The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by watcharapol.wib, 2022-07-08 01:16:51

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์

174

ฐานมีผลคะแนนหลงั เรียนท้ัง 3 ทกั ษะ สูงขึ้นเมือ่ เปรียบเทียบกบั ผลคะแนนกอ่ นเรียนอย่างมีนยั สำคัญ
ทางสถิติท่รี ะดบั .05 โดยคะแนนเฉล่ียหลังเรียนด้านภาษาไทยเท่ากบั 40.09 คะแนน (คิดเป็นร้อยละ
66.82) ด้านภาษาอังกฤษเท่ากับ 37.39 คะแนน (คิดเป็นร้อยละ 62.32) และด้านเทคโนโลยีดิจิทัล
เท่ากับ 37.42 คะแนน (คดิ เป็นร้อยละ 62.37) จากคะแนนเตม็ 60 คะแนน

นักศึกษาครูกลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่นข้างต้นผ่านเกณฑ์ในระดับพอใช้และเป็นไปตาม
หลักเกณฑ์และวิธีการสอบแข่งขันเพ่ือบรรจุและแต่งต้ังบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและ
บุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย ที่กำหนดให้ผู้เรียนสอบแต่ละภาคจำเป็นต้องได้รับคะแนน
มากกว่าร้อยละ 60 (สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา, 2563) แม้
คะแนนเฉล่ียหลังเรียนของผู้เรียนอาจไม่สูงมากเม่ือเทียบกับเกณฑ์ แต่เมื่อเทียบกับคะแนนเฉลี่ยก่อน
เรียนแล้วถือว่าสูงขึ้นพอสมควร ผลคะแนนเฉลี่ยที่เพ่ิมข้ึนของผู้เรียนส่วนหนึ่งอาจมาจากการนำ
แนวคิดของการเรียนรู้แบบใช้ภาระงานเป็นฐานมาใช้ในการพัฒนาความสามารถทางภาษา สอดคล้อง
กับท่ี ณัฐกิตต์ิ นาทา (2561) กล่าวว่า แนวคิดดังกล่าวเป็นแนวคิดท่ีให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรม
ด้วยตัวเอง กระตุ้นทักษะทางการใช้ภาษาไทย ไม่ว่าจะเป็นการให้ผู้เรียนได้อ่าน เขียน ฟัง ดู และพูด
เก่ียวกับภาระงานที่ตนเองได้รับ เป็นการฝึกทักษะต่างๆ ไปพร้อมกัน ผู้เรียนมีโอกาสได้แลกเปล่ียน
เรียนรู้ แสดงความคิดเห็น ตลอดจนได้เป็นผู้เรียนรู้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ ยังมีข้อค้นพบของการนำ
แนวคิดน้ีมาใช้พัฒนาทักษะทางภาษาไทยให้กับผู้เรยี นจนประสบความสำเร็จอีกจำนวนมาก อาทิ ข้อ
คน้ พบของกาญจนา ตนโพธิ์ และนันทพร ศรจิตติ (2564); ทิพย์ สุดาทวีสิทธิ์ และฤดีรัตน์ ชุษณะโชติ
(2562); วชั รญี า วงษส์ ุวรรณ และสุกญั ญา เรอื งจรญู (2563)

นอกจากการพัฒนาทักษะทางภาษาไทยแล้ว แนวคิดดังกล่าวยังมีส่วนช่วยในการพัฒนา
ทักษะทางภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะอย่างย่ิงกับผู้เรียนชาวไทย ดังจะพบว่างานวิจัยของนักการศึกษา
ชาวไทยจำนวนมากนำการเรียนรู้แบบใช้ภาระงานเป็นฐานมาปรับใช้ในช้ันเรียนภาษาอังกฤษ และ
พบว่า ทักษะทางภาษาอังกฤษของผู้เรียนสูงข้ึนเช่นเดียวกับข้อค้นพบในงานวิจัยน้ี อัจฉริน
จิตต์ปรารพ และอนวัช จิตต์ปรารพ (2564) กล่าวว่า เม่ือนำแผนการเรียนท่ีใช้กิจกรรมการเรียนรู้
แบบใชภ้ าระงานเป็นฐานไปใช้ในรายวิชาภาษาอังกฤษเพ่ือการสื่อสารทางธุรกิจสำหรบั นักศกึ ษาระดับ
ปรญิ ญาตรี น้นั ช่วยส่งเสรมิ ทักษะการฟัง พูด อา่ น และเขียนภาษาองั กฤษของผ้เู รยี นให้มีคะแนนผา่ น
เกณฑ์ ตามที่กำหนดไว้ได้ เช่นเดียวกับผู้เรียนในงานของวิจัยของภัทรกมล รักสวน (2562) ที่ได้รับ
การจัดการเรียนรู้แบบใช้ภาระงานเป็นฐานกับการเสริมต่อการเรียนรู้ มีทักษะภาษาอังกฤษสูงขึ้น
เพราะผ้สู อนจัดเตรยี มตัวป้อนทางภาษาและส่ือการสอนใหผ้ ู้เรียนได้เรยี นรู้และเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนได้
ฝึกฝนการใช้ภาษาจากการปฏิบัติภาระงานด้วยตนเอง อาจกล่าวได้ว่า การนำแนวคิดของการเรียนรู้
แบบใช้ภาระงานเป็นฐานสามารถสร้างเสริมความสามารถด้านภาษาอังกฤษของผู้เรียน ชาวไทยได้
(กตญ มหาชนะวงศ์ สุวรรณแพทย์, 2560; ทยิดา พลยิ่ง, 2564; นิญา ภูวิโคตรธนกุล และอนุสรณ
จนั ทรประทักษ, 2564; ปริยานชุ คิมหะจันทร์, 2558; วลีรตั น์ เลา้ อรุณ และคนอนื่ ๆ, 2560)

175

แม้ว่าการนำแนวคิดของการเรียนรู้แบบใช้ภาระงานเป็นฐานอาจไม่ส่งผลโดยตรงต่อ
ความสามารถของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือการศึกษา แต่การประยุกต์ใช้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้
เสมือนจริงสามารถส่งผลต่อการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลได้ ในงานวิจัยของ
ลักคาและหว่อง (Lacka & Wong, 2019) ระบุว่า ผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้
สงู ข้ึนเม่ืองผู้เรียนได้ใช้งานสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เสมือนจริง ซ่ึงสอดคล้องกับผลการวิจัยก่อนหน้า
น้ีท่ียืนยันว่า สภาพแวดล้อมการเรียนรู้เสมือนจริงช่วยสนับสนุนการเรยี นรู้ของผู้เรียน (Cho & Shen
2013; Lee 2018; Lee & Tsai 2011) โดยเฉพาะอย่างย่ิง การเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้
เสมือนจริง ซ่ึงถือเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในระดับอุดมศึกษาประเภทหน่ึง (Manca & Ranieri 2016;
Ravenscroft 2009; Sobaih et al. 2016) จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาทักษะเทคโนโลยีดิจิทัล
ซ่ึงถือเปน็ ส่วนหนงึ่ ของทกั ษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 ได้ (Khlaisang & Songkram, 2019)

คำถามการวิจัยข้อ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้แท็บเล็ตกับกลุ่มตัวอย่างท่ีไม่ใช้แท็บเล็ตใน
สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานมีทักษะทางภาษาและการใช้
เทคโนโลยีดิจทิ ลั เหมือนหรอื แตกต่างกันหรือไม่

เม่ือเปรยี บเทียบผลคะแนนเฉล่ยี หลังเรียนของนกั ศึกษากลุ่มตัวอย่างท้ัง 2 กลุ่มท่ีใช้และไมใ่ ช้
แท็บเล็ตในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานด้วยสถิติการทดสอบ
ค่าทีแบบอิสระ พบว่า นักศึกษามีคะแนนเฉล่ียด้านภาษาไทย ด้านภาษาอังกฤษ และด้านเทคโนโลยี
ดิจิทัลหลังเรียนไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ .05 แสดงว่า การใช้หรือไม่ใช้แท็บเล็ตใน
สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานส่งผลต่อการพัฒนาทักษะทาง
ภาษาและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ข้อค้นพบในงานวิจัยคร้ังน้ีควรนำไปศึกษาและขยายผลเพิ่มเติม
เนื่องจากยังขาดข้อสนับสนุนจากงานวจิ ัยอ่นื ๆ กล่าวคือ งานวิจยั ในประเทศที่ผา่ นมาโดยมากมักเป็น
การศกึ ษาผลการเรียนรู้โดยใช้แทบ็ เลต็ เพียงอย่างเดียว (จิรชพรรณ ชาญช่าง, 2562; นพดล ผมู้ ีจรรยา
และณมน จีรังสุวรรณ, 2556; มนันยา โพธิราชา, 2559; สรวีย์ ศิริพิลา และวรรณี แกมเกตุ, 2557;
สุนัชชา ศุภธรรมวิทย์ และจินตวีร์ คล้ายสังข์, 2557; อภิเชษฐ์ ขาวเผือก, 2559) ยังไม่มีการศึกษา
เปรียบเทียบระหว่างผลการเรียนรู้ของผู้เรียนที่ใช้แท็บเล็ตหรือไม่ใช่แท็บเล็ตในบริบทของการเรียนรู้
ภาษาและเทคโนโลยีดิจิทัล ดังนั้น งานวิจัยในอนาคตจึงควรศึกษาเพ่ิมเติมในประเด็นดังกล่าว หรือ
อาจกล่าวได้ว่า ผลของการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาและเทคโนโลยีดิจิทัลที่สูงข้ึนมาจากการนำ
แนวคิดการเรยี นรู้แบบใช้ภาระเป็นฐานมาใช้ร่วมกับสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบอิสระมากกว่าเป็น
ผลการใช้หรือไม่ใช้แท็บเล็ต เพราะเมื่อผู้เรียนทั้ง 2 กลุ่ม (กลุ่มท่ีใช้แท็บเล็ตกับกลุ่มท่ีไม่ใช้แท็บเล็ต)
ตา่ งก็มผี ลคะแนนเพ่มิ ข้ึน ดงั การอภปิ รายผลในคำถามการวิจยั ข้อ 4 ข้างตน้

คำถามการวิจัยข้อ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้แท็บเล็ตกับกลุ่มตัวอย่างท่ีไม่ใช้แท็บเล็ตแสดง
ความคิดเห็นต่อสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานเหมือนหรือ
แตกต่างกันหรือไม่

176

นักศึกษาครูกลุ่มอย่างท้ัง 2 กลุ่มที่ใช้และไม่ใช้แท็บเล็ตในการเรียนรู้สภาพแวดล้อม
การเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงมีความคิดเห็นใกล้เคียงกัน มีค่าระหว่าง 3.82-4.26 และเม่ือทดสอบด้วย
สถิติการทดสอบค่าทีแบบอิสระแล้วพบว่า ความคิดเห็นทุกข้อของนักศึกษาท้ัง 2 กลุ่มไม่มี
ความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่า การใช้หรือไม่ใช้แท็บเล็ตไม่ส่งผลต่อ
การเรียนรู้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริง อย่างไรก็ดี ผลการวจิ ัยหลายเล่มระบุว่า ผู้เรียน
ที่ใช้แท็บเล็ตในการเรียนรู้จะมีความพึงพอใจในการใช้งานอยู่ในระดับดีถึงดีมาก (นพดล ผู้มีจรรยา
และณมน จีรังสุวรรณ, 2556; สรวีย์ ศิริพิลา และวรรณี แกมเกตุ, 2557; อภิเชษฐ์ ขาวเผือก, 2559;
อัญชลี อินถา และภาสกร เรืองรอง, 2559) แต่ไม่พบการศึกษาเปรียบเทียบความคิดเห็นระหว่าง
ผู้เรียนกลุ่มที่ใช้แท็บเล็ตกับกลุ่มที่ไม่ใช้แท็บเล็ตในการเรียนรู้ หรืออาจเป็นไปได้ว่า เม่ือให้ผู้เรียน
เลือกใช้อุปกรณ์ในการเรียนรู้ด้วยตนเองอย่างอิสระ ผู้เรียนจึงสามารถแสดงความคิดเห็นออกมาใน
ลกั ษณะใกลเ้ คยี งกัน ดงั น้นั งานวิจัยในอนาคตควรศึกษาเพ่มิ เติมในประเด็นดังกลา่ วนดี้ ว้ ย

5.3 ข้อเสนอแนะ
จากการสรุปและอภิปรายผลการวิจัยข้างต้น ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการวิจัย

ไปใชแ้ ละข้อเสนอแนะสำหรบั การทำวิจัยครง้ั ตอ่ ไป ดังน้ี
5.3.1 ขอ้ เสนอแนะในการนำผลการวิจยั ไปใช้
ผวู้ จิ ยั มขี ้อเสนอแนะในการนำเสนอผลการวิจยั ไปใช้ดังต่อไปน้ี
5.3.1.1 สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานที่ผู้วิจัย

ออกแบบและพัฒนาข้ึนแม้จะบริหารจัดการผ่านระบบบริหารจัดการเรียนรู้ TalentLMS แต่ผู้สอน
หรือหน่วยงานใดที่สนใจสามารถนำแนวคิดของการออกแบบและพัฒนาของผู้วิจัยไปใช้กับระบบ
บริหารจัดการเรียนรู้อื่น ๆ ได้ เช่น Moodle หรือ Open edX แต่ต้องเน้นย้ำให้ผู้เรียนปฏิบัติตาม
ขั้นตอนของการเรียนรู้แบบใช้ภาระงานเป็นฐาน 3 ขั้น หากเป็นไปได้ ควรต้ังค่าของระบบบริหาร
จดั การเรียนรู้ให้ผ้เู รียนต้องเรียนตามลำดับเน้ือหาก่อน-หลงั โดยไม่สามารถข้ามเน้ือหาหรือการปฏบิ ัติ
ภาระงานหรือกิจกรรมใด ๆ ได้

5.3.1.2 ผู้สอนควรจัดทำคู่มือการใช้งานและกำหนดระยะเวลาที่ควรใช้ในการศึกษา
เนอ้ื หาแตล่ ะหน่วยในสภาพแวดล้อมการเรียนรภู้ าษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานอย่างชัดเจน
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถวางแผนการศึกษาเน้ือหาและปฏิบัติภาระงานล่วงหน้าด้วยตนเอง และควร
ตรวจสอบระบบติดตามผู้เรียนอยู่เสมอเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนท่ียังไม่ได้ปฏิบัติกิจกรรมให้ปฏิบัติอย่าง
ครบถ้วนเพือ่ ใหเ้ กิดประสทิ ธผิ ลสูงสดุ ในการพัฒนาทักษะทางภาษาและการใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัล

5.3.1.3 ผู้สอนควรพฒั นาแบบทดสอบวดั ความรทู้ างภาษาไทย ภาษาองั กฤษ และการใช้
เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา ให้สอดคล้องกับผังการสร้างข้อสอบของสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา
หรืออาจใช้แบบทดสอบคู่ขนานท่ีสร้างขึ้นโดยผู้ทรงคุณวุฒิที่เสนอโดยสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/
ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทยและท่ีได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สำหรับ

177

การประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรยี นภายหลังการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษา
เสมอื นจรงิ แบบใชภ้ าระงานเปน็ ฐาน

5.3.2 ขอ้ เสนอแนะในการทำวิจยั คร้งั ตอ่ ไป
ผวู้ จิ ยั มีข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครงั้ ตอ่ ไปดังต่อไปน้ี

