The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การติดตั้งไฟฟ้าในอาคาร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by peamyow, 2022-03-15 23:19:49

สื่อการสอน

การติดตั้งไฟฟ้าในอาคาร

Keywords: e-book

รปู ท่ี 3.10 เคร่อื งมอื สาหรบั เดนิ สายไฟฟา้ ในทอ่ รอ้ ยสาย

3.2 อปุ กรณแ์ ละวสั ดุ
3.2.1 อปุ กรณแ์ ละวสั ดสุ าหรบั งานเดนิ สายไฟฟา้ ดว้ ยเขม็ ขดั รดั สาย
1. เขม็ ขดั รดั สาย หรือท่ีเรยี กท่ัวไปว่า คลปิ (clip) หรอื กป๊ิ ผลิตจากอะลมู เิ นียม ข้ึนรูปเปน็ แผน่ บาง
ๆ แตม่ ีความเหนียว มหี ลายขนาด เชน่ เบอร์

3 4 ,0,1,11 1 2 ,2,21 , 1 2 ,3,4,51 และเบอร์ 6 ซ่ึงมขี นาดใหญท่ ่สี ุด ต้ังแต่เบอร์ 3 ถงึ
เบอร์ 6 จะมสี องรู ขนาดอ่ืน ๆ จะมรี ูเดยี ว

2. ตะปู ขนาด 3 8 น้ิว 5 16 นว้ิ ใชต้ อกบนอาคารฉาบปนู และขนาด 1 2 นิ้ว สาหรับตอกบน
อาคารทเี่ ปน็ ไม้

3. พุก (fixer) ใช้งานคู่กับสกรูเพื่อให้การจับยึดอุปกรณ์เคร่ืองใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ มีความแข็งแรง พุกที่ใช้
งานทั่วไปมี 3 แบบ คอื

3.1 พุกพลาสติก ใช้กับงานติดต้ังขนาดเล็ก เช่น ติดต้ังแป้นไม้ แผง คัตเอาต์ จะใช้พุกขนาด M7
(เอ็ม-เจ็ด) กล่าวคือ ต้องใช้ดอกสว่านขนาด 7 มิล และใช้สกรูขนาด 5-6 มม. นอกจากน้ียังมีขนาดอื่น ๆ เช่น
M8 จะโตกว่า M7

3.2 พุกตะก่ัว ใช้กับงานขนาดกลาง เนื่องจากทนแรงกดและน้าหนักได้ดีกว่า เช่น การติดต้ังตู้โหลด
เซน็ เตอร์

3.3 พกุ เหล็ก หรอื ท่เี รียกวา่ โบลต์ (bolt) ใชก้ ับงานทีต่ ้องการความแข็งแรง ทุกประเภท เน่ืองจากรับ
น้าหนกั ไดด้ ี แต่มีราคาแพง

รปู ที่ 3.11 พกุ แบบตา่ ง ๆ

ตารางที่ 3.1 ขนาดของเขม็ ขดั รัดสาย เบอร์ ใช้รดั สาย จานวน
VAF สาย
รปู เข็มขัดรัดสายขนาดจรงิ 1 เส้น

0 2 ⨉ 1.0 1 เส้น
1 เส้น
1 2 ⨉ 1.0 1 เส้น
2 ⨉ 2.5 2 เส้น

2 2⨉4
2 ⨉ 1.0

รูปเขม็ ขดั รัดสายขนาดจริง เบอร์ ใชร้ ัดสาย จานวน
VAF สาย

3 2 ⨉ 2.5 1 เสน้
2 ⨉ 2.5 กบั 2 เสน้
2 ⨉ 1.5 (ขนาดละ
1 เสน้ )
4 2⨉4 2 เส้น
2 ⨉ 1.5 3 เส้น
ตามความ
5 สายไฟฟ้า เหมาะสม
จานวน
หลายเส้น

รูปเขม็ ขดั รดั สายขนาดจรงิ เบอร์ ใชร้ ัดสาย จานวน
VAF สาย

6 สายไฟฟา้ ตามความ
จานวน เหมาะสม
หลายเสน้

4. สายไฟฟ้า (wire) ในงานติดต้ังไฟฟ้าในอาคารจะเป็นสายแบนแกนคู่ (สาย VAF) หุ้มด้วยฉนวนพีวีซีสองช้ัน
ลักษณะภายนอกมสี ขี าว

