แนวคดิ หนว ยการจดั ประสบการณท ี่ ๓๑ ฤดหู นาว ชนั้ อนุบาลปท ี่ ๑
ประเทศไทยมฤี ดกู าล ๓ ฤดู คือ ฤดรู อ น ฤดูฝน ฤดหู นาว จะเกิดข้ึนในชว งเดือนตางๆ ในรอบป ในฤดูหนาวอากาศอุณหภมู ใิ นอากาศจะลดลง มผี ลให
สภาพแวดลอมรอบตวั เราทั้งสิง่ มชี วี ิตและไมม ีชวี ติ เกดิ การปรบั ตวั จนเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายรอบตัวเราในแตล ะวันจะมลี มพดั ผานมาก เมอ่ื มากระทบรา งกายจะทำให
เกิดความหนาวเย็น เราจึงควรหาวธิ ีปองกันไมใหร า งกายหนาวเยน็ มากเกินไปจะทำใหร า งกายปรับตัวไมท ันและเจ็บปวยได
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงคก าร สาระการเรยี นรู
มาตรฐาน ตัวบงช้ี สภาพทพี่ ึงประสงค เรยี นรู ประสบการณส ําคัญ สาระทค่ี วรเรยี นรู
มาตรฐานที่ ๑ ๑.๓ รักษาความ ๑.๓.๑ เลนและทำ ๑. เลน อยา งปลอดภยั ๑.๑.๕ การตระหนักรเู กี่ยวกับ ๑. ฤดูกาลตาง ๆ
รา งกาย เจรญิ เตบิ โตตามวัย ปลอดภยั ของ กจิ กรรมอยางปลอดภยั รางกายตนเอง ในประเทศไทย ๓ ฤดู ฤดรู อ น
และมสี ขุ นิสยั ที่ดี ตนเองและผอู นื่ เม่อื มีผูช ้แี นะ เม่อื มผี ูชแี้ นะได (๒) การเคลอื่ นไหวโดยควบคมุ ฤดูฝน ฤดูหนาว
ตนเองไปในทิศทาง ระดับ ๒. สภาพอากาศในฤดูหนาว
มาตรฐานท่ี ๒ ๒.๑ เคลอื่ นไหว ๒.๑.๓ วงิ่ แลว หยดุ ได ๒. วง่ิ แลวหยดุ ได และพน้ื ท่ี การปองกัน อากาศหนาวเย็น
กลามเนื้อใหญแ ละ รา งกายอยา ง คลองแคลว ๑.๑.๑ การใชก ลามเนือ้ ใหญ ๓.สภาพภมู ิอากาศในฤดูหนาว
กลา มเนอ้ื เล็ก แขง็ แรง ประสานสมั พนั ธ (๒) การเคลอ่ื นไหวเคลือ่ นท่ี แหงลมแรง
ใชไ ดอ ยา ง คลอ งแคลวและ และทรงตัวได (๕) การเลนเคร่ืองเลน สนาม การทดลอง ไฟฟาสถติ
ประสานสัมพนั ธ อยางอิสระ ๔.การดแู ลสขุ ภาพรางกายในฤดู
๑.๑.๒ การใชก ลามเนือ้ เลก็ หนาว
กัน (๑) การเลนเคร่อื งเลน สัมผสั ๕.ความแตกตา งของฤดหู นาวใน
และ การสรางส่ิงตา งๆ แตละภมู ิภาคของประเทศไทย
มาตรฐานที่ ๓ ๓.๒ มีความรสู กึ ที่ดี ๓.๒.๑ กลาพดู กลา จากแทงไมบลอ็ ก
มีสขุ ภาพจติ ดแี ละ ตอตนเองและผูอืน่ แสดงออก (๒) การเขยี นภาพและการเลน
มคี วามสุข กับสี
มาตรฐาน มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย สภาพทพี่ งึ ประสงค จุดประสงคก ารเรียนรู สาระการเรยี นรู
ตวั บง ชี้ ประสบการณส ําคญั สาระท่ีควรเรยี นรู
มาตรฐานที่ ๔ ๔.๑ สนใจมี ๔.๑.๑ ๓. รว มสนทนา และพูด (๓) การปน
ช่ืนชมและ แสดงออกทาง ความสขุ และ สนใจมคี วามสขุ แสดงความคิดเห็นได ๑.๓.๕ การเลน และทำงาน
ศลิ ปะ ดนตรี และ แสดงออกผานงาน และแสดงออกผาน แบบรวมมอื รวมใจ
การเคล่ือนไหว ศลิ ปะ ดนตรี และ เสียงเพลง (๑) การรวมสนทนาและแลก
การเคลอ่ื นไหว ๔.๑.๓ สนใจ มี เปล่ียนความคิดเหน็
ความสุขและแสดง ๔. สรา งสรรคง านศิลปะ ๑.๔.๑ การใชภ าษา
ทา ทาง/เคลอื่ นไหว ไดอยางมคี วามสุข (๔) การพูดแสดงความคิด
ประกอบเพลง ๕. แสดงทาทาง ความรูสกึ
จังหวะ และดนตรี เคลือ่ นไหวประกอบ และความตองการ
๕.๔.๑ ทำงานทไ่ี ดรับ เพลง จงั หวะและดนตรี ได ๑.๔.๓ จนิ ตนาการและความ
มาตรฐานที่ ๕ ๕.๔ มคี วามรบั ผิดชอบ คิด สรา งสรรค
มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มอบหมายจนสำเร็จ (๑) การรับรูแ ละแสดงความ
และมีจติ ใจทด่ี งี าม เมอ่ื มผี ชู ว ยเหลอื คิดความรูสกึ ผา นส่ือ วสั ดุ
ของเลน และ ชน้ิ งาน
(๒) การแสดงความคดิ สรา ง
มาตรฐานที่ ๖ ๖.๒ มีวนิ ัยในตัวเอง ๖.๒.๑ เกบ็ ของเลน สรรคผ านส่อื วสั ดุตางๆผา นภาษ
มีทกั ษะชีวติ และปฏบิ ตั ิ ของใชเขา ทเ่ี มื่อมีผู าทา ทาง การเคลื่อนไหว
ตนตามหลักปรัชญา ช้ีแนะ และศิลปะ
ของเศรษฐกจิ พอเพียง ๖.๒.๒ เขา แถว ๑.๒.๑ สนุ ทรภี าพ ดนตรี
ตามลำดับกอ น
หลงั ได (๕) การทำกิจกรรมศลิ ปะตาง
เมอ่ื มผี ูช แี้ นะ ๆ
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย สภาพทพี่ ึงประสงค จดุ ประสงคก ารเรยี นรู สาระการเรียนรู
มาตรฐาน ตวั บงช้ี ประสบการณส ําคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู
มาตรฐานที่ ๗ ๗.๑ ดแู ลรกั ษาธรรมชาติ ๗.๑.๑ มสี วนรว มดแู ล ๖. ทำงานท่ไี ดรับ มอบหมายจน ๑.๒.๒ การเลน
รักธรรมชาติ สิ่งแวดลอ ม และ สิง่ แวดลอ ม รกั ษาธรรมชาติและ สำเรจ็ เมอื่ มผี ชู ว ยเหลอื ได (๒) การเลน อิสระ
วัฒนธรรม สิ่งแวดลอ มเมอื่ มผี ู
และความเปนไทย ชี้แนะ ๗. เกบ็ ของเลนและของ (๓) การเลน รายบุคคล กลมุ ยอ ย
และกลุมใหญ
๗.๑.๒ ทิง้ ขยะไดถ ูกที่ ใชส ว นตัวเขาที่ได (๔) การเลนตามมมุ ประสบการณ
มาตรฐานที่ ๘ ๘.๓ ปฏิบัติตน ๘.๓.๑ ปฏิบัติตาม / มมุ เลน ตาง ๆ
อยูรวมกบั ผอู นื่ ไดอยาง เปน เบ้ืองตน ใน ขอ ตกลงเม่ือมผี ชู ้แี นะ (๕) การเลน นอกหอ งเรยี น
มคี วามสขุ และปฏิบตั ิ การเปนสมาชกิ ที่ ๑.๒.๔
ตนเปน สมาชกิ ทีด่ ขี อง ดขี องสังคม ๘. มสี วนรว มดแู ลรกั ษา การแสดงออกทางอารมณ
สังคมในระบอบ ธรรมชาติสง่ิ แวดลอ ม (๓)
ประชาธิปไตย เม่ือมผี ชู ้แี นะได การเคล่อื นไหวตามเสยี งเพลง/
อนั มพี ระมหากษตั รยิ ดนตรี
(๔) การรอ งเพลง
ทรงเปน ประมุข ดา นสังคม
๙. ปฏบิ ัตติ ามขอ ตกลง ๑.๓.๔ การมปี ฏสิ มั พนั ธ มวี นิ ัย
ในการทำกิจกรรมและ
เลนกบั ผอู น่ื ได มีสว นรวมและบทบาทสมาชิก
ของสงั คม
(๑)
การใหความรว มมือในการปฏิบัติ
กิจกรรมตางๆ
๑.๓.๕ การเลน และทำงานแบบ
รวมมือรว มใจ
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดประสงคก ารเรยี นรู สาระการเรียนรู
มาตรฐาน ตวั บงชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค ประสบการณส าํ คญั สาระที่ควรเรยี นรู
มาตรฐานท่ี ๙ ๙.๑ สนทนาโตต อบ ๙.๑.๑ ฟง ผอู นื่ พูดจน ๑๐. สนทนาโตต อบขณะ (๒) การเลน และการทำงาน
ใชภาษาสอ่ื สารให เลา เรอ่ื งใหผอู ื่น จบและสนทนาโตต อบ รวมทำกิจกรรมได รวมกับผอู ่นื
เหมาะสมกบั วยั เขา ใจ สอดคลอ งกบั เรอื่ งท่ฟี ง ดา นสติปญ ญา
มาตรฐานที่ ๑๐ ๑.๔.๑ การใชภ าษา
มีความสามารถใน ๑๐.๑ มี ความสามารถใน ๑๐.๑.๒ จับคหู รอื (๑) การฟง เสยี งตา ง
การคดิ ที่เปน เปรียบเทยี บส่งิ ตา ง ๆ ๑๑. จับคหู รือ เปรยี บเทยี บสงิ่ ตาง ๆ ๆในส่งิ แวดลอ ม
พน้ื ฐานในการ การคดิ รวบยอด โดยใชลกั ษณะหรอื ตามลักษณะได (๒) การฟง และปฏบิ ตั ิตาม
เรยี นรู หนา ท่ีการใชง านเพียง คำแนะนำ
๑๐.๒ มคี วามสามารถใน อยา งเดียว (๓) การฟง เพลง นิทาน คำ
การคดิ เชงิ เหตุผล คลอ งจอง
๑๒. คาดเดาส่ิงทอี่ าจ บทรอยกรองหรือเรอ่ื งราวตาง
๑๐.๒.๒ คาดเดาหรอื เกิดขึ้นในการทดลองได ๆ
คาดคะเนส่ิงทีอ่ าจจะ
เกิดขึ้น ๑.๔.๒ การคดิ รวบยอด
การคดิ เชงิ เหตผุ ล
การตัดสนิ ใจและแกปญหา
(๓) การบอกและแสดง
ตำแหนง ทศิ ทาง
และระยะทางของสิง่ ตา งๆ
ดว ยการกระทำ ภาพวาด
ภาพถาย และรูปภาพ
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงคการเรียนรู สาระการเรียนรู
มาตรฐาน ตัวบงชี้ สภาพทพี่ ึงประสงค ประสบการณส ําคญั สาระท่คี วรเรยี นรู
มาตรฐานท่ี ๑๑ ๑๑.๑ ทำงานศิลปะ ๑๑.๑.๑ สรา งผลงาน ๑๓. สรา งผลงานทางศิลปะตาม (๘) การนบั และแสดง
มีจินตนาการและ ตามจนิ ตนาการและ ศลิ ปะเพอื่ สือ่ สาร จำนวนของสง่ิ ตาง
ความคดิ สรา งสรรค ความคดิ สรา งสรรค ความคิด ความรูส ึก ความคดิ สรางสรรคได ๆในชวี ิตประจำวัน
มาตรฐานท๑ี่ ๒
มีเจตคติทด่ี ตี อ ๑๑.๒ แสดงทา ทาง/ ของตนเอง (๑๗) การคาดเดาหรอื การคาด
การเรยี นรู และมี เคลื่อนไหวตาม คะเนสิ่งที่อาจจะเกดิ ขึ้นอยางมี
ความสามารถใน จินตนาการอยาง ๑๔. แสดงทา ทางตาม เหตุผล
การแสวงหา สรางสรรค ๑๑.๒.๑ เคลื่อนไหว ความคิดและจนิ ตนาการได ๑.๔.๓
ความรูไ ด ทา ทางเพื่อสือ่ สาร
เหมาะสมกบั วยั ความคดิ ความรูสึก จินตนาการและความคิด
ของตนเอง ๑๕. มีความกระตอื รือรนในการรว ม สรา งสรรค
๑๒.๑ มเี จตคติที่ดี ๑๒.๑.๒ กระตอื รอื รน กจิ กรรม (๒) การแสดงความคดิ สรางสร
ตอการเรียนรู ในการรว มกิจกรรม รค
ผา นสื่อวสั ดตุ า งๆผา นภาษาทา
ทาง การเคลื่อนไหวและศลิ ปะ
๑.๔.๔
เจตคตทิ ี่ดตี อการเรยี นรูและ
การแสวงหาความรู
การส ารวจสิง่ ตางๆ และแหลง
เรยี นรรู อบตวั
