(สาํ เนา)
แนวนโยบายธนาคารแหงประเทศไทย
เรือ่ ง การปรบั ปรงุ โครงสรา งลูกหนีท้ ่ีประสบอุทกภัย
_____________________
๑. เหตุผลในการออกแนวนโยบาย
สบื เน่อื งจากภาวะอุทกภยั ท่เี กิดขึน้ ในป ๒๕๕๔ มีความรนุ แรงและสง ผลกระทบตอ
ลกู หนเ้ี ปน วงกวา ง ซ่ึงสถาบันการเงิน บรษิ ัทที่ประกอบธรุ กจิ บัตรเครดิตท่ีมิใชส ถาบนั การเงิน และ
บรษิ ทั ท่ีประกอบธรุ กจิ สนิ เช่ือสวนบคุ คลภายใตก ารกํากับท่มี ใิ ชสถาบนั การเงิน ไดมแี นวทางท่ี
ชว ยฟน ฟูกิจการใหแกล กู หนเี้ ปนอยางดี และคณะรัฐมนตรไี ดม ีมตเิ มอ่ื วันท่ี ๒๖ มิถนุ ายน ๒๕๕๕
เหน็ ชอบมาตรการทางภาษอี ากรและคา ธรรมเนยี มเพอ่ื สนบั สนนุ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหนแ้ี กล กู หน้ี
ที่ประสบอทุ กภัย นนั้
ธนาคารแหงประเทศไทยจงึ ออกแนวนโยบายฉบับน้ี เพอื่ กําหนดหลักเกณฑก าร
ปรบั ปรุงโครงสรา งหนี้ลกู หนีท้ ี่ประสบอทุ กภยั ป ๒๕๕๔ และกําหนดนยิ ามของลกู หนที้ ่ปี ระสบ
อทุ กภัยตาม มาตรการทางภาษอี ากรและคาธรรมเนยี มตามมติคณะรฐั มนตรี ทงั้ น้ี เนือ่ งจาก
สาเหตขุ องการประสบปญ หาของลกู หนน้ี น้ั เปน การเผชญิ เหตกุ ารณส ดุ วสิ ยั ทไ่ี มส ามารถควบคมุ ได
ธนาคารแหงประเทศไทยจึงไดกําหนดหลักเกณฑใหสอดคลองและเหมาะสมตอสถานการณที่
เกิดข้นึ ซึง่ ยงั คงหลักการทีส่ ําคญั เชน เดียวกบั หลกั เกณฑก ารปรับปรงุ โครงสรางหนที้ บี่ ังคับใชอ ยู
ในปจจบุ ัน ทมี่ เี จตนารมณเ พือ่ มงุ เนน การแกไ ขหนีใ้ หเจา หน้ีมีโอกาสไดร บั ชาํ ระเงินคนื และหนีน้ น้ั
ยังคงสามารถกอใหเ กดิ ประโยชนส งู สุดตอทัง้ เจาหนแี้ ละลูกหนเี้ อง ทง้ั น้ี การปรับปรงุ โครงสรา งหนี้
ตอ งไมเ ปน การกระทําเพอื่ หลกี เล่ียงการจัดชัน้ การกันเงินสาํ รอง และการระงบั รบั รรู ายไดดอกเบ้ยี
คางรับ
๒. ขอบเขตการบังคับใช
แนวนโยบายฉบับน้ีใชกับสถาบันการเงินตามกฎหมายวาดวยธุรกิจสถาบันการเงิน
ทุกแหง บริษทั ทป่ี ระกอบธรุ กจิ บตั รเครดิตทีม่ ิใชส ถาบันการเงนิ ตามกฎหมายวาดว ยธุรกิจสถาบัน
การเงินทุกแหง และบรษิ ัททปี่ ระกอบธรุ กิจสนิ เชอ่ื สว นบคุ คลภายใตก ารกํากบั ที่มใิ ชสถาบนั การ
เงนิ ตามกฎหมายวาดวยธุรกจิ สถาบนั การเงนิ ทกุ แหง
๓. หลักเกณฑท เ่ี กย่ี วของ
๓.๑ แนวนโยบายธนาคารแหงประเทศไทย เรื่อง แนวนโยบายการปรับปรุง
โครงสรา งหนี้ ลงวันที่ ๓ สงิ หาคม ๒๕๕๑
๓.๒ หนังสือเวียนที่ ธปท. ฝนส. (๒๓) ว. ๑๕๖๔/๒๕๕๔ เรอ่ื ง การซักซอมความ
เขา ใจมาตรการการใหความชว ยเหลือลกู หนี้ทไี่ ดร บั ผลกระทบจากอุทกภัย ลงวันท่ี ๑๙ ตุลาคม
๒๕๕๔
๖๙๔
๔. เน้ือหา
๔.๑ ในแนวนโยบายฉบับน้ี
“ลกู หนท้ี ป่ี ระสบอุทกภยั ” หมายความวา ลูกหนี้ท่ีไดร บั ความเสยี หายโดยทาง
ตรงหรอื ทางออมจากอทุ กภัย
“ลกู หน้ที ีไ่ ดรับความเสยี หายโดยทางตรงจากอทุ กภัย” หมายความวา ลกู หนที้ ี่
ไดรับผลกระทบจากอุทกภยั ทีเ่ กดิ ข้นึ ในป ๒๕๕๔ ทม่ี ภี ูมลิ ําเนา ทอี่ ยอู าศัย สถานทที่ ํางาน สถาน
ท่ีประกอบอาชพี หรอื สถานประกอบธรุ กจิ หรอื การคา ของตน อยูในเขตพ้นื ทีท่ ีม่ กี ารประกาศเปน
พ้ืนที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังเก่ียวกับเงินทดรองราชการเพื่อ
ชวยเหลือผูประสบภัยพิบตั ิกรณฉี กุ เฉิน
“ลกู หน้ีทีไ่ ดร บั ความเสียหายโดยทางออ มจากอทุ กภยั ” หมายความวา ลกู หนี้
ท่ีไดร บั ผลกระทบจากอทุ กภัยทีเ่ กดิ ขน้ึ ในป ๒๕๕๔ ท่ีมียอดการสั่งซอ้ื หรือมยี อดขาย ซึง่ มคี วาม
สมั พนั ธเก่ียวเนื่องกันในทกุ ทอดกบั บคุ คล นติ ิบคุ คล หรอื กิจการ ทีอ่ ยูในเขตพน้ื ท่ีทีม่ ีการประกาศ
เปนพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวงการคลังเกี่ยวกับเงินทดรองราชการ
เพือ่ ชว ยเหลือผูประสบภยั พิบัติกรณีฉกุ เฉนิ ไมนอยกวารอยละ ๒๕ ของยอดรวมการส่ังซ้ือ หรอื
ยอดรวมการขายของลูกหนท้ี ่ีไดร บั ผลกระทบโดยทางออ มนนั้
“ผปู ระกอบธรุ กจิ ท่มี ิใชส ถาบนั การเงนิ ” หมายความวา บรษิ ัททปี่ ระกอบธุรกจิ
บัตรเครดิตที่มิใชสถาบันการเงนิ ตามกฎหมายวา ดว ยธุรกิจสถาบนั การเงิน และบริษทั ท่ีประกอบ
ธุรกิจสินเช่ือสวนบุคคลภายใตการกํากับท่ีมิใชสถาบันการเงินตามกฎหมายวาดวยธุรกิจสถาบัน
การเงิน
๔.๒ หลักเกณฑ
๔.๒.๑ วตั ถุประสงค
การปรับปรงุ โครงสรางหนี้ลูกหนี้ทีป่ ระสบอุทกภยั ซ่งึ ประสบปญ หา
การชาํ ระหน้ี อันเนอื่ งมาจากไดรบั ผลกระทบจากอทุ กภยั ทีเ่ กดิ ขน้ึ ในป ๒๕๕๔ เปนการดาํ เนนิ การ
แกไขหนี้เพ่ือใหสถาบันการเงินและผูประกอบธุรกิจที่มิใชสถาบันการเงินมีโอกาสไดรับชําระหนี้
คืนสูงสดุ หรอื เพ่อื ใหเกดิ ประโยชนสูงสุดในการดําเนินกิจการตอไปทง้ั ของลกู หน้ี และสถาบันการ
เงนิ หรือผปู ระกอบธรุ กจิ ท่มี ใิ ชส ถาบันการเงนิ แลว แตกรณี ทัง้ นี้ สถาบันการเงนิ และผปู ระกอบ
ธุรกิจท่ีมิใชสถาบันการเงินจะตองระมัดระวังมิใหการปรับปรุงโครงสรางหนี้มีลักษณะเปนการ
หลกี เล่ียงการจดั ช้ันลกู หน้แี ละการกันเงินสาํ รอง หรือหลีกเลยี่ งหลักเกณฑก ารระงบั รบั รูด อกเบี้ย
คา งรับเปน รายได โดยหลักเกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรางหน้นี ้ีใชสาํ หรับการปรบั ปรงุ โครงสรา งหนี้
กับลกู หนี้ทป่ี ระสบอุทกภัยป ๒๕๕๔ ซ่งึ คณะรัฐมนตรีไดม มี ตเิ ห็นชอบมาตรการทางภาษอี ากร
และคาธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของลูกหน้ีที่ไดรับความเสียหายโดย
ทางตรงหรือทางออ มจากอทุ กภยั แลวเมอ่ื วนั ที่ ๒๙ มถิ ุนายน ๒๕๕๕
๖๙๕
๔.๒.๒ หลักเกณฑก ารปรับปรงุ โครงสรา งลกู หนี้ทปี่ ระสบอุทกภยั
ใหสถาบันการเงินปฏิบัติเก่ียวกับการกําหนดนโยบายและมาตรการ
ในการปรับปรุงโครงสรางหนี้ ขน้ั ตอนการปฏิบัติงานและการจัดทาํ เอกสารประกอบ วิธปี ฏบิ ัติ
ทางบัญชี การคาํ นวณสว นสญู เสยี ในการปรบั ปรงุ โครงสรางหนี้ การรับรูรายได และขอ กําหนด
อนื่ ๆ โดยถอื ปฏิบัตติ ามหลักเกณฑเ กี่ยวกบั การปรบั ปรุงโครงสรางหนที้ ี่ธนาคารแหงประเทศไทย
ประกาศกําหนด๑ และใหสถาบันการเงินและผูประกอบธุรกิจท่ีมิใชสถาบันการเงินปฏิบัติตาม
หนังสือเวียนที่ ธปท. ฝนส. (๒๓) ว. ๑๕๖๔/๒๕๕๔ เรื่อง การซกั ซอมความเขา ใจมาตรการการ
ใหค วามชวยเหลือลกู หน้ที ไ่ี ดรบั ผลกระทบจากอุทกภัย ลงวนั ที่ ๑๙ ตลุ าคม ๒๕๕๔ และทแี่ กไ ข
เพิ่มเตมิ รวมทั้งใหส ถาบนั การเงิน หรอื ผปู ระกอบธุรกิจท่ีมิใชส ถาบันการเงินถอื ปฏบิ ตั ิ ดังน้ี
(๑) กําหนดนโยบาย วิธปี ฏบิ ัติในการปรบั ปรงุ โครงสรางหน้ีลูกหนที้ ี่
ประสบอุทกภัย และการพจิ ารณาลกู หนี้ที่ประสบอุทกภัยไวอ ยา งชัดเจนเปน ลายลกั ษณอกั ษร
(๒) ตรวจสอบวาลูกหน้ีไดรับความเสียหายจากอุทกภัยท่ีเกิดขึ้นในป
๒๕๕๔ อยา งแทจ รงิ โดยตอ งสามารถพสิ จู นห รอื เชอ่ื มโยงผลกระทบทเ่ี กดิ ขน้ึ กบั ลกู หน้ี ดงั กลา วได
และอยูในเขตพ้ืนท่ีท่ีมีการประกาศเปนพ้ืนท่ีประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบกระทรวง
การคลังเกีย่ วกับเงนิ ทดรองราชการเพือ่ ชว ยเหลือผูป ระสบภยั พิบตั กิ รณีฉุกเฉนิ
(๓) จัดเก็บนโยบาย รวมถึงเอกสารหรือหลักฐานท่ีเกี่ยวของไว
ทสี่ ถาบนั การเงินหรือผูป ระกอบธุรกิจทม่ี ใิ ชสถาบนั การเงิน แลว แตกรณี เพ่อื ท่ธี นาคารแหง
ประเทศไทยและหนว ยงานอืน่ ของทางการสามารถตรวจสอบได
๔.๒.๓ การตรวจสอบของผูตรวจการสถาบนั การเงิน
ในกรณีท่ีผูตรวจสอบของธนาคารแหงประเทศไทยเห็นวาการปรับปรุง
โครงสรา งหนี้สําหรับลกู หน้รี ายใด มไิ ดมกี ารปฏบิ ัติตามหลักเกณฑการปรับปรงุ โครงสรา งหน้ตี าม
แนวนโยบายฉบับน้ี หรอื อาจมเี จตนาเพอื่ หลีกเลีย่ งหลกั เกณฑอ ืน่ ๆ ที่ธนาคารแหง ประเทศไทย
กาํ หนด ผตู รวจสอบของธนาคารแหง ประเทศไทยอาจพจิ ารณาสั่งการใหเ ปลี่ยนสถานการจัดช้ัน
ลกู หน้ีรายนัน้ และใหกันเงินสาํ รองใหเ พียงพอ หรือส่ังใหร ะงับการรบั รรู ายได รวมทั้งใหยกเลกิ การ
บันทกึ รายการดอกเบี้ยคางรับท่ีบันทึกบัญชีไปแลว ดวยก็ได
__________________________
๑ ปจ จบุ นั ใหอ า งองิ ตามแนวนโยบายธนาคารแหง ประเทศไทย เรอื่ ง แนวนโยบายการปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี
ลงวนั ที่ ๓ สงิ หาคม ๒๕๕๑
ฝนสว๙๐–คส๒๒๔๐๑–๒๕๕๕๐๘๑๕
๖๙๖
สิง่ ทส่ี ง มาดวย ๒
๖๙๗
(สําเนา)
ท่ี มท ๐๕๑๕.๒/ว ๒๙๒๕๖
ถงึ จังหวัดทกุ จังหวัด
ตามหนงั สือกรมที่ดนิ ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๑๕๐๑๕ ลงวนั ท่ี ๒ มิถนุ ายน ๒๕๕๔
และ ดว นทสี่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๒๖๙๐๘ ลงวนั ท่ี ๒๓ กันยายน ๒๕๕๔ สงฮารด ดสิ กต ดิ ตง้ั
ภายนอก (External Hard Disk) ซง่ึ จัดเก็บขอมูลทะเบยี นการครอบครองทีด่ ินท่ีเกบ็ รกั ษาอยูทาง
สวนกลาง ใหส ํานกั งานทด่ี นิ จังหวัดทุกจังหวดั เพ่อื ใชใ นการตรวจสอบ ส.ค.๑ ทร่ี าษฎรนํามายื่น
คําขอออกหนงั สอื แสดงสิทธใิ นทดี่ ิน และซอ มความเขา ใจเกย่ี วกับแนวทางปฏบิ ตั กิ รณกี ารขอ
ตรวจสอบทะเบียนการครอบครองที่ดินไปกรมท่ดี นิ นนั้
กรมทด่ี ินพิจารณาแลว เน่อื งจากยงั มีสํานักงานที่ดนิ บางแหงสงเรอื่ งขอตรวจ
สอบทะเบียนการครอบครองทีด่ ินไปยังกรมทีด่ นิ อกี ดังน้ัน เพอื่ ความสะดวก รวดเรว็ และลด
ข้นั ตอนในการปฏิบตั งิ าน หากสํานักงานทด่ี ินตอ งตรวจสอบ ส.ค.๑ ซงึ่ ผขู อนํามาเปน หลักฐาน
ประกอบการย่ืนคําขอออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน ขอใหจังหวัดดําเนินการตามนัยหนังสือ
กรมที่ดิน ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๑๕๐๑๕ ลงวนั ที่ ๒ มถิ นุ ายน ๒๕๕๔ ขอ ๔ โดยไมตองสง เรอื่ งขอ
ตรวจสอบไปยงั กรมทีด่ ิน ยกเวน กรณกี ารดาํ เนนิ การตามหนังสือกระทรวงมหาดไทย ดว นทีส่ ดุ
ท่ี มท ๐๖๑๙/ว ๒๘๓๖ ลงวันท่ี ๑๑ ธันวาคม ๒๕๓๕ และหนังสอื กรมทดี่ ิน ดวนทีส่ ุด ที่ มท
๐๕๑๖.๒(๑)/ว ๑๔๗๘๙ ลงวนั ท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ใหถ อื ปฏิบัตเิ ชนเดิม
กรมทีด่ ิน
๑๖ ตลุ าคม ๒๕๕๕
สํานกั มาตรฐานการทะเบียนทีด่ นิ
สว นกาํ หนดสิทธใิ นท่ีดนิ และควบคมุ ทะเบียนท่ีดนิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๗๕ – ๗
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๘
๖๙๘
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๙๙๑๒ (สาํ เนา)
กรมทีด่ นิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๕
เร่ือง การรับคาํ ขอรงั วดั สอบเขต แบงแยก และรวมโฉนดท่ีดนิ
เรยี น ผวู า ราชการจงั หวัดทกุ จังหวดั
ดวยสํานักงานท่ดี นิ จงั หวัดและสํานกั งานท่ดี ินจงั หวดั สาขาบางแหง ดําเนินการ
รบั คําขอรงั วัดสอบเขต แบงแยก และรวมโฉนดที่ดนิ โดยมอบหมายใหฝ ายรังวัดเปน พนักงาน
เจาหนาที่ผูรับคําขอ แตในการดาํ เนนิ การรบั คําขอรังวัดของพนกั งานเจา หนา ทดี่ งั กลาว ปรากฏ
วา มีการหลกี เล่ยี งไมป ฏิบตั ิ ใหเปนไปตามระเบียบ คาํ สั่ง และกฎหมาย เชน มกี ารรังวัดแบง แยก
ทด่ี นิ ท่ีมลี กั ษณะเปน การหลกี เลี่ยงกฎหมายการจัดสรรทด่ี ิน หรือการรวมโฉนดท่ดี นิ ที่มรี ายการ
ภาระผกู พันกบั โฉนดทด่ี ินทีไ่ มมรี ายการภาระผกู พนั เขา ดว ยกนั เม่อื ฝา ยรังวัดดําเนนิ การรับคําขอ
และรังวัดเสรจ็ แลวไดส ง เร่ืองใหฝายทะเบียนเพ่ือดาํ เนนิ การ เมือ่ ฝายทะเบยี นตรวจสอบเรอื่ งราว
การรับคําขอและการรังวัดดังกลาวแลว ไมเ ปน ไปตามระเบยี บ คาํ ส่งั และกฎหมาย ทําให
ไมส ามารถดาํ เนนิ การตอ ไปได มผี ลใหผขู อไดร ับความเดือดรอนเสียหาย รวมทัง้ เกดิ ขอ ขดั แยง
ระหวา งเจาหนา ทีฝ่ ายทะเบียนกบั ฝายรังวัด ทําใหเสยี หายตอภาพลักษณของกรมท่ีดนิ
ดังนั้น เพอื่ ใหก ารดําเนินการรับคาํ ขอเกย่ี วกับการรังวดั ท่ดี นิ เปน ไปตามระเบยี บ
คําสัง่ กฎหมาย และปองกนั มิใหเ กิดปญหากรณีดงั กลาวขึน้ อกี จึงหามสํานักงานทด่ี ินทกุ แหง
มอบหมายใหฝา ยรงั วดั เปน ผูรับคําขอรงั วดั และใหฝายทะเบียนเปนผูรบั คําขอรังวัดทุกกรณี
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจงใหเจาหนาท่ีท่ีดินทราบและถือปฏิบัติโดย
เครงครดั ตอไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชอื่ ) บุญเชดิ คดิ เห็น
(นายบญุ เชิด คิดเหน็ )
อธบิ ดีกรมท่ดี นิ
สํานักมาตรฐานการทะเบียนทีด่ นิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๕๙ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔
๖๙๙
ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๑๑๑๓ (สําเนา)
กรมท่ดี ิน
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทุงสองหอง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๕
เรื่อง ระเบยี บกรมท่ดี ิน วาดว ยการมอบอํานาจใหท าํ การจดทะเบียนสทิ ธิและนติ กิ รรมหรือ
กจิ การอื่นเกย่ี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๕
เรียน ผูว า ราชการจงั หวดั ทกุ จงั หวัด
ส่งิ ทสี่ ง มาดว ย ระเบียบกรมทดี่ ิน วาดว ยการมอบอํานาจใหท าํ การจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม
หรอื กิจการอนื่ เกย่ี วกบั อสงั หาริมทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๕
ดวยกรมท่ีดินไดออกระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการมอบอํานาจใหทําการ
จดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรมหรอื กจิ การอ่นื เกี่ยวกบั อสังหารมิ ทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยไดยกเลกิ
ระเบยี บกรมทีด่ ิน วา ดว ยการมอบอาํ นาจใหทําการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมหรอื กจิ การอ่นื
เกย่ี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ย พ.ศ. ๒๕๔๗ และไดป รบั ปรงุ แนวทางปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การมอบอาํ นาจใหม
เพ่อื ใหเหมาะสมกับสถานการณท ีเ่ ปลยี่ นแปลงไปในปจจุบัน รายละเอยี ดปรากฏตามระเบยี บ
กรมทดี่ นิ วาดว ยการมอบอาํ นาจใหท าํ การจดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรมหรือกิจการอน่ื เกย่ี วกับ
อสังหารมิ ทรัพย พ.ศ. ๒๕๕๕ ท่ีสง มาพรอ มน้ี
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจงใหพนักงานเจาหนาท่ีทราบและถือเปน
แนวทางปฏิบัติพรอมท้ังนําระเบียบกรมท่ีดินดังกลาวไปเพ่ิมเติมในหนังสือรวมระเบียบ คําสั่ง
เกีย่ วกบั การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม ประเภทกอ ภาระผูกพัน และอืน่ ๆ เพื่อใหส ามารถใช