รปู รา่ ง การใช้งาน
สายไฟฟ้าขนาด 2 ⨉ 1.5 mm2 ใช้ในการ
เดนิ หลอดไฟฟ้า
สายไฟฟ้าขนาด 2 ⨉ 2.5 mm2 ใช้ในการ
เดนิ ปลั๊ก
สายไฟฟ้าขนาด 2 ⨉ 4 mm2 ใช้ในการ
เดินสายเมนหรือ ตดิ ต้งั เครื่องปรับอากาศ
สายไฟฟ้าขนาด 2 ⨉ 6 mm2 ใช้ในการ
เดินสายเมนหรือติดตัง้ เคร่อื งปรบั อากาศ

รปู ท่ี 3.12 รายละเอยี ดของตวั อกั ษรและตวั เลขบนสายไฟฟา้

รายละเอยี ดเกย่ี วกบั อกั ษรและตวั เลขทร่ี ะบไุ วบ้ นสายไฟฟา้ มคี วามหมาย ดังน้ี
2 ⨉ 2.5 SQ.MMหมายถึง ขนาดของสายไฟฟ้า มรี ายละเอียดดงั น้ี
2 : จานวนสายทองแดง
2.5 SQ.MM : ขนาดเสน้ ผา่ นศูนยก์ ลางของสาย

ไฟฟา้ มีหน่วยเป็นตารางมลิ ลเิ มตร
VAF หมายถงึ ชนดิ ของสายเปน็ แบบ วเี อเอฟ
300 V หมายถึง ทนแรงดนั ไฟฟา้ ไดไ้ มเ่ กิน 300 โวลต์

70°C หมายถึง ทนความรอ้ นทอ่ี ณุ หภูมิ 70 องศาเซลเซยี ส
PVC/PVC หมายถงึ ห้มุ ดว้ ยฉนวนที่เปน็ พวี ซี ีสองชั้น (PVC: Poly Vinyl Chloride)
TIS 11-2531 หมายถึง มาตรฐานท่รี ับรอง
TABLE 2 หมายถึง ตารางรายละเอียดเกี่ยวกับสายไฟฟ้าของบริษทั ทผ่ี ลติ สายไฟฟา้

5. สกรู เรียกอกี อยา่ งหนง่ึ วา่ ตะปเู กลยี วปลอ่ ย มีสองชนดิ คอื ชนดิ หวั แฉก และชนดิ หวั แบน
6. แปน้ ไม้ ใชส้ าหรับรองรบั อปุ กรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ มหี ลายชนิด อาทิ 4 ⨉ 6 นิว, 8 ⨉ 10 นวิ้ เปน็ ต้น
ปัจจบุ นั มีการผลติ แปน้ พลาสติกออกมาใชง้ านควบคู่กับแป้นไม้ ซง่ึ ไดร้ บั ความนยิ มใกลเ้ คียงกนั
7. สวติ ช์ ใช้สาหรับปดิ -เปิดวงจรไฟฟา้ ใด ๆ เชน่ ใช้ปดิ -เปิดวงจรหลอด ฟลอู อเรสเซนต์ คณุ ลกั ษณะ
ของสวิตช์ขนึ้ อยกู่ ับพกิ ัดกระแส พิกัดแรงดัน สวิตช์แบง่ ได้เปน็ สองชนิดตามลักษณะการทางานและการตดิ ตง้ั

7.1 แบ่งตามลักษณะการทางาน แต่ละแบบจะถูกนาไปใชง้ านตามคณุ สมบตั ิ ดงั รปู ท่ี 3.3
สวิตช์หนึ่งขาสับทางเดียว (Single pole single throw switch) หรือ S.P.S.T. ดังรูป (ก) เรียกอีก

อยา่ งหนง่ึ ว่า สวิตชท์ างเดยี ว ใชก้ บั ระบบไฟฟ้าเฟสเดียว (single phase)
สวิตช์สองขาสับทางเดียว (Double pole single throw switch) หรือ D.P.S.T. ดังรูป (ข) ใช้เป็น

อปุ กรณต์ ัดตอนในระบบเฟสเดียว ตวั อย่างเช่น คตั เอาต์ทใี่ ชต้ ามบา้ นเรอื นทว่ั ไป
สวติ ชส์ องขาสับสองทาง (Double pole double throw switch) หรือ D.P.D.T. ดังรูป (ค)

