การติดต้ังไฟฟา้ ในอาคาร
หนว่ ยที่1 การป้องกันอบุ ตั ภิ ยั ทางไฟฟา้ หน่วยท่ี2 ชนิดและการใชง้ านของสายไฟฟา้
หนว่ ยที่3 เคร่ืองมือและอุปกรณ์ไฟฟ้า หน่วยที่4 การต่อสายไฟฟ้าแบบต่างๆ
หนว่ ยที่5 การเดินสายไฟฟ้าระบบแสงสวา่ ง หนว่ ยท่ี6 อปุ กรณ์ปอ้ งกนั ทางไฟฟ้า
และระบบกาลงั
หนว่ ยที่7 ตู้สวิตช์บอร์ดและอปุ กรณ์ประกอบ หนว่ ยท่ี8 ระบบป้องกันสญั ญาณเตอื นภยั
หน่วยท่ี9 การติดตั้งไฟฟา้ ในพ้นื ท่ีอันตราย หน่วยท่ี10 การแกไ้ ขข้อบกพรอ่ งระบบไฟฟ้า
ครผู สู้ อน ครูศุภกฤต เพม่ิ เยาว์ แผนกวชิ าชา่ งไฟฟ้ากาลงั วทิ ยาลยั เทคนิคลาพนู
หน่วยที่ 1
การป้องกันอบุ ตั ภิ ยั เกี่ยวกบั การปฏบิ ตั งิ าน
ทางไฟฟ้า
วิชา การตดิ ตัง้ ไฟฟ้าในอาคาร รหสั วชิ า 20104-2005
3 หน่วยกติ (1-6-3)
จดุ ประสงคร์ ายวิชา
1.ร้แู ละเขา้ ใจหลกั การปอ้ งกนั อบุ ตั ภิ ยั ทเี่ กดิ ขน้ึ กบั การปฏบิ ตั งิ าน
ทางไฟฟ้า
2.มีทักษะในการเดนิ สายไฟฟา้ การใชเ้ ครื่องมอื และอปุ กรณก์ าร
ตดิ ตง้ั ไฟฟา้ ภายในอาคาร
3.มีเจตคตทิ ี่ดตี อ่ อาชพี มกี ิจนิสยั ในการคน้ ควา้ เพมิ่ เตมิ และการ
ทางานดว้ ยความรอบคอบและปลอดภยั
คาอธบิ ายรายวชิ า
ศึกษาและปฏิบัติวิธีการป้องกันอุบัติภัยเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ทาง
ไฟฟ้า ระบบจา่ ยกาลงั ไฟฟา้ ชนิดและการใหง้ านของสายไฟฟา้ การตอ่
สายไฟฟ้าแบบต่างๆ การเดินสายไฟฟ้าแสงสว่างและไฟฟ้ากาลัง
เคร่ืองมือและอุปกรณ์ทางไฟฟ้าแบบต่างๆ การติดต้ังอุปกรณ์ทางไฟฟ้า
การติดตั้งอุปกรณ์ป้องกัน การเดินสายไฟฟ้าด้วยวิธีการต่างๆ การ
ต ร ว จ ส อ บ แ ล ะ แ ก้ ข้ อ บ ก พ ร่ อ ง ข อ ง ร ะ บ บ แ ล ะ อุ ป ก ร ณ์ ป้ อ ง กั น
1.1 โอกาสทจี่ ะประสบอันตรายจากไฟฟา้
คนทว่ั ไปหรอื ผทู้ ปี่ ฏบิ ตั งิ านเกย่ี วกบั ไฟฟา้ มโี อกาสทจี่ ะประสบอนั ตรายจาก
ไฟฟา้ ไดด้ งั น้ี
1.1.1 เกดิ จากการทก่ี ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นรา่ งกายลงดนิ หรอื ครบวงจร
ภาษาชาวบ้าบา้ นเรียกว่า “ไฟดดู ” เช่น เอามือไปจบั ส่วนทเี่ ป็นโลหะของ
เครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ทบ่ี งั เอญิ มีไฟรว่ั เช่น ตู้เย็น กระทะไฟฟา้ หม้อหุงขา้ ว กระแสไฟฟ้าจะ
ผา่ นเข้าทางมอื ลงสู่ดินทฝี่ า่ เท้า
1.1.2 เกิดจากการทรี่ า่ งกายของคนเราไปตอ่ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของวงจรไฟฟา้
ทาให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ครบวงจรในตัวโดยทไ่ี ม่จาเปน็ ต้องต่อลงดนิ เช่น
คนใชม้ ือสองข้างโหนสายไฟฟ้าเปลอื ยสองเส้น ลกั ษณะน้จี ะได้รบั อนั ตรายจากไฟฟา้
แน่นอน
1.1.3 ไดร้ ับอนั ตรายจากแสงและความรอ้ นอนั เกดิ จากไฟฟา้ รดั วงจร
ที่เรยี กว่า “ไฟชอ็ ต” ทพ่ี บบ่อยคอื ผู้ตดิ ต้งั เสาอากาศโทรทศั นซ์ ง่ึ มกั จะเผอเรอ ทาให้
โลหะที่จบั ถือพลาดไปถูกสายไฟฟ้าแรงสงู ซ่งึ นอกจากจะได้ยนิ เสียงระเบิดจากการรัดวงจร
แลว้ อาจเปน็ อันตรายต่อดวงตาเนอื่ งจากแสงประกายไฟฟา้ ที่เจิดจ้า การะแสไฟฟ้าจะวง่ิ
ผ่านโลหะ ผ่านมือ ผา่ นร่างกายลงดนิ สง่ ผลให้เกดิ บาดแผลไฟไหม้รนุ แรง อาจจะต้องตัด
อวัยวะบางสว่ นทงิ้ เพือ่ รกั ษาชวี ิตไว้
1.2 อันตรายทมี่ ตี อ่ รา่ งกาย
หากมกี ระแสไฟฟา้ ไหลผ่านรา่ งกายคนเราจะทาอันตรายถึงหมดสตแิ ละ
เสยี ชีวติ ได้ผลทเ่ี กิดตอ่ รางกายเมอื่ กระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นแบง่ ได้ 4 อาการดังน้ี
1.2.1 กระแสไฟฟา้ ทาให้กลา้ มเน้อื หดและเกรง็
1.2.2 กระแสไฟฟา้ ทาใหร้ ะบบประสาทเกดิ การชะงกั งนั
1.2.3 กระแสไฟฟา้ จานวนเลก็ นอ้ ย
1.2.4 กระแสไฟฟา้ เปน็ ตวั ทาการทาลาย “เซลล์”
1.3 ความรนุ แรงเมอ่ื ประสบอนั ตรายจากไฟฟ้า
ความรนุ แรงจะมากหรอื นอ้ ย ข้นึ อยู่กบั องค์ประกอบ 7 อยา่ ง ดังน้ี
1.3.1 ระยะเวลา ถ้าติดไฟอยู่นานอนั ตรายก็จะมาก แต่ยงั มีองคป์ ระกอบ
อยา่ งอนื่ อีกถา้ หากคิดจะช่วยคนคนนน้ั แล้วต้องรีบชว่ ยทันที
1.3.2 ปรมิ าณกระแสไฟฟา้ ทไ่ี หลผา่ นรา่ งกาย ถ้าปรมิ าณของกระแสมาก
อันตรายกจ็ ะมาก โดยทั่วไปกระแสที่เปน็ อนั ตรายต่อร่างกายมีปริมาณนอ้ ยมาก
