The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pepo.nontawat, 2022-09-08 12:22:21

เเผนการ สอน วิทยาศาสตร์ฯ ป.4 สื่อ 60 พรรษา

Keywords: เเผนการ สอน วิทยาศาสตร์ฯ ป.4 สื่อ 60 พรรษา

เฉลยใบงาน

6102153L01c.indd 91 9/10/18 8:52 AM


6102153L01c.indd 92 9/10/18 8:52 AM


ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๑.๑ / ผ. ๑.๓ - ๐๑
วนั ท่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๑ :ลักษณะของพชื

บันทกึ ผลการทา� กจิ กรรม
ตาราง ส่วนต่าง ๆ ของพืชชนดิ ต่าง ๆ
ขดี ในช่องท่พี บสว่ นของพืชแต่ละชนดิ

ช่อื พชื สว่ นตา่ ง ๆ ของพืช

ราก ล�าต้น ใบ ดอก ผลและเมลด็

๑.มะมละิลิ 3 3 3 3 3

๒. มะม่วง 3 3 3 3 3
๓. เฟิน 3 3 3

๔.

๕.

ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครูผสู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) ๙๓

6102153L01c.indd 93 9/10/18 8:52 AM


ชอ่ื -สกลุ ชนั้ เลขที่ บ. ๑.๑ / ผ. ๑.๓ - ๐๑
วันท่ี พ.ศ.
เดือน

ตาราง ส่วนต่าง ๆ ของพชื ชนิดตา่ ง ๆ (ต่อ)

ช่อื พืช ส่วนตา่ ง ๆ ของพชื

ราก ล�าต้น ใบ ดอก ผลและเมล็ด

๖.

๗. บันทึกตามทส่ี งั เกตได้
๘.

๙.

๑๐.

๙๔ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง)

6102153L01c.indd 94 9/10/18 8:52 AM


ช่อื -สกลุ เดอื น ชั้น เลขที่ บ. ๑.๑ / ผ. ๑.๓ - ๐๑
วนั ที่ พ.ศ.

ผลการจ�าแนกพชื จากลักษณะของส่วนตา่ ง ๆ ของพืชตามเกณฑ์ทกี่ ล่มุ กา� หนด

นกั เรยี นตอบตามทีก่ ลมุ่ ก�าหนด
เกณฑท์ ี่ใช้ในการจา� แนกพชื คอื เช่น ลักษณะของใบ
จ�าแนกพืชได ้ ๒ กลุ่ม

ลักษณะของพชื กลุ่มท ่ี ๑ คอื ใบเรยี วยาว
พชื กลมุ่ ท่ ี ๑ ไดแ้ ก่ กลว้ ย พุทธรักษา ตะไคร้

ลักษณะของพชื กล่มุ ที่ ๒ คอื ใบกลมรี
พืชกลมุ่ ที่ ๒ ได้แก ่ กุหลาบ พรกิ

ลกั ษณะของพืชกลมุ่ ท ี่ ๓ คือ
พืชกลมุ่ ที่ ๓ ไดแ้ ก ่

ลักษณะของพชื กลุม่ ท่ี ๔ คือ
พืชกล่มุ ท่ ี ๔ ไดแ้ ก่

ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรับครผู ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) ๙๕

6102153L01c.indd 95 9/10/18 8:52 AM


ชื่อ-สกลุ เดือน ช้ัน เลขที่ บ. ๑.๑ / ผ. ๑.๓ - ๐๑
วันท ี่ พ.ศ.

ผลการจ�าแนกพืช โดยใช้การมีดอกเปน็ เกณฑ์

จา� แนกพชื ได ้ ๒ กลุ่ม
ลักษณะของพืชกลมุ่ ท ่ี ๑ คือ มดี อก
พืชกลุ่มท ี่ ๑ ได้แก่ มะลิ มะมว่ ง
ลักษณะของพืชกลมุ่ ท่ ี ๒ คอื ไม่มีดอก
พืชกลุ่มท่ ี ๒ ไดแ้ ก่ เฟนิ มอส
ลักษณะของพชื กลุ่มที่ ๓ คือ
พชื กล่มุ ท ่ี ๓ ไดแ้ ก่

ลักษณะของพืชกลมุ่ ท่ี ๔ คอื
พืชกล่มุ ท ี่ ๔ ไดแ้ ก่

๙๖ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครูผสู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

6102153L01c.indd 96 9/10/18 8:52 AM


ชอ่ื -สกลุ เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๑.๑ / ผ. ๑.๓- ๐๑
วนั ที ่ พ.ศ.

คา� ถามหลงั จากทา� กจิ กรรม
๑. สว่ นต่างๆ ของพชื แตล่ ะชนิดที่พบเหมือนกัน คืออะไร

ราก ล�าต้น ใบ

๒. ส่วนต่างๆ ของพืชแตล่ ะชนิดท่พี บตา่ งกัน คอื อะไร
ดอกและผล

๓. ผลการจ�าแนกพชื ท่แี ต่ละกลุม่ กา� หนดเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
นกั เรียนตอบตามผลการทา� กจิ กรรม

๔. ถ้าใช้การมีดอกเปน็ เกณฑ์ จะจา� แนกพชื ได้ก่กี ลุม่ อะไรบา้ ง
จา� แนกได้ ๒ กลุม่ คอื พืชดอกและพืชไม่มดี อก

๕. จากกิจกรรมน้ ี สรปุ ไดว้ ่าอยา่ งไร
เราสามารถจา� แนกพชื ตามเกณฑท์ ก่ี า� หนดได้ ถา้ ใชก้ ารมดี อกเปน็ เกณฑจ์ ะจา� แนก
ไดเ้ ปน็ ๒ กลมุ่ คอื พชื ดอกและพืชไม่มีดอก

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครูผู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) ๙๗

6102153L01c.indd 97 9/10/18 8:52 AM


ช่ือ-สกุล เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๑.๑ / ผ. ๑.๓ - ๐๒
วันท ่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๒ :แบบฝกึ หัด เรือ่ งการจ�าแนกพืช

ตอบคา� ถามตอ่ ไปน้ใี หถ้ ูกตอ้ ง

๑. ถ้าจา� แนกพชื ออกเป็น ๒ กลุ่ม ดังรปู เกณฑท์ ี่ใชใ้ นจ�าแนกพืชเหลา่ นี้คอื อะไร
เพราะเหตุใด
พืชกลุ่ม ๒

พืชกลุ่ม ๑

ทานตะวัน ชบา บานบุรี

ปรง เฟิน มอส

จา� แนกได้เปน็ ๒ กลมุ่ คือ พืชกลุ่มที่ ๑ คอื พืชไมม่ ดี อก และ กลมุ่ ที่ ๒ คอื
พชื ดอก เพราะใช้การมีดอกเปน็ เกณฑ์
๒. ถา้ ใช้การมดี อกเปน็ เกณฑ์ ไขน่ �า้ หรอื ผา� ควรจัดอยใู่ นกลุ่มใด เพราะเหตุใด

ไขน่ า�้ หรอื ผา� ไข่น้�าหรือผ�า เป็นพืชดอกมีขนาดเล็กที่สุด
ในโลก มีขนาดประมาณ ๓ มิลลิเมตร มีลักษณะ
เป็นรูปไข่ คล้ายไข่ปลาเล็กๆ สีเขียว ไม่มีราก
เพราะผ�าสามารถดูดน้�าจากแหล่งท่ีอยู่ได้โดยตรง
อาจพบผ�าตามผิวน�้าในแหล่งน้�านิ่งสะอาดท่ัวไป
บางท้องถ่นิ น�าผา� มาทา� เปน็ อาหาร

อยู่ในกลมุ่ พืชดอก เพราะมีดอก

๙๘ ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรุง)

6102153L01c.indd 98 9/10/18 8:52 AM


หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ๒
สว่ นตา่ ง ๆ ของพืช

6102153L01c.indd 99 9/10/18 8:52 AM


6102153L01c.indd 100 9/10/18 8:52 AM


๘๖

มำตรฐำนกำรเรียนรู้และตวั ชว้ี ัดของหนว่ ยกำรเรียนร้ทู ี่ ๒
ส่วนตำ่ ง ๆ ของพืช (จำนวน ๑๒ ชว่ั โมง)

มำตรฐำนกำรเรียนรู้และตัวชว้ี ดั

มำตรฐำน ว ๑.๓
เข้าใจสมบตั ิของสง่ิ มชี ีวติ หน่วยพนื้ ฐานของสิง่ มีชวี ติ การลา� เลียงสารผ่านเซลล์ ความสัมพันธข์ อง

โครงสร้าง และหน้าท่ขี องระบบตา่ ง ๆ ของสตั ว์และมนุษย์ท่ที �างานสัมพันธ์กัน ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง
และหนา้ ทีข่ องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื ทที่ �างานสมั พนั ธก์ ันรวมทง้ั น�าความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ตวั ชวี้ ัด
ป.๔/๑ บรรยายหน้าทขี่ องราก ลาตน้ ใบ และดอกของพืชดอกโดยใช้ขอ้ มูลที่รวบรวมได้

ชดุ การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครูผสู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) ๑๐๑

6102153L01c.indd 101 9/10/18 8:52 AM


๘๗

ลำดบั กำรนำเสนอแนวคิดหลกั ของหนว่ ยกำรเรียนรทู้ ี่ ๒ สว่ นตำ่ ง ๆ ของพชื

ส่วนตา่ ง ๆ ของพืชดอกทาหน้าทแ่ี ตกต่างกนั
รากทาหน้าที่ดูดนา้ และธาตอุ าหารข้นึ ไปยงั ลาตน้

ลาตน้ ทาหนา้ ที่ลาเลียงน้าและธาตุอาหารต่อไปยังสว่ นต่าง ๆ ของพชื

ใบทาหน้าทสี่ ร้างอาหาร อาหารทพ่ี ืชสรา้ งขึน้ คือนา้ ตาล ซง่ึ จะเปลี่ยนเปน็ แป้ง

ดอกทาหนา้ ท่ีสบื พันธุ์ ประกอบด้วยส่วนประกอบตา่ ง ๆ ได้แก่ กลบี เลย้ี ง กลบี ดอก เกสรเพศผู้
และเกสรเพศเมีย ซ่ึงสว่ นประกอบแต่ละสว่ นของดอกทาหน้าท่ีแตกต่างกัน

