170 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ พระสุพรรณบัฏจารึกพระนาม สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (ปุ่น ปุณฺณสิริ) สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๗ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
สมัยรัตนโกสินทร์ 171 พระบรมราชโองการ สถาปนาสมเด็จพระวันรัต สมเด็จพระราชาคณะ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
172 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ พระบรมราชโองการ สถาปนาพระธรรมวโรดม รองสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นหิรัญบัฏ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
สมัยรัตนโกสินทร์ 173 สุพรรณบัฏจารึกนาม สมเด็จพระวันรัต สมเด็จพระราชาคณะ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร หิรัญบัฏจารึกนาม พระธรรมวโรดม รองสมเด็จพระราชาคณะ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
174 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ (๑) พระราชพิธีมหาสมณุตมาภิเษก จัดเป็นการใหญ่คล้ายพระราชพิธี ราชาภิเษกอย่างย่อ สำหรับพระสังฆเถรที่เป็นพระบรมวงศ์ผู้ใหญ่ที่ได้รับสถาปนาเป็นสมเด็จ พระมหาสมณเจ้า หรือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ประกอบด้วยพระราชพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏ ประกอบพิธี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และพระราชพิธีสถาปนา ประกอบพิธี ณ พระอุโบสถของพระอารามที่เสด็จสถิต (๒) พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช เป็นพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จ พระสังฆราชโดยเฉพาะ ประกอบด้วยพระราชพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏและพระราชพิธี สถาปนา ประกอบพิธี ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สมเด็จพระสังฆราช มีฐานานุศักดิ์ทรงตั้งฐานานุกรมได้ ๑๕ รูป คือ พระราชาคณะปลัดขวา ๑ พระราชาคณะปลัดซ้าย ๑ พระครูฐานานุกรม มีนิตยภัต ๔ พระครูฐานานุกรม ไม่มีนิตยภัต ๙ อย่างเช่น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ ๑๙ สถิต ณ วัดบวรนิเวศวิหาร มีพระนามตามประกาศสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชว่า สมเด็จพระญาณสังวร บรมนริศรธรรมนีติภิบาล อริยวงศาคตญาณ วิมล สกลมหาสังฆปริณายก ตรีปิฎกปริยัตติธาดา วิสุทธจริยาธิสมบัติ สุวัฑฒนภิธานสงฆวิสุต ปาวจนุตตมพิสาร สุขุมธรรมวิธานธำรง วชิรญาณ วงศวิวัฒ พุทธบริษัทคารวสถาน วิจิตรปฏิภาณพัฒนคุณ วิบุลสีลาจารวัตร สุนทร บวรธรรมบพิตร สรรพคณิศรมหาปธานาธิบดี คามวาสี อรัณยวาสี สมเด็จพระสังฆราช เสด็จสถิต ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร พระอารามหลวง เป็นประธานในสังฆมณฑลทั่วราชอาณาจักร ให้ทรงมีพระราชาคณะและพระครูฐานานุกรมประดับพระอิสริยยศ ๑๕ รูป คือ พระมหานายก พุทธปาพจนดิลกโลกยปสาทาภิบาล สกลสังฆ ประธานมหาเถรกิจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัด ขวา ๑ พระจุลนายก ธรรมนีติสาธกมหาเถราธิการ คณะกิจบรรหารธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย ๑ พระครูวิสุทธิ ธรรมภาณ ๑ พระครูพิศาลวินัยวาท ๑ พระครูประสาทพุทธปริต พระครู พระปริตร ๑ พระครูประสิทธิพุทธมนต์ พระครูพระปริตร ๑ พระครู
สมัยรัตนโกสินทร์ 175 ๑ ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช, ตอนที่ ๖๓ เล่ม ๑๐๖, ๒๑ เมษายน ๒๕๓๒, หน้า ๑ - ๗.๒ สมเด็จพระมหาวีรงศ์ (มานิต ถาวโร ป.ธ.๙) มรณภาพ วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ๓ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร ป.ธ.๖) ทรงพระกรุณาโปรดสถาปนาเป็นสมเด็จ พระสังฆราช พระองค์ที่ ๒๐ เมื่อวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ วินัยธร ๑ พระครูธรรมธร ๑ พระครูสรภัญญประกาศ พระครูคู่สวด ๑ พระครูสรนาทวิเศษ พระครูคู่สวด ๑ พระครูนิเทศธรรมจักร ๑ พระครูพิทักษ์ ธุรกิจ ๑ พระครู สังฆสิทธิกร ๑ พระครูสมุห์ ๑ พระครูใบฎีกา ๑๑ (๒) สมเด็จพระราชาคณะ เป็นสมณศักดิ์รองลงมาจากสมเด็จพระสังฆราช เรียก อีกอย่างหนึ่งว่า สมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ นับเป็นอิสริยยศชั้นสูง การสถาปนา นั้นโปรดให้มีพระราชพิธีจารึกราชทินนามในสุพรรณบัฏ แล้วโปรดพระราชทานสถาปนา พระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรองขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ สมเด็จพระราชาคณะทุกรูป ดำรงตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคมโดยตำแหน่ง ตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชบัญญัติ คณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. ๒๕๓๕ พุทธศักราช ๒๕๕๙ สมเด็จพระราชาคณะมี ๘ รูป แบ่งเป็นมหานิกาย ๔ รูป ธรรมยุต ๔ รูป ดังนี้ ที่ รายนาม สถาปนา นิกาย ๑. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโ ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดปากนํ้า พ.ศ. ๒๕๓๘ มหานิกาย ๒. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์๒ (มานิต ถาวโร ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม พ.ศ. ๒๕๔๔ ธรรมยุติกนิกาย ๓. สมเด็จพระมหามุนีวงศ์๓ (อัมพร อมฺพโร ป.ธ.๖) เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พ.ศ. ๒๕๕๒ ธรรมยุติกนิกาย
176 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ ที่ รายนาม สถาปนา นิกาย ๔. สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.๙) เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ. ๒๕๕๒ ธรรมยุติกนิกาย ๕. สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย ป.ธ.๘) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส พ.ศ. ๒๕๕๓ ธรรมยุติกนิกาย ๖. สมเด็จพระพุทธชินวงศ์๑ (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ.๙) เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เจ้าอาวาสวัดพิชยญาติการาม พ.ศ. ๒๕๕๔ มหานิกาย ๗. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโ ป.ธ.๙) เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม พ.ศ. ๒๕๕๗ มหานิกาย ๘. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน พ.ศ. ๒๕๕๙ มหานิกาย ปัจจุบัน พุทธศักราช ๒๕๖๓ สมเด็จพระราชาคณะมี ๑๐ รูป แบ่งเป็นมหานิกาย ๕ รูป ธรรมยุติกนิกาย ๕ รูป ดังนี้ ที่ รายนาม สถาปนา นิกาย ๑. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโ ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดปากนํ้า พ.ศ. ๒๕๓๘ มหานิกาย ๑ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ (สมศักดิ์ อุปสโม ป.ธ.๙) มรณภาพ วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๒
สมัยรัตนโกสินทร์ 177 ๑ สมเด็จพระญาณวชิโรดม (วิริยังค์ สิรินฺธโร) มรณภาพ วันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๖๓ ที่ รายนาม สถาปนา นิกาย ๒. สมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พ.ศ. ๒๕๕๒ ธรรมยุติกนิกาย ๓. สมเด็จพระธีรญาณมุนี (สมชาย วรชาโย ป.ธ.๘) เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส พ.ศ. ๒๕๕๓ ธรรมยุติกนิกาย ๔. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (สนิท ชวนปญฺโ ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม พ.ศ. ๒๕๕๗ มหานิกาย ๕. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน พ.ศ. ๒๕๕๙ มหานิกาย ๖. สมเด็จพระมหาธีราจารย์ (ปสฤทธิ์ เขมงฺกโร ป.ธ.๖) เจ้าอาวาสวัดยานนาวา พ.ศ. ๒๕๖๒ มหานิกาย ๗. สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (พิจิตร ิตวณฺโณ ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดโสมนัสวิหาร พ.ศ. ๒๕๖๒ ธรรมยุติกนิกาย ๘. สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (สุชิน อคฺคชิโน ป.๑-๒) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พ.ศ. ๒๕๖๒ ธรรมยุติกนิกาย ๙. สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช ป.ธ.๖) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม พ.ศ. ๒๕๖๒ มหานิกาย ๑๐. สมเด็จพระญาณวชิโรดม๑ (วิริยังค์ สิรินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดธรรมมงคลเถาบุญญนนทวิหาร พ.ศ. ๒๕๖๓ ธรรมยุติกนิกาย
178 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ พระบรมราชโองการ สถาปนาพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ รองสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นหิรัญบัฏ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
สมัยรัตนโกสินทร์ 179 พระบรมราชโองการ สถาปนาพระธรรมปัญญาบดี พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
