(๓) หนว ยงานของรัฐท่มี อี ํานาจตามกฎหมายในการกาํ กับหรอื ควบคมุ ดแู ล หรือ
หนว ยงานท่ีอยภู ายใตก ารกาํ กบั หรอื ควบคุมดูแลของหนวยงานของรฐั เปนผจู ัดทําส่ิงพิมพอ อก
จากระบบการพิมพออกท่ีมีมาตรฐานท่ีเทียบเทาหรือมีความเหมาะสมกวาหลักเกณฑและวิธีการ
ท่ีกาํ หนดในประกาศนี้
หมวด ๑
หนวย_ง_า_น_ร_ับ_ร_อ_ง_ส__ิ่งพ__ิม_พอ อก
ขอ ๕ หนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกตองมีคุณสมบัติและไมมีลักษณะตองหาม
ดงั ตอไปน้ี
(๑) ตอ งจดั ใหม บี ุคลากรซ่งึ มคี วามรู ความเช่ียวชาญและประสบการณท างเทคนคิ
ทเี่ หมาะสมสําหรับการปฏิบัติหนาท่เี ปนหนว ยงานรบั รองสิ่งพมิ พออกในจํานวนที่เพยี งพอ โดย
อยา งนอ ยตอ งมบี คุ ลากรซง่ึ มีความเช่ียวชาญหรอื ประสบการณในดา น ดังตอไปน้ี
(ก) ดานการรักษาความมนั่ คงปลอดภัยระบบสารสนเทศ
(ข) ด้านเทคโนโลยีการระบุตัวตน (Identification) และการยืนยันตัวตน
(Authentication)
(ค) ดา นระบบเอกสารทีท่ ําในรปู ของขอ มูลอิเล็กทรอนิกส
(ง) ดานการตรวจสอบและประเมินผลความมั่นคงปลอดภัยของระบบ
สารสนเทศ
(๒) ตองจัดใหมีเคร่ืองมือหรือวิธีการท่ีเพียงพอและมีมาตรฐานสําหรับใชในการ
ตรวจสอบวา ระบบการพิมพอ อกและกระบวนการจัดทาํ สิง่ พมิ พอ อก มีความม่ันคงปลอดภยั และ
สามารถจดั ทําส่งิ พมิ พออกที่มขี อ ความถกู ตอ งครบถว นตรงกับขอ มลู อิเล็กทรอนิกส
(๓) ไมเ คยถกู ส่ังยกเลกิ การเปน หนว ยงานรบั รองส่ิงพมิ พอ อกตามขอ ๙ หรือเคยถกู
สัง่ ยกเลกิ แตย งั ไมพ นกาํ หนดหาปน บั แตวนั ทถี่ กู สง่ั ยกเลกิ การเปนหนวยงานรบั รองส่งิ พิมพออก
(๔) ตองไมม สี วนไดเ สยี ในกจิ การของผขู อใหร ับรองระบบการพิมพออก และจะ
ตองไมมีเหตุที่ทําใหหนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกขาดความเปนอิสระและความเปนกลางในการ
ดําเนินงาน
(๕) ตองไมมีสวนไดเสียในกิจการของบุคคลหรือนิติบุคคลท่ีเปนผูพัฒนา ขาย
จําหนา ย จัดทํา จัดซ้อื จดั หา หรอื ใหเชาระบบฮารดแวรแ ละซอฟตแ วรใ หกับผูข อใหร บั รองระบบ
การพิมพออก
คณะกรรมการอาจออกประกาศกําหนดคุณสมบัติหรือลักษณะตองหามประการอื่น
ของหนว ยงานรับรองสงิ่ พิมพออกเพิม่ เติมตามความเหมาะสมอีกก็ได
๓๔๗
ขอ ๖ ในกรณีหนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกเปนนิติบุคคลประเภทหางหุนสวน
จดทะเบยี น หางหนุ สว นจาํ กัด บรษิ ัทจาํ กดั หรอื บริษัทมหาชนจํากดั กรรมการหรอื ผูม ีอาํ นาจ
จัดการแทนนิติบคุ คลของหนวยงานรับรองส่ิงพิมพออกตองมีคุณสมบัติและไมมีลกั ษณะตองหาม
ดังตอ ไปนี้
(๑) มีอายุไมต ่ํากวายสี่ บิ ปบริบรู ณ
(๒) มภี มู ลิ ําเนาหรอื ถิน่ ท่ีอยูในราชอาณาจกั ร
(๓) ไมเ ปน บุคคลลมละลาย คนไรค วามสามารถ หรอื คนเสมือนไรค วามสามารถ
(๔) ไมเคยไดร ับโทษจาํ คกุ โดยคาํ พพิ ากษาถงึ ท่ีสุดใหจ ําคกุ เวนแตเ ปน โทษสาํ หรบั
ความผิดทไ่ี ดกระทาํ โดยประมาทหรอื ความผิดลหโุ ทษ
(๕) ไมเปน กรรมการหรอื ผูซ ึง่ มีอํานาจจดั การของหนวยงานรบั รองสิ่งพมิ พอ อกที่เคย
ถกู ส่ังยกเลกิ การเปนหนวยงานรับรองสงิ่ พมิ พออก
คณะกรรมการอาจออกประกาศกําหนดคุณสมบัติหรือลักษณะตองหามประการอ่ืน
ของหนวยงานรับรองส่ิงพิมพออกซ่ึงเปนนิติบุคคลตามวรรคหน่ึงเพ่ิมเติมตามความเหมาะสมอีก
กไ็ ด
ขอ ๗ ผปู ระสงคจ ะเปน หนวยงานรบั รองส่ิงพมิ พอ อกใหย ่ืนเอกสารหลกั ฐาน ดงั ตอ
ไปนี้ ตอคณะกรรมการหรอื หนว ยงานทคี่ ณะกรรมการมอบหมาย
(๑) คาํ ขอใหค วามเหน็ ชอบการเปนหนว ยงานรับรองสง่ิ พิมพอ อก
(๒) นโยบายและมาตรการรักษาความม่ันคงปลอดภัยดา นสารสนเทศ ซึ่งอยางนอ ย
ตองมีมาตรฐานท่ีเทียบเทาหรือไมตํ่ากวาหลักเกณฑตามประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส เรื่อง แนวนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความม่ันคงปลอดภัยดาน
สารสนเทศของหนว ยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๓
(๓) กระบวนการรบั รองระบบการพิมพอ อก
(๔) นโยบาย มาตรฐานและมาตรการในการตรวจระบบการพิมพอ อก
(๕) รายชื่อผูเช่ียวชาญดานเทคโนโลยีสารสนเทศ ดานการรักษาความมั่นคง
ปลอดภยั ระบบสารสนเทศ ดา นเทคโนโลยกี ารระบุตวั ตน (Identification) และการยืนยันตวั ตน
(Authentication) ดา นระบบเอกสารทที่ ําในรปู ของขอ มูลอิเล็กทรอนกิ ส ดา นการตรวจสอบ
และประเมินผลความม่ันคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ รวมท้ังดานอื่นที่เกี่ยวของตามท่ี
คณะกรรมการประกาศกาํ หนด
(๖) เอกสารอ่นื ใดท่คี ณะกรรมการประกาศกําหนด
ขอ ๘ คณะกรรมการจะประกาศใหผูย่ืนคําขอตามขอ ๗ เปนหนวยงานรับรอง
สงิ่ พิมพอ อก เมื่อคณะกรรมการหรอื หนวยงานท่คี ณะกรรมการมอบหมายตรวจสอบและพิจารณา
แลวเหน็ วาผูยน่ื คําขอมคี ุณสมบัติและไมม ลี ักษณะตอ งหา มตามขอ ๕ และขอ ๖ และไดย ่ืน
เอกสารหลกั ฐานตามขอ ๗ ถูกตอ งครบถวนแลว
๓๔๘
คณะกรรมการอาจมอบหมายใหหนวยงานใดทําหนาที่ตรวจสอบกระบวนการ
รับรองระบบการพมิ พออกของผยู ่นื คําขอเปน หนวยงานรับรองส่ิงพิมพอ อกตามวรรคหน่ึงได
ขอ ๙ คณะกรรมการอาจยกเลิกการใหความเห็นชอบการเปนหนวยงานรับรอง
ส่ิงพมิ พออกเมือ่ ปรากฏวา หนวยงานรับรองสง่ิ พมิ พอ อกกระทาํ การอยางหนึง่ อยางใด ดังตอไปนี้
(๑) ขาดคณุ สมบัติหรือมีลักษณะตอ งหา มตามขอ ๕ หรอื ขอ ๖
(๒) ฝา ฝน หรือไมป ฏิบตั ิตามหลักเกณฑที่กาํ หนดในประกาศนี้ รวมทัง้ แนวปฏบิ ัติอนื่
ใดทอี่ อกโดยคณะกรรมการ
(๓) กระทําการใดจนเปนเหตุใหเชื่อไดวาอาจสงผลกระทบตอความนาเชื่อถือในการ
รับรองระบบการพมิ พออก
ขอ ๑๐ เมอ่ื ปรากฏเหตแุ หง การยกเลกิ ตามขอ ๙ คณะกรรมการอาจสง่ั ใหห นว ยงาน
รับรองส่ิงพิมพออกแกไขหรือดําเนินการอ่ืนใดตามที่คณะกรรมการมีคําส่ังภายในระยะเวลาท่ี
กาํ หนด
ในกรณีที่หนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกไมดําเนินการแกไขตามคําสั่งคณะกรรมการ
หรือกระทาํ การอันเปนการฝา ฝน การกระทํานน้ั อีก คณะกรรมการอาจยกเลกิ การใหค วามเหน็ ชอบ
การเปน หนวยงานรับรองสิง่ พิมพอ อก
ขอ ๑๑ ใหหนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกมีหนาท่ีตองรายงานผลการดําเนินงานใน
การรับรองระบบการพิมพอ อก และรายงานการดาํ รงไวซ งึ่ คุณสมบัติหรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ
ในคุณสมบัตอิ ันเปนเง่อื นไขในการเปน หนวยงานรับรองสิง่ พมิ พออกตามขอ ๕ และขอ ๖ ตอ
คณะกรรมการหรือหนวยงานที่คณะกรรมการมอบหมายทุกหน่ึงปนับแตวันที่ไดรับการประกาศ
ใหเ ปนหนว ยงานรับรองสง่ิ พมิ พอ อก เวนแตค ณะกรรมการจะกําหนดเปน อยางอน่ื ทง้ั นี้ ตามแบบ
รายงานทคี่ ณะกรรมการหรือหนว ยงานทคี่ ณะกรรมการมอบหมายกาํ หนด
หมวด ๒
___ก_า_ร_ร_บั __ร_อ_ง___
ขอ ๑๒ หนว ยงานรบั รองสง่ิ พมิ พอ อกจะรบั รองระบบการพมิ พอ อกของผขู อใหร บั รอง
ระบบการพิมพออก เม่ือตรวจสอบพบวาระบบการพิมพออกเปนไปตามหลักเกณฑและวิธีการ
ทก่ี ําหนดในหมวดน้ี โดยใหถ ือเปน มาตรฐานขั้นต่าํ เวน แตมาตรฐานขน้ั ตาํ่ ในบางเรอ่ื งนนั้ จะมิได
ถูกนํามาใช
ขอ ๑๓ ใหหนวยงานรับรองส่ิงพิมพออกพิจารณารับรองระบบการพิมพออก โดย
คํานึงถงึ หลกั เกณฑ ดังตอไปนี้
๓๔๙
(๑) ระบบการพิมพออกมีกระบวนการท่ีทําใหมั่นใจไดวาสิ่งพิมพออกมีขอความ
ถูกตองครบถว นตรงกบั ขอมลู อิเล็กทรอนกิ ส โดยผูข อใหรับรองระบบการพมิ พออกตองจดั ใหมี
กระบวนการในการตรวจสอบและรบั รองความถกู ตอ งและครบถวนของส่งิ พิมพอ อก
(๒) คุณภาพและประสทิ ธภิ าพของเครอ่ื งมอื และอุปกรณท ใี่ ชใ นระบบการพมิ พออก
(๓) วธิ ีการท่ใี ชใ นการระบตุ ัวตนผูท เ่ี ก่ยี วของกับระบบการพิมพอ อก
(๔) การดาํ เนนิ การอน่ื ใดทจ่ี าํ เปน เพอ่ื รบั รองวา ระบบการพมิ พอ อกมคี วามสอดคลอ ง
ตรงตามหลักเกณฑหรือมาตรฐานตามท่ีคณะกรรมการหรือหนวยงานท่ีคณะกรรมการมอบหมาย
ประกาศกาํ หนดไว
ขอ ๑๔ หนวยงานรบั รองส่ิงพิมพอ อกจะรับรองระบบการพมิ พอ อก เมือ่ ระบบการ
พมิ พอ อกเปนไปตามหลักเกณฑ ดังตอ ไปน้ี
(๑) มกี ระบวนการทม่ี ีความม่ันคงปลอดภยั ดา นสารสนเทศ ซ่ึงมีมาตรฐานไมตํ่ากวา
หลักเกณฑต ามประกาศคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส เร่อื ง แนวนโยบายและแนว
ปฏบิ ตั ใิ นการรกั ษาความม่นั คงปลอดภยั ดานสารสนเทศของหนวยงานของรฐั พ.ศ. ๒๕๕๓ หรือ
มาตรฐานอืน่ ทเี่ ทียบเทา
(๒) มีระบบสํารองขอมูลอเิ ล็กทรอนิกส (Backup) และระบบการกคู ืนขอมูล (Data
recovery) ท่ีเหมาะสม
(๓) ไดจัดทําโดยมีเทคโนโลยีและมาตรการปองกันมิใหมีการเปล่ียนแปลงหรือ
แกไ ขขอ มูลอเิ ล็กทรอนิกส เวน แตเ ปน การรบั รองหรอื บนั ทึกเพ่ิมเตมิ โดยผูทีไ่ ดรบั อนญุ าต ซงึ่ ไมมี
ผลตอความถูกตอ งของขอ มลู อเิ ล็กทรอนิกส
(๔) มีกระบวนการบันทึกหลักฐานการรับรองหรือบันทึกเพิ่มเติมขอมูล
อิเลก็ ทรอนกิ ส
(๕) มีกระบวนการบันทึกหลักฐานการจัดทําสิ่งพิมพออกเพื่อใชในการตรวจสอบ
ประวตั ิการจัดทาํ ส่งิ พิมพออก
(๖) มีวิธีการที่เชื่อถือไดในการระบุตัวตนผูท่ีเก่ียวของกับระบบการพิมพออก
โดยอยา งนอ ยตอ งครอบคลมุ เร่ืองดังตอ ไปน้ี
(ก) การระบุตวั ตน (Identification)
(ข) การยนื ยนั ตัวตน (Authentication)
(ค) การอนุญาตเฉพาะผูม ีสิทธิเขาถงึ (Authorization)
(ง) ความรับผิดชอบตอ ผลของการกระทาํ (Accountability)
ทั้งนี้ เพื่อใหย ืนยันไดว า การจัดทาํ สงิ่ พิมพอ อกไดด าํ เนินการโดยผูม สี ิทธิในการ
เขา ถงึ เทานั้น
๓๕๐
(๗) มีระบบการจัดเก็บเอกสารท่ีทําในรูปของขอมูลอิเล็กทรอนิกสที่มีความมั่นคง
ปลอดภยั ของระบบสารสนเทศ และสิ่งพมิ พอ อกสามารถแสดงหรอื อา งอิงขอความเพ่ือใชต รวจ
สอบในภายหลงั ได โดยมรี ายละเอียดเก่ียวกบั ขอ มูลทใี่ ชในการตรวจสอบความถูกตอ งครบถวน
ตรงกับขอ มลู อเิ ล็กทรอนกิ ส เชน วันเดอื นปท มี่ กี ารจดั ทาํ สงิ่ พมิ พออก เวลาท่ีมกี ารจดั ทําสิ่งพมิ พ
ออกซึง่ อา งอิงตามเวลามาตรฐานประเทศไทย ตําแหนง ของเว็บเพจ เปน ตน
ขอ ๑๕ หนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกอาจจัดใหมีเคร่ืองหมายหรือสัญลักษณอ่ืน
ใดทีป่ รากฏในสิง่ พมิ พออก เพอื่ ยนื ยนั วา สิ่งพิมพอ อกไดจ ดั ทาํ ผานระบบการพมิ พอ อกทผ่ี านการ
รับรองโดยหนวยงานรบั รองสิ่งพมิ พอ อก
ขอ ๑๖ ส่ิงพิมพออกท่ีออกจากระบบการพิมพออกซึ่งไดรับการรับรองโดยหนวยงาน
รบั รองสง่ิ พมิ พออก เปนสงิ่ พิมพอ อกทีส่ ามารถใชแ ทนตนฉบับได
ขอ ๑๗ ใหผ ูจ ัดทําส่งิ พมิ พอ อกมีหนา ที่ ดังตอ ไปนี้
(๑) ตรวจสอบคณุ ภาพเครื่องมือหรืออุปกรณท่ใี ชใ นการจัดทําสง่ิ พมิ พอ อก เพอื่ ให
มน่ั ใจไดวาเครอ่ื งมือหรอื อุปกรณดงั กลา ว สามารถจดั ทาํ สง่ิ พมิ พออกท่มี ีขอความถกู ตองครบถวน
ตรงกบั ขอมลู อิเลก็ ทรอนกิ ส
(๒) ตรวจทานความถูกตองครบถวนของส่ิงพิมพออกที่ไดจัดทํากับขอมูล
อิเลก็ ทรอนกิ สตามวธิ ีการทร่ี ะบบการพิมพอ อกกาํ หนดไว
ขอ ๑๘ เพ่ือประโยชนในการควบคุมดูแลความนาเชื่อถือของระบบการพิมพออก
หนวยงานรับรองส่ิงพิมพออกอาจเรียกใหผูขอใหรับรองระบบการพิมพออกมาใหขอมูลหรือ
สงเอกสารใดๆ ท่เี กี่ยวขอ งกบั ระบบการพิมพออก รวมทงั้ ใหสามารถตรวจสอบระบบการพมิ พออก
ไดอยา งนอยทุกสองป