กล่าวคือมคี า่ เพยี งมิลลแิ อมป์เท่าน้ัน
1.3.3 ข้ึนอย่กู บั ปรมิ าณแรงดนั ไฟฟา้ แรงดนั ไฟฟ้าเพยี ง 20 – 30 โวลต์
ก็จะทาให้เกดิ การช็อกได้ ถ้าความตา้ นทานของการจุดสัมผสั ตา่ มากพอ จนเกิด
กระแสไหลผ่านร่างกายสงู ถึงกระแสช็อก ดังน้ัน แรงดันไฟฟ้าตามบา้ น 220 โวลต์
ยอ่ มทาใหเ้ กดิ อนั ตรายถึงแกช่ วี ติ ได้
1.3.4 ขน้ึ อย่กู บั สภาพผวิ หนัง ประกอบไปด้วยสว่ นท่สี ัมผัสกับส่งิ ทม่ี ีไฟ และ
สว่ นทก่ี ระแสไฟฟา้ ไหลลงดิน ถ้าผวิ หนังแหง้ จะมคี วามต้านทานมากกว่าผิวหนงั
เปียก ฉะนนั้ กระแสจงึ ไหลผ่านได้น้อยกว่าผวิ หนังเปยี ก
1.3.5 ขน้ึ อยู่กบั เสน้ ทางที่กระแสไฟฟา้ ไหลผา่ น โอกาสท่ีจะทาให้เสียชวี ติ
มากทส่ี ุดถา้ หากกระแสไฟฟ้าไหลผ่านบรเิ วณกลา้ มเน้อื ทรวงอก และศรี ษะ
1.3.6 ข้นึ อยู่กบั ความถ่ี เมอ่ื ความถ่ีสงู ขนึ้ จะทาให้ความต้านทานของรา่ งกาย
ตอ่ กระแสไฟฟา้ ลดลง และความตา้ นทานทจี่ ุดสัมผสั แทบจะไม่มีเลยหรอื เท่ากับ
ศูนย์
1.3.7 ขึ้นอยู่กบั กรรมวธิ ใี นการชว่ ยเหลอื และปฐมพยาบาล ถา้ ชว่ ยได้เร็ว
ปฐมพยาบาลได้ดี นาส่งแพทย์ไดเ้ ร็วก็จะทาใหม้ ีโอกาสรอดชีวติ ไดม้ ากขน้ึ
สรุป
โอกาสที่จะประสบอนั ตรายจากไฟฟา้ เกดิ จากการท่กี ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นรา่ งกาย
ลงดนิ หรอื ครบวงจร และ เกดิ จากการทรี่ า่ งกายของคนเราไปตอ่ เปน็ สว่ นหนงึ่ ของ
วงจรไฟฟา้ อันตรายท่ีเกดิ ตอ่ รางกายเมอ่ื กระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นแบง่ ได้ 4 อาการดงั น้ี
1. กระแสไฟฟา้ ทาใหก้ ลา้ มเนอ้ื หดและเกรง็
2. กระแสไฟฟา้ ทาใหร้ ะบบประสาทเกิดการชะงกั งนั
3. กระแสไฟฟา้ จานวนเล็กนอ้ ย
4. กระแสไฟฟา้ เปน็ ตวั ทาการทาลาย “เซลล”์
ดงั น้ันเม่ือปฏบิ ัติงานทางไฟฟ้าควรต้องใช้ความระมดั ระวงั และปฏิบตั ิงานด้วยความไม่
ประมาท
หนว่ ยท่ี 2
ชนดิ และการใชง้ านของสายไฟฟา้
จดุ ประสงคก์ ารสอน
2.1 รู้ชนดิ ของสายไฟฟา้
2.1.1 บอกสายตนั
2.1.2 บอกสายตเี กลยี ว
2.2 รขู้ ้อกาหนดทัว่ ไปเกยี่ วกับสายไฟฟา้
