The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมระเบียบคำสั่งกรมที่ดิน ประจำปี 2555 (ส่วนที่ 1) (ปี 2555)

กองแผนงาน

Keywords: ด้านทั่วไป

(๓) หนว ยงานของรัฐท่มี อี ํานาจตามกฎหมายในการกาํ กับหรอื ควบคมุ ดแู ล หรือ
หนว ยงานท่ีอยภู ายใตก ารกาํ กบั หรอื ควบคุมดูแลของหนวยงานของรฐั เปนผจู ัดทําส่ิงพิมพอ อก
จากระบบการพิมพออกท่ีมีมาตรฐานท่ีเทียบเทาหรือมีความเหมาะสมกวาหลักเกณฑและวิธีการ
ท่ีกาํ หนดในประกาศนี้

หมวด ๑
หนวย_ง_า_น_ร_ับ_ร_อ_ง_ส__ิ่งพ__ิม_พอ อก

ขอ ๕ หนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกตองมีคุณสมบัติและไมมีลักษณะตองหาม
ดงั ตอไปน้ี

(๑) ตอ งจดั ใหม บี ุคลากรซ่งึ มคี วามรู ความเช่ียวชาญและประสบการณท างเทคนคิ
ทเี่ หมาะสมสําหรับการปฏิบัติหนาท่เี ปนหนว ยงานรบั รองสิ่งพมิ พออกในจํานวนที่เพยี งพอ โดย
อยา งนอ ยตอ งมบี คุ ลากรซง่ึ มีความเช่ียวชาญหรอื ประสบการณในดา น ดังตอไปน้ี

(ก) ดานการรักษาความมนั่ คงปลอดภัยระบบสารสนเทศ
(ข) ด้านเทคโนโลยีการระบุตัวตน (Identification) และการยืนยันตัวตน
(Authentication)
(ค) ดา นระบบเอกสารทีท่ ําในรปู ของขอ มูลอิเล็กทรอนิกส
(ง) ดานการตรวจสอบและประเมินผลความมั่นคงปลอดภัยของระบบ
สารสนเทศ
(๒) ตองจัดใหมีเคร่ืองมือหรือวิธีการท่ีเพียงพอและมีมาตรฐานสําหรับใชในการ
ตรวจสอบวา ระบบการพิมพอ อกและกระบวนการจัดทาํ สิง่ พมิ พอ อก มีความม่ันคงปลอดภยั และ
สามารถจดั ทําส่งิ พมิ พออกที่มขี อ ความถกู ตอ งครบถว นตรงกับขอ มลู อิเล็กทรอนิกส
(๓) ไมเ คยถกู ส่ังยกเลกิ การเปน หนว ยงานรบั รองส่ิงพมิ พอ อกตามขอ ๙ หรือเคยถกู
สัง่ ยกเลกิ แตย งั ไมพ นกาํ หนดหาปน บั แตวนั ทถี่ กู สง่ั ยกเลกิ การเปนหนวยงานรบั รองส่งิ พิมพออก
(๔) ตองไมม สี วนไดเ สยี ในกจิ การของผขู อใหร ับรองระบบการพิมพออก และจะ
ตองไมมีเหตุที่ทําใหหนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกขาดความเปนอิสระและความเปนกลางในการ
ดําเนินงาน
(๕) ตองไมมีสวนไดเสียในกิจการของบุคคลหรือนิติบุคคลท่ีเปนผูพัฒนา ขาย
จําหนา ย จัดทํา จัดซ้อื จดั หา หรอื ใหเชาระบบฮารดแวรแ ละซอฟตแ วรใ หกับผูข อใหร บั รองระบบ
การพิมพออก
คณะกรรมการอาจออกประกาศกําหนดคุณสมบัติหรือลักษณะตองหามประการอื่น
ของหนว ยงานรับรองสงิ่ พิมพออกเพิม่ เติมตามความเหมาะสมอีกก็ได

๓๔๗

ขอ ๖ ในกรณีหนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกเปนนิติบุคคลประเภทหางหุนสวน
จดทะเบยี น หางหนุ สว นจาํ กัด บรษิ ัทจาํ กดั หรอื บริษัทมหาชนจํากดั กรรมการหรอื ผูม ีอาํ นาจ
จัดการแทนนิติบคุ คลของหนวยงานรับรองส่ิงพิมพออกตองมีคุณสมบัติและไมมีลกั ษณะตองหาม
ดังตอ ไปนี้

(๑) มีอายุไมต ่ํากวายสี่ บิ ปบริบรู ณ
(๒) มภี มู ลิ ําเนาหรอื ถิน่ ท่ีอยูในราชอาณาจกั ร
(๓) ไมเ ปน บุคคลลมละลาย คนไรค วามสามารถ หรอื คนเสมือนไรค วามสามารถ
(๔) ไมเคยไดร ับโทษจาํ คกุ โดยคาํ พพิ ากษาถงึ ท่ีสุดใหจ ําคกุ เวนแตเ ปน โทษสาํ หรบั
ความผิดทไ่ี ดกระทาํ โดยประมาทหรอื ความผิดลหโุ ทษ
(๕) ไมเปน กรรมการหรอื ผูซ ึง่ มีอํานาจจดั การของหนวยงานรบั รองสิ่งพมิ พอ อกที่เคย
ถกู ส่ังยกเลกิ การเปนหนวยงานรับรองสงิ่ พมิ พออก
คณะกรรมการอาจออกประกาศกําหนดคุณสมบัติหรือลักษณะตองหามประการอ่ืน
ของหนวยงานรับรองส่ิงพิมพออกซ่ึงเปนนิติบุคคลตามวรรคหน่ึงเพ่ิมเติมตามความเหมาะสมอีก
กไ็ ด
ขอ ๗ ผปู ระสงคจ ะเปน หนวยงานรบั รองส่ิงพมิ พอ อกใหย ่ืนเอกสารหลกั ฐาน ดงั ตอ
ไปนี้ ตอคณะกรรมการหรอื หนว ยงานทคี่ ณะกรรมการมอบหมาย
(๑) คาํ ขอใหค วามเหน็ ชอบการเปนหนว ยงานรับรองสง่ิ พิมพอ อก
(๒) นโยบายและมาตรการรักษาความม่ันคงปลอดภัยดา นสารสนเทศ ซึ่งอยางนอ ย
ตองมีมาตรฐานท่ีเทียบเทาหรือไมตํ่ากวาหลักเกณฑตามประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความม่ันคงปลอดภัยดาน
สารสนเทศของหนว ยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๓
(๓) กระบวนการรบั รองระบบการพิมพอ อก
(๔) นโยบาย มาตรฐานและมาตรการในการตรวจระบบการพิมพอ อก
(๕) รายชื่อผูเช่ียวชาญดานเทคโนโลยีสารสนเทศ ดานการรักษาความมั่นคง
ปลอดภยั ระบบสารสนเทศ ดา นเทคโนโลยกี ารระบุตวั ตน (Identification) และการยืนยันตวั ตน
(Authentication) ดา นระบบเอกสารทที่ ําในรปู ของขอ มูลอิเล็กทรอนกิ ส ดา นการตรวจสอบ
และประเมินผลความม่ันคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ รวมท้ังดานอื่นที่เกี่ยวของตามท่ี
คณะกรรมการประกาศกาํ หนด
(๖) เอกสารอ่นื ใดท่คี ณะกรรมการประกาศกําหนด
ขอ ๘ คณะกรรมการจะประกาศใหผูย่ืนคําขอตามขอ ๗ เปนหนวยงานรับรอง
สงิ่ พิมพอ อก เมื่อคณะกรรมการหรอื หนวยงานท่คี ณะกรรมการมอบหมายตรวจสอบและพิจารณา
แลวเหน็ วาผูยน่ื คําขอมคี ุณสมบัติและไมม ลี ักษณะตอ งหา มตามขอ ๕ และขอ ๖ และไดย ่ืน
เอกสารหลกั ฐานตามขอ ๗ ถูกตอ งครบถวนแลว

๓๔๘

คณะกรรมการอาจมอบหมายใหหนวยงานใดทําหนาที่ตรวจสอบกระบวนการ
รับรองระบบการพมิ พออกของผยู ่นื คําขอเปน หนวยงานรับรองส่ิงพิมพอ อกตามวรรคหน่ึงได

ขอ ๙ คณะกรรมการอาจยกเลิกการใหความเห็นชอบการเปนหนวยงานรับรอง
ส่ิงพมิ พออกเมือ่ ปรากฏวา หนวยงานรับรองสง่ิ พมิ พอ อกกระทาํ การอยางหนึง่ อยางใด ดังตอไปนี้

(๑) ขาดคณุ สมบัติหรือมีลักษณะตอ งหา มตามขอ ๕ หรอื ขอ ๖
(๒) ฝา ฝน หรือไมป ฏิบตั ิตามหลักเกณฑที่กาํ หนดในประกาศนี้ รวมทัง้ แนวปฏบิ ัติอนื่
ใดทอี่ อกโดยคณะกรรมการ
(๓) กระทําการใดจนเปนเหตุใหเชื่อไดวาอาจสงผลกระทบตอความนาเชื่อถือในการ
รับรองระบบการพมิ พออก
ขอ ๑๐ เมอ่ื ปรากฏเหตแุ หง การยกเลกิ ตามขอ ๙ คณะกรรมการอาจสง่ั ใหห นว ยงาน
รับรองส่ิงพิมพออกแกไขหรือดําเนินการอ่ืนใดตามที่คณะกรรมการมีคําส่ังภายในระยะเวลาท่ี
กาํ หนด
ในกรณีที่หนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกไมดําเนินการแกไขตามคําสั่งคณะกรรมการ
หรือกระทาํ การอันเปนการฝา ฝน การกระทํานน้ั อีก คณะกรรมการอาจยกเลกิ การใหค วามเหน็ ชอบ
การเปน หนวยงานรับรองสิง่ พิมพอ อก
ขอ ๑๑ ใหหนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกมีหนาท่ีตองรายงานผลการดําเนินงานใน
การรับรองระบบการพิมพอ อก และรายงานการดาํ รงไวซ งึ่ คุณสมบัติหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ในคุณสมบัตอิ ันเปนเง่อื นไขในการเปน หนวยงานรับรองสิง่ พมิ พออกตามขอ ๕ และขอ ๖ ตอ
คณะกรรมการหรือหนวยงานที่คณะกรรมการมอบหมายทุกหน่ึงปนับแตวันที่ไดรับการประกาศ
ใหเ ปนหนว ยงานรับรองสง่ิ พมิ พอ อก เวนแตค ณะกรรมการจะกําหนดเปน อยางอน่ื ทง้ั นี้ ตามแบบ
รายงานทคี่ ณะกรรมการหรือหนว ยงานทคี่ ณะกรรมการมอบหมายกาํ หนด

หมวด ๒
___ก_า_ร_ร_บั __ร_อ_ง___

ขอ ๑๒ หนว ยงานรบั รองสง่ิ พมิ พอ อกจะรบั รองระบบการพมิ พอ อกของผขู อใหร บั รอง
ระบบการพิมพออก เม่ือตรวจสอบพบวาระบบการพิมพออกเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการ
ทก่ี ําหนดในหมวดน้ี โดยใหถ ือเปน มาตรฐานขั้นต่าํ เวน แตมาตรฐานขน้ั ตาํ่ ในบางเรอ่ื งนนั้ จะมิได
ถูกนํามาใช

ขอ ๑๓ ใหหนวยงานรับรองส่ิงพิมพออกพิจารณารับรองระบบการพิมพออก โดย
คํานึงถงึ หลกั เกณฑ ดังตอไปนี้

๓๔๙

(๑) ระบบการพิมพออกมีกระบวนการท่ีทําใหมั่นใจไดวาสิ่งพิมพออกมีขอความ
ถูกตองครบถว นตรงกบั ขอมลู อิเล็กทรอนกิ ส โดยผูข อใหรับรองระบบการพมิ พออกตองจดั ใหมี
กระบวนการในการตรวจสอบและรบั รองความถกู ตอ งและครบถวนของส่งิ พิมพอ อก

(๒) คุณภาพและประสทิ ธภิ าพของเครอ่ื งมอื และอุปกรณท ใี่ ชใ นระบบการพมิ พออก
(๓) วธิ ีการท่ใี ชใ นการระบตุ ัวตนผูท เ่ี ก่ยี วของกับระบบการพิมพอ อก
(๔) การดาํ เนนิ การอน่ื ใดทจ่ี าํ เปน เพอ่ื รบั รองวา ระบบการพมิ พอ อกมคี วามสอดคลอ ง
ตรงตามหลักเกณฑหรือมาตรฐานตามท่ีคณะกรรมการหรือหนวยงานท่ีคณะกรรมการมอบหมาย
ประกาศกาํ หนดไว
ขอ ๑๔ หนวยงานรบั รองส่ิงพิมพอ อกจะรับรองระบบการพมิ พอ อก เมือ่ ระบบการ
พมิ พอ อกเปนไปตามหลักเกณฑ ดังตอ ไปน้ี
(๑) มกี ระบวนการทม่ี ีความม่ันคงปลอดภยั ดา นสารสนเทศ ซ่ึงมีมาตรฐานไมตํ่ากวา
หลักเกณฑต ามประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส เร่อื ง แนวนโยบายและแนว
ปฏบิ ตั ใิ นการรกั ษาความม่นั คงปลอดภยั ดานสารสนเทศของหนวยงานของรฐั พ.ศ. ๒๕๕๓ หรือ
มาตรฐานอืน่ ทเี่ ทียบเทา
(๒) มีระบบสํารองขอมูลอเิ ล็กทรอนิกส (Backup) และระบบการกคู ืนขอมูล (Data
recovery) ท่ีเหมาะสม
(๓) ไดจัดทําโดยมีเทคโนโลยีและมาตรการปองกันมิใหมีการเปล่ียนแปลงหรือ
แกไ ขขอ มูลอเิ ล็กทรอนิกส เวน แตเ ปน การรบั รองหรอื บนั ทึกเพ่ิมเตมิ โดยผูทีไ่ ดรบั อนญุ าต ซงึ่ ไมมี
ผลตอความถูกตอ งของขอ มลู อเิ ล็กทรอนิกส
(๔) มีกระบวนการบันทึกหลักฐานการรับรองหรือบันทึกเพิ่มเติมขอมูล
อิเลก็ ทรอนกิ ส
(๕) มีกระบวนการบันทึกหลักฐานการจัดทําสิ่งพิมพออกเพื่อใชในการตรวจสอบ
ประวตั ิการจัดทาํ ส่งิ พิมพออก
(๖) มีวิธีการที่เชื่อถือไดในการระบุตัวตนผูท่ีเก่ียวของกับระบบการพิมพออก
โดยอยา งนอ ยตอ งครอบคลมุ เร่ืองดังตอ ไปน้ี

(ก) การระบุตวั ตน (Identification)
(ข) การยนื ยนั ตัวตน (Authentication)
(ค) การอนุญาตเฉพาะผูม ีสิทธิเขาถงึ (Authorization)
(ง) ความรับผิดชอบตอ ผลของการกระทาํ (Accountability)
ทั้งนี้ เพื่อใหย ืนยันไดว า การจัดทาํ สงิ่ พิมพอ อกไดด าํ เนินการโดยผูม สี ิทธิในการ
เขา ถงึ เทานั้น

๓๕๐

(๗) มีระบบการจัดเก็บเอกสารท่ีทําในรูปของขอมูลอิเล็กทรอนิกสที่มีความมั่นคง
ปลอดภยั ของระบบสารสนเทศ และสิ่งพมิ พอ อกสามารถแสดงหรอื อา งอิงขอความเพ่ือใชต รวจ
สอบในภายหลงั ได โดยมรี ายละเอียดเก่ียวกบั ขอ มูลทใี่ ชในการตรวจสอบความถูกตอ งครบถวน
ตรงกับขอ มลู อเิ ล็กทรอนกิ ส เชน วันเดอื นปท มี่ กี ารจดั ทาํ สงิ่ พมิ พออก เวลาท่ีมกี ารจดั ทําสิ่งพมิ พ
ออกซึง่ อา งอิงตามเวลามาตรฐานประเทศไทย ตําแหนง ของเว็บเพจ เปน ตน

ขอ ๑๕ หนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกอาจจัดใหมีเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณอ่ืน
ใดทีป่ รากฏในสิง่ พมิ พออก เพอื่ ยนื ยนั วา สิ่งพิมพอ อกไดจ ดั ทาํ ผานระบบการพมิ พอ อกทผ่ี านการ
รับรองโดยหนวยงานรบั รองสิ่งพมิ พอ อก

ขอ ๑๖ ส่ิงพิมพออกท่ีออกจากระบบการพิมพออกซึ่งไดรับการรับรองโดยหนวยงาน
รบั รองสง่ิ พมิ พออก เปนสงิ่ พิมพอ อกทีส่ ามารถใชแ ทนตนฉบับได

