สารบัญ บทบรรณำธิกำรของอำจำรย์อิเคดะ ตําบลของโซคาเปนประทีปนําทางแห่งความสุข 5 ธรรมนิพนธ์ จดหมายตอบท่านโอตะ 9 ควำมคิดค�ำนึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” บทที่ 47) จากฮาวายสู่ซานฟรานซิสโก 19 บทสนทนำเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เล่ม 3) บทที่ 4) พ่อกับแม่ สามีกับภรรยา 31 โลกแห่งธรรมนิพนธ์ บทสนทนาเกี่ยวกับศาสนาแห่งมนุษยนิยม บทที่ 4) การก่อตั้งคําสอนที่ถูกตอง 43 เพ� อใหประเทศเกิดสันติ (ตอนที่ 1/ต่อ) 12345
บทบรรณำธิกำรของ อำจำรย์อิเคดะ (ในวารสารไดเบียะขุเร็งเงะ)
5 ตําบลของโซคา เปนประทีปน�ำทำงแห่งควำมสุข ตําบลของสมาคมโซคา เป็นประทีปแห่งความสุข ในชุมชนของเรา เมื่อชะตากรรมอันปวดร้าวยิ่งทำาให้สมาชิกต้อง ทนทุกขและคลื่นแห่งความยากลำาบากยิ่งถาโถมใส่สังคม ตำาบลของ โซคายิ่งส่องสว่างด้วยแสงแห่งความหวังและความกล้าหาญอัน ไร้ขอบเขต ซึ่งช่วยนำาทางให้ทุกคนพบเส้นทางชีวิตที่นำาไปสู่ความสุข และความมั่นคงปลอดภัย ข้าพเจ้าพนมมือด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้งและสวด ไดโมขุอย่างจริงจังแด่ผู้นำาทุกท่านที่อุทิศตนทำางานอย่างไม่รู้เหนื่อย อยู่แนวหน้าของระบบการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหัวหน้าตำาบลชายและ หญิงที่กำาลังปกปองแสงประทีปอันล้ำาค่าด้วยความตั้งใจแน่วแน่ ให้ส่องสว่างได้ทุกวัน ในสถานการณการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสใน เวลานี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาต้องเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ หลายเรื่อง ข้าพเจ้านึกถึงตอนที่อาจารยโจเซอิ โทดะ ประธานสมาคม โซคา ท่านที่ 2 อาจารยผู้มีพระคุณของข้าพเจ้าแสดงความขอบคุณ และยกย่องหัวหน้าตำาบลรุ่นบุกเบิกที่พากเพียรด้วยความอดทนและ ‘ ’
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 บทบรรณาธิการของอาจารยอิเคดะ มานะบากบั่น โดยกล่าวว่า พวกเขาแสดงแบบอย่างหัวใจของการ ปฏิบัติพุทธธรรมอย่างแท้จริง ซึ่งมีกล่าวในสัทธรรมปุณฑริกสูตรว่า สวม “เกราะแหงความพากเพียร” (สัทธรรมปุณฑริกสูตร ฉบับ ภาษาไทย บทที่ 13 หน้า 320) พระนิชิเร็นไดโชนินได้อธิบายประเด็นสำาคัญไว้ 3 ข้อ ที่รับประกันว่าการสืบทอดสายเลือดที่สำาคัญยิ่งเพียงหนึ่งเดียวแห่ง การเกิดตายจะยังคงไหลเวียนอยู่ในหมู่ผู้ปฏิบัติศรัทธาอย่างต่อเนื่อง ข้อแรกคือ ความเชื่อมั่นศรัทธาที่ไม่สั่นคลอนว่า พระพุทธะ ธรรมมหัศจรรย และพวกเรามนุษยปุถุชน “ไมมีความ แตกตางกันหรือแยกจากกันแตอยางใดเลย” (ธรรมนิพนธฉบับ ภาษาอังกฤษ เลม 1 หน้า 216) ข้อ 2 คือ ความศรัทธาที่แน่วแน่ซึ่งไม่เคย “ละทิ้ง พระสูตรนี้ในชาติใดเลยตลอดไปตราบนิจนิรันดร” (อ้างอิงธรรม นิพนธฉบับภาษาอังกฤษ เลม 1 หน้า 217) และข้อ 3 คือ การก้าวหน้าด้วยความศรัทธาที่ ประสานกันมุ่งสู่การบรรลุมหาปณิธานเพื่อการเผยแผ่ธรรมไพศาล ในฐานะเพื่อนผู้ปฏิบัติศรัทธาที่มีเปาหมายเดียวกัน “ไมมีจิตใจ แบงแยกตัวเองกับผูอ� น หรือเขากับเรา และคิดวาเปรียบเสมือน ปลาอยูคูน้ํา” (ธรรมนิพนธฉบับภาษาอังกฤษ เลม 1 หน้า 217) ตำาบลของสมาคมโซคายึดประเด็นสำาคัญด้าน
7 ความศรัทธาทั้ง 3 ข้อนี้เป็นรากฐาน ดังนั้น การสืบทอดสายเลือดที่ สำาคัญยิ่งเพียงหนึ่งเดียวแห่งการเกิดตายจึงมีอยู่อย่างเจิดจรัสและ เต็มเปยมทั่วระบบการ ตำาบลของเราเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุดอย่าง แท้จริงที่ซึมซาบด้วยคุณธรรมแห่งความเป็นนิรันดร ความสุข ตัวตน และความบริสุทธิ์ ที่ซึ่งสมาชิกส่งเสริมกำาลังใจและค้ำาจุนซึ่งกันและ กัน พร้อมกับต่อสู้ร่วมกันในการเดินทางข้ามทะเลแห่งความทุกขของ การเกิด แก่ เจ็บ ตายสู่การบรรลุพุทธภาวะในชาตินี้ ป จจ ุบ ันน ี ้ ขณะท ี ่การแบ ่งแยกและการโดดเด ี ่ยว เกิดขึ้นทั่วทุกหัวระแหงบนโลก สมาชิกในตำาบลของเรา แม้มีความ ยากลำาบากต่าง ๆ นานาก็ยังคงติดต่อกัน ทำาให้ความสามัคคี แน่นแฟนยิ่งขึ้น และเพียรสร้างคุณค่าอย่างชาญฉลาดมุ่งสู่ อุดมการณแห่ง “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิด สันติ” อยู่ในชุมชนของพวกเขา ในการฝาฟนช่วงเวลาที่ยากลำาบาก นี้ ตำาบลของพวกเราซึ่งเป็นประทีปแห่งการฟนฟูและความกลมเกลียว ของมนุษยจึงย่อมส่องแสงโชติช่วงยิ่งขึ้นจนกระทั่งส่องแสงแก่ สังคมโลก ขอให้เริ่มจากตำาบลของเราซึ่งเป็นสถานที่ที่พระนิชิเร็น ไดโชนินฝากฝงไว้กับเรา และสถานที่ที่พวกเรากำาลังมุมานะทำาให้ ปณิธานของเราเพื่อการเผยแผ่ธรรมไพศาลสำาเร็จเป็นจริง มาส่องแสง อันยิ่งใหญ่แก่มิตรสหายและเพื่อนบ้านตลอดจนผู้คนรอบตัวเรา ทั้งหมดเพื่อนำาทางพวกเขาไปสู่ท่าเรือแห่งชัยชนะและเกียรติยศ
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 บทบรรณาธิการของอาจารยอิเคดะ ¡Òà ʋ§àÊÃÔÁ¡íÒÅѧ㨠áʧÍÑÞÁ³ÕÅíéÒ¤‹Ò ·ÕèʋͧáʧᡋÁØÁàÅç¡ æ ¢Í§âÅ¡ ¨ÐÃѺ»ÃÐ¡Ñ¹Ç‹Ò ¨Ôµã¨¢Í§â¾¸ÔÊѵǨҡ¾×é¹âÅ¡ ¨ÐÂ׹§µ‹Í仵ÃÒº¹Ô¨¹ÔÃѹ´Ã (จากบทบรรณาธิการ วารสารไดเบียะขุเร็งเงะ ฉบับเดือนตุลาคม ค.ศ. 2020)
9 ธรรมนิพนธ์
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 ธรรมนิพนธ ธรรมนิพนธเร� อง จดหมำยตอบท่ำนโอตะ ความเปนมา ธรรมนิพนธฉบับนี้เป็นจดหมายที่พระนิชิเร็น ไดโชนินเขียนเมื่อเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1275 (ปเคนจิที่ 1) ที่เขา มิโนบุ เพื่อส่งถึงท่านโอตะโจเมียวที่รายงานเรื่องความเจ็บปวยให้ ท่านทราบ ธรรมนิพนธฉบับนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า “เร� องการรักษาโรค กรรม” ท่านโอตะโจเมียวเป็นลูกศิษยที่อาศัยอยู่ที่เมืองชิโมสะ (ปจจุบันคือทางเหนือของจังหวัดชิบะ) กล่าวกันว่า เข้าศรัทธาตั้งแต่ ช่วงแรก ๆ ของการเผยแผ่คำาสอนของพระนิชิเร็นไดโชนิน ท่านเป็น ผู้ที่เคลื่อนไหวอย่างกระตือรือร้นร่วมกับท่านโทขิโจนินและท่าน ‘ ’ ใน´ŒÒ¹Ë¹Öè§ ¡ÒÃÃٌNjҷ‹Ò¹¡íÒÅѧà¨çº»Ç´ ·ÃÁÒ¹ ·íÒãËŒÍÒµÁÒàÈÃŒÒàÊÕÂ㨠ᵋã¹ÍÕ¡´ŒÒ¹Ë¹Öè§ ÍÒµÁÒ¡ç´Õ㨠(¸ÃÃÁ¹Ô¾¹¸Ë¹ŒÒ 1009)1 1 ธรรมนิพนธฉบับภาษาอังกฤษ เลม 1 หน้า 531
11 โซหยะในฐานะที่เป็นศูนยกลางของบริเวณชิโมสะด้วย ในธรรมนิพนธฉบับนี้ เมื่อพระนิชิเร็นไดโชนินได้ ทราบว่าท่านโอตะโจเมียวล้มปวย จึงอธิบายอย่างกระจ่างถึงสาเหตุ 6 ประการที่ทำาให้เจ็บปวย โดยอ้างอิงข้อความที่เทศนาอยู่ใน พระสูตร และชี้ว่าโรคกรรมซึ่งเป็นสาเหตุประการที่ 6 รักษาให้หาย ได้ยากที่สุด นอกจากนี้ พระนิชิเร็นไดโชนินยังส่งเสริมกำาลังใจว่า สัทธรรมปุณฑริกสูตรคือยาดีที่รักษาผู้ปวยทั่วโลกได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ฉะนั้นท่านโอตะโจเมียวจะหายจากความเจ็บปวยและ มีอายุยืนยาวอย่างไม่ต้องสงสัย ตีแตกพยำธิมำรดวยกำรอธิษฐำน แหงการตอสูรวมกันของอาจารยกับศิษย ข ้อความท ี ่ศ ึกษาในคร ั ้งน ี ้เป ็นข ้อความตอนต ้นของ ธรรมนิพนธ พระนิชิเร็นไดโชนินกล่าวด้วยความรู้สึกร่วมทุกขกับท่าน โอตะว่า “ในดานหนึ่ง ...อาตมาเศราเสียใจ” แต่ “ในอีกดานหนึ่ง อาตมาก็ดีใจ” ข้อความนี้บรรจุจิตใจที่เมตตากรุณาของอาจารยที่จะ ขจัดความสับสนในจิตใจของลูกศิษยให้มั่นคงเด็ดเดี่ยว อีกทั้งอยาก