ขอ ๑๙ หนวยงานรับรองสิ่งพิมพออกอาจยกเลิกการรับรองระบบการพิมพออก
เมอื่ ปรากฏวา ระบบการพิมพออกไมเ ปน ไปตามหลักเกณฑแ ละวิธีการท่กี าํ หนดในหมวดนี้
เมอ่ื ปรากฏเหตแุ หง การยกเลกิ ตามวรรคหนง่ึ หนว ยงานรบั รองสง่ิ พมิ พอ อกอาจสง่ั ให
ผูท่ีไดรับการรับรองระบบการพิมพออกแกไขหรือดําเนินการอื่นใดตามท่ีหนวยงานรับรองสิ่งพิมพ
ออกกําหนด
ในกรณีท่ีผูที่ไดรับการรับรองระบบการพิมพออกไมดําเนินการแกไขตามคําสั่งของ
หนวยงานรับรองสงิ่ พิมพออกหรือกระทําการอันเปนการฝาฝนการกระทําน้นั อีก หนวยงานรบั รอง
ส่ิงพมิ พออกอาจยกเลกิ การรับรองระบบการพมิ พออกกไ็ ด
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
นาวาอากาศเอก อนดุ ิษฐ นาครทรรพ
รฐั มนตรวี า การกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส
๓๕๑
(สําเนา)
ประกาศคณะกรรมการธรุ กรรมทางอิเลก็ ทรอนิกส
เร่ือง หนวยงานรับรองสงิ่ พมิ พออก
___พ__.ศ__. ๒__๕_๕_๕____
เพื่อใหมีหนวยงานท่ีมีอํานาจในการรับรองส่ิงพิมพออกของขอมูลอิเล็กทรอนิกส
ใหส ามารถใชอ า งองิ แทนขอ มูลอเิ ลก็ ทรอนิกส และมผี ลใชแทนตนฉบับได
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๑๐ วรรคส่ี แหง พระราชบัญญตั วิ าดวยธุรกรรม
ทางอิเล็กทรอนิกส พ.ศ. ๒๕๔๔ ซึ่งแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวาดวยธุรกรรมทาง
อิเลก็ ทรอนกิ ส (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๑ คณะกรรมการธุรกรรมทางอิเลก็ ทรอนิกสจ ึงประกาศให
สาํ นักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนกิ ส (องคการมหาชน) เปนหนวยงานรบั รองส่งิ พิมพออก
ประกาศนใ้ี หใชบ งั คับตัง้ แตว นั ถัดจากวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตนไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๗ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
นาวาอากาศเอก อนุดิษฐ นาครทรรพ
รฐั มนตรีวาการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สาร
ประธานกรรมการธุรกรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส
๓๕๒
(สาํ เนา)
ดว นมาก
ท่ี มท ๐๕๐๕.๔ / ว ๓๙๖๒
ถงึ จังหวัดทุกจงั หวดั
กรมท่ีดินขอสง สาํ เนาประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่อื ง ต้งั สาํ นกั งานท่ีดินสาขา
ในจังหวัดชยั นาท และจังหวัดพจิ ิตร สําเนาประกาศกระทรวงมหาดไทย เรอ่ื ง เปล่ียนแปลงเขต
พน้ื ท่คี วามรับผดิ ชอบของสาํ นกั งานท่ดี ินจงั หวัดบุรีรมั ย สํานักงานท่ดี นิ จังหวัดบรุ รี ัมย สาขาสตกึ
สํานักงานท่ดี ินจงั หวัดบรุ ีรมั ย สาขานางรอง และสํานกั งานท่ดี ินจังหวดั บรุ รี มั ย สาขาลาํ ปลายมาศ
สําเนาประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง ยกเลิกอํานาจหน้าที่ของนายอําเภอเกี่ยวกับการ
ปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับท่ี ๔๙) และสําเนาประกาศกรมที่ดิน เร่ือง
ตง้ั สาํ นักงานท่ีดนิ สวนแยก (ฉบับที่ ๒๒) ซงึ่ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั ประกาศทว่ั ไป
เลม ๑๒๙ ตอนพเิ ศษ ๓๑ ง ลงวันที่ ๗ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๕ มาเพื่อโปรดทราบ
กรมท่ีดิน
๘ กุมภาพนั ธ ๒๕๕๕
สาํ นกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๖๘๗
โทรสาร. ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๖๒
๓๕๓
(สาํ เนา)
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรือ่ ง ต้ังสาํ นัก_ง_า_น_ท__ี่ด_นิ _ส__า_ข_า_ใ_น_จงั หวดั ชัยนาท
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ตง้ั สํานกั งานทด่ี ินสาขาในจังหวดั ชยั นาท ลงวนั ที่
๑๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ ต้งั สํานักงานทด่ี นิ จงั หวัดชัยนาท สาขาสรรคบรุ ี และสาขาหันคา นนั้
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นสมควรจัดตั้งสํานักงานที่ดินสาขาในจังหวัด
ชยั นาทเพิ่มเติม เพ่อื ดําเนินการออกโฉนดที่ดิน การรงั วัดทีด่ ิน การจดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรม
การทําธรุ ะอนื่ ๆ ตลอดจนการดําเนินการใดเกีย่ วกบั อสังหาริมทรัพยต ามบทบญั ญตั ิแหง ประมวล
กฎหมายที่ดนิ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๓ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน จึงใหต ัง้ สาํ นักงาน
ท่ีดินจงั หวัดชยั นาท สาขาวดั สิงห มเี ขตดําเนนิ การในทอ งทอี่ ําเภอวัดสงิ ห และอาํ เภอหนองมะโมง
ทั้งน้ี ตั้งแตว ันท่ี ๑๗ กมุ ภาพันธ พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตน ไป
ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ชูชาติ หาญสวัสด์ิ
รฐั มนตรชี วยวาการฯ ปฏิบตั ิราชการแทน
รฐั มนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
๓๕๔
(สําเนา)
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรอ่ื ง ตัง้ สาํ น_กั _ง_า_น_ท_ดี่__นิ _ส_า_ข_า_ใ_น_จังหวดั พิจิตร
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ต้งั สํานกั งานทีด่ ินสาขาในจังหวัดพิจติ ร ลงวนั ท่ี ๑
กุมภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๔๒ ต้ังสํานกั งานท่ดี ินจังหวัดพิจติ ร สาขาตะพานหนิ สาขาโพทะเล และสาขา
บางมูลนาก น้ัน
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นสมควรจัดตั้งสํานักงานที่ดินสาขาในจังหวัดพิจิตร
เพ่ิมเติม เพือ่ ดําเนินการออกโฉนดท่ีดิน การรังวดั ทด่ี ิน การจดทะเบยี นสิทธิและนติ ิกรรม การทาํ
ธุระอ่ืนๆ ตลอดจนการดําเนินการใดเก่ียวกับอสังหาริมทรัพยตามบทบัญญัติแหงประมวล
กฎหมายทดี่ นิ
อาศยั อํานาจตามความในมาตรา ๑๓ แหงประมวลกฎหมายทีด่ ิน จงึ ใหต้งั สํานกั งาน
ท่ดี ินจังหวัดพจิ ติ ร สาขาสามงาม มเี ขตดําเนนิ การในทองท่ีอาํ เภอสามงา ม และอาํ เภอวชริ บารมี
ท้งั น้ี ตั้งแตวันที่ ๑๗ กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตนไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ชูชาติ หาญสวสั ดิ์
รฐั มนตรชี วยวาการฯ ปฏิบัติราชการแทน
รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
๓๕๕
(สําเนา)
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรอื่ ง เปล่ยี นแปลงเขตพ้นื ที่ความรับผิดชอบของสํานกั งานทีด่ นิ จังหวดั บรุ ีรมั ย
สาํ นักงานท่ดี ินจงั หวดั บุรีรมั ย สาขาสตึก สํานกั งานท่ีดนิ จังหวดั บรุ รี ัมย
สาขานางรอง และสาํ นัก_ง_า_น_ท_ดี่ _ิน__จ_ัง_ห_ว_ัด_บ__ุรรี ัมย สาขาลําปลายมาศ
ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวนั ท่ี ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๓ เปลยี่ นแปลงเขต
พ้ืนทีค่ วามรบั ผิดชอบของสํานกั งานที่ดินจังหวัดบรุ ีรมั ย สาขานางรอง นน้ั
กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นสมควรเปลี่ยนแปลงเขตพื้นท่ีความรับผิดชอบของ
สํานักงานทดี่ ินจงั หวัดบุรีรมั ย สาํ นกั งานทดี่ ินจงั หวดั บุรีรัมย สาขาสตึก สาํ นักงานทด่ี นิ จังหวดั
บุรีรมั ย สาขานางรอง และสาํ นกั งานที่ดนิ จงั หวดั บุรรี มั ย สาขาลําปลายมาศ เสยี ใหม เพือ่ ดาํ เนิน
การออกโฉนดทีด่ นิ การรงั วดั ทด่ี นิ การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรม การทาํ ธรุ ะอน่ื ๆ ตลอดจนการ
ดาํ เนนิ การใดเกีย่ วกบั อสงั หารมิ ทรพั ยต ามบทบญั ญัติแหงประมวลกฎหมายทด่ี นิ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๓ แหง ประมวลกฎหมายท่ดี นิ จึงใหเปลี่ยนแปลง
เขตทองที่ความรับผิดชอบของสํานักงานท่ีดินจังหวัดบุรีรัมย สํานักงานท่ีดินจังหวัดบุรีรัมย
สาขาสตึก สาํ นกั งานทด่ี นิ จังหวดั บรุ ีรัมย สาขานางรอง และสาํ นกั งานทดี่ ินจังหวัดบุรีรมั ย สาขา
ลําปลายมาศ ใหมเี ขตดาํ เนนิ การ ดังนี้
๑. สํานักงานท่ีดินจังหวัดบุรีรัมย มีเขตดําเนินการในทองที่อําเภอเมืองบุรีรัมย
อําเภอบานดาน และอําเภอหวยราช
๒. สํานกั งานท่ดี นิ จงั หวัดบุรีรมั ย สาขาสตกึ มเี ขตดําเนนิ การในทองทอ่ี าํ เภอสตกึ
อําเภอแคนดง และอําเภอคูเมอื ง
๓. สาํ นักงานทดี่ ินจงั หวดั บรุ ีรมั ย สาขานางรอง มเี ขตดาํ เนนิ การในทองที่อาํ เภอ
นางรอง อําเภอเฉลิมพระเกียรติ อําเภอโนนสวุ รรณ อําเภอหนองกี่ และอําเภอปะคํา
๔. สํานกั งานทดี่ ินจงั หวัดบรุ รี ัมย สาขาลําปลายมาศ มเี ขตดาํ เนินการในทองที่
อําเภอลําปลายมาศ อําเภอหนองหงส และอําเภอชํานิ
ทงั้ นี้ ต้ังแตว นั ท่ี ๑๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตน ไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ชชู าติ หาญสวสั ดิ์
รัฐมนตรีชวยวาการฯ ปฏบิ ตั ิราชการแทน
รัฐมนตรวี า การกระทรวงมหาดไทย
๓๕๖
(สาํ เนา)
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง ยกเลกิ อาํ นาจหนาที่ของนายอําเภอเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ิการ
ตามประมว_ล_ก__ฎ_ห_ม_า_ย__ท_ด่ี _นิ __(_ฉบบั ท่ี ๔๙)
โดยทม่ี าตรา ๑๙ แหงพระราชบญั ญัติแกไขเพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ (ฉบบั
ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ บญั ญัตใิ หการปฏิบัตกิ ารตามประมวลกฎหมายทีด่ นิ ซง่ึ เปน อาํ นาจหนาทขี่ อง
หวั หนาเขต นายอาํ เภอ หรอื ปลัดอําเภอผเู ปน หัวหนาประจํากง่ิ อําเภออยกู อ นวันทพ่ี ระราชบัญญตั ิ
นี้ใชบังคับ ใหผดู ํารงตาํ แหนง ดังกลา วปฏบิ ัตติ อไปพลางกอ น จนกวา รฐั มนตรจี ะไดประกาศ
ยกเลิกในราชกิจจานเุ บกษา เปนทอ งทไ่ี ป บดั นี้ กระทรวงมหาดไทยพจิ ารณาเหน็ ควรใหพนักงาน
เจา หนา ที่ตามประมวลกฎหมายทดี่ นิ เปนผปู ฏบิ ัตติ อ ไป
อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๑๙ แหง พระราชบญั ญัตแิ กไ ขเพม่ิ เตมิ ประมวล
กฎหมายที่ดนิ (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ จงึ ใหย กเลกิ อํานาจหนาทีข่ องนายอาํ เภอเกีย่ วกับการ
ปฏิบัตกิ ารตามประมวลกฎหมายทด่ี นิ ในทอ งที่ดังตอไปน้ี
๑. อําเภอเกาะลนั ตา จังหวัดกระบ่ี
๒. อําเภออบุ ลรตั น จงั หวัดขอนแกน
๓. อาํ เภอทงุ ใหญ จงั หวัดนครศรีธรรมราช
๔. อําเภอละหานทราย จงั หวัดบรุ ีรัมย
๕. อาํ เภอเขาคอ จังหวดั เพชรบูรณ
ทงั้ น้ี ตงั้ แตว นั ท่ี ๑๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตน ไป
ประกาศ ณ วันท่ี ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ชูชาติ หาญสวสั ด์ิ
รัฐมนตรีชวยวาการฯ ปฏบิ ัติราชการแทน
รฐั มนตรีวาการกระทรวงมหาดไทย
๓๕๗
(สาํ เนา)
ประกาศกรมทีด่ นิ
เร่ือง ตัง้ สําน_ัก_ง_า_น_ท_่ดี_ิน__ส_ว_น_แ__ย_ก (ฉบับท่ี ๒๒)
ตามประกาศกรมที่ดิน เร่อื ง ตงั้ สาํ นักงานทดี่ นิ สว นแยก (ฉบับที่ ๒๑) ลงวันที่ ๑๗
มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ ตง้ั สํานกั งานทดี่ ินสว นแยก จํานวน ๔ แหง นน้ั
กรมท่ดี ินพจิ ารณาเหน็ สมควรจัดตง้ั สาํ นกั งานทีด่ ินสวนแยกเพิ่มเตมิ เพอื่ ดําเนนิ การ
ออกโฉนดที่ดนิ การรังวัดท่ีดนิ การจดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรม การทําธรุ ะอ่นื ๆ ตลอดจนการ
