ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 9 ข้อ 5 Listen and complete. และอ่านขอ้ ความในวงกลม 2 วง
ซ:ึงเป็นเรื:องเกี:ยวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ของ Maria และ Ben โดยครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ วงกลม
ท+งั 2 วงมีบางส่วนซอ้ นทบั กนั อยู่ ซ:ึงขอ้ มูลที:อยใู่ นส่วนดงั กล่าวน+นั คือกิจวตั รประจาํ วนั ที:คลา้ ยกนั
ของ Maria และ Ben จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านขอ้ ความที:กาํ หนดใหใ้ นขอ้ 1-3 แลว้ ครูเปิ ด
CD/track 15 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 รอบ และเขียนคาํ ตอบท:ีไดย้ นิ ลงในสมุดของตนเอง เสร็จแลว้ ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ โดยครูเขียนคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งบนกระดาน และใหน้ กั เรียนตรวจคาํ ตอบ
ของตนเอง ครูเปิ ด CD อีกคร+ัง และใหน้ กั เรียนอ่านขอ้ ความที:เติมคาํ สมบูรณ์ตาม CD ดว้ ย
Maria goes to school at eight o’clock. She likes music. She plays basketball.
Peter goes to school at seven o’clock. He likes art. He plays football. Maria
and Peter like computers. They have lunch at a cafeteria.
1 Maria goes to school at 8:00. She likes music. She plays basketball.
2 Peter goes to school at 7:00. He likes art. He plays football.
3 Maria and Peter like computers. They have lunch at a cafeteria.
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สงั เกตกริยาในขอ้ ความวา่ เป็นอยา่ งไร โดยครูอาจอ่านคาํ กริยาในขอ้ ความ
ท+งั หมด โดยเนน้ เสียง /s/ และ /z/ เม:ือคาํ น+นั เติม s หรือ es เช่น goes เสียง /z/, likes เสียง /s/, plays
เสียง /s/, likes , plays เสียง /s/, like, have จนนกั เรียนไดข้ อ้ สรุปวา่ ประโยคในขอ้ ความดงั กล่าว อยู่
ในโครงสร้างของ Present Simple Tense ซ:ึงเม:ือประธานเป็นเอกพจน์ กริยาตอ้ งเติม s/es ดงั น+ี
ประธานของประโยคเป็ นเอกพจน์ กริยาเติม s
ประธานของประโยคเป็ นพหูพจน์ กริยาช่อง 1 (ไม่เติม s)
ประธานของประโยคเป็น I กริยาช่อง 1 (ไม่เติม s)
ครูอธิบายเพ:ิมเติมวา่ วงกลม 2 วง ซ:ึงมีบางส่วนซอ้ นทบั กนั น+นั เรียกวา่ แผนภูมิเวนน์ (Venn
Diagram) จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านประโยค 3 ประโยค ในหนังสือเรียน หน้า 9 หัวข้อ Remember!
พร้อมๆ กนั ครูช+ีใหน้ กั เรียนสงั เกตดูการเติม s หลงั คาํ กริยาอีกคร+ัง
44
Students: She plays tennis. (เนน้ ออกเสียง s)
He plays football. (เนน้ ออกเสียง s)
They like computers.
Background Information
both A & B
Venn Diagram คือ ผงั วงกลมซอ้ นทบั ใชแ้ สดงลกั ษณะความเหมือนหรือ
ความแตกต่างระหวา่ งของ 2 สิ:ง หรือมากกวา่ เก:ียวกบั คน เหตุการณ์ สถานที:
หรือความคิด
óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนทบทวนคาํ ศพั ท์ โดยดูภาพ 1-6 ท:ีกาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้า 8 ข้อ 1 Match the pictures
with the words. แลว้ จบั คู่ภาพเหล่าน+ีกบั คาํ ศพั ท์ a-f ซ:ึงอยทู่ างดา้ นขวามือ โดยใหน้ กั เรียนโยงเสน้
จบั คู่รูปภาพกบั คาํ ศพั ท์ เมื:อนกั เรียนทาํ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบคาํ ตอบกบั เพื:อนขา้ งเคียง
จากน+นั ครูเขียนเฉลยคาํ ตอบบนกระดาน เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนช+ีนิ+วไปท:ีภาพทีละภาพ แลว้ อ่าน
ออกเสียงคาํ ศพั ทพ์ ร้อมๆ กนั ครูอาจสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คน ใหล้ ุกข+ึนอ่านทีละคน เพื:อเป็นการ
ตรวจสอบ
1b 3a 5d
2e 4f 6c
2. นกั เรียนดูตวั อกั ษรในกรอบที:กาํ หนดให้ ในแบบฝึ กหัด หน้า 8 ข้อ 2 Circle the words. แลว้ จบั กลุ่ม
กบั เพ:ือนที:ตนชอบ กลุ่มละ 3 คน ช่วยกนั วงกลมตวั อกั ษรใหเ้ ป็นคาํ ศพั ทท์ ี:ถูกตอ้ ง โดยครูบอกใบแ้ ก่
นกั เรียนวา่ มีคาํ ศพั ทซ์ ่อนอยทู่ +งั หมด 9 คาํ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ โดยครูเขียน
คาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งบนกระดาน และใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ตอบบนกระดานพร้อมๆ กนั
45
( morning Monday night bed cafeteria
homework afternoon evening science
3. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมข+นั ก่อนฟัง โดยอ่านประโยคที:กาํ หนดให้ ในแบบฝึ กหัด หน้า 8 ข้อ 3
Listen and write. พร้อมกนั จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 13 ใหน้ กั เรียนฟัง 2-3 คร+ัง และใหน้ กั เรียนเติม
คาํ ท:ีขาดหายไปลงในช่องวา่ ง
1 The students are in the playground.
2 I do homework at 6 o’clock in the evening.
3 They’ve got science at 9.30 in the morning.
4 The students have lunch in the cafeteria.
5 I watch television at night.
6 I’ve got art in the afternoon.
เม:ือนกั เรียนเติมคาํ ศพั ทเ์ สร็จแลว้ ครูติดแผน่ ป้ายขนาดใหญ่ท:ีเขียน Audio script ไวบ้ นกระดาน และ
เปิ ด CD/track 13 อีกคร+ัง โดยใหน้ กั เรียนอ่าน Audio script บนกระดานตามไปดว้ ย เพื:อเฉลยคาํ ตอบ
เมื:อนกั เรียนฟัง CD จบแลว้ ครูใหน้ กั เรียนตรวจคาํ ตอบของตนเองและแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง
จากน+นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6 คน ใหอ้ ่านคาํ ตอบคนละ 1 ขอ้ เสร็จแลว้ จึงใหน้ กั เรียนท+งั ช+นั อ่าน
คาํ ตอบพร้อมกนั อีกคร+ังหน:ึง
4. นกั เรียนดูรูปภาพท:ีกาํ หนดให้ ในแบบฝึ กหัด หน้า 9 ข้อ 4 What does May do at school? Put the
pictures in order and say. จากน+นั เรียงรูปภาพดงั กล่าวใหถ้ ูกตอ้ งตามลาํ ดบั เหตุการณ์ที:นกั เรียน
คาดวา่ จะเป็นไปได้ เสร็จแลว้ ครูชูภาพใบหนา้ May แลว้ ถามนกั เรียนวา่
Teacher: Who is she?
Students: She’s May.
Teacher: What does May do at school? ครูช+ีท:ีภาพทีละภาพ จาก A-E
Students: She eats lunch, studies P.E., goes home, plays, studies science.
(ตอบตามภาพท:ีครูช+ี ยงั ไม่เรียงลาํ ดบั เหตุการณ์ตามเวลา)
Teacher: Excellent!
46
นกั เรียนทาํ งานเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ช่วยกนั แต่งประโยคใหถ้ ูกตอ้ งตามหลกั ไวยากรณ์ และเรียง
เหตุการณ์ตามลาํ ดบั เวลา โดยเขียนลงบนกระดาษ เม:ือทุกกลุ่มพร้อม จึงส่งตวั แทนออกมาอ่าน
ประโยคท:ีร่างไวท้ ีละกลุ่ม ครูจดบนั ทึกและใหค้ ะแนนแก่นกั เรียนทุกคน เพื:อเป็นคะแนนเกบ็
ปลายภาค
E, D, A, B, C
(Suggested Answer)
May’s got science at 9.30 am. She plays in the playground with her friends
at 10.30 am. She has lunch at 12.00 am. At 1.00 pm in the afternoon she’s got
P.E. She goes home at 3.30 pm.
5. ครูทบทวนเร:ือง Present Simple Tense อีกคร+ัง โดยเนน้ วา่
โครงสร้างประโยคบอกเล่า ประธาน + กริยาช่องท:ี 1
ประธานเป็นเอกพจน์ (ยกเวน้ I, you) - กริยาเติม s/es
ประธานเป็ นพหูพจน์ - กริยาช่อง 1 (ไม่เติม s)
เช่น She listens to music. They play football.
ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนแต่ละคน (Individual work) โดยใหน้ กั เรียนอ่านประโยคบอกเล่า
ท:ีกาํ หนดให้ ซ:ึงอยใู่ นรูปของ Present Simple Tense ในแบบฝึ กหัด หน้า 9 ข้อ 5 Read and compare.
และใหเ้ วลานกั เรียน 5-6 นาที เลือกวงกลมคาํ กริยาท:ีถูกตอ้ งในแต่ละประโยค เสร็จแลว้ ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ โดยครูเขียนคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งบนกระดาน
1 like 3 listens 5 play
2 eat 4 read 6 writes
ครูใหน้ กั เรียนตรวจคาํ ตอบของตนเอง และแจง้ ใหน้ กั เรียนทราบวา่ คนท:ีถูกมากกวา่ 5 ขอ้ ถือวา่ ผา่ น
จากน+นั ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคที:ถูกตอ้ งท+งั 6 ประโยค พร้อมๆ กนั โดยเนน้ ออกเสียง s หลงั คาํ กริยา
เมื:อประธานเป็ นเอกพจน์
47
นกั เรียนทาํ แบบทดสอบดว้ ยตนเอง (Individual work) เพ:ือประเมินตนเองภายในระยะเวลาท:ีครู
กาํ หนด ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนมีความซ:ือสตั ยส์ ุจริตและหยง:ิ ในศกั ดlิศรีของตนเอง จึงไม่ควรลอกงาน
ของผอู้ :ืน จากน+นั ครูพดู เฉลยคาํ ตอบ โดยใหน้ กั เรียนแลกกนั ตรวจแบบทดสอบกบั เพื:อน ครูช+ีแจงให้
นกั เรียนทราบวา่ ตอบถูก 1 ขอ้ จะคิดเป็น 1 คะแนน ผใู้ ดถูกเกินกวา่ 8 ขอ้ ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
6.2 ช*ัวโมงที* 7-8
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกม Memory game เพื:อทบทวนคาํ ศพั ทท์ :ีนกั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ โดยเรียง
บตั รภาพบนกระดานแถว A และบตั รคาํ บนกระดานแถว B ใหเ้ วลานกั เรียนในการจาํ ประมาณ 30
วนิ าที จากน+นั ครูคว:าํ บตั รภาพบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนจบั คู่บตั รภาพกบั บตั รคาํ ใหต้ รงกนั
1 2 3 4 5 (บตั รภาพ)
A ภาพโรง
ภาพโรงยมิ ภาพห้อง ภาพห้องสมุด ภาพห้องศิลปะ
อาหาร ดนตรี
B gym library art room cafeteria music room (บตั รคาํ )
ตวั อย่าง Student 1: A1 ภาพโรงอาหาร คู่กบั B4 cafeteria
2. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ในชวั: โมงน+ีใหน้ กั เรียนทราบ
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนทดสอบความเขา้ ใจเก:ียวกบั หลกั การเติม s ของ Present Simple Tense โดยอ่านประโยคท:ี
กาํ หนดให้ ในหนังสือเรียน หน้า 10 ข้อ 6 Circle the answers. แลว้ เขียนคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ งลงในสมุด
ของตนเอง ครูอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ กิจกรรมน+ีถือเป็นการประเมินตนเอง จึงใหน้ กั เรียนทาํ งาน
ดว้ ยตนเองอยา่ งซ:ือสตั ย์ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนแลกเปลี:ยนสมุดกบั เพื:อนท:ีนง:ั ขา้ งๆ เพ:ือสลบั กนั
ตรวจ โดยครูเขียนคาํ ตอบที:ถูกตอ้ งบนกระดาน ครูอธิบายวา่ คนที:ตอบถูกเกิน 5 ขอ้ ถือวา่ ผา่ น
1 like 3 listens 5 reads
2 play 4 go 6 make
นกั เรียนอ่านประโยคท:ีถูกตอ้ งโดยเนน้ การออกเสียง s หลงั คาํ กริยา ในขอ้ ที:มีประธานเป็นเอกพจน์
สุดทา้ ยครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6 คน ใหย้ นื ข+ึนอ่านประโยคที:ถูกตอ้ งอีกคร+ัง คนละ 1 ประโยค
48
2. นกั เรียนเล่นเกม Circle and the Blind โดยครูใหน้ กั เรียนทุกคนลุกจากที:นง:ั แลว้ แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
เท่าๆ กนั ตามความสมคั รใจ กลุ่มแรกจบั มือกนั ทาํ เป็นวงกลมวงใหญ่ และอีกกลุ่มหน:ึงเขา้ มาอยใู่ น
วงกลม กลุ่มท:ีอยภู่ ายในวงกลมจะถูกปิ ดตา เมื:อครูใหส้ ญั ญาณโดยการเป่ านกหวดี ผทู้ :ีอยใู่ นวงกลม
จะเลือกผทู้ :ีจบั มือเป็นวงกลม (ตาบอดจบั คู่กบั ตาดี) เม:ือไดค้ ู่ของแต่ละคนแลว้ ครูแจกกระดาษให้
คู่ละ 1 แผน่ เพื:อเขียนกิจวตั รประจาํ วนั ของตนในแต่ละวนั และเปรียบเทียบกบั กิจวตั รประจาํ วนั ของ
คู่ตนเอง จากน+นั จึงเขียนกิจวตั รของแต่ละคนลงในวงกลม 2 วง ซ:ึงซอ้ นกนั โดยส่วนที:ซอ้ นกนั คือ
กิจวตั รท:ีเหมือนกนั นกั เรียนสามารถดูตวั อยา่ งไดจ้ ากหนงั สือเรียน หนา้ 9 ขอ้ 5 ซ:ึงไดเ้ รียนมาแลว้
ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคู่ปรึกษากนั ในการทาํ งาน โดยใหน้ กั เรียนร่างประโยคคนละ 5 ประโยค แต่ละคู่
ช่วยกนั เปรียบเทียบขอ้ มูลของคู่ตนเอง แลว้ จึงวาดวงกลม 2 วง และเติมขอ้ มูลลงในวงกลม (อาจ
ระบายสีวงกลมเพ:ือความสวยงามและชดั เจน) จากน+นั ใหน้ กั เรียนฝึกพดู ครูใหน้ กั เรียนที:มีความ
พร้อมก่อนออกมารายงานหนา้ ช+นั ตามความสมคั รใจ เช่น ด.ช. เคน และ ด.ญ. จอย ออกมาหนา้ ช+นั
และโชวผ์ ลงานของคู่ตนเองใหเ้ พื:อนๆ ดู พร้อมกบั พดู นาํ เสนอ
Joy Ken
- eats breakfast at 6.30 - go to school - eats breakfast at 7.00
- plays badminton by bus - plays baseball
- likes P.E. - have lunch - likes English
at noon
Joy: I eat breakfast at 6.30. I play badminton. And I like P.E.
(ช+ีนิ+วประกอบในวงกลมของตนเองขณะพดู )
Ken: I eat breakfast at 7.00. I play baseball. And I like English.
(ช+ีนิ+วประกอบในวงกลมของตนเองขณะพดู )
Joy & Ken: (พดู พร้อมกนั ) We go to school by bus. We have lunch at noon.
