แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (เล่ม 2) ป.1

45

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง ชนดิ ของวัสดุ (1)

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เรื่อง วสั ดรุ อบตัว หน่วยยอ่ ยที่ 2 เร่ือง ชนิดของวัสดุ

รหัสวชิ า ว11101 รายวิชาวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐาน ว 2.1
เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง

และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี

ตวั ชว้ี ดั ป.1/1 อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซึ่งทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิด
ประกอบกนั โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจกั ษ์

2. สาระสำคญั
วัสดมุ หี ลายชนดิ ซง่ึ นำมาทำเปน็ วัตถุ โดยวัตถุอาจทำจากวสั ดชุ นดิ เดยี วหรือหลายชนดิ

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K)
- บอกวัสดทุ ่ีใชท้ ำวัตถุ
3.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
- สงั เกตวัสดุทใี่ ช้ทำวตั ถุ
- ลงความเห็นจากขอ้ มลู เก่ียวกบั วัสดทุ ใ่ี ชท้ ำวตั ถุ
3.3 ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A)
- มีวนิ ยั
- ใฝเ่ รียนรู้
- มุ่งม่ันในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้
วัตถุต่าง ๆ ทำจากวัสดุ วัสดุมหี ลายชนิด เช่น ผา้ แก้ว โลหะ ยาง พลาสตกิ หิน กระดาษ อิฐ

46

5. สมรรถนะของผเู้ รียน
5.1 ความสามารถในการสื่อสาร
- บอกวสั ดุทใ่ี ชท้ ำวตั ถุ
5.2 ความสามารถในการคิด
- ลงความเหน็ จากขอ้ มลู เกย่ี วกับวสั ดทุ ใี่ ชท้ ำวัตถจุ ากการสังเกต
5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
- มุง่ ม่นั ในการทำงานใหส้ ำเรจ็

6. คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
6.1 มวี นิ ยั
6.2 ใฝ่เรยี นรู้
6.3 ม่งุ มั่นในการทำงาน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน (เวลา 10 นาท)ี
1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับคำว่า วัตถุและวัสดุ โดยยกตัวอย่างสิ่งของ เช่น แก้วสเตนเลส

ไม้บรรทดั พลาสติก ยางรดั ของ แล้วใช้คำถามดงั นี้
1.1 นกั เรยี นคิดวา่ สง่ิ ของตา่ ง ๆ ทค่ี รูหยบิ ออกมาเรียกวา่ อะไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
1.2 นกั เรยี นคิดวา่ ส่ิงของตา่ ง ๆ เหลา่ นมี้ ชี ่อื เรยี กวา่ อะไร (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง)
1.3. ส่งิ ของต่าง ๆ เหล่าน้ี ทำจากอะไร (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง เชน่ แก้วน้ำ ทำจากเหลก็ )
1.4 นักเรียนคิดว่าสิ่งที่นำมาทำเป็นสิ่งของต่าง ๆ มีชื่อเรียกว่าอะไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของ
ตนเอง)

2. ครูชักชวนนกั เรียนไปหาคำตอบจากกิจกรรม
ขนั้ สอน (เวลา 45 นาที)
3. ครูให้นักเรียนอ่านจุดประสงค์ในใบกิจกรรมที่ 1 วัตถุต่าง ๆ ทำมาจากวัสดุอะไร หน้า 10 จากนั้นครูตรวจสอบ

ความเขา้ ใจ โดยครูใชค้ ำถามดังตอ่ ไปนี้
3.1 กิจกรรมนีเ้ รียนเร่อื งอะไร (ชนดิ ของวัสด)ุ
3.2 กิจกรรมน้ีเรียนรูด้ ว้ ยวิธีอะไร (การสังเกต)
3.3 นกั เรยี นเรยี นแล้วทำอะไรได้ (บอกวัสดทุ ่ีใช้ทำวตั ถ)ุ

4. นกั เรยี นอา่ นวธิ ที ำกจิ กรรม ข้อ 1 โดยตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรียนโดยใช้คำถามดังนี้

47

4.1 นกั เรยี นตอ้ งสงั เกตอะไร (สังเกตวตั ถ)ุ
4.2 เม่อื นกั เรียนสงั เกตวัตถุแล้วนักเรยี นจะต้องทำอะไรต่อไป (บอกชนิดของวสั ดุทีใ่ ช้ทำวัตถุได)้
5. ครูใช้สื่อสไลด์อธิบายความรู้เพิ่มเติมเรื่อง วัตถุและชนิดของวัสดุ โดยให้นักเรียนฝึกอ่านคำในสไลด์เกี่ยวกับ
ความหมายของวตั ถแุ ละวัสดชุ นิดตา่ ง ๆ พร้อมกบั ส่ือของจริงท่เี ป็นวัสดุน้ัน ๆ แล้วใชค้ ำถามดงั นี้
5.1 นักเรยี นเข้าใจคำว่าวตั ถุ อยา่ งไรบา้ ง (วัตถุ คือสงิ่ ของทั้งทเี่ ป็นของเล่นและของใช)้
5.2 คำวา่ วัสดุมคี วามหมายวา่ อยา่ งไร (วสั ดคุ อื ส่งิ ท่นี ำมาทำเปน็ วัตถุ)
5.3 วัสดุมีอะไรบา้ ง (แก้ว ผา้ โลหะ ยาง พลาสตกิ หนิ กระดาษ อฐิ )
ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งของในขั้นนำว่า แก้วสเตนเลส เป็นวัตถุทำจากสเตนเลส ซึ่งเป็นวัสดุที่เป็น
โลหะชนิดหนึ่ง นอกจากน้วี ัสดทุ ่ีอยใู่ นกลมุ่ โลหะยงั มวี สั ดุอ่ืน ๆ เช่น เหล็ก อะลมู เิ นียม ทองแดง
6. ครูชักชวนทำกิจกรรมโดยให้นักเรยี นสงั เกตวัตถุต่าง ๆ ตามใบงาน 01 หนา้ 11-12 และบนั ทึกผล
7. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเก่ยี วกับชนดิ ของวัสดทุ ใี่ ชท้ ำวัตถุ จากคำถามดงั นี้
7.1 สง่ิ ทเี่ ปน็ วตั ถมุ ีอะไรบ้าง (แกว้ น้ำ ผา้ เชด็ หน้า ลวดเสียบกระดาษ ยางลบ กล่องใส่อาหาร กอ้ นหนิ สมดุ

ก้อนอิฐ)
7.2 จากกจิ กรรม วัสดุท่นี ำมาใชท้ ำวตั ถมุ อี ะไรบ้าง (แก้ว ผ้า โลหะ ยาง พลาสตกิ หนิ กระดาษ อฐิ )
7.3 วตั ถแุ ละวสั ดเุ กีย่ วข้องกันอยา่ งไร (วตั ถทุ ำจากวสั ด)ุ
8. เมื่อนักเรียนทำเสร็จแล้วครูตรวจสอบความถูกต้องโดยนักเรียนและครูร่วมกันเฉลย ชนิดของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุ
ตา่ ง ๆ พรอ้ มทงั้ อภปิ ราย เกยี่ วกับวัสดทุ ่ีใชท้ ำไม้บรรทัดพลาสติก และยางรดั ของ ซงึ่ ควรจะตอบไดว้ า่ ไม้บรรทดั
พลาสติกทำมาจากพลาสติก ยางรัดของทำมาจากยาง
ข้ันสรปุ (เวลา 5 นาที)
9. ครูเปิดโอกาสใหน้ กั เรยี นสรปุ ความร้ทู ่ีไดเ้ รยี นรใู้ นช่ัวโมงน้เี กย่ี วกับชนดิ ของวสั ดดุ ว้ ยตนเอง
10. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า วัตถุต่าง ๆ ทำจากวัสดุ วัสดุมีหลายชนิด เช่น ผ้า แก้ว โลหะ
ยาง พลาสติก หิน กระดาษ อิฐ

8. ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้
8.1 สื่อสไลด์ ชนิดของวัสดุ (1)
8.2 ใบกจิ กรรมที่ 1 วตั ถุตา่ ง ๆ ทำจากวสั ดุอะไร หน้า 10
8.3 ใบงาน 01 ชนิดของวัสดุ หนา้ 11-12
8.4 สิง่ ของตา่ ง ๆ เชน่ แก้วสเตนเลส ไม้บรรทดั พลาสติก ยางรดั ของ

48

9. ชิน้ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน 01 เรอ่ื งชนิดของวัสดุ หนา้ 11-12

10. การวดั และประเมนิ ผล

ประเดน็ การประเมิน วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์
ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับ
1) ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ สังเกตการตอบคำถาม แบบประเมนิ ความรู้ คุณภาพดขี ้นึ ไป

- บอกวสั ดทุ ใี่ ช้ทำวัตถุ ในชัน้ เรียนและเน้ือหาใน ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับ
คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป
ใบงาน
ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับ
2) ดา้ นทักษะ/กระบวนการ สังเกตทักษะ แบบประเมินทกั ษะ คณุ ภาพ “ผ่าน”
- ลงความเหน็ จากข้อมูล กระบวนการ กระบวนการทาง
ทางวทิ ยาศาสตร์ในการ วทิ ยาศาสตร์ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับ
เกีย่ วกบั วัสดุทใ่ี ช้ทำวตั ถจุ าก ทำกจิ กรรม คณุ ภาพ “ผ่าน"
การสงั เกต

