The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-10-26 01:46:43

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

1

2

3

สารบญั

คํานํา 15
สารบญั
คาบชู าองคพ์ ระพริ าพ

องคพ์ ระพริ าพ 16
โดย ครรู าฆพ โพธเิ วส ศลิ ปินแหง่ ชาติ 24
ประวตั ิ ครรู าฆพ โพธเิ วส

ประวตั คิ รรู งคภกั ดี (เจยี ร จารจุ รณ) ศลิ ปิ นแหง่ ชาติ 26
27
ภาพพริ าพทรงเครอื่ ง 28
ภาพพริ าพป่ า

4

พธิ กี ารแสดงนาฏศลิ ป์ ชนั้ สงู 28

บรรยายโดย ครรู งคภกั ดี
องคพ์ ระพริ าพ
การแตง่ กาย องคพ์ ระพริ าพป่ า
การถา่ ยทอดวชิ าชนั้ สงู นี้
ลกั ษณะของศษิ ยท์ จี่ ะไดร้ ับการถา่ ยทอด

ภาพพอ่ ครหู ยดั ชา้ งทอง ศลิ ปิ นแหง่ ชาติ 32

ภาพและประวตั ิ ศาสตราจารย์ ดร. มทั นี รัตนนิ 34
พระพริ าพคนละองคก์ นั 35
พระไภราพในเนปาล

ภาพและงานเขยี น ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ ขนั ธ์ 36

วจิ ติ รตาณฑวะ 37
กาศลี งิ คพริ าปปุ า
พริ าพในรามเกยี รติ์ 37
โบราณจารยไ์ ดผ้ นวกความเชอ่ื พระพริ าพ
เพลงองคพ์ ระพริ าพ ขยายจากรัวสามลา 38
การรําองคพ์ ระพริ าพเป็ นการรําบวงสรวง
สองนัยยะในการรําองคพ์ ระพริ าพ 39
ทา่ รําความขลงั คลา้ ยกบั “กถกฬ”ิ 40
40
พระยานัฏกานุรกั ษ์ผปู ้ ระดษิ ฐท์ า่ รํา 41
จารตี ในการเลอื กผรู ้ ับถา่ ยทอดทา่ รํา 42
พธิ ตี อ่ ทา่ รําไมค่ วรกระทําในบา้ น 42
ตอ้ งจัดตงั้ เครอื่ งบชู าทกุ ครัง้ ทแ่ี สดง 41
ตัง้ เครอ่ื งบชู าไมค่ รบไมเ่ รยี กเพลงองคพ์ ระพริ าพ 45
ใชเ้ พลงรัวสามลาสาํ หรับพระอศิ วร 47
บรรเลงกราวนอกแทนดําเนนิ พราหมณ์ 47
48
48

5

รําองคพ์ ระพริ าพเฉพาะงานสําคัญของชาติ 48
หา้ มแตะตอ้ งตวั และอาวธุ 50
รําใหจ้ บเพลงและฟังเพลงดว้ ยความเคารพ
เพลงหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ 51
เป็ นเพลงหนา้ พาทยท์ ศี่ กั ดสิ์ ทิ ธส์ิ งู สดุ
ตอ่ ทา่ รํานอกพธิ ไี หวค้ รู 53

เพลงพนั พริ าพ ชอ่ื อยใู่ นตาราไหวค้ รู ร.๔

รายชอื่ เพลงหนา้ พาทย์ 65

ทบี่ นั ทกึ โนต้ สากล พ.ศ. 2479 - 2485

โนต้ สากล เพลงพระพริ าพเต็มองค์ 66
ของครเู ชอ้ื ดนตรรี ส ศลิ ปินแหง่ ชาติ

ครขู องครู หลวงบารงุ จติ รเจรญิ (ธปู สาตรวลิ ยั ) 67
"มอื ฆอ้ งกรมมหรสพสกู่ รมศลิ ปฯ"

โนต้ ไทย เพลงพระพริ าพเต็มองค์ 71
ของครขู นุ พงษ์ผล

ไหวค้ รู ร. 4 บรรเลงเพลง รอน เชญิ พระพริ าพ 74

รามเกยี รติ์ ตอนพริ าพ 76

พระราชนพิ นธร์ ชั กาลท่ี ๒

รามเกยี รติ์ ตอนพริ าพ (ตอนตน้ ) 88
สมดุ ไทยเลม่ ท่ี ๒๔

6

ครดู า ครหู นา้ กาก ครพู ริ าพ 92
สมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ รานุวดั ตวิ งศ์

เทวดาโพไทธบิ าทว 94
สง่ิ ทเ่ี คยนยิ มนบั ถอื แตโ่ บราณ
94
พระนพิ นธ์ สมเด็จเจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ รานุวดั ตวิ งศ์ 95
หมอ่ มเจา้ หญงิ ดวงจติ ร จติ รพงศ์ รวบรวม 97
98
เรอ่ื งเทวดา 99
100
เทวดาโพไทธบิ าทว 101
1.อนิ ทร 102
๒.เพลงิ 104
๓ ยม 105
๔ นารายณ์ 105
๕ พริ ณุ 106
๖ พาย 106
๗ ไพศรพ 106
๘ โสม 107
เทวดานพเคราะห ์ 107
๑ อาทติ ย 108
๒ จันทร
๓ องั คาร 109
๔ พธุ 110
๕ เสาร์ 111
๖ พระพฤหสั บดี
๗ ราหู

ภาพลายไทยทวยเทพ ลายเสน้ วจิ ติ รของคณะชา่ ง
ภาพพระอศื วร
ภาพพระอนิ ทร์
ภาพพระเพลงิ

7

ภาพพระยมเทพ 112

ภาพพระอศิ าน 113

ภาพพระเวสสกุ รรม 114

ภาพระพเิ นศ 115

ภาพระพริ ณุ 116

ภาพระพาย 117

ภาพระกเุ วร 118

ภาพพระอศื วร 119

ภาพพระอศั นี 120

ภาพพระขนั ธกมุ าร 121

ภาพพระอศั วนิ 122

การเขยี นภาพพญานาค 123

ภาพพระทกั ษะ 124

ภาพพระกศป 125

ภาพพระกามเทพ 126

ภาพพระคงคา 127

พระคาถาบชู าทกั ษา

พระตารา พระราชพธิ จี กั รพรรดริ าชาธริ าช อยธุ ยา

พระราชครวู ามเทพมนุ ี อธบิ าย
(สมจติ ต์ รังสพิ ราหมณกลุ พ.ศ. 2466 - 2521)

ภาพพระสรุ ยิ าทติ ย์ 130

คาถาบชู าพระอาทติ ย์ 131

คาถาบชู าพระจนั ทร์ 131

คาถาบชู าพระองั คาร 132

คาถาบชู าพระพธุ 132

คาถาบชู าพระเสาร์ 132

ภาพพระเสาร์ 133

คาถาบชู าพระพฤหสั 134

คาถาบชู าพระราหู 134

คาถาบชู าพระศกุ ร์ 134

8

เชดิ หนงั ใหญ่ 136
141
คํานํา 144
เบกิ โรงหนังใหญ่ 146
ความเป็ นมาหนังใหญ่ 148
แผนผงั แนวคดิ ทมี่ าของหนังใหญ่ 150
หนงั ใหญใ่ นประเทศไทย 154
156
หนังใหญส่ มยั อยธุ ยา 167
172
หนังใหญส่ มยั ธนบรุ ี

งานศกึ ษาหนังใหญท่ ผี่ า่ นมา
ชมุ ชนทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั หนังใหญ่
จากมหรสพหลวง สมู่ หรสพราษฎร์

ประวตั คิ วามเป็ นมาหนังใหญ่ 174

หนังใหญม่ หรสพหลวงในวงั 177

เป็ นราชปู โภค ราชปู ถัมป์ พระเจา้ แผน่ ดนิ 178

หนังใหญอ่ ปุ รากรสอนธรรม 180
182
ทสี่ มภารวดั อปุ ถมั ป์ 183
186
ตวั ละครหนังใหญ่ อปุ กรณส์ อนธรรมะ 189
193
หนังใหญ่ บา้ นโตโ้ ผมหรสพ
หนังใหญใ่ นวถิ เี กษตร 194
ชอื่ ทป่ี รากฏในทอ้ งถนิ่ หรอื ชอ่ื เทยี บเคยี ง
พัฒนาการหนังใหญ่
ขนบ

การไหวค้ รหู นังใหญ่ เรยี กวา่ ไหวค้ รใู หญ่

พธิ เี บกิ หนา้ พระ เป็ นพธิ ที ม่ี เี ฉพาะการแสดงหนังใหญ่

หนังใหญเ่ ป็ นมหรสพแสดงลําดบั แรก
ผชู ้ ายเชดิ หนัง

กรณีศกึ ษาหนังใหญเ่ ป็ นเรอ่ื งของผชู ้ าย

9

ความเชอ่ื เกยี่ วกบั ตวั หนงั 196
197
พระมหากษัตรยิ ค์ อื สมมตุ เิ ทพ
เชอ่ื ในหลักคําสง่ั สอนของพทุ ธศาสนา 201
หนังไมเ่ ลน่ ถา้ ไมไ่ หวค้ รู
ไมเ่ ลกิ ตอนลม้ ตอนตาย 202
ชมบ ผเี งาผหู ้ ญงิ ยคุ กอ่ นอยธุ ยา 202
เกบ็ หนังใหญไ่ วท้ ว่ี ดั
203
ลําดบั ขนั้ ตอนการแสดง
205
การแสดงหนังกลางวนั หรอื ระบําหนา้ จอ
การแสดงหนังกลางคนื 206
207
ระบําสบ่ี ท - หนังใหญ่ 208
211
หนังกลางคนื
218
รปู แบบการจดั การแสดง
หนังใหญง่ านหลวง 219
หนังใหญง่ านราษฎร์ 220
ดนตรปี ระกอบการแสดงหนังใหญ่
220
บทเพลงทใ่ี ชป้ ระกอบการแสดงหนังใหญ่ 224
๑.เพลงโหมโรงหนังใหญ่
๒.เพลงเฉพาะหนังใหญ่ เชดิ นอกและเตยี ว
๓.เพลงหนา้ พาทย์
และเพลงประกอบการแสดงหนังใหญ่
ตวั อยา่ งเพลงหนา้ พาทยท์ ใ่ี ชส้ ําหรับการแสดงหนัง
ใหญ่
๔.ชอื่ เพลงหนา้ พาทยแ์ ผลง