(ช+ีนิ+วประกอบในส่วนวงกลมท:ีซอ้ นทบั กนั )
ครูใหค้ ะแนนการนาํ เสนอหนา้ ช+นั ของนกั เรียนแต่ละคู่ เพื:อเป็นคะแนนเกบ็ 10 คะแนน
3. นกั เรียนเปิ ดหนังสือเรียน หน้า 10 ข้อ 7 Ask a partner and then tell the class. Use the words in the
box. และอ่านบทสนทนาระหวา่ ง May และ Anna พร้อมกนั โดยครูใหน้ กั เรียนคร:ึงหอ้ งฝ:ังซา้ ยเป็น
May และนกั เรียนอีกคร:ึงหอ้ งฝ:ังขวาเป็น Anna
49
Anna: May, do you like art?
May: Yes, I do.
Anna: Do you like maths?
May: No, I don’t.
นกั เรียนทุกคนอ่านสรุปพร้อมๆ กนั ดงั น+ี
Students: May likes art. She doesn’t like maths.
ครูอธิบายสรุปเก:ียวกบั ประโยคคาํ ถาม คาํ ตอบ และปฏิเสธในรูปของ Present Simple Tense อีกคร+ัง
และเนน้ ใหน้ กั เรียนระมดั ระวงั ในการใชป้ ระโยคบอกเล่าและปฏิเสธ เม:ือประธานของประโยคเป็น
เอกพจน์
4. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนขา้ งเคียง เพื:อฝึกสนทนาดงั ตวั อยา่ งขา้ งตน้ โดยใหแ้ ต่ละคู่ผลดั กนั เป็นท+งั ผถู้ าม
และผตู้ อบ ครูเดินสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ขณะนกั เรียนทาํ กิจกรรม
ตัวอย่าง
Jim: Pat, do you like science?
Pat: Yes, I do.
Jim: Do you like maths?
Pat: No, I don’t.
จากน+นั จึงขออาสาสมคั ร 3 คู่ ออกมาพดู บทสนทนาหนา้ ช+นั เรียน รวมท+งั สรุปผล เช่น
Jim: Pat likes science. She doesn’t like maths. (ช+ีที: Pat)
Pat:
Jim likes P.E. He doesn’t like art. (ช+ีท:ี Jim)
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนท+งั ช+นั ปรบมือใหก้ าํ ลงั ใจ
5. นกั เรียนดูรูปภาพในหนังสือเรียน หน้า 11 ข้อ 8 Listen, read and circle ‘true’ or ‘false’. แลว้ บอก
ครูวา่ เห็นอะไรในรูปภาพบา้ ง
Teacher: Class, what do you see in the pictures?
Students: School, classroom, cafeteria, football, students, lunch, etc.
ครูบอกนกั เรียนวา่ ในรูปภาพที:นกั เรียนเห็นเป็นกิจวตั รประจาํ วนั ของ Ben ในวนั จนั ทร์ จากน+นั
ครูเปิ ด CD/track 16 ใหน้ กั เรียนฟัง 2-3 รอบ โดยใหน้ กั เรียนดูเน+ือหาในหนงั สือเรียนตามไปดว้ ย
Today is Monday. Ben goes to school at 8 o’clock. He’s got science and
maths in the morning. He eats lunch at 11.30.
50
In the afternoon, he’s got music and art. At break time, he plays football.
He goes home at 4 o’clock.
ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน โดยแบ่งตามใบรายชื:อของนกั เรียน โดยใหน้ กั เรียน
แต่ละกลุ่มช่วยกนั ระดมความคิด (Brainstorm) และตดั สินวา่ ประโยคที:กาํ หนดให้ (1-5) ถูกหรือผดิ
เพราะอะไร เสร็จแลว้ นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ โดยครูอ่านประโยค และนกั เรียนพดู วา่ ‘true’
หรือ ‘false’
1 Ben’s got music in the morning. false
2 He’s got art in the afternoon. true
3 He plays football at break time. true
4 He eats lunch at twelve o’clock. false
5 He goes home at four o’clock. true
นกั เรียนบอกเหตุผลขอ้ ที:ตอบ False (ขอ้ a และ d) และระบุประโยคที:ถูกตอ้ งควรเป็นอะไร จากน+นั
ครูบอกนกั เรียนวา่ ใหน้ กั เรียนแข่งขนั อ่านออกเสียง (Reading Competition) โดยครูใหน้ กั เรียน
กลุ่มเดิมฝึกอ่านออกเสียงเน+ือหาในหนงั สือเรียน หนา้ 11 ขอ้ 8 ตาม CD 1 รอบ และใหน้ กั เรียนฝึก
อ่านกนั เองภายในกลุ่ม ประมาณ 5-10 นาที จากน+นั ครูอธิบายเกณฑท์ ี:ใชใ้ นการตดั สินการแข่งขนั ให้
นกั เรียนทราบ ดงั น+ี
1) ความพร้อม การฝึกเตรียมตวั มาก่อน
2) เสียงดงั ฟังชดั ขอ้ ละ 10 คะแนน
3) อ่านคาํ ศพั ทแ์ ละประโยคไดถ้ ูกตอ้ ง
4) สาํ เนียงเหมือนเจา้ ของภาษา
ครูใหแ้ ต่ละกลุ่มอ่านออกเสียงทีละกลุ่มตามลาํ ดบั ความพร้อม ครูคอยสงั เกตและใหค้ ะแนนตาม
เกณฑท์ ี:ไดแ้ จง้ ไว้ เม:ือแต่ละกลุ่มอ่านเสร็จแลว้ ครูรวบรวมคะแนน และประกาศกลุ่มท:ีชนะเลิศ และ
ใหร้ างวลั เลก็ ๆ นอ้ ยๆ เพื:อเป็นแรงจูงใจต่อไป เช่น ลูกอม ปากกา ดินสอ ยางลบ ฯลฯ
6. ครูทบทวนการใช้ have/have got ในประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ และคาํ ถาม ในรูปของ Present Simple
Tense ดงั น+ี
have หรือ have got ใชใ้ นการแสดงความเป็นเจา้ ของ หรือความหมายท:ีเกี:ยวขอ้ งกนั
บอกเล่า ประธานเอกพจน์ (ยกเวน้ I, you) + has/has got
have/have got
ประธานพหูพจน์ +
51
ปฏิเสธ ประธานเอกพจน์ (ยกเวน้ I, you) + hasn’t got/doesn’t have
ประธานพหูพจน์ + haven’t got/don’t have
คาํ ถาม Does + ประธานเอกพจน์ (ยกเวน้ I, you) + have…………? หรือ
Has + ประธานเอกพจน์ (ยกเวน้ I, you) + got………….?
Do + ประธานพหูพจน์ + have………? หรือ
Have + ประธานพหูพจน์ + got ………?
Background Information
คาํ กริยา ‘have’ กบั ‘have got’ ต่างกนั อย่างไร
‘have’ กบั ‘have got’ คือ คาํ กริยาตวั เดียวกนั โดย ‘have got’ เป็นภาษาองั กฤษแบบ
องั กฤษ (British English) และมกั ใชใ้ นภาษาพดู หรือภาษาที:ไม่เป็นทางการ (informal) มี
ความหมายวา่ ‘มี’ (แสดงถึงความเป็นเจา้ ของ) เช่น I have 2 books. หรือ I have got 2 books.
แต่คาํ กริยา ‘have’ และ ‘have got’ น+นั มีความหมายมากกวา่ ‘มี’ อยา่ งที:คุน้ เคยและ
พบอยบู่ ่อยๆ คือ
- ใชใ้ นความหมายวา่ ‘กิน’ หรือ ‘รับประทาน’ เช่น I have eggs for breakfast.
I’ve got salad.
- ใชเ้ มื:อพดู ถึงการเจบ็ ไขไ้ ดป้ ่ วย เช่น She has a headache. I’ve got a stomachache.
- ใชเ้ ม:ือพดู ถึงการเรียน เช่น I have maths. I’ve got science.
7. ครูเตรียมพร้อมนกั เรียนในการทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 11 ข้อ 9 Write about your day.
โดยใหน้ กั เรียนเล่นเกม Who are you? เพ:ือทบทวนคาํ ศพั ทว์ นั ท+งั 7 วนั ใน 1 สปั ดาห์ โดยครูชูบตั รคาํ
ดงั น+ี
Sunday Monday Tuesday Wednesday
Thursday Friday Saturday
52
นกั เรียนอ่านคาํ ศพั ทว์ นั ท+งั 7 ในบตั รคาํ พร้อมๆ กนั จากน+นั ครูถามคาํ ถามนกั เรียน (elicit) ดงั น+ี
Teacher: How many days do you go to school?
Students: Five days.
Teacher: What are the days?
Students: Monday, Tuesday, Wednesday, Thursday and Friday.
Teacher: What about Saturday and Sunday?
Students: We play games, watch TV, go shopping, stay at home, etc.
(นกั เรียนแข่งกนั ตอบ)
Teacher: Excellent!
ครูแจกกระดาษแขง็ ขนาดไปรษณียบตั รแก่นกั เรียน คนละ 1 แผน่ เลือกวนั ที:ตนเองชอบ 1 วนั แลว้
แต่งประโยคอยา่ งนอ้ ย 8 ประโยค เกี:ยวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ของตนเอง โดยดูตวั อยา่ งการเขียนของ
Ben ในหนงั สือเรียน หนา้ 11 ขอ้ 8 และเขียนลงทา้ ยเฉพาะอกั ษรตวั แรกของชื:อตนเอง ใหน้ กั เรียน
ทาํ งานคนเดียว (Individual work) แต่อาจถามเพ:ือนหรือปรึกษาครูได้ ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนมีความคิด
ริเร:ิมสร้างสรรรค์ และใช้ Present Simple Tense ใหถ้ ูกตอ้ ง โดยครูพยายามกระตุน้ ใหน้ กั เรียนมี
ความมุ่งมนั: ในการทาํ งาน ไม่ควรทอ้ ถอยเมื:อพบปัญหาหรืออุปสรรคในการทาํ งาน
ตัวอย่าง 1 Today is Wednesday. I go to school at 7.30. I’ve got English and
maths in the morning. I have lunch at noon in the cafeteria.
In the afternoon, I’ve got P.E. and music. At break time, I drink
school milk and play football. I go home by bus at 4.30.
S.
ตัวอย่าง 2 Today is Sunday. I get up very late. I have breakfast at 10 o’clock.
I do my homework in the morning. I have lunch at 12.30.
In the afternoon, I watch TV with my mother. I play football with
my father. I have dinner at 6 o’clock.
D.
เม:ือนกั เรียนทุกคนเขียนเสร็จแลว้ ใหน้ าํ ผลงานของตนไปหยอ่ นลงในกล่องกระดาษบนโตะ๊ ครู
ครูเขยา่ กล่อง 2-3 คร+ัง แลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละคนหยบิ ชิ+นงานออกจากกล่องคนละ 1 ชิ+น อ่านชิ+นงาน
แลว้ พยายามเดาและทายใหไ้ ดว้ า่ ชิ+นงานน+นั เป็นของใคร
53
โดยพิจารณาดูจากกิจวตั รประจาํ วนั และตวั อกั ษรยอ่ ของช:ือจริง เจา้ ของผลงานตอ้ งไม่บอกใบใ้ ดๆ
ท+งั สิ+น เพราะตนเองกต็ อ้ งเดาและทายชื:อผลงานท:ีตนจบั ไดเ้ ช่นกนั
เม:ือนกั เรียนมนั: ใจแลว้ วา่ เป็นผลงานของใคร ใหเ้ ดินไปหาบุคคลน+นั (ควรทายไวใ้ นใจ 2-3 ราย)
แลว้ อ่านกิจวตั รประจาํ วนั ใหอ้ ีกฝ่ ายฟัง ถา้ บุคคลน+นั ยอมรับวา่ เป็นกิจวตั รของตนเอง นกั เรียนจะได้
ดาวสีเขียว ส่วนเจา้ ของผลงานจะไดด้ าวสีแดง (ครูเตรียมกระดาษแขง็ ตดั เป็นรูปดาวสีเขียวและ
สีแดง ใหค้ รบตามจาํ นวนนกั เรียน)
นกั เรียนทุกคนตอ้ งสะสมดาวใหค้ รบท+งั 2 สี และนาํ มาแสดงใหค้ รูดู จึงจะสามารถออกไปพกั ผอ่ น
นอกหอ้ งเรียนได้ ครูคอยเดินสงั เกตรอบๆ หอ้ ง และจดบนั ทึกพฤติกรรมการเรียนรู้และ
ความสามารถของนกั เรียนแต่ละคน
óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนทบทวนการใชค้ าํ กริยาใน Present Simple Tense อีกคร+ัง โดยเปิ ดแบบฝึ กหัด หน้า 10 ข้อ 6
Complete the sentences. Use the words in the box. โดยก่อนทาํ ครูดึงความสนใจของผเู้ รียน ดว้ ย
การชูภาพของ Anna แลว้ ถามนกั เรียนดงั ต่อไปน+ี
Teacher: Class.....be quiet! Who is she? (ชูใบหนา้ Anna)
Students: She’s Anna.
Teacher: What does she do? (ช+ีท:ีภาพในแบบฝึกหดั )
Students: She plays with her friends.
นกั เรียนอ่านเน+ือเรื:องท:ีกาํ หนดให้ แลว้ นาํ คาํ ที:ใหไ้ วเ้ ติมลงในช่องวา่ งใหส้ มบูรณ์ จากน+นั ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ โดยครูเขียนคาํ กริยาที:ถูกตอ้ งบนกระดาน เพ:ือใหน้ กั เรียนตรวจคาํ ตอบ
ของตนเองอีกคร+ัง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่านเน+ือเรื:องท:ีเติมคาํ สมบูรณ์แลว้ พร้อมๆ กนั
1 gets up 2 eat 3 go 4 plays
2. นกั เรียนเล่นเกม Triple Game (3 คน อลเวง) โดยครูใหน้ กั เรียนทุกคนยนื ข+ึน เมื:อครูเป่ านกหวดี
นกั เรียนตอ้ งจบั กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน โดยมีขอ้ แมว้ า่ ตอ้ งมีท+งั นกั เรียนชายและหญิงอยใู่ นกลุ่ม ทุกคน
นาํ แบบฝึกหดั Smile ป. 4 ติดมือไปดว้ ย จากน+นั ครูใหน้ กั เรียน 1 คนในแต่ละกลุ่มถามคาํ ถามเพ:ือน
ซ:ึงเป็นนกั เรียนชาย 1 คน และนกั เรียนหญิง 1 คน เก:ียวกบั วชิ าต่างๆ เหมือนดงั ตวั อยา่ งใน
แบบฝึ กหัด หน้า 10 ข้อ 7 Ask two friends. Then write yes or no. เช่น
Student: Do you like computers?
Boy: Yes, I do.
Girl: No, I don’t.
54
เม:ือไดร้ ับคาํ ตอบแลว้ นกั เรียนที:เป็นคนถามเขียนคาํ ตอบของเพ:ือนส+นั ๆ วา่ Yes หรือ No ลงใน
ตารางที:กาํ หนดให้ จากน+นั ถามคาํ ถามขอ้ ท:ีเหลือจนครบ 3 ขอ้ เมื:อนกั เรียนไดย้ นิ สญั ญาณนกหวดี
จากครูอีกคร+ัง นกั เรียนทุกคนตอ้ งจบั กลุ่มใหม่ ซ:ึงสมาชิกในกลุ่มตอ้ งไม่ซ+าํ กบั กลุ่มเดิม และมีท+งั
นกั เรียนชายและนกั เรียนหญิงอยภู่ ายในกลุ่ม แลว้ ดาํ เนินกิจกรรมเช่นเดิม โดยครูกาํ หนดใหน้ กั เรียน
ทุกคนตอ้ งมีโอกาสเป็นท+งั ผถู้ ามคาํ ถามและผตู้ อบ และจดบนั ทึกคาํ ตอบลงในแบบฝึกหดั โดยเขียน
ช:ือเพื:อนท:ีตนถามลงไปดว้ ย จากน+นั จึงเติมประโยคที:กาํ หนดใหใ้ ตต้ ารางใหส้ มบูรณ์ดว้ ยคาํ วา่
‘likes’ หรือ ‘doesn’t like’ โดยอาศยั ขอ้ มูลจากคาํ ตอบของเพ:ือนที:นกั เรียนไดถ้ าม เช่น
1) Ann is a girl in my class. She doesn’t like computers.