๑๐๒ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ )

6102153L01c.indd 102 9/10/18 8:52 AM


๘๘

โครงสรำ้ งแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ของหน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๒ สว่ นตำ่ ง ๆ ของพืช

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑.๑ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๑.๒ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑.๓
หนา้ ท่ขี องรากและ หนา้ ที่ของใบ หนา้ ทข่ี องดอก
ลาตน้ (๔ ช่วั โมง)
(๔ ชว่ั โมง) (๔ ชั่วโมง)
หน่วยยอ่ ยท่ี ๑
หนา้ ทข่ี องราก ลาต้น ใบ

และดอกของพืช

หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๒
สว่ นต่ำง ๆ ของพชื

(๑๒ ชว่ั โมง)

ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๐๓

6102153L01c.indd 103 9/10/18 8:52 AM


6102153L01c.indd 104 9/10/18 8:52 AM


หนว่ ยย่อยท่ี ๑
หน้าทขี่ องราก ล�ำ ตน้ ใบ และดอกของพชื

6102153L01c.indd 105 9/10/18 8:53 AM


6102153L01c.indd 106 9/10/18 8:53 AM


๘๙

หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ หน้ำทขี่ องรำก ลำต้น ใบ และดอกของพืช

หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ ๒ ช่ือหน่วย ส่วนต่ำง ๆ ของพืช

จำนวนเวลำเรยี น ๑๒ ชว่ั โมง จำนวนแผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ ๓ แผน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำระสำคัญของหนว่ ย
ส่วนต่าง ๆ ของพืชดอกทาหน้าที่แตกต่างกัน รากทาหน้าที่ดูดน้าและธาตุอาหารขึ้นไปยังลาต้น

ลาต้นทาหน้าที่ลาเลียงน้าและธาตุอาหารต่อไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช ใบทาหน้าที่สร้างอาหาร อาหารท่ีพืช

สร้างขึ้นคือน้าตาล ซึ่งจะเปลี่ยนเป็นแป้ง ดอกทาหน้าที่สืบพันธ์ุ ประกอบด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ ได้แก่

กลบี เลี้ยง กลีบดอก เกสรเพศผู้ และเกสรเพศเมยี ซึง่ สว่ นประกอบแตล่ ะสว่ นของดอกทาหนา้ ทแ่ี ตกตา่ งกัน

มำตรฐำนและตวั ช้วี ดั
ว ๑.๒ ป.๔/๑ บรรยายหนา้ ทขี่ องราก ลาต้น ใบ และดอกของพชื ดอกโดยใช้ขอ้ มูลท่รี วบรวมได้

ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครูผู้สอน) กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๑๐๗

6102153L01c.indd 107 9/10/18 8:53 AM


๙๐

ลำดับกำรนำเสนอแนวคดิ หลักของหน่วยย่อยท่ี ๑ หนำ้ ที่ของรำก ลำต้น ใบ และดอกของพชื
สว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ดอกทาหน้าท่แี ตกต่างกนั

รากทาหน้าท่ีดูดน้าและธาตอุ าหารขน้ึ ไปยังลาต้น

ลาตน้ ทาหน้าท่ลี าเลยี งนา้ และธาตุอาหารต่อไปยงั ส่วนต่าง ๆ ของพืช

ใบทาหนา้ ท่ีสรา้ งอาหาร อาหารที่พืชสร้างขึ้นคือน้าตาลซึง่ จะเปลย่ี นเปน็ แปง้

ดอกทาหนา้ ที่สบื พนั ธุ์ ประกอบดว้ ยส่วนประกอบตา่ ง ๆ ได้แก่ กลบี เล้ยี ง กลีบดอก เกสรเพศผู้
และเกสรเพศเมีย ซ่ึงสว่ นประกอบแตล่ ะสว่ นของดอกทาหน้าท่ีแตกต่างกัน

โครงสร้ำงของหน่วยยอ่ ยท่ี ๑ หน้ำที่ของรำก ลำตน้ ใบ และดอกของพืช
.

หน่วยกำรเรียนรู้ ชือ่ หน่วยย่อย จำนวนแผน ชือ่ แผนกำรจัดกำร จำนวนช่ัวโมง
เรยี นรู้ ๔

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ หนว่ ยย่อยที่ ๑ ๓ ๑.๑ หนา้ ทข่ี องรากและ ๔

๒ สว่ นต่าง ๆ ของ หน้าท่ีของราก ลาต้น ลาตน้

พชื ใบ และดอกของพืช ๑.๒ หนา้ ทีข่ องใบ

๑.๓ หนา้ ทขี่ องดอก

๑๐๘ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ )

6102153L01c.indd 108 9/10/18 8:53 AM


๙๑

คำช้แี จงประกอบแผนจัดกำรเรยี นรู้ หนว่ ยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๒

แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑.๑ หนำ้ ท่ีของรำกและลำต้น เวลำ ๔ ช่ัวโมง

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๑. สำระสำคัญของแผน
รากและลาต้นเปน็ สว่ นสาคญั ของพืชท่ีทาหนา้ ท่ีแตกต่างกนั เพอ่ื การดารงชวี ติ ของพชื

๒. ขอ้ เสนอแนะเพม่ิ เติมในกำรนำไปใช้ (ใหร้ ะบสุ ิ่งทตี่ ้องกำรเนน้ หรือขอ้ สังเกต ข้อเสนอแนะ คำแนะนำ)
ในเร่ืองต่อไปน้ี คอื
๒.๑ ขอบข่ำยเนอื้ หำ
รากเป็นส่วนหนึ่งของพืชที่ทาหน้าที่ดูดน้าและธาตุอาหาร แล้วลาเลียงไปยังลาต้น ลาต้นทาหน้าที่
ลาเลียงน้าและธาตุอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ ของพืช นอกจากนี้รากและลาต้นของพืชบางชนิดยังทาหน้าที่
สะสมอาหาร
๒.๒ จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ (ควำมรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยม) (ถ้ำม)ี

จดุ ประสงคด์ ้ำนควำมรู้
๑. อภปิ รายและอธบิ ายหน้าท่ขี องรากและลาต้น
๒. อภิปรายและระบชุ นดิ ของอาหารทีส่ ะสมไวท้ ร่ี ากและลาตน้

จุดประสงค์ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
๑. การสงั เกต

๒. การจดั กระทาและสือ่ ความหมายข้อมลู

๓. การลงความเห็นจากข้อมูล
๔. การตีความหมายข้อมูลและลงขอ้ สรุป

จุดประสงคด์ ้ำนคณุ ธรรม
๑. มจี ิตสาธารณะต่อสงิ่ แวดล้อม

๒. มคี วามสามัคคี ชว่ ยเหลอื ในการทางานกลุ่มร่วมกนั

๓. มีวินัย
๔. มีความมุง่ มัน่ ในการทางาน

ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรับครูผู้สอน) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรุง) ๑๐๙

6102153L01c.indd 109 9/10/18 8:53 AM


๙๒

๒.๓ กำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้

๑) กำรเตรียมตัวของครู นักเรียน (กำรจดั กลุม่ ) (ถ้ำมี)

๑.๑ การจัดกล่มุ โดยแบง่ นักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ ๕ คน

๒) กำรเตรียมสื่อ วัสดุอุปกรณ์ ของครู นกั เรยี น (ถ้ำม)ี

สง่ิ ทีค่ รูตอ้ งเตรยี ม คือ

๒.๑ เตรียมน้าสแี ดง ถา้ ใชส้ ผี สมอาหารแบบนา้ ให้ผสมนา้ สีกับน้าในอัตราสว่ น ๑๐ หยด

ต่อน้า ๑๐ ลูกบาศก์เซนติเมตร และถ้าเป็นสีผสมอาหารแบบผง ผสมในอัตราส่วน ๑/๒ ช้อนชา

ตอ่ นา้ ๑,๐๐๐ ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร

๒.๒ ต้นเทียนท่ีมรี าก ๑ ต้น/กลมุ่ (หรอื พชื ทล่ี าต้นค่อนข้างใส) เชน่ ฤาษีผสม กระสัง

ครูควรตรวจสอบก่อนทจ่ี ะให้นกั เรยี นทากจิ กรรมเพ่อื ใหแ้ น่ใจวา่ นักเรยี นจะสังเกตลกั ษณะของราก

และลาตน้ ไดช้ ัดเจน โดยไมร่ ดนา้ ใหพ้ ชื ประมาณ ๑ วนั

๒.๓ มดี โกน ๑ ดา้ ม/กลุ่ม

๒.๔ แวน่ ขยาย ๑ อัน/กลุ่ม

๒.๕ ต้นมะเขอื หรือพืชชนดิ อื่นท่มี ีราก ลาตน้ ใบ และดอก ครบ

๒.๖ น้าแป้งมัน ๕๐ มลิ ลลิ ิตร/กลุ่ม

๒.๗ นา้ แปง้ ขา้ วโพด ๕๐ มิลลลิ ติ ร/กลุ่ม

๒.๘ สารละลายไอโอดนี ๑ % ๑ ขวดเล็ก/กลมุ่

๒.๙ ท่วี างหลอดทดลอง ๑ อัน/กลมุ่

๒.๑๐ จานหลมุ พลาสตกิ ๑ จาน/กลุ่ม

๒.๑๑ กระบอกตวงขนาด ๑๐ ลกู บากศกเ์ ซนตเิ มตร ๑ อนั /กลมุ่

๒.๑๒ หลอดหยด ๖ อนั /กลุ่ม

๒.๑๓ หลอดทดลอง ๖ หลอด/กลุ่ม

สงิ่ ทีน่ ักเรียนต้องเตรียม คือ

๒.๑๔ สไี ม้ ๑ กล่อง/กลุ่ม

๒.๑๕ แครอท ขิง ข่า กระชาย เผือก มันเทศ และมันฝร่งั ชนดิ ละ ๑ หัว/หอ้ ง

๑๑๐ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครูผูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