การวางแผนกิจกรรมรายหนว ยการจัดประสบการณช ั้นอนบุ าลปท ่ี ๑ หนว ยฤดูหนาว
กิจกรรม
วันท่ี เคลือ่ นไหวและจังหวะ
๑ เคลื่อนไหวรา งกาย เสริมประสบการณ ศลิ ปะสรา งสรรค เลน ตามมมุ กลางแจง เกมการศึกษา
ฤดูกาลตา ง ๆ ใน - วาดและตอ เติมภาพ เลน ตามมมุ ไดแ ก การทำทา กายบริหาร เกมจบั คภู าพฤดูกาลกับ
ประกอบเพลง ๓ ฤดู ประเทศไทย ๓ ฤดู ฤดหู นาวใหสวยงามตาม มมุ หนงั สือ สภาพอากาศ
ฤดรู อน ฤดูฝน ความคดิ สรางสรรค มุมบล็อก เกมสังเกตรายละเอียด
๒ เคลือ่ นไหวรางกาย ฤดูหนาว - ปนดนิ น้ำมนั มมุ บทบาทสมมตุ ิ ภาพของภาพตุกตาหมี
ประกอบเพลง มมุ เครอ่ื งเลน สมั ผสั เกมเรยี งลำดับภาพการ
ลมเพลมพัด เปาลกู โปง
สภาพอากาศในฤดู หนาว - ตอเตมิ ลวดลายเส้ือกนั เลนตามมุม ไดแ ก เกมลมเพลมพดั
๓ เคลื่อนไหวรางกาย การปอ งกนั หนาว มมุ หนงั สอื - เลนเครอ่ื งเลน สนาม
ประกอบคำคลอ งจอง อากาศหนาวเยน็ มมุ บล็อก
- ปน ดินน้ำมัน มมุ บทบาทสมมุติ
มมุ เคร่ืองเลน สมั ผัส
สภาพภมู อิ ากาศในฤดู - ปน ดินนำ้ มนั เลน ตามมุม ไดแ ก
หนาวแหง ลมแรงการ มุมหนงั สือ
ทดลอง ไฟฟาสถติ มุมบลอ็ ก
มมุ บทบาทสมมุติ
มมุ เคร่อื งเลนสมั ผัส
วนั ที่ เคลอ่ื นไหวและจงั หวะ กจิ กรรม
๔ การเคลอ่ื นไหวตามคำ
เสรมิ ประสบการณ ศลิ ปะสรางสรรค เลน ตามมมุ กลางแจง เกมการศกึ ษา
บรรยาย การดูแลสุขภาพรา งกาย - การพับกระดาษ เลนตามมุม ไดแ ก บรหิ ารรา งกายใหอ บอุน เกมเรยี งลำดบั ภาพ
๕ การเคล่ือนไหวพรอม ในฤดูหนาว - ปนดินนำ้ มัน มมุ หนังสือ เครื่องแตงกายในฤดู
ความแตกตางของฤดู มุมบล็อก หนาวตามขนาด
อปุ กรณ หนาวในแตละภมู ิภาค - การพบั สี มมุ บทบาทสมมตุ ิ
ของประเทศไทย - ปนดนิ น้ำมัน มุมเครื่องเลน สมั ผสั เลน เกมคุณครบู อก เกมจับคูภ าพเหมือน
เลน ตามมมุ ไดแ ก หมวกแบบตา ง ๆ
มมุ หนงั สอื
มุมบล็อก
มุมบทบาทสมมตุ ิ
มมุ เครื่องเลนสมั ผสั
แผนการจัดประสบการณรายวัน วนั ท่ี ๑ หนวยท่ี ๓๑ หนว ยฤดูหนาวช้ันอนบุ าลปท ี่ ๑
สาระการเรยี นรู
จดุ ประสงคก ารเรยี นรู ประสบการณส ำคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู กิจกรรมการเรียนรู สื่อ การประเมินพฒั นาการ
สังเกต
กิจกรรม เคลอ่ื นไหวและ (๑) การฟง เพลง ๑. กิจกรรมพนื้ ฐาน ใหเ ดก็ เคลอ่ื นไหวรางกายไป ท่ัว ๑. เคร่ืองใหจ ังหวะ ความสนใจ มคี วามสขุ
จงั หวะ การรอ งเพลง และ บรเิ วณอยา งอิสระตามจงั หวะ เม่อื ไดย นิ สญั ญาณ ๒. เพลง ๓ ฤดู และ แสดงทาทาง/
สนใจ มีความสุข การแสดงปฏกิ ิรยิ า “หยดุ ”ใหหยุดเคลื่อนไหวในทา นั้นทันที เคลอื่ นไหว ประกอบเพลง
และแสดงทา ทาง/ โตตอบเสยี งดนตรี ๒. เดก็ และครรู วมกันรอ งเพลง ๓ ฤดู จงั หวะ และดนตรีได
เคล่ือนไหวประกอบ (๓)การเคล่ือนไหวตาม ๓. เด็กเคลือ่ นไหวรา งกายประกอบเพลงอยาง อิสระ
เพลงจังหวะและดนตรีได เสียงเพลง/ดนตรี ตามจนิ ตนาการ
๔. เดก็ ปฏบิ ัติกจิ กรรมตามขอ ๒ ซ า ๒ - ๓ ครง้ั
๕. พกั คลายกลา มเนื้อเตรียมตวั ทำกจิ กรรมตอไป
กิจกรรมเสริม (๒) การฟง และปฏิบัติ ๑. ฤดูกาลตาง ๆ ใน ๑. นำรปู ภาพฤดูกาลในประเทศไทย ๓ ฤดู ไดแ ก ฤดู ๑. ภาพฤดกู าลตา ง ๆ สังเกต
ประสบการณ ตามคำแนะนำ ประเทศไทย รอน ฤดฝู น ฤดูหนาว ใหเ ดก็ ดรู วมกนั บอกชื่อ ๒. ภาพปรากฏการณใ น ๑. การฟงผูอ่ืนพดู จนจบ
ฟง ผูอืน่ พูดจน จบและ (๔) การพดู แสดง ความ ๒. ฤดหู นาว ๒. สนทนารว มกันถงึ ลักษณะทั่วไปของฤดูกาล ตา ง ๆ ฤดหู นาว และสนทนาโตต อบอยาง
สนทนา โตต อบอยาง คิดเห็น ความรูส ึกและ ๓. สนทนารว มกันถงึ ฤดกู าลในปจจุบนั คอื ฤดหู นาว ตอ เนอ่ื งเช่ือมโยงกบั เรอ่ื ง
ตอเนื่องเช่ือมโยง กบั เรอ่ื ง ความตอ งการ โดยใชคำถาม - ตน่ื มาเชาวันน้ีเด็ก ๆ รสู กึ อยางไรบาง ท่ี ฟง
ที่ฟง ได - ในฤดูหนาวนีเ้ ดก็ ๆ พบเหน็ อะไรบา งในอากาศ
- เด็ก ๆ ชอบ ฤดูหนาวหรือไมเพราะเหตใุ ด
๔. สรปุ รวมกันเกี่ยวกับฤดูกาลในประเทศไทย
จดุ ประสงคการเรียนรู สาระการเรียนรู กิจกรรมการเรียนรู สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
กิจกรรม สรา งสรรค ประสบการณส ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู สงั เกต
สนใจมคี วามสขุ (๕) การทำงานศลิ ปะ ๑. นำภาพฤดูหนาวมาใหเ ด็กสังเกตรายละเอยี ด ๑. สีเทยี น ความสนใจมคี วามสขุ และ
และแสดงออกผา น (๓) การปน รวมกัน ๒. กระดาษ แสดงออกผา นงานศลิ ปะ
งานศิลปะ ๒. เด็กและครสู นทนาถงึ สภาพท่ัวไปในฤดหู นาว แลว ๓. ดินนำ้ มนั
(๓) การใหค วาม ใหเด็กคดิ วา ควรจะวาดภาพอะไรเพ่ิมเติมใน ภาพฤดู ๔. แผนรองปน สงั เกต
กิจกรรมเลน ตาม มมุ รวมมือในการปฏบิ ัติ หนาวบา ง การเก็บของเลน ของใชเ ขา
๑.เลนและทำ กจิ กรรมตา ง ๆ ๓. เด็กลงมอื ตอเติมภาพและระบายสภี าพให สวยงาม ทอี่ ยา งเรียบรอ ยดว ย
กิจกรรมรว มกบั ตามความคิดสรางสรรคของตน ตนเอง
ผูอน่ื ได ๔. ปนดินนำ้ มนั อยางอิสระ
๒.เกบ็ ของเลน ของ ๕. เด็กทำท้งั ๒ กจิ กรรมและนำเสนอผลงาน
ใชเขาท่ีอยา ง ๑. เด็กเลอื กกิจกรรมเสรใี นมมุ ประสบการณต าม - มุมประสบการณใ น
เรียบรอยดวย ตนเองได ความสนใจมมุ ประสบการณควรมีอยางนอย หองเรียน
๔ มมุ เชน
-มมุ หนังสอื - มุมเคร่อื งเลน สมั ผสั
-มมุ บลอ็ ก - มุมเกมการศึกษา
-บทบาทสมมติ
๒. เมอื่ หมดเวลาเดก็ เก็บของเขา ท่ีใหเรยี บรอ ย
จุดประสงคก ารเรียนรู สาระการเรยี นรู กิจกรรมการเรยี นรู ส่อื การประเมนิ พฒั นาการ
กิจกรรมกลางแจง ประสบการณส ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู สงั เกต
เลน ทำกิจกรรม (๓) การเลน นอก ๑.นำเด็กไปที่สนาม สรางขอ ตกลงเกีย่ วกับการ ปฏิบัติ สนาม การเลน ทำกิจกรรมและ
และปฏบิ ตั ติ อผูอ่นื หองเรียน ตนรวมกัน ปฏบิ ัติตอ ผูอน่ื อยาง
อยา งปลอดภัยได ๒. เดก็ ยืนเปนวงกลม ทำทากายบริหาร ปลอดภยั
๓. เดก็ เลน อสิ ระกลางสนาม
กิจกรรมเกม การศึกษา ๔. สนทนาสรปุ เกี่ยวกบั อากาศหนาว เปรยี บเทยี บ สังเกต
จับคแู ละ วา ขณะที่เราอยใู นหองเรียนกบั ออกมานอก การจบั คแู ละเปรียบเทียบ
เปรยี บเทยี บความ หอ งเรยี น ทไ่ี หนทท่ี ำใหเรารูสึกหนาวมากกวา กนั ความแตกตางและความ
แตกตางและความ ๕.ทำความสะอาด พาเด็กกลับหอ งเรียน เหมือนของส่งิ ตางๆ
เหมือนของสิ่ง ตางๆได (๑๓) การจับคู เกมจบั คฤู ดกู าลกับ ๑. นำเกมจบั คฤู ดกู าลกบั สภาพอากาศ มาใหเดก็ ๑. เกมจับคูฤดกู าลกบั
การเปรยี บเทยี บ สภาพอากาศ สงั เกตและสนทนาเก่ียวกับภาพในเกม แนะนำ สภาพอากาศ
ความเหมือนความตา ง และสาธิตเกมจับคฤู ดูกาลกับสภาพอากาศ ๒. เกมทีเ่ ลน มาแลว
๒. ครูและเด็กรว มกันสรา งขอตกลงเก่ยี วกับ
ขน้ั ตอนและวธิ กี ารเลน เกมการศึกษาโดยแบง กลุม
เด็กกลุมละ ๔-๕ คน แตละกลมุ รวมกันคดิ
วางแผนเลนเกม รูจักแบง ปนรอคอย และชว ยกัน
เกบ็ เกมเมือ่ เลนเสรจ็
๓. เดก็ เลน เกมชุดใหมแ ละเกมที่เคยเลนมาแลว
หมนุ เวียนกันจนครบทกุ เกม
๔. รวมกนั สนทนาสรุปเกี่ยวกบั เกมเกมจบั คู
ฤดูกาลกับสภาพอากาศ
แผนการจัดประสบการณร ายวนั วนั ท่ี ๒ หนว ยท่ี ๓๑ หนวยฤดูหนาว ช้นั อนบุ าลปท ่ี ๑
จุดประสงคการ สาระการเรียนรู การประเมนิ
เรยี นรู ประสบการณส ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู กิจกรรมการเรยี นรู ส่อื พัฒนาการ
สงั เกต
กจิ กรรมเคลือ่ นไหว (๑) การฟง เพลง ๑. กจิ กรรมพนื้ ฐาน ใหเ ด็กเคลือ่ นไหวรา งกายไปทวั่ ๑. เคร่ืองใหจงั หวะ การแสดงทา ทาง /
และจงั หวะ การรองเพลง และ บรเิ วณอยางอิสระตามจังหวะ เม่ือไดย นิ สญั ญาณ ๒. เพลง ลมเพลมพดั เคลอื่ นไหวประกอบ
สนใจ การแสดงปฏกิ ริ ยิ า “หยุด” ใหหยดุ เคลือ่ นไหวในทา น้ันทนั ที เพลง ลมเพลมพดั
มีความสุขและ โตต อบเสียงดนตรี ๒. เดก็ และครรู วมกันรอ งเพลง ลมเพลมพัด พรอม
แสดงทาทาง/ (๓) การเคลือ่ นไหวตาม ทัง้ ทำทาทางประกอบเพลงอยางอสิ ระ เมือ่ ไดยนิ
เคล่อื นไหวประกอบ เสยี งเพลง/ดนตรี สญั ญาณ “หยดุ ”ใหหยุดเคลอื่ นไหวในทา น้นั ทันที
เพลง จงั หวะและ ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ซ าอีกครัง้
ดนตรไี ด ๓. ปฏบิ ตั ติ ามขอ ๒ ซ า ๒ - ๓ ครัง้
