The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

รวมระเบียบคำสั่ง กรมที่ดิน ประจำปี 2557 (ปี 2557)

กองแผนงาน

Keywords: ด้านทั่วไป

ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๑๙๑๙๑ (สำ�เนา)
กรมที่ดิน
ศูนยร์ าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภกั ด ี ถนนแจง้ วัฒนะ
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๙ กันยายน ๒๕๕๗

เร่อื ง การเรียกเกบ็ อากรแสตมปใ์ บรับ กรณีการจดทะเบยี นไถ่จากขายฝากภายใน ๕ ปี
นับแตว่ นั ท่รี ับซอ้ื ฝากทไ่ี ดร้ บั ยกเวน้ ภาษีธุรกิจเฉพาะ
เรยี น ผู้วา่ ราชการจงั หวดั ทกุ จงั หวัด
อา้ งถึง ๑. หนังสอื กรมท่ดี ิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๐๙๕๗๖ ลงวนั ท่ี ๒๗​ มนี าคม ๒๕๔๙
๒. หนังสอื กรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๓๓๖๔๐ ลงวันที่ ๒๐​ ธันวาคม ๒๕๕๔

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง  ๑.  กรมที่ดินได้ส่งสรุปการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม  และ
ภาษีอากรการจดทะเบยี นไถ่จากขายฝาก โดยมีการหมายเหตุว่า การไถ่อสังหาริมทรัพย์จากการ
ขายฝากภายใน ๕ ปีนบั แตว่ ันทร่ี บั ซ้อื ฝาก ซ่งึ ไดร้ บั ยกเวน้ ภาษีธุรกจิ เฉพาะตามพระราชกฤษฎกี า
ออกตามความในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วยการกำ�หนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ
(ฉบบั ที่ ๒๔๐) พ.ศ. ๒๕๓๔ ซึ่งแก้ไขเพม่ิ เติมโดยพระราชกฤษฎกี าฯ (ฉบับท่ี ๓๖๕) พ.ศ. ๒๕๔๓
ผู้รับไถ่อสังหาริมทรัพย์จึงไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ และพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องเรียกเก็บ
อากรแสตมป์ใบรับ (ตามแนวทางปฏบิ ัตใิ นหนังสอื ตอบข้อหารือของกรมสรรพากร ที่ กค ๐๘๑๑/
๑๗๘๔๐ ลงวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๔๐ หนา้ ๒ ขอ้ ๑ เวียนโดยหนงั สือกรมท่ีดนิ ท่ี มท ๐๗๑๐/
ว ๐๔๔๐๓ ลงวนั ท่ี ๑๐ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๔๑) ให้พนกั งานเจา้ หน้าท่ีทราบและถอื ปฏิบัติ ตอ่ มา
ได้ส่งคู่มือการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีอากรการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับ
อสังหาริมทรัพย์ตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๕๕๔ สรุปการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม และ
ภาษอี ากรส�ำ หรบั การจดทะเบยี นไถถ่ อนจากขายฝากภายใน ๕ ปนี บั แตว่ นั ทร่ี บั ซอ้ื ฝาก ไดห้ มายเหตุ
เกย่ี วกบั การยกเวน้ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะตามพระราชกฤษฎกี าฯ ดงั กลา่ วและพนกั งานเจา้ หนา้ ทไ่ี มต่ อ้ ง
เรียกเก็บอากรแสตมป์ใบรับ  (หน้า  ๑๓๔)  เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่
ตามหนังสอื ที่อ้างถงึ ๒. นนั้
บัดนี ้ กรมทีด่ ินไดร้ บั แจ้งจากกรมสรรพากรเปล่ยี นแปลงหลกั เกณฑก์ ารเรยี กเก็บ
อากรแสตมป์ใบรับ  กรณีมีการยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน

๕๔๗

ประมวลรษั ฎากร ว่าด้วยการกำ�หนดกิจการทไ่ี ดร้ ับยกเว้นภาษธี รุ กจิ เฉพาะใหม่ ว่า กรณีการไถ่
อสังหาริมทัพยจ์ ากการขายฝากภายใน ๕ ปี นบั แตว่ นั ท่รี ับซือ้ ฝาก เข้าลกั ษณะเปน็ การขาย
อสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำ�ไรที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา
๙๑/๒(๖) แหง่ ประมวลรษั ฎากร แต่ได้รับยกเว้นภาษีธรุ กจิ เฉพาะตามมาตรา ๓ (๑๕) แห่ง
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วา่ ด้วยการกำ�หนดกิจการที่ได้รับยกเวน้ ภาษี
ธุรกจิ เฉพาะ (ฉบับท่ี ๒๔๐) พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่งึ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ ๓๖๕)
พ.ศ. ๒๕๔๓ ดงั น้ัน ผู้รับซือ้ ฝากจึงไมต่ อ้ งเสยี ภาษีธุรกจิ เฉพาะ อย่างไรกด็ ี ในเมือ่ การไถ่ถอน
จากการขายฝากน้นั มีการท�ำ นิตกิ รรมทีเ่ ปน็ การกอ่ ให้เกิดการโอนหรอื ก่อตง้ั สิทธิใดๆ อนั เก่ียวกบั
อสงั หารมิ ทรพั ย ์ ซง่ึ นติ กิ รรมดงั กลา่ วเปน็ เหตใุ หม้ กี ารออกใบรบั และมกี ารจดทะเบยี นตามกฎหมาย
ผู้รับซ้อื ฝากย่อมมหี น้าทตี่ อ้ งเสียอากรแสตมปต์ ามลกั ษณะแหง่ ตราสาร ๒๘. (ข) ใบรบั แหง่ บัญชี
อตั ราอากรแสตมป์ และขอใหก้ รมท่ดี นิ แกไ้ ขคู่มอื ฯ ในส่วนของการจดั เกบ็ อากรแสตมป์ กรณ ี
การจดทะเบียนไถถ่ อนการขายฝากอสงั หาริมทรัพย์ภายใน ๕ ปนี ับแตว่ นั ที่รับซอ้ื ฝาก
กรมท่ีดินพิจารณาแล้วเห็นว่า  กรมท่ีดินมีหน้าท่ีจัดเก็บภาษีอากรจากการ
จดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมเกย่ี วกบั อสงั หารมิ ทรพั ยต์ ามประมวลกฎหมายทด่ี นิ แทนกรมสรรพากร
ดังน้ัน  เม่ือกรมสรรพากรแจ้งหลักเกณฑ์การเรียกเก็บอากรแสตมป์ใบรับในกรณีดังกล่าวเป็น
ประการใด กรมทด่ี นิ ยอ่ มตอ้ งจดั เกบ็ ตามแนวทางทก่ี รมสรรพากรก�ำ หนดตามอ�ำ นาจหนา้ ท ่ี จงึ ก�ำ หนด
แนวทางปฏบิ ัติใหม ่ ดงั น้ี
๑. ให้ยกเลิกแนวทางปฏิบัติตามสรุปการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและภาษีอากร
ในส่วนของการจดทะเบยี นไถถ่ อนจากขายฝากอสังหาริมทรพั ยภ์ ายใน ๕ ปีนับแต่วนั ทร่ี บั ซ้อื ฝาก
แนบท้ายหนงั สือกรมที่ดนิ ที่อ้างถงึ ๑. และยกเลกิ ค่มู อื ฯ เฉพาะหน้า ๑๓๔ ตามหนังสอื ท่อี ้างถงึ ๒.
๒. ให้ถอื ปฏิบตั ิใหม่วา่ “การไถอ่ สงั หาริมทรัพย์จากการขายฝากภายใน ๕ ปี
นับแต่วันท่ีรับซ้ือฝาก  ซึ่งได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความ
ในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการกำ�หนดกิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ ๒๔๐)
พ.ศ. ๒๕๓๔  ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมในพระราชกฤษฎีกาฯ  (ฉบับที่  ๓๖๕)  พ.ศ. ๒๕๔๓  ผู้รับไถ่
อสังหารมิ ทรพั ย์จึงไม่ต้องเสียภาษีธรุ กจิ เฉพาะ แต่เม่ือการไถ่ถอนจากการขายฝากนน้ั มีการท�ำ
นิตกิ รรมท่เี ป็นการก่อให้เกิดการโอนหรือกอ่ ตง้ั สิทธิใดๆ อนั เก่ยี วกับอสังหารมิ ทรพั ย์ ซ่งึ นติ กิ รรม
ดังกล่าวเปน็ เหตใุ ห้มีการออกใบรับและมกี ารจดทะเบยี นตามกฎหมาย ผรู้ บั ซ้อื ฝากย่อมมีหน้าท่ี
ต้องเสียอากรแสตมป์ตามลักษณะแห่งตราสาร ๒๘. (ข) ใบรับ แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์”
และกรณีผขู้ ายฝากเพียงฝ่ายเดียวมาย่นื ค�ำ ขอจดทะเบยี นไถถ่ อนจากขายฝากภายใน ๕ ปี นบั แต่
วนั รับซ้ือฝาก พนักงานเจา้ หนา้ ทจ่ี ะรบั จดทะเบยี นไดต้ ่อเม่ือได้จดั เก็บคา่ ธรรมเนยี ม ภาษีเงนิ ได้
หัก ณ ท่ีจ่าย และอากรแสตมปไ์ วค้ รบถว้ นแลว้

๕๔๘

๓. ใหพ้ นักงานเจ้าหน้าทีแ่ กไ้ ขคู่มอื ฯ ในหนา้ ๑๓๔ ใหเ้ ปน็ ไปตามแนวทางปฏบิ ตั ิ
ทกี่ รมสรรพากรแจ้งมาใหมด่ ว้ ย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบและถือปฏิบัติ
ต่อไป

ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอ่ื ) ธรรมศกั ดิ์ ชนะ
(นายธรรมศกั ด ์ิ ชนะ)
รองอธบิ ดี รักษาราชการแทน
อธิบดีกรมทดี่ ิน
ส�ำ นักมาตรฐานการทะเบยี นท่ดี ิน
ส่วนมาตรฐานการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิตกิ รรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๔๙

ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๐๔๑๙ (สำ�เนา)
กรมทีด่ นิ
ศนู ยร์ าชการเฉลิมพระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ด ี ถนนแจ้งวฒั นะ
แขวงทงุ่ สองห้อง เขตหลักสี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๗

เรือ่ ง แจง้ รายช่อื บรษิ ทั บริหารสนิ ทรพั ยร์ ายใหม่
เรียน ผวู้ ่าราชการจังหวัดทุกจังหวดั
อ้างถงึ ๑. หนงั สอื กรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๗๑๐/ว ๐๖๘๔๑ ลงวันท่ี ๓​ มนี าคม ๒๕๔๒
๒. หนงั สอื กรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๓๘๔๗ ลงวนั ท่ี ๑๑​ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑
๓. หนังสือกรมท่ดี ิน ท่ี มท ๐๕๑๕.๒/ว ๗๕๕๐ ลงวนั ท่ี ๗​ พฤษภาคม ๒๕๕๗
ส่ิงที่ส่งมาดว้ ย ภาพถา่ ยใบทะเบยี นบรษิ ทั บรหิ ารสนิ ทรพั ยข์ องบรษิ ทั บรหิ ารสนิ ทรพั ย์ วภิ าวดี จ�ำ กดั
ฉบบั ที่ ๐๐๕/๒๕๕๗ ลงวนั ที่ ๑๑ กนั ยายน ๒๕๕๗

ตามหนังสือที่อ้างถึง  ๑.  กรมที่ดินได้แจ้งทางปฏิบัติในการจดทะเบียนขาย
หรือโอนอสังหาริมทรัพย์อันเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงินไปให้บริษัทบริหาร
สินทรพั ยว์ า่ นอกจากหลักฐานอน่ื ท่ผี ู้ขอจดทะเบยี นต้องน�ำ มาแสดงแล้ว ใหพ้ นักงานเจ้าหนา้ ท่ี
เรียกใบทะเบียนบริษัทบริหารสินทรัพย์ตามสำ�เนาตัวอย่างที่ส่งมา  เพ่ือเป็นหลักฐานแสดงการ
จดทะเบียนเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์  และเป็นหลักฐานประกอบการขอรับสิทธิประโยชน์ต่างๆ
ตามพระราชกำ�หนดบริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๔๑ และต่อมาได้มีหนังสือที่อ้างถึง ๒.
สง่ พระราชบญั ญตั แิ กไ้ ขเพมิ่ เตมิ พระราชกำ�หนดบริษัทบริหารสนิ ทรพั ย์ พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ๒๕๕๐
มาเพื่อทราบและถือปฏิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้อง  โดยในกรณีบริษัทบริหารสินทรัพย์ขอได้มาซึ่งท่ีดิน
หรือห้องชดุ ใหพ้ นักงานเจ้าหน้าท่ถี ือปฏิบตั ิตามหนังสอื ทอ่ี า้ งถงึ ๓. นัน้
บดั น้ี ธนาคารแหง่ ประเทศไทยแจง้ วา่ บรษิ ทั บรหิ ารสนิ ทรพั ย์ วภิ าวดี จ�ำ กดั
ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทบริหารสินทรัพย์กับธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว  ทั้งน้ี  ตามหลักฐาน
ภาพถ่ายใบทะเบียนบริษัทบริหารสินทรัพย์ของบริษัท บริหารสินทรัพย์ วิภาวดี จำ�กัด ฉบับที่
๐๐๕/๒๕๕๗ ลงวนั ท่ี ๑๑ กนั ยายน ๒๕๕๗

๕๕๐

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และขอส่งภาพถ่ายใบทะเบียนบรษิ ัทบริหารสินทรพั ย์
ของบรษิ ทั บรหิ ารสินทรัพย์ วภิ าวดี จำ�กดั มาเพอ่ื แจง้ ให้พนักงานเจา้ หนา้ ท่ที ราบและถอื ปฏิบัติ
ตอ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชื่อ) ธรรมศักด์ิ ชนะ
(นายธรรมศกั ด์ ิ ชนะ)
รองอธิบดี ปฏบิ ตั ิราชการแทน
อธิบดีกรมท่ีดิน
ส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบียนที่ดิน
สว่ นมาตรฐานการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๕๑

๕๕๒

ดว่ นท่สี ุด (สำ�เนา)
ท่ี มท ๐๕๑๕.๓ / ว ๒๐๖๘๖ กรมทด่ี นิ
ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักด ี ถนนแจง้ วัฒนะ
แขวงทุง่ สองห้อง เขตหลกั สี่ กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๗ ตลุ าคม ๒๕๕๗

เรอ่ื ง ประกาศรายชอื่ บคุ คลที่ถูกกำ�หนดตามมาตรา ๔ และมาตรา ๕ แหง่ พระราชบัญญัติ
ปอ้ งกันและปราบปรามการสนับสนนุ ทางการเงนิ แก่การกอ่ การร้าย พ.ศ. ๒๕๕๖
เรยี น ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั ทกุ จังหวัด
อา้ งถงึ ๑. หนังสอื กรมท่ีดนิ ดว่ นท่ีสดุ ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๐๑๔๔ ลงวันที่ ๒​ สิงหาคม ๒๕๕๖
๒. หนงั สอื กรมทีด่ นิ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๙๓ ลงวันที่ ๗​ มกราคม ๒๕๕๗
สงิ่ ท่สี ่งมาด้วย ๑. หนงั สอื ส�ำ นักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ดว่ นท่ีสดุ ที่ มท ๐๒๐๘.๓/ว ๑๕๕๐
ลงวนั ท่ี ๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๗
๒. หนงั สือสำ�นกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย ดว่ นทส่ี ดุ ท่ี มท ๐๒๐๘.๓/ว ๑๖๑๐
ลงวันท่ี ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗
๓. หนงั สือส�ำ นักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย ดว่ นที่สดุ ที่ มท ๐๒๐๘.๓/ว ๑๖๑๑
ลงวนั ที่ ๑ ตลุ าคม ๒๕๕๗

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง  ๑.  และ  ๒.  กรมท่ีดินได้วางแนวทางปฏิบัติให้พนักงาน
เจ้าหน้าที่ดำ�เนินการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่
การกอ่ การรา้ ย พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยใหด้ �ำ เนนิ การ ๑) ระงบั การด�ำ เนินการกบั ทรพั ยส์ นิ ของบุคคลท่ี
ถูกกำ�หนด หรือของผกู้ ระท�ำ การแทนหรอื ตามค�ำ ส่งั ของผูน้ ้ัน หรอื ของกจิ การภายใตก้ ารควบคุม
ของผู้นั้น  ๒)  แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินท่ีถูกระงับการดำ�เนินการให้สำ�นักงาน  ปปง.  ทราบ
ภายในสามวนั ทำ�การนบั แตว่ ันที่ไดร้ ะงับการด�ำ เนินการกบั ทรัพย์สนิ ๓)  รับทราบ และประกาศ
ให้ประชาชนทั่วไปทราบถึงมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญตั ปิ อ้ งกันและปราบปรามการสนับสนนุ
ทางการเงนิ แก่การก่อการรา้ ย พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยให้สำ�นกั งานท่ดี นิ แตง่ ตง้ั เจา้ หน้าท่ใี นสำ�นกั งาน
ทด่ี นิ ตรวจสอบและส่งั พมิ พ์ขอ้ มูลรายชอ่ื บุคคลที่ถกู กำ�หนดจากเว็บไซต์ของสำ�นักงาน ปปง. แล้ว
แจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทใ่ี นส�ำ นกั งานทด่ี นิ ทราบและประกาศใหป้ ระชาชนทว่ั ไปทราบถงึ มาตรา ๑๖
แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย

๕๕๓

พ.ศ.๒๕๕๖ พร้อมทงั้ ด�ำ เนนิ การตามนัยมาตรา ๖ แห่งพระราชบญั ญัตดิ ังกลา่ ว ประกอบกบั ขอ้ ๖
ของระเบียบคณะกรรมการปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ วา่ ดว้ ยการประกาศและการแจง้
รายชื่อบุคคลทถ่ี ูกก�ำ หนด และการดำ�เนินการตามมาตรา ๖ (๑) (๒) และ (๓) พ.ศ. ๒๕๕๖ นน้ั
บดั น ้ี กรมทด่ี นิ ไดร้ บั แจง้ จากส�ำ นกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทยวา่ ส�ำ นกั งาน ปปง.
ได้แจง้ การประกาศรายชื่อบุคคลท่ีถกู ก�ำ หนด ตามมาตรา ๔ และมาตรา ๕ แหง่ พระราชบญั ญตั ิ
ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  พ.ศ. ๒๕๕๖  โดยสามารถ
ดาวน์โหลดรายช่ือบุคคลที่ถูกกำ�หนดได้จากเว็บไซต์ของสำ�นักงาน  ปปง.  www.amlo.go.th
เพื่อให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีพิจารณาดำ�เนินการในส่วนท่ีเก่ียวข้องต่อไป  รายละเอียดตามสิ่งที่ส่ง
มาด้วย  ๑. – ๓.  ฉะนั้น  ขอให้แจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ในสำ�นักงานที่ดินทราบและดำ�เนินการ
ตามหนังสือกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว  และดำ�เนินการตรวจสอบ  ตลอดจนดำ�เนินการตาม
นยั หนังสอื กรมทด่ี ินท่ีอ้างถงึ ๑. และ ๒. โดยตรงตอ่ ไป โดยไม่ต้องใหก้ ระทรวงมหาดไทยหรอื
กรมทีด่ นิ สั่งการมากอ่ นแตอ่ ยา่ งใด
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบ  และแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีพิจารณาดำ�เนินการ
โดยเครง่ ครดั ตอ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงช่อื ) ศิริพงษ์ หา่ นตระกลู
(นายศิรพิ งษ ์ ห่านตระกูล)
อธบิ ดีกรมทดี่ นิ

ส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบยี นที่ดนิ
กลมุ่ พฒั นาการทะเบียนท่ีดนิ
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔



๕๕๔

ส่งิ ทสี่ ง่ มาด้วย ๑

(สำ�เนา)

ดว่ นทสี่ ุด
ท ่ี มท ๐๒๐๘.๓ / ว ๑๕๕๐

ถึง สว่ นราชการระดับกรม หน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสงั กัดกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร
จงั หวัดทกุ จงั หวัดและหน่วยงานในสังกัดสำ�นักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย

ดว้ ยส�ำ นกั งาน ปปง. แจ้งว่า ไดป้ ระกาศรายชอื่ บคุ คลทถี่ กู กำ�หนด กลมุ่ AL-Qaida
ตามมาตรา  ๔  แห่ง  พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามค�ำ ส่ังรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงยุตธิ รรม ที่ ๑๗/๒๕๕๗ ลงวนั ท่ี ๙ กนั ยายน
๒๕๕๗  โดยสามารถดาวน์โหลดรายช่ือบุคคลท่ีถูกกำ�หนดจากเว็บไซต์ของสำ�นักงาน  ปปง.
WWW.amlo.go.th ในหวั ขอ้ รายช่ือบคุ คลท่ีถกู กำ�หนด กลุม่ AL-Qaida ขอ้ ๕.๑.๑ ซง่ึ มาตรา ๑๖
แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามการสนบั สนนุ ทางการเงนิ แกก่ ารกอ่ การรา้ ย พ.ศ. ๒๕๕๖
กำ�หนดหา้ มมิให้ผู้ใดจัดหา รวบรวม หรอื ดำ�เนินการทางการเงินหรือทรพั ย์สนิ หรอื ด�ำ เนนิ การด้วย
ประการใดๆ โดยร้อู ย่แู ลว้ ว่าผไู้ ด้รับประโยชนท์ างการเงนิ หรอื ทรพั ย์สินหรอื จากการด�ำ เนินการน้นั
เป็นบุคคลท่ีถูกกำ�หนด หรอื โดยเจตนาให้เงนิ หรือทรัพย์สินหรือการด�ำ เนินการนน้ั ถกู น�ำ ไปใช้เพือ่
สนับสนนุ การดำ�เนนิ กิจกรรมใดๆ ของบคุ คลที่ถูกก�ำ หนด ผทู้ ี่ฝา่ ฝนื อาจมคี วามผดิ ฐานสนับสนนุ
ทางการเงินแก่การกอ่ การร้าย ต้องระวางโทษจ�ำ คุกต้ังแต่สองปีถึงสบิ ปีและปรบั ต้งั แตส่ หี่ มื่นบาท
ถึงสองแสนบาทหรือท้ังจำ�ทั้งปรับ  รายละเอียดปรากฏตามสำ�เนาหนังสือ  ปปง.  ด่วนท่ีสุด
ท่ี ปง.๐๐๐๔.๔/ว ๒๐๐ ลงวันที่ ๑๐​ กนั ยายน ๒๕๕๗ ทแ่ี นบมาพร้อมน้ี หากมขี ้อสงสยั ในการ
ดาวน์โหลดรายชื่อโปรดสอบถามที่ส่วนต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
การข่าวกรองทางการเงิน โทร. ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๐๐ ตอ่ ๐๙๒๐, ๐๙๓๒, ๖๐๑๑ จงึ แจ้งมาเพอื่ ทราบ
และพิจารณาดำ�เนินการในส่วนทเี่ กย่ี วขอ้ งต่อไป

