หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี ๕
วสั ดุและสสาร
6102153L01c.indd 291 9/10/18 9:10 AM
6102153L01c.indd 292 9/10/18 9:10 AM
๒๕๑
มำตรฐำนกำรเรยี นรู้และตัวชว้ี ัดของหน่วยกำรเรียนร้ทู ่ี ๕
วสั ดแุ ละสสำร (จำนวน ๓๐ ชวั่ โมง)
มำตรฐำนกำรเรียนรู้และตวั ชว้ี ดั
มำตรฐำน ว ๒.๑
เข้าใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสมบตั ขิ องสสารกับโครงสรา้ งและ
แรงยดึ เหนย่ี วระหวา่ งอนภุ าค หลกั และธรรมชาตขิ องการเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และ
การเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี
ตัวช้ีวัด
ว ๒.๑ ป.๔/๑ เปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพด้านความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน และ
การนาไฟฟ้าของวัสดุโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์จากการทดลองและระบุการนาสมบัติเรื่องความแข็ง สภาพ
ยืดหยุ่น การนาความร้อน และการนาไฟฟ้าของวัสดุไปใช้ในชีวิตประจาวัน ผ่านกระบวนการออกแบบชน้ิ งาน
ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครูผูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ ) ๒๙๓
6102153L01c.indd 293 9/10/18 9:10 AM
๒๕๒
ลำดบั กำรนำเสนอแนวคิดหลกั ของหน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี ๕ วสั ดแุ ละสสำร
วสั ดมุ ีหลายชนิด แต่ละชนิดมีสมบตั แิ ตกต่างกนั สามารถนามาทาเป็นส่ิงของ เคร่ืองใช้ตา่ ง ๆ ไดม้ ากมาย
ความแข็ง สภาพยืดหยุ่น การนาความร้อน และการนาไฟฟ้า เป็นสมบัตทิ างกายภาพของวัสดุ
ความแขง็ ของวัสดุ หมายถงึ ความทนทานของวัสดุต่อการถูกขดู ขีด
สภาพยดื หยุ่นของวัสดุ หมายถึง เม่ือออกแรงกระทาต่อวัสดุแลว้ ทาให้วัสดเุ ปลยี่ นแปลงรูปร่างหรือความยาว
แต่เม่ือหยุดออกแรงกระทา รูปรา่ งหรือความยาวของวัสดุกลบั คืนสูส่ ภาพเดมิ
การนาความร้อนของวัสดุ หมายถึง การถ่ายโอนความร้อนผ่านวสั ดจุ ากบรเิ วณทม่ี ีอณุ หภูมสิ งู ไปยงั บริเวณ
ท่ีมีอุณหภูมติ ่ากว่าโดยทต่ี ัวกลางไม่เคล่ือนที่
การนาไฟฟ้าของวัสดุ หมายถึง การท่ีวสั ดุยอมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้
การออกแบบอปุ กรณ์ เครื่องใช้ตอ้ งเลอื กใช้วัสดุทีม่ สี มบัตทิ างกายภาพเหมาะสมกับการใช้งาน
วสั ดเุ ปน็ สสารเพราะมมี วลและต้องการที่อยู่
สสารมสี ถานะเปน็ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส
ของแขง็ มีปริมาตรและรูปร่างคงท่ี
ของเหลวมีปรมิ าตรคงท่ีแตม่ ีรูปร่างเปล่ยี นไปตามภาชนะที่บรรจุ
แกส๊ มีปรมิ าตรและรปู ร่างเปลย่ี นไปตามภาชนะที่บรรจุ
๒๙๔ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรับครูผูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรุง)
6102153L01c.indd 294 9/10/18 9:10 AM
๒๕๓
โครงสรำ้ งแผนกำรจดั กำรเรียนรขู้ องหน่วยกำรเรียนร้ทู ี่ ๕ วัสดแุ ละสสำร
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑.๑ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑.๒ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๑.๓ แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๑.๔
(การใชว้ ัสดุใน (ความแขง็ ของวัสดุ (การนาความรอ้ น
(สภาพยดื หย่นุ ของวสั ดรุ อบตวั )
ชวี ติ ประจาวนั ) รอบตวั ) ของวัสดุรอบตัว) (๓ ชัว่ โมง)
(๒ ช่วั โมง)
(๓ ชั่วโมง) (๓ ชว่ั โมง)
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑.๕ หน่วยยอ่ ยที่ ๑ แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๑.๖
(การนาไฟฟา้ ของวสั ดุ (สมบัตทิ างกายภาพ (การใช้ประโยชนจ์ าก
สมบตั ิของวัสด)ุ
รอบตัว) ของวัสดุ)
(๓ ชัว่ โมง) (๔ ชัว่ โมง)
หน่วยกำรเรยี นร้ทู ี่ ๕
วัสดุและสสำร
(๓๐ ชว่ั โมง)
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๒.๑ หนว่ ยย่อยที่ ๒ แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๒.๓
(ของแขง็ ) (สถานะของสสาร) (แกส๊ )
(๔ ชั่วโมง)
(๔ ชัว่ โมง)
แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๒.๒
(ของเหลว)
(๔ ช่วั โมง)
ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครผู ้สู อน) กลุม่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) ๒๙๕
6102153L01c.indd 295 9/10/18 9:10 AM
6102153L01c.indd 296 9/10/18 9:10 AM
หนว่ ยย่อยที่ ๑
สมบัติทางกายภาพของวสั ดุ
6102153L01c.indd 297 9/10/18 9:10 AM
6102153L01c.indd 298 9/10/18 9:10 AM
๒๕๔
หนว่ ยย่อยที่ ๑ สมบตั ิทำงกำยภำพของวัสดุ
หน่วยกำรเรียนรูท้ ี่ ๕ ช่ือหนว่ ย วัสดแุ ละสสำร
จำนวนเวลำเรยี น ๑๘ ช่วั โมง จำนวนแผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ ๖ แผน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำระสำคัญของหน่วย
วสั ดแุ ต่ละชนิดมีสมบัติทางกายภาพแตกต่างกัน วัสดทุ ี่มคี วามแขง็ จะทนต่อแรงขดู ขดี วสั ดุที่มสี ภาพยดื หย่นุ จะ
เปลีย่ นแปลงรูปรา่ งหรอื ความยาวเมือ่ มแี รงมากระทา� และกลับสภาพเดิมได้ วสั ดุทีน่ �าความร้อนจะรอ้ นไดเ้ รว็ เมื่อได้
รับความร้อน และวัสดุท่นี า� ไฟฟา้ ได้ จะให้กระแสไฟฟา้ ไหลผ่านได้ ดงั นนั้ จงึ อาจน�าสมบตั ิตา่ ง ๆ มาพิจารณาเพือ่ ใช้
ในกระบวนการออกแบบชนิ้ งานสา� หรับใชป้ ระโยชนใ์ นชีวติ ประจา� วัน
มำตรฐำนและตวั ชีว้ ัด
มำตรฐำน ว ๒.๑
เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสมบตั ขิ องสสารกบั โครงสรา้ งและแรงยดึ เหนย่ี ว
ระหวา่ งอนภุ าค หลกั และธรรมชาตขิ องการเปลยี่ นแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลายและการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมี
ตวั ชว้ี ดั
ว ๒.๑ ป.๔/๑ เปรยี บเทยี บสมบตั ทิ างกายภาพดา้ นความแขง็ สภาพยดื หยนุ่ การนา� ความรอ้ น และการนา� ไฟฟา้
ของวสั ดโุ ดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษจ์ ากการทดลองและระบกุ ารนา� สมบตั เิ รอื่ งความแขง็ สภาพยดื หยนุ่ การนา� ความรอ้ น
และการนา� ไฟฟ้าของวัสดไุ ปใช้ในประชีวติ ประจา� วัน ผ่านกระบวนการออกแบบชนิ้ งาน
ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๒๙๙
6102153L01c.indd 299 9/10/18 9:10 AM
๒๕๕
ลำดบั กำรเสนอแนวคดิ หลักของหนว่ ยย่อยท่ี ๑ สมบัตทิ ำงกำยภำพของวสั ดุ
วสั ดมุ ีหลายชนดิ แต่ละชนดิ มีสมบตั ิแตกต่างกนั สามารถนามาทาเป็นส่งิ ของต่าง ๆ ได้มากมาย
ความแข็ง สภาพยืดหยนุ่ การนาความรอ้ น และการนาไฟฟ้า เปน็ สมบตั ทิ างกายภาพของวสั ดุ
ความแขง็ ของวัสดุ หมายถงึ ความทนทานของวัสดตุ ่อการถูกขดู ขีด
สภาพยดื หยนุ่ ของวสั ดุ หมายถึง เม่อื ออกแรงกระทาต่อวัสดุแล้วทาใหว้ ัสดุเปลย่ี นแปลงรปู ร่างหรอื ความยาว
แตเ่ มอ่ื หยุดออกแรงกระทา รูปรา่ งหรือความยาวของวสั ดุกลบั คนื สสู่ ภาพเดมิ
การนาความร้อนของวสั ดุ หมายถงึ การถ่ายโอนความร้อนผ่านวัสดุจากบรเิ วณทมี่ ีอุณหภูมสิ งู ไปยงั บรเิ วณ
ทมี่ ีอุณหภูมติ า่ กว่าโดยท่ตี วั กลางไมเ่ คลื่อนท่ี
การนาไฟฟ้าของวัสดุ หมายถึง การท่วี สั ดุยอมใหก้ ระแสไฟฟ้าผา่ นได้
การออกแบบอปุ กรณ์ เครื่องใชต้ อ้ งเลือกใชว้ สั ดทุ ี่มสี มบัติทางกายภาพเหมาะสมกับการใชง้ าน
๓๐๐ ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง)
6102153L01c.indd 300 9/10/18 9:11 AM
๒๕๖
โครงสรำ้ งของหนว่ ยย่อยท่ี ๑ สมบตั ิทำงกำยภำพของวัสดุ
หนว่ ยกำรเรยี นรู้ ช่ือหน่วยย่อย จำนวนแผน ชือ่ แผนกำรจดั กำร จำนวนชวั่ โมง
เรยี นรู้ ๒
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๕ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ ๓
วสั ดุและสสาร สมบตั ทิ างกายภาพ ๖ ๑.๑ การใช้วสั ดุใน ๓
ชวี ิตประจาวนั ๓
ของวัสดุ ๓
๑.๒ ความแข็งของวสั ดุ ๔
รอบตัว
๑.๓ สภาพยดื หยุน่ ของ
วสั ดรุ อบตวั
๑.๔ การนาความรอ้ น
ของวัสดุรอบตวั
๑.๕ การนาไฟฟา้ ของ
วัสดุรอบตวั
๑.๖ การใช้ประโยชน์
จากสมบตั ขิ องวสั ดุ
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครูผสู้ อน) กลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๓๐๑
6102153L01c.indd 301 9/10/18 9:11 AM
