แผนการจดั การเรยี นรู้
วชิ า
ชนั้
รู ปภาพ
ตาํ แหน่ง ครูผู้ชว่ ย
โรงเรยี นดอนตาลดงบงั วทิ ยา
ต. โนนทอง อ. บา้ นผอื จ. อุดรธานี
สํานั กงานเขตพ้ืนท่ีการศึ กษาประถมศึ กษา เขต 4
คำอธบิ ายรายวิชาภาษาองั กฤษ
อ 14101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปท4 ี่ 4
เวลา 80 ชัว่ โมง
เข#าใจคำสั่ง คำขอร#องและคำแนะนำง4ายๆท่ีฟ:งหรืออ4าน สะกดคำ อ4านออกเสียงคำ กล4ุมคำ ประโยค
ข#อความง4ายๆ และบทพูดเข#าจังหวะถูกต#องตามหลักการอ4าน เลือก / ระบุภาพ หรือสัญลักษณN หรือ
เครอื่ งหมายตรงตามความหมายของประโยค และขอ# ความสั้นๆทฟ่ี :งหรอื อ4าน ตอบคำถามจากเรอ่ื งทีฟ่ ง:
บทสนทนา และนิทานง4ายๆ เข#าใจความแตกต4างของเสียง ตัวอักษร คำ กล4ุมคำ ประโยค และข#อความของ
ภาษาอังกฤษและภาษาไทย เข#าใจเทศกาล / วันสำคัญ / งานฉลอง และชีวิตความเปVนอย4ูง4ายๆของเจ#าของ
ภาษา ความเหมือนและความแตกต4างระหว4างเทศกาล และงานฉลองตามวัฒนธรรมของเจ#าของภาษากับของ
ไทย และเข#าร4วมกิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรมท่ีเหมาะกับวัย สนทนาทักทาย กล4าวลา ขอบคุณ ขอโทษ
พูดแทรกอย4างสุภาพ แนะนำตนเอง เพื่อน พร#อมตอบรับ ใช#คำส่ัง คำขอร#อง และคำอนุญาตง4ายๆ โดยทำ
ท4าทางประกอบอย4างสุภาพตามมารยาทสังคม และวัฒนธรรมของเจ#าของภาษา พูด / เขียนเพ่ือแสดงความ
คิดเห็นง4ายๆ แสดงความต#องการของตนเอง และขอความช4วยเหลือในสถานการณNต4างๆ รวมท้ังให#ข#อมูล
เก่ียวกับตนเอง เพ่ือนและครอบครัว เพ่ือแสดงความรู#สึกของตนเอง เกี่ยวกับเร่ืองใกล#ตัว และกิจกรรมต4างๆ
ระบุ / เชอ่ื มโยงความสัมพนั ธขN องภาพกบั คำ หรือกล4มุ คำ โดยใชภ# าพ แผนภมู ิ แผนภาพและแผนผัง
โดยใช#กระบวนการสอนภาษา กระบวนการกลุ4ม และกระบวนการคิด ในการฝ]กออกเสียง ฟ:ง พูด
อ4านและเขียน เพ่ือให#นักเรียนเกิดความร#ู ความเข#าใจ สามารถสื่อสารส่ิงที่เรียนร#ู สนใจเข#าร4วมกิจกรรมทาง
ภาษาและวัฒนธรรม รวมถึงการรวบรวมความรแ#ู ละแสวงหาความเพลิดเพลนิ จากภาษาองั กฤษ
ตวั ช้วี ดั
ต. 1.1.1, ต.1.1.2, ต.1.1.3, ต.1.1.4
ต. 1.2.1, ต.1.2.2, ต.1.2.3, ต.1.2.4, ต.1.2.5
ต. 1.3.1, ต.1.3.2, ต.1.3.3
ต. 2.1.1, ต.2.1.2, ต. 2.1.3
ต. 2.2.1, ต. 2.2.2
ต. 3.1.1
ต. 4.1.1
ต. 4.2.1
โครงสร&างรายวิชาภาษาอังกฤษ ช้ัน ป. 4
หนAวยที่ ชอ่ื หนAวยการเรียนรEู มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
Starter Welcome back เรียนรู/E ตัวช้วี ดั การทบทวนคำศพั ทแN ละ (ชัว่ โมง) คะแนน
มฐ.ต 1.1(1-4), โครงสร#างจากระดบั ทผี่ 4านมา
มฐ.ต 1.2(1), เปVนการเสริมแรงให#เกดิ ความ 2
มฐ.ต 2.1(1,3), สนใจในการเรียนมากขนึ้
มฐ.ต 4.1(1)
1 School day มฐ.ต 1.1(1-4), การฟ:ง พดู อ4าน และเขยี น 13
มฐ.ต 1.2(1,4,5), เกี่ยวกบั ชีวติ ประจำวัน เพือ่ น
มฐ.ต 1.3(1-3), และวิชาทเ่ี รยี น เปนV ขอ# มลู
มฐ.ต 2.1(3), สำคญั ที่นำไปใชก# ารสื่อสารใน
มฐ.ต 2.2(1), ชวี ติ ประจำวัน
มฐ.ต 3.1(1),
มฐ.ต 4.1(1)
2 The amazing มฐ.ต 1.1(1-4), การพดู คำศพั ทเN กีย่ วกับ 13
body มฐ.ต 1.2(1-5) , ร4างกาย ตวั เลข และการใช#
มฐ.ต 1.3(1,2), โครงสรา# งประโยคอยา4 งถกู ตอ# ง
มฐ.ต 2.1(3), เปVนข#อมูลสำคัญที่นำไปใช#ใน
มฐ.ต 2.2(1), การสอื่ สารในชวี ติ ประจำวนั
มฐ.ต 3.1(1),
มฐ.ต 4.1(1) และยงั นำไปใช#ในการเรยี นร#ู
สาระการเรียนรู#อืน่ ได#
3 At the market มฐ.ต 1.1(1-4), การสนทนาเกี่ยวกับอาหาร 13
มฐ.ต 1.2(1-4), การบอกและถามราคา รวมทง้ั
มฐ.ต 1.3(1-3), กิจวัตรประจำวัน เปVนทกั ษะ
มฐ.ต 2.1(3), การส่อื สารในชวี ติ ประจำวัน
มฐ.ต 2.2(1), และยังนำไปใชใ# นการเรียนร#ู
มฐ.ต 3.1(1), สาระการเรยี นร#ูอนื่ ได#
มฐ.ต 4.1(1)
หนวA ยที่ ชอ่ื หนวA ยการเรยี นรูE มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนัก
4 Wild animals เรียนรู/E ตัวชีว้ ดั การบรรยายเก่ียวกบั สัตวNปnา (ชวั่ โมง) คะแนน
พร#อมทอ่ี ย4ูอาศัย เปVนข#อมลู
5 City and space มฐ.ต 1.1(1-4), สำคัญท่ีนำไปใชใ# นการสือ่ สาร 13
มฐ.ต 1.2(1,4,5), และยังนำไปใชใ# นการเรยี นร#ู
6 Sports day มฐ.ต 1.3(1,2), สาระการเรยี นรูอ# ่นื ได#
มฐ.ต 2.1(3)
Culture มฐ.ต 2.2(1), การฟง: พูด อา4 น และเขียน 13
มฐ.ต 3.1(1), เก่ยี วกับสถานทใี่ นเมอื ง และ
มฐ.ต 4.1(1), ส่งิ ทอ่ี ยบู4 นท#องฟาo เปนV ขอ# มลู ที่
มฐ.ต 4.2(1) นำไปใชใ# นการส่ือสารและยัง
นำไปใช#ในการเรยี นรูส# าระการ
มฐ.ต 1.1(1-4), เรียนรูอ# ื่นได#
มฐ.ต 1.2(1),
มฐ.ต 1.3(1,2), การบรรยายเก่ียวกบั กีฬาและ 13
มฐ.ต 2.1(3), การเปรียบเทียบคนหรอื สตั วN
มฐ.ต 2.2(1), เปVนทักษะการสอ่ื สารใน
มฐ.ต 3.1(1), ชีวติ ประจำวนั และยงั นำไปใช#
มฐ.ต 4.1(1), ในการเรียนร#ูสาระการเรยี นรู#
มฐ.ต 4.2(1) อ่ืนได#
มฐ.ต 1.1(1-4), การบรรยายเกย่ี วกับประเพณี 2
มฐ.ต 1.2(1,4), และงานฉลองตา4 งๆ เพอื่ ให#
มฐ.ต 1.3(1,2), ผเ#ู รยี นทราบเก่ียวกับกจิ กรรม
มฐ.ต 2.1(3), ต4างๆ ที่จัดทำในงานฉลอง
มฐ.ต 2.2(1), แต4ละงาน
มฐ.ต 3.1(1),
มฐ.ต 4.1(1),
มฐ.ต 4.2(1)
มฐ.ต 1.2(3),
มฐ.ต 2.1(1-3),
มฐ.ต 2.2(2)
สารบญั หนา้
สคมาําารตนบํารญัฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ช6ีวดั ชน6ั ปี 1
Welcome back 14
18
Unit 1 School day 36
& Lesson 1
& Lesson 2 68
72
Unit 2 The amazing body 90
& Lesson 1
& Lesson 2 121
126
Unit 3 At the market 139
& Lesson 1
& Lesson 2 159
163
Unit 4 Wild animals 183
& Lesson 1
& Lesson 2 206
210
Unit 5 City and space 225
& Lesson 1
& Lesson 2 252
256
Unit 6 Sports day 272
& Lesson 1 298
& Lesson 2 311
313
Culture 319
แบบประเมนิ ชน+ิ งานและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
Characters of Smile 4
Smile word bank
แผนการจดั การเรียนรู้
Starter: Welcome back
รหัสวชิ า/ชื*อรายวชิ า ภาษาองั กฤษพ+ืนฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)
ช8ัน ประถมศึกษาปี ที: 4 เวลาเรียน 2 ชวั: โมง ภาคเรียนท_ี* ___________
ผู้สอน _______________________________ โรงเรียน___________________________________
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี8วดั
สาระที* 1 ภาษาเพื*อการสื*อสาร
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส*ือสารทางภาษาในการแลกเปลย*ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช+ีวดั 1. พดู /เขียนโตต้ อบในการส:ือสารระหวา่ งบุคคล
2. ใชค้ าํ สงั: คาํ ขอร้อง และคาํ ขออนุญาตง่ายๆ
3. พดู /เขียนแสดงความตอ้ งการของตนเอง และขอความช่วยเหลือในสถานการณ์ง่ายๆ
4. พดู /เขียนเพ:ือขอและใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ตนเอง เพ:ือน และครอบครัว
สาระท*ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนําไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช+ีวดั 1. พดู และทาํ ท่าประกอบอยา่ งสุภาพ ตามมารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
3. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท:ีเหมาะกบั วยั
สาระที* 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท8งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช+ีวดั 1. ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ท:ีเกิดข+ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด
การทบทวนคาํ ศพั ทแ์ ละประโยคท:ีเรียนมาแลว้ การพดู ทกั ทาย การถาม-ตอบขอ้ มูลส่วนตวั
และประโยคคาํ สง:ั ขอร้อง ขออนุญาต ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถใชภ้ าษาองั กฤษสื:อสารในชีวติ ประจาํ วนั ได้
1
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- บทสนทนาที:ใชใ้ นการทกั ทาย
- คาํ ศพั ทแ์ ละประโยคที:ใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ตนเอง ส:ิงใกลต้ วั เช่น
A: What’s your name? B: My name’s ……………….. .
- คาํ สงั: คาํ ขอร้องและคาํ ขออนุญาตท:ีใชใ้ นหอ้ งเรียน เช่น May I drink some water, please?
- คาํ ศพั ท์ สาํ นวน และประโยคท:ีใชแ้ สดงความตอ้ งการและขอความช่วยเหลือ
ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น Can you help me, please?
- มารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การร้องเพลง
- การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ท:ีเกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื*อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มีวนิ ยั
6. ชิ8นงาน/ภาระงาน
- การพดู ถาม-ตอบขอ้ มูลง่ายๆ เก:ียวกบั ตนเอง
- การร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบ
- การแปลประโยคคาํ สงั: ในช+นั เรียน
- การทาํ แถบประโยคคาํ สง:ั ในช+นั เรียน
2
7. การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
-
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการพดู ถาม-ตอบขอ้ มูลง่ายๆ เก:ียวกบั ตนเอง
- ประเมินการร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบ
- ประเมินการแปลประโยคคาํ สงั: ในช+นั เรียน
- ประเมินการทาํ แถบประโยคคาํ สง:ั ในช+นั เรียน
8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั แนบมาพร้อมน+ี
- กิจกรรมนาํ สู่การเรียน
- กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้
- กิจกรรมรวบยอด
9. ส*ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ
5. แผน่ ป้ายเน+ือเพลง Welcome back
3
แผนการจดั การเรียนรู้
Starter: Welcome back
1. สาระสําคญั
การทบทวนคาํ ศพั ทแ์ ละประโยคที:เรียนมาแลว้ การพดู ทกั ทาย การถาม-ตอบขอ้ มูลส่วนตวั
และประโยคขอร้อง ขออนุญาต ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถใชภ้ าษาองั กฤษส:ือสารในชีวติ ประจาํ วนั ได้
2. ตวั ชี8วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
- พดู ทกั ทายในชีวติ ประจาํ วนั ได้ (ต 1.2/1, ต 2.1/1)
- พดู ขอและใหข้ อ้ มูลง่ายๆ เก:ียวกบั ตนเองได้ (ต 1.2/4, ต 4.1/1)
- ร้องเพลงภาษาองั กฤษที:กาํ หนดได้ (ต 2.1/3)
- พดู และเขา้ ใจความหมายของประโยคขอร้อง ขออนุญาตในช+นั เรียนได้ (ต 1.2/2)
- พดู แสดงความตอ้ งการและขอความช่วยเหลือได้ (ต 1.2/3)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- บทสนทนาท:ีใชใ้ นการทกั ทาย
- คาํ ศพั ทแ์ ละประโยคที:ใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเอง ส:ิงใกลต้ วั เช่น
A: What’s your name? B: My name’s ……... .
- คาํ ขอร้อง และคาํ ขออนุญาตท:ีใชใ้ นหอ้ งเรียน เช่น May I drink some water, please?
- คาํ ศพั ท์ สาํ นวน และประโยคท:ีใชแ้ สดงความตอ้ งการและขอความช่วยเหลือ
ในสถานการณ์ต่างๆ เช่น Can you help me, please?
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การร้องเพลง
- มารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
- การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส*ือสาร
4
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มีวนิ ยั
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูพดู ทกั ทายนกั เรียน
Teacher: Hello/Hi. It’s nice to see you again.
จากน+นั ครูสอนใหน้ กั เรียนพดู ทกั ทายตอบ ดงั น+ี
Students: Hello. It’s nice to see you again, too. How are you?
Teacher: I’m great. How about you?
Students: I’m fine. Thank you.
ครูทบทวนนกั เรียนเกี:ยวกบั การตอบคาํ ถาม How are you? วา่ นอกจาก I’m fine. แลว้ นกั เรียนยงั
สามารถตอบตามความรู้สึกจริงๆ ของนกั เรียนได้ เช่น
ถา้ วนั น+นั รู้สึกดีมากๆ พดู วา่ I’m great. I’m happy.
ถา้ วนั น+นั รู้สึกดี (ปกติ) พดู วา่ I’m OK. I’m good. I’m fine.
ถา้ วนั น+นั รู้สึกไม่ดี ใหพ้ ดู ตอบตามความรู้สึกท:ีเป็น เช่น
I’m awful. ฉนั รู้สึกแยจ่ ริงๆ
I’m sad. ฉนั กาํ ลงั รู้สึกเศร้าๆ
I’m tired. ฉนั รู้สึกเหนื:อยจงั เลย
I’m bored. ฉนั รู้สึกเบื:อๆ
จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั ฝึกพดู ถาม-ตอบตามจริงเหมือนดงั ตวั อยา่ ง
2. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 2 ข้อ 1 What can you see? เพื:อดูวา่ Harry ทกั ทาย Ben อยา่ งไร
โดยครูอ่านออกเสียง และใหน้ กั เรียนอ่านตาม
5
3. ครูช+ีแจงวา่ ในชว:ั โมงน+ีนกั เรียนจะไดท้ บทวนภาษาองั กฤษ หลงั จากที:ไดป้ ิ ดเทอมเป็นเวลานาน
จากน+นั ครูบอกนกั เรียนวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ังเพลง Welcome back ซ:ึงในเพลงน+ีหมายถึง ยนิ ดีตอ้ นรับ
กลบั สู่โรงเรียน ครูใหน้ กั เรียนต+งั ใจฟัง แลว้ จบั ใจความวา่ เพลงน+ีมีเน+ือหาเก:ียวกบั อะไร โดยครูเปิ ด
CD/track 1 ใหน้ กั เรียนฟังเพลง 1 คร+ัง
Welcome back
Welcome back, welcome to school.
Come in and sit right down.
School is starting soon.
I’m ready, and how about you?
Here inside our classroom
Paper, scissors, rulers
Pen, pencil, computer
I’m ready, and how about you?
เม:ือฟังเพลงจบ ครูใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถามวา่ เพลง Welcome back มีเน+ือหาเก:ียวกบั อะไร จากน+นั ครู
ติดแผน่ ป้ายเน+ือเพลง Welcome back ใหน้ กั เรียนดูบนกระดานหรือใหน้ กั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน
หน้า 2 ข้อ 2 Sing along. แลว้ เปิ ด CD/track 1 ใหน้ กั เรียนฟังและฝึกร้องตาม เม:ือนกั เรียนร้องเพลง
ไดค้ ล่องแลว้ ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ใหแ้ ต่ละกลุ่มช่วยกนั คิดท่าทางประกอบ
เพลง ครูใหเ้ วลานกั เรียนในการทาํ กิจกรรมน+ี เสร็จแลว้ จึงสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 กลุ่ม ใหอ้ อกมา
ร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบเพลง Welcome back ใหเ้ พ:ือนๆ ดูหนา้ ช+นั เรียน
Background Information
ทาํ ไม scissors จงึ ออกเสียงว่า “ซิสเซิส”
เนื:องจาก sc จะออกเสียงเป็นเสียง /s/ เมื:ออยหู่ นา้ e, i, y เช่น scene (ซีน),
science (ไซ-เอน็ ซ), scissors, (ซิสเซิส), scent (เซ็นท), scythe (ไซท)
ทมี7 า: http://humannet.chandra.ac.th/english/phonetics/s_z.html
6
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนฝึกทบทวนการต+งั คาํ ถาม (Question review) กบั เพื:อนร่วมช+นั ดว้ ยประโยคคาํ ถามใน
หนังสือเรียน หน้า 3 ข้อ 3 Answer the questions.โดยครูใหน้ กั เรียนอ่านประโยคตามครูจนคล่อง
และใหเ้ วลานกั เรียนในการเตรียมคาํ ตอบ จากน+นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพื:อน (Pair work) เพ:ือฝึกถาม
และตอบ เช่น
A: What’s your name?
B: My name’s ……………….. .
A: Can you sing?
B: Yes, I can./ No, I can’t.
A: What’s your favourite food?
B: My favourite food is ………………….. .
A: How old are you?
B: I’m ………………. years old.
A: How do you spell ‘sharpener’?
B: S-h-a-r-p-e-n-e-r.
A: Have you got a brother?
B: Yes, I have./ No, I haven’t.
ครูอาจใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดประโยคคาํ ถามอื:นๆ เพิ:มเติม นอกเหนือจากประโยคคาํ ถามใน
หนงั สือเรียน เช่น
A: Where’s your house?
B: My house’s on ………………. .
A: What’s your favourite colour?
B: My favourite colour is …………. .
ครูใหน้ กั เรียนยนื ลอ้ มวง และใหน้ กั เรียนคนใดคนหน:ึงกไ็ ดเ้ ป็นผเู้ ริ:มตน้ ถามคาํ ถามกบั เพ:ือน
ที:ตนเลือก เช่น
Urai: Somsri, how old are you?
Somsri: I’m ten years old.
สมศรีถามเพ:ือนคนอ:ืนต่อไป
Udom, where is your house?
Udom: My house’s on Sukhumwit Road. อุดมถามเพื:อนคนอื:นต่อไป
7
นกั เรียนคนใดไดถ้ ามและตอบแลว้ ใหอ้ อกจากวงไป การใชว้ ธิ ีการน+ีจะทาํ ใหท้ ุกคนมีโอกาสฝึกพดู
ภาษาองั กฤษ
2. ครูกาํ หนดเวลา 30 วนิ าที ใหน้ กั เรียนดูรูปภาพในหนังสือเรียน หน้า 3 ข้อ 4 Let’s play. จากน+นั ให้
นกั เรียนทุกคนปิ ดหนงั สือเรียน ครูถามนกั เรียนวา่ เห็นอะไรในรูปภาพบา้ ง (Vocabulary review)
Teacher: What pictures do you see in the table?
Students: (ช่วยกนั ตอบ) Bee, flowers, car, bag, mushroom, butterfly,
guitar, hat, fruit, eye, numbers, scissors, bicycle, etc.
นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือน (Pair work) ใหค้ นแรกดูภาพในตาราง และคนท:ีสองบอกหมายเลขของภาพ
เช่น
A: Guitar!
B: Four C (4C)
เม:ือนกั เรียนฝึกพดู คาํ ศพั ทจ์ นคล่องแลว้ ครูอาจใหน้ กั เรียนฝึกพดู ถาม-ตอบแบบเป็นประโยค และ
พยายามถาม-ตอบใหร้ วดเร็วข+ึน จนสามารถพดู ไดค้ ล่อง เช่น
A: What’s 3D?
B: It’s a butterfly.
A: What’s 3A?
B: They’re beds.
3. ครูทบทวนเกี:ยวกบั คาํ ขอร้อง และคาํ ขออนุญาตที:ใชใ้ นหอ้ งเรียน โดยถามนกั เรียนวา่ ถา้ นกั เรียน
ตอ้ งการจะดื:มน+าํ ไปหอ้ งน+าํ หรือขออนุญาตเขา้ หอ้ งเรียน นกั เรียนจะพดู เป็นภาษาองั กฤษวา่ อยา่ งไร
Can I go to the toilet, please? ขออนุญาตไปเขา้ หอ้ งน+าํ
Can I drink some water, please? ขออนุญาตด:ืมน+าํ
May I come in, please? ขออนุญาตเขา้ หอ้ ง
ครูสอนประโยคท:ีจะใชใ้ นหอ้ งเรียนเพิ:มเติม เพ:ือใหน้ กั เรียนใชพ้ ดู ในหอ้ งเรียนอยา่ งสม:าํ เสมอ
I’m sorry. I don’t understand. ขอโทษค่ะ/ครับ หนู/ผมไม่เขา้ ใจ
Sorry, I don’t have a (pen/workbook). ขอโทษค่ะ/ครับ หนู/ผมไม่ไดเ้ อา
(ปากกา/แบบฝึกหดั ) มาค่ะ/ครับ
Can you help me, please? ช่วยหนู/ผม หน่อยไดไ้ หมคะ/ครับ
Can I borrow a (pencil/pen), please? ขอยมื ดินสอ/ปากกาหน่อยค่ะ
Can you speak more slowly, please? ช่วยพดู ชา้ ๆ หน่อยไดไ้ หมคะ/ครับ
One more time, please./Can you repeat, please? พดู อีกคร+ัง/พดู ซ+าํ ไดไ้ หมคะ/ครับ
How do you say “…..” in English? คาํ น+ี … ในภาษาองั กฤษ เรียกวา่ อะไรคะ/ครับ
8
How do you spell…./that/it? คาํ น+ี สะกดอยา่ งไรคะ/ครับ
Is this correct? น:ีถูกไหมคะ/ครับ
ครูอธิบายเพ:ิมเติมวา่ เม:ือเติมคาํ วา่ ‘please’ ลงไปในประโยคแลว้ จะทาํ ใหภ้ าษาสุภาพมากข+ึน จึง
มกั จะใชค้ าํ วา่ ‘please’ ร่วมกบั ประโยคขอร้อง ส่วน ‘sorry’ แปลวา่ ขอโทษ ใชเ้ พ:ือแสดงความ
สุภาพเมื:อตอ้ งการขอใหใ้ ครบางคนทาํ บางสิ:งบางอยา่ งซ+าํ ๆ หรือเม:ือตอ้ งการปฏิเสธ หรือไปขดั ขวาง
การทาํ กิจกรรมบางอยา่ งของคนอื:น เช่น Sorry, could you just say that sentence again, please?