2.2.1 บอกสีของฉนวนหมุ้ สายไฟฟา้
2.2.2 บอกชนดิ ของสายหมุ้ ฉนวน
2.2.3 บอกการใชง้ านของสายไฟฟา้
2.1 ชนดิ ของสายไฟฟา้
สายไฟฟ้าสามารถแบง่ ออกไดเ้ ปน็ 2 ชนดิ คอื สายตนั และสายตเี กลยี ว
2.1.1 สายตัน (Solid wire) เรยี กอกี อยา่ งวา่ สายเด่ียว สว่ นมากจะเปน็ ขนาด
เล็กหุ้มฉนวน
2.1.2 สายตีเกลียว เรียกอีกอย่างว่า สายสแตรน (Stranded wire) จะนาเอา
สายเดยี่ วหลายเสน้ มาพนั เป็นเกลยี ว สามารถทนแรงดึงไดด้ ีกวา่ สายเด่ียว
ขนาดพ้ืนหนา้ ตดั ของสายไฟฟ้าวดั เป็นตารางมิลลิเมตร (มม.2) หรือท่ีเรียก
อีกอยา่ งหน่ึงวา่ สแควม์ ิล (Square mil: (mm.2)) ซ่ึงเป็นหน่วยวดั ในระบบเมตริก
ส่วนหน่วยวดั ของระบบ องั กฤษจะวดั เป็นเซอร์คูลาร์มิล(Circular mil) ปัจจุบนั
ผผู้ ลิตจะระบุชนิดและขนาดพ้ืนที่หนา้ ตดั ไวบ้ นสายไฟฟ้า ท้งั น้ีเพ่ือความสะดวก
ในการใชง้ าน
2.2 ขอ้ กาหนดทวั่ ไปเกย่ี วกบั สายไฟฟา้ ท่ีควรทราบ มีดงั น้ี
2.2.1 สีของฉนวนหมุ้ สายไฟฟา้ โค้ดสีมาตรฐาน มดี ังนี้
สายหมุ้ ฉนวนแกนเดียว ใชไ้ ดท้ กุ สี
สายหุ้มฉนวน 2 แกน ใชส้ เี ทาอ่อน ดา
สายหุ้มฉนวน 3 แกน ใช้สเี ทาอ่อน ดา แดง
สายหุ้มฉนวน 4 แกน ใชส้ เี ทาออ่ น ดา แดง นา้ เงิน
สายหุ้มฉนวน 5 แกน ใช้สเี ทาอ่อน ดา แดง นา้ เงนิ เหลือง
สาหรับสายดนิ (earth) ใชส้ ายสเี ขยี ว หรือเขียวสลับเหลอื ง
ระบบ 1 เฟส
-สายเฟส ฉนวนต้องเปน็ สนี ้าตาล
-สายนวิ ทรัล ฉนวนต้องเป็น สฟี า้
-สายดนิ ฉนวนตอ้ งเป็น สีเขยี วแถบเหลอื ง
ระบบ 3 เฟส
-สายเฟส A ฉนวนตอ้ งเปน็ สีนา้ ตาล
-สายเฟส B ฉนวนต้องเปน็ สดี า
-สายเฟส C ฉนวนต้องเป็น สเี ทา
-สายนิวทรัล ฉนวนต้องเปน็ สีฟา้
-สายดิน ฉนวนต้องเปน็ สีเขยี วแถบเหลือง
2.2.2 ชนดิ ของสายหุม้ ฉนวน
สายทน่ี ิยมใชใ้ นงานติดต้ังไฟฟา้ ทั่วไปทีค่ วรทราบไดแ้ ก่ สาย VAF,
VFF, VSF, THW, VCT และสาย NYY
ก. สาย VAF เนือ่ งจากมรี ูปทรงแบนจงึ เรียกว่า สายแบนแกนคู่ ภายใน
ประกอบดว้ ย สายทองแดงจานวนสองเส้นหมุ้ ดว้ ยฉนวนพวี ีซีสองช้ันหรอื
