The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นางทัชชกร สุริยะไกร
ครู กศน.ตำบล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thatchakorn.yulin, 2024-04-23 15:26:13

แผนรายสัปดาห์ ม.ปลาย 2-66

นางทัชชกร สุริยะไกร
ครู กศน.ตำบล

ครั้งที่ 5 วันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 13.00-16.00 น. แผนการจัดการเรียนรู้รายสัปดาห์รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2566 แผนพบกลุ่ม จำนวน 3 ชั่วโมง (กรต.12ชั่วโมง) หน่วยที่2 กัญชงและกัญชาพืชยาที่ควรรู้ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองระยอง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม เจตคติที่ดี มีทักษะในการดูแลและสร้างเสริมการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ปฏิบัติจนเป็นกิจ นิสัย วางแผนพัฒนาสุขภาพ ดำรงสุขภาพของตนเอง และครอบครัว ตลอดจนสนับสนุนให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมด้าน สุขภาพพลานามัย และพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างเหมาะสม 2. เนื้อหาตามหลักสูตร 1. ประวัติความเป็นมาของพืชกัญชาและกัญชง 2. ความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับพื้นกัญชาและกัญชง 3. พืชกัญชาและกัญชงคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร 4. การใช้พืชกัญชาและกัญชงในชีวิตประจำวันของคนในโลก ทางทัศนศิลป์ 3. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง (ตัวชี้วัด) 1. บอกประวัติความเป็นมาของพืชกัญชาและกัญชงK) 2. บอกความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับพื้นกัญชาและกัญชงK) 3. สามารถแยกความแตกของพืชกัญชงและกัญชาได้(P) 4. มีทัศนะคติที่ดีเกี่ยวกับการใช้พืชกัญชาและกัญชงในชีวิตประจำวัน(A)ด 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ⃞ ความสามารถในการสื่อสาร ⃞ ความสามารถในการคิด ⃞ ความสามารถในการแก้ปัญหา ⃞ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ⃞ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. กระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs 1. การเรียนรู้ตั้งคำถาม หรือขั้นตั้งคำถาม (learning to Question) 1.1 ครูผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน 1.2 ครูผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 5 ข้อ 1.3 ครูผู้สอนตั้งคำถามกับผู้เรียน ดังนี้ - ผู้เรียนคิดว่าจริงๆแล้วที่มาของกัญชาและกัญชงมีที่มาอย่างไร - ผู้เรียนคิดกัญชาและกัญชงมีความแตกต่างกันอย่างไร - ผู้เรียนคิดว่าปัจจุบันคนเรานำกัญชามาใช้ประโยชน์อะไรบ้าง 1.4 ครูผู้สอนและผู้เรียนช่วยกันสรุปคำตอบและชวนคิดว่าปัจจุบันกัญชาและกัญชงเขามามีบทบาท อย่างไรในชีวิตพวกเราบ้าง


2. การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) 2.1 ครูผู้สอนอธิบายเนื้อหา เรื่องประวัติความเป็นมาของพืชกัญชาและกัญชง 2.2 ครูผู้สอนอธิบายเนื้อหา เรื่องพืชกัญชาและกัญชงคืออะไร แตกต่างกันอย่างไร 2.3 ครูผู้สอนอธิบายเนื้อหา เรื่องการใช้พืชกัญชาและกัญชงในชีวิตประจำวันของคนในโลก 2.4 ครูผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละประมาณ 2-3 คน เพื่อหาข้อมูลจากหนังสือเรียนหรือช่องทางอื่น โดยมีเนื้อหาให้ผู้จับฉลาก 2 เรื่อง 1. เรื่องพืชกัญชา 2. เรื่องพืชกัญชง 2.5 ครูผู้สอนปั่นวงล้อแบ่งกิจกรรมให้กับผู้เรียนแต่ละกลุ่ม 2.6 ครูผู้สอนแจ้งให้เรียนนำข้อมูลที่หาได้มาจัดทำเพื่อนำเสนอโดยใช้โปรแกรม Canva รวบรวมข้อมูล 2.7 ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเริ่มดำเนินกิจกรรมการแสวงหาความรู้ โดยผู้สอนให้เวลาในการหาข้อมูล 50 นาที และเมื่อหมดเวลาผู้เรียนนำข้อมูลที่หาได้มานำเสนอหน้าชั้นเรียน เพื่อแรกเปลี่ยนเรียนรู้กับสามชิกกลุ่มอื่นๆ 3. การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้(Learning to Construct) 3.1 ครูผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มจำนวน 5-10 คน เพื่อสรุปเนื้อหาที่เรียนโดยจัดทำในรูปแบบ คลิปวีดิโอ 3.2 ผู้เรียนแต่ละกลุ่มจัดทำคลิปสรุปเนื้อหาที่เรียนและนำส่งคลิปวีดิโอให้ผู้สอน 3.3 ครูผู้สอนเปิดคลิปวีดิโอของทุกกลุ่มให้กับผู้เรียนทุกคนได้ดูเพื่อสรุปองค์ความรู้ร่วมกัน 6. งานที่มอบหมาย 1. มอบหมายให้ผู้เรียนจัดทำชิ้นงานโดยใช้โปรแกรม canva เรื่องความแตกต่างของกัญชาและกัญชง 2. มอบหมาย งาน ผู้เรียนจัดทำคลิปวิดีโอ เรื่องประวัติความเป็นมาของพืชกัญชาและกัญชง เรื่อง ความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับพื้นกัญชาและกัญชง 3. มอบหมาย งาน กรต. ใบงานที่ 1 เรื่อง ความรู้ที่ควรรู้เรื่องพืชกัญชาและกัญชง ใบงานที่ 2 เรื่อง ความแตกต่างของพืชกัญชาและกัญชง 7. สื่อ/แหล่งเรียนรู้/อุปกรณ์ 1. แบบเรียนรายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2. ใบความรู้ เรื่อง วิเคราะห์ เจาะลึก กัญชาและกัญชง 3. www.google.com 4. แอพพิเคชั่น Canva


8. การเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ที่ ตัวชี้วัด เนื้อหา (กรต.) จำนวน ชั่วโมง หมายเหตุ 1. - บอกประวัติความเป็นมาของพืชกัญชาและกัญชง - บอกความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับพื้นกัญชาและกัญชง ประวัติความเป็นมา ของพืชกัญชาและ กัญชง ความรู้เบื่องต้น เกี่ยวกับพื้นกัญชา และกัญชง 4 ชั่วโมง 2. -สามารถแยกความแตกของพืชกัญชงและกัญชาได้ ความแตกของพืชกัญ ชงและกัญชาได้ 4 ชั่วโมง 3. - มีทัศนะคติที่ดีเกี่ยวกับการใช้พืชกัญชาและกัญชง ในชีวิตประจำวัน การใช้พืชกัญชาและ กัญชงใน ชีวิตประจำวัน 4 ชั่วโมง


9. การวัดและการประเมินผล การวัดผลตามจุดประสงค์ เครื่องมือการวัดผล เกณฑ์การประเมิน ความรู้ (Knowledge) 1. ผู้เรียนบอกประวัติความเป็นมาของพืชกัญชา และกัญชง 2. ผู้เรียนบอกความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับพื้นกัญชา และกัญชง 1. แบบทดสอบหลังเรียน 2. ใบงาน 3. คลิปวีดิโอ 4. บันทึกการเรียนรู้ 1. ผ่านการทำแบบทดสอบ หลังเรียน ได้คะแนน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 2. ใบงาน/คลิปวีดิโอ/เนื้อหาการ นำเสนอ/บันทึกการเรียนรู้ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ทักษะ (Skill) -สามารถแยกความแตกของพืชกัญชงและกัญชา ได้ ชิ้นงานจาก Canva 1. เรื่องพืชกัญชา 2. เรื่องพืชกัญชง มีผลการประเมินในระดับ ผ่าน ของ แบบประเมินการนำเสนอหน้าห้อง พบกลุ่ม เจตคติ (Attitude) - มีทัศนะคติที่ดีเกี่ยวกับการใช้พืชกัญชาและกัญ ชงในชีวิตประจำวัน 1. แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงาน (รายบุคคล) 2. แบบสังเกตการมีส่วน ร่วมในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ 1. มีผลการประเมินในระดับ ผ่าน ของแบบสังเกตพฤติกรรมการ ทำงาน (รายบุคคล) 2. มีผลการประเมินในระดับ ผ่าน ของแบบสังเกตการมีส่วนร่วมใน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ลงชื่อ………………………………………………. (…………………………………………….) ตำแหน่ง………………………………………… วันที่………เดือน…………………….พ.ศ………….. ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ………………………………………………. (นางเพ็ญประภา แสนอุบล) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองระยอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองระยอง วันที่………เดือน…………………….พ.ศ…………..


แบบทดสอบก่อนเรียน รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) หน่วยที่2 กัญชาและกัญชงพืชยาที่ควรรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1. สิ่งที่แตกต่างระหว่างกัญชงและกัญชา คือข้อใด ก. สี ข. กลิ่น ค. รสชาติ ง. ปริมาณสาร THC 2. ข้อใดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันที่ได้จากกัญชง ก. ผ้า เส้นใย และเชือก ข. นม ขนมขบเคี้ยว และลูกกวาด ค. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม วิตามินน้ำมัน CBD ง. ถูกทุกข้อ 3. พืชกัญชาจำแนกออกเป็นกี่ชนิดย่อย ก. 1 ชนิดย่อย ข. 2 ชนิดย่อย ค. 3 ชนิดย่อย ง. 4 ชนิดย่อย 4. ข้อใดคือชื่อวิทยาศาสตร์ของพืชกัญชา ก. Cannabis sativa L. ข. Cannabigerol, CBG ค. Cannabis indica Lam. ง. Cannabis ruderalis Janishch. 5. ข้อใดคือการนำกัญชามาเป็นส่วนผสมของอาหารที่ถูกต้องตามกฎหมาย ก. THC ไม่เกิน 5 mg/serve ข. THC ไม่เกิน 10 mg/serve ค. THC ไม่เกิน 20 mg/serve ง. THC ไม่เกิน 30 mg/serve


