15
ตอนท่ี 3 ขอ้ มลู พน้ื ฐานสมาชกิ ในครัวเรอื น
จากการสารวจขอ้ มลู พืน้ ฐานสมาชกิ ในครัวเรอื น จานวน 40 ครวั เรือน ซึ่งประกอบดว้ ย 3.1 สถานะภาพความสัมพันธ์ในครัวเรอื น 3.2 อายุ 3.3 เพศ 3.4 ระดับ
การศึกษา 3.5 การทางาน 3.6 อาชีพปัจจบุ ัน 3.7 สถานทท่ี างาน 3.8 การเขา้ ถึง Internet
ความสัมพนั ธ์ใน อายุ เพศ ระดับการศึกษา ทางาน อาชพี สถานที่ เคยทางาน อาศัย Internet
ครอบครัว ทางาน ต่างถิน่ อยู่ทใ่ี ด
0-20ปี ชาย หญงิ 1.ไม่ได้เรียน 10 คน 1. มากกวา่ 4 ชม./วัน 70 คน 1.เกษตรกร 50 คน มี 36 บ้าน
1.ปู่ยา่ ตายาย 10 คน 11 คน 2.น้อยกวา่ 4 ชม./วนั 19 คน 2.รบั จ้าง 29 คน 1.ในหมู่บา้ น 50 คน ไมเ่ คย 35 ในพื้นที่ ไม่มี 4 บา้ น
21-60ปี 2.ประถม 27 คน 3.วา่ งงาน ตอ้ งการทางาน 7 คน 3.ค้าขาย 18 คน คน 87 คน
2.พอ่ 29 คน 62 คน 2.ในตาบล 10 คน เคยที่ กทม 5 นอกพื้นท่ี
61ปี ข้นึ ไป 3.ม.ตน้ 29 คน คน 23 คน
3.แม่ 27 คน 37 คน 4.ม.ปลาย 26 คน 3.ในอาเภอ 37 คน
5.ปวช/ปวส 10 คน
4.พ่ีน้อง 7 คน 6.กศน 8 คน 4.วา่ งงานไมต่ ้องการทางาน 3 คน 4.รบั ราชการ 1 คน 4.ในจงั หวัด 12 คน
5.หลาน 11 คน 7.ป.ตรี 2 คน
6.ลุงป้าน้าอา 6 คน 5.เดก็ /เยาวชนกาลงั เรยี น 11 คน 5.ลกู จา้ งรฐั 6 คน 5.ต่างจังหวัด 1 คน
7.ญาติอ่ืนๆ 20 คน
6.เดก็ /เยาวชนไมไ่ ดเ้ รยี น - คน 6.ลูกจา้ งเอกชน 6 คน 6.ตา่ งประเทศ - คน
7.เดก็ ยงั ไม่ถึงวัยเรยี น - คน
8.ป.โท - คน 7.งานบริการชา่ งท่วั ไป
9.อืน่ ๆ - คน 8.คนพกิ าร/ป่วยทางานไมไ่ ด้ 8 คน 1 คน
8.นร./นศ. - คน
9. คนชรา 2 คน
10. อนื่ ๆ ระบุ - คน.
ครัวเรือน 40 ครัวเรือน มีสมาชิก จานวน 110 คน ส่วนใหญ่ อยู่กันเป็นครอบครัว ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา และญาติพ่ีน้อง สถานะภาพความสัมพันธ์ใน
ครัวเรือน จาแนกเป็น อายุ ไม่เกิน 20 ปี 11 คน 21-60 ปี 62 คน 61 ปีขึ้นไป 37 คน (แนวโน้มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ) ระดับการศึกษา ส่วนใหญ่ จบมัธยมศึกษาตอนต้น 29 คน
มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย 26 คน ประถมการศึกษา 27 คน มงี านทา 89 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร 50 คน รองลงมา คือ รับจ้าง 29 คน ค้าขาย 18 คน ทีเ่ หลอื รับราชการ ลกู จ้างรัฐ ลกู จา้ ง
เอกชน ชา่ งทวั่ ไป รวมแล้ว 14 คน ส่วนใหญ่ทางานในหม่บู ้าน 50 คน ในอาเภอ 37 คน และไม่เคยทางานตา่ งถ่ิน การเข้าถงึ Internet จานวน 36 ครวั เรอื น ไม่มี 4 ครวั เรือน
16
ตอนที่ 4 สภาพทางเศรษฐกจิ (หมายเหตุ : เปน็ ข้อมูลผลผลติ ทไี่ ดใ้ นระหวา่ งปี 2563)
จากการสารวจข้อมลู สภาพทางเศรษฐกิจ จานวน 40 ครัวเรือน ซึง่ ประกอบดว้ ย 4.1 รายไดจ้ ากการเกษตรในรอบปีทผ่ี ่านมา 4.2 เงนิ ออม 4.3 เงินชว่ ยเหลือ
4.4 รายจา่ ย 4.5 หนสี้ ิน
4.1 รายไดจ้ ากการเกษตรในรอบปที ี่ผา่ นมา
4.1.1 รายไดจ้ ากการปลูกขา้ ว
ประเภทของ พันธุ์พชื ทามาแลว้ 1. 2.ผลผลติ ขาย 3. 4. 5. 6. 7. ตลาด
ผลผลิต (ป)ี พนื้ ท่ีปลกู ผลผลติ เฉลย่ี ผลผลติ รวม บริโภคใน (กก./ปี) ราคา รายได้ รวมต้นทุน กาไรสทุ ธิ 1. ตลาดในชมุ ชน
(ไร/่ งาน/ (กก./ไร่/ป)ี (กก./ป)ี ครัวเรือน (กก./ป)ี (บาท/ป)ี (บาท/ป)ี (บาท/ปี) 2. พอ่ ค้าในพน้ื ที่
250 ก.ก. 3. พอ่ ค้านอกพ้ืนท่ี
ตรว.) 15,000- 4. สหกรณ์
30,000 5. แมคโคร/โลตัส/
675-3-0 300 – 500 500 ก.ก. 250 ก.ก. 9-11 30,000 – 15,000- บาท บิ๊กซี
ก.ก./ไร่/ปี บาท 60,000 30,000 6. บรโิ ภค
บาท บาท 2,3,4,6
ครวั เรอื นมีสภาพทางเศรษฐกจิ มรี ายได้จากการเกษตรในรอบปีทผ่ี ่านมา มีพื้นที่ปลูกข้าว 675 ไร่ 3 งาน ผลผลิตเฉลี่ย 300-400 กิโลกรม/ไร/่ ปี ผลผลิตรวม
500 กิโลกรัม/ปี บริโภคในครัวเรือน 250 กิโลกรัม ขายเป็นรายได้ 250 กิโลกรัม ราคา 9-11 บาท/กิโลกรัม/ปี รายได้เฉล่ียท้ังปี 30,000-60,000 บาท รวมต้นทุน
15,000-30,000 บาท/ปี กาไรสุทธิ 15,000-30,000 บาท/ปี ตลาดสว่ นใหญ่ เป็นพอ่ คา้ ในพื้นที/่ นอกพน้ื ท่ี และ สหกรณ์ ไมไ่ ด้วางขายในแมคโคร/โลตัส/บกิ๊ ซี
17
4.1.2 รายไดจ้ ากการปลูกพชื ผักสวนครวั / พชื อายุส้ัน (ลดรายจา่ ยเชิงพาณชิ ย)์
ประเภทของ พนั ธพุ์ ชื ทามาแล้ว 1. 2.ผลผลติ 3. 4. 5. 6. 7. ตลาด
ผลผลติ (ป)ี พื้นที่ปลกู ผลผลิตเฉลยี่ ผลผลติ รวม บริโภคใน ราคา รายได้ รวมตน้ ทนุ กาไรสุทธิ 1. ตลาดในชุมชน
ระบชุ ่ือ (ไร/่ งาน/ (กก./ไร่/ปี) (กก./ป)ี ครัวเรือน ขาย (กก./ป)ี (บาท/ปี) (บาท/ปี) (บาท/ป)ี 2. พ่อค้าในพน้ื ท่ี
เชน่ พรกิ 5 (กก./ป)ี 3. พอ่ ค้านอกพืน้ ท่ี
ตะไคร้ ตรว.) 10-20 600- 200 500- 4. สหกรณ์
ปรมิ าณ 55 ก.ก./ปี บาท 1,200 1,000 5. แมคโคร/โลตัส/
บาท บาท บกิ๊ ซี
6. บรโิ ภค
พรกิ 30 ตาราง 60 ก.ก./ปี 60 ก.ก./ปี 5 กก
มะละกอ วา
โหระพา
ครัวเรอื นมสี ภาพทางเศรษฐกิจ มีรายได้จากการปลกู พชื ผักสวนครัว / พชื อายุสัน้ (ลดรายจ่ายเชงิ พาณิชย)์ ประเภทของผลผลิตสว่ นใหญ่ คอื พริก มะละกอ
โหระพา ทามาแล้ว 5 ปี พื้นทปี่ ลูก 30 ตารางวา ผลผลติ เฉล่ยี 60 กิโลกรมั /ไร่/ปี ผลผลติ รวม 60 กิโลกรัม/ปี บริโภคในครัวเรือน 5 กิโลกรัม ส่งขาย 55 กิโลกรัม ราคา
10-20 บาท/กิโลกรัม/ปี รายได้ 600-1,200 บาท/ปี รวมตน้ ทุก 200 บาท/ปี กาไรสทุ ธิ 500-1,000 บาท/ปี
18
4.1.3 รายได้จากการปลกู พชื ไร่
ประเภทของ พันธ์ุพชื ทามาแลว้ 1. 2.ผลผลติ 3. 4. 5. 6. 7. ตลาด
ผลผลติ (ป)ี พื้นทปี่ ลกู ผลผลิตเฉลย่ี ผลผลติ รวม บรโิ ภคใน ราคา รายได้ รวมตน้ ทุน กาไรสทุ ธิ 1. ตลาดในชุมชน
ระบุช่ือ (ไร่/งาน/ (กก./ไร/่ ป)ี (กก./ปี) ครัวเรอื น ขาย (กก./ป)ี (บาท/ปี) (บาท/ป)ี (บาท/ป)ี 2. พ่อคา้ ในพน้ื ที่
(กก./ปี) 3. พอ่ คา้ นอกพืน้ ที่
เชน่ ออ้ ย มนั ตรว.) 1.80 42,000 20,000 22,000 4. สหกรณ์
ข้าวโพดเลี้ยง 2,000 5. แมคโคร/โลตสั /
บ๊ิกซี
สัตว์ 6. บริโภค
มัน มัน 10ปี 14 2,000 . 2,000 . - 2,3
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายได้จากการปลูกพืชไร่ ประเภทของผลผลิตส่วนใหญ่ คือ มัน ทามาแล้ว 10 ปี พื้นที่ปลูก 14 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 2,000
กโิ ลกรัม/ไร่/ปี ผลผลิตรวม 2,000 กิโลกรัม/ปี ขาย 2,000 กิโลกรัม /ปี ราคา 1.80 บาท/กิโลกรัม/ปี รายได้ 42,000 บาท/ปี รวมต้นทุก 20,000 บาท/ปี กาไรสุทธิ
22,000 บาท/ปี ตลาดส่วนใหญ่ พอ่ ค้าในพืน้ ท่ี/นอกพ้ืนท่ี
19
4.1.4 รายได้จากการปลกู พืชสวน
ประเภทของ พันธพุ์ ืช ทามาแลว้ 1. 2.ผลผลติ 3. 4. 5. 6. 7. ตลาด
ผลผลติ (ป)ี พนื้ ทป่ี ลกู ผลผลติ เฉลยี่ ผลผลติ รวม บริโภคใน ราคา รายได้ รวมตน้ ทนุ กาไรสทุ ธิ 1. ตลาดในชมุ ชน
ระบุชอ่ื (ไร่/งาน/ (กก./ไร่/ปี) (กก./ป)ี ครัวเรือน ขาย (กก./ปี) (บาท/ป)ี (บาท/ปี) (บาท/ปี) 2. พ่อค้าในพนื้ ท่ี
เช่น กาแฟ (กก./ปี) 3. พ่อค้านอกพ้ืนที่
ยางพารา ตรว.) 4. สหกรณ์
มะม่วง 5. แมคโคร/โลตสั /
บิก๊ ซี
มะนาว ฝรงั่ 6. บริโภค
มะพร้าว
ถวั่ ถ่ัวลสิ ง 5 ปี 2 ไร่ 2,500 250 10 240 5,000 5,000 500 4,500 3
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายได้จากการปลูกพืชสวน ประเภทของผลผลิตส่วนใหญ่ คือ ถ่ัวลิสง ทามาแล้ว 5 ปี พื้นท่ีปลูก 2 ไร่ ผลผลิตเฉลี่ย 2,500
กิโลกรมั /ไร่/ปี ผลผลิตรวม 250 กิโลกรัม/ปี บริโภคในครัวเรือน 10 กิโลกรัม ขาย 240 กิโลกรัม/ปี รายได้ 5,000 บาท/ปี รวมต้นทุก 500 บาท/ปี กาไรสุทธิ 4,500
บาท/ปี ตลาดส่วนใหญ่ พ่อคา้ นอกพื้นท่ี
20
4.1.5 รายได้จากปศุสัตว์ (ถา้ เล้ียงเป็ด / ไก่ ให้ระบรุ ายได้จากการขายไข่ และเนือ้ ดว้ ย)
ชนดิ สัตว์ ทา 1. จานวน (ตัว/กก.) 2. 3. ตน้ ทุนการเลีย้ ง 4. 5.
(เช่น หมู เปด็ มาแล้ว รวม บรโิ ภค ขาย ราคา รายได้ พนั ธุ์ อาหาร ยา อปุ กรณ์ รวม กาไร
(บาท/ตัว/
ไข่ เป็ดเนอ้ื ไก่ (ป)ี (ตัว/ กก./ฟอง) รวม ตน้ ทนุ สทุ ธิ
ไข่ ไก่ แพะ กก.) ประมาณการ (บาท) (บาท) (บาท)
แกะ ควาย)
วัว 5-30ปี 20,000- 20,000-
40,000/ 40,000
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกจิ มรี ายไดจ้ ากปศสุ ัตว์ (ถา้ เลย้ี งเปด็ / ไก่ ให้ระบุรายได้จากการ
ขายไข่ และเนื้อด้วย) ชนิดของสัตว์ส่วนใหญ่ คือ วัว ทามาแล้ว 5-30 ปี ราคา 20,000-40,000
บาท/ตวั รายได้รวม 20,000-40,000 บาท/ตวั
4.1.6 รายไดจ้ ากประมง
ชนิดสตั ว์ ทา 1. จานวน (ตัว/กก.) 2. 3. ต้นทุนการเล้ียง 4. 5.
ราคา
(เช่น ปลานลิ มาแล้ว รวม บรโิ ภค ขาย (บาท/ตวั / รายได้ พันธ์ุ อาหาร ยา อปุ กรณ์ รวม กาไร
ปลาดกุ กุ้ง) (ปี) (ตัว/ รวม ตน้ ทนุ สุทธิ
กก.)
กก.) ประมาณการ (บาท) (บาท) (บาท)
- - - -- - --
ครวั เรอื นมีสภาพทางเศรษฐกจิ มรี ายไดจ้ ากประมง ไม่มี
4.1.7 รายไดจ้ ากหตั ถกรรม
ชนิดผลติ ภณั ฑ์ ทามาแล้ว จานวนมูลคา่ (บาท/ป)ี รวมรายได้ ต้นทนุ กาไรสุทธิ แหลง่ ขาย
(ปี) ใชใ้ นครัวเรอื น ขาย (บาท/ป)ี (บาท/ป)ี (บาท/ปี)
ทอเสื่อกก
3 - 2,000 2,000 600 1,400
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายได้จากหัตถกรรม ชนิดผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ คือ ทอเส่ือกก
ทามาแล้ว 3 ปี มูลคา่ 2,000 บาท/ปี รวมรายได้ 2,000 บาท/ปี ต้นทุก 600 บาท/ปี กาไรสุทธิ 1,400
บาท/ปี
21
4.1.8 รายไดจ้ ากการค้าขาย (รา้ นขายของชา / อาหารตามส่งั / ปม๊ั นา้ มัน / ทาอาหารขาย)
ชนิดสนิ คา้ ทามาแล้ว (ปี) รายได้ (บาท/ป)ี ตน้ ทนุ (บาท/ปี) กาไร (บาท/ปี) แหล่งขาย
รา้ นของชา 12 240,000 40,000 200,000
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกจิ มรี ายไดจ้ ากการค้าขาย (ร้านขายของชา / อาหารตามสั่ง
ปัม๊ นา้ มัน / ทาอาหารขาย) ชนดิ สนิ ค้าสว่ นใหญ่ คอื รา้ นขายของชา ทามาแลว้ 12 ปี รายได้
240,000 บาท/ปี ตน้ ทุน 40,000 บาท/ปี กาไรสุทธิ 200,000 บาท/ปี
4.1.9 รายไดจ้ ากอาหารธรรมชาติ (การลดรายจ่าย) รายได้ ต้นทนุ กาไรสุทธิ
(บาท/ป)ี (บาท/ปี) (บาท/ปี)
ชนิดผลิตอาหาร ฤดกู าลท่ีหา ปริมาณท่ีหาได้ มลู ค่า (บาท/ปี)
(กก./ป)ี บริโภค ขาย - - -
- - - --
ครวั เรือนมีสภาพทางเศรษฐกจิ มีรายไดจ้ ากอาหารธรรมชาติ (การลดรายจา่ ย) ไม่มี
4.1.10 รายได้อน่ื ๆ รายได้ (บาท / ป)ี
แหล่งรายได้อืน่ ๆ 10,000-30,000 บาท
5,000-20,000 บาท
1. ดอกเบีย้ เงินกู้
2. คา่ เชา่ เช่น บา้ น ทีด่ ิน รถ รถไถ รถเกีย่ วนวดขา้ ว เรือ
3. โฮมสเตย์
4. เงนิ ท่ีญาติพี่น้องส่งมาให้ (คนนอก)
5. รายได้จากการรบั จ้างในหมู่บา้ น
6. รายไดจ้ ากการรบั จา้ งนอกหมู่บา้ น
7. รายไดเ้ งนิ ปันผล กลุ่มการผลิต / กลุ่มอาชีพ
8. อ่ืน ๆ ระบุ ..................................................
