๕๔๔
๕๔๕
๕๔๖
๕๔๗
๕๔๘
๕๔๙
๕๕๐
๕๕๑
๕๕๒
๕๕๓
๕๕๔
บญั ชรี ายช่อื หนงั สือเวยี น ระเบียบ และคําส่ังตางๆ
สาํ นกั มาตรฐานการทะเบียนทดี่ นิ
ประจาํ ป พ.ศ. ๒๕๕๕
๑. เลขท่หี นังสอื เวียน ช่ือเรอื่ ง หนา
ลาํ ดับท่ี ระเบยี บ คาํ ส่งั ๕๕๙
๒. ลงวนั เดือน ป
๑. ดว นทส่ี ุด
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๑๔๔๙ การประกาศบญั ชีกําหนดราคาประเมนิ
ลว. ๑๙ ม.ค. ๕๕ ทนุ ทรพั ยอสังหารมิ ทรพั ย
๒. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ /ว ๓๙๑๗ การเรยี กเอกสารหลกั ฐานบตั รประจาํ ตวั ๕๖๒
ลว. ๘ ก.พ. ๕๕ ประชาชนของผเู ยาวอายุต้งั แต ๗ ปบรบิ ูรณ
ข้ึนไป
๓. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๕๒๐๐ พระราชบญั ญัตกิ ารเคหะแหง ชาติ (ฉบบั ท่ี ๒) ๕๗๑
ลว. ๑๗ ก.พ. ๕๕ พ.ศ. ๒๕๕๐
๔. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๘๐๐๔ การปฏิบตั ิตามพระราชบญั ญัตปิ องกนั และ ๕๘๑
ลว. ๑๓ ม.ี ค. ๕๕ ปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒
๕. ท่ี มท ๐๕๑๕.๒ / ว ๘๔๕๑ การรายงานเปล่ยี นแปลงทะเบียนการ ๕๘๓
ลว. ๑๕ มี.ค. ๕๕ ครอบครองท่ีดิน
๖. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๘๖๗๘ แนวทางปฏบิ ตั ิกรณที ่ีมผี มู ายนื่ คําขอ ๕๙๒
ลว. ๑๙ มี.ค. ๕๕ จดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรม หรอื กิจการอื่นๆ
เกีย่ วกับอสงั หารมิ ทรพั ยซ ง่ึ ไมสามารถ
ดําเนินการใหก ับผขู อได
๗. ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๘๖๘๙ ธนาคารนครหลวงไทย จาํ กดั (มหาชน) ๕๙๔
ลว. ๑๙ มี.ค. ๕๕ ยน่ื คาํ ขอจดทะเบียนโอนสิทธกิ ารรับจํานอง
ใหแกบริษทั บรหิ ารสินทรพั ย ที เอส จํากดั
๕๕๕
บัญชีรายชอื่ หนังสือเวียน ระเบยี บ และคําสัง่ ตางๆ
สํานักมาตรฐานการทะเบยี นทีด่ ิน
ประจาํ ป พ.ศ. ๒๕๕๕
๑. เลขทหี่ นงั สอื เวียน ชือ่ เร่ือง หนา
ลําดบั ท่ี ระเบยี บ คําส่ัง
๒. ลงวัน เดอื น ป
๘. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๘๘๕๖ การจดทะเบยี นเปลย่ี นตัวผแู ทนผถู ือหุนกู ๕๙๗
ลว. ๒๐ มี.ค. ๕๕
๙. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๙๑๒๙ การตรวจสอบหนงั สอื มอบอาํ นาจทีท่ ําใน ๖๐๒
ลว. ๒๒ ม.ี ค. ๕๕ ตา งประเทศ
๑๐. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๑๓๗๘ การจดั เก็บคา ธรรมเนยี มกรณีสว นราชการ ๖๐๔
ลว. ๑๘ เม.ย. ๕๕ องคกรปกครองสว นทอ งถน่ิ หรือรฐั วิสาหกจิ
ขอตรวจหลักฐาน ขอคดั หรือขอถายสําเนา
เอกสาร
๑๑. ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๔๐๕๕ การเรยี กเอกสารหลกั ฐานประกอบการ ๖๐๗
ลว. ๑๘ พ.ค. ๕๕ จดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ ิกรรมและธรุ กรรมอนื่
เก่ยี วกบั อสงั หารมิ ทรัพย
๑๒. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๗๖๒๘ แจง รายชอ่ื บรษิ ทั บริหารสินทรัพยร ายใหม ๖๑๑
ลว. ๒๖ มิ.ย. ๕๕
๑๓. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๘๙๙๕ แนวทางปฏบิ ตั ิเกย่ี วกับการจําหนา ย ๖๑๔
ลว. ๑๑ ก.ค. ๕๕ บญั ชอี ายัด
๑๔. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๙๓๗๒ การดําเนินการตามมาตรา ๔๔ (๓) แหง ๖๑๖
ลว. ๑๒ ก.ค. ๕๕ พระราชบญั ญัตกิ ารจัดสรรท่ดี นิ พ.ศ. ๒๕๔๓
๕๕๖
บัญชรี ายช่อื หนังสอื เวียน ระเบียบ และคาํ ส่ังตางๆ
สํานักมาตรฐานการทะเบียนท่ดี นิ
ประจาํ ป พ.ศ. ๒๕๕๕
๑. เลขทีห่ นังสือเวียน ชื่อเรอื่ ง หนา
ลาํ ดบั ที่ ระเบียบ คําสง่ั
๒. ลงวนั เดือน ป
๑๕. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๙๘๘๗ การยกเวน ภาษธี รุ กิจเฉพาะและอากรแสตมป ๖๒๐
ลว. ๑๗ ก.ค. ๕๕ การโอนอสงั หาริมทรพั ยกรณกี ารปรบั ปรงุ
โครงสรางองคกร
๑๖. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๐๑๐๖ การคัดสาํ เนาระวางแผนทีท่ ีด่ ินหรือสาํ เนา ๖๓๗
ลว. ๑๙ ก.ค. ๕๕ โฉนดทดี่ ินของการรถไฟแหงประเทศไทย
๑๗. ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๒๔๕๕ ภาษเี งนิ ได ภาษธี รุ กจิ เฉพาะและอากรแสตมป ๖๓๘
ลว. ๑๕ ส.ค. ๕๕ กรณีจดทะเบียนโอนที่ดินเพือ่ บรจิ าคใหแ ก
สถานศึกษา
๑๘. ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๓๐๒๑ กองทนุ ฟนฟแู ละพัฒนาเกษตรกรโอน ๖๔๘
ลว. ๒๐ ส.ค. ๕๕ อสงั หาริมทรัพยทต่ี กเปนของกองทุนตาม
มาตรา ๓๗/๙ แหง พระราชบัญญัติกองทุน
ฟน ฟูและพฒั นาเกษตรกร พ.ศ. ๒๕๔๒
คืนใหแกเกษตรกรไมอยูในหลกั เกณฑต อ ง
เสยี ภาษีเงนิ ได
๑๙. ดว นทส่ี ดุ
ท่ี มท ๐๕๑๕.๒/ว ๒๖๓๘๑ ระเบยี บกรมทีด่ ินวา ดวยการจัดเกบ็ ๖๕๒
ลว. ๑๙ ก.ย. ๕๕ หนังสือแสดงสทิ ธิในทีด่ นิ สารบบท่ีดิน และ
สารบบส่ิงปลกู สราง พ.ศ. ๒๕๕๕
๒๐. ดว นท่ีสดุ
ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๘๑๑๔ ขยายระยะเวลาการลดคา ธรรมเนยี ม ๖๗๔
ลว. ๔ ต.ค. ๕๕ จดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมกรณกี ารปรบั ปรงุ
โครงสรา งหนี้
๕๕๗
บัญชีรายชือ่ หนังสอื เวยี น ระเบยี บ และคาํ สง่ั ตางๆ
สํานกั มาตรฐานการทะเบยี นท่ีดนิ
ประจําป พ.ศ. ๒๕๕๕
๑. เลขท่หี นังสอื เวยี น ช่ือเร่ือง หนา
ลาํ ดับที่ ระเบียบ คาํ สั่ง
๒. ลงวนั เดอื น ป
๒๑. ดว นทส่ี ุด
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๘๖๙๔ การลดหยอนคา ธรรมเนียมจดทะเบยี น ๖๘๑
ลว. ๑๐ ต.ค. ๕๕ สิทธิและนติ กิ รรมเปน พเิ ศษ กรณีการปรบั ปรุง
โครงสรางหน้ขี องลูกหนท้ี ไี่ ดร บั ความเสยี หาย
โดยทางตรงหรอื ทางออมจากอทุ กภยั
๒๒. ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๒๙๒๕๖ ซอมความเขา ใจการขอตรวจสอบทะเบียน ๖๙๘
ลว. ๑๖ ต.ค. ๕๕ การครอบครองท่ีดนิ ไปยังกรมท่ดี ิน
๒๓. ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๙๙๑๒ การรับคาํ ขอรังวดั สอบเขต แบง แยก ๖๙๙
ลว. ๒๒ ต.ค. ๕๕ และรวมโฉนดท่ีดนิ
๒๔. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๓๑๑๑๓ ระเบยี บกรมทด่ี นิ วา ดว ยการมอบอํานาจ ๗๐๐
ลว. ๒ พ.ย. ๕๕ ใหทาํ การจดทะเบียนสิทธิและ นิติกรรมหรอื
กจิ การอน่ื เกย่ี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ย พ.ศ.๒๕๕๕
๒๕. ดวนท่ีสดุ
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๓๒๗๐๖ การลดหยอ นคา ธรรมเนียมและยกเวน ๗๑๑
ลว. ๑๖ พ.ย. ๕๕ ภาษีอากรกรณปี รับปรงุ โครงสรา งหนี้
๒๖. ดว นท่สี ดุ
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๓๓๒๗๘ การลดหยอ นคา ธรรมเนยี มและยกเวน ๗๒๗
ลว. ๒๒ พ.ย. ๕๕ ภาษอี ากรกรณปี รับปรุงโครงสรา งหนีข้ อง
ลกู หน้ที ี่ไดร บั ความเสยี หายโดยทางตรงหรอื
ทางออมจากอทุ กภัย
๒๗. ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๓๓๗๔๖ การจดทะเบียนควบบริษทั เขาดวยกันตาม ๗๔๓
ลว. ๒๙ พ.ย. ๕๕ ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
๕๕๘
ดว นท่สี ดุ (สาํ เนา)
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๑๔๔๙
กรมทด่ี ิน
ศนู ยร าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๙ มกราคม ๒๕๕๕
เรอื่ ง การประกาศบญั ชีกําหนดราคาประเมนิ ทุนทรพั ยอ สงั หารมิ ทรัพย
เรยี น ผวู า ราชการจงั หวดั ทุกจังหวดั
ส่งิ ทสี่ งมาดวย สําเนาหนงั สือกรมธนารักษ ดว นทส่ี ดุ ท่ี กค ๐๓๑๔/๑๔๔๙๔
ลงวนั ท่ี ๓๐ ธนั วาคม ๒๕๕๔
กรมท่ดี นิ ขอสงสาํ เนาหนงั สอื กรมธนารกั ษ ดว นทีส่ ุด ท่ี กค ๐๓๑๔/๑๔๔๙๔
ลงวนั ท่ี ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ กรณีคณะกรรมการกาํ หนดราคาประเมินทุนทรัพยมีมติใหขยาย
เวลาการใชบัญชีกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยที่ดินและบัญชีกําหนดราคาประเมินทุนทรัพย
โรงเรอื นสง่ิ ปลูกสรา งรอบบัญชี ป พ.ศ. ๒๕๕๑ – ๒๕๕๔ ออกไปอกี ๖ เดอื น มาเพือ่ โปรดทราบ
และแจง ใหเจา หนา ทที่ ดี่ ินทราบและถอื ปฏบิ ัตติ อ ไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอื่ ) อนวุ ฒั น เมธวี บิ ลู วฒุ ิ
(นายอนวุ ัฒน เมธีวิบลู วุฒิ)
อธบิ ดกี รมท่ีดิน
สาํ นักมาตรฐานการทะเบยี นทด่ี นิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔
๕๕๙
ดว นทีส่ ุด (สําเนา)
ท่ี กค ๐๓๑๔ / ๑๔๔๙๔
กรมธนารกั ษ
ถนนพระรามท่ี ๖ กรุงเทพฯ ๑๐๔๐๐
๓๐ ธนั วาคม ๒๕๕๔
เรอ่ื ง การประกาศบัญชกี าํ หนดราคาประเมินทุนทรพั ยอ สังหารมิ ทรัพย
เรียน อธบิ ดีกรมทด่ี นิ
ตามทก่ี รมทด่ี ินไดม บี นั ทกึ ดว นทีส่ ุด ที่ มท ๐๕๐๕.๔/๓๒๗๖๗ ลงวันที่ ๘
ธนั วาคม ๒๕๕๔ ถงึ ปลดั กระทรวงมหาดไทย กระทรวงมหาดไทย ไดม ีหนงั สือ ดวนทสี่ ดุ ที่ มท
๐๕๐๕.๔/๑๓๓๐๗ ลงวนั ที่ ๒๑ ธนั วาคม ๒๕๕๔ ถึงรัฐมนตรีวา การกระทรวงการคลัง ขอให
กระทรวงการคลังมอบหมายใหคณะกรรมการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยใชอํานาจตามขอ
๓๒ วรรคสอง ของระเบียบคณะกรรมการฯ ท่จี ะพจิ ารณาเห็นความจําเปน เพื่อประโยชนในทาง
เศรษฐกิจและสงั คม ขยายเวลาการใชบญั ชีกาํ หนดราคาประเมินทุนทรัพยของอสงั หาริมทรัพย
ฉบับปจจุบนั ออกไปอีกหน่งึ ป เพอ่ื เปน การชวยเหลือประชาชนดงั กลา วในการท่จี ะฟน ฟูที่อยอู าศยั
ใหม คี วามเปน อยูทดี่ ีขน้ึ จากการท่ีตองประสบอุทกภยั ไดท างหน่งึ อนั จะเปน ประโยชนต อประชาชน
อยางมาก นั้น
กรมธนารักษไดนําเรียนเสนอคณะกรรมการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพย
พิจารณา ตามท่กี รมทดี่ นิ กระทรวงมหาดไทย เสนอในการประชุมคณะกรรมการกาํ หนดราคา
ประเมนิ ทุนทรัพย คร้งั ที่ ๒๕/๒๕๕๔ วันท่ี ๓๐ ธนั วาคม ๒๕๕๔ จากปญหาวิกฤตอุทกภัยทีเ่ กิด
ข้ึนในป ๒๕๕๔ สง ผลกระทบตอราษฎรท่ีไดร ับความเดือดรอน สูญเสียทรัพยส นิ จาํ นวนมาก และ
มผี ลกระทบทางเศรษฐกิจและสงั คมทัง้ ทางตรงและทางออมอยา งกวางขวาง อาศัยอาํ นาจตาม
ความในมาตรา ๑๐๕ เบญจ แหง ประมวลกฎหมายทดี่ นิ ซ่งึ แกไ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบญั ญตั ิ
แกไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายที่ดนิ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๓๔ ประกอบระเบยี บคณะกรรมการ
กําหนดราคาประเมนิ ทนุ ทรัพย ฉบับท่ี ๒ (พ.ศ. ๒๕๓๘) วาดวยหลักเกณฑแ ละวิธกี ารในการ
กําหนดราคาประเมนทุนทรพั ยของอสังหาริมทรัพย เพอื่ เรียกเก็บคา ธรรมเนียมจดทะเบียนสทิ ธิ
และนิติกรรมคณะกรรมการกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยไดมีมติใหขยายเวลาการใชบัญชี
กําหนดราคาประเมินทุนทรัพยที่ดินและบัญชีกําหนดราคาประเมินทุนทรัพยโรงเรือนส่ิงปลูกสราง
รอบบัญชีป พ.ศ. ๒๕๕๑ – ๒๕๕๔ ออกไปอกี ๖ เดือน
๕๖๐