6102153L01c.indd 110 9/10/18 8:53 AM


๙๓

๓) เตรยี มใบงำน ใบควำมรู้ ใบกจิ กรรม (ถ้ำมี)
๓.๑ ใบงาน ๐๑ หนา้ ทีข่ องรากและลาต้น
๓.๒ หนา้ ท่ีอ่ืนของรากและลาตน้
๓.๓ ใบงาน ๐๓ แบบฝึกหัด เร่อื งหน้าที่ของรากและลาต้น

๒.๔ วดั ผลประเมินผล (ถ้ำมี)
๑) วธิ ีกำรวัดผลประเมินผลกำรเรียนรู้
๑.๑ การตอบคาถามในใบงาน
๑.๒ สงั เกตทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการทากิจกรรม
๑.๓ สังเกตดา้ นคุณธรรมขณะทากจิ กรรม
๒) วธิ กี ำร เครือ่ งมอื เกณฑ์
๒.๑ เคร่ืองมอื และเกณฑใ์ นกำรประเมนิ ด้ำนควำมรู้
ตรวจให้คะแนนจากการตอบคาถามในใบงาน แลว้ ใช้เกณฑใ์ นการให้คะแนน ดังน้ี
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน

- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน

- ตา่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

๒.๒ เครอ่ื งมอื และเกณฑใ์ นกำรประเมนิ ทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
สงั เกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมินทักษะกระบวนการ

ทางวทิ ยาศาสตร์ (ดงั แนบ) แลว้ นาคะแนนมารวมกัน แล้วใช้เกณฑ์ในการใหค้ ะแนนดังนี้

- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน

- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน

- ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

๒.๓ เครือ่ งมือและเกณฑใ์ นกำรประเมนิ ด้ำนคุณธรรม
สังเกตคณุ ลักษณะดา้ นคุณธรรมโดยใชแ้ บบประเมินด้านคุณธรรม (ดงั แนบ) แลว้ นา

คะแนนมารวมกนั แล้วใชเ้ กณฑ์ในการให้คะแนนดงั นี้
- มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน

- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน

- ตา่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๑๑

6102153L01c.indd 111 9/10/18 8:53 AM


๙๔

๓) กำรทดสอบก่อนเรยี น หลังเรียน แบบฝกึ หดั ก่อนเรียน หลังเรยี น
ทาแบบฝึกหดั ในใบงานหลงั เรียน

๓. อื่น ๆ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

๑๑๒ ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ )

6102153L01c.indd 112 9/10/18 8:54 AM


6102153L01c.indd 113 ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๑๓ แนวกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ของแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑.๑ ๙๕
เร่ือง หนำ้ ที่ของรำกและลำต้น
หน่วยกำรเรียนรู้ที่ ๒ ส่วนตำ่ ง ๆ ของพืช รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์ เวลำ ๔ ช่วั โมง
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี ๔

ขั้นนำ แนวกำรจดั กิจกรรมกำรเรยี นรู้
ขั้นสอน  ทบทวนความรู้ท่ีไดเ้ รยี นมาแล้วของนกั เรยี นเกย่ี วกับหนา้ ทีข่ องสว่ นตา่ ง ๆ ของพืช
 ร่วมกนั อ่านและอภิปรายวิธกี ารทา กิจกรรมที่ ๑ รากและลาตน้ มีหนา้ ทอี่ ะไร
ขั้นสรุป  ทาใบงาน ๐๑ หน้าทขี่ องรากและลาตน้
กำรวดั และประเมนิ ผล  ทากิจกรรมที่ ๒ รากและลาต้นมหี นา้ ทีอ่ ื่นอกี หรือไม่
 ทาใบงาน ๐๒ หน้าท่ีอื่นของรากและลาต้น
 นาเสนอและอภปิ รายหน้าท่ีของรากและลาตน้
 รว่ มกนั สรุปเกยี่ วกับหน้าที่ของรากและลาตน้
 ทาใบงาน ๐๓ แบบฝึกหดั เร่อื งหน้าท่ีของรากและลาต้น
 ประเมินจากการตอบคาถาม
 ประเมินจากการทากิจกรรมในช้นั เรียน
 ประเมนิ จากการทาแบบฝกึ หัด

9/10/18 8:54 AM


6102153L01c.indd 114 ๙๖

๑๑๔ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ ๒ สว่ นต่ำง ๆ ของพืช แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑.๑ หน้ำทขี่ องรำกและลำต้น เวลำ ๔ ชัว่ โมง
กลุ่มสำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์ หน่วยย่อยที่ ๑ หนำ้ ที่ของรำก ลำต้น ใบ และดอกของพชื ช้ันประถมศกึ ษำปีท่ี ๔

รำยวิชำวทิ ยำศำสตร์ สือ่ / แหล่งเรียนรู้

ขอบเขตเนอ้ื หำ กิจกรรมกำรเรียนรู้ (๔ ช่ัวโมง) ๑. นา้
ช่ัวโมงท่ี ๑-๒
รำกเป็นส่วนหน่ึงของพืชที่ท�ำหน้ำที่ ขั้นนา� (๕ นาที) ๒. น้าแป้งมัน
ดูดนำ้� และธำตอุ ำหำร แล้วลำ� เลยี งไปยัง ๑. ครตู รวจสอบความรเู้ ดมิ ของนกั เรยี นทไ่ี ดเ้ รียนมาแลว้ เกย่ี วกบั หนา้ ทข่ี องสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ๓. นา้ แป้งข้าวโพด
ลำ� ตน้ ล�ำตน้ ทำ� หน้ำที่ลำ� เลียงน้�ำและ ๔. สารละลายไอโอดนี เข้มขน้ ๑ %
ธำตุอำหำรไปยังสว่ นต่ำง ๆ ของพืช โดยครูนาตน้ มะเขือมาใหน้ ักเรียนสังเกตแล้วร่วมกันอภปิ ราย โดยใชค้ าถาม ดงั น้ี ๕. หลอดทดลอง
นอกจำกนรี้ ำกและลำ� ตน้ ของพชื บำงชนดิ ๖. หลอดหยด
ท�ำหน้ำท่สี ะสมอำหำร อำหำรทสี่ ะสม ๑.๑ ตน้ มะเขือมสี ว่ นใดบ้าง (ตน้ มะเขอื มรี าก ลาต้น ใบ ดอก ผล และเมลด็ ) ๗. ที่วางหลอดทดลอง
คือแป้ง ๑.๒ แต่ละสว่ นของตน้ มะเขอื มหี นา้ ที่อะไร (นกั เรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง) ๘. จานหลุมพลาสตกิ
๙. กระบอกตวงขนาด ๑๐ ลูกบาศก์
จุดประสงคด์ ้ำนควำมรู้ ขัน้ สอน (๑๐๐ นาที)
๑. อภปิ รายและอธิบายหน้าท่ีของราก ๒. ครูให้นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ ๓-๔ คน เซนตเิ มตร
๓. ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มอ่านช่ือกิจกรรมและจุดประสงค์ในใบกิจกรรมที่ ๑ รากและลาต้น ๑๐. แครอท ขงิ ขา่ กระชาย เผอื ก
และลาต้น
๒. อภิปรายและระบุชนดิ ของอาหารท่ี มหี นา้ ท่อี ะไร หน้า ๓๙ และนาอภิปรายโดยใช้คาถาม ดังน้ี มันเทศ มนั ฝรัง่ ขนาด ๑×๑
๓.๑ กจิ กรรมน้นี ักเรยี นจะได้เรยี นเรือ่ งอะไร (หนา้ ทข่ี องรากและลาต้น) เซนติเมตร
สะสมไว้ที่รากและลาต้น ๓.๒ นกั เรยี นจะเรยี นเรอ่ื งนีด้ ้วยวธิ ใี ด (วธิ กี ารสงั เกต) ๑๑. มีดโกน
๓.๓ เมือ่ เรยี นแล้วนักเรยี นจะทาอะไรได้ (อธบิ ายหน้าท่ีของรากและลาตน้ ได้) ๑๒. แว่นขยาย
๓.๔ นักเรียนคิดว่าจะเกิดอะไรข้ึน ถ้านักเรียนแช่รากของต้นเทียนในน้าสีแดงเป็นเวลา

๓๐ นาที พรอ้ มบอกเหตผุ ล (นกั เรยี นตอบตามการคาดคะเนของนกั เรยี น เช่น บรเิ วณ
รากและภายในลำต้นจะมีสีแดง โดยครูเขียนผลการคาดคะเนของนักเรียนไว้บน
กระดานดา)

9/10/18 8:54 AM


6102153L01c.indd 115 ๙๗

ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๑๕ หน่วยกำรเรยี นร้ทู ่ี ๒ ส่วนต่ำง ๆ ของพชื แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทู ี่ ๑.๑ หน้ำท่ีของรำกและลำตน้ เวลำ ๔ ชั่วโมง
กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ หนว่ ยย่อยที่ ๑ หน้ำท่ขี องรำก ลำต้น ใบ และดอกของพืช ชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี ๔

