The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มแผนการสอน ประถม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 421ed000047, 2021-09-14 23:14:59

เล่มแผนการสอน ประถม

เล่มแผนการสอน ประถม

ขนั้ สรุป
1. ผู้สอนสรปุ องค์ความรเู้ รอื่ งดาราศาสตรเ์ พอ่ื ชีวติ ความสมั พันธร์ ะหว่างดวงอาทติ ย์ โลก และ

ดวงจันทรท์ าแบบทดสอบผ่าน Google Form (พรอ้ มเฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน) ตรวจความถกู ต้องใบงานท่ี 5
พร้อมใหค้ ะแนน

2. ผ้สู อนและผเู้ รยี นตอบข้อซกั ถามรว่ มกันและแลกเปล่ียนเรยี นรู้

3. ผู้สอนมอบหมายงาน และการพบกลุม่ คร้ังตอ่ ไป
5. งานที่มอบหมาย

ใหผ้ เู้ รยี นคน้ ควา้ ความรเู้ พมิ่ เตมิ

- ใบงาน
- แบบทดสอบหลังเรยี น
6. วิจยั ย่อชั้นเรยี น

บนั ทึกผลการจัดกิจกรรมในชัน้ เรียน และนาผลการประเมินผเู้ รยี นก่อนและหลงั เรยี น และมปี ญั หาจาก
การทากจิ กรรม มาวเิ คราะห์เพอ่ื ทาวิจยั ในชัน้ เรยี น
7. ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้

- หนังสือเรยี น วชิ าวิทยาศาสตร์ (พว 11001)
- ใบความรู้
- แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

- ส่ือ youtube
8. การวดั ผลและประเมนิ ผล

สรปุ ไดว้ า่ การจัดการเรยี นรใู้ หผ้ ูเ้ รียนมีการเรยี นด้วยตนเอง สามารถเลือกใช้รูปแบบในการเรียนได้หลาย

อยา่ ง โดยเฉพาะการทาสัญญาการเรียนและการเขียนโครงการเรียน ทั้งน้ีผู้สอนควรแนะนาวิธีการและข้ันตอนใน
การเรยี นให้ผู้เรียนเข้าใจกอ่ นดาเนินการเรียนดว้ ยตนเอง สนับสนุนให้ผู้เรียนมีการเรียนแบบร่วมมือ และควรจัด
ชว่ งเวลาสาหรับพบผ้สู อนเพ่ือประเมินการเรยี นเปน็ ระยะๆ ทั้งน้ีผู้เรียนอาจวางแผนการเรียนด้วยตนเองโดยการ

เรยี นเป็นรายบุคคล เรียนกับค่ทู ่ีมีความสามารถเทา่ กัน เรียนเปน็ กลมุ่ หรอื เรยี นกบั ผทู้ ่มี ีความรู้และประสบการณ์
ในเร่ืองน้นั มากกวา่ ก็ได้

ในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเรยี นรใู้ นหน่วยที่ 5 เร่ืองดาราศาสตร์เพื่อชีวิตความสมั พันธ์ระหว่างดวงอาทิตย์

โลก และดวงจนั ทร์นี้ ผู้เรียนจะต้องรวบรวมผลการปฏิบัติกิจกรรมซ่ึงเป็นหลักฐานของการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียน
บรรจุในแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ของผเู้ รียนแต่ละบคุ คลดังน้นั เมอ่ื สน้ิ สุดการเรียนรใู้ นหน่วยที่ 5 เร่ืองดารา
ศาสตร์เพอ่ื ชวี ติ ความสัมพันธ์ระหวา่ งดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจันทร์น้ี ผู้เรยี นจะตอ้ งมแี ฟม้ สะสมงานส่งผู้สอน

การวดั ผลตามจดุ ประสงค์ เคร่ืองมือการวัดผล เกณฑ์การประเมนิ ผล
ผา่ นการตอบคาถามได้ 80% ขน้ึ ไป
ความรู้ (Knowledge) - แบบทดสอบก่อนเรยี น
อธิบายอทิ ธิพลของดวง - แบบทดสอบหลงั เรยี น

อาทิตย์ และดวงจันทรท์ มี่ ี
ผลตอ่ การเกิดปรากฏการณ์
ทางดาราศาสตรบ์ นโลก

และการนาไปใช้ประโยชน์
ได้

การวดั ผลตามจุดประสงค์ เคร่ืองมอื การวัดผล เกณฑ์การประเมนิ ผล
ทกั ษะ (Skill) ใบงานท่ี 5 เร่ืองดาราศาสตรเ์ พอ่ื
ชีวิตความสมั พันธร์ ะหวา่ งดวง ผเู้ รียนจบั ประเด็นสาคัญ
สามารถนาความรูท้ ่ีได้รบั อาทติ ย์ โลก และดวงจันทร์ เรื่องดาราศาสตรเ์ พอ่ื ชวี ิตความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง
ไปใชป้ ระโยชนใ์ น ดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์เขา้ ใจ 80%
ชวี ติ ประจาวนั ได้ การมสี ว่ นร่วมในการอธิบาย ข้ึนไปมีความรูเ้ ร่อื งดาราศาสตรเ์ พื่อชวี ติ
ความคิดเหน็ ความสัมพนั ธ์ระหว่างดวงอาทติ ย์ โลก และ
เจตคติ (Attitude) ดวงจันทร์
สามารถใช้วสั ดุ อปุ กรณ์
ผู้เรยี น 80% ขนึ้ ไปมีสว่ นรว่ มในการอธิบาย
ทางวิทยาศาสตรไ์ ดอ้ ย่าง แลกเปลีย่ นความคดิ เหน็
ถูกตอ้ ง เหมาะสม

9. การเรยี นร้ดู ้วยตนเอง จานวน 17 ชวั่ โมง

ที่ เนอื้ หา จานวนชว่ั โมง หมายเหตุ
17
1 ดาราศาสตร์เพอ่ื ชวี ติ ความสมั พันธ์ระหวา่ งดวงอาทิตย์ โลก และ
ดวงจันทร์ 17
1. การเกิดกลางวัน กลางคืน
2. การเกิดขา้ งข้ึน ข้างแรม
3. การเกดิ สรุ ยิ ปุ ราคา และจนั ทรปุ ราคา
4. การเกิดฤดกู าล
5. การเกิดลมบก ลมทะเล

รวม

ลงช่ือ.............................................................ผสู้ อน
(……………………................…………)

วนั ท่ี ...........เดือน…………….......พ.ศ……………....

ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ สถานศกึ ษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
....................................................................................................................................................................................

....................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ...................................................ผ้อู านวยการ กศน.อาเภอเมืองระยอง

(……....................…………………………)
วันท่ี.............เดือน……………...........พ.ศ…………........

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

วทิ ยาศาสตร์ (พว11001) ระดบั ประถมศึกษา
หน่วยที่ 5 ดาราศาสตรเ์ พ่ือชีวิตความสมั พันธร์ ะหว่างดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจันทร์

1. โลกหมุนรอบตวั เอง 1 รอบ นานเทา่ ไร
ก. 365 วัน
ข. 11 เดอื น
ค. 24 ช่ัวโมง
ง. 48 ชั่วโมง

2. “ราหูอมจนั ทร์” คือความเชือ่ สมยั โบราณเกยี่ วกบั อะไร
ก. สรุ ยิ ปุ ราคา
ข. จนั ทรปุ ราคา
ค. ข้างขนึ้ ข้างแรม
ง. การโคจรของดวงจนั ทร์

3. ดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์ อะไรเปน็ ศนู ยก์ ลางของระบบ
ก. โลก
ข. ดวงจันทร์
ค. ดวงอาทิตย์
ง. ถกู ทกุ ขอ้

4. สรุ ิยปุ ราคา เกดิ ในเวลาใด
ก. เช้ามืด
ข. กลางวัน
ค. เทยี่ งคนื
ง. กลางคืน

5. กลางวันมดี วงดาวบนท้องฟา้ หรอื ไม่
ก. มี แตถ่ กู เมฆบังเกิดหมด
ข. ไม่มี ดวงอาทติ ย์บงั ดาวหมด
ค. ไมม่ ี เพราะดาวข้นึ ตอนกลางคืน
ง. มี แตแ่ สงอาทิตยท์ าให้มองไมเ่ ห็น

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน

วทิ ยาศาสตร์ (พว11001) ระดับประถมศึกษา
หน่วยท่ี 5 ดาราศาสตร์เพอื่ ชวี ติ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์
1. ค. 24 ชั่วโมง

2. ข. จันทรุปราคา

3. ค. ดวงอาทิตย์

4. ข. กลางวนั

5. ง. มี แตแ่ สงอาทิตย์ทาให้มองไม่เหน็

ใบความรู้ที่ 5

เร่อื ง ดาราศาสตรเ์ พ่ือชวี ติ ความสมั พันธ์ระหวา่ งดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์

เร่ืองที่ 1 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
1.1 การเกิดกลางวันและกลางคืน
เน่อื งจาก โลกเปน็ บรวิ าลของดวงอาทิตย์ โดยโลกจะหมนุ รอบดวงอาทติ ยเ์ ปน็ เวลา 365 วนั

หรอื 1 ปใี นขณะเดียวกนั โลกจะหมุนรอบตัวเองโดยกนิ เวลา 24 ช่วั โมง จึงสง่ ผลใหด้ ้านท่ีโดนแสงจะเปน็ เวลา
กลางวัน ส่วนดา้ นทีไ่ ม่โดนแสงจะเป็นเวลากลางคนื เมอื่ โลกหมุนไปเรอ่ื ย ด้านท่ีไม่โดนแสง หรือกลางคนื จะค่อยๆ
หมนุ เปล่ียนมาจนกลายมาเปน็ กลางวนั เราเรียกปรากฏการณน์ ้วี ่า กลางวัน และกลางคนื

1.2 การเกิดขา้ งขน้ึ -ขา้ งแรม
ดวงจันทรเ์ ป็นบริวารของโลก เปน็ วตั ถุทึบแสงทม่ี เี สน้ ผ่านศนู ยก์ ลางประมาณ 1/4 ของโลก อยู่

ห่างโลกประมาณ 30 เทา่ ของเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางของโลกเท่านนั้ ดวงจนั ทรจ์ งึ เป็นวัตถุธรรมชาติทอี่ ยูใ่ กล้โลกทส่ี ดุ
เรามองเหน็ ดวงจันทรไ์ ด้เพราะพน้ื ผิวดวงจันทรส์ ะท้อนแสงอาทติ ยม์ าเขา้ ตาเรา แต่ส่วนสวา่ งของดวงจนั ทรท์ ห่ี ันมา
ทางโลกไมเ่ ท่ากันทกุ วนั ท้ังนีเ้ พราะดวงจันทร์เคลอื่ นรอบโลกรอบละประมาณ 1 เดือน ดงั นน้ั ขนาดปรากฏของดวง
จนั ทร์บนฟา้ จงึ เปลย่ี นแปลง เช่นเหน็ เปน็ เสย้ี วเล็ก ๆ วันตอ่ มาเหน็ โตข้ึนและหลายวันต่อมาเป็นจันทร์เพ็ญ ช่วงนี้
เราเรียกวา่ ดวงจันทรข์ า้ งขนึ้ ซึ่งหมายความว่าดวงจันทรส์ วา่ งขึน้ ภายหลงั ขา้ งขึน้ จะเป็นขา้ งแรม ขนาดปรากฏของ
ดวงจนั ทรส์ ว่างลดลงจากรปู วงกลมเปน็ รปู คร่ึงวงกลมและเปน็ เสี้ยวเล็ก ๆ จนมองไม่เห็นเรียกว่าวันเดือนดับ เรา
เรียกปรากฏการณ์ การเกิดข้างขึ้นขา้ งแรมว่าเปน็ ดิถขี องดวงจนั ทร์

