The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนชั้นอนุบาลปีที่1 เทอม2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kwlsnatsasiblue, 2022-03-25 01:21:14

แผนชั้นอนุบาลปีที่1 เทอม2

แผนชั้นอนุบาลปีที่1 เทอม2

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ พฒั นาการ
๔. ให้เดก็ นำคำท่ีจดบันทึกจากการไปดสู ่งิ แวดลอ้ ม
มาวาดภาพ ๑ ภาพ และนำเสนอ หน้าชัน้
ชว่ ยกันจัดปา้ ยนเิ ทศ จำแนกเป�น ๒ กลมุ่ คอื สงิ่ มีชวี ิต
และสง่ิ ไมม่ ชี วี ติ
๕. เดก็ และครรู ่วมสนทน้ำถงึ ประโยชน์ของ
สิ่งแวดล้อม (สงิ่ มชี ีวิต – สง่ิ ไม่มีชวี ิต) เชน่
ต้นไม้ – ใหร้ ม่ เงา ดิน– ปลูกพชื อากาศ – ให้ชีวติ
ทราย – สร้างบา้ น เปน� ต้น
๖. ครชู ว่ ยสรปุ ว่าสิง่ แวดลอ้ มรอบตวั เรา
เป�นของคนไทยและประเทศไทย
เราตอ้ งช่วยกนั รกั ษา

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ การประเมนิ พฒั นาการ
กจิ กรรมศลิ ปะ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
สร้างสรรค์ (๒) การเขยี นภาพ ๑. ครแู นะนำข้ันตอนในการต่อเติมภาพจาก วงกลมทีค่ รู ๑.แบบวงกลมขนาด สังเกต
๑. สร้างผลงาน และการเล่นกบั สี กำหนด(แจกแบบวงกลมใหเ้ ดก็ ทกุ คน เสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง ๕ ๑. การสรา้ งผลงานศลิ ปะ
ศลิ ปะเพอ่ื สือ่ สาร (๓) การป�น ใหเ้ ดก็ เขียนวงกลมตามแบบ) แลว้ ระบายสี ใหส้ วยงาม ซม.
ความคดิ ความรู้สกึ ๒. ครูนำลกู หนิ ลกู แกว้ ลกู ปง� ปองและลกู เทนนสิ เพอ่ื สือ่ สารความคดิ
ของตนเองได้ ๒. (๒) การแสดง มาให้เด็กใชม้ ือสัมผสั รอบดา้ นบอกเด็ก วา่ ลกู หนิ ลกู แกว้ ความร้สู ึกของตนเอง
เขียนรปู วงกลม ลกู ป�งปอง และลกู เทนนิส มี ลักษณะเป�นรปู ทรงกลม ๒.สเี ทยี น ๒. การเขยี นรปู วงกลม
ตามแบบได้ ความคดิ สร้างสรรค์ ถามเดก็ วา่ รูปวงกลม ๓. กระดาษ ตามแบบ
และรปู ทรงกลมเหมอื นกนั หรอื ตา่ งกันอยา่ งไร ๔. ลูกหนิ ลกู แกว้
ผา่ นภาษา ท่าทาง ( ครใู ห้เด็กดแู บบวงกลมและลูกเทนนิส เปรียบเทยี บกนั ) ลูก ป�งปอง
๓. ให้เด็กปน� ดินนำ้ มันเป�นรูปทรงกลมและบอก และลูกเทนนสิ
และศลิ ปะ ดว้ ยว่าป�นรปู อะไร ๕. ดินน้ำมนั

๖. แผ่นรองป�น

๔. เด็กทำทง้ั สองกิจกรรมและนำเสนอผลงาน

๕. เกบ็ อปุ กรณแ์ ละทำความสะอาด

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
๑. เด็กเลอื กกจิ กรรมเล่นตามมุมประสบการณ์
กิจกรรมเลน่ ตามมมุ (๓) การใหค้ วาม ตามความสนใจมมุ ประสบการณค์ วรมีอย่าง น้อย ๔ อุปกรณม์ มุ ประสบก สงั เกต การเก็บของเล่น
มมุ เช่น - มมุ วทิ ยาศาสตร์ ารณ์ ของใชเ้ ขา้ ท่เี มอื่ มี ผู้
เก็บของเลน่ รว่ มมอื ในการปฏิบัติ -มมุ หนังสือ ช้ีแนะ
ของใชเ้ ข้าท่ีเมื่อมี ผู้ กจิ กรรมต่าง ๆ -มมุ บล็อก
ช้แี นะ ได้ -มุมบทบาทสมมติ ในหอ้ งเรยี น
๒. เมอ่ื หมดเวลาเด็กเก็บของเข้าที่ใหเ้ รยี บรอ้ ย
(๓) การเลน่ ตามมุม

ประสบการณ์

กิจกรรมกลางแจง้ (๒) การเล่นร่วมกบั ๑. เด็กเลอื กเล่นอปุ กรณ์ในสนามเดก็ เล่นตาม สนามเด็กเล่น สงั เกต
เล่นรว่ มกบั เพ่อื นได้ ผู้อน่ื ความสนใจอยา่ งอสิ ระ การเลน่ รว่ มกับเพื่อน
๒. เม่อื หมดเวลา ช่วยกันเกบ็ ทำความสะอาด สนาม

ล้างมือ กลบั เขา้ ห้องเรยี น

เกมการศกึ ษา (๑๓) การจับคู่ การจบั คู่ภาพจำนวนท่ี ๑.ครแู นะนำเกมพืน้ ฐานการบวก ๑ - ๕ ๑. เกมพืน้ ฐานการ สงั เกต
เล่นเกมพ้ืนฐาน การเปรียบเทียบ เทา่ กนั ๒. เดก็ เลน่ เกมชดุ ใหมแ่ ละเกมท่เี คยเลน่ มาแลว้ ๓. บวก ๑ - ๕ การเล่นเกมพืน้ ฐาน
การบวก ๑ – ๕ ได้ ความเหมอื นความ ๒. เกมชุดเดิมใน
หมุนเวยี นกันเลน่ และรว่ มกันสนทนำ้ มุมเกมการศกึ ษา การบวก ๑ - ๕
ต่าง เก่ียวกับเกมวา่ ชอบหรอื ไม่ชอบเพราะเหตุใด
๔. เมื่อเล่นเสรจ็ เดก็ เกบ็ เกมการศกึ ษาเขา้ ทเ่ี ดิม

แผนการจัดประสบการณร์ ายวนั วนั ที่ ๓ หนว่ ยท่ี ๒๒ คา่ นยิ มไทย ช้ันอนุบาลป�ท่ี ๑

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ การประเมนิ
ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ พัฒนาการ

กิจกรรม (๒) การแสดงความคิด ๑.กจิ กรรมพ้ืนฐาน ให้เด็กเคลอ่ื นไหวรา่ งกายไป เคร่ืองเคาะจังหวะ สงั เกต
เคลอื่ นไหวและ จังหวะ สร้างสรรคผ์ า่ นภาษา ท่ัวบรเิ วณอยา่ งอิสระ ตามจังหวะ เม่อื ได้ยิน ๑. การเคลอ่ื นไหวท่า
๑. เคลื่อนไหว ท่าทาง ทา่ ทาง การเคล่อื นไหว สัญญาณหยดุ ให้หยดุ เคลือ่ นไหวในท่านน้ั ทนั ที ทางเพือ่ สื่อสารความคดิ
เพือ่ ส่ือสาร (๑๓) การเปรยี บเทียบ ๒. เดก็ เคลอื่ นไหวรา่ งกายไปทว่ั บรเิ วณอยา่ ง ความรสู้ ึกของตนเอง
ความคิด ความรสู้ กึ ของ สงิ่ ต่าง ๆ ตามลกั ษณะ อสิ ระตามจังหวะทีค่ รูเคาะ เมอ่ื ไดย้ ินสญั ญาณ ๒. การเปรยี บเทยี บ
ตนเองได้ ความสูง หยุดให้ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง เช่น ความสูง (สงู กว่า เต้ีย
จับกลุ่ม ๒ คน กว่า สูง เท่ากนั )
๒. เปรียบเทียบ (เพศเดยี วกันและเปรยี บเทยี บวา่ ใครสูงกวา่ ใคร เตี้ย
ความสูง (สูงกว่า เต้ีย กว่า)
กว่า สงู เทา่ กนั ) ได้ จบั กลมุ่ ๒ คน

(คนละเพศและเปรยี บเทียบว่าใครสูงกวา่ ใครเต้ยี กว่า)
จบั กลุ่ม ๒ คน (เพศเดยี วกนั สูงเท่ากนั )
จบั กลุ่ม ๒ คน คนละเพศ สงู เทา่ กนั เปน� ต้น
๓. เด็กปฏิบตั ิกจิ กรรมในข้อ ๒ ซำ้ อกี ๒ – ๓ คร้ัง

๔. เดก็ หยุดพกั ผอ่ นคลายกลา้ มเนื้อ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่อื การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้

กจิ กรรมเสริม (๒) การฟ�งและ ๑. คนไทยใชภ้ าษาไทย ๑. ครูนำภาพพยัญชนะไทย ก – ฮ และเลขไทย ๑ – ๕ ๑.กระเป๋าผนงั สังเกต
ประสบการณ์ ปฏิบตั ิตามคำแนะนำ ๒. ชมุ ชนทีเ่ ราอยูม่ ี มาติดไว้บนกระเปา๋ ผนัง แนะนำเด็กว่า นี่ คอื พยัญชนะ
๑. เล่าเร่อื งด้วย (๔) การพูดแสดง สิ่งแวดลอ้ มต่างกัน แต่ และเลขไทย ๒.พยญั ชนะไทย ก – การเลา่ เรื่องด้วย
ความร้สู กึ และความ เราอยู่รว่ มกนั ได้อยา่ ง ๒. ครูอา่ นพยัญชนะไทย ก – ฮ แล้วให้เด็กอา่ น ตามครู ฮ ประโยคสัน้ ๆ
ประโยคสัน้ ๆได้ ต้องการ ๓. ครูอา่ นเลขไทย ๑ – ๕ แลว้ ใหเ้ ดก็ อา่ นตามครู
(๕) การพูดกับผู้อื่น สงบสขุ พรอ้ มตบมือตามตัวเลขที่ครอู ่าน ๓.เลขไทย ๑ – ๕
๒. เปรยี บเทียบ เก่ยี วกบั
ประสบการณข์ อง ๔. ร่วมสนทน้ำกับเดก็ วา่ คนไทยทกุ คนท่ีอยใู่ น
ความสงู (สูงกว่า เตี้ย ประเทศไทย ตอ้ งพูดภาษาไทย เรียนพยญั ชนะ
ตนเอง หรอื พูดเลา่
กว่า สงู เทา่ กัน) ได้ เร่ืองราวเกย่ี วกับ ตนเอง
(๘) การรอจังหวะท่ี
เหมาะสมในการพดู ไทย ตัวเลขไทย และเขียนภาษาไทย จึงจะสอื่ สาร
เข้าใจกนั แลว้ ใชค้ ำถามดงั นี

- ถ้าเดก็ พบชาวตา่ งชาตทิ พี่ ดู ภาษาต่างชาติ เดก็ ๆ
จะเขา้ ใจหรอื ไม่ เพราะเหตุใด

(๑๓) การเปรยี บเทียบ - ถา้ เดก็ ๆไปต่างประเทศ แล้วพูดภาษาไทย
ส่งิ ตา่ ง ๆ ตามลกั ษณะ กับชาวต่างชาติ เขาจะเขา้ ใจเราหรือไม่ เพราะ เหตุใด
ความสงู - ถ้าเดก็ ๆ ไปตา่ งประเทศ พบคนไทย เราจะ
รูไ้ ดอ้ ย่างไรว่าเป�นคนไทย (พดู ภาษาไทย แตง่ กาย
ดว้ ยชุดประจำชาติไทย ไหว้หรอื มกี ริ ิยาแบบไทย)

- ชุมชนทเี่ ราอย่มู ีส่งิ แวดลอ้ มตา่ งกัน แต่เรา
อยู่ร่วมกันไดโ้ ดยสงบสขุ เพราะเหตุใด

๒. เดก็ และครรู ่วมกันสรุปว่าเราควรภมู ใิ จในความ

เปน� ไทยเพราะเรามชี าติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ือ การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้
เพลงชาติ ภาษาพูด พยัญชนะไทย เลขไทยและ
กิจกรรมศิลปะ (๒) การเขยี นภาพ มารยาทแบบไทย เปน� เอกลกั ษณ์เฉพาะของคน ไทย ๑. กระดาษวาด สังเกต
สรา้ งสรรค์ และการเลน่ กบั สี ๑. เตรยี มจดั สอ่ื วัสดุอปุ กรณ์ในการระบายสชี ดุ ภาพลายเส้นชุดไทย การสร้างผลงานศิลปะ
สร้างผลงานศลิ ปะ (๓) การป�น ไทยทเ่ี ด็กชอบ ๒. สีเทยี น
เพอ่ื สอ่ื สารความคดิ ๒. เด็กป�นดินน้ำมันเปน� เสน้ ยาวประมาณ ๓๐ ซม. เพ่ือสอื่ สารความคดิ
ความร้สู ึกของตนเอง (๒) การแสดง แลว้ ขดเป�นพยัญชนะไทย ๑ ตัว ๓. ดนิ นำ้ มัน
๓. สนทน้ำข้ันตอนในการทำกิจกรรมและเด็กลง ความร้สู ึกของตนเอง
ได้ ความคดิ สรา้ งสรรค์ มือปฏิบตั ิ ๔. แผ่นรองป�น
๔. เดก็ ทำทั้ง ๒ กจิ กรรมและนำเสนอผลงาน
ผ่านภาษา ท่าทาง ๕. เกบ็ อุปกรณแ์ ละทำความสะอาดใหเ้ รยี บร้อย

และศิลปะ ๑. เดก็ เลอื กกิจกรรมเล่นตามมุมประสบการณ์
ตามความสนใจมุมประสบการณ์ควรมีอย่างน้อย
กจิ กรรมเลน่ ตามมมุ (๓) การใหค้ วาม ๔ มุม เชน่ มมุ ประสบการณ์ใน สงั เกต
เก็บของเลน่ ของใช้ รว่ มมือในการปฏิบัติ -มมุ วิทยาศาสตร์ - มมุ หนังสอื ห้องเรียน
เข้าท่ีเมือ่ มผี ชู้ แ้ี นะ ได้ กิจกรรมตา่ ง ๆ การเกบ็ ของเลน่ ของใชเ้ ข้า
(๓) การเลน่ ตามมมุ -มุมบลอ็ ก - มมุ เกมการศึกษา
ประสบการณ์ ท่ีเมื่อมผี ู้ชแี้ นะ
-มมุ บทบาทสมมติ - มุมเคร่ืองเล่นสัมผัส

