จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้
เกมการศกึ ษา ๓. เด็กเลือกเลน่ อิสระ ๑. เกมพน้ื ฐานการ สงั เกต
เกมจับคเู่ ปรยี บเทียบ (๓) การจับคู่ เกมพ้นื ฐานการลบ ๔. เมอ่ื ใกลห้ มดเวลาครใู หส้ ญั ญาณหยุดเลน่ เก็บ ลบ จำนวนไม่เกิน ๕ การเลน่ เกมจับคู่
จำนวนได้ จำนวนไมเ่ กนิ ๕ อปุ กรณแ์ ละทำความสะอาดร่างกาย ๒. เกมชุดเดมิ ในมมุ เปรยี บเทยี บจำนวน
เปรียบเทยี บและ ๑. ครูสาธิตเกมพน้ื ฐานการลบจำนวนไมเ่ กนิ ๕ เกมการศกึ ษา
๒. จดั เด็กเขา้ กลมุ่ เกมหมนุ เวียน เล่นเกมชุดใหม่ ๓. เคร่อื งเคาะจงั หวะ
เรยี งลำดับ และเล่นเกมชดุ ท่ีเคยเลน่ มาแล้ว
สิง่ ต่างลกั ษณะ ๓. เมอื่ ได้ยินสญั ญาณเดก็ ช่วยกนั เก็บเกมเขา้ ท่ี
(๘) การนบั และแสดง ให้เรียบร้อย
จำนวนของสิ่งตา่ งๆ
ในชีวติ ประจำวนั
แผนการจัดประสบการณ์รายวนั วนั ท่ี ๔ หนว่ ยท่ี ๓๒ แรงและพลังงานในชวี ติ ประจำวนั ชนั้ อนุบาลปท� ่ี ๑
สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื การประเมินผล
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้
กิจกรรมเคลือ่ นไหว (๒) การแสดงความคดิ ๑. กิจกรรมเคลื่อนไหวพื้นฐาน ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหว สังเกต การเคลื่อนไหว
และจงั หวะ รา่ งกายไปทัว่ บรเิ วณอย่างอิสระตามจงั หวะ เคร่อื งเคาะจังหวะ ท่าทางเพอื่ สื่อสาร
เคลอื่ นไหวทา่ ทาง เมือ่ ไดย้ ินสญั ญาณหยดุ ให้หยดุ ในทา่ นน้ั ทนั ที ความคิดความรสู้ กึ การ
เพอ่ื สอ่ื สารความคดิ สรา้ งสรรคผ์ า่ นการ ๒. ใหเ้ ดก็ ยนื เป�นวงกลม ครเู ลือกอาสาสมคั ร ๑ เป�นผู้นำผตู้ าม
เคล่อื นไหว คน เป�นผู้นำทำทา่ กายบรหิ ารให้เพอ่ื นทำตาม ของตนเอง
เมือ่ ไดย้ นิ สัญญาณหยดุ ใหค้ นอนื่ ๆ เป�นผนู้ ำ
ความรู้สึก การเป�น ผนู้ ำ พอประมาณและครูนำใหเ้ ด็กทำตามเปน� คน
และผู้ตามของ สุดท้าย
ตนเองได้
๓. ให้เดก็ นงั่ ผอ่ นคลายสบาย ๆ ตบมอื นบั ๑-๕
กจิ กรรมเสริม (๓) การสบื เสาะหา พลังงานจากอาหาร ๑. ครแู จกลูกอมคนละ ๑ เมด็ และให้เดก็ อม ครู สังเกต
ประสบการณ์ ความรู้ เพอ่ื ค้นหา พลังงานเช้ือเพลงิ ถามถงึ ความรูส้ ึกวา่ เป�นอย่างไร และถามวา่ เราได้ การค้นหาคำตอบของ
คน้ หาคำตอบ คำตอบของข้อสงสัย กินอำหารเลยจะเกดิ อะไรขน้ึ
ของข้อสงสัยต่างๆ ๒. ครอู ธบิ ายการกินอำหาร เชน่ ข้ำว ขา้ วโพด จะ ขอ้ สงสยั ตา่ งๆ ตาม
ตามวธิ ีการ ไดพ้ ลงั งานท่รี ่างกายจะนำไปสรา้ งความ
เมื่อมีผู้ช้ีแนะได้ เจรญิ เตบิ โตเติมเร่ียวแรงและตอ่ ชีวติ ให้ยนื ยาว วธิ ีการเม่อื มีผูช้ ีแ้ นะ
ตอ่ ไปอำหารบางอย่าง เช่น น้ำตาลจะมีพลงั งาน
ด่วนทันใจให้เด็ก แตถ่ ำ้ กนิ อาหารมากเกนิ ไป
รา่ งกายจะสะสมไว้ในรูปไขมนั จนกลายเปน� คน
ดว้ ยฉขุ โี้ รค
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สือ่ การประเมนิ ผล
จุดประสงค์ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้
สงั เกต
๓. ครูใหด้ ูภาพอปุ กรณก์ ารทำอาหารใชพ้ ลงั งาน ๑. การใช้กรรไกร ตัด
กระดาษใหข้ าด ออก
ไฟฟ้ามอี ะไร ทำอย่างไรและใหเ้ ด็กไปสำรวจทบ่ี ้าน จากกนั
๒. การแสดงความ
ว่ามีอะไรบ้าง พอใจในผลงานของ
ตนเอง
๔. ครสู รปุ อาหารทำให้เกดิ พลงั งานในร่างกาย ทำ
ให้ร่างกายแข็งแรง (อปุ กรณบ์ างอยา่ งต้องใช้
พลงั งานจากเช้ือเพลงิ เชน่ ถ่าน นำ้ มัน แกส๊ )
กจิ กรรมศิลปะ สร้างสรรค์(๕) การหยบิ จบั ๑. ครูสำธติ กระดาษตามแบบที่ครูกำหนด ใหข้ าด ๑. กระดาษ
๑. ใช้กรรไกร ตดั กระดาษ การจบั ใชก้ รรไกร
ใหข้ ำดออกจากกัน ได้ (๑) การพดู สะท้อน ออกจากกนั และแนะนำใหไ้ ปทำของเล่น ๒. กรรไกรปลายมน
๒. แสดงความ พอใจใน ความรู้สึกของตนเอง ชนิดต่างๆ ๓. ไม้จมิ้ ฟน�
ผลงาน ของตนเองได้ และผูอ้ ่นื ๒. ใหเ้ ดก็ ๆ ตดั กระดาษตามรอยเส้นท่คี รกู ำหนด
เชน่ วงกลม สเ่ี หลี่ยม สำมเหลี่ยม อย่างนอ้ ย คน
ละ ๒ ชิ้น
๓. ใหเ้ ด็กนำกระดาษท่ตี ัดได้มาใชไ้ ม้จ้ิมฟ�นแทงลง
ไปตรงกลำงให้ทะลแุ ละใหย้ าวประมาณ ๒ ซ.ม.
๔. ให้เดก็ ทดลองหมุนเลน่
๕. ให้เด็กนำผลงานมาเล่าใหเ้ พอ่ื น ๆ ฟง�
๖. ใหเ้ ด็กช่วยกันเก็บของเข้าที่และทำความ
สะอาดใหเ้ รียบรอ้ ย
สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ การประเมนิ ผล
จุดประสงค์ การเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
กิจกรรมเลน่ ตามมุม (๓) การใหค้ วาม
เลน่ ร่วมกับเพือ่ น รว่ มมอื ในการปฏบิ ัติ ๑. เด็กเลอื กเลน่ ในมมุ ประสบการณ์ ตามความ ๑. มุมประสบการณ์ ใน สังเกต
กิจกรรมตา่ งๆ
(๒) การเล่นและการ สนใจ มมุ ประสบการณ์ควรมี อยา่ งน้อย ๔ มมุ ห้องเรียน การลน่ รว่ มกับเพือ่ น
ทำงานร่วมกบั ผูอ้ ่นื เช่น มมุ หนังสอื มุมบลอ๊ ก มมุ บ้าน และมมุ
วทิ ยาศาสตร์ ๒. เครอื่ งเคาะจงั หวะ
๒. ครนู ำหนงั สอื เรื่อง พลังงานประเภทต่างๆ ไว้ท่ี
มุม
๓. เด็กเลน่ ตามมุมต่างๆ
๔. เมือ่ ไดย้ นิ สญั ญาณให้เดก็ เกบ็ ของเล่นเขา้ ที่
กิจกรรมกลางแจง้ (๔) การเคลอื่ นทใี่ ช้ ๑. ครูให้เดก็ เขา้ แถวตามลำดับก่อน-หลังและ ๑. กตกิ าการเลน่ "ชกั สงั เกต
รบั ลกู บอลดว้ ยมือ
การประสาน ทบทวนข้อตกลง เดนิ ลงสนาม คะเย่อ" การรับลกู บอลด้วยมือ
และลำตัวช่วยได้
สัมพันธ์ของการใช้ ๒. ครสู นทนาเก่ยี วกับกติกาการเลน่ ชกั คะเยอ่ ๒. เชอื ก และลำตัวชว่ ย
กลา้ มเน้อื ใหญใ่ นการ แบ่งเด็กเปน� ๒ กลุ่ม ๆ ละเทา่ ๆ กนั คนหนา้ จับ ๓. ผ้าผกู เชอื ก ๓ ผนื
ขวา้ ง การจบั การโยน เชือกหา่ งจากผ้าผูกไว้ ๑ ฟุต และ คนตอ่ ไปจบั ๔. นกหวีด
การเตะ ต่อกันจนครบทุกคนท้งั สองกลุ่ม เม่อื ได้ยิน
สัญญาณนกหวดี แลว้ ใหด้ ึงได้ ถำ้ กลุม่ ไหนผา้ ทอ่ี ยู่
ตรงหนา้ เข้าไปในเขต ของกลมุ่ ตรงขา้ ม กลมุ่
ตรงข้ำมก็จะชนะและ เปลยี่ นขา้ งใหม่ สลบั กนั
(หา้ มปล่อยมอื )
๓. ครใู หเ้ ดก็ ๆ เล่น ๔ คร้ัง
๔. เล่นอิสระ
๕. เม่ือใกลห้ มดเวลาครูให้สญั ญาณหยดุ เลน่
เก็บอุปกรณแ์ ละทำความสะอาดรา่ งกาย
เดนิ กลบั หอ้ งเรียน
จุดประสงค์ การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้
(๕) การคัดแยก เกมสังเกต สังเกต
เกมการศึกษา ๑. ครูสาธติ เกมสังเกตเคร่ืองใช้ไฟฟา้ จากมุมมอง ๑. การสังเกต
การจดั กลมุ่ และ เคร่อื งใช้ไฟฟ้า เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าในมุมท่ี การจับค่หู รอื
จับคหู่ รอื เปรยี บเทยี บ การจำแนกสง่ิ ตา่ ง ๆ จากมุมมองทต่ี ่างกัน ท่ตี า่ งกัน เปรยี บเทียบดา้ นหนา้
ด้านหนา้ ดา้ นข้าง ตามลักษณะและ ด้านขา้ ง ดา้ นหลงั
ดา้ นหลงั ได้ ๒. จัดเดก็ เขา้ กลมุ่ เล่นเกมหมุนเวยี น เลน่ เกม ชุด ต่างกนั
ใหม่และเลน่ เกมชดุ ทเ่ี คยเล่นมาแลว้ ๒. เกมชดุ เดิมในมมุ
รปู ร่าง ๓. เมื่อได้ยินสญั ญาณเด็กช่วยกนั เก็บเกมเข้าที่ ให้ เกม การศกึ ษา
เรยี บรอ้ ย ๓. เครือ่ งเคาะ
จังหวะ
แผนการจดั ประสบการณร์ ายวนั วนั ท่ี ๕ หน่วยท่ี ๓๒ แรงและพลังงานในชวี ิตประจำวนั ชน้ั อนุบาลปท� ี่ ๑
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่ือ การประเมนิ ผล