ดําเนนิ การใดเก่ียวกับอสังหาริมทรพั ย ตามบทบัญญัตแิ หงประมวลกฎหมายท่ดี นิ ดังนี้
๑. สาํ นักงานทีด่ นิ จังหวัดกระบี่ สาขาคลองทอม สว นแยกเกาะลันตา มเี ขต
ดําเนนิ การในทอ งที่ อําเภอเกาะลนั ตา
๒. สาํ นักงานท่ีดินจงั หวัดขอนแกน สาขานํ้าพอง สว ยแยกอบุ ลรัตน มีเขต
ดาํ เนินการในทองท่ีอาํ เภออบุ ลรตั น
๓. สํานกั งานทีด่ ินจังหวัดนครศรีธรรมราช สาขาทงุ สง สว นแยกทุงใหญ มเี ขต
ดําเนนิ การในทองทอ่ี าํ เภอทุงใหญ
๔. สาํ นกั งานท่ดี นิ จังหวดั บุรีรมั ย สาขานางรอง สวยแยกละหานทราย มีเขต
ดาํ เนนิ การในทองที่อาํ เภอละหานทราย และอาํ เภอโนนดนิ แดง
๕. สาํ นักงานทด่ี นิ จังหวัดเพชรบรู ณ สาขาหลม สกั สว นแยกเขาคอ มีเขตดําเนนิ การ
ในทอ งทอี่ ําเภอเขาคอ
ทงั้ นี้ ต้ังแตวนั ท่ี ๑๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เปนตนไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
อนวุ ฒั น เมธวี ิบลู วุฒิ
อธบิ ดีกรมที่ดนิ
๓๕๘
(สําเนา)
ท่ี มท ๐๕๐๕.๔ / ว ๑๐๑๑๐
ถึง จังหวัดทกุ จงั หวดั
กรมทดี่ ินขอสงสําเนาประกาศกระทรวงมหาดไทย เร่อื ง ยกเลิกอาํ นาจหนา ที่
ของนายอําเภอเก่ียวกับการปฏิบัติการตามประมวลกฎหมายทด่ี ิน (ฉบับที่ ๕๐) ซึง่ ประกาศใน
ราชกิจจานเุ บกษา ฉบับประกาศทัว่ ไป เลม ๑๒๙ ตอนพิเศษ ๖๐ ง ลงวนั ที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๕
และสําเนาประกาศกรมท่ดี นิ เร่อื ง ตง้ั สาํ นักงานทดี่ ินสวนแยก (ฉบบั ท่ี ๒๓) ซึ่งประกาศใน
ราชกจิ จานเุ บกษา ฉบบั ประกาศทัว่ ไป เลม ๑๒๙ ตอนพิเศษ ๕๒ ง ลงวันที่ ๑๙ มนี าคม ๒๕๕๕
มาเพอ่ื โปรดทราบ
กรมที่ดนิ
๒ เมษายน ๒๕๕๕
สํานกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๖๘๗
โทรสาร. ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๖๒
๓๕๙
(สําเนา)
ประกาศกระทรวงมหาดไทย
เรื่อง ยกเลิกอํานาจหนา ทีข่ องนายอําเภอเกยี่ วกับการปฏบิ ัตกิ าร
ตามประมว_ล__ก_ฎ_ห_ม__า_ย_ท_ี่ด_ิน__(_ฉบบั ที่ ๕๐)
โดยทม่ี าตรา ๑๙ แหง พระราชบญั ญตั แิ กไขเพมิ่ เติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับ
ที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ บญั ญตั ใิ หการปฏิบัตกิ ารตามประมวลกฎหมายทด่ี นิ ซ่งึ เปนอาํ นาจหนาท่ีของ
หัวหนาเขต นายอาํ เภอ หรือปลดั อาํ เภอผเู ปนหัวหนาประจาํ ก่งิ อาํ เภออยกู อ นวันทพี่ ระราชบญั ญตั ิ
นีใ้ ชบ งั คบั ใหผ ดู าํ รงตําแหนงดงั กลา วปฏบิ ตั ติ อ ไปพลางกอน จนกวา รัฐมนตรีจะไดป ระกาศ
ยกเลกิ ในราชกจิ จานเุ บกษาเปนทอ งที่ไป บัดน้ี กระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นควรใหพนกั งาน
เจาหนา ทีต่ ามประมวลกฎหมายท่ดี นิ เปนผปู ฏิบตั ติ อไป
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๙ แหง พระราชบญั ญตั แิ กไ ขเพมิ่ เตมิ ประมวล
กฎหมายทดี่ ิน (ฉบบั ท่ี ๔) พ.ศ. ๒๕๒๘ จึงใหยกเลิกอาํ นาจหนาที่ของนายอําเภอเกี่ยวกบั การ
ปฏบิ ตั กิ ารตามประมวลกฎหมายที่ดนิ ในทองที่ดังตอ ไปนี้
๑. ทองทอี่ ําเภอพญาเม็งราย จงั หวดั เชยี งราย
๒. ทองที่อําเภอเชียงกลาง จงั หวดั นาน
ท้ังน้ี ตั้งแตว นั ท่ี ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตน ไป
ประกาศ ณ วันที่ ๒๐ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ชชู าติ หาญสวสั ดิ์
รฐั มนตรีชว ยวา การฯ ปฏิบตั ิราชการแทน
รฐั มนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย
๓๖๐
(สาํ เนา)
ประกาศกรมท่ดี นิ
เรอื่ ง ตงั้ สําน_ัก_ง_า_น_ท_่ีด__นิ _ส_ว _น_แ__ย_ก (ฉบับที่ ๒๓)
ตามประกาศกรมที่ดิน เรอื่ ง ต้ังสาํ นกั งานท่ีดินสวนแยก (ฉบบั ท่ี ๒๒) ลงวนั ที่ ๑๒
มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ต้งั สาํ นกั งานทด่ี ินสวนแยก จาํ นวน ๕ แหง น้นั
กรมทดี่ ินพิจารณาเหน็ สมควรจดั ตง้ั สาํ นกั งานท่ดี นิ สว นแยกเพ่ิมเตมิ เพอ่ื ดาํ เนินการ
ออกโฉนดทดี่ นิ การรงั วดั ทีด่ นิ การจดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรม การทาํ ธรุ ะอ่ืนๆ ตลอดจนการ
ดําเนินการใดเก่ียวกบั อสังหารมิ ทรพั ย ตามบทบัญญตั แิ หงประมวลกฎหมายท่ีดนิ ดงั น้ี
๑. สํานกั งานท่ดี นิ จังหวัดเชยี งราย สาขาเทิง สวนแยกพญาเมง็ ราย มีเขตดาํ เนินการ
ในทอ งท่ีอาํ เภอพญาเม็งราย
๒. สํานักงานทดี่ ินจงั หวัดนา น สาขาปว สวนแยกเชยี งกลาง มเี ขตดาํ เนนิ การใน
ทองทอี่ าํ เภอเชียงกลาง อาํ เภอทงุ ชาง และอาํ เภอเฉลิมพระเกยี รติ
ทง้ั นี้ ตงั้ แตวนั ท่ี ๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ เปน ตนไป
ประกาศ ณ วนั ที่ ๕ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๕
อนุวฒั น เมธีวบิ ลู วฒุ ิ
อธิบดกี รมท่ีดิน
๓๖๑
ท่ี มท ๐๕๐๕.๒ / ว ๑๒๒๐๓ (สาํ เนา)
กรมท่ีดนิ
ศูนยราชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษา
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทุงสองหอ ง เขตหลักส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๖ เมษายน ๒๕๕๕
เรอื่ ง ซอ มความเขา ใจเกยี่ วกับแบบพมิ พหนังสือแสดงสิทธใิ นท่ีดนิ สญู หาย
เรยี น ผวู า ราชการจงั หวัดทุกจงั หวดั (เวน กรงุ เทพมหานคร)
อางถึง ๑. ระเบยี บกรมท่ดี ิน วาดวยการพมิ พ การควบคุมรักษาและการเบิกจายแบบพิมพโฉนด
ที่ดนิ หนังสอื รบั รองการทําประโยชน และหนงั สือกรรมสิทธหิ์ อ งชดุ พ.ศ. ๒๕๓๑
๒. หนงั สอื สํานักเลขาธิการคณะรฐั มนตรี ท่ี นว ๑๕๕/๒๕๐๓ ลงวนั ท่ี ๑ ธันวาคม ๒๕๐๓
ส่งิ ที่สง มาดว ย ระเบียบกรมทด่ี ิน และหนังสอื สํานักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ท่ีอา งถงึ
ตามหนังสือที่อางถึงไดวางระเบียบปฏิบัติในกรณีแบบพิมพหนังสือแสดงสิทธิใน
ท่ีดนิ สูญหาย เปน เหตุใหเ กิดความเสียหายแกท รัพยสนิ ของราชการ โดยใหผูอาํ นวยการกองพัสดุ
ผูอํานวยการกองการพิมพ เจาพนักงานทด่ี ินจังหวัด เจา พนักงานทด่ี ินจังหวดั สาขา หรอื เจา หนา ท่ี
บริหารงานทีด่ ินอาํ เภอ แลวแตกรณี รีบดําเนินการแจงความตอ พนกั งานสอบสวนเพือ่ สบื สวน
สอบสวนหาตวั ผรู ับผิดชอบมาลงโทษตามกฎหมาย และกรณีแบบพิมพห นงั สอื แสดงสิทธใิ นทด่ี ิน
สญู หายเปน กรณที าํ ใหท รพั ยส นิ ของทางราชการเสยี หาย จงั หวดั จะตอ งดาํ เนนิ การตง้ั คณะกรรมการ
สอบสวนหาตวั ผรู ับผดิ ทางแพง เพ่อื ชดใชค า แบบพิมพด ังกลา วแกท างราชการ นั้น
เน่อื งจากในขณะนป้ี รากฏวา เมื่อเกดิ กรณแี บบพิมพหนงั สอื แสดงสิทธใิ นท่ีดนิ
สญู หาย เจาหนาทีท่ ี่เกี่ยวขอ งมิไดป ฏิบัตติ ามระเบยี บดังกลา วอยา งเครงครดั โดยเพียงแตแจง
ความตอพนักงานสอบสวนไวเปนหลักฐานเทานั้น มิไดแจงความเพื่อสืบสวนสอบสวนหาตัว
ผูกระทําผิดมาลงโทษตามกฎหมายเชนน้ีทําใหเกิดความลาชาโดยไมจําเปนและอาจทําใหคดี
ขาดอายุความได ดังนั้น เพอ่ื ใหก ารปฏบิ ตั ใิ นเร่อื งน้ีเปนไปโดยถกู ตอ งและเปนแนวทางเดียวกนั
กรมท่ดี ินจงึ ขอซอมความเขาใจกรณหี นงั สอื แสดงสทิ ธิในทดี่ นิ สญู หาย ดังน้ี
๑. ใหจ งั หวัดตัง้ คณะกรรมการสอบสวนหาตวั ผรู บั ผดิ ทางแพงในทนั ที โดยมติ อง
รอฟง ผลการดาํ เนนิ คดอี าญา หรอื ทางวนิ ยั เพอ่ื ใหชดใชค า แบบพมิ พแ กทางราชการโดยเรว็
ซง่ึ แบบพมิ พห นงั สือแสดงสทิ ธิในทดี่ ินมรี าคา ดังน้ี
๑.๑ แบบพมิ พโฉนดทด่ี นิ คูฉบบั ละ ๒๐๖.๖๐ บาท
๑.๒ แบบพิมพหนังสือรบั รองการทาํ ประโยชน คูฉ บับละ ๒๐๑.๕๕ บาท
๓๖๒
๑.๓ แบบพิมพห นงั สอื กรรมสิทธหิ์ องชุด คฉู บับละ ๒๐๖.๖๐ บาท
๑.๔ แบบพมิ พใ บแทนโฉนดทีด่ นิ ฉบบั ละ ๑๐๔ บาท
๑.๕ แบบพมิ พใ บแทนหนังสือรับรองการทาํ ประโยชน ฉบบั ๑๐๑ บาท
๑.๖ แบบพิมพใบแทนหนงั สือกรรมสทิ ธ์ิหอ งชดุ ฉบบั ละ ๑๐๔ บาท
๒. แจง ความรอ งทุกขหรือกลา วโทษตอ พนกั งานสอบสวน เพอื่ สบื สวนสอบสวน
หาตวั ผกู ระทาํ ผิดมาลงโทษตามกฎหมาย มใิ ชแ จง ความไวเปนหลักฐานเทา น้นั ในชัน้ นี้ ใหระบุ
วนั เวลาและสถานท่ีเกดิ เหตุ พรอ มพยานหลักฐานทเี่ กี่ยวขอ ง (ถา ม)ี เพอ่ื ประโยชนข องพนกั งาน
สอบสวนในการสืบสวนสอบสวนหาตวั ผูกระทาํ ผดิ โดยผูกระทาํ ความผิดอาจเปนเจาหนา ท่เี อง
หรือบุคคลภายนอกกไ็ ด ซงึ่ จะตอ งผา นกระบวนการสบื สวนสอบสวนเสียกอ น จึงจะทราบได
๓. รายงานผลการดําเนินการดังกลาวพรอมท้ังสงเอกสารหลักฐานที่เก่ียวของให
กรมทด่ี ินทราบโดยดวน
กรณที ี่เจา หนาทีท่ ่เี ก่ียวของมไิ ดถ อื ปฏบิ ตั ิตามนัยดังกลาว และเกดิ การเสยี หาย
แกราชการกรมทีด่ ินขน้ึ จะถอื วา เจา หนา ที่ผูนน้ั ไมใสใจในการปฏิบัตติ ามระเบียบของกรมทด่ี นิ
จึงเรียนมาเพอื่ โปรดทราบ และสั่งใหเจา หนา ท่ถี ือเปนทางปฏิบัติตอไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่ือ) อนุวัฒน เมธวี ิบูลวฒุ ิ
(นายอนุวัฒน เมธวี บิ ลู วุฒ)ิ
อธิบดกี รมทีด่ นิ
สํานกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๖๙๔
โทรสาร. ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๖๓
๓๖๓
(สําเนา)
ระเบยี บกรมทด่ี นิ
วาดวยการพมิ พ การควบคมุ รกั ษาและการเบกิ จา ย
แบบพมิ พโ ฉนดท่ีดิน หนงั สือรับรองการทาํ ประโยชน และหนังสอื กรรมสิทธิ์หองชดุ
____พ_.ศ__. _๒_๕_๓_๑____
โดยทเ่ี หน็ เปน การสมควรปรบั ปรงุ หลกั เกณฑ และวธิ กี ารเกย่ี วกบั การพมิ พ การควบคมุ
รกั ษาและการเบกิ จา ย แบบพมิ พโ ฉนดที่ดิน หนงั สือรับรองการทาํ ประโยชน และหนังสือกรรมสิทธิ์
หองชุด เสยี ใหมใ หเหมาะสมยิ่งขึน้ กรมท่ดี ินจงึ วางระเบียบไว ดังตอ ไปน้ี
ขอ ๑ ระเบยี บนี้เรยี กวา “ระเบยี บกรมท่ดี ิน วา ดว ยการพิมพ การควบคุมรักษาและ
การเบิกจา ย แบบพมิ พโ ฉนดทดี่ ิน หนังสือรับรองการทาํ ประโยชน และหนงั สือกรรมสิทธ์ิหองชดุ
พ.ศ. ๒๕๓๑”
ขอ ๒ ระเบียบนใี้ หใ ชบ ังคับตั้งแตว นั ที่ ๑๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ เปนตนไป
ขอ ๓ ใหย กเลกิ ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการควบคุมรกั ษาแบบพมิ พโฉนดท่ดี ิน
และหนังสอื รบั รองการทําประโยชน พ.ศ. ๒๕๒๒
บรรดาระเบยี บ ขอบงั คับ และคําส่ังอ่นื ใดในสว นท่กี าํ หนดไวแลว ในระเบียบน้ี หรอื
ซง่ึ ขัดหรือแยงกับระเบียบนใ้ี หใชระเบียบนีแ้ ทน
ขอ ๔ ในระเบียบน้ี
“แบบพมิ พ” หมายความถงึ แบบพมิ พโฉนดที่ดนิ หนงั สือรับรองการทาํ
ประโยชน หนังสือกรรมสิทธหิ์ องชุด รวมทง้ั แบบพิมพใ บแทนหนงั สือดังกลา วดว ย
“อําเภอ” ใหหมายความรวมถงึ กิง่ อาํ เภอดวย
ขอ ๕ ใหผ ูอํานวยการกองพสั ดุ และผอู ํานวยการกองการพิมพและพัสดุชางรักษา
การตามระเบยี บน้ี
หมวด ๑
การพิมพและการตรวจรบั
ขอ ๖ การส่งั พิมพ ใหกองพัสดุแจง กองการพมิ พแ ละพสั ดุชา งดําเนินการจดั พิมพ
โดยแจงจาํ นวนและหมายเลขประจาํ แบบพิมพแ ตล ะประเภทวา จะสง่ั พิมพต ้งั แตห มายเลขใด
ถงึ หมายเลขใด
๓๖๔
ขอ ๗ เม่ือกองการพิมพแ ละพสั ดุชางไดรับแจง จากกองพัสดตุ ามขอ ๖ แลวใหออก
ใบส่ังงานใหฝายแมพ ิมพแ ละฝา ยการพมิ พดาํ เนินการ พรอ มทั้งตั้งคณะกรรมการอยางนอย ๓ คน
ควบคุมการดาํ เนินการพิมพและการใหห มายเลขประจาํ แบบพิมพใหเปน ทเี่ รียบรอย
