The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pepo.nontawat, 2022-09-08 12:22:21

เเผนการ สอน วิทยาศาสตร์ฯ ป.4 สื่อ 60 พรรษา

Keywords: เเผนการ สอน วิทยาศาสตร์ฯ ป.4 สื่อ 60 พรรษา

เฉลยใบงาน

6102153L01c.indd 391 9/10/18 9:31 AM

6102153L01c.indd 392 9/10/18 9:31 AM

ชื่อ-สกุล เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๕-๐๑
วนั ท่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๑ : การนา� ไฟฟา้ ของวัสดุ

บนั ทึกผลการทา� กิจกรรม
ตาราง การเปลยี่ นแปลงของหลอดไฟฟา้ เมื่อต่อกบั วัสดุชนดิ ต่างๆ ในวงจรไฟฟา้

ขีด ✓ ในช่องที่ตรงกบั ผลกำรคำดคะเนและผลกำรสังเกต

วัสดทุ ่ีนำ� มำต่อ ผลกำรคำดคะเน ผลกำรสังเกต

กบั วงจร หลอดไฟฟำ้ สวำ่ ง หลอดไฟฟำ้ ไมส่ วำ่ ง หลอดไฟฟำ้ สวำ่ ง หลอดไฟฟำ้ ไม่สวำ่ ง

ไม้ 3 3
3
เหลก็ 3 3
3
อะลมู ิเนยี ม 3
3
แก้ว 3

ทองแดง 3

ค�าถามหลงั จากท�ากิจกรรม

๑. วัสดชุ นิดใดน�ำไฟฟำ้ ได้ ทองแดง อะลมู เิ นียม เหลก็

๒. วัสดุชนิดใดไมน่ ำ� ไฟฟำ้ ไม้ แก้ว

๓. ตรวจสอบวำ่ วสั ดุน�ำไฟฟำ้ หรือไมน่ �ำไฟฟำ้ ได้อยำ่ งไร

วสั ดทุ ีน่ ำ� มำตอ่ กบั วงจรแล้วท�ำให้หลอดไฟฟำ้ สวำ่ ง ไดแ้ ก่ เหลก็ อะลมู ิเนยี ม และ

ทองแดง สว่ นวสั ดทุ นี่ ำ� มำตอ่ กบั วงจรแลว้ ไมท่ ำ� ใหห้ ลอดไฟฟำ้ สวำ่ ง ไดแ้ ก่ ไมแ้ ละแกว้
๔. จำกกจิ กรรมน้ี สรปุ ไดว้ ำ่ อยำ่ งไร

วัสดทุ ี่น�ำมำตอ่ กับวงจรแลว้ ท�ำใหห้ ลอดไฟฟำ้ สวำ่ ง สำมำรถนำ� ไฟฟำ้ ได้ ส่วนวสั ดทุ ่ี

น�ำมำตอ่ กับวงจรแล้วหลอดไฟฟำ้ ไมส่ ว่ำง ไมส่ ำมำรถนำ� ไฟฟำ้ ได้

ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาำ หรับครผู สู้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๓๙๓

6102153L01c.indd 393 9/10/18 9:31 AM

ชอื่ -สกุล เดือน ชน้ั เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๕-๐๒
วันท่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๒ : แบบฝึกหัด เร่ืองการน�าไฟฟา้ ของวสั ดุ

ตอบคำ� ถำมต่อไปนี้ให้ถูกตอ้ ง
๑. ท�ำกำรทดลองวำ่ วสั ดชุ นิดใดบำ้ งทนี่ �ำไฟฟ้ำ โดยนำ� วัสดมุ ำต่อเขำ้ กบั วงจรไฟฟำ้

ทตี่ ิดหลอดไฟฟำ้ เอำไว้ มตี ัวแปรท่เี กย่ี วข้องอะไรบำ้ ง
ตวั แปรต้นในกำรทดลองน้ี ได้แก่ ชนดิ ของวสั ดุ

ตวั แปรตำมในกำรทดลองนี้ ได้แก่ กำรนำ� ไฟฟ้ำของวสั ดุ

ตวั แปรท่ีตอ้ งควบคุมใหค้ งท่ี ไดแ้ ก่ วงจรไฟฟ้ำ หลอดไฟฟำ้ และพืน้ ท่หี นำ้ ตัด
ของวัสดุ

๒. จำกภำพ A และ B ควรทำ� จำกวสั ดชุ นิดใด เพรำะเหตุใด

ใช้ทองแดง อะลูมิเนยี ม เหล็ก ซึ่งน�ำไฟฟำ้ ได้
มำท�ำสำยไฟฟำ้ และใช้ยำง พลำสตกิ
ซ่งึ ไมน่ ำ� ไฟฟำ้ มำเป็นฉนวนไฟฟำ้
ป้องกันไฟดูด

๓๙๔ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครผู ู้สอน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรุง)

6102153L01c.indd 394 9/10/18 9:32 AM

๓๓๘

คำชี้แจงประกอบแผนจดั กำรเรียนรู้ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๕ เวลำ ๔ ชวั่ โมง
แผนกำรจัดกำรเรยี นรทู้ ่ี ๑.๖ เรอ่ื ง กำรใชป้ ระโยชน์จำกสมบัติของวัสดุ

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๑. สำระสำคัญของแผน
เราสามารถนาสมบัติทางกายภาพเรื่องความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน และการนาไฟฟ้า

ของวสั ดุไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้

๒. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในกำรนำไปใช้ (ให้ระบุสิ่งที่ต้องกำรเน้นหรือข้อสังเกต ข้อเสนอแนะ คำแนะนำ)
ในเร่ืองตอ่ ไปน้ี คือ
๒.๑ ขอบขำ่ ยเนื้อหำ
วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติทางกายภาพแตกต่างกัน วัสดุที่มีความแข็งจะทนต่อแรงขูดขีด วัสดุที่มี

สภาพยืดหยุ่นจะเปลี่ยนแปลงรูปร่างหรือความยาวเมื่อมีแรงมากระทาและกลับสภาพเดิมได้ วัสดุที่

นาความร้อนจะร้อนไดเ้ ร็วเม่ือได้รับความรอ้ น และวัสดทุ ี่นาไฟฟ้าได้จะให้กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นได้ ดังนั้นจึง

อาจนาสมบัติต่าง ๆ มาพิจารณาเพื่อใช้ในกระบวนการออกแบบช้ินงานสาหรับใช้ประโยชน์ใน

ชวี ติ ประจาวนั

๒.๒ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ (ควำมรู้ ทักษะ คุณธรรม จริยธรรม ค่ำนิยม) (ถำ้ ม)ี

จุดประสงค์ด้ำนควำมรู้
อธิบายการนาสมบัติทางกายภาพด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อนและการนำไฟฟ้า

ของวัสดุไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ผ่านกระบวนการออกแบบชนิ้ งาน
จดุ ประสงคด์ ้ำนทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์

๑. การสงั เกต
๒. การลงความเหน็ จากข้อมลู
๓. การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ

ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครูผู้สอน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๓๙๕

6102153L01c.indd 395 9/10/18 9:32 AM

๓๓๙

จุดประสงค์ดำ้ นคุณธรรม

๑. มคี วามมงุ่ มนั่ ในการทางาน

๒. มีความซอ่ื สตั ย์ต่อตนเอง

๓. ใฝ่เรยี นรู้

๔. มีความสามัคคี ช่วยเหลือในการทางานกลุ่มร่วมกนั

๒.๓ กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้

๑) กำรเตรยี มตัวของครู นกั เรยี น (กำรจดั กลุ่ม) (ถ้ำมี)