1.3 การเกิดสุรยิ ปุ ราคาและจนั ทรปุ ราคา
สรุ ยิ ุปราคา หรอื สุริยคราส เปน็ ปรากฏการณ์ทีเ่ กดิ ข้นึ เมอื่ ดวงอาทติ ย์ ดวงจนั ทร์ และโลก โคจร

มาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน โดยมดี วงจนั ทร์อยตู่ รงกลาง เงาของดวงจันทรจ์ ะทอดมายงั โลก ทาให้คนบนโลก
(บริเวณเขตใต้เงามืดของดวงจันทร์) มองเห็นดวงอาทิตย์เว้าแหว่ง หรือบางแห่งเห็นดวงอาทิตย์มืดหมดทั้งดวง
ชว่ งเวลาท่เี กิดสุริยุปราคาจะกินเวลาไมน่ านนกั เชน่ เมื่อวันที่ 24 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2538 ประเทศไทยสามารถ
มองเห็นสุริยุปราคาเต็มดวงได้นาน 3 ช่ัวโมง นับต้ังแต่ดวงจันทร์เร่ิมเคลื่อนเข้าจนเคลื่อนออก สุริยุปราคาจะ
เกดิ ขึน้ เฉพาะในเวลากลางวันและตรงกับวนั แรม 15 คา่ หรอื วนั ขึ้น 1 ค่า เท่าน้ัน ตาแหน่งบนพ้ืนโลกที่อยู่ในเขต
ใตเ้ งามืดของดวงจนั ทร์จะมองเหน็ ดวงอาทิตย์มืดมิดทั้งดวงเรียกว่า สุริยุปราคาเต็มดวง ท้องฟ้าจะมืดไปช่ัวขณะ

ในขณะทต่ี าแหนง่ บนพ้นื โลกที่อยู่ภายใต้เขตเงามัวจะมองเห็นดวงอาทิตย์ถูกบังไปบางส่วน เรียกว่า สุริยุปราคา
บางส่วน สาหรับการเกิดสุริยุปราคาในช่วงที่ดวงจันทร์อยู่ห่างจากโลกมากกว่าปกติ ทาให้เงามืดของดวงจันท์
ทอดตัวไปไม่ถงึ พื้นโลก แต่ถา้ ต่อขอบของเงามดื ออกไปจนสมั ผัสกบั พนื้ ผิวโลกจะเกิดเป็นเขตเงามัวขึ้น ตาแหน่งท่ี
อยภู่ ายใตเ้ ขตเงามวั นีจ้ ะมองเหน็ สุรยิ ปุ ราคาวงแหวนดวงจันทร์มีขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์มาก แต่ที่เรามองเห็น
ดวงจนั ทร์บงั ดวงอาทิตยไ์ ด้มดิ ก็เพราะดวงจนั ทรอ์ ย่ใู กลโ้ ลกมากกวา่ ดวงอาทติ ย์

สรุ ยิ ุปราคา
สรุ ยิ ปุ ราคามี 4 ประเภท ไดแ้ ก่
- สรุ ยิ ปุ ราคาบางส่วน มลี กั ษณะ: มีเพยี งบางส่วนของดวงอาทติ ยเ์ ทา่ น้นั ที่ถูกบัง
- สรุ ิยปุ ราคาเตม็ ดวง มลี กั ษณะ : ดวงจันทรบ์ ังดวงอาทิตย์หมดท้ังดวง
- สุรยิ ปุ ราคาวงแหวน มลี ักษณะ: ดวงอาทติ ย์มลี กั ษณะเป็นวงแหวน เกดิ เมื่อดวงจันทร์อยใู่ นตาแหนง่ ท่ี
หา่ งไกลจากโลก ดวงจันทรจ์ งึ ปรากฏเลก็ กวา่ ดวงอาทติ ย์
- สุริยปุ ราคาผสม มีลกั ษณะ : ความโคง้ ของโลกทาให้สรุ ยิ ปุ ราคาคราวเดียวกนั กลายเปน็ แบบผสมได้ คือ
บางสว่ นของโลกเหน็ สรุ ยิ ุปราคาเต็มดวง บางสว่ นเหน็ สรุ ิยปุ ราคาวงแหวน บริเวณทเี่ หน็ สุริยปุ ราคาเตม็ ดวง เปน็
ส่วนท่อี ยใู่ กลด้ วงจนั ทร์มากกวา่

ใบงาน กรต. ที่ 5
เร่อื ง ดาราศาสตรเ์ พ่อื ชวี ติ ความสมั พันธ์ระหวา่ งดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจันทร์

วชิ า วิทยาศาสตร์ (พว 11001) ระดบั ประถมศึกษา

ชอ่ื .............................................................ระดับ .......ประถมศกึ ษา ................. กศน.................................

คาช้แี จง ให้ผูเ้ รียนตอบคาถามพอสงั เขป

1. จงอธบิ ายถึงการเกดิ กลางวนั กลางคืน
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

2. สรุ ยิ ปุ ราคา หรอื เรยี กอกี ชอื่ ว่าอะไร
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

3. สุริยปุ ราคามีกป่ี ระเภท อะไรบ้าง
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................ ........
.......................................................................................................................... ..........................................................

4. โลกจะหมุนรอบดวงอาทติ ยเ์ ปน็ เวลาก่ีวนั
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
.................................................................................................................................................................................. ..
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
..................................................................................................................................................... ...............................

แบบทดสอบหลังเรียน

วทิ ยาศาสตร์ (พว11001) ระดบั ประถมศึกษา
หนว่ ยท่ี 5 ดาราศาสตร์เพ่อื ชีวติ ความสัมพันธ์ระหวา่ งดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจันทร์

1. ดวงจนั ทร์ โลก และดวงอาทติ ย์ อะไรเปน็ ศนู ย์กลางของระบบ
ก. โลก
ข. ดวงจันทร์
ค. ดวงอาทิตย์
ง. ถกู ทุกข้อ

2. “จันทรปุ ราคา” เกิดจากอะไร
ก. เงาดวงจันทรไ์ ปบงั โลก
ข. เงาโลกไปบงั ดวงจันทร์
ค. เงาดวงจันทร์ไปบังดวงอาทติ ย์
ง. เงาดวงอาทิตย์ไปบงั ดวงจันทร์

3. กลางวันมดี วงดาวบนทอ้ งฟ้าหรอื ไม่
ก. มี แตถ่ ูกเมฆบังเกิดหมด
ข. ไมม่ ี ดวงอาทิตยบ์ งั ดาวหมด
ค. ไม่มี เพราะดาวขึน้ ตอนกลางคนื
ง. มี แต่แสงอาทติ ยท์ าใหม้ องไม่เหน็

4. สรุ ิยปุ ราคา วงแหวนจะเกดิ ไดเ้ มือ่ ใด
ก. ดวงอาทิตย์ อยไู่ กลจากโลก
ข. ดวงจันทร์อยหู่ ลงั ดวงอาทิตย์
ค. ดวงจันทรอ์ ยู่ตาแหน่งไกลจากโลก
ง. ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทรอ์ ยแู่ นวตรง

5. ฤดูฝนในประเทศไทยอยู่ในเดอื นใด
ก. มนี าคม
ข. มกราคม
ค. มถิ ุนายน
ง. พฤศจกิ ายน

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน

วทิ ยาศาสตร์ (พว11001) ระดบั ประถมศึกษา
หน่วยที่ 5 ดาราศาสตรเ์ พือ่ ชวี ิตความสมั พันธร์ ะหวา่ งดวงอาทติ ย์ โลก และดวงจนั ทร์
1. ค. ดวงอาทติ ย์

2. ข. เงาโลกไปบังดวงจันทร์

3. ง. มี แตแ่ สงอาทิตยท์ าให้มองไม่เห็น

4. ค. ดวงจนั ทรอ์ ยตู่ าแหนง่ ไกลจากโลก

5. ค. มถิ นุ ายน

บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้
กศน.ตาบล......................................... กศน.อาเภอ.................................... จงั หวดั ระยอง
สัปดาหท์ ี.่ ...... วันท่ี........เดือน..............................พ.ศ............ รายวชิ า.........................................ระดบั ..................
1. ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
2. ปญั หาอุปสรรค
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
3. แนวทางการแกไ้ ข
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
4. สงิ่ ท่ีไมไ่ ด้ปฏิบตั ิตามแผนการจัดการเรยี นรู้
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
เหตผุ ล
............................................................................................................................. .......................................................
5. การปรบั ปรงุ พัฒนาการเรียนรคู้ รงั้ ตอ่ ไป
..................................................................................................................................................... ...............................
6. ประเด็นที่นาไปสู่การวจิ ัยในชัน้ เรียน
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชอ่ื .................................................................
(...............................................................)

ตาแหนง่ ...........................................................
วนั ท่ี..........เดือน.............................พ.ศ.........
ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ าร
..............................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.................................................................
(...............................................................)

ตาแหนง่ ...........................................................
วนั ท.ี่ .........เดอื น.............................พ.ศ.........

คร้งั ที่ 12
วนั ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2564

เวลา 13.00-16.00 น.

แผนการจดั การเรียนรู้รายวชิ า ทกั ษะการประกอบอาชพี (อช11002) ระดับชนั้ ประถมศกึ ษา
หนว่ ยท่ี 7 โครงการเขา้ สอู่ าชพี
แผนพบกลุม่ จานวน 3 ชัว่ โมง

ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอาเภอเมืองระยอง

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐานที่ 3.2 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจและทักษะในอาชีพท่ีตดั สินใจเลือก
มาตรฐานที่ 3.3 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการจดั การอาชีพอย่างมคี ุณธรรม
2. เนื้อหาตามหลักสูตร
1. ความจาเป็นในการฝึกทักษะ อาชีกระบวนการผลติ กระบวนการตลาดที่ใชน้ วตั กรรมเทคโนโลยี
2. ความหมาย ความสาคัญของการจดั การอาชพี
3. แหล่งเรยี นรู้และสถานทฝี่ กึ อาชพี
4. การวางแผนโดยกาหนดส่ิงตา่ ง ๆ ดังน้ี

- ความรู้และทักษะท่ีต้องฝึก
- วธิ กี ารฝกึ
- วันเวลาในการฝกึ ฯลฯ
5. การฝึกทกั ษะอาชีพ
- การจดบันทึก
- ปัญหาและการแกป้ ัญหา
- ขอ้ เสนอแนะ ฯลฯ
3. ผลการเรียนรูท้ ค่ี าดหวัง (ตัวช้ีวดั )
ฝกึ ทกั ษะอาชีพตามแผนทีก่ าหนดไว้ไดโ้ ดยมกี ารบนั ทกึ ข้ันตอนการฝึกทุกขนั้ ตอน

4. กระบวนการจัดการเรยี นร้แู ละกิจกรรมเพิ่มเติม
ขัน้ นา
- ทักทายผเู้ รียน และครูพดู คยุ เก่ียวกับการวางแผนการทางานหรอแผนการใช้ชีวิตของตนเอง

แตล่ ะวันโยกาหนดให้ มีกจิ กรรมภายใน 24 ชวั่ โมง โดยการสุม่ ถามผู้เรยี นเป็นรายคน

ขน้ั สอน / การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง
1. ครูตัง้ คาถามเพ่ือเตรียมความพร้อมในการทาเรยี นรู้
- ภายใน 1 วันเราสามารถทากิจกรรมอะไรไดบ้ ้าง

- กจิ กรรมอะไรมลี ักษะอย่างไร
- ถา้ จะใหค้ นจานวนมากทารูปแบบกิจกรรมทกี่ าหนดจะต้องทาอยา่ งไร
2. ครูให้ผู้เรยี น แบ่งเปน็ กล่มุ ๆละ 3-5 คน โดยกาหนดประเดน็ การศึกษาค้นควา้