5.3.2.1 ผู้วิจัยควรออกแบบการวิจัยเชิงทดลอง โดยกำหนดให้มีกลุ่มตัวอย่าง 3 กลุ่ม
ได้แก่ กลุ่มที่ศึกษาด้วยคอมพิวเตอร์ กลุ่มท่ีศึกษาด้วยแท็บเล็ต และกลุ่มที่ศึกษาด้วยสมาร์ตโฟน
เพ่ือเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างกลุ่มผู้เรียน จะทำให้สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่า
การเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานด้วยอุปกรณ์ต่างกัน
สง่ ผลตอ่ การพฒั นาทกั ษะทางภาษาและการใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ทิ ลั หรอื ไม่ อยา่ งไร

5.3.2.2 ผู้วิจัยควรศึกษาผลการทดลองใช้กับผู้เรียนสาขาวิชาอื่น ๆ เช่น ศิลปศึกษา
สุขศึกษาและพลศึกษา การศึกษานอกระบบโรงเรียน จิตวิทยาการปรึกษา การแนะแนว
และการศึกษาพิเศษ หรือสาขาอ่ืนใดท่ีไม่เก่ียวข้องกับภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ศึกษา
หรือเทคโนโลยีการศึกษา เพื่อตรวจสอบว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนแต่ละด้านว่าพัฒนาเพิ่มข้ึนมาก
นอ้ ยกวา่ เดิมหรือไม่ อยา่ งไร

5.3.2.3 ผู้วิจัยควรนำแนวคิดทางการศึกษา (pedagogy) อ่ืน ๆ ท่ีสอดคล้องกับสภาพ
ปัจจุบันหรือความต้องการจำเป็นของหน่วยงานทางการศึกษา เช่น การศึกษาเน้นผลลัพธ์
(outcome-based education) หรือการศึกษาเน้นสมรรถนะ (competency-based education)
มาประยุกตใ์ ช้ร่วมกับการพฒั นาสภาพแวดล้อมการเรียนรเู้ สมือนจริง

บรรณานกุ รม

ภาษาไทย
กตญ มหาชนะวงศ์ สุวรรณแพทย์. (2560). การประเมนิ ประสิทธิผลแผนจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการสอน

แบบตรงและการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานแบบเข้มข้นส าหรับการทำขอ้ สอบวัดระดบั
ความรู้ทางภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการทำงาน (TOEIC) ของนักศึกษาคณะสัตวศาสตร์และ
เทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี. Veridian E-
Journal, Silpakorn University (Humanities, Social Sciences and Arts, 10(5), 35–
45.
กรรณกิ าร์ กาญจันดา และมนสชิ สิทธิสมบรู ณ์. (2562). การพัฒนารูปแบบการสอนแบบเนน้ ภาระงาน
ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเชิง วิเคราะห์และ
ทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร. วารสารบัณฑิตศึกษามหาจุฬาขอนแก่น, 6(3),
245–254.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2559). ประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง นโยบายการยกระดับ
มาตรฐานภาษาอังกฤษในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. 2559. เข้าถึงได้จาก http://www.
mua.go.th/users/he-commission/doc/law/ohec%20law/2559%20Eng%0agen%
202559-1.pdf
กฤษณ์ ศรทัตต์. (2561). การจัดการเรียนรู้แบบเน้นงานปฏิบัติเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการเขียน
ภาษาอังกฤษของนักศึกษาปรญิ ญาตรี ชนั้ ปีท่ี 1 มหาวทิ ยาลยั กาฬสินธ.ุ์ วารสารมหาวิทยาลัย
มหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอด็ , 7(2), 237–245.
กัญญาภัทร แสงแป้น และพรนภัส ทับทิมอ่อน. (2558). การพัฒนาทักษะการฟังและการพูด โดยใช้
ชุดการสอนตามแนวการสอนแบบสื่อสาร ในรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับครู คณะ
ศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั จันทรเกษม. วารสารจันทรเกษม, 21(41), 105–115.
กัลยาณี จิตร์วิริยะ. (2558). การพัฒนารูปแบบการออกแบบสำหรับการสอนแนะแบบผสมผสานและ
การเรียนรู้จากการปฏิบัติสำหรับศึกษานิเทศก์เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสน เทศและ
การสื่อสารของครมู ธั ยมศึกษา [วิทยานิพนธ์ดุษฎบี ัณฑติ ]. จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
กาญจนา ตนโพธิ์ และนันทพร ศรจิตติ. (2564). การพัฒนาทักษะภาษาไทยเพื่อการสื่อสารดวยการ
จัดการเรียนรูโดยใชภาระงานเปนฐาน. วารสารศึกษาศาสตร มหาวิทยาลัยขอนแกน, 44(2),
164–174.
จินดา ลาโพธ์ิ, สำราญ กำจัดภัย, และประยูร บุญใช้. (2562). การพัฒนารูปแบบการสอนรายวิชา
การสอนเขียนเชิงสร้างสรรค์สำหรับครูภาษาไทยตามแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
ผสมผสานกลวิธีซินเนคติคส์สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาภาษาไทย. วารสาร
มนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏอุดรธานี, 8(1), 101–119.

179

จินตวีร์ คล้ายสังข์ และพรพิมล ศุขะวาที. (2562). โครงการนวัตกรรมโมบายแอปพลิเคชันสำหรับ
การเรียนร้ใู นบรบิ ทเสมอื นเพื่อส่งเสริมทักษะการส่ือสารภาษาอังกฤษสำหรับผเู้ รยี นอุดมศึกษา
ในศตวรรษที่ 21. สกสว.

จิรชพรรณ ชาญชา่ ง. (2562). ผลของการใช้ชุดการเรียนรู้ผ่านแท็บเลต็ ร่วมกับแนวคดิ เกมมิฟิเคชันเพ่ือ
ส่งเสริม ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มี
ความสามารถทางการเรียนแตกต่างกัน. วารสารครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 47(2),
18–30.

ฉัตรศิริ ปิยะพิมิลสิทธิ์. (2548). การวิเคราะห์ข้อสอบด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์. วารสาร มฉก.
วิชาการ, 8(16), 66–80.

ชวนพิศ ชุมคง และศิริรัตน์ สินประจักษ์ผล. (2558). การสะท้อนสมรรถนะความรู้พื้นฐานของครูด้าน
ภาษาและเทคโนโลยีผ่านการสร้างความตระหนักด้วยตนเอง. วารสารศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยทักษณิ , 15(1), 145–151.

ณัฏฐภรณ์ หลาวทอง. (2547). การพัฒนาคลังข้อสอบวิชา 2702303 การวัดและการประเมินผลทาง
การศึกษาดว้ ยโปรแกรมคอมพวิ เตอร.์ วารสารวธิ วี ทิ ยาการวจิ ยั , 17(2), 190–213.

ณัฐกติ ต์ิ นาทา. (2559). การพัฒนาหลักสตู รการจัดการเรียนร้ขู องนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู
เพ่อื เสรมิ สรา้ งทักษะการอ่านเชิงวิเคราะห์และคดิ วิเคราะห์ของนักเรียน โดยใช้การเรียนรู้โดย
เน้นภาระงานและการโคช้ [วทิ ยานิพนธ์ดุษฎบี ณั ฑติ ]. มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร

ณฐั กิตต์ิ นาทา. (2561). การจัดการเรยี นรโู้ ดยใช้ภาระงานเป็นฐาน : แนวคดิ เพ่ือการพฒั นาทักษะทาง
ภาษาไทย. วารสารมหาวิทยาลัยศิลปากร, 38(5), 182-202. https://doi.org/10.14456/
sujthai.2018.50

ณัฐพร พานโพธ์ิทอง และศริ พิ ร ภกั ดผี าสขุ . (2561). การสนทนาแบบเน้นภารกิจในภาษาไทยกับปัจจัย
ทางสังคมวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้อง : กรณีศึกษาข้อมูลชุด Mister O ภาษาไทย. ภาษาและ
ภาษาศาสตร์, 36, 1–30.

ดวงกมล คลังทอง และราเชน มีศรี. (2558). ผลของการสอนแบบเน้นงานปฏิบัติและการสังเกต
ความแตกต่างทางภาษาท่ีมีต่อความสามารถในการพูดภาษาอังกฤษของนักศึกษาปริญญาตรี.
วารสารอเิ ลก็ ทรอนิกสท์ างการศึกษา, 10(1), 536–550.

ดวงใจ ดวงมณี. (2560). การพัฒนาทักษะการสอนภาษาไทยโดยใช้การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน
สำหรบั นกั ศึกษาครูสาขาวิชาการประถมศึกษา. วารสารจนั ทรเกษมสาร, 23(45), 97–111.

เด่นดาว ชลวิทย์. (2560). การประเมินความต้องการจำเป็นเพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียน
ความเรียงภาษาไทยของนักศึกษาระดับปริญญาบัณฑิต. วารสารวิชาการ Veridian E-
Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และ
ศิลปะ, 10(2), 97–109.

180

ทยิดา พลยิ่ง. (2564). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการจัดการเรียนการสอนรายวิชาภาษาอังกฤษสำหรับ
มัคคุเทศก์ โดยการยึดสื่อดิจิตอลวิดีทัศน์เป็นภาระงาน (DVM-TBL) ในสถานการณ์ COVID-
19 ระบาด. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลยั ราชภฏั บรุ ีรมั ย์, 16(20), 87–98.

ทิพย์ สุดาทวีสิทธิ์ และฤดีรัตน์ ชุษณะโชติ (2562). การพัฒนาชุดกิจกรรมการสื่อสารภาษาไทยเป็น
ภาษาต่างประเทศตามแนวทางการจัดการเรียนรู้แบบเน้นภาระงานและทฤษฎีภาษาศาสตร์
สังคมสาํ หรับนักเรียนประถมศึกษา. วารสารครศุ าสตร์อตุ สาหกรรม, 18(1), 42–49.

ธีรภัทร สุขสบาย. (2561). การพัฒนาชุดการสอนรายวิชาการสอนการเขียนภาษาไทยสำหรับนิสิต
ปริญญาตรี ชั้นปีที่ 4 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา. วารสารบัณฑิตวิทยาลัย
พชิ ญทรรศน์, 13(2), 115–125.

นพดล ผู้มีจรรยา และณมน จีรังสุวรรณ. (2556). การพัฒนาระบบและกิจกรรมการเรียนรู้แบบนำ
ตนเอง ในสภาพแวดลอ้ มการเรียนรู้แบบ u-learning ดว้ ยการเขา้ ถงึ แหลง่ เรยี นรอู้ อนไลน์โดย
ใช้แท็บเลต็ และ QR code. วารสารวิจัยและพัฒนา มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเลย, 8(26), 1–12.

นิญา ภูวิโคตรธนกุล และอนุสรณ จันทรประทกั ษ. (2564). การพัฒนากจิ กรรมการเรยี นรูภาษาอังกฤษ
โดยใชฐานการเรียนรูทางภาษาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปที่ 1. วารสารสังคมศาสตรเพื่อ
การพัฒนาทองถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 5(1), 169–176.

ประวิทย์ ธงชัย. (2560). บทบาทครูสอนภาษาในยุคไทยแลนด์ 4.0. วารสาร มจร มนุษยศาสตร์
ปริทรรศน์, 3(1), 99–106.

ปรยิ านุช คิมหะจนั ทร์. (2558). ผลของการใช้โปรแกรมการเรยี นรู้แบบเน้นภาระงานเพื่อพัฒนาทักษะ
การอ่านภาษาอังกฤษของนักศึกษามหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม. วารสาร
มหาวทิ ยาลัยครสิ เตยี น, 21(3), 500–508.

ปิยานี จิตร์เจริญ. (2557). การพัฒนากระบวนการฝึกอบรมครูด้วยเครือข่ายครูและแนวคิดการ
ออกแบบเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะครูด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา
[วิทยานพิ นธด์ ษุ ฎบี ัณฑติ ]. จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั .

พัชรินทร์ ดวงศรี และฐรัณภรณ์ ธนานธิ กิ ุลโรจน์. (2562). การพฒั นาทักษะการสะท้อนคิดในการสอน
ภาษาองั กฤษดว้ ยกระบวนการช้ีแนะทางปัญญา : กรณศี ึกษานกั ศกึ ษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพ
ครูสาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย. วารสารศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตปัตตานี, 30(2), 97–111.

ภัทรกมล รักสวน. (2562). การสอนภาษาอังกฤษแบบเน้นการปฏิบัติงานที่ผนวกการเสริมต่อการ
เรยี นรู้เพ่ือพฒั นาทักษะภาษาแบบบรู ณาการสําหรบั นกั เรียนระดบั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 ในชุมชน
ชนบท : กรณีศึกษาโรงเรียนบ้านสันคะยอม อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่. วารสาร
มนษุ ยศาสตร์และสังคมศาสตรม์ หาวิทยาลยั ราชภัฏเชียงใหม่, 1(2), 15–31.

มนันยา โพธิราชา, นุชวนา เหลืองอังกูร และเพ็ญณี แนรอท (2559). การจัดการเรียนการสอน
ภาษาอังกฤษโดยใชแท็บเล็ตของโรงเรียนประถมศึกษาขนาดใหญ สังกัดสํานักงานเขตพื้นท่ี

181

การศึกษาประถมศึกษาขอนแกน เขต 1. ารสารศึกษาศาสตร ฉบับวิจัยบัณฑิตศึกษา
มหาวิทยาลัยขอนแกน, 10(1), 90–96.
มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. (ม.ป.ป.). สาขาการศึกษาปฐมวัย. http://entrance.dusit.ac.th/course/
detail/28.html
รพีพรรณ สุฐาปัญณกุล และวิสาข์ จัติวัตร์. (2559). การพัฒนารูปแบบการสอนภาษาอังกฤษเทคนิค
โดยวิธีการสอนที่เน้นภาระงานและโครงงานเพื่อพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความ
เข้าใจและความคิดสรา้ งสรรค์ของนักศกึ ษาปริญญาตรี. วารสารศิลปากรศึกษาศาสตรว์ ิจยั ,
8(1), 167–182.
ราชกิจจานุเบกษา. (มนี าคม 2562). ข้อบงั คบั คุรสุ ภา ว่าดว้ ยมาตรฐานวชิ าชพี (ฉบบั ท่ี 4) พ.ศ. 2562.
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2562/E/068/T_0018.PDF
รุ่งฤดี แผลงศร. (2557). การสอนทักษะการพูดภาษาไทยสำหรับผู้เรียนชาวต่างประเทศโดยการจัด
การเรยี นร้แู บบเน้นงานปฏิบตั .ิ วารสารศรปี ทมุ ปรทิ ศั น,์ 14(2), 102–110.
รุจเรขา วิทยาวุฑฒิกุล. (มกราคม 2562). มาตรฐานดา้ นทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
(digital literacy). https://km.li.mahidol.ac.th/digital-literacy
เรณู รื่นยุทธ. (2554). การศึกษาผลการใช้กิจกรรมมุ่งงานปฏิบัติเพื่อพัฒนาทักษะการฟัง-พูด
ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบางขุนเทียนศึกษา สำนักงานเขต
บางขุนเทยี น กรงุ เทพมหานคร. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวจิ ัยและพฒั นา (สาขามนษุ ยศาสตร์
และสงั คมศาสตร์), 3(5), 91–101.
วลีรัตน์ เล้าอรุณ, อินทิรา กุลวิเชียร และอินทร์ธีรา ปัชชา. (2560). การพัฒนารูปแบบการสอน
ภาษาอังกฤษเพื่ออาชีพโดยการบูรณาการการสอนแบบเน้นภาระงานกับการเรียนรู้แบบ
รว่ มมอื ของนกั ศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 11(3), 40–47.
วัชรพล วิบลู ยศริน. (2557). นวตั กรรมและสื่อการเรยี นการสอนภาษาไทย (พิมพ์ครงั้ ท่ี 2). สำนักพิมพ์
แห่งจุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
วัชรีญา วงษ์สุวรรณ และสุกัญญา เรืองจรูญ. (2563). การจัดการเรียนรู้ด้านการเขียนแสดงความ
คิดเห็นแบบเน้นภาระงานเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนภาษาไทย. วารสารวิชาการ คณะ
มนุษยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตรม์ หาวทิ ยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, 7(1), 112–124.
วาเลน ดลุ ยากร. (2560). การพฒั นารูปแบบวีดิทัศน์สะทอ้ นคิดออนไลน์ในกระบวนการพัฒนาบทเรียน
ร่วมกันตามกรอบแนวคิดทีแพคเพื่อส่งเสริมความสามารถการบูรณาการไอซีทีในการสอน
[วทิ ยานพิ นธด์ ุษฎีบัณฑติ ]. จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั .
วิเชียร ชุติมาสกุล. (2562). โครงการอบรมแนวทางการปฏิบัติตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิ
ระดับอุดมศึกษาแห่งชาติเกี่ยวกับสมรรถนะดิจิทัลสำหรับคุณวุฒิระดับปริญญาตรี.
http://regis.sru.ac.th/wp-content/uploads/sites/28/2019/02/DL-2019-Feb.pdf

182

สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน). (ม.ป.ป.). สมรรถนะหลักด้านคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ.
http://tpqi-net.tpqi.go.th/home/Occ/unit/ITC/all/1

สรณบดินทร์ ประสารทรพั ย์ และบำรุง โตรตั น.์ (2561). การพฒั นารปู แบบการสอนแบบเนน้ ภาระงาน
ร่วมกับการเรียนรู้แบบร่วมมือเพื่อเสริมสร้างทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเชิงวิเคราะห์
และทักษะการเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏ
สวนสุนันทา, 11(1), 69–81.