-มุมบ้าน
๒. เม่อื หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเข้าทีใ่ หเ้ รียบรอ้ ย

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้
๑. กำหนดขอ้ ตกลงในการเลน่ นำ้ เล่นทรายดังนี ๑. อปุ กรณ์เลน่ นำ้ – สังเกต
กิจกรรมกลางแจง้ (๒) การเล่นรว่ มกับ - เข้าแถวตามลำดบั กอ่ นหลงั ทงั้ ไปและกลบั เลน่ ทราย เช่น ขวด การเล่นร่วมกับเพือ่ น
ขณะเล่นตอ้ งไม่แกลง้ เพื่อน กระปอ๋ ง กรวย
เลน่ รว่ มกับเพื่อนได้ ผูอ้ ่นื - เม่อื ได้ยินสญั ญาณให้หยุดเลน่ เหยอื ก ที่ตักทราย
๒. เดก็ เล่นน้ำ – เลน่ ทรายอยา่ งอิสระ เมอื่ หมดเวลา ฯลฯ
ทำความสะอาดอปุ กรณใ์ นการเลน่ และล้างมอื ๒.พ้ืนท่ีเลน่ น้ำ – เล่น
ก่อนเขา้ ห้องเรียน ทราย

เกมการศกึ ษา (๑๓) การ การเปรยี บเทียบความสูง ๑. แนะนำเกมเปรยี บเทียบความสงู ( สงู กว่า เตี้ยกวา่ ๑. เกมเปรยี บเทยี บ สงั เกต
เปรยี บเทยี บความ เปรียบเทยี บ (สงู กวา่ เตี้ยกว่า สงู สงู เทา่ กัน) ความสงู (สูงกวา่ การบอกไดว้ ่าใครสูงกวา่
สงู (สูงกวา่ เตี้ยกว่า ส่งิ ตา่ ง ๆ ตาม ๒. เดก็ ดูภาพ สงั เกต เปรยี บเทยี บ และบอกได้วา่ เตีย้ กวา่ สูงเทา่ กนั ) ใคร ใครเต้ียกวา่ ใคร และ
ลกั ษณะความสงู เทา่ กัน) ใครสงู กว่าใคร ใครเตยี้ กว่าใคร และใครสงู เท่ากัน ๒. เกมท่เี คยเล่นมา ใครสูงเทา่ กนั
สงู เทา่ กนั ) ได้
๓. เด็กเลน่ เกมชุดใหมแ่ ละเกมท่เี คยเล่นมาแล้ว แลว้
๔. หมุนเวยี นกันเล่นและรว่ มกนั สนทนำ้ เก่ยี วกบั
เกมวา่ ชอบหรือไม่ชอบเพราะเหตใุ ด
๕. เมอื่ เลน่ เสร็จเด็กเกบ็ เกมการศกึ ษาเขา้ ที่เดมิ

แผนการจดั ประสบการณร์ ายวัน วนั ที่ ๔ หน่วยท่ี ๒๒ ค่านิยมไทย ชนั้ อนบุ าลป�ที่ ๑

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่ือ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้

กิจกรรมเคลอ่ื นไหว (๒) การแสดงความคดิ ๑. กิจกรรมพน้ื ฐาน เด็กเคลอื่ นไหวร่างกายไปทว่ั ๑.เครื่องเคาะจงั หวะ สังเกต
และ จังหวะ สรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา บรเิ วณอยา่ งอิสระตามจังหวะ เม่ือได้ยินสญั ญาณ หยุด ๒.เพลงสวัสดี
๑. เคล่อื นไหว ท่าทาง ท่าทาง ใหห้ ยุดเคลือ่ นไหวในท่าน้ันทนั ที ๑. การเคลอื่ นไหวท่าทาง
เพื่อสื่อสาร ความคิด การเคลอื่ นไหว ๒.เดก็ และครรู ว่ มรอ้ งร้องเพลง “สวัสดี ” เพ่อื สื่อสารความคิด
ความรูส้ ึกของ (๑) การเล่นบทบาท ความรสู้ ึกของตนเอง
ตนเองได้ สมมตกิ ารปฏบิ ัตติ นใน ๓. จดั เดก็ เป�นวงกลมใหญซ่ อ้ นกนั ๒ วง เดก็ ชาย ๑ วง ๒. การปฏิบัติตนตาม
๒. ปฏบิ ตั ิตนตาม ความเป�นไทย และเดก็ หญงิ ๑ วง ใหเ้ ด็กทง้ั ๒ วงหนั หนา้
เข้าหากนั เปน� คู่ ๆ มารยาทไทยเมอื่ มผี ู้ช้แี นะ
มารยาทไทยไดเ้ มื่อ
มผี ูช้ แ้ี นะ ๔. ใหเ้ ด็กรอ้ ง และทำทา่ ทางประกอบเพลง “ สวสั ดี
” ( เมอ่ื รอ้ งจบแตล่ ะครั้งใหเ้ ดก็ ชายยก
มอื ไหว้และพูดว่า“สวสั ดีครับ” ส่วนเด็กหญงิ ยก
มือไหวแ้ ละพดู ว่า “ สวสั ดีค่ะ”)
๕. ใหเ้ ดก็ เปลยี่ นคู่ เมอ่ื เรม่ิ ตน้ ร้องเพลงอกี คร้ัง
๖. เด็กนง่ั ผอ่ นคลายกล้ามเน้ือ โดยน่งั หลบั ตา ใน

ทา่ สบาย หายใจเข้าออกชา้ ๆ

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
สังเกต
กจิ กรรมเสริม (๒) การฟง� และปฏิบัติ ๑. คนไทยมมี ารยาทดี ๑. นำภาพเด็กไทยทำทา่ ไหว้ และกราบมาให้เดก็ ดู ๑. ภาพเด็กไทย ๑. การเลา่ เรอื่ งด้วย
ตามคำแนะนำ ๒. ใหเ้ ด็กแสดงการไหว้และการกราบท่ถี กู วิธี ทำทา่ ไหว้ ประโยคส้ัน ๆ
ประสบการณ์ (๔) การพูดแสดง ๒. สิ่งแวดลอ้ มใน ๓. เด็กและครูร่วมสนทนำ้ ถึงกริ ยิ ามารยาทของคน ๒. ภาพเดก็ ไทย ๒. การปฏิบัติตนตาม
๑. เล่าเร่ืองด้วย ความร้สู ึกและความ ชมุ ชนทีเ่ ราอาศยั อยู่ ไทยในเร่ืองการทำความเคารพ การแสดงความ มารยาทไทยเมอื่ มีผชู้ ี้แนะ
ประโยคสนั้ ๆ ได้ ขอบคุณ การใชว้ าจา และการแสดงความออ่ นนอ้ ม ทำท่ากราบ ๓. การกล่าวคำขอบคุณ
๒. ปฏิบัตติ นตาม ตอ้ งการ โดยใช้คำถามดังนี และขอโทษเมอื่ มผี ู้ชี้แนะ
มารยาทไทยไดเ้ มอ่ื (๕) การพดู กับผูอ้ ่ืน ๔. การหยดุ ยนื เม่ือไดย้ นิ
มีผชู้ แี้ นะ เก่ยี วกับประสบการณ์ เพลงชาติไทยและเพลง
๓. กลา่ วคำ ของตนเองหรือพูดเลา่ - คุณพ่อคุณแมก่ ลบั จากทำงานลกู ควรทำ อย่างไร สรรเสรญิ พระบารมี
ขอบคณุ และขอโทษ
เม่ือมีผู้ช้แี นะได้ เรื่องราวเก่ียวกบั ตนเอง - คณุ ยายใหข้ องขวญั วนั เกดิ ควรทำอยา่ งไร
๔. หยุดยืนเมอ่ื
(๘) การรอจงั หวะที่ - เหยียบเท้าเพือ่ นโดยไมต่ ั งใจควรทำอย่างไร
ไดย้ ินเพลงชาติไทย
เหมาะสมในการพดู - พบพระสงฆค์ วรปฏบิ ัติอย่างไร
และเพลงสรรเสรญิ
(๑) การเล่นบทบาท - เมอื่ ไดย้ นิ เพลงชาตไิ ทยและเพลงสรรเสรญิ
พระบารมไี ด้ สมมตกิ ารปฏิบัตติ นใน พระบารมคี วรปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร

ความเป�นไทย ๔. แบง่ เดก็ เป�น ๕ กลมุ่ ตามความเหมาะสม
กลมุ่ ท่ี ๑ แสดงบทบาทสมมตคิ ุณพอ่ คณุ แม่กลับจาก
ทำงาน
กลุม่ ท่ี ๒ แสดงบทบาทสมมตคิ ุณยายใหข้ องขวญั วันเกดิ
กลุ่มที่ ๓ แสดงบทบาทสมมติเหยียบเทา้ เพื่อนโดยไม่
ตง้ั ใจ
กลุ่มที่ ๔ แสดงบทบาทสมมติพบพระสงฆ์

กลุ่มที่ ๕ แสดงบทบาทสมมตเิ ม่อื ไดย้ นิ

เพลงชาติไทยและเพลงสรรเสรญิ พระบารมี

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่ือ การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้

๕. อาสาสมัคร ๓ - ๔ คนออกมาเลา่ เร่ืองชุมชน

ของเราในหมบู่ ้านท่เี ด็กอยมู่ อี ะไรบา้ ง เชน่ วัด สุเหรา่

เปน� ต้น

กจิ กรรมศลิ ปะ (๒) การเขยี นภาพและ ๑. แบง่ เดก็ เป�นกลุ่มตามความเหมาะสม แจกกระดาษ ๑. กระดาษโปสเตอร์ สงั เกต
สร้างสรรค์ การเลน่ กับสี โปสเตอรห์ นา้ ขาวหลังเทา ขนาด ๓๐ x ๓๐ ซม. ให้ หน้าขาวหลงั เทา การสร้างผลงานศลิ ปะ
สรา้ งผลงานศลิ ปะ (๓)การป�น กลมุ่ ละ ๑ แผน่ ขนาด ๓๐ x ๓๐ ซม. เพื่อสอื่ สารความคิด
เพือ่ ส่อื สาร ความคิด (๒) การแสดงความคดิ ๒. ครูเตรียมใบไม้หลายชนิด ใหเ้ ดก็ เลอื กทาบตาม ๒. ใบไม้หลายชนดิ ความรสู้ กึ ของตนเอง
ความรู้สกึ ของ สร้างสรรค์ผ่านภาษา แบบบนกระดาษหนา้ ขาวหลังเทา โดยใช้สเี ทยี น ๓. สีเทียน
ตนเองได้ ทา่ ทางและศิลปะ ลากเส้นตามแบบใบไมแ้ ล้วระบายสใี ห้สวยงาม
๓. ให้เดก็ ใชม้ อื สัมผสั ลกู แก้ว ลูกหิน หรือลกู ป�งปอง ๔. ลกู แก้ว ลูกหนิ
รอบดา้ น บอกเด็กวา่ นคี่ อื ลกั ษณะของรปู ทรงกลม ๓. หรอื ลูกปง� ปอง
ใหเ้ ดก็ ป�นดินนำ้ มันเป�นรปู ทรงกลมหลายๆลกู แลว้ ๕. ดนิ นำ้ มัน
นำมาตอ่ กันเป�นตัวหนอน ต่อเตมิ หนา้ ตาตามความคดิ ๖. แผน่ รองป�น
สร้างสรรค์แล้ววางบนกระดาษขาว – เทา ทมี่ ีรูปใบไม้
๔.เด็กทำทง้ั ๒ กจิ กรรม

๕. ครูตรวจผลงานและใหเ้ ดก็ เลา่ ขนั้ ตอนในการทำ

กจิ กรรมเลน่ ตาม มมุ (๓) การใหค้ วามรว่ มมือ ๑. เด็กเลอื กกิจกรรมเลน่ ตามมุมในมุมประสบการณ์ มมุ ประสบการณใ์ น สังเกต
เกบ็ ของเล่นของใช้ ในการปฏิบัติกิจกรรม ตามความสนใจมมุ ประสบการณ์ควรมอี ยา่ งน้อย ๔ มมุ หอ้ งเรยี น
เขา้ ท่ีเมอ่ื มผี ู้ชแ้ี นะ ได้ ต่างๆ การเก็บของเล่นของใชเ้ ขา้
(๓) การเล่นตามมมุ เช่น ที่เมือ่ มีผ้ชู ี้แนะ
-มมุ วทิ ยาศาสตร์ - มมุ หนังสอื
ประสบการณ์
-มมุ บล็อก - มุมเกมการศึกษา

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ การประเมนิ พฒั นาการ
เรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้

กจิ กรรมกลางแจ้ง - มุมบทบาทสมมติในสัปดาหน์ ี
รับลกู บอลโดยใช้ ควรมชี ุดไทยของเด็ก ตุก๊ ตาไทย ของเล่นของใช้ทที่ ำ
มอื และลำตัวชว่ ย มาจากวัสดุทอ้ งถิ่น ของไทย นำมาให้เดก็ เลน่
ได้ - มมุ เครือ่ งเล่นสมั ผัส

เกมการศกึ ษา ๒. เม่อื หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าทใี่ ห้เรียบรอ้ ย
จำแนกภาพหรือ ๓. ครูชมเชยเดก็ ทีเ่ ก็บของเขา้ ท่ีได้เรยี บร้อยเมอ่ื เล่นเสร็จ
ส่งิ ของที่มลี ักษณะ
เหมือนทรงกลมได้ (๒) การเคล่อื นไหว ๑. พาเดก็ เดินเข้าแถวไปท่ีสนามเดก็ เล่น ๑. สนามเด็กเลน่ สงั เกต
เคลอื่ นที่ การรบั ลูกบอลโดยใช้มอื
(๔) การเคลือ่ นไหวที่ใช้ ๒. เดก็ จดั แถวตอนลึก ๒ แถว อบอนุ่ รา่ งกาย วิ่งอยู่ กับท่ี ๒. ลกู บอล
การประสานสมั พันธ์ของ หมนุ ไหลข่ วา หมุนไหลซ่ ้าย หมนุ ๒ ข้างพรอ้ ม กัน และลำตวั ช่วย
การใชก้ ล้ามเนื อใหญใ่ น กระโดดตบ ๕ ครั งพรอ้ มนบั
การขว้าง การจบั ๓. เด็กจดั แถวเป�นรปู วงกลม ครยู ืนอยู่กลางวงมือถือ
การโยน การเตะ ลกู บอลและโยนลูกบอลใหเ้ ดก็ รบั ทลี ะคนจนครบทกุ คน
(เดก็ รบั ลูกบอลโดยใช้มือและลำตวั ชว่ ย)
๔. ใหเ้ ดก็ เล่นอสิ ระ และเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนาม

(๕) การคดั แยก การจัด การคดั แยกสง่ิ ต่าง ๆ ๑. แนะนำเกมจำแนกภาพหรือสิง่ ของที่มีลักษณะ เกมจำแนกภาพหรือ สังเกต
กล่มุ และการจำแนก ตามลกั ษณะหรือ เหมือนทรงกลม ส่งิ ของทีม่ ลี ักษณะ การจำแนกภาพหรอื
ส่ิงต่าง ๆ ตามลกั ษณะ หนา้ ท่กี ารใช้งาน ๒. เดก็ นำภาพหลักทรงกลมมาวาง เหมือนทรงกลม สิ่งของทม่ี ีลกั ษณะเหมือน
และรปู ร่าง รปู ทรง
๓. เด็กนำภาพหรือสงิ่ ของท่มี ีลกั ษณะเหมอื นทรงกลม ทรงกลม
มาวางเรียงต่อกันในแนวนอน
๔. เด็กเลน่ เกมชุดใหม่และเกมทีเ่ คยเล่นมาแล้ว

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สื่อ การประเมนิ พฒั นาการ
เรียนรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้
๕. หมุนเวียนกันเลน่ และรว่ มกนั สนทน้ำเกย่ี วกบั เกม
วา่ ชอบหรอื ไม่ชอบเพราะเหตุใด
๖. เมื่อเลน่ เสร็จเดก็ เก็บเกมการศกึ ษาเขา้ ท่เี ดมิ

แผนการจดั ประสบการณ์รายวนั วนั ท่ี ๕ หน่วยท่ี ๒๒ ค่านยิ มไทย ชน้ั อนบุ าลปท� ่ี ๑

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้
สังเกต
เคลอื่ นไหวและ (๒) การแสดงความคดิ ๑. กิจกรรมพนื้ ฐาน ใหเ้ ด็กเคลอื่ นไหวรา่ งกายไปท่วั ๑. เคร่อื งเคาะ ๑. การเคล่ือนไหวท่าทาง
จงั หวะ สร้างสรรค์ผา่ นภาษา บริเวณอย่างอิสระตามจงั หวะ เมอื่ ไดย้ นิ สญั ญาณ หยุด จังหวะ เพื่อสอ่ื สารความคดิ
๑. เคลอ่ื นไหว ทา่ ทาง ทา่ ทาง การเคลือ่ นไหว ใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในท่าน้ันทนั ที ๒. ผ้าเชด็ หนา้ ความรู้สกึ ของตนเอง
เพื่อสอ่ื สาร ความคดิ ๒. การนบั ปากเปล่า ๑ - ๕
ความร้สู ึกของ ๒. แบง่ เดก็ เปน� ๔ กลุ่ม ๆ ละเทา่ ๆ กนั โดยการนบั
ตนเองได้
๒. นบั ปากเปล่า ๑ – ๔ คนนบั เลขเดยี วกันอยกู่ ลุม่ เดยี วกนั
๓. เด็กเข้าแถวตอนใหค้ นท่ยี นื หัวแถวเป�นผนู้ ำ
๑ – ๕ ได้ ถือผ้าเชด็ หน้า ทำทา่ ทางทไ่ี ม่ซำ้ กนั คนในแถวทำตาม
พร้อมท้ังเดนิ ตามทศิ ทางและระดับของผนู้ ำ เมอื่ ครู
บอกให้เปลยี่ นผู้นำ คนท่ีอยู่หวั แถว จะตอ้ งไปอย่ทู า้ ย
แถว คนที่เป�นหวั แถวคนใหม่ กต็ ้องเปน� ผู้นำแทนและ
ทำทา่ ทางไมซ่ ำ้ กบั คนแรก แตล่ ะกลุ่มจะทำทา่ ทางไม่ ซำ้
กัน โดยเคลอ่ื นไหวให้เข้ากบั จงั หวะและไม่ชนกบั
กลมุ่ อ่นื ผลดั เปลี่ยนกันเป�นผู้นำ ผตู้ ามจนครบทุกคน
๔. เด็กนงั่ ลงกับพ้ืน แลว้ นบั ปากเปลา่ ๑ – ๕ ๕.
เดก็ พกั ผ่อนคลายกล้ามเน้ือ โดยการนอนราบไป กบั พ้ืน
แขนแนบลำตวั

จุดประสงค์การเรยี น สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือ การประเมนิ พฒั นาการ

รู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้

กจิ กรรมเสริม (๒) การฟ�งและปฏิบัติ ๑. คนไทยมคี วาม ๑. เดก็ นง่ั เป�นรปู วงกลม หลับตา แลว้ นึกภาพตามท่ี นทิ านเร่อื ง สงั เกต
กตญั �ู
ประสบการณ์ ตามคำแนะนำ ๒. จำแนกสิง่ ของ ครบู รรยาย เรื่องมือมปี ระโยชนใ์ ห้เดก็ คดิ ถงึ สิง่ ที่เราใช้ “มดดำยอดกตัญ�ู” ๑. การเลา่ เรอื่ งด้วย
๑. เล่าเร่ืองด้วย (๓) การฟ�งนิทาน รอบตัวท่ีเปน� ส่ิงมีชวี ติ มอื ของเราทำเชน่ กราบพระ ไหวพ้ ่อแม่ ครู และ ผใู้ หญ่
ประโยคสัน้ ๆ ได้ (๔) การพดู แสดง – ไมม่ ีชีวิต วาดรูปภาพ ทิ งขยะลงในถงั ขยะ ปลูกตน้ ไม้ ชว่ ยพอ่ แม่ ประโยคสั้น ๆ
๒. มสี ่วนรว่ มดแู ล ความร้สู ึกและความ ทำงาน ช่วยหยบิ ของใหพ้ หี่ รือนอ้ ง จติ ใจ ของเรารสู้ กึ
รกั ษาธรรมชาติ ตอ้ งการ เบิกบาน ยินดี ดใี จ มีความสขุ เราอยากจะทำอะไรดี ๆ ๒. การมสี ว่ นร่วมดูแล
และสิง่ แวดล้อม (๕) การพดู กบั ผู้อื่น อีกหลายอย่าง ใหเ้ ดก็ คิดดูซิว่า อยากทำอะไรบา้ ง
เม่ือมีผชู้ ้ีแนะ เกีย่ วกับประสบการณ์ แล้วให้เดก็ ลมื ตาออกมาเลา่ ให้ เพอื่ นฟง� ทลี ะคน รักษาธรรมชาติและ
ของตนเอง หรือพูดเลา่
๓. แบ่งปน� ผอู้ นื่ ได้ เรอื่ งราวเก่ยี วกับตนเอง ๒. ครเู ลา่ นิทานเรอ่ื ง “มดดำยอดกตญั �”ู ใหเ้ ด็กฟ�ง แล้วใช้ ส่งิ แวดล้อมเมอื่ มผี ู้ชแ้ี นะ

เมือ่ มีผูช้ ้แี นะ คำถามดังนี ๓. การแบ่งปน� ผู้อืน่ เมอ่ื มีผู้

- ทำไมมดแดงจึงไม่โกรธท่ีถกู มดดำแยง่ ขนมปง� ไป ชี แนะ
- ถ้าเดก็ มีขนมปง� ชน้ิ ใหญ่ เดก็ จะแบ่งใหเ้ พอ่ื น หรอื ไม่
(๘) การรอจังหวะที่
เพราะเหตใุ ด
เหมาะสมในการพูด (๑)
- มดแดง มดดำและขนมปง� สง่ิ ใดเป�นส่ิงมีชีวิตเพราะอะไร
การมสี ่วนร่วม - มดดำมนี สิ ัยเชน่ ไร ถ้าเด็กโตเปน� ผใู้ หญ่ เดก็ จะ เลีย้ ง

รบั ผดิ ชอบดูแลรกั ษา ดพู อ่ แมห่ รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด

ส่งิ แวดลอ้ มทงั้ ภายใน - เด็กเคยแสดงความกตัญ�ตู อ่ พอ่ แม่ด้วยวธิ ใี ดบา้ ง

และภายนอกห้องเรียน ๓. เดก็ และครูรว่ มกันสรปุ การแสดงความกตญั �ูต่อ
พ่อแม่ด้วยการเช่ือฟ�ง รู้คณุ และตอบแทนบุญคุณผู้มี
(๒) การฟง� นิทาน พระคณุ ปฏิบัตติ ามคำแนะนำสั่งสอน ใหค้ วามเคารพ
เอาใจใส่ ดูแลพอ่ แม่ คือลักษณะของคนไทยทด่ี ี
เก่ียวกบั คณุ ธรรม

จริยธรรม

จุดประสงคก์ ารเรียน สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ การประเมนิ พฒั นาการ

รู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ๑. เด็กวาดภาพส่ิงดี ๆ ทเี่ ด็กอยากทำ
๒. เด็กป�นดินนำ้ มันสตั ว์นา่ รัก
กจิ กรรมศิลปะ (๒) การเขียนภาพ ๓. เดก็ ทำทง้ั สองกิจกรรม ๑.กระดาษ สังเกต
สรา้ งสรรค์ ๔. เดก็ นำเสนอผลงานและนำไปวางท่ีเก็บผลงาน
สรา้ งผลงานศลิ ปะ (๓) การปน� ๒.สเี ทียน การสรา้ งผลงานศิลปะเพอื่
ส่อื สารความคดิ ความร้สู กึ
เพือ่ สอ่ื สารความคิด ๓.ดนิ นำ้ มนั ของตนเอง
๔. แผน่ รองป�น
ความร้สู ึกของตนเอง
ได้

กิจกรรมเลน่ ตามมุม (๓) การใหค้ วาม ๑. เด็กเลอื กกิจกรรมเลน่ ตามมมุ ประสบการณต์ าม มมุ ประสบการณ์ใน สงั เกต
เก็บของเล่นของใช้ รว่ มมือในการปฏบิ ตั ิ ความสนใจมมุ ประสบการณค์ วรมอี ยา่ งน้อย ๔ มมุ เชน่
หอ้ งเรยี น การเกบ็ ของเลน่ ของใชเ้ ข้า
เขา้ ทเี่ ม่อื มผี ้ชู แ้ี นะ ได้ กจิ กรรมต่าง ๆ - มุมวทิ ยาศาสตร์ - มมุ หนงั สือ
ที่เมื่อมผี ู้ช้ีแนะ

(๓) การเล่นตามมุม - มมุ บลอ็ ก - มมุ เกมการศึกษา

ประสบการณ์ - มมุ บทบาทสมมตใิ นสัปดาห์นี
ควรมชี ดุ ไทยของเด็ก ตุก๊ ตาไทย ของเลน่ ของใช้ท่ที ำ
มาจากวัสดุท้องถน่ิ ของไทย นำมาให้เด็กเลน่

- มมุ เครื่องเลน่ สมั ผัส

๒. เมอ่ื หมดเวลาเด็กเกบ็ ของเขา้ ที่ใหเ้ รียบรอ้ ย
๓.ครชู มเชยเด็กทเี่ ก็บของเข้าทีไ่ ด้เรียบรอ้ ยเม่ือเลน่ เสร็จ

จุดประสงคก์ ารเรียน สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื การประเมนิ พฒั นาการ

รู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้

กจิ กรรมกลางแจ้ง (๒) การเลน่ ร่วมกบั ๑. เดก็ เลือกเล่นอปุ กรณ์ในสนามเดก็ เลน่ ตามความสนใจ สนามเด็กเล่น สงั เกต
อย่างอิสระ การเล่นรว่ มกับเพอ่ื น
เลน่ รว่ มกับเพอ่ื นได้ ผู้อืน่ ๒. เมอื่ หมดเวลา ช่วยกนั เก็บทำความสะอาดสนาม

ลา้ งมือ

กอ่ นเข้าห้องเรียน

เกมการศกึ ษา (๕) การคัดแยก การจำแนกส่ิงตา่ ง ๆ ๑. แนะนำเกมจำแนกภาพหรอื ส่งิ ของรอบตวั เป�น เกมจำแนกภาพหรือ สังเกต
จำแนกภาพหรอื การจดั กลุ่มและ ตามลักษณะหรือหน้าที่ ส่งิ มชี วี ติ – ไมม่ ชี ีวติ สงิ่ ของรอบตัวเปน� การจำแนกภาพหรอื
ส่ิงของรอบตัวเป�น การจำแนกสง่ิ ตา่ ง ๆ การใชง้ าน
ตามลักษณะและ ๒. เด็กบอกไดว้ ่าสิง่ ใดเปน� สง่ิ มีชวี ิต – ไมม่ ีชีวติ สง่ิ มชี ีวติ – ไมม่ ีชวี ติ ส่ิงของรอบตัวเปน� สง่ิ มีชวี ิต
สงิ่ มีชีวิต – ไมม่ ชี ีวติ รปู รา่ งรูปทรง
๓. เดก็ สงั เกตภาพแผ่นหลกั และภาพแผน่ ยอ่ ย - ไม่มชี วี ิต
ได้
๔. เด็กวางภาพแผ่นหลกั แลว้ หาภาพแผน่ ย่อย
มาจดั วางเขา้ ชุด ในแนวนอนหรอื แนวตง้ั กไ็ ด้
๕. แบง่ เดก็ เลน่ เกมใหม่ และเกมเดิมท่ีมีอยู่
หมุนเวียนกันเล่น
๖. เมอื่ หมดเวลา เด็กเก็บเกมการศึกษาเข้าท่ี