180 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตรสถาปนา พระธรรมปัญญาบดี พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
สมัยรัตนโกสินทร์ 181 สัญญาบัตร พระธรรมเสนานี พระราชาคณะชั้นธรรม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
182 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระเทพวรมุนี พระราชาคณะชั้นเทพ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
สมัยรัตนโกสินทร์ 183 สัญญาบัตร พระราชปัญญาสุธี พระราชาคณะชั้นราช วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร
184 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระราชมงคลวุฒาจารย์ พระราชาคณะชั้นราช วัดโสธรวราราม วรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
สมัยรัตนโกสินทร์ 185 สัญญาบัตร พระราชเวที พระราชาคณะชั้นราช วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
186 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระพุทธิรังษี พระราชาคณะชั้นสามัญ วัดโสธรวราราม วรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
สมัยรัตนโกสินทร์ 187 สัญญาบัตร พระศรีวิสุทธิวงศ์ พระราชาคณะชั้นสามัญ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร
188 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระปริยัติกิจวิธาน พระราชาคณะชั้นสามัญ วัดโสธรวราราม วรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
สมัยรัตนโกสินทร์ 189 สมเด็จพระราชาคณะทุกตำแหน่ง ทรงโปรดให้มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๑๐ รูป เฉพาะพระครูปลัดมีราชทินนาม พร้อมทั้งสร้อยนามและนิตยภัต และมีศักดิ์สูงกว่า เปรียญธรรม ๙ ประโยค ๘.๕.๒ พระราชาคณะ พระราชาคณะ เป็นสมณศักดิ์ชั้นผู้ปกครองคณะสงฆ์ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา เรียกว่า พระสังฆราชาคณะ ซึ่งหมายความว่า เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ เดิมเป็นตำแหน่งคู่กับการ ปกครองคณะสงฆ์ ต่อมาสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นเปลี่ยนเรียกว่า พระราชาคณะ ความหมาย คงเดิมและได้เรียกมาจนถึงปัจจุบัน พระเถระผู้ดำรงอิสริยยศชั้นนี้ มีคำนำหน้าราชทินนาม ว่า พระ ตำแหน่งที่ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นนี้เรียกกันทั่วไปว่า “เจ้าคุณ” เรียงลำดับ จากชั้นสูงสุดลงไปดังนี้ (๑) พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ (๒) พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นสัญญาบัตร (๓) พระราชาคณะชั้นธรรม (๔) พระราชาคณะชั้นเทพ (๕) พระราชาคณะชั้นราช (๖) พระราชาคณะชั้นสามัญ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ เป็นพระราชาคณะที่ทรงพระกรุณาโปรด สถาปนาดังเช่นสมเด็จพระราชาคณะ โดยสถาปนาพระราชาคณะชั้นธรรมหรือชั้นสัญญาบัตร ขึ้นดำรงสมณศักดิ์ชั้นนี้ ราชทินนามที่ปรากฏ เช่น พระพิมลธรรม พระวิสุทธิวงศาจารย์ พระธรรมปัญญาบดี พระธรรมวโรดม พระพรหมคุณาภรณ์ พระวิสุทธาธิบดี พระพุทธวรญาณ เป็นต้น แต่ในปัจจุบันนิยมตั้งราชทินนามขึ้นต้นด้วยคำว่า “พรหม” เช่น พระพรหมดิลก พระพรหมบัณฑิต พระพรหมกวี เป็นต้น การสถาปนานั้น มีพระราชพิธีจารึกราชทินนามใน หิรัญบัฏ และมีพระบรมราชโองการประกาศสถาปนา โปรดให้มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรม ได้ ๘ รูป พระครูปลัดมีราชทินนามพร้อมทั้งสร้อยนามและมีนิตยภัต มีศักดิ์สูงกว่าพระครู ฐานานุกรมชั้นเอกในสมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นสัญญาบัตร โปรดพระราชทานเลื่อนพระราชาคณะ ชั้นธรรมขึ้นเทียบชั้นรองสมเด็จพระราชาคณะ พระราชทานเฉพาะสัญญาบัตร พัดยศ เท่านั้น
190 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ แต่มิได้จากรึกราชทินนาม เรียกว่า “ชั้นสัญญาบัตร” เคยพระราชทานมี ๒ ตำแหน่ง คือ พระมหาโพธิวงศาจารย์๑ และ พระมหารัชมังคลาจารย์ ปัจจุบันไม่มีผู้ดำรงสมณศักดิ์ชั้นนี้ ชั้นสัญญาบัตรมีฐานานุกรม ๖ รูป พระครูปลัดมีราชทินนามและนิตยภัต มีศักดิ์สูงกว่า พระครูฐานานุกรมชั้นเอกในสมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะชั้นธรรม โปรดพระราชทานเลื่อนจากพระราชาคณะชั้นเทพ มี ฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๖ รูป คือ พระครูปลัดมีราชทินนามและมีนิตยภัต มีศักดิ์ สูงกว่าพระครูพระปริตร ชั้นโท ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช ๑ พระครูวินัยธร ๑ พระครูธรรมธร ๑ พระครูสังฆรักษ์ ๑ พระครูสมุห์ ๑ พระครูใบฎีกา ๑ พระราชาคณะชั้นเทพ โปรดพระราชทานเลื่อนจากพระราชาคณะชั้นราช มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๕ รูป คือ พระครูปลัด ๑ พระครูวินัยธร ๑ พระครูสังฆรักษ์ ๑ พระครูสมุห์ ๑ พระครูใบฎีกา ๑ เฉพาะครูปลัดและพระครูวินัยธรมีศักดิ์สูงกว่าเปรียญธรรม ๔ ประโยค พระราชาคณะชั้นราช โปรดพระราชทานเลื่อนจากพระราชาคณะชั้นสามัญ มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๔ รูป คือ พระครูปลัด ๑ พระครูสังฆรักษ์ ๑ พระครูสมุห์ ๑ พระครูใบฎีกา ๑ เฉพาะครูปลัดมีศักดิ์สูงกว่าเปรียญธรรม ๔ ประโยค ตั้งแต่พระราชาคณะชั้นราชขึ้นไปจัดเป็นพระราชาคณะชั้นผู้ใหญ่ นั่งในพิธี ตามลำ ดับรับพระราชทานพัดยศก่อนหลัง พระราชาคณะชั้นสามัญ โปรดพระราชทานตั้งพระครูสัญญาบัตร พระเปรียญ พระฐานานุกรมหรือพระสังฆาธิการ ขึ้นดำรงสมณศักดิ์ชั้นนี้ มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ ๓ รูป คือ พระปลัด ๑ พระสมุห์ ๑ พระใบฎีกา ๑ พระปลัดมีศักดิ์สูงกว่าเปรียญธรรม ๓ ประโยค การจัดที่นั่งชั้นนี้ถือตำ แหน่งทางปกครองและเปรียญธรรมประกอบด้วย แต่ เฉพาะพิธีรับผ้าพระกฐิน เจ้าอาวาสนั่งหน้าพระภิกษุรูปอื่น แม้จะมีสมณศักดิ์สูงกว่า ๑ พระมหาโพธิวงศาจารย์ (นวม พุทฺธสโร ป.ธ.๔) วัดอนงคาราม และสังฆมนตรีว่าการองค์การ สาธารณูปการ ได้รับการสถาปนาเป็นรูปแรก เมื่อวันที่ ๑ มีนาคม ๒๔๘๔
สมัยรัตนโกสินทร์ 191 ๘.๕.๓ พระครูสัญญาบัตร พระครูสัญญาบัตร จัดเป็นสมณศักดิ์สัญญาบัตรชั้นแรก เป็นพระครูมีราชทินนาม ในสมัยพ่อขุนรามคำแห่งมหาราชแห่งกรุงสุโขทัย เรียกว่า “ปู่ครู” ต่อมาในสมัยพระมหา ธรรมราชา (ลิไท) ได้เปลี่ยนเป็น “พระครู” และโปรดให้มีราชทินนามสืบมาจนถึงปัจจุบัน พระครูสัญญาบัตรเป็นชื่อประเภทแห่งสมณศักดิ์ เครื่องหมายสมณศักดิ์ใช้คำว่า “พระครู” นำหน้าราชทินนาม ครั้งแรกพระราชทานตั้งมีสัญญาบัตรเป็นเครื่องกำหนดราชทินนาม แต่ในสัญญาบัตรมิได้กำหนดว่าเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นใดหรือตำแหน่งใด ได้พระราชทาน พัดยศเป็นเครื่องแสดงชั้นหรือตำแหน่งนั้นๆ เมื่อเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตํ่าแล้วจะเลื่อนชั้น ให้สูงขึ้น มิได้เปลี่ยนสัญญาบัตร คงเปลี่ยนเฉพาะพัดยศ และมีประกาศมหาเถรสมาคม แสดงความเป็นพระครูสัญญาบัตรตำแหน่งใดและชั้นใด แต่บางคราวทรงตั้งพระครู สัญญาบัตรชั้นตํ่าเป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นสูงก็มี และในปัจจุบันผู้ที่จะได้รับพระราชทาน ตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรต้องเป็นพระสังฆาธิการ เมื่อจะทรงตั้งครั้งแรก จัดชั้นและ ตำแหน่งให้เหมาะสมกับตำแหน่งทางปกครอง หรือเหมาะสมกับวิทยฐานะ เมื่อจะ เลื่อนชั้นเรียกว่า “เลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ” โดยพระบรมราชานุญาตสมเด็จพระสังฆราช ในฐานะสกลมหาสังฆปริณายก และประธานกรรมการมหาเถรสมาคม ประทานเลื่อนชั้น พระสังฆาธิการ เพื่อเป็นการยกย่องพระสมณศักดิ์ซึ่งดำรงตำแหน่งพระสังฆาธิการผู้มี ความดีความชอบควรแก่การยกย่อง พระครูสัญญาบัตรเรียงลำดับจากชั้นสูงสุดลงไปและ แยกชนิดของแต่ละชั้นตามตำแหน่งทางการปกครองคณะสงฆ์ ดังนี้ (๑) พระครูสัญญาบัตร ชั้นพิเศษ (ชพ.) มี ๓ คือ ๑) เจ้าคณะอำเภอ (จอ.) ๒) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง (ผจล.) ๓) เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง (ทผจล.) (๒) พระครูสัญญาบัตร ชั้นเอก (ชอ.) มี ๘ คือ ๑) เจ้าอาวาสพระอารามหลวง (จล.) ๒) เจ้าคณะอำเภอ (จอ.) ๓) รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง (รจล.) ๔) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง (ผจล.)
192 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระครูผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก
สมัยรัตนโกสินทร์ 193 สัญญาบัตร พระครูผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นโท
194 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระครูผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นเอก
สมัยรัตนโกสินทร์ 195 สัญญาบัตร พระครูผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง ชั้นพิเศษ
196 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระครูเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท
สมัยรัตนโกสินทร์ 197 พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช เลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ
198 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช เลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ
สมัยรัตนโกสินทร์ 199 พระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช เลื่อนชั้นพระสังฆาธิการ
200 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ ๕) เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง (ทผจล.) ๖) รองเจ้าคณะอำเภอ (รจอ.) ๗) เจ้าคณะตำบล (จต.) ๘) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ (จร.) (๓) พระครูสัญญาบัตร ชั้นโท (ชท.) มี ๘ คือ ๑) เจ้าอาวาสพระอารามหลวง (จล.) ๒) เจ้าคณะอำเภอ (จอ.) ๓) รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง (รจล.) ๔) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง (ผจล.) ๕) เทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวง (ทผจล.) ๖) รองเจ้าคณะอำเภอ (รจอ.) ๗) เจ้าคณะตำบล (จต.) ๘) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ (จร.) (๔) พระครูสัญญาบัตร ชั้นตรี (ชต.) มี ๔ คือ ๑) เจ้าอาวาสพระอารามหลวง (จล.) ๒) รองเจ้าอาวาสพระอารามหลวง (รจล.) ๓) เจ้าคณะตำบล (จต.) ๔) เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ (จร.) ส่วนพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะจังหวัด (จจ.) รองเจ้าคณะจังหวัด (รจจ.) รอง เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ (รจร.) และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ (ผจร.) ปัจจุบันยังมิได้จัดว่า เป็นชั้นใด ๘.๕.๔ ฐานานุกรม ฐานานุกรม คือชื่อเรียกลำดับตำแหน่งสมณศักดิ์ของพระสงฆ์ไทย ซึ่งภิกษุผู้มี ตำแหน่งทางการปกครองหรือมีสมณศักดิ์สูงบางตำแหน่งมีสิทธิ์ตั้งพระรูปอื่นให้เป็น ฐานานุกรมได้ตามศักดิ์ที่ได้รับพระบรมราชานุญาต เช่น พระสงฆ์ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอ สามารถตั้งฐานานุกรมได้ ๓ ตำแหน่ง พระราชาคณะชั้นสามัญตั้งฐานานุกรมได้ ๓ ตำแหน่ง เป็นต้นไปจนกระทั่งถึงสมเด็จพระสังฆราชทรงตั้งฐานานุกรมได้ ๑๕ ตำแหน่ง
สมัยรัตนโกสินทร์ 201 ฐานานุกรมนั้นมีตำแหน่งที่เป็นหลัก ๓ ตำแหน่ง คือ พระปลัด พระสมุห์ พระใบฎีกา หากพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์ตั้งฐานานุกรมเป็นผู้ที่มีสมณศักดิ์ ตั้งแต่พระราชาคณะ ชั้นราชขึ้นไป ฐานานุกรมที่ตั้งเหล่านั้นจะเรียก “พระครู” นำหน้าตำแหน่งฐานานุกรมนั้น ทุกตำแหน่ง เช่น พระครูปลัด พระครูสังฆรักษ์ เป็นต้น สิทธิในการให้พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์สามารถแต่งตั้งฐานานุกรมได้ จะมีระบุไว้ใน สัญญาบัตรพระราชทานสมณศักดิ์ ว่าให้สามารถตั้งได้เท่านั้นเท่านี้รูป ซึ่งพระสงฆ์ผู้ได้รับ พระราชทานสิทธิในการตั้งฐานานุกรม จะตั้งหรือไม่ตั้งก็ได้ หรือจะตั้งแต่เพียงจำนวน เท่าที่เห็นควรก็ได้ ไม่จำต้องตั้งทั้งหมด ตำแหน่งเหล่านี้เดิมมีพัดยศพระราชทานมาให้ แต่ปัจจุบันนี้ต้องจัดทำเอง โดย พระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ที่มีสิทธิ์แต่งตั้งฐานานุกรม จะแต่งตั้งพระสงฆ์รูปใดในศิษยานุศิษย์ ของตน ก็สุดแล้วแต่อัธยาศัย ทางการไม่ได้เกี่ยวข้องในการแต่งตั้งฐานานุกรม เพียงแต่รับรู้ เท่านั้น ภิกษุผู้ได้รับแต่งตั้งในลักษณะนี้เรียกว่า พระฐานานุกรม ทุกรูปจัดเป็นพระมี สมณศักดิ์เหมือนพระสมณศักดิ์ที่ทรงแต่งตั้ง พระในตำแหน่งเหล่านี้บางทีเรียกประทวน สัญญาบัตร บ้าง ฐานาประทวน บ้าง และเนื่องจากสมณศักดิ์เหล่านี้พระมหากษัตริย์ไม่ได้ พระราชทานเอง ดังนั้น เมื่อพระสงฆ์ผู้ทรงสมณศักดิ์ที่ได้ตั้งฐานานุกรมไว้มรณภาพ ตำแหน่ง ฐานานุกรมต่างๆ ก็ถือว่าเป็นอันสิ้นสุดไปด้วย เรียกกันในภาษาปากว่า พระครูม่าย หรือ ฐานาม่าย จนกว่าจะได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมใหม่ ในอดีต ตำแหน่งฐานานุกรมบางตำแหน่งมีลำดับสมณศักดิ์สูงกว่าพระมหาเปรียญ จึงมีบางครั้งที่พระมหาเปรียญก็อาจได้รับแต่งตั้งฐานานุกรมบ้าง ซึ่งเรียกกันในภาษาปาก ว่า ฐานาทรงเครื่อง หรือ พระครูทรงเครื่อง คือมีทั้งตำแหน่งมหาเปรียญและฐานานุกรม ในคราวเดียวกัน พระมหากษัตริย์มีพระบรมราชานุญาตให้พระราชาคณะตั้งพระสงฆ์ด้วยกัน เป็นพระฐานานุกรม เพื่อประดับอิสริยยศตามฐานานุศักดิ์ของสมเด็จพระสังฆราช สมเด็จ พระราชาคณะและพระราชาคณะ และเพื่อช่วยภารธุระของพระราชาคณะชั้นนั้นๆ มีดังนี้ (๑) ฐานานุกรม ชั้นพระราชาคณะ (๒) ฐานานุกรม ชั้นพระครูปลัดมีราชทินนาม