10

คาพากยเ์ จรจา 226
227
สมทุ รโฆษคําฉันท์ 229
บทพากยร์ ามเกยี รตห์ิ นังใหญ่ 229
รามเกยี รตสิ์ มยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา 231
บทพากยร์ ามเกยี รตส์ิ มัยธนบรุ ี 234
ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ 236
ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รต์ิ เลม่ ๒ 237
ชอ่ื ตอนบทพากย์ หนังใหญว่ ัดขนอน ราชบรุ ี 238
ชอื่ ตอนบทพากย์ หนังใหญว่ ดั บา้ นดอน ระยอง 238
ชอ่ื ตอนบทพากยห์ นังใหญว่ ัดสวา่ งอารมณ์ สงิ หบ์ รุ ี 239
ชอ่ื ตอนบทพากย์ หนังใหญว่ ดั ตะกู อยธุ ยา
240
อปุ กรณ์
เครอ่ื งประกอบการแสดงหนังใหญ่ 224
โรงหนัง “จอหนัง บงั เพลงิ ” 224
การเชดิ และพากยเ์ จรจา 253
คนเชดิ หนัง 245
การพากยแ์ ละเจรจา 246
ประเภทตวั หนงั ใหญ่
249
การแบง่ ประเภทตวั หนังใหญ่ 251

กรรมวธิ ใี นการสรา้ งตวั หนงั ใหญ่ 255
257
การทําหนังเจา้ หรอื หนังครู
260
คณุ คา่ หนงั ใหญ่
คณุ คา่ ทางประวตั ศิ าสตร์ 262

ภาพเชดิ หนงั ใหญ่ ครเู กรน่ิ ศลิ ปเพ็ชร์

เบกิ หนา้ พระ

ไหวค้ รแู สดงหนงั ใหญ่ ของครเู กรนิ่ ศลิ ปเพ็ชร์

11

คาถาสโี รเม แลคําแปลยอ่ ๆ 262
คําโองการทํานํ้ามนตธ์ รณีสาร 263
ไหวค้ รขู นึ้ ทวย 1 265
ไหวค้ รขู นึ้ ทวย 2 267
ไหวค้ รขู น้ึ ทวย3 269

ภาพหนงั ใหญ่ ครเู กรน่ิ ศลิ ปเพ็ชร์ 272
273
หนุมานทหารเอกของพระราม 274
275
พระยาสคุ รพี นายทหารผใู ้ หญข่ องพระราม 276
277
องคต หลานพระยาสคุ รพี ทหารของพระราม 278
ขบวนทัพของพระลักษณ์ พลวานรขเ่ี สอื 279
280
มังกรกรรฐ์ ทรงออกรบกบั พระลักษณ์ 281
282
มงั กรกรรฐ์ ตอนหลบหนี 283
284
พระลักษณ์ ในแบบทา่ โกง่ ศร 285
อนิ ทรชติ ทรงออกสสู่ นามรบ 286
พระลักษณ์ ทรงออกสสู่ นามรบ
พระลกั ษณ์ รบกบั อนิ ทรชติ
พระลกั ษณ์ กําลังตอ่ สกู ้ บั อนิ ทรชติ
อนิ ทรชติ กาํ ลงั รบกบั พระลกั ษณ์
อนิ ทรชติ กําลังเตรยี มหนี พระลักษณ์
อนิ ทรชติ กําลังแผลงศรนาคบาศ
อนิ ทรชติ ในทา่ โกง่ ศรนาคบาศ

ภาพลายไทย 312

เรยี นรรู ้ ักษ์ ลายไทยเหลา่ เทพ รามเกยี รติ์ งานชนั้ ครู 313
316
ของ ครเู ปรอ่ื ง แสงเถกงิ และเหลา่ คณะชา่ ง 317
318
ภาพพระพรหมา หรอื พระพรหมธาดา

ภาพเครอื่ งแตง่ กายเทวดา

ภาพเครอ่ื งแตง่ กายฤาษี

ภาพจับ

12

ภาพสทั ธาสรู 320
ภาพนนทการ 321
ภาพนนทยกั ษ์ 322
ภาพเครอ่ื งมงกฎุ ชฎา 323
ภาพทศกณั ฐท์ รงชา้ งคชาธารออกศกึ 324
ภาพทา่ ยกั ษ์ 325
ภาพทา่ โขนในชดุ หนุมานออกศกึ 326
ภาพทา่ ลงิ 327
ภาพหนุมาน 328
ภาพกมุ ภกรรณ 329
ภาพทา้ วจักรวรรดิ 330
ภาพพระยาพาลี 331
ภาพกมุ ภกาศ 332

ภาพเศยี รครโู บราณ พระพริ าพป่ า 333
ภาพเศยี รครโู บราณ พระพริ าพทรงเครอื่ ง 334
ภาพโตะ๊ ตัง้ บชู าเศยี รครฝู ่ ายยกั ษ์ 335

ภาพครถู นอม โหมดเทศน์ ครพู ากย์ และปรงุ บทโขน 336
ภาพครเู สรี หวังในธรรม และครปู ระพันธ์ สคุ นธะชาติ 337

เบกิ โรงพริ าพ ร.6 338

คณุ หญงิ นฏั กานรุ กั ษ์ (เทศ นฏั กานรุ กั ษ)์ 339

บรมครคู ณุ หญงิ
ผอู้ ยเู่ บอื้ งหลงั ราองคพ์ ระพริ าพ

• กําเนดิ บรมครคู ณุ หญงิ เทศ
• ๑๐ ปี เขา้ อยใู่ นบา้ นเจา้ พระยาเทเวศรวงศว์ วิ ัฒน
• เป็ นศษิ ยห์ มอ่ มครา้ มครยู ักษ์
• ไดฝ้ ึกหัดเป็ นยกั ษ์จนชาํ นชิ าํ นาญ

13

• “ป้าไดร้ บั พร” เวน้ เป็ นหมอ่ มเจา้ พระยาเทเวศรฯ

• ไดร้ ับเกยี รตยิ ศเชน่ เดยี วกบั หมอ่

• ชอื่ เดน่ เมอ่ื เป็ น ระตจู รกา กบั เจา้ เงาะ

• เลน่ เสมอื นเป็ นหนง่ึ เดยี วกบั เจา้ เงาะ

• นางสรู ปนขาเป็ นหญงิ หนา้ ดา้ นดว้ ย

• อายุ 32 ปี ไดส้ มรสกบั พระยานัฏกานุรักษ์

• เป็ นคณุ หญงิ กอ่ นพระยานัฏกานุรกั ษ์ไดเ้ ป็ นพระยา

• กลา้ ครอบโขนใหแ้ กผ่ เู ้ ป็ นศษิ ยโ์ ดยแน่ใจวา่ "จรัญไรไมก่ นิ "

• สนิ้ ร. ๖ ออกจากราชการรบั บําเหน็จบา้ งบํานาญ

• เปลย่ี นระบอบการปกครอง มาอยกู่ รมมศลิ ป์

• สอนไดท้ กุ ทาง พระ ยักษ์ ลงิ นาง

• เพราะ นนทกุ ข์ จงึ ไดก้ ลับมารับราชการกนั อกี

• เปลยี่ นระบอบการปกครอง มาอยกู่ รมศลิ ป์

• สอนไดท้ กุ ทาง พระ ยกั ษ์ ลงิ นาง

• เป็ นเจา้ เงาะคกู่ บั หมอ่ มตว่ น สมัยสงครามอนิ โดจนี

• เป็ นเจา้ เงาะครัง้ สดุ งานวันเกดิ ม.ล.วราห์ กญุ ชร

ภาพถา่ ยครอบครัวนัฏกานุรกั ษ์ 345

พระราชปรารภ ในหลวง รชั กาลท่ี 9 351

ครสู มยศ เปี่ ยมลาภ 354
ครเู วนชิ เชยี รวงศ์
ครผู ถู ้ า่ ยทอดเผยแพร่ รําองคพ์ ระพริ าพ
สายคณุ หญงิ เทศ นฏั กานรุ กั ษ์

ในหลวง ร.๙ ทรงครอบครพู ระพริ าพ 371

ม.ร.ว.คกึ ฤทธ์ิ ปราโมช

พระพริ าพครแู หง่ วงการนาฏศลิ ป์ และ 372
ดนตร ี

14

บทความขา่ ว นทิ รรศการพระพริ าพ
จะจัดขนึ้ ในวนั ท่ี 9 ก.ค.-31 ต.ค. 2548

ครทู องดี ชสู ตั ย์ 377

ผบู้ อกเพลงองคพ์ ระพริ าพ

องคพ์ ระพริ าพรอน 380

คณุ ครจู ตพุ ร รตั นวราหะ ศลิ ปิ นแหง่ ชาติ

ภาพพอ่ ครอู รา่ ม อนิ ทรนฎั 385

ปกหนา้ วารสารศลิ ปากร รําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ

ประกอบพธิ ไี หวค้ รโู ขนละคร

ณ มหาวทิ ยาลยั รามคําแหง ปี พ.ศ.2522

ป้ าตา่ ย-ศภุ าศริ ิ สพุ รรณเภสชั เขยี นถงึ พอ่ ครอู รา่ ม 389

ทม่ี าของภาพปก 390
ประวตั ผิ เู ้ รยี บเรยี ง 391

15

คาบชู าองคพ์ ระพริ าพ

(นะโม ๓ จบ)
๏ พทุ ธงั องคพ์ ระพริ าทงั ขอเอหจิ งมาปะรวิ ารายะ
อาคจั เฉยยะ อาคจั ฉัยหิ ปะรพิ นู ชนั ตุ
ธมั มงั องคพ์ ระพริ าทงั ขอเอหจิ งมาปะรวิ ารายะ
อาคจั เฉยยะ อาคจั ฉัยหิ ปะรพิ นู ชนั ตุ
สงั ฆงั ง องคพ์ ระพริ าทงั ขอเอหจิ งมาปะรวิ ารายะ
อาคจั เฉยยะ อาคจั ฉัยหิ ปะรพิ นู ชนั ตุ
คาไหวค้ รู ฉบบั ครพู มุ่ ปาปยุ ะวาทย์

16

องคพ์ ระพริ าพ

โดย ครรู าฆพ โพธเิ วส ศลิ ปินแหง่ ชาติ

"พริ าพพโิ รธรา้ ย เรงิ หาญ
แรงราพคอนคชสาร สบิ ได ้
สมี ว่ งแกก่ ายมาร วงทกั ษิณานอ
สวนปลกู พวาทองไว ้ สถติ ยแ์ ควน้ อรรศกรรณฯ1"

พระพริ าพเป็ นอสรู เทพ ทนี่ ับถอื วา่ เป็ นบรมครู ทางดรุ ิ
ยางคศาสตร์ และนาฏศลิ ป์ ถอื เป็ นเทพเจา้ แหง่ ความตาย โบราณ
จารย์ ไดป้ ระดษิ ฐท์ า่ รํา และเพลงหนา้ พาทยไ์ วส้ งู สดุ กวา่ หนา้
พาทยอ์ นื่ ๆ