สรวีย์ ศิริพิลา และวรรณี แกมเกตุ. (2557). ผลของการใชแ้ ทบ็ เล็ตในชั้นเรียนท่ีมีตอ่ พฤติกรรมของครู
และนักเรยี น : การวจิ ัยแบบผสมวธิ ี. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศกึ ษา, 9(2), 320–334

สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา. (2563). หลักเกณฑ์และวิธีการ
สอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศกึ ษา ตำแหนง่ ครผู ู้ช่วย. เขา้ ถงึ ไดจ้ าก https://circular62.otepc.go.th/files/v14-
2563.pdf

สำนกั งานเลขาธกิ ารคุรุสภา. (2562). ร่าง แนวทางการทดสอบเพื่อขอรบั ใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพครู
โดย คณะอนุกรรมการพัฒนาแนวทางการทดสอบเพื่อขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู.
http://www.ksp.or.th/ksp2018/wp-content/uploads/2019/04/Draft_license-
exam_guideline2562.pdf

สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา. (2563). กำหนดการทดสอบและประเมินสมรรถนะทางวิชาชีพครู ด้าน
ความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ ตามมาตรฐานวิชาชีพครู ครั้งที่ 1. เข้าถึงได้จาก https://
www.ksp.or.th/ksp2018/2020/11/25005

สำนักวิเทศสัมพันธ์และเครือข่ายอาเซียน มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. (2560). คู่มือ
การทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษตามกรอบอ้างอิงทางภาษาของสหภาพยุโรป
มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. เข้าถึงได้จาก http://www.bsru.ac.th/
downloads/BSRU-TEP_Manual. pdf

สำนักส่งเสริมวชิ าการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยสวนดุสิต. (2560). ประกาศมหาวิทยาลัยสวน
ดุสิต เรื่อง การทดสอบความรู้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษของนักศึกษา พ.ศ. 2560.
เข้าถึงได้จาก http:// regis.dusit.ac.th/gesdu/uploads/document/2560-english-
announce.pdf

สิรินาถ ธารา และสุนีตา โฆษิตชัยวัฒน์. (2558). การพัฒนากิจกรรมการอ่านเน้นภาระงานเพื่อ
เสริมสรา้ งผลสัมฤทธก์ิ ารอา่ นภาษาอังกฤษอยา่ งมวี จิ ารณญาณ สำหรับนกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษา
ปีที่ 5. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขา
มนษุ ยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศลิ ปะ, 8(6), 1361–1376.

สุธาพร ฉายะรถี. (2561). การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อฝึก
ความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษของนักศึกษาสายวิชาชีพครู มหาวิทยาลัยราชภัฏ

183

นครปฐม. วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย
สาขามนษุ ยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศลิ ปะ, 11(3), 1889–1908.
สุนัชชา ศุภธรรมวิทย์ และจินตวีร์ คล้ายสังข์, 2557. การพัฒนารูปแบบการใช้ชุดกิจกรรมการเรียน
ด้วยแท็บเล็ตตามหลักการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน เพื่อส่งเสริมความสามารถในการ
แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ของนักเรียนประถมศึกษา. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา,
9(4), 137–149.
หริศักดิ์ พลตรี. (2559). ผลการใช้บทเรียนภาษาอังกฤษที่เน้นภาระงานและสารท้องถิ่นต่อ
ความสามารถฟงั -พูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 โรงเรียนน้ำเกลี้ยงวิทยา.
วารสารวิชาการ Veridian E-Journal, Silpakorn University ฉบับภาษาไทย สาขา
มนุษยศาสตร์ สงั คมศาสตร์ และศิลปะ, 9(3), 1108–1123.
อภิเชษฐ์ ขาวเผือก. (2559). การพัฒนาเกมการศึกษาบนแท็บเล็ตโดยใช้เทคนิคช่วยจำเพื่อส่งเสริม
ความคงทนในการจำคำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับนักเรียนชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัด
สะแกงาม. Veridian E-Journal, Silpakorn University (Humanities, Social Sciences
and Arts, 9(2), 1416–1431.
อังชรินทร์ ทองปาน และรัชฎาพร ศรีพิบูลย์. (2559). ผลกระทบของการสอนกลยุทธ์ด้านการสื่อสาร
โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นภาระงานที่มีต่อความสามารถด้านการพูดภาษาอังกฤษของ
นักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด. วารสาร
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏรอ้ ยเอ็ด, 10(2), 31–37.
อัจฉริน จิตต์ปรารพ และอนวัช จิตต์ปรารพ. (2564). การพัฒนาแผนการเรียนที่ใช้กิจกรรมการเรียน
แบบมุ่งปฏิบัติงานในรายวิชาภาษาอังกฤษเพือ่ การสื่อสารทางธรุ กิจสำหรับนักศึกษาหลักสตู ร
บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงใหม่. วารสารบริหารธุรกิจและ
ศลิ ปศาสตร์ ราชมงคลลา้ นนา, 9(2), 67–84.
อัญชลี อินถา และภาสกร เรืองรอง. (2559). การพัฒนาบทเรียนบนแท็บเล็ตพีซีร่วมกับการจัดการ
เรียนรูโ้ ดยใช้เกม เร่อื ง การเสริมสรา้ งสขุ ภาพในวัยเด็กสำหรบั นกั เรียนชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 2.
วารสารศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั นเรศวร, 18(4), 324–333.
อัมราภรณ์ หนูยอด และณัฐกร หิรัญโท. (2560). การศึกษาผลการพัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู
ภาษาอังกฤษตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารด้วยนวัตกรรมการศึกษาชั้นเรียนสำหรับ
นักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย. วารสาร
ศกึ ษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น, 40(1), 60–72.

184

ภาษาต่างประเทศ
Abdallah, M. M. S., & Mansour, M. M. (2015). Virtual task-based situated language-

learning with Second Life: Developing EFL pragmatic writing and technological
self-efficacy. Arab World English Journal, 2, 150–182.
Al Ruheili, H., & Al-Saidi A. (2015). Students’ perceptions on the effectiveness of using
Edmodo in EFL Classes. Journal of Global Academic Institute, 1(1), 23–33.
Al-Kathiri, F. (2014). Beyond the classroom walls: Edmodo in Saudi secondary school
EFL instruction, attitudes and challenges. English Language Teaching, 8(1), 189–
204. http://dx.doi.org/10.5539/elt.v8n1p189
Al-Said, K. (2015). Students’ perceptions of Edmodo and mobile learning and their real
barriers towards them. The Turkish Online Journal of Educational Technology,
14(2), 167–180.
Aubrey, S. (2016). Inter-cultural contact and flow in a task-based Japanese EFL
classroom. Language Teaching Research, 21(6), 717–734. https://doi.org/10.
1177/1362168816683563
Bataineh, R. F., & Mayyas, M. B. (2017). The utility of blended learning in EFL reading
and grammar: A case for Moodle. Teaching English with Technology, 17(3), 35–
49.
Bicen, H. (2014). The role of social learning networks in mobile-assisted language
learning: Edmodo as a case study. Journal of Universal Computer Science,
21(10), 1297–1306.
Brown, J. D. (2011). Foreign and second language needs analysis. In M. H. Long, & C. J.
Doughty (Eds.), The handbook of language teaching (pp. 269–293). Blackwell.
Bunmak, N. (2017). The influence of task-based learning on ELT in ASEAN context.
Language Education and Application Research Network Journal, 10(1), 201–209.
Carless, D. R. (2003). Factors in the implementation of activity-based teaching in primary
schools. System, 31, 485–500. https://doi.org/10.1016/j.system.2003.03.002
Cho, M. H., & Shen, D. (2013). Self-regulation in online learning. Distance Education,
34(3), 290–301. https://doi.org/10.1080/01587919.2013.835770
Clark, M., & Silberstein, S. (1977). Towards a realization of psycholinguistic principles in
the ESL reading class. Language Learning, 27(1), 48–65.
Cohen, L., Manion, L., & Morrison, K. (2018). Research methods in education (8th ed.).
Routledge.

185

Council of Europe. (2001). Common European Framework of Reference for languages:
Learning, teaching, assessment. Cambridge University Press.

Creswell, J. W., & Creswell, J. D. (2018). Research design: Qualitative, quantitative &
mixed methods approaches (5th ed.). Sage.

Crocker, L., & Algina, J. (2008). Introduction to classical and modern test theory (Rep.).
Ohio: Cengage Learning.

Dao, P., Iwashita, N., & Gatbonton, E. (2017). Learner attention to form in ACCESS task-
based interaction. Language Teaching Research, 21(4), 454–479. https://doi.org/
10.1177/1362168816651462

Dayag, J. (2018). Reaching out: Facilitating EFL learning through Edmodo. International
Journal of Advanced Multidisciplinary Scientific Research, 1(2), 1–7.

Dayag, J. D. (2018). EFL virtual learning environments: Perception, concerns and
challenges. Teaching English with Technology, 18(4), 20–33.

Dörnyei, Z. (2002). The motivational basis of language learning task. In P. Robinson (Ed.),
Individual differences and instructed language learning (pp. 137–158). John
Benjamins.

Dörnyei, Z., & Taguchi, T. (2010). Questionnaires in social language research:
Construction, administration, and processing (2nd ed.). Routledge.

Doughty, C., & Long, M. H. (2003). Optimal psycholinguistic environments for distance
foreign language learning. Language Learning and Technology, 7(3), 50–80.

Du, X., Zhao, K., Ruan, Y., Wang, L., & Duan, X. (2017). Beginner CFL learners’
perceptions of language difficulty in a task-based teaching and learning (TBTL)
environment in Denmark. System, 69, 108–120.
https://doi.org/10.1016/j.system. 2017.07.001

Eckerth, J., & Siekmann, S. (2008). Task-based language learning and teaching:
Theoretical, methodological, and pedagogical perspectives. Peter Lang.

Edwards, C., & Willis, J. (2005). Teachers exploring tasks in English language teaching.
Palgrave Macmillan.

Ellis, R. (2003). Task-based language learning and teaching. Oxford University Press.
García Mayo, M. P., & Ibarrola, A. L. (2015). Do children negotiate for meaning in task-

based interaction? Evidence from CLIL and EFL settings. System, 54, 40–54.
https://doi.org/10.1016/j.system.2014.12.001

186

González-Lloret, M., & Nielson, K. B. (2014). Evaluating TBLT: The case of a task-based
Spanish program. Language Teaching Research, 19(5), 525–549. https://doi.org/
10.1177/1362168814541745

Guo, S., & Möllering, M. (2016). The implementation of task-based teaching in an online
Chinese class through web conferencing. System, 62, 26–38. https://doi.org/10.
1016/j.system.2016.07.003

Gurzynski-Weiss, L., Long, A. Y., Solon, M. (2017). TBLT and L2 pronunciation: Do the
benefits of tasks extend beyond grammar and lexis? Studies in Second
Language Acquisition, 39(2), 213–224. https://doi.org/10.1017/S0272263117000
080

Hampel, R. (2006). Rethinking task design for the digital age: A framework for language
teaching and learning in a synchronous online environment. ReCALL, 18(1), 105–
121. https://doi.org/10.1017/S0958344006000711

Hampel, R. (2010). Task design for a virtual learning environment in a distance language
course. In M. Thomas, & H. Reinders (Eds.), Task-based language learning and
teaching with technology (pp. 131–153). Continuum.

Henderson, M., Huang, H., Grant, S., & Henderson, L. (2009). Language acquisition in
Second Life: Improving self-efficacy beliefs [Paper presentation]. ASCILITE 2009
Auckland, University of Auckland, New Zealand. http://www.ascilite.org/
conferences/auckland09/procs/henderson.pdf

Hogan, T. P. (2015). Psychological testing: A practical introduction (3rd ed.). Hoboken,
NJ: John Wiley & Sons.

Horz, H., Winter, C., & Fries, S. (2 0 0 9 ) . Differential benefits of situated instructional
prompts. Computers in Human Behavior, 25(4), 818–828. https://doi.org/10.101/
j.chb.2008.07.001

Hu, D., & Potter, K. (2012). Designing an effective online learning environment. Retrieved
from https://www.seenmagazine.us/Articles/Article-Detail/articleid/2000/
designing-an-effective-online-learning-environment

JISC. (2000). Circular 7/00: MLEs in further education: Progress report.
http://www.jisc.ac.uk/index.cfm?name=news_circular_7_00

Juan-Garau, M., & Jacobs, K. (2015). Developing English learners' transcultural skills
through content- and task-based lessons. System, 54, 55–68.
https://doi.org/10.1016/j.system.2015.04.017

187

Khlaisang, J., & Songkram, N. (2019). Designing a virtual learning environment system for
teaching twenty-first century skills to higher education students in ASEAN.
Technology, Knowledge and Learning, 24, 41–63.
https://doi.org/10.1007/s10758-017-9310-7

Kiatkachatharn, C., & Chopngam, C. (2018). Development of communicative Chinese
learning through task-based learning of Thai students studying in Chengdu
University, PR China. International Journal of Integrated Education and
Development, 3(2), 39–51.

Kim, Y., Payant, C., & Pearson, P. (2015). The intersection of task-based interaction, task
complexity, and working memory. Studies in Second Language Acquisition,
37(3), 549–581. https://doi.org/10.1017/S0272263114000618

Klapper, J. (2003). Taking communication to ask? A critical review of recent trends in
language teaching. Language Learning Journal, 27(1), 33–42. https://doi.org/10.
1080/09571730385200061

Lacka, E., & Wong, T. C. (2019). Examining the impact of digital technologies on students’
higher education outcomes: the case of the virtual learning environment and
social media. Studies in Higher Education, 46(8), 1621–1634.
https://doi.org/10.1080/03075079.2019.1698533

Lee, S. W., & Tsai, C. C. (2011). Students’ perceptions of collaboration, self-regulated
learning, and information seeking in the context of internet-based learning and
traditional learning. Computers in Human Behaviour, 27(2), 905–914.
https://doi.org/10.1016/j.chb.2010.11.016

Lee, Y. (2018). Effect of uninterrupted time-on-task on students’ success in Massive
Open Online Courses (MOOCs). Computers in Human Behaviour, 86, 174–180.
https://doi.org/10.1016/j.chb.2018.04.043

Manca, S., & Ranieri, M. (2016). Facebook and the others. Potentials and obstacles of
social media for teaching in higher education. Computers & Education 95, 216–
230. https://doi.org/10.1016/j.compedu.2016.01.012

Martins. L. L., & Kellermanns, F. W. (2004). A model of business school students’
acceptance of a web-based course management system. Academy of
Management Learning and Education, 3, 7–26.