การจัดกลมุ่ โดยแบ่งนักเรียนออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ ๓-๔ คน เพื่อทาใบกิจกรรมต่าง ๆ

๒) กำรเตรียมสื่อ วสั ดุอุปกรณ์ ของครู นกั เรียน (ถ้ำม)ี

ส่งิ ทีค่ รูตอ้ งเตรียม คือ

๒.๑ อะลมู ิเนยี มฟอยล์ ๑ ม้วน/ หอ้ ง

๒.๒ สายไฟ ๑ ม้วน/ ห้อง

๒.๓ หลอดไฟฟ้าขนาด ๑.๕ โวลต์ ๑ ดวง/กลุ่ม

๒.๔ กระดาษปรู๊ฟ ๑ แผ่น/กลุ่ม

๒.๕ เทปกาว ๑ ม้วน/กลมุ่

สิง่ ที่นักเรยี นต้องเตรยี ม คอื

๒.๖ กลอ่ งยาสฟี ัน ๑ ใบ/กลุม่

๒.๗ ถา่ นไฟฉายขนาด ๑.๕ โวลต์ ๑ ก้อน/กล่มุ

๒.๘ วสั ดุเหลอื ใช้อืน่ ๆ

๓) เตรียมใบงำน ใบควำมรู้ ใบกิจกรรม (ถ้ำมี)

๓.๑ ใบงาน ๐๑ การนาสมบัติทางกายภาพมาใชป้ ระโยชน์

๓.๒ ใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัด เรือ่ งการนาสมบตั ทิ างกายภาพมาใช้ประโยชน์

๒.๔ วดั ผลประเมนิ ผล (ถ้ำมี)

๑) วิธีกำรวดั ผลประเมินผลกำรเรยี นรู้

๑.๑ สังเกตการตอบคาถามในช้นั เรยี น

๑.๒ การตอบคาถามในแบบฝกึ หดั

๑.๓ สังเกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการทากิจกรรม

๑.๔ สงั เกตด้านคุณธรรมขณะทากจิ กรรม

๓๙๖ ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรับครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

6102153L01c.indd 396 9/10/18 9:32 AM

๓๔๐

๒) วิธีกำร เคร่อื งมอื เกณฑ์
๒.๑ เคร่ืองมอื และเกณฑ์ในกำรประเมินดำ้ นควำมรู้
ตรวจใหค้ ะแนนจากการตอบคาถามในใบงาน แลว้ ใช้เกณฑ์ในการให้คะแนนดังน้ี
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๒.๒ เครอื่ งมือและเกณฑใ์ นกำรประเมนิ ทกั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์
สงั เกตทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมินทกั ษะกระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตร์ (ดังแนบ) แลว้ นาคะแนนมารวมกัน แล้วใชเ้ กณฑ์ในการให้คะแนนดงั นี้
- มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๒.๓ เคร่อื งมือและเกณฑ์ในกำรประเมนิ ดำ้ นคณุ ธรรม
สงั เกตคุณลักษณะด้านคณุ ธรรมโดยใช้แบบประเมนิ ดา้ นคุณธรรม (ดงั แนบ) แล้วนา
คะแนนมารวมกนั แล้วใช้เกณฑใ์ นการใหค้ ะแนนดงั น้ี
- มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ตา่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

๓) กำรทดสอบก่อนเรยี น หลงั เรยี น แบบฝกึ หัด กอ่ นเรยี น หลงั เรยี น
ทาแบบฝึกหดั ในใบงานหลงั เรียน

๓. อน่ื ๆ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครผู ้สู อน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) ๓๙๗

6102153L01c.indd 397 9/10/18 9:32 AM

6102153L01c.indd 398 ๓๙๘ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หนว่ ยกำรเรียนร้ทู ี่ ๕ วัสดแุ ละสสำร แนวกำรจดั กิจกรรมการเรียนรขู้ องแผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑.๖ ๓๔๑
กลุม่ สำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ เรื่อง กำรใชป้ ระโยชนจ์ ำกสมบัติของวัสดุ
รำยวิชำวิทยำศำสตร์ เวลำ ๔ ชวั่ โมง
ช้นั ประถมศึกษำปีที่ ๔

ข้นั นำ แนวกำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้
ขนั้ สอน
ขน้ั สรปุ  ร่วมกันตอบคาถามเพ่ือทบทวนความรู้ท่ไี ด้เรียนมาแลว้

กำรวัดและประเมนิ ผล  รว่ มกันทากจิ กรรมท่ี ๑ ใช้สมบตั ิของวสั ดทุ าประโยชน์อะไรไดบ้ า้ ง
 ปฏิบัติกจิ กรรมด้วยกนั เปน็ กลุ่ม แกป้ ัญหาและสรา้ งช้นิ งานตามเงอ่ื นไขทกี่ าหนดใหไ้ ด้ นาเสนอและอภปิ ราย
 รว่ มกันอภิปรายและลงข้อสรุปการนาสมบตั ิทางกายภาพของวัสดุมาใชป้ ระโยชน์
 ทาใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัด เรื่องการนาสมบตั ิทางกายภาพมาใช้ประโยชน์
 ประเมินจากการตอบคาถาม
 ประเมินจากการทากจิ กรรมในชน้ั เรยี น
 ประเมนิ จากการทาแบบฝึกหัด

9/10/18 9:32 AM

6102153L01c.indd 399 ๓๔๒

ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๓๙๙ หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ ๕ วสั ดุและสสำร แผนกำรจัดกำรเรียนรูท้ ี่ ๑.๖ กำรใช้ประโยชน์จำกสมบัติของวัสดุ เวลำ ๔ ชัว่ โมง
กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ สมบตั ทิ ำงกำยภำพของวัสดุ ชั้นประถมศึกษำปที ี่ ๔
รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์

ขอบเขตเน้อื หำ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ (๔ ช่ัวโมง) ส่ือ / แหล่งเรียนรู้
วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติทางกายภาพ ชวั่ โมงท่ี ๑-๓ ๑. อะลมู เิ นยี มฟอยล์
ขัน้ นำ (๑๐ นำที) ๒. กล่องยาสฟี นั
แตกต่างกัน วัสดุท่ีมีความแข็งจะทนต่อ ๑. ครูนาเข้าสู่บทเรียนเก่ียวกับวัสดุในชีวิตประจาวัน เพ่ือทบทวนความรู้ที่นักเรียนได้เรียน ๓. สายไฟ
แ ร ง ขู ด ขี ด วั ส ดุ ที่ มี ส ภ า พ ยื ด ห ยุ่ น ๔. ถา่ นไฟฉายขนาด ๑.๕ โวลต์
จะเปลี่ยนแปลงรูปร่างหรือความยาว มาแล้ว โดยครูนาสิ่งของรอบตัวมาให้นักเรียนสังเกต เช่น ดินสอ ยางลบ ไม้บรรทัด ๕. หลอดไฟฟา้
เมื่อมีแรงมากระทาและกลับสภาพเดิมได้ กลอ่ งดินสอ ของเลน่ ฯลฯ จากนน้ั ครใู ช้คาถามและรบั ฟงั คาตอบของนักเรียน ดังน้ี ๖. กระดาษปร๊ฟู
วัสดุท่ีนาความร้อนจะร้อนได้เร็ว เมื่อ ๑.๑ ส่ิงของเหล่านี้มีสมบัติทางกายภาพใดบ้างและนามาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ๗. เทปกาว
ไดร้ บั ความร้อน และวสั ดทุ ีน่ าไฟฟ้าได้ จะ ๘. วสั ดุอนื่ ๆ
ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ ดังน้ันจึงอาจ (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง ซ่งึ อาจตอบว่ามคี วามแตกต่างกัน)
นาสมบัติต่าง ๆ มาพิจารณาเพ่ือใช้ใน
กระบวนการออกแบบชิ้นงานสาหรับใช้ ข้ันสอน (๑๕๕ นำท)ี
ประโยชนใ์ นชีวติ ประจาวนั ๒. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน ให้นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์