202 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ (๓) ฐานานุกรม ชั้นพระครูอื่น (๔) ฐานานุกรม ชั้นธรรมดา ฐานานุกรม ชั้นพระราชาคณะ ฐานานุกรมชั้นนี้เดิมคือตำแหน่งพระครูปลัดขวา และพระครูปลัดซ้ายในสมเด็จพระสังฆราช ต่อมาได้ยกขึ้นเป็นตำแหน่งพระราชาคณะ ปัจจุบันมีเฉพาะฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช และในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส วัดพระเชตุพน เท่านั้น ฐานานุกรมตำแหน่งพระครูปลัดขวา-ซ้าย-กลาง และพระราชาคณะปลัดขวา- ซ้าย - กลาง ในสมเด็จพระสังฆราช๑ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ดังนี้ ฐานานุกรมในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (๑) พระทักษิณคณิสสร บวรสังฆสิทธิการ วิจารณกิจโกศล สกลมหาคณาธิบดี ตรีปิฎกธรรมรักขิต พระราชาคณะปลัดขวา๒ (๒) พระอุดรคณารักษ์ อรรควิจารณคุณ วิบุลญาณอนันต์ สรรพมหาคณาธิบดี ตรีปิฎกธรรมรักขิต พระราชาคณะปลัดซ้าย๓ (๓) พระสมุหวรคณิสสรสิทธิการ พิศาลวรกิจโกศล โสภณศีลาจารนิวิฐ พิพิธมหา คณาธิบดี ตรีปิฎกธรรมรักขิต พระราชาคณะปลัดกลาง๔ ๑ https://th.wikipedia.org/wiki/ฐานานุกรม สืบค้นวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๕.๒ ตำแหน่งเดิม คือ พระครูทักษิณคณิศร บวรสังฆสิทธิการ วิจารณกิจโกศล สกลสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต ๓ ตำแหน่งเดิม คือ พระครูอุดรคณารักษ์ อรรควิจารณคุณ วิบุลยญาณอนันต์ สรรพสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต๔ พระครูปลัดกลาง เดิมไม่ปรากฏราชทินนาม พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ โปรดให้มีนามว่า พระครูสมุหวรคณิสสรสิทธิการ เป็นฐานานุกรมในพระอัฐิกรมสมเด็จพระปรมานุชิต ชิโนรส เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๒ ยกขึ้นเป็นพระราชาคณะปลัดกลาง
สมัยรัตนโกสินทร์ 203 สัญญาบัตร พระทักษิณคณิสสร (ถาวร ติสฺสานุกโร ป.ธ.๔) พระราชาคณะปลัดขวา ในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ในรัชกาลที่ ๙
204 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระทักษิณคณิสสร (บรรจง ปญฺาวุฑฺโฒ ป.ธ.๓) พระราชาคณะปลัดขวา ในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ในรัชกาลที่ ๙
สมัยรัตนโกสินทร์ 205 สัญญาบัตร พระทักษิณคณิสสร (ธีระพงษ์ ธีรวํโส ป.ธ.๙) พระราชาคณะปลัดขวา ในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ในรัชกาลที่ ๑๐
206 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระอุดรคณารักษ์ (ทองใบ ปุณฺโณภาโส) พระราชาคณะปลัดซ้าย ในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ในรัชกาลที่ ๙
สมัยรัตนโกสินทร์ 207 สัญญาบัตร พระอุดรคณารักษ์ (วินัย ธมฺมานนฺโท ป.ธ.๔) พระราชาคณะปลัดซ้าย ในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ในรัชกาลที่ ๙
208 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระอุดรคณารักษ์ (บุญทัน ธีรงฺกุโร ป.ธ.๕) พระราชาคณะปลัดซ้าย ในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ในรัชกาลที่ ๑๐
สมัยรัตนโกสินทร์ 209 สัญญาบัตร พระสมุหวรคณิสสรสิทธิการ (สิงห์ไชย สิริวณฺโณ) พระราชาคณะปลัดกลาง ในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ในรัชกาลที่ ๙
210 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ สัญญาบัตร พระสมุหวรคณิสสรสิทธิการ (ประเสริฐ กิตฺติเสฏฺโ ป.ธ.๔) พระราชาคณะปลัดกลาง ในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส ในรัชกาลที่ ๑๐
