รวมระเบียบคำสั่ง กรมที่ดิน ประจำปี 2557 (ปี 2557)

สิง่ ที่ส่งมาดว้ ย ๒
สง่ กรมท่ีดินภายในวนั ที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

แบบรายงานสรปุ ผลการส�ำ รวจจ�ำ นวนแบบแจง้ การครอบครองทดี่ นิ (ส.ค. ๑) จากทะเบยี นการครอบครองท่ีดินของท้งั จังหวดั
จังหวัด............................................

จำ�นวน ส.ค. ๑ (แปลง) ส.ค. ๑ คงเหลอื ตาม
ทะเบยี นการครอบครองท่ีดิน
ล�ำ ดับ ส�ำ นักงานทด่ี นิ จังหวดั /สาขา/สว่ นแยก/ ที่มกี ารแจง้ หมายเหตุ ท่ีอยูร่ ะหวา่ งย่นื ค�ำ ขอออกหนังสอื คงเหลือตามทะเบยี น ที่สนั นิษฐานหรอื น่าเช่อื วา่
ที่ อ�ำ เภอ การครอบครอง และ แสดงสทิ ธิในทดี่ นิ การครอบครองที่ดนิ มีการออกหนังสือแสดงสิทธิ

ท่ีดนิ จ�ำ หน่าย คำ�ขอภายใน คำ�ขอภายหลัง รวม ในทดี่ ินแลว้
๘ ก.พ. ๕๓ ๘ ก.พ. ๕๓ ๕
๑๒ ๑ – (๒ + ๕) (แปลง)
๓ ๔ (๓ + ๔)

๖๔๗

รวม
– นับเฉพาะจ�ำ นวน ส.ค. ๑ ตามทะเบียนการครอบครองทดี่ นิ (ไม่นบั น.ส. ๓ และใบจอง)
– ตรวจสอบโดยยดึ เลขท่ี ส.ค. ๑ ในทะเบยี นการครอบครองที่ดินเป็นหลัก ไมไ่ ดต้ รวจสอบโดยยดึ ตามจ�ำ นวนค�ำ ขอ

ด่วนที่สดุ (สำ�เนา)
ท่ี มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๒๓๔๙๒
กรมทด่ี ิน
ศนู ยร์ าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง้ วัฒนะ
แขวงท่งุ สองห้อง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐
๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

เรือ่ ง ขอความร่วมมือในการตรวจสอบทด่ี นิ การคัดถา่ ยสำ�เนา และกำ�ชบั เจ้าหนา้ ท่ใี หถ้ ือปฏบิ ตั ิ
ตามกฎหมาย ระเบยี บ คำ�สงั่ ในเรอ่ื งการจดั เกบ็ เอกสาร การสอบเขตทด่ี ิน การออกหนังสอื
แสดงสทิ ธใิ นทีด่ นิ
เรยี น ผู้ว่าราชการจงั หวดั ทกุ จังหวัด
อ้างถึง ๑. ระเบียบกรมที่ดนิ ว่าด้วยการจัดเกบ็ หนงั สือแสดงสิทธิในทด่ี นิ สารบบท่ดี ิน และ
สารบบส่งิ ปลูกสร้าง พ.ศ. ๒๕๕๕
๒. ระเบยี บกรมทด่ี นิ ว่าดว้ ยการตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดนิ การขอคัด ขอถา่ ยสำ�เนา
เอกสาร และการตรวจสอบหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๕๖
๓. ระเบียบกรมทด่ี ิน ว่าดว้ ยการตรวจหลกั ฐานทะเบยี นท่ีดิน การขอคดั ขอถา่ ยส�ำ เนา
เอกสาร และการตรวจสอบหลักทรัพย์ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗
๔. ระเบียบกรมท่ีดนิ ว่าดว้ ยการตรวจหลกั ฐานทะเบียนทีด่ ิน การขอคดั ขอถ่ายส�ำ เนา
เอกสาร และการตรวจสอบหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๕๖ (แกไ้ ขเพิ่มเติมถงึ ปจั จุบนั (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๗)

ด้วยในการประชุมร่วมกันระหว่างกรมที่ดิน  กรมป่าไม้  กรมอุทยานแห่งชาติ
สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๕๗
ตามขอ้ สง่ั การของรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ทป่ี ระชมุ ขอความรว่ มมอื จากกรมทด่ี นิ
ในเรอ่ื งการตรวจสอบทด่ี นิ การคดั ถา่ ยส�ำ เนาสารบบทด่ี นิ และเอกสารทเ่ี กย่ี วขอ้ ง และขอใหส้ ง่ั การ
ให้เจ้าหนา้ ท่ีปฏิบตั ิตามกฎหมาย ระเบียบ คำ�สง่ั ในเรือ่ งการจดั เกบ็ เอกสาร การสอบเขตท่ีดนิ
การออกหนังสือแสดงสิทธใิ นท่ีดนิ อยา่ งเคร่งครัด ประกอบกับกระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ
สิ่งแวดล้อมมีหนังสือ  ด่วนที่สุด  ที่  ทส  ๐๙๑๐.๑๒๑/๒๒๔๔  ลงวันที่  ๘  ตุลาคม  ๒๕๕๗
ขอความอนุเคราะห์จากกระทรวงมหาดไทยแจ้งกรมที่ดินให้สั่งกำ�ชับสำ�นักงานท่ีดินทุกจังหวัด
ใหค้ วามรว่ มมอื และอ�ำ นวยความสะดวกแกเ่ จา้ หนา้ ทก่ี ระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม
ตามค�ำ ร้องขอในการคดั ถ่ายสำ�เนาสารบบทด่ี นิ และเอกสารอื่นๆ

๖๔๘

กรมที่ดินพิจารณาแล้วเพื่อเป็นการให้ความร่วมมือกับส่วนราชการดังกล่าว
จึงขอให้จงั หวัดไดส้ ่ังการให้เจ้าหนา้ ทีก่ รมที่ดินถือปฏบิ ัติ ดงั น้ี
๑. ให้ความร่วมมือและอำ�นวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าท่ีกระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม ในเรือ่ งการตรวจสอบทีด่ นิ การคดั ถา่ ยสำ�เนาสารบบทดี่ ินและเอกสาร
อืน่ ๆ ตามที่ไดม้ ีการประสานงานและรอ้ งขอเปน็ หนงั สือ และหากพบว่าไมม่ กี ารระบรุ ายละเอยี ด
ของทด่ี นิ แปลงทข่ี อตรวจสอบ ขอคดั ถา่ ยส�ำ เนาสารบบทด่ี นิ และเอกสารอน่ื ๆ ใหเ้ จา้ หนา้ ทก่ี รมทด่ี นิ
แจง้ ใหเ้ จา้ หนา้ ทก่ี ระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มผรู้ บั ผดิ ชอบในการประสานงานทราบ
เพ่ือให้ดำ�เนินการระบุรายละเอียดเพ่ิมเติม  ท้ังนี้  การตรวจสอบหลักฐานทางทะเบียนที่ดิน
ขอคดั ขอถา่ ยสำ�เนาเอกสาร ให้ด�ำ เนินการตามระเบียบกรมทดี่ นิ ฯ ท่อี า้ งถึง ๒. , ๓. และ ๔.
๒. กรณีที่หน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมมีหนังสือ
ขอความรว่ มมอื ในการตรวจสอบรายชอ่ื ผมู้ สี ทิ ธใิ นทด่ี นิ ใหส้ �ำ นกั งานทด่ี นิ เรง่ ด�ำ เนนิ การตรวจสอบ
และแจง้ ผลการตรวจสอบให้หนว่ ยงานทราบภายใน ๑๕ วัน นับแตว่ นั ทไ่ี ดร้ บั หนงั สือ
๓. การจดั เกบ็ หนังสอื แสดงสทิ ธใิ นทดี่ นิ สารบบที่ดนิ และสารบบสิง่ ปลกู สร้าง
ให้ถือปฏิบตั ติ ามระเบียบกรมท่ดี นิ ฯ ทอ่ี า้ งถงึ ๑. อยา่ งเครง่ ครัด กรณีเป็นเร่ืองท่สี ำ�คญั หรอื อยูใ่ น
ความสนใจของประชาชน ให้แยกเอกสารดงั กลา่ วมาจดั เกบ็ ไว้ พร้อมหมายเหตุในบัญชวี า่ ไดน้ �ำ
เอกสารดังกล่าวไปจัดเกบ็ ไวอ้ ย่างไร ท้ังนี้เพื่อป้องกนั เอกสารสูญหาย และหากตรวจสอบพบว่า
เอกสารของทางราชการสญู หาย ให้ด�ำ เนนิ การสอบสวนข้อเทจ็ จรงิ และพิจารณาโทษเจา้ หน้าที่
ผเู้ ก่ยี วขอ้ งตามระเบียบ
๔. การรงั วดั สอบเขตท่ดี ิน การรังวดั ออกหนังสอื แสดงสิทธใิ นท่ีดิน ให้เจ้าหนา้ ท่ี
ถอื ปฏบิ ตั ิตามกฎหมาย ระเบยี บ คำ�สั่ง อยา่ งเครง่ ครดั หากมกี ารแกไ้ ขหรือเพิกถอนหนงั สือแสดง
สทิ ธใิ นทด่ี ิน ใหด้ ำ�เนินการสอบสวนขอ้ เทจ็ จรงิ และพิจารณาโทษเจา้ หน้าทีผ่ ู้เก่ียวขอ้ ง
ทัง้ น้ี การดำ�เนนิ การดงั กลา่ วเป็นนโยบายของผ้บู ริหารท่ใี หห้ น่วยงานทีเ่ ก่ียวขอ้ ง
ทำ�ความตกลงร่วมกันในการปฏิบัติงาน  จึงขอให้เจ้าพนักงานที่ดินให้ความสำ�คัญกับนโยบาย
ดังกลา่ วด้วย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีในสังกัดกรมที่ดินทราบและ
ด�ำ เนนิ การในส่วนทเี่ กี่ยวขอ้ งตอ่ ไป
ขอแสดงความนับถอื
(ลงชือ่ ) ศิรพิ งษ์ หา่ นตระกลู
(นายศิรพิ งษ ์ หา่ นตระกูล)
อธบิ ดีกรมทีด่ ิน

ส�ำ นักมาตรฐานการออกหนงั สือส�ำ คัญ
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๘๑๒ โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๓๙๘

๖๔๙

ท่ี มท ๐๕๑๖.๕ / ว ๒๔๒๙๐ (สำ�เนา)
กรมทด่ี นิ
ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทงุ่ สองหอ้ ง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๒ ธนั วาคม ๒๕๕๗