ส�ำ นักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย
๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๗

๕๕๕

ดว่ นทีส่ ดุ (สำ�เนา)
ท่ี ปง ๐๐๐๔.๔ / ว ๒๐๐ สำ�นักงานปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ
๔๒๒ ถนนพญาไท เขตปทมุ วนั กรงุ เทพฯ ๑๐๓๓๐

๑๐ กนั ยายน ๒๕๕๗

เร่อื ง ประกาศรายชื่อบคุ คลท่ีถูกกำ�หนดตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และ
ปราบปรามการสนบั สนุนทางการเงินแก่การก่อการรา้ ย พ.ศ. ๒๕๕๖
เรียน ปลดั กระทรวงมหาดไทย

ด้วย ส�ำ นักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ (สำ�นกั งาน ปปง.) ได้ประกาศ
รายชื่อบุคคลท่ีถูกกำ�หนด  กลุ่ม  Al-Qaida  ตามมาตรา  ๔  แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและ
ปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  พ.ศ. ๒๕๕๖  ตามคำ�สั่งรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงยุตธิ รรม ท่ี ๑๗/๒๕๕๗ ลงวันท่ี ๙ กันยายน ๒๕๕๗
ดังน้ัน  เพ่ือประโยชน์ในการบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว  ในการน้ี  จึงขอ
ความอนุเคราะห์ท่านให้ดาวน์โหลดรายชื่อบุคคลท่ีถูกกำ�หนดจากเว็บไซต์ของสำ�นักงาน  ปปง.
www.amlo.go.th ในหวั ข้อรายชือ่ บุคคลทีถ่ กู ก�ำ หนด กลมุ่ Al-Qaida ข้อ ๕.๑.๑ และแจ้งเวียน
พรอ้ มทง้ั ประกาศใหห้ นว่ ยงานภายในของทา่ น เจา้ หนา้ ทแ่ี ละประชาชนทว่ั ไปไดร้ บั ทราบตอ่ ไปดว้ ย
อนงึ่ หา้ มมใิ หผ้ ใู้ ดจดั หา รวบรวม หรือด�ำ เนนิ การทางการเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ หรือ
ด�ำ เนนิ การดว้ ยประการใดๆ โดยรอู้ ยแู่ ลว้ วา่ ผไู้ ดร้ บั ประโยชนท์ างการเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ หรอื จากการ
ดำ�เนินการนั้นเป็นบุคคลที่ถูกกำ�หนด  หรือโดยเจตนาให้เงินหรือทรัพย์สินหรือการดำ�เนินการนั้น
ถูกนำ�ไปใชเ้ พอ่ื สนบั สนุนการด�ำ เนินกิจกรรมใดๆ ของบุคคลทถ่ี กู ก�ำ หนด ผูท้ ี่ฝ่าฝนื อาจมคี วามผิด
ฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  ต้องระวางโทษจำ�คุกต้ังแต่สองปีถึงสิบปีและปรับ
ตั้งแตส่ หี่ มน่ื บาทถงึ สองแสนบาท หรอื ทั้งจ�ำ ทัง้ ปรบั

จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและพิจารณาดำ�เนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
และขอขอบคณุ มา ณ โอกาสน้ี

ขอแสดงความนับถอื

(ลงชื่อ) วี่คณุ นธิ ิมทุ รากลุ
(นายวี่คุณ นิธิมุทรากุล)
ผอู้ �ำ นวยการกองข่าวกรองทางการเงนิ ปฏิบตั ิราชการแทน
เลขาธกิ ารคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ
กองข่าวกรองทางการเงิน
โทร ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๐๐ ตอ่ ๑๙๓๒, ๖๐๑๑, ๑๙๑๙, ๑๙๒๗
โทรสาร ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๖๕
๕๕๖

ส่ิงท่สี ง่ มาด้วย ๒

(ส�ำ เนา)

ด่วนทสี่ ดุ
ท ี่ มท ๐๒๐๘.๓ / ว ๑๖๑๐

ถงึ ส่วนราชการระดบั กรม หนว่ ยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย กรงุ เทพมหานคร
จังหวดั ทุกจังหวดั และหนว่ ยงานในสังกดั ส�ำ นักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย

ดว้ ยสำ�นกั งาน ปปง. แจ้งวา่ ได้ประกาศรายช่อื บคุ คลที่ถูกกำ�หนด กลุม่ AL-Qaida
ตามมาตรา  ๔  แห่ง  พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามค�ำ ส่งั รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงยุติธรรม ท่ี ๑๘/๒๕๕๗ ลงวันท่ี ๑๖ กันยายน
๒๕๕๗  โดยสามารถดาวน์โหลดรายชื่อบุคคลท่ีถูกกำ�หนดจากเว็บไซต์ของสำ�นักงาน  ปปง.
WWW.amlo.go.th ในหวั ขอ้ รายชอ่ื บุคคลท่ีถกู กำ�หนด กล่มุ AL-Qaida ข้อ ๕.๑.๑ ซ่งึ มาตรา ๑๖
แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามการสนบั สนนุ ทางการเงนิ แกก่ ารกอ่ การรา้ ย พ.ศ. ๒๕๕๖
กำ�หนดห้ามมิให้ผใู้ ดจดั หา รวบรวม หรอื ดำ�เนินการทางการเงนิ หรอื ทรพั ย์สนิ หรือดำ�เนินการด้วย
ประการใดๆ โดยรูอ้ ยแู่ ลว้ ว่าผูไ้ ด้รบั ประโยชนท์ างการเงนิ หรอื ทรัพยส์ นิ หรอื จากการด�ำ เนินการน้ัน
เปน็ บุคคลที่ถูกกำ�หนด หรือโดยเจตนาใหเ้ งินหรอื ทรัพย์สนิ หรือการด�ำ เนินการนน้ั ถกู น�ำ ไปใช้เพอ่ื
สนับสนนุ การด�ำ เนนิ กิจกรรมใดๆ ของบคุ คลท่ีถูกก�ำ หนด ผทู้ ่ีฝ่าฝนื อาจมคี วามผิดฐานสนบั สนนุ
ทางการเงนิ แก่การกอ่ การร้าย ตอ้ งระวางโทษจำ�คุกตง้ั แตส่ องปถี ึงสบิ ปแี ละปรบั ตง้ั แต่ส่หี มืน่ บาท
ถึงสองแสนบาทหรือท้ังจำ�ทั้งปรับ  รายละเอียดปรากฏตามสำ�เนาหนังสือ  ปปง.  ด่วนท่ีสุด
ที่ ปง.๐๐๐๔.๔/ว ๒๑๕ ลงวันท่ี ๒๒​ กนั ยายน ๒๕๕๗ ทีแ่ นบมาพร้อมนี้ หากมีข้อสงสยั ในการ
ดาวน์โหลดรายชื่อโปรดสอบถามท่ีส่วนต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
การขา่ วกรองทางการเงิน โทร. ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๐๐ ตอ่ ๐๙๒๐, ๐๙๓๒, ๖๐๑๑ จึงแจ้งมาเพือ่ ทราบ
และพจิ ารณาด�ำ เนนิ การในสว่ นที่เกีย่ วข้องต่อไป

สำ�นักงานปลดั กระทรวงมหาดไทย
๑ ตุลาคม ๒๕๕๗

๕๕๗

ดว่ นทส่ี ดุ (ส�ำ เนา)
ที่ ปง ๐๐๐๔.๔ / ว ๒๑๕ สำ�นักงานป้องกนั และปราบปรามการฟอกเงิน
๔๒๒ ถนนพญาไท เขตปทมุ วนั กรงุ เทพฯ ๑๐๓๓๐

๒๒ กันยายน ๒๕๕๗

เร่ือง ประกาศรายชื่อบุคคลทถ่ี กู กำ�หนดตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบญั ญัติป้องกันและ
ปราบปรามการสนบั สนนุ ทางการเงินแกก่ ารกอ่ การรา้ ย พ.ศ. ๒๕๕๖

เรยี น ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ด้วย สำ�นักงานป้องกนั และปราบปรามการฟอกเงิน (ส�ำ นักงาน ปปง.) ได้ประกาศ
รายช่ือบุคคลที่ถูกกำ�หนด  กลุ่ม  Al-Qaida  ตามมาตรา  ๔  แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและ
ปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  พ.ศ. ๒๕๕๖  ตามคำ�สั่งรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงยตุ ิธรรม ที่ ๑๘/๒๕๕๗ ลงวนั ที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๕๗
ดังนั้น  เพื่อประโยชน์ในการบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว  ในการน้ี  จึงขอ
ความอนุเคราะห์ท่านให้ดาวน์โหลดรายชื่อบุคคลที่ถูกกำ�หนดจากเว็บไซต์ของสำ�นักงาน  ปปง.
www.amlo.go.th ในหัวขอ้ รายชือ่ บคุ คลทถ่ี ูกกำ�หนด กลุม่ Al-Qaida ข้อ ๕.๑.๑ และแจ้งเวียน
พรอ้ มทง้ั ประกาศใหห้ นว่ ยงานภายในของทา่ น เจา้ หนา้ ทแ่ี ละประชาชนทว่ั ไปไดร้ บั ทราบตอ่ ไปดว้ ย
อนึ่ง หา้ มมิให้ผู้ใดจดั หา รวบรวม หรอื ดำ�เนินการทางการเงินหรือทรพั ยส์ ินหรอื
ด�ำ เนนิ การดว้ ยประการใดๆ โดยรอู้ ยแู่ ลว้ วา่ ผไู้ ดร้ บั ประโยชนท์ างการเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ หรอื จากการ
ดำ�เนินการนั้นเป็นบุคคลท่ีถูกกำ�หนด  หรือโดยเจตนาให้เงินหรือทรัพย์สินหรือการดำ�เนินการนั้น
ถกู น�ำ ไปใช้เพ่ือสนับสนุนการด�ำ เนนิ กิจกรรมใดๆ ของบุคคลท่ีถกู ก�ำ หนด ผู้ที่ฝา่ ฝนื อาจมีความผิด
ฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  ต้องระวางโทษจำ�คุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปีและปรับ
ต้งั แต่ส่ีหมนื่ บาทถงึ สองแสนบาท หรอื ทั้งจำ�ทง้ั ปรบั
จึงเรียนมาเพ่ือโปรดทราบและพิจารณาดำ�เนินการในส่วนท่ีเกี่ยวข้องต่อไป
และขอขอบคุณมา ณ โอกาสน้ี

ขอแสดงความนบั ถือ

(ลงชอ่ื ) เทพสุ บวรโชตดิ ารา
(นายเทพส ุ บวรโชตดิ ารา)
ผอู้ �ำ นวยการส่วนสบื สวนทางการเงิน ปฏบิ ัตริ าชการแทน
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
กองข่าวกรองทางการเงนิ
โทร ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๐๐ ตอ่ ๑๙๓๒, ๖๐๑๑, ๑๙๑๙, ๑๙๒๗
โทรสาร ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๖๕
๕๕๘

ส่งิ ทสี่ ่งมาดว้ ย ๓

(สำ�เนา)

ด่วนที่สุด
ที่ มท ๐๒๐๘.๓ / ว ๑๖๑๑

ถงึ ส่วนราชการระดับกรม หน่วยงานรัฐวสิ าหกิจในสงั กัดกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร
จงั หวัดทกุ จงั หวัดและหนว่ ยงานในสงั กัดส�ำ นกั งานปลัดกระทรวงมหาดไทย

ด้วยสำ�นักงาน ปปง. แจ้งว่า ไดป้ ระกาศรายชอื่ บุคคลทถี่ ูกกำ�หนด ตามมาตรา ๕
แห่ง  พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  พ.ศ. ๒๕๕๖
ตามประกาศส�ำ นกั งาน ปปง. ท่ี ปกร. ๑๐/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๗  โดยสามารถ
ดาวน์โหลดรายชื่อบุคคลที่ถูกกำ�หนดจากเว็บไซต์ของสำ�นักงาน  ปปง.  WWW.amlo.go.th
ในหวั ขอ้ รายช่อื บุคคลท่ีถูกก�ำ หนด ข้อ ๕.๑.๑๗ ซึง่ มาตรา ๑๖ แห่งพระราชบญั ญัตปิ ้องกันและ
ปราบปรามการสนับสนนุ ทางการเงนิ แก่การก่อการร้าย พ.ศ. ๒๕๕๖ กำ�หนดหา้ มมใิ ห้ผใู้ ดจัดหา
รวบรวม หรอื ดำ�เนินการทางการเงนิ หรือทรัพยส์ ินหรือด�ำ เนินการดว้ ยประการใดๆ โดยรอู้ ย่แู ล้ววา่
ผู้ได้รับประโยชน์ทางการเงินหรือทรัพย์สินหรือจากการดำ�เนินการน้ันเป็นบุคคลท่ีถูกกำ�หนด
หรือโดยเจตนาให้เงินหรือทรัพย์สินหรือการดำ�เนินการนั้นถูกนำ�ไปใช้เพ่ือสนับสนุนการดำ�เนิน
กิจกรรมใดๆ  ของบุคคลท่ีถูกกำ�หนด  ผู้ท่ีฝ่าฝืนอาจมีความผิดฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การ
ก่อการร้าย  ต้องระวางโทษจำ�คุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปีและปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงสองแสนบาท
หรอื ทัง้ จำ�ทงั้ ปรับ รายละเอยี ดปรากฏตามส�ำ เนาหนังสือ ปปง. ดว่ นทีส่ ุด ที่ ปง.๐๐๐๔.๔/ว ๒๑๗
ลงวนั ท่ี ๒๓​ กนั ยายน ๒๕๕๗ ที่แนบมาพร้อมน้ี หากมขี ้อสงสยั ในการดาวน์โหลดรายชอื่ โปรด
สอบถามที่ส่วนต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  การข่าวกรองทางการเงิน
โทร. ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๐๐ ต่อ ๐๙๒๐, ๐๙๓๒, ๖๐๑๑ จึงแจ้งมาเพอ่ื ทราบและพจิ ารณาดำ�เนนิ การ
ในสว่ นท่ีเก่ียวขอ้ งต่อไป

สำ�นกั งานปลดั กระทรวงมหาดไทย
๑ ตุลาคม ๒๕๕๗

๕๕๙

ดว่ นทสี่ ุด (สำ�เนา)
ที่ ปง ๐๐๐๔.๔ / ว ๒๑๗ สำ�นกั งานปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ
๔๒๒ ถนนพญาไท เขตปทมุ วนั กรงุ เทพฯ ๑๐๓๓๐

๒๓ กนั ยายน ๒๕๕๗

เร่ือง ประกาศรายชือ่ บคุ คลทถี่ ูกก�ำ หนดตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบญั ญตั ิป้องกนั และ
ปราบปรามการสนับสนนุ ทางการเงนิ แก่การก่อการร้าย พ.ศ. ๒๕๕๖
เรียน ปลัดกระทรวงมหาดไทย

ด้วย  สำ�นักงาน  ปปง.  ได้ประกาศรายชื่อบุคคลท่ีถูกกำ�หนดตามมาตรา  ๕ 
แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย 
พ.ศ. ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๗
ดังน้ัน  เพ่ือประโยชน์ในการบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว  ในการนี้  จึงขอ
ความอนุเคราะห์ท่านให้ดาวน์โหลดรายชื่อบุคคลที่ถูกกำ�หนดจากเว็บไซต์ของสำ�นักงาน  ปปง.
www.amlo.go.th ในหัวข้อรายช่ือบุคคลทถ่ี ูกก�ำ หนด ข้อ ๕.๒.๑๗ และแจง้ เวยี นพรอ้ มทง้ั ประกาศ
ใหห้ นว่ ยงานภายในของทา่ น เจา้ หนา้ ทแ่ี ละประชาชนทว่ั ไปไดร้ บั ทราบตอ่ ไปดว้ ย
อนงึ่ ห้ามมใิ หผ้ ใู้ ดจดั หา รวบรวม หรือด�ำ เนนิ การทางการเงินหรือทรัพย์สินหรอื
ด�ำ เนนิ การดว้ ยประการใดๆ โดยรอู้ ยแู่ ลว้ วา่ ผไู้ ดร้ บั ประโยชนท์ างการเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ หรอื จากการ
ดำ�เนินการน้ันเป็นบุคคลที่ถูกกำ�หนด  หรือโดยเจตนาให้เงินหรือทรัพย์สินหรือการดำ�เนินการนั้น
ถูกนำ�ไปใช้เพ่อื สนบั สนนุ การดำ�เนนิ กิจกรรมใดๆ ของบคุ คลท่ีถกู ก�ำ หนด ผู้ท่ฝี ่าฝนื อาจมคี วามผิด
ฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  ต้องระวางโทษจำ�คุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปีและปรับ
ตัง้ แต่ส่หี มื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทง้ั จำ�ท้ังปรับ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำ�เนินการในส่วนท่ีเก่ียวข้องต่อไป
และขอขอบคุณในความอนุเคราะหข์ องทา่ นมา ณ โอกาสน้ี
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงชื่อ) เทพสุ บวรโชติดารา
(นายเทพสุ บวรโชตดิ ารา)
ผอู้ ำ�นวยการสว่ นสบื สวนทางการเงนิ ปฏบิ ัติราชการแทน
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ

กองข่าวกรองทางการเงนิ
โทร ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๐๐ ต่อ ๑๙๒๐, ๑๙๓๒, ๖๐๑๑, ๑๙๒๗
โทรสาร ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๖๕
๕๖๐

ที่ มท ๐๕๑๕.๓ / ว ๒๑๔๙๙ (ส�ำ เนา)
กรมท่ีดิน
ศนู ย์ราชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจ้งวัฒนะ
แขวงทุง่ สองหอ้ ง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๓๐ ตลุ าคม ๒๕๕๗

เรือ่ ง ระเบยี บกรมท่ีดนิ ว่าด้วยการตรวจหลักฐานทะเบยี นทด่ี ิน การขอคดั ขอถ่ายสำ�เนาเอกสาร
และการตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ พ.ศ.๒๕๕๖ (แกไ้ ขเพิ่มเติมถึงปจั จุบนั (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ.๒๕๕๗)
เรยี น ผูว้ ่าราชการจงั หวัดทกุ จงั หวดั
อา้ งถึง หนงั สอื กรมทดี่ นิ ดว่ นทสี่ ดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๓/ว ๑๔๙๗๐ ลงวันท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗
สิ่งท่สี ง่ มาด้วย ระเบยี บกรมท่ดี ิน วา่ ดว้ ยการตรวจหลกั ฐานทะเบียนท่ีดิน การขอคัด ขอถา่ ยสำ�เนา
เอกสาร และการตรวจสอบหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๕๖ (แกไ้ ขเพิ่มเติมถงึ ปจั จุบัน
(ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗)

ตามหนังสือที่อ้างถึง  กรมท่ีดินได้แจ้งแนวทางปฏิบัติและส่งระเบียบกรมท่ีดิน
ว่าด้วยการตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน  การขอคัด  ขอถ่ายสำ�เนาเอกสาร  และการตรวจสอบ
หลักทรัพย์ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ ใหพ้ นักงานเจา้ หน้าทีใ่ ช้ในการปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ย่างสะดวก
รวดเร็ว ถูกตอ้ ง และเป็นมาตรฐานเดยี วกนั โดยมผี ลบังคับใชต้ ั้งแต่วนั ท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ น้นั
กรมท่ีดินพิจารณาแล้วเห็นว่า  ระเบียบกรมท่ีดิน  ว่าด้วยการตรวจหลักฐาน
ทะเบยี นที่ดิน การขอคดั ขอถา่ ยสำ�เนาเอกสาร และการตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ พ.ศ. ๒๕๕๖ มกี าร
แก้ไขเพ่ิมเติมเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องในทางปฏิบัติเกี่ยวกับการขอตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดินและ
การขอตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ กรณีท่หี นว่ ยงานของรฐั มหี นังสือโดยมไิ ดส้ ่งเจา้ หนา้ ทมี่ าดำ�เนนิ การ
ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าท่ีได้ถือปฏิบัติไม่เหมือนกัน  ทำ�ให้การปฏิบัติงานไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ประกอบกับได้กำ�หนดให้เกิดความสะดวกต่อหน่วยงานของรัฐในการปฏิบัติภารกิจตามอำ�นาจ
หน้าที่ของแตล่ ะหน่วยงาน ดังน้ัน เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสะดวก รวดเร็ว และพนกั งานเจา้ หนา้ ท่สี ามารถ
ใชร้ ะเบียบกรมท่ีดนิ ดงั กลา่ วในการปฏบิ ัติงานได้อย่างถูกตอ้ ง ครบถว้ น กรมทดี่ นิ จึงได้น�ำ ระเบียบ
กรมทด่ี ินฯ ทั้ง ๒ ฉบับ มารวมใหเ้ ปน็ ฉบับเดียวกนั โดยน�ำ ข้อทแ่ี ก้ไขใหมม่ าแทนข้อที่ถูกยกเลิก
ไปแลว้ พรอ้ มหมายเหตทุ ม่ี าของการแกไ้ ขเพม่ิ เตมิ แตล่ ะขอ้ วา่ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยระเบยี บกรมทด่ี นิ ฯ
ฉบับใด ปรากฏรายละเอยี ดตามระเบยี บกรมทด่ี นิ ทส่ี ่งมาดว้ ย

๕๖๑

จงึ เรยี นมาเพื่อโปรดทราบ และแจง้ ให้พนักงานเจ้าหนา้ ทท่ี ราบ เพือ่ น�ำ ระเบยี บ
กรมทด่ี ินดงั กลา่ วไปใช้ในการปฏิบตั ิงานใหถ้ กู ต้อง และมีประสทิ ธิภาพตอ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอื่ ) ศิรพิ งษ์ ห่านตระกลู
(นายศิริพงษ ์ ห่านตระกลู )
อธิบดกี รมที่ดิน
ส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบยี นท่ดี ิน
กลุม่ พฒั นาการทะเบยี นทด่ี ิน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๖๒

