The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงการศึกษาอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 77 ประจำปีงบประมาณ 2564

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ประมวลผลการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติงาน (Action Learning) (ปี 2564)

โครงการศึกษาอบรมหลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 77 ประจำปีงบประมาณ 2564

Keywords: ด้านทั่วไป

28

3) แจ้งความจานงขอใชพ้ ้ืนที่แหล่งน้าสาธารณะในการตดิ ต้งั ระบบกับ ทต.หารเทา
เวน้ เสียแต่ดาเนินการในพืน้ ทส่ี ่วนกลางของหม่บู ้าน

4) พิจารณาคดั เลอื กเอกชนที่มีการพัฒนาเทคโนโลยรี ะบบการตดิ ต้ัง ซึ่งในปจั จุบนั
มีหลายบริษัทดาเนินการอยู่ และสามารถให้บริการต้ังแต่กระบวนการออกแบบ การผลิตทุ่น การ
ตดิ ตัง้ และระบบยึดโยงตวั ทุ่น ไปจนถึงการดูแลรกั ษา

1.5 การทาเกษตรแนวใหม่ การคดั เลือกพืชมาเพาะปลกู กับพนื้ ทอ่ี ยา่ งเหมาะสม
1) ประสานสานักงานเกษตรอาเภอ เพ่ือวางแผนพัฒนาการเกษตร โดยส่งเสริม

การผลิตสินค้า เกษตรท่ีมีอัตลักษณ์และเหมาะสมกับศักยภาพพื้นท่ีภาคใต้ ได้แก่ สละ ซ่ึงเป็นพืชที่
เกษตรกรนิยมปลูกทดแทนในสวนยางพารา และมีแนวโน้มเพิม่ พ้นื ทก่ี ารปลูก เป็นพชื ทเ่ี หมาะสาหรับ
ส่งเสริมเพอ่ื เป็นทางเลือกของเกษตรกรในจังหวัดพทั ลุง เน่ืองจากตลาดมคี วามต้องการสูง สามารถ
เก็บเกยี่ วผลผลิตได้ตลอดท้ังปี

2) จัดตัวแทนเข้าร่วมการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตสละ ซึ่งหน่วยงานใน
ระดับจังหวัดจัดอบรมเป็นระยะ ๆ รวมถึงเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายคณะกรรมการเครือข่ายไม้
ผลอัตลักษณ์สละเมืองลุง กลุ่มเครอื ข่ายเกษตรกรผปู้ ลูกสละ เพื่อแสวงหาความร่วมมือและความรู้
เพม่ิ เติม

3) ศึกษาดูงานการพัฒนาสินค้าอัตลักษณ์กับแหล่งผลิตอ่ืน เพ่ือจะได้นาเทคนิค
การบริหารจัดการสวน การบริหารจัดการตลาดใหม้ ีความคุ้มทุน และเทคนิคกลยุทธ์การตลาดนาไป
ปรับใชใ้ นสวนของตนเอง ซงึ่ ในพืน้ ท่ตี าบลหารเทามเี กษตรกรทไ่ี ด้รบั การรบั รองมาตรฐาน GAP สินคา้
สละ เพียงแค่ 1 ราย อาศยั อยู่ในพน้ื ที่ ม.10 คือ นายณรงค์ แกว้ สองเมือง (ข้อมูล ณ ปี พ.ศ. 2563)

4) จัดทาแปลงเรียนรู้การผลิตไมผ้ ลอัตลักษณ์ทไ่ี ด้มาตรฐาน จานวน 8 แปลง ใน
พนื้ ที่สว่ นกลาง เพือ่ เปน็ พน้ื ท่ีนาร่องให้แกป่ ระชาชนในหมูบ่ ้านต่อไป

1.6 การรวบรวมน้าจากบา้ นเรือน
1) จัดหาโอ่งซีเมนต์วางในพืน้ ทกี่ ลางแจ้งเพื่อรอให้น้าฝนตกลงมา หรือจะทาเปน็

เพิงหลงั คาสงั กะสแี ล้วมีรางน้าไหลลงจากหลงั คาสู่โอ่งกไ็ ด้เช่นกัน โดยอาจเพิ่มเตมิ ใหส้ ามารถตอ่ ท่อน้าท่ี
กน้ โอ่งทกุ โอง่ ให้เชือ่ มถงึ กันแล้วตอ่ ทอ่ ลงไปยงั สวนหรอื พืน้ ทท่ี าเกษตรได้

2) รณรงค์ให้ประชาชนมแี หล่งเก็บน้าสารอง เช่น ถังเก็บน้าในครัวเรอื น ให้ใช้นา้
ประหยัดและเกิดประโยชนส์ งู สดุ และทาความสะอาดภาชนะรองรบั น้าอย่เู สมอ

2. แผนระยะยาว
2.1 การขุดเจาะบ่อบาดาล การทาฝาย รวมทั้งระบบน้าบาดาลด้วยพลังงาน

แสงอาทิตย์
1) ประสานไปที่สานักทรัพยากรน้าบาดาลเขต 12 สงขลา เพ่ือขอทราบข้อมูล

พ้ืนฐานน้าบาดาลต้นทุนบริเวณพื้นท่ีบ้านโหนดหมู่ และนามาเป็นฐานข้อมูลในการเสนอขอรับการ
สนับสนนุ โครงการด้านนา้ บาดาล ดังนี้

(ก) โครงการพัฒนาแหล่งน้าบาดาลเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้าใน
ชมุ ชน

29

1) จัดทาประชาคมหม่บู ้าน เพอื่ สารวจความตอ้ งการการใชน้ ้าในชุมชน โดย
มขี ้อมลู ประกอบด้วย จานวนประชากรและปรมิ าณความตอ้ งการใชน้ า้ ในชมุ ชนทเ่ี พ่มิ ขน้ึ

2) จัดหาพื้นที่เป้าหมายในการดาเนินการ หากเป็นพื้นที่ที่อยู่ในความดแู ล
ของหน่วยงานภาครฐั ต้องไดร้ ับความยินยอมจากหนว่ ยงานทก่ี ากับพนื้ ท่ีนั้น หากเป็นพืน้ ท่ขี องเอกชน
หรือประชาชนในพื้นท่ตี อ้ งมีเอกสารยินยอมใหใ้ ชบ้ รเิ วณดงั กลา่ ว ท้ังน้ี สถานที่ท่จี ะดาเนินการเจาะน้า
บาดาลตอ้ งไมอ่ ยูใ่ กล้บริเวณที่ท้ิงขยะ หลุมฝงั กลบขยะ หรอื มนี ้าเสยี ท่วมขงั ไหลผา่ น ไมอ่ ยู่ใกล้สง่ิ ปลกู
สรา้ งหรือชุมชนมากจนเกินไป เนื่องจากตอ้ งมีพืน้ ทสี่ าหรับให้รถเจาะเข้าไปดาเนินการหรือการพัฒนา
บอ่ บาดาลในอนาคตไดอ้ ย่างเหมาะสม

3) มอบหมายฝ่ายช่างออกแบบหรือประสานหน่วยงานในการออกแบบ
ประมาณการคา่ ใชจ้ า่ ย

4) เสนอขอรับการสนับสนุนตามขั้นตอนการขอรับการสนับสนุน
งบประมาณในการดาเนินโครงการ

(ข) โครงการเจาะน้าบาดาลเพ่ือการเกษตร ตามแนวทางของกรมทรัพยากรน้า
บาดาล

1) จัดให้มีการรวมกล่มุ เกษตรกร ประกอบด้วยสมาชิก 8-15 ราย มีพ้ืนที่
การเกษตรไมน่ ้อยกว่า 60-500 ไร่ ในพนื้ ทข่ี าดแคลนน้า และมีการกาหนดกตกิ าบริหารจดั การใช้นา้
บาดาลร่วมกัน

2) กลมุ่ เสนอขอรบั การสนบั สนนุ โครงการโดยผ่านความเหน็ ชอบจาก ทต.หาร
เทา เพื่อใหก้ ารรับรองวา่ สมาชิกกลุ่มเกษตรกร ทาการเกษตรในพื้นทีน่ นั้ จรงิ ยนิ ยอมใหก้ รมทรัพยากร
น้าบาดาลดาเนินโครงการน้าบาดาลเพ่ือการเกษตร และเม่อื ดาเนินการแล้วเสร็จ ทต. ยินดีที่จะรบั
มอบโครงการฯ เพ่ือบริหารจัดการต่อไป ก่อนส่งโครงการไปที่สานักทรัพยากรน้าบาดาลเขต 12
สงขลา

3) สานักทรัพยากรน้าบาดาล เขต 12 พิจารณาคัดกรองและตรวจสอบ
คุณสมบัติ และเดนิ ทางไปสารวจพืน้ ท่ีวา่ มีศักยภาพเพยี งพอทจี่ ะเจาะบอ่ น้าบาดาล จากน้ันเจ้าหนา้ ที่
จัดทาโครงการเพอ่ื ขออนุมตั ิงบประมาณต่อไป

2) จัดทาฝายชุมชนเพื่อชะลอการไหลของน้าและให้มีแหลง่ เกบ็ น้าสารอง ในจุดท่ี
ชุมชนเคยร่วมกันสร้างฝายหรือนบก้ันนา้ มากอ่ น โดยจดั ทาเป็นโครงการฝายชะลอนา้ แกป้ ญั หาภัยแล้ง
ในพนื้ ท่ี บรรจโุ ครงการดังกล่าวเขา้ แผนพฒั นาหมบู่ า้ น แผนพฒั นาอาเภอและแผนพัฒนาจังหวดั เพ่อื
ขอรบั การสนบั สนุนในปีงบประมาณต่อไป หรือประชาสัมพันธเ์ พ่อื ขอรบั การสนบั สนุนจากภาคเอกชน
ซ่ึงมีการจัดกจิ กรรมความรับผิดชอบตอ่ สังคม (CSR) และภาคการศึกษาจากเครอื ข่ายมหาวิทยาลยั ทกั ษณิ
วทิ ยาเขตพทั ลงุ

3) หนว่ ยงานระดบั จงั หวดั ประสานสานกั งานทรัพยากรนา้ แห่งชาติ (สทนช.) บรรจุ
เข้าสู่แผนการแกป้ ัญหาพื้นที่น้าทว่ ม น้าแลง้ อย่างเป็นระบบตอ่ ไป

30

2.2 ธนาคารนา้ ใตด้ นิ (Groundwater Bank)
1) ประสาน ทต.หารเทา เพื่อจดั ทาโครงการธนาคารน้าใต้ดนิ ทงั้ ระบบปิดและระบบ

เปิด ณ พื้นทีบ่ ้านโหนดหมู่
2) ทต. ประสานสานักนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เพ่ือขอรบั

การสนบั สนุนเร่ืองทนุ ในการพฒั นานวัตกรรมเพ่ือสังคม
3) ดาเนินโครงการธนาคารน้าใต้ดิน (ระบบปดิ ) โดยหาจุดรวมน้า จุดท่ีน้าทว่ มขัง

ไม่มีสารเคมีหรอื ยาฆา่ แมลง ขดุ หลมุ ขนาดกว้าง ยาว และลึก 1.50 เมตร ให้ทะลชุ นั้ ดินเหนียว แต่ตอ้ ง
ลึกไมเ่ กนิ 3 เมตร รองก้นหลุมด้วยวสั ดปุ ระเภทหนิ ใหญ่ สงู ประมาณ 30 ซม. ตั้งท่อ PVC (ท่ออากาศ)
ข้ึนตรงกลาง จากนั้นใสห่ ินใหญค่ ละขนาด หรือเศษอิฐ สูง 1.30 เมตร เพื่อขยายพืน้ ท่ซี ับน้า ปูผ้ามงุ้
หรือผ้าตาข่ายบนหินใหญ่คละขนาด เพื่อป้องกันไม่ให้หินเกล็ดท่ีโรยในข้ันตอนต่อไปหล่นลงไปใน
ช่องว่างของหินใหญ่ และป้องกันเศษใบไม้ใบหญ้าท่ีไหลมากับน้า โรยหินเกล็ดประมาณ 20
เซนตเิ มตรเท่านั้น ขุดหลุมดังกล่าวประมาณ 30-40 จุด

4) ดาเนินโครงการธนาคารนา้ ใต้ดิน (ระบบเปิด) โดยขุดสระ หรือแหล่งน้าขนาด
ใหญ่ให้ทะลชุ ั้นดนิ ดานเพ่ือให้สามารถเก็บนา้ อย่ไู ด้

2.3 การวางแผนบริหารจัดการธนาคารน้าใต้ดินด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
ภมู ศิ าสตรใ์ นชมุ ชน

1) ประสานมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เข้ามาช่วยดูใน
สว่ นของนวัตกรรม ได้แก่ การศกึ ษาขอ้ มูลด้านกายภาพ ทง้ั ดา้ นธรณวี ิทยา อุทกวิทยา ขอบเขตลมุ่ น้า
ระดบั น้า การไหลของนา้ รวมท้งั คุณภาพของนา้ วา่ มกี ารปนเป้ือนหรอื ไม่ อย่างไร

2) มจธ. ส่งขอ้ มลู ดังกล่าวใหก้ รมต่าง ๆ ท่เี กีย่ วขอ้ ง ตรวจวดั จากน้นั จัดทาแผนท่ี
ขอ้ มลู ดว้ ยมาตราสว่ นท่ีเหมาะสม เพ่อื ประเมินปริมาณน้าใต้ดนิ

3) รว่ มกับชมุ ชนในการวิเคราะห์ ศึกษาและนาเครอื่ งมอื ดังกลา่ วมาใชใ้ นการวาง
แผนการบริหารจดั การนา้ ของชมุ ชนตอ่ ไป

2.4 ปลูกฝังการใชน้ ้าอย่างรคู้ ุณคา่
1) ผู้นาชุมชน ประสานหน่วยงานทเ่ี ก่ียวข้องในพ้ืนท่ี เช่น ฝ่ายปกครอง เทศบาล

จัดกิจกรรมพัฒนาฟน้ื ฟแู ละอนุรักษ์แหลง่ น้าอยา่ งสม่าเสมอ
2) สร้างความร่วมมือกับผู้ประกอบภาคเอกชนในอาเภอ จัดกิจกรรมเพิ่มพื้นทสี่ ี

เขียวในชุมชน เพื่อเป็นแหล่งต้นทุนในการกักเก็บน้าในชุมชนให้มีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน
ตลอดไป

2.5 การวางแผนพัฒนาขา้ วสังขห์ ยดไปสสู่ นิ คา้ ท่มี ีส่ิงบ่งชที้ างภมู ศิ าสตร์ (GI)
1) ประสานความรว่ มมอื กบั สานกั งานเกษตรอาเภอ ผลกั ดันใหเ้ กษตรกรผปู้ ลกู ขา้ ว

สังข์หยดในหมู่บ้าน ปรับเปลี่ยนวิธีการเพาะปลูกเพ่ือเข้าสู่การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสาหรับพืช
เศรษฐกิจสาคัญอย่างข้าว (Good Agricultural Practices For Rice) จากกรมการข้าว เพ่ือให้
เกษตรกรที่ทาหน้าที่ผ้ผู ลิตนั้นปลอดโรค ผู้บริโภคปลอดภัย เพิ่มมูลค่าสินค้าให้สูงข้ึน โดยสานักงาน
เกษตรอาเภอประสานส่งเกษตรกรเข้ารบั การอบรมเปน็ ระยะ ๆ

31

2) อาเภอปากพะยูน ประสานไปยังจังหวัดพัทลุง เพ่ือร่วมกับสานักงานเกษตร
จังหวัด สานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด สหกรณ์จังหวัด และพาณิชย์จังหวัด ขับเคล่ือนการ
พัฒนาประสิทธิภาพการผลิตข้าวสังข์หยดให้แก่ผู้ประกอบการข้าวสังข์หยดในหมู่บ้าน ซึ่งมีการ
รวมกลุ่มในรปู แบบสหกรณ์การเกษตรหรือวสิ าหกิจชมุ ชนหมูบ่ า้ น อย่างจรงิ จงั และตอ่ เนือ่ ง เพื่อสร้าง
รายได้แก่เกษตรกรให้สงู ข้นึ กว่าเดิม และนาไปสกู่ ารได้รบั หนงั สืออนุญาตให้ใช้ตราสญั ลักษณ์ GI ไทย
และยกระดับให้ได้รบั หนังสือรบั รองส่งิ บง่ ช้ีทางภูมิศาสตร์ (GI) จากสหภาพยุโรป (EU) เพื่อเปน็ ช่อง
ทางการสง่ ออก สรา้ งรายไดร้ ะยะยาวตอ่ ไป

สรุปบทเรียนการทาแผนชมุ ชนบา้ นโหนดหมู่ หมทู่ ี่ 9 ตาบลหารเทา

อาเภอปากพะยนู จังหวดั พทั ลงุ

บทเรยี นทีด่ ี

1. ไดค้ วามรว่ มมือที่ดขี องคณะทางานและผ้เู ขา้ รว่ มประชมุ
2. สถานท่ีดี เหมาะสมกบั การประชมุ ในชมุ ชน
3. ทาใหเ้ กดิ การเตรียมพร้อมเร่ืองเอกสาร วสั ดอุ ปุ กรณ์ ในการประชมุ
4. ผู้เข้าร่วมประชมุ มสี ว่ นร่วมอยา่ งสรา้ งสรรค์
5. ได้วทิ ยากร กระบวนการมาร่วมงาน
6. ไดเ้ ห็นความพร้อม ความรว่ มมือ วฒั นธรรมการชว่ ยเหลือกนั ในชมุ ชน
7. ไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื ทด่ี ีจากภาครัฐ และองคก์ รอื่นๆ เช่น เทศบาลตาบล ธกส. พช.