รำยวิชำวทิ ยำศำสตร์ ภำระงำน / ชน้ิ งำน

จุดประสงค์ด้ำนทกั ษะกระบวนกำรทำง ๔. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือทากิจกรรมตามวิธีทาในกิจกรรมที่ ๑ และบันทึกผลลงใน ๑. การบนั ทึกผลการทากจิ กรรม
วทิ ยำศำสตร์ ใบงาน ๐๑ หนา้ ที่ของรากและลาต้น หนา้ ๔๐-๔๒
๑. การสงั เกต ในใบกจิ กรรม
๒. การจดั กระทาและสอ่ื ความหมาย ๕. ขณะที่นักเรียนลงมือทากิจกรรม ครูคอยเดินดูและให้คาแนะนารวมทั้งคอยดูแลความ
ปลอดภัยในการใช้มีด ๒. การทาแบบฝึกหัด
ขอ้ มลู
๓. การลงความเห็นจากข้อมูล ๖. เม่ือนักเรียนทากจิ กรรมเสรจ็ แลว้ ครสู มุ่ ตัวแทนกลมุ่ มานาเสนอผลการทากิจกรรม จากนน้ั
๔. การตคี วามหมายข้อมูลและ ครแู ละนักเรยี นร่วมกันอภิปรายโดยใช้คาถามดังนี้
๖.๑ หลังจากแช่รากต้นเทียนในน�า้ สแี ดง ๓๐ นาที สิง่ ทเี่ ปล่ยี นแปลงเป็นไปตามท่ีนกั เรยี น
ลงข้อสรุป คาดคะเนหรอื ไม่ (นกั เรยี นตอบตามการคาดคะเนของนกั เรยี นและตามทนี่ กั เรยี นสงั เกตได้
คือ หลังจากแชต่ ้นเทยี นในน้�าสีแดงเป็นเวลา ๓๐ นาที จะพบว่าบรเิ วณภายในราก
จดุ ประสงคด์ ำ้ นคุณธรรม และภายในลา� ตน้ จะมสี ีแดงซ่ึงเห็นได้ชัดเจน)
๑. มีจิตสาธารณะต่อสง่ิ แวดล้อม
๒. มีความสามคั คี ช่วยเหลอื ในการ ๖.๒ น้าสแี ดงเคลื่อนที่เข้าสู่รากและลาตน้ ได้อยา่ งไร (นา้ สแี ดงเคลื่อนท่ีเขา้ ส่ลู าต้น
โดยรากดดู น้าสีแดงแล้วลาเลียงส่งต่อไปยังลาต้น)
ทางานกลุ่มร่วมกัน
๓. มวี ินยั ๖.๓ เมื่อใช้แว่นขยายส่องดูลาต้นที่ตัดตามขวางและตัดตามยาว นักเรียนสังเกตเห็นอะไร
๔. มคี วามมุ่งม่ันในการทางาน (ลาต้นที่ถูกตัดตามขวางจะมีสีแดงอยู่เป็นจุด ๆ เรียงกันเป็นรอบลาต้น ส่วนลาต้นที่

ตัดตามยาวจะเห็นสแี ดงเป็นเส้นตามความสงู ของลาตน้ )
๖.๔ นา้ สแี ดงทน่ี กั เรยี นเหน็ อยทู่ ส่ี ว่ นไหนของลาตน้ (นา้ สีแดงอยใู่ นทอ่ เล็ก ๆ ทอ่ี ยภู่ ายใน

ลาต้น)

9/10/18 8:54 AM


6102153L01c.indd 116 ๑๑๖ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หน่วยกำรเรยี นรูท้ ี่ ๒ ส่วนตำ่ ง ๆ ของพืช แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑.๑ หนำ้ ทีข่ องรำกและลำต้น ๙๘
กลุ่มสำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตร์ หน่วยยอ่ ยท่ี ๑ หน้ำทีข่ องรำก ลำต้น ใบ และดอกของพชื
เวลำ ๔ ชวั่ โมง
รำยวิชำวิทยำศำสตร์ ช้ันประถมศึกษำปที ่ี ๔

๖.๕ นักเรียนคิดว่าน้าสีแดงท่ีอยู่ในลาต้นของต้นเทียนจะถูกลาเลียงต่อไปยังบริเวณ วิธีกำรประเมิน
ส่วนใดของต้นเทียนและลาเลียงไปไดอ้ ยา่ งไร รู้ไดอ้ ย่างไร ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหัด
(น้าสีแดงถูกลาเลียงไปยัง กิ่ง ก้าน และใบ โดยลาเลียงผ่านท่อเล็ก ๆ ที่อยู่ ๒. สังเกตทักษะกระบวนการทาง
ภายในลาต้น ร้ไู ดจ้ ากการมองเห็นสีแดงเปน็ เส้นภายในกิ่ง กา้ น และใบ)
วทิ ยาศาสตรใ์ นการทากจิ กรรม
๖.๖ ท่อเล็ก ๆ ทีอ่ ยู่ภายในลาตน้ เรียกวา่ อะไร (ท่อลาเลียงนา้ ) ๓. สงั เกตด้านคุณธรรมขณะทากจิ กรรม
๖.๗ ภายในรากมีท่อเล็ก ๆ หรือไม่ และเชื่อมต่อกับลาต้นอย่างไร (ภายในรากมี
เกณฑ์กำรประเมิน
ท่อเล็ก ๆ เชื่อมต่อกัน และเชื่อมต่อกับท่อเล็ก ๆ ในลาต้น สังเกตได้จากที่น้า ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหดั ได้
สแี ดงเคล่อื นที่จากรากข้นึ ไปที่ลาต้น)
ถกู ต้องด้วยตนเอง
๖.๘ นักเรียนคิดว่าถ้าแช่ต้นเทียนในน้าที่ไม่ผสมสีแดง จะได้ผลเหมือนเดิมหรือไม่ - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
อย่างไร (ถ้าแช่ต้นเทียนในน้าที่ไม่ผสมสีแดงจะได้ผลเหมือนเดิม เพราะราก - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
ดดู นา้ แล้วลาเลียงไปตามทอ่ ซึง่ เชื่อมตอ่ กันจากรากไปยังลาตน้ ) - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

๖.๙ ทาไมต้องใช้น้าสีแดง (เพราะน้าสีแดงเปรียบเหมือนน้าและธาตุอาหาร ช่วยให้
เหน็ เสน้ ทางการเคล่ือนที่ของน้าภายในลาตน้ ได้ชดั เจน)

9/10/18 8:54 AM


6102153L01c.indd 117 ๙๙

ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๑๗ หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๒ ส่วนต่ำง ๆ ของพืช แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี ๑.๑ หน้ำทีข่ องรำกและลำต้น เวลำ ๔ ชัว่ โมง
กลุ่มสำระกำรเรยี นร้วู ิทยำศำสตร์ หน่วยย่อยที่ ๑ หนำ้ ที่ของรำก ลำตน้ ใบ และดอกของพชื ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๔

รำยวิชำวทิ ยำศำสตร์ ๒. มีทกั ษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ขณะทากิจกรรม
ข้นั สรปุ (๑๕ นาที)
๗. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่ารากของพืชทาหน้าที่ดูดน้าและธาตุอาหาร - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
แล้วลาเลียงไปยังลาต้น ลาต้นของพืชทาหน้าที่ลาเลียงน้าและธาตุอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
ของพชื ๓. มีคณุ ลกั ษณะด้านคุณธรรม
๘. นักเรยี นตอบคาถามหลังจากทากจิ กรรม หน้า ๔๓ - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
ช่วั โมงท่ี ๓-๔ - ตา่ กว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
ขัน้ นา� (๕ นาที)
๙. ครูทบทวนนักเรียนเกยี่ วกับหน้าท่ีของรากและลาต้นโดยครูใหน้ ักเรยี นดูรูป ราก ลาต้น ก่ิง

กา้ น ใบ ของพชื แล้วร่วมกนั อภิปรายโดยใชค้ าถาม ดงั น้ี
๙.๑ พชื มีการลาเลียงน้าไปในทิศทางใด (ทศิ ทางจากรากขึ้นสู่ลาตน้ )
๙.๒ พืชมีการลาเลียงธาตอุ าหารไปในทิศทางใด (นักเรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง)
๙.๓ พชื ใชอ้ ะไรในการลาเลยี งนา้ และธาตุอาหารไปยงั ลาตน้ (นกั เรยี นตอบตามความเขา้ ใจ

ของตนเอง)

9/10/18 8:54 AM


6102153L01c.indd 118 ๑๑๘ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๒ ส่วนต่ำง ๆ ของพชื แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑.๑ หนำ้ ทขี่ องรำกและลำต้น ๑๐๐
กลุ่มสำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์ หน่วยย่อยที่ ๑ หน้ำที่ของรำก ลำต้น ใบ และดอกของพชื
เวลำ ๔ ชว่ั โมง
รำยวิชำวทิ ยำศำสตร์ ชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี ๔

ข้ันสอน (๑๐๐ นาที)
๑๐. ครูให้นกั เรยี นแบง่ กลุม่ กลุม่ ละ ๓-๔ คน และเตรียมอปุ กรณก์ ารทดลอง
๑๑. ครูใหน้ กั เรียนอ่านชอื่ กจิ กรรม จดุ ประสงค์และวธิ ีทา� ในใบกิจกรรมที่ ๒ รากและลา� ต้น

ท�าหน้าที่อื่นอีกหรือไม่ หน้า ๔๔ จากนั้นตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนให้แน่ใจ
ก่อนท�ากิจกรรม
๑๒. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มท�ากิจกรรมที่ ๒ รากและล�าต้นมีหน้าที่อื่นอีกหรือไม่ และ
บันทึกผลในใบงาน ๐๒ หน้าที่อื่นของรากและล�าต้น หน้า ๔๖-๔๗ จากนั้นครูและ
นักเรยี นร่วมกนั อภปิ รายโดยอาจใชค้ �าถามดงั น้ี
๑๒.๑ เมื่อหยดสารละลายไอโอดีนลงในน�้า น�้าแป้งมัน และน�้าแป้งข้าวโพด เกิดการ

เปลย่ี นแปลงหรอื ไม่ อยา่ งไร (เมอ่ื หยดสารละลายไอโอดนี ในนา�้ สขี องสารละลาย
และไอโอดนี จะไมม่ กี ารเปลย่ี นแปลง แตเ่ มอ่ื หยดสารละลายไอโอดนี ลงในนา้� แปง้ มนั
และน้า� แปง้ ข้าวโพด สขี องสารละลายไอโอดนี จะมีการเปล่ียนสีจากสีน�้าตาลเปน็
สนี ้า� เงินเขม้ )

๑๒.๒ จากกิจกรรมนี้ ชิ้นส่วนของพืชชนิดใดเป็นส่วนของราก ชิ้นส่วนของพืชชนิดใด
เป็นส่วนของลา� ต้น (ส่วนของราก ได้แก่ แครอท มนั เทศ กระชาย ส่วนของล�าต้น
ไดแ้ ก่ เผือก มันฝรง่ั ขิง ขา่ )

