The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ป.4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by santi muangdoo, 2021-07-31 06:48:15

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ป.4

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ป.4

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ป.4

ครูนาํ แผน่ ป้าย Audio script ของ CD/track 29 ติดบนกระดาน แลว้ เปิ ด CD/track 29 ใหน้ กั เรียนฟัง
อีกคร+ัง พร้อมกบั อ่านตามไปดว้ ย จากน+นั นกั เรียนอ่านประโยคท+งั 5 พร้อมๆ กนั
3. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 22 ข้อ 3 Listen and write. และอ่านประโยค 1-5 ท:ีกาํ หนดให้
จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 30 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง และใหน้ กั เรียนเติมคาํ ลงในประโยคใหส้ มบูรณ์
โดยทาํ ลงในสมุด

1 This boy is fat.
2 This girl is thin.
3 My sister is tall.
4 My teacher has got straight hair.
5 She has got wavy hair.
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน ใหย้ นื ข+ึนอ่านประโยคที:นกั เรียนเติมสมบูรณ์แลว้ คนละ 1 ประโยค
ถา้ ประโยคท:ีนกั เรียนอ่านถูกตอ้ ง ครูใหน้ กั เรียนออกไปเขียนคาํ ตอบบนกระดาน
1 fat 2 thin 3 tall 4 straight 5 wavy
4. นกั เรียนดูภาพประกอบ ซ:ึงเป็นตวั ละคร 4 ตวั ในหนังสือเรียน หน้า 23 ข้อ 4 Listen and match.
แลว้ ถามนกั เรียนวา่ ตวั ละครในภาพคือใคร
Teacher: Who are in the picture?
Students: Nick, Ann, May and Mark.
ครูใหน้ กั เรียนฟัง CD/track 32 แลว้ จบั คู่ประโยคที:ไดย้ นิ กบั รูปภาพท+งั 4

1 Look at Ann. She’s got long black hair and big green eyes.
2 Can you see Ron? He’s got blond hair and big eyes.
3 Look at Julia. She’s got long wavy hair and small eyes.
4 Can you see Nick? Nick has got brown hair and a big nose.
นกั เรียนฟัง CD หลายๆ คร+ัง และจบั คู่ประโยคกบั รูปภาพ จากน+นั จึงช่วยกนั เฉลย ครูเขียนคาํ ตอบ
ที:ถูกตอ้ งบนกระดานอีกคร+ัง

94

1 A (Ann) 2 C (Ron) 3 B (Julia) 4 D (Nick)

ครูติดแผน่ ป้าย Audio script ใหน้ กั เรียนลอกลงสมุด แลว้ อ่านตามครู
5. ครูสอนคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั การบรรยายลกั ษณะรูปร่างของบุคคล (Describing people) โดยแบ่งออกเป็น
ส่วนต่างๆ ของร่างกาย ดงั น+ี
1) Body (Built หรือ Shape) (โครงสร้าง): tall, short, fat, thin
2) Age (อาย)ุ :
baby, infant (ทารก), child, teenage, middle-aged,

3) Hair colour (สีผม): young, old

black, brown, blond, golden, fair (สีอ่อนหรือสีทอง)

4) Hair style (ลกั ษณะผม): straight, wavy, curly, bob style, crew cut (ทรงผมของ
ผชู้ ายที:ส+นั มาก), bald (คนหวั ลา้ น)
5) Eye colour (สีตา): black, brown, green, blue
6) Skin colour (สีผวิ ):
fair (ผวิ เน+ือขาว), dark, white, tan
7) องค์ประกอบภายนอกอืCนๆ: beard (มีเครา), moustache (หนวด)

8) ความคดิ เห็นในภาพรวม: beautiful, pretty, handsome (หล่อ), lovely (น่ารัก),
attractive (ดึงดูดความสนใจ), ugly (น่าเกลียด) ฯลฯ
ในการถามวา่ คนน+นั มีลกั ษณะอยา่ งไร เราต+งั คาํ ถาม ดงั น+ี
A: What does he (she) look like?
B: He is dark, tall and handsome.

6. นกั เรียนเล่นเกม Two rabbits (กระต่ายขาเดียว 2 ตวั ) ซ:ึงเป็นเกมท:ีไม่จาํ กดั จาํ นวนผเู้ ล่น โดยมี
วธิ ีการเล่น ดงั น+ี
1) ครูขีดเสน้ เป็นวงกลมวงโต ใหน้ กั เรียนทุกคนไปอยใู่ นวงกลม
2) ครูขออาสาสมคั รนกั เรียน 2 คน ใหเ้ ป็นกระต่ายขาเดียว
3) นกั เรียนท:ีเป็นกระต่ายขาเดียวท+งั 2 คน วงิ: ไล่จบั เพ:ือนๆ โดยวงิ: ขาเดียว การจบั ทาํ ได้
โดยแตะที:ส่วนใดส่วนหน:ึงของร่างกาย
4) เมื:อกระต่ายท+งั สองจบั เพ:ือนได้ 2 คนแลว้ ใหท้ +งั 4 คนมายนื รวมกนั อยกู่ ลางวงกลม แลว้
จบั คู่กนั เพ:ือพดู ถาม-ตอบเก:ียวกบั รูปร่างลกั ษณะของบุคคลท:ีไม่ใช่คู่ของตนเอง
ตวั อยา่ ง A จบั คู่กบั B ถามถึง C
C จบั คู่กบั D ถามถึง B

95

กระต่าย กระต่าย
A C
เหยอ:ื B D เหยอ:ื

e.g. A: What does C look like?
B: He is short and thin.
C: What does B look like?
D: She is white, tall and lovely.

5) กระต่าย 2 ตวั แรก ออกจากวงกลมไปพกั ผอ่ นนอกหอ้ ง เหยอื: ที:ถูกจบั ได้ 2 คน
แสดงเป็นกระต่ายขาเดียว วงิ: ไล่จบั เพ:ือนอีก 2 คน และพดู สนทนาอีกคร+ัง

6) ถา้ ฝ่ ายวง:ิ วงิ: ออกนอกเสน้ ที:กาํ หนดจะถือวา่ แพ้ ตอ้ งมาเป็นเหยอ:ื ใหก้ บั กระต่ายตวั ใด
ตวั หน:ึงพดู สนทนา และเป็นกระต่ายขาเดียวต่อไป

7. นกั เรียนดูภาพประกอบของ Donna และ Jenny ในหนังสือเรียน หน้า 23 ข้อ 5 Listen and complete.
แลว้ แบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ในแต่ละกลุ่มใหอ้ ภิปรายร่วมกนั วา่ ลกั ษณะร่างกายของ
Donna และ Jenny แตกต่างกนั อยา่ งไร โดยครูอนุญาตใหใ้ ชภ้ าษาไทยได้ จากน+นั ครูเปิ ด CD/track
34 ใหน้ กั เรียนฟังเกี:ยวกบั การบรรยายรูปร่างลกั ษณะของ Donna และ Jenny ดงั น+ี

Donna is thin and tall. She’s got straight black hair. She’s wearing
a black T-shirt and white shoes.
Jenny is fat and short. Her hair is long and straight. She’s wearing
a green T-shirt and a red skirt.
นกั เรียนฟัง CD อีก 2 คร+ัง แลว้ จึงเติมคาํ ลงในช่องวา่ งท:ีขาดหายไป โดยทาํ ลงในสมุด จากน+นั ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังอีกคร+ังและอ่านออกเสียงตามไป
ดว้ ย ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คนใหล้ ุกข+ึนยนื อ่านทีละคน
Donna is thin and tall. She’s got straight black hair. She’s wearing
a black T-shirt and white shoes.
Jenny is fat and short. Her hair is long and straight. She’s wearing
a green T-shirt and a red skirt.

96

óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนดูภาพรูปร่างลกั ษณะของคน (1-5) ในแบบฝึ กหัด หน้า 18 ข้อ 1 Draw lines to match the
pictures with the words. แลว้ จบั คู่ภาพดงั กล่าวกบั วลีท:ีกาํ หนดใหท้ างขวามือ (a-e)
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหเ้ ฉลยคาํ ตอบ และอ่านวลีพร้อมๆ กนั ดงั น+ี
Students: a fat boy c straight hair e short girl
b thin boy d wavy hair

1d 2c 3b 4e 5a

2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมายของคาํ วา่ Across (แนวนอน) และ Down (แนวต+งั ) แลว้ แบ่ง
นกั เรียนเป็นทีม (Team work) ทีมละ 3 คน โดยดูรูป ในแบบฝึ กหัด หน้า 18 ข้อ 2 Write the words.
แลว้ เติมคาํ ศพั ทท์ :ีสมั พนั ธ์กบั รูปภาพในตารางปริศนาอกั ษรไขว้ (Word puzzle) นกั เรียนสามารถหา
คาํ ศพั ทจ์ ากพจนานุกรม (Dictionary) ได้ ทีมใดเติมคาํ ศพั ทล์ งในตารางไดเ้ สร็จก่อน และถูกตอ้ ง
เป็นทีมแรกถือวา่ ชนะ ครูใหท้ ีมท:ีชนะออกมาเฉลยคาํ ตอบใหเ้ พ:ือนดูบนกระดาน

4

2W 6

1 STRA I GHT

H V 5 ARM

OY L

R 8 10 7 LEG

3TH IN

A 9 EYE

NC

DK

ครูช+ีคาํ ตอบที:เฉลยบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่าน สะกดคาํ และบอกความหมายพร้อมๆ กนั เช่น
Students: straight (s-t-r-a-i-g-h-t) (ผม) ตรง
wavy (w-a-v-y) (ผม) หยกั เป็นลอน
thin (t-h-i-n) ผอม

tall (t-a-l-l) สูง

97

3. นกั เรียนดูภาพครอบครัว ในแบบฝึ กหัด หน้า 19 ข้อ 3 Listen and write. ซ:ึงประกอบไปดว้ ย พอ่
แม่ นอ้ งสาว นอ้ งชาย และตวั ฉนั ครูถามนกั เรียนเก:ียวกบั รายละเอียดในภาพ ดงั น+ี
Teacher: How many persons are there in the picture? (ครูช+ีภาพประกอบ)
Students: There are five persons.
Teacher: Who are they?
Students: Father, mother, two girls, and one boy.
Teacher: Very good!
ครูเปิ ด CD/track 31 ใหน้ กั เรียนฟัง 2-3 รอบ (Individual work) นกั เรียนฟัง CD และอ่านเน+ือเร:ือง
ในใจ จากน+นั จึงเติมคาํ ลงในช่องวา่ ง

This is the picture of my family. My sister is 6 years old. She’s fat.
My brother is 7 years old. He’s thin. My mother has got wavy hair.
My father is 178 centimetres tall. I’ve got long hair.
จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ แลว้ จึงใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงเน+ือเร:ืองที:เติมคาํ สมบูรณ์
แลว้ พร้อมๆ กนั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนชาย 1 คน และนกั เรียนหญิง 1 คน ใหย้ นื ข+ึนอ่านเน+ือเร:ือง
อีกคร+ังทีละคน
1 fat 2 thin 3 wavy 4 tall 5 long
4. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนขา้ งเคียง (Pair work) แลว้ ดูภาพ A-D ในแบบฝึ กหัด หน้า 19 ข้อ 4 Listen
and number. และแสดงความคิดเห็นร่วมกนั วา่ เดก็ ชายและเดก็ หญิงในภาพมีลกั ษณะรูปร่างอยา่ งไร
จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 33 ใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ จบั คู่ภาพ (A-D) กบั ประโยคที:ไดย้ นิ (1-4)

1 Susan’s short. She’s got long wavy hair and blue eyes.
2 Tim’s tall. He’s got short wavy hair and big ears.
3 Tom’s thin. He’s got long straight hair and big eyes.
4 Kathy’s fat. She’s got short straight hair and small eyes.

98

ครูอ่านประโยคใน Audio script ทีละขอ้ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ ใครคิดวา่ ตรงกบั ภาพ A, B, C หรือ D
โดยใหน้ กั เรียนยกมือข+ึน เพ:ือสาํ รวจวา่ คาํ ตอบของนกั เรียนเป็นอยา่ งไร จากน+นั ครูจึงเฉลยคาํ ตอบ
แลว้ ครูทาํ เช่นน+ีกบั ขอ้ อื:นๆ

เช่น Teacher: Susan’s short. She’s got long wavy hair and blue eyes.
ใครคิดวา่ ภาพ A ยกมือข+ึน

Students: (นกั เรียนท:ีตอบภาพ A ยกมือข+ึน)
Teacher: ใครคิดวา่ ภาพ B ยกมือข+ึน
Students: (นกั เรียนท:ีตอบภาพ B ยกมือข+ึน)

1D 2B 3C 4A

ครูติดแผน่ ป้าย Audio script บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนท+งั หอ้ งอ่านพร้อมๆ กนั จากน+นั ใหน้ กั เรียน
ช่วยกนั เดาความหมายของคาํ ศพั ทท์ ี:ไม่รู้จากภาพในแบบฝึกหดั
5. ครูช+ีท:ีภาพ May และ Anna ในแบบฝึ กหัด หน้า 19 ข้อ 5 Look and compare. แลว้ ถามคาํ ถามเพ:ือให้
นกั เรียนบอกความแตกต่างของรูปร่างลกั ษณะของ May และ Anna ดงั น+ี

Teacher: Now, listen! Class, be quiet! This is May. (ช+ีท:ีภาพ May), and
this is Anna (ช+ีท:ีภาพ Anna). They are different. How are they
different?

นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ช่วยกนั ระดมความคิดบอกความแตกต่างของ May และ
Anna จากน+นั ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคบรรยายรูปร่างลกั ษณะ (1-5) ที:กาํ หนดให้ แลว้ ช่วยกนั
ตดั สินใจวา่ ประโยคบรรยายรูปร่างลกั ษณะท:ีอ่านเป็นของ May หรือ Anna ใหเ้ ติมช:ือของ May หรือ
Anna ลงไปในช่องวา่ งท:ีกาํ หนดให้ เมื:อทุกกลุ่มทาํ งานเสร็จแลว้ ครูใหแ้ ต่ละกลุ่มอ่านประโยค
กลุ่มละ 1 ขอ้ พร้อมท+งั บอกคาํ ตอบของกลุ่มตนเอง สุดทา้ ยครูเฉลยคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งบนกระดาน
อีกคร+ัง พร้อมท+งั อธิบายเหตุผลใหน้ กั เรียนฟัง

1 Anna is short. 4 May is tall.
2 May has got short hair. 5 May has got black hair.
3 Anna has got long hair.

99

6.2 ช*ัวโมงท*ี 7-8
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน

1. ครูทบทวนคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั รูปร่างลกั ษณะของบุคคลดว้ ยบตั รภาพและบตั รคาํ
2. ครูใหอ้ าสาสมคั รนกั เรียนหญิงและนกั เรียนชายยนื ข+ึนทีละคน แลว้ ใหน้ กั เรียนในช+นั พดู ถึงลกั ษณะ

ของนกั เรียนท+งั 2 (นกั เรียนหญิงยนื ข+ึนก่อน)
Teacher: (ช+ีที: ด.ญ. มยรุ า)
Students: She is tall. She has short straight hair. She has big eyes.
Teacher: (ช+ีท:ี ด.ช. ธีรเดช)
Students: He is short. He has short black hair. He has small eyes.

3. ครูบอกนกั เรียนวา่ ในชวั: โมงน+ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เก:ียวกบั เรื:องการบอกส่วนสูง การเปรียบเทียบ
ข+นั กวา่ การอ่านจบั ใจความ การพดู /เขียนบรรยายลกั ษณะบุคคล และเขียนจดหมายถึงเพ:ือน

óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนดูตวั อยา่ งการถามถึงรูปร่างลกั ษณะของบุคคล ในหนังสือเรียน หน้า 24 ข้อ 6 What does
he/she look like? Ask and answer. Use the words in the box. โดยครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 กลุ่ม
คือกลุ่มนกั เรียนชายและกลุ่มนกั เรียนหญิง เพื:ออ่านบทสนทนาในหนงั สือเรียนพร้อมๆ กนั
Boys: What does your brother look like?
Girls: He’s tall and he’s got short wavy hair.
ครูอธิบายวา่ ประโยคคาํ ถาม What does he/she look like? ใชถ้ ามรูปร่างลกั ษณะของบุคคล แลว้ ครู
ทบทวนการบรรยายรูปร่างลกั ษณะของบุคคลอีกคร+ัง และใหน้ กั เรียนหญิงจบั คู่กบั นกั เรียนชาย เพื:อ
ฝึกสนทนาเก:ียวกบั การบรรยายลกั ษณะบุคคลใกลช้ ิดของตนเอง เช่น
Suda: What does your sister look like?
Wut: She is fat and short. Er … what does your father look like?
Suda: He’s dark, tall and kind.
เม:ือครูเป่ านกหวดี นกั เรียนต่างวง:ิ ไปจบั คู่กบั คนอ:ืน และเริ:มบทสนทนาใหม่อีกคร+ัง
2. นกั เรียนดูแผนภูมิรูปภาพ ในหนังสือเรียน หน้า 24 ข้อ 7 Look and say. แลว้ ครูใหน้ กั เรียนบอกวา่
ตวั เลขที:อยดู่ า้ นบนของภาพบุคคล ไดแ้ ก่ 150, 145, 138, 133 คืออะไร จากน+นั ครูเฉลยวา่ คือระดบั
ความสูงของแต่ละคน ซ:ึงมีหน่วยวดั เป็นเซนติเมตร จากน+นั ใหน้ กั เรียนอ่านตวั เลขตามครู ดงั น+ี

100

One hundred and fifty centimetres
One hundred and forty-five centimetres
One hundred and thirty-eight centimetres
One hundred and thirty-three centimetres
ครูเขียนโครงสร้างประโยคท:ีใชใ้ นการถาม-ตอบเก:ียวกบั ความสูงบนกระดาน จากน+นั ครูถาม
ความสูงของ Nick, Peter, Julia และ Emma โดยใหน้ กั เรียนดูขอ้ มูลจากแผนภูมิในการตอบคาํ ถาม

How tall is (ช:ือบุคคล)? He is (ความสูง) centimetres tall.
How tall are you? I’m (ความสูง) centimetres tall.

Teacher: How tall is Nick?
Students: He is one hundred and fifty centimetres tall.
Teacher:
Students: How tall is Peter?
Teacher: He is one hundred and forty-five centimetres tall.
Students: How tall is Julia?
Teacher:
Students: She is one hundred and thirty-eight centimetres tall.
How tall is Emma?
She is one hundred and thirty-three centimetres tall.

ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคนถามส่วนสูงของเพ:ือนท:ีนงั: ขา้ งๆ อยา่ งนอ้ ย 4 คน (โดยไม่ลุกจากท:ีนงั: ) แลว้
บนั ทึกบทสนทนาของตนเองลงในสมุด ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนมีระเบียบวนิ ยั ในการทาํ งาน ไม่เดินไปมา
หรือส่งเสียงดงั เช่น ถา้ จะทิ+งขยะ เหลาดินสอ หรือเขา้ หอ้ งน+าํ ควรจะขออนุญาตครูก่อน และไม่ควร
จะลุกจากท:ีนง:ั บ่อยเกินไป

101

Background Information
คําว่า centimetre และ centimeter แตกต่างกนั อย่างไร
คาํ ว่า เซนติเมตร ในภาษาองั กฤษสามารถสะกดได้ 2 แบบ คอื centimetre และ centimeter
โดย centimetre - เป็นการเขยี นแบบองั กฤษ (British English)

centimeter - เป็นการเขยี นแบบอเมริกนั (American English)
นอกจากคาํ ว่าเซนติเมตรแลว้ ยงั มคี าํ ศพั ทอ์ ืน: ๆ อีกทีส: ะกดแตกต่างกนั เช่น

British English American English

centre center
colour color
favourite favorite
grey gray
honour honor
litre liter
metre meter
neighbour neighbor

ดูเพิ:มเตมิ ไดท้ :ี http://www.studyenglishtoday.net/british-american-spelling.html

3. ครูทบทวนเกี:ยวกบั การเปรียบเทียบข+นั กวา่ (Comparative degree) โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกกฎ
และยกตวั อยา่ งคาํ ศพั ท์
1) โดยทวั: ไปเติม er หลงั คาํ คุณศพั ท์ (adjectives)ไดเ้ ลย เช่น
cold - colder fast - faster
small - smaller slow - slower
long - longer tall - taller
short - shorter old - older
strong - stronger young - younger
หมายเหตุ: คาํ วา่ small, strong, slow ถือวา่ เป็น 1 พยางค์ เพราะไม่ไดอ้ อกเสียง /s/
initial เตม็ เสียง
2) คาํ คุณศพั ท์ (adjectives) ออกเสียงส+นั 1 พยางค์ มีสระ1 ตวั และตวั สะกด 1 ตวั
ใหเ้ พิ:มตวั สะกดอีก 1 ตวั ก่อน แลว้ จึงเติม er เช่น
fat - fatter hot - hotter
big - bigger thin - thinner

102

3) คาํ คุณศพั ทท์ :ีลงทา้ ยดว้ ย y ใหเ้ ปล:ียน y เป็น i แลว้ จึงเติม er เช่น
dry - drier dirty - dirtier

easy - easier noisy - noisier
early - earlier healthy - healthier (มีสุขภาพดีกวา่ )
lovely - lovelier (หรือ more lovely)
ครูทดสอบความเขา้ ใจเก:ียวกบั เร:ือง Comparative Degree โดยถ่ายเอกสาร English Test จาก
ส่วนทา้ ยของแผนการจดั การเรียนรู้น+ี ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ แลว้ บอกนกั เรียนวา่ แบบทดสอบ
มี 10 ขอ้ ถา้ นกั เรียนทาํ ถูก 8 ขอ้ ข+ึนไป ถือวา่ ผา่ น เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาํ ตอบบนกระดาน แลว้ ให้
นกั เรียนตรวจแบบทดสอบของตนเองดว้ ยความซื:อสตั ย์

1 fatter 5 friendlier 9 younger
2 easier 6 smaller 10 earlier
3 bigger 7 thinner
4 hotter 8 noisier

4. ครูบอกชื:อนกั เรียนในหอ้ ง 2 คน แลว้ เขียนประโยคเปรียบเทียบใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน 2 ประโยค
จากน+นั ใหน้ กั เรียนในหอ้ งช่วยกนั แต่งประโยคเปรียบเทียบบุคคลท+งั สอง โดยใช้ Comparative
degree เช่น
Teacher:
Ken is taller than Ann.

Students: Ann’s nose is smaller than Ken’s nose.

Ann is shorter than Ken.

Ann is fatter than Ken.
Ann’s hair is longer than Ken’s hair.
Ken’s eyes are bigger than Ann’s eyes.
ครูคอยช่วยเหลือนกั เรียน โดยเพิ:มเติมหรือแกไ้ ขประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง
5. นกั เรียนทาํ งานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ดูรูปภาพและแต่งประโยคในใบงานเสริม (English
Worksheet) โดยครูถ่ายเอกสารจากส่วนทา้ ยของแผนการจดั การเรียนรู้น+ี ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนที:เก่ง
ช่วยเหลือนกั เรียนที:อ่อน (mixed-ability group) เสร็จแลว้ ครูใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาเขียน

ประโยคบนกระดาน ครูตรวจทานและแกไ้ ข

103

1 A rubber is shorter than a pencil.
2 An elephant is bigger than a dog.
3 A chair is smaller than a desk.
4 A bicycle is slower than a car.
5 A giraffe is taller than a cat.
6 A boy is older than a girl.
6. นกั เรียนดูภาพสตั วป์ ระหลาดในหนังสือเรียน หน้า 25 ข้อ 8 Listen, read and circle ‘true’ or ‘false’.
ครูชูบตั รคาํ คาํ วา่ monster แลว้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม โดยเนน้ เสียงหนกั -เบา (stress) ใหถ้ ูกตอ้ ง
จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 35 ใหน้ กั เรียนฟัง และดูเน+ือหาในหนงั สือเรียนตามไปดว้ ย ต่อมาครูให้
นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนทางดา้ นขวามือ (Pair work) อ่านประโยค 1-5 แลว้ ช่วยกนั พิจารณาวา่ ประโยค
แต่ละขอ้ ขอ้ ใดถูก (T) ขอ้ ใดผดิ (F) เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คู่ ใหย้ นื ข+ึนอ่านประโยคขอ้ ละ
1 คู่ พร้อมกบั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขียนคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งบนกระดานอีกคร+ัง

I like Beck. He has got a big head and brown eyes. Look at his ears!
They are very long. Beck has got big hands and feet. His stomach is
very big too.

1 false 2 true 3 false 4 true 5 true
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั แกไ้ ขประโยคที:ผดิ ใหถ้ ูกตอ้ ง ดงั น+ี

ขอ้ 1 เปลี:ยนจาก small feet เป็น big feet
ขอ้ 3 เปล:ียนจาก green eyes เป็น brown eyes
ครูเปิ ด CD/track 35 ใหน้ กั เรียนฟังอีกคร+ัง และอ่านเน+ือเรื:องตามไปดว้ ย จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่าน
เองพร้อมกนั ท+งั หอ้ ง โดยครูกระตุน้ ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงตามสาํ เนียงของเจา้ ของภาษาท:ีไดย้ นิ
จาก CD
7. ครูหาภาพการ์ตูนที:เดก็ ๆ ชื:นชอบจาก Internet ในหนงั สือการ์ตูน หรือนิตยสารต่างๆ เช่น Donald
duck, Mickey mouse, Winnie the pooh, Tweety, Doraemon, Ultraman, Pop eye, Kitty, etc. แลว้
นาํ มาติดบนกระดาน ครูถามนกั เรียนวา่ ชอบการ์ตูนตวั ใดมากท:ีสุด และเหตุผลท:ีชอบ

104

จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 25 ข้อ 9 Draw and write about your
favourite cartoon. โดยครูแจกกระดาษ A4 ที:ใชแ้ ลว้ หนา้ เดียว ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ เพ:ือเนน้ ให้
นกั เรียนรู้จกั ประหยดั ทรัพยากร แลว้ ใหน้ กั เรียนวาดภาพการ์ตูนในดวงใจของตนเอง และระบายสี
ใหส้ วยงาม แลว้ เขียนบรรยายอยา่ งนอ้ ย 6 ประโยค นกั เรียนสามารถหาคาํ ศพั ทเ์ พ:ิมเติมไดใ้ น
Dictionary Thai - English หรือ English - Thai

I like Doraemon. He is a cat robot.
He’s got a big head, big eyes and a big
mouth. He has short arms and legs.
He’s got a bag on his stomach. He has
no ears. His body is white and blue.
He is friendly.