อางองิ ไดอ ยา งสะดวก รวดเรว็ และถกู ตอ งตอไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชือ่ ) บญุ เชิด คดิ เหน็
(นายบญุ เชิด คดิ เห็น)
อธบิ ดกี รมที่ดนิ
สาํ นักมาตรฐานการทะเบียนที่ดนิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๕๙, ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๕
โทรสาร. ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔
๗๐๐
(สําเนา)
ระเบียบกรมทด่ี ิน
วา ดว ยการมอบอํานาจใหท ําการจดทะเบียนสิทธิ
และนติ ิกรรมหรือกิจการอ่ืนเกี่ยวกบั อสังหารมิ ทรพั ย
____พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕____
โดยที่เปน การสมควรรวบรวม ปรบั ปรงุ แกไขหลกั เกณฑและแนวทางปฏบิ ัติเก่ียวกับ
การมอบอํานาจใหทําการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหรือกิจการอ่ืนเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย
ใหเ หมาะสมกับสถานการณทีเ่ ปลีย่ นแปลงไปในปจจบุ ัน และสามารถแกไ ขขอ ขดั ของเกี่ยวกับ
การมอบอํานาจใหถูกตอง ตลอดจนเพ่ือใหพนักงานเจาหนาที่สามารถปฏิบัติงานไดสะดวก
รวดเร็ว มีประสิทธภิ าพ เปนไปตามกฎหมายและเปนมาตรฐานเดยี วกนั
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๓๒ แหง พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บบริหารราชการ
แผนดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึง่ แกไ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารราชการแผน ดิน (ฉบบั
ที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกบั ขอ ๒ (๑) (๔) และขอ ๑๙ (๑) แหงกฎกระทรวงแบง สวนราชการ
กรมท่ีดิน กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. ๒๕๕๓ ออกตามความในพระราชบัญญตั ิระเบียบบรหิ าร
ราชการแผน ดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ อธบิ ดกี รมท่ดี นิ จึงวางระเบยี บไวด งั น้ี
ขอ ๑ ระเบียบนเ้ี รยี กวา “ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการมอบอาํ นาจใหท ําการ
จดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรมหรือกิจการอ่ืนเกย่ี วกบั อสังหาริมทรพั ย พ.ศ. ๒๕๕๕”
ขอ ๒ ระเบียบน้ีใหใชบ งั คับต้งั แตบดั นี้เปน ตนไป
ขอ ๓ ใหยกเลกิ
(๑) ระเบยี บกรมทด่ี นิ วา ดว ยการมอบอาํ นาจใหท าํ การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม
หรือกิจการอนื่ เกี่ยวกับอสังหาริมทรพั ย พ.ศ. ๒๕๔๗
(๒) หนังสือกรมทด่ี นิ ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๑๓๙๔๒ ลงวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๔๗
(๓) หนงั สือกรมที่ดนิ ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว๙๑๒๙ ลงวันท่ี ๒๒ มีนาคม ๒๕๕๕
บรรดาระเบยี บ ขอกาํ หนด หรอื คาํ สง่ั อน่ื ใดท่ีกําหนดไวแลว ในระเบียบน้หี รือซึ่งขดั
หรือแยงกบั ระเบียบนี้ ใหใชร ะเบยี บนแ้ี ทน
ขอ ๔ ใหผูอํานวยการสํานักมาตรฐานการทะเบียนท่ีดินเปนผูรักษาการตาม
ระเบียบน้ี
๗๐๑
หมวด ๑
หนังสือมอบอาํ นาจ
ขอ ๕ หนังสือมอบอํานาจใหทําการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหรือกิจการอื่น
เกีย่ วกับกับอสงั หารมิ ทรัพย ใหใ ชแบบพมิ พห นังสือมอบอํานาจของกรมทด่ี ิน หรือหนังสือท่ีมี
ขอความชดั เจนเพียงพอใหทราบวา เปนการมอบอํานาจใหผ ูใดทําอะไร เพียงใด เกีย่ วกับท่ีดนิ
แปลงใด หรืออสงั หารมิ ทรัพยอ ยา งใด ท้งั นใ้ี หอยใู นดลุ ยพินิจของพนักงานเจา หนา ท่ใี นการ
พิจารณาวา หนังสอื มอบอํานาจดังกลาวมคี วามชัดเจนพอหรือไม
ขอ ๖ หนงั สอื มอบอํานาจควรมพี ยานอยางนอ ย ๑ คน ถาผมู อบอํานาจพิมพ
ลายนิ้วมอื ตอ งมพี ยานลงลายมือชอ่ื รับรองไวดว ย ๒ คน พยานทร่ี ับรองตอ งลงลายมอื ชอ่ื เทานั้น
จะพิมพลายนิว้ มือไมได การเปน พยานใหร ะบุช่อื –ชอื่ สกลุ ของพยานใหชดั เจนท่ีอา นออกกํากับไว
เพื่อการตรวจสอบดว ย
การพมิ พล ายนิ้วมอื ของผมู อบอาํ นาจใหใ ชนิว้ หัวแมม อื ซาย ถา มีความจาํ เปนทจ่ี ะ
ตองใชนิว้ หัวแมมอื ขวาหรอื นิ้วมอื อื่นใหระบไุ วเพราะเหตใุ ด โดยใหฝ า ยผูมอบอาํ นาจบันทึกความ
จําเปนไวในหนงั สอื มอบอาํ นาจดว ย
ขอ ๗ การขูดลบ ตก เตมิ หรอื การแกไ ขเปล่ยี นแปลงในสิ่งซ่ึงเปนสาระสําคัญ
ของหนงั สือมอบอาํ นาจ เชน เปล่ยี นแปลงเคร่ืองหมายของท่ีดินจนเปน เหตุใหเปลย่ี นไปเปน
คนละแปลง หรอื เปล่ยี นประเภทการขอจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม เชน จํานองเปนขายหรอื
ขายฝาก เปนตน หนงั สือมอบอาํ นาจนน้ั ยอมไมส มบูรณ เวนแตผูท าํ หนงั สอื มอบอํานาจจะไดล ง
ลายมือชื่อกํากบั ไวทุกแหง ทีม่ กี ารแกไ ขเปล่ียนแปลง
ในกรณีทป่ี รากฏวา การกรอกขอความในหนงั สือมอบอาํ นาจมคี วามแตกตา งกนั
เกี่ยวกับลายมอื และใชนํ้าหมึกตางสีกนั หรอื เปน ตัวพิมพบาง ตวั เขียนบา ง ใหพนักงานเจาหนา ที่
ใชดุลยพินิจท่ีจะไมรับทําใหไดจนกวาคูกรณีจะไดแสดงหลักฐานวาเปนขอความตรงตามความ
ประสงคของผมู อบอาํ นาจ และใหบ นั ทึกคาํ รับรองของคูกรณีในการทจ่ี ะรบั ผิดชอบกนั เองไวเ ปน
หลกั ฐานดวย
ขอ ๘ หนงั สอื มอบอาํ นาจที่ทําในตา งประเทศ ควรใหส ถานทตู สถานกงสุล
โนตารพี ับลคิ (Notary Public) หรอื บคุ คลซ่งึ กฎหมายแหง ทอ งถ่นิ ระบุใหเ ปน ผมู อี าํ นาจเปน พยาน
ในเอกสารเปนผูรับรองในกรณีท่ีไมมีผูรับรองดังกลาวขางตนใหอยูในดุลยพินิจของพนักงาน
เจา หนา ทที่ ีจ่ ะเชื่อถอื ไดเ พียงใด
กรณที ผ่ี รู บั มอบอาํ นาจอา งวา ประเทศหรอื เมอื งทผ่ี มู อบอาํ นาจมถี น่ิ ทอ่ี ยไู มม สี ถานทตู
สถานกงสลุ หรอื โนตารีพับลิค (Notary Public) หรือมีแตอยูหางไกลไมสะดวก หรือถาจะตอง
ดําเนินการใหมีการรับรองจะตองเสียคาใชจายมากทําใหผูมอบอํานาจไดรับความเดือดรอน
ใหพนักงานเจาหนาที่ดําเนนิ การสอบสวนหรอื พิสูจนโดยวธิ อี น่ื หรอื ใหผ ูรบั มอบอาํ นาจและคกู รณี
๗๐๒
อีกฝายหนึ่งบันทึกรับรองความเสียหายอันจะพึงเกิดจากการดําเนินการตามหนังสือมอบอํานาจ
เพือ่ ประกอบการพิจารณาวาหนังสือมอบอาํ นาจนน้ั เช่อื ถือไดหรือไมเพยี งใด
กรณีทพ่ี ิจารณาแลวเห็นวา หนงั สือมอบอํานาจนน้ั ไมนา เชอ่ื ถือ ใหเจา พนักงานทด่ี นิ
กรงุ เทพมหานคร เจาพนกั งานท่ีดินกรุงเทพมหานครสาขา เจา พนกั งานที่ดินจังหวดั เจา พนกั งาน
ท่ดี ินจังหวัดสาขา เจา พนกั งานท่ีดนิ หวั หนาสว นแยก หรอื ผรู กั ษาราชการแทน หรอื รักษาการใน
ตาํ แหนงดังกลาว แลว แตก รณี เปน ผูม อี ํานาจปฏเิ สธไมรบั ดําเนินการตามหนังสือมอบอาํ นาจน้นั
หมวด ๒
การตรวจหนงั สือมอบอาํ นาจ
ขอ ๙ การตรวจหนังสือมอบอํานาจใหอยูในความควบคุมรับผิดชอบของพนักงาน
เจาหนา ทผ่ี ูด าํ เนินการเรื่องนัน้
ขอ ๑๐ การตรวจหนังสือมอบอํานาจ ใหพิจารณาโดยละเอียดรอบคอบในเร่ือง
ดงั ตอไปนี้
(๑) ตรวจเลขเครือ่ งหมายทีด่ นิ หรืออสงั หารมิ ทรัพยอ ยา งอ่ืนท่ปี รากฏในหนงั สือ
มอบอาํ นาจวา ตรงกับเครื่องหมายทีด่ ิน หรอื อสังหาริมทรัพยอ ยางอื่นท่ีจะขอทาํ ธุรกรรมนน้ั หรือไม
(๒) ตรวจสอบช่อื ชื่อสกลุ อายุ ชือ่ บดิ า ช่อื มารดาของผมู อบอํานาจและ
บัตรประจําตัวหรือสําเนาภาพถายบัตรประจําตัวท่ีผูมอบอํานาจรับรองความถูกตองวาตรงกับ
หลกั ฐานเดิมหรือไม
สําเนาภาพถายบัตรประจําตัวของผูมอบอํานาจตองมีความชัดเจน กรณีมีขอพิรุธ
อ่นื ๆ ใหพ นักเจา หนาทท่ี ําการตรวจสอบและสอบสวนตามอาํ นาจหนา ที่ เพ่ือใหไดข อเทจ็ จรงิ เปน
ที่นาเชื่อถอื กอนดําเนินการใหผ ูข อ
(๓) ตรวจอํานาจในการมอบอํานาจใหทํากิจการใดเปนไปโดยชอบดวยกฎหมาย
หรือไม ทัง้ น้ตี องพิจารณาโดยเครง ครัดตามอกั ษร เวนแตใ นกรณที ่ีผมู อบอํานาจขอทํานิตกิ รรม
เพื่อจะไดมาซง่ึ สทิ ธิอันใดอนั หนึ่ง หรอื เพื่อใหห ลุดพนจากหนาท่ีอนั ใดอันหน่ึง แมจะมีขอความไม
ชัดแจงบางก็อาจพิจารณาดําเนินการใหไดซึ่งแลวแตดุลยพินิจของพนักงานเจาหนาที่เปนรายๆ
ไป เชน ผูม อบอํานาจเปน ฝา ยทรี่ บั ใหโ ดยเสนห าไมม ภี าระผกู พนั หรือเปน ฝายไถถ อนจาํ นองหรอื
ไถถ อนจากการขายฝาก เปนตน
ในการมอบอาํ นาจใหทําการรังวดั แบงแยก ถา หนังสือมอบอาํ นาจระบใุ หผ ูรบั มอบ
อํานาจมอี ํานาจทาํ การ “แบง แยก” โดยมิไดระบวุ า แบง แยกในประเภทใด เชน แบง ขายหรอื
แบงหักที่สาธารณประโยชนห ากผูรับมอบอํานาจขอแบง แยกทด่ี นิ ในประเภทอื่นทม่ี ใิ ชแบง แยกใน
นามเดิมแลว พนกั งานเจาหนา ทไ่ี มค วรรบั ดําเนนิ การให เวน แตใ นหนังสอื แสดงสิทธใิ นท่ีดนิ มี
ช่อื เจา ของหลายคน ซง่ึ อาจแปลความวา “แบงแยก” หมายถึง แบงกรรมสทิ ธิ์รวมได แตตอ งมี
ขอความอ่นื ขยายความใหเหน็ วา เปนการแบง แยกออกจากกนั ระหวา งเจาของรวม
๗๐๓
ในกรณีท่ีตัวแทนไดรับมอบอํานาจใหทํานิติกรรมอยางหน่ึงอยางใดในนามของ
ตวั การทํากบั ตนเองในนามของตนเอง หรอื ในฐานเปน ตวั แทนของบุคคลภายนอกตามประมวล
กฎหมายแพง และพาณิชย มาตรา ๘๐๕ เม่อื ปรากฏหลักฐานคาํ ยนิ ยอมของตัวการเปนหนงั สือใน
หนงั สอื มอบอาํ นาจนน้ั เองหรอื ในเอกสารอื่น จงึ ดาํ เนินการใหได
การระบุขอความดงั กลาว ผมู อบอํานาจอาจระบุขอความแตกตา งไปซ่ึงขอความ
อาจไมต รงตามตัวบทกฎหมาย แตถาอา นแลว สามารถเขา ใจไดว า ผูมอบอาํ นาจไดรหู รือควรรวู า
ผรู บั มอบอํานาจจะตองทาํ ในสองฐานะคือฐานะตวั แทน และในฐานะตนเองดวย ก็ยอ มเปนการ
เพียงพอ
(๔) ตรวจสอบลายมือชื่อของผูมอบอํานาจ โดยทีเ่ จา หนา ทผี่ ูตรวจสอบลายมอื ชอื่
มิใชผชู ํานาญการพิเศษโดยเฉพาะ การตรวจสอบจึงตอ งใชความระมัดระวงั อยางวิญูชนจะ
พึงกระทําได ถาไมแนใจหรอื มีเหตอุ ันควรสงสัยแลว กร็ ับดําเนินการใหไ มได โดยใหพนกั งาน
เจา หนา ที่ชแี้ จงเหตผุ ลใหค กู รณที ราบวา ลายมอื ชือ่ นั้นผิดเพ้ียนกันอยา งใด หรอื สงสัยประการใด
เมื่อคูกรณีหาหลกั ฐานมาแสดงจนเปน ทนี่ า เชอ่ื ถือไดจ ึงรบั ดําเนนิ การใหไ ด แตถ าเปนกรณีที่ไมม ี
ลายมือชื่อในสารบบท่ีจะตรวจสอบกันไดก็ใหแจงใหคูกรณีทราบและใหบันทึกความรับผิดกันเอง
ของคกู รณีไวเปนหลักฐาน แลวดําเนินการตอ ไปได การตรวจสอบลายมอื ช่อื ของผูมอบอํานาจซึ่ง
อาจเปน ลายมอื ชอ่ื หรอื ลายพมิ พน ว้ิ มอื กไ็ ดน น้ั ใหต รวจสอบกบั ของเดมิ วา พอทจ่ี ะเชอ่ื ถอื ไดห รอื ไม
ในกรณีของเดิมพิมพลายนิ้วมือไวแตตามหนังสือมอบอํานาจเปนลายมือช่ือหรือ
ของเดมิ เปน ลายมอื ชอ่ื แตต ามหนงั สอื มอบอาํ นาจเปน พมิ พล ายนว้ิ มอื ใหพ นกั งานเจา หนา ทช่ี แ้ี จง
ใหคูก รณที ราบ และใหไ ปลงลายมือช่ือหรือพมิ พนว้ิ มอื เพื่อนาํ มาตรวจสอบใหม แตถาไมอาจ
ทําได กใ็ หพ นักงานเจา หนาทบี่ ันทึกเหตุผลไวว า เปน เพราะเหตุใด เม่ือคกู รณียืนยนั ใหทาํ กต็ อ ง
ใหพยานทเ่ี ช่ือถือไดร บั รอง พรอ มทงั้ บนั ทกึ คูก รณีอกี ฝายหนงึ่ ใหร ับรองดวย
เม่อื ตรวจแลวใหเ จาหนา ท่ีผตู รวจบนั ทึกไวใ นหนังสอื มอบอาํ นาจนนั้ วา “ตรวจแลว
ใชไ ด” หรอื “ตรวจแลว ใชไ มได” เพราะเหตุใด แลวลงลายมอื ชื่อและ วนั เดือน ป กาํ กับไว
ขอ ๑๑ เมื่อเจาหนาท่ไี ดต รวจและใหความเห็นแลว ใหนําเรอ่ื งพรอมกับสารบบ
เสนอใหพนักงานเจาหนาที่ผูมีอํานาจสั่งการทําการตรวจสอบและส่ังการเกี่ยวกับหนังสือมอบ
อาํ นาจอกี ครั้งหน่ึงเม่อื เห็นวา ใชไ ดแ ลวใหบ นั ทึกสง่ั การวา “ดาํ เนินการได” แลว ใหด าํ เนนิ การ
ตอ ไป
กรณีท่ีพนักงานเจาหนาท่ีผูมีอํานาจสั่งการ ตรวจหนังสือมอบอํานาจแลวเห็นวา
ใชไมไดเพราะเหตุใดก็ตาม ใหพนักงานเจาหนาที่ที่ผูมีอํานาจสั่งการปฏิเสธไมรับดําเนินการ
โดยบันทึกส่ังการพรอมดวยเหตุผลในหนังสือมอบอํานาจนั้นแลวแจงใหผูรับมอบอํานาจทราบ
และใหเ ก็บหนงั สอื มอบอํานาจไวในสารบบท่ีดิน
๗๐๔
การปฏิเสธไมร ับดาํ เนินการตามหนังสอื มอบอาํ นาจเปน คาํ สัง่ ทางปกครอง การทํา
คาํ ส่งั และการแจง คําส่ังใหถ อื ปฏบิ ตั ิตามกฎหมายวาดว ยวธิ ปี ฏิบตั ิราชการทางปกครอง
ขอ ๑๒ ใหหัวหนาฝายทะเบียนหรือผูรักษาการในตําแหนงเปนผูมีอํานาจสั่งการ
เกี่ยวกับหนังสือมอบอํานาจ ยกเวนการสั่งการเกี่ยวกับหนังสือมอบอํานาจที่เปนการโอนทาง
ทะเบยี นซ่ึงมที นุ ทรพั ยเกนิ กวาทุนทรพั ยข องหวั หนา ฝา ยทะเบียน ทั้งน้ี ตามคําส่งั ทีก่ รมท่ีดิน
กําหนด ใหเจาพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานคร เจาพนักงานที่ดินกรุงเทพมหานครสาขา
เจา พนกั งานทีด่ นิ จังหวัด เจาพนกั งานท่ดี ินจังหวัดสาขา เจาพนกั งานท่ีดินหัวหนา สวนแยก หรือ
ผูร กั ษาราชการแทน หรอื รักษาการในตาํ แหนง ดงั กลา วแลว แตก รณี เปน ผมู ีอํานาจส่ังการหนงั สอื
มอบอาํ นาจน้นั
ขอ ๑๓ การปฏิเสธการดาํ เนนิ การตามหนงั สือมอบอํานาจ ใหพนักงานเจา หนา ที่
แจงผูรบั มอบอาํ นาจทราบ โดยใหบันทกึ ไวดานหลงั หนงั สือมอบอาํ นาจหรือทอี่ นื่ ตามที่เห็นสมควร
แลวแตกรณีพรอมท้ังแจงสิทธิการอุทธรณตามกฎหมายวาดวยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
แลวใหผ รู ับมอบอาํ นาจหรือผูขอลงลายมอื ชือ่ ไวเ ปน หลกั ฐานตามตัวอยางทายระเบียบนี้ กรณี
ผูรับมอบอํานาจปฏิเสธการลงลายมือชื่อใหพนักงานเจาหนาที่บันทึกไวโดยมีเจาหนาท่ีลงช่ือเปน
พยาน ๒ คน และใหมีหนงั สอื แจง ไปยงั ผมู อบอาํ นาจเพอ่ื ใชสทิ ธิอทุ ธรณต ามกฎหมายวา ดวยวิธี
ปฏิบตั ิราชการทางปกครอง
หมวด ๓
การสอบสวนคกู รณแี ละการดําเนินการเก่ียวกับหนงั สือมอบอํานาจ
ขอ ๑๔ เพื่อปองกันการทุจริตเกี่ยวกับหนังสือมอบอํานาจ ใหคูกรณีอีกฝายหนึ่ง
บนั ทกึ รบั รองความเสยี หายอนั พงึ เกดิ จากการทาํ นติ กิ รรม ในเรอ่ื งรจู กั เจา ของทด่ี นิ และทต่ี ง้ั ของทด่ี นิ
หากมีกรณีสงสัยเก่ียวดวยตัวคูกรณีประการใด ใหนําเสนอเจาพนักงานท่ีดินกรุงเทพมหานคร
เจาพนกั งานที่ดินกรุงเทพมหานครสาขา เจา พนักงานที่ดินจงั หวัด เจาพนกั งานท่ีดินจงั หวัดสาขา
เจา พนกั งานท่ีดนิ หวั หนาสวนแยก หรอื ผูรักษาราชการแทน หรอื รกั ษาการในตําแหนงดังกลาว
แลว แตกรณี เพอื่ ส่งั การเสยี กอ น
ขอ ๑๕ ในกรณีท่ีมีเหตุอันควรสงสัยวา ผูมอบอํานาจจะยังคงมีชีวิติอยูหรือไม
และมีสติสัมปชัญญะสมบูรณหรือไม ใหพนักงานเจาหนาที่สอบสวนคูกรณีหรือเรียกบุคคลซ่ึง
เกีย่ วขอ งมาใหถ อ ยคํา หรือสง เอกสารหลกั ฐานที่เกี่ยวของตามความจําเปนตามมาตรา ๗๔ แหง
ประมวลกฎหมายทีด่ นิ ไดใ หอาํ นาจไว ท้ังน้ใี หบนั ทกึ การสอบสวนไวเ ปนหลักฐาน
ขอ ๑๖ การทําหนังสือสัญญา บันทึก คําขอ ใหใ สชือ่ ผูรบั มอบอํานาจตอ ทายช่ือ
ผูม อบอํานาจไวใ นวงเลบ็ ดวย การลงลายมือช่ือผรู บั มอบอาํ นาจใหบรรยายวา “แทนตามหนังสอื
มอบอํานาจ ลงวนั ที.่ ....เดือน......พ.ศ. .....”