188

Müller-Hartmann, A., & Schocker-Von Ditfurth, M. (2013). Task-based teaching and
assessment. In M. Byram & A. Hu (Eds.), Routledge encyclopedia of language
teaching and learning (2nd ed.) (pp. 687–692). Routledge.

Nunan, D. (2004). Task-based language teaching. Cambridge University Press.
Ortega, L. (2015). Researching CLIL and TBLT interfaces. System, 54, 103–109. https://

doi.org/10.1016/j.system.2015.09.002
Pandee, M. (2017). Teaching EIL: More proper English language teaching paradigm in

Thai context. Journal of Education, Silpakorn University, 15(2), 41–52.
Pappas, C. (2020). TalentLMS reviews 2020. Retrieved 6 Nov 2020, from

https://elearning industry.com/directory/elearning-software/talentlms/reviews
Pattison, P. (1987). Developing communication skills. Cambridge University Press.
Peemmetasawad, P., & Sudajit-apa, M. (2019). A task-based approach to materials design

and evaluation for upper elementary Thai EFL learners. Journal of Language
and culture, 38(2), 119–153.
Peng, Y., & Pyper, J. S. (2019). Finding success with pedagogical innovation: A case from
CSL teachers’ experiences with TBLT. Language Teaching Research. https://doi.
org/10.1177/1362168819862132
Peterson, M. (2012). EFL learner collaborative interaction in Second Life. ReCALL, 24(1),
20–39. https://doi.org/10.1017/S0958344011000279
Piepho, H.-E. (1979). Kommunikative Diddaktik des Englischunterichts. Theoretische
Begründungund Wege zur praktischen Einlösung eines fachdidaktischen
Konzepts. Frankonius.
Prabhu, N. S. (1987). Second language pedagogy. Oxford University Press.
Ravenscroft, A. (2009). Social software, web 2.0 and learning: Status and implications of
an evolving paradigm. Journal of Computer Assisted Learning, 25(1), 1–5.
https://doi.org/10.1111/j.1365-2729.2008.00308.x
Richards, J. C., & Rodgers, T. S. (2014). Approaches and methods in language teaching
(3rd ed.). Cambridge University Press.
Rovinelli, R. J., & Hambleton, R. K. (1976). On the use of content specialists in the
assessment of criterion-referenced test item validity. Paper presented at the
Annual Meeting of the American Educational Research Association, April 19–
23, San Francisco, California, United States.
Samuda, V., & Bygate, M. (2008). Tasks in second language learning. Palgrave Macmillan.

189

Schwienhorst, K. (2002). Why virtual, why environments? Implementing virtual reality
concepts in computer-assisted language learning. Simulation & Gaming, 33(2),
196–209. https://doi.org/10.1177/1046878102332008

Shavelson, R. J., & Stern, P. (1981). Research on teachers' pedagogical thoughts,
judgments, decisions, and behavior. Review of Educational Research, 51(4),
455–498. https://doi.org/10.2307/1170362

Sinthai, W., & Somchob, S. (2016). Learning grammar through task-based activities: A
case study of first-year English majors at Ubon Ratchathani Rajabhat University.
Humanities and Social Sciences Journal, Ubon Ratchathani Rajabhat University,
7(2), 291–301

Skehan, P. (1998). Cognitive approach to language learning. Oxford University Press.
Sobaih, A. E., Moustafa, M. A., Ghandforoush P., & Khan, M. (2016). To use or not to use?

Social media in higher education in developing countries. Computers in Human
Behaviour 58, 296–305. https://doi.org/10.1016/j.chb.2016.01.002
Sobkowiak, W. (2012). Five years in second life, or: Phonetically augmented virtuality
in Second Life English as a foreign language [Unpublished manuscript].
Uniwersytet Im. Adama Mickiewicza W Poznaniu. http://wa.amu.edu.pl/~swlo
dek/PAVing%20EFL%20in%20SL.pdf
Sweeney, A. L., Kunyot, T., & Preedeekul, A. (2017). Using task-based learning approach
and drama to improve communicative competence for students at
Pibulsongkram Rajabhat University. Journal of Faculty of Education
Pibulsongkram Rajabhat University, 4(2), 112–123. https://doi.org/10.14456/edu
psru.2017.9
Tophat.com. (n.d.). What is virtual learning environment. Retrieved from https://tophat.
com/glossary/v/virtual-learning-environment/
Van den Branden, K. (2012). Task-based language education. In A. Burns & J. C. Richards
(Eds.), The Cambridge guide to pedagogy and practice in second language
teaching (pp. 132–139). Cambridge University Press.
Van den Branden, K. (2013). Task-based language teaching and learning. In P. Robinson
(Ed.), The Routledge encyclopedia of second language acquisition (pp. 628–
932). Routledge.

190

Van Gorp, K., & Bogaert, N. (2006). Developing language tasks for primary and secondary
education. In K. Van den Branden (Ed.), Task-based language education: From
theory to practice (pp. 76–105). Cambridge University Press.

Waltz, C. F., Strickland, O. L., & Lenz, E. R. (2010). Measurement in nursing and health
research (4th ed.). Springer.

Wang, Y. (2007). Task design in videoconferencing-supported distance language learning.
CALICO Journal, 24(3), 591–630.

Weller, M. (2007). Virtual Learning Environments: Using, choosing and developing your
VLE. Routledge.

Willis, D., & Willis, J. (2007). Doing task-based teaching. Oxford University Press.
Willis, J. (1996). A framework for task-based learning. Addison Wesley Longman.

ภาคผนวก

192

ภาคผนวก ก
รายช่ืออาจารย์ ผู้เชีย่ วชาญ และผูท้ รงคุณวุฒิ

- ก-1 รายชอ่ื ผ้เู ชยี่ วชาญตรวจสอบเครื่องมือท่ีใช้ในการวจิ ัยในขน้ั ตอนที่ 1
- ก-2 รายช่อื อาจารยผ์ ู้ประสานงานสำหรับการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลเบือ้ งต้นในข้ันตอนท่ี 1
- ก-3 รายชอื่ ผูเ้ ช่ยี วชาญตรวจสอบเครอื่ งมือท่ใี ช้ในการวจิ ัยในขน้ั ตอนที่ 2
- ก-4 รายช่อื ผทู้ รงคณุ วฒุ ิประเมนิ รับรองในขน้ั ตอนที่ 4

193

ภาคผนวก ก-1

รายช่อื ผเู้ ชี่ยวชาญตรวจสอบเคร่ืองมือที่ใช้ในการวจิ ัยในขน้ั ตอนที่ 1
ด้านภาษาไทย

1. รองศาสตราจารย์ขณั ธ์ชัย อธเิ กียรติ
ภาควชิ าหลกั สตู รและการสอน คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลยั รามคำแหง

2. อาจารย์ ดร.ชษิ ณุพงศ์ อนิ ทรเกษม
ภาควิชาหลักสตู รและการสอน คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรนี ครนิ ทรวิโรฒ

ด้านภาษาองั กฤษ
1. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.อธปิ ธรรมวิจิตร
สถาบนั วจิ ัยภาษาและวฒั นธรรมเอเชีย
มหาวิทยาลยั มหิดล
2. อาจารย์ ดร.พิทยา ทิพวจั นา
สถาบันวทิ ยาลัยชมุ ชน กระทรวงศึกษาธิการ

ด้านเทคโนโลยกี ารศึกษา
1. อาจารย์ ดร.พรพิมล รอดเคราะห์
ภาควิชาหลกั สูตรและวิธีสอน คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลยั ศิลปากร
2. อาจารย์ ดร.เออ้ื อารี จนั ทร
หวั หน้าฝา่ ยพัฒนาระบบการเรยี นรู้ สำนกั วทิ ยบรกิ ารและเทคโนโลยสี ารสนเทศ
มหาวิทยาลัยสวนดสุ ิต

194

ภาคผนวก ก-2

รายชือ่ อาจารยผ์ ู้ประสานงานสำหรับการเก็บรวบรวมข้อมลู ในขัน้ ตอนที่ 1
1. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์กรกนก ธูปประสม

สาขาวิชาปฐมวยั คณะครุศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏนครราชสมี า
2. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารยภ์ วิกา ปกั ษา
กล่มุ วิชาจิตวิทยาและการแนะแนว คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภฏั สุราษฎรธ์ านี
3. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ฤดี กมลสวสั ดิ์
สาขาวชิ าภาษาไทย (ค.บ. 5 ปี) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจ้าพระยา
4. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์อมรา ศรีแกว้
โปรแกรมวิชาภาษาไทย คณะครุศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภฏั กำแพงเพชร
5. อาจารย์ ดร.กนกพรรณ วบิ ลู ยศรนิ
สาขาวชิ านิเทศศาสตร์ คณะวทิ ยาการจดั การ
มหาวิทยาลัยราชภัฏจนั ทรเกษม
6. อาจารย์ ดร.ชิษณุพงษ์ อนิ ทรเกษม
ภาควชิ าหลกั สตู รและการสอน คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวิโรฒ
7. อาจารย์ ดร.เทวากร คำสัตย์
กลมุ่ วิชาภาษาไทย สำนกั การศึกษาทัว่ ไป
สถาบันการจัดการปัญญาภิวฒั น์
8. อาจารย์ ดร.นรนิ ธน์ นนทมาลย์
สาขาเทคโนโลยที างการศกึ ษา วทิ ยาลยั การศกึ ษา
มหาวทิ ยาลัยพะเยา
9. อาจารย์ ดร.พรทิวา จุลสุคนธ์
มหาวิทยาลยั มหามกฎุ ราชวิทยาลัย วิทยาเขตรอ้ ยเอด็
10. อาจารย์ ดร.พรพิมล รอดเคราะห์
สาขาวิชาการประถมศกึ ษา คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลยั ศิลปากร
11. อาจารย์ ดร.สมศกั ด์ิ พนั ธศ์ ิริ
สาขาวชิ าภาษาไทย คณะครุศาสตร์

195

มหาวทิ ยาลัยราชภฏั บุรรี ัมย์
12. อาจารย์ ดร.เออ้ื อารี จันทร

สาขาวิชาการศึกษาปฐมวยั คณะครศุ าสตร์
มหาวิทยาลยั สวนดสุ ิต
13. อาจารย์กญั จณป์ ภัสส์ สวุ รรณวหิ ค
สาขาวิชาภาษาไทย วทิ ยาลยั การฝกึ หดั ครู
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร
14. อาจารย์กลุ ชาติ พันธวุ รกลุ
คณะครุศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
15. อาจารย์ณัฐวุฒิ จิโนวัฒน์
กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลยั ราชภัฏสวนสุนันทา (ฝา่ ยประถม)
16. อาจารย์เฟื่องลดา ชมชนื่
สาขาวชิ าภาษา คณะศลิ ปศาสตร์
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลสวุ รรณภมู ิ
17. อาจารย์ปวิตรา อุราธรรมกุล
สถาบันวิจยั ภาษา
มหาวิทยาลัยขอนแกน่
18. อาจารยภ์ าสดุ า ภาคาผล
ภาควิชาหลกั สูตรและการสอน
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั รามคำแหง
19. อาจารย์วรเวทยพ์ ิสษิ ยศศริ ิ
สาขาวชิ าภาษาองั กฤษ คณะมนษุ ยศาสตร์และสงั คมศาสตร์
มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ยะลา
20. อาจารย์สุมติ รา คณุ วฒั น์บัณฑิต
กลุม่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
โรงเรียนสาธติ จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ฝ่ายมัธยม

196

ภาคผนวก ก-3

รายช่อื ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการวิจัยในข้นั ตอนที่ 2
ดา้ นภาษาไทย

1. รองศาสตราจารย์ขณั ธช์ ัย อธิเกียรติ
อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์
มหาวิทยาลยั รามคำแหง

2. รองศาสตราจารย์จนิ ตนา พทุ ธเมตะ
ข้าราชการบำนาญประจำสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรนี ครนิ ทรวิโรฒ

3. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.กมลพทั ธ์ โพธ์ิทอง
อาจารยป์ ระจำสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พระนคร

4. อาจารย์ ดร.ชิษณุพงศ์ อนิ ทรเกษม
อาจารย์ประจำสาขาวชิ าภาษาไทย คณะศกึ ษาศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ

5. อาจารย์ ดร.เทวากร คำสัตย์
กลุ่มวชิ าภาษาไทย สำนกั การศึกษาทวั่ ไป
สถาบันการจัดการปญั ญาภวิ ัฒน์

ด้านภาษาองั กฤษ
1. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.จฑุ ารัตน์ วิบูลย์ผล
อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยแี ละส่อื สารการศกึ ษา คณะครศุ าสตร์
จุฬาลงกรณม์ หาวิทยาลัย
2. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สรพล จริ ะสวสั ดิ์
อาจารยป์ ระจำหลักสตู รภาษาและการสอื่ สาร คณะมนุษยศาสตร์และสงั คมศาสตร์
มหาวิทยาลยั สวนดสุ ิต
3. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.อธิป ธรรมวิจิตร
อาจารยป์ ระจำสาขาวชิ าภาษาและการส่อื สารระหวา่ งวฒั นธรรม
สถาบันวิจยั ภาษาและวฒั นธรรมเอเชีย มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล
4. อาจารย์ ดร.พทิ ยา ทิพวจั นา
อาจารยป์ ระจำสถาบนั วิทยาลัยชุมชน
5. อาจารย์ ดร.พนั ธรักษ์ ผกู พันธุ์
ผอู้ ำนวยการสถาบันภาษา ศิลปะและวฒั นธรรม
มหาวทิ ยาลัยสวนดสุ ติ

197

ด้านเทคโนโลยกี ารศึกษา
1. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ธีรวดี ถงั คบตุ ร
อาจารยป์ ระจำสาขาวชิ าเทคโนโลยแี ละสื่อสารการศกึ ษา คณะครศุ าสตร์
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย
2. ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.วชั รี เกษพิชยั ณรงค์
อาจารย์ประจำสำนกั นวตั กรรมการเรียนรู้
มหาวิทยาลัยมหิดล
3. อาจารย์ ดร.พรทวิ า จลุ สุคนธ์
อาจารย์ประจำมหาวทิ ยาลัยมหามกฏุ ราชวทิ ยาลยั วทิ ยาเขตร้อยเอ็ด
4. อาจารย์ ดร.พรพมิ ล รอดเคราะห์
อาจารย์ประจำภาควชิ าหลักสูตรและวิธสี อน คณะศกึ ษาศาสตร์
มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร
5. อาจารย์ ดร.เอื้ออารี จนั ทร
หัวหนา้ ฝ่ายพฒั นาระบบการเรียนรู้ สำนักวทิ ยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ
มหาวทิ ยาลัยสวนดุสติ

198

ภาคผนวก ก-4

รายชื่อผู้ทรงคุณวฒุ ิประเมินรบั รองในขน้ั ตอนท่ี 4
ดา้ นภาษาไทย

1. ศาสตราจารย์ ดร.อู๋ เซิงหยงั
อาจารย์ประจำภาควชิ าภาษาไทย
มหาวิทยาลัยภาษาและการค้าต่างประเทศกวางตงุ้