๑ ด.ญ.ธดิ ารัตน โคกโต เลขที่ ชอ่ื – สกุล

๒ ด.ญ.ปวีณธ ดิ า ๑.การรับลูกบอลโดยใช้มอื และลำตัวช่วย ดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรมเดก็ หน่วยการจดั ประสบการณท์ ี่ ๒๔ เศรษฐกิจพอเพียงช้นั อนบุ าลป�ที่ ๑
หนูใหญ ร่างกาย
๒. การเขียนรปู วงกลมตามแบบ
๓ ด.ญ.ไอรดา จันทรงั ษ ดา้ นอารมณ์
คำอธบิ าย ครูสังเกตพฤติกรรมเด็กรายบคุ คล จดบนั ทกึ สรปุ เปน� รายสัปดาหร์ ะบรุ ะดบั คุณภาพเป�น ๓ ระดบั คอื ๓. การบอกหรือชี ได้วา่ สงิ่ ใดเป�นของตนเองและ
ส่ิงใดเป�นของผอู้ นื่ ประเมนิ พัฒนาการ
ระดบั ๓ ดี ระดบั ๒ ปานกลาง ระดับ ๑ ต้องสง่ เสริม ดา้ นสงั คม
๔. การแบง่ ปน� ผู้อื่นได้เมือ่ มผี ชู้ ้ีแนะ
ดา้ นสติป�ญญา
๕. การเก็บของเลน่ ของใช้เข้าที่เมอื่ มผี ชู้ ้ีแนะ

๖. การมสี ่วนรว่ มดแู ลรักษาธรรมชาตแิ ละ
สงิ่ แวดลอ้ มเมอื่ มีผ้ชู ีแ้ นะ

๗. การปฏบิ ตั ติ นตามมารยาทไทยได้เม่ือมผี ู้
ช้ีแนะ
๘. การกล่าวคำขอบคุณและขอโทษเมอ่ื มีผชู้ แ้ี นะ

๙. การหยุดยืนเมื่อได้ยินเพลงชาติไทยและเพลง

๑๐. การเล่นรว่ มกับเพือ่ น

๑๑. การเลา่ เรอ่ื งดว้ ยประโยคสัน้ ๆ

๑๒. การจับคู่ การเปรยี บเทยี บ และการ
เรียงลำดบั สงิ่ ต่าง ๆ ตามลักษณะทางกายภาพ
๑๓. การคัดแยก การจัดกล่มุ และการจำแนกสงิ่
ต่าง ๆตามลักษณะและรูปรา่ งรูปทรง
๑๔. การสรา้ งผลงานศลิ ปะเพอ่ื ส่ือสารความคดิ
ความร้สู ึกของตนเอง
๑๕. การเคลื่อนไหวท่าทาง เพอื่ สอ่ื สารความคดิ
ความรูส้ ึกของตนเอง

หมายเหตุ

บันทึกหลังการสอน
หนว่ ย ค่านมิ ไทย

วนั ท…ี่ …………เดอื น………………………………..พ.ศ.………………..

1. ผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.ปญ หา / อปุ สรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.ขอ เสนอแนะ / แนวทางแกไ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ...................................................................................ผูสอน
( นางสาวณัฏฐศ ศิ ไกรวลิ าส )
ตำแหนง ครูผชู วย

ความเหน็ และขอ เสนอแนะของผบู รหิ าร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ .......................................................................................ผบู ริหาร
( นายยศศักด์ิ กอ แกว)

ตำแหนง ครู โรงเรียนวดั หนองหอย รกั ษาการในตำแหนง
ผูอำนวยการ โรงเรยี นวัดหนองหอย





การวเิ คราะหโ์ ครงสร้างหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ตามหลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐

หน่วยที่ ๒๔ เศรษฐกิจพอเพียง ชั้นอนบุ าลปท� ่ี ๑ – ๓ ภาคเรียนที่ ๒

รายการ อนบุ าลปท� ี่ ๑ อนบุ าลป�ท่ี ๒ อนุบาลป�ที่ ๓
สาระที่ควรเรยี นรู้
๑. ความรูเ้ รอ่ื งหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ ๑. ความร้เู รอ่ื งหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ ๑. ความรู้เร่อื งหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียงระดับปฐมวัย พอเพียงระดับปฐมวัย พอเพียง ระดับปฐมวยั

๒. การปฏบิ ัตติ ามหลกั ปรชั ญาของ ๒. การปฏิบตั ิตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ ๒. การปฏบิ ตั ิตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ

เศรษฐกจิ พอเพียงทเ่ี หมาะสมกบั เด็กปฐมวัย พอเพียงทเ่ี หมาะสมกบั เด็กปฐมวัย พอเพยี งทเี่ หมาะสมกับเดก็ ปฐมวัย

- การประหยัดอดออม - การประหยดั อดออม - การประหยดั อดออม

- การใช้ส่งิ ของ เครื่องใช้ น้ำ/ไฟ อย่าง - การใช้ส่งิ ของ เคร่ืองใช้ น้ำ/ไฟ อยา่ ง - การใชส้ ่งิ ของ เคร่อื งใช้ น้ำ/ไฟ อยา่ งประหยัด
ประหยดั ประหยดั - การแตง่ ตวั ดว้ ยตนเอง
- การรับประทานอาหารและด่มื นม ใหห้ มดไม่
- การแตง่ ตวั ด้วยตนเอง - การแตง่ ตัวดว้ ยตนเอง เหลอื ทิ้ง
๓. การเก็บของเล่นของใชเ้ ขา้ ที่ดว้ ยตนเอง
- การรบั ประทานอาหารและด่มื นม ใหห้ มด - การรับประทานอาหารและด่ืมนม ใหห้ มดไม่ ๔. การเขา้ แถวตามลำดับก่อนหลัง
ไมเ่ หลอื ทงิ้ เหลือทิง้ ๕. การร้จู ักเลอื กอย่างมเี หตุผล
- การปลูกผกั รกั สุขภาพ
๓. การเกบ็ ของเล่นของใช้เข้าท่ีดว้ ยตนเอง ๓. การเกบ็ ของเล่นของใช้เขา้ ทดี่ ้วยตนเอง - การเลือกซ้อื อาหารท่มี ีประโยชน์

๔. การเขา้ แถวตามลำดบั ก่อนหลัง ๔. การเขา้ แถวตามลำดบั ก่อนหลงั

๕. การร้จู ักเลอื กอยา่ งมีเหตุผล

- การปลกู ผกั รกั สุขภาพ

รายการ อนบุ าลป�ท่ี ๑ อนบุ าลปท� ่ี ๒ อนุบาลป�ท่ี ๓
มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ มฐ ๑ ตบช ๑.๓ (๑.๓.๑)
สภาพท่พี งึ ประสงค์ มฐ ๒ ตบช ๒.๑ (๒.๑.๓) ตบช ๒.๒ (๒.๒.๓) มฐ ๒ ตบช ๒.๑ (๒.๑.๓) ตบช ๒.๒ (๒.๒.๓) มฐ ๒ ตบช ๒.๑ (๒.๑.๓) ตบช ๒.๒ (๒.๒.๓)
มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑) (๔.๑.๓)
ประสบการณส์ ำคญั มฐ ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๑) ตบช ๕.๔ (๕.๔.๑) มฐ ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๑) ตบช ๕.๔ (๕.๔.๑) มฐ ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๑) ตบช ๕.๔ (๕.๔.๑)
มฐ ๖ ตบช ๖.๑ (๖.๑.๑) (๖.๑.๒) ตบช ๖.๒
มฐ ๖ ตบช ๖.๑ (๖.๑.๑) (๖.๑.๒) มฐ ๖ ตบช ๖.๑(๖.๑.๑) (๖.๑.๒) (๖.๒.๑) (๖.๒.๒) ตบช.๖.๓ (๖.๓.๑)
มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๒) ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑)
ตบช ๖.๒ (๖.๒.๑) (๖.๒.๒) ตบช ๖.๓ ตบช ๖.๒ (๖.๒.๑) (๖.๒.๒) (๙.๒.๒)
มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๑) (๑๐.๑.๒)
(๖.๓.๑) ตบช ๖.๓ (๖.๓.๑) (๑๐.๑.๓) (๑๐.๑.๔)
ตบช ๑๐.๒ (๑๐.๒.๑) (๑๐.๒.๒)
มฐ ๘ ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑) มฐ ๘ ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑) มฐ ๑๒ ตบช ๑๒.๒ (๑๒.๒.๑)

มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๒) ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑) มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๒) รา่ งกาย
๑.๑.๑ (๒) การเคลือ่ นไหว เคลอ่ื นที่
มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๑) (๑๐.๑.๒) ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑) (๓) การเคล่อื นไหวพรอ้ มวสั ดุอปุ กรณ์ (รบิ บ้ิน)
(๑๐.๑.๓) ๑.๑.๒ (๑) การเล่นเคร่อื งเลน่ สมั ผสั จากแท่งไม้
มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๑) (๑๐.๑.๒) (๒) การเขียนภา
มฐ ๑๑ ตบช ๑๑.๑ (๑๑.๑.๑) (๑๐.๑.๓) (๑๐.๑.๔)

ตบช ๑๑.๒ (๑๑.๒.๑ มฐ ๑๑ ตบช ๑๑.๑ (๑๑.๑.๑) ตบช ๑๑.๒

(๑๑.๒.๑)

ร่างกาย รา่ งกาย

๑.๑.๑ (๒) การเคลือ่ นไหวเคลื่อนที่ ๑.๑.๑ (๒) การเคลื่อนไหวเคลือ่ นที่

(๓) การเคลอ่ื นไหวพรอ้ มวสั ดุ อปุ กรณ์ (๓) การเคลอ่ื นไหวพร้อมวสั ดุ อุปกรณ์

๑.๑.๒ (๒) การเขยี นภาพ ๑.๑.๒ (๒) การเขียนภาพ

(๓) การปน� (๓) การป�น

รายการ อนบุ าลป�ท่ี ๑ อนบุ าลปท� ี่ ๒ อนุบาลปท� ่ี ๓
(๔) การประดษิ ฐส์ ่ิงตา่ ง ๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ (๔) การประดษิ ฐส์ งิ่ ตา่ ง ๆดว้ ยเศษวสั ดุ (๓) การป�น

(๕) การหยิบจบั การปะ และ การรอ้ ยวสั ดุ (๕) การหยบิ จับ การปะ และ การรอ้ ยวสั ดุ (๔) การประดษิ ฐ์สิง่ ต่าง ๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ

๑.๑.๔ (๑) การปฏิบัติตนให้ปลอดภัยใน (๕) การหยิบจบั การใชก้ รรไกร การฉกี การตดั
กจิ วตั รประจำวนั การปะ และการรอ้ ยวัสดุ

อารมณ์ อารมณ์ ๑.๑.๓ (๑) การปฏิบัติตนตามสุขอนามัย สุข
๑.๒.๒ (๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์ ๑.๒.๒ (๓) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ นิสยั ทดี่ ีในกิจวัตรประจำวัน
๑.๑.๔ (๑) การปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภยั ในกจิ วตั ร
(๔) การเลน่ นอกหอ้ งเรียน (๔) การเล่นนอกหอ้ งเรียน ประจำวนั

๑.๒.๓ (๒) การฟ�งนทิ านเกี่ยวกับคณุ ธรรม ๑.๒.๓ (๒) การฟง� นทิ านเกีย่ วกับคณุ ธรรม (๓) การเล่นเคร่อื งเล่นอยา่ งปลอดภัย
จรยิ ธรรม จริยธรรม
อารมณ์
๑.๒.๔ (๓) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ ๑.๒.๔ (๓) การเคล่อื นไหวตามเสียงเพลง /
ดนตรี ดนตรี ๑.๒.๓ (๒) การฟ�งนทิ านเกยี่ วกับ คณุ ธรรม
จริยธรรม
(๕) การทำงานศิลปะ (๕) การทำงานศิลปะ
๑.๒.๑ (๓) การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง/
๑.๒.๕ (๑) การปฏบิ ัติกิจกรรมต่างๆ ตาม ๑.๒.๕ (๑) การปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ ตาม ดนตรี

(๕) การทำกิจกรรมศิลปะต่าง ๆ

(๔) การเล่นบทบาทสมมติ

๑.๒.๕ (๑) การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตา่ ง ๆ ตาม
ความสามารถของตนเอง

รายการ อนบุ าลป�ที่ ๑ อนุบาลปท� ่ี ๒ อนบุ าลปท� ่ี ๓
สงั คม
ความสามารถของตนเอง ความสามารถของตนเอง
สงั คม สังคม

๑.๓.๑ (๑) การช่วยเหลือตนเองในกจิ วัตร ๑.๓.๑ (๑) การชว่ ยเหลอื ตนเองในกจิ วัตร ๑.๓.๑ (๑) การช่วยเหลือตนเองในกิจวตั ร
ประจำวัน ประจำวัน ประจำวนั

(๒) การปฏิบตั ิตนตามแนวทางหลักปรัชญาของ (๒) การปฏิบตั ิตนตามแนวทางหลักปรัชญา (๒) การปฏบิ ตั ติ นตามแนวทางหลกั ปรัชญา

เศรษฐกจิ พอเพยี ง ของเศรษฐกิจพอเพยี ง ของเศรษฐกจิ พอเพียง

๑.๓.๒ (๒) การใชว้ สั ดุ และสง่ิ ของ เครือ่ งใช้ ๑.๓.๒ (๒) การใชว้ ัสดุ และสงิ่ ของ เคร่อื งใช้ ๑.๓.๒ (๒) การใชว้ ัสดุ และสงิ่ ของ เครื่องใช้

อย่างคมุ้ ค่า อย่างคมุ้ คา่ อยา่ งคมุ้ ค่า

(๓) การทำงานศิลปะที่นำวัสดุหรือ ส่ิงของ (๓) การทำงานศิลปะที่นำวัสดุหรือ สิ่งของ (๓) การทำงานศิลปะที่นำวัสดุหรือ สิ่งของ

เครอ่ื งใช้ทใี่ ช้แลว้ มาใช้ซำ้ เครื่องใชท้ ีใ่ ชแ้ ลว้ มาใช้ซ้ำ เคร่อื งใช้ทใี่ ชแ้ ล้วมาใช้ซำ้

๑.๓.๔ (๓) การให้ความรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั ิ ๑.๓.๔ (๓) การให้ความรว่ มมอื ในการปฏบิ ัติ (๔) การเพาะปลูกและดแู ลตน้ ไม้

กิจกรรมตา่ ง ๆ กิจกรรมต่าง ๆ ๑.๓.๔ (๓) การใหค้ วามร่วมมือในการปฏิบตั ิ

๑.๓.๕ (๒) การเล่นและทำงานร่วมกบั ผู้อนื่ ๑.๓.๕ (๒) การเลน่ และทำงานรว่ มกับผอู้ ื่น กิจกรรมต่าง ๆ

สติปญ� ญา สตปิ �ญญา สตปิ ญ� ญา

๑.๔.๑ (๒) การฟ�งและปฏิบตั ติ าม คำแนะนำ ๑.๔.๑ (๒) การฟง� และปฏบิ ัติตาม คำแนะนำ ๑.๔.๑ (๒) การฟง� และปฏิบตั ติ าม คำแนะนำ