สวิตช์สามขาสับทางเดียว (Triple pole single throw switch) หรือ T.P.S.T. ดังรูป (ง) ใช้เป็น
อุปกรณ์ตัดตอนในระบบสามเฟส (Three phase) ตัวอย่างเช่น คัตเอาต์สามเฟส สวิตช์สามขาสับสองทาง
(Triple pole Double throw switch) หรือ T.P.D.T. ดงั รปู (จ) และ (ฉ) ใชก้ บั ระบบสามเฟส

รปู ท่ี 3.13 ลกั ษณะการทางานของสวติ ช์

รปู ที่ 3.13 (ตอ่ ) ลกั ษณะการทางานของสวติ ช์

7.2 แบง่ ตามลกั ษณะการตดิ ตง้ั แบง่ ออกเปน็ สองแบบ คือ
แบบตดิ ลอย กล่องสวติ ช์จะยดึ กบั ผนงั อาคารโดยตรง
แบบฝังกับผนงั กล่องสวิตช์จะฝงั ไวใ้ นผนังอาคาร และสว่ นใหญ่จะ ออกแบบให้ทนกระแสไดส้ งู กวา่ แบบตดิ ลอย

8. เตา้ รบั เรยี กอกี อยา่ งวา่ ปลั๊กตวั เมีย ทาหนา้ ทเ่ี ป็นสื่อกลางเพอ่ื ถ่ายโอนพลังงาน ไฟฟา้ ไปยังอปุ กรณ์
เครื่องใช้ไฟฟา้ ตา่ ง ๆ ลักษณะการตดิ ตงั้ เหมอื นกับสวติ ช์ ดังรปู ที่ 3.14

รูปท่ี 3.14 เตา้ รับ (ปลัก๊ ตัวเมีย)

9. เต้าเพดาน ใช้สาหรับห้อยดวงโคมส่งมาจากเพดานเพื่อให้แสงสว่างเฉพาะจุด ก่อน จะห้อยโคมลง
มาตอ้ งขมวดปมสายไวภ้ ายในเตา้ เพดาน เพื่อรองรบั นา้ หนกั ของดวงโคม ดังรูปท่ี 3.15

รปู ที่ 3.15 การตดิ ตง้ั เตา้ เพดาน

3.2.2 อปุ กรณแ์ ละวสั ดสุ าหรบั งานเดนิ สายไฟฟา้ ในทอ่ รอ้ ยสาย
1. ท่อรอ้ ยสาย (conduit) ประกอบด้วยท่อโลหะหนา (Rigid Steel Conduit; RSC) หนาปานกลาง

(Intermediate Metal Conduit; IMC) และท่อโลหะบาง (Electrical Metallic Tubing; EMT) ทอ่ โลหะออ่ น
ทอ่ พีวีซี ท่อชนิดกนั นา้ ได้ ดังรูป

รปู ท่ี 3.16 ทอ่ สาหรบั รอ้ ยสายไฟฟา้

2. กลอ่ งตอ่ สาย (box) กลอ่ งตอ่ สายทีใ่ ช้ประกอบท่อร้อยสาย มดี ังนี้
2.1 handy box ใชส้ าหรบั ติดตงั้ สวติ ชแ์ ละเตา้ รับ ดงั รปู ท่ี 3.17

ชนดิ handy box ขนาด (นวิ้ )
แบบต้นื 2 ⨉ 4⨉1 - ½
แบบลึก 2 ⨉ 4 ⨉ 1 - 7/8

รปู ที่ 3.17 handy box

2.2 square box ส่วนใหญ่จะติดต้ังในตาแหน่งท่ีต้องการตอ่ สาย

ชนิด square box ขนาด (นิว้ )
แบบต้ืน 4⨉4⨉1-½
แบบลึก 4 ⨉ 4 ⨉2

รปู ที่ 3.18 square box

2.3 octagon box ใชต้ ิดต้งั บนเพดานหรือติดลอย

ชนิด octagon box ขนาด (นิว้ )
แบบต้ืน 3–½⨉3–½⨉1-½
แบบลึก
3–½⨉3–½⨉2
รูปท่ี 3.19 octagon box

