The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2021-10-26 01:46:43

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

พ่อแก่บรมครู ฉบับ 5

201

สว่ นความเชอ่ื เรอื่ งหนังสใี ชเ้ ลน่ งาน มงคล หนังขาวดําใช ้
เลน่ งาน อวมงคลนัน้ เป็ นเรอ่ื งของกาลเทศะคตคิ วามเชอื่ ของ
สงั คมไทยวงกวา้ ง สง่ิ ทม่ี หี ลากสยี อ่ มสรา้ งความรนื่ รมยใ์ นการพบ
เห็นมากกวา่ สขี าวดํา
สําหรับกรณีความเชอ่ื เรอ่ื งหนังมชี วี ติ หนังหนุมานวา่ งน้ํา
กลบั วดั หนังสดี าเกาะหางเสอื เรอื มาระยอง และหนังลงิ ขาวปีน
เสาจอได ้ เป็ นประสบการณ์ทม่ี ผี พู ้ บเห็นจรงิ เป็ นความมหศั จรรย์
ยากตอ่ พสิ จู นท์ างวทิ ยาศาสตร์ จงึ ขอยกเวน้ เป็ นกรณีพเิ ศษ

เก็บหนงั ใหญไ่ วท้ ว่ี ดั
เชอ่ื กนั วา่ หนังใหญน่ ัน้ ครแู รง หรอื ทเี่ รยี กกนั วา่ ครหู นัง
จงึ ไมน่ ยิ มเก็บรักษาไวท้ บ่ี า้ น ถงึ แมว้ า่ หลายชมุ ชน ผทู ้ เี่ ป็ น
เจา้ ของหนังใหญจ่ ะเป็ นชาวบา้ น เชน่ หนังใหญค่ รดู ี อมั พวา กไ็ ป
เกบ็ หนังใหญไ่ วท้ ว่ี ดั ราษฎรบ์ รู ณะ สมทุ รสงคราม และครฉู งิ่
พจนยี ์ กน็ ําหนังใหญข่ องตนเองไปเกบ็ ไวท้ ว่ี ดั พระญาตกิ าราม
อยธุ ยา และหนังใหญว่ ดั บา้ นอฐิ อา่ งทอง อาศยั บารมขี องสมภาร
เจา้ อาวาสและสง่ิ ศกั ดสิ์ ทิ ธภิ์ ายในวดั ชว่ ยคมุ ้ ครองป้องกนั รักษา
ตวั หนังและเครอื่ งประกอบการเลน่ หนัง หากมองในเชงิ บวก ผคู ้ น
ในชมุ ชนยอ่ มมคี วามรสู ้ กึ วา่ หนังใหญเ่ ป็ นสมบตั ขิ องรว่ มกนั และ
ในบรเิ วณวดั เออื้ ประโยชนส์ ะดวกตอ่ การถา่ ยทอด การฝึกซอ้ ม
รวมถงึ เป็ นเหมอื นตัวอยา่ งใหผ้ ทู ้ ม่ี าวดั เกดิ ความประทบั ใจและ
วา่ จา้ งคณะหนังใหญไ่ ปแสดงงานตา่ งๆตามความเหมาะสม

202

ลาดบั ขน้ั ตอนการแสดง

แบง่ เป็ นหนังกลางวนั และกลางคนื ดงั น้ี

การแสดงหนงั กลางวนั หรอื ระบาหนา้ จอ

๑. ระบําสบ่ี ท
๒. ชดุ เมขลา รามสรู

ทงั้ นไี้ มม่ หี ลกั ฐานระบวุ า่ โหมโรงหนังใหญต่ อนกลางวนั
ใชเ้ พลงอะไรและเรยี งลําดบั เพลงเหมอื นโหมโรงหนังใหญ่
กลางคนื หรอื ไม่ ตามธรรมเนยี มปฏบิ ตั แิ ลว้ อยา่ งไรเสยี คงตอ้ งมี
โหมโรงกอ่ นการแสดงทกุ ครัง้

การแสดงหนงั กลางคนื

๑. ปี่พาทยโ์ หมโรงหนังใหญ่
๒. เบกิ หนา้ พระ
๓. เบกิ โรง
๔. เขา้ เรอื่ งรามเกยี รต์ิ (ตอนหรอื ศกึ ใดตามเหมะสม)

หนงั กลางวนั

หนังใหญก่ ลางวนั หรอื หนังระบําหนา้ จอนัน้ เป็ นการเชดิ
หนังใหญส่ หี นา้ จอเลยี นแบบอยา่ งชดุ ระบําสมเด็จฯกรมพระยา
ดํารงราชานุภาพ ทรงอธบิ ายหนังจับระบําหนา้ จอ ไวว้ า่ “อนงึ่
ทเี่ รยี กวา่ หนังจับระบําหนา้ จออยา่ งโบราณนัน้ คอื เลน่ ตงั้ แตเ่ วลา
บา่ ย ใชห้ นังทเี่ รยี กชอ่ื วา่ คเนจรพระ คเนจรนาง ตวั นางนัน้
ระบายสี ตดั เสน้ เขยี นโดยงดงาม เพราะใชเ้ ลน่ ในตอนกลางวนั
คน เชดิ หนังระบํานัน้ นุ่งผา้ ยกหรอื ผา้ เกย้ี ว สวมเสอ้ื อยา่ งนอ้ ย
คาดเข็มขดั โพกผา้ ขลบิ แลว้ เชดิ พระกบั นางเป็ นคๆู่ กนั ไป
คนรอ้ งก็รอ้ งบทระบํา คอื รําพระทอง บะหลมิ่ เบา้ หลดุ สระบหุ รง่

203

คนเชดิ ก็ทํา ทา่ ทางตา่ งๆไปตามบท แลว้ ก็เชดิ หนังนางเมขลา
รามสรู 43 อรชนุ ออกมาเลน่ ตามเรอ่ื งของระบํา พอ เวลาพลบ
คํา่ จงึ จบั เลน่ เรอ่ื งตอ่ ไป

ระบําสบ่ี ทเป็ นระบําทย่ี กยอ่ งกนั มาแตโ่ บราณ สนั นษิ ฐาน
วา่ มมี าตงั้ แตส่ มยั สโุ ขทยั แตไ่ มม่ หี ลกั ฐานปรากฏเดน่ ชดั แตล่ ะ
บทนัน้ จะมที ํานองเพลงและการขบั รอ้ งทแ่ี ตกตา่ งกนั ออกไป ผู ้
แสดงจะรําไปตามทํานองเพลง และแสดงกริ ยิ าทา่ ทางตามบท
รอ้ งทปี่ รากฏอยใู่ นแตล่ ะเพลง เหตทุ เี่ รยี กระบําชดุ นวี้ า่ ระบําสบ่ี ท
ก็เนอื่ งจากมบี ทรอ้ งทงั้ หมด ๔ บท และมที ํานองเพลงแตกตา่ ง
เพลงดว้ ยกนั ระบําสบ่ี ทเป็ นระบํามาตรฐานซง่ึ
กนั ๔
ประกอบดว้ ยบทรอ้ งและทํานองไดแ้ ก่ พระทอง ,เบา้ หลดุ ,สระบุ

หรง่ และบะลม่ิ

รวมเรยี กวา่ “ระบําสบ่ี ท” ระบําชดุ นยี้ กยอ่ งกนั วา่ เป็ นระบํา
แบบฉบับ เรยี กวา่ “ระบําใหญ”่ มกั จะนําไปประกอบการแสดงโขน
เชน่ ระบําเทพบตุ รนางฟ้าในตอนตน้ ของชดุ “นารายณ์ปราบนน
ทกุ ” หรอื ชดุ “เมขลา –รามสรู ” หรอื ในตอนแสดงความยนิ ดเี มอื่ ผู ้
ทรงฤทธไ์ิ ดป้ ราบอสรู และยกั ษ์รา้ ยพา่ ยแพไ้ ป แตเ่ ดมิ บทรอ้ งและ
ทํานองเพลงนัน้ คอ่ นขา้ งยดื ยาว และกนิ เวลาแสดงนานมาก มา
ในสมยั กรงุ รัตนโกสนิ ทรจ์ งึ ไดต้ ดั ตอนบทรอ้ งใหส้ นั เขา้ ตามบท
พระราชนพิ นธใ์ นพระบาทสมเด็จพระจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รัชกาล
ที่ ๔ ดงั ตอ่ ไปน้ี

43 รามสรู หรือ ปรศรุ าม เป็นชื่อของยกั ษ์ตนหนงึ่ ซง่ึ มีฤทธิ์เดชมาก ตามตาํ นานความ
เชื่อกลา่ ววา่ รามสรู มีอิทธิฤทธิ์มากมาย กายสีดํา

ปรากฏในวรรณกรรมรามเกียรติ์ สองครัง้

204

ปี่ พาทยท์ าเพลงโคมเวยี น
เพลงพระทอง

เมอื่ นัน้ ฝ่ ายฝงู เทวาทกุ ราศี
ทงั้ เทพธดิ านารี สขุ เกษมเปรมปรดี เ์ิ ป็ นสดุ
เทพบตุ รจับระบําทําทา่ นางฟ้ารําฟ้อนออ่ นจรติ
รําเรยี งเคยี งเขา้ ไปใหช้ ดิ
แลว้ ตวี งเวยี นเปลย่ี นซา้ ย อดสนทิ ตดิ พันกลั ยา
ตลบหลงั ลดเลย้ี วลงมา ไลต่ วี งเวยี นเปลย่ี นขวา
เทวัญกลั ยาสาํ ราญใจ

เพลงเบา้ หลดุ นางเทพอปั สรศรใี ส

เมอื่ นัน้ ทว่ งทหี นไี ลพ่ อไดก้ นั
นางปัดกรคอ้ นใหแ้ ลว้ ผนิ ผัน
รําลอ่ เทวาสภุ าลัย เหยี นหนั มาขวาทําทา่ ทาง
เทพบตุ รฉุดฉวยชายสไบ นางชมอ้ ยถอยไปเสยี ใหห้ า่ ง
หลกี หลบลดเลย้ี วเกย่ี วพัน
ครัน้ เทพเทวัณกระชนั้ ไล่ ฝงู นางนารกี ป็ รดี า

เวยี นระวนั หันวงอยตู่ รงกลาง

เพลงสระบหุ รง่ ฝ่ ายฝงู เทพไทถว้ นหนา้
เลยี้ วไลไ่ ขวค่ วา้ เป็ นแยบคาย
เมอื่ นัน้ นางฟ้ าฟ้ อนรําทําฉุยฉาย
รําเรยี งเคยี งคั่นกลั ยา
เทพบตุ รหยดุ ยนื จับระบํา เทพไททงั้ หลายก็เปรมปรดี ิ์

ทอดกรออ่ นระทวยกรดี กราย

เพลงบลม่ิ

เมอ่ื นัน้ นางฟ้าธดิ ามารศรี

กรายกรออ่ นระทวยทัง้ อนิ ทรยี ์ ด่งั กนิ รรี ําฟ้อนรอ่ นรา
ประสานแทรกสนั สนซา้ ยขวา
แลว้ ตวี งลดเลย้ี วเกย่ี วกล

ทอดกรงอนงามกริ ยิ า เทวาปฎพิ ันธก์ ็เปรมปรดี ์ิ
ป่ี พาทยท์ าเพลงชา้ – เร็ว ระบา

205

หนงั กลางคนื

การแสดงกลางคนื ตอ้ งมกี ารเบกิ หนา้ พระกอ่ น ตอ่ จากนัน้
หนังใหญจ่ ะตอ้ งแสดงเรอ่ื งสนั้ ๆ เป็ นการเบกิ โรงเสยี ตอนหนงึ่
กอ่ น แลว้ จงึ จบั เรอ่ื งใหญแ่ สดงตอ่ ไป ตามเนอื้ เรอื่ งตอนใดตอน
หนง่ึ ในเรอ่ื งรามเกยี รต์ิ เรอื่ งทใี่ ชแ้ สดงตอนเบกิ หนา้ โรงแต่
โบราณมาปรากฏวา่ มอี ยหู่ ลายเรอื่ ง เชน่ บอ้ งตนั แทงเสอื หวั ลา้ น
ชนกนั แทงหอก (ชวาแทงหอก) และจบั ลงิ หวั คํา่ เป็ นตน้ แตใ่ น
สมยั หลงั นแี้ สดงกนั แตช่ ดุ จบั ลงิ หวั คํา่ โดยมากครัน้ หมดชดุ เบกิ
โรงแลว้ จบึ งเรม่ิ แสดงเรอ่ื งรามเกยี รติ์ ในตอนตา่ งตามทก่ี ําหนด
ไว ้
หนังกลางคนื จะเรมิ่ จากป่ีพาทยบ์ รรเพลงชดุ โหมโรงหนัง
ใหญ่ การเรยี งเพลงเหมอื นกบั โรงเย็นคอื เรม่ิ จาก สาธกุ าร ตระ รัว
ลาเดยี ว ตน้ เขา้ มา่ น เขา้ มา่ น ปฐม ลา และมาหยดุ ทเี่ พลงเสมอ
แลว้ เขา้ สพู่ ธิ เี บกิ หนา้ พระ
หรอื ไหวค้ รหู นังใหญ่ ตอ่ ดว้ ยการแสดงเบกิ โรงจับการแสดงเรอ่ื ง
สนั้ ๆ อยา่ งจับลงิ หวั คํา่ และจงึ แสดงเขา้ เรอ่ื งรามเกยี รต์ิ ตอนใด
ศกึ ใดก็ตามความเหมาะสม

206

รปู แบบการจดั การแสดง

รปู แบบการแสดงหนังใหญ่ มกั นยิ มแสดงกลางแจง้
ชว่ งเวลากลางคนื เป็ นมหรสพทเ่ี ลน่ เฉพาะงานใหญง่ านสําคญั
ทงั้ ในงานพธิ หี ลวง และพธิ รี าษฎร์ เพอื่ ใหเ้ ห็นความหลากหลาย
และพัฒนารปู แบบการจดั การแสดงของหนังใหญ่ จงึ แบง่ เป็ น ๒
รปู แบบหลกั ดงั น้ี

207

หนงั ใหญง่ านหลวง

หนังใหญง่ านหลวง จะแสดงในในงานพระราชพธิ ฉี ลอง
สมโภช งานออกพระเมรมุ าศ 44 ทงั้ ในพระนครและหวั เมอื งตา่ งๆ
เชน่ ฉลองสมโภชพระพทุ ธบาท สระบรุ ,ี พระแกว้ มรกตฯ, ฉลอง
วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลารามฯ, วดั มหาธาตุ ชยั นาท, วดั พระ
นอนจักรสหี ์ สงิ หบ์ รุ ี และเมอ่ื พ.ศ. ๒๕๕๑ งานออกพระเมรุ
สมเด็จพระเจา้ พน่ี างเธอ เจา้ ฟ้ากลั ยาณวิ ฒั นา กรมหลวง
นราธวิ าสราชนครนิ ทร์ โดยกระทรวงวฒั นธรรม เป็ นตน้ การแสดง

มที งั้ คณะหนังใหญก่ รมมหรสพ วงั หลวง วงั หนา้ เจา้ นาย รวมถงึ
คณะหนังใหญร่ าษฏร วดั และบา้ น รว่ มสมทบ ๒ โรง ๙ โรง ๑๒