จงึ เรยี นมาเพือ่ แจง ใหสาํ นกั งานทดี่ ินจังหวัด สํานกั งานทดี่ ินจังหวัดสาขา และ
สาํ นกั งานท่ีดินอําเภอทราบ เพื่อดาํ เนินการตอไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชือ่ ) ชูชพี จิตรอ ําไพ
(นายชชู พี จติ รอําไพ)
ผูอ าํ นวยการสํานักประเมนิ ราคาทรพั ยส นิ ปฏบิ ัตริ าชการแทน
อธิบดกี รมธนารักษ
สาํ นกั ประเมนิ ราคาทรัพยส นิ
สวนประเมนิ ราคาทรพั ยสินในกรงุ เทพฯ ๑
โทรศพั ท ๐ ๒๑๔๒ ๒๔๒๕ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๘๗๕๗
๕๖๑
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๓๙๑๗ (สาํ เนา)
กรมท่ีดิน
ศนู ยร าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจง วฒั นะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๘ กุมภาพันธ ๒๕๕๕
เรอ่ื ง การเรยี กเอกสารหลกั ฐานบัตรประจําตวั ประชาชนของผูเยาวอายุตัง้ แต ๗ ปบรบิ ูรณข ้ึนไป
เรยี น ผวู า ราชการจงั หวดั ทกุ จังหวดั
สิง่ ท่สี งมาดว ย สําเนาพระราชบัญญัตบิ ตั รประจาํ ตัวประชาชน (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๔
จาํ นวน ๑ ฉบับ
ดวยปจจุบันไดมีการประกาศใชพระราชบัญญัติบัตรประจําตัวประชาชน
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๔ ซึง่ แกไขเพ่มิ เติมพระราชบัญญตั บิ ัตรประจาํ ตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖
ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม ๑๒๘ ตอนท่ี ๓๔ ก ลงวนั ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ตาม
มาตรา ๒ กาํ หนดใหพ ระราชบัญญัตนิ ้ีมผี ลใชบ ังคับเม่ือพนกําหนดหกสิบวันนับแตวนั ประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา จึงมีผลใชบ งั คบั ต้ังแตว นั ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เปน ตนไป ตามพระราช
บญั ญัติฉบบั นไ้ี ดแ กไขเพม่ิ เตมิ พระราชบัญญัติบตั รประจําตวั ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ซงึ่ แกไ ข
เพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิบตั รประจาํ ตวั ประชาชน (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒ มีสาระสําคัญโดย
สรปุ คอื กาํ หนดใหบ คุ คลสญั ชาตไิ ทยซง่ึ มอี ายตุ ง้ั แตเ จด็ ปบ รบิ รู ณข น้ึ ไป แตไ มเ กนิ เจด็ สบิ ปบ รบิ รู ณ
และมีชื่อในทะเบียนบานตองมีบัตรประจําตัวประชาชน และตองยื่นคําขอมีบัตรตอพนักงาน
เจา หนา ท่ีตามพระราชบญั ญัตินภ้ี ายในระยะเวลาทีก่ ฎหมายกําหนด ตามมาตรา ๖ และมาตรา ๖
เบญจ แหง พระราชบญั ญตั บิ ัตรประจําตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ทแี่ กไขแลว หรือมาตรา ๑๖
แหง พระราชบัญญัตบิ ัตรประจาํ ตัวประชาชน (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๔ แลวแตก รณี แตห าก
พนักงานเจาหนาท่ีตามพระราชบัญญัติน้ีไมสามารถออกบัตรใหผูยื่นคําขอไดในวันเดียวกันให
ออกใบรับแกผูย่ืนคําขอ และใบรับหรือใบแทนใบรับนั้นใหใชไดเสมือนบัตรตามระยะเวลาที่
กาํ หนดไวในใบรบั หรอื ใบแทนใบรับ
กรมที่ดนิ พจิ ารณาแลวเห็นวา โดยท่ใี นการยนื่ คาํ ขอจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ ิกรรม
พนกั งานเจา หนา ทม่ี อี าํ นาจสอบสวนคกู รณแี ละเรยี กบคุ คลทเ่ี กย่ี วขอ งมาใหถ อ ยคาํ หรอื สง เอกสาร
หลักฐานที่เก่ียวของไดตามความจําเปนตามมาตรา ๗๔ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน และ
ตองสอบสวนถึงสิทธิความสามารถและความสมบูรณของนิติกรรมตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๗
๕๖๒
(พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ ชประมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๒
ประกอบกับตามคาํ สงั่ กรมทด่ี ิน ท่ี ๑๐/๒๔๗๕ เร่ือง การทาํ นิติกรรมเกย่ี วกบั อสังหารมิ ทรพั ยของ
ผูเ ยาว ลงวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๔๗๕ กาํ หนดใหผปู กปกรักษาของผูเยาวน้นั ทําแทนผูเยาว และ
คาํ สง่ั กรมทด่ี นิ ที่ ๔/๒๕๐๖ เรอ่ื ง การสอบสวนสทิ ธขิ องผูมาทําการเกย่ี วกับทด่ี ิน ลงวันท่ี ๒๕
ธนั วาคม ๒๕๐๖ เวียนโดยหนงั สอื กรมทดี่ ิน ท่ี ๘๕๒๖ / ๒๕๐๖ ลงวันที่ ๒๕ ธนั วาคม ๒๕๐๖
วางแนวทางปฏิบัตใิ นเรือ่ งการพจิ ารณาตัวบคุ คลผขู าย หรอื ผูจาํ นอง วา ถาไมเ ปน ทร่ี ูจักกค็ วร
ใหห าผทู ี่เชอื่ ถือไดม ารับรอง นอกจากน้ันก็ควรไดต รวจสอบสิง่ อ่ืนๆ ประกอบ เชน บตั รประจําตวั
ทม่ี ีอยตู ามกฎหมาย เปนตน และใหผ รู ับซอ้ื หรือผรู ับจาํ นอง รับรองอีกช้ันหน่ึงดว ย ดงั นน้ั เพอื่
ใหพนักงานเจาหนาท่ีถือปฏิบัติในการเรียกเอกสารหลักฐานบัตรประจําตัวประชาชนของผูเยาวที่
มอี ายุตงั้ แต ๗ ปบ ริบรู ณขึน้ ไปเพอื่ ประกอบการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรมใหเ ปน ไปในแนวทาง
เดียวกนั จงึ ใหพ นกั งานเจา หนาทเ่ี รียกหลักฐานบัตรประจาํ ตัวประชาชน ใบรับหรอื ใบแทนใบรับ
ของผูเ ยาวท่ีออกตามความในพระราชบญั ญัติบัตรประจาํ ตัวประชาชน (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๔
เพื่อใชเปนหลักฐานประกอบการพิจารณาตัวบุคคลตามคําสั่งกรมที่ดินดังกลาว แตหากผูขอ
จดทะเบียนไมส ามารถแสดงบัตรประจาํ ตัวประชาชน ใบรบั หรอื ใบแทนใบรับของผเู ยาวได ก็ให
พนักงานเจาหนาทสี่ อบสวนขอ เทจ็ จริง และบันทกึ ถอ ยคาํ บิดาและมารดา ผใู ชอาํ นาจปกครอง
หรือผูที่ควรเช่ือถือได เพื่อยืนยันจนเปนที่เชื่อไดวาผูเยาวมีตัวตนอยูจริงและมีสัญชาติไทยไว
เปน หลักฐาน แลวดาํ เนินการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมตอ ไปได พรอ มน้ไี ดสง สาํ เนาพระราช
บัญญัติบัตรประจาํ ตวั ประชาชน (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๔ มาเพื่อใหพนกั งานเจา หนา ที่ศึกษา
ทาํ ความเขาใจและถอื ปฏบิ ัตแิ ลว
จึงเรยี นมาเพอื่ โปรดทราบ และแจง ใหเจา หนาท่ที ดี่ ินทราบและถอื ปฏบิ ัตติ อ ไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอ่ื ) อนุวฒั น เมธีวบิ ูลวุฒิ
(นายอนุวฒั น เมธีวบิ ลู วฒุ ิ)
อธบิ ดีกรมที่ดนิ
สาํ นักมาตรฐานการทะเบียนท่ดี นิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔
๕๖๓
(สาํ เนา)
พระราชบัญญัติ
บตั รประจาํ ตวั ประชาชน (ฉบบั ท่ี ๓)
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๔___
ภูมพิ ลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วนั ท่ี ๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
เปนปที่ ๖๖ ในรัชกาลปจ จบุ นั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา
โดยท่เี ปน การสมควรแกไขเพมิ่ เตมิ กฎหมายวา ดว ยบัตรประจําตวั ประชาชน
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบัญญัติขึ้นไวโดยคําแนะนําและ
ยินยอมของรัฐสภาดงั ตอไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกวา “พระราชบัญญัติบัตรประจําตัวประชาชน
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๔”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับเม่ือพนกําหนดหกสิบวันนับแตวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเปน ตนไป
มาตรา ๓ ใหย กเลิกความในมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๖ ทวิ และมาตรา ๖ ตรี
แหงพระราชบัญญัตบิ ัตรประจาํ ตวั ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ซึง่ แกไขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัติ
บตั รประจาํ ตัวประชาชน (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒ และใหใชความตอไปน้ีแทน
“มาตรา ๕ ผมู ีสัญชาตไิ ทยซ่ึงมอี ายตุ ัง้ แตเ จ็ดปบรบิ ูรณ แตไ มเกนิ เจ็ดสิบปบ รบิ ูรณ
และมชี ่อื ในทะเบยี นบา นตองมบี ัตรตามท่กี ําหนดในพระราชบัญญัตินี้
ความในวรรคหนึง่ ไมใชบ งั คบั แกผ ูซ ึ่งไดรับการยกเวน ตามท่กี ําหนดในกฎกระทรวง
ผูซ่ึงไดรับการยกเวนตามกฎกระทรวงตามวรรคสอง ซ่ึงมีบัตรประจําตัวตาม
กฎหมายอื่นใหใ ชบตั รประจาํ ตวั น้ันแทนได
ผซู ง่ึ มีอายเุ กนิ เจด็ สบิ ปและผซู งึ่ ไดร ับการยกเวนตามกฎกระทรวงจะขอมบี ัตรก็ได
มาตรา ๖ ผซู ง่ึ ตองมบี ตั รตามมาตรา ๕ ใหยนื่ คําขอมบี ัตรตอพนกั งานเจาหนา ที่
ภายในกําหนดหกสิบวันนับแต
(๑) วนั ท่อี ายคุ รบเจด็ ปบรบิ รู ณ
(๒) วันทีไ่ ดสัญชาติไทย สาํ หรบั ผูไมไ ดส ัญชาติไทยโดยการเกดิ หรอื ไดกลบั คนื
สัญชาติไทยตามกฎหมายวาดวยสัญชาติ
๕๖๔
(๓) วันท่ีนายทะเบียนเพิ่มช่ือในทะเบียนบานตามกฎหมายวาดวยการทะเบียน
ราษฎร
(๔) วันทพ่ี นสภาพจากการไดร ับการยกเวน
มาตรา ๖ ทวิ บัตรใหใชไดนับแตวันออกบัตรและมีอายุแปดปนับแตวันเกิดของ
ผูถ อื บัตรท่ถี ึงกําหนดภายหลงั จากวนั ออกบัตร
บัตรที่ยงั ไมห มดอายุในวนั ทผี่ ถู อื บตั รมีอายุครบเจด็ สิบปบริบรู ณ ใหใชบ ตั รนน้ั ตอ ไป
ไดต ลอดชีวติ
มาตรา ๖ ตรี ผถู อื บัตรตอ งมบี ัตรใหม โดยย่ืนคําขอตอพนกั งานเจา หนา ที่ภายใน
หกสบิ วนั นบั แตวันที่บัตรเดิมหมดอายุ
ผูถือบตั รจะขอมีบัตรใหมก อนวันทีบ่ ัตรเดมิ หมดอายกุ ็ได โดยยื่นคาํ ขอตอพนกั งาน
เจาหนา ทภ่ี ายในหกสิบวันกอนวันทบี่ ตั รเดิมหมดอาย”ุ
มาตรา ๔ ใหย กเลิกความในมาตรา ๖ เบญจ แหง พระราชบญั ญัติบตั รประจําตัว
ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ซงึ่ แกไ ขเพ่มิ เติมโดยพระราชบัญญัตบิ ตั รประจําตวั ประชาชน (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๒ และใหใชความตอไปนี้แทน
“มาตรา ๖ เบญจ ในกรณีท่ีมีเหตุสมควร รัฐมนตรีจะขยายกําหนดเวลาตาม
มาตรา ๖ มาตรา ๖ ตรี หรอื มาตรา ๖ จัตวา สาํ หรบั ทองท่ใี ดหรือบุคคลใดก็ได โดยประกาศใน
ราชกิจจานเุ บกษา”
มาตรา ๕ ใหเ พ่มิ ความตอไปน้ีเปน มาตรา ๖ ฉ แหง พระราชบัญญตั บิ ตั รประจาํ ตวั
ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖
“มาตรา ๖ ฉ การขอมบี ัตรตามมาตรา ๖ และการขอมบี ตั รใหมหรอื ขอเปลี่ยนบตั ร
ตามมาตรา ๖ จตั วา ของผมู ีอายุไมถงึ สบิ หาป ใหเ ปน หนา ทขี่ องบิดา มารดา ผูปกครองหรอื บุคคล
ซึ่งรบั ดแู ลผนู ้นั อยูเ ปนผยู นื่ คาํ ขอ แตไมเปนการตัดสิทธบิ คุ คลน้นั ท่จี ะยน่ื คาํ ขอดวยตนเอง”
มาตรา ๖ ใหเพ่มิ ความตอ ไปน้เี ปนมาตรา ๗/๑ แหงพระราชบญั ญัติบัตรประจาํ ตวั
ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖
“มาตรา ๗/๑ บัตรนอกจากจะมรี ายการตามทกี่ ําหนดไวในมาตรา ๗ แลว จะมหี นว ย
ความจาํ เพ่อื บนั ทกึ ขอ มูลอ่ืนของผูถือบตั รดว ยก็ได แตข อมูลทีบ่ นั ทึกไวใ นหนว ยความจาํ ดังกลาว
ตองไมส ามารถเปดเผยตอ บคุ คลหรือหนวยงานซึ่งมใิ ชเ ปน ผูจัดทําหรอื รวบรวมขอมลู น้นั ได เวน