3) ดา้ นคุณลกั ษณะ สงั เกตด้านคุณลกั ษณะ แบบประเมินคุณลักษณะ

เจตคติ ค่านิยม เจตคติ ค่านยิ ม เจตคติ ค่านิยม

- การมวี นิ ัย

- ใฝ่เรียนรู้

- มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

4) สมรรถนะสำคัญของ สงั เกตพฤติกรรมในขณะ แบบประเมนิ สมรรถนะ

ผเู้ รียน ทำกิจกรรม สำคญั ของผเู้ รยี น

1. ความสามารถในการส่ือสาร

- บอกวสั ดุทใี่ ช้ทำวตั ถุ

2. ความสามารถในการคิด

- ลงความเหน็ จากขอ้ มลู

เกี่ยวกับวสั ดทุ ใ่ี ชท้ ำวัตถจุ าก

การสังเกต

3. ความสามารถในการใช้

ทกั ษะชวี ิต

- มุง่ มนั่ ในการทำงานให้

สำเร็จ

49

แบบประเมนิ ความรู้
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 3 เรอื่ ง ชนิดของวสั ดุ (1)

ชอ่ื ผปู้ ระเมนิ ………………………………………………………………………………………………………………………………................
ประเมนิ ผลครง้ั ท่ี……………...…….... วนั ที่ …………….…....…... เดือน ………..……..........….…. พ.ศ. ……...….…………....
เรือ่ ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….............

รายการประเมิน/ระดบั คะแนน

ชื่อ-สกุล/กล่มุ การตอบ การสรุป ความถกู ต้อง รวมคะแนน
คำถามในชน้ั ความรู้ ครบถ้วนของเนอ้ื หา (10 คะแนน)
(4)
เรียน ในใบงาน

(4) (2)

50

เกณฑ์การประเมิน

ประเดน็ ระดับคณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน
1.0 รวม
การประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง) 1.0 4
ตอบคำถามไม่
1. การตอบ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถาม ถกู ต้อง 0.5 4
คำถามในชัน้ เรยี น ถูกตอ้ งทงั้ หมด ถูกตอ้ งเปน็ ส่วน ถกู ต้องบางส่วน
สรปุ ความรูเ้ ข้าใจ 2
ใหญ่ เก่ียวกบั เรอื่ งที่
ศึกษาไมถ่ กู ต้อง
2. การสรปุ ความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรูค้ วาม สรปุ ความรูค้ วาม และไม่ครบถ้วน

ความเข้าใจ เขา้ ใจเกย่ี วกับ เขา้ ใจเกี่ยวกับ เนอ้ื หาทเ่ี ขียนใน
ใบงานไมถ่ กู ตอ้ ง
เกีย่ วกบั เรอื่ งท่ี เรือ่ งท่ศี กึ ษาได้ เรอื่ งทศี่ ึกษาได้

ศกึ ษาได้ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง แต่ไม่ ถูกตอ้ งบางส่วน

และครบถว้ น ครบถ้วน และไมค่ รบถ้วน

3. ความถูกตอ้ ง เน้ือหาท่ีเขียนใน เนอ้ื หาทเี่ ขยี นใน เน้อื หาท่เี ขียนใน
ครบถว้ นของ ใบงานมคี วาม ใบงานมบี างส่วน ใบงานมีความ
เนื้อหาในใบงาน ถูกตอ้ งครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ตามที่ ถกู ต้องเปน็ สว่ น

ตามที่กาหนด กาหนด น้อย

เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ

เกณฑก์ ารตดั สนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับคณุ ภาพดขี ึ้นไป

51

แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 3 เรอื่ ง ชนดิ ของวสั ดุ (1)

ชื่อผปู้ ระเมนิ …………………………………………………………………………........................……………………………………
ประเมนิ ผลครงั้ ท…ี่ ……………….... วนั ท่ี …………….......……... เดือน ………..……...….…. พ.ศ. ……...….…………......
เร่ือง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………

รายการประเมนิ /ระดบั คะแนน ผลรวมคะแนน
(6 คะแนน)
ชือ่ -สกลุ /กลมุ่ การสังเกต (3) การลงความเห็น ผลการประเมนิ
จากขอ้ มลู (3)

52
เกณฑ์การประเมนิ

ทักษะกระบวนการ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1)
ทางวิทยาศาสตร์

การสังเกต ใชต้ าและมือในการ ใช้ตาและมือในการ สามารถใช้ตาและมอื

รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั รวบรวมข้อมูลเกย่ี วกบั ในการรวบรวมข้อมลู

ชนดิ ของวัสดุ ด้วยตนเอง ชนดิ ของวสั ดุ จากการ เก่ยี วกบั ชนิดของวสั ดไุ ด้

โดยไมเ่ พิม่ เตมิ ความคิดเห็น ช้แี นะของครูหรือผู้อื่น บางสว่ น ถงึ แม้จะได้รับ

คำแนะนำจากครหู รอื ผู้อื่น

การลงความเห็นจาก เพิ่มเตมิ ความเห็นเก่ียวกบั เพิม่ เตมิ ความเหน็ เกี่ยวกบั สามารถเพิ่มเตมิ ความเห็น

ขอ้ มลู ชนิดของวสั ดุ ได้อยา่ งมี ชนิดของวสั ดุ ได้อยา่ งมี เก่ียวกับชนดิ ของวสั ดุ ได้

เหตุผล จากความรู้หรอื เหตุผล โดยอาศยั คำแนะนำ อยา่ งมีเหตุผลบางส่วน

ประสบการณเ์ ดมิ ไดด้ ้วย ของครหู รอื ผ้อู ่นื ถงึ แม้จะได้รับคำแนะนำ

ตวั เอง จากครูหรือผู้อน่ื

เกณฑก์ ารตดั สิน
คะแนน 5 - 6 หมายถึง ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การตัดสนิ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคณุ ภาพพอใชข้ ้นึ ไป

53

แบบประเมินคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง ชนดิ ของวัสดุ (1)

ชื่อผ้ปู ระเมนิ /กลมุ่ ประเมิน…………………………………………………………………………………………....................................
ชอื่ กลุ่มรบั การประเมนิ ………………………………………………………………………………………………....................................
ประเมนิ ผลครง้ั ที่…………………....……....... วัน ……………..…. เดอื น …...........…….......………. พ.ศ. ……...….……........
เร่อื ง……………………………………………………………………………………………………………………..........................................

ที่ ลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ระดบั พฤติกรรม
ผา่ น ไมผ่ ่าน
1. มวี ินัย
2. ใฝเ่ รียนใฝ่รู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

เกณฑ์การตดั สิน ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ “ผ่าน”

54

แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3 เรอ่ื ง ชนดิ ของวสั ดุ (1)
ผูป้ ระเมนิ /กลมุ่ ประเมิน..................................................................................................................................................................
ชื่อกล่มุ รับการประเมิน.................................................................................................................................................................
ประเมนิ ผลครง้ั ท่ี...................วันที่......................เดอื น....................................................พ.ศ.......................................
เร่ือง.....................................................................................................................................................................................................

ที่ สมรรถนะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี เกณฑก์ ารตัดสิน
ผ่าน ไมผ่ า่ น
1. ความสามารถในการส่อื สาร
- บอกวสั ดทุ ี่ใช้ทำวัตถุ

2. ความสามารถในการคดิ
- ลงความเห็นจากข้อมูลเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ทำวัตถจุ าก

การสังเกต
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต

- มุง่ ม่นั ในการทำงานใหส้ ำเร็จ

เกณฑ์การตดั สิน ผ่านเกณฑก์ ารประเมินระดับคณุ ภาพ “ผ่าน”

55

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 เรอื่ ง ชนิดของวสั ดุ (2)

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรื่อง วสั ดรุ อบตวั หน่วยย่อยที่ 2 เร่อื ง ชนดิ ของวสั ดุ

รหสั วิชา ว11101 รายวิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ว 2.1
เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง

และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมี

ตวั ชว้ี ดั ป.1/1 อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซึ่งทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิด
ประกอบกนั โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

2. สาระสำคญั
วสั ดุมหี ลายชนิด ซึ่งนำมาทำเปน็ วตั ถุ โดยวัตถอุ าจทำจากวสั ดุชนดิ เดียวหรือหลายชนดิ

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K)
- สงั เกตและบอกวัสดทุ ี่ใชท้ ำวตั ถุ
3.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
- ลงความเห็นจากขอ้ มูลเกยี่ วกบั วัสดทุ ี่ใช้ทำวตั ถุ
- ตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุปจากข้อมูลทีไ่ ดจ้ ากการสงั เกตวัสดทุ ใ่ี ชท้ ำวตั ถุ
3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A)
- มีวนิ ยั
- ใฝเ่ รยี นใฝ่รู้
- ม่งุ ม่นั ในการทำงาน

56

4. สาระการเรยี นรู้
วัตถุต่าง ๆ 1 ชิ้นทำมาจากวัสดุท่ีแตกต่างกนั และหลากหลายชนิด วัตถุ 1 ชิ้นอาจทำมาจากวัสดชุ นิดเดียว

หรือหลายชนิดได้ เช่น ไม้บรรทัดอาจทำจากวัสดุเพียงชนิดเดียว เช่น พลาสติกหรือโลหะ เสื้อผ้าทำจากวัสดุหลาย
ชนิดมาประกอบกัน เชน่ ผ้า โลหะ