โรงบา้ ง แลว้ แตค่ วามประสงคข์ องผดู ้ ําเนนิ การจัดงาน

บางงานพระราชพธิ ี มหี นังใหญช่ อ่ งระทา หรอื หนังขนาด
กลาง แสดงอยรู่ ะหวา่ งชอ่ งไฟระทา เมอ่ื ถงึ ชว่ งเวลาจดุ ไฟระทา
หนังใหญก่ จ็ ะหยดุ การแสดงชวั่ ขณะเพอ่ื ไมแ่ ขง่ กบั เสยี งดงั อกึ ทกึ
และใหโ้ อกาสคนดไู ดช้ มดอกไมไ้ ฟสอ่ งสวา่ งบนทอ้ งฟ้า บาง
งานมี หนังประชนั คอื ตงั้ จอหนังประชนั กนั ใครมคี นดมู ากกวา่
หรอื คนพากยเ์ จรจา สรา้ งความสนุกสนานตลกโปกฮาเหนอื กวา่
เจา้ ภาพก็จะตบรางวลั ใหก้ นั เป็ นพเิ ศษ

44 การจดั แสดงมหรสพสมโภชงานออกพระเมรุ ถือวา่ เป็นประเพณีที่มีมาแตโ่ บราณ ซง่ึ เป็นสว่ น
หนงึ่ ของงานออกทกุ ข์ และถือเป็นการแสดงแสนยานภุ าพของพระมหากษัตริย์

208

หนงั ใหญง่ านราษฎร์

หนังใหญง่ านราษฎร์ มลี กั ษณะการแสดงไมแ่ ตกตา่ งจาก
งานหลวงคอื งานฉลองวดั ฉลองพระ งานประจําปี รวมถงึ งานศพ
พระสงฆ์ คหบดี ผมู ้ ฐี านะ เป็ นทนี่ ่าสงั เกตวา่ หนังใหญเ่ ขา้ ไปมี
สว่ นรว่ มในงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ สามญั ชนเฉพาะงานศพ ถอื
เป็ นการแสดงความยง่ิ ใหญค่ รัง้ สดุ ทา้ ยใหแ้ กผ่ วู ้ ายชนพ์ ทา่ นผนู ้ ้ี
อาจเป็ นผอู ้ ปุ ภมั ป์ ผชู ้ นื่ ชมชนื่ ชอบ อยใู่ นชมุ ชน ญาตสิ นทิ มติ ร
สหายเป็ นศลิ ปินหนังใหญก่ ็เป็ นไปได ้ หนังใหญข่ าวดําจงึ ดู
เหมาะสมกบั งาน หนังไฟแสงเงา ใหท้ งั้ คตโิ ลก คตธิ รรมกบั ผชู ้ ม
ทมี่ ารว่ มงาน ถา้ ดภู ายนอกก็ไดค้ วามบนั เทงิ สนุกสนานคลายทกุ ข์
โศก ถา้ เพง่ พนิ จิ ภายใน กจ็ ะเห็นธรรมมะหลายประการ เกดิ คํา
เรยี กวา่ “หนังหนา้ ไฟ” มคี วามหมายเป็ น ๒ นัยยะ คอื หนังใหญท่ ่ี
แสดงในงานศพ และ ผเู ้ ชดิ หนังทต่ี อ้ งเชดิ หนังอยใู่ กลไ้ ฟ ยอ่ ม
ตอ้ งไดร้ ับความรอ้ นจากไฟมากกวา่ คนอนื่ จนตอ่ มากลายเป็ น
คําสํานวนไทยเทยี บเปรยี บเปรย

หนังเร่ เป็ นวถิ หี นง่ึ ของการแสดงไทยฉบบั ราษฏรห์ ลาย
ชนดิ อาทิ ละครเร่ ลเิ กเร่ รวมถงึ หนังเร่ เป็ นตน้ หนังใหญท่ ต่ี อ้ ง
แสดงเรน่ ัน้ สว่ นหนงึ่ เพอื่ ความอยรู่ อดในชว่ งเวลาทไี่ มม่ ผี มู ้ า
วา่ จา้ งงาน เพราะครเู จา้ ของคณะมกั มลี กู ศษิ ยท์ ม่ี าเรยี นนอนอยู่
กนั ดว้ ยกนั เป็ นจํานวนมาก นอกจากนยี้ งั เปิดการแสดงหนังเร่
แบบเฉพาะกจิ กลางทางระหวา่ งวนั เดนิ ทางไปแสดงขา้ มหวั เมอื ง
ตา่ งๆ เพราะสมยั กอ่ นใชเ้ วลาเดนิ ทางกนั หลายวนั ตอ้ งคา้ งคนื
หลายท่ี การแสดงหนังเร่ จงึ เป็ นทงั้ การหารายได ้ หรอื ขา้ วของ
เครอ่ื งใชท้ ผี่ ชู ้ มนํามามอบใหเ้ ป็ นสนิ จา้ งรางวลั และเป็ นการ
ฝึกซอ้ มกอ่ นการแสดงวนั งานจรงิ ๆอกี ดว้ ย บางครัง้ การแสดงหนัง
เร่ เมอื่ ไปอยแู่ หง่ หนตําบลไหนนานกลางคนื ก็นอนกนั ในเรอื
กลางวนั ก็ออกไปลงแขกชว่ ยงานชาวบา้ นตอบแทน หรอื รับจา้ ง

209

ทํางานหวา่ นไถ ตามสภาพวถิ ชี มุ ชนนัน้ จนบางคนตงั้ หลกั ปักฐาน
อยทู่ นี่ ั่นเลยก็ม4ี 5 กรณีของครเู ปี ย เจา้ ของคณะหนังเร่ ชาว
อยธุ ยา เป็ นอกี หนงึ่ กรณีศกึ ษา ทพี่ าคณะไปเปิดแสดงยา่ นบาง
มอญ อนิ ทบรุ ี หรอื วดั สวา่ งอารมณ์ เมอื งสงิ หบ์ รุ ใี นปัจจบุ นั
ทา้ ยสดุ หลวงพอ่ เรอื ง อดตี เจา้ อาวาสฯ ซอ้ื ตวั หนังและเชญิ ครู
เปีย ใหอ้ ยสู่ อนวชิ าหนังใหญใ่ หก้ บั ผคู ้ นในชมุ ชน จนสนิ้ อายขุ ยั
ณ ทแี่ หง่ นัน้
การจัดการแสดงหนังใหญใ่ นปัจจบุ นั ไดย้ น่ เวลา ยอ่ เรอ่ื ง
ใหก้ ระชบั ฉับไว จากทแ่ี ตก่ อ่ นเลน่ กนั ทงั้ คนื ก็เหลอื เพยี งประมาณ
ชว่ั โมงถงึ สองชว่ั โมง นอกจากนัน้ เป็ นการแสดงสาธติ
ประกอบการอธบิ ายใชเ้ วลาไมเ่ กนิ ชว่ั โมง ทงั้ ในและนอกสถานท่ี
อยา่ งทว่ี ดั ขนอน ราชบรุ ี จะมกี ารแสดงสาธติ หนังใหญเ่ ป็ นประจํา
ทกุ วนั เสารเ์ วลา ๑๐.๐๐ น. และอาจเพมิ่ รอบวนั อาทติ ย์ เวลา
๑๑.๐๐ น. สว่ นวดั บา้ นดอน ระยอง และวดั สวา่ งอารมณ์สงิ หบ์ รุ ี
ก็มกี ารแสดงสาธติ หนังใหญ่ โดยตอ้ งบอกลว่ งหนา้ กอ่ น
นอกจากนย้ี งั มเี ทศกาลหนังใหญ่ ทวี่ ดั ขนอน ราชบรุ ี ทจ่ี ดั
ชว่ งสงกรานตต์ อ่ เนอื่ งมาทกุ ๆปี ตงั้ แต่ พ.ศ.๒๕๔๘ จนถงึ
ปัจจบุ นั โดยบรรยากาศภายในงานเป็ นวฒั นธรรมแบบดงั้ เดมิ ยอ้ น
ยคุ ถา่ ยทอดการดําเนนิ ชวี ติ ตามวถิ ขี องชาวไทยโบราณ โดยมี
การละเลน่ และศลิ ปะแขนงตา่ งๆ อาทิ การเลน่ หนังใหญแ่ บบ
โบราณ ดว้ ยการเผากะลาเลน่ ไฟ ใชแ้ สงไฟจากกะลาในการ
แสดง และการแสดงวฒั นธรรม ๔ ภาค อาทิ โขนลา้ นนา การ

45 สมั ภาษณ์ วรี ะ มีเหมือน (ครูหนงั ใหญ่ จ.อ่างทอง), ๒๔ ตลุ าคม ๒๕๕๗.

210

แสดงหนุ่ ละครเล็ก หนุ่ คน หนุ่ กระบอก ดเิ กรฮ์ ลู ู หนังตะลงุ จาก
ภาคใต ้ ลเิ กยอ้ นยคุ ฯลฯ46

สําหรับหนังใหญข่ องมหาวทิ ยาลยั เกษมบณั ฑติ เป็ นหนัง
ใหญร่ ว่ มยคุ ทแ่ี สดงเป็ นชดุ สนั้ ๆอยา่ งชดุ จับนาง หนุมานจบั นาง
สพุ รรณมจั ฉา สลบั กบั การแสดงเชดิ หนุ่ กระบอก บนเวทหี รอื งาน
ตา่ งๆ ทไี่ มต่ อ้ งใชจ้ อหนังตงั้ ทาบเงา มพี ากยเ์ จรจาเพยี งเล็กนอ้ ย
กไ็ ดร้ ับอรรถรสทแ่ี ปลกใหมเ่ ป็ นทส่ี นุกสนานตนื่ เตน้ สําหรับผชู ้ ม
ในปัจจบุ นั หากใครมคี วามสนใจใครร่ จู ้ กั หนังใหญท่ ม่ี รี ปู แบบการ
แสดงอยา่ งดงั้ เดมิ ก็สามารถสง่ ตอ่ ใหไ้ ปชมกนั ไดท้ ่ี ชมุ ชนหนัง
ใหญท่ งั้ สามวดั ของเมอื งไทย

46 ชมมหรสพเก่าแก่บรรยากาศย้อนยคุ ชว่ งสงกรานต์ ในงาน “เทศกาลหนงั ใหญ่วดั ขนอน”
[ออนไลน์] ASTVผ้จู ดั การ (๔ เมษายน ๒๕๕๕)
แหลง่ ท่ีมา
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000042851&TabID=2
&

211

ดนตรปี ระกอบการแสดงหนงั ใหญ่

๑. ประเภทวงดนตรี
วงปี่พาทยไ์ มแ้ ข็งเครอ่ื งหา้ และเครอื่ งคู่

๒. เครอื่ งดนตรพี เิ ศษ
ปี่กลาง กลองตง๋ิ และโกรง่
อน่ื ๆ เกราะ ตะขาบ มา้ ฬอ่ ซออู ้

๓. ระดบั เสยี งทใ่ี ช ้
ทางกลาง

๔. รปู แบบการเลน่
บรรเลงประกอบการแสดง

๕. ลกั ษณะการจัดวางวงดนตรี
วงป่ีพาทยต์ งั้ หนั หนา้ เขา้ หาจอ

สําหรับดนตรปี ระกอบการแสดงหนังใหญน่ ัน้ จะใชว้ งปี่
พาทยไ์ มแ้ ข็ง เครอ่ื งหา้ เครอ่ื งคู่ เครอื่ งใหญท่ ไี่ ดร้ ับความนยิ ม
มากในปัจจบุ นั คอื ปี่พาทยเ์ ครอ่ื งคู่ ประกอบไปดว้ ยป่ี ระนาดเอก
ระนาดทมุ ้ ฆอ้ งวงใหญ่ ฆอ้ งวงเล็ก เครอ่ื งดนตรดี ําเนนิ ทํานอง
ตะโพน กลองทัด ๒-๓ ใบ 47 เป็ นเครอื่ งกํากบั จงั หวะ ฉง่ิ ฉาบ
กรับและโหมง่ เป็ นเครอ่ื งประกอบจงั หวะ

47 ปัจจุบนั นิยมใชแ้ ค่ กลองทดั ๒ ใบ เสียงสูงกบั ต่า หรือ ตุม้ และตอ้ ม ในอดีตมีถึง ๓ ใบ
ปรากฏหลกั ฐานในโนต้ เพลงเพลงเรื่องฉบบั กรมศิลปากร และกลองทดั บา้ นเคร่ืองพาทยโกศล
ธนบุรี (ผวู้ ิจยั )

212

นอกจากนัน้ ยงั มเี ครอื่ งดนตรที น่ี ยิ มเลน่ เฉพาะการแสดง
หนังใหญใ่ นอดตี หลกั ๆอกี ๓ ชน้ิ คอื ปี่ กลาง กลองตง๋ิ และโกรง่
มเี สยี งสงู กวา่ ปี่ ในหนงึ่ เสยี ง ศพั ทด์ นตรไี ทยเรยี กวา่ ทางกลาง
มาจากระดบั จากเสยี งของปี่กลางน่ันเอง ระดบั เสยี งทส่ี งู กวา่ นัน้
เออ้ื ประโยชนใ์ นการบรรเลงกลางแจง้ อยา่ งหนังใหญ่ และเขา้ กบั
ระดบั เสยี งของผพู ้ ากยเ์ จรจาทเ่ี ป็ นผชู ้ ายทงั้ หมด รวมถงึ เดมิ ยงั
ไมม่ เี ครอื่ งขยายเสยี ง การใชท้ างกลางทมี่ เี สยี งสงู จงึ ชว่ ยใหผ้ ชู ้ ม
ไดฟ้ ังเสยี งดนตรชี ดั เจนยง่ิ ขน้ึ แตป่ ัจจบุ นั ปี่พาทยป์ ระกอบการ
แสดงหนังใหญจ่ ะใชเ้ สยี งใน หรอื ทางใน ตามบนั ไดเสยี งปี่ในกนั
ทงั้ หมด จงึ เป็ นทนี่ ่าสนใจวา่ หากมคี ณะปี่พาทยใ์ ดกลบั ไปใช ้
เสยี งกลาง หรอื ป่ี กลางในการประกอบการแสดงหนังใหญ่ อาจจะ
ไดม้ ติ เิ สยี งทแ่ี ตกตา่ ง และไดเ้ สยี งประกอบเงาในอดตี กลบั มาอกี
ครัง้

สว่ นกลองตง๋ิ 48รปู ทรงสนั ฐานคลา้ ยกลองทดั แตม่ ขี นาด
ยอ่ มลงมากลางๆ มขี นาดใหญก่ วา่ กลองตกุ๊ ของละครชาตรี ท่ี
เรยี กวา่ กลองตง๋ิ คงเรยี กตามเสยี งตที ไ่ี ดย้ นิ นยิ มตใี นชว่ งเดย่ี วป่ี
เพลงเชดิ นอก ชดุ จับลงิ หวั คํา่ ตอ่ มาจงึ ใชก้ ลองสองหนา้ เขา้ มาตี
แทน สว่ นชว่ งเวลาการแสดงจะตปี ระกอบการจดั ทพั หรอื ชว่ ง
ออกเพลงเร็วเนน้ จงั หวสั นุกสนาน ขอ้ สงั เกตคอื กลองตง๋ิ จะเป็ น
ของคนเชดิ หนังใหญไ่ มใ่ ชม่ ากบั วงป่ีพาทย์ เพราะเป็ นกลองชดุ

