วชิ า ภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน (พต11001)
1. จงนำคำศัพทต์ อ่ ไปนใี้ สล่ งไปในช่องว่างถกู ตอ้ ง
bed sugar duck book beer water
คำนามนับได้ คำนามนับไมไ่ ด้
2. จงตอบคำถามต่อไปน้ี
a. tea
b. rock
c. water
d. computer
2. ขอ้ ใดเปน็ คำนามนับได้
a. boy
b. sugar
c. water
d. butter
3. ข้อใดเป็นคำนามนับไม่ได้
a. box
b. book
c. tree
d. milk
4. ข้อใดเปน็ คำนามนับได้
a. elephant
b. sand
c. water
d. soup
5. ขอ้ ใดเป็นคำนามนบั ไม่ได้
a. bat
b. dog
c. apple
d. water
เฉลยแบบทดสอบขอ้ ที่ 1
วชิ า ภาษาองั กฤษพื้นฐาน (พต11001) ระดับประถมศกึ ษา
เร่อื ง คำนาม และคำศพั ทห์ มวดต่างๆ
คำนามนับได้ คำนามนบั ไมไ่ ด้
bed sugar
duck beer
book water
เฉลยแบบทดสอบข้อ 2
1. d.
2. a.
3. d.
4. a.
5. d.
บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
กศน.ตำบล......................................... กศน.อำเภอ.................................... จงั หวดั ระยอง
สัปดาหท์ ี่....... วนั ที.่ .......เดือน..............................พ.ศ............ รายวิชา...................................ระดับ..................
1. ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
.....................................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................................
2. ปญั หาอปุ สรรค
.....................................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแก้ไข
.....................................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................................
4. ส่ิงทไ่ี ม่ได้ปฏบิ ตั ิตามแผนการจดั การเรยี นรู้
.....................................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................................
เหตผุ ล..........................................................................................................................................................................
...........
5. การปรบั ปรุงพัฒนาการเรียนรู้ครัง้ ต่อไป
.....................................................................................................................................................................................
6. ประเดน็ ท่นี ำไปสกู่ ารวิจยั ในชน้ั เรียน
.....................................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .................................................................
(...............................................................)
ตำแหนง่ ...........................................................
วนั ท.ี่ ........เดอื น..............................พ.ศ.............
ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ าร
..............................................................................................................................................................................
ลงช่อื .................................................................
(...............................................................)
ตำแหนง่ ...........................................................
วันท.ี่ ........เดือน..............................พ.ศ.............
แผนการจดั การเรยี นรู้รายสปั ดาห์
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
รายวิชาเพศศกึ ษาสำหรับพอ่ แมก่ ับลูกวยั รุ่น (ทช 02006) ระดบั ประถมศึกษา ( 1 หน่วยกติ )
หน่วยที่ 2 คุยเปิดใจรักปลอดภัย ( 3 ชว่ั โมง)
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองระยอง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐานการเรยี นรู้ท่ี 4.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ มเี จตคตทิ ด่ี ี และมที กั ษะเกย่ี วกบั การดูแล ส่งเสรมิ
สขุ ภาพ อนามัย และความปลอดภยั ในการดำเนินชวี ติ
2. เนอื้ หาตามหลกั สูตร
1. การคุมกำเนิดแบบตา่ ง ๆ และโรคตดิ ต่อทางเพศสมั พันธ์
2. การดูแลรกั ษาความสะอาด ของอวัยวะตา่ ง ๆ ท่ี เก่ียวข้อง กับระบบสืบพันธ์ุ
3. ความหมายของเอ ไอ วี และเอดส์
4. ชอ่ งทางการรบั และแพร่ เชื้อ เอช ไอ วี
5. ทักษะการสื่อสารแบบ ต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพและ ไมม่ ปี ระสทิ ธิภาพ
6. การคยุ กับลูกเรอ่ื งรา่ งกาย การดูแลอวยั วะส่วนตา่ ง ๆ การสงั เกตอาการผิดปกติ
7. การคยุ กับลกู เร่อื งอารมณ์ ความรู้สกึ เช่น การมีแฟน อารมณเ์ พศ ความรกั อกหัก
8. การคยุ กับคู่เร่ืองการ ปอ้ งกนั การคุมกำเนดิ การ ป้องกันโรค การตรวจรา่ งกาย
3. ผลการเรยี นรทู้ คี่ าดหวัง (ตัวชีว้ ัด)
1. บอกผลดี ผลเสียของการคุมกำเนิด แบบตา่ ง ๆ
2. ระบุอาการเบ้ืองตน้ ของโรคติดตอ่ ทาง เพศสัมพันธ์
3. ระบุความเสี่ยงที่เกดิ จากการมี เพศสมั พันธท์ ไ่ี มป่ ลอดภัย
4. ตระหนักถงึ ความจําเป็นของการ สอื่ สารเรื่องเพศ ในครอบครวั
5. มที กั ษะในการให้ข้อมลู การฟงั การถาม การตอบ
4. กระบวนการจัดการเรียนร้แู ละกจิ กรรมเพม่ิ เตมิ
ข้ันนำ
1. ผู้สอนแจง้ จดุ ประสงค์การเรยี นรใู้ ห้ผ้เู รียนทราบ
2. ผ้สู อนให้ผเู้ รียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน
3. ผสู้ อนถามผู้เรียนการคมุ กำเนิดแบบต่างๆและโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์มอี ะไรบ้าง(หน้า 36)
แล้วรว่ มตอบคำถาม
หนังสือเรยี นวชิ าเพศศึกษาสำหรบั พ่อแม่กับลูกวัยร่นุ
ขัน้ สอน / การเรียนร้ดู ้วยตนเอง
1. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนศึกษาแบบเรยี นวิชาเพศศกึ ษาสำหรบั พอ่ แมก่ ับลกู วยั รนุ่
2. ผสู้ อนถามผ้เู รียนวา่ การคมุ กำเนิดแบบต่างๆและโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์ โดยให้ผ้เู รียน
ศึกษาจากหนังสือ (หนา้ 36)
3. ผูส้ อนใหผ้ ูเ้ รยี นดูคลิปวีดีโอเรือ่ งการคุมกำเนิด แลว้ สรปุ ผลดี ผลเสยี ของการคุมกำเนิด
แบบต่าง ๆ
คลปิ วดี ีโอเร่อื งการคุมกำเนดิ
4. ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนดคู ลปิ วดี ีโอเร่ืองโรคตดิ ตอ่ ทางเพศสมั พนั ธ์ แลว้ สรุป
คลปิ วีดีโอเรื่องโรคติดตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์
5. ผู้สอนอธบิ ายถงึ ทกั ษะการส่ือสารแบบ ต่าง ๆ ทมี่ ีประสทิ ธภิ าพและ ไมม่ ีประสทิ ธิภาพ
6. ผู้สอนแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ ความรู้สึก กับผเู้ รียน เรอ่ื ง การมีแฟน อารมณ์เพศ ความรัก
อกหกั โดยให้ผเู้ รยี นแสดงความคดิ เห็น พรอ้ มทัง้ ตระหนักถึงความจําเปน็ ของการ สื่อสารเรื่องเพศ ในครอบครัว
ขน้ั สรุป
1. ผสู้ อนและผู้เรียนร่วมกันหาข้อสรุป และผู้สอนอธบิ ายเพม่ิ เตมิ
2. ผู้สอนนัดหมายการทำกจิ กรรมในคร้งั ถัดไป
3. ผูส้ อนให้ผูเ้ รียนทำบันทึกหลงั เรียน
5. งานทม่ี อบหมาย
1. ศึกษาแบบเรยี นวชิ าเพศศึกษาสำหรบั พอ่ แม่กบั ลกู วยั รุ่นและใบความรูท้ ี่ 1 เรอ่ื ง คยุ เปดิ ใจรัก
ปลอดภัย
2. ใบงาน กรต.ท่ี 2
3. ใบงาน กรต.ที่ 3
6. สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้
1. ใบความรู้เรอ่ื ง ใบความรู้ที่ 1 เร่ือง คุยเปิดใจรักปลอดภยั
2. แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรียน
3. หนงั สือเรียนรายวชิ า เพศศึกษาสำหรับพอ่ แม่กบั ลูกวยั รุ่น ทร02006
7. การเรียนรดู้ ้วยตนเอง (กรต.)
ที่ ตัวช้วี ดั เนื้อหา (กรต.) จำนวนช่วั โมง หมายเหตุ
1 ระบอุ าการเบอ้ื งต้นของโรคตดิ ตอ่ ช่องทางการรบั และแพร่ เชื้อ 8 ชว่ั โมง ใบงานกรต.