๒๕๗
คำชี้แจงประกอบแผนจัดกำรเรียนรู้ หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ่ี ๕
แผนกำรจัดกำรเรยี นรู้ท่ี ๑.๑ กำรใช้วัสดุในชีวติ ประจำวัน เวลำ ๒ ชว่ั โมง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. สำระสำคัญของแผน
การนาวัสดุต่าง ๆ มาใช้ทาสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจาวัน ควรเลือกใช้ตามสมบัติของวัสดุนั้น ๆ
ซ่ึงวัสดุต่างชนิดกันจะมสี มบตั บิ างประการแตกต่างกัน
๒. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในกำรนำไปใช้ (ให้ระบสุ ิ่งทตี่ ้องกำรเนน้ หรือข้อสงั เกต ข้อเสนอแนะ คำแนะนำ)
ในเร่อื งตอ่ ไปน้ี คือ
๒.๑ ขอบข่ำยเนอ้ื หำ
วัสดุ หมายถึง สิง่ ท่ีนา� มาทา� สง่ิ ของต่าง ๆ วัสดมุ ีมากมายหลายชนดิ นา� มาทา� เป็นสงิ่ ของเคร่อื งใช้ใน
ชวี ติ ประจา� วนั ไดแ้ ตกตา่ งกนั ตามความเหมาะสมของการใชง้ าน สมบตั ขิ องวสั ดุ หมายถงึ ลกั ษณะเฉพาะตวั
ของวัสดชุ นดิ หนงึ่ เหมอื นหรือแตกต่างจากวสั ดุอกี ชนิดหนงึ่
๒.๒ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ (ควำมรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยม) (ถ้ำมี)
จุดประสงคด์ ้ำนควำมรู้
สารวจวัตถุและระบชุ นดิ และสมบัติท่ีสงั เกตได้ของวัสดุที่ใช้ทาสิง่ ของที่พบในชีวติ ประจาวัน
จดุ ประสงค์ด้ำนทักษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
๑. การสังเกต
๒. การตคี วามหมายข้อมูลและลงข้อสรปุ
จดุ ประสงคด์ ำ้ นคุณธรรม
๑. มคี วามมุง่ ม่นั ในการทางาน
๒. มคี วามซือ่ สตั ย์ตอ่ ตนเอง
๓. ใฝ่เรียนรู้
๔. มคี วามสามคั คี ช่วยเหลือในการทางานกลุม่ ร่วมกนั
๓๐๒ ชดุ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรุง)
6102153L01c.indd 302 9/10/18 9:11 AM
๒๕๘
๒.๓ กำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้
๑) กำรเตรยี มตัวของครู นักเรยี น (กำรจัดกลุ่ม) (ถำ้ มี)
การจดั กลมุ่ โดยแบ่งนักเรียนออกเปน็ กลุ่ม กลุม่ ละ ๓-๔ คน
๒) กำรเตรยี มสือ่ วสั ดุอุปกรณ์ ของครู นกั เรียน (ถำ้ ม)ี
ส่ิงท่ีครตู อ้ งเตรยี ม คือ
ดนิ สอ ยางลบ ไม้บรรทัด แกว้ นา้ ผ้าเช็ดหน้า ถงุ เทา้ ไมถ้ ูพ้ืน ของเล่น อยา่ งละ ๑ ช้นิ
๓) เตรยี มใบงำน ใบควำมรู้ ใบกจิ กรรม (ถ้ำมี)
๓.๑ ใบงาน ๐๑ วัสดุทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาวัน
๓.๒ ใบงาน ๐๒ แบบฝึกหดั เรื่องการใช้วสั ดุในชวี ติ ประจาวัน
๒.๔ วัดผลประเมนิ ผล (ถ้ำมี)
๑) วิธกี ำรวัดผลประเมินผลกำรเรียนรู้
๑.๑ สังเกตการตอบคาถามในชน้ั เรยี น
๑.๒ การตอบคาถามในแบบฝึกหัด
๑.๓ สงั เกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตรใ์ นการทากิจกรรม
๑.๔ สงั เกตดา้ นคณุ ธรรมขณะทากจิ กรรม
๒) วธิ ีกำร เคร่อื งมอื เกณฑ์
๒.๑ เครือ่ งมอื และเกณฑ์ในกำรประเมนิ ด้ำนควำมรู้
ตรวจให้คะแนนจากการตอบคาถามในใบงาน แล้วใชเ้ กณฑ์ในการให้คะแนน ดังนี้
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๒.๒ เครื่องมือและเกณฑ์ในกำรประเมินทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
สังเกตทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยใชแ้ บบประเมนิ ทักษะกระบวนการ
ทางวิทยาศาสตร์ (ดังแนบ) นาคะแนนมารวมกัน แล้วใช้เกณฑ์ในการให้คะแนน ดงั นี้
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ตา่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
ชุดการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) ๓๐๓
6102153L01c.indd 303 9/10/18 9:11 AM
๒๕๙
๒.๓ เครือ่ งมือและเกณฑใ์ นกำรประเมนิ ด้ำนคณุ ธรรม
สงั เกตคุณลักษณะด้านคุณธรรมโดยใช้แบบประเมินดา้ นคุณธรรม (ดงั แนบ)
นาคะแนนมารวมกัน แลว้ ใช้เกณฑ์ในการให้คะแนน ดงั นี้
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ตา่ กว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๓) กำรทดสอบก่อนเรยี น หลังเรยี น แบบฝึกหัด กอ่ นเรยี น หลงั เรียน
ทาแบบฝึกหัดในใบงานหลงั เรยี น
๓. อน่ื ๆ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
๓๐๔ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครผู ู้สอน) กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรับปรุง)
6102153L01c.indd 304 9/10/18 9:11 AM
6102153L01c.indd 305 ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๓๐๕ แนวกำรจดั กจิ กรรมกำรเรียนรขู้ องแผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑.๑ ๒๖๐
เร่อื ง กำรใช้วสั ดุในชวี ติ ประจำวัน
หนว่ ยกำรเรียนรทู้ ่ี ๕ วัสดแุ ละสสำร รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์ เวลำ ๒ ชั่วโมง
กลมุ่ สำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๔
แนวกำรจัดกิจกรรมกำรเรยี นรู้
ขัน้ นำ ร่วมกันทบทวนความรทู้ ไ่ี ดเ้ รยี นมาแล้วของนกั เรยี นโดยให้นกั เรียนสงั เกตสงิ่ ของรอบตวั
ข้ันสอน
ขนั้ สรปุ เชือ่ มโยงเพ่ือนาสกู่ ิจกรรมที่ ๑ วัสดุทใ่ี ช้ในชีวติ ประจาวนั มีอะไรบ้าง
กำรวดั และประเมนิ ผล สารวจสง่ิ ของที่พบไดใ้ นชีวิตประจาวนั รอบ ๆ โรงเรยี น
นาเสนอและอภิปรายผลการทากจิ กรรม
รว่ มกันสรปุ เก่ยี วกับการใชว้ สั ดใุ นชีวิตประจาวนั
ทาใบงาน ๐๒ แบบฝึกหดั เรือ่ งวัสดุทใ่ี ชใ้ นชีวติ ประจาวนั
ประเมนิ จากการตอบคาถาม
ประเมนิ จากการทากจิ กรรมในชนั้ เรียน
ประเมนิ จากการทาแบบฝึกหัด
9/10/18 9:12 AM
6102153L01c.indd 306 ๒๖๑
๓๐๖ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หนว่ ยกำรเรยี นรู้ที่ ๕ วัสดุและสสำร แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ่ี ๑.๑ กำรใช้วสั ดใุ นชวี ติ ประจำวนั เวลำ ๒ ชัว่ โมง
กลมุ่ สำระกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตร์ หนว่ ยย่อยรทำ่ี ย๑วสิชี่ มำวบิทตั ยิทำำศงำกสำตยรภ์ ำพข์ องวสั ดุ ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี ่ี ๔
ขอบเขตเนือ้ หำ กิจกรรมกำรเรยี นรู้ (๒ ช่ัวโมง) ส่อื / แหล่งเรียนรู้
วสั ดุ หมำยถึง สิ่งท่ีนำ� มำทำ� สิ่งของ ชั่วโมงที่ ๑-๒ สง่ิ ของรอบตัว เช่น ดนิ สอ
ขน้ั นำ (๕ นำที)
ตำ่ ง ๆ วสั ดุมีมำกมำยหลำยชนดิ น�ำมำท�ำ ๑. ครูนาเข้าสู่บทเรียนเกี่ยวกับวัสดุในชีวิตประจาวัน เพื่อทบทวนความรู้ที่นักเรียนได้เรียน ภำระงำน / ช้ินงำน
เป็นสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจ�ำวันได้ ๑. การตอบคาถาม
แตกต่ำงกันตำมควำมเหมำะสมของกำร มาแลว้ ในชั้น ป.๑-๓ โดยครนู าสิง่ ของรอบตวั มาให้นักเรียนสังเกต เช่น ดนิ สอ ยางลบ ไม้ ๒. การสารวจสงิ่ ของตา่ ง ๆ
ใช้งำน บรรทัด แก้วน้า ผ้าเช็ดหน้า ถุงเท้า ไม้ถูพื้น ของเล่น ฯลฯ จากนั้นครูใช้คาถามและรับฟัง ๓. การบันทึกผลการทำกจิ กรรมใน
คาตอบของนกั เรียน ดงั น้ี
สมบตั ขิ องวัสดุ หมำยถึง ลกั ษณะ ๑.๑ สง่ิ ของเหล่านี้ทามาจากวสั ดุชนิดใดบ้าง (ดนิ สอ โต๊ะ เก้าอ้ี ทาจากไม้ ยางลบทาจาก ใบกิจกรรม
เฉพำะตวั ของวสั ดทุ แ่ี สดงวำ่ วสั ดชุ นดิ หนง่ึ
เหมอื นหรอื แตกตำ่ งจำกวสั ดอุ กี ชนดิ หนงึ่ ยาง ไม้บรรทัด ของเล่น ถังน้า ทาจากพลาสติก แก้วน้าทาจากแก้ว ผ้าเช็ดหน้า วธิ กี ำรประเมิน
ถงุ เทา้ ทาจากผา้ จาน ชาม ทาจากดนิ ช้อน ส้อม ทาจากเหล็ก ไมถ้ พู ้ืน ทาจากเหล็ก ๑. การตอบคาถามในแบบฝกึ หัด
จดุ ประสงค์ด้ำนควำมรู้ และผา้ ) ๒. สังเกตทักษะกระบวนการทาง
สารวจและระบชุ นดิ ของวสั ดทุ ใ่ี ชท้ ำ ๑.๒ วัสดุ เช่น ไม้ ยาง แก้ว ผ้า ที่ใช้ทาสิ่งของ มีความแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร
(นักเรียนตอบตามความเข้าใจของตนเอง ซึ่งอาจตอบว่ามีความแตกต่างกัน คือวัสดุ วทิ ยาศาสตร์ในการทากจิ กรรม
ส่งิ ของที่พบในชวี ิตประจาวัน บางชนิดเกิดตามธรรมชาติ บางชนิดมนุษย์สร้างขึ้น บางชนิดแข็ง บางชนิดนิ่ม ๓. สังเกตดา้ นคุณธรรมขณะทากิจกรรม
บางชนิดหักได้ บางชนิดยดื ได้ หดได้ บางชนิดเปียกน้าได้ หรอื บางชนดิ อมุ้ นา้ ได้) ๔. สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลุ่ม
๑.๓ ไม้ถูพื้นทามาจากวัสดุอะไรบ้าง (นักเรียนตอบตามที่สังเกตได้ คือ ด้ามทาจาก
อะลูมเิ นียม สว่ นท่ใี ช้ถพู ืน้ ทามาจากผ้า)