ครัวเรอื นมีสภาพทางเศรษฐกจิ มรี ายไดอ้ ่ืนๆ แหลง่ รายไดอ้ ่นื ๆ ส่วนใหญ่ คือ เงนิ ทญ่ี าตพิ ี่นอ้ ง
สง่ มาให้ (คนนอก) 10,000-30,000 บาท/ปี รองลงมา คือ รายได้จากการรับจ้างในหมู่บ้าน 5,000-
20,000 บาท/ปี
22
4.1.11 รายไดจ้ ากสมาชกิ ในครวั เรอื น (รายได้ประจาจากสมาชิกในครวั เรอื น เช่น
ผ้ใู หญบ่ า้ น ผู้ชว่ ย สอบต. นายก ตารวจ ทหาร คร)ู
สมาชิกในครัวเรือน อาชีพ จานวน สถานท่ที างาน
(บาท / ป)ี ในพ้ืนท่ี นอกพ้ืนที่
- - - --
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายได้จากสมาชิกในครัวเรือน (รายได้ประจาจากสมาชิกใน
ครัวเรือน เช่น ผู้ใหญบ่ ้าน ผูช้ ว่ ย สอบต. นายก ตารวจ ทหาร คร)ู ไมม่ ี
4.2 เงินออม
ประเภทเงนิ ออม จานวนเงิน (บาท)
1. เงินฝากธนาคาร 10,000-30,000 บาท
2. เงนิ ฝากสหกรณ์ในหนว่ ยงาน
3. ซอ้ื ประกัน (หากเสียชีวิต) 60,000-100,000 บาท
4. ซื้อหุ้นจากกลุ่ม / กองทุน 10,000 บาท
5. เก็บไว้ทบ่ี ้าน 5,000-10,000 บาท
6. แชร์ที่ยังไมเ่ ปยี
7. พนั ธบตั ร / สลากออมทรัพย์ / สลากออมสิน 10,000-30,000 บาท
8. ฌาปนกิจ (หากเสยี ชีวติ )
รวม
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีเงินออม ประเภทเงินออมส่วนใหญ่ คือ ซื้อประกัน (หาก
เสียชวี ติ ) 60,000-100,000 บาท รองลงมา เงินฝากธนาคาร 10,000-30,000 บาท ฌาปนกิจ (หาก
เสียชีวติ ) 10,000-30,000 บาท ซื้อหุ้นจากกลุ่ม / กองทุน 10,000 บาท และ เก็บไว้ทีบ่ ้าน 5,000-
10,000 บาท
23
4.3 เงนิ ช่วยเหลอื
แหลง่ เงนิ ชว่ ยเหลือ จานวนคน จานวนเงินที่ไดร้ บั ความช่วยเหลือ รวมเป็นเงิน
ในครัวเรอื นทไี่ ดร้ ับ (บาท / คน / ปี) (บาท)
1. เบี้ยยงั ชพี ผู้สูงอายุ 7,200-12,000
2. เบยี้ ยังชพี ผูพ้ ิการ 16 9,600
3. เงินบรจิ าค 3
4. เงนิ สวัสดกิ ารของรฐั
5. ทนุ การศกึ ษา 16 10,000
6. เงนิ ดแู ลบุตร / เดก็ แรกเกิด 2 10,000
7. เงินช่วยเหลือผ้ปู ระสบภยั
8. เงนิ ช่วยเหลือตามนโยบาย 2 10,000
9. อ่นื ๆ ระบุ ...................... 3 10,000
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มเี งินช่วยเหลือ แหล่งเงินช่วยเหลอื สว่ นใหญ่ คือ เบี้ยยังชีพ
ผู้สูงอายุ 16 คน จานวนเงินที่ได้รับความช่วยเหลือ 7,200-12,000 บาท รองลงมา เงินสวัสดิการ
ของรัฐ 16 คน ทุนการศึกษา 2 คน เงินช่วยเหลือตามนโยบาย 3 คน ประเภทละ 10,000 บาท และ
เบย้ี ยังชพี ผูพ้ ิการ 3 คน 9,600 บาท
4.4 รายจา่ ย คา่ ใชจ้ า่ ย (บาท/ปี) หน่วย (ว/ด/ป.) รวม (บาท / ปี)
4.4.1 ค่าใช้จา่ ยเพอ่ื การบรโิ ภค 10,000-30,000
10,000-30,000
ประเภทคา่ ใชจ้ า่ ย 6,000-8,000
1. ค่าข้าวสาร
2. ค่าวตั ถุดบิ ประกอบทาอาหาร 2,000
3. คา่ เครือ่ งปรงุ 1,000-3,000
4. คา่ สรุ า ของมนึ เมา 1,000-3,000
5. คา่ นา้ ด่ืม
6. ค่าเครอื่ งด่มื และขนมขบเค้ยี ว
7. อน่ื ๆ ระบุ ............................
ครวั เรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายจ่าย เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภค ประเภทค่าใช้จ่าย
สว่ นใหญ่ คือ ค่าข้าวสาร ค่าวตั ถุดิบประกอบทาอาหาร ประมาณ 10,000-30,000 บาท รองลงมา
คือ ค่าเคร่ืองปรุง 6,000-8,000 บาท ค่าน้าด่ืม ค่าเครื่องด่ืมและขนมขบเค้ียว 1,000-3,000 บาท
และ คา่ สรุ า ของมึนเมา 2,000 บาท
24
4.4.2 คา่ ใช้จา่ ยเพือ่ การอปุ โภค
ประเภทคา่ ใช้จา่ ย คา่ ใช้จ่าย (บาท/ปี) หนว่ ย รวม (บาท / ป)ี *
1. คา่ เครื่องแตง่ กาย และของใช้ส่วนตัว 5,000 - -
2. คา่ ใชจ้ ่ายเกยี่ วกบั ทอี่ ยู่อาศยั และเครอ่ื งใชใ้ นบ้าน 10,000 - -
3. คา่ ตรวจรกั ษาพยาบาล และคา่ ยา - - -
4. คา่ ยานพาหนะ และการเดินทาง 10,000 - -
5. คา่ ใชจ้ ่ายดา้ นสังคม และพธิ ีกรรม - -
6. ค่าบหุ ร่ี ยาเสน้ 2,000-5,000 - -
7. ค่าใช้จ่ายด้านอ่นื ๆ 1,000 - -
8. อืน่ ๆ ระบุ ....................................... -
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายจ่าย เป็นค่าใช้จ่ายเพ่ือการอุปโภค ประเภทค่าใช้จ่าย
ส่วนใหญ่ คือ ค่าใช้จ่ายเก่ียวกับที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ในบ้าน และ ค่ายานพาหนะ และการ
เดนิ ทาง 10,000 บาท รองลงมา คือ คา่ เครื่องแต่งกาย และของใช้ส่วนตวั 5,000 บาท คา่ ใช้จ่ายด้าน
สังคม และพิธีกรรม 2,000-5,000 บาท และ คา่ บหุ ร่ี ยาเส้น 1,000 บาท
4.4.3 ค่าใช้จ่ายท่ีไมเ่ ก่ียวกบั การอปุ โภคบริโภค (ค่าใช้จา่ ยอ่ืน ๆ)
ประเภทคา่ ใช้จา่ ย คา่ ใชจ้ ่าย / เดือน รวม
(บาท) (บาท / ปี)
1. คา่ ภาษี เช่น คา่ ภาษเี งินได้สว่ นบคุ คลทดี่ ิน โรงเรือน 10 100-150
2. คา่ ประกันชีวติ / ประกนั สุขภาพ 1,000 12,000
3. คา่ ดอกเบย้ี เงินกู้ 1,000 12,000
4. ค่าประกนั รถ พรบ. ต่อทะเบียนรถ - 600-2,000
5. การพนันหรือเสย่ี งโชค 500
6. อื่น ๆ ระบุ ........................... 6,000
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายจ่าย เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่เก่ียวกับการอุปโภคบริโภค
(ค่าใช้จ่ายอ่ืน ๆ) ประเภทค่าใช้จ่าย ส่วนใหญ่ คือ ค่าดอกเบ้ียเงินกู้ และ ค่าประกันชีวิต / ประกัน
สุขภาพ 12,000 บาท/ปี รองลงมา คือ การพนันหรอื เส่ียงโชค 6,000 บาท/ปี ค่าประกันรถ พรบ.
ต่อทะเบียนรถ 600-2,000 บาท/ปี และ ค่าภาษี เช่น ค่าภาษีเงินได้ส่วนบุคคลท่ีดิน โรงเรือน
100-150 บาท/ปี
4.4.4 คา่ ใช้จา่ ยเกย่ี วกับการลงทุน 25
ประเภทค่าใชจ้ ่าย ค่าใชจ้ ่าย/เดอื น(บาท) รวม(บาท / ปี)
1. คา่ ใชจ้ ่ายเพ่ือการศกึ ษา 1,000 10,000-30,000
2. ค่าใชจ้ า่ ยการซ้ือเคร่ืองจกั ร เคร่ืองมือ ยานพาหนะท่ใี ช้ประกอบอาชพี 2,000 2,000
3. คา่ ใชจ้ ่ายในการเช่า / ซ้อื ทดี่ นิ อาคาร สถานท่ี ประกอบอาชีพ -
4. ค่าใช้จา่ ยในการก่อสร้างโรงเรือน อาคารท่ีใช้ในการประกอบอาชีพ - -
5. ค่าใช้จา่ ยในการจดั จา้ งบุคลากรเพิ่ม จดั ซ้อื ขอ้ มลู ความรู้ คาปรกึ ษา - -
6. คา่ ผอ่ นรถท่ีใชใ้ นการประกอบธรุ กิจ -
5,000-8000 60,000-100,000
7. อนื่ ๆ ระบุ .....................................
- -
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายจ่าย เป็นค่าใช้จ่ายที่เก่ียวกับการลงทุน ประเภทค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่
คอื คา่ ผ่อนรถที่ใชใ้ นการประกอบธรุ กิจ 60,000-100,000 บาท/ปี ค่าใชจ้ ่ายเพ่ือการศึกษา 10,000-30,000 บาท/
ปี และ คา่ ใชจ้ า่ ยการซื้อเครอื่ งจกั ร เครอื่ งมอื ยานพาหนะท่ใี ชป้ ระกอบอาชีพ 2,000 บาท/ปี
4.5 หน้ีสิน
แหลง่ หนสี้ นิ จานวนเงนิ ทกี่ ู้ วัตถุประสงค์ในการกู้1. เพอื่
(บาท) การอปุ โภค บรโิ ภค 2. เพ่ือ
1. ญาติ / เพอื่ น / เพื่อนบา้ น / เพอ่ื นทที่ างาน / แชร์ท่ีเปยี แลว้ การลงทนุ
2. นายจ้าง / เจา้ ของบ้าน / นายทุน -
3. รา้ นค้า / บริษัทขายสินค้า (ซือ้ เชอ่ื เงินผอ่ น) - -
4. สหกรณ์ / กล่มุ กองทุนตา่ ง ๆ ในชุมชน - -
5. กองทุนหมบู่ ้าน / กองทุนเงนิ ล้าน - -
6. โครงการแกไ้ ขปัญหาความยากจน (กขคจ.) -
7. กองทนุ ก้ยู ืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) 20,000-50,000
8. ธนาคาร / สถาบนั การเงิน - 1
9. สหกรณอ์ อมทรัพยใ์ นหน่วยงาน -
10. สถาบนั การเงินเอกชน เช่น ไฟแนนซ,์ อิออน 100,000 1
11. องคก์ ารบริหารส่วนตาบล (อบต.) 100,000-200,000 1,2
12. บัตรเครดิต (จากธนาคาร และบริษทั เอกชน)
13. หนน้ี อกระบบ - -
14. อื่น ๆ ระบุ - -
- -
- -
- -
- -
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ ที่เป็นหน้ีสิน แหล่งหน้ีสินส่วนใหญ่ คือ ธนาคาร / สถาบันการเงิน
100,000-200,000 บาท วตั ถุประสงค์ในการกู้ เพ่ือการอุปโภค บริโภค เพ่ือการลงทุน รองลงมา คอื กองทนุ หม่บู า้ น
/ กองทุนเงินล้าน 20,000-50,000 บาท และ กองทนุ กยู้ มื เพือ่ การศึกษา (กยศ.) 100,000 บาท
27
ข้อมูลจากแบบสอบถาม จานวน 40 ครวั เรือน
1.รายได้ (บาท/ป)ี 681,800 บาท/ปี
รายไดจ้ ากการเกษตรในรอบปีทีผ่ ่านมา (บาท/ปี) การ รายได้อ่นื ๆ เงินออม เงนิ ช่วยเหลอื
เบ้ยี เงินสวสั ดิ ทุนการ
ปลูกขา้ ว ปลูก ปลกู พืช ปลูกพชื ปศสุ ัตว์ ประมง หัตถกรร คา้ ขาย ญาติ รบั จา้ ง ธนาคา ซอื้ กองทุน ไวท้ ่ี ฌาปนกิจ เบ้ยี ผู้พกิ าร การรฐั ศึกษา เงินช่วย
เหลือ
พชื ผัก ไร่ สวน ม ส่งให้ ร ประกนั บา้ น ผสู้ ูงอายุ 9,600 10,000 10,000 20,000
30,000 600- 42,000 5,000 20,000- - 2,000 240,000 10,000- 5,000- 10,000 60,000- 10,000 5,000- 10,000- 7,200-
– 1,200 40,000 30,000 20,000 - 100,000 10,000 30,000 12,000
60,000 30,000
2. รายจา่ ย (บาท/ปี) 271,150 บาท/ปี
คา่ ใชจ้ า่ ยเพือ่ การบรโิ ภค (บาท/ปี) ค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภค (บาท/ปี) ค่าใชจ้ ่ายอนื่ ๆ (บาท/ปี)
ค่า ทาอาหา เครื่อง ค่าสรุ า นา้ ดมื่ ขนม ใช้ ที่อยู่ การ ด้าน คา่ คา่ ภาษี คา่ ประกัน คา่ ทะเบียนรถ เสย่ี ง การศกึ ษา ประกอ ค่าไฟแนนซ์
ข้าวสาร ร ปรงุ ขบ สว่ นตัว อาศัย เดนิ ทาง สงั คม บหุ รี่ นา ดอกเบ้ีย โชค บอาชีพ
เคี้ยว
10,000- 10,000- 6,000 2,000 1,000- 1,000- 5,000 10,000 10,000 2,000- 1,000 100- 12,000 12,000 600-2,000 6,000 10,000- 2,000 60,000-
30,000 30,000 - 3,000 3,000 5,000 150 30,000 100,000
8,000
3. หนีส้ ิน (บาท/ป)ี 350,000 บาท/ปี หน่วย บาท/ปี
กู้กองทนุ กยศ. กู้ธนาคาร รายได้ 681,800
20,000-50,000 100,000 100,000-200,000 หกั รายจ่าย 271,150
หกั หนีส้ ิน 350,000
60,650
คงเหลือ
28
ตอนที่ 5 ชีวิตปกติสขุ
มิติของความปกติสขุ ระดบั ของชวี ติ ทีเ่ ปน็ ปกติสุข (ระบุ : จานวนคน)
มิตทิ ่ี 1 สิง่ แวดลอ้ มทดี่ ี มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย ไม่มี
1.1 มฝี นุ่ ควัน สารเคมี PM 2.5 เกินกว่าค่ามาตรฐานที่เป็น ท่ีสดุ กลาง ที่สดุ
อันตรายต่อสุขภาพ
1.2 มมี ลภาวะทางเสยี ง มลภาวะทางนา้ 152 8 4 21
1.3 มลี ะแวกบ้านท่เี ป็นตน้ ไมร้ ม่ รื่น สงบสขุ มคี วาม
หลากหลายทางชวี ภาพ 259 3 4 17
1.4 มเี พอื่ นบา้ นทีด่ ี ไม่มขี โมย โจรผรู้ ้าย 10 22 4 0 22
10 19 4 1 15
ครัวเรือน มีชวี ิตปกติสุข ในมิติท่ี 1 ด้านสิ่งแวดล้อม ระดับของชีวิตท่ีเป็นปกติสขุ ส่วนใหญ่ คือ
ละแวกบ้านท่ีเป็นต้นไม้ร่มร่ืน สงบสุข มีความหลากหลายทางชีวภาพ รองลงมา คือ ไม่มี ฝุ่นควัน
สารเคมี PM 2.5 เกินกว่าค่ามาตรฐานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีเพ่ือนบ้านที่ดี ไม่มีขโมย โจรผู้ร้าย
ไมม่ ี มลภาวะทางเสยี ง มลภาวะ ทางน้า
มิติของความปกติสขุ ระดบั ของชีวติ ที่เปน็ ปกติสุข (ระบุ : จานวนคน)
มาก มาก ปาน น้อย นอ้ ย ไมม่ ี
มติ ิที่ 2 มีความรเู้ พียงพอตอ่ การประกอบอาชพี ท่สี ุด กลาง ทสี่ ดุ
2.1 มคี วามรู้ ทกั ษะ ความเชย่ี วชาญ ความเกง่ ในการทามา 6 20 12 2 0 0
หากินที่ตกทอดมา ทเ่ี ป็นภูมปิ ญั ญาส่งั สม 7 19 13 1 0 0
2.2 มีโอกาสท่จี ะเพ่มิ พนู ความรู้ ทักษะ ความเชยี่ วชาญใน
การทางาน ประกอบอาชพี การหารายได้ของตนเอง ของ 7 20 12 1 0 0
ครอบครัว ของกลมุ่ อยา่ งต่อเนอ่ื ง
2.3 มีการปรบั เปลย่ี นความรู้ ทักษะ ความเชีย่ วชาญในการ
ทางาน การประกอบอาชพี การหารายได้ของตนเอง ของ
ครอบครวั ของกลุม่ อย่างตอ่ เนื่อง
ครวั เรือน มีชีวติ ปกติสขุ ในมติ ิที่ 2 ด้านมีความรู้เพียงพอต่อการประกอบอาชีพ ระดับของชวี ิต
ท่ีเป็นปกติสขุ ส่วนใหญ่ คือ มีความรู้ ทักษะ ความเช่ียวชาญ ความเก่งในการทามาหากินท่ีตกทอดมา
ทเ่ี ป็นภูมิปญั ญาสงั่ สม มีการปรบั เปลี่ยนความรู้ ทักษะ ความเช่ียวชาญในการทางาน การประกอบอาชพี
การหา รายได้ของตนเอง ของครอบครัว ของกลุ่มอย่างต่อเน่ือง รองลงมา คือ มีโอกาสที่จะเพิ่มพูน
ความรู้ ทกั ษะ ความเช่ียวชาญในการทางาน ประกอบอาชพี การหารายไดข้ องตนเอง ของครอบครัว ของ
กลุม่ อย่างต่อเน่ือง
29
มิติของความปกติสขุ ระดบั ของชวี ติ ทเ่ี ปน็ ปกติสุข (ระบุ : จานวนคน)
มาก มาก ปาน น้อย น้อย ไมม่ ี
ทสี่ ุด กลาง ทส่ี ดุ
มติ ทิ ี่ 3 โอกาสในการการประกอบอาชพี ตามความถนัด และความสามารถของตน อันจะนามา
ซึ่งความสุขตอ่ การประกอบกจิ การงานของตน
3.1 มีอาชีพ มีงานทา ไมว่ ่างงาน หรอื ทางานไมเ่ ต็มเวลา 5 20 13 2 0 0