เม:ือนกั เรียนเขา้ ใจประโยคหรือวลีเหล่าน+ีแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั ฝึกพดู โดยใหท้ าํ ท่าทาง
ประกอบการพดู ดว้ ย จากน+นั ครูแจกใบงานเสริม (English worksheet) โดยครูถ่ายเอกสารจาก
ส่วนทา้ ยของแผนการเรียนรู้น+ีแจกนกั เรียนคนละ 1 แผน่
óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 2 ข้อ 1 Look and label. เพื:อทบทวนคาํ ศพั ท์ โดยครูใหน้ กั เรียนอ่าน
คาํ ศพั ทท์ :ีกาํ หนดใหพ้ ร้อมๆ กนั จากน+นั ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน (Group work)
เพื:อนาํ คาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีไปเขียนลงในช่องวา่ งท:ีกาํ หนดใหใ้ หส้ มั พนั ธ์กบั ภาพ โดยใหท้ ุกคนในกลุ่ม
ช่วยกนั คิด ครูกระตุน้ ใหน้ กั เรียนที:เรียนเก่งช่วยเหลือเพ:ือนในการทาํ กิจกรรมน+ี เมื:อนกั เรียนทาํ เสร็จ
แลว้ ครูเขียนเฉลยคาํ ตอบบนกระดาน
1 11 o’clock 3 students 5 desk 7 chair
2 blackboard 4 teacher 6 pencil case 8 bag
2. นกั เรียนจบั คู่กบั เพื:อนท:ีอยขู่ า้ งเคียง (Pair work) และเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 3 ข้อ 2 Look and match.
ใหน้ กั เรียนจบั คู่รูปภาพ 1-6 กบั คาํ ศพั ทท์ ี:กาํ หนดให้ a-f โดยอาจใชด้ ินสอโยงเสน้ หรือเขียนคาํ ศพั ท์
ขา้ งๆ รูปภาพกไ็ ด้ เม:ือนกั เรียนทาํ เสร็จแลว้ ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งและความเขา้ ใจของนกั เรียน
ดว้ ยการเตรียมบตั รภาพ 6 ภาพ และบตั รคาํ ศพั ท์ 6 คาํ (vegetables, forest, swim, butterfly, tennis,
one hundred) จากน+นั สุ่มเรียกนกั เรียน 6 คน ใหเ้ ดินออกมาหนา้ ช+นั เรียน ครูมอบบตั รคาํ ใหน้ กั เรียน
แต่ละคน เพื:อนาํ ไปจบั คู่กบั บตั รภาพท:ีครูติดไวบ้ นกระดานใหถ้ ูกตอ้ ง โดยเมื:อจบั คู่เสร็จแลว้ ให้
นกั เรียนแต่ละคนอ่านออกเสียงบตั รคาํ ของตนเองใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนท+งั หมดตรวจ
แบบฝึกหดั ของตนเองกบั บตั รคาํ ท:ีจบั คู่ถูกตอ้ งแลว้ บนกระดาน
1c 3a 5f
2 b 4 e 6d
9
3. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน และใหแ้ ต่ละกลุ่มฝึกอ่านคาํ ถามและคาํ ตอบท:ีกาํ หนดให้
ในแบบฝึ กหัด หน้า 3 ข้อ 3 Read and match the questions with the answers. รวมท+งั จบั คู่คาํ ถาม
กบั คาํ ตอบใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนถามและตอบขา้ มกลุ่มกนั โดยขณะนกั เรียนทาํ กิจกรรม
ครูเดินสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียน และกระตุน้ ใหน้ กั เรียนที:ไม่ค่อยกลา้ แสดงออกไดม้ ี
โอกาสพดู
1c 4a
2d 5b
3f 6e
4. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ช่วยกนั ทาํ แถบประโยคคาํ สง:ั ในช+นั เรียน คู่ละ 1 ประโยค พร้อมท+งั คาํ แปล
ภาษาไทย โดยเขียนและตกแต่งแถบประโยคใหส้ วยงาม เม:ือครูตรวจความถูกตอ้ งแลว้ ใหน้ กั เรียน
ช่วยกนั คดั เลือกแถบประโยคท:ีสวยที:สุดและมีประโยคไม่ซ+าํ กนั มาติดแสดงในช+นั เรียน เพ:ือทาํ เป็น
สื:อในการเรียนรู้
5. ครูพดู สรุปในการเรียนรู้วา่ นกั เรียนควรมีระเบียบวนิ ยั ในการเรียนรู้ เคารพกฎกติกาของหอ้ งเรียน
เช่น ถา้ มีนกั เรียนบางคนในหอ้ งเรียนลุกจากท:ีนง:ั บ่อยคร+ัง กจ็ ะทาํ ใหเ้ พื:อนๆ คนอื:นเสียสมาธิในการ
เรียน ดงั น+นั ก่อนเรียนนกั เรียนจึงควรไปเขา้ หอ้ งน+าํ หรือด:ืมน+าํ เตรียมอุปกรณ์การเรียนใหเ้ รียบร้อย
แต่ถา้ จาํ เป็นจริงๆ กส็ ามารถขออนุญาตครูได้ โดยยกมือขออนุญาตและพดู ประโยคที:ครูสอนในวนั น+ี
จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนพดู ทบทวนประโยคคาํ สง:ั ในช+นั เรียนคนละ 1 ประโยค พร้อมท+งั บอก
ความหมาย
7. การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
-
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
10
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการพดู ถาม-ตอบขอ้ มูลง่ายๆ เก:ียวกบั ตนเอง
- ประเมินการร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบ
- ประเมินการแปลประโยคคาํ สงั: ในช+นั เรียน
- ประเมินการทาํ แถบประโยคคาํ สง:ั ในช+นั เรียน
8. ส*ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ
5. แผน่ ป้ายเน+ือเพลง Welcome back
11
English Worksheet
!How do you say these expressions in your language?
Classroom language
I’m sorry. I don’t understand.
Can I go to the toilet, please?
Can I drink some water, please?
Can I borrow a (pencil/pen), please?
Can you speak more slowly, please?
Can you repeat, please?
Can you help me, please?
How do you say… in English?
How do you spell…./that/it?
May I come in, please?
Sorry, I don’t have a (pen/workbook).
Is this correct?
12
แบบประเมนิ ทกั ษะทางภาษา
วชิ า ภาษาองั กฤษพ+ืนฐาน ช8ันประถมศึกษาปี ท*ี 4
Lesson …………………………………..
คาํ ชี8แจง ใหค้ รูผสู้ อน สงั เกตการใชท้ กั ษะทางภาษาในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนนลงใน
ตารางใหต้ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง
พูดทักทายใน ีชวิตประจําวันได้ สรุปผล
พูดขอและให้ข้อ ูมล ่งายๆ เ ีAกยวกับ การประเมนิ
ตนเองได้
เลขที& ช&ือ-สกลุ ้รองเพลงภาษาอังกฤษ ีAทกําหนดได้ รวม
พูดและเข้าใจความหมายของ คะแนน
ประโยคคําสัAงใน Iชันเ ีรยนได้ ผา่ น ไม่
พูดแสดงความต้องการและขอความ ผา่ น
่ชวยเห ืลอในสถานการ ์ณ ่ตางๆ ได้
ลงช:ือ…………….……………………..ผปู้ ระเมิน
การประเมนิ : นกั เรียนที:ไดค้ ะแนน 10 คะแนนข+ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเตม็ 20)
13
แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 1 School day
รหัสวชิ า/ชื*อรายวชิ า ภาษาองั กฤษพ+ืนฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)
ช8ัน ประถมศึกษาปี ที: 4 เวลาเรียน 13 ชว:ั โมง ภาคเรียนท_ี* ___________
ผู้สอน _______________________________ โรงเรียน___________________________________
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี8วดั
สาระที* 1 ภาษาเพ*ือการส*ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื*องทฟ*ี ังและอ่านจากส*ือประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช+ีวดั 2. อ่านออกเสียงคาํ สะกดคาํ อ่านกลุ่มคาํ ประโยค ขอ้ ความง่ายๆ และบทพดู
เขา้ จงั หวะถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
3. เลือก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์ หรือเครื:องหมาย ตรงตามความหมายของประโยคและ
ขอ้ ความส+นั ๆ ท:ีฟังหรืออ่าน
4. ตอบคาํ ถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส*ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี* นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช+ีวดั 4. พดู /เขียนเพื:อขอและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเอง เพ:ือน และครอบครัว
5. พดู แสดงความรู้สึกของตนเองเก:ียวกบั เร:ืองต่างๆ ใกลต้ วั และกิจกรรมต่างๆ
ตามแบบที:ฟัง
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร*ืองต่างๆ โดยการพูดและ
การเขยี น
ตวั ช+ีวดั 1. พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเองและเรื:องใกลต้ วั
2. พดู /วาดภาพแสดงความสมั พนั ธ์ของส:ิงต่างๆ ใกลต้ วั ตามท:ีฟังหรืออ่าน
สาระท*ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนําไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช+ีวดั 3. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท:ีเหมาะกบั วยั
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนํามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม
14
ตวั ช+ีวดั 1. บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คาํ กลุ่มคาํ ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
สาระท*ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท8งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช+ีวดั 1. ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ท:ีเกิดข+ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร*ืองมือพืน8 ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลยี* นเรียนรู้กบั สังคมโลก
ตวั ช+ีวดั 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่างๆ
2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั วชิ า หอ้ งเรียน และชีวติ ประจาํ วนั การใช้ Present Simple Tense และการ
ออกเสียงคาํ ศพั ทท์ :ีลงทา้ ยดว้ ยเสียง /l/ ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถพดู และเขียนเก:ียวกบั วชิ าท:ีชอบ วชิ าและหอ้ งเรียน
ท:ีเรียน และชีวติ ในโรงเรียนของตนเองได้ ซ:ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพ:ือนาํ ไปใชส้ :ือสารในชีวติ ประจาํ วนั
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- กลุ่มคาํ ประโยคเด:ียว และความหมายเกี:ยวกบั ตนเอง และโรงเรียน
- ประโยค บทสนทนา และเน+ือเร:ืองส+นั ๆ ที:มีภาพประกอบ
- คาํ ศพั ทแ์ ละประโยคท:ีใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเอง สิ:งใกลต้ วั และเพื:อน เช่น
A: What is your favourite subject? B: My favourite subject is English.
A: What has she got on Monday at 11.00? B: She’s got maths.
- ประโยคที:ใชแ้ สดงความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบเกี:ยวกบั วชิ าท:ีเรียน พร้อมท+งั ใหเ้ หตุผลส+นั ๆ
ประกอบ เช่น
He/She likes …..… . He/She doesn’t like…..… .
I like …..… because …….. .