สมัยรัตนโกสินทร์ 211 ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช๑ วัดบวรนิเวศวิหาร (๑) พระมหานายก พุทธปาพจนดิลกโลกยปสาทาภิบาล สกลสังฆปาโมกขประธาน มหาสถวีรกิจการี คณาธิบดีศรีรัตนสมณคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา๒ (๒) พระจุลนายก ธรรมนิติสาธกมหาเถราธิการ คณกิจบรรหารธุระวาหณการีย์ สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย๓ ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช (สา ปุสฺสเทโว)๔ วัดราชประดิษฐสถิตมหา สีมาราม (๑) พระครูปลัดสัมพิพัฒนศีลาจารย์ ญาณวิมล สกลคณิศร อุดรสังฆนายก ปิฎก ธรรมรักขิต สถิตย์ ณ วัดราชประดิษฐสถิตยมหาสิมารามวรวิหาร พระอารามหลวง พระครู ปลัดกลาง (๒) พระครูปลัดอวาจีคณานุสิชฌน์ สังฆอิศริยาลังการ วิจารณกิจโกศล วิมล สังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต สถิตย์ ณ วัดราชประดิษฐสถิตยมหาสิมารามวรวิหาร พระอารามหลวง พระครูปลัดขวา ๑ (๑) สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ (พระองค์เจ้าฤกษ์) สมเด็จ พระสังฆราช พระองค์ที่ ๘ (๒) สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (พระองค์เจ้ามนุษยนาคมานพ) สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๐ (๓) สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ (หม่อมราชวงศ์ชื่น สุจิตฺโต) สมเด็จ พระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๓ (๔) สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราช สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙๒ ตำแหน่งเดิม คือ พระครูปลัดมหานุนายก ธรรมยุติกดิลกโกปสาทานุบาล มหาเถรานุฐาน กิจการีย์ คณาบดีศรีรัตนสรณคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช คือ พระมหานายก พุทธปาพจนดิลกโลกยปสาทาภิบาล สกลสังฆประธานมหาเถรกิจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์ ๓ ตำแหน่งเดิม คือ พระครูปลัดจุลนุนายก ตรีปิฎกคณานุรักษ์ คณะกิจพิทักษ์ธุรวาหณกิจการีย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช คือ พระจุลนายก ธรรมนีติสาธกมหาเถราธิการ คณะกิจบรรหารธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์๔ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดสถาปนาเมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๔๓๖ ตามสำเนาประกาศ ตั้งฐานานุกรมได้ ๑๖ รูป และมีพระครูปลัดกลาง พระครูปลัดขวา และพระครู ปลัดซ้าย ทั้ง ๓ ตำแหน่ง
212 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ (๓) พระครูปลัดอุทิจยานุสรณ์ วิจารโณภาศภาคยคุณ สุนทรสังฆานุคุติ วิสุทธิ สังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต สถิตย์ ณ วัดราชประดิษฐสถิตยมหาสิมารามวรวิหาร พระอาราม หลวง พระครูปลัดซ้าย ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช๑ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม (๑) พระมหาคณิสร พุทธศาสนิกนิกรปสาทาภิบาล สกลสังฆประธานมหาสถวีรกิจ การี นายกบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา (๒) พระจุลคณิศร สัทธรรมนิติธรรมมหาเถราธิการ คณกิจบรรหารธุรการี สมุห์บดี ศรีธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทโว) วัดสุทัศนเทพวราราม (๑) พระครูมหาคณานุสิชฌน์ สังฆอิศริยาลังการ วิจารณโกศล วิมลสังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต พระครูปลัดขวา (๒) พระครูจุลคณานุสาสน์ วิจารโณภาสภาคยคุณ สุนทรสังฆานุคุตติ วิสุทธิ สังฆนายก ปิฎกธรรมรักขิต พระครูปลัดซ้าย๒ ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) วัดเบญจมบพิตรดุสิต วนาราม (๑) พระทักษิณคณาธิกร สุนทรธรรมนายก พุทธปาพจนดิลก มหาเถรกิจจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา (๒) พระอุดรคณาภิรักษ์ อัครศาสนกิจบรรหาร มหาเถราธิการธุรการี สมุหบดีศรี ธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช (อยู่ าโณทโย) วัดสระเกศ (๑) พระมหาคณานุศิษฎ์ สังฆอิสริยาลงกรณ์ สุนทรธรรมสาธก พุทธปาพจนดิลก มหาเถรกิจจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา ๑ (๑) พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า (หม่อมเจ้าภุชงค์) พระองค์ที่ ๑๑ (๒) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๘ (๓) สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๒๐ ๒ ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๖, ๒๕ กันยายน ๒๔๘๒, หน้า ๑๗๘๓ - ๑๗๘๔.