แบบทดสอบหลังเรียน รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) หน่วยที่2 กัญชาและกัญชงพืชยาที่ควรรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1. สารออกฤทธิ์ในพืชกัญชาและกัญชงในข้อใดเกี่ยวข้องกันมากที่สุด ก. CDB กับ TDB ข. CBD กับ THC ค. CDB กับ TCB ง. CBB กับ THC 2. อาการในข้อใดจัดเป็นพิษภัยสำคัญที่สุดเมื่อร่างกายได้รับสารออกฤทธิ์จากพืชกัญชา ก. ทำให้เกิดอาการหน้ามืดเป็นลมง่าย ข. ทำให้เกิดความสนุกสนานเกินขอบเขต ค. ทำให้เกิดอาการกระวนกระวายและประสาทหลอน ง. ทำให้เกิดอาการอยากรับประทานอาหารมากยิ่งขึ้นกว่าปกติ 3. พืชกัญชาและกัญชง ที่ปลูกในประเทศไทยมีปริมาณสารสำคัญแตกต่างกันอย่างไร ก. สาร THC ในใบและช่อดอกแห้ง ของพืชกัญชา และพืชกัญชงแตกต่างกันเล็กน้อย ข. สาร THC ในใบและช่อดอกแห้ง ของพืชกัญชา และพืชกัญชงจะมีปริมาณเท่า ๆ กัน ค. สาร THC ในใบและช่อดอกแห้ง ของพืชกัญชา ไม่เกินร้อยละ 0.3 พืชกัญชง ไม่เกินร้อยละ 1.0 ง. สาร THC ในใบและช่อดอกแห้ง ของพืชกัญชา ไม่เกินร้อยละ 1.0 พืชกัญชง ไม่เกินร้อยละ 0.3 4. ข้อใดคือลักษณะของ กัญชาต้นตัวเมีย ก. มีดอกตัวเมียและตัวผู้อยู่ในต้นเดียวกัน ข. มีดอกเป็นช่อดอกเล็ก ๆ สีขาวตรงซอกใบ ค. มีดอกหนาแน่น น้ำหนักมากติดกันเป็นช่อ ๆ ง. มีดอกออกเป็นกระจุกแน่นเป็นชั้น ๆ มีขนสีขาว ๆ 5. ข้อใดไม่ใช่สารที่พบได้ในกัญชา ก. ไทรโครม (TCH) ข. แคนนาบิไดออล (CBD) ค. แคนนาบิเจอรอล (CBG) ง. เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (THC)


เฉลยแบบทดสอบ รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) หน่วยที่2 กัญชาและกัญชงพืชยาที่ควรรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทดสอบก่อนเรียน ทดสอบหลังเรียน ข้อที่ เฉลย ข้อที่ เฉลย 1. ง 1. ข 2. ง 2. ค 3. ค 3. ง 4. ก 4. ง 5. ข 5. ก


ใบงานที่1 เรื่อง ความรู้ที่ควรรู้เรื่องพืชกัญชาและกัญชง รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) หน่วยที่2 กัญชาและกัญชงพืชยาที่ควรรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คำชี้แจง : ให้ผู้เรียนตอบคำถามในข้อต่อไปนี้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนตามที่นัดหมาย 1. ประวัติความเป็นมาของพืชกัญชาและกัญชงเป็นอย่างไร .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. 2. สาระสำคัญที่พบในพืชกัญชาและกัญชง คือสารใด มีคุณสมบัติของสารแต่ละตัวอย่างไร .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ชื่อ-นามสกุล ……….................………………………………. รหัสกลุ่ม…………….............รหัสนักศึกษา........…..……..………


ใบงานที่2 เรื่อง ความแตกต่างของพืชกัญชาและกัญชง รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) หน่วยที่2 กัญชาและกัญชงพืชยาที่ควรรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คำชี้แจง : ให้ผู้เรียนวาดภาพแสดงความแตกต่างระหว่างใบและต้นของพืชกัญชาและกัญชงลงในเอกสาร การ เรียนรู้ด้วยตัวเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนตามที่นัดหมาย ชื่อ-นามสกุล ……….................………………………………. รหัสกลุ่ม…………….............รหัสนักศึกษา........…..……..……… พืชกัญชา (Subsp.lndica) พืชกัญชง (Subsp.Sativa)


ใบความรู้ที่ 2 เรื่อง วิเคราะห์ เจาะลึก กัญชาและกัญชง วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้วิเคราะห์ เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกัญชากับกัญชงในทุกมิติได้ 2. เพื่อให้มีทักษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการคิดวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่าง กัญชากับกัญชง 3. เพื่อให้ตระหนักถึงคุณและโทษของสารที่พบในกัญชาและกัญชง เนื้อหา 1. ความแตกต่างกัญชาและกัญชงทางกายภาพ ภาพที่ 88 ใบพืชกัญชา (Indica) ภาพที่ 89 ใบพืชกัญชง (Sativa) 1.1 แหล่งกำเนิด แหล่งกำเนิดของพืชกัญชาอยู่ในเขตอบอุ่น และตะวันออกกลาง ปากีสถาน อัฟกานิสถาน อินเดีย และเทือกเขาทิเบต ส่วนพืชกัญชงพบใกล้บริเวณเส้นศูนย์สูตร ได้แก่ โคลัมเบีย แม็กซิโก ไทย และเอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ภาพที่ 90 แหล่งกำเนิดพืชกัญชาและพืชกัญชง


1.2 ชนิดของสายพันธ์ุ กัญชา (Cannabis) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Cannabis sativaL. subsp. indica มีลักษณะ เป็นพุ่มเตี้ย ลักษณะหน้าใบกว้างและสั้น มีสีเขียวเข้ม แผ่นใบเป็นสีเขียวถึงเขียวจัด ใบมี5 - 7 แฉก การเรียงตัว ของใบจะชิดกัน ปล้องหรือข้อสั้น และแตกกิ่งเป็นแบบสลับ เปลือกไม่เหนียวลอกได้ยาก ให้เส้นใยสั้นมีคุณภาพต่ำ เมื่อออกดอกจะมียางที่ช่อดอกมาก เมล็ดมีขนาดเล็ก ผิวเมล็ดมันวาว ใบเมื่อ นำมาสูบจะมีกลิ่นหอมคล้ายหญ้าแห้ง มีสาร tetrahydrocannabinol (THC) ประมาณร้อยละ 1 - 10 ชอง บัปติสต์เดอลามาร์ก (Jean Baptiste de Lamarck) นักชีววิทยาชาวฝรั่งเศสได้ค้นพบความ แตกต่างของแคนนาบิสชนิดนี้ในแถบอินเดีย จึงมีตั้งชื่อโดยมี คำนำหน้าว่า indica ภาพที่ 91 ต้นกัญชา ภาพที่ 92 ต้นกัญชง กัญชง หรือ เฮมพ์(Hemp) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cannnabis sativaL.. subsp. Sativa ลำต้นสูง มากกว่า 2 เมตร ปล้องหรือข้อยาว แตกกิ่งก้านน้อยและแตกกิ่งไปในทางเดียวกัน เปลือกเหนียวลอก ง่าย ให้เส้น ใยยาวคุณภาพสูง แผ่นใบเป็นสีเขียวอมเหลือง ใบมีแฉกประมาณ 7- 9 แฉก การเรียงตัวของใบ ค่อนข้างห่าง เมื่อออกดอกจะมียางที่ช่อดอกไม่มาก เมล็ดมีขนาดใหญ่และเป็นลาย ผิวเมล็ดหยาบด้าน ใบ เมื่อนำมาสูบจะมีกลิ่น หอมน้อยทำให้ผู้เสพปวดหัว มีสาร tetrahydrocannabinol (THC) น้อยกว่าร้อยละ 1.0 ใช้ประโยชน์เพื่อต้องการ เส้นใย 1.3 กัญชาตัวผู้ ตัวเมีย และกะเทย มีความโดดเด่นที่แตกต่าง - กัญชาเป็นพืชแยกเพศต่างต้น คือมีทั้งกัญชาเพศผู้และเพศเมีย - กัญชาเพศผู้มีโครโมโซม XY ส่วนกัญชาเพศเมียมีโครโมโซม XX โดยตามธรรมชาติจะมีสัดส่วน อยู่ที่ครึ่งต่อครึ่ง - กัญชาสามารถเป็นพืชที่มี 2 เพศในต้นเดียวได้ โดยมีทั้งเกสรตัวเมียและเกสรตัวผู้ในต้น เดียวกัน ที่เรียกว่า “กัญชากะเทย” ซึ่งจะผลิตดอกและจะถ่ายละอองเรณูกับดอกพวกนั้น โดยกัญชา อาจเป็นกัญชากะเทย ได้เองตามธรรมชาติหรือกลายเป็นกะเทยเนื่องจากความเครียดของพืชจาก ปัจจัยอย่างแสงแดดที่มากไป น้ำที่มาก ไปหรือไม่เพียงพอ รวมไปถึงแมลงหรือโรค เป็นต้น


- เพศของกัญชาไม่ใช่แค่ขึ้นอยู่กับพันธุกรรม แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยสิ่งแวดล้อมรอบข้างด้วย แต่ละ เพศมีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน กัญชากะเทยมักไม่นิยมนำผลิตผลมาใช้เนื่องจากดอกที่เต็มไปด้วยเมล็ด แปลว่าสารแคนนาบิ นอยด์ มีจำนวนไม่มาก จึงไม่นิยมนำมาใช้ในการรักษา อีกทั้งคุณภาพของตัวต้นจะไม่ดีเท่ากัญชาตัวผู้หรือ กัญชา ตัวเมีย ทั้งนี้กัญชากะเทยสามารถผสมพันธุ์เองได้ แปลว่ากัญชารุ่นหลังจะเป็นกัญชาที่สามารถ เป็นพืช 2 เพศในต้น เดียวกันที่จะท าให้แหล่งรวมยีนด้อยลง ไม่หลากหลายเพราะการผสมพันธุ์กันเอง 1.4 กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง 1.4 กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง (photosynthesis) กัญชา หรือ อินดิก้า (indica) มีคลอโรฟิลล์ (chlorophyll) สูงจึงท าให้โตเร็วกว่าสายพันธุ์ย่อย กัญชง หรือซาติวา (sativa) ซึ่งท าให้ อินดีก้า มีสีเขียวเข้มกว่า แต่จะมีรงควัตถุ (accessory pigments) ที่ทำหน้าที่จับพลังงานแสงแดด ที่น้อยกว่าจึงมี การเติบโตในประเทศที่มีอากาศเย็น ภาพที่ 93 รายละเอียดพืชกัญชาและพืชกัญชง