กิจกรรมเสรมิ (๒) การฟง และปฏิบตั ิ ๒. สภาพอากาศใน ๑. เดก็ และครรู ว มกันรอ งเพลง หนาว ๑. เพลงหนาว สังเกต
ประสบการณ ตามคำแนะนำ ฤดหู นาว ๒. ครนู ำสนทนาเก่ยี วกบั เน้ือเพลง สอบถามและ ๒. อปุ กรณการทดลอง ๑. การฟงผูอ ่ืนพดู
๑. ฟง ผูอน่ื พดู จนจบ (๔) การพูดแสดงความ ๒. การปองกนั อากาศ อธบิ าย รวมกันเกีย่ วกับสภาพภมู อิ ากาศและ การเกิดลม กระดาษแขง็ จนจบและสนทนา
และสนทนาโตต อบ คดิ เห็นความรูส กึ และ หนาว ปรากฏการณใ น ฤดูหนาว ๓. พดั ลม โตต อบอยา งตอเนอื่ ง
อยางตอเน่ือง ความตอ งการ ๓. ขออาสาสมคั รเด็กสองคน โดยหน่ึงคน ออกไปอยู เชื่อมโยงกบั เรื่องท่ฟี ง
เชอื่ มโยงกับเร่ืองที่ นอกหองและหนง่ึ คนยืนในหอ งสลับต าแหนง กัน ๒. การลงมือทำ
ฟง ได แลวมาบอกความรูสึกกับเพอื่ น โดยครใู ชค ำถาม การทดลองเพื่อหา
๒. ทำการทดลอง กระตนุ คำตอบ
เพื่อหาคำตอบการ - ความหนาวเย็นของอากาศในหองเรยี นกับนอก
เกิดขน้ึ ของลม หอ งเรียนแตกตางกันอยา งไร
จุดประสงคก ารเรียนรู สาระการเรยี นรู กจิ กรรมการเรียนรู ส่อื การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู สังเกต
ความสนใจมคี วามสุข
- ในฤดหู นาวเด็กจะเลอื กอยูใ นหอ งหรอื นอก และแสดงออกผาน
หองเรยี น เพราะเหตใุ ด งานศลิ ปะ
๔. สนทนาแสดงความคดิ เห็นรวมกันเกย่ี วกบั
คำถาม
- เสอ้ื กนั หนาว กับผา หม ชวยคลายหนาวได
อยางไร
- เราจะมีวธิ ปี องกันลมหนาวไมใ หมาสมั ผสั
รา งกาย เราไดดวยวธิ ีไดอีกบาง
๕. สรุปรว มกันเก่ียวกบั การปองกันลมหนาวมา
กระทบ กับรา งกายและผิวซงึ่ เปนอวยั วะรับ
สมั ผสั จงึ ทำใหเรา รูสกึ หนาวเย็น
กจิ กรรมสรา งสรรค (๕) การทำงานศลิ ปะ ๑. นำภาพเสอื้ กนั หนาวมาใหเ ด็กสงั เกต ๑. สเี ทียน
สนใจมคี วามสขุ และ (๓) การปน รายละเอียด ๒. ภาพเสื้อกนั หนาว
แสดงออกผานงาน ๒. เดก็ และครสู นทนาถึงเสื้อกันหนาวของเดก็ ๓. ดนิ น้ำมัน
ศิลปะ แลว ลงมอื ๔. แผนรองปน
๓. เด็กลงมือตอเติมลวดลายเสื้อกันหนาวและ
ระบายสี ภาพใหส วยงามตามความคดิ สรางสรรค
ของตน
๔. ปน ดินนำ้ มนั อยา งอิสระ
๕. เดก็ ทำท้งั ๒ กจิ กรรมและนำเสนอผลงาน
จดุ ประสงคก ารเรยี นรู สาระการเรียนรู กิจกรรมการเรียนรู ส่อื การประเมนิ พฒั นาการ
กจิ กรรมเลน ตามมมุ ประสบการณส ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู สงั เกต
๑. เลน และทำ การเกบ็ ของเลนของ
กิจกรรมรว มกบั ผูอ ่ืน ได (๓) การใหความ ๑. เด็กเลือกกิจกรรมเสรใี นมมุ ประสบการณตามความ - มมุ ประสบการณใน ใชเ ขา ทอี่ ยา ง
๒. เก็บของเลน ของ รวมมือในการปฏบิ ตั ิ สนใจมมุ ประสบการณค วรมีอยางนอย หอ งเรียน เรยี บรอ ยดวยตนเอง
ใชเ ขาท่อี ยาง กิจกรรมตา ง ๆ ๔ มมุ เชน
เรียบรอ ยดว ยตนเอง -มุมหนงั สือ - มมุ เคร่อื งเลน สมั ผัส สงั เกต
ได การเลน ทำกจิ กรรมและ
-มมุ บลอ็ ก - มุมเกมการศกึ ษา ปฏบิ ัติตอ ผูอน่ื อยา ง
กิจกรรมกลางแจง เลน ปลอดภยั
ทำกจิ กรรมและ -บทบาทสมมติ
ปฏบิ ัติตอ ผอู น่ื อยาง ๒. เมื่อหมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเขา ทใ่ี หเรยี บรอ ย
ปลอดภัยได ๓. ครูชมเชยเดก็ ทเี่ ก็บของเขา ที่ไดเ รยี บรอ ย
(๓) การเลนนอก
หอ งเรียน เกมลมเพลมพดั ๑. นำเดก็ ไปท่สี นาม สรา งขอตกลงเก่ียวกับการ -สนาม
ปฏิบตั ิตนรว มกัน -เพลงลมเพลมพัด
๒. เดก็ ยืนเปนวงกลม ทำทา บรหิ ารรา งกาย
๓. เดก็ ๆ รวมกันรองเพลงลมเพลมพัด
๔. เด็กเลน เกมลมเพลมพัด โดยครแู นะนำกติกา และ
สาธติ เกม
๕. เด็กๆเลนเกมรว มกนั
๖. สรุปกจิ กรรม
จุดประสงคการเรยี นรู สาระการเรียนรู กจิ กรรมการเรยี นรู ส่ือ การประเมินพฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู
กิจกรรมเกม (๑๓) การจบั คู การเปรียบ เกมสังเกตรายละ ๑. นำเกมสงั เกตรายละเอียดภาพของภาพ ตกุ ตาหมีมา สงั เกต
การศึกษา เทียบ ความเหมือน เอียดภาพของภาพ ใหเ ด็กสังเกตและสนทนาเก่ียวกบั ภาพในเกม แนะนำ จับคูแ ละเปรยี บเทยี บ
เลอื กชน้ิ สว นที่มีภาพ ความตา ง ตกุ ตาหมี และสาธติ เกม ความแตกตา งและความ
เปนส่ิงเดยี วกนั กับ เหมอื นของส่งิ ตา งๆได
ภาพทีก่ าหนดใหไ ด ๒. ครูและเด็กรว มกนั สรางขอ ตกลงเก่ยี วกับ ขนั้ ตอน
และวิธีการเลน เกมการศกึ ษาโดย แบง กลุมเด็กกลมุ ละ
๔ - ๕ คน แตล ะกลมุ รวมกนั คดิ วางแผนเลนเกม รูจัก
แบง ปนรอคอย และชวยกันเก็บเกมเม่อื เลน เสรจ็
๓. เด็กเลนเกมชดุ ใหมและเกมทเ่ี คยเลนมาแลว
หมุนเวยี นกนั จนครบทกุ เกม
๔. รว มกนั สนทนาสรปุ เกี่ยวกับเกมสังเกต รายละเอียด
ภาพของภาพตุกตาหมี
แผนการจัดประสบการณร ายวนั วนั ท่ี ๓ หนวยท่ี ๓๑ หนวยฤดูหนาว ชั้นอนบุ าลปท ่ี ๑
สาระการเรียนรู
จดุ ประสงคก ารเรียนรู ประสบการณส ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู กิจกรรมการเรียนรู ส่ือ การประเมนิ พฒั นาการ
สงั เกต
กิจกรรม เคลอื่ นไหว (๑) การเคลื่อนไหว อยู ๑. เดก็ เคลอ่ื นไหวรา งกายไปท่วั บรเิ วณอยาง ๑. เคร่อื งเคาะจงั หวะ ความสนใจมคี วามสุขและ
และ จังหวะ กับที่ อสิ ระ เมือ่ ไดยินสัญญาณหยดุ ใหห ยดุ เคลอื่ นไหว ๒. คำคลอ งจอง แสดงออกผานงานศลิ ปะ
๑. เคลือ่ นไหวสว น ตา ง (๒) การเคลือ่ นไหว ในทาน้ัน ทนั ที การนบั ๑ - ๑๐ ดนตรีและการเคล่อื นไหว
ๆ ของรา งกาย เคลื่อนท่ี
ตามสัญญาณ (๓) การเคลอ่ื นไหว ๒. เด็กและครรู วมกนั ทอ งคำคลองจอง การนับ ๑ สงั เกต
๒.ทำทาทาง ประกอบ ประกอบจงั หวะ คำ - ๑๐ ๑. การฟง ผอู ่นื พูดจนจบ
คำคลองจอง คลองจอง ๓. เดก็ ทำทาประกอบคำคลอ งจอง การนับ ๑ - และสนทนาโตต อบอยา ง
๑๐ พรอมกัน ตอเน่อื งเชื่อมโยงกบั เร่ืองท่ี
๔. แบง เด็กออกเปน ๒ กลมุ ดงั น้ี กลุมท่ี ๑ ทอ ง ฟง ได
คำคลองจอง กลุมที่ ๒ ทำทา ทางประกอบคำ ๒. การบอก ลกั ษณะ สง่ิ ท่ี
คลองจอง ใหสญั ญาณทั้ง ๒ กลุม เรมิ่ ทำกิจกรรม สังเกต และเกดิ การ
พรอ มกนั เปลย่ี นแปลง
๕. เด็ก ๒ กลมุ หมนุ เวียนกันทำกิจกรรม
กิจกรรมเสรมิ (๑) การสงั เกต ๑. สภาพภมู อิ ากาศใน ๑. เดก็ และครรู วมกันทองคำคลองจอง การนับ ๑
ประสบการณ ลักษณะ สว นประกอบ ฤดูหนาวแหง ลมแรง - ๑๐
๑. ฟง ผอู ่นื พดู จน การเปล่ียนแปลง และ ๒. การทดลอง ไฟฟา ๒. ครนู ำหวีและเศษกระดาษใหเ ด็กดูและสาธิต
จบและสนทนา ความสมั พนั ธข องส่ิง สถิต การทดลองไฟฟา สถติ
โตตอบอยางตอเนอ่ื ง ตาง ๆ โดยใชประสาท ๓. แบง กลุมออกเปนกลมุ ละ ๔-๕ คน เด็กทำการ
เชอ่ื มโยง กบั เร่ืองทฟ่ี งได สัมผสั อยางเหมาะสม ทดลอง โดยนำหวีมาถูกกับกระโปรง กางเกง
ผา สกั หลาดหรอื หวีผมหลายๆครง้ั แลว เอาหวไี ป
จุดประสงคก ารเรียนรู สาระการเรยี นรู กจิ กรรมการเรยี นรู สอื่ การประเมินพฒั นาการ
๒. บอกลกั ษณะ ส่งิ ท่ี ประสบการณส ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู สังเกต
สงั เกต และเกดิ การ ใกล เศษกระดาษแลว รว มกันสงั เกตวา เศษ กระดาษจะ ความสนใจมคี วามสุขและ
เปลยี่ นแปลงได (๕) การทำงานศลิ ปะ ตดิ หวขี น้ึ มา แสดงออกผานงานศลิ ปะ
(๓) การปน ๔. เด็กและครรู วมกนั สนทนาแสดงความคิดเห็น
กิจกรรมศลิ ปะ เกีย่ วกับการทดลอง โดยใชคำถาม
สรา งสรรค -เกดิ อะไรขนึ้ เมอื่ นำหวีไปใกลเศษกระดาษ
สนใจมคี วามสขุ
และแสดงออกผา น -เดก็ คิดวา อะไรบา งที่สามารถติดหวไี ดอ ีก
งานศิลปะ นอกจากเศษกระดาษ
- เด็ก ๆเคยพบปรากฏการณท ค่ี ลายแบบนห้ี รอื ไม
อะไรบาง
๕. เด็กและครรู ว มกันสรปุ ผลการทดลอง
๑. นำอุปกรณก ารฉกี ปะภาพใหเด็กดู และสาธติ การ ๑. กระดาษสี
ฉีกกระดาษเปน ชนิ้ เล็ก-ใหญต ามตองการ ๒. กาว
๒. แบง เดก็ ออกเปน กลุม ลงมอื ทำกิจกรรมฉกี ๓. ดินน้ำมนั
กระดาษปะลงบนภาพท่คี รกู าหนดให ๔. แผนรองปน
๓. แนะนำเด็กเกย่ี วกับการรักษาความสะอาด การเกบ็
เศษกระดาษไมใหฟุงกระจาย ทำความ สะอาดบริเวณ
เม่ือทำกจิ กรรมเสรจ็
๔. ปน ดนิ นำ้ มนั อยางอิสระ
๕. เด็กทำท้งั ๒ กิจกรรมและนำเสนอผลงาน
จดุ ประสงคก ารเรยี นรู สาระการเรยี นรู กิจกรรมการเรยี นรู สือ่ การประเมินพฒั นาการ
กิจกรรมเลน ตามมุม - มุมประสบการณใ น สงั เกต
เก็บของเลน ของใช ประสบการณส ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู ๑. เดก็ เลือกกิจกรรมเสรใี นมมุ ประสบการณตาม หอ งเรยี น การเกบ็ ของเลน ของใชเ ขา