เรอื่ งท่ี 1 ความสาคัญของโครงการประกอบอาชีพ
เรอื่ งท่ี 2 ขั้นตอนการเขยี นโครงการประกอบอาชพี
เร่อื งที่ 3 การเขยี นแผนปฏบิ ัติการประกอบอาชีพ
เรอ่ื งท่ี 4 การตรวจสอบโครงการประกอบอาชีพ
- ศกึ ษาแบบเรียนวิชาทักษะการพฒั นาอาชีพและใบความรู้
- ใหผ้ เู้ รียนแต่ละกล่มุ รว่ มวเิ คราะห์สรุปเป็นแผนฝังความคิด
ข้นั สรุป
- ใหน้ กั ศึกษาแตล่ ะกลุ่มร่วมนาเสนอหน้าชน้ั เรียน
- รวบรวมใบงาน จดั เก็บในแฟม้ สะสมงาน

5. งานทม่ี อบหมาย

- ให้นกั ศึกษาทาใบงานตามท่ีมอบหมายส่งในครง้ั ต่อไป
- ศึกษาแบบเรยี นวชิ าทักษะการประกอบอาชพี
6. วจิ ยั ย่อช้นั เรยี น
บนั ทกึ ผลการจดั กิจกรรมในชั้นเรียน และนาผลการประเมินผู้เรยี นกอ่ นและหลงั เรียน และมีปญั หา
จากการทากจิ กรรม มาวิเคราะหเ์ พื่อทาวจิ ัยในชนั้ เรียน

7. สือ่ /แหลง่ เรยี นรู้

1. หนงั สอื หนังสอื แบบเรยี นวิชาทักษะการประกอบอาชีพ อช11002
2. อนิ เทอร์เนต็
3. แหลง่ เรียนร/ู้ ภูมปิ ัญญา

8. การวดั ผลและประเมินผล

1. ใบงานแบบวเิ คราะหว์ ิชาทกั ษะการพัฒนาอาชีพ
2. สง่ งานตรงตามกาหนด

การวดั ผลตามจดุ ประสงค์ เคร่ืองมือการวัดผล เกณฑ์การประเมนิ ผล
แบบทดสอบ
ความรู้ (Knowledge) ผ่านการตอบคาถามได้
อธิบายเร่อื งตามหัวข้อท่ีกาหนด ใบงาน 80% ข้นึ ไป

ทกั ษะ (Skill) การมีสว่ นรว่ มในการ ผู้เรยี นจบั ประเดน็ สาคัญ
บอกหรืออธบิ ายตามหวั ข้อใบงานท่ีกาหนด อธบิ ายความคิดเห็น เข้าใจในหลักการ 80% ข้ึนไป

เจตคติ (Attitude) ผูเ้ รยี น 80% ข้นึ ไปมสี ่วนรว่ ม
มีความรูส้ ึก เจตคตทิ ี่ดีต่อรายวชิ าที่เรยี น ในการอธิบายแลกเปลีย่ น
อยา่ งมเี หตผุ ล ความคดิ เหน็

9. การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง จานวนชั่วโมง หมายเหตุ
ที่ เนื้อหา 15
1. แหลง่ เรียนรู้ และสถานศึกษา 3
2. การวางแผนโดยการกาหนดสง่ิ ตา่ งๆ 2
3. การวางแผนและฝึกทักษะ 20

รวม

ลงชื่อ.................................................................
(...............................................................)

ตาแหนง่ ................................................................
วนั ที.่ ........เดอื น.......................................พ.ศ........
ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหาร
............................................................................................................................. ........................................
............................................................................................................................. ........................................

ลงชอ่ื .................................................................
(...............................................................)

ตาแหนง่ ................................................................
วนั ท่ี......เดอื น.................................พ.ศ...........

ชือ่ -นามสกลุ .............................................รหัสนกั ศึกษา............................................

รายวชิ า ทักษะการพัฒนาอาชีพ รหัสวิชา อช21002 ระดบั ประถมศกึ ษา
ใบงานท่ี 16 ข้นั ตอนการเขียนโครงการประกอบอาชพี

ให้ผูเ้ รยี นเขียนโครงการทีต่ ัวเองชอบ และมคี วามถนดั มา 1 โครงการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ชอ่ื -นามสกุล.............................................รหัสนกั ศกึ ษา............................................

รายวิชา ทักษะการพัฒนาอาชพี รหสั วิชา อช21002 ระดบั ประถมศกึ ษา
ใบงานที่ 17 การเขียนแผนปฏิบัตกิ ารประกอบอาชีพ

ใหผ้ ้เู รยี นจัดทาแผนการปฏิบัตกิ าร 1 เรือ่ ง ตามแบบฟอร์มท่กี าหนดให้
แผนปฏิบตั กิ าร

กิจกรรม.................................................................
ผรู้ ับผดิ ชอบ................................................

ท่ี กจิ กรรม/โครงการ ระยะเวลาดาเนินการ หมาย

ม.ค ก.พ ม.ี ค เม.ย พ.ค ม.ิ ย ก.ค ส.ค ก.ย ต.ค พ.ย ธ.ค เหตุ

บนั ทึกหลังการจัดการเรยี นรู้
กศน.ตาบล......................................... กศน.อาเภอ.................................... จงั หวัดระยอง
สัปดาห์ท่ี....... วนั ท่.ี .......เดอื น..............................พ.ศ............รายวิชา................................ระดับ..................
1. ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปัญหาอุปสรรค
........................................................................................................................ ......................................................
............................................................................................................................. ................................................
3. แนวทางการแก้ไข
...................................................................................................................................... ........................................
.............................................................................................................................................................................
4. สง่ิ ท่ีไม่ได้ปฏิบัติตามแผนการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. .................................................
เหตุผล
............................................................................................................................. .................................................
5. การปรบั ปรงุ พฒั นาการเรยี นรคู้ รั้งต่อไป
............................................................................................................................. .................................................
6. ประเด็นทน่ี าไปส่กู ารวจิ ัยในช้ันเรยี น
....................................................................................................................................................... .......................

ลงชอ่ื .................................................................
(...............................................................)

ตาแหน่ง................................................................
วันท่.ี ........เดือน.......................................พ.ศ........
ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บรหิ าร
............................................................................................................................. ...........................................
........................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .................................................................
(...............................................................)

ตาแหน่ง................................................................
วนั ท่ี.........เดอื น....................................พ.ศ............

คร้ังท่ี 12

แผนการจัดการเรียนรรู้ ายสปั ดาห์ วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2564
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เวลา 09.00-12.00 น.

วทิ ยาศาสตร์ (พว11001) ระดบั ประถมศกึ ษา (3 หน่วยกติ )

หน่วยท่ี 6 อาชพี ชา่ งไฟฟ้า (3 ชวั่ โมง)

ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอเมอื งระยอง

1. มาตรฐานการเรียนรู้
ชา่ งอาชีพไฟฟา้

2. เนื้อหา

1) ประเภทของไฟฟ้า
2) วัสดุอปุ กรณ์เคร่ืองมอื ช่างไฟฟา้
3) วัสดุอุปกรณท์ ี่ใช้ในวงจรไฟฟ้า

4) การตอ่ วงจรไฟฟา้ อยา่ งงา่ ย
5) กฎของโอหม์
6) การเดนิ สายไฟฟ้าอย่างงา่ ย

7) การใช้เคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ อยา่ งงา่ ย
8) ความปลอดภยั และอบุ ัติเหตจุ ากอาชพี ชา่ งไฟฟ้า
9) การบรหิ ารจดั การและการบรกิ าร

10) โครงงานวิทยาศาสตร์
11) คาศพั ทท์ างไฟฟ้า

3. ผลการเรียนร้ทู ีค่ าดหวงั (ตวั ช้ีวดั )
อธบิ าย ออกแบบ วางแผน ทดลอง ทดสอบ ปฏิบตั กิ าร เรอื่ งไฟฟา้ ได้อย่างถูกตอ้ ง และปลอดภยั คดิ

วเิ คราะห์ เปรยี บเทียบขอ้ ดี ขอ้ เสีย ของการตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบอนกุ รม แบบขนาน แบบผสม ประยกุ ต์ และ

เลือกใช้ความรู้และทกั ษะอาชีพชา่ งไฟฟา้ ใหเ้ หมาะกบั ด้านบริหารจัดการและการบริการเพอื่ นาปสูก่ ารจัดทา
โครงงานวทิ ยาศาสตร์
4. กระบวนการจัดการเรยี นรแู้ ละกจิ กรรมเพ่ิมเตมิ

ข้นั นา
1. ผสู้ อนทกั ทายกล่าวนาและอธบิ ายความสาคัญและแลกเปลีย่ นเรียนรเู้ ร่ืองช่างอาชีพไฟฟ้า
2. ผสู้ อนเปิดสือ่ youtube เรอ่ื งช่างอาชพี ไฟฟา้

https://youtu.be/2tIfq-JtIyQ

3. ผูส้ อนเปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนซักถาม ขอ้ สงสัย ทาแบบทดสอบก่อนเรียน กอ่ นเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

ขนั้ สอน

1. ผู้สอนและผเู้ รยี นสนทนาถึงชา่ งอาชพี ไฟฟา้ ช่วยกันแสดงความคดิ เห็น
2. ผ้สู อนอธบิ ายเรอ่ื งชา่ งอาชีพไฟฟา้ เน้ือหา

1) วัสดอุ ปุ กรณท์ ีใ่ ช้ในวงจรไฟฟา้

2) การต่อวงจรไฟฟา้ อย่างงา่ ย
3) กฎของโอห์ม
4) การเดนิ สายไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย

3. ผูส้ อนใหผ้ เู้ รยี นทาใบงานท่ี 6 เรอื่ งช่างอาชีพไฟฟา้
ข้นั สรุป

1. ผู้สอนสรปุ องค์ความรเู้ รอื่ งบอกความหมายความสาคญั และประโยชน์ของงานช่างพ้ืนฐานต่อ

การดารงชวี ติ ความปลอดภยั และหลักความปลอดภัยในการปฏบิ ัตงิ าน การปฐมพยาบาลในงานช่าง
การเสรมิ สรา้ งประสบการณ์อาชีพ และทักษะพื้นฐานที่จ าเป็นสาหรบั การประกอบอาชพี ที่สนใจ (พร้อมเฉลย
แบบทดสอบกอ่ นเรียน) ตรวจความถูกตอ้ งใบงานท่ี 6 ห้คะแนน

2. ผ้สู อนและผเู้ รยี นตอบข้อซกั ถามร่วมกันและแลกเปลี่ยนเรยี นรู้
3. ผู้สอนมอบหมายงาน และการพบกล่มุ คร้งั ตอ่ ไป
5. งานทม่ี อบหมาย

ให้ผเู้ รยี นค้นควา้ ความรเู้ พมิ่ เตมิ
- ใบงาน
- แบบทดสอบหลังเรยี น

6. วจิ ยั ยอ่ ชั้นเรียน
บนั ทกึ ผลการจัดกจิ กรรมในชัน้ เรยี น และนาผลการประเมินผเู้ รยี นก่อนและหลังเรยี น และมปี ญั หาจาก