เรอื่ ง ซ้อมความเข้าใจในการปฏิบัตงิ านโครงการพัฒนามาตรฐานแผนท่รี ูปแปลงโฉนดทด่ี ินและ
เร่งรดั การออกโฉนดท่ดี นิ ใหค้ รอบคลุมท่ัวประเทศ ดว้ ยเทคโนโลยกี ารรงั วดั ระบบดาวเทยี ม
RTK ให้แล้วเสรจ็ ภายใน ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๗)
เรียน ผวู้ ่าราชการจังหวดั ทกุ จังหวัด
อา้ งถึง ระเบยี บกรมทดี่ นิ วา่ ด้วยการเดินสำ�รวจออกโฉนดที่ดินและสอบเขตท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๔๓

ตามท่ีกรมท่ีดินได้จัดทำ�โครงการพัฒนามาตรฐานแผนท่ีรูปแปลงโฉนดที่ดินและ
เรง่ รดั การออกโฉนดทีด่ ินใหค้ รอบคลุมท่ัวประเทศ ด้วยเทคโนโลยีการรังวดั ระบบดาวเทยี ม  RTK
ให้แล้วเสรจ็ ภายใน ๑๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๕๘ – ๒๕๖๗) และมีระเบียบกรมท่ีดนิ ฯ ทีอ่ า้ งถึง วางแนวทาง
ในการดำ�เนนิ การเดินสำ�รวจสอบเขตท่ดี นิ ตามมาตรา ๖๙ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดนิ ไวแ้ ลว้ นน้ั
กรมท่ีดินพิจารณาแล้วเห็นว่า  ในการดำ�เนินการเดินสำ�รวจสอบเขตที่ดินตาม
มาตรา ๖๙ แหง่ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ นอกจากระเบียบกรมทดี่ นิ ฯ ทอ่ี ้างถงึ แล้ว ยังมรี ะเบียบ
คำ�สั่ง  และหนังสือเวียนกรมที่ดินในหลายๆ  เรื่องท่ีเก่ียวข้อง  และเพ่ือให้การปฏิบัติงานของ
พนกั งานเจ้าหนา้ ที่เป็นไปในแนวทางเดยี วกัน กรมทีด่ นิ จงึ ขอซ้อมความเข้าใจแนวทางปฏบิ ัติ ดงั นี้
๑. ตามมาตรา ๖๙ วรรคหนง่ึ แห่งประมวลกฎหมายที่ดนิ บญั ญตั วิ า่ “เม่ือเปน็
การสมควรจะทำ�การสอบเขตท่ีดินตามแผนที่ระวางในท้องท่ีใด  ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศ
ใหผ้ ู้มีสิทธใิ นทดี่ ินทราบล่วงหนา้ ไม่น้อยกวา่ สบิ ห้าวนั ...” ดังนนั้ ในการเสนอเรื่องใหผ้ ู้วา่ ราชการ
จงั หวดั ประกาศแผนทีร่ ะวางทจี่ ะทำ�การเดนิ ส�ำ รวจสอบเขตทด่ี นิ ขอให้เสนอค�ำ สัง่ มอบอำ�นาจไป
ในคราวเดียวกัน  เพ่ือให้ผู้อำ�นวยการศูนย์เดินสำ�รวจออกโฉนดท่ีดินเป็นผู้รับมอบอำ�นาจจาก
ผู้ว่าราชการจังหวัด  ให้เป็นผู้ทำ�หนังสือแจ้งกำ�หนดวันทำ�การรังวัดเดินสำ�รวจสอบเขตที่ดิน
ใหผ้ ้มู ีสทิ ธใิ นท่ดี นิ ทราบล่วงหน้าไมน่ ้อยกวา่ สิบห้าวัน และใหเ้ กบ็ หลักฐานการแจง้ ผ้มู ีสทิ ธใิ นท่ดี ิน
ไวใ้ นเร่อื งราวการเดนิ ส�ำ รวจสอบเขตที่ดนิ
๒. กรณีที่ผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงได้รับการติดต่อจากพนักงานเจ้าหน้าที่ให้มา
ระวังแนวเขตแล้ว  แต่ไม่มาหรือมาแต่ไม่ยอมลงช่ือรับรองแนวเขตโดยไม่คัดค้านการรังวัด  และ
กรณีไม่อาจติดต่อผู้มีสิทธิในท่ีดินข้างเคียงให้มาระวังแนวเขตได้  ให้ถือปฏิบัติตามกฎกระทรวง

๖๕๐

ฉบบั ท่ี๓๑ (พ.ศ. ๒๕๒๑) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
และระเบียบกรมที่ดิน  ว่าด้วยการติดต่อหรือการแจ้งผู้มีสิทธิในที่ดินข้างเคียงให้มาลงชื่อรับรอง
แนวเขตหรือคดั คา้ นการรังวัด พ.ศ. ๒๕๒๑ โดยอนุโลม
๓. กรณีโฉนดที่ดินเดิมมีทางสาธารณประโยชน์  ทางหลวง  หรือคลอง
สาธารณประโยชน์ตัดผ่าน  ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกรมท่ีดิน  ว่าด้วยการออกโฉนดท่ีดิน  กรณี
ทม่ี ีทางสาธารณประโยชน์ ทางหลวง หรอื คลองชลประทานตดั ผ่าน พ.ศ. ๒๕๒๒ และหนงั สือ
กรมที่ดนิ ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๑๐๔๖๔ ลงวันท่ี ๕ เมษายน ๒๕๔๙ เรอื่ ง การจดทะเบยี นแบง่ เปน็
ท่สี าธารณประโยชน์ (ทางสาธารณประโยชน์) โดยอนโุ ลม
๔. ในการเดนิ สำ�รวจสอบเขตที่ดนิ ห้ามมใิ หด้ �ำ เนนิ การรังวดั แบง่ แยกในนามเดิม
รังวัดแบ่งกรรมสิทธ์ิรวม  เนื่องจากมาตรา  ๖๙  แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน  ไม่ได้บัญญัติ
ใหด้ �ำ เนนิ การได้
๕. ในการสอบเขตท่ดี นิ ตามมาตรา ๖๙ แหง่ ประมวลกฎหมายทดี่ นิ ใหเ้ รยี กเกบ็
ค่าใช้จา่ ยเฉพาะค่าหลักเขตทดี่ ิน แปลงละ ๖๐ บาท ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑)
ออกตามความในพระราชบญั ญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ.๒๔๙๗ ขอ้ ๑ (๑๐) (ฌ)
๖. ตามมาตรา ๖๙ วรรคสาม แหง่ ประมวลกฎหมายท่ีดนิ บัญญตั วิ า่ “ท่ดี ิน
ที่ได้ทำ�การสอบเขตท่ีดินแล้ว  ให้เจ้าพนักงานที่ดินมีอำ�นาจทำ�โฉนดที่ดินให้ใหม่แทนฉบับเดิม
สว่ นฉบบั เดิมเป็นอนั ยกเลิกและให้สง่ คืน” และตามหนงั สอื กรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๖๐๙/ว ๔๒๐๑๔
ลงวนั ที่ ๑๖ ธันวาคม ๒๕๑๙ เรอื่ ง การท�ำ โฉนดท่ดี นิ ใหม่ในกรณีสอบเขตทีด่ ิน วางแนวทาง
ปฏบิ ัติว่า เม่อื ไดท้ �ำ โฉนดทดี่ ินใหม่แลว้ ใหเ้ จา้ พนกั งานท่ีดนิ แจ้งเปน็ หนงั สือลงทะเบยี นตอบรับ
ไปยงั ผูม้ ีสิทธิในท่ดี นิ เพ่อื ให้ทราบว่าโฉนดทีด่ ินฉบบั เดิมถูกยกเลิก และใหส้ ่งคืน ซึ่งการยกเลกิ
โฉนดทด่ี นิ เดมิ เปน็ ค�ำ สง่ั ทางปกครองอนั จะมผี ลตอ่ เมอ่ื ไดแ้ จง้ ใหเ้ จา้ ของทด่ี นิ รบั ทราบ ตามพระราช
บญั ญัตวิ ิธีปฏิบัตริ าชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ มาตรา ๔๒ ดังนนั้ โฉนดทดี่ ินเดมิ จึงมผี ล
เป็นการยกเลิก เมอื่ ไดม้ กี ารจดั ท�ำ โฉนดท่ีดินใหมแ่ ละแจง้ ใหเ้ จา้ ของท่ดี นิ รบั ทราบแลว้
จงึ เรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจ้งให้เจา้ หน้าท่ใี นสงั กดั กรมทด่ี นิ ทราบ พร้อมท้งั
ดำ�เนนิ การในสว่ นท่ีเกี่ยวข้องตอ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอื่ ) ศริ พิ งษ์ หา่ นตระกลู
(นายศิริพงษ ์ ห่านตระกลู )
อธบิ ดกี รมท่ดี นิ

สำ�นกั มาตรฐานการออกหนังสอื สำ�คัญ
โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๘๑๒ โทรสาร ๐ ๒๕๐๓ ๓๓๙๘

๖๕๑

๖๕๒

บัญชรี ายชือ่ หนงั สือเวียน ระเบียบ และค�ำ สง่ั ตา่ งๆ
ส�ำ นักสง่ เสริมธรุ กิจอสังหารมิ ทรัพย์
ประจ�ำ ปี พ.ศ. ๒๕๕๗

๑. เลขท่ีหนงั สอื เวียน ช่ือเร่ือง หน้า
ล�ำ ดับท่ี ระเบยี บ คำ�สัง่

๒. ลงวัน เดือน ปี

๑. ท่ี มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๕๙๔๗ แตง่ ตง้ั กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นคณะกรรมการ ๖๕๕
ลว. ๑๗ เม.ย. ๕๗ จัดสรรทีด่ ินจังหวดั

๒. ท่ี มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๑๓๐๙๔ การยึดท่ีดินสาธารณูปโภคในโครงการ ๖๕๖
ลว. ๑๗ ก.ค. ๕๗ จดั สรรท่ดี ินออกขายทอดตลาด

๓. ที่ มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๑๔๖๐๖ ปัญหาการจัดตงั้ นิตบิ คุ คลหมูบ่ า้ นจัดสรร ๖๖๑
ลว. ๔ ส.ค. ๕๗ กรณีโครงการที่มิได้รับใบอนญุ าต

๔. ที่ มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๒๔๑๓๙ ขอผอ่ นผันการด�ำ เนินการรงั วดั แบ่งแยกทด่ี ิน ๖๖๕
ลว. ๑ ธ.ค. ๕๗ ก่อนไดร้ ับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการ


๖๕๓

๖๕๔

ที่ มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๕๙๔๗ (ส�ำ เนา)
กรมท่ดี ิน
ศนู ย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจง้ วฒั นะ
แขวงทุง่ สองห้อง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๗ เมษายน ๒๕๕๗

เร่อื ง แต่งตง้ั กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒใิ นคณะกรรมการจดั สรรท่ีดินจงั หวดั
เรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดทกุ จังหวดั
อา้ งถึง หนังสือกรมทีด่ ิน ท่ี มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๒๖๓๕๐ ลงวนั ที่ ๖ กนั ยายน ๒๕๔๗