- ประโยคและขอ้ ความที:ใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ตนเอง
- คาํ กลุ่มคาํ ท:ีมีความหมายสมั พนั ธ์ของส:ิงต่างๆใกลต้ วั เช่น แผนภูมิ Venn Diagram
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง
- ความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
- การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ท:ีเกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
15
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาํ ศพั ทท์ :ีเกี:ยวขอ้ งใกลต้ วั จากส:ือและ
แหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
- Present Simple Tense
- Pronunciation: final sound /l/
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื*อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดวเิ คราะห์
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - ซื:อสตั ยส์ ุจริต
- มีวนิ ยั - จิตสาธารณะ
- มุ่งมน:ั ในการทาํ งาน
6. ชิ8นงาน/ภาระงาน
- การพดู ถาม-ตอบเก:ียวกบั วชิ าที:ชอบ วชิ าและสถานท:ีที:เรียน
- งานเขียนหวั ขอ้ My favourite subject
- การพดู แสดงความรู้สึกเกี:ยวกบั วชิ าที:ชอบ
- การพดู นาํ เสนอเกี:ยวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ของตนเอง
- งานเขียนจดหมายถึงครูเก:ียวกบั เพ:ือนท:ีตนชอบ
- การอ่านออกเสียงความเรียงท:ีกาํ หนด
- งานเขียนเกี:ยวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ของตนเองใน 1 วนั
- การรวบรวมคาํ ศพั ทใ์ น Your word book
7. การวดั และการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
16
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการพดู ถาม-ตอบเกี:ยวกบั วชิ าท:ีชอบ วชิ าและสถานท:ีที:เรียน
- ประเมินงานเขียนหวั ขอ้ My favourite subject
- ประเมินการพดู แสดงความคิดเห็นเก:ียวกบั วชิ าท:ีชอบ
- ประเมินการพดู นาํ เสนอเก:ียวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ของตนเอง
- ประเมินงานเขียนจดหมายถึงครูเกี:ยวกบั เพ:ือนท:ีตนชอบ
- ประเมินการอ่านออกเสียงความเรียงท:ีกาํ หนด
- ประเมินงานเขียนเก:ียวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ของตนเองใน 1 วนั
- ประเมินการรวบรวมคาํ ศพั ทใ์ น Your word book
8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั แนบมาพร้อมน+ี
- กิจกรรมนาํ สู่การเรียน
- กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้
- กิจกรรมรวบยอด
9. ส*ือ/แหล่งการเรียนรู้ 6. อินเทอร์เน็ต
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4 7. ซองจดหมายและกระดาษเขียนจดหมาย
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4 8. กระดาษแขง็
3. Audio CD Smile ป. 4 9. แผน่ ป้ายขนาดใหญ่ท:ีเขียน Audio script
4. บตั รภาพ บตั รคาํ บตั รตวั อกั ษร
5. ตารางสาํ รวจวชิ าท:ีชอบ
17
แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 1 School day (Lesson 1)
1. สาระสําคญั
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั วชิ าและหอ้ งเรียนในโรงเรียน การใช้ Present Simple Tense และ
การออกเสียงคาํ ศพั ทท์ ี:ลงทา้ ยดว้ ยเสียง /l/ ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถพดู และเขียนเก:ียวกบั วชิ าท:ีชอบ วชิ าและ
หอ้ งที:เรียนได้ ซ:ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพื:อนาํ ไปใชส้ :ือสารในชีวติ ประจาํ วนั
2. ตวั ชี8วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
- ออกเสียง สะกดคาํ และระบุภาพ/บอกความหมายคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั วชิ าที:เรียนและ
หอ้ งเรียนได้ (ต 1.1/2, ต 1.1/3)
- พดู และเขียนเพ:ือขอและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั วชิ าที:เรียนได้ (ต 1.2/4, ต 1.3/1, ต 4.1/1)
- พดู แสดงความรู้สึกเกี:ยวกบั วชิ าท:ีเรียนได้ (ต 1.2/5)
- อ่านออกเสียงคาํ ศพั ทท์ ี:ลงทา้ ยดว้ ย /l/ ได้ (ต 1.1/2, ต 2.2/1)
- ใช้ Present Simple Tense ไดถ้ ูกตอ้ ง (ต 1.1/4)
- เล่นเกมภาษาองั กฤษที:กาํ หนดได้ (ต 2.1/3)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- กลุ่มคาํ ประโยคเด:ียว และความหมายเก:ียวกบั ตนเองและโรงเรียน
- ประโยค บทสนทนา และเน+ือเรื:องส+นั ๆ ที:มีภาพประกอบ
- คาํ ศพั ทแ์ ละประโยคที:ใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเอง สิ:งใกลต้ วั และเพ:ือน เช่น
A: What is your favourite subject? B: My favourite subject is English.
A: What has she got on Monday at 11.00? B: She’s got maths.
- คาํ และประโยคที:ใชแ้ สดงความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบเก:ียวกบั วชิ าที:เรียน พร้อมท+งั ให้
เหตุผลส+นั ๆ ประกอบ เช่น
He/She likes …..… . He/She doesn’t like…..… .
I like …..… because …….. .
- ประโยคและขอ้ ความที:ใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ตนเอง
18
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม
- ความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
- การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
- Present Simple Tense
- Pronunciation: final sound /l/
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื*อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดวเิ คราะห์
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ซื:อสตั ยส์ ุจริต
- มุ่งมนั: ในการทาํ งาน
- มีจิตสาธารณะ
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
6.1 ชั*วโมงท*ี 1-2
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูทกั ทายนกั เรียนในหอ้ งเรียน และนกั เรียนทกั ทายครูโดยพร้อมเพรียงกนั
2. ครูชูกีตาร์ (ของจริงหรือรูปภาพ) และทาํ ท่าเล่นดนตรี แลว้ ถามนกั เรียนคนหน:ึงวา่
Teacher: I like to learn music.
What about you? What do you like?
Somjai: I like English.
Teacher: Very good!
ครูสุ่มถามนกั เรียนคนอื:นๆ อีก 4-5 คน เก:ียวกบั วชิ าท:ีนกั เรียนชอบ
3. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 4 ข้อ 1 What can you see? เพื:อดูภาพหอ้ งต่างๆ ภายในโรงเรียน
แลว้ ตอบคาํ ถามของครูวา่ เห็นหอ้ งอะไรบา้ ง และเห็นอะไรในหอ้ งเหล่าน+ี
19
Teacher: What do you see in this school?
Students: (ช่วยกนั ตอบ) books, library, lab, blackboard, piano, violin,
basketball, ball, desk, etc.
ครูเฉลยโดยการช+ีนิ+วไปตามหอ้ งต่างๆ ในรูป และพดู วา่
Teacher: There are many rooms in our school: library, science lab, maths
room, art room, music room, and gym. (ช+ีนิ+วตามภาพ)
ครูเขียนคาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั หอ้ งเรียนต่างๆ บนกระดาน และอ่านออกเสียงใหน้ กั เรียนฟังและอ่าน
ออกเสียงตาม
4. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาํ ท:ีกาํ หนดให้ ในหนังสือเรียน หน้า 4 ข้อ 2 Read, look and find. พร้อมๆ
กนั แลว้ ช่วยกนั บอกความหมาย จากน+นั ใหน้ กั เรียนหาคาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีจากภาพ แลว้ ใหน้ กั เรียนบอก
วา่ ภาพเหล่าน+ีอยทู่ :ีใด ครูคอยช่วยเหลือและตรวจสอบความถูกตอ้ ง
1 ball - in the gym
2 books - in the library
3 piano - in the music room
4 painting - in the art room
5 desk - in the classroom
ครูถามนกั เรียนวา่ คาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีเก:ียวขอ้ งกบั ตวั เราอยา่ งไร นกั เรียนช่วยกนั คิด จนไดค้ าํ ตอบวา่
เก:ียวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ที:เราตอ้ งทาํ หรือพบเป็นประจาํ สม:าํ เสมอ
5. ครูสอนคาํ ศพั ทช์ ื:อวชิ า โดยแสดงบตั รภาพท:ีส:ือถึงวชิ าต่างๆ 9 ภาพ ดงั น+ี maths, history, geography,
P.E., English, science, computers, art, music และใหน้ กั เรียนบอกชื:อวชิ าเป็นภาษาไทย จากน+นั ครู
บอกชื:อวชิ าเป็นภาษาองั กฤษ
6. ครูชูบตั รคาํ 9 แผน่ อ่านออกเสียงใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม ดงั น+ี
English maths P.E. history computers
geography music art science
7. นกั เรียนช่วยกนั จบั คู่บตั รภาพและบตั รคาํ ใหส้ มั พนั ธ์กนั โดยครูติดบตั รภาพและบตั รคาํ ท:ีสมั พนั ธ์
กนั บนกระดานทีละคู่ จากน+นั นกั เรียนอ่านออกเสียงโดยพร้อมเพรียงกนั
20
8. ครูบอกนกั เรียนวา่ ใน Unit 1 Lesson 1 น+ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั ชื:อวชิ าต่างๆ และ
หอ้ งเรียนภายในโรงเรียน ทบทวนเก:ียวกบั การใช้ Present Simple Tense และ Verb to be การพดู
ถาม-ตอบเก:ียวกบั วชิ าท:ีชอบ วชิ าที:เรียนในตารางสอนและสถานท:ีท:ีเรียน
Background Information
P.E. ยอ่ มาจาก Physical Education แปลวา่ วชิ าพลศึกษา
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนดูภาพวชิ าต่างๆ ใน Word box ในหนังสือเรียน หน้า 5 ข้อ 1 Listen, point and repeat.
แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกครูวา่ ภาพท:ีนกั เรียนเห็นคือวชิ าอะไรในภาษาไทย จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 2
ใหน้ กั เรียนฟัง 1 คร+ัง และใหน้ กั เรียนช+ีนิ+วตามคาํ ศพั ทท์ :ีไดย้ นิ แลว้ ออกเสียงตาม
music art P.E. maths science
difficult easy library gym
ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังอีกหลายๆ คร+ัง เพ:ือใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตามจนคล่อง เสร็จแลว้ ครูสุ่ม
เรียกนกั เรียน 3-4 คน ใหอ้ ่านคาํ ศพั ทท์ ีละคาํ
2. นกั เรียนแบ่งกลุ่มทาํ งาน กลุ่มละ 4-5 คน ช่วยกนั แต่งประโยค กลุ่มละ 5 ประโยค โดยมีเงื:อนไขวา่
ในประโยคท:ีแต่งแต่ละประโยค ตอ้ งมีคาํ ศพั ทช์ :ือวชิ าและหอ้ งเรียนอยดู่ ว้ ย เช่น
. 1) We study P.E. in the gym.
2) She speaks English in the classroom.
3) I play the violin in the music room.
4) We study science in the lab.
5) They study art in the art room.
เมื:อนกั เรียนแต่งประโยคเสร็จแลว้ ครูใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาหนา้ ช+นั 1 คน เพื:อพดู ประโยค
ที:กลุ่มของตนแต่ง โดยครูช่วยแกไ้ ขประโยคท:ีนกั เรียนแต่งผดิ
3. นกั เรียนดูรูปภาพในกรอบ A-E ในหนังสือเรียน หน้า 5 ข้อ 2 Listen and number. โดยครูช+ีนิ+วไปท:ี
ภาพทีละภาพ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ คนท:ีนกั เรียนเห็นในแต่ละภาพกาํ ลงั ทาํ อะไร
Teacher: What does he (she) do?
Students: He studies science. (ช+ีทีละภาพจาก A-E)
(ภาพ A)
She plays the violin. (ภาพ B)
21
She studies maths. (ภาพ C)
He plays basketball in the gym. (ภาพ D)
She draws a picture in the art room. (ภาพ E)
Teacher: Very good!
จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 3 ใหน้ กั เรียนฟัง
1 Her favourite subject is maths.
2 His favourite subject is P.E.
3 His favourite subject is science.
4 Her favourite subject is art.
5 Her favourite subject is music.
ครูเปิ ด CD/track 3 ใหน้ กั เรียนฟังอีก 2-3 คร+ัง จากน+นั ใหน้ กั เรียนเรียงลาํ ดบั รูปภาพตามที:นกั เรียน
ไดย้ นิ จาก CD เสร็จแลว้ จึงช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ โดยครูเขียนคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งใหน้ กั เรียนดูอีกคร+ัง
บนกระดาน
1C 2D 3A 4E 5B
4. นกั เรียนอ่านประโยคที:กาํ หนดให้ ในหนังสือเรียน หน้า 5 ข้อ 3 Listen and write. จากน+นั ครูเปิ ด
CD/track 5 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง และเขียนคาํ ศพั ทท์ :ีไดย้ นิ ลงในสมุดของตนเอง เสร็จแลว้ ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเปิ ด CD อีกคร+ัง เพื:อใหน้ กั เรียนตรวจสอบคาํ ตอบ แลว้ ใหน้ กั เรียน
ท+งั หอ้ งอ่านประโยคที:เติมคาํ สมบูรณ์แลว้ พร้อมๆ กนั ครูอาจสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน ใหล้ ุกข+ึนยนื อ่าน
คาํ ตอบอีกคร+ัง คนละ 1 ขอ้
1 I like art. 4 I read in the library.
2 I don’t like maths. 5 I play football in the gym.
3 My favourite subject is music.
22
óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนดูรูปภาพหอ้ งเรียนในแบบฝึ กหัด หน้า 4 ข้อ 1 Look and label. และดูคาํ ท:ีกาํ หนดใหใ้ น
กรอบ จากน+นั ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงคาํ ศพั ทต์ ามครู แลว้ นาํ คาํ ศพั ทด์ งั กล่าวไปเติมลงในช่องวา่ ง
ที:สมั พนั ธ์กบั ภาพ เสร็จแลว้ จึงช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ
1 library 3 classroom 5 music room
2 science lab 4 art room 6 gym
2. ครูใหน้ กั เรียนเตรียมตวั ก่อนฟัง โดยอ่านประโยคท:ีกาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้า 4 ข้อ 2 Listen,
look and match. อยา่ งคร่าวๆ จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 4 ใหน้ กั เรียนฟัง ดงั น+ี
Jack has got glasses and a white jacket. Where is Jack?