9/10/18 9:12 AM
6102153L01c.indd 307 ๒๖๒
ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๓๐๗ หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๕ วัสดแุ ละสสำร แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑.๑ กำรใชว้ ัสดุในชีวติ ประจำวนั เวลำ ๒ ชวั่ โมง
กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วทิ ยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยรทำี่ ย๑วสชิ ี่ มำวบทิ ตั ยิทำำศงำกสำตยรภ์ ำพของวัสดุ ช้นั ประถมศึกษำปีที่ ๔
จดุ ประสงค์ดำ้ นทักษะกระบวนกำรทำง ๑.๔ เพราะเหตุใดจึงต้องใช้วัสดุเหล่านี้ เราสามารถใช้วัสดุอื่นได้หรือไม่ (นักเรียนตอบ เกณฑ์กำรประเมนิ
วิทยำศำสตร์ ได้ตามความเขา้ ใจของตนเอง โดยอาจตอบวา่ ได้ เชน่ ใช้ไม้ทาด้าม เป็นต้น)
๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหัดได้
๑. การสงั เกต
๒. การตีความหมายขอ้ มลู และ ขั้นสอน (๑๐๐ นำที) ถกู ต้องด้วยตนเอง
ลงข้อสรปุ - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
๒. ครแู บ่งกลุม่ นักเรียนเปน็ กล่มุ กลุ่มละ ๓-๔ คน ใหน้ กั เรียนอา่ นช่ือกจิ กรรม จุดประสงคใ์ นใบ - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
จดุ ประสงค์ดำ้ นคณุ ธรรม กจิ กรรมท่ี ๑ วสั ดทุ ใี่ ชใ้ นชวี ติ ประจา� วนั มอี ะไรบา้ ง หนา้ ๑๒๑ แลว้ ถามคา� ถามกอ่ นทา� กจิ กรรม - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๑. มีความมุ่งมนั่ ในการทางาน ดงั น้ี ๒. มีทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
๒. มคี วามซอื่ สตั ยต์ ่อตนเอง
๓. ใฝเ่ รียนรู้ ๒.๑ กจิ กรรมนีน้ กั เรียนจะได้เรียนเรอื่ งอะไร (การใชว้ สั ดุในชีวิตประจาวัน) ขณะทากจิ กรรม
๔. มคี วามสามคั คี ช่วยเหลือ
ในการทางานกล่มุ ร่วมกนั ๒.๒ นกั เรียนจะเรยี นเรื่องนี้ด้วยวธิ ีใด (การสารวจสง่ิ ของตา่ ง ๆ) - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
๒.๓ เมอ่ื เรยี นแลว้ นกั เรยี นจะทาอะไรได้ (ระบชุ นดิ ของวสั ดทุ ใ่ี ชท้ าสง่ิ ของทพ่ี บในชวี ติ ประจำวนั - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
และบอกสมบตั ิท่สี ังเกตได้ของวสั ดุ) - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๓. ครูชักชวนนักเรียนทากิจกรรมท่ี ๑ วัสดุที่ใช้ในชีวิตประจาวันมีอะไรบ้าง หน้า ๑๒๑ โดย ๓. มคี ณุ ลักษณะด้านคุณธรรม
กาหนดกติกาในการออกไปสารวจว่า ต้องต้ังใจสารวจและจดบันทึกส่ิงที่พบ ห้ามเล่นซน - มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
ระหว่างทากิจกรรม ต้องเช่ือฟังคุณครู และเม่ือครบ ๑๕ นาทีแล้ว ต้องกลับห้องเรียนตาม - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
เวลาท่คี รูกาหนด
9/10/18 9:12 AM
6102153L01c.indd 308 ๓๐๘ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ ๑.๑ กำรใชว้ ัสดุในชีวิตประจำวัน ๒๖๓
หนว่ ยย่อยรทำ่ี ย๑วสชิ ่ี มำวบทิ ตั ยทิ ำำศงำกสำตยรภ์ ำพของวัสดุ
หนว่ ยกำรเรยี นรูท้ ี่ ๕ วสั ดแุ ละสสำร เวลำ ๒ ชว่ั โมง
กลุ่มสำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์ ๔. นักเรียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันอ่านวธิ ีทากิจกรรมและทาความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ชนดิ ของวัสดุท่ีต้อง ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี ๔
ออกไปสำรวจ จากนั้นแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภิปรายว่า มีวัสดุชนิดใดบ้างที่นักเรียนยังไม่รู้จัก
เพ่ือใหน้ ักเรยี นทุกกลมุ่ เขา้ ใจไดต้ รงกนั ครูอาจถามนักเรียน เช่น
๔.๑ นักเรียนรู้จักเส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์หรือไม่ เส้นใยทั้ง ๒ ชนิดเหมือน
หรอื ตา่ งกนั อย่างไร (นักเรียนตอบได้ตามความเขา้ ใจของตนเอง)
๔.๒ คาว่า “สังเคราะห์” มคี วามหมายว่าอยา่ งไร (นักเรียนตอบไดต้ ามความเข้าใจของตนเอง)
จากนัน้ ครูให้ความรู้วา่ เส้นใยธรรมชาติ คอื เส้นใยที่เกดิ จากพืชหรอื สตั ว์ เช่น ฝา้ ย ไหม
ส่วนเสน้ ใยสงั เคราะห์คอื เส้นใยที่ได้จากการสรา้ งของมนษุ ย์ เชน่ ไนลอน จากนั้นให้
นกั เรียนออกไปสารวจรอบโรงเรียน
๕. หลังจากท่ีนักเรียนสารวจวสั ดตุ ่าง ๆ แล้ว ให้ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่ม นาเสนอผลการทา
กิจกรรมหน้าช้ันเรียน เพ่ือเปรียบเทียบและตรวจสอบความถูกต้อง ครูเขียนสิ่งท่ีนักเรียน
บอกไว้ในตารางที่เขียนไว้บนกระดาน เป็นตัวอย่าง ๑ ชนิด เช่น ตัวอย่างตาราง การนา
วัสดุต่าง ๆ มาใชป้ ระโยชน์
สิง่ ของทสี่ ำรวจพบ ชนดิ ของวสั ดุ
..................ถังน้า............................................. ๑. พลาสติก
................แก้วน้า............................................. ๒. แก้ว
9/10/18 9:12 AM
6102153L01c.indd 309 ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๓๐๙ ๒๖๔
หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๕ วสั ดุและสสำร แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี ๑.๑ กำรใชว้ ัสดุในชีวติ ประจำวัน เวลำ ๒ ชัว่ โมง
กลุม่ สำระกำรเรียนร้วู ิทยำศำสตร์ หนว่ ยย่อยรทำ่ี ย๑วสชิ ่ี มำวบทิ ตั ยิทำำศงำกสำตยรภ์ ำพของวสั ดุ ชนั้ ประถมศึกษำปีที่ ๔
๖. ครชู วนนักเรยี นอภิปรายโดยใช้คาถาม ดังน้ี
๖.๑ วัสดุแต่ละชนิดใช้ทาอะไรได้บ้าง (นักเรียนสามารถตอบได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับ
สง่ิ ของที่นกั เรียนสารวจได้)
๖.๒ มีส่ิงของใดบ้างที่เป็นสิ่งของประเภทเดียวกัน แต่ทาจากวัสดุต่างชนิดกัน (นักเรียน
ตอบได้หลากหลาย ข้ึนอยู่กับส่ิงของท่ีนักเรียนสารวจได้ เช่น แก้วน้า อาจทาจาก
พลาสตกิ แก้ว หรอื อะลมู ิเนยี ม)
๖.๓ เพราะเหตุใดวัสดุบางชนิดจงึ ใช้ทาส่ิงของบางอยา่ งได้ แตท่ าบางอยา่ งไม่ได้ (นกั เรียน
อาจตอบว่าเพราะไม่เหมาะสมกับการนาไปใช้ หรอื ขน้ึ อย่กู ับสมบัติของวัสดุทีต่ ้องให้
เหมาะกบั การใชง้ าน)
ขนั้ สรุป (๑๕ นำที)
๗. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายจนได้ข้อสรุปว่า วัสดุ คือสิ่งท่ีนามาทาสิ่งของ และสมบัติ
ของวัสดุ หมายถึงลักษณะเฉพาะตัวของวัสดุท่ีแสดงว่าวัสดุชนิดหน่ึงเหมือนหรือแตกต่าง
จากวสั ดุอกี ชนิดหนึ่ง สิง่ ของชนิดหนงึ่ อาจทาได้จากวัสดุหลายชนิด สง่ิ ของบางอยา่ งทาจาก
วัสดเุ พียงชนิดเดยี ว ขนึ้ อยู่กบั สมบตั ขิ องวสั ดุและการนาไปใช้งาน
๘. นกั เรยี นทาใบงาน ๐๒ แบบฝกึ หดั เรื่องวัสดทุ ่ีใชใ้ นชวี ิตประจาวนั หนา้ ๑๒๔
9/10/18 9:12 AM
๒๖๕
ควำมรูเ้ พ่ิมเติมสำหรับครู
กำรดึงดูดดว้ ยแมเ่ หลก็ กำรซึมผำ่ นของนำ้
การนาความรอ้ น
สภาพยืดหยุ่น
สมบตั ิของวสั ดุ
กำรอมุ้ น้ำ ความแข็ง การนาไฟฟ้า
กำรร้อนเร็ว รอ้ นชำ้
สมบตั ขิ องวัสดุ ได้แก่ การดึงดดู ดว้ ยแมเ่ หล็ก การอุม้ นา้ การรอ้ นเรว็ รอ้ นช้า และการซึมผา่ นของน้า
เปน็ สมบตั ทิ นี่ ักเรยี นไดเ้ รยี นมาแล้วในระดับ ป.๑-๓
- การดึงดูดด้วยแม่เหล็ก หมายถงึ การท่ีวัสดสุ ามารถดงึ ดูดกบั แมเ่ หลก็ ได้ เนอ่ื งจากมีสารแมเ่ หลก็
ไดแ้ ก่ เหลก็ โคบอลต์ นิกเกลิ เปน็ ส่วนประกอบ
- การซึมผ่านของน้า หมายถึง การที่น้าสามารถซึมผ่านวัสดุนั้น ๆ ได้ โดยวัสดุแต่ละชนิด น้ำจะซึม
ผ่านไดเ้ รว็ ชา้ ตา่ งกัน
- การอุ้มน้า หมายถึง การทีว่ สั ดุบางชนดิ สามารถกักเกบ็ น้าไว้ในเน้ือวัสดุได้
- การรอ้ นเร็ว/ช้า หมายถึง การท่ีเมื่อวสั ดุได้รบั ความร้อน วัสดุแต่ละชนิดจะมีอณุ หภูมิสูงขึ้นมากน้อย
ตา่ งกัน
๓๑๐ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครผู สู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบับปรบั ปรุง)
6102153L01c.indd 310 9/10/18 9:12 AM
๒๖๖
แบบประเมินดำ้ นคุณธรรม
แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ่ี ๑.๑ กำรใชว้ สั ดุในชีวติ ประจำวัน
ชื่อผูป้ ระเมิน/กลุม่ ประเมนิ ……………………………………………………………………………………….…………………………
ชื่อกลุ่มรบั กำรประเมนิ ………………………………………………………………………………………………………………………..
ประเมนิ ผลครัง้ ท่ี………………. วนั ……………..…. เดือน ………..…………………………………. พ.ศ. ……...….…….......