กศน. สาธารณสขุ วัด เกษตรอาเภอ ฯลฯ
8. ได้คณุ ค่าจากการประชุม ทาให้เกดิ พลงั แหง่ ความรว่ มมอื
9. ชมุ ชนได้เสนอแผนงานโครงการ เพอ่ื เปน็ แนวทางในการพัฒนาชมุ ชน
10.ได้เหน็ ความสามารถของชุมชนอย่างแทจ้ ริง

เร่ืองที่ต้องปรบั ปรุงแก้ไข

1. ควรสรา้ งความเขา้ ใจใหก้ ับชุมชน พรอ้ มกบั คณะทางาน
2. ต้องมกี ารเตรียมความพรอ้ มของวทิ ยากรกอ่ นการประชุม

32

องคค์ วามรู้ในการเคลือ่ นแผนชุมชน 10 ขน้ั ตอน

1. เวทีค้นแกนนา / สร้างความเขา้ ใจแกนนา
2. เวทีศกึ ษาประวตั ศิ าสตร์
3. แบบสารวจ / การจดั เกบ็ ขอ้ มลู / รวบรวมข้อมลู
4. เวทวี ิเคราะห์ สงั เคราะหข์ ้อมลู
5. เวทยี กรา่ งแผน
6. เวทปี ระชาพจิ ารณแ์ ผน
7. การนาแผนไปสกู่ ารปฏบิ ัติ
8. การทบทวนปรบั ปรงุ แผน

9. การประเมนิ ผลสรปุ บทเรยี น



ภาคผนวก

แผนชุมชนบา้ นโหนดหมู่ หม่ทู ี่ 9 ตาบลหารเทา
อาเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง

แผนชมุ ชนบา้ นโหนดหมู่ หมทู่ ี่ 9 ตาบลหารเทา
อาเภอปากพะยนู จังหวดั พทั ลงุ

...............................

ประวตั หิ มบู่ า้ น
บา้ นโหนดหมู่ หม่ทู ี่ 9 ตาบลหารเทา อาเภอปากพะยูน จงั หวดั พทั ลุง ได้แยกจาก หมู่ที่ 5

บ้านทะเลเหมียง เมอ่ื วันท่ี 10 เดอื น มิถนุ ายน 2535 นายสมพงค์ เกิดเอียด เป็นผ้ใู หญบ่ ้าน
คนแรกของบา้ นโหนดหมู่ เมอื่ กอ่ นการอยอู่ าศยั จะอยูอ่ าศัยกนั เปน็ กลุ่ม ๆ ตระกูลแรกที่เขา้ มาอยู่
อาศยั คือ บ้านควนสะตอ คือ ตระกลู แจง้ กระจ่าง บา้ นทงุ่ ปาบ คือ ตระกูลเกตุหมูหย๊ะ บ้านท่งุ
ขุนหลวง คือ ตระกูลรัตนพิมล และตระกูลปลายแก้ว ตระกูลสุวรรณธนะ ท่ีชาวบ้านได้เรียกวา่
บ้านโหนดหมู่ เพราะมีต้นตะโหนดปลูกกนั เปน็ หย่อม ๆ ชาวบ้านจึงเรียกว่าบ้านโหนดหมู่ ตระกลู
แรกท่ีมาอยอู่ าศยั คือ ตระกลู คงนวล ตระกลู พรหมเมศ ตระกูลยิ้มแก้ว และตระกลู เกดิ แสงสุรยิ งค์
➢ อาณาเขตตดิ ต่อ

บ้านโหนดหมู่ ตงั้ อยู่ในตาบลหารเทา อาเภอปากพะยูน จังหวัดพทั ลงุ มีอาณาเขตติดตอ่
ดงั น้ี

ทศิ เหนือ ตดิ ตอ่ กบั คลองสาธารณะกนั ระหว่าง หม่ทู ี่ 1 ตาบลวงั ใหม่ อาเภอป่าบอน
ทิศตะวนั ออก ติดต่อกับ ทางรถไฟกันระหว่าง หมู่ที่ 2 ตาบลหารเทา
ทศิ ตะวันตก ตดิ ตอ่ กบั หมูท่ ่ี 5 ตาบลหารเทา
ทศิ ใต้ ติดตอ่ กบั หมทู่ ่ี 7 ตาบลหารเทา
➢ ลักษณะภมู ิประเทศ
มีสภาพโดยทัว่ ไปเป็นทีร่ าบลุ่มและเนินมีแหล่งน้า 3 สาย หารน้าดา หารหมอ้ คลองวดั
ทงุ่ ขุนหลวง เหมืองนา้ 4 สาย เหมืองดิน เหมืองคอนกรตี สง่ นา้ จาก ท.ร.บ.ท่าเกวียน หม่ทู ่ี 7
ตาบลหารเทา พ้นื ทีด่ ินปนทราย เหมาะแก่การทาการเกษตร ทานา ทาสวน เลย้ี งสัตว์ เมอ่ื กอ่ น
พ้ืนท่ีส่วนใหญท่ านาข้าวเป็นหลกั แต่ปจั จุบันพืน้ ท่ีบางสว่ นถกู เปลยี่ นเป็นสวนยางพารา เนอื่ งจากทา
สวนยางพารา สามารถเพ่มิ รายได้มากกว่า การทานาข้าว
➢ ประเพณี
- งานบวช - งานมงคลสมรส - ขึ้นบา้ นใหม่
- งานศพ และทาบญุ ตักบาตร - งานแกส้ ินบนมโนราห์
- รดนา้ ผ้สู ูงอายุ

ข้อมลู ทั่วไป

1. ลักษณะเขตที่ตัง้ ของหม่บู ้าน

ตง้ั อย่ใู นเขตพ้ืนที่เทศบาลตาบลหารเทา มีเนอื้ ท่ี 2,124 ไร่ ใช้ทาการเกษตร ทานา
1,124 ไร่ เป็นพื้นท่ีทาสวนยาง และเลี้ยงสัตว์ ที่อยู่อาศัยประมาณ 1,000 ไร่ บ้านโหนดหมู่
หมู่ที่ 9 ตาบลหารเทา อาเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง อยู่ห่างจากอาเภอปากพะยนู ประมาณ
14 กิโลเมตร

ข้อมลู ถนน

1. ถนนคอนกรีต ซอยหน้าโรงเรยี น
2. ถนนลูกรัง บ้านปรายหาร

3. ถนนลูกรัง บา้ นควนตอ
4. ถนนลูกรงั บ้านทุ่งขนุ หลวง
5. ถนนลกู รัง บา้ นในพรุ

6. ถนนลกู รงั บ้านในพรุ ถงึ บ้านโคกปาบ
7. ถนนลกู รงั สายบา้ นเกา่ ถงึ บา้ นในพรุ
8. ถนนลาดยาง บ้านโหนดหมู่ สายหารเทา-ป่าบาก

2. ครวั เรือนและประชากร จานวน 234 ครวั เรอื น
- จานวนครวั เรอื นทั้งหมด จานวน 5678 คน
- ประชากรในหมบู่ า้ นท้ังหมด
- (แยกเปน็ เพศชาย 273 คน เพศหญงิ 294 คน)

3. แหล่งนา้

3.1.บอ่ น้าตื้นสว่ นตวั

- บอ่ น้าตื้นสว่ นตวั จานวน 11 บอ่ ใชก้ ารได้ จานวน 11 บ่อ
3.2.บ่อนา้ บาดาลสว่ นตวั และสาธารณะ

- บอ่ น้าบาดาลสว่ นตวั จานวน 9 บ่อ สามารถใช้การได้ จานวน 9 บอ่

- บ่อน้าบาดาลสาธารณะ จานวน 3 บอ่ สามารถใช้การได้ จานวน 2 บอ่
3.3.ระบบนา้ ประปา

- มีระบบน้าประปา จานวน 1 แหง่ และสามารถใชก้ ารได้ จานวน 1 แหง่

- ครวั เรอื นทใ่ี ชน้ า้ ประปา จานวน 234 ครวั เรอื น
3.4.มีนา้ ประปาสาหรบั ไว้ใชภ้ ายในครัวเรือนเพียงพอตลอดปี

- มีน้า ใชป้ ระกอบอาหาร ลา้ งหนา้ บว้ นปาก และแปรงฟนั เปน็ ตน้ อกี

จานวน 3 ลติ ร) จานวน 234 ครวั เรือน คดิ เป็น 100 %
- น้าด่มื ท่สี ะอาดยงั ไมม่ ีไวส้ าหรบั ดมื่ (ปริมาณนา้ 5ลติ ร/คน /วันโดยใช้ดืม่
3.5.นา้ เพ่อื การเกษตรมี 3แหง่ 1 หารนา้ ดา 2 หารหม้อ 3 คลองวัดทงุ่ ขุนหลวงนมิ ิต

- มีเหมอื งน้า 2 สาย 1 สายหว้ ยเหมืองสี ( แบบคอนกรตี ยาว 2000เมตร )
- สายหน้าเทศบาลถงึ คลองวัดทุ่งขุนหลวงนมิ ิตเหมืองดิน ยาว3000 เมตร
- น้าเพอ่ื การเกษตร มเี พยี งพอตลอดท้ังปี จานวน100 ครวั เรอื น

4. บริการสาธารณะท่ีมภี ายในหมู่บา้ น

4.1. มีวัด 1 แห่ง ฌาปนสถานหัวสะพานเหล็ก 1 แห่ง
4.2. คลังสัตว์หรือสัตวแ์ พทย์ อาสา หรืออาสาพัฒนาปศสุ ตั ว์ มจี านวน 1 แหง่

4.3.มโี รงเรยี นประถม 1 แหง่ ภาคบงั คบั 9 ปี อยู่ในรศั มไี ม่เกิน3กโิ ลเมตร จากโรงเรียน
ประถม จานวน 1 แหง่

4.4.ศนู ย์พฒั นาเด็กเล็ก หรอื สถานรบั เลี้ยงเด็กกอ่ นวยั เรียนมี จานวน 1 แห่ง

4.5.หอกระจายข่าวหรือเสยี งตามสายที่ใชก้ ารไดม้ ี จานวน 1 แหง่
4.6.ที่อา่ นหนังสอื ประจาหมบู่ า้ น จานวน 2 แห่ง

4.7.ศาลาประชาคมหมบู่ ้าน จานวน 1 แหง่
4.8. สนามเด็กเลน่ /สนามกีฬา มีจานวน 2 แห่ง

5. ไฟฟา้

มไี ฟฟา้ ใช้ ไม่ครบทุกครัวเรือน

6. การคมนาคม และสือ่ สาร

การใช้ถนนเส้นทางหลกั ภายในหมูบ่ า้ น ใชก้ ารไดด้ ตี ลอดทง้ั ปี ถนนสายเฉพาะท่ีอยู่

ในเขตพ้ืนท่ีของหมู่บ้าน ถนนลาดยาง 2 กิโลเมตร ถนนที่ใช้เดินทางไปอาเภอมี จานวน 1
เสน้ ทาง เส้นทางทส่ี ะดวกทสี่ ดุ จากหมบู่ า้ น ถึงอาเภอที่ใกลท้ ีส่ ุดระยะทางทั้งหมด 9 กิโลเมตร เปน็
ถนนลาดยาง 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 15 นาที

-ในเขตหม่บู ้านมสี ะพานคอนกรตี เสรมิ เหลก็ (คสล.) จานวน 1 แหง่
-รถปิกอพั รถเกง๋ รถจกั รยานยนต์ และจักรยานยนต์สองลอ้
- รถปิกอพั รถเก๋ง มีจานวน 61 คัน 51 ครัวเรอื น

- รถจักรยานยนต์ มจี านวน 186 คัน 154 ครวั เรอื น
- รถจักรยานสองล้อ มีจานวน 28 คนั 25 ครัวเรอื น
-โทรศพั ท์ ประจาบ้านโทรศัพท์ เคลอ่ื นท่ี และระบบอนิ เตอร์เน็ต

- โทรศพั ท์สาธารณะ มจี านวน 1 แห่ง
- โทรศัพทเ์ คล่อื นที่ (โทรศัพทม์ ือถอื ) มจี านวน 185 ครัวเรอื น
- วิทยุส่ือสาร จานวน 3 เครื่อง (อปพร.)

- อินเตอร์เน็ต จานวน 10 ครัวเรือน

7. ร้านคา้

- รา้ นค้าขายของชาหรือขายของเบด็ เตล็ดและ/หรือผลิตภัณฑ์ของหม่บู ้าน/ชุมชนมี

จานวน 8 แห่ง
- รา้ นขายของปจั จยั การผลติ จานวน 3 แหง่
- รา้ นซ่อมรถ จานวน 3 แหง่

- รา้ นจาหน่ายแก๊สหงุ ต้ม จานวน 3 แห่ง
- มสี ถานที่บริการน้ามนั จานวน 3 แหง่
- มโี รงสี ขนาด 20 แรงมา้ จานวน 2 แห่ง

8. เชอื้ เพลงิ ในการหุงตม้
- ครวั เรือนสว่ นมากใช้ แกส๊ หรือใชไ้ ฟฟ้าในการหุงตม้

9. การมที ่ีดนิ ทากนิ

1.ประเภทการมีทีด่ ินทากินของครัวเรือน
- ครัวเรือนทมี่ ที ่ีดินทากินเป็นของตนเอง และไมต่ ้องเชา่ มจี านวน 234 ครวั เรือน

- ครัวเรือนท่ีมีที่ดินทากินเป็นของตนเอง แต่ต้องเช่าเพิ่มบางส่วนมีจานวน 7

ครวั เรือน

2.ลักษณะของเอกสารสทิ ธท์ิ ีด่ ิน และการถอื ครองเอกสารสิทธทิ์ ด่ี ิน

- พื้นท่รี วมทั้งหมด มีจานวน 2,124 ไร่ พนื้ ทีท่ ้ังหมดของหมูบ่ า้ นมีเอกสารสทิ ธิ์

ในที่ดินประเภทโฉนด น.ส.3 น.ส.3ก น.ส.3ข ใบจอง ส.ค.1 ส.ค.2 ส.ค.3 น.ส.3ก สน.5 มี

จานวน 2,124 ไร่

เศรษฐกจิ ชุมชนบา้ นโหนดหมู่ หมู่ที่ 9 ตาบลหารเทา อาเภอปากพะยูน จงั หวดั พัทลงุ

1. รายได้

ที่ รายการรับ เฉลีย่ บาท/ปี หมายเหตุ

1 ขายผลิตผลจากไร่ นา สวน 25,832,873

2 ขายสตั ว์เลยี้ ง ไข่ มูลสตั ว์ ซากสัตว์ 262,629

3 ขายผลิตภัณฑ์จากงานหตั ถกรรม งานฝมี อื -

4 ขายสินค้าที่ซอ้ื มารวมทง้ั การขายอาหาร 1,893,439

5 ขายพืชสตั ว์จากแหลง่ ธรรมชาตแิ ละขายขยะ 67,300

6 คา่ จา้ งจากทางานและบริการ 557,314

7 เงนิ เดือน เบี้ยเลี้ยง ค่าคอมมชิ ช่ัน 6,011,738

8 เงนิ สงเคราะหโ์ บนสั บานาญค่าพยาบาลฯลฯ 587,106

9 ขายหรอื เชา่ ทีด่ นิ บ้าน รถ เครื่องมอื ต่าง ๆ 2,064,500

10 ดอกเบย้ี เงินปันผล ประกันชวี ิต ลงทุน ลูกหนี้ 1,890,000

11 รายได้จากการเสี่ยงโชค 2,412,765

12 เงินที่ได้จากการกยู้ ืม ให้ยมื 544,882

13 ลูกหลาน ญาตพิ ่นี อ้ ง ส่งใหม้ า 195,031

14 เงนิ ทผ่ี ู้อนื่ ชว่ ยงานต่าง ๆ รวมค่าสนิ สอดทองมั่น 1,200,000

15 เงนิ หรอื ลาภลอยท่มี ีคนนามาใหก้ รณีพเิ ศษ -

รวมรายรบั ของชุมชนบา้ นโหนดหมู่ 43,519,577

2 . หนสี้ ิน 4,288,000.-บาท
- ธนาคารเพือ่ การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 4,020,000.-บาท
- สหกรณ์ 1,882,100.-บาท

- กลมุ่ องค์กร -
- หน้นี อกระบบ/นายทนุ 9,066,500.-บาท
- กลุ่มออมทรัพย์
14,618,046.-บาท
3. รายจา่ ย ชุมชนบา้ นโหนดหมู่ 5,921,699.-บาท
- หมวดที่ 1 ค่าใช้จ่ายในการประกอบอาชีพ
- หมวดที่ 2 คา่ อาหาร

- หมวดที่ 3 ยา-สุขภาพอนามยั 1,211,080.-บาท

- หมวดท่ี 4 เสือ้ ผ้า เครอ่ื งแตง่ การ เครื่องประดบั 1,142,535.-บาท

- หมวดที่ 5 ท่อี ยอู่ าศัย 4,920,000.-บาท

- หมวดที่ 6 คา่ ใชจ้ ่ายเพอื่ การลงทนุ งานสงั คมและเพอื่ การพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ

15,808,800.-บาท

- หมวดที่ 7 ค่าใช้จา่ ยในการศกึ ษา 894,400.-บาท

สรุปรายจา่ ย บ้านโหนดหมู่ เฉลีย่ บาท/ปี หมายเหตุ

ท่ี รายการจ่าย 536,170
หมวดที่ 1 คา่ ใชจ้ า่ ยในการประกอบอาชพี
3,666,734
1 คา่ จา้ งแรงงาน
2 คา่ เชา่ /ซ้ือหรอื ลงทุนเคร่อื งมอื ในการประกอบอาชพี เช่นเช่า 73,723
1,499,110
รถไฟ เครื่องปั่นไฟรถเกยี่ วข้าว สรา้ งโรงเรยี น ขุดบอ่ ปลา ถ้วย
ชาม เมล็ดพันธุ์ อาหารสัตว์ ฯลฯ 21,446
3 ค่าโดยสาร คา่ แสตมป์ คา่ สง่ พสั ดภุ ัณฑ์ ฯลฯ 2,293,260

4 คา่ น้ามันเช้อื เพลงิ ทใี่ ช้กบั พาหนะเดินทาง 47,720
5 คา่ ปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยหมัก ปุย๋ คอก และยาขบั ไล่แมลงชวี ภาพ 42,212
6 ค่าปุ๋ยเคมี สตู รตา่ ง ๆ ฮอรโ์ มน 3,047,671
3,392,000
7 ยาฆ่าแมลง ยาปราบศัตรูพืช
8 ค่าซอ้ มแซมอุปกรณ์ เครือ่ งมอื การเกษตร 319,064
1,442,446
9 เงนิ สด เงินดาวน์ หรือเงนิ ผ่อนเพอ่ื ซอื้ ยานพาหนะ เชน่ รถ
เรือ ฯลฯ 516,350
289,361
10 ซือ้ สินคา้ เพื่อจาหน่าย
3,400
หมวดท่ี 2 คา่ อาหาร
11 ข้าวสารทกุ ชนดิ 696,276

