95
แบบประเมินความรู้
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 7 เรอื่ ง สมบตั ิของวัสดุ (2)
ช่ือผ้ปู ระเมนิ …………………………………………………………………………………………………………………………...................…
ประเมนิ ผลครงั้ ที่…………...…….... วนั ท่ี ……………..…...…... เดอื น ………..……..........….…. พ.ศ. ……...….………….......
เรอ่ื ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….............
รายการประเมิน/ระดบั คะแนน
ชอ่ื -สกุล/กลมุ่ การตอบ การสรปุ ความถูกต้อง รวมคะแนน
คำถามในชนั้ ความรู้ ครบถ้วนของเนื้อหา (10 คะแนน)
(4)
เรียน ในใบงาน
(4) (2)
96
เกณฑ์การประเมิน
ประเดน็ ระดับคณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน
1.0 รวม
การประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรุง) 1.0 4
ตอบคำถามไม่
1. การตอบ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถาม ถกู ต้อง 0.5 4
คำถามในชัน้ เรยี น ถูกตอ้ งทงั้ หมด ถูกตอ้ งเปน็ ส่วน ถกู ต้องบางส่วน สรปุ ความรูเ้ ข้าใจ 2
เก่ียวกบั เร่ืองที่
ใหญ่ ศึกษาไม่ถกู ต้อง
และไม่ครบถ้วน
2. การสรปุ ความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรูค้ วาม สรปุ ความรูค้ วาม
เนอ้ื หาทเ่ี ขียนใน
ความเข้าใจ เขา้ ใจเกย่ี วกับ เขา้ ใจเกี่ยวกับ ใบงานไมถ่ กู ตอ้ ง
เกีย่ วกบั เรื่องท่ี เรือ่ งท่ศี กึ ษาได้ เรอื่ งทศี่ ึกษาได้
ศกึ ษาได้ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง แต่ไม่ ถูกตอ้ งบางส่วน
และครบถ้วน ครบถ้วน และไมค่ รบถ้วน
3. ความถูกตอ้ ง เน้ือหาท่ีเขยี นใน เนอ้ื หาทเี่ ขยี นใน เน้อื หาท่เี ขียนใน
ครบถว้ นของ ใบงานมคี วาม ใบงานมบี างส่วน ใบงานมีความ
เนื้อหาในใบงาน ถูกตอ้ งครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ตามที่ ถกู ต้องเปน็ สว่ น
ตามที่กำหนด กำหนด น้อย
เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ
เกณฑก์ ารตดั สนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับคณุ ภาพดขี ึ้นไป
97
แบบประเมินทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 เรอื่ ง สมบัตขิ องวสั ดุ (2)
ชื่อผูป้ ระเมนิ …………………………………………………………………………....................………………………………………….
ประเมนิ ผลครง้ั ท…่ี …………….... วนั ที่ …………….........……... เดือน ………..……...….…. พ.ศ. ……...….………….....
เรื่อง………………………………………………………………......…………………………………………………………………………..
ชอ่ื -สกุล/กลมุ่ รายการประเมนิ /ระดับคะแนน ผลรวมคะแนน ผลการประเมนิ
(6 คะแนน)
การลงความเห็น ตีความหมายและ
จากข้อมูล (3) ลงขอ้ สรุป (3)
98
เกณฑก์ ารประเมนิ
ทกั ษะกระบวนการ ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
ทางวิทยาศาสตร์
การลงความเห็นจาก สามารถเพ่ิมเตมิ ความเหน็ สามารถเพิม่ เตมิ ความเหน็ สามารถเพิม่ เติมความเห็น
ขอ้ มูล จากข้อมูลไดบ้ างสว่ น
จากข้อมูลเก่ยี วกับสมบัติ จากข้อมูลเกย่ี วกบั สมบัติ เกีย่ วกับสมบตั ขิ องวสั ดุ
ตีความหมายขอ้ มูล อยา่ งมีเหตุผล ถึงแม้จะได้รบั
และลงขอ้ สรปุ ของวัสดุ ไดอ้ ย่างมเี หตุผล ของวสั ดุ ได้อย่างมีเหตุผล คำแนะนำจากครูหรือผอู้ ืน่
จากความร้หู รอื โดยอาศัยคำแนะนำของครู สามารถตคี วามหมายข้อมลู
จากการสงั เกตและลง
ประสบการณเ์ ดมิ ไดด้ ้วย หรือผ้อู ื่น ข้อสรุปไดบ้ างสว่ นว่า วัสดุ
แตล่ ะชนิดมสี มบัติต่าง ๆ ซึ่ง
ตนเอง วสั ดตุ ่างชนิดกันอาจมสี มบัติ
บางประการเหมือนกันหรือ
สามารถตคี วามหมาย สามารถตคี วามหมายขอ้ มลู แตกต่างกัน ถงึ แม้จะได้รบั
คำแนะนำจากครูหรือผู้อนื่
ขอ้ มูลจากการสงั เกตและ จากการสังเกตและลง
ลงขอ้ สรุปไดด้ ว้ ยตนเองว่า ขอ้ สรปุ ไดด้ ้วยตนเองวา่ วสั ดุ
วัสดแุ ต่ละชนิดมี แต่ละชนดิ มีสมบตั ติ า่ ง ๆ
สมบตั ติ ่าง ๆ ซง่ึ วสั ดตุ ่าง ซึง่ วัสดตุ ่างชนิดกันอาจมี
ชนดิ กนั อาจมสี มบัติบาง สมบตั บิ างประการ
ประการเหมอื นกันหรือ เหมือนกันหรือแตกตา่ งกนั
แตกตา่ งกัน จากการช้ีแนะของครหู รอื
ผู้อ่ืน
เกณฑ์การตัดสิน
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถึง ปรบั ปรงุ
เกณฑ์การตดั สิน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพพอใช้ข้นึ ไป
99
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ เจตคติ ค่านิยม
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 7 เรอ่ื ง สมบัติของวสั ดุ (2)
ชอ่ื ผู้ประเมนิ /กลุม่ ประเมิน…………………………………………………………………………………….........................................
ช่อื กลมุ่ รบั การประเมนิ ………………………………………………………………………………………….........................................
ประเมนิ ผลครง้ั ที่………………...……....... วัน ……………..…. เดอื น …...........……..........………. พ.ศ. ……...….……..........
เร่อื ง……………………………………………………………………………………………………………………..........................................
ที่ ลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดับพฤติกรรม
ผา่ น ไมผ่ า่ น
1. มงุ่ มั่นในการทำงาน
2. ยอมรับความเหน็ ต่าง
3. ซื่อสัตย์
เกณฑก์ ารตดั สนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั คุณภาพ “ผ่าน”
100
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 7 เรอ่ื ง สมบตั ิของวสั ดุ (2)
ผู้ประเมิน/กลมุ่ ประเมนิ ..................................................................................................................................................................
ช่ือกลมุ่ รับการประเมนิ .................................................................................................................................................................
ประเมนิ ผลครง้ั ที่...................วันที่......................เดือน.......................................................พ.ศ....................................
เร่ือง.....................................................................................................................................................................................................