เอช ไอ วี ที่ 2
ทาง เพศสมั พันธ์ การคยุ กบั คูเ่ ร่ืองการ ปอ้ งกัน 9 ชั่วโมง ใบงานกรต.
2 มีทกั ษะในการใหข้ ้อมลู การฟงั การ การคมุ กำเนดิ การ ป้องกนั โรค ที่ 3
การตรวจรา่ งกาย
ถาม การตอบ
8. การวดั ผลและประเมินผล
การวัดผลตามจุดประสงค์ เครือ่ งมือการวดั ผล เกณฑ์การประเมินผล
ความรู้ (Knowledge) แบบทดสอบกอ่ น - หลังเรียน ผา่ นการตอบคำถามได้
อธิบายเรื่องการจัดการความรู้ 70% ขน้ึ ไป
ทกั ษะ (Skill) กจิ กรรมที่ 2 ผู้เรียนจบั ประเดน็ สำคญั
เลือกหวั ขอ้ การจดั การความรู้ การตั้งครรภแ์ ละการ เขา้ ใจในการจัดการความรู้
ดำเนินการเสนอ คุมกำเนดิ
เจตคติ (Attitude) การมีส่วนรว่ มในการอธิบาย 70% ขน้ึ ไปมีความรเู้ รอ่ื งการ
มคี วามรสู้ ึก เจตคตทิ ี่ดีตอ่ ความคดิ เห็น คุมกำเนดิ แบบต่างๆและโรค
การจดั การความรู้ ตดิ ต่อทางเพศสัมพนั ธ์
แบบมเี หตุผล ผูเ้ รียน 70% ข้ึนไปมสี ว่ นรว่ ม
ในการอธบิ ายแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็น
ลงชื่อ.............................................................ผสู้ อน
(…………………………………………………)
วนั ที่ ......เดอื น…………….......พ.ศ……………....
ข้อเสนอแนะของหวั หน้าสถานศกึ ษาหรือผูท้ ี่ได้รับมอบหมาย
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงชื่อ................................................ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอ
(……………………………………..……)
วนั ที่ ......เดอื น…………….......พ.ศ……………....
แบบทดสอบก่อนเรียน
หน่วยท่ี 2 คุยเปดิ ใจรกั ปลอดภยั
คำช้ีแจง ให้ผูเ้ รียนกากบาทคำตอบท่ถี กู ท่ีสุดเพยี งคำตอบเดียว
1. วิธคี ุมกำเนิดที่มผี นู้ ิยมใชก้ ันมากทส่ี ุดในโลก คือ
ก. ใส่หว่ งอนามยั
ข. ใช้ถุงยางอนามัย
ค. ฝังหลอดคมุ กำเนดิ
ง. กินยาเม็ดคมุ กำเนิด
2. ฉีดยาคมุ กำเนดิ 1 เข็ม ปอ้ งกันไดก้ ีเ่ ดอื น
ก. 1 เดือน
ข. 3 เดือน
ค. 6 เดือน
ง. 12 เดือน
3. การคมุ กำเนิดวธิ ีใด มีประสิทธิภาพป้องกนั การตง้ั ครรภ์ไดด้ ที ส่ี ุด
ก. ใส่หว่ งอนามยั
ข. ฉดี ยาคมุ กำเนิด
ค. ฝงั หลอดคมุ กำเนดิ
ง. กินยาเมด็ คุมกำเนดิ
4. โรคทีม่ ีอาการคนั บริเวณทม่ี ีขน และ อวยั วะเพศคอื โรคใด
ก. โรคโลน
ข. โรคซฟิ ิลิส
ค. โรคหนองใน
ง. โรคหูดหงอนไก่
5. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพนั ธ์
ก. ไม่สวมเสอ้ื ผ้าร่วมกบั ผ้อู นื่
ข. รักษาความสะอาดของเสอ้ื ผา้ เครื่องนุ่งหม่
ค. รบั ประทานอาหารท่ีมปี ระโยชน์ตอ่ รา่ งกาย
ง. สวมถงุ ยางอนามัยเม่ือร่วมประเวณีกับหญิงขายบริการ
แบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยที่ 2 คยุ เปิดใจรักปลอดภยั
แบบทดสอบหลังเรียน
หน่วยที่ 2 คยุ เปดิ ใจรักปลอดภัย
คำช้แี จง ใหผ้ ้เู รยี นกากบาทคำตอบทถี่ ูกทส่ี ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว
1. การคุมกำเนดิ วธิ ใี ด มีประสทิ ธภิ าพป้องกันการตั้งครรภ์ต่ำท่สี ดุ
ก. การหลงั่ ภายนอก
ข. การใชย้ าฆ่าเชื้ออสุจิ
ค. การนับระยะปลอดภัย
ง. การใชห้ มวกยางครอบปากมดลกู
2. การคุมกำเนดิ วิธีใด นอกจากปอ้ งกันการต้ังครรภ์แลว้ ยังชว่ ยปอ้ งกันโรคทางเพศสมั พนั ธไ์ ด้ดว้ ย
ก. ฉดี ยาคุมกำเนิด
ข. ใชถ้ งุ ยางอนามัย
ค. ใชย้ าฆา่ เช้อื อสจุ ิ
ง. ใชห้ มวกครอบปากมดลูก
3. การทำหมันชายในขอ้ ใด เป็นวิธที ถ่ี ูกตอ้ ง
ก. ตดั เอาถงุ เกบ็ เช้ืออสุจิออกไป
ข. ตดั เอาอัณฑะทัง้ 2 ข้างออกไป
ค. ตดั เอาทอ่ และถงุ เกบ็ เชื้ออสจุ ิออกไป
ง. ตัดท่อที่อยู่ระหวา่ งอัณฑะและถงุ เกบ็ เชอื้ อสจุ ิให้ขาด
4. โรคแผลรมิ ออ่ นเกิดจากเชอื้ ไวรสั ทช่ี ือ่ วา่ อะไร
ก. เดงก่ิว
ข. เอส ไอ วี
ค. นวิ โมโน ดกิ
ง. ฮีมอรฟ์ ลิ สุ ดูเครย์
5. การมีอาการระคายเคือง มีแผล มีเนอ้ื งอกในกระเพาะปัสสาวะ มีโอกาสทำให้เกดิ โรคใด
ก. โรคโลน
ข. โรคซิฟิลิส
ค. โรคหดู หงอนไก่
ง. โรคหนองในเทยี ม
แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยท่ี 2 คยุ เปดิ ใจรักปลอดภัย
เฉลยแบบทดสอบ
หน่วยที่ 2 คุยเปดิ ใจรักปลอดภยั
ขอ้ เฉลยก่อนเรียน ขอ้ เฉลยหลังเรยี น
1ก1 ข
2ข2 ข
3ค3 ง
4ก4 ง
5ค5 ง
ใบความรทู้ ่ี 2
เรอ่ื ง การคุมกำเนิดแบบต่างๆและโรคตดิ ต่อทางเพศสมั พนั ธ์
วัตถุประสงค์
1. เพ่อื ให้ผ้เู รยี นเข้าใจลักษณะโดยธรรมชาตขิ องวยั รุน่ ท่เี หมอื นกันทกุ ยคุ ทุกสมัย โดยมคี วามแตกตา่ ง
เฉพาะด้านสภาพแวดลอ้ มตา่ งๆในสงั คม
2. เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีความร้คู วามเขา้ ใจทีถ่ กู ต้องเรือ่ งการดแู ลสขุ ภาพทางเพศการต้งั ครรภ์และการคุม
กำเนิด
วธิ กี าร
1. ให้ผเู้ รยี นอธิบาย เร่ือง สงิ่ ทีว่ ัยรุ่นยุคพ่อ/แม่ ชอบ หรอื ชอบทำ
ตอบ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
2. ให้ผูเ้ รยี นอธิบาย เรอ่ื ง สง่ิ ทต่ี ามมาจากการมเี พศสัมพนั ธ์
ตอบ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ให้ผ้เู รียนอธบิ ายรายละเอยี ดในหัวขอ้ ตอ่ ไปนี้
1. วิธกี ารป้องกนั การเกิดโรคตดิ ต่อทางเพศสัมพันธ์ทด่ี ที ่สี ดุ คอื อะไร
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
2. เพราะเหตุใดวยั ร่นุ จึงเสยี่ งตอ่ ปัญหาโรคติดต่อทางเพศสมั พันธ์
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
3. กามโรค หมายถงึ
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ให้ผู้เรยี นศึกษาขอ้ มูลเกีย่ วกับการจดั การความรู้ และตอบคำถามต่อไปน้ี
1. พ่อและแมค่ วรคยุ กบั ลูกเรอ่ื งเพศศกึ ษาและการมเี พศสัมพันธอ์ ย่างไร พร้อมยกตวั อย่าง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..........................................……………………
………………………………………………………………………………………………………............……………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ให้ผเู้ รียนอธบิ ายการส่อื สารโดยตรงแบบเผชิญหน้า
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..........................................……………………
………………………………………………………………………………………………………............……………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ให้ผูเ้ รียนอธิบายการสื่อสารทีไ่ ม่มีประสทิ ธภิ าพ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..........................................……………………
………………………………………………………………………………………………………............……………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………..........................................……………………
บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้
กศน.ตำบล......................................... กศน.อำเภอ.................................... จงั หวัดระยอง
สัปดาหท์ ่ี....... วนั ท่.ี .......เดือน.....................พ.ศ............ รายวชิ า.................................ระดบั ..................
1. ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ จำนวนผู้เขา้ เรียน…………คน
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปญั หา
อปุ สรรค......................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
..
3. แนวทางการ
แกไ้ ข...........................................................................................................................................................................
... ..............................................................................................................................................................................
4. สิ่งท่ีไมไ่ ดป้ ฏิบัติตามแผนการจดั การเรยี น
ร.ู้ .............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
เหตผุ ล…................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
5. การปรบั ปรงุ พฒั นาการเรียนรู้คร้ังตอ่
ไป..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
6. ประเดน็ ทน่ี ำไปสกู่ ารวิจยั ในชัน้ เรยี น
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ...............................................................
(...............................................................)
ตำแหน่ง...............................................................
วันท.ี่ .......เดือน.......................................พ.ศ........
ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผูบ้ รหิ าร
................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................
แผนการจดั การเรยี นรู้รายสัปดาห์
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564
วิชาภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน (พต 11001) ระดับประถมศึกษา (3 หนว่ ยกิต )
หน่วยท่ี 5 ประโยคความเดยี ว ประโยคคำถาม และ ประโยคคำตอบ (3 ช่ัวโมง)
ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อำเภอเมอื งระยอง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
2.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพนื้ ฐานเกี่ยวกบั ภาษาและการส่ือสาร
2. เน้อื หาตามหลกั สูตร
สรา้ งประโยคความเดยี วและเล่าเรื่องเก่ยี วกับตนเองโดยใช้ Present Simple Tense และ Present
Continuous Tense
1. การใช้ Tense อยา่ งงา่ ยสร้างประโยคความเดียวเพอ่ื เลา่ เร่ืองเก่ยี วกับตนเอง
2. ประโยคคำถามและประโยคคำตอบ คำสรรพนาม คำบพุ บท และคำคุณศพั ท์
3. ผลการเรยี นรูท้ ่ีคาดหวงั (ตวั ชีว้ ัด)
1. สามารถใช้ Tense สร้างประโยคความเดยี วเลา่ เร่ืองเกี่ยวกับตนเองได้
2. สามารถใช้ คำสรรพนาม คำบุพบท และคำคณุ ศพั ท์ได้
4. กระบวนการจดั การเรียนรู้และกิจกรรมเพิม่ เติม
ขั้นนำ
ผ้สู อนผู้สอนทบทวนเน้อื หาทพี่ บกลุ่มครงั้ ท่ีผ่านมาหลังจากหัวขอ้ เรื่อง การออกคำส่งั และการตอบรับ
ประโยคขอโทษและการตอบรบั ผสู้ อนซกั ถามเรอ่ื งตา่ งๆ และเสนอแนะในเน้อื หาท่ีผเู้ รยี นไมเ่ ข้าใจและใหผ้ เู้ รยี น
สง่ รายงานการออกแบบแฟ้มสะสมงานตามทตี่ กลงกัน
ขั้นสอน / การเรียนร้ดู ้วยตนเอง
1. ผู้สอนผ้สู อนให้ผูเ้ รยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 5 ขอ้
2. ผู้สอนสอนเร่ืองการใช้ Tense อย่างง่ายสร้างประโยคความเดียวเพื่อเล่าเรอ่ื ง เก่ยี วกบั ตนเอง
เชน่ My name is Mane. (ฉนั ชอ่ื มาน)ี I am Mane. (ฉนั คอื มาน)ี am a student. (ฉันเป็นนักเรียน)
https://youtu.be/iGS5sPRefdA
3. ผ้สู อนสรปุ เน้อื หาจากทเ่ี รียนในวนั น้แี ละเปดิ โอกาสให้ผู้เรียนซักถามในประเดน็ ทีไ่ มเ่ ขา้ ใจ
4. ใหผ้ ้เู รยี นออกมาแนะนำตวั และเลา่ เร่อื งเก่ยี วกบั ตนเองจนครบทกุ คนแลว้ ให้ออกมานำเสนอ
หนา้ ชั้นเรียน
5. ผู้สอนสรปุ เน้อื หาจากทเ่ี รยี นในวันนแี้ ละเปดิ โอกาสใหผ้ เู้ รียนซกั ถามในประเด็นท่ีไมเ่ ข้าใจ
ถ้าหากมีการนำเสนอหน้าช้ันเรยี น ก็ใหผ้ ู้เรยี นที่เป็นผู้ฟังไดป้ ระเมนิ การนำเสนอของแต่ละกลุ่ม
6. หลงั จากน้นั ผู้สอนผสู้ อนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน ผสู้ อนผูส้ อนเฉลยแบบทดสอบ
ข้ันสรุป - รวบรวมใบงาน จัดเกบ็ ในแฟ้มสะสมงาน งานทม่ี อบหมาย ศึกษาแบบเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษ
พ้ืนฐานและใบความรู้
5. สื่อ/แหล่งเรยี นรู้
1. หนงั สือรายวชิ าภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน
2. แบบทดสอบกอ่ นเรียน / หลังเรียน
3. www.youtube.com
ชอื่ คลปิ : สอนไวยากรณ์ Present Simple Tense
ลงิ ค:์ https://www.youtube.com/watch?v=l4qxqte-ijQ
ช่ือคลิป: หลักการใช้ Present continuous Tense ฉบับเขา้ ใจงา่ ย
ลงิ ค์: https://www.youtube.com/watch?v=MPTNfvQS-0g
6. การวัดผลและประเมินผล
การวัดผลตามจุดประสงค์ เครื่องมอื การวัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล
ความรู้ (Knowledge) แบบทดสอบ ผา่ นการตอบคำถามได้ 80% ข้นึ ไป
อธิบายเรือ่ ง
- Present Simple Tense
- Present Continuous Tense
ทกั ษะ (Skill) ใบงานวชิ าภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน ผู้เรียน 80% ขึ้นไป จบั ประเดน็ สำคญั
เลอื กหัวขอ้ การมีส่วนรว่ มในการอธิบายความ - Present Simple Tense
- Present Simple Tense คิดเหน็ - Present Continuous Tense
- Present Continuous Tense -
เจตคติ (Attitude) ผเู้ รียน 80% ขึ้นไปมีสว่ นรว่ มในการ
มีความรสู้ กึ เจตคตทิ ดี่ ีตอ่ อธบิ ายแลกเปล่ียนความคดิ เห็น
- Present Simple Tens,
- Present Continuous Tense
7. การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง จำนวน 17 ช่วั โมง จำนวนช่วั โมง หมายเหตุ
ที่ เนอื้ หา 17
1 การใช้ Tense อยา่ งง่าย 17
1. สร้างประโยคความเดยี วเพื่อเล่าเรือ่ งเกย่ี วกบั ตนเอง
2. ประโยคคำถามและประโยคคำตอบ
3. คำสรรพนาม คำบพุ บท และคำคุณศัพท์
รวม
ลงชอื่ .................................................................
(...............................................................)
ตำแหน่ง...........................................................
วันท่.ี .........เดอื น................................พ.ศ..........
ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ าร
..............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .................................................................
(...............................................................)
ตำแหนง่ ...........................................................
วนั ที่..........เดือน................................พ.ศ..........
