53 ประการแรกคือ หลัก “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” ถูกผู้คนเข้าใจ ผิดว่าเป็นการสนับสนุนเรื่องการแบ่งแยกศาสนา เพราะคิดว่านี่คือ การบอกเป็นนัยถึงการรวมประเทศภายใต้ศาสนาเดียว ประการที่ 2 คือ “ประเทศเกิดสันติ” ถูกมองในแง่ ของผู้มีอำานาจ แทนที่จะมาจากจุดยืนของประชาชน “ประเทศเกิด สันติ” อันที่จริงเอ่ยถึงสันติภาพและความผาสุกของประชาชน ความสุขของประชาชน และสันติภาพของประเทศที่ซึ่งประชาชน อาศัยอยู่ นี่คือจุดมุ่งหมายพื้นฐานที่ในที่สุดก็ถูกลืม โมรินากะ : การที่ถูกเรียกว่าลัทธินิชิเร็น เป็นกรณีในประเด็นของการ ตีความเกี่ยวกับความเป็นชาตินิยมของพระนิชิเร็นที่เกิดขึ้นในญี่ปุน ยุคใหม่ ไซโต : จากมุมมองหนึ่ง เราสามารถสันนิษฐานได้ว่า ความสัมพันธ ที่บิดเบี้ยวไประหว่างรัฐกับศาสนาก่อให้เกิดการตีความที่ผิดเกี่ยวกับ หลักการของ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิด สันติ” ในบางกรณี ผู้นำาทางศาสนาได้สร้างความสัมพันธใกล้ชิด สนิทสนมกับผู้มีอำานาจทางการเมืองเพื่อที่จะแผ่ขยายนิกายของตน ในอีกด้านหนึ่ง บรรดานักการเมืองก็เข้าควบคุมอาศัยใช้ศาสนาใน การทำาให้อำานาจการเมืองของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้น ดูเหมือนว่าที่ใด ที่ความสัมพันธระหว่างศาสนากับการเมืองถูกบิดเบือนไปในทางที่ ผิด ณ ที่นั้น หลักการสำาคัญนี้ก็ไม่สามารถตีความได้อย่างถูกต้อง
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 โลกแหงธรรมนิพนธ อาจารยอิเคดะ : ถูกต้องครับ หากปราศจากการพยายามค้นหา ข้อมูลให้ละเอียดยิ่งขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธระหว่างรัฐกับศาสนา ในอุดมคติที่ทั้งสองฝายต้องมีความซื่อสัตยและจริยธรรมแล้ว ประชาชนก็จะใช้แค่โครงสร้างของความสัมพันธดังกล่าวในแบบ เดิม ๆ ที่มีอยู่แล้ว ซึ่งสิ่งนี้เป็นสาเหตุให้มีมุมมองที่ผิด ๆ ต่อความหมาย ของ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” และ “ประเทศเกิดสันติ” ทว่า ในความเป็นจริง หลักการของ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อ ใหประเทศเกิดสันติ” เปดเผยให้เห็นถึงความสัมพันธที่ถูกต้อง เหมาะสมระหว่างรัฐกับศาสนา โมรินากะ : ในช่วงปลายของสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1600 - 1868) เป็นช่วง ที่สถาบันศาสนาในประเทศญี่ปุนถูกรวมเข้าไปในระบบการควบคุม ของรัฐโดยสมบูรณ ผู้คงแก่เรียนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของนิกายนิชิเร็น ตามรายงานว่าได้ปฏิเสธ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” ของพระ นิชิเร็นไดโชนินโดยสิ้นเชิง ว่าเป็นทฤษฎีที่ปราศจากพื้นฐานความเป็น จริง นี่ช่างน่าสังเวชเสียจริงสำาหรับคนที่เรียกตนเองว่าเป็นลูกศิษย ของพระนิชิเร็นไดโชนิน ไซโต : เริ่มต้น ขอให้เรามาพิจารณาความหมายของแนวคิดนี้โดยมุ่ง ความสนใจไปที่ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” วลีนี้แท้จริงแล้ว บอกเป็นนัยถึงอะไร ในบทนิพนธของท่าน พระนิชิเร็นไดโชนินพูดเสีย ยืดยาวถึงความเชื่อในศาสนาที่ผิดว่าคือรากที่เป็นสาเหตุทำาให้เกิด
55 ภัยพิบัติที่ทำาลายล้างประเทศ แต่ท่านกล่าวเพียงนิดเดียวถึงความ หมายของ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” อาจารยอิเคดะ : ตอนที่ 9 ใน 10 ตอน7 ของบทนิพนธ พระนิชิเร็น ไดโชน ินช ี ้ว ่า ก ุญแจท ี ่ท ำาให ้หล ักการของ “การกอตั้งคําสอนที่ ถูกต้ องเพื่อให้ ประเทศเกิดสันติ” เกิดขึ้นเป็นจริงก็อยู่ ที่การ เปลี่ยนแปลง “หลักการที่ยึดถืออยูในจิตใจของทาน” อีกนัยหนึ่ง คือ การเปลี่ยนแปลงตัวเองถึงขั้นรากฐานคือพื้นฐานของ “การกอตั้ง คําสอนที่ถูกตอง” โมรินากะ : ข้อความบทนิพนธกล่าวไว้ว่า ช่างน่าสงสารเสียนี่กระไรที่ประชาชนทั้งหมดได้ออก จากประตูแห่งคำาสอนที่ถูกต้อง และถลำาลึกเข้าไปในคุกแห่งคำาสอน ที่บิดเบือนเหล่านี้. ช่างโง่เขลาเสียนี่กระไรที่คนแล้วคนเล่าจะพากัน ตกลงไปในกับดักของคำาสอนชั่วเหล่านี้ และมัวพันติดอยู่ในตาข่าย ของคำาสอนที่หมิ่นประมาทธรรมเป็นเวลาอันยาวนานเช่นนี้. พากัน หลงเข้าไปในหมอกทึบ และจมดิ่งสู่เปลวไฟอันร้อนแรงของขุมนรก. จะไม่ให้รู้สึกเศร้าใจได้อย่างไร. จะไม่ให้ทุกขใจได้อย่างไร. 7 บทนิพนธเขียนในรูปแบบของการสนทนาระหวาง “เจ้าบ้าน” (พระนิชิเร็นไดโชนิน) และ “อาคันตุกะ” (โฮโจ โทขิโยริ อดีตผู้สําเร็จราชการ) คําบรรยายของทานใน “การกอตั้งคําสอนที่ถูกต้อง” พระนิชิคันโชนิน แบงบทนิพนธออกเปน 10 ตอนตามคําถามของอาคันตุกะ 10 ข้อ และคําตอบของเจ้าบ้าน 9 ข้อ
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 โลกแหงธรรมนิพนธ เพราะฉะนั้น ท่านจะต้องรีบเปลี่ยนแปลงความศรัทธา ในจิตใจและยึดถือ 1 ความดีงามแห่งเอกยานที่แท้จริง [ของสัทธรรม ป ุณฑร ิกสูตร] หากท ำาเช ่นน ี ้แล ้ว 3 ภพ8 ก ็จะกลายเป ็นด ินแดน พระพุทธะ และดินแดนพระพุทธะจะเสื่อมลงได้อย่างไร. ดินแดน ต่าง ๆ ใน 10 ทิศจะกลายเป็นดินแดนแห่งรัตนะอันล้ำาค่า และ ดินแดนแห่งรัตนะอันล้ำาค่าจะแตกสลายได้อย่างไร. หากอาศัยอยู่ใน ประเทศที่ไม่มีวันเสื่อมลงในดินแดนซึ่งไม่มีวันแตกสลายแล้ว ร่างกาย ก็จะปลอดภัยและพบกับสันติสุข จิตใจจะสงบปราศจากเรื่อง เดือดเนื้อร้อนใจ. จงเชื่อถ้อยคำาของอาตมา. จงใส่ใจคำาแนะนำาของ อาตมา. (ธรรมนิพนธฉบับภาษาไทย เลม 1 หน้า 95) อาจารยอิเคดะ : ข้อความนี้ พระนิชิเร็นไดโชนินกำาลังสอนว่าในระดับ รากฐานคือที่ซึ่งหลักการของ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” ก่อเกิด ขึ้นมา นั่นคือ เกิดขึ้นในระดับของจิตใจ อีกนัยหนึ่งคือ หากปราศจาก การเปลี่ยนแปลงภายในชีวิตของแต่ละบุคคลแล้ว คำาสอนที่ถูกต้อง ก็ไม่สามารถก่อตั้งขึ้นได้ 8 3 ภพ : โลกของสรรพสัตวที่ยังไมรู้แจ้งและยังเวียนวายอยูในคติ 6 ซึ่งประกอบด้วย 1. กามภพ ซึ่งถูกครอบงําด้วยความปรารถนาอยากได้ตาง ๆ 2. รูปภพ ผู้ซึ่งอาศัยในภพนี้เปนอิสระจากความอยาก ความกระหาย และความหิวโหย แตยังมีรูปที่อยูภายใต้ข้อจํากัดทางวัตถุที่แนนอน และ 3. อรูปภพ ที่ซึ่งสรรพสัตวเปนอิสระทั้งจากความอยาก และข้อจํากัดทางวัตถุ