คําวา่ หนา้ พาทย์ หมายถงึ เพลงทบี่ รรเลงโดยไมม่ กี ารขบั
รอ้ ง ซงึ่ ประกอบกริ ยิ าทา่ รํา ของผแู ้ สดงเชน่ นั่ง นอน เดนิ กระทํา
อํานาจ แสงอทิ ธฤิ ทธติ์ า่ งๆ เชน่ เพลงตระนมิ ติ เป็ นหนา้ พาทย์ ที่
ใชส้ ําหรับแปลงตวั เห็นไดจ้ ากตอนนางเบญจกายแปลงเป็ นสดี า
ขนึ้ ไปเฝ้าทศกณั ฐ์ ในโขนตอนนางลอย เรอื่ งรามเกยี รติ์ การ
แสดงอทิ ธฤิ ทธิ์ ตอนทศกณั ฐช์ ะลอเขาพระสเุ มรุ ใหต้ งั้ ตรง ก็

1 พระยาศรสี นุ ทรโวหาร (นอ้ ย อาจารยางกรู )

17

ตอ้ งใชเ้ พลงหนา้ พาทยค์ กุ พาทย์ หรอื รัว 3 ลา อยา่ งใดอยา่ ง
หนงึ่ กไ็ ด ้

เพลงหนา้ พาทย์ นอกจากจะใชป้ ระกอบการแสดงโขน
และตวั ละครแลว้ ยงั ใชใ้ นการบรรเลงอน่ื ๆ เชน่ โหมโรงกอ่ นการ
แสดง เทศนม์ หาชาติ การแสดงพระธรรมเทศนา ในพระราชพธิ ี
ตา่ งๆ เพลงหนา้ พาทยม์ คี วามจําเป็ นอยา่ งยง่ิ โดยเฉพาะพธิ ไี หว ้
ครู เพราะหลงั จากอา่ นโองการแลว้ จะตอ้ งบรรเลงเพลงหนา้
พาทย์ เชญิ ครเู ชญิ เทพทกุ องค์ เพราะครู และเทพเหลา่ น้ี มเี พลง
หนา้ พาทยป์ ระจําองคท์ กุ องค์ ดงั นัน้ เพลงหนา้ พาทย์ จงึ มี
ความสําคญั อยา่ งยง่ิ ในวงการดดรุ ยิ างคศาสตร์ และนาฏศลิ ป์
ไทย

โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ เพลงองคพ์ ระพริ าพ ซง่ึ เป็ นหนา้
พาทย์ ประจําองคพ์ ระพริ าพ ซงึ่ เป็ นบรมครอู นั จะขาดเสยี มไิ ด ้

พระพริ าพเป็ นอสรู ผทู ้ รงอทิ ธฤิ ทธ์ิ ซงึ่ ศลิ ปินโขนละคร
ดนตรไี ทย เคารพสกั การะในฐานเป็ นครู ในวชิ าดรุ ยิ างคศาสตร์
และนาฏศลิ ป์ อนิ เดยี เรยี กวา่ พระไภราวะ สว่ นทางประเทศ
เนปาลเรยี กวา่ พระไภราพ พระพริ าพเป็ นปางดรุ า้ ยของพระศวิ ะ
ปางหนง่ึ ทงั้ ยงั เป็ นเทพเจา้ แหง่ ความตาย พระพริ าพ มฤี ธศิ์ กั ดานุ
ภาพ และพละกําลงั แบกชา้ งได ้ 10 เชอื ก เหลา่ หมอู่ ธรรมภตู ผี
ปีศาจเกรงกลวั มาก ไมก่ ลา้ รบกวนยงุ่ เกย่ี ว เดมิ อยบู่ นสวรรคพ์ ระ
อศิ วรประธานพร กง่ิ ไมท้ องและหอกสําหรับเป็ นอาวธุ ใหไ้ ปครอง
เขตแควน้ แดนอศั กรรณ์ มพี วกรากษสเป็ นบรวิ าร ครัง้ หนงึ่
พระราม พระลกั ษณ์ สดี า กษัตรยิ แ์ หง่ กรงุ อโยธยา ถอื บวชเดนิ

18

ป่ า 14 ปี หลงเขา้ สวนพวาทองของพระพริ าพ ไดต้ อ่ สกู ้ บั พระพิ
ราพในทสี่ ดุ พระพริ าพกต็ อ้ งหนไี ป

โอกาสทจี่ ะแสดงโขนชดุ นี้ จะตอ้ งเป็ นงานสําคญั สําคญั
เชน่ พระราชพธิ ี รัฐพธิ ี และงานมหกรรม จะไมแ่ สดงพรํา่ เพรอ่ื
เหมอื นโขนตอนอนื่ ๆ เพราะเชอ่ื มาแตโ่ บราณวา่ เป็ นการแสดงท่ี
ศกั ดสิ์ ทิ ธม์ิ าก

เมอ่ื สมยั พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี
7 ไดเ้ คยแสดงครัง้ หนงึ่ เมอื่ วนั ท่ี 16 พฤศจกิ ายนพ.ศ. 2470 ณ
พระราชวงั ดสุ ติ เนอ่ื งในงานพระราชพธิ สี มโภชขนึ้ ระวางโรงใน
พระเศวตคชเดชดลิ ก พระคชาคพู่ ระบารมี

และเมอ่ื วนั ที่ 11 ธนั วาคมพ.ศ. 2475 แสดงทท่ี อ้ งสนามหลวง
ฉลองรัฐธรรมนูญแสดงอยา่ งโขนน่ังราว และโขนหนา้ จอ คอื มี
ทงั้ ราว ทงั้ เตยี ง บทรอ้ งพากยเ์ จรจาแบบโขนโรงใน คอื การ
นําเอาการแสดงทงั้ 2 รปู แบบรวมกนั

ผแู ้ สดงเป็ นตวั พระพริ าพทงั้ 2 เพลา คอื ครรู งคภกั ดี
(เจยี ร จารจุ รณ) โดยมพี ระยานัฏกานุรักษ์ เป็ นผคู ้ วบคมุ

ตอ่ มาปี 2505 กรมศลิ ปากร จดั ดนตรมี หกรรมไดม้ กี าร
แสดงโขนตอนพระรามเขา้ สวนพระพริ าพ ณ บรเิ วณพพิ ธิ ภณั ฑ์
สถานแหง่ ชาติ

19

และจากนัน้ กาลเวลากเ็ นน่ิ นาน 40 กวา่ ปีจนกระทง่ั ขาดผรู ้ ับมอบ
ทา่ รํานดี้ งั นัน้ ในปี 2527 กรมศลิ ปากร ไดจ้ ดั พระราชทานพธิ ี
พระราชทานครอบประทานไหวค้ รโู ขนละคร และตอ่ หนา้ พาทย์

องคพ์ ระพริ าพขนึ้ โดยพระมหากรณุ าธคิ ณุ ของพระบาทสมเด็จ
พระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลที่ 9 โดยมอบให ้ นายรงคภกั ดี ศลิ ปินในราช
สํานัก เป็ นผคู ้ วบคมุ ฝึกหดั ทา่ รํา

ตอ่ มาเมอื่ วนั ท่ี 2 ถงึ 8 เมษายน กรมศลิ ปากรไดจ้ ดั การ

แสดงโขนชดุ พระรามหลงเขา้ สวนพวาทองของพระพริ าพ อกี
ครัง้ โดยมที า่ นผหู ้ ญงิ แผว้ สนทิ วงศเ์ สนี และนายรงคภกั ดี เป็ นผู ้

ควบคมุ การแสดง การแสดงโขนครัง้ นผี้ เู ้ ขยี นคอื ครรู าฆพ โพธิ
เวส แสดงเป็ นตวั พระพริ าพป่ ารอบปฐมทศั น2์

ดงั ไดก้ ลา่ วแลว้ วา่ เพลงหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพเ ป็ นก
ระบวนทา่ รําทส่ี งู สดุ ของทา่ รําทกุ เพลงหนา้ พาทย์ ดงั นัน้ ผทู ้ จี่ ะ
สบื ทอดทา่ รํา จงึ จะตอ้ งมคี ณุ สมบตั ดิ งั นค้ี อื

2 บทโขนเรอ่ื งรามเกยี รติ์ ชดุ พระพริ าพ พ.ศ. 2528 ครปู ระพันธ์ สคุ นธชาติ ทําบท

ครมู นตรี ตราโมท บรรจเุ พลง ครู เสรี หวังในธรรม ปรงุ แตง่ คําประพันธแ์ ละปรับลําดบั
เรอ่ื ง คณุ หญงิ แผว้ สนทิ วงศเ์ สนี และ นายรงคภกั ดดี (เจยี ร จารจุ รณ) อํานวยการ
ฝึกซอ้ ม แสดงโดยศลิ ปินของกรมศลิ ปากร ณ โรงละครแหง่ ชาติ - 8 เมษายน 2528
ลําดบั การแสดง 1 ออกหนา้ พาทยเ์ พลงพระพริ าพ 2 ปลกู ตน้ ชวาทอง 3 ทรง
เครอื่ งตรวจพล 4 ทรงเครอื่ งรบพระราม

20

1 ตอ้ งเป็ นผมู ้ ฝี ี มอื ในเชงิ การรําเป็ นหนงึ่ ในหมขู่ องตวั หมายถงึ
ยกั ษ์ พระ

2 จะตอ้ งเป็ นผบู ้ วชเรยี นมาแลว้ มศี ลี ธรรม

3 ตอ้ งมคี วามกตญั ํตู อ่ ครอู าจารย์

4 ตอ้ งมกี ําลงั มาก

5.มคี วามจํามสี มาธิ

ผรู ้ ําจะตอ้ งฟังเพลงใหอ้ อก ตอ้ งจํากระบวนทา่ รําทงั้ หมด
โดยตอ้ งใหเ้ ขา้ กนั กบั กระบวนเพลง ถา้ วางถา้ ไมเ่ ขา้ กระบวนเพลง
หรอื จงั หวะเพลงกถ็ อื วา่ ผดิ การรําผดิ นัน้ ครบู าอาจารยท์ า่ นกลา่ ว
ไวว้ า่ อปั รยี จ์ ญั ไร จะเกาะเตรยี มตวั ไปจนตาย และทําอะไรไม่
เจรญิ แตถ่ า้ รําไดถ้ กู ตอ้ งตามครกู ําหนดจะเกดิ ศริ มิ งคล

วธิ ตี อ่ ทา่ รํา นายรงคภกั ดี เลา่ ใหฟ้ ังวา่ การตอ่ เพลงองค์
พระนเ้ี จา้ คณุ ครู หมายถงึ พระยานัฏกานุรักษ์ ทา่ นจะออกทา่ รํา
นําหนา้ คณุ ครเู จยี ร จารจุ รณ รําตามจนหมดกระบวนทา่ รําระหวา่ ง
ตอ่ ทา่ รํานี้ ครกู บั ศษิ ยจ์ ะถกู ตอ้ งตวั กนั มไิ ด ้ ดว้ ยหรอื วา่ ใน
ชว่ งเวลานัน้ องคพ์ ระพริ าพ มาลงประทบั ในรา่ งครกู บั ศษิ ย์ จงึ
หา้ มเด็ดขาด มใิ หถ้ กู ตวั ทา่ น