ขอ ๘ ในการพมิ พแ บบพมิ พ ใหคณะกรรมการตามขอ ๗ ควบคุมโดยใกลชิดหลงั
จากพิมพเ สร็จแลวใหตรวจสอบกระดาษทใี่ ชอกี ครั้งหน่งึ แบบพิมพท่ชี ํารดุ จากการพิมพใ หท าํ
บนั ทึกแจง ยอดจาํ นวนไวเ ปนหลกั ฐาน แลว จัดการทาํ ลายทนั ที สําหรบั แบบพมิ พท่ยี ังเหลอื อยู
ใหคณะกรรมการทําหลักฐานสงมอบผูอํานวยการกองการพิมพและพัสดุชางจัดการเก็บรักษาไว
และเม่อื ไดรับใบสั่งพิมพแบบพิมพค ร้งั ตอ ไป ใหมอบแบบพมิ พดังกลา วตอคณะกรรมการชดุ ใหม
รบั ไปดําเนินการ
ขอ ๙ ในการตรวจรับแบบพมิ พจากกองการพิมพและพสั ดชุ า ง ใหกรรมการท่ีกอง
พสั ดแุ ตง ตงั้ อยางนอ ย ๒ คน ทําการตรวจนบั บรรจุซองๆ ละ ๕๐ คูฉบับ หรอื ๑๐๐ ฉบบั แลว
แตก รณี ปดผนึกซอง ลงลายมือชื่อกาํ กับบนรอยทป่ี ดผนึกนน้ั แลว ใชแ ถบกาวชนิดใสปดทับบน
ลายมือช่ือ และรอยทป่ี ดผนกึ ซองทกุ แหง กรอกขอ ความตามแบบทา ยระเบียบนบี้ นหนาซองและ
ลงลายมือชือ่ ใหครบถว น เสรจ็ แลว ใหส ง มอบหวั หนาฝายพัสดุทั่วไป พรอมท้งั ทาํ บนั ทกึ รายงานใน
สมุดเบอร ๒ เสนอผูอํานวยการกองพสั ดุทราบ
ขอ ๑๐ เมอ่ื หวั หนา ฝา ยพสั ดทุ ว่ั ไป ไดร บั มอบแบบพมิ พจ ากคณะกรรมการตามขอ ๙
แลว ใหสง่ั เจา หนา ทผ่ี รู บั ผิดชอบลงบญั ชรี ับแบบพมิ พใ นบญั ชรี ับจายแบบพมิ พ (ค.ท.ด.๒๔)
หมวด ๒
การเบิกจา ย
ขอ ๑๑ การเบกิ แบบพมิ พ ใหเ จาพนกั งานทีด่ ินจงั หวัด เจา พนกั งานท่ีดินจงั หวดั
สาขา หรอื เจาหนา ทบ่ี รหิ ารงานทด่ี ินอาํ เภอ แลวแตก รณี มอบหมายใหขา ราชการในสงั กัดเปน
ผูเบิกแบบพิมพจ ากกรมทด่ี ิน หรือสาํ นักงานท่ีดนิ จังหวดั โดยใชใบเบิกตามแบบ ท.ด. ๗๕
ขอ ๑๒ การอนมุ ัตจิ ายแบบพิมพในสว นกลาง ใหผูอาํ นวยการกองพัสดเุ ปนผูอนุมตั ิ
ในสวนภมู ภิ าคใหเ จา พนกั งานทด่ี นิ จงั หวัดเปนผูอนุมัติ
ขอ ๑๓ เมือ่ ผูอํานวยการกองพสั ดุ อนมุ ัติใหจา ยแบบพมิ พแ ละไดจา ยตามใบเบิก
แลวใหผ มู ีหนา ทีใ่ นการจา ยลงบญั ชจี ายแบบพมิ พใ นบญั ชรี ับจา ยแบบพิมพ (ค.ท.ด.๒๔) ใหครบ
ถว นถกู ตอง แลวเสนอใหผ ูอาํ นวยการกองพัสดทุ ราบภายในวันน้นั หรือวนั รงุ ข้ึนเปน อยางชา
สําหรับกรณีเจาพนักงานที่ดินจังหวัดอนุมัติใหจายแบบพิมพหนังสือรับรองการทํา
ประโยชน หรอื ใบแทน ใหถ ือปฏบิ ตั ิตามความในวรรคหนึง่ โดยอนุโลม
๓๖๕
ขอ ๑๔ การรับจายแบบพิมพ ใหผูมีหนาที่ในการจายตรวจความเรียบรอยของ
แตล ะหอ พรอมท้งั ตรวจหมายเลขแบบพิมพตามจาํ นวนท่อี นญุ าตใหจา ย
ใหผูรับแบบพิมพตรวจสภาพหอแลวฉีกหอออกตรวจนับตอหนาผูมีหนาที่ในการ
จา ยแบบพมิ พ เมอ่ื ถกู ตองใหผรู ับลงลายมือชอ่ื รับไป
ใหผ ูม หี นาท่ใี นการจายแบบพมิ พทาํ บนั ทกึ ไวใ นสมดุ เบอร ๒ อีก ๑ เลม ใหท ราบ
จาํ นวนและหมายเลขของแบบพมิ พที่จา ยวา ไดจา ยใหจ ังหวัดใด ตามใบเบิกใด ใครเปน ผรู ับ
แบบพมิ พ แลวเสนอใหหัวหนาฝา ยพสั ดทุ ว่ั ไปทราบภายในวนั ท่จี า ยแบบพมิ พห รืออยางชาภายใน
วันรุงขึน้
ขอ ๑๕ ใหเจาพนักงานที่ดินจังหวัดหรือเจาพนักงานท่ีดินจังหวัดสาขาแตงตั้งผูมี
หนา ทใ่ี นการเบกิ จา ยแบบพมิ พ ตรวจนบั แบบพมิ พเ พอ่ื ใหท ราบจาํ นวนและหมายเลขของแบบพมิ พ
ท่รี บั มาแตล ะคร้งั วา ครบถวนถูกตอ งตามรายการท่ขี อเบกิ หรอื ไม แลว ลงบัญชีรับจา ยแบบพิมพ
โฉนดทีด่ ิน (บ.ด.ท.๖๙) สําหรบั โฉนดที่ดนิ หนงั สอื แสดงกรรมสิทธห์ิ องชุด หรอื ใบแทนและบัญชี
รับจายแบบพมิ พ (ค.ท.ด.๒๔) สาํ หรบั หนงั สอื รบั รองการทําประโยชนห รือใบแทนเสร็จแลวใหทํา
บันทกึ การรบั แตละครงั้ ไวในบญั ชีดังกลาว ลงลายมือช่อื พรอมทั้งวันเดอื นป เสนอใหเ จาพนกั งาน
ท่ดี ินจังหวัดหรอื เจาพนกั งานทีด่ ินจังหวดั สาขา แลว แตก รณที ราบภายในวันทรี่ ับแบบพิมพหรอื
อยางชา ภายในวันรงุ ข้นึ
ขอ ๑๖ ในกรณีที่อําเภอขอเบิกแบบพิมพหนังสือรับรองการทําประโยชนหรือใบแทน
จากจงั หวัด ใหผูมหี นา ทีใ่ นการรับลงบญั ชรี ับแบบพมิ พใ นบัญชีรบั จา ยแบบพิมพ (ค.ท.ด.๒๔)
และใหถอื ปฏบิ ตั ติ ามความในขอ ๑๔ และขอ ๑๕ โดยอนโุ ลม
ขอ ๑๗ การจายแบบพิมพเพ่ือใชในสํานักงานท่ีดินจังหวัดหรือสํานักงานที่ดิน
จงั หวัดสาขาใหผ ูมหี นา ท่ใี นการจา ยลงบญั ชจี ายแบบพมิ พ ในบัญชรี บั จา ยแบบพมิ พโฉนดทดี่ นิ
(บ.ท.ด. ๖๙) ตามขอ ๑๕ ในชองจา ยแบบพมิ พทกุ ครัง้ โดยกรอกขอความใหช ดั เจนวา แบบพมิ พ
หมายเลขใด จา ยใหเจา หนา ทผี่ ใู ด นาํ ไปดําเนนิ การรายใด ทด่ี ินตง้ั อยูท อ งท่ีตําบล อําเภอใด แลว
ใหเ จาหนาทผ่ี เู บกิ ลงลายมอื ชือ่ รบั แบบพิมพ พรอมทั้งวนั เดอื น ป กาํ กับไวเปน หลักฐาน
การจา ยแบบพมิ พเพือ่ ใชใ นสาํ นกั งานท่ดี นิ อาํ เภอ ใหผูมีหนา ที่ในการจา ยลงบญั ชี
จายแบบพมิ พ ในบญั ชรี บั จา ยแบบพมิ พ (ค.ท.ด. ๒๔) และใหปฏิบัติตามความในวรรคหน่งึ โดย
อนโุ ลม
หมวด ๓
การเกบ็ รักษา การตรวจสอบและการทาํ ลายแบบพิมพ
ขอ ๑๘ การเก็บรกั ษาแบบพมิ พ ใหเกบ็ รกั ษาไวในทปี่ ลอดภัย เชน ตเู หล็กท่มี ีกุญแจ
เปด - ปด เปน ตน และใหผ อู ํานายการกองพัสดุ เจา พนักงานท่ีดินจงั หวดั เจาพนักงานทด่ี ิน จังหวัด
๓๖๖
สาขา หรอื เจา หนาทีบ่ ริหารงานทดี่ ินอําเภอ แตงต้งั ขาราชการตง้ั แตร ะดับ ๒ ข้นึ ไปใหมหี นา ที่
รับผิดชอบในการเกบ็ รกั ษาโดยเฉพาะ
ขอ ๑๙ การตรวจสอบแบบพิมพท่ียังไมไดใช ใหผูแตงตั้งตามขอ ๑๘ แตงตั้ง
คณะกรรมการอยางนอย ๓ คน ทาํ การตรวจสอบเดือนละคร้งั วา ถกู ตอ งตรงกับบญั ชีรบั - จา ย
แตล ะประเภทหรือไม แลว รายงานใหผ แู ตง ต้งั ทราบภายในวันที่ ๑๐ ของเดอื นถดั ไป
ขอ ๒๐ หากปรากฏวา แบบพิมพในความรับผิดชอบสูญหายไปใหผูอํานวยการ
กองพสั ดุ ผอู าํ นวยการกองการพมิ พแ ละพัสดชุ าง เจา พนกั งานทด่ี ินจงั หวดั เจาพนกั งานทีด่ ิน
จงั หวดั สาขา หรือเจาหนา ที่บรหิ ารงานทดี่ ินอาํ เภอ แลวแตกรณี รบี ดาํ เนินการแจงความตอ
พนักงานสอบสวนเพอ่ื สบื สวนสอบสวนหาตัวผรู ับผิดชอบมาลงโทษตามกฎหมาย แลวสงสําเนา
หลกั ฐานการแจง ความใหก รมทด่ี ิน ทราบพรอ มท้งั สอบสวนหาตัวผูรบั ผิดชอบตอ ไป
ขอ ๒๑ แบบพิมพทช่ี าํ รดุ หรอื เขียนผดิ หรือยกเลิกเร่อื ง ซง่ึ ไมอ าจใชแบบพิมพนน้ั
ไดอีกตอ ไป ใหผูอาํ นวยการกองพัสดุ เจา พนกั งานท่ดี ินจังหวดั เจาพนกั งานทีด่ นิ จังหวัดสาขา
หรอื เจา หนา ทบี่ รหิ ารงานท่ีดนิ อําเภอ ตงั้ คณะกรรมการอยา งนอย ๓ คน ทําลายแบบพิมพตาม
ระเบียบงานสารบรรณภายในกาํ หนด ๓ วนั นับแตวนั ทีย่ กเลิกเร่ืองหรอื วันที่ทราบเหตุการทาํ ลาย
ใหก ระทาํ โดยวธิ เี ผาไฟ และใหต ัดหมายเลขแบบพมิ พท่ที ําลายเก็บไวเปนหลกั ฐานแลวหมายเหตุ
การทําลายแบบพิมพดงั กลาวไวใ นบญั ชรี บั จา ยแบบพิมพดวย เสร็จแลวรายงานตามลําดบั ให
กรมที่ดนิ ทราบ.
ประกาศ ณ วันท่ี ๑๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๓๑
(ลงชื่อ) ทวี ชูทรัพย
(นายทวี ชูทรพั ย)
อธบิ ดกี รมท่ีดิน
๓๖๗
แบบตรายางทายระเบยี บกรมทีด่ นิ วาดว ยการพิมพก ารควบคมุ รักษาและการเบกิ จา ยแบบพมิ พ
พ.ศ. ๒๕๓๑
แบบพมิ พ.............................................................หอ น้ีไดต รวจนับเปน การถูกตอ งครบถวนแลว
แตห มายเลข........................................................ถงึ หมายเลข................................................
จาํ นวน......................................คู/ฉบบั
ลงช่อื .......................................................................กรรมการ
ลงชอ่ื .......................................................................กรรมการ
ลงชอ่ื .......................................................................กรรมการ
....................../....................../......................
(เวยี นโดยหนังสอื กรมทีด่ ิน ท่ี มท ๐๗๒๑/ว ๒๖๑๖๔ ลว. ๑๒ ธ.ค. ๓๑)
๓๖๘
กองกลาง สาํ นักงานปลัดกระทรวงม_ห__า_ด_ไ_ท_ย___รบั__ว_นั _ท_ี่_๒__ธ_นั _ว_าคม ๒๕๐๓ เลขรับท่ี ๑ก๓ม๓. ๑๐๔๑,
ดวน
ท่ี น.ว.๑๕๕/๒๕๐๓ สาํ นกั เลขาธิการคณะรฐั มนตรี
๑ ธนั วาคม ๒๕๐๓
เรื่อง ความรับผดิ ชอบของขาราชการในทางแพง
เรียน รฐั มนตรวี าการกระทรวงมหาดไทย
ส่ิงที่สงมาดวย ระเบียบความรบั ผดิ ชอบของขาราชการในทางแพง
ดวยกระทรวงการคลังรายงานวา ตามระเบียบของกระทรวงการคลงั เดมิ ที่
กาํ หนดไวว า ในกรณที ี่เกดิ การทจุ รติ เสียหายแกท รัพยสินของรัฐบาล ใหก ระทรวงเจา สงั กัดหรอื
จงั หวัดแจงใหก ระทรวงการคลงั ทราบทนั ที พรอ มกบั ตง้ั กรรมการขึ้นรบี ดําเนนิ การสอบสวนหาตัว
ผูท่จี ะตองรว มรับผดิ ชอบในทางแพง แลว เรง เรียกเงินชดใชโดยดว นกอ นที่คดีจะขาดอายคุ วาม
โดยมิต้องรอคดีอาญาที่ฟ้องผู้กระทําผิดโดยตรง นั้น ปรากฏว่าในทางปฏิบัติส่วนมากเมื่อ
เจา กระทรวงดําเนินการสอบสวนเสร็จแลว มไิ ดดาํ เนนิ การไลเบีย้ เรียกเงินชดใชจ ากผรู ว มรับผดิ
ทันที แตกลับแจง ผลการสอบสวนไปใหกระทรวงการคลงั พจิ ารณาส่ังการอีกครง้ั หนึ่ง และหาก
จะตองดําเนินคดีกับผูตองรวมรับผิดในเมื่อผูรวมรับผิดไมยินยอมชดใชเงินก็ตองขอใหกระทรวง
การคลังพจิ ารณาส่ังการอีกดว ย ซึ่งเปน เหตใุ หเ กดิ ความลา ชา โดยไมจําเปน และบางกรณีเม่ือ
กระทรวงการคลังพิจารณาสัง่ การไปแลว กระทรวงเจา สงั กดั ก็มไิ ดเรงรีบดาํ เนนิ การจนเปนเหตใุ ห
คดีขาดอายุความหมดสทิ ธทิ จี่ ะเรียกรองเงินชดใชจ ากผูรว มรับผดิ ได ทาํ ใหเ กดิ ความเสยี หายแก
ทรพั ยสินของรฐั บาลอยูเนอื งๆ อนงึ่ ยงั มีกรณที ่ขี า ราชการยืมเงนิ ราชการไปใชจ า ยเกนิ สทิ ธิแลว
ไมสงเงินใชหรือไมส ง ใบสําคัญหรอื เงินเหลอื จายคนื ภายในกําหนดตามระเบยี บ แมจะไดมีการ
ทักทว งหรอื เรงรดั ทวงถามใหนําสง แลว กย็ ังบิดพริ้วไมยอมสง เงินหรือใบสาํ คญั เปนเหตหุ นึ่งที่
ทาํ ความเสยี หายใหแ กท างราชการ สมควรวางระเบียบใหม ีการพจิ ารณาทางวนิ ยั ไวด วย กระทรวง
การคลงั จงึ ขอเสนอระเบยี บปฏิบัตใิ นเร่ืองดังกลาวขา งตน มาเพ่ือคณะรัฐมนตรพี ิจารณา หากคณะ
รฐั มนตรีเหน็ ชอบดว ย กข็ อใหส ั่งการใหกระทรวงทบวงกรมตา งๆ และจังหวัดถอื เปนหลกั ปฏิบตั ิ
ตอไปดวย
คณะรัฐมนตรไี ดประชุมปรกึ ษาเม่ือวนั ที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๐๓ ลงมติเห็นชอบ
ดวยและใหใชระเบียบความรับผิดชอบของขาราชการในทางแพงแนบทายนี้เปนระเบียบปฏิบัติ
ตอ ไป
จึงขอยนื ยันมา.
ขอแสดงความนับถืออยางยงิ่
(ลงช่ือ) มนูญ บรสิ ทุ ธิ์
(นายมนญู บรสิ ทุ ธ์ิ)
เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี
ทราบ.
(ลงชอื่ ) ป. จารเุ สถยี ร
รฐั มนตรีวา การฯ
๑ ธ.ค. ๒๕๐๓ ๓๖๙ /ที่ ๒๑๘๕/๒๕๐๓
ที่ ๒๑๘๕/๒๕๐๓ ปฏบิ ัต.ิ
(ลงช่อื ) ศ. ไทยวฒั น
เสนอ กรมทด่ี ิน
๑๖ ธ.ค. ๒๕๐๓
(ลงช่อื ) นันท ศริ ิสัมพนั ธ
(นายนันท ศริ ิสัมพันธ)
หัวหนากองกลาง สาํ นกั งานปลดั กระทรวง
๗ ธ.ค. ๒๕๐๓
สาํ เนาอนั ถกู ตอ ง. ––––––––––––––––––
(ลงชือ่ )
ท่ี ๑๑๒๗๑ / ๒๕๐๓ ธนั วาคม ๒๕๐๓
เรยี น เจาพนักงานท่ีดนิ จังหวดั ทกุ จังหวัด
กรมที่ดนิ ขอสง สาํ เนาหนงั สือสาํ นกั เลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี ดว น ท่ี น.ว.๑๕๕/
๒๕๐๓ ลงวนั ที่ ๑ ธนั วาคม ๒๕๐๓ เรอ่ื ง ความรบั ผิดชอบของขา ราชการในทางแพง มาเพื่อถอื
เปน ระเบยี บปฏบิ ัติตอ ไป.