1.5 ประโยชน์ของพืชกัญชง กัญชง หรือ เฮมพ์ (Hemp) นำมาใช้ประโยชน์ได้หลายมิติ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม 1. กัญชงสำหรับอุตสาหกรรม (Industrial Hemp)คือ พันธุ์กัญชงที่ให้เส้นใยไฟเบอร์สูง ปริมาณน้ำมันที่จะ ผลิต THC ต่ำ โดยเน้นใน ส่วนของลำต้นกัญชงเป็น หลัก โดยประเทศไทย ได้มีการปลูกกัญชงและตัด กัญชงก่อนที่จะออก ดอกเพื่อให้ได้ใยกัญชงมาผลิตใน อุตสาหกรรม ปัจจุบันใยกัญชงซึ่งมีคุณสมบัติที่เหนียว ทนทานได้ถูกนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์หลายชนิด เช่น ส่วนประกอบของแผงประตูรถยนต์ อุตสาหกรรม เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า กระเป๋า เยื่อ กระดาษ ไม้แปรรูป วัสดุก่อสร้าง อาหารสัตว์ ฯลฯ 2. กัญชงเพื่อใช้เป็นยา (Medicinal Hemp) คือ พันธุ์กัญชงที่มีวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง เพื่อให้ได้ ดอกกัญชง โดยดอกกัญชงจะผลิตเป็นน้ำมันได้ มาก ที่สุด แต่น้ำมันนั้นจะให้สาร THC ต่ำแต่มีความ คาดหวังที่จะให้สารแคนนาบิไดออล หรือ CBD ซึ่งเป็น สารในกลุ่มแคนนาบินอยด์ ที่ช่วยลด การอักเสบ ลดความเครียด และช่วยอาการเกร็ง ผิดปกติ รวมถึง การนำมาใช้ช่วยบำบัดอาการทาง สมอง เช่น โรค ลมชัก และโรคพาร์กินสัน ฯลฯ ปัจจุบันมูลค่าของ CBD มีราคาสูงมาก ไม่เพียง นำมาใช้เป็นยารักษาโรค เท่านั้น แต่ยังนำมาใส่ใน ผลิตภัณฑ์น้ำมัน CBD ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาหาร ขนม เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ฯลฯ นอกจากนั้นแล้วยังมีส่วนที่เป็น “เมล็ดกัญชง” ที่เมื่อถูกเครื่องบีบอัดออกมาแล้วก็จะได้ “น้ำมันกัญชง” จากเมล็ดซึ่งไม่มีทั้ง THC และ CBD แต่จะมีน้ำมันโอเมก้า 3 ซึ่งทำให้เลือดเหลวตัว ลดการก่อตัวเป็นลิ่มเลือด ช่วย ลดการอักเสบของหลอดเลือด ซึ่งสามารถนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์เสริม อาหารที่มีคุณค่าได้เช่นเดียวกัน กล่าวโดยสรุป พืชกัญชากับพืชกัญชงมีความแตกต่างกันในด้านแหล่งกำเนิด ซึ่งมีการ ระบุว่า พืชกัญชาอยู่ ในเขตอบอุ่น ส่วนพืชกัญชงพบใกล้บริเวณเส้นศูนย์สูตร โดยกัญชามีชื่อทาง วิทยาศาสตร์ว่า แคนนาบิส ซาติว่า แอล. อินดีก้า (Cannabis sativa L. subsp. indica ) ส่วนกัญชงมีชื่อ ทางวิทยาศาสตร์ว่า แคนนาบิส ซาติว่า แอล. ซาติว่า (Cannnabis sativaL.. subsp. sativa ) พืชกัญชาใน ที่นี้หมายรวมถึงกัญชงด้วย มีการแยกเพศต่าง ต้น เป็นตัวผู้ ต้นตัวเมีย และยังมีต้นกะเทย ซึ่งมีสองเพศ ในต้นเดียวกัน ด้านการสังเคราะห์แสงเจริญเติบโตกัญชา มีคลอโรฟิลล์สูงจึงทำให้โตเร็วกว่ากัญชง ทำให้ กัญชามีสีเขียวเข้มกว่า และเติบโตในประเทศที่มีอากาศเย็น ภาพที่ 94 เพศของกัญชา


2. ความแตกต่างของสารสกัดกัญชาและกัญชง การกำหนดคำนิยามของคำว่า “กัญชง” ของแต่ละประเทศ เพื่อให้แยกออกจากคำนิยามจาก กัญชานั้นมีความแตกต่างกัน โดยใช้ปริมาณของสาร THC ร้อยละของน้ำหนักดอกเป็น เกณฑ์ตัดสิน โดยใน ประเทศแคนนาดา และสหรัฐอเมริกาได้กำหนดสาร THC ต่ำกว่าร้อยละ 0.3 คือ กัญชง ในขณะที่สหภาพยุโรป กำหนดสาร THC ต่ำกว่าร้อยละ 0.2 คือ กัญชง ในประเทศไทย ตามประกาศคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ ได้กำหนดลักษณะ ตามปริมาณสาร THC ในใบและช่อดอกไม่เกินร้อยละ 1.0 ต่อน้ำหนักแห้ง คือ กัญชง ดังนั้น หากปริมาณสาร THC สูงเกินกว่าที่แต่ละประเทศกำหนด จัดได้ว่าเป็นกัญชา ภาพที่ 95 ภาพแสดงชีวะสังเคราะห์สาร THC สาร CBD และภาพครึ่งใบของพืชกัญชาและกัญชง การพัฒนาสายพันธุ์กัญชาที่มีค่าเฉลี่ยสาร CBD สูง เพื่อใช้ทางการแพทย์ ปัจจุบัน มีหลายประเทศทั่วโลก ที่อนุญาตให้ใช้ CBD ทางการแพทย์ รวมทั้งประเทศไทยอนุญาตให้ผู้ป่วยใช้ กัญชาทางการแพทย์ได้ ถึงแม้ไม่สามารถปลูกพืชชนิดนี้อย่างถูกกฎหมายได้ในประเทศไทย สายพันธุ์ กัญชาที่นิยมน ามาใช้ทางการแพทย์ ส่วนใหญ่จะเน้นสายพันธุ์ที่มี CBD สูง แต่มี THC ที่ต่ำ หรือ ใกล้เคียง สาเหตุที่มีการผลักดันให้ใช้ CBD ทางการแพทย์เพราะสารนี้มีประโยชน์ในการรักษาที่คล้าย กับ THC แต่ CBD ไม่ทำให้เกิดอาการเมาเหมือนกับ THC จึงดูเหมาะสมที่จะนำมาใช้ทางการแพทย์ มากกว่า แต่อย่างไรก็ตามโรคบางโรคนั้นต้องใช้ทั้ง CBD และ THC ควบคู่กันไปในการรักษา เช่น โรคมะเร็ง บรรเทาอาการปลายปอกประสาทเสื่อม


กล่าวโดยสรุป สาร THC และ CBD ถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ สาร THC มีผลต่อ ระบบประสาท ส่วนกลาง แต่สาร CBD ไม่มีผลข้างเคียงต่อระบบประสาทส่วนกลาง 3. สารในกัญชงและกัญชา ตามกฎหมายกำหนด ยังเป็นยาเสพติด 3.1 ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 2 ยังคงยืนยันกำหนดให้กัญชาและกัญชง เป็นยาเสพ ติดให้โทษประเภท 5 เช่นเดิม การผลิต เพาะปลูก นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ใน ครอบครองโดยไม่ได้รับ อนุญาตเป็นความผิดตามกฎหมายยาเสพติดให้โทษ 3.2 ประกาศฉบับนี้เป็นเพียงการประกาศยกเว้นให้สารสกัดจากกัญชาและกัญชงที่มี ปริมาณของ สาร THC เพียงเล็กน้อย รวมถึงบางส่วนของพืชกัญชงไม่ถูกควบคุมเป็นยาเสพติดให้โทษ เพื่อให้นำไปใช้ใน อุตสาหกรรมประเภทต่าง ๆ เช่น อาหาร เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และยา เท่านั้น 3.3 ผลของประกาศกำหนดให้สารสกัดและบางส่วนของพืชกัญชาและกัญชงเป็นยา หรือสมุนไพร เท่านั้น 3.3.1 ปลอกแห้ง แกนลำต้นแห้ง เส้นใยแห้งของกัญชาและกัญชง 3.3.2 สาร CBD บริสุทธิ์ร้อยละ 99 ที่มี THC ผสมไม่เกินร้อยละ 0.01 (เพื่อนำมาใช้เป็น สารมาตรฐานในห้องปฏิบัติการ) 3.3.3 สารสกัด CBD หรือผลิตภัณฑ์จากสารสกัด CBD ที่มีสาร THC ผสมไม่เกิน ร้อยละ 0.2 ที่เป็นยาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพรตามกฎหมายว่าด้วยยาหรือสมุนไพร (เช่นเดียวกับใน หลายประเทศที่ยกเว้น) 3.3.4 เมล็ดกัญชงหรือน้ำมันจากเมล็ดกัญชงที่เป็นอาหารตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร 3.3.5 น้ำมันหรือสารสกัดจากเมล็ดกัญชงตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง ตารางเปรียบเทียบคุณและโทษของสารกัญชาและกัญชง สาระสำคัญ ที่มีใน กัญชา THC คุณ 1. ยับยั้งลดอาการปวดในการรักษาโรค 2. ใช้เป็นยาในการรักษาทางการแพทย์ 3. เป็นภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ใช้ปรุงผสม สำหรับตำรับยา 16 ตำรับ โทษ 1. มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง 2. รับในปริมาณมากจะทำให้เกิดการเสพติด และมึนเมา เนื่องจากมีปริมาณ สารเสพติดมาก 3. ผลข้างเคียง ทำให้ปากแห้ง กระหายน้ำ หัวใจเต้นเร็ว ตอบสนองช้า ตาแดง หรือความจำลดลง 4. ผู้ใดครอบครอง ที่ไม่ได้รับอนุญาตมีโทษตาม พรบ. ยาเสพให้โทษประเภทที่ 5 สาระสำคัญ ที่มีใน กัญชง CBD คุณ 1. ไม่มีผลข้าง เคียงต่อระบบประสาทส่วนกลาง 2. ใช้เป็นยาในการรักษาทางการแพทย์ 3. ใช้เป็นสารต้านฤทธิ์ THC ได้ เพื่อลดอาการมึนเมา และเสพติด 4. ลดอาการความเจ็บปวด โทษ 1. ถ้ารับเข้าในร่างกายในปริมาณมาก อาจจะทำให้เกิดการอาเจียน