สถานทที่ จ่ี ะตอ่ ทา่ รําในสมยั โบราณ กระทํากนั ทร่ี ะเบยี ง
วดั พระศรรี ัตนศาสดาราม และไดท้ ําพธิ ไี หวค้ รกู อ่ น ทศี่ าลา
สหทยั สมาคม ในพระบรมราชวงั

21

สมยั ปัจจบุ นั การตอ่ ทา่ รําองคพ์ ระ หรอื การครอบและ
ประสทิ ธปิ์ ระสาท ครผู จู ้ ะทําพธิ ไี หวค้ รกู ็ดี จะตอ้ งทําพธิ ไี หวค้ รู
กอ่ นแลว้ จงึ จะมอบครอบประกอบครอบประสทิ ธป์ิ ระสาทให ้ สว่ น
องคพ์ ระนอกจากครอบใหแ้ ลว้ จะตอ้ งมาตอ่ ทา่ รํากนั ในทร่ี โหฐาน
เชน่ โบสถ์ เป็ นตน้

ผทู ้ จี่ ะไดร้ ับตอ่ ทา่ รํา จะตอ้ งเป็ นศษิ ยเ์ อกทงั้ สองฝ่ าย
เทา่ นัน้ คอื ฝ่ ายยกั ษ์เอก และพระเอก เพราะเป็ นธรรมเนยี มมาแต่
โบราณข ้ อความนไ้ี ดฟ้ ังจากคําบอกเลา่ จากบดิ าของผเู ้ ขยี น นาย
ถม โพธเิ วส ผแู ้ สดงเป็ นตวั ยกั ษ์ และคณุ ครคู ณุ ครเู จยี ร จารจุ รณ

แมท้ างดา้ นผทู ้ ําพธิ ไี หวค้ รู กก็ ระทําใหท้ ํานองเดยี วกนั ใน

พธิ นี ้ี ถา้ หาบคุ คลผทู ้ จี่ ะทําการถา่ ยทอดไมไ่ ด ้ ก็ใหท้ ําเรอ่ื งกราบ

บงั คมทลู ขอพระราชทาน ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ พระราชทาน

พธิ คี รอบแกศ่ ลิ ปิน เพราะในวงการนาฏศลิ ป์ ถอื วา่ องค์

พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั เป็ นเอตทคั คะในทางนาฏศลิ ป์ ดว้ ย

ดงั เชน่ ทม่ี พี ธิ พี ระราชทานครอบประธาน ในพธิ ไี หวค้ รแู ละ

ประธานครอบทา่ รําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ ในวนั พธุ ท่ี 24 และ

วนั พฤหสั บดที ่ี 25 ตลุ าคม พ.ศ. 2527

พธิ กี รรมกอ่ นแสดงการรําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ ตอ้ ง
ตงั้ เครอื่ งสงั เวยบวงสรวง อญั เชญิ ดวงวญิ ญาณอนั ศกั ดส์ิ ทิ ธทิ์ สี่ งิ
สถติ อยณู่ สรวงสวรรค์ ใหล้ งมาประทบั รา่ ง

22

ศลิ ปินผแู ้ สดงเป็ นตวั พริ าบป่ า ผแู ้ สดงแตง่ ตวั ยนื เครอื่ ง
ชว่ งลา่ งยกั ษ์ดี เปลอื ยรา่ งชว่ งบน วงดว้ ยปนู เป็ นวงทกั ษิณาวรรต
จนทวั่ ตวั และแขนทงั้ สองขา้ งสวมพวงมาลยั ทข่ี อ้ มอื ขอ้ เทา้ และ
ทคี่ อ พวงมาลยั ใชด้ อกเข็มสแี ดงลว้ น การวงปนู นบ้ี างคนเรยี กวา่
คาดปนู และตอ้ งลงคาถาอาคมทางพธิ ไี สยศาสตรด์ ว้ ย จงึ จะขลงั

23

ในการแสดงโขน ตอนพระรามเขา้ สวนพริ าพ มธี รรมเนยี ม
วา่ เมอ่ื ป่ีพาทยโ์ หมโรงกอ่ นการแสดง ตวั โขนซง่ึ เป็ นบรวิ ารของ
พระพริ าพ คอื พวกรากษส จะเดนิ เรยี งแถวถอื ไมเ้ สา้ ออกมายนื
หนา้ จอแตอ่ ยหู่ ลงั ราว กระทงุ ้ ไมเ้ สา้ ใหเ้ ขา้ กบั จงั หวะเพลงจนจบ
โหมโรง เรยี กวา่ กระทงุ ้ เสา้ จะมเี ฉพาะแตก่ ารแสดงโขน ตอนพิ
ราพเทา่ นัน้ เมอื่ จบโหมโรงผแู ้ สดงเป็ นตวั พริ าบป่ า จะออกรําหนา้
พาทยอ์ งคพ์ ระเป็ นการรําเบกิ โรง มอื ซา้ ยถอื กา้ นมะยมมดั ตดิ เป็ น
กํา เพอ่ื ปัดรังควานและเสนยี ดจญั ไร มอื ขวาถอื หอกยาวเป็ น
อาวธุ

การรําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระน้ี เพอื่ อญั เชญิ ดวงวญิ ญาณอนั
ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ ใหม้ าประทบั รา่ งผแู ้ สดง จนกลายสภาพเป็ นองคพ์ ระพิ
ราพ ผมู ้ อี ทิ ธฤิ ทธมิ์ หทิ ธานุภาพ กําราบปราบภตู ผปี ีศาจรา้ ย แผ่
พระบารมคี มุ ้ ครอง พรอ้ มทงั้ ประสทิ ธปิ์ ระสาทชยั มงคล ใหบ้ รรดา
สานุศษิ ย์ ผดู ้ ผู ชู ้ มทอ่ี ยใู่ นทนี่ ัน้ ผใู ้ ดจะถกู ตวั มไิ ด ้ หา้ มทําเสยี ง
เอะอะตงึ ตงั ใหอ้ ยใู่ นความสงบ หากไมเ่ ชอ่ื ฟังจะเกดิ โทษมหนั ต์
อนั เป็ นประเพณีถอื ปฏบิ ตั ปิ ฏบิ ตั มิ าแตโ่ บราณ

24

คณุ ครรู าฆพ โพธเิ วส

ศลิ ปินแหง่ ชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง (นาฏศลิ ป์ โขน)
ประจําปี พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๗

25

คณุ ครรู าฆพ เกดิ เมอ่ื วนั ที่ ๗ มกราคม ๒๔๗๗ ณ

กรงุ เทพมหานคร เป็ นบตุ ร ครถู ม โพธเิ วส ศลิ ปิ นโขนหลวง
(ยกั ษ)์ ในสมยั พระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั
รชั กาลที่ ๖ และนางชว่ ง โพธเิ วส นักแสดงละครเร่ ไดร้ ับ
การศกึ ษาทา่ รําขนั้ พน้ื ฐานกบั บดิ าและมารดา ตอ่ มาไดเ้ ขา้ ศกึ ษา
ทโ่ี รงเรยี นาฏศลิ ป์ กรมศลิ ปากร ไดร้ ับคดั เลอื กใหฝ้ ึกแสดงโขน
เป็ นตวั ยกั ษ์ตามอยา่ งบดิ า และฝึกแสดงเป็ นตวั พระอกี ดว้ ย ครู
ราฆพ สําเร็จการศกึ ษานาฏศลิ ป์ ขนั้ สงู ในปีพทุ ธศกั ราช ๒๕๐๓
หลงั จากนัน้ ไดเ้ ขา้ รับราชการตําแหน่งศลิ ปินตรี แผนกนาฏศลิ ป์
กรมศลิ ปากร จนกระทง่ั เกษียณอายรุ าชการ ครรู าฆพ เป็ นผมู ้ ี
ฝี มอื ยอดเยยี่ มในการแสดงโขน โดยเฉพาะแสดงเป็ นตวั ยกั ษ์
สําคญั และแสดงทา่ รํามอี าวธุ ประกอบไดอ้ ยา่ งชาํ นาญ
คลอ่ งแคลว่ วอ่ งไวและมกี ระบวนทา่ รําทง่ี ดงามเมอื่ มกี ารแสดง
ครัง้ ใดก็จะไดร้ ับความสนใจจากผชู ้ มอยา่ งยง่ิ

จากความสารถดงั กลา่ ว จงึ ไดร้ บั พระมหากรณุ าธคิ ณุ จาก
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ
ใหร้ บั การตอ่ ทาราเพลงหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ อนั เป็ น
เพลงหนา้ พาทยช์ น้ั สงู สดุ จากนายรงภกั ดี (เจยี ร จารุ
จรณ) ศลิ ปิ นแหง่ ชาติ พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๙ ในพระราชพธิ ี
พระราชทานครอบผปู้ ระกอบพธิ ไหวค้ รโู ขน

คณุ ครรู าฆพ ไดร้ ับการยกยอ่ งเชดิ ชเู กยี รติ เป็ นศลิ ปิน
แหง่ ชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง (นาฏศลิ ป์ โขน) ประจําปี
พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๗

26

คณุ ครรู งภกั ดี (เจยี ร จารจุ รณ)

ศลิ ปิ นแหง่ ชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง (นาฏศลิ ป)
ปี พ.ศ. 2529

ผมู ้ บี ทบาทอนั สําคญั ยง่ิ ในการเป็ นตน้ แบบสาธยายทา่ รํา
หนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ ตอ่ เบอ้ื งพระพักตรข์ องพระบาทสมเด็จ
พระเจา้ อยหู่ วั ภมู พิ ลอดลุ ยเดช โดยมี คณุ หญงิ นัฏฏานุรักษ์ (เทศ
สวุ รรณภารต) ภรรยา พระยานัฏกานุรักษ์ (ทองดี สวุ รรณภารต)
อดตี เจา้ กรมมหรสพ ผปู ้ ร ะดษิ ฐท์ า่ รําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ
รว่ มดเู ป็ นประจักษ์พยานในความถกู ตอ้ ง และนายรงภกั ดี
ถา่ ยทอดทา่ รําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ ใหก้ บั นาฏศลิ ปินโขน
ยกั ษ์ เป็ นสมบตั ทิ างวฒั นธรรมอนั ล้ําคา่ ทถ่ี กู สบื ทอดมาจนถงึ
ปัจจบุ นั นี้