(๓) การฟ�งเพลงนิทานคำคลอ้ ง จองหรอื (๓) การฟง� เพลงนทิ านคำคลอ้ ง จองหรือ (๓) การฟ�งเพลงนิทานคำคลอ้ ง จองหรือ
เร่ืองราวต่าง ๆ เรือ่ งราวต่าง ๆ เร่อื งราวต่าง ๆ

รายการ อนุบาลป�ที่ ๑ อนุบาลป�ที่ ๒ อนุบาลป�ท่ี ๓
(๔) การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และ
(๔) การพดู แสดงความคิด ความร้สู ึกและความ (๔) การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และ ความต้องการ

ต้องการ ความต้องการ

(๑๐) การอ่านหนงั สอื ภาพ นทิ าน (๑๐) การอ่านหนังสอื ภาพ นทิ าน (๕) การพูดเล่าเรือ่ งราวเกย่ี วกบั ตนเอง

(๑๑) การอ่านรว่ มกัน (๑๑) การอ่านร่วมกนั (๘) การรอจงั หวะพูดทเี่ หมาะสม

(๑๒) การเหน็ แบบอยา่ งของการอา่ นท่ีถกู ตอ้ ง (๑๒) การเหน็ แบบอย่างของการอา่ นท่ีถูกต้อง (๑๐) การอ่านหนงั สือภาพ นิทาน

๑.๔.๒ (๑) การสงั เกตลักษณะและ ๑.๔.๒ (๑) การสังเกตลกั ษณะและ (๑๑) การอา่ นรว่ มกันและอา่ นอสิ ระ

ส่วนประกอบของสิ่งตา่ งๆ โดยใชป้ ระสาท สว่ นประกอบของสิ่งต่างๆ โดยใช้ประสาท (๑๒) การเหน็ แบบอยา่ งการอา่ นท่ีถูกตอ้ ง
สมั ผสั อยา่ งเหมาะสม สัมผสั อย่างเหมาะสม
(๑๙) การเหน็ แบบอย่างของการเขยี นทถี่ ูกต้อง
๑ .๔ .๒ (๑ ) ก า ร สั ง เก ต ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ ๑ .๔ .๒ (๑ ) ก า ร สั ง เก ต ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ
ส่วนประกอบของส่ิงต่างๆ โดยใช้ประสาท ส่วนประกอบของส่ิงต่างๆ โดยใช้ประสาท (๒๐) การเขยี นร่วมกนั ตามโอกาสตา่ ง ๆ

สมั ผสั อย่างเหมาะสม สัมผสั อยา่ งเหมาะสม ๑ .๔ .๒ (๑ ) ก า ร สั ง เก ต ลั ก ษ ณ ะ แ ล ะ

(๕) การคัดแยก การจดั กลมุ่ และ การจำแนกส่งิ (๕) การคดั แยก การจดั กล่มุ และ การจำแนก ส่วนประกอบของสิ่งต่างๆ โดยใช้ประสาท
ส่ิงต่าง ๆตามลกั ษณะและรูปร่าง รูปทรง สัมผสั อย่างเหมาะสม
ตา่ ง ๆ ตามลักษณะและรูปรา่ ง รูปทรง (๕) การคดั แยก การจัดกลุ่มและการจำแนก
สิ่งของตา่ ง ๆ ตามลักษณะรปู รา่ ง
(๑๓) การจับคู่ การเปรยี บเทียบ และการ (๑๓) การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บ และ การ
เรียงลำดับสิง่ ต่าง ๆ ตามลกั ษณะ ความยาว/ เรยี งลำดบั สิ่งต่าง ๆ ตามลกั ษณะความ ยาว/ (๘) การนับและแสดงจำนวนส่ิงของต่างๆ ใน

ความสูง นำ้ หนกั ปริมาตร ความสูง น้ำหนกั ปริมาตร
๑.๔.๓ (๒) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ ผ่าน ๑.๔.๓ (๒) การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่าน ชวี ิตประจำวัน
ภาษา ทา่ ทาง การเคลอื่ นไหว และ ศลิ ปะ ภาษา ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหวและศลิ ปะ (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บความ เหมอื น
ความต่าง

รายการ อนบุ าลปท� ่ี ๑ อนบุ าลป�ที่ ๒ อนุบาลปท� ่ี ๓
คณติ ศาสตร์ (๑๔) การบอกและเรียงลำดับกจิ กรรมหรือ
• นบั แสดงจำนวน ๔ • นบั และแสดงจำนวน ๑ – ๗ เหตุการณ์
• ระบตุ ัวเลขฮินดอู ารบิกแสดงจำนวน ของสง่ิ • ระบตุ วั เลขฮินดูอารบิกแสดงจำนวนของสิง่
ตา่ งๆตัง้ แต่ ๑ – ๕ ต่างๆ ๑ – ๗ (๑๖) การอธบิ ายเช่อื มโยงสาเหตแุ ละผลท่ี
• เปรียบเทียบจำนวนของส่ิงตา่ งๆ สอง กลุ่ม • เปรียบเทยี บจ้านวนของส่ิงต่างๆ สองกลุ่ม เกดิ ชึ้นในเหตุการณห์ รือการกระทำ
โดยแตล่ ะกลมุ่ มีจำนวนไม่เกิน ๕ ว่ามีจำนวน แต่ละกลมุ่ มีจา้ นวนไม่เกิน ๗
เท่ากันหรือไมเ่ ทา่ กนั • บอกอนั ดบั ทขี่ องส่ิงต่างๆ ไม่เกนิ ๔ ส่ิง (๑๗) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสง่ิ ท่ี
อาจจะเกิดข้ึนอยา่ งมีเหตผุ ล

๑.๔.๔ (๑) การสำรวจสิ่งตา่ ง ๆ และแหล่ง
เรยี นรู้

(๓) การสืบเสาะหาความรเู้ พ่ือคน้ หา ค้าตอบ
ของข้อสงสัยตา่ ง ๆ

(๔) การมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูล และ
นำเสนอข้อมูลจากการสืบเสาะหาความรู้ใน
รูปแบบตา่ ง ๆ และแผนภูมิงา่ ย ๆ
• นบั และแสดงจำนวน ๑ – ๑๒

• ระบตุ ัวเลขฮินดอู ารบิกแสดงจำนวนของสง่ิ
ตา่ งๆ ๑ – ๑๒

• เปรยี บเทียบจำนวนของสิ่งต่างๆ สองกล่มุ
แตล่ ะ กลมุ่ มจี ำนวนไมเ่ กิน ๑๒

รายการ อนบุ าลปท� ่ี ๑ อนบุ าลป�ที่ ๒ อนุบาลปท� ่ี ๓
วทิ ยาศาสตร์ • บอกจำนวนท้ังหมดท่เี กดิ จากการรวม สง่ิ
ต่างๆ สองกลุ่มที่มผี ลรวมไมเ่ กนิ ๔ • บอกจำนวนท้ังหมดท่เี กิดจากการรวมสิง่ • บอกจำนวนทเี่ หลอื เมือ่ แยกกลุ่มยอ่ ยออก
พัฒนาการทางภาษา • บอกอนั ดบั ที่ของสง่ิ ตา่ งๆ ไม่เกนิ ๓ สงิ่ ตา่ งๆ สองกล่มุ ทม่ี ีผลรวมไมเ่ กนิ ๗ จาก กลุ่มใหญท่ ี่มจี ำนวนไมเ่ กนิ ๑๒
และการรหู้ นังสือ • บอกชนดิ ของเงนิ เหรยี ญ เหรียญ ๑ บาท ๒
บาท ๕ บาท ๑๐ บาท • บอกชนิดและค่าของเงนิ เหรยี ญ ๑ บาท ๒ • บอกชนิดและค่าของเงนิ เหรยี ญ ๑ บาท ๒
๑. การสังเกตลกั ษณะของสง่ิ ตา่ ง ๆ โดย ใช้
ประสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม บาท ๕ บาท ๑๐ บาท บาท ๕ บาท ๑๐ บาท และธนบตั ร ฉบับละ
๒. การสำรวจสง่ิ ต่าง ๆ รอบตวั
๓. การตัง้ คำถามในเร่ืองทสี่ นใจ ๒๐ บาท

๑. การฟง� และปฏิบัติตามคำแนะนำ ๑. การสงั เกตลักษณะ และสว่ นประกอบ ของ ๑. การสังเกตลักษณะ สว่ นประกอบ การ
๒. การฟง� เพลง นทิ าน คำคลอ้ งจองหรอื
เรื่องราวต่าง ๆ ส่ิงต่าง ๆ โดยใช้ประสาทสมั ผสั อย่าง เปลย่ี นแปลงและความสมั พันธข์ องสิ่งตา่ ง ๆ

เหมาะสม โดยใชป้ ระสาทสัมผสั อย่างเหมาะสม

๒. การสำรวจสง่ิ ตา่ ง ๆ และแหลง่ เรียนรู้ ๒. การสำรวจส่ิงตา่ ง ๆ และแหล่งเรยี นรู้
รอบตวั รอบตัว

๓. การสบื เสาะหาความรเู้ พื่อคน้ หาคำตอบ ๓. การสืบเสาะหาความรเู้ พื่อค้นหาค้าตอบ

๔. การอธิบายเชอ่ื มโยงสาเหตแุ ละผลที่ ๔. การอธบิ ายเชือ่ มโยงสาเหตแุ ละผลทเี่ กดิ ขน้ึ
เกิดชน้ึ
๕. การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสง่ิ ท่ีอาจจะ
๕. การคาดเดาหรอื การคาดคะเนส่งิ ทอ่ี าจจะ เกดิ ชึน้ อย่างมเี หตผุ ล
เกิดชึน้ อย่างมเี หตุผล
๖. การมสี ว่ นรว่ มในการรวบรวมข้อมูลและ
นำเสนอขอ้ มูล

๑. การฟ�งและปฏบิ ตั ติ ามคำแนะนำ ๑. การฟง� และปฏิบตั ติ ามคำแนะนำ

๒. การอา่ นหนังสือภาพ นิทานคำคล้องจอง ๒. การอ่านหนงั สอื ภาพ นิทานคำคล้องจอง

บทร้อยกรองหรือเรอ่ื งราวต่าง ๆ บทรอ้ ยกรองหรอื เร่ืองราวต่าง ๆ

รายการ อนบุ าลปท� ี่ ๑ อนุบาลปท� ี่ ๒ อนบุ าลป�ท่ี ๓
๓. การพดู แสดงความรูส้ กึ และ ความตอ้ งการ ๓. การพดู แสดงความรสู้ กึ และความต้องการ ๓. การพูดเล่าเรื่องราวเก่ียวกับตนเอง

๔. การรอจังหวะท่ีเหมาะสมในการพูด ๔. การพูดเลา่ เรอ่ื งราวเกย่ี วกับตนเอง ๔. การพูดอธิบายเกีย่ วกับส่งิ ของเหตุการณ์
และ ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ตา่ ง ๆ
๕. การอ่านหนังสือภาพ ๕. การรอจังหวะท่เี หมาะสมในการพดู
๕. การรอจังหวะท่เี หมาะสมในการพดู
๖. การอ่านหนังสือภาพ/นิทานหลากหลาย
ประเภท ๖. การอ่านหนังสอื ภาพ/นทิ านหลากหลาย
ประเภท
๗. การอ่านรว่ มกันและอ่านอสิ ระ
๗. การอา่ นร่วมกนั การอา่ นแบบช้ีแนะและ
๘. การเห็นแบบอย่างการเขียนท่ีถกู ตอ้ ง การอา่ นอิสระ

๘. การเห็นแบบอยา่ งการเขยี นที่ถูกต้อง

๙. การเขียนคา้ ทม่ี คี วามหมายกับตวั เดก็ / คำ
คุ้นเคย

หน่วยการจัดประสบการณท์ ี่ 24 เศรษฐกิจพอเพียง ชั้นอนบุ าลปท� ่ี 2

แนวคดิ

ฉันเรียนรู้ทจี่ ะปฎิบตั ติ ามแนวพระราชดำริเศรษฐกจิ พอเพยี งของในหลวงรชั กาลท่ี 9 รู้จกั ประหยัด อดออม ใช้น้ำ/ไฟของใชต้ า่ ง ๆ อย่างประหยดั มีภูมคิ ุม้ กัน รจู้ กั พง่ึ พา
ตนเองสามารถแตง่ ตวั รับประทานอาหารและเก็บของเลน่ ของใช้ดว้ ยตนเอง มีเหตุผล รจู้ กั เลือกปลกู ผกั รับประทานผัก ทส่ี ่งผลดตี อ่ สุขภาพ

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ 1. วิ่งหลบหลกี สงิ่ กดี ขวางได้ ประสบการสำคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้

มาตรฐานที่ 2 2.1 เคล่อื นไหว 2.1.3 ว่งิ หลบหลกี สิ่ง 2. รอ้ ยวัสดุท่มี รี ูขนาด 1.1.1 การใช้กลา้ มเนอ้ื ใหญ่ 1. ความรเู้ รอ่ื งหลักปรัชญา
เสน้ ผา่ ศูนยก์ ลาง 0.5 ซม.ได้
กล้ามเน้ือใหญแ่ ละ ร่างกาย อย่าง กีดขวางได้ (2) การเคล่อื นไหวเคล่อื นท่ี ของ เศรษฐกิจพอเพียงระดับ
กลา้ มเนอื้ เลก็ คล่องแคล่ว 3. ช่วยเหลือและ แบง่ ป�นผู้อนื่ ได้เมื่อมี ปฐมวัย
แข็งแรงใช้ได้อย่าง ประสานสัมพนั ธ์ 2.2.3 ร้อยวัสดทุ มี่ รี ู ผูช้ ี้แนะ (3) การเคลอ่ื นไหวพรอ้ มวสั ดุ
คล่องแคล่วและ และทรง ตวั ได้ ขนาดเส้นผ่าศนู ยก์ ลาง อุปกรณ์ 2. การปฏบิ ตั ติ ามหลักปรัชญา
0.5 ซม.ได้ 4. ทำงานท่ไี ด้รับ มอบหมายจนสำเร็จ ของเศรษฐกจิ พอเพยี งที่
เมอ่ื มีผชู้ ้แี นะได้ 1.1.2 การใช้กลา้ มเนื้อเล็ก เหมาะสมกบั เดก็ ปฐมวยั
ประสาน สมั พนั ธ์ 2.2 ใช้มอื - ตา
5. แต่งตัวด้วยตนเอง ได้ (1) การเล่นเครอ่ื งเลน่ สัมผัส
กนั ประสาน สมั พนั ธ์กนั และการสร้างจากแท่งไม้ - การประหยัดอดออม
6. รับประทานอาหาร ด้วยตนเองได้
มาตรฐานที่ 5 5.2 มคี วามเมตตา 5.2.1 ช่วยเหลอื และ บลอ็ ก - การใชส้ ่งิ ของ เครือ่ งใช้ นำ้ /
กรณุ า มนี ้ำใจ และ แบง่ ป�นผ้อู ่ืนไดเ้ มอื่ มีผู้ 7. เกบ็ ของเลน่ ของใช้ เข้าทีด่ ว้ ยตนเอง (2) การเขียนภาพและ การเลน่ ไฟ อยา่ งประหยัด
มีคุณธรรม ชว่ ยเหลือแบ่งป�น ช้ีแนะ ได้ กบั สี - การแต่งตัวดว้ ยตนเอง
จริยธรรม และมี
จติ ใจทดี่ ีงาม 5.4 มคี วาม 5.4.1 ทำงานทีไ่ ดร้ บั (3) การป�น - การรับประทานอาหารและ
รบั ผิดชอบ มอบหมายจนส้าเรจ็
เมื่อ มผี ้ชู ้แี นะ (4) การประดิษฐ์ส่งิ ตา่ ง ๆ ดว้ ย ด่ืมนมให้หมดไมเ่ หลือทิง้

