจา หนที้ ี่มใิ ชสถาบนั การเงิน ซงึ่ ไดดาํ เนนิ การเจรจา
รว มกบั สถาบันการเงินในการปรบั ปรงุ โครงสรา งหนใี้ หแกลูกหนี้ และไดทําความตกลงเปน หนงั สือ
รวมกบั เจาหนีซ้ ึง่ เปนสถาบันการเงนิ

“ลกู หนขี้ องสถาบนั การเงนิ ” ใหหมายความรวมถงึ ผูค ้ําประกันของลูกหนีด้ ว ย
“ลูกหนี้ของเจา หนอี้ ืน่ ” หมายความวา ลกู หนขี้ องเจาหนีอ้ น่ื ซ่งึ เปนลูกหนข้ี องสถาบนั
การเงนิ ดวยและใหห มายความรวมถงึ ผคู าํ้ ประกนั ของลกู หนี้ดว ย
มาตรา ๕ ใหยกเวนภาษเี งนิ ไดต ามสว น ๒ และสวน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒
แหงประมวลรษั ฎากร ใหแกล กู หน้ีของสถาบันการเงิน สาํ หรบั เงินไดทไี่ ดรับจากการปลดหนข้ี อง
สถาบันการเงินโดยสถาบันการเงินน้ันไดดําเนินการตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของ
สถาบนั การเงนิ ทธี่ นาคารแหงประเทศไทยประกาศกาํ หนด ทง้ั น้ี เฉพาะการปลดหน้ที ่ไี ดกระทําใน
ระหวางวนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถงึ วนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
มาตรา ๖ ใหย กเวน ภาษเี งินไดตามสวน ๒ และสว น ๓ หมวด ๓ ภาษมี ลู คา เพ่ิม
ตามหมวด ๔ ภาษีธรุ กิจเฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมปตามหมวด ๖ ในลกั ษณะ ๒
แหง ประมวลรัษฎากร ใหแกลูกหนี้ของสถาบันการเงินและสถาบนั การเงิน สาํ หรับเงนิ ไดทไ่ี ดร ับ
จากการโอนทรัพยสิน การขายสนิ คา หรอื การใหบ รกิ ารและสําหรบั การกระทาํ ตราสาร อนั เนื่อง
มาจากการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ตาม
หลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนด ท้ังน้ี เฉพาะการโอนทรัพยส นิ การขายสินคาหรือการใหบรกิ าร และสําหรับการกระทาํ
ตราสารทไี่ ดกระทาํ ในระหวา งวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
มาตรา ๗ ใหย กเวนภาษีเงนิ ไดต ามสวน ๒ และสวน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒
แหงประมวลรัษฎากร ใหแกล กู หน้ีของเจา หนอ้ี ืน่ สําหรบั เงินไดทไี่ ดรับจากการปลดหนข้ี อง
เจาหนี้อื่นซ่ึงไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ีโดยนําหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของ
สถาบันการเงินท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกาํ หนดมาใชโดยอนุโลม ท้งั นี้ เฉพาะการ
ปลดหนท้ี ี่ไดกระทําในระหวางวนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงวนั ท่ี ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
มาตรา ๘ ใหย กเวนภาษเี งนิ ไดตามสว น ๒ และสวน ๓ หมวด ๓ ภาษีมลู คาเพม่ิ
ตามหมวด ๔ ภาษธี ุรกจิ เฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมปตามหมวด ๖ ในลักษณะ ๒
แหง ประมวลรัษฎากรใหแ กลกู หนี้ของเจา หนอ้ี ืน่ และเจา หนีอ้ ื่น สําหรบั เงินไดทไี่ ดรบั จากการโอน
ทรพั ยสิน การขายสนิ คาหรือการใหบ รกิ าร และสาํ หรับการกระทําตราสาร อนั เนอ่ื งมาจากการ
ปรับปรุงโครงสรางหน้ีของเจาหนี้อ่ืนที่ไดดําเนินการโดยนําหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ี
ของสถาบนั การเงินทธ่ี นาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนดมาใชโ ดยอนโุ ลม ทัง้ นี้ เฉพาะ
การโอนทรพั ยส นิ การขายสนิ คา หรือการใหบ ริการ และสําหรับการกระทําตราสารทไ่ี ดกระทาํ ใน
ระหวา งวันท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงวนั ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
มาตรา ๙ ใหย กเวน ภาษีเงนิ ไดตามสวน ๒ และสวน ๒ และสว น ๓ หมวด ๓
ภาษธี ุรกิจเฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมปตามหมวด ๖ ในลักษณะ ๒ แหงประมวล

๗๑๗

รษั ฎากร ใหแ กล กู หนข้ี องสถาบนั การเงนิ สาํ หรบั เงนิ ไดท ไ่ี ดร บั จากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยท ล่ี กู หนี้
ของสถาบันการเงินนํามาจํานองเปนประกันหนี้ของสถาบันการเงินใหแกผูอ่ืนซ่ึงมิใชเจาหน้ีที่เปน
สถาบันการเงิน และสําหรับการกระทําตราสารอันเน่ืองจากการโอนอสังหาริมทรัพยดังกลาว
โดยลกู หน้ีของสถาบนั การเงินตอ งนําเงินไดนั้นไปชําระหนแ้ี กเจาหน้ที ่ีเปนสถาบันการเงนิ ซึ่งได
ดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ีตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสภาบันการเงิน
ที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด ทงั้ นี้ เฉพาะสว นที่ไมเ กนิ กวาหน้ที ี่คางชําระอยกู ับ
สถาบันการเงนิ หรอื มีภาระผกู พนั ตามสัญญาประกนั หน้ีกับสถาบันการเงนิ ตามหลกั เกณฑ
วิธีการและเง่ือนไขที่อธิบดีประกาศกําหนดและใหใชบังคับสําหรับการโอนอสังหาริมทรัพยและ
การกระทาํ ตราสารท่ีไดกระทาํ ในระหวา งวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๕๕

มาตรา ๑๐ ใหร ัฐมนตรีวา การกระทรวงการคลงั รักษาการตามพระราชกฤษฎกี านี้
ผรู ับสนองพระบรมราชโองการ

ยงิ่ ลกั ษณ ชินวตั ร
นายกรฐั มนตรี

______________________________________________________________________________
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ ระราชกฤษฎกี าฉบบั น้ี คอื เน่ืองจากประเทศไทย
ประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจอันสงผลกระทบตอความสามารถในการชําระหน้ีของภาคเอกชน
ทําใหสถาบันการเงินและเจาหน้ีอื่นตองปรับปรุงโครงสรางหน้ีเพ่ือใหสอดคลองกับความสามารถ
ในการชําระหน้ขี องลกู หนี้ จึงไดมกี ารตราพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร
วา ดวยการยกเวน รษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๔ กาํ หนดใหส ทิ ธปิ ระโยชนทางภาษีอากรแก
ลูกหนีแ้ ละเจาหน้ีซึ่งเปนสถาบนั การเงินหรอื เจา หนอ้ี น่ื เพอื่ สงเสริมใหมีการปรับปรงุ โครงสรางหน้ี
ซง่ึ มผี ลใชบ ังคับถึงวนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ แตโ ดยท่ีในขณะนี้การปรับปรงุ โครงสรา งหนี้
ของสถาบนั การเงนิ และเจา หนี้อื่นยังดาํ เนนิ การไมเสร็จส้ิน จาํ เปนตองใหสิทธปิ ระโยชนทางภาษี
อากรตอ ไปอกี ระยะหนึ่ง ดังนั้น เพือ่ เปน การสงเสรมิ ใหม กี ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหนี้ของสถาบัน
การเงินและเจาหนี้อื่น และเพ่ือเปนการชวยเหลือและบรรเทาภาระภาษีอากรในการปรับปรุง
โครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินหรือเจาหน้ีอื่น อันจะชวยสนับสนุนการรักษาเสถียรภาพทาง
เศรษฐกิจของประเทศไทยใหเติบโตอยางตอเน่ืองภายใตสภาวการณเศรษฐกิจโลกท่ียังมีความ
ผนั ผวน สมควรกาํ หนดใหสทิ ธปิ ระโยชนท างภาษีอากรแกลูกหนแี้ ละเจาหนซ้ี ง่ึ เปนสถาบันการ
เงินหรอื เจาหนีอ้ ืน่ บางกรณี ทไี่ ดกระทําในระหวา ง วนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถงึ วนั ที่ ๓๑
ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ จงึ จําเปน ตองตราพระราชกฤษฎีกานี้

๗๑๘

ส่งิ ทีส่ งมาดว ย ๒

(สําเนา)

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เรือ่ ง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเง่ือนไข กรณหี น้ที ่ีตอ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ

โครงสรางหนต้ี ามหลักเกณฑก ารปรับปรงุ โครงสรางหนข้ี องสถาบนั การเงนิ
ท่ธี นาคารแ_ห_ง _ป_ร_ะ_เ_ท_ศ__ไท__ย_ป_ร_ะ_กาศกําหนด

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรษั ฎากร วาดว ยการยกเวน รัษฎากร (ฉบับท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ อธบิ ดีกรมสรรพากร
กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงอื่ นไข กรณีหน้ที ่ตี อ งดําเนนิ การปรับปรุงโครงสรา งหน้ีตาม
หลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนด ดังตอไปนี้

ขอ ๑ หน้ีที่ตองดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ตามหลักเกณฑการปรับปรุง
โครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด หมายความวา
หนแี้ ตล ะบญั ชีของลูกหน้ที ถ่ี ูกจดั ชน้ั เปน สินทรพั ยจ ัดชนั้ ต่ํากวา มาตรฐาน สงสัย สงสยั จะสูญ และ
สญู ตามหลกั เกณฑก ารจดั ชน้ั และการกนั เงนิ สาํ รองของสถาบนั การเงนิ ทธ่ี นาคารแหง ประเทศไทย
ประกาศกําหนด และใหรวมถึงหนี้ที่ถูกจัดชั้นเปนสินทรัพยจัดชั้นสงสัยจะสูญที่กันสํารองครบ
รอยละรอย และตัดออกจากบัญชีแลวแตยงั ไมไดบนั ทึกกลับเขา มาในบญั ชี และไดด าํ เนินการ
ปรับปรุงโครงสรางหน้ี ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของสถาบันการเงินที่ธนาคาร
แหงประเทศไทยประกาศกําหนด ทั้งนี้ ไมวาบัญชีลูกหนี้จะไดรับการจัดช้ันดังกลาวกอนป
พ.ศ. ๒๕๕๕ หรือภายในวนั ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