ที่ สมรรถนะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี เกณฑก์ ารตัดสนิ
ผา่ น ไมผ่ ่าน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
- อธิบายสมบัติของวัสดุที่นำมาทำวัตถุใน
ชีวติ ประจำวนั
2. ความสามารถในการคดิ
- ตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปเกี่ยวกับสมบัติ
ของวสั ดุ
3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
- มคี วามรบั ผิดชอบในการทำงาน
- มีวนิ ัยในการทำกิจกรรม
เกณฑ์การตัดสิน ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดบั คุณภาพ “ผ่าน”
101
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 8 เรื่อง สมบตั ิของวัสดุ (3)
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เร่ือง วสั ดุรอบตวั หนว่ ยย่อยท่ี 1 เรื่อง สมบัติของวสั ดุ
รหสั วิชา ว11101 รายวิชาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชวั่ โมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ว 2.1
เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง
และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกิดปฏิกิริยาเคมี
ตวั ชว้ี ดั ป.1/1 อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซึ่งทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิด
ประกอบกันโดยใชห้ ลักฐานเชิงประจกั ษ์
2. สาระสำคญั
วัสดุต่างชนิดกันอาจมีสมบัติบางประการเหมือนกันหรือแตกต่างกัน ซึ่งสามารถสังเกตสมบัติของวัสดุได้
ดว้ ยวธิ ีต่าง ๆ
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3.1 ด้านความรู้ ความเขา้ ใจ (K)
- บอกสมบัตขิ องวัสดุทอี่ ยใู่ นชวี ิตประจำวนั
3.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
- ลงความเห็นจากขอ้ มูลเกยี่ วกับสมบตั ขิ องวสั ดุ
- ตีความหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุปเกี่ยวกบั สมบตั ิของวสั ดุ
3.3 ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านยิ ม (A)
- มงุ่ มั่นในการทำงาน
- ยอมรับความเหน็ ต่าง
- ซื่อสัตย์
4. สาระการเรียนรู้
วัตถุท่ที ำจากวัสดทุ ่ีแตกตา่ งกัน อาจมีสมบัติบางประการเหมือนกนั หรือแตกตา่ งกนั
102
5. สมรรถนะของผูเ้ รียน
5.1 ความสามารถในการสื่อสาร
- บอกสมบตั ิของวสั ดทุ ่อี ยู่ในชวี ิตประจำวัน
5.2 ความสามารถในการคดิ
- ลงความเห็นจากข้อมูลเกีย่ วกบั สมบัติของวสั ดุ
- ตีความหมายขอ้ มูลและลงขอ้ สรปุ เกี่ยวกบั สมบัตขิ องวสั ดุ
5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
- มคี วามรบั ผิดชอบในการทำงาน
- มีวินยั ในการทำกจิ กรรม
6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1 มงุ่ มั่นในการทำงาน
6.2 ยอมรบั ความเห็นต่าง
6.3 ซอื่ สตั ย์
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรยี น (เวลา 5 นาที)
1. ครูทบทวนสมบัติของวัสดุทีน่ ักเรียนได้เรียนแล้ว โดยใช้คำถามว่า วัสดุที่นักเรียนรู้จักมีสมบัติอะไรบ้าง (แข็ง นมุ่
เบา หนกั ผวิ เรยี บ ผิวขรุขระ ผิวมันวาว ผิวไมม่ ันวาว ยืดได้ ยดื ไมไ่ ด้ ใส ขนุ่ และทบึ )
2. ครูตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเกี่ยวกับลักษณะของวัสดุ โดยครูนำกล่องปริศนาซึ่งบรรจุวัสดุของจริง คือ
ฟาง ไม้ และอิฐ มาให้นักเรียนได้สังเกตทีละชิ้น จากนั้นใช้คำถามว่า นักเรียนคิดว่าฟาง ไม้ และอิฐแตกต่างกัน
อย่างไรบ้าง (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ฟางเบาและมีลักษณะเป็นเส้น ไม้หนักกว่าฟางแต่
เบากว่าอิฐ ไม้มีผิวเรียบและมีลักษณะเป็นแผ่น ส่วนอิฐหนักที่สุด มีลักษณะเป็นก้อน ผิวขรุขระ ฟางและไม้มีสี
น้ำตาล สว่ นอิฐมีสีแดง)
3. ครชู วนนกั เรียนไปหาคำตอบเกี่ยวกับลกั ษณะของฟาง ไม้ และอฐิ จากการทำกิจกรรม
ข้นั สอน (เวลา 50 นาท)ี
4. ครูใช้สื่อสไลด์แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้ในกิจกรรมที่ 2 สมบัติของวัสดุมีอะไรอีกบ้าง ว่านักเรียนจะได้ อ่าน
นทิ าน และบอกสมบตั ิของวสั ดทุ ีอ่ ย่ใู นชีวติ ประจำวัน
103
5. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทำในใบกิจกรรมที่ 2 สมบัติของวัสดุมีอะไรอีกบ้าง หน้า 23 ข้อ 1 จากนั้นครูตรวจสอบ
ความเข้าใจในขั้นตอนการทำกิจกรรมของนักเรียนจนแน่ใจว่านักเรียนทำได้ โดยครูใช้คำถามว่า นักเรียนจะได้
ทำอะไร (อ่านนิทานแกะ 3 ตัวแล้วตอบคำถาม)
6. ครูชวนนักเรียนอ่านเนื้อเรื่อง นิทานแกะ 3 ตัว ในหน้าที่ 24-25 ครูพานักเรียนอ่าน โดยให้นักเรียนอ่านตามครู
และตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนโดยใช้คำถามหลังจากอา่ นนิทานจบแล้ว
6.1 แมแ่ กะจะให้ลูกแกะทำอะไร (แม่แกะจะให้ลกู แกะสรา้ งบ้านของตนเอง)
6.2 ลูกแกะตัวที่ 1 2 และ 3 สร้างบ้านด้วยอะไร (ลูกแกะตัวที่ 1 สร้างบ้านด้วยฟาง ลูกแกะตัวที่ 2
สร้างบา้ นดว้ ยไม้ และลูกแกะตัวที่ 3 สร้างบ้านด้วยอฐิ )
6.3 การสร้างบา้ นดว้ ยฟางเสร็จเรว็ หรอื ช้าเพราะเหตุใด (สรา้ งบ้านด้วยฟางเสรจ็ เรว็ เพราะฟางเบา)
6.4 ฟางและไม้แตกต่างกันอย่างไรบ้าง (ฟางเป็นเส้น ขรุขระ นุ่ม และเบา ไม้เรียบ แข็งน้ำหนักมากกว่า
ฟาง)
6.5 อฐิ มีสมบัตอิ ย่างไร (ขรุขระ แข็ง และน้ำหนักมาก)
6.6 การสรา้ งบา้ นดว้ ยอฐิ เสรจ็ เร็วหรอื ชา้ เพราะเหตุใด (เสร็จชา้ เพราะอิฐหนกั )
6.7 ความแข็งแรงของบ้านทั้ง 3 หลังแตกต่างกันหรือไม่ เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ
ของตนเอง โดยแนวคำตอบที่ครูควรรู้ เช่น บ้านของลูกแกะตัวที่ 1 และ 2 แข็งแรงน้อยกว่าบ้าน
ของลกู แกะตัวที่ 3 ซง่ึ ความแข็งแรงของบา้ นท้งั 3 หลงั แตกตา่ งกนั เพราะวสั ดุทใี่ ช้สรา้ งบ้านแตกต่างกนั )
6.8 นอกจากฟาง ไม้ และอิฐแล้ว นักเรียนรู้จักวัสดุอื่น ๆ อีกหรือไม่ (นักเรียนตอบตามความเข้าใจ
ของตนเองโดยแนวคำตอบท่คี รคู วรรู้ เชน่ พลาสติก ยาง ผา้ แก้ว)
7. ครูให้นักเรียนตอบคำถามหลังทำกิจกรรม ในใบงาน 02 สมบัติของวัสดุ หน้า 26 โดยครูชักชวนนักเรียนทำ
ทลี ะขอ้ หลงั จากนักเรยี นทำเสรจ็ แล้วครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลยคำตอบท่ถี ูกต้อง
8. ครูชักชวนนกั เรียนอภปิ รายเพื่อเปรยี บเทียบคำตอบทเี่ คยตอบไว้แล้ว โดยใช้คำถามดังน้ี
8.1 วสั ดใุ ดบ้างทีใ่ ช้ในการสร้างบา้ นได้ (วสั ดุทใ่ี ช้สร้างบ้านได้ มี ฟาง ไม้ และอฐิ )
8.2 วัสดุที่ใช้มีสมบัติเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (แตกต่างกัน ฟางมีสมบัติ น้ำหนักเบา ผิวขรุขระ นุ่ม
ทึบ ไม้มีสมบัติ น้ำหนักมาก ผิวขรุขระ แข็ง ทึบ อิฐผิวขรุขระ แข็ง น้ำหนักมาก) ครูอธิบายเพิ่มเติม
เกี่ยวกับสมบัติน้ำหนักของวัสดุ โดยครูบอกให้นักเรียนทดสอบโดยการเปรียบเทียบน้ำหนักขอ งวัสดุ
จากการใช้มอื รับน้ำหนักเปรยี บเทยี บกัน หรือตรวจสอบสมบตั ิอื่น ๆ
8.3 หากนักเรียนจะสร้างบ้าน นักเรียนอยากมีบ้านแบบแกะตัวใด เพราะเหตุใด (นักเรียนตอบตามความ
คดิ เหน็ )
8.4 นอกจากวัสดุจากนิทานแกะ 3 ตัว แล้วนักเรียนคิดว่ามีวัสดุชนิดอื่นอีกหรือไม่ที่สามารถนำมาใช้ทำ
บ้านได้ (นักเรยี นตอบตามความคิดเหน็ ครูอาจจดคำตอบของนกั เรียนไว้)
104
ขัน้ สรุป (เวลา 5 นาท)ี
9. ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนสรุปแนวคดิ หรือส่ิงทไี่ ด้เรียนรู้ในช่ัวโมงน้เี กย่ี วกับสมบัติของวสั ดดุ ้วยตนเอง
10. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า วัตถุที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกัน อาจมีสมบัติบางประการ
เหมือนกันหรือแตกตา่ งกนั
8. สื่อ/แหล่งเรียนรู้
8.1 สื่อสไลด์ สมบตั ิของวัสดุ (3)
8.2 ใบกจิ กรรมท่ี 2 สมบัตขิ องวัสดุมีอะไรอกี บา้ ง หนา้ 23
8.3 นิทานแกะ 3 ตวั ในหน้าท่ี 24-25
8.4 ใบงาน 02 สมบตั ิของวสั ดุ หน้า 26
8.5 ไม้
8.6 ฟาง
8.7 อิฐ
8.8 กลอ่ งปริศนา
9. ช้ินงาน/ภาระงาน
- ใบงาน 02 สมบตั ขิ องวสั ดุ หนา้ 26
10. การวัดและประเมนิ ผล
ประเดน็ การประเมนิ วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์
แบบประเมนิ ความรู้ ผ่านเกณฑก์ ารประเมินระดบั
1) ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ สังเกตการตอบคำถามใน คุณภาพดขี ้นึ ไป
- อธบิ ายสมบัตขิ องวัสดุท่ี ชน้ั เรียนและเนื้อหาใน แบบประเมินทกั ษะ
กระบวนการทาง ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดบั
นำมาทำวตั ถใุ นชีวติ ประจำวนั ใบงาน วิทยาศาสตร์ คณุ ภาพพอใช้ขน้ึ ไป
2) ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ สงั เกตทกั ษะกระบวนการ
- ลงความเหน็ จากขอ้ มูล ทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการ
เกีย่ วกบั สมบัตขิ องวัสดุ ทำกจิ กรรม
- ตคี วามหมายข้อมลู และ
ลงข้อสรปุ เก่ียวกบั สมบตั ิ
ของวสั ดุ
105
ประเดน็ การประเมิน วธิ ีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์
3) ดา้ นคุณลักษณะ สงั เกตคุณลักษณะ แบบประเมินคุณลักษณะ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับ
เจตคติ คา่ นิยม เจตคติ คา่ นยิ ม เจตคติ ค่านยิ ม คุณภาพ “ผา่ น”
- มุ่งมั่นในการทำงาน
- ยอมรบั ความเหน็ ตา่ ง
- ซอื่ สตั ย์
4) สมรรถนะสำคญั ของ สงั เกตพฤติกรรมในขณะ แบบประเมนิ สมรรถนะ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับ
ผเู้ รียน ทำกจิ กรรม สำคัญของผเู้ รยี น คณุ ภาพ “ผ่าน"
1. ความสามารถในการ
สื่อสาร
- บอกสมบัตขิ องวัสดุทอี่ ยู่
ในชีวติ ประจำวัน
2. ความสามารถในการคิด
- ลงความเหน็ จากขอ้ มูล
เกี่ยวกบั สมบัติของวัสดุ
- ตีความหมายขอ้ มลู และ
ลงข้อสรปุ เกย่ี วกบั สมบัติ
ของวสั ดุ
3. ความสามารถในการใช้
ทกั ษะชีวติ
- มีความรบั ผดิ ชอบใน
การทำงาน
- มีวินัยในการทำกจิ กรรม
106
แบบประเมินความรู้
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 8 เรอื่ ง สมบตั ขิ องวัสดุ (3)
ชื่อผู้ประเมนิ …………………………………………………………………………………………………………………………...................…
ประเมนิ ผลครง้ั ท่ี……………....... วันท่ี ……………..…....…... เดอื น ………..……...............….…. พ.ศ. ……...….……….......