12 เนอ้ื สัตว์บกสตั วน์ า้ แมลง และสตั ว์ที่ใช้เปน็ อาหาร
13 คา่ ผักสดและผลไมส้ ดตา่ ง ๆ พรกิ หอม กระเทียม ขงิ ข่า ฯลฯ
14 ไขส่ ด เชน่ ไขเ่ ปด็ ไขไ่ ก่ ฯลฯ

15 เครือ่ งเทศ เช่น พริกไทย ก้านพลู ขมน้ิ อบเชย ฯลฯ
16 อาหารแห้ง อาหารกระปอ๋ ง อาหารหมกั ดอง ทกุ ชนิด อาหาร

สาเรจ็ รปู และเคร่ืองปรงุ อาหาร เช่น กะปิ น้าปลา นา้ ตาล
ฯลฯ

17 อาหารสาเรจ็ ที่ซื้อจากร้าน เช่น ข้าวผดั กว๋ ยเตี๋ยว กับข้าวถุง 1,008,268
ขนมหวาน ไอศกรีม ฯลฯ 609,196

18 น้าสะอาด เช่นน้าแร่ น้าโพลารสี ฯลฯ

19 นา้ อัดลม ชา กาแฟ เครอ่ื งดืม่ เกลอื แร่ เชน่ สปอนเซอร์ ฯลฯ 67,500
19,500
20 ขนมทกุ ชนิด โอวลั ตนิ ไมโล นา้ ผลไม้ ฯลฯ 511,665
21 ขนมขบเคี้ยว ขนมกรบุ กรอบ ลูกอม 220,700
22 ค่าขนมทใี่ หเ้ ด็กไปโรงเรียน 12,550
23 ค่าเครอ่ื งด่ืมชูกาลงั เช่น กระทงิ แดง ลโิ พ ฯลฯ 68,700
24 เหลา้ เบยี รย์ าดอง ไวน์ กระแช่ ฯลฯ 136,723
25 คา่ เช้ือเพลงิ ในการหุงตม้ เชน่ แก๊ส ถา่ นฟืน ฯลฯ
2,600
หมวดที่ 3 ยา – สขุ ภาพอนามัย 221,500
26 ยาแกป้ วด
27 ยารกั ษาโรค 6,300
28 ยาหรืออปุ กรณค์ มุ กาเนิด 70,600
29 คา่ รกั ษาพยาบาลท่ีสถานีอนามยั โรงพยาบาล และคลนิ กิ 380,680
30 ยาสบู บหุ ร่ี หมาก ยานัด ฯลฯ 529,400
31 ค่าประกันชีวติ ประกันสขุ ภาพ ประกันภยั
741,255
หมวดที่ 4 เสื้อผา้ เครอ่ื งแต่งกาย เคร่อื งประดับ
32 เสอ้ื ผ้า เครอื่ งแตง่ กาย และเครอ่ื งนอน 156,180
33 ค่าใช้จา่ ยในการเสรมิ สวย เช่น ตดั ผม ดดั ผม ย้อมผม
245,100
เครอ่ื งสาอาง ครีมบารงุ ผิว ฯลฯ
34 ซอ้ื ทอง นาก เพชร พลอย และเคร่อื งประดบั อน่ื ๆ

หมวดท่ี 5 ท่อี ยู่อาศยั 850,500

35 เงินสด เงนิ ดาวน์ หรือเงินผอ่ น เพอื่ ซอ้ื หรือเช่าทด่ี นิ หรือ 626,500
สงิ่ กอ่ สรา้ งอ่ืน ๆ
1,208,700
36 ค่าซ่อมแซม ตอ่ เตมิ หรอื ปลุกบ้าน หรอื ปรบั ปรงุ บริเวณบา้ น/
ทีด่ ิน 945,650
630,365
37 เงนิ สด เงนิ ดาวน์ หรอื เงินผอ่ น เพอื่ ซอื้ หรอื ซ่อมเคร่ืองใช้ใน 101,685
บา้ น เชน่ โทรทศั น์ ตู้เยน็ โทรศพั ท์ คอมพวิ เตอร์ ฯลฯ 474,500
82,100
38 ของใชป้ ระจาบ้าน เช่น สบู่ ยาสีฟัน แปลงสฟี ัน ยาสระผม
ผงซกั ฟอก จาน ชาม ช้อน ผา้ อนามยั ของเล่นเด็ก ฯลฯ -

39 ค่าไฟฟ้า
40 ค่านา้ ประปา

41 คา่ โทรศพั ทค์ รัวเรือน และคา่ บตั รเตมิ เงิน
42 คา่ หนังสือพิมพ์ หนงั สอื นติ ยสาร ค่าภาษตี ่าง ๆ เช่น ภาษี

โรงเรือน ภาสที ดี่ ิน ค่าเก็บขยะ ฯลฯ

43 ภาษี

หมวดท่ี 6 คา่ ใชจ้ ่ายเพื่อการลงทนุ งานสังคม และการ

พักผอ่ น

44 ฝากธนาคาร ซื้อพนั ธบตั ร ฝากสหกรณ์ ออกเงนิ กู้ 2,668,500

45 จ่ายดอกเบย้ี ผ่อนใชห้ นเ้ี งนิ กยู้ มื เล่นแชร์ 10,335,200

46 เงนิ ทาบุญหรือบรจิ าค 225,600

47 เงินช่วยงานหรอื เงนิ ใสซ่ องงานแต่งงาน 1,580,700

48 ค่าใช้จ่ายในการจดั งานแต่ง(รวมค่าสินสอดทองหมัน้ )งานศพ 664,200
งานบวช งานข้ึนบา้ นใหม่ งานวนั เกดิ ฯลฯ

49 จา่ ยเพือ่ พกั ผอ่ นหยอ่ นใจ เช่น ค่าแผน่ ซีดี ค่าตว๋ั ดูหนงั ดนตรี 5,500
ลเิ ก และการแสดงอื่น ๆ ฯลฯ

50 ซอื้ สัตวเ์ ลี้ยง เชน่ สนุ ขั นก ปลา ฯลฯ หรอื ดอกไม้ประดบั 15,000

51 เงนิ เดอื นหรอื เงินทสี่ ่งไปช่วยเหลอื ญาติในครอบครวั ทอี่ ยู่ทอ่ี น่ื 25,500

52 เงนิ ทเี่ สียไปโดยไมเ่ ติมใจ เช่น ทาเงนิ หาย ถูกลักขโมย ถกู ปรบั -

53 เงินทจี่ า่ ยเพอ่ื การเสยี่ งโชค เช่น ซอ้ื หวย ลอ๊ ตเตอรห่ี รือสลาก 288,600
กนิ แบง่ ฯลฯ

54 เงินเสี่ยงโชคในรูปแบบต่าง ๆ -

หมวดที่ 7 คา่ ใชจ้ ่ายในการศึกษา 548,800
55 คา่ เทอม ค่าเรยี นพเิ ศษ คา่ กจิ กรรม 225,600

56 คา่ อุปกรณก์ ารเรียน เชน่ สมดุ หนงั สือ เครือ่ งเขียน กระเปา๋ 120,000
ฯลฯ

57 ค่าชุดนักเรยี น ชดุ พละ ชุดลูกเสอื เนตรนารี ยุวกาชาด ฯลฯ

รวมรายจา่ ยของชมุ ชนบ้านโหนดหมู่ 39,596,560

10. การทานา

ครวั เรือนทที่ านาจาแนกตามขนาดพื้นทท่ี านา
- พน้ื ท่ที านา มจี านวน 1,125 ไร่ - ครวั เรือนทท่ี านา มีจานวน 102

ครวั เรอื น
- ครวั เรือนทานาไม่เกนิ 5 ไร่ มีจานวน 42 ครวั เรอื น
- ครวั เรอื นท่ที านา 6 – 8 ไร่ มีจานวน 45 ครวั เรือน

- ครวั เรือนท่ีทานา 8-10 ไร่ มีจานวน 15 ครวั เรอื น

11. การทาสวน/ปลกู พืช
- การทาสวนยางพารา จานวน 1,025 ไร่ จานวน 152 ครวั เรือน

- การปลกู พืช ผกั จานวน 168 ครัวเรือน

12. การเลยี้ งสตั ว์
- การเลย้ี งวัวเนื้อเพอื่ จาหนว่ ย มจี านวน 30 ครัวเรือน จานวนวัวท่ีเลีย้ ง 150
ตัว
- การเลยี้ งหมู จานวน 4 ครัวเรือน 40 ตัว
- ครวั เรือนเล้ียงเป็ด ไก่ เพ่อื ขายและไว้กนิ จานวน 31 ครวั เรอื น
- เล้ียงปลา/ทาการประมง 47 ครัวเรอื น
- สัตว์เลยี้ งใช้งานและเคร่ืองจกั รในการเกษตร
- ควายเหลก็ หรือรถไถเลก็ มเี ปน็ ของตนเอง จานวน 7 ครัวเรอื น
- ไมม่ คี วายเหลก็ หรอื รถไถเลก็ และต้องจ้าง จานวน 18 ครัวเรือน

13. การรบั จา้ ง
- ครัวเรือนทีม่ ีคนประกอบอาชีพรบั จ้างมีจานวน 35 ครัวเรือน ส่วนมากรับจ้าง

ทางาน ช่างฝีมอื เชน่ อุตสาหกรรมในโรงงาน จานวน 6 คน เยบ็ เสือ้ ผ้าสาเร็จรูป 4 คน ชา่ งไม้
10คน ช่างปนู 17 คน ช่างซอ่ มเครอื่ งยนต์ 3 คน ขับรถ 3 คน กรีดยางจา้ ง 20 ครวั เรอื น

14. สภาพปัญหาหมู่บา้ น (ทุกข์)
1. ดา้ นโครงสรา้ งพืน้ ฐาน
- ถนนเปน็ ถนนลูกรงั มฝี ุน่ ละอองในฤดแู ลง้
- ประปาหมู่บ้านชารดุ
- ประตูปิดเปิดระบายนา้ และทอ่ ระบายน้าและคนั ดินรมิ คลองยงั ไมม่ ี
- เหมอื งสง่ นา้ ตน่ื มวี ชั พชื และในแห่งน้า
- ไฟฟ้าภายในครัวเรือนยังมไี มค่ รอบทุกครวั เรอื นและไฟฟ้าสอ่ งทาง
2. ดา้ นสุขภาพและอนามัย
- โรคเบาหวาน ความดนั ไขมนั ในเส้นเลือด อว้ น สารพษิ
- ไมม่ นี า้ ดมื่ ทีส่ ะอาดภายในชมุ ชน
3. ดา้ นสิ่งแวดล้อม
- ฝุ่นละออง - ทาลายทรัพยากรธรรมชาติ

4. ดา้ นสงั คม

- คนวา่ งงาน

- ครอบครวั มีรายไดน้ ้อย เดก็ กาพรา้ และดอ้ ยโอกาส คนพกิ าร

5. ดา้ นความรกู้ ารศึกษา

- พัฒนาฝีมอื แรงงาน

6. ด้านเศรษฐกจิ

- มหี น้ีสนิ /ไม่มีทท่ี ากนิ - น้าเพ่อื การเกษตร

จดุ แขง็ (ทุน ศักยภาพชมุ ชน )

ผ้นู า ฝา่ ยปกครอง

1.นายร่ืน แจ้งกระจ่าง ผใู้ หญบ่ า้ น

2. นางประจวบ ใหม่แก้ว ผ้ชู ่วยฝา่ ยปกครอง

3. นางชบา ชว่ ยชู ผูช้ ่วยฝ่ายปกครอง

4. นายอานวย สงเขยี ว ผ้ชู ว่ ยฝ่ายรักษาความสงบเรียบรอ้ ย

ผูน้ าองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่ิน
นายศกั ดิ์ชัย แจง้ กระจ่าง รองนายกเทศมนตรีตาบลหารเทา

สถานทส่ี าคัญ และศกั ยภาพชมุ ชน * กลุ่มอาชพี
* กลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอื่ การผลติ บ้าน
* วดั ทุง่ ขนุ หลวง
* โรงเรยี นบา้ นทะเลเหมยี ง * กลุม่ ผสู้ งู อายุ
* กลมุ่ สตรี และกลมุ่ เยาวชน
โหนดหมู่ * กลุ่มปยุ๋
* หารนา้ ดา * กองทุนสวสั ดกิ ารชมุ ชน
* หารหมอ้ * กอทนุ แมข่ องแผน่ ดิน
* โรงนา้ ดื่มชมุ ชน
* ศูนย์การเรยี นรู้ชมุ ชนบา้ นโหนดหมู่
* ธนาคารหม่บู า้ นโหนดหมู่
* โรงสีชุมชน

*ประปาหมบู่ า้ น

ความคาดหวงั ของชุมชน

1. ดา้ นเศรษฐกจิ

- สรา้ งเครอ่ื งสูบนา้ เพอ่ื การเกษตร และระบบทอ่ ส่งนา้
- รถไถนาขนาดใหญ่ / ขนาดเลก็
- ผลผลติ ทางการเกษตรราคาตกต่า

- การบริหารจัดการนา้ เพ่ือการเกษตร
- ผลิตปยุ๋ อนิ ทรีย์ ชีวภาพ / เคมี ในระบบกล่มุ
2. ด้านสงั คม การศกึ ษา

- ฝึกอบรมกลมุ่ อาชพี
- ส่งเสริมการศกึ ษาทั้งใน และนอกระบบ
- ป้องกันและเฝา้ ระวังยาเสพตดิ

- ทุนการศึกษา
-การศกึ ษาดูงาน
3. ดา้ นโครงสรา้ งพ้ืนฐาน

- ปรบั ปรงุ ระบบประปาภายในหมบู่ ้าน
- ถนนทกุ สายภายในหมบู่ ้าน เชน่ ลาดยาง คอนกรีต ยกระดบั บดอัด
- ทอ่ ระบายน้าทกุ จุดทม่ี ีนา้ ทว่ มขงั

- สรา้ งแหลง่ กกั เกบ็ น้าใชเ้ พือ่ การเกษตร
- ปรังปรงุ ประตรู ะบายนา้ และฝ่ายกนั นา้

- ขยายเขตไฟส่องทาง
- ขยายเสียงตามสาย
- ลานกีฬาหมูบ่ า้ น

- ลานตากข้าว
4. ดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม และสาธารณสุข

- สถานทีจ่ ัดเกบ็ ขยะ

- ส่งเสริมการออกกาลงั กาย
- ส่งเสรมิ การตรวจสขุ ภาพ
- สง่ เสรมิ การอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม

- การจดั การระบบนิเวศ
5. ดา้ นวฒั นธรรม และภูมปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่

- อนรุ ักษภ์ มู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น

- ส่งเสรมิ ประเพณวี ัฒนธรรมทอ้ งถน่ิ
- ส่งเสริมผนู้ าด้านอาชีพตา่ งๆ

ตารางวิเคราะห์ หาสาเหตขุ องปญั หา / แนวทางแก้ไขปัญหาของชุมชน

จดุ อ่อน / ปัญหา สาเหตุ แนวทางแก้ไข

ด้านโครงสร้างพื้นฐาน

1.ปา้ ยถนน (เปลยี่ นชอื่ ปา้ ย) 1. มาจากการแยกหมู่บ้านแต่ยังไม่มี 1.ทาประชาคมเปล่ียนช่ือเป็น

2. ปา้ ยสายตรวจ การเปล่ียนแปลงชื่อ หมบู่ ้าน

3. เปลย่ี นชอ่ื โรงเรียน

4.เพิม่ ป้ายสญั ญาณตา่ งๆ บนสองข้างทาง 2. คนขับรถขบั ไม่ระวังสัตวข์ า้ งถนน 2.ติดป้ายสัญญาณ ระวังสัตว์ข้าม

ถนน

5.ถนนหนทางเป็นหลมุ เปน็ บอ่ 3. ถนนไมไ่ ด้มาตรฐานเปน็ ถนนลูกรัง 3.ยกระดบั ถนนเปน็ ถนนบดอดั

6.ตดิ ตงั้ ไฟสอ่ งทางตามจุดตา่ งๆทุกจดุ 4.ยังขาดงบประมาณในการตดิ ตง้ั 4.เพม่ิ จุดในการติดต้งั ใหท้ วั่ ถงึ

7.เหมอื งสง่ นา้ ตืน้ เขินทุกสาย 5.ขาดการพฒั นาอยา่ งจรงิ จงั 5.ปรับปรุงขุดลอกระบบส่งน้าให้ได้

มาตรฐาน(พรอ้ มฝายกันน้า)

8. ขาดแคลนไฟฟา้ 6.ไม่มงี บประมาณ 6.ขยายเขตไฟฟา้ ใหท้ ว่ั ถงึ

9. ประปาหมูบ่ ้าน 7.ไม่สะอาด ไหลช้า เพราะสายเมน 7 . ส ร้ า ง ถั ง ก ร อ ง ป ร ะ ป า ให้ ได้

ประปามขี นาดเลก็ และชารดุ บางส่วน มาตรฐาน(พร้อมอุปโภคและบรโิ ภค)

8.ตดิ ตัง้ เสยี งตามสายภายในหมู่บ้าน

10.ตดิ ตั้งเสียงตามสาย 8.การประชาสัมพันธ์ข่าวสารยังไม่

ท่ัวถึง

ด้านเศรษฐกจิ และดา้ นสภาพแรงงาน

1.ต้นทนุ การในการผลิตสงู รายไดน้ ้อย 1.ไม่มที างเลือกอ่ืน 1.ผลติ ปุย๋ ไว้ใชเ้ อง ทาป๋ยุ หมกั

2.ไมม่ ที ที่ ากินเป็นของตนเอง 2.ไม่รักอาชีพ มคี า่ นยิ มที่ผิดๆ 2.สง่ เสรมิ การประกอบอาชีพทม่ี ัน่ คง

3.ใชพ้ ชื ตระกูลถ่ัวมาปรบั ปรงุ ทีด่ นิ

3.ไมร่ ับผดิ ชอบในหน้าท่ีของตนเอง 3.ขาดการบารงุ รกั ษาดิน - ปรับปรุงให้ดินโล่ง ปลูกหญ้าไว้