การทากจิ กรรม มาวิเคราะห์เพ่ือทาวิจัยในชน้ั เรียน

7. ส่ือ/แหล่งเรียนรู้
- หนงั สือเรยี น วิชาวิทยาศาสตร์ (พว 11001)
- ใบความรู้

- แบบทดสอบก่อนเรียน
- สอื่ youtube
8. การวดั ผลและประเมนิ ผล

สรุปได้ว่าการจัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีการเรียนด้วยตนเอง สามารถเลือกใช้รูปแบบในการเรียนได้
หลายอย่าง โดยเฉพาะการทาสัญญาการเรียนและการเขียนโครงการเรียน ทั้งน้ีผู้สอนควรแนะนาวิธีการและ
ขนั้ ตอนในการเรียนใหผ้ ู้เรยี นเขา้ ใจกอ่ นดาเนนิ การเรยี นด้วยตนเอง สนบั สนุนใหผ้ เู้ รยี นมกี ารเรยี นแบบรว่ มมือ และ

ควรจัดชว่ งเวลาสาหรบั พบผ้สู อนเพ่อื ประเมินการเรียนเป็นระยะๆ ท้ังนี้ผู้เรียนอาจวางแผนการเรียนด้วยตนเอง
โดยการเรียนเป็นรายบุคคล เรียนกับคู่ที่มีความสามารถเท่ากัน เรียนเป็นกลุ่ม หรือเรียนกับผู้ที่มีความรู้และ
ประสบการณ์ในเรอื่ งนน้ั มากกว่าก็ไดใ้ นการปฏิบัตกิ จิ กรรมการเรียนรใู้ นหน่วยที่ 6 เร่ืองช่างอาชีพไฟฟ้านี้ ผู้เรียน

จะต้องรวบรวมผลการปฏิบัติกิจกรรมซ่ึงเป็นหลักฐานของการเรียนรู้โดยให้ผู้เรียนบรรจุในแฟ้มสะสมผลงาน
(Portfolio) ของผู้เรยี นแต่ละบคุ คลดังนนั้ เมื่อสน้ิ สดุ การเรยี นรูใ้ นหน่วยที่ 6 เร่อื งชา่ งอาชพี ไฟฟ้าน้ี ผ้เู รียนจะตอ้ งมี
แฟม้ สะสมงานส่งผู้สอน

การวัดผลตามจดุ ประสงค์ เคร่อื งมอื การวดั ผล เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
ผา่ นการตอบคาถามได้
ความรู้ (Knowledge) - แบบทดสอบกอ่ นเรียน 80% ข้นึ ไป

อธบิ าย ออกแบบ วางแผน - แบบทดสอบหลงั เรยี น เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
ผู้เรียนจับประเดน็ สาคญั
ทดลอง ทดสอบ ปฏิบตั ิการ เร่ืองอาชีพชา่ งไฟฟา้ 80% ขน้ึ ไปมคี วามรเู้ รือ่ ง
อาชพี ช่างไฟฟา้
เรอ่ื งไฟฟา้ ได้อยา่ งถกู ต้อง ผู้เรยี น 80% ข้นึ ไปมสี ว่ นร่วมในการอธิบาย
แลกเปลย่ี นความคดิ เหน็
และปลอดภยั และเลือกช้

ความรแู้ ละทักษะอาชีพไฟฟา้

ให้เหมาะสมได้

การวดั ผลตามจดุ ประสงค์ เคร่ืองมือการวดั ผล

ทักษะ (Skill) ใบงานที่ 6 เรอื่ งอาชพี ช่างไฟฟา้

สามารถนาความรู้ท่ีไดร้ บั ไปใช้

ประโยชน์ในชีวติ ประจาวนั ได้

เจตคติ (Attitude) การมสี ่วนรว่ มในการอธิบายความ

สามารถใชว้ ัสดุ อุปกรณท์ าง คิดเห็น

วทิ ยาศาสตรไ์ ดอ้ ยา่ งถูกต้อง

เหมาะสม

9. การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง จานวน 17 ชั่วโมง

ท่ี เนอื้ หา จานวนช่ัวโมง หมายเหตุ
17
1 อาชีพช่างไฟฟา้
1. ประเภทของไฟฟ้า รวม 17
2. วสั ดุอุปกรณเ์ คร่ืองมอื ช่างไฟฟ้า
3. การใช้เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าอย่างง่าย
4. ความปลอดภยั และอุบัตเิ หตจุ ากอาชพี ชา่ งไฟฟ้า
5. การบรหิ ารจดั การและการบริการ
6. โครงงานวิทยาศาสตร์
7. คาศพั ท์ทางไฟฟา้

ลงชอื่ .............................................................ผูส้ อน

(……………………................…………)
วนั ที่ ...........เดอื น…………….......พ.ศ……………....

ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศกึ ษาหรอื ผู้ท่ีไดร้ บั มอบหมาย
............................................................................................................................. .....................................

ลงช่อื ...................................................ผอู้ านวยการ กศน.อาเภอเมอื งระยอง
(……....................…………………………)

วนั ที่.............เดอื น……………...........พ.ศ…………........

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น

วทิ ยาศาสตร์ (พว11001) ระดับประถมศึกษา
หนว่ ยที่ 6 อาชีพชา่ งไฟฟา้

1. ข้อใดเปน็ อปุ กรณใ์ นการตอ่ เซลลไ์ ฟฟ้าอยา่ งง่าย
ก. สายไฟ สวติ ช์
ข. หลอดไฟ มอเตอร์ ออดไฟฟา้
ค. หลอดไฟ สายไฟเซลล์ไฟฟ้า สวิตช์
ง. เซลลไ์ ฟฟา้ แบตเตอรี่มอเตอรเ์ ซลล์ไฟฟ้า

2. ของเลน่ ในข้อใดไมม่ สี ว่ นประกอบของวงจรไฟฟา้
ก. รถบงั คับวิทยุ
ข. หนุ่ ยนต์ท่ีเดนิ
ค. ต๊กุ ตาลม้ ลุกได้
ง. ปืนทีย่ งิ แล้วมีแสง

3. ต้องใชว้ ัตถใุ ดเช่อื มต่อกบั วงจรไฟฟ้าจงึ จะทาใหห้ ลอดไฟสวา่ ง
ก. คลิป
ข. เชอื ก
ค. ดินสอ
ง. หนังยาง

4. วัตถุใดนาไฟฟา้ ไดด้ ีทีส่ ดุ
ก. เงิน
ข. เหลก็
ค. ทองแดง
ง. อลมู เิ นียม์

5. มชี ื่อเรยี กวา่ อะไร
ก. สวิตช์
ข. บัลลาสต์
ค. หลอดไฟ
ง. สตาร์ทเตอร์

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

วิทยาศาสตร์ (พว11001) ระดับประถมศึกษา
หน่วยที่ 6 อาชพี ชา่ งไฟฟา้

1. ค. หลอดไฟ สายไฟเซลลไ์ ฟฟา้ สวิตช์

2. ค. ตกุ๊ ตาลม้ ลุกได้

3. ก. คลิป

4. ก. เงิน

5. ง. สตารท์ เตอร์

ใบความรูท้ ่ี 6 เรอ่ื ง อาชีพชา่ งไฟฟา้

วิทยาศาสตร์ (พว11001) ระดับประถมศึกษา

ความหมายและประโยชน์ของงานช่าง
ชา่ ง หมายถึง ผู้ชานาญในการฝีมอื หรอื ศลิ ปะอย่างใดอย่างหน่งึ
งานช่าง หมายถงึ การท างาน หรอื สิง่ ที่เกดิ จากการท างานของช่าง ซึง่ มหี ลาย
ประเภทหลายสาขา ผเู้ ปน็ ชา่ งจงึ มักมีคาตอ่ ทา้ ย เพื่อบอกประเภทหรือสาขาของงานทที่ า เชน่ ชา่ งไฟฟ้า

ชา่ งประปา ชา่ งไมช้ ่างปูน ช่างโลหะ ชา่ งเขยี น ชา่ งผม ชา่ งเสริมสวย เปน็ ต้น

ประโยชนข์ องงานชา่ งพน้ื ฐาน
ประโยชน์โดยตรง ทเ่ี หน็ ได้ชดั เจนคือการมคี วามรูพ้ ื้นฐานเกย่ี วกบั งานชา่ งเป็นการประหยดั ทง้ั ค่าใช้จ่ายท่ี

จะตอ้ งจา้ งช่างอาชีพแลว้ ยังประหยดั เวลา ไม่ต้องเสยี เวลารอคอยว่าจะหาช่างอาชพี ได้ หรอื แมว้ า่ จะ ตอ้ งวา่ จ้าง
ชา่ งอาชพี กส็ ามารถควบคุมดแู ลการ ทางานผลงาน ไม่ให้ชา่ งเอารดั เอาเปรียบได้

ประโยชนโ์ ดยออ้ ม เช่น การใช้เวลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์ การซอ่ มหรือสรา้ งสิง่ ของ เครอ่ื งใชก้ ่อใหเ้ กิด
ความเพลิดเพลนิ สนกุ สนานในการท างานเชน่ เดียวกบั การทางานอดเิ รกอน่ื ๆ นอกจากนั้นจากผลของการทางาน
ยังทาใหเ้ กดิ ความรู้ความชานาญ สามารถพัฒนาตนเองไปสชู่ ่างอาชีพได้แม้ไมต่ อ้ งท าเปน็ อาชีพโดยตรง กอ็ าจทา
เป็นอาชีพเสรมิ เพม่ิ รายได้ใหแ้ ก่ครอบครัวไดเ้ ป็นอยา่ งดี

งานไฟฟ้า
ชีวติ ประจาวนั ของมนษุ ย์ จะเกี่ยวขอ้ งกบั ของใช้ทีเ่ ปน็ เคร่อื งใช้ไฟฟ้าเพราะเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าให้ความสะดวก

ความสขุ สบาย อย่างไรกต็ าม หากใช้ไมเ่ ปน็ หรอื ใช้ไมถ่ กู ตอ้ ง ก็ยอ่ มมโี ทษเช่นกัน การใช้จงึ ตอ้ งคานงึ ถงึ เรอ่ื งความ
ปลอดภัย ความประหยดั และอายกุ ารใชง้ าน งานไฟฟ้าท่ีเปน็ งานทีต่ อ้ งใช้ความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ของการ
นาเอาพลงั งานไฟฟา้ มาใชใ้ นลักษณะของการเปล่ยี นเปน็ รูปอ่ืน ๆ เช่น แสงสว่าง ความร้อน พลงั งาน

ประเภทของงานช่าง
งานช่างท่เี กย่ี วข้องกบั การนาไปใช้ในชวี ิตประจาวัน สามารถจาแนกได้ 4 ประเภทดงั น้ี
1. งานบารงุ รกั ษา เป็นงานท่ีต้องใช้ความรคู้ วามสามารถเก่ียวกับหลกั การวิธีการทางาน การดแู ล

บารุงรักษา และขอ้ ควรรงั ในการใช่เครอ่ื งมือ เครือ่ งใช้ และอุปกรณ์ในบ้าน เชน่ เครือ่ งใช้ไฟฟา้ เครอื่ งสุขภณั ฑ์
เฟอร์นเิ จอร์ ใหส้ ามารถใชง้ านไดอ้ ย่างถกู ตอ้ ง

2. งานซ่อมแซม เปน็ งานท่ีต้องใชค้ วามร้คู วามสามรถเก่ียวกบั หลักการทางานของเครอ่ื งมอื
เครอื่ งใช้ วสั ดุอปุ กรณ์ เพอ่ื ตรวจสอบอปุ กรณ์ เคร่ืองใช้ในบา้ นเมื่อมกี ารชารุดหรือเสียหาย

3. งานตดิ ตงั้ เปน็ งานทต่ี อ้ งใชค้ วามรคู้ วามสามารถเกีย่ วกบั หลกั การทางานของเครื่องมอื วสั ดุ
และอปุ กรณ์ เพอ่ื ติดตงั้ เครอื่ งใช้ อปุ กรณใ์ นบา้ นใหส้ ามารถใช้งานได้