5. สมรรถนะของผูเ้ รยี น
5.1 ความสามารถในการส่อื สาร
- สังเกตและบอกวัสดุที่ใช้ทำวตั ถุ
5.2 ความสามารถในการคดิ
- ตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ จากขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการสงั เกตวัสดทุ ใ่ี ช้ทำวัตถุ
5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
- มงุ่ มัน่ ในการทำงานใหส้ ำเร็จ

6. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
6.1 มีวนิ ยั
6.2 ใฝ่เรยี นใฝร่ ู้
6.3 มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำเข้าส่บู ทเรียน (เวลา 10 นาที)
1. ครูใช้สื่อของจริงเกี่ยวกับแผ่นวัสดุและบัตรคำ เพื่อให้นักเรียนทบทวนความหมายของวัสดุและวัตถุ และชนิด

ของวัสดุ จากนั้นใชค้ ำถามดงั น้ี
1.1 วัตถคุ ืออะไรยกตัวอยา่ งมา 1 ชนดิ และทำด้วยอะไร (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ)
1.2 วสั ดุคืออะไรยกตัวอยา่ งมา 1 ชนิด (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจ)

ขั้นสอน (เวลา 45 นาท)ี
2. ครูใหน้ กั เรียนอ่านวธิ ที ำในใบกิจกรรมท่ี 1 วัตถุตา่ ง ๆ ทำมาจากวสั ดอุ ะไร หนา้ 10 ขอ้ 2-3 จากนน้ั ครูตรวจสอบ

ความเขา้ ใจโดยใช้คำถามดงั ต่อไปน้ี
2.1 นกั เรยี นตอ้ งสงั เกตอะไรบา้ ง (สงั เกตวตั ถตุ า่ ง ๆ บนรา่ งกายตนเอง 1 ชน้ิ และวตั ถอุ น่ื ๆ 4 ชน้ิ )
2.2 เมอ่ื นกั เรียนสังเกตแล้วนกั เรียนจะไดท้ ำอะไรต่อไป (บันทกึ ผลการทำกจิ กรรม)
จากนน้ั ชกั ชวนนกั เรยี นลงมอื ทำกจิ กรรม

57

3. ขณะที่นักเรียนสำรวจสิ่งต่าง ๆ บนร่างกาย 1 ชิ้น และรอบ ๆ ตัวอีก 4 ชิ้น และบันทึกลงในใบงาน หน้า 13
ครูคอยชว่ ยเหลือให้คำแนะนำในการระบุชนิดของวัสดุ โดยใช้สอื่ สไลด์ บตั รคำ หรอื การเขียนที่หนา้ กระดาน

4. หลงั จากนักเรียนทำกิจกรรมเรียบรอ้ ยแล้วครูให้ตวั แทนนกั เรยี นนำเสนอผลการทำกจิ กรรม
5. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายผลจากการทำกิจกรรมข้อ 2 - 3 โดยถามคำถามดงั นี้

5.1 วัตถุที่นักเรยี นสำรวจมีอะไรบ้างและสำรวจที่บริเวณใด (แนวคำตอบ เช่น เข็มขัด สำรวจที่ตัวเอง โต๊ะ
เก้าอ้ี ดินสอ สมดุ สำรวจไดใ้ นหอ้ งเรียน )

5.2 วัตถุที่นักเรียนสังเกตทำจากวัสดุอะไรบ้าง (เช่น เข็มขัดทำจากหนัง โลหะ โต๊ะทำจากไม้ เก้าอี้ทำจาก
พลาสติก ดินสอทำจากไม้ โลหะ และยาง สมุดทำจากกระดาษ)

5.3 วัตถุ 1 ชิ้นทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือไม่อย่างไร (วัตถุบางชิ้นทำจากวัสดุชนิดเดียว เช่น โต๊ะทำจากไม้
และวัตถบุ างชิ้นทำจากวัสดุหลายชนิด เชน่ เข็มขดั ทำจากหนงั กบั โลหะ)

5.4 วัสดุที่นอกเหนือจากที่นกั เรียนสำรวจมีชนดิ อื่นหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนตอบตามการสังเกตวัตถุทีท่ ำ
จากวัสดุนอกเหนอื จากน้นั )

ขน้ั สรปุ (เวลา 5 นาท)ี
6. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือสิ่งที่ได้เรียนรู้ในชั่วโมงนี้เกี่ยวกับชนิดของวัสดุ ครูอาจใช้สื่อสไลด์ที่มี

คำถามดังน้ี
- วัตถุ 1 ชิ้นทำจากวัสดุอะไรบ้าง (วัตถุ 1 ชิ้นอาจทำจากวสั ดุ 1 ชนิดหรือวตั ถุ 1 ชิ้นอาจทำจากวัสดุหลาย
ชนิด)

7. ครูและนักเรียนรว่ มกนั อภิปรายจนไดข้ ้อสรปุ วา่ วตั ถุตา่ ง ๆ 1 ชิน้ ทำมาจากวัสดแุ ตกตา่ งกันและหลากหลายชนิด
วัตถุ 1 ชิ้นอาจทำมาจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิดได้ เช่น ไม้บรรทัดอาจทำจากวัสดุเพียงชนิดเดียว
เชน่ พลาสติกหรือโลหะ เสอ้ื ผ้าทำจากวสั ดุหลายชนดิ ประกอบกัน เช่น ผา้ โลหะ

8. ส่อื /แหลง่ เรียนรู้
8.1 ส่ือสไลด์ ชนิดของวสั ดุ (2)
8.2 ใบกจิ กรรมท่ี 1 วัตถตุ า่ ง ๆ ทำมาจากวสั ดอุ ะไร หน้า 10
8.3 ใบงาน 01 ของเล่น ของใช้ หน้า 13
8.4 วสั ดดุ งั นี้ ผ้า กระดาษ พลาสติก โลหะ ไม้ แก้ว ยาง
8.5 บัตรคำชอ่ื วัสดุ

9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน 01 ของเลน่ ของใช้ หน้า 13

58

10. การวดั และประเมนิ ผล

ประเดน็ การประเมิน วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์
แบบประเมินความรู้ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั
1) ด้านความรู้ ความเข้าใจ สงั เกตการตอบคำถามใน คณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป

- บอกวัสดทุ ใ่ี ช้ทำวัตถุ ชนั้ เรยี นและเนอ้ื หาในใบ

งาน

2) ดา้ นทักษะ/กระบวนการ สงั เกตทกั ษะกระบวนการ แบบประเมนิ ทกั ษะ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับ
- ลงความเหน็ จากขอ้ มลู ทางวิทยาศาสตร์ในการ กระบวนการทาง คุณภาพพอใช้ขน้ึ ไป
ทำกจิ กรรม วิทยาศาสตร์
เก่ียวกับวสั ดุที่ใช้ทำวตั ถุ
- ตคี วามหมายขอ้ มูลและ

ลงข้อสรปุ จากข้อมลู ทไ่ี ดจ้ าก
การสงั เกตวัสดุที่ใช้ทำวตั ถุ

3) ด้านคณุ ลักษณะ สงั เกตด้านคุณลกั ษณะ แบบประเมนิ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับ
คณุ ลกั ษณะ คณุ ภาพ “ผา่ น”
เจตคติ ค่านิยม เจตคติ คา่ นยิ ม เจตคติ คา่ นิยม

- การมวี นิ ัย

- ใฝ่เรยี นรู้

- มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

4) สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น สังเกตพฤติกรรมในขณะ แบบประเมินสมรรถนะ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับ
1. ความสามารถในการสือ่ สาร ทำกจิ กรรม สำคัญของผู้เรยี น คุณภาพ “ผ่าน"

- สังเกตและบอกวสั ดทุ ีใ่ ช้
ทำวตั ถุ

2. ความสามารถในการคดิ

- ตีความหมายข้อมูลและ

ลงข้อสรปุ จากข้อมลู ทไ่ี ดจ้ าก

การสังเกตวัสดุทใ่ี ชท้ ำวตั ถุ

3. ความสามารถในการใช้

ทกั ษะชวี ติ

- มุ่งมั่นในการทำงานให้

สำเรจ็

59

แบบประเมินความรู้
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง ชนิดของวสั ดุ (2)

ชื่อผปู้ ระเมนิ ………………………………………………………………………………………………………………………………..............…
ประเมนิ ผลครงั้ ที่……………...…….... วันที่ ……………....…... เดอื น ………..……..........….…. พ.ศ. ……...….…………........
เร่อื ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….............