3.4. ในระยะเวลา 5 ปีแรกนับจากวันที่ 31 ส.ค.2562 สารสกัด CBD หรือผลิตภัณฑ์ จากสาร สกัด CBD ที่เป็นยาหรือสมุนไพร เมล็ดกัญชง น้ำมันจากเมล็ดกัญชง หรือสารสกัดจากเมล็ด กัญชงที่เป็น อาหาร หรือเครื่องสำอาง จะได้รับการยกเว้นไม่เป็นยาเสพติดให้โทษจะต้อง “ผลิตใน ประเทศเท่านั้น” เพื่อป้องกันมิให้ นำเข้ายาหรือผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหาร หรือเครื่องสำอางสกัดจาก เมล็ดกัญชงจากต่างประเทศอย่างเสรี 3.5. การดำเนินการต่อไป กระทรวงสาธารณสุขกำลังเร่งแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงว่า ด้วยการ อนุญาตเกี่ยวกับกัญชง พ.ศ.2559 จากเดิมมีบทเฉพาะกาล 3 ปีที่ให้เฉพาะหน่วยงานของรัฐ ขออนุญาตปลูกกัญชง ได้ เป็นให้ภาคเอกชนสามารถขออนุญาตปลูกได้ด้วย สรุป 1. ความแตกต่างกัญชาและกัญชงทางกายภาพ คือ พืชกัญชากับพืชกัญชงมีความ แตกต่างกันในด้าน แหล่งกำเนิด ซึ่งมีการระบุว่า พืชกัญชาอยู่ในเขตอบอุ่น ส่วนพืชกัญชงพบใกล้ บริเวณเส้นศูนย์สูตร โดยกัญชามีชื่อ ทางวิทยาศาสตร์ว่า แคนนาบิส ซาติว่า แอล. อินดิก้า (Cannabis sativaL. subsp. Indica ) ส่วนกัญชงมีชื่อทาง วิทยาศาสตร์ว่า แคนนาบิส ซาติว่า แอล. ซาติว่า (Cannnabis sativaL.. subsp.Sativa ) พืชกัญชาในที่นี้หมาย รวมถึงกัญชงด้วย มีการแยกเพศต่างต้น เป็นตัวผู้ ต้นตัวเมีย และยังมีต้นกะเทย ซึ่งมีสองเพศในต้นเดียวกัน ด้านการสังเคราะห์แสงเจริญเติบโต กัญชามีคลอโรฟิลล์สูง จึงทำให้โตเร็วกว่ากัญชง ทำให้กัญชามีสีเขียวเข้มกว่า และเติบโตในประเทศที่มี อากาศเย็น 2. ความแตกต่างของสารสกัดกัญชาและกัญชง คือ สาร THC และ CBD ถูกนำไปใช้ ประโยชน์ทาง การแพทย์ แต่สาร THC มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง ส่วนสาร CBD ไม่มีผลข้างเคียงต่อระบบประสาท ส่วนกลาง 3. สารในกัญชงและกัญชา ตามที่กฎหมายกำหนด ยังเป็นยาเสพติด กล่าวโดยสรุป ตามกฎหมาย กัญชาและกัญชง ยังคงเป็นยาเสพติด


ครั้งที่ 6 วันที่ 10 ธันวาาคม พ.ศ.2566 เวลา 09.00 – 12.00 น. แผนการจัดการเรียนรู้รายสัปดาห์รายวิชาศิลปศึกษา (ทช31003) ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 หน่วยที่ 2 ดนตรีสากล แผนพบกลุ่ม จ านวน 3 ชั่วโมง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อ าเภอเมืองระยอง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ 1. เข้าใจและแสดงออกทางดนตรีอย่างสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์ คุณค่าดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอย่างอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน 2. เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างดนตรี ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม เห็นคุณค่าของดนตรี ที่เป็นมรดก ทาง วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทยและสากล 2. เนื้อหาตามหลักสูตร เรื่องที่ 1 ดนตรีสากล เรื่องที่ 2 ดนตรีสากลประเภทต่าง ๆ เรื่องที่ 3 คุณค่าความไพเราะของเพลงสากล เรื่องที่ 4 ประวัติภูมิปัญญาทางดนตรีสากล 3. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง (ตัวชี้วัด) 1. อธิบายลักษณะ และจำแนกประเภทของเครื่องดนตรีสากลได้(K) 2. ร้องเพลง หรือเล่นเครื่องดนตรีสากลได้(P) 3. มีความกล้าแสดงออก ส่งเสริมและอนุรักษ์ดนตรีในฐานะมรดกของชาติ (A) 4. สมรรถนะส าคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


5. กระบวนการจัดการเรียนรู้5 STEPs ขั้นที่ 1 การเรียนรู้ตั้งค าถาม (learning to Question) 1.1 ครูผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน และชี้แจงจุดประสงค์การเรียนรู้ รายวิชาศิลปะ (ทช31003) 1.2 ครูผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง ดนตรีสากล จำนวน 5 ข้อ 1.3 ครูผู้สอนให้ผู้เรียนดูภาพเครื่องดนตรีที่เตรียมมา แล้วช่วยกันตอบชื่อเครื่องดนตรีให้ถูกต้อง - ระนาด เป็นเครื่องดนตรีไทยชนิดหนึ่ง จัดเป็นเครื่องดนตรีชนิดเครื่องตี ประกอบด้วย ลูกระนาด ร้อยด้วย เชือก เรียกว่า "ผืน" แขวนไว้กับ ราง ซึ่งท าหน้าที่รองรับลูกระนาด (แขวนลอย ไม่ได้วางรายกับราง) และท า หน้าที่เป็นกล่องเสียงด้วย ผู้เล่นจะใช้ ไม้ตี 1 คู่ ส าหรับตีลูกระนาดให้เกิดเป็นท่วงท านอง - ไซโลโฟน เป็นเครื่องดนตรีประเภทเครื่องกระทบชนิดที่มีระดับเสียงแน่นอน เป็นระนาดไม้ขนาดเล็กของ ดนตรีตะวันตก ลักษณะทั่วไปจะคล้ายกับมาริมบาหรือไวบราโฟน คาดว่ามีต้นก าเนิดมาจากแอฟริกาและ เอเชีย ไม้ 2 อันที่ใช้ตีเรียกว่า ลูกค้อน ลักษณะตรงปลายเป็นหัวกลม ความกว้างของช่วงเสียงจะขึ้นอยู่กับ ขนาดของไซโลโฟน ซึ่งมีด้วยกัน 3 ลักษณะคือ เล็ก(Soprano) กลาง(Alto) ใหญ่(Bass) เสียงของไซโลโฟน จะคล้ายเสียงระนาดของบ้านเรา คือ แกร่ง คม สั้นห้วน และชัดเจน เหมาะที่จะใช้เป็นเครื่องดนตรีเล่นเดี่ยว ท านองเพลงหรือเพิ่มสีสันของวงดุริยางค์ให้งดงามขึ้น 1.5 ครูผู้สอนและผู้เรียนช่วยกันสรุปคำตอบและชวนคิดว่าเครื่องดนตรีที่ครูนำมาจัดเป็นเครื่องดนตรี ไทย หรือเครื่องดนตรีสากล ขั้นที่ 2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) 2.1 ครูผู้สอน แบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละประมาณ 5-6 คน 2.2 ครูผู้สอนให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมโดยการเล่นบอร์ดเกม “Spy สายลับ จับโป๊ะ” โดยแจก การ์ดกลุ่มละ 1 ชุด กำหนดเวลาเล่นรอบละ 6 นาที(อาจเพิ่มเวลาได้ตามความเหมาะสม) 2.4 ครูผู้สอนอธิบายวิธีการเล่นเกมให้ผู้เรียนทราบ หลังจากนั้นผู้เรียนแต่ละกลุ่มเริ่มทำกิจกรรมหา สายลับในทีมของตัวเอง เกม Spy สายลับ จับโป๊ะ ระนาด ไซโลโฟน


ขั้นที่ 3 การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) 3.1 ครูผู้สอนแจกใบความรู้และใบงานที่ 1 เรื่องดนตรีสากล ให้ผู้เรียนทำกิจกรรม 3.2 ครูผู้สอนและผู้เรียนร่วมกับสรุปประเภทและลักษณะของเครื่องดนตรีสากลร่วมกัน ขั้นที่ 4 การเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร (Learning to Communicate) 4.1 ครูผู้สอนใช้คำถาม ถามผู้เรียนว่า ผู้เรียนคิดว่าตนเองเปรียบเหมือนเครื่องดนตรีชนิดใด เพราะอะไร 4.2 ครูผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์อารมณ์และความรู้สึกของเพื่อนจากการนำเสนอตนเองผ่าน เครื่องดนตรี 4.3 ครูผู้สอนสอบถามว่าใครมีความสามารถด้านการร้องเพลง และให้ออกมาร้องเพลงให้เพื่อนในชั้นฟัง (อาจจะเป็นเพลงสากลหรือเพลงไทยก็ได้) ขั้นที่ 5 การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service) 5.1 ครูผู้สอนให้ความรู้เพิ่มเติมในเรื่อง การส่งเสริมและอนุรักษ์ดนตรีในฐานะมรดกของชาติ 5.2 ครูผู้สอนและผู้เรียนช่วยกันสรุปองค์ความรู้เรื่อง ดนตรีสากล 5.3 ครูผู้สอนมอบหมายให้ทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง ดนตรีสากล จำนวน 5 ข้อ 6. งานที่มอบหมาย 6.1 ใบงานที่ 1 เรื่อง ดนตรีสากล 6.2 ใบงาน กรต.ที่ 1 เรื่อง ดนตรีและคุณค่าความไพเราะขิงเพลงสากล 6.3 ใบงาน กรต.ที่ 2 เรื่อง ประวัติภูมิปัญญาทางดนตรีสากล 7. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 7.1 แบบเรียนรายวิชา ศิลปศึกษา (ทช31003) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 7.2 ใบความรู้ เรื่อง ดนตรีสากล 7.3 บอร์ดเกม “SPY สายลับ จับโป๊ะ” 8. การเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ที่ ตัวชี้วัด เนื้อหา (กรต.) จ านวนชั่วโมง หมายเหตุ 1. อธิบายประวัติ ความเป็นมาและ วิวัฒนาการของเครื่องดนตรีสากล ประเภทต่าง ๆ 2. อธิบาย รูปแบบและเทคนิควิธีการ เล่นของเครื่องดนตรีสากลประเภท ต่าง ๆ 3. อธิบายความหมาย ความสำคัญ ความเป็นมาของดนตรีสากล เข้าใจ ถึงต้นกำเนิด ภูมิปัญญา และการ ถ่ายทอดสืบต่อกันมา 1. ประวัติ ความเป็นมาและ วิวัฒนาการของเครื่องดนตรี สากลประเภทต่าง ๆ 2. รูปแบบของเครื่องดนตรี สากลประเภทต่าง ๆ และ เทคนิควิธีการเล่นของเครื่อง ดนตรีสากลแต่ละประเภท 3. ประวัติ ความเป็นมาของ 17 ชั่วโมง ใบงาน กรต. ที่ 1 และ 2


ภูมิปัญญาทางดนตรีและเพลง สากล 4. เห็นคุณค่าและเกิดความหวง แหนภูมิปัญญาทางดนตรีสากล 9. การวัดผลและประเมินผล การวัดผลตามจุดประสงค์ เครื่องมือการวัดผล เกณฑ์การประเมินผล ความรู้ (Knowledge) อธิบายเรื่องการจัดการความรู้ แบบทดสอบก่อน - หลังเรียน ผ่านการตอบคำถามได้ 70% ขึ้นไป ทักษะ (Skill) เลือกหัวข้อการจัดการความรู้ ดำเนินการเสนอ ใบงานเรื่อง ดนตรีสากล ใบงาน กรต. ที่ 1 และ 2 ผ่านการประเมินผล ร้อยละ 70% ขึ้นไป เจตคติ (Attitude) มีความรู้สึก เจตคติที่ดีต่อ การจัดการความรู้แบบมีเหตุผล การมีส่วนร่วมในการอธิบาย ความคิดเห็น ผู้เรียน 70% ขึ้นไปมีส่วนร่วมในการ อธิบายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ลงชื่อ………………………………………………. (…………………………………………….) ตำแหน่ง………………………………………… วันที่………เดือน…………………….พ.ศ………….. ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ............................................................................................................................. ..................................... ลงชื่อ………………………………………………. (นางเพ็ญประภา แสนอุบล) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองระยอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองระยอง วันที่………เดือน…………………….พ.ศ…………..