2. รองศาสตราจารย์ ดร.พิทยา พาลาดรอย-เชน
อาจารยป์ ระจำศูนยน์ านาชาติศึกษา
มหาวทิ ยาลัยโอไฮโอ

ดา้ นภาษาอังกฤษ
1. รองศาสตราจารย์ ดร.ศภุ กร ภู่เจรญิ ศลิ ป์
อาจารย์ประจำสถาบันวจิ ยั ภาษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
2. รองศาสตราจารย์ ดร.สงิ หนาท น้อมเนียน
อาจารย์ประจำสถาบันวจิ ยั ภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย
มหาวิทยาลยั มหดิ ล

ดา้ นเทคโนโลยีการศึกษา
1. ศาสตราจารย์ ดร.เนาวนิตย์ สงคราม
อาจารยป์ ระจำภาควชิ าเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
2. รองศาสตราจารย์ ดร.ประกอบ กรณกี จิ
อาจารย์ประจำภาควชิ าเทคโนโลยแี ละสื่อสารการศึกษา คณะครุศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย
3. รองศาสตราจารย์ ดร.อรจรีย์ ณ ตะกั่วทุ่ง
ขา้ ราชการบำนาญ ภาควิชาเทคโนโลยแี ละสอ่ื สารการศกึ ษา คณะครศุ าสตร์
จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั

ภาคผนวก ข
เครื่องมือท่ีใช้ในการวจิ ยั

- ข-1 แบบสอบถามสภาพปัจจบุ นั ปญั หา อปุ สรรค และข้อเสนอแนะของการใช้ภาษาไทย
ภาษาองั กฤษ และเทคโนโลยดี ิจิทลั เพ่ือการศึกษา

- ข-2 แบบประเมินความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของรา่ งต้นแบบของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้
ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานเพื่อพัฒนามาตรฐานความรู้ด้านภาษาและ
เทคโนโลยดี ิจิทลั เพื่อการศกึ ษาสำหรับนักศกึ ษาครู

- ข-3 แผนการจดั การเรยี นรกู้ จิ กรรมสภาพแวดลอ้ มการเรียนรูเ้ สมือนจริงแบบใช้ภาระงาน
เปน็ ฐาน

- ข-4 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียนวัดทกั ษะทางภาษาและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
สำหรบั นกั ศกึ ษาครูแบบเปรียบเทยี บคู่ขนาน

- ข-5 แบบสอบถามความคิดเห็นทีม่ ีต่อสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้
ภาระงานเปน็ ฐาน

- ข-6 แบบประเมนิ รบั รองสภาพแวดล้อมการเรียนรภู้ าษาเสมือนจรงิ แบบใชภ้ าระงานเป็น
ฐาน

200

ภาคผนวก ข-1
แบบสอบถามสภาพปัจจบุ ัน ปัญหา อปุ สรรค และขอ้ เสนอแนะของการใชภ้ าษาไทย

ภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยดี จิ ิทลั เพื่อการศกึ ษา

เอกสารชีแ้ จงผเู้ ขา้ ร่วมโครงการวิจยั

ผู้วิจัย : รองศาสตราจารย์ ดร.วัชรพล วิบูลยศริน อาจารย์ประจำ
สถาบนั วิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย มหาวทิ ยาลัยมหิดล

ชอ่ื โครงการวิจยั : สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานเพื่อพัฒนา
มาตรฐานความรู้ด้านภาษาและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาสำหรับนักศึกษาครู (A virtual task-
based language learning environment to enhance the knowledge standard of language
and digital technology for education of pre-service teachers)

ขอ้ มูลท่วั ไปของโครงการวจิ ัย :
• คำอธิบาย : เนื่องจากมาตรฐานความรู้ด้านภาษาและเทคโนโลยดี ิจิทัลเพื่อการศึกษาสำหรบั
นักศึกษาครสู ามารถพัฒนาไดด้ ว้ ยสภาพแวดลอ้ มการเรียนรู้ภาษาเสมอื นจรงิ แบบใชภ้ าระงาน
เป็นฐาน ดังนั้น โครงการวิจัยนี้จึงเริ่มสำรวจสภาพปัจจุบัน ปัญหาและอุปสรรคของการใช้
ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาจากนักศึกษาครู เพื่อเป็นข้อมูล
เบอ้ื งตน้ ในการวิจัยและพัฒนาให้เกดิ ประสิทธิผลและมีประสทิ ธิภาพสูงสุด
• ผู้เข้าร่วมโรงการวิจัย : เนื่องจากนิสิต/นักศึกษาคณะครุศาสตร์หรือคณะศึกษาศาสตร์ท่ี
สังกัดในมหาวิทยาลัยตามภูมิภาคต่าง ๆ เป็นตัวแทนที่ดีของประชากร ดังนั้น นักศึกษากว่า
600 คน จะได้รบั เชญิ ให้รว่ มตอบแบบสอบถามออนไลน์
• การใช้ข้อมูลในการวิจัย : ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามนี้จะนำไปใช้เพื่อตีพิมพ์ลงวาสารการ
วิจัยที่มีการตรวจสอบเนื้อหาโดยคณะผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไม่
ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ตอบแบบสอบถาม จะมีเฉพาะการเผยแพร่
ผลสรุปการวจิ ยั เท่าน้ัน
• ทุนสนับสนุนการวิจัย : โครงการวิจัยนี้ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพ่ือ
การศึกษา สำนกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ

201

การมสี ่วนร่วมของผเู้ ข้าร่วมโครงการวิจยั :
• การยินยอมเข้าร่วมและการถอนตัวจากโครงการวิจัย : ความร่วมมือของนักศึกษาในการ
ตอบแบบสอบถามอย่างครบถ้วนนจี้ ะก่อประโยชน์ต่อการพัฒนาวิชาชีพครูอยา่ งมาก อย่างไร
ก็ดี การเข้าร่วมโครงการวิจัยนี้เป็นไปโดยความสมัครใจและจะไม่มีผลใด ๆ ทั้งสิ้นต่อการ
ประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ิทางการศกึ ษาของนสิ ิต/นักศึกษา โดยผู้เข้ารว่ มโครงการวิจัยสามารถถอน
ตัวจากการศึกษาได้ทุกเม่ือในขณะที่กำลังตอบแบบสอบถามออนไลน์ โดยข้อมูลของผู้ที่ถอน
ตัวของโครงการวิจัยจะถูกทำลายและไม่นำมาใช้วิเคราะห์ผล อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วม
โครงการจะไมส่ ามารถถอนตัวจากโครงการวิจยั ได้หากตอบคำถามเสรจ็ สิ้นเรียบร้อยแล้ว
• การมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วมโครงการวิจัย : ผู้เข้าร่วมโครงการวิจัยจะต้องแบบสอบถาม
ออนไลน์เกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหาและอุปสรรคของการใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และ
เทคโนโลยดี ิจิทลั เพ่อื การศกึ ษา ซง่ึ จะใชเ้ วลาประมาณ 5-10 นาทีในการตอบแบบสอบถาม
• สถานท่แี ละระยะเวลา : ผู้เขา้ รว่ มโครงการวิจยั จะตอบแบบสอบถามออนไลนด์ ว้ ยตนเอง ซึ่ง
จะใชเ้ วลาประมาณ 5-10 นาทีในการตอบแบบสอบถาม
• ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ : ผู้เข้าร่วมโครงการวิจัยอาจรู้สึกไม่สะดวกเนื่องจากจำนวน
คำถามของแบบสอบถาม ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นนี้เป็นความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เข้าร่วมโครงการวิจยั สามารถปฏิเสธที่จะตอบแบบสอบถามหรือยุตกิ ารตอบ
แบบสอบถามได้ตลอดเวลา
• ประโยชน์ที่จะได้รับ : การศึกษาวิจัยในครั้งนี้จะทำให้ทราบข้อมูลเบื้องต้นสำหรับการ
ออกแบบและพัฒนาสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานให้
เกิดประสิทธิผลสูงสุดต่อการพัฒนามาตรฐานความรู้ด้านภาษาและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อ
การศึกษาสำหรับนักศึกษาครู โดยผลการวิจัยนี้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่อการพัฒนา
วิชาชีพครตู ่อไปในอนาคต
• ผลที่เกิดขึ้นเมื่อเข้าร่วมโครงการวิจัย : นิสิต/นักศึกษามีสิทธิ์เลือกที่จะเข้าร่วมหรือไม่เข้า
ร่วม หรือถอนตัวจากโครงการวิจัย ทั้งน้ี จะไม่มีผลใด ๆ ทั้งสิ้นต่อการประเมินผลสัมฤทธิ์
ทางการเรยี นของนกั ศกึ ษา

การปกปิดข้อมูลเป็นความลับ : ข้อมูลที่ได้จากการศึกษานี้จะถูกปกปิดเป็นความลับและใช้ใน
การศกึ ษาวจิ ัยเทา่ น้ัน โดยการเขา้ ถึงใด ๆ จะถกู จำกัดสิทธิเ์ ฉพาะผู้วจิ ยั และท่ีปรึกษาวจิ ัย ทั้งน้ี จะไม่มี
การเปิดเผยข้อมูลใดเกี่ยวกับผู้เข้าร่วมโครงการวิจัย การเผยแพร่ผลการวิจัยจะเป็นเพียงการนำเสนอ
ขอ้ มูลทางสถติ โิ ดยสรปุ ซึ่งจะไม่สามารถบง่ บอกข้อมูลสว่ นบคุ คลของผเู้ ขา้ ร่วมโครงการวจิ ัยได้

202

การเกบ็ รกั ษาข้อมูล :
• สถานที่ : ข้อมูลจะถูกเก็บรักษาอย่างปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ที่มีระบบป้องกันผ่านรหัส
รกั ษาความปลอดภัย
• ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล : ข้อมูลจะเก็บรักษาอย่างปลอดภัยเป็นระยะเวลาอย่าง
น้อย 2 ปี หลังจากการตพี มิ พ์เผยแพรผ่ ลการศึกษาวิจยั
• การจัดการข้อมูลหลังสิ้นสุดระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล : ข้อมูลที่เกี่ยวกับตัวบุคคล
จะถกู ทำลายท้งิ ภายหลังระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล ส่วนขอ้ มลู อ่ืน ๆ ท่ีไม่สามารถระบุ
ถึงตวั บุคคลไดน้ ้นั อาจถูกทำลายทง้ิ หรอื เกบ็ ไว้เพ่ือใชป้ ระโยชนต์ ่อไปในอนาคต

ช่องทางการสอบถามข้อสงสัย : สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ รองศาสตราจารย์
ดร.วชั รพล วบิ ลู ยศริน อเี มล [email protected] (โทร. 0 2800 2308)

คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัย : โครงการวิจัยนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการ
จริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยสวนดุสิต (เลขท่ีรับรอง SDU-RDI
2020-010) หากมขี ้อสงสยั หรอื ข้อรอ้ งเรียนเกย่ี วกบั การวิจยั สามารถติดตอ่ ได้ที่
สถาบนั วจิ ยั และพัฒนา มหาวิทยาลยั สวนดสุ ิต
295 ถนนนครราชสมี า เขตดสุ ิต กรุงเทพฯ 10300
โทรศัพท์ 0 2244 5280-2
โทรสาร 0 2668 7460
อีเมล [email protected]

203

สภาพปจั จบุ นั ปญั หาและอปุ สรรคของการใช้ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และเทคโนโลยี
ดจิ ิทัลเพอ่ื การศกึ ษา

ตอนท่ี 1 ข้อมูลท่ัวไป

คำชี้แจงสว่ นที่ 1.1 : ทำเครื่องหมาย ✓ หรอื เขียนเติมลงในชอ่ งว่างให้สอดคลอ้ งกบั ข้อมูลของท่าน

1. เพศ o ชาย o หญิง

2. ชน้ั ปี o ปที ี่ 1 o ปีที่ 2 o ปที ่ี 3 o ปที ่ี 4

3. สถานศกึ ษา o จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั o มหาวิทยาลัยขอนแกน่

o มหาวิทยาลยั บูรพา o มหาวทิ ยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร

o มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏจนั ทรเกษม o มหาวทิ ยาลัยราชภฏั เทพสตรี

o มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั ธนบุรี o มหาวิทยาลยั ราชภฏั นครราชสมี า

o มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั บุรรี ัมย์ o มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร

o มหาวิทยาลัยราชภฏั เพชรบุรี o มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏยะลา

o มหาวทิ ยาลัยราชภัฏราชนครนิ ทร์ o มหาวิทยาลัยราชภฏั วไลยอลงกรณ์

ในพระบรมราชูปถมั ภ์

o มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสนุ ันทา o มหาวิทยาลัยราชภฏั สุราษฎรธ์ านี

o มหาวิทยาลัยรามคำแหง o มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวิโรฒ

o มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร o สถาบนั การจดั การปัญญาภิวฒั น์

o อืน่ ๆ โปรดระบ.ุ ...................................................................................................

4. สาขาวชิ า/วิชาเอก .............................................................................................................................

คำชี้แจงส่วนที่ 1.2 : ทำเครื่องหมาย ✓ ในช่องว่างด้วยให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบันของท่าน

(โปรดอ่านคำอธิบายระดับความสามารถข้อ 5.-7. ในหนา้ 14-15 เพือ่ เปน็ ข้อมลู ประกอบการตัดสินใจ

กอ่ นประเมนิ ตนเอง)

5. ทักษะการใชภ้ าษาไทยของท่านอย่ใู นระดบั ใด (โปรดอา่ นคำอธิบายระดบั ความสามารถก่อน

ประเมินตนเอง)

o พน้ื ฐาน o พอใช้ o ปานกลาง o ดี o ดเี ดน่

6. ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของท่านอยู่ในระดับใด (โปรดอ่านคำอธิบายระดับความสามารถก่อน

ประเมินตนเอง)

o A1 o A2 o B1 o B2

o C1 o C2

204

7. ทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของท่านอยู่ในระดบั ใด (โปรดอา่ นคำอธบิ ายระดับความสามารถก่อน

ประเมินตนเอง)

O ขนั้ พน้ื ฐาน o ขัน้ ตน้ o ขัน้ ประยุกต์

ตอนที่ 2 ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหาและอุปสรรคของการพัฒนาทักษะการใช้
ภาษาไทย

คำชี้แจงส่วนที่ 2.1 : ทำเครื่องหมาย ✓ลงในช่องว่างตามระดับความถี่บ่อยที่ท่านคิดว่าใกล้เคียงกบั

สภาพปจั จุบนั ของตนเองมากที่สดุ โดย

1 หมายถึง ไม่เคย (0%) 4 หมายถงึ บอ่ ย ๆ (41-60%)

2 หมายถึง นาน ๆ ครงั้ (1-20%) 5 หมายถงึ เป็นประจำ (61-80%)

3 หมายถงึ บางคร้งั (21-40%) 6 หมายถงึ สม่ำเสมอ (81-100%)

ข้อที่ ข้อความ ระดับความถ่ีบอ่ ย
123456

1 ทา่ นพฒั นาทักษะการใช้ภาษาไทยของตนใหส้ ูงข้ึน

2 คณาจารยแ์ ละสถานศึกษาชว่ ยสง่ เสรมิ และพัฒนา

ทกั ษะการใช้ภาษาไทยให้กับทา่ น

3 ท่านเข้ารบั การเรยี นเสรมิ เพื่อพัฒนาทกั ษะการใช้

ภาษาไทยกบั หน่วยงานภายในสถานศกึ ษา

4 ทา่ นเข้ารับการเรยี นเสริมเพ่ือพฒั นาทกั ษะการใช้

ภาษาไทยกบั หน่วยงานภายนอกสถานศึกษา

5 ทา่ นรบั ผดิ ชอบค่าใช้จ่ายดว้ ยตนเองเพอื่ สนับสนนุ

การพฒั นาทักษะการใช้ภาษาไทย

6 ผู้ปกครองสนับสนนุ คา่ ใช้จ่ายในการเรียนเสรมิ เพ่ือ

พฒั นาทกั ษะการใช้ภาษาไทยให้กบั ท่าน

7 ทา่ นใช้สอ่ื ท่ัวไป เชน่ อ่านหนังสอื ดโู ทรทศั น์ ในการ

พฒั นาทกั ษะการใช้ภาษาไทย

8 ทา่ นใช้ส่ือดิจิทลั เช่น อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ดู

