The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-10-26 01:46:43

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

301

อนิ ทรชติ กาลงั แผลงศรพรหมาสตร์

302

ศรพรหมาสตรก์ าลงั ออกจากแหลง่ ไลข่ า้ ศกึ

303

พระลกั ษณถ์ กู ศรพรหมาสตร์

304

หนมุ านตอ่ สกู้ บั อนิ ทรชติ ตวั แปลง

305

หนมุ านกระโดดเขา้ หกั คอชา้ งเอราวรรณ

306

อนิ ทรชติ เงอื้ ศรขน้ึ สดุ แรง

307

หนมุ านถกู ตดี ว้ ยศรพรหมาสตร์

308

อนิ ทรชติ ยกพลกลบั กรงุ ลงกา

309

พระรามกบั พลวานร

310

311

นะโม อนั วา่ นอ้ มนมสั การ
มอื ขา้ พเจา้ ทง้ั สบิ นวิ้ คอื เทยี นทอง
ตาขา้ พเจา้ ทงั้ สองคอื ดวงแกว้ อนั เรอื งฉาย
ขา้ พเจา้ ขอถวายปวงพระพทุ ธเจา้
ขา้ พเจา้ ขอทาการ จงประสทิ ธปิ ระการ
พระพทุ ธะคณุ งั
พระธรรมคณุ งั
พระสงั ฆคณุ งั
องั การพนิ ธุนาถงั อปุ ปนั นงั
พรหมสะหมั ปะตนิ ามาทกิ ปั เป
ปฐมงั ทสิ ะวา นะโมพทุ ธาะ

กราบ 3 หน

312

ภาพ ครเู ปรอื่ ง แสงเถกงิ

บรมครผู กู้ อ่ ตงั้ บรษิ ทั คณะชา่ ง ในตานาน สยามประเทศ

ภาพลายไทย

เรยี นรรู้ กั ษ์ ลายไทยเหลา่ เทพ รามเกยี รต์ิ งานชนั้ ครู ของ
ครเู ปรอื่ ง แสงเถกงิ และเหลา่ คณะชา่ ง

313

314

315

316

317

318

319

320

321

322

323

324

325

326

327

328

329

330

331

332

333

334

335

336

337

338

เบกิ โรงพริ าพ ร.6

ในหนังสอื อธบิ ายพระราชนพิ นธใ์ นพระบาทสมเด็จพระ
มงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั หมวดข.ไข่ โขน ละคร ทหี่ มอ่ มหลวงป่ิน
มาลากลุ เป็ นผเู ้ รยี บเรยี งและรวบรวมไว ้ หนา้ ที่ 7 ไดบ้ อกไวว้ า่

"เบกิ โรงพริ าพ ยงั หาตน้ ฉบบั พระราชนพิ นธเ์ รอ่ื งนไี้ มพ่ บ
แตช่ อื่ พริ าพปรากฏอยใู่ นบญั ชพี ระราชนพิ นธ์ ซงึ่ ผเู ้ รยี บเรยี ง
หนังสอื นไี้ ดท้ ําไวข้ ณะที่ รับราชการอยใู่ นพระราชสํานัก เมอ่ื พ.ศ.
2461 เนอื้ เรอื่ ง คงจะเป็ นตามพระราชนพิ นธร์ ามเกยี รต์ิ ในรัชกาล
ที่ 1 เลม่ ท่ี 21"

น่ันอาจเป็ นขอ้ มลู ทพี่ อจะสนั นษิ ฐานตน้ ทางไดว้ า่ เบกิ โรง
พระพริ าพนัน้ เป็ นพระราชดํารขิ องพระมหาธรี ราชเจา้ และบรมครู
ไดส้ านตอ่ รังสรรคง์ าน รําองคพ์ ระพริ าพ ขน้ึ ในลําดบั ถดั มา

339

คุณหญงิ นัฏกานุรักษ์ (เทศ นัฏกานุรักษ์)

บรมครูคุณหญงิ
ผู้อยู่เบอื้ งหลงั ราองค์พระพริ าพ

340

กาเนดิ บรมครคู ณุ หญงิ เทศ

คณุ หญงิ เทศ เป็ นบตุ รของนายเนยี ม และนางเมอื ง การ
สาสนะ เกดิ เมอื่ วนั ท่ี ๑๗ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๔๒๑ ตรงกบั วนั เสาร์
แรม ๔ คํา่ เดอื น ๙ ปีขาล มพี น่ี อ้ งรว่ มบดิ ามารดา คอื นายเขยี น
นางโหมด นางแมน้ ถงึ แกก่ รรมแลว้ ทงั้ สามคน