๗๐๕
ขอ ๑๗ ใหเก็บหนงั สอื มอบอํานาจไวใ นสารบบ แตถาเรอ่ื งใดมีเหตผุ ลเปน พิเศษวา
ถาจะเก็บไวในสารบบจะไมปลอดภัยแลว จะแยกเก็บไวตางหากในที่ปลอดภัยก็ทําไดโดย
หมายเหตใุ หท ราบในสารบบและทาํ บญั ชีควบคมุ ไวเปนหลักฐาน
การมอบอาํ นาจเก่ยี วกบั ท่ีดนิ รวมหลายแปลง ใหเกบ็ หนงั สือมอบอาํ นาจในสารบบ
ทดี่ ินแปลงใดแปลงหนงึ่ และหมายเหตุไวในสารบบทดี่ ินแปลงอ่นื ๆ วาหนังสือมอบอํานาจเกบ็ ไว
ในสารบบท่ีดินแปลงหนาสํารวจใดตาํ บลใด เพ่ือใหค นหาไดง า ย
หมวด ๔
ขอปฏบิ ัติสาํ หรับพนกั งานเจา หนา ท่ี
ขอ ๑๘ หามขาราชการในสังกัดกรมที่ดินรับมอบอํานาจทําธุรกิจเกี่ยวกับ
อสงั หาริมทรพั ยไ มวา กรณใี ด เวนแตจะไดรับอนญุ าตจากผูบังคับบญั ชาเสยี กอน
ขอ ๑๙ หามพนักงานเจาหนาท่ีออกไปทําการรับรองเก่ียวกับลายมือชื่อในหนังสือ
มอบอํานาจนอกสถานที่ทาํ การไมวากรณใี ด เวน แตจะไดร บั อนุญาตจากผูบงั คับบญั ชาเสียกอ น
ขอ ๒๐ หามเจาหนาทีร่ บั จดั ทําหนงั สือมอบอํานาจใหผขู อ หากประชาชนมปี ญ หา
เกี่ยวกบั การกรอกขอความในแบบพมิ พหนังสือมอบอํานาจท่ีกรมท่ีดินพมิ พข น้ึ เจา หนาทีก่ ็ชอบที่
จะใหค ําแนะนําได
ขอ ๒๑ กรณีมีผูมาขอใหระงับการดําเนินการตามหนังสือมอบอํานาจที่ตนไดลงชื่อ
มอบอํานาจไวใหผูน้ันย่ืนคํารองตอพนักงานเจาหนาท่ีและใหพนักงานเจาหนาท่ีส่ังในคํารองวา
ไมอาจดําเนินการใหได และแจงใหผ รู องติดตอ บอกเลกิ การมอบอาํ นาจไปยังผรู ับมอบอาํ นาจ
และดําเนินการเพื่อใหไดมาซึ่งหนังสือมอบอํานาจเองพนักงานเจาหนาท่ีไมอาจจะรับคํารองไว
พจิ ารณาได โดยใหบ นั ทึกผยู ่ืนคาํ รองรบั ทราบไวเ ปน หลกั ฐานในคํารองและใหเกบ็ คาํ รองไวใ น
แฟมงานสารบรรณตามปกตไิ มตอ งเกบ็ รวมไวใ นสารบบทด่ี นิ
ในกรณีที่มีผูแจงเปนหนังสือมายังพนักงานเจาหนาท่ีขอใหระงับการดําเนินการตาม
หนงั สอื มอบอํานาจ ใหพนกั งานเจาหนาท่ีมหี นงั สอื แจงใหผ นู ั้นทราบโดยอนุโลมตามขอ ความ
ในวรรคหนงึ่ พรอ มสง หนังสือที่ขอใหระงบั การดําเนินการตามหนังสือมอบอาํ นาจคืน โดยสง ทาง
ไปรษณียลงทะเบียนตอบรบั ภายในวนั นนั้ หรือวนั รุงขน้ึ เปนอยา งชา
หมวด ๕
การเรยี กเกบ็ คาธรรมเนียมและการปด อากรแสตมป
ขอ ๒๒ ใหเรียกเกบ็ คาธรรมเนยี มคา มอบอาํ นาจตามทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง ซ่ึง
ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใ ชประมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ โดยถอื ปฏบิ ัติดงั น้ี
๗๐๖
(๑) เรื่องแบง กรรมสทิ ธ์ิรวม แบง ขาย หรือแบงอยางอ่ืน จะแบง เปน กีแ่ ปลงกต็ าม
ถือเปนเรือ่ งเดียวกัน
เรอ่ื งรวมโฉนดทดี่ ิน จะนําโฉนดทีด่ นิ กี่แปลงมารวมกนั กเ็ ปน เร่ืองท่ีดินหลายแปลง
รวมเขา เปนแปลงเดียวกัน จงึ เปน เรื่องเดียวกนั ถาขอรวมโฉนดทดี่ นิ หลายแหง เขา ดว ยกัน แตล ะ
แหงก็เปนเรอ่ื งหนึง่ ๆ
เรอ่ื งขอจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมประเภทเดยี ว จะเปนที่ดินกี่แปลงกถ็ อื เปนเร่ือง
เดยี ว เชน ขายท่ดี นิ รวม ๕ แปลง ตามสญั ญาฉบบั เดยี วกนั ถอื เปน เรื่องเดยี ว
(๒) บุคคลหลายคนมอบอํานาจมาทําการ เปนเร่ืองของบุคคลที่มอบอํานาจมา
ทําการแตละบุคคลเปนคนละเร่ือง ไมวาจะมอบอํานาจในหนังสือมอบอํานาจในหนังสือมอบ
อํานาจฉบับเดียวกันหรอื หลายฉบับ เพราะเปน กจิ ธุระของแตล ะบคุ คล
กรณีผูจัดการมรดกหลายคนมอบอํานาจมาทําการจดทะเบียนประเภทใดประเภท
หนงึ่ ถอื วาเปน เรือ่ งของผจู ดั การมรดกท่มี อบมาทําการแตละบคุ คลเปนคนละเรอ่ื ง ไมว า จะมอบ
อาํ นาจในหนังสอื มอบอาํ นาจฉบบั เดยี วกนั หรอื หลายฉบบั ใหเ รยี กเก็บคาธรรมเนียมคามอบ
อาํ นาจเปนรายบคุ คลทีม่ อบอํานาจ
ผูจ ดั การธนาคารสาขาผรู ับมอบอาํ นาจจากธนาคารสาํ นกั งานใหญ มอบอาํ นาจชว ง
ใหเ จาหนา ทข่ี องธนาคารสาขา มาจดทะเบยี นรบั จํานองทดี่ นิ จึงเปน การรบั จํานองแทนธนาคาร
สาํ นกั งานใหญ การเรยี กเก็บคา ธรรมเนียมคามอบอาํ นาจใหเ รยี กเกบ็ เปน เร่ืองเดยี ว
(๓) ผูไถถอนมาจดทะเบียนไถถอนฝายเดียว โดยมีหลักฐานเปน หนงั สือจากผรู บั
จํานองวาไดมกี ารชําระหน้แี ลว มาแสดง แมผูไถถอนจะมหี นังสอื มอบอํานาจของธนาคารแนบ
มาพรอ มทั้งเร่ืองราวการจดทะเบียนไถถ อน กรณเี ชน น้ีไมม ีการรับมอบอาํ นาจทจี่ ะเรยี กเกบ็ คา
ธรรมเนียมคา มอบอาํ นาจ
(๔) การมอบอํานาจใหรับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เขาลักษณะเปนการมอบ
อาํ นาจใหร บั สิ่งของแทนไมตอ งเรยี กเก็บคา ธรรมเนียม
ขอ ๒๓ หนังสือมอบอํานาจตองปดอากรแสตมปใหครบถวนตามประมวลรัษฎากร
ดงั น้ี
(๑) มอบอาํ นาจใหบ คุ คลเดียวหรอื หลายคนกระทําการครัง้ เดยี ว ปดอากรแสตมป
๑๐ บาท
(๒) มอบอํานาจใหบุคคลเดียวหรือหลายคนรวมกันกระทําการมากกวาคร้ังเดียว
ปด อากรแสตมป ๓๐ บาท
(๓) มอบอาํ นาจใหก ระทําการมากกวา ครงั้ เดียว โดยใหบ ุคคลหลายคนตา งคนตา ง
กระทํากจิ การแยกกนั ได คดิ ตามรายตัวบุคคลที่รบั มอบอํานาจ ปดอากรแสตมปค นละ ๓๐ บาท
๗๐๗
(๔) ถา ผมู อบอาํ นาจมีหลายคน แตม ไิ ดเปนผมู อี าํ นาจรว มกันแลวมอบอํานาจใน
ตราสารฉบบั เดยี วกนั ตองคดิ ตามรายตวั บคุ คล ผมู อบอาํ นาจคนหนึ่งเปนหนึง่ เรื่องตาม (๑) (๒)
และ (๓) แลว แตกรณี
(๕) สญั ญาตัวแทนมอบอํานาจเฉพาะการ ปดอากรแสตมป ๑๐ บาท มอบอาํ นาจ
ทัว่ ไปปด อากรแสตมป ๓๐ บาท
(๖) การมอบอํานาจใหรับหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินแทนตลอดจนใหถอยคําตางๆ
ตอเจาหนาที่เฉพาะการมอบอํานาจใหรับหนังสือแสดดงสิทธิในท่ีดินแทนเขาลักษณะเปนการ
มอบอาํ นาจใหรบั สง่ิ ของแทนไมต อ งปดอากรแสตมป สวนการมอบอํานาจใหถอยคําตา งๆ ตอ
พนักงานเจาหนาที่เขาลักษณะเปนการมอบอํานาจใหบุคคลคนเดียวหรือหลายคนกระทําการคร้ัง
เดียว ปด อากรแสตมป ๑๐ บาท
ประกาศ ณ วันที่ ๒ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงชอ่ื ) บญุ เชิด คดิ เห็น
(นายบญุ เชดิ คิดเห็น)
อธบิ ดีกรมทดี่ นิ
๗๐๘
(ตวั อยา งหนงั สือมอบอํานาจ) (ท.ด. ๒๑)
หนังสือมอบอาํ นาจ
ท่ดี ิน
ระวาง......................................................................................ตาํ บล.......................................................................................
เลขท่ดี ิน..............................หนา สํารวจ....................................อําเภอ......................................................................................
โฉนทีด่ นิ เลขที.่ ........................................................................จังหวัด......................................................................................
เรื่อง........................................................................................................................................................................................
เขียนท่.ี ............................................................
วันท่ี.............เดือน................................พทุ ธศกั ราช.............
โดยหนังสือฉบบั นีข้ าพเจา .....................................................................................................................................
เลขประจาํ ตวั ประชาชน ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ อายุ......................ป เช้อื ชาต.ิ .................................
สญั ชาต.ิ ............................บดิ าช่ือ..............................................................มารดาชอ่ื ...............................................................
บา นเลขท่.ี .........................หมทู ่ี...................ตรอก/ซอย...................................................ถนน.................................................
ตําบล......................................อาํ เภอ.........................................จงั หวดั .....................................โทรศัพท.................................
ไดม อบให. ..............................................................................................................................................................................
เลขประจาํ ตัวประชาชน ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ ■ อาย.ุ .....................ป เชือ้ ชาต.ิ .................................
สญั ชาต.ิ ............................บิดาชื่อ..............................................................มารดาช่ือ...............................................................
บานเลขท่ี..........................หมทู ่.ี ..................ตรอก/ซอย...................................................ถนน.................................................
ตําบล......................................อําเภอ.........................................จังหวดั .....................................โทรศพั ท. ................................
เปนผมู ีอาํ นาจจดั การ..............................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................แทนขา พเจา จนเสรจ็ การ
เพื่อเปน หลักฐานขาพเจาได ลงลายมือชือ่ /พมิ พลายน้ิวมอื ไวเปน สําคัญตอ หนา พยานแลว
............................................ ผูมอบอาํ นาจ
()
ขาพเจาขอรับรองวา เปน ลายมอื ชือ่ /ลายพมิ พนวิ้ มือ อันแทจริงของผูม อบอาํ นาจและผมู อบอํานาจไดลงลายมือชื่อ/
พมิ พล ายนว้ิ มือ ตอ หนา ขาพเจา
............................................ พยาน
หมายเหตุ กรณีท่ผี รู บั มอบอํานาจเปน คสู ัญญาหรือ ()
เปนตวั แทนของคูส ัญญาใหระบขุ อความดงั ตอไปนด้ี ว ย ............................................ พยาน
“และยินยอมใหผ รู บั มอบอาํ นาจเขาทาํ การแทนในนาม ()
ตนเองและ/หรือเปนตัวแทนของอีกฝายหนงึ่ ดวย”
หมายเหตุ การลงลายมือชอ่ื หรือพิมพลายน้ิวมือ ถา ใชอ ยางใด ใหขีดฆาขอ ความท่ไี มใ ชออก ในกรณีพมิ พลายนิ้วมอื
ใหใ ชพ ิมพล ายนิว้ แมม ือซาย
โปรดอานคําเตือนดา นหลงั
๗๐๙
คําเตอื น
เพ่ือรกั ษาประโยชนของเจาของท่ีดนิ และผทู ่เี กีย่ วขอ ง
๑. ใหก รอกเครอื่ งหมายหนงั สอื สาํ คญั สําหรับทดี่ ินหรอื อสังหาริมทรัพยอยา งอน่ื เชน ตึก บานเรอื น โรง ใหชัดเจน
๒. ใหร ะบเุ ร่ืองและอาํ นาจจัดการใหชดั เจนวา มอบอํานาจใหทาํ อะไร เชน ซ้ือ ขาย จํานอง ฯลฯ ถามเี งือ่ นไขพิเศษ
เพ่ิมเตมิ ก็ใหระบไุ วดว ย
๓. อยา กรอกขอ ความใหต างลายมอื และใชนาํ้ หมกึ ตางสกี ัน ถา ใชพ มิ พด ดี กต็ อ งเปนเคร่ืองเดยี วกัน
๔. ถา มีรอยขดู ลบ ตกเติม แกไ ข หรือขดี ฆา ใหระบุวา ขดี ฆา ตกเตมิ ก่คี าํ และผูมอบอาํ นาจลงลายมือช่ือกํากับไวท ุกแหง
๕. อยา ลงลายมือชอ่ื ผูมอบอํานาจกอ นกรอกขอ ความโดยครบถวนและถูกตอ งตามความประสงคแ ลว
๖. ใหม ีพยานอยา งนอย ๑ คน ถา ผูมอบอาํ นาจพมิ พล ายน้วิ มือตองมพี ยาน ๒ คน พยานตองเซน็ ชื่อ จะพิมพลายน้ิวมือไมได
๗. หนังสือมอบอํานาจทําในตางประเทศ ควรใหสถานทตู หรือสถานกงสลุ หรือโนตารีพบั ลคิ (Notary Public) รับรองดวย
ตัวอยางบันทกึ แจง คําสัง่ ผูร ับมอบอํานาจ/ผขู อ
(กรณไี มส ามารถดาํ เนินการตามหนงั สอื มอบอาํ นาจได)
วัน...............เดอื น...........................พ.ศ. ..................
ขาพเจา..................................................................................................................ผูรับมอบอํานาจ/ผูขอ
ไดยื่นคําขอ.........................................โฉนดท่ีดนิ เลขท่ี......................หนาสํารวจ......................ตาํ บล................................
อําเภอ......................จงั หวดั ......................โดยใชหนังสือมอบอํานาจดําเนนิ การ พนักงานเจา หนา ทไี่ ดแ จง ใหข าพเจาทราบวา
ไมอ าจดําเนินการใหไ ด เนื่องจาก..................................................(ระบุเหตุผลทีไ่ มอ นุญาต เชน กรอกขอความไมค รบถวน/
ไมไดก รอกขอความ/อนื่ ๆ).................................................และไดมีคาํ ส่ังไมรบั ดาํ เนนิ การตามหนังสือมอบอาํ นาจแลว โดยท่ี
คําสง่ั น้เี ปน คาํ สั่งทางปกครองอันอาจอุทธรณได หากขาพเจาประสงคจะอทุ ธรณ หรอื โตแ ยงคาํ สง่ั น้ี ตอ งยืน่ อุทธรณหรอื โตแยง
คาํ สัง่ นี้ตอ พนกั งานเจาหนาที่ผูท าํ คาํ ส่ังนี้ภายใน ๑๕ วัน นับแตวันทไี่ ดร ับแจงคาํ สั่งนต้ี ามนยั มาตรา ๔๔ แหงพระราชบญั ญัติ
วธิ ปี ฏิบตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ในกรณมี ีการอุทธรณห ากครบกาํ หนดระยะเวลาในการพจิ ารณาของผมู อี าํ นาจ
พิจารณาอุทธรณตามนยั มาตรา ๔๕ แหงพระราชบญั ญัติวิธีปฏบิ ัตริ าชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประกอบกับกฎกระทรวง
ฉบบั ที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๔๐) ออกตามความในพระราชบญั ญัติดังกลา วแลว ไมว าจะมีคาํ วินจิ ฉยั ของผูมีอาํ นาจพิจารณาอุทธรณ
หรือไมก็ตาม ขา พเจาสามารถทีจ่ ะยื่นคําฟองเปนหนงั สือตอ ศาลปกครองหรอื สง คําฟอ งทางไปรษณยี ล งทะเบียนไปยงั ศาล
ปกครองภายในระยะเวลา ๙๐ วัน นบั แตว นั ที่รหู รอื ควรรถู ึงเหตุแหง การฟอ งคดนี ้นั ตามมาตรา ๔๙ แหง พระราชบญั ญตั จิ ดั ตั้ง
ศาลปกครองและวธิ พี ิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒
ขาพเจา รบั ทราบแลว จงึ ลงลายมอื ชอ่ื ไวเ ปน หลักฐาน
ลงชื่อ .................................................ผรู ับมอบอํานาจ
( .................................................)
ลงช่ือ .................................................ผขู อ
( .................................................)
ลงชือ่ .................................................ผูบ นั ทึก
( .................................................)
ลงชือ่ .................................................พยาน
( .................................................)
ลงชอื่ .................................................พยาน
( .................................................)
