The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-10-26 01:46:43

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

101

๖ พาย

เป็ นผรู ้ ักษาหนา้ ทอี่ ยทู่ ศิ พายพั เป็ นเจา้ ของลมและพนุ

เป็ นเพอ่ื นกบั พระอนิ ทร

รปู ของทา่ น อยา่ งมนุษยท์ รงเครอ่ื ง เห็นชา่ งเขาทํา
ฟนั ทา่ น
สกี ายทา่ น เป็ นเหล็ก
เสยี งทา่ น สขี าว
อาภรณท์ า่ น เหมอื นเสยี งราชสหี ์
พาหนะทา่ น ทรงนํ้าฝนเป็ นเสอื้ ผา้ ถอื แสม้ า้ กบั กระบอง สายฟ้าฟาด
บดิ าทา่ น
มารดาทา่ น ทรงรถทองเทยี มดว้ ยมา้ แดงคู่ มปี ีก
โอรสทา่ น ชอ่ื รทุ ธระ
ชอ่ื ปรคิ ณี
ชอื่ หนมุ าน เป็ นทหารรามจันทร

102

๗ ไพศรพ

เป็ นผรู ้ กั ษาหนา้ ทอ่ี ยทู่ อ่ี ดุ ร ตําราไทยวา่ สกี ายเหลอื ง
ออ่ น ถอื พระขรรคท์ รงโค ผดิ หมดทง้ั สน้ิ ไปหลงวา่
เป็ นเทวดารกั ษาขา้ วเพราะเขยี นชอ่ื ไปตกตวั ณ
เสยี ตวั เดยี ว จงึ เขา้ ใจผดิ แทจ้ รงิ ใน dictionary
william อธบิ ายวา่ เทวดาประจําทศิ นี้ คอื กเุ วร บางที
ก็เรยี กนามตามทเ่ี ป็ นบตุ ร อศิ รวะ วา่ ไวศวรณะ แผลง
เอา วะ เป็ น พะ ก็ตรงไพศรพณ์ ทเี ดยี ว ไวศวรณะ น้ี
มใิ ชอ่ นื่ ไกล คอื ทา้ วเวสวณั น่ันเอง เวสสะวรรณะ เป็ น
คํามคธ ไวศวรณะ เป็ นคําสนั สกฤต ใน dictionary
william วา่ ไวศวรณะ เป็ นเจา้ ของทรัพยส์ มบตั ิ แล
เป็ นใหญใ่ นฝงู ยักษ์ เป็ นผรู ้ ักษาชวี ติ มนุษยท์ งั้ ปวง
ชอบอชั ฌาสยั กบั พระอศิ วร

รปู ทรงทา่ นนนั้ เป็ นยกั ษ์ เห็นชา่ งเขาทํา บางทกี ็ทําเป็ น
มนุษย์
สกี ายทา่ น สเี ขยี ว เห็นชา่ งเขาทํา
ดวงตาทา่ น เป็ นไฝเหลอื งอยขู่ า้ งหนง่ึ
มงกฎุ ทา่ น เป็ นมงกฎุ นํ้าเตา้ เห็นชา่ งเขาทํา
ฟนั ของทา่ น ทงั้ ปากมี 8 ซี่ เทา่ นัน้
ขาของทา่ น มลี าม
ถอื กระบองเป็ นอาวธุ
พาหนะทา่ น ทรงคน
บดิ าทา่ น ชอื่ วศิ รวะ
มารดาทา่ น ชอ่ื อลิ วลิ า
มเหสที า่ น ไกเวรี

103

โอรสทา่ น ชอื่ นลกพู ร

เสนาใหญข่ องทา่ น ชอ่ื กนิ นร ตัวเป็ นคนหนา้ เป็ นมา้

กนิ บรุ ษุ กเ็ รยี ก

เมอื งของทา่ น ชอื่ อลกา อยเู่ ชงิ เขาไกลาส

สวนของทา่ น ชอื่ แจตรรถ

รถของทา่ น เรยี ก บษุ บก

สมบตั ขิ องทา่ น คอื แกว้ วเิ ศษมี 8 อยา่ ง คอื ปทั มะ มหา

ปทั มะ ศงั ขะ มกระ กจั ฉปะ มกุ ณุ ฑะ

บนั ทะ ทลี ะ บรพพะ

104

๘ โสม

เป็ นผรู ้ กั ษาหนา้ ทอ่ี ยทู่ ศิ อสี าน ตําราไทยวา่ สกี ายเลอ่ื ม
ประภัศศร ถอื พระขรรค์ ทรงมา้ ผดิ หมดอกี หนหนง่ึ ไปหลงวา่ เป็ นพระ
จันทร ในดกิ ชนั นารวี ลิ เลย่ี มวา่ เทวดาประจําทศิ นชี้ อื่ อศี ะ หรอื อศี าณ
ตามทเ่ี ป็ นชอื่ ทศิ อยนู่ ัน้ หมายความวา่ เป็ นทศิ ของทา่ นผนู ้ รี้ ักษาอศี ะ
หรอื อศี าณ น้ี คอื พระอศิ วร เมอื่ ไดเ้ ห็นดังนก้ี เ็ ป็ นทป่ี ระหลาดใจมาก
เหตใุ ดตําราไทยจงึ วา่ โสมคอื พระจันทร เป็ นเจา้ ของทศิ นี้ ผดิ ตัวไกล
กนั มาก ตรองไปกส็ งสยั วา่ บางที โสม จะเป็ นชอ่ื พระอศิ วรได ้ เพราะ
บรรดาเทวดา ถา้ องคใ์ ดศกั ดสิ์ ทิ ธมิ์ ากก็มักมชี อื่ มาก จงึ ไดล้ องจดบญั ชี
ชอ่ื พระอศิ วร ก็พน โสมะ ใชเ้ รยี กเป็ นชอื่ พระอศิ วรก็ได ้ โดยหมายความ

วา่ ทา่ นทรงพระจันทรเป็ นป่ินปักไวเ้ หนอื เกลา้ จงึ รแู ้ น่วา่ เราเขา้ ใจผดิ
เพราะไมร่ คู ้ ําวา่ โสมะ และอศิ าณะ เป็ นชอ่ื พระอศิ วร ถา้ อยากรพู ้ ระ
อศิ วร จงดทู ก่ี าํ เนดิ พระเป็ นเจา้ ทงั้ สาม ถา้ อยากรพู ้ ระจันทร จงดทู ่ี
กําเนดิ เทวดาเคราะห์