เรือ่ ง……………………………………………………………………………………….……………………………………….…………………
ท่ี ลักษณะ/พฤติกรรมบง่ ชี้ ระดบั พฤตกิ รรม คะแนนท่ไี ด้
เกดิ = ๑ ไมเ่ กิด = ๐
๑. มีความมุ่งมั่นในการทางาน
๒. มีความซอ่ื สตั ย์ต่อตนเอง
๓. ใฝ่เรยี นรู้
๔. มคี วามสามัคคี ชว่ ยเหลือในการทางานกลุ่มร่วมกนั
รวมคะแนนทไี่ ดท้ งั้ หมด = …………… คะแนน
คุณลักษณะตามจดุ ประสงค์ด้านคุณธรรม
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ตา่ กวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรับครูผสู้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ ) ๓๑๑
6102153L01c.indd 311 9/10/18 9:12 AM
๒๖๗
แบบประเมินด้ำนทกั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตร์ในกำรทำกิจกรรม
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๑.๑ กำรใชว้ สั ดุในชีวติ ประจำวัน
เกณฑก์ ำรประเมินมดี ังนี้ ๒ หมายถึง พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ
๓ หมายถึง ดี คะแนน
สิ่งที่ประเมิน รวมคะแนน
การสังเกต
การตีความหมายข้อมูลและลงขอ้ สรปุ
เกณฑ์กำรประเมิน
ทกั ษะกระบวนกำร ดี (๓) ระดบั ควำมสำมำรถ ควรปรบั ปรงุ (๑)
ทำงวิทยำศำสตร์
ใช้ประสาทสัมผัสเก็บข้อมูล พอใช้ (๒) ไม่สำมำรถใชป้ ระสาทสัมผัส
การสงั เกต เกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ทาส่ิงของ เก็บข้อมูลเก่ียวกับวัสดุท่ีใช้
รอบตัวได้ด้วยตนเอง โดยไม่ ใช้ประสาทสัมผัสเก็บข้อมูล ทาส่ิงของรอบตัว ถึงแม้จะ
เพิ่มเติมความคิดเห็น เก่ียวกับวัสดุที่ใช้ทาส่ิงของ ได้รับคาแนะนาจากครูหรือ
รอบตวั ได้ โดยกำรชี้แนะของ ผู้อน่ื
ครหู รอื ผู้อื่น
การตคี วามหมาย ใช้ข้อมูลท่ีได้จากการทา ใช้ ข้ อมู ลท่ี ไ ด้ จา ก ก า ร ท า ไม่สำมำรถใช้ข้อมูลที่ได้จาก
ขอ้ มลู และลงข้อสรุป กจิ กรรมเพอื่ สรุปไดว้ า่ ส่ิงของ กิจกรรมเพ่ือสรุปได้ว่าส่ิงของ การทากิจกรรมเพ่ือสรุปได้
น้ันทาจากวัสดุชนิดใดและมี นั้นทาจากวัสดุชนิดใดและมี ว่าส่ิงของน้ันทาจากวัสดุ
สมบตั อิ ยา่ งไรดว้ ยตนเอง สมบัติอย่างไร โดยกำรช้ีแนะ ชนิดใดและมีสมบัติอย่างไร
ของครหู รือผอู้ ่นื ถงึ แม้จะได้รับคาแนะนาจาก
ครูหรือผู้อน่ื
๓๑๒ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครูผูส้ อน) กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
6102153L01c.indd 312 9/10/18 9:12 AM
เฉลยใบงาน
6102153L01c.indd 313 9/10/18 9:12 AM
6102153L01c.indd 314 9/10/18 9:12 AM
ช่ือ-สกลุ เดอื น ช้นั เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑
วันท่ี พ.ศ.
ใบงาน ๐๑ : วัสดุท่ใี ช้ในชวี ิตประจา� วันมีอะไรบา้ ง
บนั ทกึ ผลการทา� กิจกรรม
ตาราง ผลการสา� รวจสิ่งของ วัสดุทใ่ี ชท้ า� และสมบัตทิ ี่สังเกตได้ของวัสดุ
สิง่ ของ วสั ดทุ ี่ใชท้ �ำ สมบัตทิ ส่ี ังเกตไดข้ องวสั ดุ
แกว้ นำ�้ แก้ว ใส แตกง่ำย
แกว้ นำ�้ แตกยำก
โตะ๊ พลำสติก แขง็ แรง
เกำ้ อ้ี ไม้ แขง็ แรง
จำน เบำ
ผำ้ ขนหนู พลำสติก
กระเบอื้ ง ดูดซบั น�้ำไดด้ ี นุ่ม
ผ้ำฝ้ำย
ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) ๓๑๕
6102153L01c.indd 315 9/10/18 9:13 AM
ช่ือ-สกลุ เดอื น ชน้ั เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๑
วนั ที่ พ.ศ.
ค�าถามหลงั จากท�ากจิ กรรม
๑. วสั ดทุ ใี่ ชท้ �ำส่ิงของมีอะไรบำ้ ง
มคี ำ� ตอบหลำยค�ำตอบ เชน่ ผำ้ พลำสตกิ กระเบื้อง ไม้
๒. สมบัตทิ ่สี ังเกตได้ของวัสดมุ อี ะไรบำ้ ง
กำรดูดซับน้�ำ ควำมนุ่ม ควำมแขง็ ควำมใส
๓. จำกกจิ กรรมนี้ สรุปไดว้ ำ่ อยำ่ งไร
วสั ดุ คอื สง่ิ ทนี่ ำ� มำทำ� สงิ่ ของ และสมบตั ขิ องวสั ดุ หมำยถงึ ลกั ษณะเฉพำะตวั ของวสั ดุ
ที่แสดงว่ำวัสดุชนิดหนึ่งเหมือนหรือแตกต่ำงจำกวัสดุอีกชนิดหน่ึง สิ่งของบำงอย่ำง
ทำ� จำกวสั ดชุ นดิ เดยี วกนั บำงอยำ่ งทำ� จำกวสั ดตุ ำ่ งชนดิ กนั บำงอยำ่ งทำ� จำกวสั ดเุ พยี ง
ชนดิ เดยี ว แตบ่ ำงอยำ่ งทำ� จำกวสั ดหุ ลำยชนดิ ขนึ้ อยกู่ บั สมบตั ขิ องวสั ดแุ ละกำรนำ� ไป
ใชง้ ำน
๓๑๖ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรับครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรับปรงุ )
6102153L01c.indd 316 9/10/18 9:13 AM
ช่อื -สกลุ เดือน ชั้น เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๑-๐๒
วันที่ พ.ศ.
ใบงาน ๐๒ : แบบฝกึ หัด เรอื่ งวัสดุท่ีใชใ้ นชีวติ ประจา� วัน
ตอบค�ำถำมตอ่ ไปนใี้ หถ้ กู ตอ้ ง
ถ้ำตอ้ งกำรสรำ้ งบำ้ น จะเลอื กใชว้ สั ดุชนิดใด เพรำะเหตใุ ด
มีค�ำตอบได้หลำยค�ำตอบ เชน่ ใช้ไม้ เพรำะนำ�้ หนกั เบำ แตแ่ ขง็ แรง
ใช้อิฐ เพรำะแขง็ แรง ทนทำน
ผนงั บำ้ น ใชไ้ ม้ เพรำะแข็งแรง เบำ
ใชอ้ ฐิ เพรำะแข็งแรง ไมต่ ดิ ไฟง่ำย
หนำ้ ตำ่ ง ใช้ไม้ เพรำะไม่แตกงำ่ ย
ใชก้ ระจก เพรำะใส
ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๓๑๗
6102153L01c.indd 317 9/10/18 9:15 AM
๒๗๑
คำช้ีแจงประกอบแผนจัดกำรเรยี นรู้ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๕
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๑.๒ ควำมแข็งของวสั ดุรอบตัว เวลำ ๓ ชวั่ โมง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. สำระสำคญั ของแผน
ความแข็งของวสั ดุ หมายถึง ความทนทานของวสั ดุต่อการถูกขดู ขีด
๒. ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมในกำรนำไปใช้ (ให้ระบุสิ่งที่ต้องกำรเน้นหรือข้อสังเกต ข้อเสนอแนะ คำแนะนำ)
ในเรือ่ งต่อไปนี้ คือ
๒.๑ ขอบขำ่ ยเนอ้ื หำ
ความแข็งเปน็ สมบตั ิทแี่ สดงถึงความทนทานของวัสดตุ อ่ การถกู ขูดขีด เมอื่ น�าวสั ดชุ นดิ หนึ่งมาขีดบนวัสดุ
อกี ชนิดหน่งึ แลว้ เกดิ รอย แสดงว่าวสั ดทุ ่ีถูกขีดมีความแขง็ นอ้ ยกว่าวัสดทุ ี่ใช้ขดี แต่ถ้าไม่เกิดรอยแสดงวา่ วสั ดุ
ทถ่ี กู ขดี มคี วามแขง็ มากกวา่ วสั ดทุ ่ีใชข้ ดี สมบตั ดิ ้านความแข็งของวัสดุสามารถน�าไปใช้ประโยชน์ได้มากมาย
เช่น การเลอื กใชว้ สั ดเุ พือ่ มาแกะสลักหินหรอื ไม้ การใชแ้ รท่ ีม่ คี วามแขง็ มาตัดกระจก
๒.๒ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ (ควำมรู้ ทักษะ คุณธรรม จรยิ ธรรม ค่ำนิยม) (ถำ้ มี)
จุดประสงคด์ ำ้ นควำมรู้
๑. อธิบายความแข็งของวสั ดุ
๒. เปรียบเทียบความแขง็ ของวัสดตุ า่ งชนิดกัน
จุดประสงค์ด้ำนทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
๑. การสงั เกต
๒. การลงความเหน็ จากข้อมูล
๓. การตีความหมายข้อมลู และลงข้อสรปุ
จดุ ประสงคด์ ้ำนคณุ ธรรม
๑. มีความมงุ่ มน่ั ในการทางาน
๒. มีความซือ่ สัตยต์ อ่ ตนเอง
๓. ใฝเ่ รียนรู้
๔. มคี วามสามคั คี ช่วยเหลอื ในการทางานกลมุ่ ร่วมกัน
๒.๓ กำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้
๑) กำรเตรียมตัวของครู นักเรียน (กำรจดั กลุ่ม) (ถำ้ มี)
การจดั กลมุ่ โดยแบง่ นักเรยี นออกเปน็ กล่มุ กลมุ่ ละ ๓-๔ คน
๓๑๘ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชั้นประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรุง)
6102153L01c.indd 318 9/10/18 9:15 AM
๒๗๒
๒) กำรเตรียมสื่อ วัสดุอุปกรณ์ ของครู นกั เรียน (ถ้ำมี)
ส่งิ ทีค่ รูต้องเตรียม คือ
๒.๑ แผน่ พลาสตกิ แผน่ อะลมู ิเนียม แผน่ กระเบ้ือง แผ่นแกว้ แผน่ ไม้ แผน่ เหล็ก
ขนาด ๑๐ x ๑๐ เซนตเิ มตร อยา่ งละ ๑ แผน่ /กลุ่ม
๒.๒ เตรียมนทิ านเร่อื ง ลกู หมู ๓ ตัว ไว้ให้นักเรียนอ่าน ๒-๓ ชุด/กลุ่ม
๓) เตรียมใบงำน ใบควำมรู้ ใบกิจกรรม (ถำ้ มี)
๓.๑ ใบงาน ๐๑ สมบตั คิ วามแขง็ ของวสั ดุ
๓.๒ ใบงาน ๐๒ แบบฝกึ หดั เรือ่ งความแข็งของวัสดุ