57 พระน ิช ิเร ็นไดโชน ินกล ่าวว ่า เม ื่อเราม ีช ัยชนะเหน ือ อวิชชาขั้นพื้นฐานของการหมิ่นประมาทธรรมและเปลี่ยนแปลง ความเชื่อที่เรายึดถืออยู่ในจิตใจของเรา จากนั้น 3 ภพซึ่งเป็นโลกแห่ง ความเป็นจริงที่เราอาศัยอยู่จะกลายเป็นดินแดนพระพุทธะอัน บริสุทธิ์ ดินแดนแห่งทรัพยสมบัติที่ไม่พังทลาย ท่านยังกล่าวอีกว่า คำาสอนที่พวกเราควรเชื่อคือ “คําสอนหนึ่งความดีงาม” “คําสอน” หมายถึงคำาสอนที่แท้จริงและเอ่ยอ้างถึงชื่อของสัทธรรมปุณฑริกสูตร “หนึ่งความดีงาม” หมายถึง ความดีขั้นรากฐาน สัทธรรมปุณฑริกสูตรสอนว่า ประชาชนทุกคน สามารถแสดงธรรมชาติพุทธะออกมาได้ และนั่นคือหน้าที่ของเหล่า ผู ้คนท ี ่ย ึดถ ือพระสูตรน ี ้ท ี ่จะลงม ือกระท ำาเพ ื ่อช ่วยให ้ผู ้อ ื ่นสามารถ บรรลุพุทธภาวะได้เช่นเดียวกัน นี่คือปญญาและวิถีชีวิตของ พระพุทธะ ปรัชญานี้และการปฏิบัติของพระพุทธะคือความหมายที่ ถูกต้องตรงกับความดีขั้นรากฐาน เช่นเดียวกัน คำาสอนของพระนิชิเร็น ไดโชนินแห่งธรรมะเร้นลับอันยิ่งใหญ่ 3 ประการก็มิใช่สิ่งใดอื่น นอกจากการปฏิบัติความดีขั้นรากฐานเพื่อสมัยธรรมปลาย อย่างไรก็ตาม เจตนารมณและวิถีชีวิตของบรรดาผู้คน ที่ยึดถือปรัชญานี้และทุ่มเทชีวิตของพวกเขาในการนำาปรัชญานี้มาสู่ การปฏิบัติจะมีความเท่าเทียมกับพระพุทธะ และสถานที่ที่พวกเขา อาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นที่ใด ก็คือดินแดนของพระพุทธะ จากเรื่องนี้
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 โลกแหงธรรมนิพนธ เราจะเห็นได้ว่า กฎของพุทธธรรมคือการลงหลักปกรากฐานไว้ในชีวิต ของประชาชนทั้งหลาย แก่นของ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” อยู่ที่ความ เชื่อในความดีขั้นรากฐานซึ่งก็คือสัทธรรมปุณฑริกสูตรและการก่อตั้ง ส ันต ิภาพไว ้ในจ ิตใจของพวกเขาแต ่ละคน เพ ียงเม ื ่อส ังคมหน ึ ่งซ ึ ่ง ทำางานสอดคล้องกับความดีขั้นรากฐานมีความมั่นคงปลอดภัย เท่านั้นจึงจะทำาให้สังคมแห่งสันติภาพที่แท้จริงเป็นจริงได้ อย่างไร ก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าทุก ๆ คนในสังคมดังกล่าวจะต้อง กลมเกลียวกันด้วยการศรัทธาในสัทธรรมปุณฑริกสูตร เรื่องนี้ก็คือ เจตนารมณของปรัชญาอันยิ่งใหญ่แห่งสันติภาพที่ได้อธิบายอยู่ใน สัทธรรมปุณฑริกสูตร ซึ่งเป็นพระสูตรที่สอนว่า ประชาชนทุกคนคือ พุทธะ ที่กำาลังมีบทบาทในการพัฒนาสังคมโดยรวมอย่างเต็มที่ ใน ระดับสังคมใหญ่ ๆ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” หมายถึงการ ก่อตั้งแนวคิดของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยและความสูงส่งของชีวิต ให้เป็นหลักสำาคัญที่สนับสนุนและขับเคลื่อนสังคม { โปรดติดตามตอนตอไป }
59
ไดโมขุแห่งเสียงค�ำรามของราชสีห์ การปฏิบัติที่มุ่งสู่ความสุขและมีชัยชนะขั้นรากฐาน การอธิษฐานนั้นจะอธิษฐานในใจ ดังนั้นถึงแม้ว่า เราจะอ่านคำ อธิษฐานตามตัวอักษรก็ตาม แต่ตามความจริงก็คือเป็น สิ่งที่เราคิดอยู่ในใจซึ่งก็คือความนึกคิดที่เกิดขึ้นกับตัวเราที่กลายเป็น คำ อธิษฐานของเรานั่นเอง... “การอธิษฐาน” อย่างถูกต้องนั้นเป็นการต่อสู้ที่ เด็ดขาด คำ อธิษฐานจะสะท้อนให้เห็นถึงสภาพชีวิตของผู้อธิษฐาน ค ำ อธ ิษฐานน ั ้นจะต ้องเป ็นรูปธรรมและต ้องจร ิงจ ัง อีกทั้งจะต้อง อธิษฐานด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ ไม ่ว ่าจะเป ็นการสวดไดโมข ุหร ือการอธ ิษฐาน สิ่งที่ สำ คัญที่สุดก็คือ การอธิษฐานด้วยจิตใจที่แน่วแน่มั่นคง คำ อธิษฐาน ไม่ควรจะเป็นไปในลักษณะนามธรรม พระพุทธะและเทพธรรมบาล จะตอบสนองต่อคำ อธ ิษฐานท ี ่เข ้มแข ็งจร ิงจ ังท ี ่เก ิดข ึ ้นจากส ่วนล ึก ที่แท้จริงของชีวิตเรา (จากหนังสือ บรรยายสัทธรรมปุณฑริกสูตร บทกุศโลบายและบทการหยั่งอายุกาลของพระตถาคต หน้า 649 - 650) ‘ ’
á´‹à¾×è͹ æ ¢Í§¢ŒÒ¾à¨ŒÒ จาก ไดซาขุ อิเคดะ ¨§ ª¹Ð´ŒÇ¤ÇÒÁàÃçÇ ¨§Áͧä»Êً͹Ҥµ ¨§¡ŒÒÇä»Í‹ҧÃÇ´àÃçÇ áÅÐŧÁ×Í¡ÃзíÒâ´ÂäÁ‹ÅѧàŠઋ¹¹Ñé¹áÅŒÇ àÃÒ¨ÐÊÒÁÒö·íÒ§Ò¹ã¹Ë¹Ö觻‚ ´ŒÇ¤س¤‹Ò¢Í§Ë¹Öè§ÃŒÍ»‚ (จากเอสจีไอกราฟก ฉบับเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2005
สมำคมสรำงคุณค่ำในประเทศไทย email: [email protected] www.sgt.or.th บรรณาธิการ นวรัตน ชิโนมี กองบรรณาธิการ เรืองระวี ไชยพูนพัฒน พัชรี โพธิพัฒนธนากร ณัฐพร งามสิริกุล ภาษาญี่ปุน เพียงตา หลิมไชยกุล อนงคนาถ มโนจุรีหกุล อาคิโกะ โฮโซดะ โยโกะ โอดะ สมพร เจนจารุพันธุกุล ภาษาอังกฤษ หทัยรัตน แซ่จึง ศศมน โพธิพัฒนธนากร ทิพยสุดา บุนฑารักษ ออกแบบสรางสรรค กุลลดา อัศวฉัตรโรจน พิสูจนอักษร วรรณี สถาพรพิชญ ผูจัดการ ณรินทร ลัทธยาพร สงวนลิขสิทธิ์ โดยสมาคมสรางคุณค่าในประเทศไทย ISSN 2586-8675
สารบัญ บทบรรณำธิกำรของอำจำรย์อิเคดะ การเปลี่ยนความทุกขยากใหเปนความสุขและความปติยินดี 5 ธรรมนิพนธ์ คุณประโยชน 3 ประการของอาหาร 11 ควำมคิดค�ำนึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” บทที่ 48) เหตุการณสหภาพแรงงานเหมือง... 21 บทสนทนำเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เล่ม 3) บทที่ 4) พ่อกับแม่ สามีกับภรรยา (ต่อ) 29 โลกแห่งธรรมนิพนธ์ บทสนทนาเกี่ยวกับศาสนาแห่งมนุษยนิยม บทที่ 4) การก่อตั้งคําสอนที่ถูกตอง 41 เพ� อใหประเทศเกิดสันติ (ตอนที่ 1/ต่อ) 12345
บทบรรณำธิกำรของ อำจำรย์อิเคดะ (ในวารสารไดเบียะขุเร็งเงะ)
5 การเปลี่ยนความทุกขยาก ใหเปนควำมสุขและควำมปติยินดี พระนิชิเร็นไดโชนินกล่าวว่า “ผูที่เช� อสัทธรรม ปุณฑริกสูตรนั้นดุจเดียวกับอยูในฤดูหนาว แตฤดูหนาวจะตอง เปลี่ยนเปนฤดูใบไมผลิอยางแนนอน” (ธรรมนิพนธ์ฉบับภาษา อังกฤษ เล่ม 1 หน้า 536) อาจารย์จึเนะซาบุโร มาคิงุจิ ประธานผู้ก่อตั้งสมาคม โซคาผู้ถูกจองจําระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เผชิญการบีฑา ที่หนักหน่วงที่สุดดั่งฤดูหนาวอันหนาวเหน็บ ทว่าตลอดระยะเวลา ดังกล่าวท่านได้แสดงให้เห็นถึงสภาพชีวิตอันสูงส่งของการเอาชนะ สภาพการณ์ที่ยากลําบากเพื่อลิ้มรสความปีติยินดี ท่านประกาศถึง สัจธรรมที่ว่า “ฤดูหนาวเปลี่ยนเปนฤดูใบไมผลิอยางแนนอน” โดย ลั่นระฆังแห่ง “การเปลี่ยนความทุกขยากใหเปนความสุขและความ ปติยินดี” เพื่อลูกศิษย์และผู้สืบทอดทั้งหลาย ในหนังสือธรรมนิพนธ์เล่มส่วนตัวของท่าน อาจารย์ มาคิงุจิผู้ถวายชีวิตเพื่อความศรัทธาของตน (เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ค.ศ. 1944) ขีดเส้นข้อความที่ว่า “[เหลา] ผูที่ปรารถนาจะปกปอง ‘ ’