4.ขาดความรบั ผิดชอบโดยสันดาน - ไมม่ พี ้ืนทเ่ี ล้ียงสตั ว์เป็นของตวั เอง เล้ยี งววั

5.ดินเสื่อมคุณภาพ มีปัญหาเรอ่ื งพน้ื ทกี่ าร - ยงั ไมม่ ีอาชีพเสริม - สร้างความเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกัน

เลี้ยงสตั ว์ - พนื้ ทีร่ กร้างขาดการปรับปรุง ระหว่างเจ้าของทด่ี นิ

6.ศตั รูทาลายพชื ไร่ ในการทาเกษตร - ต่างคนกต็ า่ งทา ต้องการทาประโยชน์ - สร้างโรงอบข้าว และลานตากขา้ ว

7.ขาดการวางแผนในการทาการเกษตร ในท่ีดนิ ของตนเอง - รวยรวมกลุม่ กนั ซ้ือ – ขายขา้ ว

8.ไม่ได้เก็บผลผลิตไว้ได้นาน ถูกพ่อค้าคน - ข้าวชื้นเก็บได้ไม่นานยุ่งยากในการ - หาอาชพี เสรมิ ใหช้ มุ ชน

กลางกดราคา เก็บรกั ษา - ส่งเสริมการเพิ่มรายได้ การซื้อ

9.ขาดการส่งเสริมการประกอบการตลาด - ไม่มีตลาดรับซ้ือ , ตลาดไม่พอใจใน และหาตลาดทีแ่ น่นอน

ไม่แนน่ อน สนิ ค้า - ปรบั ปรงุ คุณภาพของผลติ ภณั ฑ์

10.ผลติ ภัณฑไ์ มม่ ีคุณภาพ 4.จัดซอ้ื เครอื่ งมอื ทางเกษตร

11.เคร่อื งมือทางการเกษตร/เครื่องจกั ร 4.ขาดเครอ่ื งมอื ทางเกษตร/เครอื่ งจักร

จุดอ่อน / ปญั หา สาเหตุ แนวทางแกไ้ ข

ด้านสุขาภาพ อนามยั และด้านยาเสพตดิ

1.ยึดตดิ กับคา่ นยิ มเก่าๆ 1.เพ่ือสงั คมสว่ นตวั 1.ปฏบิ ัติตวั ใหเ้ หมาะเป็นบางโอกาส

2.เวชภัณฑใ์ นสถานท่ไี มม่ ีคุณภาพ 2.งบประมาณไมเ่ พยี งพอ 2.จัดหางบประมาณ อุปกรณ์ และ

3.ยังขาดการดแู ลเอาใจใสส่ ุขภาพตัว - การแยกชั้นวรรณะ และสิทธิในการ เวชภณั ฑ์เพิม่

4.ปญั หาเรอื่ งโรคเรอ้ื รงั ของตัวเอง รกั ษาไม่เท่ากนั 3.ส่งเสริมการออกกาลังกาย ตรวจ

5.ห้องน้าไม่สะอาด 3.ไม่แก้ไขพฤติกรรมในการบารุง โรคประจาปี การปฏิบัติตนท่ีถูกตอ้ ง

6.นา้ ดมื่ ไมส่ ะอาด สขุ ภาพทถ่ี ตู ้อง 4.ปรบั ปรงุ ใหม่

7.สาธารณสุขมูลฐานขาดอุปกรณ์ทาง 4.ขาดการดูแลรักษา 5 . จั ด ซื้ อ เ ค ร่ื อ ง มื อ อุ ป ก ร ณ์ ท า ง

การแพทย์ 5.ไม่มีหน่วยงานทร่ี บั ผิดชอบ การแพทย์

8.ลานกฬี าชุมชน 6.จัดหางบประมาณ และสร้างลาน

6 . ไ ม่ มี ล า น กี ฬ า ใ น ชุ ม ช น / ไ ม่ มี กีฬาชมุ ชน

งบประมาณ

ด้านความรู้ และการศกึ ษา

1.การเรียนรู้เร่อื งฝกึ อาชีพยงั ขาดความรู้ 1.ไม่มีหน่วยงานในการส่งเสริมการฝกึ 1.จัดหาหน่วยงานมาฝึกอบรมด้าน

อาชีพ อาชพี

2.ขาดห้องสมุดประชาชน 2.ไมม่ ีแหล่งศึกษาหาความรู้ 2.สร้างหอสมุดประชาชนเฉลิมพระ

เกียรติ

3.นักเรียนไมจ่ บภาคบังคับ 3.ยงั มรี ายได้ไม่เพยี งพอ 3 . จั ด ห า ง บ ป ร ะ ม า ณ เ พื่ อ จั ด ส ร ร

- ไมม่ ีทนุ ในการศึกษา ทุนการศึกษา

- ปัญหาครอบครัว -ส่งเสรมิ ให้ศกึ ษาต่อ กศน.

- ปัญหาทางสังคม -ฝกึ อาชพี ในชมุ ชน

-จัดหาทุนการศึกษา ทุนด้านอาชีพ

4.ขาดท่ีทาการศูนย์เด็กก่อนเกณฑ์วัดทุ่ง 4.ยังอาศัยอาคารโรงเรียนบ้านทะเล 4.จัดซื้อที่ดินและสร้างอาคารหลัง

ขนุ หลวงนิมติ เหมยี ง ใหม่

5.ศึกษาประวัติศาสตร์ชุมชนและภูมิ 5.เด็กและเยาวชนขาดความรู้เก่ียว 5.ควรจัดให้มีในแผนการเรียนการ

ปัญญาทอ้ งถน่ิ ประวัติของชุมชนและภูมิปัญญา สอนของนักเรียน / ให้ผูน้ าชมุ ชนเข้า

ท้องถิน่ ไปบรรยายอาทิตย์ละ 1 คร้ัง

6.ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน 6.ขาดสื่อในการเรียนรู้ 6.จัดซอื้ อุปกรณพ์ รอ้ มสื่อ

จดุ อ่อน / ปญั หา สาเหตุ แนวทางแก้ไข

ดา้ นการมีส่วนร่วม และความเขม้ แข็ง

ของชมุ ชน

1.ขาดการประสานในการเฝา้ ระวงั ใน 1 . ไม่ มี เ ห ตุ ก า รณ์ ท่ี คิ ด ว่ า จะเป็น 1.มศี นู ย์เฝ้าระวงั ภัยทจ่ี ะเกิดข้นึ

ชุมชน อนั ตรายเกิดข้นึ

2.การเลอื กตัง้ 2.การใชส้ ิทธิย์ ังไม่ครบ 100% 2.รณรงค์ให้ความรู้เก่ียวกับสิทธิ

หน้าทข่ี องผู้มสี ิทธเ์ิ ลือกตง้ั

ด้านสิง่ แวดล้อม

1.ฝนุ่ ละอองรบกวน 1.ถนนลกู รัง

2.ทงิ้ ขยะไมเ่ ป็นท่ี 2.ไม่มที ท่ี ้งิ ขยะ 1 . จั ด ห า ง บ ป ร ะ ม า ณ ท า ถ น น
3.มาจากสารเคมีในการทาการเกษตร คอนกรีต ลาดยาง
3.น้าเสีย
4.ต้นไม้สาธารณะถูกทาลาย 2.คัดแยก และกาจัดขยะโดยอาศัย
5.พันธ์ปลาลดลง ความรว่ มมอื จากตนเองและรอบขา้ ง
6.ดินเส่ือมสภาพ 3.ลดการใช้สารเคมใี ห้นอ้ ยลง

4.ชาวบ้านท่ีตัดไม้มาทาสิ่งปลูกสร้าง 4.ควบคุมการตัดไม้ทาลายป่า ปลูก

เพิ่มมากขน้ึ ไม้เพ่มิ ดูแลรกั ษาปา่

5.การจับปลาท่ีผดิ วิธี สารเคมที าลาย 5.ไม่ควรจบั ปลาในฤดูวางไข่ และไม่

สารเคมีหรอื เครอ่ื งมอื ร้ายแรง

6.ใช้สารเคมีมากเกนิ ไป 6.ผลิตป๋ยุ หมกั ปุ๋ยชีวภาพ

แผนงาน/โครงการพัฒนาหมู่บา้ น ประจาปี 2563

กจิ กรรม อปท./หนว่ ยงานดาเนนิ การให้/ชุมชน

แผนงาน โครงการ/กจิ กรรม ระยะเวลาดาเนินการ งบประมาณ หน่วยงาน/ผู้รับผิดชอบ
ดา้ นโครงสร้างพืน้ ฐาน
1. ปรับปรงุ ถนนลกู รงั ทกุ สายในหมบู่ า้ น (บาท)
2.ปรบั ถนนลูกรังสายบา้ นโหนดหมู่
3.ฝงั ท่อสง่ นา้ ขนาด10นวิ้ 500 เมตร ม.ค. - ก.ย. 200,000 เทศบาลตาบลหารเทา
4.ขยายเขตไฟฟ้า 1,500เมตร
5.ขุดลอกเหมอื งนา้ สาย เทศบาล - ข้างท่าขุนหลวง พ.ค. - ม.ิ ย. 50,000 เทศบาลตาบลหารเทา
6.ขดุ ลอกวชั พชื สายหารหม้อ
7.กอ่ สรา้ งถงั ประปาบา้ นทุง่ ขนุ หลวง ม.ค. – ม.ี ค. 558,400 เทศบาลตาบลหารเทา
8.เคร่อื งสบู น้า 2 แรงมา้
9.อาคารท่ที าการศูนยก์ ารเรยี นร้ชู ุมชนหลังใหม่ ม.ค. – ก.ย. 500,000 เทศบาลตาบลหารเทา/ไฟฟ้า
10.ถนนลาดยางสายโหนดหมู่ - วังใหม่
11. ถนนลาดยางในพรุ - วัดทุ่งขนุ หลวง ม.ค. – ก.ย. 200,000 เทศบาลตาบลหารเทา
12. ไฟสอ่ งทางขยายเขต 20 จุด
13. ยกระดับคันคลองหารนา้ ดา 1,500 ม. ม.ค. – ก.ย. 100,000 เทศบาลตาบลหารเทา/ทหารชา่ ง
.
ม.ค. – ก.ย. 800,000 เทศบาลตาบลหารเทา/กรมทรพั ยากรนา้

ม.ค. – ก.ย. 50,000 เทศบาลตาบลหารเทา

ม.ค. - ธ.ค. 1,520,000 ชุมชนดาเนนิ การเสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้ ในปี 2559

ม.ค. - ธ.ค. 9,000,000, อบจ./กรมทางหลวงชนบท

ม.ค. - ธ.ค. 9,000,000 อบจ./กรมทางหลวงชนบท

ม.ค. - ธ.ค. 200,000 เทศบาลตาบลหารเทา

ม.ค. - ธ.ค. 300,000 เทศบาลตาบลหารเทา

แผนงาน/โครงการพัฒนาหมู่บ้าน ประจาปี 2563

กจิ กรรม อปท./หนว่ ยงานดาเนนิ การให้/ชุมชน

แผนงาน โครงการ/กิจกรรม ระยะเวลาดาเนินการ งบประมาณ หนว่ ยงาน/ผูร้ ับผดิ ชอบ
ด้านเศรษฐกจิ (บาท)
1.ผลติ ป๋ยุ เคมชี วี ภาพ ม.ค. - ก.ย. 50,000 กรมการปกครอง/ชมุ ชน
2.ปุย๋ พชื สด ม.ค. - ก.ย. 10,000 กรมพฒั นาทด่ี นิ /ชุมชน
3.ปลกู มะนาวในทอ่ ซิเมนต์ ม.ค. – มี.ค.
4.เลย้ี งไก่ใข่ ม.ค. – ก.ย. 100,000 พัฒนาชุมชน
5.เพาะเห็ดนางฟา้ ม.ค. – ก.ย. 70,000 เกษตร/ชมุ ชน
6.จดั ซ้ือเวชภณั ฑ์ทางด้านปศุสัตว์ ม.ค. – ก.ย. 30,000 เกษตร/ชุมชน
7.เล้ียงโคขุน ม.ค. – ก.ย. 10,000 กรมปศสุ ตั ว์/ชุมชน
8.เลยี้ งปลา ม.ค. – ก.ย. 100,000 กรมปศุสัตว/์ เทศบาลตาบลหารเทา
9.เลย้ี งปลากินพชื ม.ค. – ก.ย. 100,000 กรมประมง/กองทุนหมบู่ า้ น
10.เล้ยี งปลาดกุ ม.ค. – ก.ย. 35,000 ยุทธศาสตรอ์ ยดู่ ีมสี ุข
11.จัดทาบญั ชรี บั -จ่าย ครวั เรอื น ม.ค. – ส.ค. 70,000 ยทุ ธศาสตร์อย่ดู ีมสี ขุ
4,000 สกว.

แผนงาน/โครงการพัฒนาหมบู่ า้ น ประจาปี 2563

กิจกรรม อปท./หน่วยงานดาเนินการให้/ชุมชน

แผนงาน โครงการ/กจิ กรรม ระยะเวลาดาเนนิ การ งบประมาณ หนว่ ยงาน/ผูร้ ับผดิ ชอบ
ด้านเศรษฐกิจ (บาท)
12.อบรมวางแผนการทาบัญชรี บั -จ่าย ม.ค. - ก.ย. 10,000 ธกส./กศน./ชุมชน
ดา้ นสขุ ภาพอนามยั 13.ขุดยกลอ่ งสวนไรน่ าสวนผสม ม.ค. - ก.ย.
และดา้ นยาเสพติด 14.ฝกึ อาชีพ ซ่อมอุปกรณไ์ ฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ ม.ค. – มี.ค. 200,000 กรมพฒั นาทดี่ นิ /ชมุ ชน
15.แปรรูปผลิตภณั ฑช์ มุ ชน ม.ค. – ก.ย.
16.เพาะพนั ธปุ์ ลาในทานบปลาหมบู่ ้าน ม.ค. – ก.ย. 50,000 กศน./แรงงานจังหวัด
17.กองทนุ ปุ๋ย ม.ค. – ก.ย.
10,000 กศน./เกษตร/ธกส.

300,000 ประมง

150,000 กรมปกครอง/ชมุ ชน

1.อบรมวางแผนสุขภาพสมาชกิ ในครัวเรือน ม.ค. – ก.ย. 15,000 สาธารณสุข/อสม.
2อบรมทกั ษะการปฐมพยาบาลให้ อสม. ม.ค. – ก.ย. 10,000 สาธารณสุข/เทศบาลตาบลหารเทา
3.จัดซอื้ อุปกรณ์วัดความดนั และเครอื่ งเจาะเบาหวาน ม.ค. – ก.ย. 15,000 สาธารณสขุ /เทศบาลตาบลหารเทา
4.ปลกู จติ สานกึ ชุมชนรักสุขภาพ ม.ค. – ก.ย. 10,000 สาธารณสขุ /เทศบาลตาบลหารเทา
5.เฝ้าระวังโรคติดต่อ ม.ค. – ก.ย. 30,000 สาธารณสุข/เทศบาลตาบลหารเทา

แผนงาน/โครงการพัฒนาหมบู่ า้ น ประจาปี 2563

กจิ กรรม อปท./หนว่ ยงานดาเนินการให้/ชมุ ชน

แผนงาน โครงการ/กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ หนว่ ยงาน/ผู้รับผดิ ชอบ
ดาเนนิ การ (บาท)
ด้านสขุ ภาพอนามัย 6.จดั กจิ กรรมนนั ทนาการ ม.ค. - ก.ย. 10,000 สาธารณสขุ /เทศบาลตาบลหารเทา
และดา้ นยาเสพตดิ 7.กองทุนสวสั ดกิ าร ผู้ดอ้ ยโอกาส
8.กิจกรรมสง่ เสรมิ กฬี าเยาวชน ม.ค. - ก.ย. 200,000 พัฒนาสงั คมฯ

ม.ค. - ธ.ค. 20,000 ศตส.อ./ชมุ ชน

ด้านการศกึ ษา 1.เครื่องมอื อปุ กรณใ์ นการฝกึ อาชีพ ม.ค. – ก.ย. 10,000 กศน./เกษตร/ธกส.
2.ศกึ ษาดูงาน(เดก็ และเยาวชน) ม.ค. – ก.ย. 300,000 ประมง
3.ศึกษาดูงานด้านอาชีพ กลุท่ เกษตรกร ม.ค. – ก.ย. 150,000 กรมปกครอง/ชุมชน
4.จดั การศกึ ษาให้เดก็ ทไ่ี ม่มโี อกาสเรยี นตอ่ ระดบั มัธยม(ม.6)

ด้านส่งิ แวดลอ้ ม 1.ปลกุ ปา่ ชุมชน ม.ค. – ก.ย. 50,000 ปา่ ไม้จงั หวดั
2.ปลอ่ ยปลาในแหลง่ นา้ ธรรมชาติ ม.ค. – ก.ย. 100,000 ประมง
3.คัดแยกขยะในชุมชน ม.ค. – ส.ค. 50,000 ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม

แผนงาน/โครงการพัฒนาหมบู่ า้ น ประจาปี 2563

กจิ กรรมทช่ี ุมชนดาเนินการเอง

แผนงาน โครงการ/กิจกรรม ระยะเวลา งบประมาณ หน่วยงาน/ผู้รับผิดชอบ

ดาเนินการ (บาท)

1.ทาปุย๋ หมกั ม.ค. - ธ.ค. 5,000 ชมุ ชน

2.สง่ เสริมปลกู ผักสวนครวั ปลอดสารพษิ ม.ค. – ธ.ค. - ชมุ ชน

3.ปอ้ งกันลกู น้ายงุ ลาย/สง่ เสรมิ ปลกู สมนุ ไพรในครัวเรอื น ม.ค. - ธ.ค. 20,000 สาธารณสุขมลู ฐานบา้ นโหนดหมู่

4.ปรบั ปรงุ ศนู ย์การเรียนชมุ ชน ม.ค. - ธ.ค. 620,000 ชมุ ชน

5.จดั ตง้ั ศนู ย์เฝา้ ระวงั ภัยภายในหมบู่ ้าน ม.ค. - ธ.ค. - ชุมชน

6.รณรงคใ์ หค้ วามรดู้ ้านประชาธิปไตย ม.ค. - ธ.ค. - ชมุ ชน

7.การจัดสวัสดกิ ารใหก้ ับผู้ด้อยโอกาส ม.ค. - ธ.ค. 60,000 ชมุ ชน

8.พัฒนาศกั ยภาพกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ ม.ค. - ธ.ค. 5,000 ชุมชน