กิจกรรมเคลือ่ นไหว ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้
และจังหวะ (๑) การแสดง ๑. กจิ กรรมเคลอื่ นไหวพ้ืนฐานให้เดก็ เคล่อื นไหว ๑. เครอื่ งเคาะ สังเกต
เคลือ่ นไหวประกอบ ความคิดสรา้ งสรรค์ ร่างกายไปท่วั บริเวณอยา่ งอิสระตามจงั หวะ จงั หวะ การเคลือ่ นไหว
เพลง เพื่อสื่อสาร ผ่านภาษา ท่าทาง เมอื่ ไดย้ ินสัญญาณหยดุ เคลอื่ นไหวในทา่ น้ันทันที ๒. เพลง ลมพดั ประกอบเพลง
ความคดิ ความรู้สกึ การเคล่ือนไหว ๒. ครรู ้องเพลง ลมพัด และบอกใหเ้ ด็กแสดง เพือ่ ส่อื สารความคิด
ของตนเองได้ ทา่ ทาง อิสระ พอถึงเนื้อเพลงท่ฉี ันจะบอกให้ ความรสู้ กึ ของตนเอง
ครูเรียกชอื่ เดก็ คนหน่งึ แล้วให้เด็กคนน้นั แสดง
กิจกรรมเสรมิ ทา่ ทางแปลก ๆ ครแู ละเด็กก็รอ้ งเพลงใหม่
ประสบการณ์ คน้ หา เรยี กชื่อเดก็ ประมาณ
คำตอบและ ขอ้ สงสัย
ต่างๆ ตามวธิ ีการ ๕ คน
มผี ู้ชีแ้ นะได้
๓. ให้เดก็ นง่ั พกั ผอ่ นคลายสบายๆ นับ ๑ - ๕
(๓) การสืบเสาะหา พลังงานจากลม ๑. ครูนำพัดมาพัดใหเ้ ด็ก ๆ และถามความรสู้ ึกวา่ เปน� ๑. พดั ไม้ พดั สงั เกต
ความรเู้ พอ่ื ค้นหา อย่างไร และใหเ้ ดก็ ทดลองมานง่ั ตรงประตู หนา้ ตา่ ง กระดาษ การคน้ หาคำตอบและ
คำตอบและข้อสงสัย เวลามลี มพดั มาเปน� อยา่ งไร ใหเ้ ดก็ เปรียบเทยี บ ๒. พดั ลมแตล่ ะชนิด ขอ้ สงสยั ต่างๆ ตามวธิ ีการ
๒. ให้เด็กเปด� พดั ลมเพดำน กดเลขและใหเ้ ดก็ ท่บี อก ๓. แอร์ มีผชู้ แี้ นะ
ความร้สู กึ ว่าเปน� อย่างไร ความแรงลม ข้นึ เมอื่ กด ๑ ๒
๓ ๐ และทดลองเป�ดพดั ลมต้ังโตะ๊
กด ๑ ใหเ้ ด็กอ่านตาม ๑
กด ๒ ใหเ้ ดก็ อ่านตาม ๒
กด ๓ ใหเ้ ด็กอ่านตาม ๓
กด ๑ ใหเ้ ด็กอา่ นตาม ๐ ครแู นะนำการเปด� แอร์
๓. ครูสรุปลมเกดิ จากธรรมชาตแิ ละมนุษยส์ รา้ งข้ึน
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
กจิ กรรมศลิ ปะ (๔) การประดษิ ฐ์สิ่ง ๑. ครแู นะนำอุปกรณ์และวิธตี ัดกระดาษประดษิ ฐ์ ๑. กระดาษสี่เหลีย่ ม สังเกต
๑. การประดิษฐก์ ังหนั
สร้างสรรค์ ตา่ ง ๆ ด้วยเศษวัสดุ กังหนั ลม ๒. กรรไกร เปน� ของเลน่
(เป�นพลงั งานลม)
๑. ประดิษฐก์ งั หัน เปน� (๓) การใหค้ วาม ๑.๑ เจำะรูดา้ นเดียวกันทุกเสน้ ๓. เข็มหมดุ ๒. การทำงานทีไ่ ดร้ ับ
ของเลน่ ได้ (เป�น พลังงาน รว่ มมือในการปฏบิ ตั ิ ๑.๒ ตัดตามเสน้ ทแยงมมุ เขา้ มาคร่งึ ทาง กอ่ นจะถึง มอบหมายจนสำเร็จ
ลม) กจิ กรรม ๔. ดินสอทม่ี ียางลบ เมื่อมีผ้ชู ่วยเหลอื
จุดศนู ยก์ ลาง
๒. ทำงานที่ไดร้ ับ ๑.๓ พับมมุ ทง้ั สี่ (ทมี่ ีรูเจาะ) เข้ามาหา จดุ ศนู ย์
มอบหมาย จนสำเร็จ เมอื่
มีผู้ช่วยเหลอื กลำง
๑.๔ เสียบเขม็ หมุดป�กผา่ นจุดศูนย์กลาง แล้วเสยี บ
ให้ติดดำ้ นข้างยางลบทก่ี น้ ดินสอ นี่คอื กงั หันลม
๒. ใหเ้ ด็กทำจนเสร็จ
๓. ให้เด็กบอกความรสู้ กึ ในการประดษิ ฐก์ ังหันลม
๔. เด็กช่วยเก็บอุปกรณเ์ ข้าท่ใี หเ้ รียบรอ้ ย
กิจกรรมเลน่ ตามมมุ (๓) การใหค้ วาม ๑. เดก็ เลือกเลน่ ในมมุ ประสบการณ์ตามความ สนใจ ๑. มมุ ประสบการณ์ สงั เกต
เลน่ รว่ มกับเพื่อนได้ ร่วมมอื ในการปฏิบัติ
กิจกรรมต่าง ๆ มุมประสบการณค์ วรมอี ย่างนอ้ ย ๔ มมุ เชน่ มมุ ในห้องเรียน การเลน่ ร่วมกบั เพ่อื น
(๒) การเล่นและ หนังสือ มมุ บลอ๊ ก มุมบ้าน และมุม วิทยาศาสตร์ ๒. อปุ กรณ์ ในงาน
ทำงานร่วมกับผู้อืน่ ๒. ครเู พ่มิ อุปกรณป์ ระดิษฐ์ของเลน่ เก่ยี วกับ ประดิษฐ์
พลังงาน ๓. เครื่องเคาะ
๓. เด็กเลน่ ตามมุมต่าง ๆ จังหวะ
๔. เม่ือไดย้ ินสญั ญาณใหเ้ ดก็ เก็บของเลน่ เขา้ ท่ี
จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื การประเมินผล
ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้
กจิ กรรมกลางแจ้ง (๓) การให้ สงั เกต
๑. เลน่ รว่ มกับเพอื่ น ได้ การ ๑. ครูใหเ้ ดก็ เขา้ แถวตามลำดับก่อน-หลงั และ ๑. กงั หนั ลม ๑. การเลน่ รว่ มกับเพอื่ น
๒. แสดงความพอใจ
ความร่วมมือ ว่งิ ประกอบอปุ กรณ์ ทบทวนขอ้ ตกลง เดนิ ลงสนามพรอ้ มอปุ กรณ์ (กงั หัน ๒. นกหวีด ๒. การแสดงความพอใจ
ในผลงานของตนเอง ในการปฏบิ ตั ิ (กงั หนั ลม) ลม) ในผลงานของตนเอง
กิจกรรม
ได้ (๑) การพดู สะท้อน ๒. ครแู นะนำการวง่ิ กงั หันลมและทดลองวิง่ ใหเ้ ดก็
ๆ ดู
ความรสู้ กึ ของตนเอง ๓. ใหเ้ ด็กว่ิงคร้ังละ ๕ คน ตามแถวหนา้ กระดาน
และผูอ้ น่ื และว่ิงจนครบทกุ คน
๔. ใหเ้ ดก็ พูดถงึ ความรู้สกึ ของกังหันลมของตนเอง
เป�นอย่างไร ของใครหมุน ของใครไม่หมุน ช่วยกัน
แกป้ �ญหาและทดลองวิ่ง
๕. เล่นอสิ ระ
๖. ใกลห้ มดเวลาใหส้ ญั ญาณหยุดเล่น
เกมการศึกษา (๓) การจบั คู่ โดมโิ นภาพ ๑. ครูสาธิตการเลน่ เกมโดมโิ นภาพเคร่ืองใช้ไฟฟา้ ๑. สงั เกตเกมโดมิโน สงั เกต
จบั คู่ เปรยี บเทยี บ เปรียบเทียบตาม เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ ๒. จดั เดก็ เขา้ กลมุ่ เลน่ เกมหมนุ เวียน เลน่ เกม เคร่ืองใช้ไฟฟ้า การจบั คู่ เปรยี บเทียบ
ลักษณะตา่ ง ๆ ชุดใหม่ และเกมชุดทเ่ี คยเล่นมาแล้ว
ตามลกั ษณะตา่ ง ๆ ๓. เมอ่ื ไดย้ ินสญั ญาณเด็กช่วยกนั จดั เก็บเกมเขา้ ที่ ๒. เกมชดุ เดิมในมมุ ตามลกั ษณะ
ให้เรยี บรอ้ ย
ได้ เกมการศกึ ษา
๓ ๒ ๑ เลขท่ี ช่ือ-สกุล
ด.ญ.ไอรดา ด.ญ.ปวีณธ ิดา ด.ญ.ธิดารัตน
จันทรงั ษ หนูใหญ โคกโต
คำอธบิ าย 1.เคลอ่ื นไหวรา งกายอยางคลองแคลวประสาน ดา นรา งกาย
สัมพนั ธและทรงตวั ได
จิตใจดา นอารมณและ ดานสงั คม สังเกตพฤตกิ รรมเดก็ หนวยที่ 3๒ แรงและพลงั งานในชวี ติ ประจำวนั ช้นั อนุบาลปท ่ี 1
2. ใชกรรไกรตัดกระดาษในกิจกรรมตางๆได
ครสู ังเกตพฤติกรรมเดก็ รายบุคคล จดบันทึกสรุปเปน รายสปั ดาหร ะบุลำดบั คุณภาพเปน ๓ ระดบั คอื ประเมนิ พัฒนาการ
ระดบั ๓ ดี ระดบั ๒ พอใช ระดบั ๑ ควรสงเสริม 3. แสดงความพอใจในผลงานและความสามารถ
ของ ตนเองได ดานสติปญ ญา
๔.ชว ยเหลอื และแบงปนผูอน่ื ไดเ มอ่ื มีผชู แี้ นะ
๕.ทำงานทไ่ี ดรบั หมอบหมายจนสำเร็จได เมื่อมีผู
ช้แี นะ
๖. เขา แถวตามลำดับ กอนหลงั ได ดวยตนเอง
๗. เลนหรอื ทำงานรวมกบั เพื่อนเปน กลุม ได
๘.สอ่ื สาร สนทนาโตตอบสอดคลองอยางเขาใจกับ
เรื่องท่ฟี งได
๙. เลาเร่อื งเปนประโยคอยางตอ เนื่องใหผอู ่นื
เขาใจได
1๐.เขียนช่ือของตนเองตามแบบเขียนขอ ความ
คลายตัวอกั ษรได
๑๑.จบั คแู ละเปรยี บเทียบความแตกตางหรือความ
เหมือนของสงิ่ ตา งๆ โดยลกั ษณะทีส่ ังเกตพบเพียง
๑๒.จำแนกและจัดกลมุ จำนวนของส่ิงตา งๆได
๑๓.อธิบายการทำงานท่เี กิดข้ึนของตนเองได
สอดคลองกับผลงานไดเ มื่อมผี ชู ้ีแนะ
๑๔.กำรสรางผลงานศลิ ปะอยางอสิ ระเพ่ือส่อื สาร
ความคิดความรส ึกของตนได
๑๕.เคล่ือนไหวรา งกายแสดงทาทางตามคำ
บรรยาย โดยใชการประสานสมั พันธกล้ำมเนือ้
และทรงตวั ได
1 ๖. คน หำคำตอบของขอสงสัยตาง ๆ ตาม
วิธีการ ของตนเองได
๑๗.ใชป ระโยคคำถามวา“ ทีไ่ หน”
“ ทำไม” ใน การ คน หาคำตอบได
หมายเหตุ
บันทกึ หลงั การสอน
หนว่ ย แรงและพลังงานในชีวติ ประจำวัน
วนั ที…่ …………เดือน………………………………..พ.ศ.………………..
1. ผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.ปญ หา / อปุ สรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.ขอเสนอแนะ / แนวทางแกไข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ...................................................................................ผูสอน
( นางสาวณัฏฐศศิ ไกรวลิ าส )
ตำแหนง ครผู ชู ว ย
ความเหน็ และขอเสนอแนะของผบู รหิ าร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื .......................................................................................ผบู ริหาร
( นายยศศกั ดิ์ กอ แกว)
ตำแหนง ครู โรงเรยี นวดั หนองหอย รกั ษาการในตำแหนง
ผูอำนวยการ โรงเรยี นวดั หนองหอย
หนวยการจัดประสบการณท ่ี ๓๓ เสยี งรอบตัว ชนั้ อนบุ าลปท่ี ๑
แนวคิด
เสยี งเกดิ จากการสน่ั ไหวของสงิ่ ตาง ๆ เสียงรอบตัวเรามีท้ังเกิดตามธรรมชาติและไมไดเ กดิ ตามธรรมชาติ เสยี งทเ่ี กดิ จากแหลง ทม่ี าตางกนั เสยี งจะไมเ หมือนกัน หูเปน อวัยวะ
สำหรับรับเสยี งเราตอ งปองกันอนั ตรายจากเสยี งดงั
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงคการเรยี นรู สาระการเรียนรู
มาตรฐาน ตวั บงชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค ๑. เดนิ ตามแนว ทกี่ ำหนดได ประสบการสำคัญ สาระที่ควรเรยี นรู
มาตรฐานที่ ๒ ๒.๑ เคลือ่ นไหว ๒.๑.๑ เดนิ ตามแนว ๑.๑.๑ การใชก ลา มเน้ือใหญ
รางกาย อยาง ทก่ี ำหนดได ๒. เขียนรูปวงกลม ตามแบบได
กลามเน้อื ใหญ คลอ งแคลว ๒.๒.๒ เขียนรปู (๑) การเคลื่อนไหวอยกู บั ท่ี
และกลา มเน้ือ ประสานสมั พนั ธ วงกลม ตามแบบได
เลก็ แข็งแรงใชไ ด และทรง ตวั ได (๒) การเคล่ือนไหวเคล่อื นที่
อยา ง คลองแคลว
และประสาน ๒.๒ ใชม ือ - ตา (๓) การเคล่อื นไหว พรอมวัสดุ
อปุ กรณ
สัมพนั ธก นั ประสาน สัมพนั ธก นั (๔) การเคลือ่ นไหวท่ีใช การ
ประสานสัมพนั ธของการ ใช
มาตรฐานท่ี ๕ ๕.๒ มีความเมตตา ๕.๒.๑ ชว ยเหลอื และ กลา มเน้ือใหญใ นการขวาง การ
มคี ณุ ธรรม กรุณา มีน้ำใจ และ แบง ปน ผอู ืน่ ไดเมอื่ มีผู จับ การโยน การเตะ
จรยิ ธรรม และมี ชวยเหลอื แบงปน ชี้แนะ
จิตใจที่ดีงาม ๕.๔ มคี วาม ๕.๔.๑ ทำงานท่ไี ดรบั (๕) การเลน เคร่อื งเลน สนาม
รับผิดชอบ มอบหมายจนสาเร็จ
เม่ือ มีผูชี้แนะ ๑.๑.๒ การใชก ลามเน้ือเล็ก
(๑) การเลนเครอ่ื งเลน สมั ผสั
และการสรา งแทงไม บล็อก
มาตรฐาน มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ประสบการสำคัญ สาระการเรยี นรูสาระท่คี วรเรยี นรู
ตัวบง ช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค ๓. แบง ปน ผูอน่ื เมอื่ มผี ชู แ้ี นะได
มาตรฐานท่ี ๖ ๖.๒ มีวนิ ยั ใน ๖.๒.๑ เก็บของเลน (๒) การเขยี นภาพและ การ
ตนเอง ของ ใชเ ขา ทีเ่ มอื่ มีผู ๔. ทำงานทไ่ี ดร บั มอบหมายจน เลน กบั สี
มที ักษะชีวติ และ ๖.๓ ประหยดั และ ชแ้ี นะ สำเร็จ เมอ่ื มีผชู ว ยเหลอื ได
ปฏิบตั ติ น ตาม (๓) การปน
หลักปรัชญาของ พอเพยี ง ๖.๓.๑ ใชส่งิ ของ ๕. เก็บของเขาท่ี เมื่อมผี ชู ีแ้ นะได
เศรษฐกจิ พอเพียง เคร่ืองใชอ ยาง (๔) การประดษิ ฐส ่ิงตา ง ๆ
ประหยดั และ ดวยเศษวสั ดุ
พอเพยี งเม่ือมีผชู ้ีแนะ (๕) การหยิบจบั การใช
กรรไกร การฉกี การตดั การ
ปะ และ การรอ ยวสั ดุ
๑.๒.๒ การเลน
(๑) การเลน อสิ ระ
(๒) การเลนรายบคุ คล กลมุ
ยอ ย กลมุ ใหญ
(๓) การเลน ตามมมุ
ประสบการณ
(๔) การเลน นอกหองเรียน
๑.๒.๔ การแสดงออก ทาง
อารมณ
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงคการเรียนรู สาระการเรียนรูสาระทีค่ วรเรยี นรู
มาตรฐาน ตวั บง ชี้ สภาพทพี่ ึงประสงค ๖. ใชสิ่งของเคร่ืองใช อยา งประหยดั ประสบการสำคัญ
มาตรฐานที่ ๘ ๘.๒ มีปฏิสัมพนั ธ ๘.๒.๑ เลนหรอื เม่อื มผี ูช ีแ้ นะได (๕) การทำงานศิลปะ
ท่ีดีกับ ผอู น่ื ทำงาน รว มกบั เพื่อน
อยูร ว มกบั ผูอ่ืนได ๘.๓ ปฏบิ ัติตน เปนกลมุ ๗. เลนรว มกับเพือ่ น ได ๑.๓.๗ การยอมรบั ในความ
อยางมี ความสขุ เบือ้ งตน ในการ ๘.๓.๑ ปฏบิ ตั ิตาม เหมือนและความแตกตาง
และปฏบิ ตั ิตน เปน เปน สมาชิกท่ดี ขี อง ขอตกลง เมื่อมผี ู ๘. ปฏบิ ตั ติ าม ขอตกลง เม่ือมผี ูช้แี นะ ระหวา งบคุ คล
สมาชกิ ทดี่ ขี อง สงั คม ช้แี นะ ได
สงั คม ในระบอบ (๑) การเลนหรอื ทำกจิ กรรม
ประชาธปิ ไตย อันมี รว มกบั กลุม เพอ่ื น
พระมหากษตั รยิ ๑.๓.๔ การมปี ฏิสัมพนั ธ มี
ทรง เปน ประมขุ วินัย มสี ว นรว ม และบทบาท
สมาชกิ ของสงั คม
มาตรฐานที่ ๙ ๙.๑ สนทนา ๙.๑.๑ ฟงผูอ ืน่ พดู จน
ใชภ าษาสอื่ สารได โตต อบและ เลา จบ และพดู โตต อบ (๓) การใหค วามรวมมือ ใน
เหมาะสมกบั วัย เร่อื งใหผูอนื่ เขาใจ เก่ียวกบั เร่อื งท่ีฟง การปฏิบตั กิ จิ กรรมตาง ๆ
๑.๔.๑ การใชภ าษา
(๑) การฟงเสยี งตาง ๆ ใน
สง่ิ แวดลอ ม
(๒) การฟง และปฏิบัติ ตาม
คำแนะนำ
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงคการเรียนรู ประสบการสำคญั สาระการเรียนรู
มาตรฐาน ตัวบงชี้ สภาพทพ่ี ึงประสงค ๙. ฟง ผูอืน่ พดู จนจบ และพูดโตต อบ สาระท่ีควรเรยี นรู
มาตรฐานที่ ๑๐ ๑๐.๑ มี ๑๐.๑.๑ บอกลกั ษณะ เก่ียวกับเรอ่ื งท่ีฟง ได (๓) การฟง เพลง นทิ าน คำ
ความสามารถใน และสว นประกอบของ คลอ งจอง บทรอ ยกรองหรอื
มีความสามารถใน การคดิ รวบยอด สง่ิ ตาง ๆ จากการ ๑๐. เลน เกมภาพ ตัดตอ ตามท่ี เรอื่ งราวตาง ๆ
การคิดท่ี เปน สงั เกตโดยใชประสาท กำหนดได
พ้นื ฐานในการ สมั ผสั (๔) การพูดแสดงความคดิ
เรยี นรู ๑๑. จบั คหู รือ เปรียบเทยี บสิง่ ตา ง ๆ ความรูส กึ และความตอ งการ
๑๐.๑.๒ จบั คแู ละ ตามที่กำหนดได
เปรยี บเทียบความ (๘) การรอจังหวะ ท่ี
แตกตา งหรือความ ๑๒. จดั กลมุ สง่ิ ตา ง ๆ ตามทก่ี ำหนด เหมาะสมในการพดู
ได
เหมอื นของสงิ่ ตา ง ๆ (๙) การพดู เรยี งลำดับคำ เพื่อ
โดยใชล กั ษณะที่ ใชในการสอ่ื สาร
สังเกต พบเพียง (๑๙) การเหน็ แบบอยา งของ
ลกั ษณะเดียว การเขยี นท่ีถูกตอ ง
๑๐.๑.๓ จำแนกและ ๑.๔.๒ การคิดรวบยอด การ
จัด กลุมสง่ิ ตา ง ๆ โดย คิดเชงิ เหตผุ ล การตดั สนิ ใจ
ใช อยางนอ ยหน่งึ และแกป ญ หา
ลักษณะ เปนเกณฑ
(๖) การตอของช้นิ เล็ก เติมใน
๑๐.๑.๔ เรยี งลำดับ ชนิ้ ใหญใ หส มบูรณแ ละ การ
ส่ิงของหรือเหตกุ ารณ แยกชนิ้ สว น
อยา งนอย ๓ ลำดบั
มาตรฐาน มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงคการเรียนรู ประสบการสำคญั สาระการเรียนรู
ตัวบงช้ี สภาพทพ่ี งึ ประสงค ๑๓. เรียงลำดับ สง่ิ ของหรือ สาระท่คี วรเรยี นรู
มาตรฐานที่ ๑๑ ๑๑.๑ ทำงาน ๑๑.๑.๑ สรางผลงาน เหตกุ ารณ อยางนอย ๓ ลำดบั ได (๑๓) การจบั คู การ
ศิลปะตาม ศิลปะเพ่อื สื่อสาร เปรยี บเทยี บและ การ
มีจินตนาการและ จนิ ตนาการและ ความคดิ ความรสู กึ ๑๔. สรา งผลงาน ศลิ ปะตามความคดิ เรียงลำดับ สิง่ ตาง ๆ ตาม
ความคดิ ความคดิ ของ ตนเองโดยมกี าร ของตนเองได ลักษณะความยาว ความสงู
สรางสรรค สรางสรรค ดดั แปลงและแปลก น้ำหนกั ปริมาตร
๑๕. เคลื่อนไหว ทา ทางตามความคดิ
๑๑.๒ แสดง ใหมจากเดิมหรอื มี ของตนเองได (๕) การคัดแยก การจัดกลมุ
ทา ทาง/ รายละเอยี ดเพิ่มขนึ้ และการจำแนก ส่ิงตา ง ๆ
เคล่ือนไหวตาม ตามลกั ษณะและรปู รา ง
จินตนาการอยาง ๑๑.๒.๑ เคลือ่ นไหว รูปทรง
สรา งสรรค ทาทางเพอื่ ส่ือสาร
ความคิด ความรสู ึก ๑.๔.๓ จนิ ตนาการและ
ของตนเอง ความคดิ สรา งสรรค
(๑) การรับรแู ละแสดง
ความรูสกึ ผานส่ือวัสดขุ องเลน
และช้นิ งาน
(๒) การแสดงความคิด
สรางสรรคผ า นภาษา ทา ทาง
การเคลอ่ื นไหวและศลิ ปะ
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงคก ารเรียนรู สาระการเรยี นรู
มาตรฐาน ตัวบงช้ี สภาพทพี่ ึงประสงค ๑๖. คน หาคำตอบ ของขอ สงสัยตาม ประสบการสำคญั สาระที่ควรเรยี นรู
มาตรฐานท่ี ๑๒ ๑๒.๒ มี ๑๒.๒.๑ คนหา วธิ ีการทมี่ ีผูช ้ีแนะได ๑.๔.๔ เจตคตทิ ่ีดตี อการ
มเี จตคติทดี่ ตี อ ความสามารถใน คำตอบ ของขอ สงสัย เรียนรูและการแสวงหาความรู
การเรยี นรู และมี การ แสวงหา ตา ง ๆ ตาม วธิ ีการท่มี ี
ความสามารถใน ความรู ผชู ้แี นะ (๓) การสืบเสาะหาความรู
การ แสวงหา เพ่ือคนหาคำตอบของขอ
ความรไู ด สงสัยตา ง ๆ
เหมาะสม กับวยั
การวางแผนกจิ กรรมรายหนวยการจัดประสบการณ ชน้ั อนบุ าลปที่ ๑ หนวยเสียงรอบตัว
วันท่ี เคลือ่ นไหวและจังหวะ เสรมิ ประสบการณ ศลิ ปะสรางสรรค กิจกรรม การเลน ตามมมุ การเลนกลางแจง เกมการศกึ ษา
เลนเครื่องเลน สนาม เกมภาพตัดตอสิ่งแวดลอม
เคลื่อนไหวรางกาย เสยี งเกิดจากการสน่ั ประดษิ ฐเคร่อื งดนตรี เลนในมมุ ประสบการณ ที่มีเสียงธรรมชาติ
๑ ตามขอ ตกลง ของสงิ่ ตา ง ๆ จากขวดน้ำพลาสติก ตาง ๆ ภายในหอ งเรียน เกมเรยี งลำดับรปู
เรขาคณติ จำนวน ไมเ กิน