ขอ ๑๗ ใหผ ูจ ัดทําส่งิ พมิ พอ อกมีหนา ที่ ดังตอ ไปนี้
(๑) ตรวจสอบคณุ ภาพเครื่องมือหรืออุปกรณท่ใี ชใ นการจัดทําสง่ิ พมิ พอ อก เพอื่ ให
มน่ั ใจไดวาเครอ่ื งมือหรอื อุปกรณดงั กลา ว สามารถจดั ทาํ สง่ิ พมิ พออกท่มี ีขอความถกู ตองครบถวน
ตรงกบั ขอมลู อิเลก็ ทรอนกิ ส
(๒) ตรวจทานความถูกตองครบถวนของส่ิงพิมพออกที่ไดจัดทํากับขอมูล
อิเลก็ ทรอนกิ สตามวธิ ีการทร่ี ะบบการพิมพอ อกกาํ หนดไว
ขอ ๑๘ เพ่ือประโยชนในการควบคุมดูแลความนาเชื่อถือของระบบการพิมพออก
หนวยงานรับรองส่ิงพิมพออกอาจเรียกใหผูขอใหรับรองระบบการพิมพออกมาใหขอมูลหรือ
สงเอกสารใดๆ ท่เี กี่ยวขอ งกบั ระบบการพิมพออก รวมทงั้ ใหสามารถตรวจสอบระบบการพมิ พออก
ไดอยา งนอยทุกสองป
ขอ ๑๙ หนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกอาจยกเลิกการรับรองระบบการพิมพออก
เมอื่ ปรากฏวา ระบบการพิมพออกไมเ ปน ไปตามหลักเกณฑแ ละวิธีการท่กี าํ หนดในหมวดนี้
เมอ่ื ปรากฏเหตแุ หง การยกเลกิ ตามวรรคหนง่ึ หนว ยงานรบั รองสง่ิ พมิ พอ อกอาจสง่ั ให
ผูท่ีไดรับการรับรองระบบการพิมพออกแกไขหรือดําเนินการอื่นใดตามท่ีหนวยงานรับรองสิ่งพิมพ
ออกกําหนด
ในกรณีท่ีผูที่ไดรับการรับรองระบบการพิมพออกไมดําเนินการแกไขตามคําสั่งของ
หนวยงานรับรองสงิ่ พิมพออกหรือกระทําการอันเปนการฝาฝนการกระทําน้นั อีก หนวยงานรบั รอง
ส่ิงพมิ พออกอาจยกเลกิ การรับรองระบบการพมิ พออกกไ็ ด

ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
นาวาอากาศเอก อนดุ ิษฐ นาครทรรพ

รฐั มนตรวี า การกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส

๓๕๑

(สําเนา)
ประกาศคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส

เร่ือง หนวยงานรับรองสงิ่ พมิ พออก
___พ__.ศ__. ๒__๕_๕_๕____

เพื่อใหมีหนวยงานท่ีมีอํานาจในการรับรองส่ิงพิมพออกของขอมูลอิเล็กทรอนิกส
ใหส ามารถใชอ า งองิ แทนขอ มูลอเิ ลก็ ทรอนิกส และมผี ลใชแทนตนฉบับได

อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๑๐ วรรคส่ี แหง พระราชบัญญตั วิ าดวยธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทาง
อิเลก็ ทรอนกิ ส (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกสจ ึงประกาศให
สาํ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส (องคการมหาชน) เปนหนวยงานรบั รองส่งิ พิมพออก

ประกาศนใ้ี หใชบ งั คับตัง้ แตว นั ถัดจากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตนไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ นาครทรรพ

รฐั มนตรีวาการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส

๓๕๒

(สาํ เนา)

ดว นมาก
ท่ี มท ๐๕๐๕.๔ / ว ๓๙๖๒

ถงึ จังหวัดทุกจงั หวดั

กรมท่ีดินขอสง สาํ เนาประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่อื ง ต้งั สาํ นกั งานท่ีดินสาขา
ในจังหวัดชยั นาท และจังหวัดพจิ ิตร สําเนาประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอ่ื ง เปล่ียนแปลงเขต
พน้ื ท่คี วามรับผดิ ชอบของสาํ นกั งานท่ดี ินจงั หวัดบุรีรมั ย สํานักงานท่ดี นิ จังหวัดบรุ รี ัมย สาขาสตกึ
สํานักงานท่ดี ินจงั หวัดบรุ ีรมั ย สาขานางรอง และสํานกั งานท่ดี ินจังหวดั บรุ รี มั ย สาขาลาํ ปลายมาศ
สําเนาประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ยกเลิกอํานาจหน้าที่ของนายอําเภอเกี่ยวกับการ
ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๔๙) และสําเนาประกาศกรมที่ดิน เร่ือง
ตง้ั สาํ นักงานท่ีดนิ สวนแยก (ฉบับที่ ๒๒) ซงึ่ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั ประกาศทว่ั ไป
เลม ๑๒๙ ตอนพเิ ศษ ๓๑ ง ลงวันที่ ๗ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๕ มาเพื่อโปรดทราบ

กรมท่ีดิน
๘ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๕

สาํ นกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๖๘๗
โทรสาร. ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๖๒

๓๕๓

(สาํ เนา)
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรือ่ ง ต้ังสาํ นัก_ง_า_น_ท__ี่ด_นิ _ส__า_ข_า_ใ_น_จงั หวดั ชัยนาท
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ตง้ั สํานกั งานทด่ี ินสาขาในจังหวดั ชยั นาท ลงวนั ที่
๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ต้งั สํานักงานทด่ี นิ จงั หวัดชัยนาท สาขาสรรคบรุ ี และสาขาหันคา นนั้
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นสมควรจัดตั้งสํานักงานที่ดินสาขาในจังหวัด
ชยั นาทเพิ่มเติม เพ่อื ดําเนินการออกโฉนดที่ดิน การรงั วัดทีด่ ิน การจดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรม
การทําธรุ ะอนื่ ๆ ตลอดจนการดําเนินการใดเกีย่ วกบั อสังหาริมทรัพยต ามบทบญั ญตั ิแหง ประมวล
กฎหมายที่ดนิ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๓ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน จึงใหต ัง้ สาํ นักงาน
ท่ีดินจงั หวัดชยั นาท สาขาวดั สิงห มเี ขตดําเนนิ การในทอ งทอี่ ําเภอวัดสงิ ห และอาํ เภอหนองมะโมง
ทั้งน้ี ตั้งแตว ันท่ี ๑๗ กมุ ภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตน ไป

ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ชูชาติ หาญสวัสด์ิ

รฐั มนตรชี วยวาการฯ ปฏิบตั ิราชการแทน
รฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย

๓๕๔

(สําเนา)
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรอ่ื ง ตัง้ สาํ น_กั _ง_า_น_ท_ดี่__นิ _ส_า_ข_า_ใ_น_จังหวดั พิจิตร
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ต้งั สํานกั งานทีด่ ินสาขาในจังหวัดพิจติ ร ลงวนั ท่ี ๑
กุมภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๔๒ ต้ังสํานกั งานท่ดี ินจังหวัดพิจติ ร สาขาตะพานหนิ สาขาโพทะเล และสาขา
บางมูลนาก น้ัน
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นสมควรจัดตั้งสํานักงานที่ดินสาขาในจังหวัดพิจิตร
เพ่ิมเติม เพือ่ ดําเนินการออกโฉนดท่ีดิน การรังวดั ทด่ี ิน การจดทะเบยี นสิทธิและนติ ิกรรม การทาํ
ธุระอ่ืนๆ ตลอดจนการดําเนินการใดเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยตามบทบัญญัติแหงประมวล
กฎหมายทดี่ นิ
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๑๓ แหงประมวลกฎหมายทีด่ ิน จงึ ใหต้งั สํานกั งาน
ท่ดี ินจังหวัดพจิ ติ ร สาขาสามงาม มเี ขตดําเนนิ การในทองท่ีอาํ เภอสามงา ม และอาํ เภอวชริ บารมี
ท้งั น้ี ตั้งแตวันที่ ๑๗ กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตนไป

ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ชูชาติ หาญสวสั ดิ์

รฐั มนตรชี วยวาการฯ ปฏิบัติราชการแทน
รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย

๓๕๕

(สําเนา)

ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรอื่ ง เปล่ยี นแปลงเขตพ้นื ที่ความรับผิดชอบของสํานกั งานทีด่ นิ จังหวดั บรุ ีรมั ย

สาํ นักงานท่ดี ินจงั หวดั บุรีรมั ย สาขาสตึก สํานกั งานท่ีดนิ จังหวดั บรุ รี ัมย
สาขานางรอง และสาํ นัก_ง_า_น_ท_ดี่ _ิน__จ_ัง_ห_ว_ัด_บ__ุรรี ัมย สาขาลําปลายมาศ

ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวนั ท่ี ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ เปลยี่ นแปลงเขต
พ้ืนทีค่ วามรบั ผิดชอบของสํานกั งานที่ดินจังหวัดบรุ ีรมั ย สาขานางรอง นน้ั

กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นสมควรเปลี่ยนแปลงเขตพื้นท่ีความรับผิดชอบของ
สํานักงานทดี่ ินจงั หวัดบุรีรมั ย สาํ นกั งานทดี่ ินจงั หวดั บุรีรัมย สาขาสตึก สาํ นักงานทด่ี นิ จังหวดั
บุรีรมั ย สาขานางรอง และสาํ นกั งานที่ดนิ จงั หวดั บุรรี มั ย สาขาลําปลายมาศ เสยี ใหม เพือ่ ดาํ เนิน
การออกโฉนดทีด่ นิ การรงั วดั ทด่ี นิ การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม การทาํ ธรุ ะอน่ื ๆ ตลอดจนการ
ดาํ เนนิ การใดเกีย่ วกบั อสงั หารมิ ทรพั ยต ามบทบญั ญัติแหงประมวลกฎหมายทด่ี นิ

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๓ แหง ประมวลกฎหมายท่ดี นิ จึงใหเปลี่ยนแปลง
เขตทองที่ความรับผิดชอบของสํานักงานท่ีดินจังหวัดบุรีรัมย สํานักงานท่ีดินจังหวัดบุรีรัมย
สาขาสตึก สาํ นกั งานทด่ี นิ จังหวดั บรุ ีรัมย สาขานางรอง และสาํ นกั งานทดี่ ินจังหวัดบุรีรมั ย สาขา
ลําปลายมาศ ใหมเี ขตดาํ เนนิ การ ดังนี้

๑. สํานักงานท่ีดินจังหวัดบุรีรัมย มีเขตดําเนินการในทองที่อําเภอเมืองบุรีรัมย
อําเภอบานดาน และอําเภอหวยราช

๒. สํานกั งานท่ดี นิ จงั หวัดบุรีรมั ย สาขาสตกึ มเี ขตดําเนนิ การในทองทอ่ี าํ เภอสตกึ
อําเภอแคนดง และอําเภอคูเมอื ง

๓. สาํ นักงานทดี่ ินจงั หวดั บรุ ีรมั ย สาขานางรอง มเี ขตดาํ เนนิ การในทองที่อาํ เภอ
นางรอง อําเภอเฉลิมพระเกียรติ อําเภอโนนสวุ รรณ อําเภอหนองกี่ และอําเภอปะคํา

๔. สํานกั งานทดี่ ินจงั หวัดบรุ รี ัมย สาขาลําปลายมาศ มเี ขตดาํ เนินการในทองที่
อําเภอลําปลายมาศ อําเภอหนองหงส และอําเภอชํานิ

ทงั้ นี้ ต้ังแตว นั ท่ี ๑๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตน ไป

ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ชชู าติ หาญสวสั ดิ์

รัฐมนตรีชวยวาการฯ ปฏบิ ตั ิราชการแทน
รัฐมนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย

๓๕๖

(สาํ เนา)
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง ยกเลกิ อาํ นาจหนาที่ของนายอําเภอเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ิการ
ตามประมว_ล_ก__ฎ_ห_ม_า_ย__ท_ด่ี _นิ __(_ฉบบั ท่ี ๔๙)

โดยทม่ี าตรา ๑๙ แหงพระราชบญั ญัติแกไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบบั
ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ บญั ญัตใิ หการปฏิบัตกิ ารตามประมวลกฎหมายทีด่ นิ ซง่ึ เปน อาํ นาจหนาทขี่ อง
หวั หนาเขต นายอาํ เภอ หรอื ปลัดอําเภอผเู ปน หัวหนาประจํากง่ิ อําเภออยกู อ นวันทพ่ี ระราชบัญญตั ิ
นี้ใชบังคับ ใหผดู ํารงตาํ แหนง ดังกลา วปฏบิ ัตติ อไปพลางกอ น จนกวา รฐั มนตรจี ะไดประกาศ
ยกเลิกในราชกิจจานเุ บกษา เปนทอ งทไ่ี ป บดั นี้ กระทรวงมหาดไทยพจิ ารณาเหน็ ควรใหพนักงาน
เจา หนา ที่ตามประมวลกฎหมายทดี่ นิ เปนผปู ฏบิ ัตติ อ ไป

อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๑๙ แหง พระราชบญั ญัตแิ กไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวล
กฎหมายที่ดนิ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ จงึ ใหย กเลกิ อํานาจหนาทีข่ องนายอาํ เภอเกีย่ วกับการ
ปฏิบัตกิ ารตามประมวลกฎหมายทด่ี นิ ในทอ งที่ดังตอไปน้ี

๑. อําเภอเกาะลนั ตา จังหวัดกระบ่ี
๒. อําเภออบุ ลรตั น จงั หวัดขอนแกน
๓. อาํ เภอทงุ ใหญ จงั หวัดนครศรีธรรมราช
๔. อําเภอละหานทราย จงั หวัดบรุ ีรัมย
๕. อาํ เภอเขาคอ จังหวดั เพชรบูรณ
ทงั้ น้ี ตงั้ แตว นั ท่ี ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตน ไป

ประกาศ ณ วันท่ี ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ชูชาติ หาญสวสั ด์ิ

รัฐมนตรีชวยวาการฯ ปฏบิ ัติราชการแทน
รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย

๓๕๗

(สาํ เนา)
ประกาศกรมทีด่ นิ
เร่ือง ตัง้ สําน_ัก_ง_า_น_ท_่ดี_ิน__ส_ว_น_แ__ย_ก (ฉบับท่ี ๒๒)

ตามประกาศกรมที่ดิน เร่อื ง ตงั้ สาํ นักงานทดี่ นิ สว นแยก (ฉบับที่ ๒๑) ลงวันที่ ๑๗
มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ตง้ั สํานกั งานทดี่ ินสว นแยก จํานวน ๔ แหง นน้ั

กรมท่ดี ินพจิ ารณาเหน็ สมควรจัดตง้ั สาํ นกั งานทีด่ ินสวนแยกเพิ่มเตมิ เพอื่ ดําเนนิ การ
ออกโฉนดที่ดนิ การรังวัดท่ีดนิ การจดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรม การทําธรุ ะอ่นื ๆ ตลอดจนการ
ดําเนนิ การใดเก่ียวกับอสังหาริมทรพั ย ตามบทบัญญัตแิ หงประมวลกฎหมายท่ดี นิ ดังนี้

๑. สาํ นักงานทีด่ นิ จังหวัดกระบี่ สาขาคลองทอม สว นแยกเกาะลันตา มเี ขต
ดําเนนิ การในทอ งที่ อําเภอเกาะลนั ตา

๒. สาํ นักงานท่ีดินจงั หวัดขอนแกน สาขานํ้าพอง สว ยแยกอบุ ลรัตน มีเขต
ดาํ เนินการในทองท่ีอาํ เภออบุ ลรตั น

๓. สํานกั งานทีด่ ินจังหวัดนครศรีธรรมราช สาขาทงุ สง สว นแยกทุงใหญ มเี ขต
ดําเนนิ การในทองทอ่ี าํ เภอทุงใหญ

๔. สาํ นกั งานท่ดี นิ จังหวดั บุรีรมั ย สาขานางรอง สวยแยกละหานทราย มีเขต
ดาํ เนนิ การในทองที่อาํ เภอละหานทราย และอาํ เภอโนนดนิ แดง

๕. สาํ นักงานทด่ี นิ จังหวัดเพชรบรู ณ สาขาหลม สกั สว นแยกเขาคอ มีเขตดําเนนิ การ
ในทอ งทอี่ ําเภอเขาคอ

ทงั้ นี้ ต้ังแตวนั ท่ี ๑๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เปนตนไป

ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
อนวุ ฒั น เมธวี ิบลู วุฒิ
อธบิ ดีกรมที่ดนิ

๓๕๘

(สําเนา)

ท่ี มท ๐๕๐๕.๔ / ว ๑๐๑๑๐
ถึง จังหวัดทกุ จงั หวดั

กรมทดี่ ินขอสงสําเนาประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่อื ง ยกเลิกอาํ นาจหนา ที่
ของนายอําเภอเก่ียวกับการปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบับที่ ๕๐) ซึง่ ประกาศใน
ราชกิจจานเุ บกษา ฉบับประกาศทัว่ ไป เลม ๑๒๙ ตอนพิเศษ ๖๐ ง ลงวนั ที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๕
และสําเนาประกาศกรมท่ดี นิ เร่อื ง ตง้ั สาํ นักงานทดี่ ินสวนแยก (ฉบบั ท่ี ๒๓) ซึ่งประกาศใน
ราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั ประกาศทัว่ ไป เลม ๑๒๙ ตอนพิเศษ ๕๒ ง ลงวันที่ ๑๙ มนี าคม ๒๕๕๕
มาเพอ่ื โปรดทราบ

กรมที่ดนิ
๒ เมษายน ๒๕๕๕

สํานกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๖๘๗
โทรสาร. ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๖๒

๓๕๙

(สําเนา)
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง ยกเลิกอํานาจหนา ทีข่ องนายอําเภอเกยี่ วกับการปฏบิ ัตกิ าร
ตามประมว_ล__ก_ฎ_ห_ม__า_ย_ท_ี่ด_ิน__(_ฉบบั ที่ ๕๐)

โดยทม่ี าตรา ๑๙ แหง พระราชบญั ญตั แิ กไขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับ
ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ บญั ญตั ใิ หการปฏิบัตกิ ารตามประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซ่งึ เปนอาํ นาจหนาท่ีของ
หัวหนาเขต นายอาํ เภอ หรือปลดั อาํ เภอผเู ปนหัวหนาประจาํ ก่งิ อาํ เภออยกู อ นวันทพี่ ระราชบญั ญตั ิ
นีใ้ ชบ งั คบั ใหผ ดู าํ รงตําแหนงดงั กลา วปฏบิ ตั ติ อ ไปพลางกอน จนกวา รัฐมนตรีจะไดป ระกาศ
ยกเลกิ ในราชกจิ จานเุ บกษาเปนทอ งที่ไป บัดน้ี กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นควรใหพนกั งาน
เจาหนา ทีต่ ามประมวลกฎหมายท่ดี นิ เปนผปู ฏิบตั ติ อไป