๒.๔ วัดผลประเมินผล (ถ้ำมี)
๑) วธิ กี ำรวัดผลประเมินผลกำรเรียนรู้
๑.๑ สังเกตการตอบคาถามในช้ันเรยี น
๑.๒ การตอบคาถามในแบบฝกึ หดั
๑.๓ สงั เกตทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการทากิจกรรม
๑.๔ สงั เกตด้านคุณธรรมขณะทากจิ กรรม
๒) วธิ กี ำร เครือ่ งมือ เกณฑ์
๒.๑ เคร่ืองมือและเกณฑใ์ นกำรประเมนิ ด้ำนควำมรู้
ตรวจให้คะแนนจากการตอบคาถามในใบงาน แล้วใช้เกณฑ์ในการให้คะแนน ดงั น้ี
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๒.๒ เครอ่ื งมือและเกณฑ์ในกำรประเมนิ ทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
สังเกตทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ โดยใชแ้ บบประเมินทักษะกระบวนการ
ทางวทิ ยาศาสตร์ (ดังแนบ) นาคะแนนมารวมกัน แล้วใชเ้ กณฑใ์ นการให้คะแนน ดังนี้
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ตา่ กว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครูผสู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๔ (ฉบับปรับปรุง) ๓๑๙
6102153L01c.indd 319 9/10/18 9:15 AM
๒๗๓
๒.๓ เคร่ืองมอื และเกณฑ์ในกำรประเมนิ ดำ้ นคุณธรรม
สังเกตคณุ ลักษณะดา้ นคุณธรรมโดยใชแ้ บบประเมินด้านคุณธรรม (ดังแนบ)
นาคะแนนมารวมกัน แล้วใช้เกณฑ์ในการให้คะแนนดงั นี้
- มากกว่า ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
๓) กำรทดสอบก่อนเรียน หลงั เรียน แบบฝกึ หัด กอ่ นเรยี น หลงั เรียน
ทาแบบฝกึ หัดในใบงานหลงั เรยี น
๓. อ่นื ๆ
........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
๓๒๐ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สาำ หรบั ครูผูส้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ )
6102153L01c.indd 320 9/10/18 9:15 AM
6102153L01c.indd 321 ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๓๒๑ แนวกำรจัดกจิ กรรมการเรียนรขู้ องแผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ี่ ๑.๒ ๒๗๔
เรอ่ื ง ควำมแขง็ ของวสั ดุรอบตัว
หน่วยกำรเรียนรทู้ ี่ ๕ วัสดุและสสำร รำยวิชำวทิ ยำศำสตร์ เวลำ ๓ ชั่วโมง
กลมุ่ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์ ช้ันประถมศกึ ษำปีที่ ๔
ข้นั นำ แนวกำรจดั กิจกรรมกำรเรียนรู้
ขั้นสอน
ข้นั สรุป ตรวจสอบความรู้เดิมของนักเรียนเก่ียวกับความแข็งของวสั ดุ
กำรวดั และประเมินผล
รว่ มกนั อ่านนทิ าน เรอื่ ง ลูกหมสู ามตวั และตอบคาถามหลงั จากการอ่าน
กจิ กรรมที่ ๑ ตรวจสอบความแข็งของวัสดอุ ยา่ งไร
ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมดว้ ยกนั เปน็ กลุ่ม นาเสนอ และอภิปรายผลการทดลอง
รว่ มกันอภิปรายและลงข้อสรุปเกย่ี วกับความแขง็ ของวสั ดุ
ทาใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัด เรื่องความแขง็ ของวัสดุ
ประเมินจากการตอบคาถาม
ประเมินจากการทากจิ กรรมในช้ันเรียน
ประเมนิ จากการทาแบบฝึกหัด
9/10/18 9:16 AM
6102153L01c.indd 322 ๒๗๕
๓๒๒ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๕ วสั ดุและสสำร แผนกำรจดั กำรเรยี นรทู้ ่ี ๑.๒ ควำมแขง็ ของวัสดรุ อบตวั เวลำ ๓ ช่วั โมง
กลุ่มสำระกำรเรยี นรูว้ ิทยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ สมบัติทำงกำยภำพของวสั ดุ ช้นั ประถมศึกษำปที ี่ ๔
รำยวิชำวิทยำศำสตร์
ขอบเขตเนื้อหำ กจิ กรรมกำรเรียนรู้ (๓ ช่วั โมง) สอ่ื / แหล่งเรียนรู้
ความแขง็ เป็นสมบตั ทิ ี่แสดง ชั่วโมงท่ี ๑
ขัน้ นำ (๕ นำที) ๑. นทิ านเรื่องลูกหมู ๓ ตัว
ถึงความทนทานของวัสดุต่อการ ๑. ครถู ามคาถามเก่ียวกบั ความแข็งของวัสดโุ ดยอาจถามว่าสงิ่ ทอี่ ยรู่ อบ ๆ ตัวสง่ิ ใดมีความแข็งบา้ งและ ๒. แผ่นพลาสติก
ถูกขดู ขดี ๓. แผ่นอะลูมเิ นยี ม
รู้ได้อยา่ งไร ๔. แผน่ กระเบ้ือง
เมื่อนาวัสดุชนิดหนึ่งมาขีด ๕. แผ่นเหล็ก
บนวัสดุอีกชนิดหนึ่งแล้วเกิดรอย ขนั้ สอน (๔๕ นำที) ๖. แผน่ ไม้
แสดงว่าวัสดุที่ถูกขีดมีความแข็ง ๒. ครใู หน้ กั เรยี นอ่านนิทานเร่อื ง “ ลกู หมู ๓ ตวั ” หนา้ ๑๒๘-๑๓๐ ๗. แผน่ แกว้
น้อยกว่าวัสดุที่ใช้ขีด แต่ถ้าไม่เกิด ๓. ครนู าสนทนาเกี่ยวกับการใช้วสั ดใุ นการสรา้ งบ้านของลูกหมูทัง้ ๓ ตัว โดยใชแ้ นวคาถาม ดงั นี้
รอยแสดงว่าวัสดุที่ถูกขีดมีความ
แขง็ มากกว่าวสั ดทุ ี่ใชข้ ีด ๓.๑ เหตุใดหมาป่าจึงทาลายบ้านของลูกหมูตัวที่หนึ่งกับลูกหมูตัวที่สองได้ง่าย แต่ทาลายบ้าน
ของลูกหมูตัวที่สามไม่ได้ (บ้านของลูกหมูตัวที่หนึ่งและสองทาจากฟางกับเศษไม้ จึงพังได้
สมบัตดิ า้ นความแขง็ ของวสั ดุ งา่ ย แต่บา้ นของลูกหมูตวั ทส่ี ามทาจากอฐิ จงึ พังได้ยาก)
สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้
มากมาย เชน่ การเลือกใชว้ สั ดเุ พอ่ื ๓.๒ นักเรียนคิดว่าวัสดุแต่ละชนิดที่ลูกหมูใช้สร้างบ้านมีผลต่อความยากง่ายของหมาป่าในการ
มาแกะสลักหนิ หรือไม้ การใชแ้ ร่ที่ ทาลายบ้านของลูกหมูหรือไม่ อย่างไร (นักเรียนอาจตอบได้ว่ามีผล ฟางและเศษไม้เบา จึงไม่
มคี วามแข็งมาตัดกระจก แข็งแรง ส่วนก้อนอฐิ หนักกวา่ ฟางและเศษไม้จงึ มีความแข็งแรงมากกวา่ )
๓.๓ ทาไมเราจึงสร้างบ้านด้วยไม้หรืออิฐแทนการสร้างด้วยวัสดุอื่น ๆ (นักเรียนตอบได้ตาม
ความเข้าใจของตนเอง แนวคาตอบที่ถูกต้องแต่ครูยังไม่ต้องเฉลย คือ เพราะอิฐหรือไม้
มีความแข็ง ซ่ึงเป็นสมบตั หิ น่ึงของวสั ดุทที่ าใหบ้ า้ นแขง็ แรง)
9/10/18 9:16 AM
6102153L01c.indd 323 ๒๗๖
ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๓๒๓ หน่วยกำรเรยี นร้ทู ี่ ๕ วสั ดุและสสำร แผนกำรจดั กำรเรียนรูท้ ี่ ๑.๒ ควำมแข็งของวัสดุรอบตัว เวลำ ๓ ช่วั โมง
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ สมบัตทิ ำงกำยภำพของวสั ดุ ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ี่ ๔
รำยวิชำวทิ ยำศำสตร์
ภำระงำน / ชนิ้ งำน
จดุ ประสงค์ดำ้ นควำมรู้ ๔. ครูเขยี นคาว่า “แขง็ ” และ “แขง็ แรง” ไว้บนกระดานดา จากน้นั ครูกบั นักเรียนรว่ มกนั อภิปราย ๑. การตอบคาถามจากบตั รภาพ
๑. อธบิ ายความแขง็ ของวสั ดุ ถงึ ความหมายของท้งั สองคาน้ี โดยครูใชค้ าถาม ดงั นี้ ๒. การบนั ทกึ ผลการทำกจิ กรรม
๒. เปรยี บเทียบความแข็งของวสั ดุ ๔.๑ คาว่า “แข็ง” และ “แข็งแรง” มีความหมายเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร (นักเรียน
ตอบไดต้ ามความเข้าใจของตนเอง) ในใบกจิ กรรม
ต่างชนดิ กนั ๔.๒ สิ่งของที่มีความแข็งแรง น่าจะมีลักษณะเป็นเช่นไร (นักเรียนตอบได้ตามความเข้าใจของ ๓. การทาแบบฝกึ หดั
ตนเอง)
จุดประสงค์ดำ้ นทักษะ ๔.๓ ส่ิงของที่มีความแข็ง น่าจะมีลักษณะเป็นอย่างไร (นักเรียนอาจตอบได้ตามความเข้าใจของ
กระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์ ตนเอง) ครูจดบันทึกคาตอบของนักเรียนไว้ แล้วชักชวนนักเรียนว่าจะกลับมาตอบคาถาม
เหลา่ น้รี ่วมกันอกี คร้งั หลังจากทากจิ กรรมแลว้
๑. การสังเกต
๒. การลงความเหน็ จากข้อมลู ๕. ครแู บง่ กลมุ่ นกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๓-๔ คน ใหน้ กั เรยี นอา่ นชอ่ื กจิ กรรม จดุ ประสงค์ ใบกจิ กรรม
๓. การตีความหมายข้อมูลและ ท่ี ๑ ตรวจสอบความแขง็ ของวสั ดุอย่างไร หน้า ๑๒๖ แล้วครถู ามคาถามกอ่ นทากิจกรรมดงั น้ี
๕.๑ กจิ กรรมนี้นักเรียนจะได้เรียนเร่อื งอะไร (ความแขง็ ของวัสดรุ อบตวั )
ลงขอ้ สรปุ ๕.๒ นกั เรียนจะเรยี นเรอ่ื งนีด้ ว้ ยวธิ ีใด (การสงั เกตและการทดสอบ)
๕.๓ เมอ่ื เรียนแลว้ นกั เรยี นจะทาอะไรได้ (เปรยี บเทยี บความแข็งของวสั ดตุ ่างชนิดกัน)
๕.๔ ถ้าเราอยากรู้ว่า พลาสติก อะลูมิเนียม กระเบื้อง แก้ว ไม้ และเหล็ก วัสดุชนิดใด