เรือ่ ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….............
รายการประเมนิ /ระดบั คะแนน
ชอ่ื -สกลุ /กลุม่ การตอบ การสรปุ ความถูกตอ้ ง รวมคะแนน
คำถามในชน้ั ความรู้ ครบถว้ นของเนื้อหา (10 คะแนน)
(4)
เรียน ในใบงาน
(4) (2)
107
เกณฑ์การประเมิน
ประเดน็ ระดับคณุ ภาพ น้ำหนัก คะแนน
รวม
การประเมิน 4 (ดมี าก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง)
ตอบคำถามไม่
1. การตอบ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถาม ถกู ตอ้ ง 1.0 4
คำถามในชน้ั เรียน ถกู ต้องทั้งหมด ถกู ตอ้ งเปน็ สว่ น ถูกตอ้ งบางสว่ น
ใหญ่
2. การสรุปความรู้ สรุปความรู้ สรปุ ความรู้ความ สรปุ ความรคู้ วาม สรปุ ความรเู้ ข้าใจ 1.0 4
เก่ียวกบั เรอื่ งที่
ความเขา้ ใจ เข้าใจเกีย่ วกบั เขา้ ใจเกีย่ วกับ ศึกษาไม่ถกู ตอ้ ง
และไม่ครบถ้วน
เกี่ยวกบั เรอื่ งท่ี เรอ่ื งท่ศี ึกษาได้ เร่ืองทศี่ กึ ษาได้
ศกึ ษาได้ ถูกต้อง ถกู ตอ้ ง แตไ่ ม่ ถกู ตอ้ งบางสว่ น
และครบถว้ น ครบถ้วน และไมค่ รบถว้ น
3. ความถกู ต้อง เนื้อหาท่ีเขียนใน เนือ้ หาที่เขยี นใน เน้ือหาที่เขยี นใน เนือ้ หาทเ่ี ขยี นใน 0.5 2
ใบงานไมถ่ กู ตอ้ ง
ครบถว้ นของ ใบงานมีความ ใบงานมบี างส่วน ใบงานมีความ
เน้ือหาในใบงาน ถูกตอ้ งครบถ้วน ไมถ่ ูกต้อง ตามท่ี ถูกตอ้ งเปน็ สว่ น
ตามทก่ี ำหนด กำหนด น้อย
เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพ
คะแนน 9 - 10 หมายถงึ ดมี าก
คะแนน 7 - 8 หมายถงึ ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ
เกณฑ์การตดั สิน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคณุ ภาพดขี ้ึนไป
108
แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 8 เรอ่ื ง สมบตั ิของวัสดุ (3)
ช่อื ผปู้ ระเมนิ ……………………………………………………………………........................………………………………………….
ประเมนิ ผลครง้ั ท่…ี ………………... วนั ท่ี ……………........……... เดือน ………..……...….…. พ.ศ. ……...….…………......
เรอ่ื ง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………
รายการประเมนิ /ระดบั คะแนน
ชอ่ื -สกลุ /กลุ่ม การลงความเห็น การตีความหมาย ผลรวมคะแนน ผลการประเมนิ
จากขอ้ มลู (3) ข้อมูลและลงขอ้ สรุป (6 คะแนน)
(3)
109
เกณฑก์ ารประเมิน
ทกั ษะกระบวนการ ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)
ทางวทิ ยาศาสตร์
การลงความเห็นจาก สามารถเพิ่มเติมความเหน็ สามารถเพ่มิ เติมความเห็น สามารถเพ่มิ เตมิ ความเหน็
ข้อมูล เก่ยี วกับสมบตั ขิ องวัสดุ ได้ เกีย่ วกับสมบตั ขิ องวสั ดุ ได้ เกย่ี วกบั สมบตั ขิ องวสั ดุ ได้
อยา่ งมเี หตผุ ล จากความรู้ อยา่ งมเี หตผุ ล โดยอาศัย อย่างมเี หตุผลบางสว่ น
การตีความหมาย หรอื ประสบการณ์เดมิ ได้ คำแนะนำของครูหรอื ผู้อ่ืน ถงึ แม้จะไดร้ ับคำแนะนำ
ขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ ด้วยตัวเอง จากครหู รือผอู้ นื่
สามารถตีความหมายขอ้ มูล สามารถตคี วามหมายขอ้ มูล สามารถตคี วามหมายข้อมูล
จากการสงั เกตและลง จากการสงั เกตและลงขอ้ สรุป จากการสังเกตและลง
ข้อสรปุ ไดด้ ้วยตนเองวา่ ได้ด้วยตนเองว่า วตั ถุทท่ี ำ ข้อสรปุ ไดบ้ างสว่ นว่า วตั ถุ
วตั ถทุ ีท่ ำจากวัสดทุ ่แี ตกต่าง จากวสั ดทุ ่ีแตกต่างกัน อาจมี ท่ีทำจากวัสดทุ แี่ ตกต่างกนั
กัน อาจมสี มบตั ิบางประการ สมบัติบางประการเหมอื นกนั อาจมีสมบตั ิบางประการ
เหมือนกันหรอื แตกตา่ งกัน หรือแตกต่างกนั จาก เหมอื นกนั หรือแตกต่างกัน
ถึงแม้จะไดร้ บั คำแนะนำ
การชีแ้ นะของครูหรอื ผูอ้ ืน่ จากครหู รือผ้อู นื่
เกณฑ์การตดั สนิ
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถึง ปรบั ปรุง
เกณฑก์ ารตัดสิน ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั คุณภาพพอใชข้ ้นึ ไป
110
แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านิยม
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 8 เรอื่ ง สมบตั ิของวสั ดุ (3)
ชือ่ ผู้ประเมนิ /กลุม่ ประเมนิ ………………………………………………………………………………….........................................
ช่ือกลุ่มรบั การประเมนิ ………………………………………………………………………………………….........................................
ประเมนิ ผลครงั้ ที่……………....……....... วนั ……………..…. เดือน …...........……..........………. พ.ศ. ……...….……...........
เรอ่ื ง……………………………………………………………………………………………………………………..........................................
ที่ ลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั พฤตกิ รรม
ผ่าน ไม่ผ่าน
1. มุ่งม่นั ในการทำงาน
2. ยอมรับความเห็นต่าง
3. ซ่อื สตั ย์
เกณฑก์ ารตดั สิน ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดบั คณุ ภาพ “ผา่ น”
111
แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 8 เรอ่ื ง สมบตั ขิ องวสั ดุ (3)
ผู้ประเมนิ /กลมุ่ ประเมนิ ..................................................................................................................................................................
ชื่อกลุ่มรบั การประเมิน.................................................................................................................................................................
ประเมนิ ผลครงั้ ที่...................วนั ที่......................เดือน....................................................พ.ศ.......................................
เร่อื ง.....................................................................................................................................................................................................