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 บทบรรณาธิการของอาจารยอิเคดะ คําสอนที่ถูกตองพึงปฏิบัติตามอยางหญิงยากไรที่ขามแมน้ํา คงคา ผูสละชีวิตของตนดวยความรักที่มีตอลูกนอยของเธอ” (อ้างอิงธรรมนิพนธ์ฉบับภาษาอังกฤษ เล่ม 1 หน้า 282) ข้อความจากนิรวาณสูตรที่พระนิชิเร็นไดโชนินยกมา กล่าวใน “ธรรมนิพนธเร� องเปดดวงตา” นี้ ในตอนหนึ่งได้เล่าเรื่อง หญิงยากไร้ที่พยายามข้ามแม่น้ําคงคาพร้อมกับทารกน้อยแรกเกิด ของเธอ หลังจากที่เดินทางรอนแรมมาเนิ่นนาน ทั้งยังต้องทนความ ป่วยไข้ ความหิวโหย และความหนาว แต่ทั้งคู่กลับจมน้ําตายอย่าง น่าอนาถ โดยในพระสูตรกล่าวว่า กุศลแห่งความตั้งใจอันแน่วแน่ที่ เมตตากรุณาของเธอที่อุ้มลูกน้อยไว้ด้วยความรักห่วงใยท่ามกลาง กระแสน้ําเชี่ยว ทําให้เธอบรรลุสภาพชีวิตที่เปี่ยมด้วยบุญวาสนาและ บุญกุศลอันไร้ขอบเขต นิทานเรื่องนี้เป็นอุปมาอุปไมยถึงจิตใจที่ปกปอง คําสอนที่ถูกต้องอย่างมั่นคงแน่วแน่ พระนิชิเร็นไดโชนินยังประกาศด้วยว่า “อาตมาและ ลูกศิษยของอาตมาแมจะมีการบีฑาตาง ๆ นานาก็ตาม หากไมมี จิตใจสงสัยแลวยอมเขาถึงโลกพุทธะไดโดยธรรมชาติ” (ธรรม นิพนธ์ฉบับภาษาอังกฤษ เล่ม 1 หน้า 283) อาจารย์มาคิงุจิยึดมั่นในความเชื่อมั่นอันยิ่งใหญ่ของ พระน ิช ิเร ็นไดโชนินน ี ้จวบจนวาระส ุดท้าย อาจารย์โจเซอ ิ โทดะ
7 ประธานสมาคมโซคา ท่านที่ 2 ก็สืบทอดเจตนารมณ์นี้ และต่อมา ภายหลังฝ่ายผู้ใหญ่หญิงของเราได้สืบสานจิตใจนี้เช่นกัน พวกเธอ เป็นสตรีผู้สูงส่งที่ปฏิบัติตามคําสอนของพระพุทธะและอุทิศชีวิตเพื่อ การเผยแผ่ธรรมไพศาล พวกเธอเข้าหาผู้คนรอบกายด้วยความ ศรัทธาที่หนักแน่นในธรรมมหัศจรรย์ และยืนยันอย่างมั่นใจว่าทุกคน ล้วนมีสภาพชีวิตโลกพุทธะที่ไม่อาจทําลายได้อย่างเสมอภาค เท่าเทียมกัน พวกเธอบุกบั่นไปข้างหน้าบนเส้นทางแห่งอาจารย์กับ ศิษย์โดยไร้ความสงสัย รับมือกับการรุกไล่ของอุปสรรค 3 มาร 4 และศัตรูที่เข้มแข็ง 3 ชนิดโดยไม่หวั่นเกรง ซึ่งปรากฏขึ้นตามที่ พระนิชิเร็นไดโชนินได้ตักเตือนไว้ พวกเธออธิษฐานและต่อสู้อย่าง เด็ดเดี่ยวเพื่อปกปองครอบครัวที่รัก เพื่อนสมาชิก มิตรสหายผู้ล้ําค่า และสมาคมโซคา โปรดระลึกไว้เสมอว่า เพราะความศรัทธาที่แท้จริง ของฝ ่ายผู ้ใหญ ่หญ ิงน ี ่เอง พวกเราจ ึงฉลองวาระครบ 90 ป ีของ สมาคมอย่างภาคภูมิใจและมีชัยชนะได้ เมื่อมองดูโลกปจจุบัน น้ําตาของแม่และเด็กรวมถึง ครอบครัวผู้อพยพยังคงไหลรินไม่หยุด ด้วยเหตุนี้ วัฒนธรรม สันติภาพที่สร้างขึ้นโดยสตรีของโซคาที่ยึดมั่นในปรัชญาพุทธธรรม ของพระนิชิเร็นไดโชนินที่เห็นคุณค่าของชีวิต และลงมือปฏิบัติด้วย ความเคารพต่อมนุษย์ทั้งมวลจึงยิ่งมีความสําคัญ
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 บทบรรณาธิการของอาจารยอิเคดะ การรวมตัวกันของโซคาคือเครือข่ายของ “ดอกไม มนุษย” (สัทธรรมปุณฑริกสูตร ฉบับภาษาไทย บทที่ 5 หน้า 180) ที่เข้มแข็งเฉลียวฉลาดและอบอุ่น ซึ่งฉายความงดงามและเอกลักษณ์ เฉพาะตน ขอให ้ท ํางานร ่วมก ันต ่อไปด ้วยความต ั้งใจอ ันแน ่วแน ่ท ี ่ เมตตากรุณาเพื่อนํารอยยิ้มแห่งความสุขและความปีติยินดีอันผ่องใส สู่ใบหน้าของสตรีและเด็กทั่วทุกแห่งหนโดยไม่ทอดทิ้งใครแม้แต่ คนเดียว พร้อมกับมอบสารที่เปี่ยมความหวังว่า ฤดูหนาวที่โหดร้าย ที่สุดจะเปลี่ยนเป็นฤดูใบไม้ผลิที่มีความสุขที่สุดได้อย่างแน่นอน
9 ¢ÍãËŒ ¾Ç¡àÃÒÍØ·ÔÈ ÁÒÅÑÂáË‹§ªÑª¹Ð¢Í§µÑÇàͧ á´‹ÁÒôҼٌ¡ÒÃسÂáË‹§¡ÒÃà¼ÂἋ¸ÃÃÁä¾ÈÒÅ ¼ÙŒÍ¸ÔÉ°Ò¹áÅÐÊ‹§àÊÃÔÁ¡íÒÅѧ㨾ǡàÃÒÍ‹ҧ¨Ãԧ㨠NjҨ§Í‹Ҿ‹ÒÂᾌ໚¹Íѹ¢Ò´ (จากบทบรรณาธิการ วารสารไดเบียะขุเร็งเงะ ฉบับเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2020)
ธรรมนิพนธ์
11 ธรรมนิพนธเร� อง คุณประโยชน์ 3 ประกำรของอำหำร ความเปนมา ธรรมน ิพนธ ์ฉบ ับน ี ้หลงเหล ืออยู ่เพ ียงบางส ่วน จ ึงไม ่ทราบแน ่ช ัดว ่าพระน ิช ิเร ็นไดโชน ินเข ียนเพ ื ่อมอบแก ่ผู ้ใด แต ่ ส ันน ิษฐานว ่าเป ็นจดหมายขอบค ุณลูกศ ิษย ์ท ี ่ท ําบ ุญถวายอาหาร แด่ท่าน พระนิชิเร็นไดโชนินสอนถึงคุณประโยชน์ของ “อาหาร” 3 ประการ ไว้ในธรรมนิพนธ์ฉบับนี้ว่า หาก ¨Ø´¤º ä¿ ãËŒ á Ê § Ê Ç‹Ò § á ¡‹¼ÙŒ Í×è¹ àº×éͧ˹ŒÒ¢Í§µ¹àͧ¡ç¨ÐÊÇ‹Ò§äÊÇä»´ŒÇ (¸ÃÃÁ ¹Ô¾¹¸Ë¹ŒÒ 1598)1 ‘ ’ 1 ธรรมนิพนธ์ฉบับภาษาอังกฤษ เล่ม 2 หน้า 1060
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 ธรรมนิพนธ 1. เพื่อยังชีพ 2. เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ร่างกาย 3. เพื่อบํารุงกําลังกายและใจ ท่านได้ย้ําซ้ํา ๆ ถึงความสําคัญของ “อาหาร” ดังที่ เขียนอยู่ในธรรมนิพนธ์ฉบับอื่น ๆ เช่น “อาหารหลอเลี้ยงชีวิต” (ธรรมนิพนธ์ฉบับภาษาอังกฤษ เล่ม 2 หน้า 655) พระน ิช ิเร ็นไดโชน ินสอนถ ึงบ ุญก ุศลของการท ําบ ุญ ถวาย “อาหาร” ที่มีความสําคัญดังที่กล่าวมา โดยใช้การ เปรียบเทียบในข้อความที่ศึกษาครั้งนี้ คํากล่าวที่ว่า “หากจุดคบไฟใหแสงสวางแกผูอ� น เบื้องหนาของตนก็จะสวางไสวไปดวย” เป็นการยกตัวอย่าง เปรียบเทียบให้เห็นลักษณะพิเศษของพุทธธรรมของพระนิชิเร็น ไดโชนินอย่างชัดเจน ซึ่งสมาชิกหลายคนคุ้นเคยดี กล่าวคือ การกระทําที่เห็นอกเห็นใจและมีความ เอื้อเฟอต่อผู้อื่น ไม่เพียงเป็นการทําเพื่อผู้อื่นเท่านั้น แต่ยังสะท้อน กลับมาเป็นความสุขและผลบุญของตนเองด้วย พุทธธรรมเป็น “ปรัชญาแหงการอยูรวมกัน” ที่ เข้าใจว่าชีวิตแต่ละชีวิตมีความสัมพันธ์กันและค้ําจุนซึ่งกันและกัน