แตเปน ขอมลู ท่วั ไปท่ปี รากฏอยบู นบัตร หรือเปน การเปดเผยตอหนวยงานทมี่ คี วามจาํ เปน ตอ ง
ทราบขอมูลนั้นเทาที่จําเปนเพื่อประโยชนของผูถือบัตรโดยไดรับความยินยอมจากผูถือบัตรหรือ
เพอื่ ประโยชนของรฐั หรือเพือ่ ความสงบเรียบรอ ยของบานเมอื ง”
มาตรา ๗ ใหย กเลิกความในมาตรา ๘ แหง พระราชบญั ญัติบตั รประจาํ ตัวประชาชน
พ.ศ. ๒๕๒๖ และใหใชค วามตอ ไปนีแ้ ทน
๕๖๕
“มาตรา ๘ การขอมบี ตั ร การขอมีบตั รใหม การขอเปลีย่ นบตั ร การออกบัตรและ
การออกใบรับและการออกใบแทนใบรบั ใหเปน ไปตามแบบ หลักเกณฑ และวธิ ีการที่กําหนดใน
กฎกระทรวง
ในกรณีที่พนักงานเจาหนาท่ีไมสามารถออกบัตรใหผูยื่นคําขอไดในวันเดียวกันให
ออกใบรับแกผูยน่ื คาํ ขอ
ใบรับหรือใบแทนใบรับนั้นใหใชไดเสมือนบัตรตามระยะเวลาท่ีกําหนดไวในใบรับ
หรอื ใบแทนใบรบั และการใชใ บรบั หรือใบแทนใบรบั ใหใชรว มกบั บตั รเดิม เวนแตเ ปน กรณกี ารขอ
มีบัตรครงั้ แรกหรือบัตรหายหรอื ถูกทําลายทงั้ หมด”
มาตรา ๘ ใหยกเลิกความในมาตรา ๑๐ แหงพระราชบัญญัติบัตรประจําตัว
ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ และใหใชความตอ ไปน้แี ทน
“มาตรา ๑๐ ภายใตบ ังคบั มาตรา ๗/๑ ผมู ีสวนไดเสียโดยตรงจะขอตรวจหลกั ฐาน
รายการหรือขอมลู ใดเกยี่ วกับบัตร และจะขอใหพนักงานเจา หนาท่ีถา ยเอกสารหรอื คดั และรับรอง
สาํ เนาดวยกไ็ ด ทั้งน้ี ตามหลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงอ่ื นไขทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง”
มาตรา ๙ ใหยกเลิกความในมาตรา ๑๑ แหงพระราชบัญญัติบัตรประจําตัว
ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ซึ่งแกไขเพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญัตบิ ตั รประจําตวั ประชาชน (ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๒ และใหใ ชค วามตอ ไปนีแ้ ทน
“มาตรา ๑๑ เมื่อพนกําหนดระยะเวลาการขอมีบัตรตามมาตรา ๖ ผูซึ่งตองมี
บตั รตามมาตรา ๕ ซึ่งมอี ายตุ ัง้ แตสบิ หา ปข น้ึ ไป หรอื บคุ คลซึ่งมีหนา ทีย่ ่นื คาํ ขอมบี ัตรแทนตาม
มาตรา ๖ ฉ แลวแตกรณไี มย่นื ขอมีบัตร ตองระวางโทษปรับไมเ กินหนึง่ รอยบาท
เมื่อพน กาํ หนดระยะเวลาการขอมบี ัตรใหมตามมาตรา ๖ ตรี วรรคหนง่ึ หรือการขอ
มบี ตั รใหมห รอื ขอเปล่ียนบตั รตามมาตรา ๖ จัตวา วรรคหนึ่ง ผูถ ือบตั รซึง่ มอี ายุตัง้ แตส บิ หาปข ้นึ
ไปหรือบคุ คลซ่งึ มีหนาทีย่ ่นื คําขอมบี ัตรแทนตามมาตรา ๖ ฉ แลวแตกรณี ไมย่ืนขอมีบตั รใหม
ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกนิ หน่ึงรอ ยบาท
ในกรณตี ามวรรคหน่งึ หรอื วรรคสอง หากผูซง่ึ ตอ งมีบัตรหรอื ผูถอื บตั รซ่งึ มอี ายุไมถงึ
สิบหา ปไดย น่ื คาํ ขอดว ยตนเองแลว ใหบ ุคคลซง่ึ มีหนา ที่ยนื่ คาํ ขอแทนตามมาตรา ๖ ฉ ไมตอง
รบั โทษ”
มาตรา ๑๐ ใหเ พม่ิ ความตอ ไปน้ีเปน มาตรา ๑๒ แหงพระราชบัญญัตบิ ตั รประจํา
ตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ซงึ่ ถูกยกเลกิ โดยพระราชบัญญัติบัตรประจําตัวประชาชน (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๒
“มาตรา ๑๒ ผูใดเขาถึงขอมูลหรือเปดเผยขอมูลท่ีบันทึกไวในหนวยความจําตาม
มาตรา ๗/๑ อันมใิ ชข อ มลู ทั่วไปทป่ี รากฏอยูบนบัตรตามมาตรา ๗ โดยมิไดร ับความยนิ ยอมจาก
ผูถ ือบัตร ตองระวางโทษจําคุกไมเ กินหาป หรอื ปรับไมเ กนิ หนง่ึ แสนบาท หรือท้งั จําทัง้ ปรบั เวน
๕๖๖
แตเปน การเขา ถึงขอ มลู หรอื เปด เผยตามมาตรา ๑๐ หรอื ตามคาํ สัง่ ศาล หรอื เขาถึงขอมลู ระหวา ง
หนวยงานของรฐั ท่จี าํ เปน ตองใชข อ มลู น้ันในการปฏบิ ตั ิหนา ท”่ี
มาตรา ๑๑ ใหยกเลิกความในมาตรา ๑๓ และมาตรา ๑๔ แหงพระราชบญั ญตั ิ
บัตรประจําตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ซึ่งแกไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติบัตรประจําตัว
ประชาชน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒ และใหใชค วามตอไปนี้แทน
“มาตรา ๑๓ ผถู ือบตั รซึ่งเสียสัญชาติไทยผใู ด
(๑) ไมสงมอบบัตรหรอื ใบรบั หรอื ใบแทนใบรบั ตามมาตรา ๙ ตอ งระวางโทษจําคุก
ไมเ กนิ หาป หรอื ปรับไมเ กนิ หน่ึงแสนบาท หรือทัง้ จาํ ทง้ั ปรับ
(๒) ใชห รือแสดงบัตรหรอื ใบรับหรือใบแทนใบรบั ซง่ึ ตนหมดสิทธิใชต ามมาตรา ๙
ตอ งระวางโทษจาํ คุกไมเกนิ สบิ ปและปรับไมเกนิ สองแสนบาท
มาตรา ๑๔ ผใู ด
(๑) ย่ืนคําขอมีบัตรโดยมิไดม ีสญั ชาติไทย ดวยการแสดงหลักฐานอันเปน เท็จหรอื
ปกปด ขอความจริงตอพนักงานเจาหนาท่ี ตองระวางโทษจาํ คกุ ตง้ั แตห นง่ึ ปถึงหา ปหรอื ปรบั ต้งั แต
สองหมน่ื บาทถึงหนง่ึ แสนบาท หรอื ท้ังจําท้งั ปรับ
(๒) แจง ขอความหรือแสดงหลกั ฐานอนั เปนเท็จตอ พนกั งานเจา หนา ท่ี ในการขอมี
บัตรตามมาตรา ๖ หรือการขอมบี ัตรใหมตามมาตรา ๖ ตรี หรือการขอมีบัตรใหมห รือขอเปลย่ี น
บัตรตามมาตรา ๖ จตั วา อันมิใชเปน กรณตี าม (๑) ตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเกนิ สามปห รือปรบั ไม
เกนิ หกหม่ืนบาท หรอื ท้งั จาํ ทงั้ ปรบั
(๓) ปลอมบัตรหรอื ใบรับหรือใบแทนใบรับ ตองระวางโทษจําคกุ ตั้งแตหนงึ่ ปถึงสบิ ป
หรือปรบั ต้งั แตส องหม่นื บาทถึงสองแสนบาท หรอื ท้ังจาํ ท้ังปรับ
(๔) ใชหรือแสดงบัตรหรอื ใบรบั หรือใบแทนใบรบั อนั เกดิ จากการกระทําความผิด
ตาม (๑) (๒) หรอื (๓) แลว แตก รณี แตกระทงเดียว
ถา ผูกระทาํ ความผดิ หรือผูใชหรือผูส นบั สนนุ การกระทําความผิดตาม (๑) (๒) (๓)
หรอื (๔) เปนเจา พนักงานออกบตั ร เจาพนกั งานตรวจบัตร หรือพนักงานเจาหนาทีต่ องระวาง
โทษจําคุกต้ังแตส ามปถ ึงสบิ หาปแ ละปรับต้งั แตหกหม่นื บาทถงึ สามแสนบาท”
มาตรา ๑๒ ใหย กเลิกความในมาตรา ๑๗ แหง พระราชบญั ญตั บิ ัตรประจาํ ตวั
ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ซ่ึงแกไขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญัตบิ ัตรประจาํ ตวั ประชาชน (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๒ และใหใ ชค วามตอ ไปนี้แทน
“มาตรา ๑๗ ผูถือบัตรหรือใบรับหรือใบแทนใบรับ ซึ่งมีอายุต้ังแตสิบหาปข้ึนไป
ผูใดไมส ามารถแสดงบตั รหรือใบรับหรอื ใบแทนใบรบั เม่อื เจา พนกั งานตรวจบัตรขอตรวจ ตอ ง
ระวางโทษปรับไมเ กินสองรอยบาท”
๕๖๗
“มาตรา ๑๓ ใหยกเลิกอัตราคาธรรมเนียมทายพระราชบัญญัติบัตรประจําตัว
ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ซง่ึ แกไขเพ่มิ เติมโดยพระราชบัญญัตบิ ัตรประจําตัวประชาชน (ฉบบั ที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๒ และใหใชอัตราคา ธรรมเนียมทายพระราชบญั ญัตินีแ้ ทน
มาตรา ๑๔ บรรดาคําขอท่ีย่ืนตามพระราชบัญญัติบัตรประจําตัวประชาชน
พ.ศ. ๒๕๒๖ กอ นวนั ทีพ่ ระราชบญั ญัตนิ ใี้ ชบงั คับ ใหถ ือเปน คาํ ขอที่ไดย่ืนตามพระราชบญั ญตั ิบัตร
ประจําตวั ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ซึ่งแกไขเพม่ิ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั ินี้
มาตรา ๑๕ บรรดาบัตร ใบรับหรือใบแทนใบรับที่ออกตามพระราชบัญญัติบัตร
ประจําตวั ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ กอนวันท่พี ระราชบัญญัตินีใ้ ชบ ังคับ ใหย ังคงใชไ ดต อไปจนกวา
จะหมดอายุตามทีร่ ะบไุ วในบตั ร ใบรบั หรือใบแทนใบรบั นนั้
บตั ร ใบรบั หรอื ใบแทนใบรับตามวรรคหน่งึ ซ่งึ ยงั ไมหมดอายุ ผถู ือบัตร ใบรับหรอื
ใบแทนใบรบั ประสงคจ ะมบี ัตรใหมต ามพระราชบญั ญตั นิ ี้ ใหย ่นื คําขอมีบัตรตอ พนกั งานเจาหนาที่
โดยไมต องเสียคา ธรรมเนยี ม
มาตรา ๑๖ ผูใดไมตองมีบัตรหรือไดรับยกเวนไมตองมีบัตรตามพระราชบัญญัติ
บัตรประจําตวั ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ แตตองมบี ตั รตามพระราชบัญญตั ิบตั รประจําตวั ประชาชน
พ.ศ. ๒๕๒๖ ซงึ่ แกไ ขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบัญญัตนิ ้ี ใหย่นื คาํ ขอมีบัตรตอพนักงานเจาหนา ท่ี
ภายในหน่งึ ปน บั แตว นั ทพี่ ระราชบญั ญตั นิ ี้ใชบังคับ
ในกรณีจาํ เปน รัฐมนตรจี ะประกาศขยายระยะเวลาตามวรรคหนึง่ ออกไปอีกกไ็ ด
มาตรา ๑๗ ในวาระเริ่มแรกแตไมเกินสองปนับแตวันที่พระราชบัญญัติน้ีมีผลใช
บังคบั ความในมาตรา ๕ วรรคหน่งึ แหง พระราชบัญญตั บิ ตั รประจาํ ตัวประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖
ซ่ึงแกไ ขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตนิ ม้ี ใิ หใ ชบงั คับกับบุคคลตามท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง แตไม
ตัดสิทธิบุคคลเหลาน้ันทจ่ี ะขอมีบัตร
มาตรา ๑๘ ใหบรรดากฎกระทรวงและประกาศที่ออกตามพระราชบัญญัติ
บตั รประจาํ ตวั ประชาชน พ.ศ. ๒๕๒๖ ซ่ึงใชบงั คับอยูก อนวันทีพ่ ระราชบญั ญัตนิ ีม้ ผี ลใชบ ังคับ
ยงั คงใชไ ดต อ ไปเทา ท่ีไมข ดั หรอื แยง กับพระราชบัญญตั ินี้ จนกวาจะมกี ฎกระทรวงหรือประกาศ
ท่ีออกตามพระราชบญั ญตั ินี้
ผูรบั สนองพระบรมราชโองการ
อภิสทิ ธิ์ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี
๕๖๘
อตั ราคา ธรรมเนยี ม
_______________
(๑) การออกบัตรตามมาตรา ๖ จัตวา ฉบับละ ๑๐๐ บาท
(๒) การออกใบแทนใบรับ ฉบับละ ๑๐ บาท
(๓) การขอคดั และรับรองสาํ เนาขอ มูลเกี่ยวกบั บัตร ฉบับละ ๑๐ บาท
๕๖๙
หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชพ ระราชบัญญตั ฉิ บับน้ี คือ โดยทีเ่ ปนการสมควรกําหนด
ใหผูมีสัญชาติไทยทุกคนตองมีบัตรประจําตัวประชาชนไวใชแสดงตนเพ่ือประโยชนในการเขารับ
บริการสาธารณะของรฐั จงึ ไดป รบั ปรุงหลักเกณฑและวธิ กี ารการออกบตั รประจาํ ตัวประชาชน
เพือ่ ใหส อดคลอ งกับการท่รี ัฐจะนําเทคโนโลยมี าใชใ นการบรกิ ารประชาชนในดานตา งๆ ผานทาง
บตั รประจาํ ตัวประชาชน เพอื่ ประโยชนของผูถอื บัตรประจําตวั ประชาชน สมควรแกไขเพ่มิ เติม
กฎหมายวาดวยบัตรประจําตัวประชาชนเพ่ือใหสอดคลองกับหลักการดังกลาวและสภาวการณ
ปจจุบัน จงึ จาํ เปน ตองตราพระราชบัญญตั นิ ี้
๕๗๐
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๕๒๐๐ (สําเนา)
กรมท่ีดิน
ศูนยราชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทุงสองหอ ง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๗ กมุ ภาพันธ ๒๕๕๕
เรอ่ื ง พระราชบัญญัตกิ ารเคหะแหง ชาติ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐
เรยี น ผวู าราชการจงั หวัดทุกจงั หวดั
สงิ่ ท่ีสงมาดว ย สําเนาพระราชบญั ญตั กิ ารเคหะแหง ชาติ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐
ดวยไดร บั แจงจากการเคหะแหง ชาติ วาไดม ีพระราชบญั ญตั กิ ารเคหะแหง ชาติ
(ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ ซง่ึ แกไ ขเพิ่มเตมิ พระราชบัญญัตกิ ารเคหะแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๗ ประกาศ
ในราชกจิ จานเุ บกษา เลม ๑๒๔ ตอนท่ี ๕๖ ก ลงวันท่ี ๑๙ กันยายน ๒๕๕๐ มีผลใชบงั คบั ตั้งแต
วันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๐ เปนตนไป โดยทม่ี าตรา ๒๕/๑๒ ไดบญั ญัติใหการดาํ เนนิ การใดๆ
ทางทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมสาํ หรบั เคหะ ใหเ จา พนกั งานทด่ี นิ รบั จดทะเบยี นไดเ มอ่ื ผขู อจดทะเบยี น
ไดแ สดงหนงั สือรบั รองจากคณะกรรมการชุมชนการเคหะ หรอื กคช. แลวแตกรณี วา ไดม ีการ
ชาํ ระเงินคา บรกิ ารและเงินเพิม่ ตามมาตรา ๒๕/๑๑ (๗) สําหรบั เคหะนั้นครบถว นแลว ซึ่งมสี ว น
เกย่ี วขอ งกบั การปฏบิ ตั งิ านของพนกั งานเจา หนา ทต่ี ามประมวลกฎหมายทด่ี นิ โดยขอความรว มมอื
มายังกรมท่ีดินเพ่ือกําหนดแนวทางการปฏิบัติในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมใหสอดคลอง
กบั พระราชบญั ญัติดงั กลาว
กรมทด่ี นิ พจิ ารณาแลว เหน็ วา บทบญั ญตั ดิ งั กลา วขา งตน มผี ลบงั คบั ใหเ จา พนกั งาน
ทด่ี นิ ผรู บั จดทะเบยี นจะตอ งดาํ เนนิ การตามทก่ี ฎหมายไดบ ญั ญตั ไิ ว จงึ ขอสง สาํ เนาพระราชบญั ญตั ิ
การเคหะแหง ชาติ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๐ ซ่ึงแกไขเพม่ิ เตมิ พระราชบัญญตั ิการเคหะแหง ชาติ
พ.ศ. ๒๕๓๗ ในสว นทเ่ี กย่ี วขอ งกบั การปฏบิ ตั งิ านของพนกั งานเจา หนา ทม่ี าเพอ่ื ศกึ ษาและถอื ปฏบิ ตั ิ
ใหเปนไปในแนวทางเดียวกนั
จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบ และแจง ใหเ จา หนา ที่ทีด่ ินทราบและถอื ปฏบิ ัตติ อ ไป
ขอแสดงความนับถอื
(ลงช่ือ) อนวุ ัฒน เมธีวิบลู วฒุ ิ
(นายอนุวฒั น เมธวี ิบลู วฒุ ิ)
อธิบดกี รมที่ดิน
สาํ นักมาตรฐานการทะเบยี นทด่ี นิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔
๕๗๑
(สําเนา)
พระราชบญั ญตั ิ
การเคหะแหง ชาติ (ฉบบั ท่ี ๒)
___พ_._ศ_._๒_๕__๕_๐___
ภมู ิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไ ว ณ วันที่ ๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๐
เปน ปท่ี ๖๒ ในรัชกาลปจ จุบนั
พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา
โดยที่เปน การสมควรแกไขเพิ่มเติมกฎหมายวา ดวยการเคหะแหงชาติ
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบัญญัติข้ึนไวโดยคําแนะนําและ
ยนิ ยอมของสภานติ บิ ญั ญัตแิ หง ชาติ ดงั ตอ ไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตนิ เ้ี รียกวา “พระราชบญั ญัติการเคหะแหงชาติ (ฉบบั ที่ ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๐”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษา เปนตน ไป
มาตรา ๓ ใหย กเลิกความใน (๑) ของมาตรา ๖ แหง พระราชบัญญัติการเคหะ
แหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๗ และใหใ ชความตอ ไปน้ีแทน
“(๑)จัดใหมีเคหะเพ่ือใหประชาชนไดมีท่ีอยูอาศัย รวมตลอดถึงจัดใหมี
สาธารณูปโภค สาธารณูปการ และส่ิงอํานวยความสะดวกแกผ อู ยอู าศยั ทาํ นบุ าํ รุง ปรบั ปรงุ และ
พัฒนาบรรดาเคหะดงั กลา ว รวมทัง้ พฒั นาผอู ยูอาศยั ใหมีคณุ ภาพชวี ติ ท่ดี ขี ้นึ ท้ังในทางสังคม
เศรษฐกิจ และสงิ่ แวดลอ ม”
มาตรา ๔ ใหย กเลิกความใน (๘) ของมาตรา ๙ แหงพระราชบัญญัตกิ ารเคหะ
แหงชาติ พ.ศ. ๒๕๓๗ และใหใ ชความตอไปนีแ้ ทน
“(๘)เขา รว มดําเนนิ กจิ การกับบคุ คลอื่น หรอื ถอื หนุ ในบรษิ ทั จาํ กดั หรอื บรษิ ทั มหาชน
จํากัด เพอ่ื ดาํ เนินกิจการอนั อยูในขอบแหง วตั ถปุ ระสงคของ กคช.”
มาตรา ๕ ใหเพ่มิ ความตอ ไปนีเ้ ปน (๙) และ (๑๐) ของมาตรา ๙ แหงพระราช
บัญญตั ิการเคหะแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๓๗
“(๙) เรียกเก็บเงินคาใชจายในการบํารุงรักษาและการจัดการสาธารณูปโภคและ
บริการสาธารณะ
๕๗๒
(๑๐) กระทําการอยางอ่ืนบรรดาที่เก่ียวเน่ืองกับการจัดการใหสําเร็จตาม
วัตถปุ ระสงคของ กคช.”
มาตรา ๖ ใหเพ่มิ ความตอไปน้ีเปนหมวด ๒/๑ นิตบิ คุ คลชุมชนการเคหะ มาตรา
๒๕/๑ ถงึ มาตรา ๒๕/๑๖ แหงพระราชบัญญตั ิการเคหะแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๓๗
“หมวด ๒/๑
นิตบิ คุ คลชมุ ชนการเคหะ
––––––––––––––
มาตรา ๒๕/๑ ในหมวดนี้
“เจาของเคหะ” หมายความวา ผเู ปน เจาของเคหะในโครงการ และหมายความรวม
ถึงคูสญั ญากบั กคช. ตามสญั ญาจะซอื้ จะขายหรือสญั ญาเชา ซอ้ื เคหะในโครงการดว ย แตไ มร วม
ถึง กคช. ในฐานะท่ีเปน เจา ของเคหะในโครงการ
“โครงการ” หมายความวา โครงการของ กคช. ในการจดั ใหมเี คหะที่มิใชอาคารชดุ
ตามกฎหมายวา ดวยอาคารชุด
“สมาชกิ ” หมายความวา สมาชกิ นติ ิบคุ คลชมุ ชนการเคหะ
“ทรัพยส ินทใ่ี ชป ระโยชนร ว มกนั ” หมายความวา ทด่ี ิน อาคาร หรอื ทรัพยส นิ อนื่ ที่
กคช. ไดจ ัดทําหรือมีไวเพอ่ื ประโยชนรว มกันของผอู ยูอาศัย หรอื ทผี่ ูอ ยูอาศยั ไดจดั ทําหรอื รว มกนั
จัดใหมีขึน้ เพื่อประโยชนสวนรวม
มาตรา ๒๕/๒ เมื่อมีเจาของเคหะเปนจํานวนเกินสามในสี่ของเคหะทั้งหมดใน
โครงการแลว และโครงการนนั้ มเี คหะตง้ั แตสองรอยหนวยขึน้ ไป ให กคช. ดาํ เนนิ การใหม ีการจัด
ตั้งนิติบุคคลชุมชนการเคหะเพื่อดูแลและบํารุงรักษาสาธารณูปโภคและทรัพยสินที่ใชประโยชน
รวมกนั
มาตรา ๒๕/๓ ในการดําเนินการเพื่อใหมีการจัดต้ังนิติบุคคลชุมชนการเคหะตาม
มาตรา ๒๕/๒ ให กคช. จดั ใหมกี ารสอบถามความเห็นเจา ของเคหะเก่ียวกบั การจัดตั้งนติ ิบุคคล
ชมุ ชนการเคหะ
ในการดําเนินการตามวรรคหน่งึ ให กคช. จดั ใหมีรางขอบังคับของนติ บิ ุคคลชมุ ชน
การเคหะท่จี ะจดั ต้งั แสนอตอทปี่ ระชุมเจา ของเคหะดวย
ในกรณีท่ีเจาของเคหะตามวรรคหน่ึงแสดงความเห็นคัดคานการจัดต้ังนิติบุคคล
ชุมชนการเคหะไมเกินกึ่งหน่ึงของเจาของเคหะท้ังหมดในโครงการขณะนั้น และเสียงขางมาก
ของเจาของเคหะ ซึ่งอยใู นที่ประชุมเห็นชอบดวยกบั รางขอ บังคบั ตามวรรคสองแลว ให กคช. รบั
จดทะเบียนขอบังคบั และขึน้ ทะเบยี นชมุ ชนการเคหะน้ันเปนนิติบคุ คลตามพระราชบญั ญตั ิน้ี
๕๗๓
ในกรณีท่ีเจาของเคหะตามวรรคหนึ่งแสดงความเห็นคัดคานการจัดต้ังนิติบุคคล
ชุมชนการเคหะเกินกวา ก่ึงหนง่ึ ของเจา ของเคหะทัง้ หมดในโครงการขณะนนั้ ใหยตุ กิ ารดาํ เนนิ การ
จัดตง้ั นติ บิ คุ คลชุมชนการเคหะนนั้
การสอบถามความเห็นเจา ของเคหะตามวรรคหนึง่ และการประชุมเจา ของเคหะให
เปน ไปตามหลักเกณฑและวธิ กี ารที่ กคช. กาํ หนด
มาตรา ๒๕/๔ ในกรณีโครงการที่มีเคหะนอยกวาสองรอยหนวย หรือกรณีการ
ดําเนนิ การจดั ตั้งนติ บิ ุคคลชุมชนการเคหะยตุ ิลงตามมาตรา ๒๕/๓ วรรคสี่ หรือกรณีนติ ิบุคคล
ชมุ ชนการเคหะถกู เพกิ ถอนทะเบยี นตามมาตรา ๒๕/๑๕ หากเจาของเคหะในโครงการดังกลาว
ประสงคจะจดั ตัง้ นิตบิ ุคคลชุมชนการเคหะ ใหก ระทําไดโดยเขาชื่อรวมกนั จํานวนไมนอยกวาหนงึ่
ในสิบของเจา ของเคหะทัง้ หมดในโครงการนนั้ และย่นื คําขอจดั ตั้งนติ ิบคุ คลชุมชนการเคหะตอ
กคช. ทง้ั น้ี เมอื่ กคช. ไดร บั คําขอแลวใหด ําเนนิ การตอ ไป โดยนาํ ความในมาตรา ๒๕/๓ มาใช
บังคับโดยอนโุ ลม
การเขาช่อื และการยืน่ คําขอตามวรรคหน่ึง ใหเปนไปตามหลักเกณฑ วิธีการ และ
เง่อื นไขท่ี กคช. กาํ หนด
มาตรา ๒๕/๕ การรับจดทะเบียนขอ บังคับ การข้นึ ทะเบยี นนิตบิ คุ คล และการควบ
นติ บิ ุคคลชมุ ชนการเคหะ ใหเปน ไปตามหลักเกณฑและวิธีการที่ กคช. กําหนด
ขอบงั คับของนิตบิ ุคคลชุมชนการเคหะอยา งนอยตอ งมีรายการดงั ตอไปนี้
(๑) ชือ่ นิตบิ ุคคลชมุ ชนการเคหะ
(๒) วตั ถปุ ระสงค
(๓) ท่ตี ้งั สาํ นกั งาน
(๔) ขอ กําหนดเกย่ี วกับคณะกรรมการชุมชนการเคหะ ไดแก จาํ นวนกรรมการการ
เลือกวาระการดํารงตําแหนง อํานาจหนาที่ คา ตอบแทน และการประชมุ ของคณะกรรมการชุมชน
การเคหะ
(๕) ขอ กาํ หนดเกย่ี วกบั การดําเนินงาน การบญั ชี และการเงิน
(๖) ขอกําหนดเกย่ี วกบั สทิ ธแิ ละหนา ท่ขี องสมาชกิ
(๗) ขอกําหนดเกยี่ วกับการประชุมใหญของสมาชกิ
มาตรา ๒๕/๖ ใหนิติบุคคลชุมชนการเคหะมีคณะกรรมการชุมชนการเคหะ เปน
ผูดําเนินกิจการของนิติบุคคลใหเปนไปตามกฎหมายและขอบังคับของนิติบุคคลชุมชนการเคหะ
น้ัน และอยภู ายใตก ารควบคมุ ดแู ลของท่ีประชุมใหญแ ละสมาชกิ
ประธานกรรมการชุมชนการเคหะเปนผูแทนของนิติบุคคลชุมชนการเคหะในกิจการ
อนั เก่ยี วกบั บคุ คลภายนอก แตอ าจมอบหมายเปนหนังสอื ใหก รรมการชมุ ชนการเคหะคนหนงึ่
ทําการแทนในเร่อื งทม่ี อบหมายได
๕๗๔
มาตรา ๒๕/๗ กรรมการชุมชนการเคหะตองมีคุณสมบัติและไมมีลักษณะตองหาม
ดังตอ ไปนี้
(๑) เปนผอู ยอู าศัยในโครงการนั้น
(๒) เปน ผูบรรลนุ ติ ิภาวะ
(๓) ไมเปน บคุ คลลม ละลาย
(๔) ไมเ ปนคนไรความสามารถหรือคนเสมอื นไรความสามารถ
(๕) ไมเคยไดรับโทษจําคุกตามคําพิพากษาถึงท่ีสุดใหจําคุกในความผิดเก่ียวกับ
ทรัพย เวน แตพ นโทษมาแลว ไมนอยกวา หาป
(๖) ไมเคยถูกส่ังใหพ นจากตําแหนงกรรมการชมุ ชนการเคหะใด เวนแตพนกําหนด
หา ปน ับแตวนั ทีม่ ีคาํ สงั่
มาตรา ๒๕/๘ นอกจากการพนจากตําแหนง ตามวาระ กรรมการชุมชนการเคหะพน
จากตําแหนง เม่อื
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) มิไดอ ยูอาศัยในโครงการติดตอกนั เกนิ หน่ึงรอยแปดสบิ วัน
(๔) มีลกั ษณะตอ งหามตามมาตรา ๒๕ (๓) และ (๔)
(๕) ไดร บั โทษจาํ คุกตามคําพิพากษาถงึ ที่สดุ ใหจ ําคกุ เวนแตเปน ความผิดลหุโทษ
หรอื ความผิดอันไดกระทาํ โดยประมาท
(๖) ถกู ส่งั ใหพ น จากตําแหนงกรรมการชุมชนการเคหะตามมาตรา ๒๕/๑๓ วรรคสี่
มาตรา ๒๕/๙ เจา ของเคหะในโครงการทม่ี ีการจดั ตง้ั นติ ิบคุ คลชมุ ชนการเคหะ ยอ มมี
ฐานะเปน สมาชิกของนิตบิ ุคคลชมุ ชนการเคหะนนั้
ในกรณที เ่ี คหะหนว ยใดทม่ี อี าคารหรอื สง่ิ ปลกู สรา งแลว แตย งั มไิ ดม ผี ใู ดซอ้ื ทาํ สญั ญา
จะซื้อหรือเชาซื้อกับ กคช. หรอื ไดโอนกลับมาเปนของ กคช. ใหถือวา กคช. มีฐานะเปนสมาชิก
สําหรบั เคหะแตล ะหนว ยนนั้
การนับคะแนนเสียงในการประชุมใหญข องสมาชกิ ใหส มาชิกมีคะแนนเสียงหน่ึง
เสียงตอเคหะหนงึ่ หนว ยท่ีตนเปนเจา ของ
มาตรา ๒๕/๑๐ ใหนิติบคุ คลชมุ ชนการเคหะมอี าํ นาจในการปกครอง ดแู ล บาํ รุง
รักษา ใช และจัดหาผลประโยชนจากสาธารณูปโภคและทรัพยสินท่ีใชประโยชนรวมกันใน
โครงการ ทงั้ น้ี ตามรายการที่ กคช. กําหนด
การดําเนินการของนิติบุคคลชุมชนการเคหะเก่ียวกับสาธารณูปโภคและทรัพยสิน
ทใี่ ชประโยชนรว มกันตามวรรคหนึ่ง ตอ งเปน ไปเพอ่ื ประโยชนร ว มกนั ของผอู ยอู าศัยในโครงการ
และจะเปลยี่ นแปลงการใชป ระโยชนแหงทรัพยส นิ ดงั กลา วมิได เวน แตไ ดรบั ความเห็นชอบเปน
หนงั สอื จาก กคช.