ขอ ๒ กรณตี ามขอ ๑ เจา หน้ที เี่ ปนสถาบันการเงิน เจา หนี้อื่น ลูกหน้ีของสถาบัน
การเงนิ และลูกหนขี้ องเจาหนีอ้ ืน่ จะตอ งรว มกนั จัดทาํ หนังสือรบั รองหน้ีท่ตี อ งดาํ เนินการปรับปรุง
โครงสรางหนี้ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศ
ประกาศกําหนด โดยหนงั สอื รับรองดังกลา วตองมขี อความอยา งนอ ยตามท่แี นบทายประกาศนี้

ลูกหนี้ของสถาบนั การเงนิ และลกู หนี้ของเจาหน้ีอืน่ ตอ งแจง หนังสือรับรอง
ตามวรรคหนงึ่ ดังนี้

(๑) แจง ตอเจา พนักงานทดี่ ินทอ งท่ีทีจ่ ดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม โดยให
สงมอบหนังสือรับรองดังกลาวตอเจาพนักงานที่ดินผูรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะ
จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมาย เวนแตลูกหน้ีของสถาบันการเงินและลูกหน้ีของ
เจาหน้ีอ่ืนประสงคจะชําระภาษีอากรกอนในขณะที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมาย
ก็ไมต อ งแจงและสงมอบหนังสอื รบั รองดงั กลาวตอ เจาพนักงานทด่ี ิน

๗๑๙

(๒) แจง ตอ อธิบดีกรมสรรพากร โดยใหสงมอบหนงั สือรับรองดงั กลาวผา น
สรรพากรพ้ืนท่ีในเขตทองที่ท่ีลูกหน้ีของสถาบันการเงิน และลูกหน้ีของเจาหนี้อ่ืนมีภูมิลําเนา
หรือสถานประกอบการต้ังอยหู รอื ในเขตทอ งทที่ อ่ี สงั หารมิ ทรพั ยท ่ีโอนตั้งอยู

ขอ ๓ ประกาศนใ้ี หใชบ ังคับตั้งแตว นั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตน ไป
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงชือ่ ) สาธิต รงั คสริ ิ
(นายสาธติ รังคสริ )ิ
อธิบดีกรมสรรพากร

๗๒๐

หนงั สอื รบั รองหนท้ี ต่ี อ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหนต้ี ามหลกั เกณฑก ารปรบั ปรงุ
โครงสรา งหนข้ี องสถาบนั การเงนิ ทธ่ี นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ตามพระราชกฤษฎกี าฯ
(ฉบับท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕

วันที.่ .........เดือน..........................พ.ศ. ............
เจา พนักงานที่ดนิ ............................................
เรียน
อธิบดีกรมสรรพากร (ผานสรรพากรพ้ืนที.่ ....................................)

๑. หนังสอื นี้ทําขึ้นโดย
(๑) สถาบนั การเงนิ ..........................................สาํ นักงานตัง้ อยูเลขท.่ี ..............

ตําบล/แขวง.................................อาํ เภอ/เขต................................จงั หวัด................................
ซึ่งตอไปนีเ้ รียกวา “เจาหน้ี”

(๒) ...............................................................สาํ นักงานตง้ั อยูเลขที่................
ตาํ บล/แขวง.................................อําเภอ/เขต................................จังหวัด................................
ซงึ่ ตอไปน้เี รยี กวา “เจาหนอ้ี ื่น”

(๓) ..............................................................เปนลกู หน/้ี ผูค้ําประกันของลูกหนี้
ราย................................................สํานกั งานต้ังอยเู ลขท.ี่ ...............ถนน.................................
ตําบล/แขวง...................................อําเภอ/เขต..............................จังหวัด.............................
ซงึ่ ตอ ไปน้ีเรยี กวา “ลูกหน”้ี

๒. ตามทล่ี กู หนม้ี ภี าระหนก้ี บั เจา หน/้ี เจา หนอ้ี น่ื เนอ่ื งจากมภี าวะวกิ ฤตทิ างเศรษฐกจิ
อนั สง ผลกระทบตอ ความสามารถในการชําระหน้ี ทําใหไ มส ามารถชาํ ระหนใ้ี หแกเ จาหนี/้ เจา หนอี้ ่นื
ตามจาํ นวนเงินและ/หรือตามกําหนดเวลาทไ่ี ดต กลงไวกบั เจา หน้/ี เจา หน้อี นื่ ได จงึ ตองดําเนินการ
ปรับปรุงโครงสรางหนี้ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแหง
ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ท้ังนี้ ตามรายละเอยี ดในสญั ญาปรับปรงุ โครงสรางหนเ้ี ลขท่.ี ...........
.....................................ลงวนั ท.่ี ..............................................

๓. เจา หน้/ี เจาหน้ีอืน่ ขอรับรองวา หนแ้ี ตละบญั ชขี องลกู หนีเ้ ปน หนี้ท่ถี ูกจดั ชัน้ เปน
สนิ ทรพั ยจ ัดช้ันตา่ํ กวามาตรฐาน สงสัย สงสยั จะสูญ และสูญ ตามหลักเกณฑก ารจัดชน้ั และการ
กันเงนิ สํารองของสถาบนั การเงนิ ที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด และใหรวมถึงหน้ที ่ี
ถูกจัดชั้นเปนสินทรัพยจัดชั้นสงสัยจะสูญท่ีกันสํารองครบรอยละรอยและตัดออกจากบัญชีแลว
แตย ังไมไ ดบันทึกกลับเขา มาในบญั ชี และไดด ําเนินการปรบั ปรุงโครงสรา งหน้ตี ามหลักเกณฑก าร
ปรบั ปรงุ โครงสรา งหนี้ของสถาบนั การเงินทธี่ นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกําหนด ทง้ั นี้ ตาม

๗๒๑

รายละเอยี ดประเภทสนิ เชื่อ...........................................เลขท่ีบัญช.ี ..........................................
จาํ นวนเงิน..........................................บาท รวมเปน เงนิ ทัง้ ส้นิ ..........................................บาท

เจา หน้/ี เจาหนีอ้ ่ืน และลูกหน้ี/ผคู าํ้ ประกนั ของลกู หนี้ ขอรบั รองวา รายการใน
หนังสือฉบบั นีเ้ ปน ความจริงทกุ ประการ

จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ลงชอื่ ...................................... เจาหน้ี
( ...................................... )

ในฐานะ........................................
ลงชอ่ื ...................................... เจาหนี้อื่น
( ...................................... )

ในฐานะ........................................
ลงช่อื ...................................... ลกู หนี/้ ผูค้ําประกนั ของลูกหน้ี
( ...................................... )

ในฐานะ........................................

๗๒๒

ส่ิงท่สี ง มาดวย ๓

(สําเนา)

ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เรื่อง กาํ หนดหลักเกณฑ วธิ กี าร และเง่อื นไขการยกเวน ภาษเี งินได ภาษีธรุ กจิ เฉพาะ
และอากรแสตมป สาํ หรับจํานวนเงนิ ท่ีไดรบั จากการโอนอสงั หาริมทรัพยของลูกหน้ี
ของสถาบนั การเงินท่นี าํ มาจํานองเปนประกนั หน้ขี องเจา หนที้ ่เี ปนสถาบนั การเงนิ
ใหแกผอู ื่น ซง่ึ มใิ ชเจาหนี้ท่เี ปนสถาบันการเงิน เพ่ือนาํ ไปชาํ ระหนท้ี ่ีคางชาํ ระแกเ จา หนี้
ท่เี ปน สถาบนั การเงนิ ซ่ึงดาํ เนนิ การปรับปรุงโครงสรางหนีต้ ามหลักเกณฑก ารปรับปรุง
โครงสรางหน้ีของสถาบนั การเงนิ _ท__ีธ่ _น_า_ค_า_ร_แ_ห__ง _ป_ร_ะ_เทศไทยประกาศกาํ หนด

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๙ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรัษฎากรวา ดว ยการยกเวนรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ อธิบดกี รมสรรพากร
กําหนด หลักเกณฑ วธิ กี าร และเง่อื นไขการยกเวนภาษีเงินได ภาษธี ุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป
สําหรับจํานวนเงินที่ไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยของลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่นํามา
จาํ นองเปน ประกนั หนข้ี องเจา หนท้ี เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ ใหแ กผ อู น่ื ซง่ึ มใิ ชเ จา หนท้ี เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ
เพ่ือนําเงินท่ีไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยไปชําระหนี้แกเจาหนี้ท่ีเปนสถาบันการเงิน ซ่ึง
ดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ีตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของสถาบันการเงินท่ี
ธนาคารแหง ประเทศไทยประกาศกําหนด ดงั ตอ ไปน้ี

ขอ ๑ จํานวนเงนิ ไดท ีไ่ ดรบั ยกเวนภาษีเงนิ ได ภาษีธุรกจิ เฉพาะ และอากรแสตมป
สําหรับเงินไดที่ลูกหน้ีของสถาบันการเงินไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยที่นํามาจํานองเปน
ประกันหน้ีของเจาหน้ีท่ีเปนสถาบันการเงินใหแกผูอ่ืนซ่ึงมิใชเจาหน้ีท่ีเปนสถาบันการเงิน และ
สาํ หรบั การกระทาํ ตราสารอันเนอ่ื งมาจากการโอนอสงั หาริมทรัพยดงั กลาว ไดแก จํานวนเงนิ
เฉพาะสว นท่ไี มเ กนิ กวา หนี้ทคี่ างชาํ ระอยูกบั เจา หนี้ที่เปนสถาบนั การเงิน หรือมีภาระผูกพันตาม
สญั ญาประกนั หนก้ี บั เจา หนท้ี เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ และตอ งเปน จาํ นวนเงนิ ทน่ี าํ ไปชาํ ระหนแ้ี กเ จา หน้ี
สถาบนั การเงนิ ซง่ึ ไดด าํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหนต้ี ามหลกั เกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี
ของสถาบนั การเงนิ ที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกาํ หนด

การยกเวนภาษีอากรตามวรรคหนึ่ง ลกู หน้ขี องสถาบนั การเงิน เจาหน้ที ่ีเปนสถาบนั
การเงนิ และผรู ับโอนอสังหาริมทรัพย จะตองรวมกันจดั ทาํ หนังสือรับรองการโอนอสงั หาริมทรพั ย
ของลกู หนีข้ องสถาบนั การเงินใหแกผ อู นื่ ซ่ึงมใิ ชเ จาหนท้ี ่เี ปนสถาบนั การเงิน เพือ่ นําเงินที่ไดร บั จาก
การโอนอสงั หาริมทรัพยไ ปชาํ ระหน้ีใหแกเจา หนี้ท่เี ปน สถาบนั การเงิน โดยหนงั สือรบั รองดังกลาว
ตองมีขอ ความอยางนอ ยตามท่แี นบทา ยประกาศน้ี