48 ในการแสดงหนงั ใหญ่มกั เพ่ิมกลองตง๋ิ เข้ามาอีก ๒ ลกู รวมกบั กลองทดั เดิมท่ีมีอย่ใู นวงปี่พาทย์
เป็น ๔ ลกู ด้วยกนั ซง่ึ เจ้าของคณะหนงั จะต้องมีไว้เป็นของประจํา และนํามาสมทบเข้ารวมกบั วงป่ี
พาทย์ ตงั้ เรียงตอ่ จากกลองทดั ไปทางขวามือของคนตี ดงั นนั้ ในวงปี่พาทย์จงึ มีกลอง ๔ ลกู (บาง
วงใช้กลองทดั ๓ ลกู กลองติง๋ ๒ ลกู รวมเป็น ๕ ลกู )

213

เดยี วกบั ทใ่ี ชฝ้ ึกซอ้ ม เมอ่ื นํามาเลน่ จะตงั้ ไวห้ ลงั จอโดยครหู นัง
หรอื ผทู ้ เ่ี ชยี่ วชาญทวี่ า่ งจากการเชดิ หนังจะสลบั กนั มาใหจ้ ังหวะ
หลกั และสญั ญาณพเิ ศษ เพอ่ื สรา้ งความอนุ่ ใจดว้ ยเสยี งกลองท่ี
คนุ ้ เคยและบอกสญั ลกั ษณ์ทา่ ทางการแสดง ปัจจบุ นั ไมม่ ใี ครใช ้
กลองตง๋ิ แตย่ งั มเี ก็บไวเ้ ป็ นหลกั ฐานทค่ี ณะละครชาตรบี า้ นเรอื ง
นนท์ หลานหลวง

โกรง่ นัน้ มรี ปู รา่ งคลา้ ยเกราะ แตเ่ ป็ นเกราะ ๓ ปลอ้ งไมไ้ ผ่
เจาะรรู ะบายเสยี ง เรยี งตดิ กนั เป็ นแนวนอนมขี าตงั้ หวั ทา้ ย ใชต้ ใี น
การใหจ้ งั หวะเนน้ เตน้ ย้ําเทา้ สรา้ งความแน่นใหก้ บั จังหวะ
บางครัง้ เป็ นกศุ โลบายใหค้ นดมู สี ว่ นรว่ ม ลกู เด็กเล็กแดงทอี่ ยใู่ น

ชมุ ชนระแวกทไี่ ปดหู นังก็จะไดเ้ ขา้ ไปน่ังขา้ งหนา้ แลว้ ตโี กรง่ ตาม
จังหวะทนี่ ักดนตรเี ลน่ กนั อยขู่ า้ งๆ เป็ นการฝึกใหเ้ ด็กๆคนุ ้ เคยกบั

การแสดง กลา้ แสดงออก เด็กคนไหนมแี ววจงั หวะแมน่ กส็ ามารถ
คดั สรรมาเป็ นนักดนตรหี รอื คนเชดิ หนังไดอ้ กี หรอื อกี นัยหนงึ่ เป็ น
การหยงั่ เชงิ เพราะเด็กทเ่ี ป็ นลกู หลานศลิ ปินในถนิ่ ทไี่ ปเลน่ หนัง
ใหญ่ ลว้ นเป็ นลกู เสอื ลกู จะเขค้ อื จะกลา้ เกนิ เด็กทว่ั ไปอยแู่ ลว้ นัก
ดนตรจี ะสงั เกตไดว้ า่ เด็กคนไหนทอี่ าสามาตโี กรง่ มพี น้ื ฐานทาง
ดนตรมี ากอ่ น อาจจะคอ่ ยๆสบื ถามวา่ เป็ นลกู หลานใคร จากนัน้ จงึ
หาทางผกู มติ รกบั ดนตรใี นถน่ิ โดยอาศยั เด็กเป็ นผเู ้ ชอื่ ม
ความสมั พันธ์

โกรง่ นอกจะเป็ นเครอื่ งดนตรปี ระกอบหนังใหญแ่ ลว้ ยงั
เป็ นเครอื่ งประกอบจงั หวะการละเลน่ พน้ื บา้ น นอกจากน้ี สจุ ติ ต์

214

วงษ์เทศ ไดก้ ลา่ ววา่ “...เครอื่ งประโคมหนังใหญต่ อ้ งมเี ครอื่ งตี
อยา่ งหนงึ่ เรยี กโกรง่ ทําจากกระบอกไมไ้ ผย่ าวทงั้ ลํา ตหี ลายคน
สะทอ้ นลกั ษณะชมุ ชนดงั้ เดมิ ดกึ ดําบรรพ์ ในไทยหนังใหญส่ มยั
แรกมพี ัฒนาการขน้ึ ในลมุ่ นํ้าเจา้ พระยาตอนลา่ งกอ่ นยคุ อยธุ ยา
(ละโว-้ อโยธยา ไมเ่ คยพบวา่ มใี นรัฐสโุ ขทยั ) 49...” โกรง่ เป็ นชอ่ื
เรยี กลําไมไ้ ผ่ เครอ่ื งตปี ระโคมสญั ลกั ษณ์ของหนังใหญม่ าแต่
ดงั้ เดมิ ดกึ ดําบรรพ์ ยาวประมาณวาหนงึ่ (ขนาดกางแขนสดุ สอง
ขา้ ง) หรอื สองวา แลว้ ปาดปลอ้ งไผใ่ หเ้ วา้ บางแหง่ เพอ่ื เกดิ เสยี ง
กอ้ งเมอื่ ไมต้ กี ระทบใชต้ จี ังหวะประกอบหนังใหญ่, โขน, ละคร
โดยเฉพาะปี่พาทยป์ ระโคมเพลงหนา้ พาทย์ ตอนตรวจพลยกทพั
ทต่ี อ้ งการคกึ คกั ฮกึ เหมิ หา้ วหาญ ในชมุ ชนหมบู่ า้ นแตก่ อ่ นตโี กรง่
เกราะเคาะไมเ้ ลน่ สงกรานต์ (หรอื เทศกาลสนุกสนานอน่ื ๆ) เมอ่ื
รอ้ งเชญิ ผี (ทรงเจา้ เขา้ ผ)ี รําแมส่ ี ไมไ้ ผใ่ ชท้ ําเครอ่ื งตปี ระโคม
อยา่ งอนื่ ไดอ้ กี มชี อ่ื เรยี กอยา่ งนอ้ ย ๓ ชอื่ คอื โกรง่ , เกราะ, กรับ
โกรง่ ใชไ้ มไ้ ผท่ งั้ ลํา, เกราะใชไ้ มไ้ ผป่ ลอ้ งเดยี ว, กรับ ใชไ้ มไ้ ผผ่ า่
ซกี (ไมไ้ ผป่ ลอ้ งเดยี ว เรยี กกระบอกไผ่ และไมไ้ ผผ่ า่ ซกี จะมี
พัฒนาการเป็ นระนาด) ทงั้ หมดนเี้ ป็ นทม่ี าของคําคลอ้ งจองวา่ “ตี
เกราะเคาะไม”้ 50

49 หนังใหญ่วัดขนอน จ. ราชบรุ ี หนังใหญ่ หนังตะลุง [ออนไลน์], มตชิ นรายวนั ฉบบั
ประจําวนั พฤหสั บดที ่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๕๗ แหลง่ ที่มา http://www.sujitwongthes.com/๒๐๑๔/
๐๘/siam๐๗๐๘๒๕๕๗/
50 ตเี กราะเคาะไม้ หนงั ใหญ่วดั ขนอน [ออนไลน์], มตชิ นรายวัน ฉบบั ประจาวันศุกร์ท่ี ๑๕
สงิ หาคม ๒๕๕๗ แหล่งท่มี า http://www.sujitwongthes.com/๒๐๑๔/๐๘/siam๑๕๐๘๒๕๕๗/

215

นอกจากนยี้ งั มเี ครอื่ งดนตรอี นื่ ๆ เกราะ ตะขาบ มา้ ฬอ่
และซออู ้ มาใชส้ รา้ งสสี นั ประกอบการแสดงหนังใหญอ่ กี ดว้ ย
อยา่ งมา้ ฬอ้ ซออู ้ ของจนี นัน้ เอามาเลน่ ชว่ ง หนังจําอวดเลน่ ออก
ภาษาจนี เลน่ เอาใจเจา้ ภาพทเ่ี ป็ นคนจนี 51 สว่ นเกราะและ
ตะขาบ คงเอาไวเ้ คาะและกระทงุ ้ ใหจ้ ังหวะเชน่ เดยี วกบั โกรง่

ตามทกี่ ลา่ ววา่ ปี่พาทยป์ ระกอบการแสดงหนังใหญน่ ัน้ จะ
ใชป้ ี่ กลางเป่ า ซง่ึ กจ็ ะสง่ ผลใหเ้ สยี งทงั้ หมดของวงปี่พาทยเ์ ป็ น
เสยี งทางกลาง ทงั้ นดี้ นตรไี ทยแบง่ ระดบั เสยี งไวท้ งั้ หมด ๗ ทาง
ยดึ ตามเสยี งเครอื่ งเป่ าเป็ นหลกั ดงั น้ี ทางเพยี งออลา่ ง ทางใน
ทางกลาง ทางเพยี งออบน ทางนอก ทางกลางแหบ และทาง
ชวา

ทางกลางนัน้ เสยี งจะสงู กวา่ ทางใน ๑ เสยี ง บนั ใดเสยี ง
ในทางน้ี ตรงกบั ลกู ฆอ้ งวงใหญล่ กู ท่ี ๕ และ ๑๒ หรอื คแู่ ปด ทาง
นเ้ี ป็ นทางทปี่ ี่กลางบรรเลงไดส้ ะดวกทส่ี ดุ ป่ีในและปี่กลางเป็ น
เครอ่ื งเป่ าในตระกลู เดยี วกนั มรี ะบบนวิ้ หรอื การการไลเ่ สยี งที่
เหมอื นกนั ตา่ งกนั ทปี่ ่ีกลางมขี นาดเล็กกวา่ และทเี สยี งสงู กวา่ 52
เทา่ นัน้

51 สมั ภาษณ์ รตต.วชั ชระ พจนีย์, (ทายาทหนงั ใหญ่วดั พระญาติการาม อยธุ ยา), ๒๕
พฤศจิกายน ๒๕๕๗.
52 ศ.ดร.มานพ วิสทุ ธิแพทย์, วิถีพลโลก เสียงดนตรีไทย [ออนไลน์], ม.ป.ป. แหลง่ ท่ีมา
http://yongyutheiamsaart.blogspot.com

216

สมเด็จฯ เจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ รานุวดั ตวิ งศ์ ทรงประทาน
อธบิ ายไวว้ า่ "...ป่ีใหญห่ รอื ปี่ในเป็ นของมปี ระจําวงปี่พาทยม์ าแต่
ดงั้ เดมิ ป่ีเล็กหรอื ป่ีนอกเป็ นของมปี ระจําวงปี่พาทยม์ าแตเ่ กา่ แก่
เหมอื นกนั เวน้ แตก่ อ่ นนไี้ มไ่ ดใ้ ชเ้ อามาเป่ าเขา้ วงป่ีพาทย์ ใชเ้ ป่ า
แตท่ ําหนังจําเพาะเพลงเชดิ นอกเมอื่ จบั ลงิ หวั คํา่ อยา่ งเดยี ว
ภายหลงั จงึ เอามาเตมิ เขา้ ในวงปี่พาทยค์ กู่ บั ป่ีใหญ"่

แตก่ อ่ นป่ีพาทยป์ ระกอบการแสดงหนังใหญน่ ัน้ จะบรรเลง
ประกอบการแสดงเทา่ นัน้ เป็ นขนบทปี่ ฏบิ ตั กิ นั มาแตร่ ะยะหลงั
บางคณะไดเ้ พม่ิ สสี นั ใหม้ ปี ่ีพาทยร์ ับรอ้ งอยา่ งละคร เพอ่ื สรา้ ง
สสี นั ความสนุกสนานอยา่ งชมุ ชนหนังใหญว่ ดั บา้ นดอน ระยอง
นัน้ ครอู ํานาจ แสงมณี 53 ไดเ้ พมิ่ บทรอ้ งใหมท่ ํานอง เพลงเขมร
ขอทาน เขา้ ไปในชดุ จบั ลงิ หวั คํา่ ดงั จะขอยกตวั อยา่ งเนอ้ื รอ้ งมา
พอสงั เขป

ฤาษี พระเจา้ ตา(เออ่ เออเอย้ ) แลเห็น แลเห็นวานรไพร

มันขหี่ ลงั มาทําไม เจา้ ลงิ สองตวั

ลงิ ขาว พระเจา้ ตาอยา่ ดใี จ เจา้ ตวั นมี้ นั ทําชวั่

ใครเห็นมันก็ตอ้ งกลวั โกงจรงิ โกงจรงิ

ฤาษี เรอื่ งคดโกง มนั ไมด่ ี เรอ่ื งอปั รยี ท์ ะยานหยง่ิ

ตดิ เหลา้ ยามานอนกลงิ้ กลบั ตวั กลบั ตวั ฯลฯ

53 อานาจ แสงมณี เป็นปราชญช์ าวระยอง ผฟู้ ้ื นฟูหนงั ใหญ่วดั บา้ นดอน ระยอง

217

สมเด็จฯ เจา้ ฟ้ากรมพระยานรศิ อธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา่ “แต่
กอ่ นนัน้ พวกรอ้ ง พวกป่ีพาทย์ พวกเครอ่ื งสาย ตา่ งคนตา่ งเลน่

ไมไ่ ดเ้ ลน่ ปนกนั คอื ป่ีพาทยไ์ มไ่ ดท้ ํารับรอ้ ง เครอ่ื งสายไมไ่ ดผ้ สม
กบั ป่ีพาทยอ์ ยา่ งทกุ วนั นี้..แรกทป่ี ่ีพาทยจ์ ะเลน่ กบั รอ้ งก็เพยี งทํา
คนั่ กนั กอ่ นตวั อยา่ งเชน่ ละครเมอ่ื รอ้ งสน้ิ บทแลว้ ถงึ เวลาเดนิ ท่ี
เรยี กเพลงนัน้ เดมิ กเ็ ป็ นรอ้ งเหมอื นกนั แตร่ อ้ งภาษาป่ า มเี หโ่ หฮ่ า้
ฮะชะตา้ อะไรไปตามทที เ่ี กดิ จากใจรน่ื เรงิ …54

ลกั ษณะการจัดวางวงดนตรนี ัน้ วงป่ีพาทยต์ งั้ ตรงกลางหนั
หนา้ เขา้ หาจอ อยดู่ า้ นหนา้ คนดหู า่ งจากจอประมาณสองวา หรอื
๔ เมตร เพอื่ กนั พนื้ ทใ่ี หค้ นเชดิ หนังและเป็ นระยะทม่ี องเห็น
ภาพรวมการแสดงหนังใหญไ่ ดช้ ดั เจน คนเชดิ หนังก็ไดย้ นิ เสยี ง
ชดั เจน และชว่ ยสะทอ้ นเสยี งกลบั ใหป้ ่ีพาทยม์ เี สยี งดงั กงั วาล
ผชู ้ มทน่ี ่ังอยจู่ ะไดย้ นิ เสยี งทด่ี งั ขยายมากขนึ้