เขาทอ่ี ยา งเรยี บรอย (๓) การใหค วาม ความสนใจมมุ ประสบการณค วรมีอยางนอ ย ๔ มมุ ที่อยางเรียบรอยดวย
ไดดว ยตนเอง รว มมือในการปฏบิ ตั ิ -มุมธรรมชาตศิ ึกษา - มุมหนงั สอื ตนเอง
กิจกรรมตา ง
-มุมบล็อก - มมุ เกมการศกึ ษา
-บทบาทสมมติ - มุมวิทยาศาสตร
๒. เมื่อหมดเวลาเดก็ เก็บของเขาทใ่ี หเรยี บรอ ย
กิจกรรมกลางแจง (๒) การเลนรายบคุ คล ๑. ครแู นะนำขอ ตกลงในการเลนเครื่องเลนสนาม เครอื่ งเลนสนาม สงั เกต
เลนอยา งปลอดภัย กลมุ ยอย กลมุ ใหญ พรอมทง้ั แนะนำวิธกี ารเลนอยางปลอดภัย การเลน และทำกิจกรรม
เมอ่ื มผี ชู แี้ นะได (๕)การเลน เครอื่ งเลน ๒. เด็กเลน เครอื่ งเลนสนามโดยครดู แู ลอยาง ใกลชิด อยางปลอดภัยเม่อื มี
สนามอยางอิสระ ๓. เมอ่ื ครใู หส ญั ญาณหมดเวลาเดก็ เขาแถวและทำ ผูชี้แนะ
ความสะอาดรา งกาย
เกมการศึกษา (๑๓) การเรียงลำดับ เกมเรยี งลำดับภาพ การ ๑. นำเกมเรียงลำดับภาพการเปาลกู โปง มาใหเ ด็ก ๑. เกมเรียงลำดับภาพ สงั เกต
นำภาพมา เรยี งลำดบั ภาพเหตกุ ารณ เปา ลกู โปง สงั เกตและสนทนาเก่ียวกับภาพในเกม แนะนำและ การเปา ลูกโปง การเรียงลำดบั ภาพ เหตุ
ตาม เหตกุ ารณไ ด สาธิตเกม ๒. เกมชุดเดมิ ใน มมุ เกม การณ
๒. ครแู ละเดก็ รว มกันสรา งขอตกลงเกย่ี วกับ ขน้ั ตอน
และวิธกี ารเลนเกมการศึกษาโดยแบง กลมุ เดก็ กลมุ การศึกษา
ละ ๔ - ๕ คน แตล ะกลมุ รวมกนั คิด วางแผนเลนเกม
รจู กั แบงปน รอคอย และชว ยกัน
๓. เดก็ เลนเกมชดุ ใหมแ ละเกมทเ่ี คยเลน มาแลว
หมุนเวยี นกนั จนครบทกุ เกม
จดุ ประสงคก ารเรยี นรู สาระการเรยี นรู กิจกรรมการเรยี นรู ส่ือ การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู ๔. สนทนาสรปุ เก่ียวกบั เกมเรยี งลำดบั ภาพการ เปา
ลูกโปง
แผนการจดั ประสบการณรายวัน วนั ท่ี ๔ หนว ยท่ี ๓๑ หนว ยฤดูหนาว ชัน้ อนุบาลปท ี่ ๑
สาระการเรียนรู
จุดประสงคก ารเรยี นรู ประสบการณส ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู กจิ กรรมการเรยี นรู สอื่ การประเมินพฒั นาการ
เคล่อื นไหวและ จังหวะ สังเกต
สนใจมคี วามสขุ (๓) การเคลื่อนไหว การเคล่อื นไหว ๑. เด็กเคลอ่ื นไหวรางกายไปทว่ั บรเิ วณอยา งอสิ ระ ๑. เคร่ืองเคาะจังหวะ ความสนใจมคี วามสุขและ
และแสดงทาทาง/ ตามคำบรรยาย สรางสรรคต าม เม่อื ไดย ินสัญญาณหยุดใหหยุดเคลอ่ื นไหวในทานั้น ๒. คำบรรยายของครู แสดงออกผานการ
เคล่ือนไหว ประกอบคำ จนิ ตนาการ ทนั ที เก่ียวกบั ฤดูหนาว เคลื่อนไหว
บรรยาย ๒. เด็ก ๆ ยนื กระจายท่วั หอง แลวเคลอ่ื นไหว
รางกายตามคำบรรยายของครู
วันหนงึ่ ในฤดหู นาว เด็ก ๆ ตนื่ นอนมาในตอนเชา
คอย ๆ เอาตัวออกมาจากผาหม แตกต็ อ งกลับไป
อยูใตผาหมอีกเพราะรสู ึกอบอนุ กวา แตว นั น้ตี อ ง
ไปโรงเรยี น เด็กๆ ตองต่ืนนอนแลว คะ ลุกขน้ึ จาก
ทีน่ อนรบี ไป อาบน า แตงตัว อยา ลมื สวมเสอ้ื กนั
หนาวใหรางกายอบอุน รบั ประทานอาหารแลว
เดินทางมาโรงเรียนคะ
๓. ทำกิจกรรมในขอ ๒ ซ้ำ
๔. พกั คลายกลามเน้อื เพอื่ ทำกจิ กรรมตอไป
จดุ ประสงคการเรียนรู สาระการเรียนรู กจิ กรรมการเรียนรู สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู สังเกต
๑. การฟงผูอืน่ พดู จนจบ
กิจกรรมเสริม (๑) การปฏิบตั ิตนให ๑. สภาพอากาศในฤดู ๑. ครูนำกลองสมั ผสั มาใหเดก็ ดูขออาสาสมคั ร ออกมา ๑. กลอ งสัมผสั และสนทนาโตต อบอยาง
ประสบการณ ปลอดภยั หนาวอาจจะทำใหเรา สัมผสั สิ่งของในกลองทลี ะชิน้ บอกลักษณะ แลวใหเ พอื่ ๒. เครอื่ งแตงกายใน ตอ เนอ่ื งเชือ่ มโยงกับเรอ่ื ง
๑. ฟงผอู ื่นพูดจน จบและ เปน หวดั ได ทาย ฤดหู นาว ที่ ฟง ได
สนทนา โตตอบอยา ง ๒. การรกั ษาสขุ ภาพ ๒. เด็กและครรู ว มกนั บอกชื่อเคร่อื งแตงกายใน ฤดู ๓. นทิ านเรื่อง เดก็ ๒. การบอก ลกั ษณะ
ตอเนอ่ื งเช่อื มโยง กับเรอื่ ง ของตนเองในฤดูหนาว หนาวทอ่ี าสาสมคั รนำออกมาจากลอ งสัมผสั ชายออ ด สว นประกอบ การ
ท่ีฟงได ๓.สนทนากับเดก็ ๆ วา เครื่องแตง กายแตละช้ินใช เปลยี่ นแปลง และ
๒. บอกวธิ กี าร ปฏิบตั ิตน ประโยชนอ ยา งไร
ใน ฤดูหนาว ๔. อภปิ รายรวมกันถงึ ผลของการไมสวมเสอ้ื กนั หนาว สังเกต
ในฤดหู นาว การทำงานศิลปะ
๕. ครูเลา เรอ่ื ง “เดก็ ชายออด”ใหเ ด็กฟง เพ่อื สรุป
กจิ กรรม สรางสรรค (๓) การปน ความรูเก่ียวกับการดแู ลรักษาสขุ ภาพในฤดหู นาว
สนใจมคี วามสขุ (๕) การพบั กระดาษเปน ๑. แบง กลมุ เดก็ สรา งขอตกลงในการทำกิจกรรม
และแสดงออกผา น รูปเสือ้ รวมกนั
๒. ครูแนะนำอปุ กรณแ ละสาธติ ขน้ั ตอนในการ
งานศิลปะ ปฏบิ ัติกจิ กรรมการพับกระดาษเปน รูปเส้ือ และ
ระบายสตี กแตงใหสวยงาม
๓. ปน ดนิ น้ำมนั อยา งอสิ ระ
๔. เดก็ ทำกิจกรรมศลิ ปะสรางสรรคทัง้ ๒ กจิ กรรม
๔. สนทนาเกีย่ วกับผลงานและจัดแสดง
จดุ ประสงคการเรยี นรู สาระการเรียนรู กิจกรรมการเรยี นรู ส่อื การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู
กิจกรรมเสรี (๓) การใหความรว มมือ ๑. เด็กเลอื กกจิ กรรมเสรใี นมมุ ประสบการณต าม มุมประสบการณใน สงั เกต
เกบ็ ของเลน ของใช ในการปฏิบัตกิ จิ กรรม ความสนใจมมุ ประสบการณควรมีอยางนอ ย ๔ มมุ หองเรียน การเก็บของเลน ของใชเขา
เขาท่ีอยาง ตางๆ -มมุ วิทยาศาสตร - มมุ หนงั สอื ท่ีอยา งเรียบรอ ยดวย
เรยี บรอยไดดวย ตนเอง ตนเอง
-มุมบล็อก - มุมเกมการศกึ ษา
๒. เม่อื หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเขา ที่ใหเรยี บรอ ย
กิจกรรมกลางแจง (๓) การเลน นอก ๑. นำเด็กไปทส่ี นาม สรางขอตกลงเกี่ยวกบั การปฏบิ ตั ิ - สนาม สงั เกต
๑. เลนทำกิจกรรมและ หอ งเรยี น ตนรวมกัน การเลน ทำกิจกรรมและ
ปฏิบตั ติ อ ผูอ ่นื อยาง ๒. เด็กยืนเปน วงกลม ขออาสาสมคั รเดก็ ออกมานำ ปฏิบตั ติ อ ผูอ ่ืนอยาง
ปลอดภัยได เพื่อนทำทาทางกายบรหิ าร ครแู นะนำและกระตนุ เด็ก ปลอดภัย
๒. ทำทา ทางกาย บริหาร ๓.สนทนาสรุปกับเดก็ เกย่ี วกับการบริหารรางกายจะ
ทำใหรางกายแขง็ แรงและอบอุนข้ึนไดใ นฤดูหนาว
๔. ทำความสะอาดรา งกายกลบั ช้นั เรียน
กจิ กรรมเกม การศึกษา (๑๓) การเรยี งลำดบั สิ่ง เกมเรยี งลำดับภาพ ๑. นำเกมเรียงลำดับภาพเคร่ืองแตง กายในฤดูหนาว ๑. เกมเรยี งลำดบั
นำภาพมา ตาง ๆ ตามลกั ษณะ เคร่อื งแตง กายในฤดู ตามขนาด มาใหเดก็ สงั เกตและสนทนาเกย่ี วกับภาพ ภาพเครอ่ื งแตงกาย ใน
เรียงลำดับตาม เหตผุ ลได หนาวตามขนาด ในเกม แนะนำและสาธติ เกม ฤดหู นาวตาม ขนาด
๒. ครูและเดก็ รวมกันสรางขอ ตกลงเกีย่ วกับข้นั ตอน ๒. เกมชดุ เดิมในมมุ
และวธิ กี ารเลน เกมการศกึ ษาโดยแบง กลมุ เด็กกลมุ ละ เกมการศกึ ษา
๔ - ๕ คน และชวยกันเก็บเกมเมื่อเลน เสรจ็
๓. เดก็ เลนเกมชุดใหมและเกมทเี่ คยเลนมาแลว
หมุนเวียนกนั จนครบทกุ เกม
จดุ ประสงคการเรียนรู สาระการเรยี นรู กิจกรรมการเรียนรู ส่อื การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู ๔. รวมกนั สนทนาสรุปเก่ียวกับเกมเรยี งลำดบั ภาพ
เครอื่ งแตงกายในฤดหู นาวตามขนาด
แผนการจัดประสบการณรายวัน วนั ท่ี ๕ หนว ยท่ี ๓๑ หนว ยฤดูหนาว ชัน้ อนบุ าลปท่ี ๑
สาระการเรียนรู
จดุ ประสงคก ารเรียนรู ประสบการณส ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู กิจกรรมการเรยี นรู ส่อื การประเมนิ พฒั นาการ
สังเกต
เคลือ่ นไหวและ (๓) การเคลือ่ นไหว ๑. เด็กเคล่อื นไหวรางกายไปทวั่ บริเวณอยางอสิ ระ ๑.ดนตรีบรรเลง ความสนใจมคี วามสุขและ
จงั หวะ พรอมวสั ดอุ ปุ กรณ เมอื่ ไดยนิ สัญญาณหยดุ ใหห ยุดเคล่ือนไหวในทา ๒.รบิ บ้ิน แสดงออกผานการ
สนใจมคี วามสขุ (๑) การปฏิบตั ิตาม นั้นทนั ที นกหวดี เคล่ือนไหว
และแสดงทาทาง/ ขอ ตกลง ๒. เด็ก ๆ ยนื กระจายทั่วหอง แจกรบิ บน้ิ ใหเดก็
เคลอื่ นไหว ประกอบ สงั เกต
คำ บรรยาย เคลอ่ื นไหวเคลอื่ นท่พี รอ มอปุ กรณ เปด เสียงดนตรี ๑. การฟงผอู ืน่ พูดจนจบ
เรว็ -ชา ประกอบการเคลอ่ื นไหว และสนทนาโตต อบอยา ง
๓. ทำกจิ กรรมขอ ๒ ซ้ำ ตอ เนอ่ื งเช่อื มโยงกับเร่ือง
๔. พักคลายกลามเน้ือ เตรยี มทำกิจกรรมตอ ไป ทฟี่ งได