เศษวัสดุ

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้

มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์ 8. เข้าแถวตามลำดับ ก่อนหลงั ได้ด้วย ประสบการสำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
ตนเอง
มาตรฐานท่ี 6 6.1 ช่วยเหลือ 6.1.1 แตง่ ตวั โดยมผี ู้ (5) การหยบิ จบั การใช้ 3. การเก็บของเลน่ ของใชเ้ ขา้ ท่ี
9. ใช้ส่งิ ของเครื่องใช้ อย่างประหยัด
มีทักษะชีวติ และ ตนเองในการปฏิบตั ิ ชว่ ยเหลอื และ พอเพียงเมอ่ื มีผ้ชู ้แี นะได้ กรรไกร การฉกี การตดั การปะ ด้วยตนเอง
ปฏิบัติตน ตามหลัก กิจวัตร ประจำวัน 6.1.2 รับประทาน
10. เลน่ รว่ มกบั เพอื่ นเป�นกลุ่มได้ และการร้อยวัสดุ 4. การเขา้ แถวเรียงลำดับ ก่อน

ปรชั ญาของ 6.2 มวี นิ ัยในตนเอง อาหารดว้ ยตนเอง 11. เลา่ เร่ืองเป�น ประโยคอย่าง 1.2.3 คุณธรรมจรยิ ธรรม – หลัง
ตอ่ เนือ่ ง ได้
เศรษฐกจิ พอเพยี ง 6.3 ประหยัดและ 6.2.1 เก็บของเลน่ ของ (2) การฟง� นทิ านเก่ียวกับ 5. การรูจ้ ักเลือกอยา่ งมเี หตุผล
12. อ่านภาพ สัญลกั ษณ์คำพร้อมทง้ั ช้ี คณุ ธรรม จรยิ ธรรม - การปลกู ผักรกั สุขภาพ
พอเพียง ใช้เข้าที่เมอื่ มีผชู้ แ้ี นะ หรอื กวาดตามอง ขอ้ ความตามบรรทัด
ได้ 1.2.5 การมอี ตั ลักษณเ์ ฉพาะ
6.2.2 เขา้ แถว ตามล้า ตนและเชื่อว่าตนเอง มี
ดับกอ่ นหลังได้ เมือ่ มีผู้ 13. บอกลักษณะและ สว่ นประกอบ ความสามารถ
ชแ้ี นะ ของ ส่ิงตา่ ง ๆ จากการ สงั เกตโดยใช้
ประสาท สมั ผสั ได้
6.3.1 ใช้ส่ิงของ (1) การปฏบิ ตั ิ กิจกรรมต่าง ๆ
เครื่องใช้อยา่ งประหยัด ตาม ความสามารถของตนเอง
และพอเพียงเมอื่ มผี ู้
ชแี้ นะ 1.3.1 การปฏิบัติกิจวัตร
ประจำวัน

(1) การช่วยเหลอื ตนเองใน
กจิ วัตรประจำวนั

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้

มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพทพี่ ึงประสงค์ ประสบการสำคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้

มาตรฐานท่ี 8 8.2 มีปฏสิ มั พนั ธท์ ี่ดี 8.2.1 เลน่ หรือทำงาน 13. จับคแู่ ละ เปรียบเทยี บความ (2) การปฏิบัติตนตามแนวทาง

อย่รู ่วมกบั ผ้อู ่นื ได้ กบั ผอู้ ่ืน รว่ มกบั เพอ่ื นเป�นกลุ่ม แตกต่างหรือความ เหมอื นของสิ่งตา่ ง หลักปรชั ญาของ เศรษฐกิจ
อยา่ งมี ความสขุ ๆ โดยใชล้ ักษณะท่ีสงั เกต พบเพียง
และปฏิบตั ิตน เปน� ลกั ษณะเดยี ว ได้ พอเพียง

สมาชกิ ทด่ี ีของ 14. จำแนกและจดั กล่มุ สงิ่ ตา่ ง ๆ โดย 1.3.4 การมีปฏสิ มั พันธ์ มีวนิ ยั
มสี ว่ นร่วม และ บทบาทสมาชกิ
สังคม ในระบอบ ใช้ อยา่ งนอ้ ยหนึง่ ลกั ษณะ เปน� เกณฑ์ ของสังคม

ประชาธิปไตย อันมี ได้ (3) การใหค้ วามร่วมมอื ใน การ
ปฏบิ ตั ิกิจกรรมตา่ ง ๆ
พระมหากษตั ริย์ 15. เรียงลำดบั สิง่ ของ หรือเหตกุ ารณ์
ทรง เปน� ประมุข อย่าง น้อย 4 ลำดบั ได้ 1.3.2 การดูแลรักษา ธรรมชาติ
และสิ่งแวดลอ้ ม
มาตรฐานที่ 9 9.1 สนทนาโตต้ อบ 9.1.2 เลา่ เรอ่ื งเป�น 16. สร้างผลงานศลิ ปะ เพื่อสอ่ื สาร
และ เลา่ เรือ่ งให้ ประโยคอย่างต่อเน่ือง ความคดิ ความรสู้ ึกของตนเอง โดยมี (2) การใชว้ ัสดแุ ละสิง่ ของ
ใช้ภาษาส่ือสารได้ ผู้อน่ื เข้าใจ เครอื่ งใชอ้ ย่างคมุ้ ค่า
เหมาะสมกบั วยั 9.2 อ่านเขยี นภาพ 9.2.1 อา่ นภาพ การดดั แปลงและ แปลกใหมจ่ ากเดิม
และ สญั ลกั ษณ์ได้
สญั ลักษณค์ ำพรอ้ มท้งั ชี้ หรือ มรี ายละเอียดเพมิ่ ข้ึนได้ (3) การทำงานศิลปะท่นี ำ วสั ดุ
หรอื ส่งิ ของเครื่องใชท้ ใ่ี ช้ แล้ว
หรือกวาดตามอง มาใช้ซำ้

ขอ้ ความตามบรรทัด

(4) การเพาะปลูกและดูแล
ตน้ ไม้

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้

มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพทพี่ ึงประสงค์ 17. เคลอื่ นไหวท่าทาง เพือ่ สาร ประสบการสำคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้
มาตรฐานที่ 10 ความคิด ความร้สู ึกของตนเอง อย่าง
10.1 มี 10.1.1 บอกลกั ษณะ หลากหลายหรอื แปลกใหม่ได้ 1.2.2 การเลน่
มีความสามารถใน
การคิดที่ เป�น ความสามารถใน และสว่ นประกอบของ (3) การเลน่ ตามมุประสบการณ์
พื้นฐานในการ
เรียนรู้ การคดิ รวบยอด สง่ิ ต่าง ๆ จากการ (4) การเลน่ นอกห้องเรียน

สงั เกตโดยใชป้ ระสาท 1.3.5 การเล่นและทำงาน แบบ
ร่วมมือรว่ มใจ
สัมผสั

10.1.2 จับคแู่ ละ (2) การเล่นและทำงานร่วมกับ
เปรยี บเทยี บความ ผ้อู ่ืน
แตกต่างหรอื ความ
เหมือนของสิ่งต่าง ๆ 1.4.1 การใช้ภาษา
โดยใช้ลกั ษณะที่สงั เกต
พบเพียงลักษณะเดยี ว (2) การฟง� และปฏิบัติตาม
คำแนะนำ
10.1.3 จำแนกและจดั
กลุ่มส่งิ ตา่ ง ๆ โดยใช้ (3) การฟง� เพลง นิทาน
อย่างนอ้ ยหน่งึ ลกั ษณะ
เปน� เกณฑ์ (4) การพูดแสดงความ คิดเห็น
ความรู้สกึ และ ความต้องการ

(10) การอ่านหนังสือภาพ
นิทาน

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพทพี่ ึงประสงค์ ประสบการสำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
มาตรฐานท่ี 11
11.1 ทำงานศิลปะ 11.1.1 สร้างผลงาน (11) การอา่ นรว่ มกัน และ อา่ น
มีจนิ ตนาการและ
ความคดิ ตาม จนิ ตนาการ ศิลปะเพ่อื สื่อสาร อสิ ระ
สร้างสรรค์
และความคดิ ความคดิ ความรู้สกึ ของ (19) การเห็นแบบอย่างของ

สรา้ งสรรค์ ตนเองโดยมีการ การเขียนท่ถี ูกต้อง

11.2 แสดงทา่ ทาง/ ดดั แปลงและแปลกใหม่ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ
เชิงเหตผุ ลการ ตัดสนิ ใจและ
เคลื่อนไหวตาม จากเดิมหรือมี แกป้ ญ� หา

จนิ ตนาการอย่าง รายละเอียดเพิ่มขนึ้

สร้างสรรค์ (1) การสังเกตลกั ษณะ
ส่วนประกอบ การเปลีย่ นแปลง
และ ความสมั พันธข์ องสงิ่ ตา่ ง
ๆ โดยใช้ประสาทสัมผสั อย่าง
เหมาะสม

(5) การคดั แยก การจัดกลุม่
และการจำแนกส่ิงตา่ ง ๆ ตาม
ลกั ษณะและรปู รา่ ง รูปทรง

(8) การนับและแสดง จำนวน
ของสงิ่ ตา่ ง ๆ ใน
ชีวิตประจำวนั

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้

มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์ ประสบการสำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้

(13) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บ

ความเหมอื น ความต่าง

(14) การบอกและเรียงลำดับ
กิจกรรมหรอื เหตุการณต์ าม
ช่วงเวลา

(17) การคาดเดาหรือ การ
คาดคะเนสิง่ ทีอ่ าจจะ เกิดขน้ึ
อย่างมเี หตผุ ล

1.4.3 จินตนาการและ
ความคิดสรา้ งสรรค์

(2) การแสดงความคิด
สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา ท่าทาง
และศลิ ปะ

(2) การแสดงความคดิ
สรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา ท่าทาง
การเคลือ่ นไหว



การวางแผนกจิ กรรมรายหน่วยการจัดประสบการณ์ ช้ันอนบุ าลปท� ่ี ๑ หน่วย เศรษฐกิจพอเพียง

วนั ที่ เคล่ือนไหวและจงั หวะ เสริมประสบการณ์ กจิ กรรม

ศลิ ปะสร้างสรรค์ การเล่นตามมุม การเลน่ กลางแจง้ เกมการศึกษา
การเคลื่อนไหวท่าทาง ๑. ความร้เู รอ่ื งหลักปรัชญา ๑. การวาดภาพอสิ ระ มมุ ประสบการณ์ อยา่ ง การเลน่ น้ำ- เลน่ ทราย เกมจบั คภู่ าพส่งิ ท่สี มั พนั
ของเศรษฐกจิ พอเพียง ธ์ กัน
ประกอบอุปกรณ์ ระดบั ปฐมวยั ๒. การประดิษฐก์ ลอ่ ง น้อย ๔ มมุ
๑ ๒. การปฏบิ ตั ติ ามหลกั ใสด่ นิ สอจากแกนทิชชู
ปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียงท่ีเหมาะกบั เด็ก
ปฐมวยั

๒.๑ การประหยัดอดออม

การเคลื่อนไหวตาม ๑. พฒั นาการทางภาษา ๑. พิมพภ์ าพด้วยเศษ มุมประสบการณ์ อย่าง การเล่นเครื่องเล่นสนาม เกมจับคภู่ าพท่ีซ้อนกนั
วัสดแุ ละระบายสี
คำสั่ง และการรหู้ นังสือ น้อย ๔ มมุ
๑.๑. การอ่านร่วมกันจาก ตกแตง่ ภาพ
หนงั สอื ส่งเสริมลักษณะนิสั ๒. ป�นดินนำ้ มนั อสิ ระ



๒ เศรษฐกจิ พอเพียงเรอ่ื ง
สามสหาย

๑.๒ การคาดคะเนชือ่ เร่อื ง

จากปก

๒. การใชส้ ่ิงของเครื่องใช้

น้ำ/ ไฟ อยา่ งประหยดั

วนั ที่ เคลื่อนไหวและจงั หวะ เสรมิ ประสบการณ์ กิจกรรม

ศลิ ปะสร้างสรรค์ การเล่นตามมุม การเล่นกลางแจ้ง เกมการศึกษา
การเคลื่อนไหวตาม ๑. พฒั นาการทางภาษา ๑. ร้อยลูกป�ดทมี่ ีรู การวง่ิ แลว้ หยดุ ได้ เกมเรยี งลำดบั จำนวน
ขอ้ ตกลง มมุ ประสบการณ์อย่าง
การเล่นน้ำ– เล่นทราย เกมจดั หมวดหมูภ่ าพ
และการรหู้ นงั สอื ขนาดเสน้ ผ่าศูนย์กลาง ๑ น้อย ๔ มมุ กับสัญลกั ษณ์