(PVC/PVC) ดงั รปู ท่ี 2.1 (ก) เหมาะสาหรบั งานเดินสายไฟฟ้าดว้ ยเข็มขัดรดั สาย
เนอื่ งจากสามารถดัดโคง้ งอไดด้ ี พิกัดแรงดนั 300 โวลต์ อณุ หภมู ิใช้งานไม่เกนิ 70
องศาเซลเซยี ส มีหลายขนาด เช่น 2 ⨉ 1.5 (มม.2) หมายถึง ภายในสาย VAF
ประกอบดว้ ยสายจานวน 2 เส้น แต่ละเส้นมีพน้ื ท่ีหน้าตดั เท่ากับ 1.5 ตาราง
มิลลเิ มตร
ข. สาย VFF ภายในประกอบดว้ ยสายทองแดงฝอยจานวนสองแกนหมุ้ ดว้ ย
ฉนวน พีวซี ชี ัน้ เดียว (pvc insulated) ดงั รปู ที่ 2.1 (ข) เหมาะสาหรบั งานที่ตอ้ ง
เคลื่อนย้ายบ่อย ๆ พกิ ัดแรงดนั และอุณหภูมิใช้งานเหมือนกับสาย VAF
ค. สาย VSF ภายในประกอบด้วยสายทองแดงฝอยหมุ้ ดว้ ยฉนวนพวี ีซีชั้นเดียว
จานวน หน่ึงเส้น ดังรูปที่ 2.1 (ค) เหมาะสาหรบั งานซอ่ มบารุงท่ัวไป พกิ ดั แรงดนั
และอณุ หภูมใิ ช้งาน เหมอื นกบั สาย VAF
ง. สาย THW ภายในประกอบด้วยสายทองแดงตันเสน้ เดยี ว หุ้มด้วยฉนวนพวี ซี ี
ชนั้ เดียว ดังรปู ที่ 2.1 (ง) ใชส้ าหรับตดิ ตง้ั ในทอ่ รอ้ ยสาย พิกัดแรงดนั 750 โวลต์
อุณหภมู ใิ ชง้ าน ไม่เกิน 70 องศาเซลเซยี ส
จ. สาย VCT ภายในประกอบดว้ ยสายทองแดงฝอยจานวน 2 แกน หรือมากกวา่
หุ้มฉนวนสองชนั้ ดงั รปู ที่ 2.1 (จ) ใชต้ อ่ เข้ากบั ปลัก๊ ตวั ผ้ขู องอุปกรณ์ไฟฟ้าตา่ ง ๆ
และอน่ื ๆ พกิ ัด แรงดนั และอุณหภูมใิ ชง้ านเหมือนกบั สาย THW
ฉ. สาย NYY ภายในประกอบด้วยสายทองแดงจานวนสองแกนหรอื มากกวา่ ห้มุ
ดว้ ย ฉนวนสามช้ัน ดงั รปู ที่ 2.1 (ฉ) เหมาะสาหรับการเดินสายใตด้ ินโดยตรงหรอื ใช้
งานทั่วไป บางชนดิ จะมีแผ่นเหลก็ เปน็ เกราะกาบัง พกิ ดั แรงดนั และอุณหภูมใิ ชง้ าน
เหมอื นกับสาย VCT
รปู ที่ 2.1 ตัวอยา่ งสายไฟฟา้ ทใ่ี ช้งานทว่ั ไป
2.3 การใชง้ านของสายไฟฟา้
สายไฟฟ้าท่ผี ลติ ตามมาตรฐานของสานกั งานมาตรฐานผลติ ภณั ฑอ์ ุตสาหกรรม
มอก.11-2531 ไดก้ าหนดชนดิ ของสายไฟฟ้าและลักษณะการตดิ ตงั้ ไวด้ งั ตารางท่ี
2.1 ขนาดกระแสและรูปแบบการตดิ ต้งั แสดงตารางท่ี 2.2 และตารางท่ี 2.3
ตารางท่ี 2.2 ขนาดกระแสของสายไฟฟา้ ทองแดงหมุ้ ฉนวนพวี ซี ี ตาม มอก.