๗๑๐
ดวนทีส่ ดุ (สาํ เนา)
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๒๗๐๖
กรมทด่ี นิ
ศูนยราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจง วัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
เรอ่ื ง การลดหยอ นคาธรรมเนยี มและยกเวนภาษีอากรกรณีปรับปรงุ โครงสรางหนี้
เรียน ผวู า ราชการจงั หวดั ทกุ จังหวัด
อา งถึง หนงั สือกรมท่ดี ิน ดวนทีส่ ุด ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๘๑๑๔ ลงวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๕
ส่ิงทสี่ งมาดวย ๑. สําเนาพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวน
รษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕
๒. สําเนาประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กําหนดหลักเกณฑ วิธกี าร และ
เงื่อนไข กรณหี นที้ ตี่ อ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหนี้ตามหลักเกณฑการ
ปรบั ปรุงโครงสรา งหนีข้ องสถาบันการเงนิ ท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนด ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕
๓. สาํ เนาประกาศอธิบดกี รมสรรพากร เรือ่ ง กําหนดหลักเกณฑ วธิ ีการ และ
เง่อื นไข การยกเวน ภาษเี งินได ภาษธี รุ กิจเฉพาะ และอากรแสตมป สาํ หรบั
จํานวนเงนิ ที่ไดรบั จากการโอนอสงั หาริมทรพั ยของลูกหนขี้ องสถาบันการเงนิ
ทีน่ ํามาจาํ นองเปนประกันหน้ขี องเจาหนที้ ี่เปน สถาบนั การเงนิ
ใหแกผูอน่ื ซึ่งมใิ ชเจา หนีท้ เี่ ปน สถาบนั การเงนิ เพอื่ นําไปชําระหน้ีทคี่ า งชาํ ระ
แกเ จา หนที้ ่เี ปนสถาบนั การเงิน ซึง่ ดาํ เนินการปรับปรุงโครงสรางหนต้ี าม
หลกั เกณฑก ารปรับปรงุ โครงสรางหนีข้ องสถาบันการเงินที่ธนาคารแหง
ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
ตามหนงั สือที่อา งถึง กรมทดี่ นิ ไดแ จงมตคิ ณะรฐั มนตรีท่ใี หข ยายระยะเวลาการ
ลดหยอนคาธรรมเนียมการโอนและการจํานองอสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายที่ดินและ
หองชดุ ตามกฎหมาย วา ดวยอาคารชดุ ในกรณขี องการปรับปรุงโครงสรางหนอ้ี อกไปจนถงึ วันท่ี
๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ โดยกระทรวงมหาดไทยไดออกประกาศหลักเกณฑการลดหยอน
คาธรรมเนียมตามมตคิ ณะรัฐมนตรดี ังกลาวเมื่อวนั ท่ี ๒๐ กนั ยายน ๒๕๕๕ มีผลใชบังคับต้งั แต
วนั ท่ี ๒๘ กนั ยายน ๒๕๕๕ จนถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๕๕
๗๑๑
แตเน่ืองจากพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร
เก่ียวกับการปรับปรุงโครงสรางหน้ีและประกาศอธิบดีกรมสรรพากรท่ีกําหนดแบบหนังสือรับรอง
หน้ีที่ตองดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กําหนดตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร
เกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินและเจาหน้ีอื่น และหนังสือรับรองการ
โอนอสังหาริมทรัพยของลูกหนี้ของสถาบันการเงินใหแกผูอื่นซึ่งมิใชเจาหนี้ที่เปนสถาบันการเงิน
เพื่อนําเงินที่ไดจากการโอนอสังหาริมทรัพยไปชําระหนี้แกเจาหนี้ที่เปนสถาบันการเงนิ เพ่อื ขอรบั
สทิ ธิประโยชนทางภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาตามที่กลา วขา งตน ซึง่ เปน หลักฐานท่ีผูขอ
จดทะเบยี นจะตอ งนํามาแสดงเพอ่ื ขอรบั การลดหยอ นคา ธรรมเนียม ยงั ไมใ ชบังคบั พนักงาน
เจาหนาที่จึงตองเรียกเก็บคาธรรมเนียมและภาษีอากรในอัตราปกติไปกอน และเมื่อพระราช
กฤษฎีกาฯ ดังกลาวมีผลใชบังคับแลว กรมท่ีดินจะไดแจงแนวทางปฏิบัติในการลดหยอน
คาธรรมเนียมและยกเวน ภาษอี ากร รวมถงึ ทางปฏบิ ตั ใิ นการคืนเงนิ คา ธรรมเนยี มกรณีปรบั ปรุง
โครงสรา งหน้ี มาเพอ่ื ทราบและถอื ปฏิบตั ิ นั้น
บัดนี้ ไดมพี ระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร วาดวยการ
ยกเวนรัษฎากร (ฉบับท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ ซ่งึ ตามมาตรา ๖ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ กาํ หนด
ใหย กเวนภาษเี งนิ ไดห กั ณ ทีจ่ า ย ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป ใหแกล ูกหน้ีของสถาบัน
การเงนิ และสถาบนั การเงนิ ลกู หนีข้ องเจา หนอ้ี น่ื และเจาหนอ้ี ่นื สาํ หรบั เงนิ ไดท่ีไดร ับจากการ
โอนอสงั หาริมทรัพย (รวมถงึ หองชดุ ) อันเนือ่ งมาจากการดําเนนิ การปรับปรุงโครงสรางหนีต้ าม
หลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กําหนด และเฉพาะสําหรับการโอนอสงั หาริมทรพั ยทไ่ี ดกระทําในระหวางวนั ท่ี ๑ มกราคม
๒๕๕๕ ถงึ วนั ที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๕๕ โดยหลักเกณฑ วิธกี าร และเงื่อนไขการยกเวน ภาษีอากร
เปนไปตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากรท่สี งมาดว ย ๒. และ ๓. กรมทีด่ นิ จงึ แจง แนวทางปฏิบัติ
เกีย่ วกบั การลดหยอ นคา ธรรมเนียมตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ และการยกเวน ภาษอี ากร
ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ มาเพอ่ื ทราบและถอื ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี
๑. การจดทะเบียนที่อยูในขายไดรับลดหยอนคาธรรมเนียมและยกเวนภาษี
อากรการโอนและลดหยอนคา ธรรมเนียมการจาํ นอง ไดแก
๑.๑ ลูกหนข้ี องสถาบันการเงินโอนอสังหารมิ ทรพั ยห รอื หอ งชุด เพ่อื ชําระหนี้
ใหแกเจาหนีส้ ถาบันการเงนิ หรอื ลูกหนขี้ องเจาหนอ้ี น่ื โอนอสังหาริมทรพั ยหรือหองชุด เพอ่ื ชําระ
หน้ีใหแกเจาหน้ีอื่นหรือผูจํานองโอนอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดใหแกเจาหน้ีสถาบันการเงินหรือ
เจาหน้อี ่ืนซง่ึ เปนผรู ับจาํ นองเพื่อชําระหนจี้ าํ นอง ใหจดทะเบยี นในประเภท “โอนชาํ ระหนี้” หรอื
“โอนชําระหนจี้ าํ นอง” แลวแตก รณี และวงเล็บตอ ทา ยชอื่ ประเภทวา “(รับโอนจากลูกหนี้)” หรือ
“(รับโอนจากผจู าํ นอง)
๗๑๒
๑.๒ กรณสี ถาบนั การเงนิ หรอื เจา หนอ้ี น่ื โอนอสงั หารมิ ทรพั ยห รอื หอ งชดุ ทร่ี บั โอน
มาตาม ๑.๑ ใหแกล ูกหนี้ (หรือผูจ าํ นองหรอื ผคู าํ้ ประกัน) หากขอ เท็จจริงเปนการขายคืนใหกบั
ผทู โี่ อนมากใ็ หจดทะเบียนประเภท “ขาย” และวงเลบ็ ตอ ทายชื่อประเภทวา “โอนคนื แกลกู หนี้”
หรอื “โอนคืนแกผ จู าํ นอง” แตห ากรบั โอนจากผูจ ํานองแลว ขายใหแกลูกหน้ี หรอื รบั โอนจาก
ลูกหนแ้ี ลว ขายใหแ กผูจาํ นอง ใหจ ดทะเบยี นประเภท “ขาย” และวงเลบ็ ตอทายชอื่ ประเภทวา
“โอนใหแ กลกู หนี”้ หรอื “โอนใหแ กผูจ าํ นอง”
๑.๓ กรณีลูกหนี้ของสถาบันการเงินโอนอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดที่
จดทะเบยี นจาํ นองเปน ประกนั หนไ้ี วก บั สถาบนั การเงนิ ใหแ กผ อู น่ื ซง่ึ มใิ ชเ จา หนท้ี เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ
เพอ่ื นาํ เงนิ ทไ่ี ดจ ากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยห รอื หอ งชดุ นน้ั ไปชาํ ระหนแ้ี กเ จา หนท้ี เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ
ใหจดทะเบยี นประเภท “ขาย” และวงเล็บตอทา ยช่ือประเภทวา “โอนใหผอู นื่ เพอื่ ชําระหนีส้ ถาบัน
การเงิน”
การจดทะเบียนโอนตาม ๑.๑ และ ๑.๒ ไดร ับลดหยอ นคา ธรรมเนยี มและ
ยกเวน ภาษอี ากรท้งั จาํ นวน สว นการจดทะเบียนโอนตาม ๑.๓ ไดรบั ลดหยอ นคา ธรรมเนยี ม
สําหรับจํานวนเงินทีน่ ําไปชาํ ระหน้ีใหแกเจา หนที้ เี่ ปนสถาบนั การเงนิ และเรียกเกบ็ ในอัตราปกติ
สําหรับราคาประเมินทนุ ทรพั ยสว นทเ่ี กนิ จาํ นวนเงนิ ทน่ี าํ ไปชาํ ระหน้ีดงั กลา ว ในสวนของการ
ยกเวน ภาษีอากร ยกเวน ใหเฉพาะสวนทีไ่ มเ กินกวาหนที้ ค่ี างชาํ ระอยูก ับสถาบนั การเงิน หรอื มี
ภาระผูกพนั ตามสญั ญาประกันหนี้กับสถาบนั การเงิน ตามความทป่ี รากฏในแบบหนังสือรับรอง
การโอนอสังหาริมทรพั ยข องลูกหนฯี้ ทา ยประกาศอธิบดีกรมสรรพากรทีส่ งมาดว ย ๓.
๑.๔ การจดทะเบียนจํานองอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดระหวางลูกหน้ีของ
สถาบนั การเงินกบั เจาหนีท้ เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ หรือระหวางลูกหนี้ของเจา หนีอ้ ื่นกบั เจาหนี้อ่นื ตาม
นยั ขอ ๒ (๓) ของประกาศกระทรวงมหาดไทยท่สี งมาตามหนังสือทอี่ า งถึง หมายความรวมถงึ
การจดทะเบียนข้นึ เงนิ จากจํานองดวย โดยในการจดทะเบียนใหใ ชช ่ือประเภทการจดทะเบยี นวา
“จาํ นอง” หรอื “ขึน้ เงินจากจํานอง” แลวแตกรณีโดยวงเลบ็ ตอ ทา ยชื่อประเภทวา “(เรยี กจาํ นอง
อสงั หารมิ ทรัพย (หรือหองชุด) เพิ่มจากลกู หน)ี้ ” และไดรับลดหยอนคาธรรมเนยี มจากจํานวนเงนิ
จํานองทงั้ จาํ นวน
๒. การจดทะเบียนโอนและจํานองอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดท่ีจะไดรับลด
หยอนคา ธรรมเนียมและยกเวนภาษีอากรกรณีปรับปรงุ โครงสรางหน้ี นอกจากเอกสารหลักฐาน
ทีผ่ ขู อจดทะเบียนตองนาํ มาแสดงตามปกตแิ ลว ผขู อจดทะเบียนตองสง มอบหนังสือรับรองหนีท้ ี่
ตอ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี ตามหลกั เกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหนข้ี องสถาบนั การเงนิ
ที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกาํ หนดตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕
ซึ่งตองมีขอความอยางนอ ยตามแบบทแี่ นบทายประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากรท่ีสงมาดวย ๒. และ
ถา เปนการโอนตาม ๑.๓ นอกจากหนังสือรบั รองหนีฯ้ ที่ตองสง มอบใหแ ลว ผูขอจดทะเบยี นยงั ตอง
๗๑๓
สงมอบหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพยของลูกหน้ีใหแกผูอื่นซึ่งมิใชเจาหนี้ที่เปนสถาบัน
การเงนิ เพอ่ื นําเงนิ ท่ีไดจากการโอนอสังหาริมทรัพยไ ปชําระหน้ีแกเจา หนท้ี ่เี ปนสถาบันการเงินเพือ่
ขอรับสิทธปิ ระโยชนท างภาษีอากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ ซึ่งตอ ง
มีขอความอยางนอยตามแบบที่แนบทายประกาศอธิบดีกรมสรรพากรที่สงมาดวย ๓. ใหแก
เจาพนกั งานทดี่ ินขณะจดทะเบียนดว ย
๓. เพ่ือใหทราบวาการจดทะเบียนโอนและจํานองขางตนไดรับลดหยอนคา
ธรรมเนียมและยกเวน ภาษีอากรเพราะเหตุใด ในการจดทะเบยี นจึงใหพ นักงานเจา หนา ทรี่ ะบุ
ขอ ความลงในคําขอจดทะเบยี นฯ หนงั สือสัญญา บนั ทกึ ขอตกลง ตลอดจนใบเสร็จรับเงนิ ดว ย
ขอความวา “ยกเวน ภาษีอากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ และลดหยอน
คาธรรมเนียมตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕” สวนในการ
จดทะเบียนจาํ นองใหระบุในเอกสารดงั กลา ววา “ลดหยอนคาธรรมเนยี มตามประกาศกระทรวง
มหาดไทย ลงวนั ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕”
๔. กรณผี ขู อจดทะเบียนขอคืนคา ธรรมเนียมและภาษีอากรทเ่ี สียไป เน่อื งจาก
ขณะจดทะเบยี นยังไมมกี ารบังคับใชพ ระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ หรือบังคับ
ใชพระราชกฤษฎกี าฯ ดังกลาวแลว แตผ ูขอจดทะเบยี นมไิ ดแ จง ตอพนกั งานเจาหนา ที่วาเปน การ
ขอจดทะเบยี นอนั เนอ่ื งมาจากการปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี หรอื ผูขอมิไดส งมอบหนงั สอื รับรองหนี้ฯ
และหนงั สือรับรองการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยของลูกหน้ีฯ ซง่ึ ออกตามความในพระราชกฤษฎีกาฯ
(ฉบบั ท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ ใหแกพ นกั งานเจา หนาท่ีขณะจดทะเบยี นเปน เหตใุ หผ ขู อจดทะเบียน
เสียคาธรรมเนยี มและภาษอี ากรในอตั ราปกติ หากขอเทจ็ จริงภายหลงั ปรากฏวา การจดทะเบียน
โอนและจํานองน้ัน เปน การปรบั ปรุงโครงสรา งหนี้ตามหลกั เกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนขี้ อง
ธนาคารแหงประเทศไทย และเปน การจดทะเบียนที่อยใู นหลักเกณฑตามขอ ๑.๑, ๑.๒, ๑.๓
หรือ ๑.๔ ประกอบกับผขู อจดทะเบียนมีหลักฐานหนงั สือรบั รองหนี้ฯ หนังสือรับรองการโอน
อสงั หารมิ ทรพั ยข องลกู หนฯ้ี มาแสดงเพอ่ื ขอคนื คา ธรรมเนยี มในสว นทพ่ี นกั งานเจา หนา ทเ่ี รยี กเกบ็
ไวเกินกวา รอยละ ๐.๐๑ หากพนักงานเจา หนา ที่พจิ ารณาแลว เห็นวา กรณที จ่ี ดทะเบยี นไปอยูใน
หลกั เกณฑไ ดร บั ลดหยอนคาธรรมเนยี มและยกเวนภาษีอากร กช็ อบทีจ่ ะดาํ เนนิ การเพ่อื ใหม กี าร
คืนคาธรรมเนียมในสว นที่พนกั งานเจา หนาที่เรียกเก็บไวเกินได โดยการถอนคืนคา ธรรมเนียมที่
ไดมีการนําสงเปนรายไดใหแกองคกรปกครองสวนทองถิ่นแลว ในทางปฏิบัติตองสงเรื่องขอคืน
คาธรรมเนียมนั้นใหองคกรปกครองสวนทองถิ่นเจาของเงินรายไดเพื่อถอนคืนคาธรรมเนียมใหแก
ผูขอจดทะเบียน โดยดําเนินการตามกฎหมายและระเบียบขององคกรปกครองสวนทองถ่ิน
ในสวนที่เกี่ยวของ และเพื่อใหทราบวาเหตุใดจึงมีการคืนคาธรรมเนียม กอนดําเนินการคืน
คา ธรรมเนยี มใหพ นกั งานเจา หนา ทเ่ี พม่ิ เตมิ ชอ่ื ประเภทการจดทะเบยี นในหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ
ทงั้ ฉบบั สํานกั งานที่ดนิ และฉบับเจาของท่ีดิน ตลอดจนเอกสารทีเ่ ก่ียวของใหเปน ไปตามขอ ๑.๑,
๗๑๔
๑.๒, ๑.๓ และ ๑.๔ นอกจากนใ้ี นคําขอจดทะเบยี นฯ หนงั สือสัญญา บนั ทึกขอ ตกลง ตลอดจน
ใบเสร็จรบั เงนิ ใหร ะบขุ อ ความการยกเวน ภาษอี ากรและลดหยอนคาธรรมเนียมตามความในขอ ๓
แลวแตกรณีดวย สําหรับการขอคืนภาษีอากรที่เสียไป ใหพนักงานเจาหนาที่แนะนําผูขอ
จดทะเบยี นนาํ เอกสารหลกั ฐานไปยน่ื ขอคนื ภาษอี ากรทก่ี รมสรรพากรหรอื สรรพากรพน้ื ทท่ี ผ่ี ขู อคนื
มภี มู ลิ าํ เนาอยู หรอื ติดตอสอบถามไปท่ีศูนยขอมลู กรมสรรพากร โทรศัพทห มายเลข ๑๑๖๑
อน่ึง การปฏิบัติตามแนวทางดังกลาวขางตนเปนไปตามหนังสือกรมท่ีดิน
ดว นทสี่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๔๔๘๒ ลงวนั ที่ ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๕๔
จึงเรยี นมาเพื่อโปรดทราบ และแจง ใหเ จา หนา ท่ที ี่ดนิ ทราบและถอื ปฏิบตั ิตอ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชื่อ) บุญเชิด คิดเหน็
(นายบญุ เชดิ คดิ เห็น)
อธบิ ดีกรมท่ีดิน
สาํ นกั มาตรฐานการทะเบียนที่ดนิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔
๗๑๕
สงิ่ ท่สี งมาดว ย ๑
(สําเนา)
พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
วา ดวยการยกเวนรษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๔๗)
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___
ภมู ิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เปน ปท่ี ๖๗ ในรชั กาลปจจุบนั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา
โดยทีเ่ ปนการสมควรยกเวนภาษีเงนิ ได ภาษมี ลู คา เพมิ่ ภาษธี ุรกจิ เฉพาะ และอากร
แสตมป บางกรณี
อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรัฐธรรมนญู แหงราชอาณาจักรไทย และ
มาตรา ๓ (๑) แหง ประมวลรัษฎากร ซึ่งแกไ ขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญตั แิ กไขเพมิ่ เติมประมวล
รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อนั เปน กฎหมายท่มี บี ทบัญญตั ิบางประการเกี่ยวกับการ
จํากดั สทิ ธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่งึ มาตรา ๒๙ ประกอบกับมาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของ
รัฐธรรมนญู แหง ราชอาณาจกั รไทย บญั ญตั ใิ หก ระทําไดโ ดยอาศัยอํานาจตามบทบญั ญตั แิ หง
กฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชกฤษฎกี าขึน้ ไว ดงั ตอไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้ีเรียกวา “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รัษฎากรวาดวยการยกเวน รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษา เปน ตน ไป
มาตรา ๓ พระราชกฤษฎกี านใ้ี หใ ชบ งั คบั กบั หนท้ี ต่ี อ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี
ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนด ท้งั น้ี ตามหลกั เกณฑ วิธีการ และเงื่อนไขทีอ่ ธิบดีประกาศกําหนด
มาตรา ๔ ในพระราชกฤษฎกี าน้ี
“สถาบนั การเงิน” หมายความวา
(๑) สถาบนั การเงนิ ของรฐั ทมี่ กี ฎหมายเฉพาะจัดตัง้ ขึ้น
(๒) สถาบันการเงนิ ตามกฎหมายวา ดวยธุรกจิ สถาบนั การเงิน
(๓) บรรษัทบรหิ ารสินทรัพยไทยตามกฎหมายวา ดว ยบรรษทั บริหารสนิ ทรัพยไ ทย
(๔) บรษิ ัทบรหิ ารสินทรัพยต ามกฎหมายวาดวยบริษัทบริหารสนิ ทรพั ย
(๕) นติ ิบุคคลอ่ืนที่อธิบดีประกาศกาํ หนดโดยอนุมตั ริ ฐั มนตรี
๗๑๖
“เจา หนอี้ ่ืน” หมายความวา เจา หนที้ ี่มใิ ชสถาบนั การเงิน ซงึ่ ไดดาํ เนนิ การเจรจา
รว มกบั สถาบันการเงินในการปรบั ปรงุ โครงสรา งหนใี้ หแกลูกหนี้ และไดทําความตกลงเปน หนงั สือ
รวมกบั เจาหนีซ้ ึง่ เปนสถาบันการเงนิ
“ลกู หนขี้ องสถาบนั การเงนิ ” ใหหมายความรวมถงึ ผูค ้ําประกันของลูกหนีด้ ว ย
“ลูกหนี้ของเจา หนอี้ ืน่ ” หมายความวา ลกู หนขี้ องเจาหนีอ้ น่ื ซ่งึ เปนลูกหนข้ี องสถาบนั
การเงนิ ดวยและใหห มายความรวมถงึ ผคู าํ้ ประกนั ของลกู หนี้ดว ย
มาตรา ๕ ใหยกเวนภาษเี งนิ ไดต ามสว น ๒ และสวน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒
แหงประมวลรษั ฎากร ใหแกล กู หน้ีของสถาบันการเงิน สาํ หรบั เงินไดทไี่ ดรับจากการปลดหนข้ี อง
สถาบันการเงินโดยสถาบันการเงินน้ันไดดําเนินการตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของ
สถาบนั การเงนิ ทธี่ นาคารแหงประเทศไทยประกาศกาํ หนด ทง้ั น้ี เฉพาะการปลดหน้ที ่ไี ดกระทําใน
ระหวางวนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถงึ วนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
มาตรา ๖ ใหย กเวน ภาษเี งินไดตามสวน ๒ และสว น ๓ หมวด ๓ ภาษมี ลู คา เพ่ิม
ตามหมวด ๔ ภาษีธรุ กิจเฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมปตามหมวด ๖ ในลกั ษณะ ๒
แหง ประมวลรัษฎากร ใหแกลูกหนี้ของสถาบันการเงินและสถาบนั การเงิน สาํ หรับเงนิ ไดทไ่ี ดร ับ
จากการโอนทรัพยสิน การขายสนิ คา หรอื การใหบ รกิ ารและสําหรบั การกระทาํ ตราสาร อนั เนื่อง
มาจากการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ตาม
หลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนด ท้ังน้ี เฉพาะการโอนทรัพยส นิ การขายสินคาหรือการใหบรกิ าร และสําหรับการกระทาํ
ตราสารทไี่ ดกระทาํ ในระหวา งวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
มาตรา ๗ ใหย กเวนภาษีเงนิ ไดต ามสวน ๒ และสวน ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒
แหงประมวลรัษฎากร ใหแกล กู หน้ีของเจา หนอ้ี ืน่ สําหรบั เงินไดทไี่ ดรับจากการปลดหนข้ี อง
เจาหนี้อื่นซ่ึงไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ีโดยนําหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของ
สถาบันการเงินท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกาํ หนดมาใชโดยอนุโลม ท้งั นี้ เฉพาะการ
ปลดหนท้ี ี่ไดกระทําในระหวางวนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงวนั ท่ี ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
มาตรา ๘ ใหย กเวนภาษเี งนิ ไดตามสว น ๒ และสวน ๓ หมวด ๓ ภาษีมลู คาเพม่ิ
ตามหมวด ๔ ภาษธี ุรกจิ เฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมปตามหมวด ๖ ในลักษณะ ๒
แหง ประมวลรัษฎากรใหแ กลกู หนี้ของเจา หนอ้ี ืน่ และเจา หนีอ้ ื่น สําหรบั เงินไดทไี่ ดรบั จากการโอน
ทรพั ยสิน การขายสนิ คาหรือการใหบ รกิ าร และสาํ หรับการกระทําตราสาร อนั เนอ่ื งมาจากการ
ปรับปรุงโครงสรางหน้ีของเจาหนี้อ่ืนที่ไดดําเนินการโดยนําหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ี
ของสถาบนั การเงินทธ่ี นาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนดมาใชโ ดยอนโุ ลม ทัง้ นี้ เฉพาะ
การโอนทรพั ยส นิ การขายสนิ คา หรือการใหบ ริการ และสําหรับการกระทําตราสารทไ่ี ดกระทาํ ใน
ระหวา งวันท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงวนั ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
มาตรา ๙ ใหย กเวน ภาษีเงนิ ไดตามสวน ๒ และสวน ๒ และสว น ๓ หมวด ๓
ภาษธี ุรกิจเฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมปตามหมวด ๖ ในลักษณะ ๒ แหงประมวล
๗๑๗
รษั ฎากร ใหแ กล กู หนข้ี องสถาบนั การเงนิ สาํ หรบั เงนิ ไดท ไ่ี ดร บั จากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยท ล่ี กู หนี้
ของสถาบันการเงินนํามาจํานองเปนประกันหนี้ของสถาบันการเงินใหแกผูอ่ืนซ่ึงมิใชเจาหน้ีที่เปน
สถาบันการเงิน และสําหรับการกระทําตราสารอันเน่ืองจากการโอนอสังหาริมทรัพยดังกลาว
โดยลกู หน้ีของสถาบนั การเงินตอ งนําเงินไดนั้นไปชําระหนแ้ี กเจาหน้ที ่ีเปนสถาบันการเงนิ ซึ่งได
ดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ีตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสภาบันการเงิน
ที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด ทงั้ นี้ เฉพาะสว นที่ไมเ กนิ กวาหน้ที ี่คางชําระอยกู ับ
สถาบันการเงนิ หรอื มีภาระผกู พนั ตามสัญญาประกนั หน้ีกับสถาบันการเงนิ ตามหลกั เกณฑ
วิธีการและเง่ือนไขที่อธิบดีประกาศกําหนดและใหใชบังคับสําหรับการโอนอสังหาริมทรัพยและ
การกระทาํ ตราสารท่ีไดกระทาํ ในระหวา งวันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๕๕
มาตรา ๑๐ ใหร ัฐมนตรีวา การกระทรวงการคลงั รักษาการตามพระราชกฤษฎกี านี้
ผรู ับสนองพระบรมราชโองการ
ยงิ่ ลกั ษณ ชินวตั ร
นายกรฐั มนตรี
______________________________________________________________________________
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ ระราชกฤษฎกี าฉบบั น้ี คอื เน่ืองจากประเทศไทย
ประสบภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจอันสงผลกระทบตอความสามารถในการชําระหน้ีของภาคเอกชน
ทําใหสถาบันการเงินและเจาหน้ีอื่นตองปรับปรุงโครงสรางหน้ีเพ่ือใหสอดคลองกับความสามารถ
ในการชําระหน้ขี องลกู หนี้ จึงไดมกี ารตราพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร
วา ดวยการยกเวน รษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๑๗) พ.ศ. ๒๕๕๔ กาํ หนดใหส ทิ ธปิ ระโยชนทางภาษีอากรแก
ลูกหนีแ้ ละเจาหน้ีซึ่งเปนสถาบนั การเงินหรอื เจา หนอ้ี น่ื เพอื่ สงเสริมใหมีการปรับปรงุ โครงสรางหน้ี
ซง่ึ มผี ลใชบ ังคับถึงวนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ แตโ ดยท่ีในขณะนี้การปรับปรงุ โครงสรา งหนี้
ของสถาบนั การเงนิ และเจา หนี้อื่นยังดาํ เนนิ การไมเสร็จส้ิน จาํ เปนตองใหสิทธปิ ระโยชนทางภาษี
อากรตอ ไปอกี ระยะหนึ่ง ดังนั้น เพือ่ เปน การสงเสรมิ ใหม กี ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหนี้ของสถาบัน
การเงินและเจาหนี้อื่น และเพ่ือเปนการชวยเหลือและบรรเทาภาระภาษีอากรในการปรับปรุง
โครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินหรือเจาหน้ีอื่น อันจะชวยสนับสนุนการรักษาเสถียรภาพทาง
เศรษฐกิจของประเทศไทยใหเติบโตอยางตอเน่ืองภายใตสภาวการณเศรษฐกิจโลกท่ียังมีความ
ผนั ผวน สมควรกาํ หนดใหสทิ ธปิ ระโยชนท างภาษีอากรแกลูกหนแี้ ละเจาหนซ้ี ง่ึ เปนสถาบันการ
เงินหรอื เจาหนีอ้ ืน่ บางกรณี ทไี่ ดกระทําในระหวา ง วนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถงึ วนั ที่ ๓๑
ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ จงึ จําเปน ตองตราพระราชกฤษฎีกานี้
๗๑๘
ส่งิ ทีส่ งมาดว ย ๒
(สําเนา)
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เรือ่ ง กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเง่ือนไข กรณหี น้ที ่ีตอ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ
โครงสรางหนต้ี ามหลักเกณฑก ารปรับปรงุ โครงสรางหนข้ี องสถาบนั การเงนิ
ท่ธี นาคารแ_ห_ง _ป_ร_ะ_เ_ท_ศ__ไท__ย_ป_ร_ะ_กาศกําหนด
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรษั ฎากร วาดว ยการยกเวน รัษฎากร (ฉบับท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ อธบิ ดีกรมสรรพากร
กําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และเงอื่ นไข กรณีหน้ที ่ตี อ งดําเนนิ การปรับปรุงโครงสรา งหน้ีตาม
หลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนด ดังตอไปนี้
ขอ ๑ หน้ีที่ตองดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ตามหลักเกณฑการปรับปรุง
โครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด หมายความวา
หนแี้ ตล ะบญั ชีของลูกหน้ที ถ่ี ูกจดั ชน้ั เปน สินทรพั ยจ ัดชนั้ ต่ํากวา มาตรฐาน สงสัย สงสยั จะสูญ และ
สญู ตามหลกั เกณฑก ารจดั ชน้ั และการกนั เงนิ สาํ รองของสถาบนั การเงนิ ทธ่ี นาคารแหง ประเทศไทย
ประกาศกําหนด และใหรวมถึงหนี้ที่ถูกจัดชั้นเปนสินทรัพยจัดชั้นสงสัยจะสูญที่กันสํารองครบ
รอยละรอย และตัดออกจากบัญชีแลวแตยงั ไมไดบนั ทึกกลับเขา มาในบญั ชี และไดด าํ เนินการ
ปรับปรุงโครงสรางหน้ี ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของสถาบันการเงินที่ธนาคาร
แหงประเทศไทยประกาศกําหนด ทั้งนี้ ไมวาบัญชีลูกหนี้จะไดรับการจัดช้ันดังกลาวกอนป
พ.ศ. ๒๕๕๕ หรือภายในวนั ที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ขอ ๒ กรณตี ามขอ ๑ เจา หน้ที เี่ ปนสถาบันการเงิน เจา หนี้อื่น ลูกหน้ีของสถาบัน
การเงนิ และลูกหนขี้ องเจาหนีอ้ ืน่ จะตอ งรว มกนั จัดทาํ หนังสือรบั รองหน้ีท่ตี อ งดาํ เนินการปรับปรุง
โครงสรางหนี้ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศ
ประกาศกําหนด โดยหนงั สอื รับรองดังกลา วตองมขี อความอยา งนอ ยตามท่แี นบทายประกาศนี้
ลูกหนี้ของสถาบนั การเงนิ และลกู หนี้ของเจาหน้ีอืน่ ตอ งแจง หนังสือรับรอง
ตามวรรคหนงึ่ ดังนี้
(๑) แจง ตอเจา พนักงานทดี่ ินทอ งท่ีทีจ่ ดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรม โดยให
สงมอบหนังสือรับรองดังกลาวตอเจาพนักงานที่ดินผูรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะ
จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมาย เวนแตลูกหน้ีของสถาบันการเงินและลูกหน้ีของ
เจาหน้ีอ่ืนประสงคจะชําระภาษีอากรกอนในขณะที่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมาย
ก็ไมต อ งแจงและสงมอบหนังสอื รบั รองดงั กลาวตอ เจาพนักงานทด่ี ิน
๗๑๙
(๒) แจง ตอ อธิบดีกรมสรรพากร โดยใหสงมอบหนงั สือรับรองดงั กลาวผา น
สรรพากรพ้ืนท่ีในเขตทองที่ท่ีลูกหน้ีของสถาบันการเงิน และลูกหน้ีของเจาหนี้อ่ืนมีภูมิลําเนา
หรือสถานประกอบการต้ังอยหู รอื ในเขตทอ งทที่ อ่ี สงั หารมิ ทรพั ยท ่ีโอนตั้งอยู
ขอ ๓ ประกาศนใ้ี หใชบ ังคับตั้งแตว นั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตน ไป
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงชือ่ ) สาธิต รงั คสริ ิ
(นายสาธติ รังคสริ )ิ
อธิบดีกรมสรรพากร
๗๒๐
หนงั สอื รบั รองหนท้ี ต่ี อ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหนต้ี ามหลกั เกณฑก ารปรบั ปรงุ
โครงสรา งหนข้ี องสถาบนั การเงนิ ทธ่ี นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ตามพระราชกฤษฎกี าฯ
(ฉบับท่ี ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕
วันที.่ .........เดือน..........................พ.ศ. ............
เจา พนักงานที่ดนิ ............................................
เรียน
อธิบดีกรมสรรพากร (ผานสรรพากรพ้ืนที.่ ....................................)
๑. หนังสอื นี้ทําขึ้นโดย
(๑) สถาบนั การเงนิ ..........................................สาํ นักงานตัง้ อยูเลขท.่ี ..............
ตําบล/แขวง.................................อาํ เภอ/เขต................................จงั หวัด................................
ซึ่งตอไปนีเ้ รียกวา “เจาหน้ี”
(๒) ...............................................................สาํ นักงานตง้ั อยูเลขที่................
ตาํ บล/แขวง.................................อําเภอ/เขต................................จังหวัด................................
ซงึ่ ตอไปน้เี รยี กวา “เจาหนอ้ี ื่น”
(๓) ..............................................................เปนลกู หน/้ี ผูค้ําประกันของลูกหนี้
ราย................................................สํานกั งานต้ังอยเู ลขท.ี่ ...............ถนน.................................
ตําบล/แขวง...................................อําเภอ/เขต..............................จังหวัด.............................
ซงึ่ ตอ ไปน้ีเรยี กวา “ลูกหน”้ี
๒. ตามทล่ี กู หนม้ี ภี าระหนก้ี บั เจา หน/้ี เจา หนอ้ี น่ื เนอ่ื งจากมภี าวะวกิ ฤตทิ างเศรษฐกจิ
อนั สง ผลกระทบตอ ความสามารถในการชําระหน้ี ทําใหไ มส ามารถชาํ ระหนใ้ี หแกเ จาหนี/้ เจา หนอี้ ่นื
ตามจาํ นวนเงินและ/หรือตามกําหนดเวลาทไ่ี ดต กลงไวกบั เจา หน้/ี เจา หน้อี นื่ ได จงึ ตองดําเนินการ
ปรับปรุงโครงสรางหนี้ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของสถาบันการเงินท่ีธนาคารแหง
ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ท้ังนี้ ตามรายละเอยี ดในสญั ญาปรับปรงุ โครงสรางหนเ้ี ลขท่.ี ...........
.....................................ลงวนั ท.่ี ..............................................
๓. เจา หน้/ี เจาหน้ีอืน่ ขอรับรองวา หนแ้ี ตละบญั ชขี องลกู หนีเ้ ปน หนี้ท่ถี ูกจดั ชัน้ เปน
สนิ ทรพั ยจ ัดช้ันตา่ํ กวามาตรฐาน สงสัย สงสยั จะสูญ และสูญ ตามหลักเกณฑก ารจัดชน้ั และการ
กันเงนิ สํารองของสถาบนั การเงนิ ที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด และใหรวมถึงหน้ที ่ี
ถูกจัดชั้นเปนสินทรัพยจัดชั้นสงสัยจะสูญท่ีกันสํารองครบรอยละรอยและตัดออกจากบัญชีแลว
แตย ังไมไ ดบันทึกกลับเขา มาในบญั ชี และไดด ําเนินการปรบั ปรุงโครงสรา งหน้ตี ามหลักเกณฑก าร
ปรบั ปรงุ โครงสรา งหนี้ของสถาบนั การเงินทธี่ นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกําหนด ทง้ั นี้ ตาม
๗๒๑
รายละเอยี ดประเภทสนิ เชื่อ...........................................เลขท่ีบัญช.ี ..........................................
จาํ นวนเงิน..........................................บาท รวมเปน เงนิ ทัง้ ส้นิ ..........................................บาท
เจา หน้/ี เจาหนีอ้ ่ืน และลูกหน้ี/ผคู าํ้ ประกนั ของลกู หนี้ ขอรบั รองวา รายการใน
หนังสือฉบบั นีเ้ ปน ความจริงทกุ ประการ
จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ลงชอื่ ...................................... เจาหน้ี
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
ลงชอ่ื ...................................... เจาหนี้อื่น
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
ลงช่อื ...................................... ลกู หนี/้ ผูค้ําประกนั ของลูกหน้ี
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
๗๒๒
ส่ิงท่สี ง มาดวย ๓
(สําเนา)
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร
เรื่อง กาํ หนดหลักเกณฑ วธิ กี าร และเง่อื นไขการยกเวน ภาษเี งินได ภาษีธรุ กจิ เฉพาะ
และอากรแสตมป สาํ หรับจํานวนเงนิ ท่ีไดรบั จากการโอนอสงั หาริมทรัพยของลูกหน้ี
ของสถาบนั การเงินท่นี าํ มาจํานองเปนประกนั หน้ขี องเจา หนที้ ่เี ปนสถาบนั การเงนิ
ใหแกผอู ื่น ซง่ึ มใิ ชเจาหนี้ท่เี ปนสถาบันการเงิน เพ่ือนาํ ไปชาํ ระหนท้ี ่ีคางชาํ ระแกเ จา หนี้
ท่เี ปน สถาบนั การเงนิ ซ่ึงดาํ เนนิ การปรับปรุงโครงสรางหนีต้ ามหลักเกณฑก ารปรับปรุง
โครงสรางหน้ีของสถาบนั การเงนิ _ท__ีธ่ _น_า_ค_า_ร_แ_ห__ง _ป_ร_ะ_เทศไทยประกาศกาํ หนด
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๙ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรัษฎากรวา ดว ยการยกเวนรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๔๗) พ.ศ. ๒๕๕๕ อธิบดกี รมสรรพากร
กําหนด หลักเกณฑ วธิ กี าร และเง่อื นไขการยกเวนภาษีเงินได ภาษธี ุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป
สําหรับจํานวนเงินที่ไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยของลูกหนี้ของสถาบันการเงินที่นํามา
จาํ นองเปน ประกนั หนข้ี องเจา หนท้ี เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ ใหแ กผ อู น่ื ซง่ึ มใิ ชเ จา หนท้ี เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ
เพ่ือนําเงินท่ีไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยไปชําระหนี้แกเจาหนี้ท่ีเปนสถาบันการเงิน ซ่ึง
ดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ีตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของสถาบันการเงินท่ี
ธนาคารแหง ประเทศไทยประกาศกําหนด ดงั ตอ ไปน้ี
ขอ ๑ จํานวนเงนิ ไดท ีไ่ ดรบั ยกเวนภาษีเงนิ ได ภาษีธุรกจิ เฉพาะ และอากรแสตมป
สําหรับเงินไดที่ลูกหน้ีของสถาบันการเงินไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยที่นํามาจํานองเปน
ประกันหน้ีของเจาหน้ีท่ีเปนสถาบันการเงินใหแกผูอ่ืนซ่ึงมิใชเจาหน้ีท่ีเปนสถาบันการเงิน และ
สาํ หรบั การกระทาํ ตราสารอันเนอ่ื งมาจากการโอนอสงั หาริมทรัพยดงั กลาว ไดแก จํานวนเงนิ
เฉพาะสว นท่ไี มเ กนิ กวา หนี้ทคี่ างชาํ ระอยูกบั เจา หนี้ที่เปนสถาบนั การเงิน หรือมีภาระผูกพันตาม
สญั ญาประกนั หนก้ี บั เจา หนท้ี เ่ี ปน สถาบนั การเงนิ และตอ งเปน จาํ นวนเงนิ ทน่ี าํ ไปชาํ ระหนแ้ี กเ จา หน้ี
สถาบนั การเงนิ ซง่ึ ไดด าํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหนต้ี ามหลกั เกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี
ของสถาบนั การเงนิ ที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกาํ หนด
การยกเวนภาษีอากรตามวรรคหนึ่ง ลกู หน้ขี องสถาบนั การเงิน เจาหน้ที ่ีเปนสถาบนั
การเงนิ และผรู ับโอนอสังหาริมทรัพย จะตองรวมกันจดั ทาํ หนังสือรับรองการโอนอสงั หาริมทรพั ย
ของลกู หนีข้ องสถาบนั การเงินใหแกผ อู นื่ ซ่ึงมใิ ชเ จาหนท้ี ่เี ปนสถาบนั การเงิน เพือ่ นําเงินที่ไดร บั จาก
การโอนอสงั หาริมทรัพยไ ปชาํ ระหน้ีใหแกเจา หนี้ท่เี ปน สถาบนั การเงิน โดยหนงั สือรบั รองดังกลาว
ตองมีขอ ความอยางนอ ยตามท่แี นบทา ยประกาศน้ี
๗๒๓
ลกู หน้ีของสถาบันการเงนิ ตอ งแจงหนังสอื รบั รองตามวรรคสอง ดังนี้
(๑) แจง ตอเจา พนักงานทดี่ นิ ทอ งทีท่ ่จี ดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม โดยใหสงมอบ
หนังสือรับรองดังกลาวตอเจาพนักงานท่ีดินผูรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะจดทะเบียน
สิทธิและนิติกรรม เวนแตลูกหนี้ของสถาบันการเงินประสงคจะชําระภาษีอากรกอนในขณะที่
จดทะเบียนสทิ ธิและนิตกิ รรมตามกฎหมาย ก็ไมตอ งแจง และสงมอบหนงั สือรบั รองดังกลาวตอ
เจา พนักงานทด่ี ิน
(๒) แจง ตออธบิ ดกี รมสรรพากร โดยใหส งมอบหนงั สือรับรองดังกลาวผา นสรรพากร
พื้นท่ีในเขตทองที่ทล่ี ูกหนีข้ องสถาบนั การเงินมภี มู ลิ ําเนาหรอื สถานประกอบการตงั้ อยู หรอื ในเขต
ทองท่ที อี่ สังหารมิ ทรพั ยท โี่ อนต้งั อยู
ขอ ๒ ประกาศน้ีใหใ ชบงั คับต้งั แตวนั ที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตนไป
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงชื่อ) สาธติ รงั คสิริ
(นายสาธติ รงั คสริ ิ)
อธบิ ดกี รมสรรพากร
๗๒๔
หนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพยของลูกหนี้ของสถาบันการเงินใหแกผูอ่ืนซึ่ง
มิใชเจาหนี้ท่เี ปน สถาบนั การเงิน เพอ่ื นาํ เงินทไี่ ดจ ากการโอนอสังหาริมทรัพยไ ปชําระหน้ีแกเ จา หนี้
ทเ่ี ปน สถาบนั การเงนิ เพอ่ื ขอรบั สทิ ธปิ ระโยชนท างภาษอี ากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ท่ี ๕๔๗)
พ.ศ. ๒๕๕๕
วนั ท่.ี .........เดือน..........................พ.ศ. ............