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๙ แหง พระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวล
กฎหมายทดี่ ิน (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ จึงใหยกเลิกอาํ นาจหนาที่ของนายอําเภอเกี่ยวกบั การ
ปฏบิ ตั กิ ารตามประมวลกฎหมายที่ดนิ ในทองที่ดังตอ ไปนี้

๑. ทองทอี่ ําเภอพญาเม็งราย จงั หวดั เชยี งราย
๒. ทองที่อําเภอเชียงกลาง จงั หวดั นาน
ท้ังน้ี ตั้งแตว นั ท่ี ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตน ไป

ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ชชู าติ หาญสวสั ดิ์

รฐั มนตรีชว ยวา การฯ ปฏิบตั ิราชการแทน
รฐั มนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย

๓๖๐

(สาํ เนา)
ประกาศกรมท่ดี นิ
เรอื่ ง ตงั้ สําน_ัก_ง_า_น_ท_่ีด__นิ _ส_ว _น_แ__ย_ก (ฉบับที่ ๒๓)
ตามประกาศกรมที่ดิน เรอื่ ง ต้ังสาํ นกั งานท่ีดินสวนแยก (ฉบบั ท่ี ๒๒) ลงวนั ที่ ๑๒
มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ต้งั สาํ นกั งานทด่ี ินสวนแยก จาํ นวน ๕ แหง น้นั
กรมทดี่ ินพิจารณาเหน็ สมควรจดั ตง้ั สาํ นกั งานท่ดี นิ สว นแยกเพ่ิมเตมิ เพอ่ื ดาํ เนินการ
ออกโฉนดทดี่ นิ การรงั วดั ทีด่ นิ การจดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรม การทาํ ธรุ ะอ่ืนๆ ตลอดจนการ
ดําเนินการใดเก่ียวกบั อสังหารมิ ทรพั ย ตามบทบัญญตั แิ หงประมวลกฎหมายท่ีดนิ ดงั น้ี
๑. สํานกั งานท่ดี นิ จังหวัดเชยี งราย สาขาเทิง สวนแยกพญาเมง็ ราย มีเขตดาํ เนินการ
ในทอ งท่ีอาํ เภอพญาเม็งราย
๒. สํานักงานทดี่ ินจงั หวัดนา น สาขาปว สวนแยกเชยี งกลาง มเี ขตดาํ เนนิ การใน
ทองทอี่ าํ เภอเชียงกลาง อาํ เภอทงุ ชาง และอาํ เภอเฉลิมพระเกยี รติ
ทง้ั นี้ ตงั้ แตวนั ท่ี ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตนไป

ประกาศ ณ วนั ที่ ๕ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๕
อนุวฒั น เมธีวบิ ลู วฒุ ิ
อธิบดกี รมท่ีดิน

๓๖๑

ท่ี มท ๐๕๐๕.๒ / ว ๑๒๒๐๓ (สาํ เนา)
กรมท่ีดนิ
ศูนยราชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษา
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทุงสองหอ ง เขตหลักส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๖ เมษายน ๒๕๕๕

เรอื่ ง ซอ มความเขา ใจเกยี่ วกับแบบพมิ พหนังสือแสดงสิทธใิ นท่ีดนิ สญู หาย
เรยี น ผวู า ราชการจงั หวัดทุกจงั หวดั (เวน กรงุ เทพมหานคร)
อางถึง ๑. ระเบยี บกรมท่ดี ิน วาดวยการพมิ พ การควบคุมรักษาและการเบิกจายแบบพิมพโฉนด

ที่ดนิ หนังสอื รบั รองการทําประโยชน และหนงั สือกรรมสิทธหิ์ อ งชดุ พ.ศ. ๒๕๓๑
๒. หนงั สอื สํานักเลขาธิการคณะรฐั มนตรี ท่ี นว ๑๕๕/๒๕๐๓ ลงวนั ท่ี ๑ ธันวาคม ๒๕๐๓
ส่งิ ที่สง มาดว ย ระเบียบกรมทด่ี ิน และหนังสอื สํานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ท่ีอา งถงึ

ตามหนังสือที่อางถึงไดวางระเบียบปฏิบัติในกรณีแบบพิมพหนังสือแสดงสิทธิใน
ท่ีดนิ สูญหาย เปน เหตุใหเ กิดความเสียหายแกท รัพยสนิ ของราชการ โดยใหผูอาํ นวยการกองพัสดุ
ผูอํานวยการกองการพิมพ เจาพนักงานทด่ี ินจังหวัด เจา พนักงานทด่ี ินจังหวดั สาขา หรอื เจา หนา ท่ี
บริหารงานทีด่ ินอาํ เภอ แลวแตกรณี รีบดําเนินการแจงความตอ พนกั งานสอบสวนเพือ่ สบื สวน
สอบสวนหาตวั ผรู ับผิดชอบมาลงโทษตามกฎหมาย และกรณีแบบพิมพห นงั สอื แสดงสิทธใิ นทด่ี ิน
สญู หายเปน กรณที าํ ใหท รพั ยส นิ ของทางราชการเสยี หาย จงั หวดั จะตอ งดาํ เนนิ การตง้ั คณะกรรมการ
สอบสวนหาตวั ผรู ับผดิ ทางแพง เพ่อื ชดใชค า แบบพิมพด ังกลา วแกท างราชการ นั้น

เน่อื งจากในขณะนป้ี รากฏวา เมื่อเกดิ กรณแี บบพิมพหนงั สอื แสดงสิทธใิ นท่ีดนิ
สญู หาย เจาหนาทีท่ ี่เกี่ยวขอ งมิไดป ฏิบัตติ ามระเบยี บดังกลา วอยา งเครงครดั โดยเพียงแตแจง
ความตอพนักงานสอบสวนไวเปนหลักฐานเทานั้น มิไดแจงความเพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัว
ผูกระทําผิดมาลงโทษตามกฎหมายเชนน้ีทําใหเกิดความลาชาโดยไมจําเปนและอาจทําใหคดี
ขาดอายุความได ดังนั้น เพอ่ื ใหก ารปฏบิ ตั ใิ นเร่อื งน้ีเปนไปโดยถกู ตอ งและเปนแนวทางเดียวกนั
กรมท่ดี ินจงึ ขอซอมความเขาใจกรณหี นงั สอื แสดงสทิ ธิในทดี่ นิ สญู หาย ดังน้ี

๑. ใหจ งั หวัดตัง้ คณะกรรมการสอบสวนหาตวั ผรู บั ผดิ ทางแพงในทนั ที โดยมติ อง
รอฟง ผลการดาํ เนนิ คดอี าญา หรอื ทางวนิ ยั เพอ่ื ใหชดใชค า แบบพมิ พแ กทางราชการโดยเรว็
ซง่ึ แบบพมิ พห นงั สือแสดงสทิ ธิในทดี่ ินมรี าคา ดังน้ี

๑.๑ แบบพมิ พโฉนดทด่ี นิ คูฉบบั ละ ๒๐๖.๖๐ บาท
๑.๒ แบบพิมพหนังสือรบั รองการทาํ ประโยชน คูฉ บับละ ๒๐๑.๕๕ บาท

๓๖๒

๑.๓ แบบพิมพห นงั สอื กรรมสิทธหิ์ องชุด คฉู บับละ ๒๐๖.๖๐ บาท
๑.๔ แบบพมิ พใ บแทนโฉนดทีด่ นิ ฉบบั ละ ๑๐๔ บาท
๑.๕ แบบพมิ พใ บแทนหนังสือรับรองการทาํ ประโยชน ฉบบั ๑๐๑ บาท
๑.๖ แบบพิมพใบแทนหนงั สือกรรมสทิ ธ์ิหอ งชดุ ฉบบั ละ ๑๐๔ บาท
๒. แจง ความรอ งทุกขหรือกลา วโทษตอ พนกั งานสอบสวน เพอื่ สบื สวนสอบสวน
หาตวั ผกู ระทาํ ผิดมาลงโทษตามกฎหมาย มใิ ชแ จง ความไวเปนหลักฐานเทา น้นั ในชัน้ นี้ ใหระบุ
วนั เวลาและสถานท่ีเกดิ เหตุ พรอ มพยานหลักฐานทเี่ กี่ยวขอ ง (ถา ม)ี เพอ่ื ประโยชนข องพนกั งาน
สอบสวนในการสืบสวนสอบสวนหาตวั ผูกระทาํ ผดิ โดยผูกระทาํ ความผิดอาจเปนเจาหนา ท่เี อง
หรือบุคคลภายนอกกไ็ ด ซงึ่ จะตอ งผา นกระบวนการสบื สวนสอบสวนเสียกอ น จึงจะทราบได
๓. รายงานผลการดําเนินการดังกลาวพรอมท้ังสงเอกสารหลักฐานที่เก่ียวของให
กรมทด่ี ินทราบโดยดวน
กรณที ี่เจา หนาทีท่ ่เี ก่ียวของมไิ ดถ อื ปฏบิ ตั ิตามนัยดังกลาว และเกดิ การเสยี หาย
แกราชการกรมทีด่ ินขน้ึ จะถอื วา เจา หนา ที่ผูนน้ั ไมใสใจในการปฏิบัตติ ามระเบียบของกรมทด่ี นิ

จึงเรียนมาเพอื่ โปรดทราบ และสั่งใหเจา หนา ท่ถี ือเปนทางปฏิบัติตอไป

ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงช่ือ) อนุวัฒน เมธวี ิบูลวฒุ ิ
(นายอนุวัฒน เมธวี บิ ลู วุฒ)ิ
อธิบดกี รมทีด่ นิ

สํานกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๖๙๔
โทรสาร. ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๖๓

๓๖๓

(สําเนา)

ระเบยี บกรมทด่ี นิ
วาดวยการพมิ พ การควบคมุ รกั ษาและการเบกิ จา ย
แบบพมิ พโ ฉนดท่ีดิน หนงั สือรับรองการทาํ ประโยชน และหนังสอื กรรมสิทธิ์หองชดุ

____พ_.ศ__. _๒_๕_๓_๑____

โดยทเ่ี หน็ เปน การสมควรปรบั ปรงุ หลกั เกณฑ และวธิ กี ารเกย่ี วกบั การพมิ พ การควบคมุ
รกั ษาและการเบกิ จา ย แบบพมิ พโ ฉนดที่ดิน หนงั สือรับรองการทาํ ประโยชน และหนังสือกรรมสิทธิ์
หองชุด เสยี ใหมใ หเหมาะสมยิ่งขึน้ กรมท่ดี ินจงึ วางระเบียบไว ดังตอ ไปน้ี

ขอ ๑ ระเบยี บนี้เรยี กวา “ระเบยี บกรมท่ดี ิน วา ดว ยการพิมพ การควบคุมรักษาและ
การเบิกจา ย แบบพมิ พโ ฉนดทดี่ ิน หนังสือรับรองการทาํ ประโยชน และหนงั สือกรรมสิทธ์ิหองชดุ
พ.ศ. ๒๕๓๑”

ขอ ๒ ระเบียบนใี้ หใ ชบ ังคับตั้งแตว นั ที่ ๑๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ เปนตนไป
ขอ ๓ ใหย กเลกิ ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการควบคุมรกั ษาแบบพมิ พโฉนดท่ดี ิน
และหนังสอื รบั รองการทําประโยชน พ.ศ. ๒๕๒๒
บรรดาระเบยี บ ขอบงั คับ และคําส่ังอ่นื ใดในสว นท่กี าํ หนดไวแลว ในระเบียบน้ี หรอื
ซง่ึ ขัดหรือแยงกับระเบียบนใ้ี หใชระเบียบนีแ้ ทน
ขอ ๔ ในระเบียบน้ี

“แบบพมิ พ” หมายความถงึ แบบพมิ พโฉนดที่ดนิ หนงั สือรับรองการทาํ
ประโยชน หนังสือกรรมสิทธหิ์ องชุด รวมทง้ั แบบพิมพใ บแทนหนงั สือดังกลา วดว ย

“อําเภอ” ใหหมายความรวมถงึ กิง่ อาํ เภอดวย
ขอ ๕ ใหผ ูอํานวยการกองพสั ดุ และผอู ํานวยการกองการพิมพและพัสดุชางรักษา
การตามระเบยี บน้ี

หมวด ๑
การพิมพและการตรวจรบั

ขอ ๖ การส่งั พิมพ ใหกองพัสดุแจง กองการพมิ พแ ละพสั ดุชา งดําเนินการจดั พิมพ
โดยแจงจาํ นวนและหมายเลขประจาํ แบบพิมพแ ตล ะประเภทวา จะสง่ั พิมพต ้งั แตห มายเลขใด
ถงึ หมายเลขใด

๓๖๔

ขอ ๗ เม่ือกองการพิมพแ ละพสั ดุชางไดรับแจง จากกองพัสดตุ ามขอ ๖ แลวใหออก
ใบส่ังงานใหฝายแมพ ิมพแ ละฝา ยการพมิ พดาํ เนินการ พรอ มทั้งตั้งคณะกรรมการอยางนอย ๓ คน
ควบคุมการดาํ เนินการพิมพและการใหห มายเลขประจาํ แบบพิมพใหเปน ทเี่ รียบรอย

ขอ ๘ ในการพมิ พแ บบพมิ พ ใหคณะกรรมการตามขอ ๗ ควบคุมโดยใกลชิดหลงั
จากพิมพเ สร็จแลวใหตรวจสอบกระดาษทใี่ ชอกี ครั้งหน่งึ แบบพิมพท่ชี ํารดุ จากการพิมพใ หท าํ
บนั ทึกแจง ยอดจาํ นวนไวเ ปนหลกั ฐาน แลว จัดการทาํ ลายทนั ที สําหรบั แบบพมิ พท่ยี ังเหลอื อยู
ใหคณะกรรมการทําหลักฐานสงมอบผูอํานวยการกองการพิมพและพัสดุชางจัดการเก็บรักษาไว
และเม่อื ไดรับใบสั่งพิมพแบบพิมพค ร้งั ตอ ไป ใหมอบแบบพมิ พดังกลา วตอคณะกรรมการชดุ ใหม
รบั ไปดําเนินการ

ขอ ๙ ในการตรวจรับแบบพมิ พจากกองการพิมพและพสั ดชุ า ง ใหกรรมการท่ีกอง
พสั ดแุ ตง ตงั้ อยางนอ ย ๒ คน ทําการตรวจนบั บรรจุซองๆ ละ ๕๐ คูฉบับ หรอื ๑๐๐ ฉบบั แลว
แตก รณี ปดผนึกซอง ลงลายมือชื่อกาํ กับบนรอยทป่ี ดผนึกนน้ั แลว ใชแ ถบกาวชนิดใสปดทับบน
ลายมือช่ือ และรอยทป่ี ดผนกึ ซองทกุ แหง กรอกขอ ความตามแบบทา ยระเบียบนบี้ นหนาซองและ
ลงลายมือชือ่ ใหครบถว น เสรจ็ แลว ใหส ง มอบหวั หนาฝายพัสดุทั่วไป พรอมท้งั ทาํ บนั ทกึ รายงานใน
สมุดเบอร ๒ เสนอผูอํานวยการกองพสั ดุทราบ

ขอ ๑๐ เมอ่ื หวั หนา ฝา ยพสั ดทุ ว่ั ไป ไดร บั มอบแบบพมิ พจ ากคณะกรรมการตามขอ ๙
แลว ใหสง่ั เจา หนา ทผ่ี รู บั ผิดชอบลงบญั ชรี ับแบบพมิ พใ นบญั ชรี ับจายแบบพมิ พ (ค.ท.ด.๒๔)

หมวด ๒
การเบิกจา ย

ขอ ๑๑ การเบกิ แบบพมิ พ ใหเ จาพนกั งานทีด่ ินจงั หวัด เจา พนกั งานท่ีดินจงั หวดั
สาขา หรอื เจาหนา ทบ่ี รหิ ารงานทด่ี ินอาํ เภอ แลวแตก รณี มอบหมายใหขา ราชการในสงั กัดเปน
ผูเบิกแบบพิมพจ ากกรมทด่ี ิน หรือสาํ นักงานท่ีดนิ จังหวดั โดยใชใบเบิกตามแบบ ท.ด. ๗๕

ขอ ๑๒ การอนมุ ัตจิ ายแบบพิมพในสว นกลาง ใหผูอาํ นวยการกองพัสดเุ ปนผูอนุมตั ิ
ในสวนภมู ภิ าคใหเ จา พนกั งานทด่ี นิ จงั หวัดเปนผูอนุมัติ

ขอ ๑๓ เมือ่ ผูอํานวยการกองพสั ดุ อนมุ ัติใหจา ยแบบพมิ พแ ละไดจา ยตามใบเบิก
แลวใหผ มู ีหนา ทีใ่ นการจา ยลงบญั ชจี ายแบบพมิ พใ นบญั ชรี ับจา ยแบบพิมพ (ค.ท.ด.๒๔) ใหครบ
ถว นถกู ตอง แลวเสนอใหผ ูอาํ นวยการกองพัสดทุ ราบภายในวันน้นั หรือวนั รงุ ข้ึนเปน อยางชา

สําหรับกรณีเจาพนักงานที่ดินจังหวัดอนุมัติใหจายแบบพิมพหนังสือรับรองการทํา
ประโยชน หรอื ใบแทน ใหถ ือปฏบิ ตั ิตามความในวรรคหนึง่ โดยอนุโลม

๓๖๕

ขอ ๑๔ การรับจายแบบพิมพ ใหผูมีหนาที่ในการจายตรวจความเรียบรอยของ
แตล ะหอ พรอมท้งั ตรวจหมายเลขแบบพิมพตามจาํ นวนท่อี นญุ าตใหจา ย

ใหผูรับแบบพิมพตรวจสภาพหอแลวฉีกหอออกตรวจนับตอหนาผูมีหนาที่ในการ
จา ยแบบพมิ พ เมอ่ื ถกู ตองใหผรู ับลงลายมือชอ่ื รับไป