She likes music. She doesn’t like maths.
2) Ken is a boy in my class. He likes computers.
He doesn’t like music. He likes maths.
นกั เรียนนาํ แบบฝึกหดั มาส่งครูทา้ ยชวั: โมง เพ:ือครูจะไดร้ วบรวมนาํ ไปตรวจในเวลาวา่ ง
3. นกั เรียนดูภาพกิจกรรมของ Anna ในแบบฝึ กหัด หน้า 11 ข้อ 8 Listen and complete. จากน+นั อ่าน
ประโยคที:กาํ หนดให้ ซ:ึงยงั ไม่สมบูรณ์ เพ:ือเตรียมความพร้อมก่อนฟัง CD เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD/
track 17 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง
Anna’s Day
1 Anna’s first class is in the gym. She likes P.E. It’s easy.
2 Then, she goes to the classroom. She reads, writes and studies
maths.
3 At 12 o’clock, she has lunch in the playground with her friends.
4 After lunch, she has got art and science.
5 After school, she goes home. She does homework but it’s difficult.
6 She goes to bed at 8.00 p.m.
นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ เสร็จแลว้ ครูติดแผน่ ป้าย Audio script ของ CD/track 17 ใหน้ กั เรียนดู
บนกระดาน และใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงโดยพร้อมเพรียงกนั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6 คน ใหย้ นื ข+ึน
อ่านทีละคน เพื:อเป็นการตรวจสอบความสามารถในการอ่านของนกั เรียนอีกคร+ังหน:ึง
4. นกั เรียนแบ่งออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน เพื:อทาํ แบบฝึ กหัด หน้า 11 ข้อ 9 Write about your day.
Use the words and phrases in the box. โดยครูแจกกระดาษเปล่าใหแ้ ต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 แผน่
55
ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เขียนเกี:ยวกบั กิจวตั รประจาํ วนั โดยใชค้ าํ และวลีท:ีกาํ หนดให้ จากน+นั ครูใหก้ ลุ่มท:ี
เขียนเสร็จก่อนออกมาอ่านใหเ้ พ:ือนฟัง พร้อมท+งั เขียนเฉลยคาํ ตอบบนกระดาน
My school starts at 9.00. I study science and English in the morning. I’ve got
science in the lab. In the afternoon, I study maths and music. After school,
I play football with my friends. I go home at 4.30. And I go to bed at 9.00 p.m.
6.3 ชั*วโมงท*ี 9-10
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูทบทวนส:ิงท:ีนกั เรียนไดเ้ รียนมาแลว้ โดยการถามคาํ ถามเกี:ยวกบั ส:ิงที:นกั เรียนเรียนในแต่ละวนั
- What subject have you got on Monday in the afternoon?
- What subject have you got on Friday in the morning?
- When have you got P.E.?
2. ครูแจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ในบทเรียนน+ีวา่ นกั เรียนจะไดท้ บทวนและฝึกซ+าํ ในสิ:งท:ีเรียนมาแลว้ ใน
Unit 1 โดยนกั เรียนจะไดพ้ ดู และเขียนบอกเล่าเกี:ยวกบั ชีวติ ในโรงเรียนของตนเอง อ่านและเขียน
จดหมายถึงเพื:อนทางจดหมาย และ e-mail
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนอ่านประโยคคาํ ถาม ในหนังสือเรียน หน้า 12 ข้อ 1 Match the questions and answers. แลว้
ถามนกั เรียนวา่ คาํ ถามขอ้ ใดที:ตอบดว้ ย Yes หรือ No ได้ เม:ือไดค้ าํ ตอบวา่ คาํ ถามขอ้ 4 และ 5 แลว้
ครูถามวา่ คาํ ถามขอ้ 5 Can you play basketball? ตรงกบั คาํ ตอบขอ้ ใด เพราะอะไร เม:ือไดค้ าํ ตอบวา่
No, I can’t. เพราะมีคาํ วา่ can’t อยู่ ครูถามวา่ คาํ ถามขอ้ 4 Do you like computers? น่าจะตรงกบั
คาํ ตอบขอ้ ใด นกั เรียนตอบวา่ ขอ้ a Yes, I do. เพราะเป็นคาํ ตอบท:ีเหลืออยทู่ :ีข+ึนตน้ ดว้ ย Yes หรือ No
จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่คาํ ถามกบั คาํ ตอบขอ้ ที:เหลือดว้ ยตนเองลงในสมุด เสร็จแลว้ ครูอ่าน
ประโยคคาํ ถาม และใหน้ กั เรียนท+งั ช+นั อ่านประโยคคาํ ตอบขอ้ ท:ีสมั พนั ธ์กนั
1c 2e 3d 4a 5b
สุดทา้ ยครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั ฝึกพดู ถาม-ตอบ โดยใชค้ าํ ถามท+งั 5 ขอ้ ในขอ้ 1 ครูเดินสงั เกตขณะ
นกั เรียนทาํ กิจกรรม และสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ใหอ้ อกมาสนทนาหนา้ ช+นั เรียน
2. นกั เรียนจบั คู่กบั เพื:อน พดู คุยแลกเปลี:ยนขอ้ มูลเกี:ยวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ของตนเองตามความเป็น
จริง โดยใชโ้ ครงสร้างประโยคท:ีกาํ หนดใหใ้ นหนังสือเรียน หน้า 12 ข้อ 2 Talk about your school
56
day with your partner. ในการพดู คุย ครูบอกนกั เรียนวา่ ครูจะสุ่มเรียกนกั เรียน 6 คน ใหอ้ อกมาพดู
รายงานกิจวตั รประจาํ วนั ของตนเอง ดงั น+นั นกั เรียนทุกคนตอ้ งเตรียมพร้อม ฝึกซอ้ มการพดู ใหด้ ี
(Suggested Answer)
My school starts at 8.00. My favourite subjects are English and art.
Maths is difficult for me. After school I play basketball. I go home at
4 o’clock. I do my homework at 8 o’clock. I go to bed at 9 o’clock.
3. ครูเตรียมอุปกรณ์การสอน ไดแ้ ก่ ซองจดหมายที:มีสีสนั สะดุดตา ครูเปิ ดซองจดหมาย แลว้ ดึงแผน่
กระดาษสีสดใสออกมาจากซองจดหมาย ทาํ ท่าอ่าน ขยบั ปาก จากน+นั จึงเงยหนา้ ข+ึนถามนกั เรียนวา่
Teacher: What am I doing?
Students: You are reading a letter.
ครูติดภาพใบหนา้ ของ Maria และ Alison บนกระดาน โดยคนั: กลางดว้ ยซองจดหมาย แลว้ อธิบายวา่
Teacher: This is Maria. She writes a letter to Alison. (ช+ีภาพประกอบ)
Alison is her friend.
นกั เรียนรวมกลุ่มทาํ งานกนั กลุ่มละ 4 คน (Group work) เพื:อเรียงชิ+นส่วนของจดหมาย 5 ชิ+น ใน
หนังสือเรียน หน้า 13 ข้อ 3 Read and number. ใหไ้ ดใ้ จความสมบูรณ์ โดยใหน้ กั เรียนแต่ละคนใน
กลุ่มอ่านประโยคท:ีกาํ หนดใหจ้ ากขอ้ a-e แลว้ ปรึกษากนั ภายในกลุ่มวา่ ขอ้ ความ a-e ขอ้ ความใดควร
อยกู่ ่อนหรือหลงั จากน+นั ใหแ้ ต่ละกลุ่มต+งั ชื:อกลุ่มของตนเอง โดยใชช้ ื:อดอกไมเ้ ป็นหลกั ครูแจก
กระดาษแขง็ ขนาดส:ีเหลี:ยมผนื ผา้ และปากกาเมจิกใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่ม เพื:อเขียนคาํ ตอบของกลุ่ม
ตนเองลงในกระดาษที:ครูแจกให้ ครูใหท้ ุกกลุ่มนาํ กระดาษที:เขียนคาํ ตอบแลว้ มาติดบนกระดาน
พร้อมๆ กนั รวมท+งั เขียนชื:อกลุ่มของตนเองบนกระดาน หนา้ กระดาษคาํ ตอบของกลุ่มตนเอง เช่น
กลุ่ม Rose dcaeb กลุ่ม Orchid d a e c b
กลุ่ม Sunflower d c a e b คาํ ตอบใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน
เสร็จแลว้ ครูเขียนเฉลย
d ca e b
ครูติดแผน่ ป้ายจดหมายที:เรียงสมบูรณ์แลว้ ใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน เพื:อใหน้ กั เรียนเห็นรูปแบบ
ของจดหมาย จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านจดหมายพร้อมๆ กนั
57
24-9-14
Hello Alison,
How are you? I’m fine. I’m back to school now. I like my school. This is my school
day.
School starts at 8 o’clock. I eat lunch at the cafeteria at 12 o’clock. I go home at
3 o’clock. In the evening, I eat dinner and then do my homework. At night, I watch
television. I go to bed at 9 o’clock.
Well, it’s time to go. Bye-bye.
Your friend,
Maria
óกจิ กรรมรวบยอด
1. ครูช+ีใหน้ กั เรียนดูรูปภาพเดก็ ผหู้ ญิง 2 คน ในงานปาร์ต+ี ในหนังสือเรียน หน้า 14 ข้อ 4 Write to
a pen-friend. ครูถามนกั เรียนท+งั ช+นั วา่ เห็นอะไรในงานปาร์ต+ีบา้ ง
Teacher: What do you see in the party?
Students: Anna, Betty, cake, bananas, apples, balloons, etc. (ช่วยกนั ตอบ)
Teacher: (ชมเชยนกั เรียน) Very good!
นกั เรียนอ่านจดหมายตน้ แบบในใจ จากน+นั ครูขออาสาสมคั รนกั เรียน 3 คน ใหย้ นื ข+ึนอ่านคนละ
หน:ึงยอ่ หนา้ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนเล่นเกมทายใจเพ:ือนคนโปรด (Individual work) โดยการให้
นกั เรียนนึกถึงเพ:ือนท:ีตนชอบท:ีสุด 1 คน จากน+นั เขียนจดหมายถึงครู โดยข+ึนตน้ ดว้ ย Dear (ชื:อครู),
และลงทา้ ยดว้ ย Your student, และเน+ือหาในจดหมายอาจเป็นเหตุการณ์สมมติเก:ียวกบั Christmas
Day party, Songkarn Day party, Mother’s Day party, New Year Day party, etc. โดยครูเนน้ ให้
นกั เรียนมีความคิดริเร:ิมสร้างสรรค์ และปิ ดช:ือเพื:อนคนโปรดของตนเองเป็นความลบั ครูใหเ้ วลา
นกั เรียนทาํ กิจกรรมน+ีตามความเหมาะสม และตามความสามารถของนกั เรียนส่วนใหญ่ และเนน้ กบั
นกั เรียนวา่ ครูมีคะแนนเกบ็ ให้ 10 คะแนน ขอใหน้ กั เรียนต+งั ใจและมุ่งมน:ั ในการทาํ งาน
เพ:ือใหผ้ ลงานออกมาดีท:ีสุด เพื:อเป็นการพฒั นาศกั ยภาพของตวั นกั เรียนเอง เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนนาํ
ชิ+นงานมาส่งครู
ตัวอย่าง
58
12-2-14
Dear Ms Sompong,
This is my New Year Day party and this is my best friend, Kritsana.
Kritsana is ten years old. She likes English and art. She plays the violin very well.
She doesn’t like maths and science. They are difficult for her.
I like P.E., music and computers. Computers is easy for me. I like English, too.
Tell me about your best friend.
Your student,
Wonpen
ครูขออาสาสมคั ร 2 คน คนหน:ึงอ่านชื:อเพ:ือนคนโปรดในจดหมายของนกั เรียนในหอ้ งแต่ละฉบบั
ส่วนอีกคนหน:ึงขีด / หลงั ชื:อนกั เรียนที:ถูกกล่าวถึงในใบรายช:ือของหอ้ ง เพื:อสาํ รวจวา่ บุคคลท:ีเป็น
ท:ีชื:นชอบ (ชาย 1 คนและหญิง 1 คน) มากท:ีสุดในหอ้ งเรียนคือใคร
เมื:อสาํ รวจเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนที:เป็นท:ีช:ืนชอบท+งั 2 คน ออกมาหนา้ ช+นั เรียน โดยครูเตรียมมงกฎุ
และคทากระดาษ เพ:ือมอบใหใ้ นฐานะ Mr and Miss Popular of the class 4/…… . ทุกคนปรบมือ
แสดงความชื:นชมใหก้ บั เพื:อนท+งั 2 คน ครูรวบรวมจดหมายของนกั เรียนเพ:ือนาํ ไปตรวจในเวลาวา่ ง
หมายเหตุ: ถา้ ครูคาํ นวณเวลาแลว้ พบวา่ นกั เรียนในหอ้ งอาจใชเ้ วลาในการทาํ กิจกรรมน+ีนาน
ครูควรใหน้ กั เรียนไปทาํ เป็นการบา้ น แลว้ จึงลงคะแนนเสียงในชว:ั โมงต่อไป
2. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนที:นง:ั อยฝู่ :ังตรงขา้ มกนั เพื:อถามและตอบคาํ ถามท:ีกาํ หนดให้ ในแบบฝึ กหัด
หน้า 12 ข้อ 1 Answer the questions. เม:ือนกั เรียนฝึกพดู ถาม-ตอบเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนเขียน
คาํ ตอบของตนลงในแบบฝึกหดั ดว้ ย
e.g. A: How many subjects have you got at school?
B: Eight.
A: What is your favourite subject?
B: English.
A: What subject is difficult for you?
B: Maths.
A: What subject is easy for you?
B: P.E.
59
ครูบอกนกั เรียนใหแ้ สดงสีหนา้ ท่าทางประกอบการพดู ดว้ ย จากน+นั ครูคดั เลือกนกั เรียน 8 คู่ ที:ครูเห็น
วา่ สามารถสนทนาไดด้ ี ใหอ้ อกมาสนทนาใหเ้ พื:อนๆ ดูหนา้ ช+นั เรียน เมื:อแต่ละคู่สนทนาเสร็จ ครูเอ่ย
ชมเชยวา่ แต่ละคู่สนทนาไดด้ ีอยา่ งไร เช่น สาํ เนียงถูกตอ้ ง เสียงดงั ฟังชดั มีการแสดงสีหนา้ หรือ
ท่าทางประกอบการพดู อยา่ งเหมาะสม เป็นตน้ และใหเ้ พ:ือนๆ ในช+นั ช่วยกนั ปรบมือให้
3. นกั เรียนดูรูปภาพประกอบในแบบฝึ กหัด หน้า 12 ข้อ 2 Read and complete. Use the words in the
box. โดยครูถามเกริ:นนาํ วา่ นกั เรียนเห็นอะไรหรือใครในภาพบา้ ง
Teacher: What and who do you see in this picture? (ช+ีท:ีภาพ)
Students: A teacher, a blackboard, desks, Anna, May, Harry, Ben, etc.
(แข่งกนั ตอบ)
นกั เรียนอ่านเน+ือเร:ืองท:ีกาํ หนดให้ แลว้ เติมคาํ ที:ขาดหายไป ซ:ึงมีท+งั หมด 8 คาํ นกั เรียนสามารถ
ปรึกษากบั เพื:อนขา้ งเคียงได้ จากน+นั จึงช่วยกนั เฉลย โดยครูเขียนคาํ ตอบลงบนกระดาน
1 maths 3 easy 5 likes 7 difficult
2 is 4 are 6 doesn’t 8 P.E.