ครูรวบรวมชิ+นงานของนกั เรียนเพ:ือนาํ ไปตรวจและใหค้ ะแนนเพื:อเป็นคะแนนเกบ็ ครูคดั เลือกภาพ
ท:ีดีที:สุด 10 ภาพ และมีคาํ บรรยายที:ถูกตอ้ งติดท:ีบอร์ดหลงั หอ้ ง เพื:อใหน้ กั เรียนคนอ:ืนดูเป็น
แบบอยา่ งในการทาํ งาน โดยครูพดู ชมเชยนกั เรียนท:ีมีผลงานติดท:ีบอร์ดหลงั หอ้ งวา่ บุคคลเหล่าน+ี
เป็นคนท:ีมีความทุ่มเทในการทาํ งาน ทาํ งานดว้ ยความต+งั ใจจริง จึงทาํ งานออกมาไดด้ ี ใหน้ กั เรียน
คนอ:ืนๆ ดูเป็นตวั อยา่ ง

หมายเหตุ: ครูอาจมอบหมายงานชิ+นน+ีใหน้ กั เรียนนาํ ไปทาํ เป็นการบา้ น ถา้ เวลา
ในชวั: โมงเรียนมีจาํ กดั
óกจิ กรรมรวบยอด
1. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนรวบรวมคาํ ศพั ทท์ ี:เรียนมาแลว้ ใน Unit 2 แลว้ บนั ทึกลงใน My word book
ของตนเอง โดยใหน้ กั เรียนคดั คาํ ศพั ท์ วาดภาพประกอบ และแปลความหมาย แลว้ นาํ ผลงานมาส่ง
ครูในอีก 1 สปั ดาห์ขา้ งหนา้
2. นกั เรียนเล่นเกม Matching game (จบั คู่) ซ:ึงเป็นเกมที:ไม่จาํ กดั จาํ นวนผเู้ ล่น แต่สถานที:ในการเล่น
ควรเป็นพ+ืนที:โล่ง วธิ ีการเล่นมีดงั น+ี
1) ใหน้ กั เรียนยนื เป็นวงกลม 2 วง ซอ้ นกนั โดยยนื ตรงกนั เป็นคู่ๆ
2) วงนอกยนื หนั หนา้ ตามเขม็ นาฬิกา วงในยนื หนั หนา้ ทวนเขม็ นาฬิกา
3) เม:ือไดย้ นิ เสียงเพลงจาก CD หรือวทิ ยุ นกั เรียนเดินตามวงกลม โดยปรบมือเป็นจงั หวะ
หรือจะทาํ ท่าทางประกอบเพลงกไ็ ด้

105

4) เม:ือเพลงหยดุ นกั เรียนแต่ละคนวง:ิ กลบั ไปหาคู่ของตนเอง เม:ือพบแลว้ ใหจ้ บั มือกนั และ
นงั: ลง แลว้ สนทนาเก:ียวกบั เร:ืองที:นกั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ เช่น ถามส่วนสูง บรรยาย
ลกั ษณะเพื:อนสนิท ครูเขียนรูปแบบการสนทนาใหน้ กั เรียนบนกระดาน ดงั น+ี
A: How tall are you?
B: I’m (ตวั เลข) centimetres tall.
A: What does your best friend look like?
B: She is tall and she’s got short straight hair.
เมื:อ A ถาม B เสร็จแลว้ ให้ B ถาม A กลบั บา้ ง

เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคู่กลบั มายนื ในวงกลมตามเดิม โดยครูอาจดดั แปลงเกมน+ีดว้ ยการให้
นกั เรียนจบั คู่กบั คนท:ีมีลกั ษณะคลา้ ยกนั เช่น สวมแวน่ ตา ผมมา้ ผมเปี ย ผกู โบสีขาว ตวั สูง
ตวั เต+ีย ฯลฯ

ข้อควรระวงั : ครูไม่ควรนาํ ลกั ษณะดอ้ ยของนกั เรียนมาใชใ้ นการเล่นเกม เช่น
นกั เรียนท:ีมีลิ+นไก่ส+นั ตาเข พิการ ใส่ถุงเทา้ เก่าหรือขาด ฯลฯ
3. นกั เรียนจบั คู่กบั เพื:อนขา้ งเคียง แลว้ ฝึกพดู ถาม-ตอบเกี:ยวกบั รูปร่างลกั ษณะของ Mark, Harry, Ben
และ Betty ในแบบฝึ กหัด หน้า 20 ข้อ 6 Ask your friends. ครูสงั เกตการทาํ กิจกรรมของนกั เรียน
เพื:อประเมินการพดู ของนกั เรียน เมื:อนกั เรียนสนทนาเสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนบนั ทึกบทสนทนาลงใน
กระดาษใชแ้ ลว้ 1 หนา้ แลว้ นาํ มาส่งครู

(Suggested Answers)
- Mark’s short. He’s got wavy hair and big eyes. His hair is black.
- Harry’s tall. He’s got straight hair. His hair is brown. He is thin.
- Ben’s tall. He’s fat. He’s got short hair. His hair is brown.
- Betty’s tall. She’s got short and straight hair. Her hair is yellow.
Her eyes are big.
4. นกั เรียนดูภาพของ May, Anna, Ben และ Mark ในแบบฝึ กหัด หน้า 20 ข้อ 7 Look and write true
or false. แลว้ แบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ช่วยกนั พิจารณาประโยค 1-6 วา่ ถูก (true) หรือ
ผดิ (false) เมื:อแต่ละกลุ่มทาํ เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มอ่านคาํ ตอบของตนเองใหก้ ลุ่มอื:นๆ ฟัง เพ:ือ
เปรียบเทียบคาํ ตอบกนั จากน+นั ครูเฉลยคาํ ตอบบนกระดาน

106

1 false 2 false 3 true 4 true

5. นกั เรียนจบั คู่กบั คนท:ีมีบุคลิกลกั ษณะคลา้ ยกนั กบั ตนเอง เช่น ตวั สูง ตวั เต+ีย ผมยาว ผมส+นั ใส่
แวน่ ตา ช่างพดู ข+ีอาย ฯลฯ ครูสุ่มถามบางคู่วา่ ทาํ ไมจึงจบั คู่กนั นกั เรียนบอกเหตุผลกบั ครู เช่น
เพราะช่างพดู เหมือนกนั หรือเพราะมีกระเป๋ านกั เรียนคลา้ ยกนั จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนทุกคู่อ่าน
ชิ+นส่วนของจดหมาย (a-f) ในแบบฝึ กหัด หน้า 21 ข้อ 8 Put the sentences in order. Write Maria’s
e-mail. แลว้ เรียงลาํ ดบั ชิ+นส่วนของ e-mail ใหถ้ ูกตอ้ งและไดใ้ จความ ครูเขียนเฉลยบนกระดาน
เมื:อนกั เรียนตรวจคาํ ตอบและแกไ้ ขคาํ ตอบเรียบร้อยแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่าน e-mail ท:ีถูกตอ้ งพร้อมๆ
กนั หรือครูอาจติดแผน่ ป้าย e-mail ที:เรียงสมบูรณ์แลว้ บนกระดาน และใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียง
พร้อมๆ กนั
b, f, a, d, c, e

ครูบอกนกั เรียนวา่ ถา้ นกั เรียนเป็น Maria เมื:ออ่าน e-mail ของ Emma แลว้ นกั เรียนจะเขียนตอบ
อยา่ งไร โดยครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ใหม่ แต่ใชเ้ ง:ือนไขเดิมคือ มีบุคลิกลกั ษณะคลา้ ยกบั ตนเอง โดยครู
เนน้ ใหน้ กั เรียนใชค้ วามคิดริเริ:มสร้างสรรคใ์ นการทาํ งาน ครูกาํ หนดใหน้ กั เรียนเขียนอยา่ งนอ้ ย
12 ประโยค เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนนาํ งานมาส่งครู เพื:อตรวจใหค้ ะแนน เป็นคะแนนเกบ็ ครูอาจ
มอบหมายใหน้ กั เรียนทาํ เองเป็นการบา้ น โดยเนน้ ใหน้ กั เรียนทาํ งานร่วมกนั นอกเวลาเรียน ไม่ควร
เห็นแก่ตวั ปล่อยใหเ้ พื:อนทาํ งานเพียงลาํ พงั หรือใหผ้ ปู้ กครองทาํ ให้

(Suggested Answer)

Hi! Emma,
Thank you for your e-mail. I’m back at school too. I’ve got
a new friend. Her name is Alice. She’s from Canada. She is
135 centimatres tall. She’s got blond hair and blue eyes.
Her hair is long. She wears glasses. She likes music. She
doesn’t like P.E. Tell me about your friend. Bye-bye.
Your friend,
Maria

107

6. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 8 คน เพื:อรวบรวมคาํ คุณศพั ท์ (Adjective) ที:เป็นคาํ ตรงกนั
ขา้ มกบั คาํ ศพั ทใ์ น Unit 2 โดยใหแ้ ต่ละกลุ่มคดั เลือกผนู้ าํ และเลขากลุ่ม เพื:อจดบนั ทึก จากน+นั แต่ละ
กลุ่มช่วยกนั ระดมสมอง (Brainstorm) หาคาํ ศพั ทท์ ี:เป็นคาํ ตรงกนั ขา้ มกบั คาํ ศพั ทใ์ น Unit 2
เสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มนาํ ผลงานมาส่งครู เม:ือครูตรวจความถูกตอ้ งแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มช่วยกนั
คดั ลอกคาํ ศพั ทด์ งั กล่าวใส่กระดาษสีแผน่ ใหญ่ และตกแต่งใหส้ วยงาม แลว้ นาํ ไปติดท:ีฝาผนงั
หอ้ งเรียน เพ:ือทาํ เป็นสื:อการเรียนรู้ในหอ้ งเรียน

young Opposite Words
long old fat ≠ thin
straight ≠ short funny ≠ serious
big ≠
tall ≠ wavy white ≠ black, dark
quiet ≠ small safe ≠ dangerous
easy ≠ short first ≠ last
≠ noisy beautiful (handsome) ≠ ugly
≠ difficult good ≠ bad etc.

6.3 ชั*วโมงที* 9-10

óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูชูภาพนกั ร้องหรือดารา 5-6 คน ที:กาํ ลงั ดงั ในขณะน+ี แลว้ ใหน้ กั เรียนระบุช:ือ โดยครูชูทีละภาพ
Students: Bie the Star, Bird Thongchai, Um Patcharapa,
Ann Thongprasom, Ken Theeradej, Pancake Khemmanit
ครูสุ่มถามนกั เรียน 3-4 คน วา่ ชอบนกั ร้องหรือดาราคนไหน และบอกเหตุผลดว้ ยวา่ ทาํ ไมถึงชอบ
โดยครูอนุญาตใหน้ กั เรียนตอบเป็นภาษาไทยได้ เพราะครูตอ้ งการใหน้ กั เรียนฝึกแสดงความคิดเห็น
Teacher: Who do you like? And why?
Dara: I like Bird Thongchai because his songs are nice. He can sing
very well and he is very friendly.
Somjai: I love Ann Thongprasom because she is kind and smart. She is
a good actor.
2. ครูบอกนกั เรียนวา่ ในบทเรียนน+ี นกั เรียนจะไดท้ บทวนส:ิงท:ีนกั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ ใน Unit 1 เช่น
การบอกรูปร่างลกั ษณะของบุคคลต่างๆ และการอ่านจบั ใจความ
108

óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนที:มีลกั ษณะคลา้ ยกนั (Pair work) เพื:อสนทนาเก:ียวกบั นกั ร้องท:ีช:ืนชอบ โดย
ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ถามในหนังสือเรียน หน้า 26 ข้อ 1 Talk about your favourite film star or
singer. พร้อมกนั ก่อน โดยครูเป็นผตู้ อบคาํ ถาม เพ:ือเป็นตวั อยา่ งใหก้ บั นกั เรียน จากน+นั ใหน้ กั เรียน
ฝึกสนทนากบั คู่ของตนเอง
Students: What is his/her name?
Teacher: Her name is Beau Sunita.
Students: What does he/she look like?
Teacher: She has got long hair. She is not thin. She’s got round cheeks
(แกม้ ยยุ้ ).
เม:ือสนทนาเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอีกคนสลบั เป็นผถู้ ามบา้ ง
หมายเหตุ: - นกั เรียนอาจดดั แปลงประโยคคาํ ถามและคาํ ตอบได้
- การตอบไม่จาํ เป็นตอ้ งใชป้ ระโยคท:ีถูกตอ้ งทางไวยากรณ์ แต่ขอใหส้ ื:อสารได้
2. นกั เรียนเปล:ียนไปจบั คู่กบั เพ:ือนคนใหม่ แลว้ ดูภาพคน 2 คน ซ:ึงมีลกั ษณะแตกต่างกนั อยา่ งเห็นไดช้ ดั
ในหนังสือเรียน หน้า 26 ข้อ 2 Talk about these two men. What do they look like? นกั เรียนท+งั คู่
ต่างอภิปรายถึงรูปร่างลกั ษณะท:ีแตกต่างกนั ของคนท+งั สองคน และเขียนบนั ทึกยอ่ ส+นั ๆ เพื:อเตรียม
นาํ เสนอหนา้ ช+นั

(Suggested Answer)
A has got big eyes and a big mouth. His nose is small but his hands and
feet are big. He is short.
B has got small eyes and a small mouth. His nose is big but his hands
and feet are small. He is tall.

ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ ใหอ้ อกมานาํ เสนอหนา้ หอ้ งทีละคู่ โดยนกั เรียนคนแรกกล่าวถึง A และ
นกั เรียนอีกคนกล่าวถึง B นกั เรียนสามารถนาํ บนั ทึกเตือนความจาํ มาดูได้ ครูสรุปขอ้ มูลที:ไดจ้ าก
การนาํ เสนอ (Oral presentation) ของนกั เรียนบนกระดาน จากน+นั ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงโดย
พร้อมเพรียงกนั ทุกคน
3. นกั เรียนดูภาพประกอบเน+ือเร:ืองในหนังสือเรียน หน้า 27 ข้อ 3 Read and answer the questions.
ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมก่อนอ่าน โดยช่วยกนั พดู บรรยายเกี:ยวกบั ลกั ษณะของเดก็ ผหู้ ญิงในภาพ

Teacher: Look! Who is she? (ครูช+ีภาพเดก็ ผหู้ ญิงในหนงั สือเรียน)
Students: Emma.

109

Teacher: What is she like? (หรือ What does she look like?)
Students: She is tall. She’s got short straight hair. Her eyes are small.

She is beautiful ..... etc.
Teacher: Excellent!
ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ถาม 1-4 ดา้ นล่าง เพื:อใหน้ กั เรียนมีจุดมุ่งหมายในการอ่าน จากน+นั นกั เรียน
อ่านเน+ือเร:ืองท:ีกาํ หนดใหใ้ นใจ แลว้ ตอบคาํ ถามดงั กล่าว ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4 คน ใหย้ นื ข+ึนอ่าน
คาํ ถามและคาํ ตอบของตนเอง จากน+นั ครูเฉลยโดยการเขียนคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งส+นั ๆ บนกระดาน
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงเน+ือเร:ืองพร้อมๆ กนั

1 12 years old. 3 She has got short hair.
2 133 cms. 4 Music.

4. ครูถามนกั เรียนแถวหนา้ 2-3 คน วา่ มีพี:สาว นอ้ งสาว พ:ีชาย หรือนอ้ งชายหรือไม่ แลว้ ครูถามนกั เรียน
เกี:ยวกบั ช:ือเพ:ือนสนิท อายุ ความสูง ลกั ษณะรูปร่างของเพ:ือน และวชิ าท:ีเพื:อนชอบ โดยครูถามเป็น
ภาษาไทย แลว้ ครูบอกนกั เรียนวา่ ต่อไปครูจะเปล:ียนประโยคคาํ ถามเหล่าน+ีเป็นภาษาองั กฤษ
จากน+นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คน แลว้ ถามคาํ ถามในหนังสือเรียน หน้า 28 ข้อ 4 Answer the
questions. ดงั น+ี
Teacher: What is the name of your best friend?
Sompit: Her name is Suda.
Teacher: How old is she?
Sompit: She is 15 years old.
Teacher: How tall is she?
Sompit: She is 155 centimetres tall.
Teacher: What does she look like?
Sompit: She’s got long wavy hair. Her eyes and mouth are big.
Teacher: What is her favourite subject?
Sompit: Her favourite subject is computers.

110

ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั ตามความสมคั รใจ แลว้ ฝึกพดู ถาม-ตอบเหมือนดงั ตวั อยา่ ง เสร็จแลว้ ครูอ่าน
คาํ สงั: ในหนังสือเรียน หน้า 28 Now draw and write about your best friend. แลว้ อธิบายภาระงาน
ใหน้ กั เรียนฟังวา่ ใหน้ กั เรียนวาดภาพเพื:อนสนิท 1 คน ลงในสมุดของตนเอง ครูกระตุน้ ใหน้ กั เรียน
พยายามวาดลกั ษณะเด่นๆ บนใบหนา้ ของเพ:ือนสนิทตนเอง เพื:อใหร้ ูปท:ีวาดมีขอ้ มูลตรงกบั ความ
เป็นจริงมากที:สุด เช่น มีหูกาง ตาเลก็ /ใหญ่ ผมส+นั /ยาว เป็นตน้ จากน+นั ใหน้ กั เรียนระบายสีให้
สวยงาม แลว้ เขียนบรรยายใหถ้ ูกตอ้ ง

(Suggested Answer)
This is my best friend. Her name is Suda. She is fifteen years old. She is one
hundred and fifty-five centimetres tall. She’s got long wavy hair. Her eyes
and mouth are big. Her favourite subject is computers.

เม:ือทาํ ผลงานเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนแลกเปล:ียนผลงานกนั และแสดงความคิดเห็นเกี:ยวกบั ผลงาน
ของเพ:ือน ครูเดินดูขณะนกั เรียนทาํ กิจกรรม และคอยใหค้ วามช่วยเหลือ จากน+นั จึงคดั เลือกผลงาน
ท:ีดี 5 ชิ+น โดยใชเ้ กณฑ์ คือ วาดภาพดี ระบายสีสวย และเขียนบรรยายถูกหลกั ไวยากรณ์ และส:ือ
ความหมายไดต้ รงกบั ภาพ ครูใหน้ กั เรียนที:เป็นเจา้ ของผลงาน ยนื ข+ึนอ่านคาํ บรรยายของตนเอง และ
แสดงผลงานใหเ้ พื:อนๆ ดูหนา้ ช+นั เรียน

óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนอ่านคาํ ถามในแบบฝึ กหัด หน้า 22 ข้อ 1 Answer the questions. พร้อมๆ กนั
1) Who’s your favourite actor? - ใครคือดาราท:ีท่านชอบ

2) How old is he/she? - เขา (หล่อน) อายเุ ท่าไร
3) Where is he/she from? - เขา (หล่อน) มาจากไหน (ประเทศ)
4) What does he/she look like? - เขา (หล่อน) มีรูปร่างลกั ษณะอยา่ งไร
จากน+นั นกั เรียนเขียนตอบ แลว้ ฝึกพดู ถาม-ตอบกบั เพื:อน เช่น
A: Who’s your favourite actor?
B: Ann Thongprasom.
A: How old is she?
B: About thirty-two years old.
A: Where is she from?
B: She’s from Thailand.

111

A: What does she look like?
B: She’s got long black hair and beautiful eyes. She’s thin.
A: Thank you.
เสร็จแลว้ นกั เรียนสลบั บทบาทกบั คู่ของตนเอง โดยใหผ้ ถู้ ามเปลี:ยนเป็นผตู้ อบบา้ ง
2. นกั เรียนดูภาพประกอบ ในแบบฝึ กหัด หน้า 22 ข้อ 2 Read and answer. ครูถามนกั เรียนวา่
เดก็ ผหู้ ญิง 2 คนในรูปคือใคร
Teacher: Who are these girls? (ช+ีท:ีภาพ)
นกั เรียนอ่านเน+ือหาในหนงั สือเรียนอยา่ งคร่าวๆ เพื:อหาคาํ ตอบแลว้ จึงตอบ
Students: Susan and Jane.
ครูอธิบายวา่ Grace และ Jill เป็นนอ้ งสาวของ Tom ครูช+ีใหน้ กั เรียนสงั เกตดูภาพของ Grace และ
Jill อยา่ งละเอียด แลว้ ช่วยกนั บอกวา่ ท+งั 2 คนมีรูปร่างลกั ษณะแตกต่างกนั อยา่ งไร โดยครูอนุญาต
ใหน้ กั เรียนบอกเป็นภาษาไทยได้ จากน+นั ใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ถาม 1-5 เพ:ือใหน้ กั เรียนมีจุดมุ่งหมายใน
การอ่าน เสร็จแลว้ จึงอ่านเน+ือเรื:องในใจอยา่ งรวดเร็ว เพื:อหาคาํ ตอบ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหย้ นื ข+ึน
อ่านคาํ ถาม และเฉลยคาํ ตอบคนละ 1 ขอ้ ครูเขียนคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งบนกระดานอีกคร+ัง แลว้ ให้
นกั เรียนตรวจคาํ ตอบของตนเอง และแกไ้ ขขอ้ ที:ผดิ ใหถ้ ูกตอ้ ง สุดทา้ ยครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียง
เน+ือเรื:องพร้อมๆ กนั

1 142 centimetres 4 maths and computers
2 140 centimetres 5 science and computers
3 Grace

3. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาํ ศพั ทท์ ี:กาํ หนดให้ ในแบบฝึ กหัด หน้า 23 ข้อ 3 Read and complete. Use
the words in the box. จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนทาํ งานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน ดูรูปภาพแลว้ นาํ คาํ ศพั ท์
ไปเติมลงในเน+ือเรื:องใหไ้ ดใ้ จความสมบูรณ์ภายในเวลาท:ีครูกาํ หนด เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั
เฉลยคาํ ตอบ โดยครูเขียนคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งบนกระดานอีกคร+ัง เพื:อใหน้ กั เรียนตรวจคาํ ตอบของกลุ่ม
ตนเอง ครูถามนกั เรียนแต่ละกลุ่มวา่ ทาํ ถูกกี:ขอ้ ครูใหน้ กั เรียนปรบมือใหก้ ลุ่มท:ีทาํ ถูกมากที:สุด

1 is 4 nine 7 study
2 old 5 centimetres 8 likes
3 got 6 go

112

6.4 ช*ัวโมงท*ี 11-13

óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ใหอ้ อกมาหนา้ ช+นั เรียนทีละคน แลว้ พดู บอกบุคลิกลกั ษณะ และขอ้ มูล
ส่วนตวั ของเพื:อนคนใดคนหน:ึงในหอ้ ง โดยไม่บอกชื:อ แลว้ ใหเ้ พื:อนๆ ในหอ้ งช่วยกนั ทาย เช่น
Student: She’s got short black hair. She’s short and thin.
She’s friendly. Her favourite actor is Pancake.

óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 3 คน เพ:ือทาํ โครงงานในหนังสือเรียน หน้า 29 หัวข้อ Project time ซ:ึง
นกั เรียนจะไดส้ าํ รวจความสูงของเพื:อนในหอ้ งเรียนและนาํ เสนอผลการสาํ รวจในรูปของแผนภูมิ
แท่ง (Bar graph) โดยครูใหน้ กั เรียนนาํ อุปกรณ์ในการทาํ งานท:ีครูใหน้ กั เรียนเตรียมไวม้ าวางบนโตะ๊
ไดแ้ ก่ กระดาษเพ:ือเขียนแผนภูมิแท่ง ดินสอ ดินสอสี และไมบ้ รรทดั
2. นกั เรียนถามส่วนสูงของเพ:ือนๆ กลุ่มอื:น 6 คน เหมือนดงั ตวั อยา่ งท:ีกาํ หนดใหใ้ นหนังสือเรียน
หน้า 29 ข้อ 2 Ask four friends this questions.
A: How tall are you?
B: I am …… centimetres tall.
3. เม:ือสาํ รวจส่วนสูงของเพื:อนไดค้ รบตามจาํ นวนที:กาํ หนดไวแ้ ลว้ ใหน้ กั เรียนนาํ เสนอขอ้ มูลที:ไดม้ า
ในรูปของแผนภูมิแท่ง ดงั ตวั อยา่ งในหนังสือเรียน หน้า 29 ข้อ 3 Make a graph. ครูอธิบายวธิ ีการทาํ
ใหน้ กั เรียนฟังคร่าวๆ และบอกใหน้ กั เรียนประยกุ ตค์ วามรู้ที:นกั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ จากในวชิ า
คณิตศาสตร์ในการทาํ ชิ+นงานน+ี

Height in centimetres

150
140
130
120
110
100
90
80
70
60
50
40
30
20
10
0 Pongsak Sunaree Pramote Mayuree Manop Sornram Names

113

นกั เรียนระบายสีแผนภูมิแท่งของกลุ่มตนเองดว้ ยสีท:ีต่างกนั เพื:อใหก้ ารแสดงขอ้ มูลชดั เจนข+ึน
หมายเหตุ: ครูอาจประยกุ ตส์ อนใหน้ กั เรียนทาํ กราฟเสน้ แทนกไ็ ด้

4. ครูอ่านคาํ สงั: ในหนังสือเรียน หน้า 29 ข้อ 4 Write sentences describing the graph. แลว้ ใหน้ กั เรียน
ในแต่ละกลุ่มช่วยกนั แต่งประโยคเพ:ือบรรยายแผนภูมิแท่งของตนเอง ในกระดาษใชแ้ ลว้ หนา้ เดียว
(Recycle) โดยใชโ้ ครงสร้างประโยค Comparative degree จากน+นั นาํ ผลงานมาส่งครู
(Suggested Answer)
Sunaree and Manop are shorter than Pongsak, Pramote, Mayuree and Sornram.
Pongsak is shorter than Pramote, Mayuree and Sornram.
Sornram is shorter than Pramote and Mayuree.
Pramote is shorter than Mayuree.
Mayuree is taller than Pramote, Sornram, Pongsak, Sunaree and Manop.
ครูตรวจงานและใหค้ ะแนน จากน+นั ส่งงานคืนนกั เรียน แลว้ ใหต้ วั แทนแต่ละกลุ่มออกมาอ่าน
คาํ บรรยายของกลุ่มตนเองท:ีแกไ้ ขถูกตอ้ งแลว้

óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 30 ข้อ 1 Listen, sing and act. แลว้ บอกครูวา่ เดก็ ที:อยใู่ นรูป
กาํ ลงั ทาํ อะไร นกั เรียนตอบครูเป็นภาษาไทยได้ เพ:ือฝึกการแสดงความคิดเห็น จากน+นั ครูเปิ ด
CD/track 36 ใหน้ กั เรียนฟัง 1 รอบ โดยใหน้ กั เรียนทุกคนปิ ดหนงั สือเรียน เพื:อมุ่งความสนใจไปท:ี
เพลงเท่าน+นั และพยายามฟังใหไ้ ดว้ า่ เน+ือเพลงกล่าวถึงส่วนใดของร่างกายมนุษย์

The body song
Walking around it’s so nice.
I’m walking slowly and close my eyes.
Point to your nose, point to your toes.
Show us your hands, have to dance.
Point to your nose, point to your toes.
Show us your hands, have to dance.