4. งานผลติ เปน็ งานที่ตอ้ งใช้ความรคู้ วามสามารถและทักษะการใช้เครอื่ งมอื วัสดุและอปุ กรณ์
โดยมกี ารคดิ วิเคราะห์ วางแผน ออกแบบชิ้นงานวิธกี ารทางานอยา่ งเป็นกระบวนการสามารถเลอื กใช้วัสดุ อุปกรณ์
เครอื่ งมือ และผลิตชิน้ งานไดต้ ามความตอ้ งการ

หลักการ วธิ กี าร และขน้ั ตอนในการทางานงานชา่ ง
1. มีความรูเ้ กี่ยวกบั ลักษณะสว่ นประกอบและประโยชนช์ องเคร่ืองมอื เครอื่ งใช้
2. มคี วามรเู้ กยี่ วกับหลกั การทางาน การดแู ลรักษา และความปลอดภยั ของเครอื่ งมอื
3. มีความรู้เกย่ี วกบั หลักการทางานและดูแลรกั ษาวัสดุ อปุ กรณใ์ นบ้าน

การต่อวงจรไฟฟา้
ตามปกติวงจรไฟฟ้าใด ๆ จะมคี วามเปลีย่ นแปลงและคณุ สมบัตติ ่อกระแสไฟฟ้า แรงดนั ไฟฟ้าแตกต่างกันไป

ตามแต่ วิธีการตอ่ วงจรนนั้ ๆ และตามการเปลย่ี นแปลงตัวตา้ นทานหรอื อุปกรณ์ไฟฟ้าน้นั ดว้ ย ซึง่ เรามวี ธิ กี ารตอ่
วงจรไฟฟ้าได้ 3 แบบ คือ

1. การต่อแบบอนกุ รม (Series Circuit)
2. การตอ่ แบบขนาน (Parallel Circuit)
3. การตอ่ แบบผสม (Compound Circuit)
1. วงจรไฟฟ้าแบบอนกุ รม หมายถงึ การนาอุปกรณ์ไฟฟ้ามาต่อเรยี งลาดบั กนั ไป โดยนาปลายดา้ นใดดา้ นหนึง่ ของ
อปุ กรณ์ตัวทหี่ นึง่ มาตอ่ กบั อปุ กรณต์ ัวทีส่ อง จากนั้นนาปลายทเี่ หลอื ของอุปกรณ์ทส่ี อง ไปตอ่ กับอปุ กรณ์ตวั ท่สี าม
และต่อในลกั ษณะท่เี รยี งกันไปเรือ่ ย ๆ จนถงึ อปุ กรณ์ตัวสดุ ทา้ ยให้ตอ่ ปลายที่เหลอื เข้ากบั แหลง่ กาเนิดไฟฟ้า

ภาพที่ 6.77 การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบอนกุ รม
ที่มา : http://www.kksci.com

2. วงจรไฟฟ้าแบบขนาน หมายถึง การนาอปุ กรณไ์ ฟฟ้าตง้ั แต่ 2 ตัวขึน้ ไปมาต่อเรียงแบบขนานกนั โดยนา
ปลายด้านเดยี วกันของอุปกรณแ์ ตล่ ะตวั มาตอ่ เข้าด้วยกัน แล้วต่อปลายของอปุ กรณแ์ ตล่ ะตัวที่ตอ่ กันแลว้ น้นั เข้ากับ
แหลง่ กาเนิดไฟฟา้

ภาพที่ 6.78 การต่อวงจรไฟฟา้ แบบขนาน
ท่ีมา : http://www.kksci.com

จากตวั อย่างการตอ่ วงจรไฟฟา้ ขา้ งตน้ พบวา่ หลอดไฟสองดวงทเี่ ช่ือมตอ่ กนั แบบขนานจะให้แสงสว่างรวม

ทุกหลอดมากกวา่ เพราะกระแสไฟฟา้ ในวงจรมปี รมิ าณมากกวา่ และถา้ หลอดไฟหลอดใดหลอดหนึ่งชารุด
หลอดไฟทเี่ หลือก็ยงั คงสามารถใชง้ านได้ เนื่องจากยงั คงมตี วั นาไฟฟา้ หรือสายไฟฟ้าทส่ี ามารถนากระแสไฟฟา้ ให้
ไหลผ่านหลอดไฟดวงอ่ืนไดค้ รบวงจร แตกต่างจากการต่อหลอดไฟแบบอนกุ รม ซึง่ หากมหี ลอดไฟดวงใดดวงหนง่ึ

ใช้งานไมไ่ ด้ กจ็ ะทาใหห้ ลอดไฟท่ีเหลอื ไมส่ ามารถใช้งานไดท้ ัง้ หมด เน่อื งจากกระแสไฟฟ้าไมส่ ามารถไหลผ่านวงจร
เพราะมีตวั นาไฟฟา้ หรอื สายไฟเส้นเดยี วกัน ซ่ึงข้อแตกตา่ งของการตอ่ หลอดไฟแบบอนกุ รมและแบบขนาน อาจ
สรปุ ได้ดังตารางตอ่ ไปนี้

คณุ ลักษณะ วงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รม วงจรไฟฟา้ แบบขนาน

ความสว่างของหลอดไฟ สว่างน้อย สว่างมากกว่า
รวมทกุ หลอด หลอดไฟทเ่ี หลอื ดบั หมด หลอดไฟท่เี หลือยงั สามารถใช้งานได้

หลอดไฟดวงใดดวงหนึ่งชารุด

นอกจากนี้การนาอุปกรณ์ไฟฟา้ มาตอ่ แบบอนุกรมและขนานแลว้ กย็ งั สามารถนาเซลลไ์ ฟฟ้ามาต่อแบบ

อนุกรมและขนานไดเ้ ชน่ กัน การนาเซลล์ไฟฟ้ามาตอ่ กนั แบบอนุกรมหรอื ตอ่ แบบขนานน้ัน จะทาใหเ้ รามอง
เซลลไ์ ฟฟ้าทงั้ หมดรวมกนั เป็นแหล่งจ่ายพลงั งานแหล่งหนึ่งได้

การนาเซลลไ์ ฟฟา้ มาตอ่ กันแบบขนาน แรงดนั ไฟฟา้ จะเทา่ กบั แรงดนั ไฟฟ้าเพยี งเซลล์เดียว แต่จะทาให้จ่าย
ไฟฟ้าไดม้ ากหรอื จ่ายได้นานกว่าการใชเ้ ซลล์ไฟฟา้ เพียงเซลลเ์ ดียว

ภาพท่ี 6.79 การตอ่ เซลล์ไฟฟ้าแบบขนาน
ทีม่ า : http://2.bp.blogspot.com

สว่ นการนาเซลลไ์ ฟฟา้ มาตอ่ กันแบบอนุกรมนัน้ จะทาให้พลงั งานหรอื แรงดันไฟฟา้ รวม หาไดจ้ ากผลรวม
ของแรงดันไฟฟ้าแตล่ ะเซลล์ เมอ่ื แรงดนั มากข้ึนจะทาให้กระแสไฟฟา้ ทไ่ี หลในวงจรมคี ่ามากขึ้น

ภาพท่ี 6.80 การต่อเซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รม
ที่มา : http://3.bp.blogspot.com

ดงั น้ันหากนาเซลลไ์ ฟฟา้ ทม่ี แี รงดนั ไฟฟ้าแต่ละเซลลเ์ ท่ากันมาตอ่ กนั แบบอนกุ รม จะทาใหไ้ ดผ้ ลรวมของ
แรงดนั ไฟฟ้ามากกว่าการตอ่ แบบขนาน หรอื หากต่อในวงจรไฟฟา้ ของหลอดไฟ ก็จะทาใหห้ ลอดไฟของวงจรท่ีต่อ
เซลล์ไฟฟา้ แบบอนุกรมสวา่ งมากกวา่ วงจรท่ีต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบขนานนั่นเอง

สรุปได้วา่ การต่อวงจรไฟฟา้ แบบอนกุ รมหรือขนานนน้ั มีขอ้ ดี – ขอ้ เสียแตกต่างกัน ขนึ้ อยู่กบั วตั ถุประสงค์
ในการใช้งาน หรอื บางครั้งตอ้ งตอ่ วงจรแบบผสม คอื มที ง้ั แบบอนกุ รมและขนาน

ในการต่อเซลลไ์ ฟฟ้าแบบขนาน หากเซลล์ไฟฟา้ มีแรงดนั ไมเ่ ท่ากัน อาจทาใหเ้ ซลลไ์ ฟฟ้าระเบิดได้ ในงาน
ทว่ั ไปจะพบการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ ลกั ษณะน้ี ถา้ หากต้องการกระแสไฟฟ้าปรมิ าณมากจะเลือกใช้เซลล์ไฟฟา้ ก้อนใหญ่
ขน้ึ แทน

หากสงั เกตการทางานของหลอดไฟฟ้าภายในบ้านจะพบว่า เม่ือหลอดไฟฟา้ หลอดใดหลอดหนงึ่ เสยี หลอด
ไฟฟา้ ท่เี หลือภายในบ้านยงั คงสามารถใช้งานได้อยู่ คาตอบคอื หลอดไฟฟ้าภายในบ้านต่อแบบขนาน ดังน้ันเพอื่
ป้องกันความเสยี หายทจี่ ะเกดิ แกเ่ ครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าชนดิ อืน่ ๆ ภายในบ้าน ในกรณีท่เี ครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้าตวั ใดตวั หน่ึงชารุด
จงึ นิยมต่ออปุ กรณ์ไฟฟ้าหรือเครอื่ งใช้ไฟฟา้ แบบขนาน เพอ่ื ใหเ้ ราสามารถใช้งานเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้าเหลา่ นัน้ ต่อไป
ตามปกตไิ ด้
การต่อแบบผสม (Compound Circuit)

การต่อแบบผสม คือ การตอ่ วงจรทงั้ แบบอนกุ รมและแบบขนานเข้าไปในวงจรเดยี ว การตอ่ แบบนี้ โดยท่วั ไป
ไม่นยิ มใช้กัน เพราะเกิดความยุ่งยาก จะใชก้ นั แต่ในทางด้านอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เปน็ สว่ นใหญ่ เช่น ตวั ตา้ นทานตัวหน่ึง
ตอ่ อนุกรมกบั ตัวตา้ นทานอกี ตวั หนง่ึ แลว้ นาตวั ต้านทานทง้ั สองไปตอ่ ขนานกับตวั ตา้ นทานอกี ชดุ หนงึ่ ดังในรปู

จะสังเกตเหน็ ไดว้ ่าลกั ษณะการตอ่ วงจรแบบผสมนเ้ี ป็นการนาเอาวงจรอนกุ รมกบั ขนานมารวมกัน และ
สามารถประยกุ ต์เป็นรปู แบบอื่น ๆ ได้ ข้นึ อยูก่ ับการนาไปใชง้ านให้เหมาะสม เพราะการตอ่ แบบผสมน้ีไมม่ ี
กฎเกณฑ์ตายตวั เป็นการต่อเพอ่ื นาคา่ ทไ่ี ดไ้ ปใช้กบั งานอย่างใดอยา่ งหนึ่ง เชน่ ในวงจรอิเลก็ ทรอนกิ ส์ เป็นตน้

แบบทดสอบหลังเรยี น
วิทยาศาสตร์ (พว11001) ระดับประถมศกึ ษา

หนว่ ยท่ี 6 อาชพี ชา่ งไฟฟา้

1. อปุ กรณ์ไฟฟา้ จะทางานไดเ้ มื่อวงจรไฟฟ้ามีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร
ก. วงจรลัด
ข. วงจรสนั้
ค. วงจรปดิ
ง. วงจรเปิด