105

เทวดานพเคราะห ์

เทวดานพเคราะหม์ สี ําหรับ 9 องค์ ใชบ้ ชู ากนั ฟาดแก
เคราะหร์ า้ ยใหเ้ ป็ นดี ในเวลาเมอ่ื อายบุ รรจบครบรอบปี ถา้ ยกพระ
ราหู แลพระเกตอุ อก เป็ นสํารับ 7 องค์ เขาเรยี กวา่ เทวดาสตั
เคราะห์

เทวดา 9 องคค์ อื

๑ อาทติ ย

เป็ นผมู ้ หี นา้ ทส่ี อ่ งโลก ในเวลากลางวัน

รปู ทรงของทา่ น อยา่ งมนุษยก์ ็สง่ เครอ่ื งเห็นชา่ งเขาทํา

สกี ายของทา่ น สแี ดงถอื ดอกบวั

นั่ง บนดอกบวั

พาหนะของทา่ น ทรงรถเทยี มมา้ เขยี ว 7 ตวั คอื เขยี วอยา่ งมา้ สี

ดําเจอื แดง คําโหรบชู าวา่ ทรงพระราชสหี ์

บดิ าทา่ น ชอ่ื กศั ยป

ภรรยาทา่ นมาก ชอ่ื ฉายา อศั วนิ ี ปรภา ลชั า วศิ วกรรมมสดุ า

ตวาษฎรี สวรณา ศนปิ รสุ ตปตี ตรสเรณุ ว รี

สรู ยา

โอรสทา่ นมาก ชอ่ื ยม ศนิ อศั วเิ นา สาวรนิ สคุ รพี เรวนติ

ไรวต

ธดิ าทา่ น ชอ่ื ตปตี

สารถขี องทา่ น ชอ่ื อรณุ เป็ นนอ้ งครฑุ พาหนะนารายณท์ รง

เสนาของทา่ น มสี ามคนชอ่ื มฐร บงิ คล ทัณฑ

106

๒ จนั ทร เป็ นผมู ้ หี นา้ ทส่ี อ่ งโลก ในเวลากลางคนื
อยา่ งมนุษยท์ รงเครอ่ื ง เห็นชา่ งเขาทํา
รปู ทรงทา่ น สขี าวถอื พระขรรค์ เห็นชา่ งเขาทํา
สกี ายทา่ น ทรงรถเทยี มดว้ ยมา้ ขาว 10 ตัว
พาหนะทา่ น ชอ่ื ลกั ษมี ซง่ึ เป็ นมเหสพี ระนารายณ์
พสี่ าวทา่ น ชอ่ื โหหนิ ี
ชายาทา่ น ชอ่ื พธุ
โอรสทา่ น
dictionary william เรยี กองั คารกะ
๓ องั คาร อยา่ งมนุษยทรงเครอื่ ง เห็นชา่ งเขาทํา
แดงดงั ถา่ นตดิ เพลงิ
ใน พระขรรค์ เห็นชา่ งเขาทํา
รปู ทรงทา่ น ทรงควาย (คําโหรบชู า)
สกี ายทา่ น คอื แผน่ ดนิ
ถอื
พาหนะทา่ น อยา่ งมนุษยท์ รงเครอ่ื ง เห็นชา่ งเขาทัน
บดิ าทา่ น สคี ลํ้ามวั อศิ วรพงศว์ า่ สเี ขยี ว
พระขรรค์ เห็นชา่ งเขาทํา
๔ พธุ ทรงชา้ ง (คําโหรบชู า)
ชอื่ โสมคอื จันท
รปู ทรงทา่ น ชอื่ โรหณิ ี
สกี ายทา่ น
ถอื
พาหนะทา่ น
บดิ าทา่ น
มารดาทา่ น

๕ เสาร์ 107

รปู กายทา่ น เป็ นผมู ้ กี าํ ลังอนั รา้ ยกาจ อาจทําใหเ้ ดอื ดรอ้ น
สกี ายทา่ น อยา่ งมนุษยท์ รงเครอ่ื ง เห็นชา่ งเขาทํา
ถอื สดี ํา
พาหนะทา่ น พระขรรค์ เห็นชา่ งเขาทํา
ทรง เสอื โครง่ (คําโหรบชู า)
บดิ าทา่ น
มารดาทา่ น คอื พระอาทติ ย์
ชอื่ ฉายา

๖ พระพฤหสั บดี

พฤหสั บดใี น dictionary William

เขยี น วฤหัสปติ เป็ นครขู องเทวดาทัง้ ปวง

รปู ทรงของทา่ น อยา่ งมนุษยท์ รงเครอ่ื ง เห็นชา่ งเขาทํา
สกี ายทา่ น
ถอื สเี หลอื ง
พาหนะทา่ น
บดิ าทา่ น พระขรรค์ เห็นชา่ งเขาทํา
บตุ รทา่ น
ทรงกวาง คําโหรบชู า

ชอ่ื องั คริ

เรยี ก ภรทวาช

108

๗ ราหู เป็ นขา้ ศกึ กบั พระอาทติ ย์ และพระจันทร เหตุ
วา่ เอาขา่ วทรี่ ักชมิ นํ้าอมฤตไปทลู พระนารายณ์
รปู ทรงทา่ น
มงกฎุ เป็ นแพทย์ คอื ยกั ษ์ชนดิ หนง่ึ ขา้ งไทยทําเป็ น
น้ําเตา้
สกี ายทา่ นนัน้
แขนทา่ น สมี ว่ ง พดู กนั วา่ สสี มั ฤทธกิ์ ็มี แตช่ า่ งใชเ้ ขยี ว
ขาทา่ น มี 4
ถอื ไมม่ ี ตัง้ แตเ่ อวลงไปเป็ นหางนาค
พาหนะ พระขรรค์
บดิ าทา่ น ทรงครฑุ
มารดาทา่ น ชอ่ื วปิ รจติ ติ
ชอื่ สงิ ทกิ า
เคราะห์
ทา่ นรักชมิ นํ้าอมฤต ตอ้ งอาวธุ นารายณ์ เศยี ร
และแขน 2 ขาขาด ดว้ ยอํานาจน้ําอมฤตทําให ้
ไมต่ าย เศยี รไปคอยพฆิ าตพระจันทร พระ
อาทติ ยค์ งเรยี กวา่ ราหู หางเรยี กเกตุ