กจิ กรรมเสริม (๒) การฟงและ ความแตกตา งของฤดู ๑. ครแู ละเดก็ รวมกนั ทอ งคำคลองจอง ฤดหู นาว ๑. คำคลอ งจอง ฤดู
ประสบการณ ปฏิบัติ ตาม หนาวในแตละภมู ิภาค ๒. สนทนา ตอบขอซกั ถามและแสดงความคดิ เห็น หนาว
๑. สนทนา ซักถาม คำแนะนำ ของประเทศไทย รว มกันเกีย่ วกบั คำคลอ งจอง ๒. ภาพฤดหู นาวแต ละ
และรวมแสดง (๓) การใหค วาม ๓. นำภาพฤดูหนาวแตละภมู ิภาคของไทยมา ภมู ภิ าคของไทย
ความคิดเห็นได รว มมือ ในการปฏบิ ัติ ประกอบการสนทนาเพ่อื ใหเด็กเขา ใจถงึ ความ
๒.บอกความ กจิ กรรม ตาง แตกตา ง ของระดบั ความหนาวเย็นของแตล ะ
แตกตา งของฤดู ภูมิภาคของไทย และ แตล ะประเทศในโลก
หนาวแตละพนื้ ที่ ได ๔. สรุปรว มกันถึงสภาพอากาศหนาวในประเทศ
ไทยทีไ่ ม รุนแรง และภาคเหนือจะมอี ากาศหนาว
เย็นทสี่ ดุ
จุดประสงคการเรียนรู สาระการเรียนรู กิจกรรมการเรยี นรู สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู สังเกต
การทำงานศลิ ปะ
กิจกรรมศลิ ปะ (๑) การปน ๑. แบงกลุมเดก็ สรางขอ ตกลงในการทำกิจกรรม ๑. สนี าสแี ดง เหลือง
สรางสรรค (๒) การทำกจิ กรรม ศลิ ปะ ๒. ครูแนะนำอปุ กรณแ ละสาธติ ข้ันตอนปฏิบัติ สม สงั เกต
สนใจมคี วามสขุ การพับสี กิจกรรมพบั สี ๒.กระดาษ การเก็บของเลน ของ
และแสดงออกผาน ใชเ ขาทอ่ี ยา ง
งานศลิ ปะ ๓. เด็ก ๆ เลือกสีท่ีจะนำมาพับสีอยา งอิสระ และ เรยี บรอ ยดวยตนเอง
เลา ถงึ ผลงานของตนเอง
๔. เดก็ ทำกิจกรรมศลิ ปะสรางสรรคทงั้ ๒ สังเกต
กจิ กรรม การเลนตามกตกิ าของ
๕. สนทนาเกยี่ วกับผลงานเกบ็ อุปกรณ เกม
กิจกรรมเลน ตามมุม (๓) การใหค วาม ๑.เดก็ เลือกกิจกรรมเสรใี นมมุ ประสบการณตาม - มมุ ประสบการณใน
๑. เลน และทำ รวมมือในการปฏิบตั ิ ความ สนใจมมุ ประสบการณควรมีอยางนอย หองเรยี น
กิจกรรมรวมกบั ผูอน่ื กิจกรรมตาง ๆ ๔ มุม เชน
ได -มุมหนงั สอื - มมุ เครือ่ งเลนสัมผัส
๒. เกบ็ ของเลนของ
ใชเขา ที่อยาง -มมุ บลอ็ ก - มมุ เกมการศึกษา
เรยี บรอ ยดวยตนเอง
ได -บทบาทสมมติ
๒. เม่ือหมดเวลาเด็กเกบ็ ของเขาท่ีใหเ รียบรอ ย
๓. ครูชมเชยเด็กทเี่ กบ็ ของเขาท่ีไดเ รียบรอ ย
(๑) การเลน เกมท่ีมีกติกา เกมคุณครูบอก....
กจิ กรรมกลางแจง งา ย ๆ ๑. นำเดก็ ไปสนามสรางขอ ตกลงเกยี่ วกับการ ๑. นกหวดี
เลนตามกติกาได ปฏบิ ัติ ตน ๒. เกมคณุ ครบู อก..
เหมาะสมตามวยั ๒. เดก็ ทำทาบริหารรา งกายโดยเด็กยืนเปน วงกลม
จุดประสงคก ารเรียนรู สาระการเรยี นรู กจิ กรรมการเรียนรู ส่ือ การประเมนิ พฒั นาการ
ประสบการณส ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู สังเกต
จับคูแ ละเปรียบเทยี บ
๓. ครอู ธบิ ายกตกิ า เกมคณุ ครบู อก.... โดย เดก็ ฟง ความแตกตา งและความ
คำส่งั ปฏิบัตจิ ากครู ถาคำสั่งนน้ั มีคำวา คณุ ครูบอก... เหมือนของสงิ่ ตางๆได
นำหนา ใหเดก็ ทำตาม แตถ ามไมม ี เด็กไมต อ งปฏิบตั ิ
ตาม
๔. เดก็ เลน เกมรวมกนั โดยครแู นะนำ และชมเชยเมื่อ
เด็กทำไดถ กู ตอง
กจิ กรรมเกม (๑๓) การจบั คู เกมจบั คภู าพเหมอื น ๑. นำเกมจบั คภู าพเหมือนหมวกแบบตา ง ๆ มาให เด็ก ๑. เกมจับคู
การศึกษา การเปรียบเทยี บ หมวกแบบตา ง ๆ สงั เกตและสนทนาเกี่ยวกับภาพในเกม แนะนำ และ ภาพเหมือน หมวก
เลอื กภาพที่ ความเหมือน สาธติ เกม แบบตา ง ๆ
เหมือนกนั มาจบั เขา ความตา ง ๒. ครแู ละเดก็ รว มกันสรา งขอตกลงเก่ยี วกับ ขน้ั ตอน ๒. เกมชุดเดมิ ในมมุ
คูกันได
และวธิ กี ารเลนเกมการศึกษาโดยแบงกลมุ เดก็ กลุม ละ เกม การศึกษา
๔ - ๕ คน และชว ยกนั เก็บเกมเม่ือ เลน เสร็จ
๓. เด็กเลน เกมชดุ ใหมแ ละเกมทีเ่ คยเลน มาแลว
หมนุ เวียนกันจนครบทุกเกม
๔. รวมกนั สนทนาสรปุ เกยี่ วกับเกมจบั คู ภาพเหมือน
หมวกแบบตา ง ๆ
๑ ด.ญ.ธดิ ารตั น โคกโต เลขที่ ชื่อ-สกลุ
๒ ด.ญ.ปวีณธ ิดา หนใู หญ
๓ ด.ญ.ไอรดา จันทรงั ษ ๑. การเลนและทำกิจกรรมอยา งปลอดภัย ดานรา งกาย ดานอารมณ ดา นสังคมประเมนิ พัฒนาการแบบสังเกตพฤติกรรมเดก็ หนว ยการจัดประสบการณที่ ๓๑ ฤดูหนาว ชนั้ อนุบาลปท ี่ ๑
คำอธบิ าย ครูสังเกตพฤติกรรมเดก็ รายบุคคล จดบันทึกสรุปเปนรายสปั ดาหร ะบรุ ะดบั คณุ ภาพเปน เม่อื มมี ีผู ชแี้ นะได
๒. การเคล่อื นไหวรางกายตามค าบรรยาย
๓ ระดับ คอื ระดบั ๓ ดี ระดับ ๒ ปานกลาง ระดบั ๑ ตอ งสง เสริม
๓. การปะติดภาพดว ยเศษวัสดุ
ดา นสตปิ ญ ญา
๔. แสดงทา ทาง / เคล่ือนไหวประกอบเพลง
จงั หวะ และดนตรีได
๕. สรางสรรคง านศิลปะไดอ ยา งมคี วามสุข
๖. การปฏิบตั ิตามสัญญาณและขอ ตกลง
๗. เกบ็ ของเขาที่เมื่อเลนและทำกจิ กรรม
เสร็จ
๘. การฟงและสนทนาโตต อบอยา งตอ เนื่อง
เช่ือมโยง กบั เร่ืองทฟ่ี ง
๙. การเปรียบเทยี บและจับคคู วามเหมอื น
และความ ตาง
๑๐. การเรียงลำดบั ภาพเหตุการณ
๑๑. การตอภาพชิ้นสวนยอ ยเปนภาพท่ี
สมบูรณ
๑๒. การใชประสาทสมั ผสั สังเกตสัญญาณ
อนั ตราย
๑๓. การแสดงความคดิ เห็นอยา งมเี หตผุ ล
๑๔. การคดั แยกส่ิงตา ง ๆตามลักษณะได
หมายเหตุ
บนั ทกึ หลงั การสอน
หนวย ฤดูหนาว
วนั ที่……………เดอื น………………………………..พ.ศ.………………..
1. ผลการสอน
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2.ปญ หา/อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3.ขอ เสนอแนะและแนวทางแกไ ข
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ...................................................................................ผสู อน
( นางสาวณัฏฐศ ศิ ไกรวิลาส )
ตำแหนง ครูผูช ว ย
ความเหน็ และขอเสนอแนะของผบู รหิ าร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ .......................................................................................ผูบ ริหาร
( นายยศศกั ด์ิ กอ แกว )
ตำแหนง ครู โรงเรยี นวดั หนองหอย รักษาการในตำแหนง
ผูอำนวยการ โรงเรียนวดั หนองหอย
หน่วยการจัดประสบการณท์ ี่ ๓๒ แรงและพลังงานในชวี ติ ประจำวนั ช้ันอนบุ าลปท� ่ี ๑
แนวคิด
การออกแรงกระทำตอ่ ส่งิ ของดว้ ยวิธตี ่าง ๆ เชน่ ผลกั ดึง บีบ ทุบ ตี เป่า เขย่า ดดี สง่ิ ของจะมกี ารเปล่ียนแปลงรูปรา่ ง การเคล่ือนทีแ่ ละการเกดิ เสียงแบบต่าง ๆ แสง และไฟฟ้า
ได้จากแหล่งพลังงาน เชน่ ดวงอาทติ ย์ ลม น้ำ เชื้อเพลงิ
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้
มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ ประสบการสำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้
มาตรฐานที่ ๒ ๒.๑ เคลื่อนไหวร่างกาย ๒.๑.๔ รบั ลกู บอลโดย ๑. รบั ลูกบอล โดยใช้ ๑.๑.๑ การใชก้ ลา้ มเนอ้ื ใหญ่ - การออกแรงกระทำต่อส่ิงของ
กลา้ มเน้ือใหญแ่ ละ อย่างคล่องแคลว่ ใช้มอื และลำตัวช่วย มอื และ ลำตวั ช่วย
กลา้ มเนื อเล็กแขง็ แรง ประสานสมั พนั ธแ์ ละทรง ๒.๒.๑ ใช้กรรไกรตดั (๑) การเคลอ่ื นไหวอยูก่ บั ที่ ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น ตี เป่า เขย่า ดีด
ใช้ได้คล่องแคลว่ และ ตวั ได้ กระดาษขาดจากกนั ๒. ใช้กรรไกรตดั
ประสานสมั พนั ธก์ นั ๒.๒ ใชม้ ือ-ตาประสาน ได้โดย ใช้มอื เดียว กระดาษ (๒) การเคล่อื นไหวเคลื่อนท่ี ส่ิงข องจะมี ก ารเป ล่ี ยน แป ล ง
สัมพันธ์กนั
มาตรฐานท่ี ๓ (๔) การเคลอ่ื นไหวท่ใี ช้การ รูปร่าง การเคลื่อนที่และ การเกิด
มสี ขุ ภาพจิตดีและมี ๓.๒ มีความรสู้ กึ ทีด่ ตี ่อ
ความสุข ตนเองและผู้อน่ื ประสาน สมั พนั ธข์ องการใช้ เสียงแบบตา่ ง ๆ
กล้ามเน้ือใหญใ่ น การขวา้ ง การจบั - แสง และไฟฟ้าได้จาก แหล่ง
๓.๒.๒ แสดงความ ๓. แสดงความพอใจ การโยน การเตะ พลังงาน เช่น ดวงอาทิตย์ ลม
พอใจใน ผลงานของ ในผลงาน ของตนเอง
ตนเอง ๑.๑.๒ การใชก้ ลา้ มเนอ้ื เล็ก นำ้ มนั เช้ือเพลิง
(๕) การหยิบจบั การจบั ใช้กรรไกร
การฉีก การปะ และการร้อยวสั ดุ
๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์
(๑) การพูดสะท้อนความรูส้ กึ ของ
ตนเองและผ้อู ่นื
๑.๒.๕ การมอี ตั ลกั ษณ์เฉพาะตน
และ เช่ือว่าตนเองมีความสามารถ
(๑) การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่าง ๆ ตาม
ความสามารถของตนเอง