เคลื่อนไหวรางกาย เสยี งท่ีเกิดจากแหลง ที่มา ปนดินนำ้ มันเปน ส่ิงทม่ี ี เลนในมุมประสบการณ เลนน้ำ เลนทราย
๒ ประกอบอปุ กรณ ของเสยี งแตกตางกัน รปู รา งกลม ตาง ๆ ภายในหอ งเรยี น ๔
จะไมเ หมอื นกนั เลนในมมุ ประสบการณ เลนเกมเดินลอดถ้ำ
เคลือ่ นไหวรา งกายตาม เสยี งรอบตวั ท่เี กิดจาก หยดสีนำ้ ตาง ๆ ภายในหอ งเรียน เกมจัดกลมุ ภาพ
ตามคำสั่ง ธรรมชาติ บนกระดาษเปยก สง่ิ ทที่ ำใหเ กดิ เสียง
๓ - เสยี งสตั วต า ง ๆ เลนในมมุ ประสบการณ เลน เคร่ืองเลนสนาม
- เสียงในธรรมชาติ เชน ตา ง ๆ ภายในหองเรียน เกมเรยี งลำดับภาพพบั
ฟารอ ง ฟาผา จากรปู วงกลม
เคลอื่ นไหวรา งกาย เสยี งทไ่ี มไดเกดิ ตาม ออกแบบและรอ ยวัสดุ
ประกอบเพลง ธรรมชาติ เชน อยา งสรา งสรรค
๔ "ตาและห"ู - เสียงสญั ญาณในโรงเรยี น
- เสยี งเครือ่ งดนตรี
- เสยี งยานพาหนะ
วนั ท่ี เคลอ่ื นไหวและจังหวะ เสรมิ ประสบการณ กิจกรรม
ศิลปะสรางสรรค การเลน ตามมมุ การเลนกลางแจง เกมการศกึ ษา
เคลือ่ นไหวรางกาย หเู ปน อวยั วะรับเสียง สรา งภาพจากรูป เลนในมุมประสบการณ เลนเกมเดินสงของ เกมพ้นื ฐานการบวก
๕ ตามจนิ ตนาการ - การดแู ลรกั ษา วงกลมดวยสีเทยี น ตาง ๆ ภายในหอ งเรียน จำนวน ๑ - ๔
- การปองกนั อนั ตรายจาก
เสยี งดงั
แผนการจัดประสบการณร ายวนั วนั ท่ี ๑ หนว ยท่ี ๓๓ เสยี งรอบตวั ชนั้ อนบุ าลปท ่ี ๑
จุดประสงคก ารเรียนรู สาระการเรียนรู กิจกรรมการเรียนรู ส่อื การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู สังเกต
กจิ กรรมเคลือ่ นไหว (๓) ๑. กิจกรรมพนื้ ฐาน เด็กเคลอื่ นไหวรางกาย ไปท่ัวบรเิ วณ เครื่องเคาะจังหวะ การปฏบิ ตั ติ ามขอตกลง
และจงั หวะ การใหความรวมมือ ฝก อยางอสิ ระตามจังหวะ ชา -เร็ว ทค่ี รูเคาะ เมือ่ ไดย นิ เมือ่ มผี ูช ี้แนะ
ปฏิบตั ิตามขอตกลง ในการปฏิบตั ติ าม สญั ญาณ “หยดุ ” ใหห ยดุ เคลือ่ นไหวในทา น้นั ทนั ที
เมอื่ มีผชู แ้ี นะได กิจกรรมตา ง ๆ ๒. ครกู ำหนดมมุ ๓ มุม หนา หองเปนมุม เคร่อื งดนตรี สงั เกต
การฟง ผูอ ่นื พูดจนจบและ
หลงั หอ งเปนมมุ เครอ่ื งเลนเลยี นเสยี ง ธรรมชาติ กลาง พดู โตตอบเก่ยี วกบั เรื่อง
หองเปนมุมส่ิงของท่ีทำใหเ กดิ เสียงได ครพู ดู ขอ ตกลงถา ทฟ่ี ง
ครูตบมือเด็กเขาไป ในมมุ เครื่องดนตรี ถา ครดู ีดน้ิวเด็ก
ไปทีม่ มุ เครื่องเลน เลียนเสยี งธรรมชาติ ถา ครูตบไหล ให
เด็กไปที่มุมสิ่งของทีท่ ำใหเ กดิ เสยี งได
๓. ใหเ ดก็ เคลอ่ื นไหวรางกายอยางอิสระตาม จงั หวะท่ีครู
เคาะ เมอ่ื ไดย นิ สัญญาณ "หยดุ " ใหปฏบิ ัติตามขอ ตกลง
๔. เดก็ ผอนคลายดวยการหายใจเขา - ออกชา ๆ
กิจกรรมเสรมิ (๒) การฟง และการ เสียงเกดิ จากการสนั่ ๑. เด็กน่ังเปนวงกลมทกุ คน ตบมือ ตบตัก และ ตบกับมอื ๑. กลอง
ประสบการณ ปฏิบตั ิตามคำแนะนำ ของสง่ิ ตาง ๆ เพ่อื นทน่ี ง่ั ทางซาย-ขวา พรอมกับนบั ปากเปลาขณะตบ ๒. กิง๋ สามเหลย่ี ม
ฟงผูอื่นพูดจนจบและ (๔) การพูดแสดง ๓. แทมบลู นี
พูดโตตอบเกยี่ วกับ ความคดิ ความรสู กึ มือ ๑-๑๐ ๔. ฉิ่ง
เร่ืองท่ีฟงได (๘) การรอจงั หวะ ๒. ครสู งกลองเลก็ กิง๋ สามเหล่ยี ม แทมบลู ีน ฉิง่ ใหเ ดก็ ที่ ๕. ไมบ รรทัด
จุดประสงคก ารเรยี นรู สาระการเรยี นรู กจิ กรรมการเรยี นรู สื่อ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู นง่ั วงกลมอยโู ดยกระจายสง อุปกรณเด็กคนทถ่ี ืออปุ กรณ ๖. โตะ
ทเ่ี หมาะสมในการพูด ตีอุปกรณที่ไดรับ เดก็ คนท่นี งั่ ติดกันใชน ิว้ แตะทอี่ ุปกรณ
(๙) การพดู และสง ตออปุ กรณไปให คนถดั ไป
เรียงลำดับคำ คนนั่งตดิ กันปฏบิ ตั ิเชน เดมิ
เพ่ือใชในการสอ่ื สาร ๓. ใหเ ดก็ บอกความรสู กึ ขณะแตะสัมผสั อปุ กรณ
๔. ใหเด็กทดลองดีดไมบรรทัดท่ีอยบู นโตะ
กิจกรรมศลิ ปะ (๒) การใชว สั ดุและ โดยขยับความยาวของไมบ รรทัดออกมาทีละนดิ ๑. ขวดน้ำพลาสติก สังเกต
สรา งสรรค ส่งิ ของเครอ่ื งใช ครง้ั ละ ๑ คน และหาอาสาสมัครออกมาใชน ว้ิ แตะ ๒. กอ นกรวดเลก็ ๆ ๑. การใชส ิง่ ของ
๑. ใชส่ิงของ เครอ่ื งใช อยา งคมุ คา ทีไ่ มบรรทัด ๓. ทรายหยาบ เครื่องใช อยางประหยัด
อยางประหยัด (๕) การทำงานศิลปะ ๕. เดก็ บอกส่ิงท่ีเห็นขณะที่เพอื่ นดีดไมบรรทดั ๔. ทรายละเอยี ด เมื่อมผี ูช ้แี นะได
เมื่อมผี ชู ้แี นะได และบอกความรสู กึ เม่อื แตะไมบ รรทัด และ ๕. เมลด็ พืชตาง ๆ
๒. ทำงานทไ่ี ดร บั บอกส่ิงที่ไดยินวาเหมอื นกนั หรือตางกนั เม่อื ดดี เชน ถัว่ เขยี ว
มอบหมายจนสำเร็จ ไมบรรทดั และเมื่อขยบั ความยาวของไมบรรทัดออกมา ๖. กระดาษโปสเตอร
๑. ครจู ัดกิจกรรม "ประดษิ ฐเ ครอื่ งดนตรีจาก ขวดน้ำ สี
พลาสตกิ " เดก็ ๆ หาขวดน้ำพลาสติก มาคนละ ๑
ขวด และหาวสั ดทุ สี่ ามารถใสไปใน
ขวดพลาสตกิ ไดม าดวย เชน ทราย เมล็ด พชื
ครูเตรยี มวสั ดุสำรองไวส วนหน่ึง มีข้นั ตอน
การประดิษฐ ดังนี้
ขนั้ ท่ี ๑ ครูแบง กลมุ เดก็ ตามความเหมาะสม
เพอ่ื ใชกระดาษโปสเตอรส ี กาว กรรไกรปลายมน
และวสั ดทุ จี่ ะกรอกใสในขวดพลาสตกิ รว มกัน
จดุ ประสงคการเรียนรู สาระการเรยี นรู กิจกรรมการเรียนรู ส่อื การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู
เมื่อมผี ชู ้แี นะได ขนั้ ท่ี ๒ เด็กกรอกวสั ดุใสในขวดพลาสติกปด ๗. กาว ๒. การทำงานท่ไี ดรบั
ฝาแลว หมุนใหแ นน ๘. กรรไกรปลายมน มอบหมายจนสำเรจ็
ขัน้ ที่ ๓ ตกแตง ขวด โดยการฉีกหรือตดั เมอื่ มผี ูชแ้ี นะได
กระดาษโปสเตอรสี ทากาวแลวติดใหส วยงาม
ข้นั ที่ ๔ ตั้งชือ่ ขวดของตนเอง และคดิ วธิ ที า
ใหเ กิดเสยี งจากขวด
(หมายเหตุ ใชเ ปนอุปกรณประกอบการเคล่อื นไหวในวันท่ี
๒)
กจิ กรรมเลน ตามมมุ (๑) การเลน อิสระ ๑. ครแู ละเด็กพดู ขอ ตกลงรว มกันกอ นเลนในมมุ ๑. อปุ กรณท่ใี ช สังเกต
๑. แบงปนผอู นื่ (๒) ประสบการณ ทดลอง เร่อื งการเกดิ ๑. การแบงปนผอู ื่น เมื่อ
เมอื่ มผี ชู แี้ นะได การเลนรายบคุ คล - ไมนำของเลน มาขวางปาใสกัน เลน ใหถ ูกวิธี ตามท่ีครู เสยี ง เชน ก๋งิ สาม มผี ชู แ้ี นะ
๒. เก็บของเขา ที่ กลุมยอ ย กลมุ ใหญ เคยแนะนำวิธีเลน เหลีย่ ม สอ มเสยี ง ๒. การเก็บของเขาท่ี
เมือ่ มผี ชู แ้ี นะได (๓) การเลน - รจู กั รอคอย และแบง ปน กนั ฯลฯ เมื่อมีผูช้แี นะ
ในมมุ ประสบการณ
(๔) - เกบ็ ของเลน เขา ท่ีเมอื่ เลกิ เลน หรอื เมอ่ื จะไป เลน ในมมุ ๒. ของเลนในมุม
การดแู ลหองเรยี น ประสบการณใ หม ประสบการณ ภายใน
รวมกัน - ถา ไมเ ขา ใจวธิ ีเลน ใหมาถามครู หอ งเรยี น
๒. เดก็ เลอื กเลน ในมมุ ประสบการณตามความ สนใจ ๓. เครอื่ งดนตรี
๓. เดก็ ปฏิบตั ิตามขอ ตกลงเมือ่ หมดเวลาเลน
จุดประสงคก ารเรยี นรู สาระการเรยี นรู กจิ กรรมการเรียนรู ส่อื การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู ๔. ของเลน เลยี นแบบ
หมายเหตุ ครนู ำอปุ กรณที่ใชทดลองเรื่องการเกดิ เสียง เสยี งธรรมชาติเชน
ไวท ี่มุมวทิ ยาศาสตร และเครอ่ื งดนตรี หรอื ของเลนเลียน กบไม
แบบเสยี งธรรมชาติไวท ี่มุมดนตรีตลอดสัปดาหน ้ี
กิจกรรมกลางแจง (๑) การเลน หรอื ๑. ครูและเด็กพูดขอตกลงกอ นไปเลน เคร่ืองเลน สนาม เครอื่ งเลน สนาม สงั เกต
เลนรวมกับเพอ่ื นได ทำกิจกรรมรวมกบั เพือ่ ใหเกดิ ความปลอดภยั ตอ ตนเองและเพื่อน การเลน รวมกบั เพ่ือน
กลมุ เพอ่ื น สังเกต
- เลนเครอื่ งเลน แตล ะชนดิ ใหปลอดภยั ควรเลนอยา งไร ๑. การเลนเกมภาพตดั
- ถา อยากเลน เครอ่ื งเลนท่เี พือ่ นเลนอยู ควรทำอยางไร ตอ ตามที่กำหนด
- เมอื่ ไดย นิ สญั ญาณหยดุ เลนตามที่ตกลง ตอ งทำอยา งไร ๒. การเกบ็ ของเขา ที่
๒. เดก็ เดนิ เปน แถวไปบรเิ วณสนามเด็กเลน เมอ่ื มีผูชีแ้ นะ
๓. เด็กเลือกเลน ตามความสนใจ ครคู อยดแู ล อยูใกล ๆ
๔. ครูใหส ัญญาณหมดเวลาเลน เด็กทำ ความสะอาด
รางกาย
๕. เด็กเดนิ เปนแถวกลับหองเรียน
เกมการศกึ ษา (๖) การตอ ชน้ิ เล็กเติม เกมภาพตัดตอ
๑. เลน เกมภาพตดั ตอ ในช้ินใหญใ หส มบูรณ สิ่งแวดลอ มท่มี เี สยี ง ๑. ครใู หเด็กดเู กม ภาพตัดตอ ส่งิ แวดลอ มที่มเี สยี ง ๑. เกมภาพตดั ตอ สิง่
ธรรมชาติ พรอมแนะนำวิธเี ลนเกม แวดลอ มทม่ี เี สยี ง
ตามทกี่ ำหนดได และการแยกชนิ้ สว น ธรรมชาติ ธรรมชาติ
๒. เกบ็ ของเขาท่ีเมื่อมี (๒) การปฏิบตั ิตนเปน ๒. ครแู บง เด็กเปนกลุมตามความเหมาะสม มหี น่ึงกลมุ ๒.เกมทเี่ คยเลน
ผชู ้ีแนะได สมาชิกท่ีดีของ หองเรียน เลนเกมทแ่ี นะนำใหมวันน้ี กลุม ทเ่ี หลือ เลน เกมที่เคยเลน
๓. เดก็ หมุนเวยี นเลน เกมทแ่ี นะนำใหมว ันนจ้ี น ครบทุก
(๔) การดแู ลหอ งเรียน กลุม
รวมกัน
๔. เด็กเก็บเกมเขาทเ่ี มือ่ เลิกเลน
แผนการจัดประสบการณร ายวัน วนั ท่ี ๒ หนว ยท่ี ๓๓ เสยี งรอบตวั ชน้ั อนบุ าลปท ี่ ๑
สาระการเรียนรู
จุดประสงคการเรียนรู ประสบการณส ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู กิจกรรมการเรยี นรู สอื่ การประเมินพฒั นาการ