๑๐ ปี เขา้ อยใู่ นบา้ นเจา้ พระยาเทเวศรวงศว์ วิ ฒั น์

ชวี ติ ศลิ ปินของคณุ หญงิ เทศ เรม่ิ เมอ่ื อายุ ๑๐ ปี ไดเ้ ขา้ อยู่
ในบา้ นเจา้ พระยาเทเวศรวงศว์ วิ ฒั น์ (ม.ร.ว. หลาน กญุ ชร
(พระองคเ์ จา้ กญุ ชร) เป็ นทท่ี ราบทว่ั ไปอยแู่ ลว้ วา่ กรมพระพทิ กั ษ์
เทเวศรมลี ะครอยใู่ นวงั ตอ่ มาเมอื่ สนิ้ พระชนมแ์ ลว้ พระองคเ์ จา้ สงิ
หนาทฯ พระโอรสพระองคใ์ หญ่ ก็ไดท้ รงรับมรดกตกทอดมา และ
มหี มอ่ มชนั้ เล็กสองคนทม่ี ชี อื่ เสยี งปรากฏตอ่ มาเป็ นระยะยาวนาน
คอื หมอ่ มเข็ม หมอ่ มครา้ ม

เป็ นศษิ ยห์ มอ่ มครา้ มครยู กั ษ์

คณุ หญงิ เทศไดเ้ ขา้ เป็ นลกู ศษิ ยข์ องหมอ่ มครา้ ม ซงึ่
เป็ นครทู ส่ี อนการราไดท้ กุ ทาง แตท่ ม่ี ชี อ่ื เสยี งนน้ั ก็คอื เป็ น
ครยู กั ษ์ สว่ นหมอ่ มเข็มนัน้ เป็ นผมู ้ ชี อื่ เสยี งในทางครพู ระ หมอ่ ม
ครา้ มและหมอ่ มเข็มตอ่ มาไดเ้ ป็ นตวั ละครสําคญั ในคณะละครของ
เจา้ พระยาเทเวศร ฯ รนุ่ ใหญต่ วั ละครทสี่ ําคญั ๆรนุ่ เดยี วกนั น้ี กม็ ี
หมอ่ มพรอ้ ม ผมู ้ ชี อื่ เสยี งวา่ เป็ นอเิ หนา ทกี่ ลา่ วกนั วา่ เวลา "เขา้
เครอื่ ง" แลว้ งามไมม่ ผี ใู ้ ดเปรยี บเป็ นทโี่ ปรดปรานของพระบรม
วงศานุวงศแ์ ละเป็ นทนี่ ยิ มของคนทวั่ ไป สว่ นครนู างนัน้ กค็ อื
หมอ่ มเลอื่ น และหมอ่ มวนั มชี อื่ เสยี งวา่ เป็ นตวั บษุ บาทสี่ วยมาก
ทงั้ ในขบวนรําและในรปู โฉมทงั้ สองคน หมอ่ มเลอื่ นนัน้ สวยโดย

341

ธรรมชาตดิ ว้ ย หมอ่ มของเจา้ พระยาเทเวศรฯ รนุ่ ใหญท่ ก่ี ลา่ ว
มาแลว้ นก้ี ็ไดเ้ ป็ นครลู ะครตอ่ มา แตม่ หี มอ่ มเข็มคนเดยี วทม่ี ชี วี ติ
อยมู่ าจนกระทงั้ เจา้ พระยาเทเวศรฯ เลกิ การละครในตอนปลาย
รัชกาลท่ี ๕

ไดฝ้ ึ กหดั เป็ นยกั ษจ์ นชานชิ านาญ

คณุ หญงิ เทศตงั้ แตเ่ รมิ่ ฝึกหดั ละคร ก็มที ว่ งทวี า่ จะเป็ นตวั
เอก เป็ นลกู ศษิ ยค์ นสาคญั ของหมอ่ มครา้ ม ไดฝ้ ึกหดั เป็ น
ยกั ษ์จนชาํ นชิ าํ นาญ เมอ่ื เป็ นสาวรนุ่ อยมู่ กั จะแสดงเป็ นตวั รามสรู
รว่ มกนั กบั หมอ่ มละมยั กญุ ชร ณ อยธุ ยา ซง่ึ เป็ นหมอ่ มทย่ี งั มชี วี ติ
อยคู่ นหนง่ึ ของเจา้ พระยาเทเวศรฯ ในขณะนัน้ และหมอ่ มตว่ น ผู ้
ซงึ่ ไดม้ ารว่ มงานกบั คณุ หญงิ เทศ ในปัน้ ปลายของชวี ติ ในกรม
ศลิ ปากร หมอ่ มละมยั เป็ นตวั อรชนุ และหมอ่ มตว่ นเป็ นนางเมฆ
ขลา คณุ หญงิ เทศเป็ นตวั ละครทม่ี วี ยั สงู กวา่ หมอ่ มละมยั และ
หมอ่ มตว่ นเล็กนอ้ ย