11-2531 อณุ หภูมิ ตัวนา 70 องศาเซลเซยี ส ขนาดแรงดนั 300 หรอื 750 โวลต์
อุณหภูมิโดยรอง 40 องศาเซลเซียส (สาหรบั วิธกี ารเดินสาย ก - ค) และ 30 องศา
เซลเซยี ส (สาหรบั วธิ ีการเดินสาย ง และ จ)
ขนาดสาย ขนาดกระแส (แอมแปร์)
วิธกี ารเดินสาย
(ตร.มม.) ก
คง
0.5 9 ข ทอ่ ทอ่ ทอ่ ทอ่ จ
1 14
1.5 17 โลหะ อโลหะ โลหะ อโลหะ
2.5 23 8 8 7 10 9 -
11 11 10 15 13 21
15 14 13 18 16 26
20 18 17 24 21 34
ขนาดสาย ขนาดกระแส (แอมแปร์)
วธิ กี ารเดินสาย
คง
(ตร.มม.) ก ข ทอ่ ทอ่ ทอ่ ทอ่ จ
4 31 โลหะ อโลหะ โลหะ อโลหะ
6 42 27 24 23 32 28 45
10 60 35 31 30 42 36 56
16 81 50 43 42 58 50 75
25 111 66 56 54 77 65 97
35 137 89 77 74 103 87 125
50 169 110 95 91 126 105 150
- 119 114 156 129 177
ตารางที่ 2.3 ชนิดของตัวนาและรปู แบบการตดิ ตัง้
วิธกี าร รปู แบบการตดิ ต้งั ชนดิ ของตวั นาและรปู แบบการติดต้ัง
เดนิ สาย • สายแกนเดียวหุ้มฉนวนเดนิ ในอากาศ
ก
ข • สายแบนหุ้มฉนวนมีเปลือกเดินเกาะผนงั
ค • สายแกนเดียวหุ้มฉนวนไม่เกิน 3 เส้น หรือสายหุ้มฉนวนมี
เปลอื กไมเ่ กิน 3 แกน เดนิ ในท่อในอากาศ ในท่อฝังในผนังปูน
ฉาบ หรอื ในท่อในฝ้าเพดาน
วธิ ีการ รปู แบบการตดิ ตง้ั ชนดิ ของตัวนาและรปู แบบการติดต้งั
เดนิ สาย
• สายแกนเดียวหุ้มฉนวนไม่เกิน 3 เส้น หรือสายหุ้ม ฉนวนมี
ง เปลอื กไม่เกนิ 3 แกน เดนิ ในทอ่ ฝังดิน
จ • สายแกนเดยี วหมุ้ ฉนวนมเี ปลอื กไม่เกิน 3 เส้น หรือ สายหุ้ม
ฉนวนมีเปลือกไม่เกิน 3 แกน ฝงั ดนิ โดยตรง
ตารางท่ี 2.4 คา่ ตัวคณู คงที่เมื่ออุณหภมู เิ ปลยี่ นแปลง (สูงหรือตา่ กวา่ ตารางที่ 2.2)
อณุ หภมู ิโดยรอบ (องศา วธิ ีเดินสาย ก - ค ตวั คณู
เซลเซยี ส) - วธิ ีเดนิ สาย ง และ จ
21 - 25 - 1.06
26 - 30 1
31 - 35 1.08 0.94
36 - 40 1 0.87
41 - 45 0.91 0.79
46 - 50 0.82 0.71
51 - 55 0.7.1 -
56 - 60 0.58 -
สรปุ
ชนดิ ของสายไฟฟ้า
สายไฟฟ้าสามารถแบ่งออกไดเ้ ปน็ 2 ชนดิ คือ สายตัน และสายตีเกลยี ว
2.1.1 สายตนั (Solid wire) เรยี กอีกอยา่ งว่า สายเด่ียว ส่วนมากจะเปน็ ขนาดเลก็ ห้มุ ฉนวน
2.1.2 สายตีเกลยี ว เรียกอกี อย่างวา่ สายสแตรน (Stranded wire) จะนาเอาสายเดยี่ ว