9/10/18 8:54 AM


6102153L01c.indd 119 ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๑๙ ๑๐๑

หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่ ๒ สว่ นต่ำง ๆ ของพชื แผนกำรจัดกำรเรยี นร้ทู ี่ ๑.๑ หนำ้ ท่ีของรำกและลำต้น เวลำ ๔ ชว่ั โมง
กลุ่มสำระกำรเรียนรูว้ ิทยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ หน้ำท่ขี องรำก ลำต้น ใบ และดอกของพืช ชน้ั ประถมศึกษำปที ่ี ๔

รำยวิชำวิทยำศำสตร์

๑๒.๓ เม่ือหยดสารละลายไอโอดีนลงในช้ินส่วนของรากและลาต้นของพืชชนิดใดบ้าง
ที่มกี ารเปลี่ยนแปลง และมีการเปล่ียนแปลงอย่างไร (แครอท มันเทศ กระชาย
เผอื ก มันเทศ มันฝรั่ง ขิง ข่า มีการเปล่ียนสีของสารละลายไอโอดีนจาก
สนี ำ้ ตาลเป็นสีน้าเงินเขม้ )

๑๒.๔ เพราะเหตุใด เม่ือหยดสารละลายไอโอดีนลงบนช้ินส่วนของรากและลาต้นของ
พชื แล้ว สีของสาระละลายไอโอดีนมีการเปลี่ยนแปลง (เพราะรากและลาต้น
ของพืชชนิดนั้นมีแป้งสะสมอยู่ สีของสารละลายไอโอดีนจึงมีการเปลี่ยนแปลง
จากสนี ำ้ ตาลเปน็ สนี า้ เงนิ เขม้ ได)้

๑๒.๕ อาหารที่สะสมไว้ที่รากหรือลาต้นของพืชบางชนิดคืออะไร ทราบได้อย่างไร
(แป้ง ทราบไดจ้ ากการทดสอบการเปลยี่ นสีของสารละลายไอโอดนี )

๑๓. นักเรยี นตอบคาถามหลังจากทากิจกรรม หน้า ๔๘
ข้ันสรุป (๑๕ นาท)ี
๑๔. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปว่า รากเปน็ สว่ นหน่ึงของพืชท่ที าหน้าท่ีดูดน้าและธาตอุ าหาร

แล้วลำเลียงไปยังลำต้น ลำต้นทำหน้าที่ลำเลียงน้ำและธาตุอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ
ของพชื นอกจากนรี้ ากและลำตน้ ของพชื บางชนดิ ยังทาหน้าท่ีสะสมอาหาร อาหารท่ี
สะสมคือแป้ง
๑๕. ครใู ห้นกั เรียนทาใบงาน ๐๓ แบบฝกึ หัด เร่ืองหนา้ ที่ของรากและลาตน้ หนา้ ๕๐-๕๑

9/10/18 8:54 AM


๑๐๒

แบบประเมนิ ดำ้ นคุณธรรม
แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ ๑.๑ หนำ้ ที่ของรำกและลำตน้

ชอื่ ผ้ปู ระเมิน/กลุ่มประเมนิ …………………………………………………………………………………………………….………..

ช่ือกลุ่มรับกำรประเมนิ …………………………………………………………………………………………………………………….
ประเมนิ ผลครง้ั ท…ี่ ……………….... วนั ……………..……... เดอื น ………..……….…. พ.ศ. ……...….…………...........

เรื่อง……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ที่ ลักษณะ/พฤติกรรมบง่ ช้ี ระดบั พฤตกิ รรม คะแนนที่ได้
เกดิ = ๑ ไม่เกิด = ๐

๑. มีจิตสาธารณะต่อส่งิ แวดล้อม

๒. มคี วามสามัคคี ชว่ ยเหลอื ในการทางานกล่มุ ร่วมกัน

๓. มีวินัย

๔. มคี วามมงุ่ ม่นั ในการทางาน

รวมคะแนนทไ่ี ดท้ ง้ั หมด = …………… คะแนน

คุณลกั ษณะตามจดุ ประสงคด์ ้านคุณธรรม
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน

๑๒๐ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครผู ู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรุง)

6102153L01c.indd 120 9/10/18 8:54 AM


๑๐๓

แบบประเมนิ ด้ำนทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ในกำรทำกิจกรรม
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑.๑ หน้ำที่ของรำกและลำตน้

เกณฑ์กำรประเมนิ มีดังน้ี ๒ หมายถึง พอใช้ ๑ หมายถงึ ควรปรบั ปรงุ
๓ หมายถึง ดี

ส่งิ ท่ีประเมนิ คะแนน
การสงั เกต

การจดั กระทาและสอ่ื ความหมายขอ้ มูล

การลงความเหน็ จากขอ้ มูล
การตคี วามหมายขอ้ มลู และลงข้อสรุป

รวมคะแนน

เกณฑ์กำรประเมนิ

ทักษะกระบวนกำร ระดบั ควำมสำมำรถ

ทำงวิทยำศำสตร์ ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรับปรุง (๑)

การสังเกต ใช้ประสาทสัมผัสในการ ใชป้ ระสาทสมั ผสั ในการรวบรวม ไม่สามารถใช้ประสาทสัมผัส

ร ว บ ร ว ม ข ้ อ มู ล เ ก่ี ย ว กั บ ข้อมลู เก่ียวกบั การเปล่ียนแปลง ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึนที่ ที่เกิดขึ้นที่รากและล�าต้นของ การเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึนท่ี

รากและล�าต้นของต้นเทียน ตน้ เทยี นเมอื่ แชใ่ นนา้� สแี ดง และ รากและล�าต้นของต้นเทียน

เมื่อแช่ในน�้าสีแดงและการ การทดสอบสารละลายไอโอดีน เมื่อแช่ในน้�าสีแดงและการ

ทดสอบสารละลายไอโอดีน ในรากและลา� ตน้ ของพชื บางชนดิ ทดสอบสารละลายไอโอดีน

ในรากและล�าต้นของพืช ไดโ้ ดยการชแ้ี นะของครหู รอื ผอู้ นื่ ในรากและล�าต้นของพืช
บางชนดิ ถงึ แมจ้ ะไดร้ บั คา� แนะนา�
บางชนิดไดด้ ว้ ยตนเอง โดย
จากครหู รอื ผอู้ น่ื
ไมเ่ พิ่มความคิดเห็น

การจัดกระทาและส่ือ นา� เสนอขอ้ มลู การเปลย่ี นแปลง น�าเสนอข้อมูลการเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถน�าเสนอข้อมูลการ

ความหมายข้อมูล ลกั ษณะของรากและลา� ตน้ ของ ลักษณะของรากและล�าต้นของ เปล่ียนแปลงลักษณะของราก

ต้นเทียน เมื่อแชใ่ นน�้าสีแดง ต้นเทยี น เม่อื แชใ่ นน�า้ สแี ดงให้ และลา� ตน้ ของตน้ เทยี น เมอื่ แช่

ใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจไดง้ า่ ยและชดั เจน ผอู้ น่ื เขา้ ใจไดง้ า่ ยและชดั เจน โดย ในนา้� สแี ดงใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจไดง้ า่ ย
การชีแ้ นะของครหู รือผูอ้ ่นื และชดั เจน ถงึ แมจ้ ะไดร้ บั คา�
ด้วยตนเอง แนะนา� จากครหู รอื ผอู้ ืน่

ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรับปรุง) ๑๒๑

6102153L01c.indd 121 9/10/18 8:55 AM


๑๐๔

ทักษะกระบวนกำร ระดับควำมสำมำรถ
ทำงวิทยำศำสตร์
การลงความเหน็ จาก ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรับปรงุ (๑)
ขอ้ มลู
เพิ่มเติมความเห็นเกี่ยวกับ เพิ่มเติมความเห็นเกี่ยวกับ ไม่สามารถเพิ่มเติมความเห็น
การตีความหมาย การเปลย่ี นแปลงของรากและ การเปล่ียนแปลงของรากและ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของ
ขอ้ มูลและ
ลงข้อสรปุ ล�าต้นของต้นเทียนจากการ ล�าต้นของต้นเทียนจากการแช่ รากและล�าต้นของต้นเทียน

แชต่ น้ เทยี นและอาหารทสี่ ะสม ต้นเทียนและอาหารที่สะสม จากการแชต่ น้ เทยี นและอาหาร

ในรากพืชบางชนิดจากการ ในรากของพืชบางชนิดจากการ ที่สะสมในรากพืชบางชนิด

ทดสอบดว้ ยสารละลายไอโอดนี ทดสอบด้วยสารละลายไอโอดีน จากการทดสอบดว้ ยสารละลาย

ไดอ้ ย่างมเี หตุผล จากความรู้ ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล จากความรหู้ รอื ไอโอดนี ไดอ้ ยา่ งมเี หตผุ ล ถงึ แม้

หรือประสบการณ์เดิมได้ด้วย ประสบการณเ์ ดมิ โดยการชแี้ นะ จะได้รับค�าแนะน�าจากครู
ตนเอง
ของครูหรอื ผ้อู ่ืน หรอื ผู้อนื่