“ป้ าไดร้ บั พร” เวน้ เป็ นหมอ่ มเจา้ พระยาเทเวศรฯ

ในบรรดาตวั ละครของเจา้ พระยาเทเวศรฯ ชนั้ สําคญั คอื
เป็ นตวั นายโรงตวั นางเอก นางรอง ตวั ยกั ษ์ทสี่ ําคญั ๆ ลว้ นได ้
เป็ นหมอ่ มของเจา้ พระยาเทเวศรฯ ทกุ คน ตามธรรมเนยี มในสมยั
นัน้ มคี นทเ่ี ป็ นตวั ละครชนั้ สําคญั ทไี่ มไ่ ดเ้ ป็ นหมอ่ มอยคู่ นเดยี ว
คอื คณุ หญงิ เทศ เป็ นทสี่ งั เกตแกค่ นทร่ี ปู ้ ระเพณีและทมี่ คี วาม
สนใจในการละครอยทู่ วั่ ไป

ไดเ้ คยมผี ถู ้ ามคณุ หญงิ เทศ ใหช้ แ้ี จงวา่ เพราะเหตใุ ดทา่ น
จงึ ไดร้ ับยกเวน้ (หรอื พลาดโอกาส แลว้ แตท่ ศั นะของบคุ คล) ใน

342

ขอ้ นอี้ ยคู่ นเดยี ว ผทู ้ ถ่ี ามนัน้ เป็ นลกู รนุ่ เล็กคนหนงึ่ ของเจา้ พระยา
เทเวศรฯ ไดใ้ ชว้ ธิ ถี ามใหค้ ณุ หญงิ เทศชแ้ี จง เสมอื นเป็ นเรอื่ ง
ประวตั ศิ าสตร์ ไมใ่ ชเ่ ป็ นเรอื่ งสว่ นตวั คณุ หญงิ เทศไดเ้ ลา่ ดว้ ย
อเุ บกขาธรรมวา่

"ป้ าไดร้ บั พร” (ป้า หมายถงึ ตวั คณุ หญงิ เทศพดู แกผ่ ถู ้ าม) เจา้
คณุ ทา่ นเป็ นคนดี ทา่ นเคยใหห้ าป้าขน้ึ ไป
ป้าไดเ้ รยี นถามทา่ นวา่
"ทา่ นอยากจะใชอ้ ฉิ นั ไหม"
ทา่ นตอบวา่
"ใชเ้ อ็งทาอะไร”
ป้ากเ็ รยี นทา่ นวา่
"ใชใ้ หเ้ ป็ นตวั ละครใหท้ า่ นนะ่ ซเิ จา้ คะ"
ทา่ นถามวา่
“ถา้ จะใชเ้ อ็งแลว้ จะตอ้ งทายงั ไง"
ป้าตอบทา่ นวา่

"ถา้ ทา่ นจะใหร้ บั ใชเ้ ป็ นละคร อฉิ นั ขอความกรณุ า
วา่ ถา้ อฉิ นั ออกจากบา้ นไป ขออยา่ ใหต้ อ้ งเอาผา้
คลมุ หนา้ ตง้ั แตน่ นั้ มาทา่ นก็ไมใ่ หห้ าป้ าขน้ึ ไปอกี
เลย"

คําพดู โตต้ อบกระหวา่ งคณุ หญงิ เทศกบั เจา้ พระยาเทเวศรฯ น้ี
เห็นจะไมต่ อ้ งอธบิ ายกค็ งจะเขา้ ใจกนั ได ้ นอกจากคําวา่ "ไดพ้ ร"
ซง่ึ ผอู ้ า่ นในปัจจบุ นั นอ้ี าจไมเ่ ขา้ ใจ ความหมายก็คอื ไดร้ ับสทิ ธิ