เต็มความสามารถศักยภาพของตน
3.2 อาชพี กจิ กรรมท่หี ารายไดท้ ท่ี าอยู่ มีความมัน่ คง 6 19 14 1 0 0
ต่อเนื่อง ยง่ั ยนื
3.3 ครอบครวั บุคคลในชุมชนมีช่องทางท่ีจะหาอาชพี ใหม่ 6 6 21 7 0 0
การทามาหากินใหม่
ครัวเรือน มีชวี ิตปกติสุข ในมิติท่ี 3 ด้านโอกาสในการการประกอบอาชพี ตามความถนัด และ
ความสามารถของตน อันจะนามาซ่ึงความสุขต่อการประกอบกจิ การงานของตน ระดับของชีวิตท่ีเป็น
ปกติสขุ ส่วนใหญ่ คอื มอี าชพี มงี านทา ไมว่ ่างงาน หรือทางานไมเ่ ต็มเวลา เต็มความสามารถศักยภาพ
ของตน รองลงมา คือ ครอบครัว บุคคลในชุมชนมีช่องทางที่จะหาอาชพี ใหม่ การทามาหากินใหม่ และ
อาชีพ กิจกรรมทีห่ ารายไดท้ ่ีทาอยู่ มีความมน่ั คง ตอ่ เน่ือง ยัง่ ยืน ตามลาดับ
มติ ิของความปกตสิ ขุ ระดับของชีวติ ทีเ่ ปน็ ปกติสขุ (ระบุ : จานวนคน)
มากที่สดุ มาก ปาน น้อย น้อยท่สี ุด
ไม่มี
กลาง
0
มติ ทิ ี่ 4 สงั คมทดี่ ี เขม้ แข็ง สามคั คีช่วยเหลือเกื้อกูลกนั จนเกดิ ความปลอดภยั ในชวี ติ และ
8
ทรัพยส์ ินของตน กลมุ่ คน กล่มุ บ้าน มีความเมตากรุณาต่อกัน 19
18
4.1 กลมุ่ คน กลุ่มบ้าน สถานศกึ ษา โรงเรยี น วัด โบสถ์ 15 19 6 0 0
สเุ หร่า มคี วามสามัคคี มีความเออื้ เฟอื้ ต่อกนั รว่ มมอื กันดี
ในการทากจิ กรรมตามประเพณี กจิ กรรมสาธารณะ
ประโยชน์
4.2 มคี นตดิ สรุ า ยาเสพตดิ และอบายมขุ ในชมุ ชน 0 3 7 11 11
4.3 มโี รคติดตอ่ รา้ ยแรงในชุมชน 0 2 37 9
4.4 มคี วามรุนแรงในครอบครัว การหยา่ ร้าง ผู้สูงอายุ 0 0 2 5 15
และเด็กถกู ทอดท้ิง
ครวั เรือน มีชีวิตปกตสิ ุข ในมิตทิ ี่ 4 ดา้ นสังคมท่ีดี เข้มแข็ง สามัคคีชว่ ยเหลือเกื้อกลู กันจนเกิดความปลอดภยั ใน
ชวี ิตและทรัพย์สนิ ของตน กลุ่มคน กลุ่มบ้าน มีความเมตากรณุ าตอ่ กัน ระดับของชีวิตที่เป็นปกติสุข ส่วนใหญ่ คอื ไม่มี
โรคติดต่อร้ายแรงในชุมชน และ กลุ่มคน กลุ่มบ้าน สถานศึกษา โรงเรียน วัด โบสถ์ สุเหร่า มีความสามัคคี มีความ
เอื้อเฟ้ือต่อกัน ร่วมมือกันดีในการทากิจกรรมตามประเพณี กิจกรรมสาธารณะประโยชน์ รองลงมา คือ ไม่มีความ
รุนแรงในครอบครัว การหย่าร้าง ผู้สูงอายุ และเด็กถูกทอดท้ิง และ มีคนติดสุรา ยาเสพติด และอบายมุขในชุมชน
ตามลาดบั
30
ตอนท่ี 6 ข้อสรุป
จากการเกบ็ ข้อมลู ตามแบบสารวจข้อมลู เศรษฐกิจ สงั คม บา้ นเหลา่ ใหญ่ หมทู่ ่ี 3 ตาบลมว่ ง
อาเภอมหาชนะชัย จงั หวดั ยโสธร จะเหน็ ไดว้ า่ บ้านเหลา่ ใหญ่ เป็นหมบู่ า้ นทมี่ ีความเข็มแขง็
1. ข้อมูลพื้นฐานเกยี่ วกับสภาพครวั เรอื น
1.1 น้าบริโภค (น้ากิน) ครัวเรือนมีน้าบริโภค (น้ากิน) แหล่งที่มาของน้าบริโภคส่วนใหญ่
ได้มาจากการ ซื้อน้า (น้าถัง น้าขวด ตู้กดน้า) ซ่ึงมีปริมาณน้าบริโภค มีพอใช้ได้ตลอดปี มีความสะอาด
รองลงมา คือ นา้ จากระบบประปาหมู่บา้ น
1.2 น้าอุปโภค (น้าใช้) ครัวเรือนมีน้าอุปโภค (น้าใช้) แหล่งท่ีมาของน้าอุปโภคส่วนใหญ่
ได้มาจาก น้าจากระบบประปาหมู่บ้าน ซ่ึงมีปริมาณน้าบริโภค มีพอใช้ได้ตลอดปี มีความสะอาด
รองลงมา คือ ซือ้ นา้ (นา้ ถงั นา้ ขวด ตกู้ ดน้า) และ น้าจากแหล่งนา้ ตา่ ง ๆ (เช่น น้าบ่อ น้าหว้ ย น้าบาดาล
อา่ งเกบ็ นา้ ) ตามลาดับ โดยใช้น้าฝน กักเก็บไวใ้ ช้เอง น้อยท่สี ดุ
1.3 แหล่งนา้ เพ่ือประกอบอาชพี มาจากแหล่งใด (นา้ การเกษตร และ นอกภาคการเกษตร)
ครัวเรอื นมนี ้าเพื่อประกอบอาชีพมาจากแหล่งใด (น้าการเกษตร และ นอกภาคการเกษตร) แหลง่ ท่ีมา
ของน้าเพื่อประกอบอาชีพ ส่วนใหญ่ ได้มาจาก อ่างเก็บน้า สระนา้ หม่บู ้าน และ น้าฝนตามฤดูกาลซึ่งมี
ปริมาณน้าเพ่ือประกอบอาชพี มีพอใช้ไดต้ ลอดปี มีความสะอาด รองลงมา คอื บ่อน้าผิวดิน น้าบาดาล
นา้ ใต้ดนิ และ ลาห้วย ลาเหมือง ตามลาดับ
1.4 พ้ืนที่ทากิน (พ้ืนท่ีการเพาะปลูก เล้ียงสัตว์ ประมง ทาการผลิตสินค้าบริการ
หตั ถกรรม ไมร่ วมพ้ืนที่ ตัวบ้าน) ครวั เรอื นมพี ้ืนท่ีทากนิ (พื้นทก่ี ารเพาะปลูก เลี้ยงสตั ว์ ประมง ทาการ
ผลติ สินคา้ บริการ หัตถกรรม ไม่รวมพนื้ ทีต่ ัวบ้าน) ส่วนใหญ่ มีพื้นที่ทากินเป็นของตนเอง 36 ครวั เรอื น
ไม่มีพ้ืนท่ีทากินเป็นของตนเอง 4 ครัวเรือน (เป็นของพ่อแม่) พ้ืนท่ีทากินในปัจจุบัน เป็นโฉนดท่ีดิน ใช้
สาหรับ การเพาะปลูก มีจานวน 129 แปลง เนื้อท่ี 675 ไร่ 3 งาน - วา รองลงมา คือ เลี้ยงสัตว์ และ
ประมง ตามลาดบั
2. สภาพความเปน็ อยู่ /สขุ อนามยั
2.1 โรคเรื้อรัง ครัวเรือนท่ีเป็นโรคเรอ้ื รงั ประเภทของโรค ส่วนใหญ่ เปน็ โรค ความดัน 6 คน
แยกเป็นชาย 2 คน อายุ ปี 21-60 ปี และ 61 ปีขึ้นไป เป็นหญิง 4 คน อายุ 21-60 ปีข้ึนไป และ
อายุ 61 ปีข้นึ ไป รองลงมา คือ โรคเบาหวาน 4 คน แยกเปน็ ชาย 1 คน อายุ 61 ปขี น้ึ ไป เป็นหญงิ 3 คน
อายุ 21-60 ปี 1 คน อายุ 61 ปีขน้ึ ไป 2 คน และ โรคหลอดเลือดในสมอง (อัมพฤกษ์/อัมพาต) โรคเก๊าท์
2 คน เป็นชาย 1 คน อายุ 61 ปี ขึ้นไป และ เป็นหญิง 1 คน อายุ 61 ปีข้ึนไป ตามลาดับ ทั้งน้ี
ครัวเรือนทั้ง 40 ครัวเรือน ปลอดจากการเป็นโรคติดต่อ ทุกครัวเรือน และ ไม่มีสมาชิกเป็นผู้พิการ
แตอ่ ยา่ งใด
31
3. ข้อมูลพื้นฐานสมาชิกในครัวเรือน ครัวเรือน 40 ครัวเรือน มีสมาชกิ จานวน 110 คน ส่วน
ใหญ่ อยู่กันเป็นครอบครัว ประกอบด้วย พ่อ แม่ ลูก ปู่ย่าตายาย ลุงป้าน้าอา และญาติพี่น้อง
สถานะภาพความสัมพันธ์ในครัวเรือน จาแนกเป็น อายุ ไม่เกิน 20 ปี 11 คน 21-60 ปี 62 คน 61 ปี
ขน้ึ ไป 37 คน (แนวโน้มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ) ระดับการศึกษา ส่วนใหญ่จบมัธยมศึกษาตอนต้น 29 คน
มธั ยมศึกษาตอนปลาย 26 คน ประถมการศึกษา 27 คน มีงานทา 89 คน ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร
50 คน รองลงมา คือ รับจ้าง 29 คน ค้าขาย 18 คน ที่เหลือ รับราชการ ลูกจ้างรัฐ ลูกจ้างเอกชน
ช่างทว่ั ไป รวมแล้ว 14 คน ส่วนใหญ่ทางานในหมู่บ้าน 50 คน ในอาเภอ 37 ค และไม่เคยทางานต่างถ่ิน
การเขา้ ถึง Internet จานวน 36 ครัวเรอื น ไม่มี 4 ครวั เรือน
4. สภาพทางเศรษฐกจิ (หมายเหตุ : เปน็ ข้อมลู ผลผลิตท่ไี ดใ้ นระหว่างปี 2563)
4.1 รายไดจ้ ากการเกษตรในรอบปีที่ผา่ นมา
4.1.1 รายได้จากการปลกู ขา้ ว ครัวเรือนมสี ภาพทางเศรษฐกจิ มรี ายได้จากการเกษตร
ในรอบปีที่ผ่านมา มีพื้นท่ีปลูกข้าว 675 ไร่ 3 งาน ผลผลิตเฉลี่ย 300-400 กิโลกรม/ไร่/ปี ผลผลิตรวม
500 กิโลกรัม/ปี บริโภคในครัวเรือน 250 กิโลกรัม ขายเป็นรายได้ 250 กิโลกรัม ราคา 9-11 บาท/
กิโลกรัม/ปี รายได้เฉล่ียท้ังปี 30,000-60,000 บาท รวมต้นทุน 15,000-30,000 บาท/ปี กาไรสุทธิ
15,000-30,000 บาท/ปี ตลาดสว่ นใหญ่ เป็นพ่อคา้ ในพน้ื ท/ี่ นอกพ้นื ที่ และ สหกรณ์ ไม่ได้วางขายใน
แมคโคร/โลตสั /บ๊ิกซี
4.1.2 รายได้จากการปลูกพืชผักสวนครัว / พืชอายุส้ัน (ลดรายจ่ายเชิงพาณิชย์)
ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายไดจ้ ากการปลกู พืชผกั สวนครวั / พชื อายุสน้ั (ลดรายจ่ายเชงิ พาณชิ ย์)
ประเภทของผลผลิตส่วนใหญ่ คือ พริก มะละกอ โหระพา ทามาแล้ว 5 ปี พื้นที่ปลูก 30 ตารางวา
ผลผลิตเฉล่ีย 60 กิโลกรัม/ไร่/ปี ผลผลติ รวม 60 กิโลกรมั /ปี บรโิ ภคในครัวเรือน 5 กิโลกรมั สง่ ขาย 55
กิโลกรัม ราคา 10-20 บาท/กิโลกรัม/ปี รายได้ 600-1,200 บาท/ปี รวมต้นทกุ 200 บาท/ปี กาไรสุทธิ
500-1,000 บาท/ปี
4.1.3 รายได้จากการปลกู พชื ไร่ ครวั เรือนมสี ภาพทางเศรษฐกจิ มีรายได้จากการปลูก
พืชไร่ ประเภทของผลผลิตส่วนใหญ่ คือ มัน ทามาแล้ว 10 ปี พ้ืนที่ปลูก 14 ไร่ ผลผลิตเฉล่ีย 2,000
กิโลกรัม/ไร่/ปี ผลผลิตรวม 2,000 กิโลกรัม/ปี ขาย 2,000 กิโลกรัม /ปี ราคา 1.80 บาท/กิโลกรัม/ปี
รายได้ 42,000 บาท/ปี รวมต้นทกุ 20,000 บาท/ปี กาไรสทุ ธิ 22,000 บาท/ปี ตลาดสว่ นใหญ่ พอ่ คา้ ใน
พน้ื ท/่ี นอกพ้ืนท่ี
32
4.1.4 รายได้จากการปลูกพืชสวน ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายได้จากการ
ปลูกพืชสวน ประเภทของผลผลิตส่วนใหญ่ คือ ถั่วลิสง ทามาแล้ว 5 ปี พื้นท่ีปลูก 2 ไร่ ผลผลิตเฉล่ีย
2,500 กิโลกรมั /ไร/่ ปี ผลผลิตรวม 250 กิโลกรมั /ปี บรโิ ภคในครัวเรือน 10 กิโลกรัม ขาย 240 กิโลกรัม/
ปี รายได้ 5,000 บาท/ปี รวมต้นทกุ 500 บาท/ปี กาไรสุทธิ 4,500 บาท/ปี ตลาดส่วนใหญ่ พอ่ ค้านอก
พนื้ ท่ี
4.1.5 รายไดจ้ ากปศสุ ตั ว์ (ถ้าเล้ียงเป็ด / ไก่ ให้ระบุรายไดจ้ ากการขายไข่ และเนือ้ ด้วย)
ครัวเรอื นมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายไดจ้ ากปศสุ ัตว์ (ถา้ เลยี้ งเปด็ / ไก่ ใหร้ ะบรุ ายไดจ้ ากการขายไข่ และ
เนื้อด้วย) ชนิดของสัตว์ส่วนใหญ่ คือ วัว ทามาแล้ว 5-30 ปี ราคา 20,000-40,000 บาท/ตัว รายได้
รวม 20,000-40,000 บาท/ตัว ท้ังนี้ ไม่มีรายได้จากประมง แตอ่ ยา่ งใด
4.1.6 รายได้จากหัตถกรรม ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายได้จากหัตถกรรม
ชนดิ ผลติ ภัณฑส์ ว่ นใหญ่ คือ ทอเสื่อกก ทามาแลว้ 3 ปี มลู คา่ 2,000 บาท/ปี รวมรายได้ 2,000 บาท/ปี
ตน้ ทกุ 600 บาท/ปี กาไรสุทธิ 1,400 บาท/ปี
4.1.7 รายไดจ้ ากการคา้ ขาย (ร้านขายของชา / อาหารตามสัง่ / ปั๊มน้ามัน / ทาอาหาร
ขาย) ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายได้จากการค้าขาย (ร้านขายของชา / อาหารตามสั่ง
ปมั๊ น้ามัน / ทาอาหารขาย) ชนิดสินค้าส่วนใหญ่ คือ ร้านขายของชา ทามาแล้ว 12 ปี รายได้ 240,000
บาท/ปี ตน้ ทนุ 40,000 บาท/ปี กาไรสทุ ธิ 200,000 บาท/ปี
4.1.8 รายได้อ่ืน ๆ ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายได้อื่นๆ แหล่งรายได้อ่ืนๆ
สว่ นใหญ่ คอื เงินท่ีญาติพนี่ อ้ งส่งมาให้ (คนนอก) 10,000-30,000 บาท/ปี รองลงมา คอื รายได้จากการ
รบั จา้ งในหมบู่ า้ น 5,000-20,000 บาท/ปี
4.2 เงินออม ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีเงินออม ประเภทเงินออมส่วนใหญ่ คือ
ซื้อประกัน (หากเสียชีวิต) 60,000-100,000 บาท รองลงมา เงินฝากธนาคาร 10,000-30,000 บาท
ฌาปนกิจ (หากเสียชีวิต) 10,000-30,000 บาท ซื้อหุ้นจากกลุม่ / กองทุน 10,000 บาท และ เก็บไว้ที่
บ้าน 5,000-10,000 บาท
4.3 เงินช่วยเหลือ ครวั เรอื นมีสภาพทางเศรษฐกจิ มีเงนิ ช่วยเหลือ แหล่งเงนิ ช่วยเหลอื สว่ น
ใหญ่ คือ เบ้ียยังชพี ผู้สูงอายุ 16 คน จานวนเงนิ ท่ไี ด้รับความช่วยเหลือ 7,200-12,000 บาท รองลงมา
เงนิ สวสั ดิการของรฐั 16 คน ทนุ การศกึ ษา 2 คน เงนิ ช่วยเหลือตามนโยบาย 3 คน ประเภทละ 10,000 บาท
และ เบย้ี ยังชีพผูพ้ ิการ 3 คน 9,600 บาท
33
4.4 รายจา่ ย
4.4.1 ค่าใช้จ่ายเพ่ือการบริโภค ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายจ่าย เป็น
ค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภค ประเภทค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ คือ ค่าข้าวสาร ค่าวัตถุดิบประกอบทาอาหาร
ประมาณ 10,000-30,000 บาท รองลงมา คือ ค่าเคร่ืองปรุง 6,000-8,000 บาท ค่าน้าด่มื คา่ เคร่ืองด่ืม
และขนมขบเคี้ยว 1,000-3,000 บาท และ คา่ สรุ า ของมนึ เมา 2,000 บาท
4.4.2 ค่าใช้จ่ายเพื่อการอุปโภค ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายจ่าย เป็น
ค่าใช้จ่ายเพ่ือการอุปโภค ประเภทค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ คือ คา่ ใช้จ่ายเกี่ยวกับท่ีอยู่อาศัยและเครื่องใช้ใน
บ้าน และ ค่ายานพาหนะ และการเดนิ ทาง 10,000 บาท รองลงมา คือ คา่ เคร่อื งแต่งกาย และของใช้
ส่วนตัว 5,000 บาท ค่าใช้จ่ายด้านสังคม และพิธีกรรม 2,000-5,000 บาท และ ค่าบุหรี่ ยาเสน้ 1,000
บาท
4.4.3 ค่าใชจ้ า่ ยทีไ่ ม่เกี่ยวกับการอปุ โภคบรโิ ภค (ค่าใช้จ่ายอืน่ ๆ) ครัวเรอื นมสี ภาพทาง
เศรษฐกิจ มีรายจา่ ย เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่เก่ียวกับการอุปโภคบริโภค (ค่าใช้จ่ายอ่ืน ๆ) ประเภทค่าใช้จ่าย
ส่วนใหญ่ คือ คา่ ดอกเบย้ี เงินกู้ และ คา่ ประกนั ชีวติ / ประกันสุขภาพ 12,000 บาท/ปี รองลงมา คือ การ
พนนั หรอื เสย่ี งโชค 6,000 บาท/ปี ค่าประกันรถ พรบ. ตอ่ ทะเบยี นรถ 600-2,000 บาท/ปี และ คา่ ภาษี
เช่น คา่ ภาษีเงินได้สว่ นบุคคลทีด่ นิ โรงเรือน 100-150 บาท/ปี
4.4.4 ค่าใช้จ่ายเก่ียวกับการลงทุน ครัวเรือนมีสภาพทางเศรษฐกิจ มีรายจ่าย เป็น
ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับการลงทุน ประเภทค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ คือ ค่าผ่อนรถท่ีใช้ในการประกอบธุรกิจ
60,000-100,000 บาท/ปี ค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา 10,000-30,000 บาท/ปี และ ค่าใช้จ่ายการ
ซ้อื เคร่ืองจักร เครอ่ื งมือ ยานพาหนะท่ีใชป้ ระกอบอาชพี 2,000 บาท/ปี
4.5 หน้สี ิน ครัวเรือนมสี ภาพทางเศรษฐกิจ ท่ีเปน็ หนส้ี ิน แหล่งหน้ีสินส่วนใหญ่ คือ ธนาคาร
/ สถาบันการเงิน 100,000-200,000 บาท วัตถุประสงคใ์ นการกู้ เพื่อการอุปโภค บริโภค เพือ่ การลงทุน
รองลงมา คือ กองทนุ หมบู่ า้ น / กองทุนเงินล้าน 20,000-50,000 บาท และ กองทนุ กยู้ ืมเพ่อื การศกึ ษา
(กยศ.) 100,000 บาท
5. ชวี ติ ปกติสุข
5.1 ด้านสิ่งแวดล้อม ระดับของชีวิตที่เป็นปกติสุข ส่วนใหญ่ คือ ละแวกบ้านที่เป็นต้นไม้
ร่มรื่น สงบสุข มีความหลากหลายทางชีวภาพ รองลงมา คือ ไม่มี ฝุ่นควัน สารเคมี PM 2.5 เกินกว่า
ค่ามาตรฐานท่ีเป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีเพ่ือนบ้านที่ดี ไม่มีขโมย โจรผู้ร้าย ไม่มี มลภาวะทางเสียง
มลภาวะ ทางน้า
34
5.2 ดา้ นมีความรู้เพียงพอต่อการประกอบอาชีพ ระดับของชีวิต ท่ีเปน็ ปกตสิ ุข สว่ นใหญ่
คือ มีความรู้ ทักษะ ความเชี่ยวชาญ ความเก่งในการทามาหากินที่ตกทอดมา ที่เป็นภูมิปัญญา สั่งสม
มีการปรับเปลี่ยนความรู้ ทักษะ ความเช่ียวชาญในการทางาน การประกอบอาชีพ การหารายได้ของ
ตนเอง ของครอบครัว ของกลุ่มอย่างต่อเนอื่ ง รองลงมา คือ มีโอกาสทีจ่ ะเพิ่มพนู ความรู้ ทกั ษะ ความ
เช่ียวชาญในการทางาน ประกอบอาชีพ การหารายไดข้ องตนเอง ของครอบครัว ของกลมุ่ อยา่ งต่อเน่ือง
5.3 ด้านโอกาสในการการประกอบอาชีพตามความถนัด และความสามารถของตน
อันจะนามาซึง่ ความสขุ ตอ่ การประกอบกิจการงานของตน ระดับของชีวิตทเ่ี ป็นปกติสขุ ส่วนใหญ่ คือ
มอี าชีพ มีงานทา ไมว่ ่างงาน หรือทางานไม่เต็มเวลา เต็มความสามารถศักยภาพของตน รองลงมา คือ
ครอบครัว บุคคลในชุมชนมีช่องทางท่ีจะหาอาชีพใหม่ การทามาหากินใหม่ และ อาชีพ กิจกรรมท่ีหา
รายไดท้ ท่ี าอยู่ มคี วามม่นั คง ต่อเน่ือง ยงั่ ยนื ตามลาดับ
5.4 ด้านสังคมที่ดี เข้มแขง็ สามัคคชี ่วยเหลอื เกื้อกูลกันจนเกิดความปลอดภัยในชวี ิตและ
ทรัพย์สินของตน กลุ่มคน กลมุ่ บ้าน มีความเมตากรุณาต่อกัน ระดับของชีวิตท่ีเป็นปกติสุข ส่วนใหญ่
คือ ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรงในชุมชน และ กลุ่มคน กลุ่มบ้าน สถานศึกษา โรงเรียน วัด โบสถ์ สุเหร่า
มีความสามัคคี มีความเอื้อเฟื้อต่อกัน ร่วมมือกันดีในการทากิจกรรมตามประเพณี กิจกรรมสาธารณะ
ประโยชน์ รองลงมา คือ ไม่มคี วามรุนแรงในครอบครวั การหย่ารา้ ง ผู้สูงอายุ และเด็กถูกทอดท้ิง และ
มีคนติดสุรา ยาเสพติด และอบายมุขในชุมชน ตามลาดับ
จากการตอบแบบสอบถามและการสอบสมั ภาษณป์ ลายเปดิ กับผ้ตู อบแบบสอบถาม และข้อมลู กชช.
2 ค ปี 2562 (ข้อมูลจากกรมการพัฒนาชุมชน) ท่ีนามาวิเคราะห์ประมวลผลแล้ว พบว่า ระดับการ
พัฒนาของบ้านเหล่าใหญ่ หมู่ที่ 3 ตาบลม่วง อาเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เป็นหมู่บ้านเร่งรัด
การพัฒนา อนั ดับ 3
2. สดั สว่ นจานวนครัวเรอื นท่ีไมพ่ ออยูพ่ อกนิ
จากการตอบแบบสอบถามและการสอบสมั ภาษณป์ ลายเปิดกับผู้ตอบแบบสอบถาม และข้อมลู กชช.
2 ค ปี 2562 (ข้อมูลจากกรมการพฒั นาชมุ ชน) ที่นามาวิเคราะห์ประมวลผลแล้ว พบว่า สัดส่วนจานวน
ครัวเรอื นทไ่ี มพ่ ออยู่พอกิน ของบ้านเหล่าใหญ่ หมู่ท่ี 3 ตาบลมว่ ง อาเภอมหาชนะชยั จังหวัดยโสธร เป็น
หมู่บ้านเร่งรัดการพัฒนา อันดับ 3 จากข้อมูลพ้ืนฐานระดับหมู่บ้าน ( กชช.2ค.) ปี 2562 เป็นหมู่บ้าน/
ชุมชนเรง่ รัดพัฒนาอันดับ 3 เป็นหมบู่ ้านทม่ี ีครัวเรือนพออยพู่ อกนิ จานวน 108 ครวั เรือน คิดเปน็ รอ้ ยละ
100 และข้อมูล จปฐ. ปี 2562 ข้อ 22 เร่ือง รายได้เฉล่ียของคนในครัวเรือน พบว่า ไม่มีครัวเรือน
ตกเกณฑ์เร่ืองรายได้
35
3. การประเมินความสามารถของชุมชนในการใช้ประโยชน์ จากโครงการกิจกรรมต่างๆ
ภายใต้นโยบาย แต่ละด้านที่มีการดาเนินการ ในชุมชนเพื่อพัฒนาความเป็นอยู่ของ
ครวั เรือนท่วั ไปและครวั เรือนยากจน
จากการสอบสัมภาษณ์ ผู้ตอบแบบสอบถามบ้านเหล่าใหญ่ หมู่ท่ี 3 มีพน้ื ท่ีโดยรวมเป็นพื้นท่ี
ราบลุ่มเหมาะแก่การเกษตร การทานา ทั้งนาปีและนาปรัง เป็นอาชีพหลัก และหลังฤดูทานาชาวบ้าน
เหลา่ ใหญ่มีอาชีพเสริมหลากหลายเพื่อเป็นการสรา้ งรายไดใ้ ห้กบั ครอบครัว อาชีพเสริมที่ทารายได้ เช่น
เลยี้ งสัตว์ ทอเสอ่ื กก ปลูกพืชผัก ปลกู ถว่ั ลิสง รับจา้ งและบริการ จกั รสาน ช่างปูน ช่างไม้ ชา่ งไฟฟา้ ช่าง
เช่ือมเหล็ก ค้าขาย ท่ีสาคัญคือการแปรรูปผลติ ภัณฑ์จากถั่วลสิ ง และการทอผ้า อีกท้ัง บ้านเหล่าใหญ่ยังมี
พื้นที่ตดิ กับแม่นา้ ชี สามารถใชเ้ ป็นแหล่งในการหารายไดด้ ้านประมงของชาวบ้าน ทาให้ชาวบ้านมีความ
อยู่ดีกินดี เป็นหมู่บ้านเศรษฐกจิ พอเพียง มีกลุ่มอาชีพสร้างรายได้ให้กับชุมชน เช่น กลุ่มวิสาหกิจชุมชน
แปรรปู ถ่ัวลสิ ง เป็นต้น
4. ประเมินโอกาสและความเสย่ี งของชุมชนและครัวเรอื นยากจน
จากการสอบสัมภาษณ์ ผู้ตอบแบบสอบถามจากชาวบ้านเหล่าใหญ่ หมู่ท่ี 3 ตาบลม่วง
มีการแปรรปู ผลิตผลที่มีอยู่มากในชุมชน รวมถึงการถนอมอาหาร และใช้ประโยชน์ในครัวเรือนรูปแบบ
ตา่ งๆ เช่น มะม่วงกวน, ปลาแห้ง, การทาปลาร้า, การทาพรกิ ป่น, การทาน้าพรกิ , การแปรรปู ถ่ัวลสิ ง ขนม
เค้กกล้วยหอม, น้าด่ืมบรรจุขวด เป็นต้น นอกจากนี้ชาวบ้านเหล่าใหญ่ ครัวเรือนยังมีการใช้วัตถุดิบใน
ทอ้ งถิน่ ผลิตสินคา้ เพือ่ จาหน่าย รวมท้ังผลิตเพ่ือใช้สอยเอง เช่น เผาถ่าน ผลติ สมุนไพร, เสื่อกก, ไมก้ วาด
ดอกหญ้า, การทาเครอ่ื งจักสาน (ตะกร้า, ข่อง, ไซ, ลอบ, กระติ๊บขา้ ว, หวด เป็นตน้ ) คิดเปน็ ร้อยละ 80
ของครัวเรอื นท้ังหมด สามารถลดรายจา่ ย เพิ่มรายไดใ้ ห้กับคนในหมู่บ้านและชมุ ชน ทาให้หม่บู า้ นมคี วาม
เปน็ อยทู่ ดี่ ี ทีส่ าคัญการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ท่มี อี ยใู่ นหมู่บ้าน ยังเป็นการช่วยใหม้ ีอาหารบรโิ ภค
นอกฤดูกาล เชน่ เมอ่ื พ้นฤดกู าลผลิตของผลติ ผลเกษตรนน้ั ๆ ไปแลว้ ก็ยงั สามารถนาผลติ ภณั ฑ์ท่เี กบ็ ไว้มา
บริโภคได้
5. สรุปบทเรยี นทีไ่ ดร้ ับในดา้ น
5.1 การบริหารการพฒั นาชมุ ชนท้องถน่ิ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลของและการสัมภาษณ์ บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ท่ี 3 ตาบลม่วง อาเภอ
มหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้มีการบูรณาการการทางานร่วมกับภาคี ท้ังภาค
ประชาชน ภาคเอกชน ปกครอง ทอ้ งที่ ทอ้ งถ่นิ และภาคีเครือขา่ ย ทาใหช้ วี ติ ความเป็นอยู่และการทามา
36
หากินของชาวบ้าน เปน็ วิถีชวี ิตที่เรยี บง่าย พออยู่พอกิน ใช้ชีวิตแบบพอเพียงทรพั ยากรธรรมชาติ พื้นดิน
ยงั คงอดุ มสมบูรณ์อยู่ สังเกตได้จากการทานา ทง้ั นาปแี ละนาปรงั ท่ีต้องอาศยั ดิน นา้ ที่มคี วาม
อุดมสมบูรณ์ ถึงจะเจริญงอกงามและได้ผลผลิต พ้ืนที่ที่ติดกับแม่น้าชี ทาให้มีวิถีชุมชนแบบประมง
อีกดว้ ย สาหรบั ดา้ นประเพณี/วฒั นธรรม ชาวบ้านนับถือศาสนาพทุ ธ ร้อยละ 100 มีการสืบทอดประเพณี
วฒั นธรรมมาตงั้ แต่สมยั โบราณ การจัดกจิ กรรมบญุ ประเพณตี า่ งๆ เปน็ ไปตาม “ฮตี สบิ สอง คลองสบิ ส่ี”
5.2 การบรหิ ารการพฒั นาระดบั ตาบลและอาเภอ
จากการวิเคราะห์ข้อมูลของและการสัมภาษณ์ บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ที่ 3 ตาบลม่วง มีการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยแี ละวทิ ยาการใหมๆ่ โดยคนในชมุ ชนหรอื นอกชมุ ชน อาทิเช่น
การอบรมการพฒั นาผลติ ภัณฑ์ OTOP การแปรรปู ถั่วลสิ ง การทอผ้า การปลกู ถ่ัวลสิ งจากเกษตรอาเภอ
การทานาแปลงใหญ่ การทาเกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ และการพัฒนาบรรจุภัณฑจ์ ากอตุ สาหกรรม
จังหวัด เปน็ ต้น
5.3 ประสิทธภิ าพและประสทิ ธผิ ลของการปฏิบตั งิ าน ตามนโยบายของรฐั บาล
จากการวิเคราะห์ข้อมูลของและการสัมภาษณ์ บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ท่ี 3 ตาบลม่วง โดยการนา
ของ นาย อพอลโล ภริ ยิ ารมย์ กานันตาบลม่วง ได้มกี ารขบั เคลอ่ื น ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล จาก
เวทีประชุม/ประชาคมโดยการมีส่วนร่วมของคนในหมู่บ้าน ร่วมคดิ รว่ มวิเคราะห์ ร่วมทา ร่วมวางแผน
และร่วมตัดสินใจ ในการบริหารจัดการชุมชน ใช้หลักประชาธิปไตยในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของ
ประชาชนในหมู่บ้าน เพ่อื ให้สามารถบรหิ ารจดั การหมู่บา้ นได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ เกดิ ประโยชน์สูงสุดกับ
คนในหมูบ่ ้าน
37
ส่วนท่ี 3
การรว่ มคิดกิจกรรมการพฒั นารว่ มกบั ชุมชน (ตามกรอบการเรียนร้ฯู หนา้ 4)
(เลือกหวั ขอ้ ประเด็นของการพฒั นา 1-3 หวั ขอ้ จากหนา้ ที่ 5)
ประเด็นที่ 6 การปรบั กระบวนการผลติ การเกษตรเพอ่ื คุณค่าทางเศรษฐกจิ สงั คม และสงิ่ แวดล้อม
บา้ นเหล่าใหญ่ หม่ทู ่ี 3 ตาบลม่วง มกี ารปรับกระบวนการผลติ การด้านการเกษตรโดยใชว้ ัตถดุ บิ
อย่างยง่ั ยืนในการประกอบอาชพี ทางการเกษตร เชน่ การใชป้ ุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุย๋ อนิ ทรยี ์ ทดแทนปุ๋ยเคมี
หรือใช้แบบผสมผสาน เพื่อลดต้นทนุ การผลติ และชุมชนมีการใช้วัสดหุ รือทรัพยากรที่มอี ยูใ่ นชมุ ชนอยา่ ง
คุ้มค่าและประหยดั ในการประกอบอาชีพ โดยมกี ารวางแผนจดั หาทรัพยากรทดแทน ควบคกู่ ับการอนรุ ักษ์
โดยชุมชนและกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนมีแผนการปลูกป่าในวันสาคัญต่าง ๆ มีการปล่อยปลา ปล่อย กุ้ง
ในแหล่งนา้ ธรรมชาติ ของชุมชน
จากการสัมภาษณ์ ความเดือดร้อนในปัจจุบัน ยังเห็นไม่ชัดเจน โดยชาวบา้ นมีความวิตกกังวล
เรือ่ งราคาผลผลิต ทง้ั ขา้ ว พชื ไร่ ตกตา่ และการว่างงานเพราะมอี าชพี รบั จ้างหลายครัวเรอื น ในอนาคต
ชาวบ้านอยากจะได้ความรู้ในการปรับกระบวนการผลติ การด้านการเกษตร เน่ืองจาก รายได้หลักของ
ชาวบ้านเฉพาะบ้านเหล่าใหญ่ จากการปลูกข้าว (นาปี/นาปรัง) 60,000 บาท/ปี ปลูกพืชไร่ (ถั่วลิสง)
42,000 บาท/ปี ปศุสัตว์ (เลี้ยงวัว) 40,000 บาท/ปี ทุกอาชีพจะมีต้นทุนในการประกอบอาชีพ
จงึ อยากไดค้ วามรู้เพิ่มเติม ในการใช้วัตถุดิบอย่างยัง่ ยนื เพ่ือใช้ในการประกอบอาชีพทางการเกษตร เช่น
การใชป้ ุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ ทดแทนปุ๋ยเคมี หรือ ใชแ้ บบผสมผสาน เพอื่ ลดต้นทุนการผลิต และ
ชุมชนมีการใช้วัสดุหรือทรัพยากรท่ีมีอยู่ในชุมชนอย่างคุ้มคา่ และประหยัด โดยอยากให้หน่วยงานรัฐท่ี
เก่ยี วข้อง จัดอบรมให้ความรูใ้ นการวางแผนจัดหาทรัพยากรทดแทน ควบคู่กับการอนุรกั ษ์ รวมท้ัง การใช้
พลังงานทดแทน ทเี่ ป็นมิตรตอ่ สิง่ แวดล้อม เชน่ โครงการการสง่ เสรมิ การปลกู ถั่วลิสง ให้บ้านเหล่าใหญ่
เป็นแหล่งปลูกถั่วลิสงท่ีกรอบอร่อยที่สุด และแปรรูป เป็นถั่วลิสง อบกรอบ ถ่ัวลิสงเคลือบช็อกโกแลต
หรือ เคลือบรสกาแฟ นา่ จะเป็นโครงการพฒั นาในอนาคตได้ เปน็ ตน้ หรือ การเพ่มิ ผลผิตจากการปลูก
ข้าว เชน่ 300-400 กก/ไร่ (ตัวเลขจากการสารวจ)เปน็ 500 กก/ไร่ และการรวมกลุ่ม (เกษตรแปลงใหญ่)
ในการขายขา้ วเพือ่ เพม่ิ อานาจในการตอ่ รองราคา เปน็ ตน้
38
ประเด็นท่ี 13 การสร้างทักษะใหม่ให้แก่หมู่บ้านชุมชนชนบทในการจัดการตนเองในการพัฒนาของ
ชุมชน
บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ท่ี 3 ตาบลม่วง มีการจัดทา/ปรับปรุง แผนชุมชน ซ่ึงเป็นแผนที่แสดงถึง
ทิศทาง แนวทางและวธิ ีการในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาหมู่บ้านเป็นประจาทุกปี โดยใช้ข้อมูลของหมู่บ้าน
ประกอบดว้ ย ขอ้ มูล จปฐ. ข้อมูล กชช. 2 ค. และข้อมูลปญั หาความเดือดรอ้ น ความต้องการของประชาชน
มาใช้ในกระบวนการจดั ทาแผนชมุ ชน
จากการสมั ภาษณ์ ความคิดเรอื่ งระบบเศรษฐกจิ ของชาวบ้านเรามี 2 ระบบ คือ 1.พออยพู่ อ
กิน /2.ทนุ นยิ มผลติ เพ่ือขาย แต่ถ้าจะแก้ไขเกษตรกรโดยเฉพาะภาคอสี าน…ขอเสนอแนวคิด… แบบยั่งยืน
พออยู่พอกนิ จะเข้าวถิ คี นอีสาน… มนี า/ ทานา…ให้หาน้า..นอกฤดูทานา..หาอาชีพอ่ืน ....หรอื OTOP ..