(สำ�เนา)
ระเบยี บกรมที่ดนิ
ว่าด้วยการตรวจหลกั ฐานทะเบียนทีด่ นิ การขอคดั ขอถา่ ยส�ำ เนาเอกสาร
และการตรวจสอบหลักทรัพย์ พ.ศ. ๒๕๕๖
(แก้ไขเพ่มิ เติมถ_งึ _ป_จั _จ_ุบ__นั _(_ฉ_บ__บั _ท_่ี_๒) พ.ศ. ๒๕๕๗)*
โดยที่เห็นเป็นการสมควรให้มีการรวบรวมปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจ
หลักฐานทะเบียนท่ีดิน  การขอคัด  ขอถ่ายสำ�เนาเอกสารและการตรวจสอบหลักทรัพย์  เพื่อให้
พนักงานเจ้าหน้าท่สี ามารถปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง สะดวก รวดเร็ว และเป็นมาตรฐานเดยี วกัน
อาศัยอ�ำ นาจตามความในมาตรา ๓๒ แหง่ พระราชบัญญัตริ ะเบียบบรหิ ารราชการ
แผน่ ดนิ พ.ศ. ๒๕๓๔ ซ่งึ แก้ไขเพ่มิ เตมิ โดยพระราชบญั ญัตริ ะเบียบบริหารราชการแผน่ ดนิ (ฉบับ
ท่ี ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕ ประกอบกบั ข้อ ๒ (๑) (๔) และข้อ ๑๙ (๑) แหง่ กฎกระทรวงแบ่งสว่ นราชการ
กรมที่ดิน  กระทรวงมหาดไทย  พ.ศ. ๒๕๕๓  ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร
ราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ อธิบดกี รมทด่ี นิ จงึ วางระเบยี บไวด้ ังตอ่ ไปนี้
ขอ้ ๑ ระเบยี บน้เี รยี กวา่ “ระเบยี บกรมทด่ี ิน ว่าดว้ ยการตรวจหลักฐานทะเบยี นที่ดนิ
การขอคัด ขอถ่ายส�ำ เนาเอกสาร และการตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ พ.ศ. ๒๕๕๖”
ข้อ ๒ ระเบียบนใี้ ห้ใชบ้ ังคับต้ังแตบ่ ัดนีเ้ ป็นต้นไป
ขอ้ ๓ ให้ยกเลกิ
(๑) หนังสือกรมทะเบียนท่ีดิน  กระทรวงเกษตราธิการ  ลงวันท่ี  ๓๑  สิงหาคม
พระพุทธศกั ราช ๒๔๕๗
(๒) คำ�สัง่ กรมที่ดนิ ท่ี ๔/๒๕๐๐ ลงวันท่ี ๒๕ มนี าคม ๒๕๐๐
(๓) หนังสอื กรมที่ดนิ ท่ี ๒๓๘๙/๒๕๐๐ ลงวันท่ี ๒๙ มีนาคม ๒๕๐๐
(๔) หนังสอื กรมที่ดิน ท่ี มท ๐๖๐๘/ว ๒๐๖๘๓ ลงวนั ท่ี ๒๔ มิถุนายน ๒๕๑๔
(๕) หนังสือกรมที่ดิน ที่ มท ๐๖๐๘/ว ๓๑๐๐๐ ลงวันท่ี ๒๔ มิถุนายน ๒๕๑๔
(๖) ระเบยี บกรมทด่ี นิ วา่ ดว้ ยการตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ ทางไปรษณยี ์ พ.ศ.๒๕๒๕
(๗) หนังสือกรมทด่ี นิ ท่ี มท ๐๖๑๒/๑/ว ๒๙๗๗๐ ลงวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๒๕
(๘) หนงั สอื กรมที่ดิน ที่ มท ๐๖๑๐/๑/ว ๓๗๘๖๗ ลงวันที่ ๑๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๓๕
(๙) หนังสอื กรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๖๑๐/ว ๘๙๖๗ ลงวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๓๘
(๑๐) หนงั สอื กรมทีด่ นิ ที่ มท ๐๖๑๐/ว ๑๒๔๘๖ ลงวันท่ี ๓๐​ เมษายน ๒๕๓๙
_______________________
*ระเบียบกรมท่ีดิน  ว่าด้วยการตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดิน  การขอคัด  ขอถ่ายสำ�เนา
เอกสารและการตรวจสอบหลักทรพั ย์ (ฉบับท่ี ๒ ) พ.ศ. ๒๕๕๗

๕๖๓

(๑๑) หนงั สือกรมที่ดิน ที่ มท ๐๖๑๐/ว ๑๘๓๘๒ ลงวนั ท่ี ๙​ กรกฎาคม ๒๕๓๙
(๑๒) หนังสือกรมที่ดิน ท่ี มท ๐๗๑๐/ว ๐๙๓๗๓ ลงวันท่ี ๒๗​ มนี าคม ๒๕๔๐
(๑๓) หนังสอื กรมท่ีดิน ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๑๗๑๖๓ ลงวนั ที่ ๑๖​ มถิ นุ ายน ๒๕๔๗
(๑๔) หนังสอื กรมที่ดนิ ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๒๗๘๗๐ ลงวันที่ ๒๗​ กนั ยายน ๒๕๔๙
(๑๕) หนงั สือกรมท่ดี นิ ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๑๒๓๐๙ ลงวันท่ี ๑๑​ พฤษภาคม ๒๕๕๐
(๑๖) หนังสอื กรมที่ดิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๑๔๐๒๔ ลงวนั ท่ี ๓๐​ พฤษภาคม ๒๕๕๑
(๑๗) หนงั สือกรมท่ดี ิน ที่ มท ๐๕๑๕.๒/ว ๑๔๑๔๔ ลงวนั ที่ ๖​ พฤษภาคม ๒๕๕๓
(๑๘) หนังสือกรมทด่ี นิ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๑๓๗๘ ลงวันท่ี ๑๘​ เมษายน ๒๕๕๕
ข้อ ๔ บรรดาระเบยี บ ข้อก�ำ หนด หรอื คำ�สั่งอ่ืนใดท่กี ำ�หนดไว้แล้วในระเบยี บนี้ หรอื
ซง่ึ ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ใหใ้ ชร้ ะเบียบน้ีแทน
ข้อ ๕ ในระเบยี บน้ี
“หลักฐานทะเบียนที่ดิน”  หมายความว่า  เอกสารเกี่ยวกับที่ดินซึ่งเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ได้จัดทำ�ขึ้นไว้เป็นหลักฐาน  และเอกสารที่เก่ียวกับที่ดินท่ีเก็บไว้เป็นหลักฐาน  ตลอดจนให้
หมายความรวมถงึ เอกสารต่างๆ ของอาคารชุดและหอ้ งชุดด้วย
“การตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ ” หมายความวา่ การขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ
ทผี่ ้ขู อทราบเลขทห่ี นงั สอื แสดงสิทธใิ นที่ดนิ เครือ่ งหมายทีด่ นิ หรือท่ีผขู้ อสามารถระบทุ ต่ี ้งั ของทีด่ ิน
ได้ชัดเจนว่าอยู่ที่ใด  โดยผู้ขอต้องการทราบว่าท่ีดินดังกล่าวปัจจุบันมีช่ือบุคคลใดเป็นผู้มีสิทธิใน
ทดี่ นิ ไดท้ ่ดี ินมาอยา่ งไร เมื่อใด มีภาระผกู พนั หรอื ไม่ มีการยึดหรอื อายดั ตามกฎหมายใดหรอื ไม่
และไดม้ กี ารออกใบแทนไปแลว้ หรอื ไม่ เมือ่ ใด รวมทง้ั ขอทราบเกีย่ วกับเอกสารหลกั ฐานทะเบียน
ท่ีดนิ ทเ่ี ก่ียวข้อง
“การตรวจสอบหลกั ทรัพย”์ หมายความวา่ การตรวจหลักฐานทะเบียนทดี่ นิ ทผ่ี ู้ขอ
ทราบเฉพาะชื่อบุคคลหรือนิติบุคคล  แต่ไม่ทราบรายละเอียดหรือเลขที่หนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน
โดยผู้ขอต้องการทราบว่าบุคคลหรือนิติบุคคลใด  เป็นผู้ถือกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในที่ดิน
แปลงใด และใหห้ มายความรวมถงึ หอ้ งชุดด้วย
“หนว่ ยงานของรฐั ” หมายความว่า กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการทีเ่ รียกชอื่
อย่างอน่ื และมฐี านะเป็นกรม ราชการสว่ นภูมภิ าค ราชการสว่ นทอ้ งถ่ิน และรัฐวสิ าหกจิ ที่ตงั้ ขึ้น
โดยพระราชบัญญัติหรือพระราชกฤษฎกี า ยกเว้นรฐั วสิ าหกจิ ประเภทธนาคาร และให้หมายความ
รวมถงึ หน่วยงานอ่นื ของรัฐท่ีกฎหมายก�ำ หนดให้เปน็ หนว่ ยงานของรัฐ
ข้อ ๖ ใหผ้ อู้ �ำ นวยการส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบยี นทด่ี นิ เปน็ ผรู้ กั ษาการตามระเบยี บน้ี

๕๖๔

หมวด ๑
การตรวจหลักฐานทะเบ_ยี_น__ท_ด่ี _ิน__ก_า_รข__อ_ค_ัด ขอถา่ ยสำ�เนาเอกสาร

สว่ นที่ ๑
การขอตรวจหลกั ฐานทะ_เบ_ยี_น__ท_่ีด_ิน__ก_า_ร_ข_อ_คัด ขอถา่ ยสำ�เนาเอกสาร
ข้อ ๗ ผ้ใู ดมคี วามประสงคข์ อตรวจหลกั ฐานทะเบยี นที่ดิน ขอคดั หรือขอถ่ายสำ�เนา
เอกสารเกย่ี วกบั หลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ แปลงใด ใหย้ น่ื ค�ำ ขอตามแบบ ท.ด.๙ ตอ่ พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี
ณ  สำ�นักงานที่ดินท้องท่ีซ่ึงท่ีดินตั้งอยู่  และแจ้งเหตุผลที่ขอคัดหรือถ่ายสำ�เนาเอกสาร  พร้อมท้ัง
เครื่องหมายที่ดินหรือข้อความเท่าท่ีผู้ขอสามารถแจ้งให้ทราบถึงที่ตั้งของท่ีดินแปลงน้ัน  มีความ
ประสงค์จะขอตรวจหลักฐานทะเบยี นท่ดี ิน หรือขอคัด หรือถา่ ยสำ�เนาเอกสารใด เพื่อประโยชน์
อะไร และจะให้รบั รองเอกสารดว้ ยหรือไม่
ข้อ ๘ ให้พนักงานเจ้าหนา้ ที่สอบสวนใหไ้ ดค้ วามว่า ผ้ขู อต้องการขอตรวจหลกั ฐาน
ทะเบยี นทด่ี นิ ของทด่ี นิ แปลงใด เพอ่ื ตอ้ งการทราบเกย่ี วกบั เรอ่ื งใด หรอื คดั หรอื ถา่ ยส�ำ เนาเอกสารใด
เพื่อประโยชน์อะไร  แล้วพิจารณาเปิดเผยหลักฐานทะเบียนท่ีดิน  โดยปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ของ
พระราชบญั ญตั ขิ อ้ มลู ข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
กรณขี อตรวจหลกั ฐานทะเบียนท่ีดิน หากตรวจพบว่าหลักฐานหนงั สอื แสดงสทิ ธใิ น
ท่ดี นิ ไดม้ กี ารออกเป็นหนงั สือแสดงสิทธใิ นท่ีดินประเภทอ่ืนไปแล้ว เช่น ส.ค.๑ ออกเปน็ หนงั สือ
รับรองการท�ำ ประโยชน์ หรือหนังสอื รับรองการท�ำ ประโยชน์ ออกเปน็ โฉนดทีด่ ินไปแล้ว เป็นตน้
ใหพ้ นกั งานเจ้าหนา้ ท่แี จ้งใหผ้ ู้ขอทราบด้วย
หากสอบสวนแลว้ เหน็ ว่าไม่อาจเปิดเผยหลกั ฐานทะเบยี นทดี่ นิ ให้แก่ผู้ขอได้ หรอื เปน็
เร่ืองท่ีไม่มีกฎหมายให้กระทำ�ได้แล้ว  ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีสั่งไม่รับดำ�เนินการตามคำ�ขอพร้อม
แจ้งเหตุผลและสิทธิการอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ  พ.ศ. ๒๕๔๐
ให้ผู้ขอทราบ
การสัง่ การเกย่ี วกบั การตรวจหลกั ฐานทะเบียนที่ดนิ การขอคดั ขอถา่ ยส�ำ เนาเอกสาร
ให้หวั หนา้ ฝา่ ยทะเบียน หรอื ผู้ที่ได้รบั มอบหมาย หรือเจา้ พนักงานทีด่ นิ อำ�เภอ แลว้ แต่กรณี เป็น
ผูม้ ีอำ�นาจสง่ั การ
ขอ้ ๙ ห้ามพนักงานเจ้าหน้าท่ีดำ�เนินการตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน  หรือคัดหรือ
ถา่ ยส�ำ เนาเอกสารให้แก่ผู้ใดโดยไม่มีคำ�ขอ
ข้อ ๑๐ การขอตรวจสอบหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินซึ่งเป็นเอกสารมหาชน  บุคคล
ทั่วไปขอตรวจสอบได้ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ  พ.ศ. ๒๕๔๐  โดยให้ระบุ
หมายเลขหนงั สอื แสดงสิทธใิ นทดี่ นิ ท่จี ะขอตรวจสอบใหช้ ัดเจน หากไม่สามารถระบใุ ห้ชดั เจนได้ก็
ไม่อาจใหต้ รวจสอบได้

๕๖๕

ข้อ ๑๑ การขอตรวจ  ขอคัด  หรือขอถ่ายสำ�เนาเอกสารต่างๆ  หากเป็นเอกสารที่
เกย่ี วขอ้ งกบั ประชาชนและไมต่ อ้ งหา้ มตามพระราชบญั ญตั ขิ อ้ มลู ขา่ วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
หรอื เปน็ เอกสารทม่ี ลี ายมอื ชอ่ื ของเจา้ ของทด่ี นิ หรอื คกู่ รณ ี ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ี
ถ้ามีเหตุผลอันสมควรในการขอดำ�เนินการพนักงานเจ้าหน้าที่สามารถอนุญาตผู้ขอให้ขอตรวจ
ขอคัด หรอื ขอถา่ ยสำ�เนาเอกสารน้ันไดท้ ั้งหมด หรือบางสว่ นตามทเี่ หน็ สมควร โดยผขู้ อไมจ่ �ำ เป็น
ต้องเป็นผู้มีสว่ นไดเ้ สียในท่ดี ินหรอื เอกสารน้นั
กรณขี อถา่ ยส�ำ เนาหนงั สือมอบอำ�นาจ ซงึ่ มีรายละเอียดการมอบอ�ำ นาจ ลายมือชอ่ื
ผมู้ อบอ�ำ นาจและความเหน็ ของพนกั งานเจา้ หนา้ ทเ่ี กย่ี วกบั หนงั สอื มอบอ�ำ นาจไมถ่ อื เปน็ ความลบั
ใหถ้ า่ ยและรับรองสำ�เนาเอกสารหนงั สือมอบอ�ำ นาจนน้ั ได้ ในกรณีพนักงานเจ้าหน้าท่ีเห็นว่าอาจ
จะก่อให้เกิดความเสียหาย  ให้ใช้ดุลยพินิจส่ังการตามท่ีเห็นสมควรภายใต้พระราชบัญญัติข้อมูล
ขา่ วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
ขอ้ ๑๒ กรณขี อถา่ ยหลกั ฐานส�ำ เนาทะเบยี นบา้ น หรอื ส�ำ เนาบตั รประจ�ำ ตวั ประชาชน
ท่ีเก็บไว้ในสารบบให้แจ้งผู้ขอไปดำ�เนินการขอถ่ายสำ�เนาเอกสารจากหน่วยงานซึ่งเป็นผู้ออก
เอกสารนนั้ โดยตรง เวน้ แต่เปน็ กรณีจำ�เป็นทีต่ ้องใช้สำ�เนาหลกั ฐานดงั กล่าว เชน่ ผขู้ ออ้างว่ามกี าร
ปลอมแปลงเอกสารหลกั ฐาน เปน็ ต้น
ข้อ ๑๓ กรณีที่สำ�นักงานที่ดินไม่มีเคร่ืองถ่ายเอกสารไว้บริการสำ�หรับประชาชน
ในสำ�นักงานท่ีดิน  ให้ผู้ขอที่จะขอถ่ายเอกสารพร้อมกับพนักงานเจ้าหน้าท่ีของสำ�นักงานที่ดินนำ�
เอกสารไปถ่ายสำ�เนานอกสำ�นักงานที่ดินได้  โดยต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด
เจ้าพนักงานท่ีดินจังหวัดสาขา  เจ้าพนักงานที่ดินหัวหน้าส่วนแยก  หรือเจ้าพนักงานท่ีดินอำ�เภอ
แลว้ แต่กรณี และใหผ้ ้ขู อเปน็ ผู้ชำ�ระคา่ ใชจ้ า่ ยและค่าถ่ายสำ�เนาเอกสารเอง
ขอ้ ๑๔ กรณีท่ีผู้ขอประสงค์ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีรับรองสำ�เนาเอกสาร  ก่อนท่ีจะ
รับรองสำ�เนาเอกสารให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีตรวจสอบสำ�เนาเอกสารว่ามีความชัดเจนครบถ้วน
ถกู ต้องตรงกับเอกสารทขี่ อให้รบั รองหรือไม่
การรับรองสำ�เนาเอกสารให้พนักงานเจ้าหน้าที่ลงนามรับรองสำ�เนาถูกต้อง  พร้อม
ระบชุ ่ือ ตำ�แหน่ง และวัน เดอื น ปี ทุกแผ่นทุกหนา้
ข้อ ๑๕ กรณีการขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดิน  การขอคัด  หรือขอถ่ายสำ�เนา
เอกสารและสำ�เนาจากสื่อบันทึกข้อมูลทางคอมพิวเตอร์  หรือส่ืออิเล็กทรอนิกส์อื่น  ให้เรียกเก็บ
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จา่ ยตามหมวด ๔ ของระเบยี บนี้

๕๖๖

สว่ นที่ ๒
หน่วยงานของรฐั ขอตรวจหล_ัก_ฐ_า_น_ท_ะ_เ_บ_ีย_น_ท_ีด่ _ิน_ ขอคัด ขอถา่ ยส�ำ เนาเอกสาร
ข้อ ๑๖ กรณีหน่วยงานของรัฐซึ่งอาศัยอำ�นาจตามกฎหมาย แจ้งให้ตรวจหลักฐาน
ทะเบียนท่ีดินและจัดส่งเอกสารเก่ียวกับที่ดิน  ในกรณีท่ีตรวจพบให้จัดส่งแต่สำ�เนาเอกสาร
ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ลงนามรับรองสำ�เนาว่าถูกต้องตรงกับต้นฉบับ  เว้นแต่เรื่องใดที่ระบุความ
จ�ำ เปน็ ชดั แจง้ วา่ ตอ้ งการตน้ ฉบบั จงึ ใหต้ น้ ฉบบั เฉพาะในกรณที ม่ี คี วามจ�ำ เปน็ เทา่ นน้ั การสง่ เอกสาร
ต้นฉบับให้กำ�หนดเวลาการส่งคืน  โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่ถ่ายสำ�เนาเอกสารหรือสารบบนั้นไว้
พร้อมทั้งทำ�บัญชีไว้เป็นหลักฐานและให้ถือเป็นเร่ืองสำ�คัญท่ีพนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องเอาใจใส่
และคอยระมัดระวงั เรยี กเอกสารกลับคืน
*ข้อ ๑๗ กรณีที่หน่วยงานของรัฐมีหนังสือขอตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน  ขอคัด
ขอถา่ ยส�ำ เนาเอกสาร และใหจ้ ดั สง่ เอกสาร โดยมไิ ดส้ ง่ เจา้ หนา้ ทข่ี องหนว่ ยงานนน้ั มาด�ำ เนนิ การเอง
ใหถ้ อื หนงั สอื ดังกล่าวเป็นคำ�ขอ และใหพ้ นักงานเจา้ หนา้ ท่ดี ำ�เนนิ การตามขอ้ ๑๙ (๒) วรรคสอง
และ (๓) แลว้ แต่กรณี เสร็จแลว้ ให้สง่ ผลการตรวจสอบและเอกสาร พรอ้ มทง้ั แจง้ คา่ ธรรมเนยี ม
และค่าใช้จ่ายกรณีดังกล่าวให้หน่วยงานของรัฐทราบและจัดส่งค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายน้ัน
โดยส่งเจ้าหน้าท่มี าชำ�ระ หรอื ชำ�ระโดยเชค็ ไปรษณยี ์ หรือธนาณัติ หรอื วิธกี ารอนื่ ตามทก่ี รมทด่ี นิ
กำ�หนด  มาให้สำ�นักงานที่ดินในภายหลังต่อไป  เว้นแต่หน่วยงานของรัฐน้ันมีกฎหมายให้ยกเว้น
ค่าธรรมเนยี มและหรอื ค่าใช้จา่ ยดังกล่าว
กรณีหน่วยงานของรัฐขอตรวจหลกั ฐานทะเบียนที่ดนิ ขอคดั ขอถา่ ยส�ำ เนาเอกสาร
ไมว่ ่าเป็นกรณยี ่ืนค�ำ ขอ หรอื กรณมี หี นงั สือขอตรวจสอบหลกั ฐานทะเบยี นท่ีดนิ โดยถือหนงั สอื นน้ั
เปน็ ค�ำ ขอ ในการเรยี กเกบ็ ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายตามระเบียบน้ี หากหน่วยงานของรฐั นนั้ มี
กฎหมายให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายนั้น  ให้หน่วยงานของรัฐแสดงกฎหมายดังกล่าว
เพื่อประกอบการยกเว้นด้วย
ขอ้ ๑๘ กรณศี าลมคี �ำ สงั่ เรียกพยานเอกสารประกอบคดตี ามท่ีคคู่ วามร้องขอ โดยท่ี
คูค่ วามไมม่ ายื่นขอคัด หรอื ขอถา่ ยสำ�เนาเอกสารด้วยตนเอง แต่เป็นกรณที ่ขี อใหศ้ าลมหี มายเรยี ก
สำ�เนาเอกสารมายังสำ�นักงานที่ดินโดยตรง  ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีจัดส่งสำ�เนาเอกสารให้แก่ศาล
ตามหมายเรยี ก  แล้วใหเ้ รยี กเกบ็ ค่าธรรมเนยี มและค่าใชจ้ ่ายเปน็ คา่ คดั หรือถา่ ยส�ำ เนาเอกสาร
และค่ารับรองเอกสาร ตามหมวด ๔ ของระเบียบนี้ โดยใหพ้ นักงานเจา้ หนา้ ทแี่ จ้งศาลขอใหเ้ รียก
เก็บค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายดังกล่าวจากคู่ความผู้อ้างเอกสารน้ันแล้วจัดส่งให้สำ�นักงานท่ีดิน
เว้นแตก่ รณีเป็นคดที ่ีมกี ฎหมายให้ยกเวน้ ค่าธรรมเนียม ส่วนคา่ คำ�ขอไม่ต้องเรยี กเก็บ เพราะค�ำ สง่ั
เ_ร_ีย_ก_พ_ย_า_น__เอ_ก_ส_า_ร_ข_อ_ง_ศ_า_ล_ม__ใิ ช_ค่ ำ�ขอ
*ข้อ  ๑๗  ถูกยกเลิกและแก้ไขเพ่ิมเติมโดยระเบียบกรมท่ีดิน  ว่าด้วยการตรวจหลักฐาน
ทะเบยี นท่ีดิน  การขอคัด  ขอถา่ ยสำ�เนาเอกสารและการตรวจสอบหลกั ทรัพย์ (ฉบับที่ ๒ ) พ.ศ. ๒๕๕๗