13 พระนิชิเร็นไดโชนินรู้แจ้งว่า การเปดและแสดง ธรรมชาติพุทธะที่มีพร้อมอย่างเท่าเทียมกันในชีวิตมนุษย์คือ ต้นกําเนิดของการสร้างความสุขเพื่อตนเองและผู้อื่น จึงเผยแผ่ไดโมขุ ซึ่งเป็นการปฏิบัติเพื่อตนเองและการเทศนาสั่งสอนแก่ผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นไดโมขุที่สวดเพื่อผู้อื่น หรือการสนทนาที่ ส่งเสริมให้ผู้อื่นสวดไดโมขุด้วยกัน ไม่เพียงเป็นการเรียกธรรมชาติ พุทธะของอีกฝ่ายให้ตื่นขึ้นมา แต่ยังมีบุญกุศลที่จะเปดธรรมชาติ พุทธะของตนเองออกมาด้วย อาจารย์อิเคดะชี้นําว่า “เพราะเคารพชีวิตพุทธะของคนหนึ่งคนที่อยู่ตรงหน้า จึงสามารถปลุกเร้าความกล้าหาญจากส่วนลึกของจิตใจ และเรียก พลังในการมีชีวิตซึ่งมีอยู่ภายในมาแต่ดั้งเดิมให้ตื่นขึ้นมาได้ พร้อมกันนี้ การสงเสริมกําลังใจก็คือการไดรับกําลังใจ การกระทํา ที่เคารพเพื่อนมนุษย์จะขัดเกลาชีวิตตนเอง และทําให้ชีวิตอุดม สมบูรณ์อย่างไร้ขีดจํากัด” ผู้ที่เชื่อในธรรมชาติพุทธะของตนเองและผู้อื่นอย่าง ถ ึงท ี ่ส ุด และส ่งเสร ิมก ําล ังใจคนหน ึ ่งคนท ี ่อยู ่ตรงหน ้าอย ่างเต ็มท ี ่ ก็คืออาจารย์อิเคดะ ขอให้ท้าทายการสนทนาที่จริงใจและกล้าหาญ โดยรวมใจเป ็นหน ึ ่งเด ียวก ับอาจารย ์ผู ้สร้างเคร ือข ่ายแห ่งความส ุข และสันติภาพในโลกด้วยการสนทนา
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 ธรรมนิพนธ จงเขมแข็ง เมื่อครั้งที่ดิฉัน (คุณโยโกะ ซากะโมโตะ) เป็นนักเรียน ได ้ส ่งเสร ิมก ําล ังใจอย ่างต ่อเน ื ่องแก ่เพ ื ่อนท ี ่ท ุกข ์ใจด ้วยเร ื ่องความ ไม่ลงรอยกันในครอบครัว ใช้เวลา 1 ปีเพื่อนจึงสามารถข้ามพ้นการ คัดค้านอย่างมากจากครอบครัวและเข้าศรัทธา ดิฉันรู้สึกตื้นตันใจ เมื่อเพื่อนที่รู้สึกถึงสายสัมพันธ์ในอดีตอันลึกซึ้งกับดิฉันพูดว่า “พวกเราเช� อมตอถึงกันจากสวนลึกในชีวิตเลยนะ” และเกิดความ เชื่อมั่นในความศรัทธาว่าการสนทนาที่อธิษฐานถึงความสุขของเพื่อน อย่างถึงที่สุด จะผลิดอกออกผลอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม หลังจากแต่งงาน ดิฉันก็พบกับ บททดสอบอย่างต่อเนื่อง มรสุมชะตากรรมถาโถมเข้ามาติด ๆ กัน นับตั้งแต่ การต่อสู้กับความเจ็บป่วยของคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นการดูแล พยาบาลพ่อแม่ ตนเองแท้งลูกและเป็นโรคไทรอยด์ สามีเป็นโรคหัวใจ เป็นต้น ในเวลาที่รู้สึกเหมือนใจจะสลาย สิ่งที่หวนคิด ขึ้นมาได้ก็คือ คํากลอนของอาจารย์อิเคดะที่สลักอยู่ในจิตใจเมื่อครั้ง เป็นยุวชนหญิงว่า
15 จงเขมแข็ง อธิษฐานใหมีชีวิตอยูอยางสะอาดบริสุทธิ์ สรางประวัติศาสตรของตน โดยไมหวนเสียใจภายหลัง ดิฉันตัดสินใจว่า “เวลานี้คือเวลาที่จะส ร้าง ประวัติศาสตร์ของตนเองที่ไม่หวนเสียใจภายหลัง จะไม่หนีเด็ดขาด จะข้ามพ้นไปให้ดู” แล้วก็อธิษฐานอย่างเข้มแข็งและทํากิจกรรมของ สมาคมอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะยากลําบากเพียงใด ขณะที่ส่งเสริมกําลังใจ เพื่อนสมาชิกอย่างต่อเนื่อง พลังชีวิตของเราจะพวยพุ่งขึ้นมาอย่าง น่าประหลาดใจ และสามารถแก้ไขความทุกข์ยากไปได้ทีละเรื่อง ๆ ปจจุบันทุกคนในครอบครัวแข็งแรง เข้ากันได้ดี และกําลังต่อสู้เพื่อ การเผยแผ่ธรรมในท้องถิ่นคะจึชิกะ นี่เป็นเรื่องที่ปีติยินดีที่สุด คณะกรรมการส ันต ิภาพฝ ่ายสตร ีโตเก ียวจ ัด “งาน ฉายภาพยนตร์ของรากหญ้า” ในแต่ละท้องถิ่นตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว เพ ื ่อบอกเล ่าประสบการณ ์ของเหย ื ่อระเบ ิดปรมาณู ด ิฉ ันช ักชวน เพื่อน ๆ ในท้องถิ่นมาสนทนากัน จากการเพียรพยายามพูดคุยเรื่อง ‘ ’
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 ธรรมนิพนธ เหล ่าน ี ้อยู ่เสมอ ท ําให ้แม ้แต ่คนท ี ่เคยม ีอคต ิก ับสมาคมก ็เห ็นพ ้อง ต้องกันกับความเชื่อของโซคาที่ว่า “จะไมทิ้งใครไวขางหลัง” และ ถึงขนาดที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสันติภาพด้วย ขอให้ยึดคําชี้นําที่ว่า “หากสงความหวังใหทุกคน จะสามารถเปดอนาคตแหงความหวังที่สดใสรวมกันได” ไว้ใน จิตใจ ในขณะที่สังคมกําลังเผชิญกับความยากลําบากอยู่ ณ ขณะนี้ มาร่วมกันอธิษฐานอย่างเข้มแข็งเพื่อความสุขของเพื่อน ๆ และแผ่ ขยายเครือข่ายแห่งการส่งเสริมกําลังใจอย่างอบอุ่นกันเถิด (บรรยายโดย คุณโยโกะ ซากะโมโตะ หัวหน้าคณะกรรมการสันติภาพฝายสตรีโตเกียว)
17 คําชี้นํา ของอำจำรย์อิเคดะ “เพ� อผูอ� น” คือภำระหนำที่ของผูปฏิบัติพุทธธรรม สมาชิกของสมาคมโซคามีความตระหนักรู้อย่างแรงกล้า ในเปาหมายที่เรียกว่าการเผยแผ่ธรรมไพศาล ซึ่งก็คือ การสร้างความสุข ของผู้คน ความรุ่งเรืองของสังคม และสันติภาพ นอกจากนี้ ยังย้อมคําสอน ศักดิ์สิทธิ์ที่ว่า “หากจุดคบไฟใหแสงสวางแกผูอ� น เบื้องหนาของตนเอง ก็จะสวางไสวไปดวย” (ธรรมนิพนธ์หน้า 1598) ไว้ในจิตใจ กล่าวคือ แต่ละคนตระหนักรู้ด้วยตัวเองว่า การตั้งมั่นในปรัชญาแห่งการอยู่ร่วมกัน และเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน พร้อมกับทุ่มเททําเพื่อผู้อื่น คือแนวทางที่ควร จะเป็นของผู้ปฏิบัติพุทธธรรม ความคิดและการกระทําเช่นนั้นของสมาชิกสมาคม กระตุ้น การแลกเปลี่ยนกับผู้คนรอบตัว สร้างความเป็นน้ําหนึ่งใจเดียวของมนุษย์ กับมนุษย์ และกลายเป็นแรงผลักดันอันยิ่งใหญ่ในแต่ละท้องถิ่น…
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 ธรรมนิพนธ การแผ่ขยายเครือข่ายมนุษย์ที่ปรารถนาให้ คนรอบต ัวและผู ้คนในท ้องถ ิ ่นม ีความส ุขความเจร ิญ อ ีกท ั ้งกล ่าว ขอบคุณและส่งเสริมกําลังใจซึ่งกันและกัน ด้วยความรู้สึกว่าทุกคนคือ “ครอบครัว” นี่เอง จะเป็นแสงแห่งความหวังที่เปดอนาคต และนี่ก็คือ ภาระหน้าที่ทางสังคมของสมาคมโซคา (จาก บทประพันธ์ ปฏิวัติมนุษย์-ใหม่ เล่มที่ 28 บท “บทเพลงแห่งการเผยแผ่ธรรม”) อธิบำยเพิ่มเติม ความสุขของทั้งตนเองและผูอ� น หนึ่งในลักษณะพิเศษอันยิ่งใหญ่ของพุทธธรรมของ พระนิชิเร็นไดโชนิน ก็คือการมุ่งไปที่ “ความสุขของทั้งตนเองและผูอ� น” พระนิชิเร็นไดโชนินกล่าวว่า “ความปติยินดี หมายถึง ทั้ง ตนเองและผูอ� นปติยินดี” “ความปติยินดี หมายถึง ทั้งตนเองและ ผูอ� นมีปญญาและความเมตตา” (บันทึกคําสอนปากเปล่า ฉบับภาษา อังกฤษ หน้า 146) ‘ ’