๗๒๓

ลกู หน้ีของสถาบันการเงนิ ตอ งแจงหนังสอื รบั รองตามวรรคสอง ดังนี้
(๑) แจง ตอเจา พนักงานทดี่ นิ ทอ งทีท่ ่จี ดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม โดยใหสงมอบ
หนังสือรับรองดังกลาวตอเจาพนักงานท่ีดินผูรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรม เวนแตลูกหนี้ของสถาบันการเงินประสงคจะชําระภาษีอากรกอนในขณะที่
จดทะเบียนสทิ ธิและนิตกิ รรมตามกฎหมาย ก็ไมตอ งแจง และสงมอบหนงั สือรบั รองดังกลาวตอ
เจา พนักงานทด่ี ิน
(๒) แจง ตออธบิ ดกี รมสรรพากร โดยใหส งมอบหนงั สือรับรองดังกลาวผา นสรรพากร
พื้นท่ีในเขตทองที่ทล่ี ูกหนีข้ องสถาบนั การเงินมภี มู ลิ ําเนาหรอื สถานประกอบการตงั้ อยู หรอื ในเขต
ทองท่ที อี่ สังหารมิ ทรพั ยท โี่ อนต้งั อยู
ขอ ๒ ประกาศน้ีใหใ ชบงั คับต้งั แตวนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตนไป

ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงชื่อ) สาธติ รงั คสิริ
(นายสาธติ รงั คสริ ิ)
อธบิ ดกี รมสรรพากร

๗๒๔

หนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพยของลูกหนี้ของสถาบันการเงินใหแกผูอ่ืนซึ่ง
มิใชเจาหนี้ท่เี ปน สถาบนั การเงิน เพอ่ื นาํ เงินทไี่ ดจ ากการโอนอสังหาริมทรัพยไ ปชําระหน้ีแกเ จา หนี้
ทเ่ี ปน สถาบนั การเงนิ เพอ่ื ขอรบั สทิ ธปิ ระโยชนท างภาษอี ากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ท่ี ๕๔๗)
พ.ศ. ๒๕๕๕

วนั ท่.ี .........เดือน..........................พ.ศ. ............
เจาพนักงานที่ดิน............................................
เรยี น
อธิบดกี รมสรรพากร (ผา นสรรพากรพืน้ ท่.ี ....................................)

๑. หนงั สือนท้ี ําข้นึ โดย
(๑) ....................................ผโู อนอสงั หาริมทรพั ยซงึ่ เปนลูกหนี้/ผูค าํ้ ประกนั ของ

ลูกหน้ี ราย...................................................สํานกั งาน(ของผูโอน) ต้ังอยเู ลขที.่ .........................
ถนน..................................ตาํ บล/แขวง...................................อาํ เภอ/เขต...............................
จงั หวดั ................................

(๒) สถาบันการเงิน..........................................สาํ นักงานตัง้ อยูเ ลขที่...............
ถนน......................ตําบล/แขวง....................อาํ เภอ/เขต.......................จังหวัด.........................
ซึง่ ตอ ไปนี้เรยี กวา “เจา หนี”้

(๓) ผูรบั โอนอสังหารมิ ทรัพย. ...........................สาํ นกั งานตงั้ อยูเ ลขที่................
ถนน......................ตําบล/แขวง....................อาํ เภอ/เขต.......................จงั หวดั .........................
ซงึ่ ตอ ไปนเี้ รยี กวา “ผูซ้ือ”

๒. ตามทล่ี กู หนม้ี ภี าระหนก้ี บั เจา หน้ี เนอ่ื งจากมภี าวะวกิ ฤตทิ างเศรษฐกจิ อันสง ผล
กระทบตอความสามารถในการชําระหนี้ ทําใหล กู หนี้ไมส ามารถชาํ ระหนใี้ หแกเจาหนีต้ ามจาํ นวน
เงินและ/หรือตามกําหนดเวลาท่ีตกลงไวกับเจาหนี้ได ลูกหนี้และหรือผูคํ้าประกันและเจาหนี้
จึงไดตกลงปรับปรุงโครงสรางหนี้ึตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่
ธนาคารแหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ทง้ั นี้ ตามรายละเอียดในสญั ญาปรับปรงุ โครงสรางหนี้
เลขท่.ี ................................................ลงวันที.่ ..............................................

๓. ลูกหน้/ี ผูคํ้าประกนั ของลกู หน้ี จึงไดโ อนอสังหารมิ ทรพั ย โฉนด น.ส.๓ น.ส.๓ ก.
อนื่ ๆ เลขท.่ี .........หมูท่ี..........ตําบล/แขวง...................อําเภอ/เขต...................จังหวดั ...............
ซ่ึงเปนอสังหาริมทรพั ยท ี่ลูกหน้/ี ผคู า้ํ ประกันของลกู หน้ี ไดนาํ มาจดทะเบียนจํานองเปน ประกนั หนี้
ของเจา หนี้ ทง้ั นี้ ตามหนังสือสญั ญาซอ้ื ขาย ลงวันท.่ี ...........เดอื น........................พ.ศ. .............
ซ่งึ ลกู หนี/้ ผคู าํ้ ประกันของลูกหน้ี และผซู อ้ื ตกลงซ้ือขายกนั ในราคา.......................................บาท
ราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยในการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรมเปน จํานวนเงนิ ...........................บาท

๗๒๕

๔. ลูกหนม้ี หี นี้คงคางชาํ ระอยูกบั เจาหนี้ ณ วนั ทีท่ าํ สญั ญาปรบั ปรงุ โครงสรางหนี้กับ
เจาหน้ีตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศไทย
ประกาศกําหนดจํานวน..................................บาท และในขณะทีท่ าํ สญั ญาโอนอสังหารมิ ทรัพย
ตามหนังสอื รบั รองฉบบั นี้ลกู หน้ีมีหน้ีคงคา งชาํ ระอยกู บั เจา หน้จี าํ นวน...............................บาท

๕. ลูกหนี/้ ผูค้าํ ประกันของลูกหน้ี เจา หน้ี และผซู ้ือตกลงและรบั ทราบวา ลูกหนตี้ อง
นําเงินจาํ นวน...................................บาท ท่ไี ดจากการโอนอสงั หารมิ ทรัพยต าม ๓. มาชําระหน้ี
ใหแ กเ จา หน้ีซง่ึ เปน จํานวนเงินทไ่ี ดร ับยกเวน ภาษอี ากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๘)
พ.ศ. ๒๕๕๕

ลูกหนี/้ ผคู าํ้ ประกนั ของลูกหนี้ เจา หนี้ และผซู ้อื ขอรับรองวา รายการในหนงั สอื
รับรองฉบับนีเ้ ปน ความจริงทุกประการ

จงึ เรยี นมาเพือ่ โปรดทราบ

ลงชือ่ ...................................... ลูกหน้ี/ผูค้าํ ประกนั ของลูกหนี้
( ...................................... )

ในฐานะ........................................

ลงช่ือ ...................................... เจาหน้ี
( ...................................... )

ในฐานะ........................................

ลงชอื่ ...................................... ผูซ ้อื
( ...................................... )

ในฐานะ........................................

๗๒๖

ดว นทส่ี ุด (สําเนา)
ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๓๒๗๘
กรมทดี่ นิ
ศูนยร าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทุงสองหอง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๕

เรอ่ื ง การลดหยอ นคา ธรรมเนียมและยกเวน ภาษีอากรกรณีปรบั ปรุงโครงสรา งหนข้ี องลูกหนี้
ท่ไี ดร บั ความเสียหายโดยทางตรงหรอื ทางออ มจากอุทกภัย

เรียน ผูว า ราชการจังหวัดทุกจงั หวัด

อางถึง หนังสือกรมทด่ี นิ ดวนทสี่ ุด ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๘๖๙๔ ลงวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๕

สง่ิ ทสี่ ง มาดว ย ๑. สําเนาพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วา ดวยการยกเวน
รัษฎากร (ฉบับท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕

๒. สาํ เนาประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร เรื่อง กาํ หนดหลกั เกณฑ วธิ กี าร และ
เงื่อนไข กรณีหนท้ี ่ีตอ งดาํ เนินการปรับปรงุ โครงสรางหนลี้ ูกหนท้ี ปี่ ระสบอุทกภยั
ตามหลักเกณฑ การปรบั ปรุงโครงสรา งหน้ีลูกหน้ีทป่ี ระสบอุทกภยั ทีธ่ นาคาร
แหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนดประกาศ ณ วันท่ี ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕

๓. สําเนาประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เรอ่ื ง กําหนดหลักเกณฑ วธิ กี าร และ
เงื่อนไข การยกเวน ภาษีเงนิ ได ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป สาํ หรบั
จํานวนเงนิ ท่ไี ดรบั จากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยท ่ลี ูกหนท้ี ีป่ ระสบอุทกภัยของ
สถาบันการเงินนาํ มาจํานอง เปนประกันหนีข้ องสถาบนั การเงนิ ใหแ กผอู นื่
ซึง่ มใิ ชเ จา หน้ีทเี่ ปนสถาบันการเงิน ซ่งึ ไดดาํ เนนิ การดาํ เนินการปรบั ปรุง
โครงสรา งหนต้ี ามหลักเกณฑการปรับปรงุ โครงสรางหนี้ลกู หนีท้ ปี่ ระสบอทุ กภัย
ทีธ่ นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๕๕๕

ตามหนงั สอื ทอี่ า งถึง กรมที่ดินไดแ จงมตคิ ณะรฐั มนตรที ่ีเหน็ ชอบมาตรการทาง
ภาษีอากร และคาธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของลูกหน้ีท่ีไดรับความ
เสยี หายโดยทางตรง หรือทางออมจากอุทกภัย โดยกระทรวงมหาดไทยไดออกประกาศหลกั เกณฑ
การลดหยอนคาธรรมเนียมการโอนและการจํานองอสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายที่ดิน