๕๗๕
ในกรณีที่นิติบุคคลชุมชนการเคหะเห็นสมควรมอบสาธารณูปโภคหรือทรัพยสินท่ีใช
ประโยชนรวมกันตามวรรคหนึ่ง ใหห นวยงานของรัฐหรอื นิตบิ คุ คลตามกฎหมายอ่นื ดูแลและบํารงุ
รกั ษาเพอื่ ใชเ ปนประโยชนส าธารณะ และทปี่ ระชุมใหญข องสมาชกิ เหน็ ชอบดวย ถา กคช. เห็น
วาการมอบใหหนวยงานของรัฐหรือนิติบุคคลตามกฎหมายอ่ืนดังกลาวจะกอใหเกิดประโยชนรวม
กนั แกผ ูอยูอาศัยในโครงการให กคช. มอี ํานาจโอนหรอื อนุญาตใหหนว ยงานของรัฐหรอื นิตบิ คุ คล
ตามกฎหมายอ่ืนดังกลาวดูแลและบํารุงรักษาสาธารณูปโภคหรือทรัพยสินที่ใชประโยชนรวมกัน
นน้ั ได
ในกรณีทีก่ ารใชอํานาจปกครอง ดแู ล บาํ รุงรกั ษา ใช หรือจดั หาผลประโยชนจ าก
สาธารณูปโภคและทรัพยสินที่ใชประโยชนรวมกันตามวรรคหนึ่งของนิติบุคคลชุมชนการเคหะ
มิไดเ ปนไปตามวรรคสอง กคช. จะเพกิ ถอนอาํ นาจดงั กลา วสําหรบั สาธารณปู โภคและทรพั ยสิน
ที่ใชประโยชนรวมกันนั้นก็ไดและจะโอนหรืออนุญาตใหหนวยงานของรัฐหรือนิติบุคคลตาม
กฎหมายอื่นดูแลและบํารุงรักษาสาธารณูปโภคและทรัพยสินท่ีใชประโยชนรวมกันเพื่อประโยชน
รว มกนั ของผอู ยูอ าศยั ในโครงการนนั้ ตอ ไปกไ็ ด
มาตรา ๒๕/๑๑ เพ่ือประโยชนของผูอยอู าศยั ใหน ิติบุคคลชมุ ชนการเคหะมอี าํ นาจ
ดงั ตอ ไปน้ี
(๑) ดแู ลและบาํ รุงรกั ษาสาธารณปู โภคและทรัพยส ินท่ีใชป ระโยชนร วมกนั
(๒) วางระเบียบเกยี่ วกับการใชสาธารณปู โภคและทรัพยส นิ ท่ใี ชป ระโยชนรว มกัน
(๓) กําหนดขอหามการกระทําอันอาจจะกอใหเกิดความเสียหายหรือเดือดรอน
รําคาญเกนิ ควรแกสวนรวม หรือความสงบเรียบรอยหรอื สวัสดิภาพของผูอ ยูอาศัย
(๔) กําหนดขอหามเกี่ยวกับการใชเคหะในการประกอบกิจการหรือในการประกอบ
อาชีพของผอู ยอู าศัยท่ีอาจกอ ใหเกิดความเดือดรอ นราํ คาญแกผ ูอยูอ าศัยอ่นื
(๕) วางระเบยี บเกยี่ วกับการจราจร
(๖) จัดใหม บี ริการสาธารณะและการรกั ษาความปลอดภัย
(๗) เรียกเกบ็ คา บรกิ ารในการดูแลและบํารงุ รกั ษาตาม (๑) และคา บรกิ ารตาม (๖)
และคา ใชจายอื่นจากสมาชกิ ท้งั นี้ เทาทีเ่ หมาะสมและจาํ เปน ตอ การบํารงุ รักษา และจัดการ
สาธารณูปโภค บรกิ ารสาธารณะ และการรักษาความปลอดภัย รวมท้ังกําหนดเงินเพมิ่ ในกรณี
ไมช ําระหรือชําระลาชา ซงึ่ ตองไมเ กนิ อตั รารอยละสองตอ เดอื นของจํานวนเงนิ ท่ีไมช ําระหรอื ชาํ ระ
ลา ชา
(๘) กําหนดคาตอบแทนของคณะกรรมการชุมชนการเคหะและคาใชจายในการ
ดําเนินงานของนติ ิบุคคลชุมชนการเคหะ ซ่ึงตองไมเกนิ อัตราท่ี กคช. กาํ หนด
(๙) ย่ืนคํารองทุกขหรือเปนคูความในคดีขอพิพาทแทนสมาชิกเกี่ยวกับกรณีที่
กระทบสิทธหิ รือประโยชนของสมาชกิ สว นรวม
๕๗๖
การดาํ เนนิ การตาม (๓) (๔) และ (๘) จะตอ งไดร ับความเห็นชอบจากท่ปี ระชุมใหญ
ของสมาชิก
มาตรา ๒๕/๑๒ การดาํ เนนิ การใด ๆ ทางทะเบยี นสิทธิและนติ กิ รรมสาํ หรับเคหะ ให
เจาพนักงานที่ดินรับจดทะเบียนไดเม่ือผูขอจดทะเบียนไดแสดงหนังสือรับรองจากคณะกรรมการ
ชุมชนการเคหะ หรอื กคช. แลวแตกรณี วาไดม กี ารชําระเงินคา บรกิ ารและเงนิ เพมิ่ ตามมาตรา
๒๕/๑๑ (๗) สาํ หรับเคหะน้นั ครบถว นแลว
ใหถือวาหน้ีคาบริการในการดูแลและบํารุงรักษาสาธารณูปโภคและทรัพยสินที่ใช
ประโยชนร ว มกันตามมาตรา ๒๕/๑๑(๑) และคา บริการในการจดั ใหม ีการรกั ษาความปลอดภัย
ตามมาตรา ๒๕/๑๑(๖) เปน หนบี้ ุริมสิทธใิ นมลู รกั ษาอสังหาริมทรพั ยเหนอื เคหะของผูค า งชําระ
มาตรา ๒๕/๑๓ ให กคช. มหี นาทใ่ี นการสงเสรมิ สนับสนนุ และใหค วามชวยเหลือ
นติ ิบุคคลชุมชนการเคหะตามควรแกก รณี รวมทัง้ มีอํานาจหนา ทกี่ าํ กบั ดแู ลการดําเนนิ การของ
นิติบคุ คลชุมชนการเคหะใหเ ปน ไปโดยเรียบรอ ยและเปน ประโยชนแกสวนรวม
สมาชกิ เปนจํานวนไมน อยกวา หน่ึงในหาของสมาชิกทงั้ หมดในโครงการมีสิทธิเขา ชอื่
กนั รองเรยี นตอ กคช. วา การกระทําของคณะกรรมการชมุ ชนการเคหะไมช อบดว ยกฎหมายหรอื
ขอบงั คับของนติ บิ ุคคลชุมชนการเคหะ หรือกอ ใหเกิดความเดอื นรอ นแกผ ูอยูอาศยั เกินสมควร
เมือ่ กคช. ไดรับเร่ืองรอ งเรยี นตามวรรคสอง ใหทําการตรวจสอบขอเทจ็ จริงโดยเร็ว
ในกรณีท่ี กคช. เหน็ วา มกี ารกระทาํ ตามทีม่ ีผูรอ งเรยี น ให กคช. มีอํานาจสงั่ ใหค ณะกรรมการ
ชุมชนการเคหะระงบั หรอื แกไขการกระทํานัน้ หรอื แกไขหรอื ยกเลกิ ระเบียบหรือขอ หา มไดตามที่
เหน็ สมควร
ในกรณีท่ีผลการตรวจสอบขอเท็จจริงปรากฏวาคณะกรรมการชุมชนการเคหะหรือ
กรรมการชุมชนการเคหะคนใดกระทําการโดยทุจริตหรือกอใหเกิดความเสียหายหรือเดือดรอน
รําคาญแกผูอยอู าศยั อยา งรา ยแรง ให กคช. มอี ํานาจส่ังใหคณะกรรมการชุมชนการเคหะหรอื
กรรมการชมุ ชนการเคหะน้นั พนจากตาํ แหนง
การดําเนินการตามวรรคสามหรือวรรคสี่ ไมเปนเหตุใหคณะกรรมการชุมชนการ
เคหะหรือกรรมการชุมชนการเคหะน้ันพนจากความรับผิดในทางแพงหรือทางอาญาเกี่ยวกับการ
กระทําดังกลาว
มาตรา ๒๕/๑๔ ในโครงการทไ่ี มมกี ารจัดต้ังนติ ิบุคคลชุมชนการเคหะ ใหเปน หนา ที่
ของ กคช. ในการดูแลและบํารุงรกั ษาสาธารณูปโภคและทรัพยส ินทใ่ี ชประโยชนรว มกันและเพื่อ
ประโยชนในการดาํ เนนิ การดงั กลา ว ให กคช. มอี าํ นาจเชน เดยี วกบั นติ ิบุคคลชุมชนการเคหะตาม
มาตรา ๒๕/๑๑ แตมใิ หนําความในมาตรา ๒๕/๑๑ วรรคสอง มาใชบังคบั กับการดําเนนิ การของ
กคช.