114

Running around everywhere
I want to feel the wind in my hair.
Point to your nose, point to your toes.
Show us your hands, have to dance.
Point to your nose, point to your toes.
Show us your hands, have to dance.
Running around is so good.

ครูถามนกั เรียนวา่ ไดย้ นิ คาํ ศพั ทส์ ่วนใดของร่างกายในเน+ือเพลง
Teacher: What parts of the body do you hear in the song?
Students: Nose, hands, toes, hair, eyes.
Teacher: Good!

นกั เรียนฟังเพลง The body song จาก CD/track 36 และดูเน+ือเพลงในหนังสือเรียน หน้า 30 ข้อ 1
Listen, sing and act. ตามไปดว้ ย ครูบอกคาํ ศพั ทบ์ างคาํ ท:ีนกั เรียนไม่ทราบ จากน+นั นกั เรียนฟัง CD
อีกหลายๆ คร+ัง และฝึกร้องเพลงตามจนคล่อง ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดท่าทางประกอบเพลง โดยให้
นกั เรียนคิดสร้างสรรคท์ ่าทางแปลกใหม่ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนท+งั หอ้ งฝึกแสดงท่าทางประกอบเพลง
โดยพร้อมเพรียงกนั
ครูอาจใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมเพิ:มเติม โดยแบ่งนกั เรียนเป็นทีม ทีมละ 12 คน (Team work) เพื:อ
ประกวดร้องเพลง และแสดงท่าทางประกอบ (1 ช+นั เรียน แบ่งได้ 3-4 ทีม) ทีมที:ชนะเลิศจะได้
รางวลั เลก็ ๆ นอ้ ยๆ ที:ครูจดั เตรียมให้
2. นกั เรียนดูภาพในหนังสือเรียน หน้า 30 ข้อ 2 Look, write and sing. แลว้ นาํ คาํ ศพั ทท์ ี:เห็นในภาพเติม
ลงในเน+ือเพลง โดยทาํ ลงในสมุด จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนร้องเพลงตามเน+ือที:เขียนใหม่น+ีพร้อมๆ กนั

neck, teeth, shoulder, stomach, head, toes

3. นกั เรียนเล่นเกม Body Trivia ในหนังสือเรียน หน้า 31 ข้อ 3 Play ‘Body Trivia’. โดยครูกาํ หนดให้
นกั เรียนชายจบั คู่กบั นกั เรียนหญิงเพื:อเล่นเกม ซ:ึงมีวธิ ีการเล่น ดงั ต่อไปน+ี
1) นกั เรียนเตรียมเหรียญ 1 บาท และตวั เดิน 2 ตวั อาจเป็นกระดุมคนละสี
หรือฝาจีบที:ฝ่ ายหน:ึงวางคว:าํ อีกฝ่ ายหน:ึงวางหงายกไ็ ด้

115

2) นกั เรียนท+งั สองใชว้ ธิ ีการ “เป่ ายงิ ฉุบ” ผทู้ ี:ชนะจะโยนเหรียญก่อน ถา้ เหรียญออกหวั ให้
เดินไป 1 ช่อง แต่ถา้ เหรียญออกกอ้ ย ใหน้ กั เรียนเดินไป 2 ช่อง เมื:อหยดุ ที:ช่องใด ผทู้ ี:
เดินตอ้ งอ่านออกเสียงขอ้ ความในช่องน+นั และเติมคาํ ท:ีขาดหายไปใหถ้ ูกตอ้ ง จึงจะได้
คะแนนสะสม 1 คะแนน นกั เรียน “เป่ ายงิ ฉุบ” อีกคร+ัง ผทู้ ี:ชนะไดโ้ ยนเหรียญ แลว้
เดินแตม้ เพ:ือเกบ็ คะแนนสะสมต่อไป

3) นกั เรียนที:เดินทางไปถึงหลกั ชยั ก่อนและไดค้ ะแนนสะสมมากกวา่ จะถือวา่ เป็นผชู้ นะ
เป็นที:น่าสงั เกตเกมน+ีนกั เรียนตอ้ งอาศยั โชคชะตาในการ “เป่ ายงิ ฉุบ” และความฉลาด
ในการหาคาํ ศพั ทท์ ี:เวน้ ไวใ้ นแต่ละช่องของเกม

I listen with my ears.
I need my eyes when I read.
I wear a hat on my head.
I write with my hand.
There are 32 teeth in your mouth.
You walk with your feet.
There are 206 bones in your body.
There are toes at the end of your feet.
The brain hasn’t got bones.
There is hair on your head.
You eat with your mouth.
Food goes into your stomach.
A giraffe has a long neck.
There are 640 muscles in your body.

7. การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ

116

7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบยอ่ ย (English Test)
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม

7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการทาํ แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบความสูงของเพื:อนในหอ้ ง
- ประเมินงานเขียนบรรยายลกั ษณะตวั การ์ตูนที:ชอบ พร้อมวาดภาพประกอบ
- ประเมินงานเขียนบรรยายพี:นอ้ งของตนเอง พร้อมวาดภาพประกอบ
- ประเมินการพดู เปรียบเทียบลกั ษณะของคน 2 คน
- ประเมินการรวบรวมคาํ ศพั ทใ์ น Your word book

8. ส*ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ
5. ภาพนกั ร้องหรือดารา
6. แผน่ ป้าย Audio script

117

English Test

Adjective Comparative

1 fat
2 easy
3 big
4 hot
5 friendly
6 small
7 thin
8 noisy
9 young
10 early

118

English Worksheet

Compose sentences with comparative degree.
1 (short) A rubber ……………………………………… .
2 (big) An elephant ……………………………………. .
3 (small) A chair…………………………………………. .
4 (slow) A bicycle ……………………………………… .
5 (tall) A giraffe ……………………………………… .
6 (old) A boy ………………………………………….. .

119

แบบประเมนิ ทกั ษะทางภาษา

วชิ าภาษาองั กฤษพืน8 ฐาน ช8ันประถมศึกษาปี ที* 4

Lesson …………………………………..
คาํ ชี8แจง ใหค้ รูผสู้ อนสงั เกตการใชท้ กั ษะทางภาษาในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนนลงใน
ตารางใหต้ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน
เกณฑ์การให้คะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง

พูดสนทนาเ ี+กยวกับ ่สวน ่ตางๆ ใน สรุปผล
่รางกาย และ ูรป ่รางลักษณะได้ การประเมนิ
ออกเ ีสยง สะกดคํา และบอก
เลขที& ชื&อ-สกลุ ความหมายคําศัพท์ ี+ทเ ีรยนได้ รวม
่อานตัวเลขหลัก ิสบ ึถงหลักห +ืมนได้ คะแนน
ัฟงและ ่อานจับใจความได้ ผา่ น ไม่
เ ีขยนบรรยาย ่รางกายและ ูรป ่ราง ผา่ น
ลักษณะของ ุบคคลได้

ลงช:ือ…………….……………………..ผปู้ ระเมิน
การประเมนิ : นกั เรียนที:ไดค้ ะแนน 10 คะแนนข+ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเตม็ 20)

120

แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 3 At the market
รหัสวชิ า/ช*ือรายวชิ า ภาษาองั กฤษพ+ืนฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)
ช8ัน ประถมศึกษาปี ที: 4 เวลาเรียน 13 ชวั: โมง ภาคเรียนท_*ี ___________
ผู้สอน _______________________________ โรงเรียน___________________________________

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี8วดั
สาระที* 1 ภาษาเพ*ือการสื*อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื*องทฟี* ังและอ่านจากส*ือประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมเี หตุผล
ตวั ช+ีวดั 2. อ่านออกเสียงคาํ สะกดคาํ อ่านกลุ่มคาํ ประโยค ขอ้ ความง่ายๆ และบทพดู เขา้ จงั หวะ

ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
3. เลือก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์ หรือเคร:ืองหมาย ตรงตามความหมายของประโยคและ

ขอ้ ความส+นั ๆ ที:ฟังหรืออ่าน
4. ตอบคาํ ถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื*อสารทางภาษาในการแลกเปลยี* นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช+ีวดั 4. พดู /เขียนเพ:ือขอและใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ตนเอง เพื:อน และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเรื*องต่างๆ โดยการพูดและ
การเขยี น
ตวั ช+ีวดั 1. พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเองและเร:ืองใกลต้ วั
2. พดู /วาดภาพแสดงความสมั พนั ธ์ของสิ:งต่างๆ ใกลต้ วั ตามที:ฟังหรืออ่าน
3. พดู แสดงความคิดเห็นง่ายๆ เกี:ยวกบั เรื:องต่างๆใกลต้ วั
สาระที* 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนําไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช+ีวดั 3. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท:ีเหมาะกบั วยั
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษากบั
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนํามาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

121

ตวั ช+ีวดั 1. บอกความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษร คาํ กลุ่มคาํ ประโยค และขอ้ ความของ
ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

สาระที* 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ*ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช*ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ*ืน และเป็ นพืน8 ฐาน

ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช+ีวดั 1. คน้ ควา้ รวบรวมคาํ ศพั ทท์ :ีเกี:ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื:นและนาํ เสนอดว้ ยการพดู /

การเขียน

สาระที* 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท8งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ช+ีวดั 1. ฟังและพดู /อ่าน ในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร*ืองมือพืน8 ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ

การแลกเปลยี* นเรียนรู้กบั สังคมโลก
ตวั ช+ีวดั 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่างๆ

2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั อาหาร ผกั ผลไม้ เงินตราของประเทศองั กฤษ (pound/pence) คาํ คุณศพั ท์

(cheap/expensive) คาํ บุพบท (near/between) การใช้ some/any, there is/there are, have got/has got และ
บทสนทนาเพื:อถาม-ตอบเกี:ยวกบั ราคา ทาํ ใหผ้ เู้ รียนขอและใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั สินคา้ และราคา อ่านจบั ใจความ
พดู /เขียนบรรยายส+นั ๆ เกี:ยวกบั ร้านคา้ และแสดงความคิดเห็นเกี:ยวกบั ราคาสินคา้ ได้ ซ:ึงเป็นการเรียนรู้
ภาษาองั กฤษเพ:ือนาํ ไปใชส้ :ือสารในชีวติ ประจาํ วนั

3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- Pronunciation: initial sound /k/
- กลุ่มคาํ ประโยคเดี:ยว และความหมาย เกี:ยวกบั อาหาร เครื:องดื:ม การซ+ือ-ขาย
- ประโยค บทสนทนา เน+ือเรื:องส+นั ๆ ท:ีมีภาพประกอบ
- คาํ ศพั ท์ สาํ นวน และประโยคท:ีใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ส:ิงใกลต้ วั
เช่น Have you got any rice? Yes, I have some.
How much does it cost? It costs……

122

- ประโยคและขอ้ ความที:ใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ตนเอง และเรื:องใกลต้ วั เช่น อาหาร
- คาํ กลุ่มคาํ ที:มีความหมายสมั พนั ธ์ของสิ:งต่างๆ ใกลต้ วั เช่น Food pyramid
- ประโยคท:ีใชแ้ สดงความคิดเห็นเกี:ยวกบั เร:ืองต่างๆ ใกลต้ วั เช่น เปรียบเทียบราคาสินคา้
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง
- ความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
- คาํ ศพั ทท์ ี:เก:ียวขอ้ งกบั อาหาร (สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา)
- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ท:ีเกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาํ ศพั ทท์ :ีเกี:ยวขอ้ งใกลต้ วั จากสื:อและ

แหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
- การใช้ some/any, there is/there are, have got/has got, prepositions (near, between)
- English Currency: pound, pence

4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน

4.1 ความสามารถในการสื*อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

- การคิดวเิ คราะห์
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - อยอู่ ยา่ งพอเพียง
- ใฝ่ เรียนรู้
- มีจิตสาธารณะ

6. ชิ8นงาน/ภาระงาน
- การเขียนเก:ียวกบั อาหารท:ีชอบและไม่ชอบ
- การรวบรวมคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั Fruits, Vegetables, Meat หรือ Sweet and cookies
- การรวบรวมคาํ ศพั ทจ์ ากบรรจุภณั ฑอ์ าหาร
- การทาํ โปสเตอร์พรี ะมิดอาหาร
- การสาํ รวจราคาสินคา้
- การร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบ
- การรวบรวมคาํ ศพั ทใ์ น Your word book

123

7. การวดั และการประเมนิ ผล

7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ

7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบยอ่ ย (English Test)
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม

7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- การประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการเขียนเกี:ยวกบั อาหารที:ชอบและไม่ชอบ
- ประเมินการรวบรวมคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั Fruits, Vegetables, Meat หรือ Sweet and cookies
- ประเมินการรวบรวมคาํ ศพั ทจ์ ากบรรจุภณั ฑอ์ าหาร
- ประเมินการทาํ โปสเตอร์พีระมิดอาหาร
- ประเมินการสาํ รวจราคาสินคา้
- ประเมินการร้องเพลงและแสดงท่าทางประกอบ
- ประเมินการรวบรวมคาํ ศพั ทใ์ น Your word book

8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั แนบมาพร้อมน+ี
- กิจกรรมนาํ สู่การเรียน
- กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้
- กิจกรรมรวบยอด

9. ส*ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ และแถบประโยค

124

5. ภาพอาหาร ผกั และผลไม้
6. กระดาษวาดรูป
7. อินเทอร์เน็ต
8. แผน่ ป้าย Audio Script
9. ภาพสิ:งของที:มีป้ายบอกราคา

125

แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 3 At the market (Lesson 1)

1. สาระสําคญั
เรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั อาหาร ผกั และผลไม้ การใช้ some/any, there is/there are, have got/has got

การออกเสียงคาํ ศพั ทท์ :ีข+ึนตน้ ดว้ ย c (initial sound /k/) ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถสนทนาขอและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั
อาหารหรือสินคา้ การอ่านและการเขียนบรรยายส+นั ๆ เกี:ยวกบั อาหาร ซ:ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพื:อ
นาํ ไปใชส้ :ือสารในชีวติ ประจาํ วนั

2. ตวั ชี8วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสียง สะกดคาํ และระบุภาพ/บอกความหมายคาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั อาหารได้
(ต 1.1/2, ต1.1/3)
- ใช้ there is/there are ไดถ้ ูกตอ้ ง (ต 1.2/4)
- ใช้ some/any ไดถ้ ูกตอ้ ง (ต 1.1/3)
- อ่านเร:ืองแลว้ ตอบคาํ ถามได้ (ต 1.1/4)
- พดู และเขียนขอและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั อาหารหรือสินคา้ ได้ (ต 1.2/4, ต 4.1/1)
- เขียนบรรยายเก:ียวกบั อาหารม+ือโปรดของตนเองได้ (ต 1.3/1)
- ออกเสียงคาํ ศพั ทท์ ี:ข+ึนตน้ ดว้ ยตวั อกั ษร c ได้ (ต 1.1/2, ต 2.2/1)
- เล่นเกมภาษาองั กฤษได้ (ต 2.1/3)

3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- Pronunciation: initial sound /k/
- กลุ่มคาํ ประโยคเดี:ยว และความหมาย เก:ียวกบั อาหาร เครื:องดื:ม การซ+ือ-ขาย
- ประโยค เน+ือเร:ืองส+นั ๆ ที:มีภาพประกอบ
- คาํ ศพั ท์ สาํ นวน และประโยคที:ใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั สิ:งใกลต้ วั เช่น
Have you got any rice? Yes, I have got some.
- ประโยคและขอ้ ความท:ีใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเองและเรื:องใกลต้ วั เช่น อาหาร
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม

126

- ความแตกต่างของเสียงตวั อกั ษรของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย
- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ท:ีเกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
- การใช้ some/any, there is/there are, have got/has got

4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน

4.1 ความสามารถในการสื*อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

- การคิดวเิ คราะห์
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ใฝ่ เรียนรู้
- มีจิตสาธารณะ

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

6.1 ชั*วโมงท*ี 1-2

óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. นกั เรียนดูภาพ Supermarket ในหนังสือเรียน หน้า 32 ข้อ 1 What can you see? แลว้ บอกครูวา่ เห็น
สินคา้ อะไรบา้ ง
Teacher: What can you see in the supermarket?
Students: oranges, rice, bananas, soup, chicken, eggs, pears, strawberries,
carrots, cookies, cake
2. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาํ ศพั ท์ ในหนังสือเรียน หน้า 32 ข้อ 2 Read, look and find. แลว้ หาวา่ ภาพ
คาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีอยตู่ รงส่วนไหนของภาพใหญ่ใน ขอ้ 1 ขา้ งบน เม:ือพบแลว้ จึงบอกครู
3. นกั เรียนนาํ คาํ ศพั ทท์ :ีกาํ หนดให้ ในแบบฝึ กหัด หน้า 24 ข้อ 1 Look and label. ไปเติมลงในภาพ
ใหถ้ ูกตอ้ ง จากน+นั จึงช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ

127

1 oranges 5 chicken
2 bananas 6 strawberries
3 pears 7 cake
4 eggs 8 bread

4. นกั เรียนอ่านคาํ ถาม ในแบบฝึ กหัด หน้า 24 ข้อ 2 Look at the picture and answer. พร้อมๆ กนั แลว้
เขียนตอบคาํ ถามโดยดูภาพ Supermarket ในขอ้ 1 ประกอบ เสร็จแลว้ ครูอ่านคาํ ถามทีละขอ้ ให้
นกั เรียนช่วยกนั ตอบคาํ ถามดงั กล่าว

1 Two women.
2 No, I can’t.
3 Pears, bananas, strawberries, etc.
4 Yes, I can.
5 No, I can’t.

5. ครูบอกนกั เรียนวา่ ใน Unit 3 น+ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนเก:ียวกบั เรื:องคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั อาหาร โครงสร้าง
ประโยค There is a/an (คาํ นามเอกพจน)์ ., There are (คาํ นามพหูพจน)์ . และ verb to have

ó กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. ครูแสดงบตั รภาพคาํ ศพั ทจ์ าก Word box ในหนังสือเรียน หน้า 33 ข้อ 1 Listen, point and repeat.
ใหน้ กั เรียนดูทีละ 1 ภาพ ครูออกเสียงคาํ ศพั ท์ และใหน้ กั เรียนช+ีรูปภาพตาม พร้อมออกเสียงคาํ ศพั ท์
ตามไปดว้ ย จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนสะกดคาํ ศพั ทท์ ี:ครูเขียนบนกระดาน
Teacher: Could you spell this, please? (ครูชูบตั รภาพขนมปัง)
Students: B – R – E – A – D.
ครูอธิบายเพ:ิมเติมวา่ cookies เป็นคาํ ศพั ทแ์ บบ American English ส่วน biscuits เป็นคาํ ศพั ทแ์ บบ
British English ท+งั 2 คาํ มีความหมายเหมือนกนั จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 37 ใหน้ กั เรียนฟังและฝึก
ออกเสียงตาม 2 รอบ

bread chicken biscuits pears strawberries
carrots cake egg rice soup

128

2. นกั เรียนดูรูปภาพในหนังสือเรียน หน้า 33 ข้อ 2 Listen and number. แลว้ ตอบคาํ ถามครูวา่ ภาพใน

แต่ละภาพคือภาพอะไร
Teacher: What is picture A?
Students: It is bread.
Teacher: What is picture B?

Students: It is cake.
Teacher: What is picture C?
Students: They are biscuits.
etc.

เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD/track 38 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง แลว้ เรียงลาํ ดบั รูปภาพตามประโยคท:ีไดย้ นิ จาก
CD โดยเขียนคาํ ตอบลงในสมุด

1 I eat rice every day.
2 The strawberries are red.
3 Carrots are good for eyes.
4 Bobby doesn’t like biscuits.
5 I eat eggs every day.
6 Give me a cake, please.
7 Chicken is my favourite food.
8 Is there a pear?
9 My sister likes bread.
10 I don’t like soup.

1 F 4C 7 G 10 D
2 I 5E 8H
3 J 6B 9A

จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 38 ใหน้ กั เรียนฟังทีละประโยค แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียนทีละคน ใหอ้ อกมา
หยบิ บตั รคาํ ตามประโยคที:ไดย้ นิ

129

3. นกั เรียนอ่านประโยคที:กาํ หนดให้ ในหนังสือเรียน หน้า 33 ข้อ 3 Listen and write. แลว้ ครูเปิ ด
CD/track 39 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 รอบ และเติมคาํ ท:ีขาดหายไปในประโยคใหส้ มบูรณ์ โดยทาํ ลงในสมุด
เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาํ ตอบ และใหน้ กั เรียนอ่านประโยคตาม CD อีกคร+ัง

1 I like bread.
2 I don’t like biscuits.
3 Mark doesn’t like carrots.
4 Mary and Maria like chicken.
5 They don’t like strawberries.

1 bread 3 carrots 5 strawberries
2 biscuits 4 chicken

4. นกั เรียนอ่านประโยค 1-4 ในหนังสือเรียน หน้า 34 ข้อ 4 Look, listen and circle ‘true’ or ‘false’.
แลว้ ครูเปิ ด CD/track 41 ใหน้ กั เรียนฟังวา่ ประโยค 1-4 ประโยคใดถูก (true) ประโยคใดผดิ (false)

This is my fridge. Lots of food is in it. There is bread. I eat it every day.
There are some eggs, chicken, and fish. I like fruit. There are strawberries,
bananas, pears and some orange juice in the fridge.

1 true 2 true 3 false 4 true

5. ครูอธิบายเกี:ยวกบั การใช้ There is/There are … ใหน้ กั เรียนฟังวา่ There is/There are
มีความหมายวา่ ‘มี’ เหมือนกบั คาํ วา่ have got/has got แต่ไม่ไดแ้ สดงความเป็นเจา้ ของ เช่น
There is a pen on a table. มีความหมายเท่ากบั A pen is on a table.
โดย There is/There are มีโครงสร้างประโยค ดงั น+ี
There is + a/an + คาํ นามเอกพจน์ + place. เช่น There is a pen on a table.

There are + คาํ นามพหูพจน์ + place. เช่น There are 15 students in the classroom.

130

จากน+นั ครูเขียนแบบฝึกหดั เก:ียวกบั การใช้ There is/There are ใหน้ กั เรียนฝึกทาํ พร้อมกนั บน
กระดานดงั น+ี
เลอื กเติม There is หรือ There are ให้ถูกต้อง
1) an orange on the dish. (There is)
2) five bananas in the fridge. (There are)
3) many trees in the jungle. (There are)
4) thirty-two students in this class. (There are)
5) a doctor in the room. (There is)
6. ครูอธิบายเกี:ยวกบั โครงสร้าง และหลกั ในการใช้ Verb to have กบั have got/has got ดงั น+ี

โครงสร้าง Verb to have
ประธาน have

I has
You
We
They
คาํ นามพหูพจน์
He
She
It
คาํ นามเอกพจน์

Have/Has เป็น กริยาแทแ้ ปลวา่ ‘มี’
เช่น ประโยคบอกเล่า: She has a carrot.
ประโยคปฏิเสธ: She doesn’t have a carrot.
ประโยคคาํ ถาม: Does she have a carrot?
เราสามารถใชค้ าํ วา่ “have got” แทนคาํ วา่ have ได้ ถา้ have มีความหมายวา่ ‘มี’แต่ในประโยค
ที:ใช้ have got เม:ือทาํ เป็นปฏิเสธหรือคาํ ถาม ไม่ตอ้ งใช้ v. to do เขา้ มาช่วย

เช่น ประโยคบอกเล่า: She has got a carrot.
ประโยคปฏิเสธ: She hasn’t got a carrot.
ประโยคคาํ ถาม: Has she got a carrot?
Have got (have you got, he hasn’t got, etc.) โดยทว:ั ไปจะใชใ้ น British English ขณะที: Have
(do you have, he doesn’t have, etc.) นิยมใชใ้ น American English

131

ครูเขียนแบบฝึกหดั ง่ายๆ เกี:ยวกบั การใช้ have got/has got บนกระดาน ดงั น+ี
เติม Have หรือ Has ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1) you got any bread? (Have)
2) They got a car. (have)
3) Kim got blue eyes. (has)
4) Jane got a new bag. (has)
5) I got some orange juice. (have)

ó กจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือน หาคาํ ศพั ทจ์ ากในแบบฝึ กหัด หน้า 25 ข้อ 1 Find ten words about food.
วงกลมคาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั อาหารในตารางใหถ้ ูกตอ้ ง โดยครูอาจช่วยนกั เรียนดว้ ยการเขียนคาํ ศพั ทท์ :ี
ตอ้ งการใหน้ กั เรียนหาบนกระดาน เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ นกั เรียนตรวจและ
แกไ้ ขงานของตนเองในแบบฝึกหดั

แนวนอน: bread, cake, chicken, carrot, pear, strawberry
แนวต+งั : soup, biscuit, rice, egg

2. นกั เรียนอ่านคาํ ศพั ทใ์ นแบบฝึ กหัด หน้า 25 ข้อ 2 Draw lines to match the pictures with the words.
พร้อมๆ กนั แลว้ จบั คู่รูปภาพใหต้ รงกบั คาํ ศพั ท์
1 soup 3 cake 5 oranges
2 rice 4 eggs 6 pears