ความเสย่ี งหมู่บ้านส่วนใหญจ่ ะเป็นเรือ่ ง น้าท่วม..แกไ้ ขโดยทาแก้มลิง..แนวสันเขื่อนกั้นแม่น้าชี….. เสริม
ระบบกระจายน้า.. ซึ่งในแผนหมู่บ้านมสี ิ่งเหลา่ นห้ี มดแลว้ …เรอ่ื งน้า/อาชีพ/..มีปราชญเ์ ฉพาะด้านท่ีจะให้
ความรู้แบบทาจริง/ดูของจริงได้..เช่น ส่งเสริมเกษตรรุ่นใหม่.. Young framer smart framer หรือ
คนรจู้ ริงทาจริง เช่น อาจารย์ยักษ์ เร่ืองป่า/ไม/้ น้า.. เปน็ ตน้
ประเดน็ ที่ 14. การลดรายจา่ ยในรายการที่ไม่จาเป็น ทีค่ รัวเรือนและชุมชนสามารถผลิตและ จดั ทา
เองได้
จากการสอบถามชาวบ้าน พบว่า บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ที่ 3 ตาบลม่วง ครัวเรือนมีการปลูก
ผักสวนครัวไว้กินเอง ตามนโยบายรัฐบาล การปลูกผักสวนครัวสร้างความม่ันคงทางอาหาร “กินทุก
อย่างทีป่ ลูก ปลกู ทุกอย่างท่ีกิน” “รั้วกินได้” ปลูกตามหัวไร่ปลายนา คิดเป็นรอ้ ยละ 100 ของครัวเรือน
ทั้งหมด มีการเล้ียงไก่พื้นบ้าน, ไก่พันธุ์ไข่, เล้ียงเป็ด, เลี้ยงกบ, เล้ียงปลา, เล้ียงโค-กระบือ เป็นต้น
คดิ เป็นร้อยละ 80 ของครัวเรือนทั้งหมด (บางครัวเรือนอาจจะเลี้ยง 1 - 2 ชนิด หรือมากกว่านั้น) มีการ
สง่ เสริมให้ครวั เรอื นจัดทาบญั ชีรายรับ-รายจา่ ยของครวั เรอื นเป็นประจา
จากการสมั ภาษณช์ าวบา้ นเหน็ วา่ ภาครัฐควรสง่ เสรมิ การปลกู พืชผกั สวนครวั เพือ่ สร้างความ
ม่ันคงทางอาหาร ซึง่ กรมการพัฒนาชุมชนกาลงั ดาเนินการอยู่ “กินทุกอย่างที่ปลูก ปลกู ทุกอย่างที่กนิ ”
“รั้วกินได้” ปลูกตามหัวไร่ปลายนา มีการเล้ียงไก่พ้ืนบ้าน, ไก่พันธุ์ไข่, เลี้ยงเป็ด, เลี้ยงกบ, เลี้ยงปลา
เลี้ยงโค-กระบือ เป็นอาชีพเสริมจากการปลกู ข้าว ทานา เป็นต้น และ มีการส่งเสริมให้ครัวเรือนจดั ทา
บญั ชีรายรบั -รายจา่ ยของครัวเรอื นเป็นประจา จะชว่ ยให้ครวั เรือนสามารถลดรายจา่ ย (ไม่ตอ้ งซ้ือ) ได้ใน
ลาดับหนึง่
39
สาหรับปัญหาการระบาดของโควิด 19 ชาวบา้ นมีแนวทางปอ้ งกัน และ แกไ้ ขคนไมม่ ีงานทาตอ้ งกลบั
ภูมลิ าเนา เพ่อื ฟนื้ ฟสู ภาพเศรษฐกจิ ของหมบู่ า้ นอย่างไร
เรม่ิ จากสารวจขอ้ มลู วา่ มคี น กลบั ภูมิลาเนาจานวนกี่คน แต่ละคนมคี วามสามารถ ถนัดอะไร
แล้วมอบให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เช่น เกษตร พัฒนาชุมชน กศน. พาณิชย์ ในพื้นที่ ช่วยกันสร้างงาน
สร้างวิชาชีพ สร้างรายได้ ให้ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน หรือ ศูนย์ฝึกอาชีพของหมู่บ้าน ในการฝึกอาชีพ
และ เนื่องจากเกือบทุกครัวเรือน มี Internet ควรขยายช่องทางการจาหน่ายสินค้า ออนไลน์ สาหรับ
สนิ ค้าของวิสาหกจิ ชุมชน เช่น กลุ่มผลติ ภณั ฑ์จากถ่วั ลิสง
ในฐานะหน่วยงานภาครัฐ จะมีแนวทางช่วยเหลอื และสนบั สนนุ อยา่ งไรไดบ้ า้ ง
โดยสรปุ หน่วยงานของรัฐในพ้ืนท่ีต้ังแต่ฝ่ายปกครอง พัฒนาชุมชน เกษตรอาเภอ รวมทั้ง
รัฐวิสาหกิจ เช่น ธกส ควรร่วมกับชาวบ้านคิดช่องทางการเพิ่มรายได้จากพืชทางเลือกตัวใหม่ ที่ยังมี
ช่องทางการจาหน่าย ในพื้นที่ไม่ไกลหมู่บ้าน ส่งเสริมให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกันทาก็ได้ นอกจากน้ัน ทาง
พฒั นาชุมชนกต็ อ้ งชว่ ยชาวบา้ นเร่งพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานสินคา้ OTOP ของหม่บู า้ นใหโ้ ดดเดน่ มาก
ยิง่ ขนึ้ และชว่ ยหาช่องทางการตลาดเพมิ่ ขนึ้ ดว้ ยคนว่างงานจากภาวะโควิดทก่ี ลบั มาอยูบ่ า้ นถ้ามคี วามรดู้ า้ น
IT กต็ ้องมาชว่ ยเรอ่ื งการคา้ ขายสนิ คา้ OTOP ทางออนไลนเ์ หลา่ นีเ้ ปน็ ต้น
-------------------------
ภาคผนวก
40
บันทกึ การเรียนรู้ Learning Lock
รายงานการเรยี นรู้ด้วยประสบการณต์ รงจากการปฏบิ ัติงาน (Action Learning)
ชอื่ หมบู่ ้าน บ้านเหล่าใหญ่ หม่ทู ่ี 3
ตาบลม่วง อาเภอมหาชนะชยั
จังหวดั ยโสธร
------------------
1. วันที่ 23 สิงหาคม 2564 ตั้งแต่เวลา 10.00 น เป็นต้นไป นายศรี ศรีพุทธรินทร์ นายอาเภอมหา
ชนะชัย ได้มอบหมายให้ นายอพอลโล อภิยารมณ์ กานันตาบลม่วง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตาบลสมาร์ททีม
ลงพื้นที่ ดาเนินการ ข้ันตอนที่ 1 เพื่อทาแบบสารวจข้อมูลเศรษฐกิจ สังคม ณ บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ 3
ตาบลม่วง อาเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ประชาชนในพื้นที่ให้การร่วมมือเป็นอย่างดี ผลการ
ปฏบิ ัติงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
41
2. วนั ที่ 24 สิงหาคม 2564 เวลา 17.00 น.เป็นต้นไป กลุ่มปฏบิ ัติการที่ 6 ได้ประชุม Zoom สมาชิก
กลุ่ม กป.6 ร่วมกบั ทีมตัวแทนชาวบ้าน บ้านเหลา่ ใหญ่ หมูท่ ี่ 3 ตาบลม่วง เพื่อสรุปข้อมูลจากแบบสารวจ
เพ่ือวางแผนในการดาเนินการ ขั้นตอนท่ี 2 คือสรุปประมวลผลจากแบบสารวจทั้งหมด เพื่อคืนข้อมูล
ให้กับชาวบา้ น โดยเทียบเคียงกบั ข้อมลู จปฐ. กชช 2 ค. ที่จัดเก็บเมือ่ ปี 2562
42
3. วันที่ 25 สิงหาคม 2564 เวลา 19.00 น. เป็นต้นไป ณ ศาลาปฏบิ ัติธรรม วัดบา้ นเหล่าใหญ่ กลุ่ม
ปฏิบัติการท่ี 6 ได้ประชุม Zoom สมาชิกกลุ่ม กป.6 ร่วมกับ นายอพอลโล อภิยารมณ์ กานันตาบลม่วง
และตัวแทนชาวบ้าน บ้านเหล่าใหญ่ หมู่ที่ 3 ตาบลม่วง จานวน 40 ครัวเรือน ท่ีได้ทาการสารวจข้อมูล
เพือ่ สอบถามประเดน็ เพิม่ เติม ตามภารกจิ ท่ีมอบหมายเพอ่ื นาเสนอในการประชมุ หมู่บ้าน
ที่ ระดับการพฒั นา รายละเอียด มอบภารกจิ
1 ขอ้ มูลพ้นื ฐาน 1.1 นา้ บริโภค (น้ากนิ ) / น้าอุปโภค (นา้ ใช้) 1. ผอ.นิธิวฒุ ิ
เก่ียวกบั สภาพ 1.2 แหล่งน้าเพอื่ การประกอบอาชีพ 2. หน.สมภพ
ครัวเรือน 1.3 พน้ื ท่ีทากิน
2 สภาพความ 2.1 โรคเรื้อรัง 1. ชช.วเิ ชยี ร
เป็นอยู่ / 2.2 โรคติดต่อ 2. หน.สมภพ
สุขอนามยั 2.3 สมาชกิ ในครัวเรอื นเป็นผู้พิการ
3 ข้อมูลพืน้ ฐาน 3.1 สถานะภาพความสัมพันธ์ในครัวเรอื น 1. ผอ.ชลุ วี รรณ
สมาชิกใน 3.2 อายุ 2. นอ.ศรี
ครัวเรอื น 3.3 เพศ
3.4 ระดบั การศกึ ษา
3.5 การทางาน
3.6 อาชพี ปัจจบุ นั
3.7 สถานท่ีทางาน
3.8 การเขา้ ถึง Internet
4 สภาพทาง 4.1 รายได้จากการเกษตรในรอบปีทผ่ี า่ นมา 1. นอ.ชวลิต
เศรษฐกจิ (หมาย 4.2 เงนิ ออม 2. นอ.พรชัย
เหตุ : เป็นข้อมูล 4.3 เงินช่วยเหลอื 3. นอ.วรรณี
ผลผลติ ทไี่ ดใ้ น 4.4 รายจา่ ย
ระหวา่ ง ปี 2563) 4.5 หนี้สิน
5 ชวี ติ ปกตสิ ุข 5.1 สงิ่ แวดล้อมทด่ี ี 1. ผบ.กฤตภพ
5.2 มคี วามรเู้ พยี งพอตอ่ การประกอบอาชพี 2. ผอ.นิพนธ์
5.3 โอกาสในการการประกอบอาชีพตามความถนดั
และความสามารถของตน อันจะนามาซง่ึ ความสขุ ตอ่
การประกอบกจิ การงานของตน
5.4 สงั คมทด่ี ี เข้มแขง็ สามคั คีชว่ ยเหลือเกอื้ กลู กัน
จนเกดิ ความปลอดภัยในชีวติ และทรัพยส์ ินของตน
กล่มุ คน กลุม่ บา้ น มีความเมตากรณุ าต่อกนั
43
44
การบรหิ ารจัดการชุมชนและปญั หาของส่วนร่วม
ปัจจุบัน เราอยจู่ ดุ ไหน (มีอะไรด)ี …………..วเิ คราะห์ SWOT
เราตอ้ งการไปสู่จุดไหน (เป้าหมาย : ทาเพ่ืออะไร) …………. กาหนดวสิ ัยทศั น์ ตาแหนง่ ทิศทาง
เราจะไปสู่จุดนนั้ ได้อยา่ งไร (ปญั หา : สาเหตุ) …….. แนวทางแกไ้ ข แผนยุทธศาสตร์
เราจะตอ้ งทาอะไรเพ่ือไปถึงจุดนัน้ (จะแกไ้ ด้อย่างไร) ….. แปลงแผนยทุ ธศาสตรส์ ูก่ จิ กรรม/โครงการ
ก
รายงานการเรยี นรู้ด้วยประสบการณต์ รงจากการปฏบิ ัติงาน (Action Learning)
ชื่อหมบู่ ้าน บ้านตะเคียนทอง
หมู่ที่ 5 ตาบลตะเคียนทอง อาเภอเขาคชิ ฌกฎู จังหวดั จนั ทบรุ ี
จัดทาโดย
(กลมุ่ ปฏบิ ตั กิ ารท่ี 7)
1) นางจริยา ชุมพงศ์ ผู้เชีย่ วชาญเฉพาะด้านนโยบายและยทุ ธศาสตร์
สานักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
2) นางสาวปรยี ์ธิดา สมจิตร ผู้บัญชาการเรอื นจาจังหวดั นนทบุรี กรมราชทัณฑ์
3) นายสิงหชยั ผอ่ งบุรุษ หัวหนา้ สานักงานจังหวดั บุรรี ัมย์
สานกั งานปลัดกระทรวงมหาดไทย
4) ร.ต. ประพันธ์ ถกึ สกุล นายอาเภอเขาคิชฌกฏู จงั หวัดจันทบรุ ี
กรมการปกครอง
5) นายอรรถพล พันธศุ าสตร์ นายอาเภอไชยวาน จังหวดั อุดรธานี
กรมการปกครอง
6) นายพลกฤต พวงวลยั สิน นายอาเภอจอมบึง จังหวดั ราชบรุ ี
กรมการปกครอง
7) นายสุทธิพงษ์ อนิ ทจกั ร์ เจา้ พนกั งานทดี่ ินจงั หวดั พะเยา กรมทีด่ ิน
8) นายสมมิตร์ สมบูรณ์ โยธาธิการและผงั เมืองจังหวดั ภูเกต็
กรมโยธาธิการและผงั เมอื ง
9) พ.จ.อ. สาคร สิทธศิ กั ด์ิ ทอ้ งถน่ิ จงั หวัดสตูล กรมสง่ เสริมการปกครองท้องถน่ิ
10) นายกมล นวลใย ผ้อู านวยการสานกั จัดการทรพั ยากรป่าไม้ที่ 1
(เชียงใหม่) กรมป่าไม้
รายงานนี้เปน็ ส่วนหนึง่ ของการศึกษาอบรมหลกั สตู รนักปกครองระดับสูง (นปส.) รนุ่ ที่ 77
สถาบันดารงราชานุภาพ กระทรวงมหาดไทย
พุทธศักราช 2564
คานา
การศึกษาเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติงาน (Action Learning) เป็นการศึกษา
ในรูปแบบการร่วมเรียนรู้และทาความเข้าใจกับชุมชนท้องถิ่น ถึงสถานการณ์ในขณะนี้และแนวโน้ม
การเปล่ียนแปลงใน 2 ปีข้างหน้าของ “ชุมชนท้องถ่ิน” “โอกาสและความสามารถในการปรับตัวของชุมชน
ท้องถิ่น” ในสถานการณ์ที่โครงสร้างเศรษฐกิจเปล่ียนไปเพราะเทคโนโลยีที่พลิกผัน ภาวะโลกร้อน และ
การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 โดยนาหลักการทรงงานในการพัฒนา
“เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชทานให้ยึดถือปฏิบัติมาประยุกต์ใช้ในการวิเคราะห์
โดยเน้นประเด็นการศึกษาเรียนรู้ภูมิสังคมและวิถีชีวิตของชุมชน ระบบการบริหารจัดการชุมชน และนโยบาย
ภาครัฐและผลกระทบต่อการพัฒนาของชุมชน เพ่ือรับทราบปัญหา วิเคราะห์ความเส่ียง โอกาส และข้อจากัด
ของชุมชนว่าจะพัฒนาภายใต้ข้อจากัดอย่างไร รวมไปถึงความสามารถในการบริหารจัดการชุมชน แล้วทาการ
ประเมินระดับการพัฒนาของหมู่บ้านชุมชนว่าอยู่ในระดับใด ภายใต้การร่วมคิด ร่วมทา ร่วมกับชุมชนนาไปสู่
ประเด็นการพัฒนาในด้านตา่ งๆ ทเ่ี หมาะสมกับชมุ ชนต้งั แตร่ ะยะสนั้ ไปจนถงึ ระยะยาว
นักศึกษาหลักสูตรนักปกครองระดับสูง กลุ่มปฏิบัติการท่ี 7 ได้กาหนดให้บ้านตะเคียนทอง หมู่ที่ 5
ตาบลตะเคยี นทอง อาเภอเขาคชิ ฌกูฏ จงั หวัดจันทบุรี เป็นพ้ืนทีเ่ พอื่ การศกึ ษาเรียนรู้ในการทากิจกรรมในคร้ังนี้
เนือ่ งจากเป็นหมบู่ ้านทม่ี คี วามโดดเด่นด้านอัตลักษณท์ างวัฒนธรรมประเพณีที่หาได้ยากและกาลังถกู กลืนไปกับ
กาลเวลา คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีวิถีชีวิตที่มีแนวโน้มการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน จึงมีความท้าทาย
ในการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมของชาว “ชอง” ท้ังในด้านภาษา วัฒนธรรมความเป็นอยู่และ
พธิ กี าร อาหารพน้ื ถ่ิน ฯ ในขณะเดยี วกนั ท่ีหมูบ่ ้านตะเคยี นทองต้องมกี ารพัฒนาในด้านตา่ งๆ เพื่อนาความเจริญ
มาสู่หมบู่ ้านสร้างคุณภาพชีวิตท่ีดีให้กบั ประชาชนทกุ ครัวเรือน
ขอขอบคุณทางวิทยาลัยมหาดไทยและคณะอาจารย์ที่ปรึกษา วิทยากร ที่มอบโอกาสและองค์ความรู้
ในการทางานต้ังแต่เริ่มต้นจนประสบผลสาเร็จ คณะผู้จัดทาหวังว่ารายงานการศึกษาน้ีจะได้นาไปใช้ประโยชน์
ในการพฒั นาทอ้ งถิ่น และเปน็ แนวทางการดาเนินการสาหรับพืน้ ที่อ่ืนต่อไป
คณะผู้จดั ทา
นกั ศกึ ษาหลกั สูตรนกั ปกครองระดบั สงู รุ่นที่ 77
กลมุ่ ปฏิบตั กิ ารที่ 7
สารบัญ
หนา้
สว่ นที่ 1 กรอบการเรยี นรู้ดว้ ยประสบการณต์ รงจากการปฏิบตั ิงาน (Action Learning)