ใหผ ูม หี นาท่ใี นการจายแบบพมิ พทาํ บนั ทกึ ไวใ นสมดุ เบอร ๒ อีก ๑ เลม ใหท ราบ
จาํ นวนและหมายเลขของแบบพมิ พที่จา ยวา ไดจา ยใหจ ังหวัดใด ตามใบเบิกใด ใครเปน ผรู ับ
แบบพมิ พ แลวเสนอใหหัวหนาฝา ยพสั ดทุ ว่ั ไปทราบภายในวนั ท่จี า ยแบบพมิ พห รืออยางชาภายใน
วันรุงขึน้

ขอ ๑๕ ใหเจาพนักงานที่ดินจังหวัดหรือเจาพนักงานท่ีดินจังหวัดสาขาแตงตั้งผูมี
หนา ทใ่ี นการเบกิ จา ยแบบพมิ พ ตรวจนบั แบบพมิ พเ พอ่ื ใหท ราบจาํ นวนและหมายเลขของแบบพมิ พ
ท่รี บั มาแตล ะคร้งั วา ครบถวนถูกตอ งตามรายการท่ขี อเบกิ หรอื ไม แลว ลงบัญชีรับจา ยแบบพิมพ
โฉนดทีด่ ิน (บ.ด.ท.๖๙) สําหรบั โฉนดที่ดนิ หนงั สอื แสดงกรรมสิทธห์ิ องชุด หรอื ใบแทนและบัญชี
รับจายแบบพมิ พ (ค.ท.ด.๒๔) สาํ หรบั หนงั สอื รบั รองการทําประโยชนห รือใบแทนเสร็จแลวใหทํา
บันทกึ การรบั แตละครงั้ ไวในบญั ชีดังกลาว ลงลายมือช่อื พรอมทั้งวันเดอื นป เสนอใหเ จาพนกั งาน
ท่ดี ินจังหวัดหรอื เจาพนกั งานทีด่ ินจังหวดั สาขา แลว แตก รณที ราบภายในวันทรี่ ับแบบพิมพหรอื
อยางชา ภายในวันรงุ ข้นึ

ขอ ๑๖ ในกรณีที่อําเภอขอเบิกแบบพิมพหนังสือรับรองการทําประโยชนหรือใบแทน
จากจงั หวัด ใหผูมหี นา ทีใ่ นการรับลงบญั ชรี ับแบบพมิ พใ นบัญชีรบั จา ยแบบพิมพ (ค.ท.ด.๒๔)
และใหถอื ปฏบิ ตั ติ ามความในขอ ๑๔ และขอ ๑๕ โดยอนโุ ลม

ขอ ๑๗ การจายแบบพิมพเพ่ือใชในสํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสํานักงานที่ดิน
จงั หวัดสาขาใหผ ูมหี นา ท่ใี นการจา ยลงบญั ชจี ายแบบพมิ พ ในบัญชรี บั จา ยแบบพมิ พโฉนดทดี่ นิ
(บ.ท.ด. ๖๙) ตามขอ ๑๕ ในชองจา ยแบบพมิ พทกุ ครัง้ โดยกรอกขอความใหช ดั เจนวา แบบพมิ พ
หมายเลขใด จา ยใหเจา หนา ทผี่ ใู ด นาํ ไปดําเนนิ การรายใด ทด่ี ินตง้ั อยูท อ งท่ีตําบล อําเภอใด แลว
ใหเ จาหนาทผ่ี เู บกิ ลงลายมอื ชือ่ รบั แบบพิมพ พรอมทั้งวนั เดอื น ป กาํ กับไวเปน หลักฐาน

การจา ยแบบพมิ พเพือ่ ใชใ นสาํ นกั งานท่ดี นิ อาํ เภอ ใหผูมีหนา ที่ในการจา ยลงบญั ชี
จายแบบพมิ พ ในบญั ชรี บั จา ยแบบพมิ พ (ค.ท.ด. ๒๔) และใหปฏิบัติตามความในวรรคหน่งึ โดย
อนโุ ลม

หมวด ๓
การเกบ็ รักษา การตรวจสอบและการทาํ ลายแบบพิมพ

ขอ ๑๘ การเก็บรกั ษาแบบพมิ พ ใหเกบ็ รกั ษาไวในทปี่ ลอดภัย เชน ตเู หล็กท่มี ีกุญแจ
เปด - ปด เปน ตน และใหผ อู ํานายการกองพัสดุ เจา พนักงานท่ีดินจงั หวดั เจาพนักงานทด่ี ิน จังหวัด

๓๖๖

สาขา หรอื เจา หนาทีบ่ ริหารงานทดี่ ินอําเภอ แตงต้งั ขาราชการตง้ั แตร ะดับ ๒ ข้นึ ไปใหมหี นา ที่
รับผิดชอบในการเกบ็ รกั ษาโดยเฉพาะ

ขอ ๑๙ การตรวจสอบแบบพิมพท่ียังไมไดใช ใหผูแตงตั้งตามขอ ๑๘ แตงตั้ง
คณะกรรมการอยางนอย ๓ คน ทาํ การตรวจสอบเดือนละคร้งั วา ถกู ตอ งตรงกับบญั ชีรบั - จา ย
แตล ะประเภทหรือไม แลว รายงานใหผ แู ตง ต้งั ทราบภายในวันที่ ๑๐ ของเดอื นถดั ไป

ขอ ๒๐ หากปรากฏวา แบบพิมพในความรับผิดชอบสูญหายไปใหผูอํานวยการ
กองพสั ดุ ผอู าํ นวยการกองการพมิ พแ ละพัสดชุ าง เจา พนกั งานทด่ี ินจงั หวดั เจาพนกั งานทีด่ ิน
จงั หวดั สาขา หรือเจาหนา ที่บรหิ ารงานทดี่ ินอาํ เภอ แลวแตกรณี รบี ดาํ เนินการแจงความตอ
พนักงานสอบสวนเพอ่ื สบื สวนสอบสวนหาตัวผรู ับผิดชอบมาลงโทษตามกฎหมาย แลวสงสําเนา
หลกั ฐานการแจง ความใหก รมทด่ี ิน ทราบพรอ มท้งั สอบสวนหาตัวผูรบั ผิดชอบตอ ไป

ขอ ๒๑ แบบพิมพทช่ี าํ รดุ หรอื เขียนผดิ หรือยกเลิกเร่อื ง ซง่ึ ไมอ าจใชแบบพิมพนน้ั
ไดอีกตอ ไป ใหผูอาํ นวยการกองพัสดุ เจา พนกั งานท่ดี ินจังหวดั เจาพนกั งานทีด่ นิ จังหวัดสาขา
หรอื เจา หนา ทบี่ รหิ ารงานท่ีดนิ อําเภอ ตงั้ คณะกรรมการอยา งนอย ๓ คน ทําลายแบบพิมพตาม
ระเบียบงานสารบรรณภายในกาํ หนด ๓ วนั นับแตวนั ทีย่ กเลิกเร่ืองหรอื วันที่ทราบเหตุการทาํ ลาย
ใหก ระทาํ โดยวธิ เี ผาไฟ และใหต ัดหมายเลขแบบพมิ พท่ที ําลายเก็บไวเปนหลกั ฐานแลวหมายเหตุ
การทําลายแบบพิมพดงั กลาวไวใ นบญั ชรี บั จา ยแบบพิมพดวย เสร็จแลวรายงานตามลําดบั ให
กรมที่ดนิ ทราบ.

ประกาศ ณ วันท่ี ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๑

(ลงชื่อ) ทวี ชูทรัพย
(นายทวี ชูทรพั ย)
อธบิ ดกี รมท่ีดิน

๓๖๗

แบบตรายางทายระเบยี บกรมทีด่ นิ วาดว ยการพิมพก ารควบคมุ รักษาและการเบกิ จา ยแบบพมิ พ
พ.ศ. ๒๕๓๑

แบบพมิ พ.............................................................หอ น้ีไดต รวจนับเปน การถูกตอ งครบถวนแลว
แตห มายเลข........................................................ถงึ หมายเลข................................................

จาํ นวน......................................คู/ฉบบั
ลงช่อื .......................................................................กรรมการ
ลงชอ่ื .......................................................................กรรมการ
ลงชอ่ื .......................................................................กรรมการ

....................../....................../......................
(เวยี นโดยหนังสอื กรมทีด่ ิน ท่ี มท ๐๗๒๑/ว ๒๖๑๖๔ ลว. ๑๒ ธ.ค. ๓๑)

๓๖๘

กองกลาง สาํ นักงานปลัดกระทรวงม_ห__า_ด_ไ_ท_ย___รบั__ว_นั _ท_ี่_๒__ธ_นั _ว_าคม ๒๕๐๓ เลขรับท่ี ๑ก๓ม๓. ๑๐๔๑,
ดวน

ท่ี น.ว.๑๕๕/๒๕๐๓ สาํ นกั เลขาธิการคณะรฐั มนตรี

๑ ธนั วาคม ๒๕๐๓

เรื่อง ความรับผดิ ชอบของขาราชการในทางแพง

เรียน รฐั มนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย

ส่ิงที่สงมาดวย ระเบียบความรบั ผดิ ชอบของขาราชการในทางแพง

ดวยกระทรวงการคลังรายงานวา ตามระเบียบของกระทรวงการคลงั เดมิ ที่
กาํ หนดไวว า ในกรณที ี่เกดิ การทจุ รติ เสียหายแกท รัพยสินของรัฐบาล ใหก ระทรวงเจา สงั กัดหรอื
จงั หวัดแจงใหก ระทรวงการคลงั ทราบทนั ที พรอ มกบั ตง้ั กรรมการขึ้นรบี ดําเนนิ การสอบสวนหาตัว
ผูท่จี ะตองรว มรับผดิ ชอบในทางแพง แลว เรง เรียกเงินชดใชโดยดว นกอ นที่คดีจะขาดอายคุ วาม
โดยมิต้องรอคดีอาญาที่ฟ้องผู้กระทําผิดโดยตรง นั้น ปรากฏว่าในทางปฏิบัติส่วนมากเมื่อ
เจา กระทรวงดําเนินการสอบสวนเสร็จแลว มไิ ดดาํ เนนิ การไลเบีย้ เรียกเงินชดใชจ ากผรู ว มรับผดิ
ทันที แตกลับแจง ผลการสอบสวนไปใหกระทรวงการคลงั พจิ ารณาส่ังการอีกครง้ั หนึ่ง และหาก
จะตองดําเนินคดีกับผูตองรวมรับผิดในเมื่อผูรวมรับผิดไมยินยอมชดใชเงินก็ตองขอใหกระทรวง
การคลังพจิ ารณาส่ังการอีกดว ย ซึ่งเปน เหตใุ หเ กดิ ความลา ชา โดยไมจําเปน และบางกรณีเม่ือ
กระทรวงการคลังพิจารณาสัง่ การไปแลว กระทรวงเจา สงั กดั ก็มไิ ดเรงรีบดาํ เนนิ การจนเปนเหตใุ ห
คดีขาดอายุความหมดสทิ ธทิ จี่ ะเรียกรองเงินชดใชจ ากผูรว มรับผดิ ได ทาํ ใหเ กดิ ความเสยี หายแก
ทรพั ยสินของรฐั บาลอยูเนอื งๆ อนงึ่ ยงั มีกรณที ่ขี า ราชการยืมเงนิ ราชการไปใชจ า ยเกนิ สทิ ธิแลว
ไมสงเงินใชหรือไมส ง ใบสําคัญหรอื เงินเหลอื จายคนื ภายในกําหนดตามระเบยี บ แมจะไดมีการ
ทักทว งหรอื เรงรดั ทวงถามใหนําสง แลว กย็ ังบิดพริ้วไมยอมสง เงินหรือใบสาํ คญั เปนเหตหุ นึ่งที่
ทาํ ความเสยี หายใหแ กท างราชการ สมควรวางระเบียบใหม ีการพจิ ารณาทางวนิ ยั ไวด วย กระทรวง
การคลงั จงึ ขอเสนอระเบยี บปฏิบัตใิ นเร่ืองดังกลาวขา งตน มาเพ่ือคณะรัฐมนตรพี ิจารณา หากคณะ
รฐั มนตรีเหน็ ชอบดว ย กข็ อใหส ั่งการใหกระทรวงทบวงกรมตา งๆ และจังหวัดถอื เปนหลกั ปฏิบตั ิ
ตอไปดวย
คณะรัฐมนตรไี ดประชุมปรกึ ษาเม่ือวนั ที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๓ ลงมติเห็นชอบ
ดวยและใหใชระเบียบความรับผิดชอบของขาราชการในทางแพงแนบทายนี้เปนระเบียบปฏิบัติ
ตอ ไป
จึงขอยนื ยันมา.
ขอแสดงความนับถืออยางยงิ่
(ลงช่ือ) มนูญ บรสิ ทุ ธิ์
(นายมนญู บรสิ ทุ ธ์ิ)
เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี
ทราบ.
(ลงชอื่ ) ป. จารเุ สถยี ร
รฐั มนตรีวา การฯ
๑ ธ.ค. ๒๕๐๓ ๓๖๙ /ที่ ๒๑๘๕/๒๕๐๓

ที่ ๒๑๘๕/๒๕๐๓ ปฏบิ ัต.ิ
(ลงช่อื ) ศ. ไทยวฒั น
เสนอ กรมทด่ี ิน
๑๖ ธ.ค. ๒๕๐๓
(ลงช่อื ) นันท ศริ ิสัมพนั ธ
(นายนันท ศริ ิสัมพันธ)

หัวหนากองกลาง สาํ นกั งานปลดั กระทรวง
๗ ธ.ค. ๒๕๐๓

สาํ เนาอนั ถกู ตอ ง. ––––––––––––––––––
(ลงชือ่ )

ท่ี ๑๑๒๗๑ / ๒๕๐๓ ธนั วาคม ๒๕๐๓

เรยี น เจาพนักงานท่ีดนิ จังหวดั ทกุ จังหวัด

กรมที่ดนิ ขอสง สาํ เนาหนงั สือสาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ดว น ท่ี น.ว.๑๕๕/
๒๕๐๓ ลงวนั ที่ ๑ ธนั วาคม ๒๕๐๓ เรอ่ื ง ความรบั ผิดชอบของขา ราชการในทางแพง มาเพื่อถอื
เปน ระเบยี บปฏบิ ัติตอ ไป.

(ลงช่อื ) ศวง ยารสเอก
(นายศวง ยารสเอก)

เลขานุการกรม ลงช่อื แทน
อธิบดีกรมทด่ี ิน

๓๗๐

(สําเนา)

ท่ี มท ๐๒๑๑.๕/ว ๔๑๖๗ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐

๕ กนั ยายน ๒๕๕๕

เรอื่ ง บันทกึ ความตกลงวาดว ยความรว มมือในการปฏบิ ัติงานปอ งกันและปราบปรามการกระทาํ
ความผิดเกี่ยวกับทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอม

เรยี น ผูวาราชการทกุ จงั หวดั

สง่ิ ทสี่ งมาดว ย สาํ เนาบันทึกความตกลงฯ

ดวยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ ม สํานกั งาน
ปฏริ ูปท่ดี ินเพ่อื เกษตรกรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสาํ นกั งานคณะกรรมการปอ งกันและ
ปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ไดรวมกันจัดทําบันทึกความตกลงวาดวยความรวมมือใน
การปฏิบัติงานปองกันและปราบปรามการกระทําความผิดเก่ียวกับทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอมข้นึ โดยมีวตั ถุประสงคเ พอ่ื ใหม ีการบังคับใชกฎหมายในการปองกันและปราบปราม
การกระทําความผิดเก่ียวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมอยางจริงจัง และไดกําหนด
เปาหมายใหม ีการเสริมสรา งความรว มมอื และการปฏบิ ัติงานอยางตอ เน่ือง รายละเอยี ดปรากฏ
ตามเอกสารท่สี งมาดวยพรอมน้ี

เพ่ือใหเปนไปตามวัตถุประสงคและเปาหมายในการจัดทําบันทึกความตกลงฯ
จงึ ขอใหจ ังหวดั แจงสวนราชการและหนวยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยทราบ และ
แจง ใหน ายอาํ เภอทกุ อําเภอทราบเพือ่ แจงองคกรปกครองสว นทองถ่ินในพนื้ ท่ีไดทราบตอ ไปดว ย

จงึ เรยี นมาเพอื่ พจิ ารณาดําเนินการ

ขอแสดงความนับถือ

(ลงชื่อ) พระนาย สุวรรณรฐั
(นายพระนาย สุวรรณรัฐ)
ปลัดกระทรวงมหาดไทย

สํานกั งานปลดั กระทรวง
สาํ นักนโยบายและแผน
โทร/โทรสาร ๐-๒๒๒๓-๕๒๔๒

๓๗๑

(สําเนา)

บนั ทึกความตกลง
วา ดวยความรว มมอื ในการปฏบิ ัติงานปองกนั และปราบปราม
การกระทําความผิดเกย่ี วกบั ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอม

ระหวาง
กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอม กระทรวงมหาดไทย
สาํ นกั งานการปฏริ ปู ทีด่ ินเพ่อื เกษตรกรรม กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ และ
สาํ นักงานคณะกรรมการปอ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ ในภาครฐั

__พ_ุท_ธ_ศ__ัก_ร_า_ช_๒__๕_๕_๕__

เพื่อใหการดําเนินการปองกันและปราบปรามการกระทําความผิดเก่ียวกับ
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ มเปนไปอยา งมีประสทิ ธิภาพและสมั ฤทธ์ผิ ล ตามนโยบาย
ของรัฐบาลทีไ่ ดก าํ หนดวาระแหงชาติประกาศยทุ ธศาสตรตอ ตานการทุจริตคอรร ปั ชนั กระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กระทรวงมหาดไทย สํานักงานการปฏิรูปท่ีดินเพ่ือ
เกษตรกรรม กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ และสํานักงานคณะกรรมการปอ งกันและปราบปรามการ
ทุจริตในภาครฐั จึงไดท าํ บนั ทึกความตกลงไวด ังตอ ไปนี้

๑. วตั ถปุ ระสงค
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ ม กระทรวงมหาดไทย สาํ นักงาน