54 ขับเสภา ต้องมีกรับไม้จริง และป่ี พาทย์ไม้แข็ง[ออนไลน์], มติชนสดุ สปั ดาห์ ลงฉบบั
ประจําวนั ศกุ ร์ที่ ๖ กนั ยายน ๒๕๕๖ แหลง่ ท่ีมาhttp://www.sujitwongthes.com/๒๐๑๓/
๐๙/weekly๐๖๐๙๒๕๕๖/

218

บทเพลงทใี่ ชป้ ระกอบการแสดงหนงั ใหญ่

๑. บทเพลงโหมโรงหนังใหญ่
๒. บทเพลงเฉพาะหนังใหญ่ เชดิ นอก เตยี ว
๓. บทเพลงหนา้ พาทย์ และเพลงประกอบการแสดงหนัง

ใหญ่
๔. ชอ่ื เพลงหนา้ พาทยแ์ ผลง

๑.เพลงโหมโรงหนงั ใหญ่

โหมโรงหนังใหญ่ การเรยี งเพลงเหมอื นกบั โรงเย็นคอื เรม่ิ

จาก สาธกุ าร ตระ รัวลาเดยี ว ตน้ เขา้ มา่ น เขา้ มา่ น ปฐม ลา และ
มาจบทเ่ี พลงเสมอ

219

๒.เพลงเฉพาะหนงั ใหญ่ เชดิ นอกและเตยี ว

เพลงเชดิ นอก เพลงทป่ี ี่ เป่ าประกอบการแสดงเบกิ โรง ชดุ
จับลงิ หวั คํา่ น้ี คอื เพลงเชดิ นอก ทต่ี อ่ มาคตี กวหี ลายทา่ นไดน้ ํามา
สรา้ งสรรคเ์ ป็ นเพลงเดยี่ วยอดนยิ ม สําหรับเครอ่ื งดนตรไี ทยชนดิ
ตา่ งๆเกอื บทกุ ชนิ้ เชดิ นอกมจี ํานวน ๓ จับ แทนการเรยี กวา่ ๓ จับ
เป็ นลกั ษณะการเรยี กจําเพาะบทเพลงนท้ี ม่ี ตี น้ ทางจากหนังใหญ่
คอื ลงิ ขาวจับลงิ ดํา ๓ ครัง้ ครัง้ แรกครัง้ ทส่ี องจับไมอ่ ยู่ ไปจนครัง้
สดุ ทา้ ยครัง้ ที่ ๓ จงึ สามารถจับมดั ได ้ เรยี กวา่ เตยี ว หรอื บา้ งก็
เรยี กวา่ เกลยี ว นําตวั ไปใหพ้ ระฤาษีตดั สนิ ความผดิ จับลงิ นัน้ ดู
อาจไมค่ นุ ้ ตาเทา่ กบั จบั นางของหนุมานในตอนจบั นางเบญกาย
สพุ รรณมจั ฉา ฯลฯ เพราะเรยี กความสนุกสนานเรา้ ใจแฝง
สญั ลกั ษณ์ไวไ้ ดน้ ่าสนใจ เป็ นทนี่ ่าสงั เกตวา่ การแสดงโขนนัน้
กําหนดทา่ รําไว ้ ๓ จบั คอื ทา่ สงู ทา่ จบั ขา้ งหนา้ และทา่ พนม55
ซงึ่ ถอดแบบมาจากหนังแตล่ ะจบั ในชว่ ง ลงิ ขาวจบั ลงิ ดํา ทจ่ี บ
ดว้ ยภาพสลกั ตวั หนังทา้ ยสดุ ลงิ ขาวจับลงิ ดําผกู มดั โดยลงิ ดํานั่ง
พนมมอื ไหวน้ ั่นเอง

ทงั้ นี้ ณรงคช์ ยั ปิฎกรัชต์ ไดอ้ ธบิ ายเพลงเชดิ นอกและ
เพลงเตยี ว ไวใ้ นหนังสอื สารานุกรมเพลงไทยวา่
“แตเ่ ดมิ ใชป้ ระกอบการแสดงหนังใหญ่ ตอนเบกิ โรง ชดุ จับลงิ
หวั คํา่ คอื ตอนลงิ ขาวลงิ ดํารบกนั เมอื่ หนังเดยี่ วแสดงทา่ รบแลว้ จะ
มภี าพหนังจบั ออกมาเตน้ แทรก ชว่ งนปี้ ่ีจะเลยี นเสยี งพดู วา่ “จบั
ใหต้ ดิ ตใี หต้ าย” หรอื “ฉวยใหต้ ดิ ตใี หแ้ ทบตาย” ตามแบบแผน
ของการแสดงจะแทรกหนังจบั และป่ าป่ีจบั ถงึ ๓ ครัง้ จงึ หมด
เรยี กวา่ ๓ จบั ตอ่ จากนัน้ จงึ ออกเพลงเตยี ว หมายถงึ มดั ไดแ้ ลว้
..” 56

55 เพลงหน้าพาทย์ จตพุ ร รัตนวราหะ พิมพ์ครัง้ แรก พ.ศ.๒๕๑๙, หน้า ๒๘
56 ณรงค์ชยั ปิ ฎกรัชต์ หนงั สือสารานกุ รมเพลงไทย หนา้ ๘๐-๘๑

220

๓.เพลงหนา้ พาทย์
และเพลงประกอบการแสดงหนงั ใหญ่

เพลงหนา้ พาทยเ์ ป็ น เพลงประเภทหนงึ่ ทใี่ ชบ้ รรเลงใน

การแสดงกริ ยิ าของมนุษย์ สตั ว์ วตั ถุ หรอื ธรรมชาติ ทงั้ กริ ยิ าทม่ี ี

ตวั ตน กริ ยิ าสมมติ กริ ยิ าทเี่ ป็ นปัจจบุ นั และกริ ยิ าทเี่ ป็ นอดตี เชน่

บรรเลงในการแสดงกริ ยิ า ยนื เดนิ กนิ นอน ของมนุษยแ์ ละสตั ว์

การเปลย่ี นแปลง เกดิ ขนึ้ หรอื สญู ไปของวตั ถแุ ละธรรมชาติ 57

ซง่ึ เพลงหนา้ พาทยห์ ลกั ๆทใ่ี ชบ้ รรเลงประกอบการแสดงหนัง

ใหญ่ กจ็ ะมี เชดิ เสมอ รัว และกราว และมเี พลงอนื่ ๆ ตามแตผ่ ู ้

พากยเ์ จรจาจะเรยี ก หรอื ครบู าอาจารยห์ นังใหญใ่ นแตล่ ะชมุ ชนจะ

กําหนด ดงั นี้

ตวั อยา่ งเพลงหนา้ พาทยท์ ใ่ี ชส้ าหรบั การแสดงหนงั ใหญ่
ชอื่ เพลง ลกั ษณะการใชง้ าน

กราวนอก หรอื สาดทราย ตรวจพลและยกทพั ของฝ่ ายลงิ

กราวใน หรอื สาดทราย ตรวจพลและยกทพั ของฝ่ ายยกั ษ์

กลม หรอื กระสนุ การไปมาของเทวดาชนั้ ผใู ้ หญ่

57 สารานกุ รมศพั ท์ดนตรีไทย ภาคคตี ะ-ดรุ ิยางค์ ฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๐, หน้า
๑๑๔

221

ฉุยฉาย แสดงความภมู ใิ จ
ชาํ นาญ
เชดิ รา่ ยรา่ ยเวทมนตค์ าถาและแปลงกาย

หรอื ชวย/ทวย
เพลงเชดิ นับเป็ นเพลงสําคญั เชงิ สญั ลกั ษณ์ของ

การแสดงหนังใหญ่ เป็ นลกั ษณะกรยิ าใหถ้ อื ชตู วั
หนังไว ้ และขยบั เตน้ เคลอื่ นไหว ใชบ้ รรเลงตงั้ แต่
ชว่ งเบกิ หนา้ พระไปจนจบการแสดง วามไปถงึ การ
เชดิ หนุ่ ทกุ ประเภท ทมี่ กี รยิ าเหมอื นกนั คอื เชดิ จงึ
มคี ําวา่ เชดิ หนัง เชดิ หนุ่ การเอย่ คําวา่ บดั นัน้ เชดิ
เป็ นคําคนุ ้ เคยตดิ ปาก ทยี่ งั คงใชส้ บื เนอื่ งมาทงั้
โขนละครบดั นัน้ เป็ นเกรนิ่ นําเพอื่ ใหผ้ เู ้ ชดิ หนัง
เตรยี มพรอ้ ม เชดิ เป็ นเหมอื นคําสงั่ หรอื สง่ิ ทจี่ ะให ้
ทํา คําวา่ บดั นัน้ บดั น้ี ยงั คงใชน้ ําหนา้ บทประพันธ์
โขน ละคร อยจู่ นถงึ ปัจจบุ นั เพลงเชดิ ใช ้
บรรเลงประกอบชว่ งเดนิ ทางระยะไกลไปมารบี รอ้ น
แบง่ เป็ น

-เชดิ ..................สําหรับมนุษยห์ รอื ทวั่ ไป

-เชดิ นอก สําหรับ สตั ว์ เชน่ ลงิ ใชเ้ ลน่ ตอนจบั
ลงิ หวั คํา่

-เชดิ ฉานสําหรับ มนุษยข์ ณะอยกู่ บั สตั ว์ เชน่
ตอนพระรามตามกวาง

-เชดิ ฉงิ่ ใชป้ ระกอบในการแสดงถงึ ที่
ลกึ ลบั

222

ตระนอน ตวั ละครนอน

ตระนมิ ติ ตวั ละครสําคญั รา่ ยรา่ ยเวทมนตค์ าถาและแปลง
ทยอย กาย
เดนิ รอ้ งไห ้

บาทสกณุ ี58 หรอื เสมอตนี นก

ปฐม จดั ทพั และยกทพั เฉพาะตวั คอื สคุ รพี (แมท่ พั
แผละ ใหญฝ่ ่ ายพระราม) และ มโหรี
(แมท่ พั ใหญฝ่ ่ ายลงกา)

สําหรับการไปมาของสตั วป์ ีก เชน่ ครฑุ นกใหญ่

พระยาเดนิ เสด็จพระราชดําเนนิ ของพระเจา้ แผน่ ดนิ , การ
สญั จรไปมาของยกั ษ์ผสู ้ งู ศกั ด5ิ์ 9

เพลงฉงิ่ ใชช้ มสวน ชมป่ า เกบ็ ดอกไม ้

เพลงชา้ - ใชส้ ําหรับการเบกิ บานในการไป
เพลงเร็ว มาอยา่ งสภุ าพ งดงามและแชม่ ชอ้ ย

รัว มเี พลงรัวลาเดยี ว และเพลงรัวสามลา
ใชต้ อนแผลงฤทธเิ์ ดช หรอื แสดงอาการโกรธเคอื ง
อยา่ งน่าเกรงขาม

58 อ้างในเพลงหน้าพาทย์ จตพุ ร รัตนวราหะ พิมพ์ครัง้ แรก พ.ศ.๒๕๑๙, หน้า ๓๘ ว่า

“พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หวั เพ่งิ จะทรงเปล่ียนเสียใหม่ว่า บาทสกุณี”
59 จตพุ ร รัตนวราหะ, เพลงหน้าพาทย์, พมิ พ์ครัง้ แรก พ.ศ.๒๕๑๙, หน้า ๔๑.

223

ลงสรง อาบน้ํา แตง่ ตวั มสี องเพลงลงสรง มกั บรรเลง
ตอ่ เนอื่ งกนั
โล ้ -ลงสรง(อาบนํ้า)
สาธกุ าร -ลงสรงโทน (แตง่ ตวั )
เสมอ
โอด เดนิ ทางทางนํ้า เชน่ ตอน เบญจกายแปลงตวั เป็ น
นางสดี าลอยน้ํามา

อญั เชญิ พระรัตนตรัย เทพดา ครบู าอาจารย์ สงิ่
ศกั ดส์ิ ทิ ธทิ์ งั้ หลายใหม้ าชมุ นุม

หรอื ไมไ่ ดไ้ มเ่ สยี บรรเลงตอนเดนิ ไปมาใน
ระยะใกล ้ ๆ

-โอดสองชนั้ /ใชส้ ําหรับความโศกเศรา้ ของตวั
ละครทมี่ ศี กั ดส์ิ งู

-โอดชนั้ เดยี ว สําหรับตวั ละครทว่ั ไป

๔.ชอ่ื เพลงหนา้ พาทยแ์ ผลง60

หนา้ พาทยแ์ ผลงเป็ นการทดสอบภมู ปิ ัญญาของผพู ้ ากย์
หนังและพากยโ์ ขน กบั นักดนตรปี ี่พาทย์ คอื แทนทจ่ี ะเรยี กชอ่ื
เพลงหนา้ พาทยใ์ หบ้ รรเลงกนั ตรงๆ กลบั ใชค้ ําใบใ้ หข้ บคดิ หรอื

60 บญุ ธรรม ตราโมท, คาบรรยายวชิ าดุริยางคศาสตร์ไทย, พ.ศ.๒๔๘๑

224

เรยี กวา่ คําแผลง ซง่ึ ผทู ้ เี่ ขยี นบทความอธบิ ายไวไ้ ดด้ ี ดว้ ยทนั ยคุ
สมยั นยิ มหนา้ พาทยแ์ ผลงก็คอื ครมู นตรี ตราโมท โดยกลา่ วนําไว ้
วา่ “อนั คําบอกหนา้ พาทยแ์ ผลงนี้ คนเจรจาโขนและหนังใหญใ่ น
สมยั กอ่ นไดน้ ยิ มใชก้ นั อยโู่ ดยทว่ั ไป ซง่ึ แทนทจ่ี ะบอกป่ีพาทย์
บรรเลงเพลงหนา้ พาทยอ์ ะไรตรงๆ กแ็ ผลงบอกเสยี อกี อยา่ งหนงึ่
เพอื่ ลองเชาวน์ ักปี่ พาทยอ์ กี ชนั้ หนงึ่ คําแผลงทบ่ี อกน้ี มไิ ดแ้ ผลง
ดว้ ยตวั อกั ษรดงั คําแผลงในอกั ษรศาสตร์ เป็ นการแผลงดว้ ยคํา
ตอ่ คําทเี ดยี ว มหี ลกั อยทู่ จี่ ะใหค้ วามหมายของคําแผลงนัน้ ตรงกบั
ชอื่ หนา้ พาทยเ์ ทา่ นัน้ ทจี่ รงิ ก็เป็ นคําบอกใบเ้ รานเี่ อง