ที่ สมรรถนะ/พฤติกรรมบ่งชี้ เกณฑ์การตดั สนิ
ผ่าน ไมผ่ ่าน
1. ความสามารถในการสือ่ สาร
- บอกสมบัติของวสั ดุท่อี ยู่ในชีวติ ประจำวัน
2. ความสามารถในการคิด
- ลงความเห็นจากข้อมูลเกีย่ วกับสมบัติของวสั ดุ
- ตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปเกี่ยวกับสมบัติ
ของวสั ดุ
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
- มีความรับผิดชอบในการทำงาน
- มวี นิ ัยในการทำกจิ กรรม
เกณฑก์ ารตัดสิน ผ่านเกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ “ผ่าน”
112
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 9 เร่อื ง สมบตั ขิ องวัสดุ (4)
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่อื ง วัสดุรอบตวั หน่วยย่อยที่ 1 เรื่อง สมบัตขิ องวสั ดุ
รหัสวิชา ว11101 รายวชิ าวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีชนั้
ประถมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ว 2.1
เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง
และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกิดปฏกิ ริ ยิ าเคมี
ตวั ช้ีวัด ป.1/1 อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซึ่งทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิด
ประกอบกนั โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจกั ษ์
2. สาระสำคญั
วัสดุต่างชนิดกันอาจมีสมบัติบางประการเหมือนกันหรือแตกต่างกัน ซึ่งสามารถสังเกตสมบัติของวัสดุได้
ด้วยวิธตี ่าง ๆ
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K)
- บอกสมบตั ขิ องวสั ดุที่อยใู่ นชวี ิตประจำวนั
3.2 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
- ลงความเหน็ จากข้อมลู เกยี่ วกบั สมบัติของวัสดุ
- ตคี วามหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ เก่ียวกบั สมบัตขิ องวัสดุ
3.3 ด้านคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A)
- มุ่งมนั่ ในการทำงาน
- ยอมรับความเห็นต่าง
- ซอื่ สัตย์
4. สาระการเรียนรู้
วัตถทุ ่ีทำจากวัสดทุ แี่ ตกตา่ งกนั อาจมีสมบตั ิบางประการเหมอื นกนั หรือแตกตา่ งกัน
113
5. สมรรถนะของผู้เรียน
5.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
- บอกสมบตั ิของวัสดุท่ีอยู่ในชวี ิตประจำวัน
5.2 ความสามารถในการคิด
- ลงความเห็นจากข้อมลู เก่ียวกับสมบัตขิ องวัสดุ
- ตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรุปเกี่ยวกบั สมบตั ขิ องวสั ดุ
5.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ
- มีความรบั ผิดชอบในการทำงาน
- มวี ินยั ในการทำกิจกรรม
6. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
6.1 มุ่งมั่นในการทำงาน
6.2 ยอมรบั ความเหน็ ต่าง
6.3 ซ่ือสตั ย์
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นำเขา้ สบู่ ทเรียน (เวลา 5 นาที)
1. ครูทบทวนความรู้เรื่อง สมบัติของวัสดุ โดยใช้คำถามว่า หากนักเรียนจะทำของเล่นที่ชอบนักเรียนจะเลือกวัสดุ
ชนิดใด เพราะเหตใุ ด (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง เช่น ทำตกุ๊ ตาจากผา้ เพราะผ้านุ่ม)
2. ครูชกั ชวนนกั เรียนทำกิจกรรมท่ี 2 สมบัตขิ องวัสดุมอี ะไรอกี บ้าง หน้าท่ี 23
ขั้นสอน (เวลา 50 นาที)
3. ครูแจง้ จดุ ประสงคโ์ ดยใช้ส่อื สไลด์ว่า ในวนั นนี้ กั เรียนจะได้บอกสมบตั ิของวัสดใุ นชวี ิตประจำวนั
4. ครูชักชวนนกั เรียนอา่ นวิธีทำในใบกิจกรรมที่ 2 สมบตั ขิ องวัสดมุ ีอะไรอกี บา้ ง หนา้ 23 ขอ้ 2 จากนั้นครูตรวจสอบ
ความเขา้ ใจในขัน้ ตอนการทำกิจกรรม โดยใช้คำถามดังน้ี
4.1 นกั เรยี นจะไดว้ าดรปู และระบายสเี กีย่ วกับอะไร (ของเล่นชน้ิ โปรด)
4.2 เมอื่ วาดรปู และระบายสีแล้วตอ้ งทำอย่างไรตอ่ ไป (บอกชนดิ และสมบตั ขิ องวัสดุทใี่ ชท้ ำของเล่น)
5. ครูใชส้ อื่ สไลดอ์ ธิบายวธิ กี ารบันทกึ ผลการทำกิจกรรมในใบงาน 02 หนา้ 27 และเนน้ ย้ำว่า นักเรยี นควรวาดภาพ
ทม่ี ีขนาดใหญแ่ ละชดั เจน เม่ือนกั เรยี นเขา้ ใจแล้วครกู ำหนดเวลาให้นกั เรียนกิจกรรมตามความเหมาะสม
6. เม่ือนักเรยี นทำกิจกรรมเสร็จแล้ว ครเู ลอื กสุม่ นักเรียนออกมานำเสนอผลการทำกจิ กรรม โดยใชค้ ำถามดงั น้ี
6.1 ของเลน่ ชิ้นโปรดของนกั เรยี นคอื อะไร (นักเรยี นตอบตามทบี่ นั ทึก)
114
6.2 วัสดุที่ใช้ทำของเล่นมีอะไรบ้าง และมีสมบัติอย่างไร (นักเรียนตอบตามที่บันทึก เช่น รถของเล่น
ตัวรถทำจากพลาสติก มีสมบัติแข็ง ผิวเรียบ ทึบ ยืดไม่ได้ ผิวไม่มันวาว ส่วนล้อทำจากยาง มีสมบัติ
นุ่ม ผวิ ขรุขระ ทบึ ยืดได้ ผวิ ไม่มนั วาว)
6.3 ของเล่นประเภทเดียวกันแต่ทำจากวัสดุต่างกันมีสมบตั ิเหมือนหรือแตกต่างกันอยา่ งไร (รถของเล่นทำ
จากวัสดุที่แตกต่างกัน เช่น รถของเล่นที่ทำจากโลหะกับพลาสติก มีสมบัติเหมือนกันคือแข็ง และมี
สมบตั แิ ตกต่างกันคอื โลหะมผี วิ มนั วาวมีนำ้ หนักมาก และพลาสตกิ มีผิวไมม่ ันวาวและมีน้ำหนกั เบา)
7. นักเรียนตอบคำถามหลังทำกิจกรรมในใบงาน หน้า 28 โดยครูให้นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นร่วมกันไป
ทีละขอ้ จากน้ันครูใช้ส่อื สไลด์ ร่วมกนั เฉลยคำตอบท่ีถูกตอ้ งอกี คร้งั
ข้ันสรุป (เวลา 5 นาที)
8. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นไดส้ รปุ ความรทู้ ี่ได้เรียนทง้ั หมดเก่ียวกับสมบตั ขิ องวัสดุ
9. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปกิจกรรมโดยใช้สื่อสไลด์ สรปุ ไดว้ า่ วสั ดแุ ต่ละชนดิ มีสมบตั ติ า่ ง ๆ เชน่ แขง็ หรอื นุ่ม ใส
ขุ่น หรือทึบ เรียบหรือขรุขระ ยืดได้หรือยดื ไม่ได้ ผิวมันวาวหรอื ผิวไม่มนั วาว ซึ่งสามารถสังเกตสมบตั ิของวสั ดุ
ไดด้ ว้ ยวิธีการต่าง ๆ วัสดใุ นชีวิตประจำวนั แตล่ ะชนิดมีสมบัตบิ างประการทเ่ี หมอื นหรอื แตกตา่ งกัน
10. ครใู หน้ ักเรยี นทำใบงาน 03 แบบฝกึ หดั เรื่องสมบัตขิ องวัสดุ หน้า 29-30 เปน็ การบ้าน
8. ส่ือ/แหลง่ เรยี นรู้
8.1 ส่ือสไลด์ สมบตั ิของวสั ดุ (4)
8.2 ใบกจิ กรรมที่ 2 สมบัติของวสั ดมุ ีอะไรอีกบ้าง หน้า 23
8.3 ใบงาน 02 สมบตั ขิ องวัสดุ หนา้ 27-28
8.4 ใบงาน 03 แบบฝึกหดั เรอ่ื งสมบัตขิ องวสั ดุ หนา้ 29-30
9. ช้ินงาน/ภาระงาน
9.1 ใบงาน 02 สมบตั ขิ องวัสดุ หน้า 27-28
9.2 ใบงาน 03 แบบฝกึ หดั เรอื่ งสมบตั ขิ องวัสดุ หน้า 29-30
115
10. การวัดและประเมนิ ผล
ประเดน็ การประเมิน วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์
1) ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ สงั เกตการตอบคำถามใน แบบประเมินความรู้ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
ชัน้ เรยี นและเนอื้ หาใน ระดับคุณภาพดขี ้ึนไป
- อธิบายสมบตั ิของวสั ดทุ ี่ ใบงาน แบบประเมินทกั ษะ ผ่านเกณฑ์การประเมิน
นำมาทำวตั ถใุ นชวี ิตประจำวัน สังเกตทักษะกระบวนการ กระบวนการทาง ระดบั คณุ ภาพพอใชข้ น้ึ ไป
ทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการ วิทยาศาสตร์
2) ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ทำกิจกรรม ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ
- ลงความเหน็ จากขอ้ มูล แบบประเมินคุณลักษณะ ระดบั คณุ ภาพ “ผ่าน”
สังเกตคุณลักษณะ เจตคติ เจตคติ คา่ นิยม
เกยี่ วกบั สมบตั ขิ องวสั ดุจากการ ค่านิยม ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน
สงั เกต แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ “ผ่าน"
สงั เกตพฤติกรรมในขณะ สำคัญของผเู้ รยี น
- ตีความหมายข้อมูลและลง ทำกจิ กรรม
ข้อสรุปเกี่ยวกบั สมบตั ิของวสั ดุ
3) ด้านคณุ ลักษณะ
เจตคติ คา่ นยิ ม
- มงุ่ มั่นในการทำงาน
- ยอมรบั ความเห็นต่าง
- ซ่อื สตั ย์
4) สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
- บอกสมบัตขิ องวสั ดุทีอ่ ยู่ใน
ชีวติ ประจำวนั
2. ความสามารถในการคิด
- ลงความเหน็ จากขอ้ มูล
เก่ยี วกบั สมบัติของวสั ดุ
- ตคี วามหมายขอ้ มูลและลง
ขอ้ สรุปเกยี่ วกบั สมบตั ขิ องวสั ดุ
3. ความสามารถในการใช้
ทกั ษะชวี ิต
- มคี วามรับผดิ ชอบในการ
ทำงาน
- มีวนิ ยั ในการทำกจิ กรรม
116
แบบประเมินความรู้
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 เรอ่ื ง สมบตั ขิ องวัสดุ (4)
ชื่อผู้ประเมนิ …………………………………………………………………………………………………………………………...................…
ประเมนิ ผลครงั้ ท่ี…………...…….... วนั ที่ ……………......…... เดอื น ………..……..........….…. พ.ศ. ……...….…………........