นกั เรียนต่างตรวจคาํ ตอบของตนเอง ผใู้ ดตอบถูกมากกวา่ 8 ขอ้ ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์ ครูขอให้
อาสาสมคั รนกั เรียน 1 คน อ่านประโยคท+งั หมดใหเ้ พ:ือนๆ ฟัง
4. นกั เรียนอ่าน e-mail ที: Emma เขียนถึง Maria ในแบบฝึ กหัด หน้า 13 ข้อ 3 Re-write the e-mail in
your notebook. โดยครูใหน้ กั เรียนอ่านเน+ือความใน e-mail อยา่ งคร่าวๆ ก่อนประมาณ 2-3 นาที
นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนท:ีนงั: อยดู่ า้ นหลงั (Pair work) เพ:ือช่วยกนั คิดและเรียงประโยคในส่วนท่อน
กลางของ e-mail ใหไ้ ดใ้ จความสมบูรณ์ จากน+นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ ใหอ้ ่านประโยคท:ีถูกตอ้ ง
ทีละคู่ เสร็จแลว้ ครูเขียนเฉลยประโยคท:ีเรียงถูกตอ้ งแลว้ บนกระดาน หรือเขียนใส่แผน่ ป้ายติดบน
กระดาน เพื:อใหน้ กั เรียนดูและตรวจคาํ ตอบของตนเอง สุดทา้ ยครูใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ตอบท:ีถูกตอ้ ง
พร้อมๆ กนั
I’ve got lots of homework. Have you got lots of homework too?
What’s your favourite subject? My favourite subjects are
science and maths.
Background Information
60
Skimming เป็นการอ่านกวาดสายตาหาหวั เร:ืองท:ีสนใจและคน้ หาเฉพาะ
แนวความคิดหลกั เท่านNนั การอ่านแบบนNี จะอ่านขา้ มเป็นตอนๆ และอาจขา้ มบาง
ประโยคหรือบางบรรทดั ไป คือไม่อ่านทุกคาํ แต่มองหาประเดน็ หรือใจความสาํ คญั
(main idea) หรือหาคาํ สาํ คญั ของเรื:อง (key words)
ทมFี า: http://www.kkw.ac.th/kkwweb/teacherhead/moo3/menu2/skimming.html
5. ครูชูกระดาษ 1 แผน่ ที:มีหวั กระดาษเหมือน e-mail เช่น hotmail.com, g-mail.com, yahoo.com, etc.
และมีตวั อกั ษรเป็นภาษาองั กฤษ ใหน้ กั เรียนเห็นแต่ไกล แลว้ บอกนกั เรียนวา่ ที: Emma เขียน e-mail
ถึง Maria ในกิจกรรมที:ผา่ นมาน+นั บดั น+ี Maria ไดส้ ่ง e-mail ตอบกลบั มาแลว้ แต่เน+ือหายงั
เรียงลาํ ดบั ไม่ถูกตอ้ ง จึงขอใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนที:นงั: อยทู่ างซา้ ยมือ (Pair work) ช่วยกนั เรียง
ประโยค a-f ในแบบฝึ กหัด หน้า 13 ข้อ 4 Put the sentences in order. Then write Maria’s e-mail.
ใหม่ใหไ้ ดใ้ จความเหมาะสม (make sense) นกั เรียนแต่ละคู่ช่วยกนั ทาํ งานภายในเวลาท:ีครูกาํ หนด
เสร็จแลว้ จึงเฉลยคาํ ตอบพร้อมๆ กนั โดยครูเขียนเฉลยใหน้ กั เรียนดูอีกคร+ังบนกระดาน และให้
นกั เรียนตรวจและแกไ้ ขคาํ ตอบของตนเอง ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ตอบที:ถูกตอ้ งพร้อมๆ กนั
b, f, d, a, c, e
6. ครูใหน้ กั เรียนหาตวั อยา่ ง Venn Diagram จากอินเทอร์เน็ต เพื:อมาอธิบายลกั ษณะใหค้ รูฟังในชวั: โมงหนา้
6.4 ช*ัวโมงท*ี 11-13
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูใหน้ กั เรียนทบทวนคาํ ศพั ทใ์ น Unit 1 ท+งั 2 Lessons ดว้ ยการใหน้ กั เรียนเล่นเกม Spelling Bee
โดยครูแบ่งนกั เรียนในหอ้ งออกเป็น 2 กลุ่ม แต่ละกลุ่มผลดั กนั ส่งตวั แทนออกมายนื หนา้ ช+นั ทีละ
1 คน และสะกดคาํ ศพั ทท์ ี:ครูบอก กลุ่มใดสะกดคาํ ศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ งมากกวา่ จะเป็นกลุ่มท:ีชนะ
2. ครูใหน้ กั เรียนบอกลกั ษณะของ Venn Diagram และอาจใหน้ กั เรียน 1 คน ออกมาวาดตวั อยา่ งบน
กระดาน
3. ครูช+ีแจงใหน้ กั เรียนทราบวา่ วนั น+ีนกั เรียนจะไดท้ าํ แบบสาํ รวจเพื:อนในหอ้ ง และแสดงผลการสาํ รวจ
ใหอ้ ยใู่ นรูปของแผนภูมิเวนน์ (Venn Diagram) ซ:ึงเป็นวงกลมซอ้ นทบั กนั โดยครูกาํ หนดระยะเวลา
ในการทาํ งานประมาณ 1 สปั ดาห์ เมื:อครบกาํ หนดจึงใหน้ กั เรียนออกมานาํ เสนอหนา้ ช+นั เรียน โดยครู
มีคะแนนเกบ็ ให้
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
61
1. นกั เรียนต+งั คาํ ถามเหมือนในหนังสือเรียน หน้า 15 ข้อ 1 Ask two friends the questions. แลว้ ถาม
คาํ ถามดงั กล่าวกบั เพื:อนในหอ้ ง 2 คน เป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน และจดบนั ทึกคาํ ตอบลงใน
ตาราง
ตวั อย่าง
1) What’s your favourite subject? Sri Sak
2) Where do you have lunch? English Maths
3) Do you like Doraemon? Cafeteria Cafeteria
4) Who is your favourite singer? Yes Yes
5) What is your pet? Bie the Star Bie the Star
Dog
Cat
2. นกั เรียนวาดวงกลม 2 วง ใหบ้ างส่วนซอ้ นทบั กนั ดงั ตวั อยา่ ง แลว้ เขียนชื:อเพื:อนในวงกลมแต่ละวง
ในส่วนที:ไม่ซอ้ นทบั กนั
Sri
Sak
3. นกั เรียนเขียนสิ:งท:ีแตกต่างกนั ของแต่ละคน ลงในวงกลมของบุคคลคนน+นั เช่น
Sri Sak
- likes English - likes maths
- have got a cat - have got
a dog
4. นกั เรียนเขียนส:ิงที:บุคคลท+งั 2 คนท:ีนกั เรียนถามคาํ ถามชอบหรือมีเหมือนกนั ลงในพ+ืนที:ท:ีซอ้ น
62
ทบั กนั ของวงกลม 2 วง เช่น
- have lunch in
the cafeteria
- like Bie the
Star
- like Doraemon
5. นกั เรียนเขียนบรรยายเก:ียวกบั สิ:งท:ีเพ:ือนท+งั 2 คน มีหรือชอบเหมือนกนั หรือแตกต่างกนั ลงใน
กระดาษขนาด A4 พร้อมแผนภูมิเวนน์ แลว้ นาํ มาส่งครู เพ:ือเป็นคะแนนเกบ็ ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนมี
วนิ ยั และส่งงานภายในระยะเวลาที:กาํ หนด
6. เม:ือถึงกาํ หนดส่งงาน (1 สปั ดาห์) ครูใหน้ กั เรียนออกมานาํ เสนอผลงานของตน (Oral presentation)
หนา้ ช+นั เรียน โดยครูจบั ฉลากสุ่มเลือกผทู้ :ีจะออกมานาํ เสนอผลงาน ครูประเมินความมุ่งมนั: ในการ
ทาํ งาน การเตรียมการล่วงหนา้ และผลงานท:ีปรากฏออกมา (Outcome) ประกอบการประเมินการพดู
ในการใหค้ ะแนน
óกจิ กรรมรวบยอด
1. ครูชูภาพโรงเรียน และบอกนกั เรียนวา่ วนั น+ีนกั เรียนจะไดฝ้ ึกร้องเพลง School days ดว้ ยกนั จากน+นั
ครูเปิ ด CD/track 18 ใหน้ กั เรียนฟัง 1 คร+ัง
School days
School days, school days
At eight o’clock we start.
I like maths and music.
You like science and art.
School days, school days
I play with all my friends.
Then I do my homework.
When the school day ends.
63
ครูใหน้ กั เรียนดูเน+ือเพลงในหนังสือเรียน หน้า 16 ข้อ 1 Sing along. หรือติดแผน่ ป้ายเน+ือเพลง
School days บนกระดาน และใหน้ กั เรียนอ่านเน+ือเพลงพร้อมๆ กนั จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 18 ให้
นกั เรียนฟัง 2-3 คร+ัง และใหน้ กั เรียนฝึกร้องตามจนคล่อง เม:ือร้องเพลงคล่องแลว้ ครูใหน้ กั เรียนท+งั
หอ้ งร้องเพลง School days พร้อมกนั โดยไม่เปิ ด CD จากน+นั ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน
เพ:ือประกวดร้องเพลง (Singing Contest) และคิดท่าทางประกอบเพลง กลุ่มที:ร้องเพลงไดพ้ ร้อม-
เพรียงกนั มากท:ีสุด และคิดท่าทางประกอบเพลงไดอ้ ยา่ งสร้างสรรคม์ ากท:ีสุด จะไดร้ ับการลงคะแนน
เสียงใหเ้ ป็นผชู้ นะเลิศ ครูมีของขวญั เลก็ ๆ นอ้ ยๆ ใหก้ บั กลุ่มที:ชนะเลิศการแข่งขนั เพื:อเป็นแรงจูงใจ
2. นกั เรียนดูรูปภาพ ในหนังสือเรียน หน้า 16 ข้อ 2 Look, write and sing. แลว้ ใหน้ กั เรียนเติมคาํ ศพั ท์
ท:ีสมั พนั ธ์กบั รูปภาพลงในเน+ือเพลง โดยใหน้ กั เรียนทาํ ลงในสมุด จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนร้องเพลง
School days ที:เปลี:ยนแปลงเน+ือเพลงใหม่น+ีพร้อมๆ กนั
geography, computers, English, P.E.
eat
3. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ:ือนสนิทของตนเอง (Pair work) เพื:อเล่นเกม ในหนังสือเรียน หน้า 17 ข้อ 3 Play
the ‘Vocabulary Game’. โดยมีอุปกรณ์ในการเล่นดงั ต่อไปน+ี ตวั เดิน 2 ตวั (เช่น ฝาจีบน+าํ อดั ลม)
เหรียญ 1 บาท และแผน่ กระดานคาํ ศพั ท์ ซ:ึงอยใู่ นหนงั สือเรียน ครูอธิบายวธิ ีการเล่นเกมใหน้ กั เรียน
ฟัง ดงั น+ี
1) ผเู้ ล่นคนแรกโยนหรือหมุนเหรียญ 1 บาท เพื:อทายวา่ จะออกหวั หรือกอ้ ย ถา้ เหรียญออก
หวั ใหผ้ เู้ ล่นเดินตวั เดินได้ 1 ช่อง แต่ถา้ ออกกอ้ ย ผเู้ ล่นสามารถเดินตวั เดินได้ 2 ช่อง
2) ถา้ ผเู้ ล่นเดินตวั เดินไปหยดุ อยทู่ ี:รูปภาพใด ผเู้ ล่นคนน+นั ตอ้ งออกเสียงคาํ ศพั ทใ์ หถ้ ูกตอ้ ง
จึงจะไดค้ ะแนนสะสม 1 คะแนน
3) ผเู้ ล่นคนที: 2 หมุนเหรียญบา้ ง และเดินตวั เดินตามกติกาที:กาํ หนดไว้ เพื:อสะสมคะแนน
4) เมื:อทุกฝ่ ายมาถึงเสน้ ชยั ท:ีกาํ หนดให้ จึงนบั คะแนนวา่ ผเู้ ล่นแต่ละคนไดค้ ะแนนสะสม
คนละเท่าไร ผทู้ :ีไดค้ ะแนนสะสมมากกวา่ คือผชู้ นะ
5) เม:ือเล่นเกมจบแลว้ นกั เรียนจบั คู่กบั เพื:อนคนใหม่ เพ:ือเร:ิมตน้ เล่นเกมอีกคร+ัง
4. ครูใหน้ กั เรียนรวบรวมคาํ ศพั ทท์ +งั หมดใน Unit 1 ลงในสมุดคาํ ศพั ทท์ ี:ตนเองทาํ ข+ึนมา โดยให้
นกั เรียนนาํ กระดาษ A4 ที:ใชแ้ ลว้ 1 หนา้ ประมาณ 2 แผน่ มาพบั คร:ึง แลว้ เยบ็ แมก็ กลาง แลว้ เขียน
หนา้ แรกวา่ Your word book โดยในการบนั ทึกคาํ ศพั ทใ์ หน้ กั เรียนคดั คาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษตวั บรรจง
พร้อมเขียนคาํ แปล และวาดภาพประกอบ ระบายสีใหส้ วยงาม เมื:อส่งครูตรวจความถูกตอ้ งแลว้
ครูใหน้ กั เรียนท่องคาํ ศพั ทจ์ ากสมุดคาํ ศพั ทข์ องตนเอง
64
7. การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินการพดู นาํ เสนอเก:ียวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ของตนเอง
- ประเมินงานเขียนจดหมายถึงครูเกี:ยวกบั เพ:ือนที:ตนชอบ
- ประเมินการอ่านออกเสียงความเรียงท:ีกาํ หนด
- ประเมินงานเขียนเกี:ยวกบั กิจวตั รประจาํ วนั ของตนเองใน 1 วนั
- ประเมินการรวบรวมคาํ ศพั ท์ ใน Your word book
8. สื*อ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ
5. อินเทอร์เน็ต
6. ซองจดหมายและกระดาษเขียนจดหมาย
7. กระดาษแขง็
8. แผน่ ป้ายขนาดใหญ่ท:ีเขียน Audio script
65
ตวั อย่างกรอบ e-mail
66
แบบประเมนิ ทกั ษะทางภาษา
วชิ า ภาษาองั กฤษพ+ืนฐาน ช8ันประถมศึกษาปี ที* 4
Lesson …………………………………..