๕๖๗

กรณีท่คี ู่ความน�ำ หมายศาลมาด�ำ เนินการด้วยตนเอง ใหพ้ นกั งานเจ้าหน้าท่ีเรียกเกบ็
คา่ ธรรมเนียม และคา่ ใช้จา่ ยจากคู่ความ เปน็ ค่าคัดหรอื ถ่ายส�ำ เนาเอกสารและคา่ รบั รองเอกสาร
ตามหมวด ๔ ของระเบยี บน้ี ส่วนค่าค�ำ ขอไม่ตอ้ งเรียกเกบ็ และให้พนกั งานเจ้าหนา้ ที่ทำ�หนังสือ
แจ้งให้ศาลทราบโดยระบุในหนังสือแจ้งศาลด้วยว่าผู้ขอเป็นผู้รับสำ�เนาเอกสารไปด้วยตนเอง
ในกรณที ม่ี เี หตขุ ดั ขอ้ งไมส่ ามารถด�ำ เนนิ การให ้ คคู่ วามรบั ส�ำ เนาเอกสารไปได ้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ี
จัดส่งสำ�เนาเอกสารให้แก่ศาลโดยอนโุ ลมดำ�เนินการตามวรรคหนง่ึ
ขอ้ ๑๙ กรณีหน่วยงานของรัฐ  ขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดิน  ขอคัดหรือขอถ่าย
สำ�เนาเอกสารให้พิจารณาเปิดเผยหลักฐานทะเบียนท่ีดินตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติ
ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ และใหด้ ำ�เนินการ ดังน้ี
(๑) กรณยี น่ื ค�ำ ขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ ขอคดั หรอื ขอถา่ ยส�ำ เนาเอกสารดว้ ยมอื
เป็นกรณีท่ีพนักงานเจ้าหน้าท่ีของสำ�นักงานท่ีดินต้องเป็นผู้ดำ�เนินการให้  ถึงแม้หน่วยงานนั้น
จะสง่ เจา้ หน้าทม่ี าคัดหรือถา่ ยส�ำ เนาเอกสารดว้ ยตนเอง กไ็ มอ่ าจใหด้ ำ�เนนิ การเองได้ เนื่องจาก
การย่ืนคำ�ขอ (ท.ด. ๙) เป็นการแสดงความประสงคท์ ีจ่ ะให้พนกั งานเจ้าหนา้ ทขี่ องสำ�นักงานท่ีดิน
ด�ำ เนินการให้ จึงเปน็ กรณีที่ตอ้ งเรยี กเก็บค่าธรรมเนยี มและค่าใชจ้ ่าย ตามขอ้ ๓๑ ขอ้ ๓๔ ขอ้ ๓๕
ของระเบยี บนี้
(๒) กรณีมีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดิน  ขอคัดหรือ
ขอถา่ ยสำ�เนาเอกสารด้วยมอื โดยสง่ เจา้ หน้าทีข่ องหนว่ ยงานน้ันมาคัดหรอื ถา่ ยสำ�เนาเอกสารเอง
พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ของสำ�นักงานท่ดี ินมีเพยี งหนา้ ทเี่ พียงแต่อำ�นวยความสะดวกด้านข้อมลู เทา่ น้ัน
ไม่ต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียม  เน่ืองจากเป็นการประสานงานระหว่างหน่วยงาน  มิใช่กรณีตาม
มาตรา ๑๐๓ แห่งประมวลกฎหมายท่ีดนิ
กรณีมหี นงั สอื แจ้งขอความรว่ มมอื ขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี ิน ขอคัดหรือขอถ่าย
ส�ำ เนาเอกสารดว้ ยมอื โดยไมไ่ ดส้ ง่ เจา้ หนา้ ทข่ี องหนว่ ยงานนน้ั มา หรอื สง่ มาแตไ่ มไ่ ดเ้ ปน็ ผดู้ �ำ เนนิ การ
คัดหรือถ่ายสำ�เนาเอกสารเอง เป็นกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่ของสำ�นักงานที่ดินเป็นผู้ดำ�เนินการ
ในกรณเี ชน่ นใ้ี หเ้ รยี กเกบ็ คา่ ธรรมเนยี มและคา่ ใชจ้ า่ ย ตามขอ้ ๓๑ ขอ้ ๓๔ และขอ้ ๓๕ ของระเบยี บน้ี
การดำ�เนินการคัดหรือถ่ายสำ�เนาเอกสารตามวรรคหน่ึง  ให้อยู่ภายใต้การควบคุม
ดูแลของพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่อำ�นวยความสะดวกตามความเหมาะสม
และระมัดระวังความชำ�รุดเสียหาย  กรณีท่ีเป็นเอกสารสำ�คัญท่ีต้องระวังความชำ�รุดเสียหาย
ให้พนกั งานเจา้ หน้าทเ่ี ป็นผคู้ ัดหรือถา่ ยสำ�เนาเอกสารให้
(๓) กรณีย่ืนคำ�ขอหรือมีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดิน
และขอส�ำ เนาจากสื่อบนั ทกึ ข้อมูลทางคอมพวิ เตอร์ หรอื ส่อื อเิ ล็กทรอนิกสอ์ ืน่ เช่น การขอขอ้ มูล
แปลงทดี่ ินทางระบบ Land Information System (LIS) เปน็ ต้น และให้พนักงานเจ้าหนา้ ที่ของ
สำ�นักงานที่ดินเป็นผู้ดำ�เนินการ  เน่ืองจากมีระบบรักษาความปลอดภัยท่ีจะเข้าถึงฐานข้อมูล 
และให้เรียกเกบ็ ค่าธรรมเนยี ม ตามข้อ ๓๑ และข้อ ๓๕ ของระเบียบน้ี

๕๖๘

(๔) กรณีขอให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีรับรองเอกสารที่คัดหรือถ่ายสำ�เนาเอกสาร
ใหเ้ รยี กเกบ็ คา่ ธรรมเนยี มการรบั รองเอกสารทค่ี ดั หรอื ถา่ ยส�ำ เนาเอกสารตามขอ้ ๓๖ ของระเบยี บน้ี
เวน้ แต่กรณีท่มี กี ฎหมายก�ำ หนดใหย้ กเว้น
การขอตรวจหลักฐานทะเบยี นทด่ี นิ ขอคดั หรือขอถา่ ยสำ�เนาเอกสาร เมือ่ พนักงาน
เจ้าหน้าที่ดำ�เนินการแล้วให้ผู้ขอหรือเจ้าหน้าท่ีของหน่วยงานนั้นลงนามรับรองไว้เป็นหลักฐานว่า
ไดต้ รวจหลกั ฐานทะเบยี นท่ีดิน หรือคดั หรือถา่ ยสำ�เนาเอกสารแลว้ แตเ่ ม่ือใด
ขอ้ ๒๐ กรณีทีห่ น่วยงานของรัฐซึง่ อาศัยอำ�นาจตามกฎหมาย เช่น มาตรา ๑๒ ตรี
แหง่ ประมวลรษั ฎากรมาตรา ๑๔ แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ.๒๕๑๙
มาตรา ๒๕ แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรัฐธรรมนูญวา่ ดว้ ยการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริต
พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๓๘ แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.๒๕๔๒
มาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนูญวา่ ด้วยการตรวจเงนิ แผ่นดิน พ.ศ.๒๕๔๒
มาตรา ๒๔ แหง่ พระราชบัญญัตกิ ารสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.๒๕๔๗ และมาตรา ๑๘ แห่งพระราช
บัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต  พ.ศ. ๒๕๕๑  เป็นต้น
ขอตรวจหลักฐานทะเบียนทดี่ ิน ขอคดั หรอื ขอถา่ ยส�ำ เนาเอกสาร ในกรณีเช่นนถี้ ือวา่ เปน็ หนา้ ทีท่ ่ี
พนักงานเจ้าหน้าท่ีต้องปฏิบัติตามกฎหมาย  ไม่ต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการตรวจหลักฐาน
ทะเบียนท่ีดิน  การคัด  หรือถ่ายสำ�เนาเอกสารหรือค่ารับรองเอกสารเพื่อส่งสำ�เนาเอกสารให้แก่
หนว่ ยงานตามท่ีกฎหมายก�ำ หนด แมจ้ ะเป็นการตรวจหลักฐานทะเบยี นทีด่ นิ การคดั หรือส�ำ เนา
จากสือ่ บันทึกขอ้ มลู ทางคอมพวิ เตอร์ หรอื สอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ สอ์ ่นื
ข้อ ๒๑ กรณีหนว่ ยงานของรฐั วา่ จา้ งบคุ คลหรือนติ บิ ุคคลให้ด�ำ เนินการเรือ่ งใด แลว้
ผู้รบั จ้างนน้ั มายน่ื ค�ำ ขอตรวจหลักฐานทะเบยี นท่ีดิน ขอคดั หรอื ขอถา่ ยส�ำ เนาเอกสาร โดยมิใช่
กรณีหน่วยงานของรัฐขอความร่วมมือและมาดำ�เนินการเอง  ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีสอบสวนและ
บันทึกเหตุผลในคำ�ขอว่าขอไปเพ่ือเหตุใด  พร้อมท้ังระบุเลขที่หนังสือแสดงสิทธิในที่ดินที่ขอให้
ชดั เจน และใหเ้ รยี กเก็บค่าธรรมเนยี ม ตามข้อ ๓๑ ขอ้ ๓๔ และขอ้ ๓๕ ของระเบยี บน้ี

หมวด ๒
การตรวจหลัก_ฐ_า_น_ท__ะ_เบ_ยี_น__ท_่ีด_ิน_ทางไปรษณีย์
ข้อ ๒๒ การตรวจหลักฐานทะเบียนท่ดี นิ ทางไปรษณีย์ กรณีเปน็ ทด่ี ินใหข้ อตรวจได้
เฉพาะทด่ี นิ ทม่ี โี ฉนดทด่ี นิ หรอื หนงั สอื รบั รองการท�ำ ประโยชน์ และกรณเี ปน็ อาคารชดุ ใหข้ อตรวจได้
เฉพาะหนังสือกรรมสิทธ์ิห้องชุดโดยไม่รวมถึงการตรวจสอบหลักทรัพย์  การขอคัด  และขอถ่าย
ส�ำ เนาเอกสาร
การขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดินทางไปรษณีย์ให้ตรวจได้เฉพาะหลักฐาน
ดงั ตอ่ ไปน้ี

๕๖๙

(๑) ทีด่ ินมชี ื่อบุคคลใดเป็นผมู้ ีสทิ ธใิ นทดี่ ินหรอื หอ้ งชุด ไดม้ าอย่างไร เมือ่ ใด มีภาระ
ผูกพนั หรือไม่ อยา่ งไร
(๒) ทดี่ นิ มกี ารยึดหรอื อายัดตามกฎหมาย หรอื ไม่
(๓) ได้มกี ารออกใบแทนไปแล้วหรือไม่ เมื่อใด
กรณีผู้ขอ  ขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดินและขอคัดหรือขอถ่ายสำ�เนาเอกสารด้วย
ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทด่ี ำ�เนนิ การใหเ้ ฉพาะการตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทีด่ ินตาม (๑) – (๓) เทา่ นัน้
ส่วนอืน่ ๆ ใหแ้ จ้งผู้ขอทราบวา่ ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ท่ีจะขอด�ำ เนนิ การทางไปรษณีย์ได้
ขอ้ ๒๓ กรณีบุคคลใดมีหนังสือขอตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดินทางไปรษณีย์
ใหพ้ นักงานเจา้ หนา้ ที่ดำ�เนินการ ดังนี้
(๑) ใหต้ รวจสอบเอกสารหลกั ฐานท่ผี ้ขู อสง่ มา แลว้ จดั ทำ�บญั ชีคมุ เร่ืองการขอตรวจ
หลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ ทางไปรษณยี ์ โดยบนั ทกึ ขอ้ มลู รายละเอยี ดชอ่ื ทอ่ี ยขู่ องผขู้ อ เลขทโ่ี ฉนดทด่ี นิ
หรือหนังสือรับรองการทำ�ประโยชน์หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด  รายละเอียดตำ�แหน่งท่ีดิน
ความประสงค์ในการขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดินเพื่อประโยชน์ใด  และได้ส่งค่าธรรมเนียม
ถกู ตอ้ งหรอื ไม่
กรณที ผ่ี ขู้ อไมไ่ ดส้ ง่ เงนิ คา่ ธรรมเนยี มมา หรอื สง่ มาแตไ่ มถ่ กู ตอ้ ง ใหแ้ จง้ ผขู้ อด�ำ เนนิ การ
สง่ เงนิ คา่ ธรรมเนยี มใหถ้ ูกตอ้ งครบถ้วนเสียก่อน ตามแบบท้ายระเบียบน้ี
(๒) ในกรณที ต่ี รวจสอบแลว้ สามารถด�ำ เนนิ การได ้ ใหล้ งบญั ชรี บั ท�ำ การโดยถอื หนงั สอื
ขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดินทางไปรษณีย์เป็นคำ�ขอ  แล้วเรียกเก็บค่าธรรมเนียมตามข้อ  ๓๑
ของระเบียบน้ี
(๓) เม่อื ท�ำ การตรวจสอบแล้ว ใหท้ ำ�หนงั สอื แจง้ ผลการตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทดี่ นิ
ใหผ้ ้ขู อทราบภายใน ๗ วันท�ำ การนับแตว่ นั ท่ีไดร้ ับค�ำ ขอ ตามแบบท้ายระเบยี บน้ี ถา้ มเี งนิ เหลือพอ
ส�ำ หรบั การสง่ เงนิ คนื ใหจ้ ดั สง่ พรอ้ มทง้ั สง่ ใบเสรจ็ รบั เงนิ คา่ ธรรมเนยี มไปดว้ ย หากมเี งนิ เหลอื ไมพ่ อ
สำ�หรับส่งคืน ให้แจง้ ผขู้ อรับเงนิ ท่ีเหลอื คนื โดยดว่ นภายใน ๓๐​ วัน โดยให้ด�ำ เนนิ การฝากเก็บ
เงนิ เหลือดงั กลา่ วไวท้ ำ�นองเดียวกบั เงินคา่ ใช้จ่ายมดั จำ�รังวดั
(๔) กรณีท่ีไม่อาจดำ�เนินการให้ผู้ขอได้  ให้แจ้งผู้ขอทราบถึงข้อขัดข้องน้ันพร้อม
สง่ เงินคนื ให้แก่ผขู้ อ ภายใน ๗ วนั ทำ�การนับแตว่ นั ที่ไดร้ ับคำ�ขอ หากกรณีมขี ้อขัดขอ้ งเนือ่ งจาก
เอกสารหรอื คา่ ธรรมเนยี มไมค่ รบถว้ น หรอื อน่ื ๆ ใหแ้ จง้ ผขู้ อด�ำ เนนิ การเพม่ิ เตมิ ใหค้ รบถว้ นเสยี กอ่ น
ตามแบบทา้ ยระเบียบน้ี แลว้ ด�ำ เนนิ การให้แกผ่ ขู้ อต่อไป
(๕) เม่ือด�ำ เนินการตาม (๓) หรือ (๔) แล้วแต่กรณี ใหพ้ นกั งานเจา้ หน้าท่หี มายเหตุ
ในบัญชคี มุ เร่ืองการขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นที่ดนิ ทางไปรษณีย์ ลงชอ่ื พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ พร้อม
วนั เดือน ปี ทดี่ �ำ เนินการแล้วเสรจ็ และเกบ็ เรื่องรวมเข้าสารบบที่ดินตามระเบียบ

๕๗๐

ขอ้ ๒๔ ใหส้ �ำ นกั งานทด่ี นิ ประชาสมั พนั ธใ์ หป้ ระชาชนไดท้ ราบหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี าร
ขอตรวจสอบหลักฐานทะเบียนที่ดินทางไปรษณีย์  ว่าสามารถขอตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดินได้
เฉพาะการตรวจหลกั ฐานตามข้อ ๒๒ เท่านัน้ ไม่รวมถึงการตรวจสอบหลกั ฐาน การขอคดั หรือขอ
ถ่ายสำ�เนาเอกสาร โดยผู้ขอต้องส่งเงินค่าธรรมเนียมคำ�ขอ และค่าตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน
โดยเช็คไปรษณีย์หรือธนาณัติ  หรือวิธีการอ่ืนตามท่ีกรมท่ีดินกำ�หนด  พร้อมส่งซองจดหมาย
ปิดแสตมป์จ่าหน้าซองถึงตัวผู้ขอ  โดยระบุท่ีอยู่ให้ชัดเจนเพื่อจะได้แจ้งผลการตรวจสอบหรือ
ข้อขัดขอ้ งใหท้ ราบ

หมวด ๓
การข_อ_ต__รว_จ_ส__อ_บ_ห_ล_ัก_ท_รัพย์
ขอ้ ๒๕ ผู้ใดมีความประสงค์ขอให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักทรัพย​์ของ
บุคคลหรือนิติบุคคลใดเพ่ือให้ทราบว่าบุคคลหรือนิติบุคคลนั้น  มีช่ือเป็นผู้ถือกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิ
ครอบครองในท่ีดินแปลงใดหรืออสงั หารมิ ทรพั ย์อ่ืนใด ใหย้ ื่นค�ำ ขอตามแบบ ท.ด.๙ ต่อพนักงาน
เจ้าหนา้ ท่ี ณ สำ�นักงานทด่ี ินทอ้ งทซ่ี ง่ึ ที่ดนิ หรืออสังหารมิ ทรัพยน์ น้ั ตั้งอยู่ พร้อมหลกั ฐานท่แี สดงว่า
มีสทิ ธติ รวจสอบหลกั ทรัพย์ไดต้ ามกฎหมาย และแจง้ ความประสงค์ว่าขอตรวจสอบเพอื่ ประโยชน์
อยา่ งไร
ขอ้ ๒๖ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทส่ี อบสวนใหไ้ ดค้ วามวา่ เปน็ การขอตรวจสอบหลกั ทรพั ย์​
ของบุคคลหรอื นติ ิบคุ คลใด เพอ่ื ตอ้ งการทราบว่าบคุ คลหรอื นิตบิ ุคคลนั้น เปน็ ผู้ถอื กรรมสทิ ธิ์หรอื
สิทธิครอบครองในท่ดี ินแปลงใดหรืออสงั หาริมทรัพยอ์ นื่ ใด เพอ่ื ประโยชน์อย่างไร แลว้ พิจารณา
เปดิ เผยหลกั ฐานทะเบียนทดี่ นิ โดยปฏบิ ตั ติ ามหลักเกณฑ์ของพระราชบญั ญตั ิข้อมลู ขา่ วสารของ
ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
*ขอ้ ๒๗ กรณีเอกชนผู้มีสิทธิตามกฎหมาย  เช่น  เจ้าหน้ีตามคำ�พิพากษาหรือ
คำ�สั่งศาลถึงที่สุดหรือทนายความผู้ได้รับมอบอำ�นาจจากเจ้าหน้ีดังกล่าว  ซ่ึงเป็นผู้มีสิทธิตาม
มาตรา ๒๔ (๘) แหง่ พระราชบญั ญตั ขิ อ้ มลู ขา่ วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ขอตรวจสอบหลกั ทรพั ย์
ของลูกหนี้ตามคำ�พิพากษาหรือคำ�สั่งศาลน้ัน  ให้ยื่นคำ�ขอต่อพนักงานเจ้าหน้าท่ีพร้อมด้วย
ค�ำ พพิ ากษาหรอื ค�ำ สง่ั ศาลถงึ ทส่ี ดุ ตามกฎหมายโดยมหี นงั สอื รบั รอง คดถี งึ ทส่ี ดุ ประกอบค�ำ ขอดว้ ย
หรอื หากเปน็ กรณที ผ่ี ขู้ ออา้ งวา่ คดไี ดถ้ งึ ทส่ี ดุ โดยผลของกฎหมายแลว้ เชน่ ค�ำ พพิ ากษาตามสญั ญา
ประนีประนอมยอมความซงึ่ ถึงท่สี ุดแล้ว ตามมาตรา ๑๓๘ และมาตรา ๑๔๗ แหง่ ประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  และมีหมายบังคับคดีแล้ว  เป็นต้น  โดยไม่มีหนังสือรับรอง
_______________________
*ข้อ  ๒๗  ถูกยกเลิกและแก้ไขเพ่ิมเติมโดยระเบียบกรมที่ดิน  ว่าด้วยการตรวจหลักฐาน
ทะเบยี นที่ดนิ   การขอคดั   ขอถ่ายสำ�เนาเอกสารและการตรวจสอบหลกั ทรัพย์ (ฉบบั ที่ ๒ ) พ.ศ. ๒๕๕๗