๗๒๗

และหองชุดตามกฎหมายวา ดว ยอาคารชดุ ในกรณกี ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ขี องลกู หนี้ท่ีประสบ
อทุ กภยั ตามหลกั เกณฑท ค่ี ณะรฐั มนตรกี าํ หนด เมือ่ วนั ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕ มผี ลใชบ ังคับ
ต้ังแตว นั ที่ ๒๘ กนั ยายน ๒๕๕๕ จนถงึ วันที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๕๘ แตเน่ืองจากพระราช
กฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร เก่ยี วกบั การปรับปรงุ
โครงสรางหนี้ของลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินและเจาหนี้อ่ืนและประกาศอธิบดี
กรมสรรพากรท่ีกําหนดแบบเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการขอรับสิทธิประโยชนทางภาษีอากร
อยูระหวางดาํ เนนิ การ ยังไมใชบ งั คบั พนกั งานเจาหนาที่จึงตอ งเรยี กเก็บคาธรรมเนยี มและภาษี
อากรในอตั ราปกตไิ ปกอ น และเมือ่ พระราชกฤษฎีกาและประกาศอธิบดีกรมสรรพากรดังกลา ว
มผี ลใชบังคบั แลว กรมท่ดี นิ จะไดแจง แนวทางปฏบิ ตั ิ ในการลดหยอนคาธรรมเนียมและยกเวน
ภาษีอากร รวมถึงทางปฏบิ ตั ใิ นการคนื เงินคาธรรมเนียมกรณีปรับปรุงโครงสรา งหนข้ี องลูกหน้ีที่
ประสบอทุ กภัย มาเพือ่ ทราบและถือปฏิบตั ิ นั้น

บัดน้ี ไดมีพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรษั ฎากร วาดว ยการ
ยกเวน รัษฎากร (ฉบบั ที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ ซ่ึงตามมาตรา ๖ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ กาํ หนดให
ยกเวน ภาษีเงนิ ได ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป ใหแ กล ูกหน้ีท่ีประสบอทุ กภยั ของสถาบนั
การเงินและสถาบนั การเงินลูกหน้ีทีป่ ระสบอุทกภัยของเจาหนอี้ ื่นและเจาหน้ีอื่น สําหรบั เงนิ ไดท่ี
ไดร ับจากการโอนอสังหารมิ ทรพั ย (รวมถงึ หองชดุ ) อนั เน่ืองมาจากการปรับปรุงโครงสรา งหนข้ี อง
สถาบันการเงินท่ีไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ีตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้
ลูกหนีท้ ่ปี ระสบอุทกภยั ท่ีธนาคารแหง ประเทศไทยประกาศกําหนด และไดท าํ สัญญาปรับปรงุ
โครงสรางหน้ีต้งั แตวันท่ี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ทงั้ นี้ เฉพาะ
การโอนอสังหาริมทรัพยตามสัญญาปรับปรุงโครงสรางหน้ีน้ันท่ีไดกระทําในระหวางวันท่ี ๒๕
กรกฎาคม ๒๕๕๔ ถึงวนั ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ โดยหลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงื่อนไขการยกเวน
ภาษอี ากรเปน ไปตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากรท่ีสงมาดว ย ๒. และ ๓. กรมท่ีดนิ จึงแจง
แนวทางปฏิบตั เิ กีย่ วกับการลดหยอ นคาธรรมเนียมตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ และการ
ยกเวน ภาษอี ากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบับท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ มาเพ่ือทราบและถอื ปฏิบตั ิ
ดังน้ี

๑. การจดทะเบียนท่ีอยูในขายไดรับลดหยอนคาธรรมเนียมและยกเวนภาษี
อากรการโอน และลดหยอ นคา ธรรมเนียมการจาํ นอง ไดแก

๑.๑ ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินโอนอสังหาริมทรัพยหรือ
หอ งชุด เพื่อชาํ ระหนใ้ี หแกเจา หน้สี ถาบันการเงนิ หรอื ลกู หนีท้ ปี่ ระสบอุทกภัยของเจาหนอ้ี น่ื โอน
อสังหารมิ ทรัพยหรือหอ งชุด เพ่ือชําระหนี้ใหแ กเจา หนี้อ่นื หรอื ผจู าํ นองโอนอสงั หารมิ ทรพั ยหรือ
หองชุดใหแกเ จาหน้สี ถาบนั การเงินหรือเจาหน้อี ื่นซึง่ เปน ผรู ับจํานองเพ่ือชําระหน้จี ํานอง ใหจด
ทะเบียนในประเภท “โอนชําระหน”ี้ หรอื “โอนชาํ ระหน้จี ํานอง” แลวแตกรณี และวงเล็บตอ ทาย

๗๒๘

ชอ่ื ประเภทวา “(รับโอนจากลูกหน้ีทปี่ ระสบอุทกภัย)” หรือ “(รบั โอนจากผูจํานองประกนั หน้ขี อง
ลูกหนีท้ ี่ประสบอุทกภยั )

๑.๒ สถาบันการเงินหรือเจาหน้ีอื่นโอนอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดท่ี
รบั โอนมาตาม ๑.๑ ใหแกล ูกหน้ีที่ประสบอุทกภยั (หรือผจู าํ นองหรอื ผคู ํ้าประกันหนข้ี องลูกหน้ี
ท่ปี ระสบอุทกภยั ) หากขอ เทจ็ จรงิ เปน การขายคนื ใหกบั ผทู ่ีโอนมากใ็ หจดทะเบยี นประเภท “ขาย”
และวงเลบ็ ตอ ทายชอื่ ประเภทวา “โอนคนื แกล ูกหนี้ทีป่ ระสบอทุ กภัย” หรือ “โอนคืนแกผ ูจํานอง
ประกันหนี้ของลกู หน้ที ปี่ ระสบอทุ กภัย” แตห ากรับโอนจากผจู ํานองประกันหนี้ของลกู หนที้ ่ปี ระสบ
อทุ กภัยแลว ขายใหแกล กู หน้ีทปี่ ระสบอุทกภัย หรือรับโอนจากลูกหนที้ ีป่ ระสบอทุ กภัยแลว ขายให
แกผ จู าํ นองประกนั หน้ีของลกู หนีท้ ป่ี ระสบอุทกภยั ใหจ ดทะเบยี นประเภท “ขาย” และวงเลบ็
ตอทา ยชอ่ื ประเภทวา “โอนใหแ กลกู หนที้ ปี่ ระสบอทุ กภัย” หรอื “โอนใหแ กผูจาํ นองประกันหน้ขี อง
ลูกหนท้ี ่ีประสบอทุ กภยั ”

๑.๓ ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินโอนอสังหาริมทรัพยหรือ
หองชุดที่จดทะเบียนจํานองเปนประกันหนี้ไวกับสถาบันการเงินใหแกผูอื่นซึ่งมิใชเจาหนี้ท่ีเปน
สถาบันการเงนิ เพ่อื นาํ เงินทไ่ี ดจ ากการโอนอสงั หาริมทรัพยหรือหอ งชุดน้ันไปชาํ ระหน้แี กเจาหนี้
ที่เปนสถาบนั การเงนิ ใหจดทะเบยี นประเภท “ขาย” และวงเล็บตอทา ยชื่อประเภทวา “โอนให
ผูอ ื่นเพอ่ื ชาํ ระหนสี้ ถาบันการเงินกรณลี ูกหน้ที ี่ประสบอทุ กภยั ”

การจดทะเบียนโอนตาม ๑.๑ และ ๑.๒ ไดร ับลดหยอนคา ธรรมเนยี มและ
ยกเวน ภาษีอากรทัง้ จาํ นวน สว นการจดทะเบียนโอนตาม ๑.๓ ไดรบั ลดหยอนคา ธรรมเนียม
สําหรับจํานวนเงนิ ทนี่ ําไปชาํ ระหนีใ้ หแ กเจาหน้ีที่เปนสถาบนั การเงิน และเรยี กเกบ็ ในอัตราปกติ
สําหรบั ราคาประเมินทุนทรัพยสวนที่เกนิ จาํ นวนเงนิ ท่ีนาํ ไปชําระหนี้ดงั กลา ว ในสวนของการ
ยกเวนภาษีอากร ยกเวนใหเฉพาะสว นทีไ่ มเ กนิ กวาหนท้ี คี่ างชําระอยกู ับสถาบันการเงนิ หรอื มี
ภาระผกู พนั ตามสัญญาประกันหนี้กับสถาบันการเงนิ ตามความทป่ี รากฏในแบบหนงั สือรับรอง
การโอนอสังหารมิ ทรพั ยของลกู หน้ฯี ทา ยประกาศอธิบดีกรมสรรพากรท่ีสงมาดวย ๓.

๑.๔ การจดทะเบียนจํานองอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดระหวางลูกหน้ีท่ี
ประสบอทุ กภัยของสถาบนั การเงินกับเจาหนีท้ เ่ี ปน สถาบันการเงนิ หรือระหวางลูกหน้ที ี่ประสบ
อทุ กภัยของเจา หนี้อน่ื กับเจาหน้อี ่ืนตามนัยขอ ๒ (๓) ของประกาศกระทรวงมหาดไทยทสี่ ง มาตาม
หนังสือที่อา งถึง หมายความรวมถึงการจดทะเบียนขน้ึ เงินจากจํานองดวย โดยในการจดทะเบยี น
ใหใ ชช่อื ประเภทการจดทะเบียนวา “จาํ นอง” หรอื “ขึ้นเงินจากจาํ นอง” แลวแตก รณี โดย
วงเล็บตอ ทา ยช่อื ประเภทวา “(เรยี กจํานองอสังหารมิ ทรพั ย (หรอื หอ งชุด) เพ่ิมจากลูกหน้ีทปี่ ระสบ
อทุ กภัย)” และไดร ับลดหยอนคาธรรมเนยี มจากจํานวนเงนิ จาํ นองทัง้ จํานวน

๒. การจดทะเบียนโอนและจํานองอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดท่ีจะไดรับ
ลดหยอนคาธรรมเนียมและยกเวนภาษีอากรกรณีปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัย

๗๒๙

นอกจากเอกสารหลกั ฐานทีผ่ ขู อจดทะเบยี นตองนาํ มาแสดงตามปกติแลว ผูขอจดทะเบียนตอ ง
สงมอบหนังสือรับรองหนี้ท่ีตองดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยของ
สถาบันการเงินทธี่ นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนดตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับท่ี ๕๔๘)
พ.ศ. ๒๕๕๕ ซง่ึ ตองมีขอความอยางนอ ยตามแบบท่ีแนบทายประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากรทสี่ ง
มาดวย ๒. และถาเปน การโอนตาม ๑.๓ นอกจากหนงั สือรับรองหน้ีฯ ทต่ี อ งสง มอบใหแ ลว ผขู อ
จดทะเบียนยังตองสงมอบหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพยของลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัย
ของสถาบันการเงินใหแกผูอื่นซึ่งมิใชเจาหน้ีท่ีเปนสถาบันการเงิน เพื่อนําเงินที่ไดจากการโอน
อสังหาริมทรัพยไปชําระหน้ีแกเจาหนี้ท่ีเปนสถาบันการเงิน เพื่อขอรับสิทธิประโยชนทางภาษี
อากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ ซง่ึ ตอ งมีขอความอยางนอยตามแบบ
ที่แนบทา ยประกาศอธิบดกี รมสรรพากรทสี่ งมาดว ย ๓. ใหแกเจา พนักงานทด่ี นิ ขณะจดทะเบยี น
ดวย