นับเป็ น เทวดาอกี องคห์ นงึ่ ในสาํ รับเนาว
นด้ี ว้ ย

109

110

111

112

113

114

115

116

117

118

119

120

121

122

123

124

125

126

127

128

พระคาถาบชู าทกั ษา

พระตารา พระราชพธิ จี กั รพรรดริ าชาธริ าช อยธุ ยา

พระราชครวู ามเทพมนุ ี ไดเ้ ขยี นอธบิ ายไวว้ า่ พระคาถาบชู า

ทกั ษา ของโบราณอยใู่ นพระตํารา พระราชพธิ จี ักรพรรดริ าชาธริ าช ซงึ่

ไดป้ ระกอบพธิ ขี น้ึ เมอ่ื ครัง้ สมเด็จพระเจา้ จักรพรรดริ าชาธริ าชสมยั

อยธุ ยา และมาในกรงุ รัตนโกสนิ ทรก์ ไ็ ดป้ ระกอบพระราชพธิ นี ขี้ นึ้ อกี ครัง้

หนง่ึ เมอ่ื ครัง้ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลก20

20 คมั ภรี เ์ ฉลมิ ไตรภพ ทรี่ ะลกึ ในงานฌาปนกจิ ศพ นางนครสวรรคว์ รพนิ ติ (เจา้ กรม)
จัน อนัคฆมนตรี พ.ศ 2511, หนา้ 52-53

129

พระราชครวู ามเทพมนุ ี

(สมจติ ต์ รงั สพิ ราหมณกลุ )
[พ.ศ. 2466 - 2521]

130

131

พระคาถาบชู าทกั ษา

พระตารา พระราชพธิ จี กั รพรรดริ าชาธริ าช อยธุ ยา

คาถาบชู าพระอาทติ ย์

พระอาทติ ยจ์ ะ มัสมญิ จะ
พทุ ธะคนุ ัญจะ ธมั มะะคนุ ัญจะ สงั ฆะคนุ ัญจะ

สพั พะทกุ ขงั ปะมญุ จะเย
สพั พะโรคัง ววิ ชั ชะเย
สพั พะลาภงั ภะวันตเุ ม
(สวด ๖ จบ)

คาถาบชู าพระจนั ทร์

พระจนั ทิ มสั มญิ จะ
พทุ ธะคนุ ัญจะ ธัมมะะคนุ ัญจะ สงั ฆะคนุ ัญจะ

สพั พะทกุ ขงั ปะมญุ จะเย
สพั พะโรคงั ววิ ชั ชะเย
สพั พะลาภัง ภะวันตเุ ม
(สวด ๑๕ จบ)

132

คาถาบชู าพระองั คาร

พระองั คาร มสั มญิ จะ
พทุ ธะคนุ ัญจะ ธมั มะะคนุ ัญจะ สงั ฆะคนุ ัญจะ

สพั พะทกุ ขงั ปะมญุ จะเย
สพั พะโรคงั ววิ ชั ชะเย
สพั พะลาภงั ภะวนั ตเุ ม
(สวด ๘ จบ)

คาถาบชู าพระพธุ

พระพธุ มสั มญิ จะ
พทุ ธะคนุ ัญจะ ธมั มะะคนุ ัญจะ สงั ฆะคนุ ัญจะ

สพั พะทกุ ขงั ปะมญุ จะเย
สพั พะโรคงั ววิ ัชชะเย
สพั พะลาภัง ภะวันตเุ ม
(สวด ๑๗ จบ)

คาถาบชู าพระเสาร์

พระโสระ มัสมญิ จะ
พทุ ธะคนุ ัญจะ ธมั มะะคนุ ัญจะ สงั ฆะคนุ ัญจะ

สพั พะทกุ ขงั ปะมญุ จะเย
สพั พะโรคงั ววิ ชั ชะเย
สพั พะลาภงั ภะวนั ตเุ ม
(สวด ๑๐ จบ)

133

134

คาถาบชู าพระพฤหสั

พระพฤหสั สะ มสั มญิ จะ
พทุ ธะคนุ ัญจะ ธัมมะะคนุ ัญจะ สงั ฆะคนุ ัญจะ

สพั พะทกุ ขงั ปะมญุ จะเย
สพั พะโรคัง ววิ ชั ชะเย
สพั พะลาภัง ภะวันตเุ ม
(สวด ๑๙ จบ)

คาถาบชู าพระราหู

พระราหู มัสมญิ จะ
พทุ ธะคนุ ัญจะ ธมั มะะคนุ ัญจะ สงั ฆะคนุ ัญจะ

สพั พะทกุ ขงั ปะมญุ จะเย
สพั พะโรคัง ววิ ัชชะเย
สพั พะลาภงั ภะวนั ตเุ ม
(สวด ๑๒ จบ)

คาถาบชู าพระศกุ ร์

พระศกุ ร์ มสั มญิ จะ
พทุ ธะคนุ ัญจะ ธมั มะะคนุ ัญจะ สงั ฆะคนุ ัญจะ

สพั พะทกุ ขงั ปะมญุ จะเย
สพั พะโรคงั ววิ ชั ชะเย
สพั พะลาภงั ภะวนั ตเุ ม
(สวด ๒๑ จบ)

135

136

หนงั ใหญใ่ นประเทศไทยมแี ค่ ๓ แหง่ คอื
วดั ขนอน ราชบรุ ี

วดั บา้ นดอน ระยอง
และวดั สวา่ งอารมณ์ สงิ หบ์ รุ ี

เทา่ นน้ั หรอื ?

จากความอยากรวู ้ า่ หนังใหญ่ มหรสพหลวงทย่ี งิ่ ใหญ่ ใน
ราชปู ถมั ป์ ทถี่ า่ ยเทมาเป็ นมหรสพราษฎรใ์ ตค้ วามดแู ลของ
สมภารเจา้ วดั ในชมุ ชน มอี ยทู่ ไ่ี หนอกี บา้ ง น่ันคอื คําถามความ
สงสยั จนกลายมาเป็ นงานคน้ ควา้ ศกึ ษาหนังใหญค่ รัง้ น้ี และเป็ น
จดุ เรมิ่ ตน้ ของการแสวงหาคณุ คา่ ของมรดกภมู ปิ ัญญาทาง
วฒั นธรรมไปตลอดชวี ติ
ในชว่ งสมยั รัตนโกสนิ ทรพ์ บวา่ มคี ณะหนังใหญต่ งั้ อยใู่ น
ชมุ ชนจํานวนไมน่ อ้ ยกวา่ ๒๐ แหง่ ไดร้ ับสบื ทอดมาจากในราช
สํานักตงั้ แตส่ มยั อยธุ ยาตอ่ เนอ่ื งมาถงึ สมยั รัตนโกสนิ ทร์ โดยมวี ดั
เป็ นศนู ยก์ ลางชมุ ชนและมเี จา้ อาวาสเป็ นเจา้ ผอู ้ ปุ ภมั ป์ หรอื กอ่ ตงั้
ซง่ึ หนังใหญใ่ นชมุ ชนไดร้ ับความนยิ มตงั้ แตส่ มยั รัชกาลที่ ๕
จนถงึ สมยั รัชกาลที่ ๘ จงึ ยตุ ลิ งชว่ั ขณะและเรมิ่ ฟ้ืนฟขู น้ึ มาอกี ครัง้
ในปี พ.ศ.๒๕๑๘ ชว่ งสมยั รัชกาลที่ ๙