๕๗๑

คดีถงึ ทสี่ ุดมาประกอบคำ�ขอดว้ ย ให้ผขู้ อยนื ยนั และอ้างกฎหมายที่บญั ญตั ใิ หค้ ดีถงึ ท่สี ุดนั้น เพอื่
แสดงว่าตนมีสิทธิของตรวจสอบหลักทรัพย์ตามกฎหมาย  แล้วให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีตรวจสอบ
บทบัญญัติของกฎหมายน้นั วา่ คดีถึงที่สดุ โดยผลของกฎหมายหรือไม่ ประการใด หากเปน็ กรณีท่ี
คดีถงึ ท่สี ดุ แล้วให้ดำ�เนินการตามระเบียบ และเรยี กเก็บค่าธรรมเนยี มตามข้อ ๓๒ ของระเบียบน้ี
กรณคี ดที ย่ี งั ไมม่ คี �ำ พพิ ากษาหรอื ค�ำ สง่ั ศาลถงึ ทส่ี ดุ ตามกฎหมาย คคู่ วามในคดดี งั กลา่ ว
ยังไม่ถือว่าเป็นผู้มีสิทธิตามมาตรา  ๒๔  (๘)  แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ
พ.ศ. ๒๕๔๐  ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีส่ังไม่รับดำ�เนินการตามคำ�ขอ  พร้อมแจ้งเหตุผลและสิทธิการ
อทุ ธรณ์ตามพระราชบัญญตั ิขอ้ มลู ขา่ วสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ ใหผ้ ขู้ อทราบ
*ข้อ ๒๘ กรณีหน่วยงานของรัฐขอตรวจสอบหลักทรัพย์ ให้พิจารณาเปิดเผยตาม
หลกั เกณฑข์ องพระราชบญั ญตั ขิ อ้ มลู ขา่ วสารของราชการ พ.ศ.๒๕๔๐ และใหเ้ รยี กเกบ็ คา่ ธรรมเนยี ม
ตามขอ้ ๓๒ ของระเบียบนี้ เวน้ แตห่ นว่ ยงานของรฐั นัน้ มีกฎหมายใหย้ กเว้นค่าธรรมเนียมและหรือ
ค่าใชจ้ ่ายดงั กลา่ ว โดยใหห้ น่วยงานของรฐั แสดงกฎหมายดังกลา่ วเพอื่ ประกอบการยกเว้นดว้ ย
กรณีหน่วยงานของรัฐมีหนังสือขอให้ตรวจสอบหลักทรัพย์ทุกกรณี  ไม่ว่าจะเป็น
กรณอี ่ืนใดหรอื เป็นกรณที ม่ี คี ำ�พพิ ากษาหรือค�ำ ส่ังศาลหรือไมก่ ็ตาม พร้อมทั้งขอใหจ้ ัดส่งเอกสารท่ี
เกย่ี วขอ้ งใหด้ ว้ ย เพอ่ื การน�ำ ไปใชต้ ามอ�ำ นาจหนา้ ท่ี หรอื เพอ่ื ใชป้ ระกอบการบงั คบั คดตี ามกฎหมาย
ของหนว่ ยงานของรัฐนนั้ เช่น ตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ และ
หรือประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เป็นต้น ให้ถือหนังสือดังกล่าวเป็นคำ�ขอตรวจสอบ
หลกั ทรพั ย ์ พนกั งานเจา้ หนา้ ทไ่ี มต่ อ้ งตรวจสอบวา่ คดถี งึ ทส่ี ดุ แลว้ หรอื ไม ่ เนอ่ื งจากเปน็ การตรวจสอบ
เพือ่ ประโยชน์ของราชการ เม่ือดำ�เนินการเสรจ็ แลว้ ให้สง่ ผลการตรวจสอบและเอกสาร พร้อมท้ัง
แจ้งค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายกรณีดังกล่าวให้หน่วยงานของรัฐทราบและจัดส่งค่าธรรมเนียม
และคา่ ใชจ้ า่ ยนน้ั โดยสง่ เจา้ หนา้ ทม่ี าช�ำ ระ หรอื ช�ำ ระโดยเชค็ ไปรษณยี ์ หรอื ธนาณตั ิ หรอื วธิ กี ารอน่ื
ตามทีก่ รมทีด่ นิ กำ�หนด มาใหส้ ำ�นักงานท่ีดนิ ในภายหลังต่อไป
กรณีหน่วยงานของรัฐขอตรวจสอบหลักทรัพย์  ให้หน่วยงานของรัฐน้ันระบุเลข
ประจำ�ตัวประชาชน (เลข ๑๓ หลัก) หรอื เลขทะเบยี นนิติบคุ คล (เลข ๑๓ หลกั ) ของผถู้ ูกตรวจสอบ
หลักทรัพย์ด้วย  หากตรวจพบรายชื่อที่ขอตรวจสอบหลักทรัพย์  ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีตรวจสอบ
ว่าเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลเดียวกับผู้ท่ีหน่วยงานของรัฐน้ันระบุเลขประจำ�ตัวประชาชนหรือเลข
ทะเบยี นนติ ิบคุ คลไว้ในค�ำ ขอหรือไม่
กรณีหน่วยงานของรัฐไม่ได้ระบุเลขประจำ�ตัวประชาชนหรือเลขทะเบียนนิติบุคคล
ของผถู้ ูกตรวจสอบมาดว้ ย และพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ตี รวจพบว่าผถู้ กู ตรวจสอบหลกั ทรพั ยเ์ ป็นผถู้ อื
กรรมสทิ ธิห์ รือสทิ ธคิ รอบครองในอสังหารมิ ทรพั ย์ การแจ้งผลการตรวจสอบหลักทรพั ย์ให้พนักงาน
เ_จ_้า_ห_น_้_าท__ี่ร_ะ_บ_ุเล__ข_ป_ร_ะ_จ_ำ�_ต_ัว_ป_ร_ะชาชนพร้อมแจ้งชื่อบิดา  มารดา  และอายุของบุคคล  หรือเลข
*ข้อ  ๒๘  ถูกยกเลิกและแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบกรมที่ดิน  ว่าด้วยการตรวจหลักฐาน
ทะเบยี นท่ีดนิ   การขอคดั   ขอถ่ายสำ�เนาเอกสารและการตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ (ฉบับท่ี ๒ ) พ.ศ. ๒๕๕๗

๕๗๒

ทะเบยี นนติ บิ ุคคลและทตี่ ง้ั สำ�นกั งานแห่งใหญข่ องนติ บิ ุคคล ผู้ถือกรรมสิทธ์ิหรือสทิ ธิครอบครอง
ในอสังหาริมทรัพย์น้ันไปด้วย  เพื่อให้ผู้ขอตรวจสอบหลักทรัพย์ได้ตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นบุคคล
หรือนิติบคุ คลเดยี วกบั ที่ต้องการตรวจสอบหรอื ไม่
กรณีท่ีหน่วยงานของรัฐได้ขอตรวจสอบหลักทรัพย์และขออายัดอสังหาริมทรัพย์นั้น
มาพร้อมกัน  โดยอาศัยอำ�นาจตามกฎหมายท่ีให้อำ�นาจไว้  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่แจ้งหน่วยงาน
นัน้ ทราบด้วยวา่ ถา้ ปรากฏวา่ ไมใ่ ช่บคุ คลหรือนติ บิ ุคคลเดยี วกับผทู้ ข่ี อตรวจสอบหลักทรพั ย์ ขอให้
แจง้ ส�ำ นักงานทด่ี ินทราบโดยดว่ น เพือ่ ยกเลิกการอายดั อสังหาริมทรัพย์ของผทู้ ่ีไม่เกยี่ วข้องนั้น
ข้อ ๒๙ กรณเี อกชนผมู้ สี ทิ ธติ ามกฎหมายขอตรวจสอบหลกั ทรพั ยข์ องบคุ คลธรรมดา
หรอื นติ ิบุคคลตามขอ้ ๒๗ ให้ผูข้ อระบุเลขประจำ�ตวั ประชาชน (เลข ๑๓ หลกั ) หรอื เลขทะเบยี น
นติ บิ ุคคล (เลข ๑๓ หลกั ) ของผู้ถกู ตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ด้วย หากตรวจพบรายชื่อท่ขี อตรวจสอบ
หลักทรัพย์  ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเป็นบุคคลหรือนิติบุคคลเดียวกับที่ผู้ขอน้ันระบุเลข
ประจ�ำ ตัวประชาชนหรอื เลขทะเบียนนิติบุคคลไว้ในคำ�ขอหรอื ไม่
กรณีท่ีผู้ขอไม่สามารถระบุเลขประจำ�ตัวประชาชน  หรือเลขทะเบียนนิติบุคคลของ
ผู้ถูกตรวจสอบได้และพนักงานเจ้าหน้าท่ีตรวจพบว่าผู้ถูกตรวจสอบหลักทรัพย์เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์
หรอื สทิ ธคิ รอบครองในอสงั หารมิ ทรพั ยใ์ นการแจง้ ผลการตรวจสอบหลกั ทรพั ย ์ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ท่ี
ระบุเลขประจำ�ตัวประชาชน  พร้อมแจ้งช่ือบิดา  มารดาและอายุของบุคคล  หรือเลขทะเบียน
นิติบุคคลและท่ีต้ังสำ�นักงานแห่งใหญ่ของนิติบุคคล  ผู้ถือกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองใน
อสังหาริมทรัพย์นั้นไปด้วย  เพื่อให้ผู้ขอตรวจสอบหลักทรัพย์ได้ตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นบุคคลหรือ
นิติบคุ คลเดยี วกับที่ตอ้ งการตรวจสอบหรอื ไม่
ขอ้ ๓๐ กรณที หี่ น่วยงานของรัฐซ่งึ อาศยั อ�ำ นาจตามกฎหมาย เช่น มาตรา ๑๒ ตรี
แหง่ ประมวลรษั ฎากร มาตรา ๑๔ แหง่ พระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกนั และปราบปรามยาเสพตดิ พ.ศ.๒๕๑๙
มาตรา ๒๕ แหง่ พระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนญู วา่ ด้วยการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริต
พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๓๘ แห่งพระราชบัญญตั ิปอ้ งกันและปราบปรามการฟอกเงนิ พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา ๔๒ แหง่ พระราชบญั ญัติประกอบรัฐธรรมนูญวา่ ด้วยการตรวจเงินแผน่ ดิน พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา ๒๔ แหง่ พระราชบญั ญตั กิ ารสอบสวนคดพี เิ ศษ พ.ศ.๒๕๔๗ และมาตรา ๑๘ แห่งพระราช
บัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นต้น
ขอตรวจสอบหลักทรัพย์ของบุคคลหรือนิติบุคคลใด  ถือว่าเป็นหน้าท่ีที่พนักงานเจ้าหน้าท่ีต้อง
ปฏิบัติตามกฎหมายไมต่ ้องเรยี กเก็บคา่ ธรรมเนยี มในการตรวจสอบการคัดหรือถ่ายส�ำ เนาเอกสาร
หรือค่ารับรองเอกสารเพ่ือส่งสำ�เนาเอกสารให้แก่หน่วยงานตามที่กฎหมายกำ�หนดแม้จะเป็นการ
ตรวจสอบการคดั หรือส�ำ เนาเอกสารจากส่ือบนั ทึกขอ้ มูลทางคอมพิวเตอรห์ รือสอ่ื อิเลก็ ทรอนิกส์อ่ืน
*การขอตรวจสอบหลักทรัพย์ของหน่วยงานของรัฐตามวรรคหน่ึง  ให้หน่วยงาน
_ข_อ_งร_ฐั_น__้ัน_ร_ะ_บ_เุ ล_ข_ป__ระ_จ_ำ�_ต__ัว_ป_ร_ะชาชน (เลข ๑๓ หลกั ) หรือเลขทะเบยี นนติ บิ ุคคล (เลข ๑๓ หลัก)
*ขอ้   ๓๐  วรรคสองเพม่ิ เติมโดยระเบยี บกรมทีด่ นิ   วา่ ดว้ ยการตรวจหลักฐานทะเบยี นท่ดี ิน
การขอคดั ขอถ่ายส�ำ เนาเอกสารและการตรวจสอบหลกั ทรัพย์ (ฉบบั ที่ ๒ ) พ.ศ. ๒๕๕๗

๕๗๓

ของผ้ถู ูกตรวจสอบหลักทรัพย์ด้วย ถ้ามไิ ด้ระบุขอ้ มูลดังกลา่ ว และพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ตี รวจพบวา่
ผู้ถูกตรวจสอบหลักทรัพย์เป็นผู้ถือกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์  ให้พนักงาน
เจ้าหนา้ ทดี่ ำ�เนินการตาม ข้อ ๒๘ วรรคสาม หรือวรรคสี่ แล้วแตก่ รณี
*กรณีหน่วยงานของรัฐตามวรรคหนึ่ง  ได้ขอตรวจสอบหลักทรัพย์และขออายัด
อสงั หารมิ ทรพั ยม์ าพรอ้ มกนั ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทแ่ี จง้ หนว่ ยงานของรฐั นน้ั ทราบดว้ ยวา่ ถา้ ปรากฏวา่
ไม่ใช่บุคคลหรือนิติบุคคลเดียวกับผู้ท่ีขอตรวจสอบหลักทรัพย์  ขอให้แจ้งสำ�นักงานท่ีดินทราบ
โดยด่วน เพ่ือยกเลกิ การอายดั อสังหาริมทรัพย์ของผ้ทู ไ่ี ม่เกี่ยวข้องนนั้

หมวด ๔
___ค_า่ _ธ_รร_ม_เ_น_ยี _ม___

สว่ นที่ ๑
ค่าธรรมเนียม_ก_า_ร_ต_ร_ว_จ_ห_ล_ัก_ฐ_า_น_ทะเบยี นท่ดี นิ
ข้อ ๓๑ ค่าธรรมเนียมตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน  ณ  สำ�นักงานท่ีดิน  และ
ทางไปรษณีย์ ใหเ้ รยี กเกบ็ ดงั นี้
(๑) คา่ ค�ำ ขอใหเ้ รยี กเกบ็ แปลงละ ๕ บาท ตามกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๗ (พ.ศ.๒๕๔๑)
ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายท่ีดิน  พ.ศ. ๒๔๙๗  ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม
โดยกฎกระทรวง  ฉบับท่ี  ๕๓  (พ.ศ. ๒๕๔๙)  ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวล
กฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ข้อ ๒ (๑๐) (ก)
(๒) ค่าตรวจหลกั ฐานทะเบียนทีด่ ิน ให้เรียกเก็บ ดังน้ี
(๒.๑) กรณีตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดินจากส่ือบันทึกข้อมูลทางคอมพิวเตอร์
หรอื ส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์อน่ื รวมท้งั ข้อมลู แปลงทดี่ นิ ทางระบบ Land Information System (LIS)
ใหเ้ รียกเกบ็ คร้ังละ ๑๐๐ บาท (ค�ำ ขอละ) ตามกฎกระทรวงฉบบั ที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตาม
ความในพระราชบญั ัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.๒๔๙๗ ซ่งึ แก้ไขเพม่ิ เตมิ โดยกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ.๒๔๙๗
ข้อ ๒ (๑๐) (ญ)
(๒.๒) กรณีตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทดี่ นิ ด้วยมือ ให้เรียกเกบ็ เปน็ รายแปลงๆ ละ
๑๐ บาท ตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบญั ญัตใิ ห้ใช้
ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ.๒๔๙๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ.๒๕๔๙)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ นิ พ.ศ.๒๔๙๗ ข้อ ๒ (๑๐) (ง)
_______________________
*ข้อ  ๓๐  วรรคสามเพิ่มเติมโดยระเบียบกรมท่ีดิน  ว่าด้วยการตรวจหลักฐานทะเบียน
ที่ดนิ การขอคดั ขอถ่ายส�ำ เนาเอกสารและการตรวจสอบหลักทรพั ย์ (ฉบับท่ี ๒ ) พ.ศ. ๒๕๕๗

๕๗๔

ส่วนท่ี ๒
คา่ ธรรมเน_ยี _ม_ก__า_รต_ร_ว_จ_ส_อ_บ__หลกั ทรัพย์
ขอ้ ๓๒ คา่ ธรรมเนียมตรวจสอบหลกั ทรัพย์ ใหเ้ รยี กเกบ็ ดังน้ี
(๑) ค่าคำ�ขอให้เรียกเก็บตามจำ�นวนรายลูกหน้ีที่ขอตรวจสอบ  รายละ  ๕  บาท
อนุโลมตามกฎกระทรวง  ฉบับที่  ๔๗  (พ.ศ. ๒๕๔๑)  ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้
ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.๒๔๙๗ ซ่ึงแก้ไขเพม่ิ เติมโดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๕๓ (พ.ศ.๒๕๔๙)
ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ.๒๔๙๗ ข้อ ๒ (๑๐) (ก) เช่น
ขอตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ของลูกหนตี้ ามค�ำ พพิ ากษาถงึ ที่สดุ จำ�นวน ๒​ ราย ในค�ำ ขอเดียวกัน
ให้เรียกเกบ็ ค่าค�ำ ขอ รายละ ๕ บาท รวมเป็น ๑๐ บาท เป็นตน้
(๒) คา่ ตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ ใหเ้ รียกเก็บ ดงั นี้
(๒.๑) กรณตี รวจจากสอ่ื บนั ทกึ ขอ้ มลู ทางคอมพวิ เตอร ์ หรอื สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนกิ สอ์ น่ื
ใหเ้ รยี กเกบ็ คา่ ตรวจสอบ ครง้ั ละ ๑๐๐​ บาท (ค�ำ ขอละ) ตามกฎกระทรวง ฉบับที ่ ๔๗ (พ.ศ.๒๕๔๑)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทดี่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซ่งึ แกไ้ ขเพิ่มเติมโดย
กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ ห้ใช้ประมวลกฎหมาย
ทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ข้อ ๒ (๑๐) (ญ) ไมว่ า่ ในค�ำ ขอนน้ั จะขอตรวจสอบรายช่อื ก่รี ายก็ตาม เชน่
ยื่นคำ�ขอตรวจสอบ จำ�นวน ๑๒ ราย ในคำ�ขอฉบับเดียวกัน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เรียกเก็บ
ค่าตรวจสอบตามจ�ำ นวนคำ�ขอ ค�ำ ขอละ ๑๐๐ บาท แมว้ ่าในคำ�ขอฉบับเดยี วจะขอตรวจสอบ
รายชื่อจ�ำ นวน ๑๒ ราย ก็ตาม
(๒.๒) กรณีท่ีไม่สามารถตรวจจากสื่อบันทึกข้อมูลทางคอมพิวเตอร์  หรือสื่อ
อิเล็กทรอนิกส์อ่ืนได้  และหากสามารถตรวจสอบได้ด้วยมือ  ให้เรียกเก็บเป็นรายแปลงที่ดินตาม
ที่ตรวจสอบพบ แปลงละ ๑๐​ บาท ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ.๒๕๔๑) ออกตามความ
ในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ้ ๒ (๑๐) (ง) หากตรวจไม่พบไมต่ อ้ งเรียกเกบ็ ค่าตรวจสอบ

ส่วนที่ ๓
ค่าธรรมเนียมการขอ_ถ_่า_ย_เ_อ_ก_ส_า_ร_ร_ปู _แ_ผ_นทีจ่ ากระวางแผนที่
ข้อ ๓๓ ค่าธรรมเนียมคำ�ขอถ่ายเอกสารรูปแผนท่ีจากระวางแผนท่ี  ให้คิดเป็น
รายแปลงตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญตั ิใหใ้ ช้
ประมวลกฎหมายท่ดี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซ่ึงแกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๕๓ (พ.ศ.๒๕๔๙)

๕๗๕

ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ข้อ ๒ (๑๐) (ก)
แปลงละ ๕ บาท เชน่ ขอถา่ ยเอกสารรูปแผนท่จี ากระวางแผนทีโ่ ดยระบุจ�ำ นวนแปลงที่ขอถา่ ย
๕ แปลงคดิ ค่าธรรมเนยี มคา่ คำ�ขอ ๕ แปลงๆ ละ ๕ บาท รวมเปน็ เงิน ๒๕ บาท
การขอถ่ายเอกสารรปู แผนท่จี ากระวางแผนที่ จำ�นวน ๑​ ระวาง ใหค้ ดิ คา่ ค�ำ ขอตาม
จำ�นวนแปลงทป่ี รากฏในระวางแผนทนี่ นั้ เชน่ ในระวางแผนท่ี มรี ูปแผนทีจ่ ำ�นวน ๕๐ บาท ให้คดิ
ค่าค�ำ ขอ ๕๐ แปลง

ส่วนที่ ๔
คา่ ธรรมเนยี มและค่าใชจ้ ่าย การคดั การถา่ ยสำ�เนาเอกสาร
และส�ำ เนาจากส่อื บนั ทกึ ข้อ_ม__ูล_ท_า_ง_ค_อ_ม_พ_วิ_เ_ต_อรห์ รอื สอ่ื อิเลก็ ทรอนกิ ส์อื่น
ขอ้ ๓๔ คา่ คดั ส�ำ เนาเอกสารตา่ งๆ รวมทง้ั คา่ คดั ส�ำ เนาเอกสารเปน็ พยานในคดแี พง่
โดยพนักงานเจ้าหน้าท่เี ปน็ ผ้คู ัด ให้เรียกเก็บตามกฎกระทรวงฉบบั ที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตาม
ความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ซง่ึ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยกฎกระทรวง
ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ.๒๕๔๙) ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗
ขอ้ ๒ (๑๐) (ข)
ข้อ ๓๕ ค่าถ่ายสำ�เนาเอกสาร  และค่าสำ�เนาจากส่ือบันทึกข้อมูลทางคอมพิวเตอร์
หรอื สื่ออเิ ล็กทรอนิกส์อื่นให้เรยี กเกบ็ ดงั น้ี
(๑) กรณีเป็นการจัดทำ�สำ�เนาโดยเคร่ืองถ่ายเอกสารของทางราชการ  ให้เรียกเก็บ
ค่าถ่ายสำ�เนาเอกสารโดยเครื่องถ่ายเอกสารคิดตามขนาดกระดาษ  ตามประกาศคณะกรรมการ
ข้อมูลข่าวสารของราชการและประกาศกรมที่ดินเก่ียวกับการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการขอสำ�เนา
หรอื ขอส�ำ เนาทมี่ คี �ำ รบั รองถูกต้องของขอ้ มูลข่าวสารของราชการ
(๒) กรณีเป็นการจัดทำ�สำ�เนากระดาษ  จากส่ือบันทึกข้อมูลทางคอมพิวเตอร์
หรือส่ืออเิ ล็กทรอนิกสอ์ น่ื ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียม แผ่นละ ๕๐ บาท (ไมร่ วมกรณี CD–ROM/
Diskette)  ตามกฎกระทรวงฉบับที่  ๔๗  (พ.ศ. ๒๕๔๑)  ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้
ประมวลกฎหมายที่ดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซ่ึงแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙)
ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ข้อ ๒ (๑๐) (ฎ)