3. ครูนาํ บรรจุภณั ฑเ์ กี:ยวกบั อาหาร เช่น อาหารเชา้ ธญั พืช นม กาแฟ
หมากฝร:ัง แลว้ ช+ีใหน้ กั เรียนดูคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษท:ีอยบู่ น
บรรจุภณั ฑด์ งั กล่าว และออกเสียงคาํ ศพั ท์ ใหน้ กั เรียนอ่านตาม
เช่น cereal, milk, coffee, gum ครูแนะนาํ วา่ นกั เรียนสามารถเรียนรู้คาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษไดจ้ าก
สิ:งต่างๆ รอบตวั จากน+นั ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปสาํ รวจบรรจุภณั ฑเ์ กี:ยวกบั อาหารท:ีบา้ นของ
ตนเองหรือในร้านคา้ ใกลบ้ า้ น อยา่ งนอ้ ย 5 ชนิด แลว้ วาดรูปบรรจุภณั ฑด์ งั กล่าว ใส่ในกระดาษ A4
พร้อมท+งั เขียนคาํ ศพั ทแ์ ละคาํ แปลมาส่งครู โดยตกแต่งใหส้ วยงาม เม:ือครูตรวจเสร็จแลว้ นาํ ผลงาน
ของนกั เรียนมาติดที:บอร์ดของหอ้ งเรียน

4. ในชว:ั โมงหนา้ ครูใหน้ กั เรียนเตรียมภาพอาหาร ผกั หรือผลไมม้ าคนละ 1 หนา้

132

6.2 ช*ัวโมงที* 3-4

ó กจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูทบทวนคาํ ศพั ทห์ มวดหมู่อาหาร ผกั และผลไม้ ดว้ ยบตั รภาพและบตั รคาํ
2. ครูชูบตั รภาพแอปเปิ ล แลว้ บอกนกั เรียนวา่
Teacher: I have got some apples.
ครูชูบตั รภาพสม้ ซ:ึงมีเครื:องหมายกากบาท แลว้ บอกนกั เรียนวา่
Teacher: I haven’t got any oranges.
ครูเขียนคาํ วา่ “some” และ “any” บนกระดาน ใหน้ กั เรียนออกเสียงตามครู ครูบอกนกั เรียนวา่ วนั น+ี
นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เกี:ยวกบั การใช้ some และ any

ó กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. ครูอธิบายหลกั การใช้ some กบั any วา่ ใชแ้ ตกต่างกนั อยา่ งไร
some และ any มีความหมายวา่ “บา้ ง”
แต่ใชแ้ ตกต่างกนั โดย some ใชก้ บั ประโยคบอกเล่า
ส่วน any ใชก้ บั ประโยคคาํ ถามและปฏิเสธ
เช่น I have got some eggs in the fridge. (บอกเล่า)
I haven’t got any eggs in the fridge. (ปฏิเสธ)

Have you got any eggs in the fridge? (คาํ ถาม)
ครูอธิบายการใช้ และเขียนลงบนกระดาน ใหน้ กั เรียนจดลงในสมุด จากน+นั ครูเขียนแบบฝึกหดั
เก:ียวกบั การใช้ some และ any ใหน้ กั เรียนฝึกทาํ พร้อมๆ กนั บนกระดาน
เติม some หรือ any ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1) Have you got _______ oranges on the dish? (any)
2) There are ___________ eggs in the fridge. (some)
3) Kim has ____________ money. (some)
4) Has she got ___________ pencils? (any)
2. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพื:อน และใชภ้ าพอาหาร ผกั หรือผลไมท้ ี:เตรียมมาฝึกพดู ประโยคโดยใช้ some
และ any
3. นกั เรียนดูรูปภาพ ในหนังสือเรียน หน้า 34 ข้อ 5 Look and say. แลว้ ใหน้ กั เรียนพดู และสะกด

คาํ ศพั ท์ จากน+นั ครูถือบตั รคาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีทีละใบ โดยไม่ใหน้ กั เรียนเห็นคาํ ศพั ท์ แลว้ ใหน้ กั เรียนถาม
ครูโดยใชโ้ ครงสร้าง Have you got any…….? ถา้ ครูถือคาํ ศพั ทต์ รงกบั ที:นกั เรียนบอก ครูพดู Yes, I
have got some. ถา้ ไม่ตรง ครูพดู No, I haven’t got any.

133

จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ฝึกพดู ถาม-ตอบ โดยใชโ้ ครงสร้าง Have you got any…….? ในการถาม
ส่วนในการตอบ ถา้ อาหารที:ถามอยใู่ นกรอบที:มีเครื:องหมาย P แสดงวา่ ‘มี’ ใหพ้ ดู ตอบวา่
Yes, I have got some. แต่ถา้ อยใู่ นกรอบท:ีมีเครื:องหมาย Í แสดงวา่ ‘ไม่มี’ ใหพ้ ดู ตอบวา่ No, I
haven’t got any. เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คู่ ออกมานาํ เสนอหนา้ ช+นั เรียน

A: Have you got any rice?
B: Yes, I have got some.
A: Have you got any cakes?
B: Yes, I have got some.
A: Have you got any carrots?
B: Yes, I have got some.
A: Have you got any eggs?
B: Yes, I have got some.
A: Have you got any oranges?
B: No, I haven’t got any.
A: Have you got any milk?
B: No, I haven’t got any.
A: Have you got any bread?
B: No, I haven’t got any.
A: Have you got any soup?
B: No, I haven’t got any.
4. นกั เรียนอ่านคาํ พดู ในกรอบของ Linda, Polly และ Bob ในหนังสือเรียน หน้า 35 ข้อ 6 Who is who?
Read and find out. แลว้ จบั คู่คาํ พดู ในกรอบดงั กล่าวกบั ภาพ A-C ท:ีสมั พนั ธ์กนั

A = Polly B = Bob C = Linda

เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมเพ:ิมเติม โดยใหน้ กั เรียนแต่ละคนเลือกวา่ จะเป็น Linda, Polly
หรือ Bob จากน+นั ใหค้ นที:เลือกเหมือนกนั มานงั: รวมกลุ่มกนั และฝึกอ่านออกเสียงดว้ ยกนั โดยใหเ้ ดก็
ท:ีเก่งช่วยเหลือเดก็ ท:ีอ่อน พร้อมอธิบายวา่ การเป็นคนเก่งอยา่ งเดียว ไม่ไดเ้ ป็นตวั ช+ีวดั วา่ นกั เรียนจะ
เป็นคนดีหรืออยรู่ อดไดใ้ นสงั คม แต่ถา้ นกั เรียนเป็นคนดีมีน+าํ ใจ รู้จกั ให้ เอ+ือเฟ+ื อเผอ:ื แผแ่ ก่คนอ:ืน
นกั เรียนกจ็ ะเป็นท:ีรักของคนอื:น ซ:ึงจะกลายเป็นเกราะป้องกนั ภยั ใหก้ บั นกั เรียน เพราะเมื:อมีปัญหา
กม็ ีคนที:พร้อมจะใหค้ วามช่วยเหลือ

134

เมื:อนกั เรียนพร้อมแลว้ ครูใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มอ่านออกเสียงพร้อมๆ กนั โดยครูช่วยแกไ้ ขในเร:ือง
ของการออกเสียงที:ผดิ และแบ่งวรรคตอนในการอ่านที:ไม่เหมาะสม
5. ครูแจกกระดาษ A4 ที:ใชแ้ ลว้ 1 หนา้ (Recycle) ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ แลว้ วาดภาพอาหารม+ือ
โปรดของตนเองลงไป จากน+นั ใหน้ กั เรียนเขียนบรรยายอาหารม+ือน+นั ของตนเอง โดยดูตวั อยา่ ง
คาํ ข+ึนตน้ ประโยคจากในหนังสือเรียน หน้า 35 ข้อ 7 Draw your favourite meal. Write what is in it.
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนตกแต่งผลงานของตนเองใหส้ วยงาม แลว้ ออกมาพดู นาํ เสนอหนา้ ช+นั เรียน
เม:ือครูตรวจประเมินเสร็จแลว้ นาํ ผลงานของนกั เรียนไปติดบอร์ด

(Suggested Answer)
My favourite meal is dinner. I have dinner at seven.
I like fish, sandwiches, soup and apples for dinner.
(วาดรูป ปลา แซนดว์ ชิ ซุป แลว้ กแ็ อปเปิ ล)
6. ครูสอนการออกเสียงคาํ ศพั ทท์ ี:ข+ึนตน้ ดว้ ย c โดยอธิบายวา่ c จะออกเสียง /k/ “เคอะ” หรือเทียบกบั
ตวั อกั ษรภาษาไทยแลว้ จะมีเสียงใกลเ้ คียงกบั ตวั “ค” จากน+นั ครูเขียนคาํ ศพั ทต์ ่อไปน+ีบนกระดาน
cat, cap, cot, cup, cake แลว้ ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตามครู
7. นกั เรียนอ่านประโยคที:กาํ หนดใหใ้ นหนังสือเรียน หน้า 35 Listen and say. พร้อมๆ กนั จากน+นั ครู
เปิ ด CD/track 42 ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านตาม CD หลายๆ รอบ จนนกั เรียนสามารถอ่านไดค้ ล่อง
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 10 คน ใหล้ ุกข+ึนยนื และอ่านทีละคน

There are carrots and cup cakes in the fridge.
ó กจิ กรรมรวบยอด

1. นกั เรียนอ่านบทสนทนาในแบบฝึ กหัด หน้า 25 ข้อ 3 Listen and write. แลว้ ครูเปิ ด CD/track 40 ให้
นกั เรียนฟัง 2 รอบ แลว้ เติมคาํ ลงในช่องวา่ งใหถ้ ูกตอ้ ง ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน ใหอ้ ่านบทสนทนา
คนละ 1 ขอ้ โดยครูเขียนคาํ ตอบท:ีนกั เรียนอ่านบนกระดาน จากน+นั ครูเปิ ด CD อีกคร+ัง เพื:อเป็นการ
เฉลยคาํ ตอบ โดยครูใส่เครื:องหมายขีด Pหรือ Í หลงั คาํ ตอบของนกั เรียน และแกไ้ ขขอ้ ท:ีผดิ ให้
ถูกตอ้ ง เพื:อเป็นการเฉลยคาํ ตอบ

135

1 A: Do you like apples?
B: No. I like strawberries.

2 A: What is your favourite food?
B: I like chicken.

3 A: Have you got carrots?
B: Yes, I have.

4 A: What is your favourite fruit?
B: My favourite fruit is pears.

5 A: Do you like soup?
B: Yes.

1 strawberries 3 carrots 5 soup
2 chicken 4 pears

2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกวธิ ีการใช้ some และ any และสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ใหแ้ ต่งประโยค
โดยใช้ some และ any อยา่ งละ 1 ประโยค เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบฝึ กหัด หน้า 26 ข้อ 4
Complete the sentences with some or any. จากน+นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนใหเ้ ฉลยคาํ ตอบ คนละ 1 ขอ้
โดยครูเขียนเฉลยบนกระดานอีกคร+ัง

1 some 4 any 7 any 10 some
2 some 5 some 8 some
3 any 6 any 9 any

3. ครูอธิบายวา่ ใหน้ กั เรียนจบั คู่ประโยคคาํ ถาม (1-6) และคาํ ตอบ (a-f) ที:กาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด
หน้า 26 ข้อ 5 Look and match the answers with the questions. โดยดูรูปภาพที:กาํ หนดใหเ้ พ:ือเป็น
คาํ ใบ้ ถา้ รูปอาหารอยใู่ นกลุ่มหนา้ ยมิ+ J แสดงวา่ ตอบ Yes แต่ถา้ อยใู่ นกลุ่มหนา้ บ+ึง L แสดงวา่
ตอบ No

1c 3b 5d
2f 4e 6a

136

4. นกั เรียนอ่านประโยค 1-5 ในแบบฝึ กหัด หน้า 27 ข้อ 6 Read and say true or false. พร้อมๆ กนั
จากน+นั ครูบอกใหน้ กั เรียนอ่านเน+ือเร:ืองที:กาํ หนดใหซ้ :ึงเป็นเร:ืองเกี:ยวกบั อาหารที:เดก็ 2 คนชอบ เพ:ือ
หาวา่ ประโยค 1-5 ถูกหรือผดิ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงเน+ือเรื:องพร้อมๆ กนั แลว้ ช่วยกนั
เฉลยคาํ ตอบ ครูเขียนคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งบนกระดาน

1 false 3 false 5 true
2 true 4 true

5. นกั เรียนทาํ แบบฝึ กหัด หน้า 27 ข้อ 7 Write about the food you like and don’t like. โดยครูแจก
กระดาษ A4 ใหน้ กั เรียนคนละ 1 แผน่ ใหน้ กั เรียนหาภาพหรือวาดรูปอาหารที:นกั เรียนชอบและ
ไม่ชอบ แลว้ เขียนบรรยายโดยดูตวั อยา่ งการเขียนจากเน+ือเร:ืองในหนงั สือเรียน หนา้ 27 ขอ้ 6 เมื:อ
นกั เรียนทาํ เสร็จแลว้ ใหอ้ อกมาพดู นาํ เสนอหนา้ ช+นั เรียนทีละคน แลว้ นาํ ผลงานนกั เรียนไปติดบอร์ด
หนา้ ช+นั เรียน
6. ครูทบทวนการออกเสียง /k/ โดยเปรียบเทียบกบั การออกเสียง /g/ จากน+นั ครูเขียนคาํ ศพั ทบ์ น
กระดาน ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงคาํ ศพั ทต์ ามครู
/k/ เคอะ cat can cap cup cot
/g/ เกอะ gum get gap gun got
จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 43 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 รอบ แลว้ ใหน้ กั เรียนวงกลมคาํ ศพั ทท์ ี:ไดย้ นิ จาก CD
ใหถ้ ูกตอ้ ง ในแบบฝึ กหัด หน้า 27 Listen: came, game. Listen, circle and say.