๓. เพ่ือใหทราบวาการจดทะเบียนโอนและจํานองขางตนไดรับลดหยอน
คาธรรมเนียมและยกเวนภาษีอากรเพราะเหตุใด ในการจดทะเบียนจึงใหพนักงานเจาหนาท่ี
ระบขุ อ ความลงในคําขอจดทะเบยี นฯ หนังสอื สัญญา บนั ทึกขอตกลง ตลอดจนใบเสรจ็ รบั เงนิ
ดวยขอความวา “ยกเวน ภาษอี ากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ และ
ลดหยอนคาธรรมเนยี มตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันท่ี ๒๐ กนั ยายน ๒๕๕๕ กรณี
ปรับปรุงโครงสรางหนี้ของลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัย” สวนในการจดทะเบียนจํานองใหระบุ
ในเอกสารดงั กลาววา “ลดหยอ นคา ธรรมเนยี มตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันท่ี ๒๐
กนั ยายน ๒๕๕๕ กรณีปรับปรุงโครงสรา งหนข้ี องลูกหน้ีท่ีประสบอทุ กภัย”

๔. กรณีผขู อจดทะเบียนขอคนื คาธรรมเนยี มและภาษีอากรทเ่ี สยี ไป เนอ่ื งจาก
ขณะจดทะเบียนยงั ไมม ีการบังคับใชพ ระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบับที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ หรือบงั คับ
ใชพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกลา วแลว แตผขู อจดทะเบยี นมิไดแ จง ตอพนกั งานเจาหนา ท่ีวาเปนการ
ขอจดทะเบยี นอันเนอื่ งมาจากการปรับปรงุ โครงสรา งหนขี้ องลูกหนี้ท่ปี ระสบอุทกภัย หรือผูขอมไิ ด
สง มอบหนงั สอื รบั รองหนฯ้ี และหนงั สอื รบั รองการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยข องลกู หนท้ี ป่ี ระสบอทุ กภยั ฯ
ซ่งึ ออกตามความในพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ ใหแ กพ นักงานเจาหนาที่
ขณะจดทะเบียนเปนเหตุใหผขู อจดทะเบยี นเสียคา ธรรมเนยี มและภาษอี ากรในอตั ราปกติ หาก
ขอเท็จจริงภายหลงั ปรากฏวาการจดทะเบียนโอนและจํานองนน้ั เปนการปรบั ปรุงโครงสรา งหนี้
ตามหลักเกณฑการปรบั ปรงุ โครงสรางหนขี้ องธนาคารแหง ประเทศไทย และเปนการจดทะเบยี น
ท่ีอยใู นหลกั เกณฑตามขอ ๑.๑, ๑.๒, ๑.๓ หรือ ๑.๔ ประกอบกับผขู อจดทะเบียนมหี ลกั ฐาน
หนงั สอื รับรองหนี้ฯ หนงั สือรับรองการโอนอสงั หารมิ ทรัพยข องลกู หนีท้ ป่ี ระสบอุทกภัยฯ มาแสดง
เพื่อขอคืนคาธรรมเนียมในสวนท่ีพนักงานเจาหนาที่เรียกเก็บไวเกินกวารอยละ ๐.๐๑ หาก
พนักงานเจาหนาท่ีพิจารณาแลวเห็นวา กรณีท่ีจดทะเบียนไปอยูในหลักเกณฑไดรับลดหยอน

๗๓๐

คาธรรมเนียมและยกเวนภาษีอากร ก็ชอบท่ีจะดําเนินการเพ่ือใหมีการคืนคาธรรมเนียมในสวน
ทีพ่ นกั งานเจา หนาทเ่ี รยี กเก็บไวเกินได โดยการถอนคนื คา ธรรมเนยี มที่ไดม กี ารนาํ สงเปนรายได
ใหแกอ งคก รปกครองสวนทองถน่ิ แลว ในทางปฏิบัตติ องสง เร่อื งขอคืนคาธรรมเนยี มนน้ั ใหองคกร
ปกครองสวนทอ งถน่ิ เจา ของเงนิ รายไดเพื่อถอนคนื คาธรรมเนยี มใหแกผ ขู อจดทะเบยี น โดยดําเนนิ
การตามกฎหมายและระเบียบขององคกรปกครองสวนทองถิ่นในสวนที่เกี่ยวของ และเพื่อให
ทราบวาเหตุใดจึงมีการคืนคาธรรมเนียมกอนดําเนินการคืนคาธรรมเนียมใหพนักงานเจาหนาที่
เพิ่มเติมช่ือประเภทการจดทะเบียนในหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินทั้งฉบับสํานักงานท่ีดินและฉบับ
เจาของท่ดี ิน ตลอดจนเอกสารที่เกยี่ วขอ งใหเปน ไป ตามขอ ๑.๑, ๑.๒, ๑.๓ และ ๑.๔
นอกจากนี้ในคําขอจดทะเบยี นฯ หนงั สือสัญญา บนั ทกึ ขอ ตกลง ตลอดจนใบเสร็จรับเงนิ ใหร ะบุ
ขอ ความการยกเวนภาษีอากรและลดหยอ นคา ธรรมเนยี มตามความในขอ ๓ แลว แตกรณีดว ย
สําหรับการขอคืนภาษีอากรท่ีเสียไป ใหพนักงานเจาหนาท่ีแนะนําผูขอจดทะเบียนนําเอกสาร
หลกั ฐานไปยื่นขอคืน ภาษีอากรที่กรมสรรพากรหรือสรรพากรพน้ื ทที่ ผี่ ขู อคืนมีภมู ลิ ําเนาอยู หรอื
ตดิ ตอสอบถามไปทีศ่ ูนยขอมลู กรมสรรพากร โทรศัพทห มายเลข ๑๑๖๑

อนึง่ การปฏบิ ตั ติ ามแนวทางดังกลา วขา งตน เปน ไปตามหนงั สือกรมท่ีดิน ดวน
ทสี่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๓๒๗๐๖ ลงวนั ที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดทราบ และแจงใหเ จาหนาทที่ ่ดี ินทราบและถอื ปฏบิ ัติตอไป

ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงชื่อ) บญุ เชิด คิดเหน็
(นายบญุ เชดิ คิดเห็น)
อธิบดกี รมทด่ี ิน

สํานักมาตรฐานการทะเบยี นท่ดี ิน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๗๓๑

สิ่งทส่ี งมาดว ย ๑

(สาํ เนา)

พระราชกฤษฎกี า
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
วาดวยการยกเวนรัษฎากร (ฉบบั ที่ ๕๔๘)

___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___

ภมู ิพลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วนั ท่ี ๑๙ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๕

เปน ปท ี่ ๖๗ ในรัชกาลปจ จบุ นั

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา

โดยท่ีเปนการสมควรยกเวนภาษีเงินได ภาษมี ลู คา เพิม่ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และอากร
แสตมป บางกรณี

อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรฐั ธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย และ
มาตรา ๓ (๑) แหง ประมวลรัษฎากร ซึ่งแกไ ขเพิม่ เติมโดยพระราชบัญญตั ิแกไขเพม่ิ เตมิ ประมวล
รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อนั เปน กฎหมายทมี่ ีบทบัญญตั บิ างประการเกย่ี วกับการ
จาํ กัดสิทธิและเสรภี าพของบุคคล ซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของ
รัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจักรไทย บญั ญตั ใิ หก ระทําไดโดยอาศยั อํานาจตามบทบญั ญตั แิ หง
กฎหมาย จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลาฯ ใหตราพระราชกฤษฎกี าขนึ้ ไว ดงั ตอ ไปนี้

มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานเ้ี รยี กวา “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รัษฎากรวา ดว ยการยกเวนรษั ฎากร (ฉบับท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕”

มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษา เปน ตนไป

มาตรา ๓ พระราชกฤษฎกี านใ้ี หใ ชบ งั คบั กบั หนท้ี ต่ี อ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี
ลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยที่
ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด ทง้ั น้ี ตามหลกั เกณฑ วธิ ีการ และเงือ่ นไขท่ีอธบิ ดี
ประกาศกาํ หนด

มาตรา ๔ ในพระราชกฤษฎีกานี้
“สถาบนั การเงนิ ” หมายความวา
(๑) สถาบันการเงินของรฐั ที่มีกฎหมายเฉพาะจัดต้ังขึ้น
(๒) สถาบนั การเงนิ ตามกฎหมายวาดวยธุรกิจสถาบนั การเงิน
(๓) บรรษัทบริหารสนิ ทรัพยไ ทยตามกฎหมายวาดวยบรรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ยไทย