343

พเิ ศษเหมอื นเชน่ ทก่ี ลา่ วในวรรณคดวี า่ ผนู ้ ัน้ ผนู ้ ้ี “ ไดร้ บั พรจาก
พระอศิ วร" เป็ นตน้ สว่ นคําวา่ "ขอไมใ่ หต้ อ้ งเอาผา้ คลมุ หนา้ " ก็
คอื ขอใหไ้ ดอ้ อกไปอยา่ งเปิดเผย ไมต่ อ้ งแอบซอ่ น

ไดร้ บั เกยี รตยิ ศเชน่ เดยี วกบั หมอ่ ม

ควรจะกลา่ วดว้ ยวา่ ถงึ แมว้ า่ คณุ หญงิ เทศจะไมไ่ ดเ้ ป็ น
หมอ่ มของเจา้ พระยาเทเวศรฯ แตไ่ ดร้ ับเกยี รตยิ ศเชน่ เดยี วกบั
หมอ่ มของเจา้ พระยาเทเวศรฯ ทกุ อยา่ ง เป็ นตน้ วา่ ไดห้ บี หมาก
เงนิ มชี อื่ เจา้ พระยาเทเวศรฯ และอาภรณ์อนื่ ๆซง่ึ ใหแ้ กต่ วั ละคร
ทเี่ ป็ นหมอ่ มทกุ คน มที ไ่ี มไ่ ดร้ ับอยอู่ ยา่ งเดยี ว คอื กําไลเพชรเป็ น
ตวั อกั ษร เทเวศรวงศว์ วิ ฒั น์ ซงึ่ เจา้ พระยาเทเวศรฯ แจกแกภ่ รรยา
บางคนทไี่ ดป้ รนนบิ ตั ใิ กลช้ ดิ เทา่ นัน้ สว่ นลกู ๆ ของเจา้ พระยา
เทเวศรฯ นัน้ กย็ กยอ่ งคณุ หญงิ เทศเชน่ เดยี วกบั หมอ่ ม ๆ ของ
เจา้ พระยาเทเศรฯ ทวั่ ไป ผทู ้ เี่ กดิ แตม่ ารดาทอ่ี ายสุ งู กวา่ กเ็ รยี กวา่
นา้

ชอ่ื เดน่ เมอ่ื เป็ น ระตจู รกา กบั เจา้ เงาะ

คณุ หญงิ เทศไดม้ ามชี อ่ื เสยี งเดน่ ทสี่ ดุ ในสมยั ที่
เจา้ พระยาเทเศรฯ มลี ะครแบบทเ่ี รบี ยกวา่ ละครดกึ ดําบรรพ์ ซง่ึ
เป็ นทรี่ กู ้ นั ทวั่ ไปวา่ สมเด็จเจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ รานุวดั ตวิ งศ์ (ใน
สมยั ทด่ี ํารงพระอสิ รยิ ยศเป็ น กรมขนุ ) เป็ นทผ่ี ทู ้ รงปรับปรงุ ขนึ้
คณุ หญงิ เทศไดเ้ ป็ นตวั สําคญั คอื เป็ น ระตจู รกา กบั อกี ตวั หนงึ่ ที่
เดน่ มากคอื ตวั เจา้ เงาะ

344

เลน่ เสมอื นเป็ นหนง่ึ เดยี วกบั เจา้ เงาะ

ยอ่ มเป็ นทเี่ ลา่ กนั วา่ คณุ หญงิ เทศเป็ นเจา้ เงาะประดจุ เป็ น
ตวั ของตวั เอง มใิ ชเ่ ป็ นตวั ละคร ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งมชี วี ติ กระบองที่
เจา้ เงาะถอื เปรยี บเหมอื นสว่ นหนงึ่ ของตวั เจา้ เงาะเอง และเวลา
เลน่ บทลอ้ ทา้ วสามลนัน้ ทําใหเ้ กดิ ความขบขนั และความภาคภมู ิ
ซอ่ นอยใู่ นตวั มใิ ชเ่ งาะตลาดหรอื เงาะรปู ปัน้ กระดกิ ได ้ อยา่ งท่ี
มกั จะไดเ้ ห็นกนั อยอู่ ยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ บอ่ ยๆ

นางสรู ปนขาเป็ นหญงิ หนา้ ดา้ นดว้ ย

ตวั เดน่ อกี ตวั หนงึ่ หนงึ่ ในละครดกี ดําบรรพท์ คี่ ณุ หญงิ เทศ

แสดงกค็ อื นางสรู ปนขา เป็ นครัง้ เดยี วทแี่ สดงเป็ นตวั นาง เป็ น

นางยกั ษ์กษัตรยิ ท์ เ่ี อาใจตนเองเป็ นทต่ี งั้ แตค่ ณุ หญงิ เทศแสดง
ใหเ้ ห็นไดว้ า่ นางสรู ปนขาเป็ นหญงิ หนา้ ดา้ นดว้ ย และเป็ นนาง
ยกั ษ์ดว้ ย ซงึ่ ผแู ้ สดงตอ่ ๆมา มกั จะขนึ้ ถงึ บทบาทนไ้ี มค่ อ่ ยได ้
(เลน่ ไมถ่ งึ บท : ฉายศลิ ป์ )