กิจกรรมเคลื่อนไหว (๒) การแสดงความคิด ๑. กจิ กรรมพนื้ ฐาน เด็กเคลอ่ื นไหวรางกายไปทั่ว ๑. เครือ่ งเคาะจงั หวะ สงั เกต
และจงั หวะ สรางสรรคผานทาทาง บรเิ วณอยางอิสระตามจงั หวะชา-เรว็ ทคี่ รูเคาะ เมื่อ ๒. เครอ่ื งดนตรี จากขวด ๑. การเคลอ่ื นไหว
๑. เคลือ่ นไหว การเคลื่อนไหว ไดยนิ สัญญาณ “หยดุ ” ใหหยดุ เคลอ่ื นไหว ในทา นำ้ พลาสติก ของเด็ก ทา ทางตามความคิด
ทา ทางตามความคิด (๓) การให น้ันทันที ของตนเอง
ของตนเองได ความรวมมอื ในการ ๒. เดก็ นำเครอื่ งดนตรีจากขวดนำ้ พลาสติกที่เด็ก ๒. การปฏิบตั ิ ตาม
๒. ปฏบิ ตั ิตาม ปฏิบตั ิกิจกรรมตาง ๆ ประดษิ ฐเองเปนอปุ กรณประกอบการเคลื่อนไหว ขอ ตกลง เมือ่ มผี ูชี้แนะ
ขอ ตกลง
เมอื่ มีผูช ีแ้ นะได ใหเดก็ หาวิธพี าเครื่องดนตรีไปโดยไมใ ชมือถือ ครู
เคาะจังหวะเม่ือไดยนิ สญั ญาณ "หยดุ " ใหเ ด็กหยุด
ในทาน้นั ทันทแี ละปฏิบัติตามทีค่ รพู ดู เชน "ดงั " ให
เด็ก เขยา ขวดใหเ สยี งดังหลาย ๆ ครง้ั ถาครูพูดวา
"เบา" เด็กเขยาขวดใหเสียงเบาครั้งเดียว
๓. ปฏิบตั ิตามขอ ๒ ซ้ำเมอื่ ไดยนิ สญั ญาณ "หยุด"
แตครูเปลย่ี นคำพูด เชน จบั คูหรอื จับกลุม ๓-๕ คน
พรอ มกบั เขยา ขวด เสียงดงั - เสยี งเบา - เสยี งดัง
โดยพูดคร้งั ละ ๑ อยา ง
กจิ กรรมเสริม (๑) การฟงเสียงตา ง ๆ เสียงทีเ่ กดิ จาก ๑. เดก็ น่งั เปน วงกลมพรอ มหลบั ตาใหฟง เพลง "ด่งั ๑. เพลง "ดัง่ ดอกไม สังเกต
ประสบการณ ในส่งิ แวดลอ ม แหลงทม่ี าของเสียง ดอกไมบาน" ของเสถยี รธรรมสถานท่เี ปดจากยูทูป บาน" ของเสถยี ร ธรรม ๑. การฟงผอู น่ื พดู จน
๑. ฟง ผูอน่ื พดู จนจบ (๒) การฟงและปฏิบัติ แตกตางกัน ๒. เด็ก และครสู นทนาเกี่ยวกบั เสยี งบรรเลง สถานในยทู ปู จบและ พูดโตตอบ
และพูดโตต อบ ตามคำแนะนำ จะไมเหมอื นกัน ๒. ขวดพลาสติก เกีย่ วกบั เรื่องทฟี่ ง
จดุ ประสงคการเรยี นรู สาระการเรยี นรู กจิ กรรมการเรยี นรู สื่อ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู ๒. การคนหาคำตอบ
เกย่ี วกบั เร่อื งท่ีฟงได (๓) การฟง เพลง ประกอบเพลง ๓. เมลด็ ถ่วั เขยี ว ของขอสงสัยตามวธิ กี าร
๒. คนหาคำตอบ ของ (๙) การพดู ๓. ครแู บงเดก็ เปน ๓ กลมุ แตละกลุม ใหท ดลอง ๔. เมลด็ ขาวโพด ทม่ี ผี ูช ี้แนะ
ขอ สงสัยตาม เรยี งลำดับ คำเพื่อใช ๕. เมลด็ ถัว่ แดง
วิธกี ารทมี่ ผี ชู แ้ี นะได ในการส่ือสาร เพื่อใหเ กดิ เสียง ดงั น้ี ๖. ทรายหยาบ
กลมุ ท่ี ๑ ใหเ ขยา ขวดตาง ๆ ท่ีบรรจเุ มลด็ ถว่ั เขยี ว ๗. ทรายละเอยี ด
(๓) การสืบเสาะหา แหง เมลด็ ขา วโพดแหง เมลด็ ถัว่ แดงแหง ๘. กอนกรวด
ความรูเพือ่ คนหา ทรายหยาบ ทรายละเอยี ด กอ นกรวด ๙. กลอ งพลาสตกิ
คำตอบของขอสงสัย โดยบรรจุขวดละ ๑ ชนิด ๑๐. กลอ งเปลา ขนม
ตางๆ กลุมที่ ๒ ใหเ คาะกลองพลาสติก กลอ งใสขนมปง ปงทเี่ ปน สงั กะสี
สังกะสี กลองกระดาษ กลองไม กะลา ๑๑. กลอ งกระดาษ
กลมุ ที่ ๓ ใหเ ปาใบไม เปาป เปาขลุย เปา นกหวดี ๑๒. กลอ งไม
๔. เดก็ ทั้ง ๓ ๑๓. กลองพลาสติก
กลมุ หมนุ เวียนทดลองปฏบิ ัติตามขอ ๓ ๑๔. กะลา
๕. เดก็ และครรู วมสนทนาจากส่ิงท่เี ด็กคน หา ๑๕. ไมสำหรบั เคาะ
คำตอบดวยตนเองเกย่ี วกบั เสียงทเี่ กดิ จากแหลง ที่ ๑๖. ใบไม ป
มาตา งกัน เสียงยอมตา งกัน ๑๗. ขลุย
๑๘. นกหวดี
จดุ ประสงคการเรียนรู สาระการเรียนรู กิจกรรมการเรียนรู สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู สังเกต
กจิ กรรมศิลปะ (๓) การปน ๑. การจัดกิจกรรมปน ดินน้ำมนั เปนสง่ิ ทีม่ ี ๑. ดนิ นำ้ มนั ๑. การสรางผลงาน ศิลปะ
สรา งสรรค (๒) รปู รา งกลม ๒. แผน รองปน ตามความคดิ ของตนเอง
๑. สรางผลงาน การแสดงความคดิ ๒. ครูจดั เด็กนงั่ ลักษณะตวั ยู แจกแผน รองปน ๒. การทำงานท่ไี ดร บั
ศลิ ปะตามความคดิ สรา งสรรคผานศิลปะ คนละ ๑ แผน และดนิ นำ้ มนั คนละ ๑ กอน ใหเดก็ ๓. แถบกระดาษ ท่ตี ัด มอบหมายจนสำเรจ็ เมอ่ื มี
ของตนเองได บีบ นวด คลึง จนดินนำ้ มนั ออ นนุม ไวแลว ผชู ว ยเหลือ
๒. ทำงานท่ไี ดร ับ ๓. ครพู ดู กระตุนใหเ ดก็ คดิ วาเคยเห็นอะไรบา ง ทมี่ ี
ลกั ษณะกลม อาจเปน ของกินได เปนของใช
มอบหมายจนสำเร็จ อาจอยู บนทองฟา อยูในน้ำ
เมือ่ มผี ชู วยเหลอื ได
หรืออยบู นรางกายของคน
หรอื สตั ว
๔. เดก็ ปน สงิ่ ทีร่ ูปรา งกลม ตามความคิดของตนเอง
ก่ีอยางกไ็ ด
๕. เดก็ นำผลงานมาเลา ใหค รฟู ง ครูเขยี นประโยค
ท่เี ดก็ เลา ในแถบกระดาษที่ตดิ ไวและเขยี นชอื่ เด็ก
ลงวนั ที่ กำกับดว ยใหเดก็ เหน็ วธิ ีการเขยี นตวั อกั ษร
เดก็ นำ กระดาษไวในแผน รองปนขางผลงานของ
ตนเอง
๖. เด็กนำผลงานวางท่ีแสดงผลงาน
๗. เด็กชว ยกนั ทำความสะอาดบริเวณโดยครคู อย
ชแี้ นะ
จุดประสงคการเรียนรู สาระการเรยี นรู กิจกรรมการเรยี นรู สอื่ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู
กิจกรรมเลน ตามมุม (๑) การเลนอสิ ระ ๑. ครูและเดก็ พูดขอ ตกลงรว มกนั กอนเลน ในมมุ ๑. อปุ กรณทใี่ ชท ดลอง สังเกต
๑. แบงปนผอู น่ื (๒) ประสบการณ เรือ่ ง การเกดิ เสยี ง เชน ๑. การแบงปน ผอู นื่ เม่อื มี
เม่อื มีผูช้ีแนะได การเลน รายบุคคล
๒. เกบ็ ของเขา ท่ี กลุมยอ ย กลมุ ใหญ - ไมนำของเลน มาขวางปาใสกนั เลน ใหถ กู วิธีตามที่ กิง๋ สามเหลยี่ ม ผชู ้แี นะ
ครูเคยแนะนำวิธีเลน สอ มเสยี ง ฯลฯ ๒. การเก็บของเขาท่ี เมื่อ
เมอ่ื มผี ูชแี้ นะได (๓) การเลน ๒. มีผูช ้ีแนะ
ในมุมประสบการณ - รจู ักรอคอย และแบงปนกนั
- เกบ็ ของเลนเขาทเี่ ม่ือเลิกเลน หรือเม่ือจะไปเลน ของเลนในมมุ ประสบ
(๔) การณภ ายในหอ งเรียน
การดูแลหอ งเรยี น ใน มมุ ประสบการณใหม
รวมกนั - ถา ไมเ ขา ใจวธิ ีเลน ใหม าถามครู ๓. เครอ่ื งดนตรี
๒. เด็กเลอื กเลน ในมมุ ประสบการณต ามความ ๔. ของเลน
สนใจ เลียนแบบเสยี ง
๓. เด็กปฏิบตั ิตามขอ ตกลงเมือ่ หมดเวลาเลน ธรรมชาติ เชน กบไม
หมายเหตุ ครนู ำอุปกรณท่ใี ชท ดลองเรอ่ื ง การเกดิ
เสยี งไวท่มี มุ วิทยาศาสตร และเครื่องดนตรหี รือ
ของเลน เลียนแบบเสียงธรรมชาตไิ วท ่ี มุมดนตรี
ตลอดสปั ดาหน ี้
(๑) การเลนหรอื ทำ ๑. เดก็ และครพู ดู ขอตกลงกอนไปเลน น้ำ เลน ทราย ๑. บริเวณเลนนำ้
กจิ กรรมกลางแจง กจิ กรรมรวมกบั เพือ่ ใหเ กดิ ความปลอดภยั เลนทราย สังเกต
เลนรว มกับเพ่อื นได กลุมเพ่อื น - ไมสาดน้ำหรอื ทรายใสก นั ๒. อปุ กรณ การเลนรวมกับเพื่อน
- ถา อยากใชอ ปุ กรณท ี่เพ่ือนใชอ ยู ใหข อยมื หรือ การเลน นำ้ เลน ทราย
จดุ ประสงคก ารเรียนรู สาระการเรียนรู กจิ กรรมการเรียนรู สือ่ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู
รอคอยจนเพ่อื นใชเสรจ็
เกมการศึกษา (๑๓) การเรยี งลำดบั รปู - แบงปนกันเลน ๑. เกมเรยี งลำดบั รูป สงั เกต
เรียงลำดบั สิ่งของ การเรยี งลำดบั สง่ิ ตา ง เรขาคณิต จำนวน ๒. เดก็ เดนิ เปนแถวไปบริเวณเลนนำ้ เลนทราย เรขาคณิต จำนวน ไม การเรียงลำดับส่งิ ของ
หรือเหตกุ ารณ ๆ ไมเ กนิ ๔ พรอมกบั นำอปุ กรณการเลนไปดว ย เกิน ๔ หรือเหตุการณ
อยางนอย ๓ ลำดับ (๒) การปฏบิ ตั ติ น ๓. เดก็ เลอื กเลน ตามความสนใจ ๒. เกมทเี่ คยเลน อยา งนอ ย ๓ ลำดับ
ได เปน สมาชกิ ที่ดขี อง ๔. ครูใหส ญั ญาณนกหวดี กอ นหมดเวลาเพื่อใหเ ดก็
หอ งเรียน ทำความสะอาดอปุ กรณและมอื
(๔) ๕. เดก็ เดนิ เปน แถวกลับหองเรยี น
การดูแลหอ งเรียน ๑. ครใู หเด็กดูเกมเรียงลำดบั รปู เรขาคณติ จำนวน
รวมกนั ไมเกิน ๔ พรอ มกบั แนะนำวธิ ีเลนเกม
๒. ครูแบงเดก็ เปน กลุม มหี นึง่ กลุมเลนเกมท่ี
แนะนำใหม วนั นี้กลมุ ทเี่ หลือเลน เกมท่ีเคยเลน
๓. เดก็ หมุนเวียนเลนเกมท่แี นะนำใหมว ันนจี้ นครบ
ทุกกลุม
๔. เดก็ เก็บเกมเขาทีเ่ มือ่ เลกิ เลน
แผนการจดั ประสบการณ วันที่ ๓ หนว ยท่ี ๓๓ เสียงรอบตัว ชั้นอนุบาลปท ่ี ๑
จดุ ประสงคก ารเรียน สาระการเรียนรู
รู ประสบการณส ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู กจิ กรรมการเรียนรู สื่อ การประเมินพฒั นาการ
สังเกต
กิจกรรมเคลื่อนไหว (๒) การแสดงความคดิ ๑. กิจกรรมพน้ื ฐาน เด็กเคลอื่ นไหวรางกาย ทวั่ ๑. การเคล่ือนไหวทา ทาง
และจังหวะ สรางสรรคผ า นทา ทาง บรเิ วณฝก อยา งอิสระตามจังหวะ ชา-เร็ว ท่ีครูเคาะ เคร่อื งเคาะจงั หวะ ตามความคิดของตนเอง
เคลื่อนไหวทา ทาง การเคล่ือนไหว เมื่อไดยนิ สญั ญาณ “หยุด” ใหห ยดุ เคล่ือนไหวในทา ๒. แถบกระดาษ
ตามความคิด โปสเตอรสีมคี วามก
ของตนเองได นัน้ ทนั ที วา ง เสนละ ๑ นว้ิ
๒. ครแู จกแถบกระดาษโปสเตอรส ใี หเดก็ คนละ ๑ ยาว ๑๒ นิว้ เทา
เสน
๓. ครูเคาะจงั หวะ เดก็ เคลอ่ื นไหวรางกายไปท่ัว จำนวนเดก็
บรเิ วณพรอ มนำแถบกระดาษโปสเตอรสีไปดวย โดย
ทา ทางไมซ ้ำกัน เม่อื ไดยินสญั ญาณหยดุ ให ปฏบิ ัติ
ตามคำสัง่ เชน ใหเดก็ จบั กลมุ แถบกระดาษ สี
เดยี วกนั แลวชว ยกนั นับจำนวน จับกลุมจำนวน ๓