การปฏิรูปทีด่ นิ เพอื่ เกษตรกรรม กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ และสํานักงานคณะกรรมการปองกัน
และปราบปรามการทุจริตในภาครัฐไดตระหนักถึงความสําคัญของทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอม จงึ กาํ หนดวัตถุประสงคใ นการปฏบิ ตั ิงานปอ งกนั และปราบปรามการกระทาํ ความผดิ
เกยี่ วกับทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอมใหม กี ารบงั คับใชกฎหมายอยา งจรงิ จงั และกําหนด
เปาหมายใหมีการเสริมสรางความรวมมือและการปฏิบัติงานอยางตอเน่ืองโดยบูรณาการงาน
ทั้งหาหนวยงานใน ๓ ระดบั คือ ระดบั สว นกลาง ระดบั จงั หวดั /ภูมภิ าค และระดบั พื้นที่/ทอ งถน่ิ
เพอ่ื ใหก ารปอ งกนั และปราบปรามการกระทาํ ความผดิ เกย่ี วกบั ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม
เปน ไปอยางมปี ระสทิ ธิภาพ

๒. ความรวมมอื
ทั้งหา หนว ยงาน ไดต กลงกาํ หนดขอบเขตความรว มมอื รวม ๘ ดาน ดงั น้ี
๒.๑ การปอ งกันและปราบปรามการกระทําความผดิ
ทง้ั หา หนว ยงาน จะใหข า ราชการและเจา หนา ทใ่ี นสงั กดั ใหข อ มลู ทเ่ี ปน ประโยชน

ตอการบังคับใชกฎหมาย และจะเปนผูรองทุกขดําเนินคดีกับผูกระทําความผิดเกี่ยวกับ
ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอมในพ้ืนที่ทอ่ี ยูใ นความรับผดิ ชอบตามอํานาจหนา ที่

๓๗๒

๒.๒ การสนบั สนนุ ขอมลู
๒.๒.๑ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม จะสนบั สนนุ ใหห นว ยงาน

ในสังกัดใหก ารสนับสนนุ ขอมูล ดงั ตอ ไปน้ี
๑) ขอมูลที่เกี่ยวของกับพื้นท่ีสงวนหวงหามท่ีอยูในความรับผิดชอบทุก

ประเภท
๒) สนับสนนุ การพสิ จู นส ทิ ธิตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ

เพือ่ ใหเ กิดความเปน ธรรมแกป ระชาชน
๓) สนับสนนุ พยานเอกสาร พยานวตั ถุ และขอมูลท่เี กี่ยวขอ งแก

กรมสอบสวนคดีพิเศษและสํานักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
เพอื่ ประโยชนใ นการบงั คับใชกฎหมายของท้งั สองหนวยงาน

๔) ใหการสนับสนุนขอมูลและใหเบาะแสเกี่ยวกับการกระทําความผิด
ในพน้ื ทีท่ อ่ี ยูในความรับผดิ ชอบ

๒.๒.๒ กระทรวงมหาดไทย จะสนบั สนนุ ใหห นว ยงานในสงั กัดใหก ารสนบั สนนุ
ขอ มลู ดังตอไปน้ี

๑) ขอมูลท่ีเก่ียวของกับพื้นท่ีสงวนหวงหามที่อยูในความรับผิดชอบทุก
ประเภท

๒) ขอมูลการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ทับซอนเขตพ้ืนท่ีปาและพื้นที่
สงวนหวงหามของรัฐทุกประเภท ตามลาํ ดบั ความสําคญั เรง ดวนในการตรวจสอบ

๓) สนบั สนุนการพิสูจนส ิทธิตามกฎหมาย ระเบยี บของทางราชการ
เพือ่ ใหเ กิดความเปนธรรมแกประชาชน

๔) สนับสนุนพยานเอกสาร พยานวตั ถุ และขอมลู ที่เกย่ี วของแก
กรมสอบสวนคดีพิเศษและสํานักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
เพอื่ ประโยชนใ นการบังคบั ใชก ฎหมายของท้ังสองหนวยงาน

๕) ใหการสนับสนุนขอมูลและใหเบาะแสเก่ียวกับการกระทําความผิด
ในพ้ืนท่ที อ่ี ยูในความรับผิดชอบ

๒.๒.๓ สํานกั งานการปฏริ ูปที่ดินเพี่อเกษตรกรรม จะใหการสนับสนนุ ขอ มลู
ดังตอไปนี้

๑) ขอมลู ที่เกยี่ วขอ งกบั พนื้ ทปี่ ฏริ ูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม
๒) สนับสนนุ การพิสจู นสิทธิตามกฎหมาย ระเบยี บของทางราชการ
เพื่อใหเ กดิ ความเปนธรรมแกประชาชน
๓) สนบั สนุนพยานเอกสาร พยานวัตถุ และขอมลู ที่เก่ียวของแก
กรมสอบสวนคดีพิเศษและสํานักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
เพื่อประโยชนใ นการบงั คับใชก ฎหมายของทง้ั สองหนวยงาน

๓๗๓

๔) ใหการสนับสนุนขอมูลและใหเบาะแสเก่ียวกับการกระทําความผิด
ในพ้นื ท่ีทีอ่ ยูในความรับผดิ ชอบ

๒.๓ การสนับสนนุ บคุ ลากร
กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอม กระทรวงมหาดไทย และ

สาํ นักงานการปฏิรปู ท่ดี นิ เพื่อเกษตรกรรม จะใหก ารสนับสนนุ บุคลากรทม่ี ีความรูค วามสามารถมา
รวมปฏิบัติงานดานการปองกันและปราบปรามการกระทําความผิดเก่ียวกับทรัพยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอ ม ตามทก่ี รมสอบสวนคดพี เิ ศษหรอื สาํ นกั งานคณะกรรมการปอ งกนั และปราบปราม
การทุจริตในภาครัฐรองขอ ตามท่ีหนว ยงานตน สงั กดั เห็นสมควรโดยเบกิ คา ใชจา ยจากหนวยงาน
ทีร่ องขอ

๒.๔ มาตรการสนบั สนนุ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ ม และกระทรวงมหาดไทย จะ

รว มมอื กันตรวจสอบเอกสารสิทธทิ ท่ี บั ซอ นในพ้ืนที่ปา พสิ จู นสิทธิของราษฎรทอี่ าศยั และทาํ กนิ
ในพนื้ ทป่ี า ไม และการเขมงวดกับการออกเลขทบ่ี า นในพืน้ ทป่ี า การเก็บภาษบี ํารุงทอ งที่และการ
ออกเอกสารสทิ ธิทีล่ อแหลมตอการบกุ รกุ พื้นทป่ี า โดยจะดําเนนิ การเรงรดั ประสาน กาํ กับดแู ล
และตรวจสอบติดตามการปฏบิ ตั ิงานของหนว ยงานเกยี่ วของอยางเครง ครดั

๒.๕ การแลกเปลี่ยนขอ มูลและการเกบ็ รกั ษา
๒.๕.๑ กรมสอบสวนคดีพิเศษและสํานักงานคณะกรรมการปองกันและ

ปราบปรามการทจุ รติ ในภาครฐั จะทาํ การแลกเปล่ยี นขอมลู หรอื พยานหลักฐานใดท่ีเปนประโยชน
ตอการสืบสวนสอบสวนหรือดําเนินการปองกันและปราบปรามการกระทําความผิดเก่ียวกับ
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ มซง่ึ กนั และกนั รวมทง้ั การแลกเปลย่ี นขอ มลู หรอื พยานหลกั ฐาน
ในสว นทส่ี ามารถใชป ระกอบการพจิ ารณาดาํ เนนิ การตามอาํ นาจหนา ทข่ี องหนว ยงานทร่ี ว มลงนาม
ในบันทึกความตกลงนี้ เพอื่ ใหก ารปฏบิ ตั ิงานภายใตภารกิจของแตล ะหนวยงานมีความครบถว น
สมบรู ณ สาํ หรบั การกาํ หนดหลกั เกณฑแ ละแนวทางปฏบิ ตั ใิ หห วั หนา หนว ยงานทง้ั หา ทร่ี ว มลงนาม
ในบันทึกความตกลงน้ี หรือผแู ทนท่ไี ดรับมอบหมาย พิจารณาความเหมาะสมและจาํ เปนรว มกนั

๒.๕.๒ การเก็บรักษาและการใชประโยชนขอมูลขาวสารที่ไดมาตามบันทึก
ความตกลงนีจ้ ะตองพึงกระทาํ ดว ยความระมดั ระวงั และใชเฉพาะในการสบื สวนสอบสวน หรอื
เปนหลักฐานในการดําเนินคดีหรือในสวนท่ีเก่ียวของกับการปฏิบัติงานตามอํานาจหนาที่ของ
หนวยงานทัง้ หาเทาน้ัน ท้ังน้ี โดยคาํ นงึ ถึงความจําเปนและเปนไปตามระเบยี บในการรกั ษาช้ัน
ความลับ

๒.๖ การอบรม
ท้ังหาหนวยงาน จะรวมกันจัดอบรมแลกเปล่ียนการเรียนรูใหการศึกษาแก

ขา ราชการและเจา หนาทีใ่ นสังกดั ตามควรแกก รณี เพ่อื พฒั นาขดี ความสามารถในการบังคบั ใช

๓๗๔

กฎหมายและพัฒนาความกา วหนาทางเทคโนโลยกี ารสบื สวนสอบสวน รวมถงึ สนับสนุนเครือ่ งมอื
เคร่ืองใชเ พ่ือใหการสบื สวนเปน ไปอยางมปี ระสทิ ธิภาพ

๒.๗ การมสี ว นรวม
ทงั้ หาหนว ยงาน จะรว มกนั จัดกจิ กรรมทีเ่ ปน การปอ งกนั และปราบปรามการ

ทําลายทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ ม และจดั กจิ กรรมสงเสริมการฟนฟทู รัพยากรธรรมชาติ
และส่ิงแวดลอ มการสรางการมีสวนรว มของประชาชนในพ้นื ที่ เพื่อทาํ หนาท่ีชวยเหลอื ขา ราชการ
หรือเจาหนา ทใ่ี นสังกดั ในการดูแลรักษาและบังคบั ใชกฎหมายตามควรแกก รณี

๒.๘ ความรวมมอื อ่ืน
การจดั กจิ กรรมหรือความรว มมือในลักษณะอนื่ ทัง้ หาหนว ยงาน จะประสาน

ความรว มมือตามทเี่ หน็ สมควร ในการอนุรกั ษทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ มดา นอื่น รวมทัง้
จะสนับสนนุ งบประมาณดาํ เนินการรว มกันตามความจําเปน และความเหมาะสม

๓. การบังคับใชบันทึกความตกลง
๓.๑ ความตกลงนถ้ี อื เปน ภารกจิ ที่หาหนวยงานตอ งปฏบิ ัติรว มกัน หากสถานการณ

และนโยบายมกี ารเปล่ยี นแปลง หรือกรณีท่ีมคี วามจําเปน ตองดาํ เนนิ การหรือปฏบิ ัติหนา ท่นี อก
เหนือจากท่ีกําหนดไวหรือหากเกิดปญหาหรือขอขัดของในการปฏิบัติตามบันทึกความตกลง
ฉบบั นี้ ทั้งหา หนวยงานจะรวมกนั พิจารณาปรับปรุง ทบทวน แกไ ข โดยความยนิ ยอมรวมกนั

๓.๒ บันทึกความตกลงฉบบั น้ีไมมผี ลกระทบตอ การทที่ ้งั หา หนว ยงาน ไดจ ดั ทาํ
บันทึกความตกลงในการปองกันและปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและ
สิง่ แวดลอ มกับหนว ยงานอ่นื ไวก อ นการจัดทําบนั ทกึ ความตกลงฉบับน้ี และใหถ อื วาบนั ทึกความ
ตกลงฉบบั ดงั กลาวยงั คงมีผลใชบ งั คับอยูเชน เดิมทุกประการ

๓.๓ บันทึกความตกลงฉบับน้ีมีผลใชบังคับต้ังแตวันที่ผูมีอํานาจลงนามของท้ังหา
หนวยงานไดม กี ารลงนามในบนั ทกึ ความตกลงเปน ตนไป

บันทกึ ความตกลงฉบับน้ีลงนาม เม่อื วนั ที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศกั ราช ๒๕๕๕

ลงนาม โชติ ตราชู ลงนาม สรุ พล พงษท ัดศริ กิ ลุ
(นายโชติ ตราช)ู (นายสรุ พล พงษทดั ศริ กิ ลุ )
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ ม

ลงนาม วีระชยั นาควิบลู ยว งศ ลงนาม ธาริต เพ็งดิษฐ
(นายวรี ะชัย นาควบิ ูลยว งศ) (นายธารติ เพ็งดิษฐ)

เลขาธกิ ารสาํ นักงานการปฏริ ปู ทด่ี นิ เพอ่ื เกษตรกรรม อธบิ ดกี รมสอบสวนคดพี ิเศษ

ลงนาม พนั ตํารวจเอก ดุษฎี อารยวุฒิ
(ดุษฎี อารยวุฒิ)

เลขาธิการคณะกรรมการปอ งกนั และปราบปรามการทุจรติ ในภาครฐั
๓๗๕

ดวนมาก (สําเนา)
ท่ี มท ๐๕๐๕.๔ / ว ๒๗๖๒๖
กรมทด่ี นิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทุง สองหอง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๘ กันยายน ๒๕๕๕

เรื่อง กฎกระทรวงกําหนดหลกั เกณฑ วธิ ีการ และแบบการเก็บสถิติและขอมูลการจดั ทําบนั ทึก
รายละเอียดและรายงานสรปุ ผลการทาํ งานของระบบบาํ บัดนํ้าเสยี พ.ศ. ๒๕๕๕

เรียน ผวู า ราชการจงั หวดั ทุกจงั หวัด

ส่ิงทีส่ งมาดว ย กฎกระทรวงกําหนดหลกั เกณฑ วิธีการ และแบบการเก็บสถติ แิ ละขอ มลู การจัดทํา
บนั ทึกรายละเอยี ด และรายงานสรุปผลการทาํ งานของระบบบาํ บัดนา้ํ เสยี
พ.ศ. ๒๕๕๕

ดวยกรมควบคุมมลพิษไดออกกฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และ
แบบการเก็บสถิติและขอมูลการจัดทําบันทึกรายละเอียด และรายงานสรุปผลการทํางานของ
ระบบบําบัดน้ําเสีย พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยกาํ หนดใหเ จาของหรอื ผูครอบครองแหลง กําเนิดมลพิษ
หรอื ผูค วบคมุ ระบบบําบดั นํา้ เสยี ตามมาตรา ๘๐ แหง พระราชบัญญตั ิสงเสริมและรกั ษาคุณภาพ
ส่ิงแวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ตองเก็บสถิตแิ ละขอ มูลซึ่งแสดงผลการทํางานของระบบ
บําบัดนํ้าเสียในแตล ะวัน และจดทําบนั ทึกรายละเอยี ดตามแบบ ทส. ๑ เกบ็ ไว ณ สถานทต่ี ั้ง
แหลงกําเนดิ มลพษิ เปนระยะเวลา ๒ ป นบั แตวันที่มีการจดั เกบ็ สถติ แิ ละขอมลู นั้น อีกทัง้ จะตอง
จัดทํารายงานสรุปผลการทํางานของระบบบําบัดนํ้าเสียในแตละเดือนตามแบบ ทส. ๒ และ
เสนอรายงานดังกลาวตอเจาพนกั งานทองถน่ิ ภายในวนั ท่ี ๑๕ ของเดอื นถัดไป โดยใหย่นื ตอ
เจาพนักงานทองถิ่นแหงทองท่ีท่ีแหลงมลพิษนั้นต้ังอยูหรือสงทางไปรษณียตอบรับหรือรายงาน
ดว ยวธิ ีการทางอิเล็กทรอนิกสตามที่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษประกาศกําหนด

กรมทด่ี นิ พจิ ารณาแลว เหน็ วา การบงั คบั ใชก ฎกระทรวงกาํ หนดหลกั เกณฑ วธิ กี าร
และแบบการเกบ็ สถิตแิ ละขอ มลู การจดั ทาํ บนั ทกึ รายละเอียด และรายงานสรปุ ผลการทํางานของ
ระบบบาํ บัดนํา้ เสยี พ.ศ. ๒๕๕๕ ดงั กลา ว ประกอบประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอ ม เรือ่ ง กําหนดประเภทของอาคารเปนแหลง กําเนิดมลพิษทจี่ ะตองถกู ควบคมุ การ
ปลอยนาํ้ เสียลงสแู หลงน้ําสาธารณะหรอื ออกสูส่งิ แวดลอ ม ลงวนั ท่ี ๗ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๔๘
และประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม เรอ่ื ง กาํ หนดประเภทของอาคารเปน

๓๗๖

แหลงกําเนิดมลพิษที่จะตองถูกควบคุมการปลอยนํ้าเสียลงสูแหลงนํ้าสาธารณะหรือออกสู
สิ่งแวดลอม (ฉบับท่ี ๒) ลงวนั ที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ มีผลกระทบตอ เจา ของหรือ
ผูครอบครองแหลง กาํ เนดิ มลพษิ หรือผูควบคมุ ระบบบําบัดน้ําเสีย ประเภทอาคารทีเ่ ปนแหลง
มลพษิ โดยเฉพาะอาคารท่ที าํ การของทางราชการ ท่ีมีพน้ื ท่ใี ชสอยรวมกันทกุ ชั้นของอาคารตง้ั แต
๕๕,๐๐๐ ตารางเมตรขึ้นไปและอาคารทท่ี ําการของทางราชการ ทม่ี พี น้ื ท่ีใชสอยรวมกันทุกชน้ั
ของอาคารตัง้ แต ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร แตไ มถ ึง ๕๕,๐๐๐ ตารางเมตร ไดถูกกาํ หนดใหเ ปน
แหลงกําเนิดมลพษิ ทจี่ ะตองดําเนนิ การตามกฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ วธิ ีการ และแบบการ
เก็บสถิตแิ ละขอ มูลการจัดทาํ บันทึกรายละเอียด และรายงานสรปุ ผลการทํางานของระบบบาํ บัด
นํ้าเสยี พ.ศ. ๒๕๕๕