คาํ ชี8แจง ใหค้ รูผสู้ อนสงั เกตการใชท้ กั ษะทางภาษาในขณะปฏิบตั ิกิจกรรม โดยเขียนระดบั คะแนนลงใน
ตารางใหต้ รงกบั ความสามารถของผเู้ รียน
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน 4 = ดีมาก 3 = ดี 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง
ัฟง/พูดสนทนาเ .ีกยวกับวิชาและ สรุปผล
สถาน ี.ท ี.ทเ ีรยนได้ การประเมนิ
่อานออกเ ีสยง สะกดคํา และบอก
เลขที& ช&ือ-สกลุ ความหมายคําศัพท์ .ีทเ ีรยนได้ รวม
พูด/เ ีขยนประโยค Present Simple คะแนน
Tense ได้ ผา่ น ไม่
พูด/เ ีขยนให้ข้อ ูมลเ ี.กยวกับ ิกจวัตร ผา่ น
ประจําวันได้
ออกเ ีสยงคําศัพท์ ี.ทลงท้ายด้วย /l/ ได้
ลงช:ือ…………….……………………..ผปู้ ระเมิน
การประเมนิ : นกั เรียนท:ีไดค้ ะแนน 10 คะแนนข+ึนไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน (คะแนนเตม็ 20)
67
แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 2 The amazing body
รหัสวชิ า/ช*ือรายวชิ า ภาษาองั กฤษพ+ืนฐาน กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)
ช8ัน ประถมศึกษาปี ที: 4 เวลาเรียน 13 ชว:ั โมง ภาคเรียนท_ี* ___________
ผู้สอน _______________________________ โรงเรียน___________________________________
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี8วดั
สาระท*ี 1 ภาษาเพ*ือการสื*อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร*ืองทฟี* ังและอ่านจากสื*อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช+ีวดั 1. ปฏิบตั ิตามคาํ สงั: คาํ ขอร้อง และคาํ แนะนาํ (instructions) ง่ายๆ ที:ฟังหรืออ่าน
2. อ่านออกเสียงคาํ สะกดคาํ อ่านกลุ่มคาํ ประโยค ขอ้ ความง่ายๆ และบทพดู เขา้ จงั หวะ
ถูกตอ้ งตามหลกั การอ่าน
3. เลือก/ระบุภาพ หรือสญั ลกั ษณ์ หรือเคร:ืองหมาย ตรงตามความหมายของประโยคและ
ขอ้ ความส+นั ๆ ท:ีฟังหรืออ่าน
4. ตอบคาํ ถามจากการฟังและอ่านประโยค บทสนทนา และนิทานง่ายๆ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื*อสารทางภาษาในการแลกเปลยี* นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ
ตวั ช+ีวดั 4. พดู /เขียนเพ:ือขอและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเอง เพื:อน และครอบครัว
มาตรฐาน ต 1.3 นําเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร*ืองต่างๆ โดยการพูดและ
การเขยี น
ตวั ช+ีวดั 1. พดู /เขียนใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ตนเองและเร:ืองใกลต้ วั
2. พดู /วาดภาพแสดงความสมั พนั ธ์ของสิ:งต่างๆ ใกลต้ วั ตามที:ฟังหรืออ่าน
สาระท*ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนําไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช+ีวดั 3. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมท:ีเหมาะกบั วยั
68
สาระที* 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ*ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช*ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ*ืน และเป็ นพืน8 ฐาน
ในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช+ีวดั 1. คน้ ควา้ รวบรวมคาํ ศพั ทท์ ี:เกี:ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ:ืน และนาํ เสนอดว้ ยการพดู /
การเขียน
สาระที* 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท8งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช+ีวดั 1. ฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเคร*ืองมือพืน8 ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลย*ี นเรียนรู้กบั สังคมโลก
ตวั ช+ีวดั 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสืบคน้ และรวบรวมขอ้ มูลต่างๆ
2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั ส่วนต่างๆ ในร่างกาย และรูปร่างลกั ษณะของบุคคล การอ่านตวั เลข
โครงสร้างประโยคในการเปรียบเทียบข+นั กวา่ ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถพดู ขอและใหข้ อ้ มูล พดู และเขียน
บรรยาย/เปรียบเทียบรูปร่างลกั ษณะของบุคคลได้ และยงั บูรณาการร่วมกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ:ืนอีกดว้ ย
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- คาํ สง:ั และคาํ แนะนาํ ในการวาดรูป
- กลุ่มคาํ ประโยคเด:ียว และความหมายเกี:ยวกบั ตนเอง เช่น ส่วนต่างๆ ในร่างกาย
รูปร่างลกั ษณะ
- การออกเสียงเนน้ หนกั -เบาในคาํ
- ประโยค บทสนทนา เน+ือเร:ืองส+นั ๆ ท:ีมีภาพประกอบ
- คาํ ศพั ท์ สาํ นวน และประโยคที:ใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเอง เพ:ือน และครอบครัว
เช่น What does he/she look like? He/She is……. .
How tall is…? He/She is….. .
- ประโยคและขอ้ ความท:ีใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเอง และบุคคล เช่น รูปร่าง
- คาํ กลุ่มคาํ ที:มีความหมายสมั พนั ธ์ของส:ิงต่างๆ ใกลต้ วั เช่น แผนภูมิแท่ง
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง
69
- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ท:ีเกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาํ ศพั ทท์ ี:เกี:ยวขอ้ งใกลต้ วั จากสื:อและแหล่งการเรียนรู้
ต่างๆ
- การรวบรวมคาํ ศพั ทท์ :ีเก:ียวขอ้ งกบั ส่วนต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ (สาระการเรียนวทิ ยาศาสตร์)
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการสื*อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดวเิ คราะห์
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ - มีวนิ ยั
- อยอู่ ยา่ งพอเพียง
- ซื:อสตั ยส์ ุจริต
- มีจิตสาธารณะ
6. ชิ8นงาน/ภาระงาน
- งานเขียนบรรยายเก:ียวกบั สตั วป์ ระหลาด
- การทาํ แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบความสูงของเพ:ือนในหอ้ ง
- งานเขียนบรรยายลกั ษณะตวั การ์ตูนท:ีชอบ พร้อมวาดภาพประกอบ
- งานเขียนบรรยายพี:นอ้ งของตนเอง พร้อมวาดภาพประกอบ
- การพดู เปรียบเทียบบุคคลในภาพที:กาํ หนดให้
- การรวบรวมคาํ ศพั ทใ์ น Your word book
7. การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบยอ่ ย (English Test)
70
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินงานเขียนบรรยายเกี:ยวกบั ร่างกายของสตั วป์ ระหลาด
- ประเมินการทาํ แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบความสูงของเพื:อนในหอ้ ง
- ประเมินงานเขียนบรรยายลกั ษณะตวั การ์ตูนท:ีชอบ พร้อมวาดภาพประกอบ
- ประเมินงานเขียนบรรยายพ:ีนอ้ งของตนเอง พร้อมวาดภาพประกอบ
- ประเมินการพดู เปรียบเทียบบุคคลในภาพที:กาํ หนดให้
- ประเมินการรวบรวมคาํ ศพั ทใ์ น Your word book
8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั แนบมาพร้อมน+ี
- กิจกรรมนาํ สู่การเรียน
- กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้
- กิจกรรมรวบยอด
9. สื*อ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ
5. ภาพสตั วป์ ระหลาดต่างๆ
6. ภาพนกั ร้องหรือดารา
7. แผน่ ป้าย Audio script
71
แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 2 The amazing body (Lesson 1)
1. สาระสําคญั
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั ส่วนต่างๆ ในร่างกาย และการอ่านตวั เลข ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถพดู
และเขียนบรรยายร่างกายของตนเองและบุคคลได้ และยงั บูรณาการร่วมกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื:นอีกดว้ ย
2. ตวั ชี8วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
- ระบุภาพตรงตามความหมายของคาํ ศพั ท/์ ประโยคเก:ียวกบั ส่วนต่างๆ ในร่างกายได้ (ต 1.1/3)
- ออกเสียงเนน้ หนกั -เบาคาํ ศพั ทต์ วั เลขหลกั สิบได้ (ต 1.1/2)
- อ่านและพดู ตวั เลขหลกั ร้อยถึงหลกั หมื:นได้ (ต 1.1/2)
- ฟังจบั ใจความได้ (ต 1.1/4)
- อ่านคาํ สง:ั และปฏิบตั ิตามได้ (ต 1.1/1, ต 4.1/1)
- เขียนบรรยายง่ายๆ เก:ียวกบั ร่ายกายสตั วป์ ระหลาดได้ (ต 1.3/1)
- เล่นเกมภาษาองั กฤษได้ (ต 2.1/3)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- คาํ สง:ั และคาํ แนะนาํ ในการวาดรูป
- การออกเสียงเนน้ หนกั -เบาในคาํ
- กลุ่มคาํ ประโยคเดี:ยว และความหมายเก:ียวกบั ตนเอง เช่น ส่วนต่างๆ ในร่างกาย
- บทสนทนา คาํ ถามเกี:ยวกบั ใจความสาํ คญั
- ประโยคและขอ้ ความที:ใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ตนเองและบุคคล
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม
- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส*ือสาร
72
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มีวนิ ยั
- ซื:อสตั ยส์ ุจริต
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
6.1 ชั*วโมงท*ี 1-2
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนมีวนิ ยั โดยการเขา้ หอ้ งเรียนตรงตามเวลา และไม่พดู คุยกนั เมื:อครูเดินเขา้ มาใน
หอ้ งเรียนแลว้ ครูทบทวนคาํ ศพั ทข์ องบทเรียนท:ีผา่ นมาดว้ ยบตั รภาพและบตั รคาํ นกั เรียนนาํ งาน
ท:ีไดร้ ับมอบหมายมาส่งครู
2. นกั เรียนดูภาพร่างกายของมนุษยใ์ นหนังสือเรียน หน้า 18 ข้อ 1 Can you name the parts of the
body? Talk with a partner. ครูช+ีท:ีภาพ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ เห็นอะไรบา้ ง ใหน้ กั เรียนบอกเป็น
ภาษาไทยได้
จากน+นั ครูช+ีไปที:ร่างกายมนุษยท์ ีละส่วนในรูปภาพ และบอกคาํ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ a man, body,
heart, brain, stomach, muscles, etc.
3. นกั เรียนหาคาํ ศพั ทใ์ นหนังสือเรียน หน้า 18 ข้อ 2 Find the parts of the body and circle. พร้อมๆ กนั
และวงภาพส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษยใ์ นขอ้ 1 ประกอบการพดู ดว้ ย จากน+นั ครูอ่านออกเสียงให้
นกั เรียนฟังและพดู ตาม พร้อมกบั ช+ีอวยั วะส่วนต่างๆในร่างกายของตนเองตามไปดว้ ย เสร็จแลว้ ครู
อ่านคาํ ศพั ทอ์ ีกคร+ังทีละคาํ โดยไม่เรียงลาํ ดบั แลว้ ใหน้ กั เรียนลุกข+ึนยนื ทีละ 5 คน และช+ีที:อวยั วะของ
ตนเองตามที:ครูบอก ครูทาํ กิจกรรมเช่นน+ีอีก 2-3 คร+ัง โดยเพ:ิมความเร็วในการอ่านคาํ ศพั ทข์ +ึนเรื:อยๆ
4. ครูใหเ้ วลานกั เรียน 2-3 นาที ในการทดสอบความรู้เก:ียวกบั คาํ ศพั ทส์ ่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ โดย
ใหน้ กั เรียนดูภาพคนที:กาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้า 14 ข้อ 1 Look and label. และเลือกคาํ ศพั ทใ์ น
กรอบมาเขียนเติมลงในรูปภาพใหถ้ ูกตอ้ ง ครูใหน้ กั เรียนที:เสร็จ 5 คนแรกยกมือข+ึน และนาํ ผลงานมา
ส่งครู ถา้ ถูกหมด ครูใหเ้ พื:อนๆ ปรบมือให้ และใหน้ กั เรียนท+งั 5 คนออกมายนื หนา้ หอ้ ง และช่วยกนั
เฉลยคาํ ตอบ คนละ 2 คาํ ดว้ ยการช+ีท:ีส่วนต่างๆในร่างกายของตนเองและพดู คาํ ศพั ท์ และใหเ้ พ:ือนๆ
พดู ตาม
73
5. นกั เรียนจบั คู่ คู่ละ 2 คน อ่านประโยคท+งั 4 ในแบบฝึ กหัด หน้า 14 ข้อ 2 Draw your body. Then
follow the instructions. แลว้ วาดรูปร่างกายมนุษย์ พร้อมกบั ระบายสีตามขอ้ ความท:ีนกั เรียนไดอ้ ่าน
โดยครูเนน้ ใหน้ กั เรียนวาดรูปและระบายสีใหถ้ ูกตอ้ ง (ไม่เนน้ ความสวยงาม แต่ไม่ควรสกปรกเลอะ-
เทอะ) ครูใหน้ กั เรียนคู่แรกที:ทาํ งานเสร็จนาํ ผลงานมาส่งครู ครูใหน้ กั เรียนคู่น+นั อ่านประโยคทีละ
ประโยค และช+ีนิ+วที:รูปภาพของตนเองประกอบการอ่าน เสร็จแลว้ ครูถามนกั เรียนวา่ รูปของเพื:อน
ถูกตอ้ งหรือไม่ ถา้ ไม่ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกวา่ ผดิ ที:ใด
.
1 ระบายสีผมเป็นสีน+าํ ตาล
2 ระบายสีตาเป็นสีน+าํ เงิน
3 วาดภาพเทา้ ที:ใส่รองเทา้
4 วาดภาพร่างกายที:ใส่เส+ือยดื
6. ครูนาํ หุ่นมนุษยพ์ ลาสติกจาํ ลอง (Skeleton) หรือโปสเตอร์ภาพโครงสร้างมนุษยม์ าใหน้ กั เรียนดู และ
ต+งั ช:ือใหด้ ว้ ย
Teacher: This is Jimmy. He is my friend.
He used to be dark, tall and handsome.
7. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน หนา้ 19-21 เพ:ือสาํ รวจเน+ือหาคร่าวๆ แลว้ ถามนกั เรียนวา่ เห็น
อะไรบา้ ง
Teacher: Class, what do you see from pages 19 to 21?
Students: A man, numbers, a boy, a girl, etc.
8. ครูแจง้ ใหน้ กั เรียนทราบวา่ ใน Unit 2 Lesson 1 น+ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั ส่วนต่างๆ ใน
ร่างกายมนุษย์ ตวั เลขหลกั ร้อยถึงหลกั หม:ืน และการออกเสียงเนน้ หนกั (Stress) คาํ ศพั ทต์ วั เลข
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนดูภาพส่วนต่างๆ ของร่างกายใน Word box ในหนังสือเรียน หน้า 19 ข้อ 1 Listen, point and
repeat. ครูช+ีนิ+วไปท:ีภาพทีละภาพ แลว้ ถามนกั เรียนในช+นั วา่ คือภาพอะไร ใหน้ กั เรียนตอบเป็น
ภาษาไทย
Teacher: What’s this?
ช+ีนิ+วไปทีละภาพ
Students: คอ ฟัน ไหล่ ……… ตามลาํ ดบั (ตอบพร้อมๆ กนั )
ครูเปิ ด CD/track 19 ใหน้ กั เรียนฟังและช+ีนิ+วไปท:ีภาพทีละภาพ แลว้ ออกเสียงตาม
74
neck teeth shoulder stomach toe
bone heart muscles brain body
นกั เรียนฟัง CD/track 19 อีกหลายๆ คร+ัง และออกเสียงตามจนคล่อง ครูเดินสงั เกตพฤติกรรม
การเรียนรู้ของนกั เรียน และคอยกระตุน้ ใหน้ กั เรียนทุกคนพดู ตาม CD จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนท+งั ช+นั
ช+ีไปท:ีภาพทีละภาพ และอ่านออกเสียงคาํ ศพั ท์ โดยไม่เปิ ด CD ครูทดสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน
ดว้ ยการชูบตั รภาพทีละใบ แลว้ ใหน้ กั เรียนท+งั ช+นั บอกคาํ ศพั ทใ์ หถ้ ูกตอ้ ง
Teacher: ชูบตั รภาพหวั ใจ
Students: Heart.
Teacher: ชูบตั รภาพฟัน
Students: Tooth.
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 10 คน ใหพ้ ดู คาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั ร่างกายตามบตั รภาพที:นกั เรียนเห็น
2. นกั เรียนดูรูปภาพเดก็ ผชู้ าย ในหนังสือเรียน หน้า 19 ข้อ 2 Listen and label. ครูเปิ ด CD/track 20 ให้
นกั เรียนฟัง 2 คร+ัง และช+ีนิ+วตามอวยั วะส่วนต่างๆ ที:นกั เรียนไดย้ นิ จาก CD จากน+นั ครูถามนกั เรียนวา่
เรื:องที:นกั เรียนไดฟ้ ังมีเน+ือหาเกี:ยวกบั อะไร จนไดค้ าํ ตอบวา่ เก:ียวกบั เดก็ ท:ีเรียกหาแม่ เพราะมีปัญหา
เกี:ยวกบั ร่างกายของตนเอง จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนเขียนหมายเลข 1-8 ลงในสมุด แลว้ เขียนคาํ ศพั ท์
ชื:ออวยั วะตามหมายเลขที:ระบุในภาพ
Dear Mum! My head hurts.