สมยั กอ่ นๆ ถา้ ผใู ้ ดทําใหป้ ่ีพาทยจ์ นเพลงไดม้ ากเทา่ ใด ก็
มกั จะเห็นกนั วา่ เป็ นผทู ้ ย่ี ง่ิ ดว้ ยความรคู ้ วามสามารถมากเทา่ นัน้
ทงั้ ดเู หมอื นจะเป็ นทน่ี ่าเกรงขามของบรรดาหมนู่ ักป่ีพาทยด์ ว้ ย
ตลอดจนคนรอ้ งสง่ ก็เชน่ เดยี วกนั แตม่ าสมยั นเ้ี ป็ นสมยั ทน่ี ยิ ม
ความเรยี บรอ้ ยและความพรอ้ มเพรยี งเป็ นใหญ่ ความเห็นจงึ ออก
จะเป็ นไปในทางวา่ ผทู ้ ท่ี ําใหป้ ี่พาทยจ์ นเพลงกค็ อื ผนู ้ ํามาซง่ึ
ความไมเ่ รยี บรอ้ ยของการแสดงนัน้ ถา้ เป็ นคนรอ้ งสง่ เมอื่ รอ้ งไป
แลว้ ป่ี พาทยร์ ับไมไ่ ด ้ ตวั ผรู ้ อ้ งสง่ เองก็เคอะเขนิ ผฟู ้ ังกไ็ มไ่ ดฟ้ ัง
สงิ่ ทไี่ พเราะ ถา้ เป็ นคนเจรจา เมอื่ บอกหนา้ พาทยไ์ ปแลว้ ปี่พาทย์
ทําไมไ่ ดต้ วั โขนหรอื หนังก็จะยนื เกอ้ อยโู่ ดยไมม่ เี พลงทจี่ ะรํา เป็ น
เครอ่ื งขลกุ ขลกั มาก คนดกู ็ชกั จะเบอื่ ฉะนัน้ การบอกหนา้ พาทย์
แผลงจงึ ไดศ้ นู ยไ์ ปจนเกอื บจะไมม่ เี หลอื อยแู่ ลว้ จะมอี ยบู่ า้ งก็ใน
ตา่ งจงั หวดั บางจงั หวดั เทา่ นัน้ แตก่ ็นอ้ ยตามที อยา่ งไรกต็ าม การ
บอกหนา้ พาทยแ์ ผลงนี้ ยอ่ มเป็ นการฝึกหดั ใชค้ วามคดิ ฝึกฝน
เชาวนใ์ หว้ อ่ งไว ซงึ่ นับวา่ เป็ นเครอ่ื งนํามาซงึ่ ความเจรญิ แหง่
ปัญญาไดอ้ ยา่ งหนงึ่ อนั ควรรักษาไว”้

225

จากบทความคําบอกหนา้ พาทยแ์ ผลง ของครมู นตรี ตรา
โมท นับเป็ นบทความชน้ิ สําคญั ทไี่ ดเ้ ลา่ เรอื่ งราวบทเพลง
ประกอบการแสดงหนังใหญ่ รวมถงึ ลกั ษณะการแสดงของหนัง
ใหญไ่ วอ้ ยา่ งน่าสนใจ ในชว่ งเวลา พ.ศ.๒๔๘๑ นับเป็ นชว่ งโรย
ลาของหนังใหญ่ มคี ําแพลงหนา้ พาทยอ์ ยทู่ งั้ หมด ๑๑ ชอื่ เพลง
ดงั น้ี

๑. สศ่ี อก คอื เพลงวา
๒. ไมไ่ ดไ้ มเ่ สยี คอื เพลงเสมอ
๓. ลกู กระสนุ คอื เพลงกลม
๔. ชวยหรอื ทวย คอื เพลงเชดิ
๕. แสวงหา คอื เพลงชา้
๖. นางพระยาดําเนนิ คอื เพลงชา้
๗. แมล่ กู ออ่ นไปตลาด คอื เพลงเร็ว
๘. เหลอื งออ่ น คอื เพลงสนี วล
๙. ผวั ตาย คอื เพลงชา้ เจาะจงใหบ้ รรเลง

เพลงแมห่ มา้ ยครํา่ ครวญ

๑๐.สาดทราย คอื เพลงกราว คนและลงิ ใชเ้ พลง
กราวนอก

เป็ นยกั ษ์ใชเ้ พลงกราวใน

๑๑. บาทสกณุ ี คอื เพลงเสมอตนี นก

226

คาพากยเ์ จรจา

เรอ่ื งทห่ี นังใหญน่ ยิ มแสดงคอื เรอ่ื งรามเกยี รติ์ เพราะมี
คําพากยร์ ามเกยี รตข์ิ องเกา่ ปรากฏอยู่ และตวั หนังก็เป็ นตวั ละคร
ในเรอ่ื งรามเกยี รต์ิ แตป่ รากฏเป็ นตํานานในหนังสอื สมทุ รโฆษคํา
ฉันท์ วา่ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ไดโ้ ปรดใหพ้ ระมหาราชครู
แตง่ สมทุ รโฆษคําฉันท์ ซง่ึ สําหรับเลน่ หนังอกี เรอ่ื งหนง่ึ และศรี
ปราชญไ์ ดแ้ ตง่ อนริ ธุ คําฉันทข์ นึ้ ทลู เกลา้ ฯถวาย เพอ่ื เลน่ หนังอกี
เรอื่ งหนง่ึ ดว้ ย แตท่ งั้ สองเรอ่ื งนคี้ งจะไมท่ นั ไดน้ ําออกแสดงหรอื
อาจจะไมไ่ ดร้ ับความนยิ ม จงึ ไมป่ รากฏวา่ ไดใ้ ชเ้ ป็ นเรอื่ งแสดง
หนังใหญก่ นั สบื มาเหมอื นอยา่ งเรอื่ งรามเกยี รติ

นอกจากน้ี เชอื่ กนั วา่ ในสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา นยิ าย
เรอื่ งอเิ หนา (ปันหย)ี ของชวาไดเ้ ขา้ มาแพรห่ ลายในราชสํานัก
ไทย และคงมผี แู ้ ตง่ เป็ นคําพากยห์ รอื บทละครไวส้ กั เรอ่ื งสอง
เรอื่ ง หรอื เป็ นตอนใดตอนหนงึ่ แตเ่ ป็ นทน่ี ่าเสยี ดายวา่ ตน้ ฉบบั
ไดส้ ญู หายไปเมอื่ คราวเสยี กรงุ ศรอี ยธุ ยาครัง้ ที่ ๒ คําพากยเ์ รอ่ื ง

อเิ หนาไดถ้ กู รวบรวม หรอื ถกู แตง่ ขน้ึ ใหมอ่ กี ในสมยั รัชกาล
ที่ ๑ แหง่ กรงุ รัตนโกสนิ ทร์ ซงึ่ เป็ นตน้ เหตใุ หเ้ กดิ เป็ นขอ้ มลู

สรา้ งความบนั ดาลใจใหค้ ดิ แตง่ เป็ นบทละครเรอ่ื งอเิ หนาขน้ึ ใน
สมยั รัชกาลที่ ๒ เรอื่ งอเิ หนาและเรอื่ งสมทุ รโฆษคําฉันทไ์ ม่
ปรากฏมตี วั หนังใหญห่ ลงเหลอื ใหเ้ ห็น แตก่ ็ปรากฏมรี ปู ภาพ

เขยี นบนกระดาษแข็งและผนื ผา้ ใหเ้ ห็นเคา้ วา่ น่าจะเคยสลกั ลงใน
ผนื หนัง61

61 ผะอบ โปษะกฤษณะ, เร่ืองเดยี วกนั

227

สมทุ รโฆษคาฉนั ท์

สมทุ รโฆษคําฉันท์ เกดิ ขนึ้ โดยพระราชประสงคข์ อง
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช รับสง่ั ใหพ้ ระมหาราชครแู ตง่ ขนึ้ เพอ่ื
ใชเ้ ลน่ หนังใหญ่ ในคราวเฉลมิ พระเกยี รตพิ ระชนมพรรษาครบ
เบญจเพส เมอื่ พ.ศ.๒๐๙๙ ดงั ปรากฏไวใ้ นแผนกหนังสอื หรอื
คํานําหนังสอื “สมทุ รโฆษคําฉันท”์ ของพระมหาราชครู

พระมหาราชครแู ตง่ ไมท่ นั จบกถ็ งึ แกอ่ นจิ กรรมเสยี กอ่ น
แตง่ ไดเ้ พยี ง "พระเสด็จดว้ ยนอ้ ง ลลิ าศ ลอุ าศรมอาส นเทพบตุ ร
อนั บล" เป็ นตอนพระสมทุ รโฆษและนางพนิ ทมุ ดเี สด็จไปแกบ้ น
พระนานายณ์มหาราชทรงพระราชนพิ นธต์ อ่ มากไ็ มจ่ บอกี ทรง
เรมิ่ ตน้ ตงั้ แต่ "พศิ พระกฏุ อี า ศรมสถานตระการกล"และยตุ ลิ ง
เพยี ง "ตนกตู ายก็จะตายผเู ้ ดย่ี วใครจะดแู ล โอแ้ กว้ กบั ตนกู ฤเห็น
"ซง่ึ เป็ นคําครํ่าครวญของพทิ ยธรชอ่ื รณาภมิ ขุ ทบี่ าดเจ็บเพราะถกู
อาวธุ ของพทิ ธยาชอ่ื รณบตุ ร เรอื่ งนจี้ งึ คา้ งอยอู่ กี ครัง้ หนง่ึ สว่ นใน
ตอนจบเป็ นพระราชนพิ นธข์ องสมเด็จพระมหาสมณเจา้ ฯทรง
นพิ นธเ์ สร็จเมอ่ื พ.ศ.๒๓๘๓ ตามคําอาราธนา ของกรมหลวสงไก
สรวชิ ติ และกรมหลวงวงศาธริ าชสนทิ เรมิ่ ตงั้ แต่ “พทิ ยาธรทกุ ข์
ลําเค็ญครวญครํ่ารํ่าเข็ญ บรกู ้ ส่ี ํา่ แสนศลั ย”์

อนริ ทุ ธค์ ําฉันท์ สนั นษิ ฐานวา่ เป็ นงานนพิ นธข์ องของศรี

ปราชญ์ แตง่ เมอื่ รับราชการอยกู่ บั พระนารายณ์ฯ กลา่ วกนั วา่ ศรี

ปราชญแ์ ตง่ ขนึ้ ตามความมานะทจ่ี ะลบลา้ งคําประมาทของบดิ า
คอื พระมหาราชครวู า่ แตง่ ไดแ้ ตโ่ คลงซง่ึ เป็ นของงา่ ย แตจ่ ะแตง่
ฉันทซ์ งึ่ เป็ นคําประพันธท์ ยี่ ากและประณีตไมไ่ ด ้ ศรปี ราชญจ์ งึ แต่

งอนริ ทุ ธค์ ําฉันทข์ นึ้ บางทา่ นใหค้ วามเห็นวา่ ศรปี ราชญแ์ ตง่ อ

นริ ทุ ธค์ ําฉันทเ์ พราะเป็ นหว่ งบดิ าชราแลว้ จะแตง่ สมทุ โฆษคํา

228

ฉันท์ ซง่ึ จะใชใ้ นงานพระราชพธิ สี มโภชพระชนมายคุ รบ
เบญจเพสของสมเด็จพระนารายณ์ฯ ไมส่ ําเร็จ จงึ ไดแ้ ตง่ เรอื่ งน้ี
ขน้ึ มเี นอ้ื เรอ่ื งคลา้ ยคลงึ กนั แตง่ ดว้ ยฉันทเ์ หมอื นกนั และตงั้ ใจ
ใหเ้ ป็ นบทพากยห์ นังเหมอื นกนั เพอื่ วา่ จะไดเ้ ป็ นเรอ่ื งสํารอง และ
เป็ นงานแทนงานของบดิ าได ้

โดยแตง่ เป็ นฉันทแ์ ละกาพย์ มรี า่ ยสภุ าพปน ซงึ่ เรยี กได ้
วา่ ซงึ่ ถอื วา่ แหกขนบการประพันธเ์ ดมิ ๆ แตเ่ ออ้ื ประโยชนอ์ ยา่ ง
มากหากนํามาใชพ้ ากยเ์ จรจาหนังใหญ่ ลลี าฉันทแ์ ละการดําเนนิ
เรอ่ื งรวดเร็วรวบรัด ไมเ่ ครง่ ครัดตอ่ ธรรมเนยี มรวมในการแตง่ บท
ไหวซ้ ง่ึ ควรจะอยตู่ อนตน้ เรอ่ื งศรปี ราชญเ์ อาไปไวต้ อนทา้ ยเรอื่ ง
แสดงถงึ นสิ ยั รักอสิ ระเสรใี นการแตง่ หนังสอื ตอ้ งการใหเ้ ป็ นแบบ
ของตนเองโดยเฉพาะ

เนอื้ หาของเรอ่ื งกม็ คี วามใกลเ้ คยี งกบั สมทุ โฆษคําฉันท์
มาก ในตอนตน้ ตา่ งกนั แตพ่ ระอนริ ทุ ธป์ ระพาสป่ ากอ่ นเขา้ บรรทม
ใตต้ น้ ไทร (สมทุ รโฆษตน้ โพธ)ิ์ กไ็ ดก้ ราบไหวพ้ ระไทรๆ จงึ อมุ ้
ไปสมนางอษุ า ธดิ ายกิ ษ์ ชอ่ื พานาสรู นางพจิ ติ รเลขาวาดรปู
เทวดา และกษัตรยิ ต์ า่ งๆ ใหน้ างอษุ าๆ จําพระอนริ ทุ ธไ์ ด ้ นาง
พจิ ติ รเลขาจงึ เหาะมาสะกดพระอนริ ทุ ธไ์ ปอยกู่ บั นางอษุ า ตอ่ มา
ความทราบถงึ พระยายกั ษ์บดิ าจงึ จบั พระอนริ ทุ ธไ์ ดด้ ว้ ยอํานาจศร
ขณะนัน้ พระนารท (ฤาษี) ดดี พณิ เหาะผา่ นมาเห็นเหตกุ ารณ์ จงึ
นําความไปทลู พระกฤษณะ (ตาของพระอนริ ทุ ธ)์ พระกฤษณะยก
ทพั มาตอ่ สยู ้ กั ษ์ ยกั ษ์ไปขอใหพ้ ระศวิ ะมาชว่ ยรบ แตพ่ ระศวิ ะไม่
ชว่ ย พานาสรู จงึ รบเอง กพ็ า่ ยแพพ้ ระกฤษณะจะประหาร แตพ่ ระ
ศวิ ะขอชวี ติ ไว ้ จงึ ไดแ้ ตต่ ดั แขนหนงึ่ พันแขนของพานาสรู ใหเ้ หลอื
เพยี งสองแขน และใหเ้ ป็ นนายทวารบาล พระอนริ ทุ ธแ์ ละนาง
อษุ าไดค้ รองกนั เป็ นสขุ สบื ไป