คน จบั กลุมจำนวน ๔ คน จบั กลุมจำนวน ๕คน โดย
ใหเดก็ นบั จำนวนกลมุ ทุกครงั้
๔. ปฏบิ ตั ติ ามขอ ๓ ซำ้
จดุ ประสงคการเรยี น สาระการเรียนรู กิจกรรมการเรียนรู สอื่ การประเมินพฒั นาการ
รู ประสบการณส ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู
กิจกรรมเสริม (๑) การฟงเสยี งตาง ๆ เสยี งรอบตัวทเี่ กดิ จาก ๑. ใหเ ด็กฟง เพลง “เสียง.....อะไร” (เปดจากยูทูป ๑. เพลง “เสยี ง..... สงั เกต
ประสบการณ ในสิง่ แวดลอ ม ธรรมชาติ เชน เพลงของปฐมวัยหนวยเสียง) อะไร” (เปด ในยูทูป)
๑. ฟงผอู ่ืนพดู จนจบ (๒) การฟงและปฏิบัติ - เสยี งสตั วต าง ๆ ๒. ครถู ามเดก็ ๆ วาไดยินเสยี งอะไรบาง เมื่อฟงเพลง ๒. บริเวณตา ง ๆ ๑. การฟง ผูอ่นื พูดจนจบ
และพดู โตต อบ ตามคำแนะนำ - เสียงในธรรมชาติ ๓. เดก็ และครสู นทนารวมกันถงึ เสยี งทีเ่ ด็กเคย ไดย นิ ภายใน โรงเรียน และพดู โตต อบเกีย่ วกบั
เก่ยี วกับ เรอ่ื งท่ฟี ง ได (๓) การฟงเพลง ท่เี กิดตามธรรมชาติในเหตกุ ารณต าง ๆ เชน กอ นฝน เรอื่ งทฟี่ ง
๒. คน หาคำตอบ (๘) การรอจังหวะ ท่ี ตก หรอื ในสถานทต่ี า ง ๆ เชน นำ้ ตก ทะเล ในปา ๒. การคนหาคำตอบ ของ
ของขอสงสัย ตาม เหมาะสมในการพูด ๔. เดก็ และครพู ดู ขอตกลงกอนพาเดก็ ออกไปฟง ขอสงสัยตามวธิ ีการ ทม่ี ีผู
วธิ ีการท่มี ี ผชู ้ีแนะได (๙) การพูดเรียงลำดบั เสยี งตาง ๆ ในสง่ิ แวดลอมภายในโรงเรยี น ช้แี นะ
คำเพื่อใชในการ
ส่ือสาร ๕. เด็กเดินเปน แถวไปบริเวณที่มเี สยี งตาง ๆ ใน
โรงเรยี น
(๓) การสืบเสาะหา ๖. เด็กและครสู นทนาถงึ สงิ่ ทเ่ี ดก็ ไดย ิน ครูถาม เดก็
ความรเู พอ่ื คน หา
คำตอบของขอสงสยั วา เสยี งใดทเ่ี ด็กคิดวา เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
ตา ง ๆ
จุดประสงคการเรยี น สาระการเรียนรู กิจกรรมการเรยี นรู สอื่ การประเมนิ พฒั นากา
รู ประสบการณส ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู ร
(๒) การแสดงความคิด ๑. ครจู ดั กจิ กรรม หยดสนี ำ้ บนกระดาษเปย ก ครพู ดู ๑. กระดาษ เอ๔ สงั เกต
กจิ กรรมศิลปะ สรา งสรรคผ า นศลิ ปะ ขอ ตกลงกอนทำกจิ กรรมเพอื่ ใหเ ด็ก ระมัดระวังในการใช ๒. สโี ปสเตอร ๑. การสรางผลงาน
สรา งสรรค (๓) การใหความ สีอาจเปอนเสื้อผา หรอื หกเลอะเทอะ ศลิ ปะ ตามความคดิ
๑. สรางผลงาน รวมมือในการปฏิบตั ิ ๒. ครูอธบิ ายวธิ ีหยดสีบนกระดาษเปยกพรอ มสาธิตใหด ู ๓. พกู ัน ของตนเอง
ศลิ ปะตามความคดิ กจิ กรรมตาง ๆ ๓. เดก็ จบั กลุม ตามความเหมาะสม แตล ะกลมุ สง ๔. ภาชนะใสน้ำ ๒. การปฏบิ ัตติ าม
ของตนเองได (๒) การฟงและปฏบิ ตั ิ ตัวแทนมารบั วัสดอุ ุปกรณท ี่ใชร ว มกัน ๕. ฟองนำ้ ขอ ตกลง เมอ่ื มผี ูชแี้ นะ
๒. ปฏิบตั ิ ตามคำแนะนำ ๔. เดก็ ทำกิจกรรม "หยดสนี ำ้ บนกระดาษเปยก" เมอื่
ตามขอตกลง (๙) การพดู เรยี งลำดบั เสร็จนำผลงานตากใหแหง
เมอ่ื มผี ชู ้แี นะได คำเพือ่ ใชในการ สอื่ สาร ๕. เดก็ นำผลงานมาเลา ใหครฟู ง ครูเขยี นประโยค ทเ่ี ดก็
กิจกรรมเลน ตามมุม (๑) การเลนอิสระ เลาใตภ าพผลงาน
๑. แบงปน ผอู น่ื (๒) การเลน รายบุคคล ๖. เด็กชว ยกันเกบ็ วสั ดุอุปกรณ และทำความ สะอาด
เมือ่ มผี ูชี้แนะได กลมุ ยอ ย กลมุ ใหญ บริเวณ โดยครคู อยช้ีแนะ
๒. เกบ็ ของเขาที่ (๓) การเลน ๑. ครูและเด็กพูดขอตกลงรวมกนั กอ นเลน ในมุม ๑. อุปกรณท ใี่ ชท ดลอง สงั เกต
เม่อื มีผชู ี้แนะได ในมุมประสบการณ ประสบการณ เรอื่ งการเกิดเสียง เชน ก๋ิง ๑. การแบง ปน ผอู ่นื
(๔) การดแู ลหอ งเรยี น สามเหลย่ี ม สอ มเสยี ง ฯลฯ เม่อื มผี ชู ีแ้ นะ
รว มกนั ๒. เดก็ เลือกเลน ในมุมประสบการณต ามความ สนใจ ๒. ของเลน ในมมุ ๒. การเกบ็ ของเขา ท่ี
๓. เดก็ ปฏิบัติตามขอตกลงเมือ่ หมดเวลาเลน ประสบการณ ภายใน เมื่อมีผชู ีแ้ นะ
หองเรยี น เชน เคร่อื งดนตรี
ของเลน ทีท่ ำใหเ กิดเสยี ง
จุดประสงคการเรยี น สาระการเรยี นรู กิจกรรมการเรียนรู ส่อื การประเมินพฒั นากา
รู ประสบการณส ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู ร
กิจกรรมกลางแจง (๒) การเคลอ่ื นไหว ๑. ครูและเด็กพดู ขอ ตกลงกอนไปเลน เกม "เดนิ ลอดถ า" ๑. เกม "เดนิ ลอดถ า"
เดินตามแนวท่ี เคลือ่ นท่ี ทส่ี นามเดก็ เลน เพ่ือใหเกดิ ความ ปลอดภยั ตอตัวเอง สงั เกต
กำหนดได (๓) การเคลอ่ื นไหว ทีใ่ ช และเพื่อน ดงั นี้ ๒. นกหวดี การเดนิ ตามแนวที่
- เดนิ เปนแถวท้ังไปและกลับไมดันหรือผลักกนั ๓. เกาอ้ี ๕ ตวั กำหนด
กลา มเน้อื ใหญ ในการ
ลอด - เวลาเลนเกมตองรจู ักรอคอย ๔. ไมสำหรับขดี เสน สงั เกต
- เมือ่ ไดยินสญั ญาณ "หยดุ " ตามท่ีตกลง ตองหยดุ เลน ๑. การจดั กลมุ สง่ิ ตา ง
แลว เขา แถวไปทำความสะอาด รางกาย ๆ ตามที่กำหนด
๒. เด็กเดินเปน แถวไปบรเิ วณสนามเด็กเลน ๒. การเกบ็ ของเขาท่ี
๓. เดก็ เลนเกม "เดนิ ลอดถ า" เม่อื มผี ูช ้ีแนะ
๔. ครใู หส ัญญาณหมดเวลาเลน เด็กผอ นคลาย ดวยการ
หายใจเขา-ออก ชา ๆ
๕. เด็กทำความสะอาดรางกาย
๖. เด็กเดนิ เปนแถวกลับหองเรียน
เกมการศกึ ษา (๕) การจัดกลมุ การจัดกลุมภาพส่งิ ๑. ครูใหเ ดก็ ดูเกม จัดกลมุ ภาพสง่ิ ท่สี ัมพันธก นั ในการ ๑. เกมจดั กลุมภาพส่ิงท่ี
ส่งิ ตา ง ๆ ทส่ี มั พันธใ นการทำ ทำใหเกิดเสยี ง พรอมกบั แนะนำวธิ ีเลน เกม สมั พนั ธก ันในการทำให
๑. จดั กลุม สง่ิ ตา ง ๆ (๒) การปฏบิ ัตติ นเปน ใหเกดิ เสยี ง ๒. ครูแบง เด็กเปนกลุม มหี น่งึ กลมุ เลนเกมที่ แนะนำ เกดิ เสยี ง
ตามที่ กำหนดได สมาชิกที่ดี ใหมว นั น้ี กลุมทเ่ี หลอื เลน เกมทีเ่ คยเลน ๒. เกมที่เคยเลน
๒. เก็บของเขาที่เมอ่ื มผี ู ของหอ งเรียน ๓. เด็กหมุนเวยี นเลนเกมทแี่ นะนำใหมว ันนี้
ช้แี นะได (๔) การดแู ลหอ งเรียน จนครบทุกกลมุ
รวมกัน
๔. เด็กเกบ็ เกมเขาท่เี ม่อื เลกิ เลน
แผนการจัดประสบการณร ายวัน วนั ท่ี ๔ หนว ยที่ หนว ยท่ี ๓๓ เสยี งรอบตวั ชน้ั อนบุ าลปท่ี ๑
สาระการเรียนรู
จดุ ประสงคก ารเรียนรู ประสบการณส ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู กจิ กรรมการเรยี นรู สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
กจิ กรรมเคลื่อนไหว (๓) การใหความ ๑. กิจกรรมพน้ื ฐาน เด็กเคลอ่ื นไหวรา งกายไปทวั่ ๑. เคร่อื งเคาะ สงั เกต
และจงั หวะ รว มมอื ในการปฏิบัติ บรเิ วณฝก อยา งอิสระตามจงั หวะ ชา -เรว็ ท่ีครเู คาะ จงั หวะ การปฏิบตั ิตามขอตกลง
ปฏบิ ัติตามขอ ตกลง ตามกิจกรรมตา ง ๆ เมือ่ ไดย นิ สัญญาณ “หยดุ ” ใหห ยดุ เคลอื่ นไหว ในทา ๒. เพลง "ตาและห"ู เมือ่ มีผูชี้แนะ
เม่อื มผี ชู แี้ นะได
นนั้ ทนั ที
๒. ใหเด็กรวมกันรองเพลง "ตาและหู" ๓-๔ รอบ
๓. แบง เด็กเปน ๓ กลมุ
กลุมท่ี ๑ ใหรอ งเพลง "ตาและหู"
กลุมท่ี ๒ ใหเ ด็กเคล่ือนไหวรางกาย ประกอบ เพลง
ตามความคิดของตนเอง
กลมุ ท่ี ๓ ตบมอื ประกอบจังหวะ
๔. ครูใหส ัญญาณทงั้ ๓ กลมุ เร่มิ กิจกรรมและ
ผลดั เปลย่ี นปฏิบตั กิ จิ กรรม
๕. เด็กผอ นคลายดวยการหายใจเขา - ออก ชา ๆ
กจิ กรรมเสริม (๑) การฟง เสียงตาง ๆ ๑. ครูพดู ขอ ตกลงกับเดก็ กอ นพาออกไปคนหา ๑. บรเิ วณตา ง ๆ สังเกต
ประสบการณ ในสิ่งแวดลอ ม คำตอบขอ สงสยั เก่ียวกับเสยี งทไ่ี มไดเ กิดตาม ภายในโรงเรียน ๑. การฟงผูอน่ื พดู จนจบ
๑. ฟงผอู น่ื พดู จนจบและ (๒) การฟงและ ธรรมชาตภิ ายในโรงเรียน โดยตกลงวาขณะเดิน ๒. หอ งเรียนตา ง ๆ และพูดโตตอบเกี่ยวกับ
พดู โตต อบเกี่ยวกับ เรอ่ื ง ปฏิบตั ติ ามคำแนะนำ ผานหอ งตา ง ๆ ใหเ งียบเพ่อื ฟงเสียงทเ่ี กิดใน เชน หอ งดนตรี เร่อื งท่ีฟงได
ท่ีฟง ได (๔) การพดู แสดงความคดิ หองเรียน และบริเวณทม่ี เี สียงยานพาหนะวิ่งผาน
จดุ ประสงคก ารเรียนรู สาระการเรียนรู กิจกรรมการเรียนรู สอื่ การประเมนิ พฒั นาการ
๒. คน หาคำตอบ ของ ประสบการณส ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู
ขอสงสยั ตามวธิ กี ารที่มี (๘) การรอจังหวะ ๒. เด็กเดนิ เปนแถวผานไปตามหนาหอ งตาง ๆ เชน ๒. การคน หาคำตอบ ของ
ผูชี้แนะได ท่ีเหมาะสมในการพูด หองดนตรี หองคอมพวิ เตอร และบริเวณท่ีสามารถ ขอสงสยั ตามวธิ กี าร ทมี่ ีผู
(๓) การสืบเสาะหา ไดยินเสยี งยานพาหนะว่ิงผา น
กิจกรรมศิลปะ ความรูเพื่อคน หา ๓. พาเด็กนงั่ ใตร ม ไม รว มสนทนากับครูเก่ยี วกบั เสยี ง ชแี้ นะ
สรางสรรค คำตอบของขอสงสัย
๑. สรา งผลงาน ตา ง ๆ ที่เดก็ ๆ ไดยนิ โดยครูใชค ำถาม
ศิลปะตามความคิด (๑) การรับรแู ละ แสดง - เด็ก ๆ คดิ วาเสียงใดทมี่ นษุ ยเ ปนคนทำให เกิดข้นึ
ของตนเองได ความรูสกึ ผา นสือ่ วัสดุ - เดก็ ๆ เคยไดย ินเสียงสญั ญาณในโรงเรยี นชว งเวลาใด
๒. ทำงานทีไ่ ดร บั และ ชิ้นงาน ๔. เด็กและครสู รปุ รว มกันเกยี่ วกบั เสียงทไี่ มไ ดเกดิ ตาม
มอบหมาย จนสำเรจ็ (๒) การแสดง ความคดิ ธรรมชาติ เชน เสยี งสญั ญาณภายในโรงเรียน เสียง