Dear Mum! My neck hurts.
Dear Mum! My leg hurts.
Dear Mum! My shoulder hurts.
Are you OK?
No, I’m not.
Let’s see the doctor!
Dear Mum! My stomach hurts.
Dear Mum! My foot hurts.
75
Dear Mum! My arm hurts.
Dear Mum! My toe hurts.
Are you OK?
No, I’m not.
Let’s see the doctor!
ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 20 ใหน้ กั เรียนฟังอีกคร+ัง โดยในคร+ังน+ี
ใหน้ กั เรียนยกมือข+ึนทุกคร+ังท:ีไดย้ นิ คาํ ศพั ทท์ :ีนกั เรียนเติม จากน+นั ครูติดแผน่ ป้าย Audio script ให้
นกั เรียนดูบนกระดาน แลว้ เปิ ด CD/track 20 ใหน้ กั เรียนฟังตามไปดว้ ย แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่าน
ออกเสียง Audio script พร้อมกนั อีกคร+ัง
1 head 3 shoulder 5 stomach 7 foot
2 neck 4 arm 6 leg 8 toe
3. นกั เรียนดูรูปภาพท:ีกาํ หนดใหใ้ นหนังสือเรียน หน้า 20 ข้อ 3 Listen and number. แลว้ ครูเปิ ด
CD/track 21 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง เพ:ือเรียงลาํ ดบั รูปภาพ A-F ตามหมายเลขท:ีไดย้ นิ จาก CD จากน+นั
ครูเขียนเฉลยคาํ ตอบบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนตรวจคาํ ตอบของตนเอง โดยครูย+าํ ใหน้ กั เรียนตรวจ
คาํ ตอบของตนเองดว้ ยความซ:ือสตั ย์ ครูสาํ รวจวา่ นกั เรียนส่วนใหญ่ตอบถูกก:ีขอ้ ดว้ ยการถามวา่ ใคร
ตอบถูก 6 ขอ้ ใหย้ กมือข+ึน จากน+นั ถามวา่ ใครถูก 5 ขอ้ 4 ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ขอ้ และไม่ถูกเลย
ตามลาํ ดบั
1 stomach 3 bone 5 teeth
2 heart 4 muscles 6 brain
1C 3F 5D
2A 4E 6B
4. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 คน เพ:ือเล่นเกม Mime Action Game (สามคั คีใบค้ าํ ) ครูเตรียมกระดาษ
ชิ+นเลก็ ๆ ใหค้ รบตามจาํ นวนกลุ่ม และเขียนคาํ ใบล้ งบนกระดาษ ครูอธิบายวธิ ีการเล่น ดงั น+ี
1) แต่ละกลุ่ม ยนื เขา้ แถวเรียงหนา้ กระดาน คนท:ี 1 กบั คนที: 2 หนั หนา้ เขา้ หากนั คนที: 3
และคนที: 4 ยนื หนั หลงั
2) คนท:ี 1 ดูประโยคคาํ ใบ้ ซ:ึงครูแจกใหแ้ ก่ทุกกลุ่ม ซ:ึงเขียนวา่
“I have one head, two arms and two legs.”
จากน+นั คนที:หน:ึงจึงแสดงท่าทางใหค้ นที: 2 ดู โดยไม่ส่งเสียง
76
3) คนที: 2 ใบค้ าํ ใหก้ บั คนท:ี 3 โดยไม่ส่งเสียง
คนที: 3 ใบค้ าํ ต่อใหค้ นที: 4 โดยไม่ส่งเสียง
4) คนท:ี 4 ของแต่ละกลุ่มใหม้ ากระซิบคาํ ตอบกบั ครูทีละคน เพื:อที:ครูจะไดร้ ู้วา่ ใครตอบถูก
(เพ:ือไม่ใหม้ ีการเปล:ียนคาํ ตอบทีหลงั )
5) ครูใหค้ นที: 4 ของแต่ละกลุ่มพดู คาํ ตอบของกลุ่มตนเองดงั ๆ ใหเ้ พ:ือนๆ ไดย้ นิ จากน+นั
ครูเขียนคาํ ตอบที:ถูกตอ้ งบนกระดาน และใหน้ กั เรียนทุกคนอ่านพร้อมๆ กนั ดงั น+ี
I have one head, two arms and two legs.
óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนจบั กลุ่มทาํ งาน กลุ่มละ 3 คน ช่วยกนั หาคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั ส่วนต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ ซ:ึงซ่อน
อยใู่ นแบบฝึ กหัด หน้า 15 ข้อ 1 Find twelve words about the body parts. กลุ่มที:วงกลมคาํ ศพั ทค์ รบ
ท+งั 12 คาํ ก่อน จะถือเป็นผชู้ นะ
STOMACH, BONE, TOE, BODY, MUSCLES, HAIR, TEETH,
NECK, BRAIN, SHOULDER, HEART, FEET
2. นกั เรียนจบั คู่กบั เพื:อนที:นง:ั ซา้ ยมือ (Pair work) เพื:อจบั คู่คาํ ศพั ทก์ บั ภาพประกอบท:ีอยซู่ า้ ยมือ ใน
แบบฝึ กหัด หน้า 15 ข้อ 2 Look and match. ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาํ ศพั ทพ์ ร้อมๆ กนั ก่อน แลว้ จึงใหท้ าํ
แบบฝึกหดั เสร็จแลว้ นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ โดยครูเขียนคาํ ตอบที:ถูกตอ้ งอีกคร+ังบนกระดาน
1b 3c 5f
2e 4a 6d
3. นกั เรียนแบ่งกลุ่มกนั ทาํ งาน กลุ่มละ 5-6 คน (Group work) เพื:อช่วยกนั ระดมความคิดบอกคาํ ศพั ท์
เกี:ยวกบั ส่วนต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ โดยเริ:มจาก A-Z ตามลาํ ดบั ครูอนุญาตใหน้ กั เรียนใช้
Dictionary ไทย-องั กฤษ หรือ องั กฤษ-ไทย ได้ จากน+นั ครูเขียนตวั อกั ษร A-Z บนกระดาน เพื:อให้
นกั เรียนช่วยกนั บอกคาํ ศพั ทท์ :ีนกั เรียนหาได้ ตวั อกั ษรใดท:ีคิดไม่ไดใ้ หเ้ วน้ ไวก้ ่อน
A - arm, ankle N - nose, neck
B - brain, body, back, belly, bottom O-
C - cheek, chin, chest P - pupil (รูม่านตา), palm (ฝ่ ามือ)
D - derm (ผวิ หนงั ) Q-
E - eye, eyebrow, eyelash, ear, elbow R - retina (จอตา)
77
F - finger, foot, forehead, face S - stomach, skin
G - gums (เหงือก) T - thumb, tooth, teeth, tongue
H - heart, hand, head, hair, heel, hip U-
I - intestine (ลาํ ไสเ้ ลก็ ) V - veins (เสน้ โลหิตดาํ )
J - joint (ขอ้ ต่อ), jaw (กราม) W - waist, wrist
K - kidney (ไต), knee (เข่า) X-
L - lip, leg, liver (ตบั ), lung (ปอด) Y-
M - muscles, mouth Z - etc.
นกั เรียนบนั ทึกคาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีลงในสมุดของตนเอง ในหวั ขอ้ “Parts of the Body” หรืออาจแบ่งกลุ่ม
แลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มคดั คาํ ศพั ทใ์ ส่แผน่ ป้าย เพื:อทาํ เป็นส:ือการเรียนรู้ในหอ้ งเรียน
4. นกั เรียนเล่นเกม Grouping Game โดยครูใหน้ กั เรียนจดั โตะ๊ เรียนชิดฝาผนงั ดา้ นใดดา้ นหน:ึงของ
หอ้ งเรียน เพื:อใหม้ ีพ+ืนที:ในการเล่นเกม หรือใหน้ กั เรียนออกไปทาํ กิจกรรมนอกหอ้ งเรียน เม:ือเริ:ม
เล่น ผนู้ าํ เกมหรือครูจะใหค้ าํ สงั: แก่นกั เรียนที:ยนื กระจดั กระจายอยใู่ นหอ้ งเรียนวา่ จบั กลุ่ม 4 คน
ผเู้ ล่นจะตอ้ งรีบจบั กลุ่มกบั เพื:อน ใหค้ รบตามจาํ นวนท:ีกาํ หนดใหไ้ ดเ้ ร็วที:สุด เมื:อจบั กลุ่มไดแ้ ลว้
ใหก้ ลุ่มน+นั นงั: ลง ผเู้ ล่นที:จบั กลุ่มไดช้ า้ หรือไม่มีกลุ่ม จะถูกลงโทษโดยการร้องเพลง หรือทาํ กริยาที:
กลุ่มอื:นๆ สงั: แลว้ รอเร:ิมตน้ เล่นเกมในรอบใหม่
ส่วนนกั เรียนที:จบั กลุ่ม 4 คนไดแ้ ลว้ ใหเ้ ลือกคนใดคนหน:ึงเป็นตวั หลกั เพื:อถามคาํ ถามที:ข+ึนตน้ ดว้ ย
How many แลว้ ตามดว้ ยส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น
A: How many legs have you got?
B: I’ve got two legs.
A: How many toes have you got?
C: I’ve got ten toes.
ผถู้ าม (A) จะถามคาํ ถามแก่สมาชิกท:ีเหลือในกลุ่ม (3 คน) ครูสงั เกตการทาํ กิจกรรมของนกั เรียนใน
แต่ละกลุ่ม และใหค้ วามช่วยเหลือเมื:อจาํ เป็น เช่น พดู หรือออกเสียงไม่ได้ (เพราะความอายหรืออ่อน
ภาษาองั กฤษ) ครูคอยใหก้ าํ ลงั ใจ ไม่ควรดุวา่ เม:ือนกั เรียนพดู ผดิ
เม:ือผนู้ าํ หรือครูเป่ านกหวดี อีกคร+ัง ใหท้ ุกคนเปล:ียนกลุ่มใหไ้ ดก้ ลุ่มละ 4 คนเหมือนเดิม โดยสมาชิก
กลุ่มใหม่จะตอ้ งไม่มีสมาชิกซ+าํ กบั กลุ่มเดิม และตอ้ งไม่พดู บทสนทนาเดิม นกั เรียนสามารถดดั แปลง
ประโยคคาํ ถามและคาํ ตอบได้ แต่ตอ้ งมีเน+ือหาเกี:ยวกบั คาํ ศพั ทส์ ่วนต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ และเม:ือ
เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนเปล:ียนกลุ่มอีก 3-4 คร+ัง จนพดู ประโยคไดค้ ล่อง ครูคอยดูแลและตกั เตือน
ไม่ใหน้ กั เรียนใชบ้ ทบาทเดิม เพ:ือใหน้ กั เรียนไดเ้ ป็นท+งั ผถู้ ามและผตู้ อบ
5. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนคน้ ควา้ วธิ ีการอ่านตวั เลขหลกั พนั และหลกั หมื:นเป็นภาษาองั กฤษ เพื:อ
เตรียมตวั ก่อนเรียนในชวั: โมงถดั ไป
78
6.2 ชั*วโมงที* 3-4
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. ครูทบทวนคาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั ร่างกายมนุษยใ์ นชว:ั โมงที:ผา่ นมาดว้ ยบตั รภาพและบตั รคาํ โดยการชูบตั ร
ภาพ และบตั รคาํ ใหน้ กั เรียนออกเสียง
2. ครูทดสอบคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั ร่างกายมนุษยท์ ี:นกั เรียนเรียนมาแลว้ โดยครูถ่ายเอกสารแบบทดสอบ
(English Test) จากส่วนทา้ ยของแผนการจดั การเรียนรู้น+ีแจกนกั เรียนคนละ 1 แผน่ และบอกนกั เรียน
วา่ ในการทาํ งาน นกั เรียนควรมีความซ:ือสตั ยต์ ่อตนเอง หา้ มลอกงานของผอู้ ื:น และเมื:อนกั เรียนทาํ
แบบทดสอบเสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนสลบั กนั ตรวจ โดยครูเขียนเฉลยใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน
ครูอธิบายใหน้ กั เรียนทราบวา่ นกั เรียนท:ีตอบถูกมากกวา่ 8 ขอ้ จะถือวา่ ผา่ น
1 eyes 3 foot 5 leg 7 heart 9 ear
2 mouth 4 hand 6 tooth 8 stomach 10 hair
3. ครูบอกนกั เรียนวา่
Teacher: Look! How much money do I have?
ครูแสดงธนบตั รกระดาษหรือแบงกก์ าโม่ ใบละ 100, 500, 1,000 บาท ใหน้ กั เรียนแถวหนา้ ช่วยกนั
นบั
4. ครูบอกนกั เรียนวา่ ในบทเรียนน+ีนกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เก:ียวกบั การนบั ตวั เลขจนถึงหลกั หม:ืน และ
ส่วนต่างๆ ของร่างกายมนุษย์ (ต่อ) ขอใหน้ กั เรียนมีระเบียบวนิ ยั ในการเรียน โดยต+งั ใจฟัง ไม่พดู คุย
กนั ในขณะท:ีครูสอน
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. ครูสอนวธิ ีการอ่านตวั เลข (Numbers) เป็นภาษาองั กฤษ โดยการทบทวนหลกั สิบ และอธิบายวธิ ีการ
อ่านหลกั หม:ืนใหน้ กั เรียน ดงั น+ี
11 = eleven 18 = eighteen 40 = forty 80 = eighty
12 = twelve 19 = nineteen 45 = forty-five 90 = ninety
13 = thirteen 20 = twenty 50 = fifty
14 = fourteen 21 = twenty-one 56 = fifty-six
15 = fifteen 22 = twenty-two 60 = sixty
16 = sixteen 30 = thirty 68 = sixty-eight
17 = seventeen 32 = thirty-two 70 = seventy
100 = (a) one hundred
79
101 = a/one hundred and one
121 = one hundred and twenty-one
232 = two hundred and thirty-two
999 = nine hundred and ninety-nine
1000 = one thousand
1001 = one thousand and one
1121 = one thousand one hundred and twenty-one
หมายเหตุ: ใน British English จะใช้ “and” หนา้ ตวั เลขสุดทา้ ยท:ีมากกวา่ 100
เช่น 101 อ่านวา่ one hundred and one
แต่ถา้ เป็น American English จะละ “and”
เช่น 101 อ่านวา่ one hundred one
สาํ หรับหลกั หมื:น 10,000 อ่านวา่ ten thousand (ใหจ้ าํ ง่ายๆ วา่ 10 พนั ) เช่น
12,000 = twelve thousand (12 พนั )
15,636 = fifteen thousand six hundred and thirty-six
ครูเขียนตวั เลขต่างๆ บนกระดาน เพื:อใหน้ กั เรียนฝึกอ่านจนคล่อง
2. นกั เรียนดูภาพ Mark ในหนังสือเรียน หน้า 20 ข้อ 4 Listen, say and read. ครูช+ีท:ีภาพ Mark แลว้ ถาม
นกั เรียนวา่ Mark พดู วา่ อะไร
Teacher: What does Mark say?
Students: Mark says, “One hundred and forty-five”.