229

บทพากยร์ ามเกยี รตหิ์ นงั ใหญ่

บทพากยร์ ามเกยี รตหิ์ นังใหญ่ มที งั้ ฉบบั หลวง ฉบบั
ราษฏรห์ รอื ฉบบั เฉลยศกั ด์ิ ตามจะเรยี กกนั แตไ่ มว่ า่ บทพากยห์ นัง
เหลา่ นัน้ จะกําเนดิ กอ่ เกดิ เชน่ ไร ลว้ นเป็ นตน้ ทางกอ่ นสรา้ งตวั หนัง
ทงั้ สน้ิ
หนังสอื ประชมุ บทพากยร์ ามเกยี รตเิ์ ลม่ ๑ และเลม่ ๒
นับเป็ นการรวมตน้ ฉบบั วรรณกรรมทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั หนังใหญแ่ ละ
โขนไวม้ ากทส่ี ดุ แหลง่ อน่ื ๆทยี่ งั มบี ทพากยห์ นังหลงเหลอื อยบู่ า้ ง
สว่ นใหญจ่ ะเหลอื แตช่ อ่ื ตอน หรอื ชอื่ ศกึ คอื หนังใหญว่ ดั ขนอน
ราชบรุ ี วดั บา้ นดอน ระยอง วดั สวา่ งอารมณ์ ระยอง และวดั ตะกู
อยธุ ยา ดงั นัน้ จงึ รวมชอื่ ตอนทงั้ หมดไวเ้ ป็ นหลกั ฐาน สําหรับ
เทยี บเคยี งกบั ตวั หนังใหญท่ อี่ าจคน้ พบในแหลง่ ตา่ งๆตอ่ ไป

รามเกยี รตสิ์ มยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา

รามเกยี รตคิ์ ําฉันท์ เป็ นบทละครทไ่ี มป่ รากฏหลกั ฐานวา่
แตง่ ขน้ึ ในสมยั ใด ปัจจบุ นั ตน้ ฉบบั คําฉันทส์ ญู หายไปเกอื บหมด
ตามกาลเวลา มกี ารกลา่ วถงึ ในหนังสอื จนิ ดามณีของพระโหราธิ
บดเี พยี ง ๓-๔ บทเทา่ นัน้ คอื บทละครตอนพระอนิ ทรส์ ง่ั ใหพ้ ระ
มาตลุ นี ําราชรถมาถวายยงั สนามรบ บทละครตอนพระราม
โศกเศรา้ เสยี ใจ รําพันครํ่าครวญเมอ่ื คราวทที่ ศกณั ฐล์ กั พาตวั นาง
สดี า บทละครแบบพรรณาตอนมหาบาศบตุ รของทศกณั ฐ์ และ
บทละครตอนพเิ ภกครํา่ ครวญหลังทศกณั ฐล์ ม้

230

รามเกยี รตค์ิ ําพากย์ เป็ นบทละครทห่ี อสมดุ แหง่ ชาติ กรม
ศลิ ปากร ไดท้ ําการแบง่ ตพี มิ พไ์ วเ้ ป็ นภาค ๆ เป็ นการดําเนนิ เรอื่ ง
ตดิ ตอ่ กนั ตงั้ แตภ่ าค ๒ ตอนสดี าหาย จนถงึ ภาค ๙ ตอนกมุ ภกร
รณลม้ รปู แบบการแตง่ เป็ นบทพากยท์ คี่ อ่ นขา้ งยาวและสนั้ แต่
เดมิ ใชพ้ ากยส์ ําหรับเลน่ หนังใหญ่ ภายหลงั นํามาใชป้ ระกอบใน
การเลน่ โขนดว้ ย...

บทละครรามเกยี รตใ์ิ นสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยามบี างสํานวน
กลา่ วถงึ ตอนพระรามประชมุ พลจนถงึ ตอน องคตสอื่ สาร เป็ น
บทละครทไี่ มเ่ คยตพี มิ พเ์ ผยแพรท่ ใี่ ดมากอ่ น เมอื่ นํามา
เปรยี บเทยี บกบั บทละครรามเกยี รตใ์ิ นสมยั พระบาทสมเด็จพระ
พทุ ธยอดฟ้าจฬุ าโลกมหาราช รัชกาลท่ี ๑ พบวา่ เนอื้ ความบาง
ตอนไมต่ รงกนั ถอ้ ยคําตา่ ง ๆ ดไู มเ่ หมาะสม จงึ เขา้ ใจวา่ บทละคร
ดงั กลา่ วเป็ นบทละครรามเกยี รตฉ์ิ บบั เชลยศกั ดิ์ ทม่ี ผี คู ้ ดั ลอกไว ้
ในสมยั กรงุ ศรอี ยธุ ยา

231

บทพากยร์ ามเกยี รตสิ์ มยั ธนบรุ ี

มดี ว้ ยกนั ๔ ตอนคอื
ตอนท่ี ๑ พระมงกฎุ

พระมงกฎุ อยปู่ ่ า
พระรามเสย่ี งมา้
พระมงกฎุ ขมี่ า้ เสยี่ งทาย หนุมานจะจับ ถกู พระ
มงกฎุ เสก มนตรม์ ดั ตวั
พระพรตจับพระมงกฎุ
พระลบแจง้ ขา่ วนางสดี า พระมงกฎุ ถกู จองจํา
พระลบชว่ ยพระมงกฎุ หนี พระรามเตรยี มยกทพั ไป
จับพระมงกฎุ
ตอนที่ ๒ ตอนหนุมานเกย้ี ววานรนิ จนทา้ วมาลวี ราชมา
หนุมานเกยี้ ววานรนิ
หนุมานสงั หารวริ ฬุ จําบงั
ทศกณั ฑใ์ หน้ นยเุ วกวายเุ วกไปตามทา้ วมาลวี ราช
ทา้ วมาลวี ราชสอบคดที ศกณั ฐ์
ทา้ วมาลวี ราชใหพ้ ระวษิ ณุกรรมไปตามพระราม
ตอนท่ี ๓ ตอนทา้ วมาลวี ราชพพิ ากษาความ จนทศกณั ฐเ์ ขา้ เมอื ง
ทา้ วมาลวี ราชสอบความขา้ งพระราม
ทา้ วมาลรี าชสอบความนางสดี า
ทา้ วมาลวี ราชตดั สนิ ความ
ทศกณั ฑพ์ าล ไมย่ อมรับคําตดั สนิ
ทศกณั ฑค์ นื เมอื ง คดิ แคน้ พระรามพระลกั ษมณ์
และเหลา่ เทวา

232

ตอนที่ ๔ ตอนทศกณั ฐต์ งั้ พธิ ที รายกรด, พระลกั ษมฌต์ อ้ ง
หอกกบลิ พัท จนผกู ผมทศกณั ฐก์ บั นางมณโฑ
ทศกณั ฐต์ งั้ พธิ ที รายกรด
พระอนิ ทรใ์ หเ้ ทพพาลไี ปทําลายพธิ ที รายกรด
ทศกณั ฑค์ ดิ วา่ พเิ ภกเป็ นตน้ คดิ ทําลายพธิ ี ยกรบ
พระราม หมายฆา่ พเิ ภก
พระลกั ษมณ์ถกู หอกทศกณั ฑ์ พเิ ภกบอกวธิ แี ก ้
หนุมานหายาแกพ้ ระลกั ษมณ์ใหฟ้ ื้น ผกู ผม
ทศกณั ฐต์ ดิ กบั นางมณโฑ

ทศกณั ฐใ์ หต้ ามฤษีโคบตุ รมมาชว่ ย

จากขอ้ ความในพระราชพงศาวดารฉบบั พระ
ราชหตั ถเลขา จดหมายเหตคุ วามทรงจําของกรมหลวงนริ
นทรเทวแี ละพระราชวจิ ารณ์ ซง่ึ เป็ นพระราชนพิ นธข์ อง
พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั และเลา่ เรอ่ื ง
หนังสอื รามเกยี รต์ิ ซงึ่ ธนติ อยโู่ พธิ์ เรยี บเรยี ง ปรากฏวา่
สมเด็จพระเจา้ ตากสนิ มหาราช เสด็จกลบั จากราชการ
สงครามเมอื งนครศรธี รรมราชเมอ่ื เดอื น ๔ ปลาย พ.ศ.
๒๓๑๒ ทรงนําเจา้ นครกบั ครอบครัวพรอ้ มทงั้ คณะละครผหู ้ ญงิ
มายงั กรงุ ธนบรุ แี ละในครัง้ นัน้ อาจไดบ้ ทละครจาก
นครศรธี รรมราชเขา้ มาดว้ ย

ตอ่ มาในเดอื น ๖ พ.ศ.๒๓๑๓ นัน้ เอง ไดม้ ใี บบอกรายงาน
เรอื่ งเจา้ พระฝางประพฤตมิ ชิ อบตงั้ ตวั เป็ นใหญ่ เมอ่ื ทรง
ทราบกร็ ับสง่ั ใหเ้ ตรยี มการสงครามและเสด็จกรธี าทพั ไปปราบ
เจา้ พระฝาง ณ เมอื งสวาง- คบรุ ี เมอื่ เดอื น ๘ พ.ศ. ๒๓๑๓

233

หากพจิ ารณากําหนดเวลาทที่ รงพระราชนพิ นธบ์ ท
ละครเรอ่ื งรามเกยี รตติ์ ามบานแผนกทวี่ า่ วนั อาทติ ย์ เดอื น ๖
ขนึ้ ๑ คํา่ พ.ศ. ๒๓๑๓ ระยะเวลาทท่ี รงวา่ งราชการสงคราม
สําหรับทรงพระราชนพิ นธบ์ ทละครเรอ่ื งรามเกยี รตก์ิ เ็ พยี ง ๑
เดอื น และการทที่ รงพระอตุ สาหะทรงพระราชนพิ นธบ์ ทละคร
เรอื่ งรามเกยี รตข์ิ นึ้ ในครัง้ น้ี อาจมมี ลู เหตบุ างสว่ นจากการได ้
คณะละครผหู ้ ญงิ และบทละครเมอื งนครศรธี รรมราชมาก็
เป็ นได ้ พระราชนพิ นธบ์ ทละครเรอ่ื งรามเกยี รตอ์ิ าจไดใ้ ชเ้ ลน่
ละครหลวงในงานสมโภชครัง้ สําคญั ๆ ตลอดสมยั กรงุ ธนบรุ ี
บทละครเรอื่ งรามเกยี รตพิ์ ระราชนพิ นธใ์ นสมเด็จพระเจา้ ตาก
สนิ มหาราช พมิ พค์ รัง้ แรกเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๘๔ เรอื่ งรามเกยี รติ์
ของไทยไดต้ น้ เคา้ มาจากเรอื่ งรามายณะของอนิ เดยี เรอื่ ง
รามเกยี รตคิ์ งเขา้ มาแพรห่ ลายในหมคู่ นไทยนับแตส่ มยั
สโุ ขทยั แลว้ เรอ่ื งรามเกยี รตมิ์ อี ทิ ธพิ ลตอ่ นาฏศลิ ป์ และ
วรรณคดขี องไทยเป็ นอนั มาก เรอ่ื งนผ้ี กู ขน้ึ เป็ นบทแสดงหนัง
ละครและโขน และแตง่ ขนึ้ สําหรับอา่ นโดยตรงมาแตค่ รัง้ กรงุ
ศรอี ยธุ ยา เชน่ รามเกยี รตบ์ิ ทพากย์ แตง่ ดว้ ยกาพย์ ใช ้
สําหรับพากยห์ นัง สนั นษิ ฐานวา่ แตง่ ระหวา่ งรัชกาลสมเด็จ
พระเพทราชากบั สมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั บรมโกศ บทพากย์
เรอ่ื งรามเกยี รตเิ์ หลอื อยเู่ ป็ นบางตอน สําหรับตอนนางลอย
สนั นษิ ฐานวา่ พระบาทสมเด็จพระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั ทรง
นํามาแปลงใหมแ่ ละทรงใชเ้ ป็ นบทพากยโ์ ขน

234

ประชมุ คาพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑

ตอนที่ ๑ อธบิ ายประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รต์ิ
ตอนที่ ๒ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากยส์ าม
ตระเบกิ หนา้ พระ
ตอนท่ี ๓ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากย์
กระบวนทศกณั ฑล์ งสวน
ตอนท่ี ๔ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รต์ิ ภาค ๑ ตอน พากยน์ าง
ลอย (รัชกาลท่ี ๒)
ตอนที่ ๕ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รต์ิ ภาค ๑ ตอน พากย์
นาคบาศ (รัชกาลท่ี ๒)
ตอนท่ี ๖ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากยพ์ ธิ ี
พรหมาสตร์ (รัชกาลที่ ๒)
ตอนท่ี ๗ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากย์
กระบวนทพั มงั กรกณั ฐุ์
ตอนที่ ๘ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากย์
กระบวนมงั กรกณั ฐไุ์ ปขดั ตาทพั
ตอนท่ี ๙ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รต์ิ ภาค ๑ ตอน พากยศ์ กึ
มงั กรกณั ฐุ์
ตอนท่ี ๑๐ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากย์
ทศกณั ฐบุ์ อกขา่ วมงั กรกณั ฐุ์

235

ตอนท่ี ๑๑ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากย์
พรหมาสตร์
ตอนที่ ๑๒ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากย์
เอราวณั
ตอนที่ ๑๓ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากย์
นางสดี ามาสนามรบ
ตอนท่ี ๑๔ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รต์ิ ภาค ๑ ตอน พากยร์ ถ
ตา่ ง ๆ
ตอนท่ี ๑๕ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากย์
กระบวนทพั มา้ วริ ณุ จําบงั
ตอนท่ี ๑๖ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน พากยท์ พั
มา้
ตอนที่ ๑๗ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๑ ตอน คําพากย์
พระราชนพิ นธร์ ัชกาลที่ ๖
ตอนที่ ๑๘ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รต์ิ ภาค ๒ ตอน สดี าหาย
ตอนท่ี ๑๙ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ ภาค ๓ ตอน พระราม
ไดข้ ดี ขนิ
ตอนที่ ๒๐ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รต์ิ ภาค ๔ ตอน หนุมาน
ถวายแหวน
ตอนท่ี ๒๑ ภาคผนวก ตําราเลน่ หนังในงานมหรสพ ฉบบั หอ
พระสมดุ วชริ ญาณ

236

ประชมุ คาพากยร์ ามเกยี รติ์ เลม่ ๒

ตอนที่ ๑ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๕ ตอน หนุ
มานเผาลงกา

ตอนท่ี ๒ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๖ ตอน
พระรามประชมุ พล

ตอนท่ี ๓ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รต์ิ ภาค ๗ ตอน
พระรามประชดิ ลงกา

ตอนที่ ๔ ประชมุ คําพากยร์ ามเกยี รต์ิ ภาค ๘ ตอน ศกึ
ไมยราพ

ตอนที่ ๕ ระชมุ คําพากยร์ ามเกยี รติ์ ภาค ๙ ตอน ศกึ กมุ
ภกรรณ

237

ชอื่ ตอนบทพากย์ หนงั ใหญว่ ดั ขนอน ราชบรุ ี

มจี ํานวน ๑๑ ตอน

หนุมานถวายแหวน
สหสั สกมุ ารและเผาลงกา
ศกึ อนิ ทรชติ ครัง้ ท่ี ๑
ศกึ มงั กรกณั ฐ์
ศกึ วริ ญุ มขุ
นาคบวช
พรหมาสตร์
ศกึ ทศกณั ฐค์ รัง้ ที่ ๕
หนุมานอาสา
ทศกณั ฐส์ ง่ั เมอื ง
ศกึ บรรลยั กลั ป์

238

ชอื่ ตอนบทพากย์ หนงั ใหญว่ ดั บา้ นดอน ระยอง

มจี ํานวน ๘ ตอน
๑. สดี าลยุ ไฟ
๒. สดี าวาดรปู
๓. สดี าถกู สงั่ ประหาร
๔. กําเนดิ สองกมุ าร
๕. ปลอ่ มมา้ อปุ การ
๖. พระบตุ รพระลบ รบกบั พระพรต พระสตั รตุ
๗. พอ่ ลกู รจู ้ ักกนั (พระบตุ รพระลบพบพระราม)
๘. พระบตุ รพระลบ รับนางสดี ากลบั เมอื ง