ตามหนงั สือท่ีอ้างถงึ ให้จงั หวัดพจิ ารณาเสนอรายช่อื ผ้ทู ่สี มควรไดร้ ับการแตง่ ต้ัง
เปน็ กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ใิ นคณะกรรมการจดั สรรทด่ี นิ จงั หวดั ตามมาตรา ๑๓ แหง่ พระราชบญั ญตั ิ
การจัดสรรที่ดิน  พ.ศ. ๒๕๔๓  โดยให้พิจารณาจากภาคเอกชนซ่ึงไม่ได้เป็นผู้จัดสรรท่ีดิน  และ
เป็นผูม้ คี วามรู้ ความสามารถ หรือประสบการณ์ในดา้ นการพัฒนาอสังหาริมทรพั ย์ การผังเมือง
การบรหิ ารชมุ ชน หรอื กฎหมาย ใหก้ รมทด่ี นิ พจิ ารณาเพอ่ื เสนอปลดั กระทรวงมหาดไทยแตง่ ตง้ั นน้ั
กรมท่ีดินขอเรียนว่า รายชอ่ื ผ้ทู ี่สมควรได้รบั การแตง่ ต้งั จากหลายจงั หวดั มไิ ด้มา
จากภาคเอกชน แตเ่ ป็นข้าราชการ พนกั งานของรัฐทไ่ี ดร้ บั เงินเดอื นจากงบประมาณตามระเบียบ
ของกระทรวงการคลัง หรือพนกั งานรฐั วิสาหกจิ อาทเิ ช่น ผใู้ หญบ่ า้ น ก�ำ นัน สมาชกิ องคก์ าร
ปกครองสว่ นท้องถน่ิ หรอื องคก์ ารบริหารสว่ นจังหวดั อาจารยป์ ระจำ�มหาวทิ ยาลัยของรฐั และ
พนักงานธนาคารของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ  จึงต้องส่งกลับไปแก้ไข  ซึ่งอาจทำ�ให้เกิดความล่าช้า
และไม่ทันกำ�หนดเวลาในการพิจารณาดำ�เนินการของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด  ดังนั้น
จึงขอให้จังหวัดพิจารณาการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการจัดสรรท่ีดินจังหวัด
ภาคเอกชน และเปน็ ผู้มคี วามรู้ ความสามารถ และประสบการณเ์ ฉพาะดา้ นตามทีก่ ำ�หนดไวใ้ น
บทบญั ญตั ิของกฎหมาย ทง้ั นี้ ขอใหส้ ง่ สำ�เนาบตั รประจ�ำ ตัวประชาชน ส�ำ เนาทะเบยี นบ้านพร้อม
รับรองเอกสาร และบญั ชรี ายชอ่ื กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิเพื่อประกอบการพิจารณาดว้ ย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ  และแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีทราบและถือปฏิบัติ
ตอ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอ่ื ) พนิ ิจ หาญพาณิชย์
(นายพนิ ิจ หาญพาณิชย)์
อธิบดีกรมทดี่ นิ
ส�ำ นกั ส่งเสริมธรุ กิจอสังหาริมทรัพย์
โทร. ๐–๒๑๔๑–๕๘๑๑ โทรสาร ๐–๒๑๔๓–๙๐๕๓

๖๕๕

ที่ มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๑๓๐๙๔ (สำ�เนา)
กรมท่ีดนิ
ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ด ี ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทงุ่ สองหอ้ ง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗

เรือ่ ง การยดึ ทีด่ ินสาธารณูปโภคในโครงการจดั สรรทีด่ นิ ออกขายทอดตลาด
เรียน ผู้วา่ ราชการจงั หวัดทุกจงั หวัด
สงิ่ ที่ส่งมาดว้ ย คำ�พิพากษาศาลฎีกา ท่ี ๕๘๗๖/๒๕๕๑

ดว้ ยมปี ระเดน็ ปญั หากรณที เ่ี จา้ หนต้ี ามค�ำ พพิ ากษา ไดม้ กี ารน�ำ ยดึ ทด่ี นิ สาธารณปู โภค
ในโครงการจัดสรรท่ีดินของลูกหน้ีแล้วนำ�ไปขายทอดตลาดว่า  กรณีดังกล่าวสามารถดำ�เนินการ
ได้หรอื ไม ่ อยา่ งไร และเป็นการขัดต่อพระราชบญั ญตั กิ ารจดั สรรที่ดนิ พ.ศ. ๒๕๔๓ หรือไม่
กรมที่ดนิ พจิ ารณาแลว้ เห็นว่า กรณดี ังกลา่ วได้มแี นวคำ�พิพากษาวนิ จิ ฉัยไว้ตาม
คำ�พพิ ากษาศาลฎกี า ที่ ๕๘๗๖/๒๕๕๑ สรปุ ได้วา่ พระราชบัญญัติการจัดสรรทดี่ ิน พ.ศ. ๒๕๔๓
ได้กำ�หนดให้ผู้จัดสรรที่ดินมีหน้าท่ีในการบำ�รุงรักษาสาธารณูปโภคและบริการสาธารณะให้คง
สภาพเดิม รวมทงั้ จ�ำ กัดการใชส้ ทิ ธิในการท�ำ นติ กิ รรมของผู้จัดสรรที่ดนิ ในลักษณะทจี่ ะก่อใหเ้ กิด
ภาระผกู พนั แกท่ ด่ี นิ อนั เปน็ สาธารณปู โภค และทด่ี นิ ทใ่ี ชเ้ พอ่ื บรกิ ารสาธารณะในโครงการจดั สรรทด่ี นิ
เนื่องจากหากให้ผู้จัดสรรท่ีดินทำ�นิติกรรมก่อให้เกิดภาระผูกพันแก่ท่ีดินส่วนที่เป็นสาธารณูปโภค
โดยพลการ อาจท�ำ ให้ผซู้ ื้อทด่ี ินในโครงการจัดสรรท่ดี นิ ไดร้ บั ความเสยี หาย ไมไ่ ดใ้ ชป้ ระโยชน์จาก
ท่ีดินส่วนท่ีเป็นสาธารณูปโภคอีกต่อไป  หรือได้ใช้อย่างมีเง่ือนไขหรือมีข้อจำ�กัด  ทำ�ให้ไม่ได้รับ
ความสะดวกในการใช้ กฎหมายจงึ บัญญตั ใิ หก้ ารทำ�นติ กิ รรมในลักษณะดงั กล่าวตอ้ งไดร้ ับความ
ยินยอมจากคณะกรรมการก่อน  ซ่ึงการขายทอดตลาดท่ีดินส่วนท่ีเป็นสาธารณูปโภคถือว่าเป็น
การทำ�นิติกรรมท่ีก่อให้เกิดภาระผูกพันแก่ที่ดินด้วย  ดังนั้น  เมื่อไม่ปรากฏว่าการยึดที่ดินพิพาท
ออกขายทอดตลาดไดร้ ับความยินยอมเป็นหนงั สือจากคณะกรรมการ การยดึ ท่ีดินพิพาทออกขาย
ทอดตลาดจึงต้องห้ามตามพระราชบญั ญตั ิการจดั สรรท่ีดนิ พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๓๐ วรรคสอง
และมาตรา ๓๓ วรรคหน่ึง
ดังนั้น  หากมีกรณีการแจ้งยึดและระงับการทำ�นิติกรรมในท่ีดินส่วนท่ีเป็น
สาธารณูปโภคของโครงการจัดสรรที่ดิน  ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีแจ้งให้ผู้ขอยึดและระงับการทำ�
นติ ิกรรมทราบวา่ ที่ดินนัน้ เป็นสาธารณูปโภคของโครงการจัดสรรทดี่ นิ ซึง่ ตอ้ งปฏบิ ัตติ ามพระราช
บัญญัตกิ ารจัดสรรทดี่ ิน พ.ศ. ๒๕๔๓ ตามแนวค�ำ พพิ ากษาศาลฎีกาข้างต้นด้วย

๖๕๖

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดแจ้งให้เจ้าหน้าท่ีที่เก่ียวข้องทราบ  และถือเป็นแนวทาง
ปฏบิ ัตติ ่อไป

ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชอ่ื ) พีระศกั ด์ิ หินเมอื งเก่า
(นายพรี ะศกั ด์ ิ หนิ เมอื งเกา่ )
ผ้วู า่ ราชการจังหวัดชุมพร รกั ษาการในต�ำ แหนง่
อธิบดกี รมท่ดี ิน

สำ�นกั ส่งเสรมิ ธุรกิจอสงั หารมิ ทรัพย์
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๐๕
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๕๓

๖๕๗

ค�ำ พพิ ากษาศาลฎีกาท่ี ๕๘๗๖/๒๕๕๑ นางอนงค ์ สวรรค์วฒั นกลุ โจทก์
บรษิ ทั พาราไดซ์ ปาลม์ จำ�กดั จำ�เลย

ป.วิ.พ. มาตรา ๒๙๖
พ.ร.บ.การจัดสรรท่ดี ิน พ.ศ.๒๕๔๓ มาตรา ๓๐, ๓๓, ๔๑, ๔๓

โจทก์เป็นเจ้าหน้ีตามคำ�พิพากษาในมูลหน้ีสัญญาจะซื้อจะขายจำ�นวน
๒๐๔,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบีย้ ในอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วนั ฟ้องจนกวา่ จะช�ำ ระเสรจ็
โจทก์นำ�ยึดท่ีดินพิพาทส่วนท่ีเป็นสาธารณูปโภคซ่ึงมีราคาประเมิน  ๑๓,๐๕๘,๖๐๐  บาท  และ
ปรากฏในสำ�นวนว่ามีผู้ซ้ือได้จากการขายทอดตลาดในราคา  ๓,๙๒๐,๐๐๐  บาท  โดยมีการทำ�
หนงั สอื สัญญาซอ้ื ขายทด่ี นิ กับเจา้ พนกั งานบังคบั คดี เมือ่ วันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๔๗ ตามเอกสาร
ทา้ ยฎกี า หมายเลข ๖ แต่ไมป่ รากฏวา่ การยึดท่ดี นิ พิพาทออกขายทอดตลาดไดร้ ับความยนิ ยอม
เปน็ หนงั สอื จากคณะกรรมการจดั สรรทด่ี นิ กลาง การยดึ ทด่ี นิ พพิ าทออกขายทอดตลาดจงึ ตอ้ งหา้ ม
ตาม พ.ร.บ.การจัดสรรทด่ี นิ พ.ศ.๒๕๔๓ มาตรา ๓๐​ วรรคสอง และมาตรา ๓๓​ วรรคหน่งึ และกรณี
ไมต่ อ้ งดว้ ย พ.ร.บ.การจัดสรรทีด่ นิ พ.ศ.๒๕๔๓ มาตรา ๔๑ วรรคทา้ ย เพราะการยดึ ทดี่ ินพพิ าท
ออกขายทอดตลาดในคดีนี้มิใช่การยึดและขายทอดตลาดที่ดินจัดสรรท้ังโครงการซึ่งกฎหมาย
บัญญัติให้ผู้ซื้อท่ีดินจัดสรรจากการขายทอดตลาดต้องรับโอนใบอนุญาตให้ทำ�การจัดสรรท่ีดิน
รวมท้งั รบั โอนสิทธิและหน้าทท่ี ผ่ี ู้จัดสรรทดี่ นิ มีต่อผซู้ ื้อทีด่ นิ จดั สรร โจทกจ์ งึ ไมม่ สี ิทธิยดึ ท่ดี นิ พพิ าท
ของจำ�เลยเพ่อื น�ำ ออกขายทอดตลาดได้