หลายเส้น มาพนั เปน็ เกลยี ว สามารถทนแรงดงึ ได้ดกี ว่าสายเดีย่ ว
ขนาดพนื้ หนา้ ตดั ของสายไฟฟา้ วดั เป็นตารางมลิ ลิเมตร (มม.2) หรือท่ีเรียกอีกอยา่ งหน่งึ ว่า
สแควม์ ลิ (Square mil: (mm.2)) ซึ่งเป็นหนว่ ยวดั ในระบบเมตริก สว่ นหนว่ ยวัดของระบบ
อังกฤษจะวัดเป็นเซอรค์ ลู ารม์ ลิ (Circular mil) ปัจจุบนั ผู้ผลิตจะระบชุ นิดและขนาดพน้ื ทหี่ น้าตัด
ไวบ้ นสายไฟฟา้ ทงั้ น้เี พอ่ื ความสะดวกในการใช้งานนัน่ เอง
จุดประสงคก์ ารสอน
3.1 เขา้ ใจเครอื่ งมอื ชา่ งไฟฟา้
3.1.1 อธบิ ายเครอ่ื งมอื สาหรบั งานเดนิ สายไฟฟา้ ดว้ ยเขม็ ขดั รดั สาย
3.1.2 อธบิ ายเครอ่ื งมอื สาหรบั งานเดนิ สายไฟฟา้ ในทอ่ รอ้ ยสาย
3.2 เขา้ ใจอปุ กรณแ์ ละวสั ดุ
3.2.1 อธิบายอปุ กรณแ์ ละวสั ดสุ าหรบั งานเดนิ สายไฟฟา้ ดว้ ยเขม็ ขัดรดั สาย
3.2.2 อธิบายอปุ กรณแ์ ละวสั ดสุ าหรบั งานเดนิ สายไฟฟา้ ในทอ่ รอ้ ยสาย
3.1 เครอื่ งมือชา่ งไฟฟา้
3.1.1 เครอื่ งมือสาหรบั งานเดินสายไฟฟา้ ดว้ ยเข็มขดั รัดสาย
1. ไขควง ได้แก่ ไขควงเทสไฟและไขควงทใ่ี ชข้ ันสกรทู ั่วไป ดงั รูปท่ี 3.1
รูปท่ี 3.1 ไขควงชนดิ ตา่ ง ๆ
2. คมี ได้แก่ คมี ตัด คมี ปาทแหลม คมี รวม คมี ปอกสาย คีมยา้ หางปลา คมี ล็อกดงั รูปท่ี 3.2
รปู ที่ 3.2 คีมแบบตา่ ง ๆ
3. มีดปอกสาย มักมีราคาสงู แต่ควรใชเ้ พือ่ ความปลอดภยั ในการทางาน แต่ทั่วไปนิยมใชค้ ตั เตอร์ เพราะ
สะดวกและง่ายตอ่ การจดั หาง่าย
รปู ที่ 3.3 มีดปอกสายและคตั เตอร์
4. ค้อนเดนิ สายไฟฟา้ ขนาดกระชับมือ บรเิ วณหวั คอ้ นจะออกแบบให้แหลมมน เพ่อื ใช้ตอกตปใู น
บรเิ วณแคบ ๆ ดังรปู ที่ 3.4
รูปที่ 3.4 คอ้ นเดนิ สายไฟ
5. บิดหลา่ ใช้สาหรับเจาะแผงไมต้ ่าง ๆ เชน่ ใชเ้ จาะรูกอ่ นที่จะตดิ ต้งั
คตั เอาต์ ดงั รูปท่ี 3.5
รูปท่ี 3.5 บิดหล่า
6. บกั เตา้ ใช้สาหรบั ตีเส้นใหต้ รงหรือไดร้ ะดบั ก่อนที่จะตอกตะปุเดนิ สายไฟฟา้ วธิ ีใชง้ านแสดง
ดงั รูปท่ี 3.6
รปู ท่ี 3.6 การใชบ้ กั เตา้
7. สว่าน ปัจจุบันนยิ มใช้สว่านไฟฟ้า ประกอบด้วยสวา่ นเจาะไม้ เหลก็ และสวา่ น กระแทกใชเ้ จาะปูน
คอนกรีต สาหรบั งานเจาะคอนกรีตส่วนใหญจ่ ะนยิ มใช้สวา่ นโรตาร่ี ขนาดของสว่านไฟฟ้าจะเรียกตามขนาดของ
หวั จบั เชน่ ขนาด 3 หุน 4 หุน เปน็ ดน้ ดังรปู ท่ี 3.7