แบบทดสอบก่อนเรียน วิชาศิลปศึกษา (ทช31003) หน่วยที่ 2 ดนตรีสากล ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ค าชี้แจง ให้ผู้เรียนกากบาทค าตอบที่ถูกที่สุดเพียงค าตอบเดียว 1. ยุคทองของดนตรีตรงกับข้อใด ก. Modera Period ข. Romantic Period ค. Polyphonic Period ง. Classical Period 2. เพลงประเภทใดที่ใช้ร้องในโบสถ์ ก. โอราทอริโอ ข. แชมเบอร์มิวสิค ค. ออร์เคสตร้า ง. คอนเซอร์โต 3. เครื่องดนตรีสากลในข้อใดเป็นเครื่องดนตรีประเภทดีด ก. ปิคโคโล ข. แบนโจ ค. เรคอร์เดอร์ ง. คลาริเน็ต 4. เมโลเดียน จัดเป็นเครื่องดนตรีประเภทใด ก. ดีด ข. สี ค. ตี ง. คีย์บอร์ด 5. ละครโอเปรา ที่โด่งดังเรื่องหนึ่งของโลกคือเรื่องใด ก. Twilight ข. Romeo must died ค. Bird of Paradise ง. The Phantom of the Opera


เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน วิชาศิลปศึกษา (ทช31003) หน่วยที่ 2 ดนตรีสากล ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ข้อ เฉลยก่อนเรียน 1 ข 2 ก 3 ข 4 ง 5 ง


แบบทดสอบหลังเรียน วิชาศิลปศึกษา (ทช31003) หน่วยที่ 2 ดนตรีสากล ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ค าชี้แจง ให้ผู้เรียนกากบาทค าตอบที่ถูกที่สุดเพียงค าตอบเดียว 1. ดนตรีในข้อใดที่เกิดจากวงดนตรีที่ใช้ในการเดินสวนสนามของทหาร ก. วงแจ๊ซ ข. วงชาร์โดว์ ค. วงมิวสิคแบนด์ ง. วงโยธวาธิต 2. ประเภทของวงดนตรีสากล จัดแบ่งวงดนตรีเป็นกี่วง ก. แบ่งเป็น 4 วง ข. แบ่งเป็น 6 วง ค. แบ่งเป็น 8 วง ง. แบ่งเป็น 10 วง 3. การบรรเลงของวงแชมเบอร์มิวสิคจะมีเครื่องดนตรีในกลุ่มใดที่นิยมนำมาบรรเลง ก. กลุ่มเครื่องลมไม้ ข. กลุ่มเครื่องกระทบ ค. กลุ่มเครื่องสาย (String) ง. กลุ่มคีย์บอร์ด 4. วงดนตรีแจ๊ซเกิดจากคนพื้นเมืองกลุ่มใดครั้งแรก ก. ชนชาวเยอร์มัน ข. ชนชาวนิโกร ค. ชนชาวรัสเซีย์ ง. คนพื้นเมืองเอเชีย 5. วงดนตรีที่ใช้เครื่องเป่าโลหะจำนวนมากเป็นหลักคือวงใด ก. Brass Band ข. Combo Band ค. Jazz Band ง. Sring Band


เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน วิชาศิลปศึกษา (ทช31003) หน่วยที่ 2 ดนตรีสากล ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ข้อ เฉลยหลังเรียน 1 ง 2 ค 3 ค 4 ข 5 ก


ครั้งที่ 6 วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 13.00-16.00 น. แผนการจัดการเรียนรู้รายสัปดาห์รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2566 แผนพบกลุ่ม จำนวน 3 ชั่วโมง (กรต.12ชั่วโมง) หน่วยที่3 รู้จักโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองระยอง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม เจตคติที่ดี มีทักษะในการดูแลและสร้างเสริมการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี ปฏิบัติจนเป็นกิจนิสัย วางแผนพัฒนาสุขภาพ ดำรงสุขภาพของตนเอง และครอบครัว ตลอดจนสนับสนุนให้ชุมชน มีส่วนร่วมในการส่งเสริมด้านสุขภาพพลานามัย และพัฒนาสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างเหมาะสม 2. เนื้อหาตามหลักสูตร 1. โทษของกัญชาและกัญชง 2. ประโยชน์ของกัญชาและกัญชงทางการแพทย์ ทางทัศนศิลป์ 3. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง (ตัวชี้วัด) 1. มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับโทษของกัญชาและกัญชง และประโยชน์ของกัญชาและกัญชงทาง การแพทย์ (K) 2. มีทักษะการแสวงหาความรู้ และทักษะการวิเคราะห์เกี่ยวกับโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง(P) 3. ตระหนักถึงโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง(A)ด 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ⃞ ความสามารถในการสื่อสาร ⃞ ความสามารถในการคิด ⃞ ความสามารถในการแก้ปัญหา ⃞ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ⃞ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. กระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs 1. การเรียนรู้ตั้งคำถาม หรือขั้นตั้งคำถาม (learning to Question) 1.1 ครูผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน 1.2 ครูผู้สอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 5 ข้อ 1.3 ครูผู้สอนตั้งคำถามกับผู้เรียน ดังนี้ - ผู้เรียนคิดว่าโทษของกัญชาและกัญชงมีอะไรบ้าง - ผู้เรียนคิดว่าประโยชน์กัญชาและกัญชงมีอะไรบ้าง 1.4 ครูผู้สอนและผู้เรียนช่วยกันสรุปคำตอบและชวนคิดว่าข้อดีและข้อเสียของการใช้กัญชงและกัญชาใน ชีวิตประจำวัน


2. การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) 2.1 ครูผู้สอนอธิบายเนื้อหา เรื่องโทษของกัญชาและกัญชง 2.2 ครูผู้สอนอธิบายเนื้อหา ประโยชน์ของกัญชาและกัญชงทางการแพทย์ 2.4 ครูผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียน กลุ่มละประมาณ 4-5 คน เพื่อเล่นเกมล่าขุมทรัพย์กัญชา 2.5 ครูผู้สอนให้ผู้เรียนโหลด แอพพลิเคชั่นspatial และครูให้ผู้เรียนสแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อเข้าสู่ห้องเกมโดย ในห้องเกมจะมีคำอธิบายในการเล่นเกมให้ผู้เรียนอ่านและทำความเข้าใจ 2.6 ครูผู้สอนแจกใบกิจกรรมเกมล่าขุมทรัพย์กัญชาให้กับทุกกลุ่ม 2.7 ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเริ่มดำเนินกิจกรรมการเกมล่าขุมทรัพย์กัญชา 3. การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้(Learning to Construct) 3.1 ครูผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มเล่นเกมล่าขุมทรัพย์ 3.2 ผู้เรียนแต่ละกลุ่มสรุปความรู้เกี่ยวกับโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชงโดยสรุปในรูปแบบ โปรแกรม canva 3.3 ครูผู้สอนเปิดไฟล์งานที่ผู้เรียนสรุปและให้สมาชิกทุกคนในกลุ่มสรุปหน้าชั้นเรียน 6. งานที่มอบหมาย 1. มอบหมายให้ผู้เรียนสรุปความรู้เกี่ยวกับโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชงโดยสรุปในรูปแบบ โปรแกรม canva 2. มอบหมาย งาน ผู้เรียนจัดทำข้อสอบในรูปแบบถามตอบจำนวน 20 ข้อ ในเนื้อหาเรื่องรู้จักโทษและ ประโยชน์ของกัญชงและกัญชา 3. มอบหมาย งาน กรต. ใบงานที่ 1 เรื่อง โทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง ใบงานที่ 2 เรื่อง วิเคราะห์โทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง เกมล่าขุมทรัพย์กัญชา ใบกิจกรรมที่ 1 เกมล่าขุมทรัพย์กัญชา


7. สื่อ/แหล่งเรียนรู้/อุปกรณ์ 1. แบบเรียนรายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 2. ใบความรู้ เรื่อง กัญชาและกัญชงก่อให้เกิดโรคจิตเวชได้ 3. www.google.com 4. แอพพิเคชั่น Canva 8. การเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ที่ ตัวชี้วัด เนื้อหา (กรต.) จำนวน ชั่วโมง หมายเหตุ 1. - บอกถึงประโยชน์ของกัญชาและกัญชงทาง การแพทย์ การใช้กัญชาและกัญ ชงรักษาโรค 4 ชั่วโมง 2. - มีทักษะนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันเกี่ยวกับโทษ และประโยชน์ของกัญชาและกัญชง โทษและประโยชน์ ของกัญชาและกัญชง 4 ชั่วโมง 3. -ตระหนักถึงโทษของกัญชาและกัญชง ผลกระทบทาง ร่างกายและจิตจาก การใช้กัญชาและกัญ ชง 4 ชั่วโมง


9. การวัดและการประเมินผล การวัดผลตามจุดประสงค์ เครื่องมือการวัดผล เกณฑ์การประเมิน ความรู้ (Knowledge) 1. ผู้เรียนบอกประวัติความเป็นมาของพืชกัญชา และกัญชง 2. ผู้เรียนบอกความรู้เบื่องต้นเกี่ยวกับพื้นกัญชา และกัญชง 1. แบบทดสอบหลังเรียน 2. ใบงาน 3. คลิปวีดิโอ 4. บันทึกการเรียนรู้ 1. ผ่านการทำแบบทดสอบ หลังเรียน ได้คะแนน ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 2. ใบงาน/คลิปวีดิโอ/เนื้อหาการ นำเสนอ/บันทึกการเรียนรู้ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ทักษะ (Skill) -สามารถแยกความแตกของพืชกัญชงและกัญชา ได้ ชิ้นงานจาก Canva 1. เรื่องพืชกัญชา 2. เรื่องพืชกัญชง มีผลการประเมินในระดับ ผ่าน ของ แบบประเมินการนำเสนอหน้าห้อง พบกลุ่ม เจตคติ (Attitude) - มีทัศนะคติที่ดีเกี่ยวกับการใช้พืชกัญชาและกัญ ชงในชีวิตประจำวัน 1. แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงาน (รายบุคคล) 2. แบบสังเกตการมีส่วน ร่วมในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ 1. มีผลการประเมินในระดับ ผ่าน ของแบบสังเกตพฤติกรรมการ ทำงาน (รายบุคคล) 2. มีผลการประเมินในระดับ ผ่าน ของแบบสังเกตการมีส่วนร่วมใน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ลงชื่อ………………………………………………. (…………………………………………….) ตำแหน่ง………………………………………… วันที่………เดือน…………………….พ.ศ………….. ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ………………………………………………. (นางเพ็ญประภา แสนอุบล) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองระยอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองระยอง วันที่………เดือน…………………….พ.ศ…………..