137

ผลการสํารวจขอ้ มลู ศลิ ปการแสดงหนังใหญเ่ ฉพาะใน
ชมุ ชน ๙ จงั หวดั ของประเทศไทย ประกอบดว้ ย ราชบรุ ี ระยอง
สงิ หบ์ รุ ี กรงุ เทพมหานคร อยธุ ยา ลพบรุ ี อา่ งทอง สมทุ รสงคราม
และเพชรบรุ ี

พบชมุ ชนหนังใหญ่ ทปี่ รากฏหลกั ฐาน อาทิ วดั ขนอน
ราชบรุ ,ี วดั บา้ นดอน ระยอง , วดั สวา่ งอารมณ์ สงิ หบ์ รุ ี , วดั บา้ น
อฐิ อา่ งทอง, วดั ตะกู อยธุ ยา, วดั พระญาตกิ าราม อยธุ ยา,
วดั กษตั ราธริ าชวรวหิ าร, ครวู น เกดิ ผล อยธุ ยา, วดั ตะเคยี น
ลพบรุ ,ี วดั โบสถโ์ กง่ ธนู ลพบรุ ,ี วดั บางนอ้ ย.สมทุ รสงคราม
, วดั ราษฏรบ์ รู ณะ, วดั พลบั พลาชยั .เพชรบรุ ี

นอกนยี้ งั มี ชมุ ชนหนังใหญท่ หี่ ลกั ฐานยงั ไมป่ รากฏชดั
และคน้ พบเพมิ่ เตมิ หลงั จากสํารวจภาคสนาม อกี จํานวนไมน่ อ้ ย
กวา่ 14 ชมุ ชน

แมว้ า่ งานคน้ ควา้ ศกึ ษาครัง้ นจี้ ะรวบรวม ประวตั คิ วาม
เป็ นมาของชมุ ชนหนังใหญใ่ นอดตี และปัจจบุ นั ไวไ้ ดม้ าก
พอสมควรแลว้ ก็ตาม แตก่ ารเรยี นรศู ้ กึ ษาหนังใหญย่ งั ไมส่ นิ้ สดุ
หากแตเ่ ป็ นเพยี งแคจ่ ดุ เรม่ิ ในการมองภาพกวา้ งของหนังใหญ่
เป็ นหมดุ ปักแผนทใี่ หผ้ สู ้ นใจ ไดแ้ สวงหาความรเู ้ ชงิ ลกึ ในแตล่ ะ
ชมุ ชนหนังใหญ่ เพอ่ื เป็ นคลังมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรม และ
คนื ความรสู ้ ชู่ มุ ชนตอ่ ไป

ผเู ้ ขยี นไดเ้ สนอแนะประเด็นงานศกึ ษาหนังใหญจ่ ํานวน
หนง่ึ เพอื่ เป็ นแนวทาง และพรอ้ มใหค้ ําแนะนําหรอื รว่ มสนับสนุน
ตามกําลงั ความสามารถ เพอ่ื ใหก้ ารแสดงหนังใหญร่ วมถงึ
ศลิ ปการแสดงไทยทกุ แขนงในแตล่ ะชมุ ชน ยนื หยดั อยไู่ ดอ้ ยา่ ง
ยนื ยาวและมศี กั ดศ์ิ รี

138

งานคน้ ควา้ ศกึ ษาครัง้ นจ้ี งึ เป็ นจดุ สําคญั ทภ่ี าครัฐคอื กรม

สง่ เสรมิ วฒั นธรรม กระทรวงวฒั นธรรม ไดต้ ระหนักถงึ

ความสําคญั มอบโอกาสและทนุ สนับสนุนใหผ้ เู ้ ขยี นไดส้ ง่ ตอ่

ความรเู ้ รอ่ื งหนังใหญท่ งั้ หมดใหแ้ กส่ าธารณะชนตอ่ ไป

โครงการรวบรวมและจดั เกบ็ มรดกภมู ปิ ัญญาทาง
วฒั นธรรม “หนังใหญ”่ สําเร็จลลุ ว่ งไดด้ ี ผเู ้ ขยี น ขอบพระคณุ
กรมสง่ เสรมิ วฒั นธรรม กระทรวงวฒั นธรรม คณะกรรการ
ผทู ้ รงคณุ วฒุ ิ อาทิ รศ.ณรงคช์ ยั ปิฎกรัชต,์ ผศ.เรณู อรรฐาเมศร์
อ.กลุ วดี เจรญิ ศรี อ.ชพู นิ จิ เกษมณี รศ.ชชั ชยั โกมารทตั
และอ.บญุ ชยั ทองเจรญิ บวั งาม เป็ นตน้ ทใี่ หท้ งั้ คําปรกึ ษา

แนะนําพรอ้ มใหโ้ อกาสยง่ิ ใหญ่ และงบประมาณสนับสนุนการ

จัดเกบ็ ขอ้ มลู ในครัง้ น้ี

ขอกราบขอบพระคณุ ทป่ี รกึ ษาโครงการ ครวู รี ะ มเี หมอื น
ผเู ้ มตตาใหค้ วามรเู ้ ปิดโลกกวา้ งหนังใหญแ่ ละชว่ ยเหลอื ทกุ

กระบวนการอยา่ งมเี มตตาสงู ยงิ่ ขอบพระคณุ อาจารย์
อานนั ท์ นาคคง ทใ่ี หค้ วามรมู้ าตลอดทงั้ ชวี ติ