เรอ่ื ง………………………………………………………………………………………………………………………………………….................
รายการประเมิน/ระดบั คะแนน
ช่ือ-สกลุ /กลุม่ การตอบ การสรปุ ความถกู ต้อง รวมคะแนน
คำถามในชนั้ ความรู้ ครบถว้ นของเนือ้ หา (10 คะแนน)
(4)
เรียน ในใบงาน
(4) (2)
117
เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเดน็ 4 (ดมี าก) ระดับคณุ ภาพ 1 (ปรับปรุง) น้ำหนัก คะแนน
การประเมนิ 3 (ด)ี 2 (พอใช้) รวม
1. การตอบ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถาม ตอบคำถามไม่ 1.0 4
คำถามในช้นั เรียน ถูกตอ้ งทัง้ หมด ถกู ต้องเปน็ ส่วน ถูกต้องบางส่วน ถกู ตอ้ ง
ใหญ่
2. การสรุปความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรเู้ ข้าใจ 1.0 4
ความเขา้ ใจ ความเข้าใจ ความเข้าใจ เกย่ี วกบั เรอื่ งที่
เกีย่ วกบั เร่อื งท่ี เก่ยี วกบั เรอื่ งที่ เก่ยี วกับเร่ืองท่ี ศึกษาไม่ถกู ตอ้ ง
ศกึ ษาได้ ถูกตอ้ ง ศึกษาไดถ้ ูกต้อง ศึกษาได้ ถกู ต้อง และไม่ครบถ้วน
และครบถว้ น แตไ่ ม่ครบถว้ น บางสว่ น และไม่
ครบถ้วน
3. ความถกู ต้อง เนื้อหาทีเ่ ขียนใน เนือ้ หาที่เขยี นใน เนือ้ หาท่เี ขยี นใน เน้ือหาทเ่ี ขยี นใน 0.5 2
ครบถ้วนของ ใบงานมี ใบงานมีบางสว่ น ใบงานมี ใบงานไมถ่ กู ตอ้ ง
เน้ือหาในใบงาน ความถกู ต้อง ไมถ่ กู ตอ้ ง ตามที่ ความถกู ตอ้ งเป็น
ครบถ้วน ตามท่ี กำหนด ส่วนนอ้ ย
กำหนด
เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
เกณฑ์การตดั สนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพดขี ้ึนไป
118
แบบประเมินทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 9 เรอ่ื ง สมบัติของวสั ดุ (4)
ช่ือผปู้ ระเมนิ ……………………………………………………………………........................………………………………………….
ประเมนิ ผลครง้ั ท่…ี ……………….... วนั ที่ …………….........……... เดอื น ………..……...….…. พ.ศ. ……...….…………
เรื่อง………………………………………………………………......………………………………………………………………………...
รายการประเมิน/ระดบั คะแนน ผลรวมคะแนน
(6 คะแนน)
ชอ่ื -สกลุ /กลมุ่ การลงความเห็นจาก การตคี วามหมายขอ้ มลู ผลการประเมนิ
ขอ้ มลู (3) และลงขอ้ สรปุ (3)
119
เกณฑก์ ารประเมนิ
ทักษะกระบวนการ ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1)
ทางวิทยาศาสตร์
การลงความเห็นจาก เพิม่ เติมความเห็น เพิม่ เติมความเห็นเก่ยี วกบั สามารถเพ่ิมเตมิ ความเหน็
ข้อมลู เก่ียวกับสมบัตขิ องวสั ดุ สมบัติของวัสดุ ไดอ้ ยา่ งมี เกี่ยวกบั สมบัตขิ องวสั ดไุ ด้
ไดอ้ ย่างมีเหตผุ ล จาก เหตผุ ล โดยอาศัย บางสว่ น อยา่ งมีเหตผุ ล
ความรหู้ รอื ประสบการณ์ คำแนะนำของครูหรอื ผู้อื่น ถงึ แมจ้ ะไดร้ บั คำแนะนำ
เดมิ ไดด้ ้วยตัวเอง จากครหู รอื ผอู้ น่ื
การตีความหมายข้อมลู สามารถตคี วามหมาย สามารถตีความหมายขอ้ มลู สามารถตีความหมาย
และลงขอ้ สรุป ข้อมูลจากการสงั เกตและ จากการสงั เกตและลง ขอ้ มลู จากการสังเกตและ
ลงข้อสรุปได้ด้วยตนเอง ขอ้ สรปุ ได้ด้วยตนเอง ลงข้อสรุปได้บางส่วน
วตั ถุเกีย่ วกับสมบตั ขิ อง เก่ยี วกับสมบตั ขิ องวัสดจุ าก เกี่ยวกบั สมบัตขิ องวสั ดุ
วัสดุ การช้แี นะของครูหรอื ผู้อื่น ถึงแมจ้ ะไดร้ ับคำแนะนำ
จากครหู รอื ผู้อนื่
เกณฑ์การตัดสนิ
คะแนน 5 - 6 หมายถึง ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
เกณฑก์ ารตดั สนิ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคณุ ภาพพอใชข้ ้ึนไป
120
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 9 เรอ่ื ง สมบตั ิของวสั ดุ (4)
ช่ือผปู้ ระเมนิ /กลุ่มประเมนิ …………………………………………………………………………………….........................................
ช่ือกล่มุ รับการประเมนิ ………………………………………………………………………………………….........................................
ประเมนิ ผลครงั้ ที่………………....……....... วนั ……………..…. เดือน …...........……..........………. พ.ศ. ……...….…….........
เรือ่ ง……………………………………………………………………………………………………………………..........................................
ที่ ลักษณะ/พฤตกิ รรมบง่ ชี้ ระดับพฤติกรรม
ผ่าน ไมผ่ า่ น
1. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
2. ยอมรับความเห็นต่าง
3. ซอ่ื สัตย์
เกณฑ์การตัดสิน ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ “ผา่ น”
121
แบบประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 9 เรอ่ื ง สมบัตขิ องวัสดุ (4)
ผ้ปู ระเมนิ /กลมุ่ ประเมิน..................................................................................................................................................................
ชอื่ กลุม่ รับการประเมนิ .................................................................................................................................................................
ประเมนิ ผลครงั้ ที่...................วนั ที่......................เดือน....................................................พ.ศ.......................................
เรอ่ื ง.....................................................................................................................................................................................................