3. ฝาปิดกลอ่ ง (box cover)
3.1 ฝาปิด handy box ใช้สาหรับครอบสวิตช์ ปลั๊ก

รปู ท่ี 3.20 ฝาปดิ กล่องสวติ ชป์ ลกั๊ ของ handy box

3.2 ฝาปดิ square box

รปู ท่ี 3.21 ฝาปิดกล่องตอ่ สายแบบ square box

3.3 ฝาปดิ octagon box

รูปที่ 3.22 ฝาปิดกลอ่ งพกั สาย

4. คอนเนคเตอร์ (connector) ใช้เช่อื มตอ่ ระหวา่ งทอ่ กบั กลอ่ งตอ่ สาย

รูปที่ 3.23 คอนเนคเตอรช์ นดิ ตา่ ง ๆ

5. ลอ็ กนตั (lock nut) ผวิ ดา้ นในจะทาเปน็ เกลียว ใช้ยึดทอ่ เข้ากบั
กล่องต่อสาย

รปู ที่ 3.24 ล็อกนัท

6. บชุ ชิ่ง (bushing) บชุ ชิ่งสวมปลายทอ่ IMC, RSC และ Connector ใชป้ อ้ งกันท่อ ไฟฟา้ ขดู กบั ฉนวน

รปู ที่ 3.25 บชุ ช่ิง

7. ขอ้ ตอ่ หรอื คปั ปลิ้ง (coupling) ใชต้ ่อท่อสองทอ่ นเข้าดว้ ยกนั มที ั้งแบบสกรูและ แบบเกลยี วหมุน

รูปที่ 3.26 คปั ปลิ้งชนดิ ตา่ ง ๆ

8. แคลม๊ ป์ (clamp) เรยี กอกี อย่างวา่ สแตร๊ป (strap) ใช้สาหรับยึดทอ่ ใหแ้ นบชดิ กบั ผนัง
รปู ที่ 3.27 แคลม๊ ปห์ รอื สแตรป๊

9. คอนดเู ลต (condulet) ใชส้ าหรับเดนิ สายหกั มมุ ข้าม
สงิ่ กีดขวางของท่อโลหะหนา (RSC) มีหลายลักษณะ

รูปท่ี 3.28 คอนดเู ลตแบบตา่ ง ๆ

10. หวั งูเหา่ (service entrance) เรียกอีกอย่างวา่ ฝาครอบท่อรับสาย
ใชส้ าหรบั นา สายเมนจากภายนอกเข้าสู่ตัวอาคารและชว่ ยป้องกันความชืน้

รปู ท่ี 3.29 หัวงูเหา่

11. อี.วาย.เอส (E.Y.S) ขอ้ ตอ่ แยกสามทาง สาหรบั ท่อโลหะหนา และใชอ้ ดุ Compound เพือ่ ปอ้ งกนั
ไฟไหมส้ าย

รูปท่ี 3.30 อี.วาย.เอส

12. รางตวั ซี (C-Channel) ใช้สาหรบั ยดึ ท่อจานวนหลาย ๆ ทอ่ น บนรางตวั ซี เพยี ง ตวั เดยี ว ทาให้
สะดวกในการตดิ ต้งั และจดั วางทอ่ เป็นระเบียบสวยงาม

รูปท่ี 3.31 รางตวั ซี

หน่วยท่ี 4
การต่อสายไฟฟา้ แบบตา่ งๆ

จดุ ประสงคก์ ารสอน

4.1 ปฏบิ ัตกิ ารปอกสายการตอ่ สายไฟฟา้ แบบตา่ งๆ
4.1.1 ปฏิบตั กิ ารตอ่ แบบหางเปยี
4.1.2 ปฏบิ ัตกิ ารตอ่ แบบแยกทางเดยี ว
4.1.3 ปฏิบตั กิ ารตอ่ แบบแยกสองทาง
4.1.4 ปฏิบตั กิ ารตอ่ แบบตอ่ ตรง
4.1.5 ปฏบิ ตั ิ การตอ่ สายพวี ซี คี ู่
4.1.6 ปฏิบัตกิ ารตอ่ สายอ่อนกบั สายแขง็
4.1.7 ปฏบิ ตั กิ ารตอ่ สายตเี กลยี วแบบตอ่ ตรง
4.1.8 ปฏิบตั กิ ารตอ่ สายตเี กลียวแบบตอ่ แยก

4.1 การปอกสายการตอ่ สายไฟฟา้ แบบตา่ ง ๆ

ก่อนที่จะต่อสายไฟฟ้าเข้าด้วยกัน จะต้องปอกเอาฉนวนท่ีหุ้มตัวนาออกให้หมด โดยใช้ คัต
เตอร์ มีดปอกสาย คีมหรอื คีมสาหรับปอกสายโดยเฉพาะ ดังรูปที่ 4.1 ถ้าหากเป็นขดลวด อาบน้ายา
ควรขดู ฉนวนออกกอ่ น เม่ือตอ่ เสรจ็ แลว้ จงึ ทาการบดั กรดี ว้ ยหวั แรง้ จะทาใหร้ อยต่อมนั่ คงแข็งแรงมาก
ข้นึ