มีความแข็งมากกว่ากัน นกั เรยี นคดิ วา่ จะมีวิธีการตรวจสอบความแข็งของวัสดนุ ้ีอย่างไร โดย
ย้าว่าควรเป็นวิธีที่สามารถทาได้ในห้องเรียน และไม่เป็นอันตราย (นักเรียนช่วยกันระดม
ความคดิ )
9/10/18 9:16 AM
6102153L01c.indd 324 ๒๗๗
๓๒๔ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หน่วยกำรเรยี นรทู้ ่ี ๕ วัสดุและสสำร แผนกำรจดั กำรเรยี นร้ทู ี่ ๑.๒ ควำมแข็งของวสั ดรุ อบตวั เวลำ ๓ ช่ัวโมง
กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ สมบตั ิทำงกำยภำพของวัสดุ ชนั้ ประถมศกึ ษำปีที่ ๔
รำยวิชำวิทยำศำสตร์
จดุ ประสงคด์ ้ำนคณุ ธรรม ๖. ครูสุ่มนกั เรียนบางกลมุ่ นาเสนอเกี่ยวกับวิธกี ารตรวจสอบความแขง็ ของวสั ดุ วิธีกำรประเมิน
๑. มคี วามมงุ่ มัน่ ในการทางาน ๗. ครชู ักชวนนักเรียนสรุปและอภปิ รายเก่ียวกับวธิ ีการตรวจสอบความแข็งของวัสดุ โดยครใู หน้ ักเรียน ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหัด
๒. มคี วามซ่ือสตั ย์ต่อตนเอง ๒. สังเกตทกั ษะกระบวนการทาง
อ่านใบความรู้เพม่ิ เตมิ เรอื่ ง ความแข็งของวสั ดแุ ละรว่ มกนั อภปิ รายว่าในการขดี วัสดแุ ตล่ ะชนิด แล้ว
๓. ใฝ่เรยี นรู้ พิจารณาความลึกของรอยขีด ถ้าวัสดุมีรอยขีดลึกกว่า แสดงว่ามีความแข็งน้อยกว่าวัสดุท่ีมีรอยขีด วทิ ยาศาสตร/์ ด้านคุณธรรมใน
ไม่ลึก การทากิจกรรม
๔. มีความสามคั คี ช่วยเหลอื ใน ขัน้ สรุป (๕ นำที) ๓. สงั เกตพฤตกิ รรมการทางาน
การทางานกลุม่ ร่วมกนั ๘. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปวธิ ีการหาความแข็งของวสั ดุ โดยนาวสั ดุมาขดี กัน ถ้าวัสดใุ ดเป็นรอยลึก กลุม่
กว่าแสดงว่าวสั ดุนนั้ แข็งน้อยกวา่ ๔. ประเมินการทางานกล่มุ
ชั่วโมงท่ี ๒-๓ เกณฑ์กำรประเมนิ
ข้ันนำ (๕ นำท)ี ๑. การตอบคาถามในแบบฝึกหดั
๙. ครูนาเข้าสู่บทเรียนโดยครูทบทวนการตรวจสอบหาความแข็งของวัสดุ และร่วมกันอภิปรายว่าใน
ไดถ้ ูกต้องดว้ ยตนเอง
การตรวจสอบหาความแขง็ ของวัสดุนั้น ตอ้ งนาวัสดุแตล่ ะชนดิ มาขีดกนั แลว้ พจิ ารณาความลึกของ - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
รอยขีด ถ้าวสั ดมุ ีรอยขดี ลกึ กวา่ แสดงว่ามีความแข็งนอ้ ยกวา่ วัสดุที่มีรอยขดี ไมล่ ึก - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
9/10/18 9:16 AM
6102153L01c.indd 325 ๒๗๘
ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๓๒๕ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๕ วสั ดแุ ละสสำร แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ ๑.๒ ควำมแข็งของวัสดุรอบตัว เวลำ ๓ ชวั่ โมง
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้วิทยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ สมบัติทำงกำยภำพของวัสดุ ช้ันประถมศกึ ษำปที ่ี ๔
รำยวชิ ำวทิ ยำศำสตร์
ขนั้ สอน (๑๐๐ นำท)ี ๒. มีทกั ษะกระบวนการทาง
๑๐. ครูให้นักเรียนอ่านใบกิจกรรมที่ ๑ ตรวจสอบความแข็งของวัสดุอย่างไร โดยอภิปรายวิธีการทา วทิ ยาศาสตร์
กจิ กรรม โดยอาจใช้คาถาม ดังน้ี - มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
๑๐.๑ กิจกรรมน้มี ีวธิ ีการตรวจสอบความแข็งอย่างไร (ตรวจสอบโดยการนาวสั ดุมาขูดกัน) - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
๑๐.๒ ถ้านาวัสดุมาขูดกัน นักเรียนคิดว่า สิ่งที่เราต้องสังเกตแล้วจดบันทึกคืออะไร (ลักษณะของ - ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
รอยและบริเวณท่ีเกิดรอย) ๓. มีคณุ ลักษณะด้านคุณธรรม
๑๐.๓ สิ่งที่เราใช้ในการศึกษาความแข็งของวัสดุคืออะไร (พลาสติก อะลูมิเนียม กระเบื้อง แก้ว
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
ไม้ และเหล็ก) - ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
๑๑. นักเรียนแต่ละกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมท่ี ๑ โดยครูชี้แจงขั้นตอนการทากิจกรรมอีกคร้ัง (โดยให้ - ต่ากวา่ ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
สลับกันใช้วัสดุท่ีจะขูดและนามาขูด โดยให้สมาชิกในกลุ่มทุกคนได้ทากิจกรรม) เม่ือพบว่า
นักเรียนเข้าใจแล้วก็ให้ลงมือทากิจกรรม ในขณะที่นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมครูคอยดูแลอย่าง
ใกล้ชดิ และใหป้ ระธานกล่มุ ดูแลการปฏิบัติกจิ กรรมของสมาชกิ ภายในกลมุ่
๑๒. ครูให้นักเรียนนาเสนอผลการสังเกต และถามกลุ่มที่เหลือว่าได้ผลเหมือนหรือแตกต่างจากกลุ่มท่ี
นาเสนอหรือไม่ อย่างไร ครูบันทึกผลการสังเกตของนักเรียนตามตารางในใบงาน ๐๑ สมบัติ
ความแขง็ ของวสั ดุ หน้า ๑๓๑ จากนั้นครนู าอภิปรายโดยอาจใช้คาถามดงั ตอ่ ไปน้ี
๑๒.๑ เมื่อนาแผ่นไม้ขูดบนวัสดุแต่ละชนิด วัสดุใดบ้างท่ีเกิดรอย วัสดุใดบ้างที่ไม่เกิดรอย (ไม่มี
วัสดชุ นิดใดท่ีเกิดรอย)
๑๒.๒ วัสดุชนิดใดที่มีความแข็งมากกว่าไม้และวัสดุชนิดใดมีความแข็งน้อยกว่าไม้ (วัสดุทุกชนิด
ท่ีใช้ มคี วามแขง็ มากกวา่ ไม)้
9/10/18 9:16 AM
6102153L01c.indd 326 ๓๒๖ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๕ วสั ดุและสสำร แผนกำรจดั กำรเรียนรทู้ ี่ ๑.๒ ควำมแข็งของวัสดุรอบตัว ๒๗๙
กลุม่ สำระกำรเรยี นร้วู ทิ ยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยที่ ๑ สมบัตทิ ำงกำยภำพของวสั ดุ
รำยวชิ ำวทิ ยำศำสตร์ เวลำ ๓ ชั่วโมง
ชั้นประถมศกึ ษำปที ่ี ๔
๑๒.๓ เม่ือนาพลาสติกขูดบนวัสดุแต่ละชนิด วัสดุใดบ้างท่ีเกิดรอย วัสดุใดบ้างท่ีไม่เกิดรอย
(วัสดุท่ีเกิดรอย ได้แก่ ไม้ วัสดุท่ีไม่เกิดรอย ได้แก่ แก้ว เหล็ก อะลูมิเนียม กระเบอ้ื ง)
๑๒.๔ วัสดุชนิดใดที่มีความแข็งมากกว่าพลาสติก และวัสดุชนิดใดมีความแข็งน้อยกว่า
พลาสติก (วัสดุที่มีความแข็งมากกว่าพลาสติก ได้แก่ แก้ว เหล็ก อะลูมิเนียม
กระเบ้อื ง วสั ดทุ ่ีมีความแข็งนอ้ ยกวา่ พลาสตกิ ได้แก่ ไม)้
๑๒.๕ เม่ือนาอะลมู เิ นียมขูดบนวัสดแุ ตล่ ะชนิด วัสดใุ ดบ้างทเี่ กดิ รอย วสั ดุใดบ้างท่ีไม่เกิดรอย
(วสั ดทุ เ่ี กิดรอย ไดแ้ ก่ ไม้ พลาสตกิ วัสดุท่ไี ม่เกิดรอย ไดแ้ ก่ แก้ว เหล็ก กระเบื้อง)
๑๒.๖ วัสดุชนิดใดที่มีความแข็งมากกว่าอะลูมิเนียมและวัสดุชนิดใดมีความแข็งน้อยกว่า
อะลูมิเนียม (วัสดุที่มีความแข็งมากกว่าอะลูมิเนียม ได้แก่ แก้ว เหล็ก กระเบื้อง วัสดุ
ท่มี คี วามแข็งน้อยกวา่ อะลูมิเนยี ม ได้แก่ ไม้ พลาสติก)
๑๒.๗ เมื่อนาเหล็กถูบนวัสดุแต่ละชนิด วัสดุใดบ้างที่เกิดรอย วัสดุใดบ้างท่ีไม่เกิดรอย
(เกดิ รอยบนวัสดุที่ใชใ้ นการขดู ทุกชนดิ ยกเว้นกระเบื้องและแกว้ )
๑๒.๘ วัสดุชนิดใดที่มีความแข็งมากกว่าเหล็ก และวัสดุชนิดใดมีความแข็งน้อยกว่าเหล็ก
(วัสดุใดที่มีความแข็งมากกว่าเหล็ก ได้แก่ กระเบื้อง แก้ว วัสดุที่มีความแข็งน้อยกว่า
เหล็ก ไดแ้ ก่ พลาสตกิ ไม้ อะลมู เิ นียม)
9/10/18 9:16 AM
6102153L01c.indd 327 ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง) ๓๒๗ ๒๘๐
หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ี่ ๕ วัสดุและสสำร แผนกำรจดั กำรเรยี นรู้ที่ ๑.๒ ควำมแข็งของวสั ดุรอบตวั เวลำ ๓ ชวั่ โมง
กลุ่มสำระกำรเรยี นรู้วทิ ยำศำสตร์ หนว่ ยยอ่ ยท่ี ๑ สมบตั ิทำงกำยภำพของวสั ดุ ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๔
รำยวชิ ำวิทยำศำสตร์
๑๒.๙ เมื่อนาแก้วถูบนวัสดุแต่ละชนิด วัสดุใดบ้างที่เกิดรอย วัสดุใดบ้างที่ไม่เกิดรอย (เกิด
รอยบนวัสดทุ กุ ชนิด)
๑๒.๑๐ วสั ดุชนดิ ใดทม่ี ีความแขง็ มากท่สี ดุ (แกว้ มีความแข็งมากที่สุด)
๑๓. ครูกลับไปทบทวนคาตอบของนักเรียนเกี่ยวกับความหมายของคาว่า “แข็ง” และ