ที่ สมรรถนะ/พฤตกิ รรมบง่ ชี้ เกณฑก์ ารตดั สิน
ผา่ น ไมผ่ ่าน
1. ความสามารถในการสอื่ สาร
- บอกสมบัตขิ องวัสดทุ อ่ี ยใู่ นชีวิตประจำวนั
2. ความสามารถในการคดิ
- ลงความเหน็ จากขอ้ มูลเกย่ี วกับสมบัติของวัสดุ
- ตีความหมายข้อมูลและลงข้อสรุปเกี่ยวกับสมบัติ
ของวัสดุ
3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
- มคี วามรบั ผิดชอบในการทำงาน
- มวี ินยั ในการทำกจิ กรรม
เกณฑก์ ารตัดสนิ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดับคุณภาพ “ผา่ น
เฉลยใบงาน
123
ตามทีส่ ังเกต ตามที่สงั เกต
124
ใส
ทบึ
ขนุ่
เรยี บ
ขรุขระ
แขง็
นมุ่
125
ยืดได้
ยืดไม่ได้
ผวิ มันวาว ขนุ่
ผิวไมม่ ันวาว
ใส
ทบึ
เรยี บ
ขรขุ ระ
แขง็
นมุ่
126
ยดื ได้
ยดื ไม่ได้
ผิวมนั วาว
ผิวไมม่ นั วาว
เหมือนกนั
แตกตา่ งกนั
127
ฟาง ไม้ อฐิ
ฟาง
ขรขุ ระ น่มุ น้ำหนักเบา
ไม้
เรยี บ แขง็ นำ้ หนกั มาก
อิฐ
ขรุขระ แข็ง น้ำหนักมาก
128
รถของเลน่
พลาสตกิ แข็ง ทบึ ยดื ไมไ่ ด้
ไม่มนั วาว แขง็ ทึบ ยดื ไมไ่ ด้
นุ่ม ทบึ ยดื ได้
โลหะ
มันวาว
ยาง
ไมม่ นั วาว
129
ทบึ ไมม่ ันวาว
แขง็ น่มุ เรยี บ ขรขุ ระ ยดื ได้ ยืดไม่ได้
งง
ตอบตามทส่ี งั เกตได้จากการเลือกของเล่น
งง
ใส ขนุ่ ทึบ
เรยี บ ขรุขระ แขง็ นุ่ม ยืดได้ ยดื ไม่ได้
มันวาว ไม่มันวาว
130
กระดาษ พลาสติก แก้ว ยาง โลหะ
ผ้า ไม้
แกว้
กระดาษ
ผา้ ไม้ ยาง พลาสติก โลหะ
ผา้ ยาง
ไม้ กระดาษ พลาสตกิ แก้ว โลหะ
โลหะ
ผา้ ไม้ กระดาษ พลาสติก แกว้ โลหะ
หมายเหตุ : คำตอบขึน้ อยู่กับวัสดทุ ี่นำมาสงั เกต เชน่ พลาสตกิ อาจมที ้งั ขุ่น ใส ทบึ
131
ตุก๊ ตา หมอน ฟองน้ำ
กระทะเหลก็ ขวดนม จานกระเบื้อง
แขง็ ทบึ ยดื ไมไ่ ด้
หินไมม่ นั วาว โลหะมนั วาว
หนิ ขรขุ ระ โลหะเรียบ
หมายเหตุ : คำตอบข้ึนอยกู่ บั ชนิดของหินด้วย อาจมีหินบางชนิดทมี่ ีความมนั วาว
132
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 เร่อื ง การจัดกลมุ่ วตั ถุ (1)
หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง วสั ดรุ อบตัว หนว่ ยย่อยท่ี 4 เร่อื ง การจดั กลุ่มวัตถุ
รหสั วชิ า ว11101 รายวิชาวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐาน ว 2.1
เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง
และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี
ตัวชีว้ ดั ป.1/1 อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซึ่งทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายชนิด
ประกอบกนั โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจกั ษ์
ป.1/2 ระบุชนิดของวสั ดุและจัดกลุม่ วสั ดุตามสมบตั ทิ ส่ี งั เกตได้
2. สาระสำคญั
วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติบางประการเหมือนหรือแตกต่างกัน ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดกลุ่ม
วตั ถตุ ่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ (K)
- ระบชุ นดิ และสมบัติของวัสดุท่ีใช้ทำวัตถุในชีวติ ประจำวัน
3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)
- สงั เกตชนิดของวสั ดทุ ี่ใช้ทำวตั ถุ
- ลงความเห็นจากข้อมลู เกย่ี วกบั ชนดิ ของวัสดทุ ใี่ ชท้ ำวัตถุ
3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะ เจตคติ ค่านิยม (A)
- ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
- ยอมรับความเหน็ ต่าง
- ซอื่ สัตย์
133
4. สาระการเรยี นรู้
วัตถุทำจากวัสดุชนิดต่าง ๆ เช่น แก้ว ไม้ โลหะ พลาสติก ผ้า ยาง วัสดุเหล่านี้มีสมบัติต่าง ๆ ที่สังเกตได้
เหมอื นกนั หรอื แตกตา่ งกัน เช่น ผิวเรียบ ผิวขรุขระ แขง็ นมุ่ ยืดได้ ยดื ไมไ่ ด้ ใส ขุ่น ทึบ มันวาว ไมม่ ันวาว
5. สมรรถนะของผูเ้ รียน
5.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
- ระบชุ นดิ และสมบัติของวัสดุท่ใี ช้ทำวัตถใุ นชวี ิตประจำวนั
5.2 ความสามารถในการคิด
- ลงความเหน็ จากขอ้ มลู เกีย่ วกบั ชนดิ ของวสั ดุทใ่ี ช้ทำวตั ถุท่ไี ดจ้ ากการสังเกต
5.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
- มีความรับผดิ ชอบในการทำงาน
- มีวนิ ยั ในการทำกจิ กรรม
6. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1 มุง่ มั่นในการทำงาน
6.2 ยอมรับความเห็นตา่ ง
6.3 ซ่ือสัตย์
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำเข้าสู่บทเรยี น (เวลา 10 นาที)
1. ครูเตรียมวัตถุต่าง ๆ ใส่ลงในกล่องหรรษา วัตถุต่าง ๆ นั้นสามารถหาได้ง่าย และนักเรียนรู้จักคุ้นเคยใน
ชีวิตประจำวัน จากนั้นครูเรียกตัวแทนนักเรียนออกมาหยิบวัตถุที่อยู่ในกลอ่ งหรรษานั้นมาทีละ 1 ชิ้น วางไว้บน
โตะ๊ ทไ่ี ด้เตรียมไว้ โดยใหก้ องรวม ๆ กนั ไว้
2. จากน้ันครเู ตรยี มตะกร้า 3 ใบไวเ้ พือ่ ใหต้ วั แทนนักเรียนจัดกล่มุ ตามสมบตั ิของวัสดุเป็นเกณฑ์ และใช้คำถามดงั นี้
2.1 วัตถุทำจากวัสดใุ ดไดบ้ ้าง (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
2.2 นกั เรยี นใชอ้ ะไรเป็นเกณฑ์ในการจัดกลมุ่ (ใช้ชนดิ ของวสั ดเุ ป็นเกณฑ)์
2.3 นกั เรยี นสามารถแบ่งวตั ถุไดก้ ่ีกลุ่ม อะไรบา้ ง (คำตอบข้ึนอยู่กับชนิดของวสั ดุทน่ี กั เรียนสงั เกตได)้
ขนั้ สอน (เวลา 45 นาท)ี
3. ครูชวนนักเรียนทำกิจกรรมที่ 1 จัดกลุ่มของวัตถุได้อย่างไร หน้า 32 โดยให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรมและ
จุดประสงค์ จากน้นั ครตู รวจสอบความเข้าใจในข้ันตอนการทำกิจกรรม โดยครูใชค้ ำถามดังต่อไปนี้
134
3.1 นกั เรยี นจะได้เรยี นรเู้ ร่อื งอะไร (การจัดกลมุ่ วัตถ)ุ
3.2 นกั เรียนจะได้เรียนเรอ่ื งน้ดี ว้ ยวิธีใด (การสงั เกต)
3.3 เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทำอะไรได้ (บอกชนิดและสมบัติของวัสดุ และจัดกลุ่มวัตถุโดยใช้สมบัติของ
วสั ดุเป็นเกณฑไ์ ด)้
4. ครแู จ้งจุดประสงค์โดยใช้สอ่ื สไลด์ว่า ในวันนน้ี ักเรียนจะได้บอกชนดิ และสมบัตขิ องวัสดุ
5. ครใู หน้ ักเรยี นอ่านวสั ด-ุ อุปกรณ์ แลว้ ชว่ ยกันตรวจสอบวัสดุ-อปุ กรณ์ท่ีนำมา จากนัน้ ให้นักเรียนอา่ นวธิ ีทำข้อ 1-3
โดยใช้วิธีการอ่านที่เหมาะสม และจากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจในขั้นตอนการทำกิจกรรม โดยครูใช้คำถาม
ดงั ต่อไปน้ี
5.1 นักเรียนต้องทำอะไรกับวัตถุที่ครูแจกให้ (สังเกตวัตถุ ได้แก่ ถาดอาหาร ตะกร้า แก้วน้ำ ยางลบ