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย สภาพทพี่ งึ ประสงค์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ ประสบการสำคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้
มาตรฐานที่ ๕ ๕.๔ มคี วามรบั ผิดชอบ ๕.๔.๑ ทางานท่ไี ดร้ บั ๔. ทางานทีไ่ ด้รับ ๑.๓.๔ การมปี ฏสิ ัมพนั ธ์ มีวินยั มี
มี คุณธรรม จรยิ ธรรม มอบหมายจนสำเร็จ มอบหมาย จนสำเร็จ สว่ นรว่ มและบทบาทสมาชกิ ของ
เมื่อมี ผู้ชว่ ยเหลือ เมอื่ มีผู้ชว่ ยเหลือ สังคม
และ มจี ิตใจทด่ี งี าม (๒) การปฏิบัติตนเป�นสมาชิกที่ดี
ของ ห้องเรียน
๕. เข้าแถวตามลำดับ (๓) การใหค้ วามร่วมมอื ในการ
ปฏบิ ัติ กจิ กรรม
มาตรฐานที่ ๖ ๖.๒ มวี ินัยในตนเอง ๖.๒.๒ เขา้ แถว กอ่ นหลงั ได้ เม่อื มีผู้ ๑.๓.๕ การเลน่ และทำงานแบบ
ตามลำดับ ก่อนหลังได้ ช้แี นะ รว่ มมือ ร่วมใจ
มีทักษะชีวิตและปฏิบัติ
ตน ตามหลักปรัชญา เม่อื มผี ูช้ ีแ้ นะ ๖. เลน่ ร่วมกับเพือ่ น
ของ เศรษฐกจิ พอเพียง
มาตรฐานที่ ๘ ๘.๒ มปี ฏิสัมพนั ธ์ท่ดี ีกับ ๘.๒.๑ เลน่ ร่วมกบั ได้ (๒) การเลน่ และทำงานร่วมกับผอู้ ่ืน
อยรู่ ว่ มกบั ผู้อืน่ ไดอ้ ยา่ ง ผ้อู ่นื เพื่อน ๑.๑.๕ การตระหนกั รู้เก่ยี วกบั
มี ความสขุ และปฎบิ ตั ิ ร่างกายตนเอง
ตน เป�นสมาชิกท่ีดขี อง (๑) การเคล่ือนไหว โดยควบคุม
สังคม ในระบอบ ตนเองไปในทิศทางระดบั และพื้นท่ี
ประชาธปิ ไตย อันมี ๑.๓.๔ การมปี ฏสิ มั พนั ธ์ มีวินัย มี
พระมหากษตั รยิ ์ทรง ส่วนรว่ มและบทบาทสมาชกิ ของ
เปน� ประมขุ สังคม
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย สภาพทพ่ี ึงประสงค์ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้
มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี ประสบการสำคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้
มาตรฐานที่ ๑๐ ๑๐.๑ มคี วามสามารถใน ๑๐.๑.๒ จับคหู่ รอื ๗. เกมจับคู่ (๒) การปฏิบตั ิตนเปน� สมาชิกที่ดี
มคี วามสามารถในการ การคดิ รวบยอด เปรยี บเทียบส่ิงต่างๆ เปรยี บเทยี บ จำนวน ของ ห้องเรียน
คิด ทีเ่ ปน� พ้ืนฐานในการ โดยใช้ลกั ษณะหรือ (๓) การให้ความร่วมมือในการ
เรียนรู้ หนำทกี่ ารใชง้ านเพยี ง ๘. คดั แยกกลมุ่ จำนวน ปฏิบัติ กิจกรรมตา่ ง ๆ
ลักษณะเดยี ว ๒ กลมุ่ ท่เี หมอื นกนั ไม่ ๑.๓.๕ การเลน่ และทำงานแบบ
๑๐.๑.๓ คดั แยกสิง่ เกนิ ๕ รว่ มมือ ร่วมใจ
ต่างๆตามลกั ษณะหรือ (๒) การเลน่ และการทำงานรว่ มกบั
หนาที่การใชง้ าน ผอู้ ่นื
๑.๔.๒ การคดิ รวบยอดการคิดเชงิ
เหตุผล การตดั สินใจและแกป้ ญ� หา
(๑๓) การจบั คู่ การเปรยี บเทียบ
และ เรยี งลำดบั ส่ิงตา่ ง ๆ ตาม
ลักษณะ ความยาว ความสงู
น้ำหนกั ปรมิ าตร
(๕) การคัดแยก การจัดกลมุ่ และ
การจ ำแนกสงิ่ ต่าง ๆ ตามลกั ษณะ
และรปู รา่ ง รปู ทรง
(๘) การนับและแสดงจำนวน ของ
ส่ิง ต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวนั
(๙) การเปรยี บเทยี บและเรยี งลำดับ
จำนวนของสิ่งต่าง ๆ
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์ (๙) สร้างผลงานศิลปะ ประสบการสำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้
มาตรฐานที่ ๑๑ เพือ่ สอื่ สารความคิด
มีจนิ ตนาการและ ๑๑.๑ ทางานศิลปะ ๑๑.๑.๑ สร้างผลงาน ความรสู้ ึก ของตนเอง ๑.๔.๓ จินตนำการและความคดิ
ความคดิ สรา้ งสรรค์ ตาม จินตนาการและ ศิลปะ เพื่อสื่อสาร ได้ สรา้ งสรรค์
ความคดิ สร้างสรรค์ ความคิด ความรู้สึก (๒) การแสดงความคดิ สรา้ งสรรค์
มาตรฐานท่ี ๑๒ (๑๐) เคลอ่ื นไหว ผา่ นภาษาทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหว
มีเจตคติทด่ี ี ตอ่ การ ของตนเอง ทา่ ทางเพอ่ื ส่อื สาร และศิลปะ
เรยี นรแู้ ละ มี ๑๑.๑.๒ แสดงทา่ ทาง ความคิด ความรสู้ ึก ๑.๑.๑ การใชก้ ล้ามเนือ้ ใหญ่
ความสามารถ ในการ เคลอ่ื นไหว ตาม ของตนเองได้ (๓) การเคลือ่ นไหว พร้อมวสั ดุ
แสวงหาความรู้ ได้ จนิ ตนาการ อย่าง อุปกรณ์
เหมาะสมกับวยั สร้างสรรค์ (๑๑) คน้ หาคำตอบ (๔) การเคลอื่ นไหว ทใ่ี ชก้ ารประ
ของ ข้อสงสยั ตา่ ง ๆ สำนสมั พันธ์ ของการใช้กล้ามเนื้อ
๑๒.๒ มคี วามสามารถใน ๑๒.๒.๑ คน้ หา ตามวิธีการมผี ชู้ แี้ นะ ใหญ่ ในการขวา้ ง การจับ การโยน
การแสวงหาความรู้ คำตอบ ขอ้ สงสัยต่าง การเตะ
(๕) การเล่นเคร่ืองเล่นสนาม
ๆ ตามวธิ ีการที่มีผู้ อย่างอิสระ
ชแี้ นะ ๑.๑.๒ การใชก้ ล้ามเนอ้ื เล็ก
(๒) การเขยี นภาพและ การเล่น
กบั สี
(๓) การปน�
(๔) การประดษิ ฐส์ งิ่ ตา่ ง ๆ ดว้ ย
เศษ วสั ดุ
มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
ตัวบง่ ช้ี
มาตรฐาน สภาพทพ่ี ึงประสงค์ ประสบการสำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
(๕) การหยิบ จับ การใช้กรรไกร
การฉกี การตัด การปะและ การ
รอ้ ยวสั ดุ
๑.๔.๔ เจตคตทิ ีด่ ตี ่อการเรียนรแู้ ละ
การแสวงหาความรู้
(๑) การสำรวจสิง่ ต่าง ๆ และแหล่ง
เรียนรู้รอบตวั
(๓) การสืบเสาะหาความรู้ เพื่อ
ค้นหาคำตอบของขอ้ สงสัย ต่าง ๆ
(๔) การมสี ่วนร่วมในการรวบรวม
ขอ้ มลู และนำเสนอข้อมูลจากการ
สบื เสาะหาความรูใ้ นรปู แบบ ตา่ ง
ๆ และแผนภูมอิ ยา่ งง่าย
การวางแผนกจิ กรรมรายหน่วยการจดั ประสบการณช์ ั้นอนบุ าลป�ท่ี ๑ หนว่ ยแรงและพลงั งานในชวี ติ ประจำวนั
วนั ที่ เคล่อื นไหวและจงั หวะ เสริมประสบการณ์ กจิ กรรม
ศลิ ปะสรา้ งสรรค์ การเลน่ ตามมุม การเลน่ กลางแจง้ เกมการศกึ ษา
เลน่ เครอ่ื งเล่นสนาม
เคลื่อนไหวแสดงท่าทาง สารวจแรงผลกั แรงดนั ป�นดนิ นำ้ มัน เลน่ ตามมมุ จบั ค่จู านวน ๒ กลุ่ม
ประสบการณ์ ๔ มุม จานวนไม่เกนิ ๕
๑ ปฏิบตั ิตามคำสง่ั ท่ีใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
(ดนั – ดึง)
เคล่ือนไหว แสดงท่าทาง ทดลองการ สีน้ำ (เปา่ สี) เลน่ ตามมุม เลน่ น้ำ เลน่ ทราย เกมพน้ื ฐานการบวก
ประกอบอุปกรณ์ เป่า ประสบการณ์ ๔ มุม จำนวนไมเ่ กนิ ๕
๒ (เขย่าขวด)
เคลอ่ื นไหวแสดงท่าทาง สำรวจท่ีมาของ วาดภาพอิสระ เล่นตามมุม เกมรับลกู บอล โดยมือ เกมพนื้ ฐานการเล่น
ประสบการณ์ ๔ มุม
๓ ตามคำบรรยาย แสง พลงั งาน และลำตวั ชว่ ย จำนวนไม่เกนิ ๕
เคลื่อนไหวแสดงทา่ ทาง สารวจพลงั งาน ประดษิ ฐ์กงจักรแรงหมนุ เล่นตามมุม การละเล่นพื้นบา้ น เกมการสงั เกต
๔ การเป�นผู้นำ- ผ้ตู าม อาหาร ประสบการณ์ ๔ มุม ชกั กะเย่อ เคร่ืองใช้ไฟฟา้
จากมุมมองทต่ี า่ งกัน
เคลอ่ื นไหว พลงั งานลม ประดิษฐก์ ังหัน เลน่ ตามมมุ การว่งิ
ประสบการณ์ ๔ มมุ ประกอบกงั หันลม เกมโดมิโน
๕ ประกอบเพลง ภาพเครื่องใชไ้ ฟฟา้
ลมพดั
แผนการจดั ประสบการณร์ ายวัน วนั ท่ี ๑ หนว่ ยท่ี ๓๒ แรงและพลังงานในชวี ติ ประจำวัน ชนั้ อนบุ าลปท� ่ี ๑
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้
กิจกรรมเคลือ่ นไหว
และจังหวะ (๒) การแสดงความคดิ ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง (๑) กิจกรรมเคล่อื นไหวพื้นฐานให้เดก็ เคลอ่ื นไหว ร่างกาย เครื่องเคาะจงั หวะ สังเกต
เคลื่อนไหวทา่ ทาง สอ่ื สาร สร้างสรรค์ผ่านทา่ ทาง การ (ดนั – ดงึ ) ไปทั่วบรเิ วณอยา่ งอิสระตามจังหวะ เมื่อไดย้ ินสญั ญาณ การเคลื่อนไหวทา่ ทาง
ความคดิ ความรู้สึก เคลือ่ นไหว เพือ่ สือ่ สารความคดิ
ของตนเองได้ หยดุ ให้หยุดเคล่ือนไหว ในทา่ น้ันทนั ที ความรูส้ ึกของตนเอง
กิจกรรมเสรมิ (๒) ให้ปฏิบัติตามคำสงั่ - สาธิต สังเกต
ประสบการณ์ ๑. การคน้ หาคำตอบ ของ
๑. คน้ หาคำตอบ (๓) น่ัง - ยนื หันหนา้ เข้าหากันโดยเวน้ ระยะห่างกนั ข้อสงสัยตา่ ง ๆ ตาม
ของขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ ตาม วธิ ีการ
วธิ ีการ เลก็ น้อย เอนตัวไปขา้ งหน้ายกมือจบั บ่ำของเพือ่ นไว้ และ ๒. การเลา่ เรือ่ ง ดว้ ย
เมอื่ มผี ชู้ แี้ นะ ประโยคสั้น ๆ
บอกให้เพอื่ นทำอย่างเดียวและดันบ่ำของกัน และกนั ไว้
(ดนั )
(๔) น่ัง - ยนื ชดิ กันให้ปลำยเท้ำของทงั้ สองคน แตะกนั -
เขำ่ ตดิ กันพอดี จับขอ้ มือของกนั และกันไว้ ให้แน่นแลว้
คอ่ ย ๆ เอนตวั ออกหา่ งกนั (ดงึ )
(๕) ให้เด็ก ดนั -ดึง อกี ๒ คร้งั