“แข็งแรง” ซึ่งจดไว้ในขั้นนาเข้าสู่บทเรียน โดยคาตอบที่ถูกต้อง ความแข็งเป็นสมบัติของ
วัสดุที่แตกต่างจากแข็งแรง ความแข็ง เป็นการทนต่อการขูดขีดหรือการเกิดรอยยาก
แขง็ แรงเปน็ สมบตั ิท่ที นทาน ทาลายไดย้ าก)
๑๔. ครชู กั ชวนนักเรียนพดู คุยเก่ียวกับการนาความรเู้ รื่องความแขง็ ของวัสดไุ ปใชใ้ นชีวิตประจำวนั
เช่น การเลือกใช้วัสดุมาแกะสลกั หนิ หรือไม้ การใช้แรท่ ม่ี ีความแขง็ มาตัดกระจก
ขนั้ สรุป (๑๕ นำที)
๑๕. นกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายและสรุปอีกครั้งหน่ึงวา่ ความแข็งเป็นสมบตั ิที่แสดงถึงความทนทาน
ของวัสดุต่อการถูกขูดขีด เมื่อนาวัสดุชนิดหนึ่งขูดบนวัสดุอีกชนิดหนึ่ง ถ้าวัสดุมีความแข็ง
ต่างกันจะทาให้เกิดรอย วัสดุที่มีความแข็งมากจะทนทานมาก วัสดุที่มีความแข็งน้อยจะ
ทนทานน้อย
๑๖. ครูใหน้ ักเรียนทาใบงาน ๐๒ แบบฝึกหัดเรื่องความแข็งของวสั ดุ หนา้ ๑๓๓-๑๓๔
9/10/18 9:16 AM
๒๘๑
ใบควำมรูเ้ พม่ิ เติมสำหรับครู เร่อื งควำมแข็งของวัสดุ
การจัดลาดบั ความแขง็ ของวัสดสุ ามารถทาได้โดยการออกแรงเท่า ๆ กนั ในการขดู ขดี วัสดแุ ต่ละชนิด
แลว้ พิจารณาความลึกของรอยขีด ถ้าวัสดมุ รี อยขดี ลึกกว่า แสดงวา่ มคี วามแขง็ นอ้ ยกวา่ วัสดทุ ี่มีรอยขีดไม่ลึก
ตาราง คา่ ความแขง็ ของวัสดบุ างชนดิ เมือ่ เทียบกับมาตราความแขง็ ของโมห์ (Moh’s)
วัสดุ มำตรำควำมแข็งของโมห์
ข้ีผง้ึ ที่ ๐๐c ๐.๒
ตะก่ัว ๑.๕
๒-๒.๙
อะลูมเิ นยี ม ๒.๕ – ๓
ทองแดง ๓–๔
ทองเหลือง ๓–๔
หินออ่ น ๔ -๕
เหล็ก ๔.๕ – ๖.๕
กระจก ๕ – ๘.๕
เหลก็ กลา้ ๘
บษุ ราคมั ๙
ทบั ทมิ ๑๐
เพชร
แร่เป็นวัสดุธรรมชาติ มีส่วนผสมทางเคมีและลักษณะบางประการคงที่ แร่อาจจะประกอบด้วยธาตุ
ชนดิ เดยี ว เช่น ทอง เงนิ กามะถนั เพชร หรอื อาจประกอบดว้ ยธาตุมากกวา่ หน่ึงชนิด เชน่ แรย่ ปิ ซมั (เกลอื จืด)
ซึ่งประกอบดว้ ยธาตุ ๓ ชนดิ คือ แคลเซียม กามะถนั และออกซเิ จน
แรแ่ ตล่ ะชนดิ มคี วามแขง็ เฉพาะตวั ไมเ่ หมอื นกนั โมห์ (Moh) พ.ศ. ๒๓๑๖ – ๒๓๘๒ ผเู้ ช่ียวชาญเรอ่ื งแร่
ชาวเยอรมัน เป็นผู้สร้างสเกลความแข็งของแร่ข้ึนมา เรียกวา่ Moh’s Scale
ค่าความแข็งมาตรฐานที่สงู ท่ีสุดของแร่ คือ
เพชร มคี ่าความแขง็ มาตรฐาน ๑๐
คอรนั ดัม มีคา่ ความแข็งมาตรฐาน ๙
โทแพซ มคี า่ ความแขง็ มาตรฐาน ๘
๓๒๘ ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครูผูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ )
6102153L01c.indd 328 9/10/18 9:17 AM
๒๘๒
แบบประเมนิ ดำ้ นคณุ ธรรม
แผนกำรจัดกำรเรียนรทู้ ี่ ๑.๒ ควำมแขง็ ของวัสดรุ อบตัว
ชื่อผปู้ ระเมนิ /กลมุ่ ประเมนิ …………………………………………………………………………………………………………..……
ชื่อกลุ่มรบั กำรประเมนิ ……………………………………………………………………………………………………………………..
ประเมนิ ผลคร้ังท่ี………………. วนั ……………..…. เดือน ……………………………….………. พ.ศ. ……...….…….......
เรอ่ื ง…………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ที่ ลักษณะ/พฤตกิ รรมบ่งชี้ ระดับพฤตกิ รรม คะแนนท่ไี ด้
เกดิ = ๑ ไม่เกดิ = ๐
๑. มคี วามมงุ่ มนั่ ในการทางาน
๒. มคี วามซ่อื สตั ย์ต่อตนเอง
๓. ใฝ่เรียนรู้
๔. มคี วามสามัคคี ชว่ ยเหลอื ในการทางานกลุ่มร่วมกัน
รวมคะแนนที่ไดท้ ง้ั หมด = …………… คะแนน
คณุ ลักษณะตามจดุ ประสงคด์ ้านคณุ ธรรม
- มากกวา่ ๘๐ % ได้ ๓ คะแนน
- ๕๐ % - ๗๙ % ได้ ๒ คะแนน
- ต่ากว่า ๕๐ % ได้ ๑ คะแนน
ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครูผ้สู อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๓๒๙
6102153L01c.indd 329 9/10/18 9:17 AM
๒๘๓
แบบประเมินดำ้ นทกั ษะกระบวนกำรทำงวทิ ยำศำสตรใ์ นกำรทำกจิ กรรม
แผนกำรจัดกำรเรียนรูท้ ่ี ๑.๒ ควำมแขง็ ของวัสดรุ อบตวั
เกณฑก์ ำรประเมนิ มีดังน้ี
๓ หมายถึง ดี ๒ หมายถึง พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ
คะแนน
สิ่งทป่ี ระเมิน
รวมคะแนน
การสงั เกต
การลงความเหน็ จากข้อมูล
การตคี วามหมายข้อมลู และลงขอ้ สรุป
เกณฑก์ ำรประเมนิ
ทกั ษะกระบวนกำร ดี (๓) ระดบั ควำมสำมำรถ ควรปรบั ปรุง (๑)
ทำงวิทยำศำสตร์ พอใช้ (๒)
การสงั เกต ใช้ประสาทสัมผัสในการ ใช้ประสาทสัมผัสในการ ไม่สามารถใช้ประสาทสัมผัส
รวบรวมขอ้ มลู เกยี่ วกบั รอ่ งรอย รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ในการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ
การขูดวัสดุได้ด้วยตนเอง รอ่ งรอยการขดู วสั ดไุ ด้ โดย รอ่ งรอยการขดู วัสดุ ถงึ แม้จะ
โดยไม่เพ่ิมเตมิ ความคิดเห็น การชแี้ นะของครหู รอื ผอู้ น่ื ได้รับค�าแนะน�าจากครูหรือ
และเพม่ิ เติมความคดิ เห็น ผูอ้ ่นื
การลงความเห็นจาก เพมิ่ เตมิ ความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เพิ่มเติมความคิดเห็นเก่ียวกับ ไมส่ ามารถเพมิ่ เตมิ ความคดิ เหน็
ข้อมลู ความแข็งของวัสดุได้อย่าง ความแข็งของวัสดุได้อย่าง เกี่ยวกับความแข็งของวัสดุได้
ถูกต้อง มีเหตผุ ลจากความรู้ ถูกต้อง พยายามใหเ้ หตุผล อย่างถกู ต้อง ถงึ แมจ้ ะได้รับค�า
หรอื ประสบการณเ์ ดมิ ไดด้ ว้ ย จากความรหู้ รอื ประสบการณ์ แนะนา� จากครหู รอื ผู้อน่ื
ตนเอง เดิมได้ โดยการช้แี นะของ
ครหู รือผ้อู ่ืน
การตคี วามหมาย ตีความหมายข้อมูลท่ีได้จาก ตีความหมายข้อมูลที่ได้ ไม่สำมำรถ ตีความหมาย
ข้อมูลและ การสังเกตเพ่ือลงข้อสรุปว่า จากการสังเกตเ พื่ อ ลง ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตเพื่อ
ลงขอ้ สรปุ วัสดุชนิดใดมีความแข็ง ข้อสรุป ว่าวัสดุชนิดใดมี ลงข้อสรุป ว่าวัสดุชนิดใดมี
มากกว่ากันได้อย่างถูกต้อง ความแข็งมากกว่ากันได้ ความแข็งมากกว่า กั น ไ ด้
ดว้ ยตนเอง
๓๓๐ ชุดการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครูผู้สอน) กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรับปรงุ )
6102153L01c.indd 330 9/10/18 9:18 AM
๒๘๔
ทักษะกระบวนกำร ระดบั ควำมสำมำรถ
ทำงวิทยำศำสตร์
ดี (๓) พอใช้ (๒) ควรปรบั ปรุง (๑)
โดยการช้ีแนะของครหู รอื ถึงแม้จะได้รับคาแนะนาจาก
ผ้อู ่นื ครูหรอื ผู้อืน่
ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สำาหรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ ) ๓๓๑
6102153L01c.indd 331 9/10/18 9:18 AM
6102153L01c.indd 332 9/10/18 9:18 AM
เฉลยใบงาน
6102153L01c.indd 333 9/10/18 9:18 AM
6102153L01c.indd 334 9/10/18 9:18 AM
ชอื่ -สกลุ เดือน ชั้น เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑
วนั ท่ี พ.ศ.
ใบงาน ๐๑ : สมบตั ิความแขง็ ของวสั ดุ
บันทึกผลการทา� กจิ กรรม
ผลกำรคำดคะเน
เรยี งล�ำดบั ควำมแข็งของวัสดุ
แก้ว กระเบื้อง เหล็ก อะลมู ิเนยี ม พลำสตกิ ไม้
ตาราง การเกดิ รอยบนวัสดทุ ถ่ี กู ขีด
ขีด ✓ ในชอ่ งวัสดทุ ีถ่ กู ขดี แลว้ เกดิ รอย
วสั ดทุ น่ี ำ� วสั ดุท่ถี กู ขดี
มำขดี พลำสติก อะลมู ิเนยี ม กระเบอ้ื ง แกว้ เหลก็ ไม้
พลำสติก ---- 3
3
อะลูมเิ นยี ม 3 --- 3
กระเบื้อง 3 3 3
แกว้ 3 3 3 33
เหลก็ 3 3 - - 3
ไม้ - - - - -
หมายเหตุ ไม่ต้องบนั ทึกในช่อง เน่ืองจำกไมไ่ ด้ทดสอบ
กำรใชก้ ระเบอ้ื ง อำจได้ผลแตกต่ำงจำกคำ� ตอบนี้ ขึ้นอย่กู บั ชนดิ ของกระเบือ้ งวำ่ เป็น
กระเบอ้ื งเคลือบหรือไม่เคลอื บ
ชุดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ภาคเรยี นที่ ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ ) ๓๓๕
6102153L01c.indd 335 9/10/18 9:18 AM
ชอื่ -สกลุ เดอื น ชนั้ เลขที่ บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒-๐๑
วันที่ พ.ศ.