ชอื่ ตอนบทพากยห์ นงั ใหญว่ ดั สวา่ งอารมณ์ สงิ หบ์ รุ ี

มจี ํานวน ๔ ตอน

๑. ศกึ ใหญห่ รอื ศกึ ทศกณั ฑ์
๒. ศกึ อนิ ทรชติ หรอื ศกึ นาคบาต
๓. ศกึ วริ ณุ จําบงั
๔. ศกึ พระมงกฎุ -บตุ รลบ

239

ชอ่ื ตอนบทพากย์ หนงั ใหญว่ ดั ตะกู อยธุ ยา

มจี ํานวน ๖ ตอน
๑. ศกึ กภุ กรรณ
๒. ศกึ อนิ ทรชติ
๓. ศกึ วริ ญุ จําบงั
๔. ศกึ วริ ญุ มขุ
๕. ศกึ ทศกรรณฐ์
๖. นางลอย

240

อปุ กรณ์
เครอื่ งประกอบการแสดงหนงั ใหญ่

อปุ กรณ์ หรอื เครอื่ งประกอบการแสดงหนังใหญท่ ส่ี ําคญั
ทําใหก้ ารเชดิ หนังนัน้ เกดิ แสงเงาน่ันคอื ไฟและจอหนัง ซงึ่ จะ
เรยี กอปุ กรณ์ทงั้ หมดทอี่ ยรู่ วมกนั วา่ “โรงหนัง” ซงึ่ จะประกอบไป
ดว้ ยสองสว่ นหลกั ๆคอื
จอหนัง และบงั เพลงิ

โรงหนงั “จอหนงั บงั เพลงิ ”

โรงหนังใหญแ่ ตเ่ ดมิ ที ไมต่ อ้ งปลกู เป็ นอาคารยกพนื้
เหมอื นการแสดงชนดิ อนื่ ๆสามารถแสดงไดก้ บั พนื้ ดนิ เพราะเวลา
เลน่ ใชค้ นยนื เชดิ หนา้ จอ รปู หนังจงึ อยสู่ งู กวา่ ระดบั พน้ื ดนิ ทคี่ นน่ัง
ชม ประมาณวาเศษๆ จงึ สามารถมองเห็นการแสดงไดอ้ ยา่ งทวั่ ถงึ
สถานทตี่ อ้ งเป็ นทโ่ี ลง่ กลางแจง้ มคี วามกวา้ งยาวเพยี งพอ อยา่ ง
นอ้ ยประมาณสองงานหรอื ครง่ึ ไร่

จอหนังใหญม่ ขี นาดยาวประมาณ ๑๕ – ๑๖ เมตร สงู ราว
๖ เมตร ใชผ้ า้ บางสขี าวทําจอ ซง่ึ แบง่ ออกเป็ น ๓ สว่ น ตามความ
ยาวของจอ คอื สว่ นกลางใชผ้ า้ ขาวโปรง่ มคี วามยาวประมาณ ๘
เมตร ทเ่ี หลอื ดา้ นซา้ ยและขวา ใชผ้ า้ ขาวธนนมดายาวขา้ งละ ๔
เมตร ใชผ้ า้ แดงเย็บทาบรมิ รอบขอบจอทงั้ ๔ ดา้ น บางทกี ็มผี า้ สี
น้ําเงนิ ทาบตอ่ เพมิ่ จากของสแี ดงออกไปอกี ชนั้ หนงึ่ ทงั้ ๔ ดา้ น

241

การขนึ้ จอหรอื ยกจอ หนังใหญ่ ปักเสาสงู ๔ ตน้ โดยใช ้
ไมไ้ ผล่ ําใหญๆ่ มาปักเรยี งใหห้ า่ งกนั ประมาณ ๓ เมตร เสาตน้ ท่ี
สองควรใหห้ า่ งกบั ตน้ ทสี่ ามประมาณ ๑๐ เมตร เสาตน้ ทสี่ ามกบั
เสาตน้ ทสี่ ห่ี า่ งกนั ประมาณ ๓ เมตร พอดสี ดุ จอหนังใหญ่ กอ่ นจะ
ยกเสา เอาลกู รอกผกู ตดิ ไวท้ ป่ี ลายเสา แลว้ รอ้ ยเชอื กทงิ้ ลงมาทงั้
สองขา้ งใหถ้ งึ ดนิ นําลําไมไ้ ผเ่ ล็กมาผกู ตดิ กนั ใหย้ าวเทา่ กบั จอ
หนังแลว้ ผกู ตดิ กบั รมิ จอ ดว้ นความยาว ๑๖ เมตร โดยใชเ้ ชอื กตดั
ยาวประมาณ ๑ คบื นํามาผกู เป็ นระยะๆระหวา่ งรมิ จอกบั ไมไ้ ผ่
เรยี กวา่ หนวดพราหมณ์ ตลอดไป แลว้ เอาปลายเชอื กเสน้ หนงึ่ ท่ี
รอ้ ยลกู รอกไว ้ มาผกู กบั ไมไ้ ผ่ เรยี กวา่ ครา่ วบน ใหไ้ ดร้ ะยะเสาชกั
ขนึ้ ไปสงู จากพน้ื ดนิ ประมาณ ๑ เมตร เอาปลายเชอื กมาผกู ไวท้ ่ี
โคนเสา ปัจจบุ นั ววิ ฒั นาการเรอ่ื งจอหนังไดเ้ ปลยี่ นไป เพอื่ ใหเ้ ขา้
กบั ยคุ สมยั จงึ เปลย่ี นจากไมไ้ ผเ่ ป็ นแป็ ปนํ้า เพอื่ ความ
สะดวกสบายและเกบ็ รักษางา่ ย

สว่ นลา่ งของจอทส่ี งู จากพนื้ ดนิ คงผกู ตดิ กบั ครา่ วอนั ลา่ ง
ใชผ้ า้ ลายหรอื ผา้ ลายดอกสตี า่ งๆแขวนใตจ้ อ หอ้ ยลงมาเกอื บจรด
พน้ื ดนิ เพอ่ื ความสวยงาม และเพอื่ มใิ หค้ นดไู ดเ้ ห็นสงิ่ ทไ่ี มน่ ่าดู
ภายในโรง ดา้ นบนของจอจะมรี ะบายเป็ นลายปิดดว้ ยกระดาษ
ทองบา้ ง ปักไหมทองอยา่ งจนี บา้ ง มดี นิ้ หอ้ ยยาวหรอื ลกู ลยุ่ หอ้ ย
ยาวตลอดจอ สว่ นบนปลายเสาทงั้ ๔ มกั จะผกู ธงแดงบา้ ง ธงชา้ ง
บา้ ง หรอื ขนนกยงู บา้ ง เพอ่ื ความสวยงาม

242

ตามความเชอื่ และคตนิ ยิ มของผเู ้ ลน่ หนังใหญ่ จะถอื วา่
การตงั้ เสา – ปักจอ เป็ นงานสําคญั เรม่ิ แรกทจี่ ะตอ้ งพจิ ารณา
อยา่ งรอบคอบใหเ้ หมาะสมกบั สถานที่ ทศิ ทางลม และเพอื่ ความ
เป็ นสริ มิ งคล ป้องกนั อนั ตรายทงั้ แกผ่ เู ้ ลน่ และผแู ้ สดง ผทู ้ จี่ ะตงั้
เสา – ปักจอไดจ้ งึ ตอ้ งเป็ น “ผรู ้ ”ู ้ ทางดา้ นน้ี จะเรมิ่ จากผทู ้ ําพธิ จี ดุ
ธปู จดุ เทยี น ขออนุญาตเจา้ ทเ่ี จา้ ทางเสยี กอ่ น แลว้ จงึ เรม่ิ ลงมอื
บางชมุ ชนหนังใหญเ่ รยี กวา่ ตงั้ ชมบ มลี กั ษณะเป็ นกระทงกาบ
กลว้ ยประกอบดว้ ย หมากพลู ดอกไม ้ ธปู เทยี น เพอ่ื บชู าแมพ่ ระ
ธรณี ซง่ึ จะกลา่ วเป็ นคาถา ชมบ ทตี่ งั้ ทงั้ ส่ี จะตงั้ เป็ นแถว
ระยะหา่ งกนั พอสมควรใหพ้ อดกี บั เสาทจี่ ะใชต้ งั้ จอทงั้ สเ่ี สา
หลงั จากนัน้ จงึ ขดุ ดนิ ตรงทต่ี งั้ ชมบ แลว้ ตงั้ เสา แลว้ จงึ ชกั รอกจอ
หนังขน้ึ ไป ขงึ ใหต้ งึ ตกแตง่ ใหส้ วยงามตามความนยิ ม ทงั้ น้ี
กรรมวธิ กี ารตงั้ เสา-ปักจอ มไิ ดเ้ สร็จสนิ้ เพยี งตงั้ จอเสร็จเพอื่ แสดง
หนังใหญเ่ ทา่ นัน้ แตจ่ ะตอ้ งกระทําเวลาถอนเสา – เก็บจอดว้ ย
และตอ้ งทอ่ งคาถาเชน่ เดยี วกนั แตเ่ ป็ นคนละบทกนั ตอนตงั้ เสาใน
ครัง้ แรก

ดา้ นขา้ งและดา้ นหลงั จอใชล้ ําแพน หรอื เสอื่ ใบสาคขู นาด
สงู ใกลเ้ คยี งกนั กนั้ เป็ นวงหรอื ทําเป็ นคอกลอ้ มเป็ นรปู ครงึ่ วงกลม
ใหญ่ ปลายลําแพนทงั้ สองขา้ งยน่ื มาเกอื บจะถงึ เสาตน้ หวั และตน้
ทา้ ยของจอ เวน้ ชอ่ งไวใ้ หค้ นเชดิ หนังเดนิ ผา่ นไปมาได ้ เพราะ
จะตอ้ งเชดิ ทงั้ ดา้ นนอกและดา้ นใน ภายในวงลําแพนใชเ้ ป็ นทพ่ี ัก
ผแู ้ สดง เก็บตวั หนังรา้ นเพลงิ (กองไฟสมุ ใหแ้ สงสวา่ งเวลาเชดิ
หนัง) และอน่ื ๆทางดา้ นหนังตอนกลางปักเสาโนม้ เอนมารัง้ กบั
เสาจอ ๒ ตน้ สว่ นบนขงึ ผา้ หรอื ลําแพนใหส้ งู ขนึ้ พอสมควรเพอื่
ชว่ ยกนั แสงไฟมใิ หก้ ระจายออกไป คงใหแ้ สงไฟไปจบั อยทู่ ห่ี ลงั

243

จอหนัง เรยี กวา่ “บงั เพลงิ ” ตรงกลางระหวา่ งบงั เพลงิ กบั จอหนัง
ปลกู รา้ นเล็กๆ ๒ รา้ น สงู ประมาณ ๑ เมตร หา่ งกนั พอสมควร บน
พนื้ รา้ นปดู ว้ ยหนิ หรอื สงั กะสสี ําหรับวางกองไตห้ รอื กะลามะพรา้ ว
จดุ ใหล้ กุ เป็ นแสงสวา่ ง เรยี กกนั วา่ “รา้ นเพลงิ ” พอใกลเ้ วลา
แสดง ก็จะเรง่ ไฟใหส้ วา่ งขน้ึ

รา้ นเพลงิ ในสมยั ตอ่ มาเมอื่ มตี ะเกยี งก็ใชต้ ะเกยี งแทน
และเปลย่ี นมาเรอ่ื ยๆ ตามยตุ สมยั เพอ่ื ความเหมาะสมหรอื
สะดวกสบาย แตก่ ารใชก้ องไตจ้ ดุ ใหไ้ ฟลกุ เป็ นธรรมชาตแิ ละมี
บรรยากาศกวา่ ดวงไฟ เพราะไฟธรรมชาติ มเี ปลวและเคลอ่ื นไหว
ทําใหภ้ าพตวั หนังสวยงามดมู ชี วี ติ ชวี า

เนอื่ งจากการแสดงจําเป็ นตอ้ งปรับใหเ้ ขา้ กบั สภาพของ
สงั คมตลอดจนเพอื่ ความสะดวกรวดเร็ว ดงั นัน้ การใหแ้ สงสวา่ งท่ี
จอหนัง แทนทจ่ี ะใชแ้ สงจากไฟไตแ้ ละกะลาเหมอื นในอดตี จงึ
เปลย่ี นไปใชไ้ ฟฟ้าจากสปอรต์ ไลทแ์ ทน

244

การเชดิ และพากยเ์ จรจา

คนเชดิ หนงั

คนเชดิ หนังทด่ี มี กั มคี วามเชย่ี วชาญในดา้ นการแสดง
โขนและละครอยแู่ ลว้ ดว้ ยทา่ ทที ใ่ี ชใ้ นการเชดิ หนังมกั จะ
เกย่ี วขอ้ งกบั ทา่ รา่ ยรําในโขน – ละคร ไดแ้ ก่ ทา่ เชดิ ทา่ เสมอ แม่
ทา่ ทา่ ออกฉาก และทา่ รบฯลฯ คนเชดิ หนัง เป็ นผทู ้ ําใหต้ วั หนังดู
มชี วี ติ ชวี า สามารถแสดงใหผ้ ดู ้ เู ห็นอากปั กริ ยิ าของตวั หนังบนจอ
การเชดิ หนังจะคลอ้ งสอดคลอ้ งกบั บทพากย์ บทเจรจาและดนตรี
การแสดงหนังใหญค่ นเชดิ ตอ้ งแตง่ ตวั ใหส้ วยงาม เพราะคนดจู ะดู
คนเชดิ ไปดว้

การคดั เลอื กผเู ้ ชดิ หนังก็คงยดึ หลกั ของโขนและ
ละครคอื ผใู ้ ดฝึกหดั โขนเป็ นตวั ยกั ษ์กห็ ดั เชดิ หนังตวั ยกั ษ์ถา้
ฝึกหดั โขนเป็ นตวั ลงิ ก็ใหห้ ดั เชดิ ตวั ลงิ ในทํานองเดยี วกนั ถา้ ฝัก
หดั โขนเป็ นตวั พระ ก็ใหห้ ดั เชดิ หนังตวั พระ ลางทกี ใ็ หเ้ ชดิ หนังตวั
นางดว้ ย พวกทไ่ี ดร้ ับการฝึกหดั โขนและละครนี้ จะเนน้ การฝึกหดั
ในรปู แบบของตวั ละครแตล่ ะตวั โดยเฉพาะ เรมิ่ ตงั้ แตก่ ารตงั้
เหลยี่ ม การกา้ วเทา้ และกา้ วเทา้ หนา้ การยกขา จะเป็ นไปใน
รปู แบบของตวั ละครแตล่ ะประเภท คอื พระ นาง ยกั ษ์ ลงิ