ครูใหน้ กั เรียนอ่านตวั เลขในกรอบ ซ:ึงมีต+งั แต่หลกั ร้อยถึงหลกั หมื:น จากน+นั ครูเขียนตวั เลขเหล่าน+ี
บนกระดาน แลว้ บอกนกั เรียนใหต้ +งั ใจฟัง CD/track 22 แลว้ อ่านตามไปดว้ ย จากน+นั ครูเปิ ด CD ให้
นกั เรียนฟังอีก 2-3 คร+ัง เพื:อใหน้ กั เรียนฝึกอ่านตามจนคล่อง เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียง
เองพร้อมๆ กนั โดยไม่เปิ ด CD ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6 คนใหอ้ ่านออกเสียงตวั เลขดงั กล่าวอีกคร+ัง
ทีละคน เพื:อตรวจสอบวา่ นกั เรียนสามารถอ่านตวั เลขไดห้ รือไม่
one hundred and forty-five six hundred and fifty
eight hundred one thousand eight hundred
fourteen thousand eighty thousand
3. นกั เรียนดูภาพประกอบในหนังสือเรียน หน้า 20 ข้อ 5 Listen and write. ครูถามนกั เรียนวา่ เห็นใคร
ในภาพบา้ ง และคนในภาพถือหรือมีอะไรอยใู่ นมือ
80
Teacher: How many persons do you see?
Students: Five persons.
Teacher: Who are they?
Students: May, Mark, Harry, Betty and Ben.
Teacher: What do they have in their hands?
Students: They have stars.
Teacher: Excellent!
จากน+นั ครูเขียนชื:อบุคคลในภาพบนกระดาน May, Mark, Harry, Betty และ Ben และอธิบายให้
นกั เรียนฟังวา่ บุคคลท+งั 5 คนน+ีมีดาวคนละ 1 ดวง ซ:ึงในดาวแต่ละดวงน+นั จะมีตวั เลขอยู่ ใหน้ กั เรียน
ฟัง CD/track 24 เพื:อระบุวา่ ตวั เลขในดาวของแต่ละคนคือเลขอะไร เม:ือนกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ครูแบ่ง
นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ใหช้ ่วยกนั ฟังและเขียนคาํ ตอบลงในสมุดของตนเอง ครูเดินสงั เกต
ขณะนกั เรียนทาํ กิจกรรมและบนั ทึกพฤติกรรมการเรียนรู้ของนกั เรียน
1 May has got a red star. The number is eight thousand.
2 Mark has got a yellow star. The number is nine hundred and fifty.
3 Harry has got a blue star. The number is twelve thousand.
4 Betty has got a green star. The number is one thousand nine hundred.
5 Ben has got a brown star. The number is ninety thousand.
ครูแจกกระดาษขนาด A4 ซ:ึงมีตวั เลข 1-5 ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 1 แผน่ ใหแ้ ต่ละกลุ่มเขียน
คาํ ตอบหลงั ตวั เลขดงั กล่าว โดยครูระบุใหน้ กั เรียนเขียนตวั โตๆ ใหช้ ดั เจน จากน+นั ใหแ้ ต่ละกลุ่มนาํ
กระดาษไปติดบนกระดานเพ:ือเปรียบเทียบคาํ ตอบ ครูตรวจแลว้ สรุปคาํ ตอบที:ถูกตอ้ งใหน้ กั เรียน
อีกคร+ังบนกระดาน
1 8,000 2 950 3 12,000 4 1,900 5 90,000
ครูติดแผน่ ป้าย Audio script ใหน้ กั เรียนดูบนกระดาน และเปิ ด CD/track 24 อีกคร+ัง เพื:อใหน้ กั เรียน
ดูประโยคประกอบการฟัง เมื:อฟังจบแลว้ นกั เรียนอ่าน Audio script พร้อมๆ กนั โดยไม่เปิ ด CD
จากน+นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คน ใหอ้ ่าน Audio script คนละ 1 ประโยค
81
4. ครูสอนการอ่าน โดยใหน้ กั เรียนดูรูปภาพ ในหนังสือเรียน หน้า 21 ข้อ 6 Listen, read and circle
‘true’ or ‘false’.
Teacher: Class, what do you see in the picture? (ครูช+ีท:ีภาพ)
Students: a classroom, a teacher, students, blackboard, desks, chairs
Teacher: Good.
ครูควรชมเชยนกั เรียนทุกคร+ังท:ีตอบถูก เพ:ือสร้างแรงจูงใจ เม:ือทาํ กิจกรรมข+นั ก่อนอ่านเสร็จแลว้
ครูเปิ ด CD/track 25 ใหน้ กั เรียนฟัง
Teacher: How many teeth have you got?
Julia: That’s easy. I’ve got 32 teeth.
Teacher:
Harry: Good! How many bones have you got?
Teacher: I know! I know! I’ve got 206 bones.
Ben: Great! Have you got 600, 620 or 640 muscles in your body?
Teacher:
I think I know. I’ve got…..er….640 muscles.
Harry: Well done, Ben! Now the last question, has your brain got
Teacher: bones?
No, it hasn’t.
That’s correct.
เม:ือฟังจบแลว้ ครูถามนกั เรียนวา่ บทสนทนาท:ีนกั เรียนไดย้ นิ เป็นเรื:องเก:ียวกบั อะไร
Teacher: Who are in the conversation?
Students: Teacher, Julia, Harry and Ben.
Teacher: ครูเขียนช:ือบุคคลท+งั สี:ที:กล่าวถึงบนกระดาน
What are they talking about?
Students: Teeth, bones, brain, muscles, body, etc.
Teacher: Very good!
นกั เรียนอ่านประโยค 1-4 ท:ีอยดู่ า้ นล่างของบทสนทนา ในขอ้ 6 แลว้ พิจารณาวา่ ประโยคเหล่าน+ี
ถูกตอ้ งตามเน+ือหาในบทสนทนาหรือไม่ ถา้ ถูกตอ้ งตรงตามเน+ือหาใหว้ งรอบ true แต่ถา้ ไม่ถูกตอ้ ง
ใหว้ งรอบ false จากน+นั จึงเฉลยคาํ ตอบพร้อมกนั
82
1 There are thirty-two teeth in our body. true
2 There are two hundred and sixty bones in our body. false
true
(correct – two hundred and six bones) false
3 The brain hasn’t got bones.
4 There are six hundred and twenty muscles in our body.
(correct – six hundred and forty muscles)
5. ครูหาภาพสตั วป์ ระหลาดต่างๆ เช่น จากเร:ือง Ultraman, Power Rangers, Alien มาติดบนกระดาน
พร้อมบตั รคาํ Monster ครูช+ีที:ภาพสตั วป์ ระหลาด แลว้ พดู
Teacher: They are monsters. (เนน้ เสียง /z/)
ครูชูบตั รคาํ แลว้ พดู “Monster, monster” นกั เรียนพดู ตามครู จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอก
ความหมายของคาํ วา่ “Monster” ซ:ึงแปลวา่ สตั วป์ ระหลาด
ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมในหนังสือเรียน หน้า 21 ข้อ 7 Draw a monster and write about it. โดย
จินตนาการถึงสตั วป์ ระหลาดของตนเอง แลว้ วาดภาพใส่กระดาษ A4 ที:ใชแ้ ลว้ 1 หนา้ (Recycle)
และเขียนบรรยาย พร้อมท+งั ระบายสีใหส้ วยงาม โดยครูติดภาพผลงานของนกั เรียนท:ีบอร์ดของหอ้ ง
แลว้ แต่งต+งั กรรมการ 4 คน ไดแ้ ก่ หวั หนา้ หอ้ ง รองหวั หนา้ หอ้ ง เหรัญญิก และครู เป็นผคู้ ดั เลือก
ภาพสตั วป์ ระหลาดท:ีดีที:สุด 5 ภาพ ซ:ึงมีคาํ บรรยายท:ีถูกตอ้ งเหมาะสม แลว้ ใหเ้ จา้ ของภาพท+งั 5 ภาพ
นาํ ผลงานของตนเองออกมาแสดงที:หนา้ ช+นั เรียน และอ่านคาํ บรรยายภาพใหเ้ พื:อนๆ ฟัง ครูให้
เพ:ือนๆ ในช+นั ปรบมือให้ รวมท+งั อาจหาของรางวลั เลก็ ๆ นอ้ ยๆ ใหน้ กั เรียนเพ:ือเป็นการเสริม
แรงจูงใจ (Reinforcement) เสร็จแลว้ ครูรวบรวมผลงานของนกั เรียนทุกคนไปตรวจนอกเวลาเรียน
และใหค้ ะแนนสะสม
หมายเหตุ: ครูอาจมอบหมายใหน้ กั เรียนนาํ กิจกรรมน+ีไปทาํ เป็นการบา้ น เพราะอาจใชเ้ วลา
มากในการทาํ กิจกรรม
6. นกั เรียนดูภาพเดก็ ชายหลายคนซ:ึงอยใู่ นโรงอาหาร ในหนังสือเรียน หน้า 21 Listen and say. ครูถาม
จาํ นวนเดก็ ชายในภาพ โดยใหน้ กั เรียนในหอ้ งช่วยกนั นบั
Teacher: How many boys are there in the cafeteria? Please count.
Students: (นบั จาํ นวน) Fourteen.
Teacher: There are fourteen boys in cafeteria.
ครูเปิ ด CD/track 26 ใหน้ กั เรียนฟัง
83
There are fourteen not fifteen boys in the cafeteria.
ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คน ใหอ้ ่านประโยคน+ีทีละคน ครูสอนการออกเสียงจาํ นวนตวั เลขหลกั 10
ที:ลงทา้ ยดว้ ย “teen” โดยการเขียนบนกระดาน ดงั น+ี
13 = thirteen 16 = sixteen 18 = eighteen
14 = fourteen 17 = seventeen 19 = nineteen
15 = fifteen
ครูใชห้ มึกสีหรือชอลก์ สีขีดเสน้ ใตพ้ ยางคท์ :ีเนน้ เสียงหนกั และอธิบายใหน้ กั เรียนฟังวา่ หมายถึง
ใหอ้ อกเสียงเนน้ หนกั ท:ีคาํ น+นั จากน+นั ครูช+ีไปท:ีคาํ ศพั ทต์ วั เลขทีละคาํ แลว้ อ่านออกเสียงโดยเนน้
(stress) ท:ีพยางคห์ ลงั (คาํ วา่ teen) นกั เรียนดูปากครูแลว้ พดู ตาม ครูใหน้ กั เรียนฝึกอ่านคาํ ศพั ทต์ วั เลข
บนกระดานจนคล่อง แลว้ สุ่มเรียกนกั เรียน 4 คน จากแถวหลงั ใหย้ นื ข+ึนอ่านออกเสียงคาํ ศพั ท์
ท+งั หมดทีละคน
Background Information
เสียงหนัก-เบา (Word stress)
ภาษาองั กฤษน*นั มีความแตกต่างจากภาษาไทยตรงท7ีวา่ ภาษาองั กฤษน*นั เป็นภาษาชนิด
Stress language เพราะมีการใชเ้ สียงหนกั -เบาท*งั ในคาํ (Word stress) และระดบั เสียง
สูง-ต7าํ ในประโยค เพ7ือสื7อความหมาย ส่วนภาษาไทยเป็นภาษาชนิด Tone language เพราะ
เสียงชดั ทุกตวั ต่างแต่วรรณยกุ ตเ์ ท่าน*นั เพ7ือใชใ้ นการสื7อความหมายเช่นเดียวกนั
คาํ ในภาษาองั กฤษมีต*งั แต่พยางคเ์ ดียวจนถึงหลายพยางค์ คาํ ภาษาองั กฤษท7ีมีมากกวา่ หน7ึง
พยางคต์ อ้ งออกเสียงเนน้ ที7พยางคท์ 7ีกาํ หนดไว้ ถา้ หากออกเสียงเรียบๆ หรือเนน้ ที7พยางคท์ ี7
ไม่ถูกตอ้ งเจา้ ของภาษาจะไม่เขา้ ใจ ดงั น*นั การเนน้ พยางคข์ องคาํ ท7ีถูกตอ้ งเป็นส7ิงสาํ คญั
การเนน้ พยางคข์ องคาํ ใดๆ หมายถึง การออกเสียงดงั เสียงสูงและเสียงยาวกวา่ พยางคอ์ ื7นๆ
ท7ีไม่ไดเ้ นน้ ถา้ หากคาํ มีพยางคห์ ลายพยางคก์ จ็ ะมีการเนน้ เสียงหลกั และเนน้ เสียงรอง
โดยการเนน้ เสียงรองน*นั เสียงจะค่อยกวา่ พยางคท์ ี7เนน้ เสียงหลกั แต่จะดงั กวา่ พยางคท์ ี7
ไม่ไดเ้ นน้ เสียง พยางคท์ ี7ไม่ไดเ้ นน้ เสียงจะออกเสียงเบาและส*นั บางพยางคก์ ห็ ายไปเลย
84
เสียงหนกั -เบาในคาํ น+นั มีหลกั เกณฑก์ วา้ งๆ โดยในท:ีน+ีจะยกตวั อยา่ ง 3 ขอ้ ดงั น+ี
1) คาํ สองพยางคท์ :ีเป็นคาํ นาม หรือคาํ คุณศพั ท์ ส่วนใหญ่จะเนน้ (stress) ที:พยางคแ์ รก
เช่น conduct record
2) คาํ สองพยางคท์ :ีเป็นคาํ กริยา ส่วนใหญ่จะเนน้ ท:ีพยางคท์ า้ ย
เช่น conduct record
3) จาํ นวนนบั ที:ลงทา้ ยดว้ ย –teen จะเนน้ ที: –teen ส่วนจาํ นวนนบั ที:ลงทา้ ยดว้ ย –ty
จะเนน้ ท:ีพยางคแ์ รก
เช่น thirteen thirty
ทมีC า: http://frankenglish2007.exteen.com/20080122/word-stress
http://humannet.chandra.ac.th/english/phonetics/stress.html
óกจิ กรรมรวบยอด
1. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาํ อ่านตวั เลข a-h ในแบบฝึ กหัด หน้า 15 ข้อ 3 Read, listen and match.
พร้อมๆ กนั ตามครู จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงดว้ ยตนเอง ครูเปิ ด CD/track 23 ใหน้ กั เรียน
ฟัง และจบั คู่ตวั เลข (1-8) กบั คาํ อ่าน (a-h) ใหถ้ ูกตอ้ ง โดยการเขียนตวั อกั ษร a-h หนา้ ตวั เลขที:
สมั พนั ธ์กนั หรือใชว้ ธิ ีการโยงเสน้ จบั คู่กไ็ ด้ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูเขียนคาํ ตอบ
ที:ถูกตอ้ งบนกระดาน ครูอาจตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียนอีกคร+ัง ดว้ ยการสุ่มเรียกนกั เรียน
8 คนสุดทา้ ยจากรายชื:อนกั เรียนในหอ้ งใหอ้ ่านตวั เลขคนละ 1 ขอ้
1 one hundred and eighty-five
2 seven hundred and fifty
3 two thousand
4 one thousand eight hundred and ninety-two
5 three thousand four hundred and sixty-six
6 ten thousand
7 nineteen thousand
8 fifty thousand
1e 2d 3 f 4 a 5 g 6 h 7 c 8 b
85
2. นกั เรียนชายจบั คู่กบั นกั เรียนหญิง (Pair work) ช่วยกนั อ่านคาํ อ่านตวั เลขในแบบฝึ กหัด หน้า 16 ข้อ 4
Write the numbers. จากน+นั ครูใหน้ กั เรียนทุกคู่อ่านออกเสียงคาํ อ่านตวั เลขพร้อมๆ กนั ครูแจก
กระดาษใหน้ กั เรียนคู่ละ 1 แผน่ ซ:ึงมีตวั เลข 1-8 อยู่ และใหแ้ ต่ละคู่ปรึกษาหารือกนั แลว้ เขียนคาํ อ่าน
ดงั กล่าวใหเ้ ป็นตวั เลขในกระดาษที:ครูแจกให้ โดยเขียนช:ือของนกั เรียนดา้ นล่างของกระดาษ ครูให้
นกั เรียนรวบรวมกระดาษคาํ ตอบมาส่งครู จากน+นั ครูแจกกระดาษน+นั ใหน้ กั เรียนคู่ละ 1 แผน่ โดย
ไม่ใหเ้ จา้ ของกระดาษไดข้ องคู่ตนเอง เมื:อครูพดู เฉลยคาํ ตอบเสร็จแลว้ ครูสาํ รวจวา่ นกั เรียนในหอ้ ง
ส่วนใหญ่ตอบถูกกี:ขอ้
1 14,305 3 832 5 7,685 7 10,500
2 87,222 4 95 6 15,000 8 60,000
3. นกั เรียนอ่านลกั ษณะสตั วป์ ระหลาดที:กาํ หนดใหใ้ นแบบฝึ กหัด หน้า 16 ข้อ 5 Read the description.