กราบขอบพระคณุ อาจารยช์ นะ กรํา่ กระโทก, ครนู อ้ ย-อภิ

เชษฐ์ เทพครี ี ศาสตราจารยส์ กุ ญั ญา สจุ ฉายา, อาจารยเ์ อนก

นาวกิ มลู , รศ.อมรา กลํา่ เจรญิ หมอ่ มหลวงวลั ยว์ ภิ า จรญู

โรจน์ บรุ ษุ รัตนพันธ,ุ์ ครกู ํานันสําราญ เกดิ ผล ศลิ ปินแหง่ ชาต,ิ

ครสู งดั ใจพรหม, ครสู มพร เกตแุ กว้ ,ครอู ําไพ บญุ รอด,พันเอก

อํานาจ พกุ ศรสี ขุ

ขอบพระคณุ ขอ้ มลู สําคญั จาก ผศ. ดร. อนุกลู โรจนสขุ
สมบรู ณ์, อาจารยร์ ัตนพล ชน่ื คา้ , อาจารยพ์ ชิ ชาณัฐ ตจู ้ นิ ดา

139

ขอบพระคณุ ผใู ้ หข้ อ้ มลู อาทิ ลงุ กรนุ่ นาควล,ี ครู
หม-ู จฬรรณ์ ถาวรนุกู ลพงศ,์ รศ.บญุ เสรมิ ภสู่ าล,ี ลงุ
เปรม หาเรอื นชพี , ครพู ศิ ภมู จิ ติ รมนัส , ลงุ อ๊ดี -รตต.วชั ระ
พจนยี ,์ ครู วลั ลภ แสงอรณุ , ลงุ หนอม-ครอู าวธุ ศภุ
นคร, ครอํานาจ มณีแสง, ครเู สถยี ร มณีแสง

ขอบพระคณุ ผคู ้ นในชมุ ชนหนังใหญอ่ าทิ วดั ขนอน วดั คง
คาราม ราชบรุ ,ี วดั บา้ นดอน ระยอง, วดั สวา่ งอารมณ์ สงิ หบ์ รุ ,ี วดั
บา้ นอฐิ อา่ งทอง, วดั สําราญ วดั ตะเคยี น วดั โบสถ์ โกง่ ธนู ลพบรุ ,ี
วดั พระญาตกิ าราม วดั กษัตราธริ าชวรวหิ าร, วดั ตะกู ครวู น เกดิ ผล
อยธุ ยา, วดั พระเชตพุ นฯ กรงุ เทพฯ, วดั บางนอ้ ย สมทุ รสงคราม
วดั พลบั พลาชยั เพชรบรุ ี และชมุ ชนออนไลน์ ชมุ ชนตามรอยหนัง
ใหญ่ และชมุ ชนคนรักหนังใหญ่ ๙ แผน่ ดนิ เป็ นตน้

กราบขอบพระคณุ คณุ บดิ ามารดาครบู าอาจารย,์
กลั ยาณมติ ร ญาตพิ น่ี อ้ งครอบครัว ผมู ้ พี ระคณุ ทสี่ นับสนุน
ชว่ ยเหลอื เออ้ื เฟ้ือทกุ ทา่ น

หากการศกึ ษาคน้ ควา้ หนังใหญน่ ม้ี สี ง่ิ ดงี ามยงั ประโยชน์
อนั ใด ผเู ้ ขยี นขอมอบอทุ ศิ ใหพ้ ระวญิ ญาณและดวงวญิ ญาณของ
พระมหากษัตรยิ ์ พระราชวงศท์ กุ ยคุ สมยั ครเู ทพครมู นุษย์ พระครู
สมภารครบู าอาจารย์ นายหนัง คนหนังทกุ ผทู ้ กุ นาม ทไี่ ดส้ บื สาน
การละเลน่ หนังใหญม่ าสบู่ รรพชน

140

141

เบกิ โรงหนงั ใหญ่

หนังใหญค่ อื ศลิ ปะการแสดงไทย ทมี่ คี วามยง่ิ ใหญ่
อศั จรรยส์ บื เนอื่ งมาแตค่ รัง้ บรรพกาล มหี ลกั ฐานวา่ เป็ นมหรสพ
หลวงดงั่ เครอ่ื งราชปู โภค ภายใตร้ าชปู ถมั ป์ ของพระมหากษัตรยิ ์
ปรากฏในหลกั ฐานตงั้ แตค่ รัง้ ตน้ กรงุ ศรอี ยธุ ยาจนถงึ รัตนโกสนิ ทร์
ครัน้ อยใู่ นราชสํานักกเ็ ป็ นการละเลน่ เพอ่ื ยอยศพระเจา้ แผน่ ดนิ ดง่ั
เป็ นสมมตุ เิ ทพดจุ นารายณ์อวตาร ตามความเชอ่ื ในลทั ธพิ ราหมณ์
เป็ นสอื่ ทรงพลงั ทค่ี รองใจใหค้ วามสขุ ระหวา่ งราชสํานักกบั
ประชาราษฎร์ ใหไ้ ดบ้ นั เทงิ เรงิ ใจ พรอ้ มแทรกหลกั ตําราพชิ ยั
สงคราม จดั ทพั จบั แมไ่ มก้ ระบก่ี ระบองเพอ่ื เตรยี มพรอ้ มสรรพยทุ ธ
เมอ่ื หนังใหญถ่ า่ ยเทมาสทู่ วยราษฏร์ วดั และบา้ น พระครสู มภาร
ทา่ นเสรมิ สอ่ื เป็ นอปุ รากรสอนหลกั พทุ ธรรม ควบขนานไปกบั
ความบนั เทงิ

142

หนังใหญ่ จําแนกอยใู่ นการละเลน่ หนุ่ แสงเงา ทอ่ี าศยั แรง
ผชู ้ ายเชดิ เตน้ เอนไหว เดมิ มแี สงสอ่ งสวา่ งจากไฟกะลามะพรา้ ว
คบไต ้ หรอื ตะเกยี งลาน เกดิ เงาตอ้ งกระทบจอผา้ ขาวขอบขลบิ
แดง ผนื หนังสว่ นใหญท่ ําจากหนังววั สงู ใหญร่ าว ๑-๒ วา ฉลปุ รุ
สลกั ลวดลายตวั ละครรามเกยี รต์ิ พระนางยกั ษ์ลงิ สงิ สาพลบั พลา
ป่ าเมอื งเป็ นปฐม แตม้ หลากหลายสเี บญจรงคแ์ ซมปิดทอง
เรยี กวา่ หนังกลางวนั เลน่ งานมงคล หากแตม้ เพยี งสขี าวดําเขมา่
หมอ้ ขา้ วเรยี กวา่ หนังกลางคนื เลน่ งานอวมงคล มที งั้ หนังเฝ้า
หนังคเนจร หนังโกง่ หนังแผลง หนังเมอื ง หนังจับ หนังรถ หนัง
เตยี วฯลฯ คนพากยเ์ จรจาตะโกนกอ้ งสองฟากจอ ป่ีพาทย์ ระนาด
ฆอ้ ง ตะโพน กลองทดั กลองตง๋ิ ฉงิ่ โกรง่ ปี่กลาง เคลา้ คลอ
ประจนั หนา้ ประเลงโหมโรงตอนคํา่ นายหนังเบกิ หนา้ พระ ตระ
หนังเจา้ อศิ วร นารายณ์ ฤาษี แลว้ เบกิ โรง เฉกเชน่ จับลงิ หวั คํา่
ลงิ ขาวลงิ ดํา จงึ เขา้ เรอื่ ง ศกึ กภุ กรรณ อนิ ทรชติ ศกึ วริ ญุ จําบงั ศกึ
วริ ญุ มขุ ศกึ ทศกรรณฐ์ ตอนนางลอย พระรามลงสรง ฯลฯ จะศกึ
ใดตอนใดแลว้ แตเ่ หลา่ คณะ ชาวหนังและโอกาสเออื้ อํานวย