๑.๑ การอา่ นร่วมกันจาก ซม.เป�นสรอ้ ยข้อมือ

หนังสอื สง่ เสรมิ ลักษณะ ๒. วาดภาพชุดเสอ้ื ผ้าท่ี

๓ นิสัยเศรษฐกจิ พอเพยี งเรื่อง เด็กชอบและระบายสี
สามสหาย

๑.๒ ส่วนประกอบของ

หนังสอื

๒. การพง่ึ พาตนเอง

- การแต่งกายด้วยตนเอง

การทำทา่ กายบรหิ าร ๑. พัฒนาการทางภาษา ๑. ประดิษฐข์ องเล่นลกู มมุ ประสบการณ์ อย่าง
ประกอบคำคลอ้ งจอง ซดั จากกระปอ๋ งกาแฟ
“ขา้ วทกุ จาน” และการรหู้ นงั สือ น้อย ๔ มมุ
๑.๑ การอา่ นร่วมกนั จาก หรอื กระป๋องน้ำผลไม้
หนงั สอื สง่ เสรมิ ลักษณะ ขนาดเล็ก
นสิ ัยเศรษฐกจิ พอเพยี งเรือ่ ง ๒. ป�นดนิ นำ้ มันอิสระ
๔ สามสหาย
๑.๒ เตมิ คำด้วยปากเปลา่
๒. การพ่ึงพาตนเอง

- การรับประทานอาหาร

และดมื่ นมให้หมดไม่เหลอื

ท้ิง

วนั ท่ี เคล่ือนไหวและจังหวะ เสรมิ ประสบการณ์ กิจกรรม

ศิลปะสร้างสรรค์ การเล่นตามมมุ การเล่นกลางแจ้ง เกมการศกึ ษา

การเคลอ่ื นไหวแบบ ๑. พฒั นาการทางภาษา ๑. วาดภาพอสิ ระ มมุ ประสบการณ์ อยา่ ง การเล่นเคร่ืองเลน่ สนาม เกมพนื้ ฐานการบวก ๑ - ๕

ผูน้ ำ - ผ้ตู าม และการรหู้ นงั สอื ๒. ป�นดนิ นำ้ มันอิสระ นอ้ ย ๔ มมุ

- การอา่ นรว่ มกนั จากหนัง
สอื สง่ เสรมิ ลกั ษณะนิสยั
เศรษฐกจิ พอเพยี งเรือ่ ง
สามสหาย

- อ่านภาพและพดู ขอ้ ความ
๕ ด้วยภาษาของตน
๒. การเก็บของเลน่ ของใช้
เข้าท่ีด้วยตนเอง
๓. การเข้าแถวตามลำดับ
กอ่ น – หลงั
๔. ความรับผิดชอบงานที่
ได้รบั มอบหมาย

แผนการจัดประสบการณ์รายวัน วนั ท่ี ๑ หนว่ ยท่ี ๒๔ เศรษฐกจิ พอเพยี ง ช้ันอนบุ าลปท� ี่ ๑

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ส่อื การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ๑. เคร่อื งเคาะจงั หวะ สังเกต การเคล่ือนไหว
๑. กจิ กรรม ๒. เทปเพลงบรรเลง ทา่ ทางเพ่อื สอ่ื สาร
กิจกรรมเคลือ่ นไหว (๒) การเคลื่อนไหว พืน้ ฐานเด็กเคลอ่ื นไหวร่างกายไปท่ัวบริเวณ ๓. แกนกระดาษทชิ ชู ความคดิ ความรู้สกึ
และจงั หวะ อย่างอสิ ระตามจงั หวะ
เคล่อื นไหวท่าทาง เคลือ่ นที่ เมือ่ ได้ยินสัญญาณหยุดให้หยดุ เคลือ่ นไหวในท่านน้ั ของตนเอง
เพือ่ ส่ือสารความคิด (๓) การเคลือ่ นไหว ทันที
ความรสู้ ึกของตนเอง พร้อมวสั ดอุ ปุ กรณ์ ๒. เดก็ หยิบแกนกระดาษทิชชู (เดก็ นำมาจากบ้านหรอื
ได้ (๒) การแสดงความคิด ครเู ตรยี มให้) เคล่ือนไหวร่างกายไปทวั่ ๆ บรเิ วณอย่าง
อิสระตามเสียงเพลงบรรเลงเม่อื เพลงหยุด ให้นำแกน
สร้างสรรค์ผ่านภาษา กระดาษ ทชิ ชมู าเรียงต่อกัน แล้วบอกดว้ ยวา่ เป�นรูป
อะไร
ท่าทาง การเคลือ่ นไหว ๓. เด็กน่ังพกั ผ่อนคลายกลา้ มเนอ้ื

กจิ กรรมเสริม (๒) การฟ�งและปฏิบัติ ๑. ความร้เู รอ่ื งหลกั ๑. ครูถามเด็กวา่ เดก็ ๆ ร้ไู หมวา่ ใครเปน� ผคู้ ิดหลัก ๑. พระบรมฉายา สงั เกต การเลา่ เร่อื งดว้ ย
ประสบการณ์ ตามคำแนะนำ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ลกั ษณ์รัชกาลท่ี ๙ ประโยคส้นั ๆ
เลา่ เรือ่ งดว้ ยประโยค (๓) การฟ�งเพลง พอเพียงระดับปฐมวัย ๒. ครูนำพระบรมฉายาลกั ษณ์รัชกาลท่ี ๙ มาใหเ้ ดก็ ดู ๒. ภาพหลอดยา
สัน้ ๆ ได้ นทิ าน คำคลอ้ งจอง ๒. การปฏบิ ตั ติ ามหลกั และแนะนำวา่ พระองคเ์ ป�นผู้คดิ หลักปรชั ญาของ สีฟ�นพระราชทาน
หรือ เรื่องราวตา่ ง ๆ ปรชั ญาของเศรษฐกจิ เศรษฐกจิ พอเพียงครูแนะนำพระนามรชั กาลที่ ๙
(๔) การพูดแสดง พอเพยี งทีเ่ หมาะสมกับ และให้เดก็ พดู ตาม ๓. ภาพของใช้สว่ น

ความรู้สึกและความ เดก็ ปฐมวยั ๓. ครแู นะนำหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง ๓ เรือ่ งคือ พระองค์ (ดินสอทรง

ตอ้ งการ - การประหยดั อดออม การประหยดั การพึ่งพาตนเอง และการร้จู กั เลอื กอยา่ งมี ใช้แล้ว)

(๘) การรอจังหวะท่ี เหตุผล

เหมาะสมในการพดู ๔. ครูเลา่ ถึงพระราชจรยิ าวตั รของพระบาทสมเด็จพระ

เจำอยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙ เกี่ยวกบั การประหยดั และออม

พรอ้ มใหด้ ูภาพหลอดยาสฟี น� พระราชทานและของใช้

จดุ ประสงค์การเรียน สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นากา

รู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ สว่ นพระองค(์ ดนิ สอทรงใชแ้ ล้ว)
๕. ให้เด็กตอบคำถามจากการเลา่

- เดก็ ๆ จะมวี ิธีการประหยัดและออมอย่างไร จงึ จะมี
เงนิ เกบ็ ไวใ้ ช้เม่ือยามจำเปน�
๖. ครแู ละเด็กรว่ มกนั สรุปประโยชน์ของการประหยัด

กจิ กรรมศิลปะ (๒) การเขียนภาพ ๑. เด็กวาดภาพอิสระและระบายสีใหส้ วยงามตามใจ ชอบ ๑. กระดาษ สังเกต
สร้างสรรค์ (๔) การประดษิ ฐ์ ๒. ครสู าธติ วิธปี ระดษิ ฐก์ ล่องใสด่ นิ สอจากแกนกระดาษ การสรา้ งผลงาน
สร้างผลงานศลิ ปะ สิ่งตา่ งๆ ทิชชใู หเ้ ด็กดู ๒. สีเทยี น
เพื่อส่อื สารความคดิ ด้วยเศษวสั ดุ (๓) - เดก็ นำกระดาษสโี ปสเตอร์บางทค่ี รเู ตรียมไวใ้ ห้ติด ๓. แกนกระดาษทชิ ชู ศลิ ปะเพื่อส่อื สาร
ความรสู้ กึ ของตนเอง การทำงานศิลปะท่ี รอบแกนทิชชู ๔. กระดาษสี ความคิด ความรู้สกึ
นำวัสดุหรอื ส่งิ ของ
ได้ เครื่องใช้ที่ใช้แล้ว โปสเตอรบ์ างขนาด ของตนเอง
มาใช้ซ้ำ - ครแู จกกระดาษสโี ปสเตอรแ์ ข็งรปู วงกลมใหเ้ ดก็ คนละ ๑ ๑๐ x ๑๕ ซม.
(๒) แผ่นใชเ้ ปน� ฐานกล่องใสด่ นิ สอ ๕. กาว
การแสดงความคดิ
สร้างสรรค์ผ่านภาษา - เดก็ นำแกนทชิ ชูตดิ บนฐานเป�นกล่องใสด่ ินสอ ๖. กระดาษสี
โปสเตอรแ์ ขง็ รูป
ทา่ ทางและศิลปะ ๓. เดก็ นำเสนอผลงาน วงกลมขนาด
เส้นผา่ ศนู ย์กลาง
๔. เก็บอุปกรณแ์ ละทำความสะอาด

๘ ซม.

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ ส่ือ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้

กิจกรรมเลน่ ตามมมุ (๓) การใหค้ วาม ๑. เดก็ เลือกกจิ กรรมเล่นตามมุมประสบการณต์ ามความ มุมประสบการณ์ สงั เกต
เก็บของเล่นของใช้ ร่วมมอื ในการปฏบิ ัติ สนใจมมุ ประสบการณค์ วรมีอย่างน้อย ๔ มมุ เชน่ ในหอ้ งเรยี น การเก็บของเลน่
-มมุ วิทยาศาสตร์ - มมุ หนังสอื ของใช้เขา้ ทีเ่ มือ่ มีผู้
เขา้ ทีเ่ ม่อื มีผู้ชแี้ นะได้ กจิ กรรมต่าง ๆ
ช้แี นะ
-มมุ บล็อก - มุมเกมการศกึ ษา

-มมุ บทบาทสมมติ - มมุ เครือ่ งเล่นสัมผสั

๒. เม่ือหมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าทใ่ี ห้เรยี บรอ้ ย

กจกิ รรมกลางแจ้ง (๔) การเล่นนอก ๑. พาเดก็ ไปพื้นทเ่ี ลน่ น้ำ– เลน่ ทรายโดยมีข้อตกลงดงั น้ี - ๑. พื้นทเ่ี ล่นน้ำ สังเกต
เล่นร่วมกับเพือ่ นได้ หอ้ งเรยี น ขณะเดินทางต้องเข้าแถวตามลำดบั กอ่ น –หลงั ทั้งไป ๒. พื้นที่เลน่ ทราย การเลน่ ร่วมกับเพ่ือน
และกลับ ๓. อุปกรณ์เล่นน้ำ-
เล่นทราย
-ขณะเลน่ ตอ้ งไม่เล่นแกล้งเพ่ือน

-เม่ือได้ยินสัญญาณ ใหห้ ยดุ เล่น

๒. แนะนำวธิ เี ลน่ นำ้ – เลน่ ทรายที่ถูกตอ้ งและปลอดภยั
๓. เด็กเล่นน้ำ– เลน่ ทรายอยา่ งอสิ ระ
๔. เม่ือหมดเวลาเด็กเก็บอปุ กรณก์ ารเล่นนำ้ – เล่นทราย

ลา้ งมือกอ่ นเข้าหอ้ งเรยี น

เกมการศึกษา ๑. (๑) การสงั เกตลกั ษณะ ๑. การสังเกตลักษณะ ๑. แนะนำเกมจบั คู่ภาพสงิ่ ทีส่ ัมพนั ธ์กนั ได้แก่ กระป๋อง ๑. เกมจับคู่ภาพสง่ิ ท่ี สังเกต
บอกลกั ษณะของ ของส่งิ ต่าง ๆ โดยใช้ ออมสิน – เหรยี ญ กอ๊ กนำ้ – แก้วนำ้ หลอดยาสฟี �น – สมั พนั ธ์กนั
สงิ่ ต่าง ๆ จากการ สว่ นประกอบ ๑. การบอกลกั ษณะ
การเปล่ียนแปลง และ ประสาทสัมผสั อย่าง แปรงสีฟน� และดินสอ – กระดาษ ๒. เกมทเ่ี ล่นมาแลว้ ของสง่ิ ต่างๆ
สังเกตโดยใช้ ความสัมพันธ์ของ เหมาะสม ๒. เดก็ บอกความสมั พนั ธข์ องส่ิงต่าง ๆ ได้
จากการสังเกตโดยใช้
ประสาทสัมผสั อย่าง ๒. การจบั คภู่ าพ ๓. เด็กเลน่ เกมชดุ ใหม่และเกมที่เคยเล่นมาแล้ว
สิ่งตา่ ง ๆ โดยใช้ ประสาทสมั ผสั อย่าง

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สือ่ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้

เหมาะสมได้ ประสาทสมั ผสั อย่าง ส่งิ ท่ีสัมพันธก์ นั ๔. หมุนเวียนกันเล่นและรว่ มกันสนทนาเก่ียวกับเกม เหมาะสม
๒. จับคู่ภาพสง่ิ ที่ วา่ ชอบหรือไม่ชอบเพราะเหตใุ ด ๒. การจบั ค่ภู าพสง่ิ ท่ี
สมั พันธ์กันได้ เหมาะสม ๕. เมอ่ื เลน่ เสร็จเดก็ เกบ็ เกมการศกึ ษาเข้าที่ สัมพนั ธก์ ัน
(๑๓) การจับคู่
การเปรยี บเทียบความ
เหมือนความตา่ ง

แผนการจดั ประสบการณร์ ายวัน วันท่ี ๒ หนว่ ยท่ี ๒๔ เศรษฐกจิ พอเพียง ช้ันอนบุ าลปท� ่ี ๑

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
สังเกต
กจิ กรรมเคลือ่ นไหว (๒) การเคล่อื นไหว ๑. กจิ กรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ดก็ เคลอื่ นไหวรา่ งกาย เคร่อื งเคาะจังหวะ การเคลอ่ื นไหว
และจงั หวะ ไปท่วั บรเิ วณอยา่ งอิสระตามจังหวะ เมื่อได้ยิน ท่าทางเพอ่ื สือ่ สาร
เคลอ่ื นไหวทา่ ทาง เคลอื่ นท่ี สัญญาณหยุดให้หยดุ เคลอ่ื นไหวในทา่ นนั้ ทนั ที ความคดิ ความรู้สกึ
เพ่ือสอื่ สารความคดิ (๒) การแสดง ๒. กา้ หนดมุมในห้องเรียนเป�น ๓ มมุ คอื มมุ ของตนเอง
ความร้สู ึกของตนเอง ความคดิ สรา้ งสรรค์ หอ้ งน้ำมมุ หอ้ งนอน และมมุ หอ้ งนงั่ เล่น
ผ่านภาษา ท่าทาง ๓. ใหเ้ ด็กเคลอื่ นไหวรา่ งกายอยา่ งอสิ ระตาม
ได้ การเคลอ่ื นไหว
จังหวะ ช้า เร็ว ทค่ี รูเคาะ เมือ่ ได้ยนิ สญั ญาณ
หยุด ใหป้ ฏิบัติตามคำสัง่ เช่น วิ่งไปป�ดน้ำท่ี หอ้ งนำ้
ว่งิ ไปปด� ไฟที่ห้องนอน และวิ่งไป
ปด� โทรทัศนท์ หี่ ้องน่ังเลน่ เป�นตน้
๔. เด็กปฏิบัติกิจกรรมตามข้อ ๒ และข้อ ๓ ซำ้
อีก