2. ทิศทางการไหลของกระแสไฟฟ้าเป็นอย่างไร
ก. ออกจากขวั้ -ไปยังข้วั +
ข. ออกจากขว้ั + ไปยงั ขั้ว –
ค. ไหลไปในทิศทางเดียวกัน
ง. ออกจากข้วั + และข้วั – สลบั กนั

3. มชี ือ่ เรยี กวา่ อะไร
ก. สวติ ช์
ข. บัลลาสต์
ค. หลอดไฟ
ง. สตาร์ทเตอร์

4. มีชื่อเรยี กว่าอะไร
ก. สวติ ช์
ข. บัลลาสต์
ค. หลอดไฟ
ง. สตารท์ เตอร์

5. เพราะเหตุใดจงึ ไม่ควรพาดสายไฟบนรั้วสงั กะสี
ก. จะทาใหร้ วั้ ชารดุ ์
ข. จะทาใหร้ ั้วเปน็ สนมิ
ค. จะทาใหฉ้ นวนท่ีหุ้มฉกี ขาด
ง. จะทาใหก้ ระแสไฟฟา้ ลดลง

เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น

วทิ ยาศาสตร์ (พว11001) ระดับประถมศกึ ษา
หน่วยที่ 6 อาชีพชา่ งไฟฟ้า

1. ค. วงจรปดิ

2. ข. ออกจากขั้ว + ไปยงั ขัว้ –

3. ข. บลั ลาสต์

4. ค. หลอดไฟ

5. ค. จะทาให้ฉนวนท่หี ุ้มฉกี ขาด

ใบงาน กรต. ท่ี 6 เรอื่ ง อาชพี ช่างไฟฟ้า
วชิ า วิทยาศาสตร์ (พว 11001) ระดบั ประถมศึกษา

ช่อื .............................................................ระดับ .......ประถมศกึ ษา ................. กศน.................................

คาชีแ้ จง ให้ผเู้ รียนตอบคาถามพอสงั เขป

1. ประเภทของไฟฟ้า มกี ป่ี ระเภท มอี ะไรบ้าง
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................ ........
........................................................................................................................... .........................................................

2. ยกตัวอย่างวสั ดุอปุ กรณเ์ ครอื่ งมอื ช่างไฟฟ้า 3 ชอ่ื พรอ้ มอธิบายการใช้
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................................................................ ........
........................................................................................................................... .........................................................

3. บอกประโยชนข์ องเครื่องใชไ้ ฟฟ้าในชวี ติ ประจาวัน
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
......................................................................................................................................................................... ...........
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................

4. บอกขอ้ ความระวงั ในการใชไ้ ฟฟ้าท่วั ๆ ไป
.............................................................................................................. ......................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................

บันทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้
กศน.ตาบล......................................... กศน.อาเภอ.................................... จงั หวดั ระยอง
สัปดาหท์ ี่....... วันท่ี........เดอื น..............................พ.ศ............ รายวชิ า.........................................ระดบั ..................
1. ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
2. ปญั หาอุปสรรค
....................................................................................................................................................................................
........................................................................................................... .........................................................................
3. แนวทางการแกไ้ ข
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................
4. สง่ิ ทีไ่ ม่ได้ปฏิบตั ติ ามแผนการจดั การเรียนรู้
........................................................................................................................................ ............................................
............................................................................................................................. .......................................................
เหตผุ ล
....................................................................................................................................................................................
5. การปรับปรุงพัฒนาการเรียนร้คู รัง้ ตอ่ ไป
....................................................................................................................................................................................
6. ประเด็นที่นาไปสู่การวจิ ัยในชั้นเรยี น
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชอื่ .................................................................
(...............................................................)

ตาแหน่ง...........................................................
วันท่ี..........เดอื น.............................พ.ศ.........
ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผูบ้ ริหาร
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................ ..............................................
ลงชอ่ื .................................................................

(...............................................................)
ตาแหนง่ ...........................................................
วันท่.ี .........เดือน.............................พ.ศ.........

แผนการจดั การเรยี นรรู้ ายวชิ า ทกั ษะการประกอบอาชพี (อช11002) ระดบั ชนั้ ประถมศึกษา
หน่วยที่ 8 การเขยี นแผนปฏิบัตกิ าร
แผนพบกลุ่ม จำนวน 3 ชั่วโมง

ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อำเภอเมืองระยอง
1. มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐานที่ 3.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจและทกั ษะในอาชพี ทตี่ ัดสินใจเลือก
มาตรฐานท่ี 3.3 มีความรู้ ความเข้าใจ ในการจัดการอาชพี อยา่ งมีคุณธรรม
2. เนอื้ หาตามหลักสตู ร
1. ความจำเป็นในการฝึกทกั ษะ อาชีกระบวนการผลิตกระบวนการตลาดทีใ่ ช้นวัตกรรมเทคโนโลยี
2. ความหมาย ความสำคญั ของการจัดการอาชพี
3. แหลง่ เรยี นร้แู ละสถานท่ฝี ึกอาชีพ
4. การวางแผนโดยกำหนดส่งิ ตา่ ง ๆ ดงั น้ี

- ความรูแ้ ละทกั ษะทตี่ อ้ งฝกึ
- วิธกี ารฝึก
- วันเวลาในการฝกึ ฯลฯ
5. การฝึกทกั ษะอาชีพ
- การจดบนั ทกึ
- ปัญหาและการแก้ปญั หา
- ข้อเสนอแนะ ฯลฯ
3. ผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวงั (ตัวชว้ี ัด)
ฝกึ ทักษะอาชีพตามแผนที่กำหนดไว้ไดโ้ ดยมีการบนั ทกึ ขั้นตอนการฝกึ ทุกข้นั ตอน

4. กระบวนการจดั การเรียนรู้และกิจกรรมเพ่มิ เติม
ข้ันนำ
- ทักทายผ้เู รยี น และครูพูดคยุ เกี่ยวกบั การวางแผนการทำงานหรอแผนการใช้ชวี ติ ของตนเอง

แตล่ ะวันโยกำหนดให้ มกี ิจกรรมภายใน 24 ช่วั โมง โดยการสุ่มถามผ้เู รียนเป็นรายคน

ขัน้ สอน / การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง
1. ครตู ง้ั คำถามเพอ่ื เตรยี มความพร้อมในการทำเรยี นรู้
- ภายใน 1 วนั เราสามารถทำกจิ กรรมอะไรได้บ้าง

- กจิ กรรมอะไรมีลักษะอย่างไร

- ถ้าจะใหค้ นจำนวนมากทำรปู แบบกิจกรรมทกี่ ำหนดจะต้องทำอยา่ งไร
2. ครูใหผ้ ้เู รียน แบ่งเป็นกล่มุ ๆละ 3-5 คน โดยกำหนดประเดน็ การศึกษาคน้ คว้า

เรื่องที่ 1 ความสำคญั ของโครงการประกอบอาชพี
เรอ่ื งที่ 2 ข้ันตอนการเขียนโครงการประกอบอาชีพ
เรอ่ื งที่ 3 การเขยี นแผนปฏิบัติการประกอบอาชีพ
เร่ืองท่ี 4 การตรวจสอบโครงการประกอบอาชีพ
- ศกึ ษาแบบเรยี นวิชาทักษะการพัฒนาอาชีพและใบความรู้
- ให้ผ้เู รียนแตล่ ะกล่มุ รว่ มวิเคราะหส์ รปุ เป็นแผนฝงั ความคดิ
ขน้ั สรปุ
- ใหน้ ักศึกษาแตล่ ะกลุม่ รว่ มนำเสนอหน้าช้นั เรียน
- รวบรวมใบงาน จัดเก็บในแฟ้มสะสมงาน

5. งานท่มี อบหมาย

- ใหน้ กั ศกึ ษาทำใบงานตามท่มี อบหมายส่งในครัง้ ต่อไป
- ศกึ ษาแบบเรียนวชิ าทักษะการประกอบอาชพี
6. วิจยั ย่อชัน้ เรียน
บันทึกผลการจัดกจิ กรรมในช้ันเรียน และนำผลการประเมินผูเ้ รยี นกอ่ นและหลังเรยี น และมีปัญหา
จากการทำกจิ กรรม มาวิเคราะหเ์ พื่อทำวิจัยในชัน้ เรยี น
7. สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้
1. หนังสือหนังสือแบบเรียนวชิ าทักษะการประกอบอาชพี อช11002
2. อินเทอรเ์ นต็
3. แหล่งเรียนรู้/ภมู ิปัญญา
8. การวดั ผลและประเมนิ ผล
1. ใบงานแบบวเิ คราะห์วชิ าทกั ษะการพัฒนาอาชพี
2. สง่ งานตรงตามกำหนด

การวดั ผลตามจุดประสงค์ เครื่องมอื การวัดผล เกณฑก์ ารประเมินผล
ความรู้ (Knowledge) แบบทดสอบ ผ่านการตอบคำถามได้
อธิบายเรอื่ งตามหัวข้อทีก่ ำหนด ใบงาน 80% ขน้ึ ไป
ทักษะ (Skill) การมสี ว่ นร่วมในการ ผู้เรียนจบั ประเด็นสำคัญ
บอกหรอื อธิบายตามหวั ขอ้ ใบงานที่กำหนด อธบิ ายความคดิ เห็น เข้าใจในหลกั การ 80% ข้นึ ไป
เจตคติ (Attitude) ผเู้ รยี น 80% ขน้ึ ไปมสี ว่ นรว่ ม
มคี วามรู้สกึ เจตคตทิ ด่ี ีต่อรายวิชาทเ่ี รยี น ในการอธิบายแลกเปลี่ยน
อยา่ งมีเหตุผล ความคดิ เห็น

9. การเรยี นรดู้ ้วยตนเอง จำนวนชัว่ โมง หมายเหตุ
ที่ เน้อื หา 15
1. แหล่งเรยี นรู้ และสถานศึกษา 3
2. การวางแผนโดยการกำหนดสิ่งตา่ งๆ 2
3. การวางแผนและฝกึ ทกั ษะ 20
รวม

ลงชอื่ .................................................................
(...............................................................)

ตำแหน่ง................................................................
วันท่.ี ........เดือน.......................................พ.ศ........
ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บริหาร
.....................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.................................................................
(...............................................................)

ตำแหน่ง................................................................
วนั ท.ี่ .....เดอื น.................................พ.ศ...........

รายวชิ า ทักษะการพฒั นาอาชพี รหสั วชิ า อช21002 ระดับ ประถมศกึ ษา
ใบงานที่ 16 ข้ันตอนการเขยี นโครงการประกอบอาชพี

ใหผ้ ้เู รียนเขียนโครงการทีต่ ัวเองชอบ และมีความถนัดมา 1 โครงการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

รายวิชา ทักษะการพฒั นาอาชีพ รหสั วชิ า อช21002 ระดับ ประถมศึกษา
ใบงานที่ 17 การเขียนแผนปฏิบตั กิ ารประกอบอาชพี

ใหผ้ เู้ รยี นจดั ทำแผนการปฏบิ ตั ิการ 1 เรื่อง ตามแบบฟอรม์ ท่ีกำหนดให้
แผนปฏิบตั ิการ

กจิ กรรม.................................................................
ผรู้ บั ผดิ ชอบ................................................