อายุ 32 ปี ไดส้ มรสกบั พระยานฏั กานรุ กั ษ์

คณุ หญงิ เทศไดส้ มรสกบั พระยานัฏกานุรักษ์ (ทองดี
สวุ รรณภารต) พระยานัฏกานุรักษ์รับราชการอยใู่ นกรมมหรสพ ซงึ่
เจา้ พระยาเทเวศรฯ เป็ นผบู ้ งั คบั บญั ชา จนกระทงั้ เจา้ พระยา
เทเวศรฯ กราบถวายบงั คมลาออกจากราชการและเลกิ คะลร เมอ่ื
เจา้ พระยาเทเวศรฯ ออกจากราชการแลว้ ไปอยทู่ บ่ี า้ นใหมท่ ่ี
ตําบลคลองเตย คนในความคมุ ้ ครองทงั้ ทเี่ ป็ นภรรยา บตุ ร ตวั
ละคร และคนอนื่ ๆ กแ็ บง่ ออกเป็ น ๒ พวก พวกหนงึ่ คงอยทู่ บี่ า้ น

345

หมอ้ หรอื บา้ นเลขท่ี ๑๒๘ ถนนอษั ฎางคใ์ นปัจจบุ นั อกี พวกหนงึ่
ไปอยทู่ บี่ า้ นคลองเตย คณุ หญงิ เทศไปมาระหวา่ ง ๒ บา้ น จนกระ
ทงั้ คราวหนงึ่ ลาออกไปพักกบั ญาตอิ ยชู่ วั่ คราวพระยานัฏกานุรักษ์
ไดจ้ ดั การใหม้ ผี ไู ้ ปขอคณุ หญงิ เทศกบั ญาตทิ ค่ี ณุ หญงิ เทศพักอยู่
ดว้ ย แตญ่ าตไิ มย่ นิ ยอม ใหพ้ ระยานัฏกานุรักษ์สขู่ อตอ่ เจา้ พระยา
เทเวศรฯ ดงั ความปรากฏใจจดหมายในหนา้ ตอ่ ไปนี้

ภาพถา่ ยครอบครวั นฏั กานรุ กั ษ์

เรยี งจากซา้ ยไปขวา : ทองทศ (บตุ รสาวคนท่ี 1), คณุ หญงิ นัฏ
กานุรักษ์ ทองแลง่ (บตุ รทเ่ี กดิ จากภรรยาเกา่ ของพระยานัฏกานุ
รักษ์) ทองสงิ ห์ (บตุ รชายคนท่ี 3) พระยานัฏกานุรักษ์ และทอง
กร (บตุ รสาวคนที่ 2)

346

คณุ หญงิ เทศสมรสกบั พระยานัฏกานุรักษ์เมอ่ื อายุ ๓๒ ปี
สามมี บี รรดาศกั ดเิ์ ป็ นขนุ นัฏกานุรักษ์ มบี ตุ รทเี่ กดิ ดว้ ยกนั ๓ คน
คอื
๑. นางทองทศ สมรสกบั พันเอกพเิ ศษ พศิ พัฒนะ อมรวสิ ยั สรเดช
๒. นางสาวทองกร สวุ รรณภารต ขา้ ราชการบํานาญ สํานักงาน
คณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื น
๓. นายทองสงิ ห์ สวุ รรณภารต ขา้ ราชการไปรษณียโ์ ทรเลข

สว่ นบตุ รของพระยานัฏกานุรักษ์ทเ่ี กดิ แตภ่ รรยาเกา่ ชอื่
ทองแลง่ ไดร้ ับพระราชทานบรรดาศกั ดเ์ิ ป็ นหลวงไพจติ รนันท
การ ก็ไดฝ้ ึกหดั ละครมาในบา้ นเจา้ พระยาเทเวศรฯ ตงั้ แตอ่ ายุ
นอ้ ยๆ จงึ มคี วามสนทิ สนมกบั คณุ หญงิ เทศเป็ นอยา่ งดมี าตลอด
นับวา่ ในชวี ติ ครอบครัว คณุ หญงิ เทศไดร้ ับความสขุ จากการสมรส
ชนดิ ทเี่ ป็ น "คผู่ วั ตวั เมยี " สมความปรารถนา