ผา้ เช็ดหน้า)
5.2 เม่ือสังเกตวัสดุที่ใช้ทำวัตถุต่าง ๆ แล้ว จะต้องทำอย่างไรในขั้นตอนต่อไป (บอกชนิดของวัสดุที่ใช้ทำ
วัตถุ และสมบัติของวัสดุ จากนั้นบันทึกผลการสังเกตลงในใบงาน 01 การจัดกลุ่มของวัตถุ
หน้า 33-34)
6. ครูอธิบายวิธีการบันทึกผลการทำกิจกรรมในใบงาน 01 การจัดกลุ่มของวัตถุ หน้า 33-34 แล้วฝึกนักเรียน
อา่ นคำทีเ่ กีย่ วกับชอื่ วสั ดุ และสมบตั ิของวสั ดุ อาจใชบ้ ตั รคำหรือส่ือสไลด์บตั รคำ
7. นักเรียนสังเกตวัตถุต่าง ๆ ที่ครูเตรียมไว้ แล้วร่วมกันอภิปรายชนิดของวัสดุและสมบตั ิของวัสดุที่ใช้ทำวัตถแุ ตล่ ะ
ชิ้น พร้อมบันทึกผลการทำกิจกรรมในใบงาน 01 การจัดกลุ่มของวัตถุ หน้า 33-34 โดยครูเดินดูนักเรียนทำ
กิจกรรม เพอื่ ช่วยเหลอื ให้คำแนะนำตามความเหมาะสม
8. ครูให้นกั เรียนเตรียมตัวในการนำเสนอผลการทำกิจกรรมในชั่วโมงตอ่ ไป
ข้ันสรปุ (เวลา 5 นาที)
9. ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนสรปุ แนวคิดหรอื สง่ิ ทไ่ี ด้เรยี นรใู้ นชว่ั โมงนี้ ครอู าจใชส้ อ่ื สไลด์ที่มีคำถามดังนี้
- ในชวี ติ ประจำวนั ของนกั เรยี นมีการจดั กลุม่ สิ่งของหรอื ไม่ และใชอ้ ะไรเปน็ เกณฑใ์ นการจดั กลุ่ม
10. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปจากการอ่านว่า วัตถุทำจากวัสดุชนิดต่าง ๆ เช่น แก้ว ไม้ โลหะ
ผ้า ยาง วัตถุเหล่าน้ีทำจากวัสดุที่มสี มบัติต่าง ๆ ที่สังเกตได้ เช่น ถาดอาหารทำจากโลหะมีสมบตั ิ คือ เรียบ แขง็
ยืดไม่ได้ ทึบ มันวาว ตะกร้าทำจากไม้มีสมบัติ คือ ขรุขระ แข็ง ยืดไม่ได้ ทึบ ไม่มันวาว แก้วน้ำทำจากแก้วมี
สมบัติ คือ เรียบ แข็ง ยืดไม่ได้ ใส ไม่มันวาว ยางลบทำจากยางมีสมบัติ คือ เรียบ นุ่ม ยืดได้ ทึบ ไม่มันวาว
และผ้าเช็ดหน้าทำจากผา้ มีสมบตั ิ คือ เรียบ นุ่ม ยืดได้ ทึบ ไม่มนั วาว
135
8. สอ่ื /แหล่งเรยี นรู้
8.1 สอ่ื สไลด์ การจัดกล่มุ วสั ดุ (1)
8.2 ใบกิจกรรมที่ 1 จดั กล่มุ ของวตั ถไุ ดอ้ ยา่ งไร หนา้ 32
8.3 ใบงาน 01 การจัดกลุม่ ของวัตถุ หน้า 33-34
8.4 ถาดอาหาร
8.5 ตะกร้าไม้
8.6 แกว้ น้ำ
8.7 ยางลบ
8.8 ผา้ เช็ดหน้า
8.9 ส่ิงของทคี่ รูนำมาให้สังเกตหน้าห้องเรียน เชน่ ดินสอ ยางลบ ไมบ้ รรทดั กระเปา๋ ดินสอ
9. ช้นิ งาน/ภาระงาน
- ใบงาน 01 เรอ่ื ง การจดั กลมุ่ ของวัตถุ หนา้ 33-34
10. การวดั และประเมนิ ผล
ประเดน็ การประเมนิ วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์
1) ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ สังเกตการตอบคำถามใน แบบประเมินความรู้ ผ่านเกณฑ์การประเมิน
ชัน้ เรียนและเนือ้ หาใน ระดบั คณุ ภาพดขี ้ึนไป
- ระบชุ นดิ และสมบัตขิ อง ใบงาน
วสั ดุที่ใช้ทำวตั ถุในชีวติ แบบประเมินทักษะ ผ่านเกณฑ์การประเมิน
ประจำวัน สังเกตทกั ษะกระบวนการ กระบวนการทาง ระดบั คณุ ภาพพอใชข้ น้ึ ไป
2) ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ในการ วทิ ยาศาสตร์
ทำกจิ กรรม
- สงั เกตชนดิ ของวัสดทุ ใ่ี ช้ แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์การประเมิน
ทำวตั ถุ สังเกตคุณลกั ษณะ
เจตคติ ค่านิยม เจตคติ คา่ นิยม ระดบั คณุ ภาพ “ผา่ น”
- ลงความเหน็ จากขอ้ มลู
เก่ียวกบั ชนิดของวสั ดทุ ีใ่ ช้ทำ
วตั ถุ
3) ดา้ นคณุ ลกั ษณะ เจตคติ
คา่ นยิ ม
- มุ่งม่ันในการทำงาน
- ยอมรับความเห็นตา่ ง
- ซ่อื สัตย์
136
ประเดน็ การประเมิน วธิ ีการ เครื่องมอื เกณฑ์
แบบประเมินสมรรถนะ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
4) สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น สังเกตพฤตกิ รรมในขณะ สำคญั ของผู้เรยี น ระดบั คณุ ภาพ “ผ่าน"
1. ความสามารถในการสอ่ื สาร ทำกจิ กรรม
- ระบชุ นดิ และสมบัติของ
วัสดทุ ี่ใชท้ ำวตั ถใุ น
ชวี ติ ประจำวนั
2. ความสามารถในการคดิ
- ลงความเหน็ จากข้อมูล
เกี่ยวกับชนดิ ของวัสดุทใี่ ชท้ ำ
วตั ถทุ ีไ่ ดจ้ ากการสงั เกต
3. ความสามารถในการใช้
ทกั ษะชวี ติ
- มคี วามรบั ผดิ ชอบใน
การทำงาน
- มีวนิ ยั ในการทำกจิ กรรม
137
แบบประเมินความรู้
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10 เรอ่ื ง การจัดกล่มุ วตั ถุ (1)
ชื่อผูป้ ระเมนิ ………………………………………………………………………………………………………………………...................…
ประเมนิ ผลครง้ั ที่……………....... วันท่ี ……………..…....…... เดอื น ………..……..........….…. พ.ศ. ……...….…………........
เร่อื ง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….............
รายการประเมนิ /ระดบั คะแนน
ชอื่ -สกุล/กลมุ่ การตอบ การสรปุ ความถกู ตอ้ ง รวมคะแนน
คำถามในชนั้ ความรู้ ครบถ้วนของเนอ้ื หา (10 คะแนน)
(4)
เรียน ในใบงาน
(4) (2)
138
เกณฑ์การประเมิน
ประเดน็ ระดับคณุ ภาพ น้ำหนกั คะแนน
รวม
การประเมนิ 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช)้ 1 (ปรบั ปรงุ )
ตอบคำถามไม่
1. การตอบ ตอบคำถามได้ ตอบคำถามได้ ตอบคำถาม ถูกตอ้ ง 1.0 4
คำถามในช้ันเรยี น ถูกตอ้ งทงั้ หมด ถูกตอ้ งเปน็ ส่วน ถกู ตอ้ งบางส่วน
ใหญ่
2. การสรปุ ความรู้ สรุปความรู้ สรุปความรูค้ วาม สรุปความรคู้ วาม สรุปความรเู้ ขา้ ใจ 1.0 4
เกย่ี วกับเร่ืองที่
ความเข้าใจ เขา้ ใจเกย่ี วกับ เขา้ ใจเก่ยี วกบั ศึกษาไมถ่ กู ตอ้ ง
และไม่ครบถว้ น
เกีย่ วกบั เรื่องท่ี เรือ่ งท่ศี กึ ษาได้ เรอื่ งที่ศกึ ษาได้
ศกึ ษาได้ ถูกตอ้ ง ถกู ตอ้ ง แต่ไม่ ถูกตอ้ งบางสว่ น
และครบถ้วน ครบถ้วน และไม่ครบถว้ น
3. ความถูกต้อง เน้ือหาท่ีเขยี นใน เนอ้ื หาทเี่ ขยี นใน เน้อื หาทีเ่ ขยี นใน เนือ้ หาท่เี ขียนใน 0.5 2
ใบงานไม่ถูกต้อง
ครบถ้วนของ ใบงานมคี วาม ใบงานมบี างส่วน ใบงานมคี วาม
เนอื้ หาในใบงาน ถูกตอ้ งครบถ้วน ไม่ถูกต้อง ตามที่ ถกู ตอ้ งเปน็ สว่ น
ตามที่กำหนด กำหนด น้อย
เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ
คะแนน 9 - 10 หมายถึง ดีมาก
คะแนน 7 - 8 หมายถึง ดี
คะแนน 5 - 6 หมายถึง พอใช้
คะแนน 0 - 4 หมายถึง ปรบั ปรงุ
เกณฑก์ ารตดั สนิ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับคณุ ภาพดขี ึ้นไป
139
แบบประเมนิ ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 10 เรอื่ ง การจดั กลุ่มวตั ถุ (1)
ช่ือผู้ประเมนิ …………………………………………………………………........................………………………………………….