ค�าถามหลังจากท�ากจิ กรรม
๑. วสั ดุใดมีควำมแข็งมำกทสี่ ุด แกว้
๒. วสั ดใุ ดมคี วำมแข็งน้อยที่สดุ ไม้
๓. รู้ไดอ้ ย่ำงไรวำ่ วสั ดมุ ีควำมแข็งมำกหรอื น้อย
เมอ่ื นำ� วสั ดุ ๒ ชนดิ มำขดู กนั วสั ดทุ ม่ี คี วำมแขง็ จะไมเ่ กดิ รอย และวสั ดทุ มี่ คี วำมแขง็ นอ้ ย
จะเกิดรอย
๔. จำกกจิ กรรมน้ี สรปุ ได้วำ่ อยำ่ งไร
๑. วัสดทุ ่ีมีควำมแขง็ มำกท่สี ดุ ได้แก่ แก้ว
๒. วสั ดทุ ม่ี ีควำมแขง็ นอ้ ยทสี่ ดุ ไดแ้ ก่ ไม้
๓. โดยเม่อื นำ� วสั ดุ ๒ ชนิดมำขูดกัน วัสดใุ ดเกิดรอยมำกกว่ำอกี วัสดุอีกชนิดหนงึ่
แสดงวำ่ วัสดุนั้นมคี วำมแขง็ น้อยกวำ่
๓๓๖ ชุดการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ (สำาหรับครูผู้สอน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรงุ )
6102153L01c.indd 336 9/10/18 9:19 AM
ชื่อ-สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒-๐๒
วนั ที่ พ.ศ.
ใบงาน ๐๒ : แบบฝึกหัด เร่อื งความแขง็ ของวสั ดุ
อ่ำนขอ้ มลู แล้วตอบค�ำถำมใหถ้ ูกตอ้ ง
๑. มีวสั ดุ ๓ ชนดิ คอื วัสดชุ นิดที่ ๑ ๒ และ ๓ ถำ้ นำ� วสั ดุ ๒ ชนดิ มำขูดกัน
ไดผ้ ลดงั ตำรำง
ตาราง ผลที่เกิดจากการนา� วัสดุ ๒ ชนดิ มาขดู กัน
วสั ดทุ ีน่ �ำมำขดู กนั ผลทเี่ กดิ จำกกำรน�ำวัสดุ ๒ ชนดิ มำขูดกัน
วัสดทุ ่ีเกดิ รอย วัสดทุ ่ีไมเ่ กิดรอย
ชนิดที่ ๑ และ ๒ ชนิดท่ี ๒ ชนิดที่ ๑
ชนิดท่ี ๒ และ ๓ ชนดิ ที่ ๒ ชนิดท่ี ๓
ชนิดที่ ๑ และ ๓ ชนดิ ท่ี ๓ ชนิดท่ี ๑
๑.๑ จำกขอ้ มูล วัสดชุ นิดใดที่ไมว่ ่ำจะขูดกับวัสดุชนิดใดกจ็ ะเกิดรอย
ชนดิ ที่ ๒
๑.๒ จำกขอ้ มูล วสั ดุชนิดใดทีไ่ ม่วำ่ จะขูดกบั วสั ดุชนดิ ใดก็จะไม่เกดิ รอย
ชนดิ ท่ี ๑
๑.๓ เรยี งล�ำดบั วัสดทุ ง้ั ๓ ชนดิ ทีม่ ีควำมแข็งจำกมำกไปหำนอ้ ย ตำมลำ� ดับได้อย่ำงไร
ชนดิ ท่ี ๑ ชนิดที่ ๓ ชนดิ ท่ี ๒
ชุดการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ (สำาหรบั ครูผสู้ อน) กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) ๓๓๗
6102153L01c.indd 337 9/10/18 9:19 AM
ชอ่ื -สกลุ เดือน ช้นั เลขท่ี บ. ๕.๑ / ผ. ๑.๒-๐๒
วันที่ พ.ศ.
๒. ทดสอบวสั ดุ A B C และ D โดยใช้วสั ดุชนิดหนึ่งขดี ลงบนวสั ดุอีกชนดิ หนง่ึ
บนั ทกึ ลักษณะของวัสดุแตล่ ะชนดิ ดังตำรำง
ตาราง ลกั ษณะท่สี ังเกตไดบ้ นแผ่นวสั ดุ
✓ เกดิ รอย ✕ ไม่เกดิ รอย
วสั ดุท่ีขีด ลักษณะทีส่ งั เกตเหน็ บนแผ่นวสั ดุที่ถูกขดี
A B CD
A ไมไ่ ดท้ ดสอบ ✕ ✕ ✕
B ✓ ไมไ่ ดท้ ดสอบ ✕ ✓
C ✓ ✓ ไม่ได้ทดสอบ ✓
D ✓✕✕ ไมไ่ ด้ทดสอบ
๒.๑ เรียงล�ำดบั วสั ดทุ ม่ี ีควำมแขง็ จำกมำกไปนอ้ ยได้อยำ่ งไร
CBDA
๒.๒ วัสดุชนิดใดเหมำะสมทส่ี ดุ ในกำรปพู นื้ หอ้ งเรียน เพรำะเหตุใด
C เพรำะมีควำมแข็ง เม่อื ถกู วสั ดอุ ่นื ๆ ขดี แล้ว ไมเ่ ปน็ รอยงำ่ ย
๓๓๘ ชดุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ (สาำ หรบั ครูผูส้ อน) กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ ๑ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ (ฉบบั ปรบั ปรุง)
6102153L01c.indd 338 9/10/18 9:19 AM
๒๘๙
คำชแ้ี จงประกอบแผนจดั กำรเรยี นรู้ หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ี่ ๕ เวลำ ๓ ช่วั โมง
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑.๓ เรอ่ื ง สภำพยดื หย่นุ ของวสั ดุรอบตวั
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
๑. สำระสำคญั ของแผน
สภาพยืดหยุ่นของวัสดุ หมายถึง เมื่อออกแรงกระทาต่อวัสดุแล้วทาให้วัสดุเปลี่ยนแปลงรูปร่างหรือ
ความยาว แต่เมื่อหยดุ ออกแรงกระทา รปู ร่างหรือความยาวของวัสดุจะคนื สสู่ ภาพเดิม
๒. ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติมในกำรนำไปใช้ (ให้ระบสุ ่ิงทต่ี ้องกำรเน้นหรอื ข้อสงั เกต ข้อเสนอแนะ คำแนะนำ)
ในเร่อื งต่อไปน้ี คอื
๒.๑ ขอบข่ำยเนื้อหำ
สภาพยืดหยุ่นเป็นสมบัติของวัสดุบางชนิด วัสดุนั้นสามารถกลับคืนสู่รูปร่างเดิมได้หลังจากหยุด
ออกแรงกระทาต่อวสั ดนุ ้ัน
มนษุ ยส์ ามารถนา� ความรเู้ รอ่ื งสภาพยดื หยนุ่ ของวสั ดมุ าประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจา� วนั เชน่ การผลติ ยาง
ในรปู แบบตา่ ง ๆ เชน่ ตุ๊กตายาง ยางรดั ของ
๒.๒ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ (ควำมรู้ ทกั ษะ คณุ ธรรม จริยธรรม คำ่ นยิ ม) (ถำ้ ม)ี
จุดประสงคด์ ำ้ นควำมรู้
๑. อธิบายเกีย่ วกบั สภาพยืดหยุน่ ของวัสดบุ างชนิด
๒. อธิบายการนาความร้เู รือ่ งสภาพยดื หย่นุ ของวสั ดไุ ปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน
จุดประสงค์ดำ้ นทกั ษะกระบวนกำรทำงวิทยำศำสตร์
๑. การสังเกต
๒. การลงความเห็นจากข้อมลู
๓. การต้งั สมมติฐาน
๔. การกาหนดและควบคุมตัวแปร
๕. การทดลอง
๖. การตีความหมายข้อมลู และลงขอ้ สรปุ
ชดุ การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครผู สู้ อน) กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี ๑ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๔ (ฉบบั ปรับปรุง) ๓๓๙
6102153L01c.indd 339 9/10/18 9:20 AM
๒๙๐
จุดประสงค์ดำ้ นคุณธรรม
๑. มคี วามมุ่งม่นั ในการทางาน
๒. มคี วามซือ่ สัตยต์ อ่ ตนเอง
๓. ใฝเ่ รยี นรู้
๔. มคี วามสามัคคี ชว่ ยเหลือในการทางานกลุม่ ร่วมกนั
๒.๓ กำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรู้
๑) กำรเตรยี มตัวของครู นกั เรยี น (กำรจดั กลุ่ม) (ถำ้ มี)
การจดั กล่มุ โดยแบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ ๓-๔ คน เพื่อทาใบกิจกรรมต่าง ๆ
๒) กำรเตรยี มสอื่ วสั ดุอปุ กรณ์ ของครู นักเรียน (ถ้ำมี)
สิ่งท่ีครตู ้องเตรียม คือ
๒.๑ เสน้ เอน็ ยาว ๖๐ เซนติเมตร ๑ เส้น/กลมุ่
๒.๒ เสน้ เอ็นยดื ยาว ๖๐ เซนตเิ มตร ๑ เสน้ /กลุม่
๒.๓ ไมเ้ มตร ๑ อนั /กลมุ่
๒.๔ ตุ้มเหล็ก หรอื วสั ดุทม่ี ีน้าหนกั เทา่ ๆ กัน ๕ ลกู /กล่มุ
๒.๕ ขอเกี่ยว ๑ อัน/กล่มุ
๒.๖ นาฬิกาจับเวลา ๑ เรือน/กลุ่ม
๒.๗ ถุงพลาสตกิ หูหวิ้ ๑ ใบ/กล่มุ
สิ่งทีน่ ักเรียนตอ้ งเตรียม คือ
๒.๘ ยางรดั ของสาหรบั ทาหนงั ยางยิงกระดาษ ๕ เส้น/กลุ่ม
๒.๙ กระดาษ ๕ แผน่ /กล่มุ
๓) เตรียมใบงำน ใบควำมรู้ ใบกจิ กรรม (ถ้ำมี)
๓.๑ ใบงาน ๐๑ สมบัตสิ ภาพยดื หยนุ่ ของวสั ดุ
๓.๒ ใบงาน ๐๒ การนาสมบัติสภาพยืดหยนุ่ ของวสั ดุไปใชป้ ระโยชน์
๓.๓ ใบงาน ๐๓ แบบฝึกหัด เร่อื งสภาพยืดหยุ่นของวัสดุ
๒.๔ วดั ผลประเมินผล (ถำ้ มี)
๑) วิธีกำรวดั ผลประเมินผลกำรเรียนรู้
๑.๑ สงั เกตการตอบคาถามในชั้นเรียน
๑.๒ การตอบคาถามในแบบฝกึ หัด
๑.๓ สังเกตทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรใ์ นการทากิจกรรม
๑.๔ สังเกตดา้ นคุณธรรมขณะทากิจกรรม
๓๔๐ ชดุ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ (สำาหรับครผู ูส้ อน) กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ ภาคเรียนท่ี ๑ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ (ฉบับปรบั ปรงุ )
6102153L01c.indd 340 9/10/18 9:20 AM