27

28

29

30

31

32

พอ่ ครหู ยดั ชา้ งทอง ศลิ ปิ นแหง่ ชาติ

33

ศาสตราจารย์ ดร. มทั นี รตั นนิ

ศลิ ปินแหง่ ชาติ สาขาศลิ ปะการแสดง (ละครเวท)ี ประจําปี 2560

ศาสตราจารย์ ดร. มทั นี รัตนนิ สําเร็จปรญิ ญาตรที างดา้ น

ภาษาและวรรณคดฝี รั่งเศสและศกึ ษาการละครจาก Wellesley

College ปรญิ ญาโททางวรรณคดแี ละการละครฝร่ังเศสจาก

มหาวทิ ยาลยั Sorbonne และ Middlebury Graduate School

ณ กรงุ ปารสี ไดร้ ับทนุ British Council ไปศกึ ษาการละครเชคส

เปียร์ การกํากบั การแสดงและการแสดง ณ Royal Academy of

Dramatic Art ณ กรงุ ลอนดอน ไดร้ ับทนุ Rockefeller

Foundation ไปศกึ ษาและสําเร็จปรญิ ญาเอกทางดา้ นวรรณคดี

และการละคร ณ School of Oriental & African Studies แหง่

มหาวทิ ยาลยั ลอนดอน

เป็ นผรู ้ เิ รมิ่ การละครสมยั ใหมใ่ นมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์
ตงั้ แตป่ ี พ.ศ. 2514 ไดเ้ ป็ น Research Fellow ของ The
American Council of Learned Societies ทําการวจิ ัยและ
บรรยายพเิ ศษ ณ School of Drama แหง่ มหาวทิ ยาลยั Yale3

3 ขอ้ มมูลจาก FB. Theatre Studies and News ภาพจาก FB. ชมรมวจิ ารณ์

ศลิ ปะการแสดง

34

พระพริ าพคนละองคก์ นั

ศาสตราจารย์ ดร.มทั นี รตั นนิ ไดศ้ กึ ษาความเป็ นมา
ของพระพริ าพไวใ้ นหนังสอื สยามรัฐสปั ดาหว์ จิ ารณ์ฉบบั วนั
อาทติ ยท์ ่ี 23 ธนั วาคมพ.ศ 2516 สรปุ ไดว้ า่

“ จากบทพระราชนพิ นธร์ ัชกาลที่ 1 เรอ่ื งราวของพระพริ าพ
ในการบรรเลง และรา่ ยรําเพลงหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพเต็มองค์
นัน้ เป็ นคนละตน กบั พระพริ าพทเ่ี ป็ นปางหนง่ึ ของพระศวิ ะหรอื
พระอศิ วร ทชี่ าวนาฏดรุ ยิ างคศลิ ปินนับถอื กนั

หาก จะพจิ ารณาทศิ ทางการแพรก่ ระจาย อารยธรรมของ
อนิ เดยี ทเี่ ขา้ มายงั สวุ รรณภมู ิ และสมั พันธก์ บั การรา่ ยรําของไทย
นัน้ พบไดจ้ ากเคา้ ความเชอื่ ในลทั ธิ พระไภราวะ หรอื ไภรพ
หรอื ไภราพ ซงึ่ เป็ นปางหนงึ่ ของพระศวิ ะ ผใู ้ หก้ ําเนดิ นาฏราช
และใหพ้ ระภรตฤาษี บนั ทกึ ทา่ รํา และความรทู ้ างดา้ นศลิ ปะการ
ละครเป็ น นาฏยศาสตร์ สอนใหแ้ กม่ นุษย์

โดยถอื ปฏบิ ตั กิ นั ในหมนู่ าฏศลิ ปิน ตามลมุ่ นํ้าคงคา โอ
รสิ สา และแมน่ ํ้าศกั ดสิ์ ทิ ธอิ์ นื่ ๆ แลว้ ขา้ มมหาสมทุ รอนิ เดยี มาสู่
อาณาจกั รชวา และขอม แลว้ ไทยเราน่าจะไดร้ ับมาจากขอมอกี
ทอดหนง่ึ อยา่ งนอ้ ยในสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยาตอนตน้ 4

4 การรําเพลงหนา้ พาทยช์ นั้ สงู (เพลงตระตวั พระ) โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ

ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ ันทา ปี 2553 หนา้ 57

35

พระไภราพในเนปาล

เมอื่ ปี พ.ศ. 2511 ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ ขนั ธ์ ได ้
เคยไปศกึ ษาวถิ ชี วี ติ ของชาวเนปาล ณ เมอื งกาฐมณั ฑุ เมอื ง
ปาทนั หรอื ลาลติ ปรู ์ บกั ตาปรู ์ นากาโกด๊ โกคครา ลมุ พนิ ี
และจติ ตวนั

พบวา่ ทกุ คนทกุ แหง่ จะมเี ทวรปู พระไภราพ โดยเฉพาะ
ตรงประตทู างเขา้ พระราชวงั วดั และบา้ น และมกี ารสกั การะบชู า
เรม่ิ ตงั้ แตเ่ ชา้ มดื จนถงึ คํา่ คนื เพราะเชอื่ วา่ โรครา้ ยทงั้ หลายจะ
หายไปได ้ บงั เกดิ ความรม่ เย็นเป็ นสขุ ปราศจากโรคภยั ไขเ้ จ็บ
ภยนั ตรายอนั ตราย และอาถรรพร์ า้ ยทงั้ ปวง ชว่ ยใหม้ สี ขุ ภาพ
แข็งแรงขจัดเสนยี ด และประทานพรใหด้ ว้ ย จงึ เป็ นเทพเจา้ ที่
เป็ นทน่ี ับถอื และเกรงกลวั มาก

พระไภราพ ในเนปาลนัน้ มรี ปู ลกั ษณะน่ากลวั ตา่ งๆกนั มี
ทงั้ ทเี่ ป็ นหนิ และสํารดิ นอกจากเทวรปู เต็มองคแ์ ลว้ ยงั มที ที่ ํา
เฉพาะ เศยี รสมั ฤทธ์ิ แลบลน้ิ แยกเขย้ี วตาถลนน่ากลวั อกี ดว้ ย5

5 การรําเพลงหนา้ พาทยช์ นั้ สงู (เพลงตระตวั พระ) โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ

ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ ันทา ปี 2553 หนา้ 58

36

ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ ขนั ธ์

มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ ันทา6

6https://web.facebook.com/1729298057297905/photos/a.17292989839644

79/1729299030631141/

37

วจิ ติ รตาณฑวะ

พระพริ าพมคี วามสมั พันธโ์ ดยตรงกบั นาฏศลิ ป์ เพราะ
นอกจากจะเป็ นปางหนงึ่ ของพระศวิ ะหรอื พระอศิ วร ผสู ้ รา้ งทา่ รํา
ใหแ้ กม่ นุษยแ์ ลว้ ยงั ใหก้ ําเนดิ การฟ้อนรําแบบหนงึ่ ทเี่ รยี กวา่
วจิ ติ รตาณฑวะ ซง่ึ เป็ นทา่ รําทวี่ จิ ติ รพสิ ดารทา่ หนง่ึ ของ กรณะ
108 ทา่ พระไภราพ นเ้ี ป็ นทนี่ ับถอื เคารพบชู า และเกรงกลวั ยงิ่ ใน
หมนู่ าฏศลิ ป์ อนิ เดยี แถบลมุ่ นํ้าคงคา โอรสิ สา มหานทแี ละจันทร
ภาค โดยเฉพาะทเ่ี มอื งพาราณสี

กาศลี งิ คพริ าปปุ า

ชาว เมอื งพาราณสี มรี ปู เคารพทภี่ าษาพน้ื เมอื งเรยี กวา่

กาศลี งิ คพริ าปปุ า ลกั ษณะเป็ นเสาหลกั มยี อดเป็ นหวั ยกั ษ์

ผคู ้ นนยิ มเซน่ สงั เวยดว้ ย เนอื้ ดบิ และเหลา้ เชอ่ื วา่ เป็ น ตํารวจ
แทนองค์ พระอศิ วรวศิ วนาถ ผเู ้ ป็ นประธานในพาราณสี คอยฟาด
ฟันผบู ้ งั อาจ กระทําความชว่ั ในเมอื งนัน้ คําวา่ พริ าปปุ า ใน
ภาษาพนื้ เมอื งพาราณสี น่าจะเป็ นทมี่ าของคํา พริ าบป่ า ใน
ภาษาไทย และก็น่าทจี่ ะเป็ นไปไดอ้ กี เชน่ กนั วา่ พระไภราพ
อาจจะเป็ นทมี่ าของคาวา่ พระพริ าพ อนั เนอ่ื งดว้ ยการแผลง
อกั ษร และแผลงสระ เป็ นเทพเจา้ ทม่ี บี ทบาทสําคญั ทางจติ ใจ
ของศลิ ปินไทย จะเห็นไดจ้ ากการแสดงโขนละครและมหรสพ
ตา่ งๆ จะอญั เชญิ ศรี ษะพระพริ าพและพระภรตฤาษี มาตงั้ เป็ น
ประธานสําหรับศลิ ปิน ใหไ้ ดค้ รบสกั การะตลอดการแสดงเสมอ7

7 7 การรําเพลงหนา้ พาทยช์ นั้ สงู (เพลงตระตวั พระ) โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ

ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสนุ ันทา ปี 2553 หนา้ 59

38

พริ าพในรามเกยี รต์ิ

ประเด็นสําคญั ก็คอื เมอื่ พจิ ารณาวรรณกรรม เรอื่ ง

รามเกยี รต์ิ จะพบวา่ พริ าพ เป็ นเพยี งตวั ละครตวั หนง่ึ ทมี่ บี ทบาท
นอ้ ยมาก เรมิ่ จากพระอศิ วรมเี ทวราชบญั ชาใหจ้ ตุ มิ าเกดิ เป็ นอสรู
ชอื่ พริ าพ ครองแควน้ อศั กรรรณ พริ าพเป็ นอสรู ทมี่ ฤี ทธม์ิ าก
เพราะไดก้ ําลงั จาก พระเพลงิ และพระสมทุ ร มสี วนสําหรับเป็ นที่
พักผอ่ นหยอ่ นใจ และไดป้ ลกู ตน้ ชมพพู่ วาทองไว ้ โดยมบี รวิ าร

คอื พวกรากษสทเี่ ป็ นยกั ษ์ดรุ า้ ยคอยดแู ลรักษา บรรดา
สงิ สาราสตั วท์ พี่ ลดั หลงเขา้ มาในบรเิ วณนัน้ ถอื เป็ นกรรมสทิ ธทิ์ พ่ี ิ
ราพ สามารถจับกนิ ได ้

ครัง้ หนงึ่ พริ าพไดข้ น้ึ ไปเทยี่ วเลน่ บนสวรรค์ ไดก้ ําชบั ให ้
บรวิ ารดแู ลสวนไมใ่ หใ้ ครเขา้ มาได ้ เมอื่ ครบ 7 วนั จะกลบั มา