สมัยรัตนโกสินทร์ 213 (๒) พระจุลคณานุศาสน์ วิจารโณภาสภาคยคุณ สุนทรศาสนกิจบรรหาร มหาเถรา ธิการธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช (จวน อุฏฺายี) วัดมกุฏกษัตริยาราม (๑) พระมหาคณานุศิษฎ์ สังฆอิสริยาลงกรณ์ สุนทรธรรมสาธก พุทธปาพจนดิลก มหาเถรกิจจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา (๒) พระจุลคณานุศาสน์ วิจารโณภาสภาคยคุณ สุนทรศาสนกิจบรรหาร มหาเถรา ธิการธุรการี สมุหบดีศรีธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ) วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (๑) พระทักษิณคณาธิกร สุนทรธรรมนายก พุทธปาพจนดิลก มหาเถรกิจจการี คณาธิบดีศรีรัตนคมกาจารย์ พระราชาคณะปลัดขวา (๒) พระอุดรคณาภิรักษ์ อัครศาสนกิจบรรหาร มหาเถราธิการธุรการี สมุหบดีศรี ธรรมภาณกาจารย์ พระราชาคณะปลัดซ้าย พระราชาคณะปลัดขวา พระราชาคณะปลัดซ้าย และพระราชาคณะปลัดกลาง จัดเป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ มีอิสริยยศสูงกว่าพระราชาคณะสามัญทุกตำแหน่ง พระมหากษัตริย์โปรดพระราชทานตั้งพระราชาคณะ ๓ ตำแหน่งนี้ มีฐานานุศักดิ์ ตั้งฐานานุกรมได้ตำแหน่งละ ๓ รูป เช่นเดียวกับพระราชาคณะสามัญทั่วไป ฐานานุกรม ชั้นพระครูปลัดมีราชทินนาม หมายถึง พระครูปลัดฐานานุกรมของ พระราชาคณะชั้นธรรมขึ้นไปถึงสมเด็จพระราชาคณะ เป็นพระครูปลัดที่มีราชทินนาม เฉพาะของชั้นสุพรรณบัฏและชั้นหิรัญบัฏโปรดพระราชทานสัญญาบัตรและพัดยศ เพื่อนำ ไปตั้งพระครูปลัดตำแหน่งนั้นๆ เมื่อตั้งแล้ว แจ้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อ จัดขึ้นทะเบียนและจัดนิตยภัตถวายดังเช่นพระครูสัญญาบัตรทั่วไป พระครูปลัด ชั้นสุพรรณบัฏ ราชทินนามจะขึ้นต้นด้วยคำว่า “พระครูปลัดสัมพิพัฒน” และลงท้ายด้วยคำว่า “จารย์” เช่น พระครูปลัดสัมพิพัฒนธุตาจารย์ ในสมเด็จพระพุฒาจารย์ พระครูปลัดสัมพิพัฒนสุตาจารย์ ในสมเด็จพระวันรัต พระครูปลัดสัมพิพัฒนศีลาจารย์ ในสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
214 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ พระครูปลัด ชั้นหิรัญบัฏ ราชทินนามจะขึ้นต้นด้วยคำว่า “พระครูปลัดสุวัฒน” และลงท้ายด้วยคำว่า “คุณ” เช่น พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ ในพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ พระครูปลัดสุวัฒนสารคุณ ในพระวิสุทธาธิบดี พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ ในพระธรรมปัญญาบดี พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ ในพระพรหมมุนี พระครูปลัดสุวัฒนสุตคุณ ในพระธรรมวโรดม พระครูปลัด ชั้นธรรม ราชทินนามจะขึ้นต้นด้วยคำว่า “พระครูปลัด” และลงท้าย ด้วยคำว่า “วัฒน์” เช่น พระครูปลัดพรหมจริยวัฒน์ ในพระธรรมเจดีย์ (พัดพื้นแพรต่วนสีขาว) พระครูปลัดสุตวัฒน์ ในพระธรรมไตรโลกาจารย์ (พัดพื้นแพรต่วนสีแดง) พระครูปลัดธีรวัฒน์ ในพระธรรมธีรราชมหามุนี (พัดพื้นแพรต่วนสีดำ) พระครูปลัดมหาเถรานุวัตร* ในพระธรรมราชานุวัตร (พัดพื้นแพรต่วนสีเขียว) พระครูปลัดปิฎกวัฒน์ ในพระธรรมปิฎก (พัดพื้นแพรต่วนสีชมพู) พระครูปลัดศีลวัฒน์ ในพระธรรมโกศาจารย์ (พัดพื้นแพรต่วนสีม่วงอ่อน) พระครูปลัดธรรมจริยวัฒน์ ในพระธรรมดิลก (พัดพื้นแพรต่วนสีนํ้าเงินอ่อน) ฐานานุกรม ชั้นพระครูอื่น หมายถึง ฐานานุกรมของพระราชาคณะชั้นราชขึ้นไปถึง ฐานานุกรมของสมเด็จพระสังฆราช นอกจากที่ระบุไว้แล้ว เป็นฐานานุกรมที่มีคำว่า “พระครู” นำหน้า เช่น พระครูปลัด พระครูวินัยธร ทุกตำแหน่งมีตราตั้งและพัดยศเป็นเครื่องแสดงฐานะ ในปัจจุบันมิได้พระราชทาน ผู้ตั้งต้องจัดทำเองตามแบบที่เคยพระราชทาน เว้นฐานานุกรม ของสมเด็จพระสังฆราช อนึ่ง เฉพาะฐานานุกรมของสมเด็จพระสังฆราช ๔ ตำแหน่ง ถัดจากพระราชาคณะ ปลัดซ้ายลงไปและสูงกว่าพระครูวินัยธร โปรดพระราชทานนิตยภัต เช่น พระครูปลัดที่มี ราชทินนาม พระครูธรรมกถาสุนทร พระครูวินัยกรโสภณ พระครูพรหมวิหาร พระครู ฌานวิสุทธิ์ ฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริมหาเถร) วัดพระเชตุพน * พ.ศ. ๒๕๖๓ เปลี่ยนเป็น “พระครูปลัดธรรมานุวัตร”
สมัยรัตนโกสินทร์ 215 สัญญาบัตร พระครูปลัดของพระราชาคณะเจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ตำแหน่ง “พระครูปลัดสุวัฒนศีลคุณ” ฐานานุกรมในพระธรรมปัญญาบดี
216 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ ตราตั้งฐานานุกรมในพระธรรมปริยัติมุนี วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ ตำแหน่งที่ พระครูปลัดวิมลปริยัติวัฒน์
สมัยรัตนโกสินทร์ 217 ตราตั้งฐานานุกรม พระครูพิพัฒน์บรรณกิจ พระคู่รองคู่สวดในสมเด็จพระสังฆราช (ปุ่น ปุณฺณสิริ) วัดพระเชตุพน
218 ตำแหน่งการปกครองคณะสงฆ์ไทยกับระบบสมณศักดิ์ ตราตั้งฐานานุกรม พระครูสุนทรโฆสิต พระครูคู่สวดในพระอัฐิสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระปรมานุชิตชิโนรส
สมัยรัตนโกสินทร์ 219 ตราตั้งฐานานุกรม พระราชาคณะชั้นราช