สว่ นท่ี ๕
คา่ ธรรมเน_ีย_ม_ก__าร_ร_บั _ร_อ_ง_ส_ำ�_เ_นาเอกสาร
ขอ้ ๓๖ ค่าธรรมเนียมการให้คำ�รับรองถูกต้องของสำ�เนาเอกสารทางทะเบียนที่ดิน
และหนังสือแสดงสิทธิในท่ีดิน  ให้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการรับรอง  ฉบับละ  ๑๐  บาท  ตาม
กฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญตั ใิ หใ้ ชป้ ระมวลกฎหมาย

๕๗๖

ทีด่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซึ่งแกไ้ ขเพมิ่ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๕๓ (พ.ศ. ๒๕๔๙) ออกตามความ
ในพระราชบญั ญตั ิใหใ้ ช้ประมวลกฎหมายท่ีดนิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ข้อ ๒ (๑๐) (ค)
การรับรองส�ำ เนาเอกสาร ใหเ้ รยี กเก็บเปน็ รายฉบับ ฉบบั ละ ๑๐ บาท แมว้ า่ เอกสาร
ที่ขอรับรองสำ�เนาฉบบั หน่ึงๆ จะมีหลายหนา้ ตอ้ งถือวา่ เป็น ๑​ ฉบับ เชน่ ขอถ่ายสำ�เนาโฉนดท่ีดนิ
๑ ฉบับ ซ่ึงมี ๓ หน้า ใหเ้ รียกเกบ็ คา่ รบั รอง ๑๐​ บาท

สว่ นที่ ๖
____ค_า่_พ__ย_า_น____
ขอ้ ๓๗ คำ�ขอตรวจหลักฐานทะเบียนที่ดิน ขอคัด ขอถ่ายสำ�เนาเอกสาร และขอ
ตรวจสอบหลักทรัพย์ห้ามพนักงานเจ้าหน้าที่เรียกเก็บค่าพยานในคำ�ขอ  เว้นแต่ผู้ขอประสงค์
จะให้พนักงานเจ้าหน้าที่ลงนามในฐานะพยานไว้เป็นหลักฐานในคำ�ขอ  ก็ให้ผู้ขอแสดงความ
ประสงค์ไว้ในคำ�ขอนั้นๆ  พนักงานเจ้าหน้าที่จึงจะลงนามเป็นพยานและให้เรียกเก็บค่าพยาน
คนละ ๑๐ บาท ตามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ใหใ้ ชป้ ระมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ซง่ึ แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ โดยกฎกระทรวง ฉบบั ท่ี ๔๘ (พ.ศ.๒๕๔๒)
ออกตามความในพระราชบญั ญตั ใิ ห้ใชป้ ระมวลกฎหมายท่ดี ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ้ ๔ (๖)

สว่ นที่ ๗
ค่าธรรมเนียมและค_่า_ใ_ช_้จ_่า_ย_เก_ย่ี_ว_ก__บั _อ_าคารชุดและหอ้ งชุด
ข้อ ๓๘ ค่าธรรมเนียมการตรวจหลักฐานทะเบียนและค่าธรรมเนียมการตรวจสอบ
หลกั ทรัพยเ์ ก่ียวกบั อาคารชดุ และห้องชุด ได้แก่ คา่ คำ�ขอ ค่าตรวจสอบ ค่าถ่ายส�ำ เนาเอกสาร
หรอื คา่ สำ�เนาจากสื่อบันทึกขอ้ มลู ทางคอมพิวเตอร์ หรอื สอื่ อิเล็กทรอนิกสอ์ ่นื หรอื ส�ำ เนาขอ้ มูลอ่นื
และค่ารับรองเอกสาร ให้เรียกเก็บตามกฎกระทรวงกำ�หนดค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับ
อาคารชดุ พ.ศ. ๒๕๕๓ ข้อ ๑ (๘) และห้ามพนักงานเจ้าหนา้ ท่เี รยี กเกบ็ ค่าพยานในคำ�ขอ เวน้ แต่
ผู้ขอประสงค์จะให้พนักงานเจ้าหน้าท่ีลงนามในฐานะพยานไว้เป็นหลักฐานในคำ�ขอก็ให้ผู้ขอ
แสดงความประสงคไ์ วใ้ นค�ำ ขอนัน้ ๆ พนกั งานเจา้ หน้าท่ีจึงจะลงนามเปน็ พยานและใหเ้ รยี กเกบ็
คา่ พยานคนละ ๒๐ บาท ตามกฎกระทรวงก�ำ หนดคา่ ธรรมเนยี มและค่าใช้จ่ายเก่ยี วกบั อาคารชดุ
พ.ศ.๒๕๕๓ ข้อ ๒ (๒)
ประกาศ ณ วนั ที ่ ๑๓ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๖
(ลงชื่อ) บญุ เชดิ คดิ เห็น
(นายบญุ เชดิ คดิ เห็น)
อธิบดีกรมที่ดิน

๕๗๗

หมายเหตุ
ระเบยี บกรมที่ดิน ว่าด้วยการตรวจหลักฐานทะเบียนทดี่ ิน การขอคัด ขอถ่ายส�ำ เนา
เอกสาร และการตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๑๓๐
ตอนพิเศษ ๑๕๗ ง วันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ระเบยี บกรมทีด่ ิน ว่าด้วยการตรวจหลกั ฐานทะเบียนทีด่ นิ การขอคัด ขอถ่ายสำ�เนา
เอกสาร และการตรวจสอบหลกั ทรพั ย์ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๕๗ ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา
เล่ม ๑๓๑ ตอน ๙๘ ง วนั ที่ ๑๘ กนั ยายน ๒๕๕๗


๕๗๘

แบบหนังสอื แจ้งขอ้ ขดั ขอ้ ง ตามข้อ ๒๓ (๑) และ (๔)

ท.ี่ ............/................. ส�ำ นกั งานทดี่ นิ .........................

วันที.่ ....เดือน.................พ.ศ. ....
เร่อื ง แจง้ ขอ้ ขัดข้องการตรวจหลกั ฐานทะเบยี นที่ดินทางไปรษณยี ์
เรยี น ..............................................
อา้ งถงึ หนงั สอื ..................ลงวนั ท.ี่ ......เดือน................พ.ศ. ....

ตามที่ขอตรวจหลักฐานทะเบยี นท่ีดินและส่งเงินคา่ ธรรมเนยี มไป จ�ำ นวน..................บาท
เพื่อขอตรวจหลักฐานทะเบยี นท่ีดิน
โฉนดที่ดิน/หนังสอื รบั รองการท�ำ ประโยชน ์ เลขท่.ี ..............................หมูท่ ี่..............
ต�ำ บล..............................อำ�เภอ..............................จงั หวดั ..............................
หนงั สอื กรรมสทิ ธห์ิ อ้ งชุด เลขที่...................ช้นั ที่.................อาคารเลขท.ี่ ................
ชอื่ อาคารชดุ ...............................ทะเบียนอาคารชดุ เลขที่..............................ต้ังอย่บู นโฉนดทดี่ นิ เลขท่ี
....................ตำ�บล..............................อ�ำ เภอ..............................จงั หวัด..............................นัน้
สำ�นักงานที่ดิน..............................ไดต้ รวจสอบแลว้ ไม่สามารถด�ำ เนนิ การตรวจหลักฐาน
ทะเบยี นทด่ี นิ (โฉนดทด่ี นิ /หนงั สอื รบั รองการท�ำ ประโยชน/์ หนงั สอื กรรมสทิ ธห์ิ อ้ งชดุ ) ดงั กลา่ วได้ เนอ่ื งจาก
ไมพ่ บหลกั ฐาน (โฉนดทด่ี นิ /หนงั สอื รบั รองการท�ำ ประโยชน/์ หนงั สอื กรรมสทิ ธห์ิ อ้ งชดุ )
ทท่ี า่ นขอตรวจสอบ จงึ ไมอ่ าจด�ำ เนนิ การตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ ใหท้ า่ นได ้ และไดส้ ง่ เงนิ คา่ ธรรมเนยี ม
จำ�นวน.....................บาท คืนมาโดย...............(เช็คไปรษณยี ์/ธนาณตั )ิ ...............
ใหน้ �ำ ส่งเอกสารเพม่ิ เตมิ .......................................................................................
หรอื นำ�สง่ คา่ ธรรมเนยี ม เพม่ิ อีก จำ�นวน........................................................บาท
อนื่ ๆ ...................................................................................................................
ดังนั้น  จึงขอให้ท่านนำ�ส่งเอกสารหลักฐาน/เงินค่าธรรมเนียม  ดังกล่าวข้างต้น  ไปยัง
ส�ำ นักงานทีด่ ิน.....................................โดยดว่ น และสง่ ซองจดหมายปดิ แสตมป์จ่าหนา้ ซองถงึ ตวั ทา่ น
เพ่อื จะได้แจ้งผลการตรวจสอบใหท้ ราบต่อไป

ขอแสดงความนับถอื

ลงชือ่ .........................................
(.......................................)

...................................... ต�ำ แหน่ง .........................................
โทร. ..............................

๕๗๙

แบบหนังสือแจง้ ผลการตรวจหลกั ฐานทะเบยี นที่ดนิ ทางไปรษณยี ์ ตามขอ้ ๒๓ (๓)

ท.ี่ ............/................. ส�ำ นกั งานทด่ี นิ .........................

วันที่.....เดือน.................พ.ศ. ....

เรื่อง แจง้ ผลการตรวจหลักฐานทะเบียนท่ีดินทางไปรษณยี ์
เรยี น ..............................................
อา้ งถงึ หนงั สอื ..................ลงวันที่.......เดอื น................พ.ศ. ....

ตามที่ขอตรวจหลกั ฐานทะเบยี นท่ดี นิ และสง่ เงินค่าธรรมเนียมไป จ�ำ นวน..................บาท
เพ่ือขอตรวจหลักฐานทะเบียนทด่ี ิน
โฉนดทีด่ ิน/หนงั สือรบั รองการท�ำ ประโยชน ์ เลขท.่ี ..............................หมูท่ ี่..............
ตำ�บล..............................อ�ำ เภอ..............................จงั หวดั ..............................
หนังสอื กรรมสิทธิห์ ้องชดุ เลขท.่ี ..................ชัน้ ท่ี.................อาคารเลขท่ี.................
ช่ืออาคารชุด...............................ทะเบียนอาคารชุดเลขที่..............................ตัง้ อยู่บนโฉนดท่ีดินเลขท่ี
....................ตำ�บล..............................อ�ำ เภอ..............................จังหวัด..............................นนั้
บัดน้ี ส�ำ นกั งานทีด่ นิ ....................ได้ตรวจสอบแลว้ เมอื่ วันท.ี่ ......เดือน...............พ.ศ. ....
เวลา...................น. ขอเรยี นดังน้ี
๑. ชอ่ื ผูถ้ อื กรรมสิทธิ/์ สิทธคิ รอบครองปจั จบุ นั คือ........(ใสช่ อื่ ผู้ถือกรรมสิทธ์ิทุกคน)........
ไดท้ ีด่ นิ มาโดย......................................................................เมื่อวนั ท่ี.......เดือน....................พ.ศ. ....
๒. ผลการตรวจภาระผูกพัน/การอายัด/การออกใบแทน
ไมม่ ภี าระผูกพนั มีภาระผกู พัน คอื ...............................................
ไม่มกี ารยึดหรอื อายัด มีการยดึ หรอื ายดั ตาม.......................................
หนงั สอื แสดงสทิ ธใิ นทด่ี นิ /กรรมสทิ ธห์ิ อ้ งชดุ ฉบบั เจา้ ของทด่ี นิ ไมม่ กี ารออกใบแทน
หนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน/กรรมสิทธิ์ห้องชุด ฉบับเจ้าของที่ดินปัจจุบันเป็นใบแทน
ออกให้ เมือ่ วนั ท.่ี .......เดอื น......................พ.ศ. ....
๓. เงนิ ค่าธรรมเนยี มเหลือคืน จ�ำ นวน..................บาท (สง่ คืนโดยเชค็ ไปรษณีย/์ ธนาณัต/ิ
หรือใหไ้ ปรบั คนื ณ ส�ำ นกั งานทดี่ ิน ภายใน ๓๐ วัน)
ท้ังน้ี สำ�นกั งานทดี่ ิน...........................ได้เรยี กเก็บค่าธรรมเนียมเปน็ ค่าคำ�ขอ.........แปลง
เป็นเงิน..........................................บาท คา่ ตรวจหลักฐานทะเบยี นทด่ี นิ /ห้องชดุ .................แปลง/หอ้ ง
เป็นเงนิ ..........................................บาท รวมเปน็ เงนิ .......................................บาท
อนง่ึ ผลการตรวจหลกั ฐานทะเบยี นทด่ี นิ ทแ่ี จง้ มาใหท้ ราบน้ี อาจมกี ารเปลย่ี นแปลงไปหลงั จาก
วนั เวลา ที่ไดต้ รวจสอบ ฉะนัน้ กรณีทผ่ี ู้ขอประสงค์จะน�ำ ไปใชเ้ พอื่ อา้ งองิ ขอ้ มลู ใดๆ ควรยนื่ ขอตรวจ
หลักฐานทะเบียน ณ สำ�นกั งานทีด่ นิ ท้องที่ซ่ึงที่ดินตงั้ อยู่อกี คร้งั หนงึ่
ขอแสดงความนับถอื
ลงช่ือ .........................................
(.......................................)
ต�ำ แหนง่ .........................................
......................................
โทร. .............................. ๕๘๐

(สำ�เนา)

ด่วนทส่ี ุด
ที่ มท ๐๕๑๕.๓ / ว ๒๑๖๖๑

ถงึ จังหวัดทุกจงั หวัด

ด้วยสำ�นักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ มท ๐๒๐๘.๓ /
ว ๑๗๙๘ ลงวนั ท่ี ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๗ แจ้งว่า สำ�นกั งาน ปปง. ได้ประกาศรายช่ือบุคคล
ท่ีถูกกำ�หนด กล่มุ Taliban ตามมาตรา ๔ แหง่ พระราชบญั ญตั ิปอ้ งกันและปราบปรามการ
สนับสนนุ ทางการเงินแก่การก่อการร้าย พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามค�ำ สง่ั รฐั มนตรีว่าการกระทรวงยตุ ธิ รรม
ที่ ๒๑/๒๕๕๗ ลงวนั ท่ี ๗ ตลุ าคม ๒๕๕๗ โดยสามารถดาวน์โหลดรายช่ือบคุ คลทถี่ ูกก�ำ หนดจาก
เวบ็ ไซต์ของส�ำ นกั งาน  ปปง.  www.amlo.go.th ในหวั ข้อรายชอ่ื บุคคลที่ถกู ก�ำ หนด กล่มุ Taliban
ข้อ ๕.๑.๒ รายละเอยี ดปรากฏตามสำ�เนาหนังสอื ส�ำ นกั งาน ปปง. ด่วนทสี่ ดุ ที่ ปง. ๐๐๐๔.๔/
ว ๒๓๙ ลงวนั ท่ี ๑๓ ตลุ าคม ๒๕๕๗
จึงเรียนมาเพื่อโปรดแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบและดำ�เนินการตามหนังสือ
กรมท่ีดนิ ด่วนที่สุด ท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๐๑๔๔ ลงวันท่ี ๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ และหนงั สอื กรมทด่ี ิน
ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๒๙๓ ลงวันท่ี ๗ มกราคม ๒๕๕๗ โดยเคร่งครดั ตอ่ ไป

กรมท่ดี ิน
๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๗

สำ�นกั มาตรฐานการทะเบยี นทด่ี ิน
กลุ่มพัฒนาการทะเบียนทดี่ ิน
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๐๐
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๘๑

(ส�ำ เนา)
ดว่ นท่ีสุด
ที่ มท ๐๒๐๘.๓ / ว ๑๗๙๘
ถึง ส่วนราชการระดับกรม หน่วยงานรฐั วสิ าหกจิ ในสังกดั กระทรวงมหาดไทย กรงุ เทพมหานคร
จังหวดั ทุกจังหวัดและหนว่ ยงานในสงั กดั สำ�นกั งานปลัดกระทรวงมหาดไทย
ด้วยส�ำ นกั งาน ปปง. แจง้ ว่า ได้ประกาศรายชื่อบคุ คลทีถ่ ูกก�ำ หนด กลมุ่ Taliban
ตามมาตรา ๔ แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย
พ.ศ. ๒๕๕๖ ตามค�ำ สงั่ รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงยุติธรรม ท่ี ๒๑/๒๕๕๗ ลงวนั ที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ 
โดยสามารถดาวน์โหลดรายช่ือบุคคลที่ถูกกำ�หนดจากเว็บไซต์ของสำ�นักงาน  ปปง.  WWW.
amlo.go.th ในหวั ข้อรายช่อื บคุ คลทถ่ี ูกกำ�หนด กลมุ่ Taliban ข้อ ๕.๑.๒ ซงึ่ มาตรา ๑๖ แหง่
พระราชบัญญัตปิ อ้ งกันและปราบปรามการสนับสนนุ ทางการเงินแกก่ ารก่อการร้าย พ.ศ. ๒๕๕๖
กำ�หนดห้ามมิให้ผู้ใดจัดหา  รวบรวม  หรือดำ�เนินการทางการเงินหรือทรัพย์สินหรือดำ�เนินการ
ดว้ ยประการใดๆ โดยรอู้ ยแู่ ลว้ วา่ ผไู้ ดร้ บั ประโยชนท์ างการเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ หรอื จากการด�ำ เนนิ การนน้ั
เป็นบุคคลท่ีถูกกำ�หนด  หรือโดยเจตนาให้เงินหรือทรัพย์สินหรือการดำ�เนินการนั้นถูกนำ�ไปใช้
เพื่อสนับสนุนการดำ�เนินกิจกรรมใดๆ  ของบุคคลที่ถูกกำ�หนด  ผู้ที่ฝ่าฝืนอาจมีความผิดฐาน
สนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  ต้องระวางโทษจำ�คุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปีและปรับ
ต้งั แตส่ หี่ มื่นบาทถึงสองแสนบาทหรือทงั้ จำ�ทั้งปรับ รายละเอียดปรากฏตามสำ�เนาหนงั สอื   ปปง.
ดว่ นทสี่ ุด ท่ี ปง.๐๐๐๔.๔/ว ๒๓๙ ลงวันที่ ๑๓​ ตลุ าคม ๒๕๕๗ ท่ีแนบมาพร้อมน้ี หากมขี อ้ สงสยั
ในการดาวน์โหลดรายชื่อโปรดสอบถามท่ีส่วนต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย 
การขา่ วกรองทางการเงนิ โทร. ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๐๐ ตอ่ ๐๙๒๐, ๐๙๓๒, ๖๐๑๑ จงึ แจ้งมาเพือ่ ทราบ
และพจิ ารณาดำ�เนินการในสว่ นทเ่ี กีย่ วข้องต่อไป

ส�ำ นักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๗

สำ�นกั กฎหมาย
ส่วนอ�ำ นวยการและปฏิบตั กิ ารตามกฎหมาย
โทร./โทรสาร ๐–๒๒๒๒–๒๘๔๙

๕๘๒

ด่วนท่ีสุด (สำ�เนา)
ท่ี ปง ๐๐๐๔.๔ / ว ๒๓๙ สำ�นักงานปอ้ งกนั และปราบปรามการฟอกเงิน
๔๒๒ ถนนพญาไท เขตปทมุ วนั กรงุ เทพฯ ๑๐๓๓๐

๑๓ ตลุ าคม ๒๕๕๗

เรื่อง ประกาศรายชอื่ บุคคลท่ีถกู กำ�หนดตามมาตรา ๔ แหง่ พระราชบัญญตั ิปอ้ งกนั และ
ปราบปรามการสนับสนนุ ทางการเงนิ แกก่ ารก่อการร้าย พ.ศ. ๒๕๕๖
เรยี น ปลดั กระทรวงมหาดไทย

ดว้ ย ส�ำ นักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงนิ (สำ�นักงาน ปปง.) ไดป้ ระกาศ
รายชื่อบุคคลที่ถูกกำ�หนด  กลุ่ม  Taliban  ตามมาตรา  ๔  แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและ
ปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  พ.ศ. ๒๕๕๖  ตามคำ�ส่ังรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงยุติธรรม ที่ ๒๑/๒๕๕๗ ลงวันท่ี ๗ ตุลาคม ๒๕๕๗
ดังน้ัน  เพ่ือประโยชน์ในการบังคับใช้พระราชบัญญัติดังกล่าว  ในการน้ี  จึงขอ
ความอนุเคราะห์ท่านให้ดาวน์โหลดรายชื่อบุคคลที่ถูกกำ�หนดจากเว็บไซต์ของสำ�นักงาน  ปปง.
www.amlo.go.th ในหวั ขอ้ รายช่อื บคุ คลท่ถี ูกก�ำ หนด กลุม่ Taliban ข้อ ๕.๑.๒ และแจง้ เวียน
พรอ้ มทง้ั ประกาศใหห้ นว่ ยงานภายในของทา่ น เจา้ หนา้ ทแ่ี ละประชาชนทว่ั ไปไดร้ บั ทราบตอ่ ไปดว้ ย
อนึ่ง ห้ามมิให้ผใู้ ดจัดหา รวบรวม หรือดำ�เนินการทางการเงินหรือทรพั ยส์ ินหรอื
ด�ำ เนนิ การดว้ ยประการใดๆ โดยรอู้ ยแู่ ลว้ วา่ ผไู้ ดร้ บั ประโยชนท์ างการเงนิ หรอื ทรพั ยส์ นิ หรอื จากการ
ดำ�เนินการน้ันเป็นบุคคลท่ีถูกกำ�หนด  หรือโดยเจตนาให้เงินหรือทรัพย์สินหรือการดำ�เนินการนั้น
ถูกน�ำ ไปใชเ้ พอ่ื สนบั สนุนการดำ�เนนิ กจิ กรรมใดๆ ของบุคคลท่ีถูกก�ำ หนด ผ้ทู ฝี่ า่ ฝนื อาจมีความผดิ
ฐานสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย  ต้องระวางโทษจำ�คุกตั้งแต่สองปีถึงสิบปีและปรับ
ต้ังแตส่ ่หี มืน่ บาทถงึ สองแสนบาท หรือทัง้ จำ�ท้ังปรับ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำ�เนินการในส่วนท่ีเกี่ยวข้องต่อไป
และขอขอบคณุ มา ณ โอกาสนี้
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชอื่ ) เทพสุ บวรโชติดารา
(นายเทพสุ บวรโชติดารา)
รกั ษาราชการแทนผ้อู �ำ นวยการกองขา่ วกรองทางการเงนิ
ปฏบิ ตั ิราชการแทนเลขาธกิ ารคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการฟอกเงนิ

กองขา่ วกรองทางการเงิน
โทร ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๐๐ ตอ่ ๑๙๓๒, ๖๐๑๑, ๑๙๑๙, ๑๙๒๗
โทรสาร ๐ ๒๒๑๙ ๓๖๖๕
๕๘๓

ดว่ นทส่ี ุด (สำ�เนา)
ที่ มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๓๐๒๕ กรมทีด่ ิน
ศูนยร์ าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจง้ วฒั นะ
แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลกั ส่ี กรงุ เทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๗ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๗

เรือ่ ง การยกเวน้ ภาษีอากร กรณกี ารควบรวมกจิ การตามแผนพฒั นาระบบสถาบนั การเงนิ
ระยะท่ี ๒
เรียน ผวู้ า่ ราชการจังหวดั ทุกจงั หวัด
อา้ งถงึ หนังสอื กรมท่ดี ิน ด่วนท่ีสดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๘๓๔๗ ลงวนั ท่ี ๒๒ กนั ยายน ๒๕๕๗
สง่ิ ทส่ี ง่ มาดว้ ย สำ�เนาพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าดว้ ยการยกเวน้
รษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๗๘) พ.ศ. ๒๕๕๗

ตามหนังสือที่อ้างถึง  กรมที่ดินได้ส่งสำ�เนาประกาศกระทรวงมหาดไทย  เร่ือง
การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน  กรณีการ
ควบรวมกจิ การตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงนิ ระยะท่ี ๒ ตามหลกั เกณฑ์ทค่ี ณะรัฐมนตรี
กำ�หนด ประกาศ ณ วันท่ี ๒๙ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง
การเรียกเก็บคา่ ธรรมเนยี มจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าดว้ ยอาคารชดุ กรณีการ
ควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงนิ ระยะท ่ี ๒ ตามหลักเกณฑท์ ่คี ณะรฐั มนตรี
ก�ำ หนด ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๙ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ มผี ลใชบ้ ังคบั ต้งั แต่วันท่ี ๕ กันยายน
พ.ศ. ๒๕๕๗  จนถึงวันท่ี  ๓๑  ธันวาคม  พ.ศ. ๒๕๕๗  พร้อมทั้งสรุปหลักเกณฑ์การลดหย่อน
คา่ ธรรมเนยี มส�ำ หรบั การจดทะเบยี นการโอนและการจดทะเบยี นจ�ำ นองอสงั หารมิ ทรพั ยแ์ ละหอ้ งชดุ
กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน  ระยะที่  ๒  ตามหลักเกณฑ์ท่ี
คณะรฐั มนตรกี ำ�หนด ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย วนั ที่ ๒๙ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ (รวมท้ัง
การหมายเหตุกรณีลดหย่อนค่าธรรมเนียมและยกเว้นภาษีอากร  เมื่อพระราชกฤษฎีกาออกตาม
ความในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร  (ฉบับที่ ...)  พ.ศ. ....  มีผลใช้บังคับเป็น
กฎหมายแลว้ ) และตัวอยา่ งการจดทะเบยี น แต่เนือ่ งจากขณะน้ีพระราชกฤษฎกี าฯ ยังไมม่ ีผลใช้
บังคบั พนกั งานเจา้ หนา้ ที่จึงตอ้ งเรยี กเกบ็ ภาษเี งนิ ไดห้ ัก ณ ที่จ่าย ภาษธี รุ กิจเฉพาะ และอากร
แสตมป์ ตามอตั ราปกติ นัน้
บัดน้ี ได้มีประกาศใช้บังคบั พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรษั ฎากร
วา่ ดว้ ยการยกเวน้ รษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๗๘) พ.ศ. ๒๕๕๗ ประกาศราชกจิ จานเุ บกษา เลม่ ๑๓๑
ตอนท่ี ๗๕ ก ลงวนั ท่ี ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ มีผลใชบ้ ังคบั ต้งั แต่วนั ท่ี ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

๕๘๔

เปน็ ตน้ ไป โดยความในมาตรา ๕ กำ�หนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ตามสว่ น ๓ หมวด ๓ (ภาษเี งินได้
นิติบุคคลหัก  ณ  ท่ีจ่าย)  ภาษีธุรกิจเฉพาะ  ตามหมวด  ๕  และอากรแสตมป์ตามหมวด  ๖
ในลกั ษณะ ๒ แหง่ ประมวลรัษฎากร ให้แก่สถาบันการเงิน (ตามความหมายในมาตรา ๓​ ของ
พระราชกฤษฎกี าฯ) สำ�หรับเงนิ ไดพ้ งึ ประเมนิ รายรบั หรอื การกระท�ำ ตราสารท่ีเกิดข้ึนหรือเนื่อง
มาจากการที่สถาบันการเงินดังกล่าวควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันตามแผนพัฒนา
ระบบสถาบนั การเงนิ ระยะท่ี ๒ และมาตรา ๖ ก�ำ หนดใหย้ กเวน้ ภาษธี รุ กจิ เฉพาะและอากรแสตมป์
ให้แก่สถาบันการเงิน (ตามความหมายในมาตรา ๓ ของพระราชกฤษฎกี าฯ) ส�ำ หรับมูลค่าของ
ฐานภาษี รายรับ หรอื การกระท�ำ ตราสารทเ่ี กดิ ขนึ้ หรอื เนอื่ งมาจากการที่สถาบนั การเงินโอนกิจการ
บางส่วนใหแ้ ก่กัน ตามแผนพฒั นาระบบสถาบันการเงนิ ระยะท่ี ๒ ทง้ั นี้ ส�ำ หรบั การควบเขา้ กนั
หรอื โอนกจิ การทั้งหมด หรือบางส่วนใหแ้ ก่กนั ที่ได้กระทำ�ตั้งแตว่ นั ท่ี ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
ฉะนน้ั นบั แตบ่ ดั นเ้ี ปน็ ตน้ ไปจนถงึ วนั ท่ี ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ การจดทะเบยี น
โอนอสังหาริมทรัพย์หรือห้องชุด  กรณีการควบรวมกิจการตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะท่ี  ๒  ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำ�หนด  ที่ได้รับลดหย่อนค่าธรรมเนียมตามประกาศ
กระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ยอ่ มได้รบั ยกเวน้ ภาษเี งนิ ได้ ภาษีธรุ กจิ
เฉพาะ และอากรแสตมป์ แล้วแตก่ รณี ตามท่กี �ำ หนดในมาตรา ๕ และมาตรา ๖ แหง่ พระราช
กฤษฎีกาฯ ด้วย และกรมทีด่ ินไดแ้ จ้งแนวทางปฏบิ ัตใิ นการลดหย่อนคา่ ธรรมเนียมตามประกาศ
กระทรวงมหาดไทย  ลงวันท่ี  ๒๙  สิงหาคม  พ.ศ. ๒๕๕๗  และการหมายเหตุกรณีลดหย่อน
ค่าธรรมเนียมและยกเว้นภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
วา่ ดว้ ยการยกเวน้ รษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๗๘) พ.ศ. ๒๕๕๗ ให้พนกั งานเจา้ หนา้ ท่ที ราบและถือปฏิบัติ
ตามหนงั สอื กรมทด่ี นิ ด่วนทส่ี ุด ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๘๓๔๗ ลงวนั ที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๕๗ ท่อี ้าง
ถงึ แล้ว จึงขอส่งพระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวลรษั ฎากร วา่ ด้วยการยกเว้นรษั ฎากร
(ฉบับท่ี ๕๗๘) พ.ศ. ๒๕๕๗ มาเพื่อใหพ้ นกั งานเจา้ หน้าทีท่ ราบและถอื ปฏบิ ัติตอ่ ไป ส�ำ หรับกรณี
ที่มีผู้ประสงค์จะขอคืนภาษีอากรการโอนอสังหาริมทรัพย์หรือห้องชุดที่ได้เสียไปก่อนท่ีพระราช
กฤษฎีกาฉบบั นมี้ ีผลใชบ้ งั คับ ใหแ้ นะนำ�ผู้ขอไปติดตอ่ ขอคนื ณ สำ�นกั งานสรรพากรพนื้ ท่ีที่ผ้ขู อคนื
มีภูมิล�ำ เนาอยู่ หรือติดตอ่ สอบถามไปที่ศูนยข์ ้อมลู กรมสรรพากร โทรศพั ท์หมายเลข ๑๑๖๑
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบ และแจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทท่ี ราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถอื

(ลงช่ือ) ศิรพิ งษ์ หา่ นตระกลู
(นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล)
อธิบดีกรมที่ดนิ
ส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบยี นที่ดนิ
ส่วนมาตรฐานการจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๕๑๒๘๔๕

(สำ�เนา)

พระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรษั ฎากร
วา่ ดว้ ยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับท่ี ๕๗๘)

__พ_._ศ_._ ๒_๕_๕__๗__
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไ้ ว้ ณ วันที่ ๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๗
เปน็ ปีท่ี ๖๙ ในรัชกาลปัจจุบัน

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ
ใหป้ ระกาศว่า
โดยท่ีเป็นการสมควรยกเว้นภาษีเงินได้  ภาษีมูลค่าเพ่ิม  ภาษีธุรกิจเฉพาะ  และ
อากรแสตมป ์ บางกรณี
อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา  ๒๒  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบับชว่ั คราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๓ (๑) แหง่ ประมวลรัษฎากร ซง่ึ แก้ไขเพิม่ เติม
โดยพระราชบญั ญตั แิ ก้ไขเพิม่ เตมิ ประมวลรัษฎากร (ฉบับท่ี ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ จงึ ทรงพระกรุณา
โปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชกฤษฎีกาขนึ้ ไว้ ดังตอ่ ไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎีกาน้เี รยี กว่า “พระราชกฤษฎกี าออกตามความในประมวล
รษั ฎากร วา่ ดว้ ยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ๕๗๘) พ.ศ. ๒๕๕๗”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกาน้ีให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเปน็ ตน้ ไป
มาตรา ๓ ในพระราชกฤษฎกี านี้
“แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน  ระยะที่  ๒”  หมายความว่า  แผนพัฒนาระบบ
สถาบนั การเงนิ ระยะที่ ๒ ท่คี ณะรัฐมนตรมี ีมติเหน็ ชอบเมอ่ื วนั ที่ ๑๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๒
“สถาบันการเงนิ ” หมายความว่า
(๑) สถาบันการเงนิ ของรฐั ทีม่ กี ฎหมายเฉพาะจดั ต้ังขึ้น
(๒) สถาบันการเงนิ ตามกฎหมายว่าดว้ ยธุรกจิ สถาบนั การเงิน
(๓) นติ ิบคุ คลอนื่ ทอ่ี ธิบดีกรมสรรพากรประกาศก�ำ หนดโดยอนุมัติรฐั มนตรี
มาตรา ๔ ใหย้ กเวน้ ภาษีเงินไดต้ ามสว่ น ๒​ และสว่ น ๓ หมวด ๓ ในลักษณะ ๒
แห่งประมวลรัษฎากร  ให้แก่ผู้ถือหุ้นของสถาบันการเงิน  สำ�หรับผลประโยชน์ที่ได้จากการที่
สถาบันการเงินควบเข้ากันหรือโอนกิจการทั้งหมดให้แก่กันตามแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน
ระยะที่ ๒ ซ่งึ ตรี าคาเป็นเงนิ ไดเ้ กินกว่าเงนิ ทุน ทั้งนี้ ส�ำ หรับการควบเข้ากันหรอื โอนกิจการที่ได้
กระทำ�ตง้ั แตว่ ันท่ี ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๕ ถึงวันที่ ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๗

๕๘๖

มาตรา ๕ ใหย้ กเว้นภาษเี งนิ ได้ตามสว่ น ๓ หมวด ๓ ภาษีธุรกิจเฉพาะตามหมวด ๕
และอากรแสตมปต์ ามหมวด ๖ ในลักษณะ ๒ แหง่ ประมวลรัษฎากร ให้แกส่ ถาบนั การเงิน สำ�หรับ
เงินไดพ้ งึ ประเมนิ รายรบั หรอื การกระท�ำ ตราสารท่ีเกดิ ขน้ึ หรือเนอื่ งมาจากการที่สถาบันการเงนิ
ควบเขา้ กัน หรือโอนกิจการทง้ั หมดให้แก่กนั ตามแผนพฒั นาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ ๒ ท้งั นี้
สำ�หรบั การควบเข้ากนั หรือโอนกิจการทไ่ี ดก้ ระทำ�ตง้ั แต่วันที่ ๑​ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถงึ วนั ที่
๓๑​ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๗
มาตรา ๖ ให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพ่มิ ตามหมวด ๔ ภาษีธรุ กจิ เฉพาะตามหมวด ๕
และอากรแสตมป์ ตามหมวด ๖ ในลักษณะ ๒ แหง่ ประมวลรัษฎากร ให้แก่สถาบันการเงิน ส�ำ หรบั
มูลค่าของฐานภาษรี ายรบั หรอื การกระทำ�ตราสารท่เี กิดข้ึนหรือเนื่องมาจากการท่ีสถาบันการเงิน
โอนกจิ การบางส่วนใหแ้ กก่ นั ตามแผนพฒั นาระบบสถาบันการเงนิ ระยะที่​ ๒ ทงั้ น้ี สำ�หรบั การ
ควบเขา้ กันหรือโอนกิจการทไ่ี ด้กระทำ�ตัง้ แตว่ ันท่ี ๑​ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ ถึงวนั ท่ี ๓๑​ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๕๗
มาตรา ๗ ใหร้ ัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลงั รักษาการตามพระราชกฤษฎกี านี้
ผ รู้ บั สนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี

หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพ้ ระราชกฤษฎีกาฉบบั น้ี คือ โดยที่คณะรฐั มนตรีไดม้ ีมติ
เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๒ เห็นชอบแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ ๒
ซึ่งมีข้ึนเพ่ือเสริมสร้างประสิทธิภาพของระบบสถาบันการเงิน  เพ่ือวางกรอบการพัฒนาระบบ
สถาบนั การเงนิ ระหว่าง พ.ศ. ๒๕๕๓ – ๒๕๕๗ และได้มีการตราพระราชกฤษฎีกาออกตามความ
ในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเวน้ รัษฎากร (ฉบบั ที ่ ๕๐๒) พ.ศ. ๒๕๕๓ ก�ำ หนดให้สทิ ธิ
ประโยชน์ทางภาษีอากรแก่สถาบันการเงินและผู้ถือหุ้นของสถาบันการเงินท่ีสถาบันการเงินควบ
เข้ากันหรือโอนกจิ การให้แกก่ ัน ซ่ึงมผี ลใช้บงั คบั ถงึ วันท่ี ๓๑ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ แตโ่ ดยท่ีการ
ควบเข้ากันหรือโอนกิจการให้แก่กันของสถาบันการเงินยังดำ�เนินการไม่เสร็จส้ิน  จึงจำ�เป็นต้อง
ใหส้ ทิ ธิประโยชนท์ างภาษอี ากรต่อไปอีกระยะหนงึ่ จงึ จำ�เป็นตอ้ งตราพระราชกฤษฎกี านี้

๕๘๗

ดว่ นท่ีสดุ (สำ�เนา)
ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๓๐๒๖ กรมทด่ี นิ
ศูนยร์ าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรัฐประศาสนภกั ด ี ถนนแจ้งวฒั นะ
แขวงทุ่งสองหอ้ ง เขตหลกั สี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗

เรื่อง อัตราภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมดาที่ใชบ้ ังคบั ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘
เรียน ผู้วา่ ราชการจงั หวัดทกุ จังหวดั
อา้ งถึง หนังสอื กรมท่ดี นิ ด่วนทีส่ ุด ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๓๒๒๓๖ ลงวนั ที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๕๖
สงิ่ ทีส่ ่งมาด้วย ๑. พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วา่ ดว้ ยการลดอัตรารษั ฎากร
(ฉบับท่ี ๕๗๖) พ.ศ. ๒๕๕๗
๒. อตั ราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทแ่ี สดงผลรวมภาษเี งินได้บุคคลธรรมดา
ในแตล่ ะข้นั ทจี่ ดั ท�ำ ขึน้ ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าดว้ ยการลดอัตรารษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๗๖) พ.ศ. ๒๕๕๗

ตามหนังสือท่ีอ้างถึง  กรมที่ดินได้ส่งสำ�เนาพระราชกฤษฎีกาออกตามความ
ในประมวลรัษฎากร ว่าดว้ ยการลดอตั รารษั ฎากร (ฉบบั ที่ ๕๗๕) พ.ศ. ๒๕๕๖ มีสาระส�ำ คัญ
เปน็ การปรับปรุงอตั ราภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ส�ำ หรับค�ำ นวณเงนิ ได้สุทธจิ าก ๕ ข้นั อัตรา เปน็
๗ ขนั้ อตั รา และลดอตั ราภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดาจากอัตราสูงสดุ รอ้ ยละ ๓๗ เปน็ ร้อยละ ๓๕
มีผลใช้บังคับสำ�หรับเงินได้ท่ีได้รับในปี  พ.ศ. ๒๕๕๖  และปี  พ.ศ. ๒๕๕๗  พร้อมท้ังส่งตาราง
เปรียบเทียบอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเดิม  และอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาใหม่ให้
พนกั งานเจ้าหนา้ ทที่ ราบและถอื ปฏบิ ตั ิ น้นั
บดั น้ี ไดม้ ีประกาศใชบ้ ังคบั พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรษั ฎากร
ว่าด้วยการลดอตั รารัษฎากร (ฉบบั ท่ี ๕๗๖) พ.ศ. ๒๕๕๗ ในราชกิจจานเุ บกษา เลม่ ๑๓๑
ตอนที่ ๗๕ ก ลงวนั ที่ ๑๐ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๗ มีผลใชบ้ งั คับต้งั แต่วนั ที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗
มีสาระสำ�คัญเป็นการปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำ�หรับคำ�นวณเงินได้สุทธิจาก
๕ ข้นั อัตรา เปน็ ๗ ขั้นอตั รา และลดอัตราภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดาจากอตั ราสูงสุดร้อยละ ๓๗
เป็นร้อยละ ๓๕ มีผลใช้บังคับสำ�หรับเงินได้ที่ได้รับในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงเป็นการลดอัตราภาษี
เงินได้บุคคลธรรมดาเช่นเดียวกับการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  ตามพระราชกฤษฎีกา

๕๘๘

ออกตามความในประมวลรษั ฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๕๗๕) พ.ศ. ๒๕๕๖
ท่ีใช้บังคับสำ�หรับเงินได้ท่ีได้รับในปี  พ.ศ. ๒๕๕๖  และปี  พ.ศ. ๒๕๕๗  ทุกประการ  ดังน้ัน
ในปี  พ.ศ. ๒๕๕๘  พนักงานเจ้าหน้าที่จึงต้องเรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยคำ�นวณตาม
อัตราภาษีท่ีกำ�หนดไว้ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร  ว่าด้วยการลด
อัตรารษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๗๖) พ.ศ. ๒๕๕๗ ตามส่ิงทสี่ ง่ มาดว้ ย ๑. และ ๒.
จงึ เรยี นมาเพอ่ื โปรดทราบและแจง้ ใหพ้ นกั งานเจา้ หนา้ ทท่ี ราบและถอื ปฏบิ ตั ติ อ่ ไป

ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอ่ื ) ศริ ิพงษ์ ห่านตระกลู
(นายศริ ิพงษ ์ หา่ นตระกลู )
อธิบดีกรมทด่ี นิ

ส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบยี นท่ดี นิ
ส่วนมาตรฐานการจดทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒
โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔


๕๘๙

สิ่งที่ส่งมาดว้ ย ๑

(สำ�เนา)

พระราชกฤษฎกี า
ออกตามความในประมวลรษั ฎากร
ว่าดว้ ยการลดอตั รารษั ฎากร (ฉบับที่ ๕๗๖)

__พ_._ศ_._ ๒_๕_๕__๗__
ภูมพิ ลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันท่ี ๓ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๕๗
เป็นปที ี่ ๖๙ ในรัชกาลปจั จบุ นั

พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ
ให้ประกาศวา่
โดยท่เี ปน็ การสมควรลดอตั ราภาษเี งินไดส้ ำ�หรับบุคคลธรรมดา
อาศัยอำ�นาจตามความในมาตรา  ๒๒  ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(ฉบบั ชวั่ คราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ และมาตรา ๓ (๑) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพ่ิมเติม
โดยพระราชบัญญัตแิ กไ้ ขเพ่ิมเติมประมวลรษั ฎากร (ฉบับที่ ๑๐) พ.ศ. ๒๔๙๖ จงึ ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎกี าขึ้นไว้ ดงั ตอ่ ไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชกฤษฎกี านีเ้ รียกวา่ “พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวล
รษั ฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารษั ฎากร (ฉบับท่ี ๕๗๖) พ.ศ. ๒๕๕๗”
มาตรา ๒ พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา
นุเบกษาเป็นตน้ ไป
มาตรา ๓ ใหล้ ดอัตราภาษเี งินไดต้ าม (๑) สำ�หรบั บุคคลธรรมดา ของบัญชีอัตรา
ภาษเี งินไดท้ า้ ยหมวด ๓ ในลักษณะ ๒ แห่งประมวลรษั ฎากร ซึง่ แก้ไขเพิ่มเตมิ โดยพระราชกำ�หนด
แกไ้ ขเพม่ิ เตมิ ประมวลรษั ฎากร (ฉบบั ท่ี ๑๖) พ.ศ. ๒๕๓๔ ส�ำ หรบั เงนิ ไดส้ ทุ ธทิ ไ่ี ดร้ บั ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘
ดังตอ่ ไปนี้
(๑) เงินไดส้ ุทธไิ มเ่ กนิ หนึ่งแสนบาท ให้คงจดั เกบ็ ในอัตราร้อยละหา้
(๒) เงนิ ได้สุทธิเฉพาะส่วนที่เกนิ หนึ่งแสนบาท แต่ไมเ่ กินสามแสนบาท ให้จดั เกบ็
ในอตั ราลดลงจากร้อยละสิบ ให้เหลอื รอ้ ยละหา้ ส�ำ หรบั เงินได้สุทธิส่วนที่เกนิ สามแสนบาท แตไ่ ม่
เกนิ ห้าแสนบาท ใหค้ งจดั เก็บในอตั ราร้อยละสบิ
(๓) เงนิ ได้สุทธิเฉพาะสว่ นท่ีเกินห้าแสนบาท แตไ่ ม่เกนิ เจ็ดแสนหา้ หมนื่ บาท ให้จดั
เก็บในอัตราลดลงจากร้อยละย่ีสิบ  ให้เหลือร้อยละสิบห้า  สำ�หรับเงินได้สุทธิส่วนที่เกินเจ็ดแสน
หา้ หมืน่ บาท แต่ไม่เกนิ หน่ึงล้านบาท ใหค้ งจัดเก็บในอัตราร้อยละย่สี บิ