นอกจากจะไดม้ ชี วี ติ สมรสทรี่ าบรน่ื แลว้ คณุ หญงิ เทศก็ยงั
ไดร้ ับผลบญุ อนั ดอี ยา่ งอน่ื ในรัชกาลที่ ๖ พระยานัฏกานุรักษ์
ไดร้ ับราชการในกรมมหรสพตลอดมา คณุ หญงิ เทศจงึ ไดเ้ ขา้ ไป
เป็ นครลู ะครหลวง และแสดงละครถวายตวั ในบทตา่ ง ๆ

เป็ นคณุ หญงิ กอ่ นพระยานฏั กานรุ กั ษไ์ ดเ้ ป็ นพระยา

ครัง้ หนงึ่ ไดแ้ สดงเป็ นทส่ี บพระราชหฤทยั มาก ไดท้ รงพระ
มหากระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานตรา จตตุ ถจลุ จอมเกลา้
แกค่ ณุ หญงิ เทศ คณุ หญงิ เทศจงึ ไดเ้ ป็ นคณุ หญงิ กอ่ นทพ่ี ระ
ยานฏั กานรุ กั ษไ์ ดเ้ ป็ นพระยา นับเป็ นเหตกุ ารณ์สําคญั ใน
ประวตั ศิ าสตรข์ องคณุ หญงิ เทศ ของวงงานศลิ ปินในประเทศไทย
และในประวตั ติ ราจลุ จอมเกลา้ ดว้ ย และไดเ้ ลอื่ นตราจลุ จอมเกลา้
เป็ นชนั้ ท่ี ๓ ในปี พ.ศ. ๒๔๖๒

347

นอกจากนัน้ ยงั ไดร้ ับพระราชทานเข็มพระปรมาภฺไธย ราม
ร.๒ ชนั้ ๒ เป็ นเกยี รตยิ ศพเิ ศษและยงั ไดร้ ับพระราชทานเสมา ร.ร.
๖ ชนั้ ๒ เข็มขา้ หลวงเดมิ คณุ หญงิ เทศซาบซง้ึ ในพระมหา
กรณุ าธคิ ณุ ในพระบาทสมเด็จพระมงกฏุ เกลา้ ฯ ยง่ิ นัก เมอ่ื ใดมี
ทางทจ่ี ะเผยพระเกยี รตคิ ณุ ได ้ เมอ่ื นัน้ ก็สรรเสรญิ ออกมาให ้
ปรากฏถวายความนับถอื เป็ นครใู นทางนาฏศลิ ปิน นอกไปจาก
ถวายความนับถอื ในฐานะเป็ นขา้ ทลู ละอองฯ ดว้ ยดอี โสดหนง่ึ

ไดร้ บั พระราชทานเจมิ ในวนั พระราชพธิ ไี หวค้ รู

เป็ นเหตใุ หค้ ณุ หญงิ เทศ กลา้ ครอบโขนใหแ้ กผ่ เู้ ป็ น
ศษิ ยไ์ ปจานวนหนง่ึ โดยแนใ่ จวา่ "จรญั ไรไมก่ นิ "

คณุ หญงิ เทศ มคี วามภาคภมู ใิ จอยา่ งยงิ่ ทไ่ี ดร้ ับ

พระราชทานเจมิ ในวนั พระราชพธิ ไี หวค้ รลู ะครครัง้ หนง่ึ การ
ไดร้ บั พระราชทานเจมิ นนั้ เป็ นเหตใุ หค้ ณุ หญงิ เทศ กลา้
ครอบโขนใหแ้ กผ่ เู้ ป็ นศษิ ยไ์ ปจานวนหนง่ึ โดยแนใ่ จวา่
"จรญั ไรไมก่ นิ " เพราะตามคตทิ างนาฏศลิ ป โขนนัน้ ตอ้ งใชค้ รู
ผชู ้ ายครอบ

นอกจากพระบาทสมเด็จพระมงกฏุ เกลา้ ฯ แลว้ สมเด็จ
พระศรพี ชั รนิ ทราบรมราชนิ นี าถ ก็ทรงพระกรณุ าคณุ หญงิ เทศ
วา่ จงรักภกั ดตี อ่ แผน่ ดนิ และไดร้ าชการ จงึ ทรงพระกรณุ า
พระราชทานหอ้ ยคอพระปรมาภไิ ธยยอ่ สผ. และเขม็ พระ
ปรมาภไิ ธย เสาวภา เป็ นเกยี รติ