Henry has got a pencil and a maths book. Where is Henry?
Emma has got short hair. She’s got a flower. Where is Emma?
Catherine likes sports. She’s got P.E. Where is Catherine?
John likes books. He’s got lots of books. Where is John?
นกั เรียนฟัง CD อีก 2-3 คร+ัง และดูรูปภาพหอ้ งเรียนในแบบฝึกหดั หนา้ 4 ขอ้ 1 ประกอบการฟัง
จากน+นั จึงลากเสน้ จบั คู่ช:ือคนกบั สถานท:ีในหอ้ งเรียนใหถ้ ูกตอ้ ง และช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ
1 Jack is in the science lab.
2 Henry is in the classroom with Mr. Parker.
3 Emma is in the art room.
4 Catherine is in the gym.
5 John is in the library.
นกั เรียนอ่านประโยคที:เรียงถูกตอ้ งแลว้ ท+งั 5 ประโยคพร้อมๆ กนั จากน+นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน
ใหอ้ ่านคาํ ตอบที:ถูกตอ้ งอีกคร+ัง คนละ 1 ประโยค
3. นกั เรียนดูรูปภาพ ในแบบฝึ กหัด หน้า 5 ข้อ 1 Find six words and phrases about school. แลว้ ให้
นกั เรียนช่วยกนั บอกคาํ ศพั ทท์ ี:คิดวา่ รูปภาพตอ้ งการจะสื:อ เมื:อไดค้ าํ ตอบวา่ เป็นรูปอะไรแลว้ ครูให้
นกั เรียนจบั คู่กนั ช่วยกนั หาคาํ ท:ีซ่อนอยใู่ นตารางตวั อกั ษร ครูใหน้ กั เรียนปรบมือใหก้ บั นกั เรียนคู่แรก
ที:หาคาํ ศพั ทค์ รบ 6 คาํ ก่อน
23
(แนวนอน) go to bed, maths, library, homework, art
(แนวต+งั ) gym
4. นกั เรียนเล่นเกม Mime Gesture โดยครูขออาสาสมคั ร 6 คน ใหอ้ อกมาหนา้ ช+นั เรียน เพ:ือแสดง
ท่าทางใบค้ าํ กริยาท:ีครูกาํ หนดให้ และใหน้ กั เรียนคนอื:นๆ ทายวา่ คาํ กริยาท:ีอาสาสมคั รดงั กล่าว
ทาํ ท่าทางใบน้ +นั สมั พนั ธ์กบั วชิ าอะไร เช่น
Teacher: What subject is he/she acting?
อาสาสมัคร 1 ทาํ ท่าเล่นกีตาร์ และร้องเพลงแบบไม่มีเสียง โดยขยบั ปากไปมา
Students: music
อาสาสมัคร 2 ทาํ ท่ากดแป้นพิมพ์ (keyboard) คอมพวิ เตอร์ คลิกเมาส์ (mouse)
จอ้ งจอคอมพิวเตอร์ ขย+ตี า
Students: computers
อาสาสมัคร 3 ทาํ ท่าเล่นกีฬาบาสเกตบอล เล+ียงลูกบาส เลง็ และชูต้ ลูกบาสให้
เขา้ ห่วง
Students: P.E.
อาสาสมัคร 4 ทาํ ท่านบั เลขดว้ ยนิ+วมือ เกาศีรษะเป็นบางคร+ัง
Students: maths
อาสาสมัคร 5 ทาํ ท่าถือจานสีดว้ ยมือซา้ ย ส่วนมือขวาถือพกู่ นั แลว้ ทาํ ท่าระบาย
สีภาพ
Students: art
อาสาสมัคร 6 ทาํ ท่าทางเทของเหลวใส่ขวดแกว้ ท:ีอยใู่ นมือท+งั 2 ขา้ งไปมา (ผสม
สูตรสารเคมี)
Students: science
Teacher: Excellent!
5. นกั เรียนอ่านตวั อกั ษรท:ีกาํ หนดใหใ้ นกรอบ ในแบบฝึ กหัด หน้า 5 ข้อ 2 Write the words. ครูอธิบาย
ใหน้ กั เรียนฟังวา่ ตวั อกั ษรเหล่าน+ีมีคาํ ศพั ทท์ ี:นกั เรียนเคยเรียนมาแลว้ 8 คาํ ใหน้ กั เรียนวงกลม
ตวั อกั ษรเหล่าน+ีใหเ้ ป็นคาํ ศพั ทด์ งั กล่าว เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 8 คน ใหบ้ อกคาํ ศพั ทท์ :ีตนเอง
วงกลม คนละ 1 คาํ และออกไปเขียนบนกระดาน ครูใหน้ กั เรียนในหอ้ งช่วยกนั ตรวจคาํ ตอบ และ
ลอกคาํ ศพั ทบ์ นกระดานท:ีถูกตอ้ งแลว้ ลงสมุดของตนเอง
maths, science, art, music, P.E., English, difficult, easy
24
6. นกั เรียนดูรูปภาพที:กาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้า 5 ข้อ 3 Answer the questions. แลว้ หาคาํ ศพั ทท์ ี:
เก:ียวขอ้ งกบั ภาพเติมลงในช่องวา่ ง เสร็จแลว้ จึงเฉลยคาํ ตอบพร้อมกนั จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนฝึกอ่าน
ประโยคเหล่าน+ีใหค้ ล่อง
1 science 2 music 3 P.E.
นกั เรียนเดินไปถามเพื:อนร่วมช+นั วา่ ชอบวชิ าใด โดยใชร้ ูปแบบคาํ ถามและคาํ ตอบ ดงั ต่อไปน+ี
A: (ชื:อเพ:ือน), what is your favourite subject? หรือ
(ช:ือเพ:ือน), what subject do you like?
B: My favourite subject is (ชื:อวชิ า).
หรือ
I like (ช:ือวชิ า).
7. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาํ ถามในแบบฝึ กหัด หน้า 5 ข้อ 4 Answer the questions. ครูสุ่มถามคาํ ถาม
นกั เรียน ซ:ึงครูมนั: ใจวา่ ตอบคาํ ถามได้ คนละ 1 ขอ้ เพ:ือเป็นตวั อยา่ งใหก้ บั นกั เรียนคนอ:ืน เสร็จแลว้
ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนท:ีนง:ั ติดกนั และผลดั กนั ถาม-ตอบโดยใชค้ าํ ถามเหล่าน+ี เสร็จแลว้ ให้
นกั เรียนบนั ทึกคาํ ตอบของตนเองลงในแบบฝึกหดั
(Suggested Answer)
1 My favourite subject is English.
2 Yes, I do./No, I don’t.
3 No, it isn’t./Yes, it is.
4 No, it isn’t./Yes, it is.
8. นกั เรียนแบ่งกลุ่มตามวชิ าที:ตนชอบ และใชช้ ื:อวชิ าดงั กล่าวต+งั ช:ือกลุ่มของตนเอง เช่น กลุ่ม P.E.,
กลุ่ม science ฯลฯ (จาํ นวนคนในกลุ่มอาจไม่เท่ากนั เช่น กลุ่ม P.E. อาจจะมีจาํ นวนสมาชิกมากที:สุด)
สมาชิกในกลุ่มระดมความคิดเพ:ือหาเหตุผลวา่ ทาํ ไมจึงชอบวชิ าน+นั โดยครูเขียนคาํ ถามใหน้ กั เรียน
บนกระดาน ดงั น+ี
Why do you like (ช:ือวชิ า)? Because I ………………. .
เช่น A: Why do you like English subject?
B: Because we want to speak English well.
25
C: Because it is easy.
D: Because we want to speak with foreigners.
ในระหวา่ งการถาม-ตอบ ใหน้ กั เรียนเขียนคาํ ตอบใส่กระดาษ 1 แผน่ โดยระหวา่ งการทาํ กิจกรรม
ครูอนุญาตใหน้ กั เรียนเปิ ดพจนานุกรมเพ:ือคน้ หาคาํ ศพั ท์ หรือปรึกษาครูได้ เสร็จแลว้ ครูใหแ้ ต่ละ
กลุ่มส่งตวั แทนออกมารายงานหนา้ ช+นั เรียน
เช่น - Our favourite subject is P.E. because it is fun. We are not in the classroom.
We can play sport.
- We like music because we like to sing. It is not difficult.
We don’t have homework.
- Our favourite subject is art because we like painting. It is easy.
- Our favourite subject is computers because we like to play games.
We like technology.
หมายเหตุ: สาํ หรับวชิ าคอมพวิ เตอร์ ครูควรเตือนนกั เรียนวา่ ไม่ใหเ้ ล่นเกมมากเกินไป และ
การเล่นอินเทอร์เน็ตควรอยใู่ นสายตาของผใู้ หญ่
6.2 ช*ัวโมงท*ี 3-4
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 กลุ่ม แลว้ ใหน้ กั เรียนเล่นเกม Hangman คาํ ศพั ทต์ ่อไปน+ี music, maths, science,
difficult, library, Physical Education โดยครูเลือกคาํ ศพั ทม์ าทีละ 1 คาํ แลว้ ขีดตามจาํ นวนตวั อกั ษร
ของคาํ ศพั ทแ์ ต่ละคาํ น+นั เช่น คาํ วา่ music ครูขีด 5 ขีด ดงั น+ี __ __ __ __ __ แลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละ
กลุ่มผลดั กนั ทายตวั อกั ษร ถา้ ทายถูกกร็ อด ถา้ ทายผดิ กจ็ ะถูกแขวนคอ โดยครูวาดรูปภาพคนถูกแขวน
คอทีละส่วน ดงั น+ี หวั , ตวั , แขนซา้ ย, แขนขวา, ขาซา้ ย และขาขวา กลุ่มที:ถูกแขวนคอกจ็ ะแพ้
2. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ของบทเรียนน+ีใหน้ กั เรียนทราบ
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 6 ข้อ 4 Ask your friends. และอ่านออกเสียงตามครู จากน+นั ครูเขียน
ประโยคบนกระดาน ดงั น+ี
26
Pattern A: What is your favourite subject?
B: My favourite subject is English.
C: I like maths.
ครูอธิบายวา่ ใหน้ กั เรียนทาํ แบบสาํ รวจเกี:ยวกบั วชิ าท:ีเพื:อนชอบ (Survey Game) โดยครูแจกกระดาษ
ซ:ึงเป็นตารางสาํ รวจใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ และใหน้ กั เรียนถามคาํ ถามเพื:อนเก:ียวกบั วชิ าท:ีเพื:อน
ชอบตามตวั อยา่ งที:ครูเขียนใหบ้ นกระดาน โดยใหน้ กั เรียนเขียนช:ือเพื:อนที:ตนเองถามคาํ ถามลงใน
ตารางและทาํ เคร:ืองหมาย P ลงในช่องรายวชิ าตามขอ้ มูลที:ไดร้ ับ
ตัวอย่าง Name maths art P.E. music science computers
1. Suchada P
2. Malinee P
P
3. Somchart
P
4. Decha
5. Siriwan P
เม:ือนกั เรียนทาํ กิจกรรมเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนชาย 3 คน และนกั เรียนหญิง 3 คน ใหอ้ อกมา
รายงานผลหนา้ ช+นั เรียน ดงั น+ี
e.g. Student: Suchada likes maths. Malinee and Somchart like P.E.
But Decha likes music. Siriwan likes computers.
2. ครูถามนกั เรียนวา่ ใครมีตารางสอนบา้ ง
Teacher: Who’s got a timetable? Please show me.
นกั เรียนที:มีชูตารางสอนของตนเองข+ึน จากน+นั ครูสุ่มหยบิ ตารางสอนของนกั เรียน 1 คน มาแสดงให้
นกั เรียนคนอื:นๆ ดู
Teacher: This is a timetable.