19 “(การคิดถึง) แตตนเอง” เป็นความเห็นแก่ตัว ในขณะที่ “(การคิดถึง) แตคนอ� น” ก็กลายเป็นการแสร้งทําดี การที่ ทั้งตนเองและผู้อื่นมีความสุขไปด้วยกันนั้น เกี่ยวเนื่องกับ “ความปติยินดี” ที่แท้จริงของมนุษย์ คนที่พูดคุยเรื่องมนุษยนิยมของพุทธธรรมด้วยจิตใจ เช ่นน ี ้แก ่คนรอบข ้าง และแผ ่ขยายจ ิตใจแห ่งส ันต ิภาพ ก ็ค ือสมาช ิกของ สมาคม อาจารย์อิเคดะกล่าวว่า “อาจารย์โทดะกล่าวว่า ‘ความสุขสวนตัวกับความเจริญ รุงเรืองของสวนรวมตองทําใหสอดคลองกัน’ แม้จะเรียกว่าความสุข ส่วนตัว แต่ก็มิใช่ความสุขที่ยึดตัวเองเป็นหลัก หากแต่เป็น ‘การกอตั้ง ความเปนมนุษย’ ที่แท้จริง โดยมี ‘ปญญาและความเมตตาเพ� อตนเอง และผูอ� น’” การสร้างยุคสมัยที่ “ความสุขสวนตัว” กับ “ความเจริญ รุงเรืองของสวนรวม” มีความสอดคล้องกันนี่เอง คือภาระหน้าที่ของ ผู้ปฏิบัติพุทธธรรม
ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย์-ใหม่” โดย โฮ โงะคู บทความจากอาจารย์ไดซาขุ อิเคดะ
21 บทที่ 48) เหตุกำรณ์สหภำพแรงงำน เหมืองถ่ำนหินยูบำริและกำรก่อตั้งฝำยอุดมศึกษำ กล้าหาญต่อไป น้องชายหรือน้องสาวของข้า จงสานต่อ เสรีภาพคือการไม่ยอมจํานน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ไม่มีสิ่งใดที่หยุดยั้งได้ ไม่ว่าความล้มเหลว 1 หรือ 2 ครั้ง หรือนับครั้งไม่ถ้วน หรือความไม่แยแสใส่ใจหรืออกตัญูของผู้คน หรือความไม่ซื่อสัตย์ภักดีใด ๆ หรือแสดงการขู่ขวัญของอํานาจ ทหาร ปนใหญ่ กฎหมายอาญา1 “ทู อะ ฟอล์ด ยูโรเปียน เรฟโวลูชันแนร์” เป็นบทกวี ของวอลต ์ ว ิทแมนท ี ่ข ้าพเจ ้าช ื ่นชอบเป ็นอย ่างย ิ ่ง ซ ึ ่งบทความน ี ้ เริ่มต้นด้วยบทกวีดังกล่าวข้างต้น 1 วอลต์ วิทแมน, “ทู อะ ฟอล์ด ยูโรเปียน เรฟโวลูชันแนร์ (To a Foil’d European Revolutionaire)” ใบไม้หญ้า (ลอนดอน: บจ. เจ. เอ็ม. เดนต์แอนด์ซัน, ค.ศ. 1968) หน้า 309
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1957 เกิดเหตุการณ์ที่เหมือง ถ่านหินยูบาริ ในฮอกไกโด ในการจัดการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สภาสูง) ทั่วประเทศในเดือนกรกฎาคมปีก่อน สมาชิกสมาคมโซคา ที่เป็นคนงานในเหมืองถ่านหินยูบาริได้ออกเสียงเลือกผู้สมัครที่ได้รับ การสนับสนุนโดยสมาคมโซคาแทนที่จะเลือกผู้สมัครที่ได้รับการ สนับสนุนโดยสหภาพแรงงานเหมืองถ่านหิน อันเป็นเหตุให้สหภาพ กล่าวหาว่าสมาชิกสมาคมบ่อนทําลายความเป็นปกแผ่นของสหภาพ และหาทางขับไล่พวกเขา ผู้นําสหภาพได้ตัดสินใจที่จะต่อต้าน สมาคมโซคาอย่างเปดเผย นี่คือเหตุการณ์สหภาพแรงงานเหมืองถ่านหินยูบาริ ในเวลานั้น สหภาพได้ใช้อํานาจบาตรใหญ่กดขี่ข่มเหง ชีวิตของสมาชิกสหภาพ จนหลายคนรู้สึกเปล่าประโยชน์ที่จะ พยายามต่อต้านความต้องการของสหภาพ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ คนงานเหมืองหลายคนที่ เป ็นสมาช ิกสมาคมโซคาถูกเร ียกไปส ําน ักงานสหภาพและบอกให ้ พวกเขาเลือกว่าจะเลิกศรัทธาหรือถูกขับออกจากสหภาพ การถูกขับ ออกจากสหภาพก็หมายถึงพลอยถูกเลิกจ้างจากเหมืองถ่านหินด้วย พวกเขาถูกกระทําราวกับเป็นพวกนอกคอกเพียงเพราะพวกเขาเป็น สมาชิกของสมาคมโซคา ภรรยาและแม้กระทั่งลูก ๆ ของพวกเขาก็ ถูกปฏิเสธ ถูกลิดรอนสิทธิ์ โปสเตอร์ที่หมิ่นประมาททําลายชื่อเสียง
23 ก ็ถูกป ดตามเสาไฟฟ าและก ําแพงบ ้าน และม ีการโจมต ีว ิพากษ ์ วิจารณ์สมาคมโซคาและสมาชิกสมาคมทางวิทยุกระจายเสียง การกระทําที่ผิดแปลกกลับตาลปตรในบทบาทหน้าที่ ของสหภาพในฐานะผู้ปกปองสิทธิของคนงาน กลับกลายเป็นผู้ ละเมิดสิทธินั้นเสียเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิทธิเสรีภาพในการเชื่อ ศาสนาของพวกเขา สหภาพได้กระทําอย่างมีเงื่อนงําและมีท่าทีที่ไม่ ยอมรับความถูกต้อง พวกเราสมาชิกสมาคมโซคารู้สึกเจ็บแค้นจาก การกระทําของสหภาพ พวกเราจึงลุกขึ้นเพื่อปกปองสมาชิกของเรา และต้องมีชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ให้ได้ วันที่ 28 มิถุนายน ราชสีห์หนุ่มได้บินไปฮอกไกโด เพียงแค่ 9 เดือนก่อนการมรณกรรมของอาจารย์โทดะ ร่างกายของ อาจารย์ผู้มีพระคุณทรุดโทรมลงมาก ข้าพเจ้าได้ทําหน้าที่แทนท่าน โดยถ ือหางเส ือและร ับผ ิดชอบอย ่างเต ็มท ี ่เพ ื ่อสมาคมโซคา ด ังท ี ่ ทราบก ันด ีว ่า ข ้าพเจ ้าได ้ย ืนอยู ่ในแนวหน ้าของการต ่อสู ้เพ ื ่อส ิทธ ิ มนุษยชนของประชาชน หากอํานาจที่ได้ก่อตั้งขึ้นถูกนําไปใช้ในการกดขี่ ประชาชนอย่างไม่เป็นธรรม พวกเราจะลุกขึ้นภายใต้ธงแห่งความ ยุติธรรมเพื่อปกปองพวกเขา พวกเราจะต่อสู้ด้วยความกล้าหาญที่ ไม่รู้จบ
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” ที่ยูบาริ ข้าพเจ้าได้เยี่ยมบ้านสมาชิกของเรา ผู้อุทิศตนอย่างกล้าหาญเพื่อการปฏิบัติพุทธธรรมของพวกเขา และ ได้ส่งเสริมกําลังใจพวกเขาว่า “มารวมตอสูไปดวยกันนะ ! เราตอง ไมพายแพ” ท่ามกลางเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ วันที่ 30 มิถุนายน ได้ มีการจัดประชุมก่อตั้งฝ่ายอุดมศึกษาขึ้นที่ศาลาประชาคมอะซาบุ กรุงโตเกียว เช้าวันนั้น ข้าพเจ้าได้ส่งโทรเลขสําหรับอ่านในที่ประชุม ด้วยความคิดคํานึงถึงเหล่านักศึกษาที่ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วย ความปีติยินดีและปณิธานที่สดใหม่เพื่อการเผยแผ่ธรรมไพศาล สาร ของข้าพเจ้าเขียนว่า “ขอแสดงความยินดีในการประชุมก่อตั้งฝ่าย อุดมศึกษา ซึ่งเป็นการรวมตัวของหนุ่มสาวที่มีความสามารถผู้จะ แบกรับศตวรรษหน้า ! ภายใต้การนําของอาจารย์โทดะ โปรดเริ่มต้น การเดินทางของคุณด้วยจิตวิญญาณอันสูงส่ง” อาจารย์โทดะยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อการก่อตั้งฝ่าย อุดมศึกษา ซึ่งเป็นฝ่ายสุดท้ายที่ท่านก่อตั้งขึ้นขณะที่ท่านยังมีชีวิต อยู่ ท่านตั้งความหวังไว้สูงต่ออนาคตอันสดใสของสมาชิกฝ่าย อุดมศึกษา ด้วยการเร่งเร้าเรียกร้องให้ครึ่งหนึ่งของพวกเขาได้เป็น ผู้อํานวยการของบริษัทและอีกครึ่งหนึ่งให้จบปริญญาเอก ท่านหวัง อย่างจริงจังว่าพวกเขาจะเป็นผู้นํายุคใหม่ที่ชาญฉลาดและมีความ เมตตากรุณา เป็นผู้นําที่จะต่อสู้เพื่อปกปองประชาชน