เจาพนักงานที่ดิน............................................
เรยี น
อธิบดกี รมสรรพากร (ผา นสรรพากรพืน้ ท่.ี ....................................)
๑. หนงั สือนท้ี ําข้นึ โดย
(๑) ....................................ผโู อนอสงั หาริมทรพั ยซงึ่ เปนลูกหนี้/ผูค าํ้ ประกนั ของ
ลูกหน้ี ราย...................................................สํานกั งาน(ของผูโอน) ต้ังอยเู ลขที.่ .........................
ถนน..................................ตาํ บล/แขวง...................................อาํ เภอ/เขต...............................
จงั หวดั ................................
(๒) สถาบันการเงิน..........................................สาํ นักงานตัง้ อยูเ ลขที่...............
ถนน......................ตําบล/แขวง....................อาํ เภอ/เขต.......................จังหวัด.........................
ซึง่ ตอ ไปนี้เรยี กวา “เจา หนี”้
(๓) ผูรบั โอนอสังหารมิ ทรัพย. ...........................สาํ นกั งานตงั้ อยูเ ลขที่................
ถนน......................ตําบล/แขวง....................อาํ เภอ/เขต.......................จงั หวดั .........................
ซงึ่ ตอ ไปนเี้ รยี กวา “ผูซ้ือ”
๒. ตามทล่ี กู หนม้ี ภี าระหนก้ี บั เจา หน้ี เนอ่ื งจากมภี าวะวกิ ฤตทิ างเศรษฐกจิ อันสง ผล
กระทบตอความสามารถในการชําระหนี้ ทําใหล กู หนี้ไมส ามารถชาํ ระหนใี้ หแกเจาหนีต้ ามจาํ นวน
เงินและ/หรือตามกําหนดเวลาท่ีตกลงไวกับเจาหนี้ได ลูกหนี้และหรือผูคํ้าประกันและเจาหนี้
จึงไดตกลงปรับปรุงโครงสรางหนี้ึตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่
ธนาคารแหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ทง้ั นี้ ตามรายละเอียดในสญั ญาปรับปรงุ โครงสรางหนี้
เลขท่.ี ................................................ลงวันที.่ ..............................................
๓. ลูกหน้/ี ผูคํ้าประกนั ของลกู หน้ี จึงไดโ อนอสังหารมิ ทรพั ย โฉนด น.ส.๓ น.ส.๓ ก.
อนื่ ๆ เลขท.่ี .........หมูท่ี..........ตําบล/แขวง...................อําเภอ/เขต...................จังหวดั ...............
ซ่ึงเปนอสังหาริมทรพั ยท ี่ลูกหน้/ี ผคู า้ํ ประกันของลกู หน้ี ไดนาํ มาจดทะเบียนจํานองเปน ประกนั หนี้
ของเจา หนี้ ทง้ั นี้ ตามหนังสือสญั ญาซอ้ื ขาย ลงวันท.่ี ...........เดอื น........................พ.ศ. .............
ซ่งึ ลกู หนี/้ ผคู าํ้ ประกันของลูกหน้ี และผซู อ้ื ตกลงซ้ือขายกนั ในราคา.......................................บาท
ราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยในการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรมเปน จํานวนเงนิ ...........................บาท
๗๒๕
๔. ลูกหนม้ี หี นี้คงคางชาํ ระอยูกบั เจาหนี้ ณ วนั ทีท่ าํ สญั ญาปรบั ปรงุ โครงสรางหนี้กับ
เจาหน้ีตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศไทย
ประกาศกําหนดจํานวน..................................บาท และในขณะทีท่ าํ สญั ญาโอนอสังหารมิ ทรัพย
ตามหนังสอื รบั รองฉบบั นี้ลกู หน้ีมีหน้ีคงคา งชาํ ระอยกู บั เจา หน้จี าํ นวน...............................บาท
๕. ลูกหนี/้ ผูค้าํ ประกันของลูกหน้ี เจา หน้ี และผซู ้ือตกลงและรบั ทราบวา ลูกหนตี้ อง
นําเงินจาํ นวน...................................บาท ท่ไี ดจากการโอนอสงั หารมิ ทรัพยต าม ๓. มาชําระหน้ี
ใหแ กเ จา หน้ีซง่ึ เปน จํานวนเงินทไ่ี ดร ับยกเวน ภาษอี ากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๘)
พ.ศ. ๒๕๕๕
ลูกหนี/้ ผคู าํ้ ประกนั ของลูกหนี้ เจา หนี้ และผซู ้อื ขอรับรองวา รายการในหนงั สอื
รับรองฉบับนีเ้ ปน ความจริงทุกประการ
จงึ เรยี นมาเพือ่ โปรดทราบ
ลงชือ่ ...................................... ลูกหน้ี/ผูค้าํ ประกนั ของลูกหนี้
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
ลงช่ือ ...................................... เจาหน้ี
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
ลงชอื่ ...................................... ผูซ ้อื
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
๗๒๖
ดว นทส่ี ุด (สําเนา)
ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๓๒๗๘
กรมทดี่ นิ
ศูนยร าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทุงสองหอง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๒ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๕
เรอ่ื ง การลดหยอ นคา ธรรมเนียมและยกเวน ภาษีอากรกรณีปรบั ปรุงโครงสรา งหนข้ี องลูกหนี้
ท่ไี ดร บั ความเสียหายโดยทางตรงหรอื ทางออ มจากอุทกภัย
เรียน ผูว า ราชการจังหวัดทุกจงั หวัด
อางถึง หนังสือกรมทด่ี นิ ดวนทสี่ ุด ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๘๖๙๔ ลงวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๕
สง่ิ ทสี่ ง มาดว ย ๑. สําเนาพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วา ดวยการยกเวน
รัษฎากร (ฉบับท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕
๒. สาํ เนาประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร เรื่อง กาํ หนดหลกั เกณฑ วธิ กี าร และ
เงื่อนไข กรณีหนท้ี ่ีตอ งดาํ เนินการปรับปรงุ โครงสรางหนลี้ ูกหนท้ี ปี่ ระสบอุทกภยั
ตามหลักเกณฑ การปรบั ปรุงโครงสรา งหน้ีลูกหน้ีทป่ี ระสบอุทกภยั ทีธ่ นาคาร
แหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนดประกาศ ณ วันท่ี ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
๓. สําเนาประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากร เรอ่ื ง กําหนดหลักเกณฑ วธิ กี าร และ
เงื่อนไข การยกเวน ภาษีเงนิ ได ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป สาํ หรบั
จํานวนเงนิ ท่ไี ดรบั จากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยท ่ลี ูกหนท้ี ีป่ ระสบอุทกภัยของ
สถาบันการเงินนาํ มาจํานอง เปนประกันหนีข้ องสถาบนั การเงนิ ใหแ กผอู นื่
ซึง่ มใิ ชเ จา หน้ีทเี่ ปนสถาบันการเงิน ซ่งึ ไดดาํ เนนิ การดาํ เนินการปรบั ปรุง
โครงสรา งหนต้ี ามหลักเกณฑการปรับปรงุ โครงสรางหนี้ลกู หนีท้ ปี่ ระสบอทุ กภัย
ทีธ่ นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ประกาศ ณ วันที่ ๑๔ พฤศจิกายน
พ.ศ. ๒๕๕๕
ตามหนงั สอื ทอี่ า งถึง กรมที่ดินไดแ จงมตคิ ณะรฐั มนตรที ่ีเหน็ ชอบมาตรการทาง
ภาษีอากร และคาธรรมเนียมเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของลูกหน้ีท่ีไดรับความ
เสยี หายโดยทางตรง หรือทางออมจากอุทกภัย โดยกระทรวงมหาดไทยไดออกประกาศหลกั เกณฑ
การลดหยอนคาธรรมเนียมการโอนและการจํานองอสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายที่ดิน
๗๒๗
และหองชุดตามกฎหมายวา ดว ยอาคารชดุ ในกรณกี ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ขี องลกู หนี้ท่ีประสบ
อทุ กภยั ตามหลกั เกณฑท ค่ี ณะรฐั มนตรกี าํ หนด เมือ่ วนั ที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๕ มผี ลใชบ ังคับ
ต้ังแตว นั ที่ ๒๘ กนั ยายน ๒๕๕๕ จนถงึ วันที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๕๘ แตเน่ืองจากพระราช
กฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร วาดวยการยกเวนรัษฎากร เก่ยี วกบั การปรับปรงุ
โครงสรางหนี้ของลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินและเจาหนี้อ่ืนและประกาศอธิบดี
กรมสรรพากรท่ีกําหนดแบบเอกสารหลักฐานเพื่อประกอบการขอรับสิทธิประโยชนทางภาษีอากร
อยูระหวางดาํ เนนิ การ ยังไมใชบ งั คบั พนกั งานเจาหนาที่จึงตอ งเรยี กเก็บคาธรรมเนยี มและภาษี
อากรในอตั ราปกตไิ ปกอ น และเมือ่ พระราชกฤษฎีกาและประกาศอธิบดีกรมสรรพากรดังกลา ว
มผี ลใชบังคบั แลว กรมท่ดี นิ จะไดแจง แนวทางปฏบิ ตั ิ ในการลดหยอนคาธรรมเนียมและยกเวน
ภาษีอากร รวมถึงทางปฏบิ ตั ใิ นการคนื เงินคาธรรมเนียมกรณีปรับปรุงโครงสรา งหนข้ี องลูกหน้ีที่
ประสบอทุ กภัย มาเพือ่ ทราบและถือปฏิบตั ิ นั้น
บัดน้ี ไดมีพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรษั ฎากร วาดว ยการ
ยกเวน รัษฎากร (ฉบบั ที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ ซ่ึงตามมาตรา ๖ มาตรา ๘ และมาตรา ๙ กาํ หนดให
ยกเวน ภาษีเงนิ ได ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป ใหแ กล ูกหน้ีท่ีประสบอทุ กภยั ของสถาบนั
การเงินและสถาบนั การเงินลูกหน้ีทีป่ ระสบอุทกภัยของเจาหนอี้ ื่นและเจาหน้ีอื่น สําหรบั เงนิ ไดท่ี
ไดร ับจากการโอนอสังหารมิ ทรพั ย (รวมถงึ หองชดุ ) อนั เน่ืองมาจากการปรับปรุงโครงสรา งหนข้ี อง
สถาบันการเงินท่ีไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ีตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้
ลูกหนีท้ ่ปี ระสบอุทกภยั ท่ีธนาคารแหง ประเทศไทยประกาศกําหนด และไดท าํ สัญญาปรับปรงุ
โครงสรางหน้ีต้งั แตวันท่ี ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๕ ทงั้ นี้ เฉพาะ
การโอนอสังหาริมทรัพยตามสัญญาปรับปรุงโครงสรางหน้ีน้ันท่ีไดกระทําในระหวางวันท่ี ๒๕
กรกฎาคม ๒๕๕๔ ถึงวนั ที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๘ โดยหลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงื่อนไขการยกเวน
ภาษอี ากรเปน ไปตามประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากรท่ีสงมาดว ย ๒. และ ๓. กรมท่ีดนิ จึงแจง
แนวทางปฏิบตั เิ กีย่ วกับการลดหยอ นคาธรรมเนียมตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฯ และการ
ยกเวน ภาษอี ากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบับท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ มาเพ่ือทราบและถอื ปฏิบตั ิ
ดังน้ี
๑. การจดทะเบียนท่ีอยูในขายไดรับลดหยอนคาธรรมเนียมและยกเวนภาษี
อากรการโอน และลดหยอ นคา ธรรมเนียมการจาํ นอง ไดแก
๑.๑ ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินโอนอสังหาริมทรัพยหรือ
หอ งชุด เพื่อชาํ ระหนใ้ี หแกเจา หน้สี ถาบันการเงนิ หรอื ลกู หนีท้ ปี่ ระสบอุทกภัยของเจาหนอ้ี น่ื โอน
อสังหารมิ ทรัพยหรือหอ งชุด เพ่ือชําระหนี้ใหแ กเจา หนี้อ่นื หรอื ผจู าํ นองโอนอสงั หารมิ ทรพั ยหรือ
หองชุดใหแกเ จาหน้สี ถาบนั การเงินหรือเจาหน้อี ื่นซึง่ เปน ผรู ับจํานองเพ่ือชําระหน้จี ํานอง ใหจด
ทะเบียนในประเภท “โอนชําระหน”ี้ หรอื “โอนชาํ ระหน้จี ํานอง” แลวแตกรณี และวงเล็บตอ ทาย
๗๒๘
ชอ่ื ประเภทวา “(รับโอนจากลูกหน้ีทปี่ ระสบอุทกภัย)” หรือ “(รบั โอนจากผูจํานองประกนั หน้ขี อง
ลูกหนีท้ ี่ประสบอุทกภยั )
๑.๒ สถาบันการเงินหรือเจาหน้ีอื่นโอนอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดท่ี
รบั โอนมาตาม ๑.๑ ใหแกล ูกหน้ีที่ประสบอุทกภยั (หรือผจู าํ นองหรอื ผคู ํ้าประกันหนข้ี องลูกหน้ี
ท่ปี ระสบอุทกภยั ) หากขอ เทจ็ จรงิ เปน การขายคนื ใหกบั ผทู ่ีโอนมากใ็ หจดทะเบยี นประเภท “ขาย”
และวงเลบ็ ตอ ทายชอื่ ประเภทวา “โอนคนื แกล ูกหนี้ทีป่ ระสบอทุ กภัย” หรือ “โอนคืนแกผ ูจํานอง
ประกันหนี้ของลกู หน้ที ปี่ ระสบอทุ กภัย” แตห ากรับโอนจากผจู ํานองประกันหนี้ของลกู หนที้ ่ปี ระสบ
อทุ กภัยแลว ขายใหแกล กู หน้ีทปี่ ระสบอุทกภัย หรือรับโอนจากลูกหนที้ ีป่ ระสบอทุ กภัยแลว ขายให
แกผ จู าํ นองประกนั หน้ีของลกู หนีท้ ป่ี ระสบอุทกภยั ใหจ ดทะเบยี นประเภท “ขาย” และวงเลบ็
ตอทา ยชอ่ื ประเภทวา “โอนใหแ กลกู หนที้ ปี่ ระสบอทุ กภัย” หรอื “โอนใหแ กผูจาํ นองประกันหน้ขี อง
ลูกหนท้ี ่ีประสบอทุ กภยั ”
๑.๓ ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินโอนอสังหาริมทรัพยหรือ
หองชุดที่จดทะเบียนจํานองเปนประกันหนี้ไวกับสถาบันการเงินใหแกผูอื่นซึ่งมิใชเจาหนี้ท่ีเปน
สถาบันการเงนิ เพ่อื นาํ เงินทไ่ี ดจ ากการโอนอสงั หาริมทรัพยหรือหอ งชุดน้ันไปชาํ ระหน้แี กเจาหนี้
ที่เปนสถาบนั การเงนิ ใหจดทะเบยี นประเภท “ขาย” และวงเล็บตอทา ยชื่อประเภทวา “โอนให
ผูอ ื่นเพอ่ื ชาํ ระหนสี้ ถาบันการเงินกรณลี ูกหน้ที ี่ประสบอทุ กภยั ”
การจดทะเบียนโอนตาม ๑.๑ และ ๑.๒ ไดร ับลดหยอนคา ธรรมเนยี มและ
ยกเวน ภาษีอากรทัง้ จาํ นวน สว นการจดทะเบียนโอนตาม ๑.๓ ไดรบั ลดหยอนคา ธรรมเนียม
สําหรับจํานวนเงนิ ทนี่ ําไปชาํ ระหนีใ้ หแ กเจาหน้ีที่เปนสถาบนั การเงิน และเรยี กเกบ็ ในอัตราปกติ
สําหรบั ราคาประเมินทุนทรัพยสวนที่เกนิ จาํ นวนเงนิ ท่ีนาํ ไปชําระหนี้ดงั กลา ว ในสวนของการ
ยกเวนภาษีอากร ยกเวนใหเฉพาะสว นทีไ่ มเ กนิ กวาหนท้ี คี่ างชําระอยกู ับสถาบันการเงนิ หรอื มี
ภาระผกู พนั ตามสัญญาประกันหนี้กับสถาบันการเงนิ ตามความทป่ี รากฏในแบบหนงั สือรับรอง
การโอนอสังหารมิ ทรพั ยของลกู หน้ฯี ทา ยประกาศอธิบดีกรมสรรพากรท่ีสงมาดวย ๓.
๑.๔ การจดทะเบียนจํานองอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดระหวางลูกหน้ีท่ี
ประสบอทุ กภัยของสถาบนั การเงินกับเจาหนีท้ เ่ี ปน สถาบันการเงนิ หรือระหวางลูกหน้ที ี่ประสบ
อทุ กภัยของเจา หนี้อน่ื กับเจาหน้อี ่ืนตามนัยขอ ๒ (๓) ของประกาศกระทรวงมหาดไทยทสี่ ง มาตาม
หนังสือที่อา งถึง หมายความรวมถึงการจดทะเบียนขน้ึ เงินจากจํานองดวย โดยในการจดทะเบยี น
ใหใ ชช่อื ประเภทการจดทะเบียนวา “จาํ นอง” หรอื “ขึ้นเงินจากจาํ นอง” แลวแตก รณี โดย
วงเล็บตอ ทา ยช่อื ประเภทวา “(เรยี กจํานองอสังหารมิ ทรพั ย (หรอื หอ งชุด) เพ่ิมจากลูกหน้ีทปี่ ระสบ
อทุ กภัย)” และไดร ับลดหยอนคาธรรมเนยี มจากจํานวนเงนิ จาํ นองทัง้ จํานวน
๒. การจดทะเบียนโอนและจํานองอสังหาริมทรัพยหรือหองชุดท่ีจะไดรับ
ลดหยอนคาธรรมเนียมและยกเวนภาษีอากรกรณีปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัย
๗๒๙
นอกจากเอกสารหลกั ฐานทีผ่ ขู อจดทะเบยี นตองนาํ มาแสดงตามปกติแลว ผูขอจดทะเบียนตอ ง
สงมอบหนังสือรับรองหนี้ท่ีตองดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยของ
สถาบันการเงินทธี่ นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนดตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับท่ี ๕๔๘)
พ.ศ. ๒๕๕๕ ซง่ึ ตองมีขอความอยางนอ ยตามแบบท่ีแนบทายประกาศอธบิ ดกี รมสรรพากรทสี่ ง
มาดวย ๒. และถาเปน การโอนตาม ๑.๓ นอกจากหนงั สือรับรองหน้ีฯ ทต่ี อ งสง มอบใหแ ลว ผขู อ
จดทะเบียนยังตองสงมอบหนังสือรับรองการโอนอสังหาริมทรัพยของลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัย
ของสถาบันการเงินใหแกผูอื่นซึ่งมิใชเจาหน้ีท่ีเปนสถาบันการเงิน เพื่อนําเงินที่ไดจากการโอน
อสังหาริมทรัพยไปชําระหน้ีแกเจาหนี้ท่ีเปนสถาบันการเงิน เพื่อขอรับสิทธิประโยชนทางภาษี
อากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ ซง่ึ ตอ งมีขอความอยางนอยตามแบบ
ที่แนบทา ยประกาศอธิบดกี รมสรรพากรทสี่ งมาดว ย ๓. ใหแกเจา พนักงานทด่ี นิ ขณะจดทะเบยี น
ดวย
๓. เพ่ือใหทราบวาการจดทะเบียนโอนและจํานองขางตนไดรับลดหยอน
คาธรรมเนียมและยกเวนภาษีอากรเพราะเหตุใด ในการจดทะเบียนจึงใหพนักงานเจาหนาท่ี
ระบขุ อ ความลงในคําขอจดทะเบยี นฯ หนังสอื สัญญา บนั ทึกขอตกลง ตลอดจนใบเสรจ็ รบั เงนิ
ดวยขอความวา “ยกเวน ภาษอี ากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ และ
ลดหยอนคาธรรมเนยี มตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันท่ี ๒๐ กนั ยายน ๒๕๕๕ กรณี
ปรับปรุงโครงสรางหนี้ของลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัย” สวนในการจดทะเบียนจํานองใหระบุ
ในเอกสารดงั กลาววา “ลดหยอ นคา ธรรมเนยี มตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันท่ี ๒๐
กนั ยายน ๒๕๕๕ กรณีปรับปรุงโครงสรา งหนข้ี องลูกหน้ีท่ีประสบอทุ กภัย”
๔. กรณีผขู อจดทะเบียนขอคนื คาธรรมเนยี มและภาษีอากรทเ่ี สยี ไป เนอ่ื งจาก
ขณะจดทะเบียนยงั ไมม ีการบังคับใชพ ระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบับที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ หรือบงั คับ
ใชพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกลา วแลว แตผขู อจดทะเบยี นมิไดแ จง ตอพนกั งานเจาหนา ท่ีวาเปนการ
ขอจดทะเบยี นอันเนอื่ งมาจากการปรับปรงุ โครงสรา งหนขี้ องลูกหนี้ท่ปี ระสบอุทกภัย หรือผูขอมไิ ด
สง มอบหนงั สอื รบั รองหนฯ้ี และหนงั สอื รบั รองการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยข องลกู หนท้ี ป่ี ระสบอทุ กภยั ฯ
ซ่งึ ออกตามความในพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ ใหแ กพ นักงานเจาหนาที่
ขณะจดทะเบียนเปนเหตุใหผขู อจดทะเบยี นเสียคา ธรรมเนยี มและภาษอี ากรในอตั ราปกติ หาก
ขอเท็จจริงภายหลงั ปรากฏวาการจดทะเบียนโอนและจํานองนน้ั เปนการปรบั ปรุงโครงสรา งหนี้
ตามหลักเกณฑการปรบั ปรงุ โครงสรางหนขี้ องธนาคารแหง ประเทศไทย และเปนการจดทะเบยี น
ท่ีอยใู นหลกั เกณฑตามขอ ๑.๑, ๑.๒, ๑.๓ หรือ ๑.๔ ประกอบกับผขู อจดทะเบียนมหี ลกั ฐาน
หนงั สอื รับรองหนี้ฯ หนงั สือรับรองการโอนอสงั หารมิ ทรัพยข องลกู หนีท้ ป่ี ระสบอุทกภัยฯ มาแสดง
เพื่อขอคืนคาธรรมเนียมในสวนท่ีพนักงานเจาหนาที่เรียกเก็บไวเกินกวารอยละ ๐.๐๑ หาก
พนักงานเจาหนาท่ีพิจารณาแลวเห็นวา กรณีท่ีจดทะเบียนไปอยูในหลักเกณฑไดรับลดหยอน
๗๓๐
คาธรรมเนียมและยกเวนภาษีอากร ก็ชอบท่ีจะดําเนินการเพ่ือใหมีการคืนคาธรรมเนียมในสวน
ทีพ่ นกั งานเจา หนาทเ่ี รยี กเก็บไวเกินได โดยการถอนคนื คา ธรรมเนยี มที่ไดม กี ารนาํ สงเปนรายได
ใหแกอ งคก รปกครองสวนทองถน่ิ แลว ในทางปฏิบัตติ องสง เร่อื งขอคืนคาธรรมเนยี มนน้ั ใหองคกร
ปกครองสวนทอ งถน่ิ เจา ของเงนิ รายไดเพื่อถอนคนื คาธรรมเนยี มใหแกผ ขู อจดทะเบยี น โดยดําเนนิ
การตามกฎหมายและระเบียบขององคกรปกครองสวนทองถิ่นในสวนที่เกี่ยวของ และเพื่อให
ทราบวาเหตุใดจึงมีการคืนคาธรรมเนียมกอนดําเนินการคืนคาธรรมเนียมใหพนักงานเจาหนาที่
เพิ่มเติมช่ือประเภทการจดทะเบียนในหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดินทั้งฉบับสํานักงานท่ีดินและฉบับ
เจาของท่ดี ิน ตลอดจนเอกสารที่เกยี่ วขอ งใหเปน ไป ตามขอ ๑.๑, ๑.๒, ๑.๓ และ ๑.๔
นอกจากนี้ในคําขอจดทะเบยี นฯ หนงั สือสัญญา บนั ทกึ ขอ ตกลง ตลอดจนใบเสร็จรับเงนิ ใหร ะบุ
ขอ ความการยกเวนภาษีอากรและลดหยอ นคา ธรรมเนยี มตามความในขอ ๓ แลว แตกรณีดว ย
สําหรับการขอคืนภาษีอากรท่ีเสียไป ใหพนักงานเจาหนาท่ีแนะนําผูขอจดทะเบียนนําเอกสาร
หลกั ฐานไปยื่นขอคืน ภาษีอากรที่กรมสรรพากรหรือสรรพากรพน้ื ทที่ ผี่ ขู อคืนมีภมู ลิ ําเนาอยู หรอื
ตดิ ตอสอบถามไปทีศ่ ูนยขอมลู กรมสรรพากร โทรศัพทห มายเลข ๑๑๖๑
อนึง่ การปฏบิ ตั ติ ามแนวทางดังกลา วขา งตน เปน ไปตามหนงั สือกรมท่ีดิน ดวน
ทสี่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๓๒๗๐๖ ลงวนั ที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
จึงเรียนมาเพอ่ื โปรดทราบ และแจงใหเ จาหนาทที่ ่ดี ินทราบและถอื ปฏบิ ัติตอไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชื่อ) บญุ เชิด คิดเหน็
(นายบญุ เชดิ คิดเห็น)
อธิบดกี รมทด่ี ิน
สํานักมาตรฐานการทะเบยี นท่ดี ิน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔
๗๓๑
สิ่งทส่ี งมาดว ย ๑
(สาํ เนา)
พระราชกฤษฎกี า
ออกตามความในประมวลรัษฎากร
วาดวยการยกเวนรัษฎากร (ฉบบั ที่ ๕๔๘)
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๕___
ภมู ิพลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วนั ท่ี ๑๙ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เปน ปท ี่ ๖๗ ในรัชกาลปจ จบุ นั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหประกาศวา
โดยท่ีเปนการสมควรยกเวนภาษีเงินได ภาษมี ลู คา เพิม่ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และอากร
แสตมป บางกรณี
อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๑๘๗ ของรฐั ธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย และ
มาตรา ๓ (๑) แหง ประมวลรัษฎากร ซึ่งแกไ ขเพิม่ เติมโดยพระราชบัญญตั ิแกไขเพม่ิ เตมิ ประมวล
รษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ อนั เปน กฎหมายทมี่ ีบทบัญญตั บิ างประการเกย่ี วกับการ
จาํ กัดสิทธิและเสรภี าพของบุคคล ซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๓ และมาตรา ๔๑ ของ
รัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจักรไทย บญั ญตั ใิ หก ระทําไดโดยอาศยั อํานาจตามบทบญั ญตั แิ หง
กฎหมาย จึงทรงพระกรณุ าโปรดเกลาฯ ใหตราพระราชกฤษฎกี าขนึ้ ไว ดงั ตอ ไปนี้
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกานเ้ี รยี กวา “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รัษฎากรวา ดว ยการยกเวนรษั ฎากร (ฉบับท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษา เปน ตนไป
มาตรา ๓ พระราชกฤษฎกี านใ้ี หใ ชบ งั คบั กบั หนท้ี ต่ี อ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี
ลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยที่
ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด ทง้ั น้ี ตามหลกั เกณฑ วธิ ีการ และเงือ่ นไขท่ีอธบิ ดี
ประกาศกาํ หนด
มาตรา ๔ ในพระราชกฤษฎีกานี้
“สถาบนั การเงนิ ” หมายความวา
(๑) สถาบันการเงินของรฐั ที่มีกฎหมายเฉพาะจัดต้ังขึ้น
(๒) สถาบนั การเงนิ ตามกฎหมายวาดวยธุรกิจสถาบนั การเงิน
(๓) บรรษัทบริหารสนิ ทรัพยไ ทยตามกฎหมายวาดวยบรรษทั บรหิ ารสนิ ทรพั ยไทย
๗๓๒
(๔) บรษิ ัทบรหิ ารสนิ ทรพั ยตามกฎหมายวาดว ยบริษัทบรหิ ารสินทรพั ย
(๕) บริษัทท่ีประกอบธุรกิจบัตรเครดิตที่มิใชสถาบันการเงินตามกฎหมายวาดวย
ธุรกจิ สถาบนั การเงิน
(๖) บริษัทที่ประกอบธุรกิจสินเชื่อสวนบุคคลภายใตการกํากับที่มิใชสถาบันการเงิน
ตามกฎหมายวาดว ยธุรกิจสถาบนั การเงิน
(๗) นติ บิ ุคคลอนื่ ทอี่ ธบิ ดปี ระกาศกําหนดโดยอนุมตั ริ ัฐมนตรี
“เจาหน้ีอ่นื ” หมายความวา เจา หน้ที ม่ี ใิ ชส ถาบนั การเงิน ซ่ึงไดด ําเนินการเจรจา
รวมกบั สถาบนั การเงนิ ในการปรบั ปรุงโครงสรางหน้ใี หแกล ูกหนที้ ปี่ ระสบอุทกภยั และไดท าํ ความ
ตกลงเปนหนังสอื รวมกับเจา หนี้ซึง่ เปนสถาบนั การเงนิ
“ลูกหน้ีทป่ี ระสบอทุ กภยั ” หมายความวา ลูกหนีท้ ีไ่ ดรบั ความเสียหายจากอุทกภยั
ซ่ึงเปนไปตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศ
ไทยประกาศกําหนด
“ลกู หนีท้ ปี่ ระสบอทุ กภยั ของสถาบันการเงนิ ” ใหห มายความรวมถึงผคู ํ้าประกนั ของ
ลกู หนีท้ ่ปี ระสบอทุ กภัยดว ย
“ลกู หน้ีท่ีประสบอุทกภยั ของเจา หน้อี ืน่ ” หมายความวา ลกู หนีท้ ี่ประสบอทุ กภัยของ
เจา หนี้อน่ื ซึง่ เปนลกู หนีท้ ี่ประสบอทุ กภยั ของสถาบนั การเงินดว ย และใหหมายความรวมถงึ ผคู าํ้
ประกนั ของลูกหนท้ี ปี่ ระสบอุทกภัยของเจา หนอ้ี ่นื ดวย
มาตรา ๕ ใหย กเวนภาษีเงินไดต ามสวน ๒ และสว น ๓ หมวด ๓ ในลกั ษณะ ๒
แหงประมวลรษั ฎากร ใหแกล กู หน้ีทปี่ ระสบอทุ กภยั ของสถาบนั การเงิน สําหรบั เงินไดท่ีไดรบั จาก
การปลดหนข้ี องสถาบันการเงนิ โดยสถาบันการเงนิ น้นั ไดดําเนินการตามหลกั เกณฑการปรบั ปรุง
โครงสรางหน้ีลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยท่ีธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด และไดทํา
สญั ญาปรบั ปรงุ โครงสรา งหนตี้ ้ังแตว ันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถงึ วนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ.
๒๕๕๕ ทั้งน้ี เฉพาะการปลดหนีต้ ามสัญญาปรับปรงุ โครงสรา งหนน้ี ั้น ท่ไี ดกระทาํ ในระหวา งวันท่ี
๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวนั ท่ี ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
มาตรา ๖ ใหยกเวน ภาษีเงินไดต ามสวน ๒ และสว น ๓ หมวด ๓ ภาษมี ลู คาเพ่ิม
ตามหมวด ๔ ภาษีธุรกจิ เฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมปตามหมวด ๖ ในลกั ษณะ ๒ แหง
ประมวลรัษฎากร ใหแกลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภยั ของสถาบันการเงนิ และสถาบันการเงิน สําหรับเงนิ
ไดทไ่ี ดร ับจากการโอนทรพั ยส นิ การขายสนิ คา หรอื การใหบริการ และสาํ หรบั การกระทําตราสาร
อันเนื่องมาจากการปรับปรุงโครงสรางหนี้ของสถาบันการเงินที่ไดดําเนินการปรับปรุงโครงสราง
หนี้ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยท่ีธนาคารแหงประเทศไทย
ประกาศกาํ หนด และไดทาํ สญั ญาปรบั ปรงุ โครงสรางหนีต้ งั้ แตวนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ทัง้ น้ี เฉพาะการโอนทรัพยส ินการขายสินคาหรือการใหบ ริการ
และสําหรับการกระทําตราสารตามสัญญาปรับปรุงโครงสรางหนี้น้ันท่ีไดกระทําในระหวางวันที่
๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
๗๓๓
มาตรา ๗ ใหยกเวน ภาษีเงนิ ไดต ามสว น ๒ และสว น ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒
แหง ประมวลรัษฎากร ใหแกล กู หนี้ท่ปี ระสบอทุ กภัยของเจา หนี้อ่นื สํารับเงินไดท่ีไดรบั จากการ
ปลดหนี้ของเจาหน้ีอื่น ซึ่งไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้โดยนําหลักเกณฑการปรับปรุง
โครงสรางหนี้ลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนดมาใชโดยอนุโลม
และไดท าํ สัญญาปรับปรงุ โครงสรา งหน้ตี ้ังแตว นั ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถงึ วันท่ี ๓๑
ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ท้งั นี้ เฉพาะการปลดหน้ีตามสญั ญาปรับปรงุ โครงสรา งหน้นี นั้ ทีไ่ ดก ระทํา
ในระหวางวนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
มาตรา ๘ ใหย กเวนภาษีเงนิ ไดต ามสว น ๒ และสวน ๓ หมวด ๓ ภาษีมูลคา เพ่มิ
ตามหมวด ๔ ภาษีธุรกจิ เฉพาะตามหมวด ๕ และอากรแสตมปต ามหมวด ๖ ในลกั ษณะ ๒
แหงประมวลรัษฎากรใหแ กลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยของเจาหนีอ้ ื่นและเจา หนอี้ ื่น สําหรับเงินไดท ่ี
ไดรบั จากการโอนทรัพยส ิน การขายสินคา หรือการใหบ ริการ และสาํ หรบั การกระทําตราสาร อนั
เน่ืองมาจากการปรับปรุงโครงสรางหน้ีของเจาหน้ีอ่ืนที่ไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้โดยนํา
หลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนดมาใชโดยอนุโลม และไดท ําสัญญาปรับปรงุ โครงสรา งหน้ตี งั้ แตวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.
๒๕๕๔ ถงึ วันที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ทั้งนี้ เฉพาะการโอนทรพั ยส นิ การขายสินคาหรือการ
ใหบ ริการ และสาํ หรับการกระทาํ ตราสารตามสัญญาปรับปรงุ โครงสรางหนีน้ น้ั ทไี่ ดก ระทําใน
ระหวา งวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๘
มาตรา ๙ ใหยกเวน ภาษีเงนิ ไดต ามสว น ๒ และสว น ๓ หมวด ๓ ภาษธี รุ กิจเฉพาะ
ตามหมวด ๕ และอากรแสตมปต ามหมวด ๖ ในลกั ษณะ ๒ แหงประมวลรษั ฎากร ใหแกล กู หนีท้ ี่
ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงิน สําหรับเงินไดที่ไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยที่ลูกหนี้
ที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินนํามาจํานองเปนประกันหนี้ของสถาบันการเงินใหแกผูอื่น
ซึ่งมิใชเจาหน้ีท่ีเปนสถาบันการเงิน และสําหรับการกระทําตราสารอันเนื่องมาจากการโอน
อสงั หารมิ ทรพั ยดงั กลาว โดยลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภยั ของสถาบนั การเงนิ ตอ งนาํ เงนิ ไดนนั้ ไปชําระ
หนี้แกเจาหน้ีท่ีเปนสถาบันการเงิน ซ่ึงไดดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ตามหลักเกณฑการ
ปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด และ
ไดท าํ สญั ญาปรบั ปรุงโครงสรา งหนตี้ ง้ั แตวนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม
พ.ศ.๒๕๕๕ ท้ังนี้ เฉพาะสว นทีไ่ มเ กินกวาหนี้ท่ีคางชําระอยูกบั สถาบนั การเงนิ หรือมีภาระผูกพนั
ตามสัญญาประกนั หนกี้ ับสถาบนั การเงนิ ตามหลกั เกณฑ วธิ ีการ และเง่อื นไขทอ่ี ธิบดปี ระกาศ
กําหนด และใหใชบังคับสําหรับการโอนอสังหาริมทรัพยและการกระทําตราสารตามสัญญา
ปรับปรุงโครงสรา งหน้นี นั้ ทไี่ ดกระทาํ ในระหวา งวนั ที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถงึ วนั ท่ี ๓๑
ธนั วาคม พ.ศ.๒๕๕๘
มาตรา ๑๐ ใหรฐั มนตรวี าการกระทรวงการคลงั รกั ษาการตามพระราชกฤษฎกี านี้
ผูร ับสนองพระบรมราชโองการ ๗๓๔
ยงิ่ ลักษณ ชินวัตร
นายกรฐั มนตรี
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ ระราชกฤษฎีกาฉบบั นี้ คือ เนื่องจากในป พ.ศ. ๒๕๕๔
ไดเกิดอุทกภัยรายแรงข้ึนในหลายจังหวัดของประเทศไทย ทาํ ใหเ กดิ ความเสียหายตอภาคธรุ กิจ
และประชาชนเปนอยางมากสงผลกระทบตอความสามารถในการชําระหน้ีของลูกหน้ีท่ีประสบ
อุทกภัย ทําใหสถาบนั การเงินและเจา หนี้อื่นตอ งปรบั ปรงุ โครงสรางหนเ้ี พอื่ ใหสอดคลองกับความ
สามารถในการชาํ ระหน้ีของลกู หน้ที ่ปี ระสบอทุ กภัย ดงั นัน้ เพ่อื เปนการสง เสรมิ ใหมีการปรบั ปรุง
โครงสรางหน้ีของสถาบันการเงินและเจาหนี้อื่นใหแกลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยสมควรกําหนดให
สิทธิประโยชนทางภาษีอากรแกลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยและเจาหน้ีซ่ึงเปนสถาบันการเงินหรือ
เจาหนีอ้ ืน่ บางกรณี ท่ีไดกระทาํ ในระหวางวันท่ี ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ถงึ วนั ท่ี ๓๑ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๕๘ จงึ จาํ เปน ตอ งตราพระราชกฤษฎีกานี้
๗๓๕
สงิ่ ทีส่ งมาดว ย ๒
(สําเนา)
ประกาศอธิบดกี รมสรรพากร
เรอ่ื ง กาํ หนดหลักเกณฑ วิธีการ และเง่อื นไข กรณีหนีท้ ตี่ อ งดําเนนิ การปรบั ปรุง
โครงสรา งหนล้ี ูกหนท้ี ่ปี ระสบอุทกภัยตามหลกั เกณฑการปรับปรงุ โครงสรางหนีล้ ูกหนี้
ทีป่ ระสบอทุ กภยั ที่ธ_น_า_ค__า_ร_แ_ห_ง_ป_ร_ะ_เ_ท_ศ_ไทยประกาศกําหนด
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๓ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรษั ฎากรวาดวยการยกเวน รษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ อธบิ ดีกรมสรรพากร
กาํ หนด หลกั เกณฑ วธิ ีการ และเง่อื นไข กรณีหนที้ ตี่ องดําเนินการปรบั ปรงุ โครงสรางหน้ีตาม
หลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศ
กาํ หนด ดงั ตอไปน้ี
ขอ ๑ การปรับปรุงโครงสรางหนี้สําหรับหนี้ที่ตองดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้
ลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัย ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยที่
ธนาคารแหง ประเทศไทยประกาศกําหนด เจาหน้ที ่ีเปนสถาบันการเงิน เจาหนี้อน่ื ลกู หน้ที ป่ี ระสบ
อุทกภัยของสถาบนั การเงนิ และลูกหนที้ ป่ี ระสบอุทกภยั ของเจาหน้ีอ่ืน จะตอ งรว มกันจัดทาํ
หนงั สอื รบั รองหนท้ี ต่ี อ งดาํ เนนิ การปรบั ปรงุ โครงสรา งหนต้ี ามหลกั เกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ี
ลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนดโดยหนังสือรับรองดังกลาว
ตองมขี อ ความอยางนอ ยตามท่แี นบทายประกาศน้ี
ขอ ๒ ลูกหนีท้ ีป่ ระสบอุทกภยั ของสถาบนั การเงิน และลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของ
เจา หนอี้ ืน่ ตองแจง หนงั สือรบั รองตามขอ ๑ ดงั นี้
(๑) แจงตอ เจาพนักงานท่ีดินทองทีท่ ี่จดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม โดยให
สงมอบหนังสือรับรองดังกลาวตอเจาพนักงานท่ีดินผูรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะ
จดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมตามกฎหมาย เวนแตล กู หน้ีทปี่ ระสบอุทกภัยของสถาบันการเงิน
และลกู หนท้ี ปี่ ระสบอุทกภยั ของเจา หนี้อืน่ ประสงคจะชาํ ระภาษอี ากรกอ นในขณะทจี่ ดทะเบยี น
สิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายก็ไมตองแจงและสงมอบหนังสือรับรองดังกลาวตอเจาพนักงาน
ทด่ี ิน
(๒) แจง ตออธิบดีกรมสรรพากร โดยใหสง มอบหนังสือรบั รองดังกลาวผา น
สรรพากรพ้ืนที่ในเขตทองที่ท่ีลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการเงิน และลูกหน้ีท่ีประสบ
อุทกภัยของเจาหนี้อ่ืนมีภูมิลําเนาหรือสถานประกอบการต้ังอยูหรือในเขตทองท่ีท่ีอสังหาริมทรัพย
ท่ีโอนตั้งอยู
ขอ ๓ ประกาศนี้ใหใ ชบงั คับตั้งแตว นั ท่ี ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เปนตนไป
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงช่ือ) สาธิต รังคสริ ิ
(นายสาธิต รังคสิร)ิ
อธิบดกี รมสรรพากร
๗๓๖
หนังสือรับรองหนี้ท่ีตองดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ีตามหลักเกณฑการ
ปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินที่ธนาคารแหงประเทศไทย
ประกาศกําหนด ตามพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบบั ท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕
วนั ท่.ี .........เดือน..........................พ.ศ. ............