เป็ นทนี่ ่าสงั เกตวา่ คนเชดิ หนังมกั จะมแี ตผ่ ชู ้ ายเป็ น
สว่ นมาก ผหู ้ ญงิ ไมใ่ ดเ้ ชดิ อาจจะเป็ นเพราะไมน่ ยิ มกนั มาแต่
โบราณ ในสมยั กอ่ นนัน้ ถอื กนั วา่ ผหู ้ ญงิ เป็ นเพศทอี่ อ่ นหวาน การ
เชดิ หนังใหญต่ อ้ งใชค้ นทแี่ ข็งแรง จงึ ไมน่ ยิ มใชผ้ หู ้ ญงิ เชดิ แมแ้ ต่
ของหลวงซงึ่ มที งั้ โขนและละครทเี่ ป็ นผหู ้ ญงิ แตก่ ็ไมน่ ยิ มใช ้
ผหู ้ ญงิ มาเชดิ หนัง

245

ประเภทตวั หนงั ใหญ่

ในสมยั โบราณนัน้ ไมไ่ ดแ้ บง่ ตวั หนังใหญเ่ ป็ นประเภท
หมวดหมู่ เพยี งแตต่ งั้ ชอ่ื ตามบทบาทหนา้ ท่ี กรยิ าการกระทํา
ดงั เชน่ ในวารสารวชริ ญาณวเิ ศษ เรอ่ื งหนังทเ่ี ลน่ ในการมะโหรศพ
ไดบ้ ญั ญัตชิ อื่ หนังใหญด่ งั นี้

หนังทเี่ ปนรปู เดนิ ไมว่ า่ ยกั ษ,ลงิ , มนุษย,์ นาง, สดุ แตเ่ ปนรปู
เดนิ แลว้ เรยี กชอื่ วา่ “คะเนจร”
หนังทเ่ี ปนรปู ทา่ เหาะไมว่ า่ ยกั ษ,ลงิ , สดุ แตเ่ ปนทา่ เหาะแลว้
เรยี กชอ่ื วา่ “ งา่ ”
หนังทเ่ี ปนสมุ พลสําหรับยกทพั ไมว่ า่ ยกั ษ ,ลงิ , สดุ แตเ่ ปนสมุ
พลแลว้ เรยี กชอื่ วา่ “ เขน ”
หนังทเ่ี ปนรปู ลงิ ขาวมดั ลงิ ดํามาหาฤๅษีนัน้ เรยี กชอ่ื วา่ “เตยี ว”
หนังทเี่ ปนรปู ตลกนัน้ เรยี กชอื่ วา่ “ จําอวด ”
หนังจับสามจบั นัน้ เรยี กชอื่ วา่ “ จบั หนงึ่ , จบั สอง, จับสาม”
แลว้ ยงั มหี นังฉากหนี ๑ ฉากไล่ ๑ ลากชาย ๑ หนังโกง่ ๑
หนังแผลง ๑ หนังไหว ้ ๑ หนังรถ ๑ หนังเมอื ง ๑ หนัง
พลบั พลา ๑ หนังปราสาทพดู ๑ หนังปราสาทโลม ๑
รวมชอื่ ของหนังทส่ี มมตเรยี กกนั นัน้ ตา่ ง ๆ นัก เหลอื ทจ่ี ะ
พรรณา

ตอ่ มาภายหลงั จงึ มกี ารแบง่ ประเภทตวั หนังใหญ่ ทําให ้
เป็ นหมวดหมมู่ ากขน้ึ แตอ่ ยา่ งไรกต็ ามเมอื่ แบง่ เป็ นประเภท
แลว้ ตวั หนังทมี่ ลี กั ษณะสําคญั หลายชอ่ื ถกู รวบไวใ้ นจําพวก
เบ็ดเตล็ด อาทิ หนังปราสาทพดู หนังปราสาทโลม และไมไ่ ด ้
ระบชุ อ่ื หนังรถ เป็ นตน้

246

การแบง่ ประเภทตวั หนงั ใหญ่

๑.หนงั เจา้ หรอื หนงั ครู
ตวั หนังทใี่ ชส้ ําหรับพธิ ไี หวค้ รู ไมไ่ ดใ้ ช ้

แสดง มี ๓ ตวั คอื พระฤาษี พระอศิ วร พระ
นารายณ์ และ ทศกณั ฐ์ หนังพระอศิ วรหรอื พระ

นารายณ์ และทศกณั ฐ์ เรยี กวา่ “พระ
แผลง” เพราะหนังครทู งั้ สองภาพเป็ นทา่
แผลงศร

๒.หนงั เฝ้ าหรอื หนงั ไหว้ เป็ นภาพหนัง
เดยี่ ว หนา้ เสย้ี ว พนมมอื ถา้ เป็ นตวั หนังทถ่ี อื
อาวธุ ปลาย อาวธุ จะสอดใตร้ ักแร ้ และชไี้ ป

ทางเบอื้ งหลงั หรอื เหน็บไวก้ บั เอว หนังไหวไ้ ด ้
หนุมาน องคต สคุ รพี พเิ ภก เป็ น
ตน้ หนังชนดิ นใี้ ชแ้ สดงตอนเขา้ เฝ้า สงู
ประมาณ ๑ เมตร

๓.หนงั คเนจรหรอื หนงั เดนิ ในบางครัง้

เรยี กหนังชนดิ นว้ี า่ “ตวั เดนิ ” เป็ นภาพหนัง
เดย่ี ว หนา้ เสย้ี ว ถา้ เป็ นตวั หนัง ทเ่ี ป็ นตวั
พระ ตวั นาง ตวั ยกั ษ์ จะอยใู่ นทา่ เดนิ หนังชนดิ
นใี้ ชต้ อนยกทพั ตรวจ พลกองทพั ของตวั
นาย ถา้ เป็ นลงิ มกั สลกั เป็ นทา่ หยอ่ ง (คอื การเอา
เทา้ ทงั้ สองวางกบั พนื้ สน้ เทา้ ขา้ ง หนงึ่ วางบน
พนื้ สน้ เทา้ อกี ขา้ งหนงึ่ ตอ้ งพน้ จากพนื้ เล็กนอ้ ย
แลว้ หลบเทา้ ขา้ งนัน้ ลงนดิ หน่อย) หนัง

ชนดิ นจี้ ะสงู ประมาณ ๑.๕๐ เมตร หนัง

247

ตวั เดนิ ไดแ้ ก่ พระรามตวั เดนิ ทศกณั ฐต์ วั
เดนิ นางสดี าตวั เดนิ เป็ นตน้

๔.หนงั งา่ เป็ นหนังภาพเดย่ี ว หนา้
เสยี้ ว ทา่ เหาะ คอื ทา่ ทยี่ กเทา้ ขา้ งใดขา้ งหนง่ึ
ไว ้ ซง่ึ คลา้ ยกบั ทา่ ของโขนและละคร) หนัง
งา่ มอี ยดู่ ว้ ยกนั ๓ ลกั ษณะ คอื

-หนังงา่ ทเ่ี ป็ นลงิ ยกั ษ์แสดง
ทา่ ทางการสรู ้ บ ในมอื ถอื อาวธุ เชน่ กรชิ กระบ่ี

-หนังงา่ ทอ่ี ยใู่ นทา่
เหาะ ไดแ้ ก่ หนุมานใน ทา่ เหาะลายทห่ี นง่ึ และ
ลายทสี่ อง

๕.หนังเมอื ง เป็ นหนังภาพเดย่ี วหรอื
หลายภาพกไ็ ดอ้ ยใู่ นหนังผนื เดยี วกนั ซง่ึ ในผนื
หนังจะตอ้ ง ประกอบดว้ ยภาพปราสาทราช
วงั วมิ าน พลบั พลา ทอ้ งพระโรง ศาลา ทมี่ ตี วั

ละครในเรอ่ื งทจ่ี ะ แสดง น่ัง นอน พดู
กนั หรอื มที า่ ทางอนื่ ๆ ตามเนอ้ื เรอื่ งทใ่ี ช ้

แสดง หนังเมอื งจะมคี วามกวา้ งมาก ทสี่ ดุ ตาม
ขนาดของผนื หนังสงู ประมาณ ๒ เมตร

๖. หนังจับ เป็ นหนังทม่ี ภี าพตวั ละครใน
เรอ่ื งตงั้ แต่ ๒ ตวั ขน้ึ ไปอยใู่ นหนังผนื เดยี วกนั
สว่ นใหญ่
จะเป็ นภาพตวั ละครในเรอื่ งกําลงั ตอ่ สู ้ เป็ น
ภาพทใี่ ชแ้ สดงตอ่ จากหนังงา่ เชน่ หนังจับพระ

รวมกบั ทศกณั ฐ์ หนังจบั ลงิ ขาวกบั ลงิ ดํา หนัง
จับองคตกบั ยกั ษ์ปักหลน่ั หนังจบั หนุมานกบั นาง

248

ผเี สอ้ื สมทุ ร เป็ นตน้ หนังจับจะมคี วาม
กวา้ งยาวเทา่ ๆ กบั หนังเมอื ง คอื สงู

ประมาณ ๒ เมตร กวา้ ง มากทส่ี ดุ ตาม
ขนาดของผนื หนังทจี่ ะมไี ด ้

๗. หนังเบ็ดเตล็ด เป็ นหนังทไ่ี มจ่ ดั อยใู่ น
หนังประเภทใดประเภทหนงึ่ โดยเฉพาะ แยกยอ่ ย
ไดด้ งั น้ี

- หนังเตยี ว เป็ นภาพหนัง ๒ ตวั
กําลงั จับมดั เชน่ ลงิ ขาวจับลงิ ดํา

- หนังปราสาทเป็ นภาพหนังทม่ี ตี วั
ละคร นอนอยใู่ นปราสาท เชน่ ปราสาทอนิ ทร
ชติ

- หนังเขน เป็ นหนังทเ่ี ป็ นไพรพ่ ล
ของกองทัพไพรพ่ ลลงิ เรยี กวา่ เขนลงิ

-ไพรพ่ ลยกั ษ์ เรยี กวา่ เขนยกั ษ์
กวา้ งประมาณ ๑.๒๐ เมตร สงู

ประมาณ ๑.๕๐ เมตร
- หนังเบ็ดเตล็ดทมี่ ที า่ ทาง
แปลก เชน่ หนุมานสง่ นางบษุ มาลี ตวั

ตลก คนถอื บอ้ งกญั ชา
คนจนี ภเู ขา สระ

นํ้า นก ดอกไม ้ งู พญานาค
ลงิ เล็กลงิ นอ้ ย เป็ นตน้

249

กรรมวธิ ใี นการสรา้ งตวั หนงั ใหญ่

การสรา้ งตวั หนังใหญ่ หรอื การสลกั หนังนัน้ เป็ น
งานชา่ งสปิ หมแู่ ตโ่ บราณ มคี วามสําคญั ไมห่ ยงิ่ หยอ่ นไปกวา่
เครอื่ งประกอบอนื่ ๆ ชา่ งผสู ้ ลกั อาจเป็ นคนเชดิ หรอื อาจเป็ นชา่ ง
จําเพาะทมี่ คี วามสามารถในงานวจิ ติ รศลิ ป์ วาดลายไทย ลายกนก
ตามตวั ละครในเรอื่ งรามเกยี รติ์ และมคี วามรใู ้ นการสลกั หนังใช ้
เครอื่ งมอื ไดถ้ กู ชนดิ มสี มาธแิ มน่ ยําในการตอกสลกั หนัง ดงั ใน

250

วารสารวชริ ญาณวเิ ศษ เรอ่ื งหนังทเ่ี ลน่ ในการมะโหรศพ ได ้
อธบิ ายวธิ ที ําตวั หนังใหญไ่ วว้ า่ “..จะขออธบิ ายถงึ วธิ ที ําตวั หนัง
แลวธิ ที ําจอและการทจี่ ะเลน่ หนังนกี้ อ่ น แลว้ จงึ่ จะกลา่ วถงึ
ผลประโยชนข์ องการเลน่ หนังนต้ี อ่ ไป กว็ ธิ ซี ง่ึ จะทําเปนตวั หนัง
ขนึ้ นัน้ เอาหนังโคมาแชน่ ้ําใหอ้ อ่ นแลว้ ขงึ ผงึ่ แดดไวจ้ นแหง้ แลว้
เอาเหล็กขดู ๆ ใหบ้ าง ดจู นสมํา่ เสมอเรยี บรอ้ ยจงึ่ เอาเขมา่ กน้
หมอ้ หรอื กาบมะพรา้ วเผากไ็ ดล้ ะลายดว้ ยนํ้าเขา้ เชด็ ทาผนื หนัง
นัน้ ใหท้ ว่ั ทงั้ สองดา้ น ดพู อดําดแี ลว้ ตากไวใ้ หแ้ หง้ เมอ่ื แหง้ แลว้
จง่ึ ถดู ว้ ยใบฝักเขา้ ประสงคจ์ ะใหเ้ ปนมนั แลว้ จง่ึ หาชา่ งเขยี นที่
ฝี มอื ดมี าเขยี นเปนรปู ภาพตา่ ง ๆ ตามความตอ้ งการของเจา้ ของ
นัน้ เมอ่ื เขยี นแลว้ ตรวจดชู อ่ งไฟไมข่ ดั ขวางจงึ่ ลงมอื สลกั
เครอื่ งมอื สําหรับสลกั นัน้ มสี วิ่ ฉากอยา่ งหนง่ึ สว่ิ เล็บมอื อยา่ งหนงึ่
มกุ ใหญ,่ มกุ กลาง,มกุ ยอดอยา่ งหนงึ่ มกุ นส้ี ําหรับกดั ตามเสน้
รปู ภาพถา้ จะสลกั ตามลวดลายหรอื กนกแลว้ ตอ้ งใชส้ วิ่ เล็บมอื
หรอื สว่ิ ฉากใหญเ่ ล็กตามสมควร

สลกั เสร็จแลว้ จง่ึ ยอ้ มใหเ้ ปนสตี า่ ง ๆ บา้ งเล็กนอ้ ยตาม
ความตอ้ งการ ถา้ จะใหเ้ ปนสขี าวเอาเหล็กขดู ๆ ทหี่ นังใหห้ มดสี
ดําทท่ี าเขมา่ ไวก้ เ็ ปนสขี าวถา้ จะใหเ้ ปนสเี ขยี ว เอาจณุ สฝี นกบั
น้ํามนาวทากเ็ ปนสเี ขยี ว ถา้ จะใหเ้ ปนสแี ดงเอาน้ําฝางกบั สานสม้
ทากเ็ ปนสแี ดง ถา้ จะใหเ้ ปนสเี หลอื งเอาน้ําฝางทาแลว้ เอาน้ํา
มะนาวถู ๆ เขา้ กเ็ ปนสเี หลอื ง แตห่ นังตวั นางนัน้ ถา้ จะใหแ้ ลดเู ปน
ขาว กส็ ลกั เอาพน้ื ตวั ออกเสยี เมอื่ เชดิ ทาบเขา้ กบั จอ พน้ื จอ
สง่ ออกมากเ็ ห็นเปนขาว หนังสลกั เอาพนื้ ตวั พนื้ หนา้ ออกเชน่ นี้
เรยี กกนั วา่ “นางหนา้ แขวะ” ครัน้ เมอื่ ยอ้ มสตี า่ ง ๆ สําเร็จแลว้ จง่ึ
เอาไมม้ าสซี่ กี ขนาบเขา้ สองขา้ ง สําหรับทจี่ ะไดถ้ อื จับเชดิ ไปเชดิ
มา


Click to View FlipBook Version