๕๗๗
ให กคช. พนจากหนาท่ใี นการดแู ละบาํ รงุ รกั ษาสาธารณูปโภคและทรัพยสนิ ทใี่ ช
ประโยชนรวมกันตามวรรคหนงึ่ เมอื่ ไดจ ดทะเบียนโอนสาธารณูปโภคและทรัพยสินทใ่ี ชป ระโยชน
รวมกันดังกลาวใหแกหนวยงานของรัฐหรือนิติบุคคลตามกฎหมายอ่ืนเพ่ือใชเปนประโยชน
สาธารณะ แตท ้งั น้ตี อ งประกาศใหอยูอาศัยทราบลวงหนา ไมน อยกวาหนึ่งป
ใหนําความในวรรคหน่ึงมาใชบังคับในกรณีที่นิติบุคคลชุมชนการเคหะถูกเพิกถอน
ทะเบยี นตามมาตรา ๒๕/๑๕ และ กคช. ยงั มไิ ดพน จากหนาท่ีตามวรรคสอง
มาตรา ๒๕/๑๕ ให กคช. เพิกถอนทะเบยี นนติ ิบุคคลชมุ ชนการเคหะ เม่ือปรากฏ
ขอเทจ็ จริงอยา งหนึง่ อยา งใด ดังตอ ไปนี้
(๑) เมอื่ กคช. เห็นวานติ บิ ุคคลชุมชนการเคหะไมอาจดาํ เนินการตอ ไปไดไมว าดว ย
เหตใุ ด
(๒) ไมม บี คุ คลใดยอมเปน กรรมการชมุ ชนการเคหะ
(๓) ท่ีประชุมใหญของสมาชิกมีมติจํานวนไมนอยกวาสองในสามของคะแนนเสียง
ของสมาชิกทัง้ หมดในโครงการ ใหย กเลิกนิตบิ คุ คลชมุ ชนการเคหะ
กอนเพกิ ถอนทะเบียนนิติบุคคลชมุ ชนการเคหะตามกรณี (๑) ให กคช. จดั ใหมีการ
ประชุมใหญของสมาชิกเพ่ือลงมติเก่ียวกับการเพิกถอนทะเบียนนิติบุคคลชุมชนการเคหะหาก
สมาชิกแสดงความเห็นคัดคานการเพิกถอนดังกลาวจํานวนเกินกวาก่ึงหน่ึงของคะแนนเสียงของ
สมาชกิ ทั้งหมดในโครงการ ให กคช. งดการเพิกถอนทะเบยี นนติ บิ คุ คลชมุ ชนการเคหะนน้ั
เม่ือเพกิ ถอนทะเบยี นนิติบุคคลชมุ ชนการเคหะตามวรรคหนงึ่ แลว ให กคช. หรอื
คณะกรรมการนติ ิบคุ คลชมุ ชนการเคหะ แลวแตก รณี แตงต้งั ผูช ําระบญั ชีภายในสิบสว่ี นั นบั แตว ัน
ทเ่ี พกิ ถอนทะเบียนนติ ิบคุ คลชมุ ชนการเคหะ และใหนําบทบญั ญตั ิแหงประมวลกฎหมายแพงและ
พาณชิ ยว าดวยการชําระบัญชหี า งหนุ สว นจดทะเบยี น หางหุนสวนจาํ กดั และบรษิ ัทจาํ กัด มาใช
บังคบั แกการชําระบัญชีของนิตบิ คุ คลชมุ ชนการเคหะโดยอนุโลม
ในการเพกิ ถอนทะเบียนนติ บิ คุ คลชุมชนการเคหะตามกรณี (๒) ให กคช. แตงตั้ง
กรรมการชุมชนการเคหะจากผูอยูอาศัยไดตามที่เห็นสมควรเพื่อปฏิบัติหนาท่ีในระหวางการชําระ
บญั ชี
ผูชําระบัญชีตองจัดการชําระบัญชีของนิติบุคคลชุมชนการเคหะใหเสร็จภายในหนึ่ง
ปน ับแตวนั ทไ่ี ดรับแตง ตั้ง เวนแต กคช. จะกาํ หนดเวลาไวเปนอยา งอนื่
การเพิกถอนทะเบียนนิติบุคคลชุมชนการเคหะตามวรรคหนึ่ง ใหเปนไปตาม
หลกั เกณฑแ ละวิธีการที่ กคช. กําหนด
มาตรา ๒๕/๑๖ เม่ือนิติบุคคลชุมชนการเคหะถูกเพิกถอนทะเบียนตามมาตรา
๒๕/๑๕ ใหโอนบรรดาสาธารณูปโภคและทรัพยสนิ ทใ่ี ชประโยชนรวมกันท่ียังเปนของ กคช. ใหแก
หนว ยงานของรฐั หรอื นติ บิ ุคคลตามกฎหมายอ่ืนตามที่ กคช. กาํ หนด
๕๗๘
การดําเนินการเกี่ยวกบั ทรัพยส นิ อืน่ ทเ่ี หลอื ภายหลังการชาํ ระบัญชี นอกจากกรณี
ตามวรรคหน่งึ ใหเปนไปตามหลักเกณฑแ ละเง่อื นไขที่ กคช. กาํ หนด”
มาตรา ๗ เจาของเคหะในโครงการท่ี กคช. ดาํ เนนิ การไปแลวกอ นวนั ท่ีพระราช
บัญญตั ินี้ใชบ ังคบั หากประสงคจะจดั ตั้งนติ บิ ุคคลชมุ ชนการเคหะตามพระราชบญั ญัตกิ ารเคหะ
แหงชาติ พ.ศ. ๒๕๓๗ ซ่ึงแกไ ขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบัญญตั นิ ี้ ใหกระทาํ ไดโ ดยเขา ชือ่ กนั จาํ นวน
ไมน อ ยกวาหนึ่งในสบิ ของเจาของเคหะทงั้ หมดในโครงการนน้ั และย่นื คําขอจดั ตั้งนติ บิ คุ คลชมุ ชน
การเคหะตอ กคช. ตามหลกั เกณฑ วธิ กี าร และเงอื่ นไขท่ี กคช. กําหนด
เมื่อ กคช. ไดร ับคําขอตามวรรคหนึ่ง ใหดาํ เนนิ การใหมกี ารจดั ตัง้ นติ ิบคุ คลชุมชนการ
เคหะนัน้ โดยเร็ว โดยใหน าํ ความในหมวด ๒/๑ นิตบิ คุ คลชมุ ชนการเคหะแหงพระราชบญั ญตั ิการ
เคหะแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๗ ซ่ึงแกไ ขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั นิ ี้ มาใชบ งั คบั โดยอนโุ ลม
มาตรา ๘ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย
รกั ษาการตามพระราชบัญญัติน้ี
ผรู ับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก สรุ ยทุ ธ จลุ านนท
นายกรฐั มนตรี
๕๗๙
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ ระราชบญั ญตั ฉิ บบั นี้ คอื โดยทป่ี จจุบนั รัฐบาลมนี โยบาย
แกไ ขปญ หาความยากจนและขยายโอกาสใหค นยากจนและคนดอ ยโอกาส ซง่ึ นโยบายประการหนง่ึ
คือการสงเสริมใหผูมีรายไดนอยไดมีที่อยูอาศัย รวมท้ังไดรับการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพ
ชวี ติ ใหด ขี ้ึน ดังน้ัน เพื่อใหการเคหะแหงชาติสามารถดาํ เนินการตามนโยบายดังกลา วไดอ ยา งมี
ประสิทธภิ าพ สมควรปรบั ปรงุ อํานาจหนา ทข่ี องการเคหะแหงชาติใหร องรับกับการพัฒนาเมอื ง
และการบรหิ ารชุมชน อกี ท้ังสมควรสง เสริมใหป ระชาชนผูอยูอาศยั ในโครงการการจดั ใหมที ่ีอยู
อาศัยของการเคหะแหง ชาติ ไดม กี ารรวมตัวจัดตั้งเปนนิตบิ คุ คลเพ่ือบริหารจัดการสาธารณูปโภค
และทรัพยสินท่ีใชประโยชนรวมกัน ตลอดจนมีสวนรวมในการดูแลรักษาความเปนระเบียบ
เรียบรอยของผอู ยูอ าศยั ดว ยกนั เอง จึงจําเปนตองตราพระราชบญั ญัตนิ ี้
๕๘๐
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๘๐๐๔ (สําเนา)
กรมทด่ี นิ
ศูนยร าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๓ มีนาคม ๒๕๕๕
เรื่อง การปฏิบัติตามพระราชบญั ญตั ปิ อ งกนั และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒
เรยี น ผวู า ราชการจงั หวัดทกุ จังหวดั
อางถึง ๑. หนังสอื กรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๗๑๐/ว ๒๐๒๔๘ ลงวันท่ี ๓ กรกฎาคม ๒๕๔๓
๒. หนังสือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๗๒๘/ว ๓๒๐๖๐ ลงวนั ที่ ๑๙ ตลุ าคม ๒๕๔๓
๓. หนังสือกรมท่ีดนิ ดวนท่ีสุด ท่ี มท ๐๗๒๘/ว ๓๘๑๑๘ ลงวนั ท่ี ๑ ธันวาคม ๒๕๔๓
๔. หนังสือกรมทด่ี ิน ท่ี มท ๐๗๒๘/ว ๐๐๐๔๒ ลงวันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๔๔
๕. หนงั สือกรมทดี่ ิน ดวนมาก ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๒๒๑๑๑ ลงวนั ท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๔๙
ตามหนังสือท่ีอางถึง กรมที่ดินไดสงพระราชบัญญัติปองกันและปราบปราม
การฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ กฎกระทรวง และประกาศสํานักงานปอ งกันและปราบปรามการ
ฟอกเงิน พรอมท้ังกําชับใหพนักงานเจาหนาท่ีถือปฏิบัติในการรายงานธุรกรรมไปยังสํานักงาน
ปอ งกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ (สาํ นกั งาน ปปง.) ตามพระราชบญั ญตั ปิ อ งกนั และปราบปราม
การฟอกเงิน พ.ศ. ๒๕๔๒ เม่ือปรากฏวา มีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับ
อสงั หาริมทรัพยทีส่ ถาบนั การเงินมไิ ดเปนคกู รณี และทีม่ ลี กั ษณะดังตอ ไปนี้
๑. เมอ่ื มกี ารชาํ ระดว ยเงนิ สดเปน จาํ นวนเงนิ ตง้ั แตส องลา นบาทหรอื กวา นน้ั ขน้ึ ไป
๒. เมื่ออสังหาริมทรัพยมีมูลคาตามราคาประเมินเพ่ือเรียกเก็บคาธรรมเนียม
จดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรมตง้ั แตห า ลา นบาทหรอื กวาน้นั ขึน้ ไป เวน แตเ ปน การโอนในทางมรดก
ใหแกทายาทโดยธรรม หรือ
๓. เม่ือเปน ธรุ กรรมทม่ี ีเหตอุ นั ควรสงสัย
โดยใหสงสําเนาคําขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมท่ีรับรองถูกตองที่ทําขึ้นใน
ระหวา งวันท่ี ๑ ถึงวนั ส้ินเดอื นไปยงั สํานักงาน ปปง. ภายในหาวันนบั แตวนั ถัดจากวันส้ินเดือน
สําหรับกรณีการรายงานธุรกรรมที่มีเหตุอันควรสงสัยใหสงสําเนาคําขอจด
ทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมทร่ี ับรองถกู ตอ ง พรอมท้งั บนั ทึกเหตุอนั ควรสงสัยไปยังสาํ นกั งาน ปปง.
ภายในหาวนั นับแตวนั ทมี่ เี หตอุ ันควรสงสยั ความละเอียดแจง อยูแ ลว นัน้
๕๘๑
บัดนี้ ไดร ับแจง จากสํานักงานปอ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ วา มกี ารทาํ
ธุรกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยท่ีอยูในหลักเกณฑตองรายงานสํานักงานปองกันและปราบปราม
การฟอกเงิน แตสํานกั งานท่ีดินมไิ ดรายงานการทําธุรกรรมใหสํานักงานปอ งกันและปราบปราม
การฟอกเงนิ ทราบ หรือรายงานการทําธุรกรรมลาชา เกินระยะเวลาทกี่ ฎหมายกาํ หนด ซึ่งอาจ
เปนความผดิ ตามกฎหมายและมโี ทษทางอาญา จึงขอใหกรมทดี่ ินแจงผูมหี นาที่รายงานการทาํ
ธรุ กรรมใหปฏิบตั ิตามกฎหมายโดยเครงครัดดวย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และสั่งกําชับสํานักงานท่ีดินปฏิบัติตามกฎหมาย
ดังกลาวโดยเครง ครัดตอไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอ่ื ) อนุวัฒน เมธีวบิ ลู วฒุ ิ
(นายอนวุ ฒั น เมธีวบิ ูลวฒุ ิ)
อธิบดีกรมทีด่ ิน
สาํ นกั มาตรฐานการทะเบยี นทีด่ ิน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔
๕๘๒
ท่ี มท ๐๕๑๕.๒ / ว ๘๔๕๑ (สาํ เนา)
กรมท่ีดนิ
ศนู ยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทงุ สองหอง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๕ มนี าคม ๒๕๕๕
เรอื่ ง การรายงานเปลีย่ นแปลงทะเบยี นการครอบครองทดี่ นิ
เรยี น ผวู า ราชการจังหวดั ทุกจังหวดั
อางถงึ ๑. หนังสอื กรมที่ดนิ ท่ี ๑๑๙/๒๕๐๒ ลงวนั ท่ี ๗ มกราคม ๒๕๐๒
๒. หนงั สือกรมที่ดนิ ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๑๕๐๑๕ ลงวันท่ี ๒ มถิ ุนายน ๒๕๕๔
๓. หนังสือกรมทดี่ นิ ดว นท่ีสดุ ท่ี มท ๐๕๑๕.๒/ว ๒๖๙๐๘ ลงวันที่ ๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๔
สง่ิ ทสี่ งมาดวย ๑. หนงั สอื กรมทด่ี นิ ท่ี ๑๑๙/๒๕๐๒ ลงวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๐๒
๒. ตวั อยางการกรอกแบบรายงานทะเบียนการครอบครองที่ดนิ จาํ นวน ๑ ฉบับ
ตามหนังสือที่อางถึง ๑. กรมที่ดินไดวางแนวทางปฏิบัติเก่ียวกับการจดแจง
รายการเปล่ียนแปลงทะเบียนการครอบครองที่ดิน กรณีเม่ือผูวาราชการจังหวัดสั่งผอนผัน
ใหร ับแจงการครอบครองทด่ี ิน เมอ่ื มกี ารออกใบจอง เมอื่ ผูว า ราชการจังหวัดสง่ั ใหเพ่ิมเติมหรอื
แกไขเปล่ียนแปลงอยางหนึ่งอยางใด เมื่อมีการออกหนังสือรับรองการทําประโยชนหรือแจก
ใบไตสวน เมื่อมกี ารแบงแยก โดยเมื่อไดแ กหรอื แจง รายการทะเบยี นการครอบครองทดี่ ินทาง
อําเภอเรียบรอ ยแลว ใหรายงานการเปลีย่ นแปลงทะเบียนการครอบครองทด่ี นิ ไปยังกรมท่ีดิน เพ่ือ
จดแจงรายการทะเบียนการครอบครองที่ดินทางกรมทีด่ ินใหถกู ตองตรงกัน และตามหนงั สือทอ่ี า ง
ถงึ ๒. และ ๓. กรมทด่ี นิ ไดจดั สง ทะเบยี นการครอบครองที่ดนิ ของทางสว นกลาง ซ่ึงไดถ า ยเอกสาร
ในลกั ษณะ Portable Document Format (PDF) และจัดเกบ็ ไวในอุปกรณบ ันทึกขอมูลทาง
คอมพิวเตอร (ฮารดดิสกต ดิ ตัง้ ภายนอก) ใหส าํ นักงานทดี่ นิ จงั หวดั สํานกั งานทด่ี นิ จงั หวัดสาขา
สาํ นกั งานท่ดี นิ สวนแยก และสาํ นกั งานทด่ี นิ อาํ เภอ ตรวจสอบขอมูลทะเบยี นการครอบครองท่ีดิน
เลมของทางสวนกลางท่ีบันทึกไวในอุปกรณบันทึกขอมูลทางคอมพิวเตอรกับทะเบียนการครอบ
ครองทด่ี ินเลมของสาํ นักงานทดี่ ิน หากพบวาท่ดี นิ แปลงใดในทะเบยี นการครอบครองทดี่ ินของ
สํานกั งานทด่ี ินมกี ารหมายเหตแุ ลว แตในเลม ทะเบียนการครอบครองที่ดินของทางสวนกลางยงั
มิไดม ีการหมายเหตุ และจังหวัดยงั มไิ ดร ายงานกรมทีด่ นิ ตามหนงั สอื กรมที่ดนิ ที่ ๑๑๙/๒๕๐๒
ลงวนั ท่ี ๗ มกราคม ๒๕๐๒ ใหจ ังหวดั รายงานกรมทด่ี ินเพ่อื หมายเหตใุ นทะเบียนการครอบครอง
ท่ดี นิ ของทางสวนกลางใหตรงกัน น้ัน
๕๘๓
กรมทด่ี นิ พจิ ารณาแลว เหน็ วา เนอ่ื งจากมสี าํ นกั งานทด่ี นิ บางแหง เมอ่ื ไดด าํ เนนิ การ
ออกโฉนดที่ดนิ น.ส.๓ หรอื น.ส.๓ ก. จากหลักฐาน ส.ค.๑ แลว มไิ ดม ีการหมายเหตกุ าร
เปล่ียนแปลงในทะเบียนการครอบครองท่ีดิน หรือบางกรณีมีการหมายเหตุในทะเบียนการ
ครอบครองทด่ี ิน แตม ไิ ดรายงานการเปล่ยี นแปลงตามแบบรายงานทะเบยี นการครอบครองทีด่ ิน
ใหจังหวดั และกรมท่ีดินทราบ ตามนยั หนงั สอื กรมท่ดี นิ ท่ี ๑๑๙/๒๕๐๒ ลงวนั ที่ ๗ มกราคม ๒๕๐๒
ทําใหรายการทะเบียนการครอบครองที่ดินเลมของสํานักงานที่ดิน และเลมของทางสวนกลาง
ผดิ พลาดคลาดเคล่ือนไมตรงกนั ซ่งึ เปน สาเหตทุ ท่ี าํ ใหจ ํานวนยอด ส.ค.๑ ท่ีเหลืออยูตามทะเบียน
การครอบครองทด่ี ินไมต รงกับความเปนจริง ดงั นัน้ เพือ่ ใหร ายการทะเบียนการครอบครองท่ดี นิ
เลมของสํานักงานท่ีดนิ และเลมของทางสวนกลางถกู ตองตรงกนั และเพือ่ ทาํ ใหจาํ นวนยอด
ส.ค.๑ ท่เี หลอื อยตู ามทะเบยี นการครอบครองทดี่ ินถกู ตอ งตรงกบั ความเปนจริง จงึ ขอใหสาํ นกั งาน
ทด่ี ินจังหวดั สาํ นกั งานท่ดี นิ จังหวดั สาขา สํานักงานทีด่ นิ สวนแยก และสาํ นักงานทด่ี นิ อาํ เภอ
(กรณียังไมย กเลิกอํานาจหนาทข่ี องนายอําเภอ) ตรวจสอบทะเบียนการครอบครองท่ดี นิ เลม ของ
สาํ นักงานทีด่ ินและแบบแจงการครอบครองทด่ี ิน (ส.ค.๑) ฉบับสาํ นักงานที่ดิน หากพบวา แปลง
ใดไดออกโฉนดท่ีดินหรือหนังสือรับรองการทําประโยชนไปแลว แตยังมิไดมีการหมายเหตุใน
ทะเบยี นการครอบครองทดี่ ินเลม ของสํานักงานท่ีดนิ และในแบบแจงการครอบครองทด่ี นิ (ส.ค.๑)
ขอใหดําเนินการหมายเหตุและรายงานเปลี่ยนแปลงไปกรมที่ดินใหแลวเสร็จภายในวันท่ี ๓๑
สงิ หาคม ๒๕๕๕ หากพนกาํ หนดเวลาดังกลาวมผี นู าํ แบบแจงการครอบครองที่ดนิ (ส.ค.๑) ทีอ่ ยู
ในความรบั ผดิ ชอบของจังหวัดใดซงึ่ ไดออกเอกสารสิทธิแลว แตยังมไิ ดหมายเหตุการเปลี่ยนแปลง
ในทะเบยี นการครอบครองทดี่ ินไปเปน หลกั ฐานประกอบการขอออกโฉนดที่ดินโดยทจุ รติ ใหถือวา
เจา พนกั งานทด่ี นิ ผเู ปน หวั หนา สาํ นกั งานและหวั หนา ฝา ยทะเบยี นซง่ึ ปฏบิ ตั หิ นา ทข่ี ณะนน้ั มสี ว นรว ม
ในการรับผดิ ชอบกบั ผลการกระทําผิดดว ย ยกตัวอยางเชน นาย ก. เจา พนกั งานท่ีดินจังหวัด ข.