ประเมนิ ผลครงั้ ท่…ี …………….... วนั ที่ …………….........……... เดือน ………..……...….…. พ.ศ. ……...….………….......
เรื่อง………………………………………………………………......……………………………………………………………………………
รายการประเมิน/ระดบั คะแนน ผลรวมคะแนน
(6 คะแนน)
ชื่อ-สกุล/กลุ่ม การสังเกต (3) การลงความเห็น ผลการประเมนิ
จากข้อมลู (3)
140
เกณฑก์ ารประเมนิ
ทกั ษะกระบวนการ ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
ทางวทิ ยาศาสตร์
การสังเกต ใชต้ าและมอื ในการ ใช้ตาและมือในการ สามารถใชต้ าและมือใน
รวบรวมข้อมลู เก่ยี วกับการ รวบรวมข้อมูลเกีย่ วกับการ การรวบรวมขอ้ มลู เกีย่ วกบั
จัดกลุ่มวสั ดุ ดว้ ยตนเอง จัดกลมุ่ วสั ดุ จากการช้แี นะ การจดั กล่มุ วัสดุ ได้
โดยไมเ่ พมิ่ เตมิ ความคิดเหน็ ของครหู รือผอู้ ่ืน บางส่วน ถึงแมจ้ ะได้รบั
คำแนะนำจากครูหรอื ผอู้ ่ืน
การลงความเห็นจาก เพ่มิ เติมความเห็นเกยี่ วกับ เพมิ่ เติมความเหน็ เก่ียวกับ สามารถเพ่มิ เติมความเหน็
ขอ้ มูล การจัดกล่มุ วสั ดุ ได้อย่างมี การจัดกล่มุ วัสดุ ได้อยา่ งมี เกี่ยวกับการจดั กลุ่มวัสดุ
เหตผุ ล จากความรู้หรือ เหตุผล โดยอาศัยคำแนะนำ ไดอ้ ย่างมเี หตุผลบางสว่ น
ประสบการณเ์ ดิมได้ด้วย ของครูหรือผ้อู น่ื ถงึ แมจ้ ะไดร้ บั คำแนะนำ
ตวั เอง จากครหู รือผูอ้ นื่
เกณฑก์ ารตัดสิน
คะแนน 5 - 6 หมายถงึ ดี
คะแนน 3 - 4 หมายถึง พอใช้
คะแนน 1 - 2 หมายถงึ ปรบั ปรุง
เกณฑ์การตดั สิน ผ่านเกณฑก์ ารประเมินระดับคุณภาพพอใชข้ ึน้ ไป
141
แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ เจตคติ คา่ นยิ ม
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 10 เรอื่ ง การจัดกลมุ่ วัตถุ (1)
ชอ่ื ผปู้ ระเมนิ /กลมุ่ ประเมนิ …………………………………………………………………………………….........................................
ชอ่ื กลุม่ รับการประเมิน………………………………………………………………………………………….........................................
ประเมนิ ผลครง้ั ท่ี…………………..…....... วัน ……………..…. เดอื น …...........……..........………. พ.ศ. ……...….……...........
เร่ือง……………………………………………………………………………………………………………………..........................................
ที่ ลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี ระดบั พฤตกิ รรม
ผ่าน ไม่ผา่ น
1. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
2. ยอมรบั ความเห็นตา่ ง
3. ซ่ือสตั ย์
เกณฑ์การตดั สิน ผ่านเกณฑก์ ารประเมินระดับคุณภาพ “ผา่ น”
142
แบบประเมนิ สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 10 เร่อื ง การจัดกลุม่ วตั ถุ (1)
ผปู้ ระเมนิ /กลมุ่ ประเมนิ ..................................................................................................................................................................
ชอ่ื กลุ่มรบั การประเมิน.................................................................................................................................................................
ประเมนิ ผลครงั้ ท่ี...................วนั ที่......................เดอื น....................................................พ.ศ.......................................
เรอ่ื ง.....................................................................................................................................................................................................
ที่ สมรรถนะ/พฤตกิ รรมบ่งชี้ เกณฑ์การตัดสิน
ผ่าน ไมผ่ า่ น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
- ระบุชนิดและสมบัติของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุใน
ชีวิตประจำวัน
2. ความสามารถในการคิด
- ลงความเหน็ จากข้อมูลเกยี่ วกับชนิดของวัสดทุ ี่ใชท้ ำ
วตั ถุทีไ่ ดจ้ ากการสงั เกต
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
- มีความรับผดิ ชอบในการทำงาน
- มวี นิ ยั ในการทำกิจกรรม
เกณฑ์การตดั สนิ ผ่านเกณฑก์ ารประเมินระดบั คณุ ภาพ “ผ่าน”
143
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 11 เรือ่ ง การจัดกลุ่มวตั ถุ (2)
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง วัสดรุ อบตวั หน่วยย่อยที่ 4 เรื่อง การจัดกลุม่ วตั ถุ
รหสั วิชา ว11101 รายวชิ าวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 1 ชั่วโมง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ว 2.1
เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของสสารกับ โครงสร้าง
และแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย
และการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
ตัวช้วี ดั ป.1/1 อธิบายสมบัติที่สังเกตได้ของวัสดุที่ใช้ทำวัตถุซึ่งทำจากวัสดุชนิดเดียวหรือหลายช นิด
ประกอบกันโดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์
ป.1/2 ระบชุ นดิ ของวสั ดแุ ละจัดกลุ่มวัสดตุ ามสมบัตทิ ี่สังเกตได้
2. สาระสำคญั
วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติบางประการเหมือนหรือแตกต่างกัน ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการจัดกลุ่ม
วตั ถุตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจำวัน
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้ ความเข้าใจ (K)
- ระบุชนดิ และสมบตั ขิ องวสั ดุท่ีใช้ทำวัตถใุ นชีวิตประจำวัน
3.2 ด้านทักษะกระบวนการ (P)
- จัดกลมุ่ วัตถโุ ดยใชส้ มบัตขิ องวสั ดเุ ปน็ เกณฑ์
- ลงความเหน็ จากข้อมูลโดยใชส้ มบัตขิ องวัสดุเปน็ เกณฑใ์ นการจัดกลมุ่
3.3 ดา้ นคุณลกั ษณะ เจตคติ คา่ นิยม (A)
- ม่งุ มั่นในการทำงาน
- ยอมรบั ความเห็นตา่ ง
- ซ่ือสตั ย์
144
4. สาระการเรยี นรู้
เราสามารถใช้ชนิดของวัสดุและสมบัตขิ องวัสดทุ ใี่ ช้ทำวัตถุมาเป็นเกณฑ์ในการจดั กลุ่มวัตถุ และเมือ่ เปลี่ยน
เกณฑ์ในการจัดกลุ่ม วัตถุในกลุ่มกเ็ ปลีย่ นไปด้วย
5. สมรรถนะของผู้เรียน
5.1 ความสามารถในการส่อื สาร
- ระบชุ นิดและสมบตั ขิ องวสั ดุที่ใช้ทำวตั ถุในชีวิตประจำวัน
5.2 ความสามารถในการคิด
- จัดกลมุ่ วัตถโุ ดยใชส้ มบตั ขิ องวสั ดเุ ปน็ เกณฑ์
5.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
- มคี วามรบั ผดิ ชอบในการทำงาน
- มีวินยั ในการทำกิจกรรม
6. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
6.1 ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
6.2 ยอมรับความเห็นตา่ ง
6.3 ซือ่ สัตย์
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรยี น (เวลา 10 นาที)
1. ครูใหน้ กั เรยี นเล่นเกมจดั กลมุ่ วัตถุเพ่อื ทบทวนความรู้ โดยครูใชก้ าร์ดคำศพั ท์เกย่ี วกับสมบัตขิ องวสั ดตุ า่ ง ๆ เช่น
ใส ขุ่น ทึบ เพื่อกำหนดเกณฑ์ในการจัดกลุ่ม และเตรียมวัตถุไว้ 5-6 ชิ้น เพื่อให้นักเรยี นช่วยกันจัดกลุ่มวัตถุตาม
การด์ ทีค่ รแู สดงใหไ้ ด้เรว็ ท่สี ุด
ขนั้ สอน (เวลา 45 นาที)
2. ครใู ชส้ ื่อสไลดแ์ จ้งจดุ ประสงคใ์ นชั่วโมงนี้ว่า นกั เรียนจะไดจ้ ัดกลุม่ วัตถโุ ดยใชส้ มบัติของวัสดเุ ปน็ เกณฑ์
3. ครูให้นักเรียนอ่านวิธีทำกิจกรรมที่ 1 จัดกลุ่มของวัตถุได้อย่างไร หน้าที่ 32 ข้อที่ 4-5 ต่อจากชั่วโมงที่แล้ว
โดยให้นักเรียนใช้วิธีการอ่านที่เหมาะสม และจากนั้นครูตรวจสอบความเข้าใจในขั้นตอนการทำกิจกรรม
ของนักเรยี นจนแน่ใจว่านักเรียนทำได้ จากน้นั ครใู ชค้ ำถามดังน้ี
3.1 นกั เรยี นจะไดท้ ำกจิ กรรมอยา่ งไร (จดั กลุม่ วัตถุโดยใช้สมบตั ขิ องวสั ดเุ ป็นเกณฑ)์