การใส่ดอกสว่าน : จับก้านดอกสว่านใส่ในหัวจับและดันจนขบเฟืองซ่ึงจะถูก ล็อกโดยอัตโนมัติ ใช้มือดึงอีก
ครั้งเพอ่ื ตรวจสอบวา่ ดอกสวา่ นถกู ลอ็ กจรงิ
การถอด : ดึงปลดสาหรับล็อกของหวั จบั ไปด้านหลงั เปน็ การปลดล็อก
รูปท่ี 3.7 สวา่ นท่ใี ชใ้ นการติดตัง้ ไฟฟา้ และงานทว่ั ไป
8. ตลบั เมตร ระดบั น้าและลูกดง่ิ ตลบั เมตร ใช้วดั ระยะ มีหน่วยเป็นเซนติเมตร (cm) และเป็นนิ้ว
(inch)ระดับน้าใช้ตรวจสอบความเท่ียงตรงในงานเดินสายไฟฟ้าและการดัดท่อลูกด่ิงใช้จับระดับในแนวตั้ง
นาหนักขนาด 400 กรัม
9. เหล็กนาศนู ยแ์ ละเหลก็ สง่
เหล็กนาศนู ย์ : ผลติ จากเหล็กแขง็ ใช้สาหรบั ตอกนาบนอาคารท่ีฉาบด้วยปูนซีเมนต์เพื่อป้องกันตะปู
งอ ซึง่ จะทาให้เสยี เวลาในการปฏิบตั งิ าน ในทางปฏบิ ัตจิ ะใชต้ ะปูคอนกรีตโดยการเจียนปลายใหแ้ หลม
เหลก็ ส่ง :ใช้สาหรับตอกตะปูในทแี่ คบ ไมส่ ามารถใชค้ อ้ นตอกหวั ตะปูได้โดยตรง
10. ส่วิ ใช้บากแป้นไมร้ องสวิตช์ หรอื แผงคตั เอาต์ เพอื่ ให้สามารถสอดสายเข้าไปได้ ท่ใี ช้งานท่วั ไป
คอื สิ่วปากบาง และส่วิ เดือย ดังรูปที่ 3.8
รูปท่ี 3.8 สิว่
11. เลื่อย ใช้ตดั ไม้ขนาดต่าง ๆ แสดงดงั รูปที่ 3.9
รปู ท่ี 3.9 เล่อื ยทใ่ี ชก้ บั งานเดนิ สายไฟฟา้
12. มลั ตมิ เิ ตอร์ เป็นเครือ่ งมอื วดั อเนกประสงค์ เพอื่ ตรวจสอบสภาพสายไฟฟ้า อปุ กรณ์ ตา่ ง ๆ เพ่อื ใหเ้ กิด
ความแน่ใจวา่ อปุ กรณแ์ ละวัสดทุ กุ ช้นิ ที่จะนาไปติดต้ังอย่ใู นสภาพทพ่ี รอ้ มจะใช้ งานด้วยความปลอดภัย
3.1.2 เครอื่ งมอื สาหรบั งานเดนิ สายไฟฟา้ ในทอ่ รอ้ ยสาย
1. เครอ่ื งมอื ดดั ทอ่ (bender)
2. คัตเตอร์ตัดทอ่ (cutter)
3. ปากกาจบั ท่อ (pipe vise stands)
4. เครื่องมอื ตา๊ ปเกลียว (pipe threader)
5. เคร่ืองมอื ลบคมทอ่ (reamer) ใชส้ าหรับลบคมบรเิ วณปลายทอ่
6. ลวดดึงสายไฟ (fish tape) มสี องขนาด คือ ยาว 25 ฟุต 50 ฟตุ และ 100 ฟตุ
7. นอ็ กเอาต์พน้ั ซ์ (knock out punch) เจาะในตู้โหลดเซน็ เตอร์ หรือกลอ่ งตอ่ สายต่าง ๆ
8. เครอ่ื งเจยี ร
9. ประแจ เช่น ประแจเลือ่ น ประแจคอม้า เป็นต้น ลกั ษณะของเคร่ืองมือตา่ ง ๆ แสดงดังรปู ที่ 3.10
รปู ท่ี 3.10 เคร่อื งมือสาหรบั เดนิ สายไฟฟา้ ในทอ่ รอ้ ยสาย