ท่ี กจิ กรรม/โครงการ ระยะเวลาดำเนนิ การ หมายเห
ม.ค ก.พ มี.ค เม.ย พ.ค ม.ิ ย ก.ค ส.ค ก.ย ต.ค พ.ย ธ.ค ตุ

บันทึกหลงั การจดั การเรียนรู้
กศน.ตำบล......................................... กศน.อำเภอ.................................... จังหวดั ระยอง
สปั ดาหท์ ่.ี ...... วันท.่ี .......เดือน..............................พ.ศ............รายวชิ า................................ระดบั ..................
1. ผลการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
2. ปญั หาอปุ สรรค
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
3. แนวทางการแก้ไข
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................
4. ส่งิ ทไ่ี ม่ไดป้ ฏบิ ตั ติ ามแผนการจัดการเรยี นรู้
..............................................................................................................................................................................
เหตุผล...................................................................................................................................................................
...........
5. การปรับปรุงพฒั นาการเรยี นร้คู รงั้ ต่อไป
..............................................................................................................................................................................
6. ประเดน็ ท่ีนำไปสกู่ ารวิจัยในชน้ั เรียน
..............................................................................................................................................................................

ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผบู้ รหิ าร ลงชอ่ื .................................................................
(...............................................................)

ตำแหนง่ ................................................................
วนั ท่.ี ........เดือน.......................................พ.ศ........

........................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.................................................................
(...............................................................)

ตำแหนง่ ................................................................
วันท.่ี ........เดือน....................................พ.ศ............

แผนการจดั การเรยี นรู้รายสปั ดาห์
ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
วิชาภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน (พต 11001) ระดับประถมศึกษา (3 หน่วยกติ )
หนว่ ยท่ี 4 คำนาม คำศพั ท์หมวดต่าง ๆ และ สัญลักษณ์ (3 ชัว่ โมง)
ศูนยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอเมอื งระยอง

1. มาตรฐานการเรียนรู้
2.1 มคี วามรู้ ความเข้าใจ และทักษะพืน้ ฐานเก่ียวกับภาษาและการสอ่ื สาร

2. เนอ้ื หาตามหลักสตู ร
1. ลักษณะและวิธกี ารใช้คำนาม
2. คำศพั ทห์ มวดต่างๆ ได้แก่ เกย่ี วกบั เครือญาติ คำศัพทเ์ ก่ยี วกบั วนั เดอื น ปี คำศัพท์เกย่ี วกับสี คำศัพท์

เกย่ี วกับเครอื่ งใชใ้ นชวี ิตประจำวนั และ คำศพั ท์เกี่ยวกบั สภาพดนิ ฟ้า อากาศ
3. สญั ลักษณ์ต่างๆ ไดแ้ ก่ สญั ลกั ษณ์ตามทอ้ งถนน โรงพยาบาล บริเวณโรงเรยน และร้านอาหาร

3. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง (ตวั ชว้ี ัด)
1. รจู้ กั คำนามและวิธกี ารใชร้ วมทั้งใช้คำศพั ทเ์ กย่ี วกบั วนั เดอน ปี สี เครือญาติ เครือ่ งใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน

และสภาพดินฟา้ อากาศ อยา่ งงา่ ยได้
2. เข้าใจความหมายของสญั ลกั ษณท์ ่ีใชท้ ่ัวไปได้

4. กระบวนการจัดการเรยี นร้แู ละกจิ กรรมเพม่ิ เติม
ขั้นนำ
หลงั จากครูได้ให้ผเู้ รยี นไปศกึ ษา เรอ่ื ง คำศัพทเ์ กี่ยวกับคำนาม และคำศพั ท์หมวดตา่ งๆ ได้แก่

เกีย่ วกับเครือญาติ คำศัพท์เก่ียวกบั วนั เดอื น ปี คำศัพทเ์ ก่ียวกับสี คำศพั ท์เกี่ยวกบั เครอื่ งใช้ในชีวติ ประจำวัน และ
คำศัพท์เก่ยี วกับสภาพดินฟ้า อากาศ และครเู สนอแนะในเนื้อหาทผี่ ู้เรยี นไมเ่ ข้าใจ

ขนั้ สอน / การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง
1. ครูผูส้ อนใหผ้ ูเ้ รียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น จำนวน 5 ขอ้
2. ครูสอนเรอ่ื งการพูดออกคำสง่ั และการตอบรบั และ ประโยคขอโทษและการตอบรับเชน่
ประโยคคำถาม Can you help me?, please.
ประโยคตอบรบั Alight. No problem O.K.

https://youtu.be/sOoRVgH3qro

3. ครสู รุปเนอื้ หาจากที่เรยี นในวนั นี้และเปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นซกั ถามในประเดน็ ที่ไม่เข้าใจ
4. ครูสอนเร่อื งลักษณะและวธิ กี ารใชค้ ำนาม เชน่ คำนาม แบง่ ออกเปน็ 2 ลักษณะ คอื คำนาม
นับไดจ้ ะใช้ a,an นำหนา้ เมอ่ื ไมเ่ ฉพาะเจาะจง เช่น dogs tables cats และคำนามนบั ไมไ่ ด้ เช่น water tea milk

5. ครสู รปุ เนื้อหาจากท่เี รียนในวนั น้แี ละเปดิ โอกาสให้ผ้เู รียนซักถามในประเด็นทไ่ี มเ่ ข้าใจ

6. หลังจากนน้ั ครใู ห้ผ้เู รียนทำแบบทดสอบหลังเรียน ครเู ฉลยแบบทดสอบและ มอบหมายให้
ผ้เู รยี นไปศกึ ษาในหัวข้อเร่ือง

6.1 คำศพั ทเ์ กี่ยวกบั วนั เดือน ปี
6.2 คำศพั ท์เก่ียวกับสี
6.3 คำศัพท์เกยี่ วกบั เครือญาติ
6.4 เคร่อื งใช้ในชวี ติ ประจำวัน
6.5 คำศัพทเ์ กย่ี วกับสภาพดนิ ฟา้ อากาศ
6.6 สัญลักษณ์
7. ครูสงั เกตพฤติกรรมพรอ้ มทงั้ แจกใบงานเร่อื งคำศัพทเ์ กย่ี วกบั วนั เดอื น ความหมายของ
สญั ลักษณ์
พร้อมทง้ั อธบิ ายเกยี่ วกับเนอ้ื หานนั้
8. ใหค้ รแู ละผ้เู รยี นร่วมกันสรปุ กิจกรรมท่ที ำงานร่วมกันในช้นั เรียน
- ผูเ้ รียนสรุปประเดน็ ทีไ่ ดร้ ับจากการพบกลมุ่ ในคร้งั กอ่ นเก็บไว้ในแฟม้ สะสมงาน
9. ครูนัดหมายกิจกรมการเรียนการสอนในครั้งต่อไป
ขน้ั สรปุ
- รวบรวมใบงาน จดั เกบ็ ในแฟม้ สะสมงานงานท่ีมอบหมาย
- ศกึ ษาแบบเรียนวชิ าภาษาอังกฤษพ้นื ฐานและใบความรู้ ลักษณะคำนาม วิธีการใชค้ ำนามและ
คำศัพท์หมวดตา่ ง ๆ

5. ส่ือ/แหลง่ เรียนรู้

1. หนังสอื รายวชิ าภาษาอังกฤษพื้นฐาน
2. ใบความรู้ / คำศัพทห์ มวดตา่ งๆ
3. แบบทดสอบกอ่ นเรียน / หลงั เรยี น
4. www.youtube.com
ชื่อคลปิ : 500 คำศพั ท์ ภาษาอังกฤษ!!!
ลิงค์: https://www.youtube.com/watch?v=SoTLBSlTw2w
6. การวัดผลและประเมินผล

การวัดผลตามจุดประสงค์ เครอ่ื งมือการวัดผล เกณฑ์การประเมินผล
ความรู้ (Knowledge) แบบทดสอบ ผา่ นการตอบคำถามได้
อธบิ ายเร่อื งคำนาม และคำ 80% ขน้ึ ไป
ศัพท์หมวดตา่ งๆ
ทักษะ (Skill) ใบงานวิชาภาษาองั กฤษพืน้ ฐาน ผู้เรียน 80% ข้นึ ไป
เลือกหัวข้อคำนาม และคำ จับประเดน็ สำคัญ เข้าใจในคำนาม
ศัพท์หมวดต่างๆ และคำศพั ท์หมวดตา่ งๆ
ดำเนนิ การเสนอ

เจตคติ (Attitude) การมีสว่ นร่วมในการอธิบาย ผู้เรยี น 80% ข้ึนไปมีสว่ นร่วม
มคี วามรู้สึก เจตคติทดี่ ตี ่อ ความคดิ เห็น ในการอธิบายแลกเปลย่ี น
คำนาม และคำศัพท์ ความคิดเหน็
หมวดต่างๆ

7. การเรียนรูด้ ้วยตนเอง จำนวน 17 ชว่ั โมง จำนวนช่วั โมง หมายเหตุ
ท่ี เนื้อหา 17
1 1. คำศพั ท์เก่ยี วกับวนั เดอื น ปี
2. คำศพั ทเ์ กย่ี วกบั สี 17
3. คำศัพทเ์ กย่ี วกบั เครือญาติ
4. เคร่อื งใชใ้ นชวี ิตประจำวนั
5. คำศพั ท์เกี่ยวกับสภาพดนิ ฟา้ อากาศ
6. สัญลักษณ์
รวม

ลงช่ือ.................................................................
(...............................................................)

ตำแหนง่ ...........................................................

วนั ท่ี............เดือน................................พ.ศ……….

ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้บรหิ าร

..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .................................................................
(...............................................................)

ตำแหน่ง...........................................................

วนั ท.ี่ ........เดอื น................................พ.ศ……….

แบบทดสอบก่อนเรียน (Pre-test)
วิชาภาษาอังกฤษพืน้ ฐาน (พต11001)

1. จงนำคำศัพทต์ อ่ ไปนใี้ ส่ลงไปในช่องว่างถูกต้อง
lion soap chair milk apple coffee

คำนามนบั ได้ คำนามนบั ไมไ่ ด้

2. จงตอบคำถามต่อไปน้ี
1. ขอ้ ใดเป็นคำนามนบั ได้
a. sand
b. milk
c. birds
d. sugar
2. ขอ้ ใดเป็นคำนามนับไม่ได้
a. radio
b. coffee
c. king
d. john
3. ขอ้ ใดเป็นคำนามนับไม่ได้
a. frog
b. salt
c. pineapple
d. policeman
4. ข้อใดเปน็ คำนามนบั ไมไ่ ด้

a. tomato
b. hand
c. air
d. student
5. ข้อใดเป็นคำนามนับได้
a. bus
b. sand
c. cheese
d. rice

เฉลยแบบทดสอบขอ้ ที่ 1
วชิ าภาษาอังกฤษพ้ืนฐาน (พต11001)

คำนามนับได้ คำนามนบั ไมไ่ ด้
lion soap
apple milk
chair coffee

เฉลยแบบทดสอบข้อ 2
1. c.
2. b.
3. b.
4. c.
5. a.