(ลงช่อื ) ศวง ยารสเอก
(นายศวง ยารสเอก)
เลขานุการกรม ลงช่อื แทน
อธิบดีกรมทด่ี ิน
๓๗๐
(สําเนา)
ท่ี มท ๐๒๑๑.๕/ว ๔๑๖๗ กระทรวงมหาดไทย
ถนนอัษฎางค กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐
๕ กนั ยายน ๒๕๕๕
เรอื่ ง บันทกึ ความตกลงวาดว ยความรว มมือในการปฏบิ ัติงานปอ งกันและปราบปรามการกระทาํ
ความผิดเกี่ยวกับทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอม
เรยี น ผูวาราชการทกุ จงั หวดั
สง่ิ ทสี่ งมาดว ย สาํ เนาบันทึกความตกลงฯ
ดวยกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ ม สํานกั งาน
ปฏริ ูปท่ดี ินเพ่อื เกษตรกรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสาํ นกั งานคณะกรรมการปอ งกันและ
ปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ไดรวมกันจัดทําบันทึกความตกลงวาดวยความรวมมือใน
การปฏิบัติงานปองกันและปราบปรามการกระทําความผิดเก่ียวกับทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอมข้นึ โดยมีวตั ถุประสงคเ พอ่ื ใหม ีการบังคับใชกฎหมายในการปองกันและปราบปราม
การกระทําความผิดเก่ียวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมอยางจริงจัง และไดกําหนด
เปาหมายใหม ีการเสริมสรา งความรว มมอื และการปฏบิ ัติงานอยางตอ เน่ือง รายละเอยี ดปรากฏ
ตามเอกสารท่สี งมาดวยพรอมน้ี
เพ่ือใหเปนไปตามวัตถุประสงคและเปาหมายในการจัดทําบันทึกความตกลงฯ
จงึ ขอใหจ ังหวดั แจงสวนราชการและหนวยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทยทราบ และ
แจง ใหน ายอาํ เภอทกุ อําเภอทราบเพือ่ แจงองคกรปกครองสว นทองถ่ินในพนื้ ท่ีไดทราบตอ ไปดว ย
จงึ เรยี นมาเพอื่ พจิ ารณาดําเนินการ
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชื่อ) พระนาย สุวรรณรฐั
(นายพระนาย สุวรรณรัฐ)
ปลัดกระทรวงมหาดไทย
สํานกั งานปลดั กระทรวง
สาํ นักนโยบายและแผน
โทร/โทรสาร ๐-๒๒๒๓-๕๒๔๒
๓๗๑
(สําเนา)
บนั ทึกความตกลง
วา ดวยความรว มมอื ในการปฏบิ ัติงานปองกนั และปราบปราม
การกระทําความผิดเกย่ี วกบั ทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอม
ระหวาง
กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอม กระทรวงมหาดไทย
สาํ นกั งานการปฏริ ปู ทีด่ ินเพ่อื เกษตรกรรม กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ และ
สาํ นักงานคณะกรรมการปอ งกนั และปราบปรามการทจุ รติ ในภาครฐั
__พ_ุท_ธ_ศ__ัก_ร_า_ช_๒__๕_๕_๕__
เพื่อใหการดําเนินการปองกันและปราบปรามการกระทําความผิดเก่ียวกับ
ทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ มเปนไปอยา งมีประสทิ ธิภาพและสมั ฤทธ์ผิ ล ตามนโยบาย
ของรัฐบาลทีไ่ ดก าํ หนดวาระแหงชาติประกาศยทุ ธศาสตรตอ ตานการทุจริตคอรร ปั ชนั กระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอม กระทรวงมหาดไทย สํานักงานการปฏิรูปท่ีดินเพ่ือ
เกษตรกรรม กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ และสํานักงานคณะกรรมการปอ งกันและปราบปรามการ
ทุจริตในภาครฐั จึงไดท าํ บนั ทึกความตกลงไวด ังตอ ไปนี้
๑. วตั ถปุ ระสงค
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ ม กระทรวงมหาดไทย สาํ นักงาน
การปฏิรูปทีด่ นิ เพอื่ เกษตรกรรม กรมสอบสวนคดีพเิ ศษ และสํานักงานคณะกรรมการปองกัน
และปราบปรามการทุจริตในภาครัฐไดตระหนักถึงความสําคัญของทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอม จงึ กาํ หนดวัตถุประสงคใ นการปฏบิ ตั ิงานปอ งกนั และปราบปรามการกระทาํ ความผดิ
เกยี่ วกับทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอมใหม กี ารบงั คับใชกฎหมายอยา งจรงิ จงั และกําหนด
เปาหมายใหมีการเสริมสรางความรวมมือและการปฏิบัติงานอยางตอเน่ืองโดยบูรณาการงาน
ทั้งหาหนวยงานใน ๓ ระดบั คือ ระดบั สว นกลาง ระดบั จงั หวดั /ภูมภิ าค และระดบั พื้นที่/ทอ งถน่ิ
เพอ่ื ใหก ารปอ งกนั และปราบปรามการกระทาํ ความผดิ เกย่ี วกบั ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม
เปน ไปอยางมปี ระสทิ ธิภาพ
๒. ความรวมมอื
ทั้งหา หนว ยงาน ไดต กลงกาํ หนดขอบเขตความรว มมอื รวม ๘ ดาน ดงั น้ี
๒.๑ การปอ งกันและปราบปรามการกระทําความผดิ
ทง้ั หา หนว ยงาน จะใหข า ราชการและเจา หนา ทใ่ี นสงั กดั ใหข อ มลู ทเ่ี ปน ประโยชน
ตอการบังคับใชกฎหมาย และจะเปนผูรองทุกขดําเนินคดีกับผูกระทําความผิดเกี่ยวกับ
ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอมในพ้ืนที่ทอ่ี ยูใ นความรับผดิ ชอบตามอํานาจหนา ที่
๓๗๒
๒.๒ การสนบั สนนุ ขอมลู
๒.๒.๑ กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม จะสนบั สนนุ ใหห นว ยงาน
ในสังกัดใหก ารสนับสนนุ ขอมูล ดงั ตอ ไปน้ี
๑) ขอมูลที่เกี่ยวของกับพื้นท่ีสงวนหวงหามท่ีอยูในความรับผิดชอบทุก
ประเภท
๒) สนับสนนุ การพสิ จู นส ทิ ธิตามกฎหมาย ระเบียบของทางราชการ
เพือ่ ใหเ กิดความเปน ธรรมแกป ระชาชน
๓) สนับสนนุ พยานเอกสาร พยานวตั ถุ และขอมูลท่เี กี่ยวขอ งแก
กรมสอบสวนคดีพิเศษและสํานักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
เพอื่ ประโยชนใ นการบงั คับใชกฎหมายของท้งั สองหนวยงาน
๔) ใหการสนับสนุนขอมูลและใหเบาะแสเกี่ยวกับการกระทําความผิด
ในพน้ื ทีท่ อ่ี ยูในความรับผดิ ชอบ
๒.๒.๒ กระทรวงมหาดไทย จะสนบั สนนุ ใหห นว ยงานในสงั กัดใหก ารสนบั สนนุ
ขอ มลู ดังตอไปน้ี
๑) ขอมูลท่ีเก่ียวของกับพื้นท่ีสงวนหวงหามที่อยูในความรับผิดชอบทุก
ประเภท
๒) ขอมูลการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ทับซอนเขตพ้ืนท่ีปาและพื้นที่
สงวนหวงหามของรัฐทุกประเภท ตามลาํ ดบั ความสําคญั เรง ดวนในการตรวจสอบ
๓) สนบั สนุนการพิสูจนส ิทธิตามกฎหมาย ระเบยี บของทางราชการ
เพือ่ ใหเ กิดความเปนธรรมแกประชาชน
๔) สนับสนุนพยานเอกสาร พยานวตั ถุ และขอมลู ที่เกย่ี วของแก
กรมสอบสวนคดีพิเศษและสํานักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
เพอื่ ประโยชนใ นการบังคบั ใชก ฎหมายของท้ังสองหนวยงาน
๕) ใหการสนับสนุนขอมูลและใหเบาะแสเก่ียวกับการกระทําความผิด
ในพ้ืนท่ที อ่ี ยูในความรับผิดชอบ
๒.๒.๓ สํานกั งานการปฏริ ูปที่ดินเพี่อเกษตรกรรม จะใหการสนับสนนุ ขอ มลู
ดังตอไปนี้
๑) ขอมลู ที่เกยี่ วขอ งกบั พนื้ ทปี่ ฏริ ูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม
๒) สนับสนนุ การพิสจู นสิทธิตามกฎหมาย ระเบยี บของทางราชการ
เพื่อใหเ กดิ ความเปนธรรมแกประชาชน
๓) สนบั สนุนพยานเอกสาร พยานวัตถุ และขอมลู ที่เก่ียวของแก
กรมสอบสวนคดีพิเศษและสํานักงานคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
เพื่อประโยชนใ นการบงั คับใชก ฎหมายของทง้ั สองหนวยงาน
๓๗๓
๔) ใหการสนับสนุนขอมูลและใหเบาะแสเก่ียวกับการกระทําความผิด
ในพ้นื ท่ีทีอ่ ยูในความรับผดิ ชอบ
๒.๓ การสนับสนนุ บคุ ลากร
กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอม กระทรวงมหาดไทย และ
สาํ นักงานการปฏิรปู ท่ดี นิ เพื่อเกษตรกรรม จะใหก ารสนับสนนุ บุคลากรทม่ี ีความรูค วามสามารถมา
รวมปฏิบัติงานดานการปองกันและปราบปรามการกระทําความผิดเก่ียวกับทรัพยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอ ม ตามทก่ี รมสอบสวนคดพี เิ ศษหรอื สาํ นกั งานคณะกรรมการปอ งกนั และปราบปราม
การทุจริตในภาครัฐรองขอ ตามท่ีหนว ยงานตน สงั กดั เห็นสมควรโดยเบกิ คา ใชจา ยจากหนวยงาน
ทีร่ องขอ
๒.๔ มาตรการสนบั สนนุ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ ม และกระทรวงมหาดไทย จะ
รว มมอื กันตรวจสอบเอกสารสิทธทิ ท่ี บั ซอ นในพ้ืนที่ปา พสิ จู นสิทธิของราษฎรทอี่ าศยั และทาํ กนิ
ในพนื้ ทป่ี า ไม และการเขมงวดกับการออกเลขทบ่ี า นในพืน้ ทป่ี า การเก็บภาษบี ํารุงทอ งที่และการ
ออกเอกสารสทิ ธิทีล่ อแหลมตอการบกุ รกุ พื้นทป่ี า โดยจะดําเนนิ การเรงรดั ประสาน กาํ กับดแู ล
และตรวจสอบติดตามการปฏบิ ตั ิงานของหนว ยงานเกยี่ วของอยางเครง ครดั
๒.๕ การแลกเปลี่ยนขอ มูลและการเกบ็ รกั ษา
๒.๕.๑ กรมสอบสวนคดีพิเศษและสํานักงานคณะกรรมการปองกันและ
ปราบปรามการทจุ รติ ในภาครฐั จะทาํ การแลกเปล่ยี นขอมลู หรอื พยานหลักฐานใดท่ีเปนประโยชน
ตอการสืบสวนสอบสวนหรือดําเนินการปองกันและปราบปรามการกระทําความผิดเก่ียวกับ
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ มซง่ึ กนั และกนั รวมทง้ั การแลกเปลย่ี นขอ มลู หรอื พยานหลกั ฐาน
ในสว นทส่ี ามารถใชป ระกอบการพจิ ารณาดาํ เนนิ การตามอาํ นาจหนา ทข่ี องหนว ยงานทร่ี ว มลงนาม
ในบันทึกความตกลงนี้ เพอื่ ใหก ารปฏบิ ตั ิงานภายใตภารกิจของแตล ะหนวยงานมีความครบถว น
สมบรู ณ สาํ หรบั การกาํ หนดหลกั เกณฑแ ละแนวทางปฏบิ ตั ใิ หห วั หนา หนว ยงานทง้ั หา ทร่ี ว มลงนาม
ในบันทึกความตกลงน้ี หรือผแู ทนท่ไี ดรับมอบหมาย พิจารณาความเหมาะสมและจาํ เปนรว มกนั
๒.๕.๒ การเก็บรักษาและการใชประโยชนขอมูลขาวสารที่ไดมาตามบันทึก
ความตกลงนีจ้ ะตองพึงกระทาํ ดว ยความระมดั ระวงั และใชเฉพาะในการสบื สวนสอบสวน หรอื
เปนหลักฐานในการดําเนินคดีหรือในสวนท่ีเก่ียวของกับการปฏิบัติงานตามอํานาจหนาที่ของ
หนวยงานทัง้ หาเทาน้ัน ท้ังน้ี โดยคาํ นงึ ถึงความจําเปนและเปนไปตามระเบยี บในการรกั ษาช้ัน
ความลับ
๒.๖ การอบรม
ท้ังหาหนวยงาน จะรวมกันจัดอบรมแลกเปล่ียนการเรียนรูใหการศึกษาแก
ขา ราชการและเจา หนาทีใ่ นสังกดั ตามควรแกก รณี เพ่อื พฒั นาขดี ความสามารถในการบังคบั ใช
๓๗๔
กฎหมายและพัฒนาความกา วหนาทางเทคโนโลยกี ารสบื สวนสอบสวน รวมถงึ สนับสนุนเครือ่ งมอื
เคร่ืองใชเ พ่ือใหการสบื สวนเปน ไปอยางมปี ระสทิ ธิภาพ
๒.๗ การมสี ว นรวม
ทงั้ หาหนว ยงาน จะรว มกนั จัดกจิ กรรมทีเ่ ปน การปอ งกนั และปราบปรามการ
ทําลายทรพั ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ ม และจดั กจิ กรรมสงเสริมการฟนฟทู รัพยากรธรรมชาติ
และส่ิงแวดลอ มการสรางการมีสวนรว มของประชาชนในพ้นื ที่ เพื่อทาํ หนาท่ีชวยเหลอื ขา ราชการ
หรือเจาหนา ทใ่ี นสังกดั ในการดูแลรักษาและบังคบั ใชกฎหมายตามควรแกก รณี
๒.๘ ความรวมมอื อ่ืน
การจดั กจิ กรรมหรือความรว มมือในลักษณะอนื่ ทัง้ หาหนว ยงาน จะประสาน
ความรว มมือตามทเี่ หน็ สมควร ในการอนุรกั ษทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ มดา นอื่น รวมทัง้
จะสนับสนนุ งบประมาณดาํ เนินการรว มกันตามความจําเปน และความเหมาะสม
๓. การบังคับใชบันทึกความตกลง
๓.๑ ความตกลงนถ้ี อื เปน ภารกจิ ที่หาหนวยงานตอ งปฏบิ ัติรว มกัน หากสถานการณ
และนโยบายมกี ารเปล่ยี นแปลง หรือกรณีท่ีมคี วามจําเปน ตองดาํ เนนิ การหรือปฏบิ ัติหนา ท่นี อก
เหนือจากท่ีกําหนดไวหรือหากเกิดปญหาหรือขอขัดของในการปฏิบัติตามบันทึกความตกลง
ฉบบั นี้ ทั้งหา หนวยงานจะรวมกนั พิจารณาปรับปรุง ทบทวน แกไ ข โดยความยนิ ยอมรวมกนั
๓.๒ บันทึกความตกลงฉบบั น้ีไมมผี ลกระทบตอ การทที่ ้งั หา หนว ยงาน ไดจ ดั ทาํ
บันทึกความตกลงในการปองกันและปราบปรามการกระทําผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและ
สิง่ แวดลอ มกับหนว ยงานอ่นื ไวก อ นการจัดทําบนั ทกึ ความตกลงฉบับน้ี และใหถ อื วาบนั ทึกความ
ตกลงฉบบั ดงั กลาวยงั คงมีผลใชบ งั คับอยูเชน เดิมทุกประการ
๓.๓ บันทึกความตกลงฉบับน้ีมีผลใชบังคับต้ังแตวันที่ผูมีอํานาจลงนามของท้ังหา
หนวยงานไดม กี ารลงนามในบนั ทกึ ความตกลงเปน ตนไป
บันทกึ ความตกลงฉบับน้ีลงนาม เม่อื วนั ที่ ๑๔ สิงหาคม พุทธศกั ราช ๒๕๕๕
ลงนาม โชติ ตราชู ลงนาม สรุ พล พงษท ัดศริ กิ ลุ
(นายโชติ ตราช)ู (นายสรุ พล พงษทดั ศริ กิ ลุ )
รองปลัดกระทรวงมหาดไทย
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ ม
ลงนาม วีระชยั นาควิบลู ยว งศ ลงนาม ธาริต เพ็งดิษฐ
(นายวรี ะชัย นาควบิ ูลยว งศ) (นายธารติ เพ็งดิษฐ)
เลขาธกิ ารสาํ นักงานการปฏริ ปู ทด่ี นิ เพอ่ื เกษตรกรรม อธบิ ดกี รมสอบสวนคดพี ิเศษ
ลงนาม พนั ตํารวจเอก ดุษฎี อารยวุฒิ
(ดุษฎี อารยวุฒิ)
เลขาธิการคณะกรรมการปอ งกนั และปราบปรามการทุจรติ ในภาครฐั
๓๗๕
ดวนมาก (สําเนา)
ท่ี มท ๐๕๐๕.๔ / ว ๒๗๖๒๖
กรมทด่ี นิ
ศูนยร าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจงวัฒนะ
แขวงทุง สองหอง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๘ กันยายน ๒๕๕๕
เรื่อง กฎกระทรวงกําหนดหลกั เกณฑ วธิ ีการ และแบบการเก็บสถิติและขอมูลการจดั ทําบนั ทึก
รายละเอียดและรายงานสรปุ ผลการทาํ งานของระบบบาํ บัดนํ้าเสยี พ.ศ. ๒๕๕๕
เรียน ผวู า ราชการจงั หวดั ทุกจงั หวัด
ส่ิงทีส่ งมาดว ย กฎกระทรวงกําหนดหลกั เกณฑ วิธีการ และแบบการเก็บสถติ แิ ละขอ มลู การจัดทํา
บนั ทึกรายละเอยี ด และรายงานสรุปผลการทาํ งานของระบบบาํ บัดนา้ํ เสยี
พ.ศ. ๒๕๕๕
ดวยกรมควบคุมมลพิษไดออกกฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ วิธีการ และ
แบบการเก็บสถิติและขอมูลการจัดทําบันทึกรายละเอียด และรายงานสรุปผลการทํางานของ
ระบบบําบัดน้ําเสีย พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยกาํ หนดใหเ จาของหรอื ผูครอบครองแหลง กําเนิดมลพิษ
หรอื ผูค วบคมุ ระบบบําบดั นํา้ เสยี ตามมาตรา ๘๐ แหง พระราชบัญญตั ิสงเสริมและรกั ษาคุณภาพ
ส่ิงแวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ตองเก็บสถิตแิ ละขอ มูลซึ่งแสดงผลการทํางานของระบบ
บําบัดนํ้าเสียในแตล ะวัน และจดทําบนั ทึกรายละเอยี ดตามแบบ ทส. ๑ เกบ็ ไว ณ สถานทต่ี ั้ง
แหลงกําเนดิ มลพษิ เปนระยะเวลา ๒ ป นบั แตวันที่มีการจดั เกบ็ สถติ แิ ละขอมลู นั้น อีกทัง้ จะตอง
จัดทํารายงานสรุปผลการทํางานของระบบบําบัดนํ้าเสียในแตละเดือนตามแบบ ทส. ๒ และ
เสนอรายงานดังกลาวตอเจาพนกั งานทองถน่ิ ภายในวนั ท่ี ๑๕ ของเดอื นถัดไป โดยใหย่นื ตอ
เจาพนักงานทองถิ่นแหงทองท่ีท่ีแหลงมลพิษนั้นต้ังอยูหรือสงทางไปรษณียตอบรับหรือรายงาน
ดว ยวธิ ีการทางอิเล็กทรอนิกสตามที่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษประกาศกําหนด
กรมทด่ี นิ พจิ ารณาแลว เหน็ วา การบงั คบั ใชก ฎกระทรวงกาํ หนดหลกั เกณฑ วธิ กี าร
และแบบการเกบ็ สถิตแิ ละขอ มลู การจดั ทาํ บนั ทกึ รายละเอียด และรายงานสรปุ ผลการทํางานของ
ระบบบาํ บัดนํา้ เสยี พ.ศ. ๒๕๕๕ ดงั กลา ว ประกอบประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอ ม เรือ่ ง กําหนดประเภทของอาคารเปนแหลง กําเนิดมลพิษทจี่ ะตองถกู ควบคมุ การ