Students: Timetable (นกั เรียนออกเสียงตามครู)
เม:ือครูสงั เกตวา่ นกั เรียนทุกคนในช+นั เขา้ ใจความหมายของคาํ วา่ “Timetable” ซ:ึงแปลวา่ ตารางสอน
แลว้ ครูใหน้ กั เรียนดูตารางสอนในหนังสือเรียน หน้า 6 ข้อ 5 Read, ask and answer. และอ่าน
คาํ ศพั ทใ์ นตารางสอนพร้อมๆ กนั ถา้ นกั เรียนยงั อ่านไม่คล่อง ใหน้ กั เรียนอ่านตามครู จากน+นั ให้
นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนท:ีนงั: ติดกนั เพ:ือฝึกสนทนาถาม-ตอบเกี:ยวกบั ตารางสอน โดยดูตวั อยา่ ง
จากในหนงั สือเรียน หนา้ 6 ขอ้ 5 ดงั น+ี
27
A: What has May got on Monday at 11.00?
B: She’s got maths.
A: Where does she do it?
B: In the classroom.
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3 คู่ ใหอ้ อกมาพดู บทสนทนาหนา้ ช+นั เรียน โดยไม่ใหซ้ +าํ กบั ตวั อยา่ ง
3. ครูทบทวนการใช้ Present Simple Tense และ Verb to be ดงั น+ี
รูปแบบของ Present Simple Tense Singular Subject + v. เติม s
Plural Subject + v.
Verb to be ของ Present Simple Tense ไดแ้ ก่ is, am, are
นกั เรียนช่วยกนั คิดประโยค Present Simple Tense โดยครูเขียนประโยคที:นกั เรียนแต่งบนกระดาน
และช่วยแกไ้ ขประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง เช่น - We learn English on Tuesday.
- I come to school by bus every day.
- She gets up at six o’clock.
- We play football in the afternoon.
- I am a student.
- We are happy.
- She is in the classroom.
นกั เรียนอ่านประโยคบนกระดานตามครู แลว้ คดั ลอกส:ิงท:ีครูอธิบายลงในสมุดของตน
4. ครูทบทวนการอ่านเวลา และการใช้ prepositions กบั เวลา ไดแ้ ก่ in, on และ at ดงั น+ี
in - ใชก้ บั ช่วงเวลา เช่น ช่วงเวลาเชา้ บ่าย ค:าํ กลางคืน
e.g. in the morning in the afternoon
in the evening at night
on - ใชก้ บั วนั
e.g. on Monday on Saturday
at - ใชก้ บั เวลา
e.g. at 8.30 at 9.00
at lunch time at noon
at midnight
28
5. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน และดูรูปภาพในหนังสือเรียน หน้า 7 ข้อ 6 Listen, read and circle
‘true’ or ‘false’. จากน+นั ครูถามคาํ ถามนกั เรียน ดว้ ยคาํ ถามต่อไปน+ี
Teacher: Where is he?
Students: He’s in the science lab.
นกั เรียนฟัง CD/track 7 และอ่านเน+ือหาในหนงั สือเรียนเกี:ยวกบั ด.ช. แจค็ โดยอ่านออกเสียงตาม
CD หลายๆ คร+ังจนคล่อง
My name is Jack. I am 10 years old. My favourite subject is science.
Science is easy. I do science in the lab.
ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนขา้ งเคียง (Pair work) เพื:ออ่านประโยคที:กาํ หนดให้ 4 ประโยค แลว้
ช่วยกนั พิจารณาวา่ ถูกหรือผดิ สุดทา้ ยครูเฉลยโดยการอ่านประโยคท+งั 4 แลว้ ใหน้ กั เรียนตอบวา่
true หรือ false
1 Jack is nine years old. false
2 Science is difficult for Jack. false
3 Jack does science in the lab. true
4 Jack likes science. true
6. ครูสอนการออกเสียง (Pronunciation) ตวั อกั ษร l /el/ ดงั น+ี
ครูชูบตั รอกั ษร l และออกเสียงใหน้ กั เรียนฟัง โดยครูบอกใหน้ กั เรียนสงั เกตดูปากครู
จากน+นั ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม ครูบอกวธิ ีการออกเสียงตวั อกั ษร l วา่ ใหน้ กั เรียนใชป้ ลายลิ+นแตะ
คา้ งไวท้ :ีหลงั ฟันบน
ครูชูบตั รภาพต่อไปน+ี ด.ช. พอล ลูกบอล กาํ แพง แลว้ ออกเสียงใหน้ กั เรียนฟัง เพ:ือใหน้ กั เรียน
ฝึกออกเสียงคาํ ศพั ทท์ ี:ลงทา้ ยดว้ ยตวั อกั ษร l
Teacher: Paul, ball, wall
นกั เรียนช่วยกนั ระดมสมองในการเปรียบเทียบตวั อกั ษร l วา่ ออกเสียงใกลเ้ คียงกบั ตวั อกั ษรตวั ใดใน
ภาษาไทย สุดทา้ ยจึงสรุปวา่ ตวั อกั ษร l เทียบเท่ากบั ‘ล’ ในภาษาไทยนน:ั เอง แต่การออกเสียงไม่
เหมือนกนั เพราะตวั อกั ษร l ตอ้ งใชป้ ลายลิ+นแตะคา้ งไวท้ :ีหลงั ฟันบน
29
นกั เรียนกลุ่มเดิมช่วยกนั คิดหาคาํ ศพั ทอ์ ื:นๆ ท:ีลงทา้ ยดว้ ยเสียง /l/ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทน
ออกมารายงานหนา้ ช+นั โดยครูเขียนคาํ ตอบของนกั เรียนแต่ละกลุ่มบนกระดาน เช่น small, call,
will, kill, hill, April, pencil, Bill, ill, etc. จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงคาํ ศพั ทด์ งั กล่าวตามครู
หลายๆ คร+ัง จนนกั เรียนสามารถออกเสียงคาํ ศพั ทท์ ี:ลงทา้ ยดว้ ย /l/ ไดค้ ล่อง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียน
คดั ลอกคาํ ศพั ทด์ งั กล่าวลงในสมุดของตนเอง
7. นกั เรียนดูรูปภาพเดก็ ชายช+ีลูกบอลในหนังสือเรียน หน้า 7 Listen and say. และตอบคาํ ถามครู
Teacher: What do you see in the picture? (ช+ีท:ีภาพในหนงั สือเรียน)
Students: A boy, a ball, a wall
จากน+นั ครูเปิ ด CD /track 8 ใหน้ กั เรียนฟัง 2-3 คร+ัง ครูใหเ้ วลานกั เรียนในการท่องประโยคน+ี โดย
ไม่ดูหนงั สือเรียน แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน ใหล้ ุกข+ึนยนื พดู ประโยคน+ีทีละคน
Paul points to the ball on top of the wall.
óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนอ่านคาํ สงั: ในหนังสือเรียน หน้า 7 ข้อ 7 Draw and write about your favourite subject.
จากน+นั ครูอธิบายภาระงาน “My favourite subject” ใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ แจกกระดาษแขง็ ขนาดเท่า
ไปรษณียบตั รใหน้ กั เรียนทุกคน เพ:ือวาดภาพวชิ าท:ีชอบ และระบายสีใหส้ วยงาม แลว้ ใหน้ กั เรียน
เขียนบรรยายเก:ียวกบั ตนเอง และวชิ าท:ีตนเองชอบลงไป นกั เรียนอาจปรึกษากบั เพ:ือนขา้ งเคียงได้
และดูตวั อยา่ งการเขียนจากท:ีไดเ้ รียนมาขา้ งตน้
ตัวอย่าง รูปวาดของ Hello! My name is……………………………….…… .
นกั เรียนที:ระบาย I am ……….. years old. I study at Wittaya
สีเรียบร้อยแลว้ School. My favourite subject is English.
It is easy for me. I’ve got English in the
classroom.
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ใหอ้ ่านผลงานของตนเองใหเ้ พ:ือนๆ ฟังหนา้ ช+นั เรียน พร้อมท+งั แสดง
ผลงานใหเ้ พื:อนดู จากน+นั ครูใหห้ วั หนา้ หอ้ งรวบรวมผลงานของเพ:ือนๆ ในหอ้ งส่งครู
30
2. นกั เรียนเล่นเกม My Favourite Day โดยครูแจกแผน่ ตารางสอนเปล่าใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่
(Individual work) ใหน้ กั เรียนกรอกช:ือวชิ าและเวลาที:นกั เรียนเรียนตามจริงเป็นภาษาองั กฤษ
ท+งั 5 วนั นกั เรียนอาจปรึกษากบั เพื:อนขา้ งเคียงหรือถามครูกไ็ ด้ จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนที:นงั: อยู่
คร:ึงหอ้ งฝ:ังซา้ ยลุกจากที:นงั: เพื:อเดินไปถามคาํ ถามเพ:ือน 4-5 คน ที:นง:ั อยคู่ ร:ึงหอ้ งฝ:ังขวาวา่ ชอบ
ตารางสอนวนั ใดมากที:สุด และทาํ ไม เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนอีกคร:ึงหอ้ งที:เหลือลุกข+ึนไปถามบา้ ง เช่น
A: What is your favourite day?
B: My favourite day is Friday.
A: Why do you like Friday?
B: Because I study P.E.
A: Thank you.
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3 คู่ ใหอ้ อกมาสนทนาใหเ้ พ:ือนดูหนา้ ช+นั เรียน จากน+นั ใหน้ กั เรียนรวบรวม
ตารางสอนมาส่งครู เพ:ือใหค้ รูนาํ ไปตรวจนอกชว:ั โมงและใหค้ ะแนนเกบ็
3. ครูเขียนตารางสอนของ Ben ในแบบฝึ กหัด หน้า 6 ข้อ 5 What has Ben got? Listen and write.
บนกระดาน และถามวา่
Teacher: What’s this? (ช+ีไปท:ีภาพตารางสอนบนกระดาน)
Students: Timetable.
นกั เรียนดูตารางสอนของ Ben อยา่ งคร่าวๆ จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 6 ใหน้ กั เรียนฟัง 2-3 คร+ัง
แลว้ จึงใหน้ กั เรียนเติมชื:อวชิ าลงในช่องวา่ งในตาราง โดยนกั เรียนอาจปรึกษากบั เพื:อนขา้ งเคียงได้
จากน+นั จึงเฉลยคาํ ตอบพร้อมกนั
Jack: Hello, Ben.
Ben: Hi, Jack! What time is it?
Jack: It’s almost 11.00. What class have you got?
Ben: Umm… Let’s see. Today is Wednesday. I’ve got maths.
Jack: Me too! I like maths.
Ben: I don’t. It’s difficult for me.
Jack: What have you got at half past one?
Ben: I’ve got art and then science at half past two.
Jack: How about Thursday?
31
Ben: I like Thursday. I’ve got P.E. in the morning and English
in the afternoon.
Jack: I’ve got English on Friday. How about you?
Ben: Friday is my favourite day. I’ve got music at 1.30 and maths
at 2.30.
Jack: Maths? But you don’t like maths.
Ben: No….but what have I got after maths on Friday?
....Saturday!
อน:ึง ครูอาจนาํ แผน่ ป้ายขนาดใหญ่ท:ีเขียน Audio script ติดบนกระดาน ถา้ คิดวา่ กิจกรรมน+ียากหรือ
เน+ือหายาวเกินไป การเห็นประโยคจะทาํ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจไดด้ ีข+ึน
TIMETABLE NAME: Ben
Day/Time 9.30 10.30 11.00 12.00 1.30 2.30
Wednesday music maths art science
BREAK
Thursday P.E. LUNCH
maths English English
Friday art P.E. music maths
4. นกั เรียนดูตารางสอน ในแบบฝึ กหัด หน้า 6 ข้อ 6 Read and complete the sentences. แลว้ ให้
นกั เรียนอ่านประโยคที:กาํ หนดใหด้ า้ นล่างของตารางสอนโดยพร้อมเพรียงกนั จากน+นั ใหน้ กั เรียน
จบั คู่กบั เพ:ือนขา้ งเคียง (Pair work) เพื:อเติมคาํ ลงในช่องวา่ ง โดยใชข้ อ้ มูลจากในตารางสอนที:
กาํ หนดให้ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6 คู่ ใหย้ นื ข+ึนอ่านประโยคท:ีเติมคาํ สมบูรณ์แลว้ ทีละคู่
คู่ละ 1 ขอ้ (สุ่มจากแถวหลงั )
1 On Monday Ben has got English at 11.00.
2 He has got science on Tuesday at 9.30.
3 On Wednesday he has got art at 1.30 in the art room.
4 On Monday he has got music at 1.30.
5 On Tuesday he has got music at 2.30.
6 Ben has got two science lessons a week.
32
5. นกั เรียนดูภาพเดก็ ผหู้ ญิงกาํ ลงั เล่นดนตรีในแบบฝึ กหัด หน้า 7 ข้อ 7 Read and complete. Use the
words in the box. จากน+นั ครูถามคาํ ถามนกั เรียน ดงั น+ี
Teacher: Where is she? (ช+ีท:ีรูปภาพในแบบฝึกหดั )
Students: She is in the music room.