๕๙๐

(๔) เงินได้สทุ ธเิ ฉพาะสว่ นทีเ่ กินหนึง่ ลา้ นบาท แต่ไมเ่ กนิ สองลา้ นบาท ใหจ้ ัดเกบ็ ใน
อัตราลดลงจากร้อยละสามสบิ ให้เหลอื รอ้ ยละยส่ี บิ หา้ สำ�หรบั เงนิ ไดส้ ุทธิส่วนที่เกนิ สองล้านบาท
แต่ไมเ่ กนิ สล่ี า้ นบาท ใหค้ งจดั เก็บในอัตรารอ้ ยละสามสิบ
(๕) เงนิ ได้สุทธิส่วนทีเ่ กินสล่ี า้ นบาท ใหจ้ ัดเกบ็ ในอตั ราลดลงจากร้อยละสามสบิ เจ็ด
ให้เหลอื รอ้ ยละสามสบิ ห้า
มาตรา ๔ ใหร้ ัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการคลงั รกั ษาการตามพระราชกฤษฎกี าน้ี
ผูร้ ับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยทุ ธ ์ จนั ทรโ์ อชา
นายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ  :-  เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้  คือ  โดยท่ีพระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ ๕๗๕) พ.ศ. ๒๕๕๖
ได้มีการลดอัตราภาษีเงินได้สำ�หรับบุคคลธรรมดา  ตามบัญชีอัตราภาษีเงินได้ท้ายหมวด  ๓
ในลักษณะ ๒ แหง่ ประมวลรัษฎากร สำ�หรบั เงินได้สทุ ธิท่ีได้รบั ในปี พ.ศ.๒๕๕๖ และปี พ.ศ.๒๕๕๗
แต่เน่ืองจากยังมีความจำ�เป็นในการบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้มีเงินได้เพ่ือให้สอดคล้องกับสภาวะ
ทางเศรษฐกิจและค่าครองชีพในปัจจุบัน  สมควรลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อไปอีก
ส�ำ หรับเงินได้สุทธิท่ีได้รับในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ จึงจำ�เปน็ ต้องตราพระราชกฤษฎีกาน้ี

๕๙๑

สงิ่ ทสี่ ่งมาดว้ ย ๒

อัตราภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา
ตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วา่ ด้วยการลดอัตรารัษฎากร

(ฉบบั ท่ี ๕๗๖) พ.ศ. ๒๕๕๗
ใช้ส�ำ หรบั การค�ำ นวณเพ่ือเรียกเก็บภาษเี งนิ ได้บุคคลธรรมดาหกั ณ ทจี่ า่ ย เฉพาะใน ปี พ.ศ. ๒๕๕๘

เงินได้สทุ ธติ ั้งแต ่ เงนิ ได้แต่ละขน้ั อตั ราภาษ ี ภาษีแตล่ ะขั้น ภาษีสะสม
(บาท) (รอ้ ยละ)
๐ – ๑๐๐,๐๐๐ ๕,๐๐๐ ๕,๐๐๐
๑๐๐,๐๐๑ – ๓๐๐,๐๐๐ ๑๐๐,๐๐๐ ๕ ๑๐,๐๐๐ ๑๕,๐๐๐
๓๐๐,๐๐๑ – ๕๐๐,๐๐๐ ๒๐๐,๐๐๐ ๕ ๒๐,๐๐๐ ๓๕,๐๐๐
๕๐๐,๐๐๑ – ๗๕๐,๐๐๐ ๒๐๐,๐๐๐ ๑๐ ๓๗,๕๐๐ ๗๒,๕๐๐
๗๕๐,๐๐๑ – ๑,๐๐๐,๐๐๐ ๒๕๐,๐๐๐ ๑๕ ๕๐,๐๐๐ ๑๒๒,๕๐๐
๑,๐๐๐,๐๐๑ – ๒,๐๐๐,๐๐๐ ๒๕๐,๐๐๐ ๒๐ ๒๕๐,๐๐๐ ๓๗๒,๕๐๐
๒,๐๐๐,๐๐๑ – ๔,๐๐๐,๐๐๐ ๑,๐๐๐,๐๐๐ ๒๕ ๖๐๐,๐๐๐ ๙๗๒,๕๐๐
๒,๐๐๐,๐๐๐ ๓๐
๔,๐๐๐,๐๐๑ ขน้ึ ไป ฯลฯ ฯลฯ
ฯลฯ ๓๕

๕๙๒

ท่ี มท ๐๕๑๕.๑ / ว ๒๓๕๑๓ (ส�ำ เนา)
กรมทด่ี ิน
ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกียรติ ๘๐ พรรษาฯ
อาคารรฐั ประศาสนภักดี ถนนแจ้งวฒั นะ
แขวงทงุ่ สองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ๑๐๒๑๐

๒๔ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๗

เรือ่ ง การเรียกเกบ็ คา่ ธรรมเนียมการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมเกยี่ วกับอสังหารมิ ทรพั ยท์ ี่
บริจาคใหแ้ ก่มหาวิทยาลยั มหดิ ล
เรียน ผ้วู ่าราชการจงั หวดั ทุกจังหวัด
ส่งิ ทส่ี ่งมาด้วย ๑. ส�ำ เนาหนังสอื สำ�นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ นร ๐๙๐๗/๓๘๗
ลงวันท่ี ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๗
๒. สำ�เนาบันทึกสำ�นักงานคณะกรรมการกฤษฎกี า เรือ่ ง การยกเว้นคา่ ธรรมเนียม
การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมเก่ยี วกับอสงั หาริมทรพั ยท์ บี่ รจิ าคให้แก่
มหาวทิ ยาลยั มหิดล

ด้วยส�ำ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แจง้ ผลการพิจารณากรณี มหาวิทยาลยั
มหิดลหารือปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและ
นิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่บริจาคให้มหาวิทยาลัยมหิดล  และคณะกรรมการกฤษฎีกา
(คณะท่ี ๗) ได้พจิ ารณาข้อหารือดงั กลา่ วแล้ว ผลการพจิ ารณาสรุปได้ว่า มหาวิทยาลัยมหดิ ล
ไม่อยู่ในความหมายของคำ�ว่า  “ทางราชการ”  การบริจาคอสังหาริมทรัพย์ให้แก่มหาวิทยาลัย
มหดิ ล จึงไมไ่ ด้รบั ยกเว้นคา่ ธรรมเนียมการจดทะเบยี นสิทธิและนติ ิกรรมเกย่ี วกับอสงั หาริมทรพั ย์
ท่ีบรจิ าคใหแ้ กท่ างราชการ ตามมาตรา ๑๐๓ ทวิ แหง่ ประมวลกฎหมายทด่ี ิน ซ่งึ แก้ไขเพม่ิ เติม
โดยประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบับท่ี ๑๖ ลงวันที่ ๗ พฤศจกิ ายน พุทธศักราช ๒๕๒๐ ปรากฏตาม
สง่ิ ทีส่ ง่ มาดว้ ย ๑. และ ๒. ดงั นน้ั การบรจิ าคอสงั หารมิ ทรพั ย์ใหแ้ กม่ หาวิทยาลยั มหิดล จงึ ตอ้ ง
เสียค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนประเภทให้ ในอัตราร้อยละ ๒ จากราคาประเมนิ ทุนทรัพยต์ ามท่ี
คณะกรรมการก�ำ หนดราคาประเมนิ ทนุ ทรพั ยก์ �ำ หนด ตามมาตรา ๑๐๓ และมาตรา ๑๐๔ วรรคหนง่ึ
แห่งประมวลกฎหมายท่ีดิน ประกอบกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความใน
พระราชบญั ญตั ิให้ใช้ประมวลกฎหมายทด่ี นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ้ ๒ (๗) (ก)
จงึ เรยี นมาเพ่อื โปรดทราบและส่งั ให้พนกั งานเจา้ หน้าที่ทราบและถอื ปฏิบตั ิตอ่ ไป
ขอแสดงความนบั ถือ
(ลงช่อื ) สุจิต จงประเสริฐ
(นายสุจิต จงประเสริฐ)
รองอธบิ ดกี รมทดี่ ิน ปฏิบัติราชการแทน
อธบิ ดีกรมทด่ี ิน
ส�ำ นกั มาตรฐานการทะเบยี นท่ีดิน สว่ นมาตรฐานการจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรม
โทร. ๐ ๒๑๔๑ ๕๗๖๒ โทรสาร ๐ ๒๑๔๓ ๙๑๒๔

๕๙๓

ที่ นร ๐๙๐๗ / ๓๘๗ (สำ�เนา) ส่งิ ที่สง่ มาดว้ ย ๑
ส�ำ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
๑ ถนนพระอาทติ ย์ เขตพระนคร
กรงุ เทพฯ ๑๐๒๐๐

๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๗

เรือ่ ง ขอหารอื การไดร้ ับยกเว้นค่าธรรมเนยี มการจดทะเบียนสิทธแิ ละนิตกิ รรมเก่ียวกบั
อสงั หารมิ ทรพั ย์ทีบ่ ริจาคใหม้ หาวิทยาลัยมหดิ ล
เรยี น อธบิ ดีกรมที่ดิน
อ้างถึง หนงั สือสำ�นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่ นร ๐๙๐๗/ป ๑๒๕ ลงวันที่ ๑๑ มนี าคม ๒๕๕๗
สิง่ ที่ส่งมาดว้ ย บันทกึ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรอ่ื ง การยกเว้นค่าธรรมเนยี ม
การจดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรมเกีย่ วกบั อสังหาริมทรพั ยท์ ่บี รจิ าคใหแ้ ก่
มหาวิทยาลยั มหดิ ล

ตามทม่ี หาวทิ ยาลยั มหดิ ลไดข้ อหารอื ปญั หาขอ้ กฎหมายเกย่ี วกบั การไดร้ บั ยกเวน้
ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพย์ที่บริจาคให้มหาวิทยาลัย
มหดิ ล และสำ�นักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไดข้ อใหก้ ระทรวงมหาดไทย (กรมทดี่ นิ ) กระทรวง
ศึกษาธกิ าร (ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา) และมหาวทิ ยาลัยมหิดลแตง่ ต้งั ผู้แทนไป
ช้ีแจงขอ้ เท็จจรงิ น้ัน
บัดนี้  คณะกรรมการกฤษฎีกา  (คณะที่  ๗)  ได้พิจารณาข้อหารือดังกล่าวและ
มคี วามเหน็ ปรากฏตามบนั ทกึ สำ�นกั งานคณะกรรมการกฤษฎีกาท่ีไดส้ ่งมาด้วยน้ี อน่ึง สำ�นักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกาได้แจ้งผลการพิจารณาไปยังสำ�นักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  เพื่อทราบ
ตามระเบยี บดว้ ยแล้ว
จึงเรยี นมาเพ่อื โปรดทราบ
ขอแสดงความนบั ถอื
(ลงชอ่ื ) ดสิ ทัต โหตระกิตย์
(นายดสิ ทัต โหตระกิตย)์
รองเลขาธกิ ารฯ รักษาราชการแทน
เลขาธกิ ารคณะกรรมการกฤษฎีกา

กองกฎหมายทรพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม
ฝ่ายกฎหมายท่ีดิน สิ่งกอ่ สรา้ ง และการเกษตร
โทร. ๐ ๒๒๘๐ ๗๙๐๐ – ๑๓ ต่อ ๒๓๑๖ (นางสาวจีรภทั รฯ์ ) โทรสาร ๐ ๒๒๘๑ ๐๒๘๗
www.krisdika.go.th www.lawreform.go.th

๕๙๔

ส่งิ ทส่ี ง่ มาดว้ ย ๒.
เร่อื งเสรจ็ ที่ ๑๐๑๘/๒๕๕๗
บนั ทึกส�ำ นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี า
เรอ่ื ง การยกเวน้ คา่ ธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมเกีย่ วกับอสงั หาริมทรพั ย์
ทบี่ ริจาคให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดล
–––––––––––––––
มหาวทิ ยาลัยมหดิ ลได้มีหนังสอื ท่ี ศธ ๐๕๑๗/๓๙๒ ลงวันท่ี ๑๕ มกราคม ๒๕๕๗
ถึงสำ�นกั งานคณะกรรมการกฤษฎกี าสรุปความได้ว่า บริษทั บ. มีความประสงคบ์ รจิ าคทดี่ ินและ
ส่ิงปลกู สรา้ งให้แก่คณะส่งิ แวดล้อมและทรพั ยากรศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล เพอ่ื ใชป้ ระโยชน์
ในการศกึ ษาตามวัตถุประสงค์ของมหาวทิ ยาลยั มหิดล โดยเจ้าพนกั งานท่ดี นิ แจง้ ว่ามหาวิทยาลยั
ไมอ่ ย่ใู นขอ้ ยกเว้น ตามมาตรา ๑๐๓ ทวิ แห่งประมวลกฎหมายทีด่ นิ ในอนั ทจ่ี ะไดร้ ับการยกเวน้
คา่ ธรรมเนียม เพราะไม่ใช่ส่วนราชการตามประมวลกฎหมายทีด่ นิ และกรมท่ีดนิ ไดม้ ีหนงั สือตอบ
ในประเด็นดงั กล่าวว่า ตามมาตรา ๑๐๓ ทวิ แหง่ ประมวลกฎหมายท่ดี นิ กำ�หนดใหก้ ารจดทะเบยี น
สิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับอสังหาริมทรัพย์ท่ีบริจาคให้แก่ทางราชการได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียม
คำ�ว่า “ทางราชการ” หมายถึง ราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผน่ ดิน ไดแ้ ก่
การจัดระเบียบบริหารราชการสว่ นกลาง สว่ นภูมภิ าค และสว่ นทอ้ งถ่นิ เทา่ น้ัน หรอื การทีจ่ ะไดร้ บั
การยกเว้นจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำ�หนดเท่านั้น เช่น กรณีพระราชบัญญัติสถาบันอุดม
ศึกษาเอกชน พ.ศ. ๒๕๔๖ ท่กี ำ�หนดวา่ การโอนอสงั หาริมทรัพยใ์ ห้แกส่ ถาบันอดุ มศกึ ษาเอกชน
ให้ได้รับการยกเว้นภาษีอากรและได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
เก่ียวกับอสังหารมิ ทรัพย์
โดยท่ีปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหิดลเป็นหน่วยงานในกำ�กับของรัฐ  มีฐานะเป็น
นติ บิ คุ คล และอยใู่ นกำ�กบั ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ ไดร้ บั งบประมาณสนบั สนุน
จากรัฐบาลเป็นรายปีในจำ�นวนที่เพียงพอสำ�หรับค่าใช้จ่ายในการดำ�เนินการตามวัตถุประสงค์
ของมหาวทิ ยาลยั และการพฒั นาการอุดมศกึ ษาที่อย่ใู นความรับผิดชอบของมหาวิทยาลัย แต่เพ่ือ
ความคลอ่ งตวั ตามหลักการของการเปน็ มหาวิทยาลัยในกำ�กับของรฐั จึงไมใ่ หม้ หาวทิ ยาลยั มหดิ ล
เป็นส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน  กฎหมายว่าด้วยระเบียบ
บริหารราชการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กฎหมายวา่ ด้วยวิธีการงบประมาณ และกฎหมายอนื่ ทงั้ นี้
ตามมาตรา ๗ มาตรา ๑๖ และมาตรา ๕๔ แห่งพระราชบัญญตั มิ หาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ.๒๕๕๐
แต่อยา่ งไรกต็ าม ในการดำ�เนินงานของมหาวิทยาลยั ตามกฎหมายว่าดว้ ยความรับผิดทางละเมิด
_______________________
ส่งพร้อมหนงั สือ ที่ นร ๐๙๐๗/๓๘๖ ลงวนั ที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๕๗ ซ่ึงสำ�นักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกา มถี ึงสำ�นักเลขาธกิ ารคณะรฐั มนตรี
๕๙๕

ของเจ้าหนา้ ท่ี และกฎหมายว่าดว้ ยข้อมลู ข่าวสารของราชการ ไดบ้ ญั ญตั ใิ หม้ หาวทิ ยาลยั มหดิ ล
เป็นหน่วยงานอื่นของรฐั เช่นเดยี วกบั ส่วนราชการ เพราะเหตทุ ี่มหาวทิ ยาลัยยังตอ้ งรับงบประมาณ
แผน่ ดนิ สนบั สนนุ การด�ำ เนนิ งานของมหาวทิ ยาลยั และหากพจิ ารณาตามมาตรา ๓๖ แหง่ พระราช
บัญญัติการศึกษาแห่งชาติ  พ.ศ. ๒๕๔๒  มหาวิทยาลัยมหิดลถือเป็นสถาบันการศึกษาของรัฐ
ประเภทหน่วยงานในกำ�กับของรัฐท่ีสามารถดำ�เนินกิจการได้โดยอิสระ  สามารถพัฒนาระบบ
บริหารและการจัดการทเ่ี ปน็ ของตนเอง มคี วามคลอ่ งตัว มเี สรีภาพทางวิชาการ และอยู่ภายใต้
การก�ำ กบั ดแู ลของสภามหาวทิ ยาลยั ประกอบกบั ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องมหาวทิ ยาลยั ตามมาตรา ๗
แหง่ พระราชบญั ญตั มิ หาวทิ ยาลยั มหดิ ล พ.ศ. ๒๕๕๐ การด�ำ เนนิ กจิ การของมหาวทิ ยาลยั จงึ เปน็ ไป
เพ่อื ประโยชนส์ าธารณะ
ในการสนบั สนนุ การด�ำ เนนิ งานของมหาวทิ ยาลยั ในก�ำ กบั ของรฐั กฎหมายวา่ ดว้ ย
การจัดตง้ั สถาบันการศึกษา อนั ได้แก่ พระราชบญั ญัตมิ หาวทิ ยาลัยมหิดล พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้ก�ำ หนด
บทบัญญัติอำ�นาจในการบริหารอสังหาริมทรัพย์ที่มหาวิทยาลัยได้รับบริจาค  รวมทั้งอำ�นาจ
บริหารท่ีราชพัสดุของกระทรวงการคลังให้มหาวิทยาลัยสามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธ์ิในบรรดา
อสังหาริมทรัพย์ที่มหาวิทยาลัยได้มาจากการให้หรือซื้อด้วยเงินรายได้ของมหาวิทยาลัย  หรือ
แลกเปล่ียนกับทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย  หรือได้มาโดยวิธีอื่น  โดยไม่ถือว่าเป็นที่ราชพัสดุและ
มหาวิทยาลัยมีอำ�นาจในการจัดการทรัพย์สินที่รับบริจาคตามเงื่อนไขที่ผู้อุทิศกำ�หนดไว้  รวมท้ัง
ปกครองดูแลบ�ำ รุงรกั ษา หากการบรจิ าคอสังหารมิ ทรัพย์ใหแ้ ก่มหาวิทยาลัยและผบู้ รจิ าคไดร้ ะบุ
วัตถุประสงค์ไว้แล้ว  มหาวิทยาลัยย่อมไม่สามารถนำ�อสังหาริมทรัพย์นั้นไปดำ�เนินการในกิจการ
อ่นื ได้
ตามบทบัญญัติมาตรา  ๑๐๓  ทวิ  แห่งประมวลกฎหมายที่ดินเป็นบทบัญญัติ
เพ่มิ เตมิ ตามประกาศของคณะปฏวิ ตั ิ ฉบับท่ี ๑๖ ลงวนั ที่ ๗ พฤศจกิ ายน พุทธศกั ราช ๒๕๒๐
มีเจตนารมณ์เพ่ือสนับสนุนการดำ�เนินงานของทางราชการ  เพราะเหตุท่ีผ่านมากรณีท่ีมีผู้มีจิต
ศรทั ธาบริจาคทด่ี ินใหแ้ กท่ างราชการ เมือ่ คู่กรณไี ปด�ำ เนนิ การจดทะเบยี นการโอนกรรมสทิ ธิท์ ่ีดิน
จะต้องเสียค่าธรรมเนียม ทำ�ให้เกิดปัญหากับทางราชการในการนำ�เงินของทางราชการมาชำ�ระ
ค่าธรรมเนียม  เน่ืองจากไม่มีการต้ังงบประมาณสำ�หรับเงินจำ�นวนดังกล่าวไว้  และหากจะให้
เจ้าของทรัพย์สินผู้บริจาคออกเงินค่าธรรมเนียมแทน  ก็จะเป็นภาระเกินควรและไม่เหมาะสม
ไมเ่ ปน็ ธรรมแกผ่ บู้ รจิ าคเปน็ อยา่ งยง่ิ ประกอบกบั หากทางราชการจะตอ้ งรบั ภาระเรอ่ื งคา่ ธรรมเนยี ม
จะเป็นผลให้การดำ�เนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการรับเงินหรือทรัพย์สินท่ีมี
ผู้บริจาคใหท้ างราชการ พ.ศ. ๒๕๒๖ ไม่สามารถบงั คบั ใช้ได้ เพราะทางราชการจะต้องค�ำ นงึ ถึง
ผลไดผ้ ลเสยี และประโยชนท์ ีท่ างราชการจะพงึ ได้รับรวมทัง้ ค่าใช้จ่ายทตี่ อ้ งเสียไป
การบริจาคที่ดินให้แก่มหาวิทยาลัยมหิดล  ซึ่งตามมาตรา  ๒๐  วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยมหิดล  พ.ศ. ๒๕๕๐  บัญญัติไว้ว่ามหาวิทยาลัยต้องจัดการ
ตามเงอ่ื นไขทผ่ี อู้ ทุ ศิ ใหก้ �ำ หนดดงั กลา่ วแลว้ นน้ั แมม้ หาวทิ ยาลยั จะถอื กรรมสทิ ธใ์ิ นทด่ี นิ บรจิ าคนน้ั ได้
ตามทกี่ ฎหมายบัญญตั ิ แต่ไมถ่ ือวา่ มหาวทิ ยาลัยมสี ว่ นไดเ้ สยี กบั ทรัพยส์ ินทีบ่ รจิ าคในอันท่จี ะน�ำ

๕๙๖


Click to View FlipBook Version