(๖) ใหเ้ ด็กนัง่ ผ่อนคลายสบาย ๆ ตบมอื นับ ๑ - ๕
(๑) สำรวจสิ่งต่าง ๆ และ แรงดนั แรงดึง ในชีวติ (๑) จากการท่ีเด็กเล่น ดนั และดึง จากการ เคลอ่ื นไหว ครู ๑. รถของเล่น
แหลง่ เรยี นรู้รอบตัว ประจ ำวัน ถามเด็กถึงความร้สู กึ ของเด็กว่าเป�น อย่างไร และครเู ลา่ ให้ ๒. รถเขน็ ของ
(๒) การสบื เสาะหาความรู้ เดก็ ๆ ฟ�งว่าในชวี ติ ประจำวนั เราได้ทำอะไรบ้าง เช่น ๓. สูบยางรถ
รถเขน็ ของ หรอื ของเลน่ ท่ี เป�นรถของเล่น เด็กขึ้นไปนัง่ ๔. กระบอกฉดี ยา
เพอ่ื ค้นหาคำตอบ แล้ว เพือ่ นชว่ ยกันดัน ไปขา้ งหนา้ รถเข็นของรถของแม่ ๕. ป�นฉีดน้ำ
ครัวก็เช่นเดียวกัน สว่ นการดงึ โดยใช้เชอื กดึงน้ำในบอ่ ให้
(๔) การพดู แสดงความคิด
ความรสู้ ึกและ ความต้องการ ขึ้นมา ๖. สายยาง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ สังเกต
๒. เลา่ เร่ืองดว้ ย ประโยค การสรา้ งผลงานศลิ ปะ
ส้ัน ๆ ได้ บนปากบ่อแลว้ จะไดน้ ำนำ้ มาไว้ใช้ หรือการยา้ ย เพ่ือสื่อสารความคิด
ความร้สู กึ
ของใช้ผา้ รองของแลว้ ดงึ ผ้าใหเ้ คลอ่ื นท่ี ไปตาม
ต้องการ
(๒) ครูใหเ้ ดก็ ชว่ ยกันสำรวจในห้องเรียนวา่ มี อะไร
ที่ใชใ้ นชีวิตประจ ำวนั ในลกั ษณะนี้ และดวู า่ ใน
บริเวณโรงเรียนมีอะไรบา้ ง
(๓) เดก็ เล่าใหค้ รูและเพื่อน ๆ ฟ�งในส่งิ ที่คดิ และ
จากประสบการณ์ของตนเอง
กิจกรรมศิลปะ (๒) การแสดง ความคิด การบีบ ทุบ ตี (๑) ครูสำธติ การบบี ทุบ ตี โดยใช้แรงของตนเอง ๑. ดินน้ำมนั
สร้างสรรค์ สรา้ งผลงาน สรา้ งสรรค์ ผ่านภาษา
ศิลปะ ท่าทาง และให้เด็กสงั เกตวา่ เกดิ อะไรข้นึ ระหว่างการบบี ๒. ไม้
เพือ่ ส่อื สาร ความคิด และศิลปะ ทุบ ตี โดยการสมั ผสั ทดลอง ๓. แผ่นรองป�น
ความร้สู ึก (๓) การป�น (๒) ให้เดก็ ทำ บีบ ทบุ ตี เด็กจะเล่าความร้สู กึ ของ
ของตนเองได้ ตนเองแต่ละอยา่ งเป�นอยา่ งไร
(๓) เดก็ จะนำผลงานจาการบีบ ทุบ ตี มาสร้าง
ผลงานได้อยา่ งอสิ ระ
(๔) เดก็ นำผลงานมาเล่าว่าทำจากการบีบ ทบุ ตี
มาสรา้ งเปน� รูปอะไรและนำไปไวท้ ่ีแสดงผลงาน
(๕) เด็ก ๆ ช่วยกนั ทำความสะอาดแผน่ รองปน�
และเกบ็ ของเข้าทไ่ี ด้เรียบร้อย
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอื่ การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
กจิ กรรมเลน่ ตาม มุม (๒) การเลน่ และ
เล่นร่วมกับเพ่อื นได้ ทำงานร่วมกับผอู้ ื่น (๑) เด็กเลอื กเลน่ ในมมุ ประสบการณ์ตามความ ๑. มุมประสบการณ์ สงั เกต
สนใจ มมุ ประสบการณ์ควรมอี ยา่ งนอ้ ย ๔ มุม เช่น ในห้องเรยี น การเล่นรว่ มกับเพ่ือน
มมุ หนงั สือ มมุ บลอ็ ก มุมบ้าน และ มมุ ๒. เครื่องเคาะจังหวะ
วทิ ยาศาสตร์
(๒) ครนู ำหนงั สือ แรง แสง และพลังงานมาไว้ ใน
มมุ หนงั สือ และนำยางวงและอิสลำสติก กระดาษ
ต่าง ๆ และแมเ่ หล็กทท่ี ำใหว้ สั ดุเคลือ่ นท่ไี ด้
(๓) เมอื่ ไดย้ ินสัญญาณใหเ้ ดก็ เกบ็ ของเล่นเขา้ ท่ี
กจิ กรรมกลางแจง้ (๑) การเคล่อื นไหว (๑) ครูให้เดก็ เข้าแถวตามลำดับกอ่ นหลงั และ ๑. เครอื่ งเลน่ สนาม สงั เกต
๑. เข้าแถว ตามลำดับ โดยควบคมุ ตนเองใน ก้าวหนา้ ไปขา้ งหนา้ ๑ ก้าว และถอยข้างหลงั ๑ ๒. นกหวดี ๑. การเข้าแถวตามลำดับ
กอ่ น-หลัง ทศิ ทางระดับพื้นท่ี กา้ ว ทำอยา่ งนี้ ๓ คร้ัง
ได้ เมอ่ื มผี ู้ช้แี นะ (๒) การเล่นและ (๒) ครทู บทวนขอ้ ตกลงในการไปเลน่ เครื่องเลน่ ก่อน-หลงั
ทำงานร่วมกับผู้อืน่ สนาม
๒. เลน่ รว่ ม กบั เพือ่ นได้ (๓) ใหเ้ ด็กเลือกเลน่ เครอ่ื งเล่นสนามอย่างอิสระ ครู ๒. การเลน่ ร่วมกบั เพือ่ น
(๕) การเล่นเคร่ือง เล่น คอยดแู ลอยา่ งใกลช้ ิด
(๔) เมื่อใกลห้ มดเวลาครูใหส้ ญั ญาณหยดุ เลน่ เด็ก
สนามอยา่ งอสิ ระ ๆ ไปทำความสะอาดรา่ งกายเดนิ เข้าแถว
ตามลำดับก่อนหลงั เขา้ ห้องเรยี น
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล
ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้
เกมการศึกษา (๕) การคัดแยก การ เกมจบั คู่ภาพ (๑) ครูสาธิต การเล่น เกมจับคู่ภาพ จำนวน๒ กล่มุ ๑. เกมจับคู่ภาพ สังเกต
คดั แยกกลมุ่ ภาพ จดั กลุ่มและ การ จำนวน ๒ กลมุ่ จ ำนวนไมเ่ กิน ๕ จำนวน ๒ กลมุ่ การคัดแยกกลมุ่ ภาพ
จำนวน ๒ กลมุ่
จำนวน ๒ กลมุ่ จำแนกสิง่ ต่าง ๆ ตาม จำนวนไม่เกิน (๒) จัดเดก็ เขา้ กลุ่มเลน่ เกมหมนุ เวยี นเลน่ เกม ชุด จำนวนไม่เกนิ ๕
ทเ่ี หมือนกนั จำนวน ลักษณะรปู ร่างรปู ทรง ๕ ใหมแ่ ละเลน่ เกมชดุ ทเ่ี คยเล่นมาแล้ว ๒. เกมชดุ เดิมในมุม ทีเ่ หมือนกัน จำนวน
ไม่เกิน ๕ ได้ (๓) เมื่อได้ยินสญั ญาณเด็กช่วยกันเกบ็ เกมเข้า ที่ เกมการศึกษา ไมเ่ กิน ๕
ใหเ้ รียบรอ้ ย ๓. เครอ่ื งเคาะจงั หวะ
แผนการจัดประสบการณร์ ายวนั วนั ท่ี ๒ หนว่ ยท่ี ๓๒ แรงและพลังงานในชวี ิตประจำวนั ชน้ั อนุบาลปท� ่ี ๑
สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินผล
จุดประสงค์การเรียนรู้ ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
กจิ กรรมเคลื่อนไหว (๓) การเคลื่อนไหว (๑) กจิ กรรมเคลอื่ นไหวพนื้ ฐานใหเ้ ด็ก เคลือ่ นไหว สังเกต
และจังหวะ เคลือ่ นไหว พร้อมวสั ดุอุปกรณ์ รา่ งกายไปทวั่ บริเวณอย่างอิสระ ตามจังหวะ เม่อื การเคล่ือนไหว แสดง
(๔) การเคลื่อนไหว ไดย้ นิ สญั ญาณหยุดใหห้ ยุด เคลอื่ นไหวในทนี่ น้ั
แสดงท่าทาง ที่ใช้การประสาน ทนั ที ทา่ ทางประกอบ
สมั พนั ธ์ของการใช้ (๒) ครใู หเ้ ด็กหยบิ ขวดทใ่ี ส่นำ้ มาคนละขวด และ อุปกรณ์ เพ่อื ส่อื สาร
ประกอบอปุ กรณ์ กล้ามเนือ้ ใหญ่ ในการ ให้เด็กถือ ๒ มอื หาท่วี ่างสำหรบั ตนเอง ครูเคาะ ความคดิ ความรสู้ ึก
เพ่อื สือ่ สารความคิด จบั การโยน การเตะ จงั หวะใหเ้ ด็กเดินอยูก่ บั ที่พร้อม เขยำ่ ขวดไปด้วย ของตนเอง
ความรสู้ กึ และให้เดก็ เดินเคลือ่ นท่ี ไปตามจังหวะแสดง
ตนเองได้ ทา่ ทางอยา่ งอิสระ ในการเขย่ำขวดน้ำ
(๓) ทำกิจกรรมขอ้ ๒ ซ้ำอีก ๒-๓ ครั้ง
(๔) ให้เดก็ นง่ั เปน� วงกลมและใหต้ ัวแทน มาเขยา่
ขวดน้ำ ทอนาโด และเด็ก ๆ ชว่ ยการสังเกตว่านำ้
จะไหล หรอื ไหลอยา่ งไร และเปรยี บเทียบการใช้
ชวี ติ ประจำวนั การหมุนของน้ำเหมือนการใช้
เคร่ืองป�น (หรอื ลมพายหุ มนุ )
(๕) เดก็ น่ังผ่อนคลายสบาย ๆ ตบมือนบั ๑-๕
จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ การประเมินผล
กจิ กรรมเสรมิ
ประสบการณ์ ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ (๑) ครูอธบิ ายใหเ้ ด็กๆ เข้าใจถึงขอ้ แตกตา่ ง ๑. แกว้ สังเกต
คน้ หาคำตอบ (๔) การมีส่วนรว่ ม ใน การเปา่ และการดดู ระหวา่ งการดูดกบั การเปา่ ๒. นำ้ การค้นหาคำตอบ
ของข้อสงสยั ต่างๆ การรวบรวมขอ้ มลู (๒) ใหเ้ ดก็ ๆ ทดลองดดู น้ำ ฝก� การดูด ๓. หลอดดูดน้ำ ของข้อสงสัยต่าง ๆ
ได้ตามวธิ ีการมีผู้ชแี้ นะ และนำเสนอขอ้ มลู เหมอื นกบั เราดดู นำ้ หวำน เมื่อเราซอ้ื ตามวิธีการ มีผู้ชี้แนะ
จากการสืบเสาะหา เครื่องด่มื หรือนำ้ แขง็ นำ้ เราจะใช้หลอดดดู
ความร้ใู นรปู แบบ เพือ่ เข้าปากเรา ให้เด็กๆ ทดลองเปา่ กอ้ นสำลี ๔. สำลีหรอื ลูกปง� ปอง
ต่างๆ เศษกระดาษ ลกู ป�งปอง ยางวง
(๓) ใหเ้ ด็กเปา่ ลกู ป�งปอง ตามเส้นที่กำหนด
ครง้ั ละ ๕ คน ใหแ้ ต่ละคนเปา่ ลกู ป�งปอง ให้ ๕. เขม็ ฉดี ยา
เดนิ ไป ข้างหนา้ จนกระท้ังถงึ เสน้ ชัยทกุ คน
เพอื่ นนง่ั ให้ก ำลงั ใจและเปลย่ี นชุดใหม่จน ๖. ป�นฉีดน้ำ
ครบ
(๔) การสรปุ แรงเปา่ เป�นพลงั ทำให้ของ ๗. สายยางเล็ก
เคลื่อนที่ ได้ตามแรง เชน่ ปน� ฉีดนำ้ เข็มฉีดยา
แรงอัดทน่ี ำ ใหน้ ำ้ ยาออกมาตามชอ่ งรูเลก็ ๘. เหยือกน้ำ ๒ ใบ
แรงดดู ทำให้ ของเหลวไหลไปตามช่องท่ีเราใช้
แรงดดู ออกมา เช่น สายยาง
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ การประเมนิ ผล
กจิ กรรมศิลปะ ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ (๑) ครูอธิบายการเปา่ สเี พอ่ื สรา้ งผลงานศิลปะ ครู ๑. สีนำ้ ๓ สี สงั เกต
สร้างสรรค์ ละลำยสีใส่จำนสี ๓ จำนและนำหลอดไปจุ่มสี ที ๒. หลอดดดู น้ำ ๑. การสร้างผลงานศลิ ปะ
๑. สร้างผลงาน (๒) การเลน่ กบั สี เพ่ือสอื่ สารความคดิ