หมู่บ้านตะเคยี นทอง หมทู่ ี่ 5 ตาบลตะเคียนทอง อาเภอเขาคิชฌกฎู จังหวัดจันทบรุ ี
สว่ นที่ 2 1.1 การศึกษาเรยี นรู้ภูมิสงั คมและวถิ ีชีวติ ของชมุ ชน 1
สว่ นที่ 3 1.2 การศกึ ษาเรยี นรู้ระบบการบริหารจัดการชมุ ชน 3
1.3 การศกึ ษาเรียนรนู้ โยบายภาครัฐและผลกระทบต่อการพัฒนาของชุมชน 4
ประเด็นการพัฒนาของชมุ ชน
2.1 ระดบั การพฒั นาของหมูบ่ า้ น 5
7
2.2 สัดส่วนจานวนครัวเรือนที่ไม่พออยู่พอกนิ 7
2.3 ประเมินความสามารถของชุมชนในการใช้ประโยชน์จากโครงการกิจกรรมต่าง ๆ 8
ภายใต้นโยบายแต่ละด้านท่ีมีการดาเนินการในชุมชน เพ่ือพัฒนาความเป็นอยู่ 8
ของครัวเรือนท่ัวไปและครัวเรือนท่ยี ากจน
9
2.4 ประเมนิ โอกาสและความเสยี่ งของชุมชนและครัวเรือนยากจน 9
2.5 สรปุ บทเรยี นทไ่ี ดร้ ับในด้าน
2.5.1 การบริหารการพฒั นาชุมชนท้องถ่นิ
2.5.2 การบริหารการพัฒนาระดบั ตาบลและอาเภอ
2.5.3 ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธิผลของการปฏิบัตงิ านตามนโยบายของรัฐบาล
การร่วมคดิ กิจกรรมการพฒั นารว่ มกบั ชุมชน
3.1 ร่วมคิดกับกลมุ่ อาชีพ กล่มุ การผลติ แปรรูป ชมุ ชน ครัวเรอื นยากจน และคนยากจน
3.2 กิจกรรมควรทาภายใน 3 เดอื น 6 เดือน 1 ปี
ภาคผนวก 10
๑
สว่ นที่ 1 กรอบการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติงาน (Action Learning)
หมู่บ้านตะเคียนทอง หมู่ที่ 5 ตาบลตะเคียนทอง อาเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี
สภาพท่ัวไปของหมู่บ้านตะเคียนทอง
หมู่บ้านตะเคียนทอง หมู่ที่ 5 ตาบลตะเคียนทอง อาเภอเขาคิชฌกูฎ จังหวัดจันทบุรี โดยตั้งอยู่ในเขต
เทศบาลตาบลตะเคียนทองท้ังหมู่บ้าน มีเนื้อที่ 1,831 ไร่ มีครัวเรือนในชุมชน จานวน 90 ครัวเรือน
มปี ระชากร จานวน 360 คน พน้ื ทีเ่ ปน็ ทรี่ าบตดิ ภูเขา หา่ งจากที่ว่าการอาเภอเขาคชิ ฌกูฏ ตามถนนบาราศนราดูร
ระยะทาง 15 กิโลเมตร และอยูห่ า่ งจากศาลากลางจงั หวัดจันทบุรี ระยะทาง 45 กิโลเมตร
1.1 การศึกษาเรยี นรภู้ ูมสิ งั คมและวถิ ชี วี ิตของชุมชน
ครัวเรือนในหมู่บ้านตะเคียนทองเป็นสังคมชาวชอง เป็นชุมชนเก่าแก่ชาวชองใช้ภาษาชองซึ่งคล้าย
ภาษาเขมรเป็นภาษาท้องถ่ิน มีวัฒนธรรมของชาวชองเป็นความภูมิใจของคนรุ่นเก่า คนในชุมชนส่วนใหญ่
เป็นเครือญาติกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ในครัวเรือนส่วนใหญ่เป็นครอบครัวขยาย มีคนรุ่นทวด ปู่ย่าตายาย
พอ่ แม่ ลูก หลาน อย่รู วมกันและใช้แรงงานคนในครอบครัวทาสวน โดยครวั เรือนในชุมชนมีการตงั้ บ้านเรือน
ตามสวนผลไมข้ องตนเอง
ในอดีต ชาวชองในหมู่บ้านตะเคียนทอง ต้ังอยู่ในพ้ืนที่ที่เป็นแหล่งกาเนิดของพรรณไม้และเคร่ืองเทศ
ท่ีมีราคา เช่น ไม้กฤษณา เร่วหอม และกระวาน เป็นต้น นอกจากน้ันยังเคยเป็นแหล่งผลิตน้ามันยาง
จากธรรมชาติซ่ึงนาไปใช้ในการเคลือบผิวไม้ หรือนาไปผสมกับชันเพื่อใช้ยาเรือ และยังนาเอาส่วนท่ีเป็นขี้โล้
ไปทามัดไต้สาหรับจุดเป็นไฟส่องสว่างได้อีกด้วย แต่หลังจากท่ีรัฐบาลได้ให้อนุญาตให้มีการสัมปทานป่าไม้
ประกอบกับการบุกเบิกท่ีทากินเพ่ือสร้างเป็นสวนผลไม้และพื้นท่ีการเกษตรอ่ืน ๆ ทาให้สภาพแวดล้อม
ทางกายภาพของชุมชนชองที่เคยแวดล้อมด้วยป่าทึบกลับกลายเป็นแวดล้อมด้วยสวนผลไม้ สวนยางพารา
และนาไร่ และต่อมาครัวเรือนในหมู่บ้านได้เปล่ียนวิถีชีวิตเปน็ สวนผลไม้ อยา่ งไรกด็ ี ในพื้นท่ยี ังมีพชื สมุนไพร
ทมี่ ชี อื่ เสียงหลากหลายชนิด โดยมีปราชญใ์ นชุมชนสามารถรักษาโรคโดยใช้พชื สมนุ ไพร
ครวั เรือนในหมู่บ้านมีอาชีพทาสวนทุเรียน มังคดุ เงาะ ลองกอง สละ และสวนยางพารา โดยมีพนื้ ท่ีทา
สวน ครัวเรือนละประมาณ 10 – 50 ไร่ เฉล่ียประมาณ 20 ไร่/ครัวเรือน ทาให้ประชาชนมีรายได้หลัก
จากการทาสวนผลไม้และสวนยางพารา 800,000 – 2,000,000 บาทต่อปี ทั้งน้ี รายได้ของครัวเรือน
ในหมู่บ้านตะเคียนทอง มีรายได้เฉลี่ยสูงกว่าเส้นความยากจน โดยครัวเรือนมีรายได้ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะ
ช่วงฤดูกาลผลไม้ ครัวเรือนได้รายได้จากการขายผลไม้และในช่วงนอกฤดูกาลผลไม้ครัวเรือนจะมีรายได้
จากการกรีดยางพารา สาหรับแรงงานในการทาสวนส่วนใหญ่ใช้แรงงานคนในครอบครัว จึงไม่มีปัญหาการ
ว่างงาน อย่างไรก็ตาม ครัวเรือนในชุมชนบางส่วนมีหน้ีสินจากการกู้สินเช่ือจากสหกรณ์ ธนาคารเกษตรและ
สหกรณเ์ พ่ือการเกษตร หรือกองทุนในพืน้ ที่ ซง่ึ นามาใชใ้ นการลงทุนปรับปรุงสวนผลไม้ของตนเอง
เนื่องจากประชาชนในหมู่บ้านตะเคียนทอง ส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน จึงไม่มีปัญหาความขัดแย้งปัญหา
แบ่งสีแบ่งฝ่าย ปัญหายาเสพติด ประกอบกับบรรยากาศส่ิงแวดล้อมในชุมชนดี มีธรรมชาติป่าเขาท่ีอุดมสมบูรณ์
ทาให้ประชาชนส่วนใหญ่มีสุขภาพดี อายุยืน ไม่มีโรคติดต่อร้ายแรง โดยเฉพาะในสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบัน ยังไม่พบว่าคนในชุมชนมีการติดเช้ือจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โควิด - 19)
๒
อย่างไรก็ดี เกษตรกรในหมู่บ้านตะเคียนทองประสบกับปัญหาต่าง ๆ เช่น 1) การขาดแคลนแหล่งน้า
เพื่อการเกษตร เน่ืองจากมีการทาสวนทุเรียนต้องใช้น้าจานวนมาก แม้ว่าเกษตรกรจะใช้น้าในสระหรือ
บ่อบาดาลของตนเองแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ท้ังน้ี คณะกรรมการหมู่บ้านได้หาพ้ืนที่เพ่ือก่อสร้างฝายขนาดใหญ่
ซ่ึงเป็นที่สาธารณประโยชน์ของหมู่บ้าน แต่ยังไม่มีแหล่งงบประมาณสนับสนุนการดาเนินการ นอกจากนี้
ประชาชนใช้น้าในการอุปโภคบริโภคจากน้าบ่อบาดาลของครัวเรือน เน่ืองจากระบบประปาของหมู่บ้าน
ท้ิงร้างไม่มีงบประมาณในการบารุงดูแลรักษา 2) พ้ืนท่ีหมู่บ้านตะเคียนทองมีสภาพเป็นป่าเขาธรรมชาติ
เม่ือเกิดพายุ ลมกรรโชกแรง ทาให้ต้นไม้ล้มทับเสาไฟฟ้าเกิดไฟฟ้าตกหรือดับบ่อย และในกรณีเกิดพายุ
ลมหน้าแล้งจะทาให้ดอกของผลไม้ร่วง ส่งผลให้ผลผลิตลดลง และ 3) มีช้างป่าเข้ามาทาลายสวนผลไม้และ
ทรพั ย์สนิ ของชาวสวน ทาให้สวนผลไมไ้ ดร้ ับความเสยี หาย
จากภูมสิ งั คมของหม่บู า้ นตะเคียนทอง พบวา่ มี จดุ แข็ง จุดออ่ น โอกาส และข้อจากัด ดงั น้ี
จดุ แข็ง จุดอ่อน
- เป็นกลมุ่ ชาติพนั ธ์ชอง มีภาษาถนิ่ ของตนเอง - ขาดแคลนน้าทาการเกษตรในฤดแู ล้ง
- มีสวนผลไม้ เช่น ทุเรียน มังคุด เป็นผลผลิตท่ีทา - ใชส้ ารเคมีในการเพาะปลกู
รายไดห้ ลกั ของพ้ืนท่ี - ถนนดินทางขน้ึ เขาตดิ หล่มเวลาฝนตกหนัก
- ประชาชนมีรายได้ตลอดท้ังปี โดยนอกฤดูกาล - ประปาหมบู่ ้านใช้งานไม่ได้
ผลไม้ สามารถหารายได้จากการกรีดยางพารา และ - ไฟฟ้าตกและดับบอ่ ย
มีการทานาสาหรับบริโภคในครัวเรือน
- มพี ชื สมนุ ไพรท่สี ามารถพฒั นาได้
- ประชาชนมวี ิถชี วี ติ ตามปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
มรี ายไดต้ ลอดปี สามารถจดั การหน้ีสนิ ได้
- มพี ืชสมนุ ไพรที่มีช่ือเสียงหลากหลายชนดิ
- มผี ู้นาชุมชนท่เี ขม้ แขง็
- เป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด ปลอดอาชญากรรม
และปลอด COVID-19
- มีแหลง่ ทอ่ งเทีย่ วสวยงาม เช่น นา้ ตกตะเคยี นทอง
- มีโรงสีข้าวของชมุ ชน
- มีอาหารพ้ืนเมือง และการละเล่นทางวัฒนธรรม
ท่ีเปน็ เอกลกั ษณ์
โอกาส ขอ้ จากดั
- สามารถพัฒนาเปน็ ทอ่ งเท่ียวเชิงนิเวศน์ - ลมพายใุ นฤดแู ลง้ ทาใหด้ อกไม้ผลร่วง
วฒั นธรรม (พืชสมนุ ไพร + ชาวชอง) - ชา้ งป่าเข้ามาทาลายสวนทางการเกษตร
- สามารถพฒั นาสนิ ค้าแปรรูปจากผลผลติ ทาง - การตลาด ข้ึนอยกู่ บั ลง้ ผลไมเ้ ป็นผู้กาหนดราคา
การเกษตร
๓
1.2 การศึกษาเรียนร้รู ะบบการบริหารจัดการชุมชน
ชุมชนตะเคียนทองถือได้ว่าเป็นชาวชองซ่ึงส่วนใหญ่เป็นเครือญาติกัน โดยมีคนในชุมชนเป็นผู้ใหญ่บ้าน
และกรรมการหมู่บ้าน โดยผู้ใหญ่บ้านจะทาการประชุมกรรมการและลูกบ้านเป็นประจาทุกเดือน เวลามี
กิจกรรมจะร่วมกันคิด ร่วมกันทาด้วยความสามัคคี ผู้ใหญ่บ้านเป็นผู้นาคอยประสานความร่วมมือทั้งภายใน
หมู่บ้าน และการทาหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชนในการเชื่อมโยงกับภาครัฐ ประกอบกับการมีวิถีชีวิต
แบบพอเพียงต้ังแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ทาให้หมู่บ้านตะเคียนทองสามารถบริหารจัดการชุมชนให้เป็นไป
ด้วยความเรียบร้อย โดยไดน้ อ้ มนาแนวทางหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ดังนี้
(1) พอประมาณ - แต่ละครัวเรือนมีวิถีชีวิตเรียบง่าย ดูได้จากแต่ละครัวเรือนมีพื้นท่ีทาสวนผลไม้
ได้แก่ ทุเรียน มังคุด เม่ือมีรายได้จากการขายผลไม้จะนาเงินท่ีได้ฝากธนาคารไว้ และนามาใช้ในการปรับ
สภาพพื้นท่ีสวน สาหรับท่ีใช้ในช่วงนอกฤดูกาลผลไม้ก็หารายได้จากการกรีดยาง และส่วนใหญ่มีการทานา
เพือ่ นาข้าวมาบริโภคในครัวเรือน
(2) มีเหตุผล - จากการสัมภาษณ์ พบว่าชาวบ้านตะเคียนทองมีการร่วมคิด ร่วมตัดสินใจในการทา
กิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน โดยคณะกรรมการหมู่บ้านได้มีการจัดประชุมเป็นประจาทุกเดือน และใช้
หลักประชาธิปไตยในการบริหารจัดการ เคารพกฎของหมู่บ้านและกฎหมายบ้านเมือง ทานุบารุงศาสนา
ให้คงอยู่ มีการเข้าวัดทาบุญและปฏิบัติธรรมทุกวันพระ มีความภูมิใจในเอกลักษณ์ของชุมชน โดยมีการ
อนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของชาว “ชอง” ให้ลูกหลานรุ่นหลังได้สืบทอดโดยเฉพาะการพูดภาษาชอง
ครัวเรือนส่วนใหญ่มีเหตุผลในการดาเนินวิถีชีวิต หากเกิดข้อขัดแย้งข้ึนระหว่างกันส่วนใหญ่สามารถ
ประนปี ระนอมกนั ได้หมด อกี ทั้งความเป็นอยู่และการประกอบอาชีพมีความสงบเรยี บง่าย
(3) มีภูมิคุ้มกัน – คนในชุมชนมีความผูกพันในความเป็นชาติพันธ์ุชาวชอง เป็นเครือญาติทาให้ปัญหา
ด้านสังคม ยาเสพติด อาชญากรรมมีน้อยจนแทบไม่มี ส่วนใหญ่มีรายได้มากกว่ารายจ่ายแต่ก็ยังมีการกู้เงิน
จากสถาบันการเงินมาปรับปรุงสวนผลไม้ แต่ด้วยเพราะการมีวินัยทางการเงินจึงสามารถบริหารรายรับ
รายจ่าย และหนี้สินได้เป็นอย่างดี มีการปรับตัวในการรับมือกับความเจริญท่ีเปล่ียนแปลงสังคม เศรษฐกิจ
เช่น การปรับเปล่ียนการปลูกยางพาราที่มีราคาตกต่ามาปลูกสวนทุเรียนพันธ์ุหมอนทองแทน เพ่ือรองรับ
ตลาดทม่ี คี วามตอ้ งการสูง
ปั จจุ บั น คน ใน หมู่บ้ า น ต ะ เ คีย น ทอ งมีแน วคิด ท่ีจ ะส่ ง เส ริ ม ให้ มี กา ร เ รี ย น รู้ ใน กา รป รั บ ป รุ ง ดิ น
ให้มีคุณภาพมากยิ่งข้ึน และเร่ิมมีการนาแนวทางเกษตรอินทรีย์เข้ามาใช้แทนสารเคมี เพ่ือเพิ่มมูลค่าของ
ผลิตผล และลดความเส่ยี งจากกลไกการกาหนดราคาของล้งผลไม้
(4) นอกจากน้ี สมาชิกในหมู่บ้านสามารถน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นวิถีชีวิต
มาใช้ในชีวิตประจาวันได้อย่างเหมาะสม เช่น ในช่วง 2 – 3 ปี ที่ผ่านมาราคาพืชผลทางการเกษตรค่อนข้าง
มีราคาสูง ซ่ึงธรรมชาติของเกษตรกรก็มักจะมุ่งขยายพื้นท่ีเพาะปลูก และท่ีเกิดปัญหามาโดยตลอด คือ
ปัญหาการบุกรุกพื้นที่หวงห้ามของราชการ เพื่อประโยชน์ส่วนรวม โดยหมู่บ้านแห่งนี้ พื้นท่ีโดยรอบจะเป็น
ป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ ติดกับพ้ืนที่เพาะปลูกของราษฎร ซ่ึงง่ายต่อการบุกรุกแผ้วถาง แต่ในหมู่บ้านน้ี
มีความอดทนและพอใจกับพื้นที่เพาะปลูกท่ีมีอยู่ ดว้ ยความรักความสามคั คีของคนในหมู่บา้ น จงึ ป้องกันการ
ไปบกุ รุกแผว้ ถางพ้ืนที่ของราชการเพ่ือนามาเปน็ ประโยชน์ของส่วนตัวได้เปน็ อย่างดี