9.ประชมุ สมาชกิ กองทนุ หมบู่ า้ น/กลุ่มออมทรัพย์ ม.ค. - ธ.ค. - ชุมชน

10.ดาเนินธรุ กจิ ธนาคารหมบู่ า้ น ม.ค. - ธ.ค. - ชมุ ชน

11.ดาเนินงานกจิ กรรมกองทนุ แม่ของแผ่นดิน ม.ค. - ธ.ค. - ชมุ ชน

12.ดาเนินกจิ กรรมพฒั นาท่อี ยอู่ าศยั สาหรับสมาชกิ ธนาคาร ม.ค. - ธ.ค. - ชุมชน

หมบู่ ้าน

13.กาจัดผกั ตบชวา ม.ค. - ธ.ค. - ชุมชน

14.การดูแลสขุ ภาพปอ้ งกันโรคตดิ ต่อ ไข้เลือดออก เบาหวาน ม.ค. - ธ.ค. - ชมุ ชน

15.จดั งานวันกตัญญปู ระจาปี เม.ย. 15,000 ชมุ ชน

16.ส่งเสริมเยาวชนร่วมกิจกรรมวนั เข้าพรรษา-ออกพรรษา ก.ค.-พ.ย. - ชุมชน

17.จัดกจิ กรรมวันสารท์ เดอื นสิบ ต.ค. - ชุมชน

18.จดั กจิ กรรมสืบสานศลิ ปวัฒนธรรม ประเพณีชกั พระ ต.ค. - พ.ย. - ชมุ ชน

19.จัดเวรยามเฝ้าระวังปญั หายาเสพติด ม.ค. - ธ.ค. - ชมุ ชน

20.รณรงค์กาจดั ขยะให้หน้าบ้านนา่ มอง ม.ค. - ธ.ค. - ชมุ ชน

21.ขยายผลปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสรู่ ะดบั ครัวเรือน ม.ค. - ธ.ค. - ชมุ ชน

22.กิจกรรมหมบู่ า้ นรกั ษาศลี หา้ ม.ค. - ธ.ค. - ชุมชน

แผนงาน/โครงการพัฒนาหมูบ่ า้ น ประจาปี 2564

กจิ กรรม อปท./หนว่ ยงานดาเนินการให้/ชมุ ชน

แผนงาน โครงการ/กิจกรรม ระยะเวลาดาเนินการ งบประมาณ หน่วยงาน/ผู้รับผิดชอบ
ดา้ นโครงสร้างพื้นฐาน (บาท)
1. ซ่อมแซมฝายชะลอน้าหารหมอ้ หมทู่ ี่ 9 บา้ นโหนดหมู่ ม.ค. - ก.ย.
ตาบลหารเทา ม.ค. - ก.ย. - จงั หวัดพทั ลงุ
2. ขดุ ลอกคลองหารหมอ้ ระยะทาง 2 กิโลเมตร หมทู่ ่ี 9 ม.ค. - ก.ย.
บา้ นโหนดหมู่ ตาบลหารเทา 1,000,000.- - ทท่ี าการปกครองอาเภอปากพะยูน
3. เจาะประปาเพอื่ การเกษตรเพิ่มเตมิ จานวน 3 จดุ หมู่
ท่ี 9 บา้ นโหนดหมู่ ตาบลหารเทา - จังหวัดพัทลงุ

500,000.- - ที่ทาการปกครองอาเภอปากพะยูน

- จังหวดั พทั ลงุ

3,500,000.- - ทีท่ าการปกครองอาเภอปากพะยูน

คาขวญั

กล่มุ ออมทรัพยด์ ี กองทุนแมข่ องแผน่ ดินเด่น

เน้นคณุ ธรรม นาประชาธิปไตย

ก้าวไกลทางการเมอื ง รุง่ เรอื งวฒั นธรรม

นาด้านกลุ่มอาชีพเกษตรกรรม

วิสยั ทัศน์

คนโหนดหมู่ มงี านทา

มรี ายได้ อยู่ดกี นิ ดี

พง่ึ ตนเองได้ ครอบครวั อบอุ่น

ชมุ ชนเข้มแขง็ สังคมเจริญภายในปี 2565

ทศิ ทางการพัฒนา
1.ส่งเสริมชมุ ชนใช้ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในการดารง วิถีชวี ิต
2.เพ่มิ ศกั ยภาพการบรหิ ารจัดการ พฒั นาชุมชนสู่ความเขม้ แขง็

3.พัฒนาสถาบนั ครอบครัวใหเ้ ข้มแข็ง อบอนุ่ และมน่ั คง



รายงานการเรียนรดู้ ้วยประสบการณ์ตรงจากการปฏบิ ัติงาน (Action Learning)

ชอ่ื หมบู่ ้านวังนกไข่

ตำบลหนองนกไข่ อำเภอกระทุ่มแบน

จงั หวดั สมทุ รสาคร

จดั ทำโดย

กล่มุ ปฏบิ ัตกิ ารที่ 2

นางฐพัชรร์ ดา ธนนิ ท์จริ านนท์ ตำแหน่ง หัวหน้าสำนักงานจังหวดั ศรีษะเกษ
นางสาวสริ ิกลุ เลย้ี งอนนั ต์ ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการสำนักผงั เมอื งรวม
นายชวลิต จรสั ตระกูล ตำแหนง่ ผเู้ ชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์
นายบรรพต จันทรวงษ์ ตำแหนง่ นายอำเภอกระท่มุ แบน
นายสังคม คดั เชียงแสน ตำแหนง่ นายอำเภอแมส่ ะเรียง
นายสุภโชค พนาลิกลุ ตำแหน่ง นายอำเภอศรบี ญุ เรอื ง
นายจำเรญิ แหวนเพช็ ร ตำแหนง่ พัฒนาการจงั หวดั ขอนแกน่
นายพงศ์พยัคฆ์ ศรยี า ตำแหนง่ ผอ.สำนกั จัดการทรัพยากรป่าไม้ท่ี 13 (สงขลา)
นายจักกฤช อเุ ทนสุต ตำแหนง่ ผอ.การกองบริหารจัดการและพัฒนาระบบเช่ือมโยง
ข้อมลู การนำเขา้ สง่ ออก และโลจิสตกิ ส์
นายพชื ผล น้อยนาฝาย ตำแหนง่ ปศุสตั ว์จงั หวดั เชียงราย

รายงานนีเ้ ป็นสว่ นหนงึ่ ของการศกึ ษาอบรมหลักสตู รนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นที่ 77
สถาบันดำรงราชานุภาพ กระทรวงหมาดไทย
พทุ ธศกั ราช 2564

2

คำนำ

รายงานการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติงาน (Action Leaning) “หมู่บ้านวังนกไข่
ตำบลหนองนกไข่ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร” เป็นรายงานท่ีนักศึกษา กลุ่มปฏิบัติการที่ 2
หลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นท่ี 77 สถาบันดำรงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย ได้จัดทำขึ้น
เพื่อเสนอข้อมูลตามกรอบการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงตามหมู่บ้านที่ ได้รับมอบหมายเนื้อหาเป็น
การศึกษาเรียนรู้ชุมชน ประเด็นการพัฒนาชุมชน และร่วมคิดกิจกรรมการพัฒนาร่วมกับชุมชน
โดยได้รับความอนุเคราะห์ข้อมูลจากการสัมภาษณ์ผู้นำชุมชนและสมาชิกของชุมชน ขอกราบขอบพระคุณ
ศาสตราจารย์ ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ และคณาจารย์ที่ปรึกษาหลักสูตรนักปกครองร ะดับสูง (นปส.)
รุ่นที่ 77 ที่ได้ให้คำแนะนำ ขอขอบคุณ นายธวัช อุทัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านวังนกไข่ อำเภอกระทุ่มแบน
จังหวัดสมุทรสาคร ที่ให้ความอนุเคราะห์ข้อมูลที่สำคัญต่อการจัดทำรายงานการเรียนรู้และให้ความ
ช่วยเหลือเป็นอย่างดียิ่ง

หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รายงานการเรียนรู้ฉบับนี้จะเป็นประโยชน์โดยเป็นข้อมูล สำหรับผู้เก่ียวข้อง
และผู้สนใจต่อไป

คณะผู้จัดทำรายงาน
คณะนักศึกษาหลักสูตรนักปกครองระดับสูง รุ่นท่ี 77

กลุ่มปฏิบัติการท่ี 2

3

สว่ นที่ 1 สารบญั หน้า
สว่ นท่ี 2 1
กรอบการเรียนร้ดู ว้ ยประสบการณต์ รงจากการปฏบิ ัติงาน (Action Learning) 5
สว่ นท่ี 3 1. การศกึ ษาเรียนรู้ภูมิสงั คมและวถิ ชี ีวติ ของชมุ ชน
ส่วนที่ 4 2. การศกึ ษาเรยี นรู้ระบบการบรหิ ารจดั การชุมชน 10
ภาคผนวก 3. การศกึ ษาเรยี นรูน้ โยบายภาครฐั และผลกระทบตอ่ การพฒั นาของชุมชน 11
ประเด็นการพัฒนาของชุมชน
1. ระดับการพัฒนาของหมูบ่ า้ น
2. สัดสว่ นจำนวนครัวเรอื นทีไ่ มพ่ ออยู่พอกนิ
3. ประเมนิ ความสามารถของชมุ ชนในการใชป้ ระโยชนจ์ าก

โครงการกจิ กรรมตา่ งๆ ภายใตน้ โยบาย
4. ประเมินโอกาสและความเสีย่ งของชุมชนและครวั เรอื นยากจน
5. สรุปบทเรียนท่ีไดร้ ับ

- การบริหารการพฒั นาชุมชนทอ้ งถนิ่
- การบริหารการพฒั นาระดบั ตำบลและอำเภอ
- ประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ลของการปฏิบัตงิ านตาม
นโยบายของรัฐบาล
การร่วมคดิ กิจกรรมการพัฒนาร่วมกบั ชมุ ชน
สรุปแบบสำรวจขอ้ มลู เศรษฐกิจ สังคมของครัวเรือนบา้ นวงั นกไข่

1

ส่วนที่ 1 กรอบการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงจากการปฏิบตั ิงาน

1. การศกึ ษาเรียนรภู้ ูมิสงั คมและวถิ ีของชมุ ชน

ประวตั ิความเปน็ มาของบ้านวังนกไข่

สมยั กอ่ นพน้ื ที่ในหมู่ที่ 8 บริเวณโรงเรยี นวงั นกไข่ และบริเวณรอบ ๆ เป็นหนองนำ้ ขนาดใหญ่ชาวบ้าน
เรียกว่า “วังนกไข่” และจะมีนกนานาชนิดมาทำรังออกไข่ ต่อมาถึงปัจจุบันไม่มีเหตุการณ์น้ำท่วม
เพราะมีการขุดลอกคูคลองเพื่อระบายนำ้ จึงทำใหพ้ ืน้ ที่เป็นวังน้ำ ปริมาณน้ำลดลงกลายเปน็ หนองน้ำเลก็ ๆ
และปัจจุบนั หนองน้ำน้นั ไดถ้ ูกถมที่ และมีการนำพ้ืนทม่ี าสร้างเป็นโรงเรยี นนามว่า “วังนกไข่” ณ ปจั จุบัน

ภมู ิประเทศ

พน้ื ทร่ี าบลุ่ม มีอาชีพทำการเกษตร แบบร่องสวน ลกั ษณะดินเป็นดินร่วนซุย สภาพอากาศเปน็ แบบรอ้ นชืน้
ไม่หนาวจดั หรอื รอ้ นจดั พืน้ ท่เี หมาะกบั การเพาะปลูก

พน้ื ที่ ตำบลคลองจนิ ดา อำเภอสามพราน
1,134 ไร่ หรอื 1.8 ตารางกโิ ลเมตร

อาณาเขต
ทิศเหนือ ตดิ ต่อกบั หมู่ที่ 1

ทศิ ใต้ ติดต่อกบั หมู่ท่ี 4,5,7 ตำบลหนองนกไข่

ทศิ ตะวนั ออก ติดตอ่ กบั หมู่ท่ี 7,4 ตำบลหนองนกไข่ ม.1 ต. คลองจินดา

ทศิ ตะวันตก ตดิ ต่อกับหมทู่ ่ี 6 ตำบลหนองนกไข่ และหมู่ท่ี 2 ตำบลเกษตรพัฒนา

เศรษฐกจิ

มีอาชีพหลักภาคการเกษตร (121 ครัวเรือน) รองลงมาเป็นอาชีพรับจ้าง (50ครัวเรือน)
ค้าขาย (8 ครวั เรือน) รบั ราชการ (4ครวั เรอื น)

ประชากร มี 199 ครัวเรือน
จำนวน 736 คน (ชาย 354 คน, หญงิ 382 คน)
ผสู้ งู อายุ (อายุ 60 ปขี ้นึ ไป 95 คน) คนพิการ 15 คน

กองทนุ ในหมบู่ ้าน จำนวน 5 กองทนุ

1. กองทุนหมบู่ ้าน 3,350,000 บาท

2. กองทนุ แม่ของแผน่ ดิน 40,900 บาท

3. กองทนุ สวสั ดกิ ารสงเคราะห์ 87,000 บาท

2

4. กองทุนกล่มุ ออมทรพั ย์ 1,350,000 บาท
5. กองกลมุ่ พฒั นาหมบู่ า้ น 11,000 บาท

สถานทีส่ ำคัญในหมบู่ า้ น

โรงเรียน 1 แห่ง , ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 1 แห่ง, ศาลากลางหมู่บ้าน 1 แห่ง, สนามกีฬา 1 แห่ง,

สถานีวิทยุ 1 แหง่ , สวนสาธารณะ 1 แหง่ , ร้านค้า/รา้ นอาหาร 5 แหง่

ทรพั ยากรธรรมชาติ

ดิน เปน็ ดินร่วนซยุ เหมาะแก่การเพาะปลูก

แหลง่ นำ้ คลองสาธารณะ 2 สาย

พืชพรรณ/สมุนไพร ชมพู่ มะมว่ ง ฝรัง่ มะนาว มะพรา้ ว แกว้ มังกร กลว้ ยไม้

พืน้ ที่สาธารณะ ได้แก่ โรงเรียนวังนกไข่ ใช้เป็นลานสาธารณะในการประชุมจัดเลี้ยง

และให้ความรู้รวมถงึ เป็นสถานทีใ่ นการเล่นกีฬาอีกด้วย

ข้อมูลการคมนาคม / สาธารณูปโภค

การเดนิ ทางเขา้ ชุมชน

ถนนคอนกรตี 5 เส้น ระยะทาง 5,500 เมตร หา่ งจากอำเภอ 15 กโิ ลเมตรห่างจาก อบต. 1.5 กโิ ลเมตร

แหล่งน้ำ

คลอง 2 แห่ง ,บ่อบาดาล 5 แหง่

สาธารณปู โภค

มีไฟฟ้าใช้ 193 ครวั เรือน มีบอ่ น้ำบาดาลหมบู่ ้าน 5 แห่ง

2. การศึกษาเรยี นรรู้ ะบบการบรหิ ารจดั การชมุ ชน

ยทุ ธศาสตร์

เพ่ือให้การพฒั นาท่สี อดคลอ้ งกบั องคก์ ารบริหารส่วนท้องถ่ิน คณะทำงานจงึ กำหนดยุทธศาสตร์เพื่อ
นำมาเปน็ แนวทางพฒั นาอยา่ งย่งั ยืนดังน้ี

ประเด็นยทุ ธศาสตร์ท่ี 1 การพัฒนาดา้ นโครงสร้างพนื้ ฐานและสาธารณูปโภค
ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาด้านสงั คมและคุณภาพชีวิต
ประเดน็ ยุทธศาสตร์ท่ี 3 การพัฒนาดา้ นเศรษฐกิจ
ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ที่ 4 การพฒั นาทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม
ประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี 5 การสร้างภูมคิ ุ้มกันและปอ้ งกันปัญหายาเสพติด
ประเดน็ ยุทธศาสตรท์ ี่ 6 การพัฒนาคณุ ภาพชีวิตตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง

3

ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 7 การบริหารจดั การและการพัฒนาแบบมสี ่วนรว่ ม

กลยุทธ์
ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การพฒั นาดา้ นโครงสรา้ งพ้ืนฐานและสาธารณูปโภค
กลยุทธ์ 1. จัดลำดบั ความสำคญั และพัฒนาเพื่อรองรบั การเจริญเตบิ โต
2. ทำแผนใหส้ อดคล้องกบั องค์การบริหารส่วนท้องถ่นิ
ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 การพฒั นาดา้ นสังคมและคุณภาพชวี ติ
กลยทุ ธ์ 1. มงุ่ เน้นใหส้ งั คมอยู่ดีมคี วามสุขและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณี
2. ทำแผนมงุ่ เนน้ ชุมชนพึง่ พาตนเอง
ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 3 การพัฒนาด้านเศรษกจิ
กลยทุ ธ์ 1. การพัฒนาเศรษฐกจิ แบบพอเพียง
2. ใชท้ รัพยากรในท้องถ่ินใหเ้ กนิ ประโยชนส์ ูงสุดและเป็นธรรม
ประเด็นยุทธศาสตรท์ ี่ 4 การพัฒนาทรพั ยากรธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ ม
กลยุทธ์ 1. อนุรักษ์สงิ่ แวดล้อมปลกู จติ สำนึก
2. ทุกโครงการต้องคำนงึ สงิ่ แวดลอ้ มเปน็ สำคญั
ประเด็นยทุ ธศาสตร์ที่ 5 การสร้างภมู ิคมุ้ กนั และป้องกนั ปญั หายาเสพตดิ
กลยุทธ์ 1. การสร้างภมู คิ ุ้มกันในหมบู่ ้านเร่มิ จากครอบครวั
2. การป้องกนั ปัญหายาเสพติด (ภายใน/ภายนอกหม่บู า้ น)
ประเด็นยุทธศาสตร์ท่ี 6 การพัฒนาคุณภาพชีวติ ตามแนวปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
กลยทุ ธ์ 1. มงุ่ เน้นชมุ ชนพึ่งตนเองพัฒนาศกั ยภาพปราชญช์ าวบา้ น
2. สนบั สนนุ การออมลดรายจา่ ยเพิม่ รายได้
ประเดน็ ยทุ ธศาสตร์ที่ 7 การบรหิ ารจดั การและการพัฒนาแบบมสี ว่ นร่วม
กลยทุ ธ์ 1. จัดการประชาคมอยา่ งตอ่ เนือ่ งให้ทกุ คนมีส่วนร่วมตดั สนิ ใจ
2. สนับสนุนอาสาสมคั รจิตอาสาใหม้ คี วามภูมใิ จในหนา้ ท่ีรับผดิ ชอบ