ขนบแตก่ าลกอ่ น เรม่ิ เลน่ มหรสพหลวงหรอื ราษฏรค์ ราใด
หนังใหญจ่ ะเลน่ เป็ นลําดบั แรกแลว้ ถงึ ตอ่ ดว้ ยโขน ละคร อกี ทงั้
แฝงปรัชญาความเชอื่ ศรัทธา เรอ่ื งสมมตุ เิ ทพของ
พระมหากษัตรยิ ์ ดง่ั การอวตารของพระนารายณ์เพอ่ื มาปราบทกุ ข์
บํารงุ สขุ ทวยราษฏรต์ ามลทั ธพิ ราหมณ์ภายใตร้ าชปู ถมั ป์ พระเจา้
แผน่ ดนิ ครัน้ หนังใหญอ่ ยใู่ ตก้ ารดแู ลของบา้ นวดั วาอาราม ก็เป็ น
มหรสพธรรม และอปุ รากรสอนธรรม เครอ่ื งมอื สอ่ื ชนั้ เลศิ ในการ
เผยแผห่ ลกั ธรรมะ ทําดลี ะชว่ั ศลี หา้ ฆราวาสไปถงึ มรรคาปรมตั ถ์

143

จากหนังววั สน้ิ ขยั ในวถิ พี ทุ ธเกษตร ของทวยราษฏร์
ถวายใหว้ ดั จดั สรา้ งสลกั เป็ นตวั หนังหวงั บญุ หนังเหลา่ นอ้ี ศั จรรย์
ไดร้ ับเกยี รตจิ์ ําแลง สําแดงใหเ้ จา้ ฟ้าเจา้ แผน่ ดนิ ทอดพระเนตร

รวมทงั้ ชาวประชาทกุ ยอ่ มหญา้ ไดร้ นื่ รมย์ หนังใหญแ่ ตล่ ะตวั หาก
รักษาดอี ยไู่ ดห้ ลายชว่ั อายคุ น จงึ เป็ นศลิ ป์ ทผ่ี สู ้ รา้ งตงั้ ใจสง่ ทอด

ตอ่ ใหบ้ รรพชน

หนังใหญจ่ งึ ไมใ่ ชม่ หรสพทใี่ หแ้ คค่ วามบนั เทงิ รน่ื เรงิ แค่
เพยี งภายนอกเทา่ นัน้ แตบ่ รรพชนไดร้ ังสรรคม์ รดกภมู ปิ ัญญา
ซอ่ นขา้ งในไวอ้ ยา่ งอศั จรรย์
ทราบกนั ทว่ั ไปเพยี งแตว่ า่ ปัจจบุ นั ประเทศไทย มหี นัง
ใหญ่ ๓ คณะ ทไี่ ดร้ ับการอปุ ภมั ป์ ฟื้นฟจู ากชมุ ชนและนักวชิ าการ
คอื วดั ขนอน จงั หวดั ราชบรุ ี วดั บา้ นดอน จงั หวดั ระยองและวดั
สวา่ งอารมณ์ จังหวดั สงิ หบ์ รุ ี ทยี่ งั คงเปิดการแสดงในวาระพเิ ศษ
บา้ งบางครัง้ และสาธติ ใหน้ ักทอ่ งเทยี่ วชนื่ ชมอยา่ งยน่ ยอ่ ใน
วนั หยดุ เสาร์ หรอื อาทติ ย์ รวมถงึ เปิดเป็ นพพิ ธิ ภณั ฑห์ นังใหญใ่ ห ้
เยยี่ มชม

จากการคน้ ควา้ เบอ้ื งตน้ ของผเู ้ ขยี น พบวา่
แหลง่ ขอ้ มลู ความรเู ้ รอ่ื งหนังใหญเ่ บอ้ื งตน้ ไมไ่ ดม้ เี พยี งแค่ ๓
ชมุ ชนขา้ งตน้ เทา่ นัน้ แตย่ งั มที งั้ ผคู ้ นและชมุ ชนจํานวนกวา่ ๓๔
แหง่ ใน ๙ จงั หวดั อาทิ ชมุ ชนหนังใหญว่ ดั พลบั พลาชยั เพชรบรุ ,ี
หนังใหญว่ ดั บางนอ้ ย หนังใหญ(่ ครดู )ี วดั ราษฎรบ์ รู ณะ
สมทุ รสงคราม, หนังใหญว่ ดั โบสถ์ โกง่ ธนู, หนังใหญว่ ดั ตะเคยี น
ลพบรุ ,ี หนังใหญว่ ดั บา้ นอฐิ อา่ งทอง, หนังใหญว่ ดั พระญาตกิ า
ราม-หนังใหญว่ ดั ตะก-ู หนังใหญค่ รวู น อยธุ ยา เป็ นตน้ ซง่ึ ลว้ นมี
ความเกย่ี วขอ้ งกบั เรอื่ งราวของหนังใหญ่ มากบา้ งนอ้ ยบา้ ง ตามที่
พอจะเหลอื รอ่ งรอยปรากฏอยู่