รายการประเมิน/ระดบั คะแนน

ชือ่ -สกลุ /กลุ่ม การตอบ การสรุป ความถกู ต้อง รวมคะแนน
คำถามในชนั้ ความรู้ ครบถว้ นของเนอ้ื หา (10 คะแนน)
(4)
เรยี น ในใบงาน

(4) (2)

60

เกณฑ์การประเมิน

ประเดน็ ระดับคณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน
1.0 รวม
การประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง) 1.0 4
ตอบคำถามไม่
1. การตอบ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถาม ถกู ต้อง 0.5 4

คำถามในชัน้ เรยี น ถูกตอ้ งทงั้ หมด ถูกตอ้ งเปน็ ส่วน ถกู ต้องบางส่วน สรปุ ความรูเ้ ข้าใจ 2
เก่ียวกบั เร่ืองที่
ใหญ่ ศึกษาไมถ่ กู ต้อง
และไม่ครบถ้วน
2. การสรปุ ความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรูค้ วาม สรปุ ความรูค้ วาม
เนอ้ื หาทเ่ี ขียนใน
ความเข้าใจ เขา้ ใจเกย่ี วกับ เขา้ ใจเกี่ยวกับ ใบงานไมถ่ กู ตอ้ ง

เกีย่ วกบั เรื่องท่ี เรือ่ งท่ศี กึ ษาได้ เรอื่ งทศี่ ึกษาได้

ศกึ ษาได้ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง แต่ไม่ ถูกตอ้ งบางส่วน

และครบถ้วน ครบถ้วน และไมค่ รบถ้วน

3. ความถูกตอ้ ง เน้ือหาท่ีเขยี นใน เนอ้ื หาทเี่ ขยี นใน เน้อื หาท่เี ขียนใน

ครบถว้ นของ ใบงานมคี วาม ใบงานมบี างส่วน ใบงานมีความ

เนื้อหาในใบงาน ถูกตอ้ งครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ตามที่ ถกู ต้องเปน็ สว่ น

ตามที่กำหนด กำหนด น้อย

เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ

เกณฑก์ ารตดั สนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับคณุ ภาพดขี ึ้นไป

61

แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 4 เรอ่ื ง ชนดิ ของวสั ดุ (2)

ชื่อผู้ประเมนิ ……………………………………………………………………........................………………………………………….
ประเมนิ ผลครงั้ ที่………………….... วนั ที่ …………….........……... เดอื น ………..……...….…. พ.ศ. ……...….……........
เร่อื ง…………………………………………………………......…………………………………………………………………………………

รายการประเมนิ /ระดบั คะแนน ผลรวม

ช่ือ-สกุล/กลุ่ม การลงความเห็น การตคี วามหมายขอ้ มลู คะแนน ผลการประเมนิ

จากข้อมูล (3) และลงข้อสรุป (3) (6 คะแนน)

62

เกณฑ์การประเมิน

ทักษะกระบวนการ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรับปรงุ (1)
ทางวทิ ยาศาสตร์
การลงความเห็นจาก สามารถเพิ่มเตมิ ความเห็น สามารถเพม่ิ เตมิ ความเหน็ สามารถเพิ่มเตมิ ความเห็น
ข้อมูล ชนิดของวัสดุ ไดอ้ ยา่ งมี เกีย่ วกบั ชนดิ ของวัสดุ ได้ เกยี่ วกบั ชนิดของวสั ดุ ได้
เหตผุ ล จากความรหู้ รือ อยา่ งมีเหตผุ ล โดยอาศยั อย่างมเี หตผุ ลบางสว่ น
การตคี วามหมาย ประสบการณเ์ ดิมไดด้ ว้ ย คำแนะนำของครูหรอื ผู้อ่นื ถึงแมจ้ ะได้รับคำแนะนำ
ขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ ตวั เอง จากครูหรอื ผ้อู นื่
สามารถตีความหมายจาก สามารถตีความหมายจาก สามารถตคี วามหมายจาก
การสังเกตและลงขอ้ สรุป การสังเกตและลงข้อสรปุ การสังเกตและลงขอ้ สรปุ
ไดด้ ว้ ยตนเองเกี่ยวกับวสั ดุ ได้ด้วยตนเองเกีย่ วกับวสั ดุ ไดด้ ้วยตนเองเกีย่ วกบั วัสดุ
ที่ใช้ทำวัตถุ ทใี่ ช้ทำวัตถุ จากการชแี้ นะ ทีใ่ ชท้ ำวตั ถุไดบ้ างสว่ น
ของครหู รอื ผอู้ ่ืน ถงึ แมจ้ ะไดร้ ับคำแนะนำ
จากครูหรอื ผู้อนื่

เกณฑก์ ารตัดสิน
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถงึ ปรบั ปรงุ

เกณฑก์ ารตัดสิน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คณุ ภาพพอใชข้ น้ึ ไป

63

แบบประเมินคณุ ลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 4 เรอื่ ง ชนิดของวัสดุ (2)

ชื่อผปู้ ระเมนิ /กลมุ่ ประเมนิ …………………………………………………………………………………………....................................
ชอ่ื กลมุ่ รบั การประเมนิ ………………………………………………………………………………………………....................................
ประเมนิ ผลครง้ั ที่…………………....…....... วนั ……………..…. เดือน …...........…….........………. พ.ศ. ……...….……........
เรื่อง……………………………………………………………………………………………………………………..........................................

ที่ ลักษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ช้ี ระดบั พฤติกรรม
ผ่าน ไมผ่ ่าน
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนใฝร่ ู้
3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน

เกณฑ์การตดั สิน ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ “ผ่าน”

64

แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 4 เรอ่ื ง ชนิดของวัสดุ (2)

ผู้ประเมิน/กลมุ่ ประเมิน..................................................................................................................................................................
ช่อื กลมุ่ รับการประเมนิ .................................................................................................................................................................
ประเมนิ ผลครงั้ ท่ี...................วนั ท่ี......................เดอื น....................................................พ.ศ.......................................
เรอ่ื ง.....................................................................................................................................................................................................

ที่ สมรรถนะ/พฤติกรรมบ่งช้ี เกณฑก์ ารตดั สนิ
ผา่ น ไมผ่ า่ น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
- สังเกตและบอกวสั ดทุ ี่ใชท้ ำวัตถุ

2. ความสามารถในการคดิ
- ตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปจากข้อมูลที่ได้

จากการสังเกตวัสดทุ ี่ใช้ทำวตั ถุ
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

- มุ่งม่ันในการทำงานให้สำเร็จ

เกณฑก์ ารตัดสนิ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ “ผ่าน”

65

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 5 เรอื่ ง ชนดิ ของวัสดุ (3)

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เร่อื ง วสั ดุรอบตวั หนว่ ยย่อยท่ี 2 เร่ือง ชนิดของวัสดุ

รหสั วิชา ว11101 รายวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ว 2.1
เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง

และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี

ตัวชว้ี ดั ป.1/1 อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซึ่งทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายช นิด
ประกอบกันโดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์

2. สาระสำคญั
วสั ดมุ ีหลายชนิด ซึง่ นำมาทำเป็นวตั ถุ โดยวัตถอุ าจทำจากวสั ดชุ นิดเดียวหรอื หลายชนดิ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K)
- บอกวัสดทุ ใ่ี ชท้ ำวัตถุ
3.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
-
3.3 ด้านคุณลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม (A)
- มวี ินยั
- ใฝ่เรียนใฝ่รู้
- มุ่งม่ันในการทำงาน

4. สาระการเรียนรู้
วัตถุต่าง ๆ ทำจากวัสดุหลายชนิดและมีความแตกต่างกัน วัตถุ 1 ชิ้นอาจทำมาจากวัสดุชนิดเดียวหรือ

หลายชนิดได้ เช่น ไม้บรรทัดอาจทำจากวัสดุเพียงชนิดเดียว เช่น พลาสติกหรือโลหะ เสื้อผ้าทำจากวัสดุหลายชนิด
ประกอบกัน เช่น ผ้า โลหะ

66

5. สมรรถนะของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
- บอกวัสดทุ ใ่ี ชท้ ำวัตถุ
5.2 ความสามารถในการคดิ
- สรปุ ความร้เู กย่ี วกบั วัสดทุ ใี่ ช้ทำวัตถุ
5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
- ม่งุ ม่นั ในการทำงานใหส้ ำเร็จ

6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
6.1 มีวินัย
6.2 ใฝ่เรยี นใฝ่รู้
6.3 มุ่งม่นั ในการทำงาน

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำเขา้ สู่บทเรียน (เวลา 10 นาท)ี
1. ครูทบทวนความรู้นำภาพวัตถุที่นักเรียนไม่เคยเห็นในชั่วโมงที่ผ่านมา เช่น ภาพรถจักรยาน มาให้นักเรียนดู

3-4 ภาพ จากน้นั ใชค้ ำถามเพอ่ื ตรวจสอบความรทู้ ี่ผา่ นมา
1.1 ภาพวัตถนุ คี้ ืออะไร (จักรยาน)
1.2 ภาพวตั ถุนี้มวี ัสดอุ ะไรบา้ งเปน็ ส่วนประกอบ (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจ)
ถ้านักเรียนบอกไม่ได้ ครูช่วยให้นักเรียนสรุปความรู้ที่ถูกต้อง โดยใช้สื่อสไลด์ทบทวนความรู้เรื่อง

ชนดิ ของวัสดอุ กี ครัง้ จนนกั เรยี นสามารถสรุปได้
ขนั้ สอน (เวลา 45 นาที)
2. ครูชวนนกั เรียนทำกิจกรรมการตอบคำถามหลงั กิจกรรม หน้า 14 โดยครูชักชวนนักเรยี นอ่านและทำไปพร้อมกนั