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 ธรรมนิพนธ จะปลุกเร้าความกล้าหาญและความหวังที่จะเผชิญหน้ากับ ความเจ็บปวยให้พวยพุ่งขึ้นมา พระนิชิเร็นไดโชนินได้เปดเผยว่า ความเจ็บปวยครั้งนี้ เป็นบาปจากการหมิ่นประมาทธรรมที่ท่านโอตะควรได้รับในชาติหน้า แต่ได้รับโดยเบาในชาตินี้ เมื่อได้รับคำาชี้นำาที่รักและเมตตาของอาจารยว่า หาก ใช้การเจ็บปวยนี้เป็นโอกาสปลุกเร้าความศรัทธาให้เข้มแข็งแล้ว ไม่ เพียงรักษาหาย แต่ยังสามารถเปลี่ยนชะตากรรมได้อย่างแน่นอน ฉะนั้นจึงรู้สึกยินดีกับท่าน ท่านโอตะคงจะมีความกล้าหาญเพิ่มขึ้น เป็นร้อยเท่า อาจารยอิเคดะชี้นำาว่า “การสวดท่องธรรมมหัศจรรยจนถึงที่สุด ตั้งรับและ ตอบโต้ความทุกขเรื่องการเจ็บปวยของตนเองและผู้อื่น จะสามารถ เพิ่มพลังชีวิตและเปลี่ยนชะตากรรมได้อย่างแน่นอน อีกทั้งมีสภาพ ชีวิตที่สามารถส่งเสริมกำาลังใจเพื่อนที่ทุกขใจอีกด้วย” หากสวดท่องไดโมขุแห่งปณิธานว่า “จะตอสูรวมกับ อาจารย” “จะบรรลุภาระหนาที่แหงการเผยแผธรรม” พลังชีวิต อันไม่มีขีดจำากัดจะพวยพุ่ง ไม่ว่าพยาธิมารใด เราก็สามารถตีแตกได้ ในขณะเดียวกันก็เปลี่ยนความเศร้าเสียใจที่ว่า “ทําไมตองปวยเปน
13 โรคนี้” มาเป็นความรู้สึกขอบคุณว่า “ดีแลวที่ปวยเปนโรคนี้” “ชะตากรรม” จะเป็น “ภาระหนาที่” ที่แสดงข้อพิสูจนที่ยิ่งใหญ่ของ ธรรมมหัศจรรยซึ่งสามารถมอบความกล้าหาญและความหวังแก่ ผู้คนได้ ไมมีสิ่งใดสูญเปลา หลังจากที่ดิฉัน (คุณทาคาโกะ โคโฮริ) แต่งงานมา 6 ป คุณพ่อสามีที่อาศัยอยู่ด้วยกันซึ่งปวยเป็นโรคไตมายาวนานและ ได ้ร ับการฟอกไตเท ียมเก ิดอาการป วยทางจ ิตข ึ ้นมา ฟ ุ งซ ่านหน ัก ถึงขั้นคิดว่าผู้อื่นจะมาทำาร้ายตนเอง หลงทางบ้าง นอนไม่หลับบ้าง ยิ่งไปกว่านั้น ในเวลาเดียวกันสามีก็ตกงานเนื่องจากการปรับ โครงสร้างของบริษัท ดิฉันกอดลูกน้อยวัย 3 ขวบและ 5 ขวบไว้ด้วยหัวใจ ที่แหลกสลายว่า “ทําไมจึงเปนแบบนี้” ในเวลานั้น ดิฉันได้รับการส่งเสริมกำาลังใจจากรุ่นพี่ ฝายผู้ใหญ่หญิงว่า “ไมเปนไรหรอกนะ จะผานพนไปไดอยาง แนนอน” และศึกษาคำาชี้นำาของอาจารยอิเคดะอย่างจริงจัง “ไม่มีสิ่งใดสูญเปล่าในโลกของพุทธธรรม เนื่องด้วย ‘กิเลสเทากับโพธิญาณ’ ดังนั้นในขณะนี้ยิ่งทุกขยากมากเท่าใด ยิ่ง
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 ธรรมนิพนธ สามารถเปดสภาพชีวิตได้กว้างใหญ่มากเท่านั้น” เมื่ออ่านคำาชี้นำาที่เปยมด้วยความเชื่อมั่นของอาจารย ความกล้าหาญก็พวยพุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตใจ ดิฉันตัดสินใจ หนักแน่นว่า “ใชแลว จะเปนคนขี้แพหรือ จะขามพนใหดู” ดิฉันและสามีอธิษฐานอย่างเข้มแข็ง ทำากิจกรรม สมาคมอย่างถึงที่สุด พลางต่อสู้กับการเลี้ยงดูลูกและดูแลคนปวย อาการของคุณพ่อสามีค่อย ๆ ดีขึ้น หลังจากนั้น 1 ป ท่านก็จากไปเขาคิชฌกูฏอย่างสงบ สามีได้เข้าทำางานในบริษัท อีกครั้งด้วยเงื่อนไขที่น่าพอใจ สามารถกำาความเชื่อมั่นอันยิ่งใหญ่ใน ความศรัทธาได้ สภาพชีวิตที่สามารถร่วมทุกขและส่งเสริมกำาลังใจ เพื่อนที่กำาลังทุกขยากโดยผ่านประสบการณนี้ นับเป็นทรัพยสมบัติ ที่มีค่าสูงสุดและเป็นความปติยินดี ดิฉันจะทุ่มเทจนถึงที่สุดในการ เผยแผ่ธรรมด้วยจิตใจแห่งการตอบแทนบุญคุณตลอดชีวิตนี้ ก่อนอื่น ขอให้มุ่งสู่ 11.18 ในวาระการก่อตั้งสมาคม โซคาครบ 90 ปด้วยความปติยินดีและกล้าหาญว่า “เวลาที่พวกเรา จะทําภาระหนาที่ใหสําเร็จก็คือเวลานี้” แล้วก้าวหน้าไปอย่างสดใส ร่าเริง (บรรยายโดย คุณทาคาโกะ โคโฮริ ผู้ชวยหัวหน้าแผนกศึกษาธรรม ฝายผู้ใหญหญิง ภูมิภาครวมฟุขุโอกะ)
15 คําชี้นํา ของอำจำรย์อิเคดะ ประสบการณการตอสูกับความเจ็บปวย เปนพลังที่ท�ำใหกำรเผยแผ่ธรรมไพศำลกำวหนำ ในชีวิตมีความทุกขยากมากมาย เช่น ถูกโรคภัยไข้เจ็บ รุมเร้า ตกงาน หรือล้มละลาย สิ่งเหล่านั้นโดยตัวของมันเองมิได้ทำาให้คน ไม่มีความสุข แต่ในเวลานั้น ตัวเราเองจะคิดอย่างสิ้นหวังและไร้พลังว่า “ชีวิตของเราจบลงแลว” นี่เองที่ทำาให้ตัวเราเองไม่มีความสุข สิ่งที่เอาชนะและข้ามพ้นสภาพชีวิตที่ทุกขยากได้ คือการ อธิษฐานจนถึงที่สุดอย่างเข้มแข็งด้วยหนึ่งขณะจิตดุจเดียวกับราชสีห ด้วย จิตใจที่เข้มแข็งว่า “จะเปนคนขี้แพดวยเร� องนี้หรือ จะตองขามพนไปให ได และประดับชัยชนะในชีวิตใหดู” พระนิชิเร็นไดโชนินกล่าวไว้ไม่ใช่หรือว่า “นัมเมียวโฮเร็งเงเคียวดุจดังเสียงคํารามของราชสีห ความเจ็บปวย ใด ๆ ก็หาไดเปนอุปสรรคไม” (ธรรมนิพนธหน้า 1124)2 นอกจากนี้ เพราะมีความยากลำาบาก มีความทุกขนี่เอง เมื่อ 2 ธรรมนิพนธฉบับภาษาอังกฤษ เลม 1 หน้า 412
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 ธรรมนิพนธ ข้ามพ้นสิ่งนั้นได้ ก็จะสามารถแสดงข้อพิสูจนที่ ยิ่งใหญ่ของบุญกุศลของพุทธธรรมได้ ประสบการณการต่อสู้กับความ เจ็บปวยเป็นพลังที่ทำาให้การเผยแผ่ธรรมไพศาลก้าวหน้าได้ สิ่งที่สามารถ ทำาให้ทุกเรื่องราวในชีวิตเกิดประโยชน ก็คือพุทธธรรมนั่นเอง (จาก บทประพันธ ปฏิวัติมนุษย-ใหม เลมที่ 29 บท “วิ่งสุดกําลัง”) อธิบำยเพิ่มเติม สาเหตุของการเจ็บปวย ในธรรมนิพนธฉบับนี้ พระนิชิเร็นไดโชนินเปดเผยสาเหตุ ของการเจ็บปวยโดยอ้างอิงข้อความตอนหนึ่งใน “มหาสมถวิปสสนา” ของ พระมหาธรรมาจารยเทียนไท้ ในที่นี้ขอกล่าวถึงพอสังเขปเพื่อเป็นคำาแนะนำา สำาหรับพวกเราในยุคปจจุบัน สาเหตุของการเจ็บปวย 6 ประการ 1. ธาตุทั้ง 4 (ดิน น้ํา ลม ไฟ) ทำางานผิดปกติ หมายถึง ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่สูญเสียความสมดุล เช่น สภาพอากาศ ‘ ’
17 แปรปรวน ก ่อให ้เก ิดผลกระทบต ่อร ่างกายมน ุษย ทำาให้เจ็บปวย 2. ด� มกินไมเหมาะสม พฤติกรรมการกินดื่มที่ไม่มีสุขอนามัย ทำาให้เจ็บปวย 3. บําเพ็ญสมาธิไมถูกตอง หมายถึงอิริยาบถในการดำาเนิน ชีวิตผิดเพี้ยน ทำาให้เจ็บปวย 4. ถูกปศาจโจมตี “ปศาจ” หมายถึงโรคที่โจมตีร่างกาย ถ้า จะพูดให้เข้ากับยุคปจจุบันก็คือโรคที่เกิดจากแบคทีเรียและไวรัส 5. การกระทําของมาร หมายถึง แรงกระตุ้นหรือความ ต้องการที่ทำาให้การทำางานของจิตใจผิดปกติ ทำาให้เจ็บปวย การเจ็บปวยที่ ขัดขวางการบำาเพ็ญเพียรพุทธมรรคก็จัดอยู่ในประเภทนี้ 6. ชะตากรรม หมายถึง แนวโน้มชีวิตหรือความบิดเบี้ยวที่ มีอยู่ในชีวิตอันเกิดจากการกระทำาในอดีตชาติ เป็นสาเหตุของความ เจ็บปวย
ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย์-ใหม่” โดย โฮ โงะคู บทความจากอาจารย์ไดซาขุ อิเคดะ