แบบทดสอบก่อนเรียน รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) หน่วยที่3 รู้จักโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1. ข้อใดไม่ใช่ผลกระทบต่อร่างกายและผลข้างเคียงระยะสั้นที่พบบ่อยของการใช้กัญชาและกัญชง ก. ตาแห้ง ข. ปากแห้ง ค. อยากอาหาร ง. มีอาการวิตกจริต 2. ข้อใดคือโทษของกัญชาและกัญชงที่ผลต่อจิตใจ ก. ชุมชนเสื่อมโทรม ข. ช่วยลดอาการตึงเครียด ค. เกิดอาการตกสูงตกต่ำ กะระยะผิด ง. ทำให้ประสาทหลอน จิตเสื่อม ควบคุมตัวเองไม่ได้ 3. ข้อใดคือคุณสมบัติของสารแคนนาบิไดออล (Cannabidiol,CBD) ก. ลดอาการเจ็บปวด ข. ควบคุมจิตประสาท ค. ช่วยลดอาการตึงเครียด ง. ทำให้เกิดความผ่อนคลาย 4. ข้อใดคือคุณสมบัติของสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol,THC) ก. ลดอาการคลื่นไส้ ข. ลดอาการชักเกร็ง ค. ลดอาการตึงเครียด ง. ลดการอักเสบของแผล 5. ข้อใดเป็นโรคหรือภาวะที่ได้ประโยชน์ มีผลการศึกษาวิจัยสนับสนุนชัดเจน ก. โรควิตกกังวล ข. โรคลมชักที่รักษายาก ค. โรคมะเร็งระยะสุดท้าย ง. โรคปลอกประสาทอักเสบ


แบบทดสอบหลังเรียน รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) หน่วยที่3 รู้จักโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 1. หญิงสูงวัย ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับมานาน และรักษาอาการมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้น้ำมันกัญชาควบคู่ไปกับยา รักษาโรคมะเร็งแบบออกฤทธิ์จำเพาะของแพทย์แผนปัจจุบันที่ต้องได้รับทุกเดือน ภายใต้ความดูแลของแพทย์ เมื่อ ตรวจเลือดปรากฏว่าค่าการอักเสบของตับลดลง กรณีดังกล่าวน้ำมันกัญชามีประโยชน์ทางการแพทย์ด้านใด ก. หยุดอาการโรค ข. ควบคุมไม่ให้เกิดโรค ค. รักษาสาเหตุของโรค ง. ควบคุมอาการของโรค 2. นายทอง ซื้อผลิตภัณฑ์น้ำมันกัญชาจากการหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตมาให้แม่ที่ป่วยเป็นโรคลมชัก และมีการใช้ น้ำมันกัญชาอย่างต่อเนื่อง จะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อผู้ป่วยตามอาการใด ก. เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ข. เสี่ยงต่อการเกิดโรคชนิดอื่น ค. เสี่ยงต่อการติดน้ำมันกัญชา ง. เสี่ยงต่อการแพ้น้ำมันกัญชา 3. ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด เกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากสารสกัดจากกัญชา ก. การใช้ประโยชน์ของสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ใช้รักษากลุ่มโรคที่มีผลการศึกษาวิจัยสนับสนุน ว่าสามารถใช้ได้ ข. การใช้ประโยชน์ของสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ใช้รักษากลุ่มโรคที่มีผลการศึกษาวิจัยสนับสนุน ว่าไม่เป็นอันตรายต่อตับ ค. การใช้ประโยชน์ของสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ใช้รักษากลุ่มโรคที่มีผลการศึกษาวิจัยสนับสนุน ว่าไม่เป็นอันตรายต่อหัวใจ ง. การใช้ประโยชน์ของสารสกัดกัญชาทางการแพทย์ใช้ควบคุมอาการกลุ่มโรคที่มีผลการศึกษาวิจัยว่า สามารถใช้ได้เฉพาะผู้ป่วยที่ไม่แพ้เท่านั้น 4. สารที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาทในกัญชาจะก่อให้เกิดอาการต่อผู้เสพในข้อใด ก. มีความคิดสร้างสรรค์ ข. มีสมาธิ และตัดสินใจได้ดี ค. ความคิดสับสน ควบคุมตนเองได้ ง. ความคิดสับสน ควบคุมตนเองไม่ได้ 5. ข้อใดไม่ใช่ฤทธิ์ของกัญชาที่ก่อให้เกิดผลข้างเคียงในขณะขับรถ ก. ทำให้ตัดสินใจช้าลง ข. ทำให้กะระยะได้แม่นยำ ค. ทำให้เห็นภาพต่าง ๆ ใหญ่ขึ้น ง. ทำให้เสียสมาธิ ตัดสินใจผิดพลาด


เฉลยแบบทดสอบ รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) หน่วยที่3 รู้จักโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ทดสอบก่อนเรียน ทดสอบหลังเรียน ข้อที่ เฉลย ข้อที่ เฉลย 1. ค 1. ง 2. ง 2. ค 3. ก 3. ก 4. ค 4. ง 5. ข 5. ข


ใบงานที่1 เรื่อง โทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) หน่วยที่3 รู้จักโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คำชี้แจง : ให้ผู้เรียนตอบคำถามในข้อต่อไปนี้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ส่งครูผู้สอนตามที่นัดหมาย 1. โทษของกัญชาและกัญชงต่อร่างกายและจิตใจมีอะไรบ้าง .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. 2. ผลข้างเคียงการใช้กัญชาและกัญชง ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวมีอะไรบ้าง .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. 3. ประโยชน์ของกัญชาและกัญชงทางการแพทย์คืออะไร .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ชื่อ-นามสกุล ……….................………………………………. รหัสกลุ่ม…………….............รหัสนักศึกษา........…..……..……


ใบงานที่2 เรื่อง วิเคราะห์โทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง รายวิชากัญชาและกัญชงศึกษาเพื่อใช้เป็นยาอย่างชาญฉลาด (ทช33098) หน่วยที่2 กัญชาและกัญชงพืชยาที่ควรรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย คำชี้แจง : ให้ผู้เรียนวิเคราะห์กรณีศึกษาต่อไปนี้แล้วแยกแยะโทษและประโยชน์ของกัญชา และกัญชง เขียน คำตอบผลการแยกแยะที่ได้ลงในเอกสารการเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ผลการวิเคราะห์กรณีศึกษา คือ.................................................................................................................................. 1. ความสำคัญของกรณีศึกษานี้ คือ............................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... 2. ความสัมพันธ์ที่พบในกรณีศึกษา คือ....................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................. ...................................................... 3. หลักการที่สำคัญในกรณีศึกษา คือ....................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................. .. ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................. ...................................................... ชื่อ-นามสกุล ……….................………………………………. รหัสกลุ่ม…………….............รหัสนักศึกษา........…..……..……… กรณีศึกษาโทษและประโยชน์ของกัญชาและกัญชง สุรียา อายุ 73 ปี อาศัยอยู่ในชนบท มีลูกสาว 1 คน และ ลูกชาย 1คน ชื่อสมศรี และสมศักดิ์ สามี ของ สุรียาเสียชีวิตเมื่อสุรียา คลอดสมศักดิ์ได้เพียง 2 เดือน จากนั้นสุรียาไม่ได้มีสามีใหม่จึงต้อง เลี้ยงสมศรีและสมศักดิ์เพียงลำพัง สุรียาทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยง ลูกทั้งสองเรื่อยมา จนกระทั่งลูก ทั้งสองโตขึ้น สมศรีทำงานใกล้บ้านเพราะอยากอยู่ดูแลแม่ ส่วนสมศักดิ์ทำงานในกรุงเทพ ฯ จนกระทั่ง สุรียาป่วย มีอาการไอเรื้อรัง เจ็บหน้าอก เนื่องจากต้องทำงานหนัก แต่ไม่ได้ไปหาหมอ เพราะ ไม่คิดว่าจะเป็นโรคร้ายแรง สุรียาทนอยู่กับอาการเจ็บป่วยของตนเองมานานนับปี จนอาการ เริ่มทรุดลง ร่างกายซูบผอม ไม่มีแรง สมศรีจึงพาสุรียาไปหาหมอ เมื่อแพทย์วินิจฉัยอย่าง ละเอียดแล้วพบว่า สุรียาเป็นโรคมะเร็งปอดระยะที่ 4 ไม่มีทางรักษา และให้กลับมาพักที่บ้าน สมศรีจึง หาทางรักษามารดาด้วยตนเองโดยการหาข้อมูลต่าง ๆ ว่ามียาหรือผลิตภัณฑ์ใดที่ สามารถรักษาโรคมะเร็งของสุรียาได้บ้าง จนกระทั่งมาพบ น้ำมันกัญชา สมศรีจึงซื้อน้ำมันกัญชา มาให้สุรียาใช้ ในเวลาต่อมาสุรียามีอาการดีขึ้นทานอาหารได้มากขึ้น อาการ เจ็บ หน้าอกลดลง ใช้ชีวิตได้อย่างปกติ สุรียา และสมศรีได้รับการติดต่อจากเพื่อนร่วมงานของ สมศักดิ์ ว่าสมศักดิ์ไม่สามารถ ทำงานได้ เพราะติดกัญชาขนาดหนักทำให้ร่างกายทรุดโทรม ประสาทหลอน คิดว่าจะมีคนมาทำร้ายตนเอง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจาก การสูบกัญชาเกินขนาด เป็นเวลานาน สุรียาและสมศรีจึงไปรับสมศักดิ์กลับมารักษาอาการดังกล่าว เมื่อสมศักดิ์ กลับมาอยู่ที่บ้านก็ ได้รับการรักษา แต่สมศักดิ์ยังไม่สามารถเลิกสูบกัญชาได้ จึงทำให้อาการ ของสมศักดิ์ยิ่งรุนแรงขึ้น ถึงขั้นทำร้ายสุรียาผู้เป็นแม่จน ได้รับบาดเจ็บ แต่ที่มากไปกว่านั้นคือ สมศักดิ์ได้ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์สาวชาวต่างชาติจำนวน 3 ราย ติดต่อกัน และได้ซ่อนเร้นอำ พรางศพไว้ สื่อต่างชาติได้มีการรายงานข่าวนี้ไปทั่วโลก ทำให้ความมั่นใจด้านความปลอดภัย ของประเทศไทยในสายตาของ ชาวต่างชาติลดลงอย่างมาก