โทรทศั นอ์ อนไลน์ ในการพฒั นาทกั ษะการใช้

ภาษาไทย

9 ท่านฝึกฝนทกั ษะการใช้ภาษาไทยผา่ นคอมพวิ เตอร์/

แทบ็ เล็ต (เชน่ ไอแพด) ในช้นั เรียน

205

ขอ้ ท่ี ข้อความ 1 ระดับความถ่ีบอ่ ย 6
2345
10 ทา่ นฝกึ ฝนทกั ษะการใชภ้ าษาไทยผ่านคอมพวิ เตอร์/
แทบ็ เล็ต (เชน่ ไอแพด) นอกชน้ั เรยี น

11 ทา่ นพบปญั หาหรืออุปสรรคด้านตนเอง (เช่น ความ
เหนอ่ื ย ความไมต่ ้ังใจ) ทส่ี ง่ ผลตอ่ ความยากลำบากใน
การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทย

12 ทา่ นพบปญั หาหรืออุปสรรคด้านผู้สอน (เช่น วธิ ีสอน
บคุ ลกิ ลักษณะ) ที่ส่งผลตอ่ ความยากลำบากในการ
พฒั นาทักษะการใชภ้ าษาไทย

13 ท่านพบปญั หาหรืออุปสรรคด้านบคุ คลใกล้ชิดทส่ี ง่ ผล
ต่อความยากลำบากในการพัฒนาทักษะการใช้
ภาษาไทย

14 ทา่ นพบปญั หาหรืออุปสรรคด้านสอ่ื การเรยี นรู้ (เช่น
จำนวนไม่เพยี งพอ ความยากงา่ ย) ที่สง่ ผลต่อความ
ยากลำบากในการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทย

15 ท่านพบปญั หาหรืออุปสรรคด้านเวลาทีส่ ง่ ผลตอ่ ความ
ยากลำบากในการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทย

16 ท่านพบปัญหาหรืออปุ สรรคด้านสถานทท่ี ส่ี ่งผลต่อ
ความยากลำบากในการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาไทย

17 ท่านพบปัญหาหรืออุปสรรคด้านโอกาสท่สี ่งผลต่อ
ความยากลำบากในการพัฒนาทักษะการใชภ้ าษาไทย

18 ท่านพบปัญหาหรืออุปสรรคด้านค่าใช้จา่ ยทีส่ ่งผลต่อ
ความยากลำบากในการพฒั นาทกั ษะการใช้ภาษาไทย

19 ท่านวิตกกงั วลวา่ ตนเองยงั พฒั นาทักษะการใช้
ภาษาไทยได้ไมด่ เี พียงพอที่จะนำไปประกอบวิชาชีพ
ครู

206

คำชี้แจงส่วนที่ 2.2 : ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องว่างตามระดับความคิดเห็นที่ท่านคิดว่าใกล้เคียง

กบั สภาพปจั จบุ นั ของตนเองมากท่สี ุด โดย

1 หมายถงึ ไมเ่ ห็นดว้ ย 4 หมายถึง เห็นดว้ ย

2 หมายถงึ เหน็ ด้วยนอ้ ยมาก 5 หมายถึง เห็นดว้ ยมาก

3. หมายถึง เห็นดว้ ยน้อย 6 หมายถึง เห็นดว้ ยมากทสี่ ดุ

ขอ้ ท่ี ข้อความ ระดับความคิดเหน็
123456

1 การพฒั นาทกั ษะการใช้ภาษาไทยเปน็ ส่ิงจำเปน็

สำหรบั ทา่ น

2 การพัฒนาทกั ษะการใช้ภาษาไทยเปน็ เรื่องงา่ ย

สำหรบั ท่าน

3 ท่านต้องการพัฒนาทกั ษะการใชภ้ าษาไทยใหส้ ูงขึ้น

4 การพฒั นาทกั ษะการใช้ภาษาไทยควรเน้นการพัฒนา

ความสามารถทางภาษาทกุ ทักษะ

5 การประกอบวชิ าชีพครูในอนาคตของทา่ นจำเป็นต้อง

มีทกั ษะใชภ้ าษาไทย

6 รายวิชาท่ที า่ นลงทะเบียนเรียนในหลกั สตู รของทา่ นมี

จำนวนเพียงพอที่จะพฒั นาทักษะการใชภ้ าษาไทย

7 ทา่ นมเี วลาเพยี งพอในการเข้ารบั การฝึกอบรมเพื่อ

พฒั นาทักษะการใชภ้ าษาไทย

8 ทา่ นคิดว่าเทคโนโลยีดงั้ เดมิ เช่น หนงั สอื ทวี ี วทิ ยุ

ชว่ ยในการพัฒนาทักษะการใชภ้ าษาไทยของท่าน

9 ทา่ นคดิ ว่าเทคโนโลยีดจิ ิทัล เชน่ หนงั สอื

อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เวบ็ ไซต์ สมาร์ตโฟน ช่วยในการ

พฒั นาทักษะการใช้ภาษาไทยของทา่ น

10 ท่านคดิ วา่ การเรียนในชน้ั เรยี นตามปรกติช่วย

สนับสนนุ การพัฒนาทักษะการใชภ้ าษาไทย

11 ทา่ นคดิ ว่าการเรยี นในชนั้ เรยี นออนไลน์หรืออเี ลริ น์ นงิ

ชว่ ยสนบั สนนุ การพฒั นาทกั ษะการใช้ภาษาไทย

12 ท่านคดิ วา่ การเรยี นแบบผสมผสานชั้นเรียนตาม

ปรกตกิ ับช้ันเรียนออนไลนช์ ว่ ยสนับสนุนการพัฒนา

ทกั ษะการใช้ภาษาไทย

ข้อที่ ข้อความ 207

13 สภาพแวดลอ้ มรอบตัวทา่ น (เชน่ บา้ น หอพกั ระดับความคิดเห็น
สถานศกึ ษา) เอื้อต่อการพัฒนาทกั ษะการใช้ 123456
ภาษาไทย

14 ทา่ นมีแรงจูงใจหรอื สรา้ งแรงจูงใจไดด้ ว้ ยตนเองใน
การพฒั นาทักษะการใช้ภาษาไทย

ตอนที่ 3 ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหาและอุปสรรคของการพัฒนาทักษะการใช้
ภาษาองั กฤษ

คำชีแ้ จงสว่ นที่ 3.1 : ทำเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในชอ่ งวา่ งตามระดับความถบ่ี ่อยทท่ี า่ นคิดวา่ ใกล้เคียงกับ

สภาพปัจจบุ นั ของตนเองมากท่สี ดุ โดย

1 หมายถึง ไมเ่ คย (0%) 4 หมายถึง บอ่ ย ๆ (41-60%)

2 หมายถงึ นาน ๆ ครงั้ (1-20%) 5 หมายถึง เป็นประจำ (61-80%)

3 หมายถึง บางคร้ัง (21-40%) 6 หมายถงึ สม่ำเสมอ (81-100%)

ขอ้ ท่ี ขอ้ ความ ระดบั ความถี่บ่อย
123456

1 ท่านพฒั นาทักษะการใช้ภาษาองั กฤษของตนให้สงู ขึ้น

2 คณาจารย์และสถานศึกษาช่วยส่งเสริมและพัฒนา

ทกั ษะการใช้ภาษาอังกฤษให้กับท่าน

3 ทา่ นเข้ารบั การเรยี นเสรมิ เพ่ือพฒั นาทกั ษะการใช้

ภาษาอังกฤษกับหน่วยงานภายในสถานศึกษา

4 ทา่ นเข้ารับการเรยี นเสริมเพื่อพฒั นาทกั ษะการใช้

ภาษาองั กฤษกบั หนว่ ยงานภายนอกสถานศกึ ษา

5 ท่านรบั ผดิ ชอบคา่ ใชจ้ ่ายดว้ ยตนเองเพื่อสนบั สนนุ

การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาองั กฤษ

6 ผู้ปกครองสนบั สนุนค่าใชจ้ า่ ยในการเรียนเสรมิ เพ่ือ

พัฒนาทกั ษะการใช้ภาษาอังกฤษให้กับทา่ น

7 ท่านใชส้ ่อื ทว่ั ไป เช่น อ่านหนังสอื ดูโทรทศั น์ ในการ

พัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ

208

ข้อที่ ขอ้ ความ 1 ระดบั ความถ่ีบ่อย 6
2345
8 ทา่ นใช้สอื่ ดิจทิ ัล เชน่ อ่านหนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ ดู
โทรทัศน์ออนไลน์ ในการพฒั นาทักษะการใช้
ภาษาองั กฤษ

9 ท่านฝึกฝนทักษะการใชภ้ าษาอังกฤษผา่ น
คอมพวิ เตอร์/แทบ็ เล็ต (เช่น ไอแพด) ในชนั้ เรียน

10 ทา่ นฝึกฝนทักษะการใชภ้ าษาอังกฤษผา่ น
คอมพิวเตอร์/แทบ็ เล็ต (เชน่ ไอแพด) นอกชัน้ เรยี น

11 ท่านพบปญั หาหรืออุปสรรคด้านตนเอง (เช่น ความ
เหนอ่ื ย ความไม่ตั้งใจ) ทสี่ ง่ ผลต่อความยากลำบากใน
การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ

12 ทา่ นพบปัญหาหรืออุปสรรคด้านผ้สู อน (เชน่ วิธสี อน
บุคลกิ ลกั ษณะ) ท่ีส่งผลต่อความยากลำบากในการ
พัฒนาทกั ษะการใช้ภาษาองั กฤษ

13 ท่านพบปัญหาหรืออปุ สรรคด้านบคุ คลใกลช้ ิดทสี่ ่งผล
ตอ่ ความยากลำบากในการพัฒนาทักษะการใช้
ภาษาอังกฤษ

14 ท่านพบปัญหาหรืออุปสรรคด้านส่อื การเรยี นรู้ (เชน่
จำนวนไม่เพยี งพอ ความยากงา่ ย) ทส่ี ่งผลตอ่ ความ
ยากลำบากในการพัฒนาทักษะการใชภ้ าษาอังกฤษ

15 ท่านพบปัญหาหรืออุปสรรคด้านเวลาที่ส่งผลตอ่ ความ
ยากลำบากในการพฒั นาทักษะการใช้ภาษาองั กฤษ

16 ท่านพบปญั หาหรืออุปสรรคด้านสถานทที่ ่ีส่งผลต่อ
ความยากลำบากในการพฒั นาทักษะการใช้
ภาษาองั กฤษ

17 ทา่ นพบปัญหาหรืออุปสรรคด้านโอกาสทสี่ ง่ ผลต่อ
ความยากลำบากในการพฒั นาทกั ษะการใช้
ภาษาองั กฤษ

18 ทา่ นพบปัญหาหรืออปุ สรรคด้านค่าใช้จ่ายทีส่ ่งผลต่อ
ความยากลำบากในการพัฒนาทกั ษะการใช้
ภาษาองั กฤษ

ขอ้ ที่ ข้อความ 209

19 ท่านวติ กกงั วลว่าตนเองยงั พฒั นาทกั ษะการใช้ ระดบั ความถี่บอ่ ย
ภาษาอังกฤษได้ไม่ดีเพยี งพอท่ีจะนำไปประกอบ 123456
วิชาชีพครู

คำชี้แจงส่วนที่ 3.2 : ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องว่างตามระดับความคิดเห็นที่ท่านคิดว่าใกล้เคียง

กบั สภาพปัจจบุ นั ของตนเองมากท่สี ุด โดย

1 หมายถงึ ไมเ่ ห็นด้วย 4 หมายถงึ เหน็ ด้วย

2 หมายถงึ เห็นดว้ ยนอ้ ยมาก 5 หมายถงึ เหน็ ดว้ ยมาก

3. หมายถงึ เหน็ ด้วยน้อย 6 หมายถงึ เหน็ ด้วยมากท่สี ุด

ข้อท่ี ขอ้ ความ ระดับความคิดเหน็
123456

1 การพฒั นาทักษะการใช้ภาษาองั กฤษเป็นส่งิ จำเป็น

สำหรบั ทา่ น

2 การพฒั นาทกั ษะการใชภ้ าษาองั กฤษเป็นเร่ืองง่าย

สำหรับทา่ น

3 ทา่ นต้องการพฒั นาทกั ษะการใชภ้ าษาองั กฤษให้

สูงข้นึ

4 การพัฒนาทกั ษะการใชภ้ าษาอังกฤษควรเน้นการ

พัฒนาความสามารถทางภาษาทุกทักษะ

5 การประกอบวิชาชพี ครูในอนาคตของทา่ นจำเปน็ ตอ้ ง

มที ักษะการใชภ้ าษาอังกฤษ

6 รายวิชาท่ที า่ นลงทะเบียนเรียนในหลกั สูตรของทา่ นมี

พียงพอทจ่ี ะพัฒนาทกั ษะการใชภ้ าษาองั กฤษ

7 ท่านมีเวลาเพยี งพอในการเขา้ รับการฝกึ อบรมเพื่อ

พัฒนาทกั ษะการใชภ้ าษาอังกฤษ

8 ท่านคดิ ว่าเทคโนโลยีดัง้ เดมิ เชน่ หนังสอื ทวี ี วทิ ยุ

ช่วยในการพัฒนาทักษะการใช้ภาษาองั กฤษของท่าน

9 ทา่ นคดิ ว่าเทคโนโลยดี จิ ทิ ัล เชน่ หนังสือ

อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เว็บไซต์ สมาร์ตโฟน ชว่ ยในการ

พฒั นาทกั ษะการใช้ภาษาอังกฤษของท่าน

210

ขอ้ ท่ี ข้อความ 1 ระดับความคิดเห็น 6
2345

10 ท่านคิดว่าการเรยี นในชนั้ เรยี นตามปรกตชิ ่วย

สนับสนนุ การพัฒนาทักษะการใช้ภาษาองั กฤษ

11 ท่านคิดว่าการเรยี นในช้ันเรยี นออนไลน์หรืออเี ลริ ์นนิง

ช่วยสนับสนุนการพัฒนาทกั ษะการใช้ภาษาอังกฤษ

12 ทา่ นคิดว่าการเรียนแบบผสมผสานชนั้ เรยี นตาม

ปรกตกิ ับช้นั เรียนออนไลน์ชว่ ยสนบั สนุนการพัฒนา

ทกั ษะการใช้ภาษาอังกฤษ

13 สภาพแวดล้อมรอบตัวทา่ น (เช่น บา้ น หอพัก

สถานศกึ ษา) เอือ้ ต่อการพฒั นาทักษะการใช้

ภาษาอังกฤษ

14 ท่านมีแรงจูงใจหรือสร้างแรงจงู ใจได้ดว้ ยตนเองใน

การพัฒนาทกั ษะการใชภ้ าษาอังกฤษ

ตอนที่ 4 ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบัน ปัญหาและอุปสรรคของการพัฒนาทักษะการใช้
เทคโนโลยดี ิจทิ ัล

คำชี้แจงสว่ นท่ี 4.1 : ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องว่างตามระดับความถบ่ี ่อยทท่ี ่านคิดว่าใกล้เคียงกับ