เม่อื มผี ชู วย เหลอื ได สรา งสรรค ผา นศลิ ปะ เครื่องดนตรีตา ง ๆ เสยี งยานพาหนะ เสียงที่ เกดิ จาก
๓. เขยี นรปู วงกลม ตาม (๕) การทำงานศิลปะ การประกอบอาชพี ตาง ๆ เชน โรงงาน
แบบได (๒) การเขียนภาพ ๑. ครจู ดั กิจกรรม "รอยวัสดอุ ยา งสรางสรรค" โดยมี ๑. ฝาขวดนำ้ สงั เกต
(๕) การหยิบจบั การใช วสั ดุทห่ี ลากหลาย เชน หลอดดูดน้ำท่ตี ดั เปน ทอ น พลาสตกิ ๑. การสรางผลงานศลิ ปะ
กรรไกร การตดั การ ความยาวพอประมาณ ฝาขวดน้ำพลาสติก ทเี่ จาะรตู รง ๒. ฝาเบียรห รอื ฝา ตามความคิดของตนเอง
รอ ยวัสดุ กลางไวแ ลว ฝาเบียรหรือฝาขวด น้ำอัดลม ลกู ปด ขวด น้ำอดลม ๒. การทำงานทไ่ี ดรับ
กระดุมเส้ือทมี่ รี ใู หญ กระดาษ โปสเตอรสีรปู วงกลมทม่ี ี ๓. ลูกปด มอบหมายจนสำเร็จ เมือ่
รู เปนตน ๔. กระดุมเสื้อท่มี ีรู มีผูชวยเหลอื
๒. เดก็ ทำกิจกรรมตามขนั้ ตอน ใหญ ๓. การเขยี นรปู วงกลม
๓. เด็กเกบ็ วัสดอุ ปุ กรณเขาท่แี ละทำความสะอาด ๕. กระดาษ ตามแบบ
บรเิ วณ โปสเตอรส ี
(หมายเหตุ เชอื กตดั ความยาวพอประมาณที่จะ คลอง ๖. กรรไกรปลายมน
คอเดก็ ได ปลายท้ัง ๒ ขา ง ใชก ระดาษกาวยน พันกนั
จดุ ประสงคการเรียนรู สาระการเรยี นรู กจิ กรรมการเรียนรู สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู ๗. เชือกเสนเล็ก
เชือกแตก เพ่ือใหแขง็ พอทจ่ี ะรอ ยผาน รูของวสั ดไุ ด) ๘. กระดาษกาวยน
๙. กระดาษ เอ ๔
๑๐. สีเทียนหรอื สีไม
กิจกรรมเลน ตามมมุ (๑) การเลน อิสระ ๑. ครูและเดก็ พดู ขอตกลงรว มกนั กอ นเลน ในมมุ ๑. อปุ กรณท ี่ใช สังเกต
๑. แบงปนผอู น่ื (๒) การเลน รายบุคคล ประสบการณ ทดลอง เร่ืองการเกดิ ๑. การแบงปน ผูอ่ืน เม่ือมี
เม่ือมผี ชู ้ีแนะได กลมุ ยอ ย กลุม ใหญ ๒. เดก็ เลอื กเลน ในมุมประสบการณต ามความ สนใจ เสยี ง เชน ก๋งิ สาม ผชู ี้แนะ
๒. เกบ็ ของเขา ที่ (๓) การเลน ๓. เด็กปฏบิ ัติตามขอ ตกลงเม่ือหมดเวลาเลน เหล่ยี ม สอ มเสยี ง ๒. การเก็บของเขาที่ เม่ือ
เมอื่ มผี ชู แี้ นะได ในมุมประสบการณ ฯลฯ มผี ูชีแ้ นะ
(๔) การดแู ล ๒. ของเลน ในมมุ
หอ งเรยี นรว มกนั ประสบการณ ทีท่ ำให
เกิดเสยี งตา ง ๆ
กจิ กรรมกลางแจง (๑) การเลน หรอื ทำ ๑. ครูและเด็กพูดขอ ตกลงกอ นไปเลน เครอ่ื งเลน สนาม เครอื่ งเลนสนาม สังเกต
เลน รว มกับเพ่ือนได กิจกรรมรวมกบั เพื่อใหเกิดความปลอดภัย ตอ ตนเองและเพื่อน การเลนรว มกบั เพื่อน
กลมุ เพอ่ื น ๒. เด็กเดินเปนแถวไปบริเวณสนามเดก็ เลน
๓. เดก็ เลอื กเลน ตามความสนใจ ครคู อยดแู ล อยใู กล ๆ
๔. ครูใหส ญั ญาณหมดเวลาเลน เด็กทำ ความสะอาด
รา งกาย
๕. เด็กเดินเปนแถวกลบั หองเรยี น
จุดประสงคการเรยี นรู สาระการเรยี นรู กจิ กรรมการเรยี นรู สอื่ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู
เกมการศึกษา (๑๓) การเรียงลำดับ การเลนเกมเรยี งลำดับ ๑. ครูใหเด็กดเู กมเรยี งลำดับภาพพบั จากรูปวงกลม ๑. เกมเรียงลำดบั สังเกต
๑. เรียงลำดับ สงิ่ ตา ง ๆ ภาพจากรปู วงกลม พรอมกบั แนะนำวธิ เี ลนเกม ภาพพบั จากรูปวงกลม ๑. การเรียงลำดับส่ิงของ
สิ่งของหรอื (๒) การปฏิบตั ิตนเปน
เหตุการณอ ยา งนอ ย ๓ สมาชิกที่ดีของ ๒. ครแู บงเดก็ เปนกลุม มหี น่ึงกลุมเลน เกมท่ี แนะนำ ๒. เกมท่เี คยเลน หรอื เหตกุ ารณอยางนอ ย
ลำดับได หองเรยี น ใหมวนั นี้ กลมุ ที่เหลอื เลนเกมท่ีเคยเลน ๓ ลำดับ
๒. เก็บของเขาท่ี
เมอื่ มผี ชู ้แี นะได (๔) การดแู ล ๓. เดก็ หมุนเวียนเลน เกมทแ่ี นะนำใหมว ันนี้ จนครบทุก
กลมุ
หอ งเรยี นรวมกัน ๔. เดก็ เก็บเกมเขาทเี่ มือ่ เลิกเลน
แผนการจดั ประสบการณร ายวนั วนั ที่ ๕ หนว ยที่ หนว ยที่ ๓๓ เสยี งรอบตวั ชั้นอนบุ าลปท่ี ๑
จุดประสงคการเรียนรู สาระการเรียนรู กจิ กรรมการเรยี นรู สอื่ การประเมนิ พฒั นาการ
กจิ กรรมเคลื่อนไหว ประสบการณส ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู ๑. กิจกรรมพน้ื ฐาน ใหเ ด็กเคลอ่ื นไหวรางกายไป เครือ่ งเคาะจังหวะ สงั เกต
และจังหวะ (๒) ทัว่ บริเวณอยา งอสิ ระตามจังหวะ เม่ือไดย นิ การเคลอ่ื นไหวทา ทางตาม
เคลอ่ื นไหวทาทาง การแสดงความคิด สญั ญาณ "หยดุ " ใหห ยุดในทา นนั้ ทันที ความคิดของตนเอง
ตามความคดิ สรางสรรคผ า นทาทาง ๒. ใหเดก็ ทำทา ทางตามจินตนาการโดยฟง คำ
ของตนเองได การเคลือ่ นไหว บรรยาย "วนั นเี้ ดก็ จะเลน ดนตรใี หผปู กครองทีม่ า
นั่ง ในหอ งเรียน บางคนตกี ลอง บางคนเปา ขลยุ
บางคน ตีระนาด บางคนตีฉงิ่ บางคนตฉี าบ พอ
เลนเครอื่ ง ดนตรพี รอม ๆ กนั ชางเปนเสยี งท่ี
ไพเราะจงั พอเลน จบผปู กครองปรบมอื ให เด็ก ๆ
ยิ้ม อยางมคี วามสขุ "
๓. ปฏิบัตติ ามขอ ๒ ซำ้
กจิ กรรมเสรมิ (๒) การฟงและปฏบิ ัติ - หูเปน อวัยวะรับเสยี ง ๑. ใหเ ด็กใชมอื ปด หูแลว ครูเลานทิ านใหเดก็ ฟง นทิ านเรื่อง "หู หู สงั เกต
ประสบการณ ตามคำแนะนำ (เพ่อื ใหเดก็ เห็นความสำคัญของห)ู กบั หนูเขม็ " การฟง ผอู ่ืนพูดจนจบและ
ฟงผูอ่ืนพูดจนจบ (๓) การฟงนิทาน - การดแู ลรักษาหู ๒. ครถู ามเด็กวา ครูเลา นิทานเก่ียวกับอะไร เด็ก พดู โตตอบเกยี่ วกบั เรื่อง
และพูดโตตอบ (๔) การพูด - การปองกนั อนั ตราย และครูสนทนาถึงความสำคญั ของหเู ปนอวยั วะท่ี ที่ฟง
เกย่ี วกบั เรอ่ื งท่ีฟง ได แสดงความคดิ จากเสยี งดัง ใช รบั เสยี ง
๓. เด็กฟง นทิ านเรื่อง "หู หู กบั หนูเขม็ "
(๘) การรอจังหวะ
ที่เหมาะสมในการพดู
จุดประสงคก ารเรยี นรู สาระการเรียนรู กิจกรรมการเรียนรู ส่ือ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู ๔. เดก็ และครสู นทนาเนือ้ หาจากนิทานโดยใช
คำถาม ดงั นี้
- ถา เราไมมีหูจะเกิดอะไรขึ้น
- เราจะดแู ลรกั ษาหู อยา งไรไดบาง
- ถา เด็กไดย ินเสยี งอะไรทด่ี งั มากเดก็ จะปอ งกันหู
ไดอยางไร
๕. เด็กและครสู รปุ ความสำคญั ของหแู ละวิธีการ
ดแู ล รักษาหู และการปอ งกนั อันตรายจากเสยี งดงั
จดุ ประสงคการเรียนรู สาระการเรียนรู กจิ กรรมการเรยี นรู สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
กจิ กรรมศิลปะ ประสบการณส ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู สงั เกต
สรางสรรค (๒) การเขียนภาพ ๑. การจดั กจิ กรรม "สรา งภาพจากรปู วงกลมดว ยสี ๑. สเี ทียน ๑. การเขียนรปู วงกลม
๑. เขยี นรูปวงกลม (๑) การรบั รแู ละแสดง เทยี น" มขี ้ันตอนดงั น้ี ๒. กระดาษ เอ ๔ ตามแบบ
ตามแบบได ความรูสกึ ผานสื่อ ขั้นท่ี ๑ เด็กนง่ั เปน กลุม ตามความเหมาะสม ๒. การสรา งผลงานศิลปะ
๒. สรางผลงาน (๒) การแสดงความคิด เพ่อื ใชสเี ทยี นดว ยกัน เดก็ หยิบกระดาษ เอ ๔ ตามความคิดของตนเอง
ศิลปะตามความคดิ สรางสรรคผานศิลปะ คนละ ๑ แผน และ สีเทียนกลุมละ ๑ ตะกรา ๓. การทำงานทไี่ ดรบั
ของตนเองได (๕) การทำงานศิลปะ ขั้นที่ ๒ เด็กฟง ครแู นะนำ ใหใ ชส เี ทยี นวาดเปน รปู มอบหมายจนสำเรจ็ เมื่อมี
๓. ทำงานทไ่ี ดรบั (๑๙) วงกลม จำนวน ๕ วงใหมีระยะหา งกนั พอที่จะวาด ผูช ว ยเหลือ
มอบหมายจนสำเร็จ การเห็นแบบอยาง ตอ เตมิ เปนรปู ภาพอ่ืน ๆ ไดแลว นับจำนวนวงกลม
เมื่อมีผูชวยเหลือได ของการเขยี นท่ีถูกตอ ง ขั้นที่ ๓ เดก็ วาดตอเตมิ จากรูปวงกลมตาม
ความคดิ สรางสรรคของตนเอง แลวระบายสใี ห
สวยงาม
จุดประสงคการเรยี นรู สาระการเรยี นรู กจิ กรรมการเรยี นรู สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู ขน้ั ท่ี ๔ นำผลงานมาบอกเลาใหครฟู ง ครูเขียน
ส่งิ ทเ่ี ดก็ เลา ใตภ าพผลงาน และเขียนชือ่ เด็ก เพอื่ ให
เด็กไดเ ห็นทิศทางของการเขียนตัวอกั ษร
และลงวนั ที่ กำกบั ในผลงาน
ข้นั ท่ี ๕ เด็กนำผลงานไปตดิ ในทแี่ สดงผลงาน
ข้นั ท่ี ๖ เดก็ ชว ยกนั เกบ็ วสั ดุอปุ กรณแ ละทำ
ความสะอาดบรเิ วณ โดยครูคอยใหความชว ยเหลอื
กจิ กรรมเลน ตามมมุ (๑) การเลน อิสระ ๑. ครูและเด็กพูดขอตกลงรวมกันกอ นเลนในมุม ๑. อุปกรณที่ใช สังเกต
๑. แบงปนผูอ นื่ (๒) การเลนรายบุคคล ประสบการณ ทดลองเรือ่ ง ๑. การแบง ปนผอู ่ืน เม่อื มี
เมื่อมีผูชแ้ี นะได กลมุ ยอย กลุม ใหญ ๒. เด็กเลือกเลน ในมุมประสบการณต ามความสนใจ การเกิดเสียง เชน ผชู แ้ี นะ
๒. เกบ็ ของเขา ที่ (๓) การเลน ๓. เด็กปฏิบัติตามขอ ตกลงเมือ่ หมดเวลาเลน กงิ๋ สามเหลี่ยม ๒. การเก็บของเขาท่ี เมื่อ
เมื่อมผี ูชี้แนะได ในมุมประสบการณ มีผูช ี้แนะ
(๔) การดแู ลหอ งเรยี น สอมเสียง ฯลฯ
รว มกัน ๒. ของเลนในมุม
ประสบการณ
ท่ีทำใหเ กิดเสยี ง
จุดประสงคก ารเรยี นรู สาระการเรยี นรู กิจกรรมการเรยี นรู สือ่ การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู
กิจกรรมกลางแจง (๒) การเคลือ่ นไหว ๑. เดก็ และครพู ูดขอตกลงกอนไปเลนเกม "เดินสง ๑. เกม "เดินสง ของ" สังเกต
เดินตามแนว เคลอ่ื นท่ี ของ" ทีส่ นามเดก็ เลน เพอ่ื ใหเ กิดความ ปลอดภยั ๒. เกา อ้ี ๕ ตัว การเดินตามแนวทก่ี ำหนด