ในใบกิจกรรมท่ี ๑ ใช้สมบัติของวัสดุทาประโยชน์อะไรได้บ้าง หน้า ๑๕๕ แล้วถามคาถาม
กอ่ นทากิจกรรมดงั นี้
๒.๑ กิจกรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเร่ืองอะไร (การนาสมบัติทางกายภาพของวัสดุมาใช้

ประโยชน์ในการออกแบบชิ้นงาน)
๒.๒ นกั เรียนจะเรยี นเร่ืองนีด้ ้วยวธิ ีใด (การออกแบบ)
๒.๓ เม่ือเรยี นแลว้ นักเรยี นจะทาอะไรได้ (ออกแบบช้ินงานโดยใชป้ ระโยชน์ของสมบัติทาง

กายภาพของวัสด)ุ

9/10/18 9:33 AM

6102153L01c.indd 400 ๓๔๓

๔๐๐ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หนว่ ยกำรเรียนรูท้ ี่ ๕ วสั ดุและสสำร แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ่ี ๑.๖ กำรใช้ประโยชน์จำกสมบตั ิของวสั ดุ เวลำ ๔ ชั่วโมง
กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ สมบตั ิทำงกำยภำพของวัสดุ ชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๔
รำยวชิ ำวทิ ยำศำสตร์
จุดประสงค์ด้ำนควำมรู้ ภำระงำน / ช้ินงำน
๓. ครูชกั ชวนนักเรยี นทากิจกรรมท่ี ๑ ใช้สมบัตขิ องวัสดุทาประโยชน์อะไรบ้าง โดยให้นักเรยี น ๑. การตอบคาถาม
อธิบายการนาสมบัติทางกายภาพ แต่ละกลุ่มระดมความคิดและอภิปรายเกี่ยวกับอุปกรณ์ในกิจกรรมว่ามีสมบัติทางกายภาพ ๒. การทาใบกิจกรรม
ด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนา อะไรบ้าง และจะนาไปใชป้ ระโยชน์อะไรได้บา้ ง ๓. การทาแบบฝึกหัด
ความรอ้ นและการนาไฟฟ้าของวัสดุ ไปใช้
ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จ า วั น ผ่ า น ก ร ะ บ ว น ก า ร ๔. นักเรียนร่วมกันออกแบบรถพยาบาลจาลองตามเงื่อนไขที่กาหนด แล้วบันทึกผลในใบงาน วิธีกำรประเมนิ
ออกแบบชน้ิ งาน ๐๑ หนา้ ๑๕๖ จากน้ันให้ลงมือสรา้ งแบบจาลองตามที่ออกแบบ ครชู ่วยแนะนาใหน้ กั เรียน ๑. การตอบคาถามในแบบฝกึ หดั
จดุ ประสงคด์ ้ำนทักษะกระบวนกำรทำง พยายามสรา้ งตามเง่ือนไข ๒. สงั เกตทักษะกระบวนการทาง
วทิ ยำศำสตร์
๕. นักเรียนนาเสนอรถพยาบาลจาลองและอภิปรายว่ารถพยาบาลเป็นไปตามเงื่อนไขหรือไม่ วิทยาศาสตร์ในการทากจิ กรรม
๑. การสังเกต อย่างไร ๓. สังเกตด้านคุณธรรมขณะทากจิ กรรม
๒. การลงความเห็นจากข้อมลู ๔. สงั เกตพฤติกรรมการทางานกล่มุ
๓. การตีความหมายขอ้ มูลและ ขั้นสรุป (๑๕ นำที)
๖. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่าใช้วัสดุที่นามาออกแบบรถพยาบาลจาลอง
ลงข้อสรุป
จดุ ประสงคด์ ำ้ นคุณธรรม มสี มบัติทางกายภาพหลายอย่าง เชน่ การนาความร้อน การนาไฟฟา้

๑. มคี วามมุ่งม่ันในการทางาน
๒. ซ่ือสตั ยต์ อ่ ตนเอง
๓. ใฝ่เรียนรู้
๔. มีความสามัคคี ชว่ ยเหลอื

ในการทางานกลุ่มรว่ มกนั

9/10/18 9:33 AM

6102153L01c.indd 401 ๓๔๔

ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๔๐๑ หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๕ วสั ดุและสสำร แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ที่ ๑.๖ กำรใช้ประโยชน์จำกสมบตั ขิ องวสั ดุ เวลำ ๔ ชั่วโมง
กลุม่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ สมบตั ิทำงกำยภำพของวสั ดุ ชนั้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๔
รำยวิชำวิทยำศำสตร์
เกณฑ์กำรประเมนิ
ชั่วโมงที่ ๔ ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหัดได้
ข้นั นำ (๕ นำท)ี
๗. ครูนาเข้าส่บู ทเรียนโดยการทบทวนวัสดุท่นี ามาใช้ทารถพยาบาลจาลองมีสมบัติใดบ้าง ถูกต้องดว้ ยตนเอง
- มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
(การนาไฟฟ้า ความแขง็ ) - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ตา่ กว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
ขนั้ สอน (๕๐ นำท)ี ๒. มีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๘. ครใู หน้ กั เรียนทดสอบรถพยาบาลของกลมุ่ ตนเองวา่ เป็นไปตามเง่ือนไขท่ีกาหนดหรือไม่
ขณะทากจิ กรรม
อย่างไร จากนั้น นักเรียนระดมความคิดเพื่อปรับปรุงรถพยาบาลจาลองให้เป็นไปตาม - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
เง่อื นไข แล้วบนั ทึกผลในหน้า ๑๕๗ โดยครูคอยชแ้ี นะหรอื ใช้คาถามกระตนุ้ - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
๙. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันอภิปราย โดยครูใช้คาถาม ดังนี้ - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๙.๑ รถพยาบาลจาลองใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง (อะลูมิเนียมฟอยล์ กล่องยาสีฟัน สายไฟ ๓. มคี ุณลักษณะดา้ นคุณธรรม
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
ถา่ นไฟฉายขนาด ๑.๕ โวลต์ หลอดไฟฟา้ กระดาษปรฟู๊ เทปกาว และวัสดอุ ่นื ๆ) - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
๙.๒ รถพยาบาลจาลองนี้ใช้ประโยชนจ์ ากสมบตั ทิ างกายภาพของวสั ดอุ ะไรบ้างอย่างไร - ตา่ กว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