___________________________

คดีสืบเนื่องมาจากศาลช้ันต้นพิพากษาให้จำ�เลยชำ�ระเงิน  ๒๐๔,๐๐๐  บาท
พรอ้ มดอกเบยี้ อตั รารอ้ ยละ ๗.๕ ต่อปี นับแตว่ นั ฟอ้ งจนกว่าจะชำ�ระเสรจ็ แกโ่ จทก์ และให้จ�ำ เลย
ใช้คา่ ฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยก�ำ หนดคา่ ทนายความ ๒,๐๐๐ บาท แตจ่ ำ�เลยไมช่ �ำ ระหนี้
ตามค�ำ พิพากษา โจทก์ขอใหบ้ ังคบั คดี เจา้ พนกั งานบงั คับคดียดึ ทด่ี ินพิพาทโฉนดเลขท่ี ๑๖๒๐๑
ต�ำ บลบางหญ้าแพรก อ�ำ เภอเมอื งสมุทรสาคร จงั หวดั สมุทรสาคร ออกขายทอดตลาดเพอ่ื น�ำ เงิน
มาช�ำ ระหนแ้ี ก่โจทก์
จ�ำ เลยยืน่ คำ�ร้องขอให้เพิกถอนการยึดทีด่ ินพิพาท
โจทกย์ ืน่ ค�ำ คัดค้านขอให้ยกคำ�ร้อง
ศาลชั้นต้นมคี ำ�สัง่ ยกค�ำ รอ้ ง ค่าฤชาธรรมเนยี มใหเ้ ปน็ พับ

๖๕๘

จ�ำ เลยอุทธรณ์คำ�สั่ง
ศาลอุทธรณภ์ าค ๗ พพิ ากษากลับ ใหเ้ พิกถอนการยดึ ทด่ี ินโฉนดเลขท่ี ๑๖๒๐๑
ตำ�บลบางหญ้าแพรก อำ�เภอเมอื งสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ใหโ้ จทก์ใช้คา่ ฤชาธรรมเนยี ม
ทั้งสองศาลแทนจำ�เลย โดยก�ำ หนดคา่ ทนายความรวม ๔,๐๐๐ บาท
โจทกฎ์ ีกา
ศาลฎกี าวนิ จิ ฉัยวา่ มปี ัญหาต้องวนิ จิ ฉัยตามฎีกาของโจทก์วา่ มีเหตุทีจ่ ะเพกิ ถอน
การยึดที่ดินพิพาทซึ่งเป็นถนนในโครงการจัดสรรท่ีดินพาราไดซ์สปริงซ์ที่จำ�เลยได้รับอนุญาตให้
ทำ�การจัดสรรทด่ี ินได้หรือไม่ เห็นวา่ พระราชบัญญัตกิ ารจดั สรรทีด่ ิน พ.ศ. ๒๕๔๓ มาตรา ๔๓
วรรคหน่งึ บัญญตั วิ ่า สาธารณปู โภคท่ผี ้จู ดั สรรท่ีดินไดจ้ ดั ใหม้ ขี ึน้ เพอื่ การจดั สรรที่ดนิ ตามแผนผงั
และโครงการที่ได้รบั อนญุ าต เชน่ ถนน สวน สนามเดก็ เลน่ ให้ตกอยใู่ นภาระจำ�ยอมเพอ่ื ประโยชน์
แก่ที่ดินจัดสรร  และให้เป็นหน้าที่ของผู้จัดสรรที่ดินที่จะบำ�รุงรักษาสาธารณูปโภคดังกล่าวให้
คงสภาพดงั เชน่ ทไ่ี ดจ้ ดั ท�ำ ขน้ึ นน้ั ตอ่ ไป และจะกระท�ำ การใดอนั เปน็ เหตใุ หป้ ระโยชนแ์ หง่ ภาระจ�ำ ยอม
ลดไปหรือเสื่อมความสะดวกมิได้  วรรคสอง  บัญญัติว่าให้ผู้จัดสรรที่ดินจัดหาธนาคารหรือ
สถาบนั การเงนิ มาท�ำ สญั ญาคา้ํ ประกนั การบ�ำ รงุ รกั ษาสาธารณปู โภคซง่ึ ผจู้ ดั สรรทด่ี นิ ไดจ้ ดั ใหม้ ขี น้ึ
และยงั อยใู่ นความรบั ผดิ ชอบในการบ�ำ รงุ รกั ษาของผจู้ ดั สรรทด่ี นิ ตามวรรคหนง่ึ กบั คณะกรรมการ...
และมาตรา ๓๓​ วรรคหนึง่ บัญญตั วิ ่า เม่ือได้รบั ใบอนญุ าตแลว้ ห้ามมิให้ผู้จัดสรรที่ดนิ ท�ำ นติ ิกรรม
กับบุคคลใดอันก่อให้เกิดภาระผูกพันแก่ที่ดินอันเป็นสาธารณูปโภคและท่ีดินที่ใช้เพื่อบริการ
สาธารณะ เวน้ แตจ่ ะได้รับอนุญาตเป็นหนงั สือจากคณะกรรมการ ทั้งนี้ ใหเ้ ป็นไปตามหลกั เกณฑ์
และวิธีการที่คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางกำ�หนด  บทบัญญัติดังกล่าวเป็นการกำ�หนดหน้าที่
ของผจู้ ัดสรรท่ดี นิ ท่ีจะตอ้ งบำ�รงุ รกั ษาสาธารณปู โภคและบริการสาธารณะให้คงสภาพเดมิ รวมทง้ั
จำ�กัดการใช้สิทธิในการทำ�นิติกรรมของผู้จัดสรรท่ีดินในลักษณะที่จะก่อให้เกิดภาระผูกพัน
แก่ท่ีดินอันเป็นสาธารณูปโภคและท่ีดินที่ใช้เพ่ือบริการสาธารณะในโครงการจัดสรรท่ีดินใน
อันที่จะได้ใช้บริการจากที่ดินส่วนท่ีเป็นสาธารณูปโภคตามท่ีผู้จัดสรรท่ีดินได้จัดให้มีข้ึนตาม
แผนผงั และโครงการที่ไดร้ ับอนุญาต นอกจากน้มี าตรา  ๓๐  วรรคสอง ยงั บญั ญตั ิวา่ ให้ทดี่ ิน
อันเป็นสาธารณูปโภคและท่ีดินที่ใช้เพ่ือบริการสาธารณะปลอดจากบุริมสิทธิในมูลซื้อขาย
อสงั หารมิ ทรพั ยแ์ ละภาระการจ�ำ นอง ดงั นน้ั หากใหผ้ จู้ ดั สรรทด่ี นิ ท�ำ นติ กิ รรมกอ่ ใหเ้ กดิ ภาระผกู พนั
แก่ที่ดินส่วนที่เป็นสาธารณูปโภคโดยพลการอาจทำ�ให้ผู้ซื้อท่ีดินในโครงการจัดสรรที่ดินได้รับ
ความเดือดร้อนเสียหายไม่ได้ใช้ประโยชน์จากท่ีดินส่วนที่เป็นสาธารณูปโภคอีกต่อไปหรือได้ใช้
อย่างมเี งอ่ื นไข หรอื มขี ้อจำ�กดั ทำ�ใหไ้ มไ่ ดร้ ับความสะดวกในการใช้ กฎหมายจึงบัญญัตใิ ห้การท�ำ
นติ กิ รรมในลกั ษณะดงั กลา่ วตอ้ งไดร้ บั ความยนิ ยอมเปน็ หนงั สอื จากคณะกรรมการจดั สรรทด่ี นิ กลาง
และกรณกี ารบงั คบั คดแี กท่ ด่ี นิ สว่ นทเ่ี ปน็ สาธารณปู โภคกต็ อ้ งมกี ารน�ำ ทด่ี นิ สว่ นทเ่ี ปน็ สาธารณปู โภค

๖๕๙

ออกขายทอดตลาดเพื่อนำ�เงินมาชำ�ระหนี้ตามคำ�พิพากษาและในท่ีสุดก็ต้องมีการทำ�นิติกรรม
โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวให้แก่ผู้ประมูลได้  การขายทอดตลาดท่ีดินส่วนที่เป็นสาธารณูปโภค
จึงถือว่าเป็นการทำ�นิติกรรมท่ีก่อให้เกิดภาระผูกพันแก่ที่ดินด้วยจึงต้องปฏิบัติตามบทกฎหมาย
ดังที่กล่าวมาแล้วคดีนี้ข้อเท็จจริงได้ความว่า โจทก์เป็นเจ้าหนี้ตามคำ�พิพากษาในมูลหนี้สัญญา
จะซอ้ื จะขายจ�ำ นวน ๒๐๔,๐๐๐ บาท พรอ้ มดอกเบย้ี ในอตั รารอ้ ยละ ๗.๕ ตอ่ ป ี นบั แตว่ นั ฟอ้ งจนกวา่
จะช�ำ ระเสรจ็ โจทกน์ �ำ ยดึ ทด่ี นิ พพิ าทสว่ นทเ่ี ปน็ สาธารณปู โภคซง่ึ มรี าคาประเมนิ ๑๓,๐๕๘,๖๐๐ บาท
และปรากฏในส�ำ นวนว่ามผี ซู้ อื้ ไดจ้ ากการขายทอดตลาดในราคา ๓,๙๒๐,๐๐๐ บาท โดยมกี าร
ทำ�หนังสอื สญั ญาซื้อขายทดี่ นิ กับเจ้าพนักงานบงั คบั คดี เมอื่ วันท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๔๗ ตามเอกสาร
ทา้ ยฎกี าหมายเลข ๖ แต่ไมป่ รากฏวา่ การยดึ ท่ีดนิ พิพาทออกขายทอดตลาดดังกลา่ วไดร้ ับความ
ยินยอมเป็นหนังสือจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลาง  การยึดท่ีดินพิพาทออกขายทอดตลาด
จงึ ตอ้ งหา้ มตามกฎหมายดงั กลา่ วและกรณกี ไ็ มต่ อ้ งดว้ ยพระราชบญั ญตั กิ ารจดั สรรทด่ี นิ พ.ศ.๒๕๔๓
มาตรา  ๔๑  วรรคท้าย  เพราะการยึดที่ดินพิพาทออกขายทอดตลาดในคดีน้ีมิใช่เป็นการยึดและ
ขายทอดตลาดทด่ี นิ จดั สรรทง้ั โครงการซง่ึ กฎหมายบญั ญตั ใิ หผ้ ซู้ อ้ื ทด่ี นิ จดั สรรจากการขายทอดตลาด
ต้องรับโอนใบอนุญาตให้ทำ�การจัดสรรท่ีดินรวมทั้งรับโอนสิทธิและหน้าท่ีท่ีผู้จัดสรรท่ีดินมีต่อผู้ซื้อ
ทด่ี นิ จัดสรรทศ่ี าลอทุ ธรณภ์ าค ๗ พิพากษามานัน้ ศาลฎกี าเหน็ พ้องดว้ ย ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ข้ึน
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนยี มชั้นฎกี าใหเ้ ป็นพับ