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจงใหเจาพนักงานที่ดินตรวจสอบวามีอาคารใด
บางหรือไม ท่ีตองดําเนินการตามกฎกระทรวงฯ หากมีก็ใหดําเนินการตามนัยกฎกระทรวง
ดงั กลา วตอ ไป

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชือ่ ) บญุ เชดิ คดิ เห็น

(นายบุญเชดิ คดิ เห็น)
อธบิ ดกี รมท่ีดนิ

สํานกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๖๘๗
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๖๐

๓๗๗

(สําเนา)
กฎกระทรวง
กาํ หนดหลกั เกณฑ วธิ ีการ และแบบการเก็บสถิติและขอ มลู
การจัดทําบันทกึ รายละเอยี ด และรายงานสรุปผลการทาํ งานของระบบบําบดั น้ําเสยี
___พ__.ศ__. ๒__๕_๕_๕____

อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๑๑ และมาตรา ๘๐ วรรคสอง แหง พระราชบญั ญัติ
สงเสริมและรักษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ อนั เปนกฎหมายท่มี บี ทบญั ญัตบิ าง
ประการเก่ียวกบั การจํากดั สทิ ธแิ ละเสรภี าพของบคุ คล ซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๓
มาตรา ๓๘ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจักรไทย บัญญัตใิ หกระทํา
ไดโ ดยอาศยั อํานาจตามบทบัญญัตแิ หงกฎหมาย รฐั มนตรีวาการกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ
และสิง่ แวดลอมออกกฎกระทรวงไวด งั ตอไปนี้

ขอ ๑ กฎกระทรวงน้ีใหใชบังคับเม่ือพนกําหนดเกาสิบวันนับแตวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา เปนตนไป

ขอ ๒ ในกฎกระทรวงน้ี
“ระบบบําบดั น้าํ เสยี ” หมายความวา กระบวนการบาํ บัดนา้ํ เสยี และใหห มายความ
รวมถงึ ทอ ส่ิงปลูกสรา ง เคร่อื งมือ เครือ่ งใช อปุ กรณ และวสั ดทุ ่ีจาํ เปน ตองใชในการบําบดั นํ้าเสยี
ของระบบบาํ บดั น้าํ เสียดวย
“น้ําทงิ้ ” หมายความวา น้าํ เสียที่ผานการบําบดั จากระบบบําบดั น้าํ เสยี เพอ่ื ปลอย
ออกสูสง่ิ แวดลอ ม
ขอ ๓ เจาของหรือผคู รอบครองแหลง กาํ เนดิ มลพิษหรือผคู วบคุมระบบบาํ บดั นา้ํ เสยี
ตามมาตรา ๘๐ ตอ งเกบ็ สถติ ิและขอมลู ซึง่ แสดงผลการทาํ งานของระบบบาํ บัดนํา้ เสยี ในแตล ะวัน
และจดั ทาํ บนั ทกึ รายละเอยี ดดังกลาวตามแบบ ทส. ๑ เก็บไว ณ สถานที่ตง้ั แหลงกาํ เนิดมลพิษนัน้
เปน ระยะเวลาสองปน ับแตวนั ท่มี ีการเก็บสถิติและขอมลู น้ัน
ใหบุคคลตามวรรคหน่ึงจัดทํารายงานสรุปผลการทํางานของระบบบําบัดนํ้าเสียใน
แตล ะเดือนตามแบบ ทส. ๒ และเสนอรายงานดังกลา วตอเจา พนักงานทอ งถนิ่ ภายในวนั ทส่ี ิบหา
ของเดอื นถดั ไป โดยยน่ื ตอ เจา พนักงานทองถ่ินแหงทองทที่ ี่แหลงกาํ เนดิ มลพษิ น้นั ตง้ั อยู หรอื สง
ทางไปรษณียตอบรับหรือรายงานดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกสตามที่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
ประกาศกําหนด ท้ังนี้ การสงรายงานทางไปรษณียตอบรบั ใหถ อื วันที่ลงทะเบียนเปน วนั ท่ีสง
รายงาน และการสงรายงานดว ยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส ใหถ ือวันที่ขอมลู อเิ ล็กทรอนิกสน ั้นถกู
สง ออกจากระบบขอมูลของผสู ง ขอมลู เปน วันทส่ี งรายงาน
การรายงานตอเจา พนกั งานทองถ่นิ ตามวรรคสอง ใหเ จา พนกั งานทอ งถนิ่ ออกใบรับ
เพอื่ เปน หลักฐานใหแ กผเู สนอรายงานภายในเจด็ วันนบั แตว นั ท่ไี ดรับรายงาน

๓๗๘

ขอ ๔ ในกรณีที่เจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนิดมลพิษหรือผูควบคุมระบบ
บาํ บดั นา้ํ เสยี ตามขอ ๓ มหี นาที่ตอ งเกบ็ สถติ ิและขอมูล จัดทําบนั ทึกรายละเอยี ด หรือจดั ทาํ
รายงานสรุปผลการทาํ งานของระบบบําบัดนาํ้ เสยี อยแู ลวตามกฎหมายอ่ืน และการเก็บสถติ แิ ละ
ขอมูล การจดั ทําบนั ทกึ รายละเอยี ดหรือการจัดทาํ รายงานดังกลาวมขี อ มลู ไมนอ ยกวา การเก็บ
สถติ ิและขอ มลู การจัดทําบนั ทึกรายละเอียดหรอื การจัดทาํ รายงานตามกฎกระทรวงนี้ ใหถ อื วา
การเกบ็ สถติ ิและขอมลู การจดั ทาํ บันทกึ รายละเอียดหรอื การจัดทาํ รายงานตามกฎหมายดังกลา ว
เปนการเกบ็ สถิตแิ ละขอมูล การจดั ทาํ บันทึกรายละเอียดหรือการจดั ทาํ รายงานตามกฎกระทรวง
ฉบบั นีโ้ ดยอนุโลม และใหเจาของหรือผคู รอบครองแหลงกาํ เนิดมลพิษหรอื ผคู วบคุมระบบบําบดั
น้ําเสียเสนอรายงานดงั กลา วตอเจา พนักงานทอ งถ่นิ ตามวธิ ีการทกี่ าํ หนดไวใ นขอ ๓ วรรคสอง

ขอ ๕ ใหนําหลักเกณฑท่กี ําหนดไวใ นขอ ๓ และขอ ๔ มาใชบ ังคับแกผ รู ับจา ง
ใหบรกิ ารบาํ บัดน้ําเสียดว ยโดยอนโุ ลม

ใหไว ณ วนั ท่ี ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕
ปรีชา เรงสมบรู ณส ขุ

รฐั มนตรวี าการกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอม

๓๗๙

แบบ ทส.๑
แบบบนั ทกึ รายละเอียดของสถิตแิ ละขอมูลซง่ึ แสดงผลการทาํ งานของระบบบาํ บดั นํา้ เสยี

ของ_แ_ห__ล_ง_ก_าํ _เน__ิด_ม_ล_พิษ
แหลง กาํ เนดิ มลพิษ ตัง้ อยเู ลขท.่ี ...............หมทู .ี่ ............ซอย.................................
ถนน.................................แขวง/ตาํ บล..................................เขต/อําเภอ.................................
จังหวัด..............................โทรศัพท. ......................................โทรสาร......................................
ม.ี ...................................................................เปนเจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนดิ มลพิษ
ประกอบกิจการประเภท..........................................................................................................
ใบอนญุ าตเลขที่ (ถาม)ี ...........................ออกใหโ ดย............................หมดอายุ.......................
ซ่ึงมแี ผนผังแสดงการทาํ งานของระบบบาํ บดั นํ้าเสยี ดงั น้ี

ไดเ กบ็ สถิติและขอมลู ซ่ึงแสดงผลการทาํ งานของระบบบําบดั นาํ้ เสียปรากฏตามตาราง ดังนี้

๓๘๐

๓๘๑

๓๘๒ หมายเหตุ ๑. ใหกรอกสถติ แิ ละขอมลู เฉพาะในกรณีทม่ี สี ถิติและขอ มูลนัน้ ๆ ในแตละวัน
๒. ในกรณรี ะบบบาํ บดั นา้ํ เสยี ทม่ี ีการตดิ ต้ังเครอ่ื งตรวจวดั คุณภาพนาํ้ ทง้ิ แบบอตั โนมัติ ใหแ นบผลการตรวจวดั คุณภาพนา้ํ ทง้ิ ทุกวันแยกตาม
พารามิเตอรท ่ีตรวจวดั และทาํ การสรุปผลเปนสถิตแิ ละขอมูลรายเดือน

ขอรับรองวาการบันทึกสถติ ิและขอ มลู ตามตารางขา งตน ถูกตอ งทกุ ประการ
..................................................................เจาของหรอื ผูครอบครองแหลงกาํ เนดิ มลพิษ
(.................................................................)
..................................................................ผคู วบคมุ ระบบบาํ บัดนา้ํ เสยี
(.................................................................)
ใบอนญุ าตเลขท.ี่ .........................................หมดอายุ...................................................
ออกใหโดย..................................................................................................................
..................................................................ผรู บั จา งใหบริการบาํ บัดนํา้ เสยี
(.................................................................)
ใบอนญุ าตเลขท.่ี .........................................หมดอายุ...................................................
ออกใหโ ดย..................................................................................................................

แบบ ทส. ๒

รายงานสรปุ ผล_ก_า_ร_ท_ํา_ง_า_น_ข_อ__ง_ร_ะ_บบบาํ บดั นํ้าเสีย

๑. ขอ มูลทัว่ ไป
แหลง กําเนิดมลพิษ ต้งั อยูเลขท.่ี .....................หมูท .่ี ...............ซอย.....................................

ถนน.........................................แขวง/ตาํ บล.................................เขต/อาํ เภอ...................................
จงั หวดั .....................................โทรศพั ท. ......................................โทรสาร........................................
มี..............................................................................เปน เจา ของหรือผคู รอบครองแหลง กําเนิดมลพิษ
ประกอบกจิ การประเภท....................................................................................................................
ใบอนุญาตเลขท่ี (ถา ม)ี ............................ออกใหโดย.............................หมดอายุ..............................

ในการน้ี ขอรายงานสรปุ ผลการทํางานของระบบบาํ บัดน้ําเสยี ของแหลงกําเนิดมลพิษสาํ หรบั
เดือน................................พ.ศ. ................ตามที่ไดกําหนดในมาตรา ๘๐ แหง พระราชบัญญัตสิ งเสรมิ
และรักษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ มแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ในฐานะ

......................................................................เจาของหรือผูครอบครองแหลงกาํ เนดิ มลพษิ
(....................................................................)
......................................................................ผคู วบคุมระบบบาํ บัดนํ้าเสีย
(....................................................................)
ใบอนญุ าตเลขท่ี..............................................หมดอายุ...................................................
ออกใหโดย......................................................................................................................
......................................................................ผูร บั จางใหบริการบําบดั น้ําเสยี
(.....................................................................)
ใบอนุญาตเลขท.ี่ .............................................หมดอาย.ุ ..................................................
ออกใหโ ดย......................................................................................................................
๒. ขอ มูลเกย่ี วกับระบบบาํ บัดน้าํ เสยี และแหลงรองรบั นาํ้ ท้งิ
(๑) ประเภท/ชนิดของระบบบําบดั นํา้ เสีย...........................................................................
ความสามารถในการรองรับนา้ํ เสียของระบบบําบัดนา้ํ เสยี .................................ลบ.ม/วัน
(๒) การทาํ งานของระบบบาํ บัดนา้ํ เสีย ■ แบบตอ เน่อื ง............................ชั่วโมง/วนั

■ แบบไมตอ เน่อื ง (ระบ)ุ .............................
(๓) อปุ กรณและเครอ่ื งมือท่ีใชในระบบบาํ บดั น้าํ เสีย ■ เครื่องสบู นา้ํ ■ เครอ่ื งเติมอากาศ

■ เคร่อื งกวน/ผสมนา้ํ เสีย ■ เครอ่ื งกวน/ผสมสารเคมี
■ เคร่อื งสบู ตะกอน ■ อื่นๆ (ระบ)ุ ..............................................................
(๔) แหลง รองรับนา้ํ ทง้ิ (ระบ)ุ ...........................................................................................
(๕) วิธจี ัดการตะกอนท่เี กิดขน้ึ จากระบบบําบัดนํ้าเสียและวธิ ีการกาํ จดั ................................

๓๘๓

๓. สรุปผลการทํางานของระบบบําบัดนํา้ เสยี เปนรายเดอื น

(๑) ปรมิ าณการใชไฟฟา ของระบบบําบัดนํา้ เสีย (หนวย).....................................................

(๒) ปริมาณนํ้าใชใ นทุกกิจกรรมของแหลงกาํ เนิดมลพิษ (ลบ.ม.).........................................

(๓) ปริมาณนํ้าเสียท่เี ขา ระบบบาํ บัดนํา้ เสยี (ลบ.ม.)...........................................................

(๔) การระบายนา้ํ ทง้ิ จากระบบบาํ บดั นา้ํ เสยี ......................................................................

(๕) ปรมิ าณสารเคมหี รือสารสกดั ชีวภาพที่ใช (ลิตรหรอื กิโลกรัม).........................................

(๖) การทาํ งานของระบบบําบดั น้ําเสยี

– ระบบบาํ บัดนํ้าเสยี ■ ปกติ ■ ผดิ ปกติ (ระบ)ุ .......................................

– เครื่องสบู นา้ํ ■ ปกติ ■ ผิดปกติ (ระบ)ุ .......................................

– เครือ่ งเติมอากาศ ■ ปกติ ■ ผดิ ปกติ (ระบ)ุ .......................................

– เคร่ืองกวน/ผสมนํา้ เสีย ■ ปกติ ■ ผดิ ปกติ (ระบ)ุ .......................................

– เคร่อื งกวน/ผสมสารเคมี ■ ปกติ ■ ผดิ ปกติ (ระบ)ุ .......................................

– เครอ่ื งสบู ตะกอน ■ ปกติ ■ ผิดปกติ (ระบุ).......................................

– อน่ื ๆ........................... ■ ปกติ ■ ผิดปกติ (ระบ)ุ .......................................

(๗) ปรมิ าณตะกอนสว นเกนิ ท่เี กดิ ขึ้นจากระบบบําบดั นํ้าเสียท่นี ําไปกาํ จัด (ลบ.ม.)................

(๘) ปญหา อปุ สรรค และแนวทางแกไ ข.............................................................................

....................................................................................................................................................

คําเตือน ๑. เจาของหรือผูครอบครองแหลง กําเนดิ มลพษิ ผคู วบคมุ ระบบบาํ บัดนํา้ เสยี หรือ
ผูรับจา งใหบรกิ ารบาํ บดั นา้ํ เสยี ผูใดไมจ ัดเกบ็ สถติ ิ ขอ มลู หรอื ไมท ําบันทึกหรอื
รายงานตามมาตรา ๘๐ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กินหนึ่งเดือน หรือปรับไมเกิน
หน่ึงหมน่ื บาทหรอื ท้งั จําทง้ั ปรบั ตามมาตรา ๑๐๖

๒.ผคู วบคุมระบบบําบัดนา้ํ เสยี หรอื ผรู ับจา งใหบ ริการบําบัดนา้ํ เสยี ผูใดทาํ บันทึกหรือ
รายงานโดยแสดงขอ ความอันเปน เทจ็ ตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเ กนิ หนึง่ ป หรอื ปรบั
ไมเกนิ หน่ึงแสนบาท หรอื ท้งั จําทงั้ ปรับตามมาตรา ๑๐๗

๓๘๔

หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับน้ี คอื โดยทีม่ าตรา ๘๐ วรรคสอง
แหงพระราชบัญญตั ิสง เสริมและรักษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอมแหง ขาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ บญั ญตั ใิ หการ
เกบ็ สถติ แิ ละขอ มูล การจดั ทาํ บันทกึ รายละเอยี ดและรายงานสรุปผลการทาํ งานของระบบบําบดั
นาํ้ เสยี เปน ไปตามหลักเกณฑ วธิ ีการ และแบบทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง จงึ จําเปน ตอ งออก
กฎกระทรวงนี้

๓๘๕

(สําเนา)

ประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ ม
เรื่อง กําหนดประเภทของอาคารเปน แหลงกําเนิดมลพิษที่จะตองถูกควบคุม

การปลอยนา้ํ เสียลงสแู _ห__ล_ง_น_้าํ _ส_า_ธ_า_ร_ณ__ะ_หรือออกสสู ิ่งแวดลอม

โดยที่ไดมีการปฏิรูประบบราชการโดยใหมีการจัดต้ังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอมข้ึนมา และใหโอนภารกิจของกระทรวงวิทยาศาสตร เทคโนโลยแี ละส่งิ แวดลอ ม
ในสว นทเ่ี กย่ี วขอ งกบั พระราชบญั ญตั สิ ง เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ มแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
ไปเปนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม ประกอบกับไดมีการแกไขปรับปรุง
ประกาศกระทรวงวทิ ยาศาสตรเ ทคโนโลยีและสง่ิ แวดลอ ม เรอ่ื ง กาํ หนดมาตรฐานควบคุมการ
ระบายนํ้าทิ้งจากอาคารบางประเภทและบางขนาด โดยใหคณะกรรมการควบคมุ มลพษิ เปน ผใู ห
ความเหน็ ชอบกับวธิ กี ารตรวจหาคา มาตรฐานการระบายน้าํ ทิง้ นอกเหนอื จากวธิ กี ารทีก่ าํ หนดไว
แทนกรมควบคมุ มลพิษ จึงเห็นสมควรแกไ ขปรับปรุงประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร เทคโนโลยี
และสิง่ แวดลอ ม เรือ่ ง กาํ หนดประเภทของอาคารเปน แหลงกําเนิดมลพิษที่จะตองถกู ควบคุม
การปลอ ยน้ําเสียลงสแู หลงน้ําสาธารณะหรอื ออกสูสิ่งแวดลอม

อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖๙ แหงพระราชบัญญัติสงเสริมและรักษา
คุณภาพสิ่งแวดลอ มแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไขโดยมาตรา ๑๑๔ แหงพระราชกฤษฎกี าแกไ ข
บทบัญญตั ใิ หสอดคลองกบั การโอนอาํ นาจหนา ท่ีของสว นราชการ ใหเปน ไปตามพระราชบัญญตั ิ
ปรบั ปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ อันเปน พระราชบญั ญตั ิทีม่ บี ทบัญญัติบางประการ
เกี่ยวกับการจาํ กดั สิทธิและเสรีภาพของบคุ คล ซ่งึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๕ มาตรา ๔๘
มาตรา ๕๐ และมาตรา ๕๑ ของรัฐธรรมนญู แหงราชอาณาจกั รไทยบญั ญตั ใิ หกระทาํ ไดโดย
อาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย รัฐมนตรีวาการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอม โดยคาํ แนะนาํ ของคณะกรรมการควบคมุ มลพษิ จึงออกประกาศไว ดงั ตอ ไปนี้

ขอ ๑ ใหยกเลกิ
(๑) ประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร เทคโนโลยแี ละส่งิ แวดลอม เรอื่ ง กําหนด
ประเภทของอาคารเปนแหลงกําเนิดมลพิษที่จะตองถูกควบคุมการปลอยน้ําเสียลงสูแหลงน้ํา
สาธารณะหรือออกสูส ิ่งแวดลอม ลงวันท่ี ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๗
(๒) ประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร เทคโนโลยีและสิ่งแวดลอม ฉบับที่ ๒
(พ.ศ. ๒๕๓๘) เร่ือง กําหนดประเภทของอาคารเปนแหลงกําเนิดมลพิษที่จะตองถูกควบคุม
การปลอยน้าํ เสยี ลงสูแ หลงนํา้ สาธารณะหรอื ออกสสู ิ่งแวดลอ ม ลงวนั ที่ ๗ มิถนุ ายน ๒๕๓๘
ขอ ๒ ในประกาศนี้

๓๘๖

“อาคาร” หมายความวา
(๑) อาคารชดุ ท่มี ีจํานวนหอ งสาํ หรับใชเ ปนท่อี ยอู าศัยรวมกันทุกช้ันของอาคาร หรือ
กลุมของอาคารตัง้ แต ๕๐๐ หอ งนอนขน้ึ ไป
(๒) โรงแรมทม่ี จี ํานวนหอ งสาํ หรบั ใชเ ปน หองพักรวมกันทกุ ชน้ั ของอาคาร หรือกลมุ
ของอาคารตง้ั แต ๒๐๐ หองนอนขน้ึ ไป
(๓) โรงพยาบาลของทางราชการ รฐั วิสาหกิจ หรือสถานพยาบาล ตามกฎหมาย
วาดวยสถานพยาบาลท่มี ีเตยี งสําหรับรบั ผปู ว ยไวคา งคนื รวมกันทกุ ช้ันของอาคาร หรอื กลุมของ
อาคารตัง้ แต ๓๐ เตยี งขึ้นไป
(๔) อาคารโรงเรียนเอกชน โรงเรยี นของทางราชการ สถาบันอุดมศกึ ษาของเอกชน
หรอื สถาบันอุดมศกึ ษาของทางราชการทม่ี พี ้ืนทใี่ ชส อยรวมกันทุกชน้ั ของอาคาร หรือกลมุ ของ
อาคารตง้ั แต ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตรข้นึ ไป
(๕) อาคารทท่ี ําการของทางราชการ รัฐวสิ าหกิจ องคก ารระหวา งประเทศ หรือของ
เอกชนท่ีมีพื้นทใ่ี ชส อยรวมกันทุกชนั้ ของอาคารหรือกลุมของอาคารตัง้ แต ๕๕,๐๐๐ ตารางเมตร
ขึน้ ไป
(๖) อาคารของศูนยการคาหรือหางสรรพสินคาท่ีมีพื้นที่ที่ใชสอยรวมกันทุกชั้นของ
อาคารหรือกลุมของอาคารตง้ั แต ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตรขึน้ ไป
(๗) ตลาดที่มีพ้ืนท่ีใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคาร หรือกลุมของอาคารต้ังแต
๒,๕๐๐ ตารางเมตรขนึ้ ไป
(๘) ภตั ตาคารหรอื รา นอาหารทมี่ ีพื้นท่ีใชบ รกิ ารรวมกนั ทุกชั้นของอาคาร หรอื กลุม
ของอาคารตง้ั แต ๒,๕๐๐ ตารางเมตรขนึ้ ไป
“น้าํ ทิ้ง” หมายความวา นํ้าเสยี ที่ผา นระบบบาํ บดั นาํ้ เสยี แลวจนเปน ไปตามมาตรฐาน
ควบคุมการระบายนา้ํ ทงิ้ ตามทีก่ ําหนดไวใ นประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ ม
เร่ือง กําหนดมาตรฐานควบคมุ การระบายนํ้าท้งิ จากอาคารบางประเภทและบางขนาด
“แหลง น้ําสาธารณะ” ใหห มายความรวมถงึ ทอ ระบายนา้ํ สาธารณะดวย
“การบาํ บัดน้าํ เสีย” หมายความวา กระบวนการทาํ หรอื ปรบั ปรงุ นา้ํ เสีย เพอื่ ใหเ ปน
ไปตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้ําท้ิงที่กําหนดไวในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสงิ่ แวดลอ ม เร่อื ง กําหนดมาตรฐานควบคมุ การระบายน้าํ ท้งิ จากอาคารบางประเภทและบาง
ขนาด แตท้ังนี้ หา มมิใหใชวธิ ีการทาํ ใหเจอื จาง (Dilution)
ขอ ๓ ใหอาคารตามขอ ๒ เปนแหลงกําเนิดมลพษิ ที่จะตอ งถูกควบคมุ การปลอยนา้ํ
เสียลงสแู หลง นาํ้ สาธารณะหรือออกสสู ่งิ แวดลอ ม
ขอ ๔ หามมิใหเ จา ของหรอื ผูค รอบครองอาคารตามขอ ๒ ปลอยน้ําเสยี ลงสูแหลง นา้ํ
สาธารณะหรือออกสสู ่ิงแวดลอ ม เวนแตจ ะไดทําการบาํ บดั น้ําเสียใหเ ปนไปตามมาตรฐานควบคุม

๓๘๗

การระบายนา้ํ ทิง้ จากอาคารประเภท ก. ทก่ี ําหนดไวในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดลอ ม เรอ่ื ง กําหนดมาตรฐานควบคมุ การระบายนาํ้ ทิ้งจากอาคารบางประเภทและ
บางขนาด

ขอ ๕ ประกาศน้ีใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เปน ตน ไป

ประกาศ ณ วนั ที่ ๗ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๔๘
ยงยทุ ธ ติยะไพรัช

รฐั มนตรีวาการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ ม

๓๘๘

(สําเนา)

ประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ ม
เร่ือง กาํ หนดประเภทของอาคารเปนแหลงกําเนดิ มลพิษท่จี ะตองถูกควบคุม

การปลอยนํ้าเสยี ลงสูแ หลงนา้ํ สาธารณะหรือออกสสู ง่ิ แวดลอม
____(ฉ__บ_บั _ท__ี่ ๒__) ___

โดยท่ีเปนการสมควรกาํ หนดใหอาคารประเภท ข. เปนแหลง กําเนดิ มลพิษทีจ่ ะตอ ง
ถกู ควบคมุ การปลอ ยนา้ํ เสยี ลงสแู หลง นา้ํ สาธารณะหรอื ออกสสู ง่ิ แวดลอ ม เพม่ิ เตมิ จากการกาํ หนด
ใหอาคารประเภท ก. เปนแหลงกําเนิดมลพิษที่ถูกควบคุมการปลอยนํ้าเสียลงสูแหลงน้ํา
สาธารณะหรือออกสูส่ิงแวดลอม ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม
เร่ือง กําหนดประเภทของอาคารเปน แหลง กาํ เนดิ มลพิษที่จะตองถกู ควบคมุ การปลอยน้าํ เสียลงสู
แหลงนาํ้ สาธารณะหรือออกสสู ิง่ แวดลอม ลงวนั ที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘

อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๖๙ แหง พระราชบญั ญตั สิ ง เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพ
ส่ิงแวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ อนั เปนพระราชบัญญัตทิ ี่มบี ทบญั ญัตบิ างประการเกย่ี วกบั การ
จาํ กัดสิทธิและเสรีภาพของบคุ คล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๘ มาตรา ๔๑
และมาตรา ๔๓ ของรฐั ธรรมนญู แหง ราชอาณาจกั รไทย บัญญตั ิใหก ระทําไดโ ดยอาศยั อาํ นาจ
ตามบทบญั ญัติแหงกฎหมาย รัฐมนตรวี าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม โดย
คาํ แนะนาํ ของคณะกรรมการควบคมุ มลพิษ จึงออกประกาศไว ดงั ตอ ไปนี้

ขอ ๑ ในประกาศนี้
“อาคาร” หมายความวา อาคารประเภท ข. ตามประกาศกระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ ม เรือ่ ง กาํ หนดมาตรฐานควบคุมการระบายนํ้าทงิ้ จากอาคารบางประเภท
และบางขนาด ลงวนั ท่ี ๗ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ดงั นี้
(๑) อาคารชุดท่ีมีจํานวนหองสําหรับใชเปนท่ีอยูอาศัยรวมกันทุกชั้นของอาคาร
หรือกลุมของอาคารต้ังแต ๑๐๐ หองนอน แตไมถ ึง ๕๐๐ หองนอน
(๒) โรงแรมที่มีจํานวนหองสําหรับใชเปนหองพักรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือ
กลุม ของอาคารตง้ั แต ๖๐ หอง แตไ มถงึ ๒๐๐ หอง
(๓) หอพักท่ีมีจํานวนหองสําหรับใชเปนท่ีอยูอาศัยรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือ
กลุม ของอาคารต้ังแต ๒๕๐ หอ งขึน้ ไป
(๔) สถานบริการท่ีมีพ้ืนท่ีใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคาร หรือกลุมของอาคาร
ตั้งแต ๕,๐๐๐ ตารางเมตรขนึ้ ไป

๓๘๙

(๕) โรงพยาบาลของทางราชการ รฐั วสิ าหกจิ หรือสถานพยาบาล ตามกฎหมายวา
ดวยสถานพยาบาลที่มีเตียงสําหรับผูปวยไวคางคืนรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุมของอาคาร
ตง้ั แต ๑๐ เตยี ง แตไมถ งึ ๓๐ เตยี ง

(๖) อาคารโรงเรียนเอกชน โรงเรียนของทางราชการ สถาบนั อดุ มศกึ ษาของเอกชน
หรือสถาบันอุดมศึกษาของทางราชการที่มีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุมของ
อาคารตัง้ แต ๕,๐๐๐ ตารางเมตร แตไมถึง ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร

(๗) อาคารที่ทาํ การของทางราชการ รัฐวิสาหกจิ องคการระหวางประเทศ หรือของ
เอกชนทมี่ ีพื้นท่ีใชส อยรวมกันทุกชัน้ ของอาคารหรอื กลุมของอาคารตัง้ แต ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร
แตไ มถงึ ๕๕,๐๐๐ ตารางเมตร

(๘) อาคารของศูนยการคาหรือหางสรรพสินคาท่ีมีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกช้ันของ
อาคารหรอื กลุมของอาคารตงั้ แต ๕,๐๐๐ ตารางเมตร แตไ มถึง ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร

(๙) ตลาดท่ีมีพื้นท่ีใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุมของอาคารตั้งแต
๑,๕๐๐ ตารางเมตร แตไมถ ึง ๒,๕๐๐ ตารางเมตร

(๑๐) ภัตตาคารหรือรานอาหารที่มีพ้ืนที่ใหบริการรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุม
ของอาคารตัง้ แต ๕๐๐ ตารางเมตร แตไมถงึ ๒,๕๐๐ ตารางเมตร

ขอ ๒ ใหอาคารตามขอ ๑ เปนแหลงกําเนิดมลพิษท่ีจะตองถูกควบคุมการปลอย
น้าํ เสียลงสูแหลง นํ้าสาธารณะหรือออกสสู ่งิ แวดลอม

ขอ ๓ หา มมใิ หเ จา ของหรอื ผคู รอบครองอาคารตามขอ ๑ ปลอ ยนา้ํ เสยี ลงสแู หลง นา้ํ
สาธารณะหรือออกสูส่ิงแวดลอม เวนแตน้ําเสียจะมีลักษณะเปนไปตามมาตรฐานควบคุมการ
ระบายนํ้าทิ้งจากอาคารประเภท ข. ท่ีกําหนดไวในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สงิ่ แวดลอม เรือ่ ง กาํ หนดมาตรฐานควบคมุ การระบายน้ําท้ิงจากอาคารบางประเภทและบาง
ขนาด แตท ้ังน้ตี อ งไมใ ชวธิ ีทําใหเจอื จาง (Dilution)

ขอ ๔ ประกาศนใ้ี หใชบ ังคับเมือ่ พน กําหนดหนึง่ ป นับจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษา เปนตน ไป

ประกาศ ณ วนั ที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔
ปรชี า เรง สมบรู ณส ขุ

รฐั มนตรีวา การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอม

๓๙๐

กฎกระทรวง
กําหนดหลกั เกณฑ วธิ กี าร และแบบการเก็บสถติ ิ
และขอ มลู การจดั ทาํ บนั ทกึ รายละเอยี ด และรายงาน

สรปุ ผลการทํางานของระบบบาํ บัดนา้ํ เสีย
พ.ศ. ๒๕๕๕

(ตามบทบญั ญตั ใิ นมาตรา ๘๐ แหงพระราชบญั ญัตสิ งเสริมและรักษา
คุณภาพส่ิงแวดลอ มแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕)

สาํ นกั จดั การคุณภาพน้ํา กรมควบคมุ มลพษิ
กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอม

มถิ นุ ายน ๒๕๕๕
๓๙๑

สาระสาํ คัญของกฎกระทรวงฯ
กรมควบคมุ มลพิษไดอ าศยั อํานาจตามความในมาตรา ๘๐ แหงพระราชบญั ญตั ิ

สงเสริมและรกั ษาคุณภาพส่ิงแวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ออกกฎกระทรวงกาํ หนด หลักเกณฑ
วิธกี าร และแบบการจัดเกบ็ สถิติและขอมูล การจดั ทําบนั ทึกรายละเอยี ดและรายงานสรปุ ผลการ
ทาํ งานของระบบบําบดั นา้ํ เสีย พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยมีวตั ถุประสงคเ พื่อใหเ จาของหรือผูครอบครอง
แหลง กาํ เนดิ มลพษิ จัดเก็บสถิติ ขอมูล และรายงานผลการทาํ งานของระบบบําบัดน้ําเสียของ
ตนเอง โดยมสี าระสําคัญคือ

๑. คาํ นยิ ามทกี่ าํ หนด
“ระบบบําบดั น้ําเสีย” หมายความวา กระบวนการบําบดั นํ้าเสยี และใหหมาย

รวมถงึ ทอ ส่งิ ปลกู สรา ง เครือ่ งมือ เครื่องใช อปุ กรณ และวสั ดุทีจ่ ําเปนตอ งใชในการบําบดั นาํ้ เสีย
ของระบบบาํ บัดนํ้าเสียดว ย

“นาํ้ ทิ้ง” หมายความวา นํ้าเสยี ที่ผานการบําบดั จากระบบบําบดั น้าํ เสียเพ่ือปลอ ย
ออกสูสิง่ แวดลอ ม

๒. เจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนิดมลพิษหรือผูควบคุมระบบบําบัดนํ้าเสีย
ตามมาตรา ๘๐ ตองเก็บสถติ ิและขอ มูลซึ่งแสดงผลการทาํ งานของระบบบําบัดนํ้าเสยี ในแตล ะวนั
และจัดทําบันทกึ รายละเอียดดงั กลา วตามแบบ ทส. ๑ เกบ็ ไว ณ สถานทตี่ งั้ แหลงกําเนดิ มลพษิ
เปน ระยะเวลา ๒ ปนบั แตวันท่ีมกี ารจัดเกบ็ สถติ ิและขอ มลู นน้ั

๓. จะตองจัดทํารายงานสรุปผลการทํางานของระบบบําบัดนํ้าเสียในแตละเดือน
ตามแบบ ทส. ๒ และเสนอรายงานดังกลาวตอเจาพนักงานทองถิ่นภายในวันที่ ๑๕ ของ
เดอื นถดั ไป โดยใหย่ืนตอเจาพนกั งานทอ งถิ่นแหงทอ งที่ทีแ่ หลงกาํ เนิดมลพษิ นัน้ ตัง้ อยูห รือสงทาง
ไปรษณียตอบรับหรือรายงานดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกสตามท่ีอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
ประกาศกําหนด

๔. ในกรณีท่ีเจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนิดมลพิษหรือผูควบคุมระบบบําบัด
นํ้าเสยี ตามมาตรา ๘๐ มหี นาทต่ี องเกบ็ สถติ แิ ละขอ มลู จดั ทําบนั ทึกรายละเอียด หรอื จัดทาํ
รายงาน สรุปผลการทาํ งานของระบบบาํ บดั นํา้ เสยี อยูแลว ตามกฎหมายอื่น และการเก็บสถติ ิและ
ขอ มลู การจัดทาํ บันทึกรายละเอียดหรอื การจดั ทํารายงานดงั กลา วมีขอมลู ไมน อยกวาการเก็บสถติ ิ
และขอ มลู การจดั ทําบันทึกรายละเอยี ดหรอื การจดั ทาํ รายงานตามกฎกระทรวงนี้ ใหถ ือวาการ
เก็บสถิติและขอ มูล การจดั ทาํ บนั ทกึ รายละเอยี ดหรอื การจดั ทํารายงานตามกฎหมายดังกลา ว
เปน การเก็บสถิติและขอ มลู การจัดทําบนั ทกึ รายละเอียดหรือการจดั ทํารายงานตามกฎกระทรวง
ฉบับนี้โดยอนุโลมและใหเจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนิดมลพิษหรือผูควบคุมระบบบําบัด
นํ้าเสียเสนอรายงานดังกลา วตอเจาพนักงานทอ งถ่นิ ทกุ เดือนภายในวนั ท่ี ๑๕ ของเดือนถัดไป
โดยใหย่ืนตอเจาพนักงานทองถ่ินแหงทองท่ีที่แหลงกําเนิดมลพิษน้ันต้ังอยูหรือสงทางไปรษณีย
ตอบรบั หรอื รายงานดวยวธิ ีการทางอิเล็กทรอนิกสต ามทอ่ี ธิบดีกรมควบคมุ มลพิษประกาศกาํ หนด