ปลอยนาํ้ เสียลงสแู หลงน้ําสาธารณะหรอื ออกสูส่งิ แวดลอ ม ลงวนั ท่ี ๗ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๔๘
และประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม เรอ่ื ง กาํ หนดประเภทของอาคารเปน
๓๗๖
แหลงกําเนิดมลพิษที่จะตองถูกควบคุมการปลอยนํ้าเสียลงสูแหลงนํ้าสาธารณะหรือออกสู
สิ่งแวดลอม (ฉบับท่ี ๒) ลงวนั ที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔ มีผลกระทบตอ เจา ของหรือ
ผูครอบครองแหลง กาํ เนดิ มลพษิ หรือผูควบคมุ ระบบบําบัดน้ําเสีย ประเภทอาคารทีเ่ ปนแหลง
มลพษิ โดยเฉพาะอาคารท่ที าํ การของทางราชการ ท่ีมีพน้ื ท่ใี ชสอยรวมกันทกุ ชั้นของอาคารตง้ั แต
๕๕,๐๐๐ ตารางเมตรขึ้นไปและอาคารทท่ี ําการของทางราชการ ทม่ี พี น้ื ท่ีใชสอยรวมกันทุกชน้ั
ของอาคารตัง้ แต ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร แตไ มถ ึง ๕๕,๐๐๐ ตารางเมตร ไดถูกกาํ หนดใหเ ปน
แหลงกําเนิดมลพษิ ทจี่ ะตองดําเนนิ การตามกฎกระทรวงกําหนดหลักเกณฑ วธิ ีการ และแบบการ
เก็บสถิตแิ ละขอ มูลการจัดทาํ บันทึกรายละเอียด และรายงานสรปุ ผลการทํางานของระบบบาํ บัด
นํ้าเสยี พ.ศ. ๒๕๕๕
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจงใหเจาพนักงานที่ดินตรวจสอบวามีอาคารใด
บางหรือไม ท่ีตองดําเนินการตามกฎกระทรวงฯ หากมีก็ใหดําเนินการตามนัยกฎกระทรวง
ดงั กลา วตอ ไป
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชือ่ ) บญุ เชดิ คดิ เห็น
(นายบุญเชดิ คดิ เห็น)
อธบิ ดกี รมท่ีดนิ
สํานกั กฎหมาย
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๖๘๗
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๖๐
๓๗๗
(สําเนา)
กฎกระทรวง
กาํ หนดหลกั เกณฑ วธิ ีการ และแบบการเก็บสถิติและขอ มลู
การจัดทําบันทกึ รายละเอยี ด และรายงานสรุปผลการทาํ งานของระบบบําบดั น้ําเสยี
___พ__.ศ__. ๒__๕_๕_๕____
อาศัยอาํ นาจตามความในมาตรา ๑๑ และมาตรา ๘๐ วรรคสอง แหง พระราชบญั ญัติ
สงเสริมและรักษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ อนั เปนกฎหมายท่มี บี ทบญั ญัตบิ าง
ประการเก่ียวกบั การจํากดั สทิ ธแิ ละเสรภี าพของบคุ คล ซง่ึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๓
มาตรา ๓๘ มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๓ ของรัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจักรไทย บัญญัตใิ หกระทํา
ไดโ ดยอาศยั อํานาจตามบทบัญญัตแิ หงกฎหมาย รฐั มนตรีวาการกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ
และสิง่ แวดลอมออกกฎกระทรวงไวด งั ตอไปนี้
ขอ ๑ กฎกระทรวงน้ีใหใชบังคับเม่ือพนกําหนดเกาสิบวันนับแตวันประกาศใน
ราชกิจจานุเบกษา เปนตนไป
ขอ ๒ ในกฎกระทรวงน้ี
“ระบบบําบดั น้าํ เสยี ” หมายความวา กระบวนการบาํ บัดนา้ํ เสยี และใหห มายความ
รวมถงึ ทอ ส่ิงปลูกสรา ง เคร่อื งมือ เครือ่ งใช อปุ กรณ และวสั ดทุ ่ีจาํ เปน ตองใชในการบําบดั นํ้าเสยี
ของระบบบาํ บดั น้าํ เสียดวย
“น้ําทงิ้ ” หมายความวา น้าํ เสียที่ผานการบําบดั จากระบบบําบดั น้าํ เสยี เพอ่ื ปลอย
ออกสูสง่ิ แวดลอ ม
ขอ ๓ เจาของหรือผคู รอบครองแหลง กาํ เนดิ มลพิษหรือผคู วบคุมระบบบาํ บดั นา้ํ เสยี
ตามมาตรา ๘๐ ตอ งเกบ็ สถติ ิและขอมลู ซึง่ แสดงผลการทาํ งานของระบบบาํ บัดนํา้ เสยี ในแตล ะวัน
และจดั ทาํ บนั ทกึ รายละเอยี ดดังกลาวตามแบบ ทส. ๑ เก็บไว ณ สถานที่ตง้ั แหลงกาํ เนิดมลพิษนัน้
เปน ระยะเวลาสองปน ับแตวนั ท่มี ีการเก็บสถิติและขอมลู น้ัน
ใหบุคคลตามวรรคหน่ึงจัดทํารายงานสรุปผลการทํางานของระบบบําบัดนํ้าเสียใน
แตล ะเดือนตามแบบ ทส. ๒ และเสนอรายงานดังกลา วตอเจา พนักงานทอ งถนิ่ ภายในวนั ทส่ี ิบหา
ของเดอื นถดั ไป โดยยน่ื ตอ เจา พนักงานทองถ่ินแหงทองทที่ ี่แหลงกาํ เนดิ มลพษิ น้นั ตง้ั อยู หรอื สง
ทางไปรษณียตอบรับหรือรายงานดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกสตามที่อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
ประกาศกําหนด ท้ังนี้ การสงรายงานทางไปรษณียตอบรบั ใหถ อื วันที่ลงทะเบียนเปน วนั ท่ีสง
รายงาน และการสงรายงานดว ยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส ใหถ ือวันที่ขอมลู อเิ ล็กทรอนิกสน ั้นถกู
สง ออกจากระบบขอมูลของผสู ง ขอมลู เปน วันทส่ี งรายงาน
การรายงานตอเจา พนกั งานทองถ่นิ ตามวรรคสอง ใหเ จา พนกั งานทอ งถนิ่ ออกใบรับ
เพอื่ เปน หลักฐานใหแ กผเู สนอรายงานภายในเจด็ วันนบั แตว นั ท่ไี ดรับรายงาน
๓๗๘
ขอ ๔ ในกรณีที่เจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนิดมลพิษหรือผูควบคุมระบบ
บาํ บดั นา้ํ เสยี ตามขอ ๓ มหี นาที่ตอ งเกบ็ สถติ ิและขอมูล จัดทําบนั ทึกรายละเอยี ด หรือจดั ทาํ
รายงานสรุปผลการทาํ งานของระบบบําบัดนาํ้ เสยี อยแู ลวตามกฎหมายอ่ืน และการเก็บสถติ แิ ละ
ขอมูล การจดั ทําบนั ทกึ รายละเอยี ดหรือการจัดทาํ รายงานดังกลาวมขี อ มลู ไมนอ ยกวา การเก็บ
สถติ ิและขอ มลู การจัดทําบนั ทึกรายละเอียดหรอื การจัดทาํ รายงานตามกฎกระทรวงนี้ ใหถ อื วา
การเกบ็ สถติ ิและขอมลู การจดั ทาํ บันทกึ รายละเอียดหรอื การจัดทาํ รายงานตามกฎหมายดังกลา ว
เปนการเกบ็ สถิตแิ ละขอมูล การจดั ทาํ บันทึกรายละเอียดหรือการจดั ทาํ รายงานตามกฎกระทรวง
ฉบบั นีโ้ ดยอนุโลม และใหเจาของหรือผคู รอบครองแหลงกาํ เนิดมลพิษหรอื ผคู วบคุมระบบบําบดั
น้ําเสียเสนอรายงานดงั กลา วตอเจา พนักงานทอ งถ่นิ ตามวธิ ีการทกี่ าํ หนดไวใ นขอ ๓ วรรคสอง
ขอ ๕ ใหนําหลักเกณฑท่กี ําหนดไวใ นขอ ๓ และขอ ๔ มาใชบ ังคับแกผ รู ับจา ง
ใหบรกิ ารบาํ บัดน้ําเสียดว ยโดยอนโุ ลม
ใหไว ณ วนั ท่ี ๓ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕
ปรีชา เรงสมบรู ณส ขุ
รฐั มนตรวี าการกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอม
๓๗๙
แบบ ทส.๑
แบบบนั ทกึ รายละเอียดของสถิตแิ ละขอมูลซง่ึ แสดงผลการทาํ งานของระบบบาํ บดั นํา้ เสยี
ของ_แ_ห__ล_ง_ก_าํ _เน__ิด_ม_ล_พิษ
แหลง กาํ เนดิ มลพิษ ตัง้ อยเู ลขท.่ี ...............หมทู .ี่ ............ซอย.................................
ถนน.................................แขวง/ตาํ บล..................................เขต/อําเภอ.................................
จังหวัด..............................โทรศัพท. ......................................โทรสาร......................................
ม.ี ...................................................................เปนเจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนดิ มลพิษ
ประกอบกิจการประเภท..........................................................................................................
ใบอนญุ าตเลขที่ (ถาม)ี ...........................ออกใหโ ดย............................หมดอายุ.......................
ซ่ึงมแี ผนผังแสดงการทาํ งานของระบบบาํ บดั นํ้าเสยี ดงั น้ี
ไดเ กบ็ สถิติและขอมลู ซ่ึงแสดงผลการทาํ งานของระบบบําบดั นาํ้ เสียปรากฏตามตาราง ดังนี้
๓๘๐
๓๘๑
๓๘๒ หมายเหตุ ๑. ใหกรอกสถติ แิ ละขอมลู เฉพาะในกรณีทม่ี สี ถิติและขอ มูลนัน้ ๆ ในแตละวัน
๒. ในกรณรี ะบบบาํ บดั นา้ํ เสยี ทม่ี ีการตดิ ต้ังเครอ่ื งตรวจวดั คุณภาพนาํ้ ทง้ิ แบบอตั โนมัติ ใหแ นบผลการตรวจวดั คุณภาพนา้ํ ทง้ิ ทุกวันแยกตาม
พารามิเตอรท ่ีตรวจวดั และทาํ การสรุปผลเปนสถิตแิ ละขอมูลรายเดือน
ขอรับรองวาการบันทึกสถติ ิและขอ มลู ตามตารางขา งตน ถูกตอ งทกุ ประการ
..................................................................เจาของหรอื ผูครอบครองแหลงกาํ เนดิ มลพิษ
(.................................................................)
..................................................................ผคู วบคมุ ระบบบาํ บัดนา้ํ เสยี
(.................................................................)
ใบอนญุ าตเลขท.ี่ .........................................หมดอายุ...................................................
ออกใหโดย..................................................................................................................
..................................................................ผรู บั จา งใหบริการบาํ บัดนํา้ เสยี
(.................................................................)
ใบอนญุ าตเลขท.่ี .........................................หมดอายุ...................................................
ออกใหโ ดย..................................................................................................................
แบบ ทส. ๒
รายงานสรปุ ผล_ก_า_ร_ท_ํา_ง_า_น_ข_อ__ง_ร_ะ_บบบาํ บดั นํ้าเสีย
๑. ขอ มูลทัว่ ไป
แหลง กําเนิดมลพิษ ต้งั อยูเลขท.่ี .....................หมูท .่ี ...............ซอย.....................................
ถนน.........................................แขวง/ตาํ บล.................................เขต/อาํ เภอ...................................
จงั หวดั .....................................โทรศพั ท. ......................................โทรสาร........................................
มี..............................................................................เปน เจา ของหรือผคู รอบครองแหลง กําเนิดมลพิษ
ประกอบกจิ การประเภท....................................................................................................................
ใบอนุญาตเลขท่ี (ถา ม)ี ............................ออกใหโดย.............................หมดอายุ..............................
ในการน้ี ขอรายงานสรปุ ผลการทํางานของระบบบาํ บัดน้ําเสยี ของแหลงกําเนิดมลพิษสาํ หรบั
เดือน................................พ.ศ. ................ตามที่ไดกําหนดในมาตรา ๘๐ แหง พระราชบัญญัตสิ งเสรมิ
และรักษาคณุ ภาพส่ิงแวดลอ มแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ในฐานะ
......................................................................เจาของหรือผูครอบครองแหลงกาํ เนดิ มลพษิ
(....................................................................)
......................................................................ผคู วบคุมระบบบาํ บัดนํ้าเสีย
(....................................................................)
ใบอนญุ าตเลขท่ี..............................................หมดอายุ...................................................
ออกใหโดย......................................................................................................................
......................................................................ผูร บั จางใหบริการบําบดั น้ําเสยี
(.....................................................................)
ใบอนุญาตเลขท.ี่ .............................................หมดอาย.ุ ..................................................
ออกใหโ ดย......................................................................................................................
๒. ขอ มูลเกย่ี วกับระบบบาํ บัดน้าํ เสยี และแหลงรองรบั นาํ้ ท้งิ
(๑) ประเภท/ชนิดของระบบบําบดั นํา้ เสีย...........................................................................
ความสามารถในการรองรับนา้ํ เสียของระบบบําบัดนา้ํ เสยี .................................ลบ.ม/วัน
(๒) การทาํ งานของระบบบาํ บัดนา้ํ เสีย ■ แบบตอ เน่อื ง............................ชั่วโมง/วนั
■ แบบไมตอ เน่อื ง (ระบ)ุ .............................
(๓) อปุ กรณและเครอ่ื งมือท่ีใชในระบบบาํ บดั น้าํ เสีย ■ เครื่องสบู นา้ํ ■ เครอ่ื งเติมอากาศ
■ เคร่อื งกวน/ผสมนา้ํ เสีย ■ เครอ่ื งกวน/ผสมสารเคมี
■ เคร่อื งสบู ตะกอน ■ อื่นๆ (ระบ)ุ ..............................................................
(๔) แหลง รองรับนา้ํ ทง้ิ (ระบ)ุ ...........................................................................................
(๕) วิธจี ัดการตะกอนท่เี กิดขน้ึ จากระบบบําบัดนํ้าเสียและวธิ ีการกาํ จดั ................................
๓๘๓
๓. สรุปผลการทํางานของระบบบําบัดนํา้ เสยี เปนรายเดอื น
(๑) ปรมิ าณการใชไฟฟา ของระบบบําบัดนํา้ เสีย (หนวย).....................................................
(๒) ปริมาณนํ้าใชใ นทุกกิจกรรมของแหลงกาํ เนิดมลพิษ (ลบ.ม.).........................................
(๓) ปริมาณนํ้าเสียท่เี ขา ระบบบาํ บัดนํา้ เสยี (ลบ.ม.)...........................................................
(๔) การระบายนา้ํ ทง้ิ จากระบบบาํ บดั นา้ํ เสยี ......................................................................
(๕) ปรมิ าณสารเคมหี รือสารสกดั ชีวภาพที่ใช (ลิตรหรอื กิโลกรัม).........................................
(๖) การทาํ งานของระบบบําบดั น้ําเสยี
– ระบบบาํ บัดนํ้าเสยี ■ ปกติ ■ ผดิ ปกติ (ระบ)ุ .......................................
– เครื่องสบู นา้ํ ■ ปกติ ■ ผิดปกติ (ระบ)ุ .......................................
– เครือ่ งเติมอากาศ ■ ปกติ ■ ผดิ ปกติ (ระบ)ุ .......................................
– เคร่ืองกวน/ผสมนํา้ เสีย ■ ปกติ ■ ผดิ ปกติ (ระบ)ุ .......................................
– เคร่อื งกวน/ผสมสารเคมี ■ ปกติ ■ ผดิ ปกติ (ระบ)ุ .......................................
– เครอ่ื งสบู ตะกอน ■ ปกติ ■ ผิดปกติ (ระบุ).......................................
– อน่ื ๆ........................... ■ ปกติ ■ ผิดปกติ (ระบ)ุ .......................................
(๗) ปรมิ าณตะกอนสว นเกนิ ท่เี กดิ ขึ้นจากระบบบําบดั นํ้าเสียท่นี ําไปกาํ จัด (ลบ.ม.)................
(๘) ปญหา อปุ สรรค และแนวทางแกไ ข.............................................................................
....................................................................................................................................................