๔
1.3 การศึกษาเรียนร้นู โยบายภาครัฐและผลกระทบตอ่ การพัฒนาของชุมชน
จากปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้าเพ่ือทาการเกษตร ชุมชนมีความประสงค์เสนอโครงการก่อสร้างฝาย
ขนาดใหญ่ในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้าเพื่อการเกษตร เพ่ือขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
จากหนว่ ยงานภาครฐั
ซ่ึงในการเสนอโครงการเพ่ือขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานของรัฐ ชุมชนสามารถเสนอ
โครงการ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ พ.ศ. 2551
หมวด 4 งบประมาณจงั หวัดและกลุ่มจังหวัด
ม. 28 เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบกับแผนพัฒนาจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีของจังหวัดตามที่ ก.น.จ. เสนอแล้ว ให้ ก.น.จ. ส่งให้สานักงบประมาณ เพื่อให้ใช้ในการจัดสรร
งบประมาณ โดยสานักงบประมาณต้องดาเนินการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจาปีให้เพียงพอต่อการ
ดาเนินงานตามแผนปฏิบตั ิราชการประจาปีของจังหวัด
การสง่ แผนปฏิบัติราชการประจาปีของจังหวัดตามวรรคหน่ึง ให้ถือว่าได้ย่นื คาของบประมาณรายจ่าย
ต่อสานักงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณแล้ว เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับงบประมาณของ
จงั หวดั
ม. 29 ในกรณีที่ส่วนราชการใดมีหน้าท่ีดาเนินการในเร่ืองใดและได้รับงบประมาณรายจ่ายประจาปี
สาหรับดาเนินการในเรื่องน้ันตามแผนพัฒนาจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการประจาปีของจังหวัด ให้ส่วนราชการน้ัน
แจ้งการได้รับการจัดส รรงบประมาณในเร่ืองดังกล่าวให้ผู้ ว่าราช การจัง หวัดทราบภายในสามสิ บ วัน
นับแตว่ ันที่พระราชบญั ญตั ิงบประมาณรายจา่ ยประจาปีมีผลใชบ้ งั คบั
ให้สานักงบประมาณแจ้งการจัดสรรงบประมาณจังหวัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบภายในสามสิบวัน
นับแตว่ นั ทสี่ านกั งบประมาณได้รับแผนการปฏิบตั งิ านและแผนการใชจ้ ่ายจากหน่วยงานของรัฐที่เก่ยี วข้อง
ให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแจ้งการจัดสรรงบประมาณงบเงินอุดหนุนเฉพาะกิจให้ องค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่ินในส่วนท่ีเกี่ยวข้องกับการดาเนินการตามแผนพัฒนาจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการ
ประจาปีของจังหวัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทราบภายในสามสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัติงบประมาณ
รายจา่ ยประจาปมี ผี ลใชบ้ งั คับ
ดังน้ัน ในการเสนอโครงการบรรจุเข้าแผนพัฒนาจังหวัด ชุมชนต้องเสนอโครงการเข้าแผนพัฒนา
หมู่บ้าน แผนพัฒนาเทศบาลตาบลตะเคียนทอง แผนพัฒนาอาเภอเขาคิชฌกูฏ และแผนพัฒนาจังหวัด
จันทบุรี เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐท่ีเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ หมู่บ้านสามารถ
ขอรบั การสนับสนุนงบประมาณจากงบบูรณาการอาเภอได้อีกทางหนึ่ง
๕
ส่วนท่ี 2 ประเด็นการพัฒนาของชุมชน
2.1 ระดบั การพฒั นาของหมบู่ า้ น
จากการสมั ภาษณ์ประชาชนในชุมชนหมู่บ้านตะเคยี นทอง มขี อ้ มลู ผลการสมั ภาษณ์ ดังนี้
(1) ตวั ชว้ี ัดและเกณฑ์ หมู่บา้ นยากจน
ท่ี ตวั ชี้วดั เปา้ หมายการพัฒนา เกณฑก์ ารวดั ข้อมูล
ท่ีย่ังยนื
1 รายไดเ้ ฉล่ียของ ข้อ 1 ขจัดความยากจน 1.1 ครวั เรือน 90 % มีรายได้เฉลี่ย ครัวเรือนมีรายได้ ประมาณ
ครัวเรือนใน (No Poverty) สงู กว่าเส้นความยากจน = พออยู่ 800,000 – 2,000,000
หมู่บ้าน พอกิน บาท/ป/ี ครัวเรือน
(Income) 1.2 ครัวเรือน 40% มีรายได้เฉลี่ย
ตา่ กวา่ เส้นความยากจน = ยากจน
2 ผลผลติ ขา้ วเฉลีย่ ข้อที่ 2 ขจดั ความหวิ หมู่บ้านมีปริมาณผลผลิตข้าว มีนาข้าวสาหรับผลิต
(Food safety) โหย บรรลุความมัน่ คง เพียงพอต่อการบริโภคของคน เพ่ือการบริโภคในครัวเรือน
ทางอาหาร ในหมู่บ้านตลอดทั้งปี ท้ังนี้ มีผลผลิตทาง
(Zero Hunger) การเกษตรผลไม้ มีรายได้
สามารถซ้ือข้าวสาหรับ
บริโภคได้
3 อตั ราการมงี านทา ข้อ 8 การทาให้เกิด คนวัยแรงงานที่ว่างงานเกนิ 85 % วยั แรงงานในชุมชน
(Labor อาชีพและการจ้างงาน ของวยั แรงงาน ถอื ว่าเป็นหมู่บ้าน เปน็ เกษตรชาวสวน
roductivity) (Decent Work and ยากจน เน่ืองจากมีการใช้แรงงานคน
Economic Growth) ในครวั เรือนในการทาสวน
ผลไม้ จงึ ทาให้ไม่เกดิ ปัญหา
การวา่ งงาน
4 สขุ ภาพ ขอ้ 3 การมสี ุขภาพท่ดี ี จานวนครัวเรือนทมี่ ีสมาชิก ในชุมชนหมบู่ ้านตะเคียนทอง
(Health) (Good Health and เจ็บป่วยด้วยโรคเรอื้ รงั และ เปน็ โรคความดัน เบาหวาน
well-being) โรคติดต่อเกิน 70 % ไม่เกนิ 70 % ท้งั น้ี ไมม่ ี
เป็นหมู่บ้านยากจน ผพู้ กิ าร/ ผปู้ ่วยติดเตียง
5 น้าอุปโภค – บริโภค ขอ้ 6 น้าสะอาดและ มีครัวเรือนที่ไม่มนี า้ สะอาด ในชุมชนหมบู่ ้านตะเคียนทอง
การสขุ าภบิ าล อุปโภค - บริโภค 10 % เปน็ หมู่บา้ น ซือ้ น้าบริโภค สาหรับนา้
(Clean Water and ยากจน อปุ โภคใชบ้ ่อนา้ ต้ืนหรือ
Sanitation) บ่อบาดาลในครวั เรือน
ซงึ่ เพยี งพอต่อการอปุ โภค -
บริโภค
๖
(2) ตัวช้ีวดั และเกณฑ์ ครวั เรือน
ที่ ตัวชวี้ ดั เป้าหมายการพัฒนา เกณฑ์การวดั ขอ้ มูล
ทยี่ ั่งยนื
1 รายได้เฉล่ียของ ขอ้ 1 ขจัดความยากจน 1.1 เกนิ เสน้ ความยากจน = สูงเกินกวา่ เส้นความยากจน
ครัวเรอื นใน (No Poverty) ครัวเรือนพออยู่พอกนิ ของประเทศ 2,763 บาท x
หมู่บา้ น 1.2 ตา่ กวา่ เสน้ ความยากจน = 12 เดือน = 33,156 บาท
(Income) ครัวเรือนยากจน /คน/ปี โดยประชาชนมี
รายได้เฉลย่ี ประมาณ
500,000 – 2,000,000
บาท/ป/ี ครัวเรอื น ซง่ึ มีคน
ในครวั เรือน 2 – 6 คน/
ครัวเรือน
2 หน้ีสิน 2.1 หน้สี ินเกนิ 60% ของรายได้ ครัวเรือนสามารถจัดการ
ต่อปี = ครัวเรือนยากจน หนสี้ นิ ได้ 100 %
2.2 หน้ีสินไมเ่ กิน 30% ของรายได้
ต่อปี = ครัวเรือนพออยพู่ อกิน
3 อัตราการมีงานทา ขอ้ 8 การทาให้เกิด 3.1 คนว่างงาน ½ ของสมาชิก มวี ัยแรงงานในครัวเรือน
(Labor อาชีพและการจ้างงาน วยั แรงงาน = ครัวเรือนยากจน เป็นเกษตรชาวสวน
productivity) (Decent Work and 3.2 คนท่มี งี านทา 1 ใน 5 ของ เน่ืองจากมกี ารใช้แรงงาน
Economic Growth) สมาชิกวัยแรงงาน = ครวั เรือน คนในครัวเรอื นในการทา
พออยู่พอกนิ สวนผลไม้ จึงไม่มีการว่างงาน
4 สขุ ภาพ ขอ้ 3 การมสี ุขภาพทด่ี ี ครัวเรือนท่มี สี มาชกิ เจ็บป่วยเกิน ในครวั เรือนมีคนเป็น
(Health) (Good Health and 30 % เป็นหมูบ่ ้านยากจน โรคความดัน เบาหวาน
well-being) ไม่มผี ู้พิการ/ผปู้ ่วยติดเตียง
5 น้าอปุ โภค – บริโภค ขอ้ 6 น้าสะอาดและ ครัวเรือนมีน้าสะอาดบริโภค ในครวั เรือนซ้ือนา้ บรโิ ภค
การสขุ าภิบาล อุปโภคไม่เพียงพอ = ครัวเรอื น สาหรบั นา้ อปุ โภคใช้บ่อน้า
(Clean Water and ยากจน ตนื้ หรือบ่อบาดาล
Sanitation) ในครัวเรือน ซึง่ เพียงพอ
ต่อการอุปโภคบรโิ ภค
ผลจากการประเมินระดับการพฒั นา พบว่าชมุ ชนหม่บู ้านตะเคยี นทอง ไม่ตกเกณฑ์ ทั้งแยกเป็นระดับ
ครวั เรอื นและระดบั หมู่บ้าน ดงั น้ี
(1) ตวั ช้วี ัดและเกณฑ์หมูบ่ ้าน : เปน็ หม่บู า้ นพออยู่พอกิน
(2) ตวั ช้วี ดั และเกณฑ์ครัวเรือน : เปน็ ครัวเรือนพึ่งพาตนเองได้
สรปุ ชมุ ชนหมูบ่ า้ นตะเคยี นทอง อย่ใู นระดบั พ่ึงตนเองได้ (Sustainability)
๗
ในประเมินเพ่ือจัดระดับหมู่บ้านและเพื่อเป็นการพัฒนาหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ของกรมการพัฒนา
ชุมชน พบว่าหมู่บ้านตะเคียนทอง หมู่ที่ 5 ตาบลตะเคียนทอง จากการประเมินตัวชี้วัด 6 x 2
ผลการประเมิน คอื 33 คะแนน ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ โดยมผี ลการประเมิน ดงั นี้
(1) การประเมนิ หมูบ่ า้ นตามแบบประเมินหมบู่ ้านเศรษฐกิจพอเพียง กระทรวงมหาดไทย
(4 ดา้ น 23 ตวั ชว้ี ัด)
ผลการประเมินครงั้ ท่ี 1 อยู่ระดบั “พออยู่ พอกนิ ” ผา่ นตัวชี้วัด 20 ขอ้
ผลการประเมนิ ครั้งท่ี 2 อยูร่ ะดบั “พออยู่ พอกิน” ผ่านตัวชีว้ ัด 21 ข้อ
(2) การประเมนิ ความสุขมวลรวมของหมู่บา้ น (GVH)
ผลการประเมินคร้งั ที่ 1 ระดับคะแนน ร้อยละ 96.60
ผลการประเมนิ ครง้ั ที่ 2 ระดบั คะแนน ร้อยละ 97.20
สาหรับการประเมิน ข้อมูล กชช. 2ค ซึ่งเป็นการประเมินข้อมูลระดับหมู่บ้านที่แสดงสภาพท่ัวไป
ของหมู่บ้าน สภาพพ้ืนฐานทางเศรษฐกิจ ระดับการศึกษา การมีส่วนร่วมและความเข้มแข็งของชุมชน
สขุ ภาพและอนามยั สภาพแรงงาน และยาเสพตดิ ซึง่ ดาเนินการจดั เกบ็ ทุกหมู่บา้ นในเขตชนบทเปน็ ประจาทกุ 2 ปี
ทาให้ทราบว่าประชาชนในหมู่บ้านต่างๆ มีคุณภาพชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ในด้านต่างๆ เป็นอย่างไร
แต่ละหมู่บ้านมีปัญหาในเร่ืองใดบ้าง (ตัวช้ีวัดใดบ้าง) ท่ีควรได้รับการแก้ไข ซ่ึงพบว่าหมู่บ้านตะเคียนทองได้รับ
การจัดระดบั การพัฒนาของหมู่บา้ น เปน็ หมบู่ า้ นเร่งรัดพัฒนาอนั ดบั 3 (กา้ วหนา้ )
สาหรับข้อมูลความจาเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) ซ่ึงเป็นข้อมูลในระดับครัวเรือนท่ีแสดงถึงสภาพความจาเป็น
พื้นฐานของคนในครัวเรือนในด้านต่างๆ เกี่ยวกับคุณภาพชีวิตที่ได้กา หนดมาตรฐานข้ันต่าเอาไว้
วา่ คนควรจะมีคุณภาพชีวติ ในแต่ละเร่ืองอย่างไรในช่วงระยะเวลาหนึง่ ๆ ซึ่งพบว่าครัวเรือนในหมบู่ ้านตะเคียนทอง
ผา่ นเกณฑ์ จปฐ. ทุกครวั เรือน
2.2 สัดสว่ นจานวนครัวเรอื นที่ไมพ่ ออยู่พอกิน
ไม่มี
2.3 ประเมินความสามารถของชุมชนในการใช้ประโยชน์จากโครงการกิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้นโยบาย
แต่ละด้านที่มีการดาเนินการในชุมชน เพอ่ื พฒั นาความเป็นอย่ขู องครัวเรือนทวั่ ไปและครัวเรอื นที่ยากจน
สมาชิกของชุมชนหมู่บ้านตะเคียนทองในแต่ละรุ่น สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีและใช้ประโยชน์
จากนโยบายตา่ ง ๆ ของรฐั บาล ในการแก้ไขปัญหาความยากจนและฟื้นฟูเศรษฐกิจหลงั สถานการณ์การแพร่
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด COVID เช่น โครงการเราชนะ โครงการคนละคร่ึง
ซง่ึ สามารถนาไปพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเปน็ อยู่ของแต่ละครัวเรือนได้อยา่ งมปี ระสิทธผิ ล
นอกจากนี้ ประชาชนในชุมชนหมู่บ้านตะเคียนทอง มีการใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมกับศักยภาพ
ของหมู่บ้าน โดยมีกิจกรรมการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีและวิทยาการใหม่ ๆ และคนที่ได้เรียนรู้
นาไปใช้อย่างเหมาะสมและเกิดความคุ้มค่า โดยต้ังกลุ่มไลน์ของหมู่บ้าน สาหรับแจ้งข่าวสารต่าง ๆ
ของทางราชการให้คนในชุมชนได้รับทราบ เช่น การประชุมของหมู่บ้านก็จะแจ้งให้ทราบทางไลน์กลุ่ม
ของหมู่บ้าน เป็นการลดเวลา และเกิดความรวดเร็วในการแจ้งข้อมูลข่าวสาร รวมท้ัง มีการสร้างเครือข่าย
ภาคีการพัฒนา โดยมีกระบวนการเช่ือมโยงเครือข่ายในระดับกลุ่มและ/หรือระดับหมู่บ้านเพ่ือแลกเปลี่ยน
เรียนรู้ข้อมูลข่าวสาร ประสานงานและทากิจกรรมต่าง ๆ ในระดับหมู่บ้าน ตาบล และอาเภอ ทั้งน้ี ได้มี
การตัง้ กลุม่ ไลน์ตาบล และกลุ่มไลน์อาเภอ เพอ่ื ความรวดเรว็ ในการแจ้งข้อมูลขา่ วสาร
๘
2.4 ประเมนิ โอกาสและความเส่ียงของชมุ ชนและครัวเรอื นยากจน