25 การปฏ ิว ัต ิความเป ็นผู ้น ํา การปฏ ิว ัต ิชนช ั ้นน ําของ สังคม คือภาระหน้าที่นิรันดร์และไม่มีวันเปลี่ยนแปลงของฝ่าย อุดมศึกษา ช่างน่าเศร้าเสียใจมากเพียงใดกับพวก “สัตว์ที่มีความ สามารถพิเศษ” ดังที่พระนิชิเร็นไดโชนินเรียกพวกเขา ซึ่งเป็น ประชาชนที่หมกมุ่นอยู่กับเกียรติยศชื่อเสียงที่ได้รับเฉพาะตนแต่เพียง ผู้เดียว และดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่น และยังมียุวชนคนหนุ่มสาวอีก มากมายเพียงใดที่มัวเสาะแสวงหาความสุขเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น ต้องสูญเสียความเป็นตัวเองไปกับความสนุกอันว่างเปล่า และเสีย เวลาอันมีค่าที่ไม่มีวันหวนกลับมาเพื่อสร้างชีวิตที่มีความหมายและ ทรงคุณค่า ความฉลาดจะมีค่าอะไรหากคุณปฏิเสธที่จะต่อสู้กับ ความอยุติธรรม การเรียนรู้จะมีค่าอะไรหากคุณไม่ปกปองประชาชน ความเยาว์วัยจะมีค่าอะไรหากคุณไม่ใช้เพื่อก่อร่างสร้างตัวตนที่ เข้มแข็งในฐานะมนุษย์ โฮเซ มาร์ติ (ค.ศ. 1863 - 1895) นักต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ชาวคิวบา ประกาศว่า ความสามารถของเราก็เพื่อประชาชน ผู้ที่ดึง เอาศักยภาพเหล่านั้นออกมาและพัฒนาความสามารถ หากเราไม่ ใช้ความสามารถเพื่อดูแลประชาชน เขายืนยันว่า ศักยภาพเหล่านั้น ก็ไร้ความหมาย และการไม่ใช้ความสามารถของเราเพื่อเปาหมาย
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” ดังกล่าวก็คือความน่าละอาย มั่นใจได้ว่าสมาชิกฝ่ายอุดมศึกษาจะเดินตามรอย ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ประณามการกระทําของสหภาพแรงงานเหมือง ถ ่านห ินในการช ุมน ุมประท ้วงท ั ้ง 2 คร ั ้งของสมาคมโซคาท ี ่จ ัดข ึ ้น ที่ทางตอนเหนือของเกาะฮอกไกโด และประกาศอย่างเด็ดเดี่ยวว่า “สมาคมโซคาคือกระแสธาร และเสียงคํารามก็คือเสียงคําราม ของราชสีห” ในที่สุด สหภาพแรงงานเหมืองถ่านหินก็ถูกบังคับให้ ยุติความพยายามในการขับสมาชิกสมาคมโซคาออกจากสหภาพ ความสามัคคีที่แท้จริงและการเรียกร้องอย่างกล้าหาญของประชาชน ได้บดขยี้ความพยายามอันยโสโอหังของบรรดาผู้มีอํานาจที่กดขี่ พวกเขา พระนิชิเร็นไดโชนินเขียนไว้ว่า “ผูปกครองบานเมือง ขุนนางชั้นสูง และประชาชนที่ดูหมิ่นผูปฏิบัติสัทธรรมปุณฑริก สูตร ในตอนแรกดูเหมือนวาไมไดรับบาปอะไร แตในวาระสุดทาย ตองพบกับความลมสลาย” (ธรรมนิพนธ์ฉบับภาษาอังกฤษ เล่ม 1 หน้า 997) นี่คือความเชื่อมั่นของพวกเราและความจริงที่ ไม่แปรเปลี่ยนของพุทธธรรม ต่อมา สหภาพแรงงานเหมืองถ่านหินที่ทรงอํานาจ
27 ก็เสื่อมถอยลง และหายไปจากเวทีของสังคม ในท่ามกลางการต่อสู้อย่างเข้มข้นที่ฮอกไกโด ทาง กองบัญชาการตํารวจประจําจังหวัดโอซาก้าก็ได้เรียกตัวข้าพเจ้าไป สอบปากคํา สมาชิกสมาคมหลายคนถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมาย เลือกตั้งในระหว่างการรณรงค์การเลือกตั้งสภาสูงในเขตเลือกตั้ง ตําบลโอซาก้าในเดือนเมษายนปีเดียวกัน พวกเขาต้องการให้ข้าพเจ้า มอบตัวในฐานะผู้รับผิดชอบต่อกิจกรรมรณรงค์ของสมาคมโซคาใน การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ต้องกล่าวเลยว่าเบื้องหลังของทั้งหมดนี้ก็คือ ความกลัวการก่อตั้งทางการเมืองของสมาคมโซคา ที่เป็นการ เคลื่อนไหวใหม่ซึ่งได้รับความนิยมที่อุทิศเพื่อสิทธิของประชาชน และ ถือเป็นความพยายามอย่างยิ่งยวดครั้งแรก ในการทําลายองค์กร ของเรา ฝ่ายอุดมศึกษาที่เพิ่งก่อตั้งใหม่นี้ ได้โลดแล่นออกไป สู่กระแสน้ําเชี่ยวกรากอย่างกล้าหาญ และลั่นระฆังประกาศจุด เริ่มต้นของยุคใหม่ พระนิชิเร็นไดโชนินกล่าวว่า “ความปรารถนาของ อาตมาก็คือ ใหลูกศิษยทั้งหลายของอาตมานิชิเร็นเปน ลูกราชสีห อยาถูกหัวเราะเยาะจากฝูงสุนัขจิ้งจอก” (ธรรมนิพนธ์ ฉบับภาษาอังกฤษ เล่ม 2 หน้า1062) เราต้องต่อสู้เพื่อเปลี่ยนยุคสมัย เพ ื ่อน ําทางไปสู ่ย ุคท ี ่ผู ้ทรยศห ักหล ังไม ่สามารถล ิ ้มรสช ัยชนะอย ่าง
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” อวดด ีได ้ เราจะต ้องท ําให ้เป ็นย ุคสม ัยท ี ่ประชาชน ว ีรชนท ี ่แท ้จร ิง สามารถร ้องเพลงสด ุด ีอย ่างป ีต ิย ินด ีต ่อช ัยชนะอ ันยอดเย ี ่ยม ต ่อ ความสุข ต่อชีวิตที่บรรลุความสําเร็จ การที่จะทําเช่นนั้น เราต้องไม่ เกรงกลัวสิ่งใด ไม่ลังเลใด ๆ บากบั่นด้วยความอดทน และสู้ด้วย ความมุ่งมั่นตั้งใจ เช้าวันที่ 3 กรกฎาคม ข้าพเจ้าบินจากฮอกไกโดไป โอซาก้า เพื่อให้ตํารวจที่นั่นสอบปากคําด้วยความสมัครใจตาม ข้อกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมและถูกจับกุมทั้ง ๆ ที่ข้าพเจ้าเป็น ผู้บริสุทธิ์ นี่คือเหตุการณ์โอซาก้า (จากหนังสือพิมพ์เซเคียว ฉบับวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 1999)
29 บทสนทนาเรื่อง แม่กับลูกมุ่งสู่ศตวรรษที่ 21 (เลม 3)
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 บทสนทนาเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เลม 3) บทที่ 4) พ่อกับแม่ สำมีกับภรรยำ (ตอ) ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงสำมีภรรยำ มีอิทธิพลตอการเจริญเติบโตของลูก อาจารยอิเคดะ : ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาเป็นรากฐานของ มนุษยสัมพันธ์ในครอบครัว ถือว่าเป็นแกนกลาง เป็นเสาหลักนั่นเอง ความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยามีอิทธิพลต่อการ เจริญเติบโตของลูกอย่างมากมายด้วย ฮิราคาวา : ดิฉันรู้สึกประทับใจคําให้สัมภาษณ์ของภรรยาอาจารย์ ในรายการโทรทัศน์ที่พูดถึงเมื่อสักครู่นี้ค่ะ วันที่อาจารย์เข้ารับตําแหน่งประธานสมาคมโซคา ท่านที่ 3 ภรรยาอาจารย์กล่าวว่า “วันนี้เปนวันจัดงานศพ ของครอบครัวอิเคดะ” ภรรยาอาจารย์ได้กล่าวถึงความรู้สึก ณ ตอนนั้นว่า “ทั้งเร� องลูกและเร� องครอบครัว ทั้งหมดดิฉันจะเปน คนจัดการเอง ขอใหคุณอุทิศทุมเทแกหนาที่ประธานสมาคม ซึ่งเปนหนาที่ที่สําคัญนะคะ” เม ื ่อน ึกถ ึงความยากล ําบากท ี ่ท ่านท ั ้งสองได ้ฟ นฝ ่า