การเปลยี่ นแปลงที่คาดวา่ จะเกิดขึน้
บ้านวังนกไขใ่ นอนาคตชุมชนบ้านวังนกไขจ่ ะมกี ารเปล่ียนแปลงอันเนอื่ งมาจากอิทธพิ ลของสงั คมเมอื งและ
การพฒั นาอุตสาหกรรมในพืน้ ทีข่ า้ งเคียงหรอื ไม่

ปจั จุบันมกี ารประกาศใช้บังคบั เป็นกฎกระทรวงผงั เมืองรวมเมอื งกระทมุ่ แบน พ.ศ. 2562 มีผลใช้บงั คบั
ในอำเภอกระทมุ่ แบน จังหวัดสมุทรสาคร ได้แก่ ตำบลออ้ มน้อย ตำบลหนองนกไข่ ตำบลสวนหลวง ตำบลบางยาง

4

ตำบลท่าไม้ ตำบลตลาดกระทุ่มแบน ตำบลคลองมะเด่ือ ตำบลแคราย ตำบลดอนไกด่ ี และตำบลทา่ เสา ภายใน
แนวเขตตามแผนที่ท้ายกฎกระทรวงกำหนดให้พ้นื ท่ีท้ังหมดของตำบลหนองนกไขเ่ ปน็ ทด่ี นิ ประเภทอนรุ กั ษ์
ชนบทและเกษตรกรรม ให้ใชป้ ระโยชน์ท่ดี ินเพือ่ เกษตรกรรมหรอื เกี่ยวขอ้ งกบั เกษตรกรรม สถาบนั ราชการ
การสาธารณปู โภคและสาธารณปู การเป็นส่วนใหญ่ สำหรบั การใชป้ ระโยชน์ท่ีดนิ เพ่ือกจิ การอนื่ ใหใ้ ช้ได้ไม่เกนิ
ร้อยละหา้ ของทีด่ ินประเภทนใ้ี นแตล่ ะบริเวณ โดยมขี ้อห้ามใชป้ ระโยชน์ทดี่ นิ เชน่ โรงงานทกุ จำพวก เวน้ แตท่ ่ี
อนญุ าตใหด้ ำเนนิ การได้ตามบญั ชโี รงงาน คลงั น้ำมันและสถานทเ่ี กบ็ รกั ษาน้ำมนั โรงแรม การประกอบพาณิช
ยกรรมหรอื สำนักงานทม่ี พี นื้ ทอี่ าคารรวมในหลงั เดียวกนั เกิน 500 ตารางเมตร หา้ มจัดสรรทด่ี ินเพอ่ื ประกอบ
อุตสาหกรรม ห้ามจัดสรรทีด่ นิ เพอื่ ประกอบพาณิชยกรรม หา้ มจดั สรรทด่ี ินเพอ่ื การอยูอ่ าศยั หา้ มจัดสรรท่ดี นิ
เพ่อื ประกอบเกษตรกรรม ห้ามการประกอบกจิ การประเภทหอ้ งแถว ตึกแถวหรอื บ้านแถว หา้ มการอยู่อาศยั
ประเภทอาคารชดุ หอพกั หรอื อาคารอยอู่ าศยั รวม หา้ มการประกอบกิจการประเภทอาคารขนาดใหญห่ รอื
อาคารสูง เว้นแตส่ ถาบนั ราชการ การสาธารณปู โภคและสาธารณูปการ นอกจากนก้ี ารใช้ประโยชน์ท่ีดนิ ยงั
กำหนดอตั ราสว่ นพ้ืนทอี่ าคารรวมตอ่ พ้นื ที่ดินรวมไมเ่ กิน 0.5 : 1 กำหนดสดั สว่ นของท่ีวา่ งปราศจากอาคารต่อ
พ้ืนท่ดี ินรวมไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละห้าสบิ

จากข้อกำหนดการใชป้ ระโยชน์ที่ดินที่ควบคมุ การประกอบกจิ การบางประเภทเพื่อไม่ใหเ้ กดิ การขยายตัว
ของสิ่งปลกู สร้างหรือกจิ การท่จี ะรบกวนหรอื กระทบต่อชมุ ชนเกษตรกรรมจึงเป็นการรักษาเป็นชุมชนเกษตรกรรมที่
อุดมสมบรู ณป์ อ้ งกนั การถูกรุกล้ำจากการขยายตัวของเมอื งหม่บู ้านจดั สรรโรงงานหรอื กจิ การอน่ื ๆ ซง่ึ สอดคลอ้ ง
กับเจตนารมณ์ของผู้นำชมุ ชนบา้ นวังนกไขท่ ีต่ อ้ งการรกั ษาความสมดุลในการพฒั นาหมู่บ้านใหม้ ีความ
เจริญเตบิ โตบนพน้ื ฐานการประกอบอาชพี เกษตรกรรมท่มี ีการต่อยอดการพัฒนาหมบู่ า้ นของเยาวชนรุน่ ใหม่
ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพือ่ รกั ษาวิถชี วี ติ ชมุ ชนหมู่บ้านที่อยูร่ ว่ มกันดว้ ยความรกั ความเข้าใจ ให้คง
อยแู่ ละพฒั นาอย่างยงั่ ยนื ต่อไป

กฎกระทรวงผงั เมืองรวมเมืองกระทมุ่ แบน พ.ศ.2562

5

3. การศึกษาเรียนรนู้ โยบายภาครฐั และผลกระทบตอ่ การพฒั นาของชมุ ชน

สำหรับกรณีการศึกษาเรียนรู้นโยบายภาครัฐและที่มีผลกระทบต่อกา รพัฒนาของบ้านวังนกไข่
ขอยกประเด็นนโยบายโครงการอาหารปลอดภัย ซึ่งมีมาตรการการลด ละ เลิก การใช้สารเคมี 3 สาร ได้แก่
พาราควอต(สารกำจัดวัชพืช) ไกลโฟเซต(สารกำจัดวัชพืช) และคลอไพริฟอส(สารกำจัดแมลงศัตรูพืช)
ซึ่งสารที่มผี ลกระทบต่อการพัฒนาชุมชน คือ พาราควอต(สารกำจัดวชั พืช) เพราะมีนโยบายห้ามใช้สารตัวน้ี
โดยเด็ดขาด ตามประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ประกาศเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ได้สิ้นสุดลงเมื่อ
วันที 19 ตุลาคม 2562 แต่จะมีสารสังเคราะตัวใหม่มาทดแทน คือ กลูโฟซิเนต แต่เกษตรกรจะบอกว่าใช้ไม่
ได้ผล มีราคาแพง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตทางด้านการเกษตรมีราคาสูง สำหรับการใช้เคมีเหล่านี้จะต้องมี
แผนการใช้ มีระยะหยดุ สารเคมกี ่อนเกบ็ เกี่ยวผลผลิต เพ่ือควบคุมไม่ให้มีการตกคา้ งในผลผลิต และมีแผนการ
สมุ่ ตรวจการโดยเจา้ หนา้ ท่ีการเกษตร ผลสรปุ คือ ต้องมีขอ้ จำกดั ในการใช้ ให้เปน็ ไปตามมาตรการในโครงการ
อาหารปลอดภัย กรมวิชาการเกษตร และการปฏิบัติการเกษตรที่ดี( Good Agricultural Practice, GAP )
และในอนาคตจะต้องสง่ เสริมให้มีการใช้สารสกัดพืชจากสมุนไพรกำจัดวัชพืช ตั้งเป็นกลุ่มเกษตรกรเพื่อผลติ
สารกำจัดวัชพืชในพื้นที่บ้านวังนกไข่หรือติดต่อขอไปเรียนรู้หาข้อมูลเพื่อมาปฏิบัติในศูนย์เรียนรู้การเพ่ิม
ประสทิ ธภิ าพการผลิตสินค้าเกษตร (ศ.พ.ก.) ในพื้นท่ใี กลเ้ คียงต่อไป

สว่ นท่ี 2 ประเดน็ การพัฒนาของชมุ ชน

สำหรับวิเคราะห์ศักยภาพของบ้านวังนกไข่ ต.หนองนกไข่ อ.กระทุม่ แบน จ.สมทุ รสาคร ดว้ ยวิธี
SWAT Analysis ได้ผลดังน้ี

1. Strength ( จดุ แขง็ )
1.1 ผู้นำและทมี งานเขม้ แขง็ มีวิสัยทศั น์ มีความรับผิดชอบตอ่ สว่ นรวม
1.2 ประชาชนมคี ณุ ภาพ มีการศกึ ษา มีคณุ ภาพชวี ิตทีด่ ี เออื้ ต่อการพฒั นา และมวี ถิ ีชีวติ แบบระบบ
เครอื ญาติ
1.3 มีทรัพยากรธรรมชาตอิ ดุ มสมบูรณ์ เออื้ ตอ่ การพัฒนาอาชพี
1.4 มอี งคก์ รทกุ ภาคสว่ น เชน่ องค์การบรหิ ารสว่ นตำบล ภาคเอกชน ภาคประชาชน ทเ่ี ขม้ แข็ง
1.5 มีการนำนโยบายของรฐั และการจัดเกบ็ ขอ้ มลู ของชมุ ชนเพ่อื จัดทำแผนในการพฒั นาหมบู่ า้ นอย่าง
เป็นระบบ

2. Weakness ( จุดออ่ น )
2.1 การถา่ ยทอดองคค์ วามรูแ้ ละนวตั กรรมทางความคิดในพื้นที่ให้กบั คนรุน่ ใหม่ยงั อยใู่ นวงจำกดั
2.2 ตน้ ทุนในการประกอบอาชพี ด้านเกษตรมตี น้ ทนุ สงู

6

2.3 มกี ารอพยพของแรงงานต่างดา้ วเข้ามาในพน้ื ท่ี สง่ ผลกระทบต่อความม่ันคงและความปลอดภัยใน
ชีวิตและทรพั ยส์ ิน

2.4 ขาดแหล่งทอ่ งเที่ยวทางธรรมชาติ
3. Opportunity ( โอกาส )

3.1 มีตลาดรองรบั สินคา้ ของหมบู่ า้ น
3.2 มีแผนงาน/โครงการ และงบประมาณ ท่ไี ด้รับจากทางภาครัฐและหลากหลายภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง
3.3 มีภาคเอกชนและภาคประชาชนนอกพน้ื ทใ่ี หค้ วามสนใจในวถิ ชี มุ ชนและการท่องเทย่ี วเชิงเกษตร
3.4 จุดที่ตง้ั ของหม่บู ้านอยู่ในเขตปริมลฑลกรงุ เทพมหานคร มคี วามสะดวกในการเดนิ ทาง

4. Threat ( ขอ้ จำกดั )

4.1 ปญั หานำ้ ทะเลหนุนในช่วงฤดแู ลง้ มผี ลกระทบตอ่ นำ้ ในการเกษตร และน้ำสำหรับอปุ โภคและบรโิ ภค

การประเมินระดบั การพฒั นาของหมู่บา้ นวังนกไข่ ใน 5 มติ ิ (UN’s SDGs)

1. No Poverty ไม่มีครัวเรือนยากจน ต่ำกว่าเกฑณ์ ของ UN (ประชาชนมีรายได้เฉลี่ย มากกวา่
55,000 บาทต่อคนต่อป)ี

2. Zero hunger ไม่ปรากฏขอ้ มูลคนอดอาหาร (เป็นสงั คมชุมชนระบบเครอื ญาติ เอ้อื เฟอื้ เกือ้ กูล
มีผลผลติ เหลือเฟือ ยังไปมอบให้โรงพยาบาลสนามหรอื กิจกรรมสาธารณะหลายคร้งั )

3. Decent Work and economic growth ไม่มีคนวา่ งงาน (ชว่ งปดิ กจิ การเน่อื งจากสถานการณ์
COVID-19 พนักงานโรงงานก็ได้รับการเยียวยาจากรัฐ และมีงานอื่นๆในชุมชนให้รับจา้ งประชาชน มีอาชีพ
หลากหลาย ผสมผสาน มรี ับงานมาทำท่บี า้ น มรี ายไดจ้ ากหลายชอ่ งทาง เศรษฐกิจด)ี

4. Good health and Well-being มีผู้ป่วยระบุเป็นปัญหาสุขภาพ ในข้อมูล TPMAP ของรัฐ
3 ราย (แต่ก็ได้รับการดูแลจากรัฐ มีสวัสดิการ มี อสม.เข้าไปดูแลอย่างต่อเนื่องและมีการส่งเสริมสุขภาพ
เช่น จดั กีฬาเยาวชน มีกจิ กรรมสง่ เสริมสขุ ภาพผสู้ งู อาย)ุ

5. Clean water and sanitation มีระบบน้ำดื่มชุมชน ที่สะอาดและราคาถูก (น้ำดื่มที่บริหาร
จดั การโดยระบบชมุ ชน ราคาตลาดขวดละ15 บาท น้ำด่ืมชมุ ชน ขายใหส้ มาชิกเพียง 5 บาท)

สรุป หมู่บา้ นวังนกไข่ เป็นหมบู่ ้านพ่ึงตนเองได้ (Sustainability)
ประเด็นการพัฒนาของชุมชน

1.ระดบั การพัฒนาของหมบู่ ้าน (ข้อมูลจาก ตวั ช้ีวดั โดยหน่วยงาน ทด่ี ำเนินการอย)ู่
- กรมการพฒั นาชุมชน โดย ตัวชี้วัด จากข้อมูลพ้ืนฐานหมู่บ้าน กชช.2 ค เป็นหมู่บ้าน เร่งรัฐพัฒนา

อันดบั 3 คอื เป็น หม่บู า้ นระดบั กา้ วหนา้ (มปี ญั หานอ้ ยมากหรอื ไม่บง่ บอกวา่ เปน็ ปญั หา)

7

- กระทรวงมหาดไทย ด้วยเกณฑพ์ ฒั นาเปน็ หม่บู า้ นเศรษฐกิจพอเพียง ไดร้ ับการประเมนิ เปน็ หมูบ่ ้าน
เศรษฐกิจพอเพยี ง “อยูเ่ ย็น เปน็ สุข” ตงั้ แต่ ปี 2558 (รับโลร่ างวัลพระราชทานฯ )

- กรมการปกครอง ตามเกณฑ์การพัฒนา “บา้ นสวย เมอื งสุข” ไดอ้ นั ดบั 2 ระดับภาค
สรุปว่า เปน็ หมบู่ ้านทมี่ คี วามเข้มแขง็ เป็นไปตามเกณฑ์การพฒั นา ตามนโยบายของรัฐ
2. สัดส่วนของครวั เรือนท่ไี ม่พออยพู่ อกนิ
- ขอ้ มลู จากการสมั ภาษณ์ มี 40 ครวั เรอื น (20.7%) ไมม่ ที ีท่ ำกิน มเี พยี งทป่ี ลูกบา้ น (แตม่ งี านทำที่
โรงงานหรือมีอาชพี รบั จา้ ง มีรายไดส้ ม่ำเสมอ และรายไดส้ ูงกว่าเกณฑข์ ้ันต่ำ และดว้ ยมาตรการภาษีท่ีดิน ทำ
ให้เจ้าท่ี เคยปลอ่ ยท่ีดนิ วา่ งเปลา่ เข้าหาผ้นู ำชุมชน เพอื่ หาคนมาใชป้ ระโยชน์จากทีด่ นิ แบบเก้อื กูลกนั )
- มคี รัวเรอื นเป็นหน้ีนอกระบบ 10 ครวั เรือน (ชมุ ชนจัดการใหเ้ ขา้ สู่ระบบการจัดการเงินทุนชุมชน
ใช้กองทนุ ซ้อื หนี้ มาผอ่ นกับกองทุนชมุ ชนเพ่ือแก้ปญั หาหนนี้ อกระบบ ไม่ให้ถูกเอาเปรยี บ แตม่ เี หลือบางราย
เป็นความสมคั รใจแต่เขาไม่เดือดรอ้ น)
สรปุ ว่า เคยมีปญั หามาก่อน แต่ชมุ ชนมรี ะบบทีส่ ามารถบรหิ ารจดั การได้
3. ประเมินความสามารถของชุมชนในการใชป้ ระโยชน์จากโครงการกจิ กรรมตา่ งๆภายใต้นโยบาย
- ด้านโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนภายในชุมชน (ใช้งบ อบต. ถนนเชื่อมระหว่างตำบล เสนอของบ
อบจ. ผนู้ ำรูเ้ งื่อนไข วา่ ต้องขอพน้ื ท่ีขยายถนนใหก้ ว้าง 6 เมตร งบมากกว่า 10 ลา้ นบาท/โครงการ)
- ดา้ นการบริหารจัดการน้ำ ใชข้ อ้ มูลและทำแผน แกป้ ัญหานำ้ ทว่ ม น้ำเค็ม นำ้ เสีย ได้ (โดยนำข้อมูล
มาวเิ คราะห์ สร้างกระบวนการมสี ่วนรว่ ม ใหป้ ระชาชนร่วมออกแบบกบั หนว่ ยงานที่เก่ียวข้อง ได้ งบกว่า 130
ล้านบาท ในการสร้างระบบประตูปิดเปดิ ปากคลอง บริหารจัดการนำ้ ผลใน ปี 2554 นำ้ ไม่ทว่ มชุมชน และ
สามารถกั้นน้ำเค็มไม่ให้เขา้ มาสู่แปลงเกษตรได้ มีคณะกรรมการบริหารระดับตำบล กำกับปิดเปิดประตนู ้ำ
ร่วมกบั ภาครัฐ)

สรุป เปน็ ชุมชนทีม่ ีศกั ยภาพ สามารถรับและร่วมบรหิ ารนโยบายกบั ภาครฐั ได้ อยา่ งเปน็ รูปธรรม
4. ประเมนิ โอกาสและความเสีย่ งของชุมชน และครวั เรือนยากจน