แบบทดสอบก่อนเรยี น (Pre-Test)
วชิ า ภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน (พต11001)
จงเติมคำในชอ่ งว่างให้ถูกตอ้ ง
1. I (get up, gets up) _________________________a t 6 o’clock every day.
2. I (live, lives) _________________________ in trad.
3. I (don’t, doesn’t) _________________________ like pine apple.
4. My mother (is cooking, are cooking) _________________________in the kitchen.
5. My sister (is cleaning, are cleaning) _________________________ the bathroom.
เฉลยแบบทดสอบ
1. get up
2. live
3. don’t
4. is cooking
5. is cleaning
ใบความรู้ท่ี 11 เรอื่ ง ประโยความเดียว
วิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน (พต11001)
เรอ่ื งท่ี 1 การสรา้ งประโยคความเดยี วเพื่อเล่าเร่ืองเกย่ี วกับตนเอง
โดยใช้ Present Simple Tense
ประโยคความเดียว หรือเอกตั ถประโยค Simple Sentence หมายถึง ขอ้ ความทพ่ี ูดออกไปแลว้
มใี จความเดยี ว เป็นประโยคท่มี ีประธานตัวเดียว และกริ ยิ าตวั เดยี ว เช่น
My name is Suda. ฉันชอ่ื สดุ า
I am Suda. ฉันคือสุดา
ประโยคความเดยี วจะประกอบไปดว้ ย ประธาน และกริยา สำหรบั ในส่วนของกรรม สว่ นเตมิ เตม็ และ
สว่ นขยายอืน่ ๆนนั้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ไดต้ ามความเหมาะสมของแต่ละโอกาส โดยมหี ลักการใช้ดังนี้
1. หลักการใช้ Present Simple Tense
ใชพ้ ดู ถงึ เหตุการณห์ รือการกระทำที่ เกดิ ขึ้นอย่ตู ลอดเวลา หรือ เกดิ ขึน้ เป็นประจำซำ้ ไปซ้ำมา เชน่
I drink a lot of milk. (ฉนั ดื่มนมเยอะ)
2. ใชก้ ับการกระทำท่ี ทำจนเป็นอปุ นสิ ัย หรอื ใชเ้ พือ่ แสดงความถ่ขี องการกระทำตา่ งๆ เชน่
I always go to school by the school bus. (ฉันไปโรงเรยี นโดยรถโรงเรยี นเสมอ)
โดยเรามกั ใช้กับ คำกริยาวเิ ศษณ์แสดงความถ่มี าชว่ ยในการแสดงความถีข่ องการกระทำ เช่น
3. ใช้กบั เหตุการณห์ รือการกระทำท่ี เปน็ ความจรงิ ตลอดไปหรือเป็นกฎทางธรรมชาติ
Sun rises in the east. (ดวงอาทิตยข์ ้ึนทางทศิ ตะวันออก) โดยไมจ่ ำเปน็ ว่าการกระทำนน้ั ๆ กำลังเกดิ ขึน้ ในขณะท่ี
พดู หรือไม่ เชน่
4. ใช้เมอ่ื ต้องการพูดถงึ ตารางเวลา (Schedule) หรือ แผนการ (Plan) ทีไ่ ดว้ างไว้ เช่น
My class starts from 9.00 am until 4.00 pm.
(ชน้ั เรียนของฉันเรม่ิ ตอนเก้าโมงเช้าไปจนถงึ สีโ่ มงเยน็ )
5. ใช้ในการ แนะนำ บอกแนวทาง หรือ สอน เช่น
Go straight and turn left on the next corner.
(เดินตรงไปแลว้ เลย้ี วซ้ายตรงหวั มมุ ขา้ งหนา้
การสรา้ งประโยค Present Simple Tense
โครงสร้างประโยคบอกเลา่ Subject + Verb1
โครงสร้างประโยคปฏเิ สธ Subject + do/does + not + Verb1
โครงสร้างประโยคคำถาม Do/Does + Subject + Verb1?
โครงสรา้ งประโยคคำถาม Who/What/Where/When/Why/How + do/does + Subject +Verb1?
*คำปฏเิ สธรูปย่อของ do/does not คือ don’t และ doesn’t
ตัวอยา่ งการใช้ Present Simple Tense เล่าเร่ืองเกีย่ วกบั ตนเอง
My name is Suda. ฉันชื่อสดุ า
I get up at six o’clock everyday. ฉันตื่นนอนเวลา 6 นาฬิกาทกุ วัน
I am a student. ฉันเปน็ นักเรียน
I walk to school every day. ฉนั เดนิ ไปโรงเรียนทุกวัน
I live in Kanchaburi. ฉนั อาศัยอยู่ที่จงั หวดั กาญจนบุรี
I drink milk every morning. ฉันดืม่ นมทกุ ตอนเช้า
I always eat pizza for lunch. ฉนั กินพซิ ซ่าเป็นอาหารกลางวันเสมอ
I fry an egg for dinner. ฉันทอดไข่สำหรบั อาหารเย็น
I don’t like durian. ฉันไมช่ อบทเุ รยี น
I like to go to the market. ฉันชอบไปตลาด
I like to swim. ฉนั ชอบวา่ ยน้ำ
My sister doesn’t like to swim. น้องสาวของฉันไมช่ อบว่ายนำ้
เร่ืองท่ี 2 การสร้างประโยคความเดยี วเพอ่ื เลา่ เร่ืองเกย่ี วกับตนเอง
โดยใช้ Present Continuous Tense
หลกั การใช้ Present Continuous Tense
1. ใช้กบั เหตกุ ารณห์ รือการกระทำท่ี กำลงั ดำเนินอยใู่ นขณะทพ่ี ูด ตอ่ เน่ืองไปเรือ่ ยๆและจบในอนาคต
• We don't see anything here. (ไมใ่ ช้ We’re not seeing...)
• Do you hear the noise? (ไม่ใช้ Are you hearing...)
• I smell something burning. (ไมใ่ ช้ I am smelling...)
• The cat feels ill. (แมวตัวนนั้ ไมส่ บาย)
• The cat looks ill. (แมวตวั นั้นดูท่าไมส่ บาย)
• The dog appears ill. (สุนขั ตวั นนั้ ท่าทางไมส่ บาย)
วิธกี ารสรา้ งประโยค Present Continuous Tense
โครงสรา้ งประโยคบอกเลา่ Subject + is/am/are + V.-ing
โครงสรา้ งประโยคปฏิเสธ Subject + is/am/are + not + V.-ing
โครงสร้างประโยคคำถาม Is/Am/Are + Subject + V.-ing?
*คำปฏิเสธรปู ย่อของ is / am / are not คอื isn’t, aren’t และ aren’t
ตวั อย่างการใช้ Present Continuous Tense เลา่ เร่อื งเกยี่ วกบั ตนเอง
Today is Sunday. วันนเ้ี ปน็ วนั อาทติ ย์
I’m reading cartoons now. ฉันกำลังอา่ นหนังสอื การต์ นู
My mother is preparing food in the kitchen. แมข่ องฉันกำลังเตรียมทำอาหารอยู่ในครัว
She is cutting meat with the knives. เธอกำลังห่นั เนอ้ื ดว้ ยมดี
My sister is sweeping the floor. นอ้ งสาวของฉันกำลงั กวาดพนื้
My brother is bathing his little dog. นอ้ งชายของฉนั กำลังอาบนำ้ ลูกหมาเล็กๆของเขา
My friends are watching their favorite television program.
เพือ่ นของฉนั กำลังดโู ทรทศั นร์ ายการโปรดของเขา
ใบงาน กรต. ที่ 11 เรอื่ ง ประโยความเดยี ว
วชิ าภาษาอังกฤษพื้นฐาน (พต11001)
1. เลา่ เรื่องเกย่ี วกับตนเอง อยา่ งงา่ ย
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. สรา้ งประโยคบอกเลา่ (Subject + Verb1)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. สร้างประโยคปฏิเสธ (Subject + do/does + not + Verb1)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. สรา้ งประโยคคำถาม (Do/Does + Subject + Verb1?)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-Test)
วชิ า ภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน (พต11001)
จงเตมิ คำในชอ่ งว่างใหถ้ ูกตอ้ ง
1. My friends ( is playing, are playing) _________________ football with me.
2. I ( am reading, was reading) _________________ magazine now.
3. I ( will read, am red) _________________ a new book this evening.
4. My mother (will prepares, is prepares) _________________ food for this breakfast.
5. My brother ( isn’t play, won’t play) _________________ football today.
เฉลยแบบทดสอบ
1. are playing
2. am reading
3. will read
4. will prepares
5. won’t play
บันทกึ หลังการจัดการเรียนรู้
กศน.ตำบล......................................... กศน.อำเภอ.................................... จังหวดั ระยอง
สปั ดาหท์ ี.่ ...... วันท.่ี .......เดือน..............................พ.ศ............ รายวิชา...................................ระดับ..................
1. ผลการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาอปุ สรรค
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกไ้ ข
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. สง่ิ ท่ไี ม่ได้ปฏิบัติตามแผนการจัดการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
เหตุผล.........................................................................................................................................................................
.....
..............................................................................................................................................................................
5. การปรบั ปรงุ พฒั นาการเรียนร้คู ร้ังต่อไป
..............................................................................................................................................................................
6. ประเด็นทน่ี ำไปสกู่ ารวจิ ยั ในชัน้ เรียน
..............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.................................................................
(...............................................................)
ตำแหนง่ ...........................................................
วันท.ี่ .........เดือน.............................พ.ศ.........
ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ าร
..............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.................................................................
(...............................................................)
ตำแหนง่ ...........................................................
วนั ท.่ี .........เดือน.............................พ.ศ.........
แผนการจดั การเรยี นรูร้ ายสัปดาห์
ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
วชิ าภาษาองั กฤษพื้นฐาน (พต 11001) ระดบั ประถมศกึ ษา (3 หน่วยกติ )
หน่วยที่ 6 ภาษาอังกฤษสำหรับแมบ่ ้าน (3 ชั่วโมง)
ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมอื งระยอง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้
2.1 มีความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพ้นื ฐานเก่ียวกบั ภาษาและการสอ่ื สาร
2. เน้ือหาตามหลกั สตู ร
1. การทักทาย การตอบรบั การทกั ทาย และการแนะนำตนเอง
2. การกล่าวลาและการตอบรบั การกลา่ วลา
3. คำศพั ทท์ ีเ่ ก่ียวกบอั าชีพแมบ่ ้าน
4. การขอรอ้ งและการขอโทษ
3. ผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวงั (ตวั ช้ีวัด)
เขา้ ใจและใช้ภาษาอังกฤษในการทักทาย ตอบรบั การทกั ทาย แนะนำตนเองกลา่ วลา ตอบรับการกล่าวลา
คำศพั ท์เก่ยี วขอ้ งกับอาชพี แม่บ้าน ขอร้องและขอโทษ
4. กระบวนการจดั การเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมเพมิ่ เตมิ
ข้ันนำ
ผูส้ อนผู้สอนทบทวนเน้ือหาท่พี บกลมุ่ ครงั้ ทผ่ี ่านมาหลังจากหัวขอ้ เรอ่ื ง ผู้สอนซกั ถามเร่ืองตา่ งๆ
และยกตัวอย่างแฟม้ ทผ่ี เู้ รียนทำสง่ และให้ผูเ้ รยี นอธบิ ายถงึ ขั้นตอนในการทำและประโยชนท์ ่ไี ด้จากแฟ้มสะสมงาน
จากกิจกรรมนี้ทำให้ผเู้ รยี นไดร้ ้แู ละเหน็ รปู แบบการจดั ทำแฟม้ สะสมงานตลอดจนขั้นตอนประโยชนท์ ีไ่ ดร้ บั
ขัน้ สอน / การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง
1. ผ้สู อนผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 5 ขอ้
2. ผู้สอนสอนเรอ่ื งการใช้ Tense อยา่ งงา่ ยสร้างประโยคความเดยี ว
3. ผู้สอนสรุปเน้ือหาจากท่เี รยี นในวันนีแ้ ละเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรียนซกั ถามในประเด็นทีไ่ มเ่ ข้าใจ
4. ให้ผูเ้ รยี นออกมาพดู คุยประโยคงา่ ย ๆ และนำเสนอหน้าช้ันเรียน
5. ผ้สู อนสรปุ เนอ้ื หาจากทีเ่ รียนในวนั นแ้ี ละเปดิ โอกาสใหผ้ ู้เรยี นซักถามในประเด็นทไ่ี ม่เข้าใจ ถา้
มีการนำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน กใ็ หผ้ ู้เรยี นท่เี ป็นผู้ฟงั ไดป้ ระเมินการนำเสนอของแต่ละกลุ่ม
6. หลงั จากนั้นผสู้ อนผสู้ อนให้ผเู้ รยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน ผู้สอนผสู้ อนเฉลยแบบทดสอบ
และมอบหมายให้ผู้เรยี นไปศึกษาในหัวข้อเร่อื ง การทักทาย ตอบรบั การทักทาย แนะนำตนเองกลา่ วลา ตอบรบั
การกลา่ วลา คำศพั ท์เก่ยี วขอ้ งกับอาชพี แม่บา้ น ขอรอ้ งและขอโทษ
ข้นั สรปุ - รวบรวมใบงาน จัดเกบ็ ในแฟ้มสะสมงาน งานที่มอบหมาย
- ศึกษาแบบเรียนวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐานและใบความรู้
5. สื่อ/แหล่งเรยี นรู้
1. หนงั สอื รายวชิ าภาษาองั กฤษพ้นื ฐาน
2. ใบความรู้ การออกคำสง่ั และการขอโทษ
3. แบบทดสอบก่อนเรยี น / หลงั เรียน
4. www.youtube.com
ชื่อคลิป: สรปุ Future Tense งา่ ยๆ เข้าใจได้ภายใน 5 นาที
ลิงค:์ https://www.youtube.com/watch?v=xYG6GgtpcJY
ช่ือคลิป: Basic English : Pronoun-1 (คำสรรพนาม)
ลงิ ค์: https://youtu.be/QqvhInmO8rk
ช่ือคลิป: Adjectives 100 คำทใ่ี ชบ้ ่อยที่สุด
ลงิ ค์: https://youtu.be/sNuRn3D-2sw
6. การวดั ผลและประเมินผล
การวัดผลตามจุดประสงค์ เครื่องมือการวัดผล เกณฑ์การประเมินผล
ความรู้ (Knowledge) แบบทดสอบ ผ่านการตอบคำถามได้ 80%
อธิบายเร่ือง ข้ึนไป
การทกั ทาย ตอบรับการทักทาย
แนะนำตนเองกลา่ วลา ตอบรบั
การกลา่ วลา คำศพั ทเ์ กี่ยวขอ้ งกับ
อาชีพแมบ่ ้าน ขอรอ้ งและขอโทษ
ทกั ษะ (Skill) ใบงานวชิ าภาษาองั กฤษ ผู้เรยี น 80% ขนึ้ ไป จับประเด็น
เลอื กหัวขอ้ พ้นื ฐาน สำคญั
การทักทาย การตอบรบั แนะนำ การทักทาย การตอบรบั แนะนำ
ตนเอง การกลา่ วลา คำศัพท์ ตนเอง การกลา่ วลา คำศพั ท์
เกยี่ วขอ้ งกับอาชพี แม่บา้ น ขอร้อง เก่ยี วข้องกับอาชีพแมบ่ า้ น ขอร้อง
และขอโทษ และขอโทษ
เจตคติ (Attitude) การมีสว่ นรว่ มในการอธิบาย ผ้เู รยี น 80% ขนึ้ ไปมสี ว่ นร่วม
มคี วามรสู้ ึก เจตคตทิ ด่ี ตี ่อ ความคิดเหน็ ในการอธิบายแลกเปลีย่ น
อาชีพแมบ่ า้ น ความคดิ เหน็
7. การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง จำนวน 17 ช่วั โมง จำนวนช่วั โมง หมายเหตุ
ที่ เนอ้ื หา 17
1 ภาษาองั กฤษสำหรบั แม่บ้าน
1. การทักทาย การตอบรบั การทกั ทาย และการ 17
แนะนำตนเอง
2. การกลา่ วลาและการตอบรบั การกล่าวลา
3. คำศพั ท์ทีเ่ กยี่ วกบัอาชีพแมบ่ า้ น
4. การขอร้องและการขอโทษ
รวม
ลงช่ือ.................................................................
(...............................................................)
ตำแหนง่ ...........................................................
วนั ที.่ .........เดือน................................พ.ศ..........
ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผบู้ รหิ าร
..............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .................................................................
(...............................................................)
ตำแหนง่ ...........................................................
วันท่.ี .........เดอื น................................พ.ศ..........
แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test)
วชิ าภาษาอังกฤษพื้นฐาน (พต11001)
จงเติมคำในช่องวา่ งใหถ้ ูกต้อง กรณุ าช่วยฉนั หนอ่ ยไดไ้ หมคะ
1. ______________ you help me? , please. กรณุ าชว่ ยฉันหน่อยไดไ้ หมคะ
2. Would you help me? , ______________.
3. With ______________. ด้วยความยินดคี ะ่
4. ______________. ได้คะ่
5. No ______________. ไมม่ ีปญั หาค่ะ
ใบความรู้ท่ี 11 เรอ่ื ง การออกคำสง่ั และการขอโทษ
วิชาภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน (พต11001)
1. ประโยคคำสงั่ เช่น ความหมาย
ตวั อยา่ งประโยค มานี่
หยดุ
Come here. นง่ั ลง
Stop. ยืนข้ึน
Sit down. เขา้ แถว
Stand up. ไม่ต้องรบี /อยา่ รีบ
Stand in a line. ฟังนะ
Don’t rush. ดูนะ
Listen. เงียบ ๆ
Look. ระมดั ระวงั ด้วย
Be quiet. อยา่ ลืมการบ้านของเธอนะ
Be careful.
Don’t forget your homework.
2. การตอบรบั เช่น ตวั อย่างประโยค ความหมาย
ไดค้ ะ่
O.K.
Alright.
Yes.
**** ข้อสังเกต ในการพดู ประโยคคำสัง่ ท่ีสุภาพ จะต้องใช้ Please ด้วยเสมอ ****
3. ประโยคขอโทษและการตอบรบั ความหมาย
ในการพดู ขอโทษมีสำนวนในการพูด เชน่ ขอโทษ
3.1 ประโยคขอโทษ เช่น ฉนั ขอโทษ
ตัวอย่างประโยค กรณุ ายกโทษใหฉ้ นั
Sorry.
I'm sorry.
I do apologize. Please forgive me.
3.2 การตอบรับ เชน่ ความหมาย
ตวั อย่างประโยค ไมเ่ ป็นไรหรอก
ไม่ต้องกงั วลไปหรอก
That’s all right.
Don' t worry.
3.3 การขอร้อง เช่น
ตวั อยา่ งประโยค ความหมาย
Please tell me your name. กรณุ าบอกชอื่ ของคุณให้ฉนั ด้วย
Please close the door. กรุณาปดิ ประตู
Please turn on the light. กรณุ าเปดิ ไฟ
Please turn off the light. กรณุ าปดิ ไฟ
Please turn off the television. กรุณาปดิ โทรทศั น์
Please look at this. กรณุ ามองดูสิ่งน้ี
Please follow me. กรุณาตามฉนั มา
Please be quiet. กรณุ าเงียบ
Please be careful. โปรดระมดั ระวงั
Please clean this room. กรุณาทำความสะอาดห้องน้ี
3.4 การขอโทษ เช่น
ตวั อยา่ งประโยค ความหมาย
I’m sorry. I don’t know the answer. ขอโทษค่ะ ดิฉันไมท่ ราบคำตอบค่ะ
I’m sorry. I’m late. ขอโทษทม่ี าสายคะ่
I’m sorry. I forget to do my homework. ผมขอโทษครบั ผมลืมทำการบา้ นครับ
ใบงาน กรต. ท่ี 11 เรือ่ ง ประโยคออกคำส่งั และขอโทษ
วิชาภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน (พต11001)
1. ให้นกั ศกึ ษาเขยี นประโยคคำส่งั ต่อไปนเี้ ป็นภาษาองั กฤษ
ประโยคคำสงั่ เขียนเปน็ ภาษอังกฤษ
กรณุ าบอกช่อื ของคุณใหฉ้ ันดว้ ย
กรณุ าปิดประตู
กรณุ าปิดไฟ
กรุณาปิดโทรทัศน์
ขอโทษท่มี าสาย
ขอโทษที่ไมท่ ำงาน
2. ใหน้ กั ศึกษาบอกความหมายของประโยคต่อไปน้ี
1) Be quiet. …………………………………………………………………………………………………………..
2) Sit down. …………………………………………………………………………………………………………..
3) Stand in a line. …………………………………………………………………………………………………………..
4) Come here. …………………………………………………………………………………………………………..
5) Be careful. …………………………………………………………………………………………………………..
6) Listen. …………………………………………………………………………………………………………..
7) Don’t forget your homework. ………………………………………………………………………………………
8) Stop. …………………………………………………………………………………………………………..
9) Don’t rush. …………………………………………………………………………………………………………..
10) Stand up. …………………………………………………………………………………………………………..
แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test)
วชิ าภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน (พต11001)
จงแปลความหมายของประโยคตอ่ ไปน้ี
1) I’m sorry. I forget to do my homework. ……………………………………………………………………..
2) Stand in a line. …………………………………………………………………………………………………………..
3) Come here. …………………………………………………………………………………………………………..
4) Listen. …………………………………………………………………………………………………………..
5) I’m sorry. I’m late. ………………………………………………………………………………………………………….
จงเตมิ คำในช่องวา่ งใหถ้ กู ตอ้ ง กรณุ าช่วยฉันหนอ่ ยได้ไหมคะ
1______________ you help me? , please. กรุณาช่วยฉนั หน่อยได้ไหมคะ
2. Would you help me? , ______________. ดว้ ยความยนิ ดคี ะ่
3. With ______________. ได้ค่ะ
4. ______________. ไมม่ ีปัญหาคะ่
5. No ______________.
แบบทดสอบหลงั เรยี น (Post-test)
วิชาภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน (พต11001)
จงแปลความหมายของประโยคต่อไปน้ี
1) I’m sorry. I forget to do my homework. ……………………………………………………………………..
2) Stand in a line. …………………………………………………………………………………………………………..
3) Come here. …………………………………………………………………………………………………………..
4) Listen. …………………………………………………………………………………………………………..
5) I’m sorry. I’m late. ………………………………………………………………………………………………………….
บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
กศน.ตำบล......................................... กศน.อำเภอ.................................... จงั หวดั ระยอง
สปั ดาหท์ ี.่ ...... วันท่ี........เดือน..............................พ.ศ............ รายวชิ า.........................................ระดบั ..................
1. ผลการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปญั หาอุปสรรค
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแกไ้ ข
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
4. ส่ิงท่ไี มไ่ ดป้ ฏิบัติตามแผนการจัดการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
เหตผุ ล.........................................................................................................................................................................
.....
..............................................................................................................................................................................
5. การปรับปรงุ พัฒนาการเรียนรคู้ รัง้ ตอ่ ไป
..............................................................................................................................................................................
6. ประเด็นที่นำไปสู่การวจิ ยั ในชน้ั เรยี น
..............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.................................................................
(...............................................................)
ตำแหนง่ ...........................................................
วันที่..........เดอื น.............................พ.ศ.........
ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร
..............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .................................................................
(...............................................................)
ตำแหนง่ ...........................................................
วันท่.ี .........เดอื น.............................พ.ศ.........
แผนการจดั การเรียนรรู้ ายสปั ดาห์
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564
วชิ า ลูกเสอื กศน. รหสั รายวิชา สค12025 ระดบั ประถมศึกษา จำนวน 2 หนว่ ยกิต
หนว่ ยที่ 3 แนวทางการเสรมิ สรา้ งวนิ ยั และความเป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย( 3 ช่ัวโมง)
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำเภอเมอื งระยอง
1. มาตรฐานการเรียนรู้
1. มีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักเก่ียวกับภูมิศาสตร์ ประวตั ศิ าสตร์ เศรษฐศาสตร์ การเมือง การปกครองใน
ทอ้ งถน่ิ ประเทศ นำมาปรบั ใชใ้ นการดำเนนิ ชีวติ และการประกอบอาชีพ เพ่อื ความมน่ั คงของชาติ
2. มีความรู้ ความเข้าใจ เห็นคณุ คา่ และสบื ทอดศาสนา วฒั นธรรม ประเพณีของทอ้ งถิน่ และประเทศไทย
3. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ดำเนินชีวิตตามวิถีประชาธปิ ไตย กฎหมายเบื้องต้น กฎระเบยี บของ ชมุ ชน สงั คม และ
ประเทศ
4. มคี วามรู้ ความเขา้ ใจหลักการพฒั นาชุมชน สงั คม และวเิ คราะห์ข้อมลู ในการพัฒนา ตนเอง ครอบครัว
ชมุ ชน สงั คม
2. เน้ือหาตามหลักสูตร
2.11 ผลกระทบจากการขาดวนิ ยั และการขาดความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย
2.12 แนวทางการเสรมิ สร้างวินัย และความเปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย
2.13 ลูกเสอื กศน.