ศลิ ปะเพ่ือส่อื สาร (๒) การแสดง ละสไี ปหยดลงบนกระดาษ เอ ๔ และกเ็ ปา่ สี ไล่ไป ๓. จานสี ความรสู้ กึ ของตนเอง
ความคิด ความรู้สึก ความคดิ สร้างสรรค์
ของตนเองได้ ศิลปะ ให้เป�นรปู รา่ งตามจนิ ตนำการของเด็ก และ เปล่ยี น ๔. น้ำ ๒. การแสดงความพอใจ
๒. แสดงความพอใจ ใน (๑) การพดู สะทอ้ น
ผลงานของตนเอง ความรสู้ ึกของตนเอง สใี หม่จนครบ ๓ สี ๕. กระดาษ เอ ๔ ในผลงานของตนเอง
(๒) เดก็ ๆ เป่าสีเพื่อสรา้ งผลงานศิลปะได้ อยา่ ง
อิสระ
(๓) เดก็ นำภาพที่ทำเสร็จแลว้ ใหค้ รเู ขียนชื่อ และ
เล่าเรือ่ งทต่ี นเองสร้างขนึ้ มาวา่ เป�นภาพอะไร
(๔) เดก็ ๆ ช่วยกนั ทำความสะอาดจำนสีและ เก็บ
ของเขา้ ทไี่ ด้เรียบร้อย
กจิ กรรมเลน่ ตามมมุ (๒) การเลน่ และ ๑) เดก็ เลอื กเลน่ ในมมุ ประสบการณ์ตามความ ๑. มุมประสบการณ์ สังเกต
เล่นรว่ มกับเพ่อื นได้ ทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่ืน
(๓) การเล่นตามมุม สนใจ มมุ ประสบการณ์ควรมอี ยา่ งน้อย ๔ มมุ เชน่ ในห้องเรยี น การเลน่ รว่ มกบั เพอื่ น
ประสบการณ์
มุมหนงั สอื มมุ บล็อก มุมบา้ น และ มุม ๒. เครอื่ งเคาะจงั หวะ
วิทยาศาสตร์ ๓. ขวดนำ้ ทอนาโด
(๒) ครนู ำขวดนำ้ ทอนาโด ขวดใสน่ ้ำใสย่ างเล็ก ๆ
เหยือกนำ้ ลูกปง� ปอง ยางวง กระดาษ สำลี
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรยี นรู้ สือ่ การประเมนิ ผล
กจิ กรรมกลางแจ้ง ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ (๑) ครูใหเ้ ด็กเขา้ แถวตามลำดับกอ่ นหลงั และ ๑. อุปกรณ์เลน่ น้ำ สังเกต
๑. เลน่ ร่วมกับเพ่อื น ก้าวหนา้ ไปขา้ งหนา้ ๑ กา้ ว และถอยขา้ งหลงั ๑ ๒. อุปกรณ์เลน่ ทราย ๑. การเล่นรว่ มกับเพื่อน
ได้ (๑) การเคลื่อนไหว กา้ ว ทำอยา่ งนี้ ๓ คร้งั ๓. พลำสตกิ กนั เปอ� น ๒. การเขา้ แถวตามลำดับ
๒. เข้าแถว ตามลำดบั โดยการควบคุม (๒) ครูทบทวนข้อตกลงในการเลน่ น้ำเลน่ ทราย ก่อนหลงั ได้ เมอื่ มผี ู้ชแี้ นะ
กอ่ นหลงั ตนเองในทศิ ทาง
ได้ เม่ือมผี ชู้ แ้ี นะ ระดับพน้ื ท่ี (๓) เดก็ เลน่ นำ้ เลน่ ทรายอย่างอสิ ระ โดยมคี รดู ูแล
(๒) การเลน่ และ
ทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่ืน อยา่ งใกล้ชิด
(๔) ครใู หส้ ญั ญาณเปล่ยี นมมุ เล่นจากนำ้ -เปน�
ทราย จากทรายไปนำ้
(๕) ใกล้หมดเวลาครใู หส้ ัญญาณหยุดเลน่ เดก็ ไป
ทำความสะอาดอปุ กรณแ์ ละรา่ งกาย
เกมการศกึ ษา (๑๓) การจบั คู่ เกมพ้ืนฐานการบวก (๑) ครูใหเ้ ดก็ เขา้ แถวตามลำดับก่อนหลังและ ๑. เกมพื้นฐานการ สังเกต
เล่นเกมจับค่แู ละ กา้ วหน้าไปข้างหนา้ ๑ กา้ ว และถอยขา้ งหลัง บวก การเล่นเกมจบั คู่
เปรียบเทียบสิง่ ตา่ งๆ ๑ ก้าว ทำอยา่ งน้ี ๓ ครัง้ ๒. เกมชดุ เดมิ ในมมุ เปรียบเทียบจำนวน
เปรียบเทียบจำนวนได้ (๒) ครทู บทวนข้อตกลงในการเล่นน้ำเลน่ ทราย เกมการศึกษา
(๓) เด็กเลน่ น้ำ เลน่ ทรายอย่างอสิ ระ โดยมคี รู ๓. เครอ่ื งเคาะจังหวะ
ดูแล อย่างใกลช้ ดิ
(๔) ครูใหส้ ญั ญาณเปล่ียนมมุ เล่นจากน้ำ-เปน�
ทราย จากทรายไปนำ้
(๕) ใกลห้ มดเวลาครใู หส้ ัญญาณหยุดเล่น เดก็
ไปทำความสะอาดอปุ กรณ์และร่างกาย
แผนการจัดประสบการณร์ ายวนั วนั ท่ี ๓ หนว่ ยท่ี ๓๒ แรงและพลังงานในชวี ิตประจำวัน ชน้ั อนบุ าลปท� ่ี ๑
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นรู้ สื่อ การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ ำคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้
กจิ กรรมเคลื่อนไหว
และจังหวะ เคล่อื นไหว (๒) การแสดง ๑. กิจกรรมเคลอ่ื นไหวพนื้ ฐานใหเ้ ด็กเคล่ือนไหว ๑. เคร่อื งเคาะจงั หวะ สังเกต
แสดงท่าทาง ประกอบ ความคดิ สรา้ งสรรค์ ร่างกายไปทั่วบรเิ วณอย่างอิสระตามจงั หวะ ๒. คำบรรยาย การเคลอ่ื นไหว แสดง
คำบรรยาย เพอ่ื สอ่ื สาร ผา่ นภาษา ทา่ ทาง เม่อื ได้ยนิ สัญญาณหยดุ เคลอ่ื นไหวในทา่ น้นั ทนั ที ทา่ ทางประกอบ
ความคิด ความร้สู ึก การเคลื่อนไหว ๒. เดก็ ทำท่าทางตามจินตนำการโดยฟ�ง คำบรรยาย เพ่ือสื่อสาร
ของ คำบรรยาย "วนั น้ีอากาศดีมาก เราออกไปเดินเลน่ ความคดิ ความรู้สกึ
ตนเองได้ ที่สนาม เห็นเคร่ืองบนิ บนิ มาไกล ๆ อากาศดีมาก ของตนเอง
หายใจเข้า หายใจออกชำ้ (๓ ครั้ง) อยุ้ ! นกบนิ มา
ลองทำทา่ เหมือนนก แดดเรมิ่ ร้อนมองท้องฟ้า
เร่ิมตาพล่า รอ้ น ๆ กลับเข้าบา้ นดกี ว่า เดก็ ๆ
เงยมองเพดานหอ้ งเห็นไฟเป�ดอยู่ไฟร้อนเหมอื น
อยู่กลำงแดด ตำกไ็ มพ่ ลำ่ เหมอื นมองทอ้ งฟา้
เดก็ ๆ ไดย้ ินเสยี งป�ดไฟ แสงสวา่ งจากข้างนอก
เขา้ มาถึงในห้องแสงสว่างเกิดจากดวงอาทิตย์
๓. ครูสนทนาการแสดงทา่ ทางและให้ครทู ำซำ้
อีก ๑ คร้งั โดยไมเ่ หมอื นเดิม
๔. ให้เด็กฟ�งผอ่ นคลายสบาย ๆ ตบมอื นบั ๑-๕
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้
กิจกรรมเสรมิ (๑) การสารวจสิ่งตา่ ง ๆ แสงท่ใี ชใ้ นชวี ติ ๑. ครูใหเ้ ด็กนง่ั เปน� วงกลมอยใู่ นหอ้ งเรยี น โดยป�ด ๑. อุปกรณ์ไฟฟา้ สงั เกต
ประสบการณ์ และ แหล่งเรยี นร้รู อบตัว ประจำวัน หน้าตา่ ง ประตแู ละป�ดไฟท้ังหมด "ครูถามวา่ ๒. ไฟฉำย เทียน ๑. การคน้ หาคำตอบ ของ
๑. คน้ หาคำตอบ (๔) การมสี ว่ นร่วม ใน ขอ้ สงสยั ต่างๆ ตามวิธีการ
ของขอ้ สงสยั ต่างๆ ตาม การรวบรวมขอ้ มูล และ มองเหน็ อะไรบา้ ง" ๓. แสงจากดวงอำทิตย์ เม่อื มผี ู้ช้ีแนะ
วธิ ีการ เมอ่ื มีผชู้ ี้แนะ นำเสนอข้อมูล
๒. เลา่ เรอ่ื งด้วย (๔) การพูดแสดง • ครจู ุดเทียนและต้ังไวก้ ลำงวง เปด� ไฟฉำย และ ๒. การเล่าเรื่อง ด้วย
ประโยคสน้ั ๆ ได้ ความคิด ความร้สู ึกและ เปด� ไฟ ครถู ามถึงความรสู้ ึกของเด็กๆ และปด� ไฟ ประโยคสัน้ ๆ
ความต้องการ ทง้ั หมด
• ครคู ่อยๆ เปด� ประตู และถามเดก็ เหน็ อะไร
หรือไม่ เพรำะอะไร แสงทเ่ี ราเห็นเป�นแสงจากดวง
อำทิตย์ และ ครเู ปด� หน้าตา่ งทลี ะบำนจนหมด แสง
กจ็ ะเขา้ มา เต็มหอ้ ง ครถู ามเกิดอะไรข้นึ
๒. ครูถาม แสงท่เี กิดจากธรรมชาตแิ ละแสงท่เี กิด
จากมนษุ ยส์ ร้างขึน้ มีอะไรบา้ ง เด็ก ๆช่วยกันตอบ
๓. แบ่งเด็กเป�น ๒ กล่มุ ให้สำรวจว่าแสงที่เกิด จาก
ธรรมชาติ และทเี่ กิดจากมนุษยส์ ร้างขนึ้
๔. ใหเ้ ด็กทัง้ สองกลุม่ มานำเสนอขอ้ มูลแตล่ ะกลมุ่
โดยครูเขียนทเ่ี ดก็ นำเสนอ
๕. ครูสรุป และแสงทเ่ี กิดจากธรรมชาตแิ ละ แสงที่
มนษุ ยส์ รา้ งขนึ้
จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้ สอื่ การประเมนิ ผล
ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้
กิจกรรมศิลปะ สร้างสรรค์ (๒) การเขยี นภาพ
สรา้ งผลงานศิลปะ ๑. ครูสนทนาการวาดภาพและระบายสี ใหเ้ ด็กๆ ดู สังเกต
เพอ่ื สอ่ื สาร ความคิด (๒) การแสดง ความคิด การสร้างผลงานศลิ ปะ
ความรสู้ กึ ของตนเองได้ สรา้ งสรรค์ ศลิ ปะ ๒. เด็กวาดภาพและระบายสเี ทียนอยา่ งอสิ ระ เพือ่ ส่อื สารความคิด
(๕) การทำงานศลิ ปะ ความรสู้ ึกของตนเอง
๓. เด็กนำผลงานทวี่ าดมาสง่ ครู เขียนชอ่ื -ชื่อเรือ่ ง
ท่ีวาด เด็กเล่าเรอื่ งราว
๔. เดก็ ชว่ ยกันเกบ็ อุปกรณ์เข้าท่ใี หเ้ รยี บร้อย
กิจกรรมเลน่ ตาม มุม (๓) การให้ความ ๑. เดก็ เลือกเลน่ ในมมุ ประสบการณ์ตามความ (๑) มมุ ประสบการณ์ สงั เกต
เล่นร่วมกับเพ่อื นได้ รว่ มมือในการปฏบิ ัติ
กจิ กรรมต่างๆ สนใจ มมุ ประสบการณ์ควรมอี ย่างน้อย ๔ มมุ เช่น ในหอ้ งเรียน การเล่นร่วมกบั เพ่อื น
(๒) การเล่นและการ
ทางาน มุมหนงั สอื มมุ บลอ็ ก มมุ บา้ น และ มมุ (๒) เคร่อื งเคาะจังหวะ
ร่วมกบั ผอู้ ่ืน วทิ ยาศาสตร์
๒. ครูนำหนงั สอื ประเภทของแสงทีเ่ กิดข้นึ จาก
ธรรมชาติ และมนุษยส์ ร้างข้นึ ไวท้ ีต่ ามมุม และ นำ
ไฟฉำย ไฟสีต่างๆ โดยใช้สวทิ เป�ด-ปด�
๓. เดก็ เลือกเลน่ ตามมมุ ต่างๆ
๔. เมื่อได้ยนิ สญั ญาณใหเ้ ดก็ เกบ็ ของเลน่ เขา้ ท่ี
กจิ กรรมกลางแจง้ (๒) การเล่นและ ๑. ครูใหเ้ ดก็ เขา้ แถวตามลำดับกอ่ น-หลงั และ ๑. นกหวดี สงั เกต
เล่นรว่ มกบั เพ่ือน ทางานร่วมกับผอู้ น่ื ทบทวนขอ้ ตกลง เดินลงสนาม ๒. ลกู บอล การเล่นรว่ มกับเพอ่ื น
ได้
๒. เด็กเข้าแถวยนื ตรงหน้าครูเรยี งแถวหนา้ กระ
ดำน ครโู ยนลูกบอลใหเ้ ด็กรบั คนละ ๒ ครงั้ จน
ครบทกุ คน