๖๖๐

ที่ มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๑๔๖๐๖ (ส�ำ เนา)
กรมที่ดนิ
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ด ี ถนนแจ้งวฒั นะ
แขวงท่งุ สองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๔ สิงหาคม ๒๕๕๗

เรอื่ ง ปัญหาการจัดตง้ั นิติบุคคลหม่บู ้านจัดสรร กรณโี ครงการทม่ี ไิ ดร้ ับใบอนุญาต
เรยี น ผู้ว่าราชการจังหวดั ทุกจงั หวดั
สิง่ ทส่ี ง่ มาด้วย สำ�เนาสรปุ ยอ่ ค�ำ พิพากษาศาลปกครองสูงสุด คดีหมายเลขแดงท่ี อ.๓๘๙/๒๕๕๖

ดว้ ยมปี ญั หาขอ้ กฎหมายเกย่ี วกบั การจดั ตง้ั นติ บิ คุ คลหมบู่ า้ นจดั สรรตามพระราชบญั ญตั ิ
การจดั สรรทด่ี นิ พ.ศ. ๒๕๔๓ ประการหนง่ึ วา่ โครงการหมบู่ า้ นจดั สรรทม่ี ไิ ดร้ บั ใบอนญุ าตใหท้ �ำ การ
จดั สรรทดี่ ิน จะสามารถดำ�เนนิ การจดั ตั้งนิติบคุ คลหมบู่ ้านจดั สรรได้หรือไม่ น้ัน
กรมทด่ี นิ พจิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ กรณดี งั กลา่ วไดม้ แี นวค�ำ พพิ ากษาศาลปกครองสงู สดุ
คดีหมายเลขแดงท่ี อ.๓๘๙/๒๕๕๖ สรุปได้ว่า การทบี่ รษิ ัทจ�ำ หน่ายทดี่ นิ แปลงย่อยโดยไม่ไดร้ บั
ใบอนุญาตให้ทำ�การจัดสรรที่ดิน  จึงมิใช่ผู้จัดสรรท่ีดินตามมาตรา  ๑  ของประกาศคณะปฏิวัติ
ฉบบั ท่ี ๒๘๖ ลงวนั ท่ี ๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๑๕ เมือ่ ต่อมามกี ารตราพระราชบญั ญัติการจัดสรร
ท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๔๓ และมีผลเปน็ การยกเลกิ ประกาศของคณะปฏวิ ัตฯิ ดงั กลา่ ว ซึ่งบทเฉพาะกาล
ของพระราชบัญญัติการจัดสรรท่ีดิน  พ.ศ. ๒๕๔๓  มาตรา  ๖๙  ได้บัญญัติรับรองสถานะของ
ใบอนุญาตหรือการอนุญาตที่ได้ให้ไว้ตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าว  ยังคงมีผลใช้
บังคบั ได้ต่อไป โดยใหถ้ อื วา่ เปน็ ใบอนญุ าตและการอนญุ าตตามพระราชบญั ญัติการจัดสรรที่ดนิ
พ.ศ. ๒๕๔๓ และมาตรา ๗๐ วรรคหนึ่ง บัญญัติให้นำ�มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๖ มาตรา ๔๗
มาตรา ๔๘ มาตรา ๔๙ มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๑ และมาตรา ๕๒ ของพระราชบัญญัติการ
จัดสรรท่ีดิน  พ.ศ. ๒๕๔๓  มาใช้บังคับแก่การจัดสรรท่ีดินตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับ
ดังกลา่ วโดยอนุโลม และวรรคสามบญั ญตั ิใหน้ ำ�มาตรา ๔๔ ของพระราชบญั ญตั ิการจัดสรรท่ีดิน
พ.ศ. ๒๕๔๓ มาใช้บังคบั ในกรณีเกยี่ วกับการพ้นจากความรับผดิ ในการบำ�รุงรักษาสาธารณปู โภค
ของผ้ไู ดร้ ับใบอนุญาตหรือผู้รบั โอนใบอนุญาตตามประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบับท่ี ๒๘๖ ลงวนั ที่
๒๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๕ หรือผรู้ บั โอนกรรมสิทธ์ทิ ีด่ นิ อันเปน็ สาธารณปู โภค และวรรคส่ี
บัญญัติให้สิทธิผู้ซื้อที่ดินจัดสรรจำ�นวนไม่น้อยกว่าก่ึงหน่ึงของจำ�นวนท่ีดินแปลงย่อยตามแผนผัง
โครงการอาจย่ืนคำ�ขอต่อเจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัดหรือเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสาขา  เพ่ือจัดต้ัง
นติ บิ คุ คลหมบู่ า้ นได้ ในกรณที ผ่ี ไู้ ดร้ บั ใบอนญุ าตหรอื ผรู้ บั โอนใบอนญุ าตตามประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ

๖๖๑

ฉบับที่  ๒๘๖  ลงวันท่ี  ๒๔  พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๕๑๕  หรือผู้รับโอนกรรมสิทธ์ิท่ีดินอันเป็น
สาธารณปู โภค มไิ ดป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ทใ่ี นการบ�ำ รงุ รกั ษากจิ การ อนั เปน็ สาธารณปู โภค กรณจี งึ เหน็ ไดว้ า่
การที่ผู้จดั สรรทด่ี ินจะพน้ จากหนา้ ที่บำ�รงุ รกั ษาสาธารณปู โภค ตามมาตรา ๔๔​ วรรคหน่ึง (๑)
หรอื ผซู้ อ้ื ที่ดินจดั สรรอาจย่ืนค�ำ ขอจดทะเบียนจดั ตัง้ นิตบิ คุ คลหมู่บา้ นจัดสรร เพอื่ ด�ำ เนินการบ�ำ รุง
รกั ษาสาธารณูปโภคหรอื บรกิ ารสาธารณะตามมาตรา ๔๕ แหง่ พระราชบญั ญตั กิ ารจดั สรรท่ีดนิ
พ.ศ. ๒๕๔๓  ได้  ต้องเป็นกรณีผู้ซื้อที่ดินจัดสรรจากผู้จัดสรรท่ีดินท่ีได้รับใบอนุญาตให้ทำ�การ
จดั สรรทด่ี นิ และได้รับความเหน็ ชอบแผนผงั   โครงการและวธิ ีการจัดสรรทดี่ นิ จากคณะกรรมการ
ควบคุมการจดั สรรทดี่ ิน ตามประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบบั ท่ี ๒๘๖ ลงวนั ท่ี ๒๔ พฤศจกิ ายน
พ.ศ. ๒๕๑๕ หรอื คณะกรรมการจดั สรรทด่ี นิ จงั หวดั ตามพระราชบญั ญตั กิ ารจดั สรรทด่ี นิ พ.ศ. ๒๕๔๓
แล้วเท่านั้น แมข้ ้อเท็จจรงิ ในคดนี ้ีปรากฏวา่ ผูซ้ ้อื ท่ดี นิ จดั สรรไดป้ ระชุมสมาชิกเพือ่ จัดตง้ั นิตบิ ุคคล
หมู่บ้านจัดสรรซึ่งเกินกว่ากึ่งหนึ่งของจำ�นวนแปลงย่อยตามแผนผังโครงการ  มีมติให้จัดตั้ง
นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร  และได้แต่งตั้งตัวแทนยื่นคำ�ขอจดทะเบียนจัดต้ังนิติบุคคลหมู่บ้าน
จัดสรรตามมาตรา  ๔๕ แหง่ พระราชบญั ญตั กิ ารจดั สรรทดี่ นิ พ.ศ. ๒๕๔๓ ก็ตาม แต่เมอ่ื บรษิ ัท
มใิ ช่ผไู้ ดร้ ับใบอนุญาต หรอื ผู้รบั โอนใบอนุญาตตามประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบบั ที่ ๒๘๖ ลงวนั ที่
๒๔ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๕ หรอื ผูร้ ับโอนกรรมสิทธทิ์ ่ดี นิ อนั เปน็ สาธาณปู โภคตามมาตรา ๗๐
วรรคสาม  แห่งพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน  พ.ศ. ๒๕๔๓  กรณีจึงไม่อาจนำ�หลักเกณฑ์การ
พน้ จากความรบั ผดิ ชอบในการบ�ำ รุงรกั ษาสาธารณูปโภคตามมาตรา ๔๔ และการจัดตัง้ นิติบุคคล
หมบู่ ้านจดั สรร ตามมาตรา ๗๐ วรรคส่ี แห่งพระราชบญั ญตั กิ ารจดั สรรทด่ี ิน พ.ศ. ๒๕๔๓ มาใช้
บังคับได้  ดังน้ัน  การท่ีเจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัดสาขามีคำ�สั่งไม่รับจดทะเบียนจัดต้ังนิติบุคคล
หมูบ่ ้านจดั สรร และการทเ่ี จา้ พนกั งานที่ดินจังหวดั มีค�ำ ส่งั ใหย้ กอุทธรณข์ องผู้ฟ้องคดี จึงเป็นค�ำ ส่ัง
ทชี่ อบดว้ ยกฎหมายแล้ว
ดังน้ัน  โครงการหมู่บ้านจัดสรรท่ีมิได้รับอนุญาตให้ทำ�การจัดสรรท่ีดินจาก
คณะกรรมการจดั สรรท่ีดนิ จงึ ไม่สามารถจะจัดตั้งนิตบิ คุ คลหมู่บา้ นจัดสรรข้ึนเพอื่ รบั โอนทรพั ย์สนิ
อนั เปน็ สาธาณปู โภคตามแผนผงั โครงการทไ่ี ดร้ บั อนญุ าตใหท้ �ำ การจดั สรรทด่ี นิ ไปดแู ลบ�ำ รงุ รกั ษาได้
จึงเรียนมาเพื่อโปรดแจ้งให้เจ้าหน้าที่ท่ีเกี่ยวข้องทราบ  และถือเป็นแนวทาง
ปฏิบตั ติ ่อไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชอื่ ) พรี ะศกั ด์ิ หินเมืองเกา่
(นายพรี ะศักดิ ์ หินเมอื งเก่า)
ผู้วา่ ราชการจังหวดั ชุมพร รักษาการในตำ�แหนง่
อธบิ ดีกรมทด่ี ิน
สำ�นักสง่ เสริมธรุ กิจอสงั หาริมทรพั ย์
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๐๕ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๕๓