2.13.1 ความเป็นมาของลูกเสือ กศน.
2.13.2 ความสำคัญของลูกเสอื กศน.
2.14 ลกู เสอื กศน. กบั การพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชุมชนและสงั คม
2.15 บทบาทหนา้ ทข่ี องลกู เสอื กศน. ที่มีต่อตนเอง ครอบครวั ชุมชนและสังคม
3. ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวงั (ตัวชีว้ ดั )
3.1 อธิบายสาระสำคัญของการลกู เสือ
3.2 อธบิ ายความสำคญั ของการลูกเสอื กับการพัฒนา
3.3 ความเปน พลเมอื งดขี องลูกเสอื
3.4 อธบิ ายประวัตลิ ูกเสือไทย
3.5 อธบิ ายความรูท ัว่ ไปเก่ียวกับคณะลกู เสือแหง ชาติ
3.6 อธิบายประวัติผูใหกาํ เนดิ ลูกเสือโลก
3.7 อธบิ ายความสําคัญขององคก ารลกู เสอื โลก
3.8 อธิบายคาํ ปฏิญาณ กฎและคตพิ จนข องลกู เสือ
3.9 อธิบายคณุ ธรรมจรยิ ธรรมจากคาํ ปฏญิ าณและกฎของลกู เสือ
3.10 อธบิ ายความหมาย และความสําคัญของวนิ ยั และความเปน ระเบยี บ เรยี บรอย
3.11 อธิบายผลกระทบจากการขาดวินัยและการขาดความเปนระเบียบ เรยี บรอ ย
3.12 ยกตัวอยา งแนวทางการ เสริมสรางวินยั และ ความเปน ระเบยี บ เรยี บรอ ย
3.13 อธิบายความเปนมาและ ความสาํ คญั ของลกู เสือ กศน.
3.14 อธบิ ายลกู เสอื กศน. กับการพฒั นาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และ สงั คม
3.15 อธิบายบทบาทหนา ท่ขี องลูกเสอื กศน.ทีม่ ตี อ ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน และสังคม
3.16 อธบิ ายความหมายและ ความสาํ คัญของจิตอาสา และการบรกิ าร
7.17 อธบิ ายหลกั การของจติ อาสาและการบริการ
4 กระบวนการจัดการเรียนรูแ้ ละกจิ กรรมเพิม่ เติม
ขนั้ นำ
- ช้ีแจงจดุ ประสงค์การเรียนรู้
- ทกั ทายผเู้ รยี น และช้ีแจงเรอ่ื ง ลกู เสอื กศน. เพื่อสรุปใจความสำคญั ซ่ึงใชอ้ งค์ประกอบหลาย ๆ สว่ น
- ครูยกตวั อยา่ งบคุ คลทป่ี ระสบความสำเรจ็ ความสาํ คัญของจิตอาสา และการบรกิ ารของลูกเสือให้ผู้
เรียนฟงั
- ผเู้ รียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ขนั้ สอน / การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง
- ผเู้ รียนแนะนำตวั เอง และแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับสาระสำคญั ของการลูกเสอื โดยวิธีการส่มุ
ตัวอย่างนักศึกษาในแต่ละกลมุ่ ส่งตัวแทนสมาชิกในกลุ่ม ๆ ละ 1 คน
- ผเู้ รยี นแลกเปลย่ี นความรู้ประสบการณท์ ม่ี ี หน้าที่การงานที่ทำ และการปฏบิ ัตติ นตามหลักการสำคัญ
ของการลูกเสอื กบั เพอ่ื นสมาชิกในห้อง โดยการออกมาเลา่ หนา้ ชั้นเรียน
- แบง่ กลุ่มผ้เู รียน เป็น 6 กลุ่ม โดยวิธกี ารนับเลข 1-6 ตามลำดบั และระดมความคิดในหัวข้อเรอ่ื ง
ทก่ี ำหนด ดงั น้ี
กลมุ่ ท่ี 1
- สาระสำคัญของการลกู เสอื
- ความสำคัญของการลูกเสอื กบั การพัฒนา
- ความเป็นพลเมืองดขี องลูกเสอื
กล่มุ ท่ี 2
- ประวัติลูกเสือไทย
- ความรู้ท่วั ไปเกีย่ วกบั คณะลูกเสือแหง่ ชาติ
- ประวัติผใู้ หก้ ำเนิดลูกเสือโลก
กลุ่มที่ 3
- องค์การลกู เสอื โลก
- คำปฏญิ าณ กฎ และคตพิ จน์ของลกู เสอื
- คณุ ธรรม จรยิ ธรรมจากคำปฏิญาณและกฎของลูกเสอื
กลมุ่ ท่ี 4 วินยั
- และความเป็นระเบยี บเรียบร้อย
- ผลกระทบจากการขาดวินยั และการขาดความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย
- แนวทางการเสริมสรา้ งวินัย และความเป็นระเบยี บเรยี บรอ้ ย
กลมุ่ ที่ 5
- ลูกเสอื กศน.
- ลูกเสอื กศน. กับการพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชนและสังคม
- บทบาทหน้าท่ีของลกู เสือ กศน. ท่มี ตี ่อตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและสงั คม
กลุ่มที่ 6
- จิตอาสา และการบริการ
- หลกั การของจิตอาสา และการบรกิ าร
- วิธีการปฏบิ ตั ิตนในฐานะลกู เสือ กศน. เพ่อื เป็นจิตอาสา และการบรกิ าร
ขั้นสรุป
- ผู้เรียนแตล่ ะกลุ่มนำผลการระดมความคดิ ในกลุ่ม ของตนเองออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรียน
- ครูและผู้เรียนรว่ มกนั สรุปหลังจากทุกกลุม่ นำเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
- ครใู ห้ความร้เู พม่ิ เตมิ ในสว่ นของความรูท้ ่ียังไม่ครบถ้วนเก่ยี วกับความหมายความสำคญั และ
กระบวนการของหลกั การลกู เสอื
- ครูเชื่อมโยงจากสิง่ ที่ผูเ้ รียนนำเสนอกันเนอ้ื หาในเรือ่ งความหมาย ความสำคญั และกระบวนการของ
การเรียนรใู้ นเรอ่ื ง หลักการลกู เสอื ความหมายความสำคญั ของลกู เสอื และการประยกุ ต์ใชใ้ นการดำเนนิ ชีวติ ไดอ้ ย่าง
เหมาะสม
งานทม่ี อบหมาย
- ศึกษาแบบเรียนวิชาลกู เสอื กศน. และใบความรู้
- ใบความรเู้ รื่องสาระสำคญั ของการลูกเสอื
- ใบความรู้เรื่องความสำคญั ของการลกู เสอื กับการพฒั นา
- ใบความรู้เรอ่ื งความเป็นพลเมืองดขี องลกู เสอื
- ใบความรู้เรื่องประวัตลิ กู เสอื ไทย
- ใบความรู้เรื่องความรู้ทั่วไปเกยี่ วกบั คณะลกู เสอื แหง่ ชาติ
- ใบความรเู้ รอ่ื งประวตั ิผใู้ หก้ ำเนิดลูกเสอื โลก
- ใบความรเู้ รือ่ งองคก์ ารลกู เสือโลก
- ใบความรู้เรื่องคำปฏิญาณ กฎ และคตพิ จนข์ องลูกเสอื
- ใบความรู้เรือ่ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรมจากคำปฏิญาณและกฎของลกู เสอื
- ใบความรเู้ รอ่ื งวินัยและความเปน็ ระเบียบเรียบร้อย
- ใบความรู้เร่ืองผลกระทบจากการขาดวนิ ยั และการขาดความเป็นระเบียบเรียบร้อย
- ใบความรู้เรือ่ งแนวทางการเสริมสร้างวนิ ัย และความเปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย
- ใบความรเู้ รอ่ื งความเปน็ มาของลูกเสือ กศน.
- ใบความรคู้ วามสำคญั ของลกู เสอื กศน.