คําเตือน ๑. เจาของหรือผูครอบครองแหลง กําเนดิ มลพษิ ผคู วบคมุ ระบบบาํ บัดนํา้ เสยี หรือ
ผูรับจา งใหบรกิ ารบาํ บดั นา้ํ เสยี ผูใดไมจ ัดเกบ็ สถติ ิ ขอ มลู หรอื ไมท ําบันทึกหรอื
รายงานตามมาตรา ๘๐ ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กินหนึ่งเดือน หรือปรับไมเกิน
หน่ึงหมน่ื บาทหรอื ท้งั จําทง้ั ปรบั ตามมาตรา ๑๐๖
๒.ผคู วบคุมระบบบําบัดนา้ํ เสยี หรอื ผรู ับจา งใหบ ริการบําบัดนา้ํ เสยี ผูใดทาํ บันทึกหรือ
รายงานโดยแสดงขอ ความอันเปน เทจ็ ตอ งระวางโทษจําคกุ ไมเ กนิ หนึง่ ป หรอื ปรบั
ไมเกนิ หน่ึงแสนบาท หรอื ท้งั จําทงั้ ปรับตามมาตรา ๑๐๗
๓๘๔
หมายเหตุ :- เหตผุ ลในการประกาศใชกฎกระทรวงฉบับน้ี คอื โดยทีม่ าตรา ๘๐ วรรคสอง
แหงพระราชบัญญตั ิสง เสริมและรักษาคณุ ภาพสงิ่ แวดลอมแหง ขาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ บญั ญตั ใิ หการ
เกบ็ สถติ แิ ละขอ มูล การจดั ทาํ บันทกึ รายละเอยี ดและรายงานสรุปผลการทาํ งานของระบบบําบดั
นาํ้ เสยี เปน ไปตามหลักเกณฑ วธิ ีการ และแบบทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง จงึ จําเปน ตอ งออก
กฎกระทรวงนี้
๓๘๕
(สําเนา)
ประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอ ม
เรื่อง กําหนดประเภทของอาคารเปน แหลงกําเนิดมลพิษที่จะตองถูกควบคุม
การปลอยนา้ํ เสียลงสแู _ห__ล_ง_น_้าํ _ส_า_ธ_า_ร_ณ__ะ_หรือออกสสู ิ่งแวดลอม
โดยที่ไดมีการปฏิรูประบบราชการโดยใหมีการจัดต้ังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอมข้ึนมา และใหโอนภารกิจของกระทรวงวิทยาศาสตร เทคโนโลยแี ละส่งิ แวดลอ ม
ในสว นทเ่ี กย่ี วขอ งกบั พระราชบญั ญตั สิ ง เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพสง่ิ แวดลอ มแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
ไปเปนของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม ประกอบกับไดมีการแกไขปรับปรุง
ประกาศกระทรวงวทิ ยาศาสตรเ ทคโนโลยีและสง่ิ แวดลอ ม เรอ่ื ง กาํ หนดมาตรฐานควบคุมการ
ระบายนํ้าทิ้งจากอาคารบางประเภทและบางขนาด โดยใหคณะกรรมการควบคมุ มลพษิ เปน ผใู ห
ความเหน็ ชอบกับวธิ กี ารตรวจหาคา มาตรฐานการระบายน้าํ ทิง้ นอกเหนอื จากวธิ กี ารทีก่ าํ หนดไว
แทนกรมควบคมุ มลพิษ จึงเห็นสมควรแกไ ขปรับปรุงประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร เทคโนโลยี
และสิง่ แวดลอ ม เรือ่ ง กาํ หนดประเภทของอาคารเปน แหลงกําเนิดมลพิษที่จะตองถกู ควบคุม
การปลอ ยน้ําเสียลงสแู หลงน้ําสาธารณะหรอื ออกสูสิ่งแวดลอม
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๖๙ แหงพระราชบัญญัติสงเสริมและรักษา
คุณภาพสิ่งแวดลอ มแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ แกไขโดยมาตรา ๑๑๔ แหงพระราชกฤษฎกี าแกไ ข
บทบัญญตั ใิ หสอดคลองกบั การโอนอาํ นาจหนา ท่ีของสว นราชการ ใหเปน ไปตามพระราชบัญญตั ิ
ปรบั ปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. ๒๕๔๕ อันเปน พระราชบญั ญตั ิทีม่ บี ทบัญญัติบางประการ
เกี่ยวกับการจาํ กดั สิทธิและเสรีภาพของบคุ คล ซ่งึ มาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๕ มาตรา ๔๘
มาตรา ๕๐ และมาตรา ๕๑ ของรัฐธรรมนญู แหงราชอาณาจกั รไทยบญั ญตั ใิ หกระทาํ ไดโดย
อาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแหงกฎหมาย รัฐมนตรีวาการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
ส่ิงแวดลอม โดยคาํ แนะนาํ ของคณะกรรมการควบคมุ มลพษิ จึงออกประกาศไว ดงั ตอ ไปนี้
ขอ ๑ ใหยกเลกิ
(๑) ประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร เทคโนโลยแี ละส่งิ แวดลอม เรอื่ ง กําหนด
ประเภทของอาคารเปนแหลงกําเนิดมลพิษที่จะตองถูกควบคุมการปลอยน้ําเสียลงสูแหลงน้ํา
สาธารณะหรือออกสูส ิ่งแวดลอม ลงวันท่ี ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๓๗
(๒) ประกาศกระทรวงวิทยาศาสตร เทคโนโลยีและสิ่งแวดลอม ฉบับที่ ๒
(พ.ศ. ๒๕๓๘) เร่ือง กําหนดประเภทของอาคารเปนแหลงกําเนิดมลพิษที่จะตองถูกควบคุม
การปลอยน้าํ เสยี ลงสูแ หลงนํา้ สาธารณะหรอื ออกสสู ิ่งแวดลอ ม ลงวนั ที่ ๗ มิถนุ ายน ๒๕๓๘
ขอ ๒ ในประกาศนี้
๓๘๖
“อาคาร” หมายความวา
(๑) อาคารชดุ ท่มี ีจํานวนหอ งสาํ หรับใชเ ปนท่อี ยอู าศัยรวมกันทุกช้ันของอาคาร หรือ
กลุมของอาคารตัง้ แต ๕๐๐ หอ งนอนขน้ึ ไป
(๒) โรงแรมทม่ี จี ํานวนหอ งสาํ หรบั ใชเ ปน หองพักรวมกันทกุ ชน้ั ของอาคาร หรือกลมุ
ของอาคารตง้ั แต ๒๐๐ หองนอนขน้ึ ไป
(๓) โรงพยาบาลของทางราชการ รฐั วิสาหกิจ หรือสถานพยาบาล ตามกฎหมาย
วาดวยสถานพยาบาลท่มี ีเตยี งสําหรับรบั ผปู ว ยไวคา งคนื รวมกันทกุ ช้ันของอาคาร หรอื กลุมของ
อาคารตัง้ แต ๓๐ เตยี งขึ้นไป
(๔) อาคารโรงเรียนเอกชน โรงเรยี นของทางราชการ สถาบันอุดมศกึ ษาของเอกชน
หรอื สถาบันอุดมศกึ ษาของทางราชการทม่ี พี ้ืนทใี่ ชส อยรวมกันทุกชน้ั ของอาคาร หรือกลมุ ของ
อาคารตง้ั แต ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตรข้นึ ไป
(๕) อาคารทท่ี ําการของทางราชการ รัฐวสิ าหกิจ องคก ารระหวา งประเทศ หรือของ
เอกชนท่ีมีพื้นทใ่ี ชส อยรวมกันทุกชนั้ ของอาคารหรือกลุมของอาคารตัง้ แต ๕๕,๐๐๐ ตารางเมตร
ขึน้ ไป
(๖) อาคารของศูนยการคาหรือหางสรรพสินคาท่ีมีพื้นที่ที่ใชสอยรวมกันทุกชั้นของ
อาคารหรือกลุมของอาคารตง้ั แต ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตรขึน้ ไป
(๗) ตลาดที่มีพ้ืนท่ีใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคาร หรือกลุมของอาคารต้ังแต
๒,๕๐๐ ตารางเมตรขนึ้ ไป
(๘) ภตั ตาคารหรอื รา นอาหารทมี่ ีพื้นท่ีใชบ รกิ ารรวมกนั ทุกชั้นของอาคาร หรอื กลุม
ของอาคารตง้ั แต ๒,๕๐๐ ตารางเมตรขนึ้ ไป
“น้าํ ทิ้ง” หมายความวา นํ้าเสยี ที่ผา นระบบบาํ บดั นาํ้ เสยี แลวจนเปน ไปตามมาตรฐาน
ควบคุมการระบายนา้ํ ทงิ้ ตามทีก่ ําหนดไวใ นประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ ม
เร่ือง กําหนดมาตรฐานควบคมุ การระบายนํ้าท้งิ จากอาคารบางประเภทและบางขนาด
“แหลง น้ําสาธารณะ” ใหห มายความรวมถงึ ทอ ระบายนา้ํ สาธารณะดวย
“การบาํ บัดน้าํ เสีย” หมายความวา กระบวนการทาํ หรอื ปรบั ปรงุ นา้ํ เสีย เพอื่ ใหเ ปน
ไปตามมาตรฐานควบคุมการระบายน้ําท้ิงที่กําหนดไวในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสงิ่ แวดลอ ม เร่อื ง กําหนดมาตรฐานควบคมุ การระบายน้าํ ท้งิ จากอาคารบางประเภทและบาง
ขนาด แตท้ังนี้ หา มมิใหใชวธิ ีการทาํ ใหเจอื จาง (Dilution)
ขอ ๓ ใหอาคารตามขอ ๒ เปนแหลงกําเนิดมลพษิ ที่จะตอ งถูกควบคมุ การปลอยนา้ํ
เสียลงสแู หลง นาํ้ สาธารณะหรือออกสสู ่งิ แวดลอ ม
ขอ ๔ หามมิใหเ จา ของหรอื ผูค รอบครองอาคารตามขอ ๒ ปลอยน้ําเสยี ลงสูแหลง นา้ํ
สาธารณะหรือออกสสู ่ิงแวดลอ ม เวนแตจ ะไดทําการบาํ บดั น้ําเสียใหเ ปนไปตามมาตรฐานควบคุม
๓๘๗
การระบายนา้ํ ทิง้ จากอาคารประเภท ก. ทก่ี ําหนดไวในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดลอ ม เรอ่ื ง กําหนดมาตรฐานควบคมุ การระบายนาํ้ ทิ้งจากอาคารบางประเภทและ
บางขนาด
ขอ ๕ ประกาศน้ีใหใชบังคับต้ังแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เปน ตน ไป
ประกาศ ณ วนั ที่ ๗ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๔๘
ยงยทุ ธ ติยะไพรัช
รฐั มนตรีวาการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ ม
๓๘๘
(สําเนา)
ประกาศกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ ม
เร่ือง กาํ หนดประเภทของอาคารเปนแหลงกําเนดิ มลพิษท่จี ะตองถูกควบคุม
การปลอยนํ้าเสยี ลงสูแ หลงนา้ํ สาธารณะหรือออกสสู ง่ิ แวดลอม
____(ฉ__บ_บั _ท__ี่ ๒__) ___
โดยท่ีเปนการสมควรกาํ หนดใหอาคารประเภท ข. เปนแหลง กําเนดิ มลพิษทีจ่ ะตอ ง
ถกู ควบคมุ การปลอ ยนา้ํ เสยี ลงสแู หลง นา้ํ สาธารณะหรอื ออกสสู ง่ิ แวดลอ ม เพม่ิ เตมิ จากการกาํ หนด
ใหอาคารประเภท ก. เปนแหลงกําเนิดมลพิษที่ถูกควบคุมการปลอยนํ้าเสียลงสูแหลงน้ํา
สาธารณะหรือออกสูส่ิงแวดลอม ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอม
เร่ือง กําหนดประเภทของอาคารเปน แหลง กาํ เนดิ มลพิษที่จะตองถกู ควบคมุ การปลอยน้าํ เสียลงสู
แหลงนาํ้ สาธารณะหรือออกสสู ิง่ แวดลอม ลงวนั ที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘
อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๖๙ แหง พระราชบญั ญตั สิ ง เสรมิ และรกั ษาคณุ ภาพ
ส่ิงแวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ อนั เปนพระราชบัญญัตทิ ี่มบี ทบญั ญัตบิ างประการเกย่ี วกบั การ
จาํ กัดสิทธิและเสรีภาพของบคุ คล ซึ่งมาตรา ๒๙ ประกอบกบั มาตรา ๓๓ มาตรา ๓๘ มาตรา ๔๑
และมาตรา ๔๓ ของรฐั ธรรมนญู แหง ราชอาณาจกั รไทย บัญญตั ิใหก ระทําไดโ ดยอาศยั อาํ นาจ
ตามบทบญั ญัติแหงกฎหมาย รัฐมนตรวี าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ ม โดย
คาํ แนะนาํ ของคณะกรรมการควบคมุ มลพิษ จึงออกประกาศไว ดงั ตอ ไปนี้
ขอ ๑ ในประกาศนี้
“อาคาร” หมายความวา อาคารประเภท ข. ตามประกาศกระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ ม เรือ่ ง กาํ หนดมาตรฐานควบคุมการระบายนํ้าทงิ้ จากอาคารบางประเภท
และบางขนาด ลงวนั ท่ี ๗ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ดงั นี้
(๑) อาคารชุดท่ีมีจํานวนหองสําหรับใชเปนท่ีอยูอาศัยรวมกันทุกชั้นของอาคาร
หรือกลุมของอาคารต้ังแต ๑๐๐ หองนอน แตไมถ ึง ๕๐๐ หองนอน
(๒) โรงแรมที่มีจํานวนหองสําหรับใชเปนหองพักรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือ
กลุม ของอาคารตง้ั แต ๖๐ หอง แตไ มถงึ ๒๐๐ หอง
(๓) หอพักท่ีมีจํานวนหองสําหรับใชเปนท่ีอยูอาศัยรวมกันทุกชั้นของอาคาร หรือ
กลุม ของอาคารต้ังแต ๒๕๐ หอ งขึน้ ไป
(๔) สถานบริการท่ีมีพ้ืนท่ีใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคาร หรือกลุมของอาคาร
ตั้งแต ๕,๐๐๐ ตารางเมตรขนึ้ ไป
๓๘๙
(๕) โรงพยาบาลของทางราชการ รฐั วสิ าหกจิ หรือสถานพยาบาล ตามกฎหมายวา
ดวยสถานพยาบาลที่มีเตียงสําหรับผูปวยไวคางคืนรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุมของอาคาร
ตง้ั แต ๑๐ เตยี ง แตไมถ งึ ๓๐ เตยี ง
(๖) อาคารโรงเรียนเอกชน โรงเรียนของทางราชการ สถาบนั อดุ มศกึ ษาของเอกชน
หรือสถาบันอุดมศึกษาของทางราชการที่มีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุมของ
อาคารตัง้ แต ๕,๐๐๐ ตารางเมตร แตไมถึง ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร
(๗) อาคารที่ทาํ การของทางราชการ รัฐวิสาหกจิ องคการระหวางประเทศ หรือของ
เอกชนทมี่ ีพื้นท่ีใชส อยรวมกันทุกชัน้ ของอาคารหรอื กลุมของอาคารตัง้ แต ๑๐,๐๐๐ ตารางเมตร
แตไ มถงึ ๕๕,๐๐๐ ตารางเมตร
(๘) อาคารของศูนยการคาหรือหางสรรพสินคาท่ีมีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกช้ันของ
อาคารหรอื กลุมของอาคารตงั้ แต ๕,๐๐๐ ตารางเมตร แตไ มถึง ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร
(๙) ตลาดท่ีมีพื้นท่ีใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุมของอาคารตั้งแต
๑,๕๐๐ ตารางเมตร แตไมถ ึง ๒,๕๐๐ ตารางเมตร
(๑๐) ภัตตาคารหรือรานอาหารที่มีพ้ืนที่ใหบริการรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุม
ของอาคารตัง้ แต ๕๐๐ ตารางเมตร แตไมถงึ ๒,๕๐๐ ตารางเมตร
ขอ ๒ ใหอาคารตามขอ ๑ เปนแหลงกําเนิดมลพิษท่ีจะตองถูกควบคุมการปลอย
น้าํ เสียลงสูแหลง นํ้าสาธารณะหรือออกสสู ่งิ แวดลอม
ขอ ๓ หา มมใิ หเ จา ของหรอื ผคู รอบครองอาคารตามขอ ๑ ปลอ ยนา้ํ เสยี ลงสแู หลง นา้ํ
สาธารณะหรือออกสูส่ิงแวดลอม เวนแตน้ําเสียจะมีลักษณะเปนไปตามมาตรฐานควบคุมการ
ระบายนํ้าทิ้งจากอาคารประเภท ข. ท่ีกําหนดไวในประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สงิ่ แวดลอม เรือ่ ง กาํ หนดมาตรฐานควบคมุ การระบายน้ําท้ิงจากอาคารบางประเภทและบาง
ขนาด แตท ้ังน้ตี อ งไมใ ชวธิ ีทําใหเจอื จาง (Dilution)
ขอ ๔ ประกาศนใ้ี หใชบ ังคับเมือ่ พน กําหนดหนึง่ ป นับจากวันประกาศในราชกิจจา
นเุ บกษา เปนตน ไป
ประกาศ ณ วนั ที่ ๓ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๔
ปรชี า เรง สมบรู ณส ขุ
รฐั มนตรีวา การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอม
๓๙๐
กฎกระทรวง
กําหนดหลกั เกณฑ วธิ กี าร และแบบการเก็บสถติ ิ
และขอ มลู การจดั ทาํ บนั ทกึ รายละเอยี ด และรายงาน
สรปุ ผลการทํางานของระบบบาํ บัดนา้ํ เสีย
พ.ศ. ๒๕๕๕
(ตามบทบญั ญตั ใิ นมาตรา ๘๐ แหงพระราชบญั ญัตสิ งเสริมและรักษา
คุณภาพส่ิงแวดลอ มแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕)
สาํ นกั จดั การคุณภาพน้ํา กรมควบคมุ มลพษิ
กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดลอม
มถิ นุ ายน ๒๕๕๕
๓๙๑
สาระสาํ คัญของกฎกระทรวงฯ
กรมควบคมุ มลพิษไดอ าศยั อํานาจตามความในมาตรา ๘๐ แหงพระราชบญั ญตั ิ
สงเสริมและรกั ษาคุณภาพส่ิงแวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕ ออกกฎกระทรวงกาํ หนด หลักเกณฑ
วิธกี าร และแบบการจัดเกบ็ สถิติและขอมูล การจดั ทําบนั ทึกรายละเอยี ดและรายงานสรปุ ผลการ