Teacher: What’s she doing?
Students: She’s playing the violin.
นกั เรียนนบั 1-6 ต่อๆ กนั ไป แลว้ จบั กลุ่มกนั ตามหมายเลขที:ตนนบั ซ:ึงจะได้ 6 กลุ่ม ทุกคนในกลุ่ม
ช่วยกนั นาํ คาํ ศพั ทท์ ี:กาํ หนดใหไ้ ปเติมลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง จากน+นั จึงช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ
1 name 3 subject 5 difficult
2 years 4 easy 6 in
นกั เรียนฝึกอ่านเน+ือเร:ืองที:เติมคาํ สมบูรณ์แลว้ ภายในกลุ่มของตนเอง โดยใหน้ กั เรียนที:เก่งช่วยเหลือ
นกั เรียนที:อ่อนในการฝึกอ่าน จากน+นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน จากแต่ละกลุ่ม ใหย้ นื ข+ึนอ่าน
ประโยคท:ีสมบูรณ์และถูกตอ้ ง ดงั น+ี
Hello, my name is Paula. I am nine years old. My favourite subject is
music. It is easy. I don’t like maths. It’s difficult. I have got music in
the music room.
ครูใหน้ กั เรียนท+งั หอ้ งปรบมือใหก้ บั นกั เรียนที:สอนเพื:อนในกลุ่มอ่าน ครูกระตุน้ ใหน้ กั เรียนเห็น
ความสาํ คญั ของการมีน+าํ ใจต่อผอู้ ื:น ไม่เห็นแก่ตวั และใหน้ กั เรียนท+งั หอ้ งปรบมือใหก้ บั ตนเองท:ีมี
ความพยายาม ฝึกฝนมุ่งมนั: ในการอ่าน ถึงแมใ้ นตอนน+ีอาจจะยงั อ่านไม่คล่อง แต่ถา้ นกั เรียนพยายาม
ฝึกฝนอยา่ งสม:าํ เสมอ กจ็ ะทาํ ใหส้ ามารถอ่านภาษาองั กฤษไดค้ ล่อง
6. นกั เรียนเล่นเกม Rearrange sentences competition โดยครูเตรียมอุปกรณ์การเล่นเกม ไดแ้ ก่ กระดาษ-
แขง็ สี 5 สี สาํ หรับ 5 ประโยค สีละ 1 ประโยค ครูเขียนประโยคตามแบบฝึ กหัด หน้า 7 ข้อ 8 Put the
words in the correct order. แลว้ จึงใชก้ รรไกรตดั แบ่งประโยคออกเป็นคาํ ๆ ครูเตรียมชุดบตั รคาํ
ใหเ้ พียงพอต่อจาํ นวนกลุ่มของนกั เรียน ซ:ึงจะถูกแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน (Group work)
เมื:อนกั เรียนแต่ละกลุ่มไดร้ ับแจกชุดบตั รคาํ ประโยค 5 ประโยค (ประโยคละ 1 สี) แลว้ ครูให้
นกั เรียนในแต่ละกลุ่มช่วยกนั เรียงแต่ละประโยคใหไ้ ดใ้ จความสมบูรณ์ และอยา่ ใหก้ ลุ่มอ:ืนดู กลุ่มท:ี
เรียงเสร็จก่อนใหเ้ ชิญครูมาดูผลงาน ครูจดบนั ทึกและใหค้ ะแนนกลุ่ม (คะแนนเกบ็ )
33
นกั เรียนท:ีทาํ งานเสร็จแลว้ สามารถออกไปพกั ผอ่ นนอกหอ้ งไดช้ ว:ั คราว และกลบั เขา้ หอ้ งเรียน
เม:ือกลุ่มสุดทา้ ยรายงานครูเสร็จเรียบร้อย ครูเฉลยประโยคที:เรียงถูกตอ้ งบนกระดาน ดงั น+ี
1 My name is Kim. 4 It is easy.
2 I am ten years old. 5 I’ve got maths in the classroom.
3 My favourite subject is maths.
นกั เรียนอ่านประโยคเหล่าน+ีตามครูพร้อมๆ กนั จากน+นั ครูใหแ้ ต่ละกลุ่มช่วยกนั ฝึกอ่านเองจนคล่อง
เสร็จแลว้ จึงใหแ้ ต่ละกลุ่มอ่านออกเสียงประโยคท+งั หมดอีกคร+ังทีละกลุ่ม ครูใหเ้ พ:ือนๆ ในช+นั ช่วยกนั
ปรบมือใหก้ ลุ่มที:อ่านไดถ้ ูกตอ้ ง เสียงดงั ฟังชดั และพร้อมเพรียงกนั มากที:สุด
7. ครูทบทวนการออกเสียงคาํ ศพั ทท์ :ีลงทา้ ยดว้ ย /l/ อีกคร+ัง จากน+นั ครูสอนการออกเสียงคาํ ศพั ท์
ท:ีลงทา้ ยดว้ ย /n/ โดยการชูภาพขา้ วโพดแลว้ พดู
Teacher: corn, corn
Students: พดู ตามครู และดูปากครูดว้ ย
ครูชูปากกา Teacher: pen, pen
Students: พดู ตามครู
นกั เรียนสงั เกตวธิ ีการออกเสียง /n/ จากครู โดยครูพดู วา่ “เอน็ เอน็ ” จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั
คิดและเปรียบเทียบตวั อกั ษร n วา่ ออกเสียงคลา้ ยกบั ตวั อกั ษรตวั ใดในภาษาไทย ครูใหเ้ วลานกั เรียน
แสดงความคิดเห็น จนไดข้ อ้ สรุปวา่ เท่ากบั เสียง “น” นน:ั เอง
ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 7 Listen: ball, born. Listen, circle and say. เพ:ือสาํ รวจคาํ ที:จะ
ไดฟ้ ัง จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 9 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง
doll call worn
นกั เรียนวงกลมคาํ ศพั ทท์ ี:ไดย้ นิ จาก CD ในแบบฝึกหดั หนา้ 7 ขอ้ 9 เม:ือครูเฉลยคาํ ตอบแลว้
ใหน้ กั เรียนออกเสียงตามครูใหถ้ ูกตอ้ ง โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ใหอ้ อกเสียงใหเ้ พ:ือนๆ ใน
หอ้ งฟัง เพื:อตรวจสอบการออกเสียงของนกั เรียน จากน+นั ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน
เพื:อช่วยกนั คิดหา “วชิ า” ที:นอกเหนือจากที:ไดย้ นิ มาแลว้ ในบทเรียนน+ี ครูเขียนคาํ ตอบบนกระดาน
Thai - ภาษาไทย
Agriculture - เกษตร
Religion - ศาสนา
34
Cooking - การทาํ อาหาร
Dancing - นาฏศิลป์ , กิจกรรมเขา้ จงั หวะ
นกั เรียนทุกคนช่วยกนั แปลความหมายของคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั วชิ าเหล่าน+ี ถา้ ไม่ทราบ ใหเ้ ปิ ดหาดูใน
Dictionary เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนคดั ลอกคาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีลงในสมุดของตนเอง
7. การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการพดู ถาม-ตอบเก:ียวกบั วชิ าท:ีชอบ วชิ าที:เรียน และสถานท:ีที:เรียน
- ประเมินงานเขียนหวั ขอ้ My favourite subject
- ประเมินการพดู แสดงความรู้สึกเก:ียวกบั วชิ าท:ีชอบ
8. ส*ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ บตั รตวั อกั ษร
5. ตารางสาํ รวจวชิ าท:ีชอบ
35
แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 1 School day (Lesson 2)
1. สาระสําคญั
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั ชีวติ ประจาํ วนั และโครงสร้างประโยค Present Simple Tense
ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถพดู และเขียนเกี:ยวกบั ชีวติ ในโรงเรียนของตนเองได้ ซ:ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษ
เพ:ือนาํ ไปใชส้ :ือสารในชีวติ ประจาํ วนั
2. ตวั ชี8วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสียงคาํ และขอ้ ความส+นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน และระบุภาพตรงตาม
ความหมายของประโยคได้ (ต 1.1/2, ต 1.1/3)
- พดู และเขียนใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ชีวติ ประจาํ วนั ของตนเองได้ (ต 4.1/1)
- ฟังและอ่านจบั ใจความได้ (ต 1.1/4)
- เขียนจดหมายเก:ียวกบั เพื:อนของตนเองได้ (ต 1.3/1)
- เขียนแผนภูมิเวนน์ (Venn Diagram) เพื:อแสดงความสมั พนั ธ์ของส:ิงท:ีเพื:อนชอบได้
(ต 1.3/2, ต 4.2/1)
- ใช้ Present Simple Tense ไดถ้ ูกตอ้ ง (ต 1.1/4)
- เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษที:กาํ หนดได้ (ต 2.1/3)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- กลุ่มคาํ ประโยคเดี:ยว และความหมายเก:ียวกบั ตนเองและโรงเรียน
- ประโยคและเน+ือเร:ืองส+นั ๆ ท:ีมีภาพประกอบ
- ประโยคและขอ้ ความที:ใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเอง
- คาํ กลุ่มคาํ ท:ีมีความหมายสมั พนั ธ์ของสิ:งต่างๆใกลต้ วั เช่น แผนภูมิ Venn Diagram
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง
- การใชภ้ าษาในการฟัง/พดู ในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาํ ศพั ทท์ :ีเกี:ยวขอ้ งใกลต้ วั จากสื:อและ
แหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
- Present Simple Tense
36
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส*ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดวเิ คราะห์
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ซ:ือสตั ยส์ ุจริต
- มุ่งมน:ั ในการทาํ งาน
- มีวนิ ยั
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
6.1 ชั*วโมงที* 5-6
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. นกั เรียนทบทวนคาํ ศพั ทใ์ น Unit 1 Lesson 1 ดว้ ยบตั รภาพและบตั รคาํ พร้อมนาํ งานท:ีไดร้ ับ
มอบหมายมาส่งครู ครูแจกงานคืนแก่นกั เรียน แลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนตามคาํ บอก (Dictation)
คาํ ศพั ทท์ :ีนกั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ ใน Lesson 1
2. ครูแสดงบตั รภาพท:ีส:ือถึงวชิ าต่างๆ และบตั รคาํ พร้อมอ่านออกเสียง แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านตาม ดงั น+ี
English maths P.E. history computers
geography music art science
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3 คน ใหอ้ อกมาหนา้ ช+นั เรียน เพื:อช่วยกนั จบั คู่บตั รภาพและบตั รคาํ ใหส้ มั พนั ธ์
กนั นกั เรียนคนอื:นๆ ท:ีเหลือช่วยบอกใบไ้ ด้ แต่หา้ มพดู ภาษาไทย
Students: Yes./No./OK
37
3. ครูทดสอบนกั เรียนดา้ นโครงสร้างภาษาและคาํ ศพั ท์ โดยการแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ
5 คน เพ:ือแต่งประโยคที:เก:ียวกบั ชื:อวชิ าและหอ้ งเรียน กลุ่มละ 4 ประโยค นกั เรียนทุกคนในแต่ละ
กลุ่มช่วยกนั แต่งประโยค จากน+นั แต่ละกลุ่มออกมานาํ เสนอผลงาน โดยใหแ้ บ่งบทพดู กนั เพ:ือ
นาํ เสนอใหค้ รบท+งั 5 คน
Example: 1) We have got maths in the classroom.
2) You have got P.E. in the gym.
3) I have got science in the lab.
4) She has got art in the art room. etc.
4. นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน หนา้ 8-15 อยา่ งคร่าวๆ แลว้ ตอบคาํ ถามครูวา่ เห็นอะไรบา้ ง โดยครูให้
เวลานกั เรียน 3 นาทีในการทาํ กิจกรรมน+ี
Teacher: Class, what do you see on pages 8-15?
Students: (ช่วยกนั ตอบ) Football, Harry, Maria, Ben, Anna, May, lab,
party, etc.