- ใบความรู้เรื่องลูกเสือ กศน. กบั การพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชมุ ชนและสังคม
- ใบความรเู้ รอ่ื งบทบาทหน้าทข่ี องลกู เสอื กศน. ทม่ี ีต่อตนเอง ครอบครวั ชมุ ชนและสงั คม
- ใบความรู้เร่อื งจิตอาสา และการบริการ
- ใบความรเู้ รอื่ งหลักการของจิตอาสา และการบริการ
- ใบความรูเ้ รื่องวธิ กี ารปฏิบัตติ นในฐานะลกู เสอื กศน. เพอ่ื เปน็ จติ อาสา และการบริการ
- ใบงาน/แบบทดสอบหลงั เรียน
5. สื่อ/แหล่งเรยี นรู้
- แบบเรยี นชดุ วชิ าลกู เสอื กศน. ระดบั ประถมศกึ ษา
- สื่อ CD ลกู เสอื กศน.วสิ ามัญ
- ใบความรู้เรื่องลกู เสือกับการพฒั นา เรอ่ื งการลูกเสือไทย เรอ่ื งการลกู เสือโลก เร่ืองคุณธรรม
จริยธรรมของลกู เสอื เรื่องวินยั และความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย เรื่องลกู เสอื กศน.กับจิตอาสาและการบรกิ าร
- หอ้ งสมดุ ประชาชนอำเภอ
6. การวดั ผลและประเมินผล เคร่อื งมอื การวดั ผล ผลการเรียนที่คาดหวัง
การวัดผลตามจดุ ประสงค์ แบบทดสอบ ผ่านการตอบคำถามได้
ใบงานวิชาลูกเสอื กศน. 80% ข้นึ ไป
ความรู้ (Knowledge) ผูเ้ รียนรู้สาระสำคัญของการ
อธิบายเร่อื ง ลกู เสอื กศน. การมสี ่วนร่วมในการอธิบาย ลูกเสอื กศน. 80% ขึ้นไป
ทักษะ (Skill) ความคดิ เหน็ เรือ่ งเขา้ ใจความสำคญั ของ
เลือกหวั ข้อลกู เสอื กศน. การวชิ าลูกเสอื กศน.
ดำเนนิ การเสนอ ผเู้ รียน 80% ขนึ้ ไปมีส่วนร่วม
เจตคติ (Attitude) ในการอธบิ ายแลกเปลยี่ น
มคี วามรู้สกึ เจตคตทิ ี่ดีต่อ ความคดิ เห็น
ลูกเสอื กศน.แบบมเี หตุผล
ลงชอ่ื .............................................................ผสู้ อน
(................................................)
วันที่ ................เดอื น………….............….......พ.ศ…………….
ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ี่ไดร้ ับมอบหมาย
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
ลงชื่อ........................................................ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอ
(............................................)
วันท่ี ............เดือน……………............พ.ศ……………....
แบบทดสอบก่อนเรยี น
วชิ าลูกเสือ กศน. รหัสวชิ า สค12025
ระดบั ประถมศึกษา
คำชแ้ี จง จงทำเครอื่ งหมาย × หน้าข้อทีถ่ กู ต้องท่สี ุด
1. การลูกเสอื หมายถึงขอ้ ใด
ก. ผู้ท่สี มัครเป็นลูกเสอื ข. ผบู้ งั คับบัญชาลูกเสอื
ค. การพัฒนาผใู้ หญ่ใหเ้ ป็นพลเมอื งดี ง. กจิ การท่ีนำอุดมการณข์ องการลูกเสือมาพัฒนาเดก็ และเยาวชน
2. ข้อใดไมใ่ ชแ่ นวทางการพฒั นาลกู เสอื ข. ฝึกให้รจู้ ักการบำเพญ็ ประโยชน์
ก. ฝกึ ใหม้ คี วามซื่อสตั ยส์ จุ รติ ง. ฝึกใหพ้ ่งึ ตนเอง โดยไม่สนใจผูอ้ ่นื
ค. ฝกึ ให้มคี วามรอบคอบ ช่างสงั เกต
3. ขอ้ ใดไม่ใช่คำปฏญิ าณของลกู เสอื
ก. ขา้ จะช่วยเหลือผอู้ น่ื ทุกเมือ่ ข. ข้าจะปฏบิ ัตติ ามกฎของลกู เสือ
ค. ขา้ จะประพฤตชิ อบดว้ ยกาย วาจา ใจ ง. ขา้ จะจงรักภกั ดตี ่อชาติ ศาสนา และพระมหากษตั รยิ ์
4. กองลูกเสือกองแรกของโลกตง้ั ขึ้นทีป่ ระเทศใด ข. ประเทศรสั เซีย
ก. ประเทศองั กฤษ
ค. ประเทศฝร่งั เศส ง. ประเทศฮอลันดา
5. ข้อบงั คบั ลกั ษณะปกครองลูกเสือฉบบั แรกของไทย ประกาศใชเ้ มอื่ ใด
ก. 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2452 ข. 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2453
ค. 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2454 ง. 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2455
6. บรรดาลกู เสอื ทงั้ ปวง หมายถึงข้อใด
ก. ลกู เสอื ชาวบา้ น/ลกู เสอื ไซเบอร์
ข. ลกู เสอื ในโรงเรียน/ลูกเสือสำรอง/ลูกเสือจราจร
ค. ลกู เสอื หลักสูตรพเิ ศษ/ลกู เสือป่าไม้/ลูกเสอื สามัญ
ง. ลกู เสอื ในโรงเรียน/ลูกเสือหลกั สตู รพิเศษ/ลกู เสือชาวบา้ น/ลูกเสือนอกโรงเรยี น
7. ประมขุ ของคณะลูกเสอื แห่งชาติ หมายถงึ ข้อใด
ก. พระมหากษตั ริย์ ข. นายกรัฐมนตรี
ค. ผ้วู ่าราชการจงั หวัด ง. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
8. ข้อใดคือกฎของลูกเสือ ข. ลูกเสือมีจิตอาสา
ก. ลูกเสอื บริการ ง. ลกู เสือชว่ ยเหลือผอู้ ื่นทุกเมือ่
ค. ลูกเสอื มเี กียรติเช่ือถือได้
ข. ท่องจำ
9. กฎของลกู เสอื มไี วเ้ พือ่ อะไร ง. ประชาสมั พนั ธ์
ก. ปฏบิ ัติ
ค. การเรยี นรู้
10. ขอ้ ใดเปน็ การปฏิบตั ิตามกฎของลกู เสือได้ถูกต้อง
ก. อ้มั เกบ็ เงินไดจ้ งึ นำไปซือ้ ขนม ข. จ๊บิ ช่วยนำคุณยายขา้ มถนนแลว้ ขอเงนิ
ค. นอ้ งออกไปตลาดนัดและซอ้ื ขนม ง. แบ็งค์นำลูกแมวทพี่ ลัดหลงจากแมแ่ มวไปเล้ยี ง
11. ผปู้ ฏบิ ตั ติ นไมต่ รงต่อเวลา มคี วามเกีย่ วขอ้ งกับเร่อื งใด
ก. ขาดวินยั ข. ขาดความอดทน
ค. ไม่ยอมเสยี สละ ง. เหน็ แกป่ ระโยชนส์ ว่ นตน
12. ผทู้ ่ีมวี ินัยต้องมคี ุณธรรมขอ้ ใดเปน็ ส่วนสนับสนุน
ก. ความอดทน ข. ความเสยี สละ
ค. ความรบั ผดิ ชอบ ง. ความเออื้ เฟ้ือเผอ่ื แผ่
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น
วิชาลูกเสอื กศน. รหสั วชิ า สค12025
ประถมศึกษา
1. ง
2. ง
3. ค
4. ก
5. ค
6. ง
7. ก
8. ค
9. ก
10. ง
11. ก
12. ก
ใบงาน
เรือ่ งลกู เสอื กับการพฒั นา
กิจกรรม เรื่องลกู เสอื กบั การพัฒนา
คำช้แี จง ใหผ้ ้เู รียนอธิบายสาระสำคญั ของการลกู เสอื ดังตอ่ ไปนี้
1. วตั ถุประสงคข์ องการพฒั นาลูกเสือ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................………
…………………………………………………………………………………………………………………………………......................……………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………......................……………
………………………………………………………………………………………………………………………………………......................………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
2. หลักการสำคญั ของการลูกเสอื
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….....................…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………….....................…
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
กจิ กรรม เร่อื งความสำคญั ของการลูกเสือกบั การพฒั นา
คำช้แี จง ใหผ้ ู้เรยี นอธบิ ายความสำคัญของการลกู เสือกับการพฒั นา ในประเด็นตอ่ ไปนี้
1. ลกู เสือกับการพัฒนาตนเอง มีความสำคญั ดังน้ี
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….....................…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
2. ลูกเสอื กบั การพัฒนาสัมพนั ธภาพระหวา่ งบคุ คล มีความสำคญั ดังนี้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………….....................…………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………......................