144

ความเป็ นมาหนงั ใหญ่

หนังใหญเ่ ป็ นศลิ ปการแสดงทเ่ี รยี กขานตามขนาดของรปู
ตวั ละครรามเกยี รต์ิ ปรสุ ลกั หนังววั ทนี่ ํามาเชดิ มองเห็นไดช้ ดั วา่ มี
ขนาดใหญร่ าว ๑-๒ เมตร ในพจนานุกรม ฉบบั ราชบณั ฑติ ยสถาน
พ.ศ. ๒๕๔๒ กลา่ ววา่ “หนังใหญค่ อื การมหรสพ อยา่ งหนงึ่ ใช ้
หนังสลกั เป็ นรปู ภาพขนาดใหญ่ กวา่ หนังตะลงุ มาก คบี ดว้ ยไมต้ บั
๒ อนั สําหรับจับเชดิ เชดิ ไดท้ งั้ หลงั จอ และหนา้ จอ ใชป้ ่ี พาทย์
และเกราะบรรเลงประกอบ ผเู ้ ชดิ กบั ผพู ้ ากยเ์ ป็ น คนละคนกนั ”

145

หนังใหญเ่ ป็ นมหรสพชนั้ สงู ทรี่ วมพธิ กี รรมและศลิ ปะไทย
หลายแขนงตามหลกั ชา่ งสบิ หมู่ เขา้ ไวด้ ว้ ยกนั และมกี ระบวนการ
ถา่ ยทอดทเี่ ป็ นระบบครบวงจร ประกอบดว้ ย หตั ถศลิ ป์ การ
สรา้ งสรรคว์ าด สลกั ปรลุ วดลายบนแผน่ หนัง นาฏศลิ ป์ การเชดิ
หนังแตล่ ะตวั พระ ยกั ษ์นาง ลงิ ฯ สหวชิ ารว่ มกบั โขน คตี ศลิ ป์

การพากย์ เจรจา ทตี่ อ้ งจดจําอยา่ งแมน่ ยําและมปี ฏภิ าณในการ
ดน้ สดใหเ้ หมาะสมกบั สถานการณ์ ดรุ ยิ างคศลิ ป์ การบรรเลง

เพลงป่ีพาทยป์ ระกอบการแสดงอยา่ งสอดคลอ้ งตอ้ งอารมณ์
และวรรณศลิ ป์ เรอื่ งราวแตล่ ะตอนของรามเกยี รติ์ โบราณจารย์
หนังใหญม่ งุ่ เนน้ ใหศ้ ษิ ยห์ รอื ศลิ ปินแตล่ ะคน ไดศ้ กึ ษา แบบเนน้

การปฏบิ ตั อิ ยา่ งเป็ นกระบวนการ ครบถว้ นทกุ แขนง แบบองคร์ วม
ทค่ี รบวงจร ทําใหเ้ ขา้ ใจในศาสตรอ์ ยา่ งลกึ ซง้ึ แตกฉาน

หนังใหญ่ เป็ นมหรสพหลวง ทมี่ หี ลกั ฐานการแสดงหนัง
ใหญค่ รัง้ สมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา อาทเิ ชน่ ในสมยั ของสมเด็จพระ
รามาธบิ ดที ี่ ๑ (พระเจา้ อทู่ อง) และสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
โปรดใหพ้ ระมหาราชครแู ตง่ สมทุ รโฆษคําฉันท์ เพอ่ื ใชแ้ สดง
หนังใหญ่ ตอ่ มาในสมยั รัตนโกสนิ ทรใ์ นสมยั สมเด็จพระพทุ ธยอด
ฟ้าจฬุ าโลกมหาราช ทรงพระราชนพิ นธบ์ ทละครเรอ่ื งอเิ หนา
เพอ่ื ใชแ้ สดงเพมิ่ จากเรอื่ งรามเกยี รติ์ สว่ นสมยั สมเด็จพระพทุ ธ
เลศิ หลา้ นภาลยั มหี ลกั ฐานการสรา้ งตวั หนังใหญช่ ดุ พระนครไหว
เป็ นตน้

146

โดยรวมแลว้ นักวชิ าการผเู ้ ชย่ี วชาญดา้ นประวตั ศิ าสตร์
หนังใหญห่ ลายทา่ นตา่ งมคี วามเห็นคลา้ ยกนั วา่ หนังใหญข่ อง
ไทย อาจมที มี่ าจาก ๓ แหลง่ ซง่ึ อาจเป็ นทงั้

โดยทางตรงหรอื โดยทางผา่ น คอื อนิ เดยี ทเี่ ป็ นตน้ แบบแมบ่ ท
นาฏศลิ ปะ ดนตรี วรรณกรรมทเ่ี ผยแพรม่ ายงั เอเชยี ตะวนั ออก
เฉยี งใต ้ สง่ ผา่ นมาทางวฒั นธรรมชวา จากดนิ แดนทะเลใต ้ ใน
สมยั ศรวี ชิ ยั และผสมผสานวฒั นธรรมเขมร ในราวพทุ ธ

ศตวรรษท่ี ๒๐

แผนผงั แนวคดิ ทม่ี าของหนังใหญ่

ชวา อินเดยี เขมร
[สง่ ผา่ น] [ต้นแบบ] [ผสมผสาน]

ไทย

หนังใหญ่

147

148

หนงั ใหญใ่ นประเทศไทย

ถงึ แมใ้ นสมยั สโุ ขทยั ไมม่ หี ลกั ฐานใดๆ ปรากฏจนเป็ นท่ี
ประจักษ์วา่ มมี หรสพหนังใหญ่ แตจ่ ากเคา้ โครงจากพระราชพธิ ี
๑๒ เดอื น ทไี่ ดร้ ับอทิ ธพิ ลมาจากศาสนาพราหมณ์ปรากฏพระราช
พธิ จี องเปรยี งลด ชดุ ลอยโคมลงนํ้า ในกฎมณเฑยี รบาล สมยั
พระเจา้ อทู่ อง (พ.ศ.๑๘๙๓ - ๑๙๑๒)

หากยอ้ นกลบั ไปสมยั อาณาจกั รสโุ ขทยั ในเวลาใกลก้ นั นัน้
พระยาลไิ ท (พระมหาธรรมราชาที่ ๑ พ.ศ. ๑๘๙๐ – ๑๙๑๙)นัน้
มกี ารแตง่ ตงั้ พราหมณ์ในราชสํานักในตําแหน่งพระศรมี โหรสถ
พระมหาราชครปู โุ รหติ เพอื่ ถวายความรู ้ คําปรกึ ษาราชการตา่ ง ๆ
และมกี ารพระราชพธิ ตี ามคําภรี พ์ ระเวท และพระราชพธิ สี บิ สอง
เดอื นและสมยั นม้ี สี รา้ งเทวรปู สมั ฤทธข์ิ นึ้ หลายองค์ เชน่ พระ
อศิ วร ..พระนารายณ์ เป็ นตน้