348

สนิ้ ร. ๖ ออกจากราชการรบั บาเหน็จบา้ งบานาญ

สน้ิ รัชกาลที่ ๖ เพอ่ื ทจ่ี ะใหเ้ กดิ ดลุ ภาพในงบประมาณ
แผน่ ดนิ พระบาทสมเด็จพระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ดว้ ยพระราช
หฤทยั ทจี่ ะเสยี สละเพอ่ื ประโยชนข์ องประเทศชาติ ไดท้ รง
พจิ ารณาตดั ทอนการใชจ้ า่ ยในพระราชสํานักกอ่ นสว่ นราชการอนื่
ๆ ไดท้ รงพจิ ารณาตดั ทอนอตั ราและตําแหน่งราชการกนั อยา่ งที่

ไมเ่ คยมผี ใู ้ ดคาดคดิ ไว ้ ขา้ ราชการในกรมมหรสพไดอ้ อกจาก
ราชการโดยรับบําเหน็จบา้ งบํานาญบา้ ง พระยาและคณุ หญงิ นัก

กานุรักษ์กโ็ ดนมรสมุ เศรษฐกจิ ของชาตดิ ว้ ย ได ้ ออกไปรบั
พระราชทานบานาญอยู่ ตงั้ แต่ พ.ศ. ๒๔๖๙ จนถงึ พ.ศ.
๒๔๗๐ จงึ ไดก้ ลบั เขา้ รบั ราชการอกี ครง้ั หนงึ่

เพราะ นนทกุ ข์ จงึ ไดก้ ลบั มารบั ราชการกนั อกี

เหตทุ จ่ี ะกลบั เขา้ รับราชการในรัชกาลที่ ๗ นัน้ ม.จ.หญงิ
พนู พศิ มยั ดศิ กลุ ไดท้ รงพระกรณุ าตรัสเลา่ แกบ่ ตุ รคณุ หญงิ เทศ
วา่ ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ผสู ้ ําเร็จราชการอนิ โดจนี ฝรั่งเศสได ้
เขา้ มาเยอื นกรงุ เทพฯ สมเด็จกรมพระยาดํารงราชานุภาพไดท้ รง
จดั เลยี้ งประทานเป็ นเกยี รตทิ ว่ี งั ดศิ กลุ ตามธรรมเนยี ม และไดจ้ ัด
ละครตอน "ปราบนนทกุ ข"์ ใหช้ ม

คณุ หญงิ เทศแสดงเป็ นตวั นนทกุ ข์ ผสู ้ ําเร็จราชการอนิ
โดจนี มคี วามพอใจมาก เมอ่ื กลบั ไปแลว้ ไดส้ ง่ ของกํานันมหาให ้
คณุ หญงิ เทศ เป็ นกระเป๋ าถอื สําหรับงานราตรที ําดว้ ยกระ มเี พชร
ประดบั

349

ตอ่ จากนัน้ ผสู ้ ําเร็จราชการ ไดม้ โี อกาสเผา้ ทลู ละอองธลุ ี
พระบาท เมอ่ื ไดเ้ ฝ้าฯ กก็ ราบบงั คมทลู ชมเชยละครทไ่ี ดด้ ทู ่ี
วงั ดศิ กลุ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั มี พระราชดํารัชถาม
สมเด็จกรมพระยาดํารงฯ สมเด็จฯ จงึ กราบทลู ถงึ การแสดงของ
คณุ หญงิ เทศ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั มพี ระบรมราชราช
โองการใหส้ มเด็จกรมพระยาดํารงฯ จดั ละครตอนนัน้ ใหแ้ สดง
ถวาย สมเด็จกรมพระยาฯ ก็ไดท้ รงจัดถวายตามพระราชประสงค์

แตท่ รงเห็นวา่ ละครตอนนารายณ์ปราบนนทกุ ขน์ ัน้ สนั้ นัก

จงึ จัดตอน "เสนากฏุ เขา้ เมอื ง" เพม่ิ เตมิ โดยใหพ้ ระยานัฏกานุ
รักษ์เป็ นตวั ทา้ วเสนากฏุ พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั

ทอดพระเนตรละครทแี่ สดงถวายแลว้ จงึ มี พระบรมราชโองการ
ใหเ้ จา้ พระยาวรพงษพ์ พิ ฒั น์ เสนาบดกี ระทรวงวงั เรยี กพระ
ยาและคณุ หญงิ นฏั กานรุ กั ษ์ กลบั เขา้ รบั ราชการใน