(นกั เรียนตอบไดห้ ลากหลาย เช่น ใชช้ส้สมมบบัตัตคิ ิคววาามมแแขขง็ ็งโโดดยยเเลลือือกกใใชช้ก้กลล่อ่องงกกรระะดดาาษษมมี ี ี
ความแข็ง ใช้ทาตัวโครงรถและล้อ ส่วนอะลูมิเนียมฟอยล์ นามาใช้ต่อวงจรไฟฟ้า
เนื่องจากมสี มบัตินาไฟฟ้าได้)
๑๐. นกั เรยี นตอบคาถามหลังจากทากจิ กรรมในใบงาน หน้า ๑๕๘

9/10/18 9:33 AM

6102153L01c.indd 402 ๔๐๒ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ ๑.๖ กำรใชป้ ระโยชนจ์ ำกสมบัติของวัสดุ ๓๔๕
หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ สมบตั ทิ ำงกำยภำพของวัสดุ
หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ ๕ วสั ดแุ ละสสำร รำยวิชำวิทยำศำสตร์ เวลำ ๔ ช่ัวโมง
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี ๔
ขั้นสรปุ (๕ นำท)ี
๑๑. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า วัสดุแต่ละชนิดมีสมบัติทางกายภาพ

แตกต่างกัน วัสดุท่ีมีความแข็งจะทนต่อแรงขูดขีด วัสดุที่มีสภาพยืดหยุ่นจะเปลี่ยนแปลง
รปู ร่างหรือความยาวเมื่อมีแรงมากระทาและกลับสภาพเดิมได้ วัสดทุ ่ีนาความรอ้ นจะร้อน
ได้เร็วเม่ือได้รับความร้อน และวัสดุที่นาไฟฟ้าได้จะให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ ดังนั้นจึง
อาจนาสมบัติต่าง ๆ มาพิจารณาเพ่ือใช้ในกระบวนการออกแบบช้ินงานสาหรับใช้
ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจาวนั
๑๒. ครูให้นักเรียนทาแบบฝึกหัด ๐๒ เรื่องการนาสมบัติทางกายภาพมาใช้ประโยชน์
หนา้ ๑๕๙-๑๖๐

9/10/18 9:33 AM

๓๔๖

แบบประเมนิ ดำ้ นคุณธรรม
แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ่ี ๑.๖ กำรใช้ประโยชน์จำกสมบัติของวัสดุ
ชื่อผปู้ ระเมนิ /กล่มุ ประเมนิ ……………………………………………………………………………………………………………………
ชอ่ื กลุ่มรบั กำรประเมนิ ……………………………………………………………………………..…………………………………………
ประเมนิ ผลคร้งั ท่ี………………. วัน ……………..…. เดอื น …………………………….…..………. พ.ศ. ……...….…….......
เร่ือง…………………………………………………………………………………………………………………….……………………………

ท่ี ลกั ษณะ/พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดบั พฤตกิ รรม คะแนนที่ได้
เกิด = ๑ ไม่เกิด = ๐

๑. มีความมงุ่ มน่ั ในการทางาน

๒. มคี วามซ่อื สตั ยต์ อ่ ตนเอง

๓. ใฝเ่ รยี นรู้

๔. มคี วามสามัคคี ช่วยเหลอื ในการทางานกลมุ่ ร่วมกัน

รวมคะแนนทไ่ี ดท้ ้ังหมด = …………… คะแนน

คณุ ลักษณะตามจุดประสงค์ด้านคณุ ธรรม
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

ชุดการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครผู สู้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๔๐๓

6102153L01c.indd 403 9/10/18 9:33 AM

๓๔๗

แบบประเมนิ ดำ้ นทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ในกำรทำกจิ กรรม
แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทู ี่ ๑.๖ กำรใช้ประโยชนจ์ ำกสมบัตขิ องวสั ดุ

เกณฑก์ ำรประเมนิ มดี ังน้ี

๓ หมายถงึ ดี ๒ หมายถงึ พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ
คะแนน
การสังเกต สงิ่ ทป่ี ระเมิน
รวมคะแนน
การลงความเหน็ จากขอ้ มูล

การตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรุป

เกณฑก์ ำรประเมนิ

ทักษะกระบวนกำร ดี (๓) ระดับควำมสำมำรถ ควรปรบั ปรงุ (๑)
ทำงวิทยำศำสตร์ พอใช้ (๒)

การสงั เกต ใช้ประสาทสัมผัสในการ ใช้ประสาทสัมผัสในการ ไม่สามารถเพ่ิมเติมความเห็น

รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับ เกี่ยวกับการน�าสมบัติทาง

การน�าสมบัติของวัสดุมาใช้ การน�าสมบัติของวัสดุมา กายภาพของวสั ดมุ าใชป้ ระโยชน์

ประโยชน์ได้ดว้ ยตนเองโดย ใชป้ ระโยชน์ โดยการชแ้ี นะ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง มเี หตผุ ล ถงึ แม้
ไมเ่ พิ่มเติมความคดิ เห็น ของครูหรือผู้อ่ืนและ จะได้รับค�าแนะน�าจากครูหรือ

เพ่ิมเตมิ ความคดิ เหน็ ผอู้ ่ืน

การลงความเหน็ จาก เพิ่มเติมความเห็นเกี่ยวกับ เ พิ่ ม เ ติ ม ค ว า ม เ ห็ น ไม่สามารถเพิ่มเติมความเห็น
ขอ้ มูล การน�าสมบัติทางกายภาพ เก่ียวกับการน�าสมบัติทาง เกี่ยวกับการน�าสมบัติทาง
ของวัสดุมาใช้ประโยชน์ได้ กายภาพของวัสดุมาใช้ กายภาพของวสั ดมุ าใชป้ ระโยชน์

อย่างถูกต้อง มีเหตุผลจาก ประโยชน์ได้อย่างถูกต้อง ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง มเี หตผุ ล ถงึ แม้

ความรหู้ รอื ประสบการณเ์ ดมิ พยายามให้เหตุผลจาก จะได้รับค�าแนะน�าจากครูหรือ

ไดด้ ้วยตนเอง ความรู้หรือประสบการณ์ ผู้อืน่

เดิมได้ โดยการชแี้ นะของ

ครหู รอื ผู้อนื่

การตีความหมาย ตีความหมายข้อมูลและลง ตีความหมายข้อมูลและลง ไม่สามารถตีความหมายข้อมูล
ข้อมลู และลงข้อสรปุ ขอ้ สรุปได้วา่ รถพยาบาล ข้อสรุปได้ว่า รถพยาบาล และลงขอ้ สรปุ ไดว้ า่ รถพยาบาล

จา� ลองและชนิ้ งานทอ่ี อกแบบ จา� ลองและชน้ิ งานทอ่ี อกแบบ จ�าลองและชิ้นงานที่ออกแบบ

๔๐๔ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู สู้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

6102153L01c.indd 404 9/10/18 9:33 AM

๓๔๘

ทักษะกระบวนกำร ดี (๓) ระดับควำมสำมำรถ ควรปรบั ปรุง (๑)
ทำงวิทยำศำสตร์ พอใช้ (๒)

ไดน้ า� สมบตั ทิ างกายภาพของ ได้นำาสมบัติทางกายภาพ ได้น�าสมบัติทางกายภาพของ

วัสดุใดบ้างมาใช้ประโยชน์ ของวัสดุมาใช้ประโยชน์ วสั ดุใดบา้ งมาใช้ประโยชน์ ถึง
ด้วยตนเอง
โดยก�รชี้แนะของครูหรือ แม้จะได้รับค�าแนะน�าจากครู
ผู้อ่ืน หรอื ผ้อู น่ื

ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครผู ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๔๐๕

6102153L01c.indd 405 9/10/18 9:33 AM

6102153L01c.indd 406 9/10/18 9:33 AM

เฉลยใบงาน

6102153L01c.indd 407 9/10/18 9:33 AM

6102153L01c.indd 408 9/10/18 9:33 AM

ชอื่ -สกลุ เดอื น ชั้น เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๑
วันท่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๑ : การนา� สมบตั ิทางกายภาพของวสั ดมุ าใชป้ ระโยชน์

บนั ทกึ ผลการทา� กจิ กรรม
ผลกำรออกแบบรถพยำบำลจ�ำลองตำมเง่ือนไขทก่ี �ำหนด

ผลกำรออกแบบตำมที่นกั เรยี นออกแบบ

ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๔๐๙

6102153L01c.indd 409 9/10/18 9:34 AM

ชอื่ -สกลุ ชั้น เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๑
วนั ท่ี พ.ศ.
เดือน

ผลกำรออกแบบชนิ้ งำนใหมข่ องกลุม่
ชือ่ ช้นิ งำน

ผลกำรออกแบบตำมทน่ี กั เรียนออกแบบ

ค�ำอธบิ ำยกำรน�ำสมบัตทิ ำงกำยภำพของวสั ดุมำใช้ในชิ้นงำนที่ออกแบบ

๔๑๐ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรับครูผูส้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรับปรุง)

6102153L01c.indd 410 9/10/18 9:34 AM

ชือ่ -สกลุ ชน้ั เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๑
วนั ท่ี พ.ศ.
เดอื น

ค�าถามหลังจากท�ากจิ กรรม

๑. กำรสรำ้ งรถพยำบำลจำ� ลองไดน้ ำ� สมบตั ิทำงกำยภำพของวสั ดใุ ดมำใช้ประโยชน์บำ้ งและ
ใชท้ ำ� อะไร
เป็นกำรน�ำสมบัติเร่ืองควำมแขง็ มำทำ� โครงรถ ล้อรถ และน�ำสมบตั กิ ำรนำ� ไฟฟำ้
มำทำ� ใหห้ ลอดไฟฟำ้ ของรถพยำบำลสวำ่ งได้

๒. ชิ้นงำนใหม่ท่ีกลมุ่ ออกแบบได้น�ำสมบัติทำงกำยภำพของวสั ดใุ ดมำใช้ประโยชน์บำ้ งและ
ใชท้ ำ� อะไร
นักเรยี นตอบตำมท่ีออกแบบ

๓. จำกกจิ กรรมน้ี สรุปไดว้ ำ่ อยำ่ งไร

กำรออกแบบรถพยำบำลจ�ำลองตอ้ งพิจำรณำถึงวสั ดุทีม่ สี มบัตทิ ำงกำยภำพดำ้ น
ควำมแข็ง สภำพยืดหยุ่นและกำรน�ำไฟฟำ้ ของวสั ดุ

ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครูผู้สอน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๔๑๑

6102153L01c.indd 411 9/10/18 9:34 AM

ชื่อ-สกลุ เดือน ชน้ั เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๒
วันที่ พ.ศ.

ใบงาน ๐๒ : แมบาใบชฝป้ ึกรหะดั โยเชรนือ่ ์งการนา� สมบตั ทิ างกายภาพของวัสดุ

ตอบคำ� ถำมตอ่ ไปนใี้ ห้ถกู ตอ้ ง
๑. แทรมโพลีนเป็นเครื่องเล่น ท่ีผู้เล่นยืนอยู่บนแผ่นวัสดุ เมื่อออกแรงบนแผ่นวัสดุ

แผน่ วสั ดบุ รเิ วณทไี่ ดร้ บั แรงจะยบุ ลงและกลบั มำสทู่ เ่ี ดมิ เมอื่ หยดุ ออกแรง นกั เรยี น
คดิ วำ่ แทรมโพลนี เปน็ เครอ่ื งเลน่ ทที่ ำ� จำกวสั ดทุ มี่ สี มบตั ทิ ำงกำยภำพใด เพรำะเหตใุ ด

สมบตั ทิ ำงกำยภำพสภำพยดื หยนุ่ เพรำะวัสดุทม่ี สี ภำพยดื หยุ่นจะเปลีย่ นแปลง
รปู รำ่ งหรอื ควำมยำวเม่อื มแี รงมำกระท�ำและกลับคืนสสู่ ภำพเดิมได้

๔๑๒ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ )

6102153L01c.indd 412 9/10/18 9:35 AM

ชอ่ื -สกุล ช้นั เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๖-๐๒
วนั ท่ี พ.ศ.
เดือน

๒. วัสดุต่อไปน้ี คือ ไม้ เหล็ก และเส้นเอ็นไนลอน มีสมบัติทำงกำยภำพอะไรและน�ำไปใช้
ประโยชน์ได้อยำ่ งไร

ไม้ มีควำมแขง็ พอประมำณ นำ� ควำมรอ้ นไดไ้ มด่ ี จงึ เหมำะในกำรน�ำไปทำ� ตะหลวิ
หรือทัพพี
เหล็ก มคี วำมแข็งมำก และน�ำควำมรอ้ นไดด้ ี จึงเหมำะน�ำไปทำ� ภำชนะหงุ ต้ม
ท�ำใหอ้ ำหำรร้อนได้เร็ว
เสน้ เอน็ ไนลอน มีสภำพยืดหยุ่นดี จึงเหมำะน�ำไปท�ำเบด็ ตกปลำ หรอื แหจับปลำ

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครูผูส้ อน) กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๔๑๓

6102153L01c.indd 413 9/10/18 9:38 AM

6102153L01c.indd 414 9/10/18 9:38 AM

เฉลยแบบทดสอบ

6102153L01c.indd 415 9/10/18 9:38 AM

6102153L01c.indd 416 9/10/18 9:38 AM

โรงเรียน ปกี ารศกึ ษา แบบทดสอบวิชาวิทยาศาสตร์
ภาคเรยี นท่ี ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่

ชอ่ื - นามสกลุ เลขท่ี ชนั้

ค�ำช้แี จง :
แบบทดสอบมีทัง้ หมด ๒๕ ข้อ รวม ๙ หน้า เวลา ๓๐ นาที คะแนนเตม็ ๒๕ คะแนน
ให้เขยี นเคร่ืองหมาย X ทับตวั อกั ษรหนา้ คา� ตอบทีถ่ ูกตอ้ งทส่ี ุด

คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้

๒๕

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) ๔๑๗

6102153L01c.indd 417 9/10/18 9:38 AM

๑. ด.ช.ภาคภูมทิ ดลองแชต่ น้ เทียนทมี่ รี ากลงในนา�้ หมกึ สีแดงแลว้ เป็นเวลา ๑ ชั่วโมง
เมอื่ เขาตดั ลา� ตน้ ของตน้ เทยี นตามยาว จะสงั เกตเห็นอะไร
ก. น้�าหมึกสแี ดงอยู่เป็นจดุ ๆ

xข. น้�าหมกึ สีแดงเป็นเสน้

ค. น้�าหมกึ สแี ดงไหลออกมาจากลา� ต้น
ง. ไม่มกี ารเปล่ยี นแปลงเกดิ ข้นึ

๒. จากข้อ ๑ เพราะเหตุใดจงึ ตอ้ งใสน่ า้� หมึกสแี ดงลงในนา�้ ที่แชต่ น้ เทียน
ก. ชว่ ยใหต้ น้ เทยี นล�าเลียงนา้� ได้ดขี ึ้น
ข. ชว่ ยใหต้ ้นเทยี นสงั เคราะห์ดว้ ยแสงดีขึ้น

xค. ช่วยให้สงั เกตเหน็ ท่อลา� เลียงนา�้ ได้ชดั เจน

ง. ชว่ ยให้สังเกตเหน็ ท่อลา� เลียงอาหารไดช้ ัดเจน

๓. เพราะเหตุใดจึงเปรยี บเทียบใบไม้เปน็ หอ้ งครวั
ก. ใบท�าหนา้ ทีห่ ายใจ

xข. ใบท�าหนา้ ท่ีสรา้ งอาหาร

ค. ใบท�าหนา้ ที่ลา� เลียงนา้�
ง. ใบเปน็ บริเวณเดียวทีม่ ีการสะสมอาหาร

๔. ข้อใดกล่าวไดถ้ กู ตอ้ งเกยี่ วกบั การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื
ก. การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงต้องใชแ้ กส๊ ออกซิเจน
ข. การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื เกดิ ขึ้นท่ีบรเิ วณใบเทา่ น้นั

xค. น�้าตาลทีไ่ ดจ้ ากการสังเคราะห์ด้วยแสงจะถกู ลา� เลียงไปเล้ยี งส่วนตา่ ง ๆ

ง. สิ่งที่ได้จากการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืชคอื แกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์

๔๑๘ ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรับครูผ้สู อน) กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ )

6102153L01c.indd 418 9/10/18 9:38 AM

กระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพืชมกี ารเปลยี่ นแปลง ดงั นี้

A + B แสง D+E+F
คลอโรฟิลล์
เปลีย่ นเป็น

G

๕. D E และ F คอื ข้อใด ตามล�าดับ
ก. น้�าตาล นา้� คลอโรฟลิ ล์
ข. น้�าตาล แกส๊ ออกซเิ จน นา�้

xค. น�้า นา�้ ตาล แก๊สออกซิเจน

ง. แก๊สออกซเิ จน นา้� แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์

๖. G จากกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพืชในข้อ ๕ คืออะไร
ก. น้�า

xข. แปง้

ค. แกส๊ ออกซเิ จน
ง. แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์

๗. จากค�ากล่าวทว่ี ่า “ในบรรยากาศท่ีมีแก๊สคารบ์ อนไดออกไซดน์ อ้ ยหรือไม่มีเลยจะมี
ผลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพืช” นกั เรยี นเห็นด้วยกับคา� กล่าวนหี้ รอื ไม่ อย่างไร
ก. เหน็ ดว้ ย เพราะพืชใชแ้ กส๊ คารบ์ อนไดออกไซดส์ า� หรบั หายใจ

xข. เหน็ ด้วย เพราะแกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์เปน็ ปัจจัยทสี่ า� คญั ในการสังเคราะห์

ดว้ ยแสงของพืช
ค. ไม่เห็นด้วย เพราะพืชต้องการแกส๊ ออกซิเจนชว่ ยในการเจรญิ เตบิ โต
ง. ไม่เห็นดว้ ย เพราะการสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื ไมจ่ า� เป็นต้องใช้

แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์

ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาำ หรับครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๔๑๙

6102153L01c.indd 419 9/10/18 9:39 AM

กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืชมกี ารเปล่ยี นแปลง ดังน้ี

A + B แสง D+E+F
คลอโรฟิลล์
เปล่ียนเป็น

G

๕. D E และ F คือขอ้ ใด ตามล�าดับ
ก. น้�าตาล นา้� คลอโรฟิลล์
ข. น�้าตาล แก๊สออกซิเจน นา้�

xค. น้�า นา้� ตาล แก๊สออกซิเจน

ง. แก๊สออกซิเจน นา�้ แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์

๖. G จากกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพชื ในขอ้ ๕ คอื อะไร
ก. น้�า

xข. แป้ง

ค. แกส๊ ออกซิเจน
ง. แก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์

๗. จากค�ากลา่ วท่ีวา่ “ในบรรยากาศทมี่ แี ก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์นอ้ ยหรือไมม่ เี ลยจะมี
ผลต่อการเจรญิ เตบิ โตของพืช” นักเรียนเหน็ ด้วยกบั คา� กลา่ วนีห้ รือไม่ อยา่ งไร
ก. เหน็ ด้วย เพราะพืชใชแ้ ก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์สา� หรับหายใจ

xข. เหน็ ดว้ ย เพราะแก๊สคาร์บอนไดออกไซดเ์ ป็นปจั จยั ท่ีสา� คญั ในการสังเคราะห์

ดว้ ยแสงของพืช
ค. ไมเ่ หน็ ด้วย เพราะพืชตอ้ งการแก๊สออกซิเจนช่วยในการเจรญิ เตบิ โต
ง. ไมเ่ หน็ ด้วย เพราะการสังเคราะหด์ ว้ ยแสงของพืชไม่จา� เป็นตอ้ งใช้

แกส๊ คาร์บอนไดออกไซด์

๔๒๐ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรับครูผูส้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ )

6102153L01c.indd 420 9/10/18 9:39 AM

๘. ข้อใดจัดเรยี งส่วนประกอบของดอกไม้จากชัน้ นอกสุดไปยงั ชัน้ ในสุดไดถ้ กู ตอ้ ง
ก. กลบี เลีย้ ง กลีบดอก เกสรเพศเมยี เกสรเพศผู้

xข. กลบี เลีย้ ง กลบี ดอก เกสรเพศผู้ เกสรเพศเมีย

ค. กลีบดอก กลีบเลย้ี ง เกสรเพศเมีย เกสรเพศผู้
ง. กลบี ดอก กลบี เล้ยี ง เกสรเพศผู้ เกสรเพศเมีย
ใช้รปู ด้านล่างตอบคา� ถามขอ้ ๙



๖๓




๙. จากภาพส่วนประกอบของดอกหมายเลข ๑ และ ๒ คอื ขอ้ ใดตามลา� ดับ
ก. เกสรเพศผแู้ ละเกสรเพศเมีย
ข. เกสรเพศเมียและเกสรเพศผู้
ค. ก้านชดู อกและยอดเกสรเพศเมยี

xง. ยอดเกสรเพศเมียและอบั เรณู

๑๐. มขี นเป็นแผง ออกลูกเปน็ ไข่ เปน็ ลกั ษณะของสัตวก์ ลุม่ ใด

xก. สัตวป์ กี

ข. สัตวเ์ ลอื้ ยคลาน
ค. สัตวเ์ ล้ยี งลูกดว้ ยนา�้ นม
ง. สัตว์สะเทินนา้� สะเทนิ บก

ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๔๒๑

6102153L01c.indd 421 9/10/18 9:40 AM

๑๑. ขอ้ ใดไม่ใชก่ ลุม่ ของสตั ว์มีกระดูกสนั หลัง
ก. สัตว์ปกี
ข. สตั ว์เลอื้ ยคลาน

xค. สตั วม์ ลี �าตัวเปน็ ปล้อง

ง. สัตวส์ ะเทินนา้� สะเทินบก

๑๒. สตั ว์ในข้อใดเปน็ สตั วไ์ ม่มีกระดูกสันหลังทั้งหมด
ก. หอยแครง งู เตา่
ข. กบ แมงมุม ปลาทู
ค. แมลงวัน ไก่ เมน่ ทะเล

xง. ผีเสอื้ ตะขาบ ดอกไมท้ ะเล

๑๓. สัตวใ์ นขอ้ ใดจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันหมด

xก. กงุ้ หอย หมกึ

ข. ปะการัง ปลา เต่า
ค. ไส้เดือนดิน หอยทาก กบ
ง. พยาธิไสเ้ ดอื น พยาธิตวั จี๊ด จง้ิ จก

๑๔. นักวทิ ยาศาสตรพ์ บต้นไม้ชนดิ หน่ึงมรี ากสั้น ลา� ตน้ เตีย้ ใบใหญ่ ถา้ ใช้การมีดอก
เป็นเกณฑ์ จะจัดต้นไม้นเี้ ป็นพชื ไม่มดี อกไดห้ รอื ไม่ เพราะเหตใุ ด

ก. ได้ เพราะมีรากส้นั ลา� ตน้ เต้ีย
ข. ได้ เพราะมีใบใหญแ่ ล้วจะไม่มดี อก

xค. ไมไ่ ด้ เพราะอาจไม่พบดอกในชว่ งท่สี ังเกต

ง. ไมไ่ ด้ เพราะพชื สว่ นใหญเ่ ปน็ พืชดอก

๔๒๒ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรับปรุง)

6102153L01c.indd 422 9/10/18 9:40 AM

๑๕. ตัวนา� ความร้อน หมายถึงวสั ดทุ ีม่ สี มบตั ใิ นข้อใด
ก. เกบ็ ความร้อนไดม้ าก

xข. ความร้อนเคล่ือนผา่ นไดด้ ี

ค. ผลิตความรอ้ นไดม้ าก
ง. ใหค้ วามร้อนได้มาก
๑๖. ตัวนา� ไฟฟา้ หมายถึงวัสดทุ ่ีมสี มบตั ใิ นข้อใด
ก. เก็บไฟฟา้ ได้ดีมาก
ข. ผลิตไฟฟา้ ไดม้ าก

xค. ไฟฟ้าผ่านไดด้ มี าก

ง. ไฟฟา้ ผา่ นได้น้อยมาก
๑๗. ข้อมลู แสดงผลการวดั ความยาวของเสน้ วสั ดุท้งั ๔ ชนดิ เมอ่ื แขวนถุงทรายเปน็ ดงั นี้
ตำรำง ควำมยำววสั ดุ ๔ ชนิด กอ่ นแขวน ขณะแขวนและหลงั แขวนถงุ ทรำย

ความยาวของวัสดุ ( เซนตเิ มตร )
วสั ดุ ก่อนแขวนถุงทราย ขณะแขวนถงุ ทราย หลังแขวนถุงทราย

ชนดิ ท่ี ๑ ๒๕ ๒๖ ๒๖

ชนดิ ที่ ๒ ๒๕ ๒๘ ๒๖

ชนิดที่ ๓ ๒๕ ๓๑ ๒๗

ชนิดท่ี ๔ ๒๕ ๓๐ ๒๕

จากขอ้ มลู วัสดชุ นดิ ใดมสี ภาพยดื หยนุ่
ก. ชนิดท่ี ๑
ข. ชนดิ ที่ ๒
ค. ชนดิ ที่ ๓

xง. ชนดิ ท่ี ๔

ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) ๔๒๓

6102153L01c.indd 423 9/10/18 9:41 AM

๑๘. ถา้ ตอ้ งการใชค้ ตั เตอรก์ รดี กระดาษบนโตะ๊ ไม้โดยไม่ให้โต๊ะเป็นรอย ควรใชส้ ิง่ ใด
รองบนโต๊ะ

xก. แผน่ กระจก

ข. แผน่ กระดาษ
ค. แผ่นพลาสติก
ง. แผน่ หนงั
๑๙. การผลิตเคร่อื งใชใ้ นขอ้ ใดตอ้ งพิจารณาจากสมบตั กิ ารนา� ความร้อนของวัสดุ
ก. เคร่อื งเรือน
ข. เครื่องนอน

xค. ภาชนะหุงตม้

ง. ของตกแตง่ บ้าน
ใชข้ อ้ มูลต่อไปนี้ในการตอบคา� ถามข้อ ๒๐

จากการทดลองน�าวัตถุ A B และ C มาวางไว้ระหว่างผู้สังเกตและต้นไม้ แล้วมอง
ตน้ ไม้ไดผ้ ลการสงั เกตดงั นี้

ชนิดของวัสดุ ผลการสงั เกต

A มองเหน็ ตน้ ไมไ้ ด้ไมช่ ัดเจน
B มองเหน็ ตน้ ไมไ้ ดอ้ ย่างชัดเจน
C ไม่สามารถมองเหน็ ต้นไมไ้ ด้

๔๒๔ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ )

6102153L01c.indd 424 9/10/18 9:41 AM

๒๐. ถ้าตอ้ งการเลือกวัตถุทั้งสามชนดิ ไปใช้ในการทา� กระจกหน้ารถยนต์ ควรเลือกวัตถใุ ด
ก. A

xข. B

ค. C
ง. A และ B
๒๑. จากภาพข้อใดตอ่ ไปน้ีเรียงลา� ดับประเภทของวตั ถุ A B และ C ทีก่ ั้นระหว่าง
แจกันดอกไม้กบั ดวงตา ตามล�าดับ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง

วัตถกุ ้ันแสง A B C

ก. วัตถุทึบแสง ตวั กลางโปร่งใส ตวั กลางโปร่งแสง
ข. วัตถทุ ึบแสง ตัวกลางโปรง่ แสง ตัวกลางโปร่งใส

xค. ตวั กลางโปรง่ ใส ตวั กลางโปร่งแสง วตั ถุทบึ แสง

ง. ตวั กลางโปรง่ แสง ตวั กลางโปรง่ ใส วตั ถทุ ึบแสง
๒๒. ขณะทล่ี กู โปง่ ก�าลงั ลอยข้นึ ไปบนท้องฟา้ แรงโน้มถว่ งของโลกกระทา� กับลกู โปง่

ในทศิ ทางใด
ก. ทิศทางขนึ้ ในแนวดิ่ง

xข. ทิศทางลงในแนวดงิ่

ค. ไม่มแี รงโน้มถว่ ง เพราะลกู โปง่ กา� ลังลอย
ง. ไมม่ ที ิศทางทแ่ี นน่ อนขึน้ อย่กู บั ตา� แหน่งของลูกโป่ง

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๔๒๕

6102153L01c.indd 425 9/10/18 9:41 AM

ใชข้ อ้ มลู ตอ่ ไปนี้ ตอบคา� ถามขอ้ ๒๓ และ ๒๔
นักเรียนปน้ั ดนิ นา�้ มนั เปน็ ก้อนแล้วนา� ไปหยอ่ นในภาชนะท่ใี สน่ า�้ ปรากฎว่า

กอ้ นดนิ นา�้ มันจมลง ดังรูปที่ ๑ แตเ่ มื่อนา� ดินนา้� มันกอ้ นเดิมมาปน้ั ใหม้ รี ูปรา่ งคลา้ ย
ชามแล้วหยอ่ นไปในภาชนะอีกครงั้ พบวา่ ดนิ นา้� มันลอยบนผิวนา้� ดงั รูปท่ี ๒