๗๓๒

(๔) บรษิ ัทบรหิ ารสนิ ทรพั ยตามกฎหมายวาดว ยบริษัทบรหิ ารสินทรพั ย
(๕) บริษัทท่ีประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใชสถาบันการเงินตามกฎหมายวาดวย
ธุรกจิ สถาบนั การเงิน
(๖) บริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อสวนบุคคลภายใตการกํากับที่มิใชสถาบันการเงิน
ตามกฎหมายวาดว ยธุรกิจสถาบนั การเงิน
(๗) นติ บิ ุคคลอนื่ ทอี่ ธบิ ดปี ระกาศกําหนดโดยอนุมตั ริ ัฐมนตรี
“เจาหน้ีอ่นื ” หมายความวา เจา หน้ที ม่ี ใิ ชส ถาบนั การเงิน ซ่ึงไดด ําเนินการเจรจา
รวมกบั สถาบนั การเงนิ ในการปรบั ปรุงโครงสรางหน้ใี หแกล ูกหนที้ ปี่ ระสบอุทกภยั และไดท าํ ความ
ตกลงเปนหนังสอื รวมกับเจา หนี้ซึง่ เปนสถาบนั การเงนิ
“ลูกหน้ีทป่ี ระสบอทุ กภยั ” หมายความวา ลูกหนีท้ ีไ่ ดรบั ความเสียหายจากอุทกภยั
ซ่ึงเปนไปตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศ
ไทยประกาศกําหนด
“ลกู หนีท้ ปี่ ระสบอทุ กภยั ของสถาบันการเงนิ ” ใหห มายความรวมถึงผคู ํ้าประกนั ของ
ลกู หนีท้ ่ปี ระสบอทุ กภัยดว ย
“ลกู หน้ีท่ีประสบอุทกภยั ของเจา หน้อี ืน่ ” หมายความวา ลกู หนีท้ ี่ประสบอทุ กภัยของ
เจา หนี้อน่ื ซึง่ เปนลกู หนีท้ ี่ประสบอทุ กภยั ของสถาบนั การเงินดว ย และใหหมายความรวมถงึ ผคู าํ้
ประกนั ของลูกหนท้ี ปี่ ระสบอุทกภัยของเจา หนอ้ี ่นื ดวย
มาตรา ๕ ใหย กเวนภาษีเงินไดต ามสวน ๒ และสว น ๓ หมวด ๓ ในลกั ษณะ ๒
แหงประมวลรษั ฎากร ใหแกล กู หน้ีทปี่ ระสบอทุ กภยั ของสถาบนั การเงิน สําหรบั เงินไดท่ีไดรบั จาก
การปลดหนข้ี องสถาบันการเงนิ โดยสถาบันการเงนิ น้นั ไดดําเนินการตามหลกั เกณฑการปรบั ปรุง
โครงสรางหน้ีลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด และไดทํา
สญั ญาปรบั ปรงุ โครงสรา งหนตี้ ้ังแตว ันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถงึ วนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ.
๒๕๕๕ ทั้งน้ี เฉพาะการปลดหนีต้ ามสัญญาปรับปรงุ โครงสรา งหนน้ี ั้น ท่ไี ดกระทาํ ในระหวา งวันท่ี
๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวนั ท่ี ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
มาตรา ๖ ใหยกเวน ภาษีเงินไดต ามสวน ๒ และสว น ๓ หมวด ๓ ภาษมี ลู คาเพ่ิม
ตามหมวด ๔ ภาษีธุรกจิ เฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมปตามหมวด ๖ ในลกั ษณะ ๒ แหง
ประมวลรัษฎากร ใหแกลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภยั ของสถาบันการเงนิ และสถาบันการเงิน สําหรับเงนิ
ไดทไ่ี ดร ับจากการโอนทรพั ยส นิ การขายสนิ คา หรอื การใหบริการ และสาํ หรบั การกระทําตราสาร
อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ไดดําเนินการปรับปรุงโครงสราง
หนี้ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยท่ีธนาคารแหงประเทศไทย
ประกาศกาํ หนด และไดทาํ สญั ญาปรบั ปรงุ โครงสรางหนีต้ งั้ แตวนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ทัง้ น้ี เฉพาะการโอนทรัพยส ินการขายสินคาหรือการใหบ ริการ
และสําหรับการกระทําตราสารตามสัญญาปรับปรุงโครงสรางหนี้น้ันท่ีไดกระทําในระหวางวันที่
๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

๗๓๓

มาตรา ๗ ใหยกเวน ภาษีเงนิ ไดต ามสว น ๒ และสว น ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒
แหง ประมวลรัษฎากร ใหแกล กู หนี้ท่ปี ระสบอทุ กภัยของเจา หนี้อ่นื สํารับเงินไดท่ีไดรบั จากการ
ปลดหนี้ของเจาหน้ีอื่น ซึ่งไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้โดยนําหลักเกณฑการปรับปรุง
โครงสรางหนี้ลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนดมาใชโดยอนุโลม
และไดท าํ สัญญาปรับปรงุ โครงสรา งหน้ตี ้ังแตว นั ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถงึ วันท่ี ๓๑
ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ท้งั นี้ เฉพาะการปลดหน้ีตามสญั ญาปรับปรงุ โครงสรา งหน้นี นั้ ทีไ่ ดก ระทํา
ในระหวางวนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

มาตรา ๘ ใหย กเวนภาษีเงนิ ไดต ามสว น ๒ และสวน ๓ หมวด ๓ ภาษีมูลคา เพ่มิ
ตามหมวด ๔ ภาษีธุรกจิ เฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมปต ามหมวด ๖ ในลกั ษณะ ๒
แหงประมวลรัษฎากรใหแ กลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยของเจาหนีอ้ ื่นและเจา หนอี้ ื่น สําหรับเงินไดท ่ี
ไดรบั จากการโอนทรัพยส ิน การขายสินคา หรือการใหบ ริการ และสาํ หรบั การกระทําตราสาร อนั
เน่ืองมาจากการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของเจาหน้ีอ่ืนที่ไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้โดยนํา
หลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนดมาใชโดยอนุโลม และไดท ําสัญญาปรับปรงุ โครงสรา งหน้ตี งั้ แตวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.
๒๕๕๔ ถงึ วันที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ทั้งนี้ เฉพาะการโอนทรพั ยส นิ การขายสินคาหรือการ
ใหบ ริการ และสาํ หรับการกระทาํ ตราสารตามสัญญาปรับปรงุ โครงสรางหนีน้ น้ั ทไี่ ดก ระทําใน
ระหวา งวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

มาตรา ๙ ใหยกเวน ภาษีเงนิ ไดต ามสว น ๒ และสว น ๓ หมวด ๓ ภาษธี รุ กิจเฉพาะ
ตามหมวด ๕ และอากรแสตมปต ามหมวด ๖ ในลกั ษณะ ๒ แหงประมวลรษั ฎากร ใหแกล กู หนีท้ ี่
ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงิน สําหรับเงินไดที่ไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยที่ลูกหนี้
ที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินนํามาจํานองเปนประกันหนี้ของสถาบันการเงินใหแกผูอื่น
ซึ่งมิใชเจาหน้ีท่ีเปนสถาบันการเงิน และสําหรับการกระทําตราสารอันเนื่องมาจากการโอน
อสงั หารมิ ทรพั ยดงั กลาว โดยลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภยั ของสถาบนั การเงนิ ตอ งนาํ เงนิ ไดนนั้ ไปชําระ
หนี้แกเจาหน้ีท่ีเปนสถาบันการเงิน ซ่ึงไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ตามหลักเกณฑการ
ปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด และ
ไดท าํ สญั ญาปรบั ปรุงโครงสรา งหนตี้ ง้ั แตวนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม
พ.ศ.๒๕๕๕ ท้ังนี้ เฉพาะสว นทีไ่ มเ กินกวาหนี้ท่ีคางชําระอยูกบั สถาบนั การเงนิ หรือมีภาระผูกพนั
ตามสัญญาประกนั หนกี้ ับสถาบนั การเงนิ ตามหลกั เกณฑ วธิ ีการ และเง่อื นไขทอ่ี ธิบดปี ระกาศ
กําหนด และใหใชบังคับสําหรับการโอนอสังหาริมทรัพยและการกระทําตราสารตามสัญญา
ปรับปรุงโครงสรา งหน้นี นั้ ทไี่ ดกระทาํ ในระหวา งวนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถงึ วนั ท่ี ๓๑
ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๘

มาตรา ๑๐ ใหรฐั มนตรวี าการกระทรวงการคลงั รกั ษาการตามพระราชกฤษฎกี านี้

ผูร ับสนองพระบรมราชโองการ ๗๓๔
ยงิ่ ลักษณ ชินวัตร
นายกรฐั มนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ ระราชกฤษฎีกาฉบบั นี้ คือ เนื่องจากในป พ.ศ. ๒๕๕๔
ไดเกิดอุทกภัยรายแรงข้ึนในหลายจังหวัดของประเทศไทย ทาํ ใหเ กดิ ความเสียหายตอภาคธรุ กิจ
และประชาชนเปนอยางมากสงผลกระทบตอความสามารถในการชําระหน้ีของลูกหน้ีท่ีประสบ
อุทกภัย ทําใหสถาบนั การเงินและเจา หนี้อื่นตอ งปรบั ปรงุ โครงสรางหนเ้ี พอื่ ใหสอดคลองกับความ
สามารถในการชาํ ระหน้ีของลกู หน้ที ่ปี ระสบอทุ กภัย ดงั นัน้ เพ่อื เปนการสง เสรมิ ใหมีการปรบั ปรุง
โครงสรางหน้ีของสถาบันการเงินและเจาหนี้อื่นใหแกลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยสมควรกําหนดให
สิทธิประโยชนทางภาษีอากรแกลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยและเจาหน้ีซ่ึงเปนสถาบันการเงินหรือ
เจาหนีอ้ ืน่ บางกรณี ท่ีไดกระทาํ ในระหวางวันท่ี ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถงึ วนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๕๘ จงึ จาํ เปน ตอ งตราพระราชกฤษฎีกานี้

๗๓๕

สงิ่ ทีส่ งมาดว ย ๒

(สําเนา)

ประกาศอธิบดกี รมสรรพากร
เรอ่ื ง กาํ หนดหลักเกณฑ วิธีการ และเง่อื นไข กรณีหนีท้ ตี่ อ งดําเนนิ การปรบั ปรุง
โครงสรา งหนล้ี ูกหนท้ี ่ปี ระสบอุทกภัยตามหลกั เกณฑการปรับปรงุ โครงสรางหนีล้ ูกหนี้

ทีป่ ระสบอทุ กภยั ที่ธ_น_า_ค__า_ร_แ_ห_ง_ป_ร_ะ_เ_ท_ศ_ไทยประกาศกําหนด

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรษั ฎากรวาดวยการยกเวน รษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ อธบิ ดีกรมสรรพากร
กาํ หนด หลกั เกณฑ วธิ ีการ และเง่อื นไข กรณีหนที้ ตี่ องดําเนินการปรบั ปรงุ โครงสรางหน้ีตาม
หลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนด ดงั ตอไปน้ี

ขอ ๑ การปรับปรุงโครงสรางหนี้สําหรับหนี้ที่ตองดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้
ลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัย ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยที่
ธนาคารแหง ประเทศไทยประกาศกําหนด เจาหน้ที ่ีเปนสถาบันการเงิน เจาหนี้อน่ื ลกู หน้ที ป่ี ระสบ
อุทกภัยของสถาบนั การเงนิ และลูกหนที้ ป่ี ระสบอุทกภยั ของเจาหน้ีอ่ืน จะตอ งรว มกันจัดทาํ
หนงั สอื รบั รองหนท้ี ต่ี อ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหนต้ี ามหลกั เกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี
ลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนดโดยหนังสือรับรองดังกลาว
ตองมขี อ ความอยางนอ ยตามท่แี นบทายประกาศน้ี

ขอ ๒ ลูกหนีท้ ีป่ ระสบอุทกภยั ของสถาบนั การเงิน และลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของ
เจา หนอี้ ืน่ ตองแจง หนงั สือรบั รองตามขอ ๑ ดงั นี้