๖๖๒

ค�ำ พพิ ากษาศาลปกครองสงู สดุ คดหี มายเลขแดงท่ี อ.๓๘๙/๒๕๕๖ คดหี มายเลขด�ำ ท่ี อ.๔๘๕/๒๕๕๒
บรษิ ทั ธ. เป็นผู้มีสทิ ธิครอบครองทีด่ นิ ตามหลักฐานหนังสอื รับรองการท�ำ ประโยชน์
(น.ส.๓  ก.) เลขท่ี ๖๔๘ ต�ำ บลหนองปรอื อำ�เภอบางละมุง จงั หวดั ชลบรุ ี และได้ทำ�การรงั วดั
แบ่งแยกท่ีดินดังกล่าวออกเป็นท่ีดินแปลงย่อยจำ�นวน  ๑๐๘  แปลง  เพื่อจำ�หน่ายตามโครงการ
หมู่บ้านจัดสรร  พาราไดซ์  วิลล่า  บริษัท  ธ.  ได้จัดสร้างส่ิงปลูกสร้างต่างๆ  โดยมีรายละเอียด
เกี่ยวกับการจัดให้มีสาธารณูปโภคและการบริการสาธารณะในใบโฆษณาเชิญชวนโครงการ
หมู่บ้านจดั สรร พาราไดซ์ วลิ ล่า พรอ้ มท้งั ได้ด�ำ เนนิ การขออนุญาตจดั สรรที่ดิน แตผ่ ถู้ กู ฟ้องคดที ่ี ๒
(เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชลบุรี) แจ้งว่าหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินดังกล่าวไม่อยู่ในหลักเกณฑ์
ท่ีจะย่ืนคำ�ขออนุญาตตามข้อ  ๑๑  ของประกาศของคณะปฏิวัติ  ฉบับท่ี  ๒๘๖  ลงวันที่  ๒๔
พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๕๑๕  ต่อมาผู้ซ้ือที่ดินจัดสรรได้ทำ�การแบ่งแยกท่ีดินในโครงการทำ�ให้ที่ดิน
ในโครงการมีจำ�นวน  ๑๑๔  แปลง  และผู้ซ้ือที่ดินได้ประชุมเพื่อจัดต้ังนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร
พาราไดซ์ วิลลา่ มีผูม้ สี ิทธลิ งคะแนนเสียงทงั้ สนิ้ ๑๑๔ คน ตามจ�ำ นวนที่ดนิ ตามแผนผงั โครงการ
ทีป่ ระชมุ มีมติเห็นชอบให้มกี ารจัดตง้ั นติ บิ คุ คลหมบู่ ้านจดั สรร พาราไดซ์ วลิ ล่า ดว้ ยคะแนนเสียง
จ�ำ นวน ๗๓ คะแนน และเหน็ ชอบใหผ้ ้ฟู ้องคดีเปน็ ตวั แทนยนื่ ขอจดทะเบียนนิตบิ ุคคล หมบู่ า้ น
จัดสรร ผ้ฟู ้องคดีไดย้ น่ื ค�ำ ขอลงวันท่ี ๒๕ กันยายน ๒๕๔๙ ขอจดทะเบยี นจัดต้ังนติ ิบคุ คลหมูบ่ า้ น
จัดสรร พาราไดซ์ วลิ ล่า แตผ่ ู้ถกู ฟ้องคดีท่ี ๑ (เจ้าพนกั งานที่ดินจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง)
มหี นังสอื ลงวนั ท่ี ๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๙ แจ้งวา่ ไมร่ บั ค�ำ ขอจดทะเบียนการจัดตั้งนิติบคุ คลหมูบ่ ้าน
จดั สรร พาราไดซ์ วิลลา่ เนอ่ื งจากโครงการดังกลา่ วมไิ ดม้ กี ารขออนญุ าตจดั สรรท่ดี นิ ตามพระราช
บัญญัติการจัดสรรที่ดิน  พ.ศ. ๒๕๔๓  และตามประกาศของคณะปฏิวัติ  ฉบับที่  ๒๘๖  ลงวันที่
๒๔  พฤศจิกายน  พ.ศ. ๒๕๑๕  จึงไม่อยู่ในหลักเกณฑ์การขอจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร
ตามกฎหมาย ผู้ฟอ้ งคดไี ดม้ ีหนังสือลงวันท่ี ๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๙ อุทธรณ์คำ�สงั่ ดังกลา่ ว ตอ่ มา
ผู้ถูกฟ้องคดที ี่ ๑ ไดม้ ีหนงั สือลงวนั ท่ี ๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๙ แจง้ ให้ผู้ฟ้องคดที ราบวา่ ผู้ถกู ฟอ้ งคด ี
ที่ ๒ มคี ำ�สงั่ ใหย้ กอุทธรณ์ ผฟู้ ้องคดีเหน็ ว่า การที่ผถู้ กู ฟ้องคดที ี่ ๑ ปฏเิ สธไมย่ อมรบั การจดทะเบยี น
จดั ตงั้ นติ บิ ุคคลหมบู่ ้านจัดสรรให้แกผ่ ฟู้ ้องคดี และการที่ผ้ถู ูกฟ้องคดที ี่ ๒ มีคำ�วนิ จิ ฉัยยกอุทธรณ์
ของผ้ฟู ้องคดี จงึ ทำ�ใหผ้ ้ฟู อ้ งคดีไดร้ บั ความเดอื ดรอ้ นหรือเสียหาย เนอื่ งจากไมม่ นี ติ บิ ุคคล ท่จี ะ
กำ�หนดระเบียบเก่ียวกับการใช้ประโยชน์สาธารณูปโภคต่างๆ  ตลอดจนจัดให้มีบริการสาธารณะ
เพื่อสวัสดิการและประโยชน์ส่วนรวมของผู้ซ้ือที่ดินจัดสรรดังกล่าวได้  ขอให้ศาล  มีคำ�พิพากษา
หรือคำ�ส่ังเพกิ ถอนคำ�สัง่ ของผ้ถู กู ฟ้องคดีที่ ๑ ตามหนังสือลงวันท่ี ๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๙ และวนั ท่ี
๒๐ ธันวาคม ๒๕๔๙ รวมท้งั เพิกถอนค�ำ ส่ังของผู้ถกู ฟอ้ งคดีท่ี ๒ ตามหนังสือลงวนั ท่ี ๑๔ ธันวาคม
๒๕๔๙ ท่ใี หย้ กอุทธรณ์ของผู้ฟ้องคดีพรอ้ มกบั ใหผ้ ถู้ ูกฟ้องคดที ี่ ๑ รบั จดทะเบยี นจดั ตง้ั นติ ิบคุ คล
หมูบ่ ้านจัดสรร พาราไดซ์ วลิ ล่า ให้แก่ ผู้ฟอ้ งคดี เหน็ ว่า การท่ีบริษัท ธ. แบ่งแยกท่ีดินของตน
ออกเปน็ แปลงย่อย ๑๐๘ แปลง เพอ่ื จ�ำ หน่ายโดยมีการให้ค�ำ มัน่ ว่าจะจัดใหม้ สี าธารณูปโภค อันมี

๖๖๓

ลักษณะเป็นการจัดสรรทดี่ นิ ตามประกาศของคณะปฏวิ ัติ ฉบับท่ี ๒๘๖ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจกิ ายน
พ.ศ. ๒๕๑๕  ซึ่งเป็นกฎหมายท่ีใช้บังคับในขณะน้ัน  แต่อย่างไรก็ตามเน่ืองจากที่ดินที่บริษัท  ธ.
ท�ำ การจดั สรรเปน็ ท่ดี นิ ทีม่ ีหลกั ฐานเปน็ หนงั สอื รบั รองการท�ำ ประโยชน์ (น.ส.๓ ก.) มใิ ชโ่ ฉนดทีด่ นิ
อันเป็นหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในท่ีดิน  บริษัท  ธ.  จึงไม่อยู่ในบังคับ  ที่จะต้องยื่นคำ�ขออนุญาต
ท�ำ การจดั สรรทด่ี ินตามข้อ ๑๐ ประกอบกับขอ้ ๑๑ ของประกาศ คณะปฏวิ ตั ิฉบบั ดงั กล่าว ดงั นั้น
การท่ีบรษิ ทั ธ. ไม่ไดร้ ับใบอนุญาตใหท้ �ำ การจัดสรรท่ดี ิน บริษัท ธ. จงึ มใิ ชผ่ ้จู ัดสรรทด่ี ิน ตามข้อ ๑
ของประกาศคณะปฏิวัติ  ฉบับเดียวกัน  เม่ือต่อมามีการตราพระราชบัญญัติการจัดสรรท่ีดิน
พ.ศ. ๒๕๔๓  และมีผลเป็นการยกเลิกประกาศของคณะปฏิวัติ  ฉบับที่  ๒๘๖  ลงวันที่  ๒๔
พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๕ เห็นว่า การทีผ่ จู้ ดั สรรทดี่ นิ จะพน้ จากหน้าทบี่ �ำ รงุ รักษาสาธารณปู โภค
ตามมาตรา  ๔๔  วรรคหน่ึง  (๑)  หรือผู้ซื้อที่ดินจัดสรรอาจย่ืนคำ�ขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล
หมู่บ้านจัดสรรเพื่อดำ�เนินการบำ�รุงรักษาสาธารณูปโภคหรือบริการสาธารณะ  ตามมาตรา  ๔๕
แหง่ พระราชบัญญตั ิการจดั สรรทด่ี ิน พ.ศ. ๒๕๔๓ ได้ ตอ้ งเป็นกรณีผู้ซ้อื ท่ีดินจดั สรรจาก ผ้จู ดั สรร
ทด่ี นิ ทไ่ี ดร้ บั ใบอนญุ าตใหท้ �ำ การจดั สรรทด่ี นิ และไดร้ บั ความเหน็ ชอบแผนผงั โครงการ และวธิ กี าร
ในการจัดสรรท่ีดิน  จากคณะกรรมการควบคุมการจัดสรรที่ดิน  ตามประกาศของคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ ๒๘๖ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ หรือคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด
ตามพระราชบัญญัตกิ ารจัดสรรท่ดี นิ พ.ศ. ๒๕๔๓ แล้วเท่าน้นั แม้ข้อเทจ็ จริงในคดนี ี้ปรากฏว่า
ผูซ้ อ้ื ที่ดนิ จัดสรรโครงการ พาราไดซ์ วิลลา่ ได้ประชมุ สมาชกิ เพอื่ จดั ตง้ั นติ ิบุคคลหมบู่ า้ นจดั สรร
เมือ่ วันที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๔๙ และผ้ซู อ้ื ทด่ี ิน จ�ำ นวน ๗๓ ราย ซึ่งเกินกวา่ ก่งึ หนงึ่ ของจ�ำ นวน
แปลงย่อยตามแผนผังโครงการมีมติให้จัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร  และได้แต่งตั้งผู้ฟ้องคดี
เปน็ ตวั แทนยนื่ ค�ำ ขอจดทะเบียนจดั ตง้ั นิติบคุ คลหมูบ่ า้ นจัดสรร พาราไดซ์ วิลลา่ ต่อผ้ถู กู ฟ้อง
คดีที่ ๑ (เจ้าพนกั งานทีด่ ินจงั หวัดชลบรุ ี สาขาบางละมงุ ) ตามมาตรา ๔๕ แหง่ พระราชบัญญตั ิ
ดงั กลา่ ว ก็ตาม แตเ่ ม่ือ บรษิ ทั ธ. มิใชผ่ ู้ได้รบั ใบอนญุ าตหรอื ผรู้ ับโอนใบอนุญาตตามประกาศ
ของคณะปฏวิ ัติ ฉบับท่ี ๒๘๖ ลงวันท่ี ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๕ หรอื ผรู้ ับโอนกรรมสิทธิท์ ่ีดิน
อันเป็นสาธารณูปโภคตามมาตรา  ๗๐  วรรคสาม  แห่ง  พ.ร.บ. การจัดสรรท่ีดิน  พ.ศ. ๒๕๔๓
กรณีจึงไม่อาจนำ�หลักเกณฑ์การพ้นจากความรับผิดชอบในการบำ�รุงรักษาสาธารณูปโภคตาม
มาตรา ๔๔ และการจดั ตงั้ นิตบิ ุคคลหมบู่ ้านจดั สรรตามมาตรา ๗๐ วรรคส่ี แหง่ พระราชบญั ญตั ิ
ดงั กล่าว มาใชบ้ งั คับได้ ดงั นัน้ การทผ่ี ู้ถกู ฟอ้ งคดที ี่ ๑ มีค�ำ ส่ังไมร่ ับจดทะเบยี นจัดต้งั นติ ิบคุ คล
หมู่บ้านจัดสรรโครงการ พาราไดซ์ วลิ ล่า และการทผ่ี ถู้ ูกฟอ้ งคดีที่ ๒ (เจ้าพนกั งานท่ีดนิ จงั หวดั
ชลบุร)ี มคี ำ�สงั่ ให้ยกอทุ ธรณข์ องผู้ฟอ้ งคดี จึงเปน็ ค�ำ ส่ังทชี่ อบดว้ ยกฎหมายแล้ว