Teacher: (ชมเชย) Very good!
ครูอธิบายวา่ ใน Unit 1 Lesson 2 น+ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เกี:ยวกบั คาํ ศพั ทใ์ นโรงเรียนเพิ:มเติม
โครงสร้างประโยค Present Simple Tense เพ:ือบอกถึงกิจวตั รประจาํ วนั ฝึกพดู สนทนา แต่ง
ประโยค และเขียนจดหมายง่ายๆ
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 8 ข้อ 1 Listen, point and repeat. เพ:ือดูรูปภาพใน Word box ซ:ึงมี
ท+งั หมด 8 ภาพ จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 10 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง และฝึกพดู ตาม
cafeteria playground do homework
go to bed in the morning in the afternoon
in the evening at night
จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงคาํ ศพั ทพ์ ร้อมๆ กนั ท+งั หอ้ ง โดยครูสุ่มเรียกนกั เรียนท:ีนงั: อยู่
แถวหลงั 3-4 คน ใหย้ นื ข+ึนอ่านทีละคน
2. นกั เรียนดูภาพ ในหนังสือเรียน หน้า 8 ข้อ 2 Listen and number. โดยครูช+ีไปท:ีภาพทีละภาพ แลว้
ถามนกั เรียนเก:ียวกบั รายละเอียดในภาพ จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพื:อนขา้ งเคียง (Pair work)
และเปิ ด CD/track 11 ใหน้ กั เรียนฟัง เพ:ือใหน้ กั เรียนเรียงลาํ ดบั รูปภาพตามที:ไดฟ้ ัง
38
1 This is the cafeteria.
2 The boys are playing in the playground.
3 I do homework at 5 o’clock.
4 I go to bed at 9 o’clock.
5 It’s evening.
นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ จากน+นั ครูสรุปคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ ง ดงั น+ี
1C 2 D 3 A 4 E 5 B
ครูติดแผน่ ป้ายหรือเขียน Audio script ใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน แลว้ เปิ ด CD/track 11 อีกคร+ัง
แลว้ จึงอ่านออกเสียง Audio script พร้อมกนั
3. นกั เรียนอ่านประโยคที:กาํ หนดใหท้ +งั 5 ประโยค ในหนังสือเรียน หน้า 8 ข้อ 3 Listen and write.
พร้อมๆ กนั จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 12 ใหน้ กั เรียนฟังและเติมคาํ ศพั ทท์ :ีขาดหายไปในแต่ละ
ประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง โดยไม่ดูเพื:อนขา้ งเคียง (Individual work) แต่สามารถเปิ ดหนงั สือเรียนเพ:ือดู
คาํ ศพั ทใ์ นบทเรียนที:ผา่ นมาได้ ก่อนทาํ กิจกรรมครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนเห็นถึงความสาํ คญั ของความ
ซ:ือสตั ยต์ ่อตนเอง
1 The boys are playing football in the playground.
2 I go to bed at night.
3 After school I do homework.
4 I eat in the cafeteria.
5 I get up at 7 o’clock in the morning.
ครูเขียนเฉลยใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน และใหน้ กั เรียนตรวจคาํ ตอบของตนเองดว้ ยความซ:ือสตั ย์
นกั เรียนท:ีไดค้ ะแนนเกิน 4 ข+ึนไป (1 ขอ้ ถือเป็น 1 คะแนน) ถือวา่ ผา่ น จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่าน
ประโยคที:สมบูรณ์แลว้ ท+งั 5 ประโยคพร้อมๆ กนั สุดทา้ ยเพื:อเป็นการตรวจสอบ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน
5 คน ใหย้ นื ข+ึนอ่านประโยคดงั กล่าวอีกคร+ัง คนละ 1 ประโยค
39
Background Information
ทกั ษะการใช้คาํ ถาม คือ ความสามารถในการใชค้ าํ พดู หรือประโยคที:มีแนวโนม้ ที:
จะกระตุน้ หรือดึง (elicit) การตอบสนองของผเู้ รียนออกมา จุดมุ่งหมายท:ีครูใชค้ าํ ถามถาม
นกั เรียนมีหลายประการดว้ ยกนั เช่น ตอ้ งการทราบวา่ นกั เรียนเขา้ ใจหรือรู้เร:ืองที:ครูสอนแลว้
หรือไม่ เพยี งไร นกั เรียนอ่านหรือทาํ การบา้ นท:ีกาํ หนดใหห้ รือไม่ หรืออาจจะถามเพื:อเร้า
ความสนใจหรือทาํ ความกระจ่างในจุดใดจุดหน:ึงโดยตรงกไ็ ด้ การใชค้ าํ ถามนบั วา่ เป็นเรื:อง
ท:ีมีความสาํ คญั มากสาํ หรับการสอนในปัจจุบนั ท:ีผสู้ อนควรจะใชค้ าํ ถามเป็นส:ือใหผ้ เู้ รียนได้
คิดตาม หรือเป็นสื:อในการใหผ้ เู้ รียนไดเ้ สาะแสวงหาความรู้ดว้ ยตวั ของเขาเอง ครูควรใช้
คาํ ถามเป็นส:ือตลอดเวลาไม่วา่ จะเป็นการสอนดว้ ยวธิ ีใด
ทมี0 า: http://gotoknow.org/blog/wareeratk/73574
4. ครูเขียนตวั อยา่ งประโยคบอกเล่า (Affirmation sentence) ประโยคปฏิเสธ (Negative sentence) และ
ประโยคคาํ ถาม (Question) ในรูปของ Present Simple Tense บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั
บอกกฎ จากน+นั ใหน้ กั เรียนแต่งประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคาํ ถามอยา่ งละ 1 ประโยค (Individual
work) โดยพยายามนึกถึงสิ:งรอบตวั หรือสถานการณ์ใกลต้ วั มากท:ีสุด และมีเน+ือหาที:มีความหมาย
(make sense) โดยเขียนใส่กระดาษที:เตรียมไว้ เสร็จแลว้ ครูเป่ านกหวดี และใหน้ กั เรียนทุกคนลุกจาก
ที:นงั: เพื:อวงิ: ไปจบั คู่กบั นกั เรียนที:อยอู่ ีกฝั:งหน:ึง และรายงานประโยคบอกเล่าและปฏิเสธของตน
พร้อมท+งั ถามคาํ ถามเพ:ือนดว้ ยคาํ ถามที:ตนเองแต่งไว้
e.g. Dang: I like fruit. I don’t like vegetables.
Do you like vegetables?
Duang: Yes, I do. I don’t eat pork. I eat chicken.
Do you eat chicken?
Dang: No, I don’t.
ครูคอยสงั เกตและจดบนั ทึกพฤติกรรมของนกั เรียนในช่วงการทาํ กิจกรรมน+ี
40
Background Information
Present Simple Tense – Affirmative Form (ประโยคบอกเล่า)
เมื:อประธานเป็นเอกพจน์ กริยาตอ้ งเติม s/es เช่น
1) ถา้ กริยาลงทา้ ยดว้ ย y และหนา้ y เป็นพยญั ชนะ จะเปล:ียน y เป็น i ก่อน แลว้ จึงเติม es
เช่น They study. He studies.
You cry. She cries.
แต่ We play. He plays.
2)ถา้ กริยาลงทา้ ยดว้ ย o ใหเ้ ติม es หลงั กริยา เมื:อประธานเป็นเอกพจน์
เช่น I go. He goes.
They do. She does.
3)ถา้ กริยาลงทา้ ยดว้ ย s, ss, sh, ch, x, z ใหเ้ ติม es หลงั กริยา เมื:อประธานเป็นเอกพจน์
เช่น We wash our hands. She washes her hands.
They watch TV. He watches TV.
You pass the exam. She passes the exam.
Present Simple Tense – Negative Form (ประโยคปฏิเสธ)
ใช้ does หรือ do เป็นกริยาช่วยในการเปล:ียนประโยคบอกเล่าใหเ้ ป็นประโยคปฏิเสธ
รูปแบบ Subject + does/do + not + v.1.
1) ประธานเอกพจน์ (He, She, It) ใช้ does เช่น She does not do homework.
2) ประธานพหูพจน์ (We, You, They) ใช้ do เช่น You do not play tennis.
3) ข้อยกเว้น I ใช้ do เช่น I do not drink coffee.
รูปยอ่ does not = doesn’t
do not = don’t
41
Present Simple Tense - Question Form (ประโยคคาํ ถาม)
ใช้ does หรือ do เป็นกริยาช่วยในการทาํ ใหเ้ ป็นประโยคคาํ ถาม ดงั รูปแบบต่อไปน+ี
รูปแบบ Does/Do + subject + v.1 + ?
e.g. Does she go to bed at nine o’clock?
Do you like maths?
Do we learn English in the gym?
การตอบ สามารถตอบได้ 2 อยา่ ง คือ Yes และ No แลว้ ตามดว้ ยประธาน และกริยาช่วย
(do หรือ does ข+ึนอยกู่ บั ประธาน)
e.g. Does he go to school by bus?
- Yes, he does. (ถา้ ใช่) หรือ
- No, he doesn’t.(ถา้ ไม่ใช่)
Do you speak English?
- Yes, I do. หรือ
- No, I don’t.
หมายเหตุ: ถา้ ถาม You ตอบ I เช่น Do you eat bananas? Yes, I do.
ถา้ ถาม I ตอบ You เช่น Can I eat these pears? Yes, you can.
5. ครูชูบตั รภาพใบหนา้ ด.ช. แฮร:ี (Harry) และรูปโรงเรียน แลว้ กล่าวกบั นกั เรียนวา่
Teacher: This is Harry. And this is his school.
What does Harry do at school?
นกั เรียนดูภาพกิจกรรมของ Harry ท+งั 5 ภาพ ในหนังสือเรียน หน้า 9 ข้อ 4 What does Harry do at
school? Listen and number. ครูช+ีไปที:ภาพทีละภาพ แลว้ ใหน้ กั เรียนตอบเป็นภาษาองั กฤษส+นั ๆ
แต่ไดใ้ จความ
Students: Harry eats. (ครูช+ีภาพ A)
Harry plays the guitar. (ครูช+ีภาพ B)
Harry goes home. (ครูช+ีภาพ C)
Harry plays. (ครูช+ีภาพ D)
Harry is in the lab. (ครูช+ีภาพ E)
42
ครูเปิ ด CD/track 14 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 รอบ และเรียงลาํ ดบั รูปภาพตามประโยคที:ไดย้ นิ จากน+นั ครู
เปิ ด CD อีกคร+ัง โดยหยดุ CD หลงั จบแต่ละประโยค เพื:อใหน้ กั เรียนตรวจทานคาํ ตอบของตนเอง
1 Harry has got science in the morning.
2 At 9.30 he plays with his friends.
3 He has lunch at 12.00.
4 In the afternoon he plays the guitar in the music room.
5 He goes home at 4.00.
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ โดยครูตรวจคาํ ตอบของนกั เรียนอีกคร+ัง และเขียน
คาํ ตอบของนกั เรียนท:ีถูกตอ้ งแลว้ บนกระดาน จากน+นั ใหอ้ ่านประโยคคาํ ตอบพร้อมๆ กนั อีกคร+ัง
1E 2D 3A 4B 5C
6. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน (ชาย 1 คน และหญิง 1 คน) ออกมาหนา้ ช+นั เรียน เพ:ือบอกเล่าเกี:ยวกบั
กิจวตั รประจาํ วนั ของตนเอง ตามประเดน็ ท:ีครูกาํ หนดใหบ้ นกระดาน ดงั น+ี (ครูเตรียมกบั นกั เรียน
ท+งั 2 คนก่อนล่วงหนา้ )
- เวลาต:ืนนอน - กลบั บา้ น
- ไปโรงเรียน - เล่นกีฬา
- รับประทานอาหารกลางวนั - กิจกรรมยามวา่ ง
Boy: I wake up at 6 o’clock. I go to school by bus.
I have lunch at noon. I go home at 4 o’clock.
I play ping-pong. I like computer games.
Dear: I wake up at 7 o’clock. I go to school on foot.
I have lunch at noon. I go home at 4 o’clock.
I like to swim. I like cooking.
ครูถามนกั เรียนวา่ ด.ช. Boy และ ด.ญ. Dear มีอะไรท:ีคลา้ ยกนั เมื:อไดค้ าํ ตอบวา่
Students: They have lunch at noon and go home at 4 o’clock.
43