แลว้ ถา้ ยงิ่ ยอ้ นกลบั ไปถงึ ตน้ ทางทปี่ ระเทศอนิ เดยี นัน้ ชาว
ฮนิ ด-ู พราหมณ์ มเี ทศกาลงานสําคญั และประเพณีตา่ งๆทมี่ าจาก
เรอื่ งของพระรามทยี่ งั คงมอี ยจู่ นทกุ วนั นเี้ ชน่ เทศกาลวชิ ยั
ทศมี (Vijayadashami) หรอื ทศุ เศหร์ า( Dussehra) เป็ นงาน
เฉลมิ ฉลองใหญใ่ นชว่ งประมาณเดอื นตลุ าคม จัดขน้ึ เพอื่ ระลกึ ถงึ
ชยั ชนะของพระรามทม่ี ตี อ่ ราพณาสรู หรอื ทศกณั ฐ์ ในชว่ ง

เทศกาลนจี้ ะมกี ารแสดงทกุ ๆคํา่ คนื เรยี กวา่ รามลลี า (Rama
leela)จนกระทง่ั วนั สดุ ทา้ ยเรอ่ื งทแี่ สดงจะเป็ นตอนทพี่ ระราม
สงั หารทศกณั ฐซ์ งึ่ ตรงกบั วนั วชิ ยั ทศมพี อดี ถดั จากนัน้ อกี เดอื น
หนงึ่ เชอ่ื วา่ เป็ นวนั ทพี่ ระราม

149

เดนิ ทางกลบั ถงึ เมอื งอโยธยากม็ เี ทศกาล ทวิ าลี (Diwali) หรอื
เทศกาลลอยประทปี คลา้ ยๆกบั ลอยกระทงในบา้ นเรา ซง่ึ
ในชว่ งนชี้ าวอนิ เดยี จะลอยดวงไฟหรอื ประทปี ในแมน่ า้ และ
ตกแตง่ บา้ นดว้ ยดวงไฟประทปี ประดบั พรอ้ มกนั ทงั้ เมอื งเพอื่
เป็ นการเฉลมิ ฉลอง และตอ้ นรบั การกลบั มาของพระราม
นอกจากนยี้ งั มกี ารใหร้ ปู เคารพเทพเจา้ ทนี่ บั ถอื และขนม
มงคลแกก่ นั และกนั 21

จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ จะเห็นถงึ ความเกยี่ วเนอื่ งเชอื่ มโยงกนั
ของพระราชพธิ ี ๑๒ เดอื น ในสมยั อยธุ ยา และสโุ ขทยั ทม่ี เี คา้ ลาง
จากเทศกาลของชาวฮนิ ด-ู พราหมณ์ในประเทศอนิ เดยี ซงึ่ จะ
สงั เกตวา่ เทศกาลตา่ งๆเกดิ จากความศรัทธาในเรอื่ งของราม ซง่ึ
เป็ นตวั เอกในวรรณกรรมเรอื่ งรามเกยี รตข์ิ องไทย การแสดงหนัง
ใหญใ่ นชว่ งแรกทกี่ ลา่ ววา่ เป็ นการแสดงกงึ่ พธิ กี รรม หรอื การ
แสดงประกอบพธิ กี รรม จงึ น่าจะมเี คา้ โครงทมี่ าจากพระราชพธิ ี
เดอื น ๑๒ พระราชพธิ จี องเปรยี งลด ชดุ ลอยโคมลงนํ้า ตงั้ แต่
ครัง้ สมยั สโุ ขทยั อยธุ ยา จนมาถงึ สมยั รัตนโกสนิ ทร์

21Jay Chanon, รามายณะ มหากาพย์ท่เี ข้าไปน่ังในหวั ใจผู้คนจากภารตวรรษสู่สุวรรณภมู ิ
[ออนไลน์],16 ธนั วาคม 2556. แหลง่ ท่ีมา http://jaychanon.blogspot.com

150

หนงั ใหญส่ มยั อยธุ ยา

พ.ศ.๑๙๐๑ สมยั พระเจา้ อทู่ อง พระราชพธิ จี องเปรยี ง
ลดชดุ ลอยโคมลงน้ํา ในกฎมณเทยี ร
บาลอยธุ ยา กลา่ วถงึ หนังระบํา และหนัง
กลางคนื สมยั สมเด็จพระรามาธบิ ดที ี่ ๑
(พระเจา้ อทู่ อง : พ.ศ.๑๘๙๓ -
๑๙๑๒) พระราชพธิ จี องเปรยี งลด
ชดุ ลอยโคมลงน้ํา ในกฎมณ
เทยี รบาลอยธุ ยา“เดอื น ๑๒ การพทิ ธตี ร
องเปรยี ง ลดชดุ ลอยโคมลงน้ํา ตงั้ ระทา
ดอกไมใ้ นพระเมรุ์ ๔ ระทา หนงั ๒ โรง
เสดจล์ งเรอื เบญจา ๕ ชนั้ พระธนี่ ่ังชนั้ ๔
ชนั้ สมเดจพ์ ระอรรคมเหษีแมห่ ยวั เจา้
เมอื งชนั้ ๓ ลกู เธอชนั้ ๒ หลาน
เธอชนั้ หนง่ึ พระสนมหม่ ชมภใุ สส่ กุ หรํา่
ประธบี ทงั ๕ ชนั้ เรอื ปลาลกู ขนุ เฝ้าหนา้
เรอื เบญจา เรอื ตะเขแ้ นมทงั สอง
ขา้ ง ซา้ ยดนตรขี วามโหรี ตงั้ เรอื เอนเปน
ตงั้ แพนโคมทกุ ลํา ถา้ เสดจ์ ลงเป่ าแต
โห่ ๓ ลา เลน่ หนงั ระบา เลย้ี งลกู ขนุ แล
ฝ่ ายในครัน้ เลย้ี งแลว้ ตดั ถมอแกเ้ อนโห่ ๓
ลา เรอื เอนตงั้ แพนเหต่ ดั ถมอลอบเรอื
พระธนี่ ั่งลอ่ ง ลงไปสง่ นํ้า ครัน้ ถงึ วดั พทุ
ไธสวรรค22 จดุ ดอกไม ้ เลน่ หนงั เสดจ์
ลงเรอื สมรรถไชย กบั สมเดจพ์ ระภรรยา
เจา้ ทงั ๔ ลกู เธอหลานเธอพระสนม ลง
เรอื ประเทยี บขนึ้ มาขา้ งเกาะแกว้ ”

22สร้างเมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๖


Click to View FlipBook Version