หลังจากวนั ที่ ๓๑ สงิ หาคม ๒๕๕๕ ยา ยไปดํารงตาํ แหนงที่อืน่ ตอมาจงั หวัด ข. เกิดทุจรติ โดยมี
ผนู ํา ส.ค.๑ ซึง่ ไดม กี ารออกเอกสารสิทธแิ ลว แตไ มม กี ารหมายเหตกุ ารเปลีย่ นแปลงในทะเบียน
การครอบครองท่ีดนิ ใหแ ลวเสร็จภายในวนั ที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ ไปใชเ ปนหลักฐานประกอบการ
ขอออกโฉนดท่ดี ินแปลงอ่นื อีก ใหถือวานาย ก. ซึง่ เปน เจาพนักงานที่ดนิ ผูเปนหวั หนา สาํ นักงาน
รวมทั้งหวั หนาฝา ยทะเบียนมีสวนรว มในการรบั ผดิ ชอบกับผลการกระทําผดิ ดังกลา วดว ย เปน ตน
อน่งึ การรายงานเปลีย่ นแปลงทะเบียนการครอบครองท่ีดนิ ตามหนงั สือนี้ และ
ตามนัยหนงั สือกรมที่ดิน ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๑๕๐๑๕ ลงวนั ที่ ๒ มถิ นุ ายน ๒๕๕๔ ขอใหจ งั หวัด
รายงานตามแบบรายงานแนบทา ยหนงั สอื กรมทดี่ ิน ที่ ๑๑๙/๒๕๐๒ ลงวนั ท่ี ๗ มกราคม ๒๕๐๒
โดยปฏิบัติตามคําอธิบายวิธีกรอกขอความรายงานทะเบียนการครอบครองที่ดินทายหนังสือ
ดังกลาวใหถ ูกตองครบถวนดวย โดยกรมท่ีดินไดจ ัดทาํ ตัวอยา งการกรอกแบบรายงานทะเบียน
การครอบครองท่ีดินมาพรอ มน้ดี วยแลว
๕๘๔
จงึ เรียนมาเพ่อื โปรดทราบ และแจง ใหพ นักงานเจาหนาทท่ี ราบและถือปฏิบัตโิ ดย
เครง ครดั ตอไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอื่ ) อนวุ ัฒน เมธีวิบูลวฒุ ิ
(นายอนวุ ัฒน เมธีวิบลู วฒุ ิ)
อธบิ ดีกรมทีด่ ิน
สาํ นกั มาตรฐานการทะเบียนที่ดนิ
สว นกําหนดสทิ ธใิ นทด่ี นิ และควบคมุ ทะเบยี นทดี่ นิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๗๕ – ๗ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๘
๕๘๕
รายงานทะเบียนการครอบครองทด่ี ิน
ที่................./๒๕........ ที่วา การ............................ ท่ี................./๒๕........ ศาลากลางจงั หวัด.....................
......................./๒๕........
เรยี น ผูวา ราชการจังหวดั ....................... ......................./๒๕........
เรียน อธบิ ดีกรมทด่ี นิ
ขอรายงานเปลี่ยนแปลงทะเบยี นการครอบครองท่ดี ิน โปรดส่ังเจาหนาท่จี ดแจง การเปลีย่ นแปลงในทะเบียนฯ
ตามรายการขางทา ยนี.้
............................................... ของกรมที่ดิน
...............................................
(.............................................) (.............................................)
...............................................
...............................................
ลาํ ดับท่ี ทด่ี นิ ต้ังอยู ทะเบียน สภาพทดี่ นิ เน้อื ที่ ๑. แจง การครอบครอง ช่อื ผคู รอบครองทด่ี นิ
เลม หนา เลขที่ ๒. รบั รองการทําประโยชน การเปลย่ี นแปลง
๓. รบั ใบไตสวน วนั เดอื น ป และ
๕๘๖ หมทู ่ี ตาํ บล ไร งาน วา วนั เดอื น ป หมายเหตุ
๑ ๑ หนองปรอื ๑ ๑ ๑ ทนี่ า ๑๐ ๐ ๐ ๑. ๒๘ พฤษภาคม ๒๔๙๘ นายใบ คําดี
๙๒ ๐ ๒. ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๓๐ ส.ค.๑ ฉบับนี้ไดอ อก น.ส.๓ ก.
๒ ๑ หนองปรือ ๑ ๑ ๒ ทบ่ี าน ๑๑
๑๐ เลขท่ี ๑๒ แตวนั ที่ ๒๙
พฤศจิกายน ๒๕๓๐
๐ ๑. ๒๘ พฤษภาคม ๒๔๙๘ นายสี คาํ ดี
๐ ๓. ๒๐ ธนั วาคม ๒๕๕๔ ส.ค.๑ ฉบบั นไี้ ดอ อกโฉนดที่ดนิ
เลขที่ ๑๒๓ แตวนั ท่ี ๒๐
ธนั วาคม ๒๕๕๔
(สาํ เนา)
ท่ี ๑๑๙ / ๒๕๐๒ กรมทดี่ นิ
๗ มกราคม ๒๕๐๒
เรอ่ื ง ใหรายงานเปลยี่ นแปลงทะเบียนการครอบครองที่ดิน
เรยี น ผวู าราชการจงั หวดั ทกุ จังหวัด
อางถงึ คําส่ังกระทรวงมหาดไทย ที่ ๑๒๔๔/๒๔๙๗ ลงวันท่ี ๙ พฤศจิกายน ๒๔๙๗
ตามคําสั่งกระทรวงมหาดไทยท่ีอางถึง วางระเบียบวิธีการรับแจงการครอบครอง
ที่ดนิ และใหจ ัดทําทะเบยี นการครอบครองท่ดี ินไวเปนหลกั ฐานเก็บไว ณ ท่วี าการอําเภอชดุ หนง่ึ
สงไปเก็บทก่ี รมท่ีดนิ ชดุ หน่งึ และในคาํ อธบิ ายวธิ ีกรอกทะเบยี นการครอบครองทด่ี ินไดแ นะนาํ วธิ ี
ปฏิบตั ิในเม่อื มีการเปลี่ยนแปลงสิทธคิ รอบครอง นน้ั
ปรากฏวา เม่ือมีการแกไขเพิ่มเติมรายการทะเบียนฯ หรือมีการจดทะเบียน
เปลย่ี นแปลงสทิ ธใิ นที่ดนิ พนักงานเจาหนาที่ไดร ายงานไปใหก รมท่ีดนิ จดแจง รายการใหต รงกับ
ทะเบยี นฯ ทางอําเภอหรอื ก่งิ อําเภอกม็ ี ทีไ่ มไ ดรายงานไปกม็ ี และบางจังหวัดรายงานไปมีขาดตก
บกพรองตองขอใหตรวจสอบใหมอยูเสมอ กรมที่ดินจึงไดพิจารณาวางระเบียบวิธีการจดแจง
รายการและการรายงานเปล่ียนแปลงทะเบียนการครอบครองทด่ี ินไว ดงั ตอไปน้ี
๑. ใหเจาหนาที่ปฏิบัติการจดแจงรายการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนการครอบครอง
ทดี่ นิ กรณตี อไปน้ี
ก. เม่ือผูวาราชการจังหวัดส่ังผอนผันใหรับแจงการครอบครองท่ีดินในหมูใด
ตําบลใด ใหลงรายการทะเบียนตอ ทา ยในทะเบยี นเดมิ โดยลงเลขทด่ี นิ ตอ จากเลขทเ่ี ดมิ และให
จดแจง ในชอ งหมายเหตดุ วยอกั ษรสแี ดงวา “ผวู าราชการจังหวดั ส่ังผอนผนั รับแจง การครอบครอง
ตามหนังสอื ที.่ ........................................ลงวนั ท่.ี .............(วันเดอื นปย อ )................”
ข. เม่อื มีการออกใบจอง ใหป ฏิบตั ติ ามนัย ขอ ก. เฉพาะชอ งหมายเหตใุ หเ ขียนวา
“ออกใบจอง เลขท่.ี .................................วนั ท.่ี .................(วนั เดือนปยอ)................”
ค. เมอ่ื ผวู า ราชการจังหวดั สง่ั ใหเพม่ิ เตมิ หรอื แกไ ขเปลย่ี นแปลงอยางหนง่ึ อยา งใด
ใหจัดการไปตามคําสงั่ แลวจดแจงหนังสอื สง่ั การโดยอนุโลมตาม ขอ ก.
ง. เม่ือมกี ารออกหนงั สอื รบั รองการทาํ ประโยชนหรอื แจกใบไตส วน ใหป ฏิบตั ิ
ตามคาํ อธิบายวธิ กี รอกทะเบียนการครอบครองทด่ี นิ
จ. เมื่อมีการแบงแยกหรือจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมอันมีผลทําใหสิทธิใน
ทดี่ นิ เปล่ยี นแปลงไป เชน ขาย ให แลกเปล่ียน มรดก ฯลฯ ใหป ฏิบัติตามนยั คาํ อธิบายวิธกี รอก
ทะเบยี นการครอบครองที่ดิน และคาํ ส่งั กระทรวงมหาดไทย ท่ี ๑๑๕๐/๒๔๙๘ ลงวันท่ี ๒๑ ตลุ าคม
๒๔๙๘
๕๘๗
๒. เม่อื มีกรณีท่ีตองจดแจง รายการทะเบยี นการครอบครองท่ีดนิ เกดิ ข้นึ ตามนยั ขอ ๑
ใหเ จาหนา ทดี่ าํ เนนิ การจดแจง รายการทะเบียนทนั ที และเซ็นช่อื เจาหนา ทผ่ี ูจดแจง ลงวัน เดือน ป
ท่ีจดแจง โดยยอ กํากับไวด วย
๓. เม่ือไดแ กหรือแจง รายการทะเบียนทางอาํ เภอเรียบรอ ยแลว ใหรายงานการ
เปลี่ยนแปลงทะเบยี นฯ ไปยังกรมทีด่ นิ เพือ่ จดแจงรายการทะเบยี นฯ ทางกรมทีด่ ินใหถกู ตองตรง
กนั การรายงานเปล่ยี นแปลงทะเบียน ฯ ใหปฏิบัตดิ ังตอไปน้ี
ก. แบบรายงานใหใชตามตวั อยางท่สี ง มาพรอ มหนังสอื น้ี ในช้นั นีใ้ หทางอาํ เภอ
พมิ พใ ชไปพลางกอ น เมื่อกรมท่ีดนิ จัดพิมพแบบพิมพเสรจ็ จะสงมาใหในโอกาสตอ ไป
ข. รายงานนใ้ี หทําขึ้น ๓ ชุด เกบ็ เปน ครู างทางอาํ เภอ ๑ ชดุ สง จงั หวดั ๒ ชุด
จงั หวัดสงกรมทีด่ ิน ๑ ชดุ วธิ ีกรอกขอ ความใหปฏิบัตติ ามคําอธบิ ายวธิ กี รอกขอ ความรายงาน
ทะเบยี นการครอบครองทีด่ นิ ทีแ่ นบมาพรอ มตวั อยางแบบพิมพรายงาน ฯ
ค. การสงรายงานใหน ายอําเภอหรือกิ่งอําเภอจดั สง รายงานเปนคราวๆ คือ ถา
กรอกรายงานการเปล่ยี นแปลงหมดเนอ้ื ทใี่ นแบบรายงานท้งั ๒ หนา แลว กใ็ หเ จาหนา ทเ่ี สนอนาย
อําเภอหรือผูแ ทนหรือปลัดอาํ เภอผูเปน หวั หนา ประจาํ ก่ิงอาํ เภอหรือผแู ทนแลว แตก รณี ลงนามสง
รายงานเสียครั้งหน่งึ
ง. เพ่ือใหมีการตรวจสอบทะเบียนการครอบครองที่ดินซึ่งเก็บรักษาทางอําเภอ
กับกรมทด่ี นิ ไปในตวั การเขียนรายงานฯ ใหก รอกรายงานเดมิ กอ นมกี ารเปล่ยี นแปลง โดยคัด
จากทะเบยี นการครอบครองที่ดินของอําเภอลงไปในแบบรายงานฯ กอน แลว จึงแสดงรายการที่
เปลีย่ นแปลงไป เพือ่ ใหปรากฏท้ังรายการเดมิ และรายการที่เปลยี่ นแปลงใหมด วย
๔. เน่ืองจากนับแตเริ่มจัดทําทะเบียนการครอบครองท่ีดินมาจนบัดนี้ ไดมีการ
เปลย่ี นแปลงทางทะเบยี นฯ เปน อันมาก แตป รากฏวา บางจงั หวัดมไิ ดส ง รายงานเปลย่ี นแปลง
ไปยังกรมที่ดินตามนัยท่ีกลาวมาน้ี เพราะฉะน้ันจึงใหเริ่มปฏิบัติการเปล่ียนแปลงทะเบียนการ
ครอบครองท่ดี นิ นับแตว นั ไดรับหนงั สอื น้ี และใหเจาหนาท่ที ําการตรวจสอบยอ นหลงั ขนึ้ ไปถึงวนั ที่
เริ่มจดั ทาํ ทะเบียนการครอบครองทด่ี ินดวย ถาท่ีดนิ แปลงใดมกี ารเปล่ียนแปลงตาม ขอ ๑. แตยงั
มไิ ดจดแจงรายการในทะเบยี นการครอบครองทด่ี ิน หรือมไิ ดรายงานการเปลย่ี นแปลงใหก รมทดี่ นิ
ทราบ ก็ใหดําเนินการเสียใหถกู ตอ งตามท่กี ลาวมาน้ี
๕. ปรากฏวาบางอําเภอและบางก่ิงอําเภอยงั มิไดจดั ทาํ สารบบ ส.ค. ๑ และทะเบียน
การครอบครองทดี่ ินใหแ ลว เสร็จตามนยั คาํ ส่งั กระทรวงมหาดไทยท่ี ๑๒๔๔/๒๔๙๗ ลงวนั ท่ี ๙
พฤศจกิ ายน ๒๔๙๗ หากเจาหนา ทจ่ี ะไดส นใจดาํ เนนิ การไปตามคาํ สัง่ ทีละเลก็ ละนอย นับแต
พ.ศ. ๒๔๙๗ จนถงึ บัดน้ี การจดั ทาํ ทะเบียนฯ ดังกลา วกค็ งจะเสรจ็ ไปได เพราะฉะนั้น ขอใหจ งั หวัด
ส่ังกวดขนั การปฏบิ ตั ิของเจา หนาท่ี และใหส ั่งเจา พนักงานท่ีดนิ ออกไปตรวจสอบการทาํ ทะเบยี นฯ
ดงั กลาว แลว บนั ทกึ ผลการตรวจสอบสงไปยังกรมทด่ี นิ ใหทราบตามหวั ขอตอ ไปน้ี
๕๘๘
ก. มผี ูแจง การครอบครองทีด่ ิน (รวมทง้ั ทผ่ี อนผันรบั แจง) เทา ใด
ข. เจาหนา ทีไ่ ดจ ัดทําสารบบ ส.ค. ๑ เสร็จหรอื คง่ั คา งเปน จาํ นวนเทา ใด
ค. จัดทาํ ทะเบียนการครอบครองท่ีดนิ เสรจ็ ไป (ท้งั ๒ ชดุ ) กต่ี ําบล และท่ียังมไิ ด
ทาํ ทะเบียนฯ อกี กี่ตําบล
ง. สาํ หรับการจดทะเบียนฯ ทคี่ า ง ใหพิจารณาเสนอความเหน็ วาควรดําเนนิ การ
ประการใด และจัดการใหแลว เสรจ็ สงทะเบียนฯ ชดุ ที่ ๒ ไปยังกรมทดี่ นิ ไดเ ม่ือใด
๖. อาํ เภอหรือกง่ิ อําเภอใดจดั ทาํ ทะเบียนการครอบครองทดี่ ินเสร็จแลว แตย ังมิไดส ง
ไปยงั กรมที่ดนิ ๑ ชุด ตามระเบียบ ใหจ งั หวดั รวบรวมจดั สง ไปภายในเดือนมกราคม ๒๕๐๒
ท้งั นี้ ขอไดโ ปรดสัง่ ใหเจา หนา ทปี่ ฏิบตั ิการโดยกวดขนั ตอ ไปดวย
ขอแสดงความนบั ถืออยางสงู
(ลงชื่อ) ศ. ไทยวัฒน
(นายศักด์ิ ไทยวัฒน)
อธิบดีกรมที่ดิน
สว นการทะเบียนทด่ี ิน.