(๑) แจงตอ เจาพนักงานท่ีดินทองทีท่ ี่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม โดยให
สงมอบหนังสือรับรองดังกลาวตอเจาพนักงานท่ีดินผูรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะ
จดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมตามกฎหมาย เวนแตล กู หน้ีทปี่ ระสบอุทกภัยของสถาบันการเงิน
และลกู หนท้ี ปี่ ระสบอุทกภยั ของเจา หนี้อืน่ ประสงคจะชาํ ระภาษอี ากรกอ นในขณะทจี่ ดทะเบยี น
สิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายก็ไมตองแจงและสงมอบหนังสือรับรองดังกลาวตอเจาพนักงาน
ทด่ี ิน

(๒) แจง ตออธิบดีกรมสรรพากร โดยใหสง มอบหนังสือรบั รองดังกลาวผา น
สรรพากรพ้ืนที่ในเขตทองที่ท่ีลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการเงิน และลูกหน้ีท่ีประสบ
อุทกภัยของเจาหนี้อ่ืนมีภูมิลําเนาหรือสถานประกอบการต้ังอยูหรือในเขตทองท่ีท่ีอสังหาริมทรัพย
ท่ีโอนตั้งอยู

ขอ ๓ ประกาศนี้ใหใ ชบงั คับตั้งแตว นั ท่ี ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เปนตนไป

ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงช่ือ) สาธิต รังคสริ ิ
(นายสาธิต รังคสิร)ิ
อธิบดกี รมสรรพากร
๗๓๖

หนังสือรับรองหนี้ท่ีตองดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ีตามหลักเกณฑการ
ปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศไทย
ประกาศกําหนด ตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕

วนั ท่.ี .........เดือน..........................พ.ศ. ............
เจาพนักงานท่ีดิน............................................
เรยี น
อธบิ ดกี รมสรรพากร (ผา นสรรพากรพ้นื ท่ี.....................................)

๑. หนงั สือนที้ าํ ข้ึนโดย
(๑) สถาบันการเงิน..........................................สาํ นักงานต้งั อยเู ลขท.ี่ ..............

ตาํ บล/แขวง.................................อําเภอ/เขต................................จงั หวดั ................................
ซึง่ ตอ ไปนเ้ี รียกวา “เจาหน้ี”

(๒) ...............................................................สํานักงานต้ังอยูเ ลขท.่ี ...............
ตําบล/แขวง.................................อําเภอ/เขต................................จังหวัด................................
ซ่งึ ตอไปนเี้ รียกวา “เจาหน้อี น่ื ”

(๓) ....................................................เปนลูกหนท้ี ป่ี ระสบอทุ กภยั /ผคู ํ้าประกนั
ของลูกหนท้ี ี่ประสบอทุ กภยั ราย................................................สาํ นกั งานต้งั อยูเลขท.่ี ...............
ถนน.................................ตาํ บล/แขวง.....................................อําเภอ/เขต..............................
จงั หวดั .............................ซ่งึ ตอ ไปนเี้ รียกวา “ลกู หนี้ท่ีประสบอทุ กภัย”

๒. ตามทล่ี กู หนท้ี ป่ี ระสบอทุ กภยั มภี าระหนก้ี บั เจา หน/้ี เจา หนอ้ี น่ื เนอ่ื งจากในป ๒๕๕๔
ไดเ กิดอุทกภยั รา ยแรงข้นึ ในหลายจงั หวัดของประเทศไทยเปน อยางมาก สงผลกระทบตอความ
สามารถในการชําระหน้ีของลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัย ทําใหไมสามารถชําระหนี้ใหแกเจาหน้ี/
เจา หนีอ้ น่ื ตามจํานวนเงินและ/หรือตามจาํ นวนเวลาท่ีไดตกลงไวก บั เจา หน้ี/เจาหน้ีอน่ื ได จึงตอง
ดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสราง
หนี้ลูกหนีท้ ี่ประสบอุทกภัย ทธี่ นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนด เพอ่ื ใหสอดคลองกบั ความ
สามารถในการชําระหนข้ี องลกู หนท้ี ่ีประสบอทุ กภัย ทงั้ นี้ ตามรายละเอยี ดในสัญญาปรบั ปรงุ
โครงสรา งหนี้เลขท.ี่ ................................................ลงวันท่ี...............................................

๓. เจา หนี/้ เจาหน้ีอืน่ ขอรบั รองวา หน้ที ่ตี อ งดาํ เนินการปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ลี ูกหน้ี
ทป่ี ระสบอุทกภยั ตามหลกั เกณฑการปรับปรงุ โครงสรางหนล้ี ูกหนท้ี ีป่ ระสบอุทกภัยท่ีธนาคารแหง
ประเทศไทยประกาศกําหนด ทง้ั น้ี ตามรายละเอยี ดประเภทสินเชือ่ ...........................................
เลขทบ่ี ัญช.ี ..........................................จาํ นวนเงนิ .........................................บาท รวมเปนเงนิ
ทั้งสิน้ ..................................................บาท

๗๓๗

เจาหนี้/เจาหน้ีอ่ืน และลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัย/ผูค้ําประกันของลูกหนี้ท่ีประสบ
อทุ กภัย ขอรบั รองวา รายการในหนังสอื ฉบับน้เี ปนความจริงทกุ ประการ

จงึ เรยี นมาเพือ่ โปรดทราบ
ลงชือ่ ...................................... เจา หนี้
( ...................................... )

ในฐานะ........................................
ลงชอื่ ...................................... เจา หน้อี ่ืน
( ...................................... )

ในฐานะ........................................
ลงชอ่ื ...................................... ลูกหน/้ี ผูคํ้าประกนั ของลูกหนที้ ี่ประสบอทุ กภยั
( ...................................... )

ในฐานะ........................................

๗๓๘

สง่ิ ท่สี งมาดวย ๓
(สําเนา)

ประกาศอธิบดกี รมสรรพากร
เรอ่ื ง กาํ หนดหลักเกณฑ วธิ ีการ และเงื่อนไขการยกเวนภาษีเงนิ ได ภาษีธรุ กจิ เฉพาะ

และอากรแสตมป สาํ หรับจํานวนเงนิ ท่ีไดรับจากการโอนอสังหารมิ ทรัพยท ่ลี ูกหน้ี
ทีป่ ระสบอทุ กภยั ของสถาบันการเงินนํามาจาํ นองเปนประกันหนข้ี องสถาบนั การเงนิ
ใหแกผ ูอ่ืน ซึ่งมิใชเ จา หน้ที ีเ่ ปน สถาบันการเงิน ซง่ึ ไดด ําเนนิ การปรับปรงุ โครงสรา งหนี้

ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนลี้ ูกหนท้ี ีป่ ระสบอทุ กภยั
ที่ธนาคารแ_ห_ง _ป_ร_ะ_เ_ท_ศ__ไท__ย_ป_ร_ะ_กาศกาํ หนด

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๙ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรัษฎากรวาดว ยการยกเวน รษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ อธิบดีกรมสรรพากร
กาํ หนด หลกั เกณฑ วิธกี าร และเงือ่ นไขการยกเวน ภาษเี งนิ ได ภาษีธรุ กิจเฉพาะ และอากรแสตมป
สําหรับจํานวนเงินท่ีไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยของลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการ
เงินที่นํามาจํานองเปนประกันหนี้ของเจาหนี้ที่เปนสถาบันการเงินใหแกผูอื่นซ่ึงมิใชเจาหนี้ที่เปน
สถาบนั การเงิน เพื่อนาํ เงินทไ่ี ดรับจากการโอนอสังหารมิ ทรัพยไ ปชาํ ระหน้แี กเจาหน้ีทีเ่ ปน สถาบนั
การเงิน ซึ่งไดด าํ เนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ตี ามหลักเกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ลี ูกหนที้ ี่
ประสบอทุ กภยั ทีธ่ นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกําหนดดงั ตอ ไปน้ี

ขอ ๑ จาํ นวนเงนิ ไดท ไ่ี ดร บั ยกเวน ภาษเี งินได ภาษธี รุ กิจเฉพาะ และอากรแสตมป
สําหรับเงินไดท่ีลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยที่
นํามาจํานองเปนประกันหน้ขี องเจาหน้ที ่เี ปนสถาบันการเงินใหแกผอู ่นื ซ่งึ มิใชเจาหน้ที ่เี ปนสถาบัน
การเงนิ และสาํ หรบั การกระทาํ ตราสารอันเน่ืองมาจากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยด ังกลาว ไดแ ก
จํานวนเงนิ เฉพาะสว นทไ่ี มเ กนิ กวาหนี้ที่คางชําระอยูกับเจาหน้สี ถาบนั การเงนิ หรอื มีภาระผกู พัน
ตามสัญญาประกันหนี้กับเจาหนี้สถาบันการเงินและตองเปนจํานวนเงินที่ลูกหนี้ไดนําไปชําระหน้ี
แกเจา หน้สี ถาบนั การเงนิ ตามสญั ญาปรบั ปรงุ โครงสรา งหนต้ี ามหลกั เกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรา ง
หนล้ี กู หนี้ทป่ี ระสบอทุ กภยั ที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด

การยกเวนภาษีอากรตามวรรคหนึ่ง ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงิน
เจา หนสี้ ถาบันการเงนิ และผรู ับโอนอสังหารมิ ทรัพย จะตองรวมกันจดั ทาํ หนังสอื รับรองการโอน
อสังหาริมทรัพยของลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินใหแกผูอ่ืนซ่ึงมิใชเจาหน้ีสถาบัน
การเงิน เพอื่ นาํ เงินทีไ่ ดร บั จากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยไปชําระหนีใ้ หแ กเ จา หนี้สถาบันการเงนิ
โดยหนังสือรบั รองดงั กลา วตอ งมขี อ ความอยางนอ ยตามท่ีแนบทา ยประกาศนี้

ลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการเงิน ตองแจงหนังสือรับรองตามวรรคสอง
ดงั นี้

๗๓๙

(๑) แจงตอเจา พนกั งานท่ีดนิ ทองที่ท่จี ดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม โดยใหสงมอบ
หนังสือรับรองดังกลาวตอเจาพนักงานที่ดินผูรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะจดทะเบียน
สทิ ธแิ ละนติ กิ รรม เวนแตลูกหน้ที ี่ประสบอทุ กภยั ของสถาบันการเงนิ ประสงคจ ะชาํ ระภาษีอากร
กอ นในขณะท่จี ดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ กิ รรมตามกฎหมาย ก็ไมต อ งแจงและสงมอบหนงั สอื รับรอง
ดังกลา วตอ เจา พนกั งานท่ีดนิ

(๒) แจง ตออธิบดีกรมสรรพากร โดยใหสง มอบหนงั สือรับรองดังกลาวผา นสรรพากร
พื้นที่ในเขตทองท่ีที่ลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินมีภูมิลําเนาหรือสถานประกอบการ
ต้ังอยูหรือในเขตทอ งทีท่ อ่ี สังหารมิ ทรัพยท ่โี อนต้งั อยู

ขอ ๒ ประกาศน้ีใหใ ชบ งั คับตง้ั แตวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เปน ตนไป
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงช่ือ) สาธติ รงั คสิริ
(นายสาธติ รงั คสริ )ิ
อธิบดีกรมสรรพากร

๗๔๐

หนงั สอื รบั รองการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยข องลกู หนท้ี ป่ี ระสบอทุ กภยั ของสถาบนั การเงนิ
ใหแ กผอู น่ื ซึง่ มิใชเ จา หนีท้ ีเ่ ปนสถาบันการเงิน เพือ่ นาํ เงนิ ทีไ่ ดจากการโอนอสังหาริมทรพั ยไ ปชาํ ระ
หน้ีแกเ จาหนท้ี ่เี ปนสถาบันการเงนิ เพ่ือขอรบั สทิ ธปิ ระโยชนท างภาษีอากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ
(ฉบับท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕

วันท่.ี .........เดือน..........................พ.ศ. ............
เจา พนักงานที่ดิน............................................
เรียน
อธิบดีกรมสรรพากร (ผานสรรพากรพื้นท.่ี ....................................)