๖๖๔

ที่ มท ๐๕๑๗.๒ / ว ๒๔๑๓๙ (ส�ำ เนา)
กรมท่ดี นิ
ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจง้ วฒั นะ
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑ ธนั วาคม ๒๕๕๗

เร่อื ง ขอผอ่ นผนั การดำ�เนินการรังวดั แบง่ แยกทดี่ ินก่อนไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการ
เรียน ผูว้ า่ ราชการจงั หวดั ทุกจงั หวัด
อา้ งถงึ ๑. หนงั สอื กรมทดี่ นิ ที่ มท ๐๗๓๐ / ว ๑๕๙๒๗ ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๔๔
๒. หนงั สอื กรมทด่ี ิน ท่ี มท ๐๗๓๐.๒ / ว ๗๗๑๙ ลงวนั ท่ี ๕ มีนาคม ๒๕๔๕

ตามท่ีกรมที่ดินได้กำ�หนดแนวทางให้เจ้าหน้าท่ีถือปฏิบัติเกี่ยวกับการขอผ่อนผัน
ให้ผจู้ ดั สรรทด่ี นิ ด�ำ เนนิ การรงั วัดแบง่ แยกท่ีดินก่อนได้รบั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการไว้ตาม
หนังสอื ทอี่ า้ งถงึ ๑, ๒ นัน้
กรมท่ีดินได้พิจารณาทบทวนแนวทางปฏิบัติกรณีท่ีผู้ขออนุญาตจัดสรรที่ดินขอ
ผ่อนผันไปทำ�การรงั วัดแบ่งแยกทีด่ ินตามแผนผงั โครงการ และยงั สามารถด�ำ เนินการจดทะเบียน
แบง่ แยกท่ดี นิ เปน็ แปลงยอ่ ยๆ ในคราวเดียวกันได้ ตามหนงั สอื ทอี่ ้างถึง ๒ เน่ืองจากปรากฏว่า
ท่ีดินตามแผนผังโครงการท่ีได้รับการผ่อนผันได้ดำ�เนินการรังวัดแบ่งแยกและจดทะเบียนเป็น
แปลงย่อยไปแล้ว  แม้ระยะเวลาจะผ่านไปหลายปี  แต่ไม่มีการดำ�เนินการเพื่อออกใบอนุญาต
ให้ทำ�การจัดสรรที่ดินบางรายเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องถูกยึดขายทอดตลาด  หรือมีการโอน
ช�ำ ระหน้ีหรอื บางรายมีการจ�ำ หนา่ ยจา่ ยโอนเป็นทดี่ นิ แปลงยอ่ ย ทำ�ใหท้ ่ดี นิ แปลงยอ่ ยที่มกี ารโอน
กรรมสทิ ธไ์ิ ปยงั บคุ คลอน่ื ดงั กลา่ ว เปน็ ทด่ี นิ ทย่ี งั ไมไ่ ดร้ บั อนญุ าตใหท้ �ำ การจดั สรรทด่ี นิ ท�ำ ใหผ้ รู้ บั โอน
ไม่ได้รับการคมุ้ ครองตามพระราชบัญญัติการจดั สรรท่ดี ิน พ.ศ. ๒๕๔๓
ดังนน้ั เพื่อป้องกนั มิใหเ้ กดิ ความเสยี หาย จงึ ให้ยกเลิกหนังสือกรมท่ีดนิ ท่ี มท
๐๗๓๐.๒/ว ๗๗๑๙ ลงวันท่ี ๕ มีนาคม ๒๕๔๕ ท่ีให้จดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินเปน็ แปลงย่อย คงให้
ถอื ปฏบิ ตั ติ ามหนงั สือกรมท่ดี นิ ท่ี มท ๐๗๓๐/ว ๑๕๙๒๗ ลงวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๔๔ ทใ่ี หร้ ังวัด
แบ่งจัดสรรตามแผนผังโครงการได้  แต่ยังห้ามมิให้จดทะเบียนแบ่งแยกเป็นแปลงย่อยไว้จนกว่า
จะได้รบั อนญุ าตใหท้ �ำ การจดั สรรที่ดนิ ซง่ึ การถือปฏบิ ตั ดิ ังนี้ เพื่อเป็นการคุ้มครองประชาชนผู้ซื้อ
ท่ีดินในโครงการจัดสรรที่ดิน  และมิได้เกิดความล่าช้าต่อผู้จัดสรรที่ดินแต่ประการใด  เนื่องจาก
การจดทะเบียนแบ่งแยกและออกโฉนดที่ดิน  เจ้าหน้าที่สามารถเตรียมเร่ืองไว้ล่วงหน้าโดยใช้

๖๖๕

ระยะเวลาไมเ่ กนิ ๗ วัน ส�ำ หรบั ท่ีดนิ ทไ่ี ด้มกี ารรงั วัดแบง่ แยก และจดทะเบียนไวแ้ ลว้ กอ่ นยกเลกิ
แนวทางปฏบิ ัติตามหนงั สือกรมที่ดนิ ทอ่ี า้ งถงึ ๒ ให้เจ้าพนักงานทดี่ ินจงั หวัด หรือเจ้าพนักงานที่ดิน
จังหวัดสาขา/ส่วนแยก  เจ้าหน้าท่ีบริหารงานท่ีดินอำ�เภอ/ก่ิงอำ�เภอ  ยังคงมีหน้าท่ีต้องควบคุม
มิใหม้ ีการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมใดๆ ในท่ีดินแปลงยอ่ ยดงั กล่าว จนกว่าจะไดร้ บั ใบอนุญาต
ใหท้ �ำ การจดั สรรที่ดนิ
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีทราบและถือปฏิบัติ
ต่อไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอ่ื ) ศิรพิ งษ์ หา่ นตระกูล
(นายศริ พิ งษ ์ ห่านตระกลู )
อธิบดีกรมทด่ี นิ

ส�ำ นักสง่ เสรมิ ธรุ กจิ อสงั หาริมทรัพย์
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๘๐๕–๐๗
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๐๕๓

๖๖๖

บัญชรี ายช่ือหนงั สอื เวียน ระเบียบ และคำ�ส่ังตา่ งๆ
ส�ำ นกั เทคโนโลยสี ารสนเทศ
ประจ�ำ ปี พ.ศ. ๒๕๕๗

๑. เลขที่หนงั สือเวยี น ชือ่ เรื่อง หน้า
ลำ�ดับท่ี ระเบยี บ ค�ำ สัง่ ๖๖๙
๖๗๐
๒. ลงวัน เดือน ปี

๑. ท่ี มท ๐๕๑๓.๒ / ว ๑๕๗๑๙ การทุจริตในการตรวจสอบหลกั ทรัพย ์
ลว. ๑๙ ส.ค. ๕๗ ในส�ำ นกั งานท่ดี ิน

๒. ท่ี มท ๐๕๑๓.๒ / ว ๑๘๒๓๑ การซกั ซ้อมแนวทางปฏบิ ัติการดำ�เนินการ
ลว. ๑๘ ก.ย. ๕๗ โครงการพฒั นาระบบคอมพิวเตอรแ์ มข่ ่าย
เพื่อจัดเก็บข้อมูลทะเบยี นท่ีดิน

๖๖๗

๖๖๘

ท่ี มท ๐๕๑๓.๒ / ว ๑๕๗๑๙ (ส�ำ เนา)
กรมท่ดี นิ
ศูนย์ราชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ดี ถนนแจง้ วัฒนะ
แขวงทุง่ สองห้อง เขตหลักส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗

เรื่อง การทจุ รติ ในการตรวจสอบหลักทรพั ยใ์ นส�ำ นักงานท่ีดนิ
เรียน ผูว้ ่าราชการจังหวดั ทกุ จงั หวัด