19 บทที่ 47) จำกฮำวำยสู่ซำนฟรำนซิสโก สายลมแหงอนาคตรออยู ณ กําแพงเหล็กของเกท1 นี่คือวิธีที่จอรจ สเตอรลิง (ค.ศ. 1869 - 1926) กวี ผู้ได้รับการสดุดีชาวอเมริกันพรรณนาถึงซานฟรานซิสโกได้อย่าง น่าทึ่งว่าเป็นดินแดน “สายลมแหงอนาคต” ที่สายการบินยูไนเต็ด เท ี ่ยวบ ินท ี ่ 98 ออกจากสนามบ ินฮอนโนลูลูของฮาวาย เม ื ่อว ันท ี ่ 3 ตุลาคม ค.ศ. 1960 เวลา 9.00 น. กำาลังมุ่งหน้าไป เมื่อเราลอยสูง ขึ้นไปในท้องฟา ข้าพเจ้ามองลงไปยังฮาวายราวกับจะปกปอง เกาะ อันสงบสุขแห่งสันติภาพ อาณาจักรแห่งความสงบชั่วนิรันดรและสวด ไดโมขุ ข้าพเจ้าเดินทางถึงที่นั่นเมื่อเวลา 23.00 น. ในช่วงค่ำา ของ 2 วันก่อน ในฮาวาย ข้าพเจ้ามีเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น อย่างไร ก็ตาม ระหว่างช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ที่อยู่ที่นั่น ข้าพเจ้าได้ทุ่มเทพลัง 1 จอรจ สเตอรลิง “เดอะคูล, เกรยซิตี้ ออฟ เลิฟ (“ความทันสมัย เมืองในสายหมอกแหงรัก”) จาก เดอะซานฟรานซิสโก บูลเลติน ฉบับที่ 133, เลขที่ 31 (11 ธันวาคม ค.ศ. 1920) หน้า 1
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” ทั้งหมดในการหว่านเมล็ดเพื่อการเผยแผ่ธรรมมหัศจรรยออกไป อย่างกว้างไกลสู่ทั่วโลกเป็นเวลาหมื่นปและยาวนานกว่านั้นในสมัย ธรรมปลาย ข้าพเจ้าได้อธิษฐานว่าดวงตะวันแห่งธรรมมหัศจรรยจะ ต้องส่องแสงไปชั่วนิรันดร ประหนึ่งดวงอาทิตยที่ไม่มีวันดับสูญ ส่องแสงวันแล้ววันเล่า ดังที่พระนิชิเร็นไดโชนินเขียนในธรรมนิพนธ ว่า “แมจะเปนหนึ่งเมล็ด เม� อปลูกแลวก็ขยายพันธุได” (ธรรมนิพนธ ฉบับภาษาอังกฤษ เลม 2 หน้า 602) ฮาวาย จุดเริ่มต้นอันเจิดจรัสของการออกเดินทางเพื่อ การเผยแผ่ธรรมไพศาลของข้าพเจ้า มีการเติบโตอย่างน่าอัศจรรย นับตั้งแต่ข้าพเจ้าไปเยือนเป็นครั้งแรก จากตำาบลเดียวที่ก่อตั้ง ได้เติบโตเป็น 93 ตำาบล และสมาชิกก็เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดด้วย จากสมาชิกจำานวน 12 คน หรือประมาณนั้นใน ค.ศ. 1960 กลายเป็น กองกำาลังที่ทรงพลังของโพธิสัตวจากพื้นโลกมากกว่า 10,000 คนใน ปจจุบัน ท่ามกลางผู้ที่มาต้อนรับในการเยือนฮาวายครั้งแรก นั้นคือครอบครัวที่มาพร้อมกับเด็กชายร่างใหญ่แข็งแรงวัย 10 ขวบ ข้าพเจ้าจำาการจับมือทักทายกับเขาได้ ปจจุบัน คุณเบิรต คาวะโมโต้ เด็กชายคนนั้นเป็นหัวหน้าโซนแปซิฟก ซึ่งรวมถึงฮาวาย กวม ไซปน และซามัว เขาลงแรงอย่างแข็งขันที่แนวหน้าของการเคลื่อนไหวเพื่อ การเผยแผ่ธรรมไพศาล
21 หลังจากบินอยู่ 5 ชั่วโมงครึ่ง พวกเราได้รับการต้อนรับ ด้วยสะพานโกลเด้นเกท เวลาในซานฟรานซิสโกช้ากว่าฮาวาย 2 ชั่วโมง เมื่อเครื่องลงจอดในเมืองซึ่งมีชื่อเสียงว่าสวยที่สุดใน สหรัฐอเมริกา และถูกเรียกอยู่บ่อย ๆ ว่า “ปารีสตะวันตก” นาิกา ที่โถงรับรองของสนามบินชี้เวลา 16.35 น. ในการเดินทางครั้งนี้มีสมาชิกร่วมเดินทางมาด้วย 5 คน คือ คุณเออิโนสุเขะ อาคีย่ะ หัวหน้าฝายยุวชน [(ค.ศ. 1999) ประธานสมาคมโซคา] คุณฮิโรชิ โฮโจ รองผู้อำานวยการ [(ค.ศ. 1999) ถึงแกกรรม] คุณยาสุ คาชิวาบาระ ผู้อำานวยการ [(ค.ศ. 1999) รอง หัวหน้าที่ปรึกษาฝายบริหาร] คุณโยชิเฮอิ โคไดระ ผู้อำานวยการ [(ค.ศ. 1999) ที่ปรึกษาอาวุโส] และคุณจึกิโอะ อิชิดะ ผู้อำานวยการ [(ค.ศ. 1999) ถึงแกกรรม] สมาชิกท้องถิ่นหลายคนมารอที่สนามบินเพื่อต้อนรับ พวกเรา และเราก็ได้เริ่มการประชุมสั้น ๆ ที่นั่นถึงกำาหนดการและ เรื่องอื่น ๆ สมาชิกท่านหนึ่งที่เคยอยู่ในเขตคามาตะ กรุงโตเกียว อยู่ที่นั่นด้วย เธอกล่าวด้วยความคิดถึงภรรยาและลูก ๆ ของข้าพเจ้า ที่เข้าร่วมประชุมสนทนาธรรมที่คามาตะ ประเทศอเมริกามีขนาดใหญ่มากจนดูเหมือนว่า ความท ุกข ของคนแต ่ละคนช ่างเล ็กเหล ือเก ิน ซ ึ ่งความกว ้างใหญ ่ ไพศาลของอเมริกาก็เช่นเดียวกับจิตใจที่ลุกโชนด้วยความปรารถนา
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” อันสูงส่งที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟาที่เปดกว้างอันใหญ่โตมโหฬาร ความ รู้สึกถึงพลังกระตือรือร้นกระฉับกระเฉงของยุวชนอเมริกาสะท้อนก้อง อยู่ในหัวใจของข้าพเจ้า ราวกับจะเรียกร้องว่า “สหายจากประเทศ ญ ี ่ป ุ น จงต ั ้งใจมองด ินแดนแห ่งน ี ้ท ี ่ก ำาล ังท ่วมท ้นไปด ้วยศ ักยภาพ อันไร้ขีดจำากัดและคำามั่นสัญญาแห่งอนาคต” ข้าพเจ้ายังตระหนักด้วยว่า พวกเราต้องไม่เร่งรีบ ทำาการเผยแผ่ธรรมไพศาลในสหรัฐอเมริกา สิ่งสำาคัญต้องเริ่มต้นด้วย การหล่อเลี้ยงคนหนึ่งคนที่จะยืนหยัดขึ้นมาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจใน การศรัทธาอย่างแข็งแกร่ง กุญแจสำาคัญคือเพื่อที่จะให้บุคคลคนหนึ่ง มีประสบการณและความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า โลกของพุทธธรรม ของพระนิชิเร็นไดโชนินสามารถทำาให้ผู้คนมีความปติยินดี สมปรารถนาและน่ามหัศจรรยได้อย่างไร ด้วยหนทางนี้ บุคคลก็จะ กลายเป็นนิวเคลียส จุดศูนยกลางที่สารของพุทธธรรมจะแผ่ขยาย จากคนหนึ่งคนไปสู่อีกคน คนแล้วคนเล่า เป็นการแผ่ขยายออกไป จากจุดศูนยกลางแบบยกกำาลังเป็นเท่าทวีคูณ และก่อเกิดเป็น สายธารของผู้มีความสามารถที่จะเผยแผ่ธรรมมหัศจรรยอย่างไม่มี ที่สิ้นสุด นี่คือความเชื่อมั่นอันหนักแน่นและความมุ่งมั่นตั้งใจอย่าง กระตือรือร้นของข้าพเจ้าบนหลักการของ “การปรากฏขึ้นมาจาก พื้นโลก” (อ้างอิง ธรรมนิพนธฉบับภาษาอังกฤษ เลม 1 หน้า 385) คืนนั้น พวกเรากับสมาชิกคนญี่ปุนในท้องถิ่นร่วม
23 รับประทานอาหารค่ ำาราคาถูกที่ให้บริการอาหารญี่ปุน เป็นมื้อค่ำา แบบชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ทำาให้กระเปาเกือบแฟบ ในสมัยนั้น ข้อกำาหนดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอันเข้มงวดในประเทศ ญี่ปุนได้จำากัดจำานวนเงินตราต่างประเทศที่คนญี่ปุนสามารถแลกซื้อ เพื่อการเดินทางต่างประเทศได้วันละ 35 ดอลลารสหรัฐต่อคน คำาขวัญในการเดินทางของเรา คือ “ประหยัด” และได้ทำาทุกอย่างที่ สามารถประหยัดเงินได้ เราต้องการเก็บเงินสำารองไว้ให้มากที่สุด เท่าที่ทำาได้เพื่อจะนำาไปใช้ในการส่งเสริมกำาลังใจสมาชิกในท้องถิ่น ที่เราจะไปเยี่ยมเยียน ณ จุดต่อไปของเรา ที่ซีแอตเติล เราตัดสินใจที่จะ รับประทานสเต็กราคาไม่แพงเป็นอาหาร มันเหนียวราวกับหนัง รองเท้า และจำาได้ว่าข้าพเจ้ารู้สึกไม่ค่อยสบายมีผื่นขึ้นอย่างรุนแรง สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นปฏิกิริยาจากอาหารและอีกส่วนเกิดจากความ ตึงเครียดของตารางเวลาที่แน่นมาก แน่นอนว่าไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่า หลาย ทศวรรษต ่อมาประม ุขสงฆ ของน ิกายน ิช ิเร ็นโชชู (นิกเคน) จะถูก เปดเผยถึงการพัวพันกับเหตุการณอื้อฉาวอันน่ารังเกียจของเขา ซึ่ง เกิดขึ้นในเมืองใหญ่แห่งนี้ของซีแอตเติลในการเดินทางมาต่าง ประเทศครั้งแรกของเขาเมื่อ ค.ศ. 1963 ในซานฟรานซิสโก ก็เช่นเดียวกับที่อื่น ๆ ทุกอย่าง
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” เริ่มจากการประชุมสนทนา ข้าพเจ้าประกาศก่อตั้งตำาบลใน ซานฟรานซิสโกต่อสมาชิกที่มารวมกัน 30 คนหรือมากกว่านั้น ข้าพเจ้ายังได้ตัดสินใจก่อตั้งตำาบลในเนวาดา รัฐใกล้เคียงด้วย ตำาบล นี้จะนำาโดยคุณโจเซฟและคุณยาเอโกะ โอราเยห ที่กระฉับกระเฉง และมุ่งมั่นตั้งใจ ซึ่งขับรถ 5 ชั่วโมงเพื่อมาร่วมกับเราที่ซานฟรานซิสโก ข้าพเจ้าแต่งตั้งผู้ใหญ่หญิง 2 คนให้เป็นผู้นำาของตำาบล ซานฟรานซิสโก คือ คุณซาชิโกะ การเซีย เป็นหัวหน้าตำาบล และ คุณคิโยโกะ ทอมา เป็นหัวหน้าตำาบลฝายผู้ใหญ่หญิง พระนิชิเร็น ไดโชน ินกล ่าวว ่า “ไมควรมีการแบงแยกในหมูผูเผยแผอักษร 5 ตัวแหงเมียวโฮเร็งเงเคียวในสมัยธรรมปลาย ไมวาจะเปนชาย หรือหญิง” (ธรรมนิพนธฉบับภาษาอังกฤษ เลม 1 หน้า 385) ข้าพเจ้ายังได้แต่งตั้งสามีของพวกเธอซึ่งเป็นชาวอเมริกันทั้งคู่ให้เป็น ที่ปรึกษาของตำาบลนี้ หนึ่งในนั้นยังไม่ได ้เป็นสมาชิกสมาคมโซคา การแต่งตั้งเขาจึงค่อนข้างน่าประหลาดใจ ทว่าในโลกของเอสจีไอ ท ุกคนต ่างล ้ ำาค ่าเท ่าเท ียมก ัน ข ้าพเจ ้าต ้องการให ้เพ ื ่อนของเราใน อเมริกา ดินแดนแห่งเสรีภาพ ให้ความสำาคัญและเคารพซึ่งกันและกัน มีการดำาเนินชีวิตที่ยอดเยี่ยมเต็มไปด้วยการมองโลกในแง่ดี มี ชีวิตชีวาและการเติบโตที่ไม่มีขีดจำากัด ผู้เข้าร่วมในการประชุมสนทนาธรรมนี้ ส่วนใหญ่เป็น สตรีชาวญี่ปุนที่ย้ายมาที่สหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้าขอให้พวกเธอบรรลุ
25 ในเป าหมายหล ัก 3 ข ้อค ือ เป ็นพลเม ืองของอเมร ิกาให ้ได ้ สอบ ใบขับขี่ให้ได้ และเรียนรู้ภาษาอังกฤษ เม ื ่อเราอ ุท ิศทุ ่มเทช ีวิตของเราเพ ื ่อบรรล ุภาระหน ้าท ี ่ ของพวกเราแล้ว ก็ไม่มีเวลาให้หมกมุ่นอยู่กับการสงสารตัวเอง สิ่งสำาคัญคือเราจะบรรลุถึงความสุขทั้งเพื่อตนเองและผู้อื่น ณ ที่นี่ ในขณะนี้ทันที คำาสอนของพุทธศาสนามอบปญญาทองคำาแก่เราใน การกำาหนดเปาหมายที่เป็นรูปธรรมเพื่อความก้าวหน้าและการ พัฒนาของตัวเราเอง วันถัดมา ข้าพเจ้าได้ถ่ายรูปร่วมกับบรรดา “คุณแม แหงการเผยแผธรรมไพศาลในโลกใหม” ที่หน้ารูปปนของ โคลัมบัสบนยอดเขาเทเลกราฟที่มองเห็นทะเล ดวงตาของพวกเธอ เป็นประกาย แวววับไปด้วยความหวัง ด้วยความเข้มแข็ง และด้วย ความกระตือรือร้นอันทรงพลังที่จะก้าวไปข้างหน้า ขณะที่สายลมทะเลอันสดชื่นพัดมาสัมผัสเรา อย่างแผ่วเบา ข้าพเจ้าบอกพวกเขาว่า อีก 20 หรือ 50 ปข้างหน้า พวกเราจะถือว่าวันนี้เป็นวันสำาคัญของการครบรอบการเผยแผ่ธรรม ไพศาลในอเมริกา ซึ่งเป็นจริงดังคำาสัญญา 20 ปต่อมา ข้าพเจ้าและ ภรรยาได้มายืนที่เนินเขาแห่งนี้ร่วมกับสตรีเหล่านี้ ใบหน้าของ พวกเธอเปล่งประกายด้วยชัยชนะ ในรูปถ่ายที่ระลึกถือเป็นการ บันทึกเรื่องราวอีกหน้าหนึ่งที่เปดเผยถึงการเดินทางสู่การ
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” เผยแผ่ธรรมมหัศจรรย ขณะที่ข้าพเจ้าอยู่ที่สหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1960 นักวิทยาศาสตรที่มีชื่อเสียงระดับโลกท่านหนึ่งถูก เรียกตัวไปให้ปากคำายืนยันต่อหน้าคณะอนุกรรมการรัฐสภา สหรัฐอเมริกา เขากับนักวิทยาศาสตรคนอื่น ๆ ได้จัดเตรียม ข้อร้องเรียนต่อต้านการทดลองอาวุธนิวเคลียรโดยรวบรวมลายมือ ชื่อได้ 13,000 รายและยื่นเสนอต่อองคการสหประชาชาติ ขณะนี้ เขาอยู่ระหว่างถูกคณะอนุกรรมการซักถามถึงชื่อของผู้ให้การช่วยเหลือ ในการยื่นข้อร้องเรียน นักวิทยาศาสตรผู้นั้นคือใคร ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก คุณไลนัส พอลลิง บิดาแห่งเคมีสมัยใหม่ ดร. พอลลิงยังคงแน่วแน่ ในการเผชิญหน้ากับการข่มขู่คุกคามที่ปาเถื่อนที่สุด ท่านและ คุณเอวา เฮเลน ภรรยา ยังคงรักษาความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะต่อสู้เพื่อ ความเที่ยงธรรมและมนุษยธรรมไว้อย่างมั่นคง เนื่องด้วยคุณสมบัติ เหล่านี้ ดร. พอลลิงจึงยืนยันว่า พลังของประชาชนต้องนำามาใช้เพื่อ ให้แน่ใจว่าบรรดาผู้มีอำานาจทางการเมืองยังปฏิบัติอยู่ในแนวทางที่ ถูกต้อง และเพื่อการบรรลุผลและคงไว้ซึ่งสันติภาพ ประชาชนควร จะรวมตัวกันกดดันผู้มีอำานาจเหล่านั้น ท่านให้การยอมรับว่าสมาคม โซคาเป็นผู้นำาในแนวทางดังกล่าว จึงให้การสนับสนุนพวกเราอย่าง ต่อเนื่องจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิตท่าน
27 ข้าพเจ้าได้พบกับดร. พอลลิง 4 ครั้ง การพบกันครั้ง สุดท้ายของเราที่ซานฟรานซิสโก แม้ดร. พอลลิงมีอายุ 92 ปแล้ว แต่ ท่านก็เจาะจงเดินทางมาพบกับข้าพเจ้า การพบกันครั้งนั้น ข้าพเจ้า เสนอให้มีการจัดนิทรรศการ “ไลนัส พอลลิง” ท่านเห็นด้วยอย่างยิ่ง ต่อข้อเสนอนี้ นิทรรศการ “ไลนัส พอลลิงกับศตวรรษที่ 20 : การ แสวงหามนุษยชาติ ” 2 ซึ่งได้ รับกา รตอบ รับ มีพิธีเปดที่ ซานฟรานซิสโกเมื่อไม่นานมานี้ และเริ่มหมุนเวียนไปจัดใน สหรัฐอเมริกา และได้รับการยกย่องอย่างสูงจากหลายพื้นที่ในสังคม รวมถึงรัฐสภาสหรัฐอเมริกา องคการสหประชาชาติ “สภาแหงมนุษยชาติ” ก็เริ่ม ขึ้นที่นี่ ที่ซานฟรานซิสโก ข้าพเจ้าได้เยือนซานฟรานซิสโกอีกครั้งใน เดือนมีนาคม ค.ศ. 1993 ในช่วงสุดท้ายของการเดินทาง 9 เมือง 6 ประเทศในอเมริกาเหนือและใต้ เป็นการเยือนครั้งที่ 5 นับจาก ครั้งแรกเมื่อ 33 ปก่อน ณ โอกาสนั้น ข้าพเจ้ากับสมาชิกในซานฟรานซิสโก ได้รับเชิญให้ไปที่ศูนยแสดงศิลปะและอนุสรณสงคราม (War Memorial and Performing Arts Center) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีความสำาคัญใน ประวัติศาสตรของการเริ่มนำากฎบัตรสหประชาชาติมาใช้ ข้าพเจ้าได้ 2 คําแปลอยางไมเปนทางการของนิทรรศการ “Linus Pauling and the Twentieth Century: Quest for Humanity”
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 ความคิดคํานึงเกี่ยวกับ “ปฎิวัติมนุษย-ใหม” รับรางวัลเกียรติยศจากการอุทิศตนในการเผยแพร่อุดมการณของ องคการสหประชาชาติและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ระหว่างประเทศ ท่ามกลางสมาชิกในอเมริกาที่มาร่วมในพิธี คุณออรลันโด เซเปดา อดีตจ้าวแห่งโฮมรันของลีกหลัก ผู้ซึ่งในปนี้ ได้รับการคัดเลือกจากหอเกียรติยศเบสบอล แห่งสหรัฐอเมริกา เขา เป็นหัวหน้าตำาบลที่น่าภาคภูมิใจของเอสจีไอ-สหรัฐอเมริกาในพื้นที่ อ่าวซานฟรานซิสโก ระหว่างพิธี ผู้นำาทางการเมืองหนุ่มคนหนึ่งในพื้นที่ ซานฟรานซิสโกได้ชี้ให้เห็นว่าซานฟรานซิสโกที่เคยเปดพรมแดนใหม่ ในประวัติศาสตร กับเอสจีไอมี 3 สิ่งที่เหมือนกัน ได้แก่ การเคารพ ความแตกต่างทางวัฒนธรรม พลังสร้างสรรค และพลังในการทำาให้ เกิดความหวังในประชาชนทุกคน เพียงการลงมือกระทำาของเราสามารถกระตุ้นให้เกิด “สายลมแหงอนาคต” พระนิชิเร็นไดโชนินกล่าวถึงความก้าวหน้า ที่จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนของการเผยแผ่ธรรมไพศาลว่า “แมตนไม อาจอยากอยูนิ่ง ๆ แตลมก็จะไมหยุดพัด แมพวกเราปรารถนา จะรั้งฤดูใบไมผลิเอาไว แตก็ตองหลีกทางใหฤดูรอน” (ธรรม นิพนธฉบับภาษาอังกฤษ เลม 1 หน้า 672) ซานฟรานซิสโกช่างงดงามและล้นหลามไปด้วย บทกวีที่พรรณนาถึงฤดูกาลของทั้ง 4 ฤดู
29 ข้าพเจ้ามั่นใจว่า ในวันนี้ก็เช่นกัน จากถนนอันสูงชัน ของเมืองและบ้านเรือนของมิตรสหายที่มองเห็นสะพานโกลเด้นเกท อย่า งชัดเจน เหล่าสมาชิกยุวชนคนหนุ่มสาวขอ งเราใน ซานฟรานซิสโกล้วนมีใบหน้าที่เปยมด้วยรอยยิ้มที่มั่นใจ กำาลังส่ง กล ิ ่นหอมขจรขจายในสายลมอ ันเบ ิกบานแห ่งความส ุขและความ ก้าวหน้าอันทรงพลังมุ่งสู่ศตวรรษที่ 21 (จากหนังสือพิมพเซเคียว ฉบับวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 1999)
บทสนทนาเรื่อง แม่กับลูกมุ่งสู่ศตวรรษที่ 21 (เลม 3)
31 บทที่ 4) พ่อกับแม่ สำมีกับภรรยำ หำกตระหนักรูถึงภำระหนำที่ พลังจะพวยพุงออกมา ฮิราคาวา : ขณะนี้ ในแต่ละท้องที่ทั่วประเทศได้ออกอากาศรายการ โทรทัศนแนะนำากิจกรรมเพื่อสันติภาพของอาจารยอิเคดะ และกำาลัง เป็นที่สนใจของผู้คนอยู่ค่ะ ฟุจิโนะ : ดิฉันได้ชมแล้ว รู้สึกประทับใจในประวัติศาสตรที่อาจารย ได้เปดเส้นทางแห่งสันติภาพด้วยการสนทนากับผู้นำาระดับโลก เช่น ท่านโจวเอินไหล นายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ท่าน อเล็กซี โคชิกินนายกรัฐมนตรีสหภาพโซเวียตและท่านมิคาอิล กอรบาชอฟ ประธานาธิบดีแห่งสหภาพโซเวียต โดยเฉพาะบุคลิกใน การให้สัมภาษณของอาจารยและภรรยาช่างสดชื่น น่าประทับใจ มากค่ะ อาจารยอิเคดะ : ต้องขอบคุณผู้สัมภาษณที่ถามตรงประเด็น ผมได้ ให้สัมภาษณตามความเป็นจริงทุกครั้งเสมอ ฮิราคาวา : ในรายการ สตรีผู้บุกเบิกช่วงเริ่มต้นของเอสจีไอสหรัฐอเมริกาท่านหนึ่งได้เล่าถึงบรรยากาศการไปเยือนอเมริกา
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 บทสนทนาเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เลม 3) ครั้งแรกของอาจารย สมัยนั้น สตรีชาวญี่ปุนจำานวนมากแต่งงานกับชาย ชาวอเมริกันและย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ทุกคนรู้สึกท้อแท้ เหนื่อยหน่ายกับการดำาเนินชีวิตในต่างแดนที่ตัวเองไม่คุ้นเคย และ เกือบจะสิ้นหวังต่ออนาคต อาจารย อ ิเคดะได ้ให้ค ำาแนะน ำาท ี่ใกล ้ต ัวและส ำาค ัญ มากแก่พวกเขา 3 เรื่องด้วยกัน “อยากให้เก่งภาษาอังกฤษ” “อยากให้ได้รับใบ อนุญาตขับขี่รถยนต” “อยากให้ได้มาซึ่งสิทธิพลเมือง” สมาชิกท่านหนึ่งซึ่งขณะนี้มีความสุขมากได้เล่า เรื่องราวย้อนกลับไปในเวลานั้นว่า “คิดว่า ถึงอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้เพราะการเรียนรู้ ภาษาอ ังกฤษต ้องใช ้เวลามากท ีเด ียว อ ีกทั ้งเม ื ่อพูดภาษาอ ังกฤษ ไม่ได้ทำาอย่างไรจึงจะได้ใบขับขี่รถยนตมา แล้วนับประสาอะไรกับ การที่จะได้สิทธิพลเมืองของอเมริกา คิดแล้วไม่อยากเป็นพลเมือง อเมริกา ไม่ว่าอย่างไรก็อยากจะกลับประเทศญี่ปุน เป็นเปาหมายที่ใหญ่จริง ๆ แต่อาจารยได้มอบ ‘ความหวัง’ เพื่อการมีชีวิตอยู่ในฐานะพลเมืองอเมริกัน
33 เพราะเปาหมาย 3 ข้อนี้ พวกเราจึงดำาเนินชีวิตบน แผ่นดินนี้อย่างมีความสุขและค่อย ๆ กลมกลืนกับสังคมอเมริกาได้” ฟุจิโนะ : เป็นฉากที่น่าประทับใจมากค่ะ ท่าทางที่พูดไม่ออก น้ำาตา ไหลไปพลางพูดได้ทีละคำา ๆ ดิฉันเห็นแล้วก็น้ำาตาคลอค่ะ ดิฉันรู้สึกอย่างลึกซึ้งว่า นี่คือสมาคมโซคาสินะ รู้สึก ประทับใจในชีวิตที่ยอดเยี่ยมของท่านทั้งหลายที่ได้รับการส่งเสริม กำาลังใจจากอาจารยอิเคดะ ปาดน้ำาตาลุกขึ้นสู้และมีชีวิตจนถึงที่สุด อาจารยอิเคดะ : ทุกท่านได้รับชัยชนะอย่างงดงาม พยายามต่อสู้ กันจริง ๆ เป ็น “คุณแมแหงการเผยแผธรรมไพศาลของ อเมริกา” ที่อุทิศตนเพื่อสังคมในฐานะพลเมืองอเมริกันที่ยอดเยี่ยม การสื่อสารก็ไม่เข้าใจ ประเพณีก็แตกต่างกัน พ่อแม่ ที่พึ่งพ ิงได้ ญาติพี่น้องและเพื่อนสนิทก็ไม่มี ท่ามกลางความยาก ลำาบากเช่นนั้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำาให้คิดว่า “อยากจะกลับญี่ปุน” “อยากจะหนีออกจากความทุกขนี้” แต่สำาหรับสตรีที่ยึดถือธรรมมหัศจรรย เธอไม่ต้องการ ความเห็นใจ เธอมีความกล้าหาญ หากขี้ขลาดแล้วจะทำาอะไรก็ไม่ สำาเร็จ
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 บทสนทนาเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เลม 3) สิ่งที่เปลี่ยน “ความโงเขลา” เป็น “การตัดสินใจ” เปลี่ยน “ความเศราโศก” เป็น “ความปติยินดี” เปลี่ยน “ความ สิ้นหวัง” เป็น “ความหวัง” ก็คือพุทธธรรมนั่นเอง “ทำาไมฉันจึงได้มาอยู่ในสถานที่อย่างนี้นะ ทำาไมจึง ต้องลำาบากลำาบนอย่างนี้นะ” ไม่ว่าจะคร่ำาครวญเพียงใดก็ไม่มีอะไร เปลี่ยนแปลง แต่หากตระหนักรู้ได้ว่า “ณ ที่นี่ ฉันจะปฏิวัติชีวิตให ดู” “ฉันมีภาระหนาที่ จึงไดมาอยูที่นี่” พลังจะบังเกิดขึ้นตามมา และจะมองเห็นแสงสว่าง ฟุจิโนะ : ในบทประพันธ “ปฏิวัติมนุษย-ใหม่ เล่มที่ 1 ตอน ‘โลกใหม’ อาจารยได้เขียนถึงเรื่องราวในเวลานั้น ขณะที่ “หนังสือพิมพ เซเคียว” กำาลังตีพิมพตอนนั้นอยู่ ตรงกับช่วงที่ดิฉันไปเดินพาเหรด ที่ประเทศอเมริกา ได้พบกับบุคคลต่าง ๆ ที่เอ่ยถึงด้วย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “อาจารยอิเคดะเขียน นวนิยายอย่างนั้น แต่การต่อสู้จริง ๆ ของอาจารยยอดเยี่ยมยิ่งกว่า ที่เขียนอยู่ในนวนิยายหลาย 10 เท่า” ฮิราคาวา : สำาหรับทุกคนที่ดำาเนินชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ โดดเดี่ยว กำาลังใจจากอาจารยและการมีมิตรสหาย ช่วยทำาให้จิตใจ เข้มแข็งจริง ๆ ค่ะ
35 คนที่เปนทุกข์จำกกำรเลี้ยงดูลูก อยางโดดเดี่ยว มีจํานวนเพิ่มขึ้น ฟุจิโนะ : ประเทศญี่ปุนในปจจุบันไม่ค่อยมีการสนับสนุนกันและกัน จากพ ่อแม ่ คนท ี ่แต ่งงานเป ็นค ุณแม ่ว ัยสาวเพ ิ ่งเร ิ ่มด ำาเน ินช ีว ิตใน สภาพแวดล้อมใหม่ คนที่เป็นทุกขจาก “การเลี้ยงดูลูกอยาง โดดเดี่ยว” กำาลังเพิ่มมากขึ้น ไม่มีการคบค้าสมาคมกับผู้คนในท้องถิ่น ไม่มีเพื่อนที่ ปรึกษาหรือพูดคุยเรื่องทุกขใจได้ หรือแม้จะปรึกษาสามีที่ขอความ ช่วยเหลือได้ แต่สามีก็ไม่ให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง ท่ามกลาง สภาพดังกล่าว คนที่กำาลังเป็นทุกขอยู่ “ตามลําพังคนเดียว” จึงมี จำานวนมาก ฟุจิโนะ : ความโดดเดี่ยวเดียวดายแบบนั้นกำาลังไล่ต้อนจิตใจของคน เป็นแม่อยู่ แม่บางคนก็ระบายความเครียดไปลงที่ลูก ระยะนี้มีเรื่องน่าเวทนาที่ทำาทารุณกรรมเด็กเกิดขึ้นอยู่ บ่อย ๆ แม่ที่ควรจะเสี่ยงชีวิตปกปองลูกแต่กลับทารุณกรรมลูก เสียเองก็มี ในความสัมพันธระหว่างแม่กับลูกคงมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น อย่างมากมาย หนังสือพิมพรายงานข่าวว่า จำานวนของผู้ที่มาปรึกษา ป ญหาการทาร ุณกรรมเด ็กท ี ่ศูนย ปร ึกษาป ญหาเด ็กเล ็ก ระหว ่าง
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 บทสนทนาเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เลม 3) ค.ศ. 1990 ถึง ค.ศ. 1997 เพิ่มสูงขึ้นเกือบ 5 เท่า ใน 1 ปมีจำานวน มากกว่า 5,000 ราย เข้าใจว่าผู้ที่มาปรึกษาปญหาเป็นเพียงส่วนน้อยนิด ของผู ้ท ี ่ม ีป ญหาท ั ้งหมด เป ็นท ี ่ทราบก ันว ่าในความเป ็นจร ิง การ ทารุณกรรมเด็กเกิดขึ้นมากกว่านั้น คุณแม่เองก็ตระหนักดีว่าการทำาร้ายลูก “ไมดี” แต่ บางครั้งกว่าจะรู้ตัวก็ข่มขู่ลูกไปแล้ว ก็มีเหมือนกันค่ะ อาจารยอิเคดะ : เรื่องนี้เป็นปญหาร้ายแรงสำาหรับลูกและพ่อแม่เลย นะครับ ฮิราคาวา : ยังมีกรณีเช่นนี้อีกด้วยค่ะ ค ุณแม ่ท ่านหน ึ ่งไม ่ม ีความทรงจ ำาในว ัยเด ็กท ี ่ถูกแม ่ สวมกอด ไม่มีความทรงจำาที่แม่พูดเพราะ ๆ กับตัวเอง เมื่อโตขึ้น เธอแต่งงานและมีลูก เมื่อมีลูกจริง ๆ เธอตกใจมากที่ไม่รู้ว่าตัวเองจะเลี้ยง ลูกอย่างไร “ไม่รู้จะอาบน้ำา ปอนข้าว ให้นมลูกอย่างไร” พอลูกร้องก็ตื่นตกใจ เธอตีลูกซ้ำาแล้วซ้ำาอีก ฟุจิโนะ : เรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับตอนที่พ่อแม่อยู่ในวัยเด็กได้รับ การเลี้ยงดูมาอย่างไร
37 อาจารยอิเคดะ : มีผลอย่างมากครับ ดังนั้นตนเองที่เป็นพ่อแม่ต้อง เชื่อมต่อเป็นลูกโซ่กับลูก แต่ไม่ใช่ปญหาที่จะนำามาถกเถียงกันง่าย ๆ เช่น ตอน เด็ก ๆ คนที่เคยถูกทุบตี เมื่อเป็นพ่อแม่ก็ต้องทุบตีลูกแน่นอน เรา จำาเป็นต้องพินิจพิเคราะหจากมุมมองหลาย ๆ ด้าน บาดแผลที่ได้รับตอนเป็นเด็กไม่อาจจางหายไปง่าย ๆ แต่สิ่งที่จะเยียวยารักษาแผลนั้นก็คือความเอื้ออาทรของมนุษย ซึ่งก็ คือความรักนั่นเอง แต่ปจจุบันนี้ “สถานเยียวยารักษา” ที่เปยมด้วย ความรักไม่ค่อยจะมีแล้ว ไม่ว่าที่บ้าน ที่โรงเรียน หรือในสังคม ท้องถิ่น ก็ยังขาดแคลนความรักอยู่ ความสัมพันธระหว่างมนุษยที่ขาดความลึกซึ้ง และ ปญหาที่กำาลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ กล่าวได้ว่าเป็น “กลุมอาการโรค ขาดความรัก” หำกใหควำมช่วยเหลือผูอ� น ตนเองก็จะไดรับการปกปองดวย ฮิราคาวา : รู้สึกขอบคุณโลกของครอบครัวโซคาอันอบอุ่นจริง ๆ ค่ะ
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 บทสนทนาเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เลม 3) อาจารยอิเคดะ : ผู้นำาของสมาคมจะขาดซึ่ง “ความรัก” ไม่ได้ การที่พวกเราให้กำาลังใจผู้อื่น รับฟงความทุกขของ เพื่อน มอบความหวังแก่ผู้อื่น สิ่งเหล่านี้นั่นเองที่เป็นเหรียญรางวัล เกียรติยศของพวกเรา การเคลื่อนไหวของสมาคมเป็นการเคลื่อนไหว เพื่อฟนฟูและเพาะเมล็ดแห่งความรักของมนุษยในแต่ละคน ๆ หากให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ตนเองก็จะได้รับการ ปกปองด้วย ในบันทึกคำาสอนปากเปล่า พระนิชิเร็นไดโชนินกล่าวไว้ ว่า “เทพธรรมบาลทั้งหลายจะปรากฏออกมาเปนบุรุษและสตรี ทําบุญถวายแกผูปฏิบัติแหงสัทธรรมปุณฑริกสูตร” (บันทึก คําสอนปากเปลา ฉบับภาษาอังกฤษ หน้า 86) กล่าวคือ แม้จะ เรียกว่าเทพธรรมบาล แต่ก็หมายถึงคนใกล้ตัวที่ให้การสนับสนุนและ ปกปองเรา เม� อมองใบหนำลูกที่ยิ้มแลว ความกลาหาญก็พวยพุงออกมา ฟุจิโนะ : ในหนังสือรวมประสบการณการพยาบาลของแผนก ชิราคาบะกับกลุ่มชิราคาบะ (กลุมพยาบาลของผู้ใหญหญิงกับยุวชน หญิงสมาคมโซคา) มีเรื่องราว ดังนี้ค่ะ เอ็มคุงซึ่งอยู่ในครรภเพียง 6 เดือนครึ่ง คลอดก่อน
39 กำาหนด มีน้ำาหนัก 576 กรัม อยู่ในห้องทารกคลอดก่อนกำาหนดของ แผนกกุมารเวชที่พยาบาลสมาชิกกลุ่มชิราคาบะทำางานอยู่ เรื่องที่ เธอกังวลคือ ขณะที่ยืดเวลาอยู่ในโรงพยาบาลออกไป จะทำาให้แม่ อยู่ห่างจากลูกน้อย คร ั ้งหน ึ ่ง แม ่ของเด ็กได ้มาพบ เม ื ่อส ่งลูกน ้อยที ่ถูก ห่อตัวด้วยผ้าขนหนูให้เธออุ้ม เธอก็พูดด้วยความไม่สบายใจว่า “ตัว เล็กขนาดนี้หรือนี่ น่ากลัวจัง” และพูดว่า “ขอคืนเข้าตู้อบดีกว่าค่ะ” ฮิราคาวา : กรณีทารกคลอดก่อนกำาหนด ในบางครั้ง เนื่องจากเด็ก ถูกแยกจากแม่เป็นเวลานาน ความรักอันงดงามของแม่จึงไม่ก่อเกิด ในตัวเด็ก คุณแม่คนนั้นคงมีความรู้สึกสับสนเต็มไปหมด เช่น รู้สึกผิดต่อลูก รู้สึกกังวลใจและไม่สบายใจ ฟุจิโนะ : เธอได้อธิษฐานอย่างจริงจังว่า “ถ้ายังอยู่ในสภาพนี้ ทั้ง เอ็มคุงกับแม่ก็น่าสงสาร” เธอกับเจ้าหน้าที่จึงตรวจเช็คแล้วเช็คอีก ทุกวันจะบันทึกพัฒนาการของเอ็มคุง เวลาที่แม่มาเยี่ยม ก็จะให้แม่ เป็นคนดูแลลูก และแล้วแม่ก็มาเยี่ยมบ่อยขึ้น เวลาที่แม่มาเยี่ยมทุกครั้ง เธอจะพูดทักทายกับแม่ว่า “ลูกดีใจที่สุดที่เห็นคุณแม่พูดคุยด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม”
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 บทสนทนาเร� อง แมกับลูกมุงสูศตวรรษที่ 21 (เลม 3) มีอยู่วันหนึ่ง แม่ไปหาลูก แล้วเล่น “จะเอ” ผ่านกระจก ของตู้อบ ลูกน้อยก็ส่งเสียงและยิ้มอย่างดีใจ น้ำาตาเม็ดโตของแม่ก็ เอ่อไหลออกมา แม่ตาแดงก่ำา ร้องไห้พลางกล่อมลูกน้อยไปพลาง หลายต่อหลายครั้ง หลังคลอด 8 เดือน ในที่สุดก็ออกจากโรงพยาบาลได้ ขณะที่แม่กำาลังอุ้มเอ็มคุง ก็พูดว่า “เวลามองลูกที่เกิดมาตัวเล็กขนาดนี้ทุกครั้ง รู้สึกไม่ สบายใจ เวลามาเยี่ยมจะรู้สึกกลัว จึงไม่มา แต่คุณพยาบาลทั้งหลาย รายงานพัฒนาการของลูกให้ทราบอยู่เสมอ และในวันนั้น ดิฉันมอง ใบหน้าลูกคนนี้ที่ยิ้มแล้วความกล้าหาญที่จะสู้ไปด้วยกันก็พวยพุ่ง ออกมา” อาจารยอิเคดะ : ความจริงใจของสมาชิกกลุ่มชิราคาบะได้เปดจิตใจ ที่ปดอยู่ของแม่อย่างอ่อนโยนนะครับ สำาหรับพ่อแม่กับลูกจะมีความสัมพันธที่น่าอัศจรรย อยู่ เป็นความผูกพันของชีวิตที่ลึกซึ้งซึ่งเรามองไม่เห็น มีคำากล่าวที่ ว่า “ความทุกขของการคลอดลูก” ก็จริงอยู่ แต่ต้องข้ามพ้น ความทุกขยากลำาบากเพื่อเป็นพ่อแม่ให้ได้ ไม่มีแม่คนไหนที่ยอดเยี่ยมมาตั้งแต่แรก ความรักเป็น สิ่งที่ถูกหล่อเลี้ยงอย่างลึกซึ้งผ่านการสัมผัสลูกและการแลกเปลี่ยน
41 ทางจิตใจระหว่างพ่อแม่กับลูก ดังนั้นหากเฝาดูลูกและเอาใจใส่เป็นพิเศษ แม้จะเสีย เวลามากสักหน่อยก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องใจร้อน ไม่จำาเป็นต้องเครียดหรือ เปรียบเทียบกับคนรอบข้าง ฟุจิโนะ : การที่คุณแม่วัยสาวเลี้ยงดูลูกนั้น เธอต้องเผชิญกับเรื่องที่ ไม่สบายใจและกังวลใจต่าง ๆ นานา แน่นอนว่าความช่วยเหลือสนับสนุนจากคนรอบข้าง เป ็นส ิ ่งท ี ่จ ำาเป ็น แต ่ส ุดท ้ายแล ้ว ไม ่ม ีส ิ ่งใดเหน ือกว ่าความเข ้าใจ และการช่วยเหลือจากสามีที่ทำาให้เธอรู้สึกอุ่นใจ การช่วยเหลือ กันและกันของสามีภรรยานั้นสำาคัญมาก { โปรดติดตามตอนตอไป }
โลกแห่งธรรมนิพนธ์ บทสนทนาเกี่ยวกับ ศาสนาแหงมนุษยนิยม
43 บทที่ 4) กำรก่อตั้งค�ำสอนที่ถูกตอง เพ� อใหประเทศเกิดสันติ (ตอนที่ 1) หลักสําคัญเพ� อการบรรลุถึง ควำมสุขของประชำชนและสังคมที่สันติสุข (ตอ) พุทธธรรมของพระนิชิเร็นไดโชนิน เริ่มตนและจบลงดวย “กำรก่อตั้งค�ำสอนที่ถูกตอง” ไซโต : นั่นคือประเด็นหลักที่ผมอยากจะขอพูดคุยกันในครั้งนี้ครับ จากบทนิพนธและงานเขียนทั้งหมดของพระนิชิเร็นไดโชนิน ผมคิดว่า บทนิพนธเรื่อง “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิด สันติ” เป ็นท ี ่รู ้จ ักก ันอย ่างกว ้างขวางมากท ี ่ส ุด ได ้ถูกกล ่าวถ ึงใน หนังสือเรียนชั้นมัธยมศึกษาของญี่ปุน และอยู่ในลำาดับที่ 2 ของการ สำารวจโดยหนังสือพิมพโยมิอุริ ชิมบุน (วันที่ 9 ตุลาคม ค.ศ. 2000) ที่ได้ถามว่า “งานเขียนที่สําคัญที่สุดของญี่ปุนเร� องใดที่ตอง ถายทอดไปสูศตวรรษที่ 21” อย่างไรก็ตาม ขณะเดียวกัน ผมก็ คิดว่าไม่มีหลักธรรมใดที่ถูกคนญี่ปุนเข้าใจผิดมากไปกว่าหลักธรรม ที่ได้เปดเผยอยู่ในบทนิพนธฉบับนี้ โมรินากะ : ขณะที่ด้านหนึ่ง คุณอุจิมูระได้ยกย่องศักยภาพของ พระนิชิเร็นไดโชนินที่ยืนหยัดขึ้นต่อการกดขี่บีฑาเพื่อความเชื่อของ
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 โลกแหงธรรมนิพนธ ท่าน ส่วนอีกด้านหนึ่งเขาได้วิพากษวิจารณวิธีการโต้แย้งของพระ นิชิเร็นไดโชนินที่แสดงอยู่ใน “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” โดย เขียนว่า “ตลอดทั้งบทนิพนธคือสีหนาทที่เป็นการประกาศสงคราม ชน ิดท ี ่ได ้ต ัดส ินใจอย ่างเด ็ดเด ี ่ยวท ี ่ส ุด ซ ึ ่งถ ้าได ้ต ่อสู ้ก ันแล ้ว คงม ี ประเด ็นเด ียวค ือการถอนรากถอนโคนน ิกายของท ่านเองหร ือของ นิกายอื่น ๆ ทั้งหมด นี่คือความศรัทธาอย่างแรงกล้าที่ไม่อาจแยก ออกจากความบ้าดีเดือด” และสรุปว่า “พระนิชิเร็นที่ลบความ กระหายใคร่สู้รบของท่านออกก็คือ นักบวชในอุดมคติของพวกเรา”1 อาจารยอิเคดะ : ด ังท ี ่เราได ้กล ่าวถ ึงไปแล ้ว พระน ิช ิเร ็นไดโชน ิน บรรลุการต่อสู้ในการปกปองธรรมะก็เพื่อที่จะปฏิรูปยุคสมัย ธรรมปลายที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง เพื่อให้ประชาชนทุกคน สามารถสำาแดงธรรมชาติพุทธะของพวกเขา และก่อสร้างยุคสมัย แห่งความสุขและสันติภาพเพื่อมวลมนุษยชาติ การอุทิศตนอย่างไม่ เห็นแก่ตัวของท่านในการธำารงไว้ซึ่งคำาสอนที่ถูกต้องและจิตวิญญาณ แห ่งความเมตตากร ุณาอ ันแข ็งแกร ่งของท ่านเพ ื ่อประชาชนท ำาให ้ ท่านไม่มีทางเลือกนอกจากการเข้าสู่การต่อสู้นี้ เป ็นท ี ่ทราบก ันด ีว ่าท ี ่สภาพช ีว ิตของท ่านกว ้างใหญ ่ ไร้ขอบเขต ก็เนื่องด้วยความเมตตากรุณาอันลึกซึ้งของท่านที่มีต่อ 1 คันโซ อุจิมูระ, “ตัวแทนบุรุษของประเทศญี่ปุน” จากหนังสืองานที่สมบูรณแบบของคันโซ อุจิมูระ” (โตเกียว : เคียวบุนควัน, ค.ศ.1972) เลม 2 หน้า 130, 140.
45 ผู้คนทั้งหลาย ท่านจึงต้องต่อสู้อย่างดุเดือดกับธรรมชาติมารที่มีอยู่ ดั้งเดิมในชีวิต และเป็นเพราะท่านพยายามที่จะปฏิรูปยุคสมัย ดังกล่าวถึงขึ้นรากฐานนั่นเอง ท่านจึงต้องฟนฝาและมีชัยชนะเหนือ ยุคสมัยดังกล่าวให้ได้ ในอดีตมีปญญาชนเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้าใจได้ อย่างถูกต้องและพอจะพูดคุยสนทนากันได้ถึงแก่นความคิดผู้รักสันติ ของพระนิชิเร็นไดโชนิน ไซโต : การตีความ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง” ของพวกเราจะ กลายเป็นจุดสำาคัญสำาหรับการสนทนาของเราที่เกี่ยวกับความเป็น มนุษยนิยมในพุทธธรรมของพระนิชิเร็นไดโชนิน ซึ่งเป็นหนึ่งหัวข้อ หลักของการสนทนาชุดนี้ โมรินากะ : อ ันท ี ่จร ิงแล ้ว เม ื ่อท ัศนะของ “การกอตั้งคําสอนที่ ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิดสันติ” ซึ่งสมาคมโซคายึดถือ และได้ อุทิศทุ่มเทในการสืบทอดมหาปณิธานและการปฏิบัติเพื่อการเผยแผ่ ธรรมไพศาลถูกก่อตั้งไว้อย่างมั่นคงแล้ว ความคิดเห็นผิด ๆ มากมาย ที่มีต่อพระนิชิเร็นไดโชนินว่าเป็นภาพร่างของชาตินิยมจะเปลี่ยนไป และพุทธธรรมของพระนิชิเร็นไดโชนินจะแผ่กว้างออกไปสู่การเป็น ศาสนาโลก อาจารยอิเคดะ : ความหมายของ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง”
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 โลกแหงธรรมนิพนธ และ “ประเทศเกิดสันติ” คืออะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คําสอนที่ ถูกตอง” หมายถึงอะไร ความหมายของการ “กอตั้ง” คำาสอนนี้ คืออะไร และคำาว่า “ประเทศ” สื่อถึงอะไร กว่า 700 ปที่ผู้คนจำานวนมากได้อ่านบทนิพนธฉบับ นี้ ซึ่งดูเหมือนจะเข้าใจความหมาย ทว่าความจริงแล้วกลับเข้าใจ คำาถามพื้นฐานเหล่านี้ผิดไปอย่างใหญ่หลวง การเข้าใจความหมาย ที่แท้จริงของ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิด สันติ” คือการเห็นคุณค่าความสำาคัญของการเคลื่อนไหวที่ส่งเสริม สนับสนุนโดยสมาคมโซคาและเอสจีไอ ยิ่งไปกว่านั้น ภาพที่พรรณนาความหมายพื้นฐาน อย่างถูกต้องของ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิด สันติ” จะเปดเผยให้เห็นพุทธธรรมของพระนิชิเร็นไดโชนินได้อย่าง ชัดเจนว่าเป็นศาสนาเชิงมนุษยธรรมเพื่อนำาทางสังคมทั้งในปจจุบัน และอนาคต ดังนั้นขอให้พวกเราพิจารณาคำาถามเหล่านี้ด้วย จุดมุ่งหมายที่จะยืนยันถึงสิ่งที่หมายถึงการดำารงชีวิต “บนพื้นฐาน ธรรมนิพนธของพระนิชิเร็นไดโชนิน” ไซโต : ผมถูกถามอยู่บ่อย ๆ ถึงความหมายที่ชัดเจนของแนวคิดที่ ว่า การเผยแผ่ธรรมตลอดชั่วชีวิตของพระนิชิเร็นไดโชนินเริ่มต้นและ จบลงด้วยบทนิพนธฉบับนี้
47 อาจารยอิเคดะ : คำาอธิบายหนึ่งก็คือ ชีวิตของพระนิชิเร็นไดโชนิน ส่วนใหญ่มุ่งให้ความสำาคัญกับบทนิพนธฉบับนี้ กล่าวได้ว่า การทำาให้ หลักการของ “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิด สันติ” เป ็นจร ิงข ึ ้นมาได ้น ั ้นค ือจ ุดประสงค พ ื ้นฐานของความเพ ียร พยายามในการเผยแผ่ธรรมของท่าน โมรินากะ : ผมจะขอลองสรุปชีวิตของพระนิชิเร็นไดโชนินจากจุดยืน นี้ครับ พระนิชิเร็นไดโชนินก่อตั้งคำาสอนเมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1253 ในวันนั้นการต่อสู้ของท่านในการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยและ สังคมและนำาพาประชาชนไปสู่การรู้แจ้งได้เริ่มต้นขึ้น อีก 7 ปต่อมา ในวันที่ 16 กรกฎาคม ค.ศ. 1260 ท่านได้ยื่นบทนิพนธเรื่อง “การ กอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิดสันติ” ให้แก่รัฐบาล อาจารยอิเคดะ : สามารถกล่าวได้ว่าการท้วงติงผู้ปกครองประเทศ ในวันนั้นนับเป็นการเริ่มต้นอย่างแท้จริงของการต่อสู้ที่ได้พัฒนาอย่าง เต็มสมรรถนะของพระนิชิเร็นไดโชนินในการปฏิรูปสังคมและยุคสมัย ไซโต : นั่นคือความหมายที่บ่งบอกว่า การเผยแผ่ธรรมตลอดชั่วชีวิต ของท่านเริ่มต้นด้วยบทนิพนธฉบับนี้ โมรินากะ : การกดขี่บีฑาที่พระนิชิเร็นไดโชนินเผชิญมีความเข้มงวด รุนแรงขึ้นหลังจากการยื่นบทนิพนธเรื่อง “การกอตั้งคําสอนที่ ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิดสันติ” เดือนถัดมา วันที่ 27 สิงหาคม ค.ศ. 1260 ผู้ติดตามของนิกายสุขาวดีกลุ่มหนึ่งได้โจมตีที่พำานักของ
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 โลกแหงธรรมนิพนธ พระนิชิเร็นไดโชนินที่มะจึบางายะจึในคามาคูระและหมายจะเอาชีวิต ของท่าน เหตุการณนี้คงเป็นไปไม่ได้หากผู้มีอำานาจทางการเมืองไม่ ได้อยู่เบื้องหลัง วันที่ 12 พฤษภาคม ปถัดมา พระนิชิเร็นไดโชนิน ถูกเนรเทศไปที่อิสึ ซึ่งคิดว่าการเนรเทศครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะท่านโฮโจ ชิเงโทขิ บิดาของท่านโฮโจ นางาโทขิ2 ผู้สำาเร็จราชการลำาดับที่ 6 และเป็นผู้ศรัทธาที่เหนียวแน่นของนิกายสุขาวดี รู้สึกโกรธเคืองอย่าง สุดขีดต่อเนื้อหาของบทนิพนธเรื่อง “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตอง เพ� อใหประเทศเกิดสันติ” อาจารยอิเคดะ : แม้ภัยพิบัติ 2 ประการคือกบฏภายในและการ รุกรานจากต่างชาติ3 ซึ่งได้ทำานายไว้ในเอกสารฉบับนี้ปรากฏเป็น จริงก็ตาม การต่อสู้ตลอดชั่วชีวิตของพระนิชิเร็นไดโชนินก็ยังคง ประสบกับความยากลำาบากที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล อีกด้วย โมรินากะ : ใช ่คร ับ ความส ัมพ ันธ ระหว่างพระน ิช ิเร ็นไดโชน ินก ับ รัฐบาลทหารกลับตึงเครียดมากขึ้นเรื่อย ๆ ใน ค.ศ. 1268 ซึ่งเป็นป ที่จดหมายที่เป็นทางการเรียกร้องให้ประเทศญี่ปุนสวามิภักดิ์ต่อ จักรวรรดิมองโกลได้มาถึง นี่เป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่า คำาพยากรณเรื่องการรุกรานจากต่างชาติกำาลังปรากฏเป็นจริง อาจารยอิเคดะ : จากธรรมนิพนธของพระนิชิเร็นไดโชนินเรื่อง
49 “พฤติกรรมตาง ๆ ของผูปฏิบัติสัทธรรมปุณฑริกสูตร” พวกเรา ได้เรียนรู้ว่า ทันทีหลังจากที่จดหมายฉบับนี้ส่งมาถึง ก็มีการ ถกเถียงกันภายในรัฐบาลถึงการปราบปรามพระนิชิเร็นไดโชนินและ ลูกศิษยของท่าน ให้หนักมากขึ้นกว่าเดิมหรือไม่4 โมรินากะ : ช่วงการบีฑาธรรมที่ทะจึโนะคุจิเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2 โฮโจ ชิเงโทขิ (ค.ศ. 1198 - 1261) และโฮโจ นางาโทขิ (ค.ศ. 1229 - 1264) : ขณะที่โฮโจ โทขิโยริ (ค.ศ. 1227 - 1263) ผู้สําเร็จราชการตระกูลโฮโจลําดับ ที่ 5 ปวยขั้นรุนแรง นางาโทขิได้รับการแตงตั้งให้เปนผู้สําเร็จราชการลําดับ ที่ 6 ในการทําหน้าที่จนกระทั่งโทขิมุเนะ บุตรชายของโทขิโยริเติบใหญขึ้น ชิเงโทขิ ผู้ศรัทธาอยางแรงกล้าของนิกายสุขาวดีได้กดดันนางาโทขิ บุตรชาย ของตนเองให้ลงโทษพระนิชิเร็นไดโชนินโดยเนรเทศไปที่อิสึ หลังจากนั้น ไมนาน ชิเงโทขิก็ปวยหนักเจียนตาย ทุกวิธีรักษาและการอธิษฐานได้ถูก นํามาใช้แตก็ไร้ผล และเสียชีวิตใน ค.ศ. 1261 3 ภัยพิบัติจากกบฏภายในและการรุกรานจากตางชาติ : จากภัยพิบัติ 7 ประการในไภษัชยคุรุไวฑูรยประภาสสูตรทํานายวา ประเทศที่หมิ่นประมาท คําสอนที่ถูกต้องจะพบกับความทุกขยาก ทั้ง 2 ประการนี้ยังไมได้เกิดขึ้น ในสมัยพระนิชิเร็นไดโชนิน ในบทนิพนธเรื่อง “การกอตั้งคําสอนที่ถูกต้อง เพื่อให้ประเทศเกิดสันติ” พระนิชิเร็นไดโชนินบอกเหตุลวงหน้าวา หาก ประเทศญี่ปุนยังคงให้การสนับสนุนคําสอนที่ผิดและหมิ่นประมาทคําสอน ที่ถูกต้อง ภัยพิบัติทั้ง 2 ประการนี้จะเกิดขึ้นแนนอน 4 ในธรรมนิพนธเรื่อง “พฤติกรรมตาง ๆ ของผู้ปฏิบัติสัทธรรมปุณฑริกสูตร” พระนิชิเร็นไดโชนินกลาววา : “การตักเตือนของอาตมาได้เรียกให้เกิด ความเปนปฏิปกษเพิ่มมากขึ้น. สภาสูงของผู้สําเร็จราชการได้พบและ ถกกันวาจะตัดศีรษะหรือขับไลอาตมาออกจากคามาคูระ และวาจะริบ ที่ดินหรือประหารลูกศิษยและอุปฏฐากของอาตมา หรือจําคุกหรือเนรเทศ¬
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 โลกแหงธรรมนิพนธ ค.ศ. 1271 พระนิชิเร็นไดโชนินได้ประกาศอีกครั้งต่อหน้าท่านเฮอิโนะ ซาเอมน5 เจ ้าหน ้าท ี ่ท ี ่มาจ ับก ุมท ่านว ่า การล ้ม “เสาหลักของ ประเทศญี่ปุน” จะนำามาซึ่งภัยพิบัติ 2 ประการอย่างแน่นอน (อ้างอิง ธรรมนิพนธฉบับภาษาอังกฤษ เลม 1 หน้า 579) และหลังการประกาศดังกล่าว ขณะที่ท่านถูกเนรเทศ ไปที่เกาะซาโดะ เหตุการณความไม่สงบโฮโจ โทขิสุเขะ6 ก็เกิดขึ้น คำาพยากรณเรื่องการเกิดกบฏภายในของท่านได้ปรากฏเป็นจริง แล้ว หลังจากที ่ท่านได้รับการอภัยโทษไม่นาน การรุกรานจากมองโกล ครั้งที่ 1 ก็บังเกิดขึ้น คำาพยากรณเรื่องการเกิดการรุกรานจาก ต่างชาติของท่านปรากฏเป็นจริง การรุกรานจากมองโกลครั้งที่ 2 ได้ เกิดขึ้นใน ค.ศ. 1281 ซึ่งเป็นปก่อนที่พระนิชิเร็นไดโชนินดับขันธ อาจารยอิเคดะ : ภัยพิบัติ 2 ประการนี้สามารถสรุปได้ว่าเป็น “สงครามกลางเมือง” และ “การถูกรุกราน” ไม่มีสิ่งใดโหดร้าย 5 เฮอิโนะ ซาเอมน (เสียชีวิต ค.ศ. 1293) : เจ้าหน้าที่ทหารในสมัยคามาคูระ รับใช้ผู้สําเร็จราชการ 2 รุน คือโฮโจ โทขิมุเนะ และ โฮโจ ซาดาโทขิ เขามี อํานาจมากทั้งทางการเมืองและทางทหารในตําแหนงผู้ชวยหัวหน้า สํานักงานกิจการทหารและตํารวจ มีบทบาทสําคัญในการเนรเทศ พระนิชิเร็นไดโชนินและลูกศิษย 6 เหตุการณความไมสงบโฮโจ โทขิสุเขะ (ค.ศ. 1272) : เหตุการณที่โฮโจ โทขิสุเขะ พี่ชายตางมารดาของโฮโจ โทขิมุเนะ ผู้สําเร็จราชการ ได้วางแผนยึดอํานาจ ทวาโทขิมุเนะทราบแผนการนี้ และปราบปรามอยางทันทวงทีโดยสังหารพี่ชายของตนเอง
51 ยิ่งไปกว่าสงคราม สงครามทำาลายชีวิตประจำาวันของประชาชน คนธรรมดา การทำาให้สันติภาพและความมั่นคงของประชาชนสำาเร็จ เป็นจริง สงครามจะต้องถูกยับยั้งไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม นี่คือ คำาตักเตือนที่จริงใจของพระนิชิเร็นไดโชนิน ในบทนิพนธเรื่อง “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อ ใหประเทศเกิดสันติ” ท่านได้เรียกร้องรัฐบาลอย่างจริงจังให้เลือกใช้ หนทางที่หลีกเลี่ยงสงครามก่อนที่จะสายเกินไป อย่างไรก็ตาม โชคไม่ดีที่คำาตักเตือนของท่านไม่ได้รับการใส่ใจ ดังนั้นท่านจึงมอบ ความไว้วางใจแก่ลูกศิษยที่จะทำาให้วิสัยทัศนนี้ของท่านสำาเร็จ เป็นจริง อันที่จริง ก่อนที่พระนิชิเร็นไดโชนินจะดับขันธ ท่านได้มอบ คำาบรรยายที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นไว้ในบทนิพนธที่มีชื่อเสียง ฉบับนี้ ไซโต : มีการบันทึกไว้ว่า คำาบรรยายครั้งนี้ได้เทศนา ณ ที่พำานักของ ตระกูลอิเคงามิ (ปจจุบันคือเขตโอตะของกรุงโตเกียว) เมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 1282 เพียง 2 สัปดาหก่อนพระนิชิเร็นไดโชนิน ดับขันธ แท้จริงแล้วนี่คือนัยที่บ่งชี้ว่า คำาสอนตลอดชั่วชีวิตของท่าน จบลงด้วย “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิดสันติ” อาจารยอิเคดะ : ในวิถีทางนี้ ชีวิตของพระนิชิเร็นไดโชนินได้คลี่ออก ด้วยเปาหมายหลักซึ่งเป็นการทำาให้แนวคิดเรื่องการก่อตั้งคำาสอนที่ ถูกต ้องส ำาเร ็จเป ็นจร ิง เพ ื ่อท ี ่จะน ำาส ันต ิภาพและความผาส ุกมาสู ่
จุลสารรายเดือน ฉบับที่ 35 11-2563 โลกแหงธรรมนิพนธ ประเทศ เรื่องนี้อยู่ในแก่นของพุทธธรรมของพระนิชิเร็นไดโชนิน เราจะพูดคุยรายละเอียดของเรื่องนี้กันในภายหลัง แต่ ความจริงคือ การพินิจพิเคราะหธรรมะอย่างลึกซึ้งและละเอียดถี่ถ้วน จะนำาไปสู่ความเข้าใจได้ว่า แนวคิดและการปฏิบัติของหลัก “การ กอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อใหประเทศเกิดสันติ” คือส่วนประกอบ สำาคัญของพุทธธรรม สิ่งสำาคัญคือ นี่มิใช่เป็นเรื่องที่เฉพาะเจาะจง หร ือของพระน ิช ิเร ็นไดโชน ินแต ่เพ ียงผู ้เด ียวเท ่าน ั ้น ผมค ิดว ่า เรา สามารถกล่าวได้ว่า แนวคิดนี้เป็นพื้นฐานที่มีอยู่ในพุทธธรรมของ พระศากยมุนีพุทธะด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้น อาจกล่าวได้ว่า นี่คือ อุดมคติที่ทุกศาสนาควรมุ่งมั่นที่จะทำาให้สำาเร็จ ดังนั้นจึงเป็นความ รับผิดชอบของผู้ปฏิบัติพุทธธรรมของพระนิชิเร็นไดโชนินในการ ก้าวหน้าไปตามเส้นทางของการก่อตั้งคำาสอนที่ถูกต้องเพื่อให้ ประเทศเกิดสันติ “กำรก่อตั้งค�ำสอนที่ถูกตอง” ในแงของบุคคลและในแงของสังคม ไซโต : เหตุใดแนวคิดเรื่อง “การกอตั้งคําสอนที่ถูกตองเพ� อให ประเทศเกิดสันติ” จึงมีการเข้าใจผิดกันอย่างกว้างขวาง อาจารยอิเคดะ : สาเหตุ 2 ประการที่สามารถนำามาอ้างอิงได้