สภาพปัจจบุ ันของตนเองมากท่ีสดุ โดย

1 หมายถึง ไมเ่ คย (0%) 4 หมายถึง บอ่ ย ๆ (41-60%)

2 หมายถงึ นาน ๆ ครงั้ (1-20%) 5 หมายถึง เป็นประจำ (61-80%)

3 หมายถึง บางครั้ง (21-40%) 6 หมายถึง สมำ่ เสมอ (81-100%)

ขอ้ ที่ ขอ้ ความ ระดบั ความถ่ีบ่อย
123456

1 ทา่ นพฒั นาทักษะการใช้เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลของตนให้

สงู ขึ้น

2 คณาจารย์และสถานศึกษาชว่ ยสง่ เสริมและพฒั นา

ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทลั ใหก้ ับทา่ น

3 ท่านเข้ารับการเรยี นเสริมเพ่ือพฒั นาทักษะการใช้

เทคโนโลยดี ิจทิ ัลกับหน่วยงานภายในสถานศกึ ษา

211

ข้อที่ ขอ้ ความ 1 ระดบั ความถี่บอ่ ย 6
2345
4 ท่านเข้ารับการเรยี นเสริมเพ่ือพฒั นาทกั ษะการใช้
เทคโนโลยีดจิ ทิ ัลกับหนว่ ยงานภายนอกสถานศกึ ษา

5 ท่านรับผดิ ชอบค่าใช้จา่ ยดว้ ยตนเองเพอื่ สนับสนนุ
การพฒั นาทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ทิ ลั

6 ผปู้ กครองสนบั สนุนค่าใช้จา่ ยในการเรียนเสรมิ เพ่ือ
พฒั นาทกั ษะการใช้เทคโนโลยดี จิ ทิ ัลให้กบั ทา่ น

7 ทา่ นใชส้ อื่ ทั่วไป เช่น อ่านหนังสือ ดูโทรทศั น์ ในการ
พฒั นาทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีดจิ ิทัล

8 ท่านใช้ส่อื ดจิ ทิ ัล เช่น อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ดู
โทรทัศน์ออนไลน์ ในการพัฒนาทกั ษะการใช้
เทคโนโลยีดิจทิ ัล

9 ทา่ นฝึกฝนทักษะการใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทลั ผา่ น
คอมพิวเตอร์/แท็บเลต็ (เชน่ ไอแพด) ในชั้นเรียน

10 ท่านฝึกฝนทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยดี ิจทิ ัลผา่ น
คอมพวิ เตอร์/แท็บเลต็ (เช่น ไอแพด) นอกชัน้ เรยี น

11 ทา่ นพบปัญหาหรืออปุ สรรคด้านตนเอง (เชน่ ความ
เหนื่อย ความไม่ตัง้ ใจ) ท่ีส่งผลตอ่ ความยากลำบากใน
การพฒั นาทกั ษะการใช้เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั

12 ท่านพบปัญหาหรืออุปสรรคด้านผสู้ อน (เช่น วธิ สี อน
บุคลกิ ลักษณะ) ทสี่ ง่ ผลต่อความยากลำบากในการ
พัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั

13 ท่านพบปญั หาหรืออุปสรรคด้านบคุ คลใกลช้ ดิ ท่สี ง่ ผล
ต่อความยากลำบากในการพัฒนาทักษะการใช้
เทคโนโลยดี จิ ทิ ัล

14 ทา่ นพบปัญหาหรืออุปสรรคด้านสอ่ื การเรยี นรู้ (เช่น
จำนวนไม่เพยี งพอ ความยากง่าย) ทีส่ ง่ ผลตอ่ ความ
ยากลำบากในการพฒั นาทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี
ดจิ ทิ ลั

212

ขอ้ ที่ ขอ้ ความ 1 ระดับความถ่ีบ่อย 6
2345

15 ทา่ นพบปญั หาหรืออปุ สรรคด้านเวลาทีส่ ่งผลต่อความ

ยากลำบากในการพฒั นาทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี

ดิจิทลั

16 ท่านพบปญั หาหรืออปุ สรรคด้านสถานทท่ี ีส่ ่งผลต่อ

ความยากลำบากในการพฒั นาทักษะการใช้

เทคโนโลยดี จิ ิทลั

17 ท่านพบปัญหาหรืออปุ สรรคด้านโอกาสท่สี ่งผลต่อ

ความยากลำบากในการพัฒนาทักษะการใช้

เทคโนโลยีดิจทิ ลั

18 ท่านพบปัญหาหรืออปุ สรรคด้านคา่ ใชจ้ า่ ยท่ีสง่ ผลตอ่

ความยากลำบากในการพฒั นาทกั ษะการใช้

เทคโนโลยีดิจิทลั

19 ทา่ นวิตกกังวลว่าตนเองยงั พัฒนาทกั ษะการใช้

เทคโนโลยีดิจทิ ัลได้ไม่ดเี พยี งพอท่ีจะนำไปประกอบ

วชิ าชพี ครู

คำชี้แจงส่วนที่ 4.2 : ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องว่างตามระดับความคิดเห็นที่ท่านคิดว่าใกล้เคียง

กบั สภาพปัจจบุ นั ของตนเองมากทสี่ ดุ โดย

1 หมายถงึ ไม่เหน็ ดว้ ย 4 หมายถงึ เห็นด้วย

2 หมายถึง เหน็ ด้วยน้อยมาก 5 หมายถึง เห็นดว้ ยมาก

3. หมายถึง เหน็ ด้วยน้อย 6 หมายถึง เหน็ ด้วยมากที่สดุ

ข้อที่ ขอ้ ความ ระดับความคดิ เห็น
123456

1 การพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยดี ิจิทัลเป็น

ส่ิงจำเป็นสำหรับทา่ น

2 การพฒั นาทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ลั เป็นเร่อื งงา่ ย

สำหรบั ทา่ น

3 ท่านต้องการพฒั นาทักษะการใช้เทคโนโลยดี ิจิทลั ให้

สูงข้ึน

213

ข้อท่ี ข้อความ 1 ระดบั ความคิดเหน็ 6
2345
4 การพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ลั ควรเนน้ การ
พฒั นาโปรแกรมสำนักงานกบั โปรแกรมสนบั สนุนการ
จัดการเรยี นรู้

5 การประกอบวิชาชพี ครูในอนาคตของทา่ นจำเปน็ ตอ้ ง
มีทกั ษะการใช้เทคโนโลยดี ิจิทัล

6 รายวิชาทที่ า่ นลงทะเบียนเรยี นในหลักสตู รของทา่ นมี
พยี งพอท่จี ะพฒั นาทกั ษะเทคโนโลยดี ิจิทลั

7 ทา่ นมีเวลาเพียงพอในการเข้ารบั การฝึกอบรมเพ่ือ
พัฒนาทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ิทัล

8 ทา่ นคิดวา่ เทคโนโลยดี ง้ั เดิม เชน่ หนังสือ ทีวี วทิ ยุ
ช่วยในการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยดี จิ ิทลั ของ
ท่าน

9 ท่านคิดวา่ เทคโนโลยีดจิ ิทลั เชน่ หนงั สือ
อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เว็บไซต์ สมาร์ตโฟน ชว่ ยในการ
พัฒนาทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทลั ของทา่ น

10 ทา่ นคดิ ว่าการเรียนในชัน้ เรยี นตามปรกติช่วย
สนบั สนนุ การพฒั นาทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจทิ ลั

11 ทา่ นคิดว่าการเรียนในชนั้ เรียนออนไลน์หรอื อีเลริ น์ นงิ
ช่วยสนับสนนุ การพัฒนาทกั ษะการใช้เทคโนโลยี
ดิจิทลั

12 ท่านคิดวา่ การเรียนแบบผสมผสานชน้ั เรยี นตาม
ปรกตกิ บั ชั้นเรยี นออนไลน์ชว่ ยสนบั สนุนการพฒั นา
ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั

13 สภาพแวดลอ้ มรอบตัวทา่ น (เช่น บา้ น หอพัก
สถานศึกษา) เอื้อต่อการพัฒนาทกั ษะการใช้
เทคโนโลยีดิจทิ ัล

14 ท่านมแี รงจูงใจหรือสรา้ งแรงจงู ใจไดด้ ้วยตนเองใน
การพฒั นาทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั

ขอขอบคุณสำหรับความรว่ มมือในการตอบแบบสอบถาม

214

คำอธิบายระดบั ความสามารถ
ทักษะการใช้ภาษาไทย หมายถงึ ความสามารถในการใช้ภาษาไทย ไดแ้ ก่ การฟงั การพูด

การอา่ น และการอา่ น เพือ่ การส่ือสารในชีวิตประจำวันหรอื การเรยี น โดยแบง่ ออกเป็น 5 ระดับ ดงั นี้

พื้นฐาน หมายถึง เปน็ ผ้เู รยี นภาษาไทยและมีความรูเ้ น้ือหาภาษาไทยระดับเบ้ืองต้น
สามารถติดต่อสื่อสารด้วยการฟังและพูดภาษาไทยได้ แต่ยังพบข้อจำกัดในการอ่านและเขียน
ภาษาไทย

พอใช้ หมายถึง เป็นผู้เรียนภาษาไทยและมีความรู้เนื้อหาภาษาไทยระดับใช้งาน
สามารถติดต่อสอ่ื สารดว้ ยการฟัง พดู อ่าน และเขียน อยา่ งงา่ ย หรืออยใู่ นระดับอ่านออกเขยี นได้ เป็น
การใช้ภาษาเพ่ือการสือ่ สารในชีวติ ประจำวัน

ท่ัวไป หมายถึง เป็นผู้เรียนภาษาไทยและมีความรู้เนื้อหาภาษาไทยระดับกลาง
สามารถติดต่อสื่อสารด้วยการฟัง พูด อ่าน และเขียน กับบุคคลอื่นในสังคมที่มีสถานภาพแตกต่างกนั
ได้ สามารถจำแนกและใช้ภาษาในระดับต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมในชีวติ ประจำวัน

ดี หมายถึง เป็นผู้เรียนภาษาไทยและมีความรู้เนื้อหาภาษาไทยระดับสูง สามารถ
ติดต่อสื่อสารด้วยการฟัง พูด อ่าน และเขียน ได้อย่างถูกต้องตามหลักการใช้ภาษา สามารถจำแนก
และใชภ้ าษาในระดับต่าง ๆ ไดอ้ ย่างเหมาะสมตามในชวี ติ ประจำวนั และการศึกษาเล่าเรียน

ดีเยี่ยม หมายถึง เป็นผู้เรียนภาษาไทยและมีความรู้เนื้อหาภาษาไทยระดับสูงมาก
เทียบเท่านักวิชาการ สามารถติดต่อสื่อสารด้วยการฟัง พูด อ่าน และเขียน ได้อย่างถูกต้องตาม
หลกั การใชภ้ าษา สามารถจำแนกและใช้ภาษาในระดบั ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมในชวี ิตประจำวันและ
การศึกษาเล่าเรียน

ทกั ษะการใช้ภาษาอังกฤษ หมายถงึ ความสามารถในการใชภ้ าษาอังกฤษ ได้แก่ การฟงั การ
พดู การอ่าน และการอ่าน เพ่ือการส่ือสารในชีวติ ประจำวันหรือการเรียน โดยแบ่งออกเป็น 6 ระดบั
ดังนี้

A1 หรือ beginner หมายถึง ระดับพื้นฐานที่สุดสำหรับผู้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ
เนื้อหาระดบั ความรูก้ ็จะเปน็ เร่ืองพ้ืนฐาน บทสนทนาทักทายงา่ ย ๆ ในชีวิตประจำวัน สามารถบอกได้
ว่าเราเป็นใครมาจากไหน หรือสามารถถามคนอื่นในเรื่องทั่วไปได้ เช่น ถามชื่อ อายุ ที่อยู่ ข้อมูล
ส่วนตัวพื้นฐาน จะไม่ค่อยมีความซับซ้อน รูปประโยคง่าย สามารถฟังประโยคสนทนาได้ แต่ต้องเป็น
ประโยคท่พี ดู ชา้ ๆ

A2 หรือ elementary หมายถึง ระดับพื้นฐานที่พอจะเข้าใจเนื้อหาได้หลากหลาย
มากขึ้น สามารถใช้สำนวนทัว่ ไปในการสนทนาได้ แต่ก็ยังถือว่าเป็นพื้นฐานอยู่ เช่น ถามตอบเกี่ยวกับ
ข้อมูลสว่ นตัว การชอปปิง การสมคั รงาน หรอื อาจจะเป็นเรื่องข้อมูลพ้นื ฐานอืน่ ๆ สามารถเล่าประวัติ
สว่ นตวั ได้ พูดถึงสภาพแวดลอ้ มหรือเร่ืองราวเกีย่ วกบั สังคมไดบ้ ้าง

215

B1 หรือ pre-intermediate หมายถึง ระดับกลางขั้นต้น จะเข้าใจและสามารถ
สื่อสารในประเด็นต่าง ๆ ได้มากขึ้น สามารถรับมือกับการอยู่ในสถานการณ์ที่มีแต่คนพูดแต่
ภาษาอังกฤษได้ และยังเชื่อมโยงเนื้อหา อธิบายประสบการณ์และเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ เช่น การงาน
การเรียน งานอดิเรก พูดถึงเรื่องความหวังหรือความฝันได้ ยกเหตุผลประกอบการอธิบายได้ เสนอ
ความคดิ เห็นและวางแผนได้

B2 หรือ advanced หมายถึง ระดับกลางขั้นปลาย ผู้ใช้จะเข้าใจภาษาอังกฤษที่มี
เนื้อหาที่ซบั ซ้อน หรอื หวั ข้อทเี่ ป็นนามธรรมได้ดี สามารถใช้ศพั ท์เฉพาะทางได้ สอ่ื สารกบั เจ้าของภาษา
ได้อย่างราบรื่นโดยที่เจ้าของภาษาสามารถพูดได้ตามธรรมชาติของตัวเอง สื่อสารในหัวข้อท่ี
หลากหลายและมีรายละเอยี ดมาก สามารถถกขอ้ ดีข้อเสียของแตล่ ะหัวขอ้ ได้

C1 หรือ proficiency หมายถึง ระดับขั้นสูง ผู้ใช้จะเข้าใจเนื้อหาที่มีความยาก
และประโยคที่มีความยาวได้เปน็ อย่างดี สามารถตคี วามประโยคท่ีมีนยั แฝงได้ จำรายละเอียดเล็กน้อย
ในเร่ืองไดห้ มด เสนอความคิดไดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ และเปน็ ธรรมชาติ อกี ทง้ั ยังเชยี่ วชาญโดยไม่ค่อยต้อง
พยายามนึกคำใหอ้ อก มีความยดื หยุ่นทางภาษา สามารถแยกการใชไ้ ดท้ ัง้ ในระดับสงั คม วชิ าการ หรือ
การทำงาน อธบิ ายอะไรไดล้ ะเอียด มีโครงสรา้ งการเล่าเรื่องที่ดีเปน็ ขนั้ เป็นตอนและมีความขัดเจน ทำ
ใหค้ นอน่ื เข้าใจได้ ประยกุ ต์และปรับใชภ้ าษาไดม้ าก

C2 หรอื mastery หมายถึง ระดับขน้ั เช่ียวชาญ ผใู้ ช้จะมีความชำนาญเทยี บเท่ากับ
เจ้าของภาษา จะเข้าใจทุกอย่างที่ได้ยินหรือได้อ่านมาแจม่ แจ้งจนเหน็ ภาพในหัว เข้าใจสำนวนหรือคำ
พังเพยต่าง ๆ สามารถสรุปสาระได้ดี ไม่ว่าจะจากการพูดหรืองานเขียนใดก็ตาม อีกทั้งยังสร้างข้อ
โต้แย้งได้ นำเสนอได้อย่างมีเอกภาพ แสดงความคิดเห็นได้อย่างชำนาญและถูกต้องแม่นยำ มองเห็น
แม้ความตา่ งของข้อมลู เพียงเลก็ น้อยในหวั ข้อท่ีซบั ซ้อน