ด้วยกรมท่ีดินได้รับรายงานเร่ืองการทุจริตในการตรวจสอบหลักทรัพย์
ในสำ�นักงานท่ีดิน  โดยได้ตรวจสอบแล้วพบว่า  เป็นการลักลอบตรวจสอบหลักทรัพย์ทั่วประเทศ
จากเคร่ืองคอมพิวเตอร์ของสำ�นักงานท่ีดิน  และนำ�ข้อมูลไปขายให้บุคคลภายนอก  ซึ่งกรมที่ดิน
ไดต้ ้งั คณะกรรมการสอบสวนทางวินยั และแจ้งความด�ำ เนินคดีแลว้ นน้ั
กรมท่ีดินพิจารณาแล้วเห็นว่า  การเข้าตรวจหลักทรัพย์ของบุคคลอ่ืนโดยไม่มี
อ�ำ นาจหนา้ ทแ่ี ละ/หรอื น�ำ ขอ้ มลู ดงั กลา่ วไปจ�ำ หนา่ ยหรอื หาผลประโยชน ์ เปน็ ความผดิ ตามกฎหมาย
จงึ ขอใหจ้ งั หวดั สง่ั ก�ำ ชบั ใหเ้ จา้ พนกั งานทด่ี นิ จงั หวดั /สาขา/สว่ นแยก/อ�ำ เภอ สอดสอ่ งดแู ลเจา้ หนา้ ท่ี
ในส�ำ นกั งานทด่ี นิ ไม่ให้กระทำ�การดังกล่าว หากปรากฏวา่ ตรวจสอบพบการทุจรติ ในกรณดี งั กล่าว
เจ้าพนักงานทด่ี นิ จังหวดั /สาขา/สว่ นแยก/อ�ำ เภอ จะตอ้ งร่วมรบั ผดิ ชอบในกรณนี ั้นด้วย
จงึ เรยี นมาเพอื่ โปรดแจ้งเจา้ พนักงานทดี่ ินจังหวดั ถอื ปฏบิ ตั โิ ดยเคร่งครัดตอ่ ไป

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอื่ ) พรี ะศกั ดิ์ หนิ เมืองเก่า
(นายพรี ะศักด ์ิ หินเมืองเกา่ )
ผวู้ ่าราชการจงั หวัดชุมพร รกั ษาการในต�ำ แหน่ง
อธบิ ดกี รมทดี่ นิ

สำ�นักเทคโนโลยีสารสนเทศ
โทรศพั ท/์ โทรสาร ๐ – ๒๕๐๓ – ๓๖๗๗ - ๘

๖๖๙

ที่ มท ๐๕๑๓.๒ / ว ๑๘๒๓๑ (ส�ำ เนา)
กรมทด่ี ิน
ศูนยร์ าชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ดี ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทงุ่ สองห้อง เขตหลักส่ี กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๘ กันยายน ๒๕๕๗

เร่อื ง การซกั ซ้อมแนวทางปฏิบตั กิ ารดำ�เนินการโครงการพัฒนาระบบคอมพวิ เตอร์แมข่ า่ ย
เพ่อื จดั เกบ็ ข้อมูลทะเบียนทด่ี นิ
เรยี น ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั ทุกจังหวัด

ด้วยในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๗ กรมท่ีดินได้ด�ำ เนนิ การโครงการพัฒนาระบบ
คอมพิวเตอร์แม่ข่ายเพื่อจัดเก็บข้อมูลทะเบียนท่ีดินของสำ�นักงานท่ีดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก/
อ�ำ เภอ ท่ีใชโ้ ปรแกรม Land ๒๐๐๗ , Land ๒๐๐๙ และ Land ๒๐๑๒ โดยไดน้ ำ�เข้าข้อมูลและ
ติดต้ังโปรแกรมเพื่อส่งข้อมูลท่ีมีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเปล่ียนแปลงข้อมูลทะเบียน
ท่ีดินในแต่ละวันของสำ�นักงานท่ีดินเข้ามาที่ศูนย์สารสนเทศที่ดินโดยอัตโนมัติ  เพ่ือปรับปรุงให้
ฐานข้อมูลทะเบยี นที่ดนิ ทศ่ี ูนย์สารสนเทศท่ดี ินมคี วามถูกต้องเปน็ ปัจจบุ นั เช่นเดยี วกบั ฐานข้อมลู
ทะเบยี นทีด่ นิ ของส�ำ นักงานที่ดนิ สามารถนำ�มาใชส้ นับสนุนภารกิจต่างๆ ของกรมทดี่ นิ ได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
กรมท่ดี นิ จึงขอซกั ซอ้ มแนวทางปฏิบตั ขิ องสำ�นกั งานทีด่ ินจังหวดั /สาขา/ส่วนแยก/
อ�ำ เภอ ของส�ำ นักงานที่ดนิ ทีใ่ ช้โปรแกรม Land ๒๐๐๗ , Land ๒๐๐๙ และ Land ๒๐๑๒ ดงั น้ี
๑. ให้ดำ�เนินการปรับปรุงข้อมูลการจดทะเบียนในเคร่ืองคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
ของส�ำ นกั งานทด่ี นิ ให้เป็นปจั จุบันทุกวัน
๒. ให้ดำ�เนินการตรวจสอบเครือข่ายสื่อสารระหว่างสำ�นักงานที่ดินและศูนย์
สารสนเทศท่ีดิน  ให้สามารถใช้งานได้ตลอดเวลา  หากขัดข้องไม่สามารถใช้งานได้ให้แจ้งสำ�นัก
เทคโนโลยีสารสนเทศทราบ และ/หรอื บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายสอื่ สารเพอ่ื แกไ้ ขปัญหาโดยดว่ น
๓. หากเครื่องแม่ข่ายของสำ�นักงานที่ดินขัดข้องหรือเสียหาย หลังจากแก้ไขจน
เครอ่ื งแมข่ า่ ยใชง้ านไดต้ ามปกตแิ ลว้ หรอื เปลย่ี นเครอ่ื งแมข่ า่ ยใหม ่ ใหแ้ จง้ ส�ำ นกั เทคโนโลยสี ารสนเทศ
ทราบเพ่ือตดิ ตั้งโปรแกรมส่งขอ้ มลู เข้าศูนยส์ ารสนเทศทดี่ ิน และกำ�หนดคา่ ตา่ งๆ จากสว่ นกลาง
เพอ่ื ให้การส่งข้อมูลเขา้ ศนู ย์สารสนเทศท่ีดนิ สามารถดำ�เนนิ การไดโ้ ดยอัตโนมตั ิตามปกติ

๖๗๐

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ  และแจ้งให้สำ�นักงานท่ีดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก/
อำ�เภอ ทราบ และถอื ปฏบิ ตั ิตอ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอื่ ) ธรรมศักด์ิ ชนะ
(นายธรรมศักด์ ิ ชนะ)
รองอธิบดี ปฏบิ ตั ิราชการแทน
อธบิ ดกี รมทีด่ ิน
สำ�นักเทคโนโลยสี ารสนเทศ
โทรศัพท์/โทรสาร ๐ – ๒๕๐๓ – ๓๖๗๗ - ๘

๖๗๑

๖๗๒

บญั ชีรายชอ่ื หนังสือเวียน ระเบยี บ และค�ำ สงั่ ต่างๆ
ส�ำ นักงานเลขานกุ ารกรม
ประจำ�ปี พ.ศ. ๒๕๕๗

๑. เลขท่หี นงั สือเวยี น ชื่อเรอ่ื ง หนา้
ลำ�ดบั ที่ ระเบยี บ ค�ำ สั่ง

๒. ลงวัน เดือน ปี

๑. ท่ี มท ๐๒๐๑.๒ / ว ๓๔๘๖ การใช้ค�ำ ข้ึนต้น สรรพนาม คำ�ลงท้ายใน ๖๗๕
ลว. ๑๕ ต.ค. ๕๗ หนังสอื ราชการ และคำ�ทีใ่ ชใ้ นการจ่าหน้าซอง
ถึงประธานสภานติ บิ ัญญตั แิ ห่งชาต ิ

๖๗๓

๖๗๔

(ส�ำ เนา)

สว่ นราชการ กระทรวงมหาดไทย ส�ำ นกั งานปลดั กระทรวง โทร. ๐ ๒๒๒๑ ๐๘๒๓, มท. ๕๐๓๑๗

ท่ี มท ๐๒๐๑.๒ / ว ๓๔๘๖ วนั ที่ ๑๕ ตลุ าคม ๒๕๕๗

เรื่อง การใชค้ �ำ ข้นึ ตน้ สรรพนาม ค�ำ ลงท้ายในหนังสอื ราชการ และค�ำ ทีใ่ ช้ในการจา่ หนา้ ซอง
ถงึ ประธานสภานติ ิบญั ญตั แิ หง่ ชาติ

เรยี น หัวหน้าส่วนราชการระดับกรม หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัด มท.
หัวหน้าหนว่ ยงานในสงั กัด สป.มท. และหัวหน้าสำ�นกั งานรฐั มนตรี มท.

ด้วยกระทรวงมหาดไทยได้รับแจ้งจากสำ�นักนายกรัฐมนตรี  ว่า  เน่ืองจาก
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  (ฉบับชั่วคราว)  พุทธศักราช  ๒๕๕๗  ได้บัญญัติให้มีสภา
นิติบญั ญัตแิ ห่งชาติทำ�หนา้ ท่ีสภาผู้แทนราษฎร วฒุ ิสภา และรฐั สภา และประธานสภานติ บิ ญั ญัติ
แหง่ ชาตซิ ง่ึ พระมหากษตั รยิ ท์ รงแตง่ ตง้ั ตามมตขิ องสภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาต ิ มอี �ำ นาจหนา้ ทท่ี ส่ี �ำ คญั
ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว  ดังนั้น  ตำ�แหน่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
จงึ เป็นต�ำ แหนง่ ระดบั สูงที่ส�ำ คัญย่ิง และเพ่อื ให้การปฏิบตั ริ าชการ ซึ่งมคี วามจ�ำ เป็นตอ้ งใชห้ นังสือ
ราชการติดต่อระหว่างส่วนราชการกับสภานิตบิ ัญญตั ิแหง่ ชาติเก่ียวกบั การใชค้ �ำ ข้นึ ตน้ สรรพนาม
คำ�ลงท้ายในหนังสือราชการ  และคำ�ที่ใช้ในการจ่าหน้าซองเป็นไปด้วยความเหมาะสม  สำ�นัก
นายกรัฐมนตรีจึงเห็นสมควรให้ใช้คำ�ตามระเบียบสำ�นักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ
พ.ศ. ๒๕๒๖ ภาคผนวก ๒ ขอ้ ๓.๑ โดยอนุโลม คือ
คำ�ขนึ้ ต้น ให้ใช้ กราบเรยี น
สรรพนาม ใหใ้ ช ้ ขา้ พเจา้ กระผม ผม ดฉิ ัน ท่าน
คำ�ลงท้าย ใหใ้ ช ้ ขอแสดงความนับถอื ย่างยิง่
คำ�ทีใ่ ช้ในการจ่าหน้าซอง ใหใ้ ช้ กราบเรียน
รายละเอียดปรากฏตามสำ�เนาหนังสือสำ�นักนายกรัฐมนตรี  ด่วนที่สุด  ท่ี  นร  ๐๑๐๖/ว  ๑๓๘๗
ลงวนั ที่ ๘ ตลุ าคม ๒๕๕๗ ทแี่ นบมาพรอ้ มน้ี
จงึ เรียนมาเพ่ือทราบและถอื ปฏบิ ตั ิต่อไป

(ลงชอ่ื ) แก่นเพชร ช่วงรังษี
(นายแก่นเพชร ช่วงรงั ษ)ี
รองปลดั กระทรวงมหาดไทย ปฏบิ ตั ริ าชการแทน
ปลดั กระทรวงมหาดไทย

๖๗๕

๖๗๖