ครัน้ พระรามพระลกั ษณ์ และนางสดี า หลงเขา้ มาในสวน
เห็นความรม่ เย็นจงึ เขา้ พักและเกบ็ ผลไมเ้ สวย พวกรากษสไดเ้ ขา้
ไปขบั ไล่ แตถ่ กู รักไลต่ บี าดเจ็บลม้ ตายลงจํานวนมาก ประจวบกบั
ครบกําหนด 7 วนั พอดี พริ าพ กลบั มากลบั มาพบวา่ มผี บู ้ กุ รกุ และ
บรวิ ารตายจํานวนมาก จงึ เกดิ บนั ดาลโทสะ

แตค่ รัน้ เห็นนางสดี าก็เกดิ ปฏพิ ัทธ์ ชงิ นางเพอื่ เป็ นของตน
พระรามจงึ แผลงศรทําลายความมดื เห็นพริ าพอมุ ้ นางสดี าอยู่ ก็
เขา้ ไปแยง่ นางกลบั มาได ้ แลว้ แผงศรพรหมาสตรส์ งั หารพริ าพ
สนิ้ ชวี ติ

จะเห็นไดว้ า่ พริ าพในรามเกยี รติ์ เป็ นยกั ษ์พาลไมน่ ่า
เลอื่ มใสศรัทธา และไมม่ บี ทบาทสําคญั ในเชงิ ความศกั ดสิ์ ทิ ธห์ิ รอื
ใหค้ ณุ ใหโ้ ทษ ตอ่ ความเชอ่ื ของนาฏดรุ ยิ างคศลิ ปิน แตป่ ระการ

39

ใด จงึ เป็ นไปไดห้ รอื ไมท่ ก่ี ารตคี วามบทโขน บทละครของผทู ้ ที่ ํา
บทมคี วามเขา้ ใจแตกตา่ งกนั เชน่ นัน้ ทําใหเ้ กดิ ความสบั สนใน
เรอ่ื งขององคพ์ ระพริ าพ โดยเฉพาะเรอื่ งรําหนา้ พาทย์ องคพ์ ระพิ
ราพทใ่ี ชแ้ สดงในเรอ่ื ง

ประเด็นทนี่ า่ คดิ ตอ่ ไปก็คอื ถา้ หากพริ าบใน
รามเกยี รติ์ คอื องคเ์ ดยี วกบั พระพริ าพ ซงึ่ เป็ นปางหนง่ึ
ของพระอศิ วรพระรามจะฆา่ พระพริ าพตายไดอ้ ยา่ งไร ใน
เมอื่ พระรามคอื พระนารายณอ์ วตาร และพระพริ าพคอื พระ
อศิ วรเทพเจา้ ผยู้ งิ่ ใหญท่ ส่ี ดุ ของชน้ั เทพ8

โบราณจารยไ์ ดผ้ นวกความเชอื่ พระพริ าพ

จากการวเิ คราะหข์ อง อ. ปรเมศวร์ บญุ ยะชยั ศลิ ปิน
แหง่ ชาตเิ มอื่ ปี 2540 ไดเ้ สนอขอ้ คดิ ในเชงิ บวกทนี่ ่าสนใจยง่ิ โดย
เสนอใหเ้ ห็นวา่ เพลงหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพนัน้ ถอื วา่ เป็ นเพลง
อญั เชญิ เทพเจา้ ทไี่ มเ่ กย่ี วขอ้ งกบั ตวั ละครชอ่ื พริ าพ ในเรอ่ื ง
รามเกยี รต์ิ แตเ่ ป็ นการเชญิ เทพอสรู อนั มนี ามวา่ พระพริ าพ ซงึ่
เชอื่ วา่ พระพริ าพเป็ นปางดรุ า้ ยของพระอศิ วร แตด่ ว้ ยความชาญ
ฉลาดแหง่ ภมู ปิ ัญญาของโบราณจารย์ ทางดา้ นนาฏดรุ ยิ างค์ ท่ี
ไดผ้ นวกความเชอื่ พระพริ าพ ในรปู เทพเจา้ และตวั โขนเขา้ เป็ น

อนั หนงึ่ อนั เดยี วกนั โดยนําเพลงหนา้ พาทย์ เฉพาะองคพ์ ระพิ
ราพในฐานะเทพเจา้ ซง่ึ ไมม่ โี อกาสนําไปใชก้ บั การแสดงอน่ื ได ้
นัน้ มาบรรจเุ ขา้ ในการแสดงโขน ตอน พระรามเขา้ สวนพริ าพ
ไดอ้ ยา่ งลงตวั

8 การรําเพลงหนา้ พาทยช์ นั้ สงู (เพลงตระตวั พระ) โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ

ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสนุ ันทา ปี 2553

40

เพลงองคพ์ ระพริ าพ ขยายจากรวั สามลา

เพลงหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ คอื เพลงรวั สามลา
ขยาย9 หมายถงึ เพลงทข่ี ยายจากเพลงหนา้ พาทยร์ ัวสามลา อกี
ตอ่ หนง่ึ

การราองคพ์ ระพริ าพเป็ นการราบวงสรวง

กอ่ นทจี่ ะแสดงโขน ต อนพระพริ าพ หรอื ตอนพระรามลง
สวนพริ าพน้ี ผแู ้ สดงเป็ นพริ าพ จะตอ้ งออกมารําเบกิ โรง ดว้ ยรํา
หนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพกอ่ น

อปุ กรณ์การแสดงทพี่ ริ าบใชค้ อื มอื ซา้ ยกบั กา้ นมะยม 1

กา มใี บตดิ เพอ่ื ปัดรังควานและเสนยี ดจัญไร มอื ขวาถอื หอกยาว
การรําเบกิ โรงก็เพอ่ื เชญิ องคพ์ ระพริ าพ ใหเ้ ขา้ มาประทบั รา่ ง

ของพริ าพในเรอ่ื ง รา่ งนัน้ จะจะกลายสภาพเป็ นองคพ์ ระพริ าพ
(ประพันธ์ สคุ นธชาติ 2522 หนา้ 30)

จงึ อาจจะเป็ นไปไดว้ า่ การรําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ
เป็ นการรําบวงสรวง ถวายองคพ์ ระพริ าพเพอ่ื ขอเดชบารมใี หม้ า
คมุ ้ ครองรักษา พรอ้ มทงั้ ประสทิ ธพิ รชยั มงคล ใหแ้ กบ่ รรดา
สานุศษิ ย์ ทด่ี ําเนนิ การแสดง ตลอดจนผชู ้ มกอ็ าจเป็ นได ้

9 ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ ันทา

(ครสู มาน นอ้ ยนติ ย์ สมั ภาษณ์ 8 สงิ หาคม 2553)

41

สองนยั ยะในการราองคพ์ ระพริ าพ

ดงั นัน้ รําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ ทป่ี รากฏจงึ เป็ นรํา
หนา้ พาทย์ ทใี่ ช ้ 2 นัย คอื พระพริ าพปางหนง่ึ ของพระอศิ วร
และพระพริ าพตวั ละครในเรอ่ื งรามเกยี รต์ิ ดว้ ยเหตทุ พี่ ระพริ าพ
ไมใ่ ชย่ กั ษ์ธรรมดา แตเ่ ป็ นพระไภราพปางดรุ า้ ยของพระอศิ วร
มหาเทพแหง่ การทําลายความตายและชวี ติ อกี ทงั้ เป็ นผใู ้ ห ้
กําเนดิ นาฏศลิ ป์ ดงั นัน้ ในการรําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพผนู ้ ําจงึ
ไมใ่ ชแ่ สดงดว้ ยยกั ษ์ธรรมดา แตร่ ําเป็ นมหาเทพ เชน่ เดยี วกบั
การเป็ นศวิ ะนาฏราช เป็ นทงั้ การสรา้ งสรรค์ และการทําลายอยใู่ น

ตวั ทรงเหยยี บอสรู ไวด้ ว้ ยพระบาทขวา หมายถงึ การทําลาย
ความชว่ั พระบาทซา้ ยยกขน้ึ ในทา่ รํางดงาม แสดงออกถงึ การ
สรา้ งสรรคศ์ ลิ ปะ รัศมรี อบๆกลายเป็ นวงเปลวเพลงิ หมายถงึ การ
หมนุ เวยี นของจกั รวาล10 ( พลู ผล อรณุ รัตนถ์ าวร และคณะ

2548)

หมอ่ มราชวงศค์ กึ ฤทธิ์ ปราโมช ไดก้ ลา่ ววา่ การรา่ ย
รําของพระอศิ วร เป็ นการเคลอ่ื นไหวทงั้ จังหวะและลลี าของ
ธรรมชาติ ทที่ ําใหม้ นุษยม์ ชี วี ติ อยไู่ ดท้ เ่ี รยี กวา่ เป็ น Cosmic
เมอื่ ใดทพี่ ระอศิ วรหยดุ ไรร่ ํา เมอ่ื นัน้ โลกก็จะดบั ไปดว้ ย11

10 การรําเพลงหนา้ พาทยช์ นั้ สงู (เพลงตระตวั พระ) โดย ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ

ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสนุ ันทา ปี 2553

11 เรอื่ งเดยี วกนั , ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสนุ ันทา

42

ทา่ ราความขลงั คลา้ ยกบั “กถกฬ”ิ

หากจะมองวเิ คราะห์ ถงึ ทา่ รําทสี่ อื่ สารถงึ อํานาจและความ
ขลงั ของพระพริ าพพบวา่ ลกั ษณะทา่ รําของหนพ้ าทย์ องคพ์ ระพิ
ราพ มลี กั ษณะใกลเ้ คยี งกบั ทา่ รําของพระอศิ วร ในการแสดง
กถกฬิ ของอนิ เดยี กถกฬิ ของอนิ เดยี ตอนทแ่ี ปลงกลายเป็ น
ดาบสลงมาปราบฤาษีทศุ ลี เพราะเป็ นการรา่ ยรําทเ่ี ต็มไปดว้ ย
พลงั อํานาจ ทงั้ หมดงามและดดุ นั เชน่ เดยี วกบั การรําหนา้ พาทย์
องคพ์ ระพริ าพ นาฏศลิ ป์ ไทย12

พระยานฏั กานรุ กั ษผ์ ปู้ ระดษิ ฐท์ า่ รา

การเลอื กผจู ้ ะไดร้ ับการถา่ ยทอดทา่ รํา การรําพระพริ าพ
เต็มองคเ์ กดิ ขน้ึ ในสมยั พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั
โดยพระยานฏั กานรุ กั ษ์ ( ทองดี สวุ รรณภารต) เป็ นผู้
ประดษิ ฐท์ า่ รา และตอ่ ทา่ รําให ้ นายรงคภกั ดี ( เจยี ร จารจุ รณ)
เป็ นคนแรก เมอ่ื วนั ที่ 16พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2470