กอ่ นหยอ่ น หลังหยอ่ น รปู ที่ ๑
รปู ท่ี ๒

๒๓. มวลของดนิ นา้� มนั กอ่ นหย่อนลงนา�้ ระหวา่ ง ๑ และรูปที่ ๒ เปน็ อยา่ งไร

xก. เทา่ เดิม

ข. น้อยลง
ค. มากขน้ึ
ง. เปน็ ไปไดท้ ง้ั เท่าเดิมและนอ้ ยลง
๒๔. น�้าหนักของดนิ นา้� มันก่อนหย่อนลงนา้� ระหว่างรูปที่ ๑ และรปู ท่ี ๒ เปน็ อยา่ งไร

xก. เท่าเดิม

ข. น้อยลง
ค. มากข้นึ
ง. เป็นไปไดท้ ้ังเทา่ เดมิ และนอ้ ยลง

๔๒๖ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ )

6102153L01c.indd 426 9/10/18 9:41 AM

๒๕. ถ้ารถ ๔ คนั A B C และ D มมี วลเทา่ กับ ๑,๒๐๐ กโิ ลกรัม ๑,๑๐๐ กิโลกรัม
๑,๕๐๐ กิโลกรัม ๑,๐๐๐ กิโลกรัม ตามล�าดับ วิ่งด้วยความเร็วท่ีเท่ากัน
ถา้ ตอ้ งการใหร้ ถทง้ั ๔ คนั หยดุ ในระยะทางทเ่ี ทา่ กนั รถคนั ใดใชแ้ รงในการหยุด
มากที่สุด

ก. A
ข. B

xค. C

ง. D

ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครูผู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) ๔๒๗

6102153L01c.indd 427 9/10/18 9:41 AM

๓๖๔

บรรณำนกุ รม

สถาบนั สง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (๒๕๖๑). ค่มู ือการใชห้ ลกั สูตร
รายวิชาพ้ืนฐานวทิ ยาศาสตร์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐)
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราข ๒๕๕๑ วิชาวิทยาศาสตร์ ระดบั ประถมศกึ ษา.
สบื ค้นเมอื่ วนั ท่ี ๓๐ เมษายน ๒๕๖๑, จาก http://primaryscience.ipst.ac.th/?p=1349.

สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๖๐). คมู่ ือครูรายวชิ าพน้ื ฐาน
วทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์: โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว.

สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์ กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๖๑). ตวั ชว้ี ดั และสาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
กล่มุ สาระวทิ ยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๐) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน
พุทธศกั ราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมชนุ สหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จากัด.

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๕๘). หนงั สือเรยี นรายวิชา
พื้นฐานวิทยาศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔. กรงุ เทพมหานคร: โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพร้าว.

สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธิการ. (๒๕๖๑). หนงั สือเรียนรายวชิ า
พน้ื ฐานวทิ ยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๔ เล่ม ๑. กรุงเทพมหานคร: โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.

สถาบันสง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (๒๕๖๑). หนังสือเรียนรายวชิ า
พื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ เลม่ ๒. กรงุ เทพมหานคร: โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.

๔๒๘ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง)

6102153L01c.indd 428 9/10/18 9:41 AM

๓๖๕

คณะผู้จดั ทำ

ทป่ี รกึ ษำมลู นิธิกำรศกึ ษำทำงไกลผ่ำนดำวเทียม ในพระบรมรำชูปถมั ภ์

พลเอกดาวพ์ งษ์ รัตนสุวรรณ ประธานกรรมการบริหารมลู นิธิการศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม
รองศาสตราจารย์นราพร จันทร์โอชา ในพระบรมราชูปถมั ภ์
นายอนสุ รณ์ ฟูเจริญ รองประธานกรรมการบรหิ ารมูลนิธิการศึกษาทางไกลผา่ น
ดาวเทียมในพระบรมราชูปถมั ภ์
ผชู้ ว่ ยเลขาธกิ ารมูลนธิ ิการศกึ ษาทางไกลผ่านดาวเทยี ม
ในพระบรมราชูปถัมภ์

ท่ปี รกึ ษำสำนกั งำนโครงกำรสมเดจ็ พระเทพรตั นรำชสุดำ ฯ

นายสมเกียรติ ชอบผล ทปี่ รึกษาสานักงานโครงการสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ า ฯ
นายสุชาติ วงศส์ ุวรรณ ข้าราชการบานาญ อดตี ผูต้ รวจราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ

ท่ปี รกึ ษำสำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำข้ันพนื้ ฐำน

นายบญุ รักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน
นายณรงค์ แผว้ พลสง รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน
นางสาวอุษณยี ์ ธโนศวรรย์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน
นางสุกัญญา งามบรรจง รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน
นายอัมพร พนิ ะสา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน
นายสนทิ แย้มเกษร ผ้ชู ว่ ยเลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน

ท่ีปรกึ ษำกล่มุ สำระกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตร์

ศาสตราจารย์ ดร.ชกู จิ ลิมปจิ านงค์ ผู้อานวยการสถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
รกั ษาการผู้ชว่ ยผูอ้ านวยการสถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตร์
ดร.กศุ ลิน มสุ กิ ลุ และเทคโนโลยี

ผู้รับผิดชอบโครงกำร

นางนิรมล ตู้จินดา ผูเ้ ชย่ี วชาญด้านพฒั นาหลักสูตรและการเรยี นรู้

ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ้สู อน) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) ๔๒๙

6102153L01c.indd 429 9/10/18 9:42 AM

๓๖๖

คณะทำงำนกลุ่มสำระกำรเรยี นรวู้ ทิ ยำศำสตร์

ดร.พจนา ดอกตาลยงค์ นกั วชิ าการสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
นกั วิชาการสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร.เบญ็ จวรรณ หาญพิพัฒน์ นกั วชิ าการสถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ครโู รงเรียนแสงวทิ ยา จ.สระบุรี
นางสาวจรี นนั ท์ เพชรแกว้ ครูโรงเรยี นบีคอนเฮาส์แยม้ สอาดรงั สิต จ.ปทมุ ธานี
ครโู รงเรยี นบริบรู ณ์ศิลปร์ ังสติ จ.ปทุมธานี
นางพศิ มัย เหล็กสงค์ ครโู รงเรยี นบริบูรณศ์ ลิ ป์รังสิต จ.ปทมุ ธานี

นางสาวอริยาภรณ์ ขนุ ปกั ษี

นางสาวกฤษณา โสนนลิ

นางสาวอรพรรณ พ่ัวพนั ศร

คณะบรรณำธกิ ำรกจิ รกั ษาการผู้อานวยการสาขาวทิ ยาศาสตร์ภาคบังคบั
สถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ดร.เทพกญั ญา พรหมขตั ิแกว้ ผูเ้ ชย่ี วชาญสถาบันส่งเสรมิ การสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
ผเู้ ชยี่ วชาญสถาบนั ส่งเสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
นางสาวดวงกมล เหมะรตั ผู้ชานาญสถาบันสง่ เสริมการสอนวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
นางสาววรรณภา ศรวี ไิ ลสกลุ วงศ์
นางสาวลัดดาวลั ย์ แสงสาลี

๔๓๐ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

6102153L01c.indd 430 9/10/18 9:42 AM


Click to View FlipBook Version