ทีละ 1 ข้อจากนั้นนักเรียนลงมือทำกิจกรรม ขณะนักเรียนปฏิบัติกิจกรรม ครูคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลือ
นกั เรยี นทเ่ี กดิ ปญั หา
3. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันเฉลยคำตอบทีถ่ กู ตอ้ ง นกั เรยี นตรวจสอบคำตอบตนเองกับสิง่ ทค่ี รเู ฉลยใหถ้ ูกตอ้ ง
4. ครูให้นักเรียนทำใบกิจกรรม 02 แบบฝึกหัด เรื่องชนิดของวัสดุ หน้า 15-16 ครูกำหนดเวลาให้นักเรียนลงมือ
ปฏิบตั ิ
5. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั เฉลยคำตอบที่ถูกตอ้ ง

67

6. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมจับคู่บัตรภาพ บัตรคำที่เกี่ยวกับชื่อวัสดุและภาพวัสดุให้สอดคล้องกัน เพื่อให้นักเรียน
ได้แนวคิดในการสรปุ กิจกรรมในช่ัวโมงนี้

ข้ันสรุป (เวลา 5 นาที)
7. ครูเปดิ โอกาสให้นกั เรียนสรปุ ความร้ทู ี่ได้เรียนรู้ในช่ัวโมงน้ีเก่ียวกบั ชนิดของวสั ดุทใี่ ช้ทำวัตถดุ ้วยตนเอง
8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า วัตถุต่าง ๆ ทำจากวัสดุหลายชนิดและมีความแตกต่างกัน

วัตถุ 1 ชิ้นอาจทำมาจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิดได้ เช่น ไม้บรรทัดอาจทำจากวัสดุเพียงชนิดเดียว
เชน่ พลาสติกหรอื โลหะ เส้อื ผ้าทำจากวสั ดหุ ลายชนิดประกอบกนั เช่น ผ้า โลหะ

8. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้
8.1 สอ่ื สไลด์ ชนดิ ของวัสดุ (3)
8.2 ใบงาน 01 การตอบคำถามหลังกิจกรรม หนา้ 14
8.3 ใบงาน 02 แบบฝึกหดั เรอ่ื งชนดิ ของวสั ดุ หนา้ 15-16
8.4 บัตรภาพวัสดุ
8.5 บตั รคำชอ่ื วสั ดุ

9. ชิน้ งาน/ภาระงาน
9.1 ใบงาน 01 การตอบคำถามหลงั จากทำกจิ กรรม หน้า 14
9.2 ใบงาน 02 แบบฝกึ หดั เรอ่ื งชนิดของวสั ดุ หนา้ 15-16

68

10. การวดั และประเมนิ ผล

ประเดน็ การประเมนิ วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์
ผ่านเกณฑ์การประเมินระดบั
1) ด้านความรู้ ความเข้าใจ สังเกตการตอบคำถามใน แบบประเมนิ ความรู้ คุณภาพดีขึ้นไป

- บอกวัสดุทใี่ ช้ทำวตั ถุ ชั้นเรยี นและเนื้อหาในใบงาน

3) ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตด้านคณุ ลกั ษณะ แบบประเมนิ คุณลักษณะ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับ

เจตคติ คา่ นิยม เจตคติ คา่ นิยม เจตคติ คา่ นิยม คณุ ภาพ “ผา่ น”

- การมวี นิ ัย

- ใฝ่เรยี นรู้

- มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

3) สมรรถนะสำคัญของ สังเกตพฤตกิ รรมในขณะทำ แบบประเมินสมรรถนะ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับ

ผู้เรียน กจิ กรรม สำคัญของผู้เรยี น คณุ ภาพ “ผา่ น"

1. ความสามารถในการ

สอ่ื สาร

- สงั เกตและบอกวัสดุทีใ่ ช้

ทำวัตถุ

2. ความสามารถในการคิด

- สรปุ ความรเู้ ก่ียวกบั วสั ดุ

ท่ใี ช้ทำวตั ถุ

3. ความสามารถในการใช้

ทักษะชวี ติ

- มงุ่ มน่ั ในการทำงานให้

สำเร็จ

69

แบบประเมนิ ความรู้
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง ชนดิ ของวสั ดุ (3)

ชื่อผ้ปู ระเมนิ ………………………………………………………………………………………………………………………………..............…
ประเมนิ ผลครงั้ ที่……………...…….... วนั ท่ี ……………..…...…... เดือน ………..……..........….…. พ.ศ. ……...….…………....
เร่ือง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….............

รายการประเมิน/ระดบั คะแนน

ช่ือ-สกุล/กล่มุ การตอบ การสรุป ความถกู ต้อง รวมคะแนน
คำถามในชนั้ ความรู้ ครบถว้ นของเนือ้ หา (10 คะแนน)
(4)
เรียน ในใบงาน

(4) (2)

70

เกณฑ์การประเมิน

ประเดน็ ระดับคณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน
1.0 รวม
การประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง) 1.0 4
ตอบคำถามไม่
1. การตอบ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถาม ถกู ต้อง 0.5 4

คำถามในชัน้ เรยี น ถูกตอ้ งทงั้ หมด ถูกตอ้ งเปน็ ส่วน ถกู ต้องบางส่วน สรปุ ความรูเ้ ข้าใจ 2
เก่ียวกบั เรอื่ งที่
ใหญ่ ศึกษาไมถ่ กู ต้อง
และไม่ครบถ้วน
2. การสรปุ ความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรูค้ วาม สรปุ ความรูค้ วาม
เนอ้ื หาทเ่ี ขียนใน
ความเข้าใจ เขา้ ใจเกย่ี วกับ เขา้ ใจเกี่ยวกับ ใบงานไมถ่ กู ตอ้ ง

เกีย่ วกบั เรื่องท่ี เรือ่ งท่ศี กึ ษาได้ เรอื่ งทศี่ ึกษาได้

ศกึ ษาได้ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง แต่ไม่ ถูกตอ้ งบางส่วน

และครบถ้วน ครบถ้วน และไมค่ รบถ้วน

3. ความถูกตอ้ ง เน้ือหาท่ีเขยี นใน เนอ้ื หาทเี่ ขยี นใน เน้อื หาท่เี ขียนใน

ครบถว้ นของ ใบงานมคี วาม ใบงานมบี างส่วน ใบงานมีความ

เนื้อหาในใบงาน ถูกตอ้ งครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ตามที่ ถกู ต้องเปน็ สว่ น

ตามที่กำหนด กำหนด น้อย

เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ

เกณฑก์ ารตดั สนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับคณุ ภาพดขี ึ้นไป

71

แบบประเมินคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 5 เรอื่ ง ชนิดของวสั ดุ (3)

ชื่อผ้ปู ระเมนิ /กลุ่มประเมนิ …………………………………………………………………………………………....................................
ชอื่ กลุ่มรบั การประเมนิ ………………………………………………………………………………………………....................................
ประเมนิ ผลครงั้ ที่…………………....…..... วนั ……………..…. เดอื น …...........……..........………. พ.ศ. ……...….……...........
เร่อื ง……………………………………………………………………………………………………………………..........................................

ที่ ลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ระดับพฤติกรรม
ผ่าน ไมผ่ ่าน
1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รียนใฝ่รู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

เกณฑ์การตดั สนิ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับคณุ ภาพ “ผา่ น”

72

แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอื่ ง ชนิดของวสั ดุ (3)

ผู้ประเมนิ /กลมุ่ ประเมนิ ..................................................................................................................................................................
ชื่อกลมุ่ รับการประเมนิ .................................................................................................................................................................
ประเมนิ ผลครงั้ ท่ี...................วนั ท่ี......................เดอื น.....................................................พ.ศ......................................
เร่ือง.....................................................................................................................................................................................................

ที่ สมรรถนะ/พฤตกิ รรมบง่ ชี้ เกณฑก์ ารตดั สนิ
ผ่าน ไมผ่ ่าน
1. ความสามารถในการส่อื สาร
- สังเกตและบอกวสั ดุทีใ่ ช้ทำวตั ถุ

2. ความสามารถในการคิด
- สรปุ ความรเู้ กย่ี วกับวสั ดทุ ่ใี ช้ทำวัตถุ

3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
- มุ่งม่ันในการทำงานใหส้ ำเร็จ

เกณฑ์การตดั สนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคณุ ภาพ “ผ่าน”

เฉลยใบงาน

74

แก้ว
ผา้

โลหะ

ยาง

75

พลาสตกิ
หิน
กระดาษ
ดนิ

76

ตอบตามที่สงั เกตได้

77

กระดาษ ไม้
แกว้ ยาง โลหะ หนิ

หลาย โลหะ
๑ กระดาษ

วัสดุ
แก้ว ยาง
ไม้ ผ้า

78

แตกต่างกัน
วัสดุ

79

80

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 6 เรอ่ื ง สมบัตขิ องวสั ดุ (1)

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง วัสดุรอบตวั หนว่ ยยอ่ ยท่ี 3 เรอื่ ง สมบตั ขิ องวสั ดุ

รหสั วชิ า ว11101 รายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ช่วั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน ว 2.1
เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง

และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี

ตวั ชว้ี ัด ป.1/1 อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซึ่งทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิด
ประกอบกนั โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์

2. สาระสำคญั
วัตถุอาจทำจากวัสดุชนิดต่างกัน ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดจะมีสมบัติแตกต่างกัน การเลือกวัสดุและ

สิ่งของต่าง ๆ มาใช้งานในชีวิตประจำวัน เพื่อความเหมาะสมและปลอดภัยต้องพิจารณาจากสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำ
สิ่งของน้นั