12 ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ ันทา

(สรุ พล วริ ฬุ หร์ ักษ์ สมั ภาษณ์ อา้ งถงึ ใน ประเมศ บญุ ยะชยั 2540 หนา้ 20)

43

จารตี ในการเลอื กผรู้ บั ถา่ ยทอดทา่ รา

ตอ่ มานายรงคภกั ดี ( เจยี ร จารจุ รณ) ไดเ้ ขา้ เฝ้า
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 9 ณ ศาลาผกาภริ มย์ เมอ่ื
วนั ที่ 21 ตลุ าคมพ.ศ 2504 โปรดเกลา้ ฯ โดยใหบ้ รรยายถงึ วธิ กี าร
ถา่ ยทอดวชิ าชนั้ สงู สดุ น้ี

ตอนหนงึ่ นายรงคภกั ดี ไดก้ ลา่ วถงึ บคุ ลกิ ลกั ษณะของ
ศษิ ย์ ทจี่ ะไดร้ ับการถา่ ยทอดทา่ รําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพตอ้ ง
มคี ณุ สมบตั ิ 5 ประการคอื
1.ตอ้ งเป็ นผอู ้ ปุ สมบทบวชเรยี นแลว้
2.ตอ้ งเป็ นผมู ้ ศี ลิ ปะฝี ไมล้ ายมอื เป็ นหนงึ่ ในหมู่ จะเป็ นยกั ษ์หรอื
มนุษย์ และลงิ กไ็ ดไ้ มเ่ ฉพาะแตเ่ ป็ นยกั ษ์อยา่ งเดยี ว
3.ตอ้ งเป็ นผมู ้ อี ธั ยาศยั ออ่ นนอ้ มตอ่ ครบู าอาจารยแ์ ละตอ่ ผใู ้ หญ่
4.ตอ้ งเป็ นผสู ้ งบเสงย่ี มกริ ยิ าวาจา ไมเ่ ป็ นผพู ้ ดู พรํ่าทําเพลง ไม่
โออ้ วด อตุ รมิ นุษยธรรม
5 เป็ นผรู ้ พู ้ ระคณุ ครบู าอาจารยไ์ มล่ บหลเู่ ป็ นผคู ้ วรเวน้ ไวเ้ วน้ ในสงิ่
ทค่ี วรเวน้ ประพฤตใิ นสง่ิ ทค่ี วรประพฤติ

ตอ่ มากรมศลิ ปากร ในฐานะทมี่ หี นา้ ทใี่ นการอนุรักษ์
ศลิ ปวฒั นธรรม ไดต้ งั้ เกณฑใ์ นการพจิ ารณาคณุ สมบตั แิ ละการ
ประพฤตติ น ของผรู ้ ับมอบการถา่ ยทอดทา่ รําหนา้ พาทยอ์ งค์
พระพริ าพ ในวนั ที่ 25 ตลุ าคมพ.ศ 2527 ซงึ่ มขี อ้ แตกตา่ งจาก
เดมิ บางประการไดแ้ ก่

44

1.เป็ นขา้ ราชการ สงั กดั กรมศลิ ปากร ฝ่ ายยกั ษ์ ทมี่ ฝี ี มอื ความรู ้
ความสามารถ เป็ นทยี่ อมรับนับถอื ในหมคู่ ณะ
2 มอี ายไุ มต่ ํา่ กวา่ 40 ปี ผา่ นการอปุ สมบทมาแลว้ หากยงั ไมไ่ ด ้
อปุ สมบท ตอ้ งอปุ สมบทภายในปีภายใน 1 ปี หลงั จากทไี่ ดร้ ับ
การถา่ ยทอด
3.เป็ นผมู ้ คี วามกตญั ํรู คู ้ ณุ ตอ่ ครบู าอาจารยผ์ มู ้ พี ระคณุ ไมล่ บหลู่
ศลิ ปินอาวโุ ส ประพฤตติ นอยใู่ นศลี ธรรมอนั ดงี าม มคี วามออ่ น
นอ้ มถอ่ มตน สงบเสงย่ี มไมโ่ ออ้ วดอตุ รมิ นุษยธรรม
4 เป็ นผปู ้ ฏบิ ตั ติ นอยใู่ นระเบยี บวนิ ัยของทางราชการ

จะเห็นไดว้ า่ จารตี ในการถา่ ยทอดทา่ รําหนา้ พาทยอ์ งค์
พระพริ าพนัน้ ผทู ้ จ่ี ะรําเพลงหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพได ้ ตอ้ ง
ไดร้ บั พระบรมราชโองการ หรอื พระบรมราชานญุ าตจาก
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั หรอื ไมเ่ ชน่ นนั้ ก็ตอ้ งเป็ นผทู้ ี่
ไดร้ บั มอบหมาย จากผทู้ เ่ี คยไดร้ บั พระบรมราชโองการ
หรอื พระบรมราชานญุ าตโดยตรง13

สง่ิ สําคญั ทสี่ ดุ คอื ผนู ้ ัน้ จะตอ้ งเป็ นผทู ้ ม่ี คี ณุ ธรรมอยา่ งสงู
เพราะการบวชเรยี นแลว้ กด็ ี การเป็ นผปู ้ ฏบิ ตั ติ นอยใู่ นระเบยี บวนิ ัย
ก็ดี แสดงถงึ ความพรอ้ มของผทู ้ จ่ี ะรับการถา่ ยทอดความรซู ้ ง่ึ มี
ขอ้ กําหนดเป็ นกรอบในการปฏบิ ตั ิ แตค่ ณุ ธรรมทอี่ ยใู่ นเนอ้ื แท ้
ของแตล่ ะบคุ คลโดยเฉพาะผทู ้ เ่ี หมาะสมจะไดร้ ับการถา่ ยทอดทา่

13 ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสนุ ันทา

45

รําชนั้ สงู สดุ คอื คณุ ธรรมในดา้ นความกตญั ญรู หู้ นา้ ทสี่ ามคั คี
และใหอ้ ภยั คณุ ธรรม ทงั้ 4 ประการนี้ ถอื เป็ นคณุ ธรรมทส่ี ําคญั
ทสี่ ดุ

ดงั จะเห็นไดจ้ ากการไหวค้ รู การตงั้ เครอื่ งสงั เวยลว้ นเป็ น
การแสดงออกถงึ การรําลกึ พระคณุ ครบู าอาจารย์ ความกตญั ํู
กตเวที นอกจากนใี้ นดา้ นความประพฤตกิ ็มคี วามสําคญั ยงิ่ เชน่
ไมพ่ ดู จาขม่ กนั หรอื อวดความรทู ้ า้ ทายประลองฝี มอื กนั เป็ นตน้
จงึ พบวา่ ผทู ้ ไี่ ดร้ ับการตอ่ ทา่ รําองคพ์ ระพริ าพมจี ํานวนนอ้ ยมาก

พธิ ตี อ่ ทา่ ราไมค่ วรกระทาในบา้ น

พธิ ตี อ่ ทา่ รําไมค่ วรกระทําในบา้ น สถานทใ่ี นการถา่ ยทอด
ทา่ รํา ควรจะเป็ น วงั วดั หรอื สถานทที่ เี่ ป็ นมงคล เนอ่ื งจากความ
เชอื่ ทว่ี า่ พระพริ าพ เป็ นมหาเทพแหง่ การทําลายลา้ งความตาย
ชวี ติ และขจดั ความชว่ั รา้ ย ดงั นัน้ สถานทท่ี จ่ี ะใชใ้ นการตอ่ ทา่ รํา
จงึ ไมค่ วรกระทําในบา้ น อาจจะเป็ นเพราะพจิ ารณาเห็นวา่ บา้ นวา่
บา้ นเป็ นทพี่ ักอาศยั ของคนปกตธิ รรมดา ซงึ่ ไมเ่ ป็ นการสมพระ
เกยี รตกิ เ็ ป็ นได ้ อกี ประการหนงึ่ การตอ่ ทา่ รํานัน้ เป็ นพธิ กี รรม
สําคญั ทจี่ ะตอ้ งมผี มู ้ ารว่ มงานเป็ นจํานวนมาก ทงั้ นาฏศลิ ปิน ลกู
ศษิ ย์ ญาตพิ นี่ อ้ งของผไู ้ ดร้ ับการถา่ ยทอดทา่ รํา แขกผใู ้ หญ่ แขก
รับเชญิ และผสู ้ นใจทเ่ี คารพศรัทธาทงั้ พระพริ าพ และครโู ขน
ละคร โดยเฉพาะตอ้ งมพี น้ื ทส่ี ําหรับตงั้ วงดนตรี ซง่ึ มนี ักดนตรี
หลายคน ดงั นัน้ สถานทใ่ี นการดําเนนิ การจงึ ควรเป็ นสถานท่ี ที่

สามารถรองรับคนทจี่ ะรว่ มพธิ ไี ดเ้ ป็ นจํานวนมาก ดงั นัน้ นอกจาก
บา้ น และสถานทเี่ หมาะสมจงึ สมควรเป็ นท่ี วงั หรอื วดั ดงั จะเห็น
ไดจ้ ากประวตั กิ ารถา่ ยทอดทา่ รํา แตล่ ะครัง้ ดงั นี้

46

ครัง้ แรกการตอ่ ทา่ รําครัง้ แรก ของพระยานัฏกานุรักษ์ตอ่
ใหก้ บั นายรงคภกั ดนี ัน้ กระทําทรี่ ะเบยี งคดหนา้ พระอโุ บสถวดั
พระศรรี ัตนศาสดาราม ออกทา่ รําครัง้ แรกในงานสมโภชวางพระ
เศวตคชเดชดลิ ก เมอื่ วนั ท่ี 16 พฤศจกิ ายนพ.ศ. 2470 ณ โรง
โขน ทส่ี รา้ งขน้ึ หนา้ พระราชวงั ดสุ ติ เป็ นการแสดงหนา้ พระทนี่ ่ัง
ถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และสมเด็จพระนาง
เจา้ รําไพพรรณีพระบรมราชนิ ี

ครัง้ ที่ 2 การตอ่ ทา่ รําเมอื่ วนั ที่ 24 มกราคม 2506
ดําเนนิ การ ณ บรเิ วณโรงละคร พระทน่ี ่ังอมั พรสถาน พระราชวงั
ดสุ ติ

ครัง้ ท่ี 3 เมอ่ื วนั ท่ี 25 ตลุ าคม พ.ศ. 2527 ไดด้ ําเนนิ การ
ตอ่ ทา่ รํา ณ ศาลาดสุ ดิ าลยั สวนจติ รลดา