31 มาด้วยกันตั้งแต่นั้นมา ดิฉันรู้สึกประทับใจมาก อาจารยอิเคดะ : การเป็นประธานสมาคมโซคาต้องแบกรับความ รับผิดชอบหนักขนาดไหน ผมคิดว่า ภรรยาของผมซึ่งดูบุคลิกของ อาจารย์โทดะจะทราบดีครับ ผมเองก็ได้ตัดสินใจว่าจะสืบทอดต่อจากอาจารย์ โทดะ จะอุทิศชีวิตทั้งหมดแก่สมาคม ผมได้ตัดสินใจว่าจะสละชีวิต ด้วยความยินดีเพื่อความสุขของทุกคน และในความเป็นจริง ผมก็ได้ ทําเช่นนั้น ภรรยาของผมได้แบ่งปนความรู้สึกเช่นเดียวกันนี้ กับผม สําหรับพวกเราซึ่งดํารงชีวิตอย่างถึงที่สุดในฐานะลูกศิษย์ของ อาจารย์โทดะ และในฐานะมิตรสหายแห่งการเผยแผ่ธรรมไพศาลจะ ไม่หวนเสียใจในภายหลัง ฟุจิโนะ : ดิฉันรู้สึกขอบคุณจากใจจริงต่อการต่อสู้อย่างดุเดือดเข้มข้น ตลอดครึ่งศตวรรษของอาจารย์อิเคดะและภรรยาค่ะ ครอบครัวของดิฉัน ทั้งสามีและดิฉันจะออกนอกบ้าน บ่อยมาก เวลากลับบ้านก็ไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงทํา “สมุดโน้ตของสามี ภรรยา” ขึ้นมา ในสมุดโน้ตจะเขียนฝากข้อความหรือเขียนบอกเล่า
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 บทสนทนาเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เลม 3) ความเป็นอยู่ในขณะนี้ให้ทราบซึ่งกันและกัน ในบางครั้ง แม้คําบ่น หรือคําพูดที่แสดงความไม่พอใจก็ให้เขียนลงไปด้วยค่ะ (หัวเราะ) สามีเป็นลูกชายคนโต ก่อนหน้านี้ ตอนที่ดิฉันกลุ้มใจ เรื่องดูแลคุณแม่สามีที่นอนติดเตียง ได้เขียนลงสมุดโน้ตว่า “จะไม่ ยอมยกลูกสาวให้เป็นสะใภ้ของลูกชายคนโตเด็ดขาด” สามีก็เขียน ว่า “ขอให้ยกสภาพชีวิตให้สูงมากขึ้น” (หัวเราะ) อาจารยอิเคดะ : กรณีที่สามีภรรยาต่างยุ่งมากไม่มีเวลาว่าง จําเป็น ต้องใช้ “เทคนิค” หรือ “ปญญา” เพื่อช่วยในการสื่อสาร ซึ่งกันและกันเป็นสิ่งที่สําคัญมาก การเป็นผู้ปฏิบัติศรัทธาไม่ได้หมายความว่าจะกลาย เป็นมนุษย์พิเศษ แต่ต้องทํางานในฐานะคนในสังคมที่ยอดเยี่ยม และ ดํารงชีวิตอย่างถึงที่สุดด้วยความจริงใจในฐานะ “คุณพอที่ดี” “สามีที่ดี” ในฐานะ “คุณแมที่ดี” “ภรรยาที่ดี” การดําเนินชีวิตในความเป็นจริง หากไม่เอาใจใส่ ครอบครัวซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่ใกล้ตัว แม้จะผลักดันความคิดที่เป็นอุดมคติ วิเศษเลิศเลอเพียงใด ก็ไม่มีพลังที่จะโน้มน้าวอะไรเลย สําหรับสามีภรรยา ความพยายามที่จะเข้าใจอีกฝ่าย เป็นสิ่งสําคัญ ด้วยเหตุนี้ การแสดงความเห็นอกเห็นใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวันจึงมีความสําคัญนะครับ
33 ฮิราคาวา : เมื่อก่อน อาจารย์อิเคดะเคยสอนเรื่องความละเอียดอ่อน ของจิตใจของสามีภรรยาผ่านนวนิยายที่ชื่อว่า “มิชิคุสะ” ของคุณ โซเซกิ นะสึเมะ เป ็นนวน ิยายอ ัตช ีวประว ัต ิของค ุณโซเซก ิ นะส ึเมะ ซึ่งกล่าวได้ว่าตัวละครชื่อ “เคนโซ” ก็คือตัวคุณโซเซกิเอง และ “โอะสึเมะ” ก็คือภรรยาของเคนโซ ครั้งหนึ่ง เคนโซอยากเพิ่มรายได้ของครอบครัว จึงไป ทํางานพิเศษนอกเวลา (ปจจุบันเรียกว่า อะรุไบโตะ) เขาโยนซองใส่ ค่าแรงที่หามาได้ลงบนเสื่อทาทามิ โอะสึเมะก็รับไว้โดยไม่แสดงความ รู้สึกดีอกดีใจเป็นพิเศษ คุณโซเซกิเขียนบรรยายถึงจิตใจของแต่ละคนว่า “ผมค ิดว ่า ส ําหร ับโอะส ึเมะอาจค ิดว ่า ถ ้าสาม ีพูด ดี ๆ แล้วยื่นซองเงินให้ เธอคงจะแสดงความดีอกดีใจอย่างแน่นอน” “และคิดว่า อีกฝ่ายหนึ่งคือเคนโซอาจคิดว่า ถ้าภรรยา รับเงินไว้ด้วยความดีอกดีใจ เธอก็คงจะพูดดี ๆ กับเขา” ฟุจิโนะ : ดิฉันเข้าใจความรู้สึกของโอะสึเมะกับเคนโซดีค่ะ (หัวเราะ) ดิฉันเองเป็นคนพูดน้อย และบ่อยครั้งที่คําพูดสั้น ๆ มักจะพูดไม่ออก
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 บทสนทนาเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เลม 3) ฮิราคาวา : เป็นอย่างนั้นจริง ๆ นะ ดิฉันได้รับคําชี้นําเรื่องพูดไม่ออก จากอาจารย์อิเคดะค่ะ “อย่างเช่น เวลาที่กลับบ้านช้า ถ้าพูดเพราะ ๆ ว่า ‘ขอโทษนะคะที่กลับช้า’ สามีและลูกจะเข้ามากอดและดีใจนะครับ เวลาอยู่นอกบ้าน ท่าทางแข็งขันได้ แต่อยู่ที่บ้านให้อ่อนโยนนะครับ” (หัวเราะ) อาจารยอิเคดะ : ใช่ครับ (หัวเราะ) ทุกบ้านอาจจะเหมือนกันก็ได้นะ ค ือเม ื ่อเข ้ามาบร ิเวณห ้องโถงของบ ้าน จะส ่งเส ียง ทักทายคนในบ้านด้วยคําพูดเพราะ ๆ สั้น ๆ อยู่แล้ว แต่ว่าทันทีที่เข้ามาในบ้าน เมื่อเห็นหน้าลูก ก็พูดโพล่ง ออกมาแบบไม ่ท ันค ิด เช ่น “ท ําไมข ้าวของเกล ื ่อนกลาดอย ่างน ี ้” “ทําการบ้านหรือยัง” (หัวเราะ) แม่มักจะขี้บ่นก็ไม่เป็นไร แต่เมื่อลูกถึงวัยที่เป็น จุดเปลี่ยนสําหรับการเจริญเติบโต เราต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความ อ่อนโยน ความทรงจําดังกล่าวจะเป็นสิ่งที่ลูก ๆ ไม่มีวันลืมอย่าง แน่นอน ฮิราคาวา : เข้าใจแล้วค่ะ ตอนที่ลูกชายยังเล็ก ดิฉันจะพยายามไม่ทําให้ลูก ๆ
35 รู้สึกเหงา จะต้องเขียนโน้ตทิ้งไว้ก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง เช่น “วันนี้ แม่จะไปที่นั่นที่นี่นะจะ” ฟุจิโนะ : ที่บ้านดิฉันก็มักจะขอให้ลูกสาว 2 คนช่วยดูแลบ้านซึ่งมี คุณย่า “มิสซิสเบด” นอนติดเตียง คิดว่าลูกทั้ง 2 คนคงลําบากมาก ก็รู้สึกขอบคุณลูกอยู่นะคะ แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่ ลูก ๆ ต้องลําบาก... คือ วันหนึ่ง ลูกพูดกับดิฉันว่า “แม่พูดว่า ‘เอาล่ะ ฝาก ด้วยนะ’ เมื่อแม่ออกจากบ้านไปแล้วก็เป็นอีกโลกหนึ่งเลย แต่หนู ต้องดูแลคุณย่า ต้องระวังไม่ให้เกิดไฟไหม้ เวลามีแขกมาก็คิดว่าจะ ทําอย่างไรดี หนูรู้สึกต้องรับผิดชอบหลายอย่างนะแม่ เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้ แม่ไม่เข้าใจเลย” ดิฉันรู้สึกผิดมาก ขอตกลง 8 ประการ ของ ท่ำนโจวเอินไหลกับภรรยำ อาจารยอิเคดะ : ผมคิดว่าลูกสาวรับเรื่องทั้งหมดไว้ด้วยจิตใจ กว้างใหญ่ อดทนอดกลั้นมาโดยตลอด จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่บางครั้ง จะระบายออกมา