ตีความหมายข้อมูลและลง ตคี วามหมายขอ้ มลู และลงขอ้ สรปุ ไ ม ่ ส า ม า ร ถ ตี ค ว า ม ห ม า ย
ข้อสรุปจากการท�ากิจกรรม จากการท�ากิจกรรมได้ว่าราก ข้อมูลและลงข้อสรุปจากการ
ไดว้ า่ รากทา� หนา้ ทด่ี ดู นา้� และ ท�าหน้าท่ีดูดน�้าและธาตุอาหาร ท�ากิจกรรมได้ว่ารากท�าหน้าที่
ธาตอุ าหาร แลว้ ลา� เลยี งสง่ ตอ่ แล้วล�าเลียงส่งต่อไปยังล�าต้น ดูดน�า้ และธาตุอาหาร แลว้
ไปยงั ลา� ตน้ และลา� ตน้ ทา� หนา้ ท่ี และล�าต้นท�าหน้าที่ล�าเลียงน�้า ล�าเลยี งสง่ ตอ่ ไปยงั ลา� ต้น และ
ลา� เลยี งนา้� และธาตอุ าหารไปยงั และธาตุอาหารไปยังส่วนตา่ ง ๆ ล�าต้นท�าหน้าท่ีล�าเลียงน้�าและ
สว่ นตา่ ง ๆ ของพชื นอกจากนี้ ของพชื นอกจากนรี้ ากและลา� ตน้ ธาตุอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ
รากและลา� ตน้ ของพชื บางชนดิ ของพืชบางชนิดยังท�าหน้าที่ ของพืช นอกจากนี้ รากและ
ยงั ทา� หนา้ ทสี่ ะสมแปง้ อกี ดว้ ย สะสมแปง้ อกี ดว้ ย โดยใช้ขอ้ มลู ล�าต้นของพืชบางชนิดยังท�า
โดยใชข้ อ้ มลู ทรี่ วบรวมไดจ้ าก ท่ีรวบรวมได้จากการสังเกต หนา้ ท่สี ะสมแป้งอกี ดว้ ย โดย
การสังเกตดว้ ยตนเอง โดยการชี้แนะของครหู รอื ผอู้ ่ืน ใช้ข้อมูลท่ีรวบรวมได้จากการ
สงั เกต ถงึ แมจ้ ะไดร้ บั คา� แนะนา�
จากครูหรอื ผู้อ่นื

๑๒๒ ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ )

6102153L01c.indd 122 9/10/18 8:55 AM


เฉลยใบงาน

6102153L01c.indd 123 9/10/18 8:55 AM


6102153L01c.indd 124 9/10/18 8:55 AM


ช่ือ-สกุล เดอื น ชน้ั เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑ .๑- ๐๑
วันท ่ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๑ : หนา้ ท่ีของรากและลา� ตน้

บนั ทึกผลการท�ากจิ กรรม

รูปลกั ษณะภายนอก รูปลกั ษณะภายนอก
ของรากและลา� ตน้ ของตน้ เทยี น ของรากและลา� ต้นของตน้ เทยี น

ก่อนแชน่ า้� สแี ดง หลังแช่น�้าสีแดง

วาดภาพตามทน่ี กั เรียนสงั เกตได้

ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรับครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๑๒๕

6102153L01c.indd 125 9/10/18 8:55 AM


ช่อื -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑ .๑- ๐๑
วนั ที่ พ.ศ.

ลักษณะรากของตน้ เทยี นเม่ือตดั ตามขวางและตัดตามยาวหลงั จากแช่น้า� สแี ดง

รปู ลกั ษณะรากของตน้ เทยี น

ตัดตามขวาง ตดั ตามยาว

ลักษณะทสี่ ังเกตเหน็ ลักษณะท่สี งั เกตเห็น

วาดภาพและบันทกึ ลักษณะตามทนี่ ักเรยี นสังเกตได้

๑๒๖ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรุง)

6102153L01c.indd 126 9/10/18 8:55 AM


ชื่อ-สกลุ เดอื น ช้นั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑ .๑- ๐๑
วนั ที ่ พ.ศ.

ลกั ษณะล�าต้นของตน้ เทยี นเมื่อตัดตามขวางและตดั ตามยาวหลงั จากแชน่ �้าสแี ดง

รูปลักษณะล�าต้นของตน้ เทยี น

ตัดตามขวาง ตดั ตามยาว

ลักษณะทีส่ ังเกตเห็น ลกั ษณะทีส่ งั เกตเหน็

วาดภาพและบันทึกลกั ษณะตามท่ีนักเรยี นสงั เกตได้

ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) ๑๒๗

6102153L01c.indd 127 9/10/18 8:55 AM


ชอ่ื -สกุล ช้นั เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑- ๐๑
วนั ท ี่ เดือน พ.ศ.

คา� ถามหลังจากท�ากจิ กรรม

๑. หลงั จากแชต่ น้ เทยี นในนา�้ สแี ดงเปน็ เวลา ๓๐ นาท ี สงั เกตเหน็ การเปลย่ี นแปลง
อยา่ งไรบา้ ง

บรเิ วณรากของต้นเทยี นจะมีสแี ดงและภายในลา� ตน้ ของต้นเทยี น

จะมแี ถบสแี ดงอยา่ งชัดเจน

๒. รากและลา� ตน้ ทตี่ ดั ตามขวางและตัดตามยาวท่สี ังเกตด้วยแว่นขยาย มีลักษณะ
อยา่ งไร
ลักษณะของรากและลา� ตน้ ที่ตัดตามขวางและตัดตามยาวจะมีลักษณะท่ีแตกต่างกัน คือ
รากและล�าตน้ ที่ตัดตามขวางจะมสี แี ดงอยเู่ ป็นจุด ๆ เรียงกนั เป็นวงรอบราก และล�าต้น
สว่ นรากและลา� ตน้ ทตี่ ดั ตามยาวจะเหน็ เสน้ สแี ดงเปน็ แนวตามความสงู ของรากและลา� ตน้

๓. รากและล�าต้นทา� หน้าทอ่ี ะไร ทราบได้อยา่ งไร
รากท�าหน้าที่ดดู นา้� และธาตอุ าหารแล้วลา� เลียงส่งตอ่ ไปยงั ล�าต้น และล�าตน้ ทา� หนา้ ท่ี
ล�าเลยี งน้า� และธาตุอาหารไปยงั สว่ นตา่ ง ๆ ของพชื ได้แก่ ก่ิง ก้าน และใบ โดยผา่ น
ท่อเล็ก ๆ ทีอ่ ยู่ภายในลา� ต้น

๔. จากกจิ กรรมน้ ี สรปุ ไดว้ า่ อยา่ งไร
รากทา� หนา้ ที่ดดู นา้� และธาตุอาหาร แล้วลา� เลียงสง่ ตอ่ ไปยงั ล�าต้น
สว่ นล�าตน้ ท�าหนา้ ท่ีล�าเลียงน้�าและธาตุอาหารไปยงั ส่วนต่าง ๆ ของพืช

๑๒๘ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู สู้ อน) กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ )

6102153L01c.indd 128 9/10/18 8:55 AM


ชือ่ -สกลุ เดอื น ชัน้ เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒
วันท ี่ พ.ศ.

ใบงาน ๐๒ :หน้าทอี่ นื่ ของรากและลา� ตน้

บันทกึ ผลการทา� กจิ กรรม
ตาราง ๑ ผลการสังเกตสารชนิดตา่ ง ๆ กอ่ นและหลังหยดสารละลายไอโอดนี

สารในหลอดทดลอง ผลการสังเกต

ก่อนหยด หลงั หยด

๑. น�า้
สีใส สีน้า� ตาลจาง ๆ

๒. นา้� แปง้ มัน

สีขาวขนุ่ สีนา�้ เงนิ เขม้

๓. น�้าแปง้ ขา้ วโพด

สีขาวขุน่ สีนา้� เงินเขม้

ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครผู สู้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) ๑๒๙

6102153L01c.indd 129 9/10/18 8:55 AM


ช่ือ-สกุล เดอื น ช้ัน เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒
วนั ท ่ี พ.ศ.

ตาราง ๒ การเปลี่ยนแปลงของช้นิ ส่วนพืชเมอื่ หยดสารละลายไอโอดีน

ชนดิ ของพืช ผลการสังเกต

ก่อนหยดสารละลายไอโอดีน หลังหยดสารละลายไอโอดนี

แครอท สสี ม้ สีนา้� เงินเขม้

ขงิ สเี หลืองเขม้ สีน�้าเงนิ เข้ม
ข่า สขี าว สีน้�าเงินเข้ม
กระชาย สีเหลือง สีน�้าเงินเขม้
เผอื ก สนี า้� เงนิ เข้ม
มันเทศ สีขาวมลี ายสมี ่วง ๆ สนี า้� เงินเขม้
สีขาว/สเี หลอื ง

มนั ฝรัง่ สีขาว สนี า้� เงนิ เข้ม

๑๓๐ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ )

6102153L01c.indd 130 9/10/18 8:55 AM


ช่ือ-สกลุ เดอื น ชน้ั เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒
วนั ที ่ พ.ศ.

ค�าถามหลังจากทา� กิจกรรม

๑. เมอ่ื หยดสารละลายไอโอดีนลงในน�้า มกี ารเปลี่ยนแปลงหรอื ไม ่ อย่างไร

เม่ือหยดสารละลายไอโอดนี ลงในน้�าไม่มีการเปลย่ี นแปลง เพราะน�้าใน

หลอดทดลองมีสนี า�้ ตาลเหมือนสีของสารละลายไอโอดนี แตม่ สี จี างลง

๒. เมอื่ หยดสารละลายไอโอดีนลงในน�า้ แปง้ มันและน�า้ แปง้ ขา้ วโพด มีการเปล่ยี นแปลงหรอื ไม่
อย่างไร

เม่อื หยดสารละลายไอโอดนี ลงในนา�้ แปง้ มนั และน้�าแปง้ ข้าวโพด มีการเปลย่ี นแปลง
สงั เกตได้จากสขี องน้�าแปง้ ที่มสี ีขาวขนุ่ เปล่ียนเปน็ สีนา�้ ตาลเขม้ หรือสีมว่ งคล้า�

๓. ชน้ิ สว่ นของพชื ชนดิ ใดบ้างท่ีมกี ารเปล่ียนแปลงเม่ือหยดสารละลายไอโอดนี และมี
เปลยี่ นแปลงอย่างไร

ช้ินส่วนของพชื ไดแ้ ก่ แครอท ขิง ข่า กระชาย เผอื ก มนั เทศ และมันฝรง่ั มกี าร
เปล่ียนแปลงเมือ่ หยดสารละลายไอโอดีน โดยจะเปล่ียนจากสีของช้ินสว่ นน้ันเปน็
สนี ้า� เงินเขม้ หรอื สีม่วงคลา�้

๔. จากกจิ กรรรม รากและล�าตน้ ของพชื มีอะไรสะสมอยู ่ ทราบไดอ้ ยา่ งไร
รากและล�าตน้ ของพืชบางชนิดมแี ป้งสะสมอยู่ เพราะเมอื่ ท�าการทดสอบโดยใช้
สารละลายไอโอดนี กับช้นิ สว่ นของพชื ได้ผลการทดสอบเหมือนกบั การทดสอบ
น�้าแปง้ มันและน้�าแป้งขา้ วโพด โดยสขี องสารละลายไอโอดีน
จะเปล่ียนจากสนี �้าตาลเปน็ สีนา�้ เงินเขม้ หรอื สีมว่ งคล�้า

ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครผู ู้สอน) กลุม่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) ๑๓๑

6102153L01c.indd 131 9/10/18 8:55 AM


ชือ่ -สกุล เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๒
วันท่ี พ.ศ.