ครัง้ ท่ี 4 มกี ารเสวนาสาธยายทา่ รําหนา้ พาทย์ และเพลง
การทบทวนทา่ รําหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ ณ อโุ บสถวดั บวร
สถานสทุ ธาวาส และทําพธิ ถี า่ ยทอดทา่ รําหนา้ พาทย์ องคพ์ ระพิ
ราพ ในพธิ ไี หวค้ รนู าฏศลิ ป์ ดนตรี ณ โรงละครแหง่ ชาติ เมอ่ื วนั ที่
12 กนั ยายนพ.ศ. 2545

47

ตอ้ งจดั ตง้ั เครอื่ งบชู าทกุ ครงั้ ทแี่ สดง

ตอ้ งจดั ตงั้ เครอื่ งบชู าทกุ ครัง้ ทแ่ี สดง เครอื่ งบชู าประกอบ
ดว้ ย
1 โตะ๊ หมบู่ ชู าตงั้ ศรี ษะพระอศิ วร พระประโคนธพั พระภรตฤาษี
พระพริ าพ ถา้ สถานทอี่ ํานวยก็เพม่ิ ศรี ษะ พระนารายณ์ พระพรหม
พระพฆิ เนศ พระปัญจสขี ร พระวษิ ณุกรรม เป็ นตน้
2 พานทองใชข้ า้ วตอกดอกไม ้
3 เชงิ เทยี นกระถางธปู
4 ขนั ทําน้ํามนต์ 1 ใบ เทยี นขาว 1 เลม่
5 ตงั่ คลมุ ดว้ ยผา้ สแี ดงหรอื สขี าว
6 ผา้ ขาวใหญ่ 1 ผนื หรอื พรมปพู นื้ ใชใ้ นการรําหนา้ พาทยอ์ งค์
พระพริ าพ

ตงั้ เครอ่ื งบชู าไมค่ รบไมเ่ รยี กเพลงองคพ์ ระพริ าพ

การตงั้ เครอ่ื งบชู าตอ้ งทําใหค้ รบเครอื่ งทกุ ครัง้ ศ.ดร.
ชมนาด กจิ ขนั ธ์ ไดก้ ลา่ ววา่ ในพธิ ไี หวค้ รคู รอบครโู ขนละคร
บางแหง่ ทต่ี งั้ เครอ่ื งบชู าไมค่ รบ ครผู อู้ า่ นองคก์ ารจะไมเ่ รยี ก
ใหด้ นตรบี รรเลงเพลงหนา้ พาทยอ์ งคพ์ ระพริ าพ แต่ จะให ้
บรรเลงเพลงคกุ พาทยซ์ งึ่ เป็ นเพลงรัว 2 ลา แทนหนา้ พาทยอ์ งค์
พระพริ าพกม็ ี

48

ใชเ้ พลงรวั สามลาสาหรบั พระอศิ วร

นอกจากนย้ี งั พบวา่ มกี ฏเกณฑก์ ารใชเ้ พลงหนา้ พาทย์
ชนั้ สงู ในตําราไหวค้ รบู างตําราจะใช ้ เพลงรวั สามลาสาหรบั
พระอศิ วร

บรรเลงกราวนอกแทนดาเนนิ พราหมณ์

ทน่ี ่าสงั เกตคอื คํากลา่ วโองการไหวค้ รทู างนาฏศลิ ป์ เมอื่
ถงึ บทกลา่ วเชญิ ฤาษีเจ็ดตนมาอวยพรมงคลนัน้ น่าจะเรยี กเพลง
ดาเนนิ พราหมณ์ ใหด้ นตรบี รรเลง แตไ่ ปเรยี กเพลงกราวนอก
เราในแทนเพลงดาเนนิ พราหมณ1์ 4

ราองคพ์ ระพริ าพเฉพาะงานสาคญั ของชาติ

จัดแสดงเฉพาะงานสําคญั ของชาติ โอกาสทจี่ ะรํานัน้
จะตอ้ งเป็ นงานสําคญั ของชาติ เชน่ งานพระราชพธิ รี ัฐ พธิ หี รอื
งานมหกรรม ไมจ่ ดั นําออกแสดงพรํา่ เพรอ่ื เหมอื นกบั การแสดง
โขนในชดุ อนื่ ๆ เพราะถอื เป็ นของสงู และมคี วามศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ
อยา่ งยงิ่ ดงั จะเห็นไดจ้ าก อ.ประพันธ์ สคุ นธะชาติ ไดร้ วบรวม
ไวด้ งั น้ี
ครงั้ ที่ 1
แสดงในงานพระราชพธิ สี มโภชขน้ึ ระวางโรงใน พระเศวตคช
เดชนด์ ลิ ก พระคชาธารคบู่ ารมใี นรัชกาลที่ 7 เมอื่ วนั ท่ี 16
14 ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏสวนสนุ ันทา หนา้ 65-66

49

พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2470 ณ พระราชวงั ดสุ ติ เป็ นการแสดงโขน
หนา้ พระทนี่ ั่ง พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และสมเด็จ
พระนางเจา้ รําไพพรรณี พระบรมราชนิ ี โดยแสดงแบบโขนนอน
โรง15

ครงั้ ท่ี 2
แสดงในงาน รัฐพธิ ฉี ลองรัฐธรรมนูญเป็ นปีแรก เมอื่ วนั ท่ี 11
ธนั วาคม พ.ศ. 2475 ณ บรเิ วณทอ้ งสนามหลวงเป็ นการแสดง
แบบโขนน่ังราว โขน หนา้ จอรวมกนั คอื มที งั้ น่ังราว และน่ังเตยี ง
มบี ทรอ้ งบทพากยบ์ ทเจรจา มวี งปี่พาททยบ์ รรเลงประกอบการ
แสดง 2 วง คอื วง พระเพลงไพเราะ และวงหลวงประดษิ ฐ
ไพเราะ ทงั้ นอี้ ยใู่ นความควบคมุ การแสดงของ พระยานัฏกานุ
รักษ์ ( ทองดี สวุ รรณภารต) และคณุ หญงิ นัฏกานุรักษ์ ( เทศ
สวุ รรณภารต)

15

โขนนอนโรง เป็ นการแสดงโขนทม่ี ักนยิ มแสดงในเวลาบา่ ย กอ่ นวนั แสดง
จรงิ ของโขนน่ังราว แสดงตอน “เขา้ สวนพริ าพ” เพยี งเรอื่ งเดยี วเทา่ นัน้ มปี ่ีพาทยส์ อง
วงในการบรรเลงเพลงโหมโรง แสดงเพยี งชว่ งระยะเวลาสนั้ ๆ โดยกอ่ นแสดงจะมผี ู ้
แสดงออกไปเตน้ กระทงุ ้ เสาทงั้ 4 มมุ ของโรงแสดง ซง่ึ การกระทงุ ้ เสานัน้ เป็ นการ
ทดสอบความแข็งแรงของเวทใี นการรับนํ้าหนักตวั ของผแู ้ สดง สมัยกอ่ นเวทสี าํ หรับ
แสดงใชว้ ธิ ขี ดุ หลมุ ฝังเสาและใชด้ นิ กลบ ทําใหร้ ะหวา่ งทําการแสดงเวทเี กดิ การทรดุ ตวั
เป็ นเหตผุ ลใหอ้ าจารยผ์ ทู ้ ําการฝึกสอน มกั ใหผ้ แู ้ สดงไปเตน้ ตามหวั เสาทงั้ 4 มมุ ของ
เวที เพอ่ื ใหก้ ารเตน้ นัน้ ชว่ ยกระทงุ ้ หนา้ ดนิ ทฝี่ ังเสาไวใ้ หเ้ กดิ ความแน่นมากขนึ้ หลงั
แสดงเสร็จ ผแู ้ สดงมักจะนอนเฝ้าโรงแสดงเพอื่ แสดงโรงน่ังราวตอ่ ในวนั รงุ่ ขน้ึ ในอดตี
โขนนอนโรงเคยแสดงมาแลว้ สองครัง้ คอื ครัง้ แรกแสดงในสมยั ของพระบาทสมเด็จ
พระมงกฏุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 6 ในงานสมโภชพระเศวตคชเดนด์ ลิ ก และครัง้ ท่ี
สองในสมยั ของพระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาลท่ี 7 แสดงทบี่ รเิ วณทอ้ ง
สนามหลวงในงานฉลองรัฐธรรมนูญ ระหวา่ งวนั ที่ 10 – 11 ธนั วาคม พ.ศ. 2475

50

ครงั้ ที่ 3
แสดงในงานดนตรมี หกรรม ณ สงั คตี ศาลา บรเิ วณ พพิ ธิ ภณั ฑ์
สถานแหง่ ชาติ พระนคร เมอื่ วนั ท่ี 5 มนี าคมพ.ศ 2505 เป็ นการ
แสดงชดุ พระรามเขา้ สวนพริ าพ ครถู นอม โหมดเทศน์ และ
ครปู ระพันธ์ สคุ นธะชาติ ทําบท

หา้ มแตะตอ้ งตวั และอาวธุ

หา้ มแตะตอ้ งตวั และอาวธุ ในการแสดงหนา้ พาทยอ์ งค์

พระพริ าพมขี อ้ หา้ มวา่ เมอ่ื ผแู ้ สดงสวมศรษี ะพระพริ าพถอื ใบ
มะยม และหอกแลว้ หา้ มผใู้ ดแตะตอ้ งตวั และอาวธุ เป็ นอนั
ขาด ดว้ ยเชอื่ วา่ ในขณะนัน้ ผแู ้ สดงไดก้ ลายสภาพเป็ นองค์
พระพริ าพอสรู เทพแลว้ การทสี่ ามญั ชนจะไปสมั ผสั ถกู ตอ้ งตวั
ยอ่ มเป็ นการไมบ่ งั ควร และยอ่ มเกดิ เสนยี ดแกต่ น ขณะฝึ กซอ้ ม
ทา่ ราก็หา้ มสมั ผสั ตวั และอาวธุ ซง่ึ กนั และกนั อกี ดว้ ย
แมค้ รผู สู ้ อน จะมาแตะเนอ้ื ตอ้ งตวั กไ็ มไ่ ดเ้ ชน่ กนั แตก่ าร
รําหนา้ พาทยเ์ พลงอน่ื ไมม่ กี ารหา้ มเชน่ นี้16

ราใหจ้ บเพลงและฟงั เพลงดว้ ยความเคารพ

ตอ้ งราใหจ้ บเพลง และฟงั เพลงดว้ ยความเคารพ
ขนบในการรําหนา้ พาทยช์ นั้ สงู ทกุ เพลง ผรู ้ ําจะตอ้ งรําใหจ้ บเพลง
จะรําแบบครงึ่ ๆกลางๆไมไ่ ด ้ ขนบน้ี ทงั้ ดนตรแี ละนาฏศลิ ป์ จะ

ปฏบิ ตั เิ หมอื นกนั

16 ศาสตราจารย์ ดร.ชมนาด กจิ ขนั ธ์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สวนสนุ ันทา หนา้ 66


Click to View FlipBook Version