รปู ท่ี 4.1 เคร่อื งมอื สาหรบั ปอกสาย

การต่อสายไฟฟ้ามีด้วยกันหลายแบบแต่ละแบบจะมีข้อดีแตกต่างกัน ในท่ีน้ีจะกล่าว
เฉพาะ วิธที นี่ ยิ มตอ่ ใช้งานกนั ท่ัวไป ดังนี้

4.2.1 การตอ่ แบบหางเปีย ใชส้ าหรับสายขนาดเล็กและปานกลาง นิยมต่อในกล่องต่อ สาย
สวิตช์ ปลัก๊ เน่ืองจากไมต่ ้องรบั แรงดึงใด ๆ

รปู ท่ี 4.2 การตอ่ แบบหางเปยี

4.2.2 การตอ่ แบบแยกทางเดยี ว ใชส้ าหรบั ตอ่ แยกออกจากสายเมนและไม่ตอ้ งการ แรงดงึ มากนกั

รปู ท่ี 4.3 การต่อแบบแยกทางเดยี ว

4.2.3 การตอ่ แบบแยกสองทาง เป็นการตอ่ แยกออกจากสายเมน
จานวน 2 เส้น หรอื มากกว่า ข้ึนอยูก่ บั ความตอ้ งการ

รปู ท่ี 4.4 การต่อแบบแยกสองทาง

4.2.4 การต่อแบบต่อตรง การตอ่ แบบนี้สามารถรับแรงดึงไดม้ ากข้นึ
เน่อื งจากปลายสาย แตล่ ะดา้ นจะพันแนบแนน่ ไวท้ ปี่ ลายท้ังสองด้าน

รปู ที่ 4.5 การต่อแบบตอ่ ตรง

4.2.5 การต่อสายพีวซี ีคู่ เปน็ การต่อสายพีวีซีคหู่ มุ้ ฉนวนท่ี
ใช้งานตามบา้ นเรอื นทั่วไป โดยทีแ่ ตล่ ะเสน้ จะตอ่ เขา้ ด้วยกนั
แบบต่อตรง ดงั รปู ท่ี 4.6 ทงั้ น้จี ะต้องใหร้ อยต่อเย้อื งกันเลก็ น้อย เพื่อปอ้ งกนั การลดั วงจร

รปู ท่ี 4.6 การต่อสายพวี ซี คี ู่

4.2.6 การตอ่ สายออ่ นกับสายแขง็ เพอื่ ป้องกนั สายหลดุ
ออกจากกัน จะตอ้ งพันสาย อ่อนหลาย ๆ รอบ จากน้ัน
จงึ งอสายแข็งทบั สายออ่ นไวไ้ มใ่ หค้ ลายตัวออก

รูปท่ี 4.7 การต่อสายออ่ นกบั สายแขง็

4.2.7 การตอ่ สายตีเกลยี วแบบตอ่ ตรง เนอื่ งจากสายตีเกลียวหรือสายสแตรนจะมี ตัวนาจานวนหลาย
ๆ เส้น ดังนั้นก่อนท่ีจะต่อเข้าด้วยกันจะต้องแยกตีเกลียวออกจากกัน จากน้ัน จึงนาสอดประสานกัน และ
เร่ิมพันทีละเส้นจนครบ ถ้าหากใช้ตะก่ัวบัดกรี จะทาให้รอยต่อแข็งแรง มากย่ิงข้ึน การต่อสายวิธีน้ีจะ
สามารถรบั แรงดงึ ได้มาก

รปู ท่ี 4.8 การตอ่ สายตเี กลยี วแบบตอ่ ตรง

4.2.8 การตอ่ สายตีเกลยี วแบบตอ่ แยก ทาได้โดยการแบ่งสายตวั นา
(ที่จะนามาต่อแยก) ออกเป็นสองส่วน จากน้ันนาไปสอดเข้ากับสายเมน พร้อมกับพันไปรอบ ๆ สายเมน
โดยพันให้ มีทศิ ทางสลับกนั

รปู ท่ี 4.9 การต่อสายตเี กลียวแบบตอ่ แยก


Click to View FlipBook Version