๕. จากกจิ กรรมน้ี สรุปได้ว่าอย่างไร
รากและล�าต้นของพชื บางชนิดทา� หนา้ ทสี่ ะสมอาหารพวกแป้ง

๑๓๒ ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครูผสู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )

6102153L01c.indd 132 9/10/18 8:55 AM


ชื่อ-สกุล เดือน ช้นั เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓
วนั ท่ ี พ.ศ.

ใบงาน ๐๓ :แบบฝกึ หดั เรื่องหน้าที่ของรากและล�าตน้

๑. การลา� เลยี งนา�้ และธาตุอาหารเปน็ ไปในทศิ ทางใด
เขยี นลกู ศรแสดงทศิ ทางการลา� เลยี งนา�้ และธาตุอาหารลงในภาพตน้ พชื ดา้ นลา่ ง

๒. ถา้ ตดั รากออกจะเกิดผลอย่างไรกบั ตน้ พืช เพราะเหตใุ ด
ต้นพืชจะขาดนา�้ และธาตอุ าหาร เพราะไม่มรี ากซง่ึ ทา� หนา้ ทีด่ ูดนา�้ และธาตุอาหาร
จากดิน แลว้ ล�าเลยี งสง่ ต่อไปยงั ลา� ต้น

ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๑๓๓

6102153L01c.indd 133 9/10/18 8:55 AM


ชอ่ื -สกลุ เดือน ชัน้ เลขที่ บ. ๒.๑ / ผ. ๑.๑ - ๐๓
วันที ่ พ.ศ.

๓. รากและลา� ตน้ ของพืชทกุ ชนิด ทา� หน้าท่สี ัมพันธก์ นั หรือไม ่ อย่างไร
รากและลา� ต้นของพืชทกุ ชนดิ จะท�าหน้าทสี่ ัมพันธ์กันคอื รากทา� หน้าทดี่ ดู น�้า
และธาตุอาหาร แลว้ ล�าเลยี งตอ่ ไปยงั ล�าต้น และล�าต้นทา� หน้าท่ีลา� เลียงน้�าและ
ธาตอุ าหารไปยังส่วนต่าง ๆ ของพชื

๔. สารที่ใชต้ รวจสอบแปง้ คอื อะไร สงั เกตการเปลย่ี นแปลงไดอ้ ยา่ งไร
สารทีใ่ ชต้ รวจสอบแป้ง คอื สารละลายไอโอดีน สงั เกตการเปล่ียนแปลงได้
เมอื่ หยดสารละลายไอโอดนี ลงในน้�าแป้งมนั และนา�้ แป้งข้าวโพดจะเปลยี่ นสี
ของสารละลายไอโอดีนจากสีนา้� ตาลเป็นสีน�้าเงนิ เข้มหรือมว่ งคลา้�

๕. รากและล�าต้นของพืชบางชนิดสะสมอาหารประเภทใด
รากและล�าตน้ ของพืชบางชนดิ สะสมอาหารพวกแปง้

๑๓๔ ชุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง)

6102153L01c.indd 134 9/10/18 8:55 AM


๑๑๕



คำช้แี จงประกอบแผนจัดกำรเรยี นรู้ หน่วยกำรเรยี นรู้ที่ ๒

แผนกำรจดั กำรเรียนร้ทู ี่ ๑.๒ หน้ำท่ขี องใบ เวลำ ๔ ชว่ั โมง

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

๑. สำระสำคญั ของแผน
ใบเปน็ ส่วนสาคญั ของพชื มหี นา้ ท่สี รา้ งอาหารให้พืชโดยอาศัยปจั จยั ตา่ ง ๆ

๒. ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติมในกำรนำไปใช้ (ให้ระบสุ ่ิงที่ต้องกำรเนน้ หรอื ขอ้ สังเกต ขอ้ เสนอแนะ คำแนะนำ)
ในเรอ่ื งตอ่ ไปนี้ คือ
๒.๑ ขอบขำ่ ยเน้ือหำ
ใบทาหน้าทีส่ ร้างอาหาร อาหารทพี่ ืชสร้างข้ึนคอื น้าตาลแล้วเปลี่ยนเปน็ แปง้ การสร้างอาหารของพืช
ต้องใช้น้า แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ แสง และคลอโรฟิลล์ซึ่งเป็นสารสีเขียวในใบพืช กระบวนการนี้เรียกว่า
การสังเคราะห์ดว้ ยแสง ซ่ึงผลทไ่ี ดน้ อกจากน้าตาลแล้ว ยังไดน้ ้าและแก๊สออกซเิ จนอีกดว้ ย
๒.๒ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ (ควำมรู้ ทักษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยม) (ถำ้ มี)

จุดประสงคด์ ำ้ นควำมรู้
๑. บอกหน้าท่ีของใบ
๒. อภิปรายและระบุประเภทของอาหารที่พืชสร้างขึน้ จากใบ
๓. อธบิ ายปัจจยั ในการสังเคราะห์ด้วยแสงของพชื
จุดประสงคด์ ำ้ นทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
๑. การสงั เกต
๒. การจดั กระทาและสอ่ื ความหมายข้อมูล
๓. การลงความเห็นจากข้อมูล
จุดประสงคด์ ้ำนคุณธรรม
๑. มีความมงุ่ มนั่ ในการทางาน
๒. มีความซ่อื สตั ยต์ ่อตนเอง
๓. ใฝเ่ รียนรู้
๔. มีวินยั

ชุดการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครูผสู้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๑๓๕

6102153L01c.indd 135 9/10/18 8:55 AM


๑๑๖

๒.๓ กำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้
๑) กำรเตรยี มตัวของครู นักเรียน (กำรจดั กลุ่ม)(ถ้ำมี)
การจดั กลุ่ม โดยแบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลุม่ กล่มุ ละ ๔ คน
๒) กำรเตรียมส่อื วสั ดุอุปกรณ์ ของครู นกั เรียน(ถำ้ ม)ี
สิ่งที่ครูตอ้ งเตรียม คอื
๒.๑ ใบพืชที่มีลักษณะบาง ๆ ใบไม่ใหญ่ เช่น ใบชบา ใบผกั บุง้ เลก็ ๆ จานวน ๒ ชนดิ /กลุ่ม
๒.๒ สีเทยี นหรือสีไม้ ๑ กลอ่ ง/กลุ่ม
๒.๓ บีกเกอร์ขนาด ๒๕๐ ลกู บาศกเ์ ซนติเมตร ๑ ใบ/กลุ่ม
๒.๔ หลอดทดลองทนไฟขนาดใหญ่ ๑ อนั /กลมุ่
๒.๕ ตะเกยี งแอลกอฮอล์ ๑ อัน/กลมุ่
๒.๖ ทก่ี ้นั ลมพร้อมตะแกรงลวด ๑ อนั /กลมุ่
๒.๗ เอทลิ แอลกอฮอล์ ๙๕% ๑๐๐ มิลลลิ ติ ร/กลุ่ม
๒.๘ จานแกว้ ๑ ใบ/กลมุ่
๒.๙ ปากคบี ๑ อนั /กลมุ่
๒.๑๐ ไมห้ นบี ๑ อัน/กลมุ่
๒.๑๑ หลอดหยด ๑ อนั /กลมุ่
๒.๑๒ สารละลายไอโอดีนเข้มข้น ๑% ๑ ขวด/กลุ่ม
๒.๑๓ น้า ๒๕๐ มิลลลิ ิตร/กลมุ่
๒.๑๔ ไมข้ ดี ไฟ ๑ กล่อง/กลุ่ม
๓) เตรยี มใบงำน ใบควำมรู้ ใบกิจกรรม (ถำ้ มี)
๓.๑ ใบงาน ๐๑ หน้าทขี่ องใบ
๓.๒ ใบงาน ๐๒ การสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื
๓.๓ ใบความรเู้ รอ่ื งการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
๓.๔ ใบงาน ๐๓ แบบฝึกหดั เรือ่ งการสังเคราะหด์ ้วยแสงของพืช

๑๓๖ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรับครผู ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง)

6102153L01c.indd 136 9/10/18 8:55 AM


๑๑๗

๒.๔ วดั ผลประเมินผล (ถำ้ มี)
๑) วิธกี ำรวัดผลประเมนิ ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ การตอบคาถามในใบงาน
๑.๒ สังเกตทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ในการทากิจกรรม
๑.๓ สงั เกตด้านคุณธรรมขณะทากจิ กรรม
๒) วธิ ีกำร เคร่ืองมอื เกณฑ์
๒.๑ เครอ่ื งมือและเกณฑ์ในกำรประเมินด้ำนควำมรู้
ตรวจใหค้ ะแนนจากการตอบคาถามในใบงาน แล้วใช้เกณฑ์ในการให้คะแนน ดงั นี้
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๒.๒ เครอ่ื งมือและเกณฑ์ในกำรประเมินทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
สังเกตทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้แบบประเมินทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ (ดงั แนบ) แล้วนาคะแนนมารวมกนั แลว้ ใช้เกณฑใ์ นการให้คะแนน ดังน้ี
- มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ตา่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๒.๓ เครอื่ งมอื และเกณฑ์ในกำรประเมินด้ำนคุณธรรม
สังเกตคุณลักษณะดา้ นคุณธรรมโดยใชแ้ บบประเมินด้านคุณธรรม (ดังแนบ)
นาคะแนนมารวมกนั แล้วใชเ้ กณฑ์ในการให้คะแนน ดงั น้ี
- มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๓) กำรทดสอบก่อนเรียน หลังเรยี น แบบฝึกหดั ก่อนเรียน หลงั เรียน
ทาแบบฝึกหดั ในใบงานหลงั เรียน