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K)
- ระบุสมบัติของวัสดุทน่ี ำมาทำวตั ถใุ นชวี ติ ประจำวัน
3.2 ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
- สงั เกตสมบัตขิ องวสั ดุ
- ลงความเหน็ จากข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติของวสั ดจุ ากการสังเกต
3.3 ด้านคุณลักษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A)
- มงุ่ ม่ันในการทำงาน
- ยอมรับความเหน็ ต่าง
- ซ่อื สตั ย์

81

4. สาระการเรยี นรู้
วัตถุอาจทำจากวัสดุชนิดต่าง ๆ กัน ซึ่งวัสดุแต่ละชนิดจะมีสมบัติแตกต่างกัน เช่น วัสดุบางชนิดอาจแข็ง

หรอื นุม่ อาจใส ขุน่ หรอื ทึบ เรยี บหรอื ขรุขระ ยดื ได้หรอื ยดื ไม่ได้ ผวิ มนั วาวหรือผวิ ไมม่ ันวาว

5. สมรรถนะของผู้เรยี น
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
- ระบุสมบัติของวสั ดุท่นี ำมาทำวัตถุในชีวิตประจำวนั
5.2 ความสามารถในการคดิ
- ลงความเหน็ จากข้อมลู เกีย่ วกบั สมบัตขิ องวัสดจุ ากการสงั เกต
5.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
- มคี วามรบั ผดิ ชอบในการทำงาน
- มวี นิ ยั ในการทำกิจกรรม

6. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1 ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
6.2 ยอมรบั ความเหน็ ต่าง
6.3 ซือ่ สตั ย์

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน (เวลา 5 นาที)
1. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับลักษณะของวัสดุ โดยครูนำลูกโป่งมาให้นักเรียนได้สังเกต จากน้ัน

ใชค้ ำถามดังน้ี
1.1 นกั เรยี นคิดว่าลกู โปง่ ทำมาจากวัสดุใด (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจ เชน่ ยาง)
1.2 นักเรียนคิดว่าวัสดุที่ใช้ทำลูกโป่งมีลักษณะอย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง โดย
แนวคำตอบทค่ี รูควรรู้ เช่น แข็ง นมุ่ เบา หนกั เรียบ ขรุขระ)

ขั้นสอน (เวลา 50 นาท)ี
2. ครูชักชวนนักเรียนไปทำกิจกรรมที่ 1 สมบัติของวัสดุมีอะไรบ้าง หน้า 18 จากนั้นครูให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม

จดุ ประสงค์ จากนั้นตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นเกี่ยวกบั ส่ิงทจี่ ะเรยี น โดยใช้คำถามดังน้ี
2.1 นกั เรยี นจะไดท้ ำกจิ กรรมอะไร (สมบัติของวสั ดุ)
2.2 นกั เรยี นจะไดเ้ รยี นดว้ ยวิธกี ารใด (สังเกต)

82

2.3 เมอ่ื เรยี นแลว้ นกั เรียนจะทำอะไรได้ (อธบิ ายสมบัติของวสั ด)ุ
3. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทำข้อ 1 ในใบกิจกรรมที่ 1 สมบัติของวัสดุมีอะไรบ้าง หน้า 18 จากนั้นครูตรวจสอบ

ความเข้าใจในข้นั ตอนการทำกิจกรรมของนกั เรียน โดยครใู ชค้ ำถามดังต่อไปนี้
3.1 นกั เรยี นตอ้ งทำอะไร (สำรวจวตั ถตุ า่ ง ๆ)
3.2 เม่อื นักเรียนสำรวจในหอ้ งเรยี นและนอกห้องเรียนเสรจ็ ต้องทำอะไร (ระบวุ ัสดุท่ใี ชท้ ำวัตถนุ นั้ )

4. ครูให้นกั เรยี นทำกิจกรรมในขอ้ ที่ 1
5. ครูชวนนักเรียนอภิปรายผลการทำกิจกรรมข้อที่ 1 โดยใช้คำถามว่า วัตถุที่นักเรียนเลือกคืออะไร และทำจาก

วัสดุอะไร (นกั เรยี นตอบตามผลทไี่ ดจ้ ากกิจกรรม เช่น เกา้ อี้ทำจากไม้ เป็นตน้ )
6. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทำในใบกิจกรรมที่ 1 สมบัติของวัสดุมีอะไรบ้าง หน้า 18 ข้อ 2-3 จากนั้นครูตรวจสอบ

ความเขา้ ใจในข้ันตอนการทำกจิ กรรมของนักเรียน โดยครูใชค้ ำถามดงั ตอ่ ไปนี้
6.1 ในการสังเกตสมบัติของวัสดุแต่ละชิ้น ข้อมูลที่นักเรียนได้มีอะไรบ้าง และต้องทำอย่างไร
(ใส ขุ่น ทึบ โดยมองสิ่งต่าง ๆ ผ่านวัสดุ เรียบหรือขรุขระ โดยใช้มือลูบ นุ่มหรือแข็ง สังเกตโดยใช้มือ
กด ยดื ไดห้ รอื ยืดไม่ได้ สังเกตโดยการออกแรงดงึ วตั ถุ)
6.2 นอกจากใช้มือลูบ กด และออกแรงดึงวัตถุแล้ว สามารถตรวจสอบสมบัติของวัสดุได้อย่างไรบ้าง
(ใช้ประสาทสมั ผัสอ่ืน ๆ เช่น จมกู ดมกล่นิ )
หากนักเรียนสำรวจได้ไม่หลากหลายครูเตรียมวัสดุให้นักเรียนสังเกตให้ครบทุกสมบัติ และเหมาะสมแก่

การทำกิจกรรม เช่น ขนาดของวัสดุ และใช้ในการสังเกตได้ชัดเจน ผิวมันวาว ให้ครูเตรียมวัสดุในชั้นเรียนเลือกใช้
วสั ดุทเ่ี ป็นโลหะ
7. ครูสรุปวิธีการสังเกตสมบัติของวัสดุอีกครั้ง โดยใช้สื่อสไลด์ อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำว่า สมบัติของวัสดุ คือ

ลกั ษณะที่เฉพาะตวั ของวสั ดุ ดงั นี้
ใส คือ เม่อื มองวัตถุตา่ ง ๆ ผ่านวัสดุสามารถมองเห็นวตั ถุดช้ ัดเจน
ขุ่น คอื เม่อื มองวตั ถตุ า่ ง ๆ ผ่านวัสดุสามารถมองเห็นวัตถดุ แ้ ตไ่ มช่ ัดเจน
ทึบ คอื เม่อื มองวัตถตุ า่ ง ๆ ผา่ นวัสดุ ไม่สามารถมองเหน็ วตั ถุได้
เรยี บ คอื เม่ือลบู ท่ีผวิ วตั ถแุ ลว้ ไม่สากมอื
ขรขุ ระ คือ เมือ่ ลบู ทผ่ี วิ วตั ถุแลว้ สากมอื
นุ่ม คือ เมือ่ กดแล้วยุบ
แข็ง คือ เมอื่ กดแล้วไมย่ บุ
ยดื ได้ คือ เมอ่ื ออกแรงดึง สามารถทำใหว้ ัสดยุ ืดออกจากกันได้
ยดื ไมไ่ ด้ คือ เม่อื ออกแรงดึง ไมส่ ามารถทำให้วัสดยุ ืดออกจากกันได้
ผวิ มนั วาว คอื การสังเกตท่ผี ิวของวัสดุแลว้ เหน็ ความแวววาวทีผ่ ิว

83

ผวิ ไมม่ ันวาว คอื การสังเกตทผี่ ิวของวสั ดุแล้วไมเ่ หน็ ความแวววาวท่ผี ิว
หลังจากนั้นนักเรียนร่วมกันสังเกตวัตถุที่นักเรียนสนใจพร้อมกับความหมายของสมบัติต่าง ๆ
ของวัสดุ
8. ครใู หน้ ักเรยี นลงมอื ทำกิจกรรมที่ 1 สมบตั ิของวัสดุมีอะไรบ้างตามท่นี ักเรียนสงั เกตมาลงในใบงาน 01 สมบัตขิ อง
วัสดุ หน้า 19 ครูคอยดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรียนทเ่ี กิดปัญหาในขณะทีท่ ำกจิ กรรม
ขน้ั สรุป (เวลา 5 นาท)ี
9. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือสิ่งที่ได้เรียนรู้ในชั่วโมงนี้ด้วยตนเองเกี่ยวกับวิธีการสังเกตสมบัติของ
วัสดุ
10. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปได้ว่า นักเรียนได้ทดสอบสมบัติของวัสดุด้านต่าง ๆ ได้แก่
ผิวสมั ผัส แข็งหรือน่มุ การยืดของวสั ดุ ความใส ขุ่น ทบึ ความมันวาว

8. สือ่ /แหล่งเรยี นรู้
8.1 ส่อื สไลด์ สมบัตขิ องวสั ดุ (1)
8.2 ใบกจิ กรรมท่ี 1 สมบตั ิของวสั ดมุ ีอะไรบ้าง หน้า 18
8.3 ใบงาน 01 สมบตั ิของวสั ดุ หน้า 19
8.4 วัตถุตา่ ง ๆ ท่ีครูเตรียมไว้ใหก้ บั นกั เรียนไดส้ งั เกต เชน่ ไม้ โตะ๊ เกา้ อี้ เป็นตน้
8.5 ลูกโป่ง

9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน 01 สมบัตขิ องวสั ดุ หนา้ 19