ทาํ งานของระบบบําบดั นา้ํ เสีย พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยมีวตั ถุประสงคเ พื่อใหเ จาของหรือผูครอบครอง
แหลง กาํ เนดิ มลพษิ จัดเก็บสถิติ ขอมูล และรายงานผลการทาํ งานของระบบบําบัดน้ําเสียของ
ตนเอง โดยมสี าระสําคัญคือ
๑. คาํ นยิ ามทกี่ าํ หนด
“ระบบบําบดั น้ําเสีย” หมายความวา กระบวนการบําบดั นํ้าเสยี และใหหมาย
รวมถงึ ทอ ส่งิ ปลกู สรา ง เครือ่ งมือ เครื่องใช อปุ กรณ และวสั ดุทีจ่ ําเปนตอ งใชในการบําบดั นาํ้ เสีย
ของระบบบาํ บัดนํ้าเสียดว ย
“นาํ้ ทิ้ง” หมายความวา นํ้าเสยี ที่ผานการบําบดั จากระบบบําบดั น้าํ เสียเพ่ือปลอ ย
ออกสูสิง่ แวดลอ ม
๒. เจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนิดมลพิษหรือผูควบคุมระบบบําบัดนํ้าเสีย
ตามมาตรา ๘๐ ตองเก็บสถติ ิและขอ มูลซึ่งแสดงผลการทาํ งานของระบบบําบัดนํ้าเสยี ในแตล ะวนั
และจัดทําบันทกึ รายละเอียดดงั กลา วตามแบบ ทส. ๑ เกบ็ ไว ณ สถานทตี่ งั้ แหลงกําเนดิ มลพษิ
เปน ระยะเวลา ๒ ปนบั แตวันท่ีมกี ารจัดเกบ็ สถติ ิและขอ มลู นน้ั
๓. จะตองจัดทํารายงานสรุปผลการทํางานของระบบบําบัดนํ้าเสียในแตละเดือน
ตามแบบ ทส. ๒ และเสนอรายงานดังกลาวตอเจาพนักงานทองถิ่นภายในวันที่ ๑๕ ของ
เดอื นถดั ไป โดยใหย่ืนตอเจาพนกั งานทอ งถิ่นแหงทอ งที่ทีแ่ หลงกาํ เนิดมลพษิ นัน้ ตัง้ อยูห รือสงทาง
ไปรษณียตอบรับหรือรายงานดวยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกสตามท่ีอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ
ประกาศกําหนด
๔. ในกรณีท่ีเจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนิดมลพิษหรือผูควบคุมระบบบําบัด
นํ้าเสยี ตามมาตรา ๘๐ มหี นาทต่ี องเกบ็ สถติ แิ ละขอ มลู จดั ทําบนั ทึกรายละเอียด หรอื จัดทาํ
รายงาน สรุปผลการทาํ งานของระบบบาํ บดั นํา้ เสยี อยูแลว ตามกฎหมายอื่น และการเก็บสถติ ิและ
ขอ มลู การจัดทาํ บันทึกรายละเอียดหรอื การจดั ทํารายงานดงั กลา วมีขอมลู ไมน อยกวาการเก็บสถติ ิ
และขอ มลู การจดั ทําบันทึกรายละเอยี ดหรอื การจดั ทาํ รายงานตามกฎกระทรวงนี้ ใหถ ือวาการ
เก็บสถิติและขอ มูล การจดั ทาํ บนั ทกึ รายละเอยี ดหรอื การจดั ทํารายงานตามกฎหมายดังกลา ว
เปน การเก็บสถิติและขอ มลู การจัดทําบนั ทกึ รายละเอียดหรือการจดั ทํารายงานตามกฎกระทรวง
ฉบับนี้โดยอนุโลมและใหเจาของหรือผูครอบครองแหลงกําเนิดมลพิษหรือผูควบคุมระบบบําบัด
นํ้าเสียเสนอรายงานดังกลา วตอเจาพนักงานทอ งถ่นิ ทกุ เดือนภายในวนั ท่ี ๑๕ ของเดือนถัดไป
โดยใหย่ืนตอเจาพนักงานทองถ่ินแหงทองท่ีที่แหลงกําเนิดมลพิษน้ันต้ังอยูหรือสงทางไปรษณีย
ตอบรบั หรอื รายงานดวยวธิ ีการทางอิเล็กทรอนิกสต ามทอ่ี ธิบดีกรมควบคมุ มลพิษประกาศกาํ หนด
๓๙๒
การบงั คบั ใช กฎกระทรวงฯ
กฎกระทรวงฯ ดงั กลาว มผี ลบงั คับใชต ้ังแตว ันที่ ๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ตามประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เลม ๑๒๙ ตอนท่ี ๓๙ ก ลงวันท่ี ๔ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
แหลง กําเนิดมลพิษทเี่ ขาขา ยตอ งดาํ เนนิ การตามกฎกระทรวงน้ี
แหลง กาํ เนดิ มลพษิ ท่เี ขา ขา ยตองดําเนินการตามกฎกระทรวงนี้ คือ แหลง กําเนิด
มลพิษที่ถูกควบคุมการปลอยนํ้าเสียลงสูแหลงน้ําสาธารณะหรือออกสูสิ่งแวดลอมนอกเขตท่ีต้ัง
ตามมาตรา ๖๙ แหงพระราชบญั ญตั สิ งเสรมิ และรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
ไดแก
๑. โรงงานอุตสาหกรรมและนิคมอตุ สาหกรรม ไดแก
๑.๑ โรงงานอุตสาหกรรมจําพวกที่ ๒ คือ โรงงานทมี่ แี รงมาของเครอ่ื งจักร
มากกวา ๒๐ แรงมา แตไ มเกนิ ๕๐ แรงมา และ/หรอื มีจํานวนคนงานมากกวา ๒๐ คน แตไม
เกิน ๕๐ คน โรงงานจําพวกนี้ ไมต อ งขออนุญาตประกอบกจิ การโรงงาน แตตอ งแจง ใหเ จาหนาท่ี
ทราบเมอื่ เริม่ ประกอบกจิ การ และยงั คงตอ งปฏิบัติตามหลกั เกณฑท ่กี าํ หนดในกฎกระทรวงและ
ประกาศกระทรวงสวนโรงงานท่ีมมี ลภาวะใหจัดเปนโรงงานจําพวกที่ ๓
๑.๒ โรงงานอสุ าหกรรมจําพวกที่ ๓ คอื โรงงานท่ีมีมลภาวะและโรงงานทมี่ ี
แรงมา ของเครอื่ งจักรมากวา ๕๐ แรงมา และ/หรอื มจี ํานวนคนงานมากวา ๕๐ คน จะจดั ใหอ ยใู น
โรงงานจาํ พวกที่ ๓ ซ่งึ โรงงานประเภทนจ้ี ะตอ งขอใบอนญุ าตกอ นจึงจะสามารถประกอบกจิ การได
๑.๓ นิคมอุตสาหกรรมหรือโครงการที่จัดไวสําหรับการประกอบการ
อตุ สาหกรรม ทมี่ กี ารจัดการระบายน้ําทิง้ ลงสูแหลง น้าํ สาธารณะหรือออกสูสิ่งแวดลอมรว มกัน
๒. อาคารบางประเภทและบางขนาด ไดแก
๒.๑ อาคารประเภท ก ไดแก
(๑) อาคารชุดท่ีมีจํานวนหองสําหรับใชเปนท่ีอยูอาศัยรวมกันทุกช้ันของ
อาคารหรอื กลุมของอาคารตั้งแต ๕๐๐ หอ งนอนขึ้นไป
(๒) โรงแรมท่ีมีจํานวนหองสําหรับใชเปนหองพักรวมกันทุกช้ันของอาคาร
หรอื กลมุ ของอาคารต้งั แต ๒๐๐ หอ งนอนขึน้ ไป
(๓) โรงพยาบาลของทางราชการ รัฐวสิ าหกจิ หรอื สถานพยาบาล ตาม
กฎหมายวาดวยสถานพยาบาลที่มีเตียงสําหรับรับผูปวยไวคางคืนรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือ
กลุมของอาคารตงั้ แต ๓๐ เตยี งขนึ้ ไป
(๔) อาคารโรงเรยี นเอกชน โรงเรยี นของทางราชการ สถาบันอุดมศึกษาของ
เอกชนหรือสถาบันอุดมศึกษาของทางราชการที่มีพื้นท่ีใชสอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุม
ของอาคารตั้งแต ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตรขึ้นไป
๓๙๓
(๕) อาคารทีท่ าํ การของทางราชการ รฐั วสิ าหกิจ องคการระหวางประเทศ
หรือของเอกชนที่มีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุมของอาคารตั้งแต ๕๕,๐๐๐
ตารางเมตรขน้ึ ไป
(๖) อาคารของศูนยการคาหรือหางสรรพสินคาท่ีมีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุก
ชนั้ ของอาคารหรือกลุม ของอาคารตัง้ แต ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตรขนึ้ ไป
(๗) ตลาดท่ีมีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุมของอาคาร
ต้งั แต ๒,๕๐๐ ตารางเมตรข้ึนไป
(๘) ภัตตาคารหรือรานอาหารท่ีมีพื้นท่ีใชบริการรวมกันทุกช้ันของอาคาร
หรือกลมุ ของอาคารตั้งแต ๒,๕๐๐ ตารางเมตรขึ้นไป
๒.๒ อาคารประเภท ข ไดแ ก (มีผลบงั คบั ใชต้ังแตว นั ท่ี ๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๕
เปน ตนไป)
(๑) อาคารชุดที่มีจํานวนหองสําหรับใชเปนท่ีอยูอาศัยรวมกันทุกชั้นของ
อาคารหรอื กลมุ ของอาคารต้ังแต ๑๐๐ หอ งนอน แตไมถ ึง ๕๐๐ หอ งนอน
(๒) โรงแรมที่มีจํานวนหองสําหรับใชเปนหองพักอาศัยรวมกันทุกชั้นของ
อาคารหรอื กลุม ของอาคารต้งั แต ๖๐ หอ ง แตไ มถ งึ ๒๐๐ หอ ง
(๓) หอพักที่มีจํานวนหองสําหรับใชเปนท่ีอยูอาศัยรวมกันทุกชั้นของอาคาร
หรอื กลมุ ของอาคารต้งั แต ๒๕๐ หอ งข้ึนไป
(๔) สถานบริการท่ีมีพ้ืนที่ใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุมของ
อาคารต้ังแต ๕,๐๐๐ ตารางเมตรขน้ึ ไป
(๕) โรงพยาบาลของทางราชการหรือสถานพยาบาลตามกฎหมายวาดวย
สถานพยาบาลที่มีเตียงสําหรับผูปวยไวคางคืนรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุมของอาคารตั้งแต
๑๐ เตยี งแตไมถ งึ ๓๐ เตียง
(๖) อาคารโรงเรยี นราษฎร โรงเรียนของทางราชการ สถาบันอดุ มศกึ ษา
เอกชนหรอื สถาบันอดุ มศึกษาของทางราชการ ทมี่ ีพนื้ ทใ่ี ชส อยรวมกนั ทุกชัน้ ของอาคารหรือกลุม
ของอาคารตั้งแต ๕,๐๐๐ ตารางเมตร แตไมถ ึง ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร
(๗) อาคารทีท่ ําการของทางราชการ รฐั วสิ าหกจิ องคก ารระหวา งประเทศ
หรือของเอกชนท่ีมีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกช้ันของอาคารหรือกลุมของอาคารต้ังแต ๑๐,๐๐๐
ตารางเมตร แตไมถ งึ ๕๕,๐๐๐ ตารางเมตร
(๘) อาคารของศูนยการคาหรือหางสรรพสินคาท่ีมีพื้นท่ีใชสอยรวมกันทุก
ช้ันของอาคารหรือกลุมของอาคารต้งั แต ๕,๐๐๐ ตารางเมตร แตไมถ ึง ๒๕,๐๐๐ ตารางเมตร
(๙) ตลาดท่ีมีพื้นที่ใชสอยรวมกันทุกชั้นของอาคารหรือกลุมของอาคาร
ตง้ั แต ๑,๕๐๐ ตารางเมตร แตไมถึง ๒,๕๐๐ ตารางเมตร
๓๙๔
(๑๐) ภัตตาคารหรือรานอาหารท่ีมีพ้ืนท่ีใหบริการรวมกันทุกชั้นของอาคาร
หรือกลมุ ของอาคารตั้งแต ๕๐๐ ตารางเมตร แตไมถ งึ ๒,๕๐๐ ตารางเมตร
๓. ท่ีดนิ จดั สรร ไดแก
๓.๑ ทีด่ นิ จดั สรรประเภท ก คือ ทด่ี นิ จัดสรรทีร่ ังวดั แบง เปน แปลงยอ ยเพอื่
จําหนา ยเกินกวา ๑๐๐ แปลง แตไ มเกนิ ๕๐๐ แปลง
๓.๒ ทดี่ นิ จดั สรรประเภท ข คอื ท่ดี ินจดั สรรทรี่ งั วดั แบงเปนแปลงยอยเพ่ือ
จาํ หนายเกินกวา ๕๐๐ แปลงขน้ึ ไป
๔. การเลีย้ งสกุ ร ไดแก
๔.๑ การเลี้ยงสุกรประเภท ก คือ การเลี้ยงสุกรท่ีมีน้ําหนักหนวยปศุสัตว
เกินกวา ๖๐๐ หนวย
๔.๒ การเลย้ี งสุกรประเภท ข คอื การเล้ยี งสกุ รทีม่ ีน้ําหนกั หนว ยปศสุ ตั วตงั้ แต
๖๐ หนว ย แตไมเ กนิ ๖๐๐ หนว ย
๕. ทา เทยี บเรือประมง สะพานปลา และกิจการแพปลา ไดแก ทาเทียบเรือประมง
สะพานปลา และกจิ การแพปลาทุกขนาด
๖. สถานบี ริการนา้ํ มนั เชื้อเพลงิ ไดแ ก
๖.๑ สถานบี ริการนา้ํ มันเชอื้ เพลงิ ประเภท ก คอื สถานบี ริการน้าํ มนั เชอ้ื เพลงิ
ที่ต้ังอยูในท่ีดินท่ีติดเขตทางหลวงหรือถนนสาธารณะหรือทางที่มีสภาพเปนสาธารณะที่มีความ
กวางของถนนไมน อยกวา ๑๒.๐๐ เมตร หรือถนนสว นบคุ คลทมี่ ีความกวา งของถนนไมน อ ยกวา
๑๐.๐๐ เมตรที่เช่อื มตอ กบั ทางหลวงหรือถนนสาธารณะหรอื ทางที่มีสภาพเปน สาธารณะทม่ี ีความ
กวางของถนนไมนอ ยกวา ๑๒.๐๐ เมตร
๖.๒ สถานบี รกิ ารนํา้ มนั เช้อื เพลงิ ประเภท ข คอื สถานบี รกิ ารนํ้ามันเชื้อเพลิง
ที่ตั้งอยูในที่ดินที่ติดเขตถนนสาธารณะหรือทางที่มีสภาพเปนสาธารณะท่ีมีความกวางของถนน
ไมนอยกวา ๘.๐๐ เมตร แตนอ ยกวา ๑๒.๐๐ เมตร หรอื ถนนสวนบุคคลทม่ี คี วามกวา งของถนน
ไมน อ ยกวา ๘.๐๐ เมตร แตน อ ยกวา ๑๐.๐๐ เมตร ท่เี ชอื่ มตอกบั ทางหลวงหรือถนนสาธารณะ
หรอื ทางท่มี ีสภาพเปนสาธารณะท่ีมคี วามกวา งของถนนไมน อยกวา ๘.๐๐ เมตร
๗. บอเพาะเล้ียงสตั วน ้ําชายฝง ไดแ ก บอเพาะเลย้ี งสัตวนํ้าชายฝง ทมี่ ีขนาดพ้ืนท่บี อ
ต้งั แต ๑๐ ไรขึน้ ไป
๘. บอเพาะเลีย้ งสัตวน้ํากรอ ย ไดแก บอเพาะเลี้ยงสัตวนํ้ากรอ ยทุกขนาด
๙. บอ เพาะเลี้ยงสตั วน้ําจืด ไดแก
๙.๑ บอ เพาะเล้ยี งสัตวนํ้าจดื ประเภท ก คอื บอ ทีใ่ ชเพาะเลยี้ งสัตวนํ้าท่กี ินพืช
เปนอาหารทุกชนิด ซึง่ ใชน้ําจากแหลงนาํ้ ตามธรรมชาตโิ ดยไมมกี ารเตมิ สารทีก่ อใหเ กดิ ความเค็ม
เชน น้ําทะเล นํา้ ใตดินทมี่ คี าความเค็ม เกลอื หรือสารอนื่ ใด ลงในบอเพาะเล้ียงดงั กลา ว ทม่ี ขี นาด
พืน้ ท่ีบอต้งั แต ๑๐ ไรขนึ้ ไป
๓๙๕
๙.๒ บอเพาะเล้ยี งสัตวนา้ํ จืดประเภท ข คือ บอทใ่ี ชเ พาะเลี้ยงสัตวนา้ํ ที่กนิ
เน้อื เปนอาหารทกุ ชนิด หรอื สัตวนํ้าอ่ืนๆ ที่กนิ ท้งั เนอื้ และพชื เปนอาหาร ซง่ึ ใชน าํ้ จากแหลงน้าํ ตาม
ธรรมชาติ โดยไมมีการเติมสารที่กอใหเกิดความเค็ม เชน น้ําทะเล นา้ํ ใตดนิ ทม่ี ีคา ความเค็ม เกลอื
หรอื สารอ่นื ใด ลงในบอ เพาะเลย้ี งดงั กลา ว ท่มี ีขนาดพนื้ ทบ่ี อตั้งแต ๑๐ ไรข ึน้ ไป
๙.๓ บอเพาะเลี้ยงสตั วน ้าํ จดื ประเภท ค คอื บอ ท่ีมีการเพาะเลย้ี งสตั วนาํ้
ทกุ ชนิดซึ่งมีการใชส ารท่ีกอใหเกิดความเคม็ เชน น้ําทะเล นํา้ ใตด ินที่มคี า ความเค็ม เกลอื หรอื
สารอื่นใดเติมลงในบอเพาะเลี้ยงเพ่ือปรับระดับคาความเค็มของน้ําที่ใชเพาะเล้ียงใหเหมาะสมกับ
การเพาะเล้ยี งสตั วน้าํ ชนิดน้นั ๆ ทุกขนาด
๑๐. ระบบบาํ บัดนา้ํ เสยี รวมชุมชน ไดแ ก ระบบบําบัดนํา้ เสียที่กระทรวง ทบวง กรม
หรือสว นราชการที่เรยี กชอ่ื อยางอืน่ และมฐี านะเปนกรม ราชการสวนภมู ภิ าค ราชการสว นทอ งถนิ่
รัฐวิสาหกิจท่ีตั้งขึ้นโดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎีกาหรือผูรับจางบริการจัดใหมีขึ้นเพ่ือ
วตั ถุประสงคห ลักในการใหบ รกิ ารบาํ บัดน้าํ เสยี ทร่ี วบรวมจากชุมชน
ผเู ก่ียวขอ งตามกฎกระทรวงนี้
ผูเก่ียวของหรือมหี นา ท่ีท่ีจะตอ งปฏบิ ัติตามทีก่ ําหนดไวใ นกฎกระทรวงน้ี และมาตรา
ท่ีเก่ียวของตามพระราชบัญญัติสงเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดลอมแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
ไดแ ก
๑. เจา ของหรือผูครอบครองแหลง กําเนดิ มลพิษ หมายถึง เจาของหรอื ผคู รอบครอง
แหลงกาํ เนดิ มลพษิ ตามมาตรา ๖๙ และมีระบบบําบัดนํา้ เสียตามมาตรา ๗๐ เปนของตนเอง
๒. ผูควบคุมระบบบําบัดนํ้าเสียหรือผูรับจางใหบริการบําบัดน้ําเสีย หมายถึง
ผคู วบคมุ หรือผรู บั จา งใหบ รกิ ารบาํ บดั น้าํ เสยี ซึ่งไดรบั อนญุ าตตามมาตรา ๗๓ แหงพระราช
บญั ญัติสงเสรมิ และรักษาคณุ ภาพสิ่งแวดลอมแหง ชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
๓. เจาพนกั งานทอ งถน่ิ หมายถงึ
– นายกเทศมนตรี กรณีแหลง กําเนดิ มลพิษตง้ั อยูใ นเขตเทศบาล
– นายกองคการบริหารสวนตําบล กรณีแหลงกําเนดิ มลพษิ ตง้ั อยใู นเขตองคการ
บริหารสวนตาํ บล
– ผวู า ราชการกรงุ เทพมหานคร กรณแี หลง กาํ เนดิ มลพษิ ตง้ั อยใู นเขตกรงุ เทพมหานคร
– ปลัดเมืองพทั ยา กรณแี หลงกําเนิดมลพิษตั้งอยใู นเขตเมอื งพัทยา
ท้งั นี้ ตามมาตรา ๘๑ กาํ หนดใหเ จาพนักงานทองถน่ิ รวบรวมรายงานที่ไดรบั ตาม
มาตรา ๘๐ สงไปใหเจาพนักงานควบคุมมลพิษซ่ึงมีอํานาจหนาที่ในเขตทองถิ่นน้ันเปนประจํา
อยางนอยเดือนละหน่ึงครั้ง และจะทําความเห็นเพ่ือประกอบการพิจารณาของเจาพนักงาน
ควบคมุ มลพิษเสนอไปพรอ มกับรายงานทรี่ วบรวมสงไปนนั้ ดว ยกไ็ ด
๓๙๖