๓. อนื่ ๆ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครูผ้สู อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๓๗

6102153L01c.indd 137 9/10/18 8:56 AM


6102153L01c.indd 138 ๑๓๘ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๒ ส่วนต่ำง ๆ ของพืช แนวกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรขู้ องแผนกำรจัดกำรเรยี นรูท้ ี่ ๑.๒ ๑๑๘
กลุ่มสำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตร์ เร่ือง หนำ้ ท่ขี องใบ
รำยวิชำวิทยำศำสตร์ เวลำ ๔ ชั่วโมง
ช้ันประถมศึกษำปที ่ี ๔

ขนั้ นำ แนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้
ขั้นสอน
 ทบทวนความรู้เดิมของนกั เรียนเก่ยี วกบั ลักษณะของพืชและการสร้างอาหารของพชื
ขนั้ สรปุ
กำรวดั และประเมนิ ผล  รว่ มกันเชื่อมโยงเพอื่ นาสู่การทากจิ กรรมที่ ๑ ใบทาหน้าท่ีอะไร
 ทาใบงาน ๐๑ หนา้ ทขี่ องใบ
 อภิปรายและนาเสนอ
 ทากิจกรรมที่ ๒ พชื สรา้ งอาหารได้อย่างไร
 ทาใบงาน ๐๒ การสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพืช
 นาเสนอและร่วมกันอภปิ รายผลการทดลอง
 สรปุ เก่ียวกับหน้าทขี่ องใบและปจั จยั ในการสังเคราะหด์ ้วยแสงของพชื รวมทั้งผลท่ไี ด้จากการสงั เคราะห์ดว้ ยแสงของพชื
 ทาใบงาน ๐๓ แบบฝกึ หดั เร่ืองการสังเคราะห์ดว้ ยแสง

 ประเมนิ จากการตอบคาถาม
 ประเมนิ จากการทากิจกรรมในช้นั เรียน
 ประเมินจากการทาแบบฝกึ หัด

9/10/18 8:56 AM


6102153L01c.indd 139 ๑๑๙

ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๑๓๙ หนว่ ยกำรเรียนรู้ที่ ๒ ส่วนต่ำง ๆ ของพืช แผนกำรจัดกำรเรียนรูท้ ี่ ๑.๒ หน้ำทีข่ องใบ เวลำ ๔ ชว่ั โมง
กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ หน่วยย่อยที่ ๑ หน้ำทีข่ องรำก ลำตน้ ใบ และดอกของพืช ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๔

รำยวิชำวิทยำศำสตร์ สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้
๑. ใบพชื เชน่ ใบชบา ใบผักบุ้ง
ขอบเขตเน้ือหำ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ (๔ ช่ัวโมง) ๒. สเี ทยี นหรือสีไม้
ช่วั โมงที่ ๑-๒ ๓. บกี เกอรข์ นาด ๒๕๐
ใ บ ท� ำ ห น ้ ำ ท่ี ส ร ้ ำ ง อ ำ ห ำ ร ขั้นนา� (๑๐ นาท)ี
อำหำรทพี่ ืชสรำ้ งข้นึ คือ น้�ำตำล ๑. ครูทบทวนความรู้เดมิ ของนักเรียนเกี่ยวกบั พชื โดยใชค้ าถาม ดงั นี้ ลกู บาศก์เซนติเมตร
แลว้ เปลย่ี นเป็นแป้ง กำรสรำ้ ง ๔. หลอดทดลองทนไฟขนาด
อำหำรของพชื ต้องใช้นำ�้ แกส๊ ๑.๑ พชื มกี ารกินอาหารหรือไม่ เพราะเหตุใด (นกั เรียนตอบตามความเขา้ ใจของตนเอง เช่น พชื กิน
คำร์บอนไดออกไซด์ แสงและ อาหาร เพราะพชื เป็นสิ่งมีชวี ติ ทต่ี อ้ งการอาหารเพ่ือใชใ้ นการเจริญเตบิ โต) ใหญ่
คลอโรฟิลล์ซ่ึงเป็นสำรสีเขียว ๕. ตะเกยี งแอลกอฮอล์
ในใบพืช กระบวนกำรน้เี รยี กวำ่ ๑.๒ อาหารของพืชคอื อะไร ไดม้ าจากไหน (นักเรยี นตอบตามความเข้าใจของตนเอง เชน่ อาหารของ ๖. ทีก่ ้ันลมพร้อมตะแกรงลวด
กำรสงั เครำะหด์ ้วยแสง ซึง่ ผลท่ี พืชคือ นา้ ตาล ได้มาจากพืชสรา้ งอาหารด้วยตนเอง) ๗. เอทิลแอลกอฮอล์ ๙๕%
ได้นอกจำกน้�ำตำลแล้วยังได้น�้ำ ๘. จานแกว้
และแกส๊ ออกซเิ จนอกี ด้วย ๑.๓ นักเรียนคิดว่าพืชต้องการอะไรในการสร้างอาหาร (นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง ๙. ปากคบี
เชน่ พชื ตอ้ งการน้า แสง คลอโรฟิลล์ และแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด)์ ๑๐. ไม้หนีบ
๑๑. หลอดหยด
ขั้นสอน (๙๕ นาท)ี ๑๒. สารละลายไอโอดีนเข้มขน้
๒. ครูนาใบชบา และใบพืชชนิดอื่น ๑ ชนิด เช่น ผักบุ้ง มาให้นักเรียนสังเกตแล้วถามคาถามดังนี้ ใบพืช
๑%
๒ ใบ นี้เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (ใบพืชทั้งสองมีสีเขียวเหมือนกัน ใบชบามีใบแผ่กว้าง แต่
ใบผกั บ้งุ เป็นใบเรยี ว) ๑๓. น้า

๑๔. ไมข้ ดี ไฟ

9/10/18 8:56 AM


6102153L01c.indd 140 ๑๒๐

๑๔๐ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๒ ส่วนตำ่ ง ๆ ของพชื แผนกำรจัดกำรเรียนร้ทู ่ี ๑.๒ หน้ำท่ีของใบ เวลำ ๔ ช่ัวโมง
กลุ่มสำระกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตร์ หน่วยย่อยที่ ๑ หน้ำท่ีของรำก ลำต้น ใบ และดอกของพืช ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ ๔

รำยวิชำวิทยำศำสตร์ ภำระงำน / ช้นิ งำน
๑. การบันทกึ ผลการทากิจกรรม
จุดประสงคด์ ำ้ นควำมรู้ ๓. ครแู บง่ นักเรียนเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ ๓-๔ คน ชักชวนนกั เรยี นทากจิ กรรมที่ ๑ ใบทาหน้าที่อะไร หน้า ๕๓
๑. บอกหนา้ ทีข่ องใบ โดยครใู ห้นักเรียนอ่านช่ือกิจกรรมและจุดประสงค์ แล้วครูถามคาถามก่อนการทากิจกรรมดังนี้ ในใบกิจกรรม
๒. อภิปรายและระบปุ ระเภท ๒. การทาแบบฝกึ หัด
ของอาหารท่ีพืชสรา้ งขึ้น ๓.๑ กิจกรรมน้นี ักเรยี นจะได้เรียนเรือ่ งอะไร (หนา้ ท่ขี องใบ ประเภทอาหารทีพ่ ชื สรา้ งขึ้นจากใบ และ
จากใบ ปจั จัยในการสงั เคราะหด์ ้วยแสง)
๓. อธิบายปจั จยั ในการ
สังเคราะหด์ ้วยแสงของพืช ๓.๒ นักเรียนจะเรียนเรื่องน้ีด้วยวธิ ใี ด (วิธกี ารสงั กต)
๓.๓ เมื่อเรียนแล้วนักเรียนจะทาอะไรได้ (บอกหน้าที่ของใบ ระบุประเภทของอาหารที่พืชสร้างขึ้น
จุดประสงค์ดำ้ นทกั ษะ
กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ จากใบ)
๔. ครใู ห้นกั เรยี นอา่ นวิธที ากิจกรรมท่ี ๑ แล้วตรวจสอบความเขา้ ใจจากการอ่านจนแนใ่ จว่านกั เรียนเขา้ ใจ
๑. การสงั เกต
๒. การจัดทาและส่อื ขั้นตอนการทากิจกรรม โดยครูบอกข้อควรระวังในการทากิจกรรม เช่น ไม่นาหลอดทดลองที่มี
เอทิลแอลกอฮอล์มาสัมผัสกับไฟโดยตรงในขณะที่ต้มใบชบาด่าง เพราะเอทิลแอลกอฮอล์มีจุดเดือดต่า
ความหมายข้อมูล เมือ่ เดอื ดแล้วเกิดเป็นไอทาใหเ้ กดิ การลุกไหมไ้ ด้
๓. การลงความเห็นจากข้อมลู ๕. ครูทบทวนความรู้ของนักเรียนที่ได้เรียนมาแล้วเกี่ยวกับการทดสอบแป้งโดยใช้คาถามว่า เมื่อนักเรียน
หยดสารละลายไอโอดนี ลงในนา้ แป้งมนั และนา้ แป้งขา้ วโพดมีการเปล่ยี นแปลงอยา่ งไร (นา้ แป้งมนั และ
น้าแป้งขา้ วโพดมีการเปลย่ี นแปลงคือ นา้ แป้งท่มี ีสีขาวขุ่นจะเปลย่ี นเปน็ สีน้าเงินเข้มหรือม่วงคล้า)
๖. ครูให้นักเรียนทากิจกรรมที่ ๑ ใบทาหน้าที่อะไร โดยครูคอยตรวจดูความปลอดภัยและการทากิจกรรม
ที่ถกู ต้องและใหน้ ักเรยี นบันทึกผลลงในใบงาน ๐๑ หนา้ ที่ของใบ หนา้ ๕๕

9/10/18 8:56 AM


Click to View FlipBook Version