๕. พกั ผ่อนคลายกล้ามเน้ือ โดยการนอนราบ

ไปกับพื้น แขนแนบลำตวั

จุดประสงค์การเรยี น สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอื่ การประเมินพฒั นาการ

รู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้

กิจกรรมเสรมิ (๒) การฟง� และ ๑. พฒั นาการทางภาษา ๑. พฒั นาการทางภาษาและการรู้หนงั สือ หนงั สือส่งเสรมิ สังเกต
ประสบการณ์ ปฏิบตั ิตามคำแนะนำ และการรหู้ นังสอื ลักษณะนสิ ยั เศรษฐ ๑. การเลา่ เรือ่ งด้วย
๑. เลา่ เรื่องด้วย (๓) การฟ�งเพลง นทิ าน ๑.๑ การอา่ นรว่ มกันจาก ๑.๑. นำหนังสือส่งเสริมลกั ษณะนสิ ัยเศรษฐกจิ กิจพอเพียง ประโยคสัน้ ๆ
ประโยคสนั้ ๆ ได้ ๒. (๔) การพดู แสดง หนังสือสง่ เสรมิ ลักษณะ พอเพียง เร่ืองสามสหายมาใหเ้ ด็กดหู น้าปก เรือ่ งสามสหาย ๒. การใช้ส่งิ ของเคร่ืองใช้
ใช้สง่ิ ของ ความรู้สึกและความ นสิ ัยเศรษฐกจิ พอเพียง ๑.๒ ใหเ้ ด็กคาดคะเน เรอื่ งจากปกว่าเป�นเรื่อง อยา่ งประหยัดและ
เครือ่ งใช้อย่าง เก่ยี วกบั อะไร พอเพียงเมื่อมีผชู้ ้ีแนะ
ประหยัด และ ตอ้ งการ เรอ่ื งสามสหาย (การปฏบิ ตั ขิ องเดก็
พอเพยี งเมื่อมีผู้ ๑.๓ จดบันทกึ ช่อื เด็ก พร้อมกบั ขอ้ ความท่เี ด็ก ตลอดป)�
ชี้แนะได้ (๘) การรอจังหวะท่ี ๑.๒ การคาดคะเนเรื่อง
เหมาะสมกับการพดู จากปก คาดคะเน

(๑๐) การอ่าน ๒. การใชส้ ิง่ ของเครอ่ื งใช้ ๑.๔ ครูอ่านหนงั สอื ส่งเสริมลกั ษณะนิสยั

หนงั สือภาพ นทิ าน น้ำ/ ไฟอยา่ งประหยัด เศรษฐกิจพอเพียง เร่อื งสามสหายจนจบ โดยชี้คำ

(๒) การใช้วัสดแุ ละ ตรงกับสยี งที่อา่ น

ส่ิงของเครื่องใช้อยา่ ง ๑.๕ ครูอา่ นขอ้ ความทค่ี าดคะเนไว้และถาม

คมุ้ ค่า ความเหน็ เรอื่ งชื่อของนิทานอีกคร้ัง

๑.๖ ครูอา่ นชือ่ เรอ่ื งนทิ านใหเ้ ดก็ ฟง� และใหเ้ ด็ก

อ่านตาม
๒. สนทนาเกีย่ วกบั เร่ืองที่อา่ นโดยใช้คำถาม ดังนี้

- ววั ทำนาปลูกข้าวต้องใช้น้ำ
หรอื ไมเ่ พราะเหตใุ ด

- เป�ดปลูกผกั ต้องใชน้ ้ำหรอื ไม่ เพราะเหตุใด

จดุ ประสงค์การเรยี น สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ ส่อื การประเมนิ พฒั นาการ

รู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้

- หมีปลูกผลไม้ตอ้ งใชน้ ้ำหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
- ให้เดก็ บอกประโยชน์ของน้ำและไฟฟ้า
๓. ใหเ้ ด็กบอกความรสู้ ึกว่าชอบหรอื ไม่ เม่อื
นำ้ ประปาไมไ่ หลและไฟฟ้าดับ
๔. ชวนเดก็ ร่วมกนั คดิ วา่ จะประหยดั นำ้ – ไฟ
ในบา้ นและในโรงเรียนได้อย่างไร

กจิ กรรมศิลปะ (๒) การเขยี นภาพ ๑. ครูแนะนำขน้ั ตอนในการพมิ พภ์ าพด้วย ๑. สีนำ้ สงั เกต
สร้างสรรค์ และการเลน่ กบั สี การสร้างผลงานศลิ ปะเพื่อ
สรา้ งผลงานศลิ ปะ (๓) การป�น เศษวัสดุเชน่ ใบไม้ ก้อนหิน เปลือกหอย เศษผา้ ๒. กระดาษ สอ่ื สารความคดิ ความรสู้ กึ
เพือ่ ส่อื สารความคดิ กระดาษ ฯลฯ ๓. ใบไม้ กอ้ นหิน
ความรูส้ กึ ของตนเอง (๒) การแสดง ๒. เด็กพมิ พ์ภาพดว้ ยเศษวสั ดแุ ละระบายสี เปลอื กหอย เศษผา้ ของตนเอง
ได้ ความคดิ สร้างสรรค์ ตกแต่งภาพ กระดาษ ฯลฯ
ผ่านภาษา ทา่ ทาง ๓. ป�นดนิ น้ำมันอสิ ระ ๔. ดนิ นำ้ มนั
และศิลปะ
๕. แผ่นรองป�น

จดุ ประสงค์การเรียน สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ การประเมนิ พฒั นาการ

รู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้

กิจกรรมเลน่ ตามมมุ (๓) การใหค้ วาม ๑. เดก็ เลือกกิจกรรมเลน่ ตามมุมประสบการณ์ อปุ กรณ์มมุ ประสบ สงั เกต
รว่ มมือในการปฏิบัติ ตามความสนใจมมุ ประสบการณค์ วรมีอย่าง การณ์ในห้องเรียน การเกบ็ ของเลน่
เกบ็ ของเลน่ กจิ กรรมตา่ ง ๆ น้อย ๔ มมุ เชน่ ของใชเ้ ขา้ ที่เม่อื มี ผู้
ของใชเ้ ขา้ ท่เี มือ่ มี ผู้ - มมุ วทิ ยาศาสตร์ ชแี้ นะ
ช้ีแนะได้ -มุมหนังสือ
สงั เกต
-มมุ บลอ็ ก การเล่นร่วมกับเพ่อื น

-มมุ บทบาทสมมติ
๒. เม่อื หมดเวลาเดก็ เก็บของเข้าทใี่ ห้เรียบรอ้ ย

กิจกรรมกลางแจ้ง (๒) การเลน่ และ ๑. เด็กเลอื กเล่นอุปกรณ์ในสนามเดก็ เลน่ ตาม สนามเด็กเลน่
เล่นร่วมกบั เพื่อนได้ ทำงานรว่ มกับผ้อู ่ืน ความสนใจอยา่ งอสิ ระ

๒. เมอื่ หมดเวลา ชว่ ยกนั เก็บทำความสะอาด สนาม

ลา้ งมอื กลบั เขา้ ห้องเรยี น

เกมการศึกษา (๑๓) การจบั คู่ การ การจับคู่ภาพสามเหลย่ี ม ๑. ครูแนะนำเกมจบั คภู่ าพสามเหลย่ี มและ ๑. เกมจบั คภู่ าพท่ซี ้ สงั เกต
จับคู่ภาพที่ซอ้ นกัน เปรียบเทยี บความ และสี่เหลยี่ มทซี่ อ้ นกัน สีเ่ หลยี่ มทซี่ ้อนกนั อน กนั การจบั ค่ภู าพทซี่ อ้ นกัน
เหมือนความต่าง ๒. เกมชุดเดิมในมมุ
ได้ ๒. เด็กเล่นเกมชุดใหมแ่ ละเกมท่เี คยเลน่ มาแล้ว เกมการศกึ ษา
๓. หมนุ เวียนกันเล่นและรว่ มกนั สนทนา
เก่ียวกับเกมว่าชอบหรือไมช่ อบเพราะเหตใุ ด
๔. เมื่อเล่นเสร็จเด็กเกบ็ เกมการศึกษาเขา้ ทเ่ี ดิม

แผนการจัดประสบการณ์รายวนั วนั ที่ ๓ หน่วยที่ ๒๔ เศรษฐกิจพอเพยี ง ชัน้ อนุบาลปท� ่ี ๑

จดุ ประสงค์การเรยี น สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สื่อ การประเมินพฒั นาการ

รู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้

กิจกรรม (๒) การแสดงความคดิ ๑. กิจกรรมพนื้ ฐาน ใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวร่างกายไป ๑.เคร่อื งเคาะจังหวะ สงั เกต
เคลอื่ นไหวและ สรา้ งสรรคผ์ ่านภาษา ทวั่ บริเวณอยา่ งอสิ ระ ตามจงั หวะ เมอ่ื ได้ยนิ ๒.กระดาษกาวสี การเคลื่อนไหวท่าทาง เพื่อ
จังหวะ ทา่ ทาง การเคล่ือนไหว สัญญาณหยดุ ให้หยดุ เคลื่อนไหวในท่าน้ันทนั ที
เคลอ่ื นไหวทา่ ทาง ๒. ใช้กระดาษกาวสีติดบนพ้ืนหอ้ งเป�นรูปสเี่ หลี่ยม สอ่ื สารความคดิ ความรู้สกึ
ขนาด ๙๐ ซม. X ๙๐ ซม.จำนวนตามความ ของตนเอง
เพ่อื สอื่ สาร ความคิด
เหมาะสมของเดก็ ในห้อง
ความรสู้ ึกของ ๓. ให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายไปทัว่ บรเิ วณอยา่ ง อสิ ระ

ตนเองได้ เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหยุด ครบู อกจำนวนไม่ เกิน ๕

เช่น ๑ + ๒ ให้เดก็ เข้าไปยนื ในกรอบ
สเี่ หล่ียมและตรวจสอบว่าจำนวนทีย่ นื อยู่ ถกู ต้อง
หรือไม่

๔. เดก็ ปฏบิ ัติกจิ กรรมในข้อ ๓ ซำ้ อีก ๒ – ๓ ครัง้

๕. เด็กหยดุ พกั ผ่อนคลายกล้ามเนอื้

จดุ ประสงคก์ ารเรียน สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมินพฒั นาการ

รู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้
กจิ กรรมเสรมิ
ประสบการณ์ (๒) การฟ�งและ ๑. พัฒนาการทาง ๑. พฒั นาการทางภาษาและการร้หู นงั สอื ๑. หนงั สือส่งเสริม สังเกต
๑. เลา่ เร่อื งด้วย ปฏบิ ัติตามคำแนะนำ ภาษาและการรู้หนงั สอื ๑.๑. เด็กและครูอ่านหนังสือส่งเสรมิ ลกั ษณะนสิ ัย ลกั ษณะนสิ ยั เศรษฐ ๑. การเลา่ เรือ่ งด้วย ประโยค
ประโยคส้นั ๆได้ ๒. (๓) การฟ�งเพลง นิทาน ๑.๑ เศรษฐกิจพอเพียงเรอ่ื งสามสหายพรอ้ มกันจนจบ ๑ กิจพอเพยี งเรื่องสาม สนั้ ๆ
แตง่ ตวั โดยมีผู้ (๔) การพดู แสดง การอ่านร่วมกันจาก รอบ สหาย ๒. การแต่งตวั โดยมี
ช่วยเหลือได้ ความรสู้ กึ และความ หนังสอื สง่ เสริมลกั ษณะ ๑.๒ ครแู นะนำส่วนประกอบหนงั สอื ทลี ะหน้า ได้แก่ ๒. เพลง “ตืน่ เช้า” ผูช้ ว่ ยเหลอื
ตอ้ งการ นสิ ยั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ปกหนา้ ชอื่ ผแู้ ต่ง ผวู้ าดภาพ ๓. ถุงเทำและรอง
(๘) การรอจงั หวะท่ี เรอื่ ง สามสหาย ๑.๓ ครูชกั ชวนให้เดก็ ตัง้ คำถามเก่ียวกบั เร่ืองท่ี เทำ
เหมาะสมในการพดู อา่ นและเป�ดโอกาสให้เพอ่ื นในหอ้ งช่วยกนั ตอบ
(๑๐) การอา่ น ๑.๒ ส่วนประกอบของ ๒. เด็กและครรู ่วมรอ้ งเพลง “ตน่ื เช้า” พรอ้ มทำ
หนงั สอื ภาพนิทาน หนังสือ ทา่ ทางประกอบเพลงอยา่ งอิสระ
(๑) การช่วยเหลือ ๒. การพง่ึ พาตนเอง ๓. สนทนาซกั ถามเก่ยี วกบั เนือ้ เพลง โดยใช้ คำถาม
ตนเองในกจิ วตั ร ดงั นี้
- การแต่งตวั ดว้ ยตนเอง

ประจำวัน -เนือ้ เพลงกลา่ วถงึ เรื่องอะไร

(๒) การปฏบิ ัตติ น -เดก็ ๆ ทำตามเน้อื เพลงหรอื ไม่ เพราะเหตุใด
ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง -ใครแตง่ ตัวเองได้บา้ ง ทำอย่างไร
๔. อาสาสมัครและครูร่วมกนั สาธิตการแต่งตวั ท่ี ถูกวธิ ี
๕. แบง่ เดก็ เปน� กลมุ่ ตามความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละ
กลมุ่ แข่งขันกันใสถ่ ุงเทำ และรองเทำดว้ ยตนเอง
กล่มุ ไหนเสรจ็ ก่อนและถกู ตอ้ งเปน� ผชู้ นะ

๖. เด็กและครูรว่ มสนทนาถึงประโยชน์ของการ

แต่งตวั ได้ด้วยตนเอง


Click to View FlipBook Version