10. การวัดและประเมนิ ผล

ประเดน็ การประเมิน วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์
ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับ
1) ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ สังเกตการตอบคำถามใน แบบประเมนิ ความรู้ คุณภาพดขี ึ้นไป

- ระบสุ มบตั ิของวสั ดุท่ี ชนั้ เรยี นและเน้อื หาในใบ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับ
คณุ ภาพพอใช้ขนึ้ ไป
นำมาทำวตั ถุใน งาน

ชีวิตประจำวัน

2) ด้านทักษะ/กระบวนการ สงั เกตทกั ษะกระบวนการ แบบประเมินทักษะ

- สังเกตสมบตั ริ ะหวา่ ง ทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการ กระบวนการทาง

วสั ดุ ทำกจิ กรรม วิทยาศาสตร์

84

ประเดน็ การประเมิน วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์

- ลงความเหน็ จากขอ้ มูล แบบประเมินคณุ ลักษณะ ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับ
อนั พงึ ประสงค์ คณุ ภาพ “ผา่ น”
เก่ยี วกบั สมบัตขิ องวสั ดุจาก
แบบประเมนิ สมรรถนะ ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับ
การสงั เกต สำคญั ของผเู้ รยี น คณุ ภาพ “ผา่ น"

3) ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ สังเกตคุณลกั ษณะ

คา่ นยิ ม อนั พึงประสงค์

- มุง่ มั่นในการทำงาน

- ยอมรบั ความเห็นตา่ ง

- ซื่อสัตย์

4) สมรรถนะสำคัญของ สงั เกตพฤตกิ รรมในขณะ

ผู้เรยี น ทำกจิ กรรม

1. ความสามารถในการ

สอื่ สาร

- ระบุสมบตั ิของวสั ดทุ ี่

นำมาทำวตั ถใุ น

ชีวติ ประจำวนั

2. ความสามารถในการคิด

- ลงความเหน็ จากข้อมลู

เกี่ยวกับสมบตั ขิ องวสั ดุจาก

การสงั เกต

3. ความสามารถในการใช้

ทักษะชีวิต

- มคี วามรับผดิ ชอบใน

การทำงาน

- มวี ินัยในการทำ

กจิ กรรม

85

แบบประเมินความรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เรอื่ ง สมบัติของวสั ดุ (1)

ชอื่ ผปู้ ระเมนิ ……………………………………………………………………………………………………………………………….................
ประเมนิ ผลครงั้ ที่……………...….... วันที่ ……………..….…... เดอื น ………..……..........….…. พ.ศ. ……...….………….......
เรื่อง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….............

รายการประเมิน/ระดบั คะแนน

ช่อื -สกลุ /กลุม่ การตอบ การสรปุ ความถูกต้อง รวมคะแนน
คำถามในชนั้ ความรู้ ครบถว้ นของเนือ้ หา (10 คะแนน)
(4)
เรียน ในใบงาน

(4) (2)

86

เกณฑ์การประเมิน

ประเดน็ ระดับคณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน
1.0 รวม
การประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง) 1.0 4
ตอบคำถามไม่
1. การตอบ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถาม ถกู ต้อง 0.5 4

คำถามในชัน้ เรยี น ถูกตอ้ งทงั้ หมด ถูกตอ้ งเปน็ ส่วน ถกู ต้องบางส่วน สรปุ ความรูเ้ ข้าใจ 2
เก่ียวกบั เรอื่ งที่
ใหญ่ ศึกษาไมถ่ กู ต้อง
และไม่ครบถ้วน
2. การสรปุ ความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรูค้ วาม สรปุ ความรูค้ วาม
เนอ้ื หาทเ่ี ขียนใน
ความเข้าใจ เขา้ ใจเกย่ี วกับ เขา้ ใจเกี่ยวกับ ใบงานไมถ่ กู ตอ้ ง

เกีย่ วกบั เรื่องท่ี เรือ่ งท่ศี กึ ษาได้ เรอื่ งทศี่ ึกษาได้

ศกึ ษาได้ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง แต่ไม่ ถูกตอ้ งบางส่วน

และครบถ้วน ครบถ้วน และไมค่ รบถ้วน

3. ความถูกตอ้ ง เน้ือหาท่ีเขยี นใน เนอ้ื หาทเี่ ขยี นใน เน้อื หาท่เี ขียนใน

ครบถว้ นของ ใบงานมคี วาม ใบงานมบี างส่วน ใบงานมีความ

เนื้อหาในใบงาน ถูกตอ้ งครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ตามที่ ถกู ต้องเปน็ สว่ น

ตามที่กำหนด กำหนด น้อย

เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ

เกณฑก์ ารตดั สนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับคณุ ภาพดขี ึ้นไป

87

แบบประเมินทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอื่ ง สมบตั ิของวสั ดุ (1)

ชอื่ ผูป้ ระเมนิ …………………………………………………………………………........................…………………………………….
ประเมนิ ผลครง้ั ท…ี่ …………….... วันท่ี ……………........……... เดือน ………..……...….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรือ่ ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………

รายการประเมิน/ระดบั คะแนน ผลรวมคะแนน ผลการ
(6 คะแนน) ประเมนิ
ช่อื -สกลุ /กลมุ่ การสังเกต (3) การลงความเหน็
จากข้อมลู (3)

88
เกณฑ์การประเมิน

ทักษะกระบวนการ ดี (3) พอใช้ (2) ควรปรบั ปรุง (1)
ทางวิทยาศาสตร์

การสงั เกต ใช้ตาและมอื ในการ ใชต้ าและมอื ในการ สามารถใชต้ าและมือใน

รวบรวมขอ้ มูลเกย่ี วกบั รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกับ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ

สมบัตขิ องวัสดไุ ดด้ ว้ ย สมบตั ิของวัสดุ จากการ สมบตั ขิ องวัสดไุ ดบ้ างส่วน

ตนเองโดยไมเ่ พมิ่ เตมิ ความ ชแ้ี นะของครูหรอื ผู้อื่น ถงึ แม้จะไดร้ ับคำแนะนำ

คดิ เหน็ จากครูหรือผู้อน่ื

การลงความเห็นจาก เพ่มิ เตมิ ความเหน็ เกย่ี วกับ เพม่ิ เตมิ ความเห็นเก่ยี วกบั สามารถเพม่ิ เติมความเหน็

ข้อมูล สมบตั ขิ องวสั ดุ ได้อย่างมี สมบตั ิของวสั ดุ ไดอ้ ย่างมี เกี่ยวกบั สมบตั ขิ องวสั ดุ ได้

เหตุผล จากความรู้หรือ เหตผุ ล โดยอาศัยคำแนะนำ อยา่ งมีเหตุผลบางสว่ น

ประสบการณ์เดมิ ได้ดว้ ย ของครหู รือผู้อนื่ ถงึ แม้จะได้รบั คำแนะนำ

ตวั เอง จากครูหรือผ้อู นื่

เกณฑ์การตดั สิน
คะแนน 5 - 6 หมายถึง ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถึง ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การตัดสนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คณุ ภาพพอใชข้ น้ึ ไป

89

แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 6 เรอื่ ง สมบัติของวัสดุ (1)

ชอ่ื ผปู้ ระเมนิ /กลมุ่ ประเมนิ …………………………………………………………………………………………....................................
ชอ่ื กลุม่ รับการประเมนิ ………………………………………………………………………………………….........................................
ประเมนิ ผลครง้ั ที่………………………....... วนั ……………..…. เดือน …...........……..........………. พ.ศ. ……...….……..........
เร่ือง……………………………………………………………………………………………………………………..........................................

ที่ ลักษณะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดบั พฤติกรรม
ผ่าน ไมผ่ ่าน
1. มุ่งม่ันในการทำงาน
2. ยอมรบั ความเห็นต่าง
3. ซ่อื สัตย์

เกณฑ์การตดั สนิ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคณุ ภาพ “ผ่าน”

90

แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6 เรอ่ื ง สมบัติของวสั ดุ (1)

ผ้ปู ระเมิน/กลมุ่ ประเมนิ ..................................................................................................................................................................
ช่อื กลมุ่ รบั การประเมิน.................................................................................................................................................................
ประเมนิ ผลครง้ั ท่ี...................วนั ท่ี......................เดือน......................................................พ.ศ....................................
เรอ่ื ง.....................................................................................................................................................................................................