got cap gum

7. ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม แลว้ แจกกระดาษวาดรูปแผน่ ใหญ่ ใหก้ ลุ่มละ 1 แผน่ จากน+นั ครู
กาํ หนดใหก้ ลุ่ม 1 หาคาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั Fruits กลุ่ม 2 Vegetables กลุ่ม 3 Meat กลุ่ม 4 Sweet แลว้ นาํ
คาํ ศพั ทท์ :ีหาไดม้ าเขียนลงในกระดาษท:ีครูแจก และวาดรูปประกอบใหส้ วยงาม พร้อมคาํ แปล เสร็จ
แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมานาํ เสนอผลงานหนา้ ช+นั เรียน เมื:อครูตรวจความถูกตอ้ งแลว้ ใหน้ กั เรียนนาํ
ผลงานไปติดในหอ้ ง เพื:อทาํ เป็นสื:อการเรียนรู้ในหอ้ งเรียน

8. ครูใหน้ กั เรียนคน้ ควา้ เกี:ยวกบั หน่วยเงินตราของประเทศองั กฤษจากอินเทอร์เน็ต เพื:อมาบอกครูใน
ชว:ั โมงหนา้

9. ครูใหน้ กั เรียนหารูปภาพสิ:งของท:ีมีป้ายบอกราคามาคนละ 1 ภาพ เช่น จากโบรชวั ร์ (Brochure)
นิตยสาร
137

7. การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการเขียนเกี:ยวกบั อาหารที:ชอบและไม่ชอบ
- ประเมินการรวบรวมคาํ ศพั ทจ์ ากบรรจุภณั ฑอ์ าหาร
- ประเมินการรวบรวมคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั Fruits, Vegetables, Meat หรือ Sweet

8. ส*ือ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ
5. ภาพอาหาร ผกั และผลไม้
6. กระดาษวาดรูป
7. อินเทอร์เน็ต

138

แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 3 At the market (Lesson 2)

1. สาระสําคญั
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั อาหาร ผกั ผลไม้ เงินตราของประเทศองั กฤษ (pound/pence)

คาํ คุณศพั ท์ (cheap/expensive) คาํ บุพบท (near/between) บทสนทนาเพ:ือถามราคา ทาํ ใหผ้ เู้ รียนขอและให้
ขอ้ มูลเกี:ยวกบั สินคา้ และราคา อ่านจบั ใจความ พดู /เขียนบรรยายส+นั ๆ เก:ียวกบั ร้านคา้ และแสดงความ
คิดเห็นเกี:ยวกบั ราคาสินคา้ ได้ ซ:ึงเป็นการเรียนรู้ภาษาองั กฤษเพ:ือนาํ ไปใชส้ :ือสารในชีวติ ประจาํ วนั

2. ตวั ชี8วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
- อ่านออกเสียง สะกดคาํ ระบุภาพ/บอกความหมาย และรวบรวมคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั อาหารได้
(ต 1.1/2, ต 1.1/3, ต 3.1/1, ต 4.2/1)
- พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั การซ+ือ-ขายอาหารได้ (ต 1.2/4, ต 4.1/1)
- พดู /เขียนแสดงความคิดเห็นเก:ียวกบั ราคาสินคา้ วา่ ถูกหรือแพงได้ (ต 1.3/3)
- คิดราคาสินคา้ ท:ีมีหน่วยเป็น pound และ pence ได้ (ต 1.2/4)
- อ่านเรื:องแลว้ ตอบคาํ ถามได้ (ต 1.1/4)
- เขียนบรรยายส+นั ๆ เกี:ยวกบั สินคา้ ในร้านคา้ ได้ (ต 1.1/3)
- ร้องเพลงและเล่นเกมภาษาองั กฤษได้ (ต 2.1/3)
- เขียนพีระมิดอาหาร (Food pyramid) เพ:ืออธิบายเก:ียวกบั อาหารท:ีควรรับประทานในแต่ละวนั ได้
(ต 1.3/2)

3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- กลุ่มคาํ ประโยคเด:ียว และความหมาย เก:ียวกบั อาหาร เคร:ืองด:ืม การซ+ือ-ขาย
- ประโยค บทสนทนา เน+ือเรื:องส+นั ๆ ที:มีภาพประกอบ
- คาํ ศพั ท์ สาํ นวน และประโยคท:ีใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ส:ิงใกลต้ วั
เช่น Have you got any rice? Yes, I have got some.
How much does it cost? It costs….
- ประโยคและขอ้ ความที:ใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเองและเรื:องใกลต้ วั เช่น อาหาร

139

- คาํ กลุ่มคาํ ที:มีความหมายสมั พนั ธ์ของส:ิงต่างๆ ใกลต้ วั เช่น Food pyramid
- ประโยคท:ีใชแ้ สดงความคิดเห็นเกี:ยวกบั เรื:องต่างๆ ใกลต้ วั เช่น เปรียบเทียบราคาสินคา้
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง
- คาํ ศพั ทท์ :ีเกี:ยวขอ้ งกบั อาหาร (สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา)
- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ท:ีเกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาํ ศพั ทท์ :ีเก:ียวขอ้ งใกลต้ วั จากสื:อและ
แหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
- English currency: pound, pence

4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื*อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดวเิ คราะห์
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์

5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- อยอู่ ยา่ งพอเพียง
- ใฝ่ เรียนรู้

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
6.1 ชั*วโมงท*ี 5-6

óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ทบทวนคาํ ศพั ท์ รูปประโยคจากบทเรียนที:ผา่ นมาดว้ ยบตั รคาํ บตั รภาพ และแถบประโยค
2. ครูถามนกั เรียนวา่ หน่วยเงินตราของประเทศองั กฤษคืออะไร
3. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ในบทเรียนน+ีวา่ นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เกี:ยวกบั การพดู ขอและใหข้ อ้ มูล
เก:ียวกบั ราคาสินคา้ ท:ีมีหน่วยเป็น pound และ pence ซ:ึงเป็นหน่วยเงินตราขององั กฤษ และการพดู
แสดงความคิดเห็นเกี:ยวกบั ราคาสินคา้ วา่ ถูกหรือแพง

140

ó กจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. ครูหยบิ บตั รภาพคาํ ศพั ทใ์ น Word box ในหนังสือเรียน หน้า 36 ข้อ 1 Listen, point and repeat.
มาแสดงใหน้ กั เรียนดูทีละภาพ แลว้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงตามครู จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 44 ให้
นกั เรียนฝึกออกเสียงตาม 3 รอบ โดยช+ีรูปภาพในหนงั สือเรียนตามไปดว้ ย

pound pence between
cheap expensive

ครูบอกความหมายของคาํ วา่ pound และ pence ใหน้ กั เรียนฟัง
pound = เงินปอนด์ (หน่วยเงินตราขององั กฤษ)
pence = เงินเพนซ์ (พหูพจนข์ องเพนนี)
หมายเหตุ: คาํ วา่ pound ในภาษาไทยคือ เงินปอนด์ แต่เวลาออกเสียงในภาษาองั กฤษ
ใหอ้ อกเสียงวา่ เพานด์
2. นกั เรียนเล่นเกม “ถามราคา” โดยครูนาํ บตั รภาพส:ิงของที:มีราคาติดป้าย หรืออาจจะเป็นโบรชวั ร์
(Brochure) แลว้ ถามนกั เรียนวา่ ส:ิงของชิ+นน+ีราคาเท่าไร ถูกหรือแพง นกั เรียนช่วยกนั ตอบ จากน+นั ครู
สุ่มเรียกนกั เรียนใหต้ อบคาํ ถามทีละคนจนครบ
Teacher: How much does it cost? (ชูภาพท:ีมีราคาติดดว้ ย
สมมติวา่ เป็นภาพสม้ ราคา 32 บาท)
Students: It’s thirty-two baht.

Teacher: Is it expensive?
Students: Yes, it is. (No, it isn’t.)
3. นกั เรียนนาํ รูปภาพส:ิงของที:มีป้ายบอกราคาซ:ึงครูใหเ้ ตรียมมาวางไวบ้ นโตะ๊ จากน+นั ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 1 คน ใหอ้ อกมาถามราคาของสินคา้ ในภาพของตนเองวา่ ราคาเท่าไหร่ ถูกหรือแพง โดยครู
เขียนโครงสร้างประโยคในการถาม-ตอบบนกระดาน ใหน้ กั เรียนคนท:ีถามสุ่มเลือกเพ:ือนที:จะตอบ
ถา้ เพ:ือนตอบถูกแลว้ ใหเ้ พ:ือนคนดงั กล่าวออกมาเป็นคนถาม ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมเช่นน+ีต่อไป
เรื:อยๆ จนครบทุกคน
A: How much does it cost?
B: It costs (ราคา) baht.
A: Is it cheap/expensive?

B: Yes, it is./No, it isn’t.

141

4. ครูอธิบายค่าสกลุ เงินปอนด์ (pound) กบั เพนซ์ (pence) วา่ มีค่าเท่าไร ดงั น+ี
Teacher: There are 100 pence in a pound.

1 ปอนด์ จะมี 100 เพนซ์ ฉะน+นั ถา้ มี 200 เพนซ์ กจ็ ะเท่ากบั 2 ปอนด์ ถา้ มี 500 เพนซ์ จะเท่ากบั 5
ปอนด์ และตวั อกั ษรที:ใชแ้ ทน ปอนดแ์ ละเพนซ์ กค็ ือ £ = ปอนด,์ p = เพนนี, เพนซ์
จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านราคาสินคา้ ในหนังสือเรียน หน้า 36 ข้อ 2 Listen, read and say the price.
ใหถ้ ูกตอ้ ง ดงั น+ี
chicken = £1.80 = one pound eighty
juice = 80p = eighty pence
milk = 60p = sixty pence
cake = £3.50 = three pounds fifty
ครูเปิ ด CD/track 45 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง แลว้ ใหน้ กั เรียนตอบคาํ ถามครู ดงั น+ี
Teacher: How much does the chicken cost?
Students: One pound eighty.
Teacher: How much does the juice cost?

Students: Eighty pence.
Teacher: How much does the milk cost?
Students: Three pounds twenty.

ครูติดแผน่ ป้าย Audio Script บนกระดาน ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตาม CD จากน+นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่
กบั เพื:อนถาม-ตอบ โดยใชป้ ระโยคตามตวั อยา่ งท:ีให้

A: I don’t understand pounds and pence.
B: It’s easy. I can help you. There are one hundred pence in a pound, see?

Now, look at the cake. How much does it cost?
A: Three pounds fifty. Oh, I see … three pounds … fifty.
B: Great! Now … How much does the milk cost?
A: Hmmm … sixty … sixty pence a bottle!
B: Yes, that’s right! Now look at the chicken. How much does the chicken cost?
A: One pound eighty.
B: Excellent! Now you can go shopping.

142

Background Information
penny กบั pence ต่างกนั อย่างไร
Penny (พหูพจน์ คือ pence หรือ p หรือ pennies) คือ หน่วยเงินที:เลก็ ท:ีสุดของ
องั กฤษ ซ:ึงใน 1 pound จะมี 100 pence หรือเหรียญเลก็ ๆ ที:มีมูลค่าเท่าน+ี (a small
coin worth this much) คาํ วา่ ‘pence’ (หรือ ‘p’) จะใชเ้ มื:อพดู ถึงหน่วยเงินตรา
ส่วน pennies จะใชเ้ มื:อพดู ถึงตวั เหรียญ (when you are speaking of the coins
themselves)

ทมี* า: http://dictionary.cambridge.org/
5. นกั เรียนดูรูปภาพส:ิงของท:ีเหมือนกนั แต่ราคาต่างกนั เพ:ือเปรียบเทียบราคา ในหนังสือเรียน หน้า 37

ข้อ 3 Read and answer. แลว้ ตอบคาํ ถาม 4 ขอ้ ที:กาํ หนดให้
1 Smile milk costs eighty pence.
2 Miji milk costs sixty pence.
3 Strawberries A cost one pound.
4 Strawberries B cost one pound forty.

จากน+นั ใหน้ กั เรียนวาดภาพเส+ือ กระโปรง หรือกางเกง 1 ตวั ลงในสมุด พร้อมเขียนราคาท:ีมีหน่วย
เงินเป็นปอนดห์ รือเพนซ์ ครูสุ่มเลือกนกั เรียน 1 คน ออกมาหนา้ ช+นั เรียนพร้อมถือสมุดท:ีตนเองวาด
รูปออกมาดว้ ย จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนถามราคาเส+ือผา้ ที:ตนเองวาดกบั เพื:อนๆ

Kim: How much does this shirt cost? ช+ีภาพเส+ือเชิ+ตของตนเอง
Students: It costs sixty pounds.
Kim: Correct.
ครูใหน้ กั เรียนออกมาทาํ กิจกรรมน+ี จนครบทุกคน
6. นกั เรียนดูภาพร้านคา้ A กบั ร้านคา้ B ในหนังสือเรียน หน้า 37 ข้อ 4 Read and circle ‘true’ or ‘false’.
แลว้ เปรียบเทียบราคาสิ:งของวา่ ร้านใดขายของถูกกวา่ กนั ใหน้ กั เรียนทาํ ตารางแลว้ เขียนช:ือสิ:งของ
พร้อมราคาลงไป ดงั น+ี

143


Click to View FlipBook Version