ใบความรู้ที่ 6 เรอื่ ง ลักษณะนาม วัน เดอื น ปี
วชิ าภาษาองั กฤษพน้ื ฐาน (พต11001)

1. ลกั ษณะและวิธีการใชคำนาม
คำนามคือ คำท่ีใชเ้ รียกช่ือคน สัตว์ สง่ิ ของ หรอื สถานที่ เชน่ Tomas dog pencil orange
1.1 คำนามนับได้ (Countable noun) คือ นามท่ีนับจำนวนไดไดแ ก นามทม่ี ีรปู ร่างนับเปน็ ชนิ้ ไดช้ ิน้ ได และ

จะใช้ a, an นำหนา้ เมอ่ื ไมเฉพาะเจาะจงและสามารถทำเปน็ พหูพจน์ได้ เช่น dogs tables cats two cats
1.2 คำนามนบั ไมไ ด้ (Uncountable noun) เปน็ คำนามทไ่ี มสามารถแยกนับจำนวนเป็น หน่ึง สอง สาม ส่ี

ไดมักเป็นคำนามท่มี รี ปู รา่ งไมแนน่ อน หรอื ไมม ีรปู รา่ ง เชน่ water tea milk. water tea milk. คำนามท่ีเป็น
ของเหลว milk (นม) water (น้ำ) Butter (เนย) sugar (นำ้ ตาล) sand (ทราย) rice (ขา้ ว)

2. คำศัพทเ์ กยี่ วกับวัน เดอื น ป

2.1 คำศพั ทเ์ กี่ยวกบั วนั Days of the Week = 1 สปั ดาห์ มี 7 วนั ดงั น้ี

ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คำอ่าน คำยอ
Sun
วนั อาทิตย์ Sunday ซนั เด Mon
Tue
วนั จนั ทร์ Monday มันเด Wed
Thu
วันอังคาร Tuesday ทวิ ซเด Fri

วันพธุ Wednesday เวน็ ซเด

วนั พฤหัสบดี Thursday เธอซเด

วนั ศศุกร์ Friday ไฟรเด

วันเสาร์ Saturday แซท เทอเด Sat

2.2 คำศัพทเ กี่ยวกบั เดือน Months of the year =1 ปมี12เดอื น ดังนี้
ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คำอา น คำยอ
มกราคม January แจนยวั รี Jan
กมุ ภาพนั ธ February เฟบบัวรี Feb
มีนาคม March มารช Mar
เมษายน April เอ พริว Apr
พฤษภาคม May เมย May
มิถุนายน June จูน Jun
กรกฎาคม July จไู ล Jul
สงิ หาคม August ออกสั ท Aug
กันยายน September เซ็บเทมเบอะ Sep
ตลุ าคม October ออคโทเบอะ Oct
พฤศจิกายน November โนเว็มเบอะ Nov
ธนั วาคม December ดีเซ็มเบอะ Dec

3. คำศพั ท์เกยี่ วกับปี การอ่านตัวเลขจำนวนปีในภาษาองั กฤษนั้น เราจะแยกอ่านเปน็ คู ๆ ดงั นี้
ค.ศ. 1672 อ่านว่า sixteen seventy –two
ค.ศ. 1782 อ่านวา่ seventeen eighty –two
ค.ศ. 1983 อา่ นว่า nineteen eighty –three
ค.ศ. 1990 อา่ นว่า nineteen ninety
ค.ศ. 2008 อ่านว่า two thousand and eight
ค.ศ. 1995 อ่านว่า nineteen ninety five

ในการแปลงปี พ.ศ. ใหเ้ ป็นปี ค.ศ. เราสามารถทำไดโดยการนำ 543 มาลบออกจากปี พ.ศ.จะไดป ค.ศ.
เชน่ ป พ.ศ. 2536 ถาแปลงเป็นปี ค.ศ. จะได 2536–543 = 1993

ป พ.ศ. 2536 จงึ เปน็ ปเี ดียวกันกับ ป ค.ศ. 1993
การเขยี น วนั เดอื น ป นยิ มเขียนได 2 รปู แบบ
1. แบบอังกฤษ (English Style) เขียนโดยนำวันทข่ี นึ้ ต้น ตามด้วยเดอื นและปี ค.ศ. เช่น
1 November 1998 หรอื 1 / 11 / 98 หรอื 1 –11 –98 หรือ 1.4 –98
การอา่ นวนั ที่ตอ้ งอา่ นโดยใช้ตัวเลขแบบลำดับที่และการอา่ นปี ค.ศ. อา่ นด้วยเลขจำนวนนบั เชน
1 November 1998 = The first of November , nineteen ninety - eight.
วนั ที่ 1 เดอื น พฤศจกิ ายน ค.ศ. 1998

2. แบบอเมริกนั (American English Style) เขียนโดยนำเดอื นข้นึ ต้นแลว้ ตามดว้ ยวันทแ่ี ละป ค.ศ.

เชน่ November 1, 1998 = November (the) first, nineteen ninety – eight. หรือ 11 / 1 / 98
หรอื 11 – 1 - 98

1. การบอกเกย่ี วกับวนั ในภาษาอังกฤษ จะใช้ “on” เสมอ ไมว่าจะพูดถงึ วนั ทั้งเจด็ ในสปั ดาห์ หรือวนั ทม่ี ี
เดอื นปี กำกบั อยดู่ ้วยกต็ าม

2. การบอก ชอ่ื เดือน หรือป โดยไมม ีวนั นั้นเราจะใช้ “in” เสมอ
3. คำวา่ “date” ในภาษาอังกฤษ หมายถึง การบอกวันทเ่ี ฉพาะเจาะจง คอื บอก nineteen seventy
–one.
ทงั้ วัน เดือน ป
4. ชือ่ วนั และเดือน ไมว า่ จะอยสู่ ว่ นใดของประโยค ตัวอกั ษรของคำตอ้ งเขยี นด้วยตวั ใหญเ่ สมอ เช่น
Monday, Friday, December, June

ใบงานที่ 6 เรอื่ ง คำนาม วนั และ เดือน
วชิ า ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน (พต11001)

ให้ผูเ้ รยี นศึกษาเรื่องต่อไปน้ี
1. ใหน้ ักศกึ ษาโยงคคู่ ำศพั ท์ตอ่ ไปน้ีและความหมายให้ถกู ต้อง

คำศพั ท์ ความหมาย
Sunday
Monday
Tuesday
Wednesday
Thursday
Friday
Saturday

2. จงเขียนความหมายของเดอื นใหถ้ ูกต้อง
1. January……………………………………………………………………………………..
2. February……………………………………………………………………………………
3. March………………………………………………………………………………………..
4. April………………………………………………………………………………………….
5. May…………………………………………………………………………………………..
6. June………………………………………………………………………………………….
7. July……………………………………………………………………………………………
8. August……………………………………………………………………………………….
9. September………………………………………………………………………………..
10. October……………………………………………………………………………………..
11. November…………………………………………………………………………………
12. December…………………………………………………………………………………

ใบความรู้ที่ 7 เรอ่ื ง เก่ียวกบั สี และ ปา้ ยสญั ลักษณ์ตา่ งๆ
วิชาภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน (พต11001)

1. คำศัพท์เกย่ี วกบั สี (Color) คำอ่าน ความหมาย
คำศัพท์ เรด สแี ดง
Red เยลโล สเี หลือง
Yellow กรนี สเี ขยี ว
Green บลู สนี ้ำเงนิ
Blue ไลท- บลู สีฟา
Light blue แบล็ค สดี าํ
Black บราวน สีน้ำตาล
Brown

Dark brown ดารค-บราวน สนี ำ้ ตาลเขม
Purple เพอ เพิล สมี วง
Gray เกรย สีเทา
White ไวท สีขาว
Pink พิงค สชี มพู

2. ป้ายสญั ลักษณต์ ่างๆ

ใบงานที่ 7 เร่ือง เกย่ี วกับสีในชีวติ ประจำวนั และ ปา้ ยสญั ลักษณ์
วิชา ภาษาอังกฤษพน้ื ฐาน (พต11001)

1. เติมคำศพั ทเ์ กยี่ วกบั สี คำศัพท์
สี

แดง
เหลือง
ชมพู
เขียว
แสด / สม้

ฟ้า
มว่ ง
2. จงใสค่ วามหมายใหต้ รงกับป้ายสญั ลกั ษณ์

…………………………………………

…………………………………………

…………………………………………

…………………………………………

…………………………………………

ใบความรู้ท่ี 8 เรื่อง เกี่ยวกับเครอื ญาติ เคร่ืองใช้ในชวี ติ ประจำวนั และสภาพดินฟ้าอากาศ
วิชา ภาษาองั กฤษพ้ืนฐาน (พต11001)

1. คำศัพทเกีย่ วกับเครอื ญาติ คำอา่ น ความหมาย
คำศัพท ฟาร- เทอร พอ
father มา-เทอร แม
mother ซสิ -เทอร
sister บรา-เทอร พ่ีสาว/นองสาว
brother พีช่ าย/นอ งชาย

aunt อารนท ปา
uncle องั -เคลิ ลงุ
grandfather แกรนด- ฟา-เทอร ตา
grandmother แกรนด-มารเ ทอร ยาย
son ลกู ชาย
daughter ซัน ลกู สาว
parents ดอท-เทอร ผปู กครอง
children พา-เร็นท ลูกหลายคนไมร ะบเุ พศ
ชิล-เด็น ความหมาย
ขวด
2. คำศพั ทเ กย่ี วกับเครอ่ื งใชใ นชวี ติ ประจำวัน แกว
ชอ น
คำศพั ท คำอา่ น ส้อม
bottle บ็อท-เทล่ิ จาน
glass กลาส กระทะ
spoon สะ-พนู เตาอบ
fork ฟอรค์ หม้อหุงขา้ ว
Plate/Dish เพลท/ดชิ หม้อน้ำไฟฟา้
pan แพน ท่ปี ้งิ ขนมปงั
oven โอ-เวน่ อ่างลา้ งมอื
rice cooker ไรค-์ คกุ้ -เกอร์ ตูเ้ กบ็ ถ้วยชาม
electric pot อิ-เล็ค-พอต เกา้ อี้
toaster โทส-เตอร์ ม้านงั่ วยาว
sink ซิงค์ โตะ
cupboard คพั -บอร์ด โคมไฟ
chair แชร์ เตยี ง
bench เบนซ์
table เท-เบลิ้
lamp แลมป์
bed เบด

ตัวอยา่ งประโยค
I eat rice with a spoon and a fork.
This is a glass of water.
The water is in a bottle.
She sleeps on a bed.
We sit on a bench.

The books are on the table.
The cat sleeps in a blanket.
The lamp is on a table.
We cook rice in a rice cooker.
I boil water in an electric pot.

3. คำศพั ท์เก่ยี วกบั สภาพดนิ ฟา้ อากาศ คำอ่าน ความหมาย
คำศพั ท คลาว-ด้ี เมฆมาก
cloudy วนิ -ด้ี ลมแรง
windy ซัน-น่ี แดดจา
sunny โคลด์ อากาศหนาวจัด
cold วอรม์ อากาศอบอนุ
warm เรน-น่ี ฝนหนกั
rainy

โครงสร้างประโยค จะใชก้ รยิ าในโครงสร้าง Present Simple Tense
S + V 1 …………เชน่
It’s sunnytoday. วนั น้ีแดดรอ้ น
It’s cold today. วันน้ีอากาศเย็น
It’s windy today. วนั นี้ลมแรง

โครงสร้างประโยค จะใช้กริยาในโครงสรา้ งของ Future Simple Tense
S + will +V 1 + (o) + ………… เช่น
โครงสร้างประโยค to be going to จะใช้ to be going to บรรยายเหตกุ ารณทจ่ี ะเกดิ ข้ึนในอนาคต

เชน่ เดยี วกัน
is

S + am + going to + V 1 + (o) + …………………
are

It is going to rain in an hour. ฝนกำลังจะตกในอีกหนง่ึ ชั่งโมง
It is going to warm when the sun rise. อากาศจะอบอุ่นขึ้น เมื่อพระอาทติ ย์ขึ้น

ใบงานท่ี 8 เร่ือง เครอื ญาติ เครื่องใช้ในชีวิตประจำวนั และ สภาพดนิ ฟ้าอากาศ
วชิ า ภาษาอังกฤษพ้นื ฐาน (พต11001)

ให้ผเู้ รียนศึกษาข้อมูลตามหวั ข้อตอ่ ไปน้ี

1. คำศพั ท์เก่ียวกบั เครอื ญาติ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

2. คำศพั ทเ์ กยี่ วกับเครอ่ื งใชใ้ นชวี ิตประจำวนั
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

3. คำศัพทเ์ กย่ี วกับสภาพดินฟ้าอากาศ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แบบทดสอบหลังเรยี น (Post-test)


Click to View FlipBook Version