ที่ สมรรถนะ/พฤติกรรมบง่ ชี้ เกณฑ์การตัดสนิ
ผ่าน ไมผ่ า่ น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
- ระบุสมบัตขิ องวสั ดุท่ีนำมาทำวตั ถุในชีวิตประจำวนั

2. ความสามารถในการคิด
- ลงความเห็นข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติของวัสดุจากการ

สงั เกต
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

- มคี วามรบั ผิดชอบในการทำงาน
- มวี ินัยในการทำกจิ กรรม

เกณฑ์การตดั สิน ผ่านเกณฑก์ ารประเมินระดบั คุณภาพ “ผา่ น”

91

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 7 เร่ือง สมบัติของวัสดุ (2)

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง วัสดุรอบตวั หน่วยยอ่ ยท่ี 1 เร่อื ง สมบตั ิของวสั ดุ

รหัสวิชา ว11101 รายวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี

ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชว่ั โมง

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ว 2.1
เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง

และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกิดปฏกิ ิริยาเคมี

ตัวชว้ี ดั ป.1/1 อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซึ่งทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายช นิด
ประกอบกนั โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์

2. สาระสำคญั
วัสดุต่างชนิดกันอาจมีสมบัติบางประการเหมือนกันหรือแตกต่างกัน ซึ่งสามารถสังเกตสมบัติของวัสดุได้

ดว้ ยวธิ ีตา่ ง ๆ

3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K)
- อธิบายสมบตั ิของวัสดุที่นำมาทำวัตถใุ นชีวิตประจำวัน
3.2 ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
- ลงความเห็นจากข้อมูลเก่ยี วกับสมบตั ิของวสั ดุ
- ตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ เก่ยี วกบั สมบตั ิของวัสดุ
3.3 ด้านคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม (A)
- มุง่ ม่นั ในการทำงาน
- ยอมรับความเห็นตา่ ง
- ซือ่ สัตย์

92

4. สาระการเรียนรู้
วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติต่าง ๆ เช่น แข็งหรือนุ่ม ใส ขุ่น หรือทึบ เรียบหรือขรุขระ ยืดได้หรือยืดไม่ได้

ผวิ มนั วาวหรือผวิ ไมม่ ันวาว ซงึ่ วัสดุต่างชนดิ กันอาจมสี มบตั บิ างประการเหมือนกนั หรือแตกต่างกัน เช่น ไม้กับโลหะ
แข็งเหมือนกัน และต่างกนั ทผ่ี วิ มนั วาวกับไม่มนั วาว

5. สมรรถนะของผเู้ รียน
5.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
- อธิบายสมบตั ขิ องวสั ดทุ ี่นำมาทำวตั ถใุ นชีวิตประจำวัน
5.2 ความสามารถในการคิด
- ตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ เกยี่ วกบั สมบัติของวสั ดุ
5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
- มคี วามรบั ผิดชอบในการทำงาน
- มวี นิ ัยในการทำกิจกรรม

6. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
6.1 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
6.2 ยอมรบั ความเหน็ ต่าง
6.3 ซือ่ สตั ย์

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
ขนั้ นำเขา้ ส่บู ทเรยี น (เวลา 5 นาที)
1. ครูทบทวนความรู้ที่ได้เรียนมาแล้ว โดยครูนำฟองน้ำมาให้นักเรียนสังเกตลักษณะภายนอก และทดสอบสมบัติ

ของฟองน้ำ โดยใชค้ ำถามดังนี้
1.1 ฟองน้ำมีลักษณะอย่างไร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น มีลักษณะสีเหลือง มีรูพรุน
นุ่ม ยดื ได)้
1.2 มีวิธีการใดบ้างที่จะทดสอบสมบัติของฟองน้ำ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น การออก
แรงกดเพ่ือทดสอบความแข็งหรือนมุ่ การดงึ ฟองน้ำเพ่ือทดสอบการยืด)

ข้นั สอน (เวลา 50 นาที)
2. ครูใช้สื่อสไลด์แจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรใู้ นกิจกรรมท่ี 1 สมบตั ิของวัสดุมอี ะไรบา้ ง หนา้ 18
3. ครูให้ตวั แทนนกั เรยี นนำเสนอผลการทำกิจกรรมที่ 1 สมบตั ิของวัสดมุ อี ะไรบา้ ง

93

4. หากผลการทำกิจกรรมของนักเรียนมีความคลาดเคลื่อนเกี่ยวสมบัติของวัสดุ ครูชวนนักเรียนอภิปรายให้ได้
แนวคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับความมันวาวของวัสดุ เช่น แก้ว พลาสติก และโลหะ ครูอาจจัดกิจกรรมให้นักเรียน
สังเกตสมบัติผิวมันวาว ผิวไม่มันวาวอีกครั้ง โดยครูใช้กระดาษทรายขัดผิววัสดุและให้นักเรียนสังเกต พบว่าผิว
ของแก้วและพลาสติกไมม่ ันวาวแต่โลหะมีผิวมนั วาว ดังนั้นแก้วและพลาสติกมีสมบัตผิ ิวไม่มันวาว ส่วนโลหะมี
สมบัติผวิ มนั วาว

5. ครูชวนนักเรียนอภปิ รายผลการทำกจิ กรรม โดยใชค้ ำถามดังนี้
5.1 วสั ดทุ นี่ ำมาสงั เกตมอี ะไรบ้าง (นกั เรยี นตอบจากสง่ิ ท่ีนกั เรยี นสังเกต เชน่ ไม้ พลาสตกิ ยาง แกว้ โลหะ
ผา้ หิน)
5.2 วสั ดุใดบ้างที่มสี มบตั เิ หมอื นกนั อย่างไร (นกั เรยี นตอบจากสง่ิ ท่ีนกั เรยี นสงั เกต เชน่ ไม้ โลหะ พลาสติก
แก้ว และหิน แขง็ เหมอื นกัน ยางกับผา้ ยืดไดเ้ หมอื นกนั ไมก้ ับหนิ ขรุขระเหมือนกนั )
5.3 วัสดุใดบ้างที่มสี มบัติต่างกัน อย่างไร (นักเรียนตอบจากสิ่งที่นักเรยี นสังเกต เช่น ไม้กับโลหะ ต่างกันท่ี
ไม้มีผิวไม่มันวาว โลหะมีผิวมันวาว โลหะกับแก้วต่างกันเรื่องความใส ขุ่น ทึบ ยางกับไม้ ต่างกันเรื่อง
การยืดไดแ้ ละยดื ไมไ่ ด)้

จากน้นั ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ความรทู้ ไ่ี ด้เรยี นในกิจกรรมท่ี 1 สมบัตขิ องวสั ดุมีอะไรบา้ ง
6. นักเรียนตอบคำถามหลังจากทำกิจกรรมในใบงาน หน้า 20-22 โดยครูชักชวนนักเรียนทำไปทีละข้อและร่วมกัน

เฉลยคำตอบใหถ้ กู ต้อง ครูคอยดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี นทเี่ กิดปัญหาระหวา่ งทำกิจกรรม
ขัน้ สรุป (เวลา 5 นาที)
7. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคิดหรือสิ่งที่ได้เรียนรู้ในชั่วโมงนี้เกี่ยวกับสมบัติของวัสดุที่ได้เรียนมาทั้งหมด

ด้วยตนเอง
8. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปได้ว่า วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติต่าง ๆ เช่น แข็งหรือนุ่ม ใส ขุ่น

หรือทึบ เรียบหรือขรุขระ ยืดได้หรือยืดไม่ได้ ผิวมันวาวหรือผิวไม่มันวาว ซึ่งวัสดุต่างชนิดกันอาจมีสมบัติ
บางประการเหมอื นกันหรือแตกตา่ งกัน เชน่ ไมก้ บั โลหะแข็งเหมือนกัน และต่างกนั ทผ่ี วิ มันวาวและไม่มันวาว

8. สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้
8.1 สือ่ สไลด์ สมบัติของวสั ดุ (2)
8.2 ใบงาน 01 สมบัตขิ องวัสดุ หนา้ 19
8.3 ใบงาน 01 การตอบคำถามหลงั กจิ กรรม หน้า 20-22
8.4 ฟองน้ำ

94

9. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน 01 การตอบคำถามหลังกจิ กรรม หนา้ 20-22

10. การวัดและประเมนิ ผล

ประเดน็ การประเมนิ วิธกี าร เคร่อื งมือ เกณฑ์
แบบประเมนิ ความรู้ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
1) ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ สังเกตการตอบคำถามใน ระดบั คณุ ภาพดขี ้ึนไป

- อธบิ ายสมบตั ขิ องวสั ดทุ ี่ ชั้นเรียนและเน้อื หาในใบ

นำมาทำวัตถใุ นชวี ติ ประจำวนั งาน

2) ด้านทักษะ/กระบวนการ สงั เกตทกั ษะกระบวนการ แบบประเมินทักษะ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
- สังเกตสมบตั ิระหว่างวสั ดุ ทางวทิ ยาศาสตร์ในการ กระบวนการทาง ระดับคุณภาพพอใชข้ ้นึ ไป
- ลงความเหน็ ข้อมูลเกีย่ วกับ ทำกจิ กรรม วทิ ยาศาสตร์

สมบัติของวสั ดุจากการสงั เกต

3) ด้านคณุ ลกั ษณะ สงั เกตคุณลกั ษณะ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ

เจตคติ ค่านยิ ม เจตคติ คา่ นยิ ม เจตคติ คา่ นิยม ระดบั คณุ ภาพ “ผา่ น”

- มุง่ ม่นั ในการทำงาน

- ยอมรบั ความเห็นต่าง

- ซอื่ สตั ย์

4) สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน สงั เกตพฤตกิ รรมในขณะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
1. ความสามารถในการส่อื สาร ทำกิจกรรม
สำคัญของผู้เรยี น ระดบั คุณภาพ “ผ่าน"
- อธบิ ายสมบัติของวัสดุที่

นำมาทำวัตถใุ นชีวิตประจำวนั

2. ความสามารถในการคิด

- ตคี วามหมายและลงขอ้ สรุป

เก่ยี วกบั สมบัตขิ องวสั ดุ

3. ความสามารถในการใช้

ทักษะชีวิต

- มคี วามรบั ผดิ ชอบในการ

ทำงาน

- มวี ินยั ในการทำกจิ กรรม