๕๘๙
คาํ อธบิ ายวธิ กี รอกขอ ความรายงานทะเบียนการครอบครองท่ดี ิน
๑. แบบรายงานน้ี ทําเปน หนงั สือนาํ สงรายงานของอําเภอและจงั หวัดรวมไว ในแผน
เดียวกัน รายการเปล่ยี นแปลง ใหก รอกลงในชองสาํ หรบั กรอกรายการทายหนงั สอื นาํ สง ใหอ าํ เภอ
หรือกิ่งอาํ เภอแลว แตก รณที าํ ๓ ชุด สง จงั หวดั ๒ ชดุ เก็บไวทอี่ ําเภอหรือกิ่งอาํ เภอ ๑ ชุด
๒. หนังสอื นําสงซีกซายมือ เปนรายงานของอาํ เภอหรือกง่ิ อําเภอสงจังหวดั เม่อื จังหวดั
ไดร ับแลว ใหท ําหนงั สอื นําสงในซีกขวามอื สง กรมทด่ี ิน ๑ ชดุ เกบ็ ไวท จ่ี ังหวดั ๑ ชุด
๓. วธิ กี รอกขอ ความในชอ งรายการในการเกบ็ รายการตา งๆ จากทะเบยี นการครอบครอง
ทดี่ ิน โดยใหล งรายการเดิมกอนมกี ารเปล่ยี นแปลงลงเปนอันดับแรก แลว จึงลงรายการใหม
ตามที่ไดเปล่ียนแปลงเปนอันดับท่ีถัดไป ใหปรากฏท้ังรายการทะเบียนเดิมและรายการใหมที่
เปล่ยี นแปลง การทต่ี อ งทาํ เชนน้ี เพราะปรากฏเสมอวา รายการทะเบียนชุดท่เี ก็บรกั ษาทางอําเภอ
กับชดุ ทีส่ ง ไปยงั กรมท่ดี ินไมถูกตอ งตรงกนั และในกรณขี อรบั รองการทาํ ประโยชนเ นอ้ื ท่ีดินตามที่
ผูแจง ส.ค. ๑ ประมาณไวกบั เนอ้ื ที่ทีด่ นิ ซง่ึ เจาหนา ทที่ ําการรังวัดคาํ นวณไดไ มตรงกนั เพราะฉะน้นั
เม่อื ในรายงานนป้ี รากฏทั้งรายการเดมิ และรายการทีเ่ ปล่ียนแปลงใหม ถา มกี ารผดิ คลาดเคล่อื น
กันอยปู ระการใด เจา หนาทที่ างกรมทดี่ นิ จะไดทราบ และแกไ ขใหถ กู ตองตอไปได
๔. เม่ือมีกรณีเปลี่ยนแปลงทะเบียนการครอบครองที่ดินเกิดข้ึน ใหเจาหนาที่จัดการ
จดแจง รายการที่เปล่ียนแปลงในทะเบยี นการครอบครองที่ดินทนั ที แลว จึงนาํ รายการมาลงไวใน
แบบรายงานนี้ตามที่กลาวมาขางตน แตล ะเรอ่ื งๆ ไปจนกวาจะหมดหนาในแบบพมิ พ จึงจดั ทํา
หนังสอื นําสง ตามนัยขอ ๑ – ๒ ทงั้ นี้ เพอ่ื เปนการประหยัดแบบพมิ พ
๕๙๐
รายงานทะเบยี นการครอบครองท่ดี นิ
ที่.............../๒๕๐........ ที่วา การ..................................... ที.่ ............../๒๕๐........ ศาลากลางจงั หวดั .....................
............................................................./๒๕๐........ ............................................................./๒๕๐........
เรียน ผูว าราชการจงั หวดั ....................... เรยี น อธบิ ดีกรมทด่ี นิ
ขอรายงานเปลย่ี นแปลงทะเบยี นการครอบครองที่ดิน โปรดส่ังเจา หนาทจ่ี ดแจง การเปลี่ยนแปลงในทะเบียนฯ
ตามรายการขางทายน้ี. ของกรมทด่ี นิ
............................................... ...............................................
(.............................................) (.............................................)
............................................... ...............................................
ลาํ ดบั ท่ี ที่ดินตง้ั อยู ทะเบียน สภาพทด่ี นิ เน้อื ท่ี ๑. แจงการครอบครอง ช่อื ผคู รอบครองที่ดิน
เลม หนา เลขที่ ๒. รบั รองการทําประโยชน การเปลี่ยนแปลง
๕๙๑ ๓. รับใบไตสวน วัน เดอื น ป และ
หมูท่ี ตาํ บล ไร งาน วา วัน เดอื น ป หมายเหตุ
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๘๖๗๘ (สําเนา)
กรมทดี่ ิน
ศนู ยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจงวฒั นะ
แขวงทุงสองหอ ง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐
๑๙ มนี าคม ๒๕๕๕
เรอื่ ง แนวทางปฏิบตั ิกรณีที่มผี ูมายนื่ คาํ ขอจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ กิ รรม หรอื กจิ การอนื่ ๆ
เกย่ี วกบั อสังหาริมทรัพยซึ่งไมสามารถดาํ เนินการใหก ับผูขอได
เรียน ผวู า ราชการจังหวัดทกุ จงั หวัด
อางถึง ๑. หนงั สือกรมที่ดนิ ท่ี มท ๐๗๑๐/ว ๑๖๗๖๘ ลงวันท่ี ๑๗ มถิ ุนายน ๒๕๔๑
๒. หนังสอื กรมทีด่ ิน ดว นมาก ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๑๘๕๐ ลงวนั ที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๔๖
๓. หนงั สอื กรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๑๖๒๐๓ ลงวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๘
ดว ยมีผรู องเรียนการปฏิบตั ิงานของพนกั งานเจา หนาท่ีวา ไดย ่นื คาํ ขอรับมรดก
ที่ดนิ ตามพนิ ยั กรรมเอกสารฝายเมืองที่สาํ นกั งานทดี่ ิน พนักงานเจาหนาที่ไดตรวจสอบหลักฐาน
แลว สามารถดาํ เนินการได ๑ แปลง สวนทีด่ นิ อกี ๑ แปลง พนักงานเจาหนา ท่ีไดช้ีแจงใหท ราบวา
ไมสามารถดาํ เนนิ การใหไ ดเ นือ่ งจากทดี่ ินแปลงดังกลา วมิไดร ะบุไวในพนิ ัยกรรม ตอ มาผขู อได
มอบอาํ นาจใหบ คุ คลอน่ื ไปยน่ื คาํ ขอรงั วดั สอบเขตทด่ี นิ แปลงดงั กลา ว พนกั งานเจา หนา ทต่ี รวจสอบ
แลวแจงวา ไมส ามารถดาํ เนินการใหไดเ น่ืองจากท่ดี นิ ยงั เปน ช่ือของเจามรดก ผูขอจึงไดเ ปลย่ี น
ความประสงคโดยย่นื คําขอรับมรดกที่ดิน พนกั งานเจาหนา ที่ก็แจงอกี วา ไมส ามารถดําเนนิ การ
ใหไดเน่อื งจากท่ีดนิ แปลงดงั กลาวมไิ ดร ะบุไวใ นพนิ ัยกรรม โดยในการช้แี จงและปฏเิ สธการรับ
คาํ ขอ พนกั งานเจาหนาที่ไมไดรบั คําขอไวดําเนนิ การและไมไดบ ันทกึ ขอขัดของไวเปน หลกั ฐาน
และการชีแ้ จงอาจไมช ัดเจน ทาํ ใหผขู อเขาใจวาเจาหนาท่สี รา งเงอื่ นไขในการไมร ับคาํ ขอ จงึ ได
รอ งเรียนพฤติกรรมของเจาหนา ทีต่ อ สาํ นักงานผตู รวจการแผน ดิน ซงึ่ ทาํ ใหเ กิดความเสียหายตอ
ภาพลกั ษณของกรมที่ดิน
กรมทด่ี ินพิจารณาแลว เห็นวา เพื่อปอ งกันไมใหเ กดิ ปญหาการรองเรยี นกรณี
ดังกลาวขน้ึ อีก จงึ ขอซอมความเขาใจแนวทางปฏบิ ัติ กรณีที่มีประชาชนมาย่นื คําขอจดทะเบยี น
สิทธิและนิติกรรมหรอื กิจการอืน่ ๆ เกย่ี วกบั อสงั หาริมทรพั ย เมอ่ื พนักงานเจาหนา ท่ีผรู บั คาํ ขอ
ตรวจสอบเอกสารหลักฐานทผ่ี ขู อนํามาแสดงแลว หากเห็นวา ไมส ามารถดําเนนิ การใหกับผขู อได
ไมวา ดวยสาเหตใุ ดกต็ าม หา มมิใหพ นักงานเจา หนา ท่ีปฏิเสธ การรบั คําขอดังกลา วโดยทนั ที และ
๕๙๒
ใหพ นกั งานเจาหนา ที่ช้ีแจงเหตุขดั ของใหผ ูข อทราบดว ย หากเหตขุ ดั ขอ งเปน กรณีท่ีไมส ามารถ
ดําเนนิ การได เนื่องจากเอกสารหลักฐานไมครบ จะตอ งชี้แจงใหช ดั เจนวาขาดเอกสารอะไร
เหตุใดตอ งใชเ อกสารน้ัน โดยใหพ นักงานเจา หนาท่จี ดั ทําคาํ แนะนาํ แกผูม าติดตอเปน ลายลกั ษณ
อักษรวา มเี อกสารหลักฐานใดทีจ่ าํ เปน ซง่ึ ผขู อจะตอ งนํามาแสดงเพม่ิ เติม รวมทงั้ คา ใชจ ายที่
ผขู อตอ งเตรยี มมา ตามตวั อยา งคาํ แนะนาํ ประชาชนตามหนังสอื ทอ่ี า งถงึ ๑ แตหากเปนกรณีทไ่ี ม
สามารถดําเนินการได เนอ่ื งจากตดิ ขัดดวยระเบยี บ คําสัง่ หรือขอ กฎหมาย พนักงานเจาหนา ท่ี
จะตองช้แี จงระเบียบ คําส่งั และขอกฎหมายนนั้ ใหเปน ที่เขาใจพรอมท้ังเสนอใหเจาพนกั งานท่ดี นิ
จังหวัด เจา พนกั งานท่ดี ินจงั หวัดสาขา เจาพนกั งานทดี่ นิ หวั หนา สวนแยก เจา พนกั งานทดี่ นิ
อาํ เภอ เปนผพู จิ ารณาและสั่งการโดยระบุถงึ สาเหตทุ ไี่ มอ าจดาํ เนนิ การ ตามคาํ ขอนน้ั ไดแ ละแจง
สทิ ธใิ นการอทุ ธรณตามกฎหมายวาดวยวิธปี ฏิบตั ิราชการทางปกครอง ทัง้ น้ี ตามหนังสอื ทอ่ี า งถึง
๒ และ ๓
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ และแจงใหพนักงานเจาหนาที่ทราบและถือปฏิบัติ
โดยเครงครัดตอ ไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงช่อื ) อนวุ ฒั น เมธีวบิ ูลวุฒิ
(นายอนวุ ฒั น เมธวี ิบลู วฒุ )ิ
อธิบดีกรมทด่ี นิ
สํานักมาตรฐานการทะเบียนท่ีดนิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๕๙
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔
๕๙๓