Then draw a monster and colour it. พร้อมๆ กนั จากน+นั ใหน้ กั เรียนวาดภาพสตั วป์ ระหลาดตามท:ี
นกั เรียนไดอ้ ่านขอ้ มูลท:ีใหไ้ ว้ ครูเนน้ ใหน้ กั เรียนมีความซื:อสตั ยใ์ นการทาํ งาน ไม่ลอกงานของเพ:ือน
จากน+นั ใหน้ กั เรียนระบายสีภาพใหส้ วยงาม แลว้ นาํ มาส่งครู ครูเตรียมตรายางรูปดาว และผา้ หมึก
สีแดง โดยมีวธิ ีการใหด้ าวแก่ภาพวาดสตั วป์ ระหลาด ดงั น+ี
¶ ¶ ¶ ¶ ¶ 5 ดาว วาดภาพดีมาก มีความคิดสร้างสรรค์ ระบายสีดีมาก
¶ ¶ ¶ ¶ 4 ดาว วาดภาพดี มีความคิดริเริ:ม ระบายสีดี
¶ ¶ ¶ 3 ดาว วาดภาพพอใช้ มีความคิดริเริ:มพอใช้ ระบายสีพอใช้
¶ ¶ 2 ดาว วาดภาพไม่ดี ลอกเลียนงานของผอู้ :ืน ระบายสีเลอะเทอะ
¶ 1 ดาว ไม่ต+งั ใจทาํ งาน วาดภาพไม่ดี ระบายสีเลอะเทอะ ไม่สวยงาม
ครูใหก้ าํ ลงั ใจนกั เรียนที:ขาดพรสวรรคใ์ นการวาดรูปวา่ ถึงแมน้ กั เรียนไม่มีพรสวรรคใ์ นการวาดรูป
แต่ถา้ นกั เรียนมีความคิดริเริ:มสร้างสรรค์ และมีความมุ่งมนั: ในการทาํ งาน ผลงานของนกั เรียนกจ็ ะ
ออกมาดีได้ โดยครูอาจนาํ ผลงานของนกั เรียนที:อยใู่ นประเภทน+ีมาใหเ้ พื:อนๆ ดูเป็นตวั อยา่ ง และให้
เพื:อนๆ ปรบมือให้
4. นกั เรียนดูภาพประกอบในแบบฝึ กหัด หน้า 17 ข้อ 6 Read and complete. ครูถามนกั เรียนวา่ เห็น
อะไรในภาพบา้ ง
Teacher: What do you see in the picture? ครูช+ีที:รูปภาพในแบบฝึกหดั
Students: A girl, a mirror, etc.
86
นกั เรียนอ่านขอ้ ความท:ีกาํ หนดใหใ้ นใจ (Reading comprehension) เมื:ออ่านจบแลว้ ครูขอให้
อาสาสมคั ร 1 คน ท:ีเก่งภาษาองั กฤษ ลุกข+ึนอ่านออกเสียงขอ้ ความดงั กล่าวใหเ้ พื:อนๆ ฟัง จากน+นั ครู
ใหเ้ วลานกั เรียน 5 นาที ในการเติมคาํ ลงในช่องวา่ งในประโยค 1-5 ซ:ึงประโยคท:ี 4 มีช่องวา่ งใหเ้ ติม
2 ช่อง ใหน้ กั เรียนทาํ งานตามลาํ พงั (Individual work) เม:ือนกั เรียนทาํ งานเสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 5 คน ใหล้ ุกข+ึนอ่านประโยคที:เติมคาํ สมบูรณ์แลว้ คนละ 1 ขอ้ ครูเขียนเฉลยคาํ ตอบให้
นกั เรียนดูบนกระดานอีกคร+ัง
1 mouth 3 look 5 listen
2 nose 4 cut, chew
5. นกั เรียนดูภาพสตั วป์ ระหลาด ในแบบฝึ กหัด หน้า 17 ข้อ 7 Look at the monster and write a
description of it. นกั เรียนจบั กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน วพิ ากษว์ จิ ารณ์เก:ียวกบั สตั วป์ ระหลาดตวั น+ี พร้อม
ต+งั ชื:อใหด้ ว้ ย จากน+นั จึงเขียนบรรยายสตั วป์ ระหลาดตวั น+ี อยา่ งนอ้ ย 5 ประโยค โดยครูระบุวา่ ถา้ ใน
คาํ บรรยายมีตวั เลข ใหเ้ ขียนเป็นตวั อกั ษร
(Suggested Answer)
This is a monster. The monster has got green body. It has got one eye.
It has got four ears. It has got two hands. It has got three legs.
It has got nine toes.
6. นกั เรียนทดสอบการฟังเสียงเนน้ หนกั (stress) โดยครูเปิ ด CD/track 27 ใหน้ กั เรียนฟัง 2 คร+ัง แลว้ ให้
นกั เรียนวงกลมคาํ ศพั ทท์ ี:ไดย้ นิ ในแบบฝึ กหัด หน้า 17 Listen: fourteen, forty. Listen, circle and
say. จากน+นั ครูเขียนเฉลยคาํ ตอบบนกระดาน และอธิบายวา่ ตวั เลขที:ลงทา้ ยดว้ ย “teen” เช่น sixteen
จะเนน้ พยางคห์ ลงั แต่ถา้ ลงทา้ ยดว้ ย “ty” จะเนน้ พยางคห์ นา้ เช่น sixty ครูเปิ ด CD อีกหลายๆ คร+ัง
เพื:อใหน้ กั เรียนฝึกอ่านตามจนสามารถอ่านตวั เลขไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
fifteen sixty nineteen
87
7. การวดั และประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
- ประเมินการทาํ แบบฝึกหดั
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบยอ่ ย (English Test)
- สงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ในช่วงการทาํ กิจกรรม
7.3 การประเมนิ หลงั การเรียน
- ประเมินการทาํ แบบทดสอบ
- ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7.4 การประเมนิ ชิ8นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินงานเขียนบรรยายเก:ียวกบั ร่างกายของสตั วป์ ระหลาด
8. สื*อ/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน Smile ป. 4
2. แบบฝึกหดั Smile ป. 4
3. Audio CD Smile ป. 4
4. บตั รภาพ บตั รคาํ
5. ภาพสตั วป์ ระหลาดต่างๆ
88
English Test
!Write the correct vocabulary. (10 marks)
1 ___ ___ ___ ___
2 ___ ___ ___ ___ ___
3 ___ ___ ___ ___
4 ___ ___ ___ ___
5 ___ ___ ___
6 ___ ___ ___ ___ ___
7 ___ ___ ___ ___ ___
8 ___ ___ ___ ___ ___ ___ ___
9 ___ ___ ___
10 ___ ___ ___ ___
89
แผนการจดั การเรียนรู้
Unit 2 The amazing body (Lesson 2)
1. สาระสําคญั
การเรียนรู้คาํ ศพั ทเ์ กี:ยวกบั รูปร่างลกั ษณะ โครงสร้างประโยคในการเปรียบเทียบข+นั กวา่ อ่าน
เน+ือเร:ืองส+นั ๆ ทาํ ใหผ้ เู้ รียนสามารถพดู ถาม-ตอบ และเขียนบรรยาย/เปรียบเทียบรูปร่างลกั ษณะของบุคคลได้
และยงั บูรณาการร่วมกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื:นอีกดว้ ย
2. ตวั ชี8วดั /จุดประสงค์การเรียนรู้
- ออกเสียง สะกดคาํ บอกความหมายและรวบรวมคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั รูปร่างลกั ษณะได้ (ต 1.1/2,
ต 3.1/1, ต 4.2/1)
- พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเกี:ยวกบั ส่วนสูงและรูปร่างลกั ษณะได้ (ต 1.2/4, ต 4.1/1)
- เขียนบรรยายเก:ียวกบั ตวั การ์ตูนท:ีชอบได้ (ต 1.3/1)
- ฟังและอ่านเร:ืองแลว้ ตอบคาํ ถามได้ (ต 1.1/4)
- พดู และเขียนเปรียบเทียบขอ้ มูลของบุคคลและสิ:งใกลต้ วั ได้ (ต 1.3/1)
- พดู ขอและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั นกั ร้องและดาราท:ีชื:นชอบได้ (ต 1.2/4, ต 4.1/1)
- ฟังและระบุภาพได้ (ต 1.1/3)
- ทาํ แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบความสูงของเพื:อนในหอ้ งเรียนและเขียนรายงานได้ (ต 1.3/2)
- เล่นเกมและร้องเพลงภาษาองั กฤษพร้อมท+งั แสดงท่าทางประกอบได้ (ต 2.1/3)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
- ออกเสียง สะกดคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั รูปร่างลกั ษณะ
- กลุ่มคาํ ประโยคเด:ียว และความหมายเกี:ยวกบั ตนเอง เช่น รูปร่างลกั ษณะ
- ประโยค เน+ือเร:ืองส+นั ๆ ที:มีภาพประกอบ
- คาํ ศพั ท์ สาํ นวน และประโยคท:ีใชข้ อและใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเอง เพ:ือน และครอบครัว เช่น
What does he/she look like? He/She is….. .
How tall is…? He/She is….. .
90
- ประโยคและขอ้ ความที:ใชใ้ นการพดู ใหข้ อ้ มูลเก:ียวกบั ตนเองและบุคคล เช่น รูปร่าง
- คาํ กลุ่มคาํ ท:ีมีความหมายสมั พนั ธ์ของสิ:งต่างๆ ใกลต้ วั เช่น แผนภูมิแท่ง
- กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การร้องเพลง
- การรวบรวมคาํ ศพั ทท์ ี:เกี:ยวขอ้ งกบั ส่วนต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ (สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์)
- การใชภ้ าษาในการฟังและพดู /อ่านในสถานการณ์ที:เกิดข+ึนในหอ้ งเรียน
- การใชภ้ าษาต่างประเทศในการรวบรวมคาํ ศพั ทท์ ี:เกี:ยวขอ้ งใกลต้ วั จากสื:อและแหล่งการเรียนรู้
ต่างๆ
4. สมรรถนะสําคญั ของผู้เรียน
4.1 ความสามารถในการส*ือสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- การคิดวเิ คราะห์
- การคิดอยา่ งสร้างสรรค์
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ซื:อสตั ยส์ ุจริต
- มีจิตสาธารณะ
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
6.1 ชั*วโมงที* 5-6
óกจิ กรรมนําสู่การเรียน
1. นกั เรียนทบทวนเก:ียวกบั การอ่านจาํ นวนตวั เลข โดยครูชูบตั รตวั เลข แลว้ ใหน้ กั เรียนพดู เป็น
ภาษาองั กฤษใหถ้ ูกตอ้ ง
2. ครูทดสอบความสามารถของนกั เรียน โดยการแจกกระดาษท:ีมีกลุ่มตวั เลขแก่นกั เรียนทุกคน เมื:อครู
เอ่ยถึงตวั เลขจาํ นวนใด นกั เรียนวงกลมตวั เลขจาํ นวนน+นั (Individual work) ครูย+าํ ใหน้ กั เรียน
ซื:อสตั ยส์ ุจริต ไม่ควรลอกคาํ ตอบของผอู้ ื:น
91
1,620 555 781 432 1,200
102
78 300 49 67 734 007
56 1,730 86,750 99,00
69 333 1,00 4,050 0
701 6 18,90
5006
781 221 13,69 79
14,53 19,670 0 809
0
ครูพดู หมายเลขชา้ ๆ ชดั ๆ และพดู ซ+าํ หมายเลขละ 2 คร+ัง แลว้ หยดุ เพื:อใหน้ กั เรียนวงคาํ ตอบ ดงั น+ี
1) five hundred and fifty-five (555)
2) seven hundred and eighty-one (781)
3) four hundred and thirty-two (432)
4) eight hundred and nine (809)
5) double zero seven (หรือ oh oh seven ) (007)
6) thirteen thousand six hundred and ninety (13,690)
7) fourteen thousand five hundred and thirty (14,530)
8) eighteen thousand and nine hundred (18,900)
9) ninety-nine thousand (99,000)
10) one thousand and six (1,006)
ครูเฉลยโดยอ่านตวั เลขภาษาองั กฤษทีละตวั และใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกเป็นภาษาไทยวา่ คือเลข
อะไร ครูใหน้ กั เรียนตรวจคาํ ตอบของตนเองดว้ ยความซื:อสตั ย์ ผใู้ ดวงหมายเลขถูกเกิน 8 ขอ้
ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
3. ครูหยบิ บตั รภาพขนาดใหญ่ชูข+ึนใหน้ กั เรียนดูภายในเวลา 1 วนิ าที แลว้ พลิกภาพกลบั ใหน้ กั เรียนเห็น
เพียงดา้ นหลงั เพื:อทาํ ใหน้ กั เรียนสนใจและอยากรู้อยากเห็น จากน+นั ครูถามนกั เรียนวา่
Teacher: Guess, who is she?
Students: I don’t know.
Teacher: She is my friend. Look! ครูชูภาพใหน้ กั เรียนดูเตม็ ๆ
She is beautiful. She is tall and has got straight hair.
92
4. นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน Unit 2 Lesson 2 อยา่ งคร่าวๆ (หนา้ 22-25) ครูถามนกั เรียนวา่ เห็นอะไรบา้ ง
Teacher: What do you see from pages 22 to page 25?
Students: (ช่วยกนั ตอบ) A man, a woman, a boy, a girl, a monster, etc.
Teacher: Excellent!
ครูบอกนกั เรียนวา่ ใน Unit 2 Lesson 2 น+ี นกั เรียนจะไดเ้ รียนรู้เก:ียวกบั การบอกรูปร่างลกั ษณะของ
บุคคล การอ่านขอ้ มูลและเขียนแผนภูมิ การอ่านจบั ใจความ การพดู /เขียนบรรยายและเปรียบเทียบ
ลกั ษณะของบุคคล
óกจิ กรรมพฒั นาการเรียนรู้
1. นกั เรียนดูภาพคาํ ศพั ทเ์ ก:ียวกบั ลกั ษณะรูปร่างของบุคคลใน Word box ในหนังสือเรียน หน้า 22 ข้อ 1
Listen, point and repeat. แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกคาํ ศพั ทเ์ หล่าน+ีเป็นภาษาไทย คาํ ไหนที:นกั เรียนไม่รู้
ใหน้ กั เรียนเดาจากรูปภาพ จากน+นั ใหน้ กั เรียนฟัง CD/track 28 และใชน้ ิ+วช+ีภาพตามไปดว้ ย
แลว้ ออกเสียงคาํ ศพั ทต์ าม CD ครูเปิ ด CD อีกหลายๆ คร+ัง จนนกั เรียนอ่านไดค้ ล่อง แลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 3 คน จากแถวหลงั ใหอ้ ่านคาํ ศพั ทท์ +งั หมดทีละคน
fat thin tall short
long hair short hair straight hair wavy hair
2. นกั เรียนดูภาพ A-E ในหนังสือเรียน หน้า 22 ข้อ 2 Listen and number. แลว้ บอกครูวา่ แต่ละคน
ในภาพมีรูปร่างลกั ษณะอยา่ งไร จากน+นั ครูเปิ ด CD/track 29 ใหน้ กั เรียนฟัง แลว้ จบั คู่หมายเลข
ประโยคที:ไดย้ นิ กบั ภาพ A-E ลงในสมุด นกั เรียนฟัง CD อีก 1-2 คร+ัง เสร็จแลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบ
1 The boy is short.
2 Tony has got wavy hair.
3 Ann has got long hair.
4 My brother is thin.
5 My sister is tall.
1E 2C 3A 4B 5D
93