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 บทสนทนาเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เลม 3) จิตใจของมนุษย์อ่อนไหวเกินกว่าที่คิด การเคลื่อนไหว ของจ ิตใจอ ันละเอ ียดอ ่อนจะเปล ี ่ยนแปลงท ุกส ิ ่งท ุกอย ่างได ้อย ่าง มากมาย เราจะเข้าใจหรือเห็นอกเห็นใจต่อ “จิตใจ” เช่นนี้ใน ทิศทางที่ดีได้อย่างไร ทุกคนจะอยู่ในทิศทางที่ไปสู่ความสุขได้อย่างไร ท่ามกลางการดําเนินชีวิตที่เป็นจริง สิ่งที่แสดงออกถึงพลังของ ปญญาดังกล่าวก็คือพุทธธรรมแห่งมนุษยนิยม ไม่ว่าจะเป็นสามีภรรยา หรือพ่อแม่ลูก แม้เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ควรแสดงออกมาเป็นคําพูด เช่น “ขอบคุณ” “ขอโทษ” บางเรื่องดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่การสั่งสมเรื่อง เล็ก ๆ ที่ได้กระทําลงไปจะนําไปสู่เรื่องใหญ่ “เร� องเล็ก ๆ” จะกลาย เป็น “เร� องใหญ” นะครับ และไม่ใช่เอาแต่ยัดเยียดความคิดของตัวเองเพียง ฝ่ายเดียว หากเข้าใจจุดยืนและความคิดของอีกฝ่ายหนึ่งแล้ว ก็ต้อง ระมัดระวังเรื่องการใช้ถ้อยคําและการกระทําครับ ถ้าพูดถึง “คู่สามีภรรยาตัวอย่าง” แล้ว ผมนึกถึงคู่นี้ ครับ ท่านนายกรัฐมนตรี โจวเอินไหลกับมาดามเติ้งอิงเชา แห่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเป็นเพื่อนบ้านของเรา
37 ฟุจิโนะ : ถ้าจําไม่ผิด ปีนี้ (ค.ศ. 1999) ครบ 20 ปีของการปลูก “ตนซากุระที่ระลึกแดทานโจวเอินไหลและภรรยา” ที่ปลูกที่ มหาวิทยาลัยโซคา อาจารยอิเคดะ : ใช่ครับ ทั้ง 2 ท่านได้รับการกล่าวขานว่าเป็น “คูสามีภรรยา ตัวอยาง” ซึ่งไม่เพียงในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเท่านั้น ต่างประเทศก็ให้ความเคารพนับถือเช่นกัน ขณะเดียวกัน ทั้ง 2 ท่านได้อุทิศชั่วชีวิตอันสูงส่ง เพื่อประชาชนชาวจีน ในฐานะมิตรสหายแห่งการปฏิวัติ เน ื ่องจากท ั ้ง 2 ท ่านเป ็นบ ุคคลท ี ่น ่าเคารพยกย ่อง เช่นนี้ จึงได้รับการร้องขอจากคนหนุ่มสาวจํานวนมาก ให้แนะนํา เกี่ยวกับการใช้ชีวิตหลังแต่งงาน ต่อมาท่านได้สร้าง “กฎรวมกัน 8 ประการผานประสบการณของตนเอง” กล่าวคือเป็น “ขอตกลงรวมกัน 8 ประการ” และได้สอนคนหนุ่มสาวทั้งหลาย ในงานเขียนของคุณไซองจิ คะสึเทรุได้กล่าวไว้ ฮิราคาวา : ท่านได้กล่าวว่าอย่างไรคะ อาจารยอิเคดะ : ประการที่ 1 “รักกัน” หมายถึงการรัก ซึ่งกันและกัน นี่คือพื้นฐาน
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 บทสนทนาเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เลม 3) ประการที่ 2 “เคารพกัน” หมายถึงการเคารพซึ่งกัน และกัน แม้ตอนแต่งงานใหม่ ๆ จะรักษาประการที่ 2 นี้ได้ แต่เมื่อ เวลาผ่านไปจะรักษาไม่ค่อยได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาอยู่ต่อหน้า ผู้อื่น ต้องระวังไม่เผลอลืมตัว ประการที่ 3 “ใหกําลังใจกัน” หมายถึงการให้ กําลังใจซึ่งกันและกัน ประการที่ 4 “ปลอบใจกัน” หมายถึงการปลอบใจ ซึ่งกันและกัน เวลาที่พบความทุกข์ ความไม่สบายใจ ต้องเข้าใจ ความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่งแล้วพูดคุยอย่างอบอุ่น ในเวลาแบบนี้ต้อง ไม่ตําหนิหรือทําลายความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่ง ประการที่ 5 “ประนีประนอมกัน” หมายถึงการ ประนีประนอมซึ่งกันและกัน แม้จะมีความคิดที่แตกต่างหรือมี ความรู้สึกที่ขัดแย้ง ถ้ารู้สึกอยากประนีประนอมกัน จะแก้ปญหา ได้เร็ว ถ้ายืดเยื้อ จะเกิดความรู้สึกลําบากใจค้างคาอยู่ ประการที่ 6 “อภัยใหกัน” หมายถึงการเข้าใจซึ่งกัน และกัน แม้ฝ่ายใดทําความผิดก็ตาม อย่าไปตําหนิเขา ให้เข้าใจและ ให้อภัยซึ่งกันและกัน ประการที่ 7 “ชวยเหลือกัน” หมายถึงการช่วยเหลือ ซึ่งกันและกัน
39 ประการที่ 8 “เรียนรูกัน” หมายถึงการเรียนรู้ซึ่งกัน และกันอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน มาดามเติ้งอิงเชากล่าวว่า ใน 8 ประการนี้ “ประนีประนอมกัน” กับ “อภัยใหกัน” นั้นยากที่สุด { โปรดติดตามตอนตอไป }
โลกแห่งธรรมนิพนธ์ บทสนทนาเกี่ยวกับ ศาสนาแหงมนุษยนิยม
41 บทที่ 4) กำรก่อตั้งค�ำสอนที่ถูกตอง เพ� อใหประเทศเกิดสันติ (ตอนที่ 1) หลักสําคัญเพ� อการบรรลุถึง ควำมสุขของประชำชนและสังคมที่สันติสุข (ตอ) ไซโต : ในธรรมนิพนธ์ พระนิชิเร็นไดโชนินมักกล่าวว่า พุทธธรรม ทําหน้าที่เป็นหลักพื้นฐานที่คอยค้ําจุนสนับสนุนสังคม ตัวอย่างเช่น ท่านกล่าวว่า “เปนเพราะพุทธธรรมวิปริต สังคมจึงสกปรกและ สับสนวุนวาย พุทธธรรมเปนเหมือนตัวตน สังคมเปนเหมือน เงา หากตัวตนเอียง เงาก็จะเอียงตาม” (ธรรมนิพนธ์ฉบับภาษา อังกฤษ เล่ม 1 หน้า 1039) อาจารยอิเคดะ : พุทธธรรมคือ “ตัวตน” ที่เป็นพื้นฐานของทุกสิ่ง ทุกอย่าง เมื่อพุทธธรรมอยู่ในความสับสนหรือคําสอนสูญสิ้นไป สังคมก็จะตกอยู่ในสภาวะยุ่งเหยิง หากไม่มีปรัชญาที่ทําหน้าที่ช่วย ค้ําจุนสังคมในระดับรากฐานแล้ว โลกก็จะสูญเสียฐานรากไป ผลลัพธ์ก็คือ สังคมจะค่อย ๆ เสื่อมลงสู่โลกเดรัจฉานที่ถูกควบคุม ด้วยกฎแห่งป่า สู่โลกอสูรที่ถูกผูกมัดด้วยความขัดแย้งไม่มีสิ้นสุด และสู่โลกเปรตที่หมุนวนอยู่กับความไม่พึงพอใจ ในที่สุด จะตกลงสู่
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 36 12-2563 โลกแหงธรรมนิพนธ โลกนรกดินแดนแห่งความทุกข์ทรมานที่ไม่สิ้นสุด ด้วยเหตุนี้ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” จึงมีความ สําคัญสูงสุด ทันทีที่คําสอนถูกก่อตั้ง “ประเทศเกิดสันติ” จะปรากฏ เป็นจริงขึ้นมาแน่นอน โมรินากะ : อย่างไรก็ตาม นิกายต่าง ๆ ทางพุทธศาสนาในสมัยของ พระน ิช ิเร ็นไดโชน ินต ่างพยายามประจบสอพลอเอาใจผู ้ม ีอ ํานาจ ทําตัววุ่นอยู่กับการปฏิบัติโดยเฉพาะการสวดมนต์อธิษฐานเพื่อความ ปลอดภัยของผู้มีอํานาจ ทว่าลืมความสุขของประชาชนไปสิ้น พวกเขากังวลอยู่แต่เพียงการปกปองฐานะของตนเอง มองหา สัมปทานรางวัลและอภิสิทธิ์ต่าง ๆ อย่างตะกละตะกลาม และ พวกเขายังยืนกรานอย่างผิด ๆ ถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่าง ร ัฐก ับศาสนาว ่าเป ็นต ัวอย ่างของราชศาสตร ์ก ับพ ุทธธรรมสอดร ับ เข้ากันและกัน อาจารยอิเคดะ : ประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้น ความสัมพันธ์ระหว่าง ราชศาสตร์กับพุทธธรรมค่อนข้างซับซ้อนมาก เดิมที “ราชศาสตร” หมายถึงกลไกและสถาบันต่าง ๆ ของรัฐและสังคม ส่วน “พุทธธรรม” คือคําสอนที่พระพุทธะเทศนาด้วยความเพียรที่จะ นําพาประชาชนทุกคนไปสู่ความสุข และเป็นระบบที่จะนําคําสอน ดังกล่าวสู่การปฏิบัติด้วยเช่นกัน ไซโต : ผมคิดว่าสมัยพระศากยมุนีพุทธะแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างใน