กระทรวงวงั ในตาแหนง่ ผฝู้ ึ กละครหลวง

เปลย่ี นระบอบการปกครอง มาอยกู่ รมมศลิ ป์

ครัง้ ถงึ กาลเปลย่ี นระบอบการปกครอง มกี ารปรับปรงุ กรม
กองในราชกาลละครหลวงไดม้ าสงั กดั กรมศลิ ปากร พระยาและ
คณุ หญงิ นัฏกานุรักษ์ไดร้ ับราชการตอ่ มาจนครบเกษียณอายุ
ราชการ

สอนไดท้ กุ ทาง พระ ยกั ษ์ ลงิ นาง

คณุ หญงิ เทศมชี อื่ เสยี งวา่ เป็ นครผู หู ้ ญงิ ทสี่ อนการรําได ้
ทกุ ทาง กลา่ วคอื พระ ยกั ษ์ ลงิ และแม้ นาง ก็สอนไดด้ ว้ ย

350

เมอ่ื ครบเกษียณอายรุ าชการแลว้ คณุ หญงิ เทศ กไ็ ดท้ ํางานใน
ฐานะเป็ นลกู จา้ งวสิ ามญั ตอ่ มาอกี จนกระทง่ั ชราภาพไมอ่ ํานวย
ระหวา่ งทย่ี งั มกี ําลงั อยู่ ไมว่ า่ ผใู ้ ดจ ะขอความชว่ ยเหลอื ในเรอื่ ง
ฝึกซอ้ มละคร หรอื ขอใหอ้ อกความคดิ แนะนําเรอ่ื งใดทเ่ี กย่ี วกบั
งานละคร คณุ หญงิ เทศยอ่ มจะไมป่ ฏเิ สธเลย

เป็ นเจา้ เงาะคกู่ บั หมอ่ มตว่ น สมยั สงครามอนิ โดจนี

เชน่ เมอื่ พ.ศ. ๒๔๘๓ เกดิ สงครามระหวา่ งไทยกบั อนิ โด
จนี ของฝร่ังเศส ระหวา่ งทแ่ี นวหนา้ กําลงั รบพงุ่ กนั อยนู่ ัน้ พวกที่

อยแู่ นวหลงั กส็ นับสนุนการสงครามกนั ดว้ ยวธิ ตี า่ งๆ สตรี
บรรดาศกั ดคิ์ ณะหนง่ึ รว่ มกนั จัดการแสดงละครขน้ึ ทหี่ อประชมุ
จฬุ าลงกรณมหาวทิ ยาลยั เพอ่ื หาเงนิ สง่ ไปบํารงุ ขวญั ทหารใน
แนวหนา้ คณุ หญงิ เทศไดร้ ว่ มกจิ กรรมครัง้ นด้ี ว้ ยความเต็มใจ
ทงั้ ๆทอี่ ายุ ๖๒ ปีแลว้ โดยแสดงเป็ นเจา้ เงาะคกู่ บั หมอ่ มตว่ น
ซง่ึ แสดงเป็ นรจนา ในเรอ่ื งสงั ขท์ องตอนเสย่ี งพวงมาลยั การ
แสดงครัง้ นัน้ หลายคนพากนั เกรงวา่ คณุ หญงิ เทศจะเป็ นลม จงึ
ไมใ่ หส้ วมหวั เงาะใชว้ ธิ แี ตง่ หนา้ เป็ นเงาะแทนโดย อาจารยศ์ วิ
วงษ์ กญุ ชร เป็ นผแู ้ ตง่ ให ้ การแสดงครัง้ นัน้ เป็ นการออกโรงใหญ่
ครัง้ สดทา้ ย

เป็ นเจา้ เงาะครง้ั สดุ งานวนั เกดิ ม.ล.วราห์ กญุ ชร

ตอ่ จากนัน้ กไ็ มไ่ ดแ้ สดงทใ่ี ดอกี เลย นอกจากการแสดงรํา
เงาะตอนเสย่ี งพวงมาลยั อกี ครัง้ ในงานวนั เกดิ ของพระยาเทเวศ
รวงศว์ วิ ฒั น์ (ม.ล.วราห์ กญุ ชร) คกู่ บั ธดิ าของเจา้ ภาพ การรําครัง้
นัน้ เป็ นครัง้ สดุ ทา้ ยเหนอ่ื ยมาก เพราะทงั้ เจา้ ภาพและผแู ้ สดงอายุ


Click to View FlipBook Version