4.1 โอกาสของชมุ ชน
- มีโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสร้างความมั่งคั่งให้ชุมชนได้สูงมาก ( จากการ SWOT จุด

แข็งของชุมชน ผู้นำและทีมงานเข้มแข็ง มีวิสัยทัศน์ มีความรับผิดชอบต่อสว่ นรวม ประชาชนมีคุณภาพ มี
การศึกษา มีคุณภาพชวี ิตทด่ี ี เออ้ื ตอ่ การพฒั นา และมีวิถีชวี ติ แบบระบบเครอื ญาติ มีทรพั ยากรธรรมชาติอุดม
สมบูรณ์ เอื้อต่อการพัฒนาอาชีพ มีองค์กรทุกภาคส่วน เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล ภาคเอกชน ภาค
ประชาชน ที่เข้มแข็งและ SWOT โอกาส ของชุมชน มีตลาดรองรับสินค้าของหมู่บ้าน มีแผนงาน/โครงการ
และงบประมาณ ที่ได้รับจากทางภาครัฐและหลากหลายภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง มีภาคเอกชนและภาค

8

ประชาชนนอกพื้นที่ให้ความสนใจในวิถีชุมชนและการท่องเที่ยวเชิงเกษตร จุดที่ตั้งของหมู่บา้ นอยู่ในเขตปริ
มลฑลกรงุ เทพมหานคร มคี วามสะดวกในการเดนิ ทาง)

4.2 ความเสี่ยงของชุมชน
- ความเสีย่ งด้านเศรษฐกิจ จะมีน้อย ( เพราะผู้นำและทีมบริหารของผู้นำชมุ ชน ยึดหลักเศรษฐกจิ

พอเพียงในการพฒั นา ค่อยเป็นค่อยไปจากฐานทรพั ยากรของชมุ ชน แตจ่ ะมไี ดก้ รณีเกิดภยั พบิ ตั ริ ุนแรง และยัง
มีตน้ ทุนในการประกอบอาชีพดา้ นเกษตร หรอื ลงทนุ ใหม่ เลอื กพืชทีม่ รี าคาดี เชน่ การร้อื สวน เพ่ือลงทุนใหม่
เชน่ จากอง่นุ หรือ ฝรัง่ เป็น อินทะผารัม)

- ความเสี่ยงทางด้านสังคม ยังมีความเสี่ยง (จากการอพยพของแรงงานต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่
สง่ ผลกระทบต่อความมน่ั คง ความปลอดภยั ในชีวติ และทรพั ยส์ นิ

- ความเสีย่ งทางด้านสง่ิ แวดล้อม ยังมคี วามเส่ยี ง เนือ่ งจากยงั มีปัญหาน้ำทะเลหนุนในช่วงฤดแู ล้ง มี
ผลกระทบต่อน้ำในการเกษตร และนำ้ สำหรบั อุปโภคและบริโภค หรอื ถา้ เกดิ ภัยพบิ ัตริ นุ แรง)

- ความเสี่ยงด้านการบริหารจัดการของชุมชน ยังมีความเสี่ยง (ด้วยผู้นำและทีมผู้นำ มีอายุมาก
หรือเปน็ ผู้สงู อายุจำนวนมาก การถ่ายทอดองค์ความรูแ้ ละนวัตกรรมทางความคิดในพ้ืนที่ให้กับคนรุน่ ใหมย่ ังอยู่
ในวงจำกัด)

4.3 โอกาสและความเสี่ยงของคนยากจนในชุมชน
- โอกาสทางด้านอาชพี มีมาก (เนื่องจากชุมชนมอี าชีพท่ีหลากหลายและต้องการแรงงาน และมี

ความเกื้อกูล มีสำนึกในการอยู่ร่วมกัน สร้างสังคมไปด้วยกัน เช่น การหางาน/อาชีพให้ผู้ติดยาเสพติดและ
รบั เข้าเป็นสมาชกิ กลมุ่ เมือ่ มรี ายได้ เกิดการยอมรบั มเี งินเกบ็ ก็ไม่กลบั ไปเสพยาหรือเป็นภัยต่อสงั คมอีก หรือ
คนเป็นหนี้นอกระบบก็เอากองทุนชุมชนไปปิดหน้ี และให้ผ่อนกับกองทุน ซึ่งดอกเบี้ยถูกกว่ามาก แต่ต้องทำ
ตามกตกิ าของกล่มุ เชน่ ต้องจดบัญชคี รวั เรอื น ตอ้ งออมเงนิ กับกลุม่ เป็นตน้ )

- ความเสี่ยงของคนจนยังมีอยู่ เนื่องจากในชุมชนมีผู้ที่พิการ ผู้เจ็บป่วยเรื้อรังไมส่ ามารถประกอบ
อาชีพได้ ก็จะได้รับการดูแลตามอัตภาพ หรือผู้ติดยาเสพติดเปน็ สันดาล ที่ไม่สามารถกลับสำนึกมาดีได้ แม้
ชุมชนจะใหโ้ อกาส แต่ทั้งนี้ชุมชนก็สร้างภูมิคุ้มกันไว้ พอสมควร เช่น การจัดสวสั ดิการจากกองทุนของชมุ ชน
ช่วยเมือ่ เจบ็ ปว่ ยต้องเขา้ โรงพยาบาล การเสยี ชีวติ ใหท้ ุนการศกึ ษา เป็นต้น

9

5. สรุปบทเรยี นท่ีได้รบั
5.1 ดา้ นการบริหารการพฒั นาชุมชนท้องถิ่น

ในช่วง 10 ปี สามารถพัฒนาไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบและมีความตอ่ เน่ือง ด้วยผูน้ ำที่มวี สิ ยั ทศั น์ สามารถสร้างทีมผูน้ ำ
มารว่ มทำงาน มกี ารจดั เก็บขอ้ มูลและใชข้ ้อมูลของชุมชนเพอื่ จดั ทำแผนในการพัฒนาหมบู่ า้ นอย่างเป็นระบบ
สามารถแกป้ ัญหาของชมุ ชนได้ในทุกๆด้าน จนได้รางวลั ต่าง ๆ มากมาย

5.2 ด้านการบรหิ ารการพฒั นาระดับตำบล และ อำเภอ
ผู้นำและทีมงาน มีความเข้าใจและสามารถนำแผนพัฒนาหมู่บ้านเชื่อมโยงกบั แผนพัฒนาของท้องถิ่น (อบต.
อบจ.) และแผนพฒั นาอำเภอ รหู้ ลักเกณฑ์ เงอื่ นไขและช่องชั้นของงบประมาณ จดั ทำแผนงานโครงการได้
จึงไดร้ ับการพัฒนา ในภาพรวมของตำบล และอำเภอ ด้วย เช่น เส้นทางคมนาคม ระบบการจดั การน้ำ

5.3 ประสทิ ธิภาพและประสิทธิผลของการปฏิบัตงิ าน ตามนโยบายของรฐั บาล (นำเสนอ 3 เรือ่ ง)

1) การแก้ไขปัญหาความยาก ตามนโยบายบัตรสวัสดิแห่งรัฐ ผู้นำได้ตอบสนองนโยบายในการ
ประชาสัมพันธ์ใหป้ ระชาชนไดใ้ ช้สิทธิ ซึ่งผา่ นหลกั เกณฑ์ กว่า 100 ราย ท้ังทก่ี ไ็ มไ่ ดย้ ากจนจริง แตผ่ ่านเงอ่ื นไข
การตรวจสอบจากรัฐ จงึ วิเคราะห์ไดว้ า่ ไมใ่ ช่วธิ ีการแกป้ ญั หายากจน ทไ่ี ดม้ ีประสิทธิผลและตรงกลุม่ เปา้ หมาย

2) นโยบายการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ของกระทรวงมหาดไทย ผู้นำและทีมงาน เข้าร่วม
ตามกระบวนการ ด้วยศรัทธาในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้เข้าใจ และลงมือปฏิบัติจริง จน
เกดิ ผลในการแก้ไขปัญหา เปน็ ฐานของความคิดและการพฒั นาหมบู่ า้ น ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ได้รับรางวัลใน
หลายๆ ด้านตามมากมาย จึงเปน็ ชมุ ชนจงึ พงึ่ พาตนเองได้

3) นโยบายการพัฒนากลุ่มเกษตรกร โครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมยั ใหม่และเชื่อมโยง
ตลาด ซึ่งใช้งบเงินกู้กระตุ้นเศรษฐกิจ ในวิกฤต โควิด-19 อุดหนุนให้เปลา่ แก่วสิ าหกิจชุมชน เฉลี่ยกลุ่มละ 3
ล้านบาท ชุมชนบ้านวังนกไข่ ได้จัดตั้งเปน็ กลุ่มเกษตรกรฝรั่งแปลงใหญ่ ซึ่งมีความเข้มแข็งระดับหนึง่ อยูแ่ ลว้
แต่ปฏเิ สธโครงการ เน่อื งจากเง่อื นไขสำคญั ของโครงการ ทีต่ อ้ งไปจดทะเบยี นเปน็ บริษัทจำกัด เพ่อื บริหารให้
สามารถแข่งขันได้คลอ่ งตวั เหมอื นภาคเอกชน ดว้ ยหลักคดิ ของผนู้ ำและชมุ ชน ว่าคอ่ ยเป็นคอ่ ยไป และยังไม่มี
องค์ความรู้ของเทคโนโลยีระบบโรงงาน ทักษะการบริหารแบบบริษัท และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงยังไม่
จำเป็นตอ้ งใชง้ บประมาณกอ้ นใหญใ่ นคร้งั น้ี

10

สว่ นที่ 3 การร่วมคดิ กิจกรรมการพฒั นารว่ มกับชุมชน

3.1 แกไ้ ขปัญหาทดี่ นิ เพื่อท่ีอยู่อาศยั
โครงการชว่ ยเหลอื และพฒั นาทอี่ ยู่อาศัยของประชาชน หมทู่ ี่ 8 ตำบลหนองนกไข่ อำเภอกระทุ่มแบน

จงั หวัดสมุทรสาคร
วิธีการ
- เสนอโครงการตอ่ ธนาคารอาคารสงเคราะหเ์ พ่อื ขอรับการอนมุ ัตสิ ินเชื่อ
- นำงบประมาณท่ไี ด้รับไปจัดซอ้ื ทด่ี ินเอกชนเพือ่ การจดั สรรทดี่ นิ ให้ประชาชนกลมุ่ เปา้ หมาย ได้ทำการ
ปลกู สรา้ งทพ่ี กั อาศัย และสามารถเชา่ ซื้อทด่ี ินดงั กล่าวได้
- ประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายทำการเช่าซอ้ื ภายในระยะเวลาทีก่ ำหนด สามารถถา่ ยโอนกรรมสิทธท์ิ ่ีกนิ
เป็นของตนได้
- รายละเอยี ดของโครงการอยู่ในภาคผนวก

3.2 สง่ เสริมการท่องเทยี่ วเชงิ เกษตรในรูปแบบ Home stay และ School stay
1. ค้นหาศักยภาพของดขี องชุมชน
2. การจัดทำแผนผงั เสน้ ทางการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกำหนดจุดท่องเทีย่ วและมคั คเุ ทศก์ หรือเยาวชน
คนรุ่นใหม่ที่จะรบั ผดิ ชอบประจำจุด
3. กำหนดกจิ กรรมทำร่วมกบั ชุมชน (DIY) เช่น การลอ่ งเรอื เก็บผลฝรงั่ การแปรรปู ทำน้ำฝรงั่ การทำ
ฝรัง่ กวน ฯลฯ
4. ท่ีพกั และอาหารพืน้ ถิ่นของชมุ ชน
5. กจิ กรรมการทอ่ งเที่ยวเชิงวัฒนธรรมตามเทศกาล
6. ประชาสัมพันธ์และจดั โครงการ Test tour เพื่อพฒั นาทกั ษะการตอ้ นรับนักทอ่ งเที่ยวของแตล่ ะ

ฐานแต่ละจุด และแตล่ ะกจิ กรรม

11

สว่ นท่ี 4 สรุปแบบสำรวจข้อมูลเศรษฐกิจ สงั คมของครวั เรอื นบ้านวงั นกไข่

หมทู่ ่ี 8 ตำบลหนองนกไข่ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมทุ รสาคร ประจำปี 2564
หลกั สตู รนักปกครองระดบั สูงรนุ่ ที่ 77 (กป.2)

ข้อมูลพ้นื ฐานครวั เรือนที่สำรวจ จำนวน 40 ครวั เรอื น จำนวนครวั เรือน
-
ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู พ้นื ฐานเกย่ี วกบั สภาพครวั เรอื น -
-
1.1 นำ้ บรโิ ภค (นำ้ กิน) ( 1 ครัวเรอื น ระบไุ ด้มากกวา่ 1 ขอ้ ) 40
-
ที่ คำถาม
1 นำ้ บรโิ ภคในครวั เรือนมาจากแหล่งใด 40
-
1. นำ้ จากแหลง่ นำ้ ต่าง ๆ (เชน่ น้ำบ่อ น้ำห้วย น้ำบาดาล อ่างเก็บน้ำ)
2. น้ำฝน กักเกบ็ ไว้ใช้เอง 40
3. น้ำจากระบบประปาหมู่บา้ น -
4. ซื้อนำ้ (น้ำถัง น้ำขวด ตกู้ ดนำ้ ดืม่ )
5. อนื่ ๆ (ระบ)ุ ...............................
2 ปรมิ าณนำ้ บริโภคมีเพยี งพอตลอดทง้ั ปีหรือไม่
1. เพยี งพอตลอดปี
2. ไม่เพยี งพอตลอดปี (มพี อใช้จำนวน..........เดอื น)
3 น้ำบริโภคสะอาดหรอื ไม่
1. สะอาด
2. ไมส่ ะอาด

จากตารางน้ำบริโภค พบว่าทั้ง 40 ครัวเรือน มีน้ำบริโภค (น้ำกิน) ที่ได้มาจากการซื้อน้ำ เช่น น้ำถงั

น้ำขวด ตกู้ ดนำ้ ดม่ื มนี ้ำบรโิ ภคทีส่ ะอาดและเพยี งพอตลอดปี

1.2 น้ำอุปโภค (น้ำใช้) ( 1 ครัวเรือน ระบไุ ดม้ ากกว่า 1 ข้อ )

ท่ี คำถาม

1 น้ำอปุ โภคในครัวเรือนมาจากแหล่งใด จำนวนครัวเรือน

1. น้ำจากแหลง่ นำ้ ต่าง ๆ (เชน่ น้ำบ่อ น้ำหว้ ย น้ำบาดาล อา่ งเก็บนำ้ ) 24

2. นำ้ ฝน กกั เกบ็ ไวใ้ ช้เอง 4

3. น้ำจากระบบประปาหมบู่ า้ น 20

4. ซอื้ น้ำ (นำ้ ถัง นำ้ ขวด ตกู้ ดน้ำด่มื ) 5

5. อน่ื ๆ (ระบ)ุ ............................... -

2 ปรมิ าณนำ้ อปุ โภคมเี พียงพอตลอดทั้งปีหรือไม่

1. เพยี งพอตลอดปี 12
2. ไมเ่ พียงพอตลอดปี (มีพอใชจ้ ำนวน..........เดือน)
40
-

จากตารางน้ำอุปโภค (น้ำใช้) พบว่า มีครัวเรือนที่ใช้น้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ เช่น น้ำบ่อ น้ำห้วย น้ำ
บาดาล อา่ งเกบ็ น้ำ จำนวน 24 ครวั เรือน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 60 , ใชน้ ้ำฝนที่กกั เก็บไว้ใช้เอง จำนวน 4 ครัวเรือน
คดิ เปน็ ร้อยละ 10 , นำ้ จากระบบประปาหมบู่ ้าน จำนวน 20 ครวั เรือน คิดเป็นรอ้ ยละ 50 และน้ำที่มาจากการ
ซอ้ื จำนวน 5 ครัวเรอื น ร้อยละ 12.5 โดยมนี ำ้ อุปโภคเพยี งพอตลอดปที ้งั 40 ครัวเรือน

1.3 ใชแ้ หล่งน้ำเพ่อื การประกอบอาชีพจากแหล่งใด ( 1 ครวั เรือน ระบุได้มากกวา่ 1 ขอ้ )

ท่ี คำถาม

1 นำ้ การเกษตร และนอกภาคการเกษตร จำนวนครวั เรือน

1. ลำห้วย ลำเหมือง ............................ -

2. อา่ งเกบ็ น้ำ สระน้ำหมบู่ า้ น -

3. บอ่ น้ำผิวดิน นำ้ บาดาล นำ้ ใต้ดนิ -

4. ระบบท่อ -

5. น้ำฝนตามฤดกู าล -

6. คลองชลประทาน 40

7. ฝาย -

8. อืน่ ๆ (ระบ)ุ -

จากตารางพบวา่ ทงั้ 40 ครัวเรือน ใชแ้ หลง่ นำ้ จากคลองชลประทานเพอื่ การประกอบอาชพี

1.4 แหล่งน้ำสำหรบั ประกอบอาชพี ทีใ่ ช้ มเี พียงพอตอ่ การทำเกษตรตลอดทงั้ ปี จำนวน 40 ครัวเรอื น

1.5 ไม่มีพน้ื ทที่ ำกินเปน็ ของตวั เอง 13 ครวั เรือน มีพ้นื ทท่ี ำกินเปน็ ของตวั เอง 27 ครัวเรอื น เปน็ พนื้ ท่ี
เพาะปลูกท้งั หมด จำนวน 43 แปลง พ้ืนท่ีรวม 210 ไร่ 15 งาน 90 ตารางวา

ตอนที่ 2 สภาพความเป็นอยู่ / สุขอนามยั

2.1 โรคเรื้อรัง - จากการสำรวจทั้ง 40 ครัวเรือน จำนวนสมาชิก 144 คน พบว่าเป็นโรคความดัน
จำนวน 72 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 50 โรคเบาหวานจำนวน 43 คน คิดเป็นร้อยละ 30 และสุขภาพ

13

แข็งแรงปกติ จำนวน 29 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 20 โดยคนท่ีเปน็ โรคความดนั และเบาหวานสว่ นใหญ่