ทีก่ ำหนดได (๓) การเคลื่อนไหวทใี่ ช ตอ ตัวเองและเพอื่ น ๓. หอ ของขวัญ
กลามเนอื้ ใหญใ นการจับ ๒. เด็กเดนิ เปนแถวไปบริเวณสนามเด็กเลน หรอื ไมบลอ็ ก
๓. เด็กเลน เกม "เดินสง ของ" ๔. ไมส ำหรับขดี เสน
๔. ครใู หส ญั ญาณหมดเวลาเลน เดก็ ผอ นคลายดวย
การหายใจเขา - ออกชา ๆ
๕. เดก็ ทำความสะอาดรางกาย
๖. เด็กเดินเปน แถวกลับหอ งเรยี น
เกมการศึกษา (๑๓) การจับคู การจบั คูหรือ ๑. ครใู หเดก็ ดเู กมพนื้ ฐานการบวกจำนวน ๑ - ๔ ๑. เกมพนื้ ฐานการ สงั เกต
๑. จับคูหรอื การเปรียบเทยี บ เปรยี บเทียบจำนวน พรอมกับแนะนำวธิ ีเลน เกม บวกจำนวน ๑ - ๔ ๑. การจบั คหู รอื
เปรยี บเทียบ สงิ่ ตาง ๆ ส่งิ ตาง ๆ ๒. ครูแบงเด็กเปน กลมุ มหี นง่ึ กลมุ เลน เกมทแ่ี นะนำ
ตามที่ กำหนดได (๒) การปฏิบัตติ นเปน ๑-๔ ใหมว ันนี้ กลมุ ทเี่ หลอื เลน เกมทเี่ คยเลน ๒. เกมทเ่ี คยเลน เปรียบเทยี บสิ่งตาง ๆ
ตามที่กำหนด
๒. เก็บของเขา ที่ เมอ่ื มี สมาชกิ ทีด่ ีของหอ งเรียน ๓. เดก็ หมุนเวยี นเลนเกมทแี่ นะนำใหมวนั น้ีจนครบ ๒. การเก็บของเขา ที่ เมอ่ื
ทกุ กลมุ มีผูช้แี นะ
ผูชแี้ นะ (๔) การดแู ลหอ งเรียน ๔. เดก็ เกบ็ เกมเขาท่ีเมื่อเลิกเลน
รว มกนั
๑ ด.ญ.ธิดารัตน โคกโต เลข
๒ ด.ญ.ปวณี ธิดา หนูใหญ ที่
๓ ด.ญ.ไอรดา จันทรงั ษ
คำอธบิ าย ครูสังเกตพฤติกรรมเดก็ รายบุคคล จดบันทกึ สรปุ เปน รายสปั ดาหระบุระดับคณุ ภาพเปน ๓ ระดบั คือ ช่อื -สกุล
ระดบั ๓ ดี ระดบั ๒ ปานกลาง ระดบั ๑ ควรสงเสริม ๑.การเดินตามแนวที่กำหนด รา งกาย อารมณ แบบสงั เกตพฤติกรรมเดก็ หนวยการจดั ประสบการณท ่ี ๓๓ เสยี งรอบตวั ช้ันอนบุ าลปท ี่ ๑
๒.การเขยี นรูปวงกลมตามแบบ ประเมนิ พัฒนาการ
สังคม
๓.การแบงปน ผูอ ื่นเมอื่ มีผชู ้ีแนะ
๔.การทำงานท่ไี ดร ับมอบหมายจนสำเร็จเมอ่ื มผี ู สตปิ ญ ญา
ชว ยเหลอื
๕.การเก็บของเขาที่เม่ือมีผูชแี้ นะ
๖.การใชส่งิ ของเครอื่ งใชอ ยางประหยดั เมอื่ มี ผู
ชแี้ นะ
๗.การเลน รวมกับเพ่อื น
๘.การปฏิบัติตามขอ ตกลงเม่อื มีผชู ้ีแนะ
๙.การฟง ผูอน่ื พูดจนจบและพดู โตต อบ เก่ียวกบั
เรอื่ ง ทฟ่ี ง
๑๐.การเลนเกมภาพตัดตอตามทก่ี ำหนด
๑๑.การจับคหู รอื เปรียบเทยี บสงิ่ ตา ง ๆ ตาม ท่ี
กำหนด
๑๒.การจดั กลมุ สง่ิ ตาง ๆ ตามทก่ี ำหนด
๑๓.การเรยี งลำดบั ส่ิงของหรือเหตุการณอ ยา ง นอย
๓ ลำดับ
๑๔.การสรางผลงานศลิ ปะตามความคดิ ของ ตนเอง
๑๕.การเคลื่อนไหวทาทางตามความคิดของ ตนเอง
๑๖.การคน หาคำตอบของขอสงสยั ตามวธิ ที ่ีมี ผู
ช้แี นะ
หมายเหตุ
บันทกึ หลังการสอน
หนว ย เสียงรอบตัว
วันท…่ี …………เดือน………………………………..พ.ศ.………………..
1. ผลการสอน
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.ปญ หา / อปุ สรรค
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.ขอ เสนอแนะ / แนวทางแกไ ข
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ ...................................................................................ผสู อน
( นางสาวณัฏฐศ ศิ ไกรวลิ าส )
ตำแหนง ครูผชู ว ย
ความเหน็ และขอเสนอแนะของผบู รหิ าร
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .......................................................................................ผูบริหาร
( นายยศศักดิ์ กอแกว )
ตำแหนง ครู โรงเรยี นวดั หนองหอย รักษาการในตำแหนง
ผูอ ำนวยการ โรงเรยี นวัดหนองหอย
หนว่ ยการจัดประสบการณท์ ี่ ๓๔ รกั การอา่ น ชนั้ อนุบาลปท� ี่ ๑
แนวคดิ
การทำกจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ พัฒนาการทางภาษา เชน่ การเลา่ ขา่ วและเหตกุ ารณป์ ระจำวนั การอา่ นหนังสือภาพ / นิทานหลากหลายรูปแบบ โดยใช้วิธอี า่ นร่วมกัน
อ่านโดยครูชี้แนะ อา่ นอสิ ระ และการเล่นเกมภาษา สามารถปลูกฝ�งนสิ ัยรักการอ่านใหเ้ ดก็ ได้
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
ตวั บง่ ช้ี
มาตรฐาน สภาพทพี่ ึงประสงค์ ประสบการสำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
มาตรฐานที่ ๒ ๒.๑ เคลอ่ื นไหว ร่างกาย ๒.๑.๓ ว่ิงและหยุดได้ ๑. ว่ิงและหยุดได้ ๑.๑.๑ การใชก้ ล้ามเน้ือใหญ่ - ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับหนังสือ
กล้ามเนื้อใหญ่และ อย่าง คล่องแคลว่ ๒.๒.๒ เขียนรปู (๑) การเคล่ือนไหวอยู่กับท่ี และตวั หนงั สอื
กลา้ มเน้อื เลก็ แขง็ แรง (๒) การเคล่ือนไหวเคลอ่ื นท่ี ๑. การเล่าข่าวและเหตุการณ์
ใชไ้ ดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่ว ประสานสมั พนั ธ์ และทรง วงกลมตาม แบบได ๒. เขียนรปู วงกลมตาม ๑.๑.๒ การใชก้ ล้ามเน้ือเล็ก ประจำวัน
และ ประสานสมั พันธ์ ตัวได้ แบบ ได้ (๒) การเขยี นภาพและการเลน่ กับ ๒. การอ่านหนังสือภาพ/นิทาน
กนั สี หลากหลายรูปแบบ
๒.๒ ใชม้ อื -ตาประสาน ๓. กล้าพดู กลา้ (๕) การทำงานศิลปะ ๓. การอ่านร่วมกนั
มาตรฐานท่ี ๓ สัมพันธ์กนั แสดงออก ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ ๔. การเล่นเกมภาษา
(๑) การพดู สะท้อนความรสู้ ึกของ ๕. เกมจับคชู่ น้ิ สว่ นทห่ี ายไป
มสี ขุ ภาพจิตดแี ละมี ๓.๒ มคี วามรสู้ กึ ทีด่ ีต่อ ๓.๒.๑ กล้าพูดกลา้ ตนเองและผอู้ ่ืน ๖. เกมภาพตัดตอ่ จำนวน ๑ - ๕
ความสุข
ตนเองและผอู้ ื่น แสดงออก
๗. เรยี งลำดับความยาว
๘. เกมเรียงลำดับเหตุการณ์ อย่าง
ตอ่ เนอ่ื ง
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย สภาพทพี่ ึงประสงค์ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี ประสบการสำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
มาตรฐานท่ี ๔ ๔.๑ สนใจมคี วามสขุ ๔.๑.๑ สนใจมี ๔. ทำงานท่ีได้รับ ๑.๒.๕ การมอี ตั ลกั ษณ์เฉพาะตน
ชนื่ ชมและแสดงออก และแสดงออกผา่ น งาน ความสุข และ
ทาง ศิลปะ ดนตรแี ละ ศิลปะ ดนตรี และการ แสดงออกผา่ นงาน มอบหมาย จนสำเรจ็ เมื่อ และ เชอ่ื วา่ ตนเองมี
การ เคลื่อนไหว เคลื่อนไหว ศลิ ปะ
มีผ้ชู ่วยเหลอื ความสามารถ
มาตรฐานท่ี ๘ ๘.๒ การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ ที่ ๔.๑.๓ สนใจ มี
อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่าง ดกี บั ผ้อู น่ื ความสุขและ แสดง (๒) การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตาม
มี ความสขุ และ ปฏบิ ตั ิ ท่าทาง/เคลือ่ นไหว
ตนเป�นสมาชิก ที่ดขี อง ประกอบเพลง จังหวะ ๕. เลน่ รว่ มกบั เพอ่ื นได้ ความสามารถของตนเอง
สงั คมในระบอบ และ ดนตรี
ประชาธปิ ไตยอันมี ๑.๒.๒ การเลน่
พระมหากษตั ริยท์ รง ๘.๒.๑ เล่นรว่ มกับ
เป�น ประมุข เพือ่ น ๖. ฟง� ผอู้ ื่นพดู จนจบและ (๑) การเล่นอสิ ระ
พดู โต้ตอบเก่ียวกับเรอื่ ง (๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์
ทฟ่ี ง� ได (๔) การเล่นนอกห้องเรียน
๑.๓.๕ การเลน่ และทำงาน แบบ
รว่ มมอื ร่วมใจ
(๒) การเลน่ และทำงานร่วมกับ
ผอู้ น่ื
๑.๔.๑ การใชภ้ าษา
(๓) การฟ�งเพลง นทิ าน
(๔) การพูดแสดงความคิด
ความรู้สกึ และความต้องการ
(๕) การพูดกบั ผู้อนื่ เก่ียวกบั
ประสบการณข์ องตนเองหรือพูด
เล่า เรือ่ งเกี่ยวกับตนเอง
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย สภาพทพ่ี ึงประสงค์ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี ประสบการสำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
มาตรฐานท่ี ๙ ๙.๑ สนทนา โตต้ อบเล่า ๙.๑.๑ ฟง� ผู้อนื่ พดู จน ๗. เลา่ เร่อื งดว้ ยประโยค (๘) การรอจงั หวะทเ่ี หมาะสมใน
ใช้ภาษาสอ่ื สารได้ เร่อื ง ให้ผ้อู ่ืนเขา้ ใจ จบ และพูดโต้ตอบ สัน้ ๆ ได้ การ พดู
เหมาะสมกับวัย ๙.๒ อา่ นเขยี นภาพและ เกยี่ วกบั เร่อื งทีฟ่ �ง (๑๐) การอา่ นหนังสอื ภาพนิทาน
สญั ลักษณไ์ ด้ ๘. อ่านและพดู ข้อความ หลากหลายประเภท
มาตรฐานที่ ๑๐ ๙.๑.๒ เลา่ เร่อื งเปน� ดว้ ย ภาษาของตนเองได้ (๑๑) การอา่ นอยา่ งอิสระตาม
มีความสามารถในการ ๑๐.๑ มี ความสามารถ ประโยค อยา่ งต่อเนื่อง ลำพัง การอา่ นรว่ มกัน การอา่ น
คิดทเี่ ปน� พ้ืนฐานในการ ใน การคดิ รวบยอด ๙. เล่นภาพตดั ตอ่ จาก โดยมผี ู้ ชแ้ี นะ
เรียนรู้ ๙.๒.๑ อา่ นภาพและ การ สังเกตโดยใช้ (๑๒) การเห็นแบบอยา่ งของการ
พูดข้อความด้วยภาษา ประสาทสมั ผสั ได้ อ่าน ทถ่ี ูกต้อง
ของตน (๑๕) การอ่านและชี้ขอ้ ความ โดย
กวาดสายตาตามบรรทดั จากซา้ ย
๙.๒.๒ เขียน ขดี เขีย่ ไปขวา จากบนลงล่าง
อย่าง มที ศิ ทาง (๑๖) การสงั เกตตวั อักษรในชอื่ ของ
ตนหรอื คำคนุ้ เคย
๑๐.๑.๑ บอกลักษณะ (๖) การต่อของชิน้ เลก็ เตมิ ใน ชนิ้
ของ ส่งิ ตา่ ง ๆ จาก ใหญใ่ หส้ มบูรณ์และการแยก
การสงั เกต โดยใช้ ชน้ิ สว่ น
ประสาทสมั ผสั