๑. หนงั สือนี้ทําขนึ้ โดย
(๑) ..................................ผโู อนอสงั หารมิ ทรพั ยซง่ึ เปน ลกู หนท้ี ี่ประสบอทุ กภยั /

ผคู ํ้าประกนั ของลูกหนท้ี ่ปี ระสบอทุ กภัย ราย......................................สาํ นกั งาน(ของผโู อน)ตั้งอยู
เลขที่...............ถนน......................ตําบล/แขวง..............................อําเภอ/เขต.........................
จงั หวัด................................

(๒) สถาบันการเงนิ ..........................................สาํ นกั งานตง้ั อยเู ลขท่.ี ..............
ถนน......................ตําบล/แขวง....................อาํ เภอ/เขต.......................จงั หวัด.........................
ซงึ่ ตอ ไปนี้เรียกวา “เจาหน”้ี

(๓) ผรู ับโอนอสงั หาริมทรพั ย............................สํานักงานตั้งอยูเลขท.ี่ ...............
ถนน......................ตาํ บล/แขวง....................อําเภอ/เขต.......................จังหวดั .........................
ซงึ่ ตอไปนเ้ี รยี กวา “ผซู อ้ื ”

๒. ตามทล่ี กู หนท้ี ป่ี ระสบอทุ กภยั มภี าระหนก้ี บั เจา หน้ี เนอ่ื งจากในป ๒๕๕๔ ไดเกิด
อุทกภัยรายแรงขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศไทยทําใหเกิดความเสียหายตอธุรกิจและ
ประชาชนเปน อยา งมาก อนั สงผลกระทบตอ ความสามารถในการชาํ ระหนี้ ทาํ ใหล กู หนท้ี ปี่ ระสบ
อุทกภัยไมสามารถชําระหนี้ใหแกเจาหน้ีตามจํานวนเงินและ/หรือตามกําหนดเวลาที่ไดตกลง
ไวกับเจาหนี้ได ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยและหรือผูคํ้าประกันและเจาหน้ีจึงไดตกลงปรับปรุง
โครงสรางหนึี้ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหง
ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ท้งั น้ี ตามรายละเอยี ดในสัญญาปรบั ปรงุ โครงสรา งหนเี้ ลขที่..........
.......................................ลงวันที่...............................................

๓. ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัย/ผูคํ้าประกันของลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัย จึงไดโอน
อสังหาริมทรัพย โฉนด น.ส.๓ น.ส.๓ ก. อนื่ ๆ เลขที่..........หมูท ่.ี .........ตาํ บล/แขวง.........................
อาํ เภอ/เขต......................จงั หวัด......................ซ่ึงเปนอสังหาริมทรพั ยท ล่ี กู หน้ีท่ปี ระสบอทุ กภัย/
ผคู าํ้ ประกนั ของลูกหนี้ทป่ี ระสบอทุ กภยั ไดน ํามาจดทะเบียนจํานองเปน ประกันหนี้ของเจา หน้ี ทั้งนี้

๗๔๑

ตามหนงั สอื สัญญาซอื้ ขาย ลงวนั ที.่ .......เดือน...................พ.ศ. ..........ซงึ่ ลกู หนที้ ป่ี ระสบอุทกภยั /
ผคู ้าํ ประกนั ของลูกหน้ที ่ปี ระสบอุทกภยั และผูซ ้ือตกลงซ้ือขายกนั ในราคา.............................บาท
ราคาประเมินทนุ ทรพั ยใ นการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเปน จาํ นวนเงนิ ...........................บาท

๔. ลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยมีหน้คี งคางชําระอยูกับเจา หน้ี ณ วนั ท่ที าํ สญั ญาปรับปรงุ
โครงสรางหน้ีกับเจาหน้ีตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยที่
ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกาํ หนดจาํ นวน...........................บาท และในขณะท่ที ําสญั ญา
โอนอสังหาริมทรัพยตามหนังสือรับรองฉบับน้ีลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยมีหนี้คงคางชําระอยูกับ
เจา หน้จี าํ นวน.................................บาท

๕. ลกู หน้ที ่ีประสบอุทกภัย/ผูค าํ้ ประกนั ของลูกหน้ที ป่ี ระสบอุทกภยั เจา หนี้ และผซู ื้อ
ตกลงและรับทราบวา ลกู หนีท้ ปี่ ระสบอุทกภัยตอ งนําเงินจาํ นวน.............................บาท ทีไ่ ดจาก
การโอนอสังหารมิ ทรัพยตาม ๓. มาชาํ ระหนใี้ หแ กเจาหนี้ซงึ่ เปนจํานวนเงนิ ที่ไดรับยกเวนภาษี
อากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕

ลกู หนี้ทปี่ ระสบอทุ กภยั /ผูค ํ้าประกันของลูกหนที้ ี่ประสบอุทกภัย เจาหนี้ และผซู อ้ื
ขอรบั รองวา รายการในหนังสือรับรองฉบับน้เี ปน ความจรงิ ทกุ ประการ

จึงเรียนมาเพ่อื โปรดทราบ

ลงช่อื ...................................... ลูกหน/้ี ผคู าํ้ ประกนั ของลูกหน้ที ี่ประสบอุทกภัย
( ...................................... )

ในฐานะ........................................

ลงชือ่ ...................................... เจา หน้ี
( ...................................... )

ในฐานะ........................................

ลงช่ือ ...................................... ผูซ้อื
( ...................................... )

ในฐานะ........................................

๗๔๒

ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๓๗๔๖ (สาํ เนา)
กรมทดี่ นิ
ศนู ยร าชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

เรือ่ ง การจดทะเบียนควบบรษิ ทั เขา ดว ยกนั ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย

เรียน ผวู าราชการจังหวดั ทุกจังหวัด

อางถึง ๑. หนังสอื กรมท่ดี นิ ท่ี มท ๐๗๑๐/ว ๐๘๒๙๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๓
๒. หนงั สือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๓๓๖๔ ลงวนั ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๒

ตามหนังสอื ทอี่ า งถงึ ๑. กรมท่ดี นิ ซอ มความเขา ใจทางปฏบิ ตั ใิ นการดาํ เนนิ การ
เก่ียวกับอสงั หารมิ ทรัพย กรณหี นวยปฏิบัตขิ องกรมสรรพากรมีหนังสือแจง การควบเขา กัน โอน
กจิ การบางสวน หรอื โอนกจิ การทง้ั หมดของบรษิ ทั มหาชนจํากัด หรอื บรษิ ัทจาํ กดั มาเพ่ือประกอบ
การพจิ ารณายกเวน ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และอากรแสตมป และตอมาไดม หี นงั สอื ตามท่ีอา งถงึ ๒.
แจงทางปฏิบัติในการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อ อันเนื่องมาจากการแปรสภาพหางหุนสวน
จดทะเบยี น หรอื หา งหุน สวนจาํ กดั เปนบริษทั จํากดั และการควบบริษทั เขา ดว ยกนั ตามประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย รวมทั้งการเรียกเก็บคาธรรมเนียม และภาษีอากร ใหพนักงาน
เจา หนา ทท่ี ราบและถอื ปฏบิ ตั ิ แตเ นอ่ื งจากเกดิ ปญ หาในทางปฏบิ ตั กิ รณกี ารควบบรษิ ทั เขา ดว ยกนั
ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย พนกั งานเจา หนาท่ีปฏบิ ตั ไิ มเปนไปในแนวทางเดียวกนั
เชน กรณีบริษทั ก. และบรษิ ัท ข. ควบเขากนั แลวต้งั เปน บรษิ ทั ใหม (โดยใชชือ่ บรษิ ทั ก. หรอื
บรษิ ัท ข.) เหมือนชอ่ื เดิม แตหมายเลขทะเบยี นนิติบคุ คลไดเ ปลยี่ นแปลงไป ซงึ่ ในหนงั สอื แสดง
สิทธใิ นทีด่ ินเปน ชือ่ บริษัท ก. หรอื บริษัท ข. อยูแ ลว ทาํ ใหพ นักงานเจา หนาที่เกิดความสบั สนวา
จะตองมีการแกไ ขเปลีย่ นแปลงชือ่ บรษิ ัททางทะเบียนหรือไมอยา งไร โดยสํานกั งานท่ีดนิ บางแหง
ไดมีการจดทะเบียนใหปรากฏทางทะเบียนแตบางสํานักงานท่ีดินเจาหนาท่ีเขาใจวาไมจําตอง
จดทะเบียนใหปรากฏทางทะเบียน เนื่องจากเม่ือควบรวมกิจการแลวไมมีการเปลี่ยนแปลงชื่อ
บริษัทแตอยางใด ประกอบกับไดตรวจพบวาสํานักงานที่ดินบางแหงไมมีการแจงและบันทึก
ถอยคาํ ผูขอรับทราบตามขอความทรี่ ะบไุ วต อนทา ยของหนังสอื ทีอ่ า งถงึ ๑. น้ัน

กรมท่ีดินพิจารณาแลว จึงซอมความเขาใจทางปฏิบัติในการจดทะเบียน
เปลีย่ นแปลงชอื่ อันเนือ่ งมาจากการควบบริษัทเขากันตามประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย
ดังน้ี

๗๔๓


Click to View FlipBook Version