เจาพนักงานท่ีดิน............................................
เรยี น
อธบิ ดกี รมสรรพากร (ผา นสรรพากรพ้นื ท่ี.....................................)
๑. หนงั สือนที้ าํ ข้ึนโดย
(๑) สถาบันการเงิน..........................................สาํ นักงานต้งั อยเู ลขท.ี่ ..............
ตาํ บล/แขวง.................................อําเภอ/เขต................................จงั หวดั ................................
ซึง่ ตอ ไปนเ้ี รียกวา “เจาหน้ี”
(๒) ...............................................................สํานักงานต้ังอยูเ ลขท.่ี ...............
ตําบล/แขวง.................................อําเภอ/เขต................................จังหวัด................................
ซ่งึ ตอไปนเี้ รียกวา “เจาหน้อี น่ื ”
(๓) ....................................................เปนลูกหนท้ี ป่ี ระสบอทุ กภยั /ผคู ํ้าประกนั
ของลูกหนท้ี ี่ประสบอทุ กภยั ราย................................................สาํ นกั งานต้งั อยูเลขท.่ี ...............
ถนน.................................ตาํ บล/แขวง.....................................อําเภอ/เขต..............................
จงั หวดั .............................ซ่งึ ตอ ไปนเี้ รียกวา “ลกู หนี้ท่ีประสบอทุ กภัย”
๒. ตามทล่ี กู หนท้ี ป่ี ระสบอทุ กภยั มภี าระหนก้ี บั เจา หน/้ี เจา หนอ้ี น่ื เนอ่ื งจากในป ๒๕๕๔
ไดเ กิดอุทกภยั รา ยแรงข้นึ ในหลายจงั หวัดของประเทศไทยเปน อยางมาก สงผลกระทบตอความ
สามารถในการชําระหน้ีของลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัย ทําใหไมสามารถชําระหนี้ใหแกเจาหน้ี/
เจา หนีอ้ น่ื ตามจํานวนเงินและ/หรือตามจาํ นวนเวลาท่ีไดตกลงไวก บั เจา หน้ี/เจาหน้ีอน่ื ได จึงตอง
ดําเนินการปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสราง
หนี้ลูกหนีท้ ี่ประสบอุทกภัย ทธี่ นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกาํ หนด เพอ่ื ใหสอดคลองกบั ความ
สามารถในการชําระหนข้ี องลกู หนท้ี ่ีประสบอทุ กภัย ทงั้ นี้ ตามรายละเอยี ดในสัญญาปรบั ปรงุ
โครงสรา งหนี้เลขท.ี่ ................................................ลงวันท่ี...............................................
๓. เจา หนี/้ เจาหน้ีอืน่ ขอรบั รองวา หน้ที ่ตี อ งดาํ เนินการปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ลี ูกหน้ี
ทป่ี ระสบอุทกภยั ตามหลกั เกณฑการปรับปรงุ โครงสรางหนล้ี ูกหนท้ี ีป่ ระสบอุทกภัยท่ีธนาคารแหง
ประเทศไทยประกาศกําหนด ทง้ั น้ี ตามรายละเอยี ดประเภทสินเชือ่ ...........................................
เลขทบ่ี ัญช.ี ..........................................จาํ นวนเงนิ .........................................บาท รวมเปนเงนิ
ทั้งสิน้ ..................................................บาท
๗๓๗
เจาหนี้/เจาหน้ีอ่ืน และลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัย/ผูค้ําประกันของลูกหนี้ท่ีประสบ
อทุ กภัย ขอรบั รองวา รายการในหนังสอื ฉบับน้เี ปนความจริงทกุ ประการ
จงึ เรยี นมาเพือ่ โปรดทราบ
ลงชือ่ ...................................... เจา หนี้
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
ลงชอื่ ...................................... เจา หน้อี ่ืน
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
ลงชอ่ื ...................................... ลูกหน/้ี ผูคํ้าประกนั ของลูกหนที้ ี่ประสบอทุ กภยั
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
๗๓๘
สง่ิ ท่สี งมาดวย ๓
(สําเนา)
ประกาศอธิบดกี รมสรรพากร
เรอ่ื ง กาํ หนดหลักเกณฑ วธิ ีการ และเงื่อนไขการยกเวนภาษีเงนิ ได ภาษีธรุ กจิ เฉพาะ
และอากรแสตมป สาํ หรับจํานวนเงนิ ท่ีไดรับจากการโอนอสังหารมิ ทรัพยท ่ลี ูกหน้ี
ทีป่ ระสบอทุ กภยั ของสถาบันการเงินนํามาจาํ นองเปนประกันหนข้ี องสถาบนั การเงนิ
ใหแกผ ูอ่ืน ซึ่งมิใชเ จา หน้ที ีเ่ ปน สถาบันการเงิน ซง่ึ ไดด ําเนนิ การปรับปรงุ โครงสรา งหนี้
ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนลี้ ูกหนท้ี ีป่ ระสบอทุ กภยั
ที่ธนาคารแ_ห_ง _ป_ร_ะ_เ_ท_ศ__ไท__ย_ป_ร_ะ_กาศกาํ หนด
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๙ แหงพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรัษฎากรวาดว ยการยกเวน รษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕ อธิบดีกรมสรรพากร
กาํ หนด หลกั เกณฑ วิธกี าร และเงือ่ นไขการยกเวน ภาษเี งนิ ได ภาษีธรุ กิจเฉพาะ และอากรแสตมป
สําหรับจํานวนเงินท่ีไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยของลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการ
เงินที่นํามาจํานองเปนประกันหนี้ของเจาหนี้ที่เปนสถาบันการเงินใหแกผูอื่นซ่ึงมิใชเจาหนี้ที่เปน
สถาบนั การเงิน เพื่อนาํ เงินทไ่ี ดรับจากการโอนอสังหารมิ ทรัพยไ ปชาํ ระหน้แี กเจาหน้ีทีเ่ ปน สถาบนั
การเงิน ซึ่งไดด าํ เนินการปรับปรุงโครงสรางหน้ตี ามหลักเกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรา งหน้ลี ูกหนที้ ี่
ประสบอทุ กภยั ทีธ่ นาคารแหง ประเทศไทยประกาศกําหนดดงั ตอ ไปน้ี
ขอ ๑ จาํ นวนเงนิ ไดท ไ่ี ดร บั ยกเวน ภาษเี งินได ภาษธี รุ กิจเฉพาะ และอากรแสตมป
สําหรับเงินไดท่ีลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินไดรับจากการโอนอสังหาริมทรัพยที่
นํามาจํานองเปนประกันหน้ขี องเจาหน้ที ่เี ปนสถาบันการเงินใหแกผอู ่นื ซ่งึ มิใชเจาหน้ที ่เี ปนสถาบัน
การเงนิ และสาํ หรบั การกระทาํ ตราสารอันเน่ืองมาจากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยด ังกลาว ไดแ ก
จํานวนเงนิ เฉพาะสว นทไ่ี มเ กนิ กวาหนี้ที่คางชําระอยูกับเจาหน้สี ถาบนั การเงนิ หรอื มีภาระผกู พัน
ตามสัญญาประกันหนี้กับเจาหนี้สถาบันการเงินและตองเปนจํานวนเงินที่ลูกหนี้ไดนําไปชําระหน้ี
แกเจา หน้สี ถาบนั การเงนิ ตามสญั ญาปรบั ปรงุ โครงสรา งหนต้ี ามหลกั เกณฑก ารปรบั ปรงุ โครงสรา ง
หนล้ี กู หนี้ทป่ี ระสบอทุ กภยั ที่ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกําหนด
การยกเวนภาษีอากรตามวรรคหนึ่ง ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงิน
เจา หนสี้ ถาบันการเงนิ และผรู ับโอนอสังหารมิ ทรัพย จะตองรวมกันจดั ทาํ หนังสอื รับรองการโอน
อสังหาริมทรัพยของลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินใหแกผูอ่ืนซ่ึงมิใชเจาหน้ีสถาบัน
การเงิน เพอื่ นาํ เงินทีไ่ ดร บั จากการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยไปชําระหนีใ้ หแ กเ จา หนี้สถาบันการเงนิ
โดยหนังสือรบั รองดงั กลา วตอ งมขี อ ความอยางนอ ยตามท่ีแนบทา ยประกาศนี้
ลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการเงิน ตองแจงหนังสือรับรองตามวรรคสอง
ดงั นี้
๗๓๙
(๑) แจงตอเจา พนกั งานท่ีดนิ ทองที่ท่จี ดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรม โดยใหสงมอบ
หนังสือรับรองดังกลาวตอเจาพนักงานที่ดินผูรับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะจดทะเบียน
สทิ ธแิ ละนติ กิ รรม เวนแตลูกหน้ที ี่ประสบอทุ กภยั ของสถาบันการเงนิ ประสงคจ ะชาํ ระภาษีอากร
กอ นในขณะท่จี ดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ กิ รรมตามกฎหมาย ก็ไมต อ งแจงและสงมอบหนงั สอื รับรอง
ดังกลา วตอ เจา พนกั งานท่ีดนิ
(๒) แจง ตออธิบดีกรมสรรพากร โดยใหสง มอบหนงั สือรับรองดังกลาวผา นสรรพากร
พื้นที่ในเขตทองท่ีที่ลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยของสถาบันการเงินมีภูมิลําเนาหรือสถานประกอบการ
ต้ังอยูหรือในเขตทอ งทีท่ อ่ี สังหารมิ ทรัพยท ่โี อนต้งั อยู
ขอ ๒ ประกาศน้ีใหใ ชบ งั คับตง้ั แตวันที่ ๒๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เปน ตนไป
ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕
(ลงช่ือ) สาธติ รงั คสิริ
(นายสาธติ รงั คสริ )ิ
อธิบดีกรมสรรพากร
๗๔๐
หนงั สอื รบั รองการโอนอสงั หารมิ ทรพั ยข องลกู หนท้ี ป่ี ระสบอทุ กภยั ของสถาบนั การเงนิ
ใหแ กผอู น่ื ซึง่ มิใชเ จา หนีท้ ีเ่ ปนสถาบันการเงิน เพือ่ นาํ เงนิ ทีไ่ ดจากการโอนอสังหาริมทรพั ยไ ปชาํ ระ
หน้ีแกเ จาหนท้ี ่เี ปนสถาบันการเงนิ เพ่ือขอรบั สทิ ธปิ ระโยชนท างภาษีอากรตามพระราชกฤษฎกี าฯ
(ฉบับท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕
วันท่.ี .........เดือน..........................พ.ศ. ............
เจา พนักงานที่ดิน............................................
เรียน
อธิบดีกรมสรรพากร (ผานสรรพากรพื้นท.่ี ....................................)
๑. หนงั สือนี้ทําขนึ้ โดย
(๑) ..................................ผโู อนอสงั หารมิ ทรพั ยซง่ึ เปน ลกู หนท้ี ี่ประสบอทุ กภยั /
ผคู ํ้าประกนั ของลูกหนท้ี ่ปี ระสบอทุ กภัย ราย......................................สาํ นกั งาน(ของผโู อน)ตั้งอยู
เลขที่...............ถนน......................ตําบล/แขวง..............................อําเภอ/เขต.........................
จงั หวัด................................
(๒) สถาบันการเงนิ ..........................................สาํ นกั งานตง้ั อยเู ลขท่.ี ..............
ถนน......................ตําบล/แขวง....................อาํ เภอ/เขต.......................จงั หวัด.........................
ซงึ่ ตอ ไปนี้เรียกวา “เจาหน”้ี
(๓) ผรู ับโอนอสงั หาริมทรพั ย............................สํานักงานตั้งอยูเลขท.ี่ ...............
ถนน......................ตาํ บล/แขวง....................อําเภอ/เขต.......................จังหวดั .........................
ซงึ่ ตอไปนเ้ี รยี กวา “ผซู อ้ื ”
๒. ตามทล่ี กู หนท้ี ป่ี ระสบอทุ กภยั มภี าระหนก้ี บั เจา หน้ี เนอ่ื งจากในป ๒๕๕๔ ไดเกิด
อุทกภัยรายแรงขึ้นในหลายจังหวัดของประเทศไทยทําใหเกิดความเสียหายตอธุรกิจและ
ประชาชนเปน อยา งมาก อนั สงผลกระทบตอ ความสามารถในการชาํ ระหนี้ ทาํ ใหล กู หนท้ี ปี่ ระสบ
อุทกภัยไมสามารถชําระหนี้ใหแกเจาหน้ีตามจํานวนเงินและ/หรือตามกําหนดเวลาที่ไดตกลง
ไวกับเจาหนี้ได ลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยและหรือผูคํ้าประกันและเจาหน้ีจึงไดตกลงปรับปรุง
โครงสรางหนึี้ตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหนี้ลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัยที่ธนาคารแหง
ประเทศไทยประกาศกาํ หนด ท้งั น้ี ตามรายละเอยี ดในสัญญาปรบั ปรงุ โครงสรา งหนเี้ ลขที่..........
.......................................ลงวันที่...............................................
๓. ลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัย/ผูคํ้าประกันของลูกหนี้ท่ีประสบอุทกภัย จึงไดโอน
อสังหาริมทรัพย โฉนด น.ส.๓ น.ส.๓ ก. อนื่ ๆ เลขที่..........หมูท ่.ี .........ตาํ บล/แขวง.........................
อาํ เภอ/เขต......................จงั หวัด......................ซ่ึงเปนอสังหาริมทรพั ยท ล่ี กู หน้ีท่ปี ระสบอทุ กภัย/
ผคู าํ้ ประกนั ของลูกหนี้ทป่ี ระสบอทุ กภยั ไดน ํามาจดทะเบียนจํานองเปน ประกันหนี้ของเจา หน้ี ทั้งนี้
๗๔๑
ตามหนงั สอื สัญญาซอื้ ขาย ลงวนั ที.่ .......เดือน...................พ.ศ. ..........ซงึ่ ลกู หนที้ ป่ี ระสบอุทกภยั /
ผคู ้าํ ประกนั ของลูกหน้ที ่ปี ระสบอุทกภยั และผูซ ้ือตกลงซ้ือขายกนั ในราคา.............................บาท
ราคาประเมินทนุ ทรพั ยใ นการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเปน จาํ นวนเงนิ ...........................บาท
๔. ลูกหน้ีท่ีประสบอุทกภัยมีหน้คี งคางชําระอยูกับเจา หน้ี ณ วนั ท่ที าํ สญั ญาปรับปรงุ
โครงสรางหน้ีกับเจาหน้ีตามหลักเกณฑการปรับปรุงโครงสรางหน้ีลูกหนี้ที่ประสบอุทกภัยที่
ธนาคารแหงประเทศไทยประกาศกาํ หนดจาํ นวน...........................บาท และในขณะท่ที ําสญั ญา
โอนอสังหาริมทรัพยตามหนังสือรับรองฉบับน้ีลูกหน้ีที่ประสบอุทกภัยมีหนี้คงคางชําระอยูกับ
เจา หน้จี าํ นวน.................................บาท
๕. ลกู หน้ที ่ีประสบอุทกภัย/ผูค าํ้ ประกนั ของลูกหน้ที ป่ี ระสบอุทกภยั เจา หนี้ และผซู ื้อ
ตกลงและรับทราบวา ลกู หนีท้ ปี่ ระสบอุทกภัยตอ งนําเงินจาํ นวน.............................บาท ทีไ่ ดจาก
การโอนอสังหารมิ ทรัพยตาม ๓. มาชาํ ระหนใี้ หแ กเจาหนี้ซงึ่ เปนจํานวนเงนิ ที่ไดรับยกเวนภาษี
อากรตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบบั ท่ี ๕๔๘) พ.ศ. ๒๕๕๕
ลกู หนี้ทปี่ ระสบอทุ กภยั /ผูค ํ้าประกันของลูกหนที้ ี่ประสบอุทกภัย เจาหนี้ และผซู อ้ื
ขอรบั รองวา รายการในหนังสือรับรองฉบับน้เี ปน ความจรงิ ทกุ ประการ
จึงเรียนมาเพ่อื โปรดทราบ
ลงช่อื ...................................... ลูกหน/้ี ผคู าํ้ ประกนั ของลูกหน้ที ี่ประสบอุทกภัย
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
ลงชือ่ ...................................... เจา หน้ี
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
ลงช่ือ ...................................... ผูซ้อื
( ...................................... )
ในฐานะ........................................
๗๔๒
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๓๗๔๖ (สาํ เนา)
กรมทดี่ นิ
ศนู ยร าชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕
เรือ่ ง การจดทะเบียนควบบรษิ ทั เขา ดว ยกนั ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย
เรียน ผวู าราชการจังหวดั ทุกจังหวัด
อางถึง ๑. หนังสอื กรมท่ดี นิ ท่ี มท ๐๗๑๐/ว ๐๘๒๙๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๓
๒. หนงั สือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๓๓๖๔ ลงวนั ที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๒
ตามหนังสอื ทอี่ า งถงึ ๑. กรมท่ดี นิ ซอ มความเขา ใจทางปฏบิ ตั ใิ นการดาํ เนนิ การ
เก่ียวกับอสงั หารมิ ทรัพย กรณหี นวยปฏิบัตขิ องกรมสรรพากรมีหนังสือแจง การควบเขา กัน โอน
กจิ การบางสวน หรอื โอนกจิ การทง้ั หมดของบรษิ ทั มหาชนจํากัด หรอื บรษิ ัทจาํ กดั มาเพ่ือประกอบ
การพจิ ารณายกเวน ภาษธี รุ กจิ เฉพาะ และอากรแสตมป และตอมาไดม หี นงั สอื ตามท่ีอา งถงึ ๒.
แจงทางปฏิบัติในการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงชื่อ อันเนื่องมาจากการแปรสภาพหางหุนสวน
จดทะเบยี น หรอื หา งหุน สวนจาํ กดั เปนบริษทั จํากดั และการควบบริษทั เขา ดว ยกนั ตามประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย รวมทั้งการเรียกเก็บคาธรรมเนียม และภาษีอากร ใหพนักงาน
เจา หนา ทท่ี ราบและถอื ปฏบิ ตั ิ แตเ นอ่ื งจากเกดิ ปญ หาในทางปฏบิ ตั กิ รณกี ารควบบรษิ ทั เขา ดว ยกนั
ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชย พนกั งานเจา หนาท่ีปฏบิ ตั ไิ มเปนไปในแนวทางเดียวกนั
เชน กรณีบริษทั ก. และบรษิ ัท ข. ควบเขากนั แลวต้งั เปน บรษิ ทั ใหม (โดยใชชือ่ บรษิ ทั ก. หรอื
บรษิ ัท ข.) เหมือนชอ่ื เดิม แตหมายเลขทะเบยี นนิติบคุ คลไดเ ปลยี่ นแปลงไป ซงึ่ ในหนงั สอื แสดง
สิทธใิ นทีด่ ินเปน ชือ่ บริษัท ก. หรอื บริษัท ข. อยูแ ลว ทาํ ใหพ นักงานเจา หนาที่เกิดความสบั สนวา
จะตองมีการแกไ ขเปลีย่ นแปลงชือ่ บรษิ ัททางทะเบียนหรือไมอยา งไร โดยสํานกั งานท่ีดนิ บางแหง
ไดมีการจดทะเบียนใหปรากฏทางทะเบียนแตบางสํานักงานท่ีดินเจาหนาท่ีเขาใจวาไมจําตอง
จดทะเบียนใหปรากฏทางทะเบียน เนื่องจากเม่ือควบรวมกิจการแลวไมมีการเปลี่ยนแปลงชื่อ
บริษัทแตอยางใด ประกอบกับไดตรวจพบวาสํานักงานที่ดินบางแหงไมมีการแจงและบันทึก
ถอยคาํ ผูขอรับทราบตามขอความทรี่ ะบไุ วต อนทา ยของหนังสอื ทีอ่ า งถงึ ๑. น้ัน
กรมท่ีดินพิจารณาแลว จึงซอมความเขาใจทางปฏิบัติในการจดทะเบียน
เปลีย่ นแปลงชอื่ อันเนือ่ งมาจากการควบบริษัทเขากันตามประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย
ดังน้ี
๗๔๓