โอกาสของชุมชน ประการแรก ด้วยราคาผลไม้ท่ีสูงข้ึนในช่วงน้ีทาให้เศรษฐกิจของแต่ละครัวเรือน
อยู่ในช่วงขาข้ึน แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นความเส่ียงเพราะเมื่อผลไม้ราคาดี ทุกพ้ืนที่จะมุ่งมาปลูกผลไม้
ชนิดเดียวกัน ทาให้เกิดปัญหาผลผลิตทางการเกษตรล้นตลาดเป็นวัฏจักรหมุนเวียนกันไป แต่ทีมนักศึกษาก็
ได้แลกเปลี่ยนฐานความคิดว่าด้วยศักยภาพและโอกาสของชมุ ชนหมู่บ้านตะเคียนทองแห่งน้ี สามารถพัฒนา
เปน็ แหลง่ ทอ่ งเท่ียวเชงิ นิเวศน์ เชงิ วฒั นธรรม ตลอดจนเปน็ แหลง่ ถา่ ยทอดเรียนรู้ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่ ในด้านพืช
สมนุ ไพรทางเลือกได้ไม่ยาก
2.5 สรปุ บทเรยี นท่ไี ดร้ ับในดา้ น
2.5.1 การบริหารการพฒั นาชุมชนทอ้ งถน่ิ
จากผลการศึกษาการบริหารจัดการชุมชนของหมู่บ้านตะเคียนทอง ท้ังด้านเศรษฐกิจ สังคม
การปกครอง การบริหารท่ีดินและทรัพยากรธรรมชาติ สุขภาพอนามัย ขนบธรรมเนียมประเพณีและ
วัฒนธรรม ประชาชนส่วนใหญ่มีการน้อมนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในวิถีชีวิตของคน
ในชุมชน ประชาชนในหมู่บ้านมีวินัยทางการเงิน สามารถบริหารจัดการรายรับ รายจ่าย และหนี้สินได้เป็นอย่างดี
และกลุ่มกองทุนต่าง ๆ สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในหมู่บ้านได้ ประกอบกับมีการจัดทา
แผนพัฒนาหมู่บ้านตะเคียนทอง ทั้งน้ี ทีมนักศึกษาพบว่าแผนพัฒนาหมู่บ้านตะเคียนทองยังขาดความ
เชื่อมโยงกับแผนพฒั นาระดับอาเภอและระดบั จงั หวดั
2.5.2 การบริหารการพฒั นาระดับตาบลและอาเภอ
ทีมนักศึกษา พบว่าแผนพัฒนาหมู่บ้านตะเคียนทองได้จัดทาไว้เป็นเวลานานแล้ว ไม่มีการปรับปรุง
และยังขาดความเช่ือมโยงกับแผนพัฒนาระดับอาเภอและระดับจังหวัด จึงได้แนะนาให้มีการประสาน
แผนความตอ้ งการของหมู่บ้านบรรจุในแผนพัฒนาตาบล อาเภอ และจังหวดั ต่อไป
2.5.3 ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการปฏบิ ัติงานตามนโยบายของรัฐบาล
จากการตอบแบบสอบถามของประชาชนในหมูบ่ า้ นตะเคียนทอง พบว่าประชาชนได้รับประโยชน์จาก
โครงการตามนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลในช่วงนี้ เช่น เงินช่วยเหลือจากรัฐบาล ได้แก่ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
เบ้ียยังชีพผู้พิการ เงินสวัสดิการของรัฐ ได้แก่ โครงการเราชนะ โครงการคนละครึ่ง ทั้งนี้ สาหรับบัตร
สวสั ดิการแห่งรฐั หรอื บัตรคนจน พบวา่ ไม่มีประชาชนในชมุ ชนหมู่บ้านตะเคียนทองได้รบั บตั รสวสั ดิการแห่ง
รัฐ เนอ่ื งจากมรี ายไดต้ ่อคน หรือรายได้ต่อครัวเรือนสูงกว่าหลักเกณฑ์ทกี่ าหนด
๙
ส่วนท่ี 3 การรว่ มคิดกิจกรรมการพัฒนาร่วมกบั ชุมชน
จากข้อมูลข้างต้น พบว่าชุมชนหมู่บ้านตะเคียนทอง มีศักยภาพและปัญหาของพ้ืนท่ี โดยมีประเด็น
การพฒั นาตามหัวขอ้ ทกี่ าหนด ดังน้ี
(1) การจัดหาแหล่งน้าให้เพียงพอตลอดท้ังปี ต่อการทาการเกษตรของทุกครัวเรือนที่ทาการเกษตร
ในชุมชน
(2) การจัดหาน้าสะอาด สาหรับด่ืมและใช้ในครัวเรือนที่ทุกครัวเรือนสามารถได้รับในราคา
หรือค่าใชจ้ า่ ยที่ถูกลงกว่าเดิม
(8) การส่งเสริมสขุ ภาพและการเพ่ิมผลผลติ ของการทางานของครัวเรอื นและชุมชน
(11) การสร้างทักษะฝีมือใหม่และการพัฒนาทักษะฝีมือให้สูงขึ้นเพ่ือเพิ่มผลิตภาพการผลิต
การแปรรปู การตลาด เพ่มิ รายได้และลดต้นทนุ ของกล่มุ การผลติ ในชุมชน
3.1 ร่วมคดิ กบั กลมุ่ อาชีพ กลุ่มการผลติ แปรรปู ชุมชน ครวั เรือนยากจน และคนยากจน
(1) ใหช้ มุ ชนจดั ทาโครงการก่อสรา้ งฝายขนาดใหญ่ เพ่ือแกไ้ ขปญั หาขาดแคลนน้าเพ่ือการเกษตร
(2) สนบั สนุนใหม้ กี ารใชพ้ ลงั งานแสงอาทติ ย์ในการทาการเกษตร
(3) ให้มีการปรับปรุงระบบประปาหมู่บ้าน โดยโอนประปาหมู่บ้าน สาหรับน้าอุปโภคบริโภค
ให้เทศบาลตาบลตะเคียนทอง เพ่ือต้งั งบประมาณในการซ่อมแซมและบารุงรักษา
(4) แจง้ การไฟฟา้ ส่วนภมู ิภาค เพ่ือขอขยายเขตไฟฟา้ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
(5) พัฒนาผลิตภัณฑแ์ ปรรูปจากผลไม้
(6) พัฒนาหมู่บ้านตะเคียนทองให้เป็นแหล่งท่องเท่ียวเชิงนิเวศน์ เชิงวัฒนธรรม ตลอดจนเป็นแหล่ง
ถ่ายทอดเรียนร้ภู ูมิปัญญาท้องถิ่นในดา้ นพืชสมุนไพรทางเลือก
3.2 กิจกรรมควรทาภายใน 3 เดอื น 6 เดือน 1 ปี
3.2.1 กจิ กรรมที่ควรทาภายใน 3 เดอื น
- เร่งรัดการโอนประปาหมู่บ้าน สาหรับน้าอุปโภคบริโภค ให้เทศบาลตาบลตะเคียนทอง เพ่ือตั้ง
งบประมาณในการซอ่ มแซมและบารงุ รักษา
3.2.2 กจิ กรรมท่ีควรทาภายใน 6 เดือน
- ต้องบรรจุแผนงานโครงการโครงการก่อสร้างฝายขนาดใหญ่ เพ่ือแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้า
เพอ่ื การเกษตร เขา้ แผนพฒั นาตาบล แผนพัฒนาอาเภอ และแผนพัฒนาจังหวดั
3.2.3 กจิ กรรมท่คี วรทาภายใน 1 ปี
- แจ้งการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพ่ือขอขยายเขตไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อให้เพียงพอต่อ
ปริมาณการใชไ้ ฟฟา้ ในปัจจุบัน และแก้ไขปัญหาไฟฟ้าดบั และตกในช่วงพายุฝน
- สนับสนนุ ใหม้ กี ารใชพ้ ลังงานแสงอาทิตย์เพือ่ ใช้ในการทาการเกษตร
- พัฒนาผลติ ภณั ฑ์แปรรูปจากผลไม้
- พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เชิงวัฒนธรรม ตลอดจนเป็นแหล่งถ่ายทอดเรียนรู้ภูมิปัญญา
ท้องถิน่ ในด้านพืชสมุนไพรทางเลือกไดไ้ ม่ยาก
๑๐
ภาคผนวก
ภาพประกอบการศกึ ษาเรยี นรู้
หมู่บา้ นตะเคยี นทอง หมู่ที่ 5 ตาบลตะเคยี นทอง อาเภอเขาคิชฌกฎู จังหวดั จันทบรุ ี
๑๑
๑๒
๑๓
รายงานการเรยี นรดู้ ว้ ยประสบการณต์ รงจากการปฏบิ ตั งิ าน (Action Learning)
หมู่บา้ นเศรษฐกิจพอเพยี งตามศาสตรพ์ ระราชา บา้ นแก้งขอ หมู่ท่ี 6
ตาบลพรสวรรค์ อาเภอนาจะหลวย จังหวัดอบุ ลราชธานี
จัดทาโดย
กล่มุ ปฏบิ ตั กิ ารที่ 8
1. นางอรณุ ี จุลเจรญิ นายอาเภอคา่ ยบางระจนั จังหวัดสิงห์บุรี
2. นางสาวอนงนาต ชวี านันทกุล กรมการปกครอง
3. นายคาสัน ญาณวัฒนา ผอู้ านวยการกองปราบปรามการทจุ ริตในภาครฐั
4. นายพงษธ์ ร จนั ทรส์ วสั ดิ์ สานกั งาน ป.ป.ท.
5. นายสงัด บรู ณภัทรโชติ หัวหน้าสานกั งานจังหวัดชุมพร
6. นายประมวล วรานศุ ิษฏ์ สานักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย
7. นายพรเทพ ศรีวรานันท์ นายอาเภอนาจะหลวย จังหวดั อุบลราชธานี
8. นายปรีชา แดงแสงทอง กรมการปกครอง
9. นายพิเชษฐ รัตนปราสาทกลุ นายอาเภอเวยี งชยั จังหวดั เชียงราย
10. นายชุติเดช กมนณชนตุ ม์ กรมการปกครอง
พัฒนาการจังหวดั พงั งา
กรมพัฒนาชุมชน
โยธาธกิ ารและผงั เมืองอุดรธานี
กรมโยธาธิการและผังเมอื ง
ท้องถ่ินจงั หวดั พิษณโุ ลก
กรมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถ่ิน
ผอู้ านวยการสานกั ออกแบบวิศวกรรมและ
สถาปัตยกรรม กรมชลประทาน
ผอู้ านวยการสานักบรหิ ารงานกลาง
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตวป์ ่า และพนั ธพ์ ชื
รายงานนเ้ี ปน็ ส่วนหน่งึ ของการศกึ ษาอบรมหลกั สตู รนกั ปกครองระดบั สูง(นปส.) รนุ่ ที่ 77
สถาบันดารงราชนุภาพ กระทรวงมหาดไทย
คานา
กิจกรรมการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติงาน (Action Learning) ฉบับนี้
เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรนักปกครองระดับสูง (นปส.) รุ่นท่ี 77 กลุ่มปฏิบัติการ ที่ 8 ศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง
หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงตามศาสตร์พระราชา บ้านแก้งขอ หมู่ท่ี 6 ตาบลพรสวรรค์ อาเภอนาจะหลวย
จังหวัดอบุ ลราชธานี โดยมีวัตถุประสงค์เพอ่ื ศึกษาเรยี นรภู้ มู สิ ังคมและวถิ ชี ีวติ ของชุมชน ศกึ ษาเรยี นรู้ระบบการ
บริหารจัดการและวิถีชีวิตชุมชน ศึกษาเรียนรู้นโยบายภาครฐั และผลกระทบต่อการพัฒนาของชมุ ชน ประเมิน
ความสามารถ โอกาส ความเส่ียงของชุมชน ทง้ั ปัจจัยภายในและภายนอกชมุ ชนทเ่ี ป็นอปุ สรรคและความสาเร็จ
ในการประกอบสัมมาอาชีพของคนในชุมชน ตลอดจนหาแนวทางสนับสนุน ส่งเสริมการพัฒนาหมู่บ้านให้มี
ความเข้มแข็ง มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน นาไปสู่การปฏิบัติของคนในชุมชนเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม
เกดิ ประโยชน์สุขแก่ประชาชนอยา่ งยั่งยนื ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
การดาเนินกิจกรรมคร้ังนี้ ได้รับความร่วมมืออย่างดีย่ิงจากท้ังทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยเฉพาะ
อย่างย่ิงจากผู้ใหญบ่ ้านแก้งขอ ผู้ช่วยผู้ใหญบ่ ้าน คณะกรรมการหมบู่ ้าน อาสาสมัครสาธารณสุขประจาหมบู่ ้าน
คณะกรรมการหมู่บา้ น ผนู้ ากลมุ่ องค์กรตา่ งๆ พีน่ ้องประชาชนชาวบา้ นแกง้ ขอทกุ คน นกั วิชาการพฒั นาชุมชน
ชานาญการ เกษตรอาเภอนาจะหลวย นักวิชาการเกษตรชานาญการ ผอู้ านวยการส่งเสรมิ สุขภาพตาบลบุ่งคา
เจ้าหน้าที่วิเคราะห์นโยบายและแผน สังกัดองค์การบริหารส่วนตาบลพรสวรรค์ ปลัดอาเภอฝ่ายความมั่นคง
ปลัดอาเภองานสานักงานอาเภอ เจ้าหน้าท่ีปกครองอาเภอนาจะหลวย สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน
ที่ 9 อาเภอนาจะหลวย ลูกจ้างเหมาบริการโครงการพัฒนาตาบลแบบบูรณาการ (Tambon Smart Team)
และทุก ๆ คน ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องที่เปิดโอกาสให้คณะนักศึกษา ได้เข้าพบ และพูดคุยในประเด็นต่าง ๆ
ผา่ นระบบออนไลน์ และเป็นตัวแทนคณะนักศึกษาลงพ้ืนท่ีเก็บรวบรวมข้อมูล ดาเนินการสาเร็จลุล่วงเป็นไป
อย่างดียิ่ง รวมถึงคณะอาจารยท์ ี่ปรึกษาทกุ ๆ ท่าน ที่สละเวลามาร่วมกิจกรรมเพื่อให้คาแนะนากับนักศึกษา
ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย คณะผู้จัดทากิจกรรมการเรียนรู้ด้วยประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติงาน
(Action Learning) ตามหลักสูตรนักปกครองระดับสงู (นปส.) ร่นุ ที่ 77 กลุม่ ปฏบิ ัติการ ที่ 8 ขอขอบพระคุณ
ทกุ ๆ ท่านเปน็ อยา่ งสูง และหวงั เป็นอยา่ งยิง่ ว่ารายงานกิจกรรมการเรียนรู้ฯ ฉบบั นี้ จะเป็นประโยชน์ต่อไป
คณะผู้จัดทา
นักศึกษาหลกั สตู รนักปกครองระดับสงู (นปส.) ร่นุ ที่ 77
กลุ่มปฏบิ ตั กิ าร ที่ 8
สารบัญ
หนา้
แผนท่หี มู่บา้ น 1
1
ส่วนท่ี 1 กรอบการเรยี นรูด้ ว้ ยประสบการณ์ตรงจากการปฏบิ ตั ิงาน (Action Learning) 1
1. การศกึ ษาเรียนรภู้ ูมิสงั คมและวถิ ีชีวติ ของชมุ ชน
1.1 ขอ้ มลู ท่วั ไปของหมบู่ า้ น 4
1.2 รางวัลท่นี า่ ภาคภูมใิ จของบ้านแกง้ ขอ
2. การศกึ ษาเรยี นรู้ระบบการบรหิ ารจดั การและวถิ ชี วี ิตชุมชน 8
3. การศึกษาเรยี นรู้นโยบายภาครฐั และผลกระทบตอ่ การพฒั นาของชมุ ชน 9
สว่ นที่ 2 ประเด็นการพฒั นาของชุมชน 10
2.1 ระดบั การพัฒนาของหมบู่ า้ น 10
2.2 สัดส่วนจานวนครวั เรือนท่ีไม่พออยู่พอกนิ 10
2.3 ประเมินความสามารถของชมุ ชนในการใชป้ ระโยชน์จากโครงการ 11
กจิ กรรมตา่ งๆ ภายใต้นโยบาย
2.4 การประเมินโอกาส และความเสี่ยงของชุมชน และครวั เรอื นยากจน 12
2.5 สรปุ บทเรยี นทไี่ ดร้ บั ในแต่ละด้าน 14
- การบรหิ ารการพฒั นาชุมชนทอ้ งถ่นิ 14
- การบริหารการพฒั นาระดับตาบลและอาเภอ 14
- ประสทิ ธิภาพและประสทิ ธผิ ลของการปฏบิ ตั ิงานตามนโยบายของรัฐบาล 15
ภาคผนวก 16
แผนท่หี มู่บา้ นแก้งขอ หม่ทู ี่ 6 ตาบลพรสวรรค์ อาเภอนาจะหลวย จงั หวดั อุบลราชธานี