๓๙๒

การบงั คบั ใช กฎกระทรวงฯ
กฎกระทรวงฯ ดงั กลาว มผี ลบงั คับใชต ้ังแตว ันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

ตามประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๒๙ ตอนท่ี ๓๙ ก ลงวันท่ี ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕

แหลง กําเนิดมลพิษทเี่ ขาขา ยตอ งดาํ เนนิ การตามกฎกระทรวงน้ี
แหลง กาํ เนดิ มลพษิ ท่เี ขา ขา ยตองดําเนินการตามกฎกระทรวงนี้ คือ แหลง กําเนิด

มลพิษที่ถูกควบคุมการปลอยนํ้าเสียลงสูแหลงน้ําสาธารณะหรือออกสูสิ่งแวดลอมนอกเขตท่ีต้ัง
ตามมาตรา ๖๙ แหงพระราชบญั ญตั สิ งเสรมิ และรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
ไดแก

๑. โรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอตุ สาหกรรม ไดแก
๑.๑ โรงงานอุตสาหกรรมจําพวกที่ ๒ คือ โรงงานทมี่ แี รงมาของเครอ่ื งจักร

มากกวา ๒๐ แรงมา แตไ มเกนิ ๕๐ แรงมา และ/หรอื มีจํานวนคนงานมากกวา ๒๐ คน แตไม
เกิน ๕๐ คน โรงงานจําพวกนี้ ไมต อ งขออนุญาตประกอบกจิ การโรงงาน แตตอ งแจง ใหเ จาหนาท่ี
ทราบเมอื่ เริม่ ประกอบกจิ การ และยงั คงตอ งปฏิบัติตามหลกั เกณฑท ่กี าํ หนดในกฎกระทรวงและ
ประกาศกระทรวงสวนโรงงานท่ีมมี ลภาวะใหจัดเปนโรงงานจําพวกที่ ๓

๑.๒ โรงงานอสุ าหกรรมจําพวกที่ ๓ คอื โรงงานท่ีมีมลภาวะและโรงงานทมี่ ี
แรงมา ของเครอื่ งจักรมากวา ๕๐ แรงมา และ/หรอื มจี ํานวนคนงานมากวา ๕๐ คน จะจดั ใหอ ยใู น
โรงงานจาํ พวกที่ ๓ ซ่งึ โรงงานประเภทนจ้ี ะตอ งขอใบอนญุ าตกอ นจึงจะสามารถประกอบกจิ การได

๑.๓ นิคมอุตสาหกรรมหรือโครงการที่จัดไวสําหรับการประกอบการ
อตุ สาหกรรม ทมี่ กี ารจัดการระบายน้ําทิง้ ลงสูแหลง น้าํ สาธารณะหรือออกสูสิ่งแวดลอมรว มกัน

๒. อาคารบางประเภทและบางขนาด ไดแก
๒.๑ อาคารประเภท ก ไดแก
(๑) อาคารชุดท่ีมีจํานวนหองสําหรับใชเปนท่ีอยูอาศัยรวมกันทุกช้ันของ

อาคารหรอื กลุมของอาคารตั้งแต ๕๐๐ หอ งนอนขึ้นไป
(๒) โรงแรมท่ีมีจํานวนหองสําหรับใชเปนหองพักรวมกันทุกช้ันของอาคาร

หรอื กลมุ ของอาคารต้งั แต ๒๐๐ หอ งนอนขึน้ ไป
(๓) โรงพยาบาลของทางราชการ รัฐวสิ าหกจิ หรอื สถานพยาบาล ตาม

กฎหมายวาดวยสถานพยาบาลที่มีเตียงสําหรับรับผูปวยไวคางคืนรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือ
กลุมของอาคารตงั้ แต ๓๐ เตยี งขนึ้ ไป

(๔) อาคารโรงเรยี นเอกชน โรงเรยี นของทางราชการ สถาบันอุดมศึกษาของ
เอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาของทางราชการที่มีพื้นท่ีใชสอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุม
ของอาคารตั้งแต ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตรขึ้นไป

๓๙๓

(๕) อาคารทีท่ าํ การของทางราชการ รฐั วสิ าหกิจ องคการระหวางประเทศ
หรือของเอกชนที่มีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุมของอาคารตั้งแต ๕๕,๐๐๐
ตารางเมตรขน้ึ ไป

(๖) อาคารของศูนยการคาหรือหางสรรพสินคาท่ีมีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุก
ชนั้ ของอาคารหรือกลุม ของอาคารตัง้ แต ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตรขนึ้ ไป

(๗) ตลาดท่ีมีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุมของอาคาร
ต้งั แต ๒,๕๐๐ ตารางเมตรข้ึนไป

(๘) ภัตตาคารหรือรานอาหารท่ีมีพื้นท่ีใชบริการรวมกันทุกช้ันของอาคาร
หรือกลมุ ของอาคารตั้งแต ๒,๕๐๐ ตารางเมตรขึ้นไป

๒.๒ อาคารประเภท ข ไดแ ก (มีผลบงั คบั ใชต้ังแตว นั ท่ี ๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เปน ตนไป)

(๑) อาคารชุดที่มีจํานวนหองสําหรับใชเปนท่ีอยูอาศัยรวมกันทุกชั้นของ
อาคารหรอื กลมุ ของอาคารต้ังแต ๑๐๐ หอ งนอน แตไมถ ึง ๕๐๐ หอ งนอน

(๒) โรงแรมที่มีจํานวนหองสําหรับใชเปนหองพักอาศัยรวมกันทุกชั้นของ
อาคารหรอื กลุม ของอาคารต้งั แต ๖๐ หอ ง แตไ มถ งึ ๒๐๐ หอ ง

(๓) หอพักที่มีจํานวนหองสําหรับใชเปนท่ีอยูอาศัยรวมกันทุกชั้นของอาคาร
หรอื กลมุ ของอาคารต้งั แต ๒๕๐ หอ งข้ึนไป

(๔) สถานบริการท่ีมีพ้ืนที่ใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุมของ
อาคารต้ังแต ๕,๐๐๐ ตารางเมตรขน้ึ ไป

(๕) โรงพยาบาลของทางราชการหรือสถานพยาบาลตามกฎหมายวาดวย
สถานพยาบาลที่มีเตียงสําหรับผูปวยไวคางคืนรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุมของอาคารตั้งแต
๑๐ เตยี งแตไมถ งึ ๓๐ เตียง

(๖) อาคารโรงเรยี นราษฎร โรงเรียนของทางราชการ สถาบันอดุ มศกึ ษา
เอกชนหรอื สถาบันอดุ มศึกษาของทางราชการ ทมี่ ีพนื้ ทใ่ี ชส อยรวมกนั ทุกชัน้ ของอาคารหรือกลุม
ของอาคารตั้งแต ๕,๐๐๐ ตารางเมตร แตไมถ ึง ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร

(๗) อาคารทีท่ ําการของทางราชการ รฐั วสิ าหกจิ องคก ารระหวา งประเทศ
หรือของเอกชนท่ีมีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุมของอาคารต้ังแต ๑๐,๐๐๐
ตารางเมตร แตไมถ งึ ๕๕,๐๐๐ ตารางเมตร

(๘) อาคารของศูนยการคาหรือหางสรรพสินคาท่ีมีพื้นท่ีใชสอยรวมกันทุก
ช้ันของอาคารหรือกลุมของอาคารต้งั แต ๕,๐๐๐ ตารางเมตร แตไมถ ึง ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร

(๙) ตลาดท่ีมีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุมของอาคาร
ตง้ั แต ๑,๕๐๐ ตารางเมตร แตไมถึง ๒,๕๐๐ ตารางเมตร

๓๙๔

(๑๐) ภัตตาคารหรือรานอาหารท่ีมีพ้ืนท่ีใหบริการรวมกันทุกชั้นของอาคาร
หรือกลมุ ของอาคารตั้งแต ๕๐๐ ตารางเมตร แตไมถ งึ ๒,๕๐๐ ตารางเมตร

๓. ท่ีดนิ จดั สรร ไดแก
๓.๑ ทีด่ นิ จดั สรรประเภท ก คือ ทด่ี นิ จัดสรรทีร่ ังวดั แบง เปน แปลงยอ ยเพอื่

จําหนา ยเกินกวา ๑๐๐ แปลง แตไ มเกนิ ๕๐๐ แปลง
๓.๒ ทดี่ นิ จดั สรรประเภท ข คอื ท่ดี ินจดั สรรทรี่ งั วดั แบงเปนแปลงยอยเพ่ือ

จาํ หนายเกินกวา ๕๐๐ แปลงขน้ึ ไป
๔. การเลีย้ งสกุ ร ไดแก
๔.๑ การเลี้ยงสุกรประเภท ก คือ การเลี้ยงสุกรท่ีมีน้ําหนักหนวยปศุสัตว

เกินกวา ๖๐๐ หนวย
๔.๒ การเลย้ี งสุกรประเภท ข คอื การเล้ยี งสกุ รทีม่ ีน้ําหนกั หนว ยปศสุ ตั วตงั้ แต

๖๐ หนว ย แตไมเ กนิ ๖๐๐ หนว ย
๕. ทา เทยี บเรือประมง สะพานปลา และกิจการแพปลา ไดแก ทาเทียบเรือประมง

สะพานปลา และกจิ การแพปลาทุกขนาด
๖. สถานบี ริการนา้ํ มนั เชื้อเพลงิ ไดแ ก
๖.๑ สถานบี ริการนา้ํ มันเชอื้ เพลงิ ประเภท ก คอื สถานบี ริการน้าํ มนั เชอ้ื เพลงิ

ที่ต้ังอยูในท่ีดินท่ีติดเขตทางหลวงหรือถนนสาธารณะหรือทางที่มีสภาพเปนสาธารณะที่มีความ
กวางของถนนไมน อยกวา ๑๒.๐๐ เมตร หรือถนนสว นบคุ คลทมี่ ีความกวา งของถนนไมน อ ยกวา
๑๐.๐๐ เมตรที่เช่อื มตอ กบั ทางหลวงหรือถนนสาธารณะหรอื ทางที่มีสภาพเปน สาธารณะทม่ี ีความ
กวางของถนนไมนอ ยกวา ๑๒.๐๐ เมตร

๖.๒ สถานบี รกิ ารนํา้ มนั เช้อื เพลงิ ประเภท ข คอื สถานบี รกิ ารนํ้ามันเชื้อเพลิง
ที่ตั้งอยูในที่ดินที่ติดเขตถนนสาธารณะหรือทางที่มีสภาพเปนสาธารณะท่ีมีความกวางของถนน
ไมนอยกวา ๘.๐๐ เมตร แตนอ ยกวา ๑๒.๐๐ เมตร หรอื ถนนสวนบุคคลทม่ี คี วามกวา งของถนน
ไมน อ ยกวา ๘.๐๐ เมตร แตน อ ยกวา ๑๐.๐๐ เมตร ท่เี ชอื่ มตอกบั ทางหลวงหรือถนนสาธารณะ
หรอื ทางท่มี ีสภาพเปนสาธารณะท่ีมคี วามกวา งของถนนไมน อยกวา ๘.๐๐ เมตร

๗. บอเพาะเล้ียงสตั วน ้ําชายฝง ไดแ ก บอเพาะเลย้ี งสัตวนํ้าชายฝง ทมี่ ีขนาดพ้ืนท่บี อ
ต้งั แต ๑๐ ไรขึน้ ไป

๘. บอเพาะเลีย้ งสัตวน้ํากรอ ย ไดแก บอเพาะเลี้ยงสัตวนํ้ากรอ ยทุกขนาด
๙. บอ เพาะเลี้ยงสตั วน้ําจืด ไดแก

๙.๑ บอ เพาะเล้ยี งสัตวนํ้าจดื ประเภท ก คอื บอ ทีใ่ ชเพาะเลยี้ งสัตวนํ้าท่กี ินพืช
เปนอาหารทุกชนิด ซึง่ ใชน้ําจากแหลงนาํ้ ตามธรรมชาตโิ ดยไมมกี ารเตมิ สารทีก่ อใหเ กดิ ความเค็ม
เชน น้ําทะเล นํา้ ใตดินทมี่ คี าความเค็ม เกลอื หรือสารอนื่ ใด ลงในบอเพาะเล้ียงดงั กลา ว ทม่ี ขี นาด
พืน้ ท่ีบอต้งั แต ๑๐ ไรขนึ้ ไป

๓๙๕

๙.๒ บอเพาะเล้ยี งสัตวนา้ํ จืดประเภท ข คือ บอทใ่ี ชเ พาะเลี้ยงสัตวนา้ํ ที่กนิ
เน้อื เปนอาหารทกุ ชนิด หรอื สัตวนํ้าอ่ืนๆ ที่กนิ ท้งั เนอื้ และพชื เปนอาหาร ซง่ึ ใชน าํ้ จากแหลงน้าํ ตาม
ธรรมชาติ โดยไมมีการเติมสารที่กอใหเกิดความเค็ม เชน น้ําทะเล นา้ํ ใตดนิ ทม่ี ีคา ความเค็ม เกลอื
หรอื สารอ่นื ใด ลงในบอ เพาะเลย้ี งดงั กลา ว ท่มี ีขนาดพนื้ ทบ่ี อตั้งแต ๑๐ ไรข ึน้ ไป

๙.๓ บอเพาะเลี้ยงสตั วน ้าํ จดื ประเภท ค คอื บอ ท่ีมีการเพาะเลย้ี งสตั วนาํ้
ทกุ ชนิดซึ่งมีการใชส ารท่ีกอใหเกิดความเคม็ เชน น้ําทะเล นํา้ ใตด ินที่มคี า ความเค็ม เกลอื หรอื
สารอื่นใดเติมลงในบอเพาะเลี้ยงเพ่ือปรับระดับคาความเค็มของน้ําที่ใชเพาะเล้ียงใหเหมาะสมกับ
การเพาะเล้ยี งสตั วน้าํ ชนิดน้นั ๆ ทุกขนาด

๑๐. ระบบบาํ บัดนา้ํ เสยี รวมชุมชน ไดแ ก ระบบบําบัดนํา้ เสียที่กระทรวง ทบวง กรม
หรือสว นราชการที่เรยี กชอ่ื อยางอืน่ และมฐี านะเปนกรม ราชการสวนภมู ภิ าค ราชการสว นทอ งถนิ่
รัฐวิสาหกิจท่ีตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาหรือผูรับจางบริการจัดใหมีขึ้นเพ่ือ
วตั ถุประสงคห ลักในการใหบ รกิ ารบาํ บัดน้าํ เสยี ทร่ี วบรวมจากชุมชน

ผเู ก่ียวขอ งตามกฎกระทรวงนี้
ผูเก่ียวของหรือมหี นา ท่ีท่ีจะตอ งปฏบิ ัติตามทีก่ ําหนดไวใ นกฎกระทรวงน้ี และมาตรา

ท่ีเก่ียวของตามพระราชบัญญัติสงเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
ไดแ ก

๑. เจา ของหรือผูครอบครองแหลง กําเนดิ มลพิษ หมายถึง เจาของหรอื ผคู รอบครอง
แหลงกาํ เนดิ มลพษิ ตามมาตรา ๖๙ และมีระบบบําบัดนํา้ เสียตามมาตรา ๗๐ เปนของตนเอง

๒. ผูควบคุมระบบบําบัดนํ้าเสียหรือผูรับจางใหบริการบําบัดน้ําเสีย หมายถึง
ผคู วบคมุ หรือผรู บั จา งใหบ รกิ ารบาํ บดั น้าํ เสยี ซึ่งไดรบั อนญุ าตตามมาตรา ๗๓ แหงพระราช
บญั ญัติสงเสรมิ และรักษาคณุ ภาพสิ่งแวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕

๓. เจาพนกั งานทอ งถน่ิ หมายถงึ
– นายกเทศมนตรี กรณีแหลง กําเนดิ มลพิษตง้ั อยูใ นเขตเทศบาล
– นายกองคการบริหารสวนตําบล กรณีแหลงกําเนดิ มลพษิ ตง้ั อยใู นเขตองคการ

บริหารสวนตาํ บล
– ผวู า ราชการกรงุ เทพมหานคร กรณแี หลง กาํ เนดิ มลพษิ ตง้ั อยใู นเขตกรงุ เทพมหานคร
– ปลัดเมืองพทั ยา กรณแี หลงกําเนิดมลพิษตั้งอยใู นเขตเมอื งพัทยา

ท้งั นี้ ตามมาตรา ๘๑ กาํ หนดใหเ จาพนักงานทองถน่ิ รวบรวมรายงานที่ไดรบั ตาม
มาตรา ๘๐ สงไปใหเจาพนักงานควบคุมมลพิษซ่ึงมีอํานาจหนาที่ในเขตทองถิ่นน้ันเปนประจํา
อยางนอยเดือนละหน่ึงครั้ง และจะทําความเห็นเพ่ือประกอบการพิจารณาของเจาพนักงาน
ควบคมุ มลพิษเสนอไปพรอ มกับรายงานทรี่ วบรวมสงไปนนั้ ดว ยกไ็ ด

๓๙๖


Click to View FlipBook Version