ทักษะการใช้เทคโนโลยีดจิ ิทัล หมายถึง การใช้ประโยชนด์ ้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สื่อสารจากอุปกรณ์ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต สมาร์ตโฟน ในการทำกิจกรรมอิเล็กทรอนิกส์
ต่าง ๆ ผ่านเครือขา่ ยอนิ เทอร์เนต็

ขั้นพื้นฐาน หมายถึง เป็นผู้มีสมรรถนะในการเข้าถึงโลกดิจิทัล ได้แก่ การใช้งาน
คอมพิวเตอร์ การใช้งานอินเทอร์เน็ต และการใช้ดิจิทัลเพื่อความมั่นคงปลอดภัย สามารถใช้งาน
อุปกรณ์ไอที และติดต่อสื่อสารบนสื่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัย โดยตระหนักถึงกฎหมายและ
จริยธรรม รวมท้งั รจู้ กั และเขา้ ใชบ้ ริการพ้นื ฐานและทำธรุ กรรมออนไลน์ขั้นตน้ ได้

ขั้นต้น หมายถึง เป็นผู้สามารถใช้งานเครื่องมือด้านดิจิทัลหรือแอปพลิเคชันขั้นต้น

สำหรับการทำงานได้ ได้แก่ การใช้งานคอมพิวเตอร์ การใช้งานอินเทอร์เน็ต การใช้โปรแกรม

ประมวลผลคำ การใช้โปรแกรมตารางคำนวณ การใช้โปรแกรมนำเสนอ และการใช้ดิจิทัลเพื่อความ

มั่นคงปลอดภยั

216

ขั้นประยุกต์ หมายถึง เป็นผู้สามารถเลือกใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ ด้านดิจิทัล ได้
หลากหลายและประยุกต์ใช้ในงานได้มากขึ้น ได้แก่ การใช้งานคอมพิวเตอร์ การใช้งานอินเทอร์เน็ต
การใช้โปรแกรมประมวลผลคำ การใช้โปรแกรมตารางคำนวณ การใช้โปรแกรมนำเสนอ การทำงาน
ร่วมกันแบบออนไลน์ การใชโ้ ปรแกรมสร้างส่ือดิจทิ ัล และการใชด้ ิจทิ ัลเพอื่ ความม่ันคงปลอดภัย

217

ภาคผนวก ข-2
แบบประเมินความเทีย่ งตรงเชงิ เน้อื หา
รา่ งต้นแบบของสภาพแวดลอ้ มการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเปน็ ฐาน
เพือ่ พัฒนามาตรฐานความรูด้ ้านภาษาและเทคโนโลยีดจิ ทิ ัลเพ่อื การศกึ ษาสำหรบั

นกั ศึกษาครู

เอกสารชีแ้ จงผู้เข้าร่วมโครงการวจิ ัย

ชื่อโครงการวิจัย สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานเพื่อพัฒนา
มาตรฐานความร้ดู ้านภาษาและเทคโนโลยีดิจิทัลเพ่ือการศกึ ษาสำหรับนักศกึ ษาครู

ชื่อผู้วิจัย รองศาสตราจารย์ ดร.วัชรพล วิบูลยศริน สังกัดสถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย
มหาวทิ ยาลัยมหิดล

คำชีแ้ จง
แบบประเมนิ ฉบบั น้ี จดั ทำขึ้นเพ่ือใช้ในการประเมินความเที่ยงตรงเชงิ เนื้อหาของร่างต้นแบบ

ของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจริงแบบใช้ภาระงานเป็นฐานเพื่อพัฒนามาตรฐานความรู้
ดา้ นภาษาและเทคโนโลยีดิจิทัลเพอื่ การศึกษาสำหรบั นักศึกษาครู ประกอบดว้ ย 2 ตอน ไดแ้ ก่

ตอนที่ 1 ร่างต้นแบบของสภาพแวดล้อมการเรียนรภู้ าษาเสมอื นจรงิ ฯ
ตอนที่ 2 ข้อเสนอแนะ
โดยประเมินพร้อมกับการพิจารณาสภาพแวดล้อมการเรยี นรภู้ าษาเสมอื นจรงิ ฯ ของผูว้ ิจยั จากเว็บลิงก์
https://bit.ly/2WKoQZ2 (username: thaiteacher; password: teacher11) หากท่านต้องการ
ศึกษาแผนกำกับกิจกรรมการเรยี นสำหรับผูส้ อนและคูม่ ือการฏบิ ัติภาระงานสำหรับผู้เรียน โปรดสแกน
ควิ อารโ์ คดดา้ นลา่ ง
ผู้วิจัยขอขอบพระคุณผู้เชี่ยวชาญสำหรับความอนุเคราะห์ในการประเมินความเที่ยงตรงเชิง
เนอ้ื หาของเคร่ืองมอื ท่ีใชใ้ นการวจิ ยั ครง้ั นี้

ผวู้ จิ ยั
20 กรกฎาคม 2564

218

ตอนที่ 1 ร่างต้นแบบของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ภาษาเสมือนจรงิ ฯ

คำชีแ้ จง : พจิ ารณาการจัดกจิ กรรมการเรียนรูใ้ นสภาพแวดล้อมการเรยี นรภู้ าษาเสมือนจริงฯ ในภาพ

ท่ี 1 (หนา้ ถดั ไป) กอ่ นทำเคร่ืองหมาย ✓ ลงในชอ่ งตามความคดิ เห็นของทา่ น โดย

1 หมายถงึ ไมส่ อดคล้อง

2 หมายถงึ คอ่ นข้างสอดคลอ้ ง

3 หมายถงึ สอดคลอ้ ง

4 หมายถงึ สอดคล้องมาก

หวั ข้อ รายการประเมนิ ระดบั ความสอดคล้อง หมายเหตุ
1234

1. เน้อื หาด้านภาษาและเทคโนโลยี
อง ์คประกอบของ
สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ 2. ภาระงาน

ภาษาเส ืมอนจริงฯ 3. ทรัพยากรและแหล่งเรยี นรู้

4. เครือ่ งมือแบบไม่ประสานเวลา

5. ระบบการตดิ ตามผูเ้ รียน

6. การประเมนิ ออนไลน์

ข้ันตอนของสภาพแวดล้อมการเรียน ูร้ภาษาเส ืมอนจริงฯ 1. การจดั ปฐมนเิ ทศ

2. การทดสอบความรูก้ ่อนเรียน

3. ขน้ั นำเสนอภาระงาน

3.1 การอา่ นทำความเขา้ ใจเนื้อหา

4. ขั้นปฏบิ ตั ิภาระงาน

4.1 การศกึ ษาเนื้อหาดว้ ยตนเอง

4.2 การปฏบิ ัตติ ามภาระงาน

5. ขน้ั สะทอ้ นคดิ

5.1 การเขียนสะท้อนคิด

5.2 การทำแบบฝึกหดั

6. การทดสอบความรหู้ ลงั เรยี น

7. การสอบถามความคดิ เห็น

สัปดาหท์ ี่ 1 219
1. จัดปฐมนเิ ทศ

สัปดาห์ที่ 1, 6, และ 11 2. ทดสอบความรู้ก่อนเรยี น

สปั ดาหท์ ี่ 1-5 ขน้ั ที่ 1 นำเสนอภาระงาน
การใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ัลเพื่อการศึกษา ขน้ั ที่ 2 ปฏบิ ัตภิ าระงาน
ขัน้ ที่ 3 สะท้อนคิดภาระงาน
สัปดาหท์ ี่ 6-10
การใช้ภาษาไทยเพ่ือการส่อื สาร

สัปดาห์ท่ี 11-15
การใชภ้ าษาอังกฤษเพือ่ การส่ือสาร

สปั ดาห์ที่ 5, 10, และ 15 3. ทดสอบความร้หู ลังเรียน

สปั ดาห์ท่ี 15 4. สอบถามผ้เู รียน

ภาพท่ี 1 การจดั กจิ กรรมการเรียนรใู้ นสภาพแวดล้อมการเรยี นรู้ภาษาเสมอื นจริงฯ

220

ตอนท่ี 2 ข้อเสนอแนะ
คำช้แี จง : โปรดเขยี นให้ขอ้ เสนอแนะตามความคดิ เห็นของทา่ น (ถา้ ม)ี
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................... ............................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
...........................................

ขา้ พเจา้ ..............................................................................สงั กดั ..........................................................
พิจารณาเคร่อื งมือทีใ่ ช้ในการวิจัยฉบบั นโี้ ดยตลอดแล้วพบว่า

 สามารถนำไปใช้ได้ โดยไม่ต้องปรบั ปรุงแก้ไข
 สามารถนำไปใช้ได้ โดยตอ้ งปรบั ปรุงแก้ไขก่อน
 ไมส่ ามารถนำไปใชไ้ ด้ เพราะ............................................................................................
............................................................................................................................. .................................
............................................................................................................................. .................................
.................................................................................................. ............................................................

ลงชื่อ.................................................................
(...............................................................)
................./................./.................

221

ภาคผนวก ข-3
แผนการจดั การเรียนรู้
กจิ กรรมสภาพแวดล้อมการเรยี นร้เู สมือนจรงิ แบบใชภ้ าระงานเปน็ ฐาน

สปั ดาห์ท่ี 1 หวั ขอ้ การเข้าใจส่ือดจิ ิทลั

กจิ กรรมการเรียนรู้
หลังจากลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ VTLLE แล้วใหน้ กั ศึกษา...
1. เริม่ ต้นหนา้ “เร่ิมต้น” อา่ นทำความเข้าใจเนื้อหาจนจบ แล้วจงึ กดป่มุ Completed. Let’s

continue. เพื่อศึกษาเนื้อหาถัดไป ได้แก่ คำแนะนำ ภาพรวมของเนื้อหา เอกสารอ้างอิง และเนื้อหา
ในหนว่ ยท่ี 1

2. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน “แบบทดสอบการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา” ซึ่งจะนำ
นักศกึ ษาไปยงั เว็บไซต์ Microsoft Forms ซง่ึ เปน็ แบบทดสอบออนไลนแ์ บบปรนยั 5 ตัวเลือก จำนวน
60 ขอ้ โดยออกแบบใหส้ อดคล้องตามมตขิ องทีป่ ระชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการทดสอบเพื่อขอรับ
ใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพครู ในการประชมุ คร้งั ที่ 6/2564 เมื่อวนั ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

3. เมอ่ื นักศกึ ษาทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนเสร็จเรยี บร้อยแลว้ ให้กลบั มายังระบบ VTLLE แล้ว
จึงกดปุ่ม Completed. Let’s continue. เพือ่ ศกึ ษาเนอื้ หาถดั ไป ไดแ้ ก่ เนอ้ื หาหัวข้อ 1.1.1-1.1.10

4. ปฏิบัติภาระงานที่ 1 โดยกำหนดให้นักศึกษาที่ใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต ปฏิบัติ
ภาระงานแตกตา่ งกัน ดงั นี้

สำหรบั นักศึกษาทีใ่ ช้งานบนคอมพวิ เตอร์*
5. *ไปที่หน้าเดสก์ท็อป (desktop) บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของตน สร้างไฟล์ Text
Document และตั้งชื่อว่า “ฉันจะเป็นครู” และสร้างโฟลเดอร์และตั้งเป็นชื่อของนักศึกษา (เช่น วัช
รพล)
6. *นำไฟลท์ สี่ ร้างขึน้ ใสไ่ วใ้ นโฟลเดอร์ดังกลา่ ว แล้วย้ายไว้ไปในไดรฟ์ดี (Drive D:)
7. *ดาวน์โหลดโปรแกรม Recuva จากเวบ็ ไซต์ใด ๆ และตดิ ตั้งโปรแกรมลงในไดรฟซ์ ี

สำหรบั นักศกึ ษาท่ีใชง้ านบนแทบ็ เลต็ **
5. **กดปุ่มโฮม (home) บนแท็บเล็ตของตน แล้วปัดเลื่อนหน้าจอจากขวาไปซ้าย ย้ายแอป
พลิเคชัน 2-3 แอป ใส่ในโฟลเดอร์เดียวกนั และตงั้ เป็นช่ือของนักศึกษา
6. **ยา้ ยโฟลเดอรไ์ ปไวอ้ ีกหนา้ จอหน่ึง
7. **ดาวน์โหลดแอป Notability ใน App

222

8. ร่วมกันอภิปรายแลกเปลี่ยนข้อมูลในหน้า “การอภิปราย” โดยกดที่ “กระดานอภิปราย”
แล้วเขียนแสดงความคิดเห็นของต้นเกี่ยวกับความสะดวกสบายในการเรียนออนไลน์ด้วย 1)
คอมพวิ เตอร์ 2) แท็บเลต็ หรอื 3) สมารต์ โฟน แลว้ จึงกดป่มุ Complete and continue

9. ในหัวข้อ 1.1.13 การสะท้อนคิด กด Text reply เพื่อเขียนสะท้อนคิดสิ่งที่ได้เรียนรู้ใน
สปั ดาหน์ ี้ (จำนวน 150 คำข้นึ ไป) แล้วจึงกดปุ่ม Send your reply and continue เพ่อื ทำแบบฝกึ หัด
ท่ี 1.2 จำนวน 10 ข้อ ในหน้าถัดไป

223

แผนการจดั การเรยี นรู้

กิจกรรมสภาพแวดล้อมการเรยี นรู้เสมือนจรงิ แบบใช้ภาระงานเปน็ ฐาน

สัปดาห์ท่ี 2 หวั ขอ้ การเข้าถงึ และประยกุ ต์ใชส้ อ่ื ดจิ ทิ ลั ตอนที่ 1

กิจกรรมการเรยี นรู้
หลงั จากลงทะเบยี นเข้าสู่ระบบ VTLLE แลว้ ใหน้ กั ศกึ ษา...
1. ในหน้า “บทนำ” อ่านทำความเข้าใจเนื้อหาจนจบ แล้วจึงกดปุ่ม Completed. Let’s

continue. เพอ่ื ศกึ ษาเน้อื หาถดั ไป ได้แก่ เนือ้ หาหวั ขอ้ 1.2.1-1.2.5
2. ปฏิบัติภาระงานที่ 2 โดยกำหนดการจัดรูปแบบข้อความ ย่อหน้า แทรกวัตถุ และ

จดั รปู แบบเอกสารตามไฟล์ตัวอย่างในเนื้อหาหวั ขอ้ 1.2.5 แล้วกด Upload a file เพือ่ ส่งภาระงาน
3. ศึกษาเนื้อหาในหัวข้อ 1.2.7-1.2.8 แล้วปฏิบัติภาระงานที่ 3 โดยกำหนดการจัดข้อความ

บนสไลด์และแทรกวัตถุลงบนงานนำเสนอตามไฟล์ตัวอย่างในหัวข้อ 1.2.8 แล้วกด Upload a file
เพอื่ สง่ ภาระงาน

4. ในหัวข้อ 1.2.10 การสะท้อนคิด กด Text reply เพื่อเขียนสะท้อนคิดสิ่งที่ได้เรียนรู้ใน
สปั ดาห์น้ี (จำนวน 150 คำขนึ้ ไป) แล้วจงึ กดปมุ่ Send your reply and continue เพอื่ ทำแบบฝึกหัด
ที่ 1.2 จำนวน 10 ขอ้ ในหนา้ ถดั ไป


Click to View FlipBook Version