อยูใ่ นชว่ งอายุ 50-80 ปี มจี ำนวนรวมกนั 115 คน

2.2 โรคตดิ ต่อ - ไมม่ ี

2.3 มีผ้พู กิ าร 1 คน

ตอนท่ี 3 ขอ้ มูลพน้ื ฐานสมาชิกครัวเรือน

จากการสำรวจทงั้ 40 ครัวเรือน รวมจำนวนสมาชกิ ทงั้ สิ้น 144 คน

แบ่งเป็นช่วงอายุ

แรกเกดิ - 12 ปี จำนวน 12 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 8

13 ปี – 25 ปี จำนวน 9 คน คิดเปน็ ร้อยละ 6

26 ปี – 60 ปี จำนวน 80 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 56

61 ปี ขนึ้ ไป จำนวน 43 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 30

การศึกษา

ไมไ่ ด้เรียนหนงั สอื จำนวน 8 คน คิดเป็นร้อยละ 6

อนุบาล จำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 1

ประถมศึกษา จำนวน 79 คน คดิ เป็นร้อยละ 55

มัธยมต้น จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 17

มัธยมปลาย จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 6

ปวส. จำนวน 3 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 2

ปริญญาตรี จำนวน 17 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12

อ่นื ๆ จำนวน 2 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 1

ระยะเวลาการทำงาน

ทำงาน มากกวา่ 4 ช่วั โมง / วนั จำนวน 130 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 90

เดก็ /เยาวชนกำลงั เรยี น จำนวน 10 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 7

เดก็ ยังไม่ถงึ วยั เรียน จำนวน 3 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2

คนพกิ ารไมส่ ามารถทำงานได้ จำนวน 1 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 1

อาชพี ปัจจุบัน จำนวน 96 คน คดิ เป็นร้อยละ 67
เกษตรกร จำนวน 25 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 17
รบั จา้ ง จำนวน 4 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 3
ค้าขาย จำนวน 3 คน คิดเปน็ ร้อยละ 2
ลกู จา้ งเอกชน

14

นกั เรยี น/นกั ศกึ ษา จำนวน 10 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 7
เด็กยงั ไม่ถงึ วยั เรยี น จำนวน 3 คน คิดเปน็ ร้อยละ 2
คนชรา จำนวน 1 คน คิดเปน็ ร้อยละ 1
ข้าราชการบำนาญ จำนวน 2 คน คิดเปน็ ร้อยละ 1
สถานที่ทำงาน
ในหม่บู ้าน จำนวน 90 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 69
ในตำบล จำนวน 35 คน คิดเปน็ ร้อยละ 27
ในอำเภอ จำนวน 5 คน คดิ เป็นร้อยละ 4

เคยทำงานท่ีตา่ งถิ่นมาหรอื ไม่ คิดเปน็ รอ้ ยละ 72
ไม่เคย จำนวน 94 คน คดิ เป็นร้อยละ 28
เคย จำนวน 36 คน
อาศยั อยู่ในพ้ืนที่
อาศยั อยู่ในพืน้ ทีร่ ้อยละ 100
เขา้ ถงึ Internet รอ้ ยละ 100

ตอนที่ 4 สภาพทางเศรษฐกจิ
-รายได-้
รายได้จากการปลูกพชื สวน (ฝรง่ั )
พื้นที่ปลูกรวมทั้งหมด 210 ไร่ รายได้รวมต้นทุนทั้งหมด 9,450,000 บาท/ต่อปี หักต้นทุนแล้ว

ไดก้ ำไร 3,150,000 บาท/ตอ่ ปี
รายได้จากการรบั จา้ ง
รายได้จากการรบั จา้ งท้งั ในและนอกหมบู่ ้าน 1,800,000 บาท
รายได้จากการคา้ ขาย
ร้านอาหารตามสั่ง รายได้ 1,080,000 บาท/ต่อปี ต้นทุน 864,000 บาท/ต่อปี กำไร 216,000

บาท/ตอ่ ปี
รา้ นขายของชำ รายได้ 720,000 บาท/ตอ่ ปี ตน้ ทุน 576,000 บาท/ตอ่ ปี

กำไร 144,000 บาท/ตอ่ ปี
-รายจ่าย-
ค่าใชจ้ า่ ยเพือ่ การบริโภค

15

1.คา่ ข้าวสาร 2,100 บาท/คน/ปี
2.ค่าวตั ถดุ ิบประกอบอาหาร 27,000 บาท/คน/ปี
3.คา่ เครือ่ งปรงุ 3,650 บาท/คน/ปี
4.คา่ น้ำด่ืม 365 บาท/คน/ปี
คา่ ใชจ้ า่ ยเพื่อการอุปโภค
1.คา่ เครอ่ื งแตง่ กาย และของใชส้ ่วนตวั 1,000 บาท/คน/ปี
2.คา่ ใชจ้ า่ ยเกี่ยวกับทอี่ ยู่อาศัยและเคร่อื งใชใ้ นบ้าน 200 บาท/คน/ปี
3.คา่ ยานพาหนะ และการเดนิ ทาง 3,600 บาท/คน/ปี
ตอนท่ี 5 ชวี ติ ปกตสิ ุข
มิตทิ ่ี 1 สงิ่ แวดล้อมท่ดี ี
1.1 มีฝ่นุ ควนั สารเคมี PM 2.5 เกินกวา่ ค่ามาตรฐานท่เี ปน็ อนั ตรายตอ่ สุขภาพอยใู่ นระดบั นอ้ ยทสี่ ุด
1.2 ไมม่ มี ลภาวะทางเสียง และมลภาวะทางนำ้
1.3 ละแวกบา้ นเป็นต้นไมร้ ม่ รนื่ สงบสุข มีความหลากหลายทางชวี ภาพ อยใู่ นระดบั มากทีส่ ดุ
1.4 มีเพอื่ นบ้านที่ดี ไมม่ ีขโมย โจรผรู้ า้ ย อยใู่ นระดบั มากที่สดุ
มิติท่ี 2 มคี วามร้เู พียงพอต่อการประกอบอาชพี
2.1 มคี วามรู้ ทักษะ ความเชย่ี วชาญ ความเกง่ ในการทำมาหากินที่ตกทอดมา ทเี่ ป็นภมู ปิ ญั ญา ส่งั สม

อยใู่ นระดบั มากท่สี ุด
2.2 มีโอกาสที่จะเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญในการทำงาน ประกอบอาชีพ การหารายได้

ของตนเอง ของครอบครัว ของกลุ่มอยา่ งต่อเนอ่ื ง อยใู่ นระดบั มากทสี่ ดุ
2.3 มกี ารปรับเปลยี่ นความรู้ ทักษะ ความเชยี่ วชาญในการทำงาน การประกอบอาชีพ การหารายได้

ของตนเอง ของครอบครัว ของกลมุ่ อยา่ งต่อเน่ือง อย่ใู นระดับมากทสี่ ดุ
มิติที่ 3 โอกาสในการประกอบอาชีพตามความถนัด และความสามารถของตน อันจะนำมาซ่ึง
ความสขุ ตอ่ การประกอบกิจการงานของตน
3.1 มีอาชีพ มีงานทำ ไม่ว่างงาน หรือทำงานไม่เต็มเวลา เต็มความสามารถศักยภาพของตน อยู่ใน

ระดบั มาก
3.2 อาชพี กิจกรรมทหี่ ารายได้ทีท่ ำอยู่ มีความม่ันคงต่อเนื่อง ย่งั ยนื อยู่ในระดับปานกลาง
3.3 ครอบครวั บุคคลในชุมชนมีช่องทางทจ่ี ะหาอาชพี ใหม่ การทำมาหากนิ ใหม่ อยูใ่ นระดับปานกลาง
มิติท่ี 4 สงั คมทดี่ ี เขม้ แข็ง สามัคคชี ว่ ยเหลือเก้ือกูลกันจนเกดิ ความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพย์สิน
ของตน กลมุ่ คนกลมุ่ บ้าน มีความเมตตากรณุ าตอ่ กัน

16

4.1 กลุ่มคน กลุ่มบ้าน สถานศึกษา โรงเรียน วัด โบสถ์ สุเหร่า มีความสามัคคี มีความเอื้อเฟื้อ
ตอ่ กนั ร่วมมอื กนั ดใี นการทำกจิ กรรมตามประเพณี กิจกรรมสาธารณะประโยชน์อยู่ในระดับมาก
ทส่ี ดุ

4.2 มีคนตดิ สุรา ยาเสพตดิ และอบายมขุ ในชุมชน อยูใ่ นระดับน้อย
4.3 มโี รคตดิ ตอ่ รา้ ยแรงในชมุ ชน อยใู่ นระดับ น้อยทสี่ ดุ
4.4 ไม่มีความรนุ แรงในครอบครัว การหย่าร้าง ผู้สงู อายุ และเด็กถกู ทอดท้งิ

17

ภาคผนวก

18

1.โครงการชว่ ยเหลอื และพัฒนาทอ่ี ยู่อาศยั การท่องเท่ียวเชิงเกษตร “แปลงใหญส่ วนฝร่ัง” ท่บี า้ นวังนกไข่
ในรายงานเดินหนา้ ประเทศไทย

1. หลกั การและเหตผุ ล
ด้วยหมบู่ า้ นวังนกไข่ หมทู่ ี่ 8 ตาบลหนองนกไข่ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมทุ รสาคร มลี ักษณะทาง
ภูมิศาสตรเ์ ปน็ พนื้ ทรี่ าบลุม่ มปี ระชากรทงั้ หมดประมาณ 740 คน 199 คร้งั เรือน ประชากร สว่ นใหญป่ ระกอบ
อาชพี เกษตรกร และรบั จา้ งตามลำดบั ซง่ึ จากการประชาคมหม่บู ้านในแตล่ ะเดือน พบวา่ ประชากรส่วนใหญย่ งั
มีรายไดน้ อ้ ย และมหี นสี้ ินครวั เรอื นเปน็ จำนวนมากและพบปัญหาสภาพ ความเป็นอยขู่ องประชาชนในพนื้ ที่
ทสี่ ว่ นใหญ่ตอ้ งอาศยั และมีครวั เรอื นอยบู่ นพืน้ ทีข่ องเอกชน กล่าวคือยงั พบว่าประชาชนสว่ นใหญ่อาศัยและปลกู
สรา้ งท่ีพกั อาศยั บนพื้นทดี่ ินของเอกชน โดยการเชา่ อย่แู ละไมส่ ามารถทีจ่ ะขยายพ้นื ทอ่ี าศยั หรือแมก้ ระทงั่ ทดี่ นิ
สำหรับการประกอบอาชพี ได้ จงึ เกิดแนวคดิ ท่ีจะช่วยเหลอื และพฒั นาที่อยู่อาศัยของประชาชนในพ้นื ท่ใี ห้มที อี่ ยู่
อาศัยเป็นสัดสว่ น และสามารถขยายพืน้ ท่ีและประกอบอาชีพสามารถสรา้ งรายไดแ้ ละมีท่ีดินเปน็ ของตนเองได้
ในอนาคต โดยจัดทำโครงการฯ เพอ่ื ชว่ ยเหลอื และพฒั นาชวี ิตความเป็นอยูใ่ ห้ดยี งิ่ ขนึ้ ต่อไป

2. วัตถปุ ระสงค์
2.1) เพ่ือพัฒนาแหลง่ ท่อี ยูอ่ าศยั ให้กบั ประชาชนในพ้นื ที่ ท่ไี ด้รบั ความเดือดรอ้ นใหม้ ีชวี ิต ความเป็นผทู้ ี่
ดขี ้นึ และมีทด่ี นิ เปน็ ของตนเองไดต้ ่อไป
2.2) เพ่ือชว่ ยเหลือประชาชนในพืน้ ท่ีที่ได้รบั ความเดอื ดรอ้ นมีเงินเหลอื จากการผ่อนชาระหนี้เพื่อเป็น
เงนิ ออม และนำไปใช้พัฒนาคณุ ภาพชีวติ ในดา้ นอ่ืน ๆ ได้
2.3) เพื่อสร้างกระบวนการพัฒนาศักยภาพของประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนให้มีความ
กระตือรอื รน้ และพฒั นาตนเอง ไปสูก่ ารสรา้ งพืน้ ฐานการดำเนินชีวติ ได้อย่างมคี วามเขม้ แข็งและมั่นคง
3. เปา้ หมายการดาเนนิ งาน
ประชาชนท่ีมคี วามเดอื ดร้อนเรื่องท่ีพกั อาศยั จานวน 10 ครวั เรือน
4. วธิ ีดำเนินการ
4.1) จัดทำโครงการเพอ่ื เสนอต่อธนาคารอาคารสงเคราะหเ์ พ่อื ขอรับการอนมุ ัติสินเชื่อโดยมหี ลกั ทรพั ย์
ค้ำประกนั
4.2) นางบประมาณที่ได้รับการอนุมัติไปจัดซื้อที่ดินเอกชน (เพื่อการจัดสรรที่ดิน) ให้ประชาชน
กลมุ่ เป้าหมาย ได้ทำการปลกู สรา้ งท่ีพกั อาศัย และสามารถเช่าซอ้ื ที่ดนิ ดงั กล่าวได้ (ผ่อนชำระในระยะยาวไม่คิด
ดอกเบยี้ )
4.3) เมือ่ ประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายทำการเชา่ ซ้อื ในระยะเวลาท่กี าหนดสามารถถ่ายโอนกรรมสทิ ธท์ิ ่ดี นิ
เปน็ ของตนได้
5. ระยะเวลาดาเนินการ
ปี พ.ศ.2565

19

6. งบประมาณ
งบประมาณที่ได้จากการอนุมัติสินเชื่อของธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดยมีหลักทรัพย์ (ที่ดินของ
ผใู้ หญบ่ า้ น) คำ้ ประกนั

2. แนวทางแก้ไขปัญหายาเสพตดิ หมทู่ ี่ 8 ตาบลหนองนกไข่ อำเภอกระทุม่ แบน จงั หวดั สมุทรสาคร
ตำบลหนองนกไข่ อำเภอกระทุม่ แบน จงั หวดั สมทุ รสาคร มพี นื้ ทสี่ ่วนใหญเ่ ปน็ พ้ืนที่เกษตรกรรมมีเขต

ติดต่อหลายตำบล ในพน้ื ทีอ่ ำเภอกระทมุ่ แบน และตำบลในเขตอำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมทุ รสาคร และตำบล
ในเขตพื้นที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ซึ่งตำบลหนองนกไข่ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
สามารถใช้เปน็ เส้นทางสัญจรไปมาระหว่างอำเภอและระหว่างจังหวดั ได้ จึงทำใหม้ ี ความหลากหลายในเรือ่ ง
ของจำนวนประชากร และชวี ิตความเปน็ อยขู่ องประชาชนในพ้ืนที่ ทำให้พ้ืนที่ ตำบลหนองนกไข่ อำเภอกระทมุ่
แบน จงั หวัดสมทุ รสาคร เปน็ พนื้ ที่และเสน้ ทางในการพกั คอยและเสน้ ทาง ในการลำเลียงยาเสพตดิ โดยอาศัย
สภาพแวดล้อมความเปน็ พน้ื ทีเ่ กษตรกรรม และผใู้ ชแ้ รงงาน ในภาคเกษตรกรรมเปน็ ผู้ใชแ้ ละผเู้ สพ ตำมลำดับ
ทั้งนี้ ในส่วนของหมู่บ้านวังนกไข่ หมู่ที่ 8 ตำบลหนองนกไข่ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
เป็นหมบู่ ้านทม่ี ีสภาพแวดล้อมเป็นภาคเกษตรกรรม มีประชากรประมาณ 740 คน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชพี
เกษตรกร และรับจ้ำง หมู่บ้านวงั นกไขม่ ีพืน้ ที่ติดต่อกับ อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร และอำเภอสาม
พราน จังหวัดนครปฐม จึงเหมาะสำหรับผู้ค้ายาเสพติด ที่มกั ใช้เป็นเสน้ ทางในการลำเลยี งและกระจายยาเสพ
ติดให้ประชาชนในพื้นที่ใช้และเสพนั้น ทำให้หมู่บ้าน วังนกไข่ เป็นหมู่บ้านที่มีสภาพปัญหายาเสพติดอยู่ใน
ระดับปานกลาง (มีผู้เสพจำนวนมาก) จึงทำให้ผู้ใหญ่บ้านสะท้อนปัญหาและรายงานสภาพปัญหาผ่านการ
ประชาคมหมู่บ้าน ในลักษณะของกำรประเมนิ สถานะหมู่บ้าน ซึ่งขับเคลื่อนด้วยคณะกรรมการหมู่บ้านและ
ประชาชนในพ้นื ท่ี เพือ่ ให้อำเภอกระทุม่ แบน รับทราบและดำเนินการในส่วนที่เก่ยี วข้องต่อไป

ในการนี้ ศนู ยป์ ฏิบัตกิ ารปอ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ อำเภอกระทมุ่ แบน (ศป.ปส.อ.กระทมุ่ แบน)
ได้ขับเคลื่อนการดำเนินการโดยการประสานความร่วมมือกับหนว่ ยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกับผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8
ตำบลหนองนกไข่ อำเภอกระทมุ่ แบน จังหวัดสมทุ รสาคร แก้ไขปัญหำยำเสพตดิ ในพื้นที่ โดยกำหนดมาตรกำร
ในการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปัญหายาเสพติด ดังน้ี

1. การลงพ้ืนที่เพื่อสำรวจประชาชนในพื้นท่ีที่เป็นกลุม่ เสีย่ ง (ที่ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการหมูบ่ ้าน
และประชาชนในพื้นที่) เพื่อค้นหาผู้เสพสารเสพติด โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นท่ี
องค์การบริหารส่วนตำบลหนองนกไข่, สถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน เพื่อผลักดันผู้ใช้สารเสพติดในหมู่บ้าน
เข้าสู่กระบวนการบำบดั โดยใช้ชุมชนเปน็ ศูนย์กลาง (CBTx) รวมท้งั การมแี นวคิดการเปดิ ศูนยบ์ ำบัดยาเสพติด
ภายในชุมชนตอ่ ไป

2. การจัดชุดปฏิบัติการตำบลในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด โดยการลาดตระเวน
ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด ในพื้นที่เพื่อเป็นการป้องกนั และสกัดกั้นการขนถ่ายยาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งมีผลการจบั กุม
ผูก้ ระทำความผิดเป็นจำนวนมาก


Click to View FlipBook Version