ใบความรู้ที่ 3 เรื่อง กัญชาและกัญชงก่อให้เกิดโรคจิตเวชได้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจ กัญชาและกัญชงก่อให้เกิดโรคจิตเวชได้กกกกกกก 2. เพื่อให้มีทักษะการแสวงหาความรู้เรื่อง กัญชาและกัญชงก่อให้เกิดโรคจิตเวชได้กกกกกกก 3. เพื่อให้ผู้เรียนมีความตระหนักถึงความสำคัญของ โทษกัญชาและกัญชงก่อให้เกิดโรค จิตเวชได้ เนื้อหา กกกกกกกกัญชามีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาคล้ายกับยากระตุ้นประสาท ยากดประสาท ยาหลอนประสาท ยาแก้ปวด และยาที่ออกฤทธิ์ทางจิตประสาท ทำให้ผู้เสพกัญชามีอาการเคลิ้มจิต โดยในขั้นต้นมักจะเป็น อาการกระตุ้น ประสาท ผู้เสพจะมีอาการล่องลอย สับสน ปากแห้ง อยากอาหาร ชีพจรเต้นเพิ่มขึ้น ตาแดงขึ้นในขณะที่เสพ หากเสพเป็นประจำ สุขภาพโดยภาพรวมจะเสื่อมลง ผู้ที่เสพติดกัญชาส่วนใหญ่จะมีโอกาสป่วยเป็นโรคจิตใน ภายหลังมากกว่าคนที่ไม่สูบถึงร้อยละ 60 ยิ่งเสพมากและเสพเป็นเวลานาน ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงมาก โดยผู้เสพหนัก สุดจะมีโอกาสเป็นโรคจิตมากกว่าคนปกติ4-6 เท่ากรมการแพทย์ เปิดเผยการศึกษาผู้ป่วยเสพติดกัญชาที่เข้ารับ การรักษา จากสถาบันบำบัดรักษายาเสพติดของรัฐ 6 แห่ง ทั่วประเทศ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพ ติดแห่งชาติบรมราชชนนีโรงพยาบาลธัญญารักษ์เชียงใหม่ ขอนแก่น อุดรธานี สงขลา ปัตตานี พบเป็นโรคจิตเวชสูง ถึง ร้อยละ 72.3 การเสพ กัญชาเป็นการเริ่มเสพยาเสพติดร้ายแรงทั้งปวง กกกกกกกโรคจิต (Psychosis) คือ ภาวะอาการทางจิตที่ผู้ป่วยมักมีอาการหลงผิดไปจากความเป็นจริง ประสาท หลอน หูแว่ว เห็นภาพหรือรับรู้ในสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง อาการโรคจิตหรือวิกลจริตนี้เป็นปัญหา สุขภาพจิตที่อาจเกิดขึ้น ได้จากหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายในอย่างความผิดปกติทางจิตต่าง ๆ อาการ เจ็บป่วยทางร่างกาย และปัจจัย ภายนอกอย่างการใช้ยาหรือสารเสพติด กกกกกกกอาการโรคจิต แม้อาการบางอย่างของผู้ป่วยโรคจิตจะท าให้ครอบครัวและบุคคลรอบข้าง เป็นกังวล ผู้ป่วยโรคจิตแต่ละคนอาจมีลักษณะท่าทางและอาการที่ปรากฏแตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไป แล้ว กลุ่มอาการหลัก ๆ ของโรคจิต ได้แก่ ประสาทหลอน ประสาทรับรู้ทั้ง 5 ประกอบด้วย ความคิด มีความคิดหลงผิด การรับรู้ มี ประสาทหลอน อารมณ์ยิ้มคนเดียว สีหน้าที่เรียบเฉย การพูด คำพูด สับสน พูดเพ้อเจ้อ พฤติกรรมและการ แสดงออก แยกตัวพูดคนเดียวคลุ้มคลั่ง อาการเตือนของผู้ป่วยโรคจิตเภท หากพบว่าผู้ที่เสพกัญชามากและใช้ระยะเวลานาน มีอาการเตือน ควรพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ เพื่อตรวจสอบว่า กำลังจะมีอาการโรคจิตใช่หรือไม่และ จะแก้ไขอย่างไร ตัวอย่าง อาการเตือนที่พบบ่อย เช่น สมาธิหรือความจำไม่ดี อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ความคิดช้าเกินไป นอนไม่หลับ ความคิดเร็วเกินไป รับประทานอาหารมากขึ้นหรือน้อยลง วิตกกังวล หรือตึงเครียด ไม่มีเรี่ยวแรงหรือไม่อยากท าอะไร ซึมเศร้าหรือเบื่อหน่าย มีความรู้สึกว่าสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเปลี่ยนไป โกรธหรือหงุดหงิดง่าย ไม่ไว้วางใจหรือ ระแวงผู้อื่น กกกกกกกผู้ป่วยจิตเวชที่มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง ทำร้ายตัวเองด้วยวิธีรุนแรงมุ่งหวัง ให้เสียชีวิต ทำร้ายผู้อื่นด้วยวิธีรุนแรงก่อเหตุการณ์รุนแรงในชุมชน มีความคิดทำร้ายผู้อื่นให้ถึงแก่ชีวิต ก่อคดีอาญารุนแรง (ฆ่า พยายามฆ่า ข่มขืน วางเพลิง)


กกกกกกกนายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ความเสี่ยงของการเสพกัญชา กับโรคจิต เภท ซึ่งมีผลทำให้อาการทางจิตและการพยากรณ์โรคแย่ลง โดยเฉพาะคนที่มีกรรมพันธุ์ ที่จะเป็นโรคจิต หรือเคยมี อาการทางจิตมาก่อนเมื่อใช้กัญชาจะท าให้เกิดอาการทางจิตได้มากขึ้น ผศ.ดร.พญ.รัศมี สังข์ทอง หน่วยระบาด วิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มีการออกเอกสารเผยเพร่ ผลของการใช้กัญชาต่อจิต ประสาทในเด็กและเยาวชน โดยระบุว่า เมื่อเสพกัญชา เข้าไปในระยะแรก กัญชาจะออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท ทำ ให้ผู้เสพมีอาการตื่นตัว ตื่นเต้นจาก สารเตตรา ไฮโดรแคนนาบินอล (Tetrahydrocannabinol : THC) แต่เมื่อผ่าน ไป 1 - 2 ชั่วโมง กัญชาจะเริ่มออก ฤทธิ์กดประสาท มีโอกาสเกิดสมองเสื่อมถาวร หรือเป็นจิตเภท โดยเฉพาะใน เด็กและเยาวชน อารมณ์ อ่อนไหว เลื่อนลอย สมองสั่งงานช้า ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม ร่าเริงผิดปกติ รู้สึกกังวล กลัว ไม่กล้าไว้ใจใคร ซึมเศร้า คิดฆ่าตัวตาย ดุร้ายผิดปกติ มองเห็นภาพหลอน ควบคุมตัวเองไม่ได้ นำไปสู่ อุบัติเหตุ ปัญหา การเรียน ผลการเรียนตกต่ำ ขาดสมาธิในการเรียน ความสามารถในการเรียนรู้แย่ลงและมีปัญหา สุขภาพจิตหรือวิกลจริตนำไปสู่โรคจิตเวชได้ สรุป กกกกกกกกัญชาและกัญชงก่อให้เกิดโรคจิตเวช การใช้กัญชาและกัญชงส่งผลต่อจิตประสาทในเด็ก และเยาวชน เมื่อเสพกัญชาเข้าไปในระยะแรก กัญชาจะออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท เมื่อร่างกายรับสาร เตตราไฮโดรแคนนาบิ นอล (Tetrahydrocannabinol : THC) หลังจาก 1 - 2 ชั่วโมง จะเริ่มออกฤทธิ์ กดประสาท และประสาทหลอน ควบคุมตัวเองไม่ได้ ผู้ที่เสพกัญชาเป็นเวลานานทำให้เสี่ยงต่อการเสพติด กัญชา มีโอกาสทำให้สมองเสื่อม และเกิด ปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งนำไปสู่โรคจิตเวชได้และผู้ป่วยจิตเวช มีความเสี่ยงสูงต่อการก่อความรุนแรง ทำร้ายตัวเอง ทำร้ายผู้อื่นให้ถึงแก่ชีวิต รวมถึงก่อเหตุการณ์ รุนแรงในชุมชน


ครั้งที่ 7 วันที่17 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 09.00 – 12.00 น. แผนการจัดการเรียนรู้รายสัปดาห์รายวิชา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อการปฏิบัติงาน (ทร02047) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 แผนพบกลุ่ม จำนวน 15 ชั่วโมง (3+กรต. 12 ชั่วโมง) หน่วยที่ 1 เรื่อง เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองระยอง 1. มาตรฐานการเรียนรู้ระดับ รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรม เจตคติที่ดี ศึกษาพื้นฐานการสื่อสารข้อมูล ความหมายของระบบเครือข่าย องค์ประกอบของระบบเครือข่ายเทคโนโลยีเครือข่าย และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อทำความเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง และรอบด้าน เพื่อ พัฒนาวิธีการแก้ปัญหาที่ตรงความต้องการ พัฒนาโครงงานเพื่อแก้ปัญหาจากสถานการณ์ที่ตนเองสนใจโดยใช้ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ศึกษาการพัฒนาผลงาน การสร้างประโยชน์จากผลงาน และการคุ้มครอง ทรัพย์สินทาง ปัญญาเพื่อนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาหรือสร้างประโยชน์จากผลงานของตนเอง และ เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ผลงานของตนเองให้เป็นที่รู้จักและก่อให้เกิดประโยชน์เหมาะสม 2. เนื้อหาตามหลักสูตร 1. พื้นฐานการสื่อสารข้อมูล 2. ความหมายของระบบเครือข่าย 3. องค์ประกอบของระบบเครือข่าย 4. เทคโนโลยีเครือข่ายทางทัศนศิลป์ 3. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง (ตัวชี้วัด) 1. แปลความหมายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์และอธิบายส่วนประกอบต่างๆ ของระบบได้ 2. บอกคุณสมบัติประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้ 3. สามารถทำแผนผังความคิด (Mind map) และนำเสนองานหน้าชั้นเรียนได้ 4. มีเจตคติที่ดีในการทำงานทีม และสนใจเอาใจใส่ในการนำเสนอและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้เรียนคนอื่น ๆได้ 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการสื่อสาร ⃞ ความสามารถในการคิด ⃞ ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี


5. กระบวนการจัดการเรียนรู้5 STEPs 1. ขั้นที่ 1 การเรียนรู้ตั้งคำถาม (learning to Question) 1.1 ครูผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน และชี้แจงผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 1.2 ครูผู้สอนกล่าวทักทายผู้เรียน และให้ผู้เรียนที่เป็นนักศึกษาใหม่ได้เข้าสมัครสมาชิก moe safety Center เพื่อดูแลความปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจของนักศึกษา เช่น การบูลลี่ การลาวงละเมิดทางเพศ เป็นต้น 1.3 ครูผู้เสอนให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 5 ข้อ 1.4 ครูผู้สอนตั้งคำถามดังนี้ เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น มีอะไรบ้าง ทำไมต้องสร้างเครือข่าย 1.4 ครูผู้สอนและผู้เรียนช่วยกันสรุปคำตอบและชวนคิดว่ารอบตัวเรามีเครือข่ายคอมพิวเตอร์อะไรบ้างที่ เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน 2. ขั้นที่ 2 การเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) 2.1 ครูผู้สอนอธิบายเนื้อหา เรื่อง เครือข่ายคอมพิวเติร์เบื้องต้น 2.2 ครูผู้สอนแบ่งกลุ่มผู้เรียน เป็น 4 กลุ่ม กลุ่มละประมาณ 4-5 คน 2.3 ครูติดใบความรู้เรื่อง พื้นฐานการสื่อสารข้อมูล , ความหมายของระบบเครือข่าย , องค์ประกอบพื้นฐาน ของเครือข่ายเทคโนโลยีเครือข่าย ไว้ที่ฐานการเรียนรู้จำนวน 4 ฐาน ในห้องเรียน 2.4 ครูแจกใบกิจกรรม ที่ 1 เรื่อง เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ให้ผู้เรียนแต่ละกลุ่ม 2.5 ผู้เรียนแต่ละกลุ่มเริ่มดำเนินกิจกรรมแสวงหาความรู้ โดยเรียนรู้ที่ฐานแต่ละฐาน ฐานละ 5 นาที เมื่อหมดเวลา ผู้เรียนจึงเปลี่ยนฐานการเรียนรู้ต่อไป 3. ขั้นที่ 3 การเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) 3.1 ครูผู้สอนมอบหมายให้แต่ละกลุ่มทำแผนผังความคิด (Mind map) โดยครูใช้ระบบเทคโนโลยี Lucky wheel เพื่อสุ่มหัวข้อในการทำแผนผังความคิด 3.2 ผู้เรียนแต่ละกลุ่มทำแผนผังความคิด (Mind map) เป็นเวลา 5-10 นาที 4. ขั้นที่ 4 การเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร (Learning to Communicate) 4.1 ครูผู้สอนมอบหมายให้แต่ละกลุ่มนำเสนอแผนผังความคิด ที่กลุ่มตนเองได้จัดทำ กลุ่มละ 5 นาที 4.2 ครูผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันอภิปรายในเนื้อหาที่ผู้เรียนนำเสนอ 5. ขั้นที่ 5 การเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service) 5.1 ครูผู้สอนสร้างความตระหนักความสำคัญเครือข่ายความรู้เบื้องต้นในชุมชน 5.2 ครูผู้สอนมอบหมายให้ผู้เรียนเขียนบันทึก เกี่ยวกับเรื่องของการตอบแทนสังคม แล้วนำส่งในสัปดาห์ต่อไป 5.3 ครูผู้สอนมอบหมาบให้ทำแบบทดสอบหลังเรียน จำนวน 5 ข้อ


6. งานที่มอบหมาย 1. มอบหมายให้ผู้เรียนนำความรู้ที่ได้รับจากการนำเสนอของกลุ่มตนเองและกลุ่มอื่น ๆ สรุปเป็นรายงาน นำมาส่งในการพบกลุ่มครั้งต่อไป 2. มอบหมายใบงาน กรต. สำหรับการพบกลุ่มครั้งต่อไป 7. สื่อ/แหล่งเรียนรู้/อุปกรณ์ 1. แบบเรียนรายวิชา เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อการปฏิบัติงาน (ทร02047) หน่วยที่ 1 เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น Introduction to Computer Network 2. ใบความรู้ เรื่อง ความรู้เบื้องต้น 8. การเรียนรู้ด้วยตนเอง (กรต.) ที่ ตัวชี้วัด เนื้อหา (กรต.) จำนวน ชั่วโมง หมายเหตุ 1. แปลความหมายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ความหมายของ เครือข่าย คอมพิวเตอร์ 4 ใบงานที่ 1- 3 2. อธิบายส่วนประกอบต่างๆ ของระบบการสื่อสาร ข้อมูลได้ - ส่วนประกอบต่างๆ ของระบบ - พื้นฐานการสื่อสาร ข้อมูลและเครือข่าย 4 ใบงานที่ 4 ใบงานที่ 5 3 บอกคุณสมบัติประโยชน์ของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ได้ คุณสมบัติประโยชน์ ของเครือข่าย คอมพิวเตอร์ 4 ใบงานที่ 6


9. การวัดและการประเมินผล การวัดผลตามจุดประสงค์ เครื่องมือการวัดผล เกณฑ์การประเมิน ความรู้ (Knowledge) 1.แปลความหมายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ได้ 2.อธิบายส่วนประกอบต่างๆ ของระบบการ สื่อสารข้อมูลได้ 3.บอกคุณสมบัติประโยชน์ของเครือข่าย คอมพิวเตอร์ได้ 1. แบบทดสอบก่อน เรียน-หลังเรียน 2. ใบกิจกรรม 3. แผนผังความคิด(Mind Map) 4. บันทึกการเรียนรู้ 1. ผ่านการทำแบบทดสอบ ก่อน เรียน-หลังเรียนได้คะแนน ไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 70 2. ใ บ ก ิ จ ก ร ร ม /Mind Map/ รายงาน/บันทึกการเรียนรู้ ไม่ต่ำ กว่าร้อยละ 70 ทักษะ (Skill) 1. คิดวิเคราะห์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ 2. การนำเสนอหน้าห้องพบกลุ่ม แบบประเมินการ นำเสนอหน้าห้องพบ กลุ่ม มีผลการประเมินในระดับ ผ่าน ของ แบบประเมินการนำเสนอหน้าห้อง พบกลุ่ม เจตคติ (Attitude) 1. มีความรู้สึก และเจตคติที่ดีในการ ทำงานทีม ได้รับมอบหมาย 2. มีความสนใจ เอาใจใส่ในการ นำเสนอและ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้เรียนคนอื่น ๆ 1. แบบสังเกตพฤติกรรม การทำงาน (รายบุคคล) 2. แบบสังเกตการมีส่วน ร่วมในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ 1. มีผลการประเมินในระดับ ผ่าน ของแบบสังเกตพฤติกรรมการ ทำงาน (รายบุคคล) 2. มีผลการประเมินในระดับ ผ่าน ของแบบสังเกตการมีส่วนร่วมใน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ลงชื่อ………………………………………………. (…………………………………………….) ตำแหน่ง………………………………………… วันที่………เดือน…………………….พ.ศ………….. ข้อเสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ………………………………………………. (นางเพ็ญประภา แสนอุบล) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอเมืองระยอง ปฎิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอเมืองระยอง วันที่…..……เดือน…………………..…….พ.ศ……..……


แบบทดสอบก่อนเรียน วิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อการปฏิบัติงาน (ทร02047) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หน่วยที่ 1 เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น 1. เครือข่ายระดับต่อไปนี้ สามารถติดต่อส่งข้อมูลระหว่างเครื่องได้ไกลที่สุด ก. เครือข่าย MAN ข. เครือข่าย WAN ค. เครือข่าย LAN ง. ทุก ๆ เครือข่ายสามารถส่งข้อมูลได้ไกลเหมือน ๆ กัน ซึ่งอยู่ที่สายสัญญาณ 2. ข้อใดกล่าวถึงการทำงานแบบ Multiuser ก. สามารถเปิดใช้คอมพิวเตอร์ได้ทีละหลาย ๆ เครื่อง ข. สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทีละหลาย ๆ หลาย ๆ โปรแกรม ค. สามารถใช้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ทีละหลาย ๆ งาน ง. สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันพร้อม ๆ กัน และใช้โปรแกรมได้ทีละหลาย ๆ โปรแกรม 3. ข้อใดเป็นความสามารถของคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า Multiprocessing ก. สามารถเปิดใช้คอมพิวเตอร์ได้ทีละหลาย ๆ เครื่อง ข. สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ทีละหลาย ๆ หลาย ๆ โปรแกรม ค. สามารถใช้คอมพิวเตอร์ทำงานได้ทีละหลาย ๆ งาน ง. สามารถใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกันพร้อม ๆ กัน และใช้โปรแกรมได้ทีละหลาย ๆ โปรแกรม 4. เครือข่ายระดับใดมักใช้สัญญาณดาวเทียมช่วยในการสื่อสาร ก. เครือข่าย MAN ข. เครือข่าย WAN ค. เครือข่าย LAN ง. ถูกทุกข้อ 5. ระบบเครื่อข่ายประเภทใดในปัจจุบันเป็นที่นิยมมากที่สุด ก. เครือข่าย MAN ข. เครือข่าย WAN ค. เครือข่าย LAN ง. เครือข่าย SAN


เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน วิชาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เพื่อการปฏิบัติงาน (ทร02047) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หน่วยที่ 1 เครือข่ายคอมพิวเตอร์เบื้องต้น 1. ข